The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)  (อ่าน 325444 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :กอด1: หนูริชน่าสงสารจัง



คุณเกิบแตะให้บรูโน่ปลอบใจหนูริชแบบแนบแน่นเลยนะครับ :impress2:

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
ไม่เป็นไรครับพี่ลม แต่ว่าผมรอ
 :laugh:

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
«ตอบ #842 เมื่อ26-05-2011 09:08:11 »

ยุทธหลอกกริชเหรอเนี่ย แล้วต่อไปจะเชื่อใจได้มั้ย

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :serius2: พี่เตดึงน้องไนท์ออกจากความมืดมนซะที

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :z1: โอ๊วววว นี่มันเป็นรักระหว่างรบของแท้


อย่างว่ามีเวลาต้องรีบทำ จะโดนซอมบี้ขบหัวเหมือนไหร่ก็ไม่รู้  :laugh:

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :fire: ตอนหน้าเพลิงคงจะท่วมสีแดง

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 o22 จระเข้งับ


เป็นนิยายเรียกเลือดอีกเรื่องในโปรเจค

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สงสารพี่เต จริงๆ เจอน้องไนท์ที่เป็นแบบนี้   :z10:

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่ 8 ออกตามหา

                ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
                “ปลายฟ้าพี่เองครับ เปิดประตูให้หน่อยครับ” ก้องเกียรติยืนรออยู่หน้าห้อง
                ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
                “ปลายฟ้าครับ นี่พี่ก้องเองเปิดประตูให้พี่ด้วยครับ” ก้องเกียรติเริ่มกังวลเล็กน้อยเพราะเขากลัวจะมีคนเห็นเข้าเสียก่อน
                หลังจากรออยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมาหา ก้องเกียรติตัดสินใจบิดลูกบิดประตูห้องดู
                ‘แกร็ก’
                ประตูห้องถูกเปิดออกได้โดยไม่มีการป้องกันไว้แต่อย่างใด ก้องเกียรติเข้ามาภายในด้วยความแปลกใจ
                “ปลายฟ้า ปลายฟ้าอยู่ไหนครับ” เขาตะโกนเรียกเจ้าของห้อง แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับแม้แต่น้อย
                ก้องเกียรติตัดสินใจเดินเข้ามาด้านในเดินสำรวจหาทีละห้อง แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแม้แต่เงาเขาจึงหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาคนที่กำลัง ตามหา
                “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...”
                เสียงตอบรับที่บอกว่าปลายสายปิดเครื่องหรืออยู่ในจุดอับสัญญาณทำให้ติดต่อไม่ได้ เขาพยายามลองอีกหลายต่อหลายครั้งแต่ผลที่ได้ยังคงเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้คนตามหาเริ่มร้อนใจเสียแล้ว แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าสงสัยมีงานเรียกตัวด่วนเลยรีบออกไป เดี๋ยวก็คงจะกลับมาก้องเกียรตินั่งรอที่โซฟากลางห้อง
 
                “ฟ้าพี่โทรมาทำไมไม่ติดเลย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” สายลมกระหืดกระหอบจากการรีบร้อนเดินทางกลับมา
                “อ่าวคุณสายลม ปลายฟ้าไม่ได้ไปกับคุณหรือครับ” ก้องเกียรติหันมาถามอย่างแปลกใจที่เห็นสายลมกลับมาคนเดียวหลังจากที่นั่งรอ อยู่ได้พักใหญ่
                “คุณก้องปลายฟ้าไม่ได้ไปกับผมครับ แล้วคุณไม่เจอปลายฟ้าหรือครับ”
                “ไม่ครับผมก็นั่งรออยู่สักพักแล้ว”
                สายลมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แต่ก็ไม่มีสัญญาณเหมือนเดิม
                “ผมก็โทรแล้วครับแต่ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเขาไม่ได้ไปกับคุณแล้วเขาจะไปไหนกันนะ” ก้องเกียรติเริ่มสงสัย
                การสงสัยของก้องเกียรติไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของสายลม ที่ตอนนี้ยืนขมวดคิ้วคิดทบทวนว่าปลายฟ้าจะไปที่ไหนได้อีก แต่ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเพราะว่าตั้งแต่เขามาดูแลปลายฟ้า ปลายฟ้าก็ไม่เคยไปไหนโดยที่ไม่บอกเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว สายลมเดินสำรวจรอบ ๆ ห้องทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้างหรือเปล่า สิ่งที่เขาสังเกตได้คือสายโทรศัพท์ภายในถูกถอดออกมันคงเป็นสาเหตุ ที่เขาโทรเข้าห้องไม่ติด
                สายลมตัดสินใจโทรถามประชาสัมพันธ์ด้านล่างคอนโด
                “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเห็นปลายฟ้าออกไปจากคอนโดบ้างหรือเปล่าครับ”
                “คุณปลายฟ้า ไม่เห็นนะคะแต่ว่าวันนี้มีคนมาขอขึ้นไปพบสองคนค่ะ” พนักงานตรวจสอบข้อมูลก่อนบอกกลับไป
                “สองคน!! ขอรายชื่อหน่อยได้ไหมครับ” สายลมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่สู้ดีแล้วตอนนี้
                “สักครู่นะคะ” พนักงานรีบคีย์ข้อมูลหารายชื่อทันที
 
                “เจอแล้วค่ะ คนแรกคุณวินิตกร ไกรจอนค่ะ อีกคนก็คุณก้องเกียรติค่ะ”
                “วินิตกร คนนี้มีรายละเอียดเพิ่มอีกไหมครับ” สายลมเจอรายชื่อที่ไม่เคยรู้จัก
                “เห็นลงชื่อเล่นไว้ว่าหม่อนนะคะ ที่เหลือก็ไม่ได้แจ้งไว้ค่ะ”
                “แล้วคุณปล่อยให้เขาขึ้นมาได้ยังไงกัน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นผมไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่ๆ” สายลมร้อนใจอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อหม่อน เขายังนึกถึงเนื้อความในจดหมายเมื่อเช้านี้ได้อยู่ตลอด
                “คุณก้องคุณกลับไปก่อนได้ไหมครับ ท่าทางปลายฟ้าจะเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ แล้วยังไงผมจะติดต่อกลับไปครับ” สายลมบอกให้ก้องเกียรติกลับไปก่อน ก่อนที่เขารีบติดต่อประธานบริษัทเพื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
                หลังจากที่ชี้แจงรายละเอียดจนหมดแล้วประธานบริษัทบอกว่าให้รอดูสถานการณ์ไป ก่อน มันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ปลายฟ้าอาจแค่หลบออกไปทำอะไรแก้เซ็งก็ได้ ถ้าคืนนี้ไม่กลับมาสายลมจะทำอะไรก็สามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลับมา ปรึกษาอีก
 
                สายลมได้แต่กังวลใจกับการหายตัวไปของปลายฟ้า ถ้าไม่เพราะเป็นคำสั่งให้รอถึงพรุ่งนี้ป่านนี้เขาคงออกตามหาปลายฟ้าแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงแต่นั่งรออย่างร้อนใจเท่านั้น เขานั่งลงที่โซฟาตัวเล็กริมหน้าต่างที่ที่ปลายฟ้าชอบนั่งมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้าสีน้ำเงินหม่นไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลให้แม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มความกลัดกลุ้มกังวลใจมากยิ่งขึ้น ความคิดร้าย ๆ ต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับปลายฟ้าผ่านเข้ามาในจินตนาการเป็นระยะ ๆ จนทนนั่งเฉย ๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว
                “ไอ้นิกกูมีเรื่องอยากให้มึงช่วยหน่อย มึงพอจะมีเวลาไหมวะ” สายลมต่อสายหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจแผนกสืบสวนสอบสวน
                “พอมีเวลาแต่เรื่องอะไรของมึงวะไอ้สาย ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดถึงกูแต่ตอนนี้กลับโทรหากูเองซะงั้น”
                “กูอยากให้มึงช่วยสืบประวัติคน ๆ หนึ่งให้หน่อย จะได้ไหมวะ”
                “ก็พอได้แต่มึงต้องบอกก่อนว่าจะเอาไปทำไม กูไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายนะมึงก็รู้”
                “มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดแน่ๆ ....” สายลมเริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟัง
               
               
                “มึงสงสัยขนาดนี้แล้วทำไมไม่แจ้งความวะ เดี๋ยวกูรับเรื่องให้ก็ได้”
                “ไม่ได้ เรื่องนี้ยังให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันอาจมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของปลายฟ้าได้ ยังไงมึงก็ช่วยกูหน่อยแล้วกัน แล้วช่วยปิดเป็นความลับด้วยได้ไหม”
                “เออ ได้ ๆ แล้วยังไงกูจะรีบติดต่อกลับไป”
                “ขอบใจมาก ยังไงก็รีบ ๆ ให้กูหน่อยนะ กูเป็นห่วงปลายฟ้ามากจริงๆ”
                สายลมกลับมานั่งที่เดิมก่อนจะเผลอหลับไปเพราะความเครียด
               
                “กริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงง”
                สายลมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์เขารีบคว้ามากดรับอย่างรีบร้อน ด้วยหวังว่าจะให้เป็นนิกโทรมาบอกเรื่องที่ได้ขอร้องเอาไว้
                “ว่าไงปลายฟ้ากลับมาหรือยัง” เสียงประธานบริษัทถามทันทีเมื่อรับสาย
                “ยังเลยครับ”
                “งั้นคุณรีบจัดการหาตัวปลายฟ้ากลับมาให้เร็วที่สุด แล้วอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงหูนักข่าวเด็ดขาดส่วนทางหม่อมเอียดเดี๋ยวผมจัดการเอง ผมให้เวลาคุณหนึ่งอาทิตย์ถ้าหาตัวกลับมาไม่ได้ชื่อปลายฟ้าคงจบลงแค่นี้” พูดจบสายก็ถูกวางโดยไม่รอคำตอบรับแต่อย่างใด
                สายลมรีบลุกขึ้นเก็บของแล้วลงไปขึ้นรถเพื่อออกตามหาปลายฟ้าอย่างรวดเร็ว
                “ไอ้นิกมึงได้เรื่องอะไรบ้างหรือยัง นี่กูจะบ้าตายอยู่แล้วนะ” สายโทรศัพท์ถูกต่อเข้าหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจ
                “กูก็กำลังจะโทรหามึงพอดี ดันเสือกโทรมาก่อนทำไมวะ แล้วว่าไงมึงจะเอาไหมเรื่องที่ให้กูหา”
                “เอาสิวะ มึงรีบบอกมาเลย”
                “คนที่มึงให้กูตามหาพอดีมีประวัติในแฟ้มคดีเลยหาง่ายหน่อยว่ะ”
                “คดี คดีอะไรวะ” พอได้ยินคำว่ามีคดีสายลมยิ่งเป็นห่วงปลายฟ้ามากยิ่งขึ้นไปอีก
                “ก็คดีแอบขึ้นบ้านมาวินนักร้องชื่อดังตอนนี้ไง มึงไม่เคยได้ยินข่าวหรือไงวะ”
                “ก็พอเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครแล้วมึงมีที่อยู่ของมันหรือเปล่าส่งมาให้กูหน่อยสิ”
                “เดี๋ยวกูส่งไปให้ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่เด็กมึงหายไปวะ”
                “ก็มันมาหาปลายฟ้าแล้วปลายฟ้าก็หายตัวไปนะสิ มึงจะให้กูคิดยังไง”
                “เฮ้ย แบบนี้ทำไมมึงไม่แจ้งความวะ”
                “ที่บริษัทเขาไม่อยากให้เป็นข่าว มึงช่วยกูตามหาด้วยแล้วกันแต่อย่าให้ข่าวรั่วไหลนะไม่งั้นปลายฟ้าโดนข่าว เล่นงานไม่เลิกแน่ แค่เรื่องเก่ายังไม่รู้จะแก้ยังไงเลย”
                “เออ เดี๋ยวกูใช้เพื่อนกูช่วยตามอีกแรง แค่นี้ก่อนนะกูมีประชุมต่อต้องรีบไปแล้ว”
                “ขอบใจมากว่ะเพื่อน”
 
 
                สายลมขับรถไปตามที่อยู่ที่ได้รับ SMS เขามุ่งหน้าตรงไปยังจังหวัดระยองอย่างรวดเร็ว ขับรถโดยที่ไม่กลัวว่าตัวเองจะเกิดอันตรายเองก็ได้ จากกรุงเทพฯถึงระยอง ด้วยความเร็วที่ขับมาทำให้ถึงจุดหมายภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
เขามาหยุดรถที่หน้าบ้านไม้สองชั้นริมทะเลบ้านเพ บ้านหลังใหญ่สีขาวถูกล้อมรั้วด้วยไม้ระแนงอย่างแน่นหนา บริเวณหน้าบ้านปลูกต้นไม้ใหญ่บังไว้จนหนาตาจนยากที่จะมองสำรวจเข้าไปข้างใน ได้ สายลมหยิบปืนสั้นคู่ใจเหน็บติดตัวไปด้วยก่อนลงรถไปที่หน้าประตูรั้ว
‘กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง’
สายลมกดกริ่งหน้าบ้านอยู่นานสองนานก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตู หลังจากมองสังเกตไปรอบๆ บริเวณแล้วบ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านคนอื่นพอสมควร เขาจึงตัดสินใจว่าจะปีนเข้าไปสำรวจข้างใน เผื่อจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างก็ได้


========> โปรดติดตามตอนต่อไป

แรงเทียน

  • บุคคลทั่วไป
                            

ตอนที่ ๖

ร้านเที่ยวแบบสหะไม่เจาะจงระบุกลุ่มแยกประเภทมักมีคนจำพวกที่ชื่นชอบฝักใฝ่ในเพศเดียวกันแอบแผงอยู่เสมอ หมายหมั้นปั้นมือจะได้ชายแท้ๆไว้ครอบครอง แต่มีหรือชายแท้ๆจะมาแลตาดูเกย์หรือกะเทย ส่งสายตาจิกกันเต็มที่พอจะได้กันก็ได้กันเอง เทียนบุญก้าวเท้าลงจากรถหลังจากที่หาที่จอดอยู่ไม่นาน สายตาของเขาไม่มองวอกแวกสอดส่องรายทาง เดินไหล่ตรงคอตั้งตรงไปยังที่นัดหมาย
“เจอตัวใช่ไหม”
เทียนบุญเอ่ยถามชายในชุดเสื้อยืดสีดำหน้าตาไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นนักสืบ เขาเหมือนคนเที่ยวกลางคืนธรรมดานี่เอง
“แล้วโต๊ะล่ะ”
“ทางนี้ครับ โต๊ะเกือบติดกัน”
“ดี เตรียมกล้องพร้อมแล้วใช่ไหม”
ถามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะพยักหน้าและเทียนบุญแสยะยิ้มออกมา
“อย่าหาว่าร้าย แกก้าวเข้ามาพัวพันเองนะ หน้าตาที่เสียไปในวันนี้แกต้องชดใช้”
เขาคำรามออกมาแล้วเดินแยกกับชายหนุ่มนิรนามคนนั้น เทียนบุญเดินฝ่าผู้คนที่แออัดจอแจกันแน่นขนัดจนไม่มีที่แม้จะเดิน แต่พยายามควบคุมสติอารมณ์เอาไว้ เพราะถ้าหากมาอารมณ์เสียก่อนถึงที่แผนจะแตกเอาเปล่าประโยชน์
“พิม ติดต่อกับนิตยาสาร”
มณีอารียาเองครุ่นคิดอยู่ทั้งคืนจนนอนไม่หลับ เธอเรียกหาทนายประจำตัวเช่นกัน ปรึกษากันอยู่ทั้งวัน จนตกค่ำจึงยกโทรศัพท์ไปหาพิมระตี
“หือ ทำไมล่ะเมย์จะเอาเพชรเราลงคอลั่มเหรอ”
“อืม แต่เราอยากคุยกับบรรณาธิการณ์ใหญ่เลยนะ ไม่ใช่ใครก็ได้”
“อ้อ ได้ๆ งั้นพรุ่งนี้เราจัดการให้”
“ขอบใจนะพิม”
มณีอารียาวางสายแล้วแสยะยิ้มออกมา
“แกบีบชั้นเองนะ ดูซิว่าแกจะมีจริตจะก้านเยอะมาจากไหน แกมันหน้าหนาหน้าทน ทำแค่นี้คงไม่รู้สึกสำนึกสินะ”
มณีอารียาเดินเข้าไปหามารดาที่นอนพักฟื้นอยู่ในห้อง เธอหลับไปแล้ว มณีอารียายืนมองมารดาแล้วน้ำตาไหลออกมา
“เมย์ไม่ได้อยากทำแบบนี้นะคะม้า เมย์แค่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงอย่างเรา อย่างที่ป๊าทำกับม้า”
เสียงของเธอครางออกมาน้ำตาปริ่มล้นตา
“อ้าวพี่เมย์ ยังไม่นอนเหรอ”
มกุฏโกเมนเดินออกมาจากห้องพอดี มณีอารียากระพริบตาถี่ๆไล่ม่านน้ำตาไป
“ยัง เราจะไปไหนล่ะเจ”
“ก็ว่าจะมาดูม้าอ่ะ หลับแล้วเหรอ”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็ไม่มีไร แต่อาทิตย์หน้าวันเกิดเพื่อนอ่ะพี่เมย์ ว่าจะมาขอม้า”
“เหรอ ที่ไหนล่ะ”
“ยังไม่รู้อ่ะ ไปกันทั้งกลุ่ม”
“อืม ไปสิ ม้าไม่ว่าหรอกเดี๋ยวพี่พูดให้”
“โห ขอบคุณคร้าบพี่สาวแสนสวย ใจดีอีกตะหาก”
“อย่ามาเวอร์ เรารีบตั้งใจเรียนให้จบเถอะ มาช่วยพี่ทำงานเสียที พี่เริ่มเหนื่อยแล้ว”
สองพี่น้องนั่งคุยกันอยู่พักใหญ่จึงแยกย้ายกันเข้านอน
“อุ๊ย ขอโทษครับ อ๊ะ”
เทียนบุญมองเห็นเป้าหมายอยู่แต่ไกล สาวประเภทสองนางที่ทำให้เขาอับอาย แต่ตอนนี้เธอไม่ได้มากับกลุ่มเดิม เธอมากับกลุ่มที่สวยกว่าเดิม เหมือนผู้หญิงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งโต๊ะมีอยู่สามคน แต่งตัวชนิดที่หญิงแท้ไม่มีทางสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณืเช่นนี้ หน้าอกที่ยัดถุงอะไรเข้าในใต้ชั้นเนื้อมันอวบอูมเกินจริง แต่นั่นมันก็หลอกล่อให้ชายหนุ่มกลัดมันที่อยู่ใกล้สนใจได้ไม่น้อย พวกเขาสนใจอะไร ก็คงจะเป็นเม็ดเงินที่สาวๆพวกนี้หว่านลงไปในแก้วเหล้า เพราะชายหนุ่มที่เข้ามาในวงกินเหล้าได้ฟรี แลกกับการนัวเนียสามสาวเพียงเท่านี้
“อ๊ะ นี่แก อี”
“ตายจริงโลกกลมจังเลยนะสมชาย”
เทียนบุญแสยะยิ้มให้กับปานระวี เธอเองถึงกับผงะเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“อีเชี่ย ใครสมชาย อย่ามาโมเมนะ ชั้นไม่เคยรู้จักแก ไปให้พ้น เสนียด กะเทยหัวโปกฤทธิ์แรง”
“อ้าว ทำไมลืมเพื่อนอย่างนี้ล่ะสมชาย มาๆกินเหล้ากัน เรามาคนเดียว”
“อีด.ก อย่ามาตีสนิทนะ ใครเพื่อนแก อีโง่”
เทียนบุญยิ้มออกมาก่อนจะลงมือ
“กรี๊ด มึง เหยียบตีนกู”
ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่มีใครเห็น หรือสิ่งที่เขตั้งใจไว้มันไม่ติดเข้าไปในกล้องของนักสืบ
“เก่งนะมึง วันนี้ล่ะ มึงเตรียมตัวไว้เลย อีกะเทยมีนม”
เทียนบุญถอยออกมาเพราะปานระวีปรี่เข้าจะตบ ผู้คนแตกฮือกันออก เหล่าชายหนุ่มที่มาร่วมวงแตกฮือออกห่างกันทุกคน นี่น่ะหรือค่าของเงิน
“อีเชี่ย กูจะตบมึงนี่ล่ะ”
ปานระวีก้มลงจะถอดรองเท้าส้นสูงเพื่อทำร้ายเทียนบุญจังหวะนั้น เทียนบุญใช้ฝ่ามือกดหัวเธอลง เพื่อนสาวอีกสองคนก็ปรี่เข้ามารุมตบ ทั้งที่ตัวเองเคยเป็นชายมาก่อน แต่เพลานี้จะยังมาแสดงจริตหญิงอยู่อีก ตบเพื่อ? เทียนบุญผลักสองสาวออกไปทีละคน
“หนอย”
“กรี๊ด อีเชี่ยๆ อีสัด”
เสียงของปานระวีกรีดร้องประสานเสียงกับเพื่อนสาว ที่แทนที่จะช่วยกัน แต่พากันแหกปากประสานเสียงที่ดัดจริตจะทำให้แหลมเล็กเหมือนหญิง แต่มันไม่ได้เป็นเสียงของอิสตรีแต่อย่างใด เสียงมันแตกพร่าใหญ่โต
“ตีหัวมันสิ อีเชี่ยอร ตีหัวมัน”
ปานระวีร้องสั่งเพื่อนสาวเพราะมือของเทียนบุญยังกดหัวเธอลงต่ำจวนจะถึงพื้น การ์ดพยายามฝ่าวงเข้ามา แต่ช่วงเวลาชุลมุนนั้นเอง
“ว้าย ดึงผมชั้น อีเชี่ย”
เทียนบุญดึงผมของสาวนางหนึ่งที่เกล้ามวยผมมา จุดประสงของเขาคือปิ่นที่ปักอยู่บนหัวของเธอ
“กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดด”
“ไม่ตายหรอกมึง”
“กรี๊ดดดด”
“หยุด บอกให้หยุด ลากออกไปด้านนอก”
“กรี๊ด นมชั้น นมชั้น กรี๊ดดด”
เสียงของปานระวีร้องดังลั่นไปทั้งบริเวณผู้คนต่างอยากรู้อยากเห็น เทียนบุญเดินตามการ์ดออกไปแล้ว
“เรียบร้อยแล้วนะครับคุณเทียน ผมไม่ให้ตำรวจเขาทำประวัติ หลักฐานที่มีพลเมืองดีถ่ายคลิปไว้เป็นตัวช่วยอย่างดี”
ทนายประจำตระกูลเอ่ยขึ้น เทียนบุญนั่งอยู่ในสถานีตำรวจทองหล่อ ให้บุญบารมีของคุณเทียนทิพย์ให้พ้นข้อกล่าวหา “พยายามฆ่า” เพราะมีพลเมืองดีถ่ายคลิปไว้เกือบทุกขั้นตอน ในคลิปนั้นเทียนบุญเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะเขารู้มุมกล้องเป็นอย่างดี จะไม่ให้รู้ได้อย่างไรในเมื่อคนถ่ายคือคนที่เป็นนักสืบ ส่วนคู่กรณีอยู่โรงพยาบาล เธอเสียนมไปหนึ่งข้างเพราะถุงน้ำเกลือมันแตกต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน อำนาจเงินทำให้เรื่องจบลงอย่างเงียบสงบ เงียบเสียจนเหมือนคนทะเลาะกันธรรมดาตามสถานที่เที่ยวยามราตรี เทียนบุญเดินออกจากสถานีตำรวจด้วยหน้าตาที่เป็นปกติ
“อะไรอีหน้าเชี่ย นี่มันผัวกู กูมาก่อน อีเชี่ยหน้าด้าน”
“มึงนั่นละหน้าด้าน นี่มันผัวกู มึงคิดจะมาแย่งเหรอ อีไม่เจียมตัวไม่สวยแล้วยังกล้ามาแย่งผัวคนอื่นอีก”
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ไฟแดงตรงแยกเอกมัยทำให้เทียนบุญจอดรถรอสัญญาณไฟ แต่ระหว่างนั้นมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่แต่งตัวจัดจ้าน ย้อมสีให้หัวเหมือนนกแก้ว สีของเส้นผมมันตัดกับสีผิวได้อย่างน่าดูชม เสียงสองสาวที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ด่าทอกันดังเล็ดลอดเข้ามาในรถ เทียนบุญหันไปมอง ตอนแรกไม่ได้สนใจแต่พอได้ยินบางประโยคทำให้เขาลดกระจกรถลง
“เมื่อวานมันยังนอนกับกูอยู่เลย อีเชี่ย มึงนั่นล่ะมาแย่ง มันบอกของกูดีกว่าของมึง จำไว้ด้วย”
สาวนางหนึ่งที่สวมกางเกงยีนส์ตัดขาสั้นจนไปถึงต้นขา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงร้องขึ้น เธอก้าวลงจากรถปรี่เข้าจิกหัวอีกนางที่นั่งซ้อนท้ายรถอีกคัน
“กรี๊ด อีเชี่ย”
“อีหน้าด้าน ผู้ชายมีเยอะแยะทำไมมึงไม่ไปยุ่ง มายุ่งกับผัวกูทำไม นี่แน่ะ กรี๊ด”
รถที่จอดรอไปแดงต่างหันไปดูเกือบทุกคัน สองสาวตบตีกันตรงนั้นไม่ได้สนใจใคร ส่วนชายสองคนที่อยู่บนรถไม่ได้สนใจ เหมือนเขาพยายามจะร้องห้ามแต่พอรู้ว่ามันไม่เป็นผลก็หยุด จวนจะถึงเวลาไฟเขียวแล้ว แต่สองนางยังจิกหัวทึ้งผมกันอยู่
“มองเชี่ยไร ไม่เคยเห็นคนรึไง”
สาวนางหนึ่งตวาดมาเทียนบุญผงะ เพราะเขาลดกระจกลงมองอย่างตั้งใจ ไฟเขียวแล้ว เท้าแตะคันเร่งออกรถไป ปล่อยให้ภาพที่อยู่ข้างๆตอนนี้กลายเป็นอดีตไป เราแตกต่างกันยังไงหรือกับผู้หญิงสองคนนี้ เรียนจบเมืองนอก ทำงานอย่างดี มีหน้ามีตาทางสังคม แต่ก็ยังทำเหมือนๆกัน กับคนที่อาจจะด้อยการศึกษา ไร้การอบรมซึ่งมารยาท เราแตกต่างกันตรงไหนหรือ?
“สร้างแต่เรื่องนะเทียน ทำไมไม่รู้จักหยุด”
พอก้าวขาเข้าไปในบ้าน คุณเทียนทิพย์ยังไม่นอน มีปาริฉัตรและทินกรนั่งอยู่ข้างๆ เทียนบุญหันไปมองแล้วไม่พูดอะไร
“เมื่อไหร่จะพอ นี่ถ้านักข่าวเอาข่าวไปตีพิมพ์ หรือถ้าพ่อให้คุณประวิทย์จัดการไม่ทัน ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเราจะย่อยยับแค่ไหน คิดบ้างไหม ทำไมทำอะไรไม่เคยคิด หือเทียน ทำไม”
“เทียนเหนื่อยพ่อ”
“เหนื่อยสิ ก็สร้างแต่ปัญหา ตั้งแต่กลับมาเคยทำอะไรที่มันมีประโยชน์บ้างไหม ดีแต่ตะลอนเที่ยวไปวันๆ สร้างเรื่องได้ไม่เว้นแต่ละวัน”
“คุณคะ พอเถอะคะ ลูกคงเหนื่อย”
“ใช่เทียนสร้างแต่เรื่อง แล้วยังไง ทีพ่อเอาใครมาแทนที่แม่ เทียนยังไม่ได้อะไรด้วยเลย แค่นี้อย่ามาว่าเทียน”
“แก นี่แกกำเริบนะเทียน”
“มีอะไรจะว่าอีกไหมพ่อ เทียนเหนื่อย”
เทียนบุญจ้องมองหน้าบิดาแล้วกวาดสายตาไปยังคนอีกสองคนที่นั่งหน้าซีดอยู่ สะบัดหน้าเดินขึ้นชั้นบนไป
“ไม่ไหวจริงๆ เฮ้อ นี่มันกรรมมันเวรอะไรของผมนะ เงินทองก็ให้ใช้ไม่เคยขาด นี่น่ะหรือที่เขาบอกเลี้ยงลูกอย่าเลี้ยงด้วยเงิน ดูสิ มันจะมานั่งอยู่บนหัวผมอยู่แล้ว”
คุณเทียนทิพย์เอ่ยขึ้นถอนหายใจออกมาอย่างระอา
“เมย์ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะคะคุณภา แต่เมย์ว่าตามความเห็นของเมยื ถ้านิตยาสารชื่อดังมีผู้ช่วยที่มีข่าวเสียๆหายๆในเรื่องอัปปรีย์แบบนี้ ไม่ใช่เขานะคะที่จะเสีย ชื่อเสียงของนิตยาสารต่างหากที่เมย์ว่ามันจะเสื่อมลง คนเพียงคนเดียวนะคะคุณภา”
มณีอารียานั่งคุยอยู่กับวิภาวีในร้านอาหารชื่อดังย่านสุขุมวิท จุดประสงค์ของมณีอารียาแจ่มชัดไม่มีปิดบัง ความต้องการของเธอมันสอดคล้องกับความต้องการของวิภาวีเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องยาก
“เทียน พี่คิดว่าเทียนน่าจะหยุดสักพักนะ”
พอไปทำงานคุณวิภาวีก็เรียกตัวเข้าพบ ไม่รีรอที่จะอ้อมค้อมหรือให้เทียนบุญได้นั่งลงให้สบายใจก่อน เธอเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกมาทันที
“หมายความว่ายังไงครับพี่ภา”
“ตอนนี้ชื่อเสียงของเทียนมันติดลบมากกว่าบวกนะจ๊ะ ไม่รู้เลยเหรอ หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับคนในวงการ นิตยาสารชั้นสูง เขาซุบซิบนินทาเทียนกันทั้งนั้น พี่ว่ามันจะทำให้ภาพลักษณ์ของนิตายาสารเราถูกบั่นทอนไปด้วย”
“นี่พี่ภาไล่ผมออกเหรอ”
“อุ๊ย ไม่ใช่ไล่ออกนะเทียน แค่พักงาน พี่ว่าเทียนคงเครียดเกินไป หรือไม่ก็ยังอาจจะปรับตัวไม่ทัน เพราะเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก หรือไม่ก็อาจจะลืมวัฒนธรรมของบ้านเมืองเรา ที่ต้องเคารพยำเกรงผู้ใหญ่หรือรุ่นพี่น่ะ”
สายตาของวิภาวีทั้งสะใจและเหยียดหยาม
“ครับ ที่จริงไม่ต้องพักงานก็ได้นะครับ เทียนยินดีจะไปถ้าอยากให้มันเป็นแบบนั้น”
น้ำเสียงที่ราบเรียบ สายตาที่เหนื่อยหน่ายทำให้วิภาวีถึงกับประหลาดใจ
“นี่เทียนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“จะให้เทียนรู้สึกอะไรล่ะครับ ให้ระเบิดอารมณ์ออกมาน่ะเหรอ เทียนไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เทียนได้ทำมันอาจจะดูไม่ดี ผิดศีลธรรมอันดีงามหรือผิดบรรทัดฐานของใครบางคน เทียนเสียใจครับ แต่นั่นมันก็เป็นเพราะเทียนคนเดียว เทียนไม่ว่าอะไรพี่ภาหรอกครับ พี่ภาทำถูกแล้วล่ะ แต่ที่เทียนคิดว่าพี่ภาด่วนคิดไป ก็น่าจะพี่ภายังไมได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเทียนเท่าไหร่เลย แต่เอาเถอะครับ งั้นวันนี้เทียนขอทำงานเป็นวันสุดท้ายนะครับ ตอนนี้ด้วย เงินเดือนไม่ขอรับ รบกวนพี่ภาอีกเรื่อง ขอเอกสารคืนจากฝ่ายบุคคลด้วยครับ”
เทียนบุญยกมือขึ้นไหว้วิภาวีแล้วลุกเดินออกมา เธอหน้าชาไปอ้าปากค้าง ตอนแรกคิดว่าจะได้ลับฝีปากกับเทียนบุญ แต่ผิดคาด ไม่คิดว่าเขาจะนิ่งได้ขนาดนี้
“ทำแบบนี้เลยเหรอนังเมย์ ได้ แต่นี่ไม่ใช่การแย่งทาน แต่มันเป็นการสอนให้แกได้รู้ว่าอย่ามาลองดีกับคนอย่างเทียนบุญ”
เขาขับรถบึ่งออกจากที่ทำงานที่กลายเป็นอดีตตรงไปยังห้างดัง ที่เดิมร้านกาแฟที่ที่เขาสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของร้านเพชรได้เป็นอย่างดี
“ทาน เมย์เขามีน้องด้วยเหรอ”
หลังจากที่นั่งอยู่นานเทียนบุญเห็นชายหนุ่มที่ใส่ชุดนักศึกษาเดินเข้ารานไป ท่าทางของเขาสนิทกับมณีอารียาเป็นอย่างมาก
“อ้อ เจน่ะเหรอ น่าจะเป็นเจ ทำไมเหรอเทียน”
“ไม่มีอะไร เทียนแค่สงสัย แค่นี้นะทาน”
“อ้าว เดี๋ยวสิเทียนเย็นนี้เจอกันหน่อยไหม ทานอยาก”
“ไม่ เทียนไม่อยาก เทียนเบื่อ”
วางสายไปแล้ว แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นกดไปหานักสืบคนเดิม
“คุณเทียนครับ เขาชื่อ มกุฏโกเมน หรือ เจ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณมณีภัสสร ตอนนี้เรียนอยู่ปีสอง เป็นคนร่าเริงครับ เพื่อนเยอะ ปกติไม่ค่อยเที่ยวไหน ไปเรียนแล้วก็กลับบ้าน รู้สึกว่าจะคบอยู่กับคนชื่อ สายรุ้งครับ ลูกสาวของคุณพัลลพ เจ้าของธุรกิจน้ำผลไม้”
หลังจากนั้นสามวันนักสืบก็มาพบกับเทียนบุญ เขาเล่าทุกอย่างที่เขาหาข้อมูลมาได้ให้เทียนบุญฟัง เทียนบุญเองก็นิ่งฟังอยู่
“ตระกูลนี้เป็นคนจีนเหรอ”
“ครับ รุ่นคุณปู่คุณย่า คุณมณีภัสสรเองก็ยังเคร่งอยู่มาก”
“อืม แสดงว่า ลูกชายของเขามีความสำคัญมากเลยสิ”
“ครับ ตามธรรมเนียมของคนจีน”
เทียนบุญนั่งครุ่นคิดอยู่ ถ้าหากว่าจะทำเรื่องต่อไปนี้ มันจะเกินไปไหม เป้าหมายของเขาคือ มกุฏโกเมน
“วันอาทิตย์นี้รู้สึกว่าเขาจะไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนนะครับคุณเทียน”
“ที่ไหน”
ประกายตาฉายแววขึ้นทันที
“เอกมัยครับ ร้าน”
เขาบอกชื่อร้านออกมา เทียนบุญฉายยิ้มออกมา
“ฮึ แกทำให้ฉันตกงาน ถ้างั้นน้องชายแก ฉันขอก็แล้วกันนะนังเมย์”
เทียนบุญแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยวตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เสื้อยืดสีฟ้าอมเขียวทำให้เขาแลดูเด็กลงมากกว่าการใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขาลีบตามสมัยนิยม ทรงผมทำให้มันปรกหน้าเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปเขาทำกัน เทียนบุญยืนหมุนตัวเองอยู่หน้ากระจก แล้วแสยะยิ้มออกมา
“เราจะได้เห็นดีกัน มณีอารียา”
“เมย์ เรื่องของเขาน่ะ เมย์ เอ่อ แน่ใจแล้วเหรอ”
เสียงของกนิฐที่เอ่ยออกมามันลีบเล็ก ไม่มั่นใจในสิ่งที่จะถาม แต่ในใจมันก็บีบบังคับให้ถามออกไป
“ทำไมเหรอโป้ง หึงเราเหรอ”
มณีอารียายังอารมณ์ดีอยู่
“เมย์ก็รู้นี่ว่าเราคิดยังไง”
“โป้ง เมย์เข้าใจนะ แต่เข้าใจเมย์นะ เมย์ไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้”
“เราให้คนไปสืบมานะเมย์ เขาเป็นเกย์ ตอนอยู่ที่โน่นคบกันกับคนชื่อเทียนบุญออกหน้าออกตา เมย์ยังจะ”
มณีอารียาปราดตามองกนิฐ
“เมย์รู้มานานแล้วโป้ง”
“แล้วเมย์ยังจะ”
“ไม่หรอกโป้ง เกย์ก็เกย์วันยังค่ำ เกย์จะมาแต่งงานกับผู้หญิงได้ยังไง”
“หือ เราไม่เข้าใจเมย์”
“หึ ก็เขาบอกว่าแต่งงานเพื่อธุรกิจไม่ใช่เหรอ เมย์ก็แค่ทำอย่างที่เขาบอก”
“เมย์”
สายตาของมณีอารียามันเหยียดหยามเมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สาม สายตาที่ไม่เคยจะมีวันยอมแพ้ให้ใคร คิดว่าเพศหญิงต้องทนรับความรู้สึกอย่างนี้เพียงฝ่ายเดียวน่ะหรือ ไม่มีทาง บิดาของเธอเคยทำไว้กับมารดามามากพอแล้ว หลายเมีย ใช้กำลัง มันหมดยุคนั้นไปแล้ว สมัยนี้ผู้หญิงก็มีปัญญาเลี้ยงตัวเองไม่จำเป็นต้องพึ่งบุญบารมีของฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียว สำหรับมณีอารียาคนนี้ ผู้หญิงที่ถือเป็นเพศแม่เองมีศักยภาพมากพอที่จะหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และจะไม่มีทางทนให้ผู้ชายหน้าไหนมาดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีของอิสตรีเพศ ผู้ชายถ้าหาดีไม่ได้ก็อย่าได้มี


“เอ้า ชนหน่อยๆ เมาไปเลยวันนี้”
เสียงของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ส่งเสียงเกรียวกราวอยู่ร้านนั่งดื่ม ทางเจ้าของวันเกิดได้ขออนุญาตทางร้านไว้แล้วว่าอาจจะส่งเสียงรบกวนลูกค้าท่านอื่นบ้าง ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ไดแจ้งกับทางลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทุกๆคน รวมถึงเทียนบุญที่นั่งเฝ้ามองพฤติกรรมอยู่ไม่วางตา
“ไอ้เจ แม่งคออ่อนว่ะ เมาแล้วเหรอมึงหน้าแดงเชียว”
“อ๊ะ เจ นี่เจน้องของเมย์หรือเปล่าครับ”
เห็นจังหวะเทียนบุญเดินตรงเข้าหาทันที เด็กทั้งหกลุ่มมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
“พี่เป็นคราย”
“อ้อ พี่ชื่อเทียนนะครับ เป็นเพื่อนของเมย์ พี่เพิ่งจะกลับจากอังกฤษ ตายจริงไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ พี่ยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมเมย์เลย เมย์เป็นยังไงบ้างครับน้องเจ”
ถือวิสาสะเดินไปประชิดตัว เพื่อนของเขาก็เลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง
“ม่ายรู้ พี่ต้องไปถามพี่เมย์เอง”
เขาพูดอ้อแอ้ หน้าแดงก่ำ
“อย่าถือสามันเลยนะพี่ มันเมาแล้ว”
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่วันนี้วันเกิดใครเหรอครับ”
เทียนบุญเปลี่ยนประเด็นยิ้มให้น้องๆ
“วันเกิดผมพี่”
ชายหนุ่มเสนอตัว
“เหรอครับ แฮปปี้เบริ์ทเดย์นะครับน้อง พี่เป็นเจ้ามือให้เอาไหม”
“เอ่อ ไม่ดีหรอกครับพี่ เกรงใจ”
“เกรงใจอะไรครับ เนี่ยพี่มาคนเดียว ถ้าไม่รังเกียจพี่อาศัยแค่ดื่มเหล้านิดหน่อยร่วมโต๊ะได้ไหม พี่เป็นเจ้ามือให้เอง เต็มที่ไปเลยครับ”
ชายหนุ่มจะเอ่ยปากแย้งแต่เทียนบุญยกมือเรียกพนักงานให้เขามาหา เขาสั่งเหล้าและของกินไปอีกเพียบ ใครบอกว่าหนามกุหลาบมันไร้พิษ ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบเผ่าพันธุ์ไหนวงศ์ใด ถ้าขึ้นชื่อว่ากุหลาบพรรณแล้วไม่เพียงแต่ดอกที่สวยงามมีเสน่ห์แต่หนามที่ซ่อนอยู่ในก้านชูดอกนั้นพร้อมจะทิ่มตำให้คนที่ลุ่มหลงเจ็บปวดได้ตลอดเวลา
“โหย ไอ้เจเมาเป็นหมาเลยว่ะ ทำไงดี”
พอร้านจวนจะปิดเพื่อนของมกุฏโกเมนก็ก็ช่วยกันหามปีกคนละข้าง เขายังพอมีสติแต่เมาเดินเซแล้ว
“กูหวาย กูยังหวาย”
“ไหวห่าไรล่ะ นี่ล่ะมึง คออ่อนนัก เดี๋ยวกูไปส่งมันก่อนก็แล้วกันพวกมึง เดี๋ยวกูตามไป”
“อ้าวไปไหนกันต่อเหรอครับน้อง”
เทียนบุญเอ่ยถามขึ้น
“อ้อ มันยังไม่สุดน่ะพี่ ต้องไปต่อ แต่ต้องไปส่งไอ้นี่ก่อน”
“อ้าวเหรอครับ งั้นพี่ไปส่งเจให้ก็ได้ครับ บ้านพี่ต้องผ่านทางนั้นอยู่แล้ว เผื่อว่าเมย์ยังไม่นอนจะได้แวะทักด้วย”
“เอ่อ จะดีเหรอครับเกรงใจจัง”
“ไม่ต้องเหรงใจหรอกครับ พี่ตั้งใจจะไปทางนั้นอยู่แล้ว”
“แล้วรถมันล่ะมึง”
ชายหนุ่มอีกคนถามขึ้น
“จอดไว้นี่ก็ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้คนมาเอา”
ก็คนมันจะเอา จะห้ามยังไง จะรั้งไว้ท่าไหนล่ะถึงจะฟัง ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำแบบนี้ มันก็ต้องออกมาในรูปแบบนี้ ร่างกายของชายหนุ่มที่เมาอ้อแอ้แม้จะพอมีสติแต่พอพาขึ้นรถไปเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นฉ่ำเขากลับแน่นิ่งไป
“น่ากินอยู่นี่เราน่ะ กินเด็กสักครั้ง ดูซิมันจะหวานอย่างที่เขาว่าไหม”
เทียนบุญแสยะยิ้มออกมาแล้วขับรถตรงไปยังคอนโดฯที่ซื้อไว้แต่ไม่มีใครมาอยู่ ตั้งใจว่าจะให้เขาเช่ารายเดือนแต่ยังหาคนที่ยอมรับราคาเช่าที่ตั้งไว้ไม่ได้ ที่บ้านจึงปล่อยไว้แบบนี้ เก็บไว้ต้อนรับแขกของบริษัท แต่คืนนี้มันจะเป็นรังรักของเทียนบุญกับเหยื่อรายใหม่ มกุฏโกเมน
“อ่า เวียนหัว เวียนหัว”
ร่างของชายหนุ่มนอนดิ้นอยู่บนเตียง เทียนบุญยืนมองอยู่ด้วยสายตาของคนที่กำลังคิดว่าตนมีชัยเหนือใครในโลกนี้ เขานั่งลงปลายเตียงแล้วดึงรองเท้าของมกุฏโกเมนออกทีละข้าง เขาเองก็ดิ้นสะบัดเท้าช่วยให้รองเท้ามันหลุดออกง่ายขึ้น เทียนบุญปีนขึ้นไปบนเตียง ไล่นิ้วตามหน้าขาของเขาแล้วแกะเข็มขัดออก
“ยังไม่ตื่น ฮึฮึ”
ปลายลิ้นฉกตวัดทันทีที่ร่างกายช่วงล่างของเขาปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้ม ชายหนุ่มนอนบิดตัว แม้จะเมาเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ปฏิกิริยาของร่างกายมันยังคงตอบสนอง ปลายลิ้นตวัดจากเหนือเข่าขึ้นไปถึงแค่สะดือ ไม่เลยขึ้นไปมากกว่านั้น พอแก่นกายของเขาพร้อม เทียนบุญก็ยัดเยียดตัวของเขาเองให้กับเขาทันที
“อา อา”
เสียงของเขาครางออกมา มือไม้พยายามป่ายจับต้นตอที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆที่หน้าขา พอมือมาโดนตัวเทียนบุญเขาก็ลืมตาขึ้นหน้าตากึ่งตกใจและประหลาดใจ แต่เทียนบุญก้มลงประกบริมฝีปากทันทีไม่ปล่อยโอกาสให้สมองของเขาประมวลผล
“อือ อ่า”
เสียงครางออกมาจากลำคอของมกุฏโกเมน ลีลารักที่เทียนบุญมอบให้ทำให้อารมณ์ที่หลับใหลของเขาถูกปลุกให้ตื่นและมันกำลังกระเจิดกระเจิง
“มีความสุขไหมครับ เจ”
ครั้งที่สอง เสียงของเทียนบุญเอ่ยขึ้นเขาพรมจูบทั่วร่าง ไปทั้งตัว ทำเต็มที่กับทุกลีลาอย่างที่เกิดมาจะไม่มีใครทำแบบนี้กับเขามาก่อน แม้แต่แฟนสาวแสนสวยอย่างสายรุ้งที่คบหากันเธอก็ไม่เคยทำให้เขาเช่นนี้มาก่อน  ชิวหาพาเพลินที่เทียนบุญมอบให้มันชอนไชตั้งแต่ปลายเท้าจรดหน้าผาก เขาเริ่มมีสติ
“ไหวไหมครับเจ พี่มีความสุขที่สุดเลยครับ อา”
ครั้งที่สาม เทียนบุญเปลี่ยนให้เขาเป็นคนรุกไล่บ้าง แต่คนที่โดนไล่ล่าอย่างเขาทำให้พรานหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวเต็มเปี่ยมกับรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ที่จะไล่ล่า แต่ละท่าที่เทียนบุญคัดสรรมาเขาไม่เคยทำกับใครที่ไหนมาก่อน แปลก ประหลาด ตื่นเต้น รู้สึกดี เสียวจัดจ้านเผ็ดร้อน
“อาบน้ำหน่อยไหมครับเจ จะได้ดีขึ้น”
ครั้งที่สี่ เขามีสติกลับคืนมาเกือบเต็มร้อย ตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้ รังเกียจที่มีชายแปลกหน้าที่เขาบอกว่าเป็นเพื่อนของพี่สาวมานอนเคียงข้าง ร่วมรักไปสามครั้ง แต่ทำไมมันรู้สึกดีอย่างประหลาด ความแปลกใหม่ที่เขาได้ลองมันน่ารังเกียจแต่มันก็น่าสนใจอยู่ในทีมากทีเดียว ลิ้นที่อุ่นจนร้อนมันวนเวียนไปตามร่างกายของเขา ทุกซอกทุกมุม แม้แต่นิ้วเท้า แม้แต่ฝ่าเท้า เทียนบุญไม่ได้รังเกียจเพราะนี่มันคือกลที่จะทำให้เขารู้สึกต่างจากการที่ได้ร่วมรักกับใครอื่น
“เดี๋ยวพี่สระผมให้ครับเจ”
เทียนบุญลากเขาเข้าห้องน้ำไปในขณะที่อวัยวะที่แสดงความเป็นชายของเขายังสอดใส่อยู่ในร่างของเทียนบุญเอง ไม่ยอมปล่อย ไม่มีวัน ไม่มีทางให้มันหลุดออก ขาเดินนำสะโพกบดบี้ไปหน้าขาของเขามือสองข้างเอื้อมมาเกี่ยวเอวของเขาไว้
“พี่ทำแบบนี้ทำไม”
พอน้ำไหลลงรดตัวมกุฏโกเมนก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาขุ่นมัวไม่มองสบตา
“พี่ขอโทษนะครับเจ พี่ขอโทษ พี่แค่แอบมองเจมาตั้งนานแล้ว ถ้าเจไม่ชอบ พี่จะไม่ทำอีก”
มือของเทียนบุญจับปลายคางของเขาหันมาเพื่อจะให้สบตา น้ำตาของเทียนบุญมันไหลออกมาได้ตามสั่ง
“เอ่อ ผม ผมแค่ เอ่อ”
“พี่รู้ครับเจ เราคงไม่ได้เป็นอย่างพี่ แต่พี่ผิดเองที่มาทำให้เรามีรอยแปดเปื้อน พี่นี่เลวจริงๆ”
ร่ำไห้ออกมา เขาเองยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่รู้จะปลอบหรือด่าสำทับดี อารมณ์มันกระเจิดกระเจิงไม่มีจุดหมายปลายทาง
“แต่พี่ขออาบน้ำให้เราได้ไหม แล้วพี่จะไม่แตะตัวเราอีก พี่ขอโทษจริงๆ”
เทียนบุญเงยหน้ามองสบตาเขาอย่างจริงจัง แววตาของชายหนุ่มมันฉายแววประหลาดออกมา ตกใจ แปลกใจระคนปนเปกันอยู่ในนั้น ไม่มีเสียงตอบจากชายหนุ่ม จะบอกว่าไม่ตอนนี้ก็คงไม่ทัน สี่ครั้งที่ร่วมบรรเลงเพลงรักกัน
“ชอบฟังเพลงไหมครับเจ”
ระหว่างที่ลูบไล้ฟองสบู่ไปทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มเทียนบุญก็เอ่ยถามขึ้น แต่ไม่ต้องการคำตอบ เทียนบุญฮัมเพลงขึ้นเบาๆเป็นเพลงภาษาอังกฤษที่เบาสบาย เขาตั้งใจไว้แล้ว มันจะต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น มกุฏโกเมนหลับตาลงเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงร้องเพลงนั้น มือของเทียนบุญทั้งลูบทั้งบีบคลึงเบาๆให้เขาผ่อนคลาย
“นั่งตรงนี้ครับคนดี พี่จะเป่าผมให้”
ไม่ว่ากลใด มนตราบทไหนตอนนี้เทียนบุญยอมร่ายทุกบทเพื่อครอบงำเขา เช็ดเนื้อตัวให้ แม้แต่ก้มลงไปเช็ดเท้า ปากอุ่นๆก็ก้มลงไปจุมพิตหลังเท้านั้น เขาจะชักเท้ากลับแต่เทียนบุญไม่ยอม จุดประสงค์ในการทำเช่นนี้ ไม่ได้ทำไปเพื่อความรักหรืออะไรทั้งนั้น แต่เพื่อทำให้ใครอีกคนหน้าชา ชาอย่างที่จะไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำให้เขาออกจากงาน ไม่ได้แค้นใจมากเท่าใดนัก แต่ที่เธอเหยียดหยามประเมินความสามารถของเทียนบุญต่ำไปนั้น ยอมไม่ได้ แต่กระนั้นกับชายหนุ่มคนนี้เทียนบุญเองก็รู้สึกดีอย่างประหลาด ความรู้สึกที่ใจมันเต้นตูมตามโดยไม่เคยเป็นแม้กับธรรมทานเอง แววตาของชายหนุ่มมันเหมือนแสงจันทร์ต้องมณีนิลเป็นประกายระยับชวนให้ลุ่มหลง ไม่ว่าจะยังไง ก็จะเอา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2011 17:14:37 โดย แรงเทียน »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แรงดีไม่มีตกเลยทั้งคู่
ไม่รู้เกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน
ยังไงก็รักและอยู่ข้างพี่เทียนนะ สู้สู้

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
การฟาดฟันระหว่างเทียนกับเมย์สูสีกันจริงๆ มีน้องเจมาเกี่ยวข้องอีก :m25:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
พี่สายลมมาช่วยปลายฟ้าแล้ว :z2:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
สายลมสู้ๆๆๆ อย่าให้ก้องเกียรติตัดหน้าน้า...

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ในที่สุดตัวพระตัวนางก็ออกมาครบและชิมิ วู๊ๆๆๆ  แลดูอนาคตตัวพระน่าสงสารT-T   :sad4:

runynam

  • บุคคลทั่วไป
และแล้ว.......เทียนก็เสร็จ เจ หรือ เจเสร็จเทียนนี่ :laugh: :laugh:
เฮ้ยยยย ความแรงของเมย์ กับ เทียนก็ยังคงมันหยด ... :fire:
สุดท้าย ใครกันนะที่จะเสียใจที่สุด..เฮ้ยยย :เฮ้อ:

littleFiNgeR

  • บุคคลทั่วไป
แรงดีไม่มีตกจริงๆเรื่องนี้ ว่าแต่...ตกลงใครกดใคร หรือแฟร์ๆทั้งคู่หนิ กร๊ากกกก

PrinceTae

  • บุคคลทั่วไป

สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ I_ARMS

  • >*<
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
โอ่ยยยยยยยยยย น่ากลัวมาก
แต่แอบสะใจยังไงไม่รู้ ซาดิสม์ดีจังแหะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
ทำไมรีบตัดจบซะล่ะคะ กำลังอ่านเพลินๆ เลย

เทียนบุญจะไปเปิดตัวกับเมย์ในฐานะน้องสะใภ้วันไหนคะ

onjazz26

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:
ขอจิ้มบูลเรนเจอร์ก่อนค่อยไปอ่าน

แล้วงัยต่ออ่ะ :m28:

มาต่อไวไวนะจ๊ะ....บูลเรนเจอร์ :yeb:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2011 21:01:47 โดย onjazz26 »

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
อร๊ายยยยยยยยชิวหาพาเพลิน :z1: :z1: :z1:


ฮียังคงแรงสม่ำเสมอ :laugh: :laugh: :laugh:

Chinnosuke

  • บุคคลทั่วไป
ของเค้าแรงดีจริงๆ
เทียนบุญแรงได้สมใจอยากจริงๆคับ นับถือนับถือ
เป็นกำลังใจให้แรงเทียนนะคับ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
บ้านจะแตกไหมเนี่ย ถ้าเจชอบเทียน แล้ว เทียนดันชอบเจขึ้นมาจริงๆ

แล้วน้องแม๊คจะคู่กับใครหล่ะเนี่ย พี่โป้ง พี่ทาน(ตัวประกอบโลกลืม) หรือได้น้องเจ(ประมาณแก้แค้นเทียน)

จิ้นได้หลายทางแหะ รออ่านนะครับ

onjazz26

  • บุคคลทั่วไป
เรดเรนเจอร์ เรื่องแรงได้จัยเจงๆ o13

ตาปลายฟ้าของใครไม่รู้....ตกกาป๋องไปแล้ว...หุ...หุ :m14:

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :laugh:  เมย์รู้เข้าคงอกแตกตาย

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ทานหมดบทบาทลงโดยสิ้นเชิง ลืมไปเลยนะนี่ สงสารน้องเจนี่แหละ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ต้องมาเป็นหมากซะงั้น ไฟแค้นที่สุมในใจมันอาจเผาไหม้ตัวเองได้นะนี่เทียน

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
แรงจริงๆเลย เทียนบุญ
แต่เมย์ก็ตองล้างจองผลาญใช่เล่น พอกันทั้งคู่อ่ะ

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆๆๆ
หวังว่ามันคงไม่สายเกินไป  :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด