ตอนที่ 8 ออกตามหา
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“ปลายฟ้าพี่เองครับ เปิดประตูให้หน่อยครับ” ก้องเกียรติยืนรออยู่หน้าห้อง
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“ปลายฟ้าครับ นี่พี่ก้องเองเปิดประตูให้พี่ด้วยครับ” ก้องเกียรติเริ่มกังวลเล็กน้อยเพราะเขากลัวจะมีคนเห็นเข้าเสียก่อน
หลังจากรออยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมาหา ก้องเกียรติตัดสินใจบิดลูกบิดประตูห้องดู
‘แกร็ก’
ประตูห้องถูกเปิดออกได้โดยไม่มีการป้องกันไว้แต่อย่างใด ก้องเกียรติเข้ามาภายในด้วยความแปลกใจ
“ปลายฟ้า ปลายฟ้าอยู่ไหนครับ” เขาตะโกนเรียกเจ้าของห้อง แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับแม้แต่น้อย
ก้องเกียรติตัดสินใจเดินเข้ามาด้านในเดินสำรวจหาทีละห้อง แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแม้แต่เงาเขาจึงหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาคนที่กำลัง ตามหา
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...”
เสียงตอบรับที่บอกว่าปลายสายปิดเครื่องหรืออยู่ในจุดอับสัญญาณทำให้ติดต่อไม่ได้ เขาพยายามลองอีกหลายต่อหลายครั้งแต่ผลที่ได้ยังคงเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้คนตามหาเริ่มร้อนใจเสียแล้ว แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าสงสัยมีงานเรียกตัวด่วนเลยรีบออกไป เดี๋ยวก็คงจะกลับมาก้องเกียรตินั่งรอที่โซฟากลางห้อง
“ฟ้าพี่โทรมาทำไมไม่ติดเลย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” สายลมกระหืดกระหอบจากการรีบร้อนเดินทางกลับมา
“อ่าวคุณสายลม ปลายฟ้าไม่ได้ไปกับคุณหรือครับ” ก้องเกียรติหันมาถามอย่างแปลกใจที่เห็นสายลมกลับมาคนเดียวหลังจากที่นั่งรอ อยู่ได้พักใหญ่
“คุณก้องปลายฟ้าไม่ได้ไปกับผมครับ แล้วคุณไม่เจอปลายฟ้าหรือครับ”
“ไม่ครับผมก็นั่งรออยู่สักพักแล้ว”
สายลมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แต่ก็ไม่มีสัญญาณเหมือนเดิม
“ผมก็โทรแล้วครับแต่ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเขาไม่ได้ไปกับคุณแล้วเขาจะไปไหนกันนะ” ก้องเกียรติเริ่มสงสัย
การสงสัยของก้องเกียรติไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของสายลม ที่ตอนนี้ยืนขมวดคิ้วคิดทบทวนว่าปลายฟ้าจะไปที่ไหนได้อีก แต่ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเพราะว่าตั้งแต่เขามาดูแลปลายฟ้า ปลายฟ้าก็ไม่เคยไปไหนโดยที่ไม่บอกเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว สายลมเดินสำรวจรอบ ๆ ห้องทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้างหรือเปล่า สิ่งที่เขาสังเกตได้คือสายโทรศัพท์ภายในถูกถอดออกมันคงเป็นสาเหตุ ที่เขาโทรเข้าห้องไม่ติด
สายลมตัดสินใจโทรถามประชาสัมพันธ์ด้านล่างคอนโด
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเห็นปลายฟ้าออกไปจากคอนโดบ้างหรือเปล่าครับ”
“คุณปลายฟ้า ไม่เห็นนะคะแต่ว่าวันนี้มีคนมาขอขึ้นไปพบสองคนค่ะ” พนักงานตรวจสอบข้อมูลก่อนบอกกลับไป
“สองคน!! ขอรายชื่อหน่อยได้ไหมครับ” สายลมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่สู้ดีแล้วตอนนี้
“สักครู่นะคะ” พนักงานรีบคีย์ข้อมูลหารายชื่อทันที
“เจอแล้วค่ะ คนแรกคุณวินิตกร ไกรจอนค่ะ อีกคนก็คุณก้องเกียรติค่ะ”
“วินิตกร คนนี้มีรายละเอียดเพิ่มอีกไหมครับ” สายลมเจอรายชื่อที่ไม่เคยรู้จัก
“เห็นลงชื่อเล่นไว้ว่าหม่อนนะคะ ที่เหลือก็ไม่ได้แจ้งไว้ค่ะ”
“แล้วคุณปล่อยให้เขาขึ้นมาได้ยังไงกัน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นผมไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่ๆ” สายลมร้อนใจอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อหม่อน เขายังนึกถึงเนื้อความในจดหมายเมื่อเช้านี้ได้อยู่ตลอด
“คุณก้องคุณกลับไปก่อนได้ไหมครับ ท่าทางปลายฟ้าจะเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ แล้วยังไงผมจะติดต่อกลับไปครับ” สายลมบอกให้ก้องเกียรติกลับไปก่อน ก่อนที่เขารีบติดต่อประธานบริษัทเพื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
หลังจากที่ชี้แจงรายละเอียดจนหมดแล้วประธานบริษัทบอกว่าให้รอดูสถานการณ์ไป ก่อน มันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ปลายฟ้าอาจแค่หลบออกไปทำอะไรแก้เซ็งก็ได้ ถ้าคืนนี้ไม่กลับมาสายลมจะทำอะไรก็สามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลับมา ปรึกษาอีก
สายลมได้แต่กังวลใจกับการหายตัวไปของปลายฟ้า ถ้าไม่เพราะเป็นคำสั่งให้รอถึงพรุ่งนี้ป่านนี้เขาคงออกตามหาปลายฟ้าแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงแต่นั่งรออย่างร้อนใจเท่านั้น เขานั่งลงที่โซฟาตัวเล็กริมหน้าต่างที่ที่ปลายฟ้าชอบนั่งมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้าสีน้ำเงินหม่นไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลให้แม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มความกลัดกลุ้มกังวลใจมากยิ่งขึ้น ความคิดร้าย ๆ ต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับปลายฟ้าผ่านเข้ามาในจินตนาการเป็นระยะ ๆ จนทนนั่งเฉย ๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว
“ไอ้นิกกูมีเรื่องอยากให้มึงช่วยหน่อย มึงพอจะมีเวลาไหมวะ” สายลมต่อสายหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจแผนกสืบสวนสอบสวน
“พอมีเวลาแต่เรื่องอะไรของมึงวะไอ้สาย ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดถึงกูแต่ตอนนี้กลับโทรหากูเองซะงั้น”
“กูอยากให้มึงช่วยสืบประวัติคน ๆ หนึ่งให้หน่อย จะได้ไหมวะ”
“ก็พอได้แต่มึงต้องบอกก่อนว่าจะเอาไปทำไม กูไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายนะมึงก็รู้”
“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดแน่ๆ ....” สายลมเริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟัง
“มึงสงสัยขนาดนี้แล้วทำไมไม่แจ้งความวะ เดี๋ยวกูรับเรื่องให้ก็ได้”
“ไม่ได้ เรื่องนี้ยังให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันอาจมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของปลายฟ้าได้ ยังไงมึงก็ช่วยกูหน่อยแล้วกัน แล้วช่วยปิดเป็นความลับด้วยได้ไหม”
“เออ ได้ ๆ แล้วยังไงกูจะรีบติดต่อกลับไป”
“ขอบใจมาก ยังไงก็รีบ ๆ ให้กูหน่อยนะ กูเป็นห่วงปลายฟ้ามากจริงๆ”
สายลมกลับมานั่งที่เดิมก่อนจะเผลอหลับไปเพราะความเครียด
“กริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงง”
สายลมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์เขารีบคว้ามากดรับอย่างรีบร้อน ด้วยหวังว่าจะให้เป็นนิกโทรมาบอกเรื่องที่ได้ขอร้องเอาไว้
“ว่าไงปลายฟ้ากลับมาหรือยัง” เสียงประธานบริษัทถามทันทีเมื่อรับสาย
“ยังเลยครับ”
“งั้นคุณรีบจัดการหาตัวปลายฟ้ากลับมาให้เร็วที่สุด แล้วอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงหูนักข่าวเด็ดขาดส่วนทางหม่อมเอียดเดี๋ยวผมจัดการเอง ผมให้เวลาคุณหนึ่งอาทิตย์ถ้าหาตัวกลับมาไม่ได้ชื่อปลายฟ้าคงจบลงแค่นี้” พูดจบสายก็ถูกวางโดยไม่รอคำตอบรับแต่อย่างใด
สายลมรีบลุกขึ้นเก็บของแล้วลงไปขึ้นรถเพื่อออกตามหาปลายฟ้าอย่างรวดเร็ว
“ไอ้นิกมึงได้เรื่องอะไรบ้างหรือยัง นี่กูจะบ้าตายอยู่แล้วนะ” สายโทรศัพท์ถูกต่อเข้าหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจ
“กูก็กำลังจะโทรหามึงพอดี ดันเสือกโทรมาก่อนทำไมวะ แล้วว่าไงมึงจะเอาไหมเรื่องที่ให้กูหา”
“เอาสิวะ มึงรีบบอกมาเลย”
“คนที่มึงให้กูตามหาพอดีมีประวัติในแฟ้มคดีเลยหาง่ายหน่อยว่ะ”
“คดี คดีอะไรวะ” พอได้ยินคำว่ามีคดีสายลมยิ่งเป็นห่วงปลายฟ้ามากยิ่งขึ้นไปอีก
“ก็คดีแอบขึ้นบ้านมาวินนักร้องชื่อดังตอนนี้ไง มึงไม่เคยได้ยินข่าวหรือไงวะ”
“ก็พอเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครแล้วมึงมีที่อยู่ของมันหรือเปล่าส่งมาให้กูหน่อยสิ”
“เดี๋ยวกูส่งไปให้ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่เด็กมึงหายไปวะ”
“ก็มันมาหาปลายฟ้าแล้วปลายฟ้าก็หายตัวไปนะสิ มึงจะให้กูคิดยังไง”
“เฮ้ย แบบนี้ทำไมมึงไม่แจ้งความวะ”
“ที่บริษัทเขาไม่อยากให้เป็นข่าว มึงช่วยกูตามหาด้วยแล้วกันแต่อย่าให้ข่าวรั่วไหลนะไม่งั้นปลายฟ้าโดนข่าว เล่นงานไม่เลิกแน่ แค่เรื่องเก่ายังไม่รู้จะแก้ยังไงเลย”
“เออ เดี๋ยวกูใช้เพื่อนกูช่วยตามอีกแรง แค่นี้ก่อนนะกูมีประชุมต่อต้องรีบไปแล้ว”
“ขอบใจมากว่ะเพื่อน”
สายลมขับรถไปตามที่อยู่ที่ได้รับ SMS เขามุ่งหน้าตรงไปยังจังหวัดระยองอย่างรวดเร็ว ขับรถโดยที่ไม่กลัวว่าตัวเองจะเกิดอันตรายเองก็ได้ จากกรุงเทพฯถึงระยอง ด้วยความเร็วที่ขับมาทำให้ถึงจุดหมายภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
เขามาหยุดรถที่หน้าบ้านไม้สองชั้นริมทะเลบ้านเพ บ้านหลังใหญ่สีขาวถูกล้อมรั้วด้วยไม้ระแนงอย่างแน่นหนา บริเวณหน้าบ้านปลูกต้นไม้ใหญ่บังไว้จนหนาตาจนยากที่จะมองสำรวจเข้าไปข้างใน ได้ สายลมหยิบปืนสั้นคู่ใจเหน็บติดตัวไปด้วยก่อนลงรถไปที่หน้าประตูรั้ว
‘กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง’
สายลมกดกริ่งหน้าบ้านอยู่นานสองนานก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตู หลังจากมองสังเกตไปรอบๆ บริเวณแล้วบ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านคนอื่นพอสมควร เขาจึงตัดสินใจว่าจะปีนเข้าไปสำรวจข้างใน เผื่อจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างก็ได้
========> โปรดติดตามตอนต่อไป