The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)  (อ่าน 325330 ครั้ง)

Nassiiz

  • บุคคลทั่วไป








-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

-Ps.- กลับมาลงให้อ่านต่อกันแล้วนะคะ หลังจากที่คนเขียนหายหน้าไป 2 วัน
เลยโพสให้คนอ่านไปสองตอนติด เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา ^^
(เรื่องนี้จะโพสถี่หน่อยนะคะเพราะมีทั้งหมด 17 ตอน แต่ต้องเร่งให้จบทันกำหนดการของโปรเจ็คที่วางไว้)
ส่วนที่ถามมาว่าคนเขียนเป็นคอเกาหลีรึเปล่า ขอตอบเลยว่าใช่และอยู่สายเค-ป๊อบค่ะ
แต่ที่เห็นว่าใช้ชื่อตัวละครเป็นชื่อเกาหลี นั่นก็เพราะสถานที่เกิดเหตุมันอยู่ที่โซลค่ะ
เพราะฉะนั้นตัวละครจะชื่อ มาร์คัส ฟ้าใส หรือ มิกะ ก็คงไม่ได้
เพื่อความเหมาะสมของเนื้อหาก็เลยต้องออกมาตามนี้ (ขออภัยที่ชื่อจำยากไปหน่อย)
แต่สำหรับคอซีรีส์เกาหลีคงจะพอถูไถกล้อมแกล้มกันไปได้
ส่วนคนที่ไม่ใช่คอเกาหลีก็ตามที่เนื้อเรื่องแล้วกันนะคะ >///<
ขอบคุณที่ติดตามและขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2011 18:42:36 โดย Nassiiz »

จงกลนี

  • บุคคลทั่วไป

Nassiiz

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2011 07:00:49 โดย Nassiiz »

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :haun4:

ในที่สุดนายเจก็โดนกิน

แต่อยากได้NC เต็มสตรีมอ่ะ 5555

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
มาให้ลุ้นสองตอนเลย  :mc4:

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
อยากอ่านสีเขียวจะตายอยู่แล้ว
แต่อ่านในมือถือมันมองไม่เห็นอ่า โฮกกก กระซิกๆๆ
รอให้พบเจอคอมก่อนนะคะ แล้วเราจะกลับมาใหม่ โฮ~~

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
สุโค่ยมั่กมากเลยฮะพี่เต! ทำให้เจ้าชายน้ำแข็งของเรา กลายเป็น Shave Ice สีชมพูได้  :m3:

รุกต่อเลยนะเฮีย!   :a1:

hahn

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์พี่เตสุดใจเลย

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
 เจ้าชายน้ำแข็งเริ่มละลายแล้ว :o8:

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
ทำไมยิ่งอ่านไปก็รู้สึกว่า คุณหนูไร้เดียงสามากๆเลย แค่อยากรู้อยากเห็นเกินไวเท่านั้นเอง

คงจะเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบผู้ชาย แล้วไม่มคใครให้ปรึกษา เลยหาเอาเองจากเน็ต แล้วก็เจอนู่นนี่นั่นแบบไม่มีใครมาเซ็นเซอร์ให้เหมาะสมกับอายุ  เลยกลายเป็น อะไรๆก็รู้ แต่ไม่เข้าใจ... นี่มันปัญหาสังคมสมัยนี้สินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






littleFiNgeR

  • บุคคลทั่วไป
พี่เตสุโค่ยย อิอิ ทำเจ้าชายเยือกแข็งเขินได้ ชอบอะชอบ^_^

MonarcH

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
«ตอบ #911 เมื่อ28-05-2011 01:25:49 »

Butterfly 7
...“ก่อนจะนอนอยากเจอเธอเป็นคนสุดท้าย คนแรกของเช้าถัดไปฉันก็คิดถึงเธอ” อาการนี้คือสิ่งที่บ่งบอกว่าผมชอบยุทธทั้ง ๆ ที่พยายามปฏิเสธ และห้ามใจตัวเองมาตลอดตั้งแต่เจอกันครั้งแรก...สำหรับคนที่กำลังจะกลายเป็นผู้ชายขายบริการ อนาคตเลื่อนลอย มีดีแค่รูปร่างหน้าตา ผมไม่ควรจะไปวาดฝันให้เค้าจริงจังด้วย...

...เรื่องราวที่ยุทธสารภาพเมื่อคืนเกือบจะทำให้ผมใจอ่อน มันก็มีเหตุผลพอที่ยุทธจะบิดเบือนประวัติตัวเองเพื่อให้ได้งาน ผมเคยรู้จักบางคนที่จบปริญญาโท แต่ในเวลาที่จวนตัวเขาต้องใช้วุฒิปริญญาตรีสมัครงานเพื่อให้ได้งานเร็วที่สุด...งานในบาร์มันไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ เพราะใช้แค่รูปร่างหน้าตาในการทำงาน และชายแท้ในวงการบาร์เกย์มักจะเป็นที่ต้องการของลูกค้า...

...ยุทธไม่มีความจำเป็นต้องบอกเรื่องราวของเค้าเลย ถ้าเข้าข้างตัวเอง เค้าเหมือนจะเคลียร์ตัวเองเพื่อให้ผมเห็นว่าเค้าไม่อยากจะโกหกผม แต่ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ เค้ากำลังทำให้ผมไว้ใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองในอนาคตหรือเปล่า...มันคงไม่ดีกับสุขภาพจิตนัก ถ้าต้องอยู่แบบระแวงกัน เอาเป็นว่าต่อไปนี้ผมจะเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับยุทธ ทำให้เค้าเห็นว่าผมไม่ได้รวยเริดเชิดหยิ่งแบบที่ป้าธเนศอยากให้เป็น เค้าจะได้ไม่ต้องหวังเรื่องเงินทองของนอกกายที่ไม่ใช่ของผมจริง ๆ เลยซักอย่าง แม้ว่าผมจะเป็นผู้ครอบครองโดยกฏหมาย...
“รอนานมั้ยยุทธ” ผมยิ้มทักยุทธทันทีที่เห็นเค้านั่งรอบริเวณล็อบบี้
“ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกันครับ” ยุทธทำหน้างง ๆ ก่อนจะตอบ
“ไปกันเลยละกัน เดี๋ยวรถติด” ผมจับมือเค้าเดินไปที่ลานจอดรถ
“วันนี้คุณกริชแปลก ๆ นะครับ” 
“แปลกตรงไหน”
“คุณดูร่าเริงผิดปกติอ่ะ”
“ก็คนมันมีความสุขนี่”  ใช่ครับ ผมมีความสุขที่ไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องเชิด และตั้งใจทำให้ยุทธเห็นว่าผมใจอ่อน เผื่อว่าเค้าจะออกลายเร็วขึ้น
“ความสุข”  ยุทธทวน
“ใช่ วันนี้ไม่ต้องเข้าบาร์ พรุ่งนี้ก็หยุด วันสำคัญทางศาสนา สถานบันเทิงทุกประเภทต้องปิดหมด”  ผมอธิบาย
“อ๋อ นึกว่ามีความสุขที่มากับผม”  ยุทธหยอด
“....................................”  ขนาดเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อโดนสายตาคู่นั้นจ้อง พร้อมรอยยิ้มกระชากใจ ผมถึงกับต่อปากต่อคำไม่ถูกเลยทีเดียว
*
*
...”หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีซักแค่ไหน หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ จะหยุดกับเธอคนเดียว”...เสียงเพลงในรถของผมถูกกลบด้วยเสียงร้องเพี้ยน ๆ ของยุทธ เมื่อผมผ่อนคลาย ยุทธก็ดูสดใสไปด้วย ถนนสุขุมวิทยามเย็นที่รถติดเป็นปกติ แต่ผมกลับรู้สึกว่าวันนี้ระยะทางสั้นและรถไม่ติดอย่างเคยทั้งที่เราก็ใช้เวลาอยู่บนรถเกือบชั่วโมง...หรือที่มีคนพูดอยู่บ่อย ๆ ว่า เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ...
“ทำไมพี่ธัญญ่าต้องให้ผมมากับคุณกริชด้วยอ่ะครับ ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับบาร์เราตรงไหนเลย”  ยุทธถามเมื่อรถจอดเข้าที่
“...เอ่อ...เค้าให้เรามาดูงานเฉย ๆ แหละ เผื่อจะมีไอเดียไปใช้ในโชว์”  ผมตัดสินใจโกหก ไม่มีใครอยากรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นสินค้าหรอก
“งานแสดงเครื่องเพชรคงมีแต่คนรวย ผมกลัวว่าจะทำอะไรเปิ่น ๆ จัง”
“ไม่ต้องกลัว ทำตัวปกตินั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก แค่ไปนั่งดูแฟชั่นโชว์เฉย ๆ”
“ครับ” ยุทธรับคำ พลางมองมือของผมที่ตบต้นขาของเค้าเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ
“กินข้าวมาหรือยัง”  ผมรู้สึกตัวจึงชักมือออก แล้วถามเค้าแก้เขิน
“ตื่นเต้นกินอะไรไม่ลง” 
“หาอะไรกินก่อนมั้ย”
“ไม่ดีกว่าครับ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว”
*
*
…ภาพชายร่างสูงสองคนเดินเข้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสุขุมวิทสะดุดตาผู้คนแถวนั้น คงไม่มีใครมองเราสองคนว่าเป็นแค่เพื่อนกันแน่นอนเพราะเราเล่นเดินไหล่ชิดกันโดยมีเสื้อสูทราคาแพงกั้นไว้ไม่งั้นคงสีกันไฟลุก...เมื่อมีคนมองเราสองคนมากเข้า ผมยิ่งรู้สึกดีที่ไม่บอกความจริงกับยุทธว่าวันนี้เค้าเป็นเพียงสินค้าตัวอย่างให้เหล่าไฮโซดูตัว ความภาคภูมิใจในตัวเองจะหายไปเมื่อต้องขายศักดิ์ศรี...หลังจากวันหยุดนี้เค้าจะได้ขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก เค้าจะต้องกลายเป็นผู้ชายป้ายเหลืองเต็มตัว คิดแล้วก็ใจหาย ผมอยากให้เค้าได้เดินในที่สาธารณะได้เหมือนคนปกติไม่ต้องระแวงว่าจะมีแขกที่เคยออฟเค้าเดินอยู่ในกลุ่มคนที่เดินผ่านเหล่านี้หรือไม่...
“ยุทธ ผมขอเข้างานคนเดียวดีกว่า คุณรอผมในร้านนี้ก่อนละกัน สั่งอะไรมากินซะ อีกครึ่งชั่วโมงผมจะกลับมา”
“ทำไมล่ะครับ อายเหรอที่ผมจะเข้าไปด้วย”
“ทำไมต้องอายอ่ะ”
“ก็ผมเป็นผู้ชายขายน้ำไง”  ยุทธพูดอย่างน้อยใจ
“คุณยังไม่ได้รับออฟใคร คุณยังไม่ได้เงินจากการขายตัว อย่าดูถูกตัวเองอย่างนี้”  ผมพูดเสียงจริงจัง
“โอเค ผมรอที่นี่ก็ได้ รีบไปรีบมานะครับ” ยุทธเดินคอตกนำหน้าผมเข้าร้านอาหารใกล้ ๆ
“ไม่ต้องรีบกินนะ เดี๋ยวผมกลับมากินด้วย”  ผมบอกยุทธทันทีที่ถึงโต๊ะ
“คุณทำอย่างนี้พี่ธัญญ่าไม่ว่าอะไรเหรอ”  ยุทธถามด้วยสีหน้ากังวล
“ถ้าพี่ธัญญ่าโทรมาคุณบอกว่าคุณป่วยละกัน”
“จะดีเหรอ ก็คุณซื้อเสื้อผ้าข้าวของให้ผมทั้งตัวเพื่อมางานนี้ หมดไปหลายบาทเลยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก คุณเก็บไว้ใช้ตอนไปสมัครงานใหม่ก็ได้” 
“ขอบคุณครับ...อ้อ...พี่ธัญญ่าเค้าให้ค่าเสียเวลาที่มางานนี้ด้วยนะครับ”  ยุทธอ้ำอึ้งก่อนจะพูดเหมือนเกรงใจ
“เค้าให้เท่าไหร่ ผมให้เป็นสองเท่า”  ผมตวัดเสียงตอบ
“ผมจะบอกว่า ถ้าผมไม่ได้ทำหน้าที่ตามที่เค้าจ้าง ผมก็ไม่รับเงินครับ ผมแค่บอกคุณกริชไว้ก่อนว่าพี่เค้าจ้างผมมา ถ้าคืนนี้เค้ารู้ว่าผมไม่ได้ไปงาน เค้าต้องฟ้องคุณแน่ ๆ ว่าเค้าจ้างผมแล้วผมเบี้ยว”
“งั้นผมจ้างให้คุณป่วย โอเคมั้ย” 
“วันนี้ผมเต็มใจมากับคุณนะ ผมไม่ได้อยากได้เงินของคุณ” ยุทธพูดเสียงแข็งพลางจ้องหน้าผม
“มันคือค่าเสียเวลาของคุณ”
“ผมรับปากพี่ธัญญ่าก่อนที่ผมจะได้รู้จักคุณ วันนี้เราเหมือนมาเที่ยวไม่ใช่มาทำงาน ถ้าคุณไม่สบายใจ คุณเลี้ยงข้าวผมมื้อนึงก็พอ”
“ยังไงคุณก็ต้องรับเงินผม เพราะคุณต้องกินต้องใช้เหมือนกัน พี่ธัญญ่าจ้างคุณให้มาร่วมงาน ผมจ้างคุณไม่ให้มาด้วย มันเป็นรายได้ที่คุณพึงจะได้รับ ตอนนื้ถือว่าเป็นเวลางานของคุณ เมื่อผมออกจากงานร้านเพชรแล้ว นั่นคือเวลาเที่ยวของเรา” 
“แต่”
“ถ้าคุณถียงผมอีกคำเดียว คุณรับค่าจ้างป่วยของคุณไป แล้วเราแยกกัน”  ผมใช้ไม้ตายสุดท้าย
“โอเคครับ”  ยุทธรับคำอย่างเสียไม่ได้
*
*
...นอกจากจะขัดคำสั่งผู้มีพระคุณแล้วผมยังทำลายแผนการโปรโมทร้านด้วยการเดินเข้างานเปิดตัวนาฬิกาเพชรของคุณมณีอารยาเพียงคนเดียวด้วยความเร่งรีบ ผมไม่อยากให้ใครเห็นยุทธ จะว่าหวงก็ได้ ผมจะไม่ให้ยุทธกลายเป็นสินค้าด้วยฝีมือผม ถ้าเค้าจะเป็นสินค้า เค้าต้องไปแสดงตัวเองไม่ใช่ผมเป็นคนพาไปแนะนำอย่างนี้...ทันทีที่ถึงหน้างาน ผมถามหาคุณตรีเพื่อไปรายงานตัวว่าผู้ดูแล The Butterfly Boy คนใหม่มาถึงแล้ว...
“สวัสดีครับคุณตรี”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ ธัญญ่าส่งเธอมาเหรอ น่ารักจัง คืนนี้พี่ไปหาที่บาร์นะ พี่ให้เธอเกินสองเท่าของเรทปกติเลย อย่ารับออฟใครไปก่อนละกัน พี่ชอบของใหม่ ๆ”
“เอ่อ ผม”
“ตอนนี้พี่ยุ่งอยู่ ไฮโซทะเลาะกัน งานแทบแตก เธอนั่งรอข้างในก่อนนะ เดี๋ยวพี่หาลูกค้าอื่นมาคุยด้วย แต่ห้ามรับออฟใครตัดหน้าพี่นะฮะ”  คุณตรีพูดจบก็เดินบินสะโพกเข้างานไปอย่างเร่งรีบ
“เอ่อ”  ผมยืนอึ้งอยู่กับที่ เค้าสื่อสารกันภาษาอะไรถึงคิดว่าผมเป็นเด็กขายตัวที่บาร์ส่งมาให้ดูตัว
“ฮัลโหล”  เสียงพี่ธัญญ่ารับสาย
“พี่ คุยกับคุณตรีเค้ายังไงอ่ะ”  ผมถามเสียงเข้ม
“ทำไมเหรอ ไม่เจอกัน หรือเค้าไม่ให้เข้างาน”  ปลายสายตกใจ
“เจอกันแล้ว เค้าให้นั่งรอ แต่เค้าคิดว่ากริชเป็นเด็กขายน้ำ”  ผมกัดฟันพูดไม่ให้เสียงดัง
“อ้าว ยุทธล่ะ”
“ยุทธไม่สบาย กริชมาคนเดียว” ผมตอบ
“ว๊ายยยยยยย ตายแล้ว พี่บอกแค่ว่าจะมีคนจากบาร์ไปแนะนำสินค้าใหม่ หนูไปคนเดียวก็โดนมองว่าเป็นอย่างนั้นสิ”
“พี่ธัญญ่า เสื้อผ้าเครื่องประดับทั้งตัวกริชเนี่ยซื้อบ้านได้หลังนึงเลยนะ ฝากไปบอกเค้าด้วยว่ากริชไม่ใช่เด็กขายน้ำ” ผมพูดด้วยอารมณ์โมโห
“ใจเย็น ๆ สิกริช เค้าคงไม่ได้สังเกต แล้วทางเราก็ดันบอกว่าจะมีสินค้าใหม่ไปเสนอ เค้าเห็นกริชหน้าอ่อน ๆ มาคนเดียวก็เลยคิดไป...”
“เค้าบอกว่าคืนนี้จะเข้าไปออฟกริชที่บาร์ พี่ธัญญ่าโทรไปบอกเค้าตอนนี้เลยนะว่ากริชเป็นใคร”  ผมพูดสวน
“ค่ะ เดี๋ยวพี่จะบอกให้ อย่าเพิ่งโมโห กริชเข้าไปโปรโมทร้านเราในงานต่อเถอะ”
“พี่ ป่านนี้คุณตรีเค้าคงไปป่าวประกาศว่ากริชเป็นไอ้ตัวทั่วงานแล้วมั้ง ยังจะให้กริชเข้าไปอีกเหรอ”
“เข้าไปเถอะ เดี๋ยวพี่รีบโทรเคลียร์ให้เลย”
“เอาไว้งานต่อไปดีกว่านะพี่ วันนี้กริชไม่มีอารมณ์จะฉีกยิ้มปั้นหน้าไฮโซแล้ว ดูสิ ทั้งตัวเจ็ดหลักแต่ไม่มีคนเห็น” 
“ตามใจละกัน เดือนนึงมีงานแบบนี้ตั้งหลายงาน แต่นี่พี่เห็นว่างานมันไฮโซ ลูกค้ากระเป๋าหนักเยอะก็เลยอยากให้กริชไป” พี่ธัญญ่าพูดเสียงเบา
“โอเค งั้นกริชเข้าไปแป๊บนึง ถ้ามีโอกาสกริชจะบอกความจริงแล้วก็ประชาสัมพันธ์ร้านให้ อ้อ พี่จ้างยุทธให้มางานกับกริชกี่บาทเหรอ”  ผมถามส่งท้าย
*
*
...ผมก้าวเข้าไปในงานที่ตอนนี้กำลังชุลมุน แขกในงานส่งเสียงฮือฮา ได้ยินแว่ว ๆ ว่านาฬิกาเพชรที่บอกว่ามีหนึ่งเรือนในโลก โดนไฮโซหน้าใหม่สวมใส่แบบเดียวกันมาในงานทำให้เจ้าของงานอายแทบเอาหน้าแทรกแผ่นดิน ผมกวาดสายตามองตามที่ไฮโซไฮซ้อกำลังชี้ไปที่ต้นเหตุ...คุณพระช่วย นั่นมันเทียนบุญเพื่อนผมนี่ สงสัยจะก่อวีรกรรมแสบอีกแล้ว ผมอมยิ้มแล้วมองขึ้นไปบนเวทีเห็นนายแบบหนุ่มชื่อดังไนท์กับปลายฟ้าที่ยืนเด่นอยู่ทำให้นึกไปถึงยุทธ ถ้าเค้าใช้รูปร่างหน้าตาที่ถือว่าเป็นต้นทุนไปใช้ให้ได้กำไรด้วยวิธีอื่นผมคงไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะคบและชอบเค้าได้โดยที่ไม่ต้องระแวงว่าเค้าชอบผมเพราะทรัพย์สินเงินทองหรือเปล่า...
“อ้าว ทำไมมาเร็วจัง” ยุทธถามเมื่อผมก้าวเข้ามาในร้านอาหารที่เค้านั่งรออยู่
“งานล่มอ่ะ มีเรื่องกันนิดหน่อย แต่พรุ่งนี้คงลงหน้าหนึ่งอ่ะ” ผมพูดยิ้ม ๆ
“กินอะไรดี”
“อ้าว ทำไมยังไม่สั่งอะไรมากินก่อนล่ะ ถ้าผมมาช้าคุณก็หิวตายพอดีสิ”  ผมเพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะมีแต่น้ำเปล่าแก้วเดียว
“ไม่เป็นไร ผมรอได้”
“โอเค งั้นสั่งเลยนะ แต่เอาแบบคุณสั่งให้ผม แล้วผมสั่งให้คุณ ดูสิว่าใจตรงกันหรือเปล่า อ่ะ เมนูหน้านี้มีอาหารหนึ่งอย่างที่ผมอยากกิน เราเขียนคำตอบไว้ในกระดาษคอมเม้นท์นี้ พอกินเสร็จค่อยมาเฉลยกัน แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องกินอาหารที่อีกฝ่ายสั่งให้หมดนะ โอเคป่ะ”  ผมหาอะไรสนุก ๆ เล่น
“ได้สิ หน้านี้ก็มีของที่ผมอยากลองกิน คุณกริชทายไม่ถูกหรอก” ยุทธยื่นเมนูให้ผมแล้วมองหน้าพลางยักคิ้วกวน ๆ
“ลองกิน หมายความว่ายังไม่เคยกิน”  ผมพึมพำ
“อยากกิน แสดงว่าไม่ได้กินบ่อย ๆ” ยุทธพึมพำบ้าง ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายอยากจะสั่งอะไร
*
*
…ยุทธชี้อาหารที่คิดว่าผมอยากกินในเมนู ผมก็ชี้บ้าง เราไม่สั่งด้วยคำพูดเพราะต้องการจะให้อีกฝ่ายประหลาดใจ และเมื่ออาหารมาถึงพร้อมกัน ผมต้องทำหน้าพะอืดพะอมกับทูน่ายำสลัดตรงหน้า ส่วนยุทธตาโตกับ Lobster thermidor ที่ผมสั่งให้...
“ทำไมถึงสั่งแบบนี้ให้ผมอ่ะ” ผมถามเสียงไม่พอใจ ยุทธถึงกับหน้าเสีย
“ก็เมื่อคืนผมเห็นว่าคุณชอบกินผัก ชอบกินของธรรมดา ๆ ไม่เวอร์ แล้วก็ชอบกินรสจัดก็เลยสั่งแบบนี้มาให้”
“อืม”  ผมรับคำในลำคอ
“แล้วทำไมคุณถึงสั่งกุ้งตัวใหญ่ขนาดนี้ให้ผมล่ะ”  ยุทธถามกลับบ้าง
“อยู่ภาคเหนือคงไม่ค่อยได้กินอาหารทะเล และถ้าจะลองกิน ก็น่าจะเป็นอาหารทะเลที่ไม่ธรรมดาเกินไป"
“..........................” ยุทธพยักหน้าแล้วยิ้มให้ก่อนจะใช้ช้อนตักเนื้อล็อบสเตอร์วางที่จานผม
“ขอบคุณ ลองที่คุณสั่งมั่งนะ” ผมตักสลัดให้บ้างโดยแอบตักพริกติดไปเยอะ ๆ
“พริกแค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ” ยุทธทำปากดี
*
*
...เราสั่งอะไรมาเพิ่มอีก 2-3 อย่าง เมื่ออิ่มแล้วก็ถึงเวลาเฉลยคำตอบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความช่างสังเกตหรือเพราะรู้ใจ อาหารที่สั่งจึงตรงตามที่เราสองคนต้องการกินในค่ำนั้น...
“คุณกริชเล่นซะผมใจแป้วเลย นึกว่าสั่งอาหารที่ไม่ถูกใจมาให้”  ยุทธพูดยิ้ม ๆ
“ชอบล็อบสเตอร์มั้ย”
“ก็อร่อยดี แต่ถ้าเทียบกับราคา ผมว่ากินอย่างอื่นคุ้มกว่า”
“อืม เดี๋ยวเราแยกกันเลยนะ ผมต้องไปเคลียร์งานที่บาร์อ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกชอบยุทธมากไปกว่านี้
“ผมขอไปด้วยได้มั้ย ผมอยากอยู่กับคุณนาน ๆ อ่ะ”
“ไปให้พี่ธัญญ่าด่าเอาเหรอ อย่าลืมสิว่าคุณไม่สบายอ่ะ”
“ไม่สบายเมื่อเย็น แต่ตอนนี้ผมหายแล้วนี่”
“ไปบาร์ในชุดสูทอย่างนี้เหรอ” ผมหาทางเลี่ยง
“งั้นผมกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน แล้วตามไปนะ จะได้ไม่มีคนสงสัยด้วย”
“จะรับแขกคืนนี้เลยมั้ย”  ผมกลั้นใจถาม
“..........................................”  ยุทธอึ้ง
“ขอโทษ” ผมรีบพูดเมื่อเห็นเค้าเงียบไป
“ผมขอไปเสิร์ฟละกัน ทิปคืนนึงผมก็อยู่ได้หลายวันแล้ว”
“คุณคิดว่าจะได้ทิปเยอะทุกคืนเหรอ คืนนั้นคุณเป็นเด็กใหม่ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่ซักพัก คุณก็จะกลายเป็นของเก่า อย่าลืมนะว่าวงการนี้มันมีเด็กหน้าใหม่มาเรื่อย ๆ และลูกค้าส่วนมากก็ขี้เบื่อ”
“ผมต้องการแค่เงินก้อนเดียวไปตั้งตัวเพื่อรองานอื่น ไม่มีใครอยากจะขายตัวหรอกครับ ตอนนี้ผมไม่พร้อมจะหางานอื่น ผมมาจากบ้านนอกตัวเปล่า ไม่ได้เอาวุฒิ ไม่ได้เอาทะเบียนบ้านมาด้วยซ้ำ ผมทะเลาะกับพ่อถึงได้หนีมากรุงเทพฯ”  ยุทธพูดเสียงเบาในประโยคสุดท้าย
“..............................”  ผมเงียบ
“ผมมันไม่มีอนาคตเลยใช่มั้ย”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ คนเราเริ่มต้นใหม่ได้ตลอดแหละ คุณนั่งรถไฟฟ้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกัน อ่ะ ค่าเสียเวลาของคุณ” ผมปลอบพลางนับเงินสดให้ยุทธสองเท่าตามที่ได้ข้อมูลราคามาจากพี่ธัญญ่า
“.....................................”  ยุทธมองหน้าผมกับเงินในมือสลับกัน
“รับไปซะ มันคือรายได้ที่สุจริตของคุณ”

******************************************************************************************************
…เอามาต่อให้นิดนึงก่อน ตอนต่อไปจะตามมาเร็ว ๆ นี้ครับ...
MonarcH

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
อยากกรี๊ด ดีใจดังๆ เจ้าชายน้ำแข็ง สงสัยถูกจุมพิต พี่เตเข้าไป คงจะใกล้ละลายแล้ว

แบบนี้ต้องเชียร์ให้พี่เต ทำมากกว่าจูบ :z1:

ขอบคุณนะค่ะ

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #913 เมื่อ28-05-2011 01:56:38 »

ดีใจที่ยุทธเปลี่ยนใจมาเสริฟอย่างเดียว ไม่งั้นสงสารกริชอ่ะ 
ขอบคุณค่ะ ตอนต่อไปจะมาเร็วๆ นี้งั้นขอปูเสื่อ จองแถวหน้าละกันค่ะ ^_^

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
แต่ละศพที่ตายสภาพ ดูไม่ได้เลย รู้สึกว่านับวันยิ่งตามแบบสยองขวัญมากขึ้นนะค่ะ

บรึ๊ย หลอนมากเลย

ขอบคุณค่ะ ^_^

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
เหตุการ์ณนี้คงพอจะทำให้ปลายฟ้ารู้ตัวซะทีว่าควรจะรักใครอะ


ปล. เอาเพลงสายลมมาแปะ แล้วบอกเหมือนในเรื่องอีก  อย่าบอกนะค่ะว่า พี่สายลมจะเหมือนพระเอกใน MV อ่ะ
ไม่เอาอ่ะ เค้า.... แค่คิดก็  :o12:   ขอให้ไม่เป็นอย่างที่คิดเลย  :call:


 :pig4:

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
จะรอดมั้ยอ่ะ ลุ้นมากเลย  ถึงแม้ว่าจะสับสนกับการจาชื่อนิดหน่อย แต่ก็เหมือนได้ดูคอนเสริต K-pop เลย
 :pig4:

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกนึกว่าคุณหนู จะดูร้าย เอาแต่ใจ ขี้เหวี่ยงซะอีก แต่พอเห็นแบบนี้ แล้วสงสารมากเลย คงจะเหงามากๆ ยังไงพี่วินก็อย่าทำให้น้องเสียใจน่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #918 เมื่อ28-05-2011 09:16:03 »

ถ้าไงจ้างยุทธเป็นบอดี้การ์ดน่าจะดีนะ

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #919 เมื่อ28-05-2011 10:04:08 »

ตอนจ่ายเงินตอนสุดท้ายนี่เหมือนจ่ายเงินให้เด็กเท่ียวกับป๋ากริชเลยนะยุมธน้อยใจแย่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
« ตอบ #919 เมื่อ: 28-05-2011 10:04:08 »





สายลมห่มฟ้า

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่ 9 Butterfly


   สายลมแอบเข้าภายมาในบริเวณบ้าน เขาแอบตามต้นไม้ใหญ่เข้ามาจนถึงตัวบ้าน บ้านหลังใหญ่สีขาวสองชั้นประตูหน้าเป็นกระจกใสบานใหญ่ เดินสำรวจโดยรอบมีประตูเล็กอยู่ด้านหลัง สายลมค่อย ๆ ไขประตูเพื่อเข้าไปข้างใน
   เมื่อเข้ามาภายในเป็นบริเวณห้องครัว ที่มีอุปกรณ์อยู่อย่างครบครัน แต่จากที่สังเกตแล้วเหมือนว่าไม่มีใครอยู่มาหลายวัน ฝุ่นบางๆ เริ่มเกาะอยู่ตามเครื่องใช้แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการใช้งาน สายลมเริ่มลงมือหาเบาะแสทันทีเพราะยิ่งช้าเท่าไหร่ปลายฟ้าจะยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
   ชั้นล่างไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เขาเลยขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้าน บนชั้นสองเมื่อขึ้นมามีที่โล่งอยู่ตรงกลาง มีประตูห้องอยู่ด้านข้างฝั่งละสองห้อง
   สายลมเริ่มสำรวจห้องแรกจากฝั่งซ้ายมือ เมื่อเปิดเข้ามาถึงกับต้องตะลึงกับภาพที่เห็นภายในห้อง เพราะทั้งห้องเป็นรูปของปลายฟ้าติดอยู่เต็มไปหมด ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ที่ตัดออกมาจากนิตยสารต่าง ๆ รวมถึงรูปภาพที่ถ่ายไว้เอง บนฝ้าหลังคายังมีติดจนเต็มไปหมด ยิ่งเห็นแบบนี้สายลมยิ่งร้อนใจอยากตามหาปลายฟ้าให้เจอให้เร็วที่สุด ที่ตรงกลางผนังฝั่งหนึ่งมีกระดาษขาวเขียนข้อความอะไรบางอย่างไว้

ปลายฟ้า สักวันหนึ่งคุณจะต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น
โลกนี้ไม่มีใครคู่ควรกับคุณเท่ากับผมอีกแล้ว

   สายลมรีบเก็บกระดาษไว้เป็นหลักฐานก่อนออกมาจากห้อง

   ห้องที่สองเป็นห้องว่างไม่มีอะไรอยู่ภายใน ทำให้เลยมาสำรวจห้องที่สามทางขวามือได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดเข้ามาภายในมีเตียงใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง มีโต๊ะลิ้นชักขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมผนังขวามือตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ตรงกับปลายเตียง ของในห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ สายลมสังเกตเห็นบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะริมผนังเมื่อเข้าไปดูเป็นกระดาษอีกแผ่นที่ถูกทับไว้ด้วยที่ทับกระดาษรูปปลายฟ้า ข้อความข้างในเป็นชื่อและที่อยู่ของปลายฟ้าที่คอนโด
   เมื่อมองสำรวจก็เห็นรูปของปลายฟ้าโผล่ออกมาจากลิ้นชักตัวล่าง แสดงให้เห็นว่าตอนเก็บต้องรีบร้อนเป็นอย่างมาก สายลมเปิดลิ้นชักออกมาเผื่อว่าจะเจอเบาะแสให้ตามหาตัวปลายฟ้าได้มากขึ้น
   ภายในลิ้นชักมีภาพถ่ายปลายฟ้าตอนออกงานโชว์ตัวตามสถานที่ต่าง ๆ มีประวัติส่วนตัวที่ลงไว้ตามนิตยสาร เมื่อค้นดูภาพไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นภาพของปลายฟ้าตอนเดินเข้าออกคอนโด แสดงให้เห็นว่าได้มีการติดตามมานานแล้ว สายลมค้นลิ้นชักถัดไปเพื่อหาหลักฐานตามหาตัวปลายฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
“GOLDMEMBER THE BUTTERFLY BOY”
   สายลมหยิบบัตรแข็งสีทองขึ้นมาอ่านก่อนเก็บเข้ากระเป๋าเสื่อไว่ ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาหลักฐานเพื่อตามหาปลายฟ้าอยู่ หางตาสายลมมองเห็นเงาคนในกระจกอยู่ด้านหลังเขา
   ‘ปึก’
   ไม้หน้าสามถูกหวดลงมาที่หัวไหล่ข้างขวาเต็มแรง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงเป็นที่กลางหัว ถ้าสายลมไม่บังเอิญเห็นเงาสะท้อนที่กระจกหน้าต่างเสียก่อนป่านนี้คงนอนหมดสติหรือเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้
   เมื่อเห็นว่าทำร้ายเป้าหมายไม่ได้อย่างที่หวังเจ้าของไม้หน้าสามก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
   “หยุดนะ!!” สายลมข่มความเจ็บปวดที่หัวไหล่ไว้พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งไล่ตามออกมา
   ‘ปึ้ง’
   เสียงประตูหลังถูกปิดอย่างรีบร้อนจนเสียงดังสนั่น สายลมรีบตามต้นเสียงมาถึงประตูหลังบ้าน
   ‘แกร็ก แกร็ก’
   ประตูถูกล็อคจากด้านนอก แม้จะพยายามลองขยับสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเปิดออกได้
   ‘เพล้ง’
   สายลมกัดฟันฝืนความเจ็บยกเก้าอี้นั่งที่วางไว้ข้างผนังทุ่มประตูกระจกหน้าบ้านเพื่อออกมาข้างนอก เขาเห็นรถเก๋งสีดำขับหนีออกไป สายลมรีบวิ่งปีนกำแพงกลับมาที่รถตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่หัวไหล่ด้านขวาแม้แต่น้อย
ตึ้ง!!
เมื่อรถออกตัวก็ด้านหน้าซ้ายก็ยุบลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง สายลมรีบลงรถมาดู ล้อหน้าด้านซ้ายถูกถอดน็อตออกจนหมด เมื่อวิ่งจึงทำให้ล้อหลุดออกมา
“โธ่โว้ย!!”
สายลมตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย เพราะว่ากำลังพลาดที่จะติดตามตัวคนที่จับปลายฟ้าไป เขายืนสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ ก่อนหันมาซ่อมรถเพื่อให้ใช้งานได้ก่อนในเวลานี้

‘กริ้งงงงง กริ้งงงงง’
“ฮัลโหล ว่าไงมีข่าวอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่าวะ” สายลมยิงคำถามทันทีที่รับสายเพื่อนที่เป็นนายตำรวจ
“ท่าทางจะแย่กว่าที่คิดแล้ววะ” เสียงปลายสายเจือด้วยความกังวลใจ
“ทำไม มึงได้ข่าวอะไรมา”
“เพื่อนกูบอกว่าดาราที่แสดงร่วมกับเด็กมึง เพิ่งโดนฆ่าตายเมื่อไม่วานนี้เหมือนกัน”
“ใครวะ แล้วคนไหนที่ตาย” สายลมร้อนใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
“อเล็กซ์ คนที่เพิ่งมีเรื่องกับเด็กมึงนั่นแหละ”
ชื่อของอเล็กซ์ทำเอาสายลมอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมเวลามันช่างประจวบเหมาะได้ขนาดนี้ อเล็กซ์โดนฆ่า ปลายฟ้ามาโดนจับตัวไป หรือว่าคดีทั้งสองจะเกี่ยวข้องกัน คำถามนับร้อยผุดขึ้นมาในหัวอย่างมากมาย แต่ละคำถามยากที่จะหาคำตอบได้ในตอนนี้เสียด้วย
“แล้วมีข่าวปลายฟ้าเพิ่มบ้างไหมวะ”
“ยังเลยตอนนี้คนที่มึงให้ตามก็เก็บตัวเงียบ ตามหาตัวไม่เจอเสียด้วย แต่กูว่ามึงโทรหาเพื่อนกูหน่อยแล้วกัน มันทำคดีอเล็กซ์อยู่ เผื่อว่าอาจเกี่ยวพันกันก็ได้”
“กูก็กำลังจะขออยู่พอดีเลย มึงเอาชื่อกับเบอร์เขามาเลยเดี๋ยวกูโทรไปหาเอง”
“เออ มันชื่อหมวดเพชร ส่วนเบอร์ก็ 08x-xxx-xxxx”
“เออ ขอบใจมากงั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวถ้ามีอะไรกูจะรีบติดต่อมึงอีกที”
สายลมวางสายจากเพื่อนแล้วต่อสายหาหมวดเพชรต่อทันที
“สวัสดีครับ ขอสายหมวดเพชรครับ”
“ผมเพชรพูดครับ”
“ผมสายลมนะครับเพื่อนเจ้านิกมัน มันคงเคยพูดถึงผมให้คุณฟังบ้างแล้วใช่ไหมครับ”
“ครับ ผมก็กำลังรอสายคุณอยู่พอดี”
ทั้งสองคนคุยปรึกษากันถึงรูปคดีทั้งสอง หมวดเพชรเองยังลอบแปลกใจที่สายลมทำไมประมวลรูปคดีได้ตรงมากขนาดนี้ ทำให้การปรึกษาของทั้งสองคนได้ความคืบหน้าไปอย่างมาก ทั้งสองคนสรุปที่ต้องไปตามสืบเรื่องที่ บาร์ บัตเตอร์ฟาย บอย

สายลมมุ่งหน้าสู่บาร์ที่มีชื่อมากที่สุดในขณะนี้ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าวางมาดแมวมองเข้าไปที่บาร์เพื่อสะดวกต่อการพูดคุย เมื่อมาถึงด้านหน้าสายลมยื่นนามบัตรพร้อมธนบัตรใบละพันให้
“ขอมุมเงียบหน่อยแล้วช่วยตามผู้ดูแลให้ผมด้วยได้ไหม” สายลมพูดนิ่ง ๆ
การ์ดคนหนึ่งพาสายลมไปนั่งที่มุมด้านในของร้าน พร้อมบอกให้รอสักครู่ บรรยากาศภายในร้านดูปลุกเร้าอารมณ์ แสงสีส้มสาดส่องสร้างความสว่างทั่วทั้งร้าน เวทีขนาดใหญ่ถูกไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องเป็นระยะ ๆ เสียงเพลงเร้าใจดังขึ้น ก่อนชายหนุ่มหน้าตาดีใสเพียงกางเกงในตัวจิ๋วเดินขึ้นมาจนเต็มเวที
“สวัสดีค่ะคุณสายลม” เกย์สาวใหญ่เดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับ เออ... คุณ..”
“ธัญญ่าค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่า ญ่า ก็ได้นะคะ” เจ๊ธัญญ่ายิ้มอย่างภูมิใจ
“แต่ว่ามาที่บาร์เรา คิดจะดึงใครไปอีกหรือเปล่าค่ะ คราวก่อนก็มีอีกค่ายมาดึงดาวของเราไปคนแล้ว” เจ๊ธัญญาพูดดักทาง
“เปล่าครับ คุณญ่านั่งก่อนสิครับ ผมมีเรื่องจะสอบถามเล็กน้อย”
“มีอะไรสงสัยหรือว่า สนใจใครเป็นพิเศษหรือเปล่าคะแบบนี้”
สายลมยื่นบัตรสีทองให้ธัญญ่าหลังจากที่นั่งลงแล้ว ธัญญ่ารับมามองพร้อมพลิกอ่านด้านหลัง
“คุณรู้จักคน ๆ นี้ไหมครับ” สายลมเริ่มหาข้อมูลทันที
“พอจะจำได้นะคะ แต่ว่าคุณตามหาเขาไปทำไม” ธัญญ่าทำหน้าที่ปกป้องข้อมูลของสมาชิกทันที
“ถ้าผมเล่าให้ฟัง คุณจะช่วยผมใช่ไหมครับ” สายลมถามกลับ
ธัญญ่าคิดเล็กน้อยก่อนตอบตกลง เพราะว่าการเป็นมิตรกับแมวมองค่ายยักษ์ใหญ่น่าจะเป็นผลดีมากกว่า สายลมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ธัญญ่าฟัง โดยให้เหตุผลว่าจะตามตัวมาคุยเพื่อความปลอดภัยของปลายฟ้า ยกเว้นเรื่องที่ว่าปลายฟ้าถูกจับตัวไป เพราะเขาไม่อยากให้ชื่อปลายฟ้ามัวหมอง ธัญญ่าเองก็ยินดีช่วยแต่เขาไม่รู้ข้อมูลมากนัก
“งั้นเดี๋ยวคุณคุยกับเด็กคนที่เขาชอบเลือกประจำแล้วกันนะคะ เดี๋ยวฉันไปตามให้”
สักพักเด็กหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวเนียนใส่เพียงกางเกงในตัวจิ๋วเดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับ พี่ธัญญ่าบอกคุณต้องการพบผมหรือครับ”
“นั่งลงก่อนสิ”
“คุณรู้เรื่องของหม่อนมากแค่ไหน” สายลมหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างจริงจัง
“ก็พอสมควรครับ แต่ว่าคุณมาถามผมทำไมครับ”
สายลมเลยแต่งเรื่องเพื่อเล่าให้ฟัง พร้อมถามข้อมูลกลับ ข้อมูลที่ได้จากเด็กหนุ่มคนนี้มีประโยชน์มากที่เดียว เพราะทำให้เขารู้ว่าหม่อนมีบ้านอยู่ที่เกาะเล็ก ๆ ห่างจากเกาะเสม็ดไปไม่เท่าไหร่ แต่ว่าเขาจำชื่อไม่ได้ว่าเกาะอะไร เพราะเขาเคยไปด้วยแค่ครั้งเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กคนนั้นบอกมาคือ หม่อนเหมือนจะมีปัญหาทางจิตเล็กน้อย เพราะบางครั้งก็ใจดีบ้างครั้งก็ดูโมโหร้าย
หลังจากได้ข้อมูลแล้วสายลมก็รีบกลับทันที เขาไม่ลืมที่จะทิปเด็กด้วยแบงค์พันหลายใบ ก่อนให้นามบัตรว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ติดต่อเขาได้ สายลมย้อนกลับมาที่บ้านเพระยองอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเหมาเรือออกตามหาเกาะที่พักของหม่อน เขาโทรบอกนิกให้ส่งคนช่วยอีกทาง


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2011 23:39:58 โดย สายลมห่มฟ้า »

onjazz26

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:
จิ้มก่อน

 “หยุดนะ!!” สายลมข่มความเจ็บปวดที่หัวไหล่ไว้พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งไหล่ตามออกมา - วิ่งไล่อ่ะเป่า


ตาปลายฟ้านี้ไม่ค่อยมีบทบาทเลยอ่ะแม้แต่เรื่องของตัวเอง

เนื้อเรื่องกำลังมัน มาต่อไวไว :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2011 11:00:36 โดย onjazz26 »

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นมาละ
ลุ้นๆๆๆๆ  :serius2:

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #923 เมื่อ28-05-2011 11:18:45 »

กริชหลงรักยุทธไปเต็มๆแล้วสิ
เหลือแต่ยุทธนี่แหล่ะ จะยังไงกับกริชแน่

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
ไนท์น่ารักมากกกกกกกกก  :o8:
พี่เตละลายน้ำแข็งได้แล้ว   :-[

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #925 เมื่อ28-05-2011 12:30:52 »

ชอบกริชจัง
แต่หยุดนี่ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ = =

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #926 เมื่อ28-05-2011 12:36:54 »

ถ้ายุทธมาหลอกกริชก็เนียนมากเลยนะเนี่ย

PrinceTae

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: จารอดกันมั้ยเนี่ยยยยย ลุ้นๆๆ

PrinceTae

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
«ตอบ #928 เมื่อ28-05-2011 13:40:51 »

เหมือนจะไปกันด้วยดี ก็เหมือนยังมีปมปัญหาอยู่

อยากให้กริชสมหวัง

ภาพฝัน

  • บุคคลทั่วไป
   เตชวัฒน์กำลังยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของวริศรินทร์เช้านี้เขาต้องเข้าไปปลุกอีกฝ่ายเช่นปกติ เพราะได้เวลาทานอาหารเช้าแล้ว เขาลังเลที่จะเข้าไป จูบเมื่อคืนยังคงชัดเจน เขาฉุนที่อีกฝ่ายทำกับเขาเหมือนเขาเป็นของเล่น หลายครั้งที่เขาพยายามอดทนใจเย็นกับอีกฝ่ายแม้ว่าตั้งแต่เจอกันไนท์จะทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน แต่เขาก็พยายามใจเย็นเข้าไว้ เตชวัฒน์ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ไนท์ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง เขาเตรียมรับปฏิกิริยายที่จะแปลกไปของอีกฝ่ายไว้แล้ว แต่เมื่อเขาปลุกวริศรินทร์ลืมตาขึ้นมามองเขาอย่างมึนงง

   “ไนท์ไปกินข้าวครับเช้าแล้ว” เขาย้ำอีกครั้ง วริศรินทร์มองใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วทำท่าจะล้มตัวนอนโดยไม่สนใจเพราะไนท์รู้ดีว่าวันนี้ไม่มีงานอะไรที่ต้องทำ เตชวัฒน์ตัดสินใจดึงร่างโปร่งที่ดูงัวเงียขึ้นมา

   “ไปทานข้าวครับ” เขาย้ำเสียงเข้ม วริศรินทร์ยกมือปิดปากหาวกว้าง แล้วเดินซวยเซออกไปที่โต๊ะกินข้าว เตชวัฒน์ลอบถอนหายใจที่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าแปลกไป แต่พอเดินตามกลับไปเขากลับเห็นวริศรินทร์นอนหมอบอยู่ที่นั่นแทน

   “ไนท์ครับ” เตชวัฒน์เรียกอีกครั้ง วริศรินทร์ลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน เตชวัฒน์เทน้ำเย็นให้ดื่ม เขามองผิวพรรณที่ดูมีน้ำมีนวลขึ้นไม่ขาวซีดเหมือนแต่ก่อน เขารู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่คอยบังคับให้อีกฝ่ายกินอาหารทุกมื้อ วริศรินทร์ทานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำพูดเหมือนเดิม เขาคอยสังเกตว่าอีกฝ่ายชอบอะไรหนือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

   “ไนท์ไม่ชอบแตงกว่าเหรอ” เขาเห็นว่าไนท์เขี่ยแตงกว่าในผัดเปรี้ยวหวานออกทานแต่มะเขือเทศ ไก่และหัวหอม วริศรินทร์ไม่พูดใช้การพยักหน้าแทน เตชวัฒน์ไม่ว่าอะไรเพียงแต่หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดให้ที่มุมปาก

   “เลอะแล้วครับ” ขายังคงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ร่างของวริศรินทร์ผงะเล้กน้อยแล้วกินข้าวต่อไปเรื่อยๆ

   “ไนท์มีอะไรที่ไม่ชอบไหม” เขาลองเลียบๆเคียงๆ ถามเผื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมบอกความต้องการของตนเองมา วริศรินทร์เงยหน้าขึ้นมองหน้าเตชวัฒน์อยู่พักใหญ่ๆ

   “แตงกว่า ผักชี” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นมาแผ่วเบาอีกเช่นเคยแต่ก็สร้างรอยยิ้มให้กับเตชวัฒน์ได้ เขาคิดว่าไนท์คงจะเริ่มเปิดรับเขาบ้างแล้ว เมื่อทานเสร็จล้างสูงโปร่งก็ขยับตัวอย่างเชื่องช้าเก็บจานไปล้าง

   “ไนท์ ไปอาบน้ำแต่งตัวกัน เราจะไปเที่ยวบ้านพี่” เตชวัฒน์แตะไหล่ของวริศรินทร์แผ่วเบา นั่นทำให้ร่างสูงโปร่งหันกลับมามองด้วยความงุนงง

   “พี่พาไปเที่ยวไปอาบน้ำครับ” เขาย้ำอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายยังคงเฉย เขาเปิดน้ำแล้วจับมือของวริศรินทร์ล้างน้ำสะอาดช้าๆ แล้วจูงมือเข้าห้องนอนไปส่งที่หน้าห้องน้ำ

   “อาบน้ำครับ” เขายิ้มให้อีกครั้ง ซึ่งวริศรินทร์ก็เดินเข้าห้องน้ำไปแต่โดยดี เตชวัฒน์เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดให้อีกฝ่ายใส่ เขาหยิบกางเกงยีนส์สีซีดกับเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนออกมาวางไว้ แล้วออกไปล้างจานที่คาไว้

   ร่างสูงโปร่งเดินออกมา เสื้อสีฟ้าขับให้ผิวดูขาวยิ่งขึ้น ถึงแม้จะแต่งตัวให้ดูธรรมดายังไงเตชวัฒน์ก็รู้สึกถึงความโดดเด่นที่อยู่ภายในตัววริศรินทร์ ไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะอยู่ในวงการนายแบบได้ทั้งที่มีปัญหาในด้านมนุษยสัมพันธ์

   “ไปครับ พี่พร้อมแล้ว” เขายิ้มแล้วขยับเข้าไปโอบไหล่ของไนท์เอาไว้ เขาอ่านเจอมาว่าคนเราต้องสัมผัสตัวคนอื่นอย่างน้อยวันละครั้งไม่งั้นจะทำให้สุขภาพจิตเสีย

   วริศรินทร์เงยหน้ามองร่างสูงของเตชวัฒน์เขาไม่ได้ขัดขีนเมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีให้ตลอดมาที่เจอกัน ไนท์ขยับตัวออกเดินเข้าไปหยิบแว่นกันแดดพอเดินออกมาก้ชะงักเมื่อเตชวัฒน์หยิบรองเท้าผ้าใบคู่เก่าออกมาเตรียมไว้ให้

   “เที่ยวสบายๆ ไม่ต้องแฟชั่น” เตชวัฒน์ยิ้มให้วริศรินทร์เมื่อเห็นสายตาที่จ้อมมองมา เขาพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายสงสัยอะไร แต่ก็ไม่มีคำถามวริศรินทร์ใส่รองเท้าอย่างเงียบๆ

   “พี่รู้ว่าไนท์จะชอบ”



............................................


อ่านแล้วเม้นเย็นนี้จะมาต่อ อ่านแล้วไม่เม้นหนูงอนนะค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด