ตอนที่ 9 Butterfly
สายลมแอบเข้าภายมาในบริเวณบ้าน เขาแอบตามต้นไม้ใหญ่เข้ามาจนถึงตัวบ้าน บ้านหลังใหญ่สีขาวสองชั้นประตูหน้าเป็นกระจกใสบานใหญ่ เดินสำรวจโดยรอบมีประตูเล็กอยู่ด้านหลัง สายลมค่อย ๆ ไขประตูเพื่อเข้าไปข้างใน
เมื่อเข้ามาภายในเป็นบริเวณห้องครัว ที่มีอุปกรณ์อยู่อย่างครบครัน แต่จากที่สังเกตแล้วเหมือนว่าไม่มีใครอยู่มาหลายวัน ฝุ่นบางๆ เริ่มเกาะอยู่ตามเครื่องใช้แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการใช้งาน สายลมเริ่มลงมือหาเบาะแสทันทีเพราะยิ่งช้าเท่าไหร่ปลายฟ้าจะยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
ชั้นล่างไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เขาเลยขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้าน บนชั้นสองเมื่อขึ้นมามีที่โล่งอยู่ตรงกลาง มีประตูห้องอยู่ด้านข้างฝั่งละสองห้อง
สายลมเริ่มสำรวจห้องแรกจากฝั่งซ้ายมือ เมื่อเปิดเข้ามาถึงกับต้องตะลึงกับภาพที่เห็นภายในห้อง เพราะทั้งห้องเป็นรูปของปลายฟ้าติดอยู่เต็มไปหมด ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ที่ตัดออกมาจากนิตยสารต่าง ๆ รวมถึงรูปภาพที่ถ่ายไว้เอง บนฝ้าหลังคายังมีติดจนเต็มไปหมด ยิ่งเห็นแบบนี้สายลมยิ่งร้อนใจอยากตามหาปลายฟ้าให้เจอให้เร็วที่สุด ที่ตรงกลางผนังฝั่งหนึ่งมีกระดาษขาวเขียนข้อความอะไรบางอย่างไว้
ปลายฟ้า สักวันหนึ่งคุณจะต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น
โลกนี้ไม่มีใครคู่ควรกับคุณเท่ากับผมอีกแล้ว
สายลมรีบเก็บกระดาษไว้เป็นหลักฐานก่อนออกมาจากห้อง
ห้องที่สองเป็นห้องว่างไม่มีอะไรอยู่ภายใน ทำให้เลยมาสำรวจห้องที่สามทางขวามือได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดเข้ามาภายในมีเตียงใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง มีโต๊ะลิ้นชักขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมผนังขวามือตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ตรงกับปลายเตียง ของในห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ สายลมสังเกตเห็นบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะริมผนังเมื่อเข้าไปดูเป็นกระดาษอีกแผ่นที่ถูกทับไว้ด้วยที่ทับกระดาษรูปปลายฟ้า ข้อความข้างในเป็นชื่อและที่อยู่ของปลายฟ้าที่คอนโด
เมื่อมองสำรวจก็เห็นรูปของปลายฟ้าโผล่ออกมาจากลิ้นชักตัวล่าง แสดงให้เห็นว่าตอนเก็บต้องรีบร้อนเป็นอย่างมาก สายลมเปิดลิ้นชักออกมาเผื่อว่าจะเจอเบาะแสให้ตามหาตัวปลายฟ้าได้มากขึ้น
ภายในลิ้นชักมีภาพถ่ายปลายฟ้าตอนออกงานโชว์ตัวตามสถานที่ต่าง ๆ มีประวัติส่วนตัวที่ลงไว้ตามนิตยสาร เมื่อค้นดูภาพไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นภาพของปลายฟ้าตอนเดินเข้าออกคอนโด แสดงให้เห็นว่าได้มีการติดตามมานานแล้ว สายลมค้นลิ้นชักถัดไปเพื่อหาหลักฐานตามหาตัวปลายฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
“GOLDMEMBER THE BUTTERFLY BOY”
สายลมหยิบบัตรแข็งสีทองขึ้นมาอ่านก่อนเก็บเข้ากระเป๋าเสื่อไว่ ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาหลักฐานเพื่อตามหาปลายฟ้าอยู่ หางตาสายลมมองเห็นเงาคนในกระจกอยู่ด้านหลังเขา
‘ปึก’
ไม้หน้าสามถูกหวดลงมาที่หัวไหล่ข้างขวาเต็มแรง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงเป็นที่กลางหัว ถ้าสายลมไม่บังเอิญเห็นเงาสะท้อนที่กระจกหน้าต่างเสียก่อนป่านนี้คงนอนหมดสติหรือเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้
เมื่อเห็นว่าทำร้ายเป้าหมายไม่ได้อย่างที่หวังเจ้าของไม้หน้าสามก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
“หยุดนะ!!” สายลมข่มความเจ็บปวดที่หัวไหล่ไว้พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งไล่ตามออกมา
‘ปึ้ง’
เสียงประตูหลังถูกปิดอย่างรีบร้อนจนเสียงดังสนั่น สายลมรีบตามต้นเสียงมาถึงประตูหลังบ้าน
‘แกร็ก แกร็ก’
ประตูถูกล็อคจากด้านนอก แม้จะพยายามลองขยับสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเปิดออกได้
‘เพล้ง’
สายลมกัดฟันฝืนความเจ็บยกเก้าอี้นั่งที่วางไว้ข้างผนังทุ่มประตูกระจกหน้าบ้านเพื่อออกมาข้างนอก เขาเห็นรถเก๋งสีดำขับหนีออกไป สายลมรีบวิ่งปีนกำแพงกลับมาที่รถตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่หัวไหล่ด้านขวาแม้แต่น้อย
ตึ้ง!!
เมื่อรถออกตัวก็ด้านหน้าซ้ายก็ยุบลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง สายลมรีบลงรถมาดู ล้อหน้าด้านซ้ายถูกถอดน็อตออกจนหมด เมื่อวิ่งจึงทำให้ล้อหลุดออกมา
“โธ่โว้ย!!”
สายลมตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย เพราะว่ากำลังพลาดที่จะติดตามตัวคนที่จับปลายฟ้าไป เขายืนสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ ก่อนหันมาซ่อมรถเพื่อให้ใช้งานได้ก่อนในเวลานี้
‘กริ้งงงงง กริ้งงงงง’
“ฮัลโหล ว่าไงมีข่าวอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่าวะ” สายลมยิงคำถามทันทีที่รับสายเพื่อนที่เป็นนายตำรวจ
“ท่าทางจะแย่กว่าที่คิดแล้ววะ” เสียงปลายสายเจือด้วยความกังวลใจ
“ทำไม มึงได้ข่าวอะไรมา”
“เพื่อนกูบอกว่าดาราที่แสดงร่วมกับเด็กมึง เพิ่งโดนฆ่าตายเมื่อไม่วานนี้เหมือนกัน”
“ใครวะ แล้วคนไหนที่ตาย” สายลมร้อนใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
“อเล็กซ์ คนที่เพิ่งมีเรื่องกับเด็กมึงนั่นแหละ”
ชื่อของอเล็กซ์ทำเอาสายลมอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมเวลามันช่างประจวบเหมาะได้ขนาดนี้ อเล็กซ์โดนฆ่า ปลายฟ้ามาโดนจับตัวไป หรือว่าคดีทั้งสองจะเกี่ยวข้องกัน คำถามนับร้อยผุดขึ้นมาในหัวอย่างมากมาย แต่ละคำถามยากที่จะหาคำตอบได้ในตอนนี้เสียด้วย
“แล้วมีข่าวปลายฟ้าเพิ่มบ้างไหมวะ”
“ยังเลยตอนนี้คนที่มึงให้ตามก็เก็บตัวเงียบ ตามหาตัวไม่เจอเสียด้วย แต่กูว่ามึงโทรหาเพื่อนกูหน่อยแล้วกัน มันทำคดีอเล็กซ์อยู่ เผื่อว่าอาจเกี่ยวพันกันก็ได้”
“กูก็กำลังจะขออยู่พอดีเลย มึงเอาชื่อกับเบอร์เขามาเลยเดี๋ยวกูโทรไปหาเอง”
“เออ มันชื่อหมวดเพชร ส่วนเบอร์ก็ 08x-xxx-xxxx”
“เออ ขอบใจมากงั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวถ้ามีอะไรกูจะรีบติดต่อมึงอีกที”
สายลมวางสายจากเพื่อนแล้วต่อสายหาหมวดเพชรต่อทันที
“สวัสดีครับ ขอสายหมวดเพชรครับ”
“ผมเพชรพูดครับ”
“ผมสายลมนะครับเพื่อนเจ้านิกมัน มันคงเคยพูดถึงผมให้คุณฟังบ้างแล้วใช่ไหมครับ”
“ครับ ผมก็กำลังรอสายคุณอยู่พอดี”
ทั้งสองคนคุยปรึกษากันถึงรูปคดีทั้งสอง หมวดเพชรเองยังลอบแปลกใจที่สายลมทำไมประมวลรูปคดีได้ตรงมากขนาดนี้ ทำให้การปรึกษาของทั้งสองคนได้ความคืบหน้าไปอย่างมาก ทั้งสองคนสรุปที่ต้องไปตามสืบเรื่องที่ บาร์ บัตเตอร์ฟาย บอย
สายลมมุ่งหน้าสู่บาร์ที่มีชื่อมากที่สุดในขณะนี้ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าวางมาดแมวมองเข้าไปที่บาร์เพื่อสะดวกต่อการพูดคุย เมื่อมาถึงด้านหน้าสายลมยื่นนามบัตรพร้อมธนบัตรใบละพันให้
“ขอมุมเงียบหน่อยแล้วช่วยตามผู้ดูแลให้ผมด้วยได้ไหม” สายลมพูดนิ่ง ๆ
การ์ดคนหนึ่งพาสายลมไปนั่งที่มุมด้านในของร้าน พร้อมบอกให้รอสักครู่ บรรยากาศภายในร้านดูปลุกเร้าอารมณ์ แสงสีส้มสาดส่องสร้างความสว่างทั่วทั้งร้าน เวทีขนาดใหญ่ถูกไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องเป็นระยะ ๆ เสียงเพลงเร้าใจดังขึ้น ก่อนชายหนุ่มหน้าตาดีใสเพียงกางเกงในตัวจิ๋วเดินขึ้นมาจนเต็มเวที
“สวัสดีค่ะคุณสายลม” เกย์สาวใหญ่เดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับ เออ... คุณ..”
“ธัญญ่าค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่า ญ่า ก็ได้นะคะ” เจ๊ธัญญ่ายิ้มอย่างภูมิใจ
“แต่ว่ามาที่บาร์เรา คิดจะดึงใครไปอีกหรือเปล่าค่ะ คราวก่อนก็มีอีกค่ายมาดึงดาวของเราไปคนแล้ว” เจ๊ธัญญาพูดดักทาง
“เปล่าครับ คุณญ่านั่งก่อนสิครับ ผมมีเรื่องจะสอบถามเล็กน้อย”
“มีอะไรสงสัยหรือว่า สนใจใครเป็นพิเศษหรือเปล่าคะแบบนี้”
สายลมยื่นบัตรสีทองให้ธัญญ่าหลังจากที่นั่งลงแล้ว ธัญญ่ารับมามองพร้อมพลิกอ่านด้านหลัง
“คุณรู้จักคน ๆ นี้ไหมครับ” สายลมเริ่มหาข้อมูลทันที
“พอจะจำได้นะคะ แต่ว่าคุณตามหาเขาไปทำไม” ธัญญ่าทำหน้าที่ปกป้องข้อมูลของสมาชิกทันที
“ถ้าผมเล่าให้ฟัง คุณจะช่วยผมใช่ไหมครับ” สายลมถามกลับ
ธัญญ่าคิดเล็กน้อยก่อนตอบตกลง เพราะว่าการเป็นมิตรกับแมวมองค่ายยักษ์ใหญ่น่าจะเป็นผลดีมากกว่า สายลมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ธัญญ่าฟัง โดยให้เหตุผลว่าจะตามตัวมาคุยเพื่อความปลอดภัยของปลายฟ้า ยกเว้นเรื่องที่ว่าปลายฟ้าถูกจับตัวไป เพราะเขาไม่อยากให้ชื่อปลายฟ้ามัวหมอง ธัญญ่าเองก็ยินดีช่วยแต่เขาไม่รู้ข้อมูลมากนัก
“งั้นเดี๋ยวคุณคุยกับเด็กคนที่เขาชอบเลือกประจำแล้วกันนะคะ เดี๋ยวฉันไปตามให้”
สักพักเด็กหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวเนียนใส่เพียงกางเกงในตัวจิ๋วเดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับ พี่ธัญญ่าบอกคุณต้องการพบผมหรือครับ”
“นั่งลงก่อนสิ”
“คุณรู้เรื่องของหม่อนมากแค่ไหน” สายลมหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างจริงจัง
“ก็พอสมควรครับ แต่ว่าคุณมาถามผมทำไมครับ”
สายลมเลยแต่งเรื่องเพื่อเล่าให้ฟัง พร้อมถามข้อมูลกลับ ข้อมูลที่ได้จากเด็กหนุ่มคนนี้มีประโยชน์มากที่เดียว เพราะทำให้เขารู้ว่าหม่อนมีบ้านอยู่ที่เกาะเล็ก ๆ ห่างจากเกาะเสม็ดไปไม่เท่าไหร่ แต่ว่าเขาจำชื่อไม่ได้ว่าเกาะอะไร เพราะเขาเคยไปด้วยแค่ครั้งเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กคนนั้นบอกมาคือ หม่อนเหมือนจะมีปัญหาทางจิตเล็กน้อย เพราะบางครั้งก็ใจดีบ้างครั้งก็ดูโมโหร้าย
หลังจากได้ข้อมูลแล้วสายลมก็รีบกลับทันที เขาไม่ลืมที่จะทิปเด็กด้วยแบงค์พันหลายใบ ก่อนให้นามบัตรว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ติดต่อเขาได้ สายลมย้อนกลับมาที่บ้านเพระยองอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเหมาเรือออกตามหาเกาะที่พักของหม่อน เขาโทรบอกนิกให้ส่งคนช่วยอีกทาง
โปรดติดตามตอนต่อไป