ตอนที่ 84 come back home
สิวขึ้น....
แปลว่า...น้องฐาเป็นสาวแล้ว....
เอิ่ม....ไม่ใช่มั้งคะ เนื้อสาวมันน่าจะระเบิดเปรี๊ยะๆ มาตั้งนานแล้ว
เอ.....ถ้างั้นน่าจะเป็นเพราะช็อกโกแล็ตมากกว่า
วาเลนไทน์ที่ผ่านมา พี่โต้งซื้อช็อกโกแล็ตกล่องโตมาฝาก ก็ไม่ได้ดีใจอะไรหรอกค่ะ แค่เสียดาย อยู่โรงพยาบาลไม่มีอะไรทำ นั่งๆ นอนๆ กินทีละอันสองอัน แป๊บเดียวหมดกล่อง.... วันเดียวเท่านั้นสิวขึ้นหน้าฝากเม็ดบะเอ้บ...
เครียด น้องฐาเครียด!!
โชคยังดีที่หนูขายออกแล้ว สิวคงไม่ได้ทำให้ถูกแฟนทิ้งหรอกมั้งเนอะ แต่ถ้าจะทิ้งกันไปเพราะเรื่องแค่นั้นก็ช่างเถอะ ปลงเสียแล้ว เอาแน่เอานอนได้ที่ไหน.....ใจชาย
อยู่โรงพยาบาลประมาณสองอาทิตย์หนูก็เริ่มฝึกใช้ไม้เท้า อีกไม่กี่วันพอเริ่มเดินคล่อง หมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่เฝือกยังต้องใส่ไว้อีกครึ่งเดือน
เอาล่ะสิ ตอนอยู่โรงพยาบาล อะไรๆ ก็นางพยาบาลๆ กลับไปอยู่บ้าน จะเรียกใครล่ะเนี่ย TT_TT
ช่างเถอะ ถ้าไม่มีคนช่วย ก็คงต้อง “ช่วยตัวเอง” ใช่ม้า?
อ้อ....เล่านิดนึง....ว่าหนูเขินโคตรๆ ตอนนั่งรถเข็นมาหน้าโรงพยาบาลแล้วอีพี่โต้งเปิดประตูรถเก๋ง อุ้มหนูขึ้นไปวางบนรถ อารมณ์หนูตอนนั้นคือถ้าไม่มองหากล้องแอบถ่ายก็อยากหยิกตัวเองว่าฝันไปหรือเปล่า พอกลับไปถึงบ้าน... ก็คิดว่าจะเป็นหอพัก หรือบ้านหลังเก่าๆ ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นคอนโดสูงๆ ไม่รู้สิ มันเหมือนอีกโลกนึงที่เราไม่รู้จัก และไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาอยู่
นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่
ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน.... จบค่ะจบ เลิกเพ้อ....
ความจริงมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้น หนูนึกสงสารพี่โต้งมากตอนอุ้มหนูขึ้นไปที่ห้อง พ่อคุณก็ดันถ่อขึ้นไปอยู่ตั้งชั้นแปดต่อให้ขึ้นลิฟท์ไม่ได้ขึ้นบันไดก็เถอะ แต่ตัวหนูถึงจะผอม(มั้งนะ) แต่ด้วยระดับความสูงขนาดนี้น้ำหนักก็ไม่ใช่ย่อยๆเหมือนกันแกคงหนักน่าดู แล้วถ้าต้องไปเรียนกว่าจะถอดเฝือกออก หนูต้องขึ้นๆ ลงๆ จนขาโตแน่เลย
“คุ้นไหมคะ..” พี่โต้งถามเมื่อเปิดประตูพาหนูเข้ามาในห้อง สายตาหนูกวาดมองไปรอบๆ ถ้าบอกว่าคุ้นเคย มันก็คงอาจจะคุ้น แต่ถ้าถามว่าจำอะไรได้บ้างไหม... มันก็จำไม่ได้อยู่ดี
“ชอบไหม?” เมื่อหนูไม่ตอบคำถามแรก พี่โต้งจึงป้อนคำถามใหม่มา
“ก็น่าอยู่นะคะ” หนูตอบกลางๆ น่าอยู่ แต่ชอบไหมก็อีกเรื่องหนึ่ง
พี่โต้งพยุงพาหนูไปนั่งที่โซฟา มือคว้ารีโมทส่งให้
“พี่จะชงโอวัลตินให้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” หนูรีบยกมือห้ามแต่พี่แกหายไปแล้ว...
เฮ้อ.... รู้สึกไม่เคยชินอย่างแรงเลย ปกติไม่เคยมีใครมาทำอะไรให้ตลอดแบบนี้สักหน่อย
เวลาอยู่ด้วยกันหนูต้องเป็นคนทำอะไรให้มันดูแลมันตลอดต่างหาก
“น้องฐา....” หนูสะดุ้งนิดหนึ่ง หันไปมอง
“คะ...”
“โอวัลตินค่ะ.... นั่งรอนี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะลงไปเอาของที่รถ”
หนูพยักหน้าแกนๆ มองพี่โต้งเดินออกไป
ที่จริงวันนี้พี่โต้งก็มีเรียนค่ะ แต่แกโดดตอนเช้า เพราะต้องจัดการธุระเรื่องออกจากโรงพยาบาลของหนู พอตกบ่าย แกก็ไปเรียนคาบบ่าย ให้หนูเฝ้าห้องคนเดียว หนูดูโทรทัศน์พักใหญ่ก็เริ่มเบื่อ เลยเอาโน้ตบุคมาให้เล่น จำได้ว่าหมอกบอกว่า พี่แกซื้อให้หนู แต่ตอนอยู่โรงพยาบาลแกไม่ยอมเอาไปให้เห็นเลย พอลองถามดู
“มือถือเล่นไม่นานก็เบื่อไม่เหมือนคอม ขืนยกไปให้ มีหวังเอาแต่เล่น ไม่ยอมกินยอมนอนแน่ๆ” แกว่าอย่างนั้นแหละ
เมื่อได้คอมมาอยู่ในมือ หนูก็เริ่มตามหาความทรงจำด้วยการพึ่งพาเฟสบุค มันอาจจะไม่ได้มีอะไรมากมายนัก แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ไม่โกหก...
โชคดีที่หน้าเฟสล็อกอินเอาไว้แล้ว
เฮ้อ..... ถอนใจเฮือกพอเห็นหน้าเฟสขึ้นหราว่า หมั้นหมายกับ Tong XXX
โอเคจบ ถ้าจะเปิดเผยขนาดนั้น.....
ลองดูอย่างอื่นในหน้าเพจมีแต่ข้อความไร้สาระ แชร์ รูป หนัง คำคม ข้อความเหงาๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับพี่โต้งเลยนอกจาก... ข้อความล่าสุดที่อัพตอนวันเกิด
เค้กหน้าสตอเบอร์รี่......
Birthday party with oil & my husband @swensens
เค้กไอติม...แสนน่ากิน อภินันทนาการจาก P’โต้ง...
ไม่ต้องอิจฉานะยะ เดี๋ยวอั้มกินเผื่อ :b
นอกนั้นก็มีรูปถ่าย ส่วนใหญ่ จะถ่ายพี่โต้งไกลๆ ในห้อง ในรถ รูปคู่ก็พอมี แต่มีแต่หนูที่ฉีกยิ้มแอคท่าร้อยแปด ส่วนพี่โต้งจะไม่ค่อยมองกล้อง ถ้าไม่หน้าบึ้งก็ฝืนยิ้ม....
หนูส่ายหน้าให้กับมัน หันไปกดรับเพื่อนในลิสทั้งหมด โดยไม่ใส่ใจว่าจะรู้จักหรือไม่ มีเกือบครึ่งร้อยได้มั้ง มาจากไหนนักหนาก็ไม่รู้
เบื่อ เซ็ง ขี้เกียจ ง่วง..... หนูขยับตัวออกห่างจากโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ ที่วางโน้ตบุค ขยับเหยียดขาให้ถนัดแล้วเอนตัวลงนอนบนพื้นห้อง เอาแขนหนุนหัว....แล้วงีบไปทั้งอย่างนั้น...
.
.
.
.
“น้องฐา.....” หนูงัวเงียเมื่อได้ยินเสียงเรียก ลืมตาขึ้นมองหน้าเจ้าของห้อง พยายายามดิ้นเล็กน้อยเมื่อเขาอุ้มหนูขึ้นแล้วพาเดินไปที่อื่น...
“อื้อ...จะพาหนูไปไหน...” หนูถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ถ้าง่วงก็เข้าไปนอนในห้อง นอนที่พื้นมันเย็น เดี๋ยวไม่สบาย” พี่แกว่า
“ไม่เป็นไรค่ะหนูเดินไปเอง...” บอกพลางขยับตัวจะยืน
“เดินไปเอง ทำอย่างกับเดินคล่อง อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวตกลงมา....” พี่แกขู่ ทำให้หนูเลิกยุกยิก เพราะความเพิ่งตื่นทำให้ลืมไปเลยว่าเดินเองไม่สะดวก....
ถึงเตียงแล้ว....ใจก็คิดอ่ะนะว่าพี่เขาอาจจะไม่ได้พิศวาสขนาดนั้น แต่ข้อความในเฟสทำให้ใจคอไม่ดี
My husband
My husband
“เป็นอะไร...เกร็งเชียว” พี่โต้งถาม รอยยิ้มเหมือนจะขำ ขณะที่บรรจงวางร่างหนูลงบนเตียงอย่างเบาที่สุด
“เปล่า... ไม่ได้เกร็ง...”
“ทำไม คิดว่าพี่จะทำอะไรเราเหรอ?”
“เปล่า ไม่ได้คิด”
My husband
My husband ไม่คิดเลยสักนิดเดียว...แต่คิดมาก......
“ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ไม่ทำหรอก ถึงอยากทำก็เถอะ” ตรงไปไหน...
หนูมองหน้าแกด้วยสายตาค้นคว้า
“ไม่ใช่เพราะน้องฐาจำไม่ได้หรอกนะ แต่เพราะร่างกายเราไม่อำนวยต่างหาก เอาไว้ถอดเฝือกก่อน ค่อยว่ากันนะ” ตรงมากกกกกก
ใช่สิ เอากะคนพิการมันจะไปสนุกได้ยังไง
ถ้างั้น เดี๋ยวหนูจะลองถามหมอ ใส่เฝือกอีกสามปี ไว้เรียนจบค่อยเอาออกเลยได้ไหม?
อยากรู้นัก... จะรอได้ไหม?
เอาเข้าจริง หนูอยากตัดเฝือกตั้งแต่วันแรกที่กลับมา เพราะหนูลืมไปว่าตอนนี้หนูช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ ตอนอยู่โรงพยาบาลก็ให้พยาบาลเช็ดตัวให้ กลับมาอยู่บ้านแล้ว สิ่งที่หนูถวิลหามากคือการอาบน้ำ
ตกเย็นพี่โต้งออกไปข้างนอกบอกจะซื้อของกินมาฝาก หนูถือโอกาสตอนที่พี่แกไม่อยู่ลากสังขารเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แต่กว่าจะถอดเสื้อผ้าออกหมดเหงื่อก็แตกพลั่ก แถมยังต้องระวังเฝือกจะเปียกอีก ให้ทำไงล่ะ ให้ลงไปนอนในอ่าง ก็กลัวนอนแล้วลุกไม่ขึ้น จมน้ำตาย....
เอาวะ! พื้นห้องน้ำสะอาด ลงไปนั่งกะพื้นแล้วเอาขาพาดอ่างแล้วกัน
ครู่ใหญ่ๆ ที่เพลิดเพลินกับการอาบน้ำคนเดียว จู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดผลั่ว
“น้องฐา” เสียงพี่โต้งแบบร้อนรนมาก
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด” เสียงหนูแหกปากร้องตอบรับคำเรียก จนพี่เขารีบนั่งลงเอามืดปิดปากไว้
“อย่าร้องสิ พี่เอง” พี่โต้งกระซิบปลอบ
พี่เองอะไรล่ะ ไอ้พี่นี่แหละที่น่ากลัวกว่าคนอื่นเค้า.... ม่ายยยยยย
“น้องฐาทำอะไร คนขาหักที่ไหนเค้าอาบน้ำ” เสียงพี่โต้งแบบเอือมเหลือเกิน นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ
“ใช่สิ หนูเลยไม่ได้อาบมาครึ่งเดือนแล้ว” หนูตอบเสียงเหมือนจะร้องไห้
“อยากอาบก็บอกสิ อาบคนเดียวมันอันตรายรู้ไหม ถ้าลื่นล้มหัวโขกไปไม่มีคนช่วยนะ”
“ใครจะรู้ หัวฟาดพื้นอีกทีอาจจะความจำกลับมาก็ได้” หนูเถียงกลับ อีกฝ่ายถอนใจเบาๆ ไม่ต่อความ
“มา..งั้นพี่ช่วย....” พี่โต้งว่าพลางอุ้มหนูขึ้นจากพื้น....แล้ววางลงในอ่าง ยกขาพาดขอบอ่างไว้ เปิดน้ำให้
อยากจะห้ามแล้วไล่ไปไกลๆ แต่ก็รู้ว่าไม่ทันแล้ว......
ฮึกฮือ... หมดกัน... เห็นหมดแล้ว อายจนไม่รู้จะพูดไงแล้ว....
หนูล่ะเจ็บใจนักเชียว ถึงพี่โต้งจะบอกไม่ทำอะไรอย่างว่าจนกว่าขาจะหาย แต่ตอนอาบน้ำแกก็หาเศษหาเลยกับหนูพอสมควรเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคำว่า My husband มันค้ำขานะ จะเอาเฝือกฟาดให้คอหักตามไปเลย ชิ! (ล้อเล่นนะคะ หนูไม่โหดขนาดนั้น)
มันช่างเป็นการอาบน้ำที่ทุกข์ทรมานซะเหลือเกิน.... กระซิก กระซิก
ในที่สุด....หนูก็ผ่านการอาบน้ำมาได้อย่างปลอดภัย
พี่โต้งเอาฟ้าเช็ดหัว เช็ดตัวหนูแล้วห่อไว้ก่อนจะอุ้มกลับมาที่ห้องนอน
สบายตัว.... เพราะการอาบน้ำนะคะไม่ใช่อย่างอื่น ไม่ได้อาบมาหลายวันพอได้อาบแล้วรู้สึกดีมาก
หนูนั่งมึนอยู่บนเตียงมองพี่โต้งเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วกลับมาพร้อมกับลิ้นชักทั้งอัน....
โอ๊ะ...นี่มัน...............
หลากหลายทั้งสีสันและลวดลาย........
อารมณ์ขุ่นมัวเพราะการถูกลวนลามจางหายไปเกือบทันทีเมื่อเหลือบเห็นของที่พับเป็นระเบียบอยู่ด้านใน แก้มนวลสุกปลั่ง.... ดวงตาพราวระยับด้วยความตื่นเต้น.....เมื่อหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา......
แอร๋ยยยยยย
ชุดชั้นในสวยมาก..........