[เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ  (อ่าน 207962 ครั้ง)

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
RIP ครับ ตี๋เล็ก

เศร้ามากครับ  รู้สึกตื้นตันกับความรักของทั้งสองคนครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ตี๋มาหาเก่งแล้วหรือ
เราจะได้อยู่กันตราบชั่วนิรันดร์
 :m8: :m8: :m8:

piercepearce

  • บุคคลทั่วไป
ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังไปเลยอ่ะ

อ่านแล้วคิดถึงชีวิตคนเรา เห้อ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7

สงสารตี๋

เก่ง อั้ยเลว แสรดดดดดดดด

 :angry2:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เป็นแบบนี้ไปได้งัยยยยยยยยยย

ไม่ยอมมมมมมมมมมมมมมมมม

 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:m15:
แม้จะโกรธและผิดหวังกับการกระทำของเก่งในภาคก่อน....
...แต่ถึงภาคนี้…คงต้องบอกว่าเห็นใจและเสียใจด้วยอย่างแท้จริง...
นี่ละคือเหตุผล…ทำไมเราควรทำดีกับคนที่เรารักให้มากที่สุดในทุก ๆ วัน... :impress:
เพราะชีวิตแต่ละชีวิตมีเวลาไม่เท่ากัน…ไม่มีใครรู้เส้นทางชีวิตตนล่วงหน้า...
การทำดีต่อกันในขณะที่ทำได้จึงเป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง….รักและดูแลกันและกันให้ดี....
 :catrun:
หลายชีวิตคงรู้จักและพบเจอการจากลา…การจากเป็นว่าเจ็บปวดแล้ว…การจากตายยิ่งเจ็บกว่า
จากไกลทั้ง ๆ ที่รักยังมีความสุขความทรงจำที่ดีให้จดจำ...
แต่จากไปทั้งที่เข้าใจผิดกัน….”คนเป็น” หมดสิทธิ์อธิบายกลายเป็นตราบาปไปจนตาย !!!
 :call:
หากเรื่องนี้จบลงด้วยความตายของคนทั้งคู่…ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือนิยาย.....
....ขอให้สองชีวิตได้พบและผูกพันมีความสุขตลอดไปในภพภูมิที่สวยงาม......
 :bye2:
+1 สำหรับความรักของเก่งและตี๋เล็ก...พร้อมทั้งขอบคุณที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ได้ติดตาม... :pigwrite:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2007 13:01:18 โดย nartch »

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 5  /  ไม่เข้าใจ

   ผมพบว่าตัวเองเดินอยู่บนเส้นทางหนึ่ง ทางเดินไปข้างหน้ามีแต่แสงสว่างสีขาวทอดยาวออกไปจนสุดสายตา ผมพยายามขยี้ตาให้รู้ว่าเราไม่ได้ฝันไป ผมบอกกับตัวเองว่า เรื่องนี้มันไม่จริงอย่างไรก็ไม่รู้

   ผมเดินตามถนนที่เงียบสงัดจนไร้สรรพเสียงใด ๆ ไปสักพัก ผมได้ยินเสียงของแม่เรียกชื่อผมมาจากที่ไกลๆ ด้านหลัง ***เก่ง เก่ง*** ผมมีความรู้สึกเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อผมดังขึ้น ๆ     ผมทรุดนั่งลงกับพื้นยกมือกุมหัวเพราะเสียงนั้นมันดังเกินกว่าที่ผมจะทนรับได้ ผมร้องตะโกนออกมาอย่างดังว่า **** แม่ ช่วยผมด้วย !!! **** ก่อนที่ผมจะมีความรู้สึกเหมือนว่าตัวของผมถูกดูดไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นที่ใด


   ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ภาพในสมองกำลังปรับให้ชัดขึ้น ๆ ผมเห็นเพดานสีขาว พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงที่หนึ่ง ทุกอย่างรอบห้องเป็นสีขาวอย่างประหลาด

   *คุณรู้สึกตัวแล้วใช่ใหมคะ* มีผู้หญิงเชื้อสายอินเดีย ใส่ชุดสีชมพูอ่อน ๆ ในมือถือเอกสารบางอย่าง ชะโงกหน้ามาถามผมด้วยภาษาอังกฤษเบา ๆ

   *ใช่* ผมตอบสั้น ๆ ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ผมเหนื่อย ผมอยากจะนอนเพียงอย่างเดียว

   *คุณ ภพ. ครับ คุณรู้สึกตัวแล้วจำอะไรได้บ้างหรือเปล่าครับ* เสียงผู้ชายในชุดสีขาว มีหูฟังห้อยอยู่ที่คอของเขา พูดภาษาอังกฤษสำเนียงคนจีน

   -ไม่ได้ครับ ผมอยากจะนอน- ผมตอบทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่

   *คุณพักผ่อนมาก ๆ นะครับเดี๋ยวผมจะมาดูคุณใหม่เมื่อคุณ....*

   ผมฟังชายคนนั้นพูดยังไม่จบ ก่อนจะนอนหลับไปอีก ผมไม่ทราบว่านานเท่าไหร่ แต่มีเสียงคนเรียกผมอยู่ที่ข้าง ๆ หู

   *เก่ง เก่ง*

   ผมหลับตาแต่ว่ารู้สึกตัวแล้ว ผมถาม

   -ใคร จะนอน-

   *กูเองตี๋ไง* ผมลืมตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด แล้วลุกพรวดขึ้นนั่งบนเตียง ผมหันไปมองไอ้ตี๋ด้วยท่าทางแหยง ๆ ไอ้ตี๋ร้องให้และโผเข้ามาจะกอดผม ผมรีบกระเถิบออก

   -หมายความว่ากูตายแล้วใช่ใหมเนี่ย- ผมตกใจกับสิ่งที่ผมได้รับรู้สุด ๆ ช็อคเลยก็ว่าได้

   *ใคร ๆ ก็คิดว่ามึงตายไปแล้ว* มันตอบ

   ผมผลักมันออก

   -กูยังไม่อยากตาย- ผมตะโกนเสียงดัง

   *ใครอยากตายบ้างล่ะ แล้วมึงก็ยังไม่ตาย* ไอ้ตี๋ทำสีหน้าละล่ำละลักแบบตกใจ มันรีบวิ่งออกไปข้างนอกห้อง ในขณะที่ผมร้องตะโกนว่าผมไม่อยากตายอยู่บนเตียง

   มีหมอกับผู้หญิงที่น่าจะเป็นพยาบาลสองคนวิ่งเข้ามาในห้อง ไอ้ตี๋หน้าตาตื่น ๆ วิ่งตามมาด้านหลัง

   -คุณ ภพ. คุณใจเย็น ๆก่อนนะครับ-

   *ผมไม่อยากตาย คุณได้ยินใหม* ผมตะโกนใส่หน้าผู้ชายคนนั้น ทุกคนดูสีหน้าราบเรียบ ไอ้ตี๋เหมือนกับอยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้า

   -ผมชื่อ ด็อกเตอร์ เอิง ที่นี่คือโรงพยาบาล ตัน ตอค เส็ง (Tan Tock Seng Hospital: TTSH)  คุณได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนอีสต์โคสไฮเวย์ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และถูกนำตัวมารักษาที่นี่ คุณพอจะจำเหตุการณ์อะไรได้ใหมครับ-

   *ครับผมจำได้ว่ามีอุบัติเหตุระหว่างทางผมกลับบ้าน*

   -ทางเราตรวจเช็คร่างกายคุณทุกอย่างแล้ว พบว่าร่างกายคุณปกติดี เพียงแต่คุณมีอาการตกใจมากเกินไปแค่นั้น แต่ผมคาดว่าคุณจะสามารถหายดีและกลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้-

   *ขอบคุณครับ* ผมพูดกับหมอ แต่ตาจ้องมองไอ้ตี๋ที่ยืนอยู่ด้านหลังของหมออย่างไม่วางตา ผมนึกในใจ สงสัยวิญญาณมันมาดูแลผมเหมือนในละคร พวกหมอและพยาบาลคงจะมองไม่เห็นมัน

   -ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของไข้ ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องให้ตำรวจมาสอปากคำคนไข้ในบ่ายวันนี้ คุณจะสามารอยู่กับคนไข้ได้ใหมครับ- หมอหันไปพูดกับวิญญาณไอ้ตี๋ !!!!!!

   โอ้ยตายแล้ว ผมอยากจะตายตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย

   *ได้ครับคุณหมอ ขอบคุณมากครับ* ผมเห็นมันเช็คแฮนด์กับหมอแล้วหมอหันมาโบกมือให้ผมหนึ่งครั้ง ผมพยักหน้าทั้ง ๆ ที่หน้าตาตื่นอยู่

   -เป็นอะไรเก่ง มองหน้ากูยังกับเห็นผี- มันถลาเข้ามาที่เตียงผม ผมกระเถิบหนีออกไปอีก

   *ก็มึงเป็นผีแล้ว มึงตายไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่*

   -มึงจะบ้าเหรอ อาทิตย์ที่แล้วเรายังไปงานวันเกิดลูกชายของเจสันอยู่เลย กูจะตายได้ไง-

   *กูทำงานศพให้มึงเรียบร้อยแล้ว มึงไปสู่ที่ชอบ ๆ เถอะ* ผมบอกมัน

   -ไอ้เชี่ยเก่ง จะแช่งให้กูตายหรือไง- มันเอามือเขกหัวผมทีนึง ผมร้อง โอ้ย เจ็บ ไอ้ตี๋เอามือมาจับที่หัวผม

   -ขอโทษ ๆ ไม่ได้ตั้งใจ- ผมเอามือจับมือมัน อ้าว ไม่ใช่ผีนี่ อุ่น ๆ ปกติ

   -อะไรอีกล่ะ- มันถาม

   *กูจะเล่าอะไรให้มึงฟัง มันเป็นเรื่องจริงที่กูได้ไปเจอมา ..................* ผมเล่าให้มันฟังทั้งหมด มันสรุปว่าผมคงจะฝันไป  มันยืนยันสถานะตัวมันเองด้วยการหอมแก้มและกอดผมแรง  ๆ 1 ครั้ง

   -เออ เก่ง มึงพร้อมจะฟังเรื่องหรือยัง มึงต้องรู้รายละเอียดบางอย่างก่อนที่ตำรวจจะมา-

   ไอ้ตี๋บอกผมว่า ก่อนหน้านั้น 1 คืนผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ยอมนอนทั้งคืน เดินไปเดินมา จนมานอนเอาไกล้เช้า และก่อนจะออกจากบ้านตอนเช้า ผมเปิดวิทยุฟังคลื่นโปรด เครื่องเสียงที่บ้านกำลังเปิดเพลง Hung-up ของมาดอนนา อยู่ ๆ เครื่องเสียงก็ลำโพงขาด

   มันกินข้าวอยู่ที่ไซต์งานตอนเที่ยง เส้นหมี่ของผัดหมี่ (Bee hoon) ติดคอมันจนมันแทบตาย ต้องให้เพื่อนทุบหลังให้ บ่ายสองมันโทรหาผม เล่าเรื่องน่าอายของมันให้ฟัง มันบอกกับผมว่า “มันรู้เลยว่า ระหว่างความเป็นกับความตายนั้น เป็นอย่างไร”

   จากนั้นหกโมงเย็นมันได้รับแจ้งให้ไปดูสถานที่เกิดเหตุจากตำรวจ เรื่องมันมาจาก ผมขับรถแล้วเบรคกระทันหันจนไปชนเอาท้ายรถบรรทุกข้างหน้าเข้า สภาพรถเละหมดเลย สงสัยจะซ่อมไม่ได้แล้ว ส่วนตัวผมไม่เป็นอะไรนอกจากแผลถลอก และฟกช้ำนิดหน่อย มีที่หางคิ้วแตกเย็บ 3 เข็ม  ผมได้ฟังผมก็ถอนใจยาว

   มันบอกว่า ตำรวจพามันไปที่ห้องเพื่อเอาพาสปอร์ตของผมมาตรวจสอบยืนยันสัญชาติ และถามมันหลายอย่างเช่น ผมเมาหรือไม่ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า 

   ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตู มีตำรวจสองนายเดินเข้ามาพร้อมคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว

   ไอ้ตี๋เดินไปนั่งที่โซฟา นายตำรวจสองคนแนะนำตัวเองกับผม

   *ผมผู้กอง ............. รับผิดชอบคดีนี้ ผมขอสอบถามเหตุการณ์อะไรคุณ ภ.พ. หน่อยครับ*

   ตำรวจสอบถามรายละเอียดไปเรื่อย ๆ สิ่งใหนที่ผมจำได้ ผมก็ตอบ ที่จำไม่ได้ถ้าไอ้ตี๋ตอบได้ มันก็ตอบแทนไป

   *เอาล่ะครับ ผมได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว ผมมีอะไรนิดหน่อยอยากให้คุณ ภ.พ. ดู ไม่ทราบว่าคุณพร้อมจะดูใหมครับ*

   ผมพยักหน้า นายตำรวจอีกท่านเอาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตั้งบนโต๊ะพับกินข้าวของผู้ป่วย เปิดโปรแกรมออกมา เป็นวีดีโอภาพภาพหนึ่ง

   *นี่คือภาพจากกล้องที่ติดตั้ง ณ ทางด่วนบริเวณที่เกิดเหตุ ภาพนี้คือเวลาก่อนหน้าที่คุณจะเกิดอุบัติเหตุ เวลา 17.00น.*

   ภาพที่ผมเห็นทำให้หัวใจผมแถบหยุดเต้น ขนลุกชูชันจนรู้สึกได้ถึงอาการหัวตั้ง ..... มันคือภาพของคนคนหนึ่ง ใส่ชุดสีดำมีหมวกสีดำยอดแหลมคลุมหน้า ยืนนิ่งอยู่ที่ข้างถนน  มันคือภาพของคนชุดดำแบบเดียวกับที่ผมเห็นที่มหาวิทยาลัยในคืนหนึ่งที่ผมไปอ่านหนังสือ เขามองลงมาจากตึกชั้น 7 เมื่อผมเดินผ่านไป ....

   *นี่คือภาพเคลื่อนไหวขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เราทำภาพให้ช้าลง คุณจะได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น*

   ผมตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ภาพที่เห็นคือภาพที่รถผมกำลังวิ่งเข้ามาในเลนกลาง ก่อนที่คนชุดดำจะเคลื่อนตัวไปตัดหน้ารถผมในทันที ผมชนคนชุดดำนั้น ก่อนที่ผมจะหักหลบไปชนกับรถบรรทุก และภาพก็หยุดนิ่ง

   -คุณหมายความว่าผมชนคนตาย- ผมแน่นิ่งไปเพราะไม่คาดคิดว่าผมจะเป็นฆาตกรไปแล้ว

   *เราก็อยากจะสรุปเช่นนั้น แต่ ... ไม่พบศพใครเลยในที่เกิดเหตุ*

   ผมตกใจมาก ไอ้ตี๋รีบวิ่งเข้ามากอดผมไว้ ผมร้องให้โดยไม่มีสาเหตุ

   *เราจะปิดคดีนี้เป็นอุบัติเหตุครับ คุณจะถูกเชิญไปรับฟังผลคดีในอีก 1 เดือนข้างหน้า ขอให้โชคดีและหายเร็ว ๆ ครับ* ตำรวจกล่าวกับผมพร้อมรอยยิ้ม ไอ้ตี๋กล่าวขอบคุณและจับมือกับตำรวจก่อนเดินไปส่งที่หน้าประตู

   -ไอ้ตี๋มึงมีอะไรที่มึงไม่บอกกูอีกใหม-

   ไอ้ตี๋ถอนหายใจเล็กน้อย

   *มีว่ะ ที่บ้านของมึงน่ะ มีงูตัวใหญ่มากขึ้นมาบนบ้าน ย่ามึงเขาจัดขันธ์ 5 รับแล้วเชิญงูออกไป ย่าเขาบอกว่า งูเข้าบ้านคือมาเตือนว่าจะมีทุกข์หนัก*

   *แม่มึงเขาไม่สบายใจ เลยไปบวชชีพราห์มอยู่ที่วัดทุ่งทานตะวัน ลพบุรี ที่แกชอบไปไง*

   *กูโทรบอกเขาเรื่องมึง เขาบอกว่า มีคนมาเตือนเขาแล้ว กูก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก กูรู้แต่ว่า แม่มึงบอกว่า มึงจะปลอดภัย แล้วมึงก็ปลอดภัยจริง ๆ*

   ผมนั่งงงกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปแค่ 2 คืนนี้ อะไรตั้งมากมายเกิดขึ้นกับตัวผม ... แล้วอันใหนที่มันจริง อันใหนมันไม่จริงบ้าง ... ผมปวดหัวไปหมดแล้ว

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
โฮ!! ไม่อยู่ 2 วันจบภาค 4 แล้วหรอ o22

ยังไงก็ขอบคุณพี่ Solaris  ด้วยนะคับที่ช่วยมาลงให้ o14

อ่านแต่ละรีแล้วรู้สึกสงสารพี่เก่งจังเลยแฮะ

มีแต่คนเกลียดเลยอะ  น่าสงสาร

ปล.พี่ Solaris นี่พี่เก่งป่าวหว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2007 18:59:45 โดย *-*เด็กน้อย*-* »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






inimeg

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #400 เมื่อ28-10-2007 13:49:05 »

โอ้พระเจ้า...................




สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #401 เมื่อ28-10-2007 14:16:36 »

ว่าแล้วต้องเป็นพี่เก่ง  :m3: :a10:

อดไม่ไหวมาลงเองเลยหรอพี่   :m26:

ทีแรกก็นึกว่าจะไม่มาซะละ

แต่แล้วก็มาจนได้ :m18:

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #402 เมื่อ28-10-2007 14:20:35 »

แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันละเนี่ย
ไม่เข้าใจอ่ะ งง

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #403 เมื่อ28-10-2007 14:51:04 »

 :m22: :m22: :m22: :m22:
ปาฎิหาร์ยสุดขอบฟ้า

ยังมึนๆกลับลำดับเหตุการณ์
 :m28:

เด่วดูเฉลยจริงๆอีกทีอาจเข้าใจ

ว่าจะมีคนมาเอาเก่งไปสินะครับ
เก่งเลยสลบไปแล้วฝันเป็นตุเป็นตะอ่ะป่าว

ชอบแกล้งคนอ่านจริงๆ
จับคนเขียนมาตีก้นลายเยยนิ
 o12

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #404 เมื่อ28-10-2007 15:12:25 »

อ่านตอนนแรกไปน้ำตาซึมไป เสียใจแทบแย่นึกว่าตี๋จากไปแล้ว

พอมาอ่านตอนหลังก็ขนลุกเลยคับ บรื้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o22

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #405 เมื่อ28-10-2007 15:21:54 »

โล่งอกเลยแฮะ

ปล +1 ให้ครับ

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #406 เมื่อ28-10-2007 15:32:47 »

อ่านไปน้ำตาก็จะไหลไป

พออ่านจบกลับ งง เข้าไปอีก

คุณเก่งรีบมาอธิบายด่วน -.-

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #407 เมื่อ28-10-2007 15:51:54 »

เรื่องนี้...ทำเอาเมื่อวานจิตตกไปทั้งวัน แถมคิด ๆ ไปน้ำตาก็จะไหลอีก  :m15:  :m15:
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :เศร้า1: :เศร้า1: :เศร้า1:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #408 เมื่อ28-10-2007 16:42:30 »

ชิส์

ตาเก่งใจร้ายยยยย

มาลงเองไม่พอ

ยังแกล้งคนอ่านอีก

เด่วโหวตลบซะนี้

 :m16: :m16: :m16: :m16:










คิกคิก  :m23:

ล้อเล่นครับ

+1 ให้แล้วนะคร้าบบบบ

 :a1:

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 6  /  พักร้อน

   คงจะไม่เป็นการเห็นแก่ตัวมากสักเท่าไหร่นะครับ สำรับชื่อตอนในตอนใหม่นี้ ผมกลับมาพักที่บ้านอีก 3 วันก็สามาถไปทำงานได้ตามปกติแล้ว เรื่องที่ผ่านมายังทำให้ผมงงไม่หาย เพราะเหตุการณ์ที่ได้ประสบมานั้น มันเหมือนกับเกิดขึ้นจริง ๆ จนผมแยกไม่ออกเลยว่าอันใหนจริง อันใหนไม่จริง ไม่ทราบว่าคุณผู้อ่านเคยเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ

   เราทำงานที่นี่มาก็ 3 ปีแล้ว ลาหยุดพักร้อนของเราปีนี้ ก็ลาได้วันตรงกันเสียด้วย ผมชวนไอ้ตี๋กลับบ้านที่เมืองไทย เพราะมีเวลาอยู่ 1 สัปดาห์ ไอ้ตี๋บอกว่าไปทุกปีเลยเมืองไทย ไปที่อื่นก็แล้วกัน

   ผมกับไอ้ตี๋จึงรวบรวมคนไทยกับคนสิงคโปร์ที่รู้จักกันได้มาอีก 2 คนเป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน น้องผู้หญิงคนสิงคโปร์ ผมรู้แต่เพียงว่าเป็นเพื่อนไอ้ตี๋ สนิทกันมากเพราะ ทำงานที่บริษัทในเครือไกล้ ๆ กัน ส่วนน้องผู้ชาย (น่ารัก) เรียนปริญญาโทปีหนึ่ง เรารู้จักกันที่งานคนไทยของสถานทูต สองคนนี้กำลังถูกจับคู่โดยเพื่อน ๆ ให้รู้จักกัน

   เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวบาหลี อินโดนีเซีย เพราะไกล้ และราคาถูกกว่าการไปยุโรปหรือออสเตรเลีย ตามประสาคนงบน้อยหอยน้อยล่ะนะครับ ผมนั่งดูไอ้ตี๋เก็บของใส่กระเป๋า ก่อนมันจะเรียกผมไปรูดซิปให้เพราะกระเป๋าเราแน่นมากเหลือเกิน ยังกะจะไปอยู่สัก 20 วัน

   พวกเราเรียกแท้กซี่จากบ้านมาถึงสนามบินชางงีประมาณ 06.00 น. หลังจากเจอหน้ากัน เช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว เราผู้ชายสองคน (ผมกับน้อง) ก็เริ่มหาที่สูบบุหรี่ ปล่อยให้สาวๆ (ไอ้ตี๋กับเมย์ : ขอแสดงความแมนหน่อย) เขานั่งนินทาพวกเราไป ผมเดินไปตามทางเดินช้า ๆ เช้าเกินไปเกินกว่าที่จะพูดอะไรกัน

   ผมเปิดประตูสวนลอยฟ้า ซึ่งทำเป็นที่สำหรับสูบบุหรี่ด้วย ยื่นบุหรี่ให้น้องโอ๊ต ซึ่งนั่งลงข้าง ๆ ผม มันปฏิเสธ บอกว่าไม่สูบ บนนี้มีคนอยู่แค่ 2 คนเองไม่นับรวมพวกผม ยังเช้าอยู่กระมัง

   ผมจุดบุหรี่สูบไฟแดงวาบ ทอดสายตาไปด้านหน้า คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นานสองนาน ผมคาบบุหรี่ไว้ในปาก แล้วหันมามองทางไอ้โอ๊ต ....

   มันกำลังจ้องมองผมอยู่ พอเจอกับสายตาผม มันรีบหลบตาแล้วก้มหน้างุด ผมยิ้มให้มันเล็กน้อย ผมไม่ค่อยสนิทกับมันเท่าไหร่เพราะสองคนนี้จะรู้จักกันกับไอ้ตี๋มากกว่าผม

   ไอ้โอ๊ตตัวใหญ่เหมือนไอ้ตี๋ แต่มันขาวและเหมือนคนจีนสิงคโปร์มาก ไม่แปลกที่เวลามันไปใหนจะมีคนทักว่ามันเป็นคนจีนตลอด ส่วนผม เหอ ๆๆ ไม่รอดจากการถูกทักด้วยภาษามาเลย์ ด้วยความที่มีผิวคล้ำนิด ๆ มองไปมองมามันก็น่ารักดี แต่เสียใจนะ ประตูหัวใจผมโดนลั่นดานปิดตายไว้โดยไอ้ตี๋หมดแล้ว

   แม้หัวใจผมจะมีหลายห้อง แต่ละห้องมีอยู่หลายเตียง แต่ละเตียงมีอีกสองชั้น ... แต่คนที่นั่ง นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงตอนนี้ ก็มีไอ้ตี๋เพียงคนเดียวเท่านั้น

   ผมสงสัยว่าไอ้โอ๊ตมันมองเพราะมันอยากรู้หรือเปล่าว่าผมกับไอ้ตี๋เป็นอะไรกันแน่ เพราะเวลามันมองพวกผมสองคนมันทำท่าทางแปลก โดยเฉพาะผม ที่คอยบริการไอ้ตี๋ เมื่อเช้าผมยกกระเป๋า และยังเปิดฝาขวดน้ำให้ไอ้ตี๋กินก่อนด้วย

   เราถึงสนามบิน Denpasar ในเวลาไกล้ ๆ เที่ยง หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ผมต้องนอนอยู่ห้องเดียวกันกับไอ้โอ๊ต ส่วนไอ้ตี๋กับเมย์พักห้องเดียวกัน ผมก็โอเค ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่มีใครรู้ว่าผมกับไอ้ตี๋เป็นอะไรกัน มาเที่ยวแค่ 2 คืนน่า ผมอดใจได้ (อดไม่ไหวก็ปล้ำไอ้คนข้าง ๆ ซะเลย เอิ้ก ๆ ล้อเล่นน่า)

   เราลงเล่นน้ำทะเลกันในตอนเย็น ๆ นั่นเอง ผมขอตัวจากทุกคนมาอาบน้ำจืดที่ห้องน้ำของรีสอร์ทก่อนเพราะไม่ค่อยถูกกับน้ำทะเล สักเท่าใดนัก

   ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ผนังทำด้วยหินสวยงามมาก ก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณอาบน้ำ มีเด็กผู้ชายเล็ก ๆ กับพ่อยืนอาบน้ำอยู่ ที่อาบน้ำเป็นฝักบัวเรียงรายกันอยู่ราว ๆ 10 อัน พ่อกับลูกอยู่บริเวณที่ไกลที่สุดติดผนัง สงสัยจะเป็นคนสิงคโปร์เพราะเห็นพูดภาษาจีนแบบสิงคโปร์กับลูก พ่อใส่กางเกงในตัวเดียวอาบน้ำ ผมไม่สนใจอะไรมากนัก (คนไม่โสด ฮ่ะๆๆๆ : เขานะ ไม่ใช่ผม)

   ผมถอดกางเกงขาสั้นออกเหลือแต่กางเกงในสีขาว ก่อนจะเปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลซู่ลงมา สักพักหนึ่งได้ยนเสียงรองเท้าแตะวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ

   -พี่เก่ง ๆ ผมอาบด้วย-

   ไอ้โอ้ตนั่นเอง มันถอดกางเกงขาสั้นออกเหลือกางเกงในบิกินี่สีดำ ก่อนจะเปิดน้ำจากฝักบัวอาบเหมือนกัน เราสองคนอาบน้ำเสร็จแล้วใส่กางเกงตัวใหม่ ก่อนจะเดินเลียบสวนเล็ก ๆ ไปยังห้อง

   *พี่เก่ง ผมว่าเมย์กับพี่ตี๋นี่มันยังไง ๆ อยู่นะ*

   -ยังไงคืออะไรเหรอ- ผมถามไม่ได้สนใจมากนัก

   *ผมว่าสองคนนี้จะชอบกันน่ะสิ*

   -คิดมากไปหรือเปล่า เค้าสนิทกันจะตาย- ผมนึกขำในใจ ไอ้เชี่ยนี่จะให้เมียกูไปตีฉิ่งกับคนอื่นหรือไง

   *ไม่อ่ะพี่ ไม่เชื่อคอยดู* ผมยิ่งนึกขำเข้าไปอีก ไอ้นี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าใครเขาเป็นยังไง

   ที่ระเบียงหน้าห้องพัก ผมยืนสูบบุหรี่อยู่ ไอ้ตี๋เดินเข้ามาหาผม

   *เดี๋ยวเราไปกินข้าวกัน*

   -นี่ ไอ้โอ๊ตมันคิดว่ามึงกะไอ้เมย์ชอบกันน่ะ- ผมหัวเราะเบา ๆ กระซิบที่ข้างหูมัน

   *บ้าเหรอ ฟ้าผ่าตายห่า* ไอ้ตี๋พูดขำ ๆ ผมแกล้งเอานิ้วไปบิดหัวนมแดง ๆ ของมันเล่นทีนึง มันเอามือต่อยมาที่ท้องของผม

   *ว่าแต่ว่า อย่าให้รู้นะว่ามีอะไรกับน้องโอ๊ตเค้าน่ะ กูเอาตาย* มันกระซิบตอบทำหน้าเH้ยม

   ผมทำลอยหน้าลอยตาแทนคำตอบ เลยได้หมัดสวนเข้าที่ท้องอีกทีนึง ผมกุมท้องด้วยความเจ็บปวด

   -ฝากไว้ก่อนเถอะมึง เดี๋ยวกลับบ้านจะเอาคืน- ผมชี้หน้ามันก่อนมันจะวิ่งไปในห้อง

   คืนนี้เราอยู่ที่ดิสโก้เธค ทุกคนกินเหล้าเข้าไปอย่างเมามาย  เพราะนาน ๆ 1 ปีได้กินหนึ่งครั้งนี่ครับ เวลาอื่นจะกินมันก็แหยง ๆ เพราะว่าต้องทำงานไปด้วย ขากลับขึ้นห้อง เราสี่คนแทบจะคลานกลับขึ้นไป

   ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ไอ้โอ๊ตอย่างเหนื่อยล้า ต่อให้ใครมาแก้ผ้าตอนนี้ ผมก็คงไม่แล เมาปลิ้นเลยนี่นา ...

   ผมตื่นขึ้นมาตอนเข้า ไอ้โอ๊ตยังไม่ตื่น แต่ผมเห็นไอ้ตี๋ นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผมขยี้ตาด้วยความมึนงง ก่อนจะลุกขึ้นไปที่ไอ้ตี๋มันนั่งอยู่

   ไอ้ตี๋มันร้องให้ ........ เกิดอะไรขึ้น พอผมเดินเข้าไปไกล้ มันกอดผมไว้โดยที่ผมยืนอยู่ข้างมัน มันนั่งอยู่ที่เก้าอี้  มันสะอื้นเบา ๆ

   *เก่ง กูขอโทษ*

            ****** มีต่อ ******

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #410 เมื่อ28-10-2007 20:52:03 »

 :a6: :a6: :a6: :a6:
โอ่มายก๊อด
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
 :m8:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #411 เมื่อ28-10-2007 21:25:43 »

กำ อย่าบอกว่าได้กัน  :o12:

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 7  /  ไม่คาดคิด

   *เก่ง กูขอโทษ กูต้องกลับเมืองไทยเดี๋ยวนี้*

   -มันเรื่องอะไรทำไมต้องร้องให้ขนาดนี้ด้วย- ผมถามมัน

   *พ่อเข้าโรงพยาบาล เส้นเลือดในสมองแตก อาการไม่ดีเลย*

   -เมื่อไหร่- ผมถามด้วยความตกใจ

   *เมื่อเช้า ไอ้เตยโทรมาแต่เช้า ตอนนี้กำลังมาถึง รพ ที่ กทม.*

   -ตี๋ มึงใจเย็น ๆ นะ เรื่องมาเที่ยวก็ช่างมัน อีกอย่างพ่อก็ยังไม่เป็นไร ถึงมือหมอแล้วใช่ใหม อย่าพึ่งตีโพยตีพายไป-

   ผมดึงมือมันเดินออกมานอกห้องเพราะน้องโอ้ตยังนอนหลับอยู่

   -จะกลับเลยใหม ถ้าเรากลับไปที่สิงคโปร์ตอนเย็นนี้ได้ เราก็จะไป กทม ได้เลย-

   *แต่มึงมาเที่ยวอยู่นะ*

   -กูคงมีกระจิตกระใจอยู่เที่ยวหรอกนะ เอาล่ะ มึงไปบอกขอโทษเมย์ เดี๋ยวกูจะไปขอโทษไอ้โอ้ตมัน แล้วกูจะเอาโน้ตบุ้กตามลงไปที่ล้อบบี้ เราจะหาตั๋วกลับบ้านกัน-

   *เก่ง กูใจคอไม่ดีเลย*

   -ใจเย็น ๆ เดี๋ยวโทรหาแม่หาน้องซะด้วย ไปได้แล้วเร็ว ๆ เดี๋ยวไม่มีตั๋วเราจะแย่-

   ผมรีบเข้าไปในห้อง ปลุกไอ้โอ้ตลุกขึ้นมา ผมบอกว่าการเลื่อนตั๋วอาจจะทำให้เสียเงินมากขึ้น สักพักเมย์เดินเข้ามาในห้องบอกว่าไม่เป็นไร ผมบอกว่า ซาบซึ้งใจมาก แต่อย่าเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่จำเป็นอีกอย่าง พ่อไอ้ตี๋คงไม่เป็นอะไรเพราะถึงมือหมอแล้ว

   ไอ้โอ้ตกับเมย์ตกลงกลับวันพรุ่งนี้ตามกำหนดเดิม ผมรีบเปิดอินเตอร์เน็ทเบราเซอร์ หาเบอร์โทรศัพท์ของสายการบินที่สามารถกลับไปที่สิงคโปร์ได้ทันที และเร็วที่สุด

   แต่เนื่องจากบาหลี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ไฟล้ท์ต่าง ๆ ถูกจองจนเต็มทั้งหมด ผมจึงเรียกไอ้ตี๋เก็บกระเป๋า ไปตายเอาดาบหน้าบ้าบิ่นสไตล์ผมที่สนามบิน Denpasar ทันที

   เมื่อถึงสนามบิน Denpasar ผมรีบวิ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์ของ Adam air, Garuda Indonesia, Silk Air (SIA), Quantus และ Jetstar asia ทันทีเพื่อขอจองตั๋วในกรณีที่มีที่ว่าง เราจะได้กลับสิงคโปร์ในวันนี้เลย ที่สนามบิน ผมใช้อินเตอร์เน็ตจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินสุดท้ายของ Jetstar asia ผ่านหน้าเว็บไซต์ วันนั้น มี Night flight ออกเวลา 5 ทุ่มพอดี

   ผมกับไอ้ตี๋ยืนรีรออยู่ที่แถวเช็คอินของแต่ละสายการบิน โชคไม่ดีเลยไม่มีที่ว่างสำหรับสายการบินแรก ผมบอกให้ใจเย็น ๆ รอสายการบินต่อไป ผมกอดมันซบที่ไหล่ผมโดยไม่อายสายตาของใครทั้งนั้น ความรู้สึกของคนที่ผมรัก สำคัญกว่าเรื่องคนอื่นจะมองเรามาก

   ถัดมาเป็นของ Silk air/Singapore airline เหมือนพระเจ้าเข้าข้างเรา เหลือที่นั่งอีก 1 ที่ที่ยังว่างเพราะว่าไม่มีคนมาเช็คอิน ผมมองหน้าไอ้ตี๋ก่อนส่งตั๋วของ สิงคโปร์ – กทม ให้มัน และวิ่งไปซื้อตั๋วที่ช่องบริการของสายการบิน

   *ไปก่อน ถ้ามีที่ว่าง กูจะตามไป พอถึงสิงคโปร์ให้รอกูก่อนนะ แต่ถ้ากูไม่ทัน ไปก่อนได้เลย*

   -มึงต้องรีบไปนะ- มันทำตาแดง ๆ

   ผมนั่งรอจนถึงสายการบินสุดท้ายคือ Jetstar airline สายการบินขึ้นป้ายว่า เที่ยวบินนี้จะบินโดย Value air ซึ่งเป็นสายการบินที่ควบกิจการกัน  ผมรอด้วยใจระทึกเพราะเหลือบตามองเวลา อีก 3 ชั่วโมงผมต้องเหยียบแผ่นดินสิงคโปร์ให้ได้ ผมยืนรออยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานมองผมด้วยสายตาที่เอาใจช่วยเช่นกัน

   อีก 45 นาทีประตูทางออกขึ้นเครื่องจะปิด เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผมซื้อตั๋วโดยด่วน ผมวิ่งไปที่ช่องบริการของแวลูแอร์ก่อนจะถูกนำทางไปโดยเจ้าหน้าที่ เขาคงติดต่อประสานงานกันแล้วว่าจะมีผมไปด้วย

   พนักงานสาวท่านนั้นวิ่งนำหน้าผมไปเพราะจะไม่ทันแล้ว ผมตัวใหญ่วิ่งช้ากว่าสาวเจ้า เธอเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วดึงผมวิ่งไปที่ประตูขึ้นเครื่อง

   เครื่องบินเตรียมตัวจะออกแล้ว พอผมก้าวเข้าไปในเครื่อง ประตูก็ถูกปิดลง ผมนั่งลงที่ที่นั่ง 1D ก่อนจะถอนหายใจยาว ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงมอบที่นั่งนี้ให้ลูก ... ในราคาเต็มที่แพงแสนแพง 245 เหรียญ ....

   ผมลงมาจากเครื่องบินในเวลา 4 ทุ่ม เครื่องที่จะไป กทม เวลาขึ้นเครื่องเป็น 22.30น ประตูปิด 22.45น. ผมวิ่งผ่านช่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติเพราะผมมีบัตรเคลียแรนซ์อัตโนมัติของตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์ เช็คอินที่เคาท์เตอร์ ..ซึ่งไม่มีคนอยู่ ณ บริเวณนั้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่บอกให้ผม วิ่งเข้าไปที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องทันที ผมถามว่าคนที่ซื้อตั๋วใบเดียวกันมาหรือยัง เขาบอกว่า คงขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้ว ผมรีบจนลืมไปว่า ผมน่าจะเปิดโทรศัพท์มือถือก่อน เผื่อไอ้ตี๋เป็นห่วง

   ผมวิ่งไปที่ประตู 54 อีกแล้ว .... สายการบินราคาถูกทำไมต้องจอดเครื่องอยู่ไกล ๆ แบบนี้ทุกทีเลย ผมกระหืดหระหอบ มองเข้าไปในเกต 54 ไม่มีคนเหลืออยู่เลยนอกจากเจ้าหน้าที่ 2-3 คน ผมวิ่งอย่างเร็วเข้าไปที่งวงเชื่อมต่อกับเครื่อง ผมเห็นแล้ว .. พนักงานต้อนรับรอปิดประตูอยู่ พอผมก้าวขึ้นเครื่องบินปั๊บ ประตูก็ปิดลงในทันที

   โดยอัตโนมัติ ผู้โดยสารทั้งหมดหันมามองที่ผมเป็นตาเดียวเนื่องจากเขาคงอยากรู้ว่า ใครที่ทำให้เครื่องบนต้องคอย ผมเดินก้มหน้างุดไปตามทางเดินเพื่อหาที่นั่งว่างที่พอมีด้านหลัง แล้วก็มีมือหนึ่งดึงแขนผมไว้ ผมแทบจะร้องให้ออกมาด้วยความดีใจและหมดแรงลุ้น

   *ไอ้ตี๋*

   -เก่งนะ มาทันจนได้- มันยิ้มเยาะ ๆ

   *พ่อเป็นไงบ้าง*

   -เข้ามาที่ กทม แล้ว เขาบอกว่าอาการดีขึ้น แต่ยังไม่รู้สึกตัว-

   *อือ อย่าคิดมาก เพราะเรายังเหลือเวลาอีกหลายวันพักร้อน*

   ผมนั่งลง รัดเข็มขัด ไอ้ตี๋ซบลงบนไหล่ผม ผมเอื้อมมือเอามือมันมากุมไว้ ในใจภาวณาให้พ่อไอ้ตี๋ปลอดภัย เพื่อคนที่รักของผม จะได้ไม่ต้องเสียใจ ... ผมซื้อน้ำเกลือแร่ให้มันกระป๋องหนึ่ง ส่วนตัวผมขอกินโค้กไลท์

   ระหว่างที่บินไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง เครื่อง A300 สั่นอย่างแรงเนื่องจากสภาพอากาศภายนอกเลวร้ายมาก กัปตันประกาศให้ทุกคนรัดเข็มขัด เครื่องต้องบินวนเหนือสนามบินดอนเมืองหลายรอบเพราะไม่สามารถแลนดิ้งได้ ฝนตกหนักมากที่ กทม

   ผมใจคอไม่ดีเพราะว่าเครื่อง A300 เป็นเครื่องขนาดเล็ก เวลามีฟ้าผ่าที แทบจะสะเทือนไปถึงท้องน้อย พนักงานต้อนรับไม่เดินไปเดินมาแล้ว ผมเห็นเขานั่งคุยกัน แต่รัดเข็มขัดทุกคน สงสัยกลัวผู้โดยสารจะกลัว เลยต้องทำเป็นพูดคุยกันปกติก่อน

   เลยเวลาที่ต้องถึงไปแล้ว 35 นาทีเครื่องบนถึงลงได้ เราผ่าน ต.ม. ออกมาได้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมเรียกแท้กซี่ไปที่ รพ .......... ทันที

   ไอ้ตี๋โทรหาน้องเตย ให้ลงมารับด้านล่าง ผมจ่ายค่าแท้กซี่เห็นแม่ไอ้ตี๋กับน้องเตยวิ่งมาแต่ไกล 3 คนแม่ลูกกอดกันกลม ทุกคนร้องให้ คงจะเสียขวัญเพราะหัวหน้าครอบครัวมาเป็นแบบนี้

   *ตี๋ .. ทำใจดีดีนะลูก คือว่าพ่อเขา .........................* แม่มันร้องให้โฮออกมาอย่างดัง .....

         ***** มีต่อ *****

-----------------------------------------------------------------------------------------------------   
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 8  /  ทางโค้ง
   *ตี๋ .. ทำใจดีดีนะลูก คือว่าพ่อเขา .........................* แม่มันร้องให้โฮออกมาอย่างดัง ..... 3 แม่ลูกกอดกันกลมอยู่ที่ทางขึ้นตึกโรงพยาบาล

   *หมอบอกว่าพ่ออาจจะไม่ปกติเหมือนก่อน  ถ้าอาการหนักเข้าไปอีกอาจจะถึงกับอัมพาตได้*

   -แม่ทำใจดีดีก่อนนะครับ เรารอดูอาการไปเรื่อย ๆ ก่อนดีกว่า-

   พวกเราไปที่ห้องพักผู้ป่วย พ่อไอ้ตี๋นอนหลับอยู่บนเตียง ผมกระซิบข้าง ๆ หูไอ้ตี๋บอกว่า อย่าร้องให้ให้แม่กับน้องเห็น ต้องเข้มแข็งไว้ เราอยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงเช้า ก็ออกมาที่บ้านญาติของไอ้ตี๋ ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาไอ้ตี๋กับไอ้เตยไปกินข้าว

   *สองคนนี้ต้องกินอะไรสักหน่อยนะ ถ้าไม่กินอะไรแล้ว คิดอะไรไม่ออก คนที่ลำบากคือแม่รู้ใหม แล้วพยายามอย่าร้องให้ให้เขาเห็น ต้องเข้มแข็งนะ* ผมบอกพลางบังคับให้สองพี่น้องนี้กิน ก่อนจะไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

   พ่อไอ้ตี๋รู้สึกตัวแล้ว แต่ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกหรือเดินไปใหน

   *มากันทำไมล่ะลูก สิ้นเปลืองเงินทอง แล้วงานการล่ะ ต้องขาดต้องลาเขามาอีก* พ่อมันบอกกับผมและไอ้ตี๋

   -ไม่หรอกพ่อ พวกผมพักร้อนกันเหลืออีก 4 วัน-

   พวกเราใช้เวลาไป-กลับโรงพยาบาล จนถึงวันสุดท้ายของการลาพักร้อน เรามีกำหนดกลับสิงคโปร์ในคืนวันนี้ ผมมองเห็นหน้าไอ้ตี๋ก็พอเข้าใจความรู้สึกของมัน เพราะบ้านขาดกำลังหลักที่จะทำงาน  แม่และน้องก็เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สองคน จะประคับประคองธุรกิจอุปกรณ์ก่อสร้างไปได้เท่าไหร่

   ผมจูงมือมันมานั่งลงที่โซฟาในล้อบบี้ของโรงพยาบาล

   *ตี๋ เราต้องคุยกันหลาย ๆ เรื่อง*

   -ฮื่อ ว่ามาสิ- มันตอบอย่างเลื่อนลอย

   *เรื่องแรก มึงต้องทำตัวใหม่ คิดถึงเหตุการณ์ข้างหน้า เพราะมึงต้องเป็นตัวแทน พ่อ เป็นหลักให้กับแม่และน้อง เพราะฉะนั้นเลิกทำตัวซึมเศร้าได้แล้ว ทุกคนในโลกนี้มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือกับปัญหาได้ดีแค่ใหน*

   *เรื่องต่อไป มึงต้องเป็นหลักให้กับเขา ดังนั้นมึงจะต้องอยู่ที่เมืองไทย ทำธุรกิจของบ้านมึงต่อไป กูเข้าใจว่ารายได้ของมึงที่นู่นอาจจะโอเค อาจจะดีกว่าร้านเล็ก ๆ นี้ด้วยซ้ำไป แต่มึงอย่าลืมว่า ร้านเล็ก ๆ ที่นี่คือชีวิตของพ่อมึง ของครอบครัวมึง มึงเกิดมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะร้านเล็ก ๆ ร้านนี้ แล้วแม่จะได้มีเวลาดูแลพ่อมากขึ้น กูเชื่อว่ามึงกับไอ้เตยทำได้*

   -หมายความว่ากูกับมึงต้องแยกกันอีก- มันทำท่าจะร้องให้อีกแล้ว

   *ตี๋ มึงคิดดูนะ เรื่องพ่อมึงนอกจากธุรกิจของบ้านมึงแล้ว ค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกล่ะ  มึงจะปล่อยให้งานล้มไม่ได้หรอก*

   *ส่วนเรื่องของเราสองคน ยังคงเหมือนเดิม* พูดมาถึงตรงนี้แล้วผมรู้สึกสะท้อนใจขึ้นมา เพราะผมไม่อยากจากมันไปใหนเลย

   *กูต้องทำงานที่นู่นก็เพื่ออนาคตของกู ถ้าเลือกได้ กูไม่อยากจากมึงไปใหนเลย*

   -กูไม่เลือกสักทางได้ใหม- ไอ้ตี๋ร้องให้อีกแล้ว

   *ไม่ได้หรอก ถึงเวลาหนึ่ง คนเราต้องตัดสินใจ*

   เราสองคนกลับไปที่ห้องพัก เพื่อให้ไอ้ตี๋คุยกัยพ่อและแม่ของมัน แน่นอนว่าพ่อมันไม่เห็นด้วย แต่ไอ้ตี๋ยืนยันตามคำเดิม ไอ้เตยก็จะลาออกจากงานที่ กทม เพื่อไปทำงานที่ร้านด้วย ไอ้เตยเรียนจบบัญชีมา

   *พ่อกับแม่จะได้พักนะ ต่อไปเป็นหน้าที่ของผมกับน้องที่จะดูแลพ่อกับแม่เอง* ทั้งสี่คน พ่อแม่ลูก ร้องให้กัน ผมสะเทือนใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว อีกอย่าง ผมจะต้องจากไอ้ตี๋ไปอีก ... ผมใจคอไม่ดีเลย

   19.00น.  ผมอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เพื่อรอขึ้นเครื่องในเวลา 22.00 น.  ผมเช็คอินเสร็จ นั่งอยู่ที่ร้านขนมเล็ก ๆ ไกล้ ๆ ดิวตี้ฟรี ไอ้ตี๋คุยกับผู้จัดการมันเรียบร้อย ผู้จัดการมันเสนอให้พักงาน แต่มันเกรงใจ เพราะไม่รู้อนาคต จะส่งใบลาออกไปทีหลัง

   *ตี๋ ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วนี่เอาไว้* ผมยื่นซองสีน้ำตาลให้มัน

   -อะไรน่ะ- มันเปิดซองออกดู

   -ไม่ได้หรอก นี่มันเงินของมึง เงินเยอะขนาดนี้ กูไม่รับหรอก- มันบอกกับผมก่อนจะส่งคืน

   *เอาไว้ใช้ก่อน เพราะมึงก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้อะไรอีก แล้วถ้าไม่พอ ให้บอก อย่าลืมว่ากูมีเงินเดือนทุกเดือน*

   -เก่ง-

   *ไม่ต้องพูดอะไร ถ้าเป็นกูบ้าง มึงก็คงจะช่วยกูแบบนี้*

   -กูรักมึงนะ มึงดูแลตัวเองดีดี ยิ่งบ้า ๆ อยู่- มันบอกกับผม

   *กูก็รักมึง แล้วเดี๋ยวจะโทรมาหาบ่อยๆ นับด้วยนะเงินน่ะ เดี๋ยวหาว่ากูโม้* ผมแหย่ให้มันยิ้มได้

   *ขออะไรอย่างหนึ่งนะ พ่อกับแม่กูเขามีบำนาญ พี่กูก็ทำงานกันทุกคน กูเป็นคนโสด ไม่ได้ใช้เงินทองอะไร ถ้าต้องการเงิน อย่าไปหยิบยืมเงินคนอื่น ให้มาเอาเงินจากกูไป อย่าเกรงใจเด็ดขาด กูขอร้องไว้อย่างเดียวนี่ล่ะ*

   -ที่บ้านกูมันเป็นเงินหมุนไง  เงินเก็บไม่มี เศรษฐกิจก็แบบนี้อีก- ถึงมันไม่บอกผมก็เข้าใจ ไอ้ตี๋มันได้เงินเดือนแล้วส่งกลับบ้านทีละมาก ๆ ทุกเดือน เหลือไว้ใช้ตัวเองนิดเดียว

   *กูเข้าใจ กูถึงบอกว่ามึงอย่าเกรงใจ เกรงใจคนอื่นได้ แต่เกรงใจกูเป็นสุดท้ายนะ*

   ไอ้ตี๋เดินมาส่งผมจนถึงทางเข้า ผมคว้ามือมันที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้นไปที่ห้องน้ำ ในห้องน้ำ มีคนอยู่เพียงสองคน คือผมกับมันเท่านั้นเอง ผมดึงมันเข้ามากอดเนิ่นนาน เพื่อเป็นการร่ำลา ... ก่อนที่จะจากกัน .....

-----------------------------------------------------------------
<object width="315" height="80"><param name="movie" value="http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2CDBBAPD&Autoplay=1"><param name="scale" value="noscale" /><param name="wmode" value="transparent"><embed src="http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=0&songID=V2CDBBAPD" width="315" height="80"  scale="noscale" wmode="transparent"></embed></object>

tikwatt

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #413 เมื่อ28-10-2007 21:47:43 »

เก่งมาลงเองเลยเหรอครับ ไหนบอกว่าจะปล่อยไปเรื่อย ๆ ไงล่ะ อดใจไม่ไหวละสิ
เรื่องนี้ผมอ่านแล้วอ่านอีกมาเป็นสิบ ๆ รอบ แล้วก็ต้องเสียน้ำตาไปซะทุก :m17: อ่านครั้งแรกผมจิตตกไปเป็นอาทิตย์เลยนะ ชีวิตคนเรานี่มันเศร้าจริงๆนะครับ แต่คนอยู่ ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป เก็บเรื่องที่ผ่านมาเป็นความทรงจำ รักเก่งเหมือนเดิมนะครับ

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #414 เมื่อ28-10-2007 21:52:23 »

เครื่องบินต้องเป็น A320-200 ง่ะ

อิอิ โทดที กลอนพาไป

แก้ไขด้วยคร้าบบบ

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #415 เมื่อ28-10-2007 21:59:25 »

รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ 

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่  :a2:

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว ... ม่ได้อ่านแป๊บเดียว จบภาค 4 ซะและ ....  o17

แง่มๆๆ สงสารตี๋เล็กเจงๆเลยยยย  :m17: เก่งอ่ะ .... แต่ก็นะ หวังว่าเก่งคงสำนึก, รับรู้, และรู้สึกแล้วน้า ว่าใครคือคนที่เก่งควรจะอยู่ด้วยและมอบใจให้ไว้  :m1:

อย่านอกใจตี๋เล็กอีกหล่ะ อิอิ ไม่งั้นผมขอตี๋เล็กนะ .... ขาว ตี๋ รักเดียวใจเดียว ..... spec ผมเลย 555+  :laugh3:

มาต่อเร็วๆนะค้าบบบบ  o13

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............ยอมเพราะรัก......... o7 o7

kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป
พี่ตี๋เล็กเขาเกิดมามีกรรมคร้าาาาาาาาา

อย่างนี้เขาเรียกว่ามีกรรม
ถ้าจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมชีวิตพี่ตี๋เล็กจะต้องพ้นจากพี่เก่งแล้ว

แต่นี่ ไปไหนๆก็ไม่พ้นพี่เก่งอยู่ดี ถึงจากร้างลาห่างกันเป็นปีสองปีก็หนีไม่พ้นพี่เก่งอยู่ดี
อย่างนี้ไม่เรียกว่ากรรมแล้วจะเรียกว่าอะไรคะ

สงสัยชาติที่แล้วพี่ตี๋เล็กทำกรรมกับพี่เก่งใว้เยอะชาตินี้ถึงได้มาเป็นหนี้รักพี่เก่งอยู่เรื่อยไป

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #419 เมื่อ29-10-2007 00:02:03 »


............จำใจจากทั้งที่ยังรัก...... :o12: :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด