[เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ  (อ่าน 191271 ครั้ง)

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #450 เมื่อ31-10-2007 13:21:24 »


..........ไม่รอดแน่...... :m10: :m10:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #451 เมื่อ31-10-2007 14:56:36 »

ตามมาตอนที่ 5แว้วว  เมื่อวานอ่านตกใจแทบแย่ มาถึงก็ตายกันเลย 
น้ำตาไหลเลย  แต่ที่ไหนได้ หึหึ  มุขเยอะจริงเชียว  o12
ทำคนอ่านหัวใจจะวาย  แต่กสนุกตื่นเต้นดี ชอบบบ  (เอ  ... นี่ผมซาดิสม์ป่ะนี่ 55)

:o

จาฟ้องตี๋เล็ก  พี่เก่งแอบเอาจิ๋ม  :m29:

เหอๆๆ แบบเอาจิ๋มปลอม  อิอิ....  ว่าแต่อยู่กันไปเรื่อยๆจะอดใจได้มั้ยนี่
ดันไปได้ยินน้องพล ร้องเรียกชื่ออีก หหุหุ

รักแท้แพ้ทางระยะ  รักแท้แพ้ใกล้ชิด
เก่งจะทนอยู่ได้เท่าไหร่นะ....ไม่มีตัวมากระตุ้นก็ว่าไปอ่างง  นี่ดันมีมาอยู่ใกล้ๆะงั้น  :m29:


suregirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #452 เมื่อ31-10-2007 15:14:16 »

อะนะพี่เก่งมาเองเลยหรอ  o13
อ่านเรื่องพี่เก่งแล้ว หัวใจจะวาย มีเรื่องให้ลุ้นทุกฉากทุกตอนซิน่า  o22

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #453 เมื่อ31-10-2007 16:39:35 »

 :m26:
อาจจะดูเหมือนมองโลกในแง่ร้ายยยย...แต่ไม่คิดว่าจะเชื่อใจนายเก่งได้อีกแล้วววว...
ถ้าตอนต่อไปเก่งไม่นอกใจ...เห็นท่าจะโกหกซะละ...ก็มันคิดซะขนาดนั้นแล้ววววว.....
และถึงแม้ตัวเองจะไม่คิด แต่ไอ้เด็กใหม่มันคิด....ซักวันมันอาจจะเริ่มเองก็ได้.....
ถึงวันนั้นฝันไปเหอะ ...หน้าอย่างนายเก่งเหรอจะอดได้.....  :เตะ1:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #454 เมื่อ31-10-2007 17:39:59 »

ด่านหินเลยนี่ จะผ่านไปได้ไหมคุณเก่ง  o22

kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #455 เมื่อ31-10-2007 18:11:54 »

คิ้มงงมากค่ะ
ว่าห้องพักที่สิงคโปร  มันไม่มีกลอนล็อคเหรอคะ
หรือว่าประตูมันเสีย ล็อคไม่ได้
แค่งง น่ะค่ะ

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 12  / วันเกิด

   วันรุ่งขึ้นผมแต่งตัวและเดินออกมาใส่รองเท้าที่ห้องรับแขก ไอ้พลแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย นั่งรอผมอยู่ มันหันหน้าไปทางอื่น ส่วนผมก็ไม่กล้ามองหน้ามันเลย ผมเปิดประตูรถก่อนจะเข้าไปนั่งด้านใน ไอ้พลนั่งบนเบาะข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว ผมขับรถออกมาจากที่จอดรถไปตามไฮเวย์ อากาศตอนเช้า ๆ สดชื่น รถไม่ติดเลยแม้แต่น้อย

   ผมเพ่งมองไปที่ถนนเขม็ง หายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าจะพูดเกี่ยวกับเรื่องของเมื่อคืนอย่างไรดี

   *เอ่อ* ผมพูดขึ้น ก่อนจะหน้าแดงด้วยความอาย พูดต่อไม่ได้

   -ผมขอโทษด้วยที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปแบบนั้น- มันหน้าแดงก้มหน้างุด

   *เฮ้ยไม่เป็นไร ผู้ชายด้วยกัน วันหลังจะให้ยืมใช้* ผมบอกกับมันขำ ๆ จนมันยิ้มออกมาได้

   ตอนเย็นผมโทรศัพท์หาไอ้ตี๋ เรื่องที่ทำงานเดิมมันต้องการคนมาทำงาน เพราะว่ามีคนไทยอยู่ในไซต์งานเยอะ และคนเก่าก็จะลาออก เนื่องจากไม่สามารถทำงานต่อได้

   *กูแค่บอกมึงล่ะ เพราะมึงต้องมีงานที่ทำ*

   -ยังดีนะที่มีคนยังคิดถึงกูอยู่-

   *มีสิ ทำไมคิดว่าไม่มีล่ะ คิดถึงทุกวินาทีเลย*

   -ไม่ต้องเลยไอ้วัวแก่ เลี่ยน-

   ผมคุยอยู่กับมันสักพัก ไอ้พลเดินเข้ามาบอกว่า ขอคุยกับผมหน่อย

   *ว่าไงล่ะ ว่าไป*

   -ผมได้งานใหม่ที่ .................... ให้เงินเยอะกว่า ตำแหน่งดีกว่า พี่เก่งว่ายังไงบ้างครับ-

   ผมถอนหายใจก่อนจะบอกว่า

   *แล้วแต่เอ็งจะคิดนะ ให้มองต่าง ๆ มุม เอ็งได้เงินดีกว่า ได้ตำแหน่งดีกว่า มันก็ดีสำหรับตัวเอ็ง แต่ว่าลองคิดในอีกแง่หนึ่ง ที่นี่เขาให้โอกาสเอ็งหลังจากที่เอ็งเรียนจบ เงินเดือนไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เอ็งต้องเกรงใจคนที่เขาให้งานเอ็งทำด้วย เพราะเขาให้งานทำ แสดงว่าเขาหวังกับตัวเราเหมือนกัน*

   *เลือกอะไรก็ได้ ที่เหมาะสมกับตัวเอง และไม่เดือดร้อนคนอื่น* ผมกล่าวในที่สุด

   -ผมเลือกอยู่กับพี่ก็แล้วกันครับ พี่คงไม่ใจร้ายเซ็นไม่ผ่านให้ผมตอนทดลองงานเสร็จนะครับ-

   *รับปากไม่ได้หรอก ต้องดูที่ผลงาน*

   ตอนเย็นผมพามันลงกินข้าวที่ด้านล่างอพาร์ทเมนท์ กินเสร็จเราสองคนเดินเล่นต่อที่แม่น้ำข้าง ๆ อพาร์ทเมนท์ มีคนสองสามคนออกกำลังกายอยู่แถวนั้น

   *แฟนพี่เก่งเป็นไงบ้างครับ*

   -ก็ดี ทำไมเหรอ-

   *คิดถึงกันหรือเปล่า อยู่ไกลกันแบบนี้*

   -คิดถึงสิ แต่ว่าถึงจะไกลยังไงก็ยังคิดถึงเท่าเดิม-

   *ดีจังเลยนะครับพี่ ผมอิจฉาแฟนพี่จัง*

   -พูดผิดหรือเปล่า ต้องบอกว่าอิจฉากูไม่ใช่เหรอ-

   *เออสิพี่* ผมเอามือผลักหัวมันไปด้านหน้า มันหัวเราะแหะ ๆ

   อีกสองวันจะถึงวันเกิดผมแล้ว ไอ้ตี๋มาไม่ได้แน่นอนเพราะมีงานเยอะ แต่มันส่ง EMS เป็นของขวัญมาให้ก่อนแล้ว ผมเปิดดูของด้วยความดีใจ  ข้างในมีของกินพวกน้ำพริกจากขอนแก่นจำนวนหนึ่ง และมีตุ๊กตาหมีสีขาวของโปรดผมพร้อมกับการ์ดใบหนึ่ง

   **** แก่อีกปีแล้ว ไม่ต้องหันไปมองใคร เพราะคงไม่มีใครมอง เจ้าของอยู่ทางนี้ ****
   ผมอมยิ้มก่อนจะโทรศัพท์หามัน ผมวางสายไป ไอ้พลเดินมานั่งที่โซฟา มองดูของบนโต๊ะรับแขกอย่างสนใจ ผมบอกมันว่าวันเสาร์นี้วันเกิดผม

   *พี่มีโปรแกรมอะไรหรือเปล่าล่ะครับ*

   -ไม่มีอ่ะ- ทุกปีผมจะอยู่กับไอ้ตี๋ ปีนี้ อยู่คนเดียวเลยไม่อยากไปใหน

   *ไปเที่ยวกันดีกว่าพี่*

   -ไม่เอาอ่ะ เบื่อเธคเบื่อผับ อายุกูมากแล้วนะเว้ย ไม่ใช่ละอ่อนแบบมึง-

   *ผมอยากไปเที่ยวทะเล*

   -เออ ดีเหมือนกัน เดี๋ยวเอาโน้ตบุ้คเอ็งมาซิ- ที่บ้านผมใช้อินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย สามารถใช้อินเตร์เน็ทที่ใหนก็ได้ในบ้าน ผมเช็ครีสอร์ทที่ผมเป็นสมาชิกที่ Pasir Ris ติดทะเล บัตรสมาชิกของกองทุนสามารถใช้จองห้องพักราคาถูก

   -โอเค ได้แล้ว เราจะไปนอนที่ดาวน์ทาวน์ปาแซรีสกันวันเสาร์นี้ ได้บ้านหลังใหญ่ นอนได้ 10 คนสบายมาก อยากชวนใครไปก็เอา ส่วนพวกกูมีแน่ ๆ 5 คน ของกินไม่อั้น-

   *เย้ๆ เดี๋ยวผมโทรหาเพื่อน ๆ ก่อน*

   เย็นวันเสาร์หลังเลิกงาน พวกเรามีจุดหมายคือดาวน์ทาวน์ปาแซรีส รีสอร์ทตากอากาศ พวกเราไปรถทั้งหมด 4 คัน พร้อมกับขนเครื่องดื่มไปแบบเต็มพิกัด ไอ้พลชวนเพื่อน ๆ มาได้ 5 คน ผู้หญิง 4 ผู้ชาย 1 คน ส่วนของผมมีผู้ชาย 3 ผู้หญิงอีก 2 เป็นทั้งหมด 12 คน ส่วนอาหารไม่ต้อง ผมสั่งมินิบุฟเฟต์อาหารไทย มาส่งถึงที่หมายสบาย ๆ ไม่ต้องเตรียมไม่ต้องล้าง

   ผมกับไอ้พลรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพคอยปิ้งสะเต๊ะและบาร์บีคิวแจกแขกผู้ร่วมงาน ไอ้พลแหย่ผมเรื่องอายุมากตลอดเวลา ผมเอาถ่านป้ายหน้าขาว ๆ ของมันเป็นการแก้แค้น

   เรากินกันดึกถึงราว ๆ ตีสอง พลพรรคเริ่มขอตัวเข้านอนกันหมดแล้ว เหลือไอ้พลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ทุกคนเมาปลิ้นกันหมดเพราะกินเค้กกับเหล้าพร้อม ๆ กัน

   แก้มไอ้พลยังดำเป็นรอยนิ้วมือผมอยู่ ผมยิ้มแล้วเรียกมันกระเถิบมาไกล้ ๆ เพราะมันโงนเงน  ๆ นั่งไม่อยู่กับที่ มันกระเถิบเข้ามาแล้วล้มลงหัวฟุบที่ตักผมทันที ผมเอามือเช็ดรอยเปื้อนออกให้มัน มันยิ่งมุดหัวอยู่ที่หน้าตักผมมากขึ้น ผมเอามือจับหัวมันไว้ มันยิ้มทั้ง ๆ ที่หลับตาปรือ ๆ อยู่ ผมบอกว่าไปนอนได้แล้ว ก่อนจะจับมันหิ้วปีกกลับมาที่ห้อง บ้านหลังนี้มีห้องอยู่ 6 ห้อง นอนได้ห้องละ 2 คนพอดี เป็นอันว่าผมจะต้องนอนกับไอ้นี่ซะแล้ววันนี้ ผมไม่ค่อยเมาเท่าไหร่ แต่มึน ๆ เพราะว่าต้องสงวนตัวไว้เป็นเจ้าภาพดูแขก ดูแลข้าวของ ผมลากมันเข้าห้องนอน ตัวมันหนักเป็นบ้า มันกอดซบผมจากด้านหน้า ได้กลิ่นกายมันเบา ๆ ลอยมา ผมเผลอฝังจมูกลงไปที่ไหล่มันเบา ๆ

   ผมลากมันขึ้นไปนอนบนเตียงได้สำเร็จ ผมถอดแว่นตามันออกวางบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะเดินไปหรี่แอร์ลงสักเล็กน้อย ปิดไฟและมาล้มตัวลงนอน หลับตาไม่พยายามมองเพดาน เพราะมันคงจะหมุนติ้วเลย

   ผมนอนเอามือก่ายหน้าผากสักพัก ไอ้พลมือไม้เปะปะมาจะกอดผม ผมเลยปล่อยให้มันกอดไป ไม่สึกหรออะไรนี่นา อากาศก็หนาวด้วยเมื่อเจอแอร์บวกกับชายทะเล ผมเผลอนอนหลับไปด้วยความเมา

   ผมเริ่มรู้สึกตัวเมื่อรู้สึกถึงได้กับการถูกบุกรุก ไอ้พลเขยิบเข้ามาไกล้ผม เอาKมันที่อยู่ในกางเกงแนบมาที่ตัวผม มันแข็งปั๋งจนผมรู้สึกได้แม้จะอยู่ในกางเกงก็ตามเถอะ แต่มากกว่านั้น มือที่กอดผมอยู่ กำลังกำKผมผ่านกางเกงแล้วขยำไปขยำมา

   ผมเอามือสะกิดมันให้ตื่น มันปล่อยมือจากKผมแต่หันมากอดผมแทน ผมหันหน้ามาทางที่มันนอนอยู่ ก่อนจะโอบเอามันมากอดแนบติดตัวผม ได้กลิ่นลมหายใจอุ่น ๆ ของมันปนกับกลิ่นเหล้า ที่ผมมันมีกลิ่นเหงื่ออ่อน ๆ คงจะร้อนตอนปิ้งบาร์บีคิว

   ผมลองแย้บ ๆ โดยการหอมแก้มมัน 1 ที ไม่มีอาการอะไรตอบสนอง ผมเปลี่ยนเป็นจุ๊บปาก 1 ครั้ง ยังไม่มีอะไรตอบสนอง ผมเลยประกบปากไอ้พลลองดู แปลกแฮะ มันเปิดปากดุนลิ้นสู้ ใหนบอกว่าหลับไง เราสองคนดุนลิ้นกันอย่างเบามือสักพัก ผมเอื้อมไปจับมือของมันมาจับที่Kของผม ส่วนมือผมถอดเสื้อผ้าของทั้งสองคนออกอย่างเบามือ ผมระดมจูบมันไปทั่วตัว กลิ่นหนุ่ม ๆ น่ารัก ๆ ของมันหอมน่ากินมากเลยครับ

   ผมดูดหัวนมที่แข็งชูชันเป็นไตของมัน อีกมือก็บี้หัวที่เหลืออีกข้าง มันร้อง อุ๊ยส์ ครางออกมาด้วยความเสียว ................................................

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 13  /  เซอร์ไพรส์

   ผมไซร้ไอ้พลจนมันครางกระเส่า ผมเอามือลองจับKมันดู โอ้โหมันแข็งสู้มือดีจริง ๆ เว้ย เจี๊ยวเล็ก ๆ กระทัดรัดแบบนี้ เนื้อตัวมันเนียนไปหมด หาขนแทบไม่เจอ จนผมอยากจะเปิดไฟให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมกระซิบมันเบา ๆ ด้วยความอยากอย่างถึงที่สุดแล้ว

   *พี่ขอเอานะครับ*

   -เอาอะไรครับพี่เก่ง ผมไม่เอานะ ผมไม่เคย-

   *น่านะ ไม่เคยก็ต้องเคย*

   -อย่าให้เจ็บนะ ผมกลัว-

   ผมจับมันนอนคว่ำหน้าใส่หมอน คลำดูไม่ต้องเปิดไฟผมก็เจอเป้าหมายแล้ว ผมใช้นิ้วหนึ่งนิ้วแหย่เบา ๆ มันกระเถิบหนีแต่รูตอดรัดอย่างเร็วและถี่มาก  ๆ ผมเบามือเรื่อย ๆ จนมันร้องครางหงิง ๆ ออกมาผมถึงหันมาจัดการกับอาวุธผม ผมค่อย ๆ ดันเข้าไปทีและน้อย ไอ้พลร้องเบา ๆ เจ็บ ๆ ผมค่อย ๆ ดันเข้าเบา ๆ จนมิดก่อนจะโม้นตัวลงไปไซร้ซอกคอมันล้วซอยเข้าออกเบา ๆ มันฟิตและรัดลำKผมตลอดเวลา ผมไม่กล้าทำให้มันเจ็บ เพราะมันน่าทะนุถนอมมาก ๆ ตัวนิ่มเนียนไปหมด มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตลอดเวลา ผมเร่งจังหวะซอยเข้าออกเร็วขึ้นท่ามกลางเสียงครางระงมของไอ้พลที่หน้าซุกติดอยู่กับหมอน สักพักนึง รูของมันตอดเร็ว ๆ ขึ้นตุบ ๆ ๆ ผมหยุดด้วยความเสียว ก่อนที่มันจะขมิบอย่างแรงหนึ่งครั้ง ผมเอามือจับดูที่Kเล็กสั้นของมัน ตอนนี้มีน้ำเงี่ยนเปรอะออกมาเต็มลำ มันเยิ้ม ไม่เหนียวและมีกลิ่นอ่อน ๆ หอมมาก ๆ ผมสูดเข้าจมูกยิ่งฮึกเหิม จะไปให้ถึงฝั่งอย่างเร็ว ผมจับมันนอนหงาย ยกขาพาดอก ก่อนจะสับซอยแบบอย่างแรงหน้าผมก้มลงไปดูดซอกคอมันอย่างเมามัน มือมันดึงทึ้งผมผมอย่างแรง ปากก็ร้องครางอือ ๆไม่เป็นภาษาคน ผมเยอย่างเร็วและแรงจนทนไม่ไหว น้ำแตก ใส่เข้าในรูของมัน ผมหอบทับอยู่บนตัวมันอย่างนั้น ไม่ทันได้เอาKออกมาจากรูด้วยซ้ำ ผมจับมันพลิกมาทับตัวผม กอดมันไว้อย่างเบา ๆ ก่อนจะลดตัวมันลงมานอนซบในอกผม จากนั้นผมกับมันก็หลับกันเป็นตายไปด้วยความเมาเหล้าและเมาKอย่างเหนื่อยอ่อน

   ผมตื่นขึ้นมาเมื่อสายแล้ว มึนงงกับเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นอย่างยิ่ง มองไปข้าง ๆ ไม่มีไอ้พลอยู่แล้ว ผมดูนาฬิกา 06.30 ยังไม่สว่างเลย ผมคลำทางเดินออกมาข้างนอก ไม่เจอใคร คงยังไม่มีใครแหกขี้ตาตื่นมาหรอก ฟ้ายังมืดมิดอยู่ ผมมองออกไปไกล ๆ เห็นมีคนนอนอยู่ที่เปลหน้าบ้านไกล้ ๆ กับชายหาด ผมเดินไปช้า ๆ ไอ้พลนั่นเอง

   มันนอนหลับ ผมลากเก้าอี้ไปนั่งข้าง ๆ ไปจับที่ไหล่มัน มันตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ มองหน้าผมแล้วน้ำตาไหล ผมก็ตกใจที่มันร้องให้ เอามือเช็ดน้ำตา มันเบือนหน้าหนีจากผม

   *พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ* ผมบอกมันเบา ๆ  ในใจผมน่ะอยากบอกว่ามึงนั่นล่ะยั่วกูก่อน หนอยเสือกมาจับของกูก่อน แต่ด้วยสำนึกว่า เราเป็นฝ่ายได้ ผมก็สงสารมันจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

   -ผมก็เสียใจที่มันควบคุมไม่ได้ พี่เก่งไม่ผิดหรอก-

   *ขอโทษนะ*

   -ถ้าพี่ผิดผมก็ผิดด้วย ไม่รู้สิพี่ตอนนี้ผมมีความรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น-
   
   ผมปล่อยมันไว้คนเดียว ก่อนเราจะกลับบ้านกันในตอนสาย ๆ ไอ้พลนอนหลับอยู่ในเบาะข้าง ๆ ผม มันคงเพลียและคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ผมยังไม่เลี้ยวเข้าไปในบ้าน แต่ขับรถไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายผมมาหยุดอยู่ที่ริมสันกั้นน้ำของอ่างเก็บน้ำแมคริชชี่

   ผมจอดรถเปิดกระจกทั้งสองด้านลง ก่อนจะนอนหลับบ้าง ไม่รู้นานเท่าไหร่ ผมตื่นนอนขึ้นมา แล้วเอื้อมมือไปปลุกไอ้พล ตัวมันร้อนจี๋ครางฮือ ๆ สงสัยเป็นไข้สูง ผมรีบขับรถกลับบ้านแล้วปลุกมันให้ขึ้นไปข้างบน มันเดินแบบไม่มีเรี่ยวแรง ผมให้มันเกาะหลังกึ่งลากกึ่งเดินเข้าไปในลิฟต์

   ผมขี้เกียจหากุญแจห้องของมัน สงสัยว่าจะอยู่ในกระเป๋าที่ยังไม่ได้เอามาจากในรถ ผมเอามันนอนลงที่เตียงของผม เวลาหนุ่ม ๆ ป่วย ร้อยทั้งร้อยต้องทำตัวออเซาะอ้อนเหมือนเด็ก ๆ

   ผมเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มันก่อนจะเอาข้าวต้มให้กิน แล้วบังคับให้มันกินยา ก่อนผมจะขึ้นไปนอนข้าง ๆ มัน จนเผลอหลับไปในที่สุด

   ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องผมเปิดออก มีคนเปิดไฟในห้อง ผมงัวเงียขึ้นมาดูด้วยความแสบตา ก่อนจะเบิดตากว้างด้วยความตกใจ

   **** ไอ้ตี๋ **** มันบอกว่ามาไม่ได้ในช่วงวันเกิดผม แต่ตอนนี้มันมายืนเซอร์ไพร้ส์วันเกิดผมอยู่ที่หน้าห้อง โดยมีไอ้หนุ่มหน้าขาวแก้มยุ้ยกำลังกอดผมอยู่

jb

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #458 เมื่อ31-10-2007 23:58:27 »

เอาอีกแล้วนะมึงไอ้เก่ง


FOAM

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #459 เมื่อ01-11-2007 08:38:29 »

โด๊นนนนนนนนนนนนน  แน่ คุณเก่ง

โสน้าหน้า 

อิอิ  ล้อเล่นครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
« ตอบ #459 เมื่อ: 01-11-2007 08:38:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #460 เมื่อ01-11-2007 09:04:02 »

 :o :o :o :o
เจ็บแล้วจำเป็นคน
เจ็บแล้วทนเป็นควาย
 :a1:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #461 เมื่อ01-11-2007 09:16:12 »

รักของเก่งนี่เข้าใจยากแฮะ

เกือบเสียของรักก็เคยมาแล้ว

สงสัยต้องเสียของรักไปจริงๆ  ถึงจะเข้าใจว่ารักไม่ใช่เรื่องล้อเล่นมั้งเนี่ย

น่าแค้นจริงๆ   :เตะ1: :เตะ1:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #462 เมื่อ01-11-2007 12:43:00 »

SURPRISE.............. :o12:


มาได้จังหวะมากๆ เลย ตี๋เอ๋ยย    นายจะต้องเจ็บอีกกี่ครั้งนะนี่

เก่งก็นะ อารมณ์พาไปทุกที อันนี้ก็เข้าใจ แต่ว่า สงสารตี๋อ่ะ........... :m16:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #463 เมื่อ01-11-2007 12:43:35 »

 o22....

youngest

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #464 เมื่อ01-11-2007 14:16:19 »

คุณเก่งใจร้ายกับตี๋เล็กอีกแล้วนะ..ห่างกันไม่ได้เลย.....แล้วคราวนี้เรื่องจะเป็นยังไงหล่ะเนี่ย  สงสางตี๋เล็กจังเลยค่ะ
 :m15: :m15:

wachara

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #465 เมื่อ01-11-2007 14:43:45 »

เอาอีกแล้นนะ   สงสารตี๋อีกแล้ว :sad2: :sad2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #466 เมื่อ01-11-2007 15:32:38 »


............ไอ่ตี๋จะยอมทนแบบควายอีกไหมเนี่ย........ o7 o7

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #467 เมื่อ01-11-2007 16:57:16 »

 :m15: ไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว....

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #468 เมื่อ01-11-2007 17:29:35 »

น้ำตาจะไหล

สงสารตี๋

เก่งนะเก่ง

เฮ้อออออออออออออออ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #469 เมื่อ01-11-2007 19:00:32 »

เห็นใจทั้งคู่

คุณตี๋คงเข้าใจคุณเก่งนะ -.-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
« ตอบ #469 เมื่อ: 01-11-2007 19:00:32 »





Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 14  /  มนต์รักพริกน้ำปลา

   ผมกระโดดลุกออกจากเตียงไปพุ่งไปที่ตัวไอ้ตี๋ แต่ก่อนที่จะถึงตัวไอ้ตี๋ ผมก็ตื่นเสียก่อน อืม ... ผมฝันไปนั่นเอง

   บรรยากาศในห้องเงียบสงัด ไอ้พลหายไปแล้ว ผมเดินไปเปิดประตูห้องมันออกมาดูก็ไม่เจอ ผมหันกลับมาที่ประตูห้องของผม มีโน้ตฉบับหนึ่งติดไว้

   ***** พี่เก่งครับ ผมขอไปอยู่ที่ห้องเพื่อนสักพักนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมต้องบอกพี่ตามตรงว่า ผมทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมพยายามที่จะไม่ชอบผู้ชายและปฏิเสธตัวผมเองตลอดเวลา โดยการมีแฟนผู้หญิง และบอกตัวเองว่าผมต้องเป็นคนปกติ ต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่างทั้งเรื่องการเรียน เรื่อชีวิตส่วนตัว ผมขอไปใช้เวลาตามลำพังสักพักนะครับ เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงเรื่องของความใคร่ในเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้นเอง ผมหวังว่าพี่คงจะเข้าใจ และผมไม่อยากให้มีอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมจะกลับบ้านที่เมืองไทยไฟล้ท์ 23.30 น. คืนพรุ่งนี้ ส่วนข้าวของผมจะมาเก็บตอนเย็นพรุ่งนี้ครับ คงจะได้เจอกับพี่ในตอนเย็นนะครับ ผมขอโทษด้วย ผมสับสนกับตัวเองจริงและรู้สึกเกลียดตัวเองมากจริง ๆ ไว้คุยกันครับ จาก พล *****

   ผมรู้สึกมึน ๆ อาจจะติดไข้จากไอ้พลมาแล้วก็ได้ ดูนาฬิกาเพิ่ง 5 ทุ่มกว่า ผมล้มตัวลงนอนและหลับไปอย่างเหนื่อยล้า ...

   ตอนเช้าตอนขับรถออกไปทำงานผมโทรหาไอ้พล บอกให้มันไม่ต้องคิดมากและไว้คุยกันเย็นนี้หลังผมเลิกงาน ให้ไปที่บ้าน ผมบอกว่าวันนี้จะลางานให้มัน 1 วัน

   วันทั้งวันผมไม่มีกระจิตกระใจทำงานเลย ผมเปิด MSN ทิ้งไว้ เหมือนจะรู้ความคิดผม ไอ้ตี๋มันออนไลน์เข้ามา ที่เมืองไทยคงราว ๆ 9.30น แล้ว มันคงเพิ่งเปิดร้าน ไม่รู้จะมีเวลาคุยหรือเปล่า แต่มันพิมพ์มาหาผมก่อน

   *ไง เก่ง อู้งานเหรอ*

   -ตี๋ มีปัญหาว่ะ-

   *มีอะไร ว่ามาสิ ที่นี่ไม่ยุ่งคุยได้ ไอ้เตยเขาทำงานเก่ง ปล่อยได้แล้วเนี่ย*

   -งั้นเดี๋ยวโทรไป-

   ผมเดินออกไปที่ห้องครัวเล็ก ๆ ในออฟฟิศ ก่อนจะกดโทรศัพท์หาไอ้ตี๋ ผมเล่าเหตุการณ์ให้มันฟังทั้งหมดและขอโทษมันด้วยที่ผิดสัญญากับมัน มันถอนหายใจ 1 ครั้งก่อนจะบอกกับผมว่า

   *เก่ง กูกับมึงคบกันมานาน เรื่องแบบนี้กูเข้าใจ กูก็ไม่ได้ตั้งกฏเกณฑ์ไว้ว่ามึงต้องมีอะไรกับกูได้คนเดียว กูเข้าใจ กูจะบอกมึงว่ากูอยู่ที่นี่ กูก็มีเรื่องอะไรแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่ความรักว่ะ แค่ความอยากชั่วคราว แต่กูไม่ได้มั่วนะโว้ย แค่มีเด็กมาจีบแค่นั้นเองมึงสบายใจได้*

   -สบายใจได้น่ะ สบายTo-dไปกี่ครั้งไม่ทราบ- ผมถามแกมประชด

   *ฮ่ะๆๆๆ หึงล่ะสิ ครั้งเดียวเว้ย กูเมาไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก เอาน่า ไม่สึกหรอเท่าไหร่หรอก*

   ผมไม่ได้มีความรู้สึกโกรธอะไรมันเลย อย่างที่บอกเราอยู่ด้วยกันมานาน สัมพันธภาพของเรามันมากเกินกว่าจะมานั่งเง้างอนอะไรเหมือนสมัยเด็ก ๆ อีกแล้ว ผมกับไอ้ตี๋เล็กคุยกันได้ในทุก ๆ เรื่องไม่ว่าเรื่องเป็นหรือเรื่องตาย

   *ว่าแต่มึงน่ะคิดกับน้องเขายังไง ชื่ออะไรนะ พล รูทเมตนั่นน่ะเหรอ คนที่รับโทรศัพท์เมื่อคืนมั้ง กูโทรไป มันบอกว่ามึงไม่สบายนะ หายยัง*

   -ไม่เป็นไรหรอก กูก็ไม่ได้คิดกับเขาอะไรมาก มันก็เป็นอารมณ์ช่วงหนึ่งแค่นั้นเอง ความอยากที่จะมีอะไรกับใครโดยไม่ได้มีความรัก อีกอย่าง น้องเขาก็มีปัญหาเรื่องนี่ไง การไม่ยอมรับตัวเอง กูสงสารเค้ามากกว่าว่ะ-

   *เก่ง มึงต้องคุยกับน้องเขาล่ะ ให้เขาตัดสินใจเลือกทางของเขาเอง มันโตแล้วนะ เรียนก็เก่งนี่ตามที่มึงเล่าให้ฟัง คุยดี ๆ ล่ะอย่าไปปล้ำมันอีกนะ คราวนี้กูหึงจริง ๆ ด้วย*

   -อย่าเลยมึง เจอเมื่อไหร่กูจะคิดบัญชีคืน ปิดเงียบเลยนะมึงเรื่องไอ้เด็กเวรนั่น เจอหน้าจะต่อยให้ปากแตกเลย-

   *ไม่เอาน่า ใหนบอกเข้าใจ อย่าลืมคุยกับน้องมันดีดีล่ะ สงสารเขา เรื่องนี้กูเข้าใจว่ะ มึงจำเรื่องพี่กลดได้ใหม นั่นล่ะ รายนั้นก็แบบนี้ ตอนอยากมีน่ะอยากมาก ๆ พอมีเซ็กส์กับผู้ชายเข้าจริง ๆ กลับรู้สึกผิดต่อตัวเอง บ้าอยู่พัก กูต้องปลอบอยู่นาน*

   -ปลอบมันเฉย ๆ ล่ะไอ้พี่กลด ไม่ใช่ไปปล้ำมัน-

   *เออ ไม่ต้องย้อนศร ไปทำงานก่อนนะ มีลูกค้ามา เดี๋ยวดึก ๆ โทรมาเล่าให้ฟังหน่อย*

   หลังเลิกงานผมรีบกลับบ้าน ผมไปถึงบ้านตอน 18.00 น. ไอ้พลกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอยู่ ท่าทางมันดูไม่ดีเลย ผมเรียกมันมานั่งคุยกันที่โต๊ะในห้องรับแขก

   *นี่เอ็งจะทิ้งพี่ไปจริง ๆ เหรอ* ผมจ้องหน้ามัน ก่อนจะรู้สึกตัวว่า เฮ้ย ใช้คำพูดผิด

   *พี่จะบอกอะไรให้นะ เรื่องที่แล้วไปแล้ว เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ การชอบผู้ชายด้วยกัน มันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างที่พี่บอกเอ็งก่อนไปเที่ยวจำได้ใหม เอ็งถามเรื่องไปทำงานที่ใหม่พี่บอกว่า เลือกอะไรก็ได้ ที่เหมาะสมกับตัวเอง และไม่เดือดร้อนคนอื่น*

   *คนเรา เลือกที่จะเป็นหรือไม่เป็นไม่ได้ แต่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่กับมันอย่างมีความสุขได้*

   -พี่เก่ง ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนะ แม่ผมอีกคนที่ผมต้องดูแล ผมไม่อยากให้แม่เสียใจ ผมไม่เคยทำอย่างนี้กับใครเลยนะ พี่เป็นคนแรก ผมยอมรับนะว่าผมอยากมีอะไรกับพี่มาก แต่พอเสร็จแล้ว ผมอยากจะฆ่าตัวเอง อยากล้างด้วยน้ำออกไปเยอะ ๆ อยากลืมไปว่าผมทำอะไรลงไป- น้ำตามันไหลออกมา สะอึกสะอื้น

   *พี่เสียใจที่เราสองคนไม่สามารถห้ามความต้องการของตัวเองได้ จนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น อย่าร้องให้เลยนะ เรื่องที่แล้วก็แล้วกันไป เก็บไว้เป็นบทเรียน พี่ขอโทษด้วยเหมือนกัน ตกลงเรื่องงานจะเอายังไง*

   -ผมคุยกับพ่อแล้ว ขอไปทำงานที่โรงงานยาของพ่อ ยังไงก็เป็นธุรกิจของบ้านผมเอง ผมฝากใบลาออกให้พี่ด้วยนะครับ-

   *อืม ดีใจด้วยนะ เลิกร้องให้ได้แล้ว ผู้ชายเขาไม่เสียน้ำตาเวลาถูกปล้ำหรอกนะ* ผมแหย่ให้มันอารมณ์ดีขึ้น

   ไอ้พลมันโผเข้ากอดผมเหมือนเด็ก ๆ ร้องให้หนักกว่าเดิมอีก ผมเอามือลูบหลังมันเบา ๆ ก่อนจะหอมแก้มมันและเช็ดน้ำตาให้

   *ไม่หล่อเลยว่ะ ขี้มูกขี้ตาเกรอะแบบนี้ ไปล้างหน้าไป พี่พาไปกินอะไรก่อนที่สนามบิน เครื่องออกห้าทุ่มครึ่งนี่ใช่ใหม*

   มันเริ่มหัวเราะออกมาได้บ้าง ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะช่วยมันหิ้วกระเป๋าลงไปที่รถ มันหันมามองในบ้านเนิ่นนาน เหมือนอยากจะจดจำอะไรไว้ ผมตบไหล่มันเบา ๆ ก่อนจะลงลิฟต์มาและขับรถไปที่สนามบิน

   เรานั่งกินเบอเกอร์คิงหลังจากที่มันเช็คอินเรียบร้อยแล้ว คุยกันถึงเรื่องงานสักพักมันบอกให้ผมจดเบอร์โทร อีเมล์ MSN และ Skype ในสมุดไดอารี่ของมัน

   *เห็นพี่เก่งใช้ไดอารี่น่ะครับ ผมเลยไปซื้อมาบ้าง*

   -การเขียนไดอารี่ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนตัวเราในแต่ละวัน ว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง ทีหลังเขียนออนไลน์บ้างนะ พี่จะได้แอบอ่านบ้าง-

   ผมจดรายละเอียดของผมลงไปในสมุดบันทึกมันอย่างรวดเร็วก่อนจะยื่นคืนให้

   *อย่าเปิดอ่านก่อนนะ เอาไว้ลับสายตาพี่ไปก่อน* ผมพูดพลางหัวเราะ

   ผมเดินไปส่งมันถึงก่อนตรวจคนเข้าเมือง มันบอกผมว่าถ้ามาสิงคโปร์แล้วจะโทรหา เพราะมันต้องมายื่นเอกสารขอพีอาร์ประมาณเดือนสองเดือนหน้า เด็กที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของที่นี่ จะได้รับเสนอให้เป็นพีอาร์ทุกคน

   มันยื่นบอร์ดิ้งพาสกับพาสปอร์ตให้ตำรวจ Cisco ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ผมกำลังจะหันหลังกลับ ได้ยินเสียงมันเรียกไว้

   -พี่เก่ง-

   มันยื่นหน้าออกมาผ่านช่องทางเข้าเล็กน้อย

   -อย่างผมนี่พอจะเป็นแฟนพี่ได้หรือเปล่า?- มันทำหน้าทะลึ่งทะเล้นน่ารักสไตล์อาตี๋น้อยของมัน ก่อนจะวิ่งไปที่ช่องตรวจ ผมยืนมองมันผ่านช่องกระจก หลังจากมันตรวจเสร็จมันหันหน้ามายิ้มให้ผมผ่านกระจกกั้นไกล ๆ ผมทำมือไขว้กันเป็นรูปตัว X แล้วโบกมือให้ มันเอามือทำส่งจูบให้ผมแล้วโบกมือให้ผมเช่นกัน

   ผมเดินกลับมาที่รถอย่างใจหาย เฮ้อ อยู่คนเดียวเหงาอีกแล้ว ว่าแล้วกลับไปเล่น sex-cam กับไอ้ตี๋เล็กที่บ้านดีกว่า ผมขับรถออกมาจากสนามบนชางงีด้วยใจห่อเH่ยวที่คิดว่าต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ........

ปล. ผมเขียนในไดอารี่ไอ้พลว่า *คนเรา เลือกที่จะเป็นหรือไม่เป็นไม่ได้ แต่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่กับมันอย่างมีความสุขได้* ขอโทษด้วยที่ดุไปหน่อยที่ทำงาน ถึงดุ .. แต่ก็เอ็นดูเด็กน่ารักอยู่คนนึง ตั้งแต่วันนั้น..วันที่พี่ไปตักพริกน้ำปลาที่ Bingo night น่ะครับ จาก พี่เก่ง

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #471 เมื่อ01-11-2007 21:09:35 »

ช่วงชีวิตหนึ่งก็ต้องเจอกับมัน
ความอ้างว้างและอยากมีอะไรแปลกๆใหม่ๆ
 :a6: :a6: :a6:
ไม่น่าหลงกลคนแต่งเลยตรู
 :m19:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #472 เมื่อ01-11-2007 21:23:31 »

555 อ่านตอนกแรกถึงกับมีจี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :serius2:

แต่ดั้นเป็นแค่ฝัน......โล่งอก

ว่าแล้วก็เห็นใจคนที่ต้องปกปิดตัวเอง มันคงลำบากใจเนอะ.......ที่จิงทำตามใจตัวเองเหอะ

แล้วถ้าจะปกปิดก็อย่าไปแต่งงานเลยน่ะ สงสารผู้หญิงเค้า....เค้าไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้ผิด ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยน่ะ

Solaris

  • บุคคลทั่วไป
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 15 /  ฝันที่เป็นจริง

   หลังจากไอ้น้องพลน่ารักกลับเมืองไทยไป ผมก็ไม่ข่าวอะไรจากมันอีกเลย ไอ้ตี๋กำลังติดต่อสมัครงานเพื่อกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง เมื่อน้องเตยซึ่งแกร่งกว่าที่ใคร ๆ จะคาดคิด อาสารับทำงานที่บ้านทั้งหมดเอง เด็กที่เติบโตมาในบ้านที่ทำกิจการ ในบางทีอาจจะไม่รู้ตัวเองเลยว่า ตัวเองมีความสามารถมากขนาดใหนจนกว่าเขาจะได้ทำงานนั้นเต็ม ๆ ตัว เพราะเขาได้ซึมซับเอารายละเอียดของงานไว้ในสมองของเขามาชั่วชีวิตแล้ว

   ผมก็ยังใช้ชีวิตโดยปกติของผมต่อไปเรื่อย ๆ ในที่สุด ไอ้ตี๋ก็ได้มาสัมภาษณ์งาน มี 2 บริษัทที่เรียกมันสัมภาษณ์ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอไอ้ตี๋อีก เราไม่ได้หลายเดือน มีอะไรเกิดขึ้นตั้งมากมาย แต่ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดีที่จะได้เจอตัวมันเป็น ๆ วันอาทิตย์ผมใช้เวลาทำความสะอาดบ้านทั้งวัน เพราะผมเป็นประเภทลุย ๆ (ขี้เกียจสิไม่ว่า)

   วันจันทร์เวลา 22.30 เป็นเวลาที่ไอ้ตี๋จะเดินทางจาก กทม มาพบผมที่นี่  ผมขับรถไปนั่งกินเบอเกอร์คิงรอมันอยู่ที่สนามบิน ผมเหลือบมองที่มอนิเตอร์พบว่า เครื่องของมันลงจอดเรียบร้อย ผมไปยืนรอมันที่ทางออกตรงกับสายพานรับกระเป๋าของมัน

   อีก 30 นาทีพบเห็นมันโบกมือให้ผมก่อนจะไปเอากระเป๋าออกมา ผมเข็นกระเป๋าให้มัน ปากมันก็จ้อไม่หยุดเรื่องการเดินทาง ผมได้แต่มองมันเป็นระยะด้วยความดีใจ ในที่สุดเราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเสียที

   *แต่ก่อนอื่นใด มึงต้องสอบสัมภาษณ์ให้ผ่านนะ ภาษาอังกฤษลืมหมดหรือยัง หรือว่ากลับบ้านไปพูดภาษาอีสานอย่างเดียว* ผมแซวมัน

   -ภาษาอีสานนี่ลงในใบสมัครได้ใหมวะ ว่าเป็นความสามารถพิเศษ-

   *แหงล่ะ เพราะว่าคนงานส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยอีสาน การสื่อสารก็สำคัญ* ผมแนะนำมันไประหว่างที่เราขับรถไปตามถนนกลับบ้าน ผมเอื้อมมือจับมือมันไว้หนึ่งข้าง

   *ดีใจใหมวะ ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว*

   -ดีใจสิ นึกว่ากล่อมน้องรูมเมตไว้จนไม่อยากกลับเมืองไทยแล้ว-

   *ไม่อยากให้มันกลับเท่าไหร่หรอก ว่าแต่ เมียหลวงจะยอมหรือเปล่าล่ะ*

   -ใครเมียมึง กูเพื่อนมึงต่างหาก-

   *จ้า เมียจ๋า คืนนี้จะคิดดอกเบี้ยทบต้นให้เรียบร้อยนะจ๊ะ ล้างTo-dรอได้เลย* ผมหัวเราะคิกคักที่แหย่มันได้สำเร็จ

   *ว่าแต่หิวใหม ที่ห้องไม่มีอะไรกินเท่าไหร่นะ แวะกินข้าวก่อนสิ*

   -ดึกแล้วนะ เดี๋ยวมึงก็ไปทำงานอีกพรุ่งนี้-

   *ไปต้มมาม่ากินที่บ้านละกัน โทษทีนะ มาถึงวันแรกต้องกินมาม่า*

   เราเปิดประตูเข้าห้องเข้ามาอย่างมีความสุข เหมือนกับอะไรที่ขาดหายไปมันกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง ผมเข้าในครัว หยิบกับข้าวที่ผมทำไว้มาอุ่น

   -ใหนบอกไม่มีของกินไง-

   *เอ้ากะให้เซอร์ไพร้ส์ พรุ่งนี้ค่อยเก็บของก็แล้วกันนะ รีบกินรีบนอน กูไม่มีเวลามาก พรุ่งนี้ต้องทำงานเช้า*

   -ใช่ ๆ รีบกินจะได้รีบนอน- มันทำหน้าทะเล้นใส่ผม ผมเบิร์ดกะโหลกมัน 1 ที

   *อย่ามาเล่นลิ้น ให้ไวเลยนะ*

   คืนนั้นเรานอนกอดกันอยู่ทั้งคืน ให้สมอยากที่รอคอยกันและกันมานานแสนนาน

   *เก่ง กูคิดถึงมึง*

   -กูก็คิดถึงมึง อยากอยู่ไกล้ๆ มึงแบบนี้ตลอดไปเลย-

   *ไม่อยากไปใหนแล้ว*

   -กูเหมือนกัน- ผมหอมแก้มมันเบา ๆ ดึงมันเข้ามาซุกอกของผม วินาทีนี้ผมมีความสุขมากที่สุด เอาอะไรมาแลก ผมคงยอมได้ยาก ...

   ผลการสัมภาษณ์งาน ไอ้ตี๋ได้งานทำที่บริษัทน้ำมันอยู่ไกล้ ๆ กับแถวที่ผมทำงาน เงินค่อนข้างดี สวัสดิการก็ดีมาก ๆ ถึงขนาดมีรถให้ใช้ฟรี ๆ น้ำมันก็เติมให้ มีค่าเช่าบ้านให้อีกต่างหาก ผมอิจฉามันเล็ก ๆ

   แต่กว่ามันจะได้เงินมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะมันต้องทำงานหนักกว่าผมอีก ในต่ละวัน มันจะกลับมาด้วยท่าทางกะปลกกะเปลี้ยหมดเรี่ยวหมดแรง ผมสงสารมันมาก ผมบอกว่าไม่ต้องทำงานบ้านหรอกผมจะรับอาสาทำเอง

   ที่ทำงานของมันรับลูกน้องให้มัน 1 คนเป็นวิศวกรไทย เด็กจบมาใหม่ ๆ จาก กทม ชื่อ มานิตย์ บางวันหยุด เราก็ไปเดินย่านคนไทย กินกับข้าวไทยด้วยกัน

   ผมบอกให้ไอ้ตี๋ตั้งใจเก็บเงินถ้าทางบ้านไม่เดือดร้อนอะไรแล้ว ตอนนี้น้องเตยคุมบังเHยนเป็นเจ้ใหญ่ไปแล้ว พ่อของมันก็นั่งนับเงินอย่างเดียว เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วย อาการของท่านดีวันดีคืน เพราะได้ยาหม้อของหลวงพ่อมาต้มกินทุกวัน ไอ้ตี๋จะเอาเงินเข้าบัญชีพร้อม ๆ ผมทุกเดือน ค่าใช้จ่ายในส่วนกลาง เราหารครึ่งกัน เพราะผมบอกว่า ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน

   เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันสองคนมาเรื่อย ๆ แบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มาถึงแบบไม่ทันตั้งตัว........

   23.00น. ผมเลิกงานแล้วแวะกินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ทำงานเดียวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ สั่งบะหมี่น้ำแล้วนั่งกินของทอดชุดใหญ่รออาหาร เมื่อบะหมี่มาผมใช้ตะเกียบคีบเส้นเข้าปากทันที จะด้วยปริมาณเส้นที่มากไปหรืออย่างไรไม่ทราบได้ เส้นหมี่ติดคอผมอย่างแรง ผมเอามือกุมคอไว้ ตาเหลือก หายใจไม่ออก

   เพื่อน ๆ เอามือทุบที่หลังผมอย่างแรง ผมรู้ ณ วินาทีนั้นเลยว่าระหว่างความเป็นกับความตาย มันอยู่ไกล้กันแค่เอื้อม ในที่สุดเส้นหมี่ก็ลงผ่านคอไป ผมเงยหน้ามองทุกคน ทุกคนหัวเราะเยาะผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด แต่ผมไม่สนุกด้วยเพราะผมรู้สึกเหมือนผมตายไปแล้ว ผมขอตัวกลับทันที

   ผมขับรถมาตามทางด่วนเลียบชายหาด ระหว่างทางเห็นอุบัติเหตุรถชน มีตำรวจอยู่จำนวนหนึ่งเปิดไฟสีแดง อีก 10 นาทีผมเลี้ยวเข้าอพาร์ทเมนท์ของผม ผมจอดรถแล้วเดินไปที่ลิฟท์ วันนี้โชคไม่ดีเลย แทบตายแน่ะบะหมี่ติดคอ ไอ้ตี๋คงหัวเราะเยาะผมแน่ ๆ เลย ผมนึกในใจ อีกสักพักมันคงกลับแล้ว เห็นว่ามีเรือที่ต้องออกเช้าพรุ่งนี้ เย็นนี้ต้องทำงานให้เสร็จ

   ผมเปิดประตูห้องเข้าไป รู้สึกใจหายแวบนึงที่ไม่เห็นรองเท้าของมันวางที่ชั้นวางรองเท้าหน้าห้องเหมือนทุกวัน ผมอาบน้ำเสร็จ เปิดคอมพิวเตอร์ เงยหน้าดูนาฬิกา 24.00 แล้ว ทำไมไอ้ตี๋ยังไม่มาอีก  ผมเช็คเมล์สักพัก มีเสียงโทรศัพท์จากโทรศัพท์มือถือเข้ามาหาผม

   *คุณ ภัทรพล ใช่ใหมครับ* เสียงผู้ชายพูดปลายสายเป็นภาษาอังกฤษ

   -ใช่ครับ- ผมกรอกเสียงลงไปเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน

   *ผมโทรจาก Central Police (ตำรวจกลาง) คุณคือเพื่อนของคุณ ......... ใช่หรือเปล่าครับ* ผมตกใจเล็กน้อยว่าจะมีอะไรหรือเปล่า ความคิดแรกคือ ไอ้ตี๋จะโดนจับ

   -ใช่ครับ มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเขาหรือเปล่าครับ-

   *ทางตำรวจกำลังจะขึ้นไปที่ห้องของคุณภายใน 5 นาทีครับ ห้องของคุณอยู่ที่ ................... ใช่ใหมครับ*

   -โอเค-    ผมรับปากอย่างงง ๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรอตำรวจ

   สักพักมีนายตำรวจ 2 นายเดินเข้ามา แสดงบัตรและขอผมดูว่า มีเอกสารของไอ้ตี๋อยู่ที่ใหนบ้าง ผมพาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มีพาสปอร์ตตัวจริงของมันอยู่

   -คุณเป็นอะไรกับ ........ครับ-

   *เพื่อนครับ เรามาจากเมืองไทยด้วยกัน มีปัญหาอะไรกับเขาครับ*

   -คุณจะสามารถติดต่อญาติคุณ .............. ได้ใหมครับ-

   *เขาไม่มีใครครับในสิงคโปร์มีผมคนเดียว* ผมร้อนใจ มีปัญหาอะไรทำไมตำรวจไม่พูด ผมคิดว่า ตำรวจคงกักตัวมันไว้

   *เพื่อนผมอยู่ที่ใหนครับ กรุณาบอกผมด้วย*

   -ตอนนี้ปลอดภัย อยู่กับตำรวจนะครับ- ผมนึกในใจว่ามันไม่ได้พกพาสปอร์ตไปหรือเปล่า แต่มันไม่ได้หนีเข้าเมืองนะ มันมีบัตรพลเมืองถาวรแล้ว (PR: Permanent residence)

   *ผมชื่อ ผู้กอง ............ ตอนนี้เพื่อนของคุณอยู่กับตำรวจ*

   *ผมอยากให้คุณไปพบเขาเดี๋ยวนี้ได้ใหมครับ* ผมตอบตกลงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเงิน และกุญแจบ้าน ผมใส่รองเท้าแตะเดินตามตำรวจไป ระหว่างลงลิฟต์ ตำรวจถามผมอีกหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับไอ้ตี๋เช่น เขามีความเครียดใหม มีปัญหาเรื่องเงินหรือไม่ กินเหล้าหรือเปล่า ผมตอบว่าไม่มี กินเหล้าอาจจะมีบ้างตามาประสาเพื่อนฝูง

   ตำรวจพาผมขับรถมายังเส้นทางถนนเลียบชายหาด ผู้กองท่านนั้นกล่าวขึ้นเบา ๆ

   *ทางเราพบ “ร่าง (Body)” ร่างหนึ่ง เราสงสัยว่าจะเป็นเพื่อนของคุณ คุณอย่าเพิ่งตกใจนะครับ เราแค่สงสัย อาจจะไม่ใช่ก็ได้ มีอุบัติเหตุรถชนคน เกิดเมื่อเวลาราว ๆ 23.30 น ครับ*

   ผมตกใจเป็นอย่างมาก ผมถามว่าร่าง หมายความว่าอะไร ตำรวจไม่ตอบ บอกให้ผมทำใจเย็น ๆ

   ผมเดินลงจากรถตำรวจไปช้า ๆ มีรถฉุกเฉิน (Paramedic) มารออยู่แล้ว เปิดไฟสีแดง ที่กลางถนนเลนที่ 4 มีพลาสติกสีขาวคลุมอะไรสักอย่างอยู่ ผมเดาว่าต้องเป็นร่างที่ว่าแน่ ๆ

   ผมภาวนาด้วยใจเต้นตึกตัก อย่าให้เป็นไอ้ตี๋เลย ตำรวจกันผมไว้ ก่อนจะถามผมว่า แน่ใจว่าจะดูใหม ผมพยักหน้า

   สิ่งที่โผล่พ้นพลาสติกสีขาวออกมาคือ ขาคน ............ ผมถลาเข้าไปทันที ไม่ต้องเปิดออกมา ผมก็จำได้ว่ามันคือขาของใคร

   *ไม่ ไม่จริง ไอ้ตี๋*** ผมร้องตะโกน จนสุดเสียง ตำรวจรีบวิ่งมาดึงผมออกไม่ให้ผมเข้าไปจับตัวมัน ผมตะโกนเป็นภาษาอังกฤษว่า เปิดออกเดี๋ยวนี้ !!!  มีตำรวจสองนายล็อกแขนผมไว้ ผมยืนไม่อยู่แล้ว เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นถนน

   ตำรวจเปิดพลาสติกที่คลุมออกช้า ๆ ผมเห็นหน้าไอ้ตี๋มีเลือดออกเต็มไปหมด ตำรวจเปิดมาถึงแค่อก ผมร้องออกมาดัง ๆ

   *ไอ้ตี๋เล็ก!!!!!!* ผมทรุดนั่งลงไปกับพื้นอีกครั้งทั้ง ๆ ที่พยายามจะลุกขึ้น ตาค้าง หายใจไม่ออก ตำรวจรีบเอาผมมานั่ง ก่อนจะคลุมร่างไว้เหมือนเดิม

   -คุณยืนยันได้ใหมครับว่าเขาคือเพื่อนของคุณ-

   ผมพยักหน้ารับช้า ๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 16 /  Finale’ *** อวสาน ***

   27/05/2007 ผมนั่งอ่านเรื่องสั้นของตัวเองในเว็บแห่งนี้ ที่เขียนลงไปได้ 4 เรื่องแล้วปิดคอมพิวเตอร์ หยิบเอาไดอารี่ปกสีฟ้า สีที่คนที่ผมรักชอบมากที่สุดมาเปิดอ่านที่หน้าสุดท้าย ...

---------------------------------------------------------------------

วันที่ 25/06/2006 จากตี๋ ถึง เก่ง

   12.45 กินข้าวเสร็จแล้ว ตอนนี้ยังแอบอู้งานได้ 10 นาที นั่งขี้อยู่ในห้องน้ำ คิดถึงหน้าไอ้เก่งขึ้นมาเลยหยิบไดอารี่ในเป้มาเขียนอะไรถึงมันสักเล็กน้อยดีกว่า

   ** ถึงไอ้เก่งที่รัก เมื่อเช้ากูขอโทษด้วยที่กูดุมึงเรื่องเสื้อกูตัวที่มึงซักแล้วไม่ออก ตอนที่กูเอามาใส่วันนี้ กูถึงรู้ว่ามึงได้พยายามเอาแปรงขัด จนผ้าตรงนั้นพื้นมันซีดกว่าที่ตรงอื่น เพิ่งสังเกตุเห็นนะเนี่ย กูโมโหตัวเองแทนที่กูจะด่าตัวเองว่าทำเสื้อเปื้อนน้ำมัน กูกลับไปบ่นมึงตั้งแต่เช้าแบบนั้น มึงเองก็ช่างกระไรทำไมไม่ด่ากูตอบ แต่กลับไปชงกาแฟมาวางตั้งไว้ให้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่กินกาแฟ มึงคงจะเห็นว่ากูเหนื่อย ๆ กับงานเลยไม่อยากทะเลาะใช่ใหม กูขอโทษนะ ตอนนี้กูขี้เสร็จพอดี ขอตัวไปล้างTo-dก่อน ล้างแบบสะอาด ๆ เย็นนี้จะขอโทษมึงอย่างถึงใจเลย ต่อไปกูจะไม่บ่นมึงอีกแล้ว เพราะมึงทำทุกอย่างให้กูด้วยความรัก กูก็ขอตอบแทนมึงด้วยความรักของกูเหมือนกัน รักไอ้เก่งที่สุดเลย **
   
   ผมอ่านข้อความในไดอารี่สีฟ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เบื่อหน่ายมาตลอดเกือบ 1 ปีที่มันทิ้งผมไป ผมตัดสินใจว่า ในวันครบรอบ 1 ปี 25/06/2007 ที่มันจากผมไปนี้ ผมจะทำอะไรสักอย่าง เป็นของขวัญให้มัน ผมจะเล่าความลับทุกอย่างที่ผมเคยปกปิดมัน ผมจะเล่าเรื่องราวความรักทุกอย่างที่ผมมีต่อมัน ถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ บนโลกใบนี้ได้รับรู้ ว่าผมรักมันมากแค่ใหน ... นั่นคือที่มาของเรื่อง จาก เก่ง ถึง ตี๋ ที่ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย คือตอน 71

   ไม่มีตอนใหนใน 71 ตอนที่จะพิมพ์ออกมาได้ช้ามากที่สุดเท่าตอนที่ 71 .... เพราะผมพิมพ์ไปผมต้องหยุดร้องให้เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ที่ถ่ายทอดออกมาได้แค่ 71 ตอนเท่านั้น .. ผมยังอยากให้เรื่องราวมันมีอยู่ต่อ ไม่มีที่จบสิ้น จนถึงวันที่ผมกับมันอยู่ด้วยกันนานแสนนาน ... แต่ผมทำไม่ได้ ผมไม่สามารถยื้อชีวิตมันไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่ผมรู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น ...

   ผมถึงบอกมันในตอนที่ผมฟื้นจากรถชน ว่าผมไม่ได้ฝันไป มันเกิดขึ้นจริง ๆ แต่ผมก็ไม่คิดว่า มันจะเกิดขึ้นรวดเร็ว และรุนแรงขนาดนี้ คุณผู้อ่านคงเคยมีประสบการณ์ที่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ... แล้วคุณรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่า คุณเคยเจอเหตุการณ์นี้มาแล้ว คุณอยู่ในสถานที่นี่มาแล้ว หวังว่าทุกท่านคงมีคำตอบให้ตัวเองได้นะครับ


บทส่งท้าย

ถึง ไอ้ตี๋ สุดที่รัก ของ เก่ง

      นอนหลับให้สบายนะ แล้วสักวันเราคงเจอกัน รักตี๋เล็กของเก่งเสมอ
         
   เขียนเสร็จ 18/06/07 12.25 ณ  ลานจอดรถซันเทค โซน C
                  alohasunkissอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.sg
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
      
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 6 – ตอนที่ 1 /  อยากจะบอกเธอ .. คิดถึงเธอ .. เหลือเกิน

   25/06/2007 เวลา 16.00 น. ผมขับรถออกจากที่จอดรถชั้นใต้ดินโซนสีเหลืองของห้างซันเทคซิตี้  จุดหมายคือย่านคนไทย โกลเด้นไมล์ ผมซื้อของได้ครบตามที่ต้องการ มี ส้มตำปูปลาร้าชนิดเผ็ดแบบผิดมนุษย์มนา 5 เหรียญ ขนมจีนเปล่าใส่น้ำปลา 3 เหรียญ ไก่ย่าง 1 ตัว 10 เหรียญ ข้าวเหนียว 2 ถุง 2 เหรียญ โค้กไลท์ 2 กระป๋อง น้ำเปล่าขวดใหญ่ 1 ขวด พวงมาลัยดอกมะลิ 1 พวง และขนมทองหยอด 2 กล่อง 10 เหรียญ

   จากนั้นผมขับรถตรงไปยังท่าเรือชางงี บริเวณหมู่บ้านชางงีวิลเลจ ผมรอเรือข้ามฝากไปยังเกาะ Palau ubin อยู่สักพัก ตัดสินใจเหมาลำไปเลยในราคา 24 เหรียญ เพราะวันนี้วันจันทร์และเย็นมากแล้ว ไม่มีใครอยากข้ามไปเกาะร้างที่ไม่มีใครสนใจแบบนี้ ถ้ารอคนเต็มลำ ราคา 2 เหรียญ

   18.30 น. ผมยืนอยู่ที่ร้านเช่าจักรยานบนเกาะ วันนี้เงียบเชียบเป็นพิเศษเพราะเป็นวันธรรมดา เกาะนี้บรรยากาศเหมือนเกาะหลงสำรวจของสิงคโปร์ เหลือเป็นที่สุดท้ายที่ยังมีชาวเกาะอยู่ ได้ยินข่าวว่าจะมีการอพยพคนเข้าไปในเมืองเพื่อทำรีสอร์ทใหม่เร็วๆ นี้

   ผมเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะแต่ไม่ถอดถุงเท้ามาจากรถที่อยู่อีกฟากแล้ว เริ่มถีบจักรยานพร้อมด้วยสัมภาระไปยังชายหาดเล็ก ๆ เงียบสงบที่เราเคยมาตกปลากันในวันหยุด ทะเลตรงที่แห่งนี้ กึ่งกลางระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่ คือที่ที่ผมลอยกระดูกของไอ้ตี๋มันเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา เพื่ออยากให้มันได้กลับบ้านไปยังทะเลบ้านเรา

   ผมนั่งลงกับหาดทราย แกะห่อข้าวออก แล้วเรียกไอ้ตี๋กินข้าวของโปรดของมัน โดยผมก็กินด้วย ผมกินอย่างละครึ่ง ๆ  เพราะกลัวมันไม่อิ่ม ก่อนจะหยิบเอา ipod ในกระเป๋าเป้ออกมาเปิดเพลง

   ผมใส่หูฟังหนึ่งข้างและเรียกไอ้ตี๋มาฟังหูฟังอีกข้าง เพลงที่ผมกับมันฟังกันอยู่เสมอ ๆ เพลงโปรดของมันนั่นเองทั้ง Only the strongest will survive, Every time you cry, Up town girl, As long as you love me, Wonder wall, ไม่เปลี่ยนใจ (เธอคนเดียว), ฉันรักเธอ (ทาทา-ปอนด์), เอื้อมไม่ถึง, ไว้ใจ, แรงบันดาลใจ, รักแท้ในคืนหลอกลวง .. ฯลฯ ผมแหกปากร้องตะโกนอย่างไม่สนใจใคร เพราะไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย

   บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดลงทุกที เห็นไฟอยู่ที่กลางทะเลแว้บ ๆ ลอยห่างออกไปทุกที คงเป็นไฟของเรือ แต่ผมทึกทักเอาว่า ไอ้ตี๋มันบอกให้ผมไปได้แล้ว ราว ๆ เกือบ 2 ทุ่ม มีเพียงแสงไฟจากเสาไฟริมถนนในป่าเท่านั้น  ไฟบนเกาะต้องใช้เครื่องปั่นไฟ ผมเก็บเศษขยะ ก่อนจะหันมามองทะเลเป็นครั้งสุดท้าย ผมสัญญากับไอ้ตี๋ว่า ถ้าผมยังไม่ตาย ผมจะมาเยี่ยมมันบ่อย ๆ แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้บ่อยนัก ผมก็จะมาที่นี่ทุกปี

   ผมกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล ผมกลัวมันไม่สบายใจ แต่ผมอยากให้มันรู้ว่านอกจากความรักและความคิดถึงของผมที่มีให้กับมันจนล้นหัวใจ ผมยังมีความสุขมาก ๆ เหมือนมันไม่ได้จากผมไปใหนไกลเลย ผมขอใช้เวลาของวันนี้ให้หมดไปกับไอ้ตี๋คนเดียว ขอให้มันรอผมอยู่กับคนเบื้องบน คอยมองผมว่าผมจะเป็นไปอย่างไร .. ผมสัญญาว่าผมยังเป็นคนรักของมันเสมอ ...
   
   ก่อนจะหันหัวจักรยานออกจากหาด น้ำตาผมร่วงเผาะ ผมเรียกไอ้ตี๋เบา ๆ

   “ไม่ต้องอยู่ที่นี่หรอกนะ ไป .. กลับบ้านไปด้วยกัน”

   ผมไม่ยอมให้มันอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก เหงาตายห่าเลย ... ผมถีบจักรยานออกมาจากหาดช้า ๆ น้ำตาไหลแบบชนิดที่ว่าทำนบแตก ... หยุดไม่ได้

   ผมนั่งรอเรือที่ท่าร่วมกับคนจีน เป็นลุงกับป้าแก่ ๆ สองคน เสียงเพลงจากร้านอาหารเล็ก ๆ บนเกาะลอยมาเบา ๆ เป็นเพลงจีน ที่ทำนองเหมือนเพลงไทยเพลงหนึ่ง .. เป็นเพลงที่ผมกับไอ้ตี๋ชอบมาก ๆ เวลาที่เรามีปัญหาด้วยกัน

   กลืนลงไป ....... เจ็บปวดช้ำเท่าใด ... ไม่มีใครรู้ ....

   เรื่องในใจ หากไม่พูดแล้วใคร เล่าใครจะรู้ในความจริง

   เป็นบางครั้งก็อยากจะพูดออกไป ว่าใจฉันมันขื่นขม

   ใจรักเธอ อยากให้เจอเข้าใจ ว่าเธอ ก็ต้องอดทน

   กลืนลงไป เจ็บปวดช้ำเท่าใด อย่าไปให้ใครรู้

   เหยียบเข้าสังคม ที่ผิด ๆ ซึ่งฉันไม่เคย ปราถนา

   ใครเลยจะเข้าใจ ความขมขื่น .. กลืนมันลงไป ..

   ใจรักเธอหากว่าเธอเข้าใจ ว่าเธอ ก็ต้องอดทน ..

   กลืนลงไป .. เจ็บปวดช้ำเท่าใด .. อย่าไปให้ใครรู้

   *** ลูกผู้ชาย ไม่ใช่ไม่มีน้ำตา .. แต่ไม่กล้าให้มันไหลออกมา

   กลืนลงไป เจ็บปวดช้ำเท่าใด .. อย่าไปให้ใครรู้ ****

   ผมร้องให้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร ป้าคนจีนเดินเข้ามาเอาทิชชูให้และปลอบใจ ผมเล่าเรื่องให้ลุงกับป้าฟัง ป้ากับลุงบอกว่า คนเราทุกคนต้องมาถึงจุดหมายปลายทางเดียวกัน ... นี่ล่ะคือชีวิต ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2007 21:40:17 โดย Solaris »

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #474 เมื่อ01-11-2007 22:16:28 »

เราก็ร้องไห้โฮ ออกมาเหมือนกันค่ะ โฮๆ นี้มันเดจาวูชัดๆ


gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #475 เมื่อ01-11-2007 23:16:02 »


............อดีตเป้นสิ่งที่กัดกินหัวใจเราตลอดเวลา

...........จนไม่อยากลืมตามาพบกับความจริง......... :o12: :o12:


Pal

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #476 เมื่อ02-11-2007 02:21:51 »

ก็ว่าหายไปไหน  ย้ายวิก  ข้ามช่องมาอยู่นี่เอง :laugh:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #477 เมื่อ02-11-2007 03:34:32 »

 ตอนแรกก็ยังงงๆ
:m28: :m28: :m28:
ต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ
แล้วก็:o  :o :o

ความรู้สึกตอนนี้
 :sad2: :sad2: :sad2:

kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #478 เมื่อ02-11-2007 04:04:46 »

อ่านเรื่องตอนที่ เก่งเจออุบัติเหตุ และตอนที่ตี๋เสียชีวิต
แล้วอดคิดไม่ได้ว่า

ตี๋รับเคราะห์แทนเก่งหรือเปล่าคะ
แบบว่าคิ้มเป็นคนเชื่องมงายน่ะค่ะคิดเป็นตุเป็นตะ

ว้ายยยยยยกลัวค่ะ

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
«ตอบ #479 เมื่อ02-11-2007 07:24:47 »

เศร้าอ่า

หลับให้สบายนะครับคุณตี๋  :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด