พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: anisongchanon ที่ 07-09-2007 18:38:35

หัวข้อ: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 07-09-2007 18:38:35
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

-------------------------------------------------------------------------------------------
กรุณาอ่านข้อความด้านล่างด้วยคับ....อิอิ


:+++++++ก่อนอื่นก็ต้องขออนุญาตพี่เก่งก่อนนะคราบที่เอาเรื่องของพี่มาลงที่นี้ :a3:++++++

 
++++++แล้วก็สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านที่มีความการุนามาเยี่ยมชมกระทู้นี้คับ o15++++++++++


สำหรับเรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้....เป็นเรื่องที่............................................(ไปอ่านกันเอาเอง...5555+)


ปล.ต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วยนะครับ  สำหรับถ่อยคำบางคำที่ดูจะหยาบคายนิดหน่อย(นิดหน่อยจริงๆนะ) ต้องขออภัยจริงๆเพราะบางคนเขาไม่ชอบที่จะพูดคำแบบนี้กัน....

แต่ผมไม่อยากจะปรับเปลี่ยนต้นฉบับนะคับเลยต้องลงตามความเป็นจริงที่พี่เขาเขียนมา......ทุกคนคงจะไม่ว่ากันนะคราบ.....แต่มันก็มีแค่สองสามตอนเท่านั้นแหละคับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


++++++++++++หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะมีความสุขและสนุกกับเรื่องนี้นะคับ++++++++++++++++
   




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..

รักครั้งแรก … หัวKแทบแตกสลาย .. เร็วเกินไปใหม? กับน้ำแตกนั้น

ครวญมาเป็นเพลงไอน้ำเลยนะครับ ตัดมาอีกฉากนึง ผมก็สอบเข้าสาธิตแห่งนึงในขอนแก่นไม่ได้ แต่ได้มาอยู่โรงเรียนอันดับต้น ๆ ของขอนแก่นแทน อยู่แถว ๆ กลางเมืองนั่นล่ะครับ และที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่เกิดความทรงจำที่ดีๆ กับผมมากมาย แม้ว่ามันจะเป็นช่วงสองปีสั้นเองก็เถอะ มีเสียวบ้างไม่เสียวบ้างอย่าว่ากันนะครับ คนเราจะให้แม่งเอากันสะบั้นทุกวี่ทุกวันทุกเวลาเหมือนต่อ&เม้ง ป๋มก็ไม่ไหวนาครับ เดี๋ยวฟ้าเหลือง อิอิ ปล่อยไอ้ต่อมันคึกของมันคนเดียวละกันนะครับ

ผมเข้าเรียนในโรงเรียนสหศึกษาขนาดใหญ่ในขอนแก่น วันหยุดต้องไปเรียนพิเศษแถว ๆ เทศบาลวัดกลาง เรียนภาษาอังกฤษที่ AUA มหาลัยขอนแก่น  แล้วกลางคืนยังต้องออกเที่ยวกลางคืนอีก ใครที่อยู่ขอนแก่นในช่วงปี 2537-2538 คงนึกได้นะครับ ว่าที่ขอนแก่นนี่ โห ที่เที่ยวกลางคืนแต่ละที่สุดยอดมาก ๆ ที่พวกผมชอบประจำก็มีหลายที่ครับ อายุยังไม่ถึงนะเมื่อก่อน เวลาตำรวจมาตรวจ เจ้าของร้านจะเปิดประตูให้หลบไปก่อนทุกที

ผมมีเพื่อนสนิท ๆ ในกลุ่มที่หอราว ๆ 5 คน แต่ละคนเชี่ย ๆ ทั้งนั้น หอผมเป็นหอชาย กินเหล้ามันได้ทุกวี่วัน ไอ้คนเงี่ยนอย่างผมก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมองหาใครไว้คิดถึงหน้ามันเวลาชักว่าวบ้าง เมื่อก่อนยังเด็กครับ ไม่กล้ารุกใครมาก

ผมเดินอยู่ที่แฟรี่พลาซ่าหลังเลิกเรียน มีนักเรียนชายคนนึง ต่างโรงเรียน ใส่กางเกงนักเรียนสีดำ วิ่งเข้ามาหาไอ้เม่นเพื่อนผม

*เม่น *

- เอ้าไอ้ตี๋มากะใครวะ กูมาดูหนังกับเพื่อน  นี่ไอ้เก่ง –

*เออ*

แม่งไอ้ตี๋เชี่ยขี้เก๊ก หน้ากูแม่งไม่มองเลย กรูก็ออกจะหล่อขนาดนี้ แม่งพูดเออ แค่คำเดียวเนี่ยนะ  ไร้มารยาท หน้าตาก็ออกดูดีนะ ตัวสูง ขาว ผมตั้ง ๆ ตัวมันใหญ่มาก ผมจ้องมันเขม็งเลยไม่ใช่ว่ามันหล่อนะ เพราะคิดว่าคนห่าไรไม่มีมารยาท คนเค้าเนะนำให้รู้จักแล้วพูดแค่นั้น

*กูมาดูหนังว่ะ กระโปรงบานขาสั้น*

- เอ้าเฮ้ยรอบ 1 ทุ่มเปล่ากูกับไอ้เก่งแล้วมีผู้หญิงอีกสามตัวก็ดูรอบนี้-

*เออ รอบเดียวกันเดี๋ยวไงไม่มีคนเยอะเราก็นั่งไกล้ๆ กันก็ได้ กูพาน้องสาวมาดูไปเข้าห้องน้ำอยู่*

-น้องหรือแฟนวะ-

*น้องจริง ๆ อีเตยไง นั่นมาพอดี*

-ไอ้เตย เพื่อนพี่เม่นเอง ชื่อ เก่ง-

*สวัสดีคะพี่เม่น พี่เก่ง เตยค่ะ เรียนมอสอง หนูเคยเห็นพวกพี่แล้วผ่าน ๆ จะทักก็ไม่ทันที่ รร*

-งั้นไปนั่ง Food centre รอกัน-

ตกลงพวกเราก็ได้ดูหนังกระโปรงบานขาสั้นด้วยกัน แล้วแยกย้ายกันกลับ ไอ้เม่นยุให้ผมไปส่งน้องเตยเค้าแม่งยุกูจีบหญิงซะแล้ว ทั้ง ๆ ที่น้องเค้ายืนยันว่ามากับพี่ ผมเลยบอกสั้น ๆ ว่า ไปแล้วเว้ย แล้วขับมอไซค์กลับหอเลย ที่หอเจอรูมเมตผมกลับมาแล้วครับ ชื่อพี่ดำ พี่ดำแกเป็นคนขาวมาก ตัวใหญ่แบบนักกีฬา เรียนมหาวิทยาลัยแล้วปีสอง นอนแผ่หราอยู่เสื้อไม่ใส่ แม่งน่ากอดชะมัด แต่ทำอะไรไม่ได้ กลัวเค้าเตะเอาน่ะสิ พี่แกมีเมียเป็นเด็กอาชีวะ ต้องไปนอนหอเมียทุกวัน ที่เช่าที่นี่ไว้เพื่อหลอก พ่อแม่แค่นั้นเอง อาบน้ำกำลังจะอ่านหนังสือ มีเสียงเพจเข้ามา เมื่อก่อนผมใช้ 162 Hutchinson pagephone ฮ่ะๆๆ บ้านรวยนี่นา ค่าบริการเกือบ 400 บาทมั้งเดือนนึง

///// หลับฝันดีค่ะ เตย 043-xxxxx/////

ไอ้เม่นเล่นกรูแล้วมั้ยล่ะ เฮ้อ กรูยังไม่มีความรัก ก็ไม่ได้หมายความว่ากรูต้องรักกะใครในตอนนี้นี่นา

พี่ดำออกไปแล้ว เข้าทางกรูล่ะ รีบค้นตะกร้าผ้าพี่แกทันที หยิบกางเกงขึ้นมาล้วสูดดมตรงเป้าแรง ๆ โอ้ยชื่นใจ ทำไมกลิ่นแรงงี้วะ บางวันเปื้อนเป็นดวง ๆ เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำอะไร เยี่ยวคงไม่ใช่หรอก ไม่เหม็นนี่นา ห้อมหอม อิอิ แล้วก็ว่าวตัวเองครั้งก่อนนอนหลับไป

วันรุ่งขึ้น เหมือนชะตาฟ้าลิขิต เจอไอ้ตี๋คนเมื่อวานในตลาด แม่งซ้อนสาวซะด้วย มันโบกมือให้ตอนรถสวนมาแต่กูแกล้งทำไม่เห็นงั้น ไอ้ขี้เก๊ก

น้องเตยเพจมาทุกวันเลยอีห่ะนี่ .... กรูยังไม่มีอารมณ์รักใครเว้ย อยู่เป็นโสดขึ้นคาน ให้ผู้ชายทรมานหัวใจเล่นไปก่อน ...

*เก่ง เก่ง โทรศัพท์จ้า * เสียงป้าเจ้าของหอเรียก ผมรีบไปรับในบ้านแก แกกับลุงกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่  ผมกรอกเสียงเบา ๆ ไปใหนโทรศัพท์ด้วยความเกรงใจทั้งสองท่าน –สวัสดีครับ-

*เก่งเหรอ นี่กูตี๋นะ*

-ตี๋ใหนวะ-

*พี่อีเตยไง*

-เออ ทำไมวะ มึงได้เบอร์กูมาจากใหนเนี่ย-

*เออ ไม่สำคัญหรอก กูอยากพูดกับมึงแบบลูกผู้ชาย อีเตยมันยังเด็ก ห้ามมายุ่งกับมันเด็ดขาด*

-เชี่ยกูยุ่งอะไรกะน้องมึงวะ-

*กูเห็นไอ้เม่นมันพยายามจีบให้มึงเหลือเกิน เออมึงจำคำกูไว้แค่นี่ล่ะ อย่ายุ่งกับน้องกูอีก*

วางหูไปแล้ว ผมส่ายหน้า อะไรวะ กูไม่เคยยุ่งกับน้องมันเลยแล้วจะให้กูเลิกยุ่งได้ไง ไม่มีมารยาทอีกแล้ววางสายไปดื้อ ๆ ไอ้เชี่ย เสียงเพจดังอีกแล้ว พี่สาวผมนั่นเอง บอกให้ขยันเรียนอย่าริมีรัก อิอิ ลงชื่อ พี่ก้อย กับพี่เต้ย พี่สาวกะพี่ชายผม น่ารักมาก ผมอมยิ้มให้ตัวเองแล้วนอนหลับไป

ตี๊ด ๆๆๆ  ///// ตกลงค่ะ 5 โมงเย็นเจอกันที่ KFC ชั้น 1 แฟรี่ จาก เตย ///// อะไรกับกูอีกเนี่ยไอ้เม่นอีกแน่เลย ตี๊ด ๆๆๆๆ  ข้อความเข้าอีกแล้ว ///// นัดนี้สำคัญต้องไปนะ โชคดีเพื่อน เม่น/////  ถอนหายใจครั้งนึง แล้วหยิบหนังสือโป๊มาว่าวรอบนึงด้วยความเงี่ยนเล็กน้อยแล้วหลับไป

รุ่งขึ้นผมทำความสะอาดห้อง พี่ดำไม่กลับมาหรอกวันหยุด นอนเล่นสักพัก ให้อาหารปลา ต่อจิ๊กซอว์ ทำโน่นทำนี่จนเย็น  4 โมงอาบน้ำแต่ตัวออกไปแฟรี่ กะว่าวันนี้ต้องบอกอีเตย เลิกรุกกูสักที กูไม่ชอบมึงเว้ย พี่มึงก็สั่งห้ามแล้ว กำลังนั่งคุยกันเรื่องทั่วไปอยู่ ไอ้พี่ชายมันเดินรี่เข้ามาในร้านกระชากแขนอีเตย

*กลับเดี๋ยวนี้ บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ให้ยุ่งกับมัน*

-ใจเย็น ๆ ตี๋กูแค่บอกน้องเค้าว่า พี่ของน้องบอกให้เราแยกกัน-

*มึงไม่ต้องมาพูด กูเตือนมึงแล้ว*

ท่าทางมันดุเอาเรื่องเลยครับ เสียงดังจนคนทั้งร้านหันมาดู พนักงานก็วิ่งมาถามมีอะไรกันหรือเปล่า ผมบอกกำลังจะกลับกันแล้วครับ แล้วทั้งสามคนก็ออกมาข้างนอก ไอ้ตี๋กระชากแขนน้องมันอย่างแรง น้องมันหน้าเศร้า ๆ นะครับ เหมือนจะร้องให้ แล้วมันหันมาพูดกับผมว่า

-มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลย-

*เฮ้ย ใจเย็น ๆ ฟังเหตุผลก่อน*

เอาช้างมาฉุดมันก็ไม่ฟังแล้วลงแบบนี้ ผมเลยปล่อยเลยตามเลย ขับรถกลับหอทันที ผมเป็นคนค่อนข้างใจจืดใจดำนะ แล้วไม่ใส่ใจอะไร  แม้เรื่องนั้นมันพึ่งเกิดก็ตามเถอะ กลับมาผมก็เฮฮา ถอดเสื้อเตะบอลกับเพื่อน ๆ อย่างสบายใจ ตกดึกมาก๊งอีกล้วครับท่าน พี่ป้อมประธานใหญ่วันนี้ไม่ได้ไปนอนกับเมียเหมือนกัน นั่งใส่กางเกงบอลถ่างไข่อีกแล้ว น่าฟัดชะมัด ไอ้นล กับไอ้ตั้ม ก็พูดกันแต่เรื่องสาว ๆ ทั้งนั้น สองคนนี้น่าฟัดมากครับ ขาวทั้งคู่เด็กช่างกล แต่นิสัยมันสองตัวเรียบร้อย ไอ้ดลได้ข่าวว่ากระเทยชอบมาก กินเสร็จผมก็ลงไปนอนห้องผมราว ๆ เที่ยงคืน เดินก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว เมาจริง ๆ ครับวันนี้หัวทิ่มลงบันไดเลย

ตี๊ด ๆๆๆๆ ///// เราขอโทษ ตี๋///// พยายามอ่านอย่างทุลักทุเล

อะไรวะ กูจำไม่ได้แล้วนะเนี่ยว่ากูโกรธมึงตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมเป็นคนขี้เงี่ยนครับ เงี่ยนอย่างเดียว ไม่ได้เป็นคนช่างจำ ด้วยความเมา ๆ ก็วางเพจไว้แล้วนอนเลย ว่าวไม่ไหวแล้วกูพยายามเขี่ย แต่แม่งเมามาก ปั่นยังไงก็ไม่แข็งแล้ว








หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 07-09-2007 18:57:05
วันนี้จะขอลงทีเดียว3ตอนเลยนะคับ.......เพราะอาจจะไม่ได้มาลงให้อีกนาน


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 2

วันรุ่งขึ้นวันอาทิตย์ครับ  ไม่ต้องไปโรงเรียนแต่วันนี้มีกิจกรรมพิเศษทั้งวัน เช้าต้องเรียนพิเศษฟิสิกส์ บ่าย เคมี เย็น ๆ เข้ามอ ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ AUA ตื่นขึ้นมาปวดหัวเล็กน้อย ผะอืดผะอมด้วย แวะซื้อน้ำส้มกรีนสปอตกิน เวลาเมาค้างเมื่อก่อนจะกินกรีนสปอต (เพราะเดี๋ยวจะรู้สึกปั่นป่วนในท้องแล้วอ้วก ราว ๆ 30นาทีเห็นผล) แต่โตมาได้สูตรใหม่คือ ลิปตันรสพีช ลองดูกันนะครับ ได้ผลจริง ๆ

ถึง รร ที่จะเรียนพิเศษแล้วเจอแกงค์ผมแล้ว 6 คน ชาย 3 หญิง 3 มี อุ๋ย เก๋ หนึ่ง เม่น สน แล้วก็ผม  ไปถึงผมขอเข้าห้องน้ำก่อนเลย ไอ้อุ๋ยพยักพเยิดให้เพื่อน ๆ ดู

*แดกเหล้ามาอีกตามเคย*

-แต่เรื่องเรียนมันไม่เคยพลาดเลยนะ อีกอย่างมันก็เก่งที่สุดของชั้น 4/17 เราแล้วดูสิเทอมแรกแม่งได้ 3 ตัวเดียววิชาพละ นอกนั้น 4 หมด แข่งกับห้องคิงสบาย ๆ เลยนา- ไอ้หนึ่งเสริม

*ชั้นว่า สมองมันจะฝ่อก่อนที่มันจะเอ็นติดน่ะสิ* อุ๋ยลงความเห็น

อาจารย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็สอนไปครับ น่าเบื่อมาก ๆ เพราะเด็กนักเรียนมอปลาย ไม่ใช่นิสิตนักศึกษา สไตล์การสอนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เป็นธรรมดา มีเสียงหึ่ง ๆ คุยกันของเด็กทั้งชั้นตลอดเวลา ไม่มีใครสนใจครับ เพราะว่ามาเรียนพิเศษก็เหมือนมาพักผ่อน อาจารย์ก็ด่าไม่ได้อยู่แล้ว ขืนด่า เด็กหาย กำไรโรงเรียนหดแน่ ๆ ครับ ผมนั่งฟังอย่างไม่ตั้งใจนัก ตาก็หันไปมองเพื่อน ๆ คุยกันบ้าง แป็บนึง ปวดเยี่ยวอีกแล้ว เดินไปเข้าห้องน้ำด้านนอก พอทำธุระเสร็จผมก้มลงจะผู้เชือกรองเท้าสักหน่อย พอเงยหน้าขึ้นใครวะมันมายืนตรงหัวกูพอดี

เป้าเกือบชนหน้าน่ะ เงยหน้าขึ้นไป อ้าว ไอ้เชี่ยขี้เก๊กอีกแล้ว ผมสูดหายใจเข้าปอดแรง ๆ 1 ครั้งพร้อมขยับกางเกงให้เข้าที่ ประมาณว่ามึงต่อย กูต่อยไม่กลัวหรอก

*เก่ง เรียนที่นี่รอบนี้ด้วยเหรอ ทำไมเราไม่รู้ล่ะ* มาแบบใหนอีกวะไอ้ขี้เก๊ก พูดเราพูดตัวด้วย

-เออ ไมล่ะ- กลายเป็นกรูแล้วพวกไม่มีมารยาท มะนาวไม่มีน้ำ

*เมื่อคืนเพจไปได้รับเปล่า* มันถามเสียงอ่อย ๆ

-ได้แล้ว นายเพจหาเราเหรอ-

*เตยมันบอกเราหมดแล้ว ว่านายไม่ได้คิดอะไร แค่พวกไอ้เม่นมันเป็นแม่สื่อแค่นั้นเอง-

*ขอโทษนะ ที่เข้าใจผิด เรื่องเมื่อวาน* แน๊ ทำตาอ้อนซะด้วย ไอ้ขี้เก๊ก

-เออ ไม่เป็นไร เพื่อนกัน (มันคงงงที่กรูสมอ้างเป็นเพื่อนมัน)-

-นี่มาเรียนกับใครล่ะ นั่งด้วยกันสิ-

*มาคนเดียวเพราะเพื่อน ๆ ไปเรียนที่อื่นหมด*

จากนั้นมา ไอ้ขี้เก๊กก็เข้ามาอยู่ในกลุ่มเราโดยปริยาย มันมีแฟนแล้ว ชื่อ ส้ม คนที่ผมเห็นซ้อนท้ายกันนั่นล่ะอยู่โรงเรียนเดียวกันกับผมแต่เรียนศิลป์-คำณวน เย็นวันนึงหลังเลิกเรียนพิเศษ ห้องเรียนภาษาอังกฤษที่ AUA ผมยกเลิก เลยชวนเพื่อน ๆ ไปดูหนังกันอีก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเรื่อง โลกทั้งใบ ให้นายคนเดียว ไม่แน่ใจเว้ย นานมาก ๆ แล้วนะเนี่ย ไอ้ขี้เก๊กมันนั่งไกล้ ๆ ผมครับ แต่มันเจือกนอนหลับตั้งแต่เริ่มเรื่องเลย  กลางเรื่องผมเลยปลุกมัน (อย่าลามก) เขย่าตัว (อย่าลามก)

-ไอ้ตี๋ แม่งเสียดายตังค์- ตอนนี้พวกเราใช้สรรพนามรุ่นพ่อขุนล้ว เพราะสนิทกันแล้ว

*เออ เออ ง่วงว่ะ* อีก 10 นาทีต่อมามันหลับอีก คราวนี้พิงมาที่ไหล่ผมเลย ผมก็เลยตามเลย เอาวะ เพื่อนกูเองนี่ หล่ออีกต่างหาก (กรูไม่ได้คิดเคลมเพื่อนนะเว้ย) พอหนังจบผมต้องไปส่งมันที่บ้าน เพราะว่ารถมันอีเตยเอาไปใช้ พอไปถึงบ้านมัน มันเรียกผมเข้าบ้านผมปฏิเสธเพราะเย็นแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า ขากลับคิดถึงกลิ่นอ่อน ๆ จากตัวมันล้วก็หัวมันตอนซบเหมือนกันนะเนี่ย เอิ้ กๆ ๆ ๆ

กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบมิดเทอมเลย

ติ๊ด ๆๆๆๆๆ ///// โทรกลับด้วย ตี๋ 043-XXXXXX) อะไรวะ สามทุ่มแล้วนะเนี่ย  ผมเป็นคนที่ไม่ทอดธุระนะครับ เผื่อเพื่อนจะมีเรื่องอะไรเลยรีบลงมาหยอดเหรียญข้างล่างหอ หยอดเหรียญ 5 แล้วพอคนรับเราต้องกดไง เครื่องแดง ๆ ที่หอมีไว้ให้ใช้

*ไอ้เก่งเหรอ* ฮือ ๆๆๆๆๆๆ อ้าวร้องให้ใครตายวะ

-เป็นไรเปล่าตี๋-

*อีส้ม มันทิ้งกูไปแล้ว มันบอกว่าคบกับกูจริงใจ แต่ไม่จริงจัง*

-เออ มึงทำใจดีดี แล้วมึงอยู่กะใครเนี่ย-

*อยู่ที่บ้าน กูอยากมีเพื่อนมึงมานอนนี่ใหม* เข้าทาง (เฮ้ยไม่คิดอะไรจริงๆ)

-กูรับมึงมาที่หอกูดีกว่า เผื่อมึงนอนไม่หลับ ได้อยู่ได้ดึกไม่เป็นไร- อีก 45 นาทีเราก็กลับมาอยู่ที่หอผมเรียบร้อย ตอนนี้ผมครองห้องแค่คนเดียว พี่ดำหายหัวไปตามเคย

-ตามสบายเพื่อน แต่ว่าอย่าร้องให้เลยวะ กูเห็นแล้วจั๊กจี้ ผู้ชายอกหักแล้วร้องเนี่ย- ผมปลอบใครไม่เป็นหรอก

*สบายใจแล้ว อย่างน้อย กูก็มีมึงเป็นที่ปรึกษา กูจะไม่ยุ่งกับมันแล้ว*

-ดีแล้ว อย่าให้ผู้หญิงหลอกแดกได้-

*เออ* แล้วมันก็นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนผมชุด เรียกข้าว่าพญายม อยู่บนเตียง

-ไม่อ่านหนังสือเตรียมสอบล่ะ ไกล้แล้วนะ-

*ไม่อ่ะ หยุด 1 วัน มึงชอบอ่านการ์ตูนเหรอ มีเยอะมาก*

-นั่นของน้องชายกูกับกูออกตังค์กันซื้อคนละครึ่ง น้องชายกูเสียไปสี่ปีแล้ว กูเลยเก็บไว้เองทั้งหมดน่ะ-

*เป็นไรตายวะ*

-โรคหัวใจน่ะมึง ตอนนี้กูก็พยายามรักษาตัวเองให้ดี ใช้ชีวิตหัวหกก้นขวิดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะพ่อกับม่เหลือกูคนเดียว-

ผมอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนถึงเที่ยงคืนครึ่งทุกวัน (เห็นมั้ยอยากเรียนเก่งต้องทำไง อิอิ)

-พรุ่งนี้ไปส่งที่บ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าไป รร นะ เดี๋ยวไปส่ง รร ด้วย-

*สั่งยังกะพ่อกู*

-หรือมึงจะให้กูเป็นผัว ไอ้สัด-

*เป็นมั้ยล่ะ ผัวขา* เดี๋ยว เถอะไอ้นี่ ยั่ว ๆ กู หารู้ไม่ว่าเล่นกับอะไร

ผมปิดไฟนอน คุยกันหลายเรื่องจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนเช้าผมไปส่งมันที่บ้านล้วไปส่งที่ รร ต่อ

- ตอนเย็นกูมารับเที่ยวนะ- ผมไม่อยากให้มันคิดถึงอีส้มแล้ว เพื่อนต้องช่วยเพื่อน

*โอเค*

ตอนเย็นผมพามันไปนั่งเล่นที่ริมบึงแก่นนคร มันถามผมว่า ผมชอบคุยเรื่องอะไร

-กูเหรอ ได้ทุกเรื่อง เรื่องเรียนต่ออะไรแบบนี้กูก็ชอบ อีกเรื่องก็บอล กับ บาส-

*มึงอยากเรียนต่ออะไร*

-กูจะเข้าโควต้า หมอ มข. ให้ได้ กูอยากเป็นหมอ มึงล่ะ-

*กูอยากเป็นวิศวะ กูยากได้โควต้า มข วิศวะเหมือนกัน*

-กูเห็นมึงเรียนสอบเทียบ กูก็จะจบพร้อมมึงนะ-

*อือ มึงลองเอ็นท์ตอนเทียบได้ เลือกที่เดียวกับกูได้ใหม จะได้อยู่ด้วยกัน*

-ได้สิ เอางี้ กูจะเป็นคนติวหนังสือให้มึงเอง-

*ดีมาก กูโง่กว่ามึงนี่* เราทั้งคู่หัวเราะให้กัน (อย่างมีความสุข รึเปล่า .. ไม่รู้ว่ะ)


++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 07-09-2007 18:58:28
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 3

นอนดึกทุกวันเลยครับอีกสี่ห้าวันต่อไปด้วย พักร้อนแล้วรอไปทำงานที่ใหม่เดือนหน้านะครับ เลยทยอยเอาเรื่องประสบการณ์ความรักของผมเองมาถ่ายทอดให้คุณผู้อ่านได้ร่วมประทับใจ เสียวซ่านในบางครั้งเพื่อจะได้น้ำแตกโดยถ้วนทั่วกัน ผิดตกบกพร่องประการใด ได้โปรดให้อภัยมือใหม่หัดพิมพ์บ้างนะครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากนั้นมา ผมก็เข้าบ้านไอ้ตี๋ขี้เก๊ก แล้วมันก็เข้าออกหอพักผมเหมือนเป็นบ้านที่สองของผมละมันแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ของมันยกให้น้องเตยไปแล้ว อันที่จริง มันกับผมทำตัวติดกันเลยนะตอนนี้ จนไอ้อุ๋ยเอ่ยปาก

*สองคนนี่มันยังไง ยังไงอยู่นะ*

ไอ้ตี๋มันงอนผมครับ ผมเมาค้างไม่ได้ไปรับมันมาส่งที่เรียนพิเศษ ผมเอาข้าวเหนียวปิ้งใส้เผือก มาล่อที่หน้ามู่ทู่ของมัน ของโปรดมันนี่ครับ  (มึงไปรู้มาเมื่อไหร่)

-แต่ แต๊ ... หายโกรธนะครับตี๋เล็ก เลิกเรียนแล้วจะพาไปกินส้มตำร้านสากบิน- พอได้ยินอย่างนั้น เพื่อน ๆ เฮขึ้นรวมทั้งไอ้ตี๋ด้วย

-เสียทรัพย์อีกแล้วกู- ผมบ่นอุบ ไอ้ตี๋เล็ก หัวเราะคิกคัก

ที่ร้านส้มตำ “สากบิน – ตำแหลก” กระเทยความตำส้มตำ เห็นพวกผมละอ่อน ๆ น่ารักแบบนี้บริการถึงใจทีเดียว อีอุ๋ยแทคทีมกับหนึ่งต้อนกูอีกแล้ว

*เฮ้ย พวกมึงว่าไอ้เก่งเป็นเกย์หรือเปล่า กูว่ามันชอบไอ้ตี๋หรือเปล่าวะ*

-เหี้ย พวกมึงพูดอะไร ตี๋เสียหายนะเว้ย ลูกเค้ามีพ่อมีแม่- ผมหยิกแกมหยอก พวกนี้รู้ว่าผมไม่พูดจริงจังหรอก ถ้าไม่ได้หลอกตัวเอง ไอ้ตี๋มันหน้าสลดลงหน่อยนึงนะ

*เฮ้ยถ้ามึงเป็นพวกกูไม่ได้ว่าอะไร เพื่อนกัน อย่ามาล่อตูดกูล่ะกัน* ไอ้เม่นเสริม เรียกเสียงเฮได้อีก

-นั่นเป็นความคิดสุดท้ายของกูเว้ยกับการเป็นเกย์ รอให้หมดผู้หญิงจากโลกนี้ก่อน- ทุกคนเฮอีกครั้ง

-คมว่ะ- หนึ่งบอก ถ้าไม่หลอกตัวเอง ไอ้ตี๋มันเบือนหน้าหนีออกไปมองข้างนอก

ผมยอมรับว่านั่นเป็นครั้งแรก ที่ทำให้ผมได้กลับมาคิดทบทวนเรื่องของตัวเอง ว่าผมมีความรู้สึกอย่างไรกับไอ้ตี๋มัน  ทำไมผมเป็นห่วงเวลามันไม่สบาย ทำไมผมต้องเหงาเซ็งจัดเวลาไม่มีมัน หรือว่าผมชอบมัน เพื่อนสนิทเนี่ยนะ ถ้าเอ็นโดรฟินอยู่ในยุดนั้นคงดีหรอก

ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล

ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป .......

จากวันนั้นมา ไอ้ตี๋พยายามหลบหน้าผม โทรไปหาก็ไม่อยากคุยเท่าไหร่ ตัดบททุกครั้ง ตอนนี้เราขึ้นมอ 5 เทอมแรกแล้ว ได้ข่าวจากไอ้เม่นว่า ไอ้ตี๋จะรีเทิร์นกับอีส้มแฟนเก่า ผมได้ยินแล้วรู้สึกหวิว ๆ ในใจไงไม่รู้ เรียกบรรดาเพื่อน ๆ มากินเหล้ากันทั้งหมดที่ไฮเทคมิวสิคเวิลด์ เมาเหมือนหมาเลยครับผม สภาพไม่เหลือ ขาดไอ้ตี๋ไปแค่คนเดียวเอง เพราะผมไม่โทรเรียกมันเลย และแล้ว อีอุ๋ย ว่าที่นักจิตวิทยา (หรือแม่หมอวะ) ก็เค้นความจริงจากปากเมา ๆ ของกูจนได้ ที่โซฟาข้างนอกเธค

-กูเป็นห่วงมานนนนน อีส้มทิ้งมันอีกที ครายจาดูแลมานนนนนนน-

-พวกมึงตอบกูหน่อยสิ...- ไอ้เม่นกับอีอุ๋ยคงรู้แล้วผมคิดยังไงกับไอ้ตี๋มัน

*ทำไมมึงไม่บอกมันล่ะว่ามึงชอบมัน* อีอุ๋ยถาม

-กูกลัวมันไปจากกู ถ้ารู้ว่ากูเป็นแบบนี้ กูไม่อยากเสียมันไป-

**** ทำไมต้องคิดว่าจะเสียกูไปล่ะแค่บอกว่าชอบกู **** แม่งกู หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ไอ้ตี๋นั่นเอง มันมายืนดูกูเมาเหมือนหมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  หมดฟอร์มแล้วกู ผมลุกขึ้นจากโซฟา อาศัยสถานการณ์ชุลมุน + เมา กอดมันซบอยู่ที่มัน

-กูรักมึง ไม่เคยบอกใครเลยนะเนี่ย-

*ชอบหรือรัก เอาให้แน่* แน๊ ยังมาย้อน

-กูรักมึงไอ้ตี๋-

*ไอ้ห่านี้พูดสารภาพรักยังไม่เพราะเลยนะ กูก็รักมึง*

ด้วยเพราะความเมาหรือไงไม่ทราบได้ แต่ผมได้ยินเต็มสองรูหูเลยว่าไอ้อุ๋ยกับไอ้เม่นเฮออกมาดัง ๆ ผมถามมันใหม่

-ตี๋ว่าไงนะครับ เก่งฟังไม่ชัด-

*กูรักมึงไง ไอ้เชี่ย อีส้มน่ะมันทิ้งกูไปนานแล้ว ทำไมก็ต้องกลับไปหามัน*

*อีกอย่าง มีหมาที่ใหนไม่รู้ บอกว่าอย่าให้ผู้หญิงหลอกแดกได้* ผมหอมแก้มมันทีนึงล้วลากแขนมันไปข้างในเธค

-ไปกินกันต่อกีกว่า เพื่อน ๆ มื้อนี้ เสี่ยเก่งเลี้ยง !!!!-

และแล้วความรักของผมก็เริ่มต้นขึ้น กับไอ้ตี๋ คนที่ผมเป็นห่วงมันในทุกลมหายใจ คิดถึงมันทุกขณะ และอยากเอามันเต็มที่แล้ว ... อิอิ ตอนหน้ามีน้ำแตกครับ ใบ้ให้ก่อน-

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-09-2007 20:24:29
หุหุ แค่ชื่อก็ล่อแหลมซะแล้ววววว  :m12:  :m12:
ยังไม่ออกความเห็นละกัน เพราะยังไม่มีอะไรให้เม้นต์เลยอ่ะ แต่เป็นกำลังใจให้น้า  :a2:  :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: Tetjinen ที่ 07-09-2007 21:21:27
ตั้งชื่อได้เด็ดมาก  :a5:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 07-09-2007 21:28:54
:m22: :m22:
เหอเหอ 
 :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 07-09-2007 21:44:00
เมื่อไหร่จะได้อ่านอีกเนี่ย !!!  :m3:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 07-09-2007 21:45:41
แม่เจ้า...ชื่อเรื่องล่อเป้ามากกกก ดึงดูดอย่างแรง  :m25:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: @^_^@PeaZa@^_^@ ที่ 07-09-2007 21:59:07
ชื่อเรื่องล้อแหลมมาก แต่ตอนต่อไปมี.....  :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 07-09-2007 22:53:11
มารอตอนต่อไปครับ

 :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 08-09-2007 00:27:58
 โด่..... มาหลอกให้อยากแล้วจากไปหนิ...
 รออยู่นะครับ...
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-09-2007 16:08:16
อ๊ากกกกกกกกกกกกกสสสสสสสสสสส
มันสะเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-09-2007 05:46:36
เรื่องใหม่  :m3: ถ้าจะ XXX นะแค่ชื่อก็  :m25:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: maomao ที่ 09-09-2007 06:23:10
ชื่อเรื่องน่าหวาดเฉียว แต่น่าอ่านมากคร๊ออ :m10:

อัพจิๆ :m11:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 09-09-2007 09:50:20
 o13 o13 o13 โดนอย่างแรงแซงทางโค้ง.........
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 09-09-2007 14:14:40
เรื่องน่าสนใจดีค่ะ รีบมาลงตอนต่อไปเร็วๆนะ :m13:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-09-2007 15:11:37
ดุเดือดมากๆเรื่องนี้ ชอบๆๆๆๆๆๆ  :a11:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 09-09-2007 19:51:25
รอครับ รอ

 :m21: :m21: :m21: :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 09-09-2007 22:22:13
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 4
นั่งอยู่จนเช้า อยากจะนอนก็นอนไม่หลับ .. มาอัพต่อดีกว่านะครับ คืนนี้คงนอนนู่นล่ะ เช้าเลย ต้องสต๊อกเรื่องตุนไว้ก่อนเยอะ ๆ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากนั้นสรุปว่าฉันเธอ ฮื้อ.. เราคงต้องเป็นแฟนกัน เรื่องของเก่งกับตี๋ก็ดำเนินมาถึงวันที่เสียวซาบซ่านจนได้ วันนั้นฝนตกหนักมาก ผมแวะรับไอ้ตี๋ที่ตลาดโต้รุ่งหน้าประปา เปียกทั้งคู่เลยแต่กระเป๋านักเรียนใส่ไว้ในถุงพลาสติกใบใหญ่เรียบร้อย ผมถอดแว่นเพราะขับรถมองไม่เห็นทางน้ฟนมันตกใส่ เปียกยังกะลูกหมาตกน้ำ พอขับออกมาได้สักหน่อยฝนซาแล้ว ไอ้ตี๋มันเอื้อมมือมากอดผม แล้วกระซิบบอกหนาว ผมบอกอดทนหน่อยถึงที่หอผมค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้า พอถึงหอพักผม

*เดี๋ยวมึงอาบน้ำก่อนสิ ไม่สบายง่ายด้วย* แน๊ แมนเชียว ว่าที่เมียกู

-ไม่อาว วันนี้จะอาบด้วยกัน ไม่เคยอาบด้วยกันเลย- ผมอ้อนสุดฤทธิ์

*มึงไม่ต้องมาอ้อน กูอายนะ* ไอ้ตี๋ก้มหน้างุด เวลามันอายมันจะน่ารักมากเลยนะครับ ฮื้ออยากหอมสักฟอดจังเว้ย

-มามะ เร็ว ๆ เดี๋ยวปอดบวม- ผมลากแขนมันเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ปิดประตูเพราะลงกลอนประตูใหญ่แล้ว เสียงฝนด้านนอกตกหนักมากขึ้น ผมถอดเสื้อกับกางเกงนักเรียนออกเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว ส่วนไอ้ตี๋ผมถอดให้ เหลือ กกน เหมือนกัน ดูมันสั่น ๆ ยังไงพิกล

-ตี๋ มึงไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าใครใช่มั้ย-

*เออ สิ บ้านกูน่ะคุณหนูนะเว้ย*

-ขอเอาคุณหนูทีได้มั้ย รอมานานแล้ว- ไม่รอคำตอบ ผมคว้ามือมันมาจับที่Kผมทันทีแล้วประกบปากมัน มันอู้อี้ ไม่รู้พูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง ผมดึงมือมันให้ถอด กกน ให้มันปลดลงไป Kผมก็ชี้เด่มาข้างหน้าทันที ตอนนั้นมันแข็งมากเพราะว่าตัวผมไม่ได้มีอะไรกะใครจัง ๆ แบบนี้มาตั้งนานนม ก็หลายปีนะ ตั้งแต่คราวไอ้อ๋อ

-ให้มึง- ผมกดหัวมันลงไป มันเก้ ๆ กัง ๆ คงไม่รู้จะทำอะไรดี ผมบอกว่า ใช้ปากกับลิ้นสิ มันเริ่มเลียเหมือนเลียไอติมแพล็บ ๆ ผมคราง อื้ย .. ออกมาทันที ผมบอกว่า –ดูด ดูด- มันก็ดูดครับ แบบเก้ ๆ กัง ๆ –ระวังฟัน เม้มปากดี ๆ – พอมันเริ่มทำงาน ผมก็ครางไม่เป็นภาษาคนแล้วครับ จับกระเด้งเข้าออกสวนกับปากมันตลอด เสียวดีชิบหาย ปีกว่าแล้วไม่เคยมีเลย ว่าวตัวเองอย่างเดียว ผมรู้สึกเหมือนไกล้จะเสร็จ – มึงกินให้หมดนะถ้ารักกู- ผมจับหัวมันไว้แล้วเด้าอย่างแรง ราว ๆ 10 ครั้ง ผมกดKเข้าไปจนมิดมันทำหน้าเหมือนหายใจไม่ออก แล้วฉีดน้ำรักของผมเข้าไปจนหมด โอ้ว ... เสียวชิบหาย น้ำผมไหลมากมุมปากไอ้ตี๋มัน มันยังไม่หายสั่นเลย โถ่เอ้ย กูเชื่อแล้วว่ามึงไม่เคย น่ารักจริง ๆ ว่าที่เมียกูเนี่ย

ผมจับมันหันหลังแล้วกอดมันทางด้านหลัง ไซร้มันตามซอกคอกับติ่งหู ขนตามตัวมันลุกซู่ สงสัยจะเสียวมาก

-อย่าเกร็ง ร้องออกมา ไม่ต้องอายใครแล้วนะ- ผมบอก

ผมถอด กกน มันลง โอ้โห Kมันแม่งตัดกับสีผิวมันจริง ๆ ดำทะมึน หัวบานแดงเถือก ลื่น นิด ๆ แล้วสงสัยน้ำเงี่ยนจะออก หมอยมันน่ารักมากครับ เป็นกระจุกตรงโคนอย่างเดียว ไม่เหมือนผมลามมาถึงหน้าท้องเลย ผมบี้หัวนมไป อีกมือก็รูดว่าวให้มัน ปากก็ไซร้มันดูมันอ่อนระทวยน่ารักมาก ๆ ครับ ผมรูดKมันแรงขึ้นแรงขึ้นแล้วมันก็เด้งตามจังหวะมือ จนน้ำแตก ออกมากระทบผนังห้องน้ำ โอ้ น้ำเยอะเหมือนกันนะว่าที่เมีย มันหอบแฮ่ก ๆ หลับตาพริ้ม ผมเลยหัวเราะออกมา มันรู้สึกตัวรีบปรับสีหน้า อายน่ะสิครับ อายผัว อิอิ ผมจูบปากมันอีกครั้งแล้วบอกว่า ตากฝนมา ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้ ทำอย่างอื่นก่อน

ผมจูงมือมันไปที่เตียงนอนแล้วกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงพนักเตียง มันนั่งลงข้าง ๆ ผม ยังสั่น ๆ อยู่ (สั่นสู้หรือเปล่า) คราวนี้ผมดึงมือมันมาจับรูดK ล้วผมก็รูดKมันให้ มันบ๊วบลงไปจนมิดลำKผมเลยครับ ในทีเดียว

-ไอ้ห่า เสียวสัด- คราวนี้มันคุ้นที่คุ้นทางแล้วครับ ผมครางอย่างไม่อาย เสียวสุด ๆ มันเหลือบมองหน้าผมเป็นระยะ เวลาผมครางเสียงดัง เหมือนกับดีใจที่มันทำได้ ผมลูบหัวมันเบา ๆ แล้วบอกว่า

-มึงไว้ใจกูมั้ย-

*เรื่องอะไร*

-กูไม่ใส่ถุงยาง กูรับรองว่ากูไม่เคยมั่วใครแน่นอน- น้อง ๆ อย่าเอาอย่างนะ ถ้าไม่ได้ตรวจเลือดกันก่อน โปรดใช้วิจารณญาณ เป็นความเงี่ยนส่วนบุคคลคร้าบ

*ฮื่อ*

ผมจับมันนอนหงายยกขาขึ้นแนบหน้าอก สำรวจดูรูมัน มันแคบมากเลยนะเนี่ย ไอ้ผมก็ตื่นเต้น เคยเอาตูดไอ้ปลาเมื่อสามปีที่แล้ว ทีเดียวเอง จะเข้าได้มั้ยเนี่ย ว่าแล้วจากที่เคยได้ยินมาต้องกระตุ้นมันก่อน ผมใช้ลิ้นเลียตามร่องกับรูมันใหญ่ มันร้องโอ้ยอ้ายส์ ไม่ค่อยอายแล้วครับ ผมเอานิ้วสอดหนึ่งนิ้ว ฟิตมาก ตอดมือตุบ ๆ มันเหมือนเจ็บผมจึงทำเบา ๆ แล้วใส่เข้าไปอีกนิ้ว มันร้องโอ้ เจ็บเลย ผมเอื้อมมือไปหยิบวาสลีน (กูใช้เพื่อเสริมสวยเว้ย ไม่ใช่เตรียมไว้ก่อน อย่าเพิ่งแดก) ทาที่รูมันแล้วก็จับKถอกขึ้นลงให้แข็ง แล้วทาวาสลีนด้วย  ผมกระซิบที่หูมันว่า – พร้อมยัง-  *อือ* ไอ้ตี๋ตอบแบบอาย ๆ

ผมจับปลายกดเข้าได้นิดเดียวมันก็จะกระเถิบหนี บอกเจ็บ ผมบอกไม่เป็นไรนิดเดียวนะ ผมเล่นกับหัวนมมันใหม่นมันเสียวมาก ๆ ก็ใส่ใหม่ คราวนี้มันดันลงไปได้ครึ่งแล้ว ฟิตสัด ๆ มันร้องโอ้เจ็บ ๆๆ อยู่ตลอด กูไม่สนใจแล้วเว้ย หน้ามืดแล้วนะ ผมดันเข้าสุดอีกครั้ง แล้วแช่คาไว้ กลับไปจูบมันอีกที เห็นมันน้ำตาไหลด้วย สงสารไอ้ตี๋เล็กของผมจริง ๆ

ผมเริ่มซอยเข้าเบา ๆ อยู่พักนึงถามมันว่า –เจ็บมั้ย- *อือ* ห่า ตอบได้แค่นี้ กูจะรู้มั้ยว่ามึงเสียวหรือมึงเจ็บ ผมซอยถี่ขึ้นมันร้องอ้าว ๆ ๆ ๆ ตลอดเวลา สงสัยเสียวสิสัดแม่ง จิกเล็บที่หลังผมใหญ่ ผมซอยเข้าอย่างเร็ว ๆ มันก็กระเด้งรับและตอดผมสุด ๆ จนผมทนไม่ไหวปล่อยน้ำออกในตัวมันพรวดเลย เห็นมันสะดุ้งเฮือก น้ำคงเยอะอยู่เหมือนกัน ส่วนมันน่ะแตกทั้ง ๆ ที่Kเหี่ยวนั่นล่ะ สงสัยเสียวสุด ๆ

ผมนอนทับมันหายใจหอบแฮ่ก ๆ กลิ่นตัวจาง ๆ ของมัน หอมมาก น่ารักมาก ๆ ผมจูบปากมันแล้วหน้าชนกัน ขณะที่ผมทับมันอยู่  ผมถามมันว่า

-เอาอีกมั้ย-

*เจ็บ*

ผมดึงออกมาสำรวจโอ้ย มีเลือดออกมาด้วย ว่าที่หมออย่างผมต้องฐมพยาบาลมันซะแล้ว ผมก็เอาผ้าชุบน้ำ มาเช็ดทำความสะอาดให้ก่อนแล้วพาไปอาบน้ำ

*เก่ง กูแสบ*

-กูขอโทษนะ ที่ทำให้มึงเจ็บ-

*กูขอบใจ ที่ทำให้กูเสียว*

-งั้นหายกันนะที่รัก-

ไอ้ตี๋กว่าจะหายดีก็อีก 1 อาทิตย์ถัดมาเลย พี่ดำออกไปอยู่หอนอกกับเมียแล้ว ผมต้องอยู่คนเดียว เอาไอ้ตี๋มานอนเป็นเพื่อนทุกวันเพราะมันบอกแม่มันว่า มาติวกับผม ผมติวให้มันนะ ทั้งวิชาที่มันต้องเอ็นท์ กับวิชาที่มันต้อง “เอ็น” ทุกคืน คืนละสองครั้งแถมเช้าอีกครั้ง โอ้ย อย่าพึ่งอิจฉาผมล่ะคุณ ๆ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 09-09-2007 22:23:54
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 5
ความรัก ก็เดินทางเข้ามาสู่ช่วงของความสุขไปพร้อม ๆ กับการเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ ในสมัยก่อนการสอบเทียบเป็นที่ฮิตมากเนื่องจากทำให้เรามีโอกาสที่จะได้สอบเอ็นท์ถึงสองครั้ง เรียกว่ากันไว้เผื่อเหนียว ผมกับไอ้ตี๋สอบเทียบผ่านในเทอมสองของมอห้า ปี 2538 นั่นเอง เราจึงสมัครเอ็นทรานซ์พร้อม ๆ กันหลังจากที่ช่วยกันติวหนังสือมาพักใหญ่แล้ว ผมมุ่งมั่นวาดหวังกับการสอบในครั้งนี้มาก เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องมานั่งเรียนคร่ำเคร่งอีก 1 ปี แถมต้องมาลุ้นเสียวหัวใจอีกว่าจะเอ็นท์ติดหรือเปล่าหว่า ในปีถัดไปผมเปลี่ยนใจผมตัดสินใจไม่เลือกหมอเพราะเบื่อชีวะมาก ๆ  เลยเปลี่ยนไปเลือกคณะวิศวะทั้งหมด แน่นอนไอ้ตี๋มันก็เลือกแบบเดียวกันกับผม เพราะอยากอยู่ไกล้ ๆ กันนี่นา

*ตื่นเต้นจังเลยว่ะ*

-มึงอย่าลืมไฟฉายนะ เสื้อกันหนาวไปด้วย เดี๋ยวกูโทรเรียกเพื่อน ๆ ไปเจอกันที่หน้าธนาคารกรุงเทพก่อน-

*เก่ง กูไม่ติด มึงจะทิ้งกูใหม* มันทำหน้าละห้อย เพราะมันบอกว่าทำข้อสอบไม่ค่อยได้

-กูไม่ทิ้งมึงหรอก กูน่ะกลัวแต่มึงจะทิ้งกูไปหาอีส้มก่อนน่ะสิ  55555 – ผมกระเซ้ามันเล่นทั้งที่ในใจก็หวั่น ๆ ว่าถ้าใครคนใดคนนึงติดแค่คนเดียว เราจะทำยังไงกันดี

ที่บอร์ดประกาศผล เวลาราว ๆ สี่ทุ่มครึ่งแล้ว เจอคนไปดูผลมากมาย ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด เฮกันดังลั่นอยู่เป็นระยะ ๆ ผมไปเจอพวกไอ้เม่น อีอุ๋ย ไอ้หนึ่ง อีเก๋ ไอ้สน ที่นั่น มันรอกันไม่ไหวจะไปก่อน

*เหี้ยเก่ง มึงกับไอ้ตี๋ไม่ต้องไปดูเลยมึงติด วิศวะ ............... ทั้งคู่*

-เฮ้ยแล้วพวกมึงล่ะ-

*อีอุ๋ยติดจิตวิทยา ............... คนเดียวว่ะ นอกนั้นปิ๋วหมด*

-เออ พวกมึงยังเหลือโอกาสโควต้ากับเอ็นท์ได้ใหม่อีกที อย่าเพิ่งเสียใจ-  ปีถัดมา ไอ้เก๋ติดโควต้าทันตะ ไอ้หนึ่งติดโควต้าสาธา ไอ้สนติดโควต้าวิดยา ส่วนไอ้เม่นติดโควต้าวิศวะ ทั้งหมดได้มี่มอขอ ไม่น่าแปลกใจเพราะโรงเรียนผมก็กวาดหมดอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ

ผมกับไอ้ตี๋ยิ้มให้กันอย่างมีความสุขที่เราไม่ต้องเลือกอะไรทางใดทางหนึ่ง เพราะคนข้างบนเค้าเลือกให้เราแล้วเรียบร้อย แต่ไม่กล้าดีใจมากกลัวเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เสียใจ คืนนั้นเลยฉลองล่อกันไปน้ำแตกน้ำแตนหลายยก ผมถามไอ้ตี๋

-บ้านนอกอย่างมึงจะเข้า กทม ตื่นเต้นใหมวะ-

*เชี่ย กูบ้านนอก มึงก็อยู่ในไหแล้วไอ้เก่ง*

-มึงว่ากูเหรอ- จับมันมาอัดตูดอีกที โทษฐานกำเริบต่อสามี

เรานัดกันไปเที่ยวบ้านของอีเก๋ซึ่งเป็นบ้านอยู่ที่ อ.ภูเวียง ที่มีไดโนเสาร์นั่นล่ะครับ เป็นการเลี้ยงสั่งลาด้วยก่อนผมสองคนจะแยกมาเรียนที่ กทม แล้วอีอุ๋ยมันก็จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยรัฐแห่งนึงในขอนแก่น เรานั่งรถประจำทางกันไปจนถึงภูเวียง บ้านอีเก๋มันอยู่ในตลาดครับ พ่อกับแม่มันไปงานบวชญาติที่ต่างจังหวัด ห้องผมนอน 3 คนมีผม ไอ้ตี๋ กับน้องอีเก๋ชื่อ กร เรียนมอสาม โรงเรียนเดียวกันกับผมครับ คืนแรกด้วยความเงี่ยนจัดผมซึ่งนอนอยู่ตรงกลางคว้าตัวไอ้ตี๋มากอด

-ว่าวกูหน่อยสิ-

*ไอ้บ้า เดี๋ยวไอ้กรตื่น*

-มันหลับไปแล้ว ไม่ต้องส่งเสียงดัง- ได้ยินเสียงไอ้กรกรนดัง ๆ เพื่อยืนยันมาอีกที

การลักอยู่ลักกินแบบนี้ มันทำให้อารมณ์กระเจิดกระเจิงเลยล่ะครับ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาได้ยิน เราต้องทำกันค่อย ๆ สรุปวันนั้น ไอ้ตี๋กับผม น้ำเปรอะกางเกงในทั้งคู่นอนกอดกันอยู่อย่างนั้นล่ะครับ ผมตื่นขึ้นมาเพราะเพื่อน ๆ มันมาเรียกที่ห้องเสียงเอะอะเลยครับ

*เฮ้ย สองผัวเมียนี่ไม่เกรงใจน้องกรเค้าเลยว่ะ นอนกอดกันอยู่ได้ น้องกรอย่าไปสนใจพวกนี้ พวกพี่ชินซะแล้ว* อีอุ๋ยเสียงแปร๋นมาอีกแล้ว

ผมเหลือบขึ้นไปเห็นไอ้กรนั่งอ่านหนังสืองุด ๆ อยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้หันมาทางผม ซึ่งกอดไอ้ตี๋นอนซบอกผมอยู่  ไอ้ตี๋ตื่นขึ้นมาอาย ๆ แม่งตอนมันทำหน้าอาย ๆ แบบนี้อยากจะจับมาเอาอีกสักที น่ารักมาก ๆ ขอคอนเฟิร์ม ไม่รู้เหมือนกันไอ้กรมันก้มหน้าอาย ๆ หรือว่าโกรธกันแน่

ตอนนี้ทุกคนอยู่ข้างล่างดูทีวี แล้วช่วยอีพวกสาว ๆ ทำกับข้าวกัน ผมเดินขึ้นมาข้างบนเพราะนึกขึ้นได้ว่าต้องออกไปซื้อแปรงสีฟันใหม่ให้ตี๋มัน มันลืม เมื่อเช้าแปรงของผมไปแล้ว

-อ้าว กร ไม่ลงไปเล่นกับพี่พี่ข้างล่างล่ะ- อู้ย ไอ้กร อ่อยกูสุด ๆ (คิดไปเอง) มันถอดเสื้อใส่กางเกงบอลนอนอ่านนิตยสารบนที่นอน ห้องมันไม่มีเตียงน่ะครับ เคนี่เป็นลำตั้งโด่เลยนะมึง สงสัยไม่ได้ใส่กางเกงในมันถึงตั้งชี้ขึ้นอย่างนั้น ผมกลืนน้ำลายเอื้อก อยากดูก็อยากดู กลัวน้องมันว่าก็กลัว

*ไม่ล่ะครับพี่ สักพักจะลงไปครับ* มันเหลือบมามองผมซึ่งกำลังจะหยิบกระเป๋าตังค์

*พี่เก่งกับพี่ตี๋เป็นแฟนกันหรือครับ*  อ้าวเวรใหมล่ะ

-ใช่ครับ อย่าคิดอยากเลียนแบบล่ะ เดี๋ยวอีเก๋เอาตาย- ผมกระเซ้ามัน

*ถ้ามีแฟนน่ารักแบบพี่ตี๋ กับพี่เก่ง ผมก็เอาครับ* ไอ้ห่ะ มีแฟนน่ารักแบบมึงกูก็เอา นอนอ่อยกูอีกนี่

-แหะ ๆ – พูดไม่ออก ไอ้สิ่งที่อยากจะพูด

ที่ครัว มีผม อีเก๋ ไอ้ตี๋ ยืนคุยกัน

-เก๋ น้องมึงเป็นเกย์เปล่าวะ- ผมกระซิบเบา ๆ

*ในที่สุดมึงก็รู้เหตุผลว่ากูทำไมจัดมึงสองตัวไปนอนกับมัน* อีเก๋หัวเราะร่าน

-ทำไมล่ะ- ไอ้ตี๋ถามบ้าง

*มันชอบมึงสองตัวน่ะสิ จำได้มั้ยที่พาไปดูผลสอบด้วยกัน มันถามกูใหญ่ว่าเห็นสองคนนี้หอมแก้มกันด้วยตอนรู้ว่าเอ็นท์ติด*

ผมกับไอ้ตี๋มองตากัน ไอ้ตี๋ขยับมุมปากเล็กน้อย เชิงหึง ส่วนผมทำหน้าทะเล้นใส่มัน เชอะทำมาหึง เดี๋ยวกูจับลงโทษสำเร็จตูดเลยคืนนี้ ไอ้ตี๋มันก็อยากลองล่อผมนะ แต่ผมไม่ยอม หลังจากที่เห็นมันเดินขาถ่างเป็นอาทิตย์  แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันก็มีความสุขทุกที ตอนนี้เริ่มเข้าที่แล้วครับ

คืนนั้นที่ห้องนอน กึ่ม ๆ กันกำลังดี เพราะกินเบียร์มา ไอ้น้องกรสิ เมาเยอะ อ้อแอ้เลย

ผมนอนกอดไอ้ตี๋อยู่

*เก่ง อยากกอดเด็กใหม*

-ใครวะ-

*ไอ้กรไง*

-มึงลองใจกูเปล่าเนี่ย เกิดกูเอาจริงมึงจะทำยังไง-

*เหอะน่า น้องมันก็น่ารักนะ ดูท่าทางมันชอบมึงด้วยล่ะ*

-ไม่เอาอ่ะ กูไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่านอกใจมึง ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง มึงไว้ใจกูได้ กูมีมึงแล้ว กูก็ไม่อยากมีใครทั้งนั้น-

*อือ* ไอ้ตี๋ตาแดง ๆ เหมือนจะร้องให้

-เฮ้อ มีเมียขี้แยอีกแล้วกู ว่าวหน่อยเดะวันนี้-

มันล้วงไปในผ้าห่มจับของผมรูดเบา ๆ ผมทนไม่ไหวแล้วเป็นไงเป็นกัน ลุกขึ้นมาจับยัดตูดมันเลย ไอ้ตี๋สะกิด

*เก่ง ไอ้กร*
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 10-09-2007 01:11:55
โอ่มายก๊อด น้องตี๋ช่างรู้ใจจริงๆ
หาเมียแบบนี้ได้ที่ไหน
 :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 10-09-2007 10:04:42
อย่าบอกนะว่ากรจะร่วมวงด้วยอ่า  :m30: :m30: :m30: :m30: :m30:

 :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-09-2007 11:26:09
ทรีซัมเหรอเนี่ย เรื่องนี้ดุเดือดได้ใจจิงๆ  :a9:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 10-09-2007 19:52:26
น้องกรจะมาร่วมวงด้วยป่าวน้า

 :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-09-2007 21:17:04
 :m10:  :m10:  :m10: ถ้าน้องกรมาอีกคน  :m25:  :m25:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 10-09-2007 22:21:54
เร้าใจตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว :m10:

พออ่านมาถึงตอนนี้ :m25: โอ้ มันช่าง :o8:

มาต่อด่วนเลยคับ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 10-09-2007 22:45:30
รีบน หื่นถูกใจ อิอิ ...
 ต่อครับ ต่อโดยด่วน..
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 10-09-2007 23:46:04
  :a5: แอะ เอ็นซี เลือดกระฉูด   :m25: :m25: :m25:

  มีความสุุขขขข  :m2: :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 11-09-2007 15:01:08
 :m25: :m25: :m25:
ร่วมหื่นด้วยคน
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 12-09-2007 19:35:36
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 6

มีเวลาอีก 1 เดือนกว่าจะได้เข้า กทม ผมกับไอ้ตี๋ตระเวนตามที่ต่าง ๆ เพื่อร่ำลาเพื่อน ๆ ผมพามันกลับบ้านครั้งนึง พี่สาวกับพี่ชายผมชอบมันมาก เพราะมันทำตัวเรียบร้อย ไม่เถื่อน เป็นเด็กดี หารู้ไม่ว่านี่ เหอ ๆๆๆ น้องสะใภ้เมิงเองล่ะ อิอิ พ่อกับไม่ไม่อยู่ไปเที่ยวกันตามประสาสองตายายที่ระยอง พี่ก้อยเอาใจมันสารพัดราวกับรู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ส่วนพี่เต้ยก็มาเลียบเคียงถามผมในเช้าวันนึง

*เก่ง มึงมีแฟนหรือยัง*

-ทำไมล่ะพี่-

*เปล่า ถามดูเฉย ๆ *

-อ้าว ไม่มีเหตุผลเลยนี่-

*เปล่า แล้วไอ้ตี๋ล่ะมียัง*

-ทำไมล่ะพี่-

*กูว่ามึงสองคนเป็นแฟนกันก็ท่าจะเหมาะนะ คนนึงแม่งเชี่ย คนนึงแม่งเรียบร้อยน่ารัก*

-ไอ้พี่บ้า อยู่ดีดีจะมายัดเยียดผู้ชายให้น้อง-

*แล้วมึงทำไมต้องหน้าแดง แอ่ะ แอ่ะ กูว่าแล้วกูคุยกะไอ้ก้อยเมื่อคืน ว่ามึงสองคนนี่ สวีทกันเกินเหตุ กูสันนิษฐานถูกใช่มั้ยวะ*

-พี่อย่าบอกป๊ากะม๊านะ-

*เฮ้ย มึงจะเป็นยังไง ไม่มีใครสนใจ นั่นมันความสุขของมึง ขอให้มึงเป็นคนดี ไม่เกเร อยู่ในสังคมนี้ได้อย่างเป็นคนดี มันก็น่าจะพอแล้ว*

-พี่ก้อยล่ะ-

*มันน่ะหัวทันสมัยกว่าที่เอ็งคิดโว้ย ถึงมันจะเป็นอาจารย์ก็เหอะนะ มันบอกสมัยนี้ ไม่มีใครเค้าถือว่าเป็นความผิดปกติ แต่ก็ไม่ถึงขนาดจำเป็นต้องชี้นำสังคมให้ใครเป็นแบบนี้ล่ะ มันบอกว่า ของแบบนี้ อยู่ในโครโมโซมว่ะ  ไม่ใช่โรค กูล่ะเบื่อ คุยกะอาจารย์สอนชีวะ *

-ขอบคุณมากพี่-

ทางไอ้ตี๋มั่ง

*เก่ง พี่ก้อยบกว่าให้กูดูแลมึงน่ะ*

-หือ ทำไมล่ะ-

*แกบอกว่ามึงน่ะ ไม่เคยมีใครเอาลง ไม่ยมรดราวาศอกง่าย ๆ มีกูคนเดียวที่ทำให้มึงเปลี่ยนไป*

-อือ พี่ก้อยกะพี่เต้ยมันรู้แล้ว-

*เค้าว่าไรมึงเปล่า*

-เค้าเข้าใจ บ้านกูเป็นบ้านพัฒนาแล้วเว้ย พ่อกับแม่กูสอนเด็กในวิทยาลัยครู เจอเรื่องแบบนี้มาเยอะ-

*บ้านกูสิ ไม่รู้ว่าจะรับได้ใหม พ่อกูโหด ๆ อยู่ด้วย*

-ไม่ต้องให้เค้ารู้ เพราะมึงก็มีกูอยู่แล้วนี่นา กูกับมึง ก็น่าจะพอแล้วใช่มั้ย-

*เออ* ตาแดง ๆ อีกแล้ว เมียกูบ่อน้ำตาตื้นชิบ อิอิ

*เตยมันบอกว่ามีคนมาเล่าให้มันฟัง เรื่องกูกับมัน*

-แล้วมันว่าไง-

*มันบอกมันไม่สนใจหรอก เพราะมันรู้ว่า พี่เก่งเป็นคนดี*

-โห น้องเตยน่ารักจัง รักพี่เสียดายน้องแล้วว่ะ-

*กูบอกแล้วไง ไม่ให้ยุ่งกับมัน* ทำหน้าทะเล้น แต่เสียงขึงขัง คงนึกถึงวันที่มันไปฉุดมือผมออกจากอีเตย ทำกูได้อารมณ์อีกแล้ว บอกว่าอย่าทำหน้าอย่างนี้ ...

-อย่างนี้ต้องทำคุณไถ่โทษ-

ไม่ต้องบอกนะครับ ว่าไอ้ตี๋โดนไปกี่ที อิอิ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 12-09-2007 19:42:30
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 7

เรามีกันเพียงสองคน อยู่ทน จนคนสงสัย ว่าเราทำไมทนไหว รักกันได้ไง ทั้งที่ชอบโกรธกัน เล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ยอมกันไป (ความจริงในใจยังโกรธ) เล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ยอมอภัย (ในจริงน่ะกลัวเป็นโสด) รักเรามันคงจะเป็นอย่างนี้เพราะมีกันอยู่สองคน .... เพลงโปรดไอ้ตี๋มันครับ แต่ผมไม่ค่อยทะเลาะกันนะครับ แค่แอบหวานจนเลี่ยนบ้างแค่นั้นเอง (อ้วก) จนเวลาล่วงเลยผ่านไป เราเข้ามาอยู่ กทม พักหอข้างนอกนะครับ ตอนนั้นปีที่ผมเข้าไม่มีหอมหาวิทยาลัย เราก็ไปเรียนด้วยกันทุกวัน นั่งด้วยกัน ตัวติดกันตลอด แต่ยังไม่มีเพื่อน ๆ คนใหนสังเกตุเห็นความสัมพันธ์ฉันผัวเมียของเราหรอกนะครับ นอกจากผีด้วยกันเอง ....

ญาติผมมีร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่ในสุขุมวิท 12 พอดีเขาขาดคนงานนะครับ แล้วภาษาอังกฤษผมก็ค่อนข้างดี ผมเลยอาสาไปทำเวท (waiter) ให้เค้า เป็นร้านอาผมครับ ฝรั่งเป็นลูกค้าหลัก ขายเบเกอรี่ อาหารหรั่ง ชื่อ อานนท์ วันใหนที่ผมเรียนเสร็จ ผมจะต้องไปช่วยที่ร้าน ไกลเหมือนกันนะ จากทุ่งครุ (รู้หมดเลยกูเรียนที่ใหน) มาสุขุมวิท แต่ทำไงได้ ต้องทำสองเดือน เพราะคนนั้นเค้าลาน่ะครับ จะกลับมาทำอีกสองเดือนข้างหน้า เพื่อความเสมอภาคผมเลยยุให้ไอ้ตี๋มันเข้าชมรมดนตรีไทย มันเล่นระนาดเก่งครับ เพราะจะได้มีเวลาไปทำประโยชน์อย่างอื่น ไม่ใช่ว่ามานั่งเงี่ยนกันสองคน อิอิ

เหนื่อยมากเลยนะครับ เพราะกว่าจะกลับถึงหอก็ ไม่ต่ำกว่าสามหรือ สี่ทุ่ม คนเก็บร้านมีต่างหากครับ สบายหน่อย โชคดีอีกอย่างที่ขากลับอาจะไปส่งเพราะบ้านอาอยู่ทางพระรามสอง (เจือกเปิดร้านที่สุขุมวิท) ผมกลับมาไอ้ตี๋มันก็จะรอกินข้าวทุกวัน เราสองคนซื้อโทรศัพท์มือถือแล้วครับ ทันสมัยซะด้วยรุ่น Nokia 1651 สีฟ้าเหมือนกัน ไอ้ตี๋มันชอบสีฟ้า ไม่ใช่ถูก ๆ ครับเมื่อก่อน สองหมื่นกว่าบาท ค่าบริการอีกเดือนละ 500 บาท ไม่รวมค่าโทรนะ  ผมถึงหน้าปากซอยก็จะโทรเรียกมันออกมากินข้าวกัน เป็นอย่างนี้ทุกวัน จนอยู่มาวันนึง

-ตี๋ ถึงหน้าปากซอยแล้ว หิวข้าวมั้ย-

*ไม่อยู่นะ ตอนนี้อยู่ถาบัน (เมื่อก่อนเค้าเป็นถาบันเนาะ)*

-ทำไรอยู่อ่ะ สามทุ่มกว่าแล้ว-

*อยู่ชมรม เดี๋ยวกินกับพี่ที่ชมรมเลย กินไปก่อนเลยนะ*

-เออ อย่ากลับดึกมากแล้วกัน-

ในเดือนที่ 2 เดือนสุดท้ายแล้วที่ผมจะทำงานพิเศษ

-ตี๋กินข้าวมั้ย-

*อยู่ชมรมกินข้าวแล้ว พี่เค้าซื้อข้าวกล่องมาให้*

-เออ ถ้างั้น กูไม่หิว จะเข้าไปที่หอเลย ไม่ค่อยสบายนะ อย่ากลับดึกล่ะ-

*กินยาด้วย*

ผมกำลังเดินผ่านมาทางปากซอยที่มี 7-11 อยู่เลยคิดว่าจะซื้อน้ำบิ๊กกัล์ฟ กับซื้อช็อกโกแลตขาวไปไว้ให้ตี๋มันหน่อย มันชอบกิน เปลี่ยนใจไม่เอาดีกว่า ไปกินน้ำปั่นของโปรดผมที่ร้านน้ำปั่นไกล้ ๆ สนิทกันครับ แล้วค่อยมาแวะ 7-11 ตอนกลับ

*มะเขือเทศปั่นใส่มะนาวนิดนึง* พี่พร เจ้าของร้านบอกอย่างรู้ทัน *อีกคนไปใหนล่ะวันนี้*

-อ๋อ ยังไม่กลับจากถาบันพี่ ผมเอาหนมปังเย็น ราดชาปั่นด้วยนะครับ-

ผมเดินไปนั่งข้างในร้าน เพราะมาคนเดียวไม่อยากอยู่หน้าร้าน คนเดินไปเดินมาเยอะ เวียนหัว ได้มุมสงบ ๆ ก็เผอิญเจอรุ่นพี่สามคนกำลังนั่งกินข้าว

*เก่งมานั่งด้วยกัน* พี่ปลา ผู้หญิง เรียก

-ขอบคุณครับ พี่พี่ทานกันนานหรือยังครับ-

*ไม่หรอก คู่หูไปใหนแล้ว* พี่อ้วน ผู้ชาย เป็นว้ากเกอร์ด้วยนะคนนี้ หล่อสุด ๆ

-ไปชมรมครับ ผมเพิ่งกลับจากทำงาน-

*มากินด้วยกันสั่งอะไรมายัง* พี่เต๊ก พี่รหัสผม แฟนพี่ปลาบอก

-เรียบร้อยแล้วครับ-

พวกผมนั่งอยู่ที่ตะในสุดของร้าน คุยกันอย่างสนุกสนาน สมควรแก่เวลาจึงจะกลับกันได้แล้ว พี่ปลากะพี่เต๊ก กลับด้วยกัน ส่วนผมตกลงว่าต้องเดินกลับไปในซอยกับพี่อ้วน เพราะพี่อ้วนพักอยู่อาคาร 2 ผมอยู่อาคาร 1 ผมเดินออกมา ที่หน้าร้าน มีโต๊ะให้นั่งกินของอยู่ 2 ตัว ตัวหนึ่งมีเด็กนั่งเป็นกลุ่มใหญ่ ส่วนอีกตัวมีคนนั่งอยู่สองคน ภาควิชาผมซะด้วย คนนึง

*เอ๊ะ เด็กภาคเรา ใส่ช๊อบสีนี้ ใครวะ* ดูไม่ถนัดน่ะครับ พี่อ้วนพูดขึ้น เราเดินออกมาจากร้านกัน

ส่วนผม ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าใคร นอนอยู่ข้างมันทุกคืนนี่ครับ ขาว ๆ ทรงผมนี้ มันเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้ตี๋ ส่วนอีกคน ผมไม่รู้ ไม่ใช่เด็กภาคผมน่ะ มันช็อบคนละสี ผมรีบเดินจะทักมัน

*แน้น้อ ตี๋ ทำไรน่ะ มานั่งกินข้าวกับพี่กลดอยู่นี่เอง เก่งอยู่ข้างในน่ะ มากับพวกพี่กำลังจะกลับแล้ว*

ได้ยินเสียงพี่ปลาพูด ผมเห็นไอ้ตี๋มันมองมาทางผมนิดนึงแล้วลดมือที่มีทิชชูของมันลงจากปากไอ้คนที่ชื่อ กลดไรนั่น เรียนภาค ................  ดูท่าทางมันตกใจที่เห็นผม

*เก่ง ใหนบอกไม่สบาย*

-ฮือ มึงก็บอกว่ากินข้าวแล้ว- ผมกลายเป็นมึนตึงอัตโนมัติ

-ไปก่อนนะ- ผมพูดได้แค่นั้น

ผมเดินก้มหน้างุดตลอดทาง จ้ำอำจ้ำอำ จนพี่อ้วนหอบแฮ่ก ๆ ตามหลังผมมาต้องเรียกไว้

*เก่ง รอพี่ด้วยเด่ะ รีบไปใหนวะ*

-ขอโทษพี่ ปวดฉี่-

ผมก็แยกทางกับพี่อ้วนที่โถงข้างล่างไป เดินขึ้นชั้นสามเข้าห้องแล้วนอนแผ่ลงบนเตียง ไม่นะ ผมห้ามความคิดของตัวเอง อย่าคิดอะไรมาก มันก็แค่กินข้าวด้วยกัน มันอาจะปากเปื้อนแล้วเช็ดให้กันก็ได้ ผมต้องไว้ใจมันสิ ในใจผมเต้นแรง เมื่อความจริง กับสื่งที่คิดอยู่ มันเอื้ออำนวยเหลือเกิน ว่าไอ้ตี๋ มันกำลังจะนอกใจผม

กริ้ง ๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น สายสั้น ๆ แบบนี้ต้องเป็นสายในแน่ ๆ ผมตะกายไปรับอย่างเบื่อหน่าย

*พี่อ้วนเอง เก่งเป็นอะไรหรือเปล่า เห็นสีหน้าไม่ค่อยดี*

-ผมไม่สบายนิดหน่อยน่ะครับพี่-

*กินยาหน่อยนะ มียากินใหม*

-มีครับ ขอบคุณครับ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า ถ้าไงโทรลุกผมด้วยนะครับ 7.45น- น่านกรู อ่อยซะ ไม่เว้นต่เวลาเครียด ๆ อิอิ

*พักผ่อนนะ* โถ่เอ้ย ใครจะจับทางไม่ได้ อีเรื่องแค่นี้ มีแต่ผีเท่านั้นล่ะที่มองเห็นผีในคราบวิศวะกรบึกบึนด้วยกันออก

ไอ้ตี๋กลับมาแล้ว ผมยังนอนพังพาบอยู่บนเตียง

*กินยายัง*

-ฮื่อ จะนอนแล้ว-

*อาบน้ำก่อนสิ* มันพูดไปพลางถอดเสื้อผ้าไป ไม่ได้มองมาที่ผมเลยสักนิด

-ไม่-

ผมนอนหันหลังให้มันทั้งคืน มันคงมีอะไรอยากจะพูดกับผมหลายอย่าง แต่คงไม่กล้า ผมก็มีอะไรพูดกับมันหลายอย่าง แต่ผมไม่กล้า .... ไม่กล้าทำให้คนรักของผมลำบากใจ.... คืนนั้น เป็นคืนคืนนึง ในรอบหลาย ๆ ปี ที่ผมนอนไม่หลับ และมันก็ไม่ได้อยู่ในอ้อมแขนของผมเหมือนเคย ...
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-09-2007 20:07:49
บรรยากาศเศร้าจังเลย มีไรก็พูดกันสิ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-09-2007 20:25:04
ตี๋มีพิรุธ  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 12-09-2007 22:19:27
ตี๋  มีความลับไรอ่ป่าว

 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 12-09-2007 23:15:27
โอยยยยย อ่านแล้วอึดอัด :a6:

ถ้าตี๋มีใหม่ ก็ปล่อยมันไปเหอะ ถ้าคนมันไม่มีใจ ก็ช่างมัน :m16:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 12-09-2007 23:55:01
อ๊ากกก ไม่มีไรกันใช่ไหม
คงแค่เรื่องบังเอิญเนอะ

หรือจะจริงดังว่า ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นาน  :sad2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: min_min ที่ 13-09-2007 08:01:38
แหง่ะ   ตี๋นอกใจเหรอ    ม่ายยยยยยยจิง

มีไรคุยกันนะ   แอบเชียร์อยู่ห่างๆๆ

 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 13-09-2007 09:26:17
ตี๋ทำงี้ได้ไงอ่ะ  :o
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: theera ที่ 13-09-2007 12:35:58
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-09-2007 13:20:09
อ้าวทำไมถึงทำกันแบบนี้ล่ะ ตี๋
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 13-09-2007 15:24:14
 :m5:

มาต่อเร็วๆนะเจ้าคะ

อึดอัดมากมาย

ไหงเค้าทำกันอย่างนี้  น่าจะคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย

แกล้งกันเปล่า........

55+++ มันเป็นเรื่อที่น่าเศร้า...มากมาย

อยากอ่านต่อเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 13-09-2007 15:26:39
คงปรับความเข้าใจกันได้นะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 14-09-2007 21:01:07
รักไป – เยไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืน ฝืนกิน น้ำกามอยู่อย่างนี้ – ตอนที่ 8
เปลี่ยนชื่อเรื่องนิดหน่อย แต่ยังเป็นเรื่องราวของ เก่ง กับ ตี๋เหมือนเดิมครับ

7.45น. เป๊ะ ๆ ยังกับรู้ว่าถ้าขาดหรือเกินกูจะงอนเอาได้ พี่อ้วนหนอพี่อ้วน พี่อ้วนโทรเข้ามาปลุก (Morning call) ไอ้ตี๋เป็นคนรับ ส่วนผมยังคงนอนหันหลังให้มันเหมือนเดิม

*ขอบคุณครับพี่อ้วน ไม่มีอะไรหรอกครับ ครับ ขอบคุณครับ* มันพูดไรกันนานนักหนาวะ

*นี่ ตื่นแล้วก็ไม่ต้องแกล้งแอบฟังหรอก* ผมเงียบ ไอ้ตี๋กระโดดขึ้นมาบนเตียงเป่าลมใส่หูผม ผมสะดุ้งแต่ยังรักษาฟอร์มไม่ลืมตา นอนตะแคงหันหลังให้

*ใครน๊า หึงจนลมออกหู* เค้ามีแต่โกรธจนลมออกหูหรอกไอ้เบื้อก สงสัยแม่งอ่อนภาษาไทย

*หึงหรือเปล่า* ไอ้ตี๋ทำเสียงอ้อนสุด ๆ

*เอ๊ะ ไม่สบายมากหรือเปล่า* มันเอื้อมมือมาแตะหัวผม

*ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากหึง* มันยังทำเสียงทะเล้นไม่เลิก กูน่ะทนไม่ไหวแล้ว ... น้ำตาร่วงเผาะ อุตส่าห์กลั้นตั้งนาน กูเคยเห็นแต่เมียร้องเว้ย แต่วันนี้  ไม่รู้มันไหลออกมาเองได้ยังไง ผมสะอื้นกระซิก ๆ เหมือนเด็ก ๆ ได้ยินเสียงไอ้ตี๋รีบกระโจนข้ามตัวผมมา นั่งข้างเตียงผม ผมลืมตามองหน้ามันยิ่งร้องเข้าไปอีก ไม่สามารถควบคุมอาการตัวเองได้แล้ว

*เป็นไร * มันจับผมเขย่า หน้ามันดูซีด ๆ ไม่ทะเล้นอีกแล้ว มันโอบผมไว้

-มึงอยากไปใหนกับใครมึงก็ไป ขอให้มึงบอกกูดีดี- ผมบอกกับมันทั้ง ๆ ที่สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้น

*โอ๋ โอ๋ ขวัญเอ้ยขวัญมา กูไม่เล่นแล้ว กูขอโทษ*

*ไอ้พี่กลดน่ะมันลูกพี่ลูกน้องกูเอง มันเพิ่งจะได้เบอร์โทรกูจากน้องสาวกูเมื่อตอนเย็น ตอนกูเดินออกจาถาบัน มันโทรมาหากูบอกว่าอยู่หน้า 7-11 กูก็เลยวะไปหามัน แค่เนี้ย*

*กูรู้ว่ามึงโกรธ แต่มึงก็กลัวคำตอบของกูใช่มั้ยว่า กูจะมีคนอื่นจริง กูเลยปล่อยเลยตามเลย แกล้งมึงอ่ะ*

*กูขอโทษนะ.....* มันทำเสียงอ้อนตีนอีกแล้ว

-แล้วทำไมต้องเอาทิชชู่เช็ดปากให้มันด้วยล่ะ- กูจำได้ทุกช๊อตบาดตาเว้ย ผมถามแล้วทำหน้าสลัดสะบัด

*แต่ช้าแต่ โอ๋ ๆๆๆๆ อย่าร้องเลย... ทำไมขี้หึงอย่างงี้นะ บ้านกูกับบ้านมันสนิทกันมาก ยังกะพี่น้องจริง ๆ เพราะบ้านกูไม่มีพี่คนโต แล้วบ้านมันก็ไม่มีน้อง กูเห็นไอติมเปื้อนปากมันเลยเช็ดให้ แล้วยังอบรมมันอีกว่า โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว เรียนมหาวิทยาลัยยังให้ไอติมเปื้อนปากอีก เดี๋ยวแฟนก็ทิ้งหรอก เค้ามีแฟนแล้วเว้ยอยู่แถวบ้านนั่นล่ะ เด็กอาชีวะ*

-ทำไมต้องทำสายตาหวานฉ่ำใส่กันขนาดนั้นด้วย- เถียงข้าง ๆ คู ๆ จริง ๆ เห็นเหตุการณ์หน่อยเดียวเอง พูดเอาเองเป็นตุเป็นตะ เฮ้อ กูนี่ ขี้งอน ขี้หึงสุด ๆ

*เช็ดน้ำตานะ แล้วไม่ต้องร้องแล้ว ... กูขอโทษที่ไม่ได้พูดกับมึงตั้งแต่เมื่อคืน แล้วปล่อยเวลาให้มันผ่านไป กูเข้าใจและเชื่อใจมึงเสมอที่มึงบอกว่า มีกูแล้วมึงจะไม่มีใคร..*

*คราวนี้มึงจะเชื่อกูมั้ย..* เมียกู ร้องให้อีกแล้ว กูยังจะทำให้มันร้องให้อีกหรือวะ

ผมรีบลุกขึ้นเช็ดน้ำตามันแล้วโอบมันมาซบอก ทั้ง ๆ ที่ตัวผมก็กระซิก ๆ ไม่หยุด ผมปาดน้ำตามันแล้วบอกว่า ขอโทษ

*มึงไม่ผิดหรอก กูไม่น่าปล่อยเวลาให้มันผ่านไปนานข้ามคืน กูขอโทษ*

ผมปิดปากมันด้วยปากผมทันที ไม่ต้องมีคำขอโทษอะไรอีก ผมจูบปากมันเนิ่นนานราวกับว่า ไม่ได้จูบมันมาเป็นปี เป็นจูบที่หวานซึ้งมาก ๆ จูบทั้งน้ำตาเนี่ย ผมถอนปากจากปากมัน มองหน้ามัน ทั้งสองคนโผเข้าหากันร้องให้เหมือนเด็ก ๆ ผมจับเสื้อช้อบมันถอดออก เสื้อยืดข้างใน ปลดกางเกงมันลงเรียบร้อย มันเอื้อมมือมาดึงกางเกงผมลง เจี๊ยวไม่แข็งแล้วงานนี้ เศร้ามาก มันจับผมผลักลงกับเตียงอย่างแรงแล้วหัวเราะทั้งน้ำตา

*ไอ้เก่ง น้ำตาแตกเลยนะมึง วันนี้กูจะเอามึงคืนเพราะมึงเสือกไม่ไว้ใจกู*

-ไอ้เชี่ย มึงนั่นแล่ะ เห็นเป็นญาติกันก็เหอะ ไว้ใจไม่ได้- เริ่มเถียงกันอีกแล้วครับ เหมือนเด็ก ๆ มั้ย น่ารักดีนะครับ

*กูจะทำให้มึงรู้ว่ากูรักมึงแค่ใหน* มันพูดเหี้ยม ๆ แบบไม่เคยเป็นมาก่อนครับ ตาหื่นมาก ๆ ได้อารมณ์มาก ๆ

-มึงจะทำอะไรกู- ผมแกล้งทำเสียงออดอ้อน แล้วผมท้ามันต่อ

-รีบทำซะ ก่อนจะเจ็บตัว 55555- ผมหัวเราะทั้งน้ำตาบ้าง

ไอ้ตี๋ไม่รอช้า จับKเข้าปากมิดในครั้งเดียวตามถนัดของมัน ผมร้องอุ๊บส์ออกมาหน่อยเดียว แล้วครางหงิงๆ ๆๆ ต่อเลย โอ้ว มันหื่นบ้างบางทีก็ดีนะเนี่ย ทุกทีมีแต่ผมหื่น

มันตวัดเล่นกับปลาย สลับกับรูดด้วยปากลงจนสุด ผมก็เด้งเด้ารับจนไข่ผมกระแทกหน้ามันดังพลั่ก ๆ  เงี่ยนได้อารมณ์ดีเหลือเกิน

-ตี๋ครับ เก่งจะออกแล้วครับ- ผมบอกมัน พร้อมกับเอามือดันมันออก อยากทำอย่างอื่นมากกว่าแตกคาปากมัน มันไม่ยอมครับ ยิ่งดูดหนักกว่าเก่าอีก ผมร้องครางออกมาไม่เป็นภาษามนุษย์แล้ว เด้ารับอีกสามสี่ทีก็แตกออก อ้าส์ .... ชิบหาย ไหลยังกะน้ำตก ไอ้ตี๋จัดการกินจนหมด คาบKไว้สลับกับเลีย โอ้ว ๆๆ ผมครางไม่หยุด มันได้อารมณ์ดีมาก ๆ

*ยังไม่จบครับเก่ง ตี๋มีอะไรให้เก่งอีกอย่าง* ไรวะ เมียกูมีเซอร์ไพรส์หรือนี่

ไอ้ตี๋เล็กมุดลงไปหว่างขาผมใช้นิ้วชี้ป้ายร่องตูดผม ปรื้ด โอ้ว กูรู้แล้ว ชะตากูขาดแน่แล้ว .....

-ตี๋ครับ เอาจริง หรือครับ- หน้ามันทั้งหื่นแต่ตาเป็นประกาย ราวกับเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ มันไม่ตอบแต่เอานิ้วจิ้มลงในรูผมอย่างแรง

-โอ้ย ไอ้คุณตี๋ ผัวเจ็บนะครับ-

-ไอ้เชี่ย มานี่กูสอน- พวกเด็กอ่อนหัด

-เอาทีละนิ้ว ค่อย ๆ เออ อย่างนั้นล่ะ โอ้ว ๆ ซี้ดส์ เพิ่มเป็นสองสิ ควาน ๆ หน่อย- ผมทั้งครางและมองหน้ามันไป ได้อารณ์เงี่ยนมาก ๆ ครับ

หน้ามันเป็นแดง ๆ ไม่รู้หงี่จัด หรือว่าอายจะได้เอาตูดผัว

*เก่ง มันตอดตุบ ๆ เลยอ่ะ* ดูพูด ทำเสียงเหมือนเด็ก ๆ อีกแล้ว น่ารักจังเมียใครว้า...

-เออ ตั้งแต่ไอ้ปลาเมื่อห้าปีที่แล้ว กูก็ไม่เคยกับใครเลย-

*จะเข้าได้มั้ยเนี่ย อมให้หน่อยดิ*

มันหันมาให้ผมอม ผมรูดเน้น ๆ จนมิดลำมันร้องซี้ดส์ซ้าดส์ใหญ่เลย มันเอาออกจากปากแล้ว แข็งปั๊ก เจี๊ยวมันขนาดย่อม ๆ ครับ ไม่ได้ขลิบแต่รูดได้หมด มันบานเป็นสีชมพูน้อย ๆ

-เฮ้ย จะทำอะไรก็รีบ ๆ สิวะ เดี๋ยวเจ็บตัวหรอกมึง ชักช้า- มันทำตาเป็นประกาย ตื่นเต้นสิไอ้สัด เดี๋ยวล่มปากอ่าวขึ้นมาล่ะมึง กูจะหัวเราะให้ฟันหัก โอ้ มันเข้ามาแล้ว โห เข้าทีละครึ่งแบบนี้กูก็เจ็บตายห่าสิ

*เป็นของตี๋นะครับ* มันกระซิบข้างหู ผมยกปากไปดูดเป็นคำตอบ มันกระทุ้งเข้ามิดด้ามเลย ผมหน้าเหยเกสิครับแบบนี้

-ตี๋ เจ็บ- ครางหงิงเป็นแมวป่วยเลยครับ อกสามศอกครึ่งอย่างผม

มันไม่ยอมครับ คราวนี้เริ่มซอยช้า ๆ ผมหายเจ็บไปเมื่อไหร่ไม่รู้ คราวนี้ ครางออกมาอย่างไม่อายเลย เสียวนี่หว่า มือผมก็ว่าวตัวเองไปด้วย มันเร่งซอยถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ผมรู้สึกว่ารูตูดผมมันตอดKไอ้ตี๋ตุบ ๆ ตามจังหวะการหายใจของผม จนผมทนไม่ไหวแตกออกมาอีก คราวนี้พุ่งมาถึงหน้าผมเลย ไอ้ตี๋มันเกร็งตัวแล้วกระเด้าอย่างแรง สงสัยไกล้ถึงแล้ว ผมเลยช่วยเด้ากระแทกKมัน เวลาที่หมอยมันกระแทกกับตัวผม โอ้ย รู้สึกดีจริง ๆ

*โอ้ย  ออกแล้ว ..* ผมรู้สึกมีอะไรฉีดออกมาอุ่น ๆ มันชักเข้าออกอีก 2 ทีก่อนจะแช่ไว้อย่างนั้นแล้วนอนทับลงบนตัวผม กอดผมไว้ ผมจูปปากมันทีนึง

*ถ้ารู้ว่าหนุกแบบนี้ กูเอามึงทุกวันดีกว่า* มันทำทะเล้น หัวเราะคิกคัก น่ารัก ยั่วอารมณ์กูอีกแล้ว

-เดี๋ยวปากดี อย่างนี้ต้องโดนอัดตูดสั่งสอนว่าอย่าริอ่านเอาตูดผัว  กูไม่ให้ใคร ให้มึงคนเดียวเว้ย-

-ป่ะ .. อาบน้ำด้วยกัน แต่งตัวไปโรงเรียนกันดีกว่า นักเรียนอ่อนหัด-

*อุ้มหน่อยสิ คนขี้หึง*

-อุ้มก็ได้ อุ้มแตงนะ-

และแล้ว เราก็รู้กันเองโดยอัตโนมัติ ว่าเรารักกันมากแค่ใหน โดยไม่ต้องมาบอกว่า “ผมรักคุณ” ปัญหา มีไว้ให้แก้ไม่ได้มีไว้ให้คลุมเครือ  ความเข้าใจ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าเงื่อนไขอื่นใดทั้งปวง

โอ้ยเหนื่อยโว้ย ..............



หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 14-09-2007 21:03:11
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 9

ไม่รู้ว่ามีคนบ้าติดตามเรื่องคร่ำครวญของผมหรือเปล่านะครับ ผมทนไม่ไหวครับ คิดถึงไอ้ตี๋เล็กมันมาก ....  ทุกภาพในความทรงจำ ยังเด่นชัดอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งเหตุการณ์ในสองตอนต่อจากนี้ไป ... ติดตามอ่านอย่าให้ข้ามแม้แต่วรรคเดียวนะครับ ไปโกลเด้นไมล์มาครับเมื่อสักครู่นี้ เลยเช่าหนังเรื่องนึงมาดู ไม่รู้เคยดูกันเปล่า “ยอดยาหยี” ช่อง 3 ครับเมื่อก่อน มันก็นานมากเลยนะ ผมว่าไอ้ตี๋เล็กมันติดละครงอมแงมเลยล่ะ เรื่องนี้ด้วย ผมจำได้ เพราะเรื่องนี้ เราเลยตัดสินใจไปเที่ยวทุ่งทานตะวันกันที่ลพบุรี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   มี MSN มาถามครับ ว่าทำไมตอนใหม่ตั้งชื่อว่า เก่ง กับ น้องตี๋ ผมชอบข่มไอ้ตี๋ว่ามันเป็นน้องครับ ทั้ง ๆ ที่เราอายุเท่ากัน จะได้เหมือนเป็นผัวเมียกันจริง ๆ (ที่จริงก็จริง ๆ นั่นแล่ะ) ผลการเรียนภาคแรกออกมาแล้ว เค้ามักพูดกันว่า เด็กเทียบ มักจะมาตายตอนจบเทอม 1 เพราะปรับตัวเข้ากับบทเรียนไม่ได้ เกรดผมได้ 3.80 ส่วนไอ้ตี๋ 2.85 ไม่เลว ไม่เลวลูกศิษย์คนโปรดของผม ปิดเทอมนี้ เราจะกลับไปขอนแก่นกัน ส่วนผมก็จะกลับบ้านที่จังหวัดอื่นก่อนกับแฟน (ไอ้ตี๋นั่นล่ะ)  แล้วก็จะไปขอนแก่นทีหลังครับ

                เราขึ้นรถที่หมอชิตเก่า ตอน 6 โมงกว่า ไอ้ตี๋มันไม่ค่อยสบายครับ ผมสงสารมันมาก ผมบอกว่าเรายังไม่ต้องกลับตอนนี้ก็ได้ หยุดอีกตั้งกว่า 20 วัน แต่มันก็ไม่ยอม บอกว่า เดี๋ยวแม่กับพ่อผัวจะรอ ดูดูปากมัน ปากดีอย่างนี้น่าจะจับมาจูบให้เข็ด ตัวเองยิ่งไม่สบายอยู่ เป็นห่วงนะไอ้เชี่ย

                ผมกับไอ้ตี๋คบกัน ตั้งแต่ผมบอกว่ารักมันที่ไฮเทค วันที่มันรู้ครั้งแรก ผมก็ไม่เคยบอกรักมันอีกเลย  นิสัยผมจะเป็นคนปากแข็ง ไม่โรแมนติก ผิดกับไอ้ตี๋ ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ไอ้ตี๋จะเป็นคนโรแมนติก ละเอียด ขี้เกรงใจ และเข้ากับคนง่าย ส่วนผมเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ได้ A เฉพาะในวิชาเรียน แต่ในชีวิตจริง ต้องให้ F – เลยล่ะครับ

                มันจะคอยออดอ้อนผมประจำว่า ให้ผมบอกรักมัน ผมจะบอกมันว่า การกระทำของผม สำคัญที่สุด ผมจริงจัง และจริงใจ ไม่ใช่ จริงใจ แต่ไม่จริงจัง ... ดูมันงอนเล็กน้อยที่ผมไม่ยอมบอกรักมัน แต่ผมก็ยึดมั่นในใจผมเสมอว่าถ้าผมมีมัน ผมก็ไม่ต้องการใคร ...... กระโถนอยู่ใหนวะ อ้วกจะแตกแล้ว

          เจอเพื่อน ๆ ครบทั้งแกงค์เลย ส่วนใหญ่เราต้องคอยตอบคำถามพวกมันว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นไงบ้าง เพราะพวกมันก็ยังต้องเรียนมอ 6 ต่ออีก รู้สึกว่าจะเตรียมสอบโควต้ากันใหญ่ ฉลองกันซะเมามาย ตอนนี้ผมเข้าออกบ้านไอ้เก่งได้อย่างดีเลยครับ เพราะน้องเตยโฆษณาตลอดว่าผมเรียนก็เก่ง นิสัยก็ดี ไว้ใจได้ เกรดตั้ง 3.80 น่ะเทอมเดียว แม่กับพ่อมันเรียกผม ลูก ลูก ลูก ทุกคำ อยากรู้เหมือนกันนะถ้ารู้ว่า คนที่นั่งตรงหน้าเนี่ย ลูกเขยเว้ย ที่บ้านจะเม้งแตกแค่ใหน แค่คิดก็เสียวแล้ว ส่วนที่บ้านผม ป๊ากับม๊า พี่ก้อย และพี่เต้ย ก็ยังรักละเอ็นดูไอ้เก่งมากเหมือนเดิม แน่ล่ะสิ มันออกจะเอาใจท่าน หวานเจี๊ยบ แถมแอบจิกกัดผมเล็ก ๆ ให้ทางบ้านฟังอีก ผมมองหน้าป๊ากับม๊า แล้วกังวลไม่ใช่น้อย ว่าท่านสองคนจะทราบเรื่องผมกับไอ้เก่งแล้วหรือยังน้า ... ถ้าท่านทราบ ท่านจะมีความรู้สึกเปลี่ยนไปจากที่ท่านเคยรักเราหรือเปล่า อยากรู้จัง ได้เวลากลับแล้ว

*ไปดีมาดีนะลูกทั้งสองคน* แม่ผมบอก

-ถ้าไอ้เก่งมันนอกใจ ต่อยมันได้เลยนะลูก พ่ออนุญาติ- พ่อผมพูดบ้าง

ผมสะดุ้งโหยง แล้วมองหน้ากันกับไอ้ตี๋ มันก็หน้าซีดไม่แพ้กันกับผม ส่วนพี่ก้อยกะพี่เต้ยยืนอยู่ด้านหลัง หัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน

-เฮ้ย เป็นไรเงียบกันหมด จะไปชายแดนกันหรือไง- พ่อผม

*ความรัก เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำร้ายใคร ถ้าเราใช้ความรักไปในทางที่ถูกต้อง ดูแลกันให้ดีนะลูก* แม่ผมพูดขึ้น ทั้งผมและไอ้ตี๋ ต่างโผเข้ากอดพ่อกับแม่ผมทันที ผมตาแดง ๆ เหมือนจะร้องให้ ส่วนไอ้ตี๋ ยิ้มไม่หุบปากจนขึ้นรถมาจะถึงขอนแก่นอยู่แล้ว

*ผัวใครว้า ... ขี้แย*

-ยุ่ง- ผมเอาศอกกระทุ้งมันแรง ๆ อายเป็นเหมือนกันนะ

                จากที่ผมไม่ต้องไปช่วยงานที่ร้านอานนท์แล้ว ผมก็ว่างลง ส่วนไอ้ตี๋ ยังคงไปเล่นดนตรีไทยของมันอยู่ ผมจะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่รอมันที่ศูนย์คอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย แล้วค่อยกลับบ้านพร้อม ๆ กัน อยู่มาวันหนึ่ง อีจอย เพื่นของผมขอแวะไปด้วย แล้วบอกว่าวันนี้ จะให้รุ่นพี่คนนึงมาสอนวิธีใช้ IRC

-IRC นี่มันอะไรวะจอย-

*โห ฟาย ... เค้าใช้คุยกันทางอินเตอร์เนตย่ะ* แล้วมึงนะฉลาดนักอีฟาย ต้องให้คนอื่นมาสอน

-เออ กูไม่รู้นี่ ใหนล่ะอาจารย์มึง-

*นู่นไง พี่นุ ภาค ...... คณะวิดยา เมื่อก่อนเค้าเรียนวิศวะที่นี่ล่ะ แล้วซิ่ลไป*

                ตกลงวันนั้นพี่นุที่ว่านี่ก็สอนผมกับอีจอยจนสามารถเล่น IRC จากหน้าจอ Unix เป็นสีดำ ๆ ได้สำเร็จ จากนั้นอีกเดือนถัดมา ก็ได้เปลี่ยนใหม่เป็น mIRC บนวินโดวส์ แล้วผมก็รู้จักอะไรต่อมิอะไรมากขึ้นในอินเตอร์เน็ตก็ตอนนี้ล่ะครับ

                ผมเริ่มคุยกับคนในเน็ตผ่าน mIRC จากห้องเกย์ต่าง ๆ จนรู้จักกับคนคนนึง ที่ผมคิดว่า เออ เค้าน่าสนใจดีนะ เราคุยผ่าน ICQ ทุกเย็น พี่ตั้มทำงานเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ อายุมากกว่าผมหลายปี เราคุยกันจนผมเริ่มจะทรยศกับไอ้ตี๋มันโดยที่มันไม่รู้มาก่อน นั่นคือ “การนอกใจ”

          เขียนถึงตรงนี้แล้วผมพาลน้ำตาจะไหลให้ได้ เมื่อผมคิดว่า ผมได้ทำร้ายคนที่ผมรักไปได้ยังไง แค่คิดมันก็ผิดแล้ว แต่ความเงี่ยนตัวเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ผมต้องทำร้ายมัน ..... เฮ้อ พักสักนิดดีกว่า เศร้าว่ะ   ตอนหน้า มีน้ำแตกครับ

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 14-09-2007 22:14:06
 :o12:
เศร้า ...
 :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 14-09-2007 23:30:12
กลสยเป็นว่าเก่งนอกใจตี๊ซะงั้น

 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 15-09-2007 00:31:58
ซะงั้น เราก็ด่าตี๋ซะ

 :a6:  :a6:   :a6:   :a6:  :a6:  :a6:

กูล่ะปวดเฮดดดดด
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 15-09-2007 04:09:21
 :o11:

,มีเรื่องขอถาม เจ้าค่ะ

คือ....

ตัวยังคบกันอยู่เปล่าเจ้าคะ

อืม..... รู้ว่ามันเป้นเรื่องส่วนตัว...แง่มๆ แต่ก็อยากรู้มานานจนจะอกแตกตายแล้วเจ้าค่ะ.....


ถ้าจะสงเคราะห์...จะขอบคุณมากเจ้าค่ะ  แต่ถ้าไม่สะดวกใจไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เหอๆ.....

แหะๆ แบบว่า อกจะแตกเลยลองเสี่ยงถามดู แง่มๆ

...........................................................

ตอนนี้เศร้ามากๆ

เออออออ....สงสารคุณตี๋เจ้าค่ะ

ท่าทางจะรักคุณมากเชียว..... ยังไงขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี

สาธุ...เหอๆ น้ำตาพรากไปเรียบร้อย แค่คิดก็ปวดใจแทนคุณตี๋...แง่มๆ

รีบมาต่อนะเจ้าคะ

ตั้งตารอคอยเจ้าค่ะ

archi_10_001

เรื่องเล่าของทุกคนน่าสนใจทั้งนั้น

ขอบคุณที่แบ่งปันเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 15-09-2007 07:19:33
หวังว่าคงจะไม่มีอะไรมากนะครับ  o7
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-09-2007 07:22:56
อ้าว กลายเป็นเก่งนอกใจซะงั้น  :a6:  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: aum ที่ 15-09-2007 09:15:47
เศร้าไปเสียวไป อิอิ ขอให้รักจงเจริญน้า อิอิ :give2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 15-09-2007 10:29:15
เก่งอ่ะ ทำเองซะงั้น  :a6: :a6: :a6: :a6: เฮ้อ



ปล.จากการวิเคราะห์ด้วยคนเอง คิดว่าตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้คบกันแล้วใช่ปะ  :m21:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-09-2007 12:24:07
พ่อแม่เก่งอุตสาห์เข้าใจ แต่ทำไมเก่งถึงนอกใจตี๋ล่ะ เศร้าน่ะ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 15-09-2007 15:17:17
ตามอ่านทันแย้วค้าบบ


-*-

เก่ง หน่า เก่ง
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 17-09-2007 04:09:35
เย้ๆ อ่านรวดเดียวทันแล้วววว  :m4:

----------

ม่ายยย ไม่นะ ..... โธ่ ..... เก่งจะนอกใจตี๋อ่ะ   :serius2:  จากการอ่านมา ผมก็เดาเหมือนคุณกรีนทีนะ ... แต่ .... อยากให้เดาผิดจังเลยอ่ะ  :m17:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 17-09-2007 13:45:28
มาต่อได้แล้วววค้าบบบบ


 :m7: :m22: :m22:



อยากอ่านๆๆๆๆ แล้ววว
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 17-09-2007 14:11:15
ประกาศ ๆๆ คนโพสเรื่องนี้ ได้หายสาบสูญ ไปจากทู้  ผู้ใดพบเห็นโปรดแจ้ง ด้วย  :m23:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 18-09-2007 13:08:30
ยังไม่มาแฮะ

รอครับรอ

 :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-09-2007 15:54:24
เห็นชื่อเรื่องแล้วหูกระดิก เข้ามาอ่านแทบไม่ทัน อิอิ  :m10:

อ่านถึงล่าสุดแล้ว ไปๆมาๆ ไม่เก่งจะนอกใจตี๋อ่า  :o12:

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-09-2007 16:24:34
คนเรา ไม่เห็นโลงศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา
 :a14: :a14: :a14: :a14: :a14:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 18-09-2007 23:55:11
 :o11: :o11: :o11: :o11:

ยังไม่มาอีกหรอออ


ม่ายยย
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-09-2007 12:50:30
 :m22:  อ๊ะ ยังไม่มาต่อ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-09-2007 10:53:36
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รอต่อปายยยย

ไม่อยากให้เศร้าเลย

 :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ..by Kelvin
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 20-09-2007 18:28:57
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 10
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 10

                พี่ตั้มคุยกับผมทุกวันผ่าน ICQ เขาบอกว่าเขามีแฟนแล้ว แฟนเค้าเป็นคิง เรียนที่มหาวิทยาลัยสีเขียว แล้วแฟนเขาก็มาคุยกับผมผ่านเน็ตเหมือนกัน เค้าบอกว่าผมโชคดี ที่พี่ตั้มอยากเลือกผม ไม่เลือกเค้า ผมก็ปลอบใจเค้าว่า อย่าคิดมาก นั่นเป็นความรู้สึกครั้งแรกที่ผมตื่นเต้นมาก กับการที่ได้คุยกับผู้ชายมากหน้าหลายตา จากการคุยผ่านเน็ต ก็กลายเป็นผ่านโทรศัพท์ ผมกลายเป็นคนที่มีโทรศัพท์เข้ามาหาผมบ่อยมาก มันทำให้ผมมีความรู้สึกเหมือนเป็นราชา กูก็มีเสน่ห์ มีคนมาชอบกูเยอะนะเนี่ย มีสนมมาล้อมรอบมากมาย ประมาณนั้น คึกเหมือนโคถึกเลยครับช่วงนั้น

                เวลาที่ผมจะคุยโทรศัพท์ ผมก็กลัวไอ้ตี๋มันจับได้ ผมยอมรับเลยครับว่าในตอนนั้น ผมลืมไปหมดแล้ว ที่ผมเคยพูดไว้ให้ไอ้ตี๋มันเชื่อใจผม มันก็ยังทำตัวน่ารักกับผมเสมอต้นเสอมปลาย ไม่มีบกพร่องสักอย่าง แต่เพราะอะไร ทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับไอ้ตี๋เปลี่ยน ...

                ฉันหรือเธอ ที่เผลอใจ .. เวลาที่ไอ้ตี๋ไม่อยู่ พี่ตั้มมักจะโทรมา บางทีก็คุยเซ็กส์โฟนกับผมจนผมจินตนาการกระเจิดกระเจิงน้ำแตกแหลกราน พอไอ้ตี๋มันกลับมาจากชมรม ผมก็แก้ตัวมันไปว่า คิดถึงมันต้องว่าวออก ในวันนึงผมก็ตัดสินใจเจอพี่ตั้ม

                พี่ตั้มน่ารักกว่าที่คาดการณ์ไว้อีก ขับรถมารับผมที่สุดซอย ผมเลือกเอาวันที่ไอ้ตี๋มันไปชมรม ในใจก็กลัว แต่อีกใจนึงก็อยาก

-สวัสดีครับพี่ตั้ม-

*น้องเก่งน่ารักกว่าที่พี่คิดนะครับ*

-พี่ตั้มก็หล่อมากเลยครับ- คนอะไรน่ารักเป็นบ้า ทั้งสุภาพทั้งเอาอกเอาใจ วันนั้นเราไปทานอาหารเวียดนามที่ร้านไกล้ ๆ รสนิยมดีซะด้วย .... ทำไมมันดีไปหมดเลยวะ ตี๋เอ้ย .. อ่านถึงตอนนี้แล้วอย่าเพิ่งร้องนะลูก รออ่านให้จบก่อนน้า .... แข็งใจนิด ฮือ ๆๆๆๆๆ เก่งขอโทษ

-พรุ่งนี้วันอาทิตย์ พี่มารับไปเที่ยวนะครับ-

*ได้ครับ สัก 11 โมงละกันนะครับ เจอกันที่ เดอะมอลล์ท่าพระนะครับ*

-แล้วโทรหากันครับ- ไม่พูดเปล่าเอามือผมไปจูบอีก ส่งสายตาหวานเยิ้มแทบละลายมาที่ผม

                ผมยิ้มหวานให้พี่ตั้มก่อนจะเดินสกิ๊ป ๆ ลัลล้า ส้นตีนติดสปริงขึ้นตึกไป

*ไปใหนมาอ่ะ ไม่โทรบอก มือถือก็ไม่เปิด ดูสิรอกินข้าวด้วยกัน วันนี้ซื้อของโปรดมึงมาด้วยนะ น้ำพริกกะปิกับปลาทูทอด มีชะอมชุบไข่ด้วยนะ ป้าคนขายหน้าถาบันถามหามึงด้วยแน่ะ*

*เดี๋ยวกินเลยละกันนะ ไปล้างมือมาก่อนด้วย* ออกคำสั่งเหมือนเมียเลย .. ก็เมียนั่นล่ะ

                คุณ ๆ เคยรู้สึกใหมครับ ว่าอาการ “คอแข็ง” มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ... ไม่ใช่ว่าอิ่มมาก จนกินไม่ได้ แต่ผมกลืนข้าวแต่ละคำลงปากด้วยความลำบากยากเย็นยิ่ง

*ไม่สบายเหรอ เงียบเหมือนมวป่วย ใหนดูซิ* มันเอื้อมมือมาแตะหน้าผากผม

*อืม ตัวร้อน ๆ นะ รุม ๆ ไม่ต้องอาบน้ำหรอก เดี๋ยวกินข้าวแล้วกูจะเช็ดตัวเปลี่ยนชุดนอนให้*

*กินข้าวซะ*

ผมพูดอะไรไม่ออกสักคำ ..... ไม่มีคำอธิบายว่าทำไม ... ที่ตัวร้อนสงสัยว่า ผมจะรู้สึกผิดมาก จนธาตุไฟมันแตกซ่านไปแล้ว กินเสร็จผมจะล้างจานเก็บจาน

*ไปนอนรอบนเตียงไป เดี๋ยวกูทำเอง แล้วจะตามไปเช็ดตัวให้*

                และแล้วมันก็วาง ๆ ไว้อย่างนั้นล่ะครับ ยังไม่ทำความสะอาดอะไรเลย มันคงจัดลำดับแล้วว่า ผมสำคัญกว่าจานที่ยังไม่ได้ล้าง มันเข้าไปในห้องน้ำแล้วเอาผ้าชุบน้ำกับกะละมังมาวางข้างเตียง มันเอื้อมมือไปหยิบยามาให้ผม 1 เม็ดครึ่ง เพราะผมเป็นคนที่ทานยาแก้ไข้ทีละ 2 เม็ดไม่ได้ จะชักเอาได้ง่าย ๆ เพราะเกินขนาด ผมรับมากินแบบหุ่นยนต์ สับสนไปหมดแล้วว่าที่กูกำลังทำ มันผิดหรือมันถูกวะเนี่ย มันถอดเสื้อผ้าผมออกหมดแล้วเช็ดตัวให้

*ดูซิ เจี๊ยวหดแบบนี้ เดี๋ยวหนีมีผัวใหม่ดีกว่าม้าง..* มันพูดไปพลางเช็ดตัวไป ผมไม่รู้จะตอบสนองคำพูดนี้ยังไงได้แต่เฉย ๆ

*เอ้า เสร็จแล้ว เดี๋ยวห่มผ้าให้ พัดลมต้องเปิดส่ายแบบนี้ อากาศจะได้ถ่ายเท*

แล้วผมก็เห็นมันเอาจานชามไปทำความสะอาด ทำความสะอาดบ้านและซักผ้าทั้งของผมและของมัน ผมน้ำตาจะไหลออกมาดื้อ ๆ ตอนที่มันซักกางเกงในของผม มันจะจัดไว้ในตู้เสื้อผ้าว่าตัวใหนใส่วันใหน วันพรุ่งนี้ใส่อะไร ทุกวัน ๆ เหมือนกัน  ต่างที่ว่าวันนี้ ผมไม่ได้ลุกขึ้นไปช่วยมันเลย ไม่ได้แกล้งเอาฟองผงซักฟอกป้ายจมูกมัน หรือว่ามันแกล้งเอาน้ำซักผ้าวิด ๆ ใส่ผม มันหันมามองผมเป็นบางครั้ง คงอยากรู้ว่าผมจะหลับหรือยังด้วยความเป็นห่วง วิทยุทีวีก็ไม่เปิด มันคงกลัวรบกวนผมนอน ผมสับสนมาก เลยหันหลังให้มันซะ

          มีโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องมัน ผมไม่หลับจึงได้ยินมันคุยเบา ๆ น่าจะเป็นไอ้เม่น บอกว่าเพื่อนที่โรงเรียนเก่าจะบวชตอนสิ้นเดือน ไอ้ตี๋ไปได้หรือเปล่าประมาณนั้น แล้วเห็นพูดเกี่ยวกะผมว่า ผมไม่ค่อยสบายนอนหลับไปแล้ว ต้องพูดเบา ๆ เดี๋ยวเก่งจะตื่น ได้ยินว่า มันจะถามผมก่อนว่าจะกลับด้วยกันมั้ยแล้ววางสายไป

                ผมหลับไม่ลง .... แต่แกล้งหลับตา มันคงทำอะไรเสร็จแล้วนอนลงข้าง ๆ ผม มันเอื้อมมือมาแตะหน้าผากผมอีกครั้ง ผมได้ยินมันสวดมนต์อ้อนวอนกับพระเจ้าเบา ๆ ว่า ขอให้เก่งหายป่วยและคุ้มครองคนที่ตี๋รักทุกคน โดยเฉพาะเก่ง แล้วอะไรอีกไม่รู้ มันพูด เอเมน แล้วปิดไฟ

                ผมโอบมันเข้ามาซุกที่หน้าอกผม รู้สึกร้อนวูบวาบยังไงไม่รู้ .... คนบาป นรกจะต้อนรับมั้ยเนี่ย ว่าแล้วผมก็เริ่มสวดมนต์บ้าง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ได้ทรงโปรดยกโทษให้กับบาปผิดของข้าพระองค์ สวดมนต์ไปไม่รู้กี่จบแล้วผมก็หลับไป

                วันรุ่งขึ้น ผมตัดสินใจแล้วว่า ผมจะต้องบอกพี่ตั้มว่า เราคงไม่สามารถสานสัมพันธ์กันได้อีกแล้ว เพราะเราทั้งคู่ ต่างก็มีคนที่เรารัก และคนที่รักเราอยู่แล้ว กลับไปหาคนคนนั้นกันเถอะ

                หลายคนคงนึกในใจว่า ทำไมผมไม่ตัดหางปล่อยวัดไอ้พี่ตั้มไปเลย แต่ผมก็อยากให้เกียรติพี่ตั้มเค้านะ เค้าก็ไม่ได้ผิดอะไร  ผมคิดดูแล้ว สิ่งที่ผมเผลอใจใฝ่ปอง มันอาจเป็นแค่เรื่องฉาบฉวย เพราะเรายังไม่ได้คบกันถึงนิสัยใจคอ ไม่เหมือนผมกับไอ้ตี๋ เคยมีความรู้สึกนี้ใหมครับ “มองตาก็รู้ใจ” ผมจึงออกไปตามนัด บอกไอ้ตี๋ว่า จะไปเอาขนมที่ร้านอานนท์มาให้กิน

ที่ร้าน A&W ผมสั่ง Root bear float ของโปรดไอ้ตี๋มากินย้อมใจ

-พี่ตั้มครับ ผมว่าเราควรเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โดยไม่ต้องมีเรื่องเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้องดีกว่ามั้ยครับ เพราะเราทั้งคู่ก็มีคนรักแล้ว-

*ไม่ต้องคิดมากหรอกครับน้องเก่ง พี่น่ะโตแล้วนะ พี่เข้าใจ*

*เดี๋ยวพี่ไปส่งเราละกันกินเสร็จ แต่ไปแวะเอาที่ชาร์ตแบตออกจากโทรศัพท์พี่ที่คอนโดก่อนนะครับ กลัวระเบิด*

-ได้ครับ ไม่มีปัญหา- ผมโล่ง เหมือนยกภูเขาออกจากตูด โทรหาไอ้ตี๋มันหน่อยดีกว่า ผมบอกว่าไม่เกิน 1 ชั่วโมงผมจะกลับแล้ว มันบอกรีบมาเร็ว ๆ จะซื้อส้มตำกับหนมจีนมารอ ให้โทรบอกก่อนเข้ามา

*น้องเก่งไปห้องพี่ก่อนนะ ใหน ๆ ก็มาแล้ว* นี่มันอ่อยกูแหง ไม่ไปเสียเชิงชายแย่

ความรู้สึกหมา ๆ เริ่มเข้ามาอีกที เมื่อตอนขับรถ ไอ้พี่ตั้มจงใจเอามือมาวางที่หน้าขาผมตลอด แต่มันไม่ได้รุกมาวางบนดอหรอกนะครับ ตอนนั้นผมคิดว่า Kผมเริ่มลุกอีกแล้ว เพราะมันแปลกกลิ่น

พอปิดประตูห้อง ไอ้พี่ตั้มจับผมกอดแล้วเอามือจับที่Kผมทันที ผมมันพวกไวไฟอยู่แล้วเลยต้องสนองสักหน่อย แต่ในใจก็คิดว่า กูต้องปิดไอ้ตี๋ให้มิด พี่ตั้มมันถอดกางเกงผมไปกองที่หัวเข่า แล้วก้มลงไปเลียKผ่านทาง กกน ผม โอ้ย เสียวสุด ๆ ในแปลกที่แลกทางนี่ครับ จากนั้นเข้ารูด กกน  ผมลงไปที่เข่า กระดอชี้หน้าพี่ตั้มเลยครับ ดูสีหน้ามันพอใจมาก ผมบอกว่า อย่าดีกว่าครับพี่ อย่างที่ผมบอก มันตอบว่า บ๊วบ บ๊วบ บ๊วบ ลีลามันดีมากเลยครับ ผมต้องแอ่นกระดอให้ ผมเปลี่ยนไปนั่งที่พนักโซฟา ดูสิ รองเท้า กางเกงยังไม่ได้ถอดเลย ความเงี่ยนมันขึ้นหน้าจนมัวเมาแล้วครับ เอาอะไรมาฉุดก็ไม่สามารถสำนึกผิดชอบชั่วดีแล้ว พี่ตั้มใช้ปากเก่งมาก เก่งกว่าไอ้ตี๋ซะอีก สงสัยมันจะเชี่ยว ไอ้ตี๋มันก็มีผมคนเดียวนี่นา

ผมแอ่นระแน้ให้มันดูดครับ เงี่ยนจัด จากนั้นมันหอบ ๆ บอกผม

*อยากสอดใส่หรือยังครับ ไปที่เตียงนะครับ*

-ไม่ครับพี่ เอาให้เสร็จตรงนี้เลย* เงี่ยนแล้วครับ เอาไว้ทีหลัง จะออกแล้ว

ผมเร่งกระเด้าใส่ปากพี่ตั้มอย่างแรงราว ๆ 20 ครั้งจะออก ผมถอนKออกมา แล้วชักว่าวรดหน้ามันเลย ออกไม่เยอะ เท่าไหร่ สงสัยเก็บกดด้วยแรงแห่งความกลัว .... ผมกลัวว่าจะทรยศไอ้ตี๋ครับ

*ไปที่เตียงนะครับ*

-ไม่ดีกว่าครับ ผมพอแล้วครับ เท่านี้ก็ผิดที่ผมต้องการจะบอกพี่วันนี้มากแล้วนะครับ-

*ไอ้เหี้ย แม่งเล่นตัว ให้เอาดีดี ไม่เอา มึงว่ามึงหล่อขนาดใหนวะ* มันพูดเหี้ยเลยเหรอเนี่ย ไอ้สัด ไม่ใช่กูจะเอาใครก็ได้ กูไม่ใช่คนขายตัวนะ คนอย่างกูต้องมีความรักเว้ย ถึงจะตามมาด้วยเซ็กส์ (นิยายมั้ย) เลือดขึ้นหน้ามาก ๆ มันคงคิดว่าผมจะหื่นเอามันไปเอาต่ออย่างสะใจ ผิดครับ ไม่ใช่นิสัยของผมนะ ผมดึงกางเกงในกับกางเกงขึ้นเรียบร้อยแล้วมันยืนจ้องหน้าผมแบบไม่พอใจ ปากก็บ่นแบบสาวมาก ๆ คำที่ใช้ก็ตลาด ๆเหมือนคนชั้นต่ำ ไม่เหลือมาดผู้ดีอีกเลย ผมเลยเรียกมันเบา ๆ

-พี่ครับ- มันเงยหน้าขึ้นมอง

ผมกำหมัดแล้วสวนเข้าไปที่หน้ามันอย่างแรง เท่าที่ผมคิดได้ว่า สุดชีวิตของผมจะแรงได้กับคนถ่อย ๆ เชี่ย ๆ คนนึง ตามด้วยถีบมันจนมันลงไปกองพังพาบกับพื้น

ผมรีบวิ่งออกมากห้อง ได้ยินมันร้องโอดโอย ไม่สนแล้วผม ผมจะรีบกลับไปหาไอ้ตี๋มัน ...

ผมเรียกแท้กซี่อย่างเร็ว พอถึงห้อง ... ไอ้ตี๋นั่งดู TV อยู่

*อ้าว ใหนบอกจะเอาขนมมาให้ไง ไม่โทรมาด้วย จะได้ซื้อส้มตำมาใว้*

ผมไม่ตอบเดินเข้าไปจับประกบปากมันทันที ผมห่ามสุด ๆ แล้ววันนี้ ท่าทางไอ้ตี๋มันก็มีความสุขมากที่ผมจับมันเอาอย่างแรง ทุกอย่างป่าเถื่อนมาก ผมระบายลงที่มันทั้งหมด  จนเสร็จสิ้นไปในที่สุด

*เก่งเป็นไรไปหรือเปล่า ไม่พูดอะไรบ้างล่ะ*

ผมลุกนั่งแล้วจับมันเข้ามากอด

-ขอโทษ-

*ขอโทษเรื่องอะไร*

-ไม่ได้เอาช๊อกโกแลตขาวร้านอานนท์มาด้วย- แหลอีกแล้วกู ใครจะกล้าบอกว่าไปหาชู้มา

*ไม่กินแล้วช๊อกโกลตขาว จะกินครีมขาว ๆ แทน* แน๊ เมียกู น่ารักเกินใคร

-ฮือ ๆๆๆๆๆ เก่งรักตี๋มากเลยรู้มั้ย- ร้องให้อีกแล้ว ร้องให้บ่อยจังตั้งต่มาอยู่ กทม เนี่ย

*ทำไมเมื่อก่อนไม่อยากบอก* เชี่ย เอาไงแน่ บอกก็ว่า ไม่บอกก็บ่น

-จะบอกทุกวันเลย- กูจริงจัง และจริงใจน้า....

-กูรักมึง กูรักมึง กูรักมึง วันละสามเวลา พอใจมั้ย-

*ไม่อ่ะ ต้องทำอย่างอื่นด้วย*

ว่าแล้ว มันก็ได้กินส้มตำจริง ๆ เพราะผมเล่นตำซะจนมันขาถ่างอีกสองสามวัน ..... จำไว้ครับ คนเรา มักจะเห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ไกล้ตัว เมื่อในเวลาที่อาจจะสายเกินไป คุณล่ะครับ ให้ความสำคัญกับคนที่คุณรัก เพียงพอหรือยัง เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนนะครับ

 

มีต่อครับ ..... ยังไม่จบนะ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 20-09-2007 18:31:23
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 11 - .... ครั้งแรก

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 11

                เอาเรื่องสบาย ๆ ตูดกันหน่อยดีกว่านะครับ ไม่เอาเสียวทุกตอนนะ ใครมันจะไปเสียวได้ทุกวี่ทุกวันขนาดนั้น เอาเหมือนบันทึกประจำวันไปละกัน มีคนถามเข้ามาเยอะทำไมจำอะไรแม่นยำขนาดนั้น ผมเป็นคนที่จดบันทึกประจำวันไว้ทุกวันและเก็บไว้ตลอดครับ ความทรงจำ บางทีมันอาจจะเลือนลางในสมองของเรา แต่ถ้าเรามีบันทึกไว้ในรูปแบบสมุดบันทึก หรือว่าภาพถ่าย เมื่อวันเวลาผ่านไป เรายังสามารถนำมันกลับมารื้อฟื้น ช่วยเติมความทรงจำที่เลือนลางของเราให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เพื่อที่เราจะสามารถดื่มด่ำกับความทรงจำสุดพิเศษแสนหวานของเราได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่วันนี่เอง เฮ้อ ไอ้เก่ง มึงนี่ก็พูดเป็นการเป็นงานกับคนอื่นเป็นเหมือนกันนะ (คิดในใจอย่างนั้นใช่มั้ย ไอ้พวกเชี่ย) เดี๋ยวกูงอนไม่เขียนเผื่อแผ่มาให้อ่านแม่งเลย อิอิอิ ผมจะเลือกเอาเหตุการณ์ที่เสียวที่สุด เอ้ย .. ไม่ใช่ ที่พิเศษพิเศษ หรือหวาน ๆ กุ๊กกิ๊กระหว่างสองผัวเมีย มาถ่ายทอดให้คุณ ๆ ได้อ้วกแตกกันเป็นระยะ ๆ แล้วกันนะครับ ส่วนไอ้การ กิน ขี้ ปี้ นอน นั้น ทุกคนก็คงเหมือน ๆ กัน ไม่ขอนำมาพูดถึงนะครับ (เอ๊ะ หรือต้องเอามาพูดฟะ เออ รวม ๆ กันไปละกัน)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ เป็นวิทยาทานแก่คนไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ทุกคนต้องมีครั้งแรกใช่มั้ยครับ

                *เออ กูอยากไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ว่ามีเวลาแค่เสาร์อาทิตย์นะ วันศุกร์พวกกูก็มีแล็ปถึงห้าโมงเย็น แล้วกูก็ต้องทำแล็ปเช้าวันจันทร์ ไม่ได้อ่านหนังสือไม่ได้* ผมคุยสายกับไอ้เม่น เฮ้อ แล้วกูจะลำบากทำไมเนี่ย ไอ้คนที่บวชไม่ใช่เพื่อนกูเป็นเพื่อนที่โรงเรียนไอ้ตี๋ เพื่อนไอ้เม่นมันต่างหาก แต่นะ คนเรามันข้าวใหม่ปลามัน ต้องทำตัวติดกัน เจ้ากี้เจ้าการไปเรื่อย เวรกรรม อีกอย่างผมกับไอ้ตี๋สองคนแม่งก็เป็นคริสเตียน เจือกจะไปร่วมงานบวช เอาล่ะมึง งานนี้มันจะอีรุงตุงนังขนาดใหนกับคริสเตียนกะเหรี่ยงขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปร่วมงานบวช

-งั้นกูว่ามึงสองตัวมาเครื่องบินดีกว่าลงสนามบินโคราช งานเค้ามีวันอาทิตย์ตอนเช้าถึงบ่าย แล้วกูจะเอารถที่บ้านไปรับ-

*เออ เดี๋ยวให้ไอ้ตี๋มันจัดการก่อน เรื่องตั๋ว* ผมสั่งให้ภรรยา (ยกย่องสุดๆ) จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบนไปที่โคราช ทั้ง ๆ ที่ผมทั้งคู่แม่งไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อนเลยในชีวิต

*ครับ สอบถามเรื่องตั๋วเครื่องบินไปที่โคราชครับ* ไอ้ตี๋มันโทรไปถามเบอร์มาจาก1133 หาเบอร์ของสำนักงานย่อยถนนสีลม การบินไทยให้ เฮ้อ เมียกู แสนรู้ ชื่นใจว่ะ ....

-ค่ะ เดินทางเมื่อไหร่คะ กี่ท่าน-

*สอง ครับ วันที่ .... ไป-กลับนะครับ ราคาเท่าไหร่ครับ* ผมลุ้นสุดชีวิต ไอ้ห่าเงินที่ได้มาจากทำงานพิเศษร้านอานนท์ เกลี้ยงตูดงานนี้แน่กู

*เออ เลขสวยว่ะเก่ง คนละ 555 บาท ไปกลับก็  1110 บาท สองคน 2220 โอเคมั้ย*

-จะถามกูทำKไร กูได้ยินมึงบอกว่าจะเข้าไปเอาตั๋วก่อนบ่ายสี่วันนี้ ว่าแต่ว่า มึงว่าเราสองคนจะเปิ่นใหมวะ ไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อนเลยนะในชีวิต-

*ถ้าควายอย่างมึงอ่านหนังสือออก ก็คงไม่หลงแล้วล่ะ* เมียกู ปากจัดมากกกกก น่าจับดอยัดปากสักทีให้น้ำแตกกระอักจุกไปเลย

-เมียควายอย่างมึง ก็เลยพลอยได้อานิสงค์จากการเป็นควายเท้าหลังไปด้วย แถมบางทีได้ “K” เป็นของแถมใช่ม้า- ดูผัว-เมียคู่นี้มันกัดกันเหมือนหมาสิครับ ไม่มีใครยอมใครหรอก

                ผมกับมันก็จัดการนั่ง ปอ 4 ไปที่สาขาย่อยถนนสีลม การบินไทย รักคุณเท่าหมา เอ้ย เท่าฟ้า แม่งกูไม่รู้นิ เห็นคนคอมเพลนกันเยอะนะ เรื่องการบินไทย เดี๋ยวจะเอามาแจงให้ฟังเป็นเรื่อง ๆ ไป ใจเย็น ๆๆๆๆๆ เขาจะให้รหัสการจองเรามา เป็นเลขโค้ดยาว ๆ เรียก อมาเดอุส ส้นเท้าอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่า ต้องเอาให้เค้าเวลาไปรับ ตกลงเราก็ได้ตั๋วเครื่องบินมาเรียบร้อย กำหนดการเราคือ เครื่องออก 7.30น ไปถึงโคราช 8.15 น ผมถามไอ้ตี๋ มึงแน่ใจเหรอวะว่าเวลาในตั๋วน่ะถูก แค่ 45 นาทีนี่นะ เพราะรถทัวร์ก็ราว ๆ 3.5 ชม. แล้ว มันก็ตอบไม่รู้สิ รอดูเอาเอง

                ผมกับไอ้ตี๋เรียกแท็กซี่ไปดอนเมืองตั้งแต่ 05.00 น อ่านไม่ผิดหรอกครับ ในตั๋วมันบอกให้ไปล่วงหน้าก่อน 2 ชม. นี่หว่า ไปถึงไม่มีอะไรทำสักอย่าง พอเช็คอินเสร็จ ได้บอร์ดิ้งพาส (บัตรขึ้นเครื่องบิน) ฝากกระเป๋าเสื้อผ้าไป หนัก 15 กก พอดีเลย สองคนก็เดินเข้าไปหลับที่เค้าให้ผู้โดยสารนั่งรอเครื่อง ประตูที่ 60 ผมซบไอ้ตี๋แล้วนอน ก่อนนอนสั่งมันไว้ว่า ห้ามหลับเด็ดขาดมึง ต้องคอยปลุกกูด้วย (ผัวเชี่ย)

                เคยดูในหนัง มันจะมีงวงให้ผู้โดยสารเดินไปขึ้นเครื่อง แต่ของพวกผมไม่มีครับ พอเดินออกจาก Gate ไป จะมีรถบัสคันใหญ่คันนึงมารับ แล้วพาไปหาเครื่องบินที่จอดอยู่ไกลมากกกก... ผมกระซิบถามไอ้ตี๋ - ตื่นเต้นมั้ยวะ-

*ไม่รู้เหมือนกัน จะทำอะไรขายหน้าหรือเปล่า*

-เออ ซ้อมกันไว้แล้วนี่ มันต้องรัดเข็มขัดก่อน จำได้มั้ย-

*เออ มึงห้ามแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเราไม่เคยนะเว้ย อาย* โห ไอ้ฟาย มึงน่ะรู้มากนักเนี่ย

มันมองหน้าเหมือนจะรู้ความคิดผม แล้วหัวเราะออกมา *กูก็ไม่รู้เหมือนกัน* แหะ ๆๆ ยอมรับซะดีดีมึงอย่าไก๋

                พวกเราเดินขึ้นบันไดขั้นสั้น ๆ 3 ก้าวเองมั้ง ผมยังนึกสงสัยว่าทำไมมันเล็กจังวะเครื่องบิน พอเดินเข้าไป เออ เล็กจริง ๆ ด้วย นั่งได้แถวละ 2 คน อีกด้าน 3 คนเอง มีที่นั่งราว ๆ ไม่น่าเกิน 60 ผมกวาดสายตามอง หัวแทบชนเพดาน ลองนึกภาพเครื่องบินเล็ก ๆ มีใบพัดคู่ด้านข้างนะครับ ด้านข้างลำตัวเขียนคำว่า “สกลนคร”

-ตี๋ ทำไมเป็น “สกลนคร” วะ เราไปโคราชนะ ขึ้นถูกลำหรือเปล่า- ผมหน้าตาตื่นถามมัน

*ไม่รู้ว่ะ* โง่แบบไม่อายใครเลยเมียกู

---เป็นชื่อเครื่องบินค่ะ เป็นเครื่องไปโคราช ถูกต้องแล้วนะคะ--- มีเสียงของพนักงานต้อนรับเดินมา ส่งยิ้มหวานให้เราทั้งคู่ คงเห็นว่ากูสองคนหน้าเด็กมาก (แหะ ๆๆ) มันเลยไม่ยกมือไหว้มั้ง เห็นยกมือไหว้ทุกคนเลยตอนเดินขึ้นเครื่อง พนักงานใส่เสื้อสีขาวลายดอกกล้วยไม้สีม่วง (มั้ง)  ไม่ได้ดูชัด ๆ ว่ามันดอกอะไร ดอกขนาดใหน กระโปรงสีม่วง ถุงน่องดำ รองเท้าคัชชู เกล้าผมมวย ผมนึกในใจว่า คงไม่อายุมากเท่าไหร่หรอก แต่งหน้าสวยเชียว ดูดีจังเยยยยย น่ารัก ป้ายที่หน้าอกของเธออ่านว่าSutthasinee S. ผมเผลออ่านชื่อของเธอออกมาเบา ๆ โดยไม่ตั้งใจ

-สุทธาสิณี แปลว่า หญิงสาวผู้บริสุทธิ์- เห็นหล่อนทำท่าทางคิกคัก ไอ้ตี๋กระทุ้งผมด้วยศอกเบา ๆ ตาเขียวเล็กน้อย

*ขอดูบอร์ดดิ้งพาสด้วยค่ะ* ไอ้ตี๋ยื่นให้เค้า

*12 A และ B ทางนี้ค่ะ ดิชั้นช่วยเก็บกระเป๋านะคะ* โอ้ ... น้องนาง อย่าทำให้พี่ลุ่มหลง ไอไลค์พัฒน์พงษ์ ไอเลิฟ การบินไท้ยยยย ผมฉีกยิ้มไม่หุบ สบายจัง มีคนบริการ ไอ้ตี๋กระทุ้งด้วยศอกอีกที

-โอ้ย เจ็บนะ หึงเหรอครับ- ถ้าเป็นสถานที่ที่คนไม่รู้จักเรา ผมจะยั่วมันด้วยคำพูดแบบนี้เสมอ มันอายหน้าแดงก้มหน้างุด *บ้าหรือไง อายเค้า* ผมหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ได้ยั่วให้มันอาย

          เข็มขัดไม่ได้รัดยากกว่าการคาดการณ์ไว้ มองด้านบนศรีษะ เห็นมีไฟติดสองอัน เป็นรูปห้ามสูบบุหรี่ (กูไม่สูบหรอก อยากสูบบุรุษมากกว่า) อีกอันเป็นรูปสั่งให้จัมพ์เข็มขัด เออ เรียบร้อยแล้ว คนขึ้นมาได้ไม่ถึงสิบคนเอง ถึงครึ่งลำมั้ยวะเนี่ย ผมนึกในใจ เห็นแอร์ปิดประตู รอบนี้มีกระจั๊ว เอ้ย สจ๊วตสาวแตกแหกระเบิดด้วย 1 นาง เสียงประกาศต้อนรับ เป็นภาษาไทย แล้วก็ภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่าจะมี Safety demo การสาธิตอุปกรณ์ช่วยชีวิต ให้ทุกคนดู เออ ผมก็ดูดูไป แต่หันไปกระซิบไอ้ตี๋

-มึงว่าถ้ามันตกจริง มึงมีเวลาหาชูชีพใหมวะ แล้วโคราชนี่ .. มีแต่ป่าทั้งนั้นเลย มันน่าจะให้ร่มชูชีพว่ะ ไม่ใช่ห่วงยาง- เสร็จแล้วก็เป็นเสียงกัปปิตันหล่อๆ นุ่มๆ (กูคิดไปเอง)  ประกาศ ชื่อกัปตัน กฤษณะ บอกว่าสภาพอากาศดีมาก ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางของรอยัลออร์คิด  สักพักมันก็วิ่งช้า ๆ ออกไป เหมือนรถทัวร์เลยว่ะ แล้วมันก็วิ่งเร็วขึ้น เร็วขึ้น จนยกหัวขึ้นแล้วลอยไปเรื่อย ๆ

-ตี๋ หูอื้ออ่ะ-

*เค้าแนะนำให้กลืนน้ำลายแรง ๆ*

-อือ ดีขึ้น-

แล้วสองสาวเอ้ย หนึ่งสาว 1 หนุ่มก็เข็นรถออกมาเสิร์ฟอาหาร คราวนี้ใส่ผ้ากันเปื้อนมาด้วย อันนี้ไม่ปล่อยไก่ รู้เว้ยว่ากินฟรี

*น้ำส้ม / น้ำเปล่าด้วยครับ ทั้งสองที่* ไอ้ตี๋สั่ง ผมตาละห้อยอย่างเสียดาย ผมขมวดคิ้วหัวคิ้วชนกันแบบเด็ก ๆ ไม่ได้ของที่ถูกใจ ส่วนไอ้ตี๋ทำหน้าตาทองไม่รู้ร้อน อยากจับมาจูบซะแรง ๆ ก็เกรงใจคุณสิทธาสิณี อยากกินกาแฟ มันไม่ยอมให้ผมกินกาแฟเพราะว่ามันบอกว่าไม่ดีสำหรับเด็ก (ของมัน) อิอิ  น้ำส้มรินใส่แก้วพลาสติก น้ำเปล่าเป็นน้ำแก้วสำเร็จรูป *ไม่ต้องทะเลาะกันนะคะ* คุณแอร์พูดขึ้น แหมพูดเหมือนเราเป็นเด็ก ๆ ประถมน่ารัก น่ารักเลยนะ อิอิ

                อาหารที่เค้าจัดให้อยู่ในกล่องเซ็ตเป็นกระดาษพับพิมพ์ลายเรือสุพรรณหงษ์ เป็นล๊อก ๆ มีผลไม้ ขนม น้ำ มีพุดดิ้งอันนึง ผมกับไอ้ตี๋กินอย่างรวดเร็ว คุณสุทธาสินีเดินมาอีกแล้ววางให้อีกสองกล่องพร้อมกับยิ้มหวาน ผมกับไอ้ตี๋พูดขอบคุณพร้อม ๆ กัน อีกอึดใจได้ยินเสียงกัปตันบอกอีกแล้วว่าสภาพอากาศข้างนอกดีมาก เรามาถึงครึ่งทางแล้ว จะถึงท่าอากาศยานโคราชในอีก 8 นาที เออ เร็วดีว่ะ ผมพูดกับไอ้ตี๋ ไม่เมื่อยตูดด้วย

                พอเครื่องเริ่มลดระดับลง เห็นมีแต่ป่า ผมเริ่มตกใจ อะไรวะ ทำไมป่าเยอะ กองบิน 1 ผมเคยมาเที่ยวสมัยเป็นเด็ก มันไม่ได้บ้านนอกอย่างนี้นี่ รอบ ๆ ตัวตอนนี้มีแต่ต้นไม้ แล้วเครื่องบินก็มาจอด โอ้โห อาคารผู้โดยสาร โคตรไกลเลยแม่ง ต้องเดินเอา คุณสิทธาสิณี ยิ้มหวานให้คู่ผัวเมียนี้อีกอีกครั้งตอนเดินลงมา

                เข้ามาในสนามบินโคราชโอ้โห ... สนามบินหรือป่าช้าวะ แอร์ก็ไม่เปิด คนก็ไม่มี มี 1 สายพาน เราไปรับกระเป๋าเสร็จเจอไอ้เม่นมารับพอดีที่ทางออก ดีนะ ที่มันมารับ เพราะผมพึ่งทราบว่า ที่ผมไป ไม่ใช่กองบิน 1 ของทหาร แต่เป็นสนามบินพาณิชย์ที่อยู่ไกล ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆออกไปมาก ๆ ถ้าไม่มีรถมารับ ต้องเสียค่ารถตู้เข้าไปในเมืองถึง 400 บาท!!!! โอ้ เม่น มึงรอบคอบดีมาก ไม่รู้ไม่ได้แปลว่าไม่ผิด การเตรียมการที่ดี ย่อมทำให้ความผิดพลาดลดลงเสมอ

 

มีต่อครับ รอบหน้าน้ำแตกแหลกราน
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 20-09-2007 19:13:13
แอบลุ้นอย่ตั้งนาน
โล่งอกเลย :m18:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 20-09-2007 19:16:33
เก่งนะเก่ง  ตอนแรกทำไมเลวจิง  ยังดีทีรู้สำนึก

สะใจๆๆๆ โดนต่อย ฮ่าๆๆ

เหนมั้ยไม่มีใครดีนอกจากคนที่อยุ๋ข้างๆ เรา



 :m19:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-09-2007 19:17:19
เหอ เหอ รอดตัวไปเก่ง  :a1:  :a1:  :a1:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-09-2007 22:16:50
หวังว่าไอ้พี่คนนั้น คงไม่กลับมารังควานนะคับ

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-09-2007 01:51:00
ดีจังที่เก่งยังคิดได้ทัน ไม่สายจนเกินแก้  :m4:

อย่าทำอีกนะเก่ง รู้มั๊ย? ยิ่งอ่านตอนที่เก่งบอกตี๋ว่าไม่สบายแล้วตี๋คอยดูแลนี่ยิ่งซึ้งหว่ะ .....  o7 ...... ห้ามนอกใจอีกเด็ดขาดน้า  :m16:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 21-09-2007 09:48:38
น่าร๊ากกกกกกก

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-09-2007 13:45:32
 :m4:  แปะๆๆ  ตบมือให้เก่งที่ยับยั้งชั่งใจได้  แม้จะปล่อยตัวปล่อยใจไปหน่อยก็เถอะ

สำนึกผิด และกลับตัวทัน แบบนี่น่าร๊ากกมาก....มีคนที่ดีอยู่แล้ว รักษาไว้ให้นานเท่านานนะคร๊าบบ  :m1:

สมน้ำหน้า พี่ตั้มนั้น K ไม่ได้ ได้ หมัดกับตรีนแทน อิอิ... :m20:  (แต่ไว่าไปมันได้ไปหน่อยนึงนี่หว่า เหอๆๆ)


ช้อบชอบผัวเมียคู่นี้ น่ารักดีจางงง   อิอิ  :m18:  อ่านแล้วยิ่งทำให้อยากมี ผัว หรือเมีย ดีหว่า  555++  สับสน  :m28:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 21-09-2007 14:39:47

...........รักไป....เยไป.....ทุกตอน......

..........สมกับชื่อเรื่องทีเดียว....... :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 21-09-2007 14:57:11
เฮ้อนึกว่าเก่งจะทำให้ตี๋ต้องเสียใจซะแล้ว ดีนะที่ยับยั้งชั่งใจไว้ทัน  :m4:

ตอนหน้ามาต่อเร็วๆน้า  :m10: :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 21-09-2007 15:56:59
5 5 5 รอตอนหน้าดีกว่า

-- สกลนคร -- :laugh:  :laugh:  :laugh:

น้ำแตกกระจายยยยยยยย ว่าแต่มันน้ำอะไรหรอ น้ำหมากป้าๆเเถวนี้รึเปล่า  :m20:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 21-09-2007 16:15:32
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 12 - ที่บ้านนอก จ. โคราช

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 12


 

                เราเอาของไปเก็บที่บ้านไอ้เม่น คืนนี้เราจะนอนบ้านมันกัน จากนั้นก็เดินไปบ้านงาน เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรช่วยเหลือเขาได้บ้าง ไอ้ตี๋มันก็เพื่อนเยอะนะ นึกว่ามันมีกูคนเดียว (ไอ้นี่หลายใจ) เฮ้ย เพื่อน ๆ มันเว้ย อิอิ ไอ้คนที่จะบวชหัวโล้นเป็น นาค ไปแล้วตอนบ่าย ชื่อ ไอ้ชาติ เอ้ย นาคชาติ ตอนบ่ายเราตั้งวงกินเหล้ากันที่บ้านของไอ้เม่น ไม่อยากไปรบกวนบ้านงาน เพราะมีผู้ใหญ่อยู่เยอะ ทั้งหมดที่ล้อมวงเป็นเด็กโรงเรียนไอ้ตี๋หมดเลย มีเด็กเทียบไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว 1 คน อีก 6-7 คน ยังเรียนอยู่ที่ขอนแก่น คนที่บวช เทียบได้แล้ว เลยไปเรียนบ้างไม่ไปบ้าง ไม่เป็นไร จบ ม.6 แล้วนี่หว่าผมสังเกตุดู ไอ้พวกเพื่อนไอ้ตี๋ มันคอยแต่จะจ้องหน้าผมอยู่เรื่อย ผมไม่เจอพวกนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ไอ้ตี๋จะมาอยู่กะเพื่อนผมมากกว่า ไอ้เม่นคนเดียว ที่ผมรู้จักผมก็ฟังพวกมันคุยกันอย่างเฮฮา บางคนก็ชมผมว่าเก่งอย่างั้นอย่างงี้ แต่มีอยู่คนนึง ชมออกหน้าออกตามาก

*เพื่อนไอ้ตี๋มันเก่งว่ะ 3.80 เทอมแรกเลย แถมหน้าตาดีอีกต่างหาก* ผู้ชายนะน่ะ ชมกูน่ะผมเหลือบดู ฮึ หล่อดีนี่

-ไอ้เก่ง มันเก่งสมชื่อมันนั่นล่ะ อย่าริจีบมันเชียวนะมึง มีแฟนแล้ว- ไอ้เม่นพูดขึ้น แล้วรอบวงทั้งหญิงทั้งชายก็เฮขึ้นพร้อมกัน ผมหันไปเห็นไอ้ตี๋ กึ่ม ๆ เพราะฤทธิ์เหล้าแล้ว ก้มหน้างุด มันหน้าแดงเพราะเมาแหง ไอ้เชี่ย หรืออายเพื่อนมัน

                ไม่ต้องมีหมาที่ใหนบอก ผมก็รู้แล้วว่าพวกเพื่อนไอ้ตี๋เนี่ย รู้กันว่าผมกะมันเป็นอะไรกัน  มีคนชวนผมคุยมากขึ้นหลังสิ้นเสียงเฮ แต่ไม่มีใครยิงเข้าเป้าสักคน เห็นถามแต่เรื่องเรียน เรื่องสอบเอ็นทรานซ์ วกไปวกมาอยู่นั่นจนมีเสียงนึงดังแทรกมาอย่างอ้อแอ้

*ตี๋ ดื้อกับเก่งป่าวอ่ะ* ไอ้เชี่ยหน้าหล่อนี่อีกแล้ว เมื่อกี้ชมกูหน้าตาดีเชียวนะมึง

เสียงเฮดังกว่าเดิมอีก ผมรู้สึกว่าไอ้เพื่อนเชี่ย ๆ ของไอ้ตี๋เนี่ย มันอยากรู้เรื่องใต้ร่มผ้ามากกว่า แต่ไม่ใครกล้าถาม แต่ตอนนี้มีหน่วยกล้าตายโผล่มาหนึ่งแล้ว ผมนั่งหมุนแก้วเหล้าในมือก้มหน้างุด อายนี่หว่า เงยหน้าดูไอ้ตี๋นิดนึง มันยิ้มแหย ๆ

-ไม่กล้าหรอก เพื่อนพวกเอ็งเป็นเด็กดี- ผมตอบยิ้ม ๆ เสียงเฮสนั่นยิ่งขึ้นพร้อมกับชนแก้ว คราวนี้คำถามมาเป็นชุดเลย

*ที่บ้านรู้มั้ย*

-มีใครว่าหรือเปล่า-

*ที่มหาวิทยาลัยรู้มั้ย* ฯลฯ *@315xx!!!8670&&^)(&*%$=)(

               ผมกับไอ้ตี๋ช่วยกันตอบ เรียกเสียงเฮได้เป็นระยะ ๆ ดีเหมือนกันตอนนี้เราสนิทกะเพื่อนเมียแล้ว เดี๋ยวเผื่อใครมีเมีย จะได้ยืมประโยค “เมียเพื่อน – ก็เหมือนเมียเรา” มาใช้ได้ง่ายขึ้น ตี๋เล็กเอ้ย มึงคิดผิดคิดถูกนี่พากูมาด้วย 5555555

          ตามบ้านนอกจะต้องมหรสพฉลองครับ ไม่ว่างานใหน ๆ บางทีงานศพยังต้องเอาหนังกลางแปลงมาฉายเลย แต่คราวนี้เป็น กันตรึมกับเพลงโคราชวงเล็กครับ พ่อนาคเป็นคนบุรีรัมย์เยื้อง ๆ ไปทางกัมพูชาเล็กน้อย เลือกเอากันตรึม ส่วนแม่นาค เป็นคนโคราชบ้านเอง ไหม่ต้องเกร๋งใจกั๋นดอก ต้องเลือกเพลงโคราชแน่ ๆ  บ้านนี้รวย จัดงานใหญ่มาก ๆๆๆ คนนี้อายุ 20 แล้วครับ แก่กว่าพวกผมอีกนะ ถึงคราวบวชแล้ว ตอนเย็นเหลือผม ไอ้เม่น ไอ้ตี๋ ไอ้หน้าหล่อ (มันชื่อ ป๊อบ อู้ย น่ากินนะ โลนลี่ป๊อบ- ช๊อกกาดุ๊บ น่ะ) ส่วนคนอื่นเมากลิ้งไปแล้ว เราดูงานนิดหน่อยครับ แล้วมาตั้งวงกันต่อ

*ตี๋ เก่งน่ารักว่ะ* ไอ้ป๊อบพูดขึ้นอย่างอ้อแอ้

*ขอยืมนอนกอดหน่อยได้มั้ย กอดเฉย ๆ นะคืนนี้ หึงใหม* ยังเล่นไม่เลิก

-เอาไปเลย เพื่อเพื่อนน้อยกว่านี้ได้ไง-  เอ้าเมียกู อ้อแอ้พูดจาไม่รู้เรื่องแล้ว อยู่ดีดีจะมายกผัวให้คนอื่น ผมหันไปทำตากรุ้มกริ่มใส่มัน เอามือขยี้จมูกเบา ๆ อย่ามาท้านะเว้ย มันชี้หน้าผมแล้วบอก

-อนุญาติ 1 วัน- เฮ้ยมันเอาจริง หรือมันเมาวะเนี่ย 55555

*พวกมึงจะทำอะไรกันก็ทำ อย่าให้ห้องกูเปื้อนนะเว้ย* ไอ้เม่นสวนขึ้นบ้าง

-บ้าเหรอ เก่งรักตี๋โคนเดียวววววว- ผมอ้อนไอ้ตี๋สุดฤทธิ์ เมาแป๋แล้วโว้ย ใครมาแก้ผ้าตรงหน้าก็ไม่สนแล้ว

                ราว ๆ 5 ทุ่มครึ่ง พวกเราตัดสินใจขึ้นนอนกัน ห้องไอ้เม่นนอน 4 คน มีไอ้ป๊อบ ไอ้เม่น ไอ้ตี๋  แล้วก็ผมนอนไกลที่สุด (สงสัยกลัวกูปล้ำเชี่ยป๊อบแหง ไอ้เม่นกะไอ้ตี๋ร่วมมือกัน) พอปิดไฟ ผมก็กอดไอ้ตี๋ไว้ หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมรู้สึกหน่วง ๆ บริเวณช่วงล่าง เลยตื่นลืมตามาดู เสื้อผ้ากูไปใหนเนี่ย เฮ้ยไอ้ตี๋เปล่าวะ เล่นเจี๊ยวกูใหญ่เลย ผมควานดูข้าง ๆ ไอ้ตี๋หายไป ผมลืมตาขึ้นเฮ้ย เงาตะคุ่มของคน 3 คนอยู่ที่ปลายเตียง  คงไม่ใช่ผีหรอกมั้งเพราะเสียงด้านนอกยังดังอยู่เลย

-ฮ่ะ ๆๆๆๆ – เสียงไอ้ตี๋หัวเราะ

-ไอ้เก่งมึงเสร็จกู- เสียงไอ้เม่น เฮ้ยไรวะ ไอ้เม่นเพื่อนกูมันจะทำอะไรกู

-เก่ง แม่งน่ารักว่ะ ไอ้ตี๋- เสียงไอ้ป๊อบ ตายแล้วกู .... พวกเชี่ยนี่เมาแล้วเป็นเหี้ยไรกันหมด

                แล้วไฟที่หัวเตียงก็เปิดขึ้น ไอ้เม่น กะไอ้ตี๋ วิ่งเข้ามาจับแขนผมล็อกไว้ พวกมันหัวเราะกันใหญ่

*อยู่เฉย ๆ น่าที่รัก* ไอ้ตี๋กระซิบ มึงเมาดิบนี่หว่า ไอ้สัด  กูนึกว่าเมาจริง ๆ

                ว่าแล้วผมก็แกล้งบิดตัวหนี ไอ้เม่นกะไอ้ตี๋ก็จับแขนล็อกกดไว้กับเตียง

-ปล่อยกู ปล่อย – แกล้งร้องไปงั้นแล่ะ รอดูพวกมันจะทำไง จริง ๆ หมายความว่ารีบ ๆ ปล่อยน้ำกูออกเหอะ ปากใครตูดใครก็ได้ตอนนี้ ไอ้ตี๋นะไอ้ตี๋ ต้องลงโทษสถานหนักที่วางแผนมากะไอ้เม่น ไอ้เชี่ย มันชอบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

-อื้อ- ผมพูดได้แค่นั้น ไอ้ตี๋ประกบปากผมไว้ ส่วนข้างล่างน่าจะเป็นไอ้ป๊อบดูดKผมดังจ๊วบ

-อู้อี้อู้อี้- พูดอะไรไม่ได้ ไอ้ตี๋ประกบปากอยู่

                ตาผมเหลือบไปมองเห็นไอ้เม่นชักว่าวอยู่ทางตูดไอ๊ป๊อบ เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นกระดอมัน อืม ใหญ่ไม่เบา ขนเพียบแม่งมีคนหน้าอกด้วย อิจฉาว่ะ ไอ้เชี่ยป๊อบก็ตั้งหน้าตั้งตาดูดจนKผมแข็งปั๋ง เงี่ยนสุด ๆ ไม่ได้เจอคนอื่นมานานแล้ว (เหอ ๆๆๆๆ ที่คอนโดกิโล 9 ไง ... อย่าเพิ่งขัดอารมณ์นะโว้ยกำลังเงี่ยนแดก) สงสัยว่าไอ้เม่นเนี่ย มันเป็นแฟนไอ้ปอ๊บหรือเปล่าหว่า เพื่อนสุดหล่อมาดแมนของกู ...

          ผมดึงปากไอ้ตี๋ออก กระซิบมัน *เค้าจะเอาตี๋คนเดียว* ดูเหมือนทุกอย่างจะเข้าที่ แบ่งก้อนเค้กเท่าๆ กันแล้ว ไอ้ป๊อบผละจากกระดอผมไปกระโจนผลักไอ้เม่นลงนอนข้างๆผม แล้วทับบนตัวมัน บดปากกันสุดฤทธิ์ ผมอารมณ์กระเจิดกระเจิงเลยสิครับ มีคนมาเซ็กส์กันข้าง ๆ ใครมันจะอยู่เดี่ยว ๆ เหี่ยว ๆ แห้ง ๆ ไหว ผมจับไอ้ตี๋มาในท่า 69 ทันที ไอ้เม่นเอามั่ง โอ้ ... ได้อารมณ์สุด ๆ ดูท่าทางมันสองคน ก็เข้าขากันดีนะ ผมดูดไอ้ตี๋พร้อมกับเล่นแยงรูตูดมัน มันตอดตุบ ๆ ๆ สุด ๆ เลยตี๋เอ้ย สงสัยตื่นเต้นจัด  มีคนมาเอากันให้ดู พอผมเห็นว่าตูดไอ้ตี๋น่าจะพร้อม ไอ้ป๊อบก็น่าจะพร้อมนะ

-เม่น เอาแม่งเลยดีกว่าพวกเหี้ยเนี่ยแม่งชอบวางแผนแดกผู้ชายตอนเมา- ผมบอก

          ผมกับไอ้เม่นไวเท่าความคิด จับสองตัวนั่นกองก้น ผมกดปริ้ดลงทีเดียวไอ้ตี๋สะดุ้งร้องโอ้ย ผมตกใจหายเงี่ยนกระซิบข้างหูมัน –เจ็บเหรอตัวเอง เค้าขอโทษ- ผมเรียกสติกลับมา เริ่มแบบนุ่มนวลอีกทีสงสารมันครับ แต่แม่ง ไม่น่าสงสารเลยครางหงิง ๆ เสียวรูตูดสิมึงไอ้ตี๋เล็ก ทางไอ้เม่นก็ซอยไม่ยั้งเลยไอ้ป๊อบร้องคราง โอย ๆ ไม่รู้เจ็บหรือเสียว ผมยิ่งเสียวเงี่ยนจัดยิ่งกว่าเดิมอีก

-ไอ้เม่นแข่งกัน ใครแตกก่อนชนะ- ผมบอกมัน

                ไอ้เม่นไม่ตอบครับ เด้าเอาเด้าเอา ผมเลยหันมาสำเร็จโทษน้องตี๋เล็กสักหน่อย ผมเร่งจังหวะขึ้นกระแทกตูดมันดังพั่บ ๆ ไอ้ตี๋กะไอ้ป๊อบครางแข่งกัน ไอ้เม่นกับผมก็ต้องซู้ดส์ปากเสียวแข่งกันไม่ให้น้อยหน้า  ผมกระเด้าไอ้ตี๋สุดแรง ไอ้ตี๋แม่งร้องโอ๊ะ น้ำมันแตกพุ่งปริ้ดลงที่นอนไอ้เม่นเต็มไปหมด ผมกะไอ้เม่นซอยไม่ยั้ง กลายเป็นไอ้เม่นร้องโหยหวน อ้ากส์  .... ออกมา สงสัยเสร็จล่ะ ผมรีบซอยเน้น ๆ อีกสิบกว่าครั้งแล้วฟุบบนหลังไอ้ตี๋ –โอ้ยๆๆ- ตูดไอ้ตี๋ตอดKผมตุบ ๆ น้ำปริ้ด ๆ ออกในรูมัน ผมหอบแฮ่ก ๆ นอนแผ่แล้วให้มันทับทันที เราจูบปากกันสักพักนึง ไอ๊ป๊อบนอนกอดไอ้เม่นอยู่

*ไอ้เม่น มึงคบกะไอ้เชี่ยป๊อบมานานยัง* ผมถาม

-อืม สองสามเดือน-

*นี่เป็นเหตุผลที่มึงโทรไปหาไอ้ตี๋เช้าเย็นใช่มั้ย* ควาย .. พึ่งนึกออก กูนี่ควายจริง ๆ รู้ว่าสายไอ้เม่น นึกว่าปรึกษาเรื่องสาว ๆ

-เออสิ กูต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ มึงสองตัวก็รุ่นพี่กูดีดีนี่เอง-

*เชี่ย พวกกูสองคนเป็น ไม่ได้หมายความว่ากูจะชี้นำให้ใคร ๆ เห็นดีเห็นงามกะเรื่องบบนี้นะเว้ย*

-กูชอบของกูอ่ะ- ไอ้เม่นตอบพลางหัวเราะ

*ตี๋ครับ เก่งต้องลงโทษตี๋เล็กแล้วนะ หลายกระทงเลย*

-มีอะไรบ้างอ่ะ- ทำหน้ายียวนทะเล้นทะลึ่งกลอกตาขึ้นข้างบนอีกแล้ว เดี๋ยวฉีดน้ำใส่ปากเลยนี่

*เดี๋ยวจัดการหมดทุกกระทงก่อน แล้วจะบอก* ผมจัดการไอ้ตี๋อีกสามครั้ง ส่วนไอ้เม่น ผมไม่ได้ติดตามถามไถ่แต่ประการใดว่ามันจะแตกสักกี่ที

                การคบกันระหว่างชาย – ชาย แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการเปิดใจกว้างเพื่อยอมรับ แต่สังคมซึ่งมีบรรทัดฐาน ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม จารีต เป็นกรอบอันดีงามอยู่นั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปชี้นำให้สังคมเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี ไม่ผิด สรุปง่าย ๆ เราไม่ต้องทำใครเดือดร้อน  และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเรียกร้องสิทธิ หรือชักชวนผู้อื่นในรูปแบบใด ๆ ให้มีการกระทำเปิดเผยแบบเรามากขึ้น จบแบบภาษา Singlish หน่อยนะครับ If can, can lah. If can not, can not.. ปล่อยมันเป็นไป

จบข่าว โปรดติดตามข่าวได้ใหม่ ในตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 21-09-2007 16:16:59
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ - ตอนที่ 13 เมื่อน้ำลด ... ตอผุด


พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 13 – เมื่อน้ำลด ... ตอก็ผุด

                วันรุ่งขึ้นพวกเราก็เข้าร่วมงานบวชของเพื่อนกัน จนถึงบ่าย ๆ ไอ้เม่นก็ขับรถกะบะของพ่อมันไปส่งเราที่สนามบินอีกครั้ง ก่อนกลับแม่ไอ้เม่นให้มะม่วงเปรี้ยวเรามาเยอะมาก แพ็คใส่กล่องมาม่าเปล่ามา แล้วใส่ในถุงพลาสติกใหญ่อีกชั้น เราคุยกันสนุกสนานตลอดทาง เพราะไอ้ป๊อบมันจิกกัดวีรกรรมเปิ่น ๆ ของไอ้เม่นตอนที่จีบมันให้เราสองคนฟัง ไอ้เม่นมันก็น่ารัก เป็นคนดีเท่าที่เพื่อนผมคนนึงจะเป็นได้

                ที่สนามบิน ผมรับอาสาไปเช็คอิน จึงบอกให้ไอ้ตี๋เอาตั๋วขากลับมา ไอ้ตี๋ล้วงไปในกระเป๋า แล้วทำหน้าจ๋อย ๆ เราสองคนรีบเอากระเป๋าออกมาค้นดูว่ามันอยู่ที่ใหน ไอ้ตี๋เริ่มสลดแล้วทำตาแดง ๆ อีกแล้ว ซึ่งผมสาบานนะว่าผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย กับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ผมค่อนข้างจะเป็นคนที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี และไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรมาก แต่ไอ้ตี๋ มันเป็นคนที่กังวล คิดไปก่อนล่วงหน้าในทางที่ไม่สบายใจ แล้วมันจะงุ่นง่านไม่มีสติ มันรื้อกระเป๋าอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับว่า เรื่องนี้สำคัญมาก ผมไม่โทษมัน เพราะผมอยู่กับมันมา ผมรู้ว่ามันเป็นคนละเอียดอ่อน มีกำหนดการและเป้าหมายที่แน่นอนในการทำอะไรต่ละอย่าง  ผมจับมือมันให้หยุดรื้อของเบา ๆ

-พอเถอะตี๋ ไม่เจอก็ช่างมัน-

*ได้ไง มันต้องอยู่ที่ตรงนี้สิเมื่อวานกูใส่ไว้ตรงนี้ !@^&^%@$&^&*&(*(8*

มันบ่นไปเรื่อยทำตาแดง ๆ เหมือนกันว่ามันนี่ผิดมาก ๆ ผมบอกว่า

-เดี๋ยวกูไปถามที่เคาน์เตอร์ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่ต้องตกใจ ของมันไม่เห็นแล้วเราก็หาวิธีอื่นแก้นะ- ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ตอนนั้น อีก 2 ชั่วโมงเครื่องจะออก ยังได้ยินเสียงมันบอกไอ้เม่นกะไอ้โลนลี่ป๊อบว่า

*มึงดูสิไอ้เม่น ไอ้เก่งมันโตกว่ากูทุกเรื่อง กูน่ะนะเป็นเด็กต้องให้มันดูแลอยู่เรื่อย ไม่ไหวจริงๆ ใช้ไม่ได้เลยใช่มั้ยกู* เผลอ ๆ แม่งร้องอีกแน่เลยเมียกู บ่อน้ำตายิ่งตื้น ๆ อีก

                ผมยืนต่อคิวหลังฝรั่งสองคนที่กำลังเช็คอินอยู่ที่เคาน์เตอร์ พอถึงคิวผม

*ทานโทษนะครับ พอดีเราลืมตั๋วขากลับไว้ที่บ้านตอนออกมา ตอนนี้เราต้องการจะเช็คอินไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้างครับ*

-ไม่ทราบว่าผู้โดยสารชื่อไรคะ-

*ภพ.  ..............  กับ ชช. ....... ครับ เราเดินทางมาจาก กทม เมื่องวานนี้และจองตั๋วเป็นตั๋วไป-กลับ*

-สักครู่นะคะ ดิชั้นจะเช็คข้อมูลให้- เธอกดข้อมูลสักพักจึงบอกเราว่า ทางเราต้องขอดูบัตรประชาชนของทั้งคู่ด้วย ผมจึงเดินออกมาเอาบัตรที่ตี๋ แล้วหิ้วเอากระใบใหญ่กับ มะม่วงไปชั่งน้ำหนัก

*ขอบคุณนะครับ*

                ผมเดินออกมากอดไอ้ตี๋ไว้ ไอ้นี่สะอื้นเหมือนเด็ก ๆ บอกว่าทำไมเรื่องแค่นี้ต้องเศร้าโศกเสียใจขนาดนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจ

*มึงดีกับกูทุกอย่าง คอยดูแลกูตลอด กูซะอีกไม่โตเป็นผู้ใหญ่* เรานั่งคุบกันที่ม้านั่ง 4 คน ไม่มีคนเลยในสนามบิน เงียบร้างยังกับป่าช้า ตี๋น้อยของผมเป็นอะไรเนี่ย ไม่น่าจะซีเรียสขนาดนี้นะ

                ผมมองหน้าไอ้เม่น พยักหน้าบุ้ยใบ้ให้มันไปตามผม

-เออ กูจะบอกมึงดีมั้ยเนี่ย- ไอ้เม่นอึกอัก มีปัญหาห่าไรอีกวะ เมื่อคืนเอากันอยู่ดีดี ...

*เออ เดินไปที่ร้านค้าดีกว่า ซื้อน้ำมาให้ไอ้พวกนี้กินสักหน่อย* ผมกับไอ้เม่นเดินคู่กันออกมา

-เก่ง มึงมีอะไรปิดไอ้ตี๋อยู่หรือเปล่า-

*เปล่านี่* ผมตอบโดยไม่ทันได้คิดว่ามีเรื่องอะไร (ไม่ใช่กูจงใจปกปิดนะ กูคิดไม่ถึง)

-เรื่องคนในเน็ต ที่มึงไปกับแฟนเค้าที่คอนโด-

*ไอ้เชี่ย* ผมพูดได้แค่นั้น หัวใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม

-ตี๋มันบอกว่าคนที่เป็นแฟนมันน่ะ โทรมาแต่มึงไม่รับ มันเลยส่งข้อความกลับไป-

-ไอ้คนนั้นที่เรียนอยู่มอสีเขียว มันเล่าให้ฟังหมด-

-ว่ามึงจะไปใหนกับแฟนมันเมื่อไหร่-

-กูนับถือน้ำใจไอ้ตี๋มันจริง ๆ ที่มันไม่โวยวาย แต่ว่ามันเล่าให้กูฟังว่ามึงกลับมาขอโทษมัน มันเลยไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องขึ้นมา แล้วกูว่านะที่มันเสียใจกับเรื่องตั๋วนี่ก็ มันกลัวว่ามึงจะเห็นมันไม่ดี เรื่องเล็ก ๆน้อยดูแลไม่ได้ ทิ้งมันไปสักวัน-

*กูไม่เคยคิดแบบนั้นเลย วันนั้นกูจะไปบอกไอ้เชี่ยนั่นว่ากูไม่คบกะมัน*

-เออ ไอ้ตี๋มันรู้ เพราะแฟนไอ้นั่นโทรมาบอกขอบใจที่ช่วยสั่งสอนเมียมัน ได้ยินว่ามึงต่อยมันด้วย-

*เออ กูกลับมากูพูดกับไอ้ตี๋ว่าขอโทษ แต่กูไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง กูอยากให้บางอย่างมันผ่านแล้วผ่านเลย แต่กูไม่คิดว่ามันจะคิดมากแบบนี้*

-มึงก็รู้ไว้ซะว่ามันไม่ได้โกรธมึงเลยเรื่องนั้น ไม่ได้โกรธด้วยว่ามึงไม่บอกมัน แต่มันโทษตัวมันเอง มันคงกลัวว่ามันจะเสียมึงไปให้คนอื่น-

*คิดมาก* ผมถอนหายใจ เป่าระบายลมออกจากปาก  กูจะแก้ปัญหาครั้งนี้ยังไงดี ....  ตี๋เล็ก เก่งขอโทษ ... ทำไงดีกู



หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 21-09-2007 16:49:28
เรื่องที่มันแล้วไปแล้วบางเรื่อง ก็ปล่อยให่มันผ่านๆไปดีกว่านะ

รออ่านอยู่นะ ไอซ์ สอบเสร็จแล้ว มาลงต่อเยอะๆเลยด้วย :a14:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 21-09-2007 16:58:02
ตี๋รู้เรื่องแล้วนี่เอง ดีนะที่ไม่มีปัญหากัน เข้าใจกันแบบนี้ดีที่สุดแล้ว  :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-09-2007 18:51:24
ขอร้อง อย่าเศร้าเลยนะครับ

กลัวจะรับมันไม่ไหวครับ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 21-09-2007 19:10:12
จะได้ไม่มีปัญหากันภายหลังอีก
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-09-2007 19:24:24
แหมๆๆ นับถือน้ำใจตี๋เหมือนกันนะเนี่ย  o13 ..... ที่ไม่วีนไม่โกรธอะไร .....  o7

เก่งอย่าลืมไปพูดให้ความั่นใจให้กำลังใจตี๋นะครับ .... สงสารตี๋จังไม่อยากให้คิดมาก

-----------

ขอบคุณนะคร้าบบ ที่เอามาลงให้หลายตอนติดๆเลย  :m11:   :m4:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: zest ที่ 21-09-2007 23:42:37
คือว่าจะโดนด่าไหมถ้าบอกว่าเคยอ่านแล้ว





เรื่องเศร้ามากๆๆ ตอนจบน่ะ น้ำตาซึมเหมือนกัน
บอกแค่นี้ดีกว่าเด๋วคนอื่นเสียรมย์
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: zest ที่ 21-09-2007 23:46:12
ลืมไปมี Blog ของคุณเก่งเจ้าของเรื่องมาฝาก

และมีนิยายใหม่ด้วยครับ

http://biglovestory.blogspot.com/

ตามนี้เลย


ปล.เรื่องนี้ทำให้อ่านต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ทุ่มกว่าๆ จนเกือบตี 2 เฮ้อทำไปได้นะกรู
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 21-09-2007 23:53:14
 :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 22-09-2007 04:29:45
มีคนมาสปอยว่าจบเศร้า  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 22-09-2007 06:10:15
ไม่ว่าสุดท้ายจะจบแบบไหน  เราก้อได้อะไรดีๆ จากเรื่อนี้หลายอย่างครับ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 22-09-2007 11:15:08
ตอนจบเศร้าหรอ เตรียมทำใจล่วงหน้า  :m15: :m8: :m15: :m8:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-09-2007 15:25:25
มาปรบมือให้ตี๋  :m4:  รู้เรื่องแล้วแต่ไม่โวยวายไร ในเมื่อเก่งกลับตัวทัน ไม่ได้ถล่ำลึกไป

คนรักกันเรื่องแค้นี้ให้อภัยได้ ขอแค่คิดได้และกลับตัวทัน การเผลอใจไปบ้างมันก็ให้อภัยได้

แต่แค่ครั้งเดียวพอนะ ไม่งั้นเด่วเหลิง  o12  :m16:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 22-09-2007 16:49:36
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ - ตอนที่ 14 อากาศแปรปรวน

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 14 – แปรปรวน

 

          เห็นผมเถื่อน ๆ แบบนี้จริง ๆ แล้วผมเป็นคนที่อ่อนไหวมากเลยนะครับ ผมรู้สึกคล้าย ๆ โลกหมุนช้าลง ช้าลง เรื่อย ๆ จนผมอยากให้เวลามันหยุดเดินไปเฉย ๆ เลย ... ผมไม่รู้ว่า หลังจากที่ซื้อน้ำเสร็จแล้วเข้าไปหาตี๋เล็ก ผมจะทำหน้ากับมันยังไง มันคงยังไม่รู้ว่าไอ้เม่นบอกผมหมดแล้ว หรือมันจะรู้แล้ววะ..  สมองผมปั่นป่วนไปหมด เฮ้อ ... ผมเดินตีนลอย ๆ แบบหมดอาลัยตายอยากมานั่งข้างตี๋ ไอ้เม่นกับไอ้ป๊อบจ้องมองผมเขม็ง ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย

                ผมใช้มือดึงห่วงเปิดกระป๋อง แล้วยื่นกรีนสปอตเย็นนิดเดียวให้ตี๋ เวลาตี๋กินน้ำจากกระป๋องเขาจะไม่ใช้หลอด เพราะเค้าบอกเหตุผลว่า ไม่ได้อรรถรส ผมไม่กล้าสบตาไอ้ตี๋น้อยของผมเท่าไหร่นัก อีก 1.5 ชั่วโมงเครื่องจะออก ผมจะทำอย่างไรดีกับชีวิตผมเนี่ย ... ผมฉีกซองผ้าเย็น (ที่ไม่แช่ตู้เย็น) ออกมาแล้ว เอาเช็ดหน้าให้ตี๋เล็กเบา ๆมันไม่ร้องให้แล้วแต่ตายังคงแดง ๆ อยู่ มีคนเดินผ่านไปมามองดูเราสี่คนเล็กน้อย แต่ผมไม่สนใจใครทั้งนั้น อย่างดีก็คงได้เห็นกันแค่วันนี้วันเดียว สายตาไอ้ตี๋น้อยของผมมันมองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น ผมเช็ดหน้าให้มันจนเสร็จแล้วเงียบ ........

                ณ วินาทีนั้นทุกอย่างเงียบ เหมือนโลกจะหยุดหมุนได้ ใบไม้สักใบหล่นลงมาก็คงได้ยินเสียงเท่ากับพระตีกลองเพล ไอ้เม่นคงไม่สบายใจ มันไม่ยอมกลับบ้านสักที คงอยากรู้ว่าเราสองคน จะลงเอยกับปัญหานี้ได้อย่างไร ผมเอื้อมมือไปดึงตัวไอ้ตี๋น้อยของผมลงมานอนที่ตัก ตัวมันร้อน ๆ รุม ๆ เหมือนจะเป็นไข้ ... ผมมีความรู้สึกเหมือนจะตายไปซะวินาทีนั้นให้ได้ มันเอาหัวนอนลงที่ตักผมแล้วหลับตา ดูเหมือนว่ามันอยากจะร้องให้อีกแล้ว

                ผมบอกไอ้ป๊อบกับไอ้เม่นกลับได้เลยเพราะเส้นทางเปลี่ยว ไกล้ค่ำแล้ว ไอ้เม่นมองหน้าผม ผมพยักหน้าแค่ครั้งเดียว เหมือนกับเป็นสัญญาณให้มันทราบว่า ผมมุ่งมั่นจะแก้ปัญหานี้ให้ได้  มันยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปาก .. ไม่ให้ผมพูดอะไร ผมพยักหน้ารับเป็นเชิงขอบใจเพื่อนรักที่เป็นห่วง 

                ผมกระซิบถาม *ตี๋เล็ก ไม่สบายแน่ะ กินยาหน่อยนะ*

                -อือ มียาในกระเป๋าเป้- เมียผมเค้าเตรียมพร้อมเสมอครับ ระหว่างเดินทาง

                *ไหวมั้ย ไม่ไหว เรายังไม่ต้องกลับก็ได้นะ โทรเรียกไอ้เม่นกลับมารับ*

                -อย่าลำบากเค้าเลย เสียเวลา เสียเงินค่าตั๋ว มึงไปทำงานมาเหนื่อยนะ-

                *กินยาก่อนไม่ต้องพูดมาก* มันหลับได้สัก 45 นาทีผมก็ปลุกมันขึ้นเครื่อง ผมเช็ดหน้าให้มันอีกครั้ง (แผ่นใหม่ ไอ้ตะกี้ทิ้งไปแล้ว)  ผมเดินนำหน้าจับมือมันเดินไปกลางลานที่เครื่องบินจอดอยู่ ผู้โดยสารไม่เยอะอีกแล้ว ไม่น่าถึง 30 คน พวกที่เพิ่งลงเดินสวนทางเราไป ผมให้ตี๋น้อยนั่งด้านในสุด จับหัวมันพิงมาทางไหล่ผมแล้วมันก็หลับตาลงในทันที  พี่สุทธาสิณีคนสวยเดินมาหาผม

                -เพื่อนไม่สบายหรือเปล่าคะ-

                *นิดหน่อยครับ เป็นไข้*

                -รับยาหน่อยมั้ย เดี๋ยวพี่หยิบให้-

                *ขอบคุณครับ เขากินไปแล้ว 1 เม็ดครึ่งครับ* พี่เค้าทำหน้าฉงน คงสงสัยว่า ทำไมต้อง 1 เม็ดครึ่งด้วย แล้วเดินผ่านไป

                ผมปฏิเสธอาหารกับเครื่องดื่ม คิดว่าตี๋เล็กของผมคงไม่กินเหมือนกัน สภาพอากาศอากาศข้างนอกไม่ดีเลย มีฟ้าผ่าครืน ๆ ทำให้เครื่องบินไม่นิ่งเลย ยิ่งทำให้ผมใจไม่ค่อยดีเข้าไปอีก กัปตันประกาศให้ทุกท่านรัดเข็มขัด เวลาแค่ 20 กว่านาที ช่างดูยาวนานเหลือเกิน ผมเรียกตี๋เล็กมันตื่นเบา ๆ ลงไปขึ้นรสบัสเข้าอาคารผู้โดยสาร ฝนตกหนักมาก ๆ ผมให้มันนั่งรอที่ม้านั่ง ไปจัดการเอากระเป๋ากับมะม่วงมาแล้วเรียกแท็กซี่กลับทันที

                อยู่ในรถมันพิงไหล่ผมนอนหลับตาตลอด ผมเอามือมันมาจับมือผมไว้ มือมันเย็นเฉียบ ตัวก็เย็น ไม่ร้อนแล้ว มันเป็นแบบนี้ต้องได้อะไรอุ่น ๆ สักอย่าง ผมบอกให้ลุงแท็กซี่จอดที่ร้าน Family mart ซอย 33 แล้วรอแป็บนะลุงสัก 5 นาที

                ผมกลับมาพร้อมกับขวดน้ำร้อน ผมซื้อน้ำขวดนึงแล้วขอที่ร้านใส่ไมโครเวฟ อุ่น ๆ กำลังดี ให้ไอ้ตี๋เอากอดไว้จะได้ไม่เย็นไปทั้งตัวแบบนี้ (ตอนหลังมีคนขโมยไอเดียผมไปทำหนังฮ่องกง ชื่อ So close มีใครเคยดูใหมครับ ไอ้ตี๋เป็นโรคเหมือนซูฉีในเรื่อง  ต้องการของอุ่น ๆ เวลาร่างกายหนาว ๆ อุณหภูมิลดลง)

                ผมแทบจะกอดมันไว้จนถึงหอเลยครับ ลุงก็ชำเลืองดูนิด ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร วันนี้กลายเป็นผม ที่ต้องเช็ดตัวให้มัน มันครางฮือ ๆ เห็นแล้วผมอยากจะตายซะให้ได้ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากป่วยแทนมัน เคยมีความรู้สึกแบบนี้มั้ยครับ ผมเปลี่ยนชุดนอนให้มันเป็นลายสีแดง เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ โดยไม่ลืมใส่ของผมให้เข้ากับของมันด้วย ตอนนี้เราซื้ออะไรก็ซื้อทีละสองครับ เปิดพัดลมให้ส่าย อากาศจะได้ถ่ายเท

                ผมนั่งลงข้างเตียงหอมแก้มมัน 1 ทีแล้วเอาโต๊ะญี่ปุ่นเล็กมากางข้าง ๆ เตียงครับ เปิดโคมไฟเล็ก ๆ ปิดไฟดวงใหญ่ เสียงมันครางฮือ ๆ ตัวไม่ร้อนเหมือนที่โคราชแล้ว เย็นเฉียบเลย

                ผมลุกไปหยิบถุงร้อนของ 3M บิดเหรียญโลหะในถุงเจสฟ้าใสสองสามที ถุงก็แข็งและอุ่นขึ้นมา ผมทิ้งไว้ราวสามนาที เอามาแตะที่ท้องแขนดู ว่าความร้อนทนได้หรือยัง แล้วเอาให้ตี๋น้อยมันกอดไว้ในมือ

                ผมเอาสมุดมาทำ Plan Lab ของวันพรุ่งนี้ เพราะเรามีแล็บ 8.30น. โดยไม่ลืมทำของตี๋น้อยมันด้วย ผมชำเลืองตามองมัน เอามือจับตัวมันเป็นระยะ อ้า ....... ตีสองแล้ว ผมอ่านเนื้อหาเตรียมทำ Quiz Lab ในใจก็คิดว่า พรุ่งนี้จะให้มันลอก นั่งไกล้ ๆกันตอนทำ Quiz มันไม่ครางแล้วตอนนี้ กลับกรนเล็ก ๆ สม่ำเสมอ ผมนั่งอยู่ข้างเตียงเอามือมันมากุมไว้ เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่ทราบจนผมหลับไป .......
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 22-09-2007 16:51:18
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ - ตอนที่ 15 คอนเวิร์ส

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 15 – คอนเวิร์ส

 

                *เก่ง เก่ง ตื่นได้แล้ว 7.30 แล้วนะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล็ป*

          ผมย้ายขึ้นไปนอนบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  เสียงที่เรียกผม ไม่ใช่เสียงไอ้ตี๋ แต่กลายเป็นเสียงพี่อ้วน พี่อ้วนใส่ชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว ยืนอยู่ข้างเตียงผม

                -พี่อ้วน ตี๋ไปใหน-

              -ไปเรียนได้แล้ว เร็ว ๆนะ พี่มาปลุกเฉย ๆ – พี่อ้วนเดินออกไปอย่างเร็ว

                ผมรีบจัดการธุระของผมให้เรียบร้อย เสื้อผ้าชุดที่จะใส่ ไม่ได้ถูกแขวนไว้ที่เดิมอีกแล้ว ผมรื้อดูในตู้เสื้อผ้า ยังไม่ได้รีดเลยจะใส่ได้ยังไง เอาก็เอาวะ ผมหยิบมาตัว เก็บกระเป๋ากับหนังสือ พอเดินออกมาปิดประตู เสือกลืมเสื้อกาวน์อีก ต้องกลับไปรื้ออีกรอบนึง เฮ้อ ตี๋เล็กโกรธเราจริง ๆ หรือเนี่ย ผมใจคอไม่ดีเลย

          ผมรีบวิ่งไปที่แล็ปเคมีชั้นสองอย่างรวดเร็ว เกือบไม่ทัน Quiz แล้ว อาจารย์ผู้คุม Lab มองผมอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ผมกล่าวขอโทษอาจารย์เบา ๆ

                เพื่อน ๆ มองมาทางผมนิดหน่อย เพราะต่างคนต่างทำ Quiz ผมวิ่งไปนั่งที่กลุ่ม 6 ซึ่งเป็นกลุ่มของผมเอง นั่งทำข้อสอบ 5 ข้ออย่างรวดเร็ว ...... ตาเหลือบไปมองไอ้ตี๋ที่กลุ่ม 3 มันไม่มองมาทางผมเลย ดูมันจดจ่อกับข้อสอบมาก   อาจารย์ให้แลกเปลี่ยนตรวจกันเอง ผมหยิบของเอ๋ คนข้าง ๆ มา เอ๋มันทำตาโตว่าผมได้ 10 คะแนนเหมือนเดิม ในขณะที่มันได้เพียง 6 เท่านั้น แล็ปวันนี้ผ่านไปด้วยดี จนถึงเวลากินข้าวกลางวัน ผมยืนรอไอ้ตี๋อยู่ที่หน้าห้องเพื่อดักรอมัน กะว่าจะชวนไปกินข้าวคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจ

                มันเดินออกมาแล้ว อยู่ในกลุ่มของเพื่อนกลุ่มใหญ่ราว ๆ 8 คน ไม่มองมาทางผมเลย ผมเรียกมันเบา ๆ นอกจากมันไม่หันมามองแล้ว มันยังหันไปคุย กับคนอื่น เหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้เลย

                ผมเดินคอตกกลับไปที่ภาควิชาเพื่อรอเรียนในตอนบ่าย ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมเหตุการณ์ครั้งนี้มันรุนแรงขนาดนี้ ในเมื่อไอ้เม่นมันก็บอกผมว่า ไอ้ตี๋มันกลัวผมทิ้งมัน ... แต่ตอนนี้มันกำลังจะทิ้งผมต่างหาก

                ผมเหนื่อยมากเลยฟุบลงบนโต๊ะไม้ใต้ภาควิชา สักพักผมหลับไป ไม่รู้นานเท่าไหร่ มีคนมาสะกิดผมให้ลุกขึ้น พี่เต๊ก พี่รหัสผมนั่นเอง ถามว่าทำไมไม่เรียน เพื่อน ๆ ไปหมดแล้ว ผมถามว่า กี่โมงแล้ว พี่เต๊กบอก บ่ายสอง อืม ผมสายไป 30 นาทีแล้ว พี่เต๊กบอกไปหอนอนก็ได้ กลับไหวใหม ผมบอกว่า ได้ครับแล้วผมก็เดินคอตกออกจากสถาบันไป

                ถึงที่ห้องผมหน้ามืดยังไงไม่ทราบครับ เลยนอนมันทั้งชุดนักศึกษาเลย ไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยามแล้วตื่นขึ้นมา โห ... ห้าทุ่มครึ่ง ผมนอนไปนานขนาดนี้เลย ผมมองหาไอ้ตี๋ ไม่เห็นมันอยู่ในห้อง ดึกดื่นขนาดนี้ มันจะไปอยู่ที่ใหนของมัน ผมรีบเอาโทรศัพท์มาโทรหามัน แต่โทรศัพท์กลับดังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะ แสดงว่ามันไม่ได้เอาไปด้วย ผมโทรไปห้องพี่อ้วน พี่อ้วนไม่อยู่ ไปข้างนอก

                มันจะไปอยู่ที่ใหนได้ ... มันกับผมไม่เคยห่างกันเลย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ ผมไม่รู้จะไปตามหามันที่ใหน  เปิดตู้เสื้อผ้าดู เสื้อผ้ามันไม่อยู่สามสี่ชุด .......... ความรู้สึกว่าโดนเมียทิ้งมันเป็นอย่างนี้เองเหรอวะเนี่ย

                ผมนั่งลงกับขอบเตียงแล้วนอนแผ่ลงมา หลับตา น้ำตาริน นานเท่าไหร่ผมไม่รู้  จนผมหลับไป
 
 
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 22-09-2007 16:52:51
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ - ตอนที่ 16 ร่วมด้วยช่วยกัน

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 16– ร่วมด้วยช่วยกัน

 

                วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ผมไปที่คริสตจักรเพื่อเอาเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ไปบริจาค ผมต้องทำอะไรเสียบ้างให้ลืมเลือนเรื่องเหล่านี้ไป ผมตั้งใจว่าผมจะเป็นคนดี ให้ตี๋มันกลับมาหาผมอีกครั้งให้ได้ ผมตัดผมใหม่ด้วยสกินเฮดประชดรัก กินข้าว 2 จาน หลังจากเมื่อวานไม่มีอะไรตกถึงท้อง ผมใช้เวลาอยู่ข้างนอกทั้งวันแล้วกลับที่หอ ในใจหวังลึก ๆ ว่าไอ้ตี๋น้อยมันจะกลับมาแล้ว แต่ส่งที่ผมเจอ ก็คือห้องสี่เหลี่ยมว่างเปล่า ไร้เงาของมัน ผมเก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมากองรอซัก ผมเห็นเสื้อชุดที่มันใส่นอนคืนสุดท้ายลายสีแดงในตะกร้า ผมเอาหยิบขึ้นมาดม กลิ่นคุ้นเคยของมันยังติดจมูกผมอยู่เลย น้ำตาผมพาลจะไหลออกมาอีก ผมก็ได้แต่โทษตัวเอง ว่าเป็นเพราะผมนั่นล่ะ ที่ทำให้มันต้องไป

                ผมรีบสลัดความคิดออกไปและทำงานบ้านให้เสร็จ วันนี้วันเสาร์ คืนนี้ผมจะนอนดูบิ๊กซีเนม่าให้หนำใจ ผมพยายามคิดไว้ในใจว่า ถ้าไอ้ตี๋มันกลับมา ผมจะพูดประโยคแรกกับมันว่าอะไรดี ผมคิดยังไงก็คิดไม่ตกสักทีจนนอนหลับไป

                ตี๊ด ๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์มือถือ เบอร์พี่เต๊ก นั่นเอง

*เก่ง วันนี้วันเกิดพี่ว่ะ อยากได้ของขวัญเป็นเหล้าสักขวด มาที่ร้าน ............ นะตอนหกโมง รู้จักใช่มั้ยไกล้หมู่บ้าน .......* พูดเสร็จก็วางสายเลย ไอ้พี่บ้า ผมดูเวลา 4.30น. แล้ว จึงอาบน้ำเตรียมออกไป เออ กินเหล้าสักหน่อยก็ดีจะได้ลืม ๆ เรื่องเครียด ๆ ไป

                ผมแวะที่ร้าน 7-11 ซื้อช็อกโกแลตขาว 2 แท่ง แล้วเดินไปร้านดอกไม้ซื้อ ลิลลี่สีขาวดอกใหญ่ผูกติดกับช๊อกโกแลต ไม่มีเวลาหาของขวัญล้ว ยังไงคงไปออกค่าเหล้าช่วยแก ไม่หิ้วอะไรก็แย่เลย ให้ดีกว่าไม่ให้วะ

                ผมเดินไปเกือบจะถึงร้าน เจอพี่อ้วนกดตังค์อยู่  เลยเดินเข้าไปพร้อมกัน พึ่งรู้ว่าพี่อ้วนมางานเดียวกัน แกบอกว่าเชิญแขกมานิดเดียวเอง ผมก็งงพี่แกออกจะกว้างขวางทำไมเชิญคนมานิดเดียว

                มาถึงร้านแล้ว ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งผับเล็ก ๆ พี่ชายพี่เต๊ก เป็นหุ้นส่วนอยู่ ผมเคยมาสามสี่ครั้งตอนช่วงรับน้องเทอมที่แล้ว มีมุมเวทีเล็ก ๆ ไว้ให้นักร้องร้องเพลงกลางคืน ตอนนี้เค้าเปิดเพลงเบา ๆ อยู่

          *มาเลย ๆ ๆๆ กำลังต้องการตัวพอดี*  พี่เต๊กดึงแขนผมนั่งลงที่โต๊ะ ผมนั่งข้างแกหันหลังให้เวที ในร้านมีลูกค้าอีก 1 โต๊ะ -2 คน

-เอ้าพี่ สุขสันต์วันเกิด- ผมยื่นของขวัญให้ ไอ้พี่เต๊ก แม่งกึ่ม ๆ หน้าแดงแล้ว หัวเราะดังลั่น ขอบ อกขอบ ใจ พี่อ้วนสั่งเด็กชงเหล้าวางหน้าผมแล้ว

-พี่ ผมเอาออนเดอะร็อค- พี่เต๊กรีบเรียกเด็กเปลี่ยนแก้วให้ผมทันที พี่อ้วนเอาแก้วที่ชงแล้วไปครอง

-พี่ปลาล่ะ-

*ไปข้างนอก เดี๋ยวมา*

-ทำไมวันเกิดมีคนแค่นี้พี่-

*เออ กูจะมีกี่คนมันก็เรื่องของกู* ไอ้พี่เต๊ก กึ่ม ๆ ได้ที่แล้ว เริ่มสนุกล่ะ ผมเริ่มยกหาย ยกหายเหมือนกัน เรา 3 หนุ่มเริ่มออกกายบริหาร ยกน้ำหนัก ชนแก้วแบบแก้วต่อแก้วเลยทีเดียว

                ไม่น่าเชื่อว่า 30 นาที ชีวาสเกินครึ่งขวดหมดไป ผมรู้สึกมึนนิด ๆ แต่กำลังดี ถ้าได้อีกกลมคงโอเค เลยบอกว่าผมเลี้ยงขวดต่อไป อ่ะน้า สามคนนี้ คอแป็บคอทองเหลืองทั้งนั้น สบายมาก อีกอย่าง ผมก็อยากกินให้มันเมา ให้มันลืมทุกอย่างไปเลย

                พวกผมสามตัวคุยกันอย่างออกรสออกชาติเพราะเหล้าเข้าปาก กำลังสนุกสนาน ไม่ได้สนใจอะไร คุยกันเอะอะเสียงดังตามเรื่องตามราว เหลือบเห็นมีคนมาจัดเวที คงจะได้เวลารอบแรกของการร้องเพลงแล้วมั้ง

                ตอนนี้ในร้านเหลือแขกแค่ โต๊ะผมโต๊ะเดียวเพราะยังหัวค่ำ ตอนนั้นสัก 1ทุ่ม เอง ผมคุยกะพี่อ้วนละพี่เต๊กอย่างออกรสออกชาติ ไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น

                สักพัก มันหยุดคุยไปเฉย ๆ พี่เต๊กกะพี่อ้วนปรบมือแล้วโห่อย่างดัง หันหน้าไปที่เวที ผมหันไปมองดูมั่งเพราะผมหันหลังให้เวทีอยู่  สิ่งที่ผมเห็นนั้นแทบทำให้ผมหยุดหายใจ ..... พี่ปลาแฟนพี่เต๊กยืนอยู่ที่อิเล็กโทน.............  แต่ที่ทำให้ผมทบตกจากเก้าอี้คือ ..............

 

ไอ้เชี่ยเก่ง

                มันนั่งอยู่เก้าอี้นักร้องกลางเวที มีกีตาร์ตัวนึงห้อยคอมันอยู่ ผมได้ยินเสียงพี่ปลาพูดใส่ไมโครโฟน

                *เพลงนี้เป็น surprise มอบให้กับใครก็ไม่รู้ ถ้ารู้ตัวว่าเป็นเพลงตัวเอง กรุณาช่วยรับ ๆ ไป อย่าเล่นตัวมาก*

                ไอ้พี่เต๊กกะพี่อ้วนยิ่งปรบมือหนักเข้าไปอีก แถมยังโห่เสียงดังด้วย พี่ปลาเล่นจังหวะอินโทรขึ้นมา ทำให้ผมตาเหลือกด้วยความตกใจ

 

Never before have I seen you look so blue
I cant find a cure and nothing comforts you
But the light at the end of the tunnel
Doesnt shine at the end of the day

Every time you cry
Save up all your tears
I will be your rainbow when it disappears
Wash away the pain
til you smile again
I will be the laughter in your eyes
Every time you cry

Time has a way of wounding what has healed
What can I say? I know just how you feel
Your soul is dark and troubled
Like a river running wild

Every time you cry
Save up all your tears
I will be your rainbow when it disappears
Wash away the pain
til you smile again
I will be the laughter in your eyes
Every time you cry

Well, you know thats what Im here for
I will give you what you need, more
There will be no hesitation
I will reap no reward

Every time you cry
Save up all your tears
I will be your rainbow when it disappears
Wash away the pain
til you smile again
I will be the laughter in your eyes
Every time you cry

 

          ไอ้พี่เต๊กกับพี่อ้วนแม่งพร้อมใจตบกะโหลกผมพร้อมกันตอนจบเพลง  พี่เต๊กยัดช็อกโกแลตขาวกับดอกลิลลี่ใส่มือผมที่ งง ๆ และตาแดง ๆ จะร้องให้แหล่ มิร้องแหล่ ไอ้ตี๋มันเดินเข้ามาทางผมแล้ว เวลามันเหมือนเนิ่นนานทั้ง ๆ ที่มันหายไปจากผมแค่ 1 คืน ผมมองหน้ามันมันทำตาแดง ๆ เหมือนจะร้อง เราโผเข้ากอดกันทันทีร้องให้อย่างไม่อายใคร ผมไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ ผมพูดกับมันวกวนอยู่อย่างนั้นว่า ----- กูขอโทษ ----

                *ก็แค่นี้ ไอ้เสือสิ้นลาย* เสียงไอ้พี่เต๊กดังขึ้น

                ผมจับมันนั่งลงที่โต๊ะ เราสองคนเช็ดน้ำหูน้ำตา รวมทั้งพี่ปลาด้วย ในเวลาต่อมา กลายเป็นว่าสามคน ผม ไอ้ตี๋ พี่ปลา หัวเราะกันทั้งน้ำตา

                *ไอ้สองคนนี้ทะเลาะกันทำไมลำบากพี่รหัสวะ* พี่เต๊กพูดเสียงดัง

                -เออ แต่กูว่าก็ดีนะ ได้แดกเหล้าฟรี- ไอ้พี่อ้วนสอด

                *เก่ง ง้อแฟนไม่เป็นเหรอ ปรึกษาพี่เต๊กสิ เชี่ยวนะขานี้* พี่ปลาพูดพลางหัวเราะทั้งน้ำตา

                *หยิ่งดีนัก ต้องโดนแกล้งแบบนี้* ไอ้พี่เต๊กสอดขึ้นอีก

                *เอ่อ* ผมพูดได้แค่นั้น ไอ้พี่เต๊กบอกไม่ต้องพูด มึงยังมีภาระอีก 1 ขวด สรุปแล้ววันนั้นหมดไป 3 ขวด แทบจะลากสังขารออกมาจากร้านไม่ไหว ผมยังไม่ได้พูดอะไรกับไอ้ตี๋เลย มันไม่ค่อยกินเหล้าเลย ส่วนผม ... ไม่ต้องพูดถึงเละพอ ๆ กะไอ้พี่เต๊ก พี่อ้วน

                พอมาถึงห้องปิดประตูลงกลอนได้แล้ว ผมกอดไอ้ตี๋แล้วจูบมันทันที .......... รสชาติเหมือนไม่ได้จูบมาห้าปีแล้ว ...

                -เก่ง กูขอโทษที่ไม่บอก ....... -

                ผมปิดปากมันด้วยปากผมทันที คำพูดใด ๆ ในตอนนี้ คงไม่มีความหมายเท่ากับ สิ่งที่อยู่ในใจของเราทั้งสองคน ไม่ต้องบอกนะว่าอะไรจะเกิดต่อไป 5555555555555555555 เซ็นเซอร์คร้าบบบ

 

 

                ไอ้พี่เต๊ก เรียก ไอ้ตี๋ไปคาดคั้นเอาความจริง เพราะไอ้พี่อ้วนไปรายงานเพื่อนมันเรื่องผมสองคน ไม่มองหน้ากัน พี่ปลาเลยออกไอเดียแกล้งผมให้อยู่หมัด วันรุ่งขึ้นผมแซวไอ้ตี๋ว่าถ้ามึงเลือกเพลงอื่น กูก็ไม่ร้องให้หรอก เพราะเพลงนี้เราเคยตกลงกันไว้แล้วว่า จะเป็นเพลงของเราทั้งคู่ ถ้าใครคนใดคนนึงร้องให้ อีกคน จะไม่ทอดทิ้งให้คนนึงร้องตามลำพัง ......... สวีตซ้า........................ อิอิ  เหอ ๆ จะรู้กันทั้งภาคมั้ยเนี้ยว่ากูสองคนเป็นคู่แท้ 2 (เจ้า) โลก .....

 

มีต่อนะ เบื่อกันยัง
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 22-09-2007 17:34:31
 :give2: :give2: :give2:

เขินๆๆๆ อิอิ

น่ารักกันจัง
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 22-09-2007 19:32:46
ถ้าไม่นับชื่อเรื่องที่ชวนให้สงสัย

ผมว่าชีวิตช่วงนี้ของเก่งก็น่าอิจฉานะ
น่าอิจฉามาก ๆ เลยด้วย  :m3:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 22-09-2007 20:07:30
อยากให้ลงเอยด้วยดีจังเลย  :m21:

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-09-2007 01:25:19
ซึ้งอ่ะคับ................... :m3:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: motred ที่ 23-09-2007 01:42:30
ต่อไวๆนะค้าบ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 23-09-2007 02:04:58
ซึ้งๆๆๆ ดีจังเลยยยยยย  :impress:  o7

ชีวิตคู่มีทะเลาะกันบ้าง แต่ถ้าคุยกันด้วยเหตุผล นึกความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน .... ปัญหาน่าจะบรรเทาลงได้ ....

... น่าอิจฉาเก่งกับตี๋ ..... ขอได้มั๊ยอ่ะ? คู่ชีวิตแบบนี้  :m5:  :m13:

อ้อ! ไม่เบื่อนะครับ  เอามาลงต่อได้เรื่อยๆเลยยยยยค้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 23-09-2007 11:31:28
 :m18: :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 23-09-2007 16:56:00
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 17– อีกมุมหนึ่งของบางกอก

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 17– อีกมุมหนึ่งของบางกอก


 

                หลังจากวันนั้น เราสองคนก็ได้หันมาคุยกันอย่างไกล้ชิดถึงปัญหาที่ผ่านมา ผมนอนพังพาบอยู่บนตักไอ้ตี๋เล็ก

*กูไม่ได้โกรธที่มึงไปกับเค้า แต่กูตำหนิตัวเองในหลายๆเรื่อง กูไม่โตพอต้องให้มึงดูแลกูทุกเรื่อง ขี้งอน ขี้แย นั่นแล่ะที่กูอาจจะไม่ดีพอสำหรับมึง ทำให้มึงอยากทิ้งกูไป* ตี๋เล็กมึงเล่นบทนางเอกอีกแล้ว คนอ่านเค้าเกลียดกูจะตายห่าอยู่แล้ว

-กูขอโทษ ที่กูวอกแวก ไม่มั่นคงกับสัญญาที่กูเคยให้มึงไว้ เพราะกูเป็นคนบอกมึงเอง ว่ากูมีมึงแล้ว กูก็ไม่ต้องการใครอีก ไม่มีใครมาบังคับกูให้บอกกับมึง แต่กูก็ฉีกมันทิ้งไป โดยไม่แคร์ความรู้สึกมึงเลย อีกอย่างมึงดูแลกูได้ดีมาก เท่าที่คนดีคนนึงจะเป็นได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้-

*กูก็ต้องขอโทษมึงเหมือนกัน ที่กูไม่รู้ว่ากูจะตัดสินใจพูดกับมึงยังไง จนต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามผู้ชายไปแบบนั้น* เดี๊ยะเหอะ

-ดีนะที่มึงไปกับไอ้พี่เต๊ก มึงไปหาลูกพี่ลูกน้องหน้าหล่อที่เช็ดไอติมเปื้อนปากให้กันละก้อ- ผมคำรามฮึ่ม ๆ

*มึงจะทำมายยยย มึงหึงกูเหรอ ... มึงตกหลุมรักกูล่ะสิ* มันกลอกตาทำหน้าทะเล้น ทะลึ่ง เดี๊ยะจับข่มขืนเลย ว่าแล้วผมก็เอาจริง ๆ 2 ที ให้มันเอาอีก 1 ที ผมยังกอดมันไว้ในอ้อมอก ตี๋น้อยมันพูดขึ้น

 

-เก่ง ต่อไปมึงไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก กับเรื่องทุกเรื่องที่เรายังไม่ได้พูดกัน เราต้องหันมาคุยกันก่อน ก่อนที่ปัญหาจะใหญ่โตออกไป ปัญหาครั้งนี้มันเกิดจาก เราคุยกันน้อยเกินไป-

*ใช่ ต่อไปกูสัญญาว่าเราจะคุยกันมากขึ้น กูก็คือมึง  มึงกูคือกู โอเคมั้ย* มันหอมแก้มผมเบา ๆ เป็นคำตอบ

                เฮ้อ .... กว่าจะมาผูกพันธ์กันได้ขนาดนี้ ผ่านบททดสอบมากี่บทนะ แล้วเส้นทางต่อไปในภายหน้า มันจะมีบททดสอบอีกกี่บทที่รอทดสอบผมกับตี๋น้อยอยู่

*วันนี้มึงมีกู กูมีมึง แค่นี้พอใหม?* มันถามเหมือนจะล่วงรู้ถึงความคิดผม ผมก้มลงไปหอมแก้มมันเบา ๆ กระชับมันเข้าในอ้อมแขนอีกเป็นคำตอบจากใจ

 

 

          เข้าเทอมที่ 2  การเรียนของคู่ชื่นชุลมุนอย่างเรา ก็ยังหนักคงเส้นคงวาเหมือนเดิม เราทั้งคู่สามารถปรับตัวในเรื่องการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้อย่างต่อเนื่อง ผมออกกฏเหล็กบังคับให้ไอ้ตี๋ต้องมารับการติวและเก็งข้อสอบ (บทเรียนจริง ๆ อย่าคิดไปลึก) จากผมในทุก ๆ เย็น และให้ดูละครได้บ้างบางครั้งบางคราว ไอ้ตี๋เล็กมันก็ชอบเหลือเกินละครหลังข่าว ไม่รู้มีเมียใครเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า  ผมยื่นคำขาดว่า ไม่เพลา ๆ ลงบ้างจะเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น “แจ๋ว”  มันก็ไม่สนใจ อ้อน อ้อน และอ้อนให้ผมใจอ่อนดูทีวีกับมันจนได้  และแล้ว ............ ฮ่ะๆๆๆๆ ผมก็ติดละครเหมือนกัน เรายังมีช่องโปรดทีวีเหมือนกันอีก ดีที่ไม่ต้องแย่งกันดูเท่าไหร่นั่นคือ Channel [V] Thailand กับ HBO ส่วนคลื่นวิทยุโปรดของเรา (ไม่แย่งกันฟังเหมือนกัน) คือ 95.5 และ 102.5 Star และ กรีนเวฟ

                เดือนธันวาคม อากาศค่อนข้างหนาวเร็วในปีนั้น เราตัดสินใจว่าจะไปที่ขอนแก่นเพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อน ๆ สัก 1 วัน คราวนี้เราไปรถทัวร์เพราะให้ไปเครื่องบินก็ไม่ไหวหรอกครับ ตอนนั้นยังเป็นนักศึกษา ขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลยนะครับ ผมโทรไปหาอีอุ๋ย ตกลงจะไปในตอนกลางเดือน เพราะเข้าใจว่าในช่วงีใหม่ ทุกคนคงอยากกลับไปฉลองกับพ่อแม่ ครอบครัว ที่บ้าน เลยเลื่อนเข้ามาก่อนดีกว่า  ส่วนผมกับตี๋เล็ก ยังไม่มีโครงการในใจแต่อย่างใด

                ตอนนี้ไอ้ตี๋มันเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วครับ อะไร ๆ ในตัวมันก็สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ตัวมันใหญ่กว่าผมมาก ผมชักไม่แน่ใจว่า ถ้าต่อกับมัน ใครจะชนะ หลังจากที่มีข่าวลือเล็ก ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งคู่ เพื่อนๆ บางคนก็เข้ามาถามไถ่บ้างถึงข่าวลือที่เกิดขึ้น แต่เราสองคนได้แต่หัวเราะ แล้วบอกว่า ข่าวลือ ก็คือ ข่าวลือ เรื่องของผมสองตัว จึงค่อย ๆ จางหาย สลายไปในความทรงจำของผู้คนรอบกายในที่สุด เพราะผมไม่ได้ดังเหมือนดารานี่ จะได้ลงหน้าหนึ่ง หึหึหึ

          เราสองคนมีภาระกิจร่วมกันอีก 1 อย่างที่จะต้องไปทำทุกวันอาทิตย์คือ ไปโบสถ์ หลังจากที่ทำตัวเป็นคริสเตียนแบบไม่ปฏิบัติมานาน เราก็ไปโบสถ์แถว ๆ เดอะมอลล์ท่าพระในวันอาทิตย์ พอนมัสการในตอนเช้าเสร็จ เราได้ไปดูการเรียนการสอนของโบส์ที่มีให้กับเด็กในชุมชน เป็นเด็กที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาเพราะเค้าทำงานก่อสร้างแบบเร่ร่อน เมื่อต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงาน ลูก ๆ ก็ต้องย้ายตามไปด้วย ทางโบสถ์คริสตจักรของผมจึงทำการรวบรวมเด็กเหล่านี้มาดูแล และให้พ่อแม่มารับกลับในตอนเย็น กลางวันจะมีการสอนหนังสือให้เด็ก ๆ ผมกับไอ้ตี๋มองเด็กเหล่านี้ด้วยความหดหู่ใจ เปรียบเทียบกับเราทั้งคู่ ที่ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่มีสมบัติที่เป็นเงินทองอะไรให้มากมาย แต่ทรัพย์สมบัติที่พ่อกับแม่ให้มา คือการศึกษา มันมีค่าและสำคัญ ที่จะทำให้ผมและมันมายืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งเรายังสามารถวางแผนอนาคตได้คร่าว ๆ แล้วถ้าเราเรียนจบไป

                ผิดกับเด็กพวกนี้ ที่เขา ไม่สามารถกำหนดอนาคตตัวเอง แม้กระทั่งการศึกษา เพราะเขาจะต้องเร่ร่อนตามพ่อกับแม่ไปทำงานในทั่วประเทศ เสร็จ 1 โครงการก็ต้องย้ายไปย้ายมา การที่จะได้เข้าโรงเรียน เป็นเรื่องยากสำหรับเขาเหล่านั้น เพราะนอกจากจะเรียนไม่ต่อเนื่องแล้ว ทุนทรัพย์ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา พ่อแม่เขาหากินกลางวันให้ลูกได้กินไป 1 วัน แล้วจะมีเวลามาคิดถึงเรื่องการศึกษา ซึ่งเป็นตัวมอบ “โอกาส” ให้กับลูกเขาได้อย่างไร........

                ผมกับตี๋เล็กจึงตัดสินใจรับอาสาสอนหนังสือเด็ก ๆ ให้ในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ตี๋เล็กบอกว่าดีกว่าเราเอาเวลาไปทำอย่างอื่นไร้สาระ ผมตกลงทันที ตี๋เล็กบอกเพราะการศึกษา ทำให้เรามีวันนี้ ถ้าเราสามารถหยิบยื่นอะไรให้กับคนอื่นได้ เราก็จะทำ

                ก่อนกลับเราแวะเดอะมอลล์ท่าพระเพื่อเดินเล่นดูของสักพัก เราเดินกันไปที่ชั้นล่างสุดของเดอะมอลล์ ..... ชั้นสวรรค์สำหรับผมเพราะมีของกินเยอะเหลือเกิน ผมจูงมือไอ้ตี๋เดินดุ่ย ๆ จะเข้าไปกินไดโดมอน ไอ้ตี๋ดึงกระชากแขนผมกลับอย่างแรง

-หยุดเดี๋ยวนี้นะ-

*ไมอ่ะ*

-เมื่อกี้เพิ่งพาไปดูเด็ก ๆ เขาคลาดแคลนกัน ไดโดมอนคนนึงตั้ง 119 บาท ไปกินข้าวศูนย์อาหารได้อีกเยอะ อิ่มเหมือนกัน-

*ก็เค้าอยากกินนี่* ผมอ้อนเป็นเด็ก ๆ มันจูงผมเดินผ่าน Home-Fresh-Mart มาที่ฟู้ดเซ็นเตอร์ ผมนั่งทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กอยากกินไอติม แต่แม่ปฏิเสธ

-เก่ง ไดโดมอน 119 บาท ไม่ใช่ว่าเราจะกินไม่ได้ จริงอยู่ศักยภาพเรามีเพียงพอที่จะเลือกกินได้ แต่ฟังเหตุผลก่อนนะ เดือนนี้ เรากินอะไรไปกี่ครั้งแล้ว วันอังคารที่แล้ว เราก็เพิ่งมากินพิซซ่าบุฟเฟต์ นานๆ ครั้งกินได้ อีกอย่าง เดี๋ยวเราจะต้องมากินไดโดมอนอีกในอาทิตย์หน้า วันเกิดไอ้ชลมัน-

-เพราะฉะนั้น เราจะเริ่มต้นประหยัดเสียตั้งแต่วันนี้ แต่ประหยัดของกู ไม่ได้หมายความว่ากูไม่ให้มึงกินอะไรเลย แต่การใช้เงิน ต้องมีการวางแผน เข้าใจมั้ย-

*เข้าใจครับแม่ๆๆๆๆๆ* ผมทำเสียงล้อเลียนมัน

-เอากะเพราะปลา ข้าวหมูอบสกายลาร์ค เกี๊ยวซ่าทอด น้ำมะเขือเทศปั่นใส่มะนาวนิดนึง- ผมสั่งมันเป็นชุด มันทำตาเขียวถลึงตาใส่ผม แต่ก็ซื้อมาให้กินอยู่ดี ตกลงวันนั้นเราเซฟเงินได้หลายอัฐ เพราะไดโดมอน 119 บาทเนี่ย ต้องเสียค่าน้ำอีกนะ 39 บาท สองคนกิน น่าจะราว ๆ ไม่ต่ำกว่า 320 บาท แต่ศูนย์อาหาร มีกับข้าวให้เลือกเยอะ ในราคาสองคนไม่เกิน 100 บาทเอง อื้ม เข้าใจล่ะ ทำไมมันเกิดมาเพื่อเป็นเมียผม อิอิอิ

เราซื้อของใช้อีกเล็กน้อยรวมทั้งของกินด้วย แต่เลือกเฉพาะที่จำเป็นนะครับ ถึงตอนจ่ายเงิน ....

-ตี๋ กูไม่ไก้กดตังค์ มึงก็ไม่ได้กดนี่-

*อืม เดี๋ยวเอาบัตร ATM ธ............ ได้ นั่นไงมีป้ายรับจ่ายด้วย ATM บริการเค้ามาใหม่รายแรกเลยนะเนี่ย*

                พนักงานรูดแล้วให้เรากดรหัส ลองอยู่หลายครั้ง ก็ยังไม่ได้สักที ผมเลยบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปกดเงินสดมาจ่าย ตอนนี้อยู่ที่สิงคโปร์ การจ่ายเงินผ่านระบบ NETS ที่เป็นแบบที่เดอะมอลล์เนี่ย เป็นเรื่องธรรมดาเบสิกมาก ๆ ทำให้ผมอดคิดไปไม่ได้ว่า ที่เดอะมอลล์ จะยังทำอะไรแบบนี้ยุ่งยากอีกหรือเปล่าหนอ ....... คงไม่แล้วนะ หลายปีแล้วนี่นา

                กิจกรรมที่เราทำร่วมกันระหว่างดูทีวีช่วงถัดมาจะเป็น การทำบัตรคำ บัตรภาพ เพื่อเตรียมการสอน เสียดายว่าทำอย่างนั้นได้ไม่กี่เดือน คริสตจักรผมก็ขาดเงินทุน จนไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ เฮ้อ ....... เงินนี่มันสำคัญเหมือนกันนะ ซื้ออะไรได้ทุกอย่าง ผมเกิดมายังไม่เห็นอะไรเลยที่ซื้อด้วยเงินไม่ได้ แม้กระทั่ง “ความตาย” ก็ยังซื้อได้ ...
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 23-09-2007 16:57:14
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 18– ฝนตั้งเค้า

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 18– ฝนตั้งเค้า

 

                เราตัดสินใจไปขอนแก่นกันในช่วงคริสมาส แล้วปีใหม่คงจะอยู่ที่ กทม ด้วยกันเพราะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบด้วย กำหนดการคือวันศุกร์เราจะออกเดินทางจากหมอชิต (เก่า) ไปถึงที่หมายคือสถานีรถปรับอากาศขอนแก่น (ไกล้ ๆ โรงเรียนเก่าผม) ในตอนเช้าวันเสาร์ กะว่ากลับวันจันทร์ – แหะ ๆ โดดเรียน 1 วัน (อย่าเอาอย่างนะ เด็กดีเขาไม่ทำกัน) เมื่อไปถึงขอนแก่น เพี่อน ๆ เซ็ตเดิมต่างพากันมาต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียงเช่นเคย พวกเราตัดสินใจไปตั้งวงกันที่หอของไอ้เม่น โดยที่ไปส่งผมกับไอ้ตี๋ เก็บของที่บ้านไอ้ตี๋มันก่อน

                ที่หอไอ้เม่น ร้างแทบไม่เหลือใครอยู่เพราะคนกลับบ้านกันหมด สนุกมาก ๆ เพราะพวกเราในกลุ่มไม่ได้เจอกันมานาน อาหาร เหล้ายา ปลาปิ้งถูกลำเลียงมาเป็นระยะ ๆ การจากกันเป็นการบ่มเพาะให้ความคิดถึงงอกงาม เป็นคำกล่าวที่อธิบายได้ดีที่สุดในวันนี้ ตอนนี้ทุกคนในกลุ่มผมโสดสนิทกันทุกคน (ยกเว้นกูกะไอ้ตี๋เปล่าวะ ?) ไอ้เม่นกะไอ้ป๊อบเซย์กู้ดบายไปกันคนละทางแล้ว เมื่อเริ่มเมาได้ที่ ทุกอย่างก็พรั่งพรูออกมาจากปากของมันอย่างอ้อแอ้

                -ไอ้เชี่ย มันบอกว่ารักกู เสร็จแล้วมันก็ทิ้งกูไป กูยังไม่ได้ทำอะไรผิดกับมันเลย-  ไอ้เม่นเริ่มโวยวาย ร้องให้มีบทโศก

* เฮ้ยมึงอย่าร้องให้สิวะ เกิดมาอายหมา * อีหมา เอ้ย หมออุ๋ย ว่าที่นักจิตวิทยา ปลอบได้ส้นตีนมาก ๆ  เสือกเรียนจิตวิทยา

-พวกมึงดูนะ พอกูถามเหตุผลมันว่า ทำไมมันอยากเลิกกับกู มันบอกว่ามีอยู่สองอย่าง-

-กูถามว่า บอกได้มั้ย จะได้อธิบายให้เข้าใจ- มันยังพล่ามต่อ

-มันบอกกูว่าหตุผลข้อแรกคือ : กูดีเกินไป- เชี่ยแม่งชอบคนเลวหรือไง เหตุผลนิยายสัด ๆ (ความเห็นส่วนตัวนะ กิ้ว ๆๆ)

-กูบอกว่า อย่ามาใช้เหตุผลน้ำเน่าบอกเลยถ้าอยากจะเลิกกัน เพราะกูรู้ว่าตัวกูก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายขนาดนั้น-

-ข้อสอง : มันสับสนกับตัวเอง ไม่รู้ว่ามันเป็นเกย์จริงหรือเปล่า* ผู้ชายแท้ ๆ มาดแมนแฮนซัมที่ใหนจะมานอนแผ่ให้ผู้ชายเอาตูดครับไอ้โลนลี่ป๊อบ มึงทำได้ขนาดนี้แล้วแม่งยังเสือกมาสงสัยอีกว่าตัวเองเป็นหรือเปล่า ไอ้สัด ผมฟังแล้วผมส่ายหน้า ผมเดาออกแล้วว่าเรื่องอะไร

                จากการคาดการณ์ของผู้มีประสบการณ์อันน้อยนิดอย่างผม แหะ ๆๆ ไม่ได้บังอาจตั้งตนเป็นกูรูแต่ประการใด ไอ้ข้อแรกน่ะ “ดีเกินไป” เป็นเหตุผลที่เป็นสากล เป็นการแสดงให้คนที่เราจะทิ้งให้เค้ายังเหลือความภาคภูมิใจไว้บ้าง

                ข้อสอง “สับสันทางเพศ” มักเกิดกับเกย์มือใหม่ ที่ยังไม่มั่นใจในการยอมรับของคนรอบข้าง หรือสังคม อย่างที่พี่ก้อย พี่สาวผมอาจารย์ชีววิทยาท่านกล่าวไว้ “การเป็นเกย์ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในโครโมโซม เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ”  เพราะงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นได้สดงชี้ชัดแล้วว่า การชักนำ หรือการเลี้ยงดู มิได้มีส่วนต่ออุปนิสัยความชอบส่วนบุคคล (ชอบเพศเดียวกัน) สรุปสั้น ๆ คือ บังคับกันไม่ได้หรอกของพรรค์นี้ แล้วจะมาถามว่า เริ่มเป็นตอนใหน ผมก็ตอบไม่ได้ จะเลิกเป็นได้ใหม ผมตอบได้ว่า “ไม่มีทาง” เคยคิดเลิกมั้ย – มีถ้ำกระบอกให้อดใหมล่ะ- เฮ้อ กรณีของไอ้ป๊อบ บอกได้คำเดียวว่าเป็นกรณีพื้นฐานของการเลิกคบกันของเกย์มาก ๆ

                เพราะที่จริง ไอ้ป๊อบไม่ได้พูดถึงข้อ 3 นึกออกหรือยังครับ

3. กูอยากไปมีคนอื่น  เพราะกูไม่อยากได้มึงแล้ว

                จำได้มั้ยครับ ไอ้ตี๋ มันเกือบใช้ข้อที่ 1 กับผมแล้ว ว่ามันไม่ดีพอสำหรับผม เชี่ย กูก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนานี่หว่า ผมจึงได้แต่ปลอบใจเพื่อนไปตามเรื่องตามราว ในใจก็เสียว ๆ เหมือนกันว่าตี๋เล็กเอามั่ง แล้วกูจะทำยังไง ฮ่ะๆๆ (หาใหม่ดิ เดี๊ยะโดน – ยอมแล้วคร้าบบบ)

          เวลาผ่านไปจนดึกจนดื่น ทุกคนแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน ผมกับไอ้ตี๋ขับมอเตอร์ไซค์ไปตระเวนรอบ ๆ ขอนแก่นเพื่อดูตามที่ต่าง ๆ ที่เราเคยไปเที่ยวเล่น เคยทำอะไรร่วมกัน (โรงแรม ? ไม่ได้มีที่แบบนั้นหรอก อย่าเดา) แล้วกลับไปนอนที่บ้านไอ้ตี๋

                ก๊อก ๆๆๆๆ *พี่ตี๋ พี่เก่ง ตื่นหรือยัง* เสียงไอ้เตย น้องไอ้ตี๋เคาะประตูเรียก เวลาเท่าไหร่แล้วเนี่ย โห เกือบเที่ยวแล้ว ผมสองตัวยังกอดกันกลมดิก อากาศที่ขอนแก่นหนาวมาก ไอ้ตี๋ลุกไปเปิดประตู ส่วนผมเอาผ้าห่มคลุมโปงนอนอุตุอยู่

* พี่ตี๋ พ่อต้องเรียกคุยเรื่องพี่แน่ ๆ* เสียงไอ้เตย ผมนอนฟังในผ้าห่ม

*มีคนบอกพ่อ ว่าพี่ตี๋กับพี่เก่งไม่ได้เป็นแค่เพื่อน แต่เป็นผัว-เมีย คู่เกย์* เฮ้ย ผมหายง่วงนอนเป็นปลิดทิ้งแต่ไม่กล้าโผล่มาฟังชัด ๆ  พ่อไอ้ตี๋ดุ นักเลงมาก

-พ่อรู้ได้ไง ใครบอก-

*แม่เค้ามาเล่าให้พ่อฟังว่ามีคนบอกมา เตยว่าต้องเป็นไอ้เชี่ยกลดแน่เลย* อ๋อ ไอ้ไอตืมเปื้อนปาก

*ที่มหาวิทยาลัยมีคนรู้หรือเปล่า*

-เออ ไอ้กลดมันรู้ตั้งแต่พวกพี่อยู่ที่นี่แล้ว- เรื่องกูมันก็ดังไม่ใช่เล่น ๆ ซะด้วยในขอนแก่นเนี่ย ทำไงล่ะหว่า

พรืด ... เสียงไอ้ตี๋ถอนหายใจ –เออ เออ เอาไว้ถ้าพ่อถามจริง ๆ พี่จะคิดอีกที-

*เออ พยายามหลบหน้าพ่อก่อนละกัน*

                เราสองคนตัดสินใจหลบไปอยู่หอไอ้เม่น คืนคริสมาสนี้จะออกไปเที่ยวกันต่อ แล้ววันจันทร์ตอนบ่ายออกมาใหม่ ตอนเย็นวันจันทร์ค่อยนั่งรถกลับ กทม คืนวันเสาร์นั้นเราไปเที่ยวที่ ไฮ-เทค บรรยากาศของไฮเทค ยังคงเหมือนเดิมกับก่อนเราจะไปอยู่ขอนแก่น พวกเราเปลี่ยนมากินเบียร์แทน จะได้แก้หนาวได้ วันนั้น ชาช่า นักร้องคนดังของไฮ-เทค เอาลูกสาวตัวเล็กนิดเดียวมาร้องเพลงที่ผับด้วย ถ้าผมจำไม่ผิดมันเป็นเพลงโบว์ สุนิตา ที่ชื่อว่า  ฉันรู้  ..... มีใครอยู่ใหนเหตุการณ์มั้ยเนี่ย รายงานตัวหน่อย

                ผมเจอรุ่นน้อง 2 คน ในไฮ-เทค คนแรกเป็นผู้หญิง เค้าบอกว่า ถ้าพี่ว่าง ไปอุดหนุนหนูหน่อยนะ หนูนั่งดริ้งอยู่ที่ .................. อ้าว รุ่นน้องกู ไซด์ไลน์กลางคืนซะแล้ว ส่วนอีกคน เป็นการพบกัน ที่ทำให้หัวใจพองโตมาก ไอ้นี่ ชื่อเหมือนเพื่อนผม “สน” ชื่อจริง สนธยา

*พี่เก่ง* ผมเดินผ่านไปห้องน้ำ ไอ้สนดึงแขนไว้

-อ้าวว่าไง ตอนนี้ไม่ได้เรียนที่โรงเรียนแล้วนี่- เสือกรู้กะเค้าอีก แฮ่ๆ ๆๆ พอดีสนใจน้องเค้าอยู่ไง เลยอยากรู้โม้ดเรื่องสนธยา

-อ๋อผมไปเรียน ปวส 4 ปี ที่เทค ........... . แล้วครับ พี่เก่งเรียนวิศวะ เก่งสมชื่อเลยนะครับ – หุหุ ผู้ชายชมอีกแล้ว

*มากับแฟนเหรอ* ผมถามเห็นมีสาวยืนเอียงอายอยู่ด้านหลัง

-ไม่ใช่นี่น้องสาว- เห็นนังนั่นเอามือตบหลังป้าบที่นึง เหอ ๆๆ มึงอย่าฟอร์ม

*เอาแลกเบอร์กันหน่อย เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกัน*

-ผมจะไปอาศัยนอนด้วยครับ ที่ กทม- มาเลย กูจะไล่ไอ้ตี๋ไปนอนที่อื่น อิอิอิอิ

                ผมไปเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ........ อยากไปไกล้ๆ นี่ เคยเป็นมั้ยครับ ถ้าเจอคนที่เราแอบชอบอยู่ เราก็อยากจะไปอยู่ไกล้ๆ เขา ดมกลิ่นเหงื่อจากตัวเขา อยากได้แม้กระทั่งสมหายใจที่เขาปล่อยออกมา เวอร์มั้ยเนี่ย ไม่ได้นอกใจไอ้ตี๋นะ ไอ้คนนี้ผมแอบชอบมันจริง ๆ เฮ้อ ...ก็แค่นั้น ... จบไป เซ็ง มาให้อยาก แล้วก็จากไป

                ตอนที่เราจะกลับไปเอากระเป๋า เราคิดว่าเดี๋ยวจะรีบไปลาพ่อแม่ไอ้ตี๋มันเร็ว ๆ แล้วออกมาเร็ยว ๆ เขาจะได้ไม่มีเวลาถาม แต่เราคิดผิดทั้งหมด  พ่อกับแม่ไอ้ตี๋เดินเข้ามาในห้องนอน แล้วนั่งลงที่เตียงนอน

-กูขอคุยอะไรกับพวกมึงสักอย่างก่อน- แววตาพ่อมันน่ากลัวมาก ผมใจคอไม่ดี กระเถิบออกมาห่างจากไอ้ตี๋อีก

-พวกมึงสองคนเป็นคู่เกย์กันใช่ใหม มีคนเค้าบอกกูมา- ผมยิ่งใจคอไม่ดีเข้าไปอีก กลืนน้ำลายเอื้อก หันไปมองหน้าไอ้ตี๋

*เอาที่ใหนมาพูดล่ะพ่อ เพื่อนกัน- ไอ้ตี๋แก้ตัวทันที

-มึงไม่ต้องพูด มึงตอบกูมาตามจริง- พ่อไอ้ตี๋เสียงดังขึ้น แม่มันแตะแขนพ่อมันเบา ๆ เป็นเชิงว่าอย่าใจร้อนหรือรุนแรงมากนัก ไอ้ตี๋หันหน้ามาทางผมอีก ทำตาแดง ๆ เหมือนจะร้องให้ ผมกลืนน้ำลายอีกก้อนลงไปอย่างยากลำบาก ทำไมน้า ... ความรักของผมกับมันกำลังจะไปได้สวยแล้ว ต้องมีมารมาผจญ (ตอนนั้นคิดอย่างนี้จริง ๆ ว่า “มาร” เพราะเราคิดอยู่แคบ ๆ ว่า เรามีเรา สองคนก็เพียงพอในโลกใบนี้ แต่แล้วอันที่จริง เราลืมคิดถึงสังคม และคนรักเราที่อยู่รอบข้าง ที่เราต้องอาศัยและดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับเขา)

*พ่อ เตยอธิบายได้* เสียงไอ้เตยเดินเข้ามา

-มึงออกไปเรื่องผู้ใหญ่เค้าจะคุยกัน- พ่อมันดุ น่ากลัวมาก ผมนี่สะดุ้งเพราะที่บ้านผม จะไม่เสียงดังแบบนี้

*ผมขอคุยกับพ่อและแม่ตามลำพังก่อน เก่งกับเตยออกไปข้างนอกไป* ไอ้ตี๋บอก

ผมมองหน้าไอ้ตี๋อย่างไม่วางตา แต่ปากพูดอะไรไม่ออก สายตาผมมองมันเหมือนกับจะถามมันว่า มันอยากให้ผมอยู่ด้วยใหม ไอ้ตี๋ไม่พูดอะไร พยักหน้าน้อย ๆ ให้ผมทำตามที่มันบอก ผมออกจากห้องไปพร้อมไอ้เตยแล้วปิดประตู

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 23-09-2007 17:19:32
แล้วเปนไงต่ออ่ะ




 o7
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 23-09-2007 18:51:39
นี่ล่ะน้า 1 ในปัญญาใหญ่   :sad2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-09-2007 19:41:56
ปัญหาใหญ่เลยนะเนี่ย  :a6:  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 23-09-2007 20:10:26
โอ้ยยยยยย เบื่ออออออออ o12  o12  o12

เซ็งจริงๆเล้ยยยยย ....... เหมือนที่พี่ของเก่งพูดอ่ะ ว่าของยังงี้มันอยู่ที่ DNA จะมาบอกว่าให้เป็น ให้ไม่เป็น ให้เลิก ให้ติดใจ หรืออะไรเงี้ยมันได้ซะที่ไหนเล่า  :angry2:

..... เซ็งๆๆๆๆ .......... ทำไมไอ้ข้อสรุปทางวิชาการอันนี้ (ได้ยินมานานแล้วด้วย) เค้าไม่เอามาแบบ พาดหน้า 1 หนังสือพิมพ์สัก 10 ฉบับ 1 เดือนกันไปเลยนะ ...... ให้ผู้คนทั่วไปเค้ารู้กันไปเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าจะเลือกเป็นหรือไม่เป็นได้ .... ยอมรับความจริงกันหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2:  :serius2:  :serius2:  .... เอาวิทยาศาสตร์ เอาหลักการทางชีววิทยามาพูดคุยกัน ไม่ใช่เอาหลักทางสังคมบางอย่างที่คิดหรือกำหนดขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนยุคปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์มาบีบบังคับกดดันกันยังงี้

เฮ้อ !!! พูดเรื่องนี้ คิดเรื่องนี้แล้วเครียด  :o11: เซ็งๆๆๆๆ ....... เอออ..... อ่านไปอย่าคิดมาก อย่ามาเอาอะไรกะผมเลยนะ ผมบ่นไปงั้นแหละ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 23-09-2007 23:46:35
เฮ้อ  :เฮ้อ: เป็นปัญหาโลกแตกครับ ปัญหานี้

มีพ่อ - แม่ที่เข้าใจได้ ก็โชคดีไป ถ้าไม่ ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนความรู้สึกของตัวเองต่อไป

 :a6:  :a6:  :a6:  :a6: กลุ้มแทน
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: motred ที่ 24-09-2007 01:24:03
มาต่อเร็วๆนะ อยากรู้เปนไงต่อ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-09-2007 13:23:49
ปัญหาพ่อแม่รับไม่ได้ ดีน่ะ...........ที่ผมผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว อิอิ รอดตัวไป

อยากรู้ด่วนคับ ว่าตี๋จะทำไงให้พ่อแม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-09-2007 13:40:46
 :a6:  :seng2ped:  :sad2:  o7

ปัญหาใหญ่มาแล้ว   แงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 24-09-2007 13:54:28
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 19– สึนามิ

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 19– สึนามิ

 

                ผมเดินลงมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขกบ้านไอ้ตี๋ ทีวีบ้านมันเปิดทิ้งไว้อยู่ ไอ้เตยเดินตามหลังมาแตะไหล่ผมเบา ๆ

*พี่เก่ง ใจเย็น ๆ* มันปลอบผม

                ผมนึกสีหน้าของตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นผมจะมีสถาพภายนอกเป็นอย่างไร แต่ในใจผมมีแต่ความสับสนอลหม่านวุ่นวาย เหมือนมีรถไฟหลาย ๆ ขบวนวิ่งอยู่ในท้อง มันปั่นป่วนจนผมไม่คิดว่า ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้แล้วไม่อาเจียนออกมา

                ไอ้เตยเอื้อมมือไปหยิบรีโมตมาปิดทีวี ตาจ้องมองผมไม่กระพริบ ส่วนผมมองตรงไปข้างหน้า สายตาของผมมันทะลุผนังออกไป หัวสมองตื้อไปหมด ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันอยู่ด้านบน พ่อไอ้ตี๋เสียงดังมาก

*พวกผิดธรรมชาติ ทำให้ครอบครัวต้องอับอายขายหน้า พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่เคยสอนให้มึงเป็นพวกวิปริตผิดเพศแบบนี้*

*พวกมึงต้องเลิกคบกันนับตั้งแต่วินาทีนี้ มึงเข้าใจใหม มึงบอกกูสิว่ามึงเข้าใจมั้ย* เสียงพ่อมันตะโกนดังมาก

                ผมกระเด้งขึ้นจากโซฟาโดยอัตโนมัติ ไอ้เตยรีบดึงแขนผมไว้ ผมสะบัดออกแล้ววิ่งขึ้นมาข้างบ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดระตูห้องเข้าไปทันที ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ตี๋ยืนประจันหน้ากับพ่อมันร้องให้กระซิก ๆ แม่มันยืนเกาะแขนพ่อมันร้องให้อยู่เช่นกัน

*พ่อทำไมไม่เข้าใจ ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม* ไอ้ตี๋ตะโกนใส่พ่อมันสุดเสียง

----เพี๊ยะ---- เสียงพ่อมันตบหน้าไอ้ตี๋ทันที แม่มันร้องโหยหวน

-อย่าทำลูก ทำลูกมันเจ็บ ชั้นก็เจ็บด้วย ถ้าจะทำก็ทำชั้นแทน-

*อย่ามาให้ท้ายลูก เห็นมั้ยท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นตุ๊ดเป็นเกย์* พ่อมันจะเข้ามาซ้ำไอ้ตี๋ที่ล้มลงนั่งกับพื้นร้องให้ แม่มันรีบดึงแขนไว้อย่างสุดแรงเกิด ไอ้เตยวิ่งไปช่วยดึงอีกแรง ร้องให้บอกว่าพ่ออย่า พ่ออย่า

                ผมรีบเข้าไปประคองไอ้ตี๋ทันที ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นความคิดที่ดีนัก เพราะเหมือนยิ่งทำให้พ่อมันโกรธยิ่งขึ้น พ่อมันคว้าที่ทับหนังสือที่ทำจากแก้วบนโต๊ะไกล้ ๆ เขวี้ยงมาผมร้อง โอ้ย ! ทันที มันถูกเข้าที่หัวผมจัง ๆ ราวกับจับวาง ไอ้ตี๋ร้องเสียงหลง ---เก่ง--- ทางแม่กับไอ้เตยร้อง ---พ่อ---

                ผมเอามือจับหัวทันที มันเจ็บตุบ ๆ และมึนหัวไปหมดเหมือนโดนเอาแป็บตีหัว มือผมเหนียว ๆ ตาพร่า ๆ ผมเอามืออกมาดู เลือดเต็มเลย ผมไม่สนใจเลือดเท่าไหร่ แต่พ่อมันคงไม่อยากหยุด ปรี่เข้ามาจะกระทืบผมซ้ำ ผมยกมือไหว้

                -พ่อจะทำอะไรตี๋ก็ทำผมแทนเถอะครับ ตี๋ไม่ผิด-

                *ไอ้เชี่ย ใครเป็นพ่อมึง* เปลี่ยนมากระทืบผมแทน ทั้งไอ้ตี๋ แม่มัน และไอ้เตย ร้องห้ามกันระงม

                ผมไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย มีความรู้สึกเดียวคือ อยากให้ไอ้ตี๋มันปลอดภัย อย่าให้มันเจ็บตัวอีกเลย เป็นอย่างไรผมก็ยอมทั้งนั้น น้ำตาผมไหลออกมาเป็นสีแดงหรือเนี่ย ผมร้องให้ไปพลางไหว้พ่อมัน

                -ผมขอเถอะครับพ่อ อย่าทำตี๋นะครับ- พ่อมันกระชากแขนไอ้ตี๋ให้ลุกขึ้น พยายามลากตัวออกไปนอกห้อง แต่ไอ้ตี๋สะบัดมือแล้วดึงมือผมลุกขึ้น

                *ไปเลยลูก!!!* -พี่ตี๋ไปเลย!!!!- เสียงแม่กับเสียงไอ้เตย

          ไอ้ตี๋ลากผมลงมาจากห้องโดยที่พ่อมันตะโกนตามหลัง ไอ้ตี๋ลากลู่ถูกังผมมาถึงรถมอเตอร์ไซค์ได้ ผมขึ้นซ้อนแล้วขับออกไปทันที
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 24-09-2007 13:55:35
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 20– ล่องลอย

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่  20 – ล่องลอย

 

          ไอ้ตี๋ขับรถมือเดียว ผมกอดมันแน่น อีกมือมันจับกุมมือผมไว้ ผมซบที่หลังมัน เลือดเปรอะเต็มเสื้อมันบางส่วนไหลลงมาเข้าตาผม ผมได้ยินเสียงมันร้องให้โฮเหมือนบ้าคลั่ง ส่วนผมความเจ็บเริ่มเข้ามาเยือนแล้ว มันขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งบนนนมิตรภาพ ผมมีความรู้สึกปวดตุบ ๆ บริเวณแผลและมีความรู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ ผมถูกผลักลงรถเข็นแล้วพาเข้าไปทำแผล ผมเบลอจนจำอะไรไม่ได้ เหมือนไม่มีสติอะไรหลงเหลืออยู่เลย อีกนานสองนาน ผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

          ผมมาทราบเหตุการณ์ทีหลังจากไอ้เม่นว่า ไอ้ตี๋จะไปต่อยกับห้องบัตรเพราะพนักงานห้องบัตรยืนยันว่าก่อนรักษาต้องเสียทำบัตรก่อน มีคนมาถามชื่อของผมที่รถเข็น มันยิ่งอาละวาดหนักว่าทำไมไม่พาคนป่วยไปก่อนเข้า เลยต้องเอาตัวผมเข้าห้องฉุกเฉิน มันบอกว่า หมออกมาเรียกมันให้เข้าไปดูผมตอนที่ผมอยู่บนเตียง เพราะผมพูดอะไรไม่หยุดเลยอยู่คนเดียว แต่ไม่สามารถจับใจความได้เช่น คนคนนี้คือใคร ทำไมมาที่นี่ แล้วแม่ไปใหน  ต้องพาพ่อกับแม่มาที่นี่นะ ตาผมลอย ๆ เหมือนคนบ้าไม่มีสติสะตังหลงเหลืออยู่เลย ไอ้เม่นบอกว่ามันแทบจะคลั่งตาย เพราะผมจำไม่ได้แม้กระทั่งมัน ผมถามมันว่า ตี๋ใหน ไม่รู้จักแล้วก็หัวเราะ ทุกคนกลัวมาก ๆ ใจคอไม่ดีเลยที่ผมเป็นแบบนี้ มันกลัวผมเสียสติ จากการที่สมองมีการกระทบกระเทือน

                มันโทรตามไอ้เตยออกมากับแม่มัน แล้วโทรเรียกเพื่อน ๆ ให้มารวมกันที่นี่ หมอให้ผมนอนพักแล้วฉีดยาน่าจะเป็นยานอนหลับ จนผมนอนหลับไปเอง แล้วอีกสามชั่วโมงผมตื่นขึ้นมา ตี๋บอกว่าผมถามหาแม่กับพ่ออย่างเดียว ไม่สามารถควบคุมสติได้ ต้องหลอกให้ผมนอนหลับไปอีก จนผมตื่นมาตอน 2 ทุ่มคืนนั้น

                ผมเห็นพ่อกับแม่แล้ว แม่ร้องให้

-เก่ง แม่มาแล้ว แม่อยู่นี่ไง-

*ป๊า ... ม๊า ...* ผมพูดได้แค่นั้นแล้วร้องให้ ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องร้องให้ ละทุกคนต้องร้องให้ จนมีพยาบาลเชิญทุกคนออกข้างนอกให้หมอตรวจ

                *คุณ ภ.พ. คุณจำเหตุการณ์อะไรได้มั้ยครับ* เสียงคุณหมอ

                ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

                หมอจะส่งคุณไปตรวจสมองนะครับ

แล้วมีคนย้ายผมไปตรวจเอ็กซเรย์สแกน ก่อนจะนำผมกลับมาส่งที่เดิม ในห้องมีพ่อ แม่ พี่ก้อย พี่เต้ย และเพื่อน ๆ ส่วนหนึ่งนั่งที่โซฟา

                *คนไข้ต้องพักผ่อนนะคะ แล้วเชิญญาติฟังผลตรวจด้วยค่ะ* พี่เต้ยกับพี่ก้อยเดินตามพยาบาลออกไป

-ป๊า ม๊า ไอ้ตี๋ไปใหนแล้ว-

*รักษาตัวก่อนนะลูกนะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น* พ่อผมบอก

ผมหลับตาลง น้ำตาไหล และสะอื้นร้องให้โฮ แม่ผมยิ่งร้องให้หนักเข้าไปอีก พ่อจับแม่ให้นั่งเก้าอี้ เพื่อนๆ กรูเข้ามาที่เตียง

ทุกคนร้องให้สะอึกสะอื้น อีอุ๋ยกอดไอ้สนกับอีเก๋ ไอ้เม่นพูดขึ้นเสียงกัดฟัน

-กูจะไปฆ่ามัน- เพื่อน ๆ ร้องออกมาพร้อมกัน ---อย่า---- มีคนดึงแขนมันไว้ มันร้องให้ พูดแต่ว่า เพื่อนกูเจ็บ , มันทำเพื่อนกู

-มึงนอนพักก่อนนะ เดี๋ยวกูจะเคลียร์ให้ อย่าพึ่งคิดอะไรมาก- อีอุ๋ยบอกผมทั้งที่สะอึกสะอื้น

*ตี๋ไปใหน .. ตี๋.. * ผมพูดได้แค่นั้น แล้วร้องให้หลับไป

 

                ตื่นขึ้นมา ผมเห็นพี่เต้ยกำลังดูทีวีอยู่ ผมเรียกพี่เต้ย แกรีบกระโจนเข้ามาหาผม

-หมอบอกไม่เป็นไร ปกติดี อาจจะตกใจมากจนเบลอ มึงจำอะไรได้มั้ย- พี่เต้ยถาม

*จำได้ แต่เจ็บหัวมาก*

-ด้านเหลี่ยมมันโดน เย็บ 8 เข็ม เลือดออกเยอะด้วย-

ผมกวาดสายตามองหาไอ้ตี๋ ไม่มีแม้แต่เงาของมัน

-เดี๋ยวมันคงจะมา พักผ่อนก่อน-

                ผมได้ออกจากโรงพยาบาลในอีกวันนึง หลังจากที่หมอมาคุยกับผม เพื่อดูว่าผมเป็นปกติล้วหรือยัง จนถึงวันนี้ ผมยังไม่ได้เห็นหน้าไอ้ตี๋เล็กของผมเลย ผมเห็นทุกคนรวมทั้งเพื่อน ๆ ไม่มีใครอยากพูดถึงเรื่องนี้ ผมจึงไม่พูดอะไรเลย นอกจากเก็บคำถามของผมไว้ในใจคนเดียว
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 24-09-2007 13:58:49
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 24-09-2007 15:21:00
ตี๋ไปไหน ตี๋ไปไหน

สงสารทั้งคู่เลย

 :เฮ้อ: :a6: :เฮ้อ: :a6: :เฮ้อ: :a6: :เฮ้อ: :a6: อ่านจบแล้วกูจะบ้า
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: motred ที่ 24-09-2007 16:03:50
มาต่อไวๆนะค้าบบ :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 24-09-2007 16:33:26
สงสารทั้งคู่เลย  :m15: :m15: ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย  :m8: :m8: :m8: ปัญหาโลกแตกจิง ๆ พ่อแม่ สังคม เฮ้อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 24-09-2007 19:01:22
 :o
ตี๋ปายหนายยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 24-09-2007 20:35:23
ตี๋กลับมาได้แล้วว  :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 24-09-2007 21:26:06
เห้ออ เศร้า

สงสารทั้ง 2 คน เลยอ่ะ

เห้ออออออออออออออออออออออออออ

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 24-09-2007 21:31:10
 :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:
 :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:

ร่วมด้วยช่วยเซ็ง .............

 :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:

โว้ยยยยยยยย ........  :angry2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: kimsumsoon ที่ 24-09-2007 23:24:38
รักแท้...แพ้บุพการี...อิอิ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 25-09-2007 08:51:05
ง่าเศร้าๆ :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-09-2007 11:14:54
สงสารอ่ะ เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนต้องใช้เวลาทำให้พ่อตี๋เข้าใจน่ะ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 25-09-2007 13:10:17
 o7 สู้ๆนะคับ ความรัก จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี 


 :o12: เศร้าจัง ขออย่าให้ต้องเจอเรื่องแบบนี้เลยเรา  :m15:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 25-09-2007 15:55:30
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 21–เดอะพอยท์ออฟโนรีเทิร์น

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่  21–เดอะพอยท์ออฟโนรีเทิร์น

 

                ผมร่ำลาอีอุ๋ยเสร็จ พี่เต้ย พี่ก้อย ก็พาผมกลับบ้านอีกจังหวัดหนึ่งทันที ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดหรือตอบคำถามใด ๆ กับใครทั้งสิ้น พี่ก้อยกับพี่เต้ยคุยกันบ้างเบา ๆ ตลอดทางกลับบ้าน  ผมฟังเพลงจากวิทยุในรถพี่เต้ยเปิดมาเบา ๆ แล้วต้องเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เคยเป็นกันบ้างใหมครับ ไม่ว่าเพลงอะไร ทำไมมันเศร้าไปหมดทุกเพลงแบบนี้

*พี่เต้ย โทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ เสื้อผ้าผมไปใหนพี่*

-อยู่หลังรถเรียบร้อยแล้ว แต่โทรศัพท์ตี๋เก็บไว้แล้วนะ-

*พี่มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า* ผมตัดสินใจถามตรง ๆ

**พ่อไอ้ตี๋สั่งห้ามไม่ให้เราสองคนคบกันเด็ดขาด ตอนนี้พ่อมันไปให้คนเก็บของออกจากหอแกที่ กทม แล้ว** พี่ก้อยตอบ

-ไอ้ตี๋เล็กมันอยู่ที่ใหน-

*อยู่ที่บ้าน ได้ยินว่าพ่อไม่ให้ไปใหน ที่บ้านเขา ลูกต้องเชื่อฟังพ่อทุกอย่าง พี่ถามแม่เขาแล้ว เขาบอกว่า ช่วยอะไรไม่ได้เลย* พี่เต้ยตอบ

                ผมหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ลำพังแผลก็เจ็บแล้ว แต่ในใจทำมันเจ็บยิ่งกว่าอีก เหมือนมีอะไรมากรีดซ้ำ ๆ ลงไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาอุ่น ๆ ซึมออกมาจากขอบตา ผมเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ จากวิวที่เห็นในตอนสายๆ คงไกล้ถึงเขตบ้านผมแล้ว อากาศในรถอุ่นสบาย แต่ข้างนอกคงจะหนาวน่าดู ท้องทุ่งบางแห้งมีการเก็บเกี่ยวข้าวเริ่มขึ้นแล้ว ผมปล่อยให้น้ำตามันไหลอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่านานเท่าใด

                แม่กับพ่อวิ่งเข้ามาสวมกอดผมทันทีที่ผมลงจากรถ ท่าทางแม่อยากร้องให้แต่คงไม่อยากให้ผมเห็น ผมมองเห็นไอ้เม่นยืนอยู่ข้างหลังท่านทั้งสอง มันคงอยากมาอยู่เป็นเพื่อนผม ในเวลาที่ผมไม่มีใคร

-เดี๋ยวเพื่อน ๆ ก็จะทยอยตามกันมา ปีนี้เราจะมาฉลองปีใหม่ที่นี่- ผมพยักหน้าและยิ้มน้อย ๆ ให้เพื่อน ผมแยกตัวออกไปคุยกับพี่เต้ยที่ม้าหินอ่อนหลังบ้าน

*เก่ง ไอ้ตี๋จะไม่ได้ไปเรียนที่นั่นอีกแล้ว*

-ทำไมอย่างนั้นล่ะพี่- ผมตกใจถามพี่เต้ยเสียงดัง

*พ่อมันไม่ยอม ให้มันสอบใหม่ปีหน้า*

-ทำอย่างนี้ไม่ได้นะพี่- ผมเริ่มโวยวายอีกครั้ง

*ป๊ากับม๊าช่วยพูดให้แล้ว แต่พ่อมันด่าพ่อกับแม่เรากลับมา ว่าเป็นถึงครูบาอาจารย์ ส่งเสริมให้เด็กมันกระทำผิด แกติดดูนะ เท่านี้มันก็มากเกินไปสำหรับพ่อกับแม่เราแล้วนะเก่ง*

-ผมเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ท่านไม่สบายใจ-

*ท่านตกใจมากเรื่องที่แกเหมือนสติเลอะเลือน จะเอาเรื่องกับทางนั้น แต่พี่ห้ามไว้ เพราะแกเอง ก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้น*

ผมโผเข้าสวมกอดพี่เต้ย ร้องให้เหมือนเด็ก ๆ

-ร้องซะให้พอ ร้องออกมาวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็ลืมมันไป เก็บเอาอดีตไว้เป็นแค่ความทรงจำ- พี่เต้ยปลอบผมเบา ๆ

 

...........................................................................................

 

                ตอนเย็น ผมเข้าไปที่ห้องนอนของพ่อกับแม่

-ป๊า ม๊า ผมขอโทษ-

*อื้อ ไม่ต้องคิดมากหรอกลูก ทำใจให้สบาย ตอนนี้อยู่ที่บ้านเราแล้วนะ* พ่อผมพูดพลางลูบหัวผมเหมือนเด็ก ๆ จนผมนึกสงสัยว่า เราเป็นเด็ก ในสายตาท่านเสมอเลยหรือเปล่า

-เจ็บแค่ใหน อย่าไปจำ คิดเสียว่าเป็นฝันร้ายนะลูกนะ- แม่ผมบอก

 

                แล้วฝันร้ายของผมครั้งนี้ มันจะทำให้ผม เป็นโรคนอนไม่หลับไปอีกนานเท่าใดครับ ผมยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย

 

.................................................................................................

 

                *เก่ง อยากคุยกับไอ้ตี๋มั้ย* ไอ้เม่นถาม เราสองคนนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืดห่มผ้านวมผืนเดียวกัน  อากาศหนาวมากคืนนี้ ได้ยินแต่เสียงลมพัดหวีดหวิว และเสียงธนูดังมาจากว่าวที่คงจะมีคนชักขึ้นฟ้าทิ้งไว้ค้างคืน ชวนทำให้ใจผมยิ่งหดหู่ยิ่งนัก

                *ว่าไง กูจะโทรหามันเดี๋ยวนี้* มันเตือนเมื่อผมไม่ตอบ

                -ไม่ต้อง- ผมตอบเบา ๆ

                *มึงน่าจะคุยกับมัน*

                -จิตใจมันก็บอบช้ำไม่แพ้กู ตอนนี้ขอแค่กูรู้ว่ามันสบายดี และมันรู้ว่ากูสบายดีก็พอแล้ว-

                *พ่อมันปิดโทรศัพท์ของมันไปแล้ว แต่ไอ้เตยแอบเอาโทรศัพท์มึงไว้ กูโทรคุยกับมันมาเมื่อตอนเย็น มันบอกไอ้ตี๋ขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ยอมออกมาข้างนอกห้องเลย แล้วพ่อมันก็ยังไม่สงบด้วย กินเหล้าเมาตลอดเวลาอยู่ที่บ้าน ที่ร้านแม่มันต้องไปดูคนเดียว*

                -อือ- ผมน้ำตาไหลในความมืด

                *เก่ง กูขอร้อง* ไอ้เม่นเริ่มสะอึกสะอื้นร้องให้

                *มึงสองตัวต้องคุยกัน*

                -เรื่องมันบานปลายเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่แบบนี้ จะอย่างไร กูสองคนก็ต้องยอมรับมัน มันมาถึงจุดเลี้ยวที่ไม่มีทางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว-  ผมสะอื้นจนตัวโยน

                *ไอ้เก่ง*  ไอ้เม่นร้องให้โฮ โผเข้ากอดผมใต้ผ้าห่มจนไม่รู้ว่าเราทั้งคู่หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 25-09-2007 16:00:38
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 22 – สู่สามัญ --- จบแล้ว ----

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่  22 – สู่สามัญ

 

                ปัง ๆๆๆๆๆๆ !!!!  *ตื่น ตื่น ๆๆๆๆ* เสียงใครเคาะประตูแต่เช้าวะ เสียงคุ้น ๆ นะ อากาศยิ่งน่านอนอยู่ ผมมองนาฬิกาติดผนัง บอกเวลา 11.00น. แล้ว ไอ้เม่นคงอาบน้ำอยู่ หนาวแบบนี้ยังอาบน้ำได้ ผมในชุดนอนสีฟ้า ลุกเดินไปเปิดประตู ที่หัวเจ็บตุบ ๆ ถ้าเลือกได้ ผมไม่อยากเป็นแผลหน้าหนาวเลยให้ตายสิ

                ** เซอร์ไพรส์ !!!! **  เฮ ๆๆๆๆ  บรรดาเพื่อน ๆ ของผมนั่นเองครบทีม คงเพิ่งจะมาถึงกัน

 

                **นี่เมื่อคืนทำไรกันสองคนนี้ เรียกตั้งนานไม่ยอมตื่น** ข้อสันนิษฐานของอีอุ๋ยเรียกเสียงเฮได้อีกครั้ง

 

                **มีเวลาว่างอีกวันนะพวกเรา จะทำอะไรกันดี** เก๋ถาม

 

                -กินเนื้อย่างกันดีกว่า อากาศหนาว- ผมบอกกับทุกคน

 

                ตลอดทั้งบ่าย เราคุยกันอยู่ที่บ้าน ดูทีวี กินอาหาร ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่จะมารบกวนจิตใจของผมเลย ผมเห็นเพื่อน ๆ ตั้งใจกันทำให้ผมมีความรู้สึกดีขนาดนี้ ผมก็ไม่อยากเป็นตัวทำให้งานเสียหรืองานล่มเช่นกัน

                ตกตอนเย็นมา บรรยากาศเป็นใจ พี่เต้ยก่อกองไฟให้พวกเราที่หน้าบ้าน ผมกับไอ้เม่นไปตัดไม่ไผ่มาจากหลังบ้าน ให้พวกสาว ๆเอาข้าวเหนียวที่แม่ผมเตรียมไว้ให้ทำข้าวหลามกินกันรอบกองไฟ ลมหนาวพัดมาเย็นยะเยือก เวลาประมาณ 4 ทุ่มแล้ว อีอุ๋ยปรบมือ 3 ครั้งแล้วประกาศขึ้น

               

                -ในฐานะที่กูเป็นโฆษกของกลุ่ม กูขอให้พวกมึงทุกตัวให้ล้อมวงกันเข้ามาไกล้ๆ จะได้อบอุ่น-

                ทุกคนต่างตั้งใจฟัง  เบียดกันเป็นวงกลม อากาศหนาวมาก  มันกระแอมแล้วกลืนน้ำลาย

                -เนื่องจากไอ้เก่งเพื่อนของเรา และไอ้ตี๋ ซึ่งเป็นเพื่อนของเราอีกเหมือนกัน กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง การที่พวกเราทั้งหมดจะมานั่งนิ่งดูดายนั้น เป็นการไม่สมควร และพวกเราคิดกันแล้วว่า ไม่ควรจะหลอกตัวเองกันอีกต่อไป- มันเอื้อมมือมาจับมือผมเบาๆ

 

                -เก่ง พวกกูอยากรู้ใจมึง พวกกูทำเป็นไม่รับรู้ไม่ได้- อุ๋ยพูดด้วยน้ำเสียงเครือ ๆ

 

                *กูขอขอบใจพวกมึงทุก ๆ คน ที่เอาใจช่วยกูกับปัญหานี้ หลังจากที่กูมานั่งคิดทบทวนดูแล้ว ปัญหานี้ มันเป็นปัญหาที่ซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้นแล้ว เพราะมันเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ เราเป็นเด็ก เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้ใหญ่ท่านสบายใจมากที่สุด กูขอบอกพวกมึงว่ากูยังรักไอ้ตี๋เพื่อนของพวกมึง เสมอมา และกูตอบไม่ได้ว่า กูจะหยุดรักมันได้เมื่อไหร่ เพราะความรักของกู ให้มันไปจนหมด ไม่เหลือ แม้กระทั่งความรักสำหรับตัวกูเอง*

 

*ในเมื่อกูไม่สามารถที่จะอยู่กับมันได้ กูก็จะไม่อยู่ไกล้มันอีก แต่กูสัญญา ว่ากูยังเป็นกูคนเดิม และกูจะยังรักมันตลอดไป*

 

ทุกคนต่างพากันสะอื้นเช็ดน้ำตากัน

 

*พวกมึงขี้แย แล้วจะมาอยู่ปลอบใจคนอกหักได้หรือว้า****  ผมหัวเราะเบาๆ 

*เอาวะ มีเพื่อนเป็นหมา ยังดีกว่ามีเพื่อนหมา ๆ  ยิ้มกันหน่อยสิเว้ย****

ทุกคนหัวเราะทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับผม

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องราวได้ดำเนินมาถึงตอนที่ 22 แล้วนะครับ ผมก็เห็นควรว่า เรื่องราวในภาคนี้ คงจะต้องจบลงเสียที ขอขอบพระคุณสำหรับการติดตามอ่าน ทุกคอมเมนท์ ทุกข้อความผ่านเอ็ม ทุกอีเมล์ ที่ให้กำลังใจเกี่ยวกับความรักของเก่งกับตี๋เล็ก

 

โปรดติดตามเรื่องราวอื่น ๆ  ได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ

 

                                                                   เก่ง – Kelvin

                                                                   4.44น.

                                                                                                                31/05/2007

                                                                                                                Singapore

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีเซอร์ไพรส์หลังรีที่10 นะคับช่วยๆกันหน่อย....อิอิ

แต่แค่10รีเองน้อยไปมั้ง...อิอิ   เอา15รีดีหรือเปล่านา  แต่15รีคงจะโหดไปเอาแค่10นะแหละ

ช่วยกันหน่อยนะคับ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 25-09-2007 16:27:49
รีที่ 1
รอเซอร์ไพรส์

เฮ้อ  :เฮ้อ: เศร้าจัง  :m8: รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้  :m15: เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่คับ  :m13:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 25-09-2007 16:44:53
ตอนแรกก้อหื่นซะ... :m10:

แล้วทำไมตอนหลังนี่เศร้าเจง... :m15: :o12:

ขอติดตามแระตามติดไปอย่างใกล้ชิดก๊าบบบบบบบ...




ปอ.ลอ..รีที่ 2..(รึเป่า..)
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 25-09-2007 17:26:46
รีที่ 3 แหละ

ทำไมมันเศร้า บีบหัวใจเยี่ยงนี้เนี่ย  o7
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 25-09-2007 19:25:00
 o7 o7 o7
ร่วมด้วยช่วยดัน

ถึงมันจะเศร้า ๆ ก็เหอะ ยังไงก็ยังอยากรู้ต่อไปอยู่ดี
 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-09-2007 19:30:54
ขึ้นต้นกับตอนจบนี่เหมือนคนละเรื่องเลยอ่ะ มันเศร้า  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 25-09-2007 19:41:16

............คนมันรัก.........จะทำยังไงก็รัก.........

...........จะอยู่ด้วยกันหรือไม่..........มันก็ยังรัก........... o7 o7
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 25-09-2007 19:53:32
โลกแห่งความเป็นจริง น่าเศร้ายิ่งนัก  :o12:


ปล.รี 7 อะป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-09-2007 20:54:14
อยากรู้เซอไพร์สแล้วคับ อิอิ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 25-09-2007 21:02:42
ช่วยกันรี :m2: :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 25-09-2007 21:54:06
นับเลขด้วยๆ ..
 รีที่ 10
 เศร้าอะ .. ...
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 25-09-2007 22:07:42
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก

 :a6: :a12: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 25-09-2007 22:39:28
ไอซ์ อย่าใจร้ายกับคนอ่านดิ o7

แค่นี้ก็หัวใจสลายกันเป็นแถวๆกับความรักของคู่นี้แล้วน๊า  :a6:  :a6:

ปล. รี 12 ล่ะ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: Red_Chocobo ที่ 26-09-2007 08:17:00
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:



 :m15: :m15: :m15:


ม่ายสามารถ บรรยายเปนคำพูดได้


รี 13 (เลขสวยไหมนี่)
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 26-09-2007 08:19:27
รี 14 ร่วมด้วยช่วยกันรี  :m26: :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 26-09-2007 13:17:11
เกิน 10 แล้วนะคร้าบบ  ขอsurprise ด้วยยยค้าบบ  :impress:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-09-2007 15:38:24
บอกแล้วว่าอย่าเศร้า

ไม่ยอมอะ

 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:

 :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:











ลป.

รีที่ 16 แล้วครับ

มาต่อให้ว่องเลย

 :a14:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....มาต่อให้แล้วน
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 26-09-2007 15:58:11
ก็ไม่มีไรมากแค่มาต่อภาคสองให้....อิอิ... :m23:
หวังว่าคงจะไม่ผิดหวังกับการรอคอยกันนะคราบ :m26:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค 2 ตอนที่ 1 คิดถึงเหลือเกิน

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค 2 ตอนที่ 1  คิดถึงเหลือเกิน

   โดนสวดยับเลยว่าจบไปแบบนี้ได้ยังไงกัน อิอิ ก็บอกแล้วไงในตอนท้ายว่าให้ติดตามอ่านต่อ ที่จบไปน่ะภาค 1 ครับ พวกที่เข้ามาด่าไม่ต้องแอบอ่านนะเว้ย เดี๋ยวตามอัดตูดให้หมดเลยพวกเชี่ยนี่ แต่ในภาคที่ 2 อาจจะมีเวลามาอัพเดทเรื่องให้น้อยลง เพราะว่าการพักร้อนของผมกำลังจะสิ้นสุดลงในวันนี้แล้ว และจะต้องไปรับงานในตำแหน่งใหม่เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดีช่วยกำลังใจ ให้กับนักเขียนมือใหม่บ้างนะครับ ส่วนMSN ที่ติดต่อกันได้ก็เป็น alohasunkissอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.sg เหมือนเดิม มีเสียงทักมาว่า หลัง ๆ เรื่องสั้นลง ๆๆๆๆๆ แหม ๆ ขนาด กาดอ คนมันยังมีสั้น มียาว มีหด มีแข็ง แล้วจะให้เรื่องมันยาว ๆๆๆๆ ทุกตอนได้อย่างไรล่ะครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจในการเขียนนะครับ เอาเป็นว่า อย่าคดอะไรมาก ถือซะว่าเป็นการเล่าเรื่องว่า กว่าจะมาเป็นผมในวัยเกือบ 30 ในวันนี้  มีอะไรที่ดีและเชี่ยหลาย ๆ อย่างปะปนคลุกเคล้ากันไป ขำ ขำ ครับ อย่าคิดอะไรมาก สำหรับเรื่องในภาค 2 ยังคงใช้วัตถุดิบในการเขียนจากไดอารี่ประจำวันผมเหมือนเดิม เชิญอ่านตอนที่ 1 เรียกน้ำย่อยก่อนครับ (สั้นมาก ขอบอก) ฮ่ะๆๆๆๆ ไม่ได้ขี้เกียจเว้ย นี่แค่เรียกน้ำย่อย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 ในวันที่ 31 บรรยากาศชายทุ่งไม่ได้เงียบสงบเหมือนที่เคยเป็น เพราะเต็มไปด้วยพวกขี้เหล้าอย่างพวกผม กำลังมีความสุขกันเต็มที่ในการรอนับถอยหลังเช้าสู่ปีใหม่ พวกผมร้องรำทำเพลงกันสุดฤทธิ์สุดเดช ในขณะที่ผม ซึ่งกำลังอยู่ในบรรยากาศ ได้ขออนุญาติกินเหล้าสัก 1 วัน ทั้ง ๆ ที่มีแผลอยู่บนหัวนี่ล่ะ กินไป ไอ้แผลบนหัวมันก็เต้นตุบ ๆ ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจไป

 

          ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่ทำให้ผมไม่สบายใจแล้ว เมื่อกลางวันผมโทรศัพท์ไปหาพี่เต๊ก เล่าเหตุการณ์  บอกให้แกทราบไม่ต้องเป็นห่วง น้ำเสียงแกเป็นกังวล แต่ผมยืนยันว่าผมสบายดี ส่วนเพื่อน ๆ ที่ถาบัน คงทยอยกลับต่างจังหวัดกันหมดแล้ว ไว้เจอกันตอนกลับไปเรียน

 

                **เอาเร็ว ๆ เว้ยพวกมึงได้เวลานับถอยหลังแล้ว** อีอุ๋ยเจ้าเก่า

 

                5

 

          4

 

          3

 

          2

 

          1

 

                เฮ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สวัสดีปีใหม่ !!!!

 

                ผมแอบอธิษฐานกับเบื้องบนเล็ก ๆ ว่าขอให้ชี้นำชีวิตของผมในปีนี้ ไปตามเส้นทาง ที่ท่านได้เป็นคนลิขิตไว้ด้วยเถิด

 

                ผมอดคิดถึงตี๋เล็กไม่ได้ เพราะปีใหม่ปีที่แล้ว  เรายังเล่นลูกโป่งซึ่งปล่อยลงมาเป็นพันลูกที่ไฮ-เทคเลย ตี๋เล็กกับผมวิ่งไล่เหยียบลูกโป่งสนุกสนานกัน แค่ 365 วัน ทำไมมันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมากมายระหว่างเราทั้งสองคนนะ ผมนึกสงสารมันขึ้นมาจับใจ อยากรู้ว่ามันจะทำอะไรอยู่ กินอะไรหรือยัง ไม่สบายหรือเปล่า อากาศหนาวแบบนี้มันได้ถุงร้อนมาใส่มือใหม ..... ผมอยากเป่าลมหายใจอุ่น ๆ ของผมลงบนฝ่ามือทั้งสองของมัน แล้วจับมาประกบกันซุกไว้ในอกของผม ให้มันอบอุ่น ทั้งกายมัน ..... และหัวใจของผม ... คิดแล้วเศร้า เมื่อรู้ว่าผมคงจะทำได้แค่เพียงในฝันเท่านั้นนับจากแต่นี้ต่อไป ...........................

 

                ผมเรียกเพื่อน ๆ ทุกตัวมาล้อมวงไกล้ ๆ กัน หยุดแหกปากสักครู่ แต่ละตัว เริ่มอ้อแอ้กันแล้ว

 

-เอ่อ เพื่อน ๆ- ผมพูดออกมาเบา ๆ ได้แค่นั้น

 

-เอ่อ- ผมยังไม่กล้าพูดอีก

 

*เป็นเชี่ยไรวะไอ้เก่ง มีอะไรก็แหกปากออกมาดิ อมไรอยู่* อีอุ๋ยปากหมา เพื่อน ๆ เออ ออ ห่อหมก

 

-กู ... กู ..-

 

*เอ้อ เป็นเชี่ยอะไรของมึง สมองกลับมาได้รับความกระทบกระเทือนอีกหรือเปล่าเนี่ย* ไอ้สนสอดขึ้น

 

-กูคิดถึงเมีย- ผมพูดอย่างรวดเร็วแต่เบามาก ๆ

 

*หา !!!     เพื่อนถามออกมาพร้อมกัน *ใหนพูดใหม่สิ*

 

-กูคิดถึงเมีย คิดถึงไอ้ตี๋เล็กมัน- ผมตอบเบา ๆ เหมือนเคย หน้าแดง (เพราะเมา) ฮ่ะๆๆ

 

ทุกคนเฮ พร้อมกับปรบมือ วิ้ดวิ้วดีใจ จริง ๆ แล้วเพื่อน ๆ อยากให้ผมกลับไปพูดคุยกับตี๋เล็กบ้าง ถึงจะเป็นการแอบคุยกันก็ตามเถอะ ... ผมปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ไหวแล้ว ..

 

*มานี่ กูเอง* ไอ้เม่นคว้าโทรศัพท์มือถือมากด คงต่อสายหาไอ้ตี๋เล็ก ผมตื่นเต้นมากกลืนน้ำลายดังเอื้อก

 

*โหล สะดวกคุยหรือเปล่า มีหมาอยากเห่าด้วย* ไอ้เม่นกรอกเสียงไปใหนสาย แล้วยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ผมรับมาอย่างลังเล ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองแล้วว่าที่ทำอย่างนี้ถูกหรือเปล่า

 

เนิ่นนานเหมือนผ่านสัก 10 ปี .... ผมเอาโทรศัพท์ Motorola Star DPC ระบบ 800 ของบริษัทโทเทิ่ลแอคเซสคอมมูนนิเคชั่น แนบกับหู แล้วหายใจออกแรง ๆ เข้าในสาย 1 ครั้ง

 

*เก่งเหรอ* ผมได้ยินเสียงมันแล้ว ... เสียงของไอ้ตี๋เล็กเมียผม ต่อให้มันเบาแค่ใหน ผมก็จำได้ว่าเป็นเสียงของมัน ...  ใจผมเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะ รัวระริก ... แต่สั่นไหว

 

-กูเมา- ผมพูดได้แค่นั้น

 

*ฮือ ๆๆๆ* มันร้องให้โฮเข้ามาในสาย ส่วนผมน้ำตาร่วงเผาะ โดยอัตโนมัติ

 

*มึงเจ็บมากมั้ย กูขอโทษ* ไอ้ตี๋เล็กถามทั้งที่สะอื้น อยู่

 

-ไม่เจ็บแล้ว อย่าร้องนะ ขี้แยอีกแล้ว เดี๋ยวกูหาเมียใหม่นะ- คนขี้แยกำลังปลอบคนขี้แยด้วยกันเอง

 

-ตี๋เล็ก อย่าร้อง ฟังนี่นะ- ผมเหลือบไปเห็นเพื่อน ๆ เริ่มเช็ดน้ำตา กอดกันกลม

 

ผมกรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์

 

****** ไกล อาจจะไกล แสนไกล
อาจจะไกล จนสุดสายตา
เราห่างกัน อาจจะไกล สุดฟ้า
อาจจะเกิน ที่จะพบกัน
แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ ที่ยังคิดถึง
ส่งไป ให้ถึงใจเธอ
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน
ยังไม่ลืม ที่ได้เคยใกล้กัน
ไม่ลืมวัน และคืนนั้นเลย
ยังไม่ลืม ที่เราคุ้นเคย ที่เราผูกพัน
ก่อนจากกัน จนไกลแสนไกล
แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ ที่ยังคิดถึง
ส่งไป ให้ถึงใจเธอ
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน
..แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ
ที่ยังคิดถึง ส่งไป ให้ถึงใจเธอ
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน
อยากบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน ******
 
 
               มีคนเคยบอกว่าถ้าร้องให้ครบ 3 ครั้ง ใน 1 วันแล้วจะโชคดี .. ผมจะโชคดีใหมเนี่ยต้อนรับปีใหม่ปีนี้ เพราะน้ำตาแตกไปหลายรอบแล้ว เหลือบเห็นเพื่อน ๆ เช็ดน้ำตากันใหญ่แล้วส่งเสียง เฮ ........ ปรบมือกัน ผมหัวเราะออกมาได้ ได้ยินเสียงตี๋เล็กมันหัวเราะออกมาได้แล้วเหมือนกัน 
 
                    ไม่ต้องมีคำใด ๆ ออกจากปากเราสองคน แต่เราก็รู้ว่า การเดินทางครั้งใหม่ของเรา กำลังจะมาถึง จะดีจะร้าย ........... ปล่อยไว้ให้เป็นลิขิตของคนที่อยู่เบื้องบน
 
*เก่ง ถ้าเหงามากจะเอาไอ้เม่นไปพลาง ๆ ก็ได้นะ กูอนุญาติ* แน้ ยังมาทำทะลึ่งอีกเมียกู เดี๋ยวกูทิ้งแล้วจะเสียใจ
 
-กูมีมึงแล้ว .... กูจะไม่มีใคร จำได้ใหม- มันร้องให้โฮอีกแล้ว
 
เฮ้อ ....... ชีวิตรักบนคราบน้ำตา จะไปในทิศทางใหน ... ผมล่ะกลุ้มใจเสียจริง ๆ
 
 
มีต่อครับ เบื่อกันหรือยัง .......
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 26-09-2007 16:02:21
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ II เยียวยา
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ II เยียวยา
 
                วันปีใหม่ปีนี้ เป็นวันที่ผมเริ่มมีความสุขขึ้นมาบ้างเหมือนกันแล้วสินะครับเนี่ย  พวกผมจะอยู่ที่บ้านต่ออีกจนถึงวันที่ 3 ถึงจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ

 

                กำลังใจผมเริ่มดีขึ้นมามากแล้วในตอนนี้ อย่างน้อย ผมก็รู้ทิศทางในการดำเนินชีวิตของผมต่อไปได้  เพราะผมรู้ว่า ชีวิตของผม ก็เป็นชีวิตของไอ้ตี๋เล็กเหมือนกัน

 

                การที่เราได้รับรู้ว่า ชีวิตของเรา ไม่ใช่ชีวิตเราของเราเองแต่เพียงผู้เดียว แต่เรามีชีวิตอยู่ เพื่อคนที่เรารักด้วย มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษสุด ทำให้เราเริ่มใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท

 

                มีความระวังระไวมากขึ้น เพราะนอกจากชีวิตเราจะมีค่าสำหรับตัวเรา เรายังมีค่าสำหรับคนอื่นอีก (อ้วก)

 

                ในวันที่ 1 เราก็ตั้งวงกันเหมือนเคย แต่นอนเร็วกว่าปกติ เพราะพรุ่งนี้ ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวในเมืองกัน รุ่งเช้าผมขับรถของพี่เต้ยพาทุกคนไปเที่ยวในเมือง เริ่มต้นจากกินข้าวเหนียวไก่ย่างที่สถานีขนส่ง แถวบ้านผมเค้าเรียก คิวรถบุญเยี่ยม ที่นี่เป็นศูนย์รวมรถสองแถวไปตัวจังหวัด หมู่บ้านต่าง ๆ และที่ขึ้นรถไป กทม โคราช จะต้องมาที่นี่ จึงมีของขายเยอะ

 

                เวลา 08.00น เราไปถึงที่หมาย ผมสั่งข้าวเหนียว ไก่ย่างแบบไม้หนีบ ตับไก่ปิ้ง หมูปิ้ง  อะไรก็ปิ้ง ๆทั้งนั้นในตอนเช้า ๆ แบบนี้ กินของอย่างนี้แล้วสบาย อยู่ท้องดีด้วย ที่นี่มีน้ำจิ้ม ที่เป็นพระเอกชูโรง เป็นน้ำจิ้มพริกป่น บีบมะนาว โอ้โห แซ่บอย่าบอกใครเลย

               

                พวกผมนั่งอยู่บนเตียงไม้ใผ่เก่า ๆ ผมขออนุญาติไปทักเพื่อนที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ข้าง ๆ เหอ ๆๆๆ เวลาผ่านไปแค่สิบนาที ของที่ผมสั่งมันไม่ได้มาแค่นั้น อาพลเจ้าของแผงยกส้มตำ ลาบ มาเสิร์ฟอีกอย่างละสองจานใหญ่ ๆ  ผมชะเง้อมองอย่างสนใจเหมือนเด็ก ๆ อยากได้ของเล่น

 

          *โห อาพล ใครจะกินส้มตำปลาร้าแต่เช้าเนี่ย*            หน้าตาผมอยากกินมาก

               

                 เพื่อน ๆ หัวเราะกันใหญ่ เพราะของพวกนั้น มันเป็นของพลพรรคผมสั่งเอง เฮ้อ พวกนี้ ไม่ได้มีปลาร้าในกระแสเลือด ไม่มีแรงทำอะไรกันพอดี แต่ก็ถูกใจผมล่ะ ไม่งั้นจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไง อาหารวันนั้นมีรสชาดขึ้นมาอีกเยอะ เมื่อผมคิดถึงหน้าไอ้ตี๋เล็กลอยอยู่ในหัวสมอง  ตี๋เล็กครับ พี่เก่งคิดถึงตี๋เล็กมากเลยนะครับ อดทนนะครับ คงจะมีสักวัน เป็นวันของสองเรา (อ้วก)

 

                จากนั้นผมพาเพื่อน ๆ เดินข้ามถนนมาไกล้ ๆสานีรถไฟ ผมเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า ตอนที่ผมอยู่ชั้น ป 4 ผมถีบจักรยานเล็ก ๆ ไปโรงเรียนทุกวันและผมต้องข้ามทางรถไฟ ที่ไม่มีที่กั้นแบบนี้ อยู่มาวันหนึ่ง แม่ผมขับมอเตอร์ไซค์มาด้านหลัง ด้วยความเป็นเด็ก เรากะแข่งกับแม่ ท้าให้แม่แซง ผมถีบจักรยานอย่างรวดเร็ว จนข้ามทางรถไฟไป .....

 

                แม่ผมรีบทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ลงกับพื้นถนนโดยไม่สนใจจะจอดให้ดี ตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่น เพราะเมื่อรถจักรยานผมพ้นทางรถไฟไป รถไฟก็วิ่งไปพอดี แม่คิดว่า ผมต้องถูกรถไฟชนแน่ ๆ พอรถไฟผ่านไป ผมนั่งอยู่บนจักรยาน หันมามองแม่ แม่ผมวิ่งเข้ามากอดร้องให้ บอกว่า แม่คิดว่าจะไม่ได้เห็นเก่งลูกของแม่อีกแล้ว

 

                ผมบอกแม่ว่า ผมดูรถแล้ว พ่อเคยสอนว่า ถ้ารถไฟกำลังจะออกมาจากสถานี อย่าข้ามเพราะรถจะเริ่มต้นออกตัววิ่งเร็ว แต่ถ้ารถกำลังจะเข้าจอดที่สถานี รถจะวิ่งช้า แม่ผมขอคำสัญญาจากผมว่า ไม่ว่ารถไฟ จะวิ่งเร็วหรือช้า ถ้าชนลูกของม่ แม่คงไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ให้ผมหยุดพิจารณาก่อนที่จะข้ามทุกครั้ง ผมรับปากแม่ตั้งแต่วันนั้นมา

 

                ถ้าผมมีปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆในชีวิต เปรียบได้กับรถไฟ ไม่ว่าจะหนักหรือเบา คือรถไฟนั้นจะวิ่งเร็วหรือไม่ ความไม่ประมาท และมีสติ จะช่วยให้ผมรอดชีวิตจากปัญหานั้น ๆ ได้  เพื่อนๆ ได้ฟัง ปรบมือกันใหญ่ ไอ้เก่งมันปรัชญาล้ำลึก ผมปรามให้เบา ๆ หน่อย ที่นี่บ้านนอก คนไม่คุ้นกับเสียงดัง ๆ สิบแปดหลอดเชี่ย ๆ แบบพวกเรา

 

          ผมพาทุกคนเดินดูตลาดนัดหน้าสถานีรถไฟ ซึ่งจะมีในวันที่ลงท้ายด้วยเลข 6 คือ วันที่ 6, 16 และ 26 เท่านั้น ตอนเป็นเด็กผมจะตื่นเต้นมาก เพราะว่าเป็นวันเดียวที่เราสามารถซื้อของได้ถูกและมีของเล่นมากมายให้เราเลือก เด็ก ๆ ทุกคนจะตั้งตารอวันที่ 6, 16 และ 26 ของทุกเดือน ผมก็เช่นกัน อย่างนี้ล่ะครับ วันใหนที่มีความสำคัญพิเศษ เราก็มักจะจดจำไว้เสมอ เหมือนกับผม วันคืนดีดี ที่เคยมีกับตี๋เล็ก ผมจดจำไว้ไม่มีวันลืม

 

                ผมพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวไร่อาผม ห่างจากตัวเมืองไปราว 20 กม. ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นที่ได้เห็นมะม่วงสามฤดูที่ดกมากจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เรียกว่า ลูกดกกว่าใบเสียอีก ผมบอกว่า อาแดงเรียนจบปริญญาโทมาจากคณะเกษตร มอสีเขียว แกไม่อยากเป็นข้าราชการ แต่อยากเป็นชาวไร่มากกว่า เห็นใหมครับ คนเรา ไม่จำเป็นต้องเดินทางผ่านโคราชเพื่อไปสระบุรี แต่อาจจะอ้อมไปที่สายเอเซียก่อน แวะพักกินแม่ลาปลาเผาให้เย็นใจ ก่อนจะเข้าหระรี .... ไม่เป็นไรเลย ชีวิตคนเรามีทางเลือกเสมอ

 

                วันทั้งวันผมใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ อยู่กับธรมชาติบ้านนอกของผมที่ผมรัก พาเพื่อน ๆ ไปเจอเพื่อน ๆ ผมสมัยเด็ก ไปดูถ้วยรางวัลที่ผมเคยได้ที่โรงเรียนประถม การใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองสักพัก ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น นี่คือการเยียวยาทางธรรมชาติ ถ้าปัญหาของใครที่หนักอึ้ง ลองหยุดวิ่งตาม นั่งพัก มองฟ้าออกไปไกล ๆ สักที แล้วคุณจะรู้ว่า คุณสบายใจมากขึ้น และพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหารุนแรง แม้ว่าคุณไม่ทราบว่าจะเจออะไรในอนาคต .....................

 

มีต่อครับ เบื่อใหมครับ

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 26-09-2007 16:05:13
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ III กลับมายืนที่เดิม

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ III กลับมายืนที่เดิม

 

          ผมยืนอยู่ที่คิวรถบุญเยี่ยมในชุดเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีดำของ Puma กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบใส่ถุงเท้าสีขาว สะพายเป้ ในมือหิ้วกล่องใบย่อม ๆ ที่แม่กับพี่สาวเตรียมอาหารแห้งกับข้าวสารให้ ที่นั่นอากาศหนาวและมีลมพัดมาหวีดหวิว อยู่เป็นระยะ ๆ  เวลาในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.00น.

 

                พี่เต้ยกำลังย้ำกับผมด้วยคำพูดเดิม ๆ ที่พ่อกับแม่ผม รวมทั้งพี่สาวผม พร่ำบอกผมมาตลอดเมื่อเย็นวันนี้ที่เรารับประทานอาหารร่วมกันเพื่อเป็นการรับขวัญ และเลี้ยงส่งผมกลับไปเรียนที่สถาบัน

 

                -มึงทำอะไรต้องคิดถึงพ่อ แม่ พี่ ๆ ให้มาก ๆ มึงไม่ใช่อยู่ตัวคนเดียว-

 

                -อย่าคิดมาก อย่างไรก็ดี มึงมีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ อนาคตของตัวเราก็สำคัญไม่แพ้กับเรื่องอื่น ๆนะ เรื่องตี๋เล็ก ปล่อยให้เวลาผ่านสักพัก แล้วหาวิธีทางกันใหม่-

 

          พี่เต้ยจ้องมองตามองผมอยู่สักพัก ผมพยักหน้าน้อยเหมือนเด็ก ๆ รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ ก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายผม น้ำตาซึมเมื่อได้ฟังคำว่าตี๋เล็ก ผมคิดถึงมันจริง ๆ

 

                -โตจนเรียนมหาวิทยาลัย เมียก็มีแล้ว ยังขี้แยเป็นเด็ก ๆ อยู่นะ กูเองซะอีก ยังโสดไม่มีใครสนใจ- พี่ชายผมตบหลังผมเบา ๆ พร้อมกับหัวเราะ          ผมปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็วก่อนจะขึ้นรถไปใหนที่สุด

 

                เมื่อผมมาถึงหมอชิต ผมเรียกแท็กซี่ขึ้นทางด่วนสายดาวคะนองกลับไปยังหอพักทันที ระหว่างทางผมนั่งนึกถึงสถานที่ที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีมัน....

 

          ผมกลับถึงหอพักก็จวนเจียนจะเช้าแล้ว อากาศที่กรุงเทพไม่หนาวเหมือนที่บ้านนอก ผมตัดสินใจไม่นอน กะว่าเรียนภาคเช้าเสร็จแล้วจะกลับมานอน ผมรีบเปิดดูของในตู้เสื้อผ้า กลับยิ่งแปลกใจเพราะทั้งของไอ้ตี๋เล็กและของของผมยังคงอยู่ครบเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ใหนพี่สาวผมบอกว่าพ่อไอ้ตี๋เล็กให้คนมาเก็บของของมันไปหมด แถมจะไม่ให้มันเรียนที่นี่ต่ออีกด้วย

 

                ผมเก็บข้าวของ อาหารแห้งที่ทางบ้านจัดให้เข้าที่ แล้วกระโดดขึ้นนอนแผ่บนเตียง ผมกดรีโมทเปิดทีวีทิ้งไว้ ลืมตาโพลง ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอย คิดเรื่องต่าง ๆ ไปอย่างเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ใส่ใจในเนื้อหาในทีวีนัก แล้วผมก็เผลอหลับไป

 

                ผมฝันไป ผมฝันเห็นตี๋เล็กของผมเปิดประตูเข้ามา แล้วเข้ามาหอมแก้มผมในขณะที่ผมหลับอยู่บนเตียง แปลกมาก ที่ผมได้กลิ่นน้ำหอมแซมบ้า เนเชอรัล ที่มันชอบใช้ มันยังเคยยกหางตัวเองบอกผมว่ามีแต่คนหล่อ ๆ เท่านั้นที่ชอบใช้แซมบ้า

 

                ผมสะดุ้งโหยง ลืมตาตื่นขึ้นมา นั่งหอบแฮ่ก ๆ  อยู่บนเตียง ในใจเต้นตุบ ๆ ๆ ๆ รัวเร็วเหมือนตีกลอง สองสามนาทีกว่าผมจะรู้ตัวว่า แค่ฝันไป ผมร้อง เฮ้อ ! แล้วถอนหายใจกับตัวเองแรง ๆ

 

                และแล้วสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกออกตกใจ เบิกตากว้างอย่างสุดขีด เมื่ออยู่ดีดี ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก คนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ต่อให้มันอยู่ไกลจากผมสัก 1 กิโลเมตร ... ผมก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น ไอ้ตี๋เล็กของผม!!!! ผมตกใจทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งมันเอ่ยออกมาเบา ๆ

 

          -หน้าดำไปหน่อยนะ ที่บ้านนอกแดดแรงเหรอ-  มันอมยิ้มทำหน้าทะเล้นใส่ผม

 

                ผมกระโจนเข้ากอดมันในทันที น้ำตาอุ่น ๆไหลพรั่งพรูออกมาจากหางตา เริ่มกระซิกสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ผมกอดมันรัดแน่นอยู่นานสองนาน จนมันพูดบอกผมว่า

 

                -หายใจไม่ออก-  ผมก้มหน้าลงไปจูบมันเป็นการเพิ่มอากาศในตัวมันผ่านลมหายใจผม ลมหายใจของเราทั้งสองคน แทบจะเป็นลมหายใจอันเดียวกัน

 

                -ผัวกูขี้แย แต่จูบเก่งเป็นบ้า อย่างนี้ต้องระวังมากเป็นสองเท่า กลัวใครเขาคว้าเอาไป หวงนะ- - - มันหัวเราะ

 

                ผมงงเป็นไก่ตาแตกว่าไอ้ตี๋เล็กมันมายืนพูดฉอด ๆ อยู่ต่อหน้าผมได้อย่างไร ...............
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 26-09-2007 16:18:16
ตี๋เล็กกลับมาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

 :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-09-2007 16:33:25
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

แอร้ยซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

ตี๋เล็กของช้านนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 26-09-2007 16:34:41
ตี๋เล็กกลับมาแล้ววววว   :m3:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 26-09-2007 17:18:11
กลับมายืนที่เดิมมมมมมมมมม :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 26-09-2007 19:01:58
กะ กะ กลับมาแล้ว จริง ๆ หรอเนี่ย  :m3:

แต่สั้นไปหน่อยนครับะ อยากอ่านต่อง่ะ -.-
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-09-2007 19:41:27
ตี๋เล็กมาแล้ว  :a2:  :a2:  :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-09-2007 21:02:18
ตี๋มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววว มาได้ไงเนี่ย  :m21:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: motred ที่ 26-09-2007 22:34:26
ดีจายยยยยจังเลย
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 26-09-2007 22:41:35
 :o :o :o
ช๊อคสามตลบกะเก่งด้วย

ตี๋มาได้ไงอ่ะ

แต่ก็ดีแล้วละ  :a2:
 :m28:
เอ๊ะ .... แล้วพ่อตี๋ล่ะ
หรือว่า ...
...
...
...
หรือว่า ยอมรับกันแล้ว
 :m28:

ลุ้นต่อไปดีก่า
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 26-09-2007 22:43:13

         มาเป็นกำลังใจให้น้อง ไอซ์ มาต่อเร็ว  รออ่านอยู่ :m4: :laugh: :impress:

                                                    CargO CargO
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-09-2007 00:29:07
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน
แอบมาพบกันก็ได้นิ
 :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 27-09-2007 02:09:58
 :m11:  :m11:  :m11: เย้ๆๆๆ ตี๋เล็กกลับมาแล้วววว  o7  o7  o7  o7

ตกใจจังเลยอ่ะ .... จริงๆนะเนี่ย ..... นึกว่าทั้งคู่จะโดนความโหดร้ายของโลกนี้ .... ของสังคมนี้ ..... กัดกินจนตายไปและ  :impress: ..... แต่ก็นะ เดี๋ยวต้องดูคำอธิบายจากตี๋ก่อน .... แต่หวังว่ามันจะเป็นข่าวดีของทั้งคู่น้า ......  :impress2:

สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a2:  ขอให้ทั้งคู่ฝ่าฟัน และชนะอุปสรรคทั้งหลายลงไปได้นะ  :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 27-09-2007 11:54:01
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด  :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: ด้วยคน ตี๋เล็กกลับมาแล้ว  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 27-09-2007 16:03:52
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ IV / เงื่อนไข

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ IV / เงื่อนไข

 

                จากตอนที่แล้ว ไอ้ตี๋เล็กโผล่มาในเช้าวันหนึ่งโดยอุบัติเหตุ จนทำให้ผมซึ่งไม่อยู่ในอารมณ์ใด ๆ มีหัวใจที่กลับมาชื่นบานอีกครั้งหนึ่ง ไอ้ตี๋เล็กมันคงจะล่วงรู้ถึงความคิดสงสัยของผม มันดึงมือผมไปนั่งลงที่เตียง ก่อนจะเอ่ยออกมาช้า ๆ

 

                -เก่ง พ่ออนุญาติให้กูเรียนต่อได้ แต่เราจะไม่ได้คบกันอีกแล้ว-

 

                ผมเลิกคิ้วน้อย ๆ เป็นเชิงแปลกใจ จะไม่แปลกใจได้อย่างไร ในเมื่อเราต้องเรียนอยู่ที่เดียวกัน ต้องเจอกันทุกวันอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นการจับเราสองคนแยกออกจากกัน

 

                -กูต้องย้ายไปอยู่กับญาติ-

         

          ผมเดาได้ทันทีว่าต้องเป็นไอ้เชี่ยไอติมเปื้อนปากหน้าหล่อนั่น

 

          *มีทางเลือกอะไรอื่นใหม?*

 

                ผมถามมันแบบเนือย ๆ คุณผู้อ่านเคยมีความรู้สึกใหมครับว่าในบางสถานการณ์นั้น ถ้าจำเป็นจะต้องเลือกกำ การเลือกกำขี้ มันดีกว่ากำตด จริงๆ ตี๋เล็กถอนหายใจเล็กน้อย แล้วบอกผมในสิ่งที่ผมอยากจะล้มลงไปชักกับพื้นเดี๋ยวนั้นให้ได้

 

                -ไม่มี แถมมึงกับกูต้องเลิกกันจริง ๆ-

 

                *ว่าไงนะ!!* ผมเริ่มหายใจติดขัด พูดไม่ออก

 

                -พ่อกูมีเงื่อนไขให้ ถ้ากูอยากจะเรียนต่อ กูจะต้องเลิกคบกับมึงโดยเด็ดขาด พ่อจะให้ไอ้พี่กลดลูกพี่ลูกน้องของกู เป็นคนคอยดูแล ถ้ายังมีเหตุการณ์ในทำนองที่ว่า กูคบอยู่กับมึง พ่อกูจะไม่เอาตัวกูกลับบ้านหรอก แต่พ่อจะตัดเป็นตัดตายกับกูทันที นั่นหมายความว่ากูจะไม่มีบ้านของกู ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีน้อง รวมทั้งความช่วยเหลือทางการเงินด้วย มึงเข้าใจใหม-

 

                *มันจะเป็นไปได้อย่างไรถ้ากูยังต้องเรียนอยู่ที่นี่กับมึง อย่างไรก็ต้องเจอกันแม่งทุกวัน* ผมถามมัน

 

                -เก่ง ฟังกูดีดีนะ ความใฝ่ฝันของกู คือการที่ให้พ่อกับแม่ได้เห็นกูในวันรับปริญญาวิศวกร มึงเข้าใจความรู้สึกของพ่อกูด้วยนะ บ้านกูขายอุปกรณ์ก่อสร้าง การมีลูกเป็นวิศวกร เป็นสิ่งที่พ่อกูใฝ่ฝันไม่แพ้ความตั้งใจของกู พ่อกูเขาลำบากมาตั้งแต่เด็ก เริ่มก่อร่างสร้างตัวจากติดลบ ในขณะที่เขาเรียนจบแค่ ม 3 จากกศน (พ่อมันเพิ่งเรียนจบ กศน เมื่อปีที่แล้ว)-

 

                -กูเห็นเขากินเหล้า ไม่ทำงาน กูสงสาร กูเข้าไปคุยกับเขา รับความเข้าใจกับเขา เขากอดกู บอกว่ากูยังเป็นเจ้าชายน้อยของเขาเหมือนเดิม แต่เขาขอกู ขอให้กูเป็นอนาคต เป็นทุกสิ่งที่อย่าง เป็นความหวังของครอบครัว-

 

                ผมฟังแล้วอึ้ง เงียบไปเหมือนใบ้รับประทาน ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากของผมอีกเนิ่นนาน ตี๋เล็กเริ่มร้องให้กระซิก ๆ

 

                -กูไม่มีทางเลือก เมื่อเจอเหตุผลของพ่อ-

 

                *ตี๋เล็ก มึงจะยังรักกูอยู่ใหม*

 

                -กูไม่เคยหยุดรักมึงจนถึงวันนี้ มึงล่ะรักกูใหม-

 

                *กูรักมึง กูยอมทำทุกอย่างเพื่อมึง* ผมดึงมันเข้ามากอดเนิ่นนาน ราวกับว่า จะไม่ได้กอดมันอีกแล้ว

 

                -พี่กลดจะมาช่วยกูย้ายของออกไปวันนี้ตอนเย็น-

 

                *อือ*

 

                เหมือนคนเรากำลังเดินอยู่ใต้สายฝนโปรยปราย จิตใจกำลังชุ่มชื่นเย็นฉ่ำไปกับสายฝน แล้วอยู่ดีดี ก็เกิดอัสนีบาตฟาดเปรี้ยงลงมาโดยไม่ทันได้ระวัง ผมไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาก นอกจากน้ำตาของลูกผู้ชาย เมื่อได้รู้ว่ากำลังจะสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญในชีวิตของผมไป

 

                เราสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนถึงตอนเย็น ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากเราทั้งคู่ ผมช่วยมันนั่งจัดของอยู่อย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกของผม มันหดหู่สิ้นดีเมื่อผมหยิบแปรงสีฟันของมันออกมาจากชั้นวาง ... แปรงสีฟันแบบเดียวกัน เมื่อก่อนเคยวางอยู่ด้วยกันสองอัน แต่วันนี้ ต้องเหลืออยู่แค่อันเดียว.. ชุดนอนที่เคยแขวนตามสีเป็นคู่ ๆ ต้องถูกจับแยกออก อันหนึ่งยังอยู่ที่นี่ ...... แต่อีกอัน ... ต้องไป

 

                ผมตัดสินใจไปอยู่ที่ห้องพี่อ้วน ระหว่างที่ไอ้พี่กลดมันมาช่วยไอ้ตี๋ย้ายของ ผมร้องให้เล่าเรื่องราวให้พี่อ้วนฟังทั้งหมด พี่อ้วนปลอบใจผมด้วยคำสั้น ๆ

 

                -อย่างน้อย มึงก็ไม่ต้องเสียมันไปตลอดกาล-

 

          ข้อตกลงระหว่างพี่เก่งกับน้องตี๋ นับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ปี 2540 เป็นต้นไป คือ เรา .... ขาดกัน ....


หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 27-09-2007 16:05:36
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ V / เหมือนเป็นคนอื่น

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ V / เหมือนเป็นคนอื่น

 

          สวัสดีมิตรรักนักอ่านเรื่องราวของ เก่ง กับตี๋เล็กทั้งที่เมืองไทยนะครับ รวมถึงต่างประเทศทั้งที่ UK, AUS และที่อื่น ๆ ที่ไม่ยอมระบุตัวเองแล้วแอบอ่านอยู่ ยังไงติดต่อมาคุยกันบ้างนะครับที่ MSN หรืออีเมล์มาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน วันนี้วันอาทิตย์มีเวลาเล็กน้อย อย่างที่บอกนะครับ ตอนนี้กลับไปทำงานหลังจากพักร้อนมา 1 อาทิตย์แล้ว เวลาที่จะมาอัพเดตเรื่องราวในอดีตของผมให้คุณผู้อ่าน ก็มีน้อยลง บางตอนอาจจะสั้นไป แต่ยืนยันได้ว่า ตอนที่สั้น ๆ ไม่ได้มาจากการจงใจ แต่เป็นการจบครบถ้วนตามอารมณ์ของเหตุการณ์ในช่วงนั้น ๆ  ถือว่าเป็นเหมือนไดอารี่ออนไลน์ ที่เขียนขึ้นแต่แจกจ่ายให้อ่านกันทุกคนก็แล้วกันนะครับ เพราะไดอารี่จริง ๆ คงจะต้องเป็นความลับ ตอนนี้ที่เกาะสิงคโปร์ก็มีมหกรรมลดราคาทั่วทั้งเกาะ Great Singapore Sales ใครที่สนใจลองติดต่อหาข้อมูลการท่องเที่ยวดูนะครับ ผมไปมาล้วเมื่อวานที่ถนน Orchard มีสินค้าลดราคายั่วให้กระเป๋าฉีกหลายตัว ที่ไม่อาจห้ามใจ (แต่บังเอิญห้ามได้) เพื่อนผมที่มาจาก กทม กลับไปแล้วครับ ตั้งแต่เมื่อวาน  คนไทยเดี๋ยวนี้รวยมากเลยล่ะครับ รูดบัตรเครดิตกันปื้ด ๆๆๆๆ มีบัตรตั้ง 3 ใบในกระเป๋า โอ้พระเจ้า ผมยังไม่มีกับเขาเลยสักใบ คนจนก็อย่างนี้ล่ะนะครับ ยังไงติดตามอ่านเรื่องราวของผมกันเรื่อย ๆ นะครับ ถ้านาน ๆ ไม่เห็นหรือลืม ก็ทักมาทางอีเมล์หรือ MSN ได้ครับ ขอบคุณครับ

 

                                                                                                                เก่ง

 

--------------------------------------------------------------------------------------------


                ผมตื่นเช้าขึ้นมาในวันหนึ่งของเดือนวาเลนไทน์ ครบ 1 เดือนแล้วสินะที่ไอ้ตี๋เล็กมันไม่ได้อยู่กับผม เราแทบไม่ได้คุยกันเลยนอกจากที่สถาบัน เพราะอย่างไร เราก็อยู่ในภาควิชาเดียวกัน ต้องมีสังคมของกลุ่มเพื่อน สิ่งที่เราคุยกันเช่น

 

                -เรียนห้องใหน-

 

                -ฝากซีร็อกซ์ชีตใหม-

 

                ผมยิ้มให้มันแห้ง ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับมันดี ผมเห็นมันตอนเย็น ๆ หลายครั้งที่หน้าสถาบัน มันเดินกับไอ้หน้าหล่อปากเปื้อนไอติม ท่าทางพูดคุยกันสนุกสนาน บางทีก็กินข้าวด้วยกัน ผมทำได้แค่พยายามห้ามใจ ไม่ให้เดินเข้าไปชกหน้าไอ้หมอนั่น ผมยอมรับว่าผมอิจฉามันจริง ๆ สงสัยชาติที่แล้วมันทำบุญด้วยตูดด้วยก้น กุศลมันเลยแรง ส่งให้มันมาอยู่เคียงข้างกับเมียผม เวลาไอ้หมอนั่นเจอหน้าผม มันชอบยิ้มที่มุมปาก มองมาทางผมอย่างเหยียด ๆ ผมสาบานได้ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเอง ไอ้หมอนี่ มันกำลังสะใจที่เห็นผมเป็นแบบนี้

 

                ผมพยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอมันสองคนเวลาที่อยู่ข้างนอกสถาบัน เพราะว่าที่พักของไอ้ตี๋กับไอ้เชี่ยนี่ อยู่ห่างจากที่พักของผมไปไม่กี่มากน้อย การหลีกเลี่ยงให้ไม่เจอกัน เป็นไปได้ไม่ง่ายเลย แต่ผมก็ต้องทำให้ได้ เพื่อสัญญาที่ให้ไว้กับตี๋เล็กมัน

 

                และแล้ววันหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็มาถึง ผมไปที่ห้องสมุดเพื่อยืมหนังสือคู่มือภาษาอังกฤษบางอย่าง อีกเหตุผลที่ไปที่นั่นคือ “แอร์เย็น” นั่งสบาย ๆ เงียบ ๆ อยากจะนอนสักตื่นก็ยังไหว เพราะคนไม่ค่อยใช้ห้องสมุดกันเท่าไหร่ ผมกดรายการหนังสือที่ต้องการจากฐานข้อมูลการสืบค้นของห้องสมุด แล้วจดลงในกระดาษเล็ก ๆ ก่อนจะเดินไปที่ชั้นสองปีกขวา เพื่อหาสิ่งที่ต้องการ ผมเดินไล่สายตาไปตามชั้นหนังสือเรื่อย ๆ ด้วยแสงสว่างที่ไม่ค่อยเพียงพอเท่าไหร่นัก ผมไม่ได้มองทาง เดินอย่างเดียวจนไปชนกับคนคนนึงเข้า

 

                -ตี๋เล็ก- ผมอุทานด้วยความตกใจ

 

                ก่อนที่ผมจะพูดอะไร ตี๋เล็กรีบจับมือดึงแขนผมให้ไปอีกมุมนึงซึ่งเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมจับมันมากอดในอกผมทันที ..... เนิ่นนาน เหมือนผ่านไปหลายปี ทั้ง ๆ ที่เวลาเพิ่งผ่านไป 1 เดือนเท่านั้น

 

                *ปล่อยก่อน นี่ห้องสมุดนะ* ตี๋เล็กเอ็ดผมเบา ๆ

 

                -มากับใคร- ผมถาม

 

                *พี่กลดอยู่ทางโน้น คุยได้แป็บเดียวนะ* มันตอบเบา ๆ กลับมา สายตาก็คอยมองไปที่ทางเดิน มันคงกลัวว่าใครจะมาเห็น โดยเฉพาะ ไอ้เชี่ยปากเปื้อนไอติมนั่น

 

                *กินข้าวบ้างหรือเปล่า ทำไมดูผอมลง แล้วอ่านหนังสือดึกหรือเล่า อย่าเคร่งมากนักรู้ใหม* มันถามผม จะให้ผมกินอย่างมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อผมต้องกินข้าวกับไอ้พี่อ้วนบ้าง คนเดียวบ้าง กับพวกเพื่อนเชี่ย ๆ บ้าง โดยที่มันไปอี๋อ๋อกับไอ้นั่นสองคน

 

                -อือ- ผมไม่รู้จะตอบมันว่าอะไร

 

                *ต้องไปแล้วนะ เดี๋ยวพี่กลดเห็น* มันบอกผมเบา ๆ แล้วเดินออกไป ผมจับมือมันแล้วล่อยมันเดินไปจนมือที่ผมจับไว้ ค่อย ๆ หลุด ...... ความรู้สึกเหมือนเรากำลังจะเสียอะไรสักอย่างไป ... ผมยังอยากกอดมันต่ออยู่เลย

 

                ผมนั่งจมอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ ทอดอารมณ์ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งรอบข้างมากนัก วันนั้นเป็นวันศุกร์ คนในห้องสมุดตอนเย็นจะมีน้อยมากแทบนับคนได้ มีคนเข้ามานั่งข้าง ๆ ผมคนหนึ่ง แต่ผมไม่ได้ใส่ใจ เห็นแต่ว่าเป็นเสื้อช้อปสีน้ำเงิน ผมแค่นึกในใจว่า ทำไมไม่ไปนั่งที่อื่น ที่ว่างมีเยอะยะ เพราะทั้งโต๊ะตัวใหญ่ มีผมกับผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ปลายสุดตรงข้าม ผมพลิกหน้าไดอารี่ของผมที่ผมมักติดตัวมาเสมอ ไล่หน้าไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าของวันนี้ ผมอ่านกับตัวเองเบา ๆ

 

                ++++ ครบรอบ 1 เดือนที่ตี๋เล็กไปจากกู กูคิดถึงมึง++++  ผมหยิบปากกาขึ้นมาเตรียมจะบันทึกต่อ ได้ยินเสียงคนข้าง ๆ พูดขึ้นเบา ๆ

 

                *จดไดอารี่ทุกวันเลยเหรอ* ผมยังไม่ได้สติที่จะรับฟังคนอื่นมากนัก คิดว่าเขาคงคุยโทรศัพท์ ไม่ก็พูดกับคนอื่น แต่พอนึกได้ว่า เรากำลังเขียนไดอารี่อยู่ เลยนึกได้ว่าเขาพูดกับเรา

 

                -ใช่ฮะ- ผมตอบเบา ๆ โดยไม่มองหน้าคนถาม

 

                *สงสัยจะเป็นเรื่องเศร้านะ* เสือกรู้อีกไอ้เชี่ย ผมเงยหน้าขึ้นมอง พบกับรอยยิ้มบาง ๆ ของผู้ชายตัวใหญ่ ๆ คนนึงใส่เสื้อช้อบสีน้ำเงิน เสื้อยืด BNN ข้างในสีขาว ใส่นาฬิกาคาสิโอสายเหล็กหน้าปัดกลมแบบที่ผมชอบ ตัดผมสั้นเรียบร้อย ใส่แว่นกรอบสีดำบาง ๆ มีเคราเล็กน้อยที่ใบหน้า ที่นิ้วข้างขวาใส่แหวนทองน่าจะสัก 50 สตางค์ เล็บมือถูกตัดสั้นสะอาดเจียนมนได้รูป สร้อยคอทองคำน่าจะสัก 1 บาท

                นิสัยที่ไม่ดีของผมอีก 1 อย่างคือ ถ้าผมมองใคร ผมจะมองแล้วเก็บรายละเอียดทั่วทั้งตัวของคนคนนั้นในเวลาไม่เกิน 1 นาที บางคนเขาจะไม่เข้าใจว่า มองเขาแบบนี้ ดูถูกอะไรหรือเปล่า ผมยิ้มตอบน้อย ๆ แล้วหันมาสนใจกับไดอารี่ผมต่อ

 

                *ทำอะไรเมื่อกี้เห็นนะ* อ้าวไอ้นี่เล่นไม่เลิก ผมเงยหน้าขึ้นไปอีกครั้ง หน้าบอกบุญไม่รับแล้วเลิกคิ้วน้อย ๆ เป็นคำถาม

 

                *เห็นละกัน* มันพูดไม่เลิก พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

 

                ผมพับปกไดอารี่เข้าหากัน เก็บของลงเป้ แล้วลุกขึ้น เดินออกมาจากห้องสมุดทันที ในใจก็ฉุนไอ้เชี่ยนี่เหลือเกิน มึงจะมาตอดทีละเล็กละน้อยหาบุพการีห่ามันทำไม รำคาญ ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน เพราะเกิดวันอาทิตย์ คนเกิดวันอาทิตย์ โกรธง่าย หายเร็ว .....

 

          แล้วก็อย่างนั้นจริง ๆ ผมเดินออกมาจนถึง 7-11 หน้าปากซอยก็ลืมเรื่องนั้นไปหมดแล้ว ผมเดินเข้าไปซื้อไอติม โซโล ลายรุ้งสลับสี กับคิทแค็ทไว้กินตอนดึก ผมก็เดินออกมาจาก 7-11 กินโซโลของผมอย่างเนือย ๆ นี่ถ้าเมื่อก่อน เราต้องซื้อ 2 อันนะ ต่ตอนนี้อะไร ๆ ที่เคยอยู่เป็นคู่ มันก็ถูกจับแยกออกหมดแล้ว ผมกัดไอติมไปได้คำหนึ่ง มองแท่งไอติมอย่างเศร้า ๆ ก่อนจะโยนมันลงถังขยะ มุ่งหน้าเดินกลับหอคอตกเหมือนหมากำลังป่วย .................................

 

          ผมกำลังจะเดินขึ้นเข้าไปในพื้นที่หอพัก เพจ Easycall ที่ผมซื้อใหม่เพราะตอนนี้ไม่มีมือถือแล้วดังขึ้น ผมหยิบมากดดู

 

                -กินข้าวเย็นเยอะ ๆ นะ สั่งพี่อ้วนให้ช่วยคุมแล้ว คิดถึงมาก-

 

                ไม่ต้องลงชื่อผมก็รู้ว่าใคร ผมน้ำตาซึม ตี๋เล็กมันคงต้องควบคุมตัวมันเองมากเหมือนกัน จนอดไม่ได้ที่จะส่งข้อความหาผม มันคงได้เบอร์มากจากใบรายชื่อของรุ่นซึ่งจะมีการอัพเดตเบอร์โทรและเพจเจอร์ในแต่ละเดือน ผมสงสารตัวเอง แต่ก็สงสารตี๋เล็กมันเหมือนกัน ความรู้สึกของเราทั้งสองคน คงไม่แตกต่างกันมาก .......................
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 27-09-2007 16:34:10
เพิ่งดีใจไปหยกๆ ที่ตี๋เล็กกลับมา  แล้วก็ต้องมาเศร้าอีกแล้ว  :m15: เพราะการกลับมาของตี๋เล็ก พกพาความเศร้ามาด้วย
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สงสารคนรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้  :m8: :m8: :m8: 
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 27-09-2007 17:04:54
เศร้าเป็นที่สุด

สงสารทั้งคู่เลย

 :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 27-09-2007 17:11:33
พ่อทำเสียเรื่องอีกแระ

 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:

เสียดายความรักของทั้งสองคนจังครับ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 27-09-2007 17:52:35
 o7 เศร้ากว่านี้มีอีกไหมง่ะ

ช่วงนี้ทำไม มีแต่เรื่องเศร้า ๆ ประดังกันมานะ  :m15:

ทนไม่ได้แย้ววววววว    :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 27-09-2007 18:40:33
ถึงจะเศร้าแต่ก็เป็นสิ่งที่คนรักของเราเลือกเเล้วก็ได้เเต่ยิ้มรับเเละอวยพรให้เค้าโชคดี :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 27-09-2007 19:05:30
เศร้าอย่างแรงอ่ะ  คบกันไม่ได้แถมยังต้องเจอหน้ากันทุกวันอีก  :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-09-2007 20:56:09
ทำไมชีวิตถึงได้รันทดแบบนี้เนี่ย
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 27-09-2007 22:25:31
 o7 o7 o7
ไม่เข้าใจอยู่นิดนึง

ตรงที่บอกว่าอยากเห็นรับปริญญา อยากเห็นอนาคตอ่ะ

แล้วทำไมอยู่กับเก่งแล้วรับปริญญาไม่ได้เหรอ

อยู่แบบนี้แล้วจะไม่มีอนาคตเหรอ
 :m28: :m28: :m28:

คิดกันได้ไงเนี่ย  :a14:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 27-09-2007 22:49:38
เฮ้อ  :เฮ้อ: ก็ยังดีกว่าไม่ได้เจอกันเนอะ

แต่ยังไงก็คงอึดอัดอยู่ดี อดทนต่อไปนะครับ  :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-09-2007 20:26:22
มีแต่เรื่องเศร้า

  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 29-09-2007 00:10:45
o7 o7 o7
ไม่เข้าใจอยู่นิดนึง
ตรงที่บอกว่าอยากเห็นรับปริญญา อยากเห็นอนาคตอ่ะ
แล้วทำไมอยู่กับเก่งแล้วรับปริญญาไม่ได้เหรอ
อยู่แบบนี้แล้วจะไม่มีอนาคตเหรอ
 :m28: :m28: :m28:
คิดกันได้ไงเนี่ย  :a14:

เห็นด้วยมากกกๆๆๆ  ....   :m16:  .... แถมจริงๆแล้วยังจะมีโอกาสจบมากกว่าอีก ... ก็รู้กันมาตั้งนานแล้วว่านายเก่งเค้าเรียนเก่งมากกว่า .... เมื่อก่อนก็ไปติวให้บ่อยๆอยู่

ไม่ได้จะก้าวร้าวนะครับ แต่ถ้าพ่อมีอคติเรื่องชาย-ชายก็พูดมาตรงๆเลยดีกว่า ว่าไม่ชอบ ไม่อยากให้คบ .... ไม่เกี่ยวกับอยากเห็นรับปริญญาซะหน่อย  เพราะเหมือนที่ Gabrial  พูด ..... คบแล้วรับไม่ได้เหรอ? .....

 :เฮ้อ:  ช่างเถอะๆๆๆ ยังไงก็เป็นเรื่องที่ตัดสินใจกันไปแล้ว .... ทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 29-09-2007 00:22:50

o7 o7 o7
ไม่เข้าใจอยู่นิดนึง
ตรงที่บอกว่าอยากเห็นรับปริญญา อยากเห็นอนาคตอ่ะ
แล้วทำไมอยู่กับเก่งแล้วรับปริญญาไม่ได้เหรอ
อยู่แบบนี้แล้วจะไม่มีอนาคตเหรอ
 :m28: :m28: :m28:
คิดกันได้ไงเนี่ย  :a14:

เห็นด้วยมากกกๆๆๆ  ....   :m16:  .... แถมจริงๆแล้วยังจะมีโอกาสจบมากกว่าอีก ... ก็รู้กันมาตั้งนานแล้วว่านายเก่งเค้าเรียนเก่งมากกว่า .... เมื่อก่อนก็ไปติวให้บ่อยๆอยู่

ไม่ได้จะก้าวร้าวนะครับ แต่ถ้าพ่อมีอคติเรื่องชาย-ชายก็พูดมาตรงๆเลยดีกว่า ว่าไม่ชอบ ไม่อยากให้คบ .... ไม่เกี่ยวกับอยากเห็นรับปริญญาซะหน่อย  เพราะเหมือนที่ Gabrial  พูด ..... คบแล้วรับไม่ได้เหรอ? .....

 :เฮ้อ:  ช่างเถอะๆๆๆ ยังไงก็เป็นเรื่องที่ตัดสินใจกันไปแล้ว .... ทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ   :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: kimsumsoon ที่ 29-09-2007 06:22:46
เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่มังซิคะ

รี
รี
ข้างบน

อย่าเอาแต่อารมณ์ของตัวเองมาตัดสิน


อินไปป่าวคะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 29-09-2007 08:47:47
ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นไงมั่งน้า

 :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 29-09-2007 17:57:53
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VI / มันเป็นปฏิกิริยาทางเคมี

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VI / มันเป็นปฏิกิริยาทางเคมี

 

                ต่อกันเลยครับ มีเวลาบ้างเล็กน้อย  มีคนบ่นเรื่องยาว ขี้เกียจอ่าน คนเขียนยังไม่ขี้เกียจเขียน คนอ่านก็ห้ามขี้เกียจอ่านนะครับ

 

                ในชั่วโมงเรียนแล็ปเคมี ก่อนหน้าวาเลนไทน์เล็กน้อย วันนั้นเป็นการไทรเทรต โดยใช้สารละลายด่างทับทิม ผมเดินไปที่เครื่องระเหยน้ำแบบหมุน เพื่อเอาขวดรองรับต่อเข้ากับคอนเด็นเซอร์ ต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาทีกว่าจะเสร็จ ผมจึงยืนรีรีรอรออยู่ตรงอ่างของเครื่องหมายเลข 3 นั่นเอง

                ตี๋เล็กเดินเข้ามาพร้อมกับหลอดทดลอง 1 แร็ค (ที่ใส่หลอดทดลอง 1 แร็ค = 49 หลอด) อ่างน้ำร้อนหมายเลข 2 อยู่ข้าง ๆ กันกับเครื่องหมายเลข 3 ที่ผมยืนอยู่ ผมหันหลังให้มันทันที มันมองหน้าผมนิดนึงก่อนจะวางแร็คลงในอ่าง ปิดฝา แล้วดูนาฬิกาข้อมือ มันต้องใช้เวลา 15 นาทีผมนึกในใจ ทำไมพวกนี้มันทำช้ามาก กลุ่มไอ้ตี๋เล็กเป็นผู้หญิงสองคน ค่อนข้างทำอะไรเชื่องช้า ผมสะดุ้งเล็กน้อย

 

                *เก่ง* เสียงไอ้ตี๋เรียกผมเบา ๆ มันเดินมายืนข้าง ๆ ผม สายตามองออกที่ถนนทางเดินไปคณะวิทยาศาสตร์ด้านล่าง

 

                *จะทำอะไรวันวาเลนไทน์* มันถามผม

         

          -ไม่มีโปรแกรม พวกไอ้ชัยมันชวนไปเที่ยวกลางคืนแถวทองหล่อ- ผมตอบ

 

                *ฮื่อ ดูแลตัวเองด้วยนะ* มันตอบผมด้วยท่าทางเศร้า  ๆ

 

                และแล้ว คืนวันวาเลนไทน์ก็มาถึง ได้ยินข่าวว่าดอกไม้แพงมาก ๆ สาว ๆ หลายคนที่หน้าตาดีดี ต่างได้ดอกไม้กันครบ อวดกันอย่างสนุกสนาน ผมมองแล้วนึกถึงวันวาเลนไทน์ปีที่แล้ว ที่ผมซื้อโคมไฟรูปเด็กยืนฉี่ให้มัน ตอนนี้มันคงอยู่ที่บ้านขอนแก่น ส่วนมันซื้อเป้ แจนสปอร์ต ใบที่ผมกำลังใช้อยู่ทุกวันนี้ให้ มันดูเก่าแล้ว แต่ผมก็ยินดีใช้

 

                ผมซื้อของอย่างหนึ่งให้มัน แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสใหนที่จะเอาไปให้ อีกอย่าง กลัวผิดสัญญาว่าจะไม่คบกันแบบนี้อีก ผมได้แต่ว่ากล่องของขวัญไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ผมเอาการ์ดออกมาเขียนติดว่า

 

                -ให้แล้วนะ ของขวัญวาเลนไทน์ ไม่ต้องงอน รักเท่าเดิม-

 

                ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวตอน 3 ทุ่มเพราะนัดกับพวกไอ้ชัยไปเที่ยวกลางคืนกันที่ เธค ถ้ำสิงห์ ซอยทองหล่อ ไอ้ชัยรู้จักสนิทสนมกับเจ้าของ เป็นผู้หญิงอายุ 60 กว่าแล้ว แต่ยังสวยด้วยแพทย์ ดู ๆ อายุไม่น่าเกิน 40 กว่า ๆ วันเกิดแกปีที่ผ่านมาพวกผมก็ไปหนึ่งครั้ง สนุกสนานมาก ผมเลือกชุดที่คิดว่า ดูตัวเองทุเรศน้อยที่สุดแล้ว ฉีดน้ำหอม Aqua / Gio Amarni แล้วใส่รองเท้าวิ่งลงจากหอไป เพื่อน ๆ กำลังรออยู่ที่หน้า 7-11

 

          เจอเพื่อน ๆ อีก 4 คนที่นั่น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ผมไม่ค่อยสนิทสักเท่าใดนักถ้าเทียบกับกลุ่มที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน ไม่ทราบสิครับว่าการคบกันตอนโตแล้วอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้คนเราไม่ค่อยสนิทกัน แต่ความสนิทมันก็มีในระดับหนึ่งนะ อาจเป็นเพราะนี่ยังไม่ถึงปีเลยคบกัน

 

                *กูชวนไอ้ตี๋ มันไม่ไปว่ะ เออ มันบอกมันไม่ได้อยู่กับมึงแล้ว*

               

                ไอ้ชัยถามขึ้นในรถ Honda Civic ของมัน พ่อมันซื้อเป็นของขวัญที่สอบติดที่นี่ ส่วนผมได้สร้อยคอหนัก 1 บาทพร้อมด้วยกางเขนเล็ก ๆ จากพ่อกับแม่

         

          -เออ ไปได้เดือนกว่าแล้ว ไปอยู่กับลูกพี่ลูกน้องมัน- ผมตอบ

 

                พวกผมไปถึงที่หมาย สวัสดีเจ้าของร้าน พี่เต่า แกชอบให้เด็ก ๆ รุ่น ๆ อย่างพวกผมมาเที่ยว มีเด็ก ๆ เยอะ ๆ คงเป็นเคล็ดลับที่ทำให้แกยังสาวแบบนี้ ผมยกมือไหว้พี่บุ๋ม รัญญาก่อนที่แกจะแซเล็กน้อยว่า กลุ่มนี้มีแต่หน้าตาดีดี

 

                พวกผมกินเหล้าได้สักพัก (ขวดที่ 2 กำลังได้ครึ่ง) กินหรืออาบฟะ .. ผมสงสัยเหมือนกัน เริ่มกึ่ม ๆ กันหน้าแดง พูดจาลิ้นพัน ขากลับไอ้เมฆ จะเป็นคนขับรถกลับ และทุกคนจะไปนอนที่หอไอ้เมฆ อยู่ไกล้ ๆ กับหอพักผม ไอ้เมฆเป็นเด็กดี เหล้าไม่แตะ สูบบุหรี่อย่างเดียว นอกนั้น พวกผมไม่มีใครสูบเลย

 

                *เก่ง มึงมีปัญหาอะไรกันกับไอตี๋เปล่าวะ บอกพวกกูได้นะเว้ย กูเพื่อนมึง* ไอ้ชัยเริ่มก่อน

 

                -ใช่ เพราะกูเห็นมึงไม่ค่อยคุยกันเหมือนเมื่อก่อน แถมย้ายห้องหนีไปแบบนี้ มีอะไรเปล่า พวกกูฟังได้- ไอ้เมฆเสริม

 

                -มึงจะเกย์หรือจะตุ๊ด มึงก็เพื่อนกู- ไอ้ปลิ้นสอด รู้สึกว่ามันจะรำคาญที่เห็นพวกนั้นรำคาญที่เห็นพวกนั้นถามไม่ตรงคำถาม อ้อมไปอ้อมมาอยู่ตลอด

 

                *ไม่มีอะไรหรอก พอดีพ่อมันสั่งให้มันตั้งใจเรียน ให้พี่มันดูแล เลยย้ายออกไป* ผมตอบไปกลาง ๆ

 

                -ยังไงมึงก็ไม่น่าห่วงหรอก เพราะในกลุ่มเรามึงเรียนเก่งที่สุดแล้ว ถ้าไม่นับอีกุ้งน่ะนะ- ไอ้ชัยพูดถึงกุ้ง เด็กกรุงเทพ เรียนเก่งมาก เทอมที่แล้วท้อปได้ที่หนึ่งของภาควิชา

 

                พวกเรากลับออกมาถึงหน้าสถาบันเกือบตีสามแล้ว เราตกลงว่าจะกินอะไรร้อน ๆ เย็น ๆ ตามจากที่ร้านพี่พรก่อนแยกย้ายสลายตัวกลุ่มหนุ่มโสด ในวันวาเลนไทน์ จะดูว่าใครโสดไม่โสดก็วันนี้ล่ะครับ คงไม่มีพวกไม่โสดมาเพ่นพ่าน

 

                ที่หน้าสถาบันมีคนเดินกันขวักไขว่ เพราะว่าเป็นวันพิเศษ และผู้คนบางส่วนเตรียมอ่านหนังสือสอบแล้ว พวกผมนั่งที่โต๊ะในสุดด้านใน ดูทีวีไปพลาง ผมสั่งน้ำปั่นมากินเหมือนเคย ทุกคนคุยกันเป็นระยะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแซวกันเอง เรื่องความโสดมากกว่า และแล้ว ผมเห็นไอ้กลดเดินเข้ามา ในมือจูงมือตี๋เล็กมาด้วย ในมือตี๋เล็กมีห่อช็อกโกแลตขาวของเฮอร์ชี่ย์ที่มันชอบ ดูมันสองคนแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผม ไอ้ชัยเรียกไอ้ตี๋

 

                -ตี๋ ๆๆ ทางนี้เว้ย-

 

                *ไปใหนกันมาล่ะ สนุกมั้ย* ไอ้ตี๋มันถาม ไอ้กลดเดินนั่งแล้วมองมาทางผมอย่างไม่วางตา

 

                -ไป ..................................... ชวนมึงแล้วไม่ไปเลยนะ นั่นพี่มึงเหรอ- ไอ้ชัยถามต่อ

 

          ผมไม่มองหน้าตี๋เล็กมันเลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาดูดน้ำในแก้ว รู้สึกว่า มันก็ไม่พยายามมองผมเหมือนกัน จากนั้นมันขอตัวกลับโต๊ะ นั่งหันหลังมาทางผม ผมมองตามเล็กน้อย ไอ้กลดยิ้มที่มุมปาก ยิ้มที่น่าเกลียด ผมอยากเดินไปชกมันนัก

 

                -พี่ไอ้ตี๋มองมึงแปลก ๆ ว่ะ ใหนมีเรื่องอะไรกัน อย่าปิดบังเลย เพื่อนต้องช่วยเพื่อน- ไอ้ชัยพูดขึ้น

 

                -เออ ให้พวกกูล่อมันใหม- ไอ้ปลิ้นสอด ไอ้พวกนี้คงรู้เรื่องราวระหว่างผมกับไอ้ตี๋จากข่าวลือในเทอมก่อน

 

                *พ่อไอ้ตี๋สั่งห้ามคบกับกูเด็ดขาด แล้วให้ไอ้กลดนี่ดูแลมันแทน ถ้าขืนยังไม่เลิก พ่อมันจะตัดเป็นตัดตาย* ผมอธิบายสั้น ๆ แต่ได้ใจความ

 

                -อะไรวะ ไม่ยุติธรรมเลยนี่หว่าพ่อมัน- ไอ้เมฆสอด

 

                *โลกนี้คงเรียกร้องหาความยุติธรรมได้ไม่ง่ายนักหรอก* ผมบอกกับทุกคน

 

                -สงสารมึงว่ะ อย่าคิดมาก เพื่อนกัน มีอะไรคุยกันได้ พวกกูไม่ถือ อย่ามาอัดตูดพวกกูก็แล้วกัน- ไอ้ชัยบอก

 

                *ระวังให้ดี ไม่แน่นะเว้ย* ผมกระเซ้าทีเล่นทีจริง ตายังมองไปที่สองคนนั่นไม่วางตา

 

                -เฮ้ย ไอ้กลดนี่มันแปลก ๆ ว่ะ มึงดูสิ พูดจากับไอ้ตี๋ มองตากันหวานยังกับน้ำเชื่อม มันเป็นเกย์เปล่าวะ- ไอ้เมฆถาม

 

          *ไม่หรอกมั้ง ได้ยินข่าวว่ามันเกลียดเกย์จะตาย พอ ๆ กับพ่อไอ้ตี๋* ผมตอบก้มหน้ากินขนมปังเย็นราดชาปั่น

 

                -กูว่าไม่มั้ง ดูนั่น- ไอ้ปลิ้นบอก

 

                ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน ผมเงยหน้ามองช้า ๆ เห็นไอ้กลดเอามือจับมือไอ้ตี๋ที่อยู่บนโต๊ะ ไอ้ตี๋รีบชักมือออกแล้วทำหน้าดุดุใส่ไอ้กลดหันมามองทางโต๊ะผมเล็กน้อย ไอ้กลดทำหน้าทะเล้นหล่อ ๆ ของมันตอบกลับมา ยังจ้องตากันไม่เลิก

 

                -แม่งทุเรศ ไอ้ตี๋ด้วยอีกคนต่อหน้าไอ้เก่งแท้ ๆ – ไอ้ชัยบอก

 

                *เฮ้ย อย่าไปสนใจ กินของเราเถอะ เขาก็มาของเขา* ผมบอกกับเพื่อน ๆ ก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่รู้รสชาติอะไรเลย ...

 

                ปฏิกิริยาเคมีมันเป็นแบบนี้นี่เอง ... เกิดขึ้นได้รวดเร็วเมื่อมีตัวเร่งปฏิกิริยาและสภาวะที่เหมาะสม ....  จนถึงวินาทีนี้แล้ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองโง่มาก เหมือนคนที่ถูกหลอก บางทีผมอาจจะคิดรักไอ้ตี๋มันไปข้างเดียวก็ได้

 

                ไม่ต้องให้หมาที่ใหนมาบอก ผมก็รู้ว่าสองคนนั่นมันสวีทแค่ใหน โดยเฉพาะไอ้กลด มันจงใจทำให้ผมเห็นชัด ๆ ว่ามันกับไอ้ตี๋นี่แค่ใหน พอกินเสร็จพวกผมทั้งกลุ่มลุกพร้อมกัน บางคนหันไปลาไอ้ตี๋ ส่วนผม มองออกไปข้างหน้า อย่างทรนง ............. ไม่มองหน้ามันแม้แต่เศษเสี้ยวของสายตาให้เปลืองพลังงาน
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 29-09-2007 20:14:34
อ้าวก็พ่อตี๋เกลียดเกย์เเล้วไอ้กลดมันจะกล้าจีบหรองงอะ หรือเเค่อยากเเกล้งเฉยๆเลยทำเหมือนสวีทกัน  :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-09-2007 20:29:44
 :เฮ้อ: พ่อตี๋เล็กจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าฝากปลาย่างไว้กับแมวอีกตัว :a6: 
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-09-2007 22:19:17
ไอ้กลดนี้ก็เลวจิงๆเห็นพ่อตี๋ไว้ใจก็เลยถือโอกาสซะเลย  o12
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 29-09-2007 22:20:51
นั่นสิ แมวกับปลาย่าง

อ้อยเข้าปากช้าง ชัด ๆ  :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: motred ที่ 29-09-2007 22:41:14
รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ___KuNg_K-J-J___ ที่ 30-09-2007 01:47:41
 :angry2:

อีกตากรดทำอย่างงี้ได้งาย

 :serius2: :serius2: :serius2:

พี่เก่งสู่ ๆๆ นะอย่ายอมมัน
 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: aum ที่ 30-09-2007 09:08:04
ขอบคุณครับสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้ผมได้อ่าน ประทับใจ และเป็นกำลังใจให้นะครับ  o1
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 30-09-2007 11:53:52
ตี๋เล็กเส็ดกลดแล้วรึป่าวครับ

คราวนี้คงสมใจคุณพ่อแล้วนะครับ

โชคดีครับ

 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 30-09-2007 15:46:46
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VI / มันเป็นปฏิกิริยาทางเคมี

  
                ปฏิกิริยาเคมีมันเป็นแบบนี้นี่เอง ... เกิดขึ้นได้รวดเร็วเมื่อมีตัวเร่งปฏิกิริยาและสภาวะที่เหมาะสม ....  จนถึงวินาทีนี้แล้ว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองโง่มาก เหมือนคนที่ถูกหลอก บางทีผมอาจจะคิดรักไอ้ตี๋มันไปข้างเดียวก็ได้
               

เปรียบเทียบได้สมกะเป็นเด็กสายวิทย์   แต่เล่นเอาความรักมาเปรียบเทียบกะปฏิกิริยาทางเคมีแบบนี้ สงสัยเก่งจะเข็ดเรื่องความรักไปอีกนานอ่ะ  :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 30-09-2007 16:55:08
เห้อ น่าสงสารเก่งจริงๆ  o7 ..... ไอ้พี่กลดก็นะ ...... สงสัยจะฝากปลาย่างไว้กะแมวจริงๆด้วย  o12

เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่มังซิคะ
รี
รี
ข้างบน
อย่าเอาแต่อารมณ์ของตัวเองมาตัดสิน
อินไปป่าวคะเนี่ยยย

ไม่ได้ไม่เข้าใจนะครับ หัวอกพ่อแม่ แต่ใช้หลักเหตุผลหน่อยสิครับ ...... ไม่งั้นจริงๆแล้วที่เค้าทำมันเพื่อลูกหรือเพื่อใครกันแน่? หัวอกพ่อแม่อ่ะรู้ครับ แต่เค้าเข้าใจลูกป่าว? โดยเฉพาะการทำอะไรโดยใช้กำลังและอารมณ์ไม่ได้มานั่งคุยกันด้วยเหตุผลเนี่ย?  :undecided:

ไม่ได้จะชวนทะเลาะหรืออยากจะก้าวร้าวอะไรต่อบุพการีนะครับ .... ก็แค่ ... อยากจะแสดงความคิดเห็นของลูกคนนึงเหมือนกัน   :o11:  ถ้าคิดว่าก้าวร้าวหรือผิดอะไรก็ขออภัยด้วยละกันครับคุณ Kim
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 30-09-2007 17:10:16
อ่านา  อย่าเพิ่งเศร้าไปเลยคับทุกคน   ฝนตกฟ้าครึ้มอย่างไงมันก็ต้องมีหยุดมั้งแหละ    เรื่องราวมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเสมอไปนะคับ  ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะคับ  เก็บน้ำตาไว้ก่อนยังไงมันก็ต้องได้ออกมาอีกแน่นอน  555+

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อยากให้พ่อแม่ทุกคนเป็นเหมือนพ่อแม่ผมจังเลยอะ  รับได้ทุกอย่างไม่ว่าลูกจะเป็นไรก็ตามแต่ขอให้ลูกเป็นคนดี แค่นี้พ่อแม่ก็ภูมิใจและ   




มาแอบดู :m22:แล้วก็ย่องออกปาย :m7:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 30-09-2007 20:47:44
อ้าว ไอซ์ แวะมาดูแล้วทำไมไม่โพสต่อล่ะเนี่ย

ไอ้เราก็เลย ...  :a6: หงอยเลย กะจะอ่านต่อซะหน่อย

ตี๋เนี่ย แปลกๆ นะ  ถ้าเจออย่างนี้กับตัวเองคงไม่ไหว :m8:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-10-2007 14:42:10

...........บางทีคนเราก็ไวยื่งกว่าปฏิกิริยาเคมีซะอีก.......... :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-10-2007 15:59:30
ผีแห้งกะโลงผุ

ผีกะผี

วุ้ย เครียด

 :m16:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 01-10-2007 16:07:15
หลังจากเรียนเคมีกันเรียบร้อยแล้ว  ต่อด้วยสังคมกันเลยไหมคับนักเรียน....55+

ล้อเล่นคราบ  ต่อกันเลยนะคับกำลังซึ้ง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VII / ปฏิกิริยาแบบไม่ผันกลับ

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VII / ปฏิกิริยาแบบไม่ผันกลับ

 

                ปฏิกิริยาทางเคมีที่ผมเรียนในเช้าวันนี้ คือ ปฏิกิริยาแบบผันกลับได้ และไม่ผันกลับ ผมคิดเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ระหว่างไอ้ตี๋กับผม ว่ามันคงจะเป็นปฏิกิริยาแบบไม่ผันกลับเป็นแน่แท้

                                                      ความร้อน

                                สารตั้งต้น + สารตั้งต้น                            ผลิตภัณฑ์

                                                                                ความรัก

                                เก่ง            + ตี๋                                                       ??????????

 

                ได้ออกมาเป็นอะไร ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย ผมว้าวุ่นใจ แต่ไม่มีเวลามากที่จะมาใส่ใจเรื่องแบบนี้ เพราะการสอบกำลังไกล้เข้ามา ผมจะพลาดไม่ได้ ผมจึงทุ่มเทกำลังใจทั้งหมดของผม ไปที่การเตรียมตัวสอบและอ่านหนังสืออย่างหนัก

 

                บางคืน ผมก็ออกไปอ่านหนังสือที่สถาบันกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ การอยู่กับสิ่งที่ทำให้เราจดจ่อได้สักพัก เป็นการดีที่ทำให้คนเราลืมเรื่องราวเหตุการณ์ร้าย ๆ ได้เร็วเหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่ง พี่อ้วนชวนผมไปอ่านหนังสือที่อาคารเรียนรวม 4 ผมนั่งอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนไปสักพัก พี่อ้วนบอกว่าหิว จะเอาจักรยานไปซื้อของกินที่ 7-11 ผมบอกว่า ไม่เอาอะไรนะเพราะเรียบร้อยมาแล้ว ผมนั่งอยู่คนเดียว อ่านหนังสือและทำโน้ตย่อของผมไปเรื่อย ๆ มีคนเดินเข้ามานั่งข้างผม

 

                -อ่านหนังสือคนเดียวเหรอครับ- เสียงถามผมดังขึ้น

 

                ผมเงยหน้ามองผู้มาเยือนกำลังจะยิ้มให้ กลายเป็นว่าต้องรีบหุบยิ้มหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะไอ้คนที่มานั่งข้าง ๆ ผมคือไอ้คนคนเดียวกันกับที่ผมเจอในห้องสมุดนั่นเอง วันนี้มันแต่งตัวตามสบาย ใส่กางเกงเลสีครีม กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ โชยมา หัวยังเปียก ๆ อยู่ สงสัยเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ รองเท้าแตะฟลิบเปอร์สีน้ำเงิน เล็บเท้าตัดเรียบร้อย ใจผมเริ่มสั่น ๆ เพราะผมมีจุดอ่อนอยู่ที่เล็บเท้า ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมหรือเปล่า ถ้ามองหน้าใครแล้ว ผมจะมองเล็บเท้าคนนั้นทันที น่าเตะเนอะ มองหน้าแล้วมองตีน มันหมายความว่ายังไง ผมก้มหน้างุด ไม่ตอบคำถาม

 

                -ว่าไง เด็กน้อย- มันยังไม่เลิก

 

                ผมเงยหน้าขึ้นมองใหม่ คราวนี้ ผมรู้สึกว่า ผมคุ้นหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าผมยังไงบอกไม่ถูก กว่าผมจะคิดออกว่าผมรู้จักคนคนนี้หรือเปล่า เขาก็ชิงพูดออกมาก่อนเหมือนรู้ว่าในใจของผมว่าผมคิดอะไรอยู่

 

                -พี่ชื่อ กิต เรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับนายเมื่อปีที่แล้ว พี่เอ็นท์ติดคณะวิทยาศาสตร์เอก ......................... เห็นนายมาหลายครั้งล้ว แต่ไม่กล้าเข้ามาทัก ไม่รู้ว่าจะจำได้หรือเปล่า พี่เป็นเพื่อนของไอ้เชตที่ติดวิศวะมอขอ คนที่อยู่หอไกล้ ๆ นาย ซอยเทคโนภาคน่ะ- มันร่ายยาว

 

                ผมถึงบางอ้อทันทีว่าทำไมผมถึงคุ้นหน้าคุ้นตาคนคนนี้นัก

 

                -แต่จะให้เรียกว่ารุ่นพี่คงไม่ได้แล้วมั้ง  เพราะนายเรียนเก่ง สอบเทียบจนเอ็นท์ติดวิศวะ พี่มีปัญญาได้แค่วิดยา-

 

                *อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับพี่ ยังไงพี่ก็เป็นพี่โรงเรียน อีกอย่างผมก็ฟลุ๊กสอบติด* ผมตอบกลับไป ยิ้มให้น้อย ๆ ตามมารยาท

 

                เราสนทนาตอบกันไปมาอยู่สักพัก พี่กิตก็ถามถึงเบอร์โทรศัพท์ที่หอ เพื่อที่ว่าจะสามารถติดต่อได้ถ้ามีการรวมกลุ่มของเด็กโรงเรียน ผมให้ไปทั้งเบอร์ห้องและเพจเจอร์ พี่เขาก็ให้เบอร์เพจกับเบอร์หอกลับมาเช่นกัน

 

                -เรื่องวันนั้น- ผมพูดขึ้น

 

                *ไม่เป็นไร พี่ไม่บอกใครหรอก แต่เห็นจริง ๆ ทีหลังระวังตัวหน่อยนะ*

 

                -คงไม่มีอะไรแล้วมั้งครับ เพราะตอนนี้ เราเลิกกันแล้ว- ผมตอบเนือย ๆ มีเรื่องนี้โผล่มาอีกแล้ว ทำให้ผมสลดในใจวูบหนึ่ง

 

                *มีปัญหาก็คุยกันได้นะ พี่ยินดีรับฟัง*

 

                -ขอบคุณครับ คงไม่มีแล้วครับ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว- ผมตอบตัดบทไป

          จากนั้นเพื่อนพี่กิต ก็มาเรียกตัวไป ก่อนไปพี่เขาบอกว่าจะโทรไปคุยด้วย ผมก็ได้แต่รับคำไปตามเรื่องตามราว สักพักพี่อ้วนก็กลับเข้ามาพร้อมของกินมากมาย ...

 

                *อ้าวกินหน่อยนะ มีคนสั่งกูไว้ว่าต้องขุนให้อ้วน*

 

                -พี่ นี่มัน 5 ทุ่มแล้วนะ ทำยังไงจะกินหมด-

 

                หน้าพี่อ้วนมันสลดลงเล็กน้อย ผมเลยรีบพูดเอาใจ

 

                -บ่นไปงั้นแล่ะ กลัวจะไม่พอด้วยซ้ำ- เท่านั้นล่ะ พี่อ้วนยิ้มหน้าบาน ถ้าป้อนได้มันคงจะป้อนผมแล้วมั้ง  ถ้าไม่ติดว่า คนเถื่อน ๆ คณะวิศวะสองคน กำลังกินของกินด้วยกันอยู่ หวานแหววเกินไปคงงามหน้าล่ะ

 

                ผมรู้มานานแล้วว่าพี่อ้วนก็แอบชอบผมอยู่ ไม่ใช่การคิดเข้าข้างตัวเองหรอก อย่างที่บอก การที่เราจะรู้สึกว่ามีใครสักคนมาสนใจเรา ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนักหนา เพียงแต่ว่า เรามีวิธีจัดการกับความสัมพันธ์นั้นอย่างไร ตัดสะบั้น หรือ ตัดแล้วยังเหลือเยื่อใย ผมเลือกใช้วิธีหลังมาตลอด เพราะว่า การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมีความรู้สึกดีดีต่อกัน ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย และไม่ใช่ความผิดของคนคนนั้นเลย ลองคิดกลับเป็นตัวของเราเองสักนิด เมื่อเรารู้สึกดีดีกับใคร เราเองก็อยากให้เขาดีตอบ แต่บางคนอาจแย้งว่า เป็นการให้ความหวัง ผมไม่คิดเช่นนั้น เพราะ การตอบสนองความปราถนาดี ด้วย ความปราถนาดี เป็นสิ่งที่มนุษย์พึงมีปฏิบัติให้แก่กัน

 

                -ตัวเองเป็นคนอยากซื้อมาให้เค้ากิน แล้วยังจะมาเฉไฉพูดถึงคนอื่น- ผมพูดลอย ๆ ขณะที่ปากเคี้ยวคุ๊กกี้เนย ของโปรด ตามองหนังสือ ทำไม่รู้ไม่ชี้

               

                ไอ้พี่อ้วนสะดุ้งโหยง เหมือนเด็กทำผิดแล้วโดนจับได้ หัวเราะแหะ ๆ แล้วหน้าแดง

 

                *ไอ้ตี๋มันสั่งมา* พี่อ้วนพูดเบา ๆ

 

                -เลิกพูดถึงมันได้ใหมพี่-

 

                *ทำไมล่ะ มีปัญหากันอีกเหรอ*

 

                -เปล่า ผมแค่อยากให้มันเห็นว่า ผมรักษาสัญญาที่จะไม่ยุ่งกับมันอีก-

                *อย่าเครียดมากเลยนะ*

 

                -เป็นห่วงผมเหรอ ซึ้งใจจัง- ผมกระเซ้าไอ้พี่อ้วน หน้าที่แดงระเรื่อ ยิ่งแดงเข้าไปอีก มันก้มหน้างุดอ่านหนังสือ ในมือถือคุ้กกี้ที่กัดไปได้ครึ่งหนึ่ง

 

                -เงียบเลย- ผมแหย่อีกทีก่อนจะแย่งเอาคุ้กกี้ในมือมันมากิน พี่อ้วนยิ่งก้มหน้างุด อมยิ้มไม่หยุด ผมอมยิ้มกับตัวเอง หันหน้ามาทางพี่อ้วนแล้วเอาหนังสือเคาะไปที่หน้าผากไอ้พี่อ้วนเบา ๆ ทำหน้าทะเล้นใส่ พี่อ้วนหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้ตายสิ หน้ามันยิ่งแดงเข้าไปอีกเหมือนลูกตำลึงสุก ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่นะ จะจับแก้มหยิกเบา ๆ มันคงร้อนมือดีพิลึก

 

                *ไป ๆ ๆ เลยอ่านหนังสือ* พี่อ้วนมันพูดเฉไฉกลบเกลื่อน ผมขำอยู่คนเดียว เด็กวิศวะหน้าตาเถื่อน ๆ เคราเขียวครึ้ม ตัวใหญ่ยังกะยักษ์ที่นั่งข้างผมอยู่นี่ เวลาอาย อย่างกับเด็ก ๆ สาววัยรุ่นโดนบอกรัก น่ารักไม่น้อยเลยนะเนี่ย

 

                แต่ผมยังไม่มีอารมณ์ในเรื่องความรักหรอกครับ ผมเจ็บที่รู้ว่าตัวเองโดนหลอกให้อกหัก ของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ผมซื้อให้มันปีนี้เป็นเป็นถุงร้อนของ 3M รุ่นใหม่สีเขียว มีเหรียญโลหะที่บิดแล้วถุงจะร้อนและแข็งตัวไว้ให้ตี๋เล็ก จำกันได้ใหมครับ ตี๋เล็กเป็นโรคแพ้อากาศหนาว ต้องให้ความอบอุ่นตลอดเวลา

 

                ตอนนี้มันคงได้ไออุ่นจากไอ้พี่กลดคนนั้นอย่างเพียงพอแล้วมั้ง ผมไม่ใส่ใจ หยิบเอาของขวัญใส่ไว้ในลิ้นชักแล้วปิดตาย ไม่เคยเปิดออกมาดูเลยตั้งแต่วาเลนไทน์ผ่านไป

 

                ก่อนแยกกันขึ้นหอพัก ผมสั่งพี่อ้วนให้โทรมาปลุกด้วยแล้วไปเรียนพร้อมกัน คนเขารู้สึกดีดี เราต้องตอบสนองให้โอกาสเขาหน่อยครับ ผมไม่เคยตัดโอกาสใคร เพราะหวังในใจว่า สักวันถ้าผมไปทำแบบนี้กับใคร เขาคงไม่ตัดโอกาสของผมเช่นกัน

 

                กำลังปิดไฟ สวดมนต์เสร็จแล้ว นอนลืมตาโพลง มีเพจเข้ามาหาผม

 

                +++++ นอนหลับฝันดีครับ – พี่โรงเรียน+++++

 

                ผมยิ้มกับตัวเองในความมืด อย่างน้อยก็มีคนหล่อ ๆ มาเพจหาวะ ขนาดโชคร้ายที่โดนหักอกนะเนี่ย

 

                เสียงเพจเข้ามาอีก

                +++++ คราวหน้าต้องซื้อเลี้ยงบ้างนะ ไม่ได้ให้กินฟรี นอนหลับฝันดี จาก พี่อ้วน+++++

 

                อะไรวะเนี่ย .......... มีคนเคยบอกว่า ตอนที่อกหัก จะเจอแฟนใหม่เร็วกว่าหาเอาเองเพราะจะมีคนรับอาสาดามอกให้ จะจริงหรือเปล่าวะเนี่ย ผมนอนคิดจนหลับไป
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 01-10-2007 16:14:20
ยังไม่จบ รอบนี้มีเซอร์ไพล์อีกแล้ว..555+    เตรียมตัวกันไว้ดีๆนะคราบ

ปล.มีแต่คนเชียร์พี่ตี๋เลยอะ  ไม่มีใครเชียร์พี่เก่งเลย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 8 / เนื้อหอม

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 8 / เนื้อหอม

 

                วันรุ่งขึ้น ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาได้ว่า Morning call ของผม ไม่สายแม้แต่นาทีเดียว ผมแกล้งสะลึมสะลือไปอย่างนั้น ที่จริง ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือตั้งแต่ 1 ชั่วโมงที่แล้ว แต่วันนี้นอกจากจะมีโทรศัพท์จากพี่อ้วนแล้ว มีเพจจากพี่กิตมาปลุกอีกด้วย  ผมนึกในใจว่า ไอ้หมอนี่คงไม่ได้นอน ไม่ก็นอนฝันถึงผมทั้งคืน จนต้องตะเกียกตะกายมาปลุกผมตอน 07.00น แบบนี้  (ขอโม้เข้าข้างตัวเองหน่อย)

 

                ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว ในใจคิดว่า ผมคงต้องวางตัวกับคนสองคนนี้เสียใหม่ เพราะจิตใจผม คงไม่สามารถหาใครมาแทนที่ไอ้ตี๋ได้ในขณะนี้ การเล่นมากไปจนเกินงามกับจิตใจของคนแบบนี้ ไม่ค่อยดีมากนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นการให้ความหวังกันฟรี ๆ

 

                 แต่จะบอกว่า ผมคงจะหาวิธีแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นได้ในไม่ช้า เพราะอย่างที่บอก ผมไม่ทำร้ายจิตใจใคร  ไม่เหมือนไอ้ตี๋ มันจงใจทำร้ายจิตใจผม ทั้ง ๆ ที่ผมยอมมันทุกอย่างแล้ว คิดถึงชื่อนี้แล้วเจ็บแปลบขึ้นมาทันที หลอกตัวเองมาได้ตั้งนานว่าไม่คิดถึงมัน ดันมาตกม้าตายตอนจบจนได้

 

                ผมนั่งลงที่เตียงนอน จับไดอารี่ขึ้นมา เปิดอ่านตอนของอาทิตย์นี้ เฮ้อ ... ผมก็ต้องยอมรับตัวเองอยู่ดี ว่าผมคิดถึงมัน ผมวิ่งหนีความจริงไปไม่พ้น แต่ผมจะเรียนรู้วิธีอยู่ร่วมกันกับความรู้สึกเหล่านี้ให้ได้ ผมต้องคอยย้ำตัวเองว่า มันทิ้งผมไปแล้ว

 

          ตั้งแต่วันนั้นมา ผมกับพี่อ้วนก็เลยเป็นเงาติดตามกัน ดูพี่อ้วนแกจะกล้าที่จะเข้าไกล้ผมมากกว่าเดิม เมื่อเห็นผมดีกับแก ผมบอกแกว่า อย่าคิดอะไรมาก คนเราเกิดมาเดี๋ยวก็ตาย ไม่รู้เวลาใหนจะตาย อยากทำอะไรให้รีบทำ อยากรักใครให้รีบบอก ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บอกอีกต่อไป แต่มันก็ไม่ได้บอกผมหรอกนะว่าชอบผม เรายังมีช่องว่าง ห่าง ๆ กันอยู่อีกเยอะ ถ้าเกิดพี่แกคิดจะชอบผมจริง ๆ

 

                ส่วนทางไอ้ตี๋เล็ก ผมไม่มองหน้ามันเลย เพื่อนๆ ในกลุ่มผมก็พาลโกรธมันไม่พูดกับมัน แถมประชดประชันให้อีก (เด็กวิศวะหรือสมาคมแต๋วแตกวะ) แต่ผมจะบอกให้ ถ้ามีผู้ชายจริง ๆ มาประชดประชันคุณหรือด่าคุณ ด้วยธรรมชาติของคำพูดเขา บวกกับอารมณ์ที่จริงจังรุนแรง  มันเจ็บแสบกว่าที่ผู้หญิงทำกับคุณอีก

 

                 ผมบอกเพื่อน ๆ ว่า ไม่ใช่ความผิดของใคร อย่าทำแบบนี้ เพราะว่าผมไม่อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้ ถ้าเรารักกันไม่ได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดกัน ให้มันจบตั้งแต่วันนี้ไป ผมเห็นชีวิตมันก็มีความสุขดี ไม่เดือดร้อนอะไร ผมเสียอีกที่เดือดร้อนไปเอง คิดไปเองฝ่ายเดียว

 

                ผมกลับมาจากสถาบัน เหนื่อยมาก ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในสีขาว แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง ตัวผมร้อน ๆ รุม ๆ เหมือนจะเป็นไข้หัวหนักอึ้ง ผมคงเป็นไข้หวัด นอนสักพักคงหาย

 

                เวลาประมาณ 19.00น มีเสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้อง ผมสลึมสลือด้วยพิษไข้ คิดว่าคงเป็นไอ้พี่อ้วนมาเที่ยวเล่นหาเหมือนเคย ผมโผเผลุกขึ้นไปเปิดประตู ไม่ได้สนใจเสื้อผ้าอาภรณ์ เพราะไอ้พี่อ้วนมันเห็นมาหมดแล้ว ตั้งแต่ตอนรับน้องใหม่

 

                ผมเปิดประตูออกแง้มนิดเดียวแล้วหันหลังกลับมานอนคว่ำอยู่บนเตียง ได้ยินเสียงถามขึ้น

 

                -ขอโทษครับที่มารบกวน- ไม่ใช่เสียงไอ้พี่อ้วนนี่หว่า

 

                ผมสะดุ้งตื่นรีบเอาผ้าห่มมาคลุมช่วงล่าง ไอ้พี่กิตนั่นเอง มาได้ไงวะเนี่ย กูโป๊อยู่ด้วย

 

          *ขอโทษครับพี่พอดีผมไม่ค่อยสบาย เป็นไข้ครับ* ผมบอกแล้วนอนหลับตาลงด้วยแรงไข้

 

                -ใหนตัวร้อนใหม ขอดูหน่อย- พี่กิตเดินมานั่งข้างเตียงผม ผมยังหลับตาอยู่ มันเอาหลังแตะหน้าผากผมเบา ๆ ก่อนจะอุทานว่า ตัวร้อนจี๋เลย

 

                -กินยาหรือยัง- มันถาม

 

                *ยังไม่ได้กินข้าวพี่* ผมตอบไปแบบเบลอ ๆ

 

                -เดี๋ยวพี่ลงไปซื้อข้าวกับยามาให้นะ-

 

                ผ่านไปสักครู่ ผมก็ถูกบังคับกินข้าว แต่ผมไม่หิว เลยขอนมในตู้เย็นมาเล็กน้อย จากนั้นผมก็ถูกบังคับให้กินยา ผมเลือกหักยาออก ½ เม็ด เพราะพี่กิตให้มาสองเม็ด ผมไม่ได้อธิบายว่าเพราะอะไร คุณผู้อ่านทราบใหมครับว่าเพราะอะไร ? จำกันได้ใหมครับ ว่าผมกับไอ้ตี๋ จะกินยาแก้ไข้เกิน 1 + ½ เม็ดไม่ได้ ถ้าแพ้อาจจะชักขึ้นมาได้ทันที

 

                -เก่ง เช็ดตัวหน่อยใหม-  ผมส่ายหน้า ไม่ใช่กลัวโป๊ แต่ไม่เป็นไรจริง ๆ ผมไม่เรื่องมากและไม่อ้อนด้วยเวลาป่วย (อ้อนตี๋เล็กคนเดียว)

 

                -งั้นนอนก่อนนะ เดี๋ยวเก่งหลับแล้วพี่จะกลับ- ผมพยักหน้าขอบคุณ ก่อนผล็อยหลับไป

 

                เหตุการณ์ระหว่างผมหลับ ผมก็คงไม่อาจทราบได้ นอกจากพี่กิตโทรมาเล่าให้ฟังในเช้าวันรุ่งขึ้นว่าไอ้พี่อ้วนมาที่ห้องผม (มันบอกว่าเป็นรุ่นพี่ชมรมอีสาน) ไอ้พี่อ้วนมันมีกุญแจอีกหนึ่งชุด มันไขเข้ามาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ภาพที่เห็นคือ ไอ้พี่กิตนั่งอยู่บนเตียง เอามือกุมมือผมไว้อยู่ระหว่างที่ผมหลับ ไอ้พี่อ้วนยืนงงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป พี่กิตบอกว่ามันก็งง ๆ เหมือนกัน ผมถอนหายใจเฮือก บอกว่าไม่เป็นไร ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขา

 

                -เก่ง ยังไม่จบ- พี่กิตกรอกเสียงมาในโทรศัพท์

 

                *ว่าไงพี่* ผมถาม

 

                -มีคนมาอีกคน เป็นคนที่อยู่ในรูปที่หัวเตียง- ผมสะดุ้งโหยง

 

                *พี่แน่ใจหรือเปล่า*

 

                -อืม แน่ใจ เขามาพร้อม ๆ กับรุ่นพี่นาย แล้วผู้ชายอีกคน แต่เขาไม่พูดอะไรเลย นอกจากยืนมอง พี่ก็งง ๆ ว่ามันเรื่องอะไรกัน-

 

                ผมหลับตาลงอย่างเจ็บปวด  ทำไมกูเสือกมีเสน่ห์แรงขึ้นมาตอนนี้วะ กูจะบ้าตาย ผมวางสายโทรศัพท์ไปอย่างหมดแรง
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: peang ที่ 01-10-2007 16:21:24
 o13  ชอบมากมาย นิยายเรื่องนี้  ก็แบบว่าเข้ามาแอบอ่านเสมอๆ :m26: (ไม่ได้ post แฮะๆ) วันนี้ฤกษ์ดี เอาซะหน่อย  อ้ายไอติมเปื้อนปากนั่น หมั่นไส้อย่างแรง  คนอย่างนี้ ต้องถอดรองเท้าเอาส้นแหลมๆตีหน้าซะให้เข็ด :angry2:   เหอๆๆๆๆ ตามลุ้นๆ  มันจะลงเอ่ยยังไงน๊อ  :m1:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-10-2007 17:39:20
ต่างคนต่างเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว
ยากนักที่อะไรๆจะกลับคืนมา
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 01-10-2007 18:06:41
โอ้หนอชีวิต :sad2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 01-10-2007 18:51:47
เฮ้อ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 01-10-2007 19:16:59
 :เฮ้อ:
ไม่ได้อ่านมาสองสามวัน
เรื่องจะเป็นไงต่อน๊อ

....
ว่าแต่เรื่องที่ผมรีไว้ แล้วคุณ BlueWizard มาต่ออ่ะ
ผมก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก แต่ก็ควรจะมองในมุมกว้าง ๆ บ้าง
มีอะไรก็ควรพูดกันตรง ๆ ... ไม่ใช่ใช้อำนาจบังคับกันอย่างนี้
อีกอย่าง ... ด้วยสถานะที่ลูก ๆ เป็นอยู่นี้ มันก็ใช่ว่าจะให้เลิกเป็นกันได้แค่ชั่วข้ามคืนซะที่ไหน

ถึงตี๋จะเลิกคบกับเก่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าตี๋จะมีคนอื่นไม่ได้
อย่างไรเสียตี๋ก็ยังคงเป็นตี๋ อาจจะเป็นอย่างที่พ่อให้เป็นได้ ก็คงแค่ฉากหน้า
 :เฮ้อ:

ก็แค่อยากบอกอ่ะครับ มะได้ให้ซีเรียสกันนะ  o7  o1
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-10-2007 19:48:56
ทำไมทุกคนถึงได้บังเอิญมาพร้อมกันแบบนี้น่ะ

สงสัยแบบนี้วุ่นวายอีกยาว

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 01-10-2007 21:22:36
บานปลายไปกันใหญ่  :o11:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: gashkung ที่ 01-10-2007 22:45:38
ลุ้น ระทึก   :try2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Error_boyz ที่ 01-10-2007 23:19:36
จริงๆ เรืองนี้เคยอานมาแล้วรอบนึง Sad มากๆ  :m15: :m15: ไมเป็นไร ลงอีกก็อานใหม ร้องไห้ใหม


ปล. คอมบ้า พิมไม้เอกไมได้ เซง
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 02-10-2007 09:37:49
ยังไม่ค่อยปักใจเชื่อเท่าไหร่นา ว่าตี๋เล็กจะหักหลังเก่งอ่ะ หรือว่าเอาเรื่องพ่อมาอ้าง อยากไปอยู่กับไอ้พี่กลดจริงๆ
 อืม ยัง งง งง  :m28:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-10-2007 15:41:57
เอ๊ะ  เหตุการร์ชวนเข้าใจผิด ทำไมมันมาเกินขึ้นไล่ๆกันอ่ะนี่  :seng2ped:

ถ้าเปนในละคร แบบนี้พระเอกนางเอกต้องการผู้ช่วยโดยด่วน... o7
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-10-2007 18:14:34
  :a6: เวรกรรม แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเนี่ย  o7

รับไม่ได้  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ___KuNg_K-J-J___ ที่ 02-10-2007 23:58:26
อืม...ไม่รู้จะว่าไงดีเลย  มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ยากจะคาดเดาได้จริง ๆ เลยนะเนี่ย


เจอยังงี้พี่เก่งจะทำไงต่ออ่ะ.... :try2:....แล้วพี่ตี๋อ่ะจะเป็นไงเนี่ยะ....... :undecided:


คงต้องรอ ลุ้น กันต่อปาย............... :m28:

....................................................ลุ้น ๆๆๆ ...................................................

                                     :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 03-10-2007 12:07:01
ทามมายมานยุ่งๆ อีรุงตุงนัง  แบบนี้อะเนี่ย   :a5:

แล้วเมื่อหร่ายจาเข้าใจกานได้เหมือนเดิม  :o11:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-10-2007 13:25:19
ซะง้านนนนนนนนนนนนนนนน

  :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 03-10-2007 16:22:57

..........แก้วมันร้าวแบบนี้แล้ว.....

.........จะกลับมาเหมือนเดิมอีกไหมเนี่ย..... :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 03-10-2007 21:11:02
โปรดอ่าน

จะเปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคราบ เป็น  พี่เก่ง กับ น้องตี๋

อย่าลืมนะคราบ

ปล.มาแจ้งไว้ก่อน..อิอิ
-----------------------------------

ตอนนี้มีเฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 9 / อ่อนแรง

เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 9 / อ่อนแรง

 

                ผมเดินไปเรียนด้วยจิตใจสับสน ในหัวปวดตุบ ๆ หน้าร้อนด้วยพิษไข้ ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงใหนดี เรื่องมันยุ่งเหมือนให้ลิงแก้แหเข้าไปทุกที จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ผมก็เตือนตัวเองไว้อย่างว่า ไม่ว่าเหตุการณ์ในเมื่อวานมันให้ผลอย่างไร ผมก็ไม่น่าเสียใจ ในเมื่อไอ้ตี๋มันทิ้งผมไปอยู่แล้ว ผมเข้าไปในห้องเรียน วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเทอมนี้แล้ว ผมไปนั่งที่ข้างหลังสุด วิชานี้ใช้ห้องเรียนรวมใหญ่เพราะเรียนพร้อมกันกับอีก 1 ภาควิชา

 

                ผมกวาดสายตาดูข้างล่างไม่เจอไอ้ตี๋ ผมบอกกับตัวเองว่า มันทิ้งผมไปแล้ว มันทิ้งผมไปแล้ว ซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ผมมองไปที่อาจารย์ที่กำลังปิ้งแผ่นใสอยู่ที่หน้าห้อง คิดอะไรเพลิน ๆ แล้วไม่รู้สึกตัวนอนหลับไป

 

                -เก่ง เก่ง ... – เสียงไอ้ชัยเรียกผม ผมเงยหน้าขึ้นดู เพื่อน ๆ เป็นสิบคนยืนมองดูผมอยู่ด้วยสายตาห่วงใย เพราะเด็กเรียนเก่งอย่างผม ไม่น่ามานอนหลับในห้อง แถมมานั่งหลังสุดอีก

 

                -ไม่สบายนะเนี่ย ตัวร้อนจี๋เลย ตัวร้อนมากเลยอ่ะ-  ก้อยบอกเพื่อน ๆ หลังจากเอามือมาแตะหน้าผากผม

 

                -ไม่เป็นไร เดี๋ยวชัยเอามันกลับไปส่งที่หอ เฮ้ย ช่วยกันเรา-

 

                ผมบอกว่าพอช่วยตัวเองได้ ผมพยายามลุกขึ้น ไม่มีเรี่ยวแรงเดิน พวกไอ้ชัยพยายามหิ้วปีกผมลงมาจากอาคารเรียนรวม พวกเพื่อน ๆ ผู้หญิงวิ่งตามกันเกรียว ผมเดาว่าสภาพผมคงไม่ดีเท่าไหร่นัก

 

                -ไปเอารถมาสิชัย- ก้อยร้องตะโกนเร่ง

 

                เหตุการณ์ต่อจากนี้ไป เป็นเหตุการณ์ที่ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้น ผมทราบภายหลังเมื่อเพื่อน ๆ เล่าให้ฟัง

 

          ผมนอนอยู่บนตักไอ้ปลิ้นที่เบาะหลัง เริ่มไม่ได้สติแล้ว ไอ้ปลิ้นบอกว่าผมละเมอไม่รู้เรื่อง ตัวร้อนเหมือนไฟ มันตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นผมเป็นแบบนี้ ไอ้ชัยรีบขับรถไปที่โรงพยาบาลบางปะกอก หมอรับเข้าไปตรวจแล้วออกมาบอกว่า ต้องแอดมิท ผมเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วมีอาการปอดบวมขั้นต้น ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะมีอาการรุนแรงมากกว่านี้ได้ เพื่อน ๆ ทุกคนใจคอไม่ดี เพราะว่าวันอังคารจะเป็นวันสอบวันแรก วันนี้ก็เป็นวันพฤหัสไปแล้ว

 

                ผมตื่นขึ้นมาในห้องของโรงพยาบาลในคืนเดียวกันนั้นเอง ผมเห็นใครต่อหลายคนอยู่ในห้องนั้น แต่ด้วยฤทธิ์ของยาหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ผมตาปรือและมีความรู้สึกว่าอยากนอนเหลือเกิน และผมจำได้ว่าผมฝันไป ผมฝันเห็นไอ้ตี๋เล็กมันยืนร้องให้อยู่ข้างตัวผม ในฝันผมร้องตะโกนบอกมันว่า ผมยังไม่ตาย อย่าร้องให้ .......................................

 

          วันศุกร์ตอนสาย ๆ ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ผมเริ่มเห็นคนหลาย ๆ คนแล้ว แต่ที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุดคือ ผมเห็นตี๋เล็กมันยืนอยู่ข้าง ๆ ผม ตาแดง ๆ เอามือจับมือผมอยู่ มองไปอีกด้านเห็นพวกไอ้ชัยยืนมองผมยิ้ม ๆ พี่อ้วน พี่เต๊ก พี่ปลา พี่กิต แล้วก็ไอ้กลด พวกผู้หญิงและกลุ่มเพื่อนผมยืนอยู่ข้างไอ้ชัย ทุกคนยิ้ม ๆ 

 

                -วันนี้วันอะไร- ผมถามเบา ๆ

 

                *วันศุกร์ ยังไม่ถึงวันสอบหรอก เก่งนอนพักนะจะได้หายทันสอบ* ก้อยบอกเบา ๆ

 

                -เอาล่ะทุกคน ออกไปข้างนอกดีกว่า ตอนนี้ไอ้เก่งมันไม่เป็นอะไรแล้ว ให้มันนอนพักผ่อนเยอะ ๆ จะได้หายมาทันเหยียบพวกเราไง-

               

                 ทุกคนหัวเราะขึ้นพร้อมกันเมื่อไอ้ชัยพูดจบ ความหมายของคำว่าเหยียบ ใช้กับคนเรียนเก่ง ๆ เวลาสอบได้คะแนนดีกว่าเพื่อน ๆ เพราะการสอบในระดับมหาวิทยาลัยใช้เกณท์การอิงกลุ่มในการตัดเกรด คนบน ๆ ได้คะแนนสูงมากๆ  คนที่ได้น้อย ๆ อยู่ข้างล่าง ก็เสียวสันหลังเพราะโดนเหยียบนั่นเอง

 

          ทุกคนก้าวออกจากห้องไป ยกเว้นไอ้ตี๋กับพี่กลด ไอ้ชัยเดินเข้ามาข้าง ๆ เตียง มองไปยังด้านตรงข้ามที่ไอ้ตี๋กับไอ้กลดยืนอยู่ แล้วพูดขึ้น

 

                -ให้เพื่อนสนิทเพื่อนเก่าเขาได้คุยกันตามลำพังบ้าง อย่างน้อยเขาก็เป็นเพื่อนมาจากที่เดียวกัน พ่อกับแม่ไอ้เก่งมันจะมาถึงในชั่วโมงสองชั่วโมงนี้แล้ว ถ้าพี่ไม่ไว้ใจ ผมจะอยู่ในห้องนี้กับมันสองคนเอง- ไอ้ชัยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตามันน่ากลัวอย่างประหลาด ไอ้พี่กลดหันมามองผมนิดหนึ่งแล้วเดินออกไปนอกห้อง ไอ้ชัยถอนหายใจยาวระบายลมหายใจออกมา

               

                -เดี๋ยวกูไปรอหน้าห้อง ถ้าไอ้เก่งข่มขืนร้องดัง ๆ นะไอ้ตี๋- ไอ้ชัยขยิบตาเล็กน้อยก่อนเดินออกไป

 

                พอประตูปิดลง ไอ้ตี๋ก้มลงเอามือจับหัวผม น้ำตามันไหลหยดลงมาเปื้อนหน้าผม

 

                -ร้องให้ทำไม กูยังไม่ตาย-

 

                *กูเสียใจ ที่เวลาที่มึงเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เป็นกูคนแรกที่รู้*

 

                -ถ้ามึงไม่รีบวิ่งออกจากห้องไปเมื่อวาน มึงคงจะรู้ว่ากูไม่สบายมาก กูหลับไม่รู้เรื่อง- ผมบอกมันแกมประชด

 

                *กูขอโทษ* ตี๋เล็กก้มลงกอดผมร้องให้โฮเหมือนเด็ก ๆ ผมจับหัวมันลูบเบา ๆ บอกมันว่าร้องทำไม ไม่ต้องร้อง

 

                *พี่กิตมันบอกกูแล้วเมื่อเช้า  กูสับสน* ตี๋เล็กพูด

 

                -มึงก็สวีทกับไอ้กลดวันวาเลนไทน์ จงใจประชดกู- ผมบอก

 

                *พอสอบเสร็จหาโอกาสคุยกัน กูมีเรื่องจะบอกมึง* ไอ้ตี๋มองทางประตูเหมือนกลัวใครได้ยิน

 

                *กูต้องไปแล้วนะ เพราะพ่อกับแม่มึงจะมาแล้ว กูไม่อยากมีปัญหากับไอ้พี่กลดด้วย* ผมได้ยินประโยคสุดท้าย ยิ่งอยากจะงอนอยู่อย่างนั้นอีก มันหันมาจูบหน้าผากผมแล้วบอกว่า

 

                *ขอให้เชื่อใจกู*

 

                ผมพยักหน้าน้อย ๆ รับคำ

 

                บ่ายวันนั้นเองพ่อกับแม่ผม พร้อมด้วยพี่เต้ยก็มาถึง ผมสงสารพ่อกับแม่ผมจังที่ต้องมาวิ่งเยี่ยมลูกที่ยังหนุ่มน่นถึงสองครั้งสองคราในปีเดียว ท่านก็แก่มากแล้วทั้งคู่  หมอบอกว่าถ้าไม่มีอะไร ผมสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันอาทิตย์นี้แล้ว ผมดีใจเพราะว่าวันอังคารผมจะต้องไปสอบ แต่แอบเสียใจ ที่ผมจะไม่ได้อ่านหนังสือทบทวนอีกรอบสุดท้าย อย่างดีคงอ่านได้แค่ผ่าน ๆ 1 รอบเท่านั้น

 

                พี่เต้ยซึ่งอยู่ในช่วงพักร้อน ตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนผมตลอดระยะเวลาการสอบ ผมก็ยินดีมากเพราะว่าพี่ผมก็อยากมาเที่ยว กทม อยู่แล้ว วันที่สอบเสร็จ พี่เต้ยอาสาพาเพื่อน ๆ ของผมทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไปเลี้ยงปรากฏว่าเรารวบรวมเพื่อนๆ ได้ 10 คน แน่นอน ไม่มีไอ้ตี๋เล็ก ผมไม่ทราบเหมือนกันว่ามันจะเตรียมตัวกลับบ้านหรือยัง แต่ผมมีกำหนดกลับพร้อมพี่เต้ยพรุ่งนี้

 

                งานเลี้ยงในคืนนั้นสนุกสนานมากเป็นพิเศษ เราไปกินข้าวที่ร้านไกล้ ๆ สถาบันนั่นเอง แต่งานนี้ของดสุรา เนื่องจากทุกคนเห็นใจผมที่กินไม่ได้ เอาไว้กลับมาเจอกันก่อนเปิดเทอมค่อยมาว่ากันใหม่ ผมมีความสุขมากที่เพื่อน ๆ ของผมมีความสุข การฉลองสอบเสร็จของผมก็สิ้นสุดลง ณ วันนี้
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 03-10-2007 21:26:01
วันละ2ตอนนี้มากไปป่าวหว่า.........เอาไปวันละตอนละกันเนอะ..5555+

คำเตือน :ใครมาแอบอ่านนิยายของเค้าแล้วไม่แสดงตัว  ขอให้อ่านนิยายไม่รู้เรื่อง...5555+
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 10 / เมื่อความจริงปรากฏ

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 10 / เมื่อความจริงปรากฏ

 

                ผมกลับมาที่หอพัก ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมรับสายทันที

 

                -เก่ง พี่กลดไปกินเลี้ยงสอบเสร็จ หาที่ห้องนะ-

 

                *อือ พี่เต้ยออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ เขา* ผมบอกมันให้รีบมาเร็ว ๆ (อย่าคิดลึก)

 

                ไอ้ตี๋เปิดประตูเข้ามา  ผมกระโจนเข้ากอดมันมันที ผมกอดมันไว้เนิ่นนาน ไม่อยากให้มันหายไปจากผมอีก

 

                -มึงรู้ใช่มั้ย กูไม่มีอะไรกับพี่กิต-

 

          *กูรู้ตั้งแต่กูรู้ว่ามึงไปโรงพยาบาล กูนี่โง่จริง ๆ ที่ไม่ไปเรียนวันนั้น เพราะกูกำลังเศร้า ที่เห็นมึงอยู่กับพี่กิต*

 

                -แล้วมึงจะบอกอะไรกู ว่ามาเร็ว ๆ – เราสองคนนั่งลงบนเตียง

 

                *ไอ้พี่กลดจะฟันกู*

 

                -เออ กูรู้แล้วเพราะกูเห็นสายตามันมองมึงแบบนั้น มึงล่ะ ชอบมันหรือเปล่า ใหนบอกว่ามันมีแฟน-

 

                *กูไม่ชอบมันเลย กูเกลียดมัน มันเห็นแก่ตัว มันจะลวนลามกูนะเก่ง มันก็ยังเป็นฟนกันอยู่ แต่มันกะจะฟันกูท่าเดียว วันดีคืนดีก็ชักว่าวต่อหน้ากู กูจะบ้าตายอยู่แล้ว มันด่ากูหยาบคายว่า กะมึงยังแบให้ได้ อย่ามาทำเล่นตัวเป็นกระเทยบริสุทธิ์ มีแต่กระเทยจะแหกให้มันเอาหลายคน ถ้าลองมันไปทีสงสัยจะติดใจจนลืมมึงไปเลย มันดูถูกกูมาก*

 

                -ทำไมมันทำอย่างนั้น กูจะไปฆ่ามัน- แมนใหมครับ ท่านผู้อ่าน

 

                *มันเอาเรื่องพ่อกูมาใช้บังคับกู ถ้ากูโวยวาย มันจะบอกพ่อกู แต่กูไม่ทันเสร็จมันนะ เพราะว่ากูร้องให้ ขอร้องมันว่า ให้มันมาจากความรักดีกว่า  กูไม่รู้ว่ากูจะต้องยอมมันเมื่อไหร่ เพราะกูกลัวกูไม่ได้เรียนอีก*

 

                -มันเลวมาก- ผมกัดฟันด้วยความแค้น

 

                *เก่ง กูจะทำยังไงดี กูร้องให้ทุกวันเพราะคิดถึงมึง  กูเจ็บต้องทำเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักกัน* ตี๋เล็กสะอึกสะอื้น ผมสงสารมันมาก ผมกอดมันไว้ปลอบให้มันหยุดร้องให้ ในใจก็คิดหาวิธีการไปเรื่อย ๆ  ไอ้ผมมันประเภทเล่นละครได้ ก็คงได้เป็นตัวโกงด้วยสิครับ สักพัก แผนการของผมก็ถูกถ่ายทอดให้ตี๋เล็กฟังทั้งหมด

 

                *มันจะได้ผลเหรอวะ*

 

                -ต้องลองดู กูนึกถึงหน้ามันแล้วกูหมั่นใส้ชิบหาย สะเออะจะมาปล้ำเมียกู นี่มันกลับบ้านเมื่อไหร่-

 

                *อีกสามวัน*

 

                -งั้นกูก็ไม่กลับ เราต้องช่วยกันทำแผนนี้ให้สำเร็จ มึงบอกมันหรือยังว่าออกไปกินเหล้าสอบเสร็จแล้วจะนอนกับเพื่อนคนใหน จะได้เตรียมกันไว้ ไอ้ชัยก็ได้-

 

                *โอเค กูเพจบอกมันก่อน*

 

                -แล้วอย่าลืมโทรหาไอ้เตย ด่วน- ผมสั่งมันโทรหาผู้ร่วมก่อการร้าย น้องสาวมันที่มาเที่ยวปิดเทอมบ้านญาติแถวพระโขนง

 

                *โอเค*

 

                ถ้าเรื่องแผนชั่ว ๆ นี่นะครับ เด็กเรียนเก่งอย่างผม ไม่เป็นสองรองจากใคร สมัยผมอยู่ประม ยังจัดการกับผู้หญิงที่มาอ้างตัวว่าเป็นเมียน้อยพ่ออยู่หมัดเลย ไว้ว่าง ๆ จะมาเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้ไอ้กลด มึงเตรียมตัวตาย ถึงเวลาเอาคืนแล้ว บังอาจมาใช้เมียกูเป็นเครื่องมือกดขี่ทางเพศ เมียใครใครก็หวงนะเว้ย

 

          ผมโทรเช็คพี่เต้ยว่าจะกลับหรือเปล่า พี่เต้ยบอกจะค้างกับเพื่อน เมาแล้วไม่กลับ เข้าทางผมล่ะ หึ หึ หุ หุ เหอะ ๆ ๆ รู้หรือยังว่าจะเกิดอะไรกับไอ้ตี๋เล็ก

 

                -ตี๋เล็กกกกกกกกกกกก- ผมลากเสียงหวานเรียกมันมาไกล้ ๆ

 

                -กอดหน่อยสิตัวเอง-

 

                ผมระดมจูบมันอย่างหื่นกระหาย ......................

 

 

XXXX เซ็นเซอร์ XXXX
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-10-2007 21:47:03
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอย่ารู้แผนเด็ดแล้วอ่ะ สงสัยจะแสบสันตืน่าดู อิอิ
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 03-10-2007 21:55:39
โอ้วตื่นเต้ลลล รอดูเเผนการณ์เผื่อได้เอาไปใช้บ้าง 555+ :m23: :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 03-10-2007 22:21:03
รอลุ้นแผนอันชั่วร้ายที่เราชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :m18:

ไอ้กลด ไอ้เลว :m16:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 03-10-2007 23:14:06
มีให้ลุ้นได้เรื่อย ๆ ดีจริงๆเลย  o16
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: gashkung ที่ 04-10-2007 00:33:30
มาเร็ว ๆ นะคร้าบ ชอบ ๆ นักวางแผน  :o8:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 04-10-2007 01:06:22
 :try2:
ง่วงแล้ววววว จะตีหนึ่งละ พรุ่งนี้ทำงานอีก ทำไมเนี่ยยยยย ต้องมาอดหลับอดนอนอ่านนนนน

รีบมาเลยยยย แผนร้ายสลายมารรัก อยากรู้จิง ๆ  :m4:

แหมตอใหญ่มันพ่อตี๋น้อยยยย จะแก้ปัญหาไงละเนี่ยยยยยยย  :เฮ้อ:

ที่แน่ๆ เก่งจะทำไรตี๋น้อยอยู่อ่ะ ตอนนี้........ :m10:
 :catrun:

หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 04-10-2007 09:40:29
อ่านแล้วก็ลุ้นไปด้วยอ่า

ขอให้แผนประสบผลสำเร็จน้า  :give2:

แต่ว่า  ขัดใจตรง  เซ็นเซอร์อะ   :angry2: :angry2:  เซงเป็ด
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-10-2007 13:23:53
 :o11: เซนเซอร์ทมำไมอ่าค้าบบ คนอ่านไม่เบื่อหรอกฉากนี้ อิอิ

อยากรู้จังแผนจะเป็นไง คงสนุกน่าดู...  ไอ้พี่กลดนี่ก็จ้องจะฟันลูกเดียวเลยนะ  o12

อย่างนี้ต้องโดนรุมโทรม เหอๆๆ เอาให้เข้ด เสียจริตไปเลย 555+ :laugh:


ปล. มาต่อเยอะๆก็ได้คับ ไม่มากไปหรอก สองตอนอ่ะ อิอิ จุใจดี :impress:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 04-10-2007 23:02:54
ดีครับ เอาคืนไอ้กลดมันซะบ้าง

 :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 05-10-2007 02:09:14
คนเลวๆอย่างไอ้พี่กลด  :m16: จัดการมันให้จั๋งๆเจ๋งๆแสบๆเจ็บๆไปเลยนะคร้าบบบบบบเก่ง    :m26:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 05-10-2007 12:25:22
ชอบมากเลย แต่ ขัดใจตรงเซ้นเซอร์นี่ แหล่ะ  :m16: :m16: :m16:


มาต่อเร็วๆนะ อยากรู้แผนการเอาคืนไอ้กลด  :m16:
หัวข้อ: Re: รักไป - เย ไป เสียใจจนชิน กล้ำกลืนฝืนกิน น้ำกาม อยู่อย่างนี้ ^_^ ..by Kelvin.....ภาค2คับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 05-10-2007 16:41:26
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 11 / แผลเก่า

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 11 / แผลเก่า

 

                ต่อกันเลยนะครับ อย่างที่บอก ไปทำงานแล้วไม่ค่อยมีเวลา ยังไงก็โปรดติดตามอ่านเรื่อย ๆ นะครับ จะพยายามเล่าเรื่องให้กระชับที่สุด (เห็นใหม ทำไมต้องมีเซ็นเซอร์ จะได้ไม่ยาวมากไงครับ) เรื่องราวได้ดำเนินมาจนถึงตอนที่ไอ้พี่กลดออกลายโฉด จะปล้ำเอาไอ้ตี๋เล็กของผมเป็นเมียอีกคน ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ไอ้พี่กลดคนนี้มันเป็นผู้ชายอกสามศอก มีแฟนผู้หญิง (น่าจะเป็นเมียนะ) ที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งจนผู้ใหญ่รับรู้หมายมั่นปั้นมือจนจะจับหมั้นกันอยู่แล้ว มันจะต้องมาข่มขืนไอ้ตี๋เล็กของผมแบบนี้

                แถมยังใช้วิธีสกปรก เอาความรักบริสุทธิ์ซาบซึ้งหวานจ๋อยอร่อยเหาะ ของเราสองคน มาบังหน้า หาผลประโยชน์ทางกามของมันอีก งานนี้ผมแค้นสุดชีวิต แผนที่เตรียมไว้ จะต้องสมบูรณ์รอบคอบ และเด็ดขาด งานนี้มีผมก็บตี๋เล็กที่รู้กัน ตี๋เล็กมันหวั่น ๆ ว่าจะไม่ประสบผลสำเร็จ ผมจึงแนะกลเม็ดเคล็ดลับให้เสร็จสรรพ (ทั้งคืน)

 

                บอกแล้วว่าถ้าผมหล่อพอที่จะเป็นดารา ... ไม่เป็นดาราหนังโป๊ ผมก็ต้องเป็นพระรอง เอ้ย ... ผู้ร้าย ผมจึงสวมบทเหี้ยม นั่งบนภูดูหมากัดกัน เอ้ย รอถล่มมันสุดฤทธิ์ คุณผู้อ่านคิดตามแผนผมได้หรือยังครับ

 

          พี่เต้ยกลับบ้านไปแล้ว ผมบอกว่าอีก 2-3 วันผมจะกลับ ขออยู่ช่วยงานการประชุมรับน้องใหม่สักพัก (แหลนั่นล่ะ) พี่เต้ยบอกให้ดูแลตัวเองดีดี อย่าให้เป็นอะไรขึ้นมาอีก ... ดูน้ำเสียงแกไม่ค่อยสบายใจนะ ผมก็หายดีแล้วนี่นา ผมรับคำเป็นมั่นเหมาะ เพราะผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ผม ต้องถ่อสังขารแก่ชราของท่าน มาเยี่ยมลูกชายที่หนุ่มแน่นเนื้อหอม ในโรงพยาบาลอีก เวลาแบบนี้เป็นเวลาที่ผมควรจะได้ปรนนิบัติพัดวีท่าน ไม่ใช่ให้ท่านต้องมาวิ่งวุ่นพยาบาลผม

 

          สมัยหนึ่งเมื่อผมยังเด็ก เรียนชั้นประถม มีสาวเจ้าของร้านเสริมสวยคนหนึ่งมาติดพันอยู่กับพ่อผม และจะเอาพ่อผมเป็นสามีให้ได้ (พ่อผมก็ไม่เบานะเนี่ย ไม่เล่นกับเขาแล้วเขาจะมาเล่นด้วยเหรอ)  ด้วยความที่ผมเรียนโรงเรียนประถมในตัวเมือง ผมเห็นยายคนนี้เพราะต้องถีบจักรยานผ่านร้านของมันบ่อย ๆ ส่วนแม่ผมท่านเป็นคนใจเด็ด ไม่ว่าจะมีข่าวมาให้ท่านเสียใจอย่างไร ท่านก็ไม่เคยปากบ่นว่าพ่อสักคำ ได้แต่ทนเรื่อยมา แต่ในความรู้สึกของเด็กอย่างพวกเราในวัยนั้น ย่อมรักและหวงของของตัวเอง พ่อแม่ของใครใครก็หวงจริงใหมครับ

 

          หลายเดือนต่อมา พ่อกับแม่เริ่มมีปากเสียงขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะสภาพของครอบครัวครู คงเข้าใจกันนะครับว่า การเป็นอยู่ได้มาจากการกู้หนี้ยืมสินทั้งนั้น เมื่อมีปัญหาเรื่องเงิน ปัญหาครอบครัวก็ตามมา หนำซ้ำพ่อยังเริ่มเอาเงินไปให้กับทางยายนั่น แล้วบอกว่าเขายืมไปแก้ปัญหาทางบ้าน แม่ผมต้องแบกรับภาระทั้งหนี้สินและลูก ๆ ที่กำลังเรียนอีกสามคน

 

                หนักข้อเข้า การทะเลาะกันก็ตามมาด้วยการขอหย่า แต่ยังไม่หย่านะครับ ในขั้นแรก พ่อกับแม่ขอแยกกันอยู่ โดยที่พ่อไปเช่าห้องเช่าอยู่ต่างหากในตลาด และเอาผมที่เรียนไกล้ที่นั่นไปอยู่ด้วย

 

                การทนกับคำว่า พ่อมีเมียน้อย สำหรับเด็ก 8 ขวบ ไม่ใช่เรื่องที่น่าพิสมัยเลย เมื่อเราถูกใคร ๆ พูดให้ฟังถึงเรื่องนี้อยู่เรื่อย ผมจึงอยากไปดูเสมอ ๆ  ว่าพ่ออยู่ที่นั่นหรือเปล่า เย็นวันหนึ่งเลิกเรียนพิเศษที่บ้านไอ้นิต ผมจึงชวนไอ้นิต กับไอ้โต , ไอ้ต้อม และไอ้พงษ์  เพื่อนร่วมแกงค์สมัย “แฟนฉัน” ของผม ไปกินน้ำแข็งไสกันที่ไกล้ๆ กับร้านยายคนนี้ เผื่อจะได้ชูคอมองว่า รถมอเตอร์ไซค์พ่อมาแถวนั้นหรือเปล่า

 

                ไปกันหลาย ๆ วัน ไม่เคยเจอพ่อเลยที่นั่น จนอยู่มาวันหนึ่ง ร้านเสริมสวยนั้นปิด แต่ผมต้องใจเต้นโครมคราม เมื่อเห็นหล่อนเดินออกมาจากร้านเสริมสวยมาสั่งของกินที่เพิงนี้ ที่พวกผมกำลังนั่งกินน้ำแข็งอยู่

 

                -ป้า เอาน้ำแข็งใสใส่หนมปังกะลูกชิด ไม่ใส่สี 2 ถ้วย- หล่อนสั่ง

 

                *ไม่เห็นอาจารย์มาเลยนะเดี๋ยวนี้ เมื่อกี้เห็นผัวมึงมาน่ะ มานั่งกินข้าวตะกี้*

 

                -อย่าเอ็ดไปป้า ตอนนี้อยู่ข้างบน หนูบอกอาจารย์ว่าหนูจะไปช่วยงานบวชบ้านเพื่อน 2 วัน คงไม่มาหรอก อีกอย่างเขาจะไปสัมนาที่ระยอง-

 

                ผมหูผึ่งพยายามฟังด้วยความสนใจ เพราะคำว่า “อาจารย์” นี่มันพ่อผมนี่นา คงเป็นคนอื่นไปไม่ได้ น่าจะเป็นยายคนนี้นะ ที่เขาลือว่าเป็นเมียน้อยเพื่อนผม แล้วทำไมมีผัวล่ะ ผัวอยู่ในห้องเสียด้วย

 

                *หลอกเอาเงินเอาทองเขามันบาปนะ อีกอย่างเขาก็มีลูกมีเมียแล้ว ทำครอบครัวเขาแตกแยก บาปนะอย่าทำเลย* ป้าแกก็ดีนะ ไม่รู้ตอนนี้ยังอยู่หรือเปล่า ตอนนั้นแกก็แก่มากแล้ว

 

                -ช่างหนู อย่ามายุ่ง Xเซ็นเซอร์X ก็ของหนู เจ็บก็เจ็บหนู เสียวก็เสียวหนู ป้าจะเป็น Xเซ็นเซอร์X ข้างใหนของหนูล่ะจะได้มาเจ็บแทน-

 

          ป้าหันหน้ามามองคล้ายกับอ่อนใจ เพราะเด็ก ๆ อย่างพวกผมนั่งอยู่ตรงนั้นเต็ม ผมนึกในใจ นี่หรือ ผู้หญิงคนใหม่ที่จะมาเป็นแม่ผม สู้แม่ของผมไม่ได้เลยสักนิด ท่าทางการพูด คงไม่ใช่ผู้หญิงดีสักเท่าไหร่ ที่ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าเป็นผู้หญิงทำนองขายตัว ก็น่าจะจริง

 

                ตอนเย็นผมกลับมาที่ห้อง พ่อผมบอกว่าจะไปราชการที่ระยองวันพรุ่งนี้ตอนเย็น ผมนั่งทำการบ้านที่ม้าหินอ่อนหน้าห้อง พ่อเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ

 

                -ทำไมล่ะเก่ง ดูซึม ๆ ไปนะ-

 

                *เก่งอยากกลับบ้านแล้ว เก่งคิดถึงแม่* ผมจะร้องให้ตามประสาเด็ก ๆ

 

                -พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วนะเก่ง มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะ-

 

                *เพราะพ่อจะมีแม่ใหม่ให้เก่ง ? * ผมถาม

 

                -น้าพิศเขาเป็นคนดี เขาจะดูแลเก่งได้นะ ไว้วันหลังพ่อจะพาไปเจอเขานะ เก่งต้องชอบน้าเขา-

 

                *ไปวันนี้ได้ใหมครับ ที่ตลาดมีม้าหมุน เก่งอยากเล่นม้าหมุน* หน้าสถานีรถไฟมีงานศาลเจ้า

 

                -น้าเค้าไม่อยู่หรอกลูก ไปงานบวช-

 

                *เก่งผ่านไปตอนเลิกเรียนยังเห็นร้านเปิดเลยนะครับ*

 

                -ไปก็ได้ สัก 2 ทุ่มละกัน ร้านน้าเค้าจะปิด จะได้ไม่กวนเขา-

 

                ผมนั่งภาวนาให้สิ่งที่ผมเห็นในวันนี้มันยังคงอยู่และเป็นจริงด้วยเถิด ถ้ามันจะทำให้ครอบครัวผมกลับมาเหมือนเดิม พ่อจำเป็นต้องรู้ความจริง

 

                เราสองคนขับมอเตอร์ไซค์มาถึงร้านฝนเริ่มตกหน่อย ๆ แล้ว พ่อบอกว่าร้านปิด (ผมนึกในใจ จะปิดได้ยังไง ในเมื่อมันไม่ถูกเปิด) พ่อบอกไม่เป็นไร ทางขึ้นไปชั้นสองอยู่ด้านข้างของประตูใหญ่ ระหว่างที่พ่อจูงมือผมขึ้นไป ไม่วายกำชับผมให้สวัสดียายนั่นด้วย

 

                ผมใจเต้นโครมคราม เดินตามพ่อไป มีแสงไฟลอดออกมาจากในห้อง มีเสียงคนหัวเราะ พ่อใช้กุญแจไขเข้าไป ผมยืนแอบอยู่หลังพ่อ ไม่ได้มองเข้าไปข้างในเลยเพราะกลัว ผมได้ยินเสียงคนร้อง ว้าย!! ออกมาครั้งหนึ่ง แล้วพ่อก็จับมือผมลากลงมาอย่างเร็ว ผมไม่ถามอะไรพ่อ เพราะหน้าพ่อผมเวลาดุจะน่ากลัวมาก

 

                พ่อผมสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว รถพ่อเป็นรถแบบผู้ชาย GTO Kawasaki ผมนั่งอยู่บนถังน้ำมัน ตอนนั้นฝนตกปรอย ๆ ไม่ถึงกับหนักมาก ผมถามพ่อว่าเราจะไปใหน พ่อบอก เราจะกลับบ้าน กลับไปหาแม่ ผมดีใจ แต่ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเมื่อเราผ่านมาได้สองหมู่บ้าน

 

                ถนนจากหมู่บ้านถัดไปนี้จะเป็นถนนลูกรัง เวลาที่ฝนตก จะกลายเป็นโคลนดินเหนียว การขับรถเป็นไปได้อย่างยากลำบาก โดยเพาะตอนนี้ มืดแล้ว คุณผู้อ่านคงเข้าใจนะครับ สภาพของบ้านนอกตอนกลางคืนมันน่ากลัวอย่าบอกใคร แต่พ่อก็ยังขับรถแบบไม่ได้ลดความเร็วลงเลย ฝนตกกระทบหน้าผมจนแสบ ต้องก้มหน้าไว้ จนมาถึงบริเวณที่สองข้างทางเป็นคูน้ำ รถมอเตอร์ไชค์ของพ่อลื่นโคลนดินเหนียวล้มลง ไฟหน้ารถฉายที่พื้นถนนที่เป็นโคลนด้านหน้า ผมตะโกนร้องเรียกพ่อจนเสียงหลง

 

                พ่อรีบจับตัวผมลุกขึ้นเพราะรถมอเตอร์ไซค์ทับผมอยู่ ผมร้องตะโกนเรียกพ่อร้องให้แข่งกับสายฝน บรรยากาศรอบข้างมืดมิด มีแค่แสงไฟจากหน้ารถที่คว่ำไม่เป็นท่าอยู่บนถนนเท่านั้น

 

                -เจ็บตรงใหนใหมเก่ง- พ่อผมเอามือปัดโคลนตามร่างกายผม

 

                -ฮือๆๆๆๆ- ผมร้องให้ มันเจ็บบริเวณแขนข้างขวา พ่อเอาไปส่องกับไฟรถ เลือดไหลออกมาเต็มเลย ผมได้แผลที่แขนข้างขวายาวราวๆ ½ ฟุต ลึกและสกปรกเพราะมีโคลนเต็มไปหมด

 

                พ่อรีบขับรถลับบ้าน ส่วนผมร้องให้แข่งกับสายฝนจนสุดทาง เมื่อถึงบ้าน ทุกคนลงความเห็นว่าผมจะต้องไปหาหมอ ผมร้องให้ไม่หยุด เพราะผมเป็นโรคกลัวโรงพยาบาล กลัวการเย็บ เพราะพี่ผมเคยขู่ผมว่า คนเป็นแผล หมอจะเย็บโดยใช้เข็มเย็บผ้าเย็บสด ๆ เจ็บมาก ทำอย่างไรผมก็ไม่ยอมไป แม่เลยทำแผลให้และให้อาผมเป่ามนต์คาถา อาบอกว่า แบบนี้สามวันวิ่งปร๋อซนได้เหมือนเดิม

 

                ผมเลยใช้วิธีเป่าคาถาจากอาทุกวัน จนถึงวันนี้ บาดแผลแห่งความทรงจำก็ยังติดอยู่กับแขนผม ถ้ามีคนถามถึงที่มาที่ไป ผมยังเล่าได้เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน พ่อผมเคยบอกว่า นี่เป็นแผลสุดท้ายในชีวิต  ที่พ่อจะทำให้ลูกและแม่เจ็บ ตั้งแต่วันนั้นมา ครอบครัวผมก็กลับมาคืนดีกันดังเดิม

 

                ผมนึกไปถึงเรื่องนั้น และมาจบเอาตรงเรื่องแผลของผม ผมนึกในใจว่า แผนของผมคราวนี้ น่าจะเอาเลือดหัวไอ้กลดออกสักแผลสองแผล ประทับไว้เป็นรอยจารึก เหมือนแผลที่อยู่บนแขนผมตอนนี้ มันจะได้จำจนตาย ว่า “คนที่ดูถูกคน – มันไม่ใช่คน”
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 05-10-2007 16:44:41
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 12 / ผู้ก่อการดี

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 12 / ผู้ก่อการดี

 

          ตอนที่ 12 ขอยกเครดิตให้กับไอ้ตี๋เล็กกับน้องเตยครับ ผมแค่ อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ

 

                ไอ้พี่กลด, น้องเตย กับไอ้ตี๋ สามคนลูกพี่ลูกน้อง นั่งคุยกันสนุกสนานในร้านข้าวหลังสถาบัน น้องเตยปิดเทอม เลยเข้า กทม เพื่อมาเที่ยวเล่นบ้านญาติ และมีกำหนดจะกลับพร้อม ๆ กันกับไอ้ตี๋ ไอ้ตี๋กับพี่กลดกึ่ม ๆ เมากันทั้งคู่เพราะฤทธิ์ของเบียร์ ก่อนจะพากันกลับที่พักในตอน 3 ทุ่มครึ่ง

 

                กลับไปแล้วก็ยังไม่นอนกัน ยังมีการตั้งวงกินเบียร์กันต่อที่หอพัก เป็นวงเล็ก ๆ คุยกันสนุกสนานตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน ไอ้ตี๋จัดที่นอนให้น้องเตยนอนกับมันบนเตียง และให้พี่กลด (เจ้าของห้อง) ลงไปนอนที่ข้างเตียงติดกับผนังห้อง วันนี้ห้องนี้ลงทุนเปิดแอร์นอน ทั้ง ๆ ที่ปกติจะประหยัดค่าไฟ คงทราบนะครับ หอพักค่าไฟหน่วยละ 5 บาทก็แพงมากเหมือนกัน

 

                 เหตุการณ์ล่วงเลยไปอีก 30 นาทีหลังจากดับไฟ

 

                ไอ้ตี๋ลงจากเตียง เดินไปที่ไอ้พี่กลด ไอ้ตี๋นอนเบียดไอ้พี่กลดเข้าไปพร้อมกับเอามือกอด ไอ้พี่กลดกำลังเคลิ้ม ๆ จะหลับ เริ่มตกใจเล็กน้อย ตี๋เล็กเริ่มเมาดิบแล้ว

 

                *ตี๋เดี๋ยวไอ้เตยตื่น* ไอ้พี่กลดกระซิบไอ้ตี๋เบา ๆ  ไอ้ตี๋ไม่มีคำตอบนอกจากกอดแน่นขึ้นและเริ่มซุกไซร้ซอกคอไอ้พี่กลด มือก็ไปคว้าหมับเอาที่Kของไอ้พี่กลดทันที ไอ้พี่กลด ครางฮือ ๆ เบาๆเพราะว่ากึ่ม ๆ ไปด้วยฤทธิ์เบียร์  Kไอ้พี่กลดแข็งปั๋งรับมือไอ้ตี๋ สงสัยคงไม่เคยเจอลูกศิษย์มือหนึ่งของไอ้เก่งซะแล้ว

 

                ไอ้ตี๋ไม่พูดอะไร รุกต่ออย่างเดียว ไอ้พี่กลดเองก็เป็นใจ คลุมผ้าห่มแล้วดันหัวตี๋เล็กเข้าในผ้าห่ม เอามือดึงกางเกงนอนของตัวเองลงไปพักไว้ที่หน้าขา กางเกงในไม่ต้องพราะไม่ได้ใส่ ไอ้ตี๋รู้งาน ใช้มือจับKไอ้พี่กลดกระทอกขึ้นลง 2-3 ครั้งแล้วเลียแผล็บเข้าที่หัวทันที

 

                -เอ้ย ซู้ดส์- ไอ้กลดครางเบา ๆ คงเสียวสุด ๆ  ตี๋เล็กแม่งเงี่ยนจัด

 

                ไอ้ตี๋เอาปากครอบKไอ้พี่กลดแล้วอมเข้าไปมิดด้ามทันที ไอ้พี่กลดส่ายเอวขึ้นลงตามจังหวะช้า ๆ ปากคงเสียวมากแต่ไม่กล้า กลัวไอ้เตยตื่น ไอ้ตี๋เล็กรู้งานทำอย่างชำนิชำนาญ ดูดเอาไข่สองใบไว้ในปาก แล้วจับKรูดขึ้นลงสลับกัน ไอ้กลดยังกระเด้าตูดขึ้นลงไม่หยุด ดูถูกดีนักว่ากระเทยไม่มีน้ำยา วันนี้ล่ะมึง น้ำยามึงจะฉีดออกมาด้วยมือกู ใหนลองหน่อยซิว่าที่ว่ากระเทยมาแบให้เนี่ย เป็นไงบ้าง โฮะ ๆๆๆ ไม่เท่าไหร่นี่หว่า ไอ้ตี๋เล็กเล่นหนักกับไข่ไอ้พี่กลดโดยงาบแล้วดูดดึงขึ้นข้างบน จนมันต้องร้อง โอ๊ะ โอ๊ะ ออกมาเบา ๆ คงเสียวสัดสิมึง หมั่นใส้ชิบหาย

 

                และแล้ว อยู่ดีดี ไอ้ตี๋ก็ผละออกจากKอย่างกระทันหัน ไปนอนกอดทับตัวไอ้พี่กลดไว้ ไอ้พี่กลดเงี่ยนสุดชีวิตกระซิบเบา ๆ

 

                -ตี๋พี่ขอนะ-

 

                *ขออะไรครับพี่* ไอ้ตี๋พูด

 

                -พี่ขอเอานะ ไม่ไหวแล้ว-

 

                *ไม่ได้หรอกพี่ เราเป็นเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ*

 

                -นะ นะ ตี๋พี่รักตี๋ พี่ยอมหมดทุกอย่างเลย- ไอ้พี่กลดเล่นไม่เลิก

 

                *หยุดนะพี่ เดี๋ยวไอ้เตยตื่น* ไอ้ตี๋พยายามปัด ไอ้พี่กลดมันเงี่ยนสุด ๆ แล้ว อินทร์พรมยมยักษ์ ที่ใหนก็คงมาฉุดมันไม่อยู่ มันหื่นกระหายสุด ๆ จับแขนไอ้ตี๋แน่น จะก้มลงจูบให้ได้ สองคนพัลวันพัลเกกันสุดฤทธิ์ ไอ้พี่กลดมันทั้งเมา ทั้งหื่นนี่ครับ

 

          -อย่า ! ออกไปนะไอ้เหี้ย !- ไอ้ตี๋ร้องขึ้นสุดเสียงพลางเอามือดันหัวไอ้พี่กลดออกไป

 

*** พวกพี่สองคนทำอะไรกันน่ะ ***

 

ไฟถูกเปิด ตามมาด้วยเสียงไอ้เตยร้องขึ้นหน้าตาตื่น

 

          -พี่กลด พี่ตี๋ ทำไมทำแบบนี้- เสียงไอ้เตยท่าทางเหมือนจะร้องให้

 

                                ไอ้พี่กลดหน้าเซ่อ หายเมาเป็นปลิ้ดทิ้ง ไอ้ตี๋ไม่สนใจคว้ามือไอ้เตย วิ่งลงไปจากห้องทันที

 

                                ไอ้เตยร้องให้หน้าตาตื่นลงตามไอ้ตี๋มา ด้านล่างของตึก ผมกับไอ้ตี๋กระโจนเข้ากอดกัน

                -สำเร็จ- ไม่บอกผมก็รู้หน้าตามันดีใจสุด ๆ

               

                *พวกพี่เล่นอะไรกันเนี่ย พี่เก่งมาได้ไง* ไอ้เตยระล่ำระลักถามผมกับไอ้ตี๋

 

                ผมจับไหล่ไอ้เตยไว้สองข้างแล้วพูดขึ้น

 

                -ต่อไปเป็นหน้าที่ของเตยแล้วนะที่จะช่วยไอ้ตี๋ออกมาจากไอ้หื่นกามนั่น เราสามคนจะขึ้นไปเก็บของของเตยกับไอ้ตี๋แล้วไปอยู่ที่ห้องพี่กัน-

 

                *แต่ว่าพ่อ ...* ไอ้เตยยังงงอยู่

 

                -นั่นไงคือหน้าที่ของเรา อย่าให้พ่อเตยรู้ รู้ยังว่าต้องทำยังไง-

 

                ไอ้เตยพยักหน้ารับแบบงง ๆ ในที่สุด ผมกับไอ้เตยและไอ้ตี๋ขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง ไอ้ตี๋ไขกุญแจเข้าไป ไอ้พี่กลดรีบลุกขึ้นมาดึงมือไอ้เตย

 

                -เตยเข้าใจผิด-

 

                *พี่กลดทำอะไรย่อมรู้ตัวของพี่ดี แย่มากที่พี่โกหกพ่อแล้วมาทำร้ายพี่ตี๋แบบนี้ ที่บ้านพี่รู้ก็คงดีไม่น้อย* ไอ้เตยพูดด้วยท่าทางฉุนจัด ส่วนผมยืนพิงกรอบประตูสบายอารมณ์

 

                -อย่านะเตย อย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้นะ- ไอ้พี่กลดลงทุนขอร้อง

 

                -กูกับไอ้เตยมาเก็บของ ต่อไปกูจะไม่อยู่ที่นี่กับมึงแล้ว- ไอ้ตี๋โกรธจัด

 

                *ไอ้ตี๋มึงแกล้งกู* ไอ้พี่กลดวิ่งตรงรี่เข้ามาหาไอ้ตี๋เงื้อหมัดชกเข้าที่หน้ามันเต็ม ๆ ไอ้เตยร้อง ว้าย !! ขึ้น

 

                ผมกระโจนเข้าใส่ไอ้กลดพร้อมกับหมัดเทพเจ้าดาวอีสาน เข้าที่ปลายคางมันอย่างจัง มันล้มลงไปผมกระโดดคร่อมแล้วต่อยที่หน้า ที่ท้องมันแบบไม่นับ จนมันเริ่มอ่อนแรงลงกุมท้องอย่างเจ็บปวด

 

                รปภ กับคนที่อยู่ในหอออกมาดูกันแตกตื่น ผมเร่งไอ้ตี๋กับไอ้เตยให้เร็ว ๆ 

 

                -ไม่มีอะไรครับ เคลียร์กันได้แล้วครับ ขอโทษนะครับที่เสียงดัง- ผมหันไปบอก รปภ และชาวหอมุงทั้งหลายที่กำลังชะเง้อดูอยู่ ทุกคนสลายตัว

 

                ผมหันไปมองไอ้พี่กลดที่ตัวงอก่องอขิงอยู่ที่พื้น เลือดไหลออกมาจากปาก ผมเงยหน้าไปทางสองพี่น้องที่กอดกันด้วยความกลัวตัวสั่นอยู่

 

                ผมก้มเอามือไปจับแขนไอ้พี่กลด มันสลัดออกแต่ได้เบา ๆแค่นั้น

 

                -อย่ามายุ่งกับกู- มันตะโกน

 

                แล้วนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น น่าเวทนา คนทั้งเมาเบียร์ทั้งเมาหมัดนี่ครับ ผมเลยไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเลือดเช็ดอะไรให้ ตัวมันก็พร่ำรำพันเพ้อเหมือนไม่ได้สติ จนนอนหลับไป เราสามคนตัดสินใจนั่งเฝ้ามันก่อน เพราะท่าทางมันอาการไม่ค่อยดี ผมเล่นใส่ไม่ยั้งทั้งที่หน้าและที่ท้องนี่ครับ เรานั่งคุยกันถึงเรื่องเหตุการณ์ที่ผ่านมา แล้วก็เผลอหลับไปในที่สุด

 

                ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เจอไอ้พี่กลดนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังมองมายังพวกเราอยู่  ผมเอื้อมมือจะไปปลุก 2 คนนั้น แต่พี่กลดเอามือจุ๊ปากห้ามไว้ แล้วพยักเพยิดให้ผมเดินออกไปตามมันที่ระเบียง

 

          ผมไม่กล้าเดินออกไปหรอกครับ เดี๋ยวมันบ้าจับผมโยนลงไปจะทำไง หน้าตามันดูไม่จืดเลย เพราะหมัดของผม

 

                -เก่ง กูขอโทษ- พี่กลดพูด

 

                *ขอโทษแล้วได้อะไร* ผมพูดอย่างไม่แยแส

 

          -มึงห้ามไอ้เตยไม่ให้เอาเรื่องเมื่อคืนไปบอกใครได้มั้ย-

 

                *ทำไมต้องไม่บอกใครด้วยล่ะ* ผมไม่แยแสอีก

 

          -ถ้าไอ้เตยไม่บอกใคร กูจะให้ไอ้ตี๋กลับไปอยู่กับมึง-

 

                *ไอ้นี่วอนโดนอีกมั้ยมึง มึงยังคิดว่าจะมีสิทธ์อะไรในตัวไอ้ตี๋มันอีก จะได้มายกให้กู* ผมเริ่มขึ้นเสียง

 

                -ไอ้ตี๋มันร้องให้คิดถึงมึงทุกวันเลย กูขอโทษ พวกมึงรักกันมากจริง ๆ กูนับถือพวกมึงทั้งสองคน-

 

                -พี่กลด-

 

                *ดูแลมันให้ดี เรื่องพ่อมันไม่ต้องห่วง ไม่มีคนบอกก็ไม่รู้ คราวที่แล้วเป็นกูล่ะที่บอกเค้าเอง กูขอโทษมึงด้วย*

 

                -ไม่เป็นไรพี่- ผมยื่นมือไปให้มันจับ แหยง ๆ กลัวมันเหวี่ยงตกตึก มันยื่นมืออกมาจับเขย่าเบา ๆ ยิ้มกับปากที่เป็นมุมเบี้ยว ๆ เล็กน้อยจากหมัดดาวอีสาน ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วไปปลุกสองคนนั้นกลับไปที่ห้องผม

 

                ระหว่างทางเดินกลับไอ้เตยบ่นอุบ

 

                -พี่สองคนวางแผนอะไรไม่อะไรไม่บอกกันเลยนะ เตยอุตส่าห์จะรอดูหนังสด- อ้าวไอ้ตี๋ น้องมึงรอดูหนังสด เสือกเล่นไม่จบ

               

                ผู้ก่อการดีของผมทำงานได้เกินเป้าหมายจริง ๆ  การเดินทางครั้งใหม่ของผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว จะดีจะร้าย ผมไม่ทราบ รู้แต่ว่าวันนี้ ผมมีตี๋เล็กคนเดียวก็พอแล้ว
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: GaSoRiNa ที่ 05-10-2007 17:47:23



ดีใจจังได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว แผนสูงนะพี่เรา ดีใจด้วยจริง ๆ

( ว่าแต่เค้ามาเป็นพี่ฉ้านนนน ตั้งกะมะไหร่หว่า )

เอาเป็นว่าสู้ต่อไปนะพี่เก่ง แนวหลังยังคอย เอ๊ย ยังให้กำลังใจอยู่

งานนี้ต้องขอบคุณเตย ว่าแต่เตยก็หื่นใชย่อยนะ จะดูหนังสด

5 5 5 5 +

  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:
                         
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-10-2007 18:59:30
แหม แก้เผ็ดได้ถูกใจจิงๆ แบบนี้ ก็ได้ทั้งแก้แค้นได้ทั้งตี๋กลับมาเลยสิเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 05-10-2007 19:42:25
ลุ้นแทบแย่

แล้วจามีไรร้ายๆ อีกป่าวอ่า

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 06-10-2007 07:13:22
ดีๆ เจ๋งมาก ดัดหลังไอ้พี่กลดไปซ้า  :m14:

เย้ๆ ในที่สุดตี๋น้อยกะเก่งก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วววววว  :m11:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 06-10-2007 08:53:39
ขออย่ามีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นอีกเลย  :amen:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: peang ที่ 06-10-2007 10:25:46
 :laugh:  โอ๊ว  สะใจอย่างแรง สะใจสุดๆ ต่อยมันอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้อง กระทืบ กระทืบ กระทืบ ให้กระอักเลือด  :m25: ตายไปเลย   เฮ้อ...... o7  ในที่สุดก็ได้กลับมา จุ๊กกรู๊  :oo1:กันอีกซะทีนะ   :o8:   ลุ้นจนตัวโก่ง ตัวงอ   รอติดตามต่อไป  สู้ต่อไปนะ น้องเก่งกะน้องตี๋  :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 06-10-2007 10:37:24
 :m4:
สมน้ำหน้ามันนนน ไอ้พี่กลด โดนดัดหลังซะแล้ววววว หมดปัญหาไอ้หื่นนี่ไปหนึ่งงงง
แต่อย่าลืมปัญหาใหญ่ยังมีอยู่....สำคัญซะด้วยสิ.... :เฮ้อ:
ผลจะเป็นยังไงกันต่อไป รอติดตามนะครับบบบบบบ

เก่งกับตี๋น้อยรักกันมาก  ๆ นะครับบบบบบ เอาใจช่วยครับบบบบ :give2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-10-2007 10:48:19
ฝันร้ายกำลังจะผ่านพ้นไป

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a11:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 06-10-2007 10:48:52
เยี่ยมมาก ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก พี่เก่งกับน้องตี๋  o13

ว่าแต่เก่งนี่หัวแหลมแต่เด็กเลยเนอะ เรื่องเมียน้อยพ่ออ่ะ สะใจ  :a11:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 06-10-2007 12:46:55
น่าจะเอาให้หนักกว่านี้นะครับเนี่ย555+ :m11:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: gashkung ที่ 06-10-2007 14:11:14
พี่เก่งได้น้องตี๋กลับคืนมาแล้ว  o7 อย่าให้ใครเอาตี๋ไปอีกนะ ไม่งั้นโกรธ  :angry2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 06-10-2007 16:54:38
แผนการณ์ดีเยี่ยม..ในที่สุดก็ได้มาอยู่ด้วยสักทีนะค่ะ
นึกว่าจะต้องจบกันไปแบบนี้ซะแล้ว...

ขอบอกนักโพสต์+นักเขียนเรื่องนี้นะค่ะ...ว่ารักเรื่องนี้มากเลย  จะขอตามติดช่วง 2 ปีนี้อย่างใกล้ชิดค่ะ
ขอบคุณที่สละเวลาแบ่งปันความสุขให้กันค่ะ
 :m3:
ห้ามทิ้งกันกลางทางนะค่ะ :impress:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: hula-hoob ที่ 06-10-2007 18:41:06


เยี่ยมไปเลย  สะเด็ดเลยๆๆๆ
ลุ้นตั้งนาน   นั่งอ่านน้ำตาร่วงปอยๆ


อย่าแยกกันอีกนะ  ไม่ไหวอะ  สงสารๆ
เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-10-2007 23:02:17
55555555555
อย่างที่เตยบอกเลย กำลังมันเสียดายหยุดกลางคัน
 :m20: :m20: :m20:

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 06-10-2007 23:51:50
แผนสูงแต่เด็กเลยนะ ตอนแรกแย่งพอกลับมา

ตอนนี้แย่งแฟนกลับมา เยี่ยมครับ o13
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 07-10-2007 13:05:40
 :m22:แอบเข้ามาดู..อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อนักโพสต์ยังไม่มาต่อหรอค่ะ..
งั้น  :o11: :a12:  :(นอนเฝ้าบอร์ดเลยหล่ะกัน)
เออ!! อยากทราบค่ะ ว่าคุณkelvin มีเรื่องอื่นอีกไหมค่ะ..จะได้ตามไปอ่านต่อค่ะ(มีใครรู้บ้างไหมเอ่ย?)
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 07-10-2007 13:46:03
ดันครับดัน

 :a1: :a1: :a1: :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 07-10-2007 21:24:09
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 13 / หาดทราย-สายลม-สองเรา

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 13 / หาดทราย-สายลม-สองเรา

 

ตอนนี้ไม่เหมาะกับคนขี้อิจฉา โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน

 

                ในตอนเย็นของวันนั้น น้องเตยก็จะกลับไปค้างกับญาติเหมือนเดิมเพราะว่า ยังอยากเที่ยวกรุงเทพต่อ บรรดาเพื่อนๆ ของเขาก็เข้ามากรุงเทพพร้อม ๆ กันหลายคน อยู่ตามบ้านญาติเป็นส่วนใหญ่ เด็กต่างจังหวัดก็อย่างนี้ล่ะนะครับ ได้มีโอกาสปีละครั้งเท่านั้น เข้ามาเปิดหูเปิดตาใน กทม แต่เหตุผลลึก ๆ มันก็คงไม่อยากจะกลับมาดูหนังสดของผมกับไอ้ตี๋หรอกกระมัง

 

                บ่ายวันเดียวกัน ผมพาไอ้ตี๋ น้องเตย ไปกินซิสเลอร์ที่โรงแรมแมริออท ถนนเจริญนคร ผมรู้ดีว่าไอ้ตี๋มันคงจะกังวลใจอยู่ไม่น้อย ไอ้เตยเป็นฝ่ายเริ่มขึ้นก่อนในขณะที่ผมกำลังละเลียดเจลลี่สีแดงเข้าปากอย่างช้า ๆ

 

                *พี่เก่งว่า พี่กลดมันจะเชื่อใจได้ใหม*

 

                -พี่ว่าคงได้ล่ะ เพราะพี่เห็นแววตามันกลัวแกจริง ๆ นี่นา นี่ล่ะเหตุผลที่พี่เลือกแกมาเป็นคนในแผน เพราะแกใส ซื่อ (บื้อ) ไม่รู้เรื่องมากไง จะได้สมจริง-

 

                *แต่ไอ้พี่กลดกะพี่ตี๋เล็กก็เจ็บตัวกันไปไม่น้อยเลยนะ* ไอ้ตี๋เล็กเจ็บที่กรามเล็ก ๆ

 

                *แต่ก็คุ้มแล้วที่พี่สองคนไม่ต้องแยกจากกันอีก หนูดีใจด้วยนะ* ผมกับไอ้ตี๋หันหน้าเข้าหากัน ยิ้มอย่างมีความสุข ผมบอกกับน้องเตยว่าให้บอกพ่อกับแม่ว่าตี๋อยู่ทำกิจกรรมรับน้องใหม่ ผมจะพาไอ้ตี๋ไปเที่ยวที่อื่นก่อน ส่วนกิจกรรมรับน้องใหม่ จริง ๆ มีตอนประกาศผลเอ็นท์และไกล้เปิดเทอมโน่นเลย เดี๋ยวค่อยกลับมาช่วยเพื่อน ๆ

 

                ผมกลับถึงหอพัก นอนพังพาบอยู่บนเตียง ตามองดูตี๋เล็กจัดของเข้าที่เหมือนเดิม ผมดีใจมากยิ้มไม่หุบ เพราะชุดนอนที่เคยมีสองชุด แปรงสีฟันที่เคยมีสองอันเหมือนกัน ได้ถูกจัดเข้าที่เดิมของมันเรียบร้อยแล้ว

 

                ผมเดินไปข้างหลังตี๋เล็ก กอดมันจากด้านหลัง

 

                -กูไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ได้- ผมพูดขึ้นเบา ๆ

 

                *กูเหมือนกัน เป็นเพราะมึง มึงเก่งสมชื่อตลอด*

 

                -เก่งยังไง ก็เก่งน้อยกว่าเมียนั่นล่ะ-

 

                ผมนอนหนุนตักมันขณะที่มันพับผ้าเตรียมเก็บใส่ตู้ ผมเอ่ยขึ้นเบา ๆ

 

                -ไปเที่ยวหัวหินก่อนกลับบ้านนะ แล้วไปอยู่ที่บ้านกูกัน-

 

                *พ่อกับแม่มึง......*

 

                -ไม่มีอะไร เชื่อกูสิ ท่านเข้าใจเหตุผลทุกอย่างของพ่อมึง- ไอ้ตี๋ก้มลงจูบที่หน้าผากผมเบา ๆ ครั้งนึง ผมหลับตาลง อยากให้เวลาหยุดหมุนอยู่ตรงนี้เสียจริง ๆ  ที่ที่มีแต่ผมกับตี๋เล็ก ที่ที่ไม่มีปัญหาใด ๆ เข้ามาย่างกรายระหว่างเราสองคน

 

          ผมกับตี๋เล็กนั่งรถทัวร์ด้วยกัน จุดหมายของเราคือ หัวหิน เราเข้าพักที่รีสอร์ทของครอบครัวเพื่อนเรา ชื่อ แสงจันทร์ กลุ่มของเพื่อน ๆ มาที่นี่กันบ่อยจนเป็นรีสอร์ทประจำภาควิชาไปแล้ว ผมเลือกบ้านริมทะเล ชีวิตของผมเป็นเด็กบ้านนอกก็จริง แต่ผมมีความรู้สึกผูกพันธ์กับทะเลมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าผมมีความหลังอะไรกับทะเลหรือเปล่า ถ้ามี ผมคงเป็นได้แค่ “ผีทะเล” แบบที่ไอ้ตี๋เล็กมันว่าผมบ่อย ๆ ล่ะมั้ง

 

                เรามาถึงก่อนเที่ยง ถือว่าทำเวลาได้ดีมาก ผมเป็นคนแปลกอยู่อย่างคือ ผมชอบทะเล แต่ผม ไม่เล่นน้ำทะเล แต่ผมว่ายน้ำเป็นนะ  พอเก็บข้าวของได้ ไอ้ตี๋ดึงมือผมลงเล่นน้ำทันที ชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ทขาวสะอาดไร้ผู้คน มันทั้งผลักทั้งดึงผมลงน้ำกับมัน ผมเลยแกล้งจมน้ำ ไอ้ตี๋ร้องห่มร้องให้ใหญ่ บอกว่าห้ามแกล้งแบบนี้อีก เล่นเรื่องเป็นเรื่องตาย ไม่ดี ผมเลยต้องง้อมันยกใหญ่ ด้วยการขึ้นฝั่งไปเขียนทรายด้วยแท่งไม้เป็นตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ ว่า

 

                                                ---------- เก่ง จะรักตี๋ไปจนตาย---------

 

                ผมเรียกไอ้ตี๋ขึ้นมาอ่าน มันโกรธอีก ทำไมต้องพูดถึงเรื่องตายอีกแล้ว ผมอธิบายว่า คนเราทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย ถ้าผมรักใคร ผมจะรีบบอกเขา จะรีบทำทุกอย่าง เพราะผมไม่รู้ว่า วันรุ่งขึ้น ผมจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า มันดึงตัวผมเข้ามากอด

 

                -มึงตาย กูก็ไม่จะอยู่ไปเพื่อใคร-       มันร้องให้อีกแล้ว

 

                *กูสัญญา ถ้ากูตาย กูจะไม่ให้มึงลำบาก*

 

                -ทำไงล่ะ-

 

                *กูจะรีบมาเข้าฝันบอกหวยรางวัลที่ 1 มึงทันที กูสัญญา* ผมบอกพร้อมกับทำหน้าทะเล้น

ไอ้ตี๋ที่เศร้า ๆ อยู่หัวเราะทั้งน้ำตา ไล่เตะตูดผมบนหาดทราย ผมหัวเราะและวิดน้ำใส่มัน โลกนี้มีแค่เรา ว้าวสวีท

 

          ตกเย็นผมกับไอ้ตี๋ไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากในเมือง 150 บาทไว้เที่ยวในวันพรุ่งนี้ กินข้าวที่ตลาดโต้รุ่งเสร็จ ผมก็ซื้อเบียร์มากนั่งกินกันที่ชายหาดที่เดิม บรรยากาศเงียบแต่สวยงาม วันนี้พระจันทร์เต็มดวง ผมนอนหนุนตักตี๋เล็ก

 

                -เก่ง กูทำได้ กูจะหมุนเวลาให้เดินไปช้า ๆ หยุดไว้ที่ตรงนี้เลยก็ได้-

 

                *ทำไมล่ะ* ผมจ้องมองหน้ามันขณะที่นอนหนุนตักมันอยู่

 

                -กูกลัว กลัวว่าในอนาคต เราจะต้องเจอกับอะไรอีก ทั้งเรื่องของพ่อกู-

 

                *มึงจะกลัวทำไมในเรื่องของอนาคต มึงรู้ใหม มึงที่เป็นมึงให้กูนอนหนุนตักอยู่เนี่ย ไม่ใช่ทั้งอนาคต และไม่ใช่อดีต แต่เป็นผลของปัจจุบัน มึงเห็นใหม อดีตที่ผ่านมา ทำให้กูกับมึงต้องแยกจากกัน  แล้วเราจะไปคิดเสียดายมันทำไม ส่วนอนาคต มันเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบที่ตรงใหน เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งคิดมาก เราเพียงแต่เตรียมพร้อมรับวันพรุ่งนี้ที่สดใส ด้วยกำลังใจที่มาจากวันนี้ก็พอแล้ว*

 

                -เก่ง มึงน่าไปแต่งเรื่องให้ลิเกแถวบ้านนะ- มีแซว เดี๋ยว ๆๆๆ

 

                *ก็ดี นางเอกของกูนะจะต้องชื่อ น้องกรรณ*

 

                -กรรณอะไรวะ-

 

                *กรรณแสง ไง แม่งขี้แยชิบ*

 

                -มึงว่ากูเหรอ- มันยื่นจมูกเข้ามาชนจมูกผม ผมยกตัวขึ้นเอาปากประกบปากมัน ก่อนจะใช้ลิ้นดุนเข้าไปในปากมัน เราจูบกันอย่างดูดดื่มท่ามกลางแสงจันทร์  หาดทราย สายลม และสองเรา ......

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดี๋ยวต่อตอน จบ ให้พรุ่งนี้นะคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 07-10-2007 22:06:29
อยากให้จบแบบสมหวังจังเลยครับ

ชื่นชมในความรักของทั้งคู่ครับ

 :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 07-10-2007 22:14:57
อ่ะอารายกานจะจบเเล้วหรอเสียดายจังเเฮะ :m17: :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-10-2007 22:18:55
แง้..........จะจบจิงๆเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 07-10-2007 22:30:43
 :m4:
แหมมมม เล่นห้ามอิจฉาไว้แต่หัวเรื่องงงง ....
น่ารักจังเลยยยยย คงจบเรื่องกันแบบ happy เนาะ...จับมือก้าวเดินไปด้วยกันบนเส้นทางชีวิต
เอาใจช่วยเก่งกับตี๋น้อยมากมายยยย ... หวานเงี้ยยย ขอจุ๊บที.... :m1:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 08-10-2007 02:59:16

         จบแล้วหรือน้อง ice  เหมือนชีวิตจริงดีเรื่องนี้  ชอบ   ขอบคุณ ice    CargO CargO
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 08-10-2007 11:04:41
จะจบแล้วหรอ หวังว่าคง Happy Ending นะ  :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 08-10-2007 13:01:34
 :m3: อยากจะกรี๊ดให้สลบ..แล้วตื่นขึ้นมากรี๊ดใหม่  หวานเจี๊ยบเลย...อิจฉาจังเย้ยยยยย :m1:

จะพยายามตักตวงความสุขของตอนที่ 13 ให้มากที่สุด  เพื่อชดเชยเรื่องของพี่เก่งกับน้องตี๋ที่ไม่รู้วันข้างหน้าจะเป็นยังไง...จะพยายามเตรียมใจกั้นน้ำตานะค่ะ :m17:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-10-2007 14:30:46
ไม่ได้เข้ามาอ่านสามวัน จะจบแล้วเหรอนี่

ตอนจัดการกับไอ้พี่กลดนั้น หุหุ ช่างวางแผนกันจังนะ  ว่าแต่ตี๋เล็กต้องเลปืองตัว แอบหวงแทน เหอๆๆ :m17:

แต่มันก็ได้ผลเกินคุ้ม หุหุ


ฉากไปทพเลก็หวานกันซะ อิจฉาอ่ะ ถึงห้ามอิจฉาก็เหอะ ก็มันชวนอิจฉาอ่าาาา 

อยากมีแฟนนนนน  o9
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 08-10-2007 15:29:50

     ตามติดชิดขอบเวลาสำหรับเรื่องราวความรักเรื่องนี้ เย้เย้   มา  Y Y  นะน้อง ice

      ร อ ร อ ร อ ร อ ร อ ร อ รอ....   :m25: :m25:   

        มะอยากพลาดตอนจบ ตามมาซะนาน     :m23: :m23:

                                                           CargO CarGo :a9:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่นะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 08-10-2007 15:58:44
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 14 / สองเรา (จบภาค 2 แล้วครับ)

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 14 / สองเรา (จบภาค 2 แล้วครับ)

 

                วันรุ่งขึ้น เราขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวทั่วหัวหิน ขับไกลไปจนถึง สวนสน บรรยากาศเงียบสงัด อากาศร้อน จึงไม่ค่อยแวะพักที่ใหนนานสักเท่าใดนัก เราเข้ามาในเมืองหาซื้อของฝากทางบ้าน

 

                *ตี๋เล็ก จะกลับบ้านหรือเปล่าล่ะ*

 

          -ไปอยู่บ้านมึงสักพัก แล้วค่อยกลับ ที่บ้านกูไม่มีอะไรมากหรอก-

 

                *ถ้างั้นก็เตรียมซื้อของฝากกลับบ้านด้วยก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเที่ยว* ผมเตือนมัน

 

                ขากลับ รถแวะให้นักท่องเที่ยวซื้อของฝากอีกครั้งที่เพชรปิ่นแก้ว ผมกับไอ้ตี๋แวะลงเพื่อซื้อขนมหลาย ๆ อย่างกลับไปฝากที่บ้าน ไอ้ตี๋รู้ใจผมซื้อทอดมันปลาเพชรบุรีมาให้กิน ส่วนผมซื้อน้ำตาลสดให้มัน ส่วนตัวผมไม่ดื่มเพราะผมไม่ชอบกินของหวาน

 

                บนรถทัวร์ขากลับจากเพชรบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ ในรถมีคนน้อย อาจเป็นเพราะเป็นวันกลางสัปดาห์ก็เป็นได้

 

                *ตี๋เล็ก อ่ะให้* ผมยื่นของบางอย่างให้ตี๋เล็ก

 

                -อะไรอ่ะ- มันรับมาอย่างงง ๆ

               

                *ของขวัญวาเลนไทน์ จริง ๆ เตรียมไว้แล้วนะ แต่ของนั่นมันเก่าไปแล้ว แกะดูสิ*

 

                ตี๋เล็กแกห่อที่หุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ออกมา มันยิ้ม เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือเปลือกหอยเล็ก ๆ สองอัน ลอยอยู่ในดิสเพลย์รูปครึ่งวงกลม ในนั้นมีน้ำสีฟ้าอ่อน ด้านล่างมีคำว่า “โปรดระลึกถึงความหลังครั้งมาเยือนหัวหิน”

 

          -กูขอให้มึงจำเสียงคลื่น เสียงลม ไว้ให้ดี มันเป็นเหมือนเสียงลมหายใจ เหมือนเสียงเต้นของหัวใจกู เวลาที่มึงไม่มีกูแล้ว มึงลองเอาหูแนบกับของอันนี้ ลองฟังดู มึงจะได้ยินเสียงของคลื่น ของลมชายหาด ให้นึกถึงเวลาที่กูอยู่กับมึง แล้วกูก็จะอยู่กับมึงตลอดไป-

 

                *กูกับมึงจะไม่จากกันไปใหนอีกแล้วนะ* ตี๋เล็กตาแดง ๆ ผมกุมมือมัน บีบกระชับเล็กน้อยเป็นสัญญา

 

 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

                เราทั้งคู่กลับไปเก็บของที่หอพัก แล้วคืนวันเดียวกัน เราก็ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง จุดหมายปลายทางคือ บ้านเกิดของผม ผมโทรศัพท์บอกที่บ้านว่าไม่ต้องมารับ เพราะผมจะกลับเข้าไปเอง กำหนดการออกจากสานีรถไฟหัวลำโพงคือ 23.30 น. ผมจองที่นั่งในชั้น 2 ซึ่งจะเป็นที่นั่งคล้าย ๆ กับรถทัวร์ สามารถปรับเบาะนอนได้ เวลาที่ระบุในตั๋ว ผมจะถึงจุดหมายเวลา 06.45น.

 

                เราซื้อของกินขึ้นไปบนรถบ้าง ซื้อนิตยสาร หนังสือพิมพ์ที่มีคนขายมาขายบ้าง ไอ้ตี๋เล็กไม่เคยขึ้นรถไฟเลยในชีวิต มันดูตื่นเต้นเล็กน้อย ชั้นสองที่ผมนั่ง ไม่ค่อยมีคน ผู้คนบางตามาก อาจเป็นเพราะไม่ใช่สุดสัปดาห์ และก็เป็นตั๋วชั้น 2 ที่แพงกว่าชั้นธรรมดาด้วย

 

                พอรถไฟเริ่มออกตัว ตี๋เล็กตื่นเต้นมองดูสองข้างทางที่ไม่มีอะไรให้ดูมากนักเพราะเป็นกลางคืน ในที่สุดก็ยอมแพ้นอนแผ่ลงมา ผมนอนซบไหล่ตี๋เล็กไปสุดทาง ถึงสถานีชุมทางถนนจิระเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว สถานีนี้เป็นสถานีรถไฟของโคราช รถจะจอดนานมาก ราว ๆ ½ ชมได้ เราสองคนตื่นล้างหน้า คิดว่าคงไม่นอนต่อแล้ว เราคุยกันไปเรื่อยถึงเรื่องราวที่ผ่านมา 

 

                ผมสังเกตุเห็นคนมาขายของคนหนึ่งเดินผ่านไป ผมเรียกไว้แล้วซื้อ ไข่ปิ้ง ให้ตี๋เล็กกับผมคนละ 3 ใบ ผมอธิบายว่า เวลาทำจะต้องเจาะเปลือกไข่เป็นรูเล็ก ๆ  เอาไข่ออกมาให้หมด ผสมกับส่วนผสมแล้วใส่เข้าใหม่ก่อนจะเอาไปนึ่งสักพักแล้วนำมาปิ้ง  โอ้โห 3 ใบ 5 บาท ไอ้ตี๋เล็กอุทาน เขาน่าจะได้เงินมากกว่านี้ เพราะกรรมวิธีดูยุ่งยากมากเลย ผมดีใจที่คนที่ผมรัก มองคนและปฏิบัติต่อคนที่ด้อยกว่าเราด้วยท่าทีที่ดี เพราะการรู้จักใครสักคน เราสามารถรู้ถึงจิตใจคนคนนั้น ผ่านวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนอื่นที่ด้อยกว่า

 

                เราฟังเทปจากซาวด์อะเบ้าท์ไอว่า ของไอ้ตี๋มันคนละหูฟังไปสุดทาง ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ในที่สุดก็มาถึงสถานีที่เราจะลง ผมพาตี๋เล็กไปเข้าห้องน้ำ แล้วลงมาสูดอากาศบริสุทธิ์กัน 7.00น เวลาบ้านนอกนะครับ เป็นเวลาที่ผู้คนเริ่มตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตประจำวัน บรรยากาศไม่วุ่นวายเหมือนในเมืองใหญ่ ผมพาตี๋เล็กหิ้วเป้คนละใบ ในมือมีของฝากทางบ้านหิ้วคนละสองถุงเดินข้ามทางรถไฟไปที่คิวรถบุญเยี่ยมระหว่างทางมีผู้คนทักผมบ้างประปราย ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ร้านของอาพล สั่งไก่ย่าง ตับปิ้ง หมูปิ้ง ข้าวเหนียว มานั่งกิน

 

                ผมสาธยายให้ไอ้ตี๋ฟังว่า ตอนที่พวกนั้นมาก็มากินที่นี่เหมือนกัน แถมยังสั่งส้มตำมากินกันตั้งแต่เช้าด้วย ไอ้ตี๋บ่น น่าจะบอกตั้งนานแล้ว ว่าแล้วมันก็หันไปสั่งส้มตำเผ็ด ๆ ของโปรดมากินตอน 7.15น. นั่นเอง

 

                ระหว่างที่เรานั่งกินข้าว ลุงรัก ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านผมมาซื้อไก่ย่างพอดี ลูกชายเขาเรียนชั้นเรียนเดียวกับผมสมัยยังเด็ก ผมยกมือไหว้สวัสดี

               

                -ไง เก่ง พ่อเขาบอกว่าเรียนเก่งมากเลยนะ เรียนวิศวะซะด้วย-

 

                *ปกติธรรมดาครับลุงไม่ถึงกับเก่งมาก*

 

                -กลับเข้าบ้านพร้อมลุงมั้ย จะได้ไม่ต้องรอรถนาน-

 

                ผมกลับเข้าไปในหมู่บ้านซึ่งห่างจากตัวเมืองราว ๆ 10 กม กับลุงรัก แกมีรถกะบะครับ วิ่งสบายเลยระหว่างทางลูกรัง ผมอธิบายให้ตี๋เล็กฟังเมื่อรถผ่านตรงที่ผมกับพ่อรถมอเตอร์ไซค์ล้ม และตรงที่ผมเคยถีบจักรยาน BMX มาเรียนในเมืองกับพวกรุ่นพี่มัธยม ตอนนั้นผมอยู่ ป 4 เอง ทั้งหมู่บ้านเรียนโรงเรียนประจำหมู่บ้านกันหมด มีผมคนเดียวที่ต้องมาจักรยาน พวกพี่ ๆ มัธยมก็จะเอาใจเด็กน่ารัก ๆ เรียนเก่งอย่างผม คอยดูแลเป็นพิเศษ

 

          ผมชี้ให้ดูบ่อน้ำเล็ก ๆ ที่เป็นความหวังของพวกเราระหว่างการปั่นจักรยานมาเรียน หรือกลับบ้าน โดยเฉพาะตอนขากลับหิวน้ำ ต้องฝากท้องไว้กับบ่อน้ำเล็ก ๆ เหล่านี้ บางทีน้ำแห้งขอดบ่อ มีปลาตัวเล็ก ๆ ดิ้นขลุกขลักอยู่ในโคลน ตี๋เล็กถามว่า ไม่กลัวท้องเสียเหรอ ผมตอบว่า ไม่เคยท้องเสียสักที อาจจะเป็นเพราะว่า ธรรมชาติสร้างภูมิต้านทานของคนบ้านนอกมันสูงกระมัง จึงไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไร

 

                ถึงกลางทางเจอรถกะบะพ่อสวนมา คงกำลังจะออกไปทำงาน ผมยื่นหัวออกนอกรถ โบกมือให้ พ่อกับแม่โบกมือตอบกลับมาเหมือนกัน ขับไปสักพัก เจอรถพี่เต้ยอีก คราวนี้หยุดจอดคุยกันสักพัก พี่เต้ยบอกว่าเดี๋ยวตอนเย็นที่บ้านจะทำกับข้าวมื้อใหญ่ต้อนรับ พี่เต้ยหันมามองไอ้ตี๋ที่กำลังทำหน้าไม่ถูก แวบหนึ่งก่อนพูดขึ้นว่า

 

                *บ้านนอกยินดีต้อนรับพวกมึงทั้งสองตัวว่ะ* แล้วแกก็หัวเราะ ไอ้ตี๋กับผมหัวเราะออกมาได้ในที่สุด

 

                ผมพาไอ้ตี๋เก็บของแล้วไปไหว้ย่า อา ของผม แล้วเอามอเตอร์ไซค์ที่บ้านผมพาไปที่โรงเรียนเก่าก่อนผมจะย้ายไปเรียนในเมือง ผมชี้ให้ดูเกรียติบัตรเรียนดีที่ผมได้รับในฐานะที่ทำคะแนนสูงสุดของกลุ่มโรงเรียนในอำเภอ รางวัลการอ่านในใจยอดเยี่ยม การอ่านทำนองเสนาะยอดเยี่ยม รูปภาพที่ผมแสดงในงานต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น หรือว่าเป็นตัวแทนส่งไปร่วมแสดง ผมชี้ให้ดูว่า ของรุ่นผมนี่เก่ามาก ๆ เพราะกระดาษกรอบเป็นสีเหลืองแล้ว ไม่เหมือนรุ่นใหม่ ๆ ที่ยังดูใหม่ขาวสะอาด อีกไม่นานคงต้องเอาออก เพราะทางโรงเรียนคงจะเอาของเด็กรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นบ้าง

 

                ตี๋เล็กแซวว่าเด็กเรียนแบบนี้ไม่มีรางวัลด้านกีฬาเหรอ ผมดึงมือมันไปที่หน้าห้องพักครูใหญ่ ชี้ให้ดูในตู้กระจกที่อยู่ตรงกลาง อ่านให้ฟังหน่อยสิ ผมบอกมัน

 

***** รางวัลชนะเลิศการแข่งขันเทเบิลเทนนิสชาย*****

*****การแข่งขันกีฬานักเรียนระดับประถมศึกษา อำเภอ .................*****

*** เด็กชาย ภ. พ. .........***

 

                *ไม่น่าเชื่อเลยอ่ะ* ไอ้ตี๋เล็กส่ายหน้า

               

                -งั้นมาลองทดสอบหน่อยมั้ย- ผมพามันเดินไปที่อาคารเอนกประสงค์ มีเด็ก ๆ มาเล่นในช่วงปิดเทอมหลายคน ผมเดินเข้าไปเด็ก ๆ วิ่งมาหาผมเกรียว

 

                -พี่เก่งมาเมื่อไหร่ ...ฯลฯ – เสียงเซ็งแซ่ไปหมด ผมขอยืมไม้ปิงปองมา ขอแข่งกับไอ้ตี๋ โดยมีกองเชียร์ของเด็ก ๆ เชียร์กันใหญ่ ผมแกล้งแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่ท้ายที่สุดผมก็ชนะ เราสองคนเล่นกันอยู่ราว ๆ 1 ชั่วโมงก็เปลี่ยนที่หมายไปที่ฝายทดน้ำซึ่งห่างจากหมู่บ้านเราออกไปราว ๆ 3 กม

 

                ผมขับรถไปที่กลางสะพานข้ามฝาย เบื้องล่างของเราเป็นน้ำที่ไหลซ่า ๆๆ ผ่านฝายน้ำล้นไปตลอดเวลา ผมจอดรถที่กลางสะพานเล็ก ๆ นั้น ยืนอยู่ข้างไอ้ตี๋  ผมรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจี๊ด ๆ จนต้องเอสมือจับ ดูเหมือนว่าอากาศมันร้อน หรือว่าผมเริ่มจะไม่สบาย เที่ยวตะลอน ๆ ทั้งวัน สักพัก อาการปวดหัวหายไปแล้ว ผมสะบัดหัวแรง ๆ ไล่ความมึนงง

 

                *ตี๋ มึงรักกูใหม* ผมถาม

 

                -เมื่อก่อนกูต่างหากที่คอยถามมึง แต่มึงไม่ค่อยอยากจะตอบ จนกูไม่แน่ใจว่ามึงรักกูหรือเปล่า- ไอ้ตี๋ตอบ

 

                *ถ้าปากกูบอกว่ารักมึง แต่ใจกูไม่รัก จะมีประโยชน์อะไรใหม แล้วมึงคิดว่าไง*

 

                -กูเชื่อมึง ตั้งแต่มึงบอกว่า มีกูแล้ว มึงจะไม่มีใคร-

 

                *กูก็ขอแค่อย่างเดียว ขอให้มึงเชื่อกู* ผมบอกมัน

 

                -กูเชื่อมึง แล้วกูก็รักมึงมากด้วย-

 

                *กูก็รักมึง* ผมบอกกับมัน

 

                ผมจับมือมันไว้ มองดูสายน้ำข้างล่าง ที่ไหลจากฟากหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของฝายน้ำล้น วันพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง วันนี้สิคือของจริง วันที่เราสองคน ยืนอยู่ไกล้กันแบบนี้ ผมอยากเก็บวันเวลาที่ดีแบบนี้ ไว้ในความทรงจำของผมตลอดไป ........................

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

  เรื่องราวในภาค 2 ก็ขอจบลงอย่างหวาน ๆ ในตอนที่ 14 นะครับ ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้การสนับสนุนอ่านเรื่องราวของเก่งกับตี๋นะครับ ขอบคุณสำหรับอีเมล์ MSN ที่ alohasunkissอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.sg นะครับ ที่เป็นกำลังใจในการถ่ายทอดเรื่องราวของผม สำหรับภาค 3 คงจะนำมาลงให้ได้อ่านกันต่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรช่วยติดตามอ่านและติชมกันด้วยนะครับ ไปทำงานก่อนล่ะครับ บายครับ


    เก่ง 05/06/07

 

                                                                                            (แอบเขียนตอนพักกลางวัน)

                                                                                                                13.30น

                                                                                                      สิงคโปร์ (ไม่โตก)


หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: fr_man ที่ 08-10-2007 16:20:06
• • • • แค่วันนี้กูยังมีมึงอยู่ใน อ้อมกอดของกู....พรุ่งนี้ต่อให้เกิดอะไรขึ้น....กูก็จะไม่เสียใจอะไรอีกแล้ว • • • •


หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-10-2007 16:35:22

..........พรุ่งนี้จะดีหรือไม่......ขึ้นอยู่กับความรักในวันนี้.............. :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 08-10-2007 16:49:15
มีภาค 3 ต่อ เย้ๆๆๆๆ ดีจาย  o17 o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 08-10-2007 17:00:37
 o21
ทิ้งท้ายหวาน ๆ แต่ความรู้สึกไม่หวานเลยยยยอ่ะ ....หวาดมากกว่า...แทบไม่อยากอ่านภาคสามต่อเลย
เล่นเปิดโหมดเศร้าน้ำตาท่วมทิ้งไว้แบบนี้.... :undecided:
ต้องยืมคำใครซักคนในนี้มาพูด....หอมกลิ่นความตาย!!!.....
ได้แต่หวังละ....อย่าใจร้ายกะตี๋และเก่งนักเลยยยยย คนอ่านจะพลอยแย่ไปด้วยยยยนา  :a5:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 08-10-2007 22:33:39

        แค่ที่เราได้รู้จัก รักใครซักคน   :impress:    มันก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วละ   o7 o7

       รอ ภาค ต่อ นะ ครับ (เหมือนอ่าน harry ว่าปะ   :m8: มันหยุดมะได้)

       ขอบคุณน้อง ice รอภาค 3 จากน้องนะ

                                           CARgo caRGO :a11:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 08-10-2007 22:38:46
ผมกลัวตอนจบของเรื่องครับ   ไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นยังไง

กลัวว่าทั้งคู่จะต้องจากกันครับ

แต่ถ้าจบแบบมีความสุข ก็ดีใจครับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 09-10-2007 00:11:14
รู้สึกตะหงิด ตะหงิดยังไงก็ไม่รู้ เหมือนว่าจะไม่ Happy Ending เลย คู่นี้

หวังว่าที่ปวดหัวคงไม่เป็นอะไรมากนะ :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-10-2007 05:15:08
หวังว่าภาค3คงจะจบแบบมีความสุขนะ รออ่านต่อคับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 09-10-2007 07:08:00
แอบหวาน ซึ้ง ปิดท้าย

ภาค 3 จะเป็นไงอ่ะ อยากให้แฮปปี้ จบภาค2 แค่นี้จัง  :o11:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 09-10-2007 11:05:44
ไม่อยากอ่านภาค 3 เลยค่ะ..อยากให้ชีวิตของทั้งพี่เก่งกับน้องตี๋จบแค่ภาคนี้จังเลยยยยยยยเข้าใจนะค่ะว่าชีวิตจริงมันไม่สวยหรูเหมือนในนิยาย..แต่บางครั้งก็อยากอยู่แต่ในความฝัน..ไม่อยากรับรู้อะไรอีกเลย(เคยเป็นกันบ้างไหมเอ่ย)
กับเรื่องนี้..กำลังพยายามอยู่นะค่ะ..พยายามคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมา  ไม่ใช่ชีวิตของใครสักคนที่เรารู้จัก(ยอมรับค่ะ..ว่าอ่านแล้วชักเริ่มผูกพันธ์..ทั้ง2คนนี้ชักเริ่มจะเป็นคนที่เรามีความรู้สึกดีๆให้ค่ะ)
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-10-2007 14:10:00
จบได้หวานๆ ลึกซึ้งมากๆเลย  น่ารักจัง

อยากอ่านต่อภาคสามเร็วๆจังคับ  :impress:

ปล. หวังว่าผมคงไม่คิดมากไปกับอาการปวดหัวนั้นนะ ขอให้ไม่มีไรแล้วกัน  :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-10-2007 16:23:50
ขอให้ภาคสามนี้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆนานาๆไปได้นะคับ จะรอลุ้นนะคับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 09-10-2007 17:35:21
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับทั้งตี๋น้อย ทั้งเก่งเลย  :m4:

ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายแหล่ไปให้ได้นะค้าบบบบบ  :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: T@luntulA ที่ 09-10-2007 18:20:32
 :m2: :m2: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะคับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค2คับ...^_^ ..by Kelvin......จบแล้วนะคับสำหรับภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: ___KuNg_K-J-J___ ที่ 11-10-2007 01:18:21
ว้าว ววววววววว.........................   ภาคสองเนี่ยจบแบบมีความสุขจังเลยนะ  แอบอิจฉา   :m2:


มีต่อภาคสามเอาจบแบบนี้อีกนะพี่เก่งกะพี่ตี๋  ชอบ.... อยากให้ลงเอยกันด้วยดี   :m18:




แล้วจาเป็นกำลังใจให้น้า   สู้ สู้  :a9:


หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 11-10-2007 18:22:21
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 1 – ปรากฏการณ์เหนือการควบคุม
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทนำเรื่อง
เรื่องราวระหว่างผมกับไอ้ตี๋ ได้ดำเนินมาถึงภาค 3 แล้วนะครับ ถ้านับเป็นตอน ตอนนี้ก็ขึ้นตอนที่ 38 แล้ว ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผมมาตั้งแต่ต้น จะเป็นกำลังใจติดตามอ่านเรื่องของเราต่อในภาค 3 นะครับ

 

                ผมไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากนัก เกี่ยวกับเรื่องของผมที่จะมีแก่คุณผู้อ่าน ผมหวังแต่เพียงว่า เรื่องราวความรักของผมในอดีต มันคงจะช่วยคลายเหงา เป็นเพื่อนหรือแม้แต่เยียวยาในเวลาที่คุณเศร้าเสียใจ ให้กับผู้คนแบบเรา (PLU) บางคนบอกผมว่า บางส่วนคล้ายกับชีวิตจริงของเขา ความรักทำให้เขาเจ็บช้ำมามากพอแล้ว เขาจะไม่รักใครอีก .... 

 

                ในท้ายที่สุดเขาโทรศัพท์มาหาผม ร้องให้ด้วยความดีใจกับเรื่องราวความรักของผม ที่ทำให้เขาคิดได้และมีมุมมองเกี่ยวกับความรักในทางที่ดีขึ้น ผมดีใจ ที่เรื่องของผมเป็นส่วนหนึ่ง ที่สามารถเปลี่ยนให้มุมมองในความรักของผู้คนแบบเรา ยังคงสดใสงดงามอยู่ในจิตใจของเขาตลอดไป

 

                ความดีทั้งหลายในเรื่องราวของผมที่อาจจะพอมีอยู่บ้าง ผมขอยกประโยชน์เหล่านั้นให้กับบุคคลที่ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องทุกท่าน ผมยอมรับว่า ชีวิตผมคงไม่สมบูรณ์ หากขาดซึ่งท่านเหล่านั้นที่ผมกล่าวถึง และที่ขาดเสียไม่ได้ คือท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่ติดตามกันอย่างเหนียวแน่นตลอดมา ผมหวังว่า ทุกท่านคงจะติดตามอย่างเหนียวแน่น เป็นเพื่อนกันผ่านตัวอักษรไปจนกว่าเรื่องราวจะจบสิ้นลง ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ

 

                                                                                                                เก่ง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 1 – ปรากฏการณ์เหนือการควบคุม

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ล้วนแล้วแต่อยู่บนพื้นฐานของสิ่งสองสิ่งที่เป็นสัจธรรมของโลกนั่นคือ

1.    ปรากฏการณ์ที่ควบคุมได้

2.    ปรากฏการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ หรือ เหนือการคาดเดา

 

                การดำรงชีวิตอยู่ได้ คือการเรียนรู้ที่จะควบคุมเหตุการณ์ในข้อ 1 ให้เป็นไปอย่างสะดวกราบรื่น ด้วยวิธีการของแต่ละบุคคลซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามแต่ ในปัจจุบันยังมีการหยิบยกเอาประเด็นทางธรรมที่ว่า “ความแน่นอน – คือความไม่แน่นอน” มาพูดกันเพื่อเป็นการเตือนสติกันอยู่เสมอ หลักการที่เห็นได้ชัดในทางฟิสิกส์คือ หลักความไม่แน่นอนของไฮน์เซนเบิร์ก ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับความไม่แน่นอน ถึงในระดับเล็ก ๆ อย่างโมเลกุล

 

                 ส่วนปรากฏการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ในข้อ 2 มันเป็นผลต่อเนื่องมาจากทฤษฏีของนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ เอียน มัลคอล์ม ในวารสารปกแดงกล่าวถึงรายงานประจำปีของนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัย MIT ได้กล่าวถึงเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ว่า เป็นผลมาจาก ปรากฏการณ์ปีกผี้เสื้อ (Butterfly effect)

 

          “ขณะที่ผีเสื้อตัวหนึ่งขยับปีก ขึ้น-ลง ที่กรุงปักกิ่ง อาจทำให้สภาวะอากาศในมหานครนิวยอร์กเปลี่ยนไป” นั่นแสดงให้เห็นว่า เรื่องบางเรื่อง นอกจากธรรมชาติเป็นผู้กำหนดแล้ว ปัจจัยเล็ก ๆ ที่เข้ามาเสริมเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ แตกสลายไปได้ โดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว ..............

 

 

-----------------------------------------------------------------------

 

          ผมนอนหนุนตักแม่อยู่ที่นอกชาน อากาศเย็นสบาย พระจันทร์เต็มดวง พ่อผมนั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไป พี่เต้ยกับไอ้ตี๋และพี่ก้อย นั่งเล่นรัมมี่อยู่ที่ไม่ไกลออกไปนั่นเอง ผมมีความสุข มีความสุขมากจนผมคิดว่า มันมีความสุขมากเกินไป มันประหลาดเกินไป ...... หรือผมคิดมากไปเอง

 

          ผมกับไอ้ตี๋มาอยู่ที่นี่เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ไอ้ตี๋จะต้องกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่มัน ผมนึกถึงไอ้พี่กลดขึ้นมาแวบหนึ่ง มันจะยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมหรือเปล่าหนอ ไอ้เตยที่กลับบ้านไปแล้ว จะอดใจไม่เปิดเผยเรื่องของมันหรือเปล่า ผมกำลังคิดเพลิน ๆ แม่ผมเอามือลูบหัวผมเบา ๆ แล้วพูดขึ้น

 

                *เก่ง ลูก แม่มีอะไรจะพูดกับหนูน่ะ* น้ำเสียงแม่ท่าทางไม่ดีเลย ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง

 

                -ว่าไงล่ะครับแม่- พ่อผมหันมามองแวบนึงแล้วหันหน้าพ่นควันบุหรี่ออกเป็นสายยาวไปด้านหน้า

 

                *เต้ย ก้อย แล้วตี๋ด้วยนะลูก ไปเล่นในบ้านกันก่อนไป แม่กับพ่อมีเรื่องจะคุยกับเก่งหน่อยนะ* ทั้งสามคนท่าทาง งง ๆ แต่ก็เก็บของเข้าไปห้องนั่งเล่นในบ้าน พ่อขยับเข้ามาไกล้ ๆ ผมกับแม่

 

                ความเงียบครอบงำระหว่างเราสามคนอยู่เนิ่นนาน

 

                -ว่าไงล่ะครับแม่ ผมรอฟังอยู่- ผมพูดขึ้นเตือนให้แม่ผมทราบ

 

                -ลูกแม่ต้องเข้มแข็งนะ- แม่พูดพลางสะอึกสะอื้น ผมยิ่งแปลกใจเข้าไปอีก แต่ในใจรู้สึกมันโหวง ๆ เหวง ๆ อย่างไรก็ไม่รู้

 

                -แม่ไม่บอกหนูไม่ได้ แม่ทนไม่ได้- แม่ผมยิ่งร้องให้หนักขึ้น แม่หันไปกอดพ่อไว้ พ่อโอบแม่ไว้เบา ก่อนจะผละออกจากแม่ มากอดผมไว้

 

                *เก่ง ฟังดีดีนะลูก ลูกต้องไปหาหมอ*

 

                -ทำไมครับพ่อ ผมเป็นอะไร ทำไมผมต้องไปหาหมอ-

 

                *ตอนที่ลูกเข้าโรงพยาบาลก่อนสอบ หมอบังเอิญตรวจพบว่าลูกเป็นโรค เอแอลเอส  แต่ไม่ต้องกลัวนะลูกจะสามารถอยู่ได้อีกหลายปี ถ้าได้รับการรักษาที่เหมาะสม ในการดูแลของแพทย์*

 

                -ที่พ่อจะบอกผม คือผมกำลังจะตาย ใช่ใหมครับพ่อ- ผมถามขึ้นเบา ๆ เสียงของผมเหมือนล่องลอยมาจากที่ไกลแสนไกล

 

                *ไม่ใช่หรอกลูก ให้พี่ก้อยอธิบายนะพ่อก็ไม่เข้าใจศัพท์ทางแพทย์ เพราะฉะนั้น ลูกจะต้องไปพบหมอ ให้หมอรักษานะลูก* พ่อผมบอกเสียงเครือ ท่านคงสงสารผมที่ผมต้องมามีเคราะห์กรรมอะไรแบบนี้

                ทำไมช่วงเวลาแห่งความสุขของผมมันถึงแสนสั้นแบบนี้นะ หรือว่าสิ่งที่ผมกังวลใจมาตลอดระยะเวลาสองสามเดือนนี้มันจะเป็นจริง ผมเห็นตัวเองรางเลือนเมื่อผมส่องกระจก ผมรู้สึกว่ามีคนตามผมไปในทุกที่พร้อมกับมีเสียงกระซิบของคำว่า “ตาย ตาย ตาย ตาย” ก้องเบา ๆ อยู่ข้างหูผมตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาที่ผมหลับ .. ผมจะฝันเห็นคนชุดทำ ใส่หมวกแหลมคลุมหัวและใบหน้า ยืนมองผมจากหลังคาตึก แต่ผมไม่สามารถมองเห็นหน้าของคนชุดดำนั้นเลยสักครั้ง

 

                ผมได้ยินเสียงวิ่งออกมาจากในบ้าน ไอ้ตี๋วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากในบ้าน เข้ามากอดผม ร้องให้อย่างหนัก พี่เต้ยกับพี่ก้อยเดินตามออกมา พี่ก้อยเริ่มร้องให้ตามแม่ผม ผมยังมึนงงกับสิ่งที่ผมได้ทราบมาไม่ถึงสิบนาที สิบนาทีที่แล้ว ... ทำไมเวลาไม่หยุดหมุนลงตรงนั้น ตรงที่ผมมีความสุขที่สุด อา .... หรือว่ามันจะเป็นความสุขสุดท้าย ที่ผมจะได้รับในชีวิตนี้ ..........

 

                ผีเสื้อตัวนั้น ... ขยับปีกอยู่ที่ซีกโลกหนึ่ง ทำให้อีกซีกโลกหนึ่ง เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้น ผีเสื้อตัวนั้นมันอยู่ที่ใหนนะ ... ผมอยากจะฆ่ามันทิ้งเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้

 

                ผมนอนเอามือก่ายหน้าผากในความมืด ลืมตาโพลง คิดถึงสิ่งที่พ่อกับแม่บอก ผมอยากให้มันเป็นแค่ฝันไป แต่มันไม่ใช่ ผมนึกถึงคำพูดของพี่ก้อยเมื่อเย็น

 

          ALS (เอ แอล เอส) เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาท ที่ทำการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อร่างกายที่อยู่ภายใต้บังคับของจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อ แขนขา ลำตัว การกลืน การหายใจ เซลล์ประสาทที่เกิดการเสื่อมอยู่ที่ส่วนหน้าของไขสันหลัง และเส้นประสาทสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุของโรคเกิดมาจากอะไร ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 3-4 ปีหลังจากวินิจัยโรค อีก 20% สามารถอยู่ได้ถึง 5 ปี และอีก 10% สามารถอยู่ได้อีก 10 ปี ... อาจจะมีบางคนหายจากโรคไปเองได้แต่มีจำนวนน้อยมาก ไม่สามารถระบุจำนวนได้แน่ชัด แต่น่าจะน้อยกว่า 1% พบคนป่วยในประเทศไทยปีละ 150-200 ราย ในประเทศไทยการรักษาส่วนใหญ่ต้องทำการรักษาที่สถาบันประสาทวิทยา ........

 

                เสียงตี๋เล็กสะอึกสะอื้นตัวโยนเล็กน้อย ผมเอื้อมมือไปกอดมันเข้ามาในอกผม ผมเริ่มร้องให้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ผมได้ทราบว่าผมเป็นไรคบ้า ๆ อะไรนี่ ผมกระซิบข้างหูตี๋เล็กเบา ๆ

 

                *กูยังไม่อยากตาย.........*
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-10-2007 18:38:30

.............อุปสรรคครั้งใหญ่.......ถาโถมเข้ามาอีกแล้ว........ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-10-2007 18:48:09
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 11-10-2007 19:14:32
อะไรกันเนี่ย  o22
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-10-2007 19:17:17
 :o :o :o :o
อะไรกันนี่ เพิ่งจะมีความสุขกันแท้ๆ
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 11-10-2007 19:36:31
 :serius2:
ว่าแล้วเชียวววว และแล้วก็เดาไม่ผิดดดดด...ช่วงเวลามีความสุขมันสั้นเสมอ.... :เฮ้อ:
ว่าจะไม่อ่านต่อแล้วเชียวววววว แต่ก็อดไม่ได้....เมื่ออ่านมาแล้วก็ต้องอ่านต่อไปให้จบ....
เริ่มตอนแรกก็เจอ bad news ขนาดนี้.....
 :undecided:
โรคที่ว่านี่คล้ายหนังญี่ปุ่นเรื่อง one  liter of tear รึเปล่านะ....ถ้างั้นสุดโศกเลยยยยย :m8:
เอาใจช่วยกันต่อไป....เก่งอาจจะเป็น 1% ที่ปลอดภัยก็ได้.... :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 11-10-2007 20:05:51
 เอามาฝากเป็นความรู้ละก๊าน
    Amyotrophic lateral sclerosis (ALS)  เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ประสาท (motor neuron)  ในระบบประสาทสั่งการที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ   การเสื่อมนี้ก่อให้เกิดการอ่อนแรง การเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อ และเกิดการฝ่อลีบจนเสียหน้าที่ของกล้ามเนื้อในที่สุด มักมีอาการจากขาก่อนแล้วกระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ  ความรุนแรงขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนอาจสูญเสียกล้ามเนื้อเพียงบางมัด จนถึง มีการอ่อนแรงทั้งตัว  ความเสื่อมนี้มักจะไม่ค่อยรบกวนเซลล์ประสาทในสมอง ทำให้ผู้ป่วยยังมีความจำ ความฉลาด และบุคลิกที่เหมือนเดิม ตัวอย่างที่มีชื่อเสียง คือ Stephen Hawking  นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษชื้อก้องโลกที่ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่   สาเหตุ 95% ยังไม่ทราบ อีกส่วนน้อยสัมพันธ์กับยีนที่ผิดปกติ การได้รับสารพิษต่อระบบประสาท
     การวินิจฉัยยังไม่มีโดยตรง  จำเป็นต้องแยกสาเหตุอื่นที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงออกไปก่อน โดยจำเป็นต้องได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการหลายอย่าง
      การรักษาในปัจจุบันยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยหายจากโรคนี้ แต่มีรายงานว่าสามารถอยู่ได้นานถึง 20 ปี  ยาที่ใช้ในปัจจุบันคือ  Riluzole ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ประสาทได้ สิ่งที่สำคัญคือการฝึกกล้ามเนื้อ (physical therapy) ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้
       ผู้ป่วยมักตายใน 3-5 ปี จากระบบหายใจล้มเลว (กล้ามเนื้อกะบังลมไม่ทำงาน)   10% อยู่นานกว่า 10 ปี

===========================================================================

      เอาใจช่วยให้เจอกับสิ่งดี       ธรรมชาติโหดร้ายอีกแล้ว ทำไม  

     o22 o22 o22 :o12: :o12: o9 :serius2: :serius2: :m17:

     มาเอาใจช่วยเก่งกันดีกว่า สู้ ๆๆๆ.. :a2: :a2:

     *-*เด็กน้อย*-* ----> เกือบจำมะได้แล้วนะ  แอบเปลี่ยนชื่อ :m23:
                                                                                                      cargo cargo

    
  
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 11-10-2007 20:44:54
อยากร้องไห้

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 12-10-2007 03:19:13
โอ้ยยยย  o22  เศร้าอีกแล้วอ่ะ  :sad2: ... แงๆๆๆ  :o12:

.... ทุกอย่างอุตส่าห์กำลังเป็นไปได้ด้วยดี .... ไม่น่าเลยยย  :m17:

ขอให้คุณเก่งเป็น 1 % นั้นที่อยู่ได้นานและหายขาดนะครับ  :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: gashkung ที่ 12-10-2007 10:32:27
พอเพิ่งจะมีความสุขก็เศร้าอีกละ  :o12: ยังไงก็สู้ ๆ นะครับ  o7
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-10-2007 15:30:02
 :o12:  :o12:  ทำไมมมมมมม  โลกนี้ช่างโหดร้ายย

ยังไงก็เอาใจช่วยน๊าาา  :undecided:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-10-2007 15:37:31
ทำไมซวยซ้ำซซยซ้อนได้แบบนี้ละคับ

ของแบบนี้มันอยู่ที่กำลังใจนะคับ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 12-10-2007 19:03:49
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 2 – เคว้งคว้าง

เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 2 – เคว้งคว้าง

 

 

                ผมกับตี๋เล็กนอนหลับไปเนิ่นนาน จนนาฬิกาปลุกที่ตี๋เล็กตั้งไว้ดังขึ้น วันนี้ ตี๋เล็กต้องกลับบ้านที่ขอนแก่น เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่สงสัย ตี๋เล็กไม่ยอมตื่นยังนอนอยู่อย่างนั้น ผมเอื้อมมือไปเขย่าตัวมันเบา ๆ

 

                *ตี๋ ได้เวลาแล้วนะ เดี๋ยวกูไปส่งที่ท่ารถ* ผมปลุกมัน

 

                -กูไม่อยากไป กูไม่อยากทิ้งมึงไปใหน- ตี๋เล็กตั้งท่าจะร้องให้อีกแล้ว

 

                *ไม่เป็นไรหรอก มึงเห็นใหม ถ้าไม่มีใครบอกกูว่ากูป่วย กูก็ไม่เป็นอะไร กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเป็นห่วงนะ*

 

                *แต่ .....*

 

                -ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เอาอย่างนี้ อยู่บ้านสักสองสามวัน หลังสงกรานต์ค่อยกลับมาหากูที่นี่ก่อนกลับไป กทม พร้อมกัน ไปช่วยเรื่องงานรับน้องดีมั้ย-

 

                *มึงจะไปหาหมอเมื่อไหร่*

 

                -พ่อให้ทางต้นสังกัดเขาทำเรื่องให้ไปรักษาที่ กทม คงจะก่อนเปิดเทอมนี้ล่ะ-

 

                *กูเป็นห่วงมึง กูสัญญาต่อไปกูจะไม่ดื้อ ไม่งอน กูจะคอยดูแลมึง มึงจะต้องหาย*

 

                -กูจะต้องหายตี๋เล็ก- ผมให้คำมั่นสัญญากับมัน ทั้ง ๆ ที่ผมเอง ก็ไม่แน่ใจว่า  ผมจะอยู่ในจำนวนกี่ % ของคนป่วยที่เป็นโรคนี้ .....

 

                ตี๋เล็กไปร่ำลาพ่อแม่กับพี่ ๆ ของผมเงียบ ๆ ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรกันมากนัก ผมขับรถของพ่อมาตามถนนลูกรังสายเดิมเงียบ ๆ  ตี๋เล็กตาแดงก่ำ มันคงร้องให้เยอะมาก

 

                *ร้องทำไมนักหนา กูยังไม่ตาย* ผมเอ็ดมันเบา ๆ

 

                -คำก็ตาย สองคำก็ตาย มึงทำใจกูไม่ดีรู้ใหม- มันเริ่มขึ้นเสียงกับผม ยิ่งร้องให้หนักเข้าไปอีก

 

          *กูขอโทษ ตัวกูเองกูก็ไม่อยากตาย เท่า ๆ กับที่มึงไม่อยากให้กูตาย*

 

                น้ำตาผมร่วงเผาะลง ถนนข้างหน้าดูฝ้าฟาง ผมจอดรถที่ริมถนน ด้านข้างเป็นทุ่งนาโล่งทั้งสองแถบ ผมเอามือตี๋เล็กมาจับสองข้าง

 

          -อย่าทิ้งกูไปใหนได้ใหม มึงสัญญาสิ- ผมบอก

 

                *อือ กูสัญญา* ผมโผเข้ากอดมัน หอมแก้มมัน 1 ที

 

                -อย่าไปร้องให้ให้พ่อเห็นล่ะ เดี๋ยวไม่แมน เช็ดหน้าเช็ดตาซะ ร้องแม่งได้ทุกฉาก อย่างกับนางเอกลิเก-

 

                ตี๋เล็กยิ้มออกมาได้ในที่สุด

 

          ผมส่งตี๋เล็กขึ้นรถทัวร์ในเวลาประมาณ 10.30 น. ผมแวะไปที่ร้านขายของชำ บ้านเพื่อนเก่าผมสมัย “แฟนฉัน” ไอ้โต้ง ตอนนี้มันเป็นเถ้าแก่ร้านไปแล้ว ข้างบ้านมันเป็นร้านเสริมสวยของแฟนเก่าผมสมัยแฟนฉัน  ชื่อ สุ ผมเห็นเขาใส่บาตรอยู่ที่หน้าบ้าน ไอ้โต้งบอกว่าตัวมัน ไม่โสดแล้ว กำลังจีบน้องสุ อยู่

 

                ผมไปซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนและกระดาษวาดรูปที่ร้าน “ประณีต” ร้านขายอุปกรณ์ทางการศึกษาเก่าแก่ที่เป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่เด็กจนโต เจ้าของร้านทักผมเหมือนเดิมกับที่เคยเรียกผมเมื่อสมัยผมยังเด็ก “ไอ้หนู”

 

                -ป้าจำผมได้เหรอครับ- ผมถามด้วยความแปลกใจ

 

                *ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ เพื่อน ๆเอ็งก็มีหลายคนยังอยู่กันครบ ไปอยู่ที่ใหนล่ะ*

 

                -ผมเรียนมหาวิทยาลัย ปี 2 ปีนี้ครับ เรียนวิศวะอยู่ที่กทม ...................-

 

                *เรียนเก่ง ๆ นะลูก พ่อแม่คงดีใจมาก เอาอะไรล่ะ*

 

                -ผมเอากระดาษวาดเขียนแผ่นใหญ่ 12 แผ่น แล้วสีโปสเตอร์ที่ผมเลือกไว้นะครับ แล้วก็ของตรงนั้นอีกนิดหน่อย-

 

                ผมหอบของที่ต้องการเดินเอาเก็บในแค็บหลังรถ ก่อนเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูสับร้านประจำ แล้วกลับบ้าน ผมเอากระดานรองวาดมานั่งวาดรูปอยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงเงียบ ๆ คนเดียว .....

 

                ผมทำแบบนั้นอยู่เงียบ ๆ 3 วัน ไม่มีใครมารบกวนผมเลย คงกลัวผมจะคิดมาก และแล้วผมได้ยินเสียงรถตุ๊ก ๆ มาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับเสียงเจี๊ยวจ๊าวของฝูงลิงอีกกลุ่มใหญ่

 

                -เก่ง เก่ง เก่ง อยู่ใหนวะ- เสียงคุ้น ๆ ผมลุกขึ้นใส่รองเท้า วิ่งออกไปดู

 

                กลุ่มเพื่อน ๆ ผมจากขอนแก่นนั่นเอง มากันครบทีมเหมือนเดิม พวกเราวิ่งเข้ากอดกันอย่างตื่นเต้น

 

                *มายังไงไม่มีใครบอกเลยนะ* ผมถาม

 

                -ตี๋เล็กบอกพวกกูว่ามันมาที่นี่- อีอุ๋ยบอก ทุกคนสลดลงไปพักนึง คงรู้เรื่องของผมหมดแล้ว

 

                *พาพวกกูเที่ยวอีกนะเว้ย ไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ* ไอ้เม่นตบไหล่ผมเบา ๆ ผมยิ้มกว้างให้กับเพื่อน ๆ  ผมโชคดี ที่ไม่ต้องอยู่เหงาคนเดียวในวันเศร้า ๆ อย่างนี้อีกต่อไป ...... ผมอยากจะบอกพวกมันเหลือเกินว่า ผมไม่เป็นอะไรมาก ... แค่กำลังจะตายแค่นั้นเอง
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 3 กันเลยคับ...^_^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 12-10-2007 19:17:03
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 3– หวาดกลัว

เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 3– หวาดกลัว

 

            ผมเอาชุดย่างเนื้อย่างซึ่งมีช่องใส่น้ำซุปอยู่รอบ ๆ ในชั้นล่างและวางมันหมูแข็งไว้บนสุด ลงบนเตาถ่านที่มีไฟแดง ๆ เสียงถ่านไม้แตกดังเปรี๊ยะ ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ บรรยากาศยามค่ำคืนของท้องทุ่ง ไม่เงียบสงบอีกแล้วเมื่อมีเหล่าบรรดาทะโมนทั้งหลายมานั่งรวมกันอยู่ที่นี่

 

            ปีนี้ไม่ต้องลุ้นผลสอบเอ็นทรานซ์เหมือนปีที่แล้วเพราะทุกคน สอบติดโควต้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งหมด เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กโรงเรียนผมจะยกชั้นไปเรียนที่ มข. โดยเฉพาะปีที่ผมจากมา มีคนไปเรียนม. 6 แค่ 19 คนเอง

 

            ทุกคนดูเงียบสงบเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่อาหารวันนั้น ก็อร่อยไม่แพ้วันอื่น ๆ เช่นกัน เหล้าสุรา เหมือนจะเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกงาน แต่งานนี้กลับไม่มีใครเรียกหา ของเหล่านี้เลย อีอุ๋ยที่เคยเป็นตัวตั้งตัวตี ต้นเสียงในการร้องเพลงก็กลับเงียบเหมือนกับว่ามันไม่ได้มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้

 

            ผมเอาวิทยุของผมมาเปิดเพลงให้เพื่อน ๆ ฟังจะได้ไม่เหงากันจนเกินไป เสียงเพลงแผ่ว ๆ มาจากวิทยุ ยิ่งทำให้บรรยากาศเศร้าสร้อยยิ่งขึ้น ผมถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ 

 

            -กูรู้แล้วว่ะ ว่างานศพกูบรรยากาศจะเป็นยังไง-

 

            ทุกคนรีบกระเถิบเข้ามาไกล้ ผมร้องให้น้ำตาไหล อีอุ๋ยโผเข้ากอดผมป็นคนแรก

            *มึงยังไม่ตายนะเก่ง มึงยังไปหาหมอได้ หมอจะช่วยมึงนะ*

 

            -กูยังไม่ตาย แต่กูอาจจะไม่ได้เป็นวิศวกรอย่างที่กูใฝ่ฝัน มีวิศวะที่ใหนเขาแขนขาลีบไม่มีแรง หรือว่าต้องเจาะคอให้อาหารทางสายยางล่ะ-

 

            ผมยิ่งร้องให้โฮ เพื่อน ๆ ผมก็เหมือนกัน ไอ้อุ๋ยกับไอ้เก๋ร้องให้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ไอ้เม่นกอดผมไว้แล้วพูดว่า

 

            *มึงต้องมีกำลังใจ กำลังใจเท่านั้น สำคัญที่สุดสำหรับตอนนี้ รวมทั้งเรื่องไอ้ตี๋ด้วย กูไม่อยากให้มึงคิดมากจนเกินไป เดี๋ยวร่างกายมันจะยิ่งแย่*

 

            -กูขอบใจพวกมึงทุกคน กูรู้ว่าพวกมึงรักกู แต่กูไม่รู้ว่าจะข้ามผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างไร เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่กูมีทางเลือกว่าจะเป็น ไม่เป็นได้-

 

            *พวกกูจะอยู่เคียงข้างมึงตลอด ไม่ต้องกลัวนะ* อีอุ๋ยเสริม

 

            -อ้าว กิน ๆ อย่าให้บรรยากาศมันเศร้านักเลยพวกมึง ยิ่งเศร้า กูก็ยิ่งแย่- ผมช่วยเพื่อน ๆ ให้คลายเศร้ากันด้วยการชวนกันกิน การกินอาหารอร่อย ทำให้ร่างกายหลั่งเอ็นโดรฟิน สารแห่งความสุข บรรยากาศจะได้ดีขึ้น

 

            พวกเราคุยกันจนดึกดื่น ก่อนจะเข้านอนพร้อม ๆ กัน ผมลืมตาโพลงในห้องที่มีไอ้เม่นกับไอ้สนนอนอยู่ด้วย ไอ้สนนอนหลับไปแล้ว

 

            *เก่ง นอนไม่หลับเหรอ* ไอ้เม่นถาม

 

            -ฮื่อ กูกลัว- ผมตอบตามความจริง

 

            -กูกลัวความตาย-

 

            *มึงอย่าคิดมากได้ใหม ยังไม่ถึงมือหมอเลย มึงก็บอกว่าตัวเองต้องตาย ต้องตาย*

            -กูขอบใจ แต่กูรู้ตัวดี กูไม่มีทางเลือก- ผมตอบมันสั้น ๆ เริ่มร้องให้อีก ใครที่ไม่เคยรู้ว่าวันตายของตัวเองกำลังคืบคลานเข้ามา คงไม่รู้ว่า ความตาย มันช่างเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เด็ดขาด และ เที่ยงธรรมยิ่งนัก

 

            ไอ้เม่นมันกระเถิบเข้ามาโอบผมไว้ มันก็เริ่มร้องให้เหมือนกัน

 

            *อยากกินกระเพราะปลาใหมคืนแรก คืนต่อไปเอาข้าวต้มหมูสับนะ* มันพูดทั้ง ๆ ที่มันสะอื้นจนตัวโยน

 

        -ห้ามเงียบนะ งานกูต้องมีเพลงตลอดเวลา กระเพาะปลาเอาหนังหมูผสมครึ่งนึงนะ กระเพราะปลาแท้ ๆ ถ้าใช้ทั้งหมดแพง- ผมรับมุขมันในที่สุด  เราสองคนร้องให้แข่งกันจนหลับไป

 

        --- ตื่น  ๆๆๆๆๆๆ --- เร็ว ๆ ๆๆๆ---- เสียงอีอุ๋ยเจ้าเก่าอีกแล้ว

 

            -อะไรวะ คนจะนอน- ไอ้เม่นงัวเงียอยู่ในโปงผ้าห่ม

 

            *มึง 2 คนกับไอ้สนจะนอนก็นอนไป แต่ไอ้เก่งต้องลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เร็ว ๆ เลยอย่าช้า* อีอุ๋ยสั่ง

 

            ผมเข้าห้องน้ำไปทำธุระ สักพัก ออกมาโดนอีอุ๋ยกับอีเก๋บังคับให้ใส่เสื้อผ้าตามที่พวกมันค้นออกมากตู้ ผมก็สงสัยว่าทำไม อะไรกันวะเนี่ย ยุ่งกะกูจริง ๆ

 

            *มีคนมาหา* อีเก๋คงอดไม่ได้ อุ๋ยถลึงตาใส่  ผมทำหน้างง ๆ

 

            -ใครวะ- ผมถามออกไป

 

            *เอ่อ ....  พ่อไอ้ตี๋มา* อีอุ๋ยตอบ ผมตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทำไมหนอ ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกซะแล้ว พ่อมันต้องมาเรื่องที่เรากลับมาคบกันแน่ ๆ เลย ไอ้กลดนะไอ้กลด กูน่าจะเอามันปากแตกพูดไม่ได้เสียตั้งแต่วันนั้น  ในใจผมร้อนวูบวาบ อยากจะอาเจียนขึ้นมาทันทีทันใด
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 12-10-2007 19:54:02
พ่อตี๋จะมาดีหรือมาร้ายเนี่ย

 :m21: :m21: :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-10-2007 20:04:23
เวรกรรมแท้ๆ พ่อตี๋จะมาแนวไหนละคราวนี้
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 12-10-2007 21:40:15
 :m29:
คิดว่าน่าจะมาดี...ตี๋เล็กคงขอร้องมา....ถ้ายังจะมาร้ายอีกละก็.... :m16:
แค่นี้มันก็รันทดมากพอแล้ววววว ... ถ้าใครไม่รู้ว่าไอ้โรคนี้มันทรมานแค่ไหน...
แนะนำให้ไปหาหนังเรื่อง one liter of tear มาดู....จะสงสารเก่งมากกกกกกกกกเชียวละ....
 :sad2:
เอาใจช่วยเก่งกะตี๋เล็กต่อไป.... เพื่อนๆ  น่ารักมากกก ขอชม.... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้อ&#
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 12-10-2007 22:32:22
ถ้าคราวพ่อนี้มาร้าย ตี๋มันก็คงไม่ยอมเหมือนกันแหละ  :undecided:  ..... คนที่เรารักจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ไม่รู้ .... มากีดขวางโดยไม่มีเหตุผลด้วย ..... เพราะก็อย่างที่บอก .... .ถึงจะคบกะเก่ง ก็ยังสามารถเรียนจบเอาปริญญามาฝากให้พ่อชื่นใจได้ .... ถ้าเหตุผลเป็นแค่อย่างที่พ่อเค้าพูดออกมาเองกะปากนะ  :a10:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 12-10-2007 23:01:46

         ถึงตายผมก็อิ่มเอม เพราะผมตายโดยมีคนที่ผมรัก  และมีคนที่รักผมมากมาย  ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

                     พ่อตี๋ต้องมาดีแน่ ๆเชื่อเถอะ  มันควรเป็นอย่างนั้น (หรือเปล่าวะ)

                                 ผมว่าเรื่องนี้มีพลิกอีกหลายรอบแน่เชื่อเถอะ  โดยเฉพาะเก่งมะตาย เป็นแน่
                                 
                      รอนะ *-*เด็กน้อย*-*                             พี่ cargo cargo
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 13-10-2007 08:41:26
น่าจะมาดีใช่ไหม  :undecided:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 13-10-2007 12:12:13
ไม่อยากคิดมาก  :m29:


ผมว่ามาตามลูกเขยแน่เลย    (ขอให้เป็นอย่างนั้นนะ)     :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-10-2007 14:12:26
อ้าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

ค้างอย่างแรง

มาต่อไวไวนะครับ

 o21
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ___KuNg_K-J-J___ ที่ 13-10-2007 21:37:43
พ่อพี่ตี๋มาทำไมนะ.
 

หวังว่าคงมารับพี่เก่งเป็นลูกอีกคนนะ.............................สาธุ  !!!!!!!!!!!!!!!


(มาต่อไว ๆ นะ  รอลุ้นจนหัวใจจะวายแระเนี่ย)
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 14-10-2007 12:18:53
เฮ้อ ว่าแล้ว ว่ามันมีอะไรแม่งๆ  :a6:  :a6:

ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นานจริงๆ

แล้วพี่ตี๋ก็อะไรอีกล่ะเนี่ย น้องไอซ์มาต่อเร็วๆเลย
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 14-10-2007 14:27:01

    ระหว่างพ่อตามาตามลูกเขย กับ *-*เด็กน้อย*-*  มา post ตามใจนี่ อะไรน่ายินดีกว่ากันหน้า  :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-10-2007 14:28:03
mไมมันเศร้าอย่างนี้
 o7 o7 o7 o7

พ่อตี๋จะมาทำไมเหยอ
คงดีใจแล้วกระมัง
 :m15:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-10-2007 08:50:55
ดันครับ ดันๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 15-10-2007 09:55:10
 :m1: :m1: :m1:
อยากจะบอกว่าติดตามตั้งแต่แรก ๆ แล้ว
แต่ ... อดใจไม่ไหว ไปหาต้นฉบับอ่าน
อ่านจบได้หลายวันแล้ว แต่ไม่ได้เม้น

ไม่อยากสปอย
แต่ ... อยากบอกว่าซาบซึ้งจริง ๆ
อ่านแล้วดีใจที่ยังมีผู้ชายดี ๆ ที่มีชีวิตจริง ๆ ให้ได้รับรู้

 o13 o13 o13
 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-10-2007 10:31:16
คิดว่าคงมาดีนะ  :m17:

คนเรามันคงไม่ซวยซ้ำววยซ้อนหรอกนะ
มันต้องมีอะไรดีๆเข้ามาบ้างแหละ

พ่อคงมาคุยเรื่องงานแต่ง เก่งกับตี๋ ป่าว เอิ๊กๆๆ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 15-10-2007 12:03:09
ทำไมเรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งเศร้านะ   :m8:

เป็นกำลังใจให้เก่ง  สู้ๆๆๆ

อย่ายอมแพ้   :m15:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 15-10-2007 15:47:57
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 4 : ตัดใจ ถอนใจ ... ยอมยกธง

เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 4 : ตัดใจ ถอนใจ ... ยอมยกธง

 

           

            ในใจผมกังวลและสับสนกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นยิ่งนัก ผมกลัวเป็นที่สุดว่า ผมจะต้องเสียไอ้ตี๋เล็กไปอีกครั้ง  ทำไมนะเหตุการณ์ร้าย ๆ หลายอย่าง จึงได้เข้ามาในชีวิตของผม พร้อมกันแค่ในช่วงเวลาไม่กี่อาทิตย์นี่เอง ผมแต่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงไปด้านล่าง เพื่อเผชิญหน้ากับแขกผู้มาเยือน

 

            ผมเดินเข้าไปในห้องรับแขกและเป็นห้องนั่งเล่นของบ้านด้วย พ่อไอ้ตี๋นั่งอยู่บนโซฟา มีแม่ไอ้ตี๋ ไอ้เตย และไอ้พี่กลด ผมยกมือไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอง แล้วหันไปมองหน้าไอ้เตยกับไอ้กลด มันทั้งสองคนทำหน้าซีด ๆ ก่อนที่ผมจะพูดอะไร ไอ้พี่กลดกับไอ้เตยลุกขึ้น

 

            *เก่ง เดี๋ยวไปคุยกันข้างนอกก่อน* ไอ้กลดบอกผม

 

            ผมพาทั้งสองเดินออกนอกบ้านไปนั่งที่แคร่ใต้ต้นมะม่วง อากาศข้างนอกกำลังเริ่มร้อน บรรยากาศตอนสายแก่ ๆ ทำให้ผมคิดในใจว่า น่าจะนอนต่อได้อีกสักพัก เราทั้งสามนั่งลงที่แคร่ ผมไม่หันหน้าไปมองไอ้พี่กลดและน้องเตยเลย

 

            *พี่เก่ง เตยขอโทษ* ไอ้เตยพูดขึ้น

 

            -เกิดอะไรขึ้นล่ะเตย ทำไมพ่อกับแม่แกมาที่นี่- ผมถาม

 

            *ฟังกูให้ดีนะเก่ง ตี๋เล็กมันเล่าเรื่องการป่วยของมึงให้พวกกูฟังหมดแล้ว มันตัดสินใจไปบอกพ่อของมัน เพื่อที่จะขอคบกับมึงต่อไป เพื่อเป็นกำลังใจให้มึง คือว่าอย่างไรก็ให้เห็นแก่มนุษยธรรมก่อน* ไอ้พี่กลดบอก

 

            -แต่ไม่สำเร็จพี่เก่ง พ่อกลับขอร้องพี่ตี๋แทนด้วยเหตุผลที่พี่ตี๋ไม่สามารถปฏิเสธได้ คือให้พี่ตี๋เป็นหัวหน้าครอบครัว ตัดใจจากพี่ไปซะ เริ่มต้นกันใหม่ หนูกับพี่กลดพยายามช่วยพูดแล้ว แต่เจอเหตุผลของพ่อ หนูกับพี่กลดไม่รู้จะพูดยังไง รวมทั้งพี่ตี๋ด้วย เขาก็พูดไม่ออก เมื่อพ่อไม่ดุด่าเขาเหมือนเคย พ่อพูดดีมากจนน่าสงสาร พ่อบอกให้เข้าใจเหตุผลของเขาด้วย* ไอ้เตยเสริม

 

            *เก่ง มึงต้องเข้าใจความจำเป็นของไอ้ตี๋มัน มึงกับมัน มีภาระกิจที่แตกต่างกัน มึงเข้าใจที่กูพูดใหม กูเสียใจด้วยกับเรื่องการป่วยของมึง* ไอ้กลดพูด

 

            ความเงียบเข้าครอบงำเราสามคนอยู่เนิ่นนาน ในท้องของผมปั่นป่วนเหมือนมีรถไฟวิ่งไปมาหลายสาย

 

            -อือ ผมเข้าใจดีทุกอย่างพี่ ขอบคุณมาก เตยแกด้วยนะขอบใจมาก- ผมกล่าวออกมาในที่สุด

 

            *อย่าคิดมากล่ะ รักษาตัวเองดี ๆ ยังไงมึงก็ยังเจอกับไอ้ตี๋ที่สถาบัน ไม่ได้จากกันไปใหนเลย*

 

            -พี่เก่งดูแลตัวเองดีดีด้วยนะ-

 

            ในวินาทีนั้น ผมคิดว่าทำไมผมจึงโชคดีได้รับเกียรติจากเบื้องบน ให้รับตำแหน่งผู้โชคร้ายแห่งปี .......  ผมสับสน หวั่นไหว และไม่เข้าใจในโชคชะตาของผมเลย ผมเคยทำผิดบาปอะไรไว้หนักหนา จึงต้องมาทนรับสภาพเช่นนี้ ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่รู้จะเดินต่อไปทางใหนดี

 

             ผมกล่าวขอบคุณทั้งสองคนอีกครั้ง อย่างน้อย มิตรภาพที่ดีงามระหว่างไอ้เตย พี่กลดและผม ก็ยังคงดีต่อกันในเวลาที่เลวร้ายแบบนี้

 

        พ่อไอ้ตี๋เดินออกมาจากบ้านมายังแคร่ที่พวกผมนั่งอยู่

 

            *กลด เตย เดี๋ยวพ่อขอคุยกับเก่งตามลำพังก่อน* ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน

 

            *เก่ง ลุงขอโทษเรื่องที่ลุงทำเก่งเจ็บตัวคราวนั้น*

 

            -ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจเหตุผลทุกอย่าง- ผมตอบเนือย ๆ

 

            *เก่งเข้าใจก็ดีแล้ว กับตี๋เล็ก เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอนะ ชีวิตของแต่ละคน มีทางเดินที่ไม่เหมือนกัน เก่งเข้าใจนะ*

 

            -ผมเข้าใจดีทุกอย่างครับ ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวไกล้จะเที่ยงแล้ว ทานข้าวบ้านผมสักมื้อก่อนกลับก็แล้วกันนะครับ จะได้พักผ่อนกันก่อนกลับด้วย- ผมบอกกับพ่อไอ้ตี๋

 

            ผมเกณฑ์เพื่อน ๆ เข้ามาในครัวเพื่อช่วยกันทำกับข้าวรับแขกเป็นการด่วน เมนูถูกระบุออกมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่ผมสำรวจวัตถุดิบแล้ว อาหารวันนี้ประกอบด้วยข้าวเหนียว ลาบหมู ปลาสมุนไพร ส้มตำมะละกอ ขนมจีนแกงเขียวหวานและทอดมันปลา ส่วนของหวานเป็นข้าวเหนียวมะม่วง ผมสั่งให้อีเก๋เอาใบเตยหลังบ้านมาตัดแล้วทำกระทงสี่เหลี่ยม ส่วนมะม่วงในครัวมีอยู่แล้ว ผมทำกับข้าวโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เพื่อน ๆ ก็ดูเหมือนจะรู้ใจ เงียบปิดปากสนิท ไม่มีใครพูดกันเลยระหว่างนั้น

 

            ไอ้เม่นบอกผมปรุงลาบก่อนที่มันยกออกไปพร้อมกับผักสด ผมตักปลาสมุนไพรที่คลุกกับน้ำจิ้ม มะพร้าวคั่วและถั่วลิสงใส่ในจานเปลใบใหญ่ใช้ใบมะกรูดทอดและพริกทอดโรยหน้า เส้นขนมจีนให้อีเก๋ไปเอาที่บ้านอาผมมา แล้วเอามาม้วนใหม่จากจับใหญ่ ๆ เป็นจับเล็ก ๆ กะจิริด ใส่ในกระจาดไม้ไผ่ บ้านนี้เขาทำเส้นขนมจีนขาย ผมบอกอีอุ๋ยช่วยชิมแกงเขียวหวานไก่ที่ผมปรุงเสร็จแล้ว ก่อนยกออกไปผมกำชับให้มันโรยใบโหระพา มะเขือพวงและพริกชี้ฟ้าก่อน

           

            แล้วผมต่อด้วยส้มตำมะละกอโดยมีไอ้สนเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ วันนี้ที่บ้านมีมะกอกป่าจากต้นหลังบ้าน มะเขือขื่นลูกกลาง ๆ กำลังดี ปูนาดองที่นึ่งสุกแล้ว ปลาร้าก็ต้มสุกเอาแต่น้ำ ที่บ้านผมไม่กินของดิบ           อยู่บ้านนอกก็ดีแบบนี้ อะไร ๆ แทบไม่ต้องซื้อ

 

            จากนั้นผมนั่งลงกับตั่งตัวเล็ก ๆ บนพื้น ใช้มือที่จุ่มน้ำเล็กน้อยปั้นทอดมันปลาเป็นก้อนเล็ก หย่อนลงในกะทะอย่างใจลอย กับข้าวจะอร่อยหรือเปล่าวะเนี่ย พ่อครัวไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำกับข้าวเลย ทุกคนมัวแต่สาละวนกับการยกกับข้าวออกไปในครัว ผมก็เร่งทอดมันปลาของผมงานชิ้นสุดท้ายเหมือนกัน

 

            ผมใจลอยทอดมันปลาไปได้สักพัก เหลือบไปมองกระจกที่ตู้กับข้าวสะท้อนภาพกลับมา พ่อกับแม่ไอ้ตี๋นั่นเอง ผมหันไปยิ้มให้ สงสัยจะยืนมองเราใจลอยทำกับข้าวอยู่นานเหมือนกัน พ่อกับแม่ไอ้ตี๋ยิ้มบาง ๆ ตอบกลับมา

 

            -ให้แม่ช่วยใหมลูก-

 

            *ไม่ต้องหรอกครับแม่ กำลังจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวถ้าไม่พอค่อยให้พวกนี้มันมาทอดเพิ่มใหม่ ยังมีเยอะอยู่ครับ*

 

            -เก่งดูแลตัวเองดีดีนะลูก- แม่ไอ้ตี๋บอกผม พ่อไอ้ตี๋ยืนยิ้มเผล่อยู่ข้าง ๆ

 

        *ขอบคุณมากครับ พ่อกับแม่ก็ดูแลตัวเองให้ดีนะครับ* ผมบอก

 

            *เก่ง ๆๆ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า เห็นไอ้อุ๋ยโทรหาพี่* เสียงพี่เต้ยพี่ชายผมกระหืดกระหอบวิ่งเข้ามา

 

            -มี กินข้าวสิพี่ ของกินเสร็จพอดี มีงานปาร์ตี้นิดหน่อย- ผมพูดยิ้ม ๆ พี่เต้ยทำหน้างง ๆ

 

            พ่อกับแม่ไอ้ตี๋ชมอาหารมื้อนี้อยู่ไม่ขาดปาก พ่อไอ้ตี๋บอกว่า คนทำกับข้าว เข้าใจทำของกินมาเอาใจ เพราะเขาเป็นคนท่ายาง จ. เพชรบุรี ขนมจีนเมืองเพชรจะกินกับน้ำจิ้มหวานและทอดมันปลา ไม่ได้หวังพึ่งแกงเขียวหวานหรือน้ำยา ข้าวเหนียวมะม่วงก็ตั้งใจทำ ทำกระทงใบเตยใส่เสียดิบดี สวยจนไม่กล้ากิน  ผมกับอีอุ๋ย ไอ้เม่น ไอ้สน อีเก๋ มองหน้ากันโดยอัตโนมัติ ตบหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า แบบนี้ ...........

 

            อาหารกลางวันวันนั้นผ่านไป พวกเราลาพ่อกับแม่ไอ้ตี๋ ไอ้เตยและไอ้พี่กลดเสร็จ ทุกคนก็มาช่วยกันล้างทำความสะอาดจานชามที่ในครัว พี่เต้ยยืนพิงกรอบประตูครัวฟังผมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

 

            *อย่าคิดมากเลยว่ะเก่ง  ชีวิตคนไม่มีทางเลือกอะไรมากมายหลายทางนักหรอก* พี่เต้ยบอก

 

            -ผมจะพยายามพี่ ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ใหนนะ-

 

            *พวกกูจะเป็นกำลังใจให้เอง* อีอุ๋ยกล่าวขึ้นในที่สุด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เอาไปน้อยๆจะได้อยู่กันนานๆ...อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: GaSoRiNa ที่ 15-10-2007 16:15:26


 เป็นเพื่อนกันก็ดีเน๊อะ แต่ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเราละไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนนิ จะตัดใจยังไงไหวหละ  แต่จำได้ตอนก่อนหน้านี่ที่พี่เก่งบอกว่า  เเรอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความเป็นจริง ยังไงซะอนาตคที่มันยังมาไม่ถึง หรือ อดีตที่มันผ่านไปก็ขอให้มันผ่านไปจงเก็บเอาแต่ความทรงจำที่ดี ๆ ไว้ ให้เรากลับเอามาคิดในวันหลังแล้วเราจะอมยิ้มกับมันว่าครั้งหนึ่งเราได้ทำสิ่งที่ดี ๆ เหมือนกัน ส่วนความทรงจำที่เล้วร้ายก็ขอให้มันเลยผ่านไปอย่าไปสนใจเลย แก็อย่างว่าละนะ สิ่งที่เรามีความสุขที่สุดมีแค่แป๊บเดียวไม่นานเราก็ลืมมันไปทั้ง ๆ ที่มันทำให้เราได้ยิ้ม ได้หัวเราะ แต่มันก็ชั่วเวลานึงเท่านั้น แต่ความทุกข์สิ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ทางกาย หรือทางใจ มันเป็นเหมือนตราบาปที่อยู่ติดกับเราไปตลอด อยากจะลืมก็ลืมไม่ได้  ยังไงก็กำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญเสมอ ที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจของตัวเราเองที่จะทำให้เรามีพลังที่จะอยากดำเนินชีวิตต่อไป  ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ขอแค่ให้ตัวเราเองที่เข้มแข็งซักเท่าไหร่ อุปสรรคมากมายยังไง อย่างน้อย ๆ เราจะได้คิดว่าความทุกข์ที่เราเคยผ่านมามันก็แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ชีวิตเรายังพอมีภูมิคุ้มกันความทุกข์ ความเหงาอยู่บ้าง  สู้ต่อไป  :a1:

 ป๋อหลอ พิมไป ๆ ชักงง ๆ ว่ามันหมายความว่าไง เอาเป็นว่าขอแค่นี้ก่อนละกันเดี๋ยวจะเตลิดไปกันใหญ่ ส่วนใครที่ตีความหมายได้ ก็ขอให้รับรู้ว่าความรู้สึกที่ได้ถ่ายทอดออกไปเป็นตัวหนังสือข้างบนนั้นออกมาจากใจจริง หรือ ก้นบึ้งของจิตใจนั่นเอง ขอบคุณมากมายคับ

   อุปสรรค หรือ ความทุกข์นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ควบคู่กับการดำเนินชีวิตของคนเรา แล้วสักวันมันจะสอนให้เรานั้นมีความเข้มแข็ง ที่จะอยู่ต่อ คุณเชื่อมั๊ยว่าฟ้าหลังฝนจะดูสดใสเสมอ เชื่อ ผมสิ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-10-2007 16:27:07
 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
 :m15: :m15: :m15: :m15:
 :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ple ที่ 15-10-2007 16:31:24
ทำไมเรื่องร้ายๆต้องเกิดขึ้นพร้อมๆกันด้วย ทำใจไม่ได้อ่า  :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 15-10-2007 19:09:26

     มะรู้ว่าผม ไม่เข้าใจโลกนี่หรือเปล่า   แต่ผมไม่อยากที่จะอ่านเรื่องนี่อีกต่อไป แล้ว   

     มะรู้ผมอินกับเรื่องมากเกินไปอะป่าว   หัวใจผมมันเริ่มรับมะได้กับความกดดันที่เข้ามา

     มะรู้ว่าผม อ่อนแอเกินไป อะป่าว    น้ำตามันจะไหลออกมาทุกครั้ง

     มะรู้ว่าผมเป็นอะไรปาย  อ่านแล้วมันเหมือนเราอยู่ตัวคนเดียว เหงาจังเว้ย

     คุณว่าอะไร จะทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-10-2007 22:55:21

            *อย่าคิดมากเลยว่ะเก่ง  ชีวิตคนไม่มีทางเลือกอะไรมากมายหลายทางนักหรอก*

 

..............และมักเป็นทางเลือกที่เราไม่อยากเดิน............ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 16-10-2007 05:44:26
ทำไมเรื่องร้ายๆ ต้องมาพร้อมกันแบบนี้ด้วย   :sad2: :m8: :m30:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-10-2007 05:52:37
ถึงพ่อแม่ของตี่จะเข้าใจแต่หัวใจเก่งล่ะ จะทำไง
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 16-10-2007 09:19:53
 :m15:
เวรของกรรม....ช่างไม่ได้คิดถึงคนป่วยเลยซักนิดดดดดด....ร่างกายก็แย่ กำลังใจก็หมด....เก่งเอ๊ยยยย
อย่าเพิ่งคิดไรมากดีกว่า...จากที่อ่านดูพ่อแม่ตี๋ทำท่าแปลก ๆ น่าจะมีข่าวดีน่ะ....ปลอบใจตัวเอง....
เข้มแข็งไว้เก่ง....คงไม่แย่อย่างที่คิด....เพราะอย่างน้อยก็ไม่ถึงขนาดพูดคุยกันไม่ได้เหมือนก่อน...
เอาใจช่วยเก่งกับตี๋เล็กกันต่อไป..... :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-10-2007 09:54:57
ชีวิตนี้ไม่มีแรงไป
 :sad2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 16-10-2007 13:45:43
 :sad2: ทำไมอะไรมันประเดประดังเข้ามาจัง

ถ้าเป็นตัวผม คงไม่เข้มแข็งพอที่จะทนได้แน่ๆ  :a6:


 :o12:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 16-10-2007 15:22:06
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 5 : บ้านนอก-นอกบ้าน

เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 5 : บ้านนอก-นอกบ้าน

 

 

            ตกเย็น พ่อกับแม่ของผมกลับมาจากทำงาน พวกผมถอดเสื้อเล่นเตะบอลโกลเล็กอยู่ที่หน้าบ้าน อีอุ๋ยกับไอ้เม่นอยู่ทางเดียวกัน ผมกับไอ้สน และอีเก๋อยู่อีกทีม ผมเลี่ยงมาอธิบายเรื่องราวเมื่อกลางวันให้พ่อฟังสักพัก ก็ลงเล่นเตะบอลต่อ เราตกลงกันว่า คืนนี้จะออกจับจิ้งหรีดที่ ป่าต้นงา ไกล้ ๆ บ้านกัน โดยมีผมเป็นผู้นำทีมเหมือนเคย

 

            ผมอธิบายว่า จิ้งหรีดมันจะมากินน้ำค้างที่อยู่บริเวณต้นงา ตอนนี้ชาวบ้านจะปลูกงาไว้เยอะมากตามทุ่งข้าวหลังจากฤดูการเก็บเกี่ยวผ่านไป จิ้งหรีดจะร้องเรียกกันเองเพื่อมาผสมพันธุ์ เราจะต้องเงียบเสียงที่สุดก่อนที่จะจับเอาจิ้งหรีดใส่ ข้อง ซึ่งเป็นภาชนะรูปทรงคล้ายกระติบข้าว สานด้วยไม้ไผ่เพื่อป้องกันจิ้งหรีดกระโดดหนี ผมเอาหญ้าสด ๆ ราวๆ หนึ่งกำมือรองที่ก้นข้องให้ไอ้สนกับอีเก๋สะพายคนละอัน ผมถือไม้ขนาดเหมาะมือไว้หนึ่งอันเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่น เจอสัตว์ร้ายพวกงู ไอ้เม่นกับอีอุ๋ยถือไฟฉายที่ทำจากแบตเตอรี่ขนาดจิ๋วคนละอัน เป็นอันว่าเราพร้อมที่จะออกผจญภัยในตอนกลางคืนกันแล้ว

           

            ผมพาเพื่อน ๆ เดินนำหน้าไปยังทุ่งนาห่างออกไปจากหมู่บ้าน บรรยากาศเงียบสงบวังเวง มีแต่เสียงที่พวกเราคุยกัน ดังไปจนสุดทาง พอไปถึงป่าต้นงา ผมพาทุกคนไปจับจิ้งหรีด พวกเด็กในเมืองตื่นเต้นกันยกใหญ่ ที่ได้เห็นจิ้งหรีดจำนวนมากไต่ตามกิ่งก้านของต้นงา เราทุกคนช่วยกันจับจนได้ปริมาณเกือบครึ่งข้องทั้งสอง จึงชวนกันเดินกลับ

 

            ระหว่างทางเดินกลับ ผมได้ยินเสียง –อี๊ด ๆๆๆ – อยู่ข้างหน้า ถนนที่เราเดินกลับเรียกว่า “ทางเกวียน” เป็นเส้นทางเล็ก ๆ ที่เมื่อก่อนใช้เดินทางโดยเกวียนเทียมวัวหรือควาย แต่สมัยนี้กลับกลายเป็นถนนให้รถไถหรือควายเหล็กวิ่งไปทำนา ผมบอกทุกคนให้หยุดอยู่กับที่ทันที ห้ามเคลื่อนไหว

 

            ผมส่องไฟฉายไปที่ข้างหน้า ที่ผมเห็นคืองูจงอางขนาดความยาวประมาณ 1.5 เมตรกำลังฉกหนูนาตัวเขื่องอยู่ หนูนาตัวนั้นนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น งูเห็นแสงไฟจึงหันหน้ามาทางเราทันที มันแลบลิ้นอย่างน่ากลัว อีอุ๋ยร้องกรี๊ดดัง ๆ หนึ่งครั้ง –กรี๊ด !-

 

            งูคงตกใจ แผ่แม่เบี้ย คอมันขยายออกเป็นพังพาน มีดอกอยู่ที่หัวกะโหลกของมัน มันยืนขึ้นด้วยหางของมัน มันสูงกว่าที่ผมคิด ถ้ามันคิดจะฉก  คงฉกที่หัวของคนสูงราว ๆ  150 เซ็นติเมตรได้สบาย ๆ แน่นอนพิษงูจงอางตัวสีเทาแบบนี้ คงทำให้คนที่ถูกฉกที่หัว ตายเหมือนหนูตัวนั้นภายใน 1 นาทีเป็นแน่

 

            ลูกบ้านนาเกิดมาจากท้องทุ่ง มีหรือจะกลัวงู อาผมเคยสอนว่า อย่าไปทำร้ายงู เพราะงูไม่ทำร้ายใครหากเราไม่ทำเขาก่อน ทุกคนก็รักชีวิตของตน พร้อมกับสอนคาถาหัวใจพญาครุฑให้ผม อาบอกว่า งูนั้นสืบเชื้อสายมาจาก นาคา หรือ นาค ไม่ว่างูที่ใหนก็ต้องกลัวพญาครุฑ ผมหลับตาท่องคานั้นทันที แล้วลืมตาช้า ๆ ปากก็พูดไปด้วยว่า

 

            -เรากับท่านไม่เคยมีสิ่งใดต่อกันในชาตินี้ เรากับท่านจงเลิกแล้วต่อกันเสียเถิด ไปทางใครทางมัน-

 

            งูจงอางตัวใหญ่เริ่มลดระดับตัวที่ยืนด้วยหางลงเรื่อย ๆ ไม่แผ่แม่เบี้ยแล้ว อีกสักพัก มันก็เลื้อยหนีเข้าป่าไป พวกเพื่อน ๆ ผมหวาดกลัวกันไม่หาย อกสั่นขวัญแขวน ไอ้สนถึงขนาดยกมือขึ้นไหว้ผม หาว่าผมพูดกับงูได้

 

            -ไม่ต้องไหว้กูหรอก ที่มึงควรจะไหว้อยู่โน่น- ผมบุ้ยหน้าไปทางต้นมะขามต้นใหญ่พร้อมกับฉายไฟไปตาม

 

        ภาพที่ทุกคนเห็นคือ ศาลเจ้าเล็ก ๆ เก่า ๆ มีรูปปั้นรูปงูอยู่ด้านหน้า มีดอกไม้พวงมาลัยอยู่จำนวนหนึ่ง ผมเป็นคริสเตียน ผมไม่กราบไหว้บูชารูปเคารพ แต่แน่นอน ผมไม่เคยดูถูกหรือลบหลู่สิ่งเหล่านี้ เพราะผมเกิดมาพร้อมกับสังคมชนบท ไม่เชื่อ แต่ไม่ลบหลู่นะครับ

 

            ทุกคนยกมือไหว้ ตอนเดินกลับทุกคนเบียดกันแน่น ตามองรอบ ๆ คงกลัวกันมาก ผมได้ทีจึงแกล้งอำว่ามีงูมา ทุกคนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงกลับเข้าบ้าน พรุ่งนี้เวลา 5.30น. เรามีนัดกันเพื่อไปเก็บเห็ดป่าที่ชายป่าไกล้ฝายทดน้ำ

 

            5.30น. บรรยากาศเงียบสงัด ผมรวมพลทุกคนที่หน้าบ้าน อากาศค่อนข้างเย็นในเช้าวันนี้  ไอ้เม่นกับอีอุ๋ยถือไฟเหมือนเคย สองคนที่เหลือถือตระกร้าสานด้วยไม้ไผ่ เมื่อถึงชายป่า ผมตัดใบของต้นสักรองที่ใต้ตระกร้า และตัดมาอีกราว ๆ 20 ใบเอากลับไปให้แม่ใช้รองอาหารที่บ้าน การที่ต้องรองตะกร้าก็เพื่อเวลาใส่เห็ดจะได้ไม่แตกหรือช้ำ ผมสอนให้เพื่อน ๆ ใช้กิ่งไม้เขี่ยตามใต้พุ่มไม้ที่มีใบไม้ปกคลุมอยู่ ให้ระวังงูใต้ใบใม้กันด้วย อีอุ๋ยกับอีเก๋ไม่กล้า แต่พอเห็นไอ้เม่นได้เห็ดป่าดอกใหญ่ ราวๆ 6 นิ้ว มันยิ้มหน้าบาน สองคนนี้ไม่ยอมอยากได้บ้าง รีบเขี่ยหาเห็ดเป็นการใหญ่

 

            หาไปได้สักพักเราหยุดนั่งพักกลางป่า มีชาวบ้านผ่านไปทำไร่ ทักทายผมว่าเป็นหนุ่มกรุงเทพระวังหลงป่าบ้างเป็นระยะ ๆ ผมเอาเห็ดที่ทุกคนได้ออกมาสำรวจแล้วต้องหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง เพราะมันมีทั้งเห็ดพิษและเห็ดที่กินได้รวมอยู่ด้วยกัน

 

            ผมจึงเลคเชอร์วิชาชีววิทยาแบบสั้น ๆ ถึงวิธีการดูเห็ดที่กินได้กับกินไม่ได้  ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็เรียนมาแล้วในวิชาชีววิทยา  แสดงว่าถ้ามีการนำเอามาใช้จริง ต้องไม่ผ่านแน่ ๆ ว่าไปแล้วหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการกับหลักสูตรย่าผมที่สอนผมมา ใครจะแน่กว่ากัน ที่แน่ ๆ ย่าผมไม่เคยเรียนชีววิทยาแน่นอน

 

            เห็ดที่กินได้สังเกตุดูที่ใต้ฐานดอก ลายจะเป็นเหมือนร่างแห สลับกันเป็นฟันปลา ขาวสะอาดมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ  ส่วนเห็ดที่กินไม่ได้นั้นจะเป็นตาข่าย มีสปอร์สีดำ บางที่มีเส้นใยรุงรังใต้ฐานดอก นับตั้งแต่นั้น พวกเล่นเอามาให้ผมดูก่อนทุกดอกที่หาได้จนผมเหนื่อย

 

            ผมพาทุกคนไปล้างหน้าล้างตาที่ใต้ฝายน้ำล้น  แล้วกลับบ้าน อาหารเช้าวันนี้มีแกงเห็ดป่าใส่ผักหวานต้นใหญ่หลังบ้านผมเอง จิ้งหรีดนั้น ไม่ได้กิน เพราะอีอุ๋ยกับอีเก๋แอบปล่อยไปเมื่อเช้านี้ ผมเลยบอกว่า เสียใจด้วยที่ไม่ได้ลองกินจิ้งหรีดคั่ว ไม่ได้กินวันนี้ จะเสียใจไปอีก 10 ปีข้างหน้า ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข ไม่รู้เสียใจหรือดีใจกันแน่

 

            เลยเที่ยงเล็กน้อย ไอ้ตี๋เพจเข้าเครื่องผม ผลสอบเทอมที่แล้ว ผมได้เกรดเฉลี่ย 3.45 ไม่เลวนะนี่ฝีมือเรา เพราะผมไม่สบายนี่นาตอนสอบ ดีที่ทำข้อสอบกลางภาคตุนไว้เยอะ ส่วนไอ้ตี๋ยังคงเส้นคงวาอยู่ที่ 2.65 ผมนึกในใจ เกรดเฉลี่ยสะสมสองเทอม 3.60 ไม่เลวนักหรอก

 

        ผมกลับมาอยู่กับธรรมชาติ ที่บ้านของผม เพื่อนของผม ความรักของผมที่ทุก ๆ คนมีให้ มันทำให้ผมรู้สึกเป็นสุขและสงบอย่างแท้จริง ผมคงมีโอกาสอยู่กับสิ่งเหล่านี้ไปสักพักล่ะ วันพรุ่งนี้ผมยังไม่อยากคิดถึงมันเลย ..... ให้ตายสิ .......
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 16-10-2007 16:48:52
เศร้าจัง   o7
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 16-10-2007 18:34:57
ถึงแม้จะสุข  แต่ลึกๆ แล้ว เศร้าอย่างบอกไม่ถูก

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 16-10-2007 20:46:55
 :เฮ้อ:
พักกาย พักใจ ให้สดชื่นและเข้มแข็ง จะได้มีเรี่ยวแรงต่อสู้ต่อไป.....เป็นกำลังใจให้นายเก่ง... :a2:

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-10-2007 21:53:27
ขอแค่ใจเรามีรัก ไม่ว่าไกลแค่นั้น สักวันเราจะกลับมาเจอกัน
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 17-10-2007 06:10:56
" อดทนเวลาที่ฝนพรำ  อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
      และเมื่อเวลาที่ฝนจาง  ฟ้าก็คงสว่าง  และทำให้เราได้เข้าใจ  ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ"

สู้ๆ ต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-10-2007 11:00:17
 o7  ต้องสู้และอดทน เพื่อความรัก 

ซักวันต้องได้กลับมาอยู่ด้วยกัน  ไม่มีใครดชคร้ายไปตลอดหรอก
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 17-10-2007 17:06:02

                ผมละนับถือ คุณจริง ๆ เก่ง  o13
             
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 18-10-2007 00:20:37
ดีใจที่เก่งยังมีกำลังใจที่ดีนะครับ  :impress: ขอให้เข้มแข็งๆและมีความสุขมากๆนะ  :m18:

ส่วนเรื่องของ "ผู้ใหญ่" นะก็ ... เบื่อ เซ็ง ไม่อยากพูดถึง  o16 ... ไม่เข้าใจกับความคิดด้านเดียวเลยจริงๆ  :seng2ped:

...  :a14: ...
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 18-10-2007 13:55:28
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 6 : ฝันกลางวัน-เดย์ดรีมมิ่ง

เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวที่ฝายน้ำล้นในตอนบ่าย พวกผมเตรียมสะเบียง และเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อยไป บางคนหยิบเอาหนังสือในชั้นหนังสือผมไปเพื่อเอาไปอ่านที่นั่นด้วย ผมฉวยได้ “สกาวเดือน-รัศมีแข” เล่มโปรดของผมใส่ในเป้แจนสปอร์ตที่ตี๋เล็กซื้อให้

 

             ผมใจหายเล็กน้อยเมื่อแวบนึงผมคิดถึงมัน ถ้ามันอยู่ตอนนี้ ที่นี่กับผม ท่ามกลางเพื่อน ๆ ของเราที่รู้ใจกันแบบนี้ ก็คงดีไม่น้อย ผมสะบัดศรีษะไล่ความคิดอันนั้นออกไป รีบลงไปรวมพลที่ด้านล่าง ผมหิ้วเอาเสื่อทอที่พับแล้วมัดได้เล็กกระทัดรัดโยนให้ไอ้สนกับไอ้เม่นถือคนละอัน

 

            ระหว่างทางที่เราเดินเท้าไปยังฝายน้ำล้น เมื่อผ่านบ้านไปแต่ละหลังก็จะมีผู้เฒ่าผู้แก่ตะโกนร้องทักไปทุกบ้าน ผมไม่เบื่อที่จะตอบว่าผมเรียนที่ใหน ทำอะไรอยู่ มีฟนหรือยัง เพราะผู้คนเหล่านี้ คือความรัก ความผูกพันธ์ในวัยเด็กของผม บางคนก็เรียกผมว่า “หนุ่มกรุงเทพ” ผมคงจะเริ่มขาวหล่อเหมือนหนุ่มกรุงเทพเพราะอาบน้ำปะปาแล้วกระมัง (คิดเข้าข้างตัวเอง)

 

            เราปูเสื่อทั้งสองผืนที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำ เราอยู่ห่างจากบริเวณฝายมาทางปลายน้ำซึ่งเป็นคันดินทั้งหมด ว่าแล้วหนุ่ม ๆ ทั้งสามก็ไม่รีรอ ถอดเสื้อกระโดดลงเล่นน้ำทันที อีเก๋กับอีอุ๋ยทนไม่ไหวรีบตามลงมาเล่นน้ำด้วยกัน

 

            ผมบอกให้ทุกคนลองดำน้ำลงไปแล้วเอามือควานที่โคลนใต้ฝ่าเท้า ให้หยิบเอาอะไรก็ได้ที่จับได้ขึ้นมาให้ผมดู ทุกคนทำตาม สิ่งที่ทุกคนได้ขึ้นมาคือ “หอยกาบ” มันคล้าย ๆ หอยแมลงภู่แต่ตัวใหญ่กว่านั้นเยอะมาก ผมบอกว่าเอาล่ะ พวกเรานอกจากจะได้มาเล่นสนุก เรายังได้อาหารกับไปกินเป็นบาร์บีคิวตอนเย็นที่บ้านอีกด้วย

 

        ผมว่ายน้ำไปที่อีกฝั่งหนึ่ง เอาเรืออีโปงที่ถูกผูกไว้กับหลักมาให้เพื่อน ๆ ได้ขี่เล่นกัน ไม่ต้องขออนุญาติหรอกครับ คนบ้านนอกมีน้ำใจ  ถึงผมจะทำเรือล่มหายไปหาไม่เจอ เขาก็คงไม่โกรธผมมากนัก

 

            ยังไม่หมดเรื่องแปลกใจให้กับเพื่อน ๆ  ผมเดินขึ้นฝั่งไปเปิดเป้ หยิบเอา แห สีขาว ตาเล็ก ออกมา ทุกคนตื่นเต้นว่ามันคือแห ใช้จับปลา แต่ไม่มีใครเคยเห็นไกล้ๆ หรือว่าใช้เป็น ผมสอนพวกผู้ชายสองคนถึงวิธีการทอดแห (หว่านแห)  แรก ๆ ไอ้สนกับไอ้เม่นทำได้อย่างทุลักทุเล แต่หลัง ๆนอกจากจะได้ปลาตัวเล็ก ๆ แล้ว ยังมีพวกกุ้ง  และเต่าอีกด้วย

 

            ผมขอเต่าจากเพื่อน ๆ มาปล่อยลงน้ำ เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืน ผมบอกเพื่อน ๆ ว่า พวกเราตอนเด็ก ๆ ถูกสอนมาไม่ให้ฆ่าเต่า ใครที่ฆ่าเต่า จะอายุสั้น ผมปล่อยมันลงน้ำ มันว่ายน้ำหายไปอย่างรวดเร็ว

 

            สักพักไอ้เม่นร้องเอะอะเสียงดังขึ้น รีบวิ่งขึนฝั่ง มันใช้มือล้วงลงไปในกางเกงล้วร้องเฮ้ย ๆ อยู่คนเดียว ผมวิ่งขึ้นไปดู

 

            -ไอ้เก่งช่วยกูด้วย ปลิงกัด- มันทำหน้าบอกบุญไม่รับ ผมหัวเราะ บอกให้ถอดกางเกงลง

 

            -ถอดได้ไงเล่าไอ้เชี่ย กูไม่ได้ใส่กางเกงใน-

 

            *มึงจะให้กูช่วยเอาออกให้ใหม ถ้าให้ก็ถอดออก ถ้ากูล้วงลงไปจับปลิงผิดตัวจะให้กูทำยังไง* เพื่อน ๆ ที่รุมล้อมอยู่หัวเราะกันขบขัน อีอุ๋ยบอกสมน้ำหน้า โตขนาดนี้ไม่ใส่กางเกงใน

 

            -พวกมึงหันหน้าไปทางอื่น ไอ้เก่งหันมาคนเดียว- ไอ้เม่นออกคำสั่ง

           

            ผมรำคาญจึงเอามือไปจับขอบกางเกงของมันเปิดออก ปากผมก็บ่น

 

            -ทำยังกะใหญ่หนักหนาไอ้นี่ กูเห็นมาหมดแล้ว- ผมดึงขอบกางเกงออก แล้วหัวเราะ ลงมันเกาะอยู่ไกล้ ๆ ไข่ไอ้เม่นพอดีพอดี ปลิงเข็มตัวเล็ก ๆ เองครับ ไอ้นี่มันใจเสาะ ผมแกล้งจับปลิงเฉี่ยว ๆ กะเจี๊ยวมัน ไอ้เม่นร้องเฮ้ย ๆ ๆ คงกลัวผมไม่จับมันจริง ๆ  ผมจับกดหัวปลิงไว้แล้วดึงออกมาครั้งเดียว เลือดสาดกระจาย ไอ้เม่นบอกว่าไม่เจ็บเลย ผมบอกมันว่า

 

            -จะเจ็บได้ไง น้ำลายปลิงมีฤทธิ์เหมือนยาชา บางประเทศเขาใช้แทนยาชา-

 

            *เอามานี่เลย กูจะสำเร็จโทษมันเอง บังอาจมากัดลูกพ่อ* มันบอกผม

 

            -ต้องฉี่ใส่ด้วยนะ- ผมตะโกนบอก ปลิงเป็นปรสิต ฆ่าได้ไม่เป็นไร

 

            ทุกคนขำหัวเราะไอ้เม่นกันใหญ่  เราลงน้ำกันอีกครั้ง ผมเป็นคนพายเรือ แต่แล้วมีเสียงเสียงหนึ่งดังมาจากบนฝั่ง

 

            ****ล่องเรือหารักเหรอพวกมึง สนุกจนไม่มีใครสนใจนึกถึงกูเลยใช่ใหม****

 

            พวกผมหันไปมองตามต้นเสียง เสียงไอ้ตี๋เล็กนี่หว่า เพื่อน ๆ เฮกันใหญ่โบกไม้โบกมือให้คนข้างบนฝั่ง ผมขยี้ตาด้วยความมึนงง ว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ผมขยี้ตาเสร็จมองดู ก็ยังเป็นมัน ....... ไอ้ตี๋เล็กจริง ๆ ด้วย ไอ้เม่นรีบคว้าพายมาพายเรือเข้าฝั่ง ทุกคนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

 

            -นี่มึงตี๋เล็กจริง ๆ เหรอ- ผมกอดมันทั้ง ๆ ที่ตัวเปียกอยู่

 

            *บ้านนอกจังเลยนะพวกมึง สนุกแต่ไม่นึกถึงกู* มันตอบทำหน้าทะเล้น

 

            -มาได้ไงเนี่ยบอกก่อน- ผมเร่งเอาคำตอบ

 

            *ม่ายรู้ ...* มันยังทำหน้ายียวนอีก แล้วพูดต่อ

 

            *ไม่รู้ว่าไปมีลูกเขยคนใหนไปทำถูกใจพ่อ เห็นชมนักชมหนาว่าทำกับข้าวเก่งและอร่อย เป็นเด็กดีมีสัมมาคาระวะต่อผู้ใหญ่ เรียบร้อยสุภาพ เรียนก็เก่ง มีเกียรติบัตรกับโล่ห์ใบประกาศเต็มบ้านเลย แถมเทอมนี้ยังสอบได้ที่สองของภาควิชาอีก เกียรตินิยมคงอยู่ไม่ไกล วิศวะมันเรียนไม่ง่ายนี่ พ่อแม่เขาคงอบรมลูกมาดีนะ แน่ล่ะสิพ่อแม่เขาจบปริญญา แถมเป็นรองศาสตราจารย์ของวิทยาลัยครูทั้งคู่อีก พี่สาวกับพี่ชายก็รับราชการทั้งคู่ นี่ถ้าไม่ได้กินขนมจีนกับทอดมันปลาราดน้ำจิ้มที่อีสาน เขาก็ไม่รู้นะเนี่ยว่าจะมีคนแถวนี้เขาสนใจธรรมเนียมการกินคนเมืองเพชรด้วย สรุปพ่อกูเขาแพ้คนเอาใจว่ะ* ไอ้ตี๋เล็กมันลอยหน้าลอยตาพูดยิ้ม ๆ

 

            -หมายความว่า ................ - ผมเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นสุดขีด ไอ้ตี๋เล็กพยักหน้าน้อย ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนเฮขึ้นดัง ๆ พร้อมกัน ผมเหลือบตามองดวงอาทิตย์

 

            -นี่กูฝันกลางวันไปหรือเปล่าวะเนี่ย---   ผมพูดออกมา

 

            ส่วนในใจ ...... ผมก็อยากให้ฝันนี้เป็นจริงตลอดไปนะ...... ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย ..
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 18-10-2007 14:35:29
 :m3:
เห็นม๊ายยยยยย ..... ว่าแล้ววววว พ่อตี๋เล็กทำไรแปลก ๆๆๆ .... ที่แท้แอบมาดูตัวลูกเขยยยย  :m4:
ดีใจจังเลยยยยยย น่ารัก ๆๆๆๆ.....ปัญหาเรื่องหัวใจก็คงคลี่คลายยยย....
สุดท้ายเหลือสุขภาพเก่งละสิ....คิดแล้วเศร้า....ปล่อยเต่าคราวนี้คงต่ออายุให้เก่งเนอะ  :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 18-10-2007 14:54:42
ขอให้เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ฝัน  :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 18-10-2007 15:37:53
กินใจมากมาย      คิดถึงบ้านขึ้นมาเลย...... :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 18-10-2007 15:47:01
ในที่สุดก้อชนะใจป๊ะป๋า 

ดีใจจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-10-2007 15:59:18
ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a9:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 18-10-2007 18:56:03
   
                  ความฝันไม่เคยทำร้ายใคร จริง ๆ ... มีแค่เราจะทำตามฝันได้หรือเปล่า

 :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24: :m24:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 19-10-2007 06:21:54
ซึ้งอะ...  :m17:

ถ้าต่อจากนี้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นก็คงจาดี

อย่าเศร้าไปกว่านี้เยยอะ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-10-2007 11:39:50
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเป็นปลื้ม อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-10-2007 15:10:30
ซึ้งอ่ะ คุณพ่อตี๋เล็ก แพ้ความดีของลูกเขยยย   :m3:

รู้งี้พามาบ้าน ทำกับข้าวให้กินแต่ทีแรกกสิ้นเรื่อง หุหุ   :a11:


ผ่านอุปสรรคใหญ่หลวงไปได้แล้ว คนที่เราต้องแคร์ความรู้สึก อย่างพ่อกับแม่ไปได้แล้ว

ต่อไปก็อยู่แค่ที่คนสองคน รักกันมากๆตลอดไปเลยน๊าาา  :m1: o14
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 19-10-2007 18:46:57

       มามะ  มา วายวาย นะ รออยู่  :m26: :m26: :m26: :m26: :m26: :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 19-10-2007 19:08:18
ตกลงนี่คือเรื่องจริงใช่ไหม

ดีใจจังเลย มีความสุขไปด้วยเลยอ่านตอนนี้  :m1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-10-2007 21:07:07
แพ้ความดีและเสน่ห์ปลายจวักสินะ
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

ซึ้งจังเลย ขอให้ช่วงเวลาที่เหลือมีแต่ความรักและความสุขเถอะ
 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 19-10-2007 23:17:09
อ่านมาหลายครั้งละหงะ

แต่อ่านกี่ครั้งก็ชอบคุณตี๋เล็กอยู่ดี อิอิ :m15: :m15: :m15: :m15:

น่ารักหงะ รักเดียวใจเดียวที่สุด

พี่เก่งแหละใจร้ายที่สุด..... :m12: :m12: :m12: :m12: :m12: :m12: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:

แต่ก็รักกันละนะ :m21: :m21: :m21: :m21: :m21:

อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 20-10-2007 17:07:51
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 7 : อโรคยา ปรมา ลาภา

 พวกเรากลับมาล้อมวงก่อไฟที่ลานหน้าบ้าน บาร์บีคิวหอยกาบใหญ่ ปลา และกุ้ง จากที่พวกเราหามาได้กันทำให้พวกเพื่อน ๆ ผมตื่นเต้นกันมาก วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมมีความสุขวิเศษสุด เพราะสิ่งที่ผมคิดและอธิษฐานกับเบื้องบนเมื่อวานนี้ มันกลายเป็นจริงขึ้นมาบ้างแล้ว

 

            ผมเพียรถามไอ้ตี๋เล็กอยู่ไม่รู้เบื่อว่าทำไมมันถึงมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผมได้ จนมันทนไม่ไหวกับการเซ้าซี้ของผม

 

            *ไม่มาก็คิดถึง มาก็ถามอยู่นั่นล่ะ* มันบ่น ทำหน้าตาน่ารักมากเวลางอน

 

            -โถ โถ ก็อยากรู้นี่ว่าเรื่องที่พูดมามันจริงหรือเปล่า- ผมพูดอย่างเอาใจ สีหน้าผมระบายไปด้วยรอยยิ้ม ผมมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ให้เอาอะไรมาแลกกับวันนี้ของผม ผมคงยอมรับได้ยาก .........................

 

            และแล้ววันที่พวกผมต้องกลับไป กทม ก็มาถึง คราวนี้พี่เต้ยจะไปส่งผมถึงที่พักเพราะว่า ในช่วงสองสามวันแรก พี่เต้ยต้องส่งผมไปตรวจเช็คยืนยันอาการที่สถาบันประสาทวิทยา

 

            คุณหมอแจ้งกับผมว่า การวินิจฉัยโรคเอแอลเอสนี้ ทำได้เฉพาะทางคลินิกเท่านั้น  จากข้อมูลเดิมที่หมอเก่าส่งมาให้ เป็นการสงสัยว่าผมจะมีอาการของโรคนี้ เนื่องจากโรคนี้เป็นแล้วไม่สามารถรักษาได้ ทางคุณหมอท่านเดิมจึงอยากให้มีการตรวจยืนยันผม และผมมีประวัติวินิจฉัยของอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบประสาทไม่ตอบสนอง

 

            แต่ผมยืนยันกับหมอว่า ผมไม่มีอาการของความจำเสื่อม ไม่เคยชักกระตุก ยกเว้นตอนเด็กที่ผมเป็นไข้อย่างรุนแรง ผมชักกระตุกจนแม่ร้องให้เพราะคดว่าผมต้องตายแน่ ๆ  และผมยังคงสามารถเล่นกีฬาได้โดยปกติ แต่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผมไม่ทราบว่าจะยืนยันกับหมออย่างไร เพียงแต่เวลาที่ผมเหนื่อย ๆ นอนดึก ผมมักจะหมดเรี่ยวหมดแรง แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง มีอาการตาพร่า มองเห็นภาพไม่ชัดเจน ปวดศรีษะเริ่มแรกเบา ๆ แล้วเริ่ม ปวดลึก ๆ อยู่ข้างใน ต้องเอามือบีบขมับให้อาการดังกล่าวทุเลาลงไป

 

             ส่วนอาการความจำเสื่อมผมยืนยันด้วยเกรดเฉลี่ยอันดับที่สองของภาควิชาผม หมอสงสัยเล็กน้อย แล้วตรวจผมอย่างละเอียด

 

            คุณหมอตรวจเช็คผมโดยละเอียด เนื่องจากคุณหมอไม่แน่ใจว่า อาการของผมสัมพันธ์กับโรคนี้หรือว่าโรคอื่น ๆ ด้วยหรือเปล่า ผมเริ่มใจเสีย อะไรกัน เป็นโรคนี้ก็จะต้องตายอยู่แล้ว ถ้ามีอีกสองสามโรคมาเพิ่ม ผมคงต้องตายอยู่ตรงนี่แน่ ๆ สรุปแล้วคุณหมอนัดผมมาฟังผลในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป ผมบอกกับหมออย่างติดตลกว่า เพื่อนผมวางแผนเมนูในงานศพผมแล้ว คณหมออย่าทำให้พวกมันผิดหวัง คุณหมอรูปหล่อตบไหล่ผมเบา ๆ บอกสั้น ๆ ว่า

 

            -อย่าเพิ่งมองชีวิตในแง่ที่โหดร้ายจนเกินไป-

 

        และแล้ว ผมก็กลับมาอยู่ที่ห้องหมอเหมือนเดิมเมื่อ 2 อาทิตย์ผ่านไป ผมสูดหายใจลึก ๆ ทั้งตี๋เล็กและพี่เต้ยที่รออยู่ด้านนอก ก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน  คุณหมอรูปหล่อยิ้มให้ผมเมื่อผมนั่งลง

 

            คุณหมอลุกขึ้น ยื่นมือออกมาขอสัมผัสมือผม ผมฉงนเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ คุณหมอพูดขึ้นว่า

 

            *คนเขายื่นขอจับมือแล้วไม่จับนี่มันเสียมารยาทนะ*

 

            ผมรีบลุกขึ้นยืน ยื่นมือออกไปให้หมอจับ หมอเขย่าแรง ๆ สองสามครั้ง เอามือตบที่ไหล่ผม

 

            *ใจเสาะจังเลยนะ ในบอกว่าเรียนวิศวะ ไม่น่าเป็นเด็ก .............  โรงเรียนเดียวกันอีก (โรงเรียนมัธยมผม)* ผมยิ่งงงเข้าไปอีก

 

            * จากการตรวจอย่างละเอียดไม่พบอาการทางคลินิกของเอแอลเอส ส่วนอาการปวดศรีษะของนายนั้น มันแบ่งออกเป็น 2-3 อย่าง อย่างที่พบบ่อยที่สุดคือ เกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัว จากการนอนดึก ความเคร่งเครียด ซึ่งจะปวดตามท้ายทอย ปวดรอบเบ้าตา ร้าวไปกลางศีรษะ จากขมับ ไปข้างหลัง ซึ่งจะพบบ่อย มักจะเกิดจากการที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอหรือบางทีจะเรียกว่ามันวิ่งจี๊ดไปมา*



            *แบบที่สอง เป็นการปวดซึ่งเกิดจากการที่หลอดเลือดขยายตัว แต่ไม่เกี่ยวกับเส้นเลือดตีบ พวกอัมพฤก อัมพาต อาการเส้นเลือดที่ศีรษะขยายตัวที่เรารู้จักกันดีก็คือ ไมเกรน จะมีอาการปวดตุบ ๆ แถว ๆ ขมับ หรือลึก ๆ อยู่แถวเบ้าตา เหมือนหัวใจเต้น และจะปวดในระดับกลางถึงมาก ซึ่งนี่เป็นลักษณะเด่นของการปวดไมเกรน แต่ถ้าปวดพอรำคาญ ไม่มากนัก โอกาสเป็นไมเกรนจะน้อย นอกจากนี้ อาการปวดแบบไมเกรนนั้น เมื่อหายปวดจะหายสนิท โดยในช่วงที่ปวดนั้น อาจจะปวดได้นาน 2-3 วันตามทฤษฎี แต่โดยทั่วไป อาจจะปวดแค่ 2-3 ชั่วโมง หรืออาจจะ 4 ชั่วโมง นอกจากนี้อาจมีอาการอาเจียร เห็นแสงแวบ ๆ เป็นสีเหลือง ๆ หรือเป็นหยัก ๆ ในช่วงก่อนปวด เรียกได้ว่าเป็นอาการนำ*

 

            -ตกลง ผมเป็นแค่ไมเกรนเหรอครับ- ผมถามงง ๆ

 

            คุณหมอพยักหน้าน้อย ๆ

 

            *การรักษาคือการกินยาแก้ปวดตามอาการครับ บอกเพื่อน ๆ ยกเลิกเมนูงานศพได้แล้วนะ*

 

            ผมดีใจยกมือไหว้คุณหมอรุ่นพี่ที่โรงเรียนผม ก่อนจะวิ่งออกมานอกห้องอย่างรวดเร็ว ผมกระโดดกอดทั้งพี่เต้ยและไอ้ตี๋ไว้พร้อมกัน น้ำตาผมไหลลงมาเหมือนทำนบกั้นฝายน้ำล้นแตก

 

            *ว่าไง หมอว่าไง* พี่เต้ยกับไอ้ตี๋ละล่ำละลักถาม

 

            -หมอบอกให้ผมไปยกเลิกเมนูงานศพของผมครับ ผมแค่มีอาการของไมเกรนครับพี่ ตี๋เล็กได้ยินกูใหม กูเป็นไมเกรน กูดีใจจังเลย-

 

            เราสามคนกอดกันแน่น น้ำตาผมไหลออกมาอย่างไม่อายใคร ผมนึกขอบคุณคนที่เบื้องบนอยู่ในใจ ต่อไปลูกจะขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในความไม่ประมาท  ชีวิตของผม ไม่ได้เป็นแค่ของผมเพียงผู้เดียว แต่ชีวิตของผมยังเป็นของคนที่ผมรัก และคนที่รักผมทุกคนด้วย

               

             เบื่อกันหรือยังครับ? บางคนเมล์มาบอกให้จบได้แล้ว เบื่อมาก เบื่อก็ไม่ต้องอ่านครับ ไม่มีคนอ่านผมอ่านคนเดียวก็ได้ ส่วนพวกที่บอกว่ามือไม่ถึง ก็ไม่ต้องอ่านเหมือนกันครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะลงเรื่องเพื่อแข่งกับใคร ผมลงให้ผมอ่านคนเดียวครับ พอใจหรือยังครับพวกคุณ?

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดี๋ยวพรุ่งนี้ต่อตอนจบให้คับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 20-10-2007 17:21:36

      จะจบแล้วหรือ เรื่องสุดโปรดของผม   เรื่องนี้มันมีชีวิตและจิตวิญญาณที่แผงอยู่ต่างจากนิยายทั่วไปมากมาย

     มันจึงไม่เหมาะกับคนไม่มีจิตวิญาณนะผมว่า ...

      รอละกัน นะ มา วายวาย
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-10-2007 17:41:06
ฟ้าหลังฝนแท้ๆเลย แต่ทำไมจะจบแล้วล่ะคับ ใครว่าไงอย่าไปสนใจเลยน่ะคับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: jb ที่ 20-10-2007 21:17:51
จะจบแล้วหรือครับ  เป็นเรื่องโปรดผมเลยนะครับ

และเรื่องแรกที่ผมรีพลายทั้งๆๆที่ผมรีพลายไม่เป็นนะครับหาวีธีอยู่ตั้งนานครับ

ยังไงก็ต้องรีพลายให้ได้

ขอบคุณมากๆครับสำหรับเรื่องดีๆๆขอบคุณจริงๆๆครับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: gashkung ที่ 20-10-2007 22:04:32
ดีใจด้วยนะคร้าบ ที่ไม่เป็นอะไร  :impress:
คนทำดีก็ต้องได้ดีครับ สู้ ๆ  o7
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-10-2007 06:37:09
 o7  o7  o7  แงงงงงๆๆๆๆ ซึ้งงงงงงง  o7  o7  o7

ขอบคุณพ่อของตี๋เล็กมากๆนะครับที่ในที่สุดก็เข้าใจในตัวของเก่งและความรักของทั้งคู่ .....  :m11:

ยินดีกับเก่งและตี๋เล็กด้วยที่ในที่สุดก็ได้มาอยู่ด้วยกัน มาเป็นคู่กัน ได้อย่างมีความสุข ไร้ซึ่งอุปสรรคอีกต่อไป ได้รับการยอมรับจากทุกคนทุกฝ่ายแล้วววว   :m3:

แล้วก็ .... ขอบคุณพระเจ้า ...  : :m2: ที่ช่วยดลบันดาลให้เก่งเป็นเพียงแค่ไมเกรนเท่านั้น ไม่ได้เป็นโรคอะไรที่ร้ายแรงไปกว่านี้   :m11:

----------

ขอให้กำลังใจเก่งนะครับ ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป แฟนๆเก่งแบบผมเนี่ยพร้อมที่จะให้กำลังใจเก่งอยู่เสมอ  :a2: ไม่ต้องไปสนใจคนที่มาด่าว่าอะไรหรอกครับ   o16 สำหรับผม ผมไม่เบื่อเรื่องของเก่งนะ เขียนมาเยอะเลยก็ได้ พร้อมอ่านอยู่ซำเหมอค้าบบบบ  :m1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 21-10-2007 08:46:17
ดันครับดัน
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-10-2007 10:25:01
เย้ๆๆ ในที่สุดก็ฝ่าอุปสรรคทั้งหมดมาได้
ขอให้รักกันนานๆนะ

ปล.ว่าแต่ใครก่อกวนหรือ เรื่องนี้สนุกมากนะครับ
รออ่านต่อ ไม่ต้องรีบจบก็ได้
กด report to admin มาก็ได้นะครับ
ว่าใครก่อกวนอะไร

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(ใกล้จบแล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 21-10-2007 14:46:14
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 8 : เมื่อความรักเดินทาง (จบภาค 3)

 เปิดเทอมใหม่ผมก็มีน้องรหัสกับเขาอยู่ถึง 2 คน เพราะน้องอีก 1 คนเป็นน้องที่ผมรับมาดูแลแทนเพื่อนผมซึ่งเอ็นท์ใหม่ติดทันตแพทย์ จริงๆ แล้วผมก็อยากจะลองเอ็นท์ใหม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าอยากจะเปลี่ยนที่เรียน เพียงแค่อยากทดลองเลือกคณะแพทยศาสตร์ทั้ง 4 อันดับ คงจำกันได้นะครับว่าความฝันสูงสุดของผมคือการได้เป็นนายแพทย์ แต่ด้วยเรื่องราวยุ่ง ๆ วุ่นวายของผม ทำให้ผมเสียโอกาสนั้นไป ไม่อย่างนั้น ก็ไม่แน่นะครับ คนที่นั่งพิมพ์เรื่องราวของเก่งกับตี๋ในขณะนี้ อาจจะเป็น คุณหมอเก่ง ก็เป็นได้

 

            แต่มานึกดูอีกทีแล้ว ไม่เอ็นท์ใหม่ก็ดีเพราะน้องรหัสน่ารัก เอ้ย ... ไม่ใช่ เพราะว่าเทอมนี้ คงจะเป็นเทอมที่ผมเรียนอย่างมีความสุข ผมได้กลับมาคบกับไอ้ตี๋เล็กเหมือนเดิม ภาระหน้าที่ของผมเริ่มมีมากขึ้นเมื่อผมทำงานพิเศษ โดยมีรุ่นพี่ต่างคณะเป็นผู้แนะนำ ผมก็ดีใจที่งานพิเศษของผม สามารถทำรายได้ค่อนข้างมากพอสมควร (ธุรกิจขายตรงหลายชั้น) ผมจึงตัดสินใจให้ของขวัญไอ้ตี๋เล็กอีกหนึ่งชิ้นในวันเกิดของมันในปีนั้นเอง

 

            ของขวัญชิ้นนั้นคือ ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพ ฯ –สิงคโปร์ เรามีกำหนดการเดินทางในคืนวันศุกร์ และกลับมา กทม ในเย็นวันอาทิตย์ ผมกับไอ้ตี๋เล็กตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกในชีวิตของเรา 

 

            เริ่มจากการทำหนังสือเดินทางที่กองหนังสือเดินทางปิ่นเกล้า จากนั้นอีก 3 วันก็ไปรับ ผมซื้อตั๋วจากบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งซึ่งเป็นตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก  ในราคาคนละ 10,000 บาท  ส่วนสายการบินเป็นสายการบินหนึ่งชื่อย่อขึ้นต้นด้วย S และลงท้ายด้วย  S เช่นกัน

 

            ผมกับไอ้ตี๋เล็กไปถึงดอนเมืองก่อนเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง หลังจากเช็คอินที่เคาน์เตอร์ ซึ่งมีขั้นตอนปฏัติเหมือนกันกับในประเทศ ผมซื้อบัตรค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินสำหรับสองคน จากนั้นเราก็ผ่านมายังตรวจคนเข้าเมืองขาออก เจ้าหน้าที่ถามผมเล็กน้อยว่าไปเที่ยวหรือ ทำงานหรือเปล่า ผมบอกว่าเป็นนักศึกษา ไปเที่ยวเฉย ๆ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นประทับพาสปอร์ตแล้วส่งคืนให้ผม จากนั้นเราก็เข้ามารอที่ประตูทางออกขึ้นเครื่อง ก่อนที่จะมีเสียงประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารในเที่ยวนี้น้อยมาก ๆ อาจเป็นเพราะเป็นสายการบินต่างชาติกระมัง ผมนึกในใจ เรานั่งประจำที่เรียบร้อย เหลือบตามองดูเพื่อนร่วมทางแล้วชวนให้เสียวว่าผีจะหลอก  เพราะชั้นประหยัดมีคนอยู่ไม่ถึง 10 คน ส่วนชั้นธุรกิจมีแค่ 3 คนเท่านั้นเอง

 

            มีการสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์ชูชีพถูกฉายผ่านจอทีวีเล็ก ๆ ไม่มีการแสดงสด ภาษาไทยไม่มีเลยเพราะเป็นสายการบินต่างชาติ พอเครื่องเทคออฟและบินไปได้สักพัก ผมเดินกลับมาจากห้องน้ำบอกให้ไอ้ตี๋เล็กไปเข้าห้องน้ำ ถึงไม่ปวดก็ต้องเข้า จะได้รู้ว่าห้องน้ำบนเครื่องบินมันเป็นอย่างไร ถ่ายรูปไปด้วยยิ่งดี

 

        สักพักอาหารก็มาถึง เป็นพิซซ่าและพาย อร่อยมากจนต้องขอเพิ่มอีกชุด ผมกินไดเอ็ทโค้ก ส่วนไอ้ตี๋กินน้ำส้ม  เมียผมเป็นนางเอกได้ไม่เลือกสถานที่อยู่แล้ว

 

            เครื่องบินแตะรันเวย์สนามบิน Changi ในเวลาประมาณ 4 ทุ่มของสิงคโปร์ (เวลาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง) ระยะเวลาในการบินเพียง 2 ชั่วโมง 25 นาทีเท่านั้น ผมนึกในใจ ขนาดเราจะกลับบ้านนอก ยังนั่งรถ 6-7 ชั่วโมงด้วยซ้ำ นี่มาถึงต่างประเทศแล้ว

 

            ไอ้ตี๋ผ่านตรวจคนเข้าเมืองไปฉลุย ส่วนผมมีปัญหาเล็กน้อยเมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูตั๋วขากลับของผม (หน้าตาคล้ายคนอพยพมาจากแดนไกล) ผมล้วงตั๋วขากลับออกมายืนยันว่ากูกลับแน่ ๆ  จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ประทับวีซ่า (On arrival) ให้ผม 14 วัน

 

            เรานั่งแท็กซี่มาที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนถนน Scotts ตามที่ระบุในแพ็กเกจ  วันนี้ดึกมากแล้ว คงไม่ได้ทำอะไรมากนอกจาก ......

 

            *ตี๋ ใหน ๆ ก็มาถึงเมืองนอก เราหาอะไรทำหนุก ๆ ดีกว่า* ผมนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนดูไอ้ตี๋กำลังเช็ดผมให้แห้ง ตอนนั้นเกือบเที่ยงคืนแล้ว

 

        -อะไรล่ะที่ว่าหนุก ๆ – มันถามโดยไม่หันมามองหน้าผม

 

            ผมวิ่งไปที่กระจกที่มันยืนอยู่ กอดมันจากข้างหลัง เริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอมันทันที

 

            *เว้นช่วงไปนาน ตอนแรกเราก็นึกว่าโดนไอ้กลดทำปู้ยี่ปู้ยำไปถึงใหนแล้ว* ผมพูดอย่างหื่นกระหาย

 

            ไอ้ตี๋หันหน้าเข้ามาปะทะผม ต่อยผมเบา ๆ ที่ท้องหนึ่งครั้ง

 

            -ปากเสีย วันนั้นยังไม่ไปถึงใหนเลยอ่ะ นึกเสียดายเหมือนกันนะ- มันพูดทำหน้าทะลึ่งทะเล้น ยิ่งยั่วโมโหผมเข้าไปอีก

 

            *กินน้ำพริกถ้วยเก่านี่ล่ะ ให้มันรู้ไปว่าจะเบื่อหรือเปล่า* ผมเร่งระดมจูบไอ้ตี๋ ลิ้นดุนลิ้นกันอย่างเมามัน มือของมันอยู่ไม่สุข มันเอื้อมมาดึงกางเกงนอนผมลงอย่างง่ายดาย Kผมเริ่มตึง ๆ แล้วแต่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่ ดุนดันอยู่แถว ๆ บริเวณหน้าขามัน

 

            ผมใช้มือของผมถอดเสื้อและกางเกงมันออก Kไอ้ตี๋เล็กแข็งปั๋งเต็มที่ อุตส่าห์มาไกลถึงต่างประเทศ ไม่ได้มีกิจกกรมอะไรนี้ก็ดูจะกระไรอยู่ เหมือนกับมาไม่ถึง ผมโอบเอวตี๋เล็กเขามาแนบตัวผมจนเราสองคนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ปากก็ยังจูบกันอยู่อย่างดูดดื่ม

 

            ตี๋เล็กผละปากออกจากปากผมแล้วนั่งลงตรงหน้าผม ผมขยับไปนั่งพิงโต๊ะเครื่องแป้งในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งยืน  Kผมแข็งตัวเกือบเต็มที่ผงาดอยู่ตรงหน้าตี๋เล็กพอดี ไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ ตี๋เล็กเอามือจับโคนไว้ แล้วใช้ปากครอบเอาหัวKทันที มันเม้มตรงรอยหยักแล้วดูดอย่างแรง ผมร้องโอ้ย ต้องแอ่นตามแรงดูดเพื่อคลายความเสียว ผมจับหัวมันไว้ให้มันผละออกแต่มันก็ยิ่งแกล้งด้วยการขยับปากเข้ามาจนมิดลำ ผมคราง โอ้ว ซู้ดส์ปาก ออกมาอย่างลืมตัว

 

            ปากของมันเริ่มทำงานขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ เพื่อลดแรงต้านความเสียว ผมต้องแอ่นตามจังหวะการดูด  ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมว่าไอ้ตี๋มันไปทำอีท่าใหน ถึงประทับใจไอ้กลดนัก คิดขึ้นมาแล้วมันน่าหึงใหมล่ะครับ อยู่ดีดี ต้องมาทนรับรู้ว่าเมียตัวเองกำลังดูดKของคนอื่นอยู่  ไอ้ตี๋ดูดKเป็นจังหวะสม่ำเสมอเล่นเอาผมครางหงิงๆ บางจังหวะเผลอตัวกระเด้ารับจังหวะที่ปากของมันรูดเข้าลง มือมันยิ่งซุกซนข้างหนึ่งบีบเค้นคลึงไข่ผมเล่น มันยิ่งทำให้เสียวซ่านมากขึ้น ส่วนอีกมือ มันเอาลูบไปมาอยู่ระหว่างร่องก้นผมเบา ๆ ทำให้มีความรู้สึกเสียวปนระคนหวาดกลัว ... กลัวมันจะขอเอาผมบ้างสิครับวันนี้

 

            ผมจับมันลุกขึ้นแล้วไปที่เตียงนอน จับไอ้ตี๋เล็กนอนหงายแผ่แยกขาออก ผมช่วยมันบ้างด้วยการจับKมันชักว่าวขึ้นลง 3-4 ครั้งก่อนผมจะเลียที่หัวKสีแดงเข้มของมันเบา ๆ มันครางฮือ ๆ ผมเลียตั้งแต่โคนไปหาปลาย 2-3 ครั้งก่อนจะเลียรัวที่หัวบาน ๆ นั้น ไอ้ตี๋เริ่มร่อนอยู่ไม่เป็นสุข มือทึ้งผ้าปูที่นอน ก่อนที่ผมจะครอบปากลงไปจนมิดด้ามในทีเดียว ผมแทบหายใจไม่ออก มันใช้มือมาจับหัวผมดึงออก ผมไม่ยอมเมื่อกี้แกล้งกูดีนัก

 

            ผมรูดปากเข้าออกในจังหวะที่ไอ้ตี๋เล็กร่อนกระเด้งตูดให้Kรับกับจังหวะการดูดของผม มันร้องโอ้ว ๆ คงเสียวน่าดู ผมกลัวมันจะอยู่เฉย ๆ ไม่มีอะไรทำ จึงกลับตัวผม Up-side down จ่อKของผมเข้าที่ปากมันพอดี มันรีบงับไว้อย่างรวดเร็ว ส่วนผมจับKมันพาดมาทางหน้าท้อง  สำรวจจุดหมายของผมทันที ผมเจอแล้วรูดตูดของมัน นั่นเอง เพื่อทดสอบความฟิตผมใช้นิ้วแยงไปเบา ๆ 1 นิ้ว มันเข้าได้ยากมากผมจึงถ่มน้ำลายใส่แล้วค่อย ๆ แหย่เข้าไปใหม่ เบา ๆ มือ ไอ้ตี๋ร้อง อื้อ อื้อ ในขณะที่ดูดKผมอยู่ในปาก

 

            เมื่อนิ้วเข้าได้ผมลองควานรอบ ๆ ก่อนจะใส่เพิ่มไปอีกหนึ่ง และหนึ่ง ไอ้ตี๋ผละออกจากKผมร้อง โอย ๆ ๆ ผมถามว่าเจ็บเหรอ มันบอก อือ .. อือ .. ผมเดาเอาว่านั่นคือคำตอบว่าไม่เจ็บ ผมจึงย้ายตำแหน่งมานั่งยอง ๆ จับขาไอ้ตี๋แหกออก พาดมาทางหน้าอก ตูดมันลอยเด่นออกมา เห็นรูตูดขยายตัว เป็นสีชมพูยั่วอารมณ์

 

            ผมจับหัวKที่ชุมน้ำลายของไอ้ตี๋เมื่อครู่จ่อเข้าที่รู กดพรวดเดียวอย่างแข็งใจทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันต้องเจ็บ ผมก็ต้องเจ็บ มันร้อง ฮื่ออออ ออกมา คงเจ็บมาก ผมสูดปากด้วยความเจ็บ แช่ไว้อย่างนั้นยังไม่ได้ทำอะไร ตูดไอ้ตี๋ยังคงฟิตเปรี๊ยะ มันตอดผมตุบ ๆ ๆ ๆ จนKผมที่แช่อยู่รู้สึกได้

 

            ผมจึงชักออกมาจนเกือบสุดด้าม ติดปลายหัวเงี่ยงไว้เท่านั้น และกดเข้าไปช้า ๆ แล้วเร่งจังหวะขึ้นเป็นรวดเร็ว ไอ้ตี๋ร้องครวญครางสลับกับเสียงครางหงิง ๆ ด้วยความเสียว ผมเล่นไม่เลิกโดยการยกตูดมันขึ้นแล้วทะลวงมากจากข้างล่าง โอ้ว แค่สองสามนาที น้ำจากKไอ้ตี๋แตกพุ่งปริ้ดเต็มหน้าท้องและหน้าอกมัน ผมเร่งจังหวะของผมบ้าง จับเอาไอ้ตี๋นอนตะแคง ยกขามันขึ้นหนึ่งข้าง ให้ความรู้สึกว่าKโดนบีบแน่นมาก ๆ ผมซอยเข้าซอยออกอย่างไม่ลดละ ยังไงจุดหมายของผมก็คงอยู่อีกไม่ไกล ไอ้ตี๋ยิ่งครางหงิง ๆ ตามจังหวะที่ผมเสียบผมก็ยิ่งเสียวมากขึ้น ในที่สุดผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่ปลายK น้ำแตกฉีดพุ่งเข้าไปในรูได้ตี๋ ผมร้อง โอ้ย ออกมาอย่างดังแล้วโยกเข้าให้สุด ๆ อีก 2 ที

 

            ผมนอนกอดก่ายไอ้ตี๋เล็กโดยไม่ได้เอาKออกมา รูตูดมันตอดKผมตุบ ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจมัน ผมกอดมันไว้เนิ่นนานจนกระทั่ง เราสองคนหลับไป

 

            ตื่นเช้ามาเราไปเที่ยวตามข้อมูลที่หามาได้ล่วงหน้า เริ่มจากหาข้าวกินตามศูนย์อาหาร ผมบ่นว่าอาหารจีนให้กินได้สักพัก ผมคงเบื่อ เพราะไร้รสชาติอะไรทั้งนั้น แม้แต่รสชาติอร่อยก็ไม่ได้ใส่มาให้เรา มิน่าล่ะ อาตี๋ที่นี่ถึงได้ขาว ๆ ซีด ๆ ดูไม่มีสุขภาพพลานามัยกันทั้งนั้น  เราไปเที่ยวที่เซ็นโตซ่า ไชน่าทาวน์และตอนเย็นแวะซื้อของที่ถนน Orchard เราซื้อของที่อยากได้ และของฝากคนที่เมืองไทยบางส่วนก่อนจะกลับไปที่โรงแรม

 

        ตี๋เล็กอยู่ในห้องน้ำ ส่วนผมนอนเกลือกกลิ้งดูทีวีอยู่บนเตียง ผมคอยชำเลืองดูว่าไอ้ตี๋จะออกมาเมื่อไหร่ จนผมเผลอหลับไป

 

            ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีคนมาหอมแก้มผม ไอ้ตี๋เล็กนั่นเอง มันนั่งอยู่บนเตียงยิ้มอย่างอารมณ์ดี

 

            *ขอบใจนะ สำหรับของขวัญ* มันพูดยิ้ม ๆ

 

            -ของขวัญอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง- ผมงัวเงีย ไม่รู้ไม่ชี้

 

            *จะเซอร์ไพรส์ก็ไม่น่านอนหลับก่อนจะให้ของคนอื่นนะ* ผมน่ะสิ นอนหลับกอดกล่องของขวัญไปเลย

 

            -เอามานะ เค้าอาย- ผมอายจริง ๆ หน้าแดง เหมือนเด็กทำผดแล้วถูกจับได้

 

            ผมซื้อของขวัญเป็นแหวนทองคำขาววงบาง ๆ ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากมายนักให้กับตี๋เล็กตอนที่เราไปซื้อของเมื่อเย็น ผมอยากมีอะไรบางอย่างที่ช่วยเตือนใจทั้งผมและมันเวลาที่เราอาจจะห่างไกลกัน เพราะผมต้องทำงานพิเศษไปด้วย ผมซื้อ 2 วงที่มันตั้งโชว์คู่กันในร้าน ผมเอาออกมาจากกล่อง 1 อันสวมไปที่นิ้วนางข้างขวามัน

 

            -ใส่ให้ด้วยสิ- ผมบอก

 

            ตี๋เล็กบรรจงใส่แหวนที่นิ้วนางข้างขวาของผมเช่นกัน

 

            -กูอยากให้มีของบางอย่างเตือนเราสองคนเสมอ ๆ ว่ากว่าเราจะมาถึงวันนี้ เราต้องเข้มแข็ง ฝ่าในอุปสรรคมาสักเท่าไหร่- ผมบอก

 

            *โรแมนติกจังผัวกู* มันทำหน้ายียวน

 

            -ก็รักนี่- ผมกระโดดเข้าหอมแก้มมันพันลวัน ความรักของคู่ชื่นชุลมุน ได้เริ่มต้นเดินทางอีกครั้งหนึ่งแล้ว จะดีจะร้าย ...... ยังไม่มีใครทราบ ...

 

            นอกเสียจากว่า.... คราวนี้..... ไม่ว่าจะอย่างไร... เราจะเดินไปพร้อม ๆ กัน

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรียน    มิตรรักนักอ่านทุกท่านครับ

 

            เรื่องของเก่งกับตี๋ในภาคที่ 3 คงจะจบลงเพียงเท่านี้ ขอขอบพระคุณสำหรับการติดตามอ่านและเป็นกำลังใจ เป็นเพื่อนกันผ่านตัวอักษรเรื่อยมานะครับ สำหรับเหตุการณ์สุดท้ายในภาค 3 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1997-98 เหตุการณ์หลังจากนั้นถัดมา ผมจะทยอยนำมาลงเผื่อแผ่กับท่านผู้อ่านในโอกาสต่อไปครับ สำหรับเรื่องราวในชุดถัดไป ซึ่งผมตั้งใจจะให้มีภาคเดียวนั้น จะเป็นเรื่องราวของความรัก อุปสรรค ระหว่างที่เก่งกับตี๋อยู่มหาวิทยาลัยปี 3 และ ปี 4 นะครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้อ่านเป็นอย่างดีตลอดไป

 

                                             รักมากมาย

 

                                                                        เก่ง

 

                                                                   19.00 น.

                                                                   07/06/07
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 21-10-2007 14:53:37
 :m13:มาเล่าต่อเรื่อย ๆ นะคะชอบอ่านเรื่องนี้คะ เป็นกำลังใจให้คะ อย่าหายไปจากบอร์ดนะคะมาต่อเรื่อย ๆ ขอบคุณคะ :m1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 21-10-2007 15:26:22

   มาต่อนะคับ จะติดตาม  :a12: :a9:
   
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 21-10-2007 16:05:40
 :impress:
สุขสมหวังกันไปอีกหนึ่งคู่ พี่เก่งกะตี๋เล็ก.....ปล่อยเต่าแล้วช่วยได้จิงวุ้ยยย  :m18:
รักแท้ต้องผ่านการทดสอบ.....เจอแล้วรักษากันไว้ให้ดี....เวลาอีกหลายปีที่อยู่ด้วยกัน
อย่าปล่อยให้มันจืดจางลงไป....นึกถึงเวลาที่ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคกันมา.....กว่าจะมีวันที่ได้อยู่ร่วมกัน
 :catrun:
เอาใจช่วยคนเขียน คน post ขอบคุณที่ยอมสละเวลาสร้างสรรค์เรื่องราวให้ได้ติดตามกันตลอดมา  :m5:
+1 ให้เป็นกำลังใจ จะติดตามกันตลอดไป....จนกว่าเหล่านักเขียนจะเบื่อที่จะเขียน......
 :bye2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-10-2007 16:23:16
ไปฮันนีมูน ก็ต้องมีหน่อยนะ จะได้ประทับใจ
ว่าเอาจหมดแรงลืมให้แหวน
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

รออ่านต่อนะครับ
 :m18:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 21-10-2007 16:30:25
เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากครับ  กับความรักของทั้งสองคน

รอติดตามภาคต่อไปครับ  ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆ เลยครับ

ปล +1 ให้เช่นกันครับ  สำหรับคนโพสต์
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-10-2007 19:24:20
ยังเฝ้าติดตามเป็นกำลังใจให้กับทั้งเก่งและตี๋น้อยนะครับ   :m11:

ขอขอบคุณทั้งคนโพสและคนเขียนด้วยนะครับ สำหรับความอดทนพยายามและการเสียสละเวลาและร่างกาย ในการที่จะนำเรื่องราวดีๆแบบนี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน

รักๆ จุ๊บๆ ทุกคนครับ  :give2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 21-10-2007 20:02:06
ชอบจังเลย หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคอะไรมาแยกพีเก่งกะน้องตี๋ ออกจากกันได้นะ  :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 22-10-2007 11:00:35
จบภาค3 อย่างมีความสุข และหวังว่าคงมีความสุข ตลอดไป  :m3: :m3: รออ่านภาคต่อๆไปคับผม
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-10-2007 11:18:48
ฉากนั้นยังคงดุเดือด อ่านแล้วนึกภาพตามแล้ว หยิวๆเลย อิอิ

จะรออ่านภาคต่อๆไปน่ะคับ

ปล.มหาลัยปี 2 ประมาณ ปี97-98เนี่ย แก่กว่าผมหลายปีอยู่น่ะเนี่ย อิอิ ผมเข้ามหาลัยตอนปี 1999-2000
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 22-10-2007 12:13:45
 :m4: ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่เขียนมมาให้อ่านครับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-10-2007 12:48:53
 :m3:  น่ารักมากๆ  ชอบๆ

กว่าจะผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้   ลุ้นแทบแย่ 

ยังไงก็จะติดตามตอนต่อๆๆไปนะครับ    :m27:

เป็นกำลังใจให้ค้าบบ  o15
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 22-10-2007 12:59:58

............สมกับไปฮันนีมูนจิงๆ........ :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: jb ที่ 22-10-2007 13:11:36
สิถ่าอ่านเด้อ อ้ายเก่ง

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 22-10-2007 13:17:23
หลบไปอ่านเรื่องอื่นมา
พอกลับมาอ่าน รู้สึกอย่างนึงว่า ภาษาที่เขียนดูเป็นคนมีความรับผิดชอบมากที่เดียว

ปล.มหาลัยปี 2 ประมาณ ปี97-98เนี่ย แก่กว่าผมหลายปีอยู่น่ะเนี่ย อิอิ ผมเข้ามหาลัยตอนปี 1999-2000

อายุเราคงไม่ห่างกันนะ ผมจบ ปวส.2 ตอนปี 2000 พอดี
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 22-10-2007 13:44:33
ความสุขมักจะหอมหวานมากขึ้นเสมอ  เมื่อเราได้รู้จักความทุกข์มาก่อน

คงเหมือนกับคุณตี๋เล็กและคุณเก่ง  กว่าจะมีวันนี้ได้

ก็มีหลายเรื่องราวผ่านเข้ามา  มีอุปสรรคก็เยอะแยะ

ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆๆๆ นะคร้าบบบ  :m3:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: sasi ที่ 22-10-2007 14:59:49
เราล่ะคนนึงที่ตามอ่านเรื่องนี้มาตลอด ใครจะว่าไงอย่าไปสนใจนะ

เราจะรออ่านเรื่องนี้ จะตามอ่านไปเรื่อยๆเลย สัญญา อิ่ๆ

รออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 24-10-2007 18:55:52
ต่อภาค 4  :m18: ต่อภาค 4 :m18:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากเก่ง ถึง ตี๋ : ภาค 4 – ตอนที่ 1 Open-up ..open-up

เราอยู่มากันจนถึงภาคเรียนที่สองของปี 2 กันแล้ว มีข่าวใหม่ ๆ โผล่ออกมาไม่ขาดสาย เรื่องของรุ่นพี่ปี 3 ที่พากันแอบจิตกันอยู่ในมุมมืด ต่างพากันพร้อมอกพร้อมใจสว่างจิตเปิดเผยกู่ร้องให้ก้องฟ้า ว่าตนเองคือชายรักชายซะอย่างนั้น

 

            อันที่จริงผมก็พอทราบและดูออกจากการกระทำว่า รุ่นพี่คนใหน เป็นอย่างไร อย่างเช่นกลุ่มของไอ้พี่อ้วน จำกันได้ใหมครับ ว่าเคยจะมาแอบดามใจผมตอนที่อกหักจากไอ้ตี๋เล็กเหมือนกัน ตั้งแต่วันนั้นมา ดูพี่เขาจะไม่ค่อยกล้ามาพูดอะไรกับผมมากนัก แต่การกระทำกับรุ่นน้องปี 1 ที่เข้ามาใหม่นี่สิครับ มันสวนทางกันไปหมด

 

        กลุ่มของไอ้พี่อ้วนมีกันอยู่ 6 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด แต่อย่างว่า มันก็มีบางคนที่ผมมองด้วยสายตาก็พอจะรู้ว่า คนนี้ไม่ธรรมดา รุ่นพี่คนใหนที่น่าสงสัย มันจะไม่เข้ามาไกล้ผมมากเท่าไหร่นัก

 

            กลุ่มของไอ้พี่อ้วนนี่ มีงานอดิเรกอยู่อย่างคือ การดูแลเทคแคร์น้อง ๆ ปี 1 ซึ่งทั้งผม และเพื่อน ๆ ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมปี 3 ต้องดูแลพวกลิงปี 1 ดีขนาดนี้ อยู่มาวันหนึ่ง ข้อสงสัยของผมจึงกระจ่าง เมื่อผมพาไอ้เบื้อกกับไอ้บอล น้องรหัสของผมสองคนไปเลี้ยงน้ำปั่นที่หน้ามหาวิทยาลัย

 

        *พี่เก่ง ผมมีเรื่องอะไรจะเล่าให้พี่ฟัง พี่ห้ามเอาไปเล่าต่อนะ มันไม่ดี* ไอ้บอลทำเสียงกระซิบกระซาบเหมือนกลัวจะมีใครมาได้ยิน

 

            -ไอ้บอลจะดีเหรอวะ- ไอ้เบื้อกถาม ไอ้บอลเป็นคนปากเปราะอยู่แล้ว ไอ้นี่ไม่สามารถเก็บความลับอะไรได้ทั้งนั้น เพราะอาชีพหลักของมันคือ การคุย

 

            *ดีสิ พี่เก่งก็พี่เรา* มันหันหน้ามาทางผมแล้วพูดต่อเบา ๆ

 

            *เมื่อคืนเกิดเรื่องที่หอ .............. ห้องไอ้อี๊ด*

 

            -เรื่องอะไรวะ พวกมึงรีบพูด ๆ มา- ผมไม่ได้สนใจนัก

 

            *เรื่องมันมีอยู่ว่า พี่เชตน์ (กลุ่มพี่อ้วน) พาพวกไอ้อี๊ดกับพวกปี 1 ที่อยู่ห้องนั้น 3 คน กินเหล้ากันนิดหน่อย แต่ตอนนอนไปแล้วสิพี่มันมีเรื่อง*

 

            -พอปิดไฟได้สักพัก ไอ้อี๊ดมันโวยวาย พอไฟเปิดขึ้น ไอ้พี่เจตน์ถูกไอ้อี๊ด ต่อยหน้าไปทีนึงน่ะครับ พวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ในห้อง งง กันหมดเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น-

 

            *ไอ้อี๊ดมันโวยวายว่า ไอ้พี่เชตน์ มาจับปิกาจูของมัน มันเอามือออก ไอ้พี่เชตน์ยิ่งกล่อมมันใหญ่ว่า อยากจับของอี๊ด อี๊ดยอมพี่นะ ไอ้อี๊ดไม่ยอมไง โวยวาย แถมต่อยปากอีก สุดท้ายพวกเพื่อน ๆ เขาก็พาพี่เชตน์ไปจากห้อง*

 

            -พี่อย่าไปเล่าให้ใครฟังนะ มันจะลามใหญ่โต- ไอ้เบื้อกกะไอ้บอลเอ๋ย มันจะลามก็เพราะมึงสองตัวนี่ล่ะ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ชายทะเลตอนรับน้องได้ทันที

 

            รุ่นพี่ทุกคนสั่งให้พวกเราถอดกางเกงออกแล้วใส่ถุงดำหรือถุงขยะแทน จากนั้นให้พวกผมทุกคนนอนบนโคลนที่น้ำกำลังลง รุ่นพี่เอาโคลนมากองตรงปิกาจูของเรา เอาเปลือกหอยวาง 1 อัน เพื่อให้พวกผู้หญิงมาคลำเอาเปลือกหอย

 

            ไอ้เชตน์นี่ล่ะครับ เป็นคนเอาโคลนมาหมกปิกาจูของผม มันจับลูบไล้ไปมา ผมไม่ได้ทำอะไร นอกจากแข็งตัวเท่านั้นเอง ผมเป็นเองโดยอัตโนมัติ

 

            -น้องเก่งอยู่นิ่ง ๆ นะครับ เดี๋ยวคนอื่นรู้จะหาว่าน้องไม่แมน- ดูมันกระซิบข้างหูกูสิ

 

            ผมถึงบางอ้อเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในคราวนั้น  เมื่อนำมารวมกับคราวนี้ มันก็น่าสงสารพวกพี่เขาไม่น้อยที่โดนแบบนั้นนะครับ ว้า ..... มีน้องเก่ง น้องตี๋อยู่ทั้งคน ไม่เอามาใช้ประโยชน์ เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ มีแต่จะเสียระบบพี่น้องหมด ผมนึกในใจ

 

            ผมจ่ายเงินและร่ำลาทั้งสองคน วันนี้ไอ้ตี๋จะกลับประมาณ 2 ทุ่ม เพราะมันไปทำรายงานกับเพื่อน ๆ กลุ่มมัน ที่ห้องสมุด ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ เพิ่ง 6 โมงเย็น กลับหอก็น่าเบื่อ เลยเดินไปแวะร้านให้เช่าหนังสือการ์ตูนเก่าหน้ามหาวิทยาลัย

 

            ผมไล่นิ้วไปตามสันปก จับพลิกไปพลิกมาหลายเล่ม ยังไม่ได้เล่มที่ถูกใจ ผมจับที่สันปกของการ์ตูนเล่มหนึ่ง ปรากฏว่ามือมือมือหนึ่งดึงที่สันปกจากฝั่งตรงข้ามของชั้นหนังสือ ผมรีบยิ้มเพื่อจะขอโทษ กลับเจอหน้าขาว ๆ กลม ๆ ตี๋ ๆ  ของรุ่นน้องผมนั่นเอง ไอ้เทพ

 

            -พี่เก่ง จะเอาเล่มนี้เหรอครับ-

 

            *ไม่หรอก เล่มนี้พี่มีแล้ว ซื้อไว้น่ะ เออ ยืมอ่านก็ได้นะ ไม่ต้องเช่า มีทั้งชุดเลย*

 

            -จริงเหรอครับ พี่ให้ผมยืมจริงหรือเปล่า-

 

            *จริงสิ เดี๋ยวพี่เลือกการ์ตูนเสร็จ น้องไปเอาได้ที่ห้องพี่*  สาบานได้ผมไม่มีความคิดอะไรลามกกับมันเลย ให้ตายสิ .... อย่าพึ่งเดาเว้ย

 

            ที่ห้องผม

 

            *พี่ตี๋กับพี่เก่งสนิทกันจังเลยนะครับ* ผมเห็นมันเหลือบไปมองรูปถ่ายคู่ของผมกับตี๋ที่หัวเตียง

 

            -เรามาจากขอนแก่นด้วยกัน- ผมตอบสั้น ๆ

 

            *ผมขอเบอร์โทรศัพท์พี่เก่งได้ใหมครับ เผื่อผมอยากคืนหนังสือพี่ จะได้ติดต่อ*

 

            ไอ้เทพคว้าเอาโทรศัพท์โนเกียกล้วยหอมออกมา บันทึกเบอร์ผมอย่างรวดเร็ว

 

            *ผมกลับแล้วครับ ขอบคุณมาก* ผมยิ้มให้มันน้อย ๆ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนแผ่อยู่บนเตียงจนเผลอหลับไป

 

            ติ๊ด ติ๊ด ๆๆๆ เสียงข้อความจากโทรศัพท์ผมดังขึ้น อะไรวะ คนจะนอน ... ผมกดปิดแต่ไม่ได้ อ่าน จนไอ้ตี๋กลับมา เรากินข้าว อาบน้ำ นอนบนเตียง ปิดไฟ ผมฉวยโทรศัพท์มาอ่านข้อความ

 

            *** Thank you. : Thep ***

 

        ผมยิ้มน้อย ๆ ให้ข้อความก่อนจะลบมันออกไปอย่างไม่ต้องคิด  กอดไอ้ตี๋กระชับและนอนหลับในอ้อมกอดของกันและกัน
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 24-10-2007 20:08:39
ภาคสี่มาแล้วววววว  กลัวจะมีเรื่องเศร้าอ่า 

มันเริ่งมีกลิ่นตุๆ ตั้งแต่ตอนแรกเลยอ่า

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 24-10-2007 21:37:06
เย่มาต่อแล้ว  อย่าลืมเปลี่ยนชื่อกระทู้คร้าบบบ

ภาคนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกน้อ  :m29:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-10-2007 21:45:14
ภาค 4 แล้วเร็วจิงๆเลย รออ่านต่อนะค้าบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 3 ...^-^ ..by Kelvin......(จบภาค 3แล้วคับ)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 25-10-2007 13:29:39
เนื้อหอมจังเลยนะ  มีน้องมาชอบอีกแระ อิอิ  :a11:

มาต่อนะคับ รอติดตามอยู่  :impress:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 26-10-2007 12:43:15
เพิ่งจะผ่านมรสุมใหญ่มาได้  อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลยนะ o14
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 26-10-2007 14:18:06
 :m13: ....จะรออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-10-2007 15:31:01
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a1:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 26-10-2007 16:41:35
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 2  คนทรยศ
ผมเลิกเรียนบ่าย 3 โมง ส่วนไอ้ตี๋ไปศูนย์คอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย เพื่อทำรายงานกลุ่มอีกแล้ว ผมส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายที่เห็นกลุ่มไอ้ตี๋ไม่เสร็จงานเสียที ผิดกับกลุ่มของผม อาจารย์ไว้วางใจให้เป็นกลุ่มแรกที่จะขึ้นรายงานหน้าชั้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับเพื่อน ๆ ในกลุ่มต่อ ๆ ไป

 

            ผมไม่ได้ทำงานพิเศษแล้วเพราะทำต่อไม่ไหว งานขายตรงหลายชั้นเป็นงานที่อาศัยเครือข่าย แต่รายได้ที่ผมได้มา มากจากการขายเพียงอย่างเดียว และผมก็ขายเฉพาะสินค้าตัวใหญ่ ๆ เช่นเครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองอากาศ  การเจริญเติบโตในฐานแคบ ๆ เป็นอันตรายกับองค์กรธุรกิจแบนี้มาก ผมจึงหยุดการทำงานในเดือนที่ผมมียอดขายแค่ซื้อของใช้ส่วนตัวนั่นเอง

 

            ผมแวะซื้อน้ำที่ 7-11 และเมื่อผมเปิดประตูเพื่อเดินออกมาจากร้าน  ผมก็พบกับเสียงเสียงนึงทักไว้

 

        *พี่เก่ง ไม่มีเรียนเหรอครับ*

 

            ไอ้เทพนั่นเอง วันนี้ใส่ชุดไปรเวท สงสัยไม่มีเรียน

 

            -กำลังจะกลับแล้วครับ-

 

            *เดี๋ยวผมตามไปคืนหนังสือการ์ตูนพี่นะครับ สัก 15 นาที*

 

            -โอเค ไม่ต้องรีบก็ได้นะ-

 

            ผมบอกกับมันก่อนจะเดินกลับเข้าหอพัก

 

            ผมเปิดทีวีทิ้งไว้ ถอดเสื้อนักศึกษาออกเหลือแต่กางเกงนักศึกษา นอนเอกเขนกดูทีวีอยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก็อก ๆ ๆ

 

            *เปิดประตูเข้ามาได้เลยครับ ไม่ได้ล็อก*

           

            ผมบอก

 

            ไอ้เทพมองผมที่เปลือยครึ่งท่อนเล็กน้อย แล้วยิ้ม ๆ เอาหนังสือไปเรียงเข้าชั้นอย่างเรียบร้อย ก่อนจะขอตัวกลับ

 

            -จะรีบไปใหนล่ะ คุยกันก่อนก็ได้-

 

            สาบานได้ ตอนนี้ผมไม่ได้คิดทะลึ่งลามกกับน้องเลยนะครับ

 

            มันนั่งลงกับพื้น ผมจึงลุกจากที่นอนมานั่งเป็นเพื่อน เห็นมันตั้งใจดูทีวีอย่างดี ผมแอบสังเกตุมันเป็นระยะ ไอ้น้องคนนี้มันตัวใหญ่พอ ๆ กับไอ้ตี๋เลยครับ แต่ขาวแบบคนจีน สำอางค์แบบหนุ่มกรุงเทพ ฯ อาจจะเพราะบ้านเขามีเงินเยอะก็ได้นะครับ เสื้อผ้าดูเรียบร้อยมีราคา วันนี้มันใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีน ใส่ถุงเท้าสีขาว ผมกลืนน้ำลายเอื้อก .. ผมแพ้คนใส่ถุงเท้าสีขาว มันน่ารักนี่นา ...

 

            ผมแอบเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือมัน โอ้โห ใส่แทกฮอยเออร์ ลายก้างปลา วัยรุ่นหล่อ ๆ เขานิยมกันล่ะนะครับ คงจะเป็นของจริง ไม่ใช่ 500 บาทที่คลองถมหรอกเพราะมันขับรถราคาแพงส่วนตัวมาเรียนทุกวัน ไรขนบางๆ ตัดกับผิวขาว ๆ ของน้อง ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายตัวเองอีกหลาย ๆ ครั้ง

 

            ไอ้เทพหันมาชำเลืองมองผม มันสบสายตากับผมที่สำรวจร่างกายมันอยู่พอดี ผมรีบหลบตาด้วยความอาย แล้วเดินไปจัดของที่โต๊ะเขียนหนังสือไปตามเรื่องตามราว ตอนนั้น เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว

 

            ผมนั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ

 

            *น้องเทพกินข้าวหรือยังครับ*

 

            -ยังเลยครับพี่เก่ง พี่เก่งหิวหรือเปล่าครับ-

 

            *อือ ไปกินข้าวด้วยกันนะ* 

 

            ไม่รู้ผีห่าซาตานตนใหน บังคับให้ผมบอกกับใจตัวเองว่า ไอ้นี่มันน่ารักว่ะ .... ผมจะทรยศไอ้ตี๋อีกแล้วหรือนี่ ?

 

            ผมสะบัดความคิดในหัวออกไป ไปกับน้องที่คณะมันจะเป็นอะไรไป คนเราก็ต้องมีการคบเพื่อนบ้าง ไอ้ตี๋มันต้องเข้าใจ

 

            *เดี๋ยวพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่นะครับ*

 

            ผมใส่เสื้อยืด แล้วถอดกางเกงนักศึกษาออกเพื่อเปลี่ยนเป็นยีนส์ เสื้อยืดผม ปิดกางเกงในกับปิกาจูผมได้หน่อยเดียว เผยให้เห็นช่วงขาที่มีขนดกเข้าไปในขอบกางเกงใน ไอ้เทพหันมามองผมสักพัก ผมเห็นสายตาของมันหันมาพอดี มันรีบหลบตา  ผมขำในใจ หายกันนะเด็กน้อย มันหน้าแดงระเรื่อ ดูไปดูมาน่ารักเหมือนไอ้ตี๋เลยครับ เพียงแต่ไอ้น้องเทพนี่ ตัวใหญ่กว่า มันน่ะหนักไม่น้อยกว่า 75 เผลอ ๆ 80 แต่ตัวใหญ่สมส่วนดี

 

            ผมอาสาเป็นสารถีให้น้อง ผมขับรถออกมาเข้าไปในเขตุสวนส้ม แถว ๆ ที่ผมอยู่จะเป็นสวนปลูกส้มเป็นจำนวนมาก

 

            -พี่เก่งจะไปกินข้าวที่ใหนครับ- ไอ้เทพถาม

 

            *ร้าน .......... ที่ตรงนี้น่ะครับ เคยมาใหมครับ*

 

            -ไม่เคยครับ แนะนำผมด้วยนะครับ-

 

            ผมสั่งอาหารมาสองสามอย่าง ก่อนจะลงมือกินอย่างหิวกระหาย เพื่อมารยาท ผมตักอาหารให้น้องบ้างเป็นครั้งคราว เรามาไกลจากมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่จำเป็นต้องรักษาภาพอะไรนัก (ไอ้เก่งมึงคิดอะไรอยู่)

 

        ผมไม่ทราบว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมแค่รับรู้ในตอนนั้นว่า ทำไมผมมีความสุขเหลือเกิน มีความสุขที่ได้อยู่ไกล้น้องคนนี้ อยากเอาใจ และดีใจที่น้องเขาเอาใจ ผม เราพูดคุยกันถึงเรื่องราวส่วนตัวมากมาย ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ผมจะดังขึ้น

 

            *ว่าไงตี๋*

 

            -กินข้าวหรือยัง กำลังจะออกไปกินข้าวกับพวกไอ้โรจน์ ออกมากินด้วยกันใหม หรือจะให้ซื้อเข้าไปให้-

 

            *อยู่ข้างนอก มากินข้าวกับไอ้เทพ เด็กปี 1 น่ะ น้องเขาเอาการ์ตูนมาคืน*

 

            -โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ห้องละกันนะ-

 

        ผมวางสายไป เสียงไอ้เทพถามผมขึ้น

 

            *พี่เก่งทำไมบอกพี่ตี๋ว่าอยู่กับผมล่ะครับ*

 

            -ทำไมล่ะครับ ไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย-

 

            *ไม่กลัวพี่ตี๋หึงหรือครับ* หมัดนี้เป็นหมัดแรกที่ไอ้เทพชกเข้าเป้ามากที่สุด

 

            -ไม่หรอกครับ พี่ตี๋เขาเข้าใจ-

 

            ตอนขากลับผมอาสาเป็นสารถีอีกตามเคย

 

            *พี่เก่งครับ เราจะมีโอกาสมากินข้าวด้วยกันอีกหรือเปล่าครับ*

 

            ผมยิ้ม แล้วบอกว่า

 

            -แน่นอนครับ พี่ยินดี-

 

            *ผมโทรหาพี่บ้างได้ใหมครับ*

 

            -ได้ครับ ไม่มีปัญหา-

 

            ผมโบกมือให้ก่อนที่รถไอ้เทพจะเคลื่อนตัวออกช้า ๆ จากหอผม ผมวิ่งขึ้นหอพัก ไอ้ตี๋กำลังรีดชุดนักศึกษาสำหรับของพรุ่งนี้อยู่ ผมช่วยมันเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ ก่อนจะมานั่งดูมันรีดผ้าอย่างตั้งใจ

 

            *ไง ไปกินข้าวกะคนน่ารักมา* ไอ้ตี๋แซว

 

            -เฉย ๆ ว่ะ แต่ดูเหมือนมันจะชอบกูหน่อย ๆ แล้วนะ-

 

            *มึงเล่นด้วยล่ะสิ* มันแซวต่อ

 

            -อย่าท้านะ เดี๋ยวกูเล่นจริง ๆ – ผมแกล้งแหย่ไอ้ตี๋มัน

 

            *ลองดูใหม* มันยกเตารีดขึ้นมาท้าผม ผมหัวเราะก่อนจะเข้าไปกอดมันจากด้านหลัง หอมแก้มทีหนึ่ง

 

            -เมียดุแบนี้ไม่กล้าแล้วละคร้าบบบ- ผมทั้งสองคนหัวเราะกันเอง ส่วนในใจผมจริงๆ นั้น  มีรถไฟหลายขบวนวิ่งสวนทางกันไปมา .....................

 

 

--------------------------------------------------------------------

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 26-10-2007 16:42:39
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 3  สามคน ---สองทาง

  ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดเมื่อไหร่ ผมไม่เข้าใจว่าผมเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในโรงหนังกับไอ้เทพ เด็กปี 1 ที่ว่านั่นเอง ผมเริ่มโกหกไอ้ตี๋โดยอาศัยความไว้วางใจของมันเป็นเครื่องมือให้ผมได้นัดพบเจอกับน้องเขามากขึ้น

 

            ไม่ใช่ว่าความรักมันมีน้อยลง ไม่ใช่ว่าผมแบ่งความรักของผมที่มีต่อไอ้ตี๋ไปให้ไอ้เทพ แต่ผมขอพูดอย่างไม่อายเลยว่า ผมรักทั้งสองคนเข้าแล้ว

 

            วันนี้วันอาทิตย์ ไอ้ตี๋ไปเยี่ยมญาติที่บ้านพระโขนง  ผมโทรศัพท์ไปนัดไอ้เทพออกมาเจอกันเหมือนเดิม คราวนี้เราไปกินข้าวที่แถว ๆ เจริญนคร ผมเป็นพลขับเหมือนเดิม วันนี้ผมใส่กางเกงขาสั้น เสื้อโปโลกับรองเท้าหุ้มส้น ลำลองธรรมดา ไอ้เทพก็มาในแนวเดียวกัน

        เวลาประมาณบ่ายสองโมง ผมขับรถกลับมาตามเส้นทางที่จะกลับเข้าหอผม แต่ผมไม่เลี้ยวรถเข้าไปในหอพัก ผมกลับขับรถเลยออกไปทางถนนพระรามสอง

 

            -พี่เก่งจะไปใหนครับ-

 

            *พี่ชอบทะเลนะ นายชอบเปล่า?*

 

            -ชอบครับ อย่าบอกนะว่าพี่จะพาผมไปทะเล-

 

            -ไม่ได้บอก แต่จะไปจริงๆ- ผมเร่งความเร็วของรถขึ้นอีก

 

            เราสองคนมาถึงชายหาดที่เรียกว่า “หาดเจ้าสำราญ” จังหวัดเพชรบุรี กำลังแดดร่มลมตก ผมพาไอ้เทพเดินอยู่ที่ชายหาดอันเงียบสงบ ไม่มีคนเหลืออยู่บนหาดนอกจากมีครอบครัวใหญ่ 1 ครอบครัวกำลังนั่งกินเหล้าอยู่ทิวสนด้านบน มีเด็กอีก 2 คนนั่งก่อกองทรายอยู่ไกล้ ๆ

 

            ผมถอนหายใจยาวเนิ่นนาน ไอ้เทพเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังผม ผมหยุดกระทันหันทำให้มันชนเข้ากับผมอย่างจัง .... หน้าชนหน้า จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน แต่ไม่มีใครยอมผละออกจากกัน ตามของมันประสานตาของผมอยู่เนิ่นนาน ผมจับมือมัน 1 ข้างเดินจูง ไปตามชายหาดเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย

 

            ผมจับมือมันให้นั่งลงข้าง ๆ ผมที่ชายหาด

 

            *น้องเทพครับ พี่ชอบนาย*

 

            -พี่เก่งแน่ใจที่พูดหรือเปล่าครับ-

 

            *ทำไมล่ะ ไม่เชื่อเหรอ*

 

            -ผมเห็นพี่เก่งเครียด ๆ จะบอกว่าชอบใคร ต้องดีใจสิครับ- สมแล้วกับที่เป็นเด็กเรียนเก่งที่สุดของชั้นปี รู้ใจผมเสียอีก

 

            *พี่สารภาพว่า พี่รักไอ้ตี๋ และพี่ก็ชอบนายมาก ๆ ด้วย*

 

            -แต่พี่มีพี่ตี๋อยู่แล้วนะครับ-

 

            *เราคบกันได้ใหมครับ* ผมเอื้อมมือไปจับมือน้องเขา ดูน้องสั่น ๆ แถมมือยังร้อน ๆ ขนลุกอีก

 

            -แต่ผมเป็นผู้ชาย-

 

            *พี่ก็เป็นผู้ชาย แต่พี่มั่นใจว่าพี่จะดูแลน้องได้ มั่นใจในตัวพี่ใหมครับ*

 

            -แต่ว่าพี่ตี๋ ...-

 

            *เราไม่ต้องให้ใครรู้สิ*

 

            ผมโอบตัวน้องน่ารักตัวใหญ่ของผมเข้ามาพิงแนบกาย ตัวมันดูร้อน ๆ ยังไงพิกล  ผมจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากมัน หน้ามันที่แดงระเรื่ออยู่แล้วยิ่งแดงหนักเข้าไปอีก ผมชวนน้องค้างที่นี่ด้วยกันเพราะเย็นมากแล้ว

 

            -พี่ตี๋ล่ะครับพี่-

 

            ผมอึ้งไปสักพัก ก่อนจะเดินจูงมือมันมาที่รถ ผมเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนเบาะ มีสองสายไม่ได้รับ ***ไอ้ตี๋*** นั่นเอง

 

            -ฮัลโหล ตี๋เหรอ เดี๋ยวกลับแล้ว-

 

            *อยู่ที่ใหนอ่ะ เป็นห่วงรอกินข้าวอยู่*

 

            -กินไปได้เลยไม่ต้องรอนะ-

 

            *มีอะไรหรือเปล่าเก่ง* เสียงไอ้ตี๋ดูร้อนใจ

 

            -ไม่เป็นไร กลับไปค่อยคุยกันนะ- ไอ้ตี๋เป็นคนแบนี้ มันรู้ใจผม ถ้าผมบอกว่าไม่ก็คือไม่ จะไม่เซ้าซี้ แต่มันต้องรู้แน่นอนว่าผมมีปัญหา คนที่อยู่ด้วยกันมานานจะเป็นอย่างนี้  มองตาก็รู้ใจ

 

            ระหว่างทางกลับ กทม เราสองคนเงียบไม่มีใครพูดอะไร น้องมันก็คงคิดมากว่า ความสัมพันธ์ของเราจะเป็นไปในทิศทางใหน

 

            ผมเอื้อมมือไปจับมือมันมากุมไว้หนึ่งข้าง

 

            *ทำไมตกลงคบกับพี่ง่ายจังครับ*

 

            -ผมก็ชอบพี่เก่ง ผมชอบมาตั้งแต่งานรับน้องที่พี่แสดงบนเวทีแล้ว-

 

            *ตั้งต่วันนี้ไป ให้คิดถึงตัวเองครึ่งนึง คิดถึงพี่ครึ่งนึงนะครับ* ผมจับมือมันขึ้นมาหอม ขนมันลุกชัน เด็กมันไม่เคยนี่นะ

 

            ไอ้เทพส่งผมที่ข้างล่างหอ ผมเดินขึ้นหอไปอย่างกังวล

 

        ไอ้ตี๋นั่งดูทีวีอยู่ ผมเดินเข้าไปนั่งที่เตียง

 

            *ตี๋กูขอโทษ*

 

            -ทำไมล่ะ-

 

            *กูไปกับน้องเทพมา*

 

            -มึงชอบมันใช่ใหม- มันกระเถิบออกไปห่างผมอีก หน้ามันสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

            *กูไม่รู้ว่ามันเกิดได้ยังไง แต่กูอยากจะบอกว่า กูไม่ได้รักมึงน้อยลงเลย*

 

            -มึงไม่ต้องมาพูด มึงผิดสัญญากับกู มึงบอกกูแล้วว่ามีกูมึงจะไม่มีใคร- น้ำตามันร่วงเผาะ

 

            *ตี๋กูขอโทษ*

 

            -เก่ง กูไม่ขอให้มึงเลือกหรอก วินาทีนี้ ถึงมึงเลือกกู กูก็ไม่เอามึง ใจมึงมันไม่กูแล้ว- ไอ้ตี๋ร้องให้

 

        *ตี๋ ไม่ใช่กูไม่รักมึง ...*

 

            -ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว มึงออกไปข้างนอก 30 นาทีไป ออกไป!- ไอ้ตี๋เสียงดัง

 

            *มึงจะทำอะไร*

 

            --กูจะเก็บของ กูไม่อยู่กับมึงแล้ว-

 

            *ตี๋ใหนมึงบอกว่ามึงเข้าใจกูที่สุด ทำไมคราวนี้ไม่เข้าใจกู*

 

            -มึงอย่ามาทวงสัญญา ในเมื่อมึงก็รักษาสัญญาไม่ได้-

 

            ผมนั่งมองมันเก็บกระเป๋าอย่างเงียบ ๆ มันสะอึกสะอื้นตลอดเวลา ผมพยายามเข้าไปกอดแต่มันสะบัดออก ผมเดินตามหลังมันลงมาจากตึก ผมพยายามดึงแขนมันไว้มันไม่ยอมไม่ฟัง เรียกแท็กซี่ไปทันที ผมคิดว่าคงไม่เป็นไร มันอาจจะไปแค่บ้านญาติ หรือไม่ก็หาไอ้พี่กลด เอาไว้ให้มันสงบลงค่อยโทรคุยกัน ผมก้มมองแหวนแพลทินั่มในนิ้วแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับหอเงียบ ๆ  สับสนในจิตใจว่า ที่ผมทำลงไปมันถูกต้องแล้วหรือยัง ? .............................

 

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 26-10-2007 17:45:20
 :o11:   เศร้า  สงสารตี๋





   แต่ชอบเก่ง  ใจกล้าดี
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 26-10-2007 18:26:06
เก่งนะเก่ง ทำไมไม่นึกถึงวันเก่าๆที่ผ่านมากับตี๋ กว่าจะฝ่าฝันมาได้แต่ละครั้ง ไหนจะเรื่องพ่อตี๋อีก จนได้มาอยู่ด้วยกัน
แล้วเก่งก็ผิดคำสัญญา กับตี๋ อีกแล้ว เฮ้อ  :เฮ้อ: เศร้าจัง  ทำไม ใจคน ถึงเป็นแบบนี้ บอกว่ารักเรา แล้วก็ยังรักอีกคนด้วย รับไม่ได้จริง ๆ  :m8:
หัวข้อ: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 4 - ตอนที่ 4 (ช่วยน้องไอซ์ครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 27-10-2007 03:24:47
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 4  เริ่มต้นใหม่

   ผมกลับถึงหอพัก เบื่อชีวิตสุด ๆ จึงโทรเรียกไอ้น้องเทพมาที่เจอที่หอด้านล่าง พอมันขับรถมาถึง ผมก็ชวนไปที่อื่นทันที

   ผมเปลี่ยนตำหน่งเข้าเป็นพลขับก่อนขับรถออกไปด้วยความเร็วแบบสายฟ้าแลบจนไอ้เทพตกใจต้องเบรกเตือนสติผมไว้ ผมจอดรถปั้มเจ็ตแห่งหนึ่ง เอาหน้าซบไปกับพวงมาลัย น้องเขาเอามือลูบหลังผมเบา ๆ ผมดึงมือมันเข้าไปในร้านจิฟฟี่  ได้เบียร์กระป๋องมา 1 โหลของผมและบาคาดี้ฟรีซเซอร์ 6 ขวดของน้องเขา

   เรานั่งดื่มกันที่บริเวณที่นั่งพักรถแถวนั้นเอง ไม่ต้องมีหมาที่ใหนอก ผมก็ทราบว่าสถานีนี้คือ เจ็ต สาขาบางกระเจ้า นั่นเอง ผมไป-มาบ่อยจนจำทางได้หมดแล้ว เวลาครอบครัวผมไปเที่ยวทะเลเราก็ต้องแวะที่นี่เสมอ

   ผมบอกน้องเขาว่าไอ้ตี๋มันหนีไปแล้ว พอกินได้ 3 ขวด ผมก็ดึงมือมันขึ้นรถทันที ผมขับไปเรื่อย ๆ โดยเปิดเพลงในรถฟังและร้องตามเสียงดัง น้องมันก็เริ่มกึ่ม ๆ แล้ว เราสองคนร้องเพลงประสานเสียงกันไปจนสุดทาง

   ผมจอดรถที่หาดปึกเตียน เวลานั้นเกือบ 4 ทุ่มแล้ว  ผมเช็คอินที่รีสอร์ทที่ครอบครัวผมมาประจำก่อนจะดึงมือน้องไปวิ่งเล่นไล่จับกันที่ชายหาด มีเบียร์และบาคาดี้ติดมือไปเหมือนเดิม ผมมีความรู้สึกว่าไม่อยากคิดถึงไอ้ตี้เลย

   ถึงมันจะไปจากผมวันนี้ ผมก็ยังมีน้องเขาเคียงข้างอยู่ มันทิ้งผมไปเอง ไม่ใช่ความผิดของผมเลยสักนิด ผมบอกมันแล้วว่าผมยังรักมันเท่าเดิม แต่มันเลือกที่จะไป ผมก็จะปล่อยมันไป ไม่สนใจแล้ว ผมเล่นวิ่งไล่จับกับไอ้เทพที่ชายหาดอย่างสนุกสนาน ไม่ได้สนใจอะไรใครอีกแล้ว โลกใบนี้มีผมกับน้องเขาสองคนก็เพียงพอแล้ว

   ตีหนึ่งผมพาน้องที่อ่อนปวกเปียกหมดสภาพเพราะเด็กมันคออ่อน มาที่บ้านพัก ผมพาน้องไปในห้องน้ำเพราะต้องอาบน้ำเอาทรายออก ตัวใหญ่เป็นบ้า หนักก็หนัก ผมลากจนเอามันเข้าในห้องน้ำได้สำเร็จ มันอ้อ ๆ แอ้ๆ แต่ยืนแถบจะไม่ไหวอยู่แล้ว

   ผมจับมันนั่งที่พื้นหินของห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่สวยมากครับ ใช้หินกรวดกลม ๆ มาปู ที่อาบน้ำแยกจากชักโครก มีกำแพงหินกั้น 

   ผมถอดเสื้อของน้องมันออก หน้าอกมีขนอยู่บาง ๆ จุกบานใหญ่สองอันสีแดงสด ตัวขาวมาก ๆ เลยครับ หัวจุกไม่แข็งเลย ผมใจสั่นไปหมด มองดูเรื่อยไปที่หน้าท้องนิ่ม ๆ มีไรขนบาง ๆ ลับหายไปในกางเกง

   ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความตื่นเต้นก่อนจะเอื้อมมือไปถอดกางเกงขาสั้นสามส่วนของมันออก มันใส่กางเกงในสีขาว ผมเผลอเอามือไปแตะที่ปิกาจูมัน ปรากฏว่าไม่มีการตอบสนองใด ๆ ผมกลั้นใจถอดกางเกงในของมันลง อ้อ ปิกาจูนอนหลับนี่เอง มันขาวเล็ก ๆ เหมือนของเด็ก มิน่าเขาบอกว่า ยิ่งตัวใหญ่ ปิกาจูยิ่งเล็ก ไม่เป็นไรผมไม่ได้ใช้อะไรของมันนี่ .......   มีขนนิดเดียว อา ... น่ารักเป็นบ้า อย่างนี้จะปล่อยไปได้อย่างไร ... ไอ้เทพลืมตาปรือ ๆๆ หน้าแดงก่ำ


   *พี่เก่งครับ ผมรักพี่* ไอ้เทพกระโดดโผเข้ากอดผม ผมหัวเราะก่อนจะประกบปากที่ปากเด็กอย่างดูดดื่ม

         ******* XXXX เซ็นเซอร์ครับ *********
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 27-10-2007 07:00:53
เศร้าอ่ะ  o7

แต่คุณเก่งนี่ก็เปิดเผยดี
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-10-2007 14:01:01
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

สงสารน้องตี๋ที่สุด

อั้ยเก่ง

เชี้ย

เลว

 :m16:
หัวข้อ: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 4 ตอนที่ 5 และ 6
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 27-10-2007 14:37:31
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 5  ผมมีความสุขที่สุดในโลกเลย ???

   ผมตื่นเช้าขึ้นมาตอน 06.00 น. เวลาที่มาทะเล ผมไม่เคยหลับจนตื่นสาย  ผมเดินเอื่อย ๆ ตามชายหาดอันเงียบสงบเพียงลำพัง ส่วนไอ้เทพยังคงนอนหลับเปล่าเปลือยอยู่ในบ้าน  ผมมองทะเลในยามเช้าแล้วให้ความรู้สึกสงบใจอย่างประหลาด

   ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากระเป๋ากางเกงก่อนจะกดถึงไอ้ตี๋ มันยังไม่เปิดเครื่อง ผมสงสัยว่าเช้านี้มันจะไปเรียนหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะนะ มันเลือกทางเดินของมันเอง ถ้ามันยังอยู่กับผม ผมก็ยังรักมันเหมือนเดิม

   ผมไปแวะซื้อโจ๊ก , น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ไปฝากตัวเองและน้องเทพ ผมกระโดดขึ้นไปบนเตียงกอดและหอมแก้มมันอย่างแรง ไอ้เทพยิ้มทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่

   *พี่เก่งตื่นแต่เช้าจัง ผมเมื่อยไปหมดแล้ว*

   -ทำอะไรล่ะครับ ทำไมเมื่อย- ผมแกล้งแซว

   *พี่เก่งครับ*

   -ครับว่าไงครับ-

   *ผมรักพี่ครับ*

   -พี่ก็รักเรานะ ต่อไปบอกแล้วว่าชีวิตเรา มีพี่อยู่อีกครึ่งหนึ่งนะครับ-

   ผมกระชับน้องเข้ามาในอกอีกครั้ง น้องเทพเอามือเอื้อมมากอดผมไว้ ผมจับมือน้องไปวางในตำแหน่งที่เขาคงอยากจะวางแต่ไม่กล้า น้องเขามือสั่น ๆ เล็กน้อยทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนคงจะคุ้นเคยกับมันดีแล้ว

   *เมื่อคืนเจ็บมั้ย* ผมก้มลงถาม จมูกชนจมูก
   
   -เจ็บ ๆ แสบ ๆ ยังไม่หายเลยครับ-

   *ชอบใหมครับ*

   ไม่มีคำตอบนอกจากอาการหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ผมนิ้วชี้จิ้มที่จมูกมันอีกครั้ง

   *หายดีแล้วเอาใหม่นะครับ* มันยิ่งหน้าแดงยกกำลังสองเข้าไปอีก

   ผมไม่อยากจะบอกมันว่า เลือดมันออกด้วยเมื่อคืน ดีเหมือนกัน ความเมาจะได้ช่วยปกปิด

   *เดี๋ยวไปกินข้าวนะ เสร็จแล้วอาบน้ำด้วยกัน*

   ผมช่วยน้องทำความสะอาด มันร้องเจ็บ ๆ แสบ ๆ ตลอดเวลา ผมเลยปลอบใจด้วยการให้กินไอติมราดนมข้นหวานไปครั้งหนึ่ง

   -มีเรียนหรือเปล่าเรา-

   *ไม่มีครับพี่ แต่ผมว่าพี่เก่งโดดเรียนใช่ใหม*

   -ไม่เป็นไรหรอก พี่ตามทัน-

   *พี่เก่งคุยกับพี่ตี๋หรือยังตั้งแต่เมื่อคืน*

   -อย่าไปพูดถึงเขาเลยนะ เวลาที่อยู่สองคน อย่าเอาเรื่องคนอื่นมารบกวนนะ รู้มั้ย- ผมขยี้หัวน้องอย่างเอ็นดู

   เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เบอร์ไอ้เม่น ผมรับสายทันที

   *เก่ง มึงอยู่ใหนวะ*

   -ทำไม-

   *ไอ้ตี๋มันกลับมาที่บ้านนี่ กูรู้เรื่องหมดแล้ว ทำไมมึงทำตัวเชี่ยอย่างนี้วะ*

   -แล้วมึงเจือกอะไรด้วยเรื่องของกู- ผมเริ่มเลือดขึ้นหน้า

   *เออ มันไม่ใช่เรื่องของกูหรอก แต่ไอ้ตี๋มันทำผิดอะไร มึงต้องทำกับมันอย่างนี้ด้วย*

   -ไอ้เม่น ถ้ามึงอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่ ไม่ต้องเจือกเรื่องของกู- ผมวางสายโทรศัพท์ไปในทันที

   ไอ้เทพรีบถามผม

   -พี่ตี๋ไปใหนพี่-

   *กลับบ้านไปแล้ว บอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องคนอื่น !! * ผมใส่อารมณ์กับน้อง

   ไอ้เทพทำหน้าจ๋อย น้ำตาร่วงเผาะ ผมรีบเข้าไปกอดร่างใหญ่ ๆ นิ่ม ๆ น่ารัก ของมันไว้

   -พี่เก่งขอโทษครับ-

   *พี่เก่งยังรักพี่ตี๋อยู่ แล้วจะมาห้ามไม่ให้ผมพูดถึงเขาทำไม*

   -โอเค ๆ พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำอีกแล้วนะครับ- ผมหอมแก้มดึงน้องเข้ามาซุกที่อก

   *พี่เก่งมีผมคนเดียวได้ใหมครับ*

   -ได้สิครับ อย่าร้องนะคนดี-

   มีรถไฟอีก 3 – 4 ขบวนวิ่งสวนไปมาในท้องผมตลอดเวลา .... นี่หรือช่วงเวลาแห่งความสุขของผม ?????

----------------------------------------------------------------------------------------------------   
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 6  ตั้งแต่วันนี้ไป ... อยู่กันให้ดีนะ ... คนชั่วช้า ... จะไปเอง

   ผมพยายามโทรหาไอ้ตี๋ทั้งบ่าย แต่ไม่สำเร็จ เย็นวันนั้นเราสองคนกลับกรุงเทพ ผมชวนน้องเทพแวะซื้อของที่เพชรปิ่นแก้ว แต่น้องบอกว่าไม่จำเป็นเพราะไม่ต้องซื้อของฝากใคร ผมอดเสียใจเล็ก ๆ ที่ไม่ได้กินทอดมันปลาของโปรดผม ผมแอบนึกในใจว่า น้องจะชอบน้ำตาลสดกับหม้อแกงเผือกเหมือนกับไอ้ตี๋เล็กหรือเปล่า

   ผมกลับไปเรียนตามปกติ ไอ้ตี๋ก็มาก็มาเรียนแล้วเหมือนกัน ผมพยายามหลบหน้ามันไม่ให้เจอกันจัง ๆ จนเพื่อน ๆ สงสัย แต่ไม่มีใครพูดหรือถามอะไร เพราะช่วงนี้ก็ไกล้สอบปลายภาคแล้ว ความสัมพันธ์กับน้องเทพของผม ไม่มากขึ้นและไม่น้อยลง น้องเทพหลังจากคบกับผม ดูเหมือนน้องเขาจะเปิดเผยกับเพื่อน ๆ มากขึ้น มีท่าท่างแสดงออกมากขึ้น และหึงหวงผมมากขึ้นเป็นพิเศษ

   ในภาควิชาเริ่มซุบซิบกันถึงการเป็นคู่กันระหว่างผมกับไอ้เทพ ผมไม่ค่อยสบายใจมากนัก เพราะผมเป็นเกย์ แต่ผมไม่อยากชี้นำให้ใครเห็นว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสังคมไทย

   เมื่อน้องเทพหึงหวงผมมากขึ้น ผมยิ่งไม่สบายใจ  ยิ่งผมจะต้องคอยหลบหน้าไอ้ตี๋ด้วยแล้ว ผมยิ่งลำบากใจ แต่หลัง ๆ มาผมกลับมีความคิดพิสดารขึ้นมาว่า ผมจะหลบหน้าไอ้ตี๋ไปทำไม ผมกลับยิ่งเอาใจไอ้เทพจนออกนอกหน้าเพื่อประชดมัน ประชดที่ไอ้ตี๋มันทิ้งผมไป

   ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเอง ผมว่าไอ้ตี๋มันเจ็บ แต่ผมยิ่งอยากทำให้มันเจ็บ ที่มันปฏิเสธผม ไม่เคยมีใครปฏิเสธผม ผมจะต้องเรียนเก่ง ต้องทำทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ต้องชนะทุกคน ผมต้องชนะมันให้ได้

   ผมกินข้าวอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยกับไอ้เทพ  กลุ่มเพื่อน ๆ รวมทั้งไอ้ตี๋เข้ามานั่งในร้านทีหลัง มันคงยังไม่ทันเห็นผม ผมยิ่งเอาอกเอาใจไอ้เทพโดยการตักข้าวป้อน และเช็ดปากให้ ผมเห็นไอ้ตี๋มันก้มหน้างุด ๆ ผมยิ่งสะใจ นี่คือผลตอบแทนแก่คนที่ทิ้งผมไป

   จนกระทั่งมาหลัง ๆ ผมมีความรู้สึกว่าไอ้เทพเริ่มเปลี่ยนไป เราไม่ค่อยเจอกันเหมือนเคย เพราะถ้ามีโอกาส มันจะเล่นอินเตอร์เนท ไม่ก็ออกไปเที่ยวที่สีลมซอย 2 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมไม่ค่อยชอบไป ผมจึงปฏิเสธทุกครั้งที่มันชวน ผมก็ทราบแค่ว่า มันมีเพื่อนในเน็ต รวมตัวกันไปเป็นกลุ่ม ความสัมพันธ์เราจึงห่างเหินออกไป ผมได้ข่าวแว่ว ๆ มาทางเพื่อนในเน็ต ว่ามันมีใครอีกคน

   *เทพ พี่ว่าเราต้องคุยกัน*

   -มีอะไรว่ามาเลยซิพี่-

   *นายอย่าไปบ่อยได้ใหมซอย 2 พี่เป็นห่วง*

   -ทำไม ซอย 2 มันไม่ดีตรงใหน  ที่บ้านเขายังไม่ห้ามผมเลย แล้วพี่เป็นใคร-

   *เออ แล้วพี่เป็นอะไรกับนายล่ะ*

   -ถ้าอยากจะคบกัน อย่ามาสร้างข้อผูกมัด ทางใครก็ทางมัน-

   *ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ นายกำลังดูถูกความรักความเป็นห่วงที่พี่มีให้นายนะ*

   -สังคมเรามันต่างกันพี่เก่ง เรื่องการใช้ชีวิต เรื่องเงินเรื่องทองด้วย ผมไม่แคร์หรอกนะถ้าพี่จะไปมีใครอื่นที่เหมาะสมกว่าผม-

   *ทำไมเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง เรื่องชนชั้นอะไร พี่ไม่เข้าใจ วันนี้วันเกิดพี่  เราไปกินข้าวด้วยกันนะ พี่จะชวนเพื่อน ๆ ไปเลี้ยง*

   -ถ้าอยากไป พี่ก็ไปซอย 2 กับผมก็แล้วกัน ผมนัดเพื่อนไว้-

   *พี่ขอร้องล่ะวันนี้วันเกิดพี่นะ*

   -ถ้าพี่พูดไม่รู้เรื่องผมก็จะไม่พูดล่ะ อยากทำอะไรก็ทำไปละกัน แล้วอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวกัน-

   ผมนัดเพื่อน ๆ ออกมากินเลี้ยงงานวันเกิดราวๆ 5-6 คน วันนั้นผมเมาปลิ้นกว่าที่คาดคิด สิ่งที่ผมรอไม่ใช่อะไร ผมรอโทรศัพท์จากไอ้ตี๋ .... ผมอยากให้ใครสักคนที่พิเศษ ๆ อวยพรผมในวันนี้ ผมเมาจนลืมควบคุมตัวเอง ใช้โทรศัพท์ของไอ้ชัย โทรหามัน ผมกลัวมันไม่รับโทรศัพท์ผม

   *ไอ้ตี๋เหรอ กูเอง วันนี้วันเกิดกู มึงจำไม่ได้หรือไง* ผมเมาเต็มที่

   -มึงเกิดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับกู- ไอ้ตี๋วางสายไปทันที

   ผมยิ่งรินเหล้าเข้าไปอีกแบบไม่ยั้ง  ให้มันลืมคนสองคนที่ทิ้งผมไป .. ผมมีเพื่อน ๆ รอบตัวมากมาย ..... แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือน ผมไม่มีใครเลย ...

   ผมกลับถึงห้องนอนแผ่อยู่บนเตียง .. ความเหงามันเป็นแบบนี้เองสินะ ... พวกมึงสองคน ไอ้ตี๋ ไอ้เทพ ระยะเวลาแค่ไม่ถึง 3 เดือน ... ขอให้มึงทั้งคู่โชคดี .. กูขอลาก่อน ..ผมน้ำตาไหลด้วยความเหงาจนจับหัวใจ ...
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 27-10-2007 14:48:02
ช่วยน้องไอ๊ซ์คุงอีกแรง ไม่ว่ากันนะครับ :m21:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 27-10-2007 15:11:25
 :a5:
สั้น ๆ ง่าย ๆ " สมน้ำหน้า " :m16:
อย่าหาว่าซ้ำเติมเลยนะ...แต่มันเป็นเรื่องจริง...คนไม่รู้จักพอ....กี่ครั้งแล้วที่เป็นแบบนี้....
จะโกรธตี๋เล็กไม่ได้หรอก...ตี๋เล็กทำถูกที่สุด....เรื่องอะไรอยู่ให้เจ็บปวด...คนที่เรารักไปกับคนอื่น...
ไม่บ้าก็เมา ใครจะทนได้..... o22   
ภาวนาอย่าให้ตี๋เล็กใจอ่อน...หาผัวใหม่ง่ายกว่า...ขออภัยถ้าหยาบคาย...
มีเพชรอยู่ในมืออยากได้พลอย....นี่ละกรรมติดจรวด...ไม่คู่ควรกะการเห็นใจเลยยยบอกตรง ๆ
 :laugh:

หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-10-2007 20:05:54
กรรมเวรติดจรวดจิงๆเลยคับท่าน

แต่เชื่อได้ว่าเดี่ยวตี๋ก็ต้องใจอ่อน....เฮ้อ เจ็บไม่จำจิงๆ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-10-2007 20:19:04
ช่วยไม่ได้นะครับ
กิเลสมันอยู่ในตัวทุกคน
แต่ใครจะควบคุมมันได้ขนาดไหน
แค่นั้นเอง

อุตส่าห์ลำบากฝ่าฟันกันมา
 :m17: :m17: :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 27-10-2007 21:34:41
 :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:อยากกระทืบซ้ำดั้วะ  นะบักเก่ง    ทำตัวเองแท้ๆๆๆๆๆ   :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
หัวข้อ: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 4 : ตอนที่ 7 -8
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 27-10-2007 23:18:14
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 7  รักครั้งใหม่ของเก่ง

   ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมตัดสินใจที่จะอยู่คนเดียวเงียบ ๆ สักพัก ใช้ชีวิตกับตัวเอง ผมทุ่มเทความสนใจให้กับการเรียนเพียงอย่างเดียว เมื่อผมเจอทั้งไอ้เทพ หรือ ไอ้ตี๋ ผมก็ไม่แคร์ทั้งคู่ ทั้ง ๆ ที่ผมรู้สึกเจ็บและเสียหน้า ที่กลายเป็นคนถูกทิ้ง

   ตื่นเช้ามาเรียน เย็นกลับหอพัก เช้าตื่นขึ้นมาใหม่ เย็นกลับไปอีก ปิดเทอมกลับบ้าน เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็หายหน้าจากกันไป เป็นธรรมดาเพราะทุกคนก็มีภาระการเรียน มีเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ การที่จะเข้ามาสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเมื่อก่อน ก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน เปิดเทอมกลับมาเรียน ส่วนไอ้ตี๋มันก็ยังไม่คุยกับผมเหมือนเดิม ทั้งที่ในใจผม อยากให้มันกลับมาเป็นเพื่อนของผมก็ยังดี มันทำกับผมเหมือนกับว่า ไม่มีที่ว่างใด ๆ เหลือไว้ให้ผมยืนอีกเลย ผมทำอย่างนี้ของผมเป็นเวลาเนิ่นนานจนกระทั่งผมขึ้นเรียนปี 4 เทอมที่ 1 ผมก็เริ่มมีความรักครั้งใหม่ ที่ผมอยากฝากให้เป็นความรักที่สมหวังของผมเสียที

   ผมรู้จักกับพี่ต่อ ทางอินเตอร์เน็ต ผมไม่คิดว่าผมจะชอบคนทางอินเตอร์เน็ตได้ แต่ด้วยความเหงาและว้าเหว่ของผม ทำให้ผมเผลอรักพี่ต่อไปได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ความรักของเราสองคนเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง เราคุยโทรศัพท์กันมาช่วงระยะเวลาพอสมควร พี่ต่อก็ขอนัดเดตกับผม

   พี่ต่อทำงานทางด้านไอที กำลังเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เราสองคนนัดเจอกันในเย็นวันศุกร์ พี่ต่อเลิกงานเวลาราว ๆ ห้าโมงเย็น พี่ต่อขับรถมารับผมที่หน้ามหาวิทยาลัย

   *สวัสดีครับพี่ต่อ*

   ผมยกมือไหว้ พี่เขาอายุ 28 แล้ว ผม 19 เอง

   -สวัสดีครับน้องเก่ง-

   พี่ต่อยิ้มเห็นฟันขาว ๆ น่ารัก แกเป็นคนตัวเล็ก ๆ ตั้งแต่ห่างไอ้เทพไป ผมเปลี่ยนสเป็กมาชอบคนตัวเล็ก ๆ น่าทะนุถนอม พี่ต่อเป็นคนที่ผมชอบมาก ๆ หลังจากที่ได้พูดคุย เพราะพี่ต่อเป็นคนธรรมดา มนุษย์เงินเดือนตัวจริง สัมผัสได้ และโลกไกล้เคียงกับผมมาก พี่เขาอยู่บ้านกับแม่เพียงสองคน พ่อเขาเสียไปนานแล้ว มีน้องชายเรียนปริญญาโททุนรัฐบาลที่ประเทศอังกฤษ

   เรากินข้าวที่ร้านข้าวธรรมดา ๆ ข้างมหาวิทยาลัยอย่างออกรสออกชาติ พี่ต่อขอเปลี่ยนมาเรียกผมว่า “เก่ง” เฉย ๆ เพราะเขากลัวว่าเรียกน้องเก่ง น้องเก่งบ่อย ๆ จะทำให้ตัวเขาดูแก่เกินไป

   ผมบอกว่าไม่แก่หรอก เพราะพี่ต่อหน้าเด็ก  แถมยังแมนมาก ถ้าไม่มี CTX-gay ติด รับรองสแกนแกไม่ออกแน่นอน อาหารพื้น ๆ มื้อนั้นได้แก่ ราดหน้ายอดผัก และโอเลี้ยง ได้ถูกเราสองคนกินจนหมดในเวลารวดเร็ว แน่ล่ะ ความสุขย่อมจะมาเร็ว และผ่านไปเร็วเสมอ

   ผมพาพี่ต่อไปกินน้ำสับปะรดปั่นใส่น้ำมะนาวนิดหน่อย และ ชาปั่นราดขนมปังของโปรดของผม พี่ต่อชมว่าผมมีรสนิยมดีกับน้ำปั่น  เพราะไม่ชวนเขากินเบียร์  เป็นเด็กดี ผมหัวเราะ บอกว่าตอนนี้ไกล้สอบ ขอเป็นน้ำปั่น ไว้ปิดเทอมสบาย ๆ ค่อยกินกัน เราคุยกันอย่างสนุกสนานเพราะพี่ต่อเป็นคนทะลึ่งแต่สุภาพ (เอ๊ะยังไง) เขาขับรถไปส่งผมที่หอ ผมยิ้มให้พี่ต่อแล้วโบกมือให้ ก่อนจะเดินขึ้นตึกไป

   ตกดึกพี่ต่อโทรมาบอกว่า วันเสาร์พรุ่งนี้เขาหยุดครึ่งวัน อยากมาเจอผมอีก ผมยิ้ม สงสัยงานนี้ ผมจะสมหวังแล้วล่ะมั้งเนี่ย ว่าแล้วก็เตรียมชุดหล่อไว้สำหรับวันรุ่งขึ้น

   พี่ต่อมาถึงหอผมเวลาราว ๆ บ่ายโมงเศษ ๆ ผมพาพี่ไปกินส้มตำ ข้าวเหนียวที่ร้านโปรดของผม เราไปจองตั๋วดูหนังด้วยกันไว้เป็นรอบ 6 โมงเย็น  ผมบอกว่า ถ้าไม่รังเกียจ จะไปเที่ยวหอผมก่อนก็ได้ เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง พี่ต่อตอบตกลง

   ผมเปิดประตูห้องเข้าไป ก่อนจะเชิญพี่ต่อนั่งที่เก้าอี้ แต่พี่ต่อปฏิเสธ ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียง บอกผมว่าขอนอนพักสักงีบ ผมบอกตามสบาย เดี๋ยวผมจะเข้าห้องน้ำสักหน่อย

   ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นพี่ต่อนอนหลับสนิท สบายเพราะผมเปิดแอร์ทิ้งไว้ ผมชอบมองคนเวลานอนหลับ ... เพราะทุกคนเวลานอนหลับจะเหมือนกันทั้งนั้น ทั้งคนหยิ่ง คนไม่จริงใจ คนหลอกลวง คนโกหก คนจน หรือคนรวย... ทุกคนจะนิ่งสงบในเวลาที่หลับ

   ผมก็รู้สึกเหนื่อย ๆ เลยตั้งเวลาปลุกที่โทรศัพท์ไว้ที่ 17.00 น. ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงไปนอนข้าง ๆ พี่ต่อ ผมมองหน้าพี่ต่อเล็กน้อย ก่อนจะโอบเอาพี่ต่อมากอดเข้าในอกผม พี่ต่อยิ้มหน่อย ๆ แล้วผมก็หลับไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------   
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 8  เสียวซ่าน บนสังเวียนการประลอง

   ผมนอนหลับไปไม่รู้นานเท่าไหร่ รู้สึกตัวตอนที่มีคนกำลังเล่นกับร่างกายส่วนล่างของผมอยู่ พี่ต่อปลดเข็มขัด ปลดตะขอ และรูดซิปกางเกงยีนส์ผมลง ตอนนี้กางเกงในสีขาวของผมก็ถูกรูดดึงลงเหมือนกัน Kผมโผล่ออกมา ฉ่ำไปด้วยน้ำ .... อ้า .. คงจะเป็นน้ำลายของพี่ต่อแน่ ๆ เลย

   ผมขยับตัวให้เข้าที่เข้าทาง ดึงกางเกงลงไปอีกจนถึงหน้าขา Kผมตั้งโด่อย่างท้าทาย พี่ต่อมองอย่างพอใจก่อนจะเอามือจับรูดเบา ๆ 2-3 ครั้ง ผมเสียวจนต้องคราง อื้ย.. อกมา ... เจอแต่มือตัวเองมาหลายเดือนแล้วลูกเอ๋ย อย่าตื่นสนามจนน้ำแตกก่อนล่ะ เสียของหมด

   พี่ต่อใช้ปากครอบปลายหัวKของผมก่อนจะใช้ปากดูดอย่างแรงเหมือนอยากให้มันติดปากออกไป ผมนึกถึงว่าไอ้เทพเคยทำแบบนี้ทีนึง ผมต้องเด้งไปข้างหน้าอย่างแรงตามแรงดูดก่อนจะร้อง อื้ย ... ออกมา ซู้ดปากด้วยความเสียว พี่ต่อเหลือบมองผมนิดนึง คงดีใจล่ะสิสัดเห็นกูเสียว

   พี่ต่อไม่รอช้าเลื่อนปากไหลลื่นเข้ามาจนมิดลำKพอดี ประสบการณ์ขนาดนี้ไม่ต้องมานั่งสอนให้ระวังฟันโดนแล้ว ผมครางโอ้ว ๆ เมื่อพี่ต่อเริ่มเร่งจังหวะดูดเลื่อนเข้าออกแบบขึ้นสุด ลงสุด

   ผมแหกขาออกให้พี่ต่อจัดการเล่นKผมได้อย่างเต็มที่ ก้นผมก็กระเด้ารับกับปากที่อมKเข้าออกจนมิดนั้น มือพี่ต่อจับคลึงไข่ผมเล่น ผมเสียวจนส่ายก้นอยู่ไม่สุข มือผมก็ดันกางเกงออกไปจนตัวผมเปล่าเปลือย

   พี่ต่อรีบถอดเสื้อผ้าออกทันที หุ่นแกตัวเล็ก ๆ แต่แข็งแรงมีกล้ามเนื้อ ผมสารภาพว่าผมแพ้หนุ่มขาว ๆ โดยเฉพาะหนุ่มเหนือขาว ๆ แบบนี้ มันเนียนนุ่ม จนกลัวว่าการสัมผัสของผมจะทำให้เนื้อพี่ต่อช้ำ

   พี่ต่อถอดเสื้อผ้าเสร็จผมเห็นKแกชี้ออกมาจากพงหมอย Kแกตัน ๆ สั้น ๆ ไม่ยาว แต่ดำปื้ดตัดกับผิวขาวของแกอย่างสิ้นเชิง ขนแกเยอะมากทั้งหน้าอกลงเรื่อยมาถึงหน้าท้อง ลงมาถึงหัวหน่าว แกกระโดดทับผมทันที แล้วจูบผมอย่างรุนแรงและหนักหน่วง เป็นครั้งแรกที่ผมเจอคนที่มีเซ็กส์ที่รุนแรง และมีประสบการณ์เป็นอย่างดี ทำให้ผมตื่นเต้นมาก ๆ  ร่างกายเปลือยเปล่าของเราสองคนแนบติดกันแทบจะเป็นหนึ่งเดียว มือพี่ต่ออยู่ไม่เป็นสุข แกบี้หัวนมผมไปด้วย ส่วนKผมถูกับKของแกขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา

   ผมบอกให้พี่แกเปลี่ยนตำแหน่งเป็น 69 โดยที่แกอยู่ข้างบน แกรีบอมหมับเข้าที่Kผมทันที ส่วนผมก็อมเข้าไปแค่ครึ่ง ๆ  แกเล่นเด้าขึ้น-ลงพั่บ ๆ หมอยอันดกดำของแกตีเข้ากับหน้า บดจมูกผม โอ้กลิ่นของมันรัญจวนใจมาก ๆ อารมณ์ผมกระเจิดกระเจิง ไม่ได้เอาใครวันนี้ต้องอกแตกตายแน่ ๆ

   ผมควานมือหาจุดเป้าหมาย ผมแหวกto-dแกออกดูมีขนอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนไอ้ตี๋กับไอ้เทพที่เกลี้ยงเกลาเพราะจับโกนหมด แต่รูto-dที่มีขนพลอมแพลมแบบนี้ มีน้ำเยิ้ม ๆ ออกมาเชิญชวนแบบนี้ มันยิ่งทำให้อารมณ์ผมเตลิดอยากจะลองชิมดูซะแล้ว

   ผมยกหัวขึ้นเล็กน้อย เอาลิ้นเลียเข้าไปที่ตรงร่องเบา ๆ ไอ้พี่ต่อปล่อยปากจากKผมร้อง อ๊าย ... เสียวสัดสิมึง ผมเลียระรัวก่อนจะใช้นิ้วแหย่เข้าไปสำรวจให้คะแนน อา..... เต็มสิบผมให้ไปเลย 11 .. มันฟิตตอดมือผมตุบ ๆ ๆ ๆ อย่างกระทั้นกระถี่ พี่ต่อคงขมิบต่อต้านสิ่งแปลกปลอม to-dพี่แกส่ายตลอดเวลาพร้อมกับร้องเสียงหลง เมื่อผมเพิ่มนิ้วเข้าไปควานเบา ๆ  ไอ้พี่ต่อคงเสียวไม่มีที่ระบาย รีบสาวว่าวผมอย่างแรงพร้อมกับร้องเสียงหลง ผมครางหงิง ๆ แต่ไม่ยอมน้ำแตกให้หน้าแตกเด็ดขาด

   ผมเปลี่ยนตำแหน่ง จับพี่ต่อเอาหัวซุกหมอน โก่งto-dหันมาทางผม มันเยิ้ม ๆ รูเป็นสีเข้ม ๆ หน่อย ๆ ผมรีบคว้าถุงยางในตู้หัวเตียงใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะทำตามขั้นตอนมาตรฐานของผม ด้วยการจับหัวKกดพรวดทิ่มทีเดียวมิด ไอ้พี่ต่อร้อง อ้ากส์ออกมา

   -เก่งพี่จุก เจ็บด้วยเบา ๆ หน่อยครับ-

   ผมแช่ไว้ลึก ๆ ยังไม่เคลื่อนไหว เอื้อมมือไปควานหาKแกก่อนจะจับกระทอกไปมาอย่างแรง ผมแนบKเข้าไปมิดสุด ๆ จนหมอยติดto-dแน่น แกร้องโอ้ว ๆ ด้วยความเสียวซ่าน ผมเริ่มซอยเข้า - ซอยออกช้า ๆ แกเอื้อมมือมาจับKตัวเองชัก หน้าซุกหมอนร้องอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์  อือ อือ อือ อือ

   ผมเร่งจังหวะเร็วขึ้นเมื่อรูตอบรับเป็นเพื่อนกับKผมอย่างดีแล้ว ผมซอยเข้าซอยออกอย่างเร็ว เสียงไข่ผมตีto-dขาว ๆ แกดังปั่บ ๆ ผมมีความสุขมากที่เจอคู่ชกที่สมศักดิ์ศรี

   ผมจับแกเปลี่ยนมานั่งควบคุมเกียร์ของผมแทน ผมเห็นหน้าแกตอนโยกเหยเกสุด ๆ เหมือนคนอยากจะร้องให้ ยิ่งทำให้ได้อารมณ์ ผมเด้งto-dขึ้นรับทุกจังหวะที่แกขย่ม เราสองคนร้องโอ้ว ๆ อย่างไม่อายใคร มันเสียวนี่ครับ

   ผมจับแกนอนลง ยกขาพาดไปหน้าอก จับเอากระแทกอย่างแรง ผมเร่งเพื่อที่จะเข้าเส้นชัยให้ได้ พี่ต่อแกสาวว่าวอย่างแรงแล้วร้อง  อ้าๆๆๆ อย่างดัง น้ำแกแตกกระจายพุ่งไปทางหน้าท้อง น้ำมันเป็นเหลืองๆ ข้นคลั่ก คาวมาก  ๆ

    ผมรีบเร่งของผมบ้างจนเกือบจะออก ผมถอดKออก ปลดถุงยาง ชักว่าวอยู่ที่หน้าท้องของแก ไม่กี่ทีผมก็ต้องร้อง โอ้ย ๆ ๆออกมาอย่างดังน้ำแตกพุ่งปริ้ดไปบนหน้าอกและหน้าท้องของพี่ต่อ ผมชักเข้าออกอีกสองสามที น้ำไหลลงมาตามKเป็นสาย ผมหมดแรงซบลงตรงหน้าอกพี่ต่อ เราจูบปากกันสักพักก่อนจะต่ออีก 3 ครั้งในคืนนั้น พี่ต่อดูมีความสุขมาก ก่อนเราจะนอนหลับไปในอ้อมกอดกันและกัน
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 : 9 และ 10 ครับ ช่วยน้องไอ๊ซ์น้า... จาก alohasunkiss
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 27-10-2007 23:32:23
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 9  รู้ว่ามันใช่ ... แต่ไม่รู้ว่าทำไม.. ไม่ลืมเธอ

   ผมกับพี่ต่อ ตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ หนังรอบเย็นที่เราจองกันไว้ ก็ไม่ได้ไปดูอีกเลย คืนนั้นพี่ต่ออยู่กับผมจนดึกดื่นค่อนคืน ผมพาพี่ต่อไปกินข้าวที่หน้ามหาวิทยาลัย ทำให้ผมเจอกับคนคนหนึ่งโดยไม่ทันคาดคิด

   ไอ้ตี๋ใส่เสื้อช้อพ มันคงเพิ่งออกมาจากมหาวิทยาลัย มันไปทำอะไรของมันวันเสาร์ ผมนึกในใจ แต่ที่ผมนึกสะท้อนใจไปวูบนึงคือ มันนั่งอยู่คนเดียว เมื่อก่อนที่ใหน ก็ต้องมีเราสองคนอยู่ด้วยกัน ผมไม่อยากจะเดินเข้าไปนั่งเลยในร้านนั้น แต่ผีห่าซาตานตนใหนดลใจให้ผมไปนั่งลงอย่างเลื่อนลอย พี่ต่อถามผมชวนผมคุย แต่ผมเหมือนคนไม่มีจิตใจ มากินข้าวแต่ตัว ลืมเอาหัวใจมา

   ผมอยากเดินเข้าไปบอกว่า ผมคิดถึงไอ้ตี๋มัน แต่ผมทำไม่ได้ .... ทำไม่ได้ แต่ผมปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้ แน่นอน ... ผมยังรักมันเท่าเดิม .. ไม่มากขึ้น – ไม่น้อยลง แต่ผมจะทำอย่างไรได้ ในภาวะการณ์เช่นนี้ ในเมื่อใจผม ก็มีพี่ต่อเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว

   ผมรีบจัดการกับข้าวตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก ตาคอยชำเลืองมองดูไอ้ตี๋ตลอดเวลา ผมเห็นมันจ้องทีวี มากกว่าที่จะสนใจอะไรรอบตัวมันเสียอีก

   มันดูผอมไปนะ.... ผมไปเรียนห้องเดียวกันกับมันทุกวัน แต่ผมทำไมไม่เคยสังเกตุสิ่งอะไรแบบนี้ เป็นเพราะผมคอยหลบ ไม่อยากมองมันให้เจ็บมากขึ้นกว่าเดิมมั้ง  ทำให้ผมไม่รู้ว่าหน้าตามันดูเครียด ๆ คงเป็นเพราะเรียนหนัก เทอมที่แล้วคะแนนมันออกมาไม่ค่อยดี

   ผมตอบคำถามพี่ต่อแบบคำต่อคำ ก่อนที่จะส่งพี่ต่อขับรถกลับบ้าน ผมเดินไปใน 7-11 เพื่อซื้อน้ำ เจ้ากรรมนายเวรที่ใหนแต่ชาติปางใดไม่รู้ ดลบันดาลทำให้ผมได้เจอกับมันอีก ผมกำลังก้มลงจะหยิบถุงน้ำแข็ง ไอ้ตี๋มันยืนอยู่เยื้อง ๆ เหมือนกับรอจะเอาน้ำแข็งต่อจากผม

   *จะเอาน้ำแข็งเหรอ* ผมยิ้มแห้ง ๆ พลางยื่นถุงน้ำแข็งในมือส่งให้ไอ้ตี๋

   มันไม่มองแม้กระทั่งหน้าผม ก้มลงไปหยิบเอาน้ำแข็งในตู้ แล้วเดินไปจ่ายเงิน ปล่อยให้ผมยืนยิ้มค้าง ยืนเก้ออยู่หน้าตู้น้ำแข็งคนเดียว

   ผมเดินคอตกเข้าไปในหอ ทำไมนะ ผมกำลังมีความสุขอยู่กับความรัก ..... หรือเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่ารักนั่นล่ะกับพี่ต่อ ... แต่ผมทำไมต้องเสียใจขนาดนั้น ในเมื่อมันก็ผ่านมานานแล้ว ผมรู้ ... รู้ว่าที่บอกว่านานน่ะ มันใช่

   แต่ผมไม่รู้ว่าทำไม .... ไม่ลืมมัน

   ผมกลับมานอนแผ่อยู่บนเตียง ยกนิ้วที่สวมแหวนทองคำขาวขึ้นมาดู น้ำตาผมไหลออกมาทางหางตาอย่างไม่ตั้งใจ ผมทำไมไม่มีความสุข ในเมื่อผมมีแฟนเป็นพี่ต่อแล้ว แล้วพี่เขาก็ดีกับผมมากเหมือนกัน

   ผมถอดแหวนออกใส่ไปลิ้นชักที่หัวเตียงอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะบอกตัวเองว่า ผมจะต้องไม่คิดมาก ชีวิตต้องเริ่มต้นกันใหม่ ของใครก็ของมัน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผมไม่ชอบง้อใครด้วย เพราะผมถือว่าผมไม่ผิด จะผิดก็คงผิดนิดเดียวที่มีคนอื่น แต่ผมยังยืนยันว่าถึงผมมีใครอีกเป็นสิบ ผมก็รักไอ้ตี๋เท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่น้อยลง ... เท่านั้นมันก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 10  หมดกำลังจะเสียใจไปกว่านี้ ....

   ผมพยายามคิดว่า คงเป็นเรื่องของบุญวาสนา ที่เราไม่อาจจะอยู่คู่กันได้ ผมจึงตัดสินใจตัดใจจากมันให้เด็ดขาดไปเลย ผมกับพี่ต่อเราเจอกันบ่อยขึ้น ผมรบเร้าให้พี่ต่อพาไปค้างที่บ้านเค้าบ้าง แต่เขาไม่เคยยอมเลย เพราะเขาปิดแม่เขาอยู่

   พี่ต่อมีปัญหาทางด้านการเงินเกี่ยวกับเรดดี้เครดิต ไฟแนนซ์รถ และบัตรเครดิต พี่ต่อจะเล่าให้ผมฟังบ่อย ผมสงสารแฟนผมมากที่ต้องเจอปัญหาเยอะแยะมากมายขนาดนั้น ผมพยายามเป็นเพื่อนคอยให้คำปรึกษาแกตลอด ไม่ให้ท้อใจพยายามใช้หนี้เขาไปก่อน

   อยู่ ๆ วันหนึ่งผมได้รับข้อความทาง IRC ส่งมาจากคนที่ผมไม่รู้จัก เขาแนะนำตัวเสร็จสรรพว่าชื่อ ชาติ กำลังเรียนวิศวะอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง รุ่นเดียวกัน รุ่นเดียวกันกับผมเลย

   เขาบอกว่า เขาคือแฟนพี่ต่อ

   -พี่ต่อน่ะเป็นแฟนผมนะ- ผมตอบไป

   *ผมไม่ถือหรอก เพราะผมแฟร์กับแฟนผมเสมอ ตัวผมเองก็เหมือนกันถ้าผมมีคนอื่นอีก พี่เค้าก็ไม่ปัญหา เรารู้จักกันไว้เฉย ๆ ก็พอ*

   ไอ้ชาติตอบมา แต่มันพูดสุภาพมาก ผมเหลือบไปมองใน IRC ที่ผมเปิดไว้อีกโปรแกรม อ๋อ คนชื่อชาติ โอเปอเรเตอร์ของช่อง งั้นคงไม่โกหกเราหรอก แต่ต้องพิสูจน์อีก  ผมโมโหมากที่พี่ต่อโกหก แต่ไอ้นี่มันก็อาจจะโกหกผมก็ได้

   แต่คงไม่ใช่ ในเมื่อมันบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวผมได้ถูกต้องทั้งหมดทั้งเรื่องลับเรื่องแจ้ง มันบอกว่าพี่ต่อกับมันไม่มีความลับต่อกัน ผมโทรถามพี่ต่อทันที พี่เขาบอกว่าชาติก็อยู่ส่วนเขา ไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องผมกับพี่เขา เป็นเรื่องของเราสองคน ไม่เกี่ยวกับใคร

   ผมเสียใจ แต่ด้วยใจที่ฝากความหวังที่เขาไปแล้ว จึงยอมยกใจให้เขาไปทั้งหมด ไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีแฟนอยู่แล้วหรือไม่

   ผมเริ่มใช้วิธีอื่นๆ แกล้งไอ้ชาติเช่น แกล้งป่วยในวันนัดกันของสองคนนั้น แกล้งงอแง ไม่อยากให้พี่ต่อไปกับไอ้ชาติ โดยที่ผมไม่รู้เลยว่ามันจะถลำลงลึก เกิดเรื่องราวอื่น ๆ ใหญ่โตเกินกว่าที่ผมจะเยียวยาได้

   ในวันที่ 31/12/1999 ผมให้พี่ต่อยืมเงินจากผมไป 20,000 บาท เพื่อไปตัดบัญชีเรดดี้เครดิต เขาไม่ได้ขอยืมหรอกนะครับ เพียงแต่ผมสงสารที่แกต้องมาเล่าปัญหาให้ฟังอยู่เป็นประจำ อีกอย่างผมกะใช้งานนี้ซื้อใจพี่ต่อ เกทับไอ้ชาติมันด้วย

   แต่กว่าที่พี่ต่อจะมาหาผมที่สถานนีรถไฟฟ้าศาลาแดง ซึ่งเปิดทำการฟรีในคืนวันนั้น ผมก็ต้องนับถอยหลังเค้าท์ดาวน์สู่สหรรษสรรษของมิลเลเนียมปี 2000 อยู่ที่ชานชลา BTS ศาลาแดงคนเดียว พี่เต้ยมาพบผมด้วยอาการเมามายในเวลา 01.30น. ที่ด้านล่างสถานี

   *พี่ไปใหนมาผมรออยู่ 3 ชั่วโมง*

   -ชาติอยู่ซอยสอง-

   *ทำไมพี่ต้องไปซอยสอง พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบที่นั่น*

   -โอเค พี่ขัดเขาไม่ได้ เรากลับบ้านเถอะนะ พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำบุญกับแม่-

   ผมนั่งแท้กซี่กลับหอด้วยความน้อยใจ อะไร ๆ ก็อ้างแต่แม่ ผมนึกในใจว่า ผมเลือกทางนี้ของผมเองผมต้องยอมรับมันไปคนเดียว

   ผมกลับมาต้มมาม่ากินคนเดียวที่ห้อง  คอเหลือบมองมือถือเป็นระยะ ๆ เผื่อพี่ต่อจะโทรมา ผมดู Channel [V] ไทยแลนด์จนหลับไป

   ผ่านปีใหม่ไปหลายวัน พี่ต่อค่อยโทรหาผมได้ ผมไม่ได้รับอนุญาตให้โทรหาพี่เขา นอกจากเขาจะโทรหาผมเอง เพราะเขาบอกว่า เขาไม่เปิดเผย กลัวแม่หรือที่ทำงานรู้ว่าเป็นเกย์ ผมยอมแต่โดยดี ทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะคุยกับพี่แกใจจะขาด

   บางวันพี่แกก็จะมาหาผมที่ห้อง ผมมีเซ็กส์กับแกทุกครั้งอย่างดูดดื่ม ผมหลงพี่ต่อจนโงหัวไม่ขึ้น ผมสารภาพได้เลยว่า ไม่มีใครแล้วที่ผมต้องการนอกจากพี่ต่อคนเดียว

   เดือนถัดมาพี่ต่อก็ขอยืมเงินผมเองบ้าง  ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ ในเมื่อผมรักเขามาก ไม่อยากเห็นเขาต้องเดือดร้อน ผมรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ ค่างวดเรดดี้เครดิต และให้เงินเขากินข้าว เขาบอกไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าว

   เงินเก็บผมก่อนขึ้นปี คศ 2000 ในธนาคารซึ่งมาจากการทำงานพิเศษของผมในปีที่แล้วมีประมาณ 130,000 บาท เพียงแค่ 3 เดือน ผมให้พี่ต่อไปถึง 1 แสนกว่าบาทแล้ว จากนั้นพี่ต่อก็หายหน้าไป บ่ายเบี่ยงที่จะพบผม แต่ยังคงโทรมา บอกว่าเรายังเหมือนเดิม และบอกว่าผมคิดมากไป

   ไอ้นัท เพื่อนทางเน็ตของผมคนนึง เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างคณะกัน แต่ไม่เคยเจอกันมาก่อน เอาแผ่นโปรแกรมมาให้ผมยืมถึงที่ห้องพัก ด้วยนิสัยเหมือน ๆ กันของเราจึงคุยกันสนุก

   *เก่งมึงมีแฟนยังวะ*

   -มีแล้ว ทำงานไอที-

   *เป็นไงบ้างวะ*

   ผมขอตัวรับโทรศัพท์จากพี่ต่อ พี่ต่อพูดจาหวานเจี๊ยบกับผมเหมือนเคย

   *แฟนเป็นใครวะ อย่าบอกนะว่าเป็นพี่ต่อทำงานที่ ....................*  ไอ้นัทถาม มันคงได้ยินผมคุยโทรศัพท์ 

   -รู้จักเหรอ- ผมถาม

   *ถ้าคนที่บ้านอยู่ที่ ........... ซอย .... ละก็ กูไปถึงบ้านมัน นอนที่บ้านมาเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ใช่หรือเปล่าวะ*

   ผมเงียบไม่พูดอะไร

   *อย่าเครียดสิ กูเตือนมึงนะว่าคนนี้มั่วสุด ๆ แฟนมันที่เป็นวิศวะก็มั่วไม่แพ้กัน คนในเน็ตเป็นอย่างนี้ล่ะวะ เรื่องธรรมดาว่ะ ตกลงไม่ใช่ใช่ใหม*

   -ไม่ใช่หรอก คนละคน- ผมตอบเสียงเบา ๆ

   ผมไม่มีอะไรจะพูดกับพี่ต่ออีก นอกจากเขาโทรมา ผมก็ถามคำ ตอบคำ แต่นั้นเอง พี่ต่อขอยืมเงินผมด้วยคำพูดหวาน ๆ อีก ผมบอกว่าผมจะเรียนจบแล้ว ได้งานทำแล้วด้วย พี่ต่อบอกดีเลย ต่อไปจะได้มีตังค์ช่วยพี่ต่อใช้หนี้ ผมเงียบ ก่อนที่จะบอกว่าผมคงช่วยพี่อีกไม่ได้เพราะผมก็กำลังจะจบไปทำงาน ขอให้พี่ช่วยตัวเองไปก่อน จากนั้นมาพี่ต่อก็โทรหาผมน้อยลง น้อยลง น้อยลง และหายไปในที่สุด

   ผมตัดใจ ไม่อยากคิดว่าผมถูกทิ้งอีก ผมกำลังจะไปทำงานใหม่ที่จังหวัดหนึ่งไกล้ ๆ กทม . ผมขาดเงินมากในเดือนแรกที่ไปทำงาน เงินจะกินข้าวก็แทบจะไม่มีเพราะต้องเช่าหอใหม่ ค่าประกันหอพัก 3 เดือน ล่วงหน้า 1 เดือน ค่าขนย้ายของจิปาถะ เงนผมหมดไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว  ผมโทรไปให้พี่ต่อช่วย พี่ต่อบ่ายเบี่ยงไปมา ผมเลยบอกว่า เอามาวันนี้แค่ 2 พันพอ  แล้วผมยกหนี้ให้ พี่ต่อรีบโอนมาให้ในเย็นวันนั้นเอง

   ผมชวนเพื่อนผมชื่อ แตน ผู้หญิงเจ้าหน้าที่แผนกบัญชีวัยเดียวกับผม ที่ทำงานด้วยกันออกไปกินข้าวในตลาดหลังเลิกงาน ผมกินข้าวไปคำแรกในรอบวันนี้ด้วยอาการน้ำตาซึม พ่อกับแม่เลี้ยงมาไม่เคยให้อดอยาก แต่ต้องมาอดอยากเพราะผู้ชายคนเดียว ... ผมไม่มีอะไรจะพูด นอกจากคำว่าเสียใจ

---------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-10-2007 00:11:13
ไม่น่าคิดมากนะ
พี่ต่อเขาจะมีใคร ไม่ต้องเจอหน้า แค่โอนตังค์มา
เขาก็รักเก่งเท่าเดิม ไม่น้อยลง
 :m7: :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 28-10-2007 01:18:09
ทำไมต้องเป็นอย่างนี้น้อ คนเรา  :sad2:
หัวข้อ: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ภาค 4 - ตอนที่ 11 อวสาน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 01:23:38
จากเก่ง ถึง ตี๋  : ภาค 4 – ตอนที่ 11  การเดินทางครั้งใหม่ (ตอนจบ-ภาค4)

   สิ้นเดือนเดือนแรกของการทำงาน ได้รับเงินเดือน ½ เดือนเพราะผมเริ่มงานวันที่ 16 พอดี ผมรับซองเงินสดมาด้วยมือสั่นเทา เป็นเงินก้อนแรกที่ผมได้รับจากการทำงานในวิชาชีพของผม ผมเก็บเงินใส่ในกระเป๋าสตางค์ การย้ายเข้ามาอยู่ที่พักของบริษัททำให้ค่าครองชีพลดลงไปมากโข เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และค่าเดินทาง  ส่วนอาหารการกิน โรงงานในบ้านนอกแบบนี้  มีค่าครองชีพต่ำ อาหารเริ่มต้นจากจานละแค่ 7 บาทเท่านั้นเอง ทำให้ช่วงนี้ผมสามารถเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

   ผมเริ่มเข้าที่เข้าทางกับการทำงาน และมีความจำเป็นที่จะต้องปรับโฟกัสจิตใจไปอยู่ที่เรื่องงานเท่านั้น เวลาผ่านไปหลาย ๆ เดือน ผมจึงต้องคร่ำเคร่งอยู่กับการทำงาน และทำโอที จนไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องความรักความใคร่แต่อย่างใด

   ติ๊ด  ๆๆ ๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เวลา 5 ทุ่มแล้ว ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังสูบบุหรี่อยู่ ผมลืมบอกไปว่า ตั้งแต่ผมเลิกกับไอ้ตี๋ ผมก็เริ่มสุบบุหรี่แล้ว เด็ก ๆ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะครับ

   *ฮัลโหล สวัสดีครับ* ผมกรอกเสียงลงไปในสาย

   -ไอ้เก่ง มึงตายไปหรือยัง- เสียงอีอุ๋ยนั่นเอง ทักกันได้ไพเราะและเป็นมงคลมาก ๆ

   *ยังไม่ตาย มึงน่ะเผาเมื่อไหร่* ผมดักคอไว้ไม่ให้เสียเชิง

   อีอุ๋ยได้ทำงานอยู่ในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ส่วนเพื่อน ๆ ที่เหลือกำลังเรียนปีสุดท้าย ปีนี้ผมต้องรับปริญญาบัตร แต่ว่ามหาวิทยาลัยผมเลื่อนออกไปจนอยู่คิวหลังสุด อีอุ๋ยได้เบอร์ใหม่ผมมาจากที่บ้าน เราคุยกันถึงเรื่องงานรับปริญญา อีอุ๋ยอยากให้ผมไปด้วย ผมตกลงในทันทีเพราะว่าวันศุกร์หน้า ที่บริษัทมี Big cleaning Day ผมคาดว่าจะสามารถลางานได้  ผมตอบตกลงไปในที่สุด

   วันพฤหัสบดีมาถึง ผู้จัดการใจดีให้ผมรีบเข้า กทม ได้ตอนบ่าย 3 เพราะงานไม่มีอะไรแล้ว ผมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า มีของขวัญให้อีอุ๋ยเป็นปากกาใส่กล่องห่อผูกโบว์ ผมใส่ลงไปในกระเป๋าเช่นกัน

   ผมมาถึงสนามบินดอนเมืองราว ๆ เกือบ 5 โมงเย็น ถือว่าสายไปเพราะเครื่องบินผมจะออกเวลา 6 โมงเย็น ถ้ามัวไปเสียเวลาหาเคาท์เตอร์ หาประตู ผมต้องตกเครื่องบินแน่เลย ผมเงยหน้ามองที่จอมอนิเตอร์ เห็นเที่ยวบินที่ผมจะไปกำลังกระพริบข้อความสีแดง Last call ผมรีบวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต ใครจะไปคิดว่าประตูทางออกขึ้นเครื่องที่ผมจะไปจะอยู่ไกลขนาดนั้น

   โชคดีมีคนอีกสองคนมาสายเหมือนกัน กำลังจะเข้าช่องไป ผมจึงต่อท้ายเขาอย่างเนียน ๆ หอบแฮ่ก ๆ ด้วยความเหนื่อย ผมถือกระเป๋าใบเล็กเข้าไปนั่งตามที่นั่ง เครื่องบินมีผู้โดยสารเต็มลำ ผมเก็บกระเป๋าบนช่องเก็บสัมภาระเหนือศรีษะ ก่อนจะนั่งลงข้างป้าคนหนึ่ง ป้าชวนผมคุยมาตลอดทางเพราะแกไม่เคยขึ้นเครื่องบิน แกจะไปเยี่ยมลูกชายที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับพวกไอ้เม่น

   เมื่อถึงสนามบินขอนแก่นผมมองหารถตู้ของโรงแรม ซึ่งผมคิดว่าผมคงต้องนอนโรงแรมนั่นล่ะคืนนี้ ระหว่างที่ผมชะเง้อมองหารถนั้น สายตาผมมองไปเจอคนคนหนึ่ง ที่กำลังวิ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว

   *ไอ้เก่งงงงง* เสียงไอ้เม่นนั่นเอง ไอ้สน อีเก๋ อีอุ๋ย วิ่งตามมาด้านหลัง

   -ขอบใจที่มารับว่ะ แต่ว่าไม่เห็นบอกก่อนเลยว่าจะมารับ ไกลนะ กูไปเองก็ได้-

   *ใครบอกว่าพวกกูมารับมึง* อีอุ๋ยพูดสอดขึ้น ผมทำหน้า งง ๆ

   *นู่น คนที่พวกกูมารับมาแล้ว* อีเก๋พูดพลางบุ้ยหน้าไปด้านหลังผม ผมหันไปมองตามช้า ๆ คนที่กำลังเดินมาทำให้ผมเริ่มหายใจไม่สะดวก

   -หวัดดีพวกมึงทุกตัว- ไอ้ตี๋พูดขึ้น วันนี้มันอยู่ในชุดแบบหนุ่มออฟฟิศ ซึ่งผมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก ตัดผมสั้น ๆ หัวตั้ง ๆ น่ารักมาก ผิดกับผมที่ซกมก มอซอ เพราะผมเพิ่งปล้ำกับหม้อต้มไอน้ำมาเสร็จ อาบน้ำยังไม่ทันดีก็ต้องรีบมาเลย เล็บมือยังดำไปด้วยคราบน้ำมันเครื่องอยู่ หนวดเคราที่โกนไปเมื่อสามวันที่แล้ว กำลังโผล่ตอแข็ง ๆ ออกมาสากมือ สภาพผมเหมือนโจรดีดีนี่เอง

   เพื่อน ๆ ทักทายไอ้ตี๋เสร็จสรรพ ทุกคนพร้อมใจกันเงียบเสียง สงบอยู่พักหนึ่ง มองมาที่ผมและไอ้ตี๋พร้อม ๆ กัน ผมยืนนิ่ง งงงันอยู่พักหนึ่ง

   *หวัดดีเก่ง หน้าดำไปหน่อยนะ ใช้แรงงานกลางแดดเหรอ* ไอ้ตี๋พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ให้ผม ยิ้มที่ผมไม่เคยได้รับมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ผมนิ่งอึ้ง งงงัน

   -อือ- ไม่มีคำอื่นออกจากปากผมอีกเลย

   เราขึ้นรถตู้ที่อีอุ๋ยเอาของพ่อมันมา ไอ้เม่นเป็นพลขับ ระหว่างทางเราคุยกันถึงเรื่องจิปาถะทั่ว ๆ ไป ผมบอกว่าผมงานอยู่ที่ใหน เป็นยังไงสั้น ๆ ก่อนที่เพื่อน ๆ จะถามไอ้ตี๋ ผมจึงได้รู้ว่า ที่พวกไอ้ชัยบอกผมว่าไอ้ตี๋ทำงานเป็นผู้ช่วยของญี่ปุ่นนั่นเรื่องจริง ไอ้ตี๋ทำงานอยู่ใน กทม แถว ๆ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง

   เรานั่งติดกัน แต่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ ผมได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ของ Samba-Natural ลอยมาจากตัวมัน ทำให้ผมรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด จนในที่สุดรถวิ่งมาถึงถนนประชาสโมสร ไอ้เม่นส่งเสียงขึ้น

   *ไอ้เก่งไปนอนกับกูเพราะกูอยู่หอข้างนอก ไม่ต้องเสียเงินค่าโรงแรม เดี๋ยวเราไปส่งไอ้ตี๋ที่บ้านมันก่อน เอาของเก็บแล้วไปกินข้าวกัน*

   พวกเรารอให้ไอ้ตี๋เอาของไปเก็บสักพักก่อนจะออกไปหาข้าวกินกัน กินเบียร์กันบ้าง แต่ไม่เน้นเมามาย โดยเฉพาะว่าที่บัณฑิตอย่างอีอุ๋ย กลัวจะหน้าโทรม อีอุ๋ยขอตัวกลับก่อนเพราะพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าทำผม อีเก๋กับไอ้สน ซึ่งตกลงคบกันเป็นแฟน ก็กลับพร้อมกัน ไอ้ตี๋จะขอกลับอีกคน แต่ไอ้เม่นเรียกไว้ นานๆ จะได้เจอกันสักครั้ง

   เราย้ายไปนั่งที่ร้านแถว ๆ ถนนกลางเมือง ในร้านมีแค่ 1 โต๊ะที่มีแขกเป็นผู้ใหญ่ชาย – หญิงนั่งอยู่ คงเป็นเพราะยังหัวค่ำ เป็นร้านของเพื่อนไอ้เม่นเอง เพื่อนไอ้เม่นบอกทุกคนทำตัวตามสบาย  พวกเรานั่งลงที่โต๊ะในมุมด้านใน มีโซฟาสีแดงตั้งอยู่ ผมสั่งเหล้า Swing ของชอบของพวกเรา ผมกับไอ้ตี๋ไม่คุยกันเลย  นอกจากจะคุยกับไอ้เม่นเท่านั้น

   และแล้วเวลาที่ผมไม่อยากจะให้มาถึงก็มาถึงจนได้ เมื่อไอ้เม่นขอตัวเข้าห้องน้ำ หมายความว่า ผมจะต้องนั่งอยู่กับไอ้ตี๋แค่สองคน ผมมองไปที่หน้าเวที ดูนักร้องที่กำลังร้องเพลง How do I live ไอ้ตี๋ก็มองไปที่เวทีเช่นกัน มันหันหน้ามาเอาแก้วเหล้าในขณะที่ผมก็กำลังจะหยิบแก้วเหล้าเหมือนกัน ผมยิ้มแล้วยื่นแก้วเหล้าให้ชน มันยิ้มแล้วชนแก้วตอบกับผม

   *สบายดีหรือเปล่า* ผมถามมัน กลัวมันจะไม่ตอบชิบหาย

   -สบายดี แต่งานไม่สนุกว่ะ- มันตอบผมมาทำหน้าแบบที่บอกว่าไม่สนุกจริง ๆ

   เราคุยกันต่อเรื่องงานที่เราสองคนไปทำ ผมจ้องตามันตลอดระยะเวลาที่เราพูดคุยกัน จนมันรู้สึกเขินกระมัง มันหยุดพูด แล้วมองหน้าผม

   -หน้ากูมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า-  มันเลิกคิ้วน้อย ๆ เป็นเชิงถาม

   *เปล่า ๆ กูกำลังนึกถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมา กูคิดว่าจะไม่มีโอกาสมานั่งอยู่กับมึงอีกแล้ว*

   -แล้วมึงคิดว่ากูสมควรมานั่งอยู่ที่นี่กับมึงใหม-

   *อือ มึงว่ากูมาเถอะ กูรู้ว่ากูมันคนไม่ดี* ผมเบือนหน้าออกไปจากมันไปทางเวที น้ำตาคลอ ถ้าผมหลับตา ณ วินาทีนี้ น้ำตามันต้องหยดแน่ ๆ

   ไอ้ตี๋ลุกขึ้นจากฝั่งตรงข้ามที่มันนั่งอยู่ มานั่งข้าง ๆ ผม น้ำตาผมหยดแหมะ เมื่อคิดถึงเรื่องเก่า ๆ อย่างไม่รู้ตัว

   ไอ้ตี๋หยิบทิชชูมาเช็ดน้ำตาจากแก้มผม

   *เก่ง มึงสบายดีใหม ไอ้นัทมันเล่าทุกอย่างให้กูฟังแล้วนะ เรื่องของมึง*

   -มึงรู้จักกันด้วยเหรอ-

   *รู้จักสิ ในมหาวิทยาลัยกูก็สงสัยอยู่ว่ามีเกย์คนใหนไม่รู้จักมึงกับกู แต่คนคงรู้จักมึงมากกว่ามั้ง หลายแฟนเหลือเกินนี่* มันทำเสียงเล็กเสียงน้อยประชดผม

   -ตี๋ กูขอโทษ-

   *ขอโทษเรื่องอะไร เมาหรือเปล่าเนี่ย เสียชื่อไอ้เก่งคนเดิมหมด ไม่เอาอย่าร้อง* มันแซวผม

   -ตี๋มึงจะยกโทษให้กูได้ใหม กูอยากจะบอกมึงว่า กูไม่เคยหยุดรักมึงเลยแม้แต่วินาทีเดียว ถึงกูจะพยายามมีใคร ๆ คนอื่นก็ตาม กูก็ไม่สามารถปฏิเสธหัวใจกูเองได้ว่ากูยังคิดถึงมึงอยู่ตลอดเวลา-

   *เก่ง เรื่องมันผ่านมานานแล้วนะ กูไม่คิดหรอกว่าเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ *

   ผมเหลือบตามองมันนิดหนึ่ง ก่อนจะเมินไปทางเวที

   -แล้วหมาที่ใหนมันใส่แหวนกูไว้ไม่ยอมถอดออกอีกวะตั้งหลายปีเนี่ย- ผมพูดลอย ๆ แล้วหันมามองหน้ามันอีกที ผมยิ้มเยาะ ๆ เหมือนผู้กำชัยชนะ แต่ไอ้ตี๋ น้ำตาร่วงเผาะลงมา

   ผมตกใจรีบเอามือเช็ดน้ำตาให้มันทันที

   *ตี๋เล็ก กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ*

   -ใช่สิเก่ง กูใส่ไว้เพื่อระลึกถึงสิ่งดีดี ที่เราเคยมีให้กันไง กูเลือกจำแต่สิ่งดีดีของมึง นะเก่ง มึงรู้ใหมว่าคุณค่ามันมากกว่าเรื่องไม่ดีที่มึงทำเสียอีก ผิดกับมึงนะ ถอดทิ้งหรือเอาไปขายแดกแล้วล่ะ- มันประชด

   *รู้ได้ไง* ผมอมยิ้มเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งใส่หน้างอ  ๆ ของมัน

   -ใหน ไม่เห็นมี- มันจับมือผมพลิกไปมา

   ผมดึงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่พ่อกับแม่ซื้อเป็นของขวัญตอนเอ็นท์ติดออกมา มันมีกางเขนเล็ก ๆ สีทอง ที่แม่ซื้อให้ ทั้ง ๆ ที่ครอบครัวผมเป็นพุทธทั้งหมด แต่ครอบครัวไม่เคยกีดกันว่าผมนับถือศาสนาอะไร

   ที่ติดอยู่กับจี้กางเขน มีแหวนทองคำขาววงหนึ่งสวมอยู่กับสร้อย

   -ไม่ได้ทำงานออฟฟิศเหมือนบางคนนี่ จะได้ใส่แหวนได้ ซ่อมเครื่องนะโว้ย ที่ใส่สร้อยนี่ก็ต้องแอบ ๆ เพราะมันอันตราย เครื่องจักรสายพานจะดึงเอาคอกูเข้าเครื่องเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ แต่ก็ต้องใส่ เพราะคิดถึงใครบางคนว่ะ- ผมพูดยิ้ม

   *เครื่องทำไมไม่ดึงมันเข้าไปเลยนะ พวกเจ้าชู้เนี่ย สาธุ* มันพูดพลางหัวเราะ

   -สงสัยมันกลัวคนบางคนจะร้องให้ขี้มูกโป่งมั้ง ถ้ากูตาย จำได้ใหมเมื่อก่อนกูยังไม่ตายเลย ยังมีคนร้องให้เป็นวรรคเป็นเวรให้กูเสียอีก- ผมแหย่มัน มือผมจับอยู่ที่สองมือของมัน

   -ตี๋ กูขอโทษ มึงจะรับคำขอโทษของกูใหม กูผิดที่ดูถูกความจริงใจของมึง กูผิดที่กูเห็นแก่ตัว กูผิดที่ไม่ยอมรับหัวใจของตัวเอง มึงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกู-

   *เพื่อนเหรอ ไม่ใช่เมียเก่าอ่ะ* มันพูดล้อ  ๆ

   -ครับเมียก็ได้ครับ- ผมยิ้ม

   *ไม่เอา ไม่อยากเป็นโมรา*

   -ทำไมต้องโมรา- ผมสงสัย

   *ไม่อยากเป็นเมียโจรไง ดูหนวดเคราสิ ผมเพ้า เล็บมือดำอีกต่างหาก เก่งเอ้ย อยากให้บรรดาแฟน ๆ มาเห็นสภาพมึงตอนนี้จัง ใครจะพิศวาสมึงลงวะเนี่ย*

   -กูทำตัวไม่หล่อเพราะกูไม่อยากให้ใครมาสนว่ะ- ผมหัวเราะ

   ไอ้เม่นเดินกลับมานั่งที่ ผมแยกออกจากไอ้ตี๋ทันที

   -เข้าห้องน้ำเชี่ยไรนานนักวะ- ผมพูด

   ไอ้เม่นยกแก้วเหล้าขึ้นซดทีเดียวเกลี้ยง

   *เข้าแป็บเดียว ก็อดเห็นอะไรดีดี สิ พวกมึงสองตัวนี่นะ ......* มันลากเสียงยาวประชดประชัน

   ผมกับไอ้ตี๋มองหน้ากัน เขินนี่ครับ

   *กูขอเพลงกับแฟนกูไว้แล้ว รอฟัง ให้มึงทั้งสองตัวเลย*

   -ใครวะแฟนมึง-

   *ไอ้ทีไง* เจ้าของร้านนั่นล่ะ

   -ใหนบอกว่าเพื่อน-

   *เออ เป็นหมดทั้งเพื่อนทั้งเมีย*  เราสามคนหัวเราะชอบใจพร้อม ๆ กัน

   -ร้ายไม่เบาเลยนะ- ผมแซว

   ****** ขอเชิญคุณเก่ง  ขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ ***** เสียงไอ้ทีพูดขึ้นในไมโครโฟน

   ผมงง ๆ ไอ้ตี๋กับไอ้เม่นรุนหลังผมขึ้นไป

   ***** ขอฟังเพลงจากคุณเก่งสักเพลงนะครับ มีคนยืนยันว่า คุณเก่งร้องเพลงเก่ง ไม่ต้องบอกชื่อเพลง แค่มีดนตรีมาก็ร้องได้ *****

   ผมนึกในใจ เฮ้ย ! จะมาไม้ใหนวะ ผมนั่งลงที่ม้านั่งกลางเวทีเล็ก ๆ สั่น ๆ แต่ไม่ถอย

   เสียงอินโทรลอยมา คงจะเปิดแบ็คกิ้งแทรคคาราโอเกะ ผมหลับตา ลำดับเรื่องราวในสมองว่ามันคือเพลงอะไร จนถึงจังหวะที่จะต้องร้อง ผมก็ยังนึกชื่อเพลงไม่ออก แต่ปากมันร้องออกไปโดยอัตโนมัติ

   ยังจำฉันได้หรือเปล่า
   ก่อนนั้นใครที่เคยเหมือนเป็นเงาของเธอ
   จะเนิ่นนานสักเพียงใด
   ก็รู้ว่าเธอ ไม่ลืมที่เคยรักกัน
   คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า
   ก่อนนั้นใครที่คอยคิดถึงเธอทุกวัน
   อย่าบอกเลยว่าเธอลืม ไม่คิดถึงกัน
   เมื่อในแววตา
   บอกมาว่าเธอไม่ลืม

   ยาวนานสักเท่าใด
   ความจริงในหัวใจ ฉันรู้ว่ามันไม่ลบเลือน
   ในจะย้ำเตือน ยังคงคิดถึงกันเสมอ
   ว่าเรายังรักกันอยู่เหมือนเก่า ...............

   ชีวิตผม ได้ผ่านมรสุมทั้งความรัก ทั้งมรสุมชีวิต การเดินทางครั้งเก่าสิ้นสุดลงไป การเดินทางครั้งใหม่ ก็กำลังจะเริ่มขึ้นอีกแล้ว เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า Every exit is an entry somewhere. ทุก ๆ ทางออก จะเป็นทางเข้าของอีกที่หนึ่งเสมอ ผมหวังว่า ในทางเข้าทางใหม่ของผม จะเป็นเส้นทางสุดท้าย ที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด ผมจะไม่ย้อนไปหาเส้นทางเก่า ๆ ที่เคยผ่านมาด้วยความเจ็บช้ำใจ แต่เส้นทางใหม่สายนี้ ผมจะเดินก้าวไปอย่างทรนง เพราะผมมีประสบการณ์มาจากเรื่องเก่า ๆ เหล่านั้น ที่จะช่วยสอนให้ผมให้ล้มลงได้ยาก และถ้าผมล้มลง คนที่จะยื่นมือมาให้ผมจับเพื่อลุกขึ้น ก็อยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมจะไม่ยอมเสียไอ้ตี๋เล็กของผมไปอีก ผมสัญญา .........................
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 28-10-2007 01:27:18
 :เตะ1:
" ผมไม่ชอบง้อใครด้วย เพราะผมถือว่าผมไม่ผิด จะผิดก็คงผิดนิดเดียวที่มีคนอื่น แต่ผมยังยืนยันว่าถึงผมมีใครอีกเป็นสิบ ผมก็รักไอ้ตี๋เท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่น้อยลง ... เท่านั้นมันก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ "

ไม่อยากจะซ้ำเติม แต่ขอ " ประณาม " รู้ว่าคิดแบบนี้ฉันคงไม่เสียเวลาตามให้กำลังใจมาถึงภาค 4....
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายเก่งจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้.....เสียใจมากมายที่มองนายผิดมาแต่ต้น.....  :m16:
สะใจดีแท้.....ชีวิตตั้งแต่เลิกกับตี๋เล็กมามีแต่แย่กับแย่....เวรกรรมสนองได้ทันใจดีจริง ๆ  .....

ตี๋เล็กเอ๊ยยย .... ช่างใจดีเหลือเกินนนน ให้โอกาสง่ายไปรึเปล่า....ถ้าต่อไปต้องเจ็บอีกก็คงไม่แปลก...
แต่เอาเถอะ...ยังคิดไม่ตก... ในเรื่องการให้อภัยสำหรับผู้สำนึกผิด.....ควรหรือไม่ควร ? ? ? :m28:
เห็นแก่ความสุขของตี๋เล็ก....ขออย่าให้ไอ้เก่งมันนอกใจตี๋เล็ก...หรือแม้แต่ทำให้ตี๋เล็กเสียใจอีกเลย... :amen:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 01:43:54
ไม่ต้องอ่านภาค 4 แล้วครับ อิอิ จบแล้ว เดี๋ยวขึ้นภาค 5 เลย

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ อย่าเพิ่งหายไปใหน

เรื่องยังอีกยาววววววว

เก่ง
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 01:47:01
10.00น. ผมอยู่ในห้องรวบรวมอัฐิของบริษัทจัดการงานศพแห่งหนึ่งบนถนนลาเวนเดอร์ เพื่อรอรับอัฐิของคนที่ผมรักจากฌาปณสถานของรัฐบาล ซึ่งได้ทำการฌาปณกิจไปตั้งแต่เมื่อบ่ายวานนี้แล้ว เจ้าหน้าที่เชื้อสายอินเดียแต่งตัวเรียบร้อย เดินเข้ามากลุ่มของพวก ผมก่อนจะวางกล่องพลาสติกใบใหญ่ที่มีฝาปิดสนิทเรียบร้อยลงบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าพวกเรา

   เจ้าหน้าที่ปูผ้าดิบสีขาวลงบนโต๊ะ ก่อนจะเปิดกล่องพลาสติกใบใหญ่ออกมา มันมีก่องใบเล็กอยู่อีกหนึ่งชั้น  เขาเทเศษเถ้าที่เหลือจากการเผาศพลงกองบนผ้านั้น ผมชะเง้อมองดูทุกขั้นตอนด้วยความสนใจ เศษกระดูกป่นละเอียดถูกเทลงมาก่อนอย่างเบามือ และในกล่องใบเล็กนั้น มีเศษกระดูกชิ้นใหญ่ ๆ ประมาณ 2-3 นิ้ว บางและเนียน เหมือนถูกขัดจนสะอาด เจ้าหน้าที่บอกกับผมว่า ส่วนนี้เป็นส่วนของกะโหลกศรีษะและร่างกายท่อนบน ได้แยกไว้ให้พวกเราแล้ว ส่วนของร่างกายพวกนี้แข็งมาก เมื่อผ่านความร้อนสูงของเตาที่ 3000 องศาเซลเซียส จะยังไม่เผาใหม้หมด

   ผมน้ำตาไหลเมื่อเอามือเอื้อมอันสั่นเทาของผม ไปหยิบกระดูกชิ้นหนึ่งขึ้นมา ......

   *ตี๋เล็ก ไม่ต้องเจ็บอีกแล้วนะ กูจะพามึงกลับบ้าน*

                  ......................... มีต่อ .............................
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-10-2007 01:57:33
 :impress: :impress: :impress:

เรื่องนี้ผมอ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ

เป็นกำลังใจให้ครับผม มาต่อนะครับ

เอาใจช่วย แต่ผมอ่าอ่านจบละครับ

ไม่รู้ว่ามีต่อหรือป่าว

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-10-2007 02:35:43
รักก็ต้องให้อภัยกันนะ
ถ้าเขาคิดจะกลับตัว

ป่านนี้คงสำนึกแล้วหล่ะมั้ง
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 02:54:06
ใช่ เดชิ คนเดิมเปล่า ? 5555 ยังกลับมาอ่านอีกเหรอฮะ
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 2 / ข่าวร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 03:00:41
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 2  /  ข่าวร้าย

   23.00น. ผมเลิกงานแล้วแวะกินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ทำงานเดียวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ สั่งบะหมี่น้ำแล้วนั่งกินของทอดชุดใหญ่รออาหาร เมื่อบะหมี่มาผมใช้ตะเกียบคีบเส้นเข้าปากทันที จะด้วยปริมาณเส้นที่มากไปหรืออย่างไรไม่ทราบได้ เส้นหมี่ติดคอผมอย่างแรง ผมเอามือกุมคอไว้ ตาเหลือก หายใจไม่ออก

   เพื่อน ๆ เอามือทุบที่หลังผมอย่างแรง ผมรู้ ณ วินาทีนั้นเลยว่าระหว่างความเป็นกับความตาย มันอยู่ไกล้กันแค่เอื้อม ในที่สุดเส้นหมี่ก็ลงผ่านคอไป ผมเงยหน้ามองทุกคน ทุกคนหัวเราะเยาะผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด แต่ผมไม่สนุกด้วยเพราะผมรู้สึกเหมือนผมตายไปแล้ว ผมขอตัวกลับทันที

   ผมขับรถมาตามทางด่วนเลียบชายหาด ระหว่างทางเห็นอุบัติเหตุรถชน มีตำรวจอยู่จำนวนหนึ่งเปิดไฟสีแดง อีก 10 นาทีผมเลี้ยวเข้าอพาร์ทเมนท์ของผม ผมจอดรถแล้วเดินไปที่ลิฟท์ วันนี้โชคไม่ดีเลย แทบตายแน่ะบะหมี่ติดคอ ไอ้ตี๋คงหัวเราะเยาะผมแน่ ๆ เลย ผมนึกในใจ อีกสักพักมันคงกลับแล้ว เห็นว่ามีเรือที่ต้องออกเช้าพรุ่งนี้ เย็นนี้ต้องทำงานให้เสร็จ

   ผมเปิดประตูห้องเข้าไป รู้สึกใจหายแวบนึงที่ไม่เห็นรองเท้าของมันวางที่ชั้นวางรองเท้าหน้าห้องเหมือนทุกวัน ผมอาบน้ำเสร็จ เปิดคอมพิวเตอร์ เงยหน้าดูนาฬิกา 24.00 แล้ว ทำไมไอ้ตี๋ยังไม่มาอีก  ผมเช็คเมล์สักพัก มีเสียงโทรศัพท์จากโทรศัพท์มือถือเข้ามาหาผม

   *คุณ ภพ . ใช่ใหมครับ* เสียงผู้ชายพูดปลายสายเป็นภาษาอังกฤษ

   -ใช่ครับ- ผมกรอกเสียงลงไปเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน

   *ผมโทรจาก Central Police (ตำรวจกลาง) คุณคือเพื่อนของคุณ ......... ใช่หรือเปล่าครับ* ผมตกใจเล็กน้อยว่าจะมีอะไรหรือเปล่า ความคิดแรกคือ ไอ้ตี๋จะโดนจับ

   -ใช่ครับ มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเขาหรือเปล่าครับ-

   *ทางตำรวจกำลังจะขึ้นไปที่ห้องของคุณภายใน 5 นาทีครับ ห้องของคุณอยู่ที่ ................... ใช่ใหมครับ*

   -โอเค-    ผมรับปากอย่างงง ๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรอตำรวจ

   สักพักมีนายตำรวจ 2 นายเดินเข้ามา แสดงบัตรและขอผมดูว่า มีเอกสารของไอ้ตี๋อยู่ที่ใหนบ้าง ผมพาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มีพาสปอร์ตตัวจริงของมันอยู่

   -คุณเป็นอะไรกับ ........ครับ-

   *เพื่อนครับ เรามาจากเมืองไทยด้วยกัน มีปัญหาอะไรกับเขาครับ*

   -คุณจะสามารถติดต่อญาติคุณ .............. ได้ใหมครับ-

   *เขาไม่มีใครครับในสิงคโปร์มีผมคนเดียว* ผมร้อนใจ มีปัญหาอะไรทำไมตำรวจไม่พูด ผมคิดว่า ตำรวจคงกักตัวมันไว้

   *เพื่อนผมอยู่ที่ใหนครับ กรุณาบอกผมด้วย*

   -ตอนนี้ปลอดภัย อยู่กับตำรวจนะครับ- ผมนึกในใจว่ามันไม่ได้พกพาสปอร์ตไปหรือเปล่า แต่มันไม่ได้หนีเข้าเมืองนะ มันมีบัตรพลเมืองถาวรแล้ว (PR: Permanent residence)

   *ผมชื่อ ผู้กอง ............ ตอนนี้เพื่อนของคุณอยู่กับตำรวจ*

   *ผมอยากให้คุณไปพบเขาเดี๋ยวนี้ได้ใหมครับ* ผมตอบตกลงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเงิน และกุญแจบ้าน ผมใส่รองเท้าแตะเดินตามตำรวจไป ระหว่างลงลิฟต์ ตำรวจถามผมอีกหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับไอ้ตี๋เช่น เขามีความเครียดใหม มีปัญหาเรื่องเงินหรือไม่ กินเหล้าหรือเปล่า ผมตอบว่าไม่มี กินเหล้าอาจจะมีบ้างตามาประสาเพื่อนฝูง

   ตำรวจพาผมขับรถมายังเส้นทางถนนเลียบชายหาด ผู้กองท่านนั้นกล่าวขึ้นเบา ๆ

   *ทางเราพบ “ร่าง (Body)” ร่างหนึ่ง เราสงสัยว่าจะเป็นเพื่อนของคุณ คุณอย่าเพิ่งตกใจนะครับ เราแค่สงสัย อาจจะไม่ใช่ก็ได้ มีอุบัติเหตุรถชนคน เกิดเมื่อเวลาราว ๆ 23.30 น ครับ*

   ผมตกใจเป็นอย่างมาก ผมถามว่าร่าง หมายความว่าอะไร ตำรวจไม่ตอบ บอกให้ผมทำใจเย็น ๆ

   ผมเดินลงจากรถตำรวจไปช้า ๆ มีรถฉุกเฉิน (Paramedic) มารออยู่แล้ว เปิดไฟสีแดง ที่กลางถนนเลนที่ 4 มีพลาสติกสีขาวคลุมอะไรสักอย่างอยู่ ผมเดาว่าต้องเป็นร่างที่ว่าแน่ ๆ

   ผมภาวนาด้วยใจเต้นตึกตัก อย่าให้เป็นไอ้ตี๋เลย ตำรวจกันผมไว้ ก่อนจะถามผมว่า แน่ใจว่าจะดูใหม ผมพยักหน้า

   สิ่งที่โผล่พ้นพลาสติกสีขาวออกมาคือ ขาคน ............ ผมถลาเข้าไปทันที ไม่ต้องเปิดออกมา ผมก็จำได้ว่ามันคือขาของใคร

   *ไม่ ไม่จริง ไอ้ตี๋*** ผมร้องตะโกน จนสุดเสียง ตำรวจรีบวิ่งมาดึงผมออกไม่ให้ผมเข้าไปจับตัวมัน ผมตะโกนเป็นภาษาอังกฤษว่า เปิดออกเดี๋ยวนี้ !!!  มีตำรวจสองนายล็อกแขนผมไว้ ผมยืนไม่อยู่แล้ว เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นถนน

   ตำรวจเปิดพลาสติกที่คลุมออกช้า ๆ ผมเห็นหน้าไอ้ตี๋มีเลือดออกเต็มไปหมด ตำรวจเปิดมาถึงแค่อก ผมร้องออกมาดัง ๆ

   *ไอ้ตี๋เล็ก!!!!!!* ผมทรุดนั่งลงไปกับพื้นอีกครั้งทั้ง ๆ ที่พยายามจะลุกขึ้น ตาค้าง หายใจไม่ออก ตำรวจรีบเอาผมมานั่ง ก่อนจะคลุมร่างไว้เหมือนเดิม

   -คุณยืนยันได้ใหมครับว่าเขาคือเพื่อนของคุณ-

   ผมพยักหน้ารับช้า ๆ

   *ผมขอให้คุณกลับบ้าน จะมีตำรวจสองนายไปอยู่เป็นเพื่อนคุณจนกว่าคุณจะพอใจ ทางนี้เราต้องเอาร่างเพื่อนคุณไปที่โรงพยาบาล .......... ผมต้องการพบคุณพรุ่งนี้เช้า 08.00น ครับที่นั่น*

   ผมตาค้าง ร่างกายหมดเรี่ยวแรง ไม่มีแรงจะพูดอะไรสักคำ ตำรวจพาผมไปขึ้นรถ ขับกลับมาที่อพาร์ทเมนท์ผมอย่างรวดเร็ว

   ผมเดินเข้าไปร้องให้อยู่ที่โซฟา ตำรวจนั่งอยู่เป็นเพื่อน นานสองนาน ผมตั้งสติได้รีบโทรศัพท์หาเพื่อนทันที เพื่อนที่ทำงานไอ้ตี๋ที่ผมรู้จักสองสามคน และเพื่อนผมอีกสองสามคน

   เพื่อนผมมาถึงในทันทีที่ทราบข่าว เราส่งตำรวจกลับบ้าน ผมนั่งร้องให้ใจสั่น ทำอะไรไม่ถูก ณ วินาทีนั้น ผมไม่รู้จะทำอะไรดี
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-10-2007 03:12:39
 :serius2: :serius2: :serius2:
ตรูไม่น่าเข้ามาเลย กำลังจะนอนแล้วเชียว

 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 3-4 รวดเดียวเลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 04:16:02
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 3  /  ตั้งสติ

   เมลิซ่า เพื่อนของผมกอดผมไว้เนิ่นนาน เราสองคนพึ่งไปงานวันเกิดของลูกชายเขาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง  ไอ้ตี๋กลับบ้านยังมาถามผมอยู่เลยว่า ผมอยากมีลูกใหม ผมบอก ถ้ามึงคลอดลูกออกมาทางTo-dได้ กูก็อยากมีนะ มันไล่เตะผมใหญ่

   เจสัน สามีของเมลิซ่า เตือนให้ผมแจ้งทางบ้านของไอ้ตี๋ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมา ผมจะพูดยังไงกับทางบ้านมัน ว่าลูกของเขาตายแล้ว ผมตัดสินใจรีบโทรเพราะว่าจะได้ไม่เสียเวลามาก พ่อกับแม่ไอ้ตี๋ร้องให้มาในโทรศัพท์ แล้วบอกว่าจะพยายามมาให้ได้ในวันพรุ่งนี้ ผมบอกว่า ผมจะเป็นธุระซื้อตั๋วเครื่องบินให้ทุกคนตอนเช้าพรุ่งนี้ ผมให้มานิตย์ช่วยจดรายละเอียดของที่บ้านไอ้ตี๋มาทั้งชื่อ และหมายเลขพาสปอร์ต วันเกิด มานิตย์ทำงานอยู่กับไอ้ตี๋ที่เดียวกัน พึ่งแยกจากกันก่อนเกิดเหตุเพียง 45 นาทีเท่านั้น

   *พี่ตี๋แกเหนื่อย ๆ ครับ ผมบอกให้ไปพักที่ห้องก่อน เขาบอกว่าพี่เก่งรอเขาอยู่*

   ผมยิ่งร้องให้หนักเข้าไปอีก สักพักพี่เต้ยโทรมา บอกว่าน้องเตยโทรหา พี่เต้ยบอกว่าพี่เต้ยจะมาด้วย ผมวานพี่เต้ยโทรหาพวกไอ้เม่น พี่เต้ยบอกว่า มีอีอุ๋ยกับไอ้เม่นจะมาได้  ส่วนอีกสองคน ไม่มีพาสปอร์ต ผมบอกไม่เป็นไร ให้เมล์รายละเอียดให้ผมเลย

   -เก่ง แกต้องทำใจดีดีนะ ตอนนี้ไม่มีใครเลยที่จะดูแลเรื่องนี้ต่อ พวกพี่หรือพ่อกับแม่ไอ้ตี๋ก็ไม่รู้เรื่องเลย ต่างบ้านต่างเมืองด้วย มีแกคนเดียวที่ติดต่อเป็นธุระได้นะเก่งนะ-

   ผมขอบคุณเมลิซ่ากับเจสันก่อนที่ทั้งสองจะกลับบ้าน และสัญญาว่าจะอยู่กับผม ในวันพรุ่งนี้  ส่วนมานิตย์ขออยู่เป็นเพื่อนผม ผมถามว่าไม่กลัวเหรอ มานิตย์อึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะตอบออกมา

   *พี่เก่งรู้ใหม ผมรักพี่ตี๋มากเลยนะเหมือนพี่แท้ ๆ ของผม นอกจากเขาจะสอนงาน ช่วยผมทุกอย่างแล้ว พี่ตี๋เขายังดีกับผมมากเลยนะ เมื่อเดือนที่แล้วเขาโกหกพี่เก่งว่าส่งเงินกลับบ้านน่ะ เขาให้ผมยืม 3000 เหรียญ ที่บ้านผมกำลังมีปัญหา เขาบอกว่า พี่เก่งรู้พี่เก่งต้องว่าแน่ ๆ*

   -พี่ก็อยากปลุกมันมาด่าเหมือนกันตอนนี้- ผมนอนอยู่ที่โซฟา น้ำตาไหลไม่หยุดจนกระทั่งเผลอหลับไป

   ผมตื่นขึ้นมา 06.00น. หยิบเอาเสื้อผ้าของไอ้ตี๋ มีเสื้อ กางเกง รองเท้าหนัง เข็มขัด และแว่นตาสำรองของมันไปด้วย ผมเลือกเอากางเกงในสีขาวไป 1 ตัว ใส่ในถุง

   เรารีบไปที่โรงพยาบาล ............. เพื่อไปที่สถานที่เก็บศพ (Mortuary) ผมเจอกับผู้กองคนเมื่อคืน เขาเดินมาซักถามอะไรผมสักพัก ผมก็นำเอกสารไปยื่นที่เคาท์เตอร์ มีคนมามากมาย ณ ที่แห่งนี้เพื่อมารับศพของคนที่รัก แต่ละคนอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ ผมเจอเจสันกับเมลิซ่า ทั้งสองปลอบใจผม

   ผมให้เจสันช่วยซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านอินเตอร์เน็ท โดยใช้เครดิตการ์ดของผม โชคดีที่มีไฟลท์เย็น ทุกคนน่าจะมาถึงที่นี่ราว ๆก่อน 20.30 น.

   เมลิซ่าถามผมว่าจะจัดการศพอย่างไร ผมบอกว่า ถ้าเอากลับไทย จะต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 350,000 บาท ดังนั้นผมจะทำศพที่นี่ เธอแนะนำว่า น่าจะใช้ผู้ชำนาญการ จากนั้นเธอก็โทรเรียกบริษัทนั้นทันที

   เจ้าหน้าที่บริษัทมาถึงอย่างรวดเร็ว เขาประสานงานกับตำรวจและทางโรงพยาบาลเป็นอย่างดี อีก 30 นาที ผมกับมานิตย์ไปต่อคิวที่ห้องดูศพ เมื่อผมเดินเข้าไป พบว่าห้องเป็นกระจกกั้นไว้ ข้างในมีเตียงอยู่ 1 เตียงติดกับกระจก เรายืนอยู่กับผู้กอง ด้านในมีคนสวมผ้าปิดปาก ให้สัญญานคนหามเปลออกมากด้านข้าง วางลงบนเตียง

   ผมเห็นแล้วหน้าไอ้ตี๋ ..... มันไม่ได้มีแผลอะไรมาก มีรอยเย็บที่ศรีษะและที่ปากดูเจ่อ ๆ ผู้กองบอกว่าสภาพศพดีมาก แค่คอหักกับแขนหัก ขาหักเท่านั้น  ผู้กองบอกให้ผมยืนยันกับเจ้าหน้าที่ด้านในว่าเป็นคนของเราจริงโดยการยกมือ OK จากนั้นเขาก็ยกเปลลับหายไปยังฝั่งตรงข้าม

   ผมน้ำตาไหลออกมากอดเพื่อนทั้งสามไว้ ยืนแทบไม่อยู่ ผมสงสารมันมากที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำไมไม่เป็นผมแทนนะ ถ้าหมี่ติดคอผมแล้วผมตาย .... คงไม่ใช่ไอ้ตี๋ที่ตายแน่ ๆ

   ผู้กองเข้ามาบอกผมว่า ถ้าไม่ต้องผ่าพิสูจน์  (Autopsy) สามารถรับศพไปได้เลยก่อนเที่ยง สักพัก เจ้าหน้าที่นิติเวชศาสตร์  เรียกชื่อผมไปรับมรณบัตรของสิงคโปร์  ผมอ่านดูคร่าว ๆ สาเหตุการตายคือ บาดเจ็บหลายแห่ง (Multiple injuries)

   ผมนั่งเหม่อลอยรอกรรมวิธีอื่น ๆ ต่อ ในขณะที่เพื่อน ๆ กลับไปหมดแล้ว ผมออกมานั่งสูบบุหรี่ที่บันไดทางขึ้น ทราบว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลจะอาบน้ำทำความสะอาดศพ แต่งแผล ก่อนเที่ยงแค่ 10 นาที ผมถูกเรียกไปที่ช่องโหลดศพ มันเหมือนช่องโหลดของในโรงงาน รถตู้บริษัทรับศพมาเรียงรายกันอยู่ด้านหน้า

   เจ้าหน้าที่เรียกผมไปในห้องเล็ก ๆ มีศพไอ้ตี๋ห่อพลาสติกอยู่ด้านหน้าผม เหลือแต่หน้าที่พอมองเห็นกับมือ เจ้าหน้าที่ยกถุงใบหนึ่งให้ผมดู บอกว่าเป็นเสื้อผ้าเปื้อนเลือด จะเอาใหม ผมส่ายหน้าบอกว่าไม่เอา เพราะในถุงมีเลือดอยู่ครึ่งถุง ส่วนอีกถุงเป็นถุงใส่นาฬิกาแทคฮอยเออร์ลายก้างปลา ที่ซื้อมาเมื่อปีใหม่นี่เอง

   เจ้าหน้าที่ของบริษัททำศพ เอาผ้าขาวดิบใหญ่มาปู ก่อนจะยกร่างไอ้ตี๋ลงไปนอนทับ ห่อด้วยผ้า แล้วมัดอีกชั้น จากนั้นก็ยกมันไปที่รถตู้ ก่อนจะล็อกด้วยเข็มขัดรัด ที่หน้ารถมีแพรสีแดงลงอักขระจีน เขาจับมาขึงโยงระหว่ากระจกหน้ารถทั้งสองอัน ก่อนรถจะเคลื่อนออกไป ผมเอาถุงเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนให้มันให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะตอนนี้มันคงไม่ได้ใส่อะไรอยู่ เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผมตามไปที่บริษัท ผมพยักหน้า ผมไปถูกเพราะผ่านประจำเวลาไปทำงาน

   ผมขับรถไปช้า ๆ ตามหลังรถที่มีร่างไอ้ตี๋อยู่ข้างใน น้ำตาผมทำไมมันไม่แห้งเหืดไปสักทีนะ เมื่อผมจอดรถ มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงดูมีอาวุโสล้ว ผมเรียกแกว่า Uncle มาต้อนรับผม บอกว่าให้รถคันนั้นไปด้านใน ส่วนผมต้องไปกับเขาที่ออฟฟิศ

   สถานที่ที่ผมไปนั้นเป็นบริษัทรับทำศพ ที่สิงคโปร์เวลามีคนตาย ถ้าไม่ตั้งศพใต้ถุนอพาร์ทเมนท์ ก็จะไปจ้างที่แบบนี้ คล้าย ๆ ศาลาบ้านเรา แต่ผมว่าเหมือนโรงแรม เพราะเขาให้ผมเลือกห้อง ผมเลือกห้องที่ชื่อว่า Ruby อยู่ชั้นสาม ราคาคืนละ 1000 เหรียญ เป็นเวลา 2 คืน ทางบริษัทแจ้งผมว่าจะทำใบจองขอเผาที่สุสาน ให้ผมเลือกเวลาและสถานที่ที่จะเผา ผมเลือกที่ ................ และผมตัดสินใจว่าตั้งศพเพียงสองคืน เพราะค่าใช้จ่ายสูง แล้วจองคิวเผาที่ Hall หมายเลข 4 เวลา 11.45น. ของวันถัดไป  การจองนี้สำคัญ เพราะว่า มีคิวรอเผาอยู่ ต้องให้ทันเวลา ราคาทั้งหมด 5850 เหรียญ เขาขอมัดจำด้วยบัตรเครดิต 20% ส่วนที่เหลือ ให้นำมาชำระวันรับอัฐิ เป็นเงินสดหรือเช็ค

   ผมถูกพาไปเลือกโลงศพ ส่วนร่างไอ้ตี๋ตอนนี้กำลังนำไปฉีดยากันเน่า ตกแต่ง ใส่เสื้อผ้า ผมเลือกเอาโลงที่ดีที่สุดสำหรับมัน โลงแบบไทยสี่เหลี่ยมไม่มี ต้องเอาโลงแบบฝรั่ง ลายไม้มะฮ้อกกานีสวยมาก ราคากว่า 1000 เหรียญ ผมเลือกดูให้แน่ใจว่ามันจะนอนสบายที่สุด ไม่อึดอัด เพราะมันตัวใหญ่ ...

   ผมไปดูห้องที่จองไว้ มีแอร์ ตู้เย็น เครื่องเสียง น้ำหวาน ของกินขบเคี้ยว ผมถูกแจ้งว่า สามารถกลับมาดูไอ้ตี๋ได้เวลา 6 โมงเย็น ผมจึงรีบกลับไปเอารูปไอ้ตี๋ไปขยายที่ร้าน ก่อนจะสั่งดอกไม้ที่ร้านประจำที่พวกเราชอบซื้อ ผมสั่งดอกไม้หน้ารูป 1 ชุด ดอกไม้ลอยพร้อมฐาน 1 เมตร 2 ข้าง และดอกไม้ตระกร้าใหญ่ ... ลิลลี่สีขาวที่ผมกับมันชอบมากที่สุดไว้วางบนโลง   ป้าเจ้าของร้านรับเงินจากผม 300 เหรียญก่อนจะเอาซองมาใส่เงินคืนให้ผม 50 เหรียญ เป็นค่าช่วยเหลืองานศพ ผมยกมือไหว้ขอบคุณทันที

   ผมกลับไปแพ็คของที่ห้องซึ่งเป็นของไอ้ตี๋ ผมเก็บไปก็ร้องให้ไป เพราะกลิ่นของมันยังติดตามเสื้อผ้าที่มันใส่อยู่ตลอดเวลา ผมเปิดดูไดอารี่ของมัน พลิกดูแล้ว .... ไม่มีวันใหน ที่มันไม่เขียนถึงผมเลย

   ผมเอาเสื้อผ้ามันใส่มาในถุง ขนมปังปิ๊บที่มันซื้อไว้เมื่อวานยังไม่ได้กินด้วย หนังสือของมันทั้งหมดเอามาที่บริษัทจัดงาน

   ผมยืนอยู่หน้าประตูห้อง รอคนมาเปิดประตู ชั้นนี่มี 3 ห้อง ทุกห้องมีงานศพหมดเลยทุกห้อง ตึกนี้มี 5 ชั้นครับ ผมมองเข้าไปในห้อง มีโลงตั้งอยู่ด้านหน้า  ผมสงสารมันเหลือเกินที่ต้องมาอยู่คนเดียว ตายทั้งทีมาตายไกลบ้าน ...  ที่หน้าห้องมีป้ายประดับด้วยดอกไม้ บอกว่า เป็นงานของคุณ ............... ออกจากที่นี่วันที่ .................... เวลา ..................... เพื่อฌาปณกิจที่ .......................

   ประตูเปิดออกผมวิ่งเข้าไปทันที ฝาโลงปิดไว้ แต่ผมไม่ได้สั่งให้ตอกตะปู ผมเลื่อนฝาออกเบา ๆ ไอ้ตี๋มันแค่นอนหลับเอง เขาหวีผม ทาแป้งให้มันอย่างเป็นธรรมชาติ ผมลูบหัวมันเบา ๆ  เอามือจับตามหน้า ตามแขน ตัวมันแข็งทื่อและเย็นเฉียบ ผมร้องให้อยู่พักใหญ่ นึกขึ้นได้ว่ามันคงไม่อยากให้ใครมาเห็นมันในสภาพนี้ ผมปิดฝาโลงลง

   ผมก็สลดใจไม่แพ้กันเมื่อต้องนั่งอยู่ในห้องใหญ่ ๆ นี้คนเดียว ผมเอาซีดีเพลงที่มันชอบ “รักแท้ในคืนหลอกลวง” มาเปิด ก่อนจะจัดของพวกเสื้อผ้าของมัน กระเป๋ามัน เอามาวางไว้ที่โต๊ะหน้าโลง

   พวกพี่เต้ยมาถึงแอร์พอร์ทเวลา 18.30น. เขาเรียกรถแท็กซี่แบบรถตู้มาส่ง วินาทีแรกที่แม่กับพ่อไอ้ตี๋เดินเข้ามา แม่มันเป็นลมล้มพับเมื่อเห็นโลงตั้งอยู่ พ่อมันรีบจับไปพยาบาลยกใหญ่  คนที่มามี พี่เต้ย ไอ้เตย พ่อกับแม่ไอ้ตี๋ อีอุ๋ย และไอ้เม่น ผมโผเข้ากอดทุกคน ร้องให้เสียงดังระงมไปหมดทั่วห้อง

   ผมบอกทุกคนว่าจะเปิดโลงให้ดู ทุกคนดูไปก็ร้องให้ แต่ละคนก็จับตามตัวของไอ้ตี๋  แม่มันถึงกับกอดลงไปที่อกมันเลยทีเดียว

   เวลา 19.30 น แขกทยอยมาที่งาน เป็นคนไทยคนงานที่ทำงานเป็นลูกน้องของไอ้ตี๋เยอะมาก และเพื่อน ๆ ของผมก็มากันครบ ส่วนพระสวดไม่มีเพราะไอ้ตี๋เป็นคริสเตียน พวกเราทยอยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านผม ก่อนจะกลับมานอนเฝ้าที่นั่นกันทั้งคืน ผมซื้อข้าวให้ทุกคนกิน ทั้ง ๆ ที่ผมก็ไม่กิน พ่อกับแม่ไอ้ตี๋อาการหนักหน่อย ซึมไม่พูดอะไรนอกจากจ้องดูรูปอย่างเดียว

   พวกเราตื่นกันแต่เช้า มีลุงแก่ ๆ มาทำความสะอาด เขาทำหน้างง ๆ บอกว่า ไม่เคยเห็นใครนอนเฝ้าศพ ผมอธิบายเป็นภาษาจีนว่า เป็นคนไทย ผมเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วพร้อมจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับงาน  ผมบอกพ่อกับแม่ไอ้ตี๋ถึงความจำเป็นว่าเราต้องจัดงานที่นี่ และผมจะต้องไปสถานทูตไทยเพื่อขอใบมรณบัตร เสร็จแล้วผมก็พาไอ้เม่นกะอีอุ๋ยไปเลือกซื้อของใหม่ ๆ รอเอาไปบริจาคให้มัน ตามความเชื่อคนไทย เช่น เสื้อผ้า ชุดจาน – ชาม รองเท้า

   งานในคืนวันสุดท้ายมีคนมาเยอะกว่าเดิมอีก ผมกับอีอุ๋ย, ไอ้เม่นทำของชำร่วยสำหรับการเผาพรุ่งนี้ป็นเทียนหอม ติดป้ายว่า “รักและอาลัย” คืนนั้นเรานอนที่นั่นอีกเหมือนเดิม

   เช้าแล้ว ... ผมไม่อยากให้มาถึงเลย เวลา 09.00น. อาจารย์ที่โบสถ์ที่ผมกับไอ้ตี๋ไปประจำ มาสวดทำพิธีให้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยกโลงลงไป เขาขอให้คนที่ผู้ตายรักมากที่สุดไปกับเขาด้วย ส่วนที่เหลือลงไปรอด้านล่าง ผมเดินไปตามโลงศพ ก่อนเข้าไปในลิฟท์ ลงมาด้านล่าง ระหว่างที่เดินมา ผมคุยกัยไอ้ตี๋ตลอดเวลาว่า ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวสบายแล้ว มีคนมาเยอะยะเลย ผมพูดแบบไม่มีสติหลงเหลืออยู่เลย

   โลงไอ้ตี๋ถูกยกขึ้นรถส่งศพ (Hearse) ซึ่งเป็นรถกระจก มีดอกไม้เต็มอยู่ด้านใน จากนั้นทุกคนถูกเรียกมาต่อแถว เอามือแตะที่รถที่เคลื่อนตัวช้า ไปสู่ถนนใหญ่ เป็นธรรมเนียมจีนที่เป็นการส่งผู้ตายครั้งสุดท้าย ...  คนที่เหลือจะไปกับรถบัสที่ทางบริษัทจัดมา ตอนนี้เหลือคนประมาณ 30 คนที่จะไปเผา ผมขึ้นนั่งที่หน้ารถคันที่มีโลง คู่กับคนขับ คนขับเปิดเสียงสวดนมัสการจากซีดีในรถ เขาทราบว่าเราเป็นคิสเตียนตอนที่เราลงทะเบียน ผมหลับตาอธิษฐาน ... ฝากคนที่ผมรักไปอยู่กับท่านด้วย

   ระหว่างทางสุสานประมาณเกือบ 20 กม ผมหันไปดูโลงไอ้ตี๋ตลอดเวลา ปากก็บอกว่า อย่ากลัวนะ เดี๋ยวสบายแล้ว ตอนนี้ถึงตรงใหนแล้ว เราเคยมากัน จำได้ใหม ผมพูดไปจนสุดทาง

   เมื่อเรามาถึง Hall 4 เจ้าหน้าที่ยกโลงไปตั้งที่เวทีด้านล่าง  ด้านบนจะมีที่นั่งเยอะ ๆ ราวๆ 200 ที่นั่ง เหมือนกับที่แสดงคอนเสิร์ท  อาจารย์สั่งให้เปิดโลงเพื่อไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ผมเอาดอกไม้ทั้งหมดใส่ไปในโลงด้วย ส่วนตะกร้าดอกไม้เอาวางไว้ที่ฝาโลงเหมือนเดิม ก่อนจะจับมือมันอีกครั้ง ผมก้มลงจูบที่หน้าผากของมันเบา ๆ  แม่ไอ้ตี๋ยืนร้องให้อยู่ไกล ๆ ธรรมเนียมไทยห้ามน้ำตาแม่หยดใส่ศพ ลูกจะมีห่วง..

   และแล้วก็ถึงเวลาปิดฝาโลง ... ผมมองภาพนั้นอย่างเนิ่นนาน เพราะผมรู้ดีว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะเห็นไอ้ตี๋เล็กของผมอีก ... ฝาโลงถูกปิด ม่านด้านหลังเปิดออก ก่อนที่สายพานจะเคลื่อนศพเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่บอกให้ทุกคนขึ้นไปที่ช่องสังเกตุการณ์ด้านบน ผมอุ้มเอารูปหน้าศพของมันเดินนำทุกคนขึ้นไป มันเป็นห้องกระจกอยู่ชั้นสอง ทุกอย่างดูไฮเทคมาก ๆ กระจกบานใหญ่กั้นเราระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างที่มีสายพานทอดยาวเข้าไป เราได้ยินเสียงหวอดัง 1 ครั้ง ก่อนที่สายพานจะเคลื่อนเอาโลงมาตั้งอยู่ที่พื้นที่โล่งชั้นล่าง เราชะโงกหน้าผ่านกระจกไปดู ทุกคนร้องให้กันระงมเมื่อม่านด้านหลังเปิดออก มีหุ่นยนต์ 1 ตัวเดินออกมาช้า ๆ กดปุ่มที่สายพาน

   สายพานเคลื่อนเข้าไปหลังม่านอย่างช้า ๆ ก่อนโลงจะหยุดนิ่ง แล้วม่านนั้นก็เคลื่อนตัวลงมาปิดอย่างช้า ๆ เหมือนกับจะบอกว่า ละครฉากนี้ รูดม่านจบลงแล้ว .......... ผมบอกตี๋เล็ก ๆ เบา ๆ ในใจว่า

   ***** นี่คือสิ่งสุดท้ายที่กูทำให้มึงได้ คืองานศพของมึง กูขอโทษถ้ามันอาจจะไม่ดีพอ แต่กูพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ... หลับให้สบายตี๋เล็ก รอกูด้วยนะ อย่าขี้แย.... เก่งรักตี๋เล็กมากนะรู้ใหม ... ลาก่อนที่รัก *****

   
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 4 /  สิ่งที่เหลืออยู่

   ผมหยิบชิ้นกระดูกบาง ๆ ของชิ้นส่วนของศรีษะขึ้นมา ก่อนจะวางลงไปที่เดิม .... โธ่เอ๋ย ... ชีวิตก็แค่นี้ .. ต้องมาถึงจุดจุดนี้ทุกคน ไม่ว่าใครหรือใคร ... จะช้าจะเร็วแค่นั้นเอง

   ผม แม่และพ่อไอ้ตี๋ ใช้พลั่วเล็ก ๆ ตักส่วนที่เป็นผงละเอียดใส่ในผ้าขาว และส่วนที่เป็นชิ้นใหญ่ใส่ในโกศ (Urn)  หินอ่อนสีขาว ใช้สำลีกรุด้านบนสุด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำป้ายเล็ก ๆ มาติดไว้ บอกว่านี่คือส่วนที่เหลือจากการเผา (Cremated remains) ของนาย ............. เก็บวันที่ ............. เชื้อชาติ ................. สัญชาติ ................. หมายเลขพาสปอร์ต ..........................

   ผมอุ้มห่อผ้า ส่วนพ่อไอ้ตี๋ถือเอาโกศ ทุกคนร้องให้เงียบ ๆ ผมขอตัวไปชำระเงินอีก 80% ที่เหลือในออฟฟิศ ให้ทุกคนรอด้านนอก

   *เก่ง พ่อไปด้วย จะทำยังไงล่ะ เงินทองไม่ได้เตรียมมาเลย*

   -พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ เก่งจัดการให้ทุกอย่าง เงินแค่นี้เอง ไม่ต้องกังวลนะครับ-

   ผมเข้าไปชำระเงินในส่วนที่เหลือด้วยเช็ค ผมเซ็นเช็คในสมุดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทางบริษัทจะออกใบเสร็จรับเงินให้ และทางบริษัทจะส่งใบกำกับภาษีฉบับสมบูรณ์ไปให้ตามที่อยู่ที่ผมให้ไว้ ผมพาทุกคนเดินออกมาจากที่นั่นด้วยจิตใจหดหู่ มันไม่ใช่สถานที่ที่เราอยากมาเลย ... ขออย่าให้ได้มาอีกเลยนะ ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ  ผมนึกในใจ

   ผมขับรถตู้ที่เช่ามาวันละ 40 เหรียญพาทุกคนไปยังที่หมายคือ Changi jetty เป็นท่าเรือแห่งหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านชางงี ผมพาทุกคนนั่งรอเรือที่จะพาเราข้ามฝั่งไปยังเกาะ Puala Ubin เพื่อนำกระดูกไอ้ตี๋ส่วนที่เป็นผงไปลอยอังคาร ถ้าน้ำทะเลทุกที่ในโลกมันไปถึงกันหมด ไอ้ตี๋มันก็ต้องได้กลับบ้าน ... ที่เมืองไทย

   ราคาเรือข้ามฝั่งคนละ 2 เหรียญ เรานั่งเรือไปประมาณ 5 นาที ถึงตรงกลางน้ำ ผมเอาน้ำหอมซมบ้าเนเชอรัลที่มันชอบฉีดบนเศษกระดูก จากนั้นผม แม่และพ่อไอ้ตี๋ ช่วยกันจับผ้าขาว โปรยเศษอัฐิไปในน้ำ น้องเตยโยนพวงมาลัยดอกมะลิที่ซื้อมาจากย่านคนไทยลงไป

   *ไปดีนะลูก กลับบ้านเรานะ*

   -ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อกับแม่-

   *พี่ตี๋ไปสบายแล้วนะ หนูดูแลพ่อกับแม่ได้*

   -ตี๋ไปดีนะเพื่อน-

   *สบายแล้วนะเพื่อน*

   -ไปสบายนะตี๋เล็ก-

   ***** ถ้ามึงต้องไปใหนก็ไปนะ อย่าห่วงกู ... แต่ถ้าวันใหนมึงอยากมาหากู ให้มึงรีบมา ..... กูจะคอยเจอกับมึงเสมอ ***** ผมน้ำตาไหล แต่ยิ้มออกมาได้บ้างแล้ว

   ผมพาทุกคนขึ้นไปให้กราบพระที่วัดไทยบนเกาะ เกาะนี้เป็นเกาะดิบ ๆ ยังไม่มีการก่อสร้างอะไร พระที่นี่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ สัญญานโทรศัพท์มือถือก็เป็นของเครือข่ายประเทศมาเลเซีย

   ผมนั่งรอทุกคนด้านนอกเพราะผมไม่ไหว้พระ สักพักหนึ่งผมเห็นหมูป่าตัวเล็ก ๆ 1 ตัววิ่งออกมากินข้าวที่มีคนวางไว้ จาก 1 เป็น 2 เป็น 3 เรื่อย ๆ จนครบ 7 ตัว แล้วตัวใหญ่หนักราว ๆ 200 กก ออกมาอีก 1 ตัว อาจจะเป็นแม่มันหรือเปล่าผมไม่แน่ใจออกมา ผมรับวิ่งไปในโบสถ์ บอกกับหลวงพ่อ หลวงพ่อหัวเราะบอกว่า อย่าตกใจ เขามาของเขาประจำแบบนั้นอยู่แล้ว ที่นี่ไม่ค่อยมีคนมาหรอก นาน ๆ ที จะมาหนึ่งครั้ง

   จากนั้นก็เย็นพอดี ผมพาทุกคนมากินข้าวซึ่งมีอาหารทะเลราคาถูกมาก ๆ ที่ท่าเรือก่อนจะนั่งเรือข้ามฟากกลับ ทุกคนกินข้าวได้มากขึ้นเพราะเริ่มทำใจเข้าที่เข้าทางได้ดีแล้ว ตกลงว่าทุกคนจะอยู่ที่นี่ต่ออีก 2 วันก่อนจะกลับ ไอ้เม่นจะอยู่กับผมอีก จนครบวีซ่า 14 วัน เพราะตอนนี้มันยังไม่ได้ทำงานและสอบเสร็จแล้ว ผมตกลงทันที เพราะว่าผมไม่แน่ใจว่าผมจะอยู่ได้ยังไงคนเดียวตอนที่ไม่มีใคร ตลอดเวลาลางานของผมอีก 4 วัน

   ผมส่งทุกคนขึ้นเครื่องกลับไปในอีก 2 วันถัดมา พ่อกับแม่ไอ้ตี๋กอดผมเนิ่นนานที่สนามบิน ผมบอกน้องเตยดูแลพ่อกับแม่ให้ดี พ่อบอกว่า ตอนนี้เขาเสียลูกชายไปหนึ่งคน แต่เขายังเหลือลูกชายอีกคน คือผมนั่นเอง

   4 วันที่เหลือผมพาไอ้เม่นออกดูตามที่นั่นที่นี่บ้าง ผมเข้าใจว่ามันต้องการให้ผมลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นซะ ผมขอแบ่งอัฐิจากพ่อกับแม่ไอ้ตี๋มาเล็กน้อย เก็บไว้ที่ห้องของผม ผมไม่ยอมย้ายออกไปใหน แม้ว่าจะมีคนบอกว่า จิตใจจะได้ดีขึ้น เพราะที่ห้องนี้ ... มันมีความรักของผมทั้งสองคน .. มองไปทางใหนก็เห็นตัวมันตลอดเวลา จะให้ผมทิ้งมันไปที่ใหนอีก มันก็ต้องอยู่คนเดียวสิถ้าอย่างนั้น เหงาแย่เลย

   ผมส่งไอ้เม่นกลับพร้อมสัญญาว่าจะคุยกันเรื่อย ๆ ทางอินเตอร์เน็ท ผมกอดมันไว้เนิ่นนาน เพื่อนกัน ก็ยังเป็นเพื่อนไปตลอด แม้จะตายจากกันไป ความเป็นเพื่อนก็ไม่ได้ตายจากไปใหนเลย .......

   จากนั้นผมขับรถไปที่โบสถ์ที่ผมกับไอ้ตี๋มาทุกวันอาทิตย์ เพื่อทำหน้าที่ใหม่ของผม นั่นคืออาจารย์อาสาสมัครสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ให้กับนักศึกษา กศน แบบชั้นเรียนทางไกลในต่างประเทศ ค่าจ้างครั้งละ 30 บาทในวันอาทิตย์ ผมบริจาคเพื่อใช้ในกิจการของโบสถ์

   ชั้นเรียนเลิกเวลา 16.00 น. ผมแวะซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อเลือกซื้ออาหารและของใช้บางส่วน จากนั้นผมขับรถกลับบ้านบนถนนเลียบชายหาด เมื่อไกล้ ๆ จะถึงจุดที่ไอ้ตี๋เกิดอุบัตเหตุ .... ผมรู้สึกเหมือนมีเงาอะไรสักอย่างมาบังตาผมให้มองอะไรไม่เห็นไปชั่วขณะ แต่พอผมเริ่มมองเห็นได้ ..

   ผมมองเห็นท้ายของรถบรรทุกขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้าผมในระยะกระชั้นชิด ........ สัญชาตญานบอกให้ผมเหยียบเบรคอย่างแรงในทันที ผมมีความรู้สึกว่ารถหมุนอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนจะตามมาด้วยเสียง โครม ! อย่างดัง แล้วโลกของผมก็มืดดับลงไป ณ วินาทีนั้นนั่นเอง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 28-10-2007 08:14:06
 :o11:   รู้ไหม ผมตามอ่าน  เรื่อง พี่เก่ง กับน้องตี๋อยู่ นะ  วันนี้ เข้ามานึกว่า ต่อจากที่ผมอ่าน



แค่บทเกริ่นนำน้ำตาผมก็ร่วงแล้ว    ผมรับไม่ได้      ผมยังอยากอ่านพี่เก่งกับน้องตี๋อยู่นะ  หือ  ๆ



 :o12: :o12: :o12: :o12:   
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 28-10-2007 08:42:46
 :m15:   ไม่อ่านแม่งแล้วโธ่เอ๊ย........ :o12: :o12:




นั่งร้องอยู่คนเดียวเนี้ยะ   หือ  ๆ  ( อีกรอบ ) 




คุณตี๋เล็กขอให้ไปดีนะครับ   
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 28-10-2007 09:18:08
RIP ครับ ตี๋เล็ก

เศร้ามากครับ  รู้สึกตื้นตันกับความรักของทั้งสองคนครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-10-2007 10:00:42
ตี๋มาหาเก่งแล้วหรือ
เราจะได้อยู่กันตราบชั่วนิรันดร์
 :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: piercepearce ที่ 28-10-2007 10:03:14
ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังไปเลยอ่ะ

อ่านแล้วคิดถึงชีวิตคนเรา เห้อ

เป็นกำลังใจให้นะคับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-10-2007 10:45:21
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7

สงสารตี๋

เก่ง อั้ยเลว แสรดดดดดดดด

 :angry2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 28-10-2007 10:55:40
 :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-10-2007 11:19:36
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เป็นแบบนี้ไปได้งัยยยยยยยยยย

ไม่ยอมมมมมมมมมมมมมมมมม

 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 28-10-2007 11:25:53
 :sad2: แง.....เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 1 / อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 28-10-2007 12:38:02
:m15:
แม้จะโกรธและผิดหวังกับการกระทำของเก่งในภาคก่อน....
...แต่ถึงภาคนี้…คงต้องบอกว่าเห็นใจและเสียใจด้วยอย่างแท้จริง...
นี่ละคือเหตุผล…ทำไมเราควรทำดีกับคนที่เรารักให้มากที่สุดในทุก ๆ วัน... :impress:
เพราะชีวิตแต่ละชีวิตมีเวลาไม่เท่ากัน…ไม่มีใครรู้เส้นทางชีวิตตนล่วงหน้า...
การทำดีต่อกันในขณะที่ทำได้จึงเป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง….รักและดูแลกันและกันให้ดี....
 :catrun:
หลายชีวิตคงรู้จักและพบเจอการจากลา…การจากเป็นว่าเจ็บปวดแล้ว…การจากตายยิ่งเจ็บกว่า
จากไกลทั้ง ๆ ที่รักยังมีความสุขความทรงจำที่ดีให้จดจำ...
แต่จากไปทั้งที่เข้าใจผิดกัน….”คนเป็น” หมดสิทธิ์อธิบายกลายเป็นตราบาปไปจนตาย !!!
 :call:
หากเรื่องนี้จบลงด้วยความตายของคนทั้งคู่…ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือนิยาย.....
....ขอให้สองชีวิตได้พบและผูกพันมีความสุขตลอดไปในภพภูมิที่สวยงาม......
 :bye2:
+1 สำหรับความรักของเก่งและตี๋เล็ก...พร้อมทั้งขอบคุณที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ได้ติดตาม... :pigwrite:
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 5 / ไม่เข้าใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 13:31:56
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 5  /  ไม่เข้าใจ

   ผมพบว่าตัวเองเดินอยู่บนเส้นทางหนึ่ง ทางเดินไปข้างหน้ามีแต่แสงสว่างสีขาวทอดยาวออกไปจนสุดสายตา ผมพยายามขยี้ตาให้รู้ว่าเราไม่ได้ฝันไป ผมบอกกับตัวเองว่า เรื่องนี้มันไม่จริงอย่างไรก็ไม่รู้

   ผมเดินตามถนนที่เงียบสงัดจนไร้สรรพเสียงใด ๆ ไปสักพัก ผมได้ยินเสียงของแม่เรียกชื่อผมมาจากที่ไกลๆ ด้านหลัง ***เก่ง เก่ง*** ผมมีความรู้สึกเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อผมดังขึ้น ๆ     ผมทรุดนั่งลงกับพื้นยกมือกุมหัวเพราะเสียงนั้นมันดังเกินกว่าที่ผมจะทนรับได้ ผมร้องตะโกนออกมาอย่างดังว่า **** แม่ ช่วยผมด้วย !!! **** ก่อนที่ผมจะมีความรู้สึกเหมือนว่าตัวของผมถูกดูดไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นที่ใด


   ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ภาพในสมองกำลังปรับให้ชัดขึ้น ๆ ผมเห็นเพดานสีขาว พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงที่หนึ่ง ทุกอย่างรอบห้องเป็นสีขาวอย่างประหลาด

   *คุณรู้สึกตัวแล้วใช่ใหมคะ* มีผู้หญิงเชื้อสายอินเดีย ใส่ชุดสีชมพูอ่อน ๆ ในมือถือเอกสารบางอย่าง ชะโงกหน้ามาถามผมด้วยภาษาอังกฤษเบา ๆ

   *ใช่* ผมตอบสั้น ๆ ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ผมเหนื่อย ผมอยากจะนอนเพียงอย่างเดียว

   *คุณ ภพ. ครับ คุณรู้สึกตัวแล้วจำอะไรได้บ้างหรือเปล่าครับ* เสียงผู้ชายในชุดสีขาว มีหูฟังห้อยอยู่ที่คอของเขา พูดภาษาอังกฤษสำเนียงคนจีน

   -ไม่ได้ครับ ผมอยากจะนอน- ผมตอบทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่

   *คุณพักผ่อนมาก ๆ นะครับเดี๋ยวผมจะมาดูคุณใหม่เมื่อคุณ....*

   ผมฟังชายคนนั้นพูดยังไม่จบ ก่อนจะนอนหลับไปอีก ผมไม่ทราบว่านานเท่าไหร่ แต่มีเสียงคนเรียกผมอยู่ที่ข้าง ๆ หู

   *เก่ง เก่ง*

   ผมหลับตาแต่ว่ารู้สึกตัวแล้ว ผมถาม

   -ใคร จะนอน-

   *กูเองตี๋ไง* ผมลืมตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด แล้วลุกพรวดขึ้นนั่งบนเตียง ผมหันไปมองไอ้ตี๋ด้วยท่าทางแหยง ๆ ไอ้ตี๋ร้องให้และโผเข้ามาจะกอดผม ผมรีบกระเถิบออก

   -หมายความว่ากูตายแล้วใช่ใหมเนี่ย- ผมตกใจกับสิ่งที่ผมได้รับรู้สุด ๆ ช็อคเลยก็ว่าได้

   *ใคร ๆ ก็คิดว่ามึงตายไปแล้ว* มันตอบ

   ผมผลักมันออก

   -กูยังไม่อยากตาย- ผมตะโกนเสียงดัง

   *ใครอยากตายบ้างล่ะ แล้วมึงก็ยังไม่ตาย* ไอ้ตี๋ทำสีหน้าละล่ำละลักแบบตกใจ มันรีบวิ่งออกไปข้างนอกห้อง ในขณะที่ผมร้องตะโกนว่าผมไม่อยากตายอยู่บนเตียง

   มีหมอกับผู้หญิงที่น่าจะเป็นพยาบาลสองคนวิ่งเข้ามาในห้อง ไอ้ตี๋หน้าตาตื่น ๆ วิ่งตามมาด้านหลัง

   -คุณ ภพ. คุณใจเย็น ๆก่อนนะครับ-

   *ผมไม่อยากตาย คุณได้ยินใหม* ผมตะโกนใส่หน้าผู้ชายคนนั้น ทุกคนดูสีหน้าราบเรียบ ไอ้ตี๋เหมือนกับอยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้า

   -ผมชื่อ ด็อกเตอร์ เอิง ที่นี่คือโรงพยาบาล ตัน ตอค เส็ง (Tan Tock Seng Hospital: TTSH)  คุณได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนอีสต์โคสไฮเวย์ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และถูกนำตัวมารักษาที่นี่ คุณพอจะจำเหตุการณ์อะไรได้ใหมครับ-

   *ครับผมจำได้ว่ามีอุบัติเหตุระหว่างทางผมกลับบ้าน*

   -ทางเราตรวจเช็คร่างกายคุณทุกอย่างแล้ว พบว่าร่างกายคุณปกติดี เพียงแต่คุณมีอาการตกใจมากเกินไปแค่นั้น แต่ผมคาดว่าคุณจะสามารถหายดีและกลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้-

   *ขอบคุณครับ* ผมพูดกับหมอ แต่ตาจ้องมองไอ้ตี๋ที่ยืนอยู่ด้านหลังของหมออย่างไม่วางตา ผมนึกในใจ สงสัยวิญญาณมันมาดูแลผมเหมือนในละคร พวกหมอและพยาบาลคงจะมองไม่เห็นมัน

   -ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของไข้ ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องให้ตำรวจมาสอปากคำคนไข้ในบ่ายวันนี้ คุณจะสามารอยู่กับคนไข้ได้ใหมครับ- หมอหันไปพูดกับวิญญาณไอ้ตี๋ !!!!!!

   โอ้ยตายแล้ว ผมอยากจะตายตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย

   *ได้ครับคุณหมอ ขอบคุณมากครับ* ผมเห็นมันเช็คแฮนด์กับหมอแล้วหมอหันมาโบกมือให้ผมหนึ่งครั้ง ผมพยักหน้าทั้ง ๆ ที่หน้าตาตื่นอยู่

   -เป็นอะไรเก่ง มองหน้ากูยังกับเห็นผี- มันถลาเข้ามาที่เตียงผม ผมกระเถิบหนีออกไปอีก

   *ก็มึงเป็นผีแล้ว มึงตายไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่*

   -มึงจะบ้าเหรอ อาทิตย์ที่แล้วเรายังไปงานวันเกิดลูกชายของเจสันอยู่เลย กูจะตายได้ไง-

   *กูทำงานศพให้มึงเรียบร้อยแล้ว มึงไปสู่ที่ชอบ ๆ เถอะ* ผมบอกมัน

   -ไอ้เชี่ยเก่ง จะแช่งให้กูตายหรือไง- มันเอามือเขกหัวผมทีนึง ผมร้อง โอ้ย เจ็บ ไอ้ตี๋เอามือมาจับที่หัวผม

   -ขอโทษ ๆ ไม่ได้ตั้งใจ- ผมเอามือจับมือมัน อ้าว ไม่ใช่ผีนี่ อุ่น ๆ ปกติ

   -อะไรอีกล่ะ- มันถาม

   *กูจะเล่าอะไรให้มึงฟัง มันเป็นเรื่องจริงที่กูได้ไปเจอมา ..................* ผมเล่าให้มันฟังทั้งหมด มันสรุปว่าผมคงจะฝันไป  มันยืนยันสถานะตัวมันเองด้วยการหอมแก้มและกอดผมแรง  ๆ 1 ครั้ง

   -เออ เก่ง มึงพร้อมจะฟังเรื่องหรือยัง มึงต้องรู้รายละเอียดบางอย่างก่อนที่ตำรวจจะมา-

   ไอ้ตี๋บอกผมว่า ก่อนหน้านั้น 1 คืนผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ยอมนอนทั้งคืน เดินไปเดินมา จนมานอนเอาไกล้เช้า และก่อนจะออกจากบ้านตอนเช้า ผมเปิดวิทยุฟังคลื่นโปรด เครื่องเสียงที่บ้านกำลังเปิดเพลง Hung-up ของมาดอนนา อยู่ ๆ เครื่องเสียงก็ลำโพงขาด

   มันกินข้าวอยู่ที่ไซต์งานตอนเที่ยง เส้นหมี่ของผัดหมี่ (Bee hoon) ติดคอมันจนมันแทบตาย ต้องให้เพื่อนทุบหลังให้ บ่ายสองมันโทรหาผม เล่าเรื่องน่าอายของมันให้ฟัง มันบอกกับผมว่า “มันรู้เลยว่า ระหว่างความเป็นกับความตายนั้น เป็นอย่างไร”

   จากนั้นหกโมงเย็นมันได้รับแจ้งให้ไปดูสถานที่เกิดเหตุจากตำรวจ เรื่องมันมาจาก ผมขับรถแล้วเบรคกระทันหันจนไปชนเอาท้ายรถบรรทุกข้างหน้าเข้า สภาพรถเละหมดเลย สงสัยจะซ่อมไม่ได้แล้ว ส่วนตัวผมไม่เป็นอะไรนอกจากแผลถลอก และฟกช้ำนิดหน่อย มีที่หางคิ้วแตกเย็บ 3 เข็ม  ผมได้ฟังผมก็ถอนใจยาว

   มันบอกว่า ตำรวจพามันไปที่ห้องเพื่อเอาพาสปอร์ตของผมมาตรวจสอบยืนยันสัญชาติ และถามมันหลายอย่างเช่น ผมเมาหรือไม่ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า 

   ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตู มีตำรวจสองนายเดินเข้ามาพร้อมคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว

   ไอ้ตี๋เดินไปนั่งที่โซฟา นายตำรวจสองคนแนะนำตัวเองกับผม

   *ผมผู้กอง ............. รับผิดชอบคดีนี้ ผมขอสอบถามเหตุการณ์อะไรคุณ ภ.พ. หน่อยครับ*

   ตำรวจสอบถามรายละเอียดไปเรื่อย ๆ สิ่งใหนที่ผมจำได้ ผมก็ตอบ ที่จำไม่ได้ถ้าไอ้ตี๋ตอบได้ มันก็ตอบแทนไป

   *เอาล่ะครับ ผมได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว ผมมีอะไรนิดหน่อยอยากให้คุณ ภ.พ. ดู ไม่ทราบว่าคุณพร้อมจะดูใหมครับ*

   ผมพยักหน้า นายตำรวจอีกท่านเอาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตั้งบนโต๊ะพับกินข้าวของผู้ป่วย เปิดโปรแกรมออกมา เป็นวีดีโอภาพภาพหนึ่ง

   *นี่คือภาพจากกล้องที่ติดตั้ง ณ ทางด่วนบริเวณที่เกิดเหตุ ภาพนี้คือเวลาก่อนหน้าที่คุณจะเกิดอุบัติเหตุ เวลา 17.00น.*

   ภาพที่ผมเห็นทำให้หัวใจผมแถบหยุดเต้น ขนลุกชูชันจนรู้สึกได้ถึงอาการหัวตั้ง ..... มันคือภาพของคนคนหนึ่ง ใส่ชุดสีดำมีหมวกสีดำยอดแหลมคลุมหน้า ยืนนิ่งอยู่ที่ข้างถนน  มันคือภาพของคนชุดดำแบบเดียวกับที่ผมเห็นที่มหาวิทยาลัยในคืนหนึ่งที่ผมไปอ่านหนังสือ เขามองลงมาจากตึกชั้น 7 เมื่อผมเดินผ่านไป ....

   *นี่คือภาพเคลื่อนไหวขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เราทำภาพให้ช้าลง คุณจะได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น*

   ผมตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ภาพที่เห็นคือภาพที่รถผมกำลังวิ่งเข้ามาในเลนกลาง ก่อนที่คนชุดดำจะเคลื่อนตัวไปตัดหน้ารถผมในทันที ผมชนคนชุดดำนั้น ก่อนที่ผมจะหักหลบไปชนกับรถบรรทุก และภาพก็หยุดนิ่ง

   -คุณหมายความว่าผมชนคนตาย- ผมแน่นิ่งไปเพราะไม่คาดคิดว่าผมจะเป็นฆาตกรไปแล้ว

   *เราก็อยากจะสรุปเช่นนั้น แต่ ... ไม่พบศพใครเลยในที่เกิดเหตุ*

   ผมตกใจมาก ไอ้ตี๋รีบวิ่งเข้ามากอดผมไว้ ผมร้องให้โดยไม่มีสาเหตุ

   *เราจะปิดคดีนี้เป็นอุบัติเหตุครับ คุณจะถูกเชิญไปรับฟังผลคดีในอีก 1 เดือนข้างหน้า ขอให้โชคดีและหายเร็ว ๆ ครับ* ตำรวจกล่าวกับผมพร้อมรอยยิ้ม ไอ้ตี๋กล่าวขอบคุณและจับมือกับตำรวจก่อนเดินไปส่งที่หน้าประตู

   -ไอ้ตี๋มึงมีอะไรที่มึงไม่บอกกูอีกใหม-

   ไอ้ตี๋ถอนหายใจเล็กน้อย

   *มีว่ะ ที่บ้านของมึงน่ะ มีงูตัวใหญ่มากขึ้นมาบนบ้าน ย่ามึงเขาจัดขันธ์ 5 รับแล้วเชิญงูออกไป ย่าเขาบอกว่า งูเข้าบ้านคือมาเตือนว่าจะมีทุกข์หนัก*

   *แม่มึงเขาไม่สบายใจ เลยไปบวชชีพราห์มอยู่ที่วัดทุ่งทานตะวัน ลพบุรี ที่แกชอบไปไง*

   *กูโทรบอกเขาเรื่องมึง เขาบอกว่า มีคนมาเตือนเขาแล้ว กูก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก กูรู้แต่ว่า แม่มึงบอกว่า มึงจะปลอดภัย แล้วมึงก็ปลอดภัยจริง ๆ*

   ผมนั่งงงกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปแค่ 2 คืนนี้ อะไรตั้งมากมายเกิดขึ้นกับตัวผม ... แล้วอันใหนที่มันจริง อันใหนมันไม่จริงบ้าง ... ผมปวดหัวไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ต่อภาค 4 ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 28-10-2007 13:38:19
โฮ!! ไม่อยู่ 2 วันจบภาค 4 แล้วหรอ o22

ยังไงก็ขอบคุณพี่ Solaris  ด้วยนะคับที่ช่วยมาลงให้ o14

อ่านแต่ละรีแล้วรู้สึกสงสารพี่เก่งจังเลยแฮะ

มีแต่คนเกลียดเลยอะ  น่าสงสาร

ปล.พี่ Solaris นี่พี่เก่งป่าวหว่า
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 28-10-2007 13:49:05
โอ้พระเจ้า...................




สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 28-10-2007 14:16:36
ว่าแล้วต้องเป็นพี่เก่ง  :m3: :a10:

อดไม่ไหวมาลงเองเลยหรอพี่   :m26:

ทีแรกก็นึกว่าจะไม่มาซะละ

แต่แล้วก็มาจนได้ :m18:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 28-10-2007 14:20:35
แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันละเนี่ย
ไม่เข้าใจอ่ะ งง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-10-2007 14:51:04
 :m22: :m22: :m22: :m22:
ปาฎิหาร์ยสุดขอบฟ้า

ยังมึนๆกลับลำดับเหตุการณ์
 :m28:

เด่วดูเฉลยจริงๆอีกทีอาจเข้าใจ

ว่าจะมีคนมาเอาเก่งไปสินะครับ
เก่งเลยสลบไปแล้วฝันเป็นตุเป็นตะอ่ะป่าว

ชอบแกล้งคนอ่านจริงๆ
จับคนเขียนมาตีก้นลายเยยนิ
 o12
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-10-2007 15:12:25
อ่านตอนนแรกไปน้ำตาซึมไป เสียใจแทบแย่นึกว่าตี๋จากไปแล้ว

พอมาอ่านตอนหลังก็ขนลุกเลยคับ บรื้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o22
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 28-10-2007 15:21:54
โล่งอกเลยแฮะ

ปล +1 ให้ครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 28-10-2007 15:32:47
อ่านไปน้ำตาก็จะไหลไป

พออ่านจบกลับ งง เข้าไปอีก

คุณเก่งรีบมาอธิบายด่วน -.-
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-10-2007 15:51:54
เรื่องนี้...ทำเอาเมื่อวานจิตตกไปทั้งวัน แถมคิด ๆ ไปน้ำตาก็จะไหลอีก  :m15:  :m15:
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :เศร้า1: :เศร้า1: :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-10-2007 16:42:30
ชิส์

ตาเก่งใจร้ายยยยย

มาลงเองไม่พอ

ยังแกล้งคนอ่านอีก

เด่วโหวตลบซะนี้

 :m16: :m16: :m16: :m16:










คิกคิก  :m23:

ล้อเล่นครับ

+1 ให้แล้วนะคร้าบบบบ

 :a1:
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 6 / พักร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 19:46:41
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 6  /  พักร้อน

   คงจะไม่เป็นการเห็นแก่ตัวมากสักเท่าไหร่นะครับ สำรับชื่อตอนในตอนใหม่นี้ ผมกลับมาพักที่บ้านอีก 3 วันก็สามาถไปทำงานได้ตามปกติแล้ว เรื่องที่ผ่านมายังทำให้ผมงงไม่หาย เพราะเหตุการณ์ที่ได้ประสบมานั้น มันเหมือนกับเกิดขึ้นจริง ๆ จนผมแยกไม่ออกเลยว่าอันใหนจริง อันใหนไม่จริง ไม่ทราบว่าคุณผู้อ่านเคยเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ

   เราทำงานที่นี่มาก็ 3 ปีแล้ว ลาหยุดพักร้อนของเราปีนี้ ก็ลาได้วันตรงกันเสียด้วย ผมชวนไอ้ตี๋กลับบ้านที่เมืองไทย เพราะมีเวลาอยู่ 1 สัปดาห์ ไอ้ตี๋บอกว่าไปทุกปีเลยเมืองไทย ไปที่อื่นก็แล้วกัน

   ผมกับไอ้ตี๋จึงรวบรวมคนไทยกับคนสิงคโปร์ที่รู้จักกันได้มาอีก 2 คนเป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน น้องผู้หญิงคนสิงคโปร์ ผมรู้แต่เพียงว่าเป็นเพื่อนไอ้ตี๋ สนิทกันมากเพราะ ทำงานที่บริษัทในเครือไกล้ ๆ กัน ส่วนน้องผู้ชาย (น่ารัก) เรียนปริญญาโทปีหนึ่ง เรารู้จักกันที่งานคนไทยของสถานทูต สองคนนี้กำลังถูกจับคู่โดยเพื่อน ๆ ให้รู้จักกัน

   เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวบาหลี อินโดนีเซีย เพราะไกล้ และราคาถูกกว่าการไปยุโรปหรือออสเตรเลีย ตามประสาคนงบน้อยหอยน้อยล่ะนะครับ ผมนั่งดูไอ้ตี๋เก็บของใส่กระเป๋า ก่อนมันจะเรียกผมไปรูดซิปให้เพราะกระเป๋าเราแน่นมากเหลือเกิน ยังกะจะไปอยู่สัก 20 วัน

   พวกเราเรียกแท้กซี่จากบ้านมาถึงสนามบินชางงีประมาณ 06.00 น. หลังจากเจอหน้ากัน เช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว เราผู้ชายสองคน (ผมกับน้อง) ก็เริ่มหาที่สูบบุหรี่ ปล่อยให้สาวๆ (ไอ้ตี๋กับเมย์ : ขอแสดงความแมนหน่อย) เขานั่งนินทาพวกเราไป ผมเดินไปตามทางเดินช้า ๆ เช้าเกินไปเกินกว่าที่จะพูดอะไรกัน

   ผมเปิดประตูสวนลอยฟ้า ซึ่งทำเป็นที่สำหรับสูบบุหรี่ด้วย ยื่นบุหรี่ให้น้องโอ๊ต ซึ่งนั่งลงข้าง ๆ ผม มันปฏิเสธ บอกว่าไม่สูบ บนนี้มีคนอยู่แค่ 2 คนเองไม่นับรวมพวกผม ยังเช้าอยู่กระมัง

   ผมจุดบุหรี่สูบไฟแดงวาบ ทอดสายตาไปด้านหน้า คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นานสองนาน ผมคาบบุหรี่ไว้ในปาก แล้วหันมามองทางไอ้โอ๊ต ....

   มันกำลังจ้องมองผมอยู่ พอเจอกับสายตาผม มันรีบหลบตาแล้วก้มหน้างุด ผมยิ้มให้มันเล็กน้อย ผมไม่ค่อยสนิทกับมันเท่าไหร่เพราะสองคนนี้จะรู้จักกันกับไอ้ตี๋มากกว่าผม

   ไอ้โอ๊ตตัวใหญ่เหมือนไอ้ตี๋ แต่มันขาวและเหมือนคนจีนสิงคโปร์มาก ไม่แปลกที่เวลามันไปใหนจะมีคนทักว่ามันเป็นคนจีนตลอด ส่วนผม เหอ ๆๆ ไม่รอดจากการถูกทักด้วยภาษามาเลย์ ด้วยความที่มีผิวคล้ำนิด ๆ มองไปมองมามันก็น่ารักดี แต่เสียใจนะ ประตูหัวใจผมโดนลั่นดานปิดตายไว้โดยไอ้ตี๋หมดแล้ว

   แม้หัวใจผมจะมีหลายห้อง แต่ละห้องมีอยู่หลายเตียง แต่ละเตียงมีอีกสองชั้น ... แต่คนที่นั่ง นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงตอนนี้ ก็มีไอ้ตี๋เพียงคนเดียวเท่านั้น

   ผมสงสัยว่าไอ้โอ๊ตมันมองเพราะมันอยากรู้หรือเปล่าว่าผมกับไอ้ตี๋เป็นอะไรกันแน่ เพราะเวลามันมองพวกผมสองคนมันทำท่าทางแปลก โดยเฉพาะผม ที่คอยบริการไอ้ตี๋ เมื่อเช้าผมยกกระเป๋า และยังเปิดฝาขวดน้ำให้ไอ้ตี๋กินก่อนด้วย

   เราถึงสนามบิน Denpasar ในเวลาไกล้ ๆ เที่ยง หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ผมต้องนอนอยู่ห้องเดียวกันกับไอ้โอ๊ต ส่วนไอ้ตี๋กับเมย์พักห้องเดียวกัน ผมก็โอเค ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่มีใครรู้ว่าผมกับไอ้ตี๋เป็นอะไรกัน มาเที่ยวแค่ 2 คืนน่า ผมอดใจได้ (อดไม่ไหวก็ปล้ำไอ้คนข้าง ๆ ซะเลย เอิ้ก ๆ ล้อเล่นน่า)

   เราลงเล่นน้ำทะเลกันในตอนเย็น ๆ นั่นเอง ผมขอตัวจากทุกคนมาอาบน้ำจืดที่ห้องน้ำของรีสอร์ทก่อนเพราะไม่ค่อยถูกกับน้ำทะเล สักเท่าใดนัก

   ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ผนังทำด้วยหินสวยงามมาก ก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณอาบน้ำ มีเด็กผู้ชายเล็ก ๆ กับพ่อยืนอาบน้ำอยู่ ที่อาบน้ำเป็นฝักบัวเรียงรายกันอยู่ราว ๆ 10 อัน พ่อกับลูกอยู่บริเวณที่ไกลที่สุดติดผนัง สงสัยจะเป็นคนสิงคโปร์เพราะเห็นพูดภาษาจีนแบบสิงคโปร์กับลูก พ่อใส่กางเกงในตัวเดียวอาบน้ำ ผมไม่สนใจอะไรมากนัก (คนไม่โสด ฮ่ะๆๆๆ : เขานะ ไม่ใช่ผม)

   ผมถอดกางเกงขาสั้นออกเหลือแต่กางเกงในสีขาว ก่อนจะเปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลซู่ลงมา สักพักหนึ่งได้ยนเสียงรองเท้าแตะวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ

   -พี่เก่ง ๆ ผมอาบด้วย-

   ไอ้โอ้ตนั่นเอง มันถอดกางเกงขาสั้นออกเหลือกางเกงในบิกินี่สีดำ ก่อนจะเปิดน้ำจากฝักบัวอาบเหมือนกัน เราสองคนอาบน้ำเสร็จแล้วใส่กางเกงตัวใหม่ ก่อนจะเดินเลียบสวนเล็ก ๆ ไปยังห้อง

   *พี่เก่ง ผมว่าเมย์กับพี่ตี๋นี่มันยังไง ๆ อยู่นะ*

   -ยังไงคืออะไรเหรอ- ผมถามไม่ได้สนใจมากนัก

   *ผมว่าสองคนนี้จะชอบกันน่ะสิ*

   -คิดมากไปหรือเปล่า เค้าสนิทกันจะตาย- ผมนึกขำในใจ ไอ้เชี่ยนี่จะให้เมียกูไปตีฉิ่งกับคนอื่นหรือไง

   *ไม่อ่ะพี่ ไม่เชื่อคอยดู* ผมยิ่งนึกขำเข้าไปอีก ไอ้นี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าใครเขาเป็นยังไง

   ที่ระเบียงหน้าห้องพัก ผมยืนสูบบุหรี่อยู่ ไอ้ตี๋เดินเข้ามาหาผม

   *เดี๋ยวเราไปกินข้าวกัน*

   -นี่ ไอ้โอ๊ตมันคิดว่ามึงกะไอ้เมย์ชอบกันน่ะ- ผมหัวเราะเบา ๆ กระซิบที่ข้างหูมัน

   *บ้าเหรอ ฟ้าผ่าตายห่า* ไอ้ตี๋พูดขำ ๆ ผมแกล้งเอานิ้วไปบิดหัวนมแดง ๆ ของมันเล่นทีนึง มันเอามือต่อยมาที่ท้องของผม

   *ว่าแต่ว่า อย่าให้รู้นะว่ามีอะไรกับน้องโอ๊ตเค้าน่ะ กูเอาตาย* มันกระซิบตอบทำหน้าเH้ยม

   ผมทำลอยหน้าลอยตาแทนคำตอบ เลยได้หมัดสวนเข้าที่ท้องอีกทีนึง ผมกุมท้องด้วยความเจ็บปวด

   -ฝากไว้ก่อนเถอะมึง เดี๋ยวกลับบ้านจะเอาคืน- ผมชี้หน้ามันก่อนมันจะวิ่งไปในห้อง

   คืนนี้เราอยู่ที่ดิสโก้เธค ทุกคนกินเหล้าเข้าไปอย่างเมามาย  เพราะนาน ๆ 1 ปีได้กินหนึ่งครั้งนี่ครับ เวลาอื่นจะกินมันก็แหยง ๆ เพราะว่าต้องทำงานไปด้วย ขากลับขึ้นห้อง เราสี่คนแทบจะคลานกลับขึ้นไป

   ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ไอ้โอ๊ตอย่างเหนื่อยล้า ต่อให้ใครมาแก้ผ้าตอนนี้ ผมก็คงไม่แล เมาปลิ้นเลยนี่นา ...

   ผมตื่นขึ้นมาตอนเข้า ไอ้โอ๊ตยังไม่ตื่น แต่ผมเห็นไอ้ตี๋ นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผมขยี้ตาด้วยความมึนงง ก่อนจะลุกขึ้นไปที่ไอ้ตี๋มันนั่งอยู่

   ไอ้ตี๋มันร้องให้ ........ เกิดอะไรขึ้น พอผมเดินเข้าไปไกล้ มันกอดผมไว้โดยที่ผมยืนอยู่ข้างมัน มันนั่งอยู่ที่เก้าอี้  มันสะอื้นเบา ๆ

   *เก่ง กูขอโทษ*

            ****** มีต่อ ******
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-10-2007 20:52:03
 :a6: :a6: :a6: :a6:
โอ่มายก๊อด
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
 :m8:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 28-10-2007 21:25:43
กำ อย่าบอกว่าได้กัน  :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค ตอนที่ 7 และ 8 ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 21:41:46
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 7  /  ไม่คาดคิด

   *เก่ง กูขอโทษ กูต้องกลับเมืองไทยเดี๋ยวนี้*

   -มันเรื่องอะไรทำไมต้องร้องให้ขนาดนี้ด้วย- ผมถามมัน

   *พ่อเข้าโรงพยาบาล เส้นเลือดในสมองแตก อาการไม่ดีเลย*

   -เมื่อไหร่- ผมถามด้วยความตกใจ

   *เมื่อเช้า ไอ้เตยโทรมาแต่เช้า ตอนนี้กำลังมาถึง รพ ที่ กทม.*

   -ตี๋ มึงใจเย็น ๆ นะ เรื่องมาเที่ยวก็ช่างมัน อีกอย่างพ่อก็ยังไม่เป็นไร ถึงมือหมอแล้วใช่ใหม อย่าพึ่งตีโพยตีพายไป-

   ผมดึงมือมันเดินออกมานอกห้องเพราะน้องโอ้ตยังนอนหลับอยู่

   -จะกลับเลยใหม ถ้าเรากลับไปที่สิงคโปร์ตอนเย็นนี้ได้ เราก็จะไป กทม ได้เลย-

   *แต่มึงมาเที่ยวอยู่นะ*

   -กูคงมีกระจิตกระใจอยู่เที่ยวหรอกนะ เอาล่ะ มึงไปบอกขอโทษเมย์ เดี๋ยวกูจะไปขอโทษไอ้โอ้ตมัน แล้วกูจะเอาโน้ตบุ้กตามลงไปที่ล้อบบี้ เราจะหาตั๋วกลับบ้านกัน-

   *เก่ง กูใจคอไม่ดีเลย*

   -ใจเย็น ๆ เดี๋ยวโทรหาแม่หาน้องซะด้วย ไปได้แล้วเร็ว ๆ เดี๋ยวไม่มีตั๋วเราจะแย่-

   ผมรีบเข้าไปในห้อง ปลุกไอ้โอ้ตลุกขึ้นมา ผมบอกว่าการเลื่อนตั๋วอาจจะทำให้เสียเงินมากขึ้น สักพักเมย์เดินเข้ามาในห้องบอกว่าไม่เป็นไร ผมบอกว่า ซาบซึ้งใจมาก แต่อย่าเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่จำเป็นอีกอย่าง พ่อไอ้ตี๋คงไม่เป็นอะไรเพราะถึงมือหมอแล้ว

   ไอ้โอ้ตกับเมย์ตกลงกลับวันพรุ่งนี้ตามกำหนดเดิม ผมรีบเปิดอินเตอร์เน็ทเบราเซอร์ หาเบอร์โทรศัพท์ของสายการบินที่สามารถกลับไปที่สิงคโปร์ได้ทันที และเร็วที่สุด

   แต่เนื่องจากบาหลี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ไฟล้ท์ต่าง ๆ ถูกจองจนเต็มทั้งหมด ผมจึงเรียกไอ้ตี๋เก็บกระเป๋า ไปตายเอาดาบหน้าบ้าบิ่นสไตล์ผมที่สนามบิน Denpasar ทันที

   เมื่อถึงสนามบิน Denpasar ผมรีบวิ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์ของ Adam air, Garuda Indonesia, Silk Air (SIA), Quantus และ Jetstar asia ทันทีเพื่อขอจองตั๋วในกรณีที่มีที่ว่าง เราจะได้กลับสิงคโปร์ในวันนี้เลย ที่สนามบิน ผมใช้อินเตอร์เน็ตจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินสุดท้ายของ Jetstar asia ผ่านหน้าเว็บไซต์ วันนั้น มี Night flight ออกเวลา 5 ทุ่มพอดี

   ผมกับไอ้ตี๋ยืนรีรออยู่ที่แถวเช็คอินของแต่ละสายการบิน โชคไม่ดีเลยไม่มีที่ว่างสำหรับสายการบินแรก ผมบอกให้ใจเย็น ๆ รอสายการบินต่อไป ผมกอดมันซบที่ไหล่ผมโดยไม่อายสายตาของใครทั้งนั้น ความรู้สึกของคนที่ผมรัก สำคัญกว่าเรื่องคนอื่นจะมองเรามาก

   ถัดมาเป็นของ Silk air/Singapore airline เหมือนพระเจ้าเข้าข้างเรา เหลือที่นั่งอีก 1 ที่ที่ยังว่างเพราะว่าไม่มีคนมาเช็คอิน ผมมองหน้าไอ้ตี๋ก่อนส่งตั๋วของ สิงคโปร์ – กทม ให้มัน และวิ่งไปซื้อตั๋วที่ช่องบริการของสายการบิน

   *ไปก่อน ถ้ามีที่ว่าง กูจะตามไป พอถึงสิงคโปร์ให้รอกูก่อนนะ แต่ถ้ากูไม่ทัน ไปก่อนได้เลย*

   -มึงต้องรีบไปนะ- มันทำตาแดง ๆ

   ผมนั่งรอจนถึงสายการบินสุดท้ายคือ Jetstar airline สายการบินขึ้นป้ายว่า เที่ยวบินนี้จะบินโดย Value air ซึ่งเป็นสายการบินที่ควบกิจการกัน  ผมรอด้วยใจระทึกเพราะเหลือบตามองเวลา อีก 3 ชั่วโมงผมต้องเหยียบแผ่นดินสิงคโปร์ให้ได้ ผมยืนรออยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานมองผมด้วยสายตาที่เอาใจช่วยเช่นกัน

   อีก 45 นาทีประตูทางออกขึ้นเครื่องจะปิด เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผมซื้อตั๋วโดยด่วน ผมวิ่งไปที่ช่องบริการของแวลูแอร์ก่อนจะถูกนำทางไปโดยเจ้าหน้าที่ เขาคงติดต่อประสานงานกันแล้วว่าจะมีผมไปด้วย

   พนักงานสาวท่านนั้นวิ่งนำหน้าผมไปเพราะจะไม่ทันแล้ว ผมตัวใหญ่วิ่งช้ากว่าสาวเจ้า เธอเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วดึงผมวิ่งไปที่ประตูขึ้นเครื่อง

   เครื่องบินเตรียมตัวจะออกแล้ว พอผมก้าวเข้าไปในเครื่อง ประตูก็ถูกปิดลง ผมนั่งลงที่ที่นั่ง 1D ก่อนจะถอนหายใจยาว ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงมอบที่นั่งนี้ให้ลูก ... ในราคาเต็มที่แพงแสนแพง 245 เหรียญ ....

   ผมลงมาจากเครื่องบินในเวลา 4 ทุ่ม เครื่องที่จะไป กทม เวลาขึ้นเครื่องเป็น 22.30น ประตูปิด 22.45น. ผมวิ่งผ่านช่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติเพราะผมมีบัตรเคลียแรนซ์อัตโนมัติของตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์ เช็คอินที่เคาท์เตอร์ ..ซึ่งไม่มีคนอยู่ ณ บริเวณนั้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่บอกให้ผม วิ่งเข้าไปที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องทันที ผมถามว่าคนที่ซื้อตั๋วใบเดียวกันมาหรือยัง เขาบอกว่า คงขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้ว ผมรีบจนลืมไปว่า ผมน่าจะเปิดโทรศัพท์มือถือก่อน เผื่อไอ้ตี๋เป็นห่วง

   ผมวิ่งไปที่ประตู 54 อีกแล้ว .... สายการบินราคาถูกทำไมต้องจอดเครื่องอยู่ไกล ๆ แบบนี้ทุกทีเลย ผมกระหืดหระหอบ มองเข้าไปในเกต 54 ไม่มีคนเหลืออยู่เลยนอกจากเจ้าหน้าที่ 2-3 คน ผมวิ่งอย่างเร็วเข้าไปที่งวงเชื่อมต่อกับเครื่อง ผมเห็นแล้ว .. พนักงานต้อนรับรอปิดประตูอยู่ พอผมก้าวขึ้นเครื่องบินปั๊บ ประตูก็ปิดลงในทันที

   โดยอัตโนมัติ ผู้โดยสารทั้งหมดหันมามองที่ผมเป็นตาเดียวเนื่องจากเขาคงอยากรู้ว่า ใครที่ทำให้เครื่องบนต้องคอย ผมเดินก้มหน้างุดไปตามทางเดินเพื่อหาที่นั่งว่างที่พอมีด้านหลัง แล้วก็มีมือหนึ่งดึงแขนผมไว้ ผมแทบจะร้องให้ออกมาด้วยความดีใจและหมดแรงลุ้น

   *ไอ้ตี๋*

   -เก่งนะ มาทันจนได้- มันยิ้มเยาะ ๆ

   *พ่อเป็นไงบ้าง*

   -เข้ามาที่ กทม แล้ว เขาบอกว่าอาการดีขึ้น แต่ยังไม่รู้สึกตัว-

   *อือ อย่าคิดมาก เพราะเรายังเหลือเวลาอีกหลายวันพักร้อน*

   ผมนั่งลง รัดเข็มขัด ไอ้ตี๋ซบลงบนไหล่ผม ผมเอื้อมมือเอามือมันมากุมไว้ ในใจภาวณาให้พ่อไอ้ตี๋ปลอดภัย เพื่อคนที่รักของผม จะได้ไม่ต้องเสียใจ ... ผมซื้อน้ำเกลือแร่ให้มันกระป๋องหนึ่ง ส่วนตัวผมขอกินโค้กไลท์

   ระหว่างที่บินไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง เครื่อง A300 สั่นอย่างแรงเนื่องจากสภาพอากาศภายนอกเลวร้ายมาก กัปตันประกาศให้ทุกคนรัดเข็มขัด เครื่องต้องบินวนเหนือสนามบินดอนเมืองหลายรอบเพราะไม่สามารถแลนดิ้งได้ ฝนตกหนักมากที่ กทม

   ผมใจคอไม่ดีเพราะว่าเครื่อง A300 เป็นเครื่องขนาดเล็ก เวลามีฟ้าผ่าที แทบจะสะเทือนไปถึงท้องน้อย พนักงานต้อนรับไม่เดินไปเดินมาแล้ว ผมเห็นเขานั่งคุยกัน แต่รัดเข็มขัดทุกคน สงสัยกลัวผู้โดยสารจะกลัว เลยต้องทำเป็นพูดคุยกันปกติก่อน

   เลยเวลาที่ต้องถึงไปแล้ว 35 นาทีเครื่องบนถึงลงได้ เราผ่าน ต.ม. ออกมาได้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมเรียกแท้กซี่ไปที่ รพ .......... ทันที

   ไอ้ตี๋โทรหาน้องเตย ให้ลงมารับด้านล่าง ผมจ่ายค่าแท้กซี่เห็นแม่ไอ้ตี๋กับน้องเตยวิ่งมาแต่ไกล 3 คนแม่ลูกกอดกันกลม ทุกคนร้องให้ คงจะเสียขวัญเพราะหัวหน้าครอบครัวมาเป็นแบบนี้

   *ตี๋ .. ทำใจดีดีนะลูก คือว่าพ่อเขา .........................* แม่มันร้องให้โฮออกมาอย่างดัง .....

         ***** มีต่อ *****

-----------------------------------------------------------------------------------------------------   
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 8  /  ทางโค้ง
   *ตี๋ .. ทำใจดีดีนะลูก คือว่าพ่อเขา .........................* แม่มันร้องให้โฮออกมาอย่างดัง ..... 3 แม่ลูกกอดกันกลมอยู่ที่ทางขึ้นตึกโรงพยาบาล

   *หมอบอกว่าพ่ออาจจะไม่ปกติเหมือนก่อน  ถ้าอาการหนักเข้าไปอีกอาจจะถึงกับอัมพาตได้*

   -แม่ทำใจดีดีก่อนนะครับ เรารอดูอาการไปเรื่อย ๆ ก่อนดีกว่า-

   พวกเราไปที่ห้องพักผู้ป่วย พ่อไอ้ตี๋นอนหลับอยู่บนเตียง ผมกระซิบข้าง ๆ หูไอ้ตี๋บอกว่า อย่าร้องให้ให้แม่กับน้องเห็น ต้องเข้มแข็งไว้ เราอยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงเช้า ก็ออกมาที่บ้านญาติของไอ้ตี๋ ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาไอ้ตี๋กับไอ้เตยไปกินข้าว

   *สองคนนี้ต้องกินอะไรสักหน่อยนะ ถ้าไม่กินอะไรแล้ว คิดอะไรไม่ออก คนที่ลำบากคือแม่รู้ใหม แล้วพยายามอย่าร้องให้ให้เขาเห็น ต้องเข้มแข็งนะ* ผมบอกพลางบังคับให้สองพี่น้องนี้กิน ก่อนจะไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

   พ่อไอ้ตี๋รู้สึกตัวแล้ว แต่ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกหรือเดินไปใหน

   *มากันทำไมล่ะลูก สิ้นเปลืองเงินทอง แล้วงานการล่ะ ต้องขาดต้องลาเขามาอีก* พ่อมันบอกกับผมและไอ้ตี๋

   -ไม่หรอกพ่อ พวกผมพักร้อนกันเหลืออีก 4 วัน-

   พวกเราใช้เวลาไป-กลับโรงพยาบาล จนถึงวันสุดท้ายของการลาพักร้อน เรามีกำหนดกลับสิงคโปร์ในคืนวันนี้ ผมมองเห็นหน้าไอ้ตี๋ก็พอเข้าใจความรู้สึกของมัน เพราะบ้านขาดกำลังหลักที่จะทำงาน  แม่และน้องก็เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สองคน จะประคับประคองธุรกิจอุปกรณ์ก่อสร้างไปได้เท่าไหร่

   ผมจูงมือมันมานั่งลงที่โซฟาในล้อบบี้ของโรงพยาบาล

   *ตี๋ เราต้องคุยกันหลาย ๆ เรื่อง*

   -ฮื่อ ว่ามาสิ- มันตอบอย่างเลื่อนลอย

   *เรื่องแรก มึงต้องทำตัวใหม่ คิดถึงเหตุการณ์ข้างหน้า เพราะมึงต้องเป็นตัวแทน พ่อ เป็นหลักให้กับแม่และน้อง เพราะฉะนั้นเลิกทำตัวซึมเศร้าได้แล้ว ทุกคนในโลกนี้มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือกับปัญหาได้ดีแค่ใหน*

   *เรื่องต่อไป มึงต้องเป็นหลักให้กับเขา ดังนั้นมึงจะต้องอยู่ที่เมืองไทย ทำธุรกิจของบ้านมึงต่อไป กูเข้าใจว่ารายได้ของมึงที่นู่นอาจจะโอเค อาจจะดีกว่าร้านเล็ก ๆ นี้ด้วยซ้ำไป แต่มึงอย่าลืมว่า ร้านเล็ก ๆ ที่นี่คือชีวิตของพ่อมึง ของครอบครัวมึง มึงเกิดมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะร้านเล็ก ๆ ร้านนี้ แล้วแม่จะได้มีเวลาดูแลพ่อมากขึ้น กูเชื่อว่ามึงกับไอ้เตยทำได้*

   -หมายความว่ากูกับมึงต้องแยกกันอีก- มันทำท่าจะร้องให้อีกแล้ว

   *ตี๋ มึงคิดดูนะ เรื่องพ่อมึงนอกจากธุรกิจของบ้านมึงแล้ว ค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกล่ะ  มึงจะปล่อยให้งานล้มไม่ได้หรอก*

   *ส่วนเรื่องของเราสองคน ยังคงเหมือนเดิม* พูดมาถึงตรงนี้แล้วผมรู้สึกสะท้อนใจขึ้นมา เพราะผมไม่อยากจากมันไปใหนเลย

   *กูต้องทำงานที่นู่นก็เพื่ออนาคตของกู ถ้าเลือกได้ กูไม่อยากจากมึงไปใหนเลย*

   -กูไม่เลือกสักทางได้ใหม- ไอ้ตี๋ร้องให้อีกแล้ว

   *ไม่ได้หรอก ถึงเวลาหนึ่ง คนเราต้องตัดสินใจ*

   เราสองคนกลับไปที่ห้องพัก เพื่อให้ไอ้ตี๋คุยกัยพ่อและแม่ของมัน แน่นอนว่าพ่อมันไม่เห็นด้วย แต่ไอ้ตี๋ยืนยันตามคำเดิม ไอ้เตยก็จะลาออกจากงานที่ กทม เพื่อไปทำงานที่ร้านด้วย ไอ้เตยเรียนจบบัญชีมา

   *พ่อกับแม่จะได้พักนะ ต่อไปเป็นหน้าที่ของผมกับน้องที่จะดูแลพ่อกับแม่เอง* ทั้งสี่คน พ่อแม่ลูก ร้องให้กัน ผมสะเทือนใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว อีกอย่าง ผมจะต้องจากไอ้ตี๋ไปอีก ... ผมใจคอไม่ดีเลย

   19.00น.  ผมอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เพื่อรอขึ้นเครื่องในเวลา 22.00 น.  ผมเช็คอินเสร็จ นั่งอยู่ที่ร้านขนมเล็ก ๆ ไกล้ ๆ ดิวตี้ฟรี ไอ้ตี๋คุยกับผู้จัดการมันเรียบร้อย ผู้จัดการมันเสนอให้พักงาน แต่มันเกรงใจ เพราะไม่รู้อนาคต จะส่งใบลาออกไปทีหลัง

   *ตี๋ ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วนี่เอาไว้* ผมยื่นซองสีน้ำตาลให้มัน

   -อะไรน่ะ- มันเปิดซองออกดู

   -ไม่ได้หรอก นี่มันเงินของมึง เงินเยอะขนาดนี้ กูไม่รับหรอก- มันบอกกับผมก่อนจะส่งคืน

   *เอาไว้ใช้ก่อน เพราะมึงก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้อะไรอีก แล้วถ้าไม่พอ ให้บอก อย่าลืมว่ากูมีเงินเดือนทุกเดือน*

   -เก่ง-

   *ไม่ต้องพูดอะไร ถ้าเป็นกูบ้าง มึงก็คงจะช่วยกูแบบนี้*

   -กูรักมึงนะ มึงดูแลตัวเองดีดี ยิ่งบ้า ๆ อยู่- มันบอกกับผม

   *กูก็รักมึง แล้วเดี๋ยวจะโทรมาหาบ่อยๆ นับด้วยนะเงินน่ะ เดี๋ยวหาว่ากูโม้* ผมแหย่ให้มันยิ้มได้

   *ขออะไรอย่างหนึ่งนะ พ่อกับแม่กูเขามีบำนาญ พี่กูก็ทำงานกันทุกคน กูเป็นคนโสด ไม่ได้ใช้เงินทองอะไร ถ้าต้องการเงิน อย่าไปหยิบยืมเงินคนอื่น ให้มาเอาเงินจากกูไป อย่าเกรงใจเด็ดขาด กูขอร้องไว้อย่างเดียวนี่ล่ะ*

   -ที่บ้านกูมันเป็นเงินหมุนไง  เงินเก็บไม่มี เศรษฐกิจก็แบบนี้อีก- ถึงมันไม่บอกผมก็เข้าใจ ไอ้ตี๋มันได้เงินเดือนแล้วส่งกลับบ้านทีละมาก ๆ ทุกเดือน เหลือไว้ใช้ตัวเองนิดเดียว

   *กูเข้าใจ กูถึงบอกว่ามึงอย่าเกรงใจ เกรงใจคนอื่นได้ แต่เกรงใจกูเป็นสุดท้ายนะ*

   ไอ้ตี๋เดินมาส่งผมจนถึงทางเข้า ผมคว้ามือมันที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้นไปที่ห้องน้ำ ในห้องน้ำ มีคนอยู่เพียงสองคน คือผมกับมันเท่านั้นเอง ผมดึงมันเข้ามากอดเนิ่นนาน เพื่อเป็นการร่ำลา ... ก่อนที่จะจากกัน .....

-----------------------------------------------------------------
<object width="315" height="80"><param name="movie" value="http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2CDBBAPD&Autoplay=1"><param name="scale" value="noscale" /><param name="wmode" value="transparent"><embed src="http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=0&songID=V2CDBBAPD" width="315" height="80"  scale="noscale" wmode="transparent"></embed></object>
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: tikwatt ที่ 28-10-2007 21:47:43
เก่งมาลงเองเลยเหรอครับ ไหนบอกว่าจะปล่อยไปเรื่อย ๆ ไงล่ะ อดใจไม่ไหวละสิ
เรื่องนี้ผมอ่านแล้วอ่านอีกมาเป็นสิบ ๆ รอบ แล้วก็ต้องเสียน้ำตาไปซะทุก :m17: อ่านครั้งแรกผมจิตตกไปเป็นอาทิตย์เลยนะ ชีวิตคนเรานี่มันเศร้าจริงๆนะครับ แต่คนอยู่ ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป เก็บเรื่องที่ผ่านมาเป็นความทรงจำ รักเก่งเหมือนเดิมนะครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 28-10-2007 21:52:23
เครื่องบินต้องเป็น A320-200 ง่ะ

อิอิ โทดที กลอนพาไป

แก้ไขด้วยคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 28-10-2007 21:59:25
รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ 

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่  :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 28-10-2007 22:19:28
โอ้ว ... ม่ได้อ่านแป๊บเดียว จบภาค 4 ซะและ ....  o17

แง่มๆๆ สงสารตี๋เล็กเจงๆเลยยยย  :m17: เก่งอ่ะ .... แต่ก็นะ หวังว่าเก่งคงสำนึก, รับรู้, และรู้สึกแล้วน้า ว่าใครคือคนที่เก่งควรจะอยู่ด้วยและมอบใจให้ไว้  :m1:

อย่านอกใจตี๋เล็กอีกหล่ะ อิอิ ไม่งั้นผมขอตี๋เล็กนะ .... ขาว ตี๋ รักเดียวใจเดียว ..... spec ผมเลย 555+  :laugh3:

มาต่อเร็วๆนะค้าบบบบ  o13
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 28-10-2007 23:41:32

............ยอมเพราะรัก......... o7 o7
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: kimsumsoon ที่ 29-10-2007 00:00:48
พี่ตี๋เล็กเขาเกิดมามีกรรมคร้าาาาาาาาา

อย่างนี้เขาเรียกว่ามีกรรม
ถ้าจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมชีวิตพี่ตี๋เล็กจะต้องพ้นจากพี่เก่งแล้ว

แต่นี่ ไปไหนๆก็ไม่พ้นพี่เก่งอยู่ดี ถึงจากร้างลาห่างกันเป็นปีสองปีก็หนีไม่พ้นพี่เก่งอยู่ดี
อย่างนี้ไม่เรียกว่ากรรมแล้วจะเรียกว่าอะไรคะ

สงสัยชาติที่แล้วพี่ตี๋เล็กทำกรรมกับพี่เก่งใว้เยอะชาตินี้ถึงได้มาเป็นหนี้รักพี่เก่งอยู่เรื่อยไป
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 29-10-2007 00:02:03

............จำใจจากทั้งที่ยังรัก...... :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 29-10-2007 09:41:24
จากเรื่องนึงก็ไปอีกเรื่อง....อุปสรรคเยอะจริง o7
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-10-2007 09:59:58
 :o :o :o :o

คนเขียนสับขาหลอกอีกแล้วตรู

อย่าให้มันเศร้าไปกว่านี้เยย
 :m8:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 29-10-2007 12:52:47
ดีใจมากมายที่ตอนแรกตี๋ยังไม่ตาย   



มาหลอกให้ผมเสียน้ำตาจนได้   ว่าจะไม่อ่านต่อแล้วเชียว   แต่แอบว่ามันน่าจะเป็นความฝัน  และมันก็จริงซะด้วย



รักตี๋เล็กนะ   สู้ ๆ :a2:
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 29-10-2007 13:05:36
   ซึ้ง    กินใจ


.......ตี๋เล็กเคยง้อเก่งโดยขึ้นเวทีร้องเพลงให้ฟัง



.......และเก่งก็ใช่วีธีเดียวกัน  เพื่อสานสัมพันธ์ครั้งใหม่  ........................สุดยอดดดดดดดดดดดดด


 :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-10-2007 13:36:40
ตกลงใจบีบหัวใจให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ม่ะ

ฮือๆๆๆๆๆๆ

 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 29-10-2007 13:56:36
โอ้วมาทีเดียวจบภาค4เลย เหอๆๆ  :m23:

แต่ก็เป็นบทเรียนได้ดีเลยนะ ลึกๆแล้ว ความไม่รูจักพอก็อยูาในตัวของทุกคน
โดยเฉพาะเกย์นี่ มีไรกันง่าย ยิ่งแล้วใหญ่ ... อยู่กับที่ว่าใครจะใจแข็งพอไม่วอกแวก...

ของดีที่มีอยู่แล้ว ก็มองข้ามไปได้ ด้วยสิ่งยั่วยวน หอมหวาน สดใหม่ มาล่อ....

แต่ก็นะ เมื่อผ่านไปแล้วสำนึกได้ และถ้าจะกลับใจจริงๆ

มันก็๋ไม่แปลกที่ตี๋จะให้อภัย  ก็คนมันรักกันจริงนี่นา มองหน้าก็รู้ใจ  คบกันมาขนาดนี้ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปอีกหล่ะ

แต่แก้วที่ร้าวไปแล้ว มาต่อยังไงก็ยังเป็นรอยไม่สนิทเหมือนเดิม
หวังเพียงแต่ว่า คนทั้งสองจะไม่ไปขุดคุ้ย ให้รอยมันชัดเจนขึ้น.....
ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไป เป็นบทเรียน อย่าไปทำซ้ำอีก....



มีต่อภาค5เหรอคับ  ยังไงก็จะติดตามต่อนะคับ 

ปล. ตอน 4 นี่ เก่งน่าสมน้ำหน้ามากเลย อิอิ... แต่ก้ดีคับเป็นบทเรียนให้เพื่อนๆคนอื่นๆด้ อย่าเอาอย่างเก่งเชียว แหะๆๆ 
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 29-10-2007 15:14:21
ภาค 4 นี่ผิดหวังกับพี่เก่งจริงๆ เฮ้อ :serius2: แต่พี่ตี๋เล็กนี่ดิ นับถือน้ำใจเลยอ่ะ รักคือการให้อภัยจริงๆเนอะ  o13 เยี่ยม


ปล.จากภาค 4 รู้สึกพี่เก่งจะเสียคะแนนนิยมไปเยอะอยู่นา 5555 ไม่อยากจาซ้ำเติมเลยจริงๆ  :try2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 29-10-2007 19:01:55
เอาใจช่วยทั้งเก่งและตี๋ครับ

หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 9 / น้องใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 29-10-2007 19:22:06
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 9  /  น้องใหม่

   ผมไปทำงานตามปกติ ขาดก็เพียงแต่เสียงปลุกให้ตื่นตอนเช้าของไอ้ตี๋ ผมเป็นพวกตื่นยากและชอบต่อเวลา  หลังจากทำงานเสร็จผมรีบกลับบ้าน ทำงานบ้าน (ปกติก็ทำอยู่แล้ว)  ตอนเย็นออนไลน์คุยกับไอ้ตี๋  พ่อไอ้ตี๋ดีขึ้นมากแล้วและกลับบ้านได้ แต่ว่าไม่สามารถทำงานได้ มีแม่ของมันคอยดูแลอยู่ที่บ้าน ผมโทรหาไอ้ตี๋ทุกวันเพราะค่าโทรศัพท์จากที่นี่ถูกกว่าที่จะโทรมาจากเมืองไทย เราใช้ชีวิตแบบมีกันและกันอย่างนี้อยู่หลายเดือน

   
   ระยะหลัง ๆ มา อาจจะเป็นเพราะความเคยชินที่ต้องห่างกันหรืออย่างไรไม่ทราบ ทั้งผมและมันติดต่อกันในนาน ๆ ครั้ง มันให้เหตุผลว่าไม่ค่อยมีเวลาและยุ่งมาก ผมพยายามโทรหามันแต่ไม่ได้คุยสักที จนผมท้อไม่ได้โทรไปอีก  ส่วนไอ้ตี๋มันไม่ค่อยได้ออนไลน์ MSN เท่าไหร่ แต่ผมก็อีเมล์ไปเล่าเรื่องราวในวันวันหนึ่งของผมให้มันอ่านทุกวันตามปกติไม่เคยขาด

   ผมได้ลูกหมามาจากคนที่เขาไม่สามารถเลี้ยงได้แล้ว 1 ตัว ทำให้คลายเหงาไปได้มาก วัน ๆ ถ้าไม่ได้ไปทำงาน ผมก็จะอยู่บ้าน เล่นอินเตอร์เน็ต และเล่นกับหมา หรือไม่ก็พาหมาออกไปวิ่งเล่นชายทะเล

   วันนี้ผมจะต้องกลับดึกเนื่องจากมีงานเลี้ยงของแผนก ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องล็อกเกอร์ จากชุดช่างซึ่งเป็นชุดหมีสีขาว ก่อนจะวางบนชั้นเพื่อรอให้แม่บ้านเก็บไปทำความสะอาด ก่อนจะเดินออกที่บริเวณจัดงานกับเพื่อนในกลุ่มผมอีก 4 คน

   วันนี้เป็นวันเล่น บิงโก ของแผนกผม อาหารที่ถูกสั่งมาวันนั้นเป็นบุฟเฟต์อาหารไทย ซึ่งเป็นไทยที่ถูกประยุกตร์ให้เข้ากับลิ้นของคนสิงคโปร์หรือฝรั่งแล้ว รสชาติจะอ่อนไปนิดเมื่อเปรียบเทียบกับอาหารไทยดั้งเดิม

   ผมเดินตักอาหารใส่จาน ส่วนเพื่อนผมไปหยิบเบียร์มาให้ ที่แผนกผมทุ่มซื้อเบียร์ไม่อั้นเพื่องานนี้ แช่ในถังน้ำแข็งใหญ่ งานนี้จัดที่โรงอาหารของบริษัท

   ผมเดินไปหยิบถ้วยใบเล็กมาขอแบ่งพริกน้ำปลาจากถ้วยกลาง  ระหว่างที่ผมตักพริกขี้หนูซอยกับน้ำปลาใส่ถ้วยเล็กนั้น ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

   *ถ้ากินหมดนั่นคนเดียวต้องเรียกรถพยาบาลแน่ ๆ เลยครับ* มีคนพูดอะไรออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ผมหันไปมองต้นเสียงนั้นก่อนจะเอานิ้วชื้ที่ตัวผม เลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นคำถามว่าเขาพูดกับผมหรือเปล่า เพราะบริเวณนั้นมีคนอยู่หลาย ๆ คน

   เด็กหนุ่มคนนั้นทำหน้าทะเล้นยิ้มให้ผมตอบ ก่อนจะทำหน้าเหมือนกับว่านี่เผ็ดเสียเต็มประดา ก่อนผมจะเดินจากมา ผมบอกกับเขาว่า

   *ผมเป็นคนไทย*

   ผมเดินมานั่งที่โต๊ะ ของกลุ่มผม เฮฮากันเสียงดังพลางกินอาหารไป ในกลุ่มผมจะมีคนจีนสิงคโปร์ 2 คน คนจีนมาเลย์ 1 คนและคนมาเลย์สิงคโปร์อีก 1 คน  กลุ่มผมจะเป็นกลุ่มที่น่ามองที่สุดในแผนกนี้เพราะเป็นกลุ่มของหนุ่มโสดสนิท เวลาที่เราขอความช่วยเหลือจากบรรดาสาว ๆ ในออฟฟิศ จะได้รับการเอ็นดูเป็นพิเศษ

   พิธีการบนเวทีเริ่มขึ้นแล้ว มีการเปิดงานโดยผู้จัดการผมและผู้จัดการโรงงาน ผู้จัดการผมถือโอกาสแนะนำพนักงานใหม่ในแผนก ซึ่งจะต้องมาอยู่ในความดูแลโดยตรงของผม เนื่องจากลูกน้องคนเก่าได้ลาออกไปแล้ว ผมทราบคร่าว ๆ แต่เพียงว่า คนใหม่จะมาทำงานในต้นเดือนหน้าเท่านั้นเอง

   *ผมขอแนะนำน้องใหม่ที่จะเข้ามาทำงานในแผนกเราแทนคุณ ............ ที่ลาออกไปแล้ว ผมขอแนะนำคุณ Ponlapat (หรืออะไรสักอย่าง ผมฟังไม่ถนัด)*

   มีเสียงปรบมือดังเกรียวกราว ผมมองชะเง้อหาลูกน้องคนใหม่ ชื่อแบบนี้สงสัยจะเป็นแขกอินเดียเสียกระมัง  มองดูก็ไม่เห็นมีใคร นอกจากพวกเซลล์ที่ไม่รู้จัก 2-3 คน เสร็จแล้วมีคนคนหนึ่ง คุ้นหน้าผมมากเดินขึ้นไปบนเวที

   *นี่ก็คือหน้าตาของน้องใหม่ในแผนกเรา เป็นเด็กจบใหม่ แต่ฝีมือไม่เบา กับปริญญาตรีเกียรตินยม ให้เขาแนะนำตัวเองนะครับ* ผู้จัดการผมจับมือไอ้หมอนั่นก่อนจะเดินลงจากเวที  ทุกคนเงียบกริบรอฟังเด็กใหม่ ผมนึกในใจว่าผมเคยเจอมันที่ใหน แต่ก็คิดไม่ออกไม่ยักกะใช่แขกอินเดียอย่างที่ผมคิดแฮะ ...

   -สวัสดีครับ- อ้าวทำไมพูดภาษาไทย ผมตาโต .. คนไทยนี่หว่า

   -ผมชื่อ พลภัทร เป็นคนไทย ที่นี่เป็นที่ทำงานที่แรกของผมหลังจากการเรียนจบ ขอความกรุณาทุกท่านเมตตา และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ- มันพูดเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงสิงคโปร์ซะด้วย ไม่ใช่แบบไทย ๆ เหมือนผม แสดงว่าต้องจบจากที่นี่แหง ๆ  … เฮอะ หน้าอ่อน ๆ ลูกคนมีตังค์ ทำงานไหวหรือเปล่าวะ  ในที่สุดผมก็ถึงบางอ้อ ไอ้คนที่มาทักผมเมื่อกี้เรื่องพริกน้ำปลานั่นเอง

   *เอ้า Kelvin มารับคนของคุณไปดูแลด้วย* ผู้จัดการผมเรียก ผมกวักมือเรียกไอ้เด็กนั่นลงมานั่งที่โต๊ะผม

   -สวัสดีครับพี่เคลวิน- มันยกมือไหว้ผม ก่อนจะไปทักเพื่อน ๆ ผมทั่วทั้งโต๊ะ มันนั่งลงข้าง ๆ ผม ยิ้มไม่หุบ

   *เออ ไหว้พระเหอะ ต่อหน้าคนอื่นห้ามพูดไทยนะเว้ย เพราะเดี๋ยวเขาหาว่ากูกะมึงหมกเม็ดกัน แต่ถ้าอยู่กันสองคนเสือกพูดอังกฤษใส่กู กูจะไม่พูดด้วยเลย*

   ไอ้หน้าจืดหุบยิ้มลงเหลือยิ้มเจื่อน ๆ นิดหน่อย คงจะแปลกใจกับการต้อนรับของผม เพื่อนผม ไอ้ Shar ตบไหล่มันแรง ๆ

   *โชคร้ายหน่อยนะไม่ได้มาอยู่กับผม ไอ้นี่มันโหด* มันคงอ่านจากสีหน้าของไอ้หน้าจืดได้ ทุกคนในโต๊ะหัวเราะขึ้นพร้อมกัน

   -ยังไงก็ขอให้ทำงานได้ก็แล้วกัน- ผมพูดเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ชนรอบโต๊ะ เป็นการไว้อาลัย เอ้ย .. รับน้องใหม่

   ผมไม่ได้พูดอะไรกับไอ้พลภัทรอีกเลย เพราะมันคุยกับเพื่อน ๆ ของผมสนุกสนาน ส่วนผมกลับถูกผู้จัดการประกบตัว เพราะงานของผมที่จะต้องทำวันจันทร์หน้า เป็นงานที่มีความสำคัญมาก เขาไม่ไว้ใจใครให้ทำนอกจากผม งานปาร์ตี้ของผมเลยกร่อย ๆ พิลึกที่ต้องมานั่งคุยเรื่องงาน แต่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ วันหยุดแล้วล่ะวะ เอาสักหน่อยน่า ผมนึกในใจ
   ถึงเวลางานเลี้ยงเลิกราวๆ 2 ทุ่มกว่า ผมเดินตรงลิ่วไปที่รถผมซึ่งจอดไว้ในที่จอดรถด้านหน้า ผมกำลังขึ้นนั่งจะสตาร์ทรถ เห็นไอ้หน้าจืดเดินผ่านหน้ารถผมไป คงเดินไปขึ้นรถบริษัท ผมเปิดกระจกเรียก

   -เฮ้ย จะไปใหน-

   *กลับบ้านครับพี่*

   -บ้านอยู่ใหน-

   *ubi ครับ*

   -อือ ทางเดียวกัน-

   *ไปก่อนนะครับ*

   -อ้าวไอ้นี่ ทางเดียวกันก็ไปด้วยกันสิวะ เร็วเดี๋ยวกูเปลี่ยนใจ-

   มันทำหน้าแหยง ๆ ก่อนจะเปิดประตูขึ้นมานั่งข้างผม ผมขับผ่านช่องเสียบบัตรพนักงานก่อนจะขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน

   -ลืมเอาปากมาหรือไง-

   *เปล่าครับ*

   *พี่เคลวินอยู่กับใครครับ*

   -เรียกกูว่า เก่ง กูมีชื่อไทย-

   -เจี๋ยมเจี้ยมแบบนี้ทำงานหนักได้หรือปล่าวะ-

   *สบายมากพี่*

   -เออ จะคอยดูจะไปได้กี่น้ำ- ผมขู่

   -น้ำหอมไม่ต้องใส่ล่ะ ทำงานอยู่ในไซต์ คนเขาจะหมั่นใส้เปล่า ๆ- ผมบอกมัน เพราะผมได้กลิ่นจาง ๆ ของ อาร์มานี่ โชยมาเตะจมูกผมเบา ๆ ที่ไม่ให้มันใส่ เพราะนี่มันกลิ่นที่กูใส่โว้ย เรื่องอะไรจะมาใส่กลิ่นเดียวกัน

   -ส่งแค่นี้นะ- ผมบอกมันสั้น  ๆ มันยกมือไหว้ขอบคุณ ยิ้มให้ผมแต่ผมโบกมือให้เหมือนวุ่นวาย ก่อนจะขับรถพรืดออกไปอย่างรวดเร็ว

   คุณผู้อ่านคงสงสัยว่าทำไมผมต้องกวนส้นเท้าไอ้หมอนี่มากนัก เป็นแบบนี้เองเวลาที่เราได้เด็กใหม่มา ถ้าเราไม่กำราบมันไว้ ต่อไปมันจะได้ใจ อย่าเอาอย่างนะ แต่เด็กใหม่ต้องพิสูจน์ตัวเองล่ะ ให้คนอื่นยอมรับได้ ผมก็มีหน้าที่ต้องฝึกมันสอนมันจนมันสามารถเอาตัวรอดได้ มันก็เป็นชื่อเสียงของผมเหมือนกัน  อีกอย่าง ผมเป็นพวกติดอันดับมนุษยสัมพันธ์ยอดแย่ คนแปลกหน้าผมไม่ญาติดีด้วยหรอก

   ผมนึกในใจว่า เฮ้อ เกียรตินิยมเมืองไทย มาปะทะเกีรยตินิยมสิงคโปร์ มันจะเป็นไงวะเนี่ย

   ผมเอาข้าวให้หมา อาบน้ำ เปิดเพลงฟัง ก่อนจะเปิดอินเตอร์เน็ท  ไอ้ตี๋น่าจะออนไลน์นะ วันนี้คืนวันเสาร์ ผิดคาด มันไม่ออนไลน์ ผมเซ็ง ๆ เปิดอีเมล์ออกอ่าน มี 4 ข้อความใหม่ ผมไล่อานไปเรื่อย  จนมาถึงฉบับสุดท้าย อีเมล์ไม่คุ้นเลย แต่หัวข้ออีเมล์บอกว่า “พี่เก่ง”

   ผมกดดีโค้ดภาษาต่างด้าว ก่อนจะนั่งลงอ่านอีเมล์นิรนามอย่างตั้งใจ

   ******* พี่เก่ง นี่เตยเอง เตยนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายวันว่าจะบอกเรื่องนี้กับพี่ดีหรือเปล่า ให้หนูเดานะ พี่กับพี่ตี๋คงไม่ค่อยได้ติดต่อกันสักเท่าไหร่ใช่ใหม  *********
            


            ********** มีต่อ **********
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-10-2007 19:34:10
มาจิ้มตูดเก่ง

ขอร้องละนะเฮียเก่ง

อย่าให้เศร้าไปกว่านี้เลย

แค่นี้ชีวิตก็หดหู่เกินพอแล้ว

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a9:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 29-10-2007 19:46:26
 :o   มาต่อด่วนเลย   รู้มะว่า ต่อมสอดรู้สอดเห็นพุ่งทะยานแตะเพดานปรอทแล้วนะ   :m16: :m16:
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 10 / ที่ทำงานชุลมุน
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 29-10-2007 19:51:41
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 10  /  ที่ทำงานชุลมุน

   ******* พี่เก่ง นี่เตยเอง เตยนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายวันว่าจะบอกเรื่องนี้กับพี่ดีหรือเปล่า ให้หนูเดานะ พี่กับพี่ตี๋คงไม่ค่อยได้ติดต่อกันสักเท่าไหร่ใช่ใหม   ตอนนี้พี่ตี๋ทำงานหนักมาก เพราะเขามีโครงการขยายงานของที่บ้านออกไป ที่เขาไม่ค่อยได้ติดต่อกับพี่เก่งเป็นเพราะเหตุผลของเรื่องงานจริง ๆ หนูยืนยันได้ ******

   ผมอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอมยิ้ม ผมก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมอยู่กับไอ้ตี๋มานานจนเข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว

   ********* หนูถามพี่ตี๋ถึงเรื่องของพี่เก่ง พี่ตี๋บอกว่า ต่อไปอย่าถามเรื่องของพี่อีก เพราะเขาต้องใช้เวลากับเรื่องงาน หนูถามเขาจริงจัง เขาบอกเขาห้ามใจให้คิดถึงพี่เก่งไม่ได้ เพราะฉะนั้นมีทางเดียวคือ เขาจะต้องไม่เห็นแก่ตัว โดยการปล่อยให้พี่เก่งไป เขาปรึกษาหนูนะ แต่หนูไม่แนะนำ เพราะพี่เก่งไม่ได้ผิดอะไร *****

   ผมเริ่มงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกแล้ว นี่มันอะไรกันอีกนะ

   ***** แต่พี่เก่งก็รู้ว่า พี่ตี๋พูดจริงทำจริง และใจเด็ดกว่าใคร ..  หนูสงสารเขาที่เขาต้องทำงานหนักและยังต้องคิดเรื่องของพี่เก่งอีก พี่เก่งหนูแอบเขียนมาหาพี่เก่ง เพราะหนูสงสารทั้งสองคน ที่ต้องเอาเรื่องของทางบ้านหนูมาเป็นเรื่องขัดขวางพี่ทั้งสอง พี่เก่งจะทำอย่างไรดีคะ หนูเอาเรื่องไม่สบายมาใจมาบอกพี่หรือเปล่า แต่หนูสงสารทั้งพี่ตี๋ที่ต้องหลอกตัวเอง สงสารพี่เก่งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร หวังว่าพี่เก่งคงจะสบายดี พี่เก่งตอบกลับหนูด้วย หนูไม่สบายใจเลยเรื่องนี้ เตย *****

   ผมถอนหายใจยาว ทำไมปัญหาของผมมันไม่สิ้นสุดลงสักทีนะ  ผมโทรศัพท์ไปหาไอ้ตี๋ คราวนี้มันรับสาย

   *เป็นไงบ้าง*

   -กูอยู่ข้างนอกนะ เดี๋ยวไงค่อยคุยกัน- ไอ้ตี๋วางสายไป ผมเริ่มกลุ้มใจอีกแล้ว ผมจะผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างไร ถ้าระยะทางมันไกล้กว่านี้ผมคงรีบไปหามัน คุยกันให้เข้าใจ แต่แบบนี้ ... จะคุยกันได้อย่างไร ผมนอนคิดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนนอนหลับไป

   วันอาทิตย์ของผมเบื่อ ๆ และเซ็ง ๆ เพราะเรื่องของไอ้ตี๋กวนใจผมมาจากเมื่อคืน ผมยกโทรศัพท์โทรหาไอ้ตี๋อีกครั้ง มันไม่รับสาย ผมไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เลย คนเราควรจะได้คุยกันก่อนที่จะทำอะไรลงไปสักอย่าง ไม่ยุติธรรมสำหรับผมเลย แต่เหตุผลของมันก็สำคัญ .... เพราะมันเกี่ยวกับอนาคตของทางบ้านเขา ผมนอนอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก  ก่อนจะคิดออกว่า โทรหาไอ้เตยดีกว่า

   *เตย พี่เก่งเอง*

   -หนูภาวนาให้พี่โทรมาหาหนูทุกวันเลย-

   *พี่โทรไปคุยกับไอ้ตี๋ แต่มันไม่ยอมรับสาย แล้วจะรู้เรื่องกันได้ยังไง*

   -พี่เก่งใจเย็น ๆ นะคะ พี่ตี๋กำลังเครียดเรื่องลูกค้ารายใหม่อยู่-

   *ฝากบอกมันด้วยละกันว่าไม่คุยก็ไม่ต้องคุย มันดูถูกน้ำใจพี่เกินไปแล้ว* ผมโมโหก่อนจะวางหูไป ผมนั่งพิมพ์ข้อความสั้นจากโทรศัพท์ผม ส่งหาไอ้ตี๋ทันที

   ***** ถ้าทำแบบนี้แล้วสบายใจ ก็เชิญ กูเหนื่อย ***** ผมเหนื่อยใจจริง ๆ นอนแผ่ยาวบนโซฟา

   ผมตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบตัวมืดมิด ผมขยับนาฬิกาข้อมือดูเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว ผมรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ จนไม่อยากลุกขึ้นมา ผมตะกายไปให้อาหารหมา ก่อนจะโผเข้าไปนอนที่เตียงนอน ผมคงไม่สบาย

   วันรุ่งขึ้นผมขับรถไปทำงานอย่างใจลอย ผมจอดรถที่ลานจอดรถก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

   *พี่เก่ง สวัสดีครับ* ไอ้หน้าจืด

   -มาทำไม ใหนบอกเริ่มงานเดือนหน้า-

   *ผมขอผู้จัดการมาเรียนงานก่อนล่วงหน้าครับ*

   -ไม่เห็นมีใครบอกกูเลยล่ะ- ผมส่ายหน้าช้า ๆ ที่ใหนไม่ว่าประเทศอะไร ก็เหมือนกันหมด ไอ้หน้าจืดเดินตามผมมาเรื่อย ๆ ผมพามันเดินไปที่สายการผลิตสุดท้ายซึ่งวันนี้จะมีลูกค้ามาเยี่ยมชม

   ผมแนะนำไอ้หน้าจืดให้คนงานทุกคนรู้ก่อนที่จะเรียกมันมานั่งที่โต๊ะทำงาน บอกถึงเรื่องที่ควร และไม่ควรเสร็จผมก็ยื่นเอกสารหนา 500 กว่าหน้าให้มัน

   *อาทิตย์แรกไม่ต้องลงไลน์ผลิต อ่านคู่มือให้ชำนาญ แล้วกูจะมาสอบว่า รู้เรื่องทั้งหมดแล้วหรือยัง*

   ผมนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ เปิด CCTV ดูในไลน์ผลิตก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานของผมก๊อกๆ แก๊ก ๆ ไป ประมาณ 10.00น. มีโทรศัพท์จากผู้จัดการว่าลูกค้ากลับสวีเดนไปแล้ว เขาบอกถ้าคนทำชื่อ Kelvin ชื่อนี้การันตีได้ ไอ้หมอนี่เคยโดนผมด่ายับไปแล้วทีหนึ่งเมื่อมันมาจุกจิกที่สายการผลิตผม ผมด่ามันว่า ลูกน้องผมผมด่าได้คนเดียว มีอะไรมาด่าที่ผม ถึงคุณจะเป็นลูกค้า แต่โปรดเข้าใจว่าเรามีมาตรฐานการทำงานที่ตรวจสอบได้ กรุณาทำตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานของบริษัท ผู้จัดการผมเอามือกุมหัว ในขณะที่ลูกค้าหัวเราะชอบใจ เพราะถูกผมด่าเป็นซ้ำที่สองแล้ว เมื่อเช้ามันใส่นาฬิกาเข้ามาในสายการผลิต ลูกค้าบอกผู้จัดการว่า เขาเป็นห่วงผมนะว่าผมจะถูกเครื่องจักรตัดมือเอา ใช่สิ เพราะผมบอกมันว่า ถ้าอยากมีมือกลับไปใช้ที่สวีเดนกรุณาอ่านป้ายว่า ห้ามนาฬิกาข้อมือ .. เขาบอกเขามั่นใจงาน เพราะเห็นหัวหน้างานดุเหลือเกิน (กลัวหรือเปล่าไม่รู้นะ)

   เวลา 12.45น. แล้วผมเพิ่งเสร็จรายงานการผลิตประจำสัปดาห์ ผมมีโอกาสเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่โต๊ะตรงหน้าผม

   *ไปกินข้าวสิ เที่ยงกว่าแล้ว*

   -รอพี่เก่งครับ ไปด้วยกันนะครับ-

   *ทำงานที่สิงคโปร์ต้องดูแลตัวเอง เรื่องกินเรื่องอยู่อย่าให้ใครมาลำบากกับเรา  อยากกินต้องรีบกิน รีบทำงาน ตัวใครตัวมัน เข้าใจใหม* ผมสอนมันตามที่ผมมีประสบการณ์มา

   -ครับ- มันรับปากผมเสียงอ่อย ๆ

   ตอนเย็น เครื่องหมายเลข 17 เสีย ผมมุดเข้าไปซ่อมตั้งแต่บ่าย 3 ตอนนี้ เกือบห้าโมงแล้วเครื่องยังไม่เสร็จเลย แผนกวิศวกรรมจนปัญญา ผมเลยมุดไปช่วยซ่อมเสียเลย

   *ขอเศษผ้าหน่อย* ผมสั่งพนักงานที่รอยื่นของให้ผม ผมมุดอยู่ใต้เครื่องตอนนี้

   -พี่เก่งผมกลับบ้านก่อนนะครับ- เสียงไอ้หน้าจืด

   *มึงจะกลับมึงก็กลับ แต่มึงแหกตาดูใหมว่าไลน์มันเดินไม่ได้  อยากจะเป็นวิศวกรแต่เลิกงาน 5 โมง มึงจะมาสมัครทำงานโรงงานหาพระแสงของ้าวหอกโมกพศักด์อะไรของมึง* ผมด่าทั้ง ๆ ที่มุดอยู่ใต้เครื่อง ไม่ได้สนใจว่ามันกลับหรือไม่กลับ ผมยังเรียกเอาของอยู่เป็นระยะ ก่อนที่จะโผล่หัวออกมา บอกวิศวกรรมว่า โอเคแล้ว หัวหน้าวิศวกรรมบอกว่า ถ้าเขาไล่ออกจากฝ่ายผลิต ให้มาสมัครงานที่แผนกวิศวกรรม ผมบอกคงยาก เพราะที่แผนกนั้นคงมีคนตกงานเพิ่ม ทุกคนหัวเราะกันใหญ่

   ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นไอ้หน้าจืดยืนหัวเราะกับเขาด้วย ผมนึกสงสัยเล็ก ๆ โดนด่าแบบนี้ไม่หนีกลับบ้านเลยเว้ย

   ผมเดินไปที่ออฟฟิศของผมกับไอ้หน้าจืดนั่น ก่อนจะสอนมันปิดไฟ เก็บของก่อนออกจากที่ทำงาน เราสองคนเดินมาด้วยกันเงียบ ๆ จนถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนก่อนจะบอกไอ้หน้าจืด

   *กลับไงล่ะ*

   -รถโรงงานครับ-

   *มีเงินเดือนแล้วก็ซื้อรถสิ ผ่อนเดือนไม่กี่ร้อยเหรียญ บริษัทเราอยู่ไกล*

   -คงอีกนานน่ะครับ ผมไม่ค่อยมีเงิน-

   *น่าเชื่อตายเลยนี่ ที่เอ็งจบมาไม่ใช่ถูก ๆ  ไปเสร็จหรือยัง จะไปส่ง*

   หน้าตามันดูไม่ค่อยดีตอนที่นั่งรถมา โรงงานผมอยู่ไกลมาก เกือบออกนอกพรมแดนไปทางมาเลเซีย ใช้เวลาขับรถกลับบ้านราว ๆ 1 ชั่วโมงกว่า

   สักพักไอ้หน้าจืดมันก็หลับไป ผมแวะเติมน้ำมันแล้วปลุกมันขึ้นมากินไอติม เติมน้ำมันแล้วต้องซื้อไอติมทุกครั้ง เพราะที่สิงคโปร์ เราต้องเดินเข้าไปจ่ายเงินในร้านค้าของแต่ละปั๊ม บอกหมายเลขปั๊มแล้วคิดเงิน เป็นอุบายให้คนไปซื้อของด้วยมั้ง

   มันยกมือไหว้ขอบคุณผม ทำหน้าเหมือนเด็กดีใจ เมื่อกี้ยังหน้าเหมือนหมาป่วยอยู่เลย

   *ผมตกงานครับพี่* มันเหมือนจะรู้ใจผม ขณะกินไอติมไปพลาง ผมเลียไอติมแล้วทำหน้างง ๆ

   *ผมไม่ได้ไปทำงานพาร์ทไทม์วันนี้ เลยโดนให้ออกแล้ว* ผมชะงักไปพักหนึ่ง

   -ทำไมต้องทำพาร์ทไทม์ด้วย  ท่าทางบ้านเอ็งเงินเยอะนะ มีปัญญาได้เรียนที่ดีดีแบบนี้-

   *งานของที่บ้านล่ะพี่ ร้านอาหารไทยของญาติผมเอง แต่ที่สิงคโปร์ งานก็คืองาน เขาทำกันแบบมืออาชีพ พี่คงเข้าใจ*

   ผมชะงัก กัดไอติมไม่ลง ถ้ามันบอกว่ามันจะต้องรีบมาทำงานพิเศษ ผมก็คงไม่ไปรั้งมันไว้เพราะมันพึ่งมาทำงานวันแรก

   มันยกมือไหว้ผมอีกครั้งที่เลี้ยงไอติม ผมรู้สึกไอติมจืดไปอย่างประหลาด ผมเป็นคนปากร้าย แต่ขี้สงสารน่ะครับ

   *แล้วพักอยู่กับใคร ยังไง*

   -ผมอยู่ห้องแชร์กับนักเรียนจีนครับ 300 เหรียญ-

   *มาอยู่กับกูก็ได้ มีห้องว่าง บ้านฟรีบริษัทจ่าย  คงจะดีกว่าห้องเช่า 300 ของเอ็ง*

   -ผมเกรงใจ-

   *เร็วๆ ก่อนกูเปลี่ยนใจ*

   -โอเคครับ-

   *วันอาทิตย์หน้าจะไปช่วยย้ายของ*

   -ขอบคุณครับพี่- มันยกมือไหว้ผมอีกแล้ว

   คนไทย อยู่ต่างแดนก็ต้องช่วยเหลือกัน ผมเป็นคนขี้สงสาร แต่ไอ้ตี๋สิ มันไม่สงสารผมเลย ผมคิดว่าผมจะปล่อยมันสักพัก ให้เวลามันช่วยทำให้จิตใจของเราปกติก่อนค่อยคุยกัน ยังไงในใจผมก็ไม่มีใครมาแทนที่มันได้อีกแล้ว ผมต้องเห็นใจมันทีมันต้องรับภาระหนักอึ้งของทางบ้านถึงจะถูก

   ผมเปิดคอมพิวเตอร์ มีอีเมล์จากธนาคาร OCBC แจ้งผมว่า มีเงินโอนจากต่างประเทศเข้าบัญชีผม ผมใช้อินเตอร์เน็ทแบ็งกิ้งเช็คว่าใครเป็นคนส่งมา ปรากฏว่าเป็นชื่อบริษัทไอ้ตี๋ อีกฉบับหนึ่ง มาจากไอ้ตี๋

   **** หมาที่ใหนงอนกู ทำงานเหนื่อยนะโว้ย ใช้หนี้แล้วช่วงนี้รวย ****

   ผมยิ้มให้คอมพิวเตอร์ ก่อนจะตอบอีเมล์กลับไป

   **** ลืมดอกเบี้ยหรือเปล่า เจอหน้าเมื่อไหร่ จะเรียกคืนทบต้นทบดอก ****

   คืนนั้นผมโทรหามันอีก เราคุยกันเรื่องที่เราสองคนเริ่มห่าง ๆ ผมบอกมันว่า แปลกดี ยิ่งห่าง ๆ เรายิ่งคิดถึงกันมากผิดปกติ เพราะเราคุยกันเป็นชั่วโมงได้ไม่มีเบื่อ แต่เมื่อก่อนเราคุยกัน 3 เวลาหลังอาหาร มันกลับค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เพราะความเบื่อและความคิดถึงมันธรรมดาไปนั่นเอง ไอ้ตี๋บอกว่า มันแค่เป็นไปตามวัย

   ผมมานั่งคิดดู อืม มันก็จริง ก็เกือบสิบปีแล้วที่เราคบกันมา ... การเปลี่ยนแปลงมันก็เปลี่ยนไปตามวัย ความหวานน้อยลง แต่ความคิดถึงคงเดิม .... ไม่มีอะไรจะมาทำให้ใจผมหวั่นไหวไปได้  ผมขอให้มันเชื่อผม และผมก็เชื่อในตัวมันเช่นกัน

   ผมมาทำงานในเช้าวันถัดมาด้วยความสบายใจ ผมบอกให้ไอ้ตี๋หาเวลาแค่ 1 นาทีต่อวัน SMS บอกความเป็นไปให้ผมทราบ มันรับปากและจะพยายามทำ 1 นาทีนั้นให้มีค่าสำหรับความรักแบบระยะทางไกลของเรา และแล้ว SMS แรกก็มาแต่เช้าเลย

   **** คิดถึงมึง แต่คิดถึงไอ้นั่นของมึงมากกว่า **** ผมตอบกลับไป

   **** ไอ้นั่นของกู ก็คิดถึงไอ้นั่นของมึงเหมือนกัน ****  ผมเดินอ่านข้อความอมยิ้มเดินเข้าไปในออฟฟิศ  มีหัวหน้าคนงาน หรือ โฟร์แมน จำนวน 4 คนจากทั้งหมด 12 คนนั่งรอผมอยู่

   *มีอะไรกัน* ผมถามเป็นภาษาจีน

   -คุณเคลวินให้เด็กใหม่ของคุณมาทำอะไร-

   *ผมไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้น*

   -เด็กใหม่ของคุณสั่งเราหยุดการผลิตเพื่อเช็คเครื่อง เขาบอกมีของตกเสป็คออกไปเยอะ แล้วของที่ทำไปแล้วทั้งหมดให้เอามาตรวจด้วยตาเปล่าทีละอัน แบบนี้ขอเวลา 25 วันก็ไม่เสร็จ-

   ผมโกรธจนควันออกหู

   -ไปเรียกเขามาที่นี่เดี๋ยวนี้- ผมสั่งพนักงาน

   *ใครใช้ให้ไปแส่ที่ไลน์ผลิต กูบอกให้มึงอ่านคู่มือใช่ใหมอาทิตย์นี้* ผมโมโหด่าไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว

   -ผมเบื่อนี่ ทำไมต้องมานั่งอ่านอะไรน่าเบื่อแบบนั้น-

   *โอเค มึงไปเก็บของ กูจะไม่อนุมัติให้มึงผ่านงาน ถ้ามึงไม่ฟังกู*

   -อย่านะครับพี่เก่ง ผมต้องการงานนี้ คนอื่นจะว่ายังไง ถ้าเด็กเกียรตินิยมไม่ผ่านทดลองงาน แล้วพี่มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินผม พี่ดีแค่ใหนกัน-

   *มึงถือว่ามึงเกียรตินิยมแล้วจะมาทำเบ่งไม่ฟังกู มึงดูนี่ซะให้เต็มตา* ผมหยิบเอาเอกสารในโต๊ะให้มันดู สำเนาปริญญาบัตรของผม

   *กูก็มีเหมือนกันเกียรตินิยม แต่กูไม่เคยเบ่งใคร ใครมาก่อนเขาย่อมรู้ก่อนมึงว่าอันใหนควรไม่ควร*
   
   -ผมขอโทษพี่- มันทำหน้าแดง ๆ เหมือนอยากจะร้องให้

   *ผมคิดว่าพี่เป็นพวกกุ๊ยซะอีก จะมาสอนงานผมได้ไง*

   -มองคนอย่ามองแต่เปลือกนอก จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ จะสูงจะต่ำ อยู่ที่ทำตัว-

    -อย่าให้มีอีก- ผมชี้หน้าคาดโทษมันไว้

   ผมเอางานตัวอย่างมาดูอย่าละเอียด ไลน์ทั้ง 4 นี้ขึ้นชื่อเรื่องลักไก่ ของมันตำหนิจริง ๆ ด้วย แต่หัวหน้างานที่เก๋าเกมส์มักจะปล่อยผ่านเพราะเป็น minor defects ข้อผิดพลาดเล็กน้อย

   ผมเรียกไอ้หน้าจืดมาดู พร้อมกับบอกว่า เวลาทำงาน เราจะมองแค่สเป็คอย่างเดียวไม่ได้ คุณภาพและปริมาณการผลิตต้องสัมพันธ์กัน บทเรียนที่เราเคยเรียนมานำมาใช้เป็นไกด์ไลน์ได้ แต่ใช้ในชีวิตจริงทั้งหมดไม่ได้

   ผมเงยหน้าจากชิ้นงาน หน้าผมกับหน้ามันชนกันพอดีเพราะมันกำลังก้มมองของในมืออยู่ มันขอโทษก่อนจะกลับไปนั่งที่ ผมมองตาม เพิ่งมีเวลาสังเกตุมันชัด ๆ ก็วันนี้นี่เอง

   ไอ้หน้าจืดหน้าตาเหมือนหนุ่มอาตี๋สิงคโปร์น่ารัก ๆ ทั่วไป ผมตั้ง ๆ หัวเปียก ตัวใหญ่ ๆ ฟันใหญ่ ๆ  หน้าตาทะเล้น ๆ  มันหันมามองผมเป็นครั้งคราวคงอยากรู้ว่าผมทำอะไรบ้าง ผมเลยแกล้งมองมันตลอดเวลาบ้าง มันหันมาเจอะหน้าผมแล้วรีบหันกลับเหมือนคนถูกจับได้ ผมหัวเราะหึหึ คิดเล่น ๆ ในใจ

      **** เด็กหนอเด็ก **** หุ หุ  เหอะ ๆ ๆ

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 29-10-2007 20:11:37
แล้วเก่งจะหวั่นไหวป่าวเนี่ย

เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 29-10-2007 20:50:29
 o12 เก่งจะส่อแววเจ้าชู้เหรอครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-10-2007 21:15:05
เดี่ยวก็ได้มีนอกใจอีกแน่ๆงานนี้
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-10-2007 21:24:15
อยู่ใกล้กันยังนอกใจ
ห่างขนาดนี้จะเหลือรึ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: kimsumsoon ที่ 29-10-2007 23:14:38
กลอนมันพาไปค่ะ
เก่งไม่ได้คิดนอกใจตี๋
แต่เก่งแค่รักเพิ่มขึ้นมาอีกคนเท่านั้นเอง
ยังไงเก่งก็รักตี๋เท่าเดิมไม่มากไม่น้อยไปกว่าเดิม
ที่เพิ่มมาก็แค่รักคนอื่นเพิ่มเท่านั้นเอง
ชิมิเคอะส์
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 30-10-2007 08:01:09
รักที่มีระยะทางเป็นตัวแปร  ย่อมรวนเรเหมือนที่เขาว่า

รักแท้แพ้ระยะทาง

แต่หวังว่าหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย

เก่งคงม่ายนอกใจตี๋เหมือนที่เคยทำนะครับ   :m5:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 30-10-2007 18:30:36
ถึงจะหวั่นไหวไป  แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ขอให้คู่กันนะครับ

อยากให้ลงเอยด้วยดีจัง  :amen:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-10-2007 19:01:10

ว้อยยยยยยยยยยยยยยย

ขัดใจเฮียเก่ง

มีนอกลู่นอกทางแหง่ๆ

 :angry2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 30-10-2007 19:19:03
กลอนมันพาไปค่ะ
เก่งไม่ได้คิดนอกใจตี๋
แต่เก่งแค่รักเพิ่มขึ้นมาอีกคนเท่านั้นเอง
ยังไงเก่งก็รักตี๋เท่าเดิมไม่มากไม่น้อยไปกว่าเดิม
ที่เพิ่มมาก็แค่รักคนอื่นเพิ่มเท่านั้นเอง

ชิมิเคอะส์

ตามสไตล์เขาละ... จะเหลือเหรออออ พวกไม่รู้จักพอ...  :m16:
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 11 / ข่มใจสุดฤทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 30-10-2007 19:45:42
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 11  / ข่มใจสุดฤทธิ์

   ผมพาไอ้หน้าจืดเข้าไปสอนงานในสายการผลิต และยกไลน์ทั้ง 4 ไลน์ที่มันสั่งให้เขาหยุดเครื่องไปอยู่ในความดูแล บางทีเด็กที่มีความรู้ความสามารถพิเศษ ๆ ต้องให้โอกาสเขาเรียนรู้อะไรเร็ว ๆ เพราะถ้าเขาเรียนแค่อย่างเดียวอาจจะทำให้เขาเบื่อได้

   วันอาทิตย์ถัดมา ผมไปช่วยมันย้ายของจากห้องเช่าเดิมที่มันอยู่กับนักเรียนจีน ของของมันไม่มีอะไรเลยนอกจากระเป๋าใส่เสื้อผ้า และคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว ส่วนที่มีมากหน่อยคือ สมุดเล็กเชอร์กับหนังสือ และชีต คงเข้าใจว่าคนที่พึ่งเรียนจบ ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว ยกเว้นว่าคุณจบมาหลาย ๆ ปีแล้วคุณจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันเท่าไหร่นัก

   ผมจัดให้มันอยู่อีกห้องหนึ่งตรงข้ามกันกับห้องผม ซึ่งเมื่อก่อนเราเอาไว้เก็บของสมัยที่ไอ้ตี๋มันอยู่ ผมบอกว่าให้มันทำตัวตามสบาย เพราะผมอยู่คนเดียวแบบสบาย ๆ อยากจะใช้อะไร กินอะไรไม่ต้องเกรงใจ มันคนเดียวคงจะกินอะไรไม่มากนักหรอก ไม่ถึงกับหมดตัว ผมนอนดูทีวีอยู่ที่โซฟา มันจัดของเสร็จแล้วออกมานั่งตรงโซฟาตัวเล็ก กอดเล่นกับหมาผม ดีนะที่ยังรักหมา พวกเกลียดหมานี่ คงอยู่ด้วยกันไม่ได้

   *เออ ตกลงเอ็งมือชื่อง่าย ๆ เปล่าวะ ชื่อทำไมมันเรียกยากขนาดนั้น ชื่อว่าอะไรนะ*

   -พลภัทรครับ ชื่อเล่นชื่อ พล ไม่มีชื่ออังกฤษครับ-

   *อย่ามาประชด คนต่างชาติมันชอบออกเสียงชื่อกูเป็น “เค็ง” มันดูเส็งเคร็งยังไงก็ไม่รู้ กูเลยต้องหาชื่อที่มันเรียกง่ายๆ*

   -ชื่อผมกับชื่อพี่คล้ายกันมากเลยนะ-

   *คล้ายยังไง*

   -พี่ชื่อ ภัทรพล ส่วนผม พลภัทร-

   *เออว่ะ บังเอิญจริง ๆ*

   ผมโทรศัพท์หาไอ้ตี๋ที่กำลังไม่สบายอยู่ ผมบอกมันว่าถ้าร่างกายไม่ดี จะหาเงินอีกสักเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในที่สุดแล้วก็ไม่ได้ใช้ อย่าหักโหมให้มาก ผมบอกมันนอนพักผ่อน ผมเล่าให้มันฟังเล็กน้อยว่าเอาน้องที่ทำงานมาอยู่ด้วย เป็นคนไทย ตอนนี้ไม่ค่อยเหงาแล้วมีเพื่อนอยู่ด้วย มันบอกว่าถ้ามีโอกาสจะหาเวลามาหาผม อาจจะเป็นสิ้นเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า ผมดีใจมากเพราะไกล้กับวันเกิดผมพอดี แสดงว่ามันต้องมาอยู่ฉลองวันเกิดกับผมแน่ ๆ

   *พี่เก่งโทรกลับเมืองไทยบ่อยใหม*

   -โทรหาแฟนทุกวัน เอ็งล่ะ-

   *ที่บ้านผมน่ะเหรอ เขาไม่สนใจหรอกว่าใครจะมาใครจะไป นี่ผมก็เซ็ง ๆ ตั้งแต่เรียนจบ เงินก็มีนะพี่ไม่ขาดมือหรอก แต่เหมือนไม่มีความสุขน่ะ*

   -ใหนเล่าให้ฟังหน่อยสิ*

   ไอ้พลเล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของมันมีธุรกิจเกี่ยวกับยารักษาโรค พ่อกับแม่มันเรียนมาสูงทั้งคู่ มันเป็นลูกคนเล็ก มีพี่สาวอีก 2 คน ตอนนี้แต่งงานกันไปหมดแล้ว ตอนที่มันอยู่ปี 2 ที่บ้านมันเกิดปัญหาเพราะว่าแม่จับได้ว่าพ่อมีเมียน้อย ตอนนี้พ่อกับแม่มันอยู่อย่างใส่หน้ากากเพื่อธุรกิจ นี่ล่ะนะ เขาเรียกว่ามีเงินแต่ไม่มีความสุข มันบอกว่ามันสงสารแม่ เพราะพ่อบางทีก็ถึงขั้นลงไม้ลงมือเวลาทะเลาะกัน

   ผมเป็นคนมาจากครอบครัวที่มีความอบอุ่น จึงรู้สึกสงสารไอ้พล ได้แต่ปลอบน้องไปตามเรื่องตามราวว่า อย่าไปใส่ใจเรื่องของผู้ใหญ่ให้มากนักเลย เพราะบางทีผู้ใหญ่เขาก็ไม่มีทางเลือกอะไรมากนักหรอก ถ้าโตกว่านี้แล้วจะเข้าใจ ตอนนี้ไอ้พลอายุแค่ 20 ปีเอง

   *ผมเคยมีแฟนแล้วพี่ เป็นเด็กมาจากเวียดนาม ตอนนี้เรียนมนุษศาสตร์ปีสาม*

   -อืม ดีนี่แล้วเป็นไงล่ะความสัมพันธ์-

   *ห่าง ๆ กันแล้วครับตั้งแต่ผมเรียนจบ เขามีแฟนใหม่แล้ว คนสิงคโปร์ รวยมาก*

   -พวกนี้ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ เขาคิดว่าโอกาสใหนที่ดีกว่า เขาก็จะคว้าไว้ น้องที่ทำงานคนนึงก็มีแฟนเวียดนาม เป็นนักเรียน แต่อีก 3 วันผ่านไป ไปโผล่อยู่ออสเตรเลียแล้ว บางทีพวกนี้มาเรียนเพื่อมาหาอนาคตที่ดีกว่าให้ตัวเองน่ะ-

   *แต่ใครนะตาบอดเอาพี่เป็นแฟน ดุอย่างกับ ...... * มันหัวเราะหึหึ

   -เดี๋ยวถีบเอาซะหรอก ไปกินข้าวย่านคนไทยกันดีกว่า-

   ผมพาไอ้พลไปกินข้าวย่านคนไทย เราไปที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ซึ่งมีอาหารตามสั่งให้กินด้วย ผมสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมู 2  ข้าวขาหมู ส้มตำปูปลาร้าเผ็ด ๆ ยำแหนมคลุก  ไอ้พลบอกว่าเอาอะไรก็ได้ตามที่ผมกิน

   -พี่เก่ง ผมไม่เคยมากินที่นี่เลยนะเชื่อหรือเปล่า 4 ปีที่มาอยู่ที่นี่น่ะ-

   *ทำไมล่ะ ไม่ไฮโซเหรอ* ไม่ไฮโซจริง ๆ ล่ะครับ เพราะเขาขายให้คนงานไทยนี่

   -ผมเคยกินแต่ที่ ............ ไม่งั้นก็ร้านญาติที่ผมไปช่วยเขานั่นล่ะ อาหารไทยมันเหมือนอะไรก็ไม่รู้พี่ ต้มยำก็มาจากผงมาม่ารสต้มยำต้มใส่กับน้ำอ่ะ-

   *ลองกินที่นี่ดูก่อน ถ้าไม่อร่อยไม่ต้องออกตังค์-

   ไอ้พลมันก็เล่าเรื่องไปตามประสาเด็กช่างพูด ผมแอบเผลอมองแก้มยุ้ย ๆ ขาว ๆ ของมันเพลิน ๆ โดยไม่รู้ตัว วันนี้มันแต่งตัวน่ารักดี เสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วน ใส่รองเท้าแตะ เล็บมือเล็บเท้าตัดสั้นเจียนได้รูป สะอาดสะอ้าน เขามาจากครอบครัวผู้ดีนี่นะ ข้าวของที่ใช้ก็ดูมีราคา

   -อร่อยมากพี่ แล้วถูกกว่าที่อื่นครึ่งต่อครึ่ง- ผมหารค่ากับข้าวกับมันคนละครึ่งก่อนจะชวนไปซื้อของต่อที่ไทยซุปเปอร์มาเก็ต ผมชี้ให้มันดูของในร้านอย่างสนุกสนาน เพราะมันเด็กไฮโซ คงไม่เคยเห็นพวกดินสอพอง ปลาร้า หน่อไม้ แมงดา และของสารพัดชนิดที่มีขายบนนี้

   แต่ด้วยความที่เป็นเด็กนอกซึ่งรู้จักช่วยเหลือตัวเอง มันก็ทำหน้าที่ได้ดีทั้งเรื่องทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า แถมบางทียังเอาเสื้อผ้าผมไปรีดให้อีก มันบอกว่าทำให้หัวหน้าไม่เป็นไร แต่ทำให้คนอื่นไม่ทำ ผมแหย่ว่า ทำให้แฟนล่ะทำใหม มันบอก แฟนก็ไม่ทำ ต้องให้แฟนทำให้

   และแล้วสิ่งที่ผมกลัว มันก็เกิดเรื่องจนได้ เมื่อสองหนุ่มโสด มีปาร์ตี้เบียร์ในตอนเย็นวันเสาร์ที่บ้าน ไอ้พลงัดเอาซีดีเอ็กซ์มาเปิดอย่างทะลึ่งตึงตัง ผมกับมันแย่งกันนั่งติดจอทีวีเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น

   *เว่อร์ว่ะ ร้องซะยังกับถูกไม้ตีพริกยัด* ผมวิจารณ์ไปพลางเอามือกดกะเจี๊ยวไว้ ไม่ได้ใส่กางเกงในด้วย เดี๋ยวมันโผล่อายน้องเค้า  แต่Kฝรั่งนิโกรแม่งใหญ่ ยาวยังกะไม้ตีพริกจริง ๆ  แต่ดำมืดน่ากลัว เหมือนปลิงทะเล ผมคิดว่าKไอ้นี่มันใหญ่เกินไป อีนั่นมันคงเจ็บมากกว่าที่ร้อง ไม่ก็จุก เพราะตอนที่มันเยเข้าออก Hแดง ๆ ของอีนี่ปลิ้นออกมาตามตามจังหวะของKดำหมิดหมีเข้าออกเลย

   ผมปิดซีดี ก่อนจะไล่มันไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน ขณะที่มันอยู่ในห้องน้ำ ผมเดินไปจะล้างมือที่อ่างล้างจานในครัวซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำพอดี ผมได้ยินเสียงน้ำฝักบัวไหล พร้อมกับเสียงครางของไอ้พล ไอ้นี่แม่งชักว่าวในห้องน้ำแหง ๆ แม่งทำเป็นเปิดฝักบัวไว้กลบเสียง  แต่ที่ทำให้ผมตกใจมากกว่านั้นคือผมได้ยินเสียงมือมันว่าวตัวเองดังพั่บ ๆ อย่างแรง มันครางออกมาเบา ๆ ว่า

      ***** พี่เก่ง พี่เก่ง โอ้ว ๆๆ *****

   ผมรีบวิ่งกลับไปกระโดดขึ้นบนเตียงในห้องผม ใจเต้นตึก ๆ ตัก ๆ นี่มันเรื่องอะไรกันวะนี่  กูจะผ่านบททดสอบนี้ไปได้หรือเปล่าวะ ?? ผมนอนคว่ำหน้าลงบนหมอน Kที่มันแข็งเพราะหนังโป๊ รวมทั้งที่มีหนุ่มน้อยน่ารักอาตี๋เสป็คผม มาชักว่าวอยู่ไกล้ ๆ ดุนดันอยู่บนที่นอน พยายามยังไงมันก็ข่มอารมณ์ไม่ได้สักที ผมบอกกับตัวเองเรื่องต้องพยายามข่มใจ เพราะไม่อยากเสียสัญญาที่มีไว้กับไอ้ตี๋มัน ผมพยายามคิดแต่เรื่องร้าย ๆ ให้KมันเH่ยวลง แต่รู้สึกว่ามันจะไม่ยอม ตั้งแต่ไอ้ตี๋ไป นาน ๆ ครั้งผมถึงจะว่าวสักครั้ง มันคงอัดอั้นตันใจมากแล้วล่ะ

   ผมนอนหงายขึ้น เอามือดึงกางเกงลงไปจากตัว Kของผมผงาดขึ้นมาเป็นลำ น้ำเงี่ยนซึมมาที่ปลายK ผมนึกในใจ วันนี้ไม่ได้แตกกูต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ผมเริ่มเอามือสาวKตัวเองช้า ๆ ครางออกมาซี้ดซ้าดส์เบา ๆ ในใจนึกจินตนาการไปถึงไอ้หน้าจืด .... ตัวขาว ๆ ใหญ่ ๆ แบบอาตี๋จีนรุ่นใหม่ หัวตั้งๆ กะเจี๊ยวเล็ก ๆ มึง .... ได้เอาสักทีจะเป็นพระคุณเลยเนี่ย

   ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ล้วงเข้าไปในสุดข้างล่างผ้าที่พับไว้ และแล้วผมก็เจอกับเป้าหมาย มันคือ จิ๋มปลอมที่ซื้อไว้ตั้งนานแล้วจากเซ็กส์ช้อปที่ไชน่าทาวน์ วันนี้ต้องมารับใช้กูเป็นการแก้ขัดหน่อยแล้ว ผมเอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยที่หัวเตียงมาใส่ เพราะไม่อยากให้เปรอะ Kผมผงกหัวหงึก ๆ อย่างกำลังเสี้ยนเต็มที่ หงี่เต็มพิกัด ผมเอาจิ๋มปลอมไปวางไว้ที่ขอบโต๊ะอ่านหนังสือของผม ก่อนจะ จับหัวKแยงรูแล้วกดพรวดมิดด้าม ก่อนจะซอยเข้าซอยออกอย่างเร็วและแรง ผมเริ่มกระเส่า ครางเสียงดัง แต่ไม่เป็นไรเพราะผมปิดประตูแล้ว ข้างนอกไม่ได้ยินเด็ดขาด ในสมองจินตนาการถึงTo-dใหญ่ขาว ๆ แน่น ๆ ของไอ้พล ผมครางงี้ดง้าดเมื่อไกล้จะเสร็จ ผมกระแทกอย่างเร็วและแรง ถ้าอารมณ์อยาก ๆ สุด ๆ แบบนี้ ไม่ถึงสิบนาที อย่างเก่งให้ 15 นาทีก็แตกแล้วสำหรับผม

   ในขณะที่ผมกำลังถอนKออกมา รูดถุงยางออก ชักขึ้นลง 2-3 ครั้ง น้ำแตกพุ่งลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ ประตูห้องผมถูกเปิดเข้ามา ผมรีบกระโจนไปที่เตียงนอนเอาผ้าห่มคลุมตัวอย่างรวดเร็ว

   *พี่เก่ง ....* ไอ้หน้าจืดนั่นเอง มันใส่ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียว มีพุงนิด ๆ ซะด้วย น่าปล้ำชะมัด หัวนมแดงแปร้ด อกใหญ่ขาวจั๊วะ มึง ... เยซะทีดีใหมเนี่ย

   ผมอายจนหน้าแดง ส่วนตัวไอ้นั่นก็อายจนหน้าขาว ๆ หูเหอแดงเถือกไปหมด ไม่รู้แดงเพราะเบียร์ หรือแดงเพราะเห็นKผมกำลังน้ำแตกเต็ม ๆ ตากันแน่ ผมกลั้นหายใจรอดูว่ามันจะพูดอะไรต่อ

   *ขอโทษพี่* แล้วมันก็ปิดประตูลงเบา ๆ

   

   

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 11 / ข่มใจสุดฤทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 30-10-2007 19:50:35
แหะ ๆ โผล่หน้าใหม่ได้ไงไม่รู้

เป็น คอมพิวเตอร์อีเดียตน่ะครับ

55555 :m23:

เก่ง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 11 / ข่มใจสุดฤทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 30-10-2007 20:02:02
อย่าหวั่นไหวเด่ะ คุณเก่ง

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 30-10-2007 21:26:43
กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ไม่ไหวแล้ว ต่อด่วน
 :m25: :m25: :m25: :m25:

ปล.รวมกระทู้ให้แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 30-10-2007 22:10:21
ไอ้เก่ง ห้ามเผลออีกนะว้อยยย  :angry2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 31-10-2007 01:36:08
กลัวใจพี่เก่งจริงๆเล้ย   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 31-10-2007 07:41:32
อ๊ากซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

 :m10: :m10: :m10: :m10: :m10:

 :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:



หงะ  ม่ายมีต่อแล้วเหรอ   :impress:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 31-10-2007 08:04:24
 :o

จาฟ้องตี๋เล็ก  พี่เก่งแอบเอาจิ๋ม  :m29:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 31-10-2007 08:29:00
เผลออีกคราวนี้แหละ......เดี่ยวได้ยุ่งแน่ๆ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 31-10-2007 13:21:24

..........ไม่รอดแน่...... :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 31-10-2007 14:56:36
ตามมาตอนที่ 5แว้วว  เมื่อวานอ่านตกใจแทบแย่ มาถึงก็ตายกันเลย 
น้ำตาไหลเลย  แต่ที่ไหนได้ หึหึ  มุขเยอะจริงเชียว  o12
ทำคนอ่านหัวใจจะวาย  แต่กสนุกตื่นเต้นดี ชอบบบ  (เอ  ... นี่ผมซาดิสม์ป่ะนี่ 55)

:o

จาฟ้องตี๋เล็ก  พี่เก่งแอบเอาจิ๋ม  :m29:

เหอๆๆ แบบเอาจิ๋มปลอม  อิอิ....  ว่าแต่อยู่กันไปเรื่อยๆจะอดใจได้มั้ยนี่
ดันไปได้ยินน้องพล ร้องเรียกชื่ออีก หหุหุ

รักแท้แพ้ทางระยะ  รักแท้แพ้ใกล้ชิด
เก่งจะทนอยู่ได้เท่าไหร่นะ....ไม่มีตัวมากระตุ้นก็ว่าไปอ่างง  นี่ดันมีมาอยู่ใกล้ๆะงั้น  :m29:

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 31-10-2007 15:14:16
อะนะพี่เก่งมาเองเลยหรอ  o13
อ่านเรื่องพี่เก่งแล้ว หัวใจจะวาย มีเรื่องให้ลุ้นทุกฉากทุกตอนซิน่า  o22
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 31-10-2007 16:39:35
 :m26:
อาจจะดูเหมือนมองโลกในแง่ร้ายยยย...แต่ไม่คิดว่าจะเชื่อใจนายเก่งได้อีกแล้วววว...
ถ้าตอนต่อไปเก่งไม่นอกใจ...เห็นท่าจะโกหกซะละ...ก็มันคิดซะขนาดนั้นแล้ววววว.....
และถึงแม้ตัวเองจะไม่คิด แต่ไอ้เด็กใหม่มันคิด....ซักวันมันอาจจะเริ่มเองก็ได้.....
ถึงวันนั้นฝันไปเหอะ ...หน้าอย่างนายเก่งเหรอจะอดได้.....  :เตะ1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 31-10-2007 17:39:59
ด่านหินเลยนี่ จะผ่านไปได้ไหมคุณเก่ง  o22
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: kimsumsoon ที่ 31-10-2007 18:11:54
คิ้มงงมากค่ะ
ว่าห้องพักที่สิงคโปร  มันไม่มีกลอนล็อคเหรอคะ
หรือว่าประตูมันเสีย ล็อคไม่ได้
แค่งง น่ะค่ะ
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 12 / วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 31-10-2007 22:45:57
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 12  / วันเกิด

   วันรุ่งขึ้นผมแต่งตัวและเดินออกมาใส่รองเท้าที่ห้องรับแขก ไอ้พลแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย นั่งรอผมอยู่ มันหันหน้าไปทางอื่น ส่วนผมก็ไม่กล้ามองหน้ามันเลย ผมเปิดประตูรถก่อนจะเข้าไปนั่งด้านใน ไอ้พลนั่งบนเบาะข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว ผมขับรถออกมาจากที่จอดรถไปตามไฮเวย์ อากาศตอนเช้า ๆ สดชื่น รถไม่ติดเลยแม้แต่น้อย

   ผมเพ่งมองไปที่ถนนเขม็ง หายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าจะพูดเกี่ยวกับเรื่องของเมื่อคืนอย่างไรดี

   *เอ่อ* ผมพูดขึ้น ก่อนจะหน้าแดงด้วยความอาย พูดต่อไม่ได้

   -ผมขอโทษด้วยที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปแบบนั้น- มันหน้าแดงก้มหน้างุด

   *เฮ้ยไม่เป็นไร ผู้ชายด้วยกัน วันหลังจะให้ยืมใช้* ผมบอกกับมันขำ ๆ จนมันยิ้มออกมาได้

   ตอนเย็นผมโทรศัพท์หาไอ้ตี๋ เรื่องที่ทำงานเดิมมันต้องการคนมาทำงาน เพราะว่ามีคนไทยอยู่ในไซต์งานเยอะ และคนเก่าก็จะลาออก เนื่องจากไม่สามารถทำงานต่อได้

   *กูแค่บอกมึงล่ะ เพราะมึงต้องมีงานที่ทำ*

   -ยังดีนะที่มีคนยังคิดถึงกูอยู่-

   *มีสิ ทำไมคิดว่าไม่มีล่ะ คิดถึงทุกวินาทีเลย*

   -ไม่ต้องเลยไอ้วัวแก่ เลี่ยน-

   ผมคุยอยู่กับมันสักพัก ไอ้พลเดินเข้ามาบอกว่า ขอคุยกับผมหน่อย

   *ว่าไงล่ะ ว่าไป*

   -ผมได้งานใหม่ที่ .................... ให้เงินเยอะกว่า ตำแหน่งดีกว่า พี่เก่งว่ายังไงบ้างครับ-

   ผมถอนหายใจก่อนจะบอกว่า

   *แล้วแต่เอ็งจะคิดนะ ให้มองต่าง ๆ มุม เอ็งได้เงินดีกว่า ได้ตำแหน่งดีกว่า มันก็ดีสำหรับตัวเอ็ง แต่ว่าลองคิดในอีกแง่หนึ่ง ที่นี่เขาให้โอกาสเอ็งหลังจากที่เอ็งเรียนจบ เงินเดือนไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เอ็งต้องเกรงใจคนที่เขาให้งานเอ็งทำด้วย เพราะเขาให้งานทำ แสดงว่าเขาหวังกับตัวเราเหมือนกัน*

   *เลือกอะไรก็ได้ ที่เหมาะสมกับตัวเอง และไม่เดือดร้อนคนอื่น* ผมกล่าวในที่สุด

   -ผมเลือกอยู่กับพี่ก็แล้วกันครับ พี่คงไม่ใจร้ายเซ็นไม่ผ่านให้ผมตอนทดลองงานเสร็จนะครับ-

   *รับปากไม่ได้หรอก ต้องดูที่ผลงาน*

   ตอนเย็นผมพามันลงกินข้าวที่ด้านล่างอพาร์ทเมนท์ กินเสร็จเราสองคนเดินเล่นต่อที่แม่น้ำข้าง ๆ อพาร์ทเมนท์ มีคนสองสามคนออกกำลังกายอยู่แถวนั้น

   *แฟนพี่เก่งเป็นไงบ้างครับ*

   -ก็ดี ทำไมเหรอ-

   *คิดถึงกันหรือเปล่า อยู่ไกลกันแบบนี้*

   -คิดถึงสิ แต่ว่าถึงจะไกลยังไงก็ยังคิดถึงเท่าเดิม-

   *ดีจังเลยนะครับพี่ ผมอิจฉาแฟนพี่จัง*

   -พูดผิดหรือเปล่า ต้องบอกว่าอิจฉากูไม่ใช่เหรอ-

   *เออสิพี่* ผมเอามือผลักหัวมันไปด้านหน้า มันหัวเราะแหะ ๆ

   อีกสองวันจะถึงวันเกิดผมแล้ว ไอ้ตี๋มาไม่ได้แน่นอนเพราะมีงานเยอะ แต่มันส่ง EMS เป็นของขวัญมาให้ก่อนแล้ว ผมเปิดดูของด้วยความดีใจ  ข้างในมีของกินพวกน้ำพริกจากขอนแก่นจำนวนหนึ่ง และมีตุ๊กตาหมีสีขาวของโปรดผมพร้อมกับการ์ดใบหนึ่ง

   **** แก่อีกปีแล้ว ไม่ต้องหันไปมองใคร เพราะคงไม่มีใครมอง เจ้าของอยู่ทางนี้ ****
   ผมอมยิ้มก่อนจะโทรศัพท์หามัน ผมวางสายไป ไอ้พลเดินมานั่งที่โซฟา มองดูของบนโต๊ะรับแขกอย่างสนใจ ผมบอกมันว่าวันเสาร์นี้วันเกิดผม

   *พี่มีโปรแกรมอะไรหรือเปล่าล่ะครับ*

   -ไม่มีอ่ะ- ทุกปีผมจะอยู่กับไอ้ตี๋ ปีนี้ อยู่คนเดียวเลยไม่อยากไปใหน

   *ไปเที่ยวกันดีกว่าพี่*

   -ไม่เอาอ่ะ เบื่อเธคเบื่อผับ อายุกูมากแล้วนะเว้ย ไม่ใช่ละอ่อนแบบมึง-

   *ผมอยากไปเที่ยวทะเล*

   -เออ ดีเหมือนกัน เดี๋ยวเอาโน้ตบุ้คเอ็งมาซิ- ที่บ้านผมใช้อินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย สามารถใช้อินเตร์เน็ทที่ใหนก็ได้ในบ้าน ผมเช็ครีสอร์ทที่ผมเป็นสมาชิกที่ Pasir Ris ติดทะเล บัตรสมาชิกของกองทุนสามารถใช้จองห้องพักราคาถูก

   -โอเค ได้แล้ว เราจะไปนอนที่ดาวน์ทาวน์ปาแซรีสกันวันเสาร์นี้ ได้บ้านหลังใหญ่ นอนได้ 10 คนสบายมาก อยากชวนใครไปก็เอา ส่วนพวกกูมีแน่ ๆ 5 คน ของกินไม่อั้น-

   *เย้ๆ เดี๋ยวผมโทรหาเพื่อน ๆ ก่อน*

   เย็นวันเสาร์หลังเลิกงาน พวกเรามีจุดหมายคือดาวน์ทาวน์ปาแซรีส รีสอร์ทตากอากาศ พวกเราไปรถทั้งหมด 4 คัน พร้อมกับขนเครื่องดื่มไปแบบเต็มพิกัด ไอ้พลชวนเพื่อน ๆ มาได้ 5 คน ผู้หญิง 4 ผู้ชาย 1 คน ส่วนของผมมีผู้ชาย 3 ผู้หญิงอีก 2 เป็นทั้งหมด 12 คน ส่วนอาหารไม่ต้อง ผมสั่งมินิบุฟเฟต์อาหารไทย มาส่งถึงที่หมายสบาย ๆ ไม่ต้องเตรียมไม่ต้องล้าง

   ผมกับไอ้พลรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพคอยปิ้งสะเต๊ะและบาร์บีคิวแจกแขกผู้ร่วมงาน ไอ้พลแหย่ผมเรื่องอายุมากตลอดเวลา ผมเอาถ่านป้ายหน้าขาว ๆ ของมันเป็นการแก้แค้น

   เรากินกันดึกถึงราว ๆ ตีสอง พลพรรคเริ่มขอตัวเข้านอนกันหมดแล้ว เหลือไอ้พลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ทุกคนเมาปลิ้นกันหมดเพราะกินเค้กกับเหล้าพร้อม ๆ กัน

   แก้มไอ้พลยังดำเป็นรอยนิ้วมือผมอยู่ ผมยิ้มแล้วเรียกมันกระเถิบมาไกล้ ๆ เพราะมันโงนเงน  ๆ นั่งไม่อยู่กับที่ มันกระเถิบเข้ามาแล้วล้มลงหัวฟุบที่ตักผมทันที ผมเอามือเช็ดรอยเปื้อนออกให้มัน มันยิ่งมุดหัวอยู่ที่หน้าตักผมมากขึ้น ผมเอามือจับหัวมันไว้ มันยิ้มทั้ง ๆ ที่หลับตาปรือ ๆ อยู่ ผมบอกว่าไปนอนได้แล้ว ก่อนจะจับมันหิ้วปีกกลับมาที่ห้อง บ้านหลังนี้มีห้องอยู่ 6 ห้อง นอนได้ห้องละ 2 คนพอดี เป็นอันว่าผมจะต้องนอนกับไอ้นี่ซะแล้ววันนี้ ผมไม่ค่อยเมาเท่าไหร่ แต่มึน ๆ เพราะว่าต้องสงวนตัวไว้เป็นเจ้าภาพดูแขก ดูแลข้าวของ ผมลากมันเข้าห้องนอน ตัวมันหนักเป็นบ้า มันกอดซบผมจากด้านหน้า ได้กลิ่นกายมันเบา ๆ ลอยมา ผมเผลอฝังจมูกลงไปที่ไหล่มันเบา ๆ

   ผมลากมันขึ้นไปนอนบนเตียงได้สำเร็จ ผมถอดแว่นตามันออกวางบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะเดินไปหรี่แอร์ลงสักเล็กน้อย ปิดไฟและมาล้มตัวลงนอน หลับตาไม่พยายามมองเพดาน เพราะมันคงจะหมุนติ้วเลย

   ผมนอนเอามือก่ายหน้าผากสักพัก ไอ้พลมือไม้เปะปะมาจะกอดผม ผมเลยปล่อยให้มันกอดไป ไม่สึกหรออะไรนี่นา อากาศก็หนาวด้วยเมื่อเจอแอร์บวกกับชายทะเล ผมเผลอนอนหลับไปด้วยความเมา

   ผมเริ่มรู้สึกตัวเมื่อรู้สึกถึงได้กับการถูกบุกรุก ไอ้พลเขยิบเข้ามาไกล้ผม เอาKมันที่อยู่ในกางเกงแนบมาที่ตัวผม มันแข็งปั๋งจนผมรู้สึกได้แม้จะอยู่ในกางเกงก็ตามเถอะ แต่มากกว่านั้น มือที่กอดผมอยู่ กำลังกำKผมผ่านกางเกงแล้วขยำไปขยำมา

   ผมเอามือสะกิดมันให้ตื่น มันปล่อยมือจากKผมแต่หันมากอดผมแทน ผมหันหน้ามาทางที่มันนอนอยู่ ก่อนจะโอบเอามันมากอดแนบติดตัวผม ได้กลิ่นลมหายใจอุ่น ๆ ของมันปนกับกลิ่นเหล้า ที่ผมมันมีกลิ่นเหงื่ออ่อน ๆ คงจะร้อนตอนปิ้งบาร์บีคิว

   ผมลองแย้บ ๆ โดยการหอมแก้มมัน 1 ที ไม่มีอาการอะไรตอบสนอง ผมเปลี่ยนเป็นจุ๊บปาก 1 ครั้ง ยังไม่มีอะไรตอบสนอง ผมเลยประกบปากไอ้พลลองดู แปลกแฮะ มันเปิดปากดุนลิ้นสู้ ใหนบอกว่าหลับไง เราสองคนดุนลิ้นกันอย่างเบามือสักพัก ผมเอื้อมไปจับมือของมันมาจับที่Kของผม ส่วนมือผมถอดเสื้อผ้าของทั้งสองคนออกอย่างเบามือ ผมระดมจูบมันไปทั่วตัว กลิ่นหนุ่ม ๆ น่ารัก ๆ ของมันหอมน่ากินมากเลยครับ

   ผมดูดหัวนมที่แข็งชูชันเป็นไตของมัน อีกมือก็บี้หัวที่เหลืออีกข้าง มันร้อง อุ๊ยส์ ครางออกมาด้วยความเสียว ................................................
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 13 / เซอร์ไพรส์
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 31-10-2007 22:54:41
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 13  /  เซอร์ไพรส์

   ผมไซร้ไอ้พลจนมันครางกระเส่า ผมเอามือลองจับKมันดู โอ้โหมันแข็งสู้มือดีจริง ๆ เว้ย เจี๊ยวเล็ก ๆ กระทัดรัดแบบนี้ เนื้อตัวมันเนียนไปหมด หาขนแทบไม่เจอ จนผมอยากจะเปิดไฟให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมกระซิบมันเบา ๆ ด้วยความอยากอย่างถึงที่สุดแล้ว

   *พี่ขอเอานะครับ*

   -เอาอะไรครับพี่เก่ง ผมไม่เอานะ ผมไม่เคย-

   *น่านะ ไม่เคยก็ต้องเคย*

   -อย่าให้เจ็บนะ ผมกลัว-

   ผมจับมันนอนคว่ำหน้าใส่หมอน คลำดูไม่ต้องเปิดไฟผมก็เจอเป้าหมายแล้ว ผมใช้นิ้วหนึ่งนิ้วแหย่เบา ๆ มันกระเถิบหนีแต่รูตอดรัดอย่างเร็วและถี่มาก  ๆ ผมเบามือเรื่อย ๆ จนมันร้องครางหงิง ๆ ออกมาผมถึงหันมาจัดการกับอาวุธผม ผมค่อย ๆ ดันเข้าไปทีและน้อย ไอ้พลร้องเบา ๆ เจ็บ ๆ ผมค่อย ๆ ดันเข้าเบา ๆ จนมิดก่อนจะโม้นตัวลงไปไซร้ซอกคอมันล้วซอยเข้าออกเบา ๆ มันฟิตและรัดลำKผมตลอดเวลา ผมไม่กล้าทำให้มันเจ็บ เพราะมันน่าทะนุถนอมมาก ๆ ตัวนิ่มเนียนไปหมด มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตลอดเวลา ผมเร่งจังหวะซอยเข้าออกเร็วขึ้นท่ามกลางเสียงครางระงมของไอ้พลที่หน้าซุกติดอยู่กับหมอน สักพักนึง รูของมันตอดเร็ว ๆ ขึ้นตุบ ๆ ๆ ผมหยุดด้วยความเสียว ก่อนที่มันจะขมิบอย่างแรงหนึ่งครั้ง ผมเอามือจับดูที่Kเล็กสั้นของมัน ตอนนี้มีน้ำเงี่ยนเปรอะออกมาเต็มลำ มันเยิ้ม ไม่เหนียวและมีกลิ่นอ่อน ๆ หอมมาก ๆ ผมสูดเข้าจมูกยิ่งฮึกเหิม จะไปให้ถึงฝั่งอย่างเร็ว ผมจับมันนอนหงาย ยกขาพาดอก ก่อนจะสับซอยแบบอย่างแรงหน้าผมก้มลงไปดูดซอกคอมันอย่างเมามัน มือมันดึงทึ้งผมผมอย่างแรง ปากก็ร้องครางอือ ๆไม่เป็นภาษาคน ผมเยอย่างเร็วและแรงจนทนไม่ไหว น้ำแตก ใส่เข้าในรูของมัน ผมหอบทับอยู่บนตัวมันอย่างนั้น ไม่ทันได้เอาKออกมาจากรูด้วยซ้ำ ผมจับมันพลิกมาทับตัวผม กอดมันไว้อย่างเบา ๆ ก่อนจะลดตัวมันลงมานอนซบในอกผม จากนั้นผมกับมันก็หลับกันเป็นตายไปด้วยความเมาเหล้าและเมาKอย่างเหนื่อยอ่อน

   ผมตื่นขึ้นมาเมื่อสายแล้ว มึนงงกับเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นอย่างยิ่ง มองไปข้าง ๆ ไม่มีไอ้พลอยู่แล้ว ผมดูนาฬิกา 06.30 ยังไม่สว่างเลย ผมคลำทางเดินออกมาข้างนอก ไม่เจอใคร คงยังไม่มีใครแหกขี้ตาตื่นมาหรอก ฟ้ายังมืดมิดอยู่ ผมมองออกไปไกล ๆ เห็นมีคนนอนอยู่ที่เปลหน้าบ้านไกล้ ๆ กับชายหาด ผมเดินไปช้า ๆ ไอ้พลนั่นเอง

   มันนอนหลับ ผมลากเก้าอี้ไปนั่งข้าง ๆ ไปจับที่ไหล่มัน มันตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ มองหน้าผมแล้วน้ำตาไหล ผมก็ตกใจที่มันร้องให้ เอามือเช็ดน้ำตา มันเบือนหน้าหนีจากผม

   *พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ* ผมบอกมันเบา ๆ  ในใจผมน่ะอยากบอกว่ามึงนั่นล่ะยั่วกูก่อน หนอยเสือกมาจับของกูก่อน แต่ด้วยสำนึกว่า เราเป็นฝ่ายได้ ผมก็สงสารมันจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

   -ผมก็เสียใจที่มันควบคุมไม่ได้ พี่เก่งไม่ผิดหรอก-

   *ขอโทษนะ*

   -ถ้าพี่ผิดผมก็ผิดด้วย ไม่รู้สิพี่ตอนนี้ผมมีความรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น-
   
   ผมปล่อยมันไว้คนเดียว ก่อนเราจะกลับบ้านกันในตอนสาย ๆ ไอ้พลนอนหลับอยู่ในเบาะข้าง ๆ ผม มันคงเพลียและคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ผมยังไม่เลี้ยวเข้าไปในบ้าน แต่ขับรถไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายผมมาหยุดอยู่ที่ริมสันกั้นน้ำของอ่างเก็บน้ำแมคริชชี่

   ผมจอดรถเปิดกระจกทั้งสองด้านลง ก่อนจะนอนหลับบ้าง ไม่รู้นานเท่าไหร่ ผมตื่นนอนขึ้นมา แล้วเอื้อมมือไปปลุกไอ้พล ตัวมันร้อนจี๋ครางฮือ ๆ สงสัยเป็นไข้สูง ผมรีบขับรถกลับบ้านแล้วปลุกมันให้ขึ้นไปข้างบน มันเดินแบบไม่มีเรี่ยวแรง ผมให้มันเกาะหลังกึ่งลากกึ่งเดินเข้าไปในลิฟต์

   ผมขี้เกียจหากุญแจห้องของมัน สงสัยว่าจะอยู่ในกระเป๋าที่ยังไม่ได้เอามาจากในรถ ผมเอามันนอนลงที่เตียงของผม เวลาหนุ่ม ๆ ป่วย ร้อยทั้งร้อยต้องทำตัวออเซาะอ้อนเหมือนเด็ก ๆ

   ผมเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มันก่อนจะเอาข้าวต้มให้กิน แล้วบังคับให้มันกินยา ก่อนผมจะขึ้นไปนอนข้าง ๆ มัน จนเผลอหลับไปในที่สุด

   ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องผมเปิดออก มีคนเปิดไฟในห้อง ผมงัวเงียขึ้นมาดูด้วยความแสบตา ก่อนจะเบิดตากว้างด้วยความตกใจ

   **** ไอ้ตี๋ **** มันบอกว่ามาไม่ได้ในช่วงวันเกิดผม แต่ตอนนี้มันมายืนเซอร์ไพร้ส์วันเกิดผมอยู่ที่หน้าห้อง โดยมีไอ้หนุ่มหน้าขาวแก้มยุ้ยกำลังกอดผมอยู่
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: jb ที่ 31-10-2007 23:58:27
เอาอีกแล้วนะมึงไอ้เก่ง

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 01-11-2007 08:38:29
โด๊นนนนนนนนนนนนน  แน่ คุณเก่ง

โสน้าหน้า 

อิอิ  ล้อเล่นครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-11-2007 09:04:02
 :o :o :o :o
เจ็บแล้วจำเป็นคน
เจ็บแล้วทนเป็นควาย
 :a1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 01-11-2007 09:16:12
รักของเก่งนี่เข้าใจยากแฮะ

เกือบเสียของรักก็เคยมาแล้ว

สงสัยต้องเสียของรักไปจริงๆ  ถึงจะเข้าใจว่ารักไม่ใช่เรื่องล้อเล่นมั้งเนี่ย

น่าแค้นจริงๆ   :เตะ1: :เตะ1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-11-2007 12:43:00
SURPRISE.............. :o12:


มาได้จังหวะมากๆ เลย ตี๋เอ๋ยย    นายจะต้องเจ็บอีกกี่ครั้งนะนี่

เก่งก็นะ อารมณ์พาไปทุกที อันนี้ก็เข้าใจ แต่ว่า สงสารตี๋อ่ะ........... :m16:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 01-11-2007 12:43:35
 o22....
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 01-11-2007 14:16:19
คุณเก่งใจร้ายกับตี๋เล็กอีกแล้วนะ..ห่างกันไม่ได้เลย.....แล้วคราวนี้เรื่องจะเป็นยังไงหล่ะเนี่ย  สงสางตี๋เล็กจังเลยค่ะ
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 01-11-2007 14:43:45
เอาอีกแล้นนะ   สงสารตี๋อีกแล้ว :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-11-2007 15:32:38

............ไอ่ตี๋จะยอมทนแบบควายอีกไหมเนี่ย........ o7 o7
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 01-11-2007 16:57:16
 :m15: ไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว....
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-11-2007 17:29:35
น้ำตาจะไหล

สงสารตี๋

เก่งนะเก่ง

เฮ้อออออออออออออออ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 01-11-2007 19:00:32
เห็นใจทั้งคู่

คุณตี๋คงเข้าใจคุณเก่งนะ -.-
หัวข้อ: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 14 / มนต์รักพริกน้ำปลา
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 01-11-2007 20:57:54
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 14  /  มนต์รักพริกน้ำปลา

   ผมกระโดดลุกออกจากเตียงไปพุ่งไปที่ตัวไอ้ตี๋ แต่ก่อนที่จะถึงตัวไอ้ตี๋ ผมก็ตื่นเสียก่อน อืม ... ผมฝันไปนั่นเอง

   บรรยากาศในห้องเงียบสงัด ไอ้พลหายไปแล้ว ผมเดินไปเปิดประตูห้องมันออกมาดูก็ไม่เจอ ผมหันกลับมาที่ประตูห้องของผม มีโน้ตฉบับหนึ่งติดไว้

   ***** พี่เก่งครับ ผมขอไปอยู่ที่ห้องเพื่อนสักพักนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมต้องบอกพี่ตามตรงว่า ผมทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมพยายามที่จะไม่ชอบผู้ชายและปฏิเสธตัวผมเองตลอดเวลา โดยการมีแฟนผู้หญิง และบอกตัวเองว่าผมต้องเป็นคนปกติ ต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่างทั้งเรื่องการเรียน เรื่อชีวิตส่วนตัว ผมขอไปใช้เวลาตามลำพังสักพักนะครับ เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงเรื่องของความใคร่ในเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้นเอง ผมหวังว่าพี่คงจะเข้าใจ และผมไม่อยากให้มีอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมจะกลับบ้านที่เมืองไทยไฟล้ท์ 23.30 น. คืนพรุ่งนี้ ส่วนข้าวของผมจะมาเก็บตอนเย็นพรุ่งนี้ครับ คงจะได้เจอกับพี่ในตอนเย็นนะครับ ผมขอโทษด้วย ผมสับสนกับตัวเองจริงและรู้สึกเกลียดตัวเองมากจริง ๆ ไว้คุยกันครับ จาก พล *****

   ผมรู้สึกมึน ๆ อาจจะติดไข้จากไอ้พลมาแล้วก็ได้ ดูนาฬิกาเพิ่ง 5 ทุ่มกว่า ผมล้มตัวลงนอนและหลับไปอย่างเหนื่อยล้า ...

   ตอนเช้าตอนขับรถออกไปทำงานผมโทรหาไอ้พล บอกให้มันไม่ต้องคิดมากและไว้คุยกันเย็นนี้หลังผมเลิกงาน ให้ไปที่บ้าน ผมบอกว่าวันนี้จะลางานให้มัน 1 วัน

   วันทั้งวันผมไม่มีกระจิตกระใจทำงานเลย ผมเปิด MSN ทิ้งไว้ เหมือนจะรู้ความคิดผม ไอ้ตี๋มันออนไลน์เข้ามา ที่เมืองไทยคงราว ๆ 9.30น แล้ว มันคงเพิ่งเปิดร้าน ไม่รู้จะมีเวลาคุยหรือเปล่า แต่มันพิมพ์มาหาผมก่อน

   *ไง เก่ง อู้งานเหรอ*

   -ตี๋ มีปัญหาว่ะ-

   *มีอะไร ว่ามาสิ ที่นี่ไม่ยุ่งคุยได้ ไอ้เตยเขาทำงานเก่ง ปล่อยได้แล้วเนี่ย*

   -งั้นเดี๋ยวโทรไป-

   ผมเดินออกไปที่ห้องครัวเล็ก ๆ ในออฟฟิศ ก่อนจะกดโทรศัพท์หาไอ้ตี๋ ผมเล่าเหตุการณ์ให้มันฟังทั้งหมดและขอโทษมันด้วยที่ผิดสัญญากับมัน มันถอนหายใจ 1 ครั้งก่อนจะบอกกับผมว่า

   *เก่ง กูกับมึงคบกันมานาน เรื่องแบบนี้กูเข้าใจ กูก็ไม่ได้ตั้งกฏเกณฑ์ไว้ว่ามึงต้องมีอะไรกับกูได้คนเดียว กูเข้าใจ กูจะบอกมึงว่ากูอยู่ที่นี่ กูก็มีเรื่องอะไรแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่ความรักว่ะ แค่ความอยากชั่วคราว แต่กูไม่ได้มั่วนะโว้ย แค่มีเด็กมาจีบแค่นั้นเองมึงสบายใจได้*

   -สบายใจได้น่ะ สบายTo-dไปกี่ครั้งไม่ทราบ- ผมถามแกมประชด

   *ฮ่ะๆๆๆ หึงล่ะสิ ครั้งเดียวเว้ย กูเมาไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก เอาน่า ไม่สึกหรอเท่าไหร่หรอก*

   ผมไม่ได้มีความรู้สึกโกรธอะไรมันเลย อย่างที่บอกเราอยู่ด้วยกันมานาน สัมพันธภาพของเรามันมากเกินกว่าจะมานั่งเง้างอนอะไรเหมือนสมัยเด็ก ๆ อีกแล้ว ผมกับไอ้ตี๋เล็กคุยกันได้ในทุก ๆ เรื่องไม่ว่าเรื่องเป็นหรือเรื่องตาย

   *ว่าแต่มึงน่ะคิดกับน้องเขายังไง ชื่ออะไรนะ พล รูทเมตนั่นน่ะเหรอ คนที่รับโทรศัพท์เมื่อคืนมั้ง กูโทรไป มันบอกว่ามึงไม่สบายนะ หายยัง*

   -ไม่เป็นไรหรอก กูก็ไม่ได้คิดกับเขาอะไรมาก มันก็เป็นอารมณ์ช่วงหนึ่งแค่นั้นเอง ความอยากที่จะมีอะไรกับใครโดยไม่ได้มีความรัก อีกอย่าง น้องเขาก็มีปัญหาเรื่องนี่ไง การไม่ยอมรับตัวเอง กูสงสารเค้ามากกว่าว่ะ-

   *เก่ง มึงต้องคุยกับน้องเขาล่ะ ให้เขาตัดสินใจเลือกทางของเขาเอง มันโตแล้วนะ เรียนก็เก่งนี่ตามที่มึงเล่าให้ฟัง คุยดี ๆ ล่ะอย่าไปปล้ำมันอีกนะ คราวนี้กูหึงจริง ๆ ด้วย*

   -อย่าเลยมึง เจอเมื่อไหร่กูจะคิดบัญชีคืน ปิดเงียบเลยนะมึงเรื่องไอ้เด็กเวรนั่น เจอหน้าจะต่อยให้ปากแตกเลย-

   *ไม่เอาน่า ใหนบอกเข้าใจ อย่าลืมคุยกับน้องมันดีดีล่ะ สงสารเขา เรื่องนี้กูเข้าใจว่ะ มึงจำเรื่องพี่กลดได้ใหม นั่นล่ะ รายนั้นก็แบบนี้ ตอนอยากมีน่ะอยากมาก ๆ พอมีเซ็กส์กับผู้ชายเข้าจริง ๆ กลับรู้สึกผิดต่อตัวเอง บ้าอยู่พัก กูต้องปลอบอยู่นาน*

   -ปลอบมันเฉย ๆ ล่ะไอ้พี่กลด ไม่ใช่ไปปล้ำมัน-

   *เออ ไม่ต้องย้อนศร ไปทำงานก่อนนะ มีลูกค้ามา เดี๋ยวดึก ๆ โทรมาเล่าให้ฟังหน่อย*

   หลังเลิกงานผมรีบกลับบ้าน ผมไปถึงบ้านตอน 18.00 น. ไอ้พลกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอยู่ ท่าทางมันดูไม่ดีเลย ผมเรียกมันมานั่งคุยกันที่โต๊ะในห้องรับแขก

   *นี่เอ็งจะทิ้งพี่ไปจริง ๆ เหรอ* ผมจ้องหน้ามัน ก่อนจะรู้สึกตัวว่า เฮ้ย ใช้คำพูดผิด

   *พี่จะบอกอะไรให้นะ เรื่องที่แล้วไปแล้ว เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ การชอบผู้ชายด้วยกัน มันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างที่พี่บอกเอ็งก่อนไปเที่ยวจำได้ใหม เอ็งถามเรื่องไปทำงานที่ใหม่พี่บอกว่า เลือกอะไรก็ได้ ที่เหมาะสมกับตัวเอง และไม่เดือดร้อนคนอื่น*

   *คนเรา เลือกที่จะเป็นหรือไม่เป็นไม่ได้ แต่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่กับมันอย่างมีความสุขได้*

   -พี่เก่ง ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนะ แม่ผมอีกคนที่ผมต้องดูแล ผมไม่อยากให้แม่เสียใจ ผมไม่เคยทำอย่างนี้กับใครเลยนะ พี่เป็นคนแรก ผมยอมรับนะว่าผมอยากมีอะไรกับพี่มาก แต่พอเสร็จแล้ว ผมอยากจะฆ่าตัวเอง อยากล้างด้วยน้ำออกไปเยอะ ๆ อยากลืมไปว่าผมทำอะไรลงไป- น้ำตามันไหลออกมา สะอึกสะอื้น

   *พี่เสียใจที่เราสองคนไม่สามารถห้ามความต้องการของตัวเองได้ จนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น อย่าร้องให้เลยนะ เรื่องที่แล้วก็แล้วกันไป เก็บไว้เป็นบทเรียน พี่ขอโทษด้วยเหมือนกัน ตกลงเรื่องงานจะเอายังไง*

   -ผมคุยกับพ่อแล้ว ขอไปทำงานที่โรงงานยาของพ่อ ยังไงก็เป็นธุรกิจของบ้านผมเอง ผมฝากใบลาออกให้พี่ด้วยนะครับ-

   *อืม ดีใจด้วยนะ เลิกร้องให้ได้แล้ว ผู้ชายเขาไม่เสียน้ำตาเวลาถูกปล้ำหรอกนะ* ผมแหย่ให้มันอารมณ์ดีขึ้น

   ไอ้พลมันโผเข้ากอดผมเหมือนเด็ก ๆ ร้องให้หนักกว่าเดิมอีก ผมเอามือลูบหลังมันเบา ๆ ก่อนจะหอมแก้มมันและเช็ดน้ำตาให้

   *ไม่หล่อเลยว่ะ ขี้มูกขี้ตาเกรอะแบบนี้ ไปล้างหน้าไป พี่พาไปกินอะไรก่อนที่สนามบิน เครื่องออกห้าทุ่มครึ่งนี่ใช่ใหม*

   มันเริ่มหัวเราะออกมาได้บ้าง ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะช่วยมันหิ้วกระเป๋าลงไปที่รถ มันหันมามองในบ้านเนิ่นนาน เหมือนอยากจะจดจำอะไรไว้ ผมตบไหล่มันเบา ๆ ก่อนจะลงลิฟต์มาและขับรถไปที่สนามบิน

   เรานั่งกินเบอเกอร์คิงหลังจากที่มันเช็คอินเรียบร้อยแล้ว คุยกันถึงเรื่องงานสักพักมันบอกให้ผมจดเบอร์โทร อีเมล์ MSN และ Skype ในสมุดไดอารี่ของมัน

   *เห็นพี่เก่งใช้ไดอารี่น่ะครับ ผมเลยไปซื้อมาบ้าง*

   -การเขียนไดอารี่ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนตัวเราในแต่ละวัน ว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง ทีหลังเขียนออนไลน์บ้างนะ พี่จะได้แอบอ่านบ้าง-

   ผมจดรายละเอียดของผมลงไปในสมุดบันทึกมันอย่างรวดเร็วก่อนจะยื่นคืนให้

   *อย่าเปิดอ่านก่อนนะ เอาไว้ลับสายตาพี่ไปก่อน* ผมพูดพลางหัวเราะ

   ผมเดินไปส่งมันถึงก่อนตรวจคนเข้าเมือง มันบอกผมว่าถ้ามาสิงคโปร์แล้วจะโทรหา เพราะมันต้องมายื่นเอกสารขอพีอาร์ประมาณเดือนสองเดือนหน้า เด็กที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของที่นี่ จะได้รับเสนอให้เป็นพีอาร์ทุกคน

   มันยื่นบอร์ดิ้งพาสกับพาสปอร์ตให้ตำรวจ Cisco ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ผมกำลังจะหันหลังกลับ ได้ยินเสียงมันเรียกไว้

   -พี่เก่ง-

   มันยื่นหน้าออกมาผ่านช่องทางเข้าเล็กน้อย

   -อย่างผมนี่พอจะเป็นแฟนพี่ได้หรือเปล่า?- มันทำหน้าทะลึ่งทะเล้นน่ารักสไตล์อาตี๋น้อยของมัน ก่อนจะวิ่งไปที่ช่องตรวจ ผมยืนมองมันผ่านช่องกระจก หลังจากมันตรวจเสร็จมันหันหน้ามายิ้มให้ผมผ่านกระจกกั้นไกล ๆ ผมทำมือไขว้กันเป็นรูปตัว X แล้วโบกมือให้ มันเอามือทำส่งจูบให้ผมแล้วโบกมือให้ผมเช่นกัน

   ผมเดินกลับมาที่รถอย่างใจหาย เฮ้อ อยู่คนเดียวเหงาอีกแล้ว ว่าแล้วกลับไปเล่น sex-cam กับไอ้ตี๋เล็กที่บ้านดีกว่า ผมขับรถออกมาจากสนามบนชางงีด้วยใจห่อเH่ยวที่คิดว่าต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ........

ปล. ผมเขียนในไดอารี่ไอ้พลว่า *คนเรา เลือกที่จะเป็นหรือไม่เป็นไม่ได้ แต่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่กับมันอย่างมีความสุขได้* ขอโทษด้วยที่ดุไปหน่อยที่ทำงาน ถึงดุ .. แต่ก็เอ็นดูเด็กน่ารักอยู่คนนึง ตั้งแต่วันนั้น..วันที่พี่ไปตักพริกน้ำปลาที่ Bingo night น่ะครับ จาก พี่เก่ง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-11-2007 21:09:35
ช่วงชีวิตหนึ่งก็ต้องเจอกับมัน
ความอ้างว้างและอยากมีอะไรแปลกๆใหม่ๆ
 :a6: :a6: :a6:
ไม่น่าหลงกลคนแต่งเลยตรู
 :m19:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-11-2007 21:23:31
555 อ่านตอนกแรกถึงกับมีจี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :serius2:

แต่ดั้นเป็นแค่ฝัน......โล่งอก

ว่าแล้วก็เห็นใจคนที่ต้องปกปิดตัวเอง มันคงลำบากใจเนอะ.......ที่จิงทำตามใจตัวเองเหอะ

แล้วถ้าจะปกปิดก็อย่าไปแต่งงานเลยน่ะ สงสารผู้หญิงเค้า....เค้าไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้ผิด ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยน่ะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 - อวสานครับ .... จริง ๆ น้า .. ไม่ได้หลอก
เริ่มหัวข้อโดย: Solaris ที่ 01-11-2007 21:34:13
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 15 /  ฝันที่เป็นจริง

   หลังจากไอ้น้องพลน่ารักกลับเมืองไทยไป ผมก็ไม่ข่าวอะไรจากมันอีกเลย ไอ้ตี๋กำลังติดต่อสมัครงานเพื่อกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง เมื่อน้องเตยซึ่งแกร่งกว่าที่ใคร ๆ จะคาดคิด อาสารับทำงานที่บ้านทั้งหมดเอง เด็กที่เติบโตมาในบ้านที่ทำกิจการ ในบางทีอาจจะไม่รู้ตัวเองเลยว่า ตัวเองมีความสามารถมากขนาดใหนจนกว่าเขาจะได้ทำงานนั้นเต็ม ๆ ตัว เพราะเขาได้ซึมซับเอารายละเอียดของงานไว้ในสมองของเขามาชั่วชีวิตแล้ว

   ผมก็ยังใช้ชีวิตโดยปกติของผมต่อไปเรื่อย ๆ ในที่สุด ไอ้ตี๋ก็ได้มาสัมภาษณ์งาน มี 2 บริษัทที่เรียกมันสัมภาษณ์ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอไอ้ตี๋อีก เราไม่ได้หลายเดือน มีอะไรเกิดขึ้นตั้งมากมาย แต่ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดีที่จะได้เจอตัวมันเป็น ๆ วันอาทิตย์ผมใช้เวลาทำความสะอาดบ้านทั้งวัน เพราะผมเป็นประเภทลุย ๆ (ขี้เกียจสิไม่ว่า)

   วันจันทร์เวลา 22.30 เป็นเวลาที่ไอ้ตี๋จะเดินทางจาก กทม มาพบผมที่นี่  ผมขับรถไปนั่งกินเบอเกอร์คิงรอมันอยู่ที่สนามบิน ผมเหลือบมองที่มอนิเตอร์พบว่า เครื่องของมันลงจอดเรียบร้อย ผมไปยืนรอมันที่ทางออกตรงกับสายพานรับกระเป๋าของมัน

   อีก 30 นาทีพบเห็นมันโบกมือให้ผมก่อนจะไปเอากระเป๋าออกมา ผมเข็นกระเป๋าให้มัน ปากมันก็จ้อไม่หยุดเรื่องการเดินทาง ผมได้แต่มองมันเป็นระยะด้วยความดีใจ ในที่สุดเราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเสียที

   *แต่ก่อนอื่นใด มึงต้องสอบสัมภาษณ์ให้ผ่านนะ ภาษาอังกฤษลืมหมดหรือยัง หรือว่ากลับบ้านไปพูดภาษาอีสานอย่างเดียว* ผมแซวมัน

   -ภาษาอีสานนี่ลงในใบสมัครได้ใหมวะ ว่าเป็นความสามารถพิเศษ-

   *แหงล่ะ เพราะว่าคนงานส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยอีสาน การสื่อสารก็สำคัญ* ผมแนะนำมันไประหว่างที่เราขับรถไปตามถนนกลับบ้าน ผมเอื้อมมือจับมือมันไว้หนึ่งข้าง

   *ดีใจใหมวะ ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว*

   -ดีใจสิ นึกว่ากล่อมน้องรูมเมตไว้จนไม่อยากกลับเมืองไทยแล้ว-

   *ไม่อยากให้มันกลับเท่าไหร่หรอก ว่าแต่ เมียหลวงจะยอมหรือเปล่าล่ะ*

   -ใครเมียมึง กูเพื่อนมึงต่างหาก-

   *จ้า เมียจ๋า คืนนี้จะคิดดอกเบี้ยทบต้นให้เรียบร้อยนะจ๊ะ ล้างTo-dรอได้เลย* ผมหัวเราะคิกคักที่แหย่มันได้สำเร็จ

   *ว่าแต่หิวใหม ที่ห้องไม่มีอะไรกินเท่าไหร่นะ แวะกินข้าวก่อนสิ*

   -ดึกแล้วนะ เดี๋ยวมึงก็ไปทำงานอีกพรุ่งนี้-

   *ไปต้มมาม่ากินที่บ้านละกัน โทษทีนะ มาถึงวันแรกต้องกินมาม่า*

   เราเปิดประตูเข้าห้องเข้ามาอย่างมีความสุข เหมือนกับอะไรที่ขาดหายไปมันกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง ผมเข้าในครัว หยิบกับข้าวที่ผมทำไว้มาอุ่น

   -ใหนบอกไม่มีของกินไง-

   *เอ้ากะให้เซอร์ไพร้ส์ พรุ่งนี้ค่อยเก็บของก็แล้วกันนะ รีบกินรีบนอน กูไม่มีเวลามาก พรุ่งนี้ต้องทำงานเช้า*

   -ใช่ ๆ รีบกินจะได้รีบนอน- มันทำหน้าทะเล้นใส่ผม ผมเบิร์ดกะโหลกมัน 1 ที

   *อย่ามาเล่นลิ้น ให้ไวเลยนะ*

   คืนนั้นเรานอนกอดกันอยู่ทั้งคืน ให้สมอยากที่รอคอยกันและกันมานานแสนนาน

   *เก่ง กูคิดถึงมึง*

   -กูก็คิดถึงมึง อยากอยู่ไกล้ๆ มึงแบบนี้ตลอดไปเลย-

   *ไม่อยากไปใหนแล้ว*

   -กูเหมือนกัน- ผมหอมแก้มมันเบา ๆ ดึงมันเข้ามาซุกอกของผม วินาทีนี้ผมมีความสุขมากที่สุด เอาอะไรมาแลก ผมคงยอมได้ยาก ...

   ผลการสัมภาษณ์งาน ไอ้ตี๋ได้งานทำที่บริษัทน้ำมันอยู่ไกล้ ๆ กับแถวที่ผมทำงาน เงินค่อนข้างดี สวัสดิการก็ดีมาก ๆ ถึงขนาดมีรถให้ใช้ฟรี ๆ น้ำมันก็เติมให้ มีค่าเช่าบ้านให้อีกต่างหาก ผมอิจฉามันเล็ก ๆ

   แต่กว่ามันจะได้เงินมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะมันต้องทำงานหนักกว่าผมอีก ในต่ละวัน มันจะกลับมาด้วยท่าทางกะปลกกะเปลี้ยหมดเรี่ยวหมดแรง ผมสงสารมันมาก ผมบอกว่าไม่ต้องทำงานบ้านหรอกผมจะรับอาสาทำเอง

   ที่ทำงานของมันรับลูกน้องให้มัน 1 คนเป็นวิศวกรไทย เด็กจบมาใหม่ ๆ จาก กทม ชื่อ มานิตย์ บางวันหยุด เราก็ไปเดินย่านคนไทย กินกับข้าวไทยด้วยกัน

   ผมบอกให้ไอ้ตี๋ตั้งใจเก็บเงินถ้าทางบ้านไม่เดือดร้อนอะไรแล้ว ตอนนี้น้องเตยคุมบังเHยนเป็นเจ้ใหญ่ไปแล้ว พ่อของมันก็นั่งนับเงินอย่างเดียว เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วย อาการของท่านดีวันดีคืน เพราะได้ยาหม้อของหลวงพ่อมาต้มกินทุกวัน ไอ้ตี๋จะเอาเงินเข้าบัญชีพร้อม ๆ ผมทุกเดือน ค่าใช้จ่ายในส่วนกลาง เราหารครึ่งกัน เพราะผมบอกว่า ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน

   เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันสองคนมาเรื่อย ๆ แบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มาถึงแบบไม่ทันตั้งตัว........

   23.00น. ผมเลิกงานแล้วแวะกินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ทำงานเดียวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ สั่งบะหมี่น้ำแล้วนั่งกินของทอดชุดใหญ่รออาหาร เมื่อบะหมี่มาผมใช้ตะเกียบคีบเส้นเข้าปากทันที จะด้วยปริมาณเส้นที่มากไปหรืออย่างไรไม่ทราบได้ เส้นหมี่ติดคอผมอย่างแรง ผมเอามือกุมคอไว้ ตาเหลือก หายใจไม่ออก

   เพื่อน ๆ เอามือทุบที่หลังผมอย่างแรง ผมรู้ ณ วินาทีนั้นเลยว่าระหว่างความเป็นกับความตาย มันอยู่ไกล้กันแค่เอื้อม ในที่สุดเส้นหมี่ก็ลงผ่านคอไป ผมเงยหน้ามองทุกคน ทุกคนหัวเราะเยาะผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด แต่ผมไม่สนุกด้วยเพราะผมรู้สึกเหมือนผมตายไปแล้ว ผมขอตัวกลับทันที

   ผมขับรถมาตามทางด่วนเลียบชายหาด ระหว่างทางเห็นอุบัติเหตุรถชน มีตำรวจอยู่จำนวนหนึ่งเปิดไฟสีแดง อีก 10 นาทีผมเลี้ยวเข้าอพาร์ทเมนท์ของผม ผมจอดรถแล้วเดินไปที่ลิฟท์ วันนี้โชคไม่ดีเลย แทบตายแน่ะบะหมี่ติดคอ ไอ้ตี๋คงหัวเราะเยาะผมแน่ ๆ เลย ผมนึกในใจ อีกสักพักมันคงกลับแล้ว เห็นว่ามีเรือที่ต้องออกเช้าพรุ่งนี้ เย็นนี้ต้องทำงานให้เสร็จ

   ผมเปิดประตูห้องเข้าไป รู้สึกใจหายแวบนึงที่ไม่เห็นรองเท้าของมันวางที่ชั้นวางรองเท้าหน้าห้องเหมือนทุกวัน ผมอาบน้ำเสร็จ เปิดคอมพิวเตอร์ เงยหน้าดูนาฬิกา 24.00 แล้ว ทำไมไอ้ตี๋ยังไม่มาอีก  ผมเช็คเมล์สักพัก มีเสียงโทรศัพท์จากโทรศัพท์มือถือเข้ามาหาผม

   *คุณ ภัทรพล ใช่ใหมครับ* เสียงผู้ชายพูดปลายสายเป็นภาษาอังกฤษ

   -ใช่ครับ- ผมกรอกเสียงลงไปเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน

   *ผมโทรจาก Central Police (ตำรวจกลาง) คุณคือเพื่อนของคุณ ......... ใช่หรือเปล่าครับ* ผมตกใจเล็กน้อยว่าจะมีอะไรหรือเปล่า ความคิดแรกคือ ไอ้ตี๋จะโดนจับ

   -ใช่ครับ มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเขาหรือเปล่าครับ-

   *ทางตำรวจกำลังจะขึ้นไปที่ห้องของคุณภายใน 5 นาทีครับ ห้องของคุณอยู่ที่ ................... ใช่ใหมครับ*

   -โอเค-    ผมรับปากอย่างงง ๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรอตำรวจ

   สักพักมีนายตำรวจ 2 นายเดินเข้ามา แสดงบัตรและขอผมดูว่า มีเอกสารของไอ้ตี๋อยู่ที่ใหนบ้าง ผมพาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มีพาสปอร์ตตัวจริงของมันอยู่

   -คุณเป็นอะไรกับ ........ครับ-

   *เพื่อนครับ เรามาจากเมืองไทยด้วยกัน มีปัญหาอะไรกับเขาครับ*

   -คุณจะสามารถติดต่อญาติคุณ .............. ได้ใหมครับ-

   *เขาไม่มีใครครับในสิงคโปร์มีผมคนเดียว* ผมร้อนใจ มีปัญหาอะไรทำไมตำรวจไม่พูด ผมคิดว่า ตำรวจคงกักตัวมันไว้

   *เพื่อนผมอยู่ที่ใหนครับ กรุณาบอกผมด้วย*

   -ตอนนี้ปลอดภัย อยู่กับตำรวจนะครับ- ผมนึกในใจว่ามันไม่ได้พกพาสปอร์ตไปหรือเปล่า แต่มันไม่ได้หนีเข้าเมืองนะ มันมีบัตรพลเมืองถาวรแล้ว (PR: Permanent residence)

   *ผมชื่อ ผู้กอง ............ ตอนนี้เพื่อนของคุณอยู่กับตำรวจ*

   *ผมอยากให้คุณไปพบเขาเดี๋ยวนี้ได้ใหมครับ* ผมตอบตกลงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเงิน และกุญแจบ้าน ผมใส่รองเท้าแตะเดินตามตำรวจไป ระหว่างลงลิฟต์ ตำรวจถามผมอีกหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับไอ้ตี๋เช่น เขามีความเครียดใหม มีปัญหาเรื่องเงินหรือไม่ กินเหล้าหรือเปล่า ผมตอบว่าไม่มี กินเหล้าอาจจะมีบ้างตามาประสาเพื่อนฝูง

   ตำรวจพาผมขับรถมายังเส้นทางถนนเลียบชายหาด ผู้กองท่านนั้นกล่าวขึ้นเบา ๆ

   *ทางเราพบ “ร่าง (Body)” ร่างหนึ่ง เราสงสัยว่าจะเป็นเพื่อนของคุณ คุณอย่าเพิ่งตกใจนะครับ เราแค่สงสัย อาจจะไม่ใช่ก็ได้ มีอุบัติเหตุรถชนคน เกิดเมื่อเวลาราว ๆ 23.30 น ครับ*

   ผมตกใจเป็นอย่างมาก ผมถามว่าร่าง หมายความว่าอะไร ตำรวจไม่ตอบ บอกให้ผมทำใจเย็น ๆ

   ผมเดินลงจากรถตำรวจไปช้า ๆ มีรถฉุกเฉิน (Paramedic) มารออยู่แล้ว เปิดไฟสีแดง ที่กลางถนนเลนที่ 4 มีพลาสติกสีขาวคลุมอะไรสักอย่างอยู่ ผมเดาว่าต้องเป็นร่างที่ว่าแน่ ๆ

   ผมภาวนาด้วยใจเต้นตึกตัก อย่าให้เป็นไอ้ตี๋เลย ตำรวจกันผมไว้ ก่อนจะถามผมว่า แน่ใจว่าจะดูใหม ผมพยักหน้า

   สิ่งที่โผล่พ้นพลาสติกสีขาวออกมาคือ ขาคน ............ ผมถลาเข้าไปทันที ไม่ต้องเปิดออกมา ผมก็จำได้ว่ามันคือขาของใคร

   *ไม่ ไม่จริง ไอ้ตี๋*** ผมร้องตะโกน จนสุดเสียง ตำรวจรีบวิ่งมาดึงผมออกไม่ให้ผมเข้าไปจับตัวมัน ผมตะโกนเป็นภาษาอังกฤษว่า เปิดออกเดี๋ยวนี้ !!!  มีตำรวจสองนายล็อกแขนผมไว้ ผมยืนไม่อยู่แล้ว เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นถนน

   ตำรวจเปิดพลาสติกที่คลุมออกช้า ๆ ผมเห็นหน้าไอ้ตี๋มีเลือดออกเต็มไปหมด ตำรวจเปิดมาถึงแค่อก ผมร้องออกมาดัง ๆ

   *ไอ้ตี๋เล็ก!!!!!!* ผมทรุดนั่งลงไปกับพื้นอีกครั้งทั้ง ๆ ที่พยายามจะลุกขึ้น ตาค้าง หายใจไม่ออก ตำรวจรีบเอาผมมานั่ง ก่อนจะคลุมร่างไว้เหมือนเดิม

   -คุณยืนยันได้ใหมครับว่าเขาคือเพื่อนของคุณ-

   ผมพยักหน้ารับช้า ๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5 – ตอนที่ 16 /  Finale’ *** อวสาน ***

   27/05/2007 ผมนั่งอ่านเรื่องสั้นของตัวเองในเว็บแห่งนี้ ที่เขียนลงไปได้ 4 เรื่องแล้วปิดคอมพิวเตอร์ หยิบเอาไดอารี่ปกสีฟ้า สีที่คนที่ผมรักชอบมากที่สุดมาเปิดอ่านที่หน้าสุดท้าย ...

---------------------------------------------------------------------

วันที่ 25/06/2006 จากตี๋ ถึง เก่ง

   12.45 กินข้าวเสร็จแล้ว ตอนนี้ยังแอบอู้งานได้ 10 นาที นั่งขี้อยู่ในห้องน้ำ คิดถึงหน้าไอ้เก่งขึ้นมาเลยหยิบไดอารี่ในเป้มาเขียนอะไรถึงมันสักเล็กน้อยดีกว่า

   ** ถึงไอ้เก่งที่รัก เมื่อเช้ากูขอโทษด้วยที่กูดุมึงเรื่องเสื้อกูตัวที่มึงซักแล้วไม่ออก ตอนที่กูเอามาใส่วันนี้ กูถึงรู้ว่ามึงได้พยายามเอาแปรงขัด จนผ้าตรงนั้นพื้นมันซีดกว่าที่ตรงอื่น เพิ่งสังเกตุเห็นนะเนี่ย กูโมโหตัวเองแทนที่กูจะด่าตัวเองว่าทำเสื้อเปื้อนน้ำมัน กูกลับไปบ่นมึงตั้งแต่เช้าแบบนั้น มึงเองก็ช่างกระไรทำไมไม่ด่ากูตอบ แต่กลับไปชงกาแฟมาวางตั้งไว้ให้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่กินกาแฟ มึงคงจะเห็นว่ากูเหนื่อย ๆ กับงานเลยไม่อยากทะเลาะใช่ใหม กูขอโทษนะ ตอนนี้กูขี้เสร็จพอดี ขอตัวไปล้างTo-dก่อน ล้างแบบสะอาด ๆ เย็นนี้จะขอโทษมึงอย่างถึงใจเลย ต่อไปกูจะไม่บ่นมึงอีกแล้ว เพราะมึงทำทุกอย่างให้กูด้วยความรัก กูก็ขอตอบแทนมึงด้วยความรักของกูเหมือนกัน รักไอ้เก่งที่สุดเลย **
   
   ผมอ่านข้อความในไดอารี่สีฟ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เบื่อหน่ายมาตลอดเกือบ 1 ปีที่มันทิ้งผมไป ผมตัดสินใจว่า ในวันครบรอบ 1 ปี 25/06/2007 ที่มันจากผมไปนี้ ผมจะทำอะไรสักอย่าง เป็นของขวัญให้มัน ผมจะเล่าความลับทุกอย่างที่ผมเคยปกปิดมัน ผมจะเล่าเรื่องราวความรักทุกอย่างที่ผมมีต่อมัน ถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ บนโลกใบนี้ได้รับรู้ ว่าผมรักมันมากแค่ใหน ... นั่นคือที่มาของเรื่อง จาก เก่ง ถึง ตี๋ ที่ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย คือตอน 71

   ไม่มีตอนใหนใน 71 ตอนที่จะพิมพ์ออกมาได้ช้ามากที่สุดเท่าตอนที่ 71 .... เพราะผมพิมพ์ไปผมต้องหยุดร้องให้เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ที่ถ่ายทอดออกมาได้แค่ 71 ตอนเท่านั้น .. ผมยังอยากให้เรื่องราวมันมีอยู่ต่อ ไม่มีที่จบสิ้น จนถึงวันที่ผมกับมันอยู่ด้วยกันนานแสนนาน ... แต่ผมทำไม่ได้ ผมไม่สามารถยื้อชีวิตมันไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่ผมรู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น ...

   ผมถึงบอกมันในตอนที่ผมฟื้นจากรถชน ว่าผมไม่ได้ฝันไป มันเกิดขึ้นจริง ๆ แต่ผมก็ไม่คิดว่า มันจะเกิดขึ้นรวดเร็ว และรุนแรงขนาดนี้ คุณผู้อ่านคงเคยมีประสบการณ์ที่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ... แล้วคุณรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่า คุณเคยเจอเหตุการณ์นี้มาแล้ว คุณอยู่ในสถานที่นี่มาแล้ว หวังว่าทุกท่านคงมีคำตอบให้ตัวเองได้นะครับ


บทส่งท้าย

ถึง ไอ้ตี๋ สุดที่รัก ของ เก่ง

      นอนหลับให้สบายนะ แล้วสักวันเราคงเจอกัน รักตี๋เล็กของเก่งเสมอ
         
   เขียนเสร็จ 18/06/07 12.25 ณ  ลานจอดรถซันเทค โซน C
                  alohasunkissอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.sg
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
      
จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 6 – ตอนที่ 1 /  อยากจะบอกเธอ .. คิดถึงเธอ .. เหลือเกิน

   25/06/2007 เวลา 16.00 น. ผมขับรถออกจากที่จอดรถชั้นใต้ดินโซนสีเหลืองของห้างซันเทคซิตี้  จุดหมายคือย่านคนไทย โกลเด้นไมล์ ผมซื้อของได้ครบตามที่ต้องการ มี ส้มตำปูปลาร้าชนิดเผ็ดแบบผิดมนุษย์มนา 5 เหรียญ ขนมจีนเปล่าใส่น้ำปลา 3 เหรียญ ไก่ย่าง 1 ตัว 10 เหรียญ ข้าวเหนียว 2 ถุง 2 เหรียญ โค้กไลท์ 2 กระป๋อง น้ำเปล่าขวดใหญ่ 1 ขวด พวงมาลัยดอกมะลิ 1 พวง และขนมทองหยอด 2 กล่อง 10 เหรียญ

   จากนั้นผมขับรถตรงไปยังท่าเรือชางงี บริเวณหมู่บ้านชางงีวิลเลจ ผมรอเรือข้ามฝากไปยังเกาะ Palau ubin อยู่สักพัก ตัดสินใจเหมาลำไปเลยในราคา 24 เหรียญ เพราะวันนี้วันจันทร์และเย็นมากแล้ว ไม่มีใครอยากข้ามไปเกาะร้างที่ไม่มีใครสนใจแบบนี้ ถ้ารอคนเต็มลำ ราคา 2 เหรียญ

   18.30 น. ผมยืนอยู่ที่ร้านเช่าจักรยานบนเกาะ วันนี้เงียบเชียบเป็นพิเศษเพราะเป็นวันธรรมดา เกาะนี้บรรยากาศเหมือนเกาะหลงสำรวจของสิงคโปร์ เหลือเป็นที่สุดท้ายที่ยังมีชาวเกาะอยู่ ได้ยินข่าวว่าจะมีการอพยพคนเข้าไปในเมืองเพื่อทำรีสอร์ทใหม่เร็วๆ นี้

   ผมเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะแต่ไม่ถอดถุงเท้ามาจากรถที่อยู่อีกฟากแล้ว เริ่มถีบจักรยานพร้อมด้วยสัมภาระไปยังชายหาดเล็ก ๆ เงียบสงบที่เราเคยมาตกปลากันในวันหยุด ทะเลตรงที่แห่งนี้ กึ่งกลางระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่ คือที่ที่ผมลอยกระดูกของไอ้ตี๋มันเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา เพื่ออยากให้มันได้กลับบ้านไปยังทะเลบ้านเรา

   ผมนั่งลงกับหาดทราย แกะห่อข้าวออก แล้วเรียกไอ้ตี๋กินข้าวของโปรดของมัน โดยผมก็กินด้วย ผมกินอย่างละครึ่ง ๆ  เพราะกลัวมันไม่อิ่ม ก่อนจะหยิบเอา ipod ในกระเป๋าเป้ออกมาเปิดเพลง

   ผมใส่หูฟังหนึ่งข้างและเรียกไอ้ตี๋มาฟังหูฟังอีกข้าง เพลงที่ผมกับมันฟังกันอยู่เสมอ ๆ เพลงโปรดของมันนั่นเองทั้ง Only the strongest will survive, Every time you cry, Up town girl, As long as you love me, Wonder wall, ไม่เปลี่ยนใจ (เธอคนเดียว), ฉันรักเธอ (ทาทา-ปอนด์), เอื้อมไม่ถึง, ไว้ใจ, แรงบันดาลใจ, รักแท้ในคืนหลอกลวง .. ฯลฯ ผมแหกปากร้องตะโกนอย่างไม่สนใจใคร เพราะไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย

   บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดลงทุกที เห็นไฟอยู่ที่กลางทะเลแว้บ ๆ ลอยห่างออกไปทุกที คงเป็นไฟของเรือ แต่ผมทึกทักเอาว่า ไอ้ตี๋มันบอกให้ผมไปได้แล้ว ราว ๆ เกือบ 2 ทุ่ม มีเพียงแสงไฟจากเสาไฟริมถนนในป่าเท่านั้น  ไฟบนเกาะต้องใช้เครื่องปั่นไฟ ผมเก็บเศษขยะ ก่อนจะหันมามองทะเลเป็นครั้งสุดท้าย ผมสัญญากับไอ้ตี๋ว่า ถ้าผมยังไม่ตาย ผมจะมาเยี่ยมมันบ่อย ๆ แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้บ่อยนัก ผมก็จะมาที่นี่ทุกปี

   ผมกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล ผมกลัวมันไม่สบายใจ แต่ผมอยากให้มันรู้ว่านอกจากความรักและความคิดถึงของผมที่มีให้กับมันจนล้นหัวใจ ผมยังมีความสุขมาก ๆ เหมือนมันไม่ได้จากผมไปใหนไกลเลย ผมขอใช้เวลาของวันนี้ให้หมดไปกับไอ้ตี๋คนเดียว ขอให้มันรอผมอยู่กับคนเบื้องบน คอยมองผมว่าผมจะเป็นไปอย่างไร .. ผมสัญญาว่าผมยังเป็นคนรักของมันเสมอ ...
   
   ก่อนจะหันหัวจักรยานออกจากหาด น้ำตาผมร่วงเผาะ ผมเรียกไอ้ตี๋เบา ๆ

   “ไม่ต้องอยู่ที่นี่หรอกนะ ไป .. กลับบ้านไปด้วยกัน”

   ผมไม่ยอมให้มันอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก เหงาตายห่าเลย ... ผมถีบจักรยานออกมาจากหาดช้า ๆ น้ำตาไหลแบบชนิดที่ว่าทำนบแตก ... หยุดไม่ได้

   ผมนั่งรอเรือที่ท่าร่วมกับคนจีน เป็นลุงกับป้าแก่ ๆ สองคน เสียงเพลงจากร้านอาหารเล็ก ๆ บนเกาะลอยมาเบา ๆ เป็นเพลงจีน ที่ทำนองเหมือนเพลงไทยเพลงหนึ่ง .. เป็นเพลงที่ผมกับไอ้ตี๋ชอบมาก ๆ เวลาที่เรามีปัญหาด้วยกัน

   กลืนลงไป ....... เจ็บปวดช้ำเท่าใด ... ไม่มีใครรู้ ....

   เรื่องในใจ หากไม่พูดแล้วใคร เล่าใครจะรู้ในความจริง

   เป็นบางครั้งก็อยากจะพูดออกไป ว่าใจฉันมันขื่นขม

   ใจรักเธอ อยากให้เจอเข้าใจ ว่าเธอ ก็ต้องอดทน

   กลืนลงไป เจ็บปวดช้ำเท่าใด อย่าไปให้ใครรู้

   เหยียบเข้าสังคม ที่ผิด ๆ ซึ่งฉันไม่เคย ปราถนา

   ใครเลยจะเข้าใจ ความขมขื่น .. กลืนมันลงไป ..

   ใจรักเธอหากว่าเธอเข้าใจ ว่าเธอ ก็ต้องอดทน ..

   กลืนลงไป .. เจ็บปวดช้ำเท่าใด .. อย่าไปให้ใครรู้

   *** ลูกผู้ชาย ไม่ใช่ไม่มีน้ำตา .. แต่ไม่กล้าให้มันไหลออกมา

   กลืนลงไป เจ็บปวดช้ำเท่าใด .. อย่าไปให้ใครรู้ ****

   ผมร้องให้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร ป้าคนจีนเดินเข้ามาเอาทิชชูให้และปลอบใจ ผมเล่าเรื่องให้ลุงกับป้าฟัง ป้ากับลุงบอกว่า คนเราทุกคนต้องมาถึงจุดหมายปลายทางเดียวกัน ... นี่ล่ะคือชีวิต ...
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 01-11-2007 22:16:28
เราก็ร้องไห้โฮ ออกมาเหมือนกันค่ะ โฮๆ นี้มันเดจาวูชัดๆ

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-11-2007 23:16:02

............อดีตเป้นสิ่งที่กัดกินหัวใจเราตลอดเวลา

...........จนไม่อยากลืมตามาพบกับความจริง......... :o12: :o12:

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Pal ที่ 02-11-2007 02:21:51
ก็ว่าหายไปไหน  ย้ายวิก  ข้ามช่องมาอยู่นี่เอง :laugh:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 02-11-2007 03:34:32
 ตอนแรกก็ยังงงๆ
:m28: :m28: :m28:
ต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ
แล้วก็:o  :o :o

ความรู้สึกตอนนี้
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: kimsumsoon ที่ 02-11-2007 04:04:46
อ่านเรื่องตอนที่ เก่งเจออุบัติเหตุ และตอนที่ตี๋เสียชีวิต
แล้วอดคิดไม่ได้ว่า

ตี๋รับเคราะห์แทนเก่งหรือเปล่าคะ
แบบว่าคิ้มเป็นคนเชื่องมงายน่ะค่ะคิดเป็นตุเป็นตะ

ว้ายยยยยยกลัวค่ะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 02-11-2007 07:24:47
เศร้าอ่า

หลับให้สบายนะครับคุณตี๋  :m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 02-11-2007 07:40:21
สุดท้ายมันก็เป็นความจริง  ฝันที่เป็นจริงแบบนี้ไม่อยากให้เกิดเลย

เป็นกำลังใจให้คุณเก่งนะครับ  ความรักของคุณเก่งที่มีต่อตี๋เลก

ประทับใจมาก  ถึงแม้บางทีจะมีเรื่องหลายๆ อย่าง

แต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นได้

เศร้ามากเลยที่รู้ว่าคนที่รักของคุณจากไป  แต่ก็ดีใจที่คุณได้พบคนที่คุณรักและรักคุณ

  :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

 :m8: :m8: :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-11-2007 08:36:42
หลับให้สบายน่ะคับ ตี๋

คุณเก่งเองก็เข้มแข็งไว้น่ะคับ

คนแถวๆนี้จะคอยเป็นกำลังใจให้  :a1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 02-11-2007 08:41:59
มันเกิดขึ้นจริง ๆ หรือนี่    เศร้า :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 02-11-2007 08:48:57
ได้ตามอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกครับ 

รู้สึกประทับใจในความรักของทั้งสองคน

ขอขอบคุณคุณเก่งที่เอาเรื่องราวดีๆ มาเล่าให้ฟังครับ

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-11-2007 11:14:50
 :o :o :o :o
เกิดไรขึ้นหวา งง
ไปตั้งหลักก่อน
 :a3: :a3: :a3:

เศร้าอ่ะ เพิ่งอยู่ด้วยกันแท้ๆ
กว่าจะมีใครสักคนที่รักมากมาย ไม่ได้หากันวันสองวันเจอนะ
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 02-11-2007 12:03:29
 :sad2:......
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-11-2007 13:08:17
เปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็ว รุนแรง และเจ็บปวดมากๆ  :sad2:

เมื่อความตายมาพรากคนที่รักไป มันคงเป็นสิ่งที่ทมานที่สุดแล้วหล่ะ  o7

เจ็บกว่านี้มีอีกมั้ยยย   :o12:


กว่าคนสองคนจะได้มาเจอกัน รักกัน เข้าใจกัน และได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มันไม่ใช่ง่ายๆเลย
อยู่ๆ เมื่อไม่มีเค้า มันคงทรมานมากๆ เศร้าาาาา  :o11:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-11-2007 15:51:42

ตกลงมันคือเรื่องจริงใช่มั้ยครับ

เศร้าอย่างแรง



 o7 o7 o7 o7 o7 o7



Only the strongest will survive

เพลงนี้โดนอย่างแรงครับ

 :o12:

เป็นกำลังใจให้เก่งนะครับ

 :a1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 02-11-2007 19:52:51
 :m8:อยากบอกว่าอ่านแล้วเศร้าเสียใจมากมายเลยค่ะ...ตี๋เล็กได้ไปสบายแล้วนะค่ะคุณเก่ง  ต้องเข้มแข็งนะ...ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณเก่ง  ต้องอย่าลืมใช้มันอย่างคุ้มค่าและมีความสุขเผื่อในส่วนของคุณตี๋เล็กด้วยนะค่ะ

ปล.คุณเก่งต้องเข้มแข็งนะ  คุณไม่สามารถย้อนไปแก้ไขอะไรได้  ความรักอย่างสมหวังบางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้อยู่ด้วยกัน  แต่ห่างกันแล้วคิดถึงกันก็มีความสุขได้นะ   มันขึ้นอยู่ที่หัวใจของคุณค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ.....

ไม่อยากบอกเลยค่ะ...เริ่มผูกพันธ์กับเรื่องราวของคุณ 2 คนนะค่ะเนี่ย...
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-11-2007 21:23:41
อ่านเรื่องนี้แล้วเศร้าไปเกือบ 4 วันเลย ประทับใจในความรักของเก่งกับตี๋มาก  :m15:  :m15:
ตี๋เล็กไปสบายแล้ว สำหรับเก่งชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป แต่เรื่องของตี๋เล็กคงจะประทับอยู่ในความจำตราบชั่วชีวิต   o7  o7
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: youngest ที่ 03-11-2007 13:23:14
คุณเก่งค่ะ...เมื่อคืนนอนไม่หลับเลยอ่ะ....ปริ้นไปอ่านที่บ้านค่ะ ร้องไห้ซะยังกับญาติเราเสียซะเองเลยอ่ะ

ปล.มีข้อสงสัยไม่รู้คนอื่นมีคำถามเหมือนเราหรือเปล่า?
     1.แล้วคู่กรณีจับไม่ได้หรอค่ะ
     2.แล้วหลังจากคุณตี๋ไม่อยู่แล้ว  ชีวิตหลังจากนั้นของคุณเก่งเป็นยังไงบ้างค่ะ?...มาเล่าให้ฟังกันต่อได้นะ(ปุ๊กสนใจอยากอ่านค่ะ  ชูมือสูงเลยนะ..สองข้างเลยด้วย)
                                         :m13: :m5: :m13: :m5:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ___KuNg_K-J-J___ ที่ 05-11-2007 06:42:30
ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งเดือนหนึ่งแนะ  พอเข้ามาอ่านรวดเดียวจบแต่ปรากฏว่า..........

เศร้าอ่ะ.... :m15:.....สะเทือนจิตใจทันที  นอนไม่หลับเลย....................

ไม่น่าเกิดเรื่องอย่างนี้เลย...แต่ไหนก็ขอให้พี่เก่งสู้ต่อไปนะ...และพี่ตี๋ให้ไปสบายนะ

ยังไงจาเป็นกำลังใจให้ต่อไปนะ .........

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 05-11-2007 17:10:54
ไม่ได้ตามมาสักพัก พอวันนี้ตามอ่านจนทันก็ .......  :a5: แล้วก็  :m8: เลย  :m15:

เศร้ามากมาย

ร้องไห้แบบยกธงยอม o7

ความรักที่ลาจากแบบนี้ มักจะเหลือแต่สิ่งดีๆให้นึกกันเสมอ
 :sad2:

ทำดีๆกับคนที่เรารักเอาไว้นะครับ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง

ขอบคุณ คุณเก่งที่เขียนเรื่องนี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน
ขอบคุณ ไอซ์ ด้วย ที่มาโพสในภาคแรกๆ ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: sasi ที่ 05-11-2007 23:33:25
ไม่นึกเลยว่าเรื่องในภาคนี้จะเป็นแบบนี้อ่ะ  :เฮ้อ:

อ่านแล้วเกือบร้องไห้อ่ะ ไม่รู้สิ ก็ไม่อยากโทษเก่งนะ แต่ดูจากการคิดของเก่งแล้วก็นะ เฮ๊อ
สงสารตี๋ที่สุด เข้าใจความรู้สึกมากๆ เพราะว่า sasi เองก็เกลียดเรื่องการนอกใจมากๆ เพราะรู้สึกว่าการที่เราเป็นแบบนี้ (เกย์) การที่จะมีความรักมันก็ยากแล้ว ยังจะมานอกใจกัน ทำลายความเชื่อใจกันอีก  :m17:

แต่ยังไงก็ขอเอาใจช่วยนะครับ  :a2: ให้รักครั้งนี้ สามารถเดินไปได้เป็นอย่างดี เก็บเอาสิ่งที่เคยผ่านมา มาเป็นสิ่งที่ช่วยให้อนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป มีแต่สิ่งที่ดีๆนะครับ

อย่าทำร้ายตี๋เล็กอีกนะครับ ไม่งั้นจะไม่ให้อภัยคุณเก่งอีกแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 06-11-2007 21:13:48
มาต่ออีกดิ อยากรู้เรื่องต่อจ้ะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ___KuNg_K-J-J___ ที่ 06-11-2007 21:43:43
กลับมาอ่านอีกรอบ รู้ทั้งรู้ว่าตอนจบเป็นไงแต่ก็ยังอยากอ่านอยู่ดีและจะอ่านอีก ไม่รู้ทำไม..........

อ่านเรื่องพี่เก่งตอนอยู่คนเดียวเนี่ยได้อารมณ์.....เหงา....เศร้า.....ชวนเสียน้ำตาจริง ๆ


แล้วที่พี่เก่งบอกว่าอยากเล่าเรื่องราวความรักของพี่กับพี่ตี๋ให้คนอื่นได้รู้ ............................

วันนี้ได้รับรู้เเล้วอยากบอกว่า ถึงแรกๆจะมีหมั่นไส้บ้างแต่สุดท้ายก็ประทับใจมากมาย

และจะคอยเป็นกำลังใจให้กับความรักของพี่ที่มีให้พี่ตี๋...เชื่อว่าพี่ตี๋คงรับรู้และดีใจแน่ ๆ

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 11-11-2007 20:23:09
อ่านเรื่องนี้แบบรวดเดียวจบ
ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลยทีเดียว
เป็นครั้งแรกที่อ่านจบแล้วนั่งนิ่งอยู่หน้าจอ
คุณเก่งกับคุณตี๋...เรื่องของพวกคุณ
จะคงอยู่ในควาทรงจำผมตลอดไป
ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะครับ
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 12-11-2007 00:56:05
 :bye2:
อ่านรวดเดียวจบ
555
ผมอ่านภาคสุดท้ายก่อน แล้วถึงมาเริ่มที่ภาคแรก
ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ
แบบอ่านเพื่อระลึกถึงใครสักคน
คงเป็รความรู้สึกของคุณเก่งเลยนะนี่
หัวข้อ: Re: พี่เก่ง กับ น้องตี๋ จบภาค 4 แล้วคับ...^-^ ..by Kelvin......
เริ่มหัวข้อโดย: snowman ที่ 13-11-2007 03:10:37


เข้ามาอ่าน ... เรื่องของพี่โรงเรียน



เฮ้อ .... เศร้า



แว้บๆ ไปโรงเรียนไปดูบรรยากาศดีกว่า
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: jomjai ที่ 05-12-2007 12:36:29
ผมว่านะบางครั้ง"ความรัก"มันก็ทำให้เราเจ็บปวดนะ
ถึงแม้ว่าบางครั้งเมื่อตอนที่แรกรักมันจะหวานชื่นยังไงก็ตาม
แต่สุดท้ายมันก็ต้องจบลงด้วยความเจ็บปวดไม่ว่าจะเป็นเค้าหรือเรา
ไม่ว่าจะเป็นจบเพราะแยกกัน  จบเพราเลิกกัน  หรือจบเพราะตายจากัน
ไม่ว่าจะเป็นรักแบบพ่อแม่  แบบพี่น้อง  แบบคนรัก สุดท้ายคนที่เจ็บก็เป็นเราอยู่ดี
แล้วเรายังจะเลือกที่จะมีความรักกันอีกเหรอครับ
ส่วนผมนั้นเลือกที่จะให้ได้มากที่สุดก็คือคำว่า"ชอบ"แค่นี้ก็มากแล้วละครับ
เพราะถ้าบอกว่าชอบสุดท้ายเมื่อเค้าจากเราไปก็ทำใจได้ง่ายนะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-12-2007 07:34:28
ขออนุญาตรวมกระทู้ภาค1-4 กับภาค5 เข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกที่คนใหม่จะติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 19-12-2007 00:49:57

>>> เริ่มอ่านเรื่องราวของพี่เก่งกับพี่ตี๋เมื่อวานนี้

มาอ่านจบวันนี้...

บอกตามตรงว่าเคยเปิดเข้ามาอ่านเมื่อนานมาแล้ว แต่สะดุดกับหัวเรื่องที่เคยใช้เลยปิดไป ไม่ได้อ่านต่อ

ผ่านไปนาน ไม่ได้เข้ามาอ่านอีกเลยเพราะคิดว่าเรื่องนี้คงเ_ดกันอย่างเดียวแน่


จนเมื่อวาน... กลับคลิกเข้ามาตั้งใจอ่านไปเรื่อยๆ

ทั้งยิ้ม ทั้งหัวเราะ ทั้งซึ้ง ทั้งคิดมาก มีหมด


จนวันนี้... ร้องไห้

ร้องซะหนักตั้งแต่ช่วงที่เป็นความฝัน (แต่ยังไม่เฉลยว่าเป็นฝัน - พอเฉลยแล้วยิ้มเลย)

แต่พออ่านต่อ ใกล้จบ ... ร้องอีกแล้ว

อ่านจบก็คิด 'ไม่ไหวละ กุต้องเม้นท์แล้วแหละ เข้ามาอ่าน มาร้องไห้ กับเรื่องของพี่เค้าซะขนาดนี้ อยากเม้นท์ อยากให้กำลังใจ'


เรื่องของพี่ๆทำให้ตัดสินใจสมัครสมาชิก    แต่ก็รอให้ใจสงบก่อนแล้วค่อยมาเม้นท์

แว่บไปอาบน้ำ อ่านหนังสือสอบ แต่ใจก็วกมาคิดถึงเรื่องของพวกพี่หลายครั้ง

เหมือนฝังหัวไปเลย ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่กลับเศร้าได้ขนาดนี้


แล้วพี่เก่ง... ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

ขอให้พี่อยู่กับความทรงจำดีๆเกี่ยวกับพี่ตี๋ของพี่นะ พี่เดินต่อไปข้างหน้าเผื่อพี่ตี๋ต่อนะ


พี่ตี๋... หลับให้สบายนะ  เชื่อว่าความรักของพี่ทั้งสองคน ไม่มีวันจางหายไปแน่นอน




ขอบคุณ... สำหรับเรื่องราวความรักของพวกพี่ทั้งสองคน ...



.

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 24-12-2007 16:51:18
 o7 อ่าแล้วทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า เสียใจ และมีความสุขกับรักของพวกพี่จริงๆ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: satan666 ที่ 24-12-2007 20:43:09
เพิ่งอ่านจบค่ะ

เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากๆเลย

รู้ถึงความรักและความเข้าใจกันระหว่างคนสองคนซึ่งต้องมีปัจจัยหลายๆอย่างมาเกลื้อหนุนกัน

ความรักคือการเอาใจใส่กัน เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา
เหมือนอย่างที่พี่ตี๋รักและเข้าใจในตัวพี่เก่ง และพร้อมที่จะให้อภัยคนที่รักเสมอ

ชื่นชมในความใจเย็น และมองสิ่งต่างๆในหลายแง่มุมของพี่ตี๋มากๆค่ะ

พี่เก่งเองแม้จะหลงทำผิดไปบ้าง ซึ่งเป็นความธรรมดาของคนที่ต้องเคยมีสิ่งผิดพลาดและเสียใจ ใครกันจะสมบูรณ์กันได้ทุกคนละ

เวลาที่ผ่านมาทำให้พี่เก่งได้คิดได้บทเรียนชีวิต พอที่จะลบล้างความผิดพลาดที่เคยทำได้ ซึ่งพี่ตี๋ก็พร้อมให้โอกาสเสมอ

ประทับใจความรักที่ยิ่งใหญ่นี้มากค่ะ แถมเรื่องราวในเรื่องยังให้ข้อคิดในหลายๆด้านด้วย

ขอบคุณพี่เก่งที่ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆให้อ่านกัน ขอบคุณพี่ตี๋ในความรักของพี่ที่มีให้พี่เก่งตลอดมา

เรื่องนี้ทำให้ได้รู้ว่า อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ จงอย่าลังเลที่จะทำอะไรดีๆให้คนที่ตนรัก อย่าปล่อยให้เวลาสูญเปล่า จงทำให้ทุกวันนั้นมีความสุข
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: ( = ___ = ) ที่ 25-01-2008 12:22:19
T__T ขอบคุณพี่เก่งสำหรับเรื่องน่าประทับใจของพี่กับพี่ตี๋เล็ก
ขอบคุณคุณไอซ์สำหรับการโพสช่วงแรกๆ
เราเพิ่งมีโอกาสได้มาอ่านอ่ะ ซึ้งแบบเศร้าใจ :เศร้า1: 
ความรู้สึกเดียวกับตอนดูหนังเรื่องLan-yu ไม่มีผิด


เราเสียพ่อไปเมื่อช่วงต้นเดือน ธค. 07 ที่ผ่านมา
ไม่ได้อยากจะบอกว่าเข้าใจความรู้สึกพี่เก่ง
แต่การสูญเสียที่เกิดขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ไม่ว่าเป็นการเสียคนในครอบครัว,เพื่อนหรือคนรัก
มันเจ็บเสมอ น้อยหรือมาก ใช้เวลาน้อยหรือมากใน
การทำใจต่างกันไป......



ตอนนี้ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่ความรักไม่ได้หายไปไหน

เราเชื่อว่าพี่ตี๋ต้องรับรู้ถึงความรักที่พี่เก่งมีให้

และพี่เค้าก็คงอยากจะบอกพี่เหมือนกันว่า....

เค้าก็ยังรักพี่เก่งไม่น้อยลงเหมือนกัน o13




ป.ล. หวังว่าณ.ตอนนี้พี่เก่งคงสบายดีนะ  :m13:

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 27-01-2008 19:38:24
เริ่มรุ้สึกว่าเรื่องนี้มีเค้ารางว่าจะจบแบบเศร้าก็ต้องแต่ตอนที่พี่เก่งเดจาวูแล้วครับ
อ่านถึงตอนจบนี่แทบอยากจะร้องไห้ออกมาเลย  :monkeysad: :m17:
ตอนนั่งอ่านกินข้าวอยู่ แต่พออ่านเรื่องนี้เสร็จแล้วไม่รู้สึกอยากกินอีกเลย
น้ำตาก็ไหลออกมาเอง จนแม่ถามว่าเป็นอะไรไป

เอ่อไม่มีคำพูดใดๆจะมาบรรยายความรักของทั้งพี่เก่งกับพี่ตี๋ได้แล้วหละครับ  :sad2: :m15:
พี่เก่งเองก็คงไม่ต้องห่วงพี่ตี๋แล้วครับ เพราะพี่ตี๋ไปดีแล้ว
ความรักของพี่ทั้งสองคนยังไม่จบนะครับ ถึงแม้พี่ตี๋จะไม่อยู่แล้ว
พี่เก่งได้ถ่ายทอดความรักของพี่ออกมาทางตัวหนังสือ
แล้วผมก็เชื่อว่ามันได้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคน  o7

ขอบคุณพี่เก่งนะครับ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆออกมา  o13
ทำใ้ห้ผมไม่รีรอที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เผื่อที่คนรักเราไม่อยุ่แล้วจะได้ไม่้ต้องมาเสียใจทีหลัง

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 5
เริ่มหัวข้อโดย: pad_kamonwan ที่ 29-01-2008 20:29:56
เศร้าจางเยย น้ามตาไหลพรากเยยอ่ะ :o12: o7 o13
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 30-01-2008 15:46:28
อ่านจบรวดเดียวเลยตั้งกะตื่นตอน 11 โมงมา...

ก่อนอื่นอยากบอกว่าเสียใจด้วยจริงๆค่ะ
เศร้ามาก
...................................
จะบอกว่า หลายๆ ตอนอ่านแล้วอึดอัด ...อย่างมาก
หลายๆตอนอ่านแล้วเศร้าโคตรๆ ...
อยากบอกว่าคุณเก่งโชคดี ที่มีคนดีดี อยู่รอบตัว ไม่ว่าครอบครัว เพื่อน คนรัก
...................................
ก็ขอขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่าประทับใจ ทั้งความรักที่คุณตี๋มีให้คุณเก่ง และคุณเก่งมีให้คุณตี๋
ที่นำมาถ่ายทอดแบ่งปันกันค่ะ
ท้ายนี้ ขอให้โชคดีในทุกๆ เรื่องค่ะ
.....................

ปล. ชีวิตคุณเก่งรถไฟเหาะมากๆ ... อ่านแล้วชีวิตเรากลายเป็นเด็กถีบรถสามล้อไปเลย ..
สู้ๆ 

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: Dentyne ที่ 17-02-2008 00:38:27
 :sad2: :sad2: เกินบรรยายจริงๆ

อ่านแล้วเล่นเอาบ่อน้ำตาแตกเลย  :o12:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ทั้งยิ้มและร้องไห้ไปในเวลาเดียวกัน

ขอให้พี่เก่งมีความสุขมากๆ...และหลับให้สบายนะพี่ตี๋

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: VitamiN ที่ 25-03-2008 16:17:32
 :sad2:
พึ่งจะมาอ่าน รวดเดียวจบ

เสียน้ำตาไปหลายปี๊บ :o12:

ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้ :m15:

ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณเก่งจะเป็นยังไง แต่เราจะเป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:

....
อ่า เราก็คิดนิดๆเหมือนกันอ่ะนะ ว่าคุณเสื้อดำที่มาขวางหน้ารถพี่เก่ง เค้ามาช่วยพี่เก่ง แต่ต้องแลกด้วยชีวิตพี่ตี๋หรือเปล่า.........(แค่คิดเล่นๆค่ะ= =")..เนื้อเรื่องช่วงนั้น อ่านแล้วขนลุกจริงๆ :m23:

เดจาวู เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ถึงแม้บางทีก็มักเห็นเรื่องไร้สาระ ก็ยังอดรู้สึกประหลาดๆไม่ได้= ="(เหมือนมีพลังพิเศษ เหอๆ)



เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ(ถึงแม้ตอนแรกจะคนละอารมณ์กับครึ่งหลังก็ตาม :o8:)

 o13


หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: sweetmonkey ที่ 27-03-2008 23:30:52
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องของพี่เก่ง กับพี่ตี๋วันนี้เอง

อ่านยาวรวดเดียวจบ เพิ่งจบเองนะเนี้ย

อย่างแรกเลยขอบคุณพี่เก่งที่มาแบ่งปันประสบการณ์

และเรื่องราวความรักดีๆ มาให้อ่านกัน

อ่านแล้วให้ความรุ้สึกหลากหลายจริงๆ

ทั้งเศร้า ซึ้ง เห็นใจ สงสาร และสมน้ำหน้า แหมมหลายความรู้สึกเจงๆ

แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าถึงความรักที่พี่ทั้งสองมีให้กัน

เรื่องของพี่ทำให้ ทั้งยิ้ม หัวเราะ และร้องไห้ อ้อขนลุกสู่ด้วย

ตอนที่พี่ประสบอุบัติเหตที่สิงคโปร์นะ ที่ตำรวจเอาภาพมาให้ดูนะ

อ่านถึงตรงนั้นแล้วขนลุก เสีบววาบเลย เหอๆ

ยังไงก้อรู้สึกดีๆ กับเรื่องราวของพี่ทั้งสองคนมากๆเลย

อ่านเรื่องเหมือนได้บริหารต่อมน้ำตา อิอิ

ยังไงก้อสู้ๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: jeng_jey ที่ 10-04-2008 22:14:15
 :o12: :serius2:
 :sad2: :o12:
เป้นเรื่องที่อ่านแร้ว ร้องไห้อ่ะ เศร้า
ตี๋เป้นคนดีอ่ะ รักเดียวใจเดียว
เป้นคนที่ให้อภัยคนรักได้มากมาย
แม้เขาจะทำเราเจ้บปวดแค่ไหน
สำหรับเราแล้วคงทำไม่ได้อย่างตี๋เล็กกก
เพราะสำหรับเราครั้งเดียวก็เกินพอ
ก้อม่ายรุ้สิ สำหรับเก่งไม่มีไรจะพุดอ่ะ
เพราะเก่งก้อเป้นคนที่มั่นใจในตัวเอง
ในความหล่อของตัวเอง
ที่บอกว่ารักเท่าเดิม ....แต่มีคนอื่นอะนะ
แล้วถ้าตี่ทำแบบนี้กับเก่งบ้าง
เก่งก้อคงรับได้สินะ
แต่มันก้อผ่านมาแร้ว
ขอเก็บตี๋เล็กไว้ในความทรงจำตลอดไป
อินไปป่าวเนี่ย....เหอะๆๆๆๆ
เชื่อว่าเรื่องนี้ จากเก่งถึงตี๋ คนที่เข้ามาในเวปต้องอ่านกันทุกคนนนน
เพราะมันดีมากมาย................
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 16-04-2008 22:06:34
โนคอมเม้น :m15: :m15: :m15:

ผมร้องไห้ไปรอบตอนที่เก่งหลับไป 2 วันเกี่ยวกับความฝัน

นึกว่ามันจะไม่มีอะไรแล้ว สุดท้ายกลับกลายมาตรงที่ "ฝันที่เป็นจริง"

ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะพระเจ้าช่างกลั่นแกล้ง ทำไมคนรักกัน ท่านถึงได้ประทานความตายมาพรากเค้าจากกัน

ผมก็อยากจะเจอรักแท้แบบนี้บ้างจัง แต่ถ้าเจอแล้วต้องเป็นแบบนี้ ขอไม่เจอดีกว่า

ปล. คุณตี๋เสียไปได้ 1 ปี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งเลยคับ

หลับให้สบายพักผ่อนอย่างสงบ ถึงเราจะไม่รู้จักกันแต่อ่านจากเรื่องที่คุณเก่งเอามาเล่าให้ฟัง

พวกเราจะจดจำความรักของคุณเก่งกับคุณตี๋ไว้ตลอดไป
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: blackberry2214 ที่ 08-05-2008 13:44:25
อ่าน รวดเดียวจบ


คิดถึงพี่เก่งกับพี่ตี๋มากๆๆ


ซึ้งกับความรักที่มีของพี่ทั้งสองคน

ขอให้มีความสุขกันมากๆ ต่อไปนะคร้าบ ถึงจะไมไ่ด้อยู่ด้วยกันแล้วก้ตาม
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: assortment ที่ 15-05-2008 14:32:43
ไม่เคยเป็นแบบนี้มากก่อน

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันซึ้งกินใจจิงๆ

ร้องไห้บ้าไปคนเดียวในห้องนอน

หลับให้สบายนะตี๋

เก่งก็อย่าเจ้าชู้มากนักนะครับ เป็นห่วง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: Aofering ที่ 16-05-2008 12:22:45
ถึงพี่เก่ง
   
                     ขอบคุณมากๆคับ สำหรับเนื้อหาทั้งหมด

ที่พี่เก่งได้ถ่ายทอดให้เราๆได้ชื่นชมกับความรักของพี่เก่งที่มีให้กับพี่ตี๋

อาจมีบางตอนที่พี่เก่งอาจนอกใจพี่ตี๋ไปบ้าง

แต่พี่เก่งก็คงอยากแสดงให้รู้ว่า พี่เก่งผิดต่อพี่ตี๋อย่างไร

....

เข้าใจพี่เก่งคับ กับการสูญเสียแบบนั้น

อ่านแล้วคิดถึงเพื่อนสนิทตอนมหา'ลัย ปี 2

รูปแบบการเสียชีวิตคล้ายๆกัน ... มันทำให้อ๊อฟคิดถึงเพื่อนมากๆ

ร้องไห้ให้กับเรื่องของพี่เก่งกับพี่ตี๋ แล้วก็คิดถึงเพื่อนคนนั้นที่จากอ๊อฟไปนานแสนนาน

....

ตอนนี้พี่ตี๋คงจะมองพี่เก่งอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้

ยังคงมองตากับพี่เก่ง อย่างที่พี่เก่งคอยบอกเสมอว่า

" แค่มองตาก็รู้ใจ " พี่ตี๋คงอยากอยู่กับพี่เก่งเสมอ

เรื่องๆนี้ อ๊อฟคิดว่าพี่เก่งคงเขียนออกมาให้อ่านได้อย่างลำบาก

แต่ก็ขอขอบคุณน่ะคับ ที่สามารถเอามาลงให้เราๆได้อ่านกันจนจบ สมบูรณ์

....

ใครจะว่าพี่เก่งเป็นคนไม่ดี (อ๊อฟก็คิดไว้ในตอนแรกน่ะ  :m23:)

แต่เมื่อได้อ่านจบ ต้องบอกพี่เก่งเป็นคนที่ยังน่ารักเสมอ ยังคงรักพี่ตี๋ไม่เปลี่ยนแปลง

พี่เก่งไม่จำเป็นต้องเขียนลงในนี้ว่ามีกิ๊ก มีคนอื่นก็ได้ แต่พี่เก่งเลือกที่จะเขียน

เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ความจริง ได้รับความรู้สึกผิดทั้งหลายที่มีต่อพี่ตี๋

หากพี่ตี๋ได้อ่าน อ๊อฟคิดว่า พี่ตี๋ต้องหัวเราะเบาๆ แล้วมองตากับพี่เก่งแน่ๆเลย

.....

สุดท้าย ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของพี่ตี๋ด้วยน่ะคับ

ถึงวันนี้เค้าจะไม่ได้อยู่กับเรา

แต่ชีวิตเรายังคงเดินต่อไป ในสังคม

เรายังต้องมีภาระที่ต้องดูแล และทำอย่างตั้งใจ

ขอให้พี่เก่งมีกำลังใจในการทำงานต่อไปน่ะคับ

เชื่อว่าพี่ตี๋คงมองพี่เก่งอยู่สักที่ เพื่อที่จะมาให้กำลังใจพี่เก่งอยู่เสมอ



" แค่มองตาก็รู้ใจ มองสายน้ำ มองท้องฟ้า ยังคงมีพี่ตี๋เล็ก ของ พี่เก่งเสมอและ ตลอดไป " ฮึก Y-Y


.....



ขอบคุณสำหรับเรื่องราวต่างๆของพี่ทั้ง 2 คนคับ

Aofering
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 17-05-2008 00:39:36
:sad2: :sad2: :sad2:

พึ่งอ่านจบค่ะ

ร้องไห้มากมายกับเรื่องของพี่

ขอบคุณนะคะสำหรับนำเรื่องราวชีวิตรักของพี่มาให้อ่าน

ถึงจะเศร้าแต่ก็ประทับใจค่ะ

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: BABY_CHICK ที่ 18-05-2008 00:25:24
 :m15:ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาให้อ่านครับ อ่านแล้ว คิดถึงบ้าน คิดถึง ใครบางคน

ทำไมนะ ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราไม่ทำแต่สิ่งที่ดีๆ มีความสุขกันนะ

ชอบเรื่องนี้จังเลยครับ ประทับใจในรัก ของคน 2 คน และครอบครัว

ไม่มีคำบรรยายใดๆ นอกจาก เศร้า ซึ้ง สะเทือนใจสุดๆ

หากว่าเป็นผมนี่คือที่สุดแล้วล่ะ คงไม่ต้องโหยหาความรักอีกแล้วล่ะ ก็ในเมื่อ...มันจะอยู่ในความทรงจำ

อยู่ในลมหายใจเข้า ออก ทุกเสี้ยวเวลาที่นับได้

และกลัวที่สุดคือ การพลัดพราก ที่ไม่จบสิ้นเสียที

เป็นกำลังใจให้เจ้าของเรื่องนะครับ ขอบคุณเบื้องบน ที่ทำให้เรามีรัก...นิรันดร์

 :L2: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: nanalonely ที่ 18-05-2008 02:40:29
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ทีเดียวจบ นั่งอ่านมาทั้งวัน

ซึ้งกับความรักของพี่เก่งและพี่ตี๋เล็กมาก

มีคนไม่มากที่จะรักและเข้าใจกันได้อย่างนี้

พออ่านมาถึงตอนที่พี่ตี๋เล็กเสีย

บอกได้คำเดียวว่ากลั้นน้ำตาไม่อยู่เลย

สงสารพี่เก่งถึงบางครั้งพี่เก่งจะนอกใจพี่ตี๋เล็กไปบ้าง

แต่พี่เก่งก้อรักพี่ตี๋เล็กตลอดและพี่ตี๋เล็กอยู่ในใจพี่เก่งเสมอ

แต่ตอนนี้ขอเป็นกำลังใจให้พี่เก่งนะ

และขอไว้อาลัยให้พี่ตี๋เล็กด้วยอีกคนนึง

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 21-05-2008 00:46:32
เพิ่งอ่านจบ...ไว้อาลัยให้พี่ตี๋เล็กนะครับ

ขอบคุณที่นำเรื่องราวในความทรงจำมาให้อ่านกันนะครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับพี่เก่ง :bye2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: blackberry2214 ที่ 23-05-2008 23:54:04
วันนี้ว่างตอนเย็น กลับมาอ่านอีกรอบ

น้ำตาแตกอีกรอบ

แอบอนาถตัวเอง -*-
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: BABY_CHICK ที่ 24-05-2008 22:41:09
 :m23:คิดถึง ครับ เลยเข้ามาอ่านอีก ได้ล้างตาเรียบร้อย สบายใจดี ยังเป็นกำลังใจเจ้าของเรื่องเสมอครับ :L2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: Doodleberry® ที่ 07-06-2008 21:59:09
แงๆๆๆๆๆ อุตส่าคิดว่าพี่เก่งแค่ฝันไป

แต่มันเกิดขึ้นจริงหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยย  :m15:

ฮือๆๆ เศร้าอ่า

 :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 22-06-2008 13:24:13
อึ้งงงงงงงง  กว่าจะเจอกัน กว่าจะรักกัน  ผ่านอุปสรรค มามากมาย



อุปสวรรค ที่ผ่านพ้นมา มีแต่เจ็บหนัก ล้วนแล้วแต่สร้างแผลใจ ให้กับบุคคลคนนั้น


แต่กลับมาเจอเหตุการที่คาดฝัน แล้ว แต่มานเกิดเป็นจิงง "เดจาวู" บอกอาไรเราได้จริงๆ


อ่านแล้ว รักพวกพี่ๆ จากใจ  จากที่ตอนแรกๆ ผมกะ ว่าพี่เก่งออกจาก เจ้า ชู้ไป มาก  :m23:


และสงสารพี่ตี๋  แต่ตอนนี้ พวกพี่ได้ผานตรงนั้น ไปแล้ว


เรื่องนี้คงสอนอะไรผมได้มาก  ขอบคุนพวกพี่จริงๆ คับ


รักจากใจ By บัน
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: Lalunar ที่ 23-06-2008 20:10:09
                  ได้อ่านเรื่องของพี่เก่งกับพี่ตี๋ แล้วรู้สึกเศร้าจังครับ อ่านอยู่ 2 วันแน่ะกว่าจะจบ เรื่องของพี่เก่งกับพี่ตี๋ให้ข้อคิดอะไรดีๆ ได้มากมายเลยครับ โดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเรารู้ว่าใครคือคนที่เรารักแล้วมีความสำคัญกับเราที่สุดแล้ว ขอให้ทำดีต่อกันไว้ให้มากๆ เพราะเราไม่มีทางรู้ถึงอนาคตได้
                  ส่วนตัวผมยังไม่เคยมีความรักแบบนี้เลย(มีแต่แอบรักเขามา 7 ปีกว่าจะตัดใจได้)แต่ผมก็ยังคงรอครับว่าคนที่เป็นคู่ของผมคงจะมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง
                  สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่เก่งนะครับ พี่คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขกับพี่ตี๋มากๆ แต่อย่าได้ทุกข์ใจหรือโทษตัวเองกับเรื่องเก่าๆ ผมเชื่อว่าพี่ตี๋ก็คงไม่อยากเห็นพี่เก่งต้องมานั่งทุกข์ใจทั้งที่พี่ตี๋ก็จากไปแล้ว ผมเชื่อว่าพี่ตี๋ต้องคอยดูแลพี่เก่งอย่างเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลาแน่ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: εїзป่วงน้อยεїз™ ที่ 24-06-2008 03:07:00
ขอบคุณพี่เก่งที่มาเล่าความทรงจำดีๆให้อ่านนะคะ

:m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: mulli ที่ 05-07-2008 04:49:26
ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจิงๆ หนูขอแสดงความเสียใจมากๆๆๆๆๆ
และหนูหวังว่าพี่คงมีกำลังใจที่ดี
เพราะพีสามรถถ่ายทอดความรักของพี่ออกมาได้น่ารัก
ดีใจด้วยค่ะที่มีช่วงเวลาดีๆในชีวิตขนาดนี้
ไม่ว่าพี่จะได้อ่านหรือป่าว
หนูขอเป็นกำลังใจดีๆ อีกคนให้พี่ค่ะ
ไม่ว่าจะเปนยังไงในอนาคต
พี่อย่าลืมคิดถึงพี่ตี๋ทุกวันนะคะ
เพราะมันจะทำให้พี่ยิ้มได้
หนูเชื่ออย่างงั้นคะ :a2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: Normalblue ที่ 05-07-2008 09:52:39
อ่านจบสักที  เศร้ามา  รอทำใจกว่าจะเขียนคอมเมนต์ได้

ขอคาราวะใสความรักของทั้งสองคนครับ :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 05-07-2008 13:17:34
อยากบอกว่าดีใจมากเลยที่ได้อ่านเรื่องนี้

เเล้วก็ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ไปกับเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น

เรื่องนี้ให้อะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความทุกข์ ความสุข

ครอบครัว ข้อคิด คติธรรม เเละทำให้เรารู้ว่า

"ความรักยังคงอยู่เเม้ร่างกายจะเเตกดับไป"

ขอบคุณพี่เก่งมากมายที่นำเอาเรื่องราวดีๆเเบบนี้มาให้อ่าน

ขอบคุณพี่ตี๋ถ้าไม่มีพี่เรื่องนี้อาจไม่เกิดขึ้น

ขอบคุณพระเจ้าที่สร้างพี่ทั้ง 2 คนเพื่อมาคู่กัน

ขอบคุณเเละขอบคุณ

 :L2: :L2: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: maxt_t ที่ 07-07-2008 22:20:47
รร.ติดแบงก์ชาติหรอเนี่ย 555+

อ่านต่อก่อน ยังไม่จบเลยคัฟ

ทำไงจะเจอแบบนี้บ้างนะเนี่ย

เรียนที่นี้มาจนจะจบมอ 6 แหละ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 11-07-2008 22:06:14
กลับมาอ่านเรื่องนี้ใหม่อีกรอบ คิดว่าน้ำตาต้องไม่ออกแล้ว

ที่ไหนได้อ่านไปน้ำตาไหลไป

เป็นนิยายที่เราประทับใจมากเรื่องหนึ่ง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: tonykung ที่ 15-07-2008 22:53:17
เศร้าอ่ะ
น้ำตาไหลไม่หยุดเลย
ถ้าเกิดไรงี้กะแฟนผม ผมก้คงไม่รุจะทำยังไงเหมือนกาน เฮ้ออ กลัวว้อยยย

ไม่มีคนรักก้มอง :sad2:หา
พอมีคนรักก้อห่วงหา
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: noki ที่ 06-08-2008 17:59:41
ขอบคุณ สำหรับเรื่องราวความรักที่ตั้งใจเขียนและถ่ายทอดมาจากความรัก
ที่คนชื่อ เก่ง มีให้ กับ ตี๋เล็ก อย่างมากมาย เราว่าความรักของนาย
มันมีมากขึ้นเรื่อยๆ นะ แล้วตี๋เล็ก ก็คงจะได้รับรู้ตลอดว่านายคิดถึง
ตี๋เล็กอยู่เสมอ
สำหรับทุกคนที่มีความรักและก้อกำลังจะมีความรักนะ
อยากให้คุณๆ เอาใจใส่ความรักของคุณอยู่เสมอนะ
เพราะการที่เราได้ดูแลคนที่เรารักและรักเรา มันเป็นความสุข
ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่ถ้าได้ทำแล้วใจมันเป็นสุข
ขอบคุณอีกครั้งกับเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: nefkung ที่ 26-08-2008 21:54:06
 :o12:

อ่านมาสามวัน ในที่สุดก็จบ

ทำไมนะทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้

ผมเชื่อว่าพี่ตี๋ ต้องดีใจมากคับ ที่เขาได้รักพี่

และพี่ก็พิสูจน์แล้ว ว่าพี่รักเขาจริงๆ



...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....


สัมผัสแล้วคับ จริงๆ

อ่านจบแล้วไม่ร้องเลย  แต่เซ็งมากกกกกกกกกกกกก :sad2:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 28-08-2008 10:31:29
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: yiyo ที่ 28-08-2008 17:35:06
ขอบคุณพี่เก่งสำหรับเรื่องราวดีๆนี้นะคะ

ขอสารภาพว่ายังอ่านไม่จบ แต่ได้อ่านตอนต้นและ..ตอนสุดท้ายแล้ว

น้ำตาเราไหลพรากๆเลย

รู้สึกประทับใจพี่เก่งมากๆ กับหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง ที่พี่ยังจดจำ และถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างพี่กับพี่ตี๋ได้ดีขนาดนี้

เราเชื่อว่าพี่ตี๋ได้รับรู้แล้ว และพี่ตี๋คงกำลังยิ้มและมีความสุขอยู่ ณ. ที่ใดที่หนึ่งอยู่แน่ๆ

เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกรักคนรอบข้างเราขึ้นมามากๆเลยค่ะ

ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ

เราคงต้องดำเนินชีวิตโดยทำอะไรดีๆให้มากกว่าวันที่ผ่านมา


เป็นกำลังให้พี่เก่งนะคะ พี่เป็นคนเข้มแข็งมาก หวังว่าวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปของพี่จะมีแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิต ^^
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 30-08-2008 22:09:22
ต่อมน้ำตาแตกมากมายตอนช่วงความฝัน
ร้องไห้อยู่หน้าจอคนเดียว.....ตอนจบดันเป็นเรื่องจริงร้องไห้อีกครั้งกับประโยคนี้

ก่อนจะหันหัวจักรยานออกจากหาด น้ำตาผมร่วงเผาะ ผมเรียกไอ้ตี๋เบา ๆ

   “ไม่ต้องอยู่ที่นี่หรอกนะ ไป .. กลับบ้านไปด้วยกัน”


******เก่งรักตี๋เล็ก ตี๋เล็กก็รักเก่ง********

ถึงเขาจะจากไป แต่ความทรงจำดีๆจะอยู่กับเก่ง เข็มแข็งไว้นะ
ขอบคุณเรื่องราวที่น่าประทับใจของคุณสองคน มันช่วยสอนให้เราหยุดคิดถึงตัวเอง
การให้อภัย เวลาที่เหลืออยู่ เราควรใช้ให้คุ้ม เพราะไม่มีอะไรแน่นอน...

หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: LOVE_Child ที่ 05-09-2008 09:48:45
ขอชื่นชมในความรัก  :L2:

ขอไว้อาลัยในการสูญเสีย  :monkeysad:

ขอบขอบคุณที่ทำให้รู้ว่ารักแท้ยังมีอยู่จริง  :pig4:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: sodamini ที่ 11-09-2008 09:18:07
 :m1:รักเรื่องนี้จิงๆๆๆ    **เก่งรักตี๋เล็ก ตี๋เล็กก็รักเก่ง**  นู๋ก้รักพี่2คนด้วย :m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: R@!nY~==~N!GhT ที่ 28-09-2008 02:46:10
ไม่รุ้ว่าจะเริ่มยังไงเลยอึ้งมาก(อ่านวันเดียวจบค่ะ)
ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย
สงสารอ่ะไม่อยากใช้คำนี้นะ
แต่รู้สึกเสียใจไปกับพี่เก่งอ่ะคือแบบมันเหลืออีกนิดเดียวเองอ่ะทำไม่พระเจ้าช่างใจร้ายอย่างนี้อ่ะ
ทำไมให้คนสองคนมารักกันแล้วตามมาด้วยอุปสรรคอีกล้านแปดแล้วทำไมไม่ให้เค้ามีตอบจบที่เค้าควรจะได้รับจากอุปสรรคทั้งหลายที่ฝ่าฟันมาด้วยกัน
อยากจะถามพระเจ้าว่าทำไม
จะขอเป็นกำลังใจให้พี่เก่งสู้ต่อไปนะคะ
พี่ตี๋ขอให้พี่ตี๋ไปอย่างสงบสุข  หลับให้สบายนะคะ

ปล.เรื่องความฝันที่พี่เก่งพูดถึงน่ะ บากครั้งหนูก็คิดว่ามันเกิดขึ้นกับหนูค่ะแล้วก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย  แต่หนูยังไม่เคยเจออะไรที่มันเลวร้ายแบบของพี่  แล้วอีกอย่างหนูมักจะจำไม่ได้ว่าฝันอะไรไปเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วจะมาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มาแล้วก็อีตอนที่มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ซึ่งบางครั้งหนูก็เลือกทำต่างจากที่หนูเคยฝันไว้แต่ช่วงแรกๆ รู้สึกหนูจะทำตามที่ฝันไว้เลย  แต่พอหลังๆ แล้วหนูเริ่มที่จะทำต่างจากฝัน  แต่ก็อย่างที่บอกหนูมันเป็นพวกความจำปลาทองเลยจำไม่ค่อยได้ว่าฝันอะไรไปมั่ง

ดังนั้นหนูจึงอยากให้สิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับพี่เก่ง และพี่ตี๋นั้นมันเป็นเพียงแค่ฝันที่ซ้อนฝันอีกที

รักพี่เก่งกับพี่ตี๋นะคะ
อ่านเรื่องนี้แล้วอยากมีพี่ชายอย่างพี่สองคนจัง ถึงแม้ว่าอีกคนจะไม่ด้อ่านข้อความนี้ของหนูแล้วก็ตาม  แต่ก็ยังหวังว่าซักวันมันจะเป็นฝันที่ซ้อนฝันอีกทีนะคะ
อีกอย่างพิมพ์ไปก็น้ำตาไหลไปเลยค่ะ
สู้สู้นะคะพี่เก่ง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 06-10-2008 12:14:14
เคยเห็นเรื่องนี้มาจากหลายๆเวป แต่ไม่คิดจะอ่านเลยไม่รู้ทำไม
แต่ก็ดีใจในที่สุดเราก็ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้หลุดไป

นั่งทำใจกับภาค 5 นานมากว่าจะอ่านดีมั้ย ยังไงต้องเศร้าแน่
พอจบภาค 5 ไปคิดว่าถ้าไม่อ่านเนี่ยสิน่าเสียดาย แอบเซ็งพี่เก่งหลอกกันได้
แต่ดีแล้วแบบนี้มันดีแล้ว...

แต่ทำไมสุดท้ายถึงกลายเป็นฝันที่เป็นจริงไปได้หล่ะ...ไม่เข้าใจ...

พี่เก่งเข้มแข็งขึ้นแล้วนะค่ะ ขอบคุณที่พี่เก่งรักพี่ตี๋ และพี่ตี๋รักพี่เก่ง

พี่ตี๋มีความสุขมากๆนะค่ะ


(แต่ยังไงก็อยากให้มีคนมาบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง...)

ไม่อยากเสียน้ำตาอีกแล้วนะ

ขอบคุณพี่เก่งกับคุณที่เอาเรื่องราวดีๆมาโพสนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: blackberry2214 ที่ 12-10-2008 19:55:42
อ่านอีกรอบ

ร้องไห้อีกรอบ

คิดถึงพี่ทั้งสองคนนะครับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: ammpy ที่ 19-12-2008 13:07:02
ขอแสดงความเสียใจด้วย
ขอเป็นกำลังใจให้เข้มแข็ง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: sasi ที่ 22-12-2008 13:22:51
:กอด1:จากบรรทัดแรก จนถึงบรรทัดสุดท้าย ทุกตัวอักษรมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่
ขอบคุณคุณเก่งนะครับ ที่มาแชร์เรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
ให้พวกเราได้ร่วมรับรู้ มีความสุข เศร้า หัวเราะ และร้องไห้ไปพร้อมๆกับพวกคุณได้
ขอบคุณเล้าที่ทำให้เราได้รู้จักกัน :L2:

สุดท้ายก็ขออวยพรให้คุณเก่งมีความสุข สามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยคุณตี๋ที่อยู่ในใจคุณเก่งตลอดมา และตลอดไปนะครับ

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมก็ขอบอกเลยครับว่า ผมบูชาความรักที่พวกคุณมีต่อกัน อย่างจริงใจ
ขอให้คุณได้ครองรักกับคุณตี๋ได้ในที่สุด สุดท้ายมนุษย์ก็เท่านี้ เกิดมา ตั้งอยู่ และดับไป :monkeysad:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: myxt ที่ 23-12-2008 22:34:57
ขอบคุณเก่งนะคะสำหรับเรื่องราวทุกอย่าง
บางช่วงบางตอนบอกตรงๆว่าไม่ชอบการกระทำของเก่งซักเท่าไหร่
สงสารตี๋มาก
แต่สุดท้ายก็นับถือความรักที่เก่งมีให้ตี๋จริงๆ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ขอบคุณจริงๆ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: galtype_B ที่ 31-12-2008 00:00:23
 :monkeysad:มาอ่านแบบรวดเดียวจบเลยค่ะ
ขอให้พี่เก่งมีกำลังใจต่อไปนะค่ะ
พี่ตี๋เป้นกำลังใจให้พี่อยู่แน่ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 01-01-2009 20:45:43
(http://img100.imageshack.us/img100/9721/hnyltahsetgp1.gif)


รักมากมาย

^^
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: ืnuttykung ที่ 04-01-2009 05:05:26
ผมเพิ่งเข้ามาอ่านได้2วันคับ


ไล่อ่านจนจบ


ไม่คิดว่าจะเศร้าขนาดนี้  ร้องไห้มากพอๆกับตอนที่ดู The Letter ครั้งแรกเลยคับ


ผมรู้นะคับว่าถึงเข้ามาเขียนตอนนี้พี่เก่งก็ไม่ได้เข้ามาอ่านเพราะดูจากuserแล้วพี่ไม่ได้เข้ามานานหลายเดือนแล้ว


แต่ยังไงถ้าเกิดใครได้อ่านแล้วรู้จักพี่เก่งก็ฝากไปบอกด้วยละกันนะคับว่า


ขอคุบมากๆนะคับ  สำหรับเรือ่งดีๆที่แบ่งปันมาให้  อย่างน้อยเรือ่งนี้ก็ได้สอนอะไรผมหลายอย่าง


อีกอย่างอย่าเศร้ามากนะคับพี่  คิดซะว่ามีชีวิตอยู่และทำสิ่งต่างๆแทนพี่ตี๋ที่ไม่มีโอกาสได้ทำ


สู้ๆนะคับ  หวังว่าเราคงเจอกันในMSNนะคับ
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: jjuboy ที่ 08-02-2009 12:35:33


ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ

 ที่ทำให้ทั้งยิ้มและร้องไห้ไปในเวลาเดียวกัน

เกินบรรยายจริงๆ

อ่านแล้วเล่นเอาบ่อน้ำตาแตกเลย   :sad11:

ขอให้พี่เก่งมีความสุขมากๆ...และหลับให้สบายนะพี่ตี๋
 :n1:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: noki ที่ 09-02-2009 22:08:40
เก่งถ้านายแวะเวียนเข้ามาในบอร์ด
ว่างๆ ก็ออนเอ็มบ้างนะ
จะได้ทักทายกันบ้าง
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 13-02-2009 10:53:47
กลับมาอ่านก็ยังฉ่ำหัวใจกับความรัก :m15:
หัวข้อ: Re: จาก เก่ง ถึง ตี๋ ภาค 1,2,3,4 และ5 จบแล้วนะคราบบบบ ...แล้วคุณจะสัมผัสถึงความรักที่แท้จริง....
เริ่มหัวข้อโดย: nui543 ที่ 16-02-2009 00:32:51
 :m15:  ขอบคุณครับ   :sad11:


 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: jaideejung007 ที่ 30-03-2009 14:26:51
อ่านแล้วซึ้งคับ

งงบางฉาก บางตอน

ขอบคุณมากมาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: pinkprincess ที่ 31-03-2009 15:55:50
ซึ้งมากๆค่ะ เป็นเรื่องที่ดีมากๆ  ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ เหนตอนแรกๆมีแต่เรื่องอย่างว่า แต่เมื่ออ่านแล้วเลยอยากอ่านให้จบ

จึงพบว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เล่นเอาซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย

ขอบคุณนะค่ะที่พี่เก่งเอาเรื่องราวความรักดีๆแบบนี้มาให้อ่านกัน หนูชื่นชมในความรักของพี่ทั้งสองมาก และขอเป็นกำลังใจให้พี่เก่งต่อไปนะ สู้ๆค่ะ

และก็ขอให้พี่ตี๋หลับให้สบายนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Godji ที่ 08-04-2009 09:19:51
สู้ๆนะพี่เก่ง พี่ตี๋แกไปสบายแล้วนะคั๊บผ๋ม  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: mk_restaurant ที่ 17-05-2009 04:55:56
ขอบคุณครับที่มาเขียนให้อ่าน
เง้อออออ  เศร้าอ่า
งุงิ
 :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: chad69 ที่ 21-05-2009 22:35:58
ขอให้ดวงวิญญาของคุณตี๋เล็ก สุขสงบในวิมานอันรื่นรมณ์นะครับ
คุณเก่ง ครับ ด้วยความรักของคุณทั้งสองคนสู้ต่อไปนะครับ
ขอให้รู้สักนิดว่า  ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แต่ความโศรกรำพันร่ำไรเพราะพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่ชอบใจสิ คือส่ิงที่น่ากลัว
ชีวิตยังอยู่สู้ต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 26-05-2009 13:22:41
ไว้อาลัยกับการจากไปของตี๋เล็ก


และให้กำลังใจเก่งให้สู้ต่อไปครับ


จริง ๆ อ่านจบมานานแระ


แต่ผมมันเลวพอที่จะไม่เม้นท์


ผมมานเลวคร้าบบบบ



 :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 28-05-2009 17:37:17
 o13 ขอบคุณมากๆๆๆๆ คับ หนุกมากกกกกกกกกก
แล้วจะติดตามผลงานต่อไปนะคับ
ฝากตัวด้วย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 30-05-2009 23:30:11
อ่านจบแล้วน๊า...ขอบคุณมากเลยที่ได้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: lifestypeman ที่ 02-06-2009 09:19:30
ขอบคุณสำหรับ เรื่องราวความรัก ที่นำมาถ่ายทอด

บูชาในความรักของคุณสองคน ไม่มีอะไรแยกคุณออกจากกันได้

เลิกรักกันได้ แม้กระทั้ง ความตาย  ความรักที่เป็นอมตะ

ยังไงเข็มแข็งและเป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 04-06-2009 22:53:47
 :m15: :m15:

รู้อยู่แล้วนะ ว่าเรื่องนี้มัน จบเศร้า ๆ ... ว่าจะไม่อ่านแล้วเชียว
เป็นเหตุการณ์ที่แปลกดีนะค่ะ ... กับอะไรพวก deja vu ... ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่

ถึงจะไม่แฮปปี้ ก็รู้สึกดีที่ได้อ่านนะ ...
กว่าคนสองคน จะรักกัน ถึงจุดนั้นได้ คงมีหลายล้านความทรงจำอยู่ในหัวใจ

และแม้วันนี้ จะไม่มีคุณตี๋อยู่ข้างๆ
ก็เชื่อว่า คุณเก่ง ยังมี คุณตี๋อยู่เต็มหัวใจ ....
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: nintendome99 ที่ 07-06-2009 21:56:12
ก่อนอื่น คงต้องขอบคุณ คุณเก่งก่อนนะคับ ที่มาเขียนบอกเล่าเรื่องราวความรักของคุณเก่ง และคุณตี๋ให้กับพวกเราได้รับรู้กัน
ทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ท่ี่คนเราสองคนจะได้มารักกัน ยิ่งเป็นความรักแบบนี้ด้วยแล้ว แต่ก็ยังสามารถฝ่าฟันกันมา
จนได้รักกัน แต่สุดท้ายก็ต้องจากกันนิรันดร์ มันทำให้หลายๆคนที่ไม่ได้เอาใจใส่กับความรักนั้น ต้องหันกลับมามองความรัก
ของพวกเค้าอีกครั้งว่า เค้าต้องการรักแค่ฉาบฉวย หรือต้องการรักแท้กันแน่ ผมขอบคุณเรื่องราวคุณเก่งที่ถ่ายทอดออกมา
ด้วยสำนวนง่ายๆ สบายๆ และสามารถทำให้คนอ่านเข้าใจถึงอารมณ์ สถานการณ์ของเรื่องราวต่างๆได้อย่างดี
ดีใจกับคุณตี๋ที่ความรักของคุณเก่งสุดท้ายแล้ว ไม่เคยเสื่อมคลายไปจากคุณตี๋เลย  ผมเชื่อว่าคุณตี๋คงมองคุณเก่งอยู่ห่างๆ
อย่างห่วงๆ และไม่มันวันลืมคุณเก่งเหมือนกัน เค้าคงไม่ปล่อยคุณเก่งให้อยู่โดดเดี่ยวลำพังหรอกคับ (ไม่ได้บอกว่าเค้าจะ
เอาคุณเก่งไปอยู่ด้วยนะ อย่าคิดมาก) แต่ผมหมายถึงเค้าอาจจะดลใจ ส่งใครสักคนที่คิดว่าสามารถดูแลคุณเก่งแทนคุณตี๋
ได้มาให้คุณเก่งไว้พิจารณาก็ได้นะคับ ไม่ใด้เชียร์ให้ลืมหรือหาใครมาทดแทนหรอกคับ แต่แค่หาคนมาเติมเต็มส่วนที่หายไป
อีกครึ่ง เพื่อทำให้ชีวิตเรามีความสุขเหมือนกับคนที่เราเคยมีความสุขด้วยกันมาในอดีตน่ะคับ ผมคิดว่าคุณตี๋เองก็น่าจะคิด
อย่างผมเหมือนกันนะคับ อยากให้คนที่รักมีความสุขที่สุด..
สุดท้าย ยังหวังว่าคุณเก่งจะมาเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณหลังจากเรื่องของคุณกับคุณตี๋ให้พวกเราได้รับรู้ และคอยห่วงใยอีก
นะคับ มันรู้สึกเป็นความผูกพันธ้ขึ้นมายังไงไม่รู้นะคับ
แล้วยังไงจะรอนะคับ ถ้าผ่านเข้ามาดูกระทู้ของคุณเก่ง อย่าลืมมาทักทายกันบ้างนะคับ

โดม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 11-06-2009 08:16:06
 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 12-06-2009 00:58:15
ไปนอนก่อน
แล้วจะมาอ่านใหม่
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: เจ็ดสองหนึ่งสี่ ที่ 27-06-2009 23:24:34
ยังไม่ได้อ่านเลย

แต่ดูๆเหมือนจะมีครบทุกรสเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 05-07-2009 20:00:06
เศร้าาอ่ะ บ่อน้ำตาแตกก   :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: [Y][J] SARANG~ ที่ 05-08-2009 22:54:14
หลับให้สบายนะคะพี่ตี๋ พี่เก่งใช้ชีวิตในส่วนที่เหลือแืทนพี่ตี๋ด้วย และขอให้พี่มีความสุข และเข้มแข็งรอวันที่จะได้กลับไปเจอกับคนที่รักที่สุดอีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: barbieBot ที่ 10-08-2009 23:41:23
อ่านแบบรวดเดียวจบ

พูดอะไรไม่ออกเลย.. เศร้ามากๆๆๆ


ปกติเราเป็นคนที่ชอบอ่านอะไรๆ ที่เศร้าๆ ดราม่าๆ อยู่แล้ว เพราะส่วนตัวที่ชอบอ่านเรื่องเศร้าๆ ไม่รู้ทำไมพออ่านเรื่องนั้นๆจบ มันจะทำให้เรารู้สึกโล่ง สบาย รู้สึกดีอะไรทำนองนั้น(แอบซาดิส55) หรืออีกนัยนึงอาจเป็นเพราะเวลาร้องไห้แล้วร่างกายได้หลั่งอาดินารีน(เขียนงี้ป่าว) ซึ่งจะทำให้รู้สึกปลอดโปร่งในเวาลาต่อมา

แต่... 

พอมาเจอเรื่องนี้ ทำเอาซึมไปเลย รู้สึกสลดหดหู่ไปเลย ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริงเลย และหลังจากนี้คงต้องพักอ่านๆเรื่องเศร้าๆไปซักพัก เพราะรู้สึกว่า ตอนนี้ตัวเองอินกับเรื่องนี้มากมาย รู้สึกว่าหัวใจกำลังทำงานหนักเกินไป


เรื่องนี้ จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะประทับอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานเลย ประทับใจมากๆ แม้มันจะเศร้าก็ตาม
อยากให้คุณเก่ง(รวมถึงตี๋น้อยด้วย)จงรู้ไวว่า ... เรื่องราวของคุณทั้ง2 นำความสุข ซึ้ง เหงา เศร้า หลากหลายอารมณ์มาให้แก่ผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดเราขอเหมารวมว่า มันเป็นเรื่องราวแห่งความประทับใจอย่างมาก เรารู้สึกว่าคุณได้สละเอาเรื่องของพวกคุณมาแชร์ให้คนอื่นๆได้ซาบซึ้งไปด้วย และขอให้ผลจากสิ่งดๆเหล่านั้นสะท้อนกลับไปยังคุณทั้ง2โดยเร็ววันด้วย ..ขอบคุณมากๆครับ..


To: คุณเก่ง
หวังว่าคุณเก่งจะใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า และมีความสุขที่สุด เราเชื่อว่าตี๋น้อยกำลังเฝ้ามาองคุณอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งอย่างแน่นอน


ขอบคุณอีกครั้งนะครับสำหรับเรื่องราวดีๆ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: wittata ที่ 14-08-2009 23:59:18
ไมมันเศร้าอย่างนี้


ขอบคุณครับที่นำเรื่องดีๆๆๆๆมาให้ได้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: kataiiiscas ที่ 21-08-2009 10:39:32
 :a5: ขอพักทำใจปลอบ ตัวเองพักนะคะ

พึ่งอ่านจบไปเมื่อกี้ สดๆร้อนๆ อารมณ์ยังอยู่

พูดไม่ออกอ่ะ เป็นเรื่องราวที่ดีมากๆ

ตอนอ่านรู้สึกเหมือนกับว่าเราเข้าไปรับรู้เรื่องราวในแต่ละเหตุการณ์นั้นๆจริงๆ

จนดำเนินเรื่องมาถึงตอนท้ายๆ เหตุการณ์ต่างๆก็ผ่านเข้ามาอีกครั้ง

จากเด็กมัธยมถึงวัยทำงาน มันผ่านเรื่องราวมาเยอะจริงๆ จนเกือบทำใจอ่านจนจบไม่ได้

อายอ่ะที่จะบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วร้องไห้ ร้องไห้ออกมาจริงๆ แบบ ไหลยังกะท่อน้ำแตก

ปกติอ่านนิยายดูหนัง จะไม่ร้องนะคะ แต่เรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆ ประทับใจมากค่ะ

ถึง พี่เก่งนะคะ ขอบคุณที่มาแบ่งปันเรื่องราวที่ดีมากๆ พี่อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้เรืองนี้ทำให้คนๆนึงมีการย้อนกลับ

มาทบทวนและอยากจะดำเนินชีวิตไปในทางที่สมควรให้มันเป็นไป

แต่อยากจะบอกว่า เพราะอ่านเรื่องของพี่แล้ว ทำให้ย้อนกลับมาคิดว่า อะไรมันก็ไม่แน่นอน ปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ถึง พี่ตี๋นะคะ ตอนนี้ได้มีคนหลายๆคนได้อ่านเรื่องราวความรักของพี่ๆแล้ว และเชื่อว่าพี่ๆคงรักกันและกันเสมอ

ประทับใจในความรักของพี่มากๆ คือ การให้อภัย จดจำแต่ในสิ่งที่ดีๆที่มีให้กัน เรื่องดีๆไปทับเรื่องที่ไม่ดีจนหมด

พี่ให้อภัยพี่เก่งได้ง่ายๆเพราะพี่ยังรัก และเลือกจะจำแต่สิ่งที่ดีๆ อันนี้ซาบซึ้งมากค่ะ

ผ่านมาหลายปีแล้ว ป่านนี้พี่คงไปเกิดแล้วมั้ง

เป็นกำลังให้พี่เก่งนะคะ ปัจจุบันนี้ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรอยู่ ถ้าหากพี่เข้ามาในเล้า แล้วบังเอิญได้อ่านรีไพนี้

ก็แค่อยากจะบอกค่ะ มีหลายๆกำลังใจจากคนในเล้า ส่งใจช่วยพี่เสมอนะคะ และอยาจะขอบคุณมากๆ ซักล้านรอบ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 13-09-2009 02:42:52
อ่านจบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เรื่องนี้ทำเราไม่อยากฝันอีกเลยอ่ะ กลัวมันเกิดขึ้นจริง แอบหลอนเหมือนกันนะ เรื่องที่ชายชุดดำน่ะ น่ากลัว  :a5:
สงสารพี่ตี๋  :monkeysad: ไม่น่าจากไปเร็วอย่างนี้เลย
พี่เก่งสู้นะคะ ชีวิตยังต้องเดินต่อไป ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขมากๆ นะคะ ใช้เผื่อพี่ตี๋ด้วย  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: vunnaage ที่ 15-09-2009 18:45:01
หักมุมซะน่ากลัวเลยนะนี่


อ่านไป น้ำตาซึมไป เฮ้อออออ  :m15:



อยากบอกว่าชอบมากมายน่ะคับ เอามาอ่านอีกน้าา o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: namtansaidang ที่ 26-12-2009 09:19:40
เรื่องนี้สุดยอดครับ  o13 o13  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: autthawat ที่ 03-01-2010 03:48:56
i'm very love this story
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรพ์ ที่ 02-04-2010 00:12:02
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจผมมากๆครับ
พี่เก่งเป็นคนที่มีคติในการดำเนินชีวิตที่ดีเยียม ถึงแม้ในบางครั้ง จะอ่อนแอ และหลงผิดไปบ้าง
แต่คนไม่ใช่พระเจ้า ที่จะสามารถทำทุกอย่างในชีวิตให้เพอร์เฟ็กซ์ไปซะทุกเรื่อง
หลากเรื่องราวในชีวิตของพี่เก่ง สามารถนำมาเป็นข้อคิดและคติเตือนใจได้เป็นอย่างดี

ผมศรัทธาในความรักของพี่ตี๋มากๆ ความรักของพี่ตี๋น้อยเป็นความรักที่มั่นคงและอ่อนโยนให้อภัย
แม้จะโดนทำร้ายความรู้สึกอย่างร้ายกาจแต่พี่ตี๋น้อยก็ยังผ่านมาและให้อภัยคนรักอย่างพี่เก่งได้ในภายหลัง
พี่เก่งเป็นคนที่เก่งสมชื่อ เก่งในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นกีฬา เรื่องเรียน เรื่องงาน แต่ไม่เก่งในเรื่องของหัวใจเลย
แต่ผมชื่นชมพี่เก่งอย่างหนึ่ง คือความชัดเจนในความรู้สึกของตนเองไม่โกหก ไม่หลอกลวง
รู้สึกอย่างไรก็ทำและแสดงออกอย่างนั้นเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเองมากๆ(เหมือนกับมากเกินไป รึปล่าว อิอิ)

เรื่องนี้ให้ข้อคิดได้ในหลายๆสิ่ง ทำให้เรารู้ว่า คนๆหนึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ต้องผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน
ไม่ว่าจะเป็น มิตรภาพ ความกตัญญู ความประทับใจ ความรัก เซ็กส์ ความมั่นคง ความผูกพัน ความระแวง ความน้อยใจ ความเข้มแข็ง
ความอ่อนโยน ความเศร้า และ การให้อภัย มีครบทุกรส เหนือสิ่งอื่นใด คือ การจากลา... ซึ่งในเรื่อง
พี่ตี๋น้อยได้จากไปอย่างนิรันดร์ คงเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำ และความคนึงหาเท่านั้น

บทสุดท้ายทำให้นึกถึงกฎแห่งพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สามสิ่ง ที่มนุษย์(แทบ)ทุกคนไม่เคยที่จะหนีพ้น
มนุษย์นั้นตัวกระจ้อยร่อยเท่านั้นถ้าเทียบกับห้วงกาลเวลา ......


ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ของพี่เก่ง ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ของพี่ตี๋น้อย ที่ทำให้ทั้งสองคนเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้
ขอบคุณพี่เก่งที่เก่งสมชื่อ ขอบคุณพี่ตี๋น้อยที่อ่อนโยน ขอบคุณ คุณSolarisที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน และสุดท้ายขอบคุณเล้าเป็ดครับ

รักไม่มีวันตาย แม้ความตายจะพรากจาก แต่ความตายไม่สามารถพรากจากรักแท้ไปได้
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: tawalid ที่ 21-04-2010 15:15:38
อ่านไปร้องไห้ตามเลยอ่ะ
บางตอนอึ่ง ทึ่ง เสียว ตามๆๆกัน
ชอบมากคับ
แต่เศร้ามาก
เป็นกำลังใจให้คับ
ไม่เป็นอันทำงานเลย :เฮ้อ:

รอให้รักจงเจริญ.........ส้มโอคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: mupmipjung ที่ 15-05-2010 15:18:09
หนูเคยมีประสบการเดียวกับพี่อ่ะแบบที่ว่าเหมือนเหตุการนั้นเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว แต่มันเหมือนว่าฝันไปแล้วก็ไม่ได้เก็บมาคิกแต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

รักแท้มันมีอยู่จริงค่ะสำหรับพี่สองคน :L2: :L2:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: ikawanus ที่ 10-06-2010 00:40:34
พี่ตี๋คับถึงผมจะมาอ่านช้าที่สุด แต่ผมขอบอกให้พี่อย่าลืมแฟนของพี่นะคับเค้ารักพี่มาก ผมขอให้แฟนของพี่และพี่มีความสุข ชาติหน้าเกิดมาให้ให้คู่กันอยู่จนแก่
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 15-07-2010 21:51:46
ชอบมาก ๆ เลยครับเรื่องนี้


....


ชอบ ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 17-07-2010 20:08:55
เพิ่งอ่านเรื่องนี้จบลงด้วย...น้ำตา...
ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้า แต่เป็นน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ
ความทรงจำกับเรื่องราวความรักที่กว่าจะมาถึงจุดความสุขได้ ก็ต้องผ่านขวากหนามเยอะ
ทั้งๆที่เคยแยกกันไป แต่ยังกลับมารักกันได้อีก ทั้งๆที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแล้วแท้ๆ
แต่....การจากไปไม่มีวันกลับมันอืม.....แต่สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่คือ "ความรัก"

.... เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมากๆ เป็นเรื่องที่ทำให้ร้องไห้ พร้อมกันสะอื้น ....  :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: hydry ที่ 18-08-2010 22:04:46
 :monkeysad: แฮๆๆ เพิ่งได้เข้ามาอ่านอ่ะ รู้สึกดีมากเลย คุณเก่งกล้าหาญมากเลยที่เอาเรื่องราว(ที่ชั่วไปบ้างบางครั้ง  o18)ของตัวเองมาตีแผ่ ประทับใจมากๆ o13 ขอบคุณนะครับที่เรื่องนี้ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยในสังคมของเกย์ที่ใครๆประนามว่ามีแต่มั่วกัน ก็ยังมีความรักที่แท้จริงอยู่ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีความรักนะครับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 21-08-2010 07:16:39
เศร้าเสียใจ

มีบางตอนที่อ่านแล้วแบบพี่เก่งทำไปได้ยังไง

ยิ่งตอนที่นอกใจพี่ตี๋เล็กแล้ว

น้ำตาไหลทุกตอน

แต่พออ่านไปเหมือนกรรมของพี่เก่งที่นอกใจพี่ตี๋เล็กแล้วตัวเองก็โดนคนเหล่านั้นหลอก

ดีใจที่พี่ยังรักและคบกันจนวันสุดท้ายของชีวิต

ไม่รู้ว่าในชีวิตรเราๆๆจะมีอีกไหมความรักแบบนี้

พี่ตี๋เล็กดีมากกกกก ขอให้พี่ไปสบาย

เศร้าเสียใจมาเยอะพี่ก็สบายสะที

ไอ้คนที่อยู่นี่สิน่าสงสารยิ่งกว่า

พี่เก่งเก่งสมชื่อจริงๆๆๆ

พี่ผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาได้ก็เก่ง

ความรักเป็นๆๆ10ปียาวนานและสอนอะไรหลายๆๆอย่างจริงๆๆ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: mrawtnaw ที่ 21-09-2010 17:39:57
ขอบคุณนะคับสำหรับสิ่งดี ๆ ที่ผมได้อ่านนะคับ พี่เก่ง ผมเป็นกำลังใจให้นะคับ ผมเคยได้สัมผัสกับความรู้สึกดี ๆ จากคนในมหาลัยที่พี่เรียนอยู่เหมือนกัน(ประชาอุทิศ) พี่คนนั้นเคยเข้ามาในชีวิตผมตอนที่พี่เขาเรียนอยู่ พี่คนนั้น เขาบอกกับผมว่า ตอนนี้มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งดูแลเขาอยู่ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือว่าอะไรอะไรทั้งนั้น เขาใกล้จบแล้ว พอจบจะเป็นอาจารย์สอนที่มหาลัย ผมเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ จนได้ข่าวล่าสุดว่า เป็นอาจารย์แล้ว ผมดีใจด้วยกับพี่คนนั้น และแล้วสัญญาที่บอกกับผมหล่ะ ทุกอยางก็หายไปตามกาลเวลาเหมือนกัน  :เฮ้อ: พี่เก่งคับ ยังไงก็อย่าหายไปนะคับ พี่ยังมีน้องคนนี้อีกคนนะคับ เป็นกำลังใจให้เสมอนะคับท่านเจ้านาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: iMarchs ที่ 09-11-2010 09:37:42
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาถ่ายทอดให้ได้รับรู้นะคับ

จะเป็นกำลังใจให้คับ  :L2:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: beautyless ที่ 10-11-2010 00:22:31
ผมได้อ่านเรื่องเล่าของคุณเก่งตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ผมคิดว่าเป็นประโยชน์กับผมมากเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเกย์
คุณเก่งและคุณตี๋ได้เจอเรื่องราวอุปสรรค์ที่เรียกได้ว่าครบทุกรูปแบบแล้ว คุณเก่งช่วยย่นระยะเวลาของชีวิตคน
ให้เหลือเพียงข้อความที่สามารถใช้เวลาอ่านไม่นานนัก ผมจะนำสิ่งดีๆ ไปใช้ และหลีกหนีจากสิ่งไม่ดีอย่างถึงที่สุด

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของตี๋ด้วย

ขอบคุณอย่างสูง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: talentcs ที่ 15-11-2010 22:57:58

ขอให้สู้ต่อไปนะครับ จะเป็นกำลังใจให้
 :ped149:  :ped149:  :ped149:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: watop ที่ 08-12-2010 18:40:38
 :กอด1: :pig4: :3123: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 09-12-2010 13:21:29
ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆ น่าประทับใจมาให้พวกเราได้อ่านนะคะ
อ่านรวดเดียวจบ....ซึ้งในความรักของพี่ทั้ง2มากค่ะ....

แม้ตอนนี้ตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พวกเราหลายๆคนเชื่อว่าพี่ตี๋จะยังมีอยู่ในใจพี่เก่งตลอดไปนะคะ

แอบเสียใจที่พี่เก่งนอกใจพี่ตี๋เล็กนะคะ :m16:  แต่ก็เข้าใจนิดๆนะ ว่ามันก็ต้องมีบ้างอ่ะ(ถึงจะแอบเคืองอยู่บ้างก็เถอะนะ555+)

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนี้อีกครั้งค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 03:58:28
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: nonae ที่ 01-04-2011 20:50:20
เสียใจด้วยนะ เก่ง
แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 03-04-2011 21:49:32
ขอบคุณพี่เก่งมาก ที่แบ่งปัน เรื่องราวดีๆ ที่แสนน่าประทับใจ ให้อ่านื
เรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์ ทั้ง หัวเราะ ซึ้ง สนุกสนาน และเศร้า เป็นอีกเรื่องที่ ทำให้ คนอ่าน อย่างเรา ต้อง ใจเต้นตุ้มๆต่อม ว่าพี่เก่งจะไปทำอะไรให้พี่ตี๋เล็กเสียใจอีกบ้าง
ร้องไห้ ไปสัก 2 รอบ พอรู้ว่าเรื่องฝัน ก็ยิ้มได้ พอตอนจบ ร้องไห้อีกรอบ เพราะรู้ว่า ฝันเป็นจริง

อ่านแล้วซาบซึ้งกับความรักของพี่เก่ง และพี่ตี๋เล็กมากๆ
ถึงพี่ตี๋เล็กจะไม่ได้อยู่อีกต่อไปแล้ว แต่พี่ตี๋เล็กก็จะยังอยู่ในใจของนักอ่านคนนี้ ตลอดไป

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: kengjung23 ที่ 22-04-2011 01:02:22
 :pig4:ดันเเอบดูตอนจบ เลยไม่กล้าอ่านเลยอ่ะ o7เดี๋ยวไปทำใจก่อน o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 25-04-2011 00:31:19
ประทับใจในความรักของพี่ๆทั้งสองมากค่ะ
ไม่มีคําบรรยายจิงๆค่ะ
เสียใจด้วยนะค่ะเรื่องพี่ตี๋(ทําเอาหนูร้องไห้เรย)
เข้ามาบอกบ้างนะค่ะว่าตอนนี้พี่เก่งเป็นยังไงบ้าง เป็นกําลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: jj ที่ 30-04-2011 19:21:36
ได้ยินคนร่ำลือถึงเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ

แต่เพิ่งได้อ่าน  และอ่านแบบหยุดไม่ได้จนจบ

กับเรื่องราวที่ผ่านมา  ประทับใจกับความรักของทั้งสองคนมาก

สุดท้ายอยากบอกว่า สงสาร และเห็นใจคุณเก่งที่สุดค่ะ

ดูแลตัวเอง เพื่อคุณตี๋ด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: P2K ที่ 23-10-2011 04:07:52
พี่คนที่เล่าใช่จบจาก บางมดป่าวคับ เพระสถานที่เรียนกับร้านอาหารมันใช่ที่มอเรยคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 10-06-2012 11:08:10
อ่านรวดเดียวจบเลย ขอบคุณพี่เก่งมากค่ะที่มาเล่าประสบการณ์เรื่องราวของพี่เก่งกับพี่ตี๋ให้ฟัง
ประทับใจมาก ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตหลายอย่าง ทำให้มีมุมมองความรักที่ดีขึ้นมากจริงๆ
(หลังจากอ่านจบมองความรักเข้าใจมากขึ้น ปฏิบัติต่อความรัก คนที่เรารักและคนที่รักเราดีมากขึ้นด้วย ขอบคุณจริงๆค่ะ)

ขอแสดงความระลึกถึงพี่ตี๋ด้วย ใกล้จะครบรอบ 6 ปีที่พี่ตี๋จากไปแล้ว (25/06/2006)
คิดว่าไม่ว่าจะมีใครผ่านเข้ามา ในใจพี่เก่งก็จะยังคงมีพี่ตี๋อยู่เสมอ ไม่เปลี่ยนแน่นอน....

ขอให้พี่ตี๋หลับให้สบายนะ พี่เป็นคนที่โชคดีมาก...ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีความรักที่ดีแบบนี้ คิดว่าน้อยคนนะที่จะเจอ
แม้พี่ทั้งสองจะมีนอกลู่นอกทางกันไปบ้าง(พี่เก่งมากหน่อย)แต่ด้วยความเข้าใจและความรักความผูกพันที่มี
ทำให้กันและกันมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด......

บางทีก็แอบไม่เข้าใจฟ้าเบื้องบน ส่งความรักดีๆลงมาแล้ว ทำไมให้พรากจากกันเร็วอย่างงี้นะ งื้อออ... :o12: :o12: :o12:

ปล.ประทับใจที่สุดอยู่ตอนหนึ่ง คือที่พ่อพี่ตี๋ บอกว่าถึงเค้าจะเสียลูกชายไปหนึ่งคน แต่ก็ยังเหลือลูกชายอีกหนึ่งคนคือพี่เก่ง
มันแสดงให้เห็นว่า พี่สองคนเหมือนเป็นคนๆเดียวกันจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่หรือจากไปแล้ว พ่อพี่ตี๋รักพี่เก่งเหมือนที่พี่ตี๋รักแล้วนะ
 :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:


  :L1: :L1: :L1:    RIP พี่ตี๋นะคะ   :L1: :L1: :L1:


ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเรื่องราวดีๆเรื่องนี้ค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: ่นทยนส ที่ 12-08-2012 14:35:12
 น้ำตาคลอ อยู่หน้าจอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: ิbawjas ที่ 20-02-2013 18:18:28
 :o12: :o12: ขอบคุณมากครับ...เหมือนกับคนอื่นครับ อ่านเรื่องนี้แล้วร้องให้จริงๆๆ โดยไม่แคร์สายตาใคร ความรักของคุณยิ่งใหญ่จริงๆๆครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Secrets ที่ 29-03-2013 00:15:50
 :monkeysad:
เป็นความรักที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้เลย
อิ่มใจจัง
คุณโชคดีนะครับที่มีความรักที่แท้จริงแบบนี้
ขอให้คุณโชคดีและมีความสุขตลอดไปนะครับ คุณเก่ง คุณตี๋
 o13
 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 31-03-2013 13:42:20
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ
ตี๋เป็นคนที่มีความรักที่ยิ่งใหญ่มาก
ตี๋กำลังได้ใช้ชีวิตกับคนรักด้วยความสุข
แต่ความสุขนี่มันอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ
เก่งก็ใช้ชีวิตแบบปุถุชนคนธรรมดา
มีรัก โลภ โกรธ หลง (ถึงจะหลงบ่อยก็ตาม)
แต่ก็นับถือที่ผ่านเรื่องราวที่เสียใจที่สุดมาได้

เฮ้ออออ เศร้า อ่านแล้วร้องไห้ตาม จริง ๆ อ่านเรื่องนี้จบมาหลายเดือนแล้ว
แต่ไม่ได้เม้น ยอมรับเลยตอนนั้นเสียใจ เรื่องติดในความรู้สึก ก็เลยไม่เม้น
แต่ตอนนี้ทำใจได้แล้ว และคิดว่าตอนนี้เก่งคงมีใครดูแลใจแทนตี๋แล้ว
(จริง ๆ เรายังอยากให้เป็นตี๋อยู่ดี) และคิดว่าเก่งคงมีความสุขดีนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 31-03-2013 22:46:44
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สงสารพี่เก่งมากค่ะ เพราะยังต้องอยู่ ส่วนพี่ตี๋หลับให้สบายนะคะ แม้ว่ามันผ่านมาหลายปีแล้วก็ตามแต่พี่ทั้งสองจะอยู่ในใจเสมอ ขอบคุณค่ะที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ได้รักเธอ ที่ 11-04-2013 13:39:39
พี่เก่งคับ ได้เข้ามาเยียมกระทู้นี้บ้างรึเปล่าครับ  แล้วพี่ตี๋ยังอยู่ที่ palau ubin อยู่รึเปล่าครับ  อยากทราบว่าตอนนี้พี่เปนไงบ้าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 06-05-2013 22:12:08
 :mew4: ส่วนหนึ่งของความทรงจำ

หวังว่าคนที่ยังคงอยู่ จะได้มีความรัก และความทรงจำที่ดีๆอีกครั้งนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: l6duh ที่ 24-05-2013 02:58:21
อ่านรวดเดียวจบแล้วนิ่งอยู่หน้าจอไปเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะ เศร้า อึ้ง ทึ่ง ช็อก
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เดจาวูชัด ๆ
  :o12:

ขอบคุณพี่เก่งมากนะครับที่ถ่ายทอดประสบการณ์ออกมา ถึงแม้จะอ่านผ่านตัวอักษรแต่ก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของพี่เก่งกับพี่ตี๋ออกมา
ทำให้ได้ข้อคิดเตือนสติกับการใช้ชีวิต

ช่วงที่อ่านภาคแรก ๆ ยังแอบหมันไส้พี่เก่งที่มีคนอื่นนอกจากพี่ตี๋ แต่พอได้กลับมาคบกันก็ฟินและ เลิกหมันไส้
พออ่านภาค 4 ช็อกก่อนเลย แต่ก็มาโล่งใจที่ว่าเป็นแค่ฝันไปก่อน แล้วก็มาขนลุกตอนที่ฉากที่พี่เก่งชนคนชุดดำอะไรนั่นที่พี่ว่าเคยเจอก่อนหน้านี้ ยังแอบคิดอยู่ว่าจะเดจาวูหรือเปล่า เพราะคงเป็นลางไม่ดีแน่ๆ
แต่จบภาค 5 แค่นั้นแหละ ช็อกสุด น้ำตาไหลสุด นอยด์สุด เดจาวูสุด
บวกภาค 6 ยิ่งน้ำตาไหลเลย
 :o12:

และเพลงที่ลอยเข้ามาเลยคือ กุมภาพันธ์ โอ้ อินสุด

ซาบซึ้งและนับถือในความรักของพี่เก่งและพี่ตี๋ และเชื่อว่าพี่ตี๋ก็ได้รับรู้ในความตั้งใจของพี่เก่งเช่นเดียวกัน
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Jaiko★ ที่ 18-09-2013 12:00:15
อ่านจบแล้วค่ะ
ในอกมันตื้อๆไปหมดเลย
พี่ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากจริงๆ
ไม่นึกว่าตอนจบจะเป็นแบบนี้ T___T
สารภาพเลยว่าร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ

อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต
ผ่านอะไรด้วยกันมามากมายเลยนะคะ
ทั้งสุขทั้งเศร้า...
เราเชื่อว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ พี่ตี๋ก็ยังเป็นพี่ตี๋ของพี่เก่งเหมือนเดิม ยังคงรักและคอยเฝ้าดูพี่เก่งอยู่เสมอแน่นอนค่ะ

ไม่รู้ว่าพี่เก่งจะได้มาอ่านเม้นท์นี้มั้ย
ขอให้พี่เก่งมีความสุขมากๆนะคะ พี่ตี๋จะยังคงอยู่ใกล้ๆพี่เสมอ อยู่ในหัวใจของพี่ และพี่ตี๋เองก็มีพี่เก่งอยู่ในหัวใจเสมอ เช่นกัน
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :)
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 05-10-2013 00:37:27

ขอให้พบความสุขในเร้ววัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: cokebundit ที่ 22-12-2013 03:54:33
 :sad4: เรื่องนี้สุดยอดครับ ซึ้งอ่ะ  :o12:

 o13 ขอบคุณคับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: kinly ที่ 20-04-2014 04:16:10
ขอบคุณครับ สนุกมากๆเลยสงสารตี๋จับใจเลยที่ไม่ว่าเก่งจะนอกใจซักกี่ครั้งแต่ก็ยังรักเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 14-05-2014 21:57:22
พี่เก่ง เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่น่าประทับใจ
ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ ซาบซึ้งใจกับความรักของพี่นะคะ
ขอให้รักกันตลอดไปนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: DATAs ที่ 03-11-2014 02:37:10
พออ่านจบ  เริ่มรู้สึก อยากให้เป็นเรื่องแต่ง

ร้องไห้เยอะมากค่ะ   หยุดไม่อยู่แล้วตอนนี้

ขอบคุณค่ะ  ขอบคุณจริงๆ  ที่แบ่งปัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 01-03-2015 21:39:28
อ่านรอบที่เกือบสิบ
จะร้องไห้. อยากร้องไห้มาก
ช่วงมหาลัยนี่สนุกมากๆๆๆๆ
หลังดราม่าต่ก็เป็นรสชาติชีวิตน่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: novas ที่ 23-05-2015 21:08:53
ไม่รู้ว่าคนเขียนจะได้อ่านเม้นผมมัย  :mew2:

แต่ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆๆ ให้ได้อ่านนะครับ :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: lucky_on_top ที่ 24-05-2015 15:55:37
ไม่รู้ว่าพี่เก่งจะเข้ามาอ่านรีมั้ย แต่อยากบอกว่า เรื่องราวที่พี่ได้ถ่ายถอดมา มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก มันทำให้หนูรู้สึกว่ายังมีความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่ละเอียดอ่อนแต่เข้าใจง่ายเพราะพี่อธิบายให้หนูเข้าใจได้ง่ายขึ้น. ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ขอเป็นกำลังใจให้พี่เก่งนะคะ







RIP พี่ตี๋เล็ก ขอให้หลับสบาย :mew6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: yibsee2009 ที่ 15-06-2015 01:02:46
อ่านจบแล้วครับ 
ตื้อ ๆ อื้อๆ อึงๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ
เหมือนทำใจเกี่ยวเรื่องราวยังไม่ได้
เก่งเจ้าชู้เหลือเกิน
ตี๋ก็ดีแสนดี
ขอบคุณที่แบ่งเรื่องราวครับ


ขอให้ตี๋หลับให้สบายนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 18-06-2015 23:01:35
ลังเลใจว่าจะอ่านเรื่องนี้ดีไหมจนในที่สุดก็อ่าน ขอให้พี่ตี๋เล็กหลับให้สบายน่ะคับ
พี่เก่งก้ขอให้ใช้ชีวีตต่อไปให้มีความสุขนะคับอ่านเรื่องนี้  ผมน้ำตาแตงเลยตอนที่พี่เก่งฝัน. จตคิดว่าคนที่แนะนำบอกผิดรึป่าว จนได้มาอ่านตอนสุดท้ายๆ. ถึงกับเสียใจนิดๆคับ
ก้อยากให้พี่เก่งม . เล่าชีวิตประจำวันให้พวกเราในเล้า. รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง. สบายดีไหม. บ้างนะคับ ขอบคุณเรื่องราวความรักดีๆของพี่ทั้ง2คนนะคับ (ถึงแม้พี่เก่งจะแอบเลวบ้าง555)
ก้ขอให้พี่เก่งมีความสุขทั้งปัจจุบันและอนาคตคับ :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: kiftzakim ที่ 02-12-2015 09:16:15
ร้องไห้มากมาย เป็นคนที่อ่านนิยายแล้วจะดูตอนจบว่าจบยังไงแล้วถึงอ่าน ตอนแรกเห็นว่าจบไม่ดีจะไม่อ่าน แต่ไม่รู้ยังไงคลิกเปิดไปกลางเรื่องอ่านจากตรงกลางถึงตอนจบ อ่านแล้วมันรู้สึกว่าเศร้ามากกกกกก แต่ที่มากกว่านั้นคือความรักที่ พี่เก่งมีให้พี่ตี๋ ความคิดถึงที่มากมาย ความคิดถึงที่ไม่รู้ว่าจะส่งไปถึงจริงๆหรือไม่ มันไม่รู้จะพูดยังไง นิยายเรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตเราไปเลย เราทะเลาะกับพี่สาวฝาแฝดและคิดว่าชาตินี้จะไม่พูดกันอีกเลย แต่พี่เก่งกับพี่ตี๋ทำให้เราเปลี่ยนความคิด ในวันนี้เรายังมีโอกาสทำไมเราเลือกที่จะทิ้งโอกาสนั้นเสียล่ะ ก็เลยเคลียกันกับพี่สาว โดยบอกกับตัวเองว่าเราต้องทำนะเพราะเราได้สัญญากับพี่ตี๋ไว้แล้ว ว่าเราจะปล่อยวางทุกอย่างแล้วขอโทษไม่ว่าใครคือคนผิดเพราะเรายังรักกันอยู่ เรามีโอกาส (ความจริงก็เพื่อตัวเองนั่นแหละ) ขอบคุณพี่เก่งที่เล่าเรื่องให้ฟัง ขอบคุณความรักดีๆของพี่สองคนที่ทำให้หนูคิดได้ ขอให้พี่ทั้งสองมีความสุขมากๆนะคะแม้ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติขอให้ได้คู่กันตลอดไป สาธุ555555555 :mew2: :mew4: :mew6: :pig4: :mew1: :pig4: :mew1: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Genina ที่ 01-02-2016 18:17:43
อ่านเรื่องของพี่มาเกือบ 4 เดือนแล้ว ยังนึกถึงตราตรึงเรื่องนี้ไม่หายเลย
ไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายของคนรักจะเป็นยังไงบ้าง เราก็ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกลำพังของเราไป
โดยที่ไม่มีเขา อีกอย่างก็ไม่รู้ว่า จริงๆแล้วหากเราตายไป จะได้ไปเจอเขาอีกรอบจริงๆหรือเปล่า :mew2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 21-06-2017 01:29:52
 :ling2: :a5: :serius2: :ling3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: Sevenny ที่ 12-06-2019 21:28:44
โฮฮฮ เราอ่านเรื่องนี้แค่ตอนเเรกๆ รู้ว่าเป็นเรื่องเล่าเลยกดออก แต่เราเกิดสงสัยว่าปัจจุบันนี้เค้ายังคงรักกันอยู่ไหม เลยกดเข้ามาดูตอนจบ ก็ได้ข้อสรุปแล้วค่ะ เค้ายังคงรักกันอยู่จริงๆ เพียงเเต่ว่าตอนนี้เมื่อบอกรักออกไปก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยังคงรับรู้ได้ไหม ฮืออ เป็นกำลังใจให้คุณเก่งนะคะ และขอให้คุณตี๋มีความสุขอยู่ในที่ที่ห่างไกลด้วยค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-07-2021 00:18:54
 :o12: