เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 6 : ฝันกลางวัน-เดย์ดรีมมิ่ง
เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวที่ฝายน้ำล้นในตอนบ่าย พวกผมเตรียมสะเบียง และเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อยไป บางคนหยิบเอาหนังสือในชั้นหนังสือผมไปเพื่อเอาไปอ่านที่นั่นด้วย ผมฉวยได้ “สกาวเดือน-รัศมีแข” เล่มโปรดของผมใส่ในเป้แจนสปอร์ตที่ตี๋เล็กซื้อให้
ผมใจหายเล็กน้อยเมื่อแวบนึงผมคิดถึงมัน ถ้ามันอยู่ตอนนี้ ที่นี่กับผม ท่ามกลางเพื่อน ๆ ของเราที่รู้ใจกันแบบนี้ ก็คงดีไม่น้อย ผมสะบัดศรีษะไล่ความคิดอันนั้นออกไป รีบลงไปรวมพลที่ด้านล่าง ผมหิ้วเอาเสื่อทอที่พับแล้วมัดได้เล็กกระทัดรัดโยนให้ไอ้สนกับไอ้เม่นถือคนละอัน
ระหว่างทางที่เราเดินเท้าไปยังฝายน้ำล้น เมื่อผ่านบ้านไปแต่ละหลังก็จะมีผู้เฒ่าผู้แก่ตะโกนร้องทักไปทุกบ้าน ผมไม่เบื่อที่จะตอบว่าผมเรียนที่ใหน ทำอะไรอยู่ มีฟนหรือยัง เพราะผู้คนเหล่านี้ คือความรัก ความผูกพันธ์ในวัยเด็กของผม บางคนก็เรียกผมว่า “หนุ่มกรุงเทพ” ผมคงจะเริ่มขาวหล่อเหมือนหนุ่มกรุงเทพเพราะอาบน้ำปะปาแล้วกระมัง (คิดเข้าข้างตัวเอง)
เราปูเสื่อทั้งสองผืนที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำ เราอยู่ห่างจากบริเวณฝายมาทางปลายน้ำซึ่งเป็นคันดินทั้งหมด ว่าแล้วหนุ่ม ๆ ทั้งสามก็ไม่รีรอ ถอดเสื้อกระโดดลงเล่นน้ำทันที อีเก๋กับอีอุ๋ยทนไม่ไหวรีบตามลงมาเล่นน้ำด้วยกัน
ผมบอกให้ทุกคนลองดำน้ำลงไปแล้วเอามือควานที่โคลนใต้ฝ่าเท้า ให้หยิบเอาอะไรก็ได้ที่จับได้ขึ้นมาให้ผมดู ทุกคนทำตาม สิ่งที่ทุกคนได้ขึ้นมาคือ “หอยกาบ” มันคล้าย ๆ หอยแมลงภู่แต่ตัวใหญ่กว่านั้นเยอะมาก ผมบอกว่าเอาล่ะ พวกเรานอกจากจะได้มาเล่นสนุก เรายังได้อาหารกับไปกินเป็นบาร์บีคิวตอนเย็นที่บ้านอีกด้วย
ผมว่ายน้ำไปที่อีกฝั่งหนึ่ง เอาเรืออีโปงที่ถูกผูกไว้กับหลักมาให้เพื่อน ๆ ได้ขี่เล่นกัน ไม่ต้องขออนุญาติหรอกครับ คนบ้านนอกมีน้ำใจ ถึงผมจะทำเรือล่มหายไปหาไม่เจอ เขาก็คงไม่โกรธผมมากนัก
ยังไม่หมดเรื่องแปลกใจให้กับเพื่อน ๆ ผมเดินขึ้นฝั่งไปเปิดเป้ หยิบเอา แห สีขาว ตาเล็ก ออกมา ทุกคนตื่นเต้นว่ามันคือแห ใช้จับปลา แต่ไม่มีใครเคยเห็นไกล้ๆ หรือว่าใช้เป็น ผมสอนพวกผู้ชายสองคนถึงวิธีการทอดแห (หว่านแห) แรก ๆ ไอ้สนกับไอ้เม่นทำได้อย่างทุลักทุเล แต่หลัง ๆนอกจากจะได้ปลาตัวเล็ก ๆ แล้ว ยังมีพวกกุ้ง และเต่าอีกด้วย
ผมขอเต่าจากเพื่อน ๆ มาปล่อยลงน้ำ เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืน ผมบอกเพื่อน ๆ ว่า พวกเราตอนเด็ก ๆ ถูกสอนมาไม่ให้ฆ่าเต่า ใครที่ฆ่าเต่า จะอายุสั้น ผมปล่อยมันลงน้ำ มันว่ายน้ำหายไปอย่างรวดเร็ว
สักพักไอ้เม่นร้องเอะอะเสียงดังขึ้น รีบวิ่งขึนฝั่ง มันใช้มือล้วงลงไปในกางเกงล้วร้องเฮ้ย ๆ อยู่คนเดียว ผมวิ่งขึ้นไปดู
-ไอ้เก่งช่วยกูด้วย ปลิงกัด- มันทำหน้าบอกบุญไม่รับ ผมหัวเราะ บอกให้ถอดกางเกงลง
-ถอดได้ไงเล่าไอ้เชี่ย กูไม่ได้ใส่กางเกงใน-
*มึงจะให้กูช่วยเอาออกให้ใหม ถ้าให้ก็ถอดออก ถ้ากูล้วงลงไปจับปลิงผิดตัวจะให้กูทำยังไง* เพื่อน ๆ ที่รุมล้อมอยู่หัวเราะกันขบขัน อีอุ๋ยบอกสมน้ำหน้า โตขนาดนี้ไม่ใส่กางเกงใน
-พวกมึงหันหน้าไปทางอื่น ไอ้เก่งหันมาคนเดียว- ไอ้เม่นออกคำสั่ง
ผมรำคาญจึงเอามือไปจับขอบกางเกงของมันเปิดออก ปากผมก็บ่น
-ทำยังกะใหญ่หนักหนาไอ้นี่ กูเห็นมาหมดแล้ว- ผมดึงขอบกางเกงออก แล้วหัวเราะ ลงมันเกาะอยู่ไกล้ ๆ ไข่ไอ้เม่นพอดีพอดี ปลิงเข็มตัวเล็ก ๆ เองครับ ไอ้นี่มันใจเสาะ ผมแกล้งจับปลิงเฉี่ยว ๆ กะเจี๊ยวมัน ไอ้เม่นร้องเฮ้ย ๆ ๆ คงกลัวผมไม่จับมันจริง ๆ ผมจับกดหัวปลิงไว้แล้วดึงออกมาครั้งเดียว เลือดสาดกระจาย ไอ้เม่นบอกว่าไม่เจ็บเลย ผมบอกมันว่า
-จะเจ็บได้ไง น้ำลายปลิงมีฤทธิ์เหมือนยาชา บางประเทศเขาใช้แทนยาชา-
*เอามานี่เลย กูจะสำเร็จโทษมันเอง บังอาจมากัดลูกพ่อ* มันบอกผม
-ต้องฉี่ใส่ด้วยนะ- ผมตะโกนบอก ปลิงเป็นปรสิต ฆ่าได้ไม่เป็นไร
ทุกคนขำหัวเราะไอ้เม่นกันใหญ่ เราลงน้ำกันอีกครั้ง ผมเป็นคนพายเรือ แต่แล้วมีเสียงเสียงหนึ่งดังมาจากบนฝั่ง
****ล่องเรือหารักเหรอพวกมึง สนุกจนไม่มีใครสนใจนึกถึงกูเลยใช่ใหม****
พวกผมหันไปมองตามต้นเสียง เสียงไอ้ตี๋เล็กนี่หว่า เพื่อน ๆ เฮกันใหญ่โบกไม้โบกมือให้คนข้างบนฝั่ง ผมขยี้ตาด้วยความมึนงง ว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ผมขยี้ตาเสร็จมองดู ก็ยังเป็นมัน ....... ไอ้ตี๋เล็กจริง ๆ ด้วย ไอ้เม่นรีบคว้าพายมาพายเรือเข้าฝั่ง ทุกคนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
-นี่มึงตี๋เล็กจริง ๆ เหรอ- ผมกอดมันทั้ง ๆ ที่ตัวเปียกอยู่
*บ้านนอกจังเลยนะพวกมึง สนุกแต่ไม่นึกถึงกู* มันตอบทำหน้าทะเล้น
-มาได้ไงเนี่ยบอกก่อน- ผมเร่งเอาคำตอบ
*ม่ายรู้ ...* มันยังทำหน้ายียวนอีก แล้วพูดต่อ
*ไม่รู้ว่าไปมีลูกเขยคนใหนไปทำถูกใจพ่อ เห็นชมนักชมหนาว่าทำกับข้าวเก่งและอร่อย เป็นเด็กดีมีสัมมาคาระวะต่อผู้ใหญ่ เรียบร้อยสุภาพ เรียนก็เก่ง มีเกียรติบัตรกับโล่ห์ใบประกาศเต็มบ้านเลย แถมเทอมนี้ยังสอบได้ที่สองของภาควิชาอีก เกียรตินิยมคงอยู่ไม่ไกล วิศวะมันเรียนไม่ง่ายนี่ พ่อแม่เขาคงอบรมลูกมาดีนะ แน่ล่ะสิพ่อแม่เขาจบปริญญา แถมเป็นรองศาสตราจารย์ของวิทยาลัยครูทั้งคู่อีก พี่สาวกับพี่ชายก็รับราชการทั้งคู่ นี่ถ้าไม่ได้กินขนมจีนกับทอดมันปลาราดน้ำจิ้มที่อีสาน เขาก็ไม่รู้นะเนี่ยว่าจะมีคนแถวนี้เขาสนใจธรรมเนียมการกินคนเมืองเพชรด้วย สรุปพ่อกูเขาแพ้คนเอาใจว่ะ* ไอ้ตี๋เล็กมันลอยหน้าลอยตาพูดยิ้ม ๆ
-หมายความว่า ................ - ผมเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นสุดขีด ไอ้ตี๋เล็กพยักหน้าน้อย ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนเฮขึ้นดัง ๆ พร้อมกัน ผมเหลือบตามองดวงอาทิตย์
-นี่กูฝันกลางวันไปหรือเปล่าวะเนี่ย--- ผมพูดออกมา
ส่วนในใจ ...... ผมก็อยากให้ฝันนี้เป็นจริงตลอดไปนะ...... ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย ..