มาแล้วค่ะผู้อ่านทุกคน ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน เพราะว่าเปิดเทอมพอดีค่ะ แล้วก็งานเข้าทันทีทั้งเรื่องส่วนตัวและไม่ส่วนตัว ขอโทษอีกครั้งนะคะ ตอนนี้เรื่องของนายโจ้ก็มาลงต่อแล้วค่ะ อ่อ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่าลืมดูแลตัวเองนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
“อีโจ้คะ ทำอะไรอยู่เอ่ย แล้วว่าไงจิกชายเผื่อเพื่อนบ้างรึเปล่าาาา” อีกบโทรมาตามปกติในตอนหัวค่ำของวันทำงานวันหนึ่ง ผมเลยตอบมันไปว่า
“พอเลยอีกบ อยากได้ชายมึงก็ต้องมาออกทะเลหาเองสิวะ ให้เพื่อนหาให้แล้วมันมันฟินส์เหรอ”
“แหม ๆๆๆ อีเดื๋อยยยยย....ไม่ก่งไม่กลับมากรุงเทพมั่งเลยนะคะ อีดรอกก ฟินส์กับทะเลยเลยใช่มั๊ยคะ”
“วันอังคารหน้ากูก็ต้องเข้าไปกรุงเทพฯว่ะ บอสเรียก”
“เหรอคะ ต๊ายยตายเราจะได้เมาท์มอยกันก็คราวนี้หล่ะ”
“เออ ดีเหมือนกันไม่ได้เจอมึงนานแล้ว”
“ค่าาา”
“เออ นี่มึงไม่คิดจะลงมาหัวหินมั่งเหรอวะ มาหากูก็ได้อ่ะ”
“โอ๊ยยย ไม่ล่ะค่ะ นี่คุณอู๋ก็เพิ่งร้องไห้ตาบวมไป ชั้นล่ะเห็นใจสุดริด
ผมใจหายไปอยู่ที่ตาตุ่ม “หะ...คุณอู๋....ร้องไห้..”
“ค่าาา ก็เรื่องพ่อตัวดีของเธอหล่ะค่ะ วันนี้ชั้นก็ไปคุยที่้บ้านเค้ามาหล่ะ ก็อยู่กันหลายคนหล่ะค่ะทั้งพ่อแม่และคุณย่าของเธอ แต่คุณแฟนของเธอก็โทรมาทำให้วงแตกค่ะ”
“ยังไงวะ”
“ก็ ไม่รู้เรื่องอะไรค่ะ เพราะลุกไปเสือกไม่ได้ แต่เธอก็ตาแดง ๆ กลับมาคุย และก็คุณพ่อคุณแม่คุณย่าชีก็ปลอบกันใหญ่เลย กบศรีคิดว่าก็คงเป็นเรื่องเดิม ๆ หน่ะค่ะว่าแต่ มึงรู้เรื่องคุณอู๋ใช่มั๊ยคะ”
“เออ เรื่องแฟนเค้าอยากให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันใช่มั๊ย”
“ค่ะใช่ค่ะ รู้ได้ไงคะเนี่ย”
“น้องคุณอู๋เล่าให้ฟัง”
“ต๊ายย เหรอคะ อีดรอกกวงในมากค่ะ เค้าไปเล่าให้มึงฟังได้ไงคะ”
“ก็ เค้าดูไม่ชอบแฟนพี่เท่าไหร่ว่ะ เค้าก็คงหาแนวร่วมมั๊งมึง”
“อ่าค่ะ โอ๊ย น่าเห็นใจนะคะถ้าชั้นเจอชายอย่างนี้ก็คงเลิกค่ะ อีดรอกใจร้ายใจดำกับครอบครัวเกินล่ะ”
“อืม....”
“เออ มึงมาก็ดีเลย วันเสาร์หน้าคุณอู๋เค้าชวนกูกับน้องจอยไปทำบุญด้วยหน่ะค่ะ”
“หา เดี๋ยวน้คุณอู๋เขาลดตัวมาคบมึงเป็นเพื่อนแล้วเหรอวะอีกบ”
“แหม คนสวยเหมือนกันก็ย่อมเป็นมิตรกันค้า ก็แบบว่า ชั้นก็พอเข้าใจนะคะ ไอ้เรื่องแบบนี้กับใครใครก็เศร้าค่ะ แต่แฟนคุณอู๋นี่ก็เข้ากับน้องอั่งไม่ได้เลยจริง ๆ นะคะ ให้ตาย”
“เหรอ..เออ...แล้วเขาจะไปทำบุญกันที่ไหนวะอีกบ”
“ก็ รู้สึกจะบ้านพักคนชราสักที่นะคะ มึงมาด้วยกันสิคะ จะได้ครบทีม พาวเวอร์พัฟเกิลล์”
“เหอะ ๆๆๆ”
“จะมามั๊ยคะอีดรอกก”
“ดูก่อนละกันนะมึงนะ”
“โอ๊ยยย เล่นตัวจังเลยนะคะอีโจ้”
“เปล่า ก็แหม มึง...” ผมพูดไม่ถูก “เออ ๆๆ ไปก็ไปวะ”
“ดีมากค่ะ เดี๋ยวกูบอกครอบครัวคุณอู๋ว่ามีมึงอีนางไปนะคะ”
“เออ ๆ”
“อู๊ย อีดรอกเริ่ดมากค่ะ”
ผมกับอีกบก็คุยนู่นนี่กันไปตามปกติของพวกผม พอวางสายผมก็กลับคิดถึงแต่คุณอู๋ แววตาเศร้า ๆ ของคุณอู๋ทำให้ผมข่มตานอนแทบไม่หลับ ให้ตายเถอะแฟนคุณจะทำยังไงน้าเมื่อเห็นน้ำตาของคนรัก ผมล่ะอยากรู้จริง ๆ
และวันอังคารหน้าที่ผมต้องเข้ากรุงเทพฯก็มาถึง แต่เมื่อวันเสาร์น้องอั่งกับน้องแอนก็มาเยี่ยมผมที่หัวหินหล่ะครับ ผมก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกันที่สองคนนี้มาหัวหินกันบ่อยมากทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องบ้านริมทะเลของพี่ตัวเองเท่าไหร่ แต่เจ้าอั่งมันบอกผมว่า
“พี่คุยสนุกดี ผมว่าเป็นเพื่อนกับพี่ก็ฮาดีเหมือนกันว่ะ ฮ่ะๆๆ”
อืม ก็ขอบใจนะไอ้น้องที่ญาติดีกับพี่ แต่เท่าที่น้องแอนเล่าเรื่องคุณอู๋กับแฟนเค้านี่ผมก็แอบปวดตับอยู่ไม่น้อย ผมว่าคุณเคนเค้าเป็นผู้ชายแนวเผด็จการอีกคนนึงเลยนะเท่าที่น้องเขาเล่ามา เฮ้ออ คุณอู๋ของผมเสียน้ำตาไปกี่ปิ๊บแล้วครับเนี่ย
แต่เอาเถอะครับ ผมสัญญาว่าถ้ากลับมากรุงเทพฯเมื่อไหร่ ตราบใดที่แฟนเขาไม่อยู่ หรือเขายังไม่ไปอยู่กับแฟน ผมจะเช้าถึงเย็นถึงให้ครอบครัวคุณอู๋เบื่อหน้าเลยคอยดู ฮึ่ม!!!! ๆๆๆ
“หวัดดีจ้ะโจ้ ไปอยู่หัวหินมาคล้ำลงป่ะเนี่ย” เจ้หนิงเลขาหน้าห้องบอสทักผมตามประสา ผมยิ้มให้นิดนึงแล้วตอบกลับ
“ก็คงงั้นมั๊งครับ”
“เป็นไงอยู่นู่นได้แฟนมายังเนี่ย”
ผมนิ่งเงียบไปและส่ายหน้าเบา ๆ เจ้หนิงทำหน้าแบบ โอค กูไม่ถามต่อดีกว่า เธอกดโทรศัพท์หาเจ้านายในห้องทันที
“บอสค่ะ โจ้มาแล้วค่ะ”
“เข้ามาได้”
“ค่ะ”
ผมยิ้มรับเจ้หนิง แล้วเข้าไปหาเจ้านาย หลังจากเราทักทายกันตามมารยาทแล้ว เจ้านายก็ถามถึงเรื่องงานของผม และก็เริ่มคุยเรื่องงานชิ้นใหม่ของผมที่จะเป็นโปรเจ็กต์ต่อจากนี้ ผมกับคุณพงศ์คุยงานกันตามปกติ จนผมจะถึงเวลากลับ คุณพงศ์ก็มีอะไรหลังไมค์มาบอกผม
“เอ่อ โจ้ แล้วนี่ไปไหนต่อล่ะ”
“อ่อ ผมก็คงแวะไปเยี่ยมที่บ้านอ่าครับ กะว่าจะกลับพรุ่งนี้เช้าครับ มี..มีอะไรหรือเปล่าครับเจ้านาย”
“ก็ ผมมีเรื่องจะรบกวนคุณ นิดนึงอ่ะ ถ้าคุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ”
“อะไรเหรอครับ”
“ก็ คือ ผมเอารถไปเซอร์วิสที่ศูนย์หน่ะ แล้วทีนี้ ผมไม่ว่างไปรับรถเลย คิดว่าถ้าคุณว่างผมจะรบกวนไปรับรถให้ผมหน่อยได้หรือเปล่าเนี่ยะ”
“โธ่ แค่นี้เอง” ผมนึกว่าเรื่องอะไร “ไม่เห็นจะรบกวนเลยครับ ผมไปรับรถให้บอสก่อนก็ได้”
“ดี ๆๆๆ ฝากด้วยนะโจ้ ผมขอบคุณจริง ๆ”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วให้มาที่บริษัทหรือบ้านบอสล่ะ”
“บริษัทนี่หล่ะ เดี๋ยวผมบอกทางศูนย์ให้นะว่าคุณไปรับรถแทน”
“ครับ ว่าแต่ศูนย์นี่ที่ไหนเนี่ย”
“อ่อ ก็บริษัทนี้ไง” บอสเปิดแผนที่ในกูเกิ้ลแม็บให้ผมดู ผมเข้าใจเส้นทางแล้วจึงขอตัวออกมา ก็บอสเป็นรุ่นพี่ผมนี่ครับ มีอะไรช่วยได้ก็ช่วยกัน เพราะตอนเรียนพี่พงศ์หรือบอสผมในตอนนี้ก็เป็นรุ่นพี่อีกคนที่ช่วยเหลือน้อง ๆ หลายคนรวมทั้งผมในหลาย ๆ เรื่องไว้เยอะ อีกอย่างตอนเลิกงานหรือมีงานเลี้ยงบอสผมก็เป็นกันเองกับลูกน้องมากมาย เรื่องแค่นี้ผมช่วยได้ก็ช่วยเค้าหน่อยล่ะครับ
ผมเรียกแท็กซี่เพื่อไปศูนย์รถดังกล่าว(เจ้านายให้ค่ารถมาครับ อิอิ) และก็ถึงในเวลาไม่ช้าเพราะรถไม่ติด ผมเดินเข้าไปอย่างงง ๆ (ก็ขับแต่รถยี่ปุ่นนี่ครับจะเคยมาได้ไง) และพนักงานฝ่ายต้อนรับก็เข้ามาหาผม ผมจึงบอกว่ามารับรถแทนคุณพงศ์ที่ติดต่อไว้ เธอยิ้มรับและพาผมไปนั่งรอที่ที่นั่งใกล้ ๆ
“สวัสดีครับ คุณยานนาวุธนะครับ”
เจ้าหน้าที่คนนึงของศูนย์เข้ามาหาผมและนั่งตรงหน้า เอ๊ะเดี๋ยว! นี่ใช่แฟนของแจ๊คตัวพ่อหรือเปล่านะ ผมเองก็ไม่แน่ใจ
“คะ..ครับ ผมยานนาวุธ ครับ” ผมพูดจบแล้วส่งบัตรประชาชนและใบรับรถของเจ้านายผมให้น้องเขาดู อืม ใช่แน่ ๆ อืม รู้สึกศูนย์รถนี้จะเป็นของครอบครัวคุณแจ๊คเค้าด้วยสินะ มิน่าหล่ะ..
“ครับ” เขารับไปและยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นมิตร อืม แฟนคุณแจ๊คนี่ดูเป็นเด็กเรียบร้อยนะครับผมว่า อืม ตัวจริงน้องเขาหน้าใสมากเลย อีกบเอ๊ยย มึงพลาดซะแล้วหล่ะ ดีนะว่ามันไม่อยู่ออฟฟิศแล้วผมไม่ชวนมันมาด้วย
“ครับ เดี๋ยวเชิญทางนี้เลยครับ” น้องเขานำผมไปเพื่อจะไปรับรถ อ่า อย่าบอกนะว่า คนตัวสูง ๆ ที่ยืนรอที่รถของบอสนั่นคือแจ๊คตัวพ่อ
“คุณแจ๊ค.....คุณพงศ์ศักดิ์ให้คุณยานนาวุธมารับรถแทนหน่ะ นี่เค้ามาแล้วนะ” อ่าใช่จริงด้วย โห ตัวจริงพี่หล่อเทพมากครับพี่ เมื่อก่อนผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะเกย์ ๆ อย่างพี่จะหล่อเทพจริงเหรอ แต่นี่ใส่แค่เสื้อชอปกับกางเกงยีนส์พี่ยังเท่ห์สาดจนผมเหมือนหมาไปเลย
“อาฮะ...” เขารับคำและยกมือไหว้ผม “สวัสดีครับ รถเรียบร้อยแล้วครับ”
ผมรับไหว้แทบไม่ทัน งงสิครับ “คะ..ครับ”
“รถไม่มีปัญหาอะไรครับ นี่ผมเติมน้ำมันเกียร์ และก็เปลี่ยนผ้าเบรกไปใหม่ให้ด้วย”
“อ่อ ครับ”
“ขอบคุณมากนะครับ” คนทั้งสองยกมือไหว้ขอบคุณผมอีกแล้ว ผมรับไหว้ แจ๊คตัวพ่อโอบไหล่แฟนเด็กของเขาโชว์คนโสดอย่างผม ผมสตาร์ทเครื่องและจะออกตัวรถ ระหว่างปรับกระจกหลังนั้น ผมมองเห็นคนทั้งสองหลอกล้อกันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู เฮ้อออ อิจฉาคนมีแฟนจริงจรี๊งงง
“จริงเหรอคะอีโจ้!!” อีกบแทบกรี๊ดเมื่อได้ยินว่าผมเจอกับแจ๊คตัวพ่อตัวเป็น ๆ และแฟนเด็กของเขามาในวันนี้ “อีโจ้ แอร๊ยยยยยยย ตัวจริงเค้าเป็นไง หล่อมั๊ยแก”
“อืม เท่ห์สรัด ดูดีจนกูเหมือนหมาไปเลย”
“แอร๊ยยย แล้ว นังเด็กนั่นหล่ะคะ ตัวจริงเป็นไง สวยน้อยกว่าชั้นหรือเปล่า”
“เหอะ” ผมส่ายหน้าดิก “น้องเขาก็เหมือนในทีวีหล่ะดูเด็ก ๆ อวบ ๆ แต่หน้าใสมาก และก็ดูเฟรนด์ลี่มากด้วย”
“แต่กูสวยกว่าชิมิ”
“ไม่รู้ แต่เค้าอยู่ด้วยกันแล้วน่ารักดีว่ะกบ ไม่รู้ดิ”
“แอร๊ยยยย ใจร้ายที่สุดด”
“โอ๊ย อีกบ ปล่อยเค้าไปเถ้ออ”
“แอร๊ยยย กระเทยระทมม”
“ฮ่ะๆๆๆๆ”
“อีดอก เห็นแล้วก็อยากมีผัวกับเค้าบ้างค่ะ แอร๊ยยย”
“เออ เหมือนกัน”
“อะไรคะ มึงอยากมีผัวเหรอคะ”
ผมถีบมันไปเบา ๆ
“อ๋อยย อีดรอก”
“ก็อยากมีแฟนว่ะ เห็นเค้าดูมีความสุขกัน กูก็สงสารตัวเอง เมื่อไหร่จะโชคดีเหมือนแจ๊คตัวพ่อเค้ามั่งวะ”
“นึกว่าอิจฉานังเด็กนั่น หล่อนคงจะสบายหอยไปตลอดชาติล่ะนะคะ ได้แฟนฟินส์ซะทุกอย่างขนาดนี้”
“มึงก็มัวแต่อิจฉาเค้า...ว่าแต่ตอนแรกมึงอิจฉาคุณอู๋ไม่ใช่เหรอที่ได้แฟนหล่อรวย”
“ก็ค่ะ แต่เห็นเผด็จการอย่างนี้แล้วไม่ไหวนะคะ กระเทยขอบายย”
“ทำไมวะ”
“ก็แบบว่า ถ้าฮีอยากให้คุณอู๋ทำอะไรเป็นอะไร คุณอู๋ก็ต้องตามใจไปทุกเรื่องนี่หล่ะค่ะ อู๊ยย กูก็ร้อน ๆ หนาว ๆ นะคะ เพราะดูท่าแล้วบ้านคงจะทำให้เช่าล่ะค่ะ”
“อืมเหรอ....”
“เฮ้ออ แล้วเจ้าหญิงกิมอู๋ก็จะไปใช้ชีวิตที่ต่างแดนกับเจ้าชายเคนล่ะค่ะงานนี้”
หะ จริงเหรอ คุณอู๋จะไปเมืองนอกจริงเหรอเนี่ยะ....
“นั่นแน่....ชั้นพูดอะไรแทงใจดำแกหรือเปล่าฮะโจ้” อีกบมองหน้าผม และน้ำเสียงอ่อนลง สงสัยว่าผมออกการมากไปมั๊ง อีกบเพื่อนรักมันเลยนึกรู้
“เปล่านิ ช่างเถอะ ว่าแล้วก็ไม่อยากกลับมาทำงานกรุงเทพฯว่ะแก อยู่หัวกินซะชินไปหมดแล้ว”
“อืม...” อีกบรับคำ อาจเป็นเพราะว่าผมเปลี่ยนเรื่องคุยเลยทำให้บรรยากาศมันดรอปลงไป
“โจ้ ชั้นถามจริง ๆ นะ” อีกบเสียงจริงจัง “แกชอบคุณอู๋ใช่ไหม” อ่าว อีกบ มาล้วงตับผมอีกคนซะแล้ว
“ทำไมแกถามอย่างนั้นล่ะกบ”
“ก็ ชั้นสังเกตุแกมานานแล้ว”
“เอ่อ.....” โหย อีกบมันเก่งจริง ๆ เก็บข้อมูลได้ขั้นเทพจริง ๆ
“แกชอบเค้าใช่ไหม” อีกบคาดคั้นอีกครั้งผมเลยสารภาพกับมันด้วยการพยักหน้า
“อืม ชั้นก็ว่างั้นหล่ะ” อ่าวอีกบไม่ตกใจซะงั้น ผิดคาดแหะ ผมนึกว่านางกบจะกรี๊ดดลั่น
“อ่าว แกไม่ตกใจเหรอกบ”
“โจ้ ชั้นกับแกเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว แค่ชั้นมองหน้าก็รู้แล้วว่าแกคิดอะไร” อีกบบอกกับผมอย่างให้กำลังใจ
“แล้วแกว่ามันผิดไหมล่ะที่ชั้นชอบเค้า”
“ไม่หรอก แต่แกก็ต้องดูด้วยนะโจ้ เฮ้ออ ชั้นว่าแกคงเหมือนหนังเรื่องเว็ดดิ้งแพลนเนอร์แน่ ๆ เลยอ่ะ ที่แอบชอบลูกค้าตัวเอง”
“เฮ้อออ แห้วแดกอีกแล้วสิกู”
“แล้วแต่มึงนะคะอีโจ้” อีกบเสียงซีเรียส “กูรู้ค่ะว่ามันผิดที่มึงรักคนมีเจ้าของ แต่ถ้ามึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรเพื่อเค้าเลย มันก็ไม่มีประโยชน์ที่มีงจะรักเค้าต่อไป”
อีกบนี่ก็มีสาระเหมือนกันนะเนี่ย
“แล้วไงวะ มึงหมายความว่าไง ทำเพื่อเค้า”
“กูบอกตรง ๆ นะอีโจ้ ในฐานะที่กูกับเค้าก็เป็นเหมือนกัน กูสงสารเค้าว่ะ สงสารเค้าที่เป็นคนดีมาก รักครอบครัวมาก แต่ต้องไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเพราะแฟนเนี่ย เออ กูก็พอรู้ว่าแฟนเค้าอย่างอื่นก็ดี แต่บางครั้งกูก็รู้สึกแย่นะที่คนอย่างคุณอู๋ต้องมาเศร้ากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเนี่ย”
“มีอะไรอีกเหรอวะ”
“ก็...” อีกบชั่งใจว่าจะเล่าหรือไม่เล่าดี “ก็คือว่า ครั้งนึง แฟนเค้าอ่ะ ร้ายมากมึง พอรู้ว่าคุณอู๋จะไม่ยอมบินไปหา เค้าทำไงรู้มั๊ย”
ผมมองหน้ามันด้วยสายตา ใครจะรู้ล่ะ..
“เค้าเอาคนอื่นมานอนด้วยค่ะ”
“เหรอ...” ผมรับคำ อืม แรงนะ
“แล้วยังไม่จบค่ะ มีการส่งเมลล์มาให้ดูด้วย คุณอู๋ของชั้นก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ของชีไป แฟนชีก็โทรมาขู่ว่าจะมาหรือไม่มา สุดท้ายก็อ่ะนะคะ ก็ต้องไปล่ะค่ะ”
“เหรอ...”
“ไม่รู้ว่าคบกันมาได้ไงนะคะตั้งแต่มัธยม เฮ้ออ” อีกบเมาท์ต่อ “เป็นกูกูเลิกนานแล้วค่ะ ไม่ไหวค่ะ”
“อืม....ความจริงมันก็เป็นเรื่องของเขาล่ะนะ แต่ถ้ากูช่วยอะไรเขาได้ กูก็จะช่วยละกัน”
“อืมๆๆ” อีกบพยักหน้ารับคำ เฮ้ออ ไม่อยากเห็นน้ำตาของคุณอู๋เลยให้ตายสิ ผมก็หวังว่าวันเสาร์ที่อีกบมันชวนผมไปทำบุญกับบ้านเค้า คุณอู๋ของผมคงจะไม่เศร้านะครับ...