มาแล้วค่ะทุก ๆ ท่าน ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ปล. เดี๋ยววันนี้คนเขียนจะไปปรับปรุงบางส่วนในเรื่องของน้องพีนะคะ (เช่น แก้คำผิด(คาดว่าเยอนะอยู่) และก็ใส่เพลงประกอบอ่ะค่ะ(ไปฟังบางเพลงแล้วมันโดนกับเนื้อเรื่องอ่ะค่ะ) - - ไหน ๆ เรื่องของน้องพีก็เป็นนิยายที่ผู้อ่านหลายท่านชื่นชอบหรือรักไปเลย คนเขียนก็อยากทำออกมาให้ดีที่สุดอ่ะค่ะ - - ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งนะคะ
และครอบครัวของผมก็ยกขบวนกลับกรุงเทพ ฯ กันไปในเย็นวันอาทิตย์ ผมรู้สึกดีเพราะว่าแม่กับพ่อบอกว่าจะหาเวลาลงมาเยี่ยมผมบ่อย ๆ ส่วนผมเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเหมือนตอนอยู่กรุงเทพ ฯ ในเย็นวันอาทิตย์นี้ เมื่ออยู่ที่หัวหินนี่ผมกลับรู้สึกว่ามันก็เป็นแค่วัน ๆ นึง ไม่ใช่วันส่งท้ายความขี้เกียจเหมือนที่เคยเป็น ดังนั้น คืนนี้ผมจึงออกไปชิวที่ร้านเหล้าริมหาดกับมอไซค์เก่า ๆ ของน้านีอย่างสบายจัยยยย
ขณะที่ผมจะจอดมอไซต์หน้าร้าน ผมก็เห็นคุณอู๋เดินเหงา ๆ มาคนเดียว ผมรีบจอดมอเตอร์ไชค์แล้วรีบเดินไปดักคนสวย
“คุณอู๋ครับ” ผมทักคุณอู๋ทันที ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ว่าคราวนี้ทำไมผมกล้ามากขึ้น
“คุณโจ้...” คุณอู๋ปรับสีหน้าและยิ้มให้ผมเหมือนเดิม “มาทำอะไรครับเนี่ย”
“อ่อ มาชิว ๆ ครับ...ละ แล้วคุณอู๋ล่ะครับ”
“เหมือนกันครับ”
คุณอู๋ยิ้มให้ผม ผมก็อยากจะถามเหมือนกันว่า พรุ่งนี้คุณอู๋ไม่ไปทำงานเหรอครับ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของผม ผมจึงยั้งปากไว้
“แล้วนี่คุณโจ้ นัดใครไว้หรือเปล่าครับ”
“เปล่าครับ ผมมาคนเดียว”
“งั้น นั่งด้วยกันเลยนะครับ” คุณอู๋ชวนผม มีเหรอครับที่ผมจะปฎิเสธ อิอิอิ โจ้เอ้ยยย โชคเข้าข้างแล้วว
“ครับ ขอบคุณ นะครับ”
“ขอบคุณอะไรกันครับ เราคนกันเองทั้งนั้น”
“ครับ”
คุณอู๋ยิ้มอบอุ่นให้ผมเหมือนเดิม แว่นสายตาสีดำนั้นเคยไม่สามารถปกปิดแววตาสดใสของคุณอู๋ได้อย่างไร ตอนนี้ก็ไม่สามารถปกปิดความเศร้าจากแววตาของคุณอู๋ได้อย่างนั้น ถึงแม้คุณอู๋จะยิ้มให้ผม แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่กลบเกลื่อนไปด้วยความเศร้านะ ..ผมสัมผัสได้
เครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ก็มาเสริ์ฟพวกผมในไม่ช้า ผมเองก็สั่งแค่เบียร์ไทยราคาประหยัดตามสภาพของผมหล่ะครับ ส่วนคุณอู๋นั่นเป็นคอกเทลสีดำสนิทในแก้วยาว คนสวยไม่พูดอะไร เขามองแก้วเครื่องดื่มแล้วยกขึ้นดื่มช้า ๆ อย่างใช้ความคิด
ผมสังเกตุคุณอู๋ที่ยังเหมือนครุ่นคิดอะไรในใจ ผมไม่ถามอะไรทั้งที่ใจหน่ะอยากรู้มาก ๆ แต่เอาวะ เป็นไงเป็นกัน...
“เอ่อ คุณอู๋ครับ”
“ครับ”
“อย่าหาว่าผมยุ่งเรื่องส่วนตัวเลยนะครับ คุณอู๋ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
คนสวยมองหน้าผมนิ่ง ๆ ก่อนจะตอบว่า “ครับ ผมมีปัญหานิดหน่อย”
“ครับ”
“ดูท่าบ้านที่ผมให้พวกคุณทำให้ มันคงจะไม่เหมือนเดิมแล้วนะครับ”
ผมมองหน้าคุณอู๋อย่างสงสัย คุณอู๋เลยเล่าต่อ
“ผม....กับเคน...มีปัญหากันนิดหน่อยหน่ะครับ”
“ครับ...”
คุณอู๋เล่าต่อเศร้า ๆ “ผมรู้สึกว่าเคนเค้าไม่ได้เต็มใจกับบ้านหลังนี้เลย”
“.....ใจเย็น ๆ ครับ”
“ผมผิดเหรอครับ ที่อยากให้บ้านของเรา ออกมาดีที่สุด” คุณอู๋พูดเศร้า ๆ “เคนเค้าดูไม่เต็มใจที่จะมีมันเลย”
อ่าว ไหงเป็นอย่างนี้วะ เห็นดูหวานกันดีนี่กว่า
“ผม...” คุณอู๋เล่าต่อไม่ออก
“แล้วตอนนี้คุณเคนไม่อยู่กับคุณอู๋เหรอครับ”
“เคนเค้ากลับอเมริกาไปแล้วครับ”
“อ่อ ครับ”
“ผมรู้สึกว่า เค้าไม่อยากย้ายมาอยู่เมืองไทยเท่าไหร่ คือ อันที่จริง ผมกับเค้าทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้บ่อยมาก”
“ครับ”
“เอ่อ...” อ่าว ทำไมคุณอู๋เหมือนอาย ๆ อย่างนั้นล่ะ
“คุณอู๋เป็นอะไรเหรอครับ”
“เปล่า ครับ ผมแค่คิดว่า ผมไม่ควรเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟังเลย”
“ทำไมล่ะครับ”
“คือ คุณรู้ใช่มั๊ยครับ ว่าผมกับเคนเป็นอะไรกัน”
ผมพยักหน้าและยิ้มให้คุณอู๋นิด ๆ
“ผม เอ่อ...”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ เพื่อนผมก็เยอะแยะไป ผม เข้าใจครับ”
“ขอบคุณครับ”
“ผมว่า เรื่องแบบนี้ มันก็เป็นเรื่องของคุณทั้งสองนะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลการก่อสร้างให้ดีที่สุด”
“ขอบคุณนะครับ”
ผมและคุณอู๋คุยกันต่อในหลาย ๆ เรื่อง ผมพยายามทำให้คุณอู๋สบายใจขึ้นโดยการรับฟัง และก็เล่าเรื่องตลกฝืด ๆ ของผมบ้าง เผื่อคนสวยของผมจะหายเศร้าใจได้บ้าง เวลาเลยไปถึงห้าทุ่มที่ผมเคอร์ฟิวกับตัวเองว่าต้องกลับแล้ว
“คุณอู๋ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมไม่อยากพูดแบบนี้ออกมาเลยให้ตายสิ
คุณอู๋ยิ้มให้ผมตามเคย เหมือนคุณอู๋จะขอบคุณผมผ่านดวงตาคู่สวยนั้น
“ครับ”
“แล้ว คุณอู๋...”
“ผมก็คงกลับเลยเหมือนกันล่ะครับ”
เมื่อผมได้ยินอย่างนั้นก็เรียกพนักงานมาเก็บตังค์ คุณอู๋จะชิงผมจ่ายเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน และสุดท้ายก็จบลงที่ต่างคนต่างจ่าย ผมเดินมาที่มอเตอร์ไชค์เก่า ๆ ของน้านีเพื่อจะขอตัวกลับบ้าน(คือ ถ้ามีรถผมก็อยากไปส่งนะครับ แต่นี่คือมอเตอร์ไซค์เก่า ๆ เดี๋ยวอายคุณอู๋แย่เลย) แต่ผมก็ดันเจือกเผลอถามคุณอู๋ไปว่า
“คุณอู๋พักอยู่แถวไหนครับ”
“ก่อนถึงเขาตะเกียบหน่ะครับ”
“เอ่อ ให้ผมไป..ส่ง...มั๊ยครับ”
ผมหลุดปากไปจนด้ายย ให้ตายเหอะให้โจ้เอ๊ย คนเขาเคยแต่นั่งรถหรู ๆ แต่มรึงมีแค่มอไซค์เก่า ๆ เนี่ยนะ
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
ผมแทบสร่างอาการกึ่ม ๆ เมื่อครู่นี้ อะไรนะ....คุณอู๋ ยอมซ้อนมอไซค์ฮ่าง ๆ ของผม เหรอครับ...
“ไปกันเถอะครับคุณโจ้”
คุณอู๋ไม่พูดเปล่าพร้อมรวบผมยาว ๆ นั้นเป็นมวยเตรียมพร้อมสำหรับหมวกกันน๊อค ผมหยิบหมวกกันน๊อคอีกใบส่งให้แทบไม่ทัน เพราะกว่ากลัวคุณอู๋จะเปลี่ยนใจ
ผมเองก็รีบใส่ของผมเหมือนกันและสตาร์ตรถด้วยการกระทืบคันเร่งรอคุณอู๋ เมื่อพี่แก่ของผมพร้อมแล้ว คุณอู๋ยิ้มให้ผมเป็นการขอบคุณและขึ้นซ้อนทันที
เอาละเว้ยโจ้ อย่าตื่นเต้น อย่าตื่นเต้น อย่าเขิน อย่าเกร็งจนพาคุณอู๋ไปคว่ำ ผมหายใจเข้าลึก ๆ และ ออกรถไปช้า ๆ สติ ท่องไว้ไอ้โจ้ สติ ๆ ๆ ๆ
ถนนจากตัวตลาดไปเขาตะเกียบนั้นใช้เวลาไม่นาน แต่ผมรู้สึกอยากจะทำอะไรก็ได้ให้ช่วงเวลาที่ผมอยู่กับคุณอู๋นั้นนานขึ้นกว่าเดิม ผมเหลือบมองกระจกข้างเพื่อมองคุณอู๋ที่รับลมอย่างสบายใจ ผมก็รู้สึกสบายใจเหมือนกัน
“ซอยหน้าก็ถึงแล้วครับ”
เสียงหวาน ๆ ของคุณอู๋บอกกับผม ผมตั้งสติเพื่อชลอรถแล้วค่อย ๆ จอดประหนึ่งว่ามันเป็นรถหรูนั่งสบาย
คุณอู๋ลงจากเบาะหลังแล้วปลดหมวกกันน๊อคเพื่อคืนผม
“ขอบคุณมากนะครับคุณโจ้ สำหรับ วันนี้”
โอ๊ยย อย่าเลยครับ อย่าทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมไปออกเดทมาสิครับบบ
“ไม่เป็นไรครับ ผม..ผมยินดี นะ..นะครับ”
“ครับ...งั้น ขับรถกลับดี ๆ นะครับ คืนนี้ก็ฝันดีครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมรับคำเขิน ๆ คนสวยโบกมือให้ผมก่อนจาก ผมมองตามคุณอู๋ที่เดินเข้าโรงแรมหรูริมหาดไปด้วยหัวใจที่พองโตอยู่ในอก อ๊ากกกกกกกกกกกกกสสสสสสส์
“ฮัลโหลลล ไอ้หมีปลิววว” ผมรีบโทรรายงานไอ้ปลิวลมทันทีเมื่อถึงบ้าน อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ปลิวจะว่าไง
“เป็นเชี่ยอะไรของมึงไอ้ยาน ตื่นเต้นอะไรนักหนา วันนี้ไม่มีบอลนี่หว่า อะไรของมึงอีกล่ะหะ”
“กูไม่ได้จะคุยกับมึงเรื่องบอล ไอ้บ้า”
“แล้วไง มีอะไรวะ”
“มึง ๆๆ กูเพิ่งไปส่งคุณอู๋มา”
“คุณอู๋...นี่มึงอย่าบอกนะว่า มึงไปเดทกับนายหน้าหวานของมึงมา”
“อ๊อยยยยยย จะว่าใช่ก็ช่ายยย”
“เดทกัน ตัวต่อตัวเลยอ่ะนะ”
“เอ๊ออออ”
“เชดดดด” ไอ้ปลิวแทบไม่เชื่อ “โหยย มึง ในที่สุด มึงก็ทำได้แล้ว ไอ้โจ้”
“เหอะ ๆ ความจริงก็..ยังหรอก”
“อ่าว ทำไมวะ” ไอ้ปลิวสงสัย ผมเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง
“เออ นี่หล่ะ ดีแล้ว”
“ยังไงวะ”
“ก็ มึงมีโอกาศแล้วไงล่ะไอ้ยาน”
“โอกาศ..มึงหมายความว่า เป็นมือที่สามแย่งเขามาอ่ะเหรอ”
“เออ สิวะ..”
“ไอ้บ้า...”
“มึงแหล่ะ เลิกทำตัวเป็นหมามองเครื่องบินได้แล้วไอ้ยาน”
“เฮ้ยยย นี่มึงยังไม่เลิกให้กูไปแย่งเขามาจริง ๆ เหรอวะปลิว”
“ตอนแรกอ่ะไม่ แต่ตอนนี้ เครื่องบินของมึงกำลังจะลงสู่รันเวย์ให้หมาอย่างมึงได้เชยชมแล้ว มึงจะรออะไรอีกวะหะ”
“ไอ้ปลิวครับ แต่จีบกูยังสั่น นี่มึงจะให้กูไปแย่งเขามาเลยเหรอ”
“เออสิวะ ไม่เคยได้ยินเหรอไอ้ยาน รักแท้คือการแย่งชิง รักจริงคือการได้มา”
“เออะ ไม่เคย...”
“เอาเถอะ ๆ ถือว่ากูบอกมึงก็แล้วกัน ไอ้โจ้ มึงจะปล่อยโอกาศให้หลุดมือจริง ๆ เหรอวะ”
“กูมีด้วยเหรอวะปลิว”
“ทำไม ก็นี่ไง เค้าทะเลาะกับแฟน มึงก็แค่ไปแย่งมา”
“มึงดูกู กูมีอะไรไปเทียบกับแฟนเค้า ไม่หล่อ ไม่รวย ไม่มีเชี่ยอะไรเหมือนเค้าเลย”
“มึงก็อย่าไปแข่งกับสิ่งที่เค้ามีสิ มึงคิดดูดี ๆ นะว่ามีงมีอะไรที่เค้าไม่มีมั่ง”
ผมคิด ๆ เท่าไหร่ก็ไม่ออก เลยถามมันไป
“ไม่รู้ว่ะ มึงว่าไงวะ”
“เวลาไง”
“หะ เวลาเหรอ” ผมงง เวลา เวลาอะไรของมันวะ?
“เออ มึงบอกเองไม่ใช่เหรอว่าแฟนเค้าอยู่เมืองนอก ไม่มีเวลาให้เค้าเลย ไม่ใส่ใจเค้าเรื่องทำบ้านเลย มึงก็เอาเลยชวนเค้าทำบ้าน”
“แต่มันบ้านเค้านะ”
“เออ รู้ มึงก็แค่ให้คำแนะนำเนียน ๆ พาเค้าไปดูของแต่งบ้านแปลก ๆ”
“นั่นมันหน้าที่อีกบนะมึง มันได้ด่ากูตายสิ”
“เหอะ กบเกิบที่ไหนล่ะ นั่นมันเวลางาน แต่กูหมายถึงนอกเวลา เอางี้ ถ้าเจอเค้าที่หัวหิน หรือเค้ามาดูงานคนเดียวอีกรอบก็ลองชวนดู”
“เออ...” ผมคิดตาม เออ ไอ้ปลิวนี่มันฉลาดจริง ๆ
“แล้ว เรื่องแดกเดิก เที่ยวเท่อวอะมึง กูจีบไฮโซอย่างนี้กูไม่จนก่อนเรอะ”
“แล้วใครว่าให้มึงไปทำอะไรไฮโซ ๆ กันล่ะ”
“มึงหมายความว่าไงวะ”
“ก็ มึงก็ต้องดูด้วยว่าเค้าโอเคมั๊ยกับการติดตินมาหน่อย คือ กูจะบอกว่า ให้มึงดูว่าเขาชอบทำอะไร ที่พวกเรา ๆ ทำบ้าง มึงก็ชวนเขาทำ ก็แบบ ชอบปลูกต้นไม้เหมือนกัน อะไรอย่างนี้ มึงก็เอาเลยไปปลูกป่ากัน เข้าใจป่ะ”
“มึง แน่ใจนะปลิว”
“เออ ฟัง ๆ มาเหมือนแฟนคุณคนสวยเขาติดหรูพอตัวนะ ถ้าคุณคนสวยเขาไม่ติดหรูเหมือนแฟนมึงก็มีโอกาศเพิ่มขึ้น อีกอย่างมึงต้องหาอะไรให้เขารู้สึกว่า มึงไม่เหมือนคนอื่น”
“ยังไงวะ”
“ก็ เวลาไปเดทกัน เพื่อความแปลกใหม่เร้าใจ มึงพาขึ้นตุ๊ก ๆ แม่งเลย”
“เฮ้ยยย”
“เออ จริงนะมึง ลูกคนรวยหน่ะ เขาจะตื่นเต้นกับอะไรแบบนี้หล่ะ มึงจำมินนี่แฟนเก่ากูได้ป่ะ”
“มินนี่ ....ดาวคณะมนุษย์ ฯ อ่ะเหรอ”
“เออ นั่นหล่ะ ตอนกูคบกับเค้ากูพานั่งรถเมลล์ประจำเลย เค้าบอกว่า เค้าชอบที่กูพามาทำอะไรแปลก ๆ ดี”
“และมันจะใช้ได้กับของกูเหรอวะ”
“ก็บอกให้ลองดูไง สังเกตุว่าเค้าชอบอะไร เค้ามองมึงยังไงก่อน แล้วมึงก็ค่อยหาโอกาศใกล้ชิดเค้าอย่างที่บอก”
“เออ จะลองดูนะ”
“เออ...คิคิคิ งานนี้ถ้ามึงจีบติดกูจะบอกทุกคนในรุ่นว่ามึงไม่เป็นแห้วตลอดชาติอีกต่อไปแล้วว”
“เออ ขอบใจว่ะ”
“เอออ กูรอฟังข่าวดีนะเว้ยโจ้”
“เออ ขอบใจมึงนะปลิว”
“เล็กน้อยครับท่าน ขอให้โชคดีล่ะมึง”
“เออ ขอบใจ”
“เออไปก่อนนะ”
“อืม”
ผมฟังจากไอ้ปลิวแล้วค่อยใจชื้น เอาล่ะวะ ผมจะลองทำตามที่ไอ้หมีปลิวมันบอกดู เผื่อว่าผมจะได้มีสมหวังกับเค้าบ้างซะที กึ๊ยๆๆๆๆ