มามอบดอกไม้ขอโทษที่หายไปน้านนาน แฮะๆ หายไปนานๆที่เพราะธุระทางบ้านกับป่วยเพิ่มอีกสามวันครับ เป็นไข้หวัด
วันนี้สบโอกาสมาต่อให้อ่าน ขอบคุณที่มาติดตามอ่านนะครับ
กีตาร์ ตัวแม่ผมนั่งนอนเล่นกับไอต้าที่ห้องพักฟื้น แทบไม่ได้ลงไปไหน มันมักจะหยิบโทรศัพท์โทรหาคนนู้นคนนี้ ผมไม่ได้สนใจหรอก ปล่อยให้มันทำๆไป ด้านไอนุกับพี่บอล พอนอนเอาแรงกันเต็มอิ่มก็ลุกไปเดินเที่ยวที่อื่นแล้วครับ
“ อืม ไม่ได้เรียนที่กรุงเทพฯเหรอ ” มันจะถามประโยคแบบนี้ซ้ำๆ ผมก็นั่งมองมันนิ่งๆ
“ เอาไว้เจอกัน ”
“ โทรหาใครอีก ” ผมถามมันครับ ไอต้ากระพริบตาช้าๆ
“ เพื่อน ” มันวางโทรศัพท์ที่หัวเตียง และนอนลง
“ ถามอะไรหน่อยดิ ” ผมขยับเข้ามาใกล้ๆ ไอต้ามองผมอย่างตั้งใจ
“ งานพวกเนี้ย รู้ไหมว่าต้องทำยังไง ” ผมยกแผ่นกระดาษงานที่ไอต้าฝากเซฟเอามาให้ ขึ้นให้มันดู
“ รู้สิ ง่ายจะตาย ” อะไรวะ ทีเรื่องเรียนมันดันจำได้ เพื่อนเก่าๆก็จำได้ ทำไมทีกับกูมึงทำท่าจำไม่ได้วะ
“ ไอต้า จำพี่ชายกูได้ไหม ” ไอต้ามองผมนิ่งๆ สายตามันไม่สื่ออารมณ์เลย
“ คนไหน ต้องพามาเจอสิ ... แต่จะว่าไปก็แปลกๆนะ เราเนี่ยความจำเสื่อมจริงเหรอ ทำไมเราไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ” หึ งั้นเขาจะเรียกความจำเสื่อมไหมไอบ้า
“ อืมๆ กูแค่เสียใจ ที่มึงจำกูไม่ได้ ” ผมก้มหน้าพูดกับมัน
“ ไม่ใช่จำไม่ได้ เราจำกีได้ ”
“ แล้วเมื่อกี้ ทำไมไม่เรียกชื่อ เรียกตัวเล็กๆมั่ง ตัวขาวๆมั่งอะ ” ผมรู้สึกแอบงอนมันเล็กๆ จนตอนนี้ในบางครั้งเริ่มจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
“ ไม่ๆ คือบางที ... มันรู้สึก ... รู้สึกแบบ โอย ... ” ไอต้าเหงื่อแตกครับ มันทิ้งตัวลงนอน
“ ต้า มึงเป็นไรวะ ต้า ! ” ผมเรียกมันดังๆ ผมจะเดินออกไปตามพยาบาล แต่ไอต้าไม่ยอมให้ไปครับ
“ บอกแล้วใช่ไหม ว่าให้อยู่ด้วยกันน่ะ ” มันรั้งแขนผมไว้ ทั้งๆที่มันแทบจะไม่เหลือแรงแล้ว
“ มึงกำลังแย่นะไอต้า ปล่อยๆ ” ผมไม่กล้าดึงแรง กลัวมันจะบาดเจ็บ
“ ให้ต้านอนเฉยๆนี่แหละ กีมานั่งอยู่ข้างๆ ... แล้วเล่าไปเรื่อยๆที ว่าเราเป็นแฟนกันได้ยังไง ” มันเริ่มหอบ ผมตัดสินใจนั่งลงข้างๆเตียง ดูอาการของมัน พอเริ่มดีขึ้น ผมจึงเริ่มเล่าให้มันฟังว่า ผมกับมันรู้จักกันได้ยังไง
“ ในห้องน้ำ ทำไมต้องไปทำอย่างว่าในห้องน้ำ ” แค่ผมเริ่มเล่า มันก็ซักไซร้ทันที
“ กูว่ามึงต้องบอกกูมากกว่า มึงไปช่วยตัวเองในห้องน้ำทำไม ” ไอต้าส่ายหน้ารัวๆ บอกให้ผมเล่าต่อไป ผมเล่าไปเรื่อยๆจนไอต้าเคลิ้มๆจะหลับ ผมปล่อยให้มันนอนแต่โดยดี
“ นี่มึงจำกูไม่ได้จริงหรือวะ ” ผมบ่นคนเดียว
ไอต้าอยู่รักษาตัวอีกไม่กี่วัน มันต้องการจะออกจากโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลและแม่ของไอต้าดูอาการแล้ว คิดว่าคงจะดีกว่าถ้าให้ไปรักษาตัวต่อที่บ้าน วันนี้ผมกับเพื่อนๆมาช่วยมันเก็บข้าวของ ไอต้ายืนมองหน้าเพื่อนๆเหมือนไม่ค่อยสนิทกันเช่นเคย
“ มองกูแบบนี้หมายความว่าไง ” ต้นสนพูดขึ้น วันนี้ไอนุกับพี่บอลไม่ว่างมารับครับ เลยต้องลำบากโทรศัพท์เรียกต้นสนกับข้าวปุ้นมาช่วย
“ ปล่าว กูว่ากูสนิทกับมึงนะ มึงเคยทำร้ายคนนั้นด้วย ” ไอต้าชี้ไปที่ข้าวปุ้น รายนั้นยืนทำตาโตเลยล่ะครับ
“ มึงจำได้เหรอ นึกอะไรออกอีกไหม ” ต้นสนรีบเร้าให้ไอต้านึกคิดต่อไปอีก แต่ไอต้าขมวดคิ้วเข้ม และมันกระพริบตาถี่ๆ แพทย์บอกผมว่าถ้ามันมีอาการแบบนี้ ต้องให้มันผ่อนคลาย
“ พวกมึงเก็บเสร็จ ช่วยขนลงไปก่อน เดี๋ยวกูกับไอต้าตามไป ” ผมพูดขึ้น สองคนนั้นเดินขนของออกไปแล้วครับ
“ ไปเถอะ กลับบ้านกัน ” ไอต้าพยักหน้า ผมเดินมากับมันจนถึงชั้นล่าง ไอต้าแยกไปขึ้นรถยนต์ของป้าจีน ส่วนผมไปกับต้นสน
“ กี แบบนี้มันจะหายไหม ” ข้าวปุ้นถามผมขณะที่เดินทางกลับบ้าน
“ ไม่รู้สิ แพทย์บอกว่าต้องค่อยๆฟื้นฟู เพราะตอนที่มาถึงโรงพยาบาล อาการก็แย่มาก ดีที่ช่วยมันกลับมามีชีวิตได้ ” ผมตอบ
“ มึงบอกว่า มันจำเพื่อนเก่า แฟนเก่าได้ แต่จำมึงไม่ได้ มันไม่แปลกไปเหรอวะ ” ไอต้นสนถามบ้าง
“ กูไม่รู้ดิ ” ผมไม่รู้จริงๆอะครับ
“ สมมติถ้ามันจำมึงไม่ได้ แล้วหนีหายไป มึงจะทำไง ”
“ ต้นสน ถามแบบนั้นได้ไง บ้าเหรอ ” ข้าวปุ้นว่าไอต้นสนใหญ่เลยครับ
“ เฮ้อ ถ้าโชคชะตาให้กูกับมันได้พบกันแค่นี้ ก็ปล่อยไปเถอะ ”
“ กีเอ้ย ... ” ไอสองคนนั้นแทบจะพูดออกมาพร้อมๆกัน
พอผมมาถึงที่คอนโด จึงมารู้ว่าไอต้ามันไปขอนอนที่หอพักของแม่คือป้าจีน มันไม่ได้กลับมาที่คอนโดนี้ครับ ผมเริ่มรู้สึกกลัวจริงๆเสียแล้วครับ กลัวว่ามันจะไปจากผมอย่างที่คนอื่นๆเป็นห่วง
“ คงแค่ชั่วคราวหรอก มันจะลืมน้องได้ไง มันฝากพี่มาบอกว่ารักแท้ๆ ” พี่เบสก็มารอเสียเที่ยวเหมือนกับหลายๆคน
“ ช่างเหอะครับ ค่อยๆรอดูไป ” ผมพูด
“ อืมๆ อย่างนั้นกีอยากไปเที่ยวที่ไหนปะ พี่พาไป ” พี่แซ็กก็มาด้วย
“ ไม่อะครับ ผมอยากนอน ”
“ เดี๋ยวเบสนอนนี่ พี่แซ็กกลับเหอะ ”
“ งั้นพี่ไปล่ะ ไปนะน้องๆ ” พี่แซ็กโบกมือลาพวกเพื่อนๆของผม และเดินออกจากห้องไป
“ กูไปนอนนะเว้ย ” ผมบอกกับทุกคน
“ เออๆนอนซะ เหนื่อยเปล่ามาหลายวันละ ” ไอต้นสนพูดซะแอบเจ็บทีเดียว คำว่าเหนื่อยเปล่าที่ทำให้ผมตลกกับชีวิตเลยครับ ผมเดินเข้ามาเก็บเสื้อผ้าบางชุดเข้าตู้ บางชุดใส่ตะกร้า และเดินเข้าไปอาบน้ำ ผมร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆ ผมเริ่มเหนื่อยกับความจริงแบบนี้ ทำไมเรื่องไม่คาดฝันเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นกับผมด้วย
เย็นวันนั้นพี่เบส ต้นสนกับข้าวปุ้นนั่งรอกินข้าวเย็น หลังจากกินเสร็จ ต้นสนกับข้าวปุ้นขอตัวกลับ ส่วนพี่เบสนอนเป็นเพื่อนผมที่คอนโด ขณะที่ผมล้มตัวลงนอนได้ไม่สนิทดี ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ สวัสดีครับ ”
“ ทำไมไม่โทรมาถามกันบ้าง ว่าถึงหรือยัง สบายดีไหม ” ผมตกใจรีบลุกขึ้นนั่ง เสียงนี้ ไอต้านี่หว่า
“ มีอะไรอะน้อง ” พี่เบสเห็นแบบนั้น คงอดถามไม่ได้ครับ ผมชี้ๆไปที่รูปของไอต้า พี่เบสพยักหน้าเข้าใจ
“ ว่าไง ไหนว่าเป็นแฟนกันไง ” มันย้ำอีกครับ
“ ก็มึงไม่มาที่คอนโด กูนึกว่ามึงไม่อยากเจอหน้ากู ” พี่เบสอ้าปากค้าง แกทำมือเป็นสัญาณว่าคุยเรื่องเบาๆหน่อย
“ บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าให้ต้าอยู่คนเดียว ”
“ ... แล้ว จะให้ทำยังไง ” พอนึกถึงภาพที่มันนั่งตัวสั่น เหงื่อแตก และบอกให้ผมอยู่ข้างๆ ทำเอาผมเสียงอ่อน
“ มาเจอกันสิ ”
“ มึงจะบ้าหรือไง นี่สามทุ่มสี่ทุ่มแล้ว ” ผมตอบกลับไป
“ แล้วไง ปกตินอนไวเหรอ มานะ อยู่ที่ ..... ” มันบอกชื่อสถานที่กับผม แล้ววางสายไป
“ พี่ มันให้ผมไปหาอะ ผมไม่รู้จักสถานที่ ” ผมบอกชื่อสถานที่กับพี่เบส
“ มันเป็นร้านอาหาร มีดนตรี ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก จะไปไหมล่ะ ”
“ คงต้องไปอะครับ พี่ไปส่งทีดิ เผื่อมันวุ่นวายจะได้ช่วยกันพากลับ ” ผมกับพี่เบสต้องลุกขึ้นแต่งตัว และออกไปหามันที่ร้าน ตามที่บอกมา
ร้านอาหารที่ว่ามีคนมากหน้าหลายตา ไม่จำกัดเพศ และวัย ดูท่าร้านนี้จะแพงน่าดู พี่เบสนำผมเข้าไป เราลองๆมอง ไม่นานก็เจอ ไอต้ากำลังนั่งอยู่กับใครไม่รู้อีกสองสามคน แต่เป็นคนมีอายุ ไม่ใช่หนุ่มๆสาวๆครับ
“ ไอตะ ... ” ผมกำลังจะเข้าไปทัก แต่ต้องมายืนนิ่ง เพราะคนที่นั่งตรงหน้านั้นน่ะ ...
“ แม่ ทำไมมาอยู่นี่ครับ ” พี่เบสพูดแทนไปแล้วครับ
“ แม่ ? น้ารู้จักสองคนนั้น ... อย่าบอกนะว่าเป็นลูกชายของน้านี ” หัวใจผมหล่นไปกองที่ตาตุ่มแล้วครับ ผมเดาเรื่องบางเรื่องออกเลย
“ เบส กลับกันเถอะ ” แม่ผมพูด
“ แม่ ผมไปด้วย ” ที่ผมพูดเมื่อกี้คือ ผมเดาว่าไอต้าต้องมาเล่าเรื่องที่มันเป็นแฟนกับผมให้แม่ของผมฟังแน่นอน แล้วแม่ก็มีท่าทางโกรธผมอย่างเห็นได้ชัด
“ กีอยู่ก่อน เดี๋ยวแม่จะเรียกไปหาอีกที ไปเบส ” แม่ของผมบอก
“ แม่ ... น้องมัน ”
“ บอกให้ไป หรือจะให้แม่กลับแท็กซี่ ” พี่เบสตบไหล่ของผม ก่อนจะเดินไปพร้อมกับแม่ ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แม่รู้แล้วสินะ ว่าผมเป็นอะไร
“ นั่งสิ ” ไอต้าขยับเก้าอี้ให้
“ กลับเถอะ กูเหนื่อย ” ผมบอกกับมัน
“ ... เอางั้นเหรอ รอต้าสั่งกับข้าวเดี๋ยวนะ ยังไม่ได้กินข้าว ”
“ อืม ” ไอต้าสั่งข้าวใส่กล่อง และพาผมออกมาจากร้าน มันขับรถไปเรื่อยๆโดยที่ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหน เพราะผมไม่มีที่ไป จะกลับคอนโดก็ต้องกลับไปร้องไห้คนเดียว มันจะพาไปไหนก็ตามใจเหอะ
“ ... หืม ไอต้า มึงจะไปไหนอะ ”
“ โรงแรมไง ”
“ เฮ้ยๆ ไปทำไมโรงแรม ” ช่วงนี้มันทำให้ผมตกใจได้ตลอดเวลาจริงๆ
“ บอกตรงๆนะ เราเป็นแฟนกันใช่ปะ ตอนต้ามีแฟนเมื่อก่อน ต้าชอบพามาแบบเนี้ย ” มันพูดไปยิ้มไป ผมงี้อยากจะลุกเตะมันจริงๆ
“ งั้นเลิกกันเลยดีกว่า กูไม่ใช่ตัวบำบัดความใคร่ ”
“ ... .” ไอต้าจอดรถข้างทางทันที ตายละกู มันจะฆ่ากูไหมเนี่ย
“ แค่มีเซ็กส์ ถึงขนาดต้องเลิกเลยเหรอ เราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้หรือไง นายรู้ไหมว่าเราทำยังไงก็นึกไม่ออก เราอยากลองวิธีนี้ดู นายจะไม่ช่วยเหรอ ” พอมันเรียกผมว่านายอีกครั้ง เหมือนผมกับมันกลับไปเริ่มคบกับใหม่ๆเลย
“ ก่อนเราจะมีอะไรกันครั้งแรก ก็คบกันตั้งนาน มึงเคยทนได้ ... พอสมองไม่ดี มึงจะบอกว่าทนไม่ได้ใช่ปะ งั้นมึงไปหาคนที่ยอมมึงเถอะ ” นาทีนี้ ผมโกรธมันเรื่องที่ไปปากโป้งบอกเรื่องที่ไม่ควรบอกกับแม่ของผม และยังมีอีกหลายเรื่องที่เคืองๆ ทำให้พูดไปค่อนข้างแรง ไอต้านิ่งไป
“ โอเคๆ อย่าเพิ่งโมโห จะพาไปส่งก็ได้ บอกทางด้วยนะ ไปไม่ถูก ” มันพูดขึ้นหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ผมแอบดีใจที่มันไม่หมดความอดทนเสียก่อน ไอต้าพาผมมาส่งที่คอนโด ส่วนตัวมันกลับไปที่พัก เฮ้อ ไอต้า มึงจะเป็นแบบนี้อีกนานไหม มึงรู้ไหมว่า กูกำลังจะต้องเจอกับอุปสรรคเพียงลำพังนะ ได้โปรดเถอะ กลับมายืนข้างๆกัน และทำอย่างที่เคยสัญญากันไว้ กูจะรอมึงนะต้า