มาสวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับผม (10 วันเชียว) ช่วงปีใหม่ไม่ได้ฉลองกับใครหรอกครับ พาพ่อของพี่บอลไปไหว้พระตามที่ต่างๆ ท่านอาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังเคลื่อนไหวลำบาก ส่วนแม่ของผมเหมือนเดิมครับ ทรงๆมาร่วมสองเดือนแล้ว ขอบคุณทุกพรที่ส่งถึงกันนะครับ ขอให้พรนั้นกลับถึงทุกๆคนทั่วหน้า สาธุๆ
ผมมีคิวเดินทางเข้าเมืองหลวง ดูอาการของแม่ครับ อาจจะไปค้างกับท่านด้วย แต่ถ้าเป็นไปได้ หากผมเขียนตอนต่อๆไปเสร็จ จะต่อให้ทันทีนะครับ ^^ วันนี้มาต่อกันก่อนดีกว่า
กีตาร์ ตัวพ่อ“ ไอต้า อย่าเพิ่งวู่วาม ” กว่าที่ผมจะได้ยินเสียงของพี่จัส ผมลงไปล้มกลิ้งบนพื้นเรียบร้อย ไอบ้าที่กำลังทับร่างของกี สกัดขาผมจนล้มลง
“ มึง ปล่อยแฟนกู ” ไอเด็กคนนั้นจริงๆ ไอคนที่ผมคิดว่าแอบชอบกีอยู่ มันทำหน้าสงสัย แต่มือของมันยังกดไหล่ของกี
“ อะไรกันครับพี่ ดูสภาพของแฟนพี่ก่อนสิ ”
“ มึงลุกออกมาเดี๋ยวนี้ !!! ” ผมยังย้ำคำเดิม
“ พี่กีกำลังดิ้น ถ้าผมปล่อยข้าวของร้านของผมได้พังหมดพอดี ” ผมชักจะไม่เข้าใจซะแล้วสิครับ กีหน้าแดงและเหงื่อออกมาก สภาพไม่เหมือนกับเมาเหล้า หรือว่า ...
“ ยา ... ร้านมึงเล่นยากันเหรอ ”
“ เฮ้ยๆ พูดเสียงเบาๆ ” พี่จัสเดินไปปิดประตูห้อง แล้วเดินกลับมาพยุงให้ผมลุกขึ้น
“ คนมันมาก ผมดูแลได้ไม่ทั่วถึงน่ะครับ ที่สำคัญพี่กีแฟนของพี่ก็เดินว่อนไปทั่วร้าน ผมตามดูไม่ทัน ... วันนี้อดอีกตามเคย ” กีนอนนิ่งไปเฉยๆ แต่เหงื่อยังไหลออกมามาก ผมค่อยๆแทรกตัวเข้าไปดูอาการของกี ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่อยู่บนใบหน้า
“ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่กี ... ” ผมลูบหัวที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อของกี
“ น้อง ร้านเองมีห้องน้ำไหม ที่ส่วนตัวหน่อย ” ผมหันไปถามไอเด็กคนนั้น มันยืนดื่มน้ำอยู่ใกล้ๆ
“ มี หลังตู้โชว์ ใช้ได้เลยครับ ”
“ พี่จะเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กี ถึงกีจะหมดสติ แต่ถ้าตื่นมาแล้วเหม็นกลิ่นเหงื่อ เขาจะเวียนหัวมากและจะอ้วกออกมาด้วย” ไอเด็กนั่นมองผม แล้วเกาหัวตัวเอง
“ พี่พาพี่กีกลับไปสิครับ ทำไมต้องเช็ดเนื้อเช็ดตัวที่นี่ ”
“ เขาไม่อยากเจอพี่หรอก พี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เอาไว้พี่หาสาเหตุเจอพี่ค่อยมาเจอเขา ” ผมพูดพลางลูบหัวของกีเบาๆ ความจริงกีไม่ชอบให้ใครลูบหัวนักหรอกครับ ผมมักจะแอบลูบเวลาที่กีนอนหลับ
“ ว่าจะพามาคลายเครียด คงจะเครียดกว่าเดิมแหง ... พี่จัสทำไงต่อดีครับ ”
“ วันหลังเจอกันใหม่ วันนี้คงต้องพามันกลับคอนโด ว่าแต่มึงนอนที่ไหนไอต้า ” พี่จัสถามผม
“ หอเพื่อนครับ ”
“ กูว่า มึงทำหน้าด้านอยู่เป็นเพื่อนมันไปดีกว่า ไม่นานมันก็ใจอ่อน ” ผมยิ้ม มองไปที่ใบหน้าเรียบเฉยของกี
“ เวลาที่เขามีปมในใจ เขาจะต่อต้านมันพี่ ถึงผมจะอยากดูแลมากแค่ไหน ผมก็ไม่อยากทำให้กีลำบากใจ ... เขาขอเลิกกับผมนะพี่ ”
“ เรื่องราวน่าสนใจจริงๆนะครับ ” ไอเด็กนั่นยังทำท่ากวนผมไม่เลิก
“ หึ ลองมาเป็นแบบพี่บ้างสิ แล้วจะรู้ว่าน่าสนใจขนาดไหน ”
“ ผมได้ยินว่าพี่กีมีพี่ชายสองคน ทำไมไม่ลองถามพี่ๆเขาดูล่ะครับ ”
“ หืม ” มันพูดได้ถูกต้องแฮะ ผมน่าจะถามพี่เบสสิ ทำไมถึงคิดไม่ถึงนะ
“ เออว่ะ ช่วงนี้ได้ติดต่อกันบ้างไหมล่ะ ” พี่จัสถาม ผมส่ายหน้า
“ ลองโทรศัพท์ไปหา แล้วคุยซะ มาเดี๋ยวกูพาแฟนมึงกลับ ”
“ ออกทางนี้พี่ ตามมา ” ไอเด็กนั่นเดินนำผมออกทางออกอีกทาง ที่ไม่พลุกพล่านและวุ่นวาย ผมส่งพี่จัสที่ลานจอดรถ และยืนจ้องหน้าไอเด็กนั่น
“ พี่มองผมแบบนี้ตลอดเลยนะครับ ”
“ คิดอะไรกับกีหรือปล่าว ” มันหัวเราะร่า
“ พี่คิดว่ายังไงครับ ”
“ พี่เดาไม่ออก รู้แค่ว่าคงไม่ได้คิดแบบเพื่อนหรือพี่น้อง ” มันยืนกอดอก พิงรถที่จอดอยู่ข้างๆ มาดของมันนี่กวนประสาทใช่เล่น
“ ถามว่าพิเศษกว่าคนอื่น ผมคิดว่าใช่นะ แต่ถ้าแฟนของพี่กีคือพี่ ผมก็ไม่คิดไปไกลกว่านี้ ”
“ หมายความว่ายังไง ” มันเอามือล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากางเกง คว้าบุหรี่ขึ้นมาสูบ
“ ผมไม่อยากแข่งกับพี่ ผมกลัวสู้ไม่ได้ ” ผมหัวเราะบ้าง ผมแย่งบุหรี่ของมันมาอัดเข้าไปที่ปอดเฮือกหนึ่ง ก่อนจะส่งคืนให้
“ ขอบใจ ” ผมบอกกับมัน
“ ต่อไปเวลาเห็นผมเดินกับพี่กี ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นอีกแล้วนะครับ ผมรู้สึกไม่ดี ผมไม่คิดจะแทงหลังใคร ... ผมการ์ดครับ ” มันยื่นมือมาตรงหน้า ผมจับมือกับมันอย่างไม่ลังเล ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ากีโชคดีมากๆที่รู้จักกับไอการ์ด และยังเป็นโชคดีของผมด้วย ที่มันไม่คิดจะแข่งเพื่อแย่งกีไปจากผม ไม่อย่างนั้นเรื่องอาจจะซับซ้อนกว่านี้
ผมหยิบโทรศัพท์ต่อหาพี่เบส เสียงของพี่เบสอ้อแอ้ไม่ค่อยได้สติเท่าไหร่นัก แต่พอผมพูดว่าเป็นเรื่องของกี พี่เบสกลับมามีสติในทันที และสั่งให้ผมตามมาเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมรีบบึ่งรถไปที่นั้นตามที่นัดหมายกัน หวังว่าพี่เบสจะรู้ว่าปัญหาของกีคืออะไร ผมจะได้คลายความทุกข์ที่อัดแน่นอยู่ให้หมดไปเสียที
กีตาร์ ตัวแม่“ ฮึก ... ” ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา มองไปรอบๆ ผมอยู่ที่คอนโดนี่หว่า
“ หืม ตื่นแล้วเหรอ ตัวแสบ ” เสียงพี่บอล
“ ว่าไงนะครับ ... เป็นไงบ้างวะ ” ไอนุก็อยู่ด้วยครับ สองคนนี้มานอนในห้องของผมทำไม
“ กูอะนะ เหนื่อยๆนิดหน่อย ”
“ ดีเนอะ เหนื่อยนิดหน่อย พี่จัสอะเหนื่อยจนกลับไม่ไหว ขอนอนอยู่ข้างนอก ” ผมเริ่มนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“ พี่จัสๆๆ ” ผมกระโดดลุกจากเตียง เพื่อวิ่งออกไปหาพี่จัส ทั้งพี่บอลและไอนุรีบวิ่งตามออกมา
“ อืออ อะไรอีกเนี่ย ” พี่จัสงัวเงียๆ ลูบหน้าลูบปาก หรี่ตามองมาทางผม
“ พี่ๆ ทำไมเรากลับมาสภาพนี้อะ ผมจำได้ว่าเรากินเหล้ากันธรรมดาๆนี่ครับ ”
“ กินเหล้า มึงกินทำไม ” ไอนุถามขึ้น
“ กูอยากสนุก มีปัญหามะ ... โอ้ย ตบหัวผมทำไม ” พี่จัสง้างมือตบหัวของผมแบบหยอกๆ
“ แล้วสนุกไหม ” ผมนั่งลงบนพื้น ข้างๆโซฟาที่พี่จัสนอน
“ มันก็สนุกดี จำอะไรไม่ค่อยได้ด้วย ”
“ หมายถึงใคร ไอต้าใช่หรือปล่าว ” พอได้ยินพี่จัสพูดถึงไอต้า ผมรู้สึกหดหู่หัวใจเล็กน้อย
“ ผมนอนดีกว่า มึนหัวละ .... พี่บอลกลับไปนอนที่ห้องเลยนะครับ มึงด้วย ไอลิงเผือก ” ผมชี้หน้าใส่ไอนุ พี่บอลเอามือกุมปาก คงจะตลกฉายาแฟนตัวเองมั้ง
“ ขอให้นอนฝันดี ผีปลาทองเต็มปากแล้วกัน ”
“ เออออ !!! ” ผมเดินจ้ำอ้าวกลับมาที่ห้องนอน ปิดประตูลงกลอน นั่งและนอนคิดถึงไอต้า ห่างกันคราวนี้ผมไม่รู้ว่าต้องเปลี่ยนตัวเองมากแค่ไหน แต่ผมจะทำให้แม่ต้องผิดหวังไม่ได้ ไม่ตัดใจเอาวันนี้ วันหน้าจะยิ่งลำบาก ผมจะก้าวไปข้างหน้า ... โดยที่ไม่มีไอต้าในหัวใจอีกต่อไป
ช่วงวันหยุดสองวัน ผมไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย ถ้าไม่ลงไปซื้อกับข้าวขึ้นมากิน ก็นอนเล่น ทำการบ้านที่ค้างอยู่กับไอนุ มันเล่าเหตุการณ์ช่วงที่ผมเมาเหล้าหนักๆให้ฟังหมดทุกอย่าง ทางด้านพี่บอล พี่จัสหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ ยังไม่มีใครส่งข่าวคราวมาเลย และเมื่อคืนผมฝันแปลกๆนิดหน่อยด้วย ผมฝันเห็นไอต้า มันกำลังเก็บเสื้อผ้าไปจากคอนโด ภาพยังชัดติดตาอยู่เลย
“ นุ พี่บอลไปไหนอะ เมื่อวานก็ไม่กลับมานอนที่คอนโด ” ไอนุใส่แว่นสายตา แปลกๆชอบกลครับ มันไปตัดมาตอนไหนนะ
“ ไม่รู้สิ ไม่ได้บอกไว้ ”
“ อะไรของมึงวะ แฟนหายไปทั้งคน ” ไอนุหันมามองหน้าผม
“ ทีมึงทิ้งแฟนทั้งคน ยังไม่เห็นสะทกสะท้าน แฟนของกูหายไปแค่วันเดียว ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้น ”
“ ย้อนกูเหรอห๊ะ ” ไอนุถอดแว่นออก พร้อมกับจ้องสายตาดุๆมาที่ผม
“ เออ ย้อนมึงนั่นแหละ ”
“ กูมีเหตุผลของกูแล้วกัน มึงอย่าถามหรือพูดถึงมันดีกว่า ” ผมหยิบปากมามาเขียนงานต่อ
“ เหตุผลของมึงคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มึงถึงต้องหลีกเลี่ยงตลอดเวลา ”
“ ดีไม่ดี แต่มันจำเป็นแล้วกัน ” ไอนุคว้าปากกาไปจากมือของผม
“ ไปเล่นบาสฯกันดีกว่า ปะๆๆๆ ” มันกระโดดลุกขึ้น แล้ววิ่งเข้าไปในห้อง
“ กูไม่ไปโวย !!! กูจะทำงาน ”
หลังจากปฏิเสธมันเรียบร้อย ผมก็เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกีฬาขาสั้น ลงตามไอนุไปเล่นบาสเกตบอลที่สนามใกล้ๆกับคอนโด
“ เช้าอยู่แท้ๆ มึงจะฟิตไปไหน ”
“ ไม่ต้องบ่น รับไป !!! ” ไอนุส่งลูกบาสให้ผมอย่างแรงและเร็วมาก ผมกางแขนไปรับลูกเอาไว้
“ มาเลยไอลิงบ้า วันนี้กูสั่งสอนมึงเอง ” ผมวิ่งพุ่งเข้าไปที่ไอนุ มันขยับหลบและพยายามสอดมือเข้ามาแย่งลูกบาส ผมเอี้ยวตัวหลบ วิ่งตรงไปทำคะแนนแรกได้สำเร็จ
“ ฮ่าๆๆ มึงจะสูงไปทำไมวะนุ เอามาให้กูดีกว่ามั้ย ” ไอนุแสยะยิ้ม
“ ทีนี้กูเริ่มบ้าง ” ไอนุไปยืนตรงกลางสนามและเริ่มเล่นกันต่อ
ในที่สุดผมหมดแรงครับ นอนลิ้นห้อยอยู่กลางสนาม ไอนุต้องบอกให้ผมไปนอนข้างๆ เพราะมีคนมาขอเล่นด้วย พอเริ่มหายเหนื่อย ผมลุกมานั่งดูไอนุเล่นกับเด็กที่มาขอใช้สนาม ... ไอบ้านี่มันแอบอ่อยให้ผมนี่หว่า
“ พอก่อนๆ ... ไง จะลงแทนกูไหม ” ผมรีบส่ายหน้า กูเพิ่งเกือบตายเพราะหมดแรงนะเว้ย
“ อยากเห็นกูตายเหรอ ” มันนั่งลงข้างๆ
“ กูทำเพื่อมึงได้หลายอย่างนะกี แต่กูยอมรับว่าไอต้าให้มึงได้มากกว่ากู ” มันพูดไปหอบไป
“ ไม่ต้องมากล่อมให้กูพูด กูไม่บอกมึงหรอก ”
“ มึงเป็นคนชอบเก็บกดตั้งแต่เมื่อไหร่วะกี ที่สำคัญช่วงนี้มึงใจร้ายมาก ” มันหลอกให้ผมหมดแรง ต้องนั่งฟังมันพูดอะ
“ นุ สมมติว่าถ้าพ่อให้มึงเลิกเป็นแบบนี้ มึงจะเลิกไหม ”
“ อะไรนะ พ่อมึงมาเข้าฝันให้มึงเลิกกับไอต้าเหรอ ลุงไม่ใจร้ายงั้นมั้ง ” มันยังจะเล่นอีก ผมตีแขนมันผัวะหนึ่ง
“ ถามแล้วก็ตอบดีๆ เดี๋ยวไม่คุยด้วยแม่ง ” มันหัวเราะเสียงดัง ไม่อายไอเด็กที่มาขอใช้สนามเลย ผมเพิ่งสังเกตว่าไอเด็กสามคนนั้นพาแฟนมากันเป็นคู่ๆ
“ ถ้าพ่อพูดแบบนั้นกูก็เลิก ”
“ จริงอะ ” มันพยักหน้า
“ แต่ท่านไม่ได้ขอ กูเลยจะเป็นแบบนี้แหละ ”
“ อ้าว มึงนี่ยังไงวะ พ่อขอยังไม่ทำตาม ” ไอนุมองผม
“ กูมั่นใจนะกี พ่อหรือแม่ทุกคนรักลูกทุกคน และรักที่ลูกเป็นลูกของตัวเอง ท่านไม่เกลียดหรือโกรธตัวตนของลูกแน่นอน ” มันตบไหล่ของผม ผมก้มหน้าลงมองที่พื้น น้ำตาของผมจะไหลลงมาอีกแล้ว
“ มึงดูพวกนั้นสิวะ มึงไม่อยากเป็นแบบนั้นเหรอ ที่ไปไหนมาไหนไม่ต้องอายใครน่ะ ” ผมชี้ไปที่กลุ่มของเด็กมัธยมกลุ่มนั้น เด็กๆชายหญิงที่นั่งตรงกันข้ามกับผมและไอนุ
“ มันไม่ได้อยู่ที่ใครแล้วว่ะกี ... อยู่ที่ตัวมึงเอง ใครที่ไหนจะมานั่งจ้องว่ามึงจะทำอะไร น่าอายขนาดไหน ”
“ แต่ ... กูสงสารครอบครัวนะ ” ไอนุถอนหายใจ
“ มึงถามตัวเองทุกวัน มึงเคยถามคนอื่นไหมว่าเขาคิดอย่างไร บางทีครอบครัวของมึงอาจไม่ต้องการให้มึงเป็นแบบนี้ก็ได้นี่ ” ผมเริ่มจะคลายความกังวลไปได้บ้างแล้วครับ ไอนุเป็นคนที่ผมพึ่งพาได้จริงๆ
“ ปะเหอะ กูจะไปคุยกับๆพี่ของกู ”
“ ไอบ้านี่ มึงนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว รอให้กูนั่งพักบ้างสิวะ ” ผมไม่สนใจมันครับ อยากนั่งให้นั่งไปเลย ผมเดินกลับมาที่คอนโดกับไอนุ จนมาถึงหน้าห้อง
“ นุ มึงเปิดประตูทิ้งไว้เหรอวะ ” ไอที่เดินตามมา มองข้ามหัวของผมไป แม่งจะย้ำว่ากูเตี้ยไปถึงไหน
“ กูไม่ได้ลืมแน่นอน สงสัยพี่บอลจะกลับมาแล้ว ” ผมเดินนำหน้ามา ปรากฏว่าในห้องมีพี่ๆหลายคนยืนรวมกันอยู่ หลายคนผมก็ไม่รู้จักเสียด้วยครับ
“ ทำไมไม่เอาโทรศํพท์ไปด้วย !!! ” พี่บอลตะคอกใส่ไอนุเสียงดังมาก ไอนุถึงกับอึ้ง ผมเองก็อึ้ง
“ น้องนุไม่ผิด ปกติเขาก็ไม่ได้พกเวลาไปข้างนอก ถ้าสงบสติอารมณ์ไม่ได้ไปรอที่อื่น ” เฮ้ย นั่นพี่ชายผมอะ พี่แซ็กโซโฟน
“ พี่ๆมาได้ยังไงครับเนี่ย ” ผมถามพี่แซ็ก แต่พี่แซ็กไม่ยอมตอบในทันที กลับมองไปที่พี่คนอื่น
“ กีมานั่งก่อนดีกว่า ” พี่เบสก็อยู่ด้วย ผมเดินมานั่งตรงโซฟาแต่โดยดี
“ มีอะไรกันเหรอครับ ”
“ แม่ของเรา ... ท่านเข้าโรงพยาบาล ” พี่เบสค่อยๆพูดช้าๆ หลังจากที่ได้ยิน หัวใจของผมกระตุกอย่างรุนแรง
“ แม่เหรอ ... แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม ” พูดพูดไป น้ำตาคลอไป
“ อืม แม่ถึงมือแพทย์แล้ว แต่ ”
“ ห๊ะ !!! มีอะไรอีกอะพี่ ฮึก ” พี่เบสชักสีหน้าเคร่งขรึม จับไหล่ของผมไว้
“ ถ้าจะร้อง พี่ไม่บอกนะ ”
“ ฮึก ผมห้ามไม่ได้อะ พี่บอกผมนะครับ ” พี่เบสถอนหายใจยาว
“ เมื่อวาน ต้าอาสาขับรถกลับไปรับแม่ของเราเข้ามาที่นี่ หลังจากมันส่งแม่ของเราแล้ว ... ไอต้า เอ่อ ไอต้าถูกรถชน ” ผมอ้าปากค้าง น้ำตาไหลออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว
“ พอก่อนเบส ลุกขึ้น ” พี่แซ็กพยายามห้ามพี่เบส แต่ผมไม่สนใจครับ ผมอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง
“ ต้าล่ะครับ ต้าอยู่ไหน ”
“ ถ้าอยากไปหา พี่พาไปก็ได้ ... เชน แกไปกับบอล ไปแจ้งข่าวป้าจีนเรื่องไอต้า แล้วบอกเปียโนด้วย ” พี่แซ็กหมายถึงพี่สาวของไอต้าครับ
“ เดี๋ยวๆ ไอต้ามันยังสบายดีใช่ไหมครับ ” ผมพยายามถามพี่เบส
“ ... เราไปกันเถอะ ” นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมวันนี้ถึงเป็นวันมหาวิปโยคขนาดนี้ ... ไม่นะ เมื่อคืนนี้ ที่ผมฝัน ไม่จริงนะต้า มึงไม่ได้หนีไปจริงๆใช่ไหม
-----------------------------------------------------------------------
อยากถามว่า ใครเคยไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดบ้าง ได้ผลดีไหม ที่ถามเนี่ยเพราะพี่บอลว่าผมหลายทีแล้ว ว่าไม่ยอมไปฉีดป้องกันไว้ มันดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ แฮะๆ