ระโนด <by ต้นคุง>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ระโนด <by ต้นคุง>  (อ่าน 220416 ครั้ง)

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #360 เมื่อ11-09-2009 17:52:17 »

 o13
ยิ่งเขียนยิ่งทำให้อ่านแล้วปวดหัวขึ้นเรื่อยๆจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว  :เฮ้อ:
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(LOVEis)

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #361 เมื่อ11-09-2009 23:47:08 »

เง้อป้อก็น่าสงสารเนอะแอบรักมาแสนนาน



อย่างงี้ก็อย่าให้คอยนานเลยน่ะ

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #362 เมื่อ12-09-2009 01:56:46 »

ไม่รู้จะเลือกใคร....... :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #363 เมื่อ12-09-2009 02:22:28 »

นายป้อเป็นเอามาก

ไม่รู้จะเลือกใคร อย่าจบเศร้านะก๊าบ

ไม่อยากเสียน้ำตา

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #364 เมื่อ12-09-2009 06:24:08 »

31 เหนือเขื่อน

“น้องส้มคร้าบบบ...มาให้พี่ทีมตำสักทีเถอะคร้าบ...”ทีมกอดรัดอ้นไปมา มือแข็งๆบีบไปที่หน้าอกของอ้น แล้วก็ไซร้ไปที่คอ ทำเอาอ้นตื่น หัวยุ่งๆชี้ไปทุกทาง คราบน้ำลายติดมุมปาก ตาตี่ๆปรือๆงัวเงียๆ
“ไอ้ทีม...ไอ้เชี่ยย...อย่าเล่นดิ...กูเสียววว...”อ้นด่าทีมแล้วดิ้นพราดๆ
“มาเป็นของพี่ทีมเถอะนะ...”ทีมยังไม่หยุด...
“ไอ้ทีม...เดี๋ยวกูยกขานะเว้ยย...กูเสียววว...ขนลุกไปหมดแล้ว”อ้นยกขาขึ้นแล้วถีบทีมลงไปนอนหงายแอ้งแม้งอยู่ที่เตียงหนุ่ย
“ไอ้สาดดด...ไอ้อ้นถีบกูเลยเหรอ...”ทีมร้องด่า เพื่อนๆหัวเราะชอบใจกัน
“มาว่าน้องส้มของกู...”อ้นพูดพลางยิ้มสมน้ำหน้า
“น้องส้มโดนตำเหรอวะ...ฮาฮ่าฮ่า...”แคนเสริมแล้วเพื่อนๆก็พากันหัวเราะ
“กูว่าเบอร์โทรฯมึงอ่ะ...น้องตูดบิดคนนั้นขอเองแน่ๆเลยว่ะ”ปรีย์ตั้งข้อสังเกต
“ไอ้สัดด...ไอ้ปากหมา...พูดเป็นลาง”อ้นตบกบาลปรีย์ไปหนึ่งที
“รถมารับกี่โมงวะแคน”หนุ่ยถาม
“สิบโมง...”แคนหันมาบอก
“กูว่าไปกินข้าวกันเถอะ...”อ้นร้องบอกเพื่อนหลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ไอ้อ้นเยี่ยวรดกางเกงเหรอมึง...”ป้อชี้ไปที่เป้ากางเกงอ้นที่มีน้ำซึมออกมาเป็นรอยเปียกๆ
“อืม...รีบไปหน่อย...”อ้นจับเป้ากางเกงตรงที่เปียกๆแล้วเดินผ่านปรีย์ซึ่งกำลังหาวอยู่ อ้นเอานิ้วเปียกเยี่ยวป้ายปากปรีย์
“แผล่บ...”
“ไอ้อ้นไอ้เชี่ยย...เค็มฉิบหาย”ปรีย์ร้องด่า
“แดกน้ำว่าวมั๊ยจะได้หวานๆ...”อ้นทะลึ่งได้อีก
“เก็บไว้ให้อีส้มแดกเหอะ...”ปรีย์ปากหมาจริงๆ...หมากว่าใครเพื่อน เพื่อนหัวเราะกันเสียงดังด้วยความสะใจ
“....เพี้ยะ....”อ้นตบลงมากลางกบาลอีกหนึ่งครั้ง
“ไอ้นี่เล่นแล้วลาม...”อ้นเตะตูดปรีย์แล้ววิ่งหนี เด็กหนุ่มสองคนวิ่งไล่เตะกันไปจนถึงห้องอาหารของรีสอร์ท
“เดี๋ยวเราจะไปไหนกันวะ...”ทีมถามแคน
“ไปปราสาทเมืองสิงห์แล้วก็ไปน้ำตกเอราวัณถ้ามีเวลาจะให้เค้าพาไปเที่ยวเขื่อนศรีนครินทร์ด้วย”แคนบอก
“วันเดียวเที่ยวทั่วไทย”ป้อพูด
“ไอ้ป้อจะไปมั้ยมึง...เดี๋ยวให้อยู่เฝ้าห้องเลย...”แคนหันมาด่า
“ได้อยู่แล้ว...ถ้าน่านอยู่เป็นเพื่อนกู”ป้อพูดพลางหันไปยิ้มให้น่าน แต่น่านไม่ยิ้มตอบ
“อะไรกันพวกมึงนี่...นอนเตียงเดียวกันแค่คืนเดียว...จีบกันเลยเหรอวะ”แคนหันมาทำท่าล้อเลียน
“ไอ้บ้าแคน...”น่านยิ้มเขินๆ ป้อหันไปมองน่านแวบนึง เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้นมา อย่างน้อยน่านก็ไม่ได้โกรธเขาที่พูดจาก้อร่อก้อติกแบบเมื่อกี้นี้

          เกือบสิบโมงรถสองแถวที่จ้างไว้ก็มารับเด็กๆ รถพาไปวนรอบๆปราสาทเมืองสิงห์แล้วเด็กๆได้ลงไปถ่ายรูปกันเล็กน้อย
“ไอ้ป้อถ่ายดีๆนะมึง...”แคนตะโกนบอกตากล้องประจำทีม
“ระวังอย่าถ่ายออกมาแบบเรื่องชัตเตอร์นะมึง...กูกลัว”ปรีย์ปากหมาตามเคย
“ไอ้เชี่ยยปรีย์...ให้ผีมาเกาะคอมึงคนเดียวนะ”ทีมเอาเท้ายันปรีย์ให้ออกนอกวง

          หลังจากนั้นทั้งหมดก็ไปยังเขื่อนศรีนครินทร์ ที่เขื่อนแดดค่อนข้างจะร้อนแต่ก็ยังดีที่มีลมพัดมาทำให้คลายร้อนจากแสงแดดได้บ้าง
“หนุ่ยมึงถ่ายรูปกูกับน่านหน่อยสิ”ป้อเดินมาข้างๆหนุ่ยแล้วยื่นกล้องให้
“จะถ่ายตรงไหนดี...”หนุ่ยถามพลางยกกล้องขึ้นเล็ง
“ตรงนี้ดีกว่า...”ป้อจูงมือน่านออกไปยืนกลางแดด ด้านหลังเป็นวิวทะเลสาบกว้างใหญ่
“ร้อนมั้ย”ป้อเอามือออกมาป้องแดดให้น่าน
“ไม่ร้อนหรอก...ถ่ายเถอะหนุ่ย...เอาให้สวยๆนะ”เสียงน่านสดใส เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้นมาทันที
“ระวังนะ...หนึ่ง สอง สาม...แชะ...”เสียงชัตเตอร์ลั่น หนุ่ยดูภาพที่จอ
“อืม...ขออีกรูปนึง...สลับกัน...แขนโอบไหล่หน่อยดิเว้ย...หน้าใกล้กันอีกนิด...เอานะ...หนึ่ง...สอง...สาม...แชะ”ชัตเตอร์ลั่นเสียงดัง
“เป็นไงบ้างหนุ่ย...”ป้อกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาดูผลงานการถ่ายรูปของเพื่อน
“เออ...ดูดี...”ป้อชมฝีมือของหนุ่ย
“ดูมั่งสิ...”น่านเข้ามาดู...
“อืม...ป้อหล่อจัง...ส่งรูปนี้ให้มั่งนะ...”น่านบอก
“อัดขยายไปให้เลยนะ...”ป้อบอก
“บ้า...ป้อ...”น่านทุบดัง”อั๊ก”
“เฮ้ย...ไม่ร้อนรึไงวะ...เดี๋ยวไอ้หนุ่ยก็ไหม้หรอก...”เสียงปรีย์ปากหมาเหมือนเคย
“กูกินด้วย..”หนุ่ยร้องตะโกนแล้ววิ่งเข้าที่ร่มไปหาเพื่อนๆซึ่งกำลังกินลูกชิ้นปิ้งอยู่ ส่วนสองหนุ่มค่อยๆเดินกลับมาพลางกดดูรูปจากกล้อง หัวร่อต่อกระซิกกันน่ารัก
“น่ารักฉิบหายเลยคู่นี้”ปรีย์คนเดิม
“...เพี้ยะ...”ทีมตบกบาลปรีย์...วันนี้โดนตบเป็นครั้งที่สาม
“ไอ้ทีม...กูพูดเรื่องของมึงเหรอ...มาตบกบาลกูเนี่ย”ปรีย์เริ่มเดือด ปรีย์แกล้งไปอย่างนั้นแหละเพราะปรีย์มันกำลังจะอำทีมในเรื่องที่เป็นความลับของทีม
“อยากตบมึงจะทำไม...”
“กูจะเผามึงให้หมดเลย...เดี๋ยวกูเมาก่อนเถอะมึง”ปรีย์พูดจบ ทีมเริ่มกลัวว่าความลับตัวเองจะแตกออกมา
“อย่านะครับพี่ปรีย์...อย่าพูดนะครับ”ทีมก้มลงกอดรัดปรีย์ที่นั่งยองๆอยู่จนล้มลงไปกับพื้น จนมีเสียงขัดจังหวะดังขึ้นมา ทุกคนหันไปมองตามเสียง
“...ปรี๊ด..ปรี๊ด...ปรี๊ด....”เสียงโทรศัพท์หนุ่ยดังขึ้น เด็กหนุ่มกดรับสายแล้วเดินออกจากวงเพื่อนไปหาที่ร่มๆและเงียบ เขากลัวเสียงเพื่อนๆรบกวน หนุ่ยเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มีเสียงเรียกของโทรศัพท์แบบเดิม หนุ่ยบอกไม่ชอบแบบที่เป็นเพลง แต่เพื่อนๆยังคงมองตามแถมเม้าท์ไปเรื่อยถึงเสียงโทรศัพท์ของหนุ่ย
“ครับพี่ธีร์...สนุกดีครับ ตอนนี้อยู่ที่เขื่อนศรีนครินทร์ครับพี่ เช่ารถมาครับ”หนุ่ยพูด
“.............”
“เดี๋ยวไปเล่นน้ำตกครับ...น้ำตกเอราวัณ...ยังไม่ได้ทานครับ...พี่ล่ะครับทานข้าวรึยัง...”
“พี่จะออกไปข้างนอกเหรอครับ...พี่ธีร์อย่าดื่มมากนะครับ...ครับ...ผมเป็นห่วงนะ...”หนุ่ยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ก็แล้วแต่พี่สิครับ...พี่จะไปก็ได้...แต่ผมห่วงพี่จะขับรถเท่านั้นเอง...”
“ก็ดีครับ...แท๊กซี่ก็ดี...”หนุ่ยเสียงอ่อนลงแล้ว จากเมื่อกี้นี้ที่สายตาเพื่อนๆแอบมองอยู่
“ถึงแล้วโทรหาผมหน่อยนะ...ครับ...ดึกแค่ไหนก็จะคอยครับ...สวัสดีครับ” หนุ่ยยิ้มออกมาได้ในคำสุดท้ายที่พูดจบ เด็กหนุ่มเดินเข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อน
“เฮ้ย...ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยดิ”ป้อบอกเพื่อนๆ
“อ้าวไอ้ปรีย์ไปถ่าย...”อ้นบอก
“อ้าวกูไปถ่ายแล้วจะเรียกถ่ายหมู่ยังไงวะ”ปรีย์หันมาโวย
“เออกูล้อเล่น...ไปเอาขาตั้งกล้องมาวางก็ได้...”อ้นบอกแล้วเข้าไปกอดคอเพื่อน
“เดี๋ยวกูไปเอาขาตั้งกล้องเอง...”หนุ่ยบอกเพื่อนแล้วเดินไปที่รถ
“ไปด้วยสิ...”น่านวิ่งตามมา เมื่อห่างจากเพื่อนๆแล้ว
“เป็นไงน่าน...”หนุ่ยถามเสียงใส
“อะไรเป็นไง...”น่านถามกลับ
“ก็ป้อน่ะ...เป็นยังไง...”หนุ่ยถาม
“ก็รู้สึกดีนะ...แต่น่านยังต้องขอเวลาสักพักนึงนะ...หนุ่ยเข้าใจน่านนะ”น่านเดินตามหนุ่ยแทบไม่ทัน
“ก็เข้าใจ...หนุ่ยมีอะไรจะเล่าให้ฟัง...น่านต้องอึ้งแน่ๆ”หนุ่ยหยุดยืนมองตาน่าน
“เรื่องอะไร..”น่านถาม
“เดี๋ยวมีเวลาหนุ่ยจะเล่าให้ฟัง”หนุ่ยหยิบขาตั้งกล้องในรถแล้วรีบวิ่งกลับไปที่เพื่อนๆคอยอยู่
          เย็นนั้นหลังจากที่เล่นน้ำตกกลับมาแล้ว ฝนตกลงมาหนักมากๆ เด็กๆทานข้าวเย็นกันแล้วก็เข้ามานอนเล่น นั่งเล่นกีต้าร์กันในห้อง อยู่ข้างนอกไม่ได้ เบียร์และสปายที่ซื้อเข้ามาจากตลาดถูกแช่เต็มตู้เย็น
“จะกินกันหมดมั้ยเนี่ย...”ทีมพูดขึ้นมา
“ก็ดูคนซื้อสิ...แม่งขี้เมาขนาดนั้น...”แคนชี้ไปที่อ้น
“ช่วยกันกินให้หมด...จะได้ไม่ต้องขนกลับ...เอ้าไอ้หนุ่ย...”แคนโยนเบียร์ให้หนุ่ยอีกกระป๋อง

          คืนนั้นทั้งเบียร์ทั้งสปายถูกกวาดเรียบตู้เย็น เมามากสุดน่าจะเป็นแคน คงเพราะกลัวการหิ้วกลับ เด็กหนุ่มนอนกันไม่ดึกมากเพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับ นั่นหมายถึงการสิ้นสุดการเดินทางท่องเที่ยว แต่สำหรับบางสิ่งบางอย่าง...มันกำลังจะเริ่มต้น...เริ่มต้นจากคืนนี้นี่เอง

ออฟไลน์ 0nePiece

  • ++..ชีวิตไร้รัก..++
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #365 เมื่อ12-09-2009 08:50:20 »

หนุ่ย มีเรื่องอะไรจะเล่าให้น่านฟังกันนะ

สงสัยๆๆ :z1:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #366 เมื่อ12-09-2009 09:23:06 »

 :z1: อะไรจะเริ่มแล้วเริ่มอะไรหนา นี่แหละที่เค้าว่าน้ำเมาเป็นเหตุละมั๊ง

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #367 เมื่อ12-09-2009 11:38:21 »

สุราอันเป็นเครื่องทำลายจิต มันจะทำให้อะไรๆในชีวิตเปลี่ยนไปได้เสมอ
แล้วจะรอดูผลขแงมันในครั้งนี้นะ
นิว(LOVEis)

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #368 เมื่อ12-09-2009 15:01:11 »

อะไรกำลังจะเกิดขึ้นเหรอ อยากรู้นะ


namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #369 เมื่อ12-09-2009 21:23:57 »

รอลุ้นผล และอะไรๆที่จะเกิดในตอนต่อไปค่ะ
บวก 1 แต้มแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
« ตอบ #369 เมื่อ: 12-09-2009 21:23:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #370 เมื่อ13-09-2009 01:06:16 »

ตอนนี้รู้สึกว่าป้อมาแรงมาก แต่ยังไงเราก็ชอบวัชมากกว่าอยู่ดี วัชเธอหายไปหนายยย

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #371 เมื่อ13-09-2009 02:28:57 »

จะเกิดอะไรขึ้นนะ

 :z2:   :z2:

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 31=
«ตอบ #372 เมื่อ13-09-2009 02:37:24 »

32 ถนนนี้กลับบ้าน

          หนุ่ยนอนเบิกตาโพลงอยู่ในความมืด เพื่อนๆหลายคนนอนหลับลงไปแล้ว คืนนั้นธีร์โทรมาหาหนุ่ยเกือบตีหนึ่ง ทำเอาเสียงของหนุ่ยเริ่มไม่ปกติแล้ว
“ถึงคอนโดแล้วเหรอครับ...”หนุ่ยถามเบาเสียงที่สุด
“...............”
“อ้าว...พี่ไม่นอนที่คอนโดเหรอ...”
“.................”
“กลับพรุ่งนี้ครับ...ถึงคงจะเกือบๆเย็น”
“.................”
“คิดถึงครับ....พี่เมาแล้วนะ...นอนเถอะ...ครับสวัสดีครับ”หนุ่ยปิดโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ ก่อนจะปิดเปลือกตาลง ส่วนอีกด้านของห้อง เด็กหนุ่มสองคนที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันกำลังเริ่มทวงสัญญาที่ให้ไว้เมื่อวาน

“น่าน...”เสียงกระซิบเรียกเบาๆแผ่วๆตรงหน้า
“หืม...”น่านลืมตาขึ้นมาในความมืด
“เมื่อวานร้องเพลงให้ฟังแล้ว น่านยังไม่หอมแก้มป้อเลย”ป้อทวงสัญญา
“อ่ะ...”ป้อเอียงแก้มขึ้นมาให้น่านหอม
“มาเดี๋ยวหอมมัดจำก็ได้”น่านกระซิบเบาๆ
          น่านกำลังจรดปากลงที่แก้มนุ่มๆขาวๆของป้อ ทันใดนั้นป้อก็หันหน้ามา ปากของทั้งสองประกบกันทันที ป้อสอดลิ้นเข้าไปในปากน่านอย่างรวดเร็ว สองมือน่านโอบรอบคอไว้แล้วบดขยี้ริมฝีปากเข้าไป คราวนี้ทั้งรวดเร็วและรุนแรง ความอบอุ่นหอมหวานแผ่ซ่านเข้ามาในโพรงปาก กลิ่นไวน์แดงที่น่านดื่มทำให้ป้อรู้สึกได้ถึงความหอมของริมฝีปากอุ่นชื้นนั้นมากขึ้น ลิ้นกระหวัดรัดเกี่ยวกัน ทำให้ป้อถึงกับครางออกมาทีเดียว ป้อไม่เคยได้รับรสสัมผัสแบบนี้มาก่อน จึงทำให้เด็กหนุ่มครางออกมาเบาๆ
“อือ...น่าน”
          มือสองมือของป้อป่ายเปะปะไปตามแผ่นหลังของน่านโดยอัตโนมัติ น่านขนลุกเกรียวไปหมด ทั้งเสียวสะท้าน ทั้งวาบหวิวใจ ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมหัวไว้

“ป้อ...พอเถอะนะ...”น่านเลิกผ้าห่มออก
“น่าน...”ป้อมีใบหน้าสลดลงด้วยความเสียดาย
“น่านอยากให้ถึงวันนั้นก่อนนะ...”น่านพูดเบาๆ
“เมื่อไหร่ล่ะน่าน...เมื่อไหร่...”ป้อหันหน้าไปอีกทาง
“อย่างอนสิ...ป้อ”น่านประกบกอดจากด้านหลัง แล้วกดจมูกลงที่ต้นคอขาวๆของป้อ
“อืม...ป้อเข้าใจ...ป้อคอยได้”ป้อพูดในลำคอเบาๆ
“อือ...นอนเถอะนะ...”น่านหลับตาลงอีกครั้ง เป็นการหลับใหลที่น่านมีความสุขครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว


          เช้าวันรุ่งขึ้นเด็กๆเดินทางกลับ ขึ้นรถทัวร์เรียบร้อยก็หลับยิ่งกว่าโดนยาสลบ มีแต่น่านเท่านั้นที่นั่งเบิกตามาตลอดทาง น่านเอาแว่นกันแดดของหนุ่ยมาใส่ เหม่อมองออกนอกรถ ใช้ความคิดไปเรื่อยเปื่อย ป้อสลับกันนั่งกับหนุ่ย ป้อนอนเอาหัวอิงอยู่ข้างๆ มือกุมมือน่านอยู่
          น่านคิดว่ากลับบ้านไปจะต้องไปบ้านวัชสักหน่อย เพราะอยากจะรู้ข่าวคราวของวัชเหมือนกัน อย่างน้อยน่านก็คิดว่าวัชน่าจะโทรมาคุยกับคุณตาหรือคุณยายบ้าง หรืออาจจะมีเบอร์ของวัชที่นู่นบ้าง

“น่าน...กลับไปบ้านแล้วป๊าน่านจะว่าอะไรมั้ย”ป้อกระซิบถาม
“อืม...ไม่รู้สิ...อย่างเก่งก็โดนตี”น่านพูดเบาๆ
“โดนตีเลยเหรอ...”ป้อตกใจ เพราะไม่คิดว่าในพ.ศ.นี้ ยังจะมีการตีกันอยู่อีก ป้อเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น เป็นลูกคนเดียวที่แม่คอยดูแลมาตลอด พ่อของป้อเป็นนักบิน ไม่ค่อยอยู่บ้านวันๆเด็กหนุ่มจะอยู่แต่กับแม่แค่สองคนเท่านั้น พ่อต้องบินไปบินมาบ่อยๆ
“แล้วถ้าโดนตีน่านจะทำยังไง”ป้อถามคำถามที่แม้แต่น่านเองก็ตอบไม่ได้
“ไม่รู้สิ...ชินแล้วมั้ง....” น่านหวนคิดกลับไป หลายๆครั้งที่น่านโดนป๊าตี ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆ มีอยู่ครั้งนึงที่น่านโดนตีทั้งพี่ทั้งน้อง เพียงเพราะเรื่องที่น้องของน่านขอเงินเพื่อจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้าง ป๊าเลยพาลมาตีทั้งคู่ แต่ที่จริงแล้วตอนนั้นป๊าขายของไม่ดี ค่าใช้จ่ายในบ้านเพิ่มก็มากขึ้น จะว่าไปป๊าก็มีข้อที่ดีอยู่อย่าง เรื่องที่เรียนของลูกๆทุกคน ป๊าจะให้เรียนที่ดีๆแม้จะมีค่าแป๊ะเจี๊ย หรือเงินกินเปล่าสูงแค่ไหน ค่าเทอมจะแพงป๊าก็ไม่เกี่ยง น่านถอนหายใจออกมา

“ถ้าป๊าตีอีกน่านหนีมาอยู่กับป้อก็ได้นะ”ป้อพูด
“อะไรกันป้อ...ลูกเค้ามีพ่อมีแม่นะ...”น่านยิ้ม อย่างน้อยก็อุ่นใจขึ้นมาอีกนิด
“...ล้อเล่น...แต่ถ้ามาจริงๆก็ดีนะ...เดี๋ยวป้อเลี้ยงเอง”ป้อยิ้มแล้วเอามือน่านขึ้นมาจูบเบาๆ ดีที่ไม่มีคนมอง
“บ้า...ป้อนี่เดี๋ยวคนเห็น...”น่านหน้าแดงไปถึงหู
“...................”

“ป้อชอบน่านตรงไหน...”น่านหันมาถาม
“ไม่รู้สิ...น่านเป็นน่านมั้ง...”ป้อยิ้มหน้าแดง
“เว่อร์น่า...”น่านเขิน
“ป้อเป็นอะไรรึเปล่า...”น่านถามเมื่อเห็นป้อแอ่นตัวแล้วเอามือเอื้อมไปคลำหลัง
“ปวดหลังนิดหน่อย”ป้อทำหน้าเหย่เก เค้าก็รำคาญอาการแบบนี้ เพราะตอนหลังๆนี้มันเป็นออกบ่อยๆ บางทีปวดจนไปไหนไม่ได้เลย ป้อไม่เคยบอกแม่เพราะคิดว่าอาจจะเกิดจากการเล่นกีฬาก็ได้


          เด็กๆแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันเมื่อมาถึงกรุงเทพฯแล้ว หนุ่ยตรงเข้าบ้านเลย เขามีอะไรที่ต้องสะสางอีกหลายๆเรื่องทั้งโครงการผักสวนครัวของเขาที่ทำร่วมกับป้าจิตและเรื่องการทำสวนหน้าบ้านให้เป็นแบบบาหลี
“ไงพระเอก...กลับมาแล้วเหรอ...สนุกมั้ย”ธีร์เอ่ยทักเมื่อหนุ่ยเดินเข้ามา
“สนุกครับพี่...”
“มีอะไรมาฝากพี่บ้าง...”
“ไม่มีเลยครับ...ขี้เกียจหอบ...มีแต่ความคิดถึง”หนุ่ยยิ้มให้
“หิวมั้ย...เดี๋ยวให้ป้าจิตหาอะไรให้ทานก่อนดีมั้ย”ธีร์กำลังจะตะโกนเรียกป้าจิต
“ไม่เป็นไรพี่...เดี๋ยวผมลงไปหาอะไรทานเองก็ได้...แต่เดี๋ยวผมเอากระเป๋าไปเก็บก่อน”หนุ่ยเดินขึ้นห้องไป
“..........”ธีร์มองตามหนุ่ยจนลับตา “เฮ้อ...”ธีร์ถอนหายใจออกมา พลางยิ้มกับตัวเอง หนุ่ยบอกว่า”คิดถึง”มันรู้สึกชุ่มชื่นใจจริงๆ
“ป้าจิตวันนี้ทำอะไรทานบ้าง...”ธีร์เดินลงไปในครัวแล้วถามป้าจิต
“อุ้ย...คุณธีร์มีอะไรตะโกนเรียกก็ได้นี่คะ...ไม่เห็นต้องลงมาเลย”ป้าจิตตกใจ เมื่อเห็นธีร์เดินลงมาถึงครัว
“ไม่เป็นไร...ผมจะลงมาดูว่าเย็นนี้มีอะไรทานบ้าง...”
“อ้อ...ก็มี.......”ป้าจิตสาธยายให้ฟัง
“เอ่อ...เพิ่มไก่ทอดอีกอย่างนะ...เอาแบบที่คุณหนุ่ยชอบนะ”ธีร์สั่งของชอบของหนุ่ยด้วยตัวเอง
“ค่ะ...เค็มๆแห้งๆ”ป้าจิตยิ้ม
“คุณธีร์เอาอะไรเพิ่มอีกรึเปล่าคะ...”
“ไม่ละป้า...แต่เดี๋ยวขอของว่างก่อนแล้วกันนะให้คุณหนุ่ยรองท้องก่อน”ธีร์สั่งก่อนจะเดินออกไป

          สายน้ำเย็นที่ไหลรดลงบนร่างกายเปล่าเปลือยของเด็กหนุ่ม ทำให้สดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ความเมื่อยล้าจากการเดินทางเมื่อได้น้ำเย็นๆอย่างนี้ทำให้หายล้าไปหมดสิ้น หนุ่ยไม่ชอบอาบน้ำอุ่น เขาชอบน้ำเย็นๆมากกว่า หนุ่ยจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้วก็แต่งตัวเดินลงมาข้างล่าง ธีร์กำลังอ่านหนังสืออยู่

“หนุ่ยทานของว่างรองท้องก่อนสิ...”ธีร์เรียก
“ครับพี่ธีร์...”หนุ่ยนั่งลงตรงข้ามธีร์ แล้วเรื่องเล่าระหว่างการเดินทางก็ออกจากปากเด็กหนุ่ม สองคนพี่น้องหัวเราะกันดังลั่น เพราะธีร์เองก็ขำเรื่องของเด็กๆ และนึกสนุกแทนเด็กกลุ่มนี้ที่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน
“เอาไว้พี่ไปด้วยสิ”ธีร์ร้องตาม
“โหยย...อย่าเลยพี่เดี๋ยวไอ้พวกนั้นเกร็งกันแย่เลย”หนุ่ยส่ายหน้ากลัวเพื่อนๆจะไม่ยินดี แต่สำหรับเขาเอง...ยังไงก็ได้ มีพี่ธีร์อยู่ด้วยเขารู้สึกอุ่นใจลึกๆ เหมือนมีผู้ปกครองมาดูแล...
“เกร็งอะไร...พี่ดุเหรอ”ธีร์ถาม
“ก็มีนะพี่...ไอ้น่านมันบอกพี่น่ะดูดุๆ”หนุ่ยว่า
“จริงเหรอ...”
“แต่ผมว่าถ้าพี่ธีร์จะไปเที่ยวกับพวกผมนะ...พวกมันถล่มพี่เละแน่ๆเลย”หนุ่ยหัวเราะออกมา


          ปิดเทอมครั้งนี้หนุ่ยได้จัดการกับโครงการทั้งสองจนเรียบร้อย จนคุณภาณีถึงกับเอ่ยปากชมว่าสวนบาหลีที่จัดไว้สวยมากๆ
“แม่ว่าสั่งโต๊ะไม้สวยๆไปวางเผื่อเอาไว้นั่งเล่นตอนเย็นๆดีมั้ย”ภาณีเอ่ยขึ้น
“ก็ดีครับ...แต่อย่าเพิ่งสั่งเลย เดี๋ยวผมไปดูเองดีกว่า...อยากให้มันลงตัวและก็ถูกใจผม”หนุ่ยมองพลางคิดไว้ในหัว
“อืม...ตามใจลูกนะ”ภาณียิ้มแล้วเอามือลูบหัวหนุ่ยด้วยความรักและเอ็นดู
“หนุ่ยอยากเรียนต่ออะไรลูก...”ภาณีถาม
“ผมอยากเรียนนิติศาสตร์ครับ...”
“ธรรมศาสตร์เหรอลูก”
“ครับ...”
“พยายามหน่อยนะ...” กำลังใจที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอจากทั้งธีร์และภาณี แต่หนุ่ยก็ยังไหว้ปู่และย่าอยู่เสมอๆ ส่งใจไปถึงท่านทั้งสองเพื่อให้ท่านได้อวยชัยให้พร หนุ่ยถือว่าปู่ ย่าและพ่อนั้นถึงท่านทั้งสามจะจากไปแล้ว แต่ความรู้สึกผูกพันยังคงอยู่ในใจเสมอ อีกอย่างเพื่อนฝูงในกลุ่มจะคอยเป็นกำลังใจให้กันและกันอยู่ตลอด ไม่มีใครดูดาย ปัญหาของเพื่อนเสมือนปัญหาของตัว สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เพื่อนพยายามดูแลกันนั้นทำให้หนุ่ยรู้สึกอบอุ่นเสมอ แต่ละคนต่างมีเป้าหมายในชีวิตต่างกันไป ป้อ แคน อ้นอยากเรียนวิศวะฯ น่านนั้นเบนเข็มไปทางอักษรศาสตร์ ปรีย์จะเข้านิเทศฯ มีทีมคนเดียวที่จะเรียนดุริยางคศิลป์ด้วยความที่อยากเป็นนักดนตรีตามสายเลือด...


ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #373 เมื่อ13-09-2009 02:55:43 »

 :m15:
+1 ให้กับเรื่องนี้ที่ขยันลง
อ่านแล้วแสบทรวงมากมาย ไม่รู้จะทำไงดีแล้ว
เครียดๆ เขียนออกได้ยังไงนี่ ทรมานจัง
นิว(LOVEis)

paulla

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #374 เมื่อ13-09-2009 09:41:15 »

+1 คับ ชอบมากๆเรื่องนี้

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #375 เมื่อ13-09-2009 09:59:43 »

สนุกดีค่ะ แต่เดาไม่ถูกเลยว่าจะไปไงต่อ :L2:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #376 เมื่อ13-09-2009 12:44:34 »

ชีวิตหนุ่ยราบรื่นแต่ไม่รู้ว่าจะมีอุปสรรคใดวิ่งเข้ามาชนอีก
ส่วนป้อปวดหลังแบบนี้ ไม่น่าจะธรรมดาสินะ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคตหรือเปล่า
ขอบคุณมากนะคะ ทั้งคนแต่งและคนโพส ขยันมากๆค่ะ
 :L2:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #377 เมื่อ13-09-2009 14:02:18 »

 :pig4:

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #378 เมื่อ13-09-2009 16:04:37 »

มีให้อ่านได้ตลอดเลยเรื่องนี้

+1 ให้นะครับ  แล้วจะรอตอนต่อไปครับ

 :z2:   :z2:

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #379 เมื่อ13-09-2009 17:58:07 »

เพิ่งเช้ามาอ่านคับ

ชอบ มากๆ

รีบๆมาต่อนะคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
« ตอบ #379 เมื่อ: 13-09-2009 17:58:07 »





ออฟไลน์ Nichdia

  • สักวันผมจะเจอ...
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #380 เมื่อ13-09-2009 18:21:13 »

ว้าวว หนุ่ยจะมาเรียนมธ.ด้วย อิอิ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 32=
«ตอบ #381 เมื่อ13-09-2009 23:58:03 »

33 ศูนย์รังสิต

          ผลการสอบเอนทรานซ์ออกมา ปรากฏว่าหนุ่ยสอบติดคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ดั่งที่ใจหวัง หนุ่ยดีใจมากๆ ในวันที่รู้ผลนั้นคนทั้งบ้านร่วมดีใจกับเด็กหนุ่มด้วย ภาณีก็ดีใจ และคนที่ดูจะดีใจเป็นพิเศษคือธีร์ ชายหนุ่มดีใจและภูมิใจมากๆ ถึงขนาดที่ว่า
“หนุ่ยเอารถพี่ไปใช้แล้วกันนะ...จะได้ไม่ลำบาก” ธีร์บอก
“โหยย...ไม่อ่ะ...ผมไปรถเมล์ได้...” หนุ่ยส่ายหน้า
“ต้องไปเรียนที่ศูนย์รังสิตไม่ใช่เหรอ” ธีร์บอก
“บ้านเราอยู่เพลินจิตนะ...” ธีร์บอก
“รถไฟฟ้าไงพี่แล้วนั่งรถตู้ต่อไปได้” หนุ่ยส่ายหน้าเหมือนเดิม
“ผมน่ะปีหนึ่งเองนะ...เดี๋ยวโดนเขม่นเอา” หนุ่ยบอก
“สมัยเจ้าธีร์นะ...ปีหนึ่งมันก็เอารถแม่ไปใช้แล้ว ให้แม่ต้องซื้อใหม่” ภาณีพูดยิ้มๆ
“โธ่...ผมเรียนตั้งไกลนะแม่...เลยรังสิตไปอีก...สมัยนั้นรถตู้ไม่เต็มเมืองอย่างนี้นี่ครับ” ธีร์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“หนุ่ยแม่ให้ทริปไปยุโรปสักสิบวันดีมั้ยลูก...เป็นของขวัญที่เอ็นฯติด” ภาณีบอก
“จริงเหรอครับแม่...” หนุ่ยยิ้มกว้างดีใจมาก เขาอยากไปมานานแล้ว หนุ่ยกระโดเข้าไปกอดภาณีและหอมที่แก้มฟอดใหญ่ ภาณีหันมาหอมแก้มลูกชายด้วยเหมือนกัน
“อืม...คนเก่งของแม่...แม่ดีใจนะที่หนุ่ยทำได้สำเร็จ”
“ดูเรื่องเรียนให้เรียบร้อยก่อน ถ้าจะไปเมื่อไหร่ก็บอกแม่แล้วกัน...เดี๋ยวให้พี่เต้เค้าจัดการให้” ภาณีไม่ได้มองไปทางธีร์เลย แต่นางก็รู้ว่าลูกชายคนเดียวของนางต้องอยากไปด้วยแน่ๆ
“แต่แม่ครับ...ขอแค่ที่พักธรรมดาๆกับตั๋วเครื่องบินไปกลับก็พอครับ...เงินติดกระเป๋านิดหน่อยพี่ธีร์เป็นคนออก” หนุ่ยหันมาทางธีร์ที่นั่งยิ้มเพลิน
“อ้าว...ยกรถให้ใช้คันนึงหนุ่ยไม่เอาเอง...พี่ว่าจะไม่ให้อะไรแล้วนะ...” ธีร์พูดงอนๆ
          เด็กหนุ่มเลยพาร่างที่โตเป็นหนุ่ม กับความสูงราวๆ 180 ซม.ไหล่หนากว้าง ท่อนแขนแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มวัยเกือบ 18 ปีเดินเข้าไปหาแล้วเกาะเอวธีร์เอาไว้แน่นก่อนจะพูดว่า
“โธ่พี่ธีร์...อย่างอนสิครับ...เอาเป็นว่าผมจะใช้รถที่พี่ให้ แต่ตอนแรกๆขอไปเองก่อนได้มั้ยครับ...นะครับพี่ธีร์...แต่ถ้าผมเอารถพี่ไปใช้แล้วพี่ล่ะ” หนุ่ยกอดเอวธีร์ไว้แล้วดึงเข้ามากอดซะแน่นเลย
“พี่มีรถประจำตำแหน่ง....โอยย...ตัวใหญ่อย่างกับอะไร...เดี๋ยวนี้กอดพี่ทีนึง หายใจแทบไม่ออกเลย” ธีร์ดิ้นจนหลุดออกจากอ้อมแขนด้วยความเสียดายนิดๆ แต่ก็ต้องแสดงออกมาแบบนั้นเพราะทุกอย่างอยู่ในสายตาภาณี
“เล่นกับพี่ธีร์เบาๆสิลูก...พี่เค้าผอมจะแย่...กอดรัดแบบนี้เดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวหักหมด” ภาณีหัวเราะชอบใจ
“ก็ผมอยากขอบคุณพี่ธีร์นี่ครับ...” หนุ่ยยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอว ยังคงเกาะแน่น ลมหายใจของเด็กหนุ่มรินรดอยู่ใกล้ๆ แค่สูดหายใจเบาๆก็ทำให้วาบหวิวไม่น้อย


          หนุ่ยยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อนๆเพื่อเช็คดูว่าใครได้เรียนที่ไหนบ้าง และก็เป็นไปตามคาดที่เพื่อนๆได้เรียนในคณะที่ต้องการทุกคน ยกเว้น”น่าน”ที่พลาด หนุ่ยไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ แต่รู้ว่าระยะหลังๆที่เรียนอยู่ด้วยกันนั้น น่านดูเงียบขรึมไป ถึงแม้ว่าเพื่อนๆจะพยายามเข้าไปดูแลอย่างที่ควรจะเป็นแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ ป้อเองก็กังวลไม่ใช่น้อยที่น่านเป็นแบบนี้แต่ป้อก็ยังผ่านด่านอรหันต์เข้าไปเรียนวิศวะเกษตรฯได้

“น่านไม่ต้องเสียใจนะ...” หนุ่ยได้คุยกับน่านในที่สุด
“ไม่หรอกหนุ่ย...น่านอาจจะพักการเรียนไปก่อน...ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่...หรือไม่งั้นก็ลงรามฯไปเรื่อยๆ” น่านพูด
“พวกเรากลัวน่านจะคิดมาก...ไอ้ป้อมันเป็นห่วงน่านมากๆนะ...น่านคุยกับป้อบ้างมั้ย” หนุ่ยพูด
“ก็คุยบ้าง...ป้อโทรมาคุยบ่อยๆ...ยังไงน่านก็ขอบคุณมากๆนะ....” น่านวางหูไป
............................................


          เพียงสองสัปดาห์หลังจากสิ้นสุดเดือนที่ร้อนที่สุดในรอบปี ในคืนที่ฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนัก ป้อในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนสีดำ เดินลงจากแท็กซี่ในสภาพดูเกือบไม่ได้ ใบหน้าซีดเผือดเหมือนคนไม่มีเลือดฝาด ดวงตาบวมและแดงช้ำด้วยผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก กลิ่นเหล้าจางๆจากตัวของเด็กหนุ่มเฟรชชี่วิศวะฯเกษตร ไม่ได้ทำให้มีสง่าราศีเลย ระยะทางจากปากซอยอีกตั้งเกือบห้าร้อยเมตรกว่าจะถึงบ้าน แต่เขาก็ไม่ได้ให้แท็กซี่เข้าไปส่ง น้ำตาฟ้าที่หลั่งมาจากเบื้องบน ไม่สิ้นสุด ลมแรงกรรโชกพัดเอาสังกะสีที่เพิงขายส้มตำข้างทางสั่นพะเยิบพะยาบ ป้อเดินเซไปมาระหว่างที่กำลังเข้าซอย ป้อเดินช้าๆราวกับคนที่หมดแรง หนาวเหน็บไปทั้งสรรพางค์กาย เนื้อตัวเปียกปอนและสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เสื้อผ้าที่ใส่เปียกแฉะไปหมด เด็กหนุ่มเดินตากฝนเข้ามาถึงประตูหน้าบ้านแล้วก้มลงเปิดรั้ว แต่ด้วยความที่ไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน หลังจากปิดประตูแล้วป้อล้มคว่ำลงกับขอบประตูรั้วบ้าน ใบหน้าหล่อๆบางๆครูดไปกับพื้นปูนที่พื้น เลือดไหลออกมาซิบๆ ป้อหมแรงล้มลงไปด้วยฤทธิ์ไข้และความเมา เสียงของน่านยังคงก้องอยู่ในหัว ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไป...

“ป้อ...น่านอยากจะบอกกับป้อว่า...” ป้อก้มหน้าเตรียมรับชะตากรรมที่น่านจะพิพากษา...ชีวิตของเขา
“น่านจะไปอยู่กับวัชนะ...วัชจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้...น่านจะไปทำงานที่นู่น...” สิ้นเสียงน่าน ดั่งความหวังพังทลาย การรอคอยของเขามันสิ้นสุดลงแล้ว...ป้อก้มหน้า...น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ความเสียใจ ความน้อยเนื้อต่ำใจเกิดขึ้นแบบท่วมท้นล้นหัวใจ ใจมันจะขาดเสียให้ได้เลยทีเดียว
“น่าน...ขอบคุณมากนะ...ขอบคุณที่ให้โอกาสป้อได้คอย” ป้อไม่สบตา เด็กหนุ่มก้มหน้าเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเบาๆ เขาอยากร้องไห้ อยากคร่ำครวญ อยากระบายเอาความอัดอั้นตันใจออกมาให้หมด ป้อซบหน้าลงกับท่อนแขนของตัวเอง เสียงกลั้นสะอื้นจนคนอื่นๆในร้านกาแฟเล็กๆแถวโรงเรียนหันมามอง
“น่านขอโทษนะ...ที่รักป้อแบบนั้นไม่ได้ แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นะป้อ...” น่านน้ำตาซึมออกมา เมื่อเห็นเพื่อนรักต้องมานั่งร้องไห้แบบนี้ น่านไม่อยากให้เรื่องอย่างนี้มันเกิดขึ้น แต่จะทำยังไงได้ น่านไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามหัวใจใครให้มารัก อีกอย่างที่น่านต้องปฏิเสธเพราะ”น่านรักวัช”มากๆนั่นเอง...คำสัญญาที่ให้ไว้แก่กันดังก้องในหัว
          น่านย้อนนึกไปถึงช่วงที่กลับมาจากเมืองกาญจน์ น่านไปบ้านวัช เพื่อขอพบคุณตาคุณยาย จนน่านได้เบอร์โทรของวัชมา น่านจึงติดต่อกับวัชได้ เหตุผลที่วัชหายไปคือ วัชย้ายไปทำงานที่เคปทาวน์เพราะวัชอยู่กับแม่ไม่ได้ เด็กหนุ่มทะเลาะกับพ่อเลี้ยง ด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรงของวัชนั่นแหละที่เป็นสาเหตุ “น่านเตรียมตัวให้พร้อมนะ...วัชเก็บเงินได้สักก้อนนึงแล้ว...เราจะได้มาอยู่ด้วยกัน”นั่นคือเหตุผลที่น่านต้องชวนป้อออกมาคุยในวันนี้ 
....................................................


“หนุ่ย...หนุ่ย...ป้อเมามากเลย...” น่านส่งเสียงมาทางโทรศัพท์ปลุกหนุ่ยตื่นกลางดึก
“อะไรน่าน...ค่อยๆพูดสิ” หนุ่ยงัวเงีย
“เมื่อเย็นนี้น่านชวนป้อออกมาคุย...เรื่องเอ่อ...เอ่อ...เรื่องที่...ป้อรอคอย...เอ่อคือ...เอ่อ...น่านจะไปอยู่เคปทาวน์กับวัช...” น่านพูดเสียงสั่นระรัว..ด้วยความกลัวว่าหนุ่ยจะต่อว่า
“แล้วไง” หนุ่ยถาม
“เมื่อกี้นี้ป้อโทรมาหาน่าน...บอกว่าขอลาก่อน...ป้อเมามากเลย...ป้อพูดไม่รู้เรื่อง” น่านเองก็ห่วงป้อเหมือนกัน
“แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหนละ” หนุ่ยถามเสียงเครียด
“ไม่รู้สิ...น่านโทรเข้ามือถือก็ไม่ติด เมื่อกี้นี้โทรไปที่บ้านจะบอกแม่น่านก็ไม่มีคนรับโทรศัพท์เลย...น่านเป็นห่วงป้อมากเลยหนุ่ย...ทำยังไงกันดีล่ะ” เสียงน่านเหมือนคนจะร้องไห้
“เอางี้นะน่านเดี๋ยวหนุ่ยจะเอารถออกไป...น่านออกมารอที่ปากทางนะเดี๋ยวหนุ่ยไปรับ แล้วเราไปตามหาน่านกัน” หนุ่ยบอกพลางกดโทรศัพท์ไปหาป้ออีกครั้งเผื่อว่าป้อจะรับ แต่ก็ต้องผิดหวัง หนุ่ยเลยกดโทรศัพท์ไปหาทีมเพราะบ้านทีมอยู่ใกล้กับบ้านป้อกว่าใคร
“ไอ้ทีมมึงออกไปดูไอ้ป้อที่บ้านสิ...ดูสิว่ามันกลับบ้านรึยัง...มันเมามาก” หนุ่ยวางหู
“เออ...เดี๋ยวมึงจะตามมาใช่มั้ย...” ทีมพูดพลางหาว
“ใช่เดี๋ยวกูไปรับน่านก่อน” หนุ่ยวางหูไป ก่อนที่จะเดินไปเคาะห้องธีร์เพื่อขอกุญแจรถ โดยหนุ่ยเล่าแค่ว่าป้อไม่สบายมากจะไปดูหน่อย
“หนุ่ยไปได้นะ...พี่ต้องไปเป็นเพื่อนมั้ย” ธีร์มองมาด้วยความห่วงใย แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มไม่อยากให้เขาไปด้วย ธีร์จึงได้แต่ถาม ธีร์รู้ดีว่ายังไงๆหนุ่ยต้องกลับมาเล่าให้เขาฟังอยู่ดี
“ไม่เป็นไรพี่...เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังนะ...พี่ธีร์ไม่ต้องกังวล” หนุ่ยรับกุญแจแล้วรีบออกไปรับน่านทันที
.................................


“ไอ้ป้อ...ไอ้ป้อ...มึงเป็นอะไรวะ...” ทีมวิ่งปราดลงจากรถเมื่อเห็นร่างของป้อนอนหมดสติอยู่ที่หน้าบ้าน สายฝนพร่างพรมลงมาไม่ขาดสาย ร่างของป้ออ่อนปวกเปียก ตัวร้อนจี๋ ใบหน้าหล่อๆบางๆขาวซีดเหมือนกับคนไม่มีเลือด โหนกแก้มด้านขวามีรอยถลอกและเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ทีมหยิบกุญแจที่หล่นอยู่ใกล้ๆเก็บไว้ แล้วอุ้มป้อขึ้นรถ
“ป้อ...อย่างเป็นอะไรนะ...กูจะพามึงไปโรงบาลแล้ว...อดทนหน่อยนะ” ทีมประคองป้อให้นอนที่เบาะข้างๆก่อนจะวิ่งอ้อมไปอีกด้านของรถแล้วออกรถโดยเร็ว สมองคิดถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์กดหาหนุ่ย
“ไอ้หนุ่ยกูพาไอ้ป้อไปโรงบาลนะ...” ทีมเสียงร้อนรน
“ที่ไหน...”
“พญาไท2” ทีมคิดได้ตอนนั้น
“เดี๋ยวกูตามไป”  หนุ่ยเลี้ยวรถไปที่โรงพยาบาลพญาไททันที ...


ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #382 เมื่อ14-09-2009 00:00:44 »

 :monkeysad: เกิดเรื่องอีกแล้ว เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งเต็มไปด้วยเรื่อง
กลัว กลัวจนไม่รู้จะพูดอะไร หวังว่ามาอ่านต่อพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรนะ
นิว(LOVEis)

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #383 เมื่อ14-09-2009 00:43:53 »

ทั้งเหงา เศร้า สงสาร หลากหลายอารมณ์

เรื่องราวจะเป็นยังงัยต่อไปนะ

 :z2:   :z2:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #384 เมื่อ14-09-2009 00:45:07 »

เศร้าจัง รักคนมีเจ้าของแบบนี้ น่าสงสารจริงๆ

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #385 เมื่อ14-09-2009 01:05:40 »

น่าสงสารป้อนะ แต่อย่างว่าเรามันมาทีหลัง ดันไปหลงรักคนมีเจ้าของ อ่านแล้วก็เศร้าใจแทน

น่านจะไปแล้วก็ขอให้มีความสุขมากๆ กับวัชนะ อย่าได้มีเรื่องอะไรกันอีก สองคนนี่ผ่านเรื่องอะไรร้ายๆ มาด้วยกันเยอะแล้ว

ว่าแต่เรื่องน้องหนุ่ยกับพี่ธีร์นี่มันอะร้ายยยค้าคนเขียน :fire: ผ่านมาสามสิบสองตอนแล้วยังไม่มีอะไรกันเลย!!

คนอ่านเคือง!  :m31:

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #386 เมื่อ14-09-2009 01:12:05 »

 :z13:

มาจิ้มคนเขียน

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #387 เมื่อ14-09-2009 02:21:49 »

 :3125:  :m16:  :m31:  :fire:
อ่านสี่ตอนรวดแบบว่าไม่ได้มาอ่านนาน  คิดถึงหนูหนุ่ย.............

สงสารป้ออ่ะคับ   เซ็งน่านอ่ะ  พูดแบบให้ความหวัง สุดท้ายก็มาทิ้งป้อไป  :serius2:
สงสารป้อ  แล้วครายจะมาดามใจไอ้ป้อหว่า   คิดไม่ออกเลย

สงสารป้อ + รอเมื่อไหร่พี่ธีร์กับหนุ่ยจะรักกันซักที เหอะๆๆๆๆ
ป.ล. หนุ่ยเก่งอ่ะ  ติด นิติ มธ.ด้วย  :mc4:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #388 เมื่อ14-09-2009 12:26:55 »


ว่าแต่เรื่องน้องหนุ่ยกับพี่ธีร์นี่มันอะร้ายยยค้าคนเขียน :fire: ผ่านมาสามสิบสองตอนแล้วยังไม่มีอะไรกันเลย!!

คนอ่านเคือง!  :m31:
^
^
ขออนุญาตฮา
เราก็ลุ้นเหมือนกัน หรือว่า เค้าสองคนไม่ใช่คู่กันจริงๆ
เดี๋ยวหนุ่ยไปเรียนมธ. จะเจอเรื่องราวอะไรเพิ่มอีกหละสิเนี่ย

สงสารป้อ รอมานานแสนนาน
น่านไม่น่าจะให้รอ เมื่อคิดว่ารักไม่ได้ น่าจะบอกเพื่อนไปแต่แรก
ทำแบบให้ความหวัง เหมือนว่าถ้าพลาดจากวัชแล้วค่อยมามองป้ออ้ะ

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 33=
«ตอบ #389 เมื่อ14-09-2009 16:26:25 »

สงสารป้อจังอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด