24 ระโนด 4“แต้ว...” หนุ่ยเรียกซ้ำอีกครั้ง เสียงเบาๆลอยหายลงคอไปอีกครั้ง
“หนุ่ยมาได้ยังไง...” เสียงสดใส...เสียงที่เมื่อก่อนได้ยินทีไร...โลกสดใสทุกครั้ง แต่ตอนนี้...เสียงนี้ทำไมมันถึงบาดลึกเข้าไปในหัวใจ...
“ไอ้หนุ่ย...” เสียงห้าวๆที่เขาแทบไม่อยากได้ยิน
“มายังไงวะ...นั่งก่อนสิ...” ไอ้ชัย...ศัตรูหัวใจเรียกซะคุ้นเคย...ราวกับบ้านของมันทีเดียว
“นั่งก่อน...เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้” ชัยวางตัวเป็นเจ้าของบ้านเต็มตัว แสดงว่ามันเข้านอกออกในบ้านนี้ได้
“ไม่เป็นไร...เราจะรีบไป...เราคิดถึง”แต้ว”เราเลยมาหา...” หนุ่ยไม่รู้ตัวแล้วว่าพูดอะไรออกไป
“แต้ว...สบายดี...แต้วได้จดหมายของหนุ่ยทุกฉบับเลย...” แต้วส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
“แต่ต่อไปหนุ่ยโทรหาแต้วดีกว่านะ...แต้วมีโทรศัพท์แล้ว...จะได้ไม่ต้องเขียนจดหมายอีก” แต้วเดินไปหยิบเศษกระดาษมาเขียนเบอร์โทรศัพท์ยิกๆลงไป
“อ่ะนี่เบอร์แต้ว” แต้วยัดเศษกระดาษใส่มือหนุ่ย
“แต้วทำอะไรอยู่...”
“แต้วกำลังติวภาษาอังกฤษให้ชัยอยู่น่ะ...”
“หนุ่ยไม่ค่อยมีเวลานะ...เกรงใจพี่ชายที่คอยอยู่...หนุ่ยกลับก่อนนะแต้ว” หนุ่ยอยู่ไม่ไหวแล้ว ภาพที่เห็นมันชัดเจนเหลือเกิน ไอ้ชัยกำลังจะเดินออกมาจากบ้านแต้ว มันถือขวดน้ำออกมาพร้อมกับแก้วอีกใบ
“หนุ่ยไม่คอยพ่อก่อนเหรอ...พ่อพูดถึงหนุ่ยบ่อยๆนะ...” แต้วพยายามจะดึงไว้
“ไม่เป็นไรหรอก...หนุ่ยฝากแต้วกราบอาจารย์ด้วยแล้วกันนะ...บอกว่าถ้าว่างจะมาหาใหม่” หนุ่ยก้มหน้า
“หนุ่ยไปก่อนนะแต้ว...” หนุ่ยเดินหันหลังกลับไปที่รถ เปิดประตูด้านคนขับแล้วขึ้นไปนั่ง ก่อนที่บีเอ็มดับบลิวคันงามจะถอยออกจากซอยอย่างช้าๆ...ราวกับว่า...
มันจะเก็บความทรงจำที่เหลืออยู่ไว้ในใจตลอดไป................................................
“หนุ่ยขับได้มั้ย...” ธีร์เห็นอาการน้องชายสุดที่รักแล้วต้องสะกิดถาม เขารู้ตั้งแต่เห็นเด็กทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกัน แล้วว่า หนุ่ยจะต้องเป็นแบบนี้ ธีร์สงสารน้องชายจับใจ
“หนุ่ย...จอดเถอะ...พี่ขับเองมา...” หนุ่ยเปิดไฟเลี้ยวลงจอดข้างทาง เด็กหนุ่มเดินตัวเบาไปนั่งอีกด้าน ธีร์เข้าประจำที่คนขับแล้วหมุนพวงมาลัยรถเพื่อกลับสู่ถนนใหญ่อีกครั้ง
ความเงียบแล่นเข้ามาเกาะกุมหัวใจเด็กหนุ่มอีกครั้ง เขาไม่นึกเลยว่า”ไอ้ชัย”ศัตรูหัวใจคนนี้จะมาแทนที่เขาได้ เมื่อก่อนหนุ่ยซึ่งเรียนเก่งกว่าแต้ว หนุ่ยจะเป็นคนที่ติวให้แต้วเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไร เด็กหนุ่มสามารถทำได้ทั้งนั้น จนอาจารย์วิชัยพ่อของแต้วชอบเขามาก ติดที่ว่าเมื่อก่อนนั้นหนุ่ยมีฐานะทางบ้านที่ข้นแค้น เพราะตั้งแต่พ่อจากไปด้วยสึนามิแล้ว รายได้หลักที่เคยมีมาจุนเจือก็ต้องหดหายไป ปู่เองก็แก่แล้วรับจ้างอะไรได้ไม่มาก ย่าก็เจ็บออดๆแอดๆ สามวันดีสี่วันไข้มาตลอด เด็กชายจึงต้องรับจ้างทำงานทั่วไปไม่เกี่ยง หนุ่ยจึงต้องเจียมตัวเอามากๆ ขนาดที่ต้องวิ่งไปขอข้าววัดกินทุกๆกลางวัน มันทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะคิดเป็นแฟนกับแต้ว
ตั้งแต่ปู่ตายไป ถึงแม้จะมีเงินที่ได้มาจากประกันและอีกส่วนที่คุณภาณีให้ไว้ หนุ่ยก็ไม่ได้มือเติบ เขาไม่เคยเบิกมาใช้สุรุ่ยสุร่าย มีบ้างที่ใช้หนี้ไป มีบ้างที่เบิกมาซื้อชุดนักเรียนหรือซื้อหนังสือ หนุ่ยตั้งใจจะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้เรียนหนังสือ จนวันนี้หนุ่ยมีครอบครัวใหม่เข้ามาอุปถัมภ์ค้ำชู และทำให้ไม่ลำบากเรื่องเงินทองอีกต่อไป หนุ่ยจึงพอจะคิดเรื่อง”ความรัก”ของหนุ่มสาวได้......คนแรกที่หนุ่ยหวนคิดถึง...ไม่ใช่สิ...คิดถึงอยู่ในใจเสมอมาคือ”แต้ว” แต่วันนี้ ความฝัน ความหวัง ความคิดถึงและทุกๆความรู้สึกที่มีมาตลอด...กลับพินธุ์พังไม่มีเหลือ...หนุ่ยคิดไปเองหรือเปล่า... ไม่หรอก...เขารู้ดี “ชัย”มีพ่อเป็นนายตำรวจอยู่ตัวจังหวัด แม่ก็เป็นอาจารย์สอนที่เดียวกับพ่อของแต้ว ระดับฐานะที่ใกล้เคียงกัน... ทั้งคู่เหมาะสมกันดี เมื่อก่อนพ่อของแต้วคงอาจจะชอบเขาในฐานะที่เรียนเก่งก็ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้น เขาเองไม่ได้เสี้ยวของ”ชัย”ด้วยซ้ำ
“หนุ่ย...เป็นไงบ้าง” ธีร์เอามือมาลูบหัวเด็กหนุ่ม เมื่อเห็นว่าหนุ่ยนิ่งเงียบมานานมาก
“หิวมั๊ย...”
“......”
“จะนอนหาดใหญ่กันดีมั๊ย...หรือหนุ่ยอยากจะไปไหน...” ธีร์เริ่มหวั่นใจ เด็กที่ร่าเริงอย่างหนุ่ยไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ธีร์ถอนหายใจเบาๆ
“พี่ธีร์...” หนุ่ยเรียกธีร์ พร้อมกับหันมามองหน้าพี่ชาย
“ผมอยากไปเกาะยอ” หนุ่ยบอกแล้วถอนหายใจอย่างหนัก
“ไปสิ...พี่ว่าเราไปทานกลางวันกันดีมั้ย” ธีร์เหยียบคันเร่งนำรถวิ่งสู่จุดหมาย”เกาะยอ”
รถแล่นขึ้นสู่สะพาน”ติณสูลานนท์”ธีร์ชะลอความเร็วลงปล่อยให้บรรยากาศรอบตัวค่อยๆแล่นผ่านไปเรื่อยๆ ทะเลสาบสงขลายามเที่ยงร้อนระอุด้วยเปลวแดด หนุ่ยขยับแว่นกันแดดเล็กน้อย ก่อนเมินหน้าออกไปนอกรถ เสียงเพลงที่เปิดดังแว่วมา
เธอจะเป็นความทรงจำอยู่ภายในลมหายใจ
จะจดจำเธอจนวันสุดท้าย
ใจของฉันคงต้องหมุนตามเวลา ซักวันคงมีใครผ่านเข้ามา
ตราบใดที่ยังหายใจจะไม่ลืมเธอ
นับจากนี้ใจฉันคงหยุดการมีเธอ
นับจากนี้คงต้องเริ่มออกเดินเพื่อเจอรักใหม่
เราสองคงไกลห่าง แต่จะไม่มีทางลบภาพเธอ