เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part 10
เหมือนจะสงบ..ที่ไหนว่ะ!.
.
.
.
กลับมาถึงบ้าน..หาข้าวกินรอบดึก อาบน้ำทำการบ้านเสร็จ ก็เกือบเที่ยงคืนเหลือแค่สิบกว่านาที
ปูฟูกปัดที่นอนเรียบร้อย..ปิดไฟเข้านอน แต่เหมือนประสาทตามันแข็ง ๆ ไม่ยักง่วง..ในหัวมีเรื่อง
ให้ต้องคิด วันนี้วันเดียวกับรู้ว่ามีคนชอบผมถึงสองคน หนึ่งเป็นหญิงสาวสวยดีกรีดาราโฆษณา
อีกคนเป็นชาย เอ๊ะ!..ไม่ใช่สิเป็นไบฯ รูปหล่อพ่อรวย ไอ้ผู้ชายไม่หนักใจเท่าไหร่..หลังจากเคลียร์
ความรู้สึกกันแล้ว..คิดว่าคงไม่มีไรทำตัวปกติได้ แต่อีกคนนี่สิ..น้องเกศชอบผมจริงหรือ
แล้วที่น้องเค้าคบกับไอ้กลล่ะ..ทำเพื่ออะไร เพื่อต้องการใกล้ชิดผมโดยใช้ไอ้กลเป็นทางผ่าน
งานนี้ถ้าเป็นแบบนั้นจริง..บรรลัยเกิดแน่ ๆ เรื่องคงจบไม่สวยชัวร์..ร้อยเอาบาท คนอย่างเหี้ยกล..
หากมันรู้ว่าถูกหลอก เป็นผมตะหากที่น้องเกศชอบ..มันคงจะฟังหรอกน่ะ ถ้าผมบอกมันว่า
ผมไม่รู้มาก่อน..ว่าน้องเค้าคิดกับผมยังไง ยิ่งคิดยิ่งพันกันอิรุงตุงนังไปหมด แล้วผมจะจัดการ
เรื่องนี้ให้ลงตัวแบบไหน เพื่อที่บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น หากถามผม..ว่าชอบน้องเกศแบบที่
น้องเค้าคิดกับผมหรือเปล่า..ณ ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าไม่ แต่ถ้ามีโอกาสลองคบ ๆดู
จะชอบน้องเค้าได้หรือไม่ ไม่แน่..เพราะน้องเค้าน่ารักอยู่แล้ว โดยรวมผมว่าโอเคน่ะ
แต่ก็นั่นแหล่ะ..ผมยังไม่คิดเรื่องนี้ แล้วไอ้กลล่ะ...ดูท่าจะชอบน้องเค้ามากด้วย
ไม่งั้นคนเหี้ย ๆอย่างมัน บ้านอยู่ถึงหนองแขม..มันจะถ่อมาไกลถึงนี้ทำเหี้ยไร
โรงเรียนมันก็ไม่ใช่ เค้าถึงว่าความรักทำให้เกิดการลงทุน
“กริ๊งงงๆๆ!...กริ๊งงงๆๆ!.” จู่ ๆเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ผมรีบลุกเปิดประตูออกไปรับให้เร็ว
ก่อนที่พี่สาวซึ่งนอนชั้นบน..จะตกใจตื่น คร่าวนี้ได้หูชายันเช้าแน่..แต่ใครว่ะ? โทรมาเสียดึก
ไม่สิ..นี่มันเช้าวันใหม่เข้าให้แล้ว..ตีหนึ่งกว่าจะตีสองอยู่แล้ว
“ฮัลโหล..”
“ว่าแล้ว..มึงต้องยังไม่นอน” เสียงนี้...แม่งเฮี้ยนไรขึ้นมาว่ะ!..โทรมาป่านนี้
“เหี้ยกล...มึงเพี้ยนไรเนี๊ยะ..โทรมาทำเหี้ยไร มารยาทน่ะ...รู้กะเค้าบ้างป่าวว่ะ!..พี่กูตื่นขึ้นมา
กูได้โดนด่าเละ..ไม่รู้จักเวร่ำเวลาเลย..สัด” ผมปล่อยเป็นชุด ฉุนแม่งโคตร
“ครวย..ด่ากูเป็นชุด ปากดีนะมึง...เดี๋ยวแม่ง..เอ็นกระแทกปากฉีกเลยนี่..ห่า..กูไม่มีธุระจะโทรมา
ให้เสียตังค์ค่าโทรทำครวยไร...” ดูไอ้ฟราย..มันสวนผมดิ...
“แล้วธุระบ้านพ่อมึงเหร่อ...ถึงรอตอนเช้าไม่ได้”
“ไอ้เหี้ย...ขอโทษพ่อกูเดี๋ยวนี้นะมึง..สองครั้งแล้วนะที่มึงเล่นถึงพ่อกูนะ...มึงอยากฟันร่วง
หมดปากหรือไงว่ะ?...” นั่นดิ...ถึงมันจะปากไม่ดี แต่มันไม่เคยก้าวร้าวถึงญาติผู้ใหญ่ผมเลยสักครั้ง
แต่ผมแม่งก็ปากไว..ฉุนโคตร เป็นแบบนี้หลุดปากทุกที เจตนาไม่ได้ด่าพ่อมันหรอก
แต่ประมาณอารมณ์มันพาไปน่ะ เข้าใจกันใช่ม่ะ
“เอ่อ!..ขอโทษก็ได้ว่ะ!...แต่มึงยั่วกูโกรธก่อนทำไม ถ้ามึงจะโทรมาแค่นี้กูวางล่ะน่ะ” ผมไม่ได้ยอม
มันหรอก เพียงแต่รู้สึกผิดจริง ๆ ที่ไปก้าวร้าวผู้ใหญ่เข้า
“มึงลองวางดูดิ..จำครั้งแรกไม่ได้ใช่ไหม วางสายกูโดยที่กูไม่อนุญาต..มึงเจออะไร สงสัยกูต้องทบทวน
ความจำกับมึงซะบ้างแล้ว” มันขู่ผมได้...ขู่ผมเอา ไม่ใช่ว่าผมจะกลัวอะไรมันมากมายนะครับ
ประเภทกลัวจนขี้ขึ้นหัวก็ไม่ใช่เลย ผมแค่ไม่อยากมีปัญหา ผมเคยบอกแล้วเรื่องชกมวยผมเป็น
แต่มันต้องชกบนเวที..มีกรรมการ ไม่ใช่แบบอันธพาลหาเรื่องชกต่อย แบบที่เหี้ยกลมันทำกับผมเนี๊ยะ
เลี่ยงได้ผมมักจะเลี่ยง..ไม่ยุ่งด้วยเป็นดีที่สุด กรณีของเหี้ยกลมันเป็นห่าไรไม่รู้ เหมือนกับมัน
วนเวียนวุ่นวายกับผมไม่ยอมไปผุดไปเกิด นี่แหล่ะที่เป็นประเด็นปัญหาผมอยู่ตอนนี้
“ตกลงมึงมีอะไร จะพูดได้หรือยัง”
“หึ..ต้องให้ขู่..ยอมฟังกูแต่แรก..ไม่ต้องเสียเวลานอนหรอก” ไอ้ห่ารากมึง...ผมนับหนึ่งถึงสิบ..ถึงร้อย
ก่อนจะหมดความอดทน..ที่เหลืออยู่น้อยนิดตอนนี้ อีกทีผมจะไม่ทนแม่งแล้ว
“พรุ่งนี้..นัดดูหนัง กูเตือน..มึงห้ามเบี้ยว แล้วมึงไปพูดเหี้ยไรกะน้องเกศ กูโดนต่อว่ามา..
หาว่าไม่บอกรายละเอียดกับมึง ไอ้ที่กูบอกไปมึงเอาส่วนไหนฟังว่ะ!..ไม่เข้าใจทำไมไม่ถาม
แล้วแม่งนิสัยผู้หญิงนะมึง กูนึกว่าจะตุ๊ดแต่ภายนอกซะอีก มีขี่ม้าสามศอกฟ้องกับเค้าก็เป็นด้วย
อย่าทำนิสัยแบบนี้อีก กูกับน้องเค้ากำลังไปได้สวย มึงอย่าเสือกสร้างรอยร้าวฉานให้กู
แล้วจะว่ากูไม่เตือน ถ้าคิดจะแก้แค้นกูคืนด้วยวิธีนี้ล่ะก็ ประตูนรกรอรับศพมึงอยู่ ระวังไว้ด้วยน่ะ”
อ่าห่ะ!...แล้วฟางเส้นสุดท้ายของผมก็ขาดดังปึ๊ด! หมดกันพอดีเส้นความอดทน
“กล..กูขอบอกมึงไว้อย่าง มึงจะรักจะชอบกับน้องเกศเรื่องของมึง ต่อไปนี้ระหว่างมึงกับกู
อย่าโคจรมาเจอกันอีกเลย ที่กูยอมให้มึงมันเกินพอแล้วว่ะ...พรุ่งนี้กูไม่ไป..มึงไม่ต้องมา
วุ่นวายกับกูอีก เรื่องของมึงกูทำตามข้อตกลงหมดแล้ว น้องเกศมึงก็ได้คุยได้รู้จักตามที่มึง
ต้องการแล้ว..หวังว่ามึงเข้าใจที่กูพูดแล้วนะ” พูดจบ..ผมวางหูดึงสายออกเหมือนเคย
ผมพูดกับมันด้วยน้ำเสียงนิ่งที่สุด..เท่าที่ผมกับมันเคยคุยกันมา..ไม่มีเสียงดัง..ไม่แสดงอาการหงุดหงิด
แต่ที่ผมสามารถพูดแบบนี้ได้ แสดงว่าผมโกรธจนทะลุจุดเดือดไปแล้ว รับไม่ได้กับคำดูถูก
ถากถางต่าง ๆนา ๆที่มันสรรหามาว่าผม ผมว่าผมก็ปากปีจอแล้วนะ..แต่แม่งพอเจอไอ้เหี้ยนี่
มันจอขั้นเทพเลยจริง ๆ
ตัดสินใจพรุ่งนี้ผมจะไม่ไปเรียน..และไม่ไปตามนัด โทรบอกไอ้โรจลาอาจารย์ให้หน่อย
พรุ่งนี้วันเสาร์ผมไม่มีซ้อมบอล..เรียนครึ่งวัน งานที่จารย์สั่งผมก็ทำเสร็จแล้ว..ไงค่อยตามส่งที่หลัง
ที่ทำแบบนี้ไม่ได้กลัวมันจนถึงกับต้องหลบ เพียงแต่ผมไม่รู้จะปฏิเสธน้องเกศน้องดายังไง
หากผมยังไปเรียนปกติ สู้ไม่ต้องเจอหน้าไว้ค่อยแก้ตัวทีหลัง..ว่าผมท้องเสียไปเรียนไม่ได้
เลยไม่ได้ไปตามนัด..บอกแล้วผมโกหกไม่เก่ง..แต่ถนัดคิดว่าต้องทำอย่างไร
ไอ้เรื่องจะพูดแล้วผ่านไม่ผ่านอีกเรื่องหนึ่ง..คิดได้ดังนี้แล้ว..ค่อยหลับลงได้ในที่สุด...............
เช้าตื่นหกโมง..อันดับแรกผมรีบเสียบสายโทรศัพท์ โทรหาไอ้โรจให้มันลาหยุดเรียน
กับอาจารย์ให้หน่อย...ให้เหตุผมท้องเสียไปไม่ไหว ไว้ค่อยเจอวันจันทร์เลยทีเดียว
เป็นไปได้ให้โทรบอกการบ้านด้วยหากมีงานสั่ง ไอ้โรจมันยังบอกจะมาหาหลังเลิกเรียน
ผมไม่อยากให้มันรู้ว่าผมโกหก..เลยบอกมันไม่ต้องมา ไม่แน่สาย ๆผมอาจออกไปข้างนอก
มาไม่เจอเสียเวลาเปล่า..จากนั้นผมก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำทำธุระส่วนตัวปกติ
ผ่านไปจนบ่ายแก่ ๆ หนังตาขวากระตุกยิก ๆโบราณว่า ‘ขวาร้าย ซ้ายดี’ ไม่รู้ว่า
จะมีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผมหรือเปล่า..คิดไม่ทันไร
“กริ๊งงงๆๆ!..กริ๊งงงๆๆ!.” โทรศัพท์ดังขึ้น..ผมเดินไปรับ ลืมบอกพี่สาวผมไปทำงาน
บริษัทฯ หยุดเฉพาะวันอาทิตย์ ผมบอกแล้วว่าวันนี้ไม่ไปเรียนลาหยุดหนึ่งวัน
“ฮัลโหล”
“สัดวี..มึงเป็นไรไม่มาเรียน” เสียงไอ้เหี้ยกลมัน
“เรื่องของกู แค่นี้นะ ” พูดจบผมวางหูทันที ไม่อยากคุยกับมัน
“กริ๊งงงๆๆ!..กริ๊งงๆๆ!..” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันที..หลังผมวางสาย ต้องเป็นเหี้ยกลแน่ ๆ
ที่โทรจิกผมไม่หยุด ตัดสินใจเดินไปยกหูวางนอกแป้นซะสิ้นเรื่อง จากนั้นกลับมาเปิดทีวีนอนดู
จนผล่อยหลับไปในที่สุด..............
มาต่ออีกตอนแล้วนะค่ะ วันนี้วันเดียวโพสซะ สองตอนรวด ตอนหน้าศึกนี้ใหญ่หลวงนัก
อยากอ่านไว..ส่งกำลังใจมาให้น้องวีหน่อย ตาขวากระตุก หุ.หุ..หุ..คิดเอาว่าเป็นไง
Luk.