[เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ  (อ่าน 190757 ครั้ง)

jammy

  • บุคคลทั่วไป
อ่ะอารายกานจะจบเเล้วหรอเสียดายจังเเฮะ :m17: :m17: :m17:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แง้..........จะจบจิงๆเหรอเนี่ย

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :m4:
แหมมมม เล่นห้ามอิจฉาไว้แต่หัวเรื่องงงง ....
น่ารักจังเลยยยยย คงจบเรื่องกันแบบ happy เนาะ...จับมือก้าวเดินไปด้วยกันบนเส้นทางชีวิต
เอาใจช่วยเก่งกับตี๋น้อยมากมายยยย ... หวานเงี้ยยย ขอจุ๊บที.... :m1:
 :bye2:

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

         จบแล้วหรือน้อง ice  เหมือนชีวิตจริงดีเรื่องนี้  ชอบ   ขอบคุณ ice    CargO CargO

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
จะจบแล้วหรอ หวังว่าคง Happy Ending นะ  :give2: :give2:

youngest

  • บุคคลทั่วไป
 :m3: อยากจะกรี๊ดให้สลบ..แล้วตื่นขึ้นมากรี๊ดใหม่  หวานเจี๊ยบเลย...อิจฉาจังเย้ยยยยย :m1:

จะพยายามตักตวงความสุขของตอนที่ 13 ให้มากที่สุด  เพื่อชดเชยเรื่องของพี่เก่งกับน้องตี๋ที่ไม่รู้วันข้างหน้าจะเป็นยังไง...จะพยายามเตรียมใจกั้นน้ำตานะค่ะ :m17:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เข้ามาอ่านสามวัน จะจบแล้วเหรอนี่

ตอนจัดการกับไอ้พี่กลดนั้น หุหุ ช่างวางแผนกันจังนะ  ว่าแต่ตี๋เล็กต้องเลปืองตัว แอบหวงแทน เหอๆๆ :m17:

แต่มันก็ได้ผลเกินคุ้ม หุหุ


ฉากไปทพเลก็หวานกันซะ อิจฉาอ่ะ ถึงห้ามอิจฉาก็เหอะ ก็มันชวนอิจฉาอ่าาาา 

อยากมีแฟนนนนน  o9

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

     ตามติดชิดขอบเวลาสำหรับเรื่องราวความรักเรื่องนี้ เย้เย้   มา  Y Y  นะน้อง ice

      ร อ ร อ ร อ ร อ ร อ ร อ รอ....   :m25: :m25:   

        มะอยากพลาดตอนจบ ตามมาซะนาน     :m23: :m23:

                                                           CargO CarGo :a9:

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 14 / สองเรา (จบภาค 2 แล้วครับ)

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ 14 / สองเรา (จบภาค 2 แล้วครับ)

 

                วันรุ่งขึ้น เราขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวทั่วหัวหิน ขับไกลไปจนถึง สวนสน บรรยากาศเงียบสงัด อากาศร้อน จึงไม่ค่อยแวะพักที่ใหนนานสักเท่าใดนัก เราเข้ามาในเมืองหาซื้อของฝากทางบ้าน

 

                *ตี๋เล็ก จะกลับบ้านหรือเปล่าล่ะ*

 

          -ไปอยู่บ้านมึงสักพัก แล้วค่อยกลับ ที่บ้านกูไม่มีอะไรมากหรอก-

 

                *ถ้างั้นก็เตรียมซื้อของฝากกลับบ้านด้วยก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเที่ยว* ผมเตือนมัน

 

                ขากลับ รถแวะให้นักท่องเที่ยวซื้อของฝากอีกครั้งที่เพชรปิ่นแก้ว ผมกับไอ้ตี๋แวะลงเพื่อซื้อขนมหลาย ๆ อย่างกลับไปฝากที่บ้าน ไอ้ตี๋รู้ใจผมซื้อทอดมันปลาเพชรบุรีมาให้กิน ส่วนผมซื้อน้ำตาลสดให้มัน ส่วนตัวผมไม่ดื่มเพราะผมไม่ชอบกินของหวาน

 

                บนรถทัวร์ขากลับจากเพชรบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ ในรถมีคนน้อย อาจเป็นเพราะเป็นวันกลางสัปดาห์ก็เป็นได้

 

                *ตี๋เล็ก อ่ะให้* ผมยื่นของบางอย่างให้ตี๋เล็ก

 

                -อะไรอ่ะ- มันรับมาอย่างงง ๆ

               

                *ของขวัญวาเลนไทน์ จริง ๆ เตรียมไว้แล้วนะ แต่ของนั่นมันเก่าไปแล้ว แกะดูสิ*

 

                ตี๋เล็กแกห่อที่หุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ออกมา มันยิ้ม เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือเปลือกหอยเล็ก ๆ สองอัน ลอยอยู่ในดิสเพลย์รูปครึ่งวงกลม ในนั้นมีน้ำสีฟ้าอ่อน ด้านล่างมีคำว่า “โปรดระลึกถึงความหลังครั้งมาเยือนหัวหิน”

 

          -กูขอให้มึงจำเสียงคลื่น เสียงลม ไว้ให้ดี มันเป็นเหมือนเสียงลมหายใจ เหมือนเสียงเต้นของหัวใจกู เวลาที่มึงไม่มีกูแล้ว มึงลองเอาหูแนบกับของอันนี้ ลองฟังดู มึงจะได้ยินเสียงของคลื่น ของลมชายหาด ให้นึกถึงเวลาที่กูอยู่กับมึง แล้วกูก็จะอยู่กับมึงตลอดไป-

 

                *กูกับมึงจะไม่จากกันไปใหนอีกแล้วนะ* ตี๋เล็กตาแดง ๆ ผมกุมมือมัน บีบกระชับเล็กน้อยเป็นสัญญา

 

 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

                เราทั้งคู่กลับไปเก็บของที่หอพัก แล้วคืนวันเดียวกัน เราก็ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง จุดหมายปลายทางคือ บ้านเกิดของผม ผมโทรศัพท์บอกที่บ้านว่าไม่ต้องมารับ เพราะผมจะกลับเข้าไปเอง กำหนดการออกจากสานีรถไฟหัวลำโพงคือ 23.30 น. ผมจองที่นั่งในชั้น 2 ซึ่งจะเป็นที่นั่งคล้าย ๆ กับรถทัวร์ สามารถปรับเบาะนอนได้ เวลาที่ระบุในตั๋ว ผมจะถึงจุดหมายเวลา 06.45น.

 

                เราซื้อของกินขึ้นไปบนรถบ้าง ซื้อนิตยสาร หนังสือพิมพ์ที่มีคนขายมาขายบ้าง ไอ้ตี๋เล็กไม่เคยขึ้นรถไฟเลยในชีวิต มันดูตื่นเต้นเล็กน้อย ชั้นสองที่ผมนั่ง ไม่ค่อยมีคน ผู้คนบางตามาก อาจเป็นเพราะไม่ใช่สุดสัปดาห์ และก็เป็นตั๋วชั้น 2 ที่แพงกว่าชั้นธรรมดาด้วย

 

                พอรถไฟเริ่มออกตัว ตี๋เล็กตื่นเต้นมองดูสองข้างทางที่ไม่มีอะไรให้ดูมากนักเพราะเป็นกลางคืน ในที่สุดก็ยอมแพ้นอนแผ่ลงมา ผมนอนซบไหล่ตี๋เล็กไปสุดทาง ถึงสถานีชุมทางถนนจิระเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว สถานีนี้เป็นสถานีรถไฟของโคราช รถจะจอดนานมาก ราว ๆ ½ ชมได้ เราสองคนตื่นล้างหน้า คิดว่าคงไม่นอนต่อแล้ว เราคุยกันไปเรื่อยถึงเรื่องราวที่ผ่านมา 

 

                ผมสังเกตุเห็นคนมาขายของคนหนึ่งเดินผ่านไป ผมเรียกไว้แล้วซื้อ ไข่ปิ้ง ให้ตี๋เล็กกับผมคนละ 3 ใบ ผมอธิบายว่า เวลาทำจะต้องเจาะเปลือกไข่เป็นรูเล็ก ๆ  เอาไข่ออกมาให้หมด ผสมกับส่วนผสมแล้วใส่เข้าใหม่ก่อนจะเอาไปนึ่งสักพักแล้วนำมาปิ้ง  โอ้โห 3 ใบ 5 บาท ไอ้ตี๋เล็กอุทาน เขาน่าจะได้เงินมากกว่านี้ เพราะกรรมวิธีดูยุ่งยากมากเลย ผมดีใจที่คนที่ผมรัก มองคนและปฏิบัติต่อคนที่ด้อยกว่าเราด้วยท่าทีที่ดี เพราะการรู้จักใครสักคน เราสามารถรู้ถึงจิตใจคนคนนั้น ผ่านวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนอื่นที่ด้อยกว่า

 

                เราฟังเทปจากซาวด์อะเบ้าท์ไอว่า ของไอ้ตี๋มันคนละหูฟังไปสุดทาง ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ในที่สุดก็มาถึงสถานีที่เราจะลง ผมพาตี๋เล็กไปเข้าห้องน้ำ แล้วลงมาสูดอากาศบริสุทธิ์กัน 7.00น เวลาบ้านนอกนะครับ เป็นเวลาที่ผู้คนเริ่มตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตประจำวัน บรรยากาศไม่วุ่นวายเหมือนในเมืองใหญ่ ผมพาตี๋เล็กหิ้วเป้คนละใบ ในมือมีของฝากทางบ้านหิ้วคนละสองถุงเดินข้ามทางรถไฟไปที่คิวรถบุญเยี่ยมระหว่างทางมีผู้คนทักผมบ้างประปราย ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ร้านของอาพล สั่งไก่ย่าง ตับปิ้ง หมูปิ้ง ข้าวเหนียว มานั่งกิน

 

                ผมสาธยายให้ไอ้ตี๋ฟังว่า ตอนที่พวกนั้นมาก็มากินที่นี่เหมือนกัน แถมยังสั่งส้มตำมากินกันตั้งแต่เช้าด้วย ไอ้ตี๋บ่น น่าจะบอกตั้งนานแล้ว ว่าแล้วมันก็หันไปสั่งส้มตำเผ็ด ๆ ของโปรดมากินตอน 7.15น. นั่นเอง

 

                ระหว่างที่เรานั่งกินข้าว ลุงรัก ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านผมมาซื้อไก่ย่างพอดี ลูกชายเขาเรียนชั้นเรียนเดียวกับผมสมัยยังเด็ก ผมยกมือไหว้สวัสดี

               

                -ไง เก่ง พ่อเขาบอกว่าเรียนเก่งมากเลยนะ เรียนวิศวะซะด้วย-

 

                *ปกติธรรมดาครับลุงไม่ถึงกับเก่งมาก*

 

                -กลับเข้าบ้านพร้อมลุงมั้ย จะได้ไม่ต้องรอรถนาน-

 

                ผมกลับเข้าไปในหมู่บ้านซึ่งห่างจากตัวเมืองราว ๆ 10 กม กับลุงรัก แกมีรถกะบะครับ วิ่งสบายเลยระหว่างทางลูกรัง ผมอธิบายให้ตี๋เล็กฟังเมื่อรถผ่านตรงที่ผมกับพ่อรถมอเตอร์ไซค์ล้ม และตรงที่ผมเคยถีบจักรยาน BMX มาเรียนในเมืองกับพวกรุ่นพี่มัธยม ตอนนั้นผมอยู่ ป 4 เอง ทั้งหมู่บ้านเรียนโรงเรียนประจำหมู่บ้านกันหมด มีผมคนเดียวที่ต้องมาจักรยาน พวกพี่ ๆ มัธยมก็จะเอาใจเด็กน่ารัก ๆ เรียนเก่งอย่างผม คอยดูแลเป็นพิเศษ

 

          ผมชี้ให้ดูบ่อน้ำเล็ก ๆ ที่เป็นความหวังของพวกเราระหว่างการปั่นจักรยานมาเรียน หรือกลับบ้าน โดยเฉพาะตอนขากลับหิวน้ำ ต้องฝากท้องไว้กับบ่อน้ำเล็ก ๆ เหล่านี้ บางทีน้ำแห้งขอดบ่อ มีปลาตัวเล็ก ๆ ดิ้นขลุกขลักอยู่ในโคลน ตี๋เล็กถามว่า ไม่กลัวท้องเสียเหรอ ผมตอบว่า ไม่เคยท้องเสียสักที อาจจะเป็นเพราะว่า ธรรมชาติสร้างภูมิต้านทานของคนบ้านนอกมันสูงกระมัง จึงไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไร

 

                ถึงกลางทางเจอรถกะบะพ่อสวนมา คงกำลังจะออกไปทำงาน ผมยื่นหัวออกนอกรถ โบกมือให้ พ่อกับแม่โบกมือตอบกลับมาเหมือนกัน ขับไปสักพัก เจอรถพี่เต้ยอีก คราวนี้หยุดจอดคุยกันสักพัก พี่เต้ยบอกว่าเดี๋ยวตอนเย็นที่บ้านจะทำกับข้าวมื้อใหญ่ต้อนรับ พี่เต้ยหันมามองไอ้ตี๋ที่กำลังทำหน้าไม่ถูก แวบหนึ่งก่อนพูดขึ้นว่า

 

                *บ้านนอกยินดีต้อนรับพวกมึงทั้งสองตัวว่ะ* แล้วแกก็หัวเราะ ไอ้ตี๋กับผมหัวเราะออกมาได้ในที่สุด

 

                ผมพาไอ้ตี๋เก็บของแล้วไปไหว้ย่า อา ของผม แล้วเอามอเตอร์ไซค์ที่บ้านผมพาไปที่โรงเรียนเก่าก่อนผมจะย้ายไปเรียนในเมือง ผมชี้ให้ดูเกรียติบัตรเรียนดีที่ผมได้รับในฐานะที่ทำคะแนนสูงสุดของกลุ่มโรงเรียนในอำเภอ รางวัลการอ่านในใจยอดเยี่ยม การอ่านทำนองเสนาะยอดเยี่ยม รูปภาพที่ผมแสดงในงานต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น หรือว่าเป็นตัวแทนส่งไปร่วมแสดง ผมชี้ให้ดูว่า ของรุ่นผมนี่เก่ามาก ๆ เพราะกระดาษกรอบเป็นสีเหลืองแล้ว ไม่เหมือนรุ่นใหม่ ๆ ที่ยังดูใหม่ขาวสะอาด อีกไม่นานคงต้องเอาออก เพราะทางโรงเรียนคงจะเอาของเด็กรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นบ้าง

 

                ตี๋เล็กแซวว่าเด็กเรียนแบบนี้ไม่มีรางวัลด้านกีฬาเหรอ ผมดึงมือมันไปที่หน้าห้องพักครูใหญ่ ชี้ให้ดูในตู้กระจกที่อยู่ตรงกลาง อ่านให้ฟังหน่อยสิ ผมบอกมัน

 

***** รางวัลชนะเลิศการแข่งขันเทเบิลเทนนิสชาย*****

*****การแข่งขันกีฬานักเรียนระดับประถมศึกษา อำเภอ .................*****

*** เด็กชาย ภ. พ. .........***

 

                *ไม่น่าเชื่อเลยอ่ะ* ไอ้ตี๋เล็กส่ายหน้า

               

                -งั้นมาลองทดสอบหน่อยมั้ย- ผมพามันเดินไปที่อาคารเอนกประสงค์ มีเด็ก ๆ มาเล่นในช่วงปิดเทอมหลายคน ผมเดินเข้าไปเด็ก ๆ วิ่งมาหาผมเกรียว

 

                -พี่เก่งมาเมื่อไหร่ ...ฯลฯ – เสียงเซ็งแซ่ไปหมด ผมขอยืมไม้ปิงปองมา ขอแข่งกับไอ้ตี๋ โดยมีกองเชียร์ของเด็ก ๆ เชียร์กันใหญ่ ผมแกล้งแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่ท้ายที่สุดผมก็ชนะ เราสองคนเล่นกันอยู่ราว ๆ 1 ชั่วโมงก็เปลี่ยนที่หมายไปที่ฝายทดน้ำซึ่งห่างจากหมู่บ้านเราออกไปราว ๆ 3 กม

 

                ผมขับรถไปที่กลางสะพานข้ามฝาย เบื้องล่างของเราเป็นน้ำที่ไหลซ่า ๆๆ ผ่านฝายน้ำล้นไปตลอดเวลา ผมจอดรถที่กลางสะพานเล็ก ๆ นั้น ยืนอยู่ข้างไอ้ตี๋  ผมรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจี๊ด ๆ จนต้องเอสมือจับ ดูเหมือนว่าอากาศมันร้อน หรือว่าผมเริ่มจะไม่สบาย เที่ยวตะลอน ๆ ทั้งวัน สักพัก อาการปวดหัวหายไปแล้ว ผมสะบัดหัวแรง ๆ ไล่ความมึนงง

 

                *ตี๋ มึงรักกูใหม* ผมถาม

 

                -เมื่อก่อนกูต่างหากที่คอยถามมึง แต่มึงไม่ค่อยอยากจะตอบ จนกูไม่แน่ใจว่ามึงรักกูหรือเปล่า- ไอ้ตี๋ตอบ

 

                *ถ้าปากกูบอกว่ารักมึง แต่ใจกูไม่รัก จะมีประโยชน์อะไรใหม แล้วมึงคิดว่าไง*

 

                -กูเชื่อมึง ตั้งแต่มึงบอกว่า มีกูแล้ว มึงจะไม่มีใคร-

 

                *กูก็ขอแค่อย่างเดียว ขอให้มึงเชื่อกู* ผมบอกมัน

 

                -กูเชื่อมึง แล้วกูก็รักมึงมากด้วย-

 

                *กูก็รักมึง* ผมบอกกับมัน

 

                ผมจับมือมันไว้ มองดูสายน้ำข้างล่าง ที่ไหลจากฟากหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของฝายน้ำล้น วันพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง วันนี้สิคือของจริง วันที่เราสองคน ยืนอยู่ไกล้กันแบบนี้ ผมอยากเก็บวันเวลาที่ดีแบบนี้ ไว้ในความทรงจำของผมตลอดไป ........................

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

  เรื่องราวในภาค 2 ก็ขอจบลงอย่างหวาน ๆ ในตอนที่ 14 นะครับ ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้การสนับสนุนอ่านเรื่องราวของเก่งกับตี๋นะครับ ขอบคุณสำหรับอีเมล์ MSN ที่ alohasunkissอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.sg นะครับ ที่เป็นกำลังใจในการถ่ายทอดเรื่องราวของผม สำหรับภาค 3 คงจะนำมาลงให้ได้อ่านกันต่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรช่วยติดตามอ่านและติชมกันด้วยนะครับ ไปทำงานก่อนล่ะครับ บายครับ


    เก่ง 05/06/07

 

                                                                                            (แอบเขียนตอนพักกลางวัน)

                                                                                                                13.30น

                                                                                                      สิงคโปร์ (ไม่โตก)



fr_man

  • บุคคลทั่วไป
• • • • แค่วันนี้กูยังมีมึงอยู่ใน อ้อมกอดของกู....พรุ่งนี้ต่อให้เกิดอะไรขึ้น....กูก็จะไม่เสียใจอะไรอีกแล้ว • • • •


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2007 16:35:37 โดย >>>JIn »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






gobgab

  • บุคคลทั่วไป

..........พรุ่งนี้จะดีหรือไม่......ขึ้นอยู่กับความรักในวันนี้.............. :impress: :impress:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
มีภาค 3 ต่อ เย้ๆๆๆๆ ดีจาย  o17 o17 o17 o17

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 o21
ทิ้งท้ายหวาน ๆ แต่ความรู้สึกไม่หวานเลยยยยอ่ะ ....หวาดมากกว่า...แทบไม่อยากอ่านภาคสามต่อเลย
เล่นเปิดโหมดเศร้าน้ำตาท่วมทิ้งไว้แบบนี้.... :undecided:
ต้องยืมคำใครซักคนในนี้มาพูด....หอมกลิ่นความตาย!!!.....
ได้แต่หวังละ....อย่าใจร้ายกะตี๋และเก่งนักเลยยยยย คนอ่านจะพลอยแย่ไปด้วยยยยนา  :a5:
 :bye2:

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

        แค่ที่เราได้รู้จัก รักใครซักคน   :impress:    มันก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วละ   o7 o7

       รอ ภาค ต่อ นะ ครับ (เหมือนอ่าน harry ว่าปะ   :m8: มันหยุดมะได้)

       ขอบคุณน้อง ice รอภาค 3 จากน้องนะ

                                           CARgo caRGO :a11:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ผมกลัวตอนจบของเรื่องครับ   ไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นยังไง

กลัวว่าทั้งคู่จะต้องจากกันครับ

แต่ถ้าจบแบบมีความสุข ก็ดีใจครับ

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
รู้สึกตะหงิด ตะหงิดยังไงก็ไม่รู้ เหมือนว่าจะไม่ Happy Ending เลย คู่นี้

หวังว่าที่ปวดหัวคงไม่เป็นอะไรมากนะ :m5:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
หวังว่าภาค3คงจะจบแบบมีความสุขนะ รออ่านต่อคับ  :m1: :m1:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
แอบหวาน ซึ้ง ปิดท้าย

ภาค 3 จะเป็นไงอ่ะ อยากให้แฮปปี้ จบภาค2 แค่นี้จัง  :o11:

youngest

  • บุคคลทั่วไป
ไม่อยากอ่านภาค 3 เลยค่ะ..อยากให้ชีวิตของทั้งพี่เก่งกับน้องตี๋จบแค่ภาคนี้จังเลยยยยยยยเข้าใจนะค่ะว่าชีวิตจริงมันไม่สวยหรูเหมือนในนิยาย..แต่บางครั้งก็อยากอยู่แต่ในความฝัน..ไม่อยากรับรู้อะไรอีกเลย(เคยเป็นกันบ้างไหมเอ่ย)
กับเรื่องนี้..กำลังพยายามอยู่นะค่ะ..พยายามคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมา  ไม่ใช่ชีวิตของใครสักคนที่เรารู้จัก(ยอมรับค่ะ..ว่าอ่านแล้วชักเริ่มผูกพันธ์..ทั้ง2คนนี้ชักเริ่มจะเป็นคนที่เรามีความรู้สึกดีๆให้ค่ะ)

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
จบได้หวานๆ ลึกซึ้งมากๆเลย  น่ารักจัง

อยากอ่านต่อภาคสามเร็วๆจังคับ  :impress:

ปล. หวังว่าผมคงไม่คิดมากไปกับอาการปวดหัวนั้นนะ ขอให้ไม่มีไรแล้วกัน  :m5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ขอให้ภาคสามนี้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆนานาๆไปได้นะคับ จะรอลุ้นนะคับ

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับทั้งตี๋น้อย ทั้งเก่งเลย  :m4:

ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายแหล่ไปให้ได้นะค้าบบบบบ  :a2:

ออฟไลน์ T@luntulA

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :m2: :m2: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะคับ

___KuNg_K-J-J___

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว ววววววววว.........................   ภาคสองเนี่ยจบแบบมีความสุขจังเลยนะ  แอบอิจฉา   :m2:


มีต่อภาคสามเอาจบแบบนี้อีกนะพี่เก่งกะพี่ตี๋  ชอบ.... อยากให้ลงเอยกันด้วยดี   :m18:




แล้วจาเป็นกำลังใจให้น้า   สู้ สู้  :a9:



anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 1 – ปรากฏการณ์เหนือการควบคุม
เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทนำเรื่อง
เรื่องราวระหว่างผมกับไอ้ตี๋ ได้ดำเนินมาถึงภาค 3 แล้วนะครับ ถ้านับเป็นตอน ตอนนี้ก็ขึ้นตอนที่ 38 แล้ว ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผมมาตั้งแต่ต้น จะเป็นกำลังใจติดตามอ่านเรื่องของเราต่อในภาค 3 นะครับ

 

                ผมไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากนัก เกี่ยวกับเรื่องของผมที่จะมีแก่คุณผู้อ่าน ผมหวังแต่เพียงว่า เรื่องราวความรักของผมในอดีต มันคงจะช่วยคลายเหงา เป็นเพื่อนหรือแม้แต่เยียวยาในเวลาที่คุณเศร้าเสียใจ ให้กับผู้คนแบบเรา (PLU) บางคนบอกผมว่า บางส่วนคล้ายกับชีวิตจริงของเขา ความรักทำให้เขาเจ็บช้ำมามากพอแล้ว เขาจะไม่รักใครอีก .... 

 

                ในท้ายที่สุดเขาโทรศัพท์มาหาผม ร้องให้ด้วยความดีใจกับเรื่องราวความรักของผม ที่ทำให้เขาคิดได้และมีมุมมองเกี่ยวกับความรักในทางที่ดีขึ้น ผมดีใจ ที่เรื่องของผมเป็นส่วนหนึ่ง ที่สามารถเปลี่ยนให้มุมมองในความรักของผู้คนแบบเรา ยังคงสดใสงดงามอยู่ในจิตใจของเขาตลอดไป

 

                ความดีทั้งหลายในเรื่องราวของผมที่อาจจะพอมีอยู่บ้าง ผมขอยกประโยชน์เหล่านั้นให้กับบุคคลที่ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องทุกท่าน ผมยอมรับว่า ชีวิตผมคงไม่สมบูรณ์ หากขาดซึ่งท่านเหล่านั้นที่ผมกล่าวถึง และที่ขาดเสียไม่ได้ คือท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่ติดตามกันอย่างเหนียวแน่นตลอดมา ผมหวังว่า ทุกท่านคงจะติดตามอย่างเหนียวแน่น เป็นเพื่อนกันผ่านตัวอักษรไปจนกว่าเรื่องราวจะจบสิ้นลง ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ

 

                                                                                                                เก่ง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องของเก่ง กับ ตี๋ – ภาค 3 / ตอนที่ 1 – ปรากฏการณ์เหนือการควบคุม

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ล้วนแล้วแต่อยู่บนพื้นฐานของสิ่งสองสิ่งที่เป็นสัจธรรมของโลกนั่นคือ

1.    ปรากฏการณ์ที่ควบคุมได้

2.    ปรากฏการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ หรือ เหนือการคาดเดา

 

                การดำรงชีวิตอยู่ได้ คือการเรียนรู้ที่จะควบคุมเหตุการณ์ในข้อ 1 ให้เป็นไปอย่างสะดวกราบรื่น ด้วยวิธีการของแต่ละบุคคลซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามแต่ ในปัจจุบันยังมีการหยิบยกเอาประเด็นทางธรรมที่ว่า “ความแน่นอน – คือความไม่แน่นอน” มาพูดกันเพื่อเป็นการเตือนสติกันอยู่เสมอ หลักการที่เห็นได้ชัดในทางฟิสิกส์คือ หลักความไม่แน่นอนของไฮน์เซนเบิร์ก ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับความไม่แน่นอน ถึงในระดับเล็ก ๆ อย่างโมเลกุล

 

                 ส่วนปรากฏการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ในข้อ 2 มันเป็นผลต่อเนื่องมาจากทฤษฏีของนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ เอียน มัลคอล์ม ในวารสารปกแดงกล่าวถึงรายงานประจำปีของนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัย MIT ได้กล่าวถึงเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ว่า เป็นผลมาจาก ปรากฏการณ์ปีกผี้เสื้อ (Butterfly effect)

 

          “ขณะที่ผีเสื้อตัวหนึ่งขยับปีก ขึ้น-ลง ที่กรุงปักกิ่ง อาจทำให้สภาวะอากาศในมหานครนิวยอร์กเปลี่ยนไป” นั่นแสดงให้เห็นว่า เรื่องบางเรื่อง นอกจากธรรมชาติเป็นผู้กำหนดแล้ว ปัจจัยเล็ก ๆ ที่เข้ามาเสริมเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ แตกสลายไปได้ โดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว ..............

 

 

-----------------------------------------------------------------------

 

          ผมนอนหนุนตักแม่อยู่ที่นอกชาน อากาศเย็นสบาย พระจันทร์เต็มดวง พ่อผมนั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไป พี่เต้ยกับไอ้ตี๋และพี่ก้อย นั่งเล่นรัมมี่อยู่ที่ไม่ไกลออกไปนั่นเอง ผมมีความสุข มีความสุขมากจนผมคิดว่า มันมีความสุขมากเกินไป มันประหลาดเกินไป ...... หรือผมคิดมากไปเอง

 

          ผมกับไอ้ตี๋มาอยู่ที่นี่เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ไอ้ตี๋จะต้องกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่มัน ผมนึกถึงไอ้พี่กลดขึ้นมาแวบหนึ่ง มันจะยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมหรือเปล่าหนอ ไอ้เตยที่กลับบ้านไปแล้ว จะอดใจไม่เปิดเผยเรื่องของมันหรือเปล่า ผมกำลังคิดเพลิน ๆ แม่ผมเอามือลูบหัวผมเบา ๆ แล้วพูดขึ้น

 

                *เก่ง ลูก แม่มีอะไรจะพูดกับหนูน่ะ* น้ำเสียงแม่ท่าทางไม่ดีเลย ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง

 

                -ว่าไงล่ะครับแม่- พ่อผมหันมามองแวบนึงแล้วหันหน้าพ่นควันบุหรี่ออกเป็นสายยาวไปด้านหน้า

 

                *เต้ย ก้อย แล้วตี๋ด้วยนะลูก ไปเล่นในบ้านกันก่อนไป แม่กับพ่อมีเรื่องจะคุยกับเก่งหน่อยนะ* ทั้งสามคนท่าทาง งง ๆ แต่ก็เก็บของเข้าไปห้องนั่งเล่นในบ้าน พ่อขยับเข้ามาไกล้ ๆ ผมกับแม่

 

                ความเงียบครอบงำระหว่างเราสามคนอยู่เนิ่นนาน

 

                -ว่าไงล่ะครับแม่ ผมรอฟังอยู่- ผมพูดขึ้นเตือนให้แม่ผมทราบ

 

                -ลูกแม่ต้องเข้มแข็งนะ- แม่พูดพลางสะอึกสะอื้น ผมยิ่งแปลกใจเข้าไปอีก แต่ในใจรู้สึกมันโหวง ๆ เหวง ๆ อย่างไรก็ไม่รู้

 

                -แม่ไม่บอกหนูไม่ได้ แม่ทนไม่ได้- แม่ผมยิ่งร้องให้หนักขึ้น แม่หันไปกอดพ่อไว้ พ่อโอบแม่ไว้เบา ก่อนจะผละออกจากแม่ มากอดผมไว้

 

                *เก่ง ฟังดีดีนะลูก ลูกต้องไปหาหมอ*

 

                -ทำไมครับพ่อ ผมเป็นอะไร ทำไมผมต้องไปหาหมอ-

 

                *ตอนที่ลูกเข้าโรงพยาบาลก่อนสอบ หมอบังเอิญตรวจพบว่าลูกเป็นโรค เอแอลเอส  แต่ไม่ต้องกลัวนะลูกจะสามารถอยู่ได้อีกหลายปี ถ้าได้รับการรักษาที่เหมาะสม ในการดูแลของแพทย์*

 

                -ที่พ่อจะบอกผม คือผมกำลังจะตาย ใช่ใหมครับพ่อ- ผมถามขึ้นเบา ๆ เสียงของผมเหมือนล่องลอยมาจากที่ไกลแสนไกล

 

                *ไม่ใช่หรอกลูก ให้พี่ก้อยอธิบายนะพ่อก็ไม่เข้าใจศัพท์ทางแพทย์ เพราะฉะนั้น ลูกจะต้องไปพบหมอ ให้หมอรักษานะลูก* พ่อผมบอกเสียงเครือ ท่านคงสงสารผมที่ผมต้องมามีเคราะห์กรรมอะไรแบบนี้

                ทำไมช่วงเวลาแห่งความสุขของผมมันถึงแสนสั้นแบบนี้นะ หรือว่าสิ่งที่ผมกังวลใจมาตลอดระยะเวลาสองสามเดือนนี้มันจะเป็นจริง ผมเห็นตัวเองรางเลือนเมื่อผมส่องกระจก ผมรู้สึกว่ามีคนตามผมไปในทุกที่พร้อมกับมีเสียงกระซิบของคำว่า “ตาย ตาย ตาย ตาย” ก้องเบา ๆ อยู่ข้างหูผมตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาที่ผมหลับ .. ผมจะฝันเห็นคนชุดทำ ใส่หมวกแหลมคลุมหัวและใบหน้า ยืนมองผมจากหลังคาตึก แต่ผมไม่สามารถมองเห็นหน้าของคนชุดดำนั้นเลยสักครั้ง

 

                ผมได้ยินเสียงวิ่งออกมาจากในบ้าน ไอ้ตี๋วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากในบ้าน เข้ามากอดผม ร้องให้อย่างหนัก พี่เต้ยกับพี่ก้อยเดินตามออกมา พี่ก้อยเริ่มร้องให้ตามแม่ผม ผมยังมึนงงกับสิ่งที่ผมได้ทราบมาไม่ถึงสิบนาที สิบนาทีที่แล้ว ... ทำไมเวลาไม่หยุดหมุนลงตรงนั้น ตรงที่ผมมีความสุขที่สุด อา .... หรือว่ามันจะเป็นความสุขสุดท้าย ที่ผมจะได้รับในชีวิตนี้ ..........

 

                ผีเสื้อตัวนั้น ... ขยับปีกอยู่ที่ซีกโลกหนึ่ง ทำให้อีกซีกโลกหนึ่ง เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้น ผีเสื้อตัวนั้นมันอยู่ที่ใหนนะ ... ผมอยากจะฆ่ามันทิ้งเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้

 

                ผมนอนเอามือก่ายหน้าผากในความมืด ลืมตาโพลง คิดถึงสิ่งที่พ่อกับแม่บอก ผมอยากให้มันเป็นแค่ฝันไป แต่มันไม่ใช่ ผมนึกถึงคำพูดของพี่ก้อยเมื่อเย็น

 

          ALS (เอ แอล เอส) เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาท ที่ทำการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อร่างกายที่อยู่ภายใต้บังคับของจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อ แขนขา ลำตัว การกลืน การหายใจ เซลล์ประสาทที่เกิดการเสื่อมอยู่ที่ส่วนหน้าของไขสันหลัง และเส้นประสาทสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุของโรคเกิดมาจากอะไร ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 3-4 ปีหลังจากวินิจัยโรค อีก 20% สามารถอยู่ได้ถึง 5 ปี และอีก 10% สามารถอยู่ได้อีก 10 ปี ... อาจจะมีบางคนหายจากโรคไปเองได้แต่มีจำนวนน้อยมาก ไม่สามารถระบุจำนวนได้แน่ชัด แต่น่าจะน้อยกว่า 1% พบคนป่วยในประเทศไทยปีละ 150-200 ราย ในประเทศไทยการรักษาส่วนใหญ่ต้องทำการรักษาที่สถาบันประสาทวิทยา ........

 

                เสียงตี๋เล็กสะอึกสะอื้นตัวโยนเล็กน้อย ผมเอื้อมมือไปกอดมันเข้ามาในอกผม ผมเริ่มร้องให้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ผมได้ทราบว่าผมเป็นไรคบ้า ๆ อะไรนี่ ผมกระซิบข้างหูตี๋เล็กเบา ๆ

 

                *กูยังไม่อยากตาย.........*

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.............อุปสรรคครั้งใหญ่.......ถาโถมเข้ามาอีกแล้ว........ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

nanao

  • บุคคลทั่วไป
อะไรกันเนี่ย  o22

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
 :o :o :o :o
อะไรกันนี่ เพิ่งจะมีความสุขกันแท้ๆ
 :serius2: :serius2: :serius2:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
ว่าแล้วเชียวววว และแล้วก็เดาไม่ผิดดดดด...ช่วงเวลามีความสุขมันสั้นเสมอ.... :เฮ้อ:
ว่าจะไม่อ่านต่อแล้วเชียวววววว แต่ก็อดไม่ได้....เมื่ออ่านมาแล้วก็ต้องอ่านต่อไปให้จบ....
เริ่มตอนแรกก็เจอ bad news ขนาดนี้.....
 :undecided:
โรคที่ว่านี่คล้ายหนังญี่ปุ่นเรื่อง one  liter of tear รึเปล่านะ....ถ้างั้นสุดโศกเลยยยยย :m8:
เอาใจช่วยกันต่อไป....เก่งอาจจะเป็น 1% ที่ปลอดภัยก็ได้.... :a2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด