[เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า]จาก เก่ง ถึง ตี๋ ũ  (อ่าน 189559 ครั้ง)

jammy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
สงสารอ่ะ เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนต้องใช้เวลาทำให้พ่อตี๋เข้าใจน่ะ

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
 o7 สู้ๆนะคับ ความรัก จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี 


 :o12: เศร้าจัง ขออย่าให้ต้องเจอเรื่องแบบนี้เลยเรา  :m15:

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 21–เดอะพอยท์ออฟโนรีเทิร์น

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่  21–เดอะพอยท์ออฟโนรีเทิร์น

 

                ผมร่ำลาอีอุ๋ยเสร็จ พี่เต้ย พี่ก้อย ก็พาผมกลับบ้านอีกจังหวัดหนึ่งทันที ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดหรือตอบคำถามใด ๆ กับใครทั้งสิ้น พี่ก้อยกับพี่เต้ยคุยกันบ้างเบา ๆ ตลอดทางกลับบ้าน  ผมฟังเพลงจากวิทยุในรถพี่เต้ยเปิดมาเบา ๆ แล้วต้องเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เคยเป็นกันบ้างใหมครับ ไม่ว่าเพลงอะไร ทำไมมันเศร้าไปหมดทุกเพลงแบบนี้

*พี่เต้ย โทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ เสื้อผ้าผมไปใหนพี่*

-อยู่หลังรถเรียบร้อยแล้ว แต่โทรศัพท์ตี๋เก็บไว้แล้วนะ-

*พี่มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า* ผมตัดสินใจถามตรง ๆ

**พ่อไอ้ตี๋สั่งห้ามไม่ให้เราสองคนคบกันเด็ดขาด ตอนนี้พ่อมันไปให้คนเก็บของออกจากหอแกที่ กทม แล้ว** พี่ก้อยตอบ

-ไอ้ตี๋เล็กมันอยู่ที่ใหน-

*อยู่ที่บ้าน ได้ยินว่าพ่อไม่ให้ไปใหน ที่บ้านเขา ลูกต้องเชื่อฟังพ่อทุกอย่าง พี่ถามแม่เขาแล้ว เขาบอกว่า ช่วยอะไรไม่ได้เลย* พี่เต้ยตอบ

                ผมหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ลำพังแผลก็เจ็บแล้ว แต่ในใจทำมันเจ็บยิ่งกว่าอีก เหมือนมีอะไรมากรีดซ้ำ ๆ ลงไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาอุ่น ๆ ซึมออกมาจากขอบตา ผมเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ จากวิวที่เห็นในตอนสายๆ คงไกล้ถึงเขตบ้านผมแล้ว อากาศในรถอุ่นสบาย แต่ข้างนอกคงจะหนาวน่าดู ท้องทุ่งบางแห้งมีการเก็บเกี่ยวข้าวเริ่มขึ้นแล้ว ผมปล่อยให้น้ำตามันไหลอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่านานเท่าใด

                แม่กับพ่อวิ่งเข้ามาสวมกอดผมทันทีที่ผมลงจากรถ ท่าทางแม่อยากร้องให้แต่คงไม่อยากให้ผมเห็น ผมมองเห็นไอ้เม่นยืนอยู่ข้างหลังท่านทั้งสอง มันคงอยากมาอยู่เป็นเพื่อนผม ในเวลาที่ผมไม่มีใคร

-เดี๋ยวเพื่อน ๆ ก็จะทยอยตามกันมา ปีนี้เราจะมาฉลองปีใหม่ที่นี่- ผมพยักหน้าและยิ้มน้อย ๆ ให้เพื่อน ผมแยกตัวออกไปคุยกับพี่เต้ยที่ม้าหินอ่อนหลังบ้าน

*เก่ง ไอ้ตี๋จะไม่ได้ไปเรียนที่นั่นอีกแล้ว*

-ทำไมอย่างนั้นล่ะพี่- ผมตกใจถามพี่เต้ยเสียงดัง

*พ่อมันไม่ยอม ให้มันสอบใหม่ปีหน้า*

-ทำอย่างนี้ไม่ได้นะพี่- ผมเริ่มโวยวายอีกครั้ง

*ป๊ากับม๊าช่วยพูดให้แล้ว แต่พ่อมันด่าพ่อกับแม่เรากลับมา ว่าเป็นถึงครูบาอาจารย์ ส่งเสริมให้เด็กมันกระทำผิด แกติดดูนะ เท่านี้มันก็มากเกินไปสำหรับพ่อกับแม่เราแล้วนะเก่ง*

-ผมเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ท่านไม่สบายใจ-

*ท่านตกใจมากเรื่องที่แกเหมือนสติเลอะเลือน จะเอาเรื่องกับทางนั้น แต่พี่ห้ามไว้ เพราะแกเอง ก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้น*

ผมโผเข้าสวมกอดพี่เต้ย ร้องให้เหมือนเด็ก ๆ

-ร้องซะให้พอ ร้องออกมาวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็ลืมมันไป เก็บเอาอดีตไว้เป็นแค่ความทรงจำ- พี่เต้ยปลอบผมเบา ๆ

 

...........................................................................................

 

                ตอนเย็น ผมเข้าไปที่ห้องนอนของพ่อกับแม่

-ป๊า ม๊า ผมขอโทษ-

*อื้อ ไม่ต้องคิดมากหรอกลูก ทำใจให้สบาย ตอนนี้อยู่ที่บ้านเราแล้วนะ* พ่อผมพูดพลางลูบหัวผมเหมือนเด็ก ๆ จนผมนึกสงสัยว่า เราเป็นเด็ก ในสายตาท่านเสมอเลยหรือเปล่า

-เจ็บแค่ใหน อย่าไปจำ คิดเสียว่าเป็นฝันร้ายนะลูกนะ- แม่ผมบอก

 

                แล้วฝันร้ายของผมครั้งนี้ มันจะทำให้ผม เป็นโรคนอนไม่หลับไปอีกนานเท่าใดครับ ผมยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย

 

.................................................................................................

 

                *เก่ง อยากคุยกับไอ้ตี๋มั้ย* ไอ้เม่นถาม เราสองคนนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืดห่มผ้านวมผืนเดียวกัน  อากาศหนาวมากคืนนี้ ได้ยินแต่เสียงลมพัดหวีดหวิว และเสียงธนูดังมาจากว่าวที่คงจะมีคนชักขึ้นฟ้าทิ้งไว้ค้างคืน ชวนทำให้ใจผมยิ่งหดหู่ยิ่งนัก

                *ว่าไง กูจะโทรหามันเดี๋ยวนี้* มันเตือนเมื่อผมไม่ตอบ

                -ไม่ต้อง- ผมตอบเบา ๆ

                *มึงน่าจะคุยกับมัน*

                -จิตใจมันก็บอบช้ำไม่แพ้กู ตอนนี้ขอแค่กูรู้ว่ามันสบายดี และมันรู้ว่ากูสบายดีก็พอแล้ว-

                *พ่อมันปิดโทรศัพท์ของมันไปแล้ว แต่ไอ้เตยแอบเอาโทรศัพท์มึงไว้ กูโทรคุยกับมันมาเมื่อตอนเย็น มันบอกไอ้ตี๋ขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ยอมออกมาข้างนอกห้องเลย แล้วพ่อมันก็ยังไม่สงบด้วย กินเหล้าเมาตลอดเวลาอยู่ที่บ้าน ที่ร้านแม่มันต้องไปดูคนเดียว*

                -อือ- ผมน้ำตาไหลในความมืด

                *เก่ง กูขอร้อง* ไอ้เม่นเริ่มสะอึกสะอื้นร้องให้

                *มึงสองตัวต้องคุยกัน*

                -เรื่องมันบานปลายเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่แบบนี้ จะอย่างไร กูสองคนก็ต้องยอมรับมัน มันมาถึงจุดเลี้ยวที่ไม่มีทางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว-  ผมสะอื้นจนตัวโยน

                *ไอ้เก่ง*  ไอ้เม่นร้องให้โฮ โผเข้ากอดผมใต้ผ้าห่มจนไม่รู้ว่าเราทั้งคู่หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่ 22 – สู่สามัญ --- จบแล้ว ----

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ ตอนที่  22 – สู่สามัญ

 

                ปัง ๆๆๆๆๆๆ !!!!  *ตื่น ตื่น ๆๆๆๆ* เสียงใครเคาะประตูแต่เช้าวะ เสียงคุ้น ๆ นะ อากาศยิ่งน่านอนอยู่ ผมมองนาฬิกาติดผนัง บอกเวลา 11.00น. แล้ว ไอ้เม่นคงอาบน้ำอยู่ หนาวแบบนี้ยังอาบน้ำได้ ผมในชุดนอนสีฟ้า ลุกเดินไปเปิดประตู ที่หัวเจ็บตุบ ๆ ถ้าเลือกได้ ผมไม่อยากเป็นแผลหน้าหนาวเลยให้ตายสิ

                ** เซอร์ไพรส์ !!!! **  เฮ ๆๆๆๆ  บรรดาเพื่อน ๆ ของผมนั่นเองครบทีม คงเพิ่งจะมาถึงกัน

 

                **นี่เมื่อคืนทำไรกันสองคนนี้ เรียกตั้งนานไม่ยอมตื่น** ข้อสันนิษฐานของอีอุ๋ยเรียกเสียงเฮได้อีกครั้ง

 

                **มีเวลาว่างอีกวันนะพวกเรา จะทำอะไรกันดี** เก๋ถาม

 

                -กินเนื้อย่างกันดีกว่า อากาศหนาว- ผมบอกกับทุกคน

 

                ตลอดทั้งบ่าย เราคุยกันอยู่ที่บ้าน ดูทีวี กินอาหาร ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่จะมารบกวนจิตใจของผมเลย ผมเห็นเพื่อน ๆ ตั้งใจกันทำให้ผมมีความรู้สึกดีขนาดนี้ ผมก็ไม่อยากเป็นตัวทำให้งานเสียหรืองานล่มเช่นกัน

                ตกตอนเย็นมา บรรยากาศเป็นใจ พี่เต้ยก่อกองไฟให้พวกเราที่หน้าบ้าน ผมกับไอ้เม่นไปตัดไม่ไผ่มาจากหลังบ้าน ให้พวกสาว ๆเอาข้าวเหนียวที่แม่ผมเตรียมไว้ให้ทำข้าวหลามกินกันรอบกองไฟ ลมหนาวพัดมาเย็นยะเยือก เวลาประมาณ 4 ทุ่มแล้ว อีอุ๋ยปรบมือ 3 ครั้งแล้วประกาศขึ้น

               

                -ในฐานะที่กูเป็นโฆษกของกลุ่ม กูขอให้พวกมึงทุกตัวให้ล้อมวงกันเข้ามาไกล้ๆ จะได้อบอุ่น-

                ทุกคนต่างตั้งใจฟัง  เบียดกันเป็นวงกลม อากาศหนาวมาก  มันกระแอมแล้วกลืนน้ำลาย

                -เนื่องจากไอ้เก่งเพื่อนของเรา และไอ้ตี๋ ซึ่งเป็นเพื่อนของเราอีกเหมือนกัน กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง การที่พวกเราทั้งหมดจะมานั่งนิ่งดูดายนั้น เป็นการไม่สมควร และพวกเราคิดกันแล้วว่า ไม่ควรจะหลอกตัวเองกันอีกต่อไป- มันเอื้อมมือมาจับมือผมเบาๆ

 

                -เก่ง พวกกูอยากรู้ใจมึง พวกกูทำเป็นไม่รับรู้ไม่ได้- อุ๋ยพูดด้วยน้ำเสียงเครือ ๆ

 

                *กูขอขอบใจพวกมึงทุก ๆ คน ที่เอาใจช่วยกูกับปัญหานี้ หลังจากที่กูมานั่งคิดทบทวนดูแล้ว ปัญหานี้ มันเป็นปัญหาที่ซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้นแล้ว เพราะมันเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ เราเป็นเด็ก เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้ใหญ่ท่านสบายใจมากที่สุด กูขอบอกพวกมึงว่ากูยังรักไอ้ตี๋เพื่อนของพวกมึง เสมอมา และกูตอบไม่ได้ว่า กูจะหยุดรักมันได้เมื่อไหร่ เพราะความรักของกู ให้มันไปจนหมด ไม่เหลือ แม้กระทั่งความรักสำหรับตัวกูเอง*

 

*ในเมื่อกูไม่สามารถที่จะอยู่กับมันได้ กูก็จะไม่อยู่ไกล้มันอีก แต่กูสัญญา ว่ากูยังเป็นกูคนเดิม และกูจะยังรักมันตลอดไป*

 

ทุกคนต่างพากันสะอื้นเช็ดน้ำตากัน

 

*พวกมึงขี้แย แล้วจะมาอยู่ปลอบใจคนอกหักได้หรือว้า****  ผมหัวเราะเบาๆ 

*เอาวะ มีเพื่อนเป็นหมา ยังดีกว่ามีเพื่อนหมา ๆ  ยิ้มกันหน่อยสิเว้ย****

ทุกคนหัวเราะทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับผม

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องราวได้ดำเนินมาถึงตอนที่ 22 แล้วนะครับ ผมก็เห็นควรว่า เรื่องราวในภาคนี้ คงจะต้องจบลงเสียที ขอขอบพระคุณสำหรับการติดตามอ่าน ทุกคอมเมนท์ ทุกข้อความผ่านเอ็ม ทุกอีเมล์ ที่ให้กำลังใจเกี่ยวกับความรักของเก่งกับตี๋เล็ก

 

โปรดติดตามเรื่องราวอื่น ๆ  ได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ

 

                                                                   เก่ง – Kelvin

                                                                   4.44น.

                                                                                                                31/05/2007

                                                                                                                Singapore

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีเซอร์ไพรส์หลังรีที่10 นะคับช่วยๆกันหน่อย....อิอิ

แต่แค่10รีเองน้อยไปมั้ง...อิอิ   เอา15รีดีหรือเปล่านา  แต่15รีคงจะโหดไปเอาแค่10นะแหละ

ช่วยกันหน่อยนะคับ

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
รีที่ 1
รอเซอร์ไพรส์

เฮ้อ  :เฮ้อ: เศร้าจัง  :m8: รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้  :m15: เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่คับ  :m13:

ออฟไลน์ Amamiya

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนแรกก้อหื่นซะ... :m10:

แล้วทำไมตอนหลังนี่เศร้าเจง... :m15: :o12:

ขอติดตามแระตามติดไปอย่างใกล้ชิดก๊าบบบบบบบ...




ปอ.ลอ..รีที่ 2..(รึเป่า..)

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
รีที่ 3 แหละ

ทำไมมันเศร้า บีบหัวใจเยี่ยงนี้เนี่ย  o7

niph

  • บุคคลทั่วไป
 o7 o7 o7
ร่วมด้วยช่วยดัน

ถึงมันจะเศร้า ๆ ก็เหอะ ยังไงก็ยังอยากรู้ต่อไปอยู่ดี
 o7 o7 o7

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ขึ้นต้นกับตอนจบนี่เหมือนคนละเรื่องเลยอ่ะ มันเศร้า  :m15:  :m15:  :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............คนมันรัก.........จะทำยังไงก็รัก.........

...........จะอยู่ด้วยกันหรือไม่..........มันก็ยังรัก........... o7 o7

nanao

  • บุคคลทั่วไป
โลกแห่งความเป็นจริง น่าเศร้ายิ่งนัก  :o12:


ปล.รี 7 อะป่าวเนี่ย

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9

jammy

  • บุคคลทั่วไป

ตามมาดู

  • บุคคลทั่วไป

FOAM

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
ไอซ์ อย่าใจร้ายกับคนอ่านดิ o7

แค่นี้ก็หัวใจสลายกันเป็นแถวๆกับความรักของคู่นี้แล้วน๊า  :a6:  :a6:

ปล. รี 12 ล่ะ

Red_Chocobo

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:



 :m15: :m15: :m15:


ม่ายสามารถ บรรยายเปนคำพูดได้


รี 13 (เลขสวยไหมนี่)

suregirl

  • บุคคลทั่วไป

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
เกิน 10 แล้วนะคร้าบบ  ขอsurprise ด้วยยยค้าบบ  :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
บอกแล้วว่าอย่าเศร้า

ไม่ยอมอะ

 :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:

 :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:











ลป.

รีที่ 16 แล้วครับ

มาต่อให้ว่องเลย

 :a14:

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
ก็ไม่มีไรมากแค่มาต่อภาคสองให้....อิอิ... :m23:
หวังว่าคงจะไม่ผิดหวังกับการรอคอยกันนะคราบ :m26:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค 2 ตอนที่ 1 คิดถึงเหลือเกิน

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค 2 ตอนที่ 1  คิดถึงเหลือเกิน

   โดนสวดยับเลยว่าจบไปแบบนี้ได้ยังไงกัน อิอิ ก็บอกแล้วไงในตอนท้ายว่าให้ติดตามอ่านต่อ ที่จบไปน่ะภาค 1 ครับ พวกที่เข้ามาด่าไม่ต้องแอบอ่านนะเว้ย เดี๋ยวตามอัดตูดให้หมดเลยพวกเชี่ยนี่ แต่ในภาคที่ 2 อาจจะมีเวลามาอัพเดทเรื่องให้น้อยลง เพราะว่าการพักร้อนของผมกำลังจะสิ้นสุดลงในวันนี้แล้ว และจะต้องไปรับงานในตำแหน่งใหม่เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดีช่วยกำลังใจ ให้กับนักเขียนมือใหม่บ้างนะครับ ส่วนMSN ที่ติดต่อกันได้ก็เป็น alohasunkissอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.sg เหมือนเดิม มีเสียงทักมาว่า หลัง ๆ เรื่องสั้นลง ๆๆๆๆๆ แหม ๆ ขนาด กาดอ คนมันยังมีสั้น มียาว มีหด มีแข็ง แล้วจะให้เรื่องมันยาว ๆๆๆๆ ทุกตอนได้อย่างไรล่ะครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจในการเขียนนะครับ เอาเป็นว่า อย่าคดอะไรมาก ถือซะว่าเป็นการเล่าเรื่องว่า กว่าจะมาเป็นผมในวัยเกือบ 30 ในวันนี้  มีอะไรที่ดีและเชี่ยหลาย ๆ อย่างปะปนคลุกเคล้ากันไป ขำ ขำ ครับ อย่าคิดอะไรมาก สำหรับเรื่องในภาค 2 ยังคงใช้วัตถุดิบในการเขียนจากไดอารี่ประจำวันผมเหมือนเดิม เชิญอ่านตอนที่ 1 เรียกน้ำย่อยก่อนครับ (สั้นมาก ขอบอก) ฮ่ะๆๆๆๆ ไม่ได้ขี้เกียจเว้ย นี่แค่เรียกน้ำย่อย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 ในวันที่ 31 บรรยากาศชายทุ่งไม่ได้เงียบสงบเหมือนที่เคยเป็น เพราะเต็มไปด้วยพวกขี้เหล้าอย่างพวกผม กำลังมีความสุขกันเต็มที่ในการรอนับถอยหลังเช้าสู่ปีใหม่ พวกผมร้องรำทำเพลงกันสุดฤทธิ์สุดเดช ในขณะที่ผม ซึ่งกำลังอยู่ในบรรยากาศ ได้ขออนุญาติกินเหล้าสัก 1 วัน ทั้ง ๆ ที่มีแผลอยู่บนหัวนี่ล่ะ กินไป ไอ้แผลบนหัวมันก็เต้นตุบ ๆ ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจไป

 

          ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่ทำให้ผมไม่สบายใจแล้ว เมื่อกลางวันผมโทรศัพท์ไปหาพี่เต๊ก เล่าเหตุการณ์  บอกให้แกทราบไม่ต้องเป็นห่วง น้ำเสียงแกเป็นกังวล แต่ผมยืนยันว่าผมสบายดี ส่วนเพื่อน ๆ ที่ถาบัน คงทยอยกลับต่างจังหวัดกันหมดแล้ว ไว้เจอกันตอนกลับไปเรียน

 

                **เอาเร็ว ๆ เว้ยพวกมึงได้เวลานับถอยหลังแล้ว** อีอุ๋ยเจ้าเก่า

 

                5

 

          4

 

          3

 

          2

 

          1

 

                เฮ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สวัสดีปีใหม่ !!!!

 

                ผมแอบอธิษฐานกับเบื้องบนเล็ก ๆ ว่าขอให้ชี้นำชีวิตของผมในปีนี้ ไปตามเส้นทาง ที่ท่านได้เป็นคนลิขิตไว้ด้วยเถิด

 

                ผมอดคิดถึงตี๋เล็กไม่ได้ เพราะปีใหม่ปีที่แล้ว  เรายังเล่นลูกโป่งซึ่งปล่อยลงมาเป็นพันลูกที่ไฮ-เทคเลย ตี๋เล็กกับผมวิ่งไล่เหยียบลูกโป่งสนุกสนานกัน แค่ 365 วัน ทำไมมันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมากมายระหว่างเราทั้งสองคนนะ ผมนึกสงสารมันขึ้นมาจับใจ อยากรู้ว่ามันจะทำอะไรอยู่ กินอะไรหรือยัง ไม่สบายหรือเปล่า อากาศหนาวแบบนี้มันได้ถุงร้อนมาใส่มือใหม ..... ผมอยากเป่าลมหายใจอุ่น ๆ ของผมลงบนฝ่ามือทั้งสองของมัน แล้วจับมาประกบกันซุกไว้ในอกของผม ให้มันอบอุ่น ทั้งกายมัน ..... และหัวใจของผม ... คิดแล้วเศร้า เมื่อรู้ว่าผมคงจะทำได้แค่เพียงในฝันเท่านั้นนับจากแต่นี้ต่อไป ...........................

 

                ผมเรียกเพื่อน ๆ ทุกตัวมาล้อมวงไกล้ ๆ กัน หยุดแหกปากสักครู่ แต่ละตัว เริ่มอ้อแอ้กันแล้ว

 

-เอ่อ เพื่อน ๆ- ผมพูดออกมาเบา ๆ ได้แค่นั้น

 

-เอ่อ- ผมยังไม่กล้าพูดอีก

 

*เป็นเชี่ยไรวะไอ้เก่ง มีอะไรก็แหกปากออกมาดิ อมไรอยู่* อีอุ๋ยปากหมา เพื่อน ๆ เออ ออ ห่อหมก

 

-กู ... กู ..-

 

*เอ้อ เป็นเชี่ยอะไรของมึง สมองกลับมาได้รับความกระทบกระเทือนอีกหรือเปล่าเนี่ย* ไอ้สนสอดขึ้น

 

-กูคิดถึงเมีย- ผมพูดอย่างรวดเร็วแต่เบามาก ๆ

 

*หา !!!     เพื่อนถามออกมาพร้อมกัน *ใหนพูดใหม่สิ*

 

-กูคิดถึงเมีย คิดถึงไอ้ตี๋เล็กมัน- ผมตอบเบา ๆ เหมือนเคย หน้าแดง (เพราะเมา) ฮ่ะๆๆ

 

ทุกคนเฮ พร้อมกับปรบมือ วิ้ดวิ้วดีใจ จริง ๆ แล้วเพื่อน ๆ อยากให้ผมกลับไปพูดคุยกับตี๋เล็กบ้าง ถึงจะเป็นการแอบคุยกันก็ตามเถอะ ... ผมปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ไหวแล้ว ..

 

*มานี่ กูเอง* ไอ้เม่นคว้าโทรศัพท์มือถือมากด คงต่อสายหาไอ้ตี๋เล็ก ผมตื่นเต้นมากกลืนน้ำลายดังเอื้อก

 

*โหล สะดวกคุยหรือเปล่า มีหมาอยากเห่าด้วย* ไอ้เม่นกรอกเสียงไปใหนสาย แล้วยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ผมรับมาอย่างลังเล ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองแล้วว่าที่ทำอย่างนี้ถูกหรือเปล่า

 

เนิ่นนานเหมือนผ่านสัก 10 ปี .... ผมเอาโทรศัพท์ Motorola Star DPC ระบบ 800 ของบริษัทโทเทิ่ลแอคเซสคอมมูนนิเคชั่น แนบกับหู แล้วหายใจออกแรง ๆ เข้าในสาย 1 ครั้ง

 

*เก่งเหรอ* ผมได้ยินเสียงมันแล้ว ... เสียงของไอ้ตี๋เล็กเมียผม ต่อให้มันเบาแค่ใหน ผมก็จำได้ว่าเป็นเสียงของมัน ...  ใจผมเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะ รัวระริก ... แต่สั่นไหว

 

-กูเมา- ผมพูดได้แค่นั้น

 

*ฮือ ๆๆๆ* มันร้องให้โฮเข้ามาในสาย ส่วนผมน้ำตาร่วงเผาะ โดยอัตโนมัติ

 

*มึงเจ็บมากมั้ย กูขอโทษ* ไอ้ตี๋เล็กถามทั้งที่สะอื้น อยู่

 

-ไม่เจ็บแล้ว อย่าร้องนะ ขี้แยอีกแล้ว เดี๋ยวกูหาเมียใหม่นะ- คนขี้แยกำลังปลอบคนขี้แยด้วยกันเอง

 

-ตี๋เล็ก อย่าร้อง ฟังนี่นะ- ผมเหลือบไปเห็นเพื่อน ๆ เริ่มเช็ดน้ำตา กอดกันกลม

 

ผมกรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์

 

****** ไกล อาจจะไกล แสนไกล
อาจจะไกล จนสุดสายตา
เราห่างกัน อาจจะไกล สุดฟ้า
อาจจะเกิน ที่จะพบกัน
แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ ที่ยังคิดถึง
ส่งไป ให้ถึงใจเธอ
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน
ยังไม่ลืม ที่ได้เคยใกล้กัน
ไม่ลืมวัน และคืนนั้นเลย
ยังไม่ลืม ที่เราคุ้นเคย ที่เราผูกพัน
ก่อนจากกัน จนไกลแสนไกล
แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ ที่ยังคิดถึง
ส่งไป ให้ถึงใจเธอ
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน
..แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ
ที่ยังคิดถึง ส่งไป ให้ถึงใจเธอ
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน
อยากบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน ******
 
 
               มีคนเคยบอกว่าถ้าร้องให้ครบ 3 ครั้ง ใน 1 วันแล้วจะโชคดี .. ผมจะโชคดีใหมเนี่ยต้อนรับปีใหม่ปีนี้ เพราะน้ำตาแตกไปหลายรอบแล้ว เหลือบเห็นเพื่อน ๆ เช็ดน้ำตากันใหญ่แล้วส่งเสียง เฮ ........ ปรบมือกัน ผมหัวเราะออกมาได้ ได้ยินเสียงตี๋เล็กมันหัวเราะออกมาได้แล้วเหมือนกัน 
 
                    ไม่ต้องมีคำใด ๆ ออกจากปากเราสองคน แต่เราก็รู้ว่า การเดินทางครั้งใหม่ของเรา กำลังจะมาถึง จะดีจะร้าย ........... ปล่อยไว้ให้เป็นลิขิตของคนที่อยู่เบื้องบน
 
*เก่ง ถ้าเหงามากจะเอาไอ้เม่นไปพลาง ๆ ก็ได้นะ กูอนุญาติ* แน้ ยังมาทำทะลึ่งอีกเมียกู เดี๋ยวกูทิ้งแล้วจะเสียใจ
 
-กูมีมึงแล้ว .... กูจะไม่มีใคร จำได้ใหม- มันร้องให้โฮอีกแล้ว
 
เฮ้อ ....... ชีวิตรักบนคราบน้ำตา จะไปในทิศทางใหน ... ผมล่ะกลุ้มใจเสียจริง ๆ
 
 
มีต่อครับ เบื่อกันหรือยัง .......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2007 16:08:26 โดย anisongchanon »

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ II เยียวยา
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ II เยียวยา
 
                วันปีใหม่ปีนี้ เป็นวันที่ผมเริ่มมีความสุขขึ้นมาบ้างเหมือนกันแล้วสินะครับเนี่ย  พวกผมจะอยู่ที่บ้านต่ออีกจนถึงวันที่ 3 ถึงจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ

 

                กำลังใจผมเริ่มดีขึ้นมามากแล้วในตอนนี้ อย่างน้อย ผมก็รู้ทิศทางในการดำเนินชีวิตของผมต่อไปได้  เพราะผมรู้ว่า ชีวิตของผม ก็เป็นชีวิตของไอ้ตี๋เล็กเหมือนกัน

 

                การที่เราได้รับรู้ว่า ชีวิตของเรา ไม่ใช่ชีวิตเราของเราเองแต่เพียงผู้เดียว แต่เรามีชีวิตอยู่ เพื่อคนที่เรารักด้วย มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษสุด ทำให้เราเริ่มใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท

 

                มีความระวังระไวมากขึ้น เพราะนอกจากชีวิตเราจะมีค่าสำหรับตัวเรา เรายังมีค่าสำหรับคนอื่นอีก (อ้วก)

 

                ในวันที่ 1 เราก็ตั้งวงกันเหมือนเคย แต่นอนเร็วกว่าปกติ เพราะพรุ่งนี้ ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวในเมืองกัน รุ่งเช้าผมขับรถของพี่เต้ยพาทุกคนไปเที่ยวในเมือง เริ่มต้นจากกินข้าวเหนียวไก่ย่างที่สถานีขนส่ง แถวบ้านผมเค้าเรียก คิวรถบุญเยี่ยม ที่นี่เป็นศูนย์รวมรถสองแถวไปตัวจังหวัด หมู่บ้านต่าง ๆ และที่ขึ้นรถไป กทม โคราช จะต้องมาที่นี่ จึงมีของขายเยอะ

 

                เวลา 08.00น เราไปถึงที่หมาย ผมสั่งข้าวเหนียว ไก่ย่างแบบไม้หนีบ ตับไก่ปิ้ง หมูปิ้ง  อะไรก็ปิ้ง ๆทั้งนั้นในตอนเช้า ๆ แบบนี้ กินของอย่างนี้แล้วสบาย อยู่ท้องดีด้วย ที่นี่มีน้ำจิ้ม ที่เป็นพระเอกชูโรง เป็นน้ำจิ้มพริกป่น บีบมะนาว โอ้โห แซ่บอย่าบอกใครเลย

               

                พวกผมนั่งอยู่บนเตียงไม้ใผ่เก่า ๆ ผมขออนุญาติไปทักเพื่อนที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ข้าง ๆ เหอ ๆๆๆ เวลาผ่านไปแค่สิบนาที ของที่ผมสั่งมันไม่ได้มาแค่นั้น อาพลเจ้าของแผงยกส้มตำ ลาบ มาเสิร์ฟอีกอย่างละสองจานใหญ่ ๆ  ผมชะเง้อมองอย่างสนใจเหมือนเด็ก ๆ อยากได้ของเล่น

 

          *โห อาพล ใครจะกินส้มตำปลาร้าแต่เช้าเนี่ย*            หน้าตาผมอยากกินมาก

               

                 เพื่อน ๆ หัวเราะกันใหญ่ เพราะของพวกนั้น มันเป็นของพลพรรคผมสั่งเอง เฮ้อ พวกนี้ ไม่ได้มีปลาร้าในกระแสเลือด ไม่มีแรงทำอะไรกันพอดี แต่ก็ถูกใจผมล่ะ ไม่งั้นจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไง อาหารวันนั้นมีรสชาดขึ้นมาอีกเยอะ เมื่อผมคิดถึงหน้าไอ้ตี๋เล็กลอยอยู่ในหัวสมอง  ตี๋เล็กครับ พี่เก่งคิดถึงตี๋เล็กมากเลยนะครับ อดทนนะครับ คงจะมีสักวัน เป็นวันของสองเรา (อ้วก)

 

                จากนั้นผมพาเพื่อน ๆ เดินข้ามถนนมาไกล้ ๆสานีรถไฟ ผมเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า ตอนที่ผมอยู่ชั้น ป 4 ผมถีบจักรยานเล็ก ๆ ไปโรงเรียนทุกวันและผมต้องข้ามทางรถไฟ ที่ไม่มีที่กั้นแบบนี้ อยู่มาวันหนึ่ง แม่ผมขับมอเตอร์ไซค์มาด้านหลัง ด้วยความเป็นเด็ก เรากะแข่งกับแม่ ท้าให้แม่แซง ผมถีบจักรยานอย่างรวดเร็ว จนข้ามทางรถไฟไป .....

 

                แม่ผมรีบทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ลงกับพื้นถนนโดยไม่สนใจจะจอดให้ดี ตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่น เพราะเมื่อรถจักรยานผมพ้นทางรถไฟไป รถไฟก็วิ่งไปพอดี แม่คิดว่า ผมต้องถูกรถไฟชนแน่ ๆ พอรถไฟผ่านไป ผมนั่งอยู่บนจักรยาน หันมามองแม่ แม่ผมวิ่งเข้ามากอดร้องให้ บอกว่า แม่คิดว่าจะไม่ได้เห็นเก่งลูกของแม่อีกแล้ว

 

                ผมบอกแม่ว่า ผมดูรถแล้ว พ่อเคยสอนว่า ถ้ารถไฟกำลังจะออกมาจากสถานี อย่าข้ามเพราะรถจะเริ่มต้นออกตัววิ่งเร็ว แต่ถ้ารถกำลังจะเข้าจอดที่สถานี รถจะวิ่งช้า แม่ผมขอคำสัญญาจากผมว่า ไม่ว่ารถไฟ จะวิ่งเร็วหรือช้า ถ้าชนลูกของม่ แม่คงไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ให้ผมหยุดพิจารณาก่อนที่จะข้ามทุกครั้ง ผมรับปากแม่ตั้งแต่วันนั้นมา

 

                ถ้าผมมีปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆในชีวิต เปรียบได้กับรถไฟ ไม่ว่าจะหนักหรือเบา คือรถไฟนั้นจะวิ่งเร็วหรือไม่ ความไม่ประมาท และมีสติ จะช่วยให้ผมรอดชีวิตจากปัญหานั้น ๆ ได้  เพื่อนๆ ได้ฟัง ปรบมือกันใหญ่ ไอ้เก่งมันปรัชญาล้ำลึก ผมปรามให้เบา ๆ หน่อย ที่นี่บ้านนอก คนไม่คุ้นกับเสียงดัง ๆ สิบแปดหลอดเชี่ย ๆ แบบพวกเรา

 

          ผมพาทุกคนเดินดูตลาดนัดหน้าสถานีรถไฟ ซึ่งจะมีในวันที่ลงท้ายด้วยเลข 6 คือ วันที่ 6, 16 และ 26 เท่านั้น ตอนเป็นเด็กผมจะตื่นเต้นมาก เพราะว่าเป็นวันเดียวที่เราสามารถซื้อของได้ถูกและมีของเล่นมากมายให้เราเลือก เด็ก ๆ ทุกคนจะตั้งตารอวันที่ 6, 16 และ 26 ของทุกเดือน ผมก็เช่นกัน อย่างนี้ล่ะครับ วันใหนที่มีความสำคัญพิเศษ เราก็มักจะจดจำไว้เสมอ เหมือนกับผม วันคืนดีดี ที่เคยมีกับตี๋เล็ก ผมจดจำไว้ไม่มีวันลืม

 

                ผมพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวไร่อาผม ห่างจากตัวเมืองไปราว 20 กม. ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นที่ได้เห็นมะม่วงสามฤดูที่ดกมากจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เรียกว่า ลูกดกกว่าใบเสียอีก ผมบอกว่า อาแดงเรียนจบปริญญาโทมาจากคณะเกษตร มอสีเขียว แกไม่อยากเป็นข้าราชการ แต่อยากเป็นชาวไร่มากกว่า เห็นใหมครับ คนเรา ไม่จำเป็นต้องเดินทางผ่านโคราชเพื่อไปสระบุรี แต่อาจจะอ้อมไปที่สายเอเซียก่อน แวะพักกินแม่ลาปลาเผาให้เย็นใจ ก่อนจะเข้าหระรี .... ไม่เป็นไรเลย ชีวิตคนเรามีทางเลือกเสมอ

 

                วันทั้งวันผมใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ อยู่กับธรมชาติบ้านนอกของผมที่ผมรัก พาเพื่อน ๆ ไปเจอเพื่อน ๆ ผมสมัยเด็ก ไปดูถ้วยรางวัลที่ผมเคยได้ที่โรงเรียนประถม การใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองสักพัก ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น นี่คือการเยียวยาทางธรรมชาติ ถ้าปัญหาของใครที่หนักอึ้ง ลองหยุดวิ่งตาม นั่งพัก มองฟ้าออกไปไกล ๆ สักที แล้วคุณจะรู้ว่า คุณสบายใจมากขึ้น และพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหารุนแรง แม้ว่าคุณไม่ทราบว่าจะเจออะไรในอนาคต .....................

 

มีต่อครับ เบื่อใหมครับ


anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ III กลับมายืนที่เดิม

พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ III กลับมายืนที่เดิม

 

          ผมยืนอยู่ที่คิวรถบุญเยี่ยมในชุดเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีดำของ Puma กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบใส่ถุงเท้าสีขาว สะพายเป้ ในมือหิ้วกล่องใบย่อม ๆ ที่แม่กับพี่สาวเตรียมอาหารแห้งกับข้าวสารให้ ที่นั่นอากาศหนาวและมีลมพัดมาหวีดหวิว อยู่เป็นระยะ ๆ  เวลาในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.00น.

 

                พี่เต้ยกำลังย้ำกับผมด้วยคำพูดเดิม ๆ ที่พ่อกับแม่ผม รวมทั้งพี่สาวผม พร่ำบอกผมมาตลอดเมื่อเย็นวันนี้ที่เรารับประทานอาหารร่วมกันเพื่อเป็นการรับขวัญ และเลี้ยงส่งผมกลับไปเรียนที่สถาบัน

 

                -มึงทำอะไรต้องคิดถึงพ่อ แม่ พี่ ๆ ให้มาก ๆ มึงไม่ใช่อยู่ตัวคนเดียว-

 

                -อย่าคิดมาก อย่างไรก็ดี มึงมีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ อนาคตของตัวเราก็สำคัญไม่แพ้กับเรื่องอื่น ๆนะ เรื่องตี๋เล็ก ปล่อยให้เวลาผ่านสักพัก แล้วหาวิธีทางกันใหม่-

 

          พี่เต้ยจ้องมองตามองผมอยู่สักพัก ผมพยักหน้าน้อยเหมือนเด็ก ๆ รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ ก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายผม น้ำตาซึมเมื่อได้ฟังคำว่าตี๋เล็ก ผมคิดถึงมันจริง ๆ

 

                -โตจนเรียนมหาวิทยาลัย เมียก็มีแล้ว ยังขี้แยเป็นเด็ก ๆ อยู่นะ กูเองซะอีก ยังโสดไม่มีใครสนใจ- พี่ชายผมตบหลังผมเบา ๆ พร้อมกับหัวเราะ          ผมปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็วก่อนจะขึ้นรถไปใหนที่สุด

 

                เมื่อผมมาถึงหมอชิต ผมเรียกแท็กซี่ขึ้นทางด่วนสายดาวคะนองกลับไปยังหอพักทันที ระหว่างทางผมนั่งนึกถึงสถานที่ที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีมัน....

 

          ผมกลับถึงหอพักก็จวนเจียนจะเช้าแล้ว อากาศที่กรุงเทพไม่หนาวเหมือนที่บ้านนอก ผมตัดสินใจไม่นอน กะว่าเรียนภาคเช้าเสร็จแล้วจะกลับมานอน ผมรีบเปิดดูของในตู้เสื้อผ้า กลับยิ่งแปลกใจเพราะทั้งของไอ้ตี๋เล็กและของของผมยังคงอยู่ครบเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ใหนพี่สาวผมบอกว่าพ่อไอ้ตี๋เล็กให้คนมาเก็บของของมันไปหมด แถมจะไม่ให้มันเรียนที่นี่ต่ออีกด้วย

 

                ผมเก็บข้าวของ อาหารแห้งที่ทางบ้านจัดให้เข้าที่ แล้วกระโดดขึ้นนอนแผ่บนเตียง ผมกดรีโมทเปิดทีวีทิ้งไว้ ลืมตาโพลง ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอย คิดเรื่องต่าง ๆ ไปอย่างเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ใส่ใจในเนื้อหาในทีวีนัก แล้วผมก็เผลอหลับไป

 

                ผมฝันไป ผมฝันเห็นตี๋เล็กของผมเปิดประตูเข้ามา แล้วเข้ามาหอมแก้มผมในขณะที่ผมหลับอยู่บนเตียง แปลกมาก ที่ผมได้กลิ่นน้ำหอมแซมบ้า เนเชอรัล ที่มันชอบใช้ มันยังเคยยกหางตัวเองบอกผมว่ามีแต่คนหล่อ ๆ เท่านั้นที่ชอบใช้แซมบ้า

 

                ผมสะดุ้งโหยง ลืมตาตื่นขึ้นมา นั่งหอบแฮ่ก ๆ  อยู่บนเตียง ในใจเต้นตุบ ๆ ๆ ๆ รัวเร็วเหมือนตีกลอง สองสามนาทีกว่าผมจะรู้ตัวว่า แค่ฝันไป ผมร้อง เฮ้อ ! แล้วถอนหายใจกับตัวเองแรง ๆ

 

                และแล้วสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกออกตกใจ เบิกตากว้างอย่างสุดขีด เมื่ออยู่ดีดี ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก คนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ต่อให้มันอยู่ไกลจากผมสัก 1 กิโลเมตร ... ผมก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น ไอ้ตี๋เล็กของผม!!!! ผมตกใจทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งมันเอ่ยออกมาเบา ๆ

 

          -หน้าดำไปหน่อยนะ ที่บ้านนอกแดดแรงเหรอ-  มันอมยิ้มทำหน้าทะเล้นใส่ผม

 

                ผมกระโจนเข้ากอดมันในทันที น้ำตาอุ่น ๆไหลพรั่งพรูออกมาจากหางตา เริ่มกระซิกสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ผมกอดมันรัดแน่นอยู่นานสองนาน จนมันพูดบอกผมว่า

 

                -หายใจไม่ออก-  ผมก้มหน้าลงไปจูบมันเป็นการเพิ่มอากาศในตัวมันผ่านลมหายใจผม ลมหายใจของเราทั้งสองคน แทบจะเป็นลมหายใจอันเดียวกัน

 

                -ผัวกูขี้แย แต่จูบเก่งเป็นบ้า อย่างนี้ต้องระวังมากเป็นสองเท่า กลัวใครเขาคว้าเอาไป หวงนะ- - - มันหัวเราะ

 

                ผมงงเป็นไก่ตาแตกว่าไอ้ตี๋เล็กมันมายืนพูดฉอด ๆ อยู่ต่อหน้าผมได้อย่างไร ...............

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ตี๋เล็กกลับมาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

 :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

แอร้ยซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

ตี๋เล็กของช้านนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2

jammy

  • บุคคลทั่วไป

nanao

  • บุคคลทั่วไป
กะ กะ กลับมาแล้ว จริง ๆ หรอเนี่ย  :m3:

แต่สั้นไปหน่อยนครับะ อยากอ่านต่อง่ะ -.-

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด