หลังจากเรียนเคมีกันเรียบร้อยแล้ว ต่อด้วยสังคมกันเลยไหมคับนักเรียน....55+
ล้อเล่นคราบ ต่อกันเลยนะคับกำลังซึ้ง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VII / ปฏิกิริยาแบบไม่ผันกลับ
พี่เก่ง กับ น้องตี๋ – ภาค II ตอนที่ VII / ปฏิกิริยาแบบไม่ผันกลับ
ปฏิกิริยาทางเคมีที่ผมเรียนในเช้าวันนี้ คือ ปฏิกิริยาแบบผันกลับได้ และไม่ผันกลับ ผมคิดเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ระหว่างไอ้ตี๋กับผม ว่ามันคงจะเป็นปฏิกิริยาแบบไม่ผันกลับเป็นแน่แท้
ความร้อน
สารตั้งต้น + สารตั้งต้น ผลิตภัณฑ์
ความรัก
เก่ง + ตี๋ ??????????
ได้ออกมาเป็นอะไร ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย ผมว้าวุ่นใจ แต่ไม่มีเวลามากที่จะมาใส่ใจเรื่องแบบนี้ เพราะการสอบกำลังไกล้เข้ามา ผมจะพลาดไม่ได้ ผมจึงทุ่มเทกำลังใจทั้งหมดของผม ไปที่การเตรียมตัวสอบและอ่านหนังสืออย่างหนัก
บางคืน ผมก็ออกไปอ่านหนังสือที่สถาบันกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ การอยู่กับสิ่งที่ทำให้เราจดจ่อได้สักพัก เป็นการดีที่ทำให้คนเราลืมเรื่องราวเหตุการณ์ร้าย ๆ ได้เร็วเหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่ง พี่อ้วนชวนผมไปอ่านหนังสือที่อาคารเรียนรวม 4 ผมนั่งอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนไปสักพัก พี่อ้วนบอกว่าหิว จะเอาจักรยานไปซื้อของกินที่ 7-11 ผมบอกว่า ไม่เอาอะไรนะเพราะเรียบร้อยมาแล้ว ผมนั่งอยู่คนเดียว อ่านหนังสือและทำโน้ตย่อของผมไปเรื่อย ๆ มีคนเดินเข้ามานั่งข้างผม
-อ่านหนังสือคนเดียวเหรอครับ- เสียงถามผมดังขึ้น
ผมเงยหน้ามองผู้มาเยือนกำลังจะยิ้มให้ กลายเป็นว่าต้องรีบหุบยิ้มหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะไอ้คนที่มานั่งข้าง ๆ ผมคือไอ้คนคนเดียวกันกับที่ผมเจอในห้องสมุดนั่นเอง วันนี้มันแต่งตัวตามสบาย ใส่กางเกงเลสีครีม กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ โชยมา หัวยังเปียก ๆ อยู่ สงสัยเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ รองเท้าแตะฟลิบเปอร์สีน้ำเงิน เล็บเท้าตัดเรียบร้อย ใจผมเริ่มสั่น ๆ เพราะผมมีจุดอ่อนอยู่ที่เล็บเท้า ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมหรือเปล่า ถ้ามองหน้าใครแล้ว ผมจะมองเล็บเท้าคนนั้นทันที น่าเตะเนอะ มองหน้าแล้วมองตีน มันหมายความว่ายังไง ผมก้มหน้างุด ไม่ตอบคำถาม
-ว่าไง เด็กน้อย- มันยังไม่เลิก
ผมเงยหน้าขึ้นมองใหม่ คราวนี้ ผมรู้สึกว่า ผมคุ้นหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าผมยังไงบอกไม่ถูก กว่าผมจะคิดออกว่าผมรู้จักคนคนนี้หรือเปล่า เขาก็ชิงพูดออกมาก่อนเหมือนรู้ว่าในใจของผมว่าผมคิดอะไรอยู่
-พี่ชื่อ กิต เรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับนายเมื่อปีที่แล้ว พี่เอ็นท์ติดคณะวิทยาศาสตร์เอก ......................... เห็นนายมาหลายครั้งล้ว แต่ไม่กล้าเข้ามาทัก ไม่รู้ว่าจะจำได้หรือเปล่า พี่เป็นเพื่อนของไอ้เชตที่ติดวิศวะมอขอ คนที่อยู่หอไกล้ ๆ นาย ซอยเทคโนภาคน่ะ- มันร่ายยาว
ผมถึงบางอ้อทันทีว่าทำไมผมถึงคุ้นหน้าคุ้นตาคนคนนี้นัก
-แต่จะให้เรียกว่ารุ่นพี่คงไม่ได้แล้วมั้ง เพราะนายเรียนเก่ง สอบเทียบจนเอ็นท์ติดวิศวะ พี่มีปัญญาได้แค่วิดยา-
*อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับพี่ ยังไงพี่ก็เป็นพี่โรงเรียน อีกอย่างผมก็ฟลุ๊กสอบติด* ผมตอบกลับไป ยิ้มให้น้อย ๆ ตามมารยาท
เราสนทนาตอบกันไปมาอยู่สักพัก พี่กิตก็ถามถึงเบอร์โทรศัพท์ที่หอ เพื่อที่ว่าจะสามารถติดต่อได้ถ้ามีการรวมกลุ่มของเด็กโรงเรียน ผมให้ไปทั้งเบอร์ห้องและเพจเจอร์ พี่เขาก็ให้เบอร์เพจกับเบอร์หอกลับมาเช่นกัน
-เรื่องวันนั้น- ผมพูดขึ้น
*ไม่เป็นไร พี่ไม่บอกใครหรอก แต่เห็นจริง ๆ ทีหลังระวังตัวหน่อยนะ*
-คงไม่มีอะไรแล้วมั้งครับ เพราะตอนนี้ เราเลิกกันแล้ว- ผมตอบเนือย ๆ มีเรื่องนี้โผล่มาอีกแล้ว ทำให้ผมสลดในใจวูบหนึ่ง
*มีปัญหาก็คุยกันได้นะ พี่ยินดีรับฟัง*
-ขอบคุณครับ คงไม่มีแล้วครับ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว- ผมตอบตัดบทไป
จากนั้นเพื่อนพี่กิต ก็มาเรียกตัวไป ก่อนไปพี่เขาบอกว่าจะโทรไปคุยด้วย ผมก็ได้แต่รับคำไปตามเรื่องตามราว สักพักพี่อ้วนก็กลับเข้ามาพร้อมของกินมากมาย ...
*อ้าวกินหน่อยนะ มีคนสั่งกูไว้ว่าต้องขุนให้อ้วน*
-พี่ นี่มัน 5 ทุ่มแล้วนะ ทำยังไงจะกินหมด-
หน้าพี่อ้วนมันสลดลงเล็กน้อย ผมเลยรีบพูดเอาใจ
-บ่นไปงั้นแล่ะ กลัวจะไม่พอด้วยซ้ำ- เท่านั้นล่ะ พี่อ้วนยิ้มหน้าบาน ถ้าป้อนได้มันคงจะป้อนผมแล้วมั้ง ถ้าไม่ติดว่า คนเถื่อน ๆ คณะวิศวะสองคน กำลังกินของกินด้วยกันอยู่ หวานแหววเกินไปคงงามหน้าล่ะ
ผมรู้มานานแล้วว่าพี่อ้วนก็แอบชอบผมอยู่ ไม่ใช่การคิดเข้าข้างตัวเองหรอก อย่างที่บอก การที่เราจะรู้สึกว่ามีใครสักคนมาสนใจเรา ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนักหนา เพียงแต่ว่า เรามีวิธีจัดการกับความสัมพันธ์นั้นอย่างไร ตัดสะบั้น หรือ ตัดแล้วยังเหลือเยื่อใย ผมเลือกใช้วิธีหลังมาตลอด เพราะว่า การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมีความรู้สึกดีดีต่อกัน ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย และไม่ใช่ความผิดของคนคนนั้นเลย ลองคิดกลับเป็นตัวของเราเองสักนิด เมื่อเรารู้สึกดีดีกับใคร เราเองก็อยากให้เขาดีตอบ แต่บางคนอาจแย้งว่า เป็นการให้ความหวัง ผมไม่คิดเช่นนั้น เพราะ การตอบสนองความปราถนาดี ด้วย ความปราถนาดี เป็นสิ่งที่มนุษย์พึงมีปฏิบัติให้แก่กัน
-ตัวเองเป็นคนอยากซื้อมาให้เค้ากิน แล้วยังจะมาเฉไฉพูดถึงคนอื่น- ผมพูดลอย ๆ ขณะที่ปากเคี้ยวคุ๊กกี้เนย ของโปรด ตามองหนังสือ ทำไม่รู้ไม่ชี้
ไอ้พี่อ้วนสะดุ้งโหยง เหมือนเด็กทำผิดแล้วโดนจับได้ หัวเราะแหะ ๆ แล้วหน้าแดง
*ไอ้ตี๋มันสั่งมา* พี่อ้วนพูดเบา ๆ
-เลิกพูดถึงมันได้ใหมพี่-
*ทำไมล่ะ มีปัญหากันอีกเหรอ*
-เปล่า ผมแค่อยากให้มันเห็นว่า ผมรักษาสัญญาที่จะไม่ยุ่งกับมันอีก-
*อย่าเครียดมากเลยนะ*
-เป็นห่วงผมเหรอ ซึ้งใจจัง- ผมกระเซ้าไอ้พี่อ้วน หน้าที่แดงระเรื่อ ยิ่งแดงเข้าไปอีก มันก้มหน้างุดอ่านหนังสือ ในมือถือคุ้กกี้ที่กัดไปได้ครึ่งหนึ่ง
-เงียบเลย- ผมแหย่อีกทีก่อนจะแย่งเอาคุ้กกี้ในมือมันมากิน พี่อ้วนยิ่งก้มหน้างุด อมยิ้มไม่หยุด ผมอมยิ้มกับตัวเอง หันหน้ามาทางพี่อ้วนแล้วเอาหนังสือเคาะไปที่หน้าผากไอ้พี่อ้วนเบา ๆ ทำหน้าทะเล้นใส่ พี่อ้วนหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้ตายสิ หน้ามันยิ่งแดงเข้าไปอีกเหมือนลูกตำลึงสุก ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่นะ จะจับแก้มหยิกเบา ๆ มันคงร้อนมือดีพิลึก
*ไป ๆ ๆ เลยอ่านหนังสือ* พี่อ้วนมันพูดเฉไฉกลบเกลื่อน ผมขำอยู่คนเดียว เด็กวิศวะหน้าตาเถื่อน ๆ เคราเขียวครึ้ม ตัวใหญ่ยังกะยักษ์ที่นั่งข้างผมอยู่นี่ เวลาอาย อย่างกับเด็ก ๆ สาววัยรุ่นโดนบอกรัก น่ารักไม่น้อยเลยนะเนี่ย
แต่ผมยังไม่มีอารมณ์ในเรื่องความรักหรอกครับ ผมเจ็บที่รู้ว่าตัวเองโดนหลอกให้อกหัก ของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ผมซื้อให้มันปีนี้เป็นเป็นถุงร้อนของ 3M รุ่นใหม่สีเขียว มีเหรียญโลหะที่บิดแล้วถุงจะร้อนและแข็งตัวไว้ให้ตี๋เล็ก จำกันได้ใหมครับ ตี๋เล็กเป็นโรคแพ้อากาศหนาว ต้องให้ความอบอุ่นตลอดเวลา
ตอนนี้มันคงได้ไออุ่นจากไอ้พี่กลดคนนั้นอย่างเพียงพอแล้วมั้ง ผมไม่ใส่ใจ หยิบเอาของขวัญใส่ไว้ในลิ้นชักแล้วปิดตาย ไม่เคยเปิดออกมาดูเลยตั้งแต่วาเลนไทน์ผ่านไป
ก่อนแยกกันขึ้นหอพัก ผมสั่งพี่อ้วนให้โทรมาปลุกด้วยแล้วไปเรียนพร้อมกัน คนเขารู้สึกดีดี เราต้องตอบสนองให้โอกาสเขาหน่อยครับ ผมไม่เคยตัดโอกาสใคร เพราะหวังในใจว่า สักวันถ้าผมไปทำแบบนี้กับใคร เขาคงไม่ตัดโอกาสของผมเช่นกัน
กำลังปิดไฟ สวดมนต์เสร็จแล้ว นอนลืมตาโพลง มีเพจเข้ามาหาผม
+++++ นอนหลับฝันดีครับ – พี่โรงเรียน+++++
ผมยิ้มกับตัวเองในความมืด อย่างน้อยก็มีคนหล่อ ๆ มาเพจหาวะ ขนาดโชคร้ายที่โดนหักอกนะเนี่ย
เสียงเพจเข้ามาอีก
+++++ คราวหน้าต้องซื้อเลี้ยงบ้างนะ ไม่ได้ให้กินฟรี นอนหลับฝันดี จาก พี่อ้วน+++++
อะไรวะเนี่ย .......... มีคนเคยบอกว่า ตอนที่อกหัก จะเจอแฟนใหม่เร็วกว่าหาเอาเองเพราะจะมีคนรับอาสาดามอกให้ จะจริงหรือเปล่าวะเนี่ย ผมนอนคิดจนหลับไป