บทที่ 29
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ประสูติกาล
หมอหลวงตรงปรี่เข้ามาตรวจอาการของพระชายาทันทีที่มาถึงพระตำหนักโพรเทีย เขามุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเฉียบขาด
“เตรียมห้องให้พร้อม พระชายาต้องมีพระประสูติกาลเดี๋ยวนี้”
ทั้งตำหนักโพรเทียเกิดความโกลาหลขึ้นทันที เหล่านางกำนัลวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อเตรียมการสำหรับการกำเนิดของสายพระโลหิตแห่งองค์ราชันย์
องค์ทริสเซย์ทรงโอบกอดวรกายบางเอาไว้หลวม ๆ พระองค์ทรงกอบกุมพระหัตถ์ของพระชายาเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อให้พระชายาทรงรับรู้ได้ว่าพระองค์อยู่ข้าง ๆ พระชายาเสมอ
ร่างอวบบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด องค์คาเซียทรงกำพระหัตถ์หนาแน่นเพื่อระบายความรู้สึกทรมานที่พระองค์ทรงได้รับ
ห้องประสูติถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่กำลังของมนุษย์จะทำได้ เนบ เรล เมร่า เอลน่า นั่งอยู่ใกล้ๆหมอหลวง เพื่อที่ว่าถ้าท่านหมอเรียกใช้เมื่อใด พวกนางจะได้เข้ามาทำได้ในทันที
องค์ทริสเซย์ทรงเลื่อนพระหัตถ์ของพระชายาไปจับผ้า ที่ห้อยลงมา ก่อนที่จะทรงรับผ้าสะอาดมาให้พระชายาทรงกัดเอาไว้
“ข้าจะอยู่ตรงนี้นะคาเซีย... จะอยู่ข้างหลังเจ้าตลอดเวลา”พระองค์กระซิบเบา ๆ ที่ข้างพระกรรณเล็กอย่างอ่อนโยน
หมอหลวงพยักหน้าให้เป็นสัญญาณเริ่มการประสูติกาล
“เอาล่ะ... เบ่งนะคนดี”
“อื้ออออออออออ”พระหัตถ์เล็กกำผ้าแน่นจนเห็นข้อขาว พระบาทจิกลงกับพระยี่ภู่ (ฟูกนอน)
หัวใจของทุกคนในที่นั้นเต้นระรัวกับการกำเนิดของสายพระโลหิตพระองค์แรกแห่งเฟรนเซีย
เวลาผ่านไปสักพักความกังวลเริ่มครอบงำจิตใจของทุกคน เมื่อจนถึงตอนนี้พระชายายังไม่ทรงมีพระประสูติกาลเสียที
เรี่ยวแรงขององค์คาเซียเริ่มหดหาย แต่พระองค์ก็ยังทรงออกแรงเบ่งอยู่อย่างต่อเนื่อง พระเสโทไหลซึมออกมาตามพระวรกายของพระองค์
พระโลหิตเริ่มไหลซึมออกมาจากช่องทางเล็ก เนื่องจากการเปิดกว้างเกินกว่าที่ช่องทางนั้นจะขยายได้ สร้างความเจ็บปวดให้พระองค์มิใช่น้อย
องค์ราชาทรงคอยซับพระเสโทให้กับพระชายามิขาด พระเนตรทอดมองด้วยความเป็นห่วงยิ่งนัก
“เบ่งพะยะค่ะ พระชายา ใกล้แล้วพะยะค่ะ”หมอหลวงพูดขึ้นเสียงไม่เบา
“อื้อออออออ”
องค์คาเซียทรงออกแรงเบ่งคลอดอีกครั้ง และอีกครั้ง
“อดทนหน่อยนะ ที่รัก”เสียงทุ้มกระซิบเบา ๆ ข้างพระกรรณของพระองค์ที่กำลังอ่อนแรง
เวลาผ่านไปอีกพักหนึ่ง ในที่สุดพระชายาก็ทรงมีพระประสูติกาลสายโลหิตองค์แรกแห่งองค์ราชันย์ ท่ามกลางความโล่งใจของทุกคนโดยรอบ
“แอ๊~”
“เป็นพระโอรสนะพะยะค่ะ”ท่านหมอเอ่ยบอกทั้งสองพระองค์อย่างยินดี “กระหม่อมยินดีด้วยพะยะค่ะ...”
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำเรื่องอันใดต่อไป พระชายาคาเซียก็ทรงออกแรงเบ่งอีกครั้งหนึ่ง หมอหลวงส่งพระโอรสในอ้อมแขนให้กับนางกำนัลเนลทันที
ทุกคนในห้องบรรทมขององค์ชายหันไปมองหน้ากันอย่างวิตกกังวล... กับการมีสายพระโลหิตแฝดเช่นนี้ มันจะเป็นการดีแน่หรือ...
สายพระโลหิตองค์ที่สองนั้นมิได้คลอดยากเหมือนกับพระองค์แรก... หมอหลวงอุ้มทายกน้อยขึ้นมา เขาทอดมองด้วยสายตายากจะคาดเดา
เสียงแรกแห่งบุตรคนที่สองมิดังขึ้น พระหฤทัยของผู้เป็นพระบิดาและพระมารดาที่เฝ้ารอคอยนั้นราวกับหล่นหายไป
หมอหลวงส่งสายพระโลหิตองค์น้อยให้กับผู้เป็นพระมารดาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง... ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด ๆ ทั้งสองพระองค์ก็ทรงรับรู้ได้ในทันที...
พระชายาทอดพระเนตรพระธิดาของพระองค์อย่างเจ็บปวด พระหัตถ์เรียวลูบไล้ดวงหน้าของเด็กตัวน้อยเบา ๆ เช่นเดี๋ยวกับองค์ทริสเซย์ที่ทรงโอบประคองวรกายบางเอาไว้ พระองค์ทรงทอดมองธิดาตัวน้อยด้วยความอาลัย
น้ำอัลสุชลไหลซึมที่หางพระเนตรขององค์คาเซีย ก่อนที่พระองค์จะทรงสลบไปด้วยความเหนื่อยอ่อนในอ้อมพระกรของพระราชา
องค์ทริสเซย์ทรงนำพระธิดาที่สิ้นพระชนม์แต่แรกกำเนิดออกมาจากอ้อมกรของพระชายา พระองค์ประทับจุมพิตที่พระนลาฏเล็กแผ่วเบา ก่อนจะทรงลุกขึ้นแล้วส่งธิดาให้กับหมอหลวง
“ฝ่าบาทพะยะค่ะ...”หมอหลวงเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์ของนายเหนือหัว
“พอลูกสาวข้าไปทำพิธี... พาเขาไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษในสุสานหลวง อย่างเงียบๆ”มิใช่ว่าพระองค์มิอยากจะจัดงานให้กับพระราชธิดาอย่างสมเกียรติ... แต่เพื่อรักษาชีวิตของพระชายาและพระราชโอรสเอาไว้... เพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง พระองค์จำต้องทำเช่นนี้
“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”หมอหลวงหายตัวออกไปจากห้องบรรทมทันที เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมา
นางกำนัลทั้งสี่ช่วยกันชำระพระวรกายของพระชายาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง พวกนางรู้สึกสงสารและเจ็บปวดแทนพระชายากับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้
ถึงแม้ว่าพระโอรสและพระธิดาจะทรงกำเนิดมาเป็นฝาแฝดกัน ในภายภาคหน้าอาจจะมีข้อครหาให้เจ็บปวดบ้างในบางครั้ง แต่ก็ยังดีเสียกว่าการสูญเสียคนใดคนหนึ่งไปดังเช่นในเวลานี้
“ไปค้นหาตัวต้นเหตุมา”สุรเสียงเยียบเย็นเอ่ยขึ้นกับเงามืด พระเนตรคมโชนแสงแรงกล้า “เอาพวกมันมาทั้งหมด ตั้งแต่ตัวการของเรื่องนี้ จนไปถึงผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมด ส่วนคนที่พวกมันว่าจ้างมาไม่ต้อง ข้ารู้ว่าคนพวกนั้นไม่มีทางเลือกให้กระทำได้มากนัก”
“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”เสียงเข้มตอบรับอย่างหนักแน่น แฝงไปด้วยความโกรธเล็ก ๆ “กระหม่อมจะลากคอพวกมันออกมาทั้งหมดให้จงได้พะยะค่ะ”
เขากำลังโกรธ... ใช่ เขาโกรธมากเสียด้วย การทำร้ายกันอย่างโสมมเช่นนี้ ชีวิตของเด็กบริสุทธิ์ต้องถูกทำลายลงด้วยความริษยาอันน่ารังเกียจ...
องค์ทริสเซย์ทรงกำพระหัตถ์ระงับพระอารมณ์กริ้ว พระพักตร์นิ่งเฉย... จนน่ากลัว แม้จะไม่ทรงตรัสอันใดออกมา แต่เหล่านางกำนัลก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของพระองค์...
ชั่วชีวิตของพระองค์นั้นมิเคยกริ้วโกรธเรื่องใดนัก แต่ครั้งนี้... พระองค์ทรงรู้สึกมากกว่าคำว่าโกรธเสียอีก ความรู้สึกของพระองค์กำลังตีกันไปหมด โกรธ เสียใจ เจ็บปวด และแค้นเคือง... เชื่อว่าถ้าคนที่ทำเช่นนี้กับคนรักและลูกของพระองค์มาอยู่ตรงหน้า พระองค์คงจะฉีกเนื้อพวกมันเป็นชิ้น ๆ โยนให้เดรัจฉานกินได้อย่างไม่ใยดีเป็นแน่แท้
“ฝ่าบาทเพคะ...”เนลชันเข่าเข้ามาให้องค์ทริสเซย์ที่ทรงประทับยืนนิ่ง “พระโอรสเพคะ... ฝ่าบาท”
ความกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวขององค์ทริสเซย์นั้นหายไปทันที เมื่อพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระโอรสองค์น้อย
พระหัตถ์แกร่งยื่นไปรับร่างของสายพระโลหิตมาโอบอุ้มไว้ในอ้อมพระกร พระเนตรคมทอดมองทารกน้อยด้วยความรัก
“เซเซีย...”เสียงทุ้มตรัสออกมาเบา ๆ “ข้าให้ชื่อเจ้าว่า เซเซีย”
ทารกน้อยยิ้มรับชื่อของตนราวกับรู้ความ เรียกความสุขใจให้กับพระองค์มิใช่น้อย...
++++++++
“เสด็จแม่เพคะ...”เสียงหวานใสดังขึ้นก้อง เรียกให้ร่างบางที่นั่งเหม่อลอยหันมาสนใจต้นเสียงนั้น “เสด็จแม่เพคะ เสด็จแม่”
เด็กสาวตัวเล็กในชุดกระโปรงแสนงามก้าวเดินเข้ามาหาองค์คาเซีย ก่อนที่จะกอดขาข้างหนึ่งของพระองค์เอาไว้
“เสด็จแม่อย่าเสียพระทัยไปเลยนะเพคะ”เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์หวาน แล้วส่งรอยยิ้มสดใสให้กับพระองค์ “แม้ในวันนี้ ลูกจะไม่ได้อยู่กับเสด็จแม่... แต่อีกไม่นาน ลูกจะมาอยู่กับเสด็จแม่แน่นอนเพคะ”
“เจ้าคือธิดาของข้า... ใช่ไหม”พระองค์แกะมือเล็ก ๆ ออก แล้วทรงนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น “เจ้าคือธิดาของข้า... ใช่ไหม”
“เพคะ เสด็จแม่”พระกรเรียวโอบรัดร่างเล็กทันที เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้น องค์คาเซียทรงลูบไล้ร่างตรงหน้าอย่างอาวรณ์นัก
“แม่ขอโทษนะลูก... ที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าเอาไว้ไม่ได้”น้ำพระเนตรไหลซึมน้อย ๆ สุรเสียงที่ทรงตรัสช่างขมขื่นยิ่งนัก “แม่ขอโทษจริง ๆ ลูกรัก”
“ไม่ต้องหรอกเพคะ เสด็จแม่...”เสียงใสตอบกลับทันที เธอกอดตอบพระมารดาเอาไว้หลวม ๆ “ลูกดีใจนะเพคะ ที่ลูกสามารถช่วยน้อง กับเสด็จแม่เอาไว้ได้”
“ลูกแม่...”
“เสด็จแม่เพคะ สวรรค์จะต้องส่งลูกมาเป็นลูกของเสด็จพ่อกับเสด็จแม่แน่นอนเพคะ”เด็กหญิงพูดด้วยรอยยิ้มหวาน “รอลูกหน่อยนะเพคะ เสด็จแม่”
“แม่จะรอลูก... แม่รอลูกแน่นอน”พระชายาตอบรับทันที “แม่จะรอวันที่ลูกจะมาอยู่กับแม่นะ ลูกสาวของแม่”
“เพคะ เสด็จแม่... ถ้าลูกกำเนิดขึ้นเมื่อไร... โปรดให้ชื่อลูกว่า เอเธเซียนะเพคะ”
“เอเธเซีย...”
“แล้วเจอกันนะเพคะ เสด็จแม่”
เอเธเซียหอมพระปรางของเสด็จแม่เบา ๆ ก่อนที่ร่างของเธอจะหายไป พร้อม ๆ กับการตื่นบรรทมของพระชายา
“ตื่นแล้วหรือ คาเซีย”องค์ราชาทรงตรัสขึ้น เมื่อเห็นพระเนตรของคนที่อยู่บนพระแท่นลืมขึ้นมา “เป็นอย่างไรบ้าง หืม... รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่พะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์คาเซียตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “กระหม่อมฝันถึงพระราชธิดาด้วยนะพะยะค่ะ”
“เจ้าฝันถึง... ธิดาที่เสียไปน่ะหรือ”
“พะยะค่ะ... เขาบอกกับกระหม่อมว่าเขาจะกลับมาเกิดเป็นพระราชธิดาของกระหม่อมแน่นอนน่ะ พะยะค่ะ”พระองค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปลื้มปิติ “กระหม่อมหวังว่าเขาจะกลับมาอยู่กับกระหม่อมโดยไว”
“ข้าก็หวังเช่นนั้น”องค์ทริสเซย์ทรงทอดพระเนตรพระชายาด้วยนัยน์เนตรประกาย... พระองค์คาดว่าพระชายาคงลืมนึกไปกระมังว่าการที่จะกำเนิดสายพระโลหิตมาได้จะต้องทำเรื่องอันใด...
“องค์ชายเพคะ... พระชายา”เนลอุ้มองค์ชายตัวน้อยเข้ามาใกล้ผู้เป็นพระมารดา เพื่อที่จะให้พระองค์ได้สบพักตร์กับสายพระโลหิตองค์น้อย...
องค์ทริสเซย์ทรงยื่นพระกรไปรับพระโอรสมาอุ้ม ก่อนจะทรงเอนไปให้องค์คาเซียทอดพระเนตรอย่างนุ่มนวล
“ข้าให้ชื่อเขา... เซเซีย”
“เซเซียหรือพะยะค่ะ”นิ้วเรียวลูบไล้ใบหน้าเล็ก ๆ ของโอรสแผ่วเบา “เซเซีย”
“แอ๊”ทารกน้อยยิ้มกว้างให้กับพระบิดาและพระมารดาอย่างสดใส พระหัตถ์เล็กพยายามเอื้อมมาจับฉลองพระองค์ของพระมารดา
“องค์ชายน้อยคงหิวแล้วกระมังเพคะ พระชายา”เรลทูลด้วยรอยยิ้ม
องค์คาเซียทรงรับพระโอรสมาในอ้อมพระกร พระหัตถ์เล็ก ๆ ของทายาทตัวน้อยปัดป่ายที่ฉลองพระองค์จนช่วงบนหลุดลุ่ย
พระองค์ทรงเก้ ๆ กัง ๆ ไม่น้อยกับการให้พระกษีระ (น้ำนม) กับพระโอรสเป็นครั้งแรก... แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีจากกาช่วยเหลือของนางกำนัลเนล
แม้จะต้องสูญเสียพระราชธิดาไปพระองค์หนึ่ง แต่ก็ยังมีพระโอรสมาช่วยชโลมพระหฤทัยอันบอบช้ำนี้ได้บ้าง...
มันยังมีชีวิตอยู่... ไม่ได้การแล้วสิ... ถ้าเป็นเช่นนี้ ชีวิตของข้างคงจะหาไม่เป็นแน่... ฝ่าบาทจะต้องเอาเรื่องถึงที่สุด แล้วข้า... จะต้องสูญเสีย
ไม่! ข้าไม่มีวันยอมให้มันแย่งชิงทุกอย่างไปจากข้า ไม่มีวัน!! คาเซีย ข้าจะจัดการเจ้าให้จงได้!+++++++++++++++
มาต่อแล้วค้า~
มาเล่นเกมกันนะคะ~
http://writer.dek-d.com/sea-son/writer/viewlongc.php?id=788628&chapter=36http://writer.dek-d.com/sea-son/writer/view.php?id=788628