Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)  (อ่าน 261918 ครั้ง)

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 22
ตำนานรักสองราชวงศ์ : แผน... ของพระสนม

ระหว่างที่องค์ชายคาเซียนั้นสนทนากับเหล่าข้ารับใช้ของพระองค์อยู่อย่างสบายพระหฤทัย... ไม่มีผู้ใดในตำหนักโพรเทียแห่งนี้ล่วงรู้เลยว่า... การสนทนานั้นไม่เป็นความลับอีกต่อไป

นางกำนัลสาวคนหนึ่งแอบฟังการพูดคุยขององค์ชายองค์ริมทวารบานใหญ่ จนกระทั่งถึงเวลาที่พระองค์บรรทมหลับไป
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดบนริมฝีปากเรียวสีชาด ดวงตาของนางทอดมองอย่างมาดร้าย

ข้าได้รู้เรื่องสำคัญเสียแล้ว หึ หึ นายของข้าจะต้องขึ้นเป็นใหญ่ นายของข้าสมควรที่จะได้อยู่เคียงข้างฝ่าบาทเพียงผู้เดียว เพียงผู้เดียวเท่านั้น... และเพื่อการนั้น นายของข้าและข้า จะต้องกำจัดเจ้า คาเซีย!!

นางกำนัลร่างเพรียวรีบวิ่งจากตำหนักโพรเทียกลับไปยังตำหนักที่นายของนางอยู่อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครพบเห็นนาง... แม้เพียงสักคน

“พระสนมเพคะ พระสนม”นางส่งเสียงเรียกพระสนมของนางที่บรรทมอยู่เบาๆ “พระสนมเพคะ ตื่นเถอะ หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ”

“อื้อ... เจ้ามีเรื่องอันใดกันน่ะ โอเรีย ถึงมาปลุกข้ากลางดึกเช่นนี้”เสียงแหลมสูงเอ่ยถามนางอย่างหงุดหงิด “เจ้ากำลังรบกวนการพักผ่อนของข้าอยู่นะ”

“หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ พระสนม”โอเรียทูลต่อพระนางอย่างใจเย็น

“แล้วเรื่องอันใดล่ะ ที่เจ้าจะบอกแก่ข้า”เสียงที่พระนางใช้นั้นมิใช่เบาเลย... นางตวาดนางกำนัลส่วนตัวด้วยความโกรธา “จะพูดอะไรก็รีบ ๆ พูดมา ข้าจะได้พักผ่อนเสียที”

“เฟรีเนีย เกิดเรื่องอะไรหรือ”ร่างบอบบางของเพื่อนร่วมตำหนักของพระนางก้าวเดินเข้ามาในห้องบรรทม “เหตุใดเจ้าจึงส่งเสียงดังยามวิกาลเช่นนี้ หรือว่าเจ้าฝันร้าย หืม เฟรีเซีย”

“ข้าแค่หงุดหงิดนิดหน่อยน่ะ เมริน่า”พระสนมเฟรีเซียหันไปตอบเพื่อนสาวด้วยเสียงที่อ่อนลง “ข้าทำให้เจ้าตื่นเช่นนั้นหรือ”

“อืม... แต่ไม่เป็นไรหรอก ทุกราตรีข้าก็นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้วล่ะ... แล้วเจ้าหงุดหงิดอันใดมาหรือ เฟรีเนีย”พระสนมเมริน่าเอ่ยถามเสียงหวาน พระนางทรงเดินเข้ามาประทับที่พระแท่นนุ่มๆ

“โอเรีย เจ้ามีเรื่องจะกราบทูลมิใช่หรือ รีบพูดมาสิ”พระสนมทั้งสองหันพระพักตร์มามองนางกำนัลสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างพระแท่น

“คือ... เมื่อครู่ หม่อมฉันไปแอบฟังบทสนทนาของพระชายาคาเซียกับพวกข้ารับใช้มาเพคะ พระสนม”โอเรียเริ่มกราบทูลแก่พระสนมเบาๆ

“แล้วได้ความว่าอย่างไร”พระนางรีบถามนางกำนัลทันที

“คือ... พระชายาคาเซียตั้งพระครรภ์แล้วเพคะ พระสนม”นางกำนัลสาวทูลกับนายของนางตามตรง ไม่มีเกริ่นนำเลยแม้แต่น้อย

“ว่าอย่างไรนะ... ตั้งครรภ์แล้วเช่นนั้นหรือ...”เสียงหวานครางออกมาแผ่วเบา

“เพคะ หม่อมฉันได้ยินมาเช่นนั้น”โอเรียรับคำของพระสนมหนักแน่น

“ไม่จริง... เป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทจะต้องสนพระทัยมัน ดูแลมันยิ่งกว่าในเวลานี้... ไม่นะ ไม่...”พระสนมเฟรีเซียเริ่มไร้สติ

“ตั้งสติเอาไว้ก่อนสิ เฟรีเซีย”พระสนมเมริน่าหันมาตรัสกับคนข้างกายอย่างใจเย็น “แล้วฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้หรือยัง โอเรีย”

“ยังเพคะ พระสนม พระชายาคาเซียมิได้กราบทูลเรื่องที่ทรงตั้งพระครรภ์แก่องค์ราชาเพคะ”นางเอ่ยตอบทันที

เมื่อได้ยินดังนั้นพระสนมเฟรีเซียก็ทรงรวบรวมสติกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนพระสนมเมริน่าทรงเลิกพระขนงน้อยๆอย่างสงสัย

“แล้วเจ้าพอจะรู้ไหม เพราะเหตุใดพระชายาถึงไม่กราบทูลเรื่องสำคัญเช่นนี้กับฝ่าบาทน่ะ”พระนางเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

“เพราะฝ่าบาทมีกำหนดจะเสด็จไปต่างอาณาจักรในเดือนหน้านี้เพคะ”

“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใดนิ ถึงฝ่าบาทจะทรงเสด็จออกนอกพระราชวัง พระชายาก็สามารถตามเสด็จไปได้ อีกทั้งถ้าฝ่าบาททรงทราบ พระองค์จะต้องเลื่อนการเสด็จออกนอกพระราชวังไปอย่างแน่นอน”พระสนมเฟรีเนียทรงพึมพำแผ่วเบา

“เห็นว่าการเสด็จครั้งนี้ของฝ่าบาท พระองค์จะทรงไปรับพระราชบิดาและพระราชมารดา ก่อนจะทรงเสด็จไปเยี่ยมพระพี่นางที่อาณาจักรวินเซเรเพคะ”

“ถึงกระนั้นก็ไม่น่าเกิน 5 เดือนก็ต้องทรงเสด็จกลับมาแล้ว ยังไม่น่าถึงกำหนดคลอดของพระชายามิใช่หรือ”

“เพคะ พระสนม พระชายาทรงกังวลว่าจะมิมีใครดูแลราชกิจบ้านเมืองระหว่างที่ฝ่าบาทเสด็จออกนอกวังน่ะเพคะ”

“ถึงกระนั้นก็ยังมีท่านมหาเสนาบดีทั้งสองคอยดูแลบริหารบ้านเมืองอยู่ ไม่เห็นมีเรื่องอันใดน่าเป็นห่วง สองท่านนั้นไม่มีทางปล่อยให้เฟรนเซียเป็นอันใดไปเป็นแน่

“เพคะ”

“มีเพียงเหตุผลเดียวเช่นนั้นหรือ ที่พระชายาไม่ตามเสด็จฝ่าบาทไปน่ะ”

“ไม่ใช่เพคะ”โอเรียปฏิเสธขึ้นทันที “เห็นว่าพระชายาทรงเป็นห่วงพระชายาโซเทเรียด้วยน่ะเพคะ”

“ห่วงโซเทเรียเช่นนั้นหรือ...”

“เพคะ พระสนม พระชายาโซเทเรียทรงตั้งพระครรภ์ได้สี่เดือนครึ่ง ถ้าตามเสด็จไปกว่าจะทรงกลับมา พระชายาโซเทเรียก็คงทรงมีพระประสูติกาลแล้วน่ะเพคะ”

“ถ้าเช่นนั้นก็พาโซเทเรียไปด้วยก็ได้นิ”

“พระชายาทรงเกรงว่าพระชายาโซเทเรียจะทรงมีประสูติกาลระหว่างการเดินทางแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้นน่ะเพคะ”

“นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...”พระสนมเฟรีเนียรับคำเบาๆ “เราจะทำอย่างไรต่อไปดี เมริน่า ถ้าปล่อยไว้เป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทก็จะทรงโปรดมันมากกว่าที่เป้นอยู่นี้ อีกทั้งถ้ามันได้พระโอรสอำนาจของคาเซียจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มันขึ้นเป็นราชินีก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลานั้น มันจะไม่มาข่มเหงพวกเราเช่นนั้นหรือ”

“ใจเย็นก่อน เฟรีเนีย... เพลานี้จะทำการใดๆเราต้องวางแผนให้รัดกุมเสียก่อน”พระสนมเมริน่าตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คาเซียมีลูกเป็นตัวประกันอยู่ ถ้าเกิดอะไรกันกับเขา ฝ่าบาทจะต้องสืบสาวราวเรื่องอย่างไม่มีวันจบจนกว่าจะพบผู้ที่มาทำร้ายคาเซียเป็นแน่”

“แล้วเราควรจะทำอย่างไรดี เมริน่า ข้ามืดแปดด้านไปหมดแล้วนะ”

“เฟรีเนีย... เจ้าอย่าลืมสิว่าคาเซียยังไม่ได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาท...”

“มันก็ใช่อยู่...”

พระสนมทั้งสองสบพระเนตรกัน ก่อนที่จะเหยียดยิ้มประสงค์ร้ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ในเมื่อมันเกิดมาแล้ว... ก็ทำให้มันหายไปจากโลกนี้ซะก็สิ้นเรื่อง”

“นั่นสินะ... ขอเพียงแค่มันไม่เกิดมา คาเซียก็ไม่มีทางก้าวขึ้นสู่ความเป็นใหญ่ได้ จริงไหมล่ะ เฟรีเซีย”

“แต่... ถ้าฝ่าบาทยังทรงโปรดปรานมันเช่นนี้ ถึงจะจัดการเด็กในท้องมันไปได้แล้ว มันก็มีใหม่ได้อีกครั้งอยู่ดีนะ เมริน่า”

“เรา... ก็ทำให้มันไม่สามารถมีได้อีกสิ เพียงเท่านี้มันก็ขาดคุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นราชินีได้โดยสิ้นเชิง”แววเนตรของพระสนมเมริน่าฉายแววชิงชัง “หรือไม่ก็กำจัดมันให้หายไปจากโลกใบนี้เสียเลย...”

“แต่ถ้าฝ่าบาททรงสืบสาวราวเรื่อง... แล้วมาเรื่องมาถึงตัวเรา อาณาจักรของพวกเราจะพลอยลำบากไปด้วยนะ เมริน่า”พระสนมเฟรีเซียแย้งขึ้นมา

“เราไม่จะเป็นจะต้องให้มือของเราเปื้อนโลหิตเองก็ได้มีใช่หรือ...”

“หรือว่าเจ้าคิดจะ...”

“แน่นอน สนมหน้าโง่อีกหลายคนที่หน้ามืดตามัว อิจฉาริษยา ขอแค่เพียงเปิดโอกาสให้พวกมัน พวกมันก็จัดการเรื่องนี้ให้กับเราเอง โดยที่เราไม่ต้องทำอันใดเลยแม้แต่น้อย...”

“เจ้าจะบอกเรื่องนี้ให้พวกสนมคนอื่นๆรู้เช่นนั้นหรือ...”

“ข้าจะไม่เป็นผู้บอกข่าวนี้แก่ทุกคน เฟรีเซีย... แต่เป็นพวกนางกำนัลต่างหาก ที่จะเป็นคนแพร่กระจายข่าวนี้ออกไป...”

“แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ฝ่าบาทก็จะทรงทราบ”

“ไม่... ฝ่าบาทจะไม่ทรงทราบ จนกว่าเราจะจัดการคาเซียและลูกไปให้พ้นทางของเราได้”

“เจ้าจะแพร่กระจายหลังจากที่ฝ่าบาททรงเสด็จออกนอกพระราชวังไปเช่นนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว... เราจะต้องรอให้ฝ่าบาทเสด็จไปได้ระยะหนึ่งก่อน... หลังจากนั้น เราถึงจะเริ่มแผนการกัน”

สองพระสนมและหนึ่งนางกำนัลวางแผนกันอย่างรัดกุม พวกเขาพยายามปิดช่องโหล่ทั้งหมดที่จะสามารถสาวมาถึงตัวพวกเขาได้...

เหอะ คาเซีย เจ้าอย่าหวังจะได้มีความสุขในวังหลวงแห่งนี้เลย ข้าจะไม่มีวันยกฝ่าบาทให้กับเจ้า ไม่มีวันยกตำแหน่งราชินี... มารดาแห่งแผ่นดินเฟรนเซียให้กับเจ้า จำไว้!!!

++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า... หายหัวไปเพ้อดงบังมา :-[

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อิพวกชะนีขี้อิจฉา
คาเซียสู้ๆ

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
ชะนีนิ -3- ตกเขาตายซะ คนเขียนสู้ๆ คาเซียสู้ๆ

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
มาม่าจะมาไหมหว่า!!

เบื่อไอ่พวกก่อเรื่องยุ่งๆจริงๆเลย!!

หวังว่าคาเซียกับลูกจะไม่เป็นอะไรนะ!!  :กอด1:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เง่อ ซวยแล้วอะดันมีตัวอิจฉารู้จนได้

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
คาเซียจะรอดมั๊ยเนี่ย?

ทั้งลูกในท้องตัวเอง ทั้งลูกอีกท้องนึง  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
อิชะนี๊ กี๊ดดดๆๆ  :fire:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ึคาเซียน่าจะไปกับเฟรเซียนะ คิดอะไรอยู่กัน

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เซ็งโคตร เบื่อนางพวกนี้จริงๆ
รีบๆบอกฝ่าบาทไปเหอะ เกลียดจริงๆพวกนางสนมขี้อิจฉา

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตายแล้ว.. คาเซียกำลังตกอยู่ในอันตราย  ทำไงดี :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
อย่ากลัวดราม่า... เพราะมันกำลังเดินทางมา

แต่ตอนนี้... ขอเดินทางไปหาพาราก่อนนะคะT^T หนักหัวมากมาย

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :sad5:

ไม่เอาดราม่าไม่ได้หรอออออออ



คนเขียนสู้ๆ นะครับ

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป




    ลางร้ายเริ่มปรากฏแล้วสิ





ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เลววมากกก ทำอย่างงี้กับคาเซียไม่ได้นะเว้ย

Animee

  • บุคคลทั่วไป
เลวววววววววววว นังสนมหน้าโง่ อ๊ากกกกกก พ่นไฟ!!
ขอให้ผ่านไปด้วยดีเถอะนะ คาเซีย ㅠㅠㅍ :o12: :o12:

pangBoo

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อเร็วๆจัง :sad4:

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 23
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ปะทะคารม

วันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็ถึงวันที่องค์ราชาจะเสด็จออกนอกพระราชวัง...

“ขอฝ่าบาทเดินทางปลอดภัยนะพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียเสด็จมาส่งองค์ทริสเซย์ที่หน้าประตูพระราชวัง หลังจากที่ร่วมเหล่าสนมน้อมส่งเสด็จไปแล้วก่อนหน้านี่ ณ ท้องพระโรง

“เจ้าก็ดูแลตัวเองด้วยนะ คาเซีย”สุรเสียงของพระองค์บ่งบอกถึงความห่วงใยที่มีต่อพระชายาผู้เป็นที่รักยิ่งนัก พระหัตถ์แกร่งลูบไล้พระพักตร์งามของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ถ้ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้น เจ้าต้องรีบส่งข่าวให้ข้ารู้นะ รู้ไหม”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”รอยยิ้มอ่อนหวานคลี่ส่งให้พระองค์พร้อมกับคำมั่นสัญญา

“ข้าจะรีบไปรีบกลับนะ คาเซีย”พระกรแกร่งโอบรั้งร่างบอบบางเข้ามาแนบชิดกับพระวรกาย นาสิกโด่งรั้นสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนเกศานุ่ม

“รักษาพระวรกายด้วยนะพะยะค่ะ”องค์ชายตรัสเสียงเบา “เมื่อเสด็จกลับมาแล้ว กระหม่อมมีเรื่องจะทูลต่อพระองค์ ตามสัญญา”

“ข้าจะรีบกลับมาฟังคำของเจ้า คาเซีย”

องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จขึ้นรถม้าที่ประทับก่อนที่ขบวนเสด็จจะออกนอกพระราชวังไป

พระเนตรหวานทอดมองขบวนเสด็จที่เดินทางไปจนสุดสายตา แล้วจึงเสด็จกลับไปยังห้องทรงอักษร เพื่อสะสางราชกิจ... ตามหน้าที่ ที่ได้รับมา

“ฝ่าบาท... เช่นนี้จะดีแล้วหรือพะยะค่ะ”เซทเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารที่ตนไม่ชอบ “ทรงแน่พระทัยแล้วหรือว่าการปิดบังไว้เช่นนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”

“มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เซท”พระหัตถ์เรียวลูบไล้พระอุทรแบนราบแผ่วๆ “เราทิ้งโซเทเรียไปไหนไม่ได้หรอก ในเวลานี้น่ะ... เขาตั้งครรภ์ลูกของเราห้าเดือนครึ่งแล้วนะ”

“องค์ชาย...”เซทอยากจะหาคำมาเอ่ยค้าน แต่เขาพูดไม่เก่งเหมือนคนอื่นๆ จึงได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ “ความจริงแล้วถ้าบอกองค์ราชาไป อย่างน้อยพระองค์ก็น่าจะส่งทหารมาคุ้มกันองค์ชายเอาไว้บ้างนี่พะยะค่ะ”

“ทหารพวกนั้นจะมีความสามารถเท่าพวกเราเช่นนั้นหรือไง หืม...”แม้จะแผ่วเบาเพียงใด แต่สำหรับผู้ที่ถูกฝึกมาอย่างดีดังเช่นองค์ชายย่อมได้ยินเป็นธรรมดา

“ถึงจะไม่ได้มีความสามารถเทียบเท่า แต่ก็ยังดีกว่าที่เป็นอยู่นี้นะพะยะค่ะ”เซทแย้งขึ้นทันที “ยิ่งในเพลานี้กระหม่อมไม่สามารถปกป้องพระองค์ได้อย่างเต็มที่เช่นนี้ด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่พวกเรา... ก็พอแล้ว... พอแล้วจริงๆ”องค์คาเซียตรัสเสียงแผ่วเบา พระเนตรพอแสงหม่นหมอง “ทุกอย่างไม่แน่นอน... เราต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้สิ เซท”

“...พะยะค่ะ องค์ชาย”เซทไม่อาจจะหาคำมาโต้เถียงกับองค์ชายของเขาได้อีก
ทั้งสองนั่งทำงานกันอย่างขะมักเขม้น มือเรียวเขียนตัวอักษรอยู่แทบจะตลอดเวลา ดวงตาทั้งสองคู่ไม่ละสายตาจากเอกสารตรงหน้าเลยแม้เพียงวินาที

ผ่านมาหนึ่งเดือน... ในทุกๆวันขององค์ชายและเซทช่วยกันสะสางงานมากมายที่ถูกส่งมาทุกๆวัน เวลาพักผ่านของพวกเขาน้อยลงเรื่อยๆ จนคนรอบข้างเริ่มเห็นถึงความผิดปกติของทั้งสอง

สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์นั้นสมควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอต่อร่างกาย แต่องค์คาเซียและเซทนั้นแทบจะไม่มีเวลาผ่อนคลายตนเอง...

โดยเฉพาะองค์ชายที่นอกจากจะต้องสะสางฎีกาจำนวนมากแล้วยังต้องเข้าร่วมประชุมแทบทุกเช้าและเย็นของแต่ละวัน

“พระชายาพะยะค่ะ”มหาเสนาธิการฝ่ายขวาก้าวเดินเข้ามาในห้องทรงอักษร “ช่วงนี้พระองค์ทรงงานหนักไปหรือเปล่าพะยะค่ะ”

“เราก็ทำงานปกติ... ไม่ได้หนักกว่าวันก่อนๆนิ ท่านมหาเสนาฝ่ายซ้าย”พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมาจากกองเอกสาร “ทำไมหรือ...”

“พระองค์ทรงดู... เหนื่อยล้า”จริงๆมหาเสนาอยากจะบอกว่าพระชายาดูซูบซีด ไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเหมือนอย่างที่เคย...

“งั้นหรือ...”ไม่ใช่ว่าพระองค์จะไม่รู้องค์เอง ว่าในเวลานี้พระองค์ดูอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรง... แม้พระองค์จะทรงต้องการพักผ่อนให้มากกว่านี้เมื่อสายพระโลหิตในพระครรภ์ แต่ก็มิอาจเป็นไปได้ ด้วยงานที่ทรงติดพันอยู่

“กระหม่อมว่าพระชายาน่าจะพักผ่อนหน่อยนะพะยะค่ะ”มหาเสนาเอ่ยอย่างเป็นห่วง “ถึงราชกิจจะมากมาย แต่พระวรกายของพระองค์ก็เป็นสิ่งสำคัญนะพะยะค่ะ”

“ถ้าเราไม่จัดการ มันก็จะเพิ่มพูนมากขึ้น”

“กระหม่อมและเหล่าเสนาขอจัดการบางส่วนเองพะยะค่ะ ขอได้โปรด พระชายาทรงพักบ้างเถิด”เสียงทุ้มพูดอย่างเฉียบขาด แม้คำที่เอ่ยนั้นดูเหมือนจะเป็นคำขอร้อง แต่น้ำเสียง... บ่งบอกได้ว่าเป็นคำสั่งที่ต้องปฏิบัติ “องค์เหนือหัวคงมิทรงโปรดนักที่พระชายาจะทรงทรมานพระวรกายเฉกเช่นนี้...”

“เรา...”องค์ชายจะเอ่ยค้าน แต่โดนสายตากดดันของคงตรงหน้าจ้องมองอย่างกริ้วโกรธ “เราฝากด้วยแล้วกันนะ... ท่านเสนา”

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”

หลังจากวันนั้น... องค์ชายคาเซียก็ทรงได้พักผ่อนในพระตำหนัก เช่นเดียวกับเซท สร้างความสบายอกสบายใจให้กับสองนางกำนัลและหนึ่งองครักษ์ที่อยู่ประจำตำหนักเป็นอย่างยิ่ง

องค์ชายทรงนักเล่นหมากรุกกับเรฟ โดยมีพระชายาของพระองค์ประทับอยู่เคียงข้าง เหล่านางกำนัลนั่งดูอยู่ใกล้ๆ

“มั่นใจเหรอที่จะเดินมาช่องนั้นน่ะ เรฟ”รอยยิ้มแห่งชัยชนะฉาบขึ้นบนพระพักตร์งาม “รุก!”

“โอ๊ะ... องค์ชาย... มิทรงยั้งมือเลยนะพะยะค่ะ”เรฟยู่ปากน้อยๆ สีหน้าของเขาครุ่นคิดอย่างหนัก

“คิดให้ดีก่อนเดินสิ”สันหนังสือเล่มหนาประทับเบาๆที่ไหล่แกร่งโดยฝีมือของคนรัก “หัดสังเกตซะบ้างนะ เรฟ แบบนี้ แพ้แน่ๆ ไม่ต้องสงสัย”

“เซทอ่า... ข้าไม่ได้ถนัดด้านการคิดเหมือนเจ้าสักหน่อย”

“อย่ามาแก้ตัวน้ำขุ่นๆนะ”

ทั้งสองถกเถียงกันเบาๆ ตั้งแต่ที่เซทตั้งครรภ์นั้น เขาก็เริ่มพูดจามากขึ้นกว่าเดิม... และถกเถียงกับผู้ที่ได้ชื่อว่าสามีของเขาบ่อยครั้ง

“ไม่เอาน่า... ไม่ต้องเถียงกันหรอก”องค์ชายตรัสห้าม “มันไม่ดีนะ... จริงไหม โซเทเรีย”

“อื้ม การทะเลาะกันไม่ดีหรอก”องค์ชายโซเทเรียรับคำของพระสวามีเสียงใส

องครักษ์ทั้งสองกำลังจะหันมาขานรับ... แต่ก็มีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในวันที่แสนสุขนี้เข้ามาเยือนเสียก่อน...

“พระชายาคาเซีย”เสียงของนางสนมแห่งองค์ทริสเซย์ดังขึ้น “พวกเรามีเรื่องจะสนทนากับพระองค์... จะทรงมีเวลาให้พวกหม่อมฉันไหมเพคะ”

“ว่ามาสิ...”องค์ชายทรงตรัสแผ่วเบา ในขณะที่พระเนตรยังคงจับจ้องตัวหมากในกระดานอยู่ “ว่ามาสิ ข้ารอฟังพวกเจ้าอยู่...”

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงพูดแล้วไม่มองหน้าพวกข้า”พระสนมนางหนึ่งกระชากเสียงถามร่างเล็ก

พระพักตร์งามเงยขึ้นช้า ๆ พระเนตรหวานหรี่ลงเล็ก ๆ องค์ชายทรงจ้องมองพระสนมนางนั้นด้วยสายพระเนตรเย็นชา

“พระองค์มีสิทธิ์อันใดมาขึ้นเสียงใส่พระชายา”เนลเอ่ยถามเสียงนิ่ง

“ข้าเป็นพระสนมของฝ่าบาท อีกทั้งยังเป็นเจ้าหญิงแห่งโครเซเนีย”นางเชิดพักตร์อย่างทระนงตน

“เป็นถึงองค์หญิง... ไม่เคยศึกษาเรื่องมารยาทหรืออย่างไรเพคะ”

“เจ้า!!”

“อย่านำมารยาทต่ำทรามมาใช้ในราชวังสิเพคะ”

“แก...”พระสนมทอดมองนางกำนัลอย่างกริ้วโกรธ “เป็นแค่นางกำนัลชั้นต่ำ มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้า!”

“ถึงหม่อมฉันเป็นนางกำนัล หม่อมฉันก็ได้รับการอบรมให้เรียนรู้เรื่องภายในราชวังมาแต่เล็กนะเพคะ”ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มบาง “อย่างน้อยหม่อมฉันก็ทราบว่าอะไรควร ไม่ควร และยังทราบอีกว่าตำแหน่งของผู้สำเร็จราชการแผ่นดินนั้นเหนือกว่าพระสนมปลายแถวยิ่งนัก”

“เจ้า!!!”ครานี้มิใช่เพียงแค่เสียงเดียว แต่พระสนมทุกพระองค์ดังขึ้นพร้อม ๆ กัน

“พระชายาคาเซีย... พระองค์สมควรจะดูแลนางกำนัลในปกครองของพระองค์บ้างนะ ให้รู้บ้างว่าใครสูง และใครต่ำ”

“เนล...”เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา “เจ้าอย่าเพิ่งบีบให้พวกนางจนตรอกสิ... เรายังไม่ได้เอ่ยอะไรเลยนะ”

“เพคะ พระชายา...”เนลเอ่ยรับก่อนจะถอยกายกลับเข้าที่ของนางเพื่อเปิดทางให้แก่ผู้เป็นนายได้ลงมือเอง...

“เอาล่ะ”วรกายที่เอนพิงพระเขนยอิง ค่อย ๆ ขยับขึ้นมาพระทับตรง “นางกำนัลของข้าเอ่ยอันใดผิดเช่นนั้นหรือ... พระสนม”

“นางดูหมิ่นพวกข้าเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นการเสียมารยาทเช่นนั้นหรือเพคะ”พระสนมเมเรป กล่าวด้วยความใจเย็น

“ตรงไหนที่นางดูหมิ่นพวกเจ้าเช่นนั้นหรือ...”องค์ชายทรงเลิกพระขนงน้อยๆ “นางบอกว่าผู้สำเร็จราชการเป็นตำแหน่งสูง ก็ถูก นางได้รับการอบรมมาแต่เล็ก ก็ถูกอีก และนางก็มิได้อ้างอิงถึงผู้ใดแม้เพียงสักคน หรือเจ้าว่าไม่จริงล่ะ... หืม”

“แต่มันเป็นการเสียมารยาท นางกำนัลมาเอ่ยขัดการสนทนาของพระชายากับพระสนมเช่นนี้ มีอย่างที่ไหนกัน”นางโต้เถียงกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้

“การที่นางปกป้องเราเป็นเรื่องที่ผิดเช่นนั้นหรือ”องค์คาเซียตรัสเสียงนุ่มๆ พระเนตรหวานประกายแววกรุ่นโกรธชั่ววินาที “กับการที่พวกเจ้ายกพวกกันมาในตำหนักแห่งนี้ พูดจากระชากเสียงใช่เรา นี่หรือคือมารยาทที่เจ้าหญิงพึงมี”

“เอ่อ...”เหล่าสนมอับจนคำพูด ด้วยความที่ทุกสิ่งที่พระชายาตรัสออกมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด

“พวกเจ้ามีอะไรก็ว่ามา”

“หม่อมฉันขอทูลถามพระชายาตรงๆนะเพคะ”พระสนมเมเรปผู้กล้าหาญเป็นตัวแทนของสนมทั้งมวลเอ่ยขึ้นมา “เหตุใดพระชายาจึงรั้งฝ่าบาทให้อยู่เคียงข้างพระองค์เพียงผู้เดียว...”

“เจ้าควรจะไปถามฝ่าบาทเองมากกว่ามาถามเรา... ว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงมิเสด็จไปหาพวกเจ้าเช่นนี้”พระองค์ตอบกลับด้วยสุรเสียงนิ่งๆ “และเรามิเคยฉุดรั้งฝ่าบาทเอาไว้ข้างกายแม้เพียงเสี้ยววินาที”

“เจ้าร่ายมนต์อะไรใส่ฝ่าบาท พระองค์ถึงคำนึงหาแต่เจ้า ให้เจ้าอยู่ข้างพระวรกายไม่ห่าง”พระสนมอีกคนเอ่ยถามขึ้นบ้าง ดวงตาของนางฉายแววริษยาอย่างมิปิดบัง

“มนต์อย่างนั้นหรือ...”เสียงหวานทวนคำเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มบางเบา “จำเป็นต้องมีเวทมนต์เช่นนั้นหรือ ฝ่าบาทถึงจะมาสนใจในตัวใครสักคน”

“...”ไร้ซึ่งเสียงโต้ตอบจากพระสนม

“กลับไปมองตัวเองให้ดี พิจารณาให้ถี่ถ้วน ว่ามันเป็นเพราะเหตุใด ฝ่าบาทจึงไม่เสด็จไปหาพวกเจ้า”องค์ชายตรัสเสียงเย็นชาก่อนที่จะทรงเอนกายพิงพนักเก้าอี้ดังเดิม “พวกเจ้าตั้งใจมาหาเรา เพราะเรื่องนี้โดยเฉพาะเช่นนั้นหรือ”

“เพคะ พระชายา”

“แน่ใจ”พระองค์หรี่พระเนตรจับจ้องพระสนมอย่างจับผิด

“แน่ใจเพคะ พระชายา”พระสนมเมเรปรับคำอีกรอบ “เช่นนั้นพวกหม่อมฉันทูลลาเพคะ”

“เชิญ”

เหล่าพระสนมพากันออกจากพระตำหนัก ท่ามกลางความสงสัยของคนภายในตำหนักแห่งนี้

ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

พระสนมทั้งหลายพากันไปตำหนักบัตเตอร์คัพหลังจากเสด็จออกมาจากตำหนักใหญ่แล้ว

“เรื่องที่นางกำนัลพวกนั้นพูดมันจะเป็นจริงเช่นนั้นหรือ”

“จากที่ข้าเห็น พระชายามิเห็นมีอาการผิดแปลกไปจากปกติเท่าไหร่นักเลย แค่อ่อนเพลียกว่าปกติก็เท่านั้นเอง”

“เราคงต้องรอดูต่อไปก่อนล่ะ”

พระสนมหลายพระองค์สนทนากันอย่างเคร่งเครียด แต่ก็ไม่อาจหาข้อสรุปในปัญหาที่ว่า...

‘พระชายาคาเซียในองค์ราชาทริสเซย์... ตั้งพระครรภ์ใช่หรือไม่’

++++++++++++++++++++

เอ... มีใครคิดถึง 'เสด็จพี่เฮเซีย' ผู้แสนดีบ้างไหมคะ?

เขากำลังจะกลับมาแล้ว... ในอีกไม่ช้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2012 19:28:41 โดย midnight »

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
สุขสันต์วันสงการนต์นะคะ อย่าลืมไปทำบุญกันด้วยน้า~

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:

พวกพระสนมเริ่มสงสสัยแล้ว!!

คาเซียสู้ๆ!!  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2012 19:54:39 โดย wolfram »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ไม่เอามาม่าาาาา
อย่านะคะได้โปรดดดด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
เสด็จพี่เฮเซียจะมาแล้วววว :mc4:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สนมพวกนั้นจะทำอะไรคาเซียนะถ้ารู้ว่าคาเซียท้อง

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
นี่แค่เดือนเดียวเองนะ.... :เฮ้อ:

คาเซียสู้ๆ นะ

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
คาเซียสู้ๆนะ!!

รอติดตามตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อัยย๊ะ มาหาเรื่องถึงตำหนักเลยแฮะ คาเซียสู้สู้

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
น่าสงสารคาเซียพิลึก

สาธุเจ้าพวกสนมแพ้ภัยตัวเองไปซะ!! :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ kingkakingka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คาเซียสู้ๆ :3123: :3123:

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



  ฝ่าบาทเดินทางไปไม่เท่าไหร่ก็เริ่มมีมารมาผจญแล้วววว





ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 24
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ลอบสังหาร

หลังจากวันที่เหล่าสนมบุกเข้ามาหาเรื่ององค์ชายคาเซียเมื่อเดือนก่อน ความสงบสุขก็กลับคืนมาสู่ตำหนักโพรเทียเรื่อยมา

ราชกิจที่ถูกสั่งห้ามแตะต้องอย่างเด็ดขาดในช่วงอาทิตย์แรกโดยมหาเสนาบดี ได้กลับมาสู่อ้อมแขนของผู้สำเร็จราชการแล้ว แต่เพียงแค่ส่วนหนึ่ง... ด้วยเหตุที่ว่า

‘ถ้าพระชายานำราชกิจทั้งหมดไปสะสางดังเดิม สภาพของพระองค์ก็จะมิแตกต่างอะไรจาก 7 วันก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น ทรงทำเพียงส่วนเดียวก็พอแล้ว ในส่วนที่เหลือ พวกข้าจะจัดการเอง’

ถึงแม้จะได้งานราชกิจกลับมาเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ก็สามารถทำให้พระองค์หายเบื่อไปได้บ้าง ด้วยความเคยชินของพระองค์ที่จะมีอะไรทำสักอย่าง...

“เอ... สองเดือนที่ผ่านมาไม่ทรงรู้สึกแพ้ท้องเหรอพะยะค่ะ”เฮลเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่ผ่านมาสามเดือนเศษ... แต่ดูท่าทางขององค์ชายยังทรงปกติ ไม่มีอาการใดๆเหมือนดั่งที่ผู้ตั้งครรภ์สี่เดือนครึ่งควรจะเป็น

“ไม่นิ เราไม่รู้สึกคลื่นไส้ หรือรู้สึกแปลกๆแม้แต่น้อย”องค์ชายคาเซียทรงหันมาตอบหมอประจำกายด้วยรอยยิ้ม เฮลหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่พระพักตร์ของพระองค์ดูสดใสจริงๆ มิได้ฝืนเลยแม้แต่น้อย

“มันดูผิดปกติไปหน่อยนะพะยะค่ะ...”นิ้วเรียวของหมอหนุ่มเคาะโต๊ะเบาๆ “ถ้าเป็นเช่นนี้... เป็นไปได้ว่าฝ่าบาทจะทรงแพ้ท้องแทนพระองค์”

“เอ... คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอก เฮล”พระองค์ตรัสเบาๆ “จะมีเหตุผลอันใดที่ฝ่าบาทจะทรงมาแพ้ท้องแทนเรา... เราเป็นแค่เพียงข้ารับใช้ของพระองค์คนนึงเท่านั้นนะ”

พระหัตถ์เรียวเขียนแผนงานแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืชให้กับประชาชนไปด้วย ตรัสไปด้วย พระเนตรหวานหลุบลง ไม่สบกับผู้ใด... เป็นสัญญาณพระองค์ทรงรู้สึกหมองเศร้า

“องค์ทริสเซย์ทรงรักพระองค์ไม่น้อยไปกว่าที่พระองค์ทรงมอบดวงหฤทัยให้กับฝ่าบาทนะเพคะ”เรลเอ่ยแย้งขึ้น นางทราบดีแล้วว่าองค์ราชานั้นทรงรักองค์ชายของนางมากเพียงไร ถึงแม้จะมิได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง แต่พระองค์ก็ทรงส่งจดหมายมาถามข่าวคราวขององค์ชายจากนางเสมอ แต่ถึงกระนั้น... นางก็มิเคยหลุดบอกพระองค์ไปว่าองค์ชายทรงตั้งพระครรภ์หรอกนะ...

ให้พระองค์รู้จากองค์ชายเอง... น่าดูกว่าเป็นไหนๆ

“ช่างเถอะ... แล้วเซทล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง หกเดือนแล้วนะ”พระองค์หันไปถามองรักษ์ประจำพระองค์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก

“กระหม่อมแข็งแรงดีพะยะค่ะ”เซทตอบรับกลับมาเบาๆ ในขณะที่ยังเพ่งแผนที่ในมืออยู่อย่างเคร่งเครียด จนเรฟต้องมาดึงเอาแผนที่นั้นออกจากมือ

“แข็งแรงงั้นเหรอ... กลางคืนก็ไม่ยอมนอน กลางวันก็ไม่ยอมพักผ่อน แบบนี้จะเรียกยังไงว่าแข็งแรง”เรฟกัดฟันพูดอย่างกริ้วโกรธ “ไปพักเดี๋ยวนี้ เซท”

“ข้ายังต้องทำงาน...”

“มานอนซะ เซท”องค์ชายคาเซียทรงตรัสเสียงนิ่ง พระดัชนีเรียวชี้ไปที่พระแท่นของพระองค์เอง “ไปนอนซะ นอนที่นี่แหละ เราจะได้เห็นกับตาว่าเจ้าพักผ่อนจริงๆ”

“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”เซทขานรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่างอวบๆเดินอุ้ยอ้ายปีนขึ้นเตียงไปนอนโดยดี

“หกเดือนแล้ว... ดูแลตัวเองดีๆหน่อยเถอะ เซท”เรฟทำหน้าบึ้งใส่คนรักขณะที่ห่มผ้าให้ “หลับตาลง แล้วนอนซะนะ...”

เซทหลับตาลงอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะผล็อยหลับไป

“คาเซีย...”เสียงใสๆขององค์ชายโซเทเรียดังขึ้นหลังจากที่เฮลกลับออกไปได้พักหนึ่ง “ได้พักผ่อนบ้างไหมเนี่ย...”

“ได้สิ... เนลกับเรลคอยเคี่ยวเข็ญให้เรานอนอยู่ตลอดนั่นแหละ โซล”พระกรเรียวโอบรัดร่างของพระชายาแห่งตนเอาไว้ในอ้อมพระกรหลวมๆ ร่างของพระชายานั่นประทับอยู่บนพระเพลาของพระองค์ ตามที่พระองค์ประสงค์ “โซลเถอะ เป็นไงบ้างหืม ได้พักผ่อนบ้างไหน”

“โซลก็นอนทั้งวันแหละ ไม่ได้มีงานอะไรสักหน่อย”องค์ชายโซเทเรียตอบกลับเบาๆ

“น่า... โซล เจ็ดเดือนครึ่งแล้วนะ... อีกไม่ถึงสองเดือนเราก็จะได้เห็นหน้าของลูกแล้ว”

ทั้งสองพระองค์สนทนากันไปเรื่อยๆ องค์ชายคาเซียทรงวางพระหัตถ์จากราชกิจทั้งหมดมาทุ่มเทเวลาที่พอมีให้กับพระชายา

จนถึงเวลานี้... พระหฤทัยของพระองค์มิเคยมีสักวินาทีที่จะบอกว่ารักร่างตรงหน้า แต่ทุกอย่างมันสั่งการให้พระองค์ต้องดูแลให้ดีที่สุด... เท่าที่พี่ชายคนหนึ่งจะทำให้กับน้องได้

ในเบื้องลึกของดวงหทัยขององค์ชายโซเทเรียเริ่มร่ำร้องออกมา ว่าแท้จริงแล้ว พระองค์นั้นมิได้รักองค์ชายคาเซียในฐานะของคนรัก... แต่พระองค์รักองค์ชายในฐานะของพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง... แต่พระองค์ยังขอหลอกตัวองค์เองว่ายังรัก... พระสวามีหมดดวงหฤทัย

ในเวลานี้ทุกๆอย่างมันพันธนาการคนทั้งคู่ไว้อย่างแน่นหนา... ยากที่จะพรากจาก แม้จะมิได้มีความรักให้แก่กัน แต่ก็จะต้องคู่เคียงคู่กัน... ต่อไป

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปจนฟ้ามืด... และจะมีต่อไปเรื่อยๆถ้ามิใช่ว่ามีเสียงแปลกปลอมเล็ดลอดเข้ามาให้พระกรรณขององค์ชายนักปราชญ์ผู้นี้

“ชู่ว์...”องค์ชายคาเซียส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียงลง “ไปอยู่ที่เตียงก่อนนะ.. โซล”
องค์ชายโซเทเรียพาร่างอันอ้วนท้วมของพระองค์มาประทับบนพระแท่นโดยดี พระเนตรหวานมองพระสวามีอย่างเป็นกังวลพระทัย

องค์ชายคาเซียทรงคว้าพระแสงดาบประจำพระองค์เข้าสู่พระหัตถ์ ก่อนที่จะทรงชักออกมาในท่าเตรียมพร้อมต่อสู้
สองนางกำนัลน้อยต่างคว้าดาบของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อม เรฟก็เช่นกัน

เซทลืมตาตื่นขึ้นจากนิทรา เขาพยุงร่างของตนพิงหัวเตียง แล้วหยิบดาบของตนมาไว้ในมือ ก่อนจะพยักหน้ารับสารที่สื่อมาจากสายตาของคนรัก

‘ถ้าไม่ถึงที่สุด... อย่าลุกขึ้นมาต่อสู้เป็นอันขาด’

“เรฟ... ปกป้องโซเทเรียและเซท เนล เรล เตรียมพร้อม”องค์ชายตรัสแผ่วเบา

“เพคะ/พะยะค่ะ”สองนางกำนัล หนึ่งองครักษ์เข้าประจำที่ของตน

ดวงตาของคนทั้งหมดในห้องบรรทมแห่งนี้จับจ้องไปที่บานทวาร ในเวลานี้พวกเขาทุกคนพร้อมแล้วที่จะจัดการกับผู้บุกรุกที่ไม่อยากจะต้อนรับ

ชายในชุดคลุมสีดำปิดหน้ากรูกันเข้ามาในห้องบรรทมจำนวนไม่น้อย...

“พวกเจ้าเป็นใคร!!”องค์ชายทรงตรัสถามน้ำเสียงเรียบเฉย พระเนตรของพระองค์วาวโรจน์ไปด้วยความกริ้วโกรธอย่างที่มิเคยมาก่อน

“พวกข้าเป็นใครไม่สำคัญ... รู้แค่ว่าพวกข้าจะมาเก็บพวกเจ้าก็พอ”

สิ้นเสียงพูดของชายชุดดำที่คาดว่าเป็นหัวหน้าทีม เปรียบดั่งระฆังแห่งการเริ่มต้น

สำหรับคนที่มีฝีมือพอตัวเพียงแค่สิบคน ถ้าเป็นเวลาปกติ นางกำนัลทั้งสองและเรฟก็เอาอยู่ แต่ในเวลานี้พวกของพระองค์เสียเปรียบไม่น้อย เมื่อต้องคอยปกป้องผู้มีครรภ์ถึงสองคนในเวลาเดียวกัน...

ยังไม่นับสายพระโสหิตในพระครรภ์ของพระองค์เองด้วย

องค์ชาย เนล และเรลพุ่งเข้าโรมรันกับร่างตรงหน้า ส่วนเรฟคอยเป็นทัพหลังที่รับมือกับคนที่หลุดรอดมาจากทั้งสาม ดาบเรียวเปื้อนโลหิตที่สาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง แต่ก็ยังมิมีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร

ถ้ายอมตอนนี้... หมายถึงชีวิตของทุกคน

องค์ชายคาเซียทรงรับศึกหนักเมื่อต้องรับมือกับผู้ลอบสังหารถึงสามคนในเวลาเดียวกัน คมดาบฟาดฟันเข้าที่ร่างของบุรุษตรงหน้าอย่างไร้ซึ่งปรานี พระองค์ทรงสังหารคนตรงหน้าอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

สองสาวในที่นี้ก็รับศึกหนักไม่แพ้กับ เมื่อพวกนางต้องรับมือกับชายร่างสูงใหญ่ถึงหกคน แต่ถึงกระนั้น แทนที่พวกนางจะเกรงกลัว แต่กลับรู้สึกสนุกสนานเสียมากกว่า

“เอาแบบไหนดีค่ะ พี่”

“เจ้าสาม พี่สาม ไม่ได้ลุยมานาน ขอสักทีก็ไม่เลวหรอกนะ”

ใครที่ปรามาสไว้ว่าสตรีนั้นอ่อนแอ จงลบความคิดนั้นทิ้งไปซะ... สตรีนั้นมีพลังอันลึกลับซ่อนอยู่ภายในตัว ดังเช่นสองพี่น้องคู่นี้... ยามใดที่พวกนางรู้สึกกระหาย ยามนั้น... พวกนางจะไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น ผู้ที่จะสามารถห้ามพวกนางได้มีเพียงองค์ชายผู้เป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น

พวกนางทั้งสองเหวี่ยงดาบเข้าฟาดฟันกับศัตรูตรงหน้า เลือดสีสดไหลรินจากบาดแผลที่ถูกพวกนางฟัน แทง เรียกความกระหายเลือดของนางทั้งสองได้เป็นอย่างดี

“อ่า... มันเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน”เรลครางเบาๆ ขณะที่ตวัดดาบเฉือนเนื้อของผู้บุกรุกทีละแผลๆ เรียกเลือดให้หลั่งไหลอกกมา “ช่างน่าเสียดายที่ไม่มีเวลาให้มานั่งเล่นมากนัก”

ผู้ลอบสังหารคนสุดท้ายประจันหน้ากับเรฟ พวกเขาจ้องตากันสักพักก่อนที่จะโถมร่างเข้าหากัน

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งไปทั่ว ผู้บุกรุกบาดเจ็บสาหัสแล้วเริ่มหลบหนีการโจมตี ในขณะที่ฝ่ายขององค์ชายได้รับบาดแผลกันคนละนิด คนละหน่อย

“ถ้าพวกเจ้ายอมบอกข้ามาดีๆว่าใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามา ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า... ทั้งยังให้ที่อยู่และหมอมารักษาพวกเจ้าด้วย”องค์คาเซียตรัสอย่างเย็นชา

เหล่าผู้บุกรุกหันไปมองหน้ากันและกัน เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของเพื่อนพ้องที่มาด้วยกันแล้ว... ทุกคนต่างตัดสินใจที่จะทิ้งดาบในมือลง ยอมศิโรราบโดยดี

“เราได้รับการว่าจ้างจากขุนนางคนหนึ่งในอาณาจักรเตทาเนียให้มาจัดการเก็บพวกท่านซะ... เพียงเท่านั้น”ผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มลอบสังหารนี้ตอบองค์ชายอย่างสัจจริง

“แน่ใจว่ามีเพียงเท่านี้”พระองค์หรี่พระเนตรลงอย่างจับผิด ขณะที่เนลกับเรลพากันไปตรวจค้นอาวุธของกลุ่มคนตรงหน้า

“พะยะค่ะ มีเพียงเท่านี้จริงๆ”ชายทั้งสิบขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง

องค์ชายคาเซียทรงเม้มพระโอษฐ์เล็กน้อยอย่างครุ่นคิด

“เฮล... เรารู้ว่าเจ้ายังอยู่แถวนี้ เจ้าพาพวกเขาออกไปจากที่นี่ เอาพวกเขาไปรักษา แล้วให้ที่พักพิงแก่พวกเขาและครอบครัวด้วย”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”เฮลโผล่หน้าเข้ามาในพระตำหนักอีกครั้ง พร้อมกับนายทหารในกองทัพส่วนพระองค์อีกสิบนาย “เก็บกวาดให้เรียบร้อยล่ะ”

นายทหารทั้งสิบคนนั้นเก็บกวาดห้องบรรทมให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งร่อยรอยอันใดเอาไว้เลยแม้เพียงน้อย ก่อนที่พวกเขาจะพากันหลบออกจากพระราชวังไป

ระหว่างนั้นองค์ชายและทุกๆคนต่างพากันไปชำระร่างกายเสียใหม่ เพื่อล้างกลิ่นคาวเลือดที่ติดกายออกไป

“มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป...”เสียงหวานพึมพำแผ่วเบา พระเนตรกลมโตเหล่มองพระชายาที่ประทับบนพระแท่นนิ่ง “โซล... เจ้ากำลังกลัวใช่ไหม”

“อืม... คาเซีย... ข้ากลัว”องค์ชายโซเทเรียตอบรับอย่างไม่ปิดบัง

องค์ชายคาเซียโอบกอดต่างที่สั่นเทาเอาไว้ในอ้อมพระกรอย่างอ่อนโยน

“ซัค”นามของคนผู้หนึ่งถูกขานออกมาจากพระโอษฐ์งาม “ไปบอกองค์ชายรัชทายาทเฮเซีย... ให้เสด็จมารับพระชายาแห่งเราไปพำนักยังเซเรียล”

“พะยะค่ะ”เสียงทุ้มตอบรับแผ่วเบา

“คาเซีย...”องค์ชายโซเทเรียช้อนพระเนตรขึ้นมองพระองค์อย่างตื่นตระหนก

“ไปอยู่ที่เซเรียลก่อนนะ... โซล จนกว่าที่นี่จะปลอดภัย”เสียงหวานกระซิบเบาๆ “วันนี้เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว... นอนเสียเถอะ คนดี”

หลังจากที่พระชายาของพระองค์บรรทมไป องค์ชายก็ทรงหันวรกายไปที่พระบัญชรใหญ่

“ถ้าประสงค์ดีก็โปรดจงออกมาพบกับเรา... แต่ถ้าประสงค์ร้าย ขอจงรีบไปจากที่นี่ซะ ก่อนที่เราจะจับท่านได้”พระองค์ตรัสเสียงเย็น

“ข้ามาดี...”เสียงทุ้มหวานของบุรุษดังขึ้น ขณะที่ร่างสูงโปร่งค่อยๆเดินออกมา

“ท่านคือ...”

“เราเป็นเชษฐาของทริสเซย์ นาม เคเซย์”

“ถวายบังคมองค์ชายเคเซย์พะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงน้อมพระวรกายลงอย่างสง่างาม

“เรามาที่นี่ เพียงแค่อยากเห็นหน้าของ... ว่าที่น้องสะใภ้เราเสียหน่อย”พระหัตถ์เรียวเชยพระพักตร์หวานขึ้น “อืม... งดงามไม่น้อย ทั้งองอาจ กล้าหาญ สมแล้วที่จะขึ้นเป็นพระแม่แห่งเฟรนเซีย”

“พระองค์ทรงตรัสเรื่องอะไรน่ะพะยะค่ะ”องค์ชายตรัสถามเสียงสั่น

“เรารู้เรื่องของเจ้าแล้ว... คาเซีย เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องของเจ้าสมควรที่จะได้รับการพักผ่อนแล้วนะ...”

“แต่...”

“ไม่มีแต่... ข้ามีศักดิ์เป็นพี่เขยเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าต้องฟังคำของข้า”องค์ชายเคเซย์ตรัสเสียงอบอุ่น “ไปนอนได้แล้ว ที่รัก”

“กระหม่อมยัง...”

“ไม่ต้องห่วง... ข้าจะดูแลทุกอย่างให้เจ้าเอง.... เมื่อองค์รัชทายาทแห่งเซเรียลเสด็จมารับพระชายาของเจ้า... ข้าจะตามไปดูแลเขาให้ ข้าสัญญา”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”

องค์ชายคาเซียทรงยอมเสด็จเข้าบรรทมโดยดีและมิขัดขืนอะไรอีก เรียกรอยยิ้มให้กับองค์เคเซย์ได้เป็นอย่างดี

“เป็นเด็กดีแบบนี้สิ สมเป็นน้องสะใภ้ของข้า”

+++++++++++++++

ยามสายของวันถัดมา องค์ชายเฮเซียก็ทรงเสด็จมาถึงเซเรียล พร้อมด้วยทหารองครักษ์ฝีมือดีจำนวนสองร้อยนาย

ที่คาดไม่ถึงในการเสด็จมาขององค์รัชทายาทแห่งเซเรียลครั้งนี้คือ... พระองค์พาองค์ชายโซเนล์เสด็จมาด้วย

“เสด็จพี่... คาเซีย”พระเนตรกลมโตช้อนขึ้นมองพระเชษฐาผู้เสียสละของพระองค์

พระเชษฐา... ที่พระองค์มิเคยรู้เลยว่าคอยปกป้อง คุ้มครองพระองค์อยู่เสมอมา ตั้งแต่พระองค์ยังเล็ก จนเติบใหญ่...

“โซเนล์...”องค์คาเซียครางเสียงแผ่วเบา พระเนตรจับจ้องร่างตรงหน้าด้วยความรัก ความเอ็นดู

“คาเซีย น้องจะให้พี่พาพระชายาโซเทเรียไปเซเรียลจริงหรือ”องค์ชายเฮเซียตรัสขัดขึ้น ก่อนที่บนสนทนาของทั้งสองจะเริ่มต้น

“พะยะค่ะ องค์ชาย...”องค์ชายคาเซียกอบกุมพระหัตถ์ของพระชายาแห่งพระองค์เอาไว้หลวมๆ “กระหม่อมขอฝากชายาของกระหม่อมเอาไว้ในการดูแลของเซเรียลด้วยนะพะยะค่ะ”

“น้องจะดูแลพระชายาเป็นอย่างดีพะยะค่ะ เสด็จพี่”องค์ชายโซเนล์เอ่ยรับคำ ก่อนที่องค์ชายรัชทายาทจะทรงตรัสอะไร
องค์ชายคาเซียทรงส่งพระชายาโซเทเรียให้กับพระอนุชา ก่อนที่จะหันมาคุยกับพระเชษฐาด้วยความเบาพระหฤทัย

ครั้นเมื่อพระหัตถ์ขององค์ชายโซเนล์แตะกับองค์โซเนล์ ทั้งสองพระองค์ก็เงยพระพักตร์ สบพระเนตรกัน

ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าในดวงหฤทัย ความรู้สึกที่ไม่สมควรก่อกำเนิดในหทัยส่วนลึกของทั้งสองพระองค์...

องค์ชายคาเซียทรงเหล่พระเนตรมามองอนุชาและชายา ก่อนที่จะทรงลอบยิ้มบางๆ

คงจะได้พบกับคู่ของชีวิตแล้วสินะ... น้องน้อยที่น่ารักของเราทั้งสอง

“ยังไงกระหม่อมก็ขอฝากโซเทเรียเอาไว้ด้วยนะพะยะค่ะ เสด็จพี่”องค์ชายคาเซียตรัสเบาๆ “แล้วก็... ขอฝากพระเชษฐาขององค์ทริสเซย์ด้วยนะพะยะค่ะ”

“อืม... ถ้ามีอะไรที่ทำให้น้องอึดอัด หรือมีอันตราย ขอเพียงน้องแจ้งมา พี่จะมาช่วยน้องทันที คาเซีย...”

“พะยะค่ะ”พระองค์ขานรับเบาๆ “เฟรุย... ฝากพระชายาด้วยนะ”

“เพคะ”

องค์ชายคาเซียทรงโอบกอดร่างของพระชายาหลวมๆ ก่อนที่จะส่งองค์โซเทเรียขึ้นรถม้าพระที่นั่งไป

“ถ้า... เจ้ามีใครในดวงใจ แล้วรักกับเขาคนนั้นไป... จงทำตามที่หัวใจของเจ้าเรียกร้อง โดยไม่ต้องคิดถึงข้า... จำไว้นะ โซเทเรีย”
เสียงกระซิบที่แผ่วเบา แต่ดังก้องในดวงหฤทัยของพระองค์ยิ่งนัก...

องค์ชายผู้สำเร็จราชการทรงยืนส่งรถม้าพระที่นั่งแห่งเซเรียลอยู่ ณ ที่ตรงนั้น จนรถม้าลับสายพระเนตรไป...

“นับจากวันนี้... เราคงจะมิได้เห็นองค์ชายโซเทเรียในพระราชวังแห่งนี้แล้วนะเพคะ องค์ชาย”เนลเปรยขึ้นน้อยๆ

“นั่นสินะ... นับจากวันนี้ โซเทเรีย คงจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป... ข้าหวังว่าพวกเขา... จะยอมรับสายโลหิตของข้าในพระครรภ์ของโซเทเรียเป็นพระราชนัดดาด้วยเถอะ...”

“แน่นอนเพคะ องค์ราชาและองค์ราชินีจะต้องยินดีกับการกำเนิดของสายพระโลหิตของพระองค์”
โซเทเรีย... หวังว่าเจ้าจะมีความสุขนะ... น้องชายที่น่ารักของเรา...

++++++++++++++++

... ไม่มีคำบรรยายใดๆ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2012 00:41:59 โดย midnight »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด