บทที่ 28
ตำนานรักสองราชวงศ์ : วางยา
หลังจากวันที่องค์ราชาแห่งเฟรนเซียเสด็จกลับมายังอาณาจักรของพระองค์ และได้ทรงรับรู้ถึงทายาทที่ก่อกำเนิดนั้น ความวุ่นวายในราชสำนักก็เริ่มขึ้น
การวางกำลังทหารรักษาพระองค์โดยรอบพระตำหนักโพรเทียและพระราชวังแน่นหนามากขึ้น เครื่องเสวยที่ยกมาถวายแต่ละครั้งต้องได้รับการตรวจสอบโดยรอบคอบจากหมอหลวง และการเข้าเฝ้าองค์ทริสเซย์และพระชายาแต่ละครั้งจะต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้กุมอำนาจสูงสุดเสียก่อน
นับวันองค์ชายคาเซียยิ่งรู้สึกว่าพระองค์มีเวลาว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ งานที่ทรงเคยทำก็ถูกดึงออกไปทีละอย่าง สองอย่าง ผ่านมาครึ่งเดือนงานทั้งหมดก็หายจากพระหัตถ์ของพระองค์ไปจนหมดสิ้น
เหล่าขุนนาง เมื่อรู้ว่าพระชายากำลังจะมีรัชทายาท จากเดิมที่เกี่ยงกันทำงาน แต่ในตอนนี้ต่างแย่งงานที่เคยส่งให้พระองค์ทำกลับมาทำเองกันหมดด้วยสีหน้าชื่นบาน ทั้งยังมีการมาบอกพระองค์ด้วยว่า ‘งานแค่นี้สบายมากพะยะค่ะ พระชายา มิจำเป็นต้องถึงพระหัตถ์ของพระชายาหรอก’ แล้ว... ทำไมก่อนหน้านี้ถึงมากองอยู่กับพระองค์ทั้งหมดกันล่ะ
องค์ทริสเซย์ ในเวลานี้มิยอมห่างจากกายของพระชายาเลยแม้แต่น้อย พระองค์ทรงงานในห้องรับรองของตำหนักโพรเทีย โดยมีพระชายาเอนพระวรกายอยู่บนโซฟามิไกลจากพระองค์นักทุก ๆ วัน ไม่ว่าองค์คาเซียจะทรงขยับไปทางไหน พระองค์ก็จะทรงละพระหัตถ์จากงานที่ทรงทำอยู่มาช่วยประคองร่างเล็กเสมอ
สองนางกำนัลคู่ซี้ ก็นั่งอยู่ไม่ไกลจากนายของพวกนาง ทั้งสองช่วยกันเย็บฉลองพระองค์สำหรับสายพระโลหิตที่จะถือกำเนิดมาในอีกไม่ช้า โดยที่ไม่ลืมเย็บให้กับหลานของพวกนางที่เกิดจากเซทด้วย
เรฟและเซทได้รับพระบรมราชานุญาต (แกมพระบัญชา)จากองค์ราชาโดยตรงว่าให้พวกเขาหยุดงานทั้งหมดไปจนกว่าเซทที่ตั้งท้องเจ็ดเดือนจะคลอดทายาท และฟื้นฟูร่างกายจนแข็งแรงดีแล้ว ค่อยกลับมาทำงานใหม่ ถ้ายังต้องการที่จะเป็นองครักษ์ให้กับพระชายาต่อไป
องค์ชายเคเซย์ทรงส่งข่าวมาบอกกับองค์ชายคาเซียว่า องค์ชายโซเทเรียยังแข็งแรงดี พระครรภ์แก่ ใกล้จะประสูติกาลเต็มทีแล้ว ซึ่งจากการคำนวณของพระองค์ก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะองค์โซเทเรียก็ตั้งพระครรภ์มาได้แปดเดือนครึ่งแล้ว อีกไม่นานคงจะได้รู้กันว่าสายโลหิตคนแรกของพระองค์จะเป็นโอรสหรือธิดา
เหล่าสนมทั้งหลายถูกกันออกให้ห่างจากพระชายามากที่สุดเท่าที่เหล่าทหารจะทำได้ พวกนางไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าองค์ทริสเซย์ขณะที่ทรงประทับอยู่กับองค์คาเซียเลยแม้สักครั้ง... สร้างความขัดเคืองพระทัยให้กับพวกพระนางเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็มิสามารถทำอะไรได้ ด้วยเกรงพระราชอำนาจแห่งเจ้าเหนือหัว
เวลาผ่านไปเดือนเศษ งานที่องค์ชายเคยทำอยู่ก็ถูกลิดรอนไปจนหมด ไม่เว้นแม้แต่การเย็บผ้าธรรมดา ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ เจ้าผู้ครองเฟรนเซียทรงโปรดให้องค์คาเซียประทับอยู่นิ่ง ๆ เสียมากกว่า
ด้วยเหตุนี้.... เมื่อผ่านไประยะหนึ่งพระชายาทรงรู้สึกเบื่อในการประทับนิ่ง ๆ บางครั้งพระองค์จึงแอบขยับกายไป มองฎีกาที่องค์ราชาทรงอ่านอยู่ แต่ทุกครั้งที่พระองค์ก็อดที่จะเสนอความคิดเห็นมิได้ จึงทำให้ได้รับสายพระเนตรดุ ๆ จากองค์ทริสเซย์หลายต่อหลายครั้ง
เหตุการณ์ที่องค์ราชันย์และเหล่าขุนนางตื่นตระหนกรองการเหตุการณ์ลอบสังหารเมื่อเดือนก่อนคือตอนที่พระชายาทรงเผลอพลิกพระวรกายที่เอนพิงพระเขนยอยู่จนเกือบร่วงลงมาจากที่ประทับ ทำเอาขวัญของทุกคนในห้องทรงอักษรร่วงไปตาม ๆ กัน
หลังจากเหตุการณ์นั้นองค์ทริสเซย์จึงทรงย้ายตัวพระองค์เองมาประทับที่โซฟาเพื่อให้พระชายาบรรทมหนุนพระเพลา ในขณะที่ทรงงานไปด้วย
เนลเดินถือพระราชสารจากเซเรียลเข้ามาในห้องรับรอง นางมองสารในมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะมอบให้กับนายของนางที่ประทับนอนอยู่
องค์ราชาทรงประคองวรกายของว่าที่เสด็จแม่ขึ้นมาช้า ๆ องค์ชายคาเซียทรงเปิดพระราชสารออกดู ก่อนที่จะทรงยิ้มขึ้นมาอย่างดีพระทัย
ถึง พระชายาคาเซีย
คาเซีย เราส่งสารฉบับนี้มาให้เจ้าเพื่อแจ้งให้เจ้าได้ทราบว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพระชายาโซเทเรียทรงมีพระประสูติกาลแล้ว
บุตรของเจ้าคนแรกเป็นพระโอรส หน้าตาน่าเกลียดน่าชังยิ่งนัก เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเจ้านั้นเห่อหลานคนแรกเป็นอย่างยิ่ง
นามของโอรสเจ้า พระชายาโซเทเรียตั้งให้ว่า คาเซเรีย เห็นว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เจ้าเห็นพ้องด้วยแล้ว
พระชายาและเจ้าชายโซเนล์ฝากเราบอกท่านว่า เมื่อร่างกายของพระชายาแข็งแรงดีแล้วจะเสด็จไปหาเข้าที่เฟรนเซียอย่างแน่นอน
เอาไว้เราจะส่งมาหาเจ้าใหม่นะ น้องสะใภ้
เคเซย์
ปล. พระเชษฐาของเจ้ามองเราได้ทั้งวัน... บอกเขาทีว่าถ้ายังมองอีกเราจะควักลูกตาเขาให้ดู!!
ปล.2 ทริสเซย์ ดูแลชายาน้องดี ๆ ล่ะ น้องสะใภ้พี่เหนื่อยกับน้องมามากแล้ว“ลูกคนแรกของเจ้าเป็นบุรุษ ดีใจด้วยนะ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ตรัสเบาๆด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “แล้วลูกของเราคนแรกจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันนะ”
“อีกสองเดือนครึ่งคงจะทราบแล้วล่ะพะยะค่ะ”พระชายาทรงลูบพระครรภ์ที่นูนโตเบาๆ “ตอนนี้น่าลุ้นเซทเสียมากกว่า อีกไม่เกินหนึ่งเดือนก็จะคลอดแล้วนะพะยะค่ะ”
“นั่นสินะ น่าลุ้นจริงๆ”พระหัตถ์หนาทรงวางบนพระอุทรขององค์คาเซียเบาๆ
องค์คาเซียทรงเอนพระวรกายลงนอนอีกครั้ง พระองค์ทรงรู้สึกมีความสุขไม่น้อยกับการได้รับรู้ถึงการกำเนิดของโอรสองค์แรกของพระองค์
องค์ทริสเซย์ทรงยิ้มบาง ๆ ให้กับชายาของพระองค์ พระหัตถ์ลูบไล้พระครรภ์ของพระชายาเบา ๆ ด้วยความรัก
“ง่วงหรือเปล่าหืม... คาเซีย ไปนอนพักผ่อนในห้องไหม”พระองค์ตรัสถามผู้เป็นดวงหฤทัยของพระองค์อย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ไม่พะยะค่ะ กระหม่อมไม่ง่วง...”เสียงหวานตอบกลับ ขัดกับท่าทางที่แสดงออกยิ่งนัก
พระเนตรหวานปรือปรอยใกล้ปิดลงเต็มที่ ก่อนที่จะบรรทมไปในเวลาถัดมา
“ไหนว่าไม่ง่วงไง”องค์ราชาทรงพึมพำเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มเอ็นดู พระองค์ทรงเอื้อมไปหยิบผ้าแพรผืนบางที่อยู่ไม่ไกลมาคลี่ออก ก่อนที่จะทรงห่มคลุมร่างอวบ “หลับให้สบายนะ ที่รัก”
พระองค์ทรงงานต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยพระทัยที่เปี่ยมสุข พระองค์ทรงหลุบพระเนตรลงมาทอดมองร่างที่ซุกอยู่บนพระเพลาของพระองค์อย่างอ่อนโยน
เหล่าขุนนางต่างแอบมองภาพตรงหน้าด้วยความปลาบปลื้มใจ แม้พระชายาคาเซียจะทรงเป็นบุรุษเพศ แต่ก็มิใช่ปัญหาใหญ่อะไรในการที่พวกเขาจะช่วยกันผลักดันพระองค์ให้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด ด้วยสติปัญญา ยศถาบรรดาศักดิ์ พระเมตตา ความทุ่มเท และทุก ๆ อย่างที่พระชายามีให้กับราษฎรนั้น ไม่อาจที่จะมีใครมาโต้แย้งได้ว่า พระชายามิเหมาะสมกับตำแหน่งพระแม่ของแผ่นดิน
แต่ถึงกระนั้น ขุนนางบางคนที่ส่งบุตรสาวเข้ามาเป็นพระสนมก็รู้สึกไม่ชอบใจกับพระชายาคาเซียนัก ด้วยความที่พวกเขาวาดหวังบรรดาศักดิ์ที่จะได้รับหลังจากที่บุตรีของตนนั้นขึ้นสู่ตำแหน่งอันสูงส่งเอาไว้มาก แต่ความหวังนั้นก็ต้องพังทลายลง เพราะพระองค์
เรลก้าวเข้ามาในห้องรับรองอย่างช้า ๆ นางมองพระพักตร์ขององค์ชายน้อย ๆ ก่อนจะหันไปหาพี่สาวของนาง
“เซทเป็นไงบ้างเรล”เนลเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา... แต่ถึงจะเบาสักเพียงใด ในเมื่อในห้องแห่งนี้นั้นไร้ซึ่งเสียงพูดคุย จึงทำให้ได้ยินกันทั่วหน้า
“เฮลบอกว่าคงจะคลอดก่อนกำหนดล่ะ พี่”เรลตอบกลับด้วยเสียงเบาไม่แพ้กัน “ร่างกายของเซทอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรงดี แต่ได้รับการกระทบกระเทือนจากการปะทะกับผู้ลอบสังหารมาหลายครั้ง แล้วยังมีภาวะความเครียดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งหมดล้วนส่งผลให้มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดทั้งนั้น”
“เหรอ... แต่ก็คงไม่น่าห่วงเท่าไหร่นัก เพราะถึงอย่างไร เซทก็ตั้งท้องได้แปดเดือนแล้ว เหลือเพียงเดือนเดียว เด็กในท้องคงไม่เป็นอันตราย ถ้าเขาจะออกมาลืมตาดูโลกก่อนกำหนด”
“เฮลก็บอกเช่นนั้นเหมือนกัน”เรลพยักหน้ารับ นางเหลือมองนายของนางน้อย ๆ ก่อนจะพูดต่อ “เฮลเขากำลังห่วงพระชายามากกว่า... พระวรกายของพระองค์มิแข็งแรง บาดแผลที่ทรงได้รับ แม้จะหายสนิทดีแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังทรงน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย...”
“เฮลคงไม่มีสิ่งที่ทำให้เป็นกังวลแค่นั้นใช่ไหม”เนลเอ่ยถามเบา ๆ ใบหน้าของนางซีดลงนิด ๆ “อย่าบอกนะว่า...”
“เป็นตามที่พี่คิดนั่นแหละ”เรลเม้มปากแน่นอย่างอดกลั้น
“คนของคาเซียยังมีกังวลใจอะไรอีก... เจ้าบอกข้ามาซิ”องค์ทริสเซย์ที่ทรงฟังมานานตรัสถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา พระองค์ทรงคาดเดาคำตอบที่จะทรงได้รับเอาไว้แล้ว...
“เฮลเกรงว่าถ้าพระชายาทรงได้รับการกระทบกระเทือนอันใดอีกแม้เพียงครั้ง... อาจจะเกิดการสูญเสียได้เพคะ”เรลทูลต่อพระองค์ด้วยเสียงอันเบา แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนในที่นี้ก็ได้ยินกันทั่ว
ผู้คนภายในห้องทรงอักษรต่างพากันนิ่ง ไม่มีใครขยับตัวทำอะไรเลยแม้เพียงสักคน พวกเขาต่างรู้สึกผิดที่ไม่เคยรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยจนกระทั่งพระราชาเสด็จกลับมายังอาณาจักร...
ถ้าในวันนั้นองค์ทริสเซย์มิทรงเสด็จกลับมา... มันจะเป็นอย่างไรกันนะ จะต้องสูญเสียสักเพียงไร ทุกคนคงต้องจมอยู่กับความผิดบาปไปชั่วชีวิตเป็นแน่
“ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดหรืออะไรกันเลยมิใช่หรือ เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขได้”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา
องค์คาเซียที่ทรงบรรทมไปได้พักหนึ่งลืมพระเนตรขึ้นช้า ๆ รอยยิ้มอ่อนโยนถูกคลี่ส่งให้กับทุก ๆ คน
พระหัตถ์เรียวเอื้อมไปแตะพระพักตร์หล่อเหลาแผ่วเบา พระเนตรของทั้งสองพระองค์สบประสานกัน ส่งถ้อยคำหวานอย่างลึกซึ้ง
“ข้าจะปกป้องเจ้าเองนะ คาเซีย...”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พาให้หัวใจดวงน้อยรับรู้ถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนาน “ข้าสัญญะ...”
พระหัตถ์เรียวเลื่อนมาปิดพระโอษฐ์ของนายเหนือหัว องค์ชายคาเซียทรงส่ายพระพักตร์น้อยๆเป็นการปฏิเสธ
“ฝ่าบาททรงเป็นกษัตริย์ คำมั่นสัญญาที่ทรงตรัสนั้นต้องถือครองตราบสิ้นชีวัน และฝ่าบาทก็ทรงเป็นมนุษย์ ทรงมีกิเลสและตัณหาเหมือนทุก ๆ คน”พระชายาทรงตรัสออกมา ขณะที่พระเนตรยังคงจับจ้องพระพักตร์ของเจ้าแผ่นดิน “ฝ่าบาทอย่าทรงสัญญาอะไรกับกระหม่อมจะเป็นการดีเสียกว่า... มิเช่นนั้น ในอนาคต ฝ่าบาทอาจจะทรงมานึกเสียพระทัยที่หลัง ก็จะสายไปเสียแล้วนะพะยะค่ะ”
“ถ้าเจ้าจะโลภขึ้นสักนิด เราจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง คาเซีย”
++++++++++++++++
หลังจากนั้นมาไม่ถึงสามอาทิตย์ เซทก็คลอดบุตรชายคนแรกของเขาออกมา ทารกตัวน้อยเหมือนบิดาราวกับถอดพิมพ์กันออกมา ซึ่งทำให้เซทน้อยใจเล็ก ๆ แต่ก็มิได้เป็นอะไร
บุตรชายคนแรกของเรฟกับเซทนั้น มีนามว่า เซเรล ซึ่งเป็นชื่อที่องค์ราชาทรงพระราชทานให้
หลังจากที่เซเรลเกิดมาได้หนึ่งเดือน องค์คาเซียก็ทรงจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ภายในตำหนักขึ้น เพื่อรับขวัญหลานชายคนแรกของพระองค์
อาหารในงานนี้ องค์ชายและนางกำนัลอีกสี่คนช่วยกันทำ แม้จะทำออกมาได้ไม่หรูหราเทียบเท่ากับที่คนของห้องเครื่องทำ แต่รสชาตินั้นมิได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย
เมื่อถึงเวลาเย็น องค์ทริสเซย์ องค์คาเซีย เซท เรฟ ก็นั่งรวมกันอยู่ในศาลากลางสวนข้างพระตำหนัก
เรฟกับเซทรู้สึกเกร็งไม่น้อยที่มานั่งกับนายเหนือหัวเช่นนี้ แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ ทั้งสองแก้อาการประหม่าด้วยการหันมาเล่นกับเซเนลไปเรื่อย ๆ
งานเลี้ยงเริ่มขึ้น เรล เนล เมร่าและเอลน่าช่วยกันยกเครื่องเสวยออกมากันอย่างไม่ขาดสาย
“ดีใจด้วยอีกครั้งนะ เรฟ เซท”พระชายาทรงยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นเสวยแสดงความยินดี
“ขอให้พวกเจ้ามีความสุขล่ะ”องค์ทริสเซย์ทรงยกแก้วขึ้นเสวยบ้าง
“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”ทั้งสองขายรับพร้อมกัน
นางกำนัลร่างเล็กคนหนึ่งถือเครื่องเสวยมาวางบนโต๊ะ ขณะที่ทั้งสี่กำลังสนทนาพูดคุยกันอยู่ องค์คาเซียทรงหันมาเห็นน้ำแกง จึงทรงตักขึ้น เพื่อเสยวเหมือนดังปกติของพระองค์
“องค์ชายเพคะ อย่าเสวยนะเพคะ”เนลร้องห้ามเสียงดังลั่น...
แต่ก็มิทันเสียแล้ว พระองค์ทรงเสวยน้ำแกงนั้นเข้าไป ก่อนที่จะทรงปล่อยถ้วยลง...
พระหัตถ์เรียวกุมพระครรภ์นูนโต สีพระพักตร์ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำอุ่นๆไหลรินลงมาระหว่างขา
“คาเซีย!!!”
++++++++++++++++++++++++++++
มาแล้วค้า หายไปนานอยู่เหมือนกัน ฮ่า ๆ
ไปเที่ยวมา... ซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากด้วย... เล่นเกมกันหน่อยนะคะ
http://writer.dek-d.com/sea-son/writer/viewlongc.php?id=788628&chapter=36ตอนต่อไป... ยังแต่งไม่จบ...