พิมพ์หน้านี้ - Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: midnight ที่ 09-03-2012 12:51:41

หัวข้อ: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 12:51:41
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
+++++++++++++++++++++

ลงเป็นครั้งแรก ฝากตัวด้วยนะคะ

ปล. แปะกฎถูกไหมอ่า...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 12:52:03
ตำนานรักสองราชวงศ์ : บทนำแห่งตำนาน

เมื่อมีสงครามกำเนิดขึ้น ย่อมมีการสูญเสีย เสียเลือด เสียเนื้อ เสียชีวิต เสียทรัพย์สิน เสียผู้ที่รักไปอย่างไม่มีวันได้หวนกลับ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งลงสู่พื้นพสุธา แต่เพียงไม่นานพวกเขาเหล่านั้นก็จะทำใจได้ และลุกขึ้นยืนใหม่ด้วยใจอันเข้มแข็ง และดำรงชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของผู้ที่จากไป

ใครๆต่างมองว่าเหล่าประชาราษฎร์ต้องเสียสละชีพเพื่อปกป้องราชวงศ์ ปกป้องวังหลวงอันเป็นที่ประทับ อีกทั้งต้องสละกายเป็นสิ่งบำเรอกามรมณ์ ต้องโดนกดขี่ ข่มเหงทั้งกายและใจ ทั้งๆที่บางครั้งคนในราชวงศ์นั้นรังแกพวกเขาราวกับพวกเขาเป็นมดปลวก ขูดรีดภาษีจากพวกเขาเช่นนี้

ต่างคนย่อมต่างความคิด ต่างมุมมอง แต่ทุกคนก็ต้องสูญเสียเหมือนๆกันทั้งนั้น

หลายๆคนคงจะคิดว่า... ทำไมคนที่ดีนั้นมักจะสูญเสียมากกว่าคนอื่นๆ หรือทำไมบ้านเมืองมักจะต้องสูญเสียคนดีๆไปเสมอๆ สิ่งนี้กลายเป็นวัฏจักรไปเสียแล้วกระมัง

แต่จะมีผู้ใดคิดบ้างว่า มิใช่เพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะต้องสูญเสีย จะต้องเสียใจ จะมีใครรู้บ้างไหมว่ามีคนๆนึงต้องสละตัวเองมากเพียงไร ต้องเสียอะไรไปบ้างเพื่อปกป้องบ้านเกิดของเขา เพื่อมารดาที่ให้กำเนิดเขา เพื่อคนหลายคนที่ช่วยดูแลเขามา เพื่อทุกๆคนที่ไม่เคยให้ความรักกับเขา ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาแม้เพียงนิด...

ถ้าใครได้เข้าไปในราชวังแล้วก้าวเดินไปตำหนักหลังสุดของวังนั้นคงจะได้พบใครคนนั้นที่เป็นเบื้องหลังของความสงบสุขในเวลาต่อมา เป็นผู้ให้ที่ไม่เคยได้รับสิ่งใด นับตั้งแต่สูญเสียพระมารดาของตนไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยแรงริษยาของนางในวังหลังเมื่อสองปีก่อน...

ถึงแม้ว่าจะไร้ที่พึ่งพิงทางใจ แต่เขาก็ยังมีจิตใจอันเข้มแข็ง มีปณิธานที่จะปฏิบัติตามคำขอครั้งสุดท้ายของพระมารดาของเขา

“คาเซีย... ลูกรักของแม่ ปกป้องแผ่นดินนี้เอาไว้นะลูก อย่าให้ใครมาทำลายบ้านของเรา ทำลายแผ่นดินของเรานะลูก แม่รักลูกนะ...”
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 12:56:35
บทที่ 1
ตำนานรักสองราชวงศ์
การเสียสละเพื่อแผ่นดินครั้งสุดท้าย...

“ฝ่าบาท แม้สงครามอันน่าสะพรึงกลัวนั้นจะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่บ้านเมืองของเรานั้นเสียหายเป็นจำนวนมากยิ่งนัก และถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่อาณาจักรผู้แพ้สงคราม แต่ถึงกระนั้น เราก็ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการให้กับทางเฟรนเซีย เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับพวกเขาที่ช่วยเหลือเราในการทำศึกครั้งนี้นะพะยะค่ะ”

“เรารู้แล้ว ท่านเสนาขวา เครื่องราชบรรณาการในยามสิ้นสุดสงครามนั้นหาได้ยากยิ่งนัก ท่านคิดเราจะส่งอันใดให้พวกเขาได้กันล่ะ ท่านก็ทราบ เราสูญเสียไปกับสงครามครั้งนีมหาศาลยิ่งนัก”องค์ราชาแห่งเซเรียลทรงตรัสเสียงเครียด พระหัตถ์หนาทรงกำแน่น “แต่ถึงเป็นเช่นนั้น... พ่อต้องขอขอบใจลูกมาก องค์ชายเฮเซีย ที่คิดแผนการอันแยบยล ทำให้เรารอดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นของทางเฟรนเซียได้เช่นนี้”

“มิเป็นไรพะยะค่ะ เสด็จพ่อ”องค์ชายเฮเซียทรงยิ้มจืดจาง ในเมื่อแผนพวกนั้นเป็นแผนที่องค์ชายคาเซียเป็นผู้คิดขึ้นมาแล้วมาบอกเล่าแก่พระองค์ เหมือนเช่นทุกครั้งที่มีการรบ...

“ฝ่าบาท ฝ่าบาท ฝ่าบาทพะยะค่ะ”เสียงของข้าหลวงผู้หนึ่งตะโกนก้องท้องพระโรง ในมือของเขามีสารฉบับหนึ่งถืออยู่ “มี... มีพระราชสารมาจากเฟรนเซียพะยะค่ะ”

“อ่านให้เราฟังสิ เร็วเข้า!!”

ถึง องค์ราชาแห่งเซเรียล

อันเนื่องจากสงครามที่เพิ่งผ่านพ้น ทางเซเรียลต้องส่งเครื่องราชบรรณาการสงครามให้กับทางเฟรนเซียของเรา เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการปกป้องอาณาจักรของท่าน เราทราบดีว่าในภาวะเฉกเช่นนี้ท่านคงมิอาจจะส่งเครื่องบรรณาการมาให้กับเราได้ เราจึงมีข้อเสนอให้กับท่าน

ขอให้ทางเซเรียลส่งราชนิกุลที่มีพระชนมายุ 15 ชันษา มาเป็นเครื่องราชบรรณาการให้แก่เรา หรือ อาชาศึก 100 ตัว ทาสชาย 100 คน ทาสหญิง 100 คน ต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง เครื่องทรง 50 หีบ ทองคำ 50 หีบ ชุดเกราะ 500 ชุด ข้าวสาร 100 เกวียน อาวุธ 100 เกวียน พืชพันธุ์ 200 ต้น

ตามแต่ใจท่านจะประสงค์ที่จะเลือก กำหนดส่งเครื่องราชบรรณาการ 5 วันข้างหน้า

      โคเวีย
ขุนนางฝายขวาแห่งเฟรนเซีย

“ฝ่าบาท!!”องค์ราชินีแห่งเซเรียล ราชินีคู่บัลลังก์ของพระองค์อุทานลั่น “เช่นนี้แล้วเราจะทำเช่นไรดีเพคะ เราจะส่งใครไปกัน”

“เฮ้อ... แล้วเรามีองค์ชายหรือองค์หญิง องค์ใดที่มีอายุ 15 ชันษาบ้างล่ะ”องค์ราชาตรัสเสียงเหนื่อยๆ ทั้งท้องพระโรงที่เงียบกริบเกิดเสียงเซ็งแซ่

“องค์หญิงเซน่า...”

“พระนางมีพระชนมายุ 16 ชันษา เมื่อเดือนก่อน”

“องค์ชายเตเนท”

“พระองค์เพิ่ง 14 ชันษาเองท่าน”

....................................................................
..................................................
................................
.............
......
..

“หมดแล้วล่ะพะยะค่ะ”เสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดอย่างสิ้นหวัง เมื่อเหล่าองค์ชาย องค์หญิงทั้งหลายนั้น มิมีพระองค์ใดเลยที่มีพระชนมายุ 15 ชันษาในเพลานี้

“ฝ่าบาท เราจะทำเช่นไรดีเพคะ”พระหัตถ์เรียวขององค์ราชินีแตะที่พระปรางของพระองค์ด้วยความรู้สึกกังวลพระหฤทัยยิ่งนัก พระเนตรหวานฉายแววหวาดหวั่น “ถ้าเรามิมีเครื่องราชบรรณาการส่งไปให้ทางเฟรนเซีย เซเรียลของเราคงจะ... โอ้ ไม่นะเพคะ”

“ราชินี ท่านก็รู้ว่าเราไม่มีราชนิกุลที่มีพระชนมายุ 15 ชันษาในเพลานี้ จะทำเช่นไรได้ ถึงอย่างไรเราก็ต้องส่งเครื่องบรรณาการให้กับท่านเฟรนเซีย แทนที่ท่านจะมาคิดว่าจะส่งลูกของเราคนใดไป เราควรจะมาคิดดีกว่าว่า เราจะทำอย่างไรกับการที่จะหาเครื่องราชบรรณาการทั้งหลายนั้นให้ทันกำหนดการที่ทางเฟนเซียกำหนดมา เจ้าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกเช่นนี้สิ ปัญหาที่เกิด อย่างไรก็ต้องมีทางที่จะแก้ไข”

“ทูลฝ่าบาท... มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยนะพะยะค่ะ ฝ่าบาท ที่ทางเราจะเตรียมเครื่องราชบรรณาการมากมายเช่นนี้ ให้ทันภายใน 5 วันเช่นนั้น”เสนาคลังทูลขึ้น “เครื่องทรงและชุดเกราะไม่มีทางที่จะหามาได้ในเวลาเพียงแค่นั้นแน่นอนพะยะค่ะ”
เหล่าข้าหลวงทั้งหลายต่างถกประเด็นเครื่องราชบรรณาการกันอย่างเคร่งเครียด แต่องค์ชายเฮเซียกลับทรงเม้มพระโอษฐ์แน่น พระเนตรฉายแววเคร่งเครียด

‘คาเซีย... ปีนี้น้องคงมีอายุ 15 ชันษาพอดีสินะ พี่ควรทำอย่างไรดี ถ้าพี่บอกกับพวกเขาไป น้องจะต้องถูกส่งไปเป็นเครื่องราชบรรณาการให้กับ เฟรนเซียเป็นแน่แท้ อย่างมิต้องคิดให้มากความ แต่แค่เพียงแค่เวลานี้ พี่ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้ทั้งชาติ เซเรียลจะทดแทนบุญคุณที่น้องทำเพื่อปกป้องบ้านเมือง เพื่อความมั่นคงของราชวงศ์อย่างไรหมดแล้ว...’

+++++++++++++++++++++++++++

นางกำนัลขององค์ชายคาเซียได้มาแอบฟังการสนทนาในท้องพระโรงอยู่ที่ข้างหน้าต่างบานใหญ่ เมื่อนางได้รับรู้เกี่ยวกับเครื่องบรรณาการนางก็ตกใจมากและรีบวิ่งกลับไปทูลแก่องค์ชายของนางอย่างเร่งรีบทันที ตามที่องค์ชายได้รับสั่งมาให้นางทำ

“องค์ชายคาเซียเพคะ องค์ชายยยยยยย”นางรีบวิ่งไปยังสวนที่องค์ชายร่างบางของนางประทับอยู่ประจำ ปากของนางร้องเรียกชื่อขององค์ชายอย่างไม่ขาดสาย

“มีอะไรหรือ เรล”เสียงหวานใสขององค์ชายคาเซียตรัสถามพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ “เรียกเราเสียลั่นตำหนักเลย แล้วทำไมเจ้าถึงวิ่งหน้าตาตื่นมาเช่นนี้ล่ะ เรล เจ้าไปได้ข่าวอะไรมา มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ”

“องค์ชายเพคะ ทางเฟรนเซียเรียกเอาเครื่องราชบรรณาการจากเซเรียลของเราเป็นจำนวนมหาศาลเลยเพคะ”นางทูลแก่องค์ชายของนางอย่างเหนื่อยหอบ “ตอนนี้ในท้องพระโรงต่างถกประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างเคร่งเครียดเลยล่ะเพคะ องค์ชาย”

“มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่ทางนั้นจะเรียกเครื่องราชบรรณาการจำนวนมาก เป็นการตอบแทนที่พวกเขาช่วยเราทำศึกสงคราม ไม่ใช่เรื่องแปลกนิ เรล”องค์ชายคาเซียทรงตอบกลับนางกำนัลสาวของตนอย่างอ่อนโยน “แม้จะเป็นในภาวะหลังสงครามเช่นนี้ก็เถอะ เราพึ่งพาเขา เขาย่อมเรียกร้องผลประโยชน์จากเรา ยิ่งมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเรีกร้องเอาจากเรามากเท่านั้น การเมืองย่อมเป็นเช่นนี้แหละ อย่างน้อย เราก็มิได้เสียแผ่นดินให้กับผู้ใดไป นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับเราและประชาชนทั้งหลายแห่งเซเรียล”

“เรื่องมันไม่ใช่แค่นั้นนะเพคะ องค์ชาย ถ้าทางเราไม่ส่งเครื่องราชบรรณาการไป เราก็จะต้องส่งเชื้อพระวงศ์ที่มาพระชนมายุ 15 ชันษาไปแทนเพคะ”เรลทูลต่อทันทีอย่างร้อนใจ

“หืม... ส่งราชนิกุลที่อายุ 15 ชันษาไปแทนเครื่องราชบรรณาการทั้งหมดน่ะหรือ”องค์ชายทรงตรัสทวนคำของนางกำนัลสาวเพื่อความแน่พระทัย

“เพคะองค์ชาย อีกทั้งกำหนดการส่งเครื่องราชบรรณาการก็มีในอีก 5 วันข้างหน้านี้แล้วเพคะ”

“อีก 5 วัน... ไม่มีทางที่จะตระเตรียมเครื่องราชบรรณาการจำนวนมากได้ทันเป็นแน่”

“ถูกแล้วเพคะ ตอนนี้เหล่าขุนนางกำลังถกเถียงเรื่องนี้ในท้องพระโรงกันใหญ่เลยเพคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่า ไม่มีองค์ชายหรือองค์หญิงพระองค์ใดเลยที่มีพระชนมายุ 15 ชันษา ตามที่ทางเฟรนเซียต้องการเลยเพคะ แล้วเวลาในการตระเตรียมเครื่องบรรณาการนั้งก็ช่างน้อยนิดเพคะ”

“ในปีนั้นมีข้าเพียงคนเดียวที่กำเนิดขึ้นมานิ เรล...”องค์ชายคาเซียทรงตรัสด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

“อ๊ะ... องค์ชาย... พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 15 ชันษาในอีกห้าวันข้างหน้า...”เรลพึมพำน้อยๆ ดวงหน้าหวานของนางกำนัลน้อยซีดขาวเมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้

โถ่ สวรรค์ นางมิน่าปากมาก เอาเรื่องนี้มาบอกองค์ชายเลย... ถ้าเป็นเช่นนี้ องค์ชายคง... โอ้ ไม่นะสวรรค์ เพียงแค่ทุกวันนี้ องค์ชายก็ทรงลำบากกับหลายๆเรื่องที่เกิดมากพออยู่แล้ว ได้โปรดเถอะ อย่าให้องค์ชายทรงต้องทุกข์ ทรมานไปมากกว่านี้เลย ให้ความทุกข์ทั้งหลายมาลองที่ข้าแทนเถิด ข้าขออ้อนวอนท่านเทพทั้งหลายแล้ว

รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้กับนางกำนัลของพระองค์ ก่อนที่องค์ชายคาเซียทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า พระเกศาสีนิลคลอเคลียที่พระศอขาวผ่อง พระเนตรสีไพลินฉายแววเศร้ามอง พระโอษฐ์สีชมพูระเรื่อที่มีรอยยิ้มอยู่เป็นนิจ บัดนี้กลับไร้รอยยิ้มเสียแล้ว

เสด็จแม่... ลูกควรจะยอมสละตัวเองเพื่อแผ่นดินสินะพะยะค่ะ ลูกสมควรจะทำเช่นนั้นใช่ไหมพะยะค่ะ แม้ว่าลูกจะต้องเจ็บปวดมากเพียงไรลูกก็ต้องทำมันใช่ไหมพะยะค่ะ เสด็จแม่... ลูกอยากให้พระองค์ทรงมาอยู่ข้างกายลูกตอนนี้เหลือเกิน เสด็จแม่...

พระหัตถ์เรียวทรงกำแน่น ก่อนที่พระองค์จะทรงหันไปมองหน้าซีดเผือดของนางกำนัลร่างเล็กที่อยู่ข้างพระวรกาย

“องค์ชาย...”มือเล็กของนางกำนัลเรลนั้น ยื่นไปกอบกุมพระหัตถ์เรียวขององค์ชายอย่างปลอบโยน “ถึงอย่างไรก็แทบมิมีใครจำองค์ชายได้นะเพคะ ฉะนั้น...”

“ไม่ได้หรอกเรล... เจ้าอย่าลืมสิ เราให้สัญญากับเสด็จแม่เอาไว้แล้วนะว่าจะปกป้องแผ่นดินนี้ จนวาระสุดท้ายของเรา เราจะไม่มีวันผิดคำพูดของตัวเองหรอก”องค์ชายคาเซียก้มมองนางกำนัลคนสนิทของตนด้วยแววพระเนตรมุ่งมั่น “เราจะยอมไปเป็นเครื่องราชบรรณาการนั้นเอง ถ้ามันทำให้ประชาชนและแผ่นดินของเราเป็นสุข”

“องค์ชายคาเซีย...”

“นี่อาจจะเป็นการเสียสละครั้งสุดท้ายของเราแล้วก็ได้... เรล”

สิ้นเสียง ร่างบอบบางขององค์ชายผู้ถูกลืมเลือนก็ก้าวเดินไปยังท้องพระโรงที่ไม่เคยเหยียบเข้าไปนานนับปี พระองค์นั้นจะทรงก้าวไปเพื่อที่จะปกป้องแผ่นดินแม่ ก้าวไปเพื่อจะสละร่างของตนเองไปเป็นเครื่องราชบรรณาการแก่เฟรนเซีย ก้าวไป...เพื่อทุกชีวิตในเซเรียล

ถึงแม้จะต้องเจ็บปวดมากมายเพียงไร ข้าจะไม่มีวันผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเสด็จแม่ จะไม่มีวันหักหลังความไว้วางใจที่พระองค์มอบให้ ถ้าแม้ว่าสิ่งนั้นจะต้องแลกด้วยร่างกายของข้า ชีวิตทั้งชีวิตของข้า หรือแม้แต่จิตวิญญาณของข้าก็ตาม... ข้ายอมที่จะแลกสิ่งเหล่านั้น ยอมสูญเสียทุกอย่าง

แต่ข้าจะไม่มีวันเสียคำสัตย์ที่ไว้ไว้แต่เสด็จไม่เป็นอันขาด

ไม่มีวัน!!!!!


+++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-03-2012 13:08:31
จิ้มเรื่องไหม่

ชอบจังเรื่องนี้ สงสารองค์ชายเเหละ

ทำดีทุกอย่างเเต่ไม่มีใครเห็นค่า การเสียสละครั้งนี้

ทุกคนคงดีด้วยเเน่ๆ โถ่น่าสงสาร

แต่เหมือนทางเฟนเซียจะรู้เลยเนอะว่าอีกห้าวัน องค์ชายจะครบ 15 ปี

ออกแนวบังคับทางอ้อมเลย

ปล. เขาจำชื่อไม่ได้ มันจำลำบากอ่ะ TT
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: kids-me ที่ 09-03-2012 13:16:15
 :laugh: เอามาลงในเล้าด้วยอ่ะ

เราอ่านในเด็กดี

เนื้อเรื่องสนุก  o13

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 13:58:28
:laugh: เอามาลงในเล้าด้วยอ่ะ

เราอ่านในเด็กดี

เนื้อเรื่องสนุก  o13

จำยูสได้ค้า^^

ตอนแรกคิดจะลงพร้อมกันทั้งในเล้าและเด็กดี... แต่กลัวใจกับเวลาตัวเอง ฮ่าๆ
กลัวไม่จบน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ในเด็กดีก็ครึ่งนึงของที่วางแพลนเอาไว้
จะพยายามลงให้เท่ากันไวๆ

ขอบคุณมากค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 09-03-2012 15:56:01
เจิมเรื่องใหม่ค่า :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 16:09:11
บทที่ 2
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เรายอมสละ...เพื่อแผ่นดิน

ร่างขององค์ชายคาเซียมาหยุดอยู่หน้าบานทวารของท้องพระโรงใหญ่ที่มีทหารราชองครักษ์เฝ้าอยู่อย่างขันแข็ง พร้อมกับคนในตำหนักของพระองค์ทั้งหมดรวมตัวพระองค์แล้ว ห้าชีวิต(หนึ่งองค์ชาย สองนางกำนัล สององครักษ์) ที่ในตำหนักของพระองค์มีคนน้อยนิดเพราะพระองค์เป็นองค์ชายที่มิได้มีความสำคัญในราชสำนัก เสด็จแม่ของพระองค์เป็นพระสนมธรรมดามิได้มีอำนาจมากมาย แม้จะเคยได้เป็นคนโปรดของพระราชาแค่ก็มินานนักและพระนางก็มิชอบที่จะชิงดีชิงเด่นกับผู้ใด...

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงบุกมาถึงที่นี่ได้”ราชองครักษ์คนหนึ่งเอ่ยถามพระองค์เสียงแข็ง

“เจ้า!!”ทหารองครักษ์ประจำตัวองค์ชายคาเซียจ้องมองคนเฝ้าประตูด้วยดวงตาแข็งกร้าว “บังอาจ...”

“เซ็ท เจ้าเงียบก่อน”คาเซียหันไปเอ่ยห้าม ก่อนจะทรงหันกลับมาตรัสกับทหารคนนั้น “เรา องค์ชายคาเซีย ขอเข้าเฝ้าพระราชา”

ไม่ว่าเปล่า พระหัตถ์เรียวหยิบป้ายประจำตัวของพระองค์ออกมาให้กับราชองครักษ์ผู้นั้นดูเป็นการยืนยันในตำแหน่งของพระองค์

“อะ. องค์. องค์ชาย”ทหารผู้เฝ้าประตูหน้าซีดไปตามๆกัน เมื่อรู้ถึงตำแหน่งของร่างเล็กตรงหน้า “เชิญเสด็จพะยะค่ะ องค์ชาย”

“ขอบใจเจ้ามาก”องค์ชายคาเซียเสด็จนำหน้าคนของพระองค์ชายอย่างเงียบๆ
เมื่อเสียงบานทวารของท้องพระโรงถูกเปิดออกดังขึ้น เหล่าคนในที่นั้นก็เงียบเสียงลงแล้วหันไปมองผู้มาใหม่กันอย่างงุนงง ใครกันที่มาในเวลาเคร่งเครียดเช่นนี้

“กระหม่อม คาเซีย ถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมองค์ราชินีพะยะค่ะ”เสียงหวานกล่าวขึ้นพร้อมกับโค้งกายลงทำความเคารพ

“เจ้า...”องค์ราชาทรงจ้องดวงหน้าหวานของคนตรงหน้านิ่ง “เซฟีน่า...”

“คาเซีย เจ้ามาได้อย่างไรกัน”เสียงขององค์ชายเฮเซียตรัสขึ้นดังก้องท้องพระโรง “น้องพี่... เจ้า... เจ้ารู้. เจ้ารู้แล้วใช่ไหม!!”

“ถวายบังคมองค์ชายเฮเซียพะยะค่ะ”คาเซียหันไปน้อมกายลงให้ความเคารพแก่องค์ชายใหญ่แห่งเซเรียลอย่างสุภาพ “ทูลองค์ชาย กระหม่อมทราบเรื่องเครื่องราชบรรณาการแล้วพะยะค่ะ”

“น้องคงไม่คิดจะ...”

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เจ้า... คาเซียสินะ เจ้าเป็น...”องค์ราชินีทรงตรัสขัดขึ้นมา พระเนตรของพระนางจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคย ใบหน้าของผู้ที่พระนางรักมาก... เซฟีน่า หนึ่งในพระสนมขององค์ราชาที่พระนางหลงรัก รักเขาแค่ฝ่ายเดียว เมื่อพระนางทรงบอกกล่าวแก่เขาไปไม่นาน... เซฟีน่าก็สิ้นใจลง

“ลูกของข้า... กับเซฟีน่า ใช่ไหม”องค์ราชาตรัสเสียงแผ่วเบา... พระองค์ทรงลืมไปเสียสนิท ลืมไปว่ายังมีลูกคนนี้อยู่บนโลก ลืมไปพร้อมกับการจากไปของสนมที่พระองค์เทิดทูลในจิตใจของนาง...

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”เสียงฮือฮาดังขึ้นกึกก้องท้องพระโรงแห่งนี้

“น้องพี่ เจ้าจะยอมสละตัวเองเป็นเครื่องราชบรรณาการจริงๆน่ะหรือ”เจ้าชายเฮเซียตรัสทะลุปล้องขึ้นมาอย่างไม่สนใจใครทั้งสิ้น “เจ้าจะยอมสละถึงเพียงนั้นเลยหรือ คาเซีย”

“ขอเพียงรักษาแผ่นดินแห่งนี้เอาไว้ได้ ไม่ว่าอะไร กระหม่อมก็สามารถสละได้ทั้งนั้นพะยะ
ค่ะ องค์ชาย จะร่างกาย พรหมจรรย์ ชีวิต หรือแม้จะทั้งวิญญาณก็ตามที”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างมั่นคง หนักแน่น “มีเพียงกระหม่อมเท่านั้นมิใช่หรือพะยะค่ะ ที่มีคุณสมบัติตามที่ทางเฟรนเซียต้องการ...”

“ลูกพ่อ...”องค์ราชาทรงลุกจากบัลลังก์เสด็จลงมาโอบกอดกายที่บอบบางขององค์ชายผู้ถูกลืมอย่างอ่อนโยน “คาเซียลูกพ่อ พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ”

พระอัสสุชลไหลรินจากพระเนตรขององค์ราชินี เมื่อพระนางทอดพระเนตรดวงหน้าที่คล้ายคลึงกลับผู้ที่พระนางทรงแอบรักมากตลอด เหตุใดกันพระนางถึงละเลยเด็กคนนี้ไปได้ เหตุใดพระแม่ของแผ่นดินอย่างพระนางจึงไม่ดูแลเขา แต่กลับเลือนลืมเจ้าชายพระองค์นี้ไป

“ขอได้โปรด ปล่อยกระหม่อมเถิดพะยะค่ะ ฝ่าบาท”คาเซียเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
พระกรที่ทรงกอดรัดร่างเล็กเอาไว้คลายออกช้าๆ พระเนตรคมของผู้เป็นราชาทอดพระเนตรมองดวงหน้าหวานเกินบุรุษของโอรสองค์ที่ห้าของพระองค์...

“ข้าพระองค์ เจ้าชายคาเซีย โอรสในองค์ราชาและพระสนมเซฟีน่า เจ้าชายอันดับที่ห้าแห่งเซเรียล ขอรับหน้าที่เป็นเครื่องราชบรรณาการในครานี้พะยะค่ะ”

“คาเซีย...”

“น้องคิดอะไรอยู่ คาเซีย แค่สิ่งที่น้องทำมาทั้งหมดเพื่อนบ้านเมืองของเรา พี่ก็ไม่รู้จะมีปัญญาทดแทนหมดในกี่ชาติแล้ว... ขอให้พี่ได้ทำหน้าที่พี่บ้าง ได้ปกป้องน้องบ้างเถิด...”องค์ชายเฮเซียตรัสอย่างอ่อนระโหยโรยแรง

“องค์ชาย... ข้าพระองค์ทูลท่านแล้ว ว่าขอเพียงปกป้องแผ่นดินนี้เอาไว้ให้ได้ แม้จะต้องสละอีกกี่อย่าง ข้าพระองค์ก็พร้อมที่จะสละทิ้ง”คาเซียยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวพระองค์เอง “การปกครองแผ่นดินนี้ เพื่อส่วนรวมแล้วจำต้อเสียส่วนน้อยทิ้งไปบ้าง เป็นเรื่องปกติ พระองค์มิเห็นจะต้องทรงคิดอันใดมากมายนักเลย”

“ต่อให้เราห้ามอย่างไร เจ้าคงจะไม่ฟังใช่ไหม คาเซีย”องค์ราชินีที่ทรงเงียบมานานตรัสขึ้นบ้าง พระนางเสด็จมาหยุดตรงหน้าคาเซีย “เจ้าแน่ใจแล้วหรือที่จะไปน่ะ”

“พะยะค่ะ องค์ราชินี”คาเซียตอบรับอย่างหนักแน่น

“เฮ้อ... พ่อคงห้ามลูกไม่ได้สินะ...”สีพระพักตร์ขององค์ราชานั้นซีดเซียว “เอาล่ะ... ท่านเสนาบดีทั้งหลาย ลูกของข้า คาเซีย จะสละตนเองเพื่อไปเป็นเครื่องราชบรรณาการให้กับเรา... ทีนี้พวกท่านก็เลิกถกเถียงเรื่องที่น่าปวดหัวนี้กันได้แล้วนะ”

“ขอบพระทัยองค์ชายคาเซียที่เสียสละ”เหล่าข้าราชการในที่แห่งนั้นน้อมกายลงคำนับร่างบางที่ยืนหันหลังให้พวกเขาอยู่อย่างซาบซึ้ง

“พวกท่านควรจะขอบคุณเสด็จแม่ของข้ามากกว่านะ”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างเลื่อนลอย ดวงเนตรหมายทอดมองผู้คนในท้องพระโรงอย่างหมองเศร้า “ข้ายอมสละเพื่อแผ่นดินนี้ เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนที่ไม่เคยให้อะไรกับข้าเลยแห่งนี้ เพราะคำสัญญาที่ให้กับเสด็จแม่ ตามคำขอสุดท้ายก่อนที่ท่านจะสิ้นลม”

จบคำกล่าว องค์ชายคาเซียก็ทรงเสด็จกลับตำหนักของตนท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นในท้องพระโรงแห่งนี้

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมจะไปยังเฟรนเซียในอีกห้าวันข้างหน้า ขอทูลลา...”

องค์ชายเฮเซียทรงทรุดลงไปกับพื้น พระอัสสุชลหลั่งริน เหล่าเสนาอำมาตย์และเชื้อพระวงศ์ที่อยู่ภายในต่างมององค์ชายอย่างตกตะลึง องค์ชายผู้ที่ได้ชื่อว่าใจแข็งที่สุด กลับทรงร่ำไห้ออกมาท่ามกลางผู้คนเช่นนี้

“ไม่ว่าเมื่อไหร่... ข้าก็ไม่อาจจะที่จะได้ปกป้องเขา ข้า... ข้าเป็นพี่ที่แย่มาก เลว เลว เลวจริงๆ แค่น้องคนเดียวก็ช่วยอะไรไม่เคยได้.....”องค์ชายเฮเซียทรงตัดพ้อ ต่อว่าตัวเองด้วยความเศร้าโศก... มิมีผู้ใดเลยที่จะช่วยปลอบประโลมจิตใจของพระองค์ที่ทรงเจ็บปวดได้... และพระองค์ก็มิอาจที่จะเอื้อนเอ่ยวจีออกมาได้ว่า พระองค์ทรงรักอนุชาของตนอย่างสุดพระทัย....

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บทที่สองมาแล้วค่ะ ฝากเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่2 R.7]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 09-03-2012 16:51:23
โอ้วว ซึ้งโคตรๆ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่2 R.7]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-03-2012 17:05:10
หว่า~~~~~ ถึงขั้นลืมลูกตัวเองเลยหรอ


แต่ประโยคที่ว่า ประเทศนี้ไม่เคยให้อะไรเลย เนี๊ย

มันดูจี๊ดดด ยังไงไม่รู้เนาะ

ไม่รู้ว่าไปแล้วจะอยู่ในฐานะไร จะโดนรังเเกหรือเปล่าเนี๊ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่2 R.7]
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 09-03-2012 17:06:15
ชื่อเดียวกันใช่ใหมเดี๋ยวตามไปอ่านในเด็กดีด้วยดีกว่า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่2 R.7]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 17:17:21
ชื่อเดียวกันใช่ใหมเดี๋ยวตามไปอ่านในเด็กดีด้วยดีกว่า

ในเด็กดีไม่มีชื่อภาษาอังกฤษค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่2 R.7]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2012 19:59:26
บทที่ 3
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เวลาที่เหลือ... การสนทนา

“องค์ชายเพคะ ทรงคิดดีแล้วจริงๆหรือเพคะ ที่จะทรงเสด็จไปเป็นเครื่องราชบรรณาการเช่นนั้นน่ะเพคะ”เรลที่ตามเสด็จมาเอ่ยถามเจ้าชายของนางด้วยคำถามที่คนทั้งตำหนักขององค์ชายคาเซียอยากทราบ

“นั่นสิเพคะ องค์ชาย การไปเช่นนี้ก็มิต่างอะไรจากการไปเป็นเชลยเลยนะเพคะ”เนล นางกำนัลอีกนางขององค์ชายคาเซีย ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของเรลพูดขึ้นบ้าง

“เราคิดดีแล้วล่ะ เรล เนล... แต่ไปครั้งนี้เราคงมิได้เป็นเชลยหรอกกระมัง...”

“องค์ชายทรงหมายความว่า...”เรฟ หนึ่งในองครักษ์ของพระองค์โพรงขึ้นด้วยความตกใจ “เครื่องบรรณาการ... บาทบริจาริกา...”

“อาจจะแย่กว่านั้นก็ได้นะ เรฟ”รอยยิ้มอ่อนโยนยังคงประดับบนพระพักตร์งามอย่างไม่ขาด แม้แววพระเนตรจะทรงฉายแววกังวลเพียงใดก็ตามที

“นางบำเรอ... งั้นรึพะยะค่ะ”เซท องครักษ์อีกคนของพระองค์ถามขึ้นเบาๆ ถ้าเรฟเปรียบดังมือขวาของพระองค์แล้วล่ะก็ เซทก็เปรียบได้ว่าเป็นมือซ้ายของพระองค์... องครักษ์ผู้มีสติปัญญาสูงกว่าใคร ต่างจากเรฟที่มีพละกำลังเหนือว่าคนอื่น

“คิดว่าเช่นนั้นล่ะ เซท”เสียงนุ่มขององค์ชายตอบกลับมาอย่างเศร้าๆ “แต่ก็ยังดีกว่าไปเป็นทาสล่ะนะ...”

“องค์ชาย สายนอกวังของเรารายงานมาว่า พระราชาแห่งเฟรนเซียนั้นมีพระชนมายุ 21 ชันษา ทรงมีพระสนมจำนวน 20 พระองค์ แต่ยังมิมีโอรสหรือพระธิดาแม้เพียงสักองค์พะยะค่ะ”เรฟทูลรายงานตามคำบอกเล่าของสายลับแห่งแสง... เหล่าผู้ภัคดีต่อองค์ชายคาเซีย

“องค์ราชาทริสเซย์แห่งเฟรนเซีย ทรงมีรูปโฉมหล่อเหลาราวเทพบุตร ทรงมีความสามารถเป็นเลิศในด้านการรบ การดนตรี การเมือง ทรงเป็นที่รักของปวงประชาแห่งเฟรนเซีย เหล่าสนมของพระองค์ก็ทรงมีรูปโฉมงามสะคราญ แต่ก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนในวังเพราะพวกนางมักจะชิงดีชิงเด่นกันแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับข้าหลวง นางกำนัลในวังหลังพะยะค่ะ”เซทรับบทต่อจากเรฟ ทูลด้วยน้ำเสียงนิ่งๆตามนิสัยของเขา

“เหรอ...”คาเซียตอบรับเบาๆ “ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเราเลยนะ...”

“องค์ชายเพคะ โอสถที่พระนางเซฟีน่าทรงทิ้งเอาไว้ให้... จะทรงเสวยไหมเพคะ?”เนลเอ่ยถามร่างบอบบาง องค์ชายคาเซียเลิกพระขนงขึ้นน้อยๆ

“ยา... ยาอะไรหรือ?”

“ทูลองค์ชาย โอสถปรับสภาพร่างการให้สามารถตั้งครรภ์ได้ไงเพคะ โอสถประจำตระกูลของพระสนมน่ะเพคะ”เรลชิงเป็นผู้ตอบข้อสงสัยขององค์ชายแทนเนล

“อ่อ... เจ้าก็แอบใส่ในเครื่องเสวยให้เรากินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ... เรล”คาเซียพูดตอบอย่างรู้ทัน “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้อย่างนั้นสิ”

“อ่ะ... เอ่อ... องค์ชาย...”เรลเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก ดวงตากลมโตของนางหลุบลงพื้น “คือว่า... คือ นั่นมัน อ่า... นั่นเป็นคำสั่งของพระสนมน่ะเพคะ”

“เสด็จแม่คงคาดเดาเรื่องเช่นนี้ล่วงหน้าเอาไว้แล้วสินะ”

“เพคะ”

“งั้นก็เอามาเถอะ... จะได้ไม่ต้องคอยแอบใส่ทีละนิดๆอีก”องค์ชายคาเซียยังไม่วายทรงตรัสเหน็บแหนบนางกำนัลคนสนิทของพระองค์

“เพคะ องค์ชาย”เรลรับคำพร้อมรอยยิ้มแหยๆ ก็นางอยู่กับองค์ชายของนางมาตั้งนาน ทำไมจะไม่รู้ว่าองค์ชายไม่พอใจกับสิ่งนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามิใช่ว่าเป็นคำสั่งของพระสนมล่ะก็... ไม่อยากจะคิดถึงมันเลย

ทั้งห้ากลับสู้ตำหนักอย่างเงียบเชียบ เมื่อมาถึงต่างคนต่างแยกย้ายไปอยู่ในที่ของตน... และแน่นอน... เรลก็ไปเอาโอสถมาต้มให้กับองค์ชายของนาง...

องค์ชายคาเซียทรงประทับนิ่งอยู่ในห้องรับแขกในตำหนักของพระองค์ พระเนตรเหม่อมองไปที่พระบัญชรกว้าง อันเป็นเอกลักษณ์ของตำหนักนี้

แม้พระองค์จะทรงตรัสออกไปว่ายอมสละ แต่ใครจะรู้ว่าพระองค์ทรงรู้สึกอย่างไร เพื่อทรงมานั่งคิดว่า อีกไม่นอนพระองค์จะไม่ได้ประทับในตำหนักแห่งนี้ ไม่ได้ออกไปเดินเล่นในสวนที่คุ้นเลย ไม่ได้ทอดพระเนตรเห็นเหล่าเชษฐาและอนุชาของพระองค์ทำราชกิจของตน ไม่ได้แอบออกไปเดินเที่ยวในตลาดอีกต่อไปแล้ว พระองค์ก็ทรงรู้สึกวูบโหวงในพระทัยยิ่งนัก

“องค์ชายเพคะ”เนลเข้ามากุมพระหัตถ์เย็นขององค์ชายอย่างปลอบโยน

“อีกหน่อยเราคงไม่ได้เห็นบรรยากาศเช่นนี้แล้วสินะ เนล ไม่ได้เห็นห้องธรรมดาๆแห่งนี้ ไม่ได้นอนบนเตียงที่เรานอนมาแต่เล็ก ไม่ได้ทอดมองต้นไม้ที่เรากับเสด็จแม่ช่วยกลับปลูก ไม่ได้ไปแอบมองเหล่าทหารฝึกซ้อม...”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา รอยยิ้มเศร้าหมองถูกส่งมาให้นางกำนัลเนลอีกครั้ง “เราอาจจะไม่ได้เห็นพวกเจ้าอีกก็เป็นได้...”

“จะไม่เป็นเช่นนั้นเพคะ องค์ชาย พวกหม่อมฉันก็จะขอติดตามองค์ชายไป ไม่ว่าองค์ชายจะเสด็จไปที่ไหน พวกหม่อมฉันจะขอตามไปปรนนิบัติองค์ชายตลอดไปเพคะ”เนลช้อนสายตามององค์ชายคาเซียแล้วพูดด้วยเสียงมุ่งมั่น

“ใช่พะยะค่ะ องค์ชาย พวกกระหม่อมจะขอตามไปอารักขาองค์ชาย ไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหนก็ตามพะยะค่ะ”เซทพูดขึ้นในขณะที่เดินเข้ามาในห้อง

“ตามใจพวกเจ้าแล้วกัน”คาเซียยิ้มกว้างขึ้นจากปกติเล็กน้อย

“มาแล้วเพคะ องค์ชาย”เสียงของเรลดังขึ้น ก่อนที่ร่างของนางจะเดินเข้ามาพร้อมกับสำรับอาหาร

“อ่าว เรล เจ้าไม่ได้ไปต้มโอสถให้องค์ชายหรอกหรือ??”เนลหันไปมองอย่างงุนงงเมื่อเห็นน้องสาวยกเครื่องเสวยมาแทนโอสถ

“ก่อนที่องค์ชายจะเสวยโอสถ ควรจะเสวยอาหารก่อนสิ ท่านพี่”เรลหันไปพูดกับพี่สาวก่อนที่จะหันกลับมาหาองค์ชายของนาง “เสวยก่อนนะเพคะ องค์ชาย”

“อืม...”

เครื่องเสวยถูกวางลงบนโต๊ะ องค์ชายคาเซียทรงเสวยอาหารอย่างเงียบๆ องครักษ์ที่สองหายตัวออกไปข้างนอกเพื่อทำกิจของคน เรลก็ออกไปเอาโอสถ เหลือเนลที่อยู่รับใช้พระองค์

แต่ก็ยังไม่มีใครได้พูดอะไร เรลก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับโอสถถ้วยย่อม องค์ชายคาเซียทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมามอง แล้วทรงหยุดการเสวยอาหาร

“เอายามาเถอะ เรล เราอิ่มแล้ว”องค์ชายคาเซียตรัสกับนางกำนัลของพระองค์ “เราว่ามันดูถ้วยใหญ่หว่าปกติไปหน่อยนะ...”

“เพคะ องค์ชาย”เรลนำโอสถอุ่นๆมาถวายให้กับองค์ชายคาเซีย “ตามตำราเขียนเอาไว้น่ะเพคะ ว่าต้องเสวยขนาดนี้”

“อืมมมม”องค์ชายคาเซียรับถ้วยโอสถมาเสวยจนหมด พระพักตร์ยู่ลงเล็กน้อย “มันเฝื่อนคอมากเลย... ยาตำรับนี้”

“เพคะ”สองนางกำนัลตอบรับ พวกนางทั้งสองอมยิ้มเล็กๆเมื่อเห็นสีพระพักตร์แหยๆขององค์ชายผู้อ่อนโยน ที่ปกติจะมีแต่รอยยิ้มเล็กๆส่งให้กับทุกคนอยู่เป็นนิจ

“พวกเจ้าว่าที่เฟรนเซียจะเป็นอาณาจักรอย่างไร จะงดงามเหมือนอาณาจักรของเราไหม??”องค์ชายคาเซียตรัสถามความคิดเห็น “เราเคยได้ยินว่าที่นั่นงดงาม มีผืนป่าสีเขียวขจี มีลำธารใสสะอาดไหลผ่านข้างพระราชวัง...”

“หม่อมฉันได้ยินมาว่าที่ตำหนักที่บรรทมของพระราชาแห่งเฟรนเซียนั้น มีดอกทิวลิปและดอกลิลลี่ที่องค์ชายชอบปลูกอยู่รอบตำหนักเลยเพคะ”เรลทูลต่อองค์ชายด้วยเสียงแจ่มใส”

“หม่อมฉันทราบมาว่าตำหนักในราชวังของอาณาจักรเฟรนเซียตั้งเป็นชื่อของดอกไม้ชนิดต่างๆล่ะเพคะ”เนลทูลกับองค์ชายของนางบ้าง “อย่างตำหนักของพระราชา จะมีชื่อว่าตำหนักว่า โพรเทีย เพคะ”

“โพรเทีย... ราชาแห่งดอกไม้สินะ”

“เพคะ ส่วนตำหนักขององค์ราชินีคือออคลิทแต่ตอนนี้ไม่มีตำหนักของพระราชินีแล้ว อันเนื่องมาจากหลายรัชสมัยที่ผ่านนั้น มิมีพระราชาองค์ใดแต่งตั้งราชินีขึ้นมา จึงกลายเป็นตำหนักของพระสนมเอกเพคะ ตำหนักของผู้ที่พระราชารักจะชื่อว่าเรดโรสเพคะ”

“ผู้ที่สร้างคำหนักขึ้นมาคงจะชื่อชอบดอกไม้มากสินะ...”องค์ชายคาเซียตรัสกับนางกำนัล พระหัตถ์เรียวทรงกุมพระอุทรเอาไว้แน่น

“องค์ชาย ทรงเป็นอะไรเพคะ”นางกำนัลทั้งสองตะโกนลั่นตำหนัก ทำให้สององครักษ์รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “องค์ชายเพคะ”

“พา... พาเราไปที่ห้องบรรทม”สิ้นคำสั่ง องครักษ์เรฟก็ช้อนตัวองค์ชายวิ่งไปยังห้องบรรทมอย่างรวดเร็ว

“องค์ชายทรงเป็นอะไรพะยะค่ะ”เซททูลถามองค์ชายอย่างเป็นห่วงทันทีเมื่อเรฟวางพระองค์ลงบนแท่นบรรทม

“ปวด... เราปวดท้อง”องค์ชายคาเซียทรงกุมพระอุทรไว้แน่น วรกายบางบิดไปมาอย่างทรมาน

“ผลข้างเคียงของยา...”เรลอุทานขึ้นเมื่อนางนึกขึ้นมาได้ “ขออภัยเพคะองค์ชาย หม่อมฉันน่าจะทูลพระองค์ก่อน หม่อมฉันสมควรตาย”

“ออกไป”สุรเสียงตรัสออกมาแผ่วเบา แต่ทุกคนก็ได้ยินกันอย่างทั่วถึง “ออกไปก่อน ถ้าเราไม่อนุญาต ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”

“เพคะ/พะยะค่ะ องค์ชาย”

ทั้งสี่สลายตัวออกจากห้องบรรทมไปอย่างรวดเร็ว ตามดำรัสขององค์ชายที่พวกเขาเทิดทูล
++++++++++++++++++++++++

^^ บทที่สามค่ะ
ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะคะ พยายามตรวจคำผิดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่ามีหลุดรอดสายตาเราไปไหม

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-03-2012 20:34:42
ว้าว นายเอกสามารถท้องได้ สนุกแน่งานนี้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 09-03-2012 22:35:25
น่าติดตามอะครับ   เนื้อเรื่องตอนแรกโดนแล้ว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 09-03-2012 23:03:59
ลุ้นตอนต่อไปค่ะ สนุกดีค่ะ :man1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 09-03-2012 23:10:41
รออ่านต่อ O O
นายเอกท้องได้  o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-03-2012 23:41:01
อยากเห็นราชาเมืองนู้น จะหล่อสักเเค่ไหนเน้อ

แล้วองค์ชายเราไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนี้ เขาจะเอาทำเมียหรอ

ก็มีเมีย (ผญ) ตั้ง 20 คน สุดยอดดดดดดดมากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 09-03-2012 23:55:57
อ่านแล้วน่าสนใจค่า
ชอบที่มีแนวการเมืองเข้ามาแจมด้วย ^^

บวกโล้ด
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 10-03-2012 00:00:49
ชอบเนื้อเรื่องแบบนี้จัง มาต่อบ่อยๆนะครับ รอติดตามอยู่
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 10-03-2012 00:16:52
ชอบมากเลยค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 10-03-2012 00:28:04
เรื่องนี้ไม่ว่าชายรึหญิงก็เป็นสนมได้รึป่าว สงสัยราชินีผู้ชายรึผู้หญิงถึงแอบรักแม่ของคาเซีย :pig4: ติดตาม
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ UP ตอนที่ 3 ตามน้ำ (29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-03-2012 01:06:33
ท้องได้ด้วยดีๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-03-2012 05:55:02
องค์ชายคาเซียท้องได้ด้วย น่าลุ้นอะเจอกันครั้งแรกจะเป็นงัยนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-03-2012 06:18:49
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆ 

 :mc4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่3 R.12]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-03-2012 10:31:20
แอร๊ยยย ชอบมากเลยค่า  อิอิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2012 11:16:17
บทที่ 4
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เวลาที่เหลือ... การเตรียมการเพื่อ...

คาเซียนอนบิดกายอย่างทรมานบนแท่นบรรทมนุ่ม สีพระพักตร์ของพระองค์บิดเบี้ยว พระหัตถ์เรียวดึงทิ้งผ้าปูแท่นบรรทม พระองค์ทรงเม้มพระโอษฐ์แน่น

“อึ๊... อ๊ะ... ปวด อ๊า.........”องค์ชายคาเซียครางออกมาอย่างทุกข์ทรมาน น้ำพระเนตรไหลซึมออกมาจากหางตาของพระองค์อย่างสุดกลั้น

ความรู้สึกของพระองค์ในตอนนี้นั้น ราวกับว่ามีสิ่งใดมากดทับภายในพระอุทรของพระองค์ อีกทั้งยังทรงรู้สึกเหมือนมีสิ่งใดเคลื่อนไหวในกายอยู่ตลอดเวลา

องค์ชายคาเซียนอนบิดกายอยู่สักพัก พระองค์ก็ทรงรู้สึกว่ามีมืออันอบอุ่นของใครสักคนมาแตะที่ท้องของเขา

“เสด็จแม่...”คาเซียมองคนตรงหย้าอย่างตกตะลึง เสียงหวานเอ่ยเรียกคนตรงหน้า

“ไม่เป็นไรนะ ลูกรักของแม่ ไม่ปวดแล้วนะลูก”รอยยิ้มอันอ่อนโยนของผู้เป็นมารดาถูกส่งให้ร่างเล็กที่นอนอยู่ด้วยความรัก

“เสด็จแม่... ทรงมาได้อย่างไรพะยะค่ะ พระองค์ทรง...”

“แม่อยู่กับลูกเสมอจ๊ะ ลูกรักของแม่ แม่ไม่เคยห่างลูกไปไหน และไม่มีวันที่จะทิ้งลูกไป”

“เสด็จแม่...”

“แม่อยู่ในจิตใจของลูกเสมอ คาเซีย พักผ่อนเถอะ ลูกรัก... ลูกคงจะต้องเหนื่อยอีกนาน”
พระนางเซฟีน่าทรงจุมพิตหน้าผากที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของโอรถของพระนางแผ่วเบา คาเซียปิดตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสงบ

“แม้อาจจะต้องเหนื่อยยากไปบ้าง เจ็บปวดไปบ้าง อดทนไว้นะลูก เพราะลูก จะนำพาความสงบสุขสู่อาณาจักรของเรา... ตลอดกาล จำไว้นะ คาเซีย แม่จะอยู่กับลูกตลอดเวลา”
สิ้นเสียงของพระนางคาเซีย วรกายของของพระนางก็หายไป...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“องค์ชายจะเป็นอย่างไรบ้างนะ”เนลเอ่ยกับน้องสาวและสององครักษ์อย่างเป็นกังวล “องค์ชายทรงดูเจ็บปวดมากจากผลข้างเคียงของยานั่น...”

“ข้าก็ไม่รู้ เนล หวังว่าองค์ชายจะทรงหายโดยไว”เรลตอบกลับพี่สาวของนางอย่างเป็นกังวลไม่แพ้กัน

“ข้าว่าแทนที่พวกเจ้าสองคนจะมานั่งห่วงอยู่แบบนี้ เอาเวลาไปตัดฉลองพระองค์สวยๆให้องค์ชายสักชุดสิ อีกสามวันองค์ชายก็ทรงจะเสด็จไปต่างเมืองแล้ว จะได้ทรงมีฉลองพระองค์ชุดใหม่เอาไว้สวมใส่อย่างสมเกียรติ”เรฟหันมาพูดกับหญิงสองนางในห้องโถงอย่างเล่นๆ ก่อนจะหันกับมาเล่นหมากรุกกับเซทต่อ

“อ๊ะ จริงด้วย ขอบใจมาก เรฟ”เนลปรบมือเสียงดัง ก่อนที่นางกับน้องสาวจะวิ่งไปหอบหิ้วผ้ามากมายจากคลัง (ที่พวกนางแอบสะสมเก็บเอาไว้) มาเลือกกันอย่างหน้าชื่นตาบาน

“ใช้ผ้าผืนนี้ดีไหม เนื้อนุ่ม ลายดูเรียบๆ แต่หรูหรา”เนลถามความเห็นเรล ในมือของนางถือผ้าสีน้ำเงินเนื้อดีอยู่ผืนหนึ่ง

“ข้าว่าผืนนี้ก็ดีนะ เนื้อไม่หนามาก ใส่แล้วสบาย...”เรลหยิบผ้าอีกผืนหนึ่งขึ้นมาแล้วออกความเห็น

“ข้าว่าผืนนี้”

“แต่ข้าว่าผืนนี้นะ เนล”

พวกนางทั้งสองเถียงกันเอาเป็นเอาตาย เสียงที่ใช้ถกเถียงกันนั้นจากเบาๆเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดังลั่นตำหนัก

“หยุด!!”เรฟตะโกนหยุดการถกเลียงของนางกำนัล ก่อนที่จะมีอะไรแย่ๆเกิดขึ้ย “พวกเจ้ากำลังรบกวนองค์ชายอยู่นะ เรล เนล”

นางกำนัลทั้งสองเงียบกริบทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น แต่ดวงตาของพวกนางก็จ้องกันอย่างกินเลือดกินเนื้อ ไม่มีใครยอมใคร

“ถ้าเลือกไม่ได้ก็ตัดไปทั้งสองผืนเลยสิ”เซทพูดขึ้นบ้าง หลังจากเงียบอยู่นาน “องค์ชายคงไม่ใส่ฉลองพระองค์เพียงชุดเดียวในทุกๆวันหรอก”

“จริงด้วยยยยยย”

พวกนางทั้งสองต่างพากันตัดฉลองพระองค์ให้กับองค์ชายคาเซียอย่างสนุกสนาน ด้วยความที่พวกนางนั้นเป็นคนที่คอยตัดฉลองพระองค์ให้กับองค์ชายอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาที่ว่าไม่ทราบถึงขนาดกายขององค์ชายที่... ไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก...

ผ่านไปสามชั่วโมง...

องค์ชายคาเซียทรงตื่นจากบรรทมแล้วทรงเสด็จออกจากห้องบรรทมอย่างเงียบๆ นางกำนัลน้อยทั้งสองต่างวางของที่อยู่ในมือแล้ววิ่งเข้าไปหานายของตน

“องค์ชาย เป็นอย่างไรบ้างเพคะ”เรลเอ่ยถามอย่างร้อนรน

“เราไม่เป็นอะไรหรอก เรล ร่างกายมันปรับตัวนิดหน่อย... เท่านั้นเอง”

“พระโอสถนั่นไม่มีผลข้างเคียงอะไรไหมเพคะ”เนลเอ่ยถามองค์ชายขึ้นมาบ้าง

“นอกจากอาการปวดท้องแล้ว เราไม่ได้รู้สึกอะไรอื่นอีก ไม่ต้องกังวลใจหรอก”

“เพคะ องค์ชาย”นางกำนัลทั้งสองขานรับคำแล้วไม่ถามอะไรต่ออีกเลย เพราะพวกนางรู้นิสัยขององค์ชายของนางดีกว่าจะไม่พอใจมาก ถ้ามีใครมาเซ้าซี้พระองค์

“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่น่ะ เนล เรล”องค์ชายคาเซียทรงตรัสถามขึ้นเมื่อพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นกองผ้าจำนวนหนึ่งกองอยู่บนพื้นตรงหน้าพระองค์

“พวกหม่อมฉันกำลังเย็บฉลองพระองค์ชุดใหม่ให้องค์ชายไงเพคะ”เรลเอ่ยตอบองค์ชายเสียงใส

“องค์ชายทรงต้องการชุดแบบไหนเป็นพิเศษไหมเพคะ”เนลเอ่ยถามขึ้นต่อ “หม่อมฉันกับน้องจะได้เย็บถวายให้พระองค์ไงเพคะ”

“อ่อ... ชุดปกตินี่ก็ดีแล้วล่ะ เรล เนล เราขอบใจพวกเจ้ามากนะ”รอยยิ้มอ่อนโยนอันเป็นเอกลักษณ์ขององค์ชายคาเซียถูกคลี่ขึ้นบนพระพักตร์ของพระองค์ “พวกเจ้าทำงานกันต่อไปเถอะ เราจะไปเดินเล่นสักหน่อย”

“ตอนนี้ยามหนึ่งแล้ว... ทรงเสด็จกลับมาก่อนยามสองนะเพคะ องค์ชาย”
องค์ชายคาเซียทรงผงกหัวรับก่อนจะทรงเสด็จออกนอกตำหนักไป

“องค์ชายจะทรงไปไหนหรือพะยะค่ะ”เรฟเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นองค์ชายเสด็จออกนอกตำหนักมา “ยามหนึ่งแล้วนะพะยะค่ะ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว...”

“เราจะไปเยี่ยมเสด็จแม่ก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสได้ไปอีก...”พระเนตรหวานฉายแววเศร้าหมอง “จริงสิ เรฟ เซท เราขอถามอะไรเจ้าหน่อยได้ไหม”

“พะยะค่ะ องค์ชาย ถ้ากระหม่อมสามารถตอบองค์ชายได้ กระหม่อมจะตอบพระองค์”เรฟรับคำขององค์ชายทันที เซทที่นั่งมองตารมหมากรุกอยู่ก็หันมามองพระองค์ รอที่จะฟังคำตรัสอย่างตั้งใจ

“ตอนที่พวกเจ้ามีอะไรกัน... อ่า... เวลารับเข้าไป... มันเจ็บมากไหม?”พระปรางของพระองค์ขึ้นสีแดงระเรื่อ เมื่อเอ่ยถามคำถามที่น่าอายนี้ออกมา “เราไม่ได้อยากละลาบละล้วงเรื่องของพวกเจ้าหรอกนะ... แค่เราอยากรู้นิดหน่อยน่ะ... จะได้ทำใจเผื่อๆเอาไว้บ้าง”

“อ่า... เรื่องนี้คงต้องถามเซทล่ะพะยะค่ะ องค์ชาย ข้าพระองค์มิใช่ฝ่ายรับซะด้วยสิ...”เรฟยิ้มแห้งๆให้กับองค์ชาย ก่อนจะหันไปสบตากับเซท... คนรักของเขา

“ทูลองค์ชาย ถ้าเป็นครั้งแรกล่ะก็... เจ็บมากพะยะค่ะ... เจ็บราวกับร่างกายถูกผ่าเป็นสองซีก เวลาฝ่ายตรงข้ามขยับจะแสบมากพะยะค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้ว ในการร่วมกายกันครั้งแรก ช่องทางของผู้รับนั้นมักจะฉีกขาด... ถ้านานเข้าหน่อยร่างกายจะปรับตัวให้รองรับได้เองน่ะพะยะค่ะ... แต่เวลาถูกสอดเข้ามาแรกๆของทุกครั้ง... ก็จะรู้สึกเจ็บบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก”เซทตอบองค์ชายเสียงสั่นๆ ดวงหน้าขาวเนียนที่ตีหน้าเฉยเป็นนิจ ตอนนี้ขึ้นสีแดงก่ำอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน “แล้วก็ขึ้นอยู่กับแรงที่ฝ่ายตรงข้ามกระทำต่อเราด้วยน่ะพะยะค่ะ ถ้าแรงมากๆก็เจ็บมาก... อ่า... ถ้าฝ่ายนั้นเป็นเหมือนกับเรฟ... ฝ่าบาทคงต้องเตรียมพระทัยไว้หน่อยล่ะพะยะค่ะ เพราะกระหม่อมต้องเสียเลือดเกือบทุกครั้ง เวลาที่ร่วมกิจกามกัน...”

“เอ่อ... ขอบใจพวกเจ้ามากนะ”องค์ชายคาเซียทรงตัดบท แล้วหันวรกายเสด็จออกไปอย่างรวดเร็ว

“จริงๆแล้วข้า... ยังไม่ได้บอกพระองค์เลยว่าเมื่อน้ำกามของเจ้าหลั่งเข้ามาในกายแล้วมันรู้สึกมนๆในช่องท้องมากแค่ไหน”

“ไม่ทันแล้วล่ะ... เซท นี่ องค์ชายให้เจ้าดื่มแน่ะ”

“ข้าไม่ได้อยากท้องนะ!!”

สุดท้ายแล้ว... ยาถ้วยนั้นก็ถูกกรอกลงไปในท้องของเซทด้วยฝีมือของคนรักของเขาเอง... เรฟ

“ถ้าข้าท้องเจ้าต้องอยู่เฝ้าเวรยามให้องค์ชายไปคนเดียวเลยนะ เรฟ!!!!!”

++++++++++++++++++++++++++

บทที่สี่ค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-03-2012 11:39:36
เขินแทนองค์ชายคาเซียเลยอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 10-03-2012 11:57:33
อุบ๊ะ!! คิคิ สงสัยเซทจะท้องเป็นเพื่อนองค์ชายแน่เลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 10-03-2012 12:11:23
แวะมาติดตามเรื่องนี้Q(*-*๐)// 
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-03-2012 14:02:04
555+ เซท จะท้องป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2012 14:08:31
บทที่5
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เริ่มต้นการเดินทาง

พระองค์ทรงเสด็จไปตามทาง มุ่งสู่สุสานหลวง อันเป็นที่ฝังพระศพของเชื้อพระวงศ์และเหล่าสนมทั้งหลายเอาไว้

ทำไมพระองค์ถึงมาที่นี่อย่างนั้นหรือ??

แน่สิ อีกสองวันพระองค์ก็จะต้องเดินทางไปยังเฟรนเซียแล้วนิ อีกหน่อยพระองค์คงมิได้มาเยี่ยมเสด็จแม่ของพระองค์ที่ทรงบรรทมอย่างสงบในสุสานแห่งนี้อีกแล้ว

“เสด็จแม่พะยะค่ะ”องค์ชายทรงคุกเข่าลงหน้าหลุมฝังพระศพของพระมารดาแห่งพระองค์อย่างนุ่มนวล “อีกสองราตรี ลูกก็ต้องไปแล้วนะ พะยะค่ะ เสด็จแม่ ลูกอาจจะไม่ได้มาเยี่ยมพระองค์บ่อยๆเฉกเช่นเมื่อก่อนแล้ว... เสด็จแม่ต้องทรงช่วยเป็นกำลังให้ลูกด้วยนะพะยะค่ะ... จริงสิ ยาที่เสด็จแม่ทรงทิ้งเอาไว้ให้ลูก ลูกได้ดื่มมันแล้วนะพะยะค่ะ...”

“ลูกกลัวเหลือเกินพะยะค่ะ เสด็จแม่ ร่างกายของลูกนั้นมิได้แข็งแรงดั่งองค์ชายองค์อื่นๆ พละกำลังก็มิได้มีเหนือกว่าเหล่าองค์หญิงมากนัก ลูกเกรงเหลือเกินว่าเมื่อไปที่นั่นแล้ว... ลูกจะถูกข่มเหงราวกับสัตว์”น้ำพระเนตรหยดลงบนพื้นดินอย่างสุดจะกลั้น พระโอษฐ์บางเม้มเข้าหากัน... “ลูกกลัว... กลัวการกระทำอันป่าเถื่อนยามร่วมเตียงกับผู้อื่น... ลูกเคยเห็นองค์ชายสามทรงร่วมสวาทกับพระสนมของพระองค์เอง... มันช่างรุนแรงและหยาบโล้นยิ่งนัก สัมผัสเหล่านั้นราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายน้ำสัตว์ตัวน้อยที่ไร้ทางสู้ สีหน้าของหญิงสาวผู้นั้นแลดูเจ็บปวดเหลือเกินพะยะค่ะ เสด็จแม่ โลหิตสำแดงก่ำเลอะเปรอะเปื้อนเป็นหย่อมบนแท่นบรรทมนั้น เมื่อครู่ เซทก็บอกลูกว่า เมื่อทำกิจกรรมเช่นนั้นแล้ว... จะเจ็บปวดยิ่งนัก”พระหัตถ์เรียวลูบไล้บนหญ้านุ่มที่ขึ้นปกคลุมหลุมฝังพระศพของพระมารดาแห่งพระองค์ไว้ “ลูกควรทำเช่นไรดี เสด็จแม่ ร่างกายของลูกจะทานรับความสัมพันธ์ทางกายกับผู้อื่นได้สักเพียงไร ยิ่งเมื่อคนผู้นั้นจะต้องรานรุกเข้ามายังกายของลูก... เสด็จแม่...”

“คาเซีย ลูกรักของแม่”ร่างโปรงแสงของพระมารดาปรากฏขึ้นตรงหน้าองค์ชายห้า คาเซียเงยพระพักตร์ขึ้นสบพระเนตรกับพระนาง “แม่อยู่ข้างลูกเสมอนะ คาเซีย จำเอาไว้ ในภายภาคหน้านี้ ลูกจะต้องยิ่งใหญ่ ลูกจะต้องเป็นพระราชินีแห่งแผ่นดินเฟรนเซีย ลูกจะได้เป็นพระมารดาแห่งโอรสและธิดาทั้งห้าขององค์ราชา ผู้จะครองบัลลังก์อันทรงเกียรติ์แห่งเฟรนเซีย”

“เสด็จแม่... ลูก”องค์ชายคาเซียทรงครางเสียแผ่วเบา น้ำพระเนตรไหลอาบพระปรางอย่างสุดกลั้น “ลูกจะเป็นอย่างไรต่อไปหรือพะยะค่ะ...”

“คาเซีย ลูกแม่...  แม้ลูกจะต้องเจ็บปวดและทรมาน แต่ลูกจะต้องทนมันให้ได้นะ คาเซีย ลูกจะต้องทนมันให้ได้ เพื่อความมั่นคงของอาณาจักรเซเรียล... เพื่ออนาคตของลูกเอง... ลูกจะต้องผ่านมันไปให้ได้”

“พะยะค่ะ... เสด็จแม่”องค์ชายคาเซียทรงตรัสรับคำพระมารดาอย่างกล้ำกลืน นัยน์พระเนตรของพระองค์นั้นฉายแววเศร้าหมอง

“ลูกคงทุกข์ใจมากสินะ คาเซีย”พระนางเซฟีน่าทรงตรัสถามโอรสของพระองค์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมื่อพระนางทอดพระเนตรเห็นถึงความทุกข์ขององค์ชาย “แม่ขอโทษนะลูก ที่ไม่ได้คอยอยู่ปลอบโยนลูก ไม่ได้คอยปกป้องลูกเหมือนกับคนอื่นๆ คาเซีย ลูกเติมโตขึ้นมาได้อย่างเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง อีกทั้งในขณะเดียวกันลูกก็อ่อนโยน แม่ภูมิใจในตัวลูกมานะ ลูกรัก”

“พะยะค่ะ เสด็จแม่”องค์ชายคาเซียทรงคลี่ยิ้มบาง “ลูกก็ภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นโอรสของพระองค์พะยะค่ะ เสด็จแม่”

“เอาล่ะ คาเซีย ลูกไปพักผ่อนเถอะ อีกไม่นานลูกก็ต้องเดินทางไปยังเฟรนเซียแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ลูกแม่”จบพระดำรัส ร่างของพระนางเซฟีน่าก็จางหายไป “แม่อยู่ข้างลูกเสมอ คาเซีย”

ร่างบอบบางขององค์ชายคาเซียทรงลุกขึ้นแล้วหันกายเสด็จกลับตำหนักของพระองค์อย่างเงียบๆ วรกายบางสั่นเทาเล็กๆด้วยความหนาวเย็นของลมยามกลางคืนที่พัดมาบาดผิวของพระองค์

“องค์ชาย”องครักษ์ทั้งสองผุดลุกขึ้นกันทันที เมื่อเห็นองค์ชายของพวกตนเสด็จกลับมาถึงตำหนักอย่างปลอดภัย “ทรงเป็นอย่างไรบ้างพะยะค่ะ องค์ชาย”

“เราไม่เป็นไรหรอก เรฟ เซท วางใจเถอะ เราจะไปพักผ่อนแล้ว”

“พะยะค่ะ”

องค์ชายห้าแห่งเซเรียลทรงเสด็จเข้าตำหนักของตนไป นางกำนัลทั้งสองน้อมกายคำนับพระองค์ ก่อนจะหันไปนั่งเย็บฉลองพระองค์กันต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สามวันแห่งอิสรภาพผ่านไปอย่างว่องไว ในที่สุดวันที่องค์ชายผู้ทรงเป็นเบื้องหลังแห่งความสำเร็จในกิจการงานต่างๆในเซเรียล จะต้องเสด็จจากแผ่นดินแม่ไป

รุ่งเช้าแห่งความวุ่นวายจึงมาถึง เมื่อบุคคลทั้งห้าผู้อยู่ในตำหนักต่างยังเตรียมของที่จะย้ายถิ่นฐานไปต่างเมืองไม่เสร็จกัน

“เรล ชุดนี้ด้วย ชุดนั้นด้วย เอานั่นไปด้วยซิ โน่นด้วย เร็วเข้า”เนลชี้ๆให้น้องสาวหยิบของที่ยังไม่ได้เก็บเข้าหีบหลายชิ้นมาให้นางที่กำลังจัดหีบของพวกนางเอง

องค์ชายคาเซียทรงเสด็จออกมาจากห้องบรรทมอย่างเงียบๆ ทรงทอดพระเนตรความวุ่นวายในตำหนักของพระองค์อย่างอ่อนพระทัย ก่อนจะทรงเสด็จไปเก็บของบางส่วนที่ยังเหลือวางอยู่ภายนอกหีบลงที่เสีย ก่อนที่จะทรงลากหีบใบใหญ่ออกมาจากห้องบรรทมอย่างทุลักทุเล เรฟที่หันมาเห็นพระองค์ทรงลากหีบออกมาก็วางของในมือลง(จริงๆแล้วคือโยนไปให้เซท)แล้ววิ่งมาอุ้มหีบของพระองค์ไปอย่างรวดเร็ว

“ให้เราช่วยอะไรพวกเจ้าไหม เรฟ เซท เนล เรล”องค์ชายทรงตรัสถามข้าราชบริพารในอาณัติของพระองค์อย่างอ่อนโยน “เราเตรียมของเราเสร็จแล้ว...”

“ไม่เป็นไรเพคะ/พะยะค่ะ องค์ชาย พวกเราเก็บของกันใกล้จะเรียบร้อยแล้ว”ทั้งสี่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วและพร้อมเพรียง ก่อนที่จะหันไปจัดเก็บของต่างๆด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่าตัว

ของที่เคยวางอยู่ในตำหนักมากมายถูกเก็บลงหีบทั้งหมด จนบัดนี้ ของต่างๆภายในตำหนักที่เป็นขององค์ชายคาเซียนั้นไม่เหลือไว้ให้ดูเป็นของต่างหน้าแม้เพียงชิ้นเดียว

“เอาล่ะ... พวกเราไปกันเถอะ ต้องไปให้ถึงเฟรนเซียก่อนค่ำนะ”องค์ชายคาเซียทรงลุกขึ้นจากที่ประทับเมื่อเหล่าข้ารับใช้ของพระองค์จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทหารจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นทหารในสังกัดของพระองค์เอง(เด็กกำพร้าที่พระองค์ช่วยเหลือเอาไว้ แล้วฝึกให้เป็นทหาร จัดตั้งเป็นกองทัพส่วนพระองค์ ไม่ใหญ่ แต่มีฝีมือมาก และมีความจงรักภัคดีอย่างหาที่เปรียบมิได้) ก้าวเข้ามาในตำหนักของพระองค์ตามคำสั่งที่ทรงถ่ายทอดออกไป พวกเขาเหล่านั้นมาช่วยกันยกหีบห้าใบที่เก็บ(ยัด)ใส่ของเอาไว้จนแน่นไปขึ้นรถม้าที่มาจอดเทียบหน้าตำหนักอย่างสบายๆ

“ลาก่อน ตำหนักของพวกเรา”เสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นช่างแผ่วเบา องค์ชายห้า นางกำนัลทั้งสอง รวมทั้งสององครักษ์ต่างหันไปมองสถานที่ ที่พวกเขาอยู่ร่วมกันมาตลอดสิบปีอย่างอาวรณ์

เรฟกับเซทขึ้นไปยังที่บังคับรถม้า เรลกับเนลเปิดประตูรถม้าคันงามให้องค์ชายของพวกนางเสด็จขึ้นไปก่อน พวกนางจึงค่อยตามขึ้นไป เมื่อทุกคนประจำที่แล้วสารถีจำเป็นทั้งสองจึงบังคับรถม้าให้ออกตัวไปอย่างสบายๆ เซทส่งสัญญาณให้กับกองทัพแห่งองค์ชายคาเซียว่าได้ออกเดินทางแล้ว ให้ไปสมทบกันที่หน้าประตูเมือง...
ทุกคนคงสงสัยสินะ ว่าเหตุใดถึงมิมีใครมาส่งเสด็จองค์ชายห้าแห่งเซเรียลเลยแม้เพียงคนเดียว

มิใช่ไม่มีใครมาส่งพวกเขาหรอก... แต่องค์ชายคาเซียทรงต้องการไปจากอาณาจักรอย่างเงียบๆ จึงออกเดินทางก่อนกำหนดการโดยที่พระองค์ไม่ได้บอกกับใครเอาไว้เลย
ทุกคนในพระราชวังแห่งเซเรียลกว่าจะรับรู้ว่าขบวนเสด็จขององค์ชายห้าของพวกเขาเสด็จออกไปถึงนอกเมืองหลวงแล้วก็ล่วงเลยเข้าเวลาสาย ทุกๆคนต่างพากันยืนนิ่ง ทอดมองไปยังตำหนักอันงดงามที่บัดนี้นั้นร้างผู้คนอย่างเศร้าหมอง

ทางด้านขององค์ชายคาเซีย ทุกคนออกจากเมืองไปอย่างสงบเงียบ เนื่องจากเฟรนเซียและเซเรียลนั้นไม่ได้ไกลกันนึก เดินทางแต่เช้าก็คงไปถึงเย็นพอดี พวกเขาจึงไปกันอย่างไม่รีบร้อน

“นายน้อย ดูนี่สิเจ้าคะ”เพื่อไม่ให้ผู้ที่พบเห็นตื่นตระหนก คำราชาศัพท์จึงถูกยกเลิกไปชั่วคราว เปลี่ยนจากราชนิกุลเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่แทน “ดอกไม้ตรงนั้นช่างงดงามเหลือเกินเพคะ องค์ชาย”

“หืม... ดอกคาร์เนชั่นน่ะหรือ เรล”พระพักตร์หวานผินมองไปทางที่นางกำนัลน้อยของพระองค์ชี้ “ในวังมิได้ปลูกดอกไม้ชนิดนี้มากนัก ไม่แปลกหรอกที่เจ้าไม่เคยเห็น”

“ทำไมถึงไม่ปลูกในวังล่ะเจ้าคะ”เรลหันมาถามองค์ชายคาเซียอย่างใครรู้ ดวงตากลมโตของนางจดจ้ององค์ชายอย่างสนอกสนใจ

“เพราะดอกไม้ชนิดนี้ ถ้ามีสีแดงเข้ม จะมีความหมายไม่ค่อยดีน่ะสิ”พระองค์ทรงตอบคำถามของเรล พร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆ

“มีความหมายว่าอะไรหรือเจ้าคะ”เนลเอ่ยถามขึ้นบ้าง

“แด่หัวใจที่แห้งเหี่ยว ยังไงล่ะ”วรกายบางเอนพิงกับเบาะนุ่มที่สองนางกำนัลจัดวางเอาไว้ให้อย่างพิถีพิถัน “เซเรียลนั้นเป็นอาณาจักรที่มุ่งหวังให้มีความเบิกบาน สดใส จึงไม่นิยมปลูกดอกคาร์เนชั่นเอาไว้มากมายนัก ด้วยความนัยน์ของมันไม่งดงามดั่งรูปโฉมที่เราเห็น”

“อ่ออออ เข้าใจแล้วล่ะเจ้าค่ะ”สองนางกำนัลขานรับพร้อมกัน ทั้งคู่หันไปมองดอกคาร์เนชั่นท่ากันชูช่อเรียงรายอยู่ข้างทาง “ดอกไม้สวยๆแบบนี้ไม่น่ามีความหมายเช่นนั้นเลยนะเจ้าคะ นายน้อย”

“ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบเสมอไปหรอกนะ เนล เรล”เสียงหวานเอื่อยเอ่ยอย่างเลื่อนลอย “มนุษย์นั้นมีความโลภมากมาย คำว่าสมบูรณ์แบบน่ะ ไม่มีทางเอามาใช้ได้หรอก ตราบใดที่พวกเรายังไม่รู้จักคำว่าพอ”

“นายน้อย...”

“อย่าว่าแต่คนอื่นเลย เราเองยังไม่รู้จักคำว่าพอเลย ฮะๆ เรายังมีสิ่งที่ต้องการอีกมากมาย สิ่งที่หวังเอาไว้ก็เยอะยิ่ง ไม่รู้จะทำสำเร็จได้สักกี่เรื่องกัน”

“ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ นายน้อย เปลี่ยนเรื่องเถอะเจ้าค่ะ”เรลสั่นหัวแล้วตัดบทสนทนาที่นางฟังแล้วเจ็บปวดหัวใจไปทันที

“ข้าว่านายน้อยพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ เมื่อคืนวานก็ได้นอนพักไปเพียงสองชั่วยามเท่านั้นก็ต้องตื่นมาเตรียมตัวออกเดินทางแล้ว นอนเถอะเจ้าค่ะ”เนลเดินเข้าไปหาองค์ชายของนาง มือเรียวคลี่ผ้าห่มคลุมกายให้กับร่างที่นอนลงบนแท่นบรรทมชั่วคราว “พักผ่อนนะเจ้าคะ นายน้อยของเนล”

เรลที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นไปปิดผ้าม่านของรถม้าคันงามอย่างรู้หน้าที่ ก่อนที่สองพี่น้องนางกำนัลจะมานั่งหลับใกล้ๆกับองค์ชายของพวกนาง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บทที่ 5 ... แอบพลิกตอนที่เสด็จแม่ปรากฎตัว... มันมีเหตุ เฉลยที่หลังจ้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่4 R.26]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2012 14:12:53
บทที่ 6
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เฟรนเซีย ดอกไม้ และตำหนัก

ในที่สุดคณะเดินทางขององค์ชายคาเซียก็เดินทางมาถึงพระราชวังแห่งเฟรนเซียโดยสวัสดิภาพในตอนเย็นตามกำหนดการ

กองทหารส่วนพระองค์ขององค์ชายคาเซียต่างพากันแยกย้ายไปหาที่อยู่ในเมืองใหม่กันอย่างรู้ตัว ทุกคนไม่มีใครอิดออดที่จะตามองค์ชายเข้าไปอยู่ในวัง เพราะพวกเขาทุกคนต่างไม่อยากให้องค์ชายลำบากใจ และเหนื่อยไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

“องค์ชายคาเซียแห่งเซเรียลใช่ไหมพะยะค่ะ”มหาดเล็กของเฟรนเซียคนหนึ่งก้าวเข้ามาถามทันที เมื่อองค์ชายคาเซียก้าวลงมาจากรถม้า

“ใช่ เรา คาเซียแห่งเซเรียล”พระองค์ทรงตอบกลับมหาดเล็กไปอย่างนิ่งๆ พระเนตรกวาดมองไปรอบๆกาย พระองค์ทรงเห็นดอกไม้นานาชนิดที่ปลูกเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงาม

“เชิญทางนี้เลยพะยะค่ะ ทุกคนกำลังรอพระองค์อยู่”มหาดเล็กผู้นั้นผายมือไปทางท้องพระโรง “ทางนี้คือท้องพระโรงแดนดิเลี่ยนพะยะค่ะ”

“แดนดิเลี่ยน... ความรักที่พระเจ้าประทานให้เช่นนั้นหรือ...”เสียงหวานเอ่ยพึมพำแผ่วเบา ก่อนที่จะเสด็จไปตามทางที่ปูพรมแดงเอาไว้

“เชิญคณะผู้ติดตามด้วยนะขอรับ”มหาดเล็กคนเดิมหันมาพดกับสององครักษ์และสองนางกำนัลก่อนที่จะเดินนำพวกเขาเข้าไป

ท้องพระโรงของอาณาจักรเฟรนเซียนั้นกว้างใหญ่ ประดับด้วยมวลดอกไม้มายมากสมกับเป็นราชวังแห่งบุปผา เสาแต่ละต้นเป็นหินอ่อนสลักเป็นรูปดอกไม้ชนิดต่างๆอย่างวิจิตรงดงาม งดงาม...ราวกับวิมานที่อยู่บนสรวงสวรรค์

“ในที่สุดก็มากันครบแล้วสินะ”เสียงทุ้มของคนผู้หนึ่งดังขึ้นขัดความคิดขององค์ชายร่างเล็กได้อย่างชะงักนัก “เราจะได้เริ่มพิธีการแรกเสียที”

องค์ชายคาเซียทรงหันไปมองร่างของผู้เป็นเจ้าของเสียงทรงอำนาจนั้น ร่างที่ประทับอยู่บนบัลลังก์อย่างสง่างาม พระพักตร์หล่อเหลาคมคาย พระเนตรคมราวกับมองทะลุทุกสิ่งอย่างได้ พระโอษฐ์หยักได้รูปรับกับโครงพระพักตร์อย่างเหมาะเจาะ

พระเนตรกลมโตของพระองค์สบกับพระเนตรคมขององค์กษัตริย์เบื้องหน้า ทั้งสองพระองค์ต่างจ้องกันและกันอย่างไม่ลดละ องค์ราชาทริสเซย์ทรงแย้มพระโอษฐ์น้อยๆ พระเนตรฉายแววสนุกสนานอย่างไม่ปิดบัง

“เอาล่ะพะยะค่ะ กระหม่อมจะขอเริ่มพิธีการเลือกตำหนัก ณ บัดนี้นะพะยะค่ะ”เลเนท ขุนนางฝ่ายซ้ายแห่งเฟรนเซียเอ่ยขึ้น ทุกคนในที่นั้นหันไปให้ความสนใจกับตัวเขากันหมด “เมื่อข้าพระองค์ขานพระนามขององค์หญิงองค์ชายพระองค์ใดก็ให้ท่านผู้นั้นก้าวเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท ซึ่งฝ่าบาทจะทรงพิจารณาแล้วจะทรงประทานบุปผาให้กับท่าน 1 ดอก เมื่อได้รับแล้วก็ขอเชิญเสด็จไปยังที่ประทับซึ่งจะมีดอกไม้ชนิดเดียวกันนั้นวางประดับแจกันอยู่นะพะยะค่ะ”

“องค์หญิงเรร่า”พระนามของราชนิกูลองค์แรกถูกขานขึ้น ร่างบางสูงระหงทรงก้าวเดินออกมาจากด้านซ้ายของท้องพระโรง องค์ทริสเซย์ทรงประทานดอกป๊อปปี้สีแดงให้กับนางอย่างไม่ลังเล

“องค์หญิงเมริน่า”สำหรับพระนางนี้ พระองค์ทรงมอบดอกโรสแมรี่ให้

พระนามขององค์หญิงองค์ชายหลายพระองค์ถูกขานขึ้นเรื่อยๆ ดอกไม้ที่แต่ละพระองค์ได้รับกันไปนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่ ป๊อปปี้สีแดง โรสแมรี่ โครคัส คาร์เนชั่นสีเหลือง กุหลาบสีเหลือง แต่ดอกไม้สำคัญๆอย่างเรดโรส ออคลิท องค์ราชายังทรงมิได้มอบให้ใครสักคน...

“องค์ชายคาเซีย”พระนามขององค์ชายแห่งเซเรียลถูกขานขึ้น องค์ชายคาเซียทรงเดินไปหยุดหน้าบัลลังก์ทองคำอย่างสง่างาม

“ดอกนี้... สำหรับเจ้า”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสขึ้นเป็นครั้งแรกพร้อมกับทรงยื่นดอกไม้ดอกหนึ่งมาให้พระองค์ ดอกไม้ที่ไม่ได้ทรงหยิบมาจากกองดอกไม้ที่เตรียมเอาไว้ แต่เป็นดอกที่องค์ราชาทรงมีไว้คู่บัลลังก์ตลอดเวลา...

‘ราชาแห่งดอกไม้ทั้งมวล... ดอกโพรเทีย’

“เอ๊ะ...”เสียงหวานอุทานขึ้นเบาๆเมื่อทอดพระเนตรเห็นดอกไม้ที่พระองค์ได้รับ “ดอกโพรเทียหรือพะยะค่ะ”พระพักตร์งามเงยขึ้นมองผู้กุมอำนาจสูงสุดตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

“ใช่ ดอกโพรเทีย...”สุรเสียงทุ้มตรัสตอบกลับมาอย่างนุ่มนวล

ทั่วทั้งท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบ ทุกๆคนในที่นั้นพากันตกตะลึง เมื่อพระราชาของพวกเขาได้ยื่นดอกโพรเทีย ซึ่งเป็นตัวแทนของพระองค์ให้กับเจ้าชายต่างเมืองเช่นนี้

“พระองค์ทรงล้อกระหม่อมเล่นหรือพะยะค่ะ”เสียงหวานขององค์ชายคาเซียตรัสถาม พระพักตร์ขาวเนียนนั้นซีดลงไปถนัด “กระหม่อมไม่ขำนะพะยะค่ะ”

“ข้าก็มิได้ล้ออะไรเจ้าเล่นเสียหน่อย องค์ชายคาเซีย”พระองค์ทรงแย้มรอยยิ้มสนุกสนาน พระเนตรคมฉายแววพึงใจ “มาตรงนี้สิ องค์ชาย เจ้าต้องไปอยู่ตำหนักเดียวกับข้านะ”

“เอ่อ...”องค์ชายคาเซียทอดพระเนตรไปรอบกาย คนทั่วทั้งท้องพระโรงจับจ้องพระองค์อยู่อย่างไม่ละสายตา สร้างความกดดันให้พระองค์ยิ่งนัก ร่างบางขององค์ชายยังคงยืนนิ่ง

“มาสิ”ราชาทริสเซย์ทรงเสด็จมาเบื้องหน้าขององค์คาเซีย พระองค์ทรงทรงยื่นพระหัตถ์มาเบื้องหน้าขององค์ชาย “มาสิ องค์ชาย”

พระหัตถ์เรียววางลงบนพระหัตถ์หนาอย่างแผ่วเบา องค์ราชาทรงจับพระหัตถ์ของของชายคาเซียไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองพระองค์จะทรงเสด็จขึ้นสู่บัลลังก์

องค์กษัตริย์ทริสเซย์ทรงกลับมาประทับบนบัลลังก์โดยมีเจ้าชายองค์ที่ห้าแห่งเซเรียลประทับยืนอยู่เคียงข้าง

พระนามขององค์ชายองค์หญิงที่ยังเหลืออีกไม่มากนักถูกขานขึ้นเรื่อยๆ ดอกไม้ดอกแล้วดอกเล่าที่องค์ราชาประทานให้กับพวกเขานั้นเป็นดอกไม้ที่ซ้ำๆกันไป มิได้ทีใครได้รับดอกไม้ที่น่าตกใจเหมื่อนดั่งองค์ชายคาเซียอีกแม้แต่เพียงคนเดียว

บางครั้ง องค์ทริสเซย์ก็ทรงหันมาตรัสถามความเห็นขององค์ชายคาเซียด้วยว่าสมควรจะส่งองค์หญิงหรือองค์ชายพระองค์นั้นไปอยู่ตำหนักไหน ซึ่งตัวขององค์ชายคาเซียนั้นได้แต่ส่งยิ้มบางเบาให้กับองค์ราชาอย่างไม่อาจพูดอะไรได้ ขืนพระองค์พูดอะไรไป เกิดมีใครไม่ใจเข้า ภายภาคหน้าพระองค์อาจจะลำบากองค์เองก็ได้

“องค์ชายโซเทเรีย”พระนามของราชนิกุลองค์สุดท้ายดังขึ้น พร้อมกับร่างบอบบางน่าปกป้องขององค์ชายคนสุดท้ายที่ค่อยๆก้าวออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ

องค์ชายคาเซียทรงจ้องมององค์ชายตรงหน้าด้วยแววพระเนตรอ่อนโยน เมื่อทรงได้เห็นองค์ชายโซเทเรียแล้วพระองค์ก็ทรงนึกถึงพระอนุชาของพระองค์ที่เซเรียล พระอนุชาที่พระองค์ทรงเอ็นดูยิ่งนัก...

“เจ้าโปรดเขาอย่างนั้นหรือ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสถามองค์ชายขึ้นเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นรอยยิ้มเอ็นดูร่างตรงหน้าของผู้ที่อยู่ข้างพระวรกาย

“องค์ชายโซเทเรียทรงทำให้กระหม่อมนึกถึงพระอนุชาของกระหม่อมที่เซเรียลน่ะพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงตอบกลับไปตามที่พระองค์คิดอย่างไม่ปิดบัง

“งั้นหรือ...”เสียงทุ้มตรัสรับ ก่อนที่องค์ราชาจะทรงหยิบดอกไม้ดอกหนึ่งขึ้นมา “ดอกนี้ สำหรับเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่มีวันทรยศต่อความรัก ความเอ็นดูของคาเซียล่ะ”

พระองค์ทรงประทานดอกฟรีเซียให้แก่องค์ชายโซเทเรีย พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ

“พะยะค่ะ”เสียงหวานราวกับผู้หญิงขององค์ชายโซเทเรียตรัสรับอย่างยินดี ก่อนที่องค์ชายจะทรงเสด็จไปที่ของตนนั้น พระองค์ทรงหันไปน้อมกายให้กับองค์ชายคาเซียน้อยๆ เป็นการขอบคุณ

“ดอกฟรีเซียหรือพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงตรัสกับองค์ทริสเซย์เบาๆอย่างแปลกใจ “ความเอ็นดู... ใช่ไหมพะยะค่ะ”

องค์ราชาทรงยิ้มรับคำขององค์ชาย ก่อนที่พระองค์จะส่งสัญญาณให้องค์คาเซียน้อยกายลงมาใกล้พระองค์

“ที่ข้ามอบดอกฟรีเซียให้กับเขาเพราะว่าตำหนักฟรีเซียนี้อยู่ใกล้ตำหนักของข้า”พระองค์ทรงตรัสบอกกับองค์ชายเบาๆ “เผื่อเจ้าอยากจะไปคุยเล่นกับเขา จะได้ไปได้ตลอด มิต้องเดินทางไกลๆยังไงล่ะ”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”รอยยิ้มหวานถูกคลี่ส่งให้กับผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว
พระหัตถ์หนายื่นมาลูบไล้พระปรางขาวเนียนของคนตรงหน้าแผ่วเบา พระเนตรขององค์ชายคาเซียฉายแววงุนงงที่จู่ๆพระองค์ทรงทำเช่นนี้

“ถ้าเจ้ายังทำตัวแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก ข้าคงจะมอบดอกลิลลี่สีส้มให้กับเจ้าอีกดอกแล้วล่ะ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ตรัสขึ้นอย่างนุ่มนวล

“ดอกลิลลี่สีส้ม...”องค์ชายคาเซียทวนคำ ก่อนที่พระพักตร์ของพระองค์จะแดงก่ำด้วยความอายเมื่อนึกถึงความหมายของดอกไม้ชนิดนี้

‘ความต้องการ ปรารถนา ตัณหา ราคะ’

ระหว่างที่ทั้งสองพระองค์กำลังสร้างโลกส่วนตัวกันนั้น ผู้คนในท้องพระโรงต่างจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

บ้างก็มองด้วยความยินดี... ที่พระราชาของพวกเขาทรงโปรดใครสักคนเสียที

บ้างก็มองด้วยความโกรธแค้น... ที่องค์ชายคาเซียทรงเรียกความสนใจขององค์ราชาทริสเซย์ไว้เพียงคนเดียว

บ้างก็มองด้วยความริษยา... ที่องค์ชายคาเซียได้รับความสนใจจากองค์ราชันย์

บ้างก็มองด้วยความหวัง... ว่าอีกไม่นานเฟรนเซียคงจะมีรัชทายาทตัวน้อยให้ได้ชื่นชมกัน

แต่มีคนอยู่คนหนึ่ง... ที่ทอดมององค์ชายคาเซียด้วยแววตาที่ไม่เหมือนคนอื่นๆในที่แห่งนี้
เขามององค์ชายคาเซียด้วยความรัก ความลุ่มหลง ความปรารถนาที่อยากจะครอบครองร่างที่จับจ้องเอาไว้เป็นของตนเพียงผู้เดียว แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นไปไม่ได้...

องค์ชายโซเทเรียทรงทอดมองวรกายบอบบางที่แผ่รังสีความอ่อนโยนออกมาทั่วนั้นด้วยรักจากพระทัยของพระองค์

‘องค์ชายคาเซีย... แม้ว่าชาตินี้ข้ามิอาจจะครอบครองพระองค์ไว้แต่เพียงผู้เดียวได้ แต่ขอพระองค์ทรงเมตตา รักข้าสักนิด เก็บข้าเอาไว้ในพระหฤทัยของท่านด้วยเถิด...’

“อะแฮ่ม”เลเนทส่งเสียงขัดบรรยากาศทั้งหมดในท้องพระโรงแห่งนี้ ก่อนที่จะไปอย่างกู่ไม่กลับ “ข้าพระองค์ขอกล่าวถึงกำหนดการต่อไปเลยนะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“เชิญท่าน”

“กำหนดการต่อไป... นางกำนัลชั้นสูงจะนำเสด็จเหล่าองค์ชาย องค์หญิงไปสู่ตำหนักที่ประทับของพระองค์ แล้วอีกหนึ่งชั่วยาม งานเลี้ยงต้อนรับจะเริ่มขึ้น ตอนนี้ขอให้ทุกพระองค์พักผ่อนกันตามสบายพะยะค่ะ”เลเนทกล่าวถึงสองกำหนดการสุดท้ายของวันนี้ด้วยเสียงก้องกังวาน “ขอบพระทัยพะยะค่ะ”

องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จลุกจากที่ประทับ พระหัตถ์หนายื่นไปกอบกุมพระหัตถ์เรียวขององค์คาเซียเอาไว้แน่น ก่อนที่จะทรงเสด็จออกนำองค์ชายไปยังตำหนักของพระองค์เอง...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

^^ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่5-6 P.2 R.31-32]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 10-03-2012 14:51:22
ปลื้ม องค์ชายโซเทเรีย คงบอบบางน่าดูเหมือนเเมวน้อยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่5-6 P.2 R.31-32]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-03-2012 16:31:23
ว้าว มาเร็วทันใจ ขอบคุณนะครับ
องค์ราชันจะเป็นคนยังไงกันนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่5-6 P.2 R.31-32]
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 10-03-2012 16:34:42
 :L2:
สนุกมากๆคะ
จะติดตามต่อ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ UP ตอนที่ 3 ตามน้ำ (29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-03-2012 19:04:14
ต่อๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่5-6 P.2 R.31-32]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-03-2012 19:34:13
เอ เกิดอะไรขึ้นอะ ให้ไปอยู่ตำหนักเดียวกันด้วย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่7 P.2 R.38]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2012 20:42:41
บทที่ 7
ตำนานรักสองราชวงศ์ : งานเลี้ยง คำขอขององค์ชาย...

“ที่นี่คือตำหนักโพรเทีย ทางขวามือที่เห็นอยู่ตรงนั้นเป็นตำหนักฟรีเซีย ถ้าเจ้าอยากไปคุยเล่นกับองค์ชายโซเทเรียก็ไปได้ตลอด”ผู้นำทางจำเป็นอย่างองค์ทริสเซย์ทรงตรัสอธิบายเส้นทางต่างๆที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันให้แก่องค์ชายคาเซียตลอดเส้นทางที่ทั้งสองพระองค์เสด็จผ่าน ซึ่งองค์ชายคาเซียก็ทรงทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่เอ่ยขัดอะไรพระองค์เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ทั้งคู่เสด็จเข้าไปในตำหนักโพรเทีย ภายในตำหนักประดับประดาด้วยดอกไม้ที่แดกสลักจากไม้ เงิน ทองและประกอบขึ้นด้วยอัญมณีล้ำค่ามากมาย นางกำนัลหน้าตางดงามเดินเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ ดูสบายตา

“นี่คือห้องของเจ้า”นางกำนัลคนหนึ่งก้าวเข้ามาเปิดบานทวารที่ทำจะไม้สักแกะลายดอกไม้วิจิตรออกตามคำสั่งของเจ้าเหนือหัว

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายคาเซียทรงน้อมวรกายลงให้กับองค์ราชา ก่อนที่จะเสด็จเข้าไปในห้องบรรทมใหม่ของพระองค์

“วันนี้ข้าจะไปตำหนักเรด ป๊อปปี้ เจ้าดูแลตำหนักนี้แทนข้าด้วยล่ะ”องค์ทริสเซย์ตรัสบอกแก่ร่างบางที่หมุนไปหมุนมาดูห้องอยู่เบาๆ

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงตรัสรับคำของพระองค์เสียงใส ท่าทางที่องค์ชายแสดงออกมานั้นไม่มีท่าทีของความเสียใจแม้แต่น้อย ราวกับไม่แคร์เลยว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน กับใคร ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับองค์ราชาเล็กๆ ด้วยความที่ทรงต้องการให้องค์ชายคาเซียแสดงอาการที่บ่งบอกเพียงเล็กน้อยก็ยังดีว่าสนใจในตัวของพระองค์

“ข้าให้เวลาเจ้าเตรียมใจสักพักก่อนแล้วกัน เด็กน้อยของข้า”สุรเสียงทุ้มทรงกระซิบที่ข้างพระกรรณเล็กอย่างยั่วเย้า “ถึงเวลานั้น เจ้าไม่พร้อมก็ต้องพร้อมให้ข้าสำรวจร่างของเจ้าล่ะ คาเซีย”

พระพักตร์ขององค์ชายแดงก่ำด้วยความเขินอาย พระกรเรียวโอบกอดวรกายของตนเอาไว้

“ทรงจะทำจริงหรือพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“ข้าให้เจ้ามาอยู่ใกล้กายข้าถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าคิดหรือว่าจะรอดพ้นจากข้าไปได้น่ะ คาเซีย”
“... อ่า ...”

“เตรียมใจเอาไว้เถิด คาเซีย อีกไม่นานหรอก เจ้าจะเป็นของข้า ข้าจะครอบครองตัวเจ้า รวมถึง...”พระหัตถ์แกร่งทรงแนบเข้ากับพระอุระด้านซ้ายขององค์ชายเบาๆ “หัวใจด้วยนี้ของเจ้าด้วย”

ไม่มีคำพูดใดๆออกมากจากพระโอษฐ์ขององค์ชายแม้เพียงคำเดียว พระพักตร์ที่เคยแดงก่ำบัดนี้กลับซีดลงอย่างเห็นได้ชั้น ด้วยคำตรัสสุดท้ายก่อนที่ผู้ครองแผ่นดินเฟรนเซียแห่งนี้จะเสด็จออกนอกห้องบรรทมของพระองค์ไป

“ข้าจะมอบความรักให้เจ้าอย่างร้อนแรง ให้สมกับที่ข้าให้เวลากับเจ้าเลยล่ะ คาเซีย”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เนล เรล เซทและเรฟพากันก้าวเข้ามาในห้องบรรทมขององค์ชายคาเซียด้วยความเป็นห่วง เมื่อพวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้หลังจากที่พระราชาเสด็จออกไป

“ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ องค์ชาย”เรลวิ่งถลาเข้าไปหาองค์ชายของนางอย่างไม่สนใจมารยาทที่นางกำนัลพึงมีเลยแม้แต่น้อย

“เราไม่ได้เป็นอะไรหรอกเรล ขอบใจที่เป็นห่วง”รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้กับนางกำนัลน้อยเป็นการปลอบขวัญ “เราว่าจะไปหาองค์ชายโซเทเรียเสียหน่อย”

“แต่... องค์ชายเพคะ”เนลทำท่าจะเอ่ยค้านความคิดขององค์ชาย แต่ก็ถูกพระองค์ห้ามเอาไว้เสียก่อน

“ไม่เป็นไรหรอก เรล”

“เพคะ องค์ชาย”เนลจำต้องรับคำขององค์ชายอย่างเสียมิได้ “เช่นนั้น อีกครึ่งชั่วยาม หม่อมฉันจะเอาฉลองพระองค์ไปให้พระองค์ที่ตำหนักฟรีเซียนะเพคะ”

“อืม”

วรกายบอบบางขององค์ชายคาเซียทรงเสด็จออกจากตำหนักไปอย่างเงียบๆ พระองค์ทรงมุ่งหน้าไปยังตำหนักฟรีเซีย สำหรับพระองค์แล้วนั้น การมาอยู่ต่างบ้าน ต่างเมืองเช่นนี้ก็เห็นควรว่าจะต้องผูกมิตรกับผู้อื่นเอาไว้บ้าง จะเก็บตัวเงียบเหมือนดั่งตอนที่อยู่บ้านเมืองของตนเองนั้นคงจะไม่ดีในภายหน้า

นายทหารที่เฝ้าอยู่หน้าตำหนักฟรีเซียโค้งคำนับร่างบางด้วยความเคารพ พวกเขาจำได้ว่าเห็นร่างตรงหน้านี้ประทับอยู่ข้างกายขององค์เหนือหัวตอนที่อยู่ในท้องพระโรงแดนดิเลี่ยน

“องค์ชายโซเทเรีย”องค์ชายคาเซียทรงส่งเสียงเรียกร่างที่นั่งเหม่อลอยอยู่ที่พระบัญชรกว้าง

พระพักตร์สวยขององค์ชายโซเทเรียหันมามองพระองค์อย่างรวดเร็ว พระเนตรขององค์ชายทรงเบิกกว้างด้วยความยินดีเมื่อทอดพระเนตรมาเป็นพระองค์

“องค์ชายคาเซีย”เสียงหวานขององค์ชายโซเทเรียเรียกชื่อขององค์ชายอีกคนอย่างสดใส วรกายบอบบางก้าวเข้ามาหาองค์คาเซียอย่างรวดเร็ว “มาหาข้าใช่ไหม องค์ชาย”

“ข้ามาที่นี่ ถ้าไม่มาหาเจ้า จะให้ข้าไปหาใครล่ะ องค์ชายโซเทเรีย”พระหัตถ็เรียวลูบไล้พระเกศานิ่มของเจ้าชายตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ข้ารู้สึกเหมือนเคยเจอเจ้าที่ไหนมาก่อน... เราเคยพบกันมาก่อนหน้านี้ใช่ไหม องค์ชายโซเทเรีย”

“อื้ม เราเคยเจอกันในสวนของตำหนักของท่าน เมื่อตอนวันคล้ายวันประสูติขององค์ชายเฮเซีย พระเชษฐาของท่านเมื่อสามปีก่อน...”เจ้าชายโซเทเรียตรัสตอบเจ้าชายคาเซียด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข

“ข้าพอจะนึกออกแล้วล่ะ... องค์ชายขี้แยตอนนั้นคือท่านนี่เอง”องค์ชายคาเซียทรงตรัสล้อเลียนร่างเล็กตรงหน้า “ไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งในต่างเมืองเช่นนี้นะ องค์ชาย”

“นั่นสินะ...”องค์ชายโซเทเรียทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมององค์ชายคาเซียนิ่ง เพียงอึดใจ วรกายบอบบางของพระองค์ก็โถมเข้ากอดองค์ชายอย่างอดพระทัยเอาไว้ไม่ได้ “ข้าคิดถึงท่านมาตลอดเลย องค์ชายคาเซีย”

องค์ชายคาเซียทรงโอบกอดร่างขององค์ชายแห่งสายลมเอาไว้หลวมๆ พระหัตถ์บางยังคงลูบพระเกศาสีน้ำตาลอยู่ตลอดเวลา

“ตอนนี้ข้าก็อยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วยังไงล่ะ องค์ชายโซเทเรีย”เสียงหวานเอ่ยปลอบร่างในอ้อมพระกรเบาๆ “ข้ายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว อีกทั้งเจ้ายังกอดข้าเอาไว้แบบนี้ด้วยนะ”

องค์ชายแห่งเซเรียลทรงดันร่างขององค์ชายออกจากอ้อมพระกรเบาๆ น้ำพระเนตรขององค์ชายตรงหน้าหลั่งรินลงมาอย่างปิติยินดี

“ยังไม่เลิกนิสัยขี้แยอีกอย่างนั้นหรือ องค์ชาย”รอยยิ้มเอ็นดูถูกคลี่ส่งให้กับองค์ชายตรงหน้าพระองค์อย่างอดไม่ได้ ยิ่งเห็นองค์ชายโซเทเรีย ก็ยิ่งทำให้พระองค์นึกถึงพระอนุชาที่น่ารักของพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ “เอ... ถ้าข้าจำไม่ผิด พรุ่งนี้ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของเจ้าแล้วใช่ไหม องค์ชาย”

“ใช่... พรุ่งนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”องค์ชายโซเทเรียทรงขานรับคำของพระองค์อย่างน่ารัก น้ำพระเนตรที่หลั่งรินค่อยๆหยุดไหลอย่างช้าๆ “ส่วนวันนี้ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่าน องค์ชายคาเซีย”

“เรียกข้าว่าคาเซียก็ได้ องค์ชายโซเทเรีย”พระหัตถ์เรียงทรงยื่นไปปาดน้ำพระเนตรที่เปรอะเปื้อนพระปรางนวลขององค์ชายตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ใช่แล้วล่ะ วันนี้วันเกิดของข้า เจ้าจำได้ด้วยหรือ”

“อื้ม คาเซีย ข้าต้องจำได้สิ”รอยยิ้มสว่างไสวที่ปรากฎขึ้นบนพระพักตร์ขององค์ชายโซเทเรียทำให้องค์ชายคาเซียอดที่จะยิ้มตามมิได้ “เรียกข้าว่าโซลเถอะ คาเซีย”

“โซล... ชื่อเล่นของเจ้าเช่นนั้นหรือ”

“อื้ม เป็นชื่อที่เสด็จแม่เรียกข้าน่ะ”

ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เอ่ยอันใดออกมา นางกำนัลประจำพระองค์ของทั้งสองพระองค์ก็โผล่เข้ามาเสียก่อน

“องค์ชายเพคะ”สี่นางกำนัลส่งเสียงเรียกองค์ชายทั้งสองพร้อมกัน ราวกับนัดหมายกันมาพูด “อีกครึ่งชั่วยามงานเลี้ยงก็จะเริ่มแล้วนะเพคะ เปลี่ยนฉลองพระองค์เถิด”

องค์ชายคาเซียทรงยิ้มให้กับองค์ชายโซเทเรียก่อนจะเสด็จไปหานางกำนัลของพระองค์แล้วพากันไปยังห้องว่างในตำหนักฟรีเซียแห่งนี้เพื่อผลัดเปลี่ยนฉลองพระองค์

องค์ชายโซเทเรียก็ตามนางกำนัลของพระองค์ไปเปลี่ยนฉลองพระองค์อย่างเงียบๆด้วยพระทัยที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

องค์ชายทั้งสองพระองค์ต่างชำระวรกายและสวมใส่ฉลองพระองค์ชุดใหม่กันเสร็จเรียบร้อยในเวลาไม่นานนัก ด้วยความคล่องแคล่วของนางกำนัลส่วนพระองค์

องค์ชายคาเซียสวมฉลองพระองค์สีครีมปักลายด้วยดิ้นแดง น้ำเงินและทองอย่างสวยงาม พระเกศาสีเปลือกไม้ถูกสางและจัดแต่งให้เข้าทรงกับรูปหน้าของพระองค์ เพิ่มความงดงามให้กับองค์ชายให้มากยิ่งขึ้นกว่าปกติ

ส่วนองค์ชายโซเทเรียนั้นสวมฉลองพระองค์สีเขียวอ่อน ปักลายนกแก้วไว้อย่างงดงาม ราวกับนกตัวนั้นมีชีวิตจริงๆ สื่อให้เห็นถึงความตั้งใจของคนทำเป็นอย่างยิ่ง พระเกศาถูกจัดแต่งให้เข้ารูปอย่างประณีต องค์ชายนั้นเป็นที่น่ารักน่าเอ็นดูอยู่แล้ว ยิ่งทำให้องค์ชายโซเทเรียนั้นน่าปกป้องมากกว่าเดิมเสียอีก

“เมื่อเสร็จกันแล้วก็ไปเถอะ ใกล้ถึงเวลาเต็มที”สุรเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นเรียกความสนใจของสององค์ชายได้อย่างชะงักนัก

องค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรียทรงหันไปทอดพระเนตรทางต้นเสียงที่ทรงได้ยินอย่างตกตะลึง เมื่อเห็นเจ้าชีวิตของทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ไม่ห่างนัก

“ฝ่าบาท...”องค์ชายคาเซียทรงตรัสอย่างแผ่วเบา “มาได้อย่างไรกันพะยะค่ะ”

“ก็มารับเจ้าน่ะสิ คาเซีย ข้ากับเจ้าอยู่ตำหนักเดียวกันนิ”องค์ทริสเซย์ตรัสตอบอย่างไม่ยี่ระ “ไปกันได้แล้วล่ะ ถ้าไปช้าเดี๋ยวพวกผู้เฒ่าจะบ่นเอา ข้ารำคาญ”

จบคำตรัส พระองค์ก็ทรงเสด็จนำออกไปทันที มิรอฟังคำตอบรับขององค์ชายเลยแม้แต่น้อย

ผู้สูงศักดิ์ทั้งสามพระองค์พากันเสด็จขึ้นรถม้าพระที่นั่ง โดยที่องค์ชายโซเทเรียเสด็จขึ้นไปก่อน ตามด้วยองค์ชายคาเซีย และองค์ราชาทริสเซย์ที่เสด็จขึ้นไปเป็นองค์สุดท้ายก่อนที่เซทจะปิดบานทวารลง แล้วไปกุมบังเหียนบังคับรถม้าพระที่นั่งกับเรฟ

แต่... การประทับในรถม้าทรงนี้ดูแปลกๆไปหน่อยไหม?

ทำไมองค์ชายแห่งเซเรียลถึงประทับตรงกลางระหว่างองค์ชายโซเทเรียและองค์ราชาทริสเซย์ล่ะ ทั้งๆที่ในความจริงแล้วองค์ชายทั้งสองนั้นเป็นเครื่องราชบรรณาการขององค์ราชาทั้งคู่ แทนที่องค์ชายทั้งสองจะประทับขนาบข้างพระราชา แต่กลับ...

“เอ่อ...”องค์ชายคาเซียทรงทำเหมือนจะเอ่ยอะไรออกมาสักอย่าง แต่ยังไม่ทันที่พระองค์จะได้ตรัสอะไรออกมา ก็ถูกหนึ่งในคนที่นั่งขนาบข้างพระองค์อยู่ขัดขึ้นเสียก่อน

“ไม่ต้องพูดอะไร แบบนี้ดีแล้ว”ราวกับเป็นประโยคที่บอกเล่าธรรมดา แต่พระองค์ก็ทราบดีว่าคำตรัสนี้เป็นคำสั่ง มิใช่ประโยคที่ทรงเปรยเล่นๆ

ไม่มีบทสนทนาใดๆดังขึ้นภายในรถทรงนี้อีก จนกระทั้งถึงท้องพระโรงแดนดิเลี่ยน

ทั้งสามพระองค์ทรงเสด็จเช้าไปในงานเลี้ยง ภายในงานนั้นมีเครื่องเสวยมากมายหลายชนิด และในเพลานี้ทุกๆคนที่ได้รับเชิญต่างมากันครบแล้ว

ขุนนางฝ่ายซ้ายที่รับหน้าที่เป็นผู้จัดงานเลี้ยงต้อนรับนี้ขึ้นเมื่อเห็นผู้กุมอำนาจสูงสุดแห่งรัฐเสด็จเข้ามาแล้ว ก็กล่าวเปิดงานทันที

“ก่อนจะเริ่มงานเลี้ยงนี้ขึ้น ขอเชิญฝ่าบาทตรัสอะไรหน่อยพะยะค่ะ”

“ข้าได้ยินว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันประสูติของเจ้าเช่นนั้นหรือ คาเซีย”แทนที่องค์ราชาจะทรงตรัสกล่าวเปิดงาน แต่พระองค์กลับทรงถามคำถามแก่องค์ชายที่ประทับอบู่ไม่ไกลพระองค์นัก

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”เสียงหวานขานรับเบาๆ

“เจ้าอยากได้อะไรเป็นของขวัญล่ะ หืม...”

“กระหม่อมได้รับแล้วอย่างไรพะยะค่ะ การที่ให้องค์ชายโซเทเรียมาอยู่ใกล้ๆกับกระหม่อม นั่นเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วพะยะค่ะ”

“งั้นรึ... แล้วเจ้าล่ะ โซเทเรีย พรุ่งนี้เป็นวันคล้ายวันประสูติของเจ้า เจ้าอยากได้อะไรเป็นของขวัญ”เมื่อพระองค์ได้รับคำตอบจากองค์ชายแห่งเซเรียลแล้ว พระองค์จึงหันไปตรัสถามองค์ชายแห่งสายลมบ้าง

“กระหม่อมจะขออะไรก็ได้หรือพะยะค่ะ”องค์ชายโซเทเรียนตรัสถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ

“ได้สิ ถ้ามันไม่ทำให้ใครต้องสิ้นชีพลง”

“งั้น... กระหม่อมขอ...”องค์ชายทรงสูดพระอัสสาสะลึก ก่อนที่จะทรงตรัสออกมา...

“กระหม่อมขออภิเษกเป็นพระชายาขององค์ชายคาเซียได้ไหมพะยะค่ะ”

+++++++++++++++++++++

บทที่ 7 มาแล้วค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่7 P.2 R.38]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-03-2012 21:02:46
โอย ตายๆๆ ขออะไรแบบนั้นองค์ชาย เดี๋ยวงานงอกหรอก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่7 P.2 R.38]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2012 22:01:43
บทที่ 8
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ว่าที่พระชายา... ว่าที่พระสวามี...

“กระหม่อมขออภิเษกเป็นพระชายาขององค์ชายคาเซียได้ไหมพะยะค่ะ”

ทั่วทั้งท้องพระโรงตกตะลึงกับคำขอที่ไม่คาดฝันขององค์ชายโซเทเรีย ทุกคนในที่นั่นต่างพากันยืนนิ่ง ตัวแข็งเป็นหินกันไปหมด ส่วนตัวองค์ชายนั้นก้มพระพักตร์ลง พระปรางเนียนใสแดงระเรื่อด้วยความอาย

‘อ่า... พูดออกไปแล้ว ความในใจของพระองค์ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะเก็บเอาไว้เป็นความลับแท้ๆ’

“เจ้าว่าอะไรนะองค์ชาย ขออภิเษกกับคาเซียเช่นนั้นหรือ”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสทวนคำขององค์ชายตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อกับคำที่พระองค์ทรงได้ยินเมื่อครู่

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท...”

ครานี้ทั้งท้องพระโรงพากันหันไปมององค์ชายคาเซียที่ประทับนิ่ง พระเนตรเบิกกว้างด้วยความตกพระทัย

“เดี๋ยว... เดี๋ยวนะ”องค์ชายคาเซียตรัสด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “โซล... เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการอภิเษกกับข้าเป็นของขวัญ...”

“ใช่”องค์โซเทเรียตอบรับคำของพระองค์เบาๆ

“แต่ตอนนี้ข้ามาเป็นเครื่องราชบรรณาการให้กับฝ่าบาท...”องค์ชายคาเซียยังคงตรัสกับตัวพระองค์เองต่อไป

“ใช่ เจ้าเป็นของข้า”องค์ทริสเซย์ทรงตอบรับคำของพระองค์เสียงเข้ม

“เป็นเช่นนี้แล้ว... ข้าต้องเป็นสวามีขององค์ชายโซเทเรีย ในขณะเดียวกันก็เป็นคนบำเรอความใคร่ขององค์ราชาไปด้วย...ใช่ไหม”

“คาเซีย!!”กษัตริย์แห่งเฟรนเซียทรงตรัสด้วยเสียงอันดัง เรียกสติขององค์ชายกลับมา... องค์คาเซียทรงหันมาสบพระเนตรกับพระองค์อย่างสับสน “เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าการที่เจ้าเข้าไปอยู่ในตำหนักโพรเทียนั้นหมายความว่าอะไร”

“อ่า... ไม่ทราบพะยะค่ะ”พระองค์ตอบกลับด้วยความสัจจริง

“เจ้าสมควรจะรู้ตัวเอาไว้ด้วยว่า ตอนนี้เจ้ากำลังอยู่ในตำแหน่งว่าที่พระชายาของข้า”องค์ราทรงตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “เมื่อใดที่เจ้าเป็นของข้าแล้ว เจ้าจะเป็นชายาข้าอย่างแท้จริง”
พระเนตรกลมโตขององค์ชายคาเซียหลุมลงทอดพระเนตรพื้นหินอ่อนนิ่ง พระโอษฐ์บางเม้มแน่น ผ่านไปชั่วอึดในพระองค์ก็ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมององค์กษัตริย์

“เช่นนั้น ในตอนนี้กระหม่อมก็เป็นว่าที่พระชายาของพระองค์ และในขณะเดียวกันก็เป็นว่าที่พระสวามีขององค์ชายโซเทเรียด้วย ใช่ไหมพะยะค่ะ”พระองค์ทรงตรัสถามประมุขสูงสุดแห่งเฟรนเซียเพื่อความแน่พระทัย “ในเมื่อพระองค์ทรงตรัสว่าโซลจะขออะไรกับพระองค์ก็ได้ ตราบใดที่มิทำให้ผู้ใดต้องสิ้นชีพลง...”

“ใช่...”องค์ทริสเซย์ตอบรับคำขององค์ชายคาเซียอย่างมิอาจจะหาคำใดมาตรัสเถียงได้ “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว คาเซีย”

“แล้ว...”องค์ชายคาเซียทรงหันไปมององค์ชายโซเทเรียที่ประทับอยู่ไม่ไกลพระองค์นักน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “กำหนดการพิธีอภิเษกของกระหม่อมจะมีขึ้นเมื่อใดล่ะ ฝ่าบาท”
“ธิดาพยากรณ์”พระประมุขทรงตรัสเรียกสตรีในชุดสีขาวบริสุทธิ์ด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ฤกษ์อภิเษกขององค์ชาย เมื่อใดจึงเหมาะสม”

“ในอีกเจ็ดราตรีข้างหน้านี้เพคะ ฝ่าบาท”ธิดาพยากรณ์ทูลต่อองค์เหนือหัวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของนาง

“งั้นอีกเจ็ดวัน ข้าจะประทานงานอภิเษกให้กับเจ้า คาเซีย โซเทเรีย”เสียงที่ตรัสออกมานั้นมีแววไม่พอพระทัยแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด... ชัดเสียจนทำให้องค์ชายคาเซียอดไม่ได้ที่จะแอบถอนพระทัยอย่างเหนื่อยอ่อน

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท”เสียงหวานสองเสียงขานขึ้นพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง
องค์ชายโซเทเรียทรงแย้มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปิติ แม้ว่าการกระทำครั้งนี้ของพระองค์ออกแนวจะเป็นการบังคับองค์ชายคาเซียไปบ้าง แต่พระองค์ก็ดีพระทัยยิ่งนักที่จะได้เป็นหนึ่งเดียวกับองค์ชายที่พระองค์รัก

องค์ชายคาเซียทรงเสด็จมาตรงหน้าขององค์ชายแห่งสายลมอย่างเงียบเชียบ พระหัตถ์เรียวทรงลูบไล้พระพักตร์ของว่าที่พระชายาของพระองค์อย่างอ่อนโยน

“เจ้าคิดดีแน่แล้วหรือโซล”องค์ชายทรงอดไม่ได้ที่จะตรัสถามขึ้นมา “ทั้งๆที่ข้าอาจจะไม่ได้มีเวลาให้เจ้า ไม่อาจจะดูแลเจ้าได้อย่างเต็มที่ เจ้าแน่ใจแล้วเช่นนั้นหรือ”

“ข้าแน่ใจแล้ว คาเซีย”พระองค์ตอบกลับอย่างไม่ลังเลแม้เพียงนิด “ข้ารักท่านมาตั้งนานแล้ว คาเซีย ตั้งแต่วันแรก... ที่ข้าได้พบกับท่าน”

“เมื่อสามปีก่อนนั่นน่ะหรือ...”องค์ชายคาเซียตรัสถามแผ่วเบาลง...

“อืม”องค์โซเทเรียทางช้อนพระเนตรขึ้นจับจ้องพระพักตร์ขององค์ชายคาเซีย พระปรางขาวขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย

องค์ชายคาเซียทรงรั้งวรกายบางเข้ามาในอ้อมพระกรของพระองค์ พระหัตถ์เรียวลูบไล้พระเกศานิ่มเบาๆ พระองค์ทรงทอดพระเนตรว่าที่พระชายาของพระองค์อย่างอ่อนโยน แม้เรื่องนี้จะกะทันหันไปเสียหน่อย แต่พระองค์ก็ทรงทำพระทัยให้ยอมรับได้ในเวลาอันสั้น

“ข้าอาจจะไม่ได้มีเวลามาดูแลโซลมากมายนัก แม้ตำหนักที่พำนักเราจะอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่ด้วยสถานะเช่นนี้ ข้าคงมิอาจดูแลเจ้าได้ตลอดเวลา แต่ข้าก็จะพยายามดูแลและปกป้องเจ้าให้ดีที่สุดเท่าที่ข้าสามารถทำได้... เพื่อตอบแทนความรักที่เจ้ามอบให้ข้ามา ข้าสัญญา โซล”

แม้ว่าคำตรัสนี้จะมิได้สวยหรูอะไร แต่ก็เรียกพระอัสสุชลขององค์โซเทเรียให้หลั่งรินลงมาได้ พระกรเรียวขององค์ชายแห่งสายลมกอดรัดร่างขององค์ชายคาเซียแน่น

“ไม่เป็นไร... แค่นี้โซลก็ดีใจมากแล้ว...”

ระหว่างที่ทั้งสองพระองค์กำลังสร้างโลกส่วนตัวกันอยู่นั้น... มีคนผู้หนึ่งจ้องมองทั้งสองด้วยความกริ้วโกรธ โกรธโดยที่ตนนั้นยังหาสาเหตุแห่งความโมโหนี้ไม่ได้

องค์ราชาที่ประทับอยู่บนบัลลังก์อันงดงามทรงตีพระพักตร์นิ่งๆ พระโอษฐ์คลี่ยิ้มบางเบา แต่ในพระทัยของพระองค์นั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทอดพระเนตรเห็นเครื่องราชบรรณาการของพระองค์นั้นอยู่เคียงคู่กันเฉกเช่นนี้

“ฝ่าบาท... ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ”เสียงหวานของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ร่างเพรียวบางจะก้าวมาอยู่ข้างพระวรกายของพระองค์ “เหตุใดพระองค์จึงทรงดูโกรธาเช่นนี้ล่ะเพคะ”

“ข้ามิได้เป็นอะไร สนมหลินเฟย์”พระองค์ทรงตรัสกลับเสียงนิ่ง พระเนตรคมยังคงจับจ้องร่างบางสองร่างที่โอบกอดกันอยู่มุมหนึ่งของท้องประโรงแห่งนี้อย่างไม่วางตา

“พระองค์แน่พระทัยหรือเพคะ ว่าทรงไม่เป็นอันใดน่ะ”พระสนมทรงตรัสถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย แต่ความเป็นห่วงนี้พระนางคงมอบให้กับเจ้าชีวิตของพระนางผิดเวลาไปเสียหน่อย...

“ข้าบอกว่าข้าไม่เป็นอะไรยังไงล่ะ หลินเฟย์”องค์ทริสเซย์ตรัสเสียงเย็นชา แฝงไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก “เจ้าน่ะ ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของข้าทุกเรื่องหรอกนะ”

“เพคะ”พระสนมทรงขานรับเสียงแผ่ว พระพักตร์งามซีดเผือด พระนางเหลือบมององค์ราชาเล็กน้อยก่อนจะเสด็จหายไปในฝูงชนในท้องพระโรงอย่างรวดเร็ว

บรรยากาศในท้องพระโรงแดนดิเลี่ยนแห่งนี้ดูน่าอึดอัดเป็นอย่างมาก เมื่อประมุขของแผ่นดินมิทรงมีอารมณ์ร่วมกับงานเลี้ยงครานี้เสียเลย เหล่าขุนนางต่างหันไปจ้องมององค์ชายแห่งเซเรียลเป็นตาเดียว ด้วยความหวังที่ว่าองค์ชายผู้นี้จะช่วยให้บรรยากาศในงานนี้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย...

องค์ชายคาเซียที่ทรงเหลือบพระเนตรมามององค์กษัตริย์อยู่เป็นพักๆทรงขมวดพระขนงเล็กๆ ด้วยพระองค์มิทรงเข้าพระทัยว่า เหตุใดฝ่าบาทนั้นถึงทรงมิเกษมสำราญอย่างที่ควรเป็น อีกทั้งยังทรงรู้สึกเหมือนถูกกดดันด้วยสายตาที่จ้องมองมานับสิบนับร้อยคู่ จนพระองค์จำต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะให้พ้นจากสถานการณ์ที่ไม่น่าพอใจนี้เสีย

“เดี๋ยวข้ามานะ โซล”พระองค์ทรงก้มลงไปตรัสกับร่างในอ้อมพระกรเบาๆ ก่อนที่จะทรงปล่อยวรกายขององค์ชายแห่งสายลมออกแล้วเสด็จไปตรงหน้าของเจ้าชีวิต “ทรงเป็นอะไรหรือพะยะค่ะ ดูพระองค์มิเกษมสำราญกับงานเลี้ยงนี้เลย”

องค์ทริสเซย์ทรงสบพระเนตรกับองค์ชายที่เสด็จมาตรงหน้าพระองค์นิ่ง ก่อนทีจะทรงดึงรั้งร่างบอบบางขององค์ชายคาเซียเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนพระองค์

“ฝ่าบาท...”เป็นอีกครั้งที่องค์ชายยังไม่ทันได้ตรัสอะไรออกมา... ก็ทรงถูกขัดเสียก่อน
พระหัตถ์หนาเชยพระพักตร์ขององค์ชายให้เชิดขึ้น พระโอษฐ์หยักได้รูปประทับจุมพิตที่พระปรางเนียนของร่างในอ้อมพระกรก่อนจะค่อยๆเคลื่อนมาประทับกับพระโอษฐ์บาง พระชิวหาร้อนลิ้มเลียกลีบโอษฐ์นิ่มสักพักก่อนที่จะแทรกเข้าไปให้ช่องโอษฐ์อุ่น พระองค์ทรงกวาดความหอมหวานของจุมพิตแรกขององค์ชายห้าแห่งเซเรียลอย่างมิทรงรู้จักคำว่าพอ จนกระทั่งองค์ชายคาเซียทรงกระตุกฉลองพระองค์ของพระองค์เบาๆ พระองค์จึงทรงถอดพระโอษฐ์ออกมาอย่างแสนเสียดาย

“ครั้งแรกของเจ้าเช่นนั้นหรือ คาเซีย”องค์ราชาทรงกระซิบถามอย่างยั่วเย้า ทั้งที่ทรงทราบอยู่แล้วว่าเป็นครั้งแรกขององค์ชาย เพราะจุมพิตตอบพระองค์ที่ไม่ประสีประสาเมื่อครู่

แม้ว่าองค์ชายคาเซียจะมิได้ชำนาญ หรือเรียกได้ว่าทรงใสซื่อในเรื่องความสัมพันธ์เช่นนี้ยิ่งนัก แต่ก็ทำให้พระองค์พอพระทัยได้อย่างมากกับกิริยาท่าทางเช่นนี้ขององค์ชายจนอดพระทัยไม่ได้ พระองค์ทรงกดพระนาซิกเข้ากับพระปรางนิ่มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ทรงสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิอันเป็นเอกลักษณ์ขององค์ชายคาเซียไปฟอดใหญ่

องค์ชายแห่งเซเรียลได้แต่ก้มพระพักตร์ที่แสดงออกถึงความเขินอายนั้นลง พระองค์มิอาจจะทำอันใดได้ ด้วยฐานะที่ทรงเป็นอยู่ในเวลานี้

องค์ชายโซเทเรียทอดพระเนตรมองภาพตรงหน้าอย่างเศร้าๆ ก่อนที่จะปรับอารมณ์กลับมาสดใสดั่งปกติเมื่อพระองค์ทรงคิดในแง่ดีว่า ถึงอย่างไรพระองค์และองค์ชานคาเซียนั้นจะได้อภิเษกกันในอีก 7 วันข้างหน้านี้แล้ว ถึงแม้ว่าองค์ชายคาเซียจะไม่ได้เป็นของพระองค์เต็มร้อยทั้งกายและหัวใจ แต่อย่างน้อยครึ่งชีวิตขององค์ชายและพระองค์ก็จะผูกติดกันไว้ตลอดกาล...

บรรยากาศในท้องพระโรงแห่งนี้ดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อครู่เป็นอย่างมาก เมื่อประมุขสูงสุดของเฟรนเซียทรงพระเกษมสำราญขึ้น

“ข้ามิได้อยากให้เจ้าอภิเษก...”เสียงทุ้มตรัสแผ่วเบาข้างพระกรรณขององค์ชาย “ข้ามิได้อยากแบ่งปันเจ้าไปให้ใคร”

“เรื่องบางเรื่องก็มิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้หรอกพะยะค่ะ ถึงกระหม่อมจะเป็นพระสวามีแห่งองค์ชายโซเทเรีย แต่ในขณะเดียวกันนั้นกระหม่อมก็เป็นว่าที่พระชายาในพระองค์ด้วยเช่นกัน”เสียงที่ตรัสออกมานั้นแฝงไปด้วยความอ่อนล้าเล็กๆ ซึ่งถ้ามิใช่คนสนิทขององค์ชายแล้วก็มิอาจที่จะจับสังเกตในน้ำเสียงนี้ได้ “กระหม่อมเป็นเพียงเครื่องราชบรรณาการ เหตุใดพระองค์จึงทำราวกับทรงหวงเช่นนี้หรือพะยะค่ะ”องค์คาเซียทรงตรัสถามกลับด้วยเสียงแผ่วเบาไม่แพ้กัน

“เรื่องนี้มันมีเหตุผลในตัวของมันเอง... เจ้ายังมิจำเป็นต้องรู้ในเพลานี้หรอก คาเซีย”

“ในเมื่อพระองค์มิอยากให้กระหม่อมรับรู้... กระหม่อมก็ขอน้อมรับพระบัญชาด้วยใจ และจะมิเอ่ยถามถึงเรื่องนี้อีกพะยะค่ะ”

“เมื่อถึงเวลาอันควร เจ้าจะได้รู้เหตุผลของมันเอง”องค์ราชันย์ทรงตรัสด้วยสุรเสียงอ่อนโยนก็ที่จะทรงหันไปรับสั่งให้ทหารนำเก้าอี้มาสองตัว

เก้าอี้ที่ประทับสองตัวถูกนำมาตั้งเอาไว้ข้างบัลลังก์งาม องค์ทริสเซย์ทรงปล่อยวรกายบางออกจากอ้อมพระกร แม้จะทรงเสียดาย แต่พระองค์ก็มิอาจจะเห็นแก่ตัวพระองค์เองได้มากนัก

องค์ชายคาเซียทรงเสด็จไปรับว่าที่พระชายาของพระองค์มาประทับข้างกาย และในเพลาเดียวกันนั้น ตัวของพระองค์เองก็ประทับอยู่ข้างกายขององค์ราชาทริสเซย์เช่นเดียวกัน

เครื่องเสวยสำหรับทั้งสามพระองค์ถูกจัดเตรียมและยกมาถวายโดยนางกำนัลหน้าตาหมดจด พวกนางเดินเรียงแถวกันมาอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงการอบรมที่ดีของฝ่ายใน

องค์ชายคาเซียทรงตักน้ำซุปอุ่นๆป้อนให้แก่องค์ชายโซเทเรียอย่างอ่อนโยน และพระองค์ยังทรงหันไปตักผัดเนื้อนกกระจอกเทศพริกไทยดำให้กับองค์ราชาได้เสวยอีกด้วย

พระองค์ทรงใส่พระทัยกับทั้งสองพระองค์ที่ประทับอยู่ข้างพระวรกายมาก ทรงดูแลทั้งคู่เป็นอย่างดี คอยตักสำรับให้ตลอดเวลาเสวย พระองค์มิทรงเลือกเอาพระทัยใครเพียงคนเดียวแต่พระองค์เลือกที่จะปฏิบัติต่อว่าที่พระสวามีและว่าที่พระชายาของพระองค์อย่างเท่าเทียมกัน

แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้เหนื่อยกายขององค์ชายคาเซียไม่น้อย แต่พระองค์ก็ทรงทำด้วยพระทัยของพระองค์ มิใช่เสแสร้งแกล้งทำ สำหรับตัวพระองค์แล้วเหนื่อยกายเพียงแค่นี้ในเพลานี้ อย่างไรเสียก็ดีกว่าที่จะเหนื่อยพระหฤทัยในภายหลัง

ทุกสายตามองภาพของทั้งสามพระองค์ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไป...

บ้าง... มองด้วยความเปรมปรีดิ์   ที่... เห็นภาพของความรักที่เริ่มก่อนตัวขึ้น

บ้าง... มองด้วยความรู้สึกริษยา   ที่... ผู้อื่นได้ดีกว่าตน

บ้าง... มองด้วยความทุกข์โศก    ที่...ท่านผู้นั้นมิสนใจใยดีในตัวของเขา

แต่ถ้าใครสักคนมองไปยังมุมหนึ่งของท้องพระโรงอันงดงามแห่งนี้ ก็คงจะได้พบกับเจ้าหญิงหน้าตางดงามราวกับภาพวาดโดยจิตรกรฝีมือเลิศล้ำ กายของพระองค์บอบบาง น่าทะนุถนอมยิ่งนัก ฉลองพระองค์ชุดหรูปักดิ้นทองที่พระนางทรงสวมใส่นั้นยิ่งทำให้พระองค์ดูราวกับเป็นเทพธิดาลงมาจุติ...

แล้วเหตุใดกันเล่า... พระพักตร์อันงดงามนั้นถึงบึ้งตึง นัยน์พระเนตรนั้นเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความริษยา พระหัตถ์เรียวงามทรงกำพระพัชนีแน่น

พระนางทรงจ้องมององค์ชายคาเซียด้วยความโกรธแค้น ใช่... พระนางไม่พอพระทัยอย่างมากที่องค์ประมุขทรงส่งพระนางไปอยู่ตำหนักไอรีสเช่นนี้ มิเพียงเท่านั้น สิ่งที่ทำให้พระนางกริ้วมากยิ่งขึ้นคือการที่องค์ชายแห่งเซเรียลผู้นั้น กลับได้เข้าไปประทับในตำหนักที่พระนางใฝ่ฝัน ทั้งยังเป็นที่โปรดปรานขององค์ราชาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ...

‘องค์ชายคาเซีย ถ้าไม่มีเจ้าเพียงสักคน ผู้ที่จะได้อยู่ข้างกายองค์ราชาทริสเซย์ย่อมเป็นข้า เพราะมีเจ้าอยู่ ข้าถึงต้องถูกส่งไปอยู่ตำหนักที่ห่างไกลฝ่าบาทเช่นนี้ เพราะเจ้า ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะเจ้า คอยดูเถอะ ถ้าข้ามีโอกาส อย่างหวังเลย ว่าเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่เคียงข้างฝ่าบาทเหมือนในวันนี้อีก’

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เข็นบทที่ 8 ตามมาแล้วค้า^^ :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่7 P.2 R.38]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-03-2012 22:29:55
ตัวร้ายปรากฎแล้ว อะไรเนี่ย คาเซียจะมีชายาด้วย อ่อย เป็นลมมม
ขอบคุณนะคับคนเขียน อ่านจนจุใจไปเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่7 P.2 R.38]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 10-03-2012 22:36:00
ตัวร้ายโผล่มาเเล้ว

เเอบชอคกับกับคำขอของโซล

ว่าเเต่คาเซีย จะอะจึ่ยๆๆเป็นป่าวน้าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 10-03-2012 22:59:26
นางอิจฉา ท่าทางน่ากลัว
 :serius2:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ UP ตอนที่ 3 ตามน้ำ (29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-03-2012 23:07:48
มร็วจริงขอบคุณจ้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 10-03-2012 23:38:45
เราอยากให้คาเซียกับโซลเป็นแค่พี่น้องกันมากกว่าอ่ะ!!  :sad4:
จะได้เก็บคาเซียไว้เป็นของราชาคนเดียว!!  :o8:

แต่ในเมื่อคนเขียน เขียนออกมาในแนวนี้ก็ไม่เป็นไร สู้ๆนะคะ!!  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 11-03-2012 00:17:56
องค์ชายคาเซีย เป็นสองสถานะเลยนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 11-03-2012 00:44:01
ขอเดา ผมว่า โซล ตายเพราะช่วยชีวิตองค์ชายแน่เลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 11-03-2012 01:00:00
เนื้อเรื่องแปลกดี จะว่าแปลกที่สุดเท่าที่เคยอ่านก็ได้นะเนี่ย 555+

แต่ก็สนุกน่าติดตามดีค่ะ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-03-2012 03:24:36
องค์ราชาไม่ยอมให้ 3p หรอก

 o6
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่8 P.2 R.48]
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 11-03-2012 04:39:19
โซลกะคาเซียจะตีฉิ่งหรอฮะฮ่าๆๆๆ เหมือคู่เลสเลยอ่ะใครน่าทะนุถนอมกว่ากันน่า :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2012 11:11:08
บทที่9
ตำนานรักสองราชวงศ์ : พระชายา

หลังจากงานเลี้ยงจบลง ทุกๆคนในท้องพระโรงแดนดิเลี่ยนแห่งนี้ ก็พากันกลับที่พำนักของตนกันไปด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข

องค์ราชาทริสเซย์ทรงกลับตำหนักของพระองค์พร้อมด้วยองค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรีย พระองค์ทรงพาองค์ชายแห่งสายลมไปส่งที่ตำหนักก่อนที่จะมุ่งกลับสู่ตำหนักโพรเทีย

เมื่อพระองค์ทรงกลับมาถึงตำหนัก พระองค์ก็ทรงสรงน้ำ โดยมีนางกำนัลร่างบางคอยปรนนิบัติพระองค์อยู่ตลอดเวลา

เสื้อผ้าที่นางกำนัลในห้องสรงสวมใส่นั้นมีเพียงผ้าทบผืนบางที่ปิดปทุมถันอวบอิ่มเอาไว้ ชายผ้าทบนั้นยามถึงเข่าของพวกนาง เมื่อผ้าโดนน้ำจะแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนของพวกนางอย่างชัดเจน

องค์ชายคาเซียทรงกลับไปพักผ่อนที่ห้องบรรทมของพระองค์หลังจากที่สรงน้ำเสร็จ พระองค์ก็ทรงประทับเหม่อลอยอยู่ข้างๆพระบัญชรบานใหญ่ พระองค์ทรงเหม่อมองขึ้นไปบนท้องนภาที่เต็มไปด้วยดวงดาราสว่างไสวงดงามยิ่งนัก

วันแรกของการมาประทับอยู่ในเซเรียลของพระองค์นั้น พระองค์ทรงรู้สึกว่าชีวิตที่เคยสุขสงบของพระองค์นั้นเริ่มมีเค้าของความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างที่พระองค์ไม่เคยประสบมาก่อน...

พระองค์ประทับนิ่งอยู่ที่เดิมสักพัก และยังคงประทับต่อไปเช่นนี้ ถ้ามิใช่ว่าองค์ราชาทริสเซย์ทรงเสด็จมาพบพระองค์ก่อนที่จะเสด็จไปยังตำหนักเรด ป๊อปปี้

“คาเซีย”องค์ราชาแห่งเฟรนเซียเสด็จเข้ามาในห้องบรรทมขององค์ชายพร้อมกับตรัสเรียก “เช้าวันพรุ่ง ข้าจะออกราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายา... เจ้าคงรู้สินะว่าเราต้องการจะสื่ออะไร”

ถึงแม้ว่าพระราชาจะมิได้ทรงตรัสออกมาตรงๆ แต่องค์ชายคาเซียก็ทรงรับรู้ความนัยน์ได้โดยสันชาตญาณของพระองค์เอง....

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายทรงขานรับคำขององค์ราชาอย่างนอบน้อม พระพักตร์หวานยังคงประดับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนมิได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

องค์ทริสเซย์ทรงจุมพิตที่พระนลาฏขององค์ชายเบาๆก่อนที่จะเสด็จไปยังตำหนักเรด ป๊อปปี้ดังที่ทรงตั้งพระทัยเอาไว้

“ชีวิตของข้านั้นเหมือนจะไม่สงบสุขเหมือนแต่ก่อนแล้วสิ”องค์ชายทรงหันไปตรัสกับสองนางกำนัลและสององครักษ์ที่อยู่ใกล้พระวรกายของพระองค์เบาๆ “นี่แค่เพียงวันแรกของการมาเองนะ... ยังมีเรื่องมากมายเสียขนาดนี้เลย”

“องค์ชาย...”เรฟเอ่ยขึ้นเสียงอ่อน... ในที่นี้ เรฟนั้นถือได้ว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิตมากที่สุด ผ่านอะไรๆมาเยอะกว่าคนอื่นนัก ด้วยความที่เขาเป็นองครักษ์ที่ทำงานด้านมืดให้กับองค์ชายเสมอ “พระองค์จะต้องสู้นะพะยะค่ะ อนาคตของพระองค์ยังอีกยาวใกล้...พวกกระหม่อมจะคอยเป็นกำลังให้กับพระองค์เองนะพะยะค่ะ”

เซท เรล เนล พยักหน้าเห็นด้วยกับเรฟ พวกเขาต่างส่งสายตาสื่อความนัยน์ที่บอกว่าจะอยู่ข้างองค์ชายตลอดไปมาให้กับพระองค์ ซึ่งสิ่งเล็กๆสิ่งนี้นั้นได้สร้างกำลังใจอันเปี่ยมล้นให้กับองค์ชายได้เป็นอย่างมาก

“เราจะสู้”พระองค์รับคำหนักแน่น แม้ว่าชีวิตของพระองค์นั้นอาจจะมีเรื่องราวอีกมากมายแค่ไหน จะดีหรือจะร้าย ถ้าตราบใดที่พระองค์ยังทรงมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป พระองค์ก็จะไม่มีวันล้มลง

“แม้ว่าพรุ่งนี้เราจะต้องถวายตัวให้กับฝ่าบาท

แม้ว่าในอีกเจ็ดวันข้างหน้านี้เราจะต้องอภิเษกกับองค์ชายโซเทเรีย

แม้ว่าในอนาคตข้างหน้านี้เราจะเป็นอย่างไร ขอแค่เรายังมีพวกเจ้าอยู่เคียงข้างเรา เป็นกำลังให้เรา เราก็จะสู้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นกำลัง”คำตรัสนี้เป็นดั่งคำสัญญาที่พระองค์มอบให้กับข้ารับใช้ที่ภัคดีของพระองค์ ทั้งที่อยู่กับพระองค์ในเวลานี้ หรือที่คอยคุ้มครองพระองค์อยู่อย่างลับๆ คำสัญญานี้จะเป็นสิ่งเตือนพระทัยของพระองค์และทุกๆคนตลอดไป

++++++++++++++++++++++++++++++++

รุ่งอรุณวันใหม่มาถึง หมู่ปักษาโบยบินบนท้องนภาอย่างเริงร่า แสงสีทองสาดส่องทั่วท้องฟ้าเป็นสัญญาณแห่งการมีชีวิต...

องค์ชายคาเซียทรงเสด็จไปเสวยอาหารเช้ากับองค์ชายโซเทเรียที่ตำหนักฟรีเซีย ก่อนที่ทั้งสองพระองค์จะเสด็จไปยังท้องพระโรงแดนดิเลี่ยนในยามสาย

เมื่อทั้งสองพระองค์ไปถึงท้องพระโรง ก็เป็นเวลาเดียวกับที่องค์ราชาทรงว่าราชกิจเสร็จพอดี...

เหล่าพระสนมพระองค์ใหม่และพระองค์เก่ารวมทั้งเจ้าหญิงเจ้าชายทั้งหลายต่างพากันมาที่ท้องพระโรงอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย พวกพระนางต่างแต่งองค์กันมาอย่างงดงามมิมีใครยอมใคร ทั้งทรงเกศา ฉลองพระองค์ เครื่องทรงต่างๆพวกนางก็สวมใส่กันมาอย่างเต็มยศ

องค์ชายคาเซียทรงทอดพระเนตรภาพตรงหน้าอย่างเฉยเมย พระองค์ทรงรู้สึกว่าการแต่งองค์มาประชันกันเช่นนี้มิใช่เรื่องที่มีสาระเอาเสียเลย บางครั้งอะไรที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดูดีเสมอ... เฉกเช่นตอนนี้ พระองค์ทรงรู้สึกราวกับว่ามีตู้อัญมณีเคลื่อนที่อยู่ตรงหน้าพระองค์ แสงวูบวาบของเพรชนิลจินดาทั้งหลายแข่งกันส่องสว่างเข้าสู่สายพระเนตรอย่างมิขาดสายจนทำให้พระองค์รู้สึกรำคาญพระทัยอยู่ลึกๆ

“ถวายบังคมเพคะ ฝ่าบาท”เหล่าพระสนม องค์หญิง องค์ชายพากันไปถวายคำนับฝ่าบาทกันอย่างไม่ขาดช่วง พวกพระนางทรงส่งยิ้มหวานหยดย้อยให้กับองค์เหนือหัว

องค์ทริสเซย์ทรงพยักพระพักตร์รับการคำนับนั้นน้อยๆด้วยสีพระพักตร์ปกติ ไม่ว่าพระสนมองค์นั้นจะงดงามเพียงไร เจ้าหญิงจะทรงสิริโฉมมากเพียงไหน สีพระพักตร์ก็มิได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

องค์ชายคาเซียทรงจูงพระหัตถ์ของว่าที่ชายาของพระองค์เสด็จไปเข้าเฝ้าพระราชาอย่างเงียบๆ พระองค์ทรงรอให้เหล่าผู้ที่ต้องการเข้าเฝ้าองค์กษัตริย์บางลงเสียก่อนถึงเสด็จเข้าไปถวายคำนับ

“ถวายบังคมพะยะค่ะ องค์ราชา”สององค์ชายน้อมกายคับนับองค์ทริสเซย์เป็นคู่สุดท้ายของวัน ทั้งๆที่ทรงมาถึงท้องพระโรงได้พักใหญ่แล้ว

“กว่าจะเข้ามากันนะ คาเซีย โซล ข้าเห็นพวกเจ้ายืนอยู่ได้พักใหญ่ๆแล้ว”

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมิใคร่จะแย่งชิงกับผู้ให้มาถวายคำนับพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงทูลตอบตามตรงอย่างมิคิดจะปิดบังอันใด “เพราะอย่างไรท้ายที่สุด กระหม่อมและองค์ชายโซเทเรียก็ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทอยู่ดี จริงไหมพะยะค่ะ”

“ก็จริงของเจ้า...”องค์ราชาทรงส่งรอยยิ้มเอ็นดูให้ทั้งสองพระองค์ ทำให้องค์ชายเป็นที่อิจฉาของเหล่านางบำเรอในท้องพระโรงยิ่งขึ้น “เชิญท่านราชเลขา”

องค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรียเสด็จออกจากหน้าบัลลังก์งามไปประทับยืนอยู่ฝั่งซ้ายของท้องพระโรงอย่างรู้หน้าที่

“ฝ่าบาทมีพระราชโองการ... แต่งตั้งเจ้าหญิงเรเชล เจ้าหญิงเรร่าเป็นพระสนมโท”

“ขอบพระทัยเพคะ”เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จออกมารับราชโองการด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“ฝ่าบาททรงมีราชโอการ แต่งตั้งองค์ชายคาเซียเป็นพระชายา และพระราชทานงานอภิเษกสมรสแด่องค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรียใน 7 วันข้างหน้า”เมื่อพระราชโองการนี้ถูกประกาศออกมา ทุกคนในท้องพระโรงต่างฮือฮาขึ้นด้วยความที่มิอยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”องค์ชายทั้งสองเสด็จออกไปรับราชโองการด้วยพระพักตร์เปื้อนยิ้ม แต่ยิ้มของทั้งสองนั้น... เพียงแค่มองผ่านก็พอจะทราบได้ว่าแตกต่างกัน...

พระองค์หนึ่งทรงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข สมหวัง

ส่วนอีกพระองค์นั้นทรงยิ้มด้วยความเหนื่อยล้า แต่มิได้เศร้าหมอง

องค์ชายคาเซียทรงยิ้มให้กับโชคชะตาที่เล่นตลกของพระองค์ จากองค์ชายผู้ถูกลืมมาเป็นเครื่องราชบรรณาการ จากเครื่องราชบรรณาการมาเป็นพระชายา แล้วนอกจากพระชายาแล้วยังทรงควบตำแหน่งพระสวามีอีก

นี่หรือ... ชีวิตของพระองค์

“ช้าก่อนพะยะค่ะ ฝ่าบาท”เสนาบดีการคลังเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงอื้ออึงในท้องพระโรงด้วยเสียงอันดัง “ทรงแต่งตั้งองค์ชายคาเซียเป็นพระชายา... ในขณะเดียวกันก็พระราชทานงานอภิเษกสมรสให้แก่องค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรียเช่นนี้ มิผิดประเพณีไปหน่อยหรือพะยะค่ะ”

หลายเสียงในท้องพระโรงแห่งนี้เห็นด้วยคำของเสนาบดีการคลัง เพราะแค่การให้องค์ชายขึ้นเป็นพระชายาก็มิใช่สิ่งที่ควรกระทำแล้ว ยังไม่พอ พระชายายังจะทรงมีพระชายาขององค์เองอีก เป็นเช่นนี้เหล่าประชาราษฎร์จะยอมรับได้เช่นนั้นหรือ...

“ผู้ครอบครองแผ่นดินนี้คือข้า ผู้สร้างกฎเกณฑ์ก็คือข้า ผู้ริเริ่มประเพณีก็คือข้า ข้าประสงค์เช่นนี้ เจ้าจะขัดต่อข้าอย่างนั้นหรือ เสนาคลัง”องค์ทริสเซย์ทรงดำรัสด้วยน้ำเสียงเย็นแฝงเอาไว้ด้วยความกริ้ว “เหตุผลของเจ้ามีเพียงแต่ผิดประเพณีเช่นนั้นหรือ”

พระเนตรคมหรี่ลงอย่างจับผิด พระองค์ทรงจ้องร่างอ้วนเผละของเสนาบดีการคลังตรงหน้าด้วยแววตารู้ทัน พระองค์ทรงทราบดีว่าเสนาโลภผู้นี้หวังให้ธิดาของตนนั้นขึ้นเป็นพระชายา เผื่อวันให้ที่นางให้กำเนิดพระโอรสแก่พระองค์ นางจะได้ขึ้นเป็นราชินี ตัวของเสนาคลังนั้นจะได้ศักดิ์เป็นพระสสุระของพระองค์ และเมื่อมีตำแหน่งเป็นถึงพระญาติแล้ว เสนาคลังก็จะสามารถข่มเหงผู้อื่นได้โดยมิเกรงกลัวต่อใครๆยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งพระองค์จะไม่มีวันให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในแผ่นดินของพระองค์เป็นอันขาด

“อ่า... พะยะค่ะ”เสนาผู้โลภมากได้แต่จำใจรับคำ แม้ในใจของเขาจะมีเหตุผลมากมายเพียงไร แต่ก็เป็นเหตุผลที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ทั้งนั้น เพราะเหตุผลทั้งหมดนั้น เป็นเหตุผลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของตัวเขาเอง มิใช่เหตุผลที่เป็นกลางแม้แต่น้อย

“ถ้าเช่นนั้น วันนี้ก็มิมีอะไรแล้ว เชิญทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานของตนเองกันได้แล้ว”สุรเสียงที่ทรงตรัสออกมานั้นบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์อย่างมาก ซึ่งทำให้หลายๆคนในท้องพระโรงแห่งนี้รีบสลายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

องค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรียที่ประทับยืนนิ่งอยู่หน้าบัลลังก็ตลอดเวลา ก็ยังคงประทับอยู่ ณ ที่นั้นต่อไป มิได้ขยับกายไปไหน

สำหรับองค์ชายคาเซียนั้น ที่ยังไม่เสด็จออกไปเพราะพระองค์ไม่ชอบการที่จะต้องไปเบียดเสียดกับใคร ถ้ามิมีเรื่องจำเป็น พระองค์ก็จะขอรอจนกว่าทางจะสะดวกให้พระองค์เสด็จไปอย่างไม่ต้องแก่งแย่งกับผู้ใด

ส่วนองค์ชายโซเทเรียนั้น ที่ยังไม่เสด็จออกไปเพราะพระองค์ทรงรอว่าที่พระสวามีของพระองค์อยู่...

เมื่อผู้คนในท้องพระโรงมีจำนวนบางตาลง องค์ชายคาเซียก็ทรงขยับกายน้อมคำนับองค์ราชาอย่างสง่างามพร้อมๆกับองค์ชายโซเทเรีย

“กระหม่อมทูลลาพะยะค่ะ”

“ยามเย็นพบกัน องค์ชายคาเซีย”องค์ทริสเซย์ทรงส่งรอยยิ้มยั่วเย้าให้กับองค์ชาย พระเนตรของพระองค์ทรงเปล่งประกายด้วยความรู้สึกสนุกสนานเล็กๆก่อนที่จะทรงกลับเป็นสีพระพักตร์ปกติ

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายทรงตรงตรัสรับคำอย่างเสียมิได้

องค์ชายโซเทเรียทรงสดับฟังคำของทั้งสองพระองค์ด้วยความรู้สึกปวดพระทัยลึกๆ แต่ก็ทรงทำอะไรมิได้ ได้แต่ทำพระทัยให้ยอมรับว่าพระองค์มิได้ครอบครององค์ชายคาเซียแต่เพียงผู้เดียว...

องค์ชายแห่งเซเรียลทรงจับพระหัตถ์ขององค์ชายแห่งวินเซเน่ แล้วทั้งสองพระองค์ก็พากันเสด็จออกนอกท้องพระโรงไปอย่างเงียบๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++

เพียงไม่นาน ยามเย็นก็มาถึง นางกำนัลประจำกายทั้งสองขององค์ชายคาเซียต่างช่วยกันเลือกฉลองพระองค์ที่งดงามที่สุดมาให้องค์ชายทรงใส่ในราตรีที่สำคัญราตรีหนึ่งในพระชนมชีพขององค์ชาย

องค์ชายคาเซียทรงชำระพระวรกายอย่างเชื่องช้า โดยมีนางกำนัลที่องค์ราชาทรงส่งมาให้ปรนนิบัติองค์ชายในวันพิเศษเช่นนี้

พระองค์ทรงทอดพระเนตรภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

ใจหนึ่งพระองค์ก็รู้สึกดีพระทัย... ที่ภารกิจที่ได้รับจากพระมารดานั้นจะสำเร็จไปหนึ่งเรื่อง

ใจหนึ่งพระองค์ก็ทรงรู้สึกหวาดกลัว... กับเรื่องที่กำลังจะมาถึง

ใจหนึ่งพระองค์ก็ทรงรู้สึกเศร้า... ที่ต่อจากราตรีนี้ไป พระองค์จะมิเหมือนก่อนอีกต่อไป

“องค์ชายนี่ทรงงดงามจริงๆนะเพคะ”นางกำนัลนางหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังปรนนิบัติพระองค์อยู่ มือของนางลูบไล้เรือนกายของพระองค์อย่างเบามือ ราวกับว่าถ้าจับต้องพระองค์มากไปจะทำให้พระองค์เกิดริ้วรอยหรือแตกหักไป... “พระฉวีเนียนนุ่ม ขาวนวล พระวรกายก็บอบบางยิ่ง อีกทั้งมิจำเป็นต้องใช้เครื่องพระสุคนธ์ กลิ่นกายาของพระองค์ก็ทรงหอมยิ่งนักเพคะ”

“ใช่เพคะ ฝ่าบาทรับสั่งมาเลยนะเพคะ ว่าไม่ต้องใช้เครื่องหอมมาประทินพระฉวีของพระองค์ เพราะฝ่าบาททรงโปรดความเป็นธรรมชาติของพระชายามากเลยเพคะ”นางกำนัลอีกคนเอ่ยสำทับ

“เช่นนั้นหรือ...”องค์ชายคาเซียทรงยิ้มรับบางๆ “พระสนมทั้งหลายล้วนงดงามกว่าเราทั้งนั้น ข้าว่ากลิ่นกายพวกนางคงหอมยิ่งกว่าข้าเป็นสิบ เป็นร้อยเท่า”

“พวกพระนางงามได้ด้วยเครื่องทรงและเครื่องพระสุคนธ์นิเพคะองค์ชาย”นางกำลังคนแรกที่พูดกับพระองค์เอ่ยขึ้นมาอีก “ฝ่าบาทมิโปรดของพวกนั้นหรอกเพคะ”

องค์ชายคาเซียทรงยิ้มบางๆแล้วมิโต้เถียงอันใดอีก เพราะถึงเถียงไปเท่าไร พระองค์คงมิอาจจะชนะพวกนางได้เป็นแน่แท้

เมื่อทรงชำระพระวรกายเสร็จ เรลกับเนลก็นำฉลองพระองค์ชุดงามมาสวยให้กับพระองค์

องค์ชายคาเซียทรงทอดพระเนตรฉลองพระองค์ที่ทรงสวมด้วยความไม่เข้าพระทัย เมื่อเนื้อผ้าของฉลองพระองค์ชุดนี้นั้น ดูบางกว่าปกติ อีกทั้งยังค่อนข้างหลวมอีกด้วย พระองค์ทรงมองนางกำนัลทั้งสองเชิงถาม แต่ก็มิได้รับคำตอบใดๆ

องค์ชายคาเซียทรงประทับอยู่บนแท่นบรรทมนุ่ม พระองค์ทรงเหม่อมองไปยังพระบัญชรที่เปิดทิ้งเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอกกล่าว...

องค์ราชาทริสเซย์ทรงเสด็จเข้ามาในห้องบรรทมขององค์ชายอย่างเงียบๆ พระองค์ทอดพระเนตรมององค์ชายด้วยความพอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง

“เจ้ามองอะไรอยู่น่ะ หืม... คาเซีย”เสียงทุ้มทรงตรัสกับพระชายาของพระองค์อย่างอ่อนโยน

“กระหม่อมมองดวงดาวบนท้องพ้าน่ะพะยะค่ะ... ราตรีนี้ ดวงดาราช่างงดงามยิ่งนัก”องค์ชายคาเซียทรงตอบกลับผู้ที่ประทับอยู่ข้างกายพระองค์เบาๆ

“แต่สำหรับข้า เจ้างดงามกว่าดวงดาวพวกนั้นเสียอีก”องค์ราชาทรงจุมพิตพระชายาคาเซียอย่างลึกซึ้ง

พระหัตถ์หนาปลดฉลองพระองค์บางเบาขององค์ชายคาเซียและขององค์เองออกอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงดันวรกายของพระชายาลงแนบกับแท่นบรรทมเบาๆ

“เจ้าช่างงามยิ่งนัก ชายาของข้า”พระนาสิกโด่งซุกไซร้ที่ลำคอขาวผ่อง พระองค์ทรงดูดเม้มผิวขาวจนเกิดรอยแดงขึ้นหลายแห่ง ก่อนที่จะทรงเคลื่อนพระพักตร์มาหยอกล้อยอดพระถันสีชมพูอย่างยั่วเย้า

“อึก อ๊ะ...”เสียงหวานคราวแผ่วเบา เมื่อองค์ทริสเซย์ทรงหยอกเอิ้นกายของพระองค์ พระหัตถ์แกร่งลูบไล้เรือนร่างของพระองค์แผ่วๆ สร้างอารมณ์รัญจวนให้พระองค์ยิ่งนัก

องค์ราชาทรงหยิบพระเขนยมารองพระโสณีขององค์ชายให้ลอยเด่นขึ้น พระหัตถ์อุ่นทรงลูบไล้สถานที่ลับขององค์ชายเบาก่อน ก่อนที่จะทรงส่งพระมัชฌิมา(นิ้วกลาง)ชำแรกเข้าไปสำรวจภายใน

“อื้อออออ”เสียงหวานขององค์คาเซียร้องขึ้นเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในกายของพระองค์

องค์ทริสเซย์ทรงสดับฟังเสียงครางด้วยความพึงพอพระทัย แล้วจึงส่งพระดัชนี(นิ้วชี้)ชำแรกเข้าไปสำรวจภายในอุ่น พระองค์ทรงขยับนิ้วพระหัตถ์ช้าๆ เพื่อให้พระชายาของพระองค์ได้ปรับตัว เมื่อองค์ชายคาเซียทรงผ่อนคลายลง พระองค์จึงถอนพระหัตถ์ออก...

“คาเซีย... เจ้าเป็นของข้า”พระองค์ทรงแทรกกายเข้าไปภายในขององค์ชายช้าๆ “อย่าเกร็งสิ คาเซีย อย่างเกร็ง...”

“อ๊าาาาาา ฮึก ฮือออออ ฝ่าบาท...”เสียงหวานขององค์ชายครางออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดจะกลั้น พระอัลสุชลไหลรินออกมาจากพระเนตรไม่ขาดสาย องค์ชายทรงรู้สึกว่าร่างของพระองค์นั้นกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเผชิญไหลวูบขึ้นถามแนวพระปิฐิกัณฐกัฐิ(กระดูกสันหลัง) พระองค์ทรงขยับพระโสณีถอยร่นออกมาเพื่อหลีกนี้ความเจ็บปวดนั้น แต่ก็ถูกพระหัตถ์แกร่งยึดเอาไว้เสียก่อน

องค์ราชาแห่งเฟรนเซียทรงดันกายเข้าไปจนสุด ก่อนที่จะทรงนิ่งสักพักแล้วขยับกายเข้าออกช้าๆ รอให้ร่างที่พระองค์ครอบครองอยู่นั้นผ่อนคลายลง พระองค์ทรงจูบซับน้ำตาที่ไหลรินอย่างอ่อนๆ พระเนตรคมสบกับดวงเนตรหวานความความหลงใหล

เมื่อองค์ชายคาเซียทรงผ่อนกายที่เกร็งอยู่ลง พระองค์ก็ทรงเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น สร้างความเสียวซ่านปนความเจ็บปวดให้แก่องค์ชายเป็นอย่างมาก

เสียงร้องครวญครางของทั้งสองพระองค์ดังก้องห้องบรรทมแห่งนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลงเมื่อสายธารแห่งกามรมณ์หลั่งรินเข้าสู่กายเล็ก และองค์ชายทรงหลั่งออกมาเปรอะเปื้อนพระอุทรขององค์เอง

องค์ทริสเซย์ทรงหยิบผ้าผืนบางที่วางอยู่ไม่ไกลมาเช็ดร่างที่เปรอะเปื้อนองค์ชายผู้เป็นชายาเบาๆ แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็มิได้ถอนกายออกจากภายในที่อบอุ่น... พระองค์ทรงพลิกให้วรกายบางมาทาบทับกายที่เต็มไปด้วยกล้ามพระมังสา

“เจ็บมากไหม หืม.... ชายาข้า”พระองค์ทรงตรัสถามร่างในอ้อมพระหัตถ์เบาๆ

“พะยะค่ะ”องค์ชายทรงตอบกลับด้วยเสียงแผ่วๆ เมื่อมิได้ทำกิจกรรมใดๆ ความเจ็บปวดนั้นก็แสดงอาการออกมาอีกครั้ง

“บ่อยครั้งแล้วเจ้าจะชินไปเอง คาเซีย”จบคำตรัส บทรักบทใหม่ก็ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอีกครั้ง...

ทั้งสองพระองค์ทรงบรรเลงเพลงรักกันครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนถึงรุ่งสาง... เสียงภายในห้องแห่งนี้จึงสงบลง

+++++++++++++++++++++
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: pangBoo ที่ 11-03-2012 11:51:17
 :impress2: :impress2: :impress2:ชอบๆๆๆๆๆๆๆ รอตอนต่อไปนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-03-2012 11:57:43
คาเซียเสร็จองค์ราชาไปซะแล้ว อิอิ
รุ้สึกไม่ชอบโซเทเรีย แล้วสิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: leeteuk ที่ 11-03-2012 12:12:17
กริ๊ดดดดดดดดดดดดด  และแล้ว คาเซียของเราก็ได้เป็๋นพระชายาในเร็ววัน 
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 11-03-2012 12:19:21
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 11-03-2012 12:34:40
ควบสองตำแหน่ง มันยังไงกันแว้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 11-03-2012 13:12:02



   เหนื่อยแทนองค์ชายคาเซียจริงๆน้า
   มาถึงไม่กี่วันก็ได้รับมาหลายตำแหน่ง. . . แบบงงๆ
   แถมแต่ละตำแหน่งก็ดูขัดกันแปลกๆตะหาก



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 11-03-2012 13:23:25
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: CHoMe ที่ 11-03-2012 13:50:29
มึนงงกับตำแหน่งขององค์ชายคาเซีย
ควบสองตำแหน่งเลยทีเดียว o22
และในที่สุดก้ได้เป็นนชายาแล้ว :mc4:
แต่อีกไม่นานก็จะได้เป็นพระสวามีอีกเช่นกัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 11-03-2012 14:04:40
กลายเป็นชายาซะแล้ว จะไปเป็นสวามีได้มั้ยอะนั่น
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 11-03-2012 14:53:29
น่าติดตามโคตรๆ o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: kids-me ที่ 11-03-2012 17:24:40
อิอิ จำเราได้ด้วย

ดีใจจัง

เรารอให้ในเล้าทันในเด็กดีอยู่นะ

เป็นกำลังใจให้ :3123:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 11-03-2012 20:49:50
น้องโซลก็เป็นพระชายาของพระชายาอ่ะจิ ซับซ้อนจิงๆ  :z3:
รออ่านต่อค้าบโ :L1:ผมมมม
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2012 21:07:43
บทที่ 10
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เตรียมพิธีอภิเษก

รุ่งเช้าของวันใหม่ องค์ชายคาเซียทรงตื่นจากบรรทม ทั้งๆที่พระองค์นั้นได้พักผ่อนไปเพียงไม่นาน แต่ด้วยความเคยชินของพระองค์ที่ตื่นแต่เช้าเสมอ ทำให้พระองค์ไม่สามารถข่มพระเนตรพักผ่อนต่อไปได้

พระองค์ทรงขืนวรกายออกมาอ้อมพระกรขององค์ทริสเซย์ ก่อนที่จะทรงลุกขึ้นหมายจะไปสรงน้ำตามปกติ... แต่เมื่อทรงขยับกายเพียงเล็กน้อย ความเจ็บปวดจากช่วงล่างของพระองค์ก็แสดงอาการออกมาทันที

“เจ้าไม่ควรขยับในเวลานี้นะ คาเซีย”เสียงทุ้มตรัสอย่างอ่อนโยน พระหัตถ์หนาทรงลูบไล้เกศานุ่มเบาๆ “เจ้าควรจะนอนพักนิ่งๆ ถ้าไม่อยากให้ช้ำไปมากกว่านี้”

“กระหม่อมมิอาจจำเช่นนั้นได้หรอกพะยะค่ะ”เสียงที่หวานใสแหบลงเล็กๆ แต่ก็ยังน่าฟังองค์สำหรับพระองค์ “กระหม่อมยังมีภาระต้องเตรียมงานอภิเษก... ยังไม่สามารถพักได้หรอกพะยะค่ะ”

องค์ชายคาเซียทรงยิ้มบางๆให้กับองค์เหนือหัวก่อนจะฝืนวรกายลุกขึ้นมา สีพระพักตร์ของพระองค์บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ แต่ก็ยังทรงฝืน มิส่งเสียงออกมา

องค์ทริสเซย์ทรงพิงพระเขนยนุ่ม พระองค์ทรงทอดพระเนตรมองพระชายาองค์แรกอย่างทรงห่วงใยเล็กๆ

“องค์ชายเพคะ...”สองนางกำนัลคนสนิทก้าวเข้ามาในห้องบรรทมอย่างเร่งรีบ พร้อมส่งเสียงเรียกองค์ชายของพวกนาง ก่อนที่จะชะงักเมื่อเห็นผู้สูงศักดิ์อีกองค์ที่ประทับอยู่ในห้องบรรทมนี้ “ถวายบังคมเพคะ ฝ่าบาท”

“ตามสบาย พวกเจ้าเอาเครื่องสรงกับฉลองพระองค์ของข้าและพระชายาไปที่ห้องสรงด้วยล่ะ”องค์ราชาทรงดำรัสด้วยเสียงนุ่มๆ ก่อนที่จะทรงเสด็จมาช้อนร่างที่ยืนโงนเงนไม่มั่นคงนั้นขึ้นมาในอ้อมพระกร แล้วทรงเสด็จไปยังห้องสรง

นางกำนัลทั้งสอง และเหล่านางกำนัลที่อยู่บริเวณนั้นพากันหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นเรือนกายอันเปลือยเปล่าของทั้งสองพระองค์

“องค์ชายคงทรงเจ็บปวดมาเลยสินะ”เสียงของเนลดังขึ้นด้วยความหมองหม่น เรียกความสนใจของเหล่านางกำนัลได้อย่างดี ทุกนางวางงานในมือลงแล้วพากันมามุงพระแท่นอย่างสนอกสนใจ

ภาพที่พวกนางเห็นคือ คราบโลหิตสีแดงฉานและน้ำสีขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนผ้าปูสีขาวเป็นวงกว้าง รอยเลือดนั้นยังมีกระจายอยู่เป็นหย่อมเล็กๆบนพระแท่น อีกทั้งกลิ่นคาวของเลือดและน้ำกามรมณ์คละคลุ้งไปทั่วห้อง

“วรกายขององค์ชายก็ทรงเต็มไปด้วยรอยแดงๆ โถ่... องค์ชายของเนล”

“ยังน้อยกว่าที่คิดนะ...”นางกำนัลในตำหนักโพรเทียนาม เมร่า เอ่ยขึ้น “เมื่อคืนวานเป็นเวรของข้ากับเอลน่าเฝ้าหน้าห้องบรรทม กว่าเสียงของฝ่าบาทและพระชายาจะเงียบลงก็รุ่งสางแล้ว ข้าคิดว่าเลือดจะออกมากกว่านี้เสียอีก... แสดงว่าฝ่าบาทต้องทรงอ่อนโยนกับพระชายามากแน่ๆ”

เนลเม้มริมฝีบากปากแน่น นางมิอาจที่จะพูดอะไรได้ เพราะอยู่ในต่างแดน ถ้านางมีปัญหาอันใด องค์ชายจะต้องทรงโดนหางเลขไปด้วย

“เจ้าคงจะไม่เชื่อ... เอาเป็นว่าถ้าราตรีใดที่ฝ่าบาทเสด็จไปพำนักตำหนักอื่นๆ โดยเฉพาะตำหนักออเรนจ์โรสสิ แล้วเจ้าจะรู้ว่าฝ่าบาทน่ะ อ่อนโยนต่อพระชายามากแค่ไหน”นางกำนัลเอลน่ากล่าวทิ้งท้ายก่อนที่นางกับเพื่อนนางกำนัลของนางจะเดินออกจากห้องบรรทมไปพร้อมกับผ้าปูพระแท่นที่เปรอะเปื้อนนั้น

“ถ้าข้ามีโอกาส... ข้าจะไปดูนะเรล”เนลหันมาพูดกับน้องสาวของนาง

“ข้าก็จะไปกับพี่ด้วย เนล”

สองนางกำนัลน้อยจัดเตรียมฉลองพระองค์ขององค์ชายคาเซียและขององค์ราชากันอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วพวกนางก็พากันเดินไปยังห้องสรง

เมื่อพวกนางไปถึง องค์ชายคาเซียและองค์ทริสเซย์ก็สรงน้ำกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางกำนัลประจำห้องสรงรับฉลองพระองค์ขององค์ราชาไป ส่วนพวกนางก็เข้าไปสวมฉลองพระองค์ให้กับองค์ชาย

“กระหม่อมขอทูลลาพะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์คาเซียทรงหันมาคำนับผู้ครองอำนาจสูงสุดอย่างนอบน้อม องค์ราชาทรงเลิกพระขนงขึ้นเชิงถามว่าพระองค์จะไปไหน... “กระหม่อมจะไปรับองค์ชายโซเทเรีย ก่อนไปยังท้องพระโรงน่ะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“ข้าจะรอทานมื้อเช้ากับเจ้าและโซลที่ท้องพระโรงแล้วกัน”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสทิ้งท้าย ก่อนที่จะทรงเสด็จออกไปว่าราชการยังท้องพระโรงแดนดิเลี่ยน

“องค์ชายทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ ทรงเจ็บมากไหม”เนลเอ่ยถามองค์ชายของนางอย่างเป็นห่วงเป็นใย มือเล็กลูบไล้พระกรขององค์ชายเบาๆ “โถ่... พระฉวีของพระองค์แดงไปหมดเลยนะเพคะ”

“เราไม่เป็นไรหรอก เนล เราไม่ได้เจ็บอะไร รอยพวกนี้มันอ่า... อย่างที่เจ้ารู้นั่นแหละ”พระปรางนวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย เมื่อทรงนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อราตรีที่ผ่านมา “จะเจ็บก็แค่ตรงนั้น... แต่เราทนได้ ไปกันเถอะ”

เนลและเรลพยุงองค์ชายของพวกนางไปขึ้นรถม้าที่ประทับ แล้วทั้งห้าก็พากันไปยังตำหนักฟรีเซีย ตำหนักที่ประทับขององค์ชายโซเทเรีย

“อ๊ะ... คาเซีย”เสียงใสๆขององค์ชายตัวเล็กดังขึ้นก่อนที่ร่างน้อยจะโผล่ออกมาต้อนรับผู้มาเยือนอย่างยินดี “เจ้ามาไหวด้วยเหรอ... เฟรุยบอกข้าว่าเจ้าอาจจะมาหาข้าไม่ไหวเพราะ... อ่า... เจ้าปรนนิบัติฝ่าบาททั้งราตรี...”

“ไหวสิ โซล”รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้กับองค์ชายเหมือนเคย แม้สีพระพักตร์จะทรงซีดเซียวไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังทรงเป็นปกติอยู่... “ข้ามารับเจ้าไปท้องพระโรงน่ะ... ฝ่าบาททรงรอเสวยพระกระยาการเช้าอยู่...”

องค์ชายทรงตรัสอย่างเกร็งๆ ด้วยความที่ทรงกังวลว่าองค์ชายโซเทเรียจะทรงคิดมากหรือไม่ ที่พระองค์ทรงตรัสถึงองค์ราชา ในวันหลังจากที่พระองค์ทรง... ถวายตัว

“อ๊า~ งั้นก็ต้องรีบไปแล้วนิ”องค์ชายโซเทเรียทรงร้องขึ้นเสียงไม่ดังนัก แต่ก็ไม่เบา ก่อนที่จะทรงจับพระหัตถ์ของคนตรงหน้า “ไปกันเถอะ คาเซีย”

“อืมมม”

ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จขึ้นรถม้าพระที่นั่งเพื่อเสด็จไปยังท้องพระโรงแดนดิเลี่ยนอย่างรวดเร็ว

องค์ชายคาเซียทรงหันมองร่างบอบบางที่ประทับอยู่ข้างพระองค์อย่างเป็นกังวลนิดๆ แต่ก็ทรงวางพระทัยไปได้บ้างเมื่อเห็นองค์ชายโซเทเรียยังคงร่าเริงดี

ถึงแม้ภายนอกที่องค์ชายโซเทเรียทรงแสดงออกมานั้นจะทรงเป็นปกติ... แต่ใครจะทราบว่าในพระหฤทัยลึกๆของพระองค์นั้น จะทรงคิดอะไรอยู่...

ตัวพระองค์นั้นมิอยากทำให้ว่าที่พระสวามีของพระองค์มิสบายพระทัย พระองค์ทรงทราบดีว่าองค์ชายคาเซียนั้น ทรงมีปัญหาให้ขบคิดมากเกินพอแล้ว ถึงแม้ว่าพระองค์จะรู้สึกเสียพระทัยไปบ้าง ที่องค์ชายที่ทรงรักนั้น เป็นของใครอีกคน แต่ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังทรงดีพระทัย ที่องค์ชายยังเป็นห่วงและแคร์ความรู้สึกของพระองค์อยู่เหมือนดังเดิม...

ข้าจะไม่ทำให้เจ้าไม่สบายใจหรอก คาเซีย ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้าต้องมีปัญหาเพราะข้าเด็ดขาด... เพราะข้ารักเจ้าเกินกว่าที่จะทำให้เจ้าเสียใจได้...

พระหัตถ์เล็กกอบกุมพระหัตถ์เรียว องค์ชายโซเทเรียทรงหันมายิ้มให้กับองค์ชายคาเซียอย่างสดใส และแฝงความนัยน์ที่ทำให้องค์ชายแห่งเซเรียลนั้นสามารถยิ้มออกมาได้ด้วยความสุข

“ขอบใจนะ โซล”องค์ชายทรงโอบร่างของว่าที่ชายาของพระองค์มาแนบชินพระวรกาย พระองค์ทรงลูบไล้พระเกศานุ่มด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย “ขอบใจนะ... ที่เจ้าเข้าใจข้า ขอบใจ... ที่เจ้าไม่ทำให้ข้าตรงลำบากใจ ขอบใจจริงๆ”

“เพราะข้ารักเจ้า เกินกว่าที่จะทำร้ายเจ้าได้น่ะสิ”องค์ชายแห่งสายลมทรงตรัสเสียงเบาๆ แต่คำตรัสนี้ได้เข้าไปตราตรึงอยู่ในดวงหทัยขององค์ชายคาเซียอย่างยากจะลบเลือน

องค์ชายคาเซียทรงเชยพระพักตร์ขององค์ชายในอ้อมพระกรขึ้น ก่อนที่พระองค์จะทรงมอบจุมพิตอันหวานล้ำให้กับว่าที่พระชายา...

พระพักตร์ขององค์ชายโซเทเรียแดงก่ำด้วยความขวยเขิน พระหัตถ์เล็กกำฉลองพระองค์ขององค์ชายคาเซียแน่น

“ถึงวันนี้ ข้าจะยังไม่ได้รับเจ้า เหมือนดั่งที่เจ้ารักข้า แต่ข้าสัญญา ข้าจะดูแลเจ้าตลอดไป โซล”เสียงหวานกระซิบเบาๆที่ข้างพระกรรณขององค์ชายแห่งสายลม

องค์ชายโซเทเรียทรงยิ้มอย่างเปรมปรีดิ์ พระองค์ทรงซบพระพักตร์เข้ากับอุระบาง
นาสิกสวยได้รูปสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากเกศานุ่ม พระกรเรียวโอบกอดร่างบอบบางเอาไว้หลวมๆ

พระเนตรหวานขององค์ชายโซเทเรียทอดพระเนตรเห็นร่องรอยรักสีกลีบกุหลาบที่องค์ราชาทรงฝากไว้กับวรกายของว่าที่พระสวามี... พระหัตถ์เล็กลูบไล้รอยนั้นเบาๆ

“เจ็บไหม”พระองค์ทรงตรัสถามเสียงแผ่ว “แดงมากเลยนะ”

“ไม่เจ็บหรอก...”องค์ชายคาเซียทรงตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าไม่เจ็บหรอก โซล”

“อืม...”แม้พระองค์อยากจะทรงตรัสถามเกี่ยวกับราตรีที่ผ่านมาขององค์ชายคาเซียกับฝ่าบาทเพียงไหน แต่พระองค์ก็มิอาจเอื้อนเอ่ยอันใดได้...

ทั้งสองนิ่งเงียบจนเดินทางมาถึงท้องพระโรง นางกำนัลทั้งสองขององค์ชายแห่งเซเรียลเข้ามาพยุงนายของตนอย่างรู้หน้าที่

“พระชายาเสด็จ องค์ชายโซเทเรียเสด็จ”นายทวารตะโกนก้อง ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะก้าวเข้าไปในท้องพระโรงอันงดงาม...

“มาแล้วหรือ คาเซีย”องค์ราชาทรงตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่พระองค์จะทรงหันไปส่งสัญญาณให้นางกำนัลยกเครื่องเสวยเข้ามา

องค์ชายคาเซียพาองค์ชายโซเทเรียไปประทับยังที่ประทับ ก่อนที่พระองค์จะทรงเสด็จเข้าไปหาองค์เหนือหัว ท่ามกลางสายตาของเหล่าสนม นางกำนัลและขุนนางในท้องพระโรงแดนดิเลี่ยนแห่งนี้

“ฝ่าบาท กระหม่อมขอจัดเตรียมพิธีอภิเษกของกระหม่อมด้วยตัวเองนะพะยะค่ะ”เสียงหวานทรงกระซิบเบาๆใกล้ๆพระกรรณ

“ตามใจเจ้า”แม้พระองค์จะรู้สึกไมพอพระทัยไปบ้าง แต่ก็ทรงจำต้องยอมให้องค์ชายคาเซียทำตามพระทัยขององค์ชายไป

พระหัตถ์แกร่งคว้าเอาวรกายเล็กมานั่งบทพระเพลา ก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะเดินกลับที่ของตนไป

“ฝ่าบาท....”องค์ชายคาเซียทรงร้องเบาๆอย่างตกพระทัย “นี่มันในท้องพระโรงนะพะยะค่ะ”

“แล้วอย่างไร คาเซีย”เสียงที่ตรัสออกมานั้นยังคงเป็นปกติ... “เจ้าเป็นพระชายาของข้านะ คาเซีย เจ้าจะกังวลสิ่งใด ในเมื่อเจ้ายังอยู่ข้างกายข้าเช่นนี้”

“กระหม่อมเกรงว่ามันจะไม่เหมาะสมนัก...”องค์ชายทรงทอดพระเนตรไปรอบๆกาย พระพักตร์งามขึ้นสีอ่อนอย่างเขินอาย

“อ่อ... เจ้าคงอายสินะ”องค์ราชาทรงตรัสอย่างเข้าพระทัย “ราตรีนี้เจ้าคงรู้ตัวเองแล้วสินะ ว่าจะต้องทำอันใด”พระองค์มิทรงพูดเปล่า ทรงลูบไล้พระโสณีของพระชายาเบาๆอย่างเย้ายวน “ห้องของข้า...”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์คาเซียตอบรับคำเบาๆ “ราตรีนี้ ที่ห้องบรรทมของฝ่าบาทพะยะค่ะ”
พระองค์ทรงได้แต่ประทับนิ่ง ให้องค์ประมุขลูบไล้วรกาย อยู่เช่นนั้น จนกระทั่งเครื่องเสวยถูกยกมา พระองค์ถึงได้ประทับอยู่ข้างฝ่าบาท โดยที่อีกข้างของพระองค์เป็นพระชายาเช่นวันวาน...

องค์ชายคาเซียยังทรงคอยปรนนิบัติเจ้าชีวิตของพระองค์ไปควบคู่กับดูแลว่าที่ชายาของพระองค์ไปพร้อมๆกัน เฉกเช่นเดียวกับสายพระเนตรแห่งความริษยาของสนมหลายนางที่จับจ้องพระองค์อย่างแค้นเคือง

เจ้า... คาเซีย เพราะเจ้าแย่งฝ่าบาทไปจากข้า แกดึงความสนใจจากฝ่าบาทไปอยู่กับตัวเจ้า ถ้าไม่มีเจ้า ถึงอย่างไรฝ่าบาทก็ต้องมองข้า ข้าจะเป็นคนแรกที่ฝ่าบาทเห็น ฝ่าบาทจะต้องรักข้า สนใจข้า ไม่ใช่เจ้า

พระสนมเมริน่าทรงทอดพระเนตรองค์ชายคาเซียด้วยความเกลียดชังอย่างไม่ปิดปัง นางกำนัลที่อยู่ใกล้ๆพระนางต่างพากันถอยห่างออกไปด้วยความหวาดกลัว

“คาเซีย”เสียงทุ้มตรัสดังขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นคนข้างกายเอาแต่ป้อนเครื่องเสวยให้องค์ชายโซเทเรียบ้าง ตักให้พระองค์บ้าง โดยที่ตนเองนั้นแทบมิได้แตะต้องเครื่องเสวยพวกนี้เลย

“พะยะค่ะ”พระพักตร์หวานหันมาหาพระองค์พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน
พระหัตถ์หนาทรงเอื้อมมาตักเครื่องเสวยที่องค์ชายคาเซียโปรด ก่อนจะทรงป้อนให้กับองค์ชายอย่างนุ่มนวล

องค์คาเซียทรงอ้าพระโอษฐ์รับเครื่องเสวยที่องค์ราชาทรงป้อนให้ พระองค์ทรงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ค่อยๆแผ่ซ่านในพระหฤทัยของพระองค์

“เจ้าควรที่จะทานอะไรเสียบ้าง ก่อนที่กายของเจ้าจะบอบบางไปมากกว่านี้นะ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ตรัสกับพระชายาของพระองค์ด้วยสุรเสียงอ่อนโยน “ถ้าเจ้าอยากจะป้อนอาหารพวกนี้ให้กับโซเทเรียก็ตามใจเจ้า แต่ข้าจะเป็นคนป้อนให้เจ้ากินเอง”

“ฝ่าบาท...”เสียงหวานสั่นเครือเล็กๆ พระหัตถ์เล็กยื่นมากอบกุมพระหัตถ์แกร่งเบาๆ “ขอบพระทัยพะยะค่ะ”

“เจ้าดูแลชายาของเจ้า ข้าก็ต้องดูแลชายาของข้าบ้างสิ จริงไหม”องค์ทริสเซย์ทรงลูบไล้เกศานุ่มของพระชายาเบาๆ ก่อนที่จะทรงป้อนเครื่องเสวยให้กับองค์ชายต่อ “ราตรีนี้ข้าคงไปดึกเล็กน้อย ถ้าเจ้ารอไม่ไหวก็นอนไปก่อนได้เลยนะ คาเซีย”

องค์ชายโซเทเรียทรงทอดพระเนตรองค์ราชาและองค์ชายคาเซียอยู่ตลอด พระองค์ทรงเผยยิ้มเศร้าขึ้นมาชั่ววินาที ก่อนที่จะปรับให้เป็นรอยยิ้มที่สดใสเหมือนดั่งปกติ

พระองค์จะทรงหม่นหมองเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะครั้งนี้จะไม่มีทางเป็นหนสุดท้ายเป็นแน่ ที่องค์ราชาจะทรงแสดงความเป็นเจ้าขององค์ชายที่พระองค์รัก...

หลังจากที่เครื่องเสวยถูกนางกำนัลยกออกไปเก็บเรียบร้อยแล้ว องค์ชายคาเซียก็ทูลลาองค์ทริสเซย์ไปจัดการเตรียมพิธีอภิเษกของพระองค์ทันที

ตลอดทั้งวันองค์ชายคาเซียทรงวิ่งวุ่นกับการประสานงานในด้านต่างๆโดยมิยอมหยุดพัก จนล่วงเลยเข้าสู่เวลาเย็น ทุกๆอย่างจึงเสร็จลง ทุกๆฝ่ายรู้หน้าที่ของตนเอง และเริ่มดำเนินงานกันอย่างว่องไว เพื่อให้ทันงานอภิเษกที่จะมีขึ้นในอีก 6 วันข้างหน้า

ส่วนองค์ชายโซเทเรียได้แต่ประทับองค์ในตำหนักให้นางกำนัลฝ่ายตัดเย็บมาวัดวรกายเพื่อตัดฉลองพระองค์ อีกทั้งพระองค์ก็ถูกสั่งห้ามด้วยรอยยิ้มว่าไม่ได้ลุกขึ้นมาจัดการเรื่องใดๆ องค์ชายคาเซียจะทรงจัดการทุกๆอย่างเอง...

เมื่อองค์ชายคาเซียทรงชำระร่างกายของพระองค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงพักผ่อนอยู่ในห้องบรรทมของพระองค์จนกระทั่งเกือบถึงยามสิบสอง

“พระชายาเพคะ... จะถึงยามสิบสองแล้วนะเพคะ”เสียงหวานของนางกำนัลต้นห้องแห่งตำหนักโพรเทียดังขึ้น “ฝ่าบาทคงใกล้เสด็จกลับมาแล้วนะเพคะ พระองค์จะทรงเสด็จไปห้องบรรทมของฝ่าบาทเลยไหมเพคะ”

“อ๊ะ ข้าลืมไปเลย”องค์ชายคาเซียทรงลุกขึ้นจากพระแท่นทันที แม้จะทรงเซไปเล็กน้อยด้วยความเจ็บบริเวณช่วงล่างของพระองค์ที่ยังมิบรรเทาลงนัก “ถึงว่า... เนลถึงเอาชุดแบบนี้ให้ข้าใส่”

องค์ชายทรงเสด็จไปยังห้องบรรทมขององค์ทริสเซย์ตามคำเตือนของนางกำนัลเจนี่ทันที แต่ถึงกระนั้น ยังมิทันที่พระองค์จะทรงประทับลงบนพระแท่นใหญ่ตรงหน้า พระกรแกร่งก็ทรงโอบกอดร่างของพระองค์เอาไว้เสียแล้ว...

“คาเซีย”เสียงนุ่มดังแผ่วเบาอยู่ข้างพระกรรณ องค์ชายคาเซียทรงผิดพระพักตร์มามองพระพักตร์หล่อเหลาขององค์ราชาตามเสียงเรียก “คิดถึงจัง”

“เอ๊ะ...”ดวงเนตรหวานช้อนขึ้นมองอย่างงุนงง “ฝ่าบาททรงเสด็จไปตำหนักเพอเพิลไลแลค(ความลุ่มหลง)ไม่ใช่หรือพะยะค่ะ ฝ่าบาทจะทรงมีเวลาคิดถึงกระหม่อมด้วยงั้นเหรอพะยะค่ะ”

“พวกนางมิมีใครสู้เจ้าเพียงคนเดียวได้เลย คาเซีย”องค์ทริสเซย์ทรงจับร่างเล็กให้หันมาหาพระองค์ก่อนที่จะทรงสวมกอดอีกครั้ง “มิมีใครกลิ่นกายหอมอ่อนๆอย่างเจ้า มิมีใครงดงามเหมือนเจ้า มิมีใครทำเติมเต็มให้กับข้าได้ดั่งเจ้า ชายาของข้า”

ร่างของทั้งสองเอนลงบนพระแท่นนุ่ม อาภรณ์ที่สวมใส่หลุดออกจากวรกายทีละชิ้นๆ

พระนาสิกโด่งซุกไซร้ที่ซอกพระศออย่างหื่นกระหาย พระโอษฐ์หยักดูดเม้มผิวนุ่มสร้างรอยรักตามทางที่ผ่าน พระหัตถ์หนาลูบไล้ เค้นคลึงเรือนกายขาวเนียนที่ยังมีร่องรอยกลีบกุหลาบของพระองค์อยู่...

“อ๊ะ... อา...”เสียงหวานครางแผ่วๆตลอดเวลาที่พระองค์ทรงเล้าโลม ซึ่งสร้างความพึงพอพระทัยให้พระองค์เป็นอย่างยิ่ง “อื้อออออ ฮึก อ๊าาาาา”

องค์ทริสเซย์ทรงหยอกเย้ายอดถันสีชมพูอ่อน ขณะเดียวกันก็ทรงเบิกทางเบื้องล่างเพื่อเปิดเส้นทางสู่สวรรค์ของพระชายาให้พร้อมจะนำพาพระองค์

“หวานเหลือเกินชายาของข้า เจ้าจะทำให้ข้าคลั่งอยู่แล้วนะ”

“ฝ่าบาท... อ๊า จะ. เจ็บ ฮึก”

“คาเซีย ข้าขอโทษ... วันนี้ข้าคงมิอาจจะอ่อนโยนกับเจ้าได้เท่าราตรีวาน...”

สิ้นเสียงตรัส องค์ทริสเซย์ก็ทรงล่วงล้ำเข้าไปในกายบางอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นก็ทางเข้าไปได้เพียงส่วนเดียวเท่านั้น...

“เจ็บ... ฝ่าบาท เจ็บพะยะค่ะ เจ็บเหลือเกิน...”องค์ชายคาเซียทรงเริ่มร้องไม่เป็นภาษา อัลสุชลไหลรินอาบปรางนวล เมื่อองค์ราชาทรงขืนกายเข้ามาในช่องทางแคบ

“ผ่อนคลายซะ คาเซีย อย่าเกร็ง”พระหัตถ์หนาลูบไล้เส้นผมนุ่มอย่างปลอบโยน

เมื่อพระองค์ทรงรู้สึกว่าร่างที่พระองค์ทาบทับอยู่นั้นผ่อนคลายลง ก็ทรงดันกายเข้าไปอีก ก่อนจะค่อยๆขยับเพื่อให้พระชายาปรับตัว...

“อึก อ๊ะ อ๊า.... อื้อ”องค์ทริสเซย์ทรงเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางหวานและเสียงกระทบกันของเนื้อดังก้องห้องบรรทม จนกระทั่งสายธารแห่งความใคร่หลั่งรินในเข้าในกายบาง

“เจ้ายังเจ็บอยู่ วันนี้เท่านี้ก่อนแล้วกัน ชายาข้า”พระองค์ทรงโอบร่างบอบบางเอาไว้ในอ้อมพระกร “ขอบใจมาก คาเซีย”

“มิเป็นไรพะยะค่ะ... กระหม่อมต้องขอประทานอภัย ที่มิอาจรองรับพระองค์ได้อย่างที่สมควร...”

“ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เดี๋ยวเจ้าก็ตอบรับข้าได้เอง คาเซีย”

“พะยะค่ะ”

++++++++++++++++++++++++++++++++++

ชื่อตอน... ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหา... แหะๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2012 21:10:41
บทที่ 11
ตำนานรักสองราชวงศ์ : พิธีอภิเษก

รุ่งอรุณแห่งวันงานอภิเษกนั้นภายในราชวังดูวุ่นวายไปหมด นางกำนัลต่างเร่งรีบทำหน้าที่ของตนให้เสร็จ เพื่อจะได้เอาเวลาที่เหลือไปแต่งองค์ทรงเครื่องให้งดงาม...

องค์ชายคาเซียทรงแต่งกายเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้า จึงทรงเสด็จไปช่วยราชกิจที่ยังคั่งค้างขององค์ราชาให้เสร็จรอเวลาเริ่มพิธีในช่วงสายของวัน

องค์ชายโซเทเรียทรงใช้เวลาในการแต่งวรกายเนิ่นนาน พระองค์ทรงฉลองพระองค์สีขาวพิสุทธิ์งดงาม กระโปรงยาวกรอมพื้นปักเลื่อมอย่างบรรจง พระเกศาถูกแต่งทรงอย่างประณีตโดยนางกำนัลฝีมือดี พระพักตร์แต่งเครื่องประทินโฉมบางๆ ก่อนจะทรงสวมผ้าคลุมโปร่งสีขาวปิดพระพักตร์ ชายของผ้าคลุมนั้นยาวจรดกับชายกระโปรงพอดี

ประชาชนนับพันต่างพากันมาออกันอยู่หน้าพระราชวัง เพื่อชื่นชมพิธีอภิเษกที่ถูกจัดขึ้นมาอย่างงดงาม พวกเขาต่างรู้สึกยินดีที่มีพิธีมงคลนี้ขึ้นหลังจากที่หวาดผวากับสงครามมานับปี...

ในช่วงสายพิธีอภิเษกก็เริ่มขึ้น องค์ชายโซเทเรียทรงประทับยืนอยู่หน้าแท่นพิธีที่มีบาทหลวงยืนอยู่ โดยที่หลังบาทหลวงนั้นเป็นที่ประทับขององค์ราชา ผู้เป็นประธานในพิธีนี้

องค์ชายโซเทเรียทรงเสด็จออกมาพร้อมกับเสียงฮือฮาด้วยความชื่นชม ร่างบอบบางในชุดอันงดงาม พระองค์ทรงเสด็จอย่างเชื่องช้ามาประทับเคียงข้างว่าที่พระสวามี...

พระหัตถ์ขององค์ทริสเซย์ยกขึ้นเป็นสัญญาณให้กับบาทหลวงเริ่มพิธี

องค์ชายคาเซียเปิดผ้าคลุมพระพักตร์ขององค์ชายคาเซียออกด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แล้วบาทหลวงจึงเริ่มพิธีสัญญา

“องค์ชายคาเซีย แห่งเซเรียล พระชายาแห่งองค์ราชาทริสเซย์ ท่านจะทรงรับองค์ชายโซเทเรียแห่งวินเซย์เป็นพระชายาหรือไม่”

“ข้าองค์ชายคาเซีย ขอรับองค์ชายโซเทเรียเป็นพระชายา ข้าสัญญาว่าจะดูแลองค์ชายด้วยกำลังทั้งหมดที่ข้ามี ตราบจนวินาทีสุดท้าย”

“องค์ชายโซเทเรียน แห่งวินเซย์ ท่านจะรับองค์ชายคาเซียแห่งเซเรียลเป็นพระสวามีหรือไม่”

“ข้าองค์ชายโซเทเรีย ขอรับองค์ชายคาเซียเป็นพระสวามี ข้าสัญญาว่าจะรักและภัคดีด้วยใจของข้าตราบจนสิ้นลมหายใจ”

“ขอท่านทั้งสองจดจำสัญญาที่ให้แก่กันในวันนี้ ขอให้ท่านดูแลกันและกัน เข้าใจกันตั้งแต่บัดนี้ จนตราบสิ้นชีวาวาย...”บาทหลวงทรงกล่าวกับองค์ชายทั้งสองด้วยเสียงก้องกังวาน “ขอองค์ราชาทริสเซย์ โปรดพระราชทานพระพรอันยิ่งใหญ่ให้แก่ท่านทั้งสอง”

องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จจากบัลลังก์มาประทับตรงหน้าขององค์ชายทั้งสอง พระหัตถ์หนาแตะพระนลาฏขององค์ชายคาเซียแผ่วเบา

“ขอทวยเทพประทานพรให้เจ้ามีความสุข สมหวังในสิ่งที่คิดและกระทำ”เสียงทุ้มตรัสอย่างอ่อนโยน พระเนตรของทั้งสองพระองค์สบประสานกันอย่างมีความนัยน์...

พระชายาขององค์ชายทรงทอดพระเนตรภาพของทั้งสองด้วยความเจ็บลึกในพระทัย เมื่อทรงเห็นถึงความรักความห่วงใยที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆของทั้งสองเฉกเช่นนี้

องค์ราชาทรงย้ายพระหัตถ์มาแตะที่พระนลาฏขององค์ชายโซเทเรีย...

พระหัตถ์เล็กทรงปัดพระหัตถ์แกร่งอย่างเผลอตัว องค์ทริสเซย์ทรงเริ่มกริ้วขึ้นมาเล็กๆกับการกระทำที่เสียมารยาทกับพระองค์ต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้

“โซเทเรีย”เสียงเย็นๆตรัสเรียกพระชายา “เจ้า...”

“ฝ่าบาท...”ยังไม่ทันที่องค์ราชาจะทรงกล่าวถึงความผิดขององค์ชายโซเทเรีย องค์ชายคาเซียก็ทรงตรัสขึ้นเสียก่อน... “กระหม่อมจะรับโทษเอง... ขอได้โปรด ผ่านวันนี้ไปก่อนนะพะยะค่ะ”

“อืม”องค์ราชาทรงรับคำอย่างเสียมิได้เมื่อเห็นนัยน์เนตรเว้าวอนของพระชายาของพระองค์เอง... “ขอให้เจ้าเป็นชายาที่ดี มีทายาทให้แก่สวามีโดยไว”

เมื่อทรงตรัสจบ พระองค์ก็ทรงเสด็จกลับสู่บัลลังก์อย่างเงียบๆ พระเนตรยังทรงฉายแววคุกกรุ่นอยู่เล็กๆ

“ขอพระพรแห่งสรวงสวรรค์จงสถิตอยู่กับท่าน”บาทหลวงกล่าวเป็นคำสุดท้าย ก่อนที่ระฆังวิวาห์จะดังขึ้น เพื่อเป็นการแสดงความยินดีแก่คู่แต่งงาน

เย็นวันนั้น องค์ทริสเซย์ทรงรับสั่งให้มีงานเฉลิมฉลองให้แก่องค์ชายทั้งสอง แขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ต่างพากันมาอวยพรให้มันทั้งสองพระองค์อย่างมิขาดปาก แม้แต่เหล่าพระสนมที่ชังองค์ชายคาเซียก็ยังมาร่วมแสดงความยินดี แม้สายตาจะมองพระองค์ด้วยความเกลียดก็ตาม

องค์ทริสเซย์ทรงประทับนิ่งบนบัลลังก์งาน พระพักตร์ของพระองค์เรียบเฉย แต่ถ้ามองดีๆแล้วจะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงหงุดหงิดพระทัยอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว... ซึ่งทำให้ใครต่อใครไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้พระองค์มากในเวลานี้

องค์ชายคาเซียทรงสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น พระองค์หันมามองพระพักตร์ของพระชายาเชิงขออนุญาต ก่อนที่จะทรงเสด็จเข้าไปหาองค์ราชา

พระองค์ก็มิทราบว่าทำไมถึงทรงกล้าที่จะเข้าหาเจ้าชีวิตของพระองค์ในเวลาที่ทรงกริ้ว แต่ภายในพระหฤทัยส่วนลึกของพระองค์นั้นเชื่อว่าองค์ประมุขจะมิทรงทำอะไรที่รุนแรงนักกับพระองค์เป็นแน่...

“ยังมิทรงหายกริ้วหรือพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงประทับลงบนพื้นเบื้องหน้าองค์ราชา พระหัตถ์เล็กยื่นมากอบกุมพระหัตถ์หน้าเบาๆ

“ข้าแต่หงุดหงิดนิดหน่อยน่ะ... เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก”องค์ทริสเซย์ทรงก้มลงมาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าไปร่วมงานเลี้ยงต่อเถอะ”

“พระองค์ทรงกริ้วเช่นนี้ ข้าพระองค์ก็มิสนุกกับงานหรอกพะยะค่ะ”องค์ชายทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมองพระองค์ด้วยแววตาห่วงใย “ข้าพระองค์ควรจะทำอย่างไรให้พระองค์หายกริ้วดีพะยะค่ะ”

“มีลูกให้ข้าสักคนสองคนสิ คาเซีย”พระหัตถ์แกร่งลูบไล้เกศานุ่มๆอย่างอ่อนโยน “เผื่อตอนไหนที่เจ้าไม่อยู่ ข้าจะได้มีใครสักคนให้ข้าดูแลไง”

“เอ... พระองค์จะทรงดูแลกระหม่อมหรือพระยะค่ะ”พระเนตรหวานฉายแววดีพระทัย

“เจ้าเป็นชายาของข้านะ คาเซีย ข้าจะไม่ดูแลเจ้าได้ยังไงหืม”องค์ราชาทรงแย้มยิ้มให้กับร่างบางอย่างอ่อนโยน ขัดกับพระเนตรที่จับจ้องชายาของพระองค์อย่างจับผิด “หรือเจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นแค่นางบำเรอที่ไร้ค่าอยู่อีก หืม...”

“...”องค์ชายคาเซียยิ้มให้พระองค์จางๆ แล้วก้มพระพักตร์ลง เป็นสัญญาณให้พระองค์รับรู้ได้ว่าเป็นอย่างที่พระองค์ทรงคิดจริงๆ

“เจ้านี่น้า... ตำแหน่งชายาข้ามอบให้เจ้าเพื่อให้เจ้ารู้ว่าข้าต้องการดูแลเจ้า ให้เจ้าอุ้มท้องลูกของข้า แต่เจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นนางบำเรอความใครอยู่แทบตลอดเวลาจริงๆ”

“ขอประทานอภัยพะยะค่ะ...”

“ช่างมันเถอะ...ต่อไปนี้อย่าคิดว่าตัวเองมีค่าแค่รองรับความต้องการของข้าแล้วเท่านั้นก็จบไปอีกแล้วกัน คาเซีย”

“พะยะค่ะ”องค์ชายนับคำเสียงใน พระพักตร์หวานซบลงที่พระเพลาขององค์ผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า “ส่วนเรื่อง... ทายาท คงขึ้นอยู่กับพระองค์แล้วล่ะพะยะค่ะ ว่าจะทรงพระราชทานให้กระหม่อมเมื่อไร...”

“อยู่ที่เจ้ามากกว่ากระมัง... ในเมื่อข้ามอบอ้อมกอดให้เจ้าเกือบทุกราตรีเช่นนี้ เมื่อไรเจ้าจะตั้งท้องให้ข้าได้ชื่นใจเสียทีล่ะ”

“เมื่อถึงเวลาล่ะมั้งพะยะค่ะ”

ทั้งสองพระองค์พูดคุยกันหลายต่อหลายเรื่อง จนกระทั่งถึงเวลาฤกษ์ที่จะต้องส่งตัวคู่วิวาห์เข้าเรือนหอ...

ตำหนักฟรีเซียอันเป็นที่ประทับขององค์ชายโซเทเรีย บัดนี้ถูกเนรมิตเป็นเรือนหอที่งดงาม ประดับประดาด้วยดอกไม้ เทียนหอม และผ้าหลายสีสันอย่างประณีต

“ขอให้พวกเจ้ามีทายาทโดยไว”องค์ทริสเซย์ตรัสทิ้งท้ายก่อนจะทรงเสด็จกลับคำหนักของพระองค์เอง

องค์ชายคาเซียทรงประคองร่างเล็กของพระชายาของพระองค์เข้าไปในตำหนักอย่างนุ่มนวล

ทั้งสองพระองค์ประทับบนพระแท่นนุ่ม องค์ชายทรงโอบพระชายาของพระองค์อย่างอ่อนโยน พร้อมส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นให้

นางกำนัลประจำกายก้าวเข้ามาในห้อง แล้วต่างพานายเหนือหัวของตนไปชำระกายให้สะอาดอย่างรวดเร็ว เพื่อที่ค่ำคืนแสนหวานนี้จะได้ดำเนินต่อไป

องค์ชายคาเซียทรงเอนกายพิงพระเขนยรอพระชายา... องค์ชายโซเทเรียเสด็จเข้ามาประทับเคียงข้างพระองค์ในเวลาถัดมา...

“ถ้าโซลยังไม่พร้อม... ข้ายังไม่ทำอะไรตอนนี้ก็ได้นะ...”

“ไม่เป็นไร... โซลพร้อมแล้วล่ะ...”

องค์ชายคาเซียทรงมอบจุมพิตบางเบาให้กับพระชายา มือเรียวค่อยๆปลดเปลื้องอาภรณ์ชุดบางออกจากร่างน้อย เผยให้เห็นผิวขาวนวลเนียนน่าสัมผัส... ก่อนที่จะทรงปลดอาภรณ์ของพระองค์เองออกบ้าง

พระองค์ทรงเตรียมความพร้อมให้กับองค์ชายโซเทเรียอย่างอ่อนโยนและค่อยเป็นค่อยไป ช่องทางหวานค่อยๆถูกเบิกออกที่ละน้อยๆ เมื่อพระชายาทรงพร้อมแล้ว พระองค์จึงล่วงล้ำเข้าสู่ทางอบอุ่นช้าๆ

“อื้ออ เจ็บ”เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อพระองค์ทรงดันกายเข้าไปได้ระยะหนึ่ง

“ทนหน่อยนะ โซล”องค์ชายทรงกระซิบแผ่วเบา

พระองค์ทรงดันกายเข้าไปจนสุด ก่อนที่จะทรงหยุดนิ่ง รอให้ร่างที่รองรับพระองค์นั้นปรับตัวได้เสียก่อน จึงทรงขยับกายอีกครั้ง

ร่างสองร่างกอดก่ายกับบนพระแท่นนุ่น กายของทั้งสองมิห่างกันแม้เพียงวินาที

องค์ชายคาเซียทรงมอบความรักให้กับพระชายาอย่างเปี่ยมล้น แล้วทั้งสองพระองค์ก็บรรทมไปในอ้อมกอดของกันและกัน...

“ข้าจะคอยปกป้องและดูแลเจ้าเอง... โซเทเรีย”

+++++++++++++++++++++++++++++++++

บทที่สิบเอ็ดมาแล้ว... คาเซียก็รุกได้นะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่10-11 P.3 R.64-65]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 11-03-2012 21:59:06
โว้วววววว มหัศจรรย์มากกกก ทำได้ทั้งสองหน้าที่เลย เยี่ยมมมม


แอบหวัง 3p กร๊ากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่10-11 P.3 R.64-65]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-03-2012 22:06:25
อ๊ากกก คาเซีย  รุกและรับในเวลาใกล้กัน สุดยอดดด
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่10-11 P.3 R.64-65]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 11-03-2012 22:58:41
องค์ชายคาเซียก้อรุกเป็น ฮิ้ว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่10-11 P.3 R.64-65]
เริ่มหัวข้อโดย: ArMee ที่ 11-03-2012 23:56:06
ขอตัด โซลออกไปได้ไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่9 P.2 R.51]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2012 01:50:31
อิอิ จำเราได้ด้วย

ดีใจจัง

เรารอให้ในเล้าทันในเด็กดีอยู่นะ

เป็นกำลังใจให้ :3123:

ค้า^^ เร่งลงอยู่ อีกสี่ตอนก็ตามทันแล้วค้า
ตอนที่ 16 จะลงหลังจากที่ลงในเล้าให้ทันเด็กดี จะได้ไปพร้อมๆกันทั้งสองที่
ขอบคุณนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่10-11 P.3 R.64-65]
เริ่มหัวข้อโดย: ZooS ที่ 12-03-2012 03:30:18
โหวววววว     เจ๋งอ่ะ !!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่12 P.3 R.72]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2012 10:20:18
บทที่ 12
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เสด็จประพาสนอกวัง

วันเวลาล่วงเลยไป จนตอนนี้ผ่านมาสามเดือนเศษหลังจากที่องค์ชายคาเซียทรงเสด็จมายังเฟรนเซีย แต่ละวันของพระองค์นั้นช่วงเช้าทรงช่วยงานราชการขององค์ราชา ช่วงบ่ายประทับอยู่กับพระชายาโซเทเรีย ช่วงมืดบางราตรีทรงอยู่กับพระชายา บางราตรีปรนนิบัติองค์ทริสเซย์...

“คาเซีย”เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นเรียกความสนใจของร่างที่นั่งอ่านฎีกาอยู่เงียบๆ

“พะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียเงยพระพักตร์ขึ้นมององค์เหนือหัวอย่างงุนงง พระองค์ทรงเอียงหัวเล็กๆ “มีอะไรหรือพะยะค่ะ”

“งานตรงนี้ใกล้เสร็จแล้ว...”องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จเข้ามาใกล้ร่างเล็กพร้อมกับแย้มพระโอษฐ์ให้อย่างอ่อนโยน “ไปเที่ยวนอกวังกันไหม”

“ไปเที่ยว...”พระเนตรกลมโตฉายแววยินดีเป็นอย่างยิ่ง พระหัตถ์เรียววางฎีกาและปากกาลง “ไปเที่ยวนอกวัง... ไปจริงๆนะพะยะค่ะ”

“จริงสิ”องค์ราชาตรัสรับคำ “เจ้าทำอย่างกับไม่เคยออกไปเที่ยวนอกวังเช่นนั้นแหละ ชายาของข้า”

“กระหม่อม... มิเคยออกไปเที่ยวเลยอย่างเปิดเผยแบบนี้หรอกพะยะค่ะ มีแต่แอบออกไปเงียบๆเพียงเท่านั้น”พระเนตรหวานหลุบลง

องค์ราชาทรงโอบประคองร่างตรงหน้า พระหัตถ์แกร่งลูบไล้เกศาเนียนละเอียดแผ่วเบา
“งั้นข้าพาเจ้าไปเอง ดีไหม”

“พะยะค่ะ...”รอยยิ้มอ่อนหวานถูกส่งให้ผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า “แล้วจะไปเมื่อไหร่หรือพะยะค่ะ”

“อืมมม พรุ่งนี้ดีไหม”

“พรุ่งนี้หรือพะยะค่ะ”

“ใช่สิ พรุ่งนี้แหละ พาชายาของเจ้าไปด้วยก็ดีนะ”องค์ราชาทรงตรัสกับองค์ชายด้วยความรัก “เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา ข้าคงต้องพาสนมบางคนไปด้วย...”

“แค่ได้ออกไป ก็ดีแล้วล่ะพะยะค่ะ”

องค์ชายคาเซียทรงซบลงที่พระอุระแกร่ง พระกรเรียวโอบกอดบั้นพระองค์หลวมๆ

“ออกจากวังไปตำหนักนอกวังครั้งนี้ เจ้าต้องอยู่กับข้าล่ะ”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสเบาๆ “ข้าหวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะมีทายาทให้ข้าโดยไวนะ คาเซีย”

“พะยะค่ะ”พระพักตร์หวานแดงระเรื่ออย่างเขินอาย พระเนตรช้อนมองอย่างอ่อนหวาน

ทั้งสองพระองค์รีบเร่งทำราชกิจให้เสร็จเรียบร้อย นางกำนัลประจำองค์ของทั้งสอง องค์ชายโซเทเรียและเหล่านางสนมบางส่วนก็เร่งรีบจัดเตรียมเครื่องทรงทั้งหลายลงหีบเพื่อเตรียมเดินทางในวันรุ่ง ข้าหลวงที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับขบวนเสด็จต่างพากันวิ่งวุ่นเพื่อจัดเตรียมม้าและรถทรง

เหล่าพระสนมที่ได้ยินรับสั่งให้ตามเสด็จต่างพากันตื่นเต้น พวกพระนางพากันประทินโฉมเสริมความงามให้แก่ตนเอง ฉลองพระองค์หลายต่อหลายชุดถูกหยิบออกมาทาบร่าง จนกระทั่งทรงเลือกชุดที่ถูกใจกันได้

ราตรีนี่เป็นอีกราตรีที่ไฟในราชวังไม่ดับลง รวมทั้งในตำหนักโพรเทีย ซึ่งเป็นตำหนักใหญ่อีกด้วย

ร่างของราชนิกุลทั้งสามเอนกายอยู่เคียงข้างกัน โดยมีองค์ชายคาเซียประทับอยู่ตรงกลาง พระสวามีและพระชายาของพระองค์

ทั้งสามพระองค์มิได้ทรงตรัสอะไรออกมา องค์ชายคาเซียทรงดึงพระหัตถ์ขององค์ราชาทริสเซย์และองค์ชายโซเทเรียมากุมเอาไว้ที่พระอุทรขององค์เอง จนกระทั่งทรงบรรทมกันไป...

ต่างคนต่างมีความคิดของตน แต่ใครจะรู้ถึงความคิดของคนอื่นกันล่ะ...

++++++++++++++++++++++++++

รุ่งอรุณที่วุ่นวายมาเยือนอีกครั้ง ทั้งพระราชวังต่างวิ่งวุ่นกันใหญ่ ทหารหลายคนช่วยกันขนหีบขึ้นรถม้าทรงที่จัดเตียมเอาไว้

เพียงเวลาไม่นานทุกๆอย่างก็พร้อมที่จะเดินทาง องค์ราชาทรงเสด็จขึ้นรถม้าที่ประทับพร้อมด้วยองค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรีย เหล่าสนมนางกำนัลที่ตามเสด็จก็พากันขึ้นรถม้าที่ทางราชวังจัดเตรียมไว้ให้ พลทหารม้าที่ตามเสด็จพากันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วขบวนเสด็จจึงเริ่มออกเดินทาง

องค์ชายคาเซียประทับอยู่บ้างริมพระบัญชร โดยที่มีองค์ทริสเซย์ประทับซ้อนหลังอยู่ ส่วนองค์ชายโซเทเรียทรงบรรทมไปบนที่นั่งยาว ที่ปูฟูกนุ่มๆเอาไว้ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาบนรถม้า

พระเนตรหวานทรงมองสองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจ รอยยิ้มสดใสถูกคลี่ขึ้นบนพระพักตร์ ซึ่งกริยาเหล่านี้สามารถเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากองค์ประมุขได้อย่างดี

สองข้างทางที่ขบวนเสด็จผ่านมีประชาชนจำนวนมากยืนออเพื่อหวังชมพระบารมีขององค์ราชา และความงดงามของเหล่าสนมนางใน พระวิสูตรของรถม้าพระที่นั่งเปิดกว้างให้สามารถชื่นชมได้อย่างเต็มที่ด้วยน้ำพระหัตถ์ขององค์ชายคาเซีย

“ประชาชนของเฟรนเซียช่างมีจำนวนมากจริงๆเลยนะพะยะค่ะ”เสียงใสๆตรัสขึ้น เมื่อทอดพระเนตรเห็นสองข้างทางซึ่งมีแต่ราษฎรมารอรับเสด็จ

“ประชาชนในอาณาจักรของเรามีมากมายจริงๆ การจะดูแลพวกเขาให้อยู่ดี กินดี มีความสุขนั้นไม่ง่ายเลย ข้าพยายามจะทำ ในสิ่งที่ข้าทำได้ แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะช่วยพวกเขาได้หมดทุกคน”ความในพระทัยที่ทรงเก็บงำเอาไว้เบื้องลึกถูกตรัสออกมาเบาๆ พระเนตรคมทอดมองเหล่าปวงประชาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

“กระหม่อมเชื่อว่าประชาชนทุกคนรับรู้ถึงความรักของพระองค์ที่มีให้แก่พวกเขา และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อพวกเขาพะยะค่ะ”พระเนตรหวานช้อนมองพระพักตร์หล่อเหลาเล็กๆ ก่อนจะทรงหันกลับไปทอดพระเนตรผู้คนต่อ “ถ้ามิใช่เช่นนั้นแล้ว พวกเขาคงจะไม่มารอรับพระองค์ รอชื่นชมพระบารมีของพระองค์หรอกพะยะค่ะ”

เหล่าประชาชนที่มารอชมพระบารมีต่างแย้มยิ้มกันอย่างเปี่ยมสุข เมื่อในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาอย่างชัดเจน เพราะปกติพระวิสูตรจะถูกแง้มออกให้มองได้เพียงเล็กๆ

“โบกพระหัตถ์ให้กับพวกเข้าหน่อยสิพะยะค่ะ”เสียงหวานกระซิบเบาๆ

“หืม... ก็ได้”พระหัตถ์แกร่งยกขึ้นโบกให้กับเหลาผู้มารอรับเสด็จน้อยๆ แต่ก็เรียกความเปรมปรีดิ์ให้แก่พวกเขาได้อย่างท่วมท้น

ด้วยฝูงชนที่แออัดกัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย สร้างความกังวลในพระหฤทัยขององค์ราชาเล็กๆ พระเนตรคมทอดมองอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“สั่งหยุดขบวนรถก่อนได้ไหมพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียตรัสเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความร้อนรนเล็กๆ

องค์ราชาทรงส่งสัญญาณให้หยุดขบวน และเมื่อขบวนหยุดลง องค์ชายก็ทรงเสด็จลงจากรถม้าทันที โดยที่มีเจ้าแผ่นดินเสด็จตามหลังมาด้วย พระองค์ทรงเสด็จตรงไปยังคนกลุ่มหนึ่ง แล้วค่อยๆย่อกายลง

“เจ้าไม่เป็นอะไรใช้ไหม”พระหัตถ์เรียวยื่นประคองร่างน้อยๆที่ล้มอยู่บนพื้นขึ้น องค์ทริสเซย์ทรงย่อพระวรกายลงมาช่วยพระองค์ประคองเด็กน้อยแทนพระองค์

เด็กผู้หญิงหน้าตามอมแมมส่ายหน้าให้กับทั้งสองพระองค์แทนคำพูด

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ”พระหัตถ์หนาลูบผมของเด็กหญิงเบาๆ “ข้าไม่อยากให้มีใครบาดเจ็บหรอกนะ”

มือเล็กยื่นแหวนเงินเกลี้ยงๆที่ดูไม่มีราคาให้กับทั้งสองพระองค์ เด็กหญิงยิ้มให้อย่างสดใส
องค์ราชาและองค์ชายทรงรับธำมรงค์นั้นเอาไว้ ทั้งสองพระองค์ทรงทอดพระเนตรพระธำมรงค์ที่ดูธรรมดา แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความจริงใจที่อยากจะมอบให้

“ขอบใจนะ”องค์ชายคาเซียทรงถอดพระธำมรงค์ที่พระกนิษฐา(นิ้วก้อย)ออก แล้วใส่วงใหม่เข้าไปแทน “ข้าให้เจ้า”พระองค์ทรงวางธำมรงค์วงนั้นลงในมือเล็กๆเบาๆ

แหวนวงน้อยที่ประดับด้วยเพชรห้าเม็ดถูกเด็กน้องกำแน่น ดวงตาหวานๆช้อนมองผู้ที่ให้แหวนวงนี้กับเธอมองซาบซึ้ง

“ขอบคุณค่ะ”เสียงใสๆเอ่ยออกมาเรียกรอยยิ้มของทั้งสองพระองค์ได้เป็นอย่างดี “หนูจะเก็บแหวนวงดีไว้อย่างดีเลยค่ะ พระชายา”

“ข้าก็เช่นกัน จะเก็บแหวนที่เจ้าให้เอาไว้เป็นอย่างดีเลยนะ”

ผู้สูงศักดิ์ทั้งสองพระองค์พากันเสด็จกลับขึ้นรถม้าพระที่นั่งด้วยพระหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมา

เหล่าพสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างเปรมปรีดิ์ในความรักที่องค์เหนือหัวมอบให้ และปลื้มปิติในความห่วงใยที่พระชายาขององค์เหนือหัวมีให้กับพวกเขา

ทุกคนคาดหวังในหัวใจว่า อีกไม่นาน ผลของความรักที่องค์กษัตริย์ของพวกเขาที่มีให้กับพระชายาจะสัมฤทธิ์ผลออกมาเป็นองค์รัชทายาทที่พวกเขารอคอย...

“ขอฝ่าบาททรงพระเจริญ ของพระชายาทรงพระเจริญ”เสียงของทุกคนรวมเป็นหนึ่ง เรียกน้ำพระเนตรให้มาคลอที่ขอบพระเนตรของทั้งสองพระองค์

“ขอทั้งสองพระองค์ทรงมีรัชทายาทโดยไว”เสียงหนึ่งตะโกนดังขึ้น เรียกเสียงหัวเราะของชาวบ้านทุกคนและเรียกความเขินอายให้กับผู้เป็นพระชายาได้อย่างดี

องค์ชายโซเทเรียทรงงัวเงียตื่นขึ้นมา พระองค์ทรงมองพระสวามีและเจ้าชีวิตอย่างเบลอๆ

“ถึงแล้วเหรอ...”

“ยังเลย โซเทเรีย เจ้านอนไปก่อนก็ได้นะ ถ้ายังรู้สึกเพลียอยู่”องค์ชายทรงเสด็จมาหาพระชายาของตนอย่างห่วงๆ พระหัตถ์เรียวลูบไล้เกศานุ่มเบาๆ

“อืมมม”ว่าแล้วองค์ชายโซเทเรียก็บรรทมลงไปอีกครั้งนึง...

“ระยะนี้โซลดูแปลกๆไป”องค์คาเซียทรงตรัสด้วยความเป็นห่วง พระองค์ทรงเสด็จกลับไปประทับที่เดิม แล้วหันกลับมามองร่างที่นอนอยู่น้อยๆ

“เขาเป็นอะไรไปเช่นนั้นหรือ”องค์ราชาทรงตรัสถามขึ้น แม้พระองค์จะไม่พอใจที่พระชายาของพระองค์อภิเษกกับองค์ชายโซล แต่พระองค์ก็มิได้เกลียดองค์ชายโซเทเรียแต่อย่างใด

“เขานอนนานกว่าปกติ อาหารที่เคยทานก็ไม่ทาน ดูง่วงซึมแทบจะตลอดเวลา บางทีก็ลุกขึ้นมาอาเจียนกลางดึก เรี่ยวแรงที่เคยมีก็หดหาย...”

“พอถึงตำหนักแล้วให้หมอหลวงตรวจดูอาการของเขาดูหน่อยแล้วกัน คาเซีย”

“พะยะค่ะ”

เมื่อเสด็จมาถึงตำหนักนอกวัง องค์ชายคาเซียทรงอุ้มพระชายาของพระองค์เข้าไปในตำหนักที่ประทับทันทีพร้อมกับเหล่านางกำนัลประจำองค์ องค์ทริสเซย์ทรงหันมารับสั่งเรื่องต่างๆก่อนแล้วทรงเรียกหมอหลวงให้ตามพระองค์เข้าไป

ทุกๆคนแยกย้ายไปตามตำหนักต่างๆพร้อมกับหีบของตนที่เหล่าทหารช่วยยกเอาไปให้...

“หมอหลวง ตรวจดูอาการของพระชายาโซเทเรียหน่อยสิ”องค์ราชาทรงรับสั่งกับหมอหลวงทันทีเมื่อเข้ามาถึงห้องบรรทม

“พะยะค่ะ”

หมอหลวงเข้ามาตรวจดูอาการขององค์ชายโซลอย่างรวดเร็ว โดยมีองค์ชายคาเซียประทับนั่งอยู่ข้างๆพระชายาของตน

เวลาผ่านไปสักพัก รอยยิ้มยินดีก็ฉาบทับบนใบหน้าของหมอหลวงเรียกความสนใจของคนในที่นี้ได้อย่างดี ดวงตาของหมอหลวงเปล่งประกายน้อยๆก่อนจะกันมาหาองค์ชาย

“พระชายาคาเซีย กระหม่อมยินดีด้วยพะยะค่ะ พระชายาโซเทเรียทรงตั้งพระครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้วพะยะค่ะ”หมอหลวงทูลต่อองค์ชายด้วยน้ำเสียงยินดี

“จริงเหรอ”องค์ชายทรงตรัสถามอีกครั้งเพื่อความแน่พระทัย “จริงๆเหรอหมอหลวง โซลท้องเช่นนั้นเหรอ”

“พะยะค่ะ พระชายา พระองค์กำลังจะได้เป็นเสด็จพ่อแล้วนะพะยะค่ะ”หมอหลวงยืนยันหนักแน่น “เดี๋ยวกระหม่อมจะไปต้มยาบำรุงมาให้พระชายาโซเทเรียพะยะค่ะ”

“ขอบคุณหมอหลวงมาก”

หมอหลวงเสด็จออกไปจัดยาตามที่พูดเอาไว้ องค์ชายคาเซียทรงลูบไล้พระพักตร์ของพระชายาแห่งต่อ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับองค์ทริสเซย์ด้วยความปิติยินดี

“ไม่ต้องมายิ้มเลย ชายาของเจ้ามีทายาทให้แก่เจ้าแล้ว แล้วเมื่อไรชายาข้าถึงจะมีทายาทให้ข้าบ้างล่ะ หืม...”องค์ราชาทรงบีบนาสิกเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว

“คงอีกไม่นานหรอก... พะยะค่ะ”

“ขอให้จริงอย่างที่เจ้าพูดเถอะ”องค์ทริสเซย์ทรงหันไปหานางกำนัลทั้งสี่ก่อจะรับสั่ง “พวกเจ้าดูพระยาชาโซเทเรียเอาไว้ ถ้ามีอะไรเกินขึ้นให้ไปเรียกกับกับคาเซียที่ห้องถัดไปล่ะ”

เมื่อทรงตรัสจบ พระองค์ก็ทรงพาองค์ชายคาเซียไปยังห้องบรรทมของพระองค์ทันที...

“จะทรงทำอะไรหรือพะยะค่ะ ฝ่าบาท”เสียงหวานเอ่ยถามอย่างงุนงงเมื่อมาถึงห้องบรรทมแล้ว อีกทั้งองค์ราชายังลงกลอนเสียเรียบร้อย..

องค์ทริสเซย์มิทรงตอบอะไร แต่ทรงเข้ามาใกล้ร่างบาง พร้อมกับปลดเปลื้องอาภรณ์ที่องค์ชายและพระองค์สวมใส่อยู่ออกไป แทนคำตอบได้อย่างดี

องค์ชายคาเซียเอนกายลงบนพระแท่นอย่างว่าง่าย ร่างของพระองค์นั้นตอบรับสัมผัสขององค์ราชาเป็นอย่างดี สัมผัสอันอบอุ่นและน่าเคลิบเคลิ้ม...

แต่แล้วความสุขสมที่ได้รับมานั้นก็พลันหายไปเมื่อพระองค์ทรงรู้สึกถึงความเย็นของสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ที่เข้ามาสู่ร่างกาย สร้างความเจ็บปวดให้กับพระองค์ยิ่งนัก

“ฝ่าบาท... จะทรงทำอะไรน่ะพะยะค่ะ กระหม่อมเจ็บ...”น้ำพระเนตรคลอหน่วย ความรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างจะแตกสลายกำลังครอบงำพระองค์...

“บทลงโทษที่คั่งค้างยังไงล่ะ คาเซีย...”

บทลงโทษที่ค้างเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่องค์ชายอภิเษกกำลังทำให้พระองค์รู้สึกขาดใจ แต่ก็ต้องทนรับเอาไว้...

“นี่เป็นแค่บทแรกที่เจ้าได้รับนะ คาเซีย”

บทลงโทษอันแสนเจ็บปวดดำเนินต่อไปหลายชั่วยาม จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาเสวย...

ทั้งสองพระองค์เสด็จไปหาองค์ชายโซเทเรียที่เพิ่งตื่นบรรทม องค์ชายคาเซียที่แม้จะเจ็บทุกครั้งเวลาที่ทรงก้าวเดิน แต่พระองค์ก็ยังทรงเข้าไปประคองชายาของตนอย่างอ่อนโยน

“ตื่นแล้วเหรอ... โซล”

“อืมมม”

“ทานสักหน่อยนะ”

องค์ชายทรงป้อนพระกระยาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ให้กับพระชายาอย่างใจเย็น และทรงเสวยอาหารขององค์เองไปด้วย จนหมด

องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จไปร่วมเสวยกับเหล่านางสนมตามหน้าที่ของพระองค์ แม้จะมิค่อยเต็มพระทัยเท่าไหร่นักก็ตามที...

“โซล ดื่มยาหน่อยนะ...”ถ้วยโอสถอุ่นๆถูกยกมาให้กับองค์ชายโซเทเรีย พระองค์เบ้หน้าหนีกับกลิ่นโอสถชวนเวียนเศียรที่ลอยอบอวนขึ้นมา

“ทำไมต้องดื่มด้วยล่ะ โซลไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

“ดื่มเถอะโซล เพื่อลูกของเราไง”

“ละ. ลูก... ลูกเช่นนั้นหรือ หมายความว่าอย่างไรกัน”

“โซลกำลังอุ้มท้องลูกของข้ากับโซลไงล่ะ เอาล่ะ ดื่มซะนะ”

องค์ชายโซเทเรียยอมดื่มโอสถอุ่นๆนั้นจนหมด แม้พระองค์จะยังทรงมึนงงกับสิ่งที่ได้รับฟังอยู่ไม่น้อยก็ตามที...

“หมายความว่า... โซลกำลังท้อง... ใช่ไหมคาเซีย”

“ใช่แล้วล่ะโซล... เพราะฉะนั้นโซลต้องพักให้มากๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ เพื่อลูกของเรานะ”

อัสสุชลไหลรินจากพระเนตรของพระชายาด้วยความเปรมปรีดิ์ พระหัตถ์เรียวลูปไล้พระอุทรขององค์เองเบาๆอย่างอ่อนโยน

“อื้ม โซลจะดูแลลูกของเราให้ดี ลูกของเราจะได้แข็งแรง”

องค์ชายคาเซียโอบกอดร่างที่นอนลงให้มาซบที่พระอุระของพระองค์ เสียงหวานร้องเพลงขับกล่อมให้ชายาและบุตรของพระองค์นอนหลับไปด้วยรอยยิ้ม...

+++++++++++++++++++++++++

... บทที่ 12 มาแบบมึนๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่12 P.3 R.71]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 12-03-2012 10:45:56
ทำไมองค์ชายทรงเซ็กซ์จัดเเละซาดิสสส อย่างนี้ละ เพเคอะ ๕๕๕

เย้ โซลลล ท้องเเล้ว

อย่างนี้ต้องฉลอง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่12 P.3 R.72]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2012 14:05:18
บทที่ 13
ตำนานรักสองราชวงศ์ : วันหนึ่งขององค์ชาย

ทุกๆวันในช่วงระยะเวลานี้ องค์ชายคาเซียนั้นแทบจะมิได้มีเวลาว่างมากนักในแต่ละกัน แม้จะมาอยู่ตำหนักนอกวังเช่นนี้ก็ตาม

ช่วงเช้า... ทรงเข้าครัว ทำอาหารในบางวัน

ช่วงสาย... เสด็จไปเยี่ยมประชาชนอย่างเงียบๆ เพื่อสำรวจความเป็นอยู่กับองค์ราชา

ช่วงเที่ยง... ปะทะกับสนมบางนางเพราะนางอดทนไม่ได้ที่เห็นพระองค์อยู่กับฝ่าบาท

ช่วงบ่าย... นั่งเคลียร์ฎีกาที่ถูกส่งมาจากวังเพียงคนเดียว โดยที่ฝ่าบาททรงดูแลเหล่าสนมอยู่

ช่วงเย็น... พาองค์ชายคาเซียออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก และเสวยพระกระยาหารร่วมกับฝ่าบาทและเหล่าสนม

ช่วงค่ำ... ส่งพระชายาเข้านอนพักผ่อน เพื่อบุตรของพวกเขาในครรภ์

ช่วงมืด... ปรนนิบัติองค์ทริสเซย์ในบางคืนตามที่ฝ่าบาทจะมีพระประสงค์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกือบทุกๆคืนเลยเสียด้วยซ้ำ

เกือบสามอาทิตย์ที่พระองค์ทรงออกมาอยู่ในตำหนักนอกวังนั้นวนเวียนไปเช่นนี้เรื่อยๆ วันนี้ก็เช่นกัน...

“โซล ทานข้าวได้แล้ว”พระองค์ตรัสเรียกร่างเล็กที่นอนพิงพระเขนยอยู่เสียงไม่ดังนัก เรลและเนลช่วยกันจัดเครื่องเสวยอยู่เบื้องหลัง

เฟรุยประคองร่างขององค์ชายโซเทเรียที่ยังไร้เรี่ยวแรงออกมา

ทั้งสองพระองค์เสวยพระกระยาหารร่วมกันด้วยรอยยิ้ม องค์ชายทรงเอาพระทัยใส่พระชายาเป็นอย่างมาก คอยป้อน คอยเช็ดโอษฐ์ให้ตลอดเวลา

หลังจากที่ทรงเสวยเสร็จ องค์ชายโซเทเรียนก็ทรงประทับเอนกายลงบนโซฟาตัวใหญ่ พระองค์ทรงทำกิจกรรมฆ่าเวลาอยู่กับนางกำนัลทั้งสาม...

องค์ชายคาเซียตามเสด็จองค์ราชาไปตรวจเยี่ยมราษฎรโดยทั้งสองพระองค์และทหารจำนวนหนึ่งปลอมตนเป็นนักเดินทางไปปะปนกับฝูงชน

“วันนี้เมืองดูเงียบสงบ ข้ารู้สึกยินดียิ่งนัก”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสขึ้นเมื่อหยุดพักดื่มกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่งในตลาด “ประชาชนที่นี่น่ารัก เป็นกันเอง ดีจริงๆ”

“ขอรับ ท่านชาย เป็นสถานที่ ที่ดีจริงๆ”องค์ชายตอบรับคำของพระองค์พร้อมกับจิบโกโก้เล็กๆ

“กรี๊ดดดดดดดดดดด อย่ามาแตะตัวข้านะ ปล่อยข้า”เสียงแหลมๆของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจของคนแถบนั้นได้เป็นอย่างดี รวมถึงทั้งสองพระองค์ด้วย “ข้าไม่ใช่ของๆพวกเจ้านะ อย่ามายุ่งกับข้า”

“เจ้าเป็นเมียข้า อย่ามาหวงตัวไปหน่อยเลย เหอะ”เสียงเหี้ยมๆของอีกฝ่ายดังขึ้นดังไม่แพ้กัน

“ข้าไม่มีผัวหนังหน้าอย่างเจ้าหรอก ไปให้พ้นข้านะ”

ทั้งสองเถียงกันดังลั่นตลาด หลายๆคนแถวนั้นเริ่มไปมุงดูทั้งสองอย่างสนอกสนใจเรื่องของชาวบ้าน

องค์ทริสเซย์ทรงวางเงินทิ้งเอาไว้แล้วพระองค์พร้อมด้วยองค์ชายและทหารก็เข้าไปร่วมมุงสถานการณ์กับประชาชนคนอื่นๆด้วย

“เอ่อ... ท่านน้า เกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยหรือครับ”เสียงใสๆเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ องค์คาเซียหันไปเอียงคอถามผู้หญิงวัยกลางคนอย่างงุนงง

“ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พวกเขาก็แบบนี้แหละ ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นหญิงหากินกลางคืน ไม่รู้หรอกว่ามีผัวกี่คนมาแล้ว ส่วนไอ้หน้าเหี้ยมนั่นเป็นอันตรพาลแถบนี้น่ะหนู”

“เหรอครับ”ยังไม่ทันที่พระองค์จะได้หันไปตรัสอะไรกับคนข้างๆ องค์ทริสเซย์ก็ทรงแหวกวงเข้าไปข้างในพร้อมกับทหารเสียแล้ว “ฝ่าบาท”

องค์ชายคาเซียทรงรีบแทรกกายตามองค์ราชาเข้าไปด้านในทันที

“ข้าไม่รู้หรอกนะว่าพวกเจ้ามีปัญหาอะไรกัน แต่การที่เจ้ารังแกคนที่อ่อนแอกว่าเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง”เจ้าแผ่นดินทรงตรัสเสียงเข้ม พระเนตรฉายแววเย็นชา

“ไอ้หนุ่ม แกมีปัญหาอะไรกับข้าหรือไงวะ”ชายร่างใหญ่ผลักหญิงสาวออกไป ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาพระองค์ “เจ้าเป็นชู้อินังนี่ใช่ไหมล่ะ ชอบนักหรือไงไอ้ของเหลือเดนอย่างนังนี่น่ะ”

ชายผู้นี้ถ่มน้ำลายลงบนพื้นหน้าองค์เหนือหัว ซึ่งเป็นการหยามหน้าพระองค์อย่างที่สุด ทหารที่ตามเสด็จขยับกายหมายพุ่งไปสั่งสอนชายไร้มารยาทผู้นี้เสียหน่อย แต่ก็ยังช้ากว่าใครคนหนึ่ง...

องค์ทริสเซย์ทรงยกขาขึ้นเตะเสยหน้าชายตรงหน้าด้วยความเกรี้ยวกราด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่องค์ชายคาเซียทรงถีบสีข้างของชายผู้นั้น

“เจ้า...”ชายฉกรรจ์ชี้พระพักตร์ของทั้งสองพระองค์อย่างโกรธา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะทำอะไร ทหารองครักษ์ก็ก้าวมาขวางหน้านายเหนือหัวของพวกเขาทันที

ยังไม่ทันที่มีรับสั่ง เหล่าทหารก็พากันรุมประชาทัณฑ์ชายผู้มาหยามเหยียดนายอันเป็นที่รักของตน ทั้งฝ่าบาททั้งองค์ชายยืนนิ่ง ทอดพระเนตรด้วยสายพระเนตรว่างเปล่า...

“พอเถอะ กลับกันได้แล้ว”องค์ราชันย์ตรัสเสียงเรียบเฉียบ พระองค์ทรงจับพระหัตถ์เรียวของพระชายาก็จะเสด็จกลับตำหนักทันทีด้วยพระหฤทัยที่คุกกรุ่นไปด้วยความพิโรธ
เมื่อเสด็จกลับถึงตำหนัก เหล่านางสนมที่รออยู่ต่างลุกขึ้นอย่างยินดี แต่แล้วพวกนางก็ต้องรีบนั่งลงอีกครั้งเมื่อรับรู้ถึงรังสีความกริ้วที่แผ่ออกมา

นางสนมหลายคนส่งสายตาอาฆาตให้แก่องค์ชายที่เสด็จเข้ามาที่หลัง พวกนางมารุมล้อมร่างเล็กเอาไว้ ก่อนนี้นางหนึ่งจะกล่าวออกมา

“เจ้าทำฝ่าบาทกริ้วเช่นนี้ มันน่านักนะ”

“ใช่ ถือว่าเป็นคนโปรดแล้วเจ้าจะทำอะไรได้หรืออย่างกัน”

“อย่างเจ้าน่ะ ไม่คู่ควรกับฝ่าบาทสักนิด ยังมีหน้าปรนนิบัติพระองค์อีก”

เหล่าสนมต่างรุมด่าว่าองค์ชายคาเซียอย่างหนัก แต่องค์ชายก็ยังทรงมีสีหน้าเรียบเฉย มิยี่ระต่อคำกล่าวหาเหล่านั้น

“ถ้าพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้ามีปัญญาล้ำเลิศ งดงาม และสูงศักดิ์ แล้ว...

เหตุใดฝ่าบาทถึงมิโปรดพวกเจ้า

เหตุใดเจ้าถึงยกพวกมารุมล้อมข้า

เหตุใดถึงมิกล้าพูดเช่นนี้กับข้าต่อหน้าฝ่าบาท

เหตุใดถึงทำกริยาเยี่ยงสามัญชน

เหตุใดถึงต้องแต่งองค์ด้วยเครื่องประทินโฉมหลากหลาย

เพราะเหตุใดกัน ถ้าพวกเจ้ายังหาคำตอบสำหรับเรื่องเหล่านี้มิได้ พวกเจ้าก็ไม่มีวันก้าวข้ามความเป็นนางบำเรอข้ามคืนของฝ่าบาทไปได้หรอก”

เมื่อองค์ชายทรงตรัสจบ พระองค์ก็ทรงเสด็จเข้าไปในห้องบรรทมทันที โดยทิ้งเหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ให้ยืนกรีดร้องอยู่ข้างหลังอย่างมิหันมาเหลียวแลแม้แต่น้อย

“เดี๋ยวนี้ดูเจ้ากล้าพูดมากขึ้นนะ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ที่ทรงกลับเข้ามาประทับในห้องบรรทมก่อนแล้วทรงตรัสขึ้น “มานั่งนี่สิ”

“ไม่หรอกพะยะค่ะ...”องค์ชายทรงเดินมาประทับเคียงข้างพระองค์อย่างว่าง่าย “ไม่พูด ก็มิได้หมายความว่าไม่กล้าพูด จริงไหมพะยะค่ะ”

“ก็จริงของเจ้านะ”

องค์ชายทรงยิ้มให้บางเอาก่อนที่จะทรงหยิบฎีกาชุดใหม่มานั่งพิจารณา...

ตกเย็น หลังจากที่พระองค์ทรงจัดการกับฎีกาสารพัดเรื่องร้องเรียนและเขียนข้อแก้ไขเท่าที่จะทำได้เสร็จ พระองค์ก็ทรงเสด็จไปหาพระชายาของพระองค์ทันที

“โซล...”เสียงหวานดังขึ้นก่อนที่ตัวจะปรากฏ “ไปเดินเล่นกันเถอะ”

“อื้ม”องค์ชายโซเทเรียรับคำเสียงใส ก่อนที่จะทรงลุกขึ้นจากที่ประทับช้าๆ โดยมีองค์ชายคาเซียช่วยประคองอยู่ไม่ห่าง

ทั้งสองพระองค์เสด็จเคียงคู่กันในสวน ช่างเป็นภาพที่งดงามสำหรับผู้พบเห็นยิ่งนัก

องค์หนึ่ง... งดงาม บอบบางแต่แฝงไปด้วยความเข้มแข็ง

องค์หนึ่ง... น่าทะนุถนอม ปกป้องเอาไว้ให้อ้อมแขนมิให้ห่าง

เมื่อมาเคียงคู่กันนั้น... ราวกับเทพธิดามาจุติยังพื้นโลกเพื่อประทานพรแห่งความงามให้ก่อนผู้พานพบ...

“เมื่อบทเพลงแห่งรักร้องขับขาน    ดังพระพรประทานจากฟ้าสู่ดิน

ปักษาน้อยบินลอยล่องร่อนผกผิน      แสงชีวินเจิดจรัสทั่วโลกา...”

บทเพลงแห่งรักถูกขับขานออกมาด้วยเสียงหวานขององค์ชายแห่งเซเรียล หมู่วิหคต่างหยุดพักจากการบินบนฟ้าร่วมส่งเสียงคลอไปกับบทเพลงนี้ มวลภมรร้องขับขานดังก้องเป็นเสียงเดียว

เมื่อแสงแห่งสุริยาเริ่มดับลง ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จไปยังตำหนักกลาง เพื่อร่วมเสวยอาหารกับองค์ราชาและพระสนมทั้งหลาย

องค์ชายคาเซียทรงเฝ้าดูแลพระชายาด้วยความห่วงใย ขณะเดียวกันก็ทรงหันไปปรนนิบัติพระสวามีด้วยความห่วงหา

เหล่าสนมต่างมองภาพตรงหน้าอย่าไม่พอใจ แต่ด้วยความที่องค์เหนือหัวประทับอยู่ ณ ที่นั้นด้วย พวกนางก็มิสามารถทำอันใดได้

“ฝ่าบาทเพคะ... ทรงชิมเนื้อปลานี่หน่อยนะเพคะ หม่อมฉันว่ารสดีทีเดียว”สนมเมริน่าทรงตักเนื้อมัจฉาให้กับองค์ทริสเซย์ พร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนให้พระองค์

“ขอบใจเจ้ามาก เมริน่า”พระองค์รับเนื้อมัจฉานั้นมาเสวยอย่างฝืนๆ เพราะเนื้อมัจฉาชนิดนี้ เป็นมัจฉาที่พระองค์มิโปรดปรานนัก

“น้ำพะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายคาเซียทรงรู้พระทัยของพระองค์ยิ่งนัก พระองค์ทรงรับน้ำมาดื่มตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เพียงไม่นานอาหารมื้อนี้ก็จบลง ต่างคนต่างแตกย้ายกลับไปยังที่ของตนอย่างรู้หน้าที่

องค์ชายคาเซียทรงส่งองค์ชายโซเทเรียเข้าบรรทมอย่างอ่อนโยน พระองค์ประทับอยู่กับพระชายาจนกระทั่งพระชายาหลับไปแล้วจึงเสด็จกลับไปยังห้องบรรทมขององค์เอง

“คาเซีย...”พระหัตถ์แกร่งโอบรัดวรกายบางทันทีเมื่อเสด็จมาถึงพระแท่น “วันนี้ช่างเป็นวันที่แย่เหลือเกิน”

“ทุกอย่างมีดีก็มีร้ายพะยะค่ะ ฝ่าบาท อยู่ที่พระองค์จะทรงโปรดหรือไม่โปรดเพียงเท่านั้น”

“นั่นสินะ... ข้าโปรดร่างกายของเจ้ามากที่สุดแล้วล่ะ คาเซียของข้า”

“วันนี้พระองค์ทรงพบเรื่องที่มิน่าพอพระทัยมามาก... ทรงต้องการเล่นของเหล่านั้นไหมพะยะค่ะ”พระพักตร์เรียวหันไปมองของที่มีไว้ทำโทษพระองค์ตลอดอาทิตย์แรกที่เสด็จมาถึงที่ผ่านมา

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกคลี่ออก พระหัตถ์หนาเอื้อมไปหยิบของเล่นชิ้นโปรดที่องค์ชายไม่ชอบแม้เพียงนิดออกมาส่งให้ร่างเล็ก

อาภรณ์ที่สวมใส่อยู่นั้นถูกปลดออก องค์ชายทรงเอนกายคว่ำลงบนพระแท่น พระโสณียกลอยเด่น ก่อนที่พระองค์จะกลั้นพระทัย ดันลูกเหล็กกลวงขนาดประมาณลูกปิงปองเข้าสู่ร่างกาย ทุกๆลูกที่ล่วงล้ำเข้าไปนั้นสร้างความอึดอัดและความเจ็บปวดให้พระองค์เป็นอย่างยิ่ง

“เก่งมาก... ชายาข้า”องค์ทริสเซย์ทรงลูบไล้กายเนียนเบาๆ ก่อนจะทรงจับห่วงโลหะเล็กๆที่โผลพ้นกลีบเนื้อสีชมพูเข้มออกมา

“อ๊า....”เสียงหวานร้องลั่นเมื่อพระองค์ทรงดึงลูกโลหะออกมา พระโสณีขาวเนียนกระตุกขึ้นทุกครั้งยามที่ลูกโลหะถูกดึงออกมาจากรูเล็ก

ท่วงทำนองแห่งความรักถูกขับขานขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าภายในห้องบรรทมแห่งนี้...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความจริงของพระราชาและองค์ชาย... ฮืม... SM ล่ะมั้ง= ="
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่13 P.3 R.74]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-03-2012 14:45:14
ตามเข้ามาจิ้ม รอให้อัพทันในเด็กดีจ้า 55
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่13 P.3 R.74]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 12-03-2012 15:25:53



    อะเหอๆๆ องค์ราชาแอบซาดิสอ่า T T
    เกิดเป็นคาเซียนี่ต้องอดทนจริงๆ
    สู้ๆนะคาเซีย



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่13 P.3 R.74]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 12-03-2012 15:27:38
ฮืมมม นับวันยิ่งรับไม่ได้

จะมีหยดน้ำตาเทียนไหมเนี๊ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่13 P.3 R.74]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2012 15:45:01
ฮืมมม นับวันยิ่งรับไม่ได้

จะมีหยดน้ำตาเทียนไหมเนี๊ย

เอ่อ... ไม่มีหรอกค่ะ... :o8: มาสุดแค่นี้พอ...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่13 P.3 R.74]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2012 18:57:59
บทที่ 14
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ฝ่าบาททรงประชวร

หลังจากที่เสด็จมาประทับยังตำหนักนอกวังได้หนึ่งเดือน องค์ทริสเซย์ก็ทรงตัดสินพระทัยกลับราชวัง

ในตอนที่เสด็จกลับราชวังนั้น พายุโหมกระหน่ำเข้ามา สายฝนสาดเทลงมาอย่างไม่ปราณี องค์ชายคาเซียทรงเอากายขององค์เองป้องกันมิให้สายฝนเหล่านั้นสาดถูกพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ

องค์ทริสเซย์ทรงประทับนิ่ง มิขยับเขยื้อนไปไหน แม้สายฝนนั้นจะสาดมาโดนพระองค์มากเพียงไรก็ตามที

เมื่อกลับถึงราชวัง แทนที่จะได้พักผ่อน กลับมีการประชุมขุนนางขึ้น ซึ่งองค์ราชาจำต้องเข้าร่วมประชุมอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

ในคืนนี้องค์ชายคาเซียทรงบรรทมเคียงข้างพระชายาของตนตลอดทั้งคืน ทุกๆชั่วยามพระองค์จะทรงลุกขึ้นมาตรวจดูว่าองค์ชายโซเทเรียจะมีไข้หรือไม่ ด้วยเกรงว่าจะทรงประชวร...

ในขณะเดียวกันองค์เหนือหัวแห่งเฟรนเซียนั้นก็ทรงจัดการราชกิจที่เร่งด่วนทั้งคืนอย่างมิได้พักผ่อนแม้เพียงน้อย เพื่อประชาชนของพระองค์

เพียงแค่ราตรีเดียวที่องค์ชายมิได้อยู่ข้างกายขององค์ราชันย์... จะมีผู้ใดคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มิอาจคาดฝันเช่นนี้ขึ้น

รุ่งเช้า นางกำนัลเมร่าและนางกำนัลเฮลน่า เดินเข้าไปปลุกองค์เหนือหัวของพวกนางตามปกติ ที่ห้องทรงอักษร แต่แล้ว เมื่อพวกนางแตะถูกพระวรกายก็รีบเอามือออกทันที

“เฮลน่า ไปตามหมอหลวงมา เร็วเข้า”

เฮลน่ารีบวิ่งไปตามหมอหลวงตามคำของเมร่าทันที

ขณะเดียวกันนั้น องค์ชายคาเซียทรงเสด็จมาถึงตำหนักพอดี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นนางกำนัลที่คุ้นเคยวิ่งออกมาอย่างเร่งรีบก็เริ่มพระทัยเสีย พระองค์รีบเสด็จเข้าตำหนักอย่างรวดเร็ว

“ฝ่าบาท”เสียงหวานอุทานขึ้น องค์ชายคาเซียทรงรีบก้าวเข้าไปหาองค์ราชาทันที “เมร่า ช่วยข้าพยุงฝ่าบาทไปห้องบรรทมหน่อย”

“เพคะ พระชายา”

องค์ชายและนางกำนัลสาวช่วยกันพยุงจอมกษัตริย์ไปยังห้องบรรทมอย่างทุลักทุเล แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี โดยที่ไม่ล้มลงแต่อย่างใด

“เอาผ้ากับน้ำเย็นมากให้ข้า”เมร่ารีบไปหยิบยกเอาของที่องค์ชายทรงรับสั่งมาอย่างรวดเร็ว
องค์ชายคาเซียทรงนำผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดมาซับพระพักตร์ขององค์ทริสเซย์เบาๆ

“อื้อออ”เสียงครางแหบแห้งดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่พระเนตรคมจะค่อยๆลืมขึ้นมา

“ฝ่าบาท...”องค์ชายทรงตรัสเรียกเบาๆ “เป็นอย่างไรบ้าพะยะค่ะ”

“มึนหัว... น้ำ ข้าอยากดื่มน้ำ”สุรเสียงที่ตรัสนั้นช่างแหบพร่า

“ค่อยๆดื่มนะพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงรับน้ำจากเมร่ามาป้อนให้พระองค์ดื่มอย่างช้าๆ

“คาเซีย...”พระองค์ทรงตรัสเรียกพระชายาเบาๆ “ข้านอนตักเจ้าได้ไหม”

รอยยิ้มหวานคลี่ส่งให้พระองค์น้อยๆ องค์ชายทรงประคองพระองค์ให้ลุกขึ้น แล้วย้ายวรกายของตนมานั่งบนพระแท่นอย่างนุ่มนวล ก่อนจะค่อยๆให้พระองค์เอยกายลง

กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ร่างอุ่นๆของพระชายานั้นทำให้พระองค์รู้สึกสบายกายขึ้นเล็กๆ

“หมอหลวงมาแล้วเพคะ”เฮลน่าวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับหมอหลวงที่วิ่งตามมาข้างหลง

หมอหลวงรีบตรวจพระอาการของฝ่าบาททันทีที่มาถึง สีหน้าของหมอหลวงดูเคร่งเครียดระหว่างทำการตรวจ สร้างความกังวลให้กับผู้เฝ้ามองยิ่งนัก

“ฝ่าบาททรงประชวรเป็นไข้ธรรมดาพะยะค่ะ ไม่ร้ายแรงนัก แต่ก็สมควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอสักเดือน”หมอหลวงพูดขึ้นขณะทีเขียนใบสั่งยา ทำให้ทุกคนในที่นั้นเบาใจไปได้ไม่น้อย “ทั้งนี้เพราะเมื่อวานพระองค์มิยอมพักผ่อนทั้งๆที่ทรงตากฝนมา ทรงหักโหมเช่นนี้ ถ้าเกิดเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ประชาราษฎร์จะอยู่อย่างไรล่ะพะยะค่ะ”

หมอหลวงตำหนิองค์ราชายกใหญ่ ซึ่งพระองค์ก็ทรงรับฟังและยอมรับโดยดี มิโต้เถียงใดๆทั้งสิ้น...

“ให้ฝ่าบาทพักผ่อนก่อนดีกว่าไหม ท่านหมอหลวง”องค์ชายคาเซียทรงตรัสขึ้นก่อนที่ท่านหมอจะพูดบ่นอะไรต่อ “ฝ่าบาทสมควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอมิใช่หรือ”

“พะยะค่ะ พระชายา”หมอหลวงจำต้องรับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ถ้าเช่นนั้น เดี๋ยวกระหม่อมไปต้มโอสถมาถวายฝ่าบาทก่อนนะพะยะค่ะ”

“รบกวนท่านแล้ว”

หมอหลวงเดินออกจากห้องไปพร้อมกับผู้รับใช้ประจำตนทันที

“เช่นนั้น เดี๋ยวหม่อมฉันกับเฮลน่าจะไปจัดเตรียมเครื่องเสวยมาให้ฝ่าบาทนะเพคะ”เมร่าเอ่ยหลังหมอหลวงเดินจากไป ก่อนที่นางกับเพื่อนของนางจะไปเตรียมเครื่องเสวยให้กับองค์เหนือหัว...

“เจ้าอย่าเพิ่งไปไหนนะ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ตรัสเบาๆอย่างไร้เรี่ยวแรง

“พะยะค่ะ กระหม่อมจะอยู่กับฝ่าบาทที่นี่ จะยังไม่ไปไหน ดีไหมพะยะค่ะ”

“อืม...”

องค์ชายคาเชียทรงจับพระหัตถ์หนาเอาไว้หลวมๆ เชิงบอกให้พระองค์รู้ว่าองค์ชายจะไม่ไปไหน จะยังอยู่ตรงนี้

“แล้วใครจะจัดการราชกิจบ้านเมืองในช่วงที่ข้าไม่สบายเช่นนี้ล่ะ”พระองค์ทรงตรัสขึ้นมาลอยๆอย่างทรงเป็นกังวลพระทัย

“เดี๋ยวเหล่าขุนนางก็คงจะหารือกันเองล่ะพะยะค่ะ”

“ข้าหวังว่าพวกเขาจะไม่ทะเลาะกันตายในสภาหรอกนะ”

“คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอก...มั้ง”

แล้วทั้งสองพระองค์ก็เงียบลงไป จมอยู่ในความคิดขององค์เอง

เมร่ายกเครื่องเสวยอ่อนๆมาให้กับองค์ราชา ส่วนเฮลน่ามาช่วยองค์ชายพยุงฝ่าบาทให้ประทับพิงพระเขนย องค์ชายทรงย้ายองค์มาประทับข้างพระแท่นอย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะทรงรับชามข้าวต้มจากเมร่ามา...

“เสวยหน่อยนะพะยะค่ะ”ข้ามต้มอุ่นๆถูกป้อนให้กับองค์ทริสเซย์คำแล้ว คำเล่า จนกระทั้งพระองค์ส่ายพระพักตร์เชิงบอกพระชายาว่าไม่เอาแล้ว องค์ชายจึงส่งชามคืนให้กับนางกำนัลที่คุกเข่ารออยู่ไม่ห่าง

หมอหลวงยกถ้วยโอสถมาให้หลังจากที่นางกำนัลทั้งสองออกไป กลิ่นสมุนไพรที่โชยมานั้นเรียกทีพระพักตร์แปลกๆจากผู้สูงศักดิ์ทั้งสองได้เป็นอย่างดี

หมอหลวงยื่นถ้วยโอสถนั้นให้กับพระชายาคาเซียรับไปป้อนให้กับเจ้าชีวิตที่ทรงประชวร

“ขมหน่อยนะพะยะค่ะ”คำเตือนมาหลังจากที่ทรงเสวยเข้าไปแล้ว องค์กษัตริย์แห่งเฟรนเซียจำต้องฝืนพระทัยเสวยโอสถนั้นจนหมด... “ยังไงก็รบกวนพระชายาเช็ดพระวรกายของฝ่าบาทด้วยนะพะยะค่ะ”

“วางใจข้าได้ ท่านหมอหลวง”

“เช่นนั้น กระหม่อมขอทูลลา ยาที่ต้องเสวยเดี๋ยวจะหม่อมจะให้คนนำมาให้พะยะค่ะ”

“ขอบใจท่านมาก”

สองนางกำนัลช่วยกันยกกะละมังน้ำอุ่นเข้ามาในห้องบรรทม ก่อนที่จะไปนำฉลองพระองค์ของนายเหนือหัวมาให้กับองค์ชาย

“พวกเจ้าออกไปก่อน...”เสียงรับสั่งแหบแห้งขององค์ราชาตรัสกำนางกำนัลทั้งสอง

“เพคะ”พวกนางพากันออกนอกห้องบรรทมกันไปอย่างรวดเร็ว

องค์ชายคาเซียทรงเช็ดพระวรกายขององค์ทริสเซย์อย่างนุ่มนวล แผ่วเบา พระองค์ทรงทราบดีกว่าเมื่อเป็นไข้ ร่างกายจะไม่เป็นดั่งปกติ จะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ถ้ามีอะไรมาโดนพระมังสาแรงๆอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้

“ลำบากเจ้าแล้ว คาเซีย...”ฝ่าบาททรงตรัสแผ่วๆ เมื่อองค์ชายทรงนำผ้าไปชุบน้ำอีกครั้ง เพื่อเช็ดพระวรกายของพระองค์

“มิเป็นไรหรอกพะยะค่ะ กระหม่อมมิได้ลำบากอันใด”รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้กับพระองค์ พระเนตรขององค์ชายที่สบกับพระองค์นั้นเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยแฝงด้วยความรักที่องค์ชายมีให้กับพระองค์ “เป็นเกียรติของกระหม่อมด้วยซ้ำที่ได้ทำหน้าที่นี้”

“ทำไมถึงเป็นเกียรติล่ะ หืม...”

“เพราะกระหม่อมได้ปรนนิบัติฝ่าบาทอย่างที่มิเคยมีใครได้ทำ ได้ตอบแทนความรักความเมตตาที่ฝ่าบาทมีให้กับกระหม่อม ได้ช่วยฝ่าบาทในหลายๆเรื่อง ได้แบ่งเบาภาระของพระองค์ ได้อยู่ข้างกายพระองค์ ได้รับหลายๆสิ่งหลายๆอย่า กระหม่อมรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งพะยะค่ะ”คำตอบขององค์ชายคาเซียนั้น ทำให้พระองค์รับรู้ได้ถึงความจริงใจที่อีกฝ่ายมี ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของพระชายาแห่งพระองค์มากขึ้น...

“ขอบใจเจ้ามาก คาเซีย...”

เพียงไม่นานองค์ชายก็ทรงเช็ดพระวรกายขององค์เหนือหัวจนเสร็จ พระองค์ทรงเรียกนางกำนัลให้มายกกะละมังนี้ออกจากห้องบรรทมไป

“พักผ่อนเถอะพะยะค่ะ ฝ่าบาท ทรงมิต้องกังวลเรื่องใดๆ กระหม่อมสัญญา กระหม่อมจะช่วยฝ่าบาทอย่างเต็มกำลัง”

“ไม่เป็นไรหรอก... ขอแค่เจ้ามีทายาทให้ข้า ข้าก็รู้สึกยินดีมากแล้ว...”องค์ทริสเซย์ทรงตรัส ก่อนที่จะบรรทมไป

“อีกไม่นานเกินรอหรอกพะยะค่ะ... พระสวามีที่รักของข้า”

++++++++++++++++++++++++++++++++++

หวานไหม... :-[
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่14 P.3 R.79]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 12-03-2012 19:19:30
 :a5:เอางี้เลยเรอะ ได้ทั้งรุกและรับ โอ้วชริท!!!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่13 P.3 R.74]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 12-03-2012 19:24:59
ช็อคพระเอก ชักอยากให้นายเอกเราเป็นพระเอกแทน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่14 P.3 R.79]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 12-03-2012 19:27:25
sm เกินไปและจริงๆ - , . -
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่14 P.3 R.79]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 12-03-2012 20:08:02
อัยย๊ะ พระราชาซาดิสหราเนี้ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่14 P.3 R.79]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 12-03-2012 20:42:59
อิอิ รอคาเซีย มีลูก ฝ่าบาทน่าสงสารอ่า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่14 P.3 R.79]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 12-03-2012 20:54:34
โถ่่ จะสงสารใครดีเนี๊ย

อีกคนก็วิ่งวุ่น สะหัวหมุน

อีกคนก็จับไข้ไม่สบาย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่14 P.3 R.79]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2012 22:13:39
บทที่ 15
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เสด็จว่าราชการแทนพระองค์

เหล่าขุนนาง ข้าราชการทั้งหลายต่างพากันมารวมตัวที่ห้องพระโรงแดนดิเลี่ยนอย่างพร้อมเพรียง หลังจากที่พวกเขาได้รับแจ้งข่าวว่าองค์กษัตราผู้ครองแผ่นดินนั้นทรงประชวร

“ฝ่าบาททรงประชวรเช่นนี้ พวกเราควรจะทำเยี่ยงไรกันระหว่างที่ไร้ผู้ตัดสินใจสูงสุดเช่นนี้”มหาเสนาบดีฝ่ายขวาเปิดประเด็นขึ้นทันที เมื่อทุกๆคนมาพร้อมกันเรียบร้อยแล้ว

“ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่าให้สะเทือนถึงความมั่นคงแห่งราชวงศ์ และแผ่นดินเฟรนเซียของเราเป็นอันขาด”ท่านราชครูเอ่ยเสริม
ขึ้นมาทันที เพื่อกันมิใครผู้ที่โลภมากในสมบัติใช้เวลานี้ฉวยโอกาสหากินกับประชาชนทั้งหลาย

“ตอนนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาอีกมาก ทั้งเรื่องน้ำท่วมบ้านเรือน โจรป่าบุกรุก น้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร และอีกสารพัดให้ฝ่าบาทต้องตัดสินพระทัย”เจ้ากรมกลาโหมกล่าวขึ้นอย่างเหนื่อยใจ “ข้ารับเรื่องของทุกกรมมาจนปวดหัวจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”

“ใช่ เงินในท้องพระคลังเริ่มลดน้อยลงเพราะต้องนำไปช่วยเหล่าผสกนิกรที่ประสบภัยธรรมชาติ บำรุงกองทัพที่เพิ่งผ่านศึกใหญ่มาไม่นาน ทำนุบำรุงบ้านเมืองที่เสียหายจากสงครามคราวก่อน ภาษีที่เรียกเก็บก็ยังได้มาไม่ครบ และมิอาจจะเก็บได้ด้วยความที่ชาวบ้านยังเดือดร้อนอยู่เช่นนี้”เสนาบดีการคลังเอ่ยสำทับ

“พวกเรามาถกเถียงปัญหาต่างๆกันในเวลานี้ อย่างไรก็มิอาจได้ผลสรุป ในเมื่อไม่มีผู้ตัดสินใจสูงสุดเช่นนี้น่ะ”มหาเสนาบดีฝ่ายขวาพูดขึ้นบ้าง

“แล้วพวกเราจะต้องทำอย่างไรล่ะ ท่านเสนาขวา ในเมื่อฝ่าบาททรงประชวรเช่นนี้ หรือเราควรจะรวบรวมเรื่องทั้งหมด เขียนเป็นฎีกา แล้วนำไปถวายแด่พระองค์”เจ้ากรมโยธาเสนอความคิดขึ้น

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านหมอหลวงซาเซนคงเอาเรื่องพวกเราตายแน่ๆ”เจ้ากรมพาณิชย์ขัดขึ้น พร้อมกับทำสีหน้าสยดสยอง

“ถึงท่านหมอหลวงจะไม่ว่าอะไร แต่ถ้าฝ่าบาททรงเป็นหนักกว่านี้ เกรงว่าแผ่นดินคงลุกเป็นไฟเป็นแน่แท้”เจ้ากรมการปกครองส่ายศีรษะน้อยๆ

“เมื่อเป็นเช่นนั้นเราควรจะหาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้นมา จริงไหม”เจ้ากรมการยุติธรรมเสนอขึ้นหลังจากที่นิ่งเงียบฟังมานาน

“แล้วจะให้ใครมาเป็นผู้สำเร็จราชการล่ะ”เจ้ากรมพาณิชย์ถามขึ้นทันที “พระเชษฐากับพระอนุชาของฝ่าบาทก็พากันเสด็จออกไปท่องเที่ยวนอกวังกันแล้ว มิมีพระองค์ใดยังพำนักอยู่ในวังแม้เพียงองค์เดียว”

“แล้วในขณะนี้ ผู้ใดมีอำนาจรองลงมาจากฝ่าบาทล่ะ”เจ้ากรมกลาโหมเปรยขึ้น

เหล่าข้าราชการทั้งหลายต่างนึกถึงผู้ที่มีอำนาจรองจากฝ่าบาท...

บางคนหันมามองมหาเสนาบดีทั้งสอง แต่ทั้งคู่ก็พากันส่ายหน้าเชิงว่าไม่ใช่พวกตน

“เหล่าพระสนมงั้นหรือ”เจ้ากรมโยธาชักสีหน้าอย่างไม่ปิดบังเมื่อนึกถึงเหล่าสนมของฝ่าบาท “ข้าไม่เห็นด้วยอย่างแรง...”

“มีพระองค์หนึ่งมิใช่หรือ... ที่มีอำนาจเหนือกว่าพระสนมทั้งหลายน่ะ”มหาเสนาบดีฝ่ายขวาพูดขึ้น ขณะสบตากับมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย

“องค์ชายโซเทเรียเช่นนั้นหรือ”เสนาบดีการคลับเอ่ยขึ้นบ้าง พร้อมกับทำสีหน้ายุ่งๆ

“ไม่ได้หรอก พระองค์ทรงตั้งครรภ์อยู่ ไม่มีทางที่พระองค์จะเข้ามายุ่งกับด้านการเมืองเด็ดขาด อีกทั้งพระองค์ยังทรงเด็กนัก แล้วก็ทรงพระทัยอ่อนด้วย”เจ้ากรมกลาโหมคัดค้านขึ้นทันที

“ไม่ใช่หรอก... อีกพระองค์สิ”มหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายส่ายหน้าน้อยๆกับความคิดของแต่ละคนในที่นี้

“พระชายาคาเซีย... เช่นนั้นหรือ”ท่านราชครูเอ่ยถามขึ้น “ฝ่าบาทจะยอมให้พระชายาลงมาจัดการเรื่องการเมืองเช่นนั้นหรือ”

“ไม่แน่หรอกท่านราชครู มิมีใครเหมาะสมกว่านี้แล้วด้วย”มหาเสนาบดีฝ่ายขวาเอ่ยขึ้น...

ไม่มีใครในที่นี้หาคำมาคัดค้านได้ เพราะในเวลานี้ มีเพียงพระชายาคาเซีย ที่น่าจะเป็นเสาหลักให้แก่บ้านเมืองได้เพียงคนเดียวอย่างที่มหาเสนาบดีทั้งสองเห็นพ้องกันเท่านั้นจริงๆ

“เช่นนั้นข้าจะไปทูลเชิญพระองค์มาช่วยราชกิจล่ะนะ”มหาเสนาบดีฝายซ้ายลุกขึ้นจากที่นั่งทันทีเมื่อได้ข้อสรุป

“ข้าไปด้วย”

แล้วมหาเสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองก็พากันเดินมุ่งหน้าไปยังตำหนักที่ประทับขององค์ชายคาเซีย... ตำหนักโพรเทีย

“พวกข้าต้องการเข้าเฝ้าพระชายา ไม่ทราบว่าพระชายาอยู่ที่นี่หรือไม่”มหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดกับสององครักษ์ที่นั่งเล่นหมากรุกกันอยู่

“โปรดรอสักครู่”เรฟพยักพเยิดให้เซทไปกราบทูลองค์ชาย “เชิญท่านทั้งสองนั่งรอสักครู่”

มหาเสนานั่งลงรอตามคำขององครักษ์อย่างเงียบๆ พวกจ้องแอบมององครักษ์ของพระชายาคาเซียที่นั่งฮัมเพลงมองกระดานหมากรุกอยู่อย่างสนอกสนใจ

ฮืมมมม แม้จะดูยิ้มแย้มเป็นมิตร... แต่ก็แฝงไปด้วยอันตราย ประมาทไม่ได้ๆ

“ท่านมหาเสนาบดีมาขอเข้าเฝ้าองค์ชายพะยะค่ะ”เซทเดินเข้ามากราบทูลองค์ชายที่ประทับอยู่กับองค์ราชาอย่างรวดเร็ว
องค์ชายคาเซียหันพระพักตร์ไปสบพระเนตรกับองค์ทริสเซย์ ก่อนจะทรงหันกลับไปเมื่อได้รับสัญญาณจากพระองค์

“เชิญพวกเขาเข้ามาในห้องบรรทม”ข้อความสั้นๆ ได้ใจความ

เซทวิ่งกลับไปยังห้องโถงกลางทันทีเมื่อได้รับคำตอบ

“พระชายารับสั่งให้พวกท่านไปเข้าเฝ้าที่ห้องบรรทมของฝ่าบาท”เซทนำความจากองค์ชายมาบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมเพื่อเดินหมากกับคนรักต่อ “เรลจะพาพวกท่านเข้าไปเอง”

คนนี่ก็นิ่งเฉย รู้เย็นชา แต่ก็เป็นคนที่ช่างสังเกต... ก็ยังประมาทไม่ได้สินะ

“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”เรลผายมืออกอย่างสุภาพ รอยยิ้มสดใสถูกฉายขึ้นบนใบหน้าเรียวสวย “พวกท่านเป็นขุนนางใหญ่หรือเจ้าคะ”

“พวกข้าเป็นมหาเสนาบดีคู่บัลลังก์ของฝ่าบาท”

“ช่วงนี้ฝ่าบาททรงประชวร คงลำบากพวกท่านแย่เลยสินะเจ้าคะ”

“เพื่อแผ่นดินแห่งเฟรนเซีย พวกข้าเต็มใจที่จะทำ และภาคภูมิใจในการที่ได้ทำเพื่อบ้านเมือง ได้ช่วยฝ่าบาทปกครองเมืองอันเป็นที่รักแห่งนี้”

“ระยะนี้คงมีปัญหามากมายให้ขบคิด พวกท่านไม่ล้ากันบ้างหรือเจ้าคะ”

“ล้าบ้าง แต่ต้องทำ ไม่เช่นนั้นเฟรนเซียคงไม่อาจจะอยู่ต่อได้”

“พวกท่านคงเหนื่อย ที่นอกจากจะต้องช่วยราชกิจของฝ่าบาทแล้ว ยังต้องระแวงคนในว่าจะมาแย่งชิงอำนาจด้วยสินะเจ้าคะ”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นเพียงชั่ววินาที “ถึงแล้วเจ้าค่ะ”

“ขอบใจเจ้ามาก”มหาเสบาบดีทั้งสองกล่าวกับนางเบาๆ

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ระวังสุขภาพของพวกท่านด้วย เดี๋ยวอายุจะไม่ยืนยาวเอานะเจ้าคะ”เสียงพูดแผ่วๆ แต่ดังก้องในหูของทั้งสองนัก

นางกำนัลคนนี้แม้ภายนอกจะดูยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ชอบจับผิด พลาดแม้เพียงวินาที หัวของเราอาจจะไม่ได้อยู่บนบ่าแล้วก็ได้

“พระชายารออยู่ข้างในแล้วเจ้าค่ะ”เสียงหวานนุ่มนวลดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับบานทวารที่ถูกเปิดออก “เรล เจ้าไปชงชามาให้ท่านมหาเสนาบดีหน่อยสิ”

“ค่ะ ท่านพี่เนล”

“พระชายาเพคะ ท่านมหาเสนาบดีทั้งสองมาถึงแล้วเพคะ”เนลหันไปทูลแก่องค์ชายของนางด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก “เชิญเจ้าค่ะ”
มหาเสนาบดีทั้งสองก้าวเข้ามายังห้องบรรทมอันวิจิตรขององค์เหนือหัว ก่อนจะทำการถวายบังคมแด่องค์ราชาและองค์ชายที่ประทับอยู่

“ถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมพระชายาคาเซีย”

“เชิญพวกเจ้าตามสบาย”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”เสนาซ้ายและเสนาขวาเดินไปนั่งยังโซฟานุ่มๆทันที

“พวกท่านต้องการพบข้า มีเรื่องอันใดเช่นนั้นหรือ”องค์ชายคาเซียเปิดประเด็นขึ้น เมื่อทรงเห็นขุนนางใหญ่ทั้งสองนั่งลงเรียบร้อย

“พวกข้ามีเรื่องสำคัญจะมาทูลกับพระชายาน่ะพะยะค่ะ”

“เรื่องสำคัญ... อะไรหรือ”

“น้ำชาเจ้าค่ะ”ยังไม่ทันที่ท่านเสนาจะได้พูดอะไรต่อ เนลก็ยกเอาน้ำชามาให้พวกเขาเสียก่อน...

“ความประมาทคือหนทางแห่งความหายนะนะเจ้าคะ... กับองค์ชายถ้าผิดพลาดนิดเดียว โปรดระวังชีวิตตนเอาไว้ด้วยนะเจ้าคะ”น้ำเสียงนุ่มๆกระซิบเบาๆตอนที่ส่งชาให้ “พระชายาจะรับชาไหมเพคะ”

“ไม่ล่ะเนล”องค์ชายเอ่ยปฏิเสธเบาๆ “ข้าไม่ค่อยชอบชาเท่าไหร่นัก”

“พวกข้าจะมาทูลเชิญให้พระชายามาเป็นผู้สำเร็จราชการน่ะพะยะค่ะ”

“ให้เราเป็นผู้สำเร็จราชการ”องค์ชายคาเซียทวนคำของมหาเสนาบดีฝ่ายขวาอย่างงง

“พะยะค่ะ”

“ท่านได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาทแล้วเช่นนั้นหรือ ถึงตัดสินใจเอาเช่นนี้”พระองค์เริ่มหงุดหงิดพระทัยเล็กๆ “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่พวกท่านคิดจะทำก็ทำได้เช่นนี้ การกระทำนี้เป็นการลบหลู่ฝ่าบาทยิ่งนัก พวกท่านน่าจะรู้ดี ถึงพระองค์จะทรงประชวร แต่ก็มิได้หมายความว่าพระองค์จะมิมีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง ก่อนที่ท่านจะมาเชิญให้เราขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการ ท่านสมควรของขออนุญาตกับฝ่าบาทเสียก่อนถึงจะถูกต้อง มิใช่หรือ”

“พวกกระหม่อมสะเพร่าเอง ขอประทานอภัยพะยะค่ะ”มหาเสนาทั้งสองคุกเข่าลงขอขมาทันที กับความสะเพร่าของพวกตนที่เอาแต่ร้อนใจ ไม่ได้ตระเตรียมอะไรตามที่สมควรแม้เพียงน้อย

องค์ชายทรงทอดพระเนตรมองขุนนางทั้งสองด้วยสายพระเนตรเย็นชา ทำให้พวกเขานึกถึงคำของนางกำนัลที่ยกชามาให้เมื่อครู่

“คาเซีย...”สุรเสียงแหบแห้งตรัสขึ้น เรียกความสนพระทัยขององค์คาเซียให้หันมาหาองค์ราชาได้ทันที

“ฝ่าบาททรงมีอะไรจะรับสั่งหรือพะยะค่ะ”พระพักตร์หวานยื่นเข้าไปใกล้เจ้าผู้ครองแผ่นดิน เพื่อจะฟังคำของฝ่าบาทให้ชัดเจน

“ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน... ไปจนกว่าข้าจะหายเป็นปกติ”พระองค์ทรงรับสั่งเบาๆ

องค์ชายคาเซียทรงตกพระทัยเล็กๆ ก่อนที่จะทรงสูดพระอัสสาสะลึก

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายทรงตรัสรับคำเสียงหนักแน่น “ข้าพระองค์จะทำหน้าที่ ที่พระองค์ทรงมอบหมายให้ดีที่สุดพะยะค่ะ”

“ข้าต้องฝากเฟรนเซียเอาไว้ให้เจ้าดูแลด้วยนะ ชายาข้า...”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท...”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ราชโองการจากองค์ทริสเซย์ถูกประกาศทั่วทั้งราชอาณาจักร เรื่องการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน สร้างความไม่พอใจให้แก่เหล่าสนมนางในเป็นอย่างมาก

“พระชายาพะยะค่ะ”เจ้ากรมโยธาเอ่ยเรียกร่างบางที่กำลังทอดพระเนตรผังเมืองด้วยสีพระพักตร์เคร่งเครียด “จะทรงแก้ปัญญาเรื่องพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่แห้งแล้วอย่างไรดีพะยะค่ะ”

“วางระบบชลประทานเพิ่มเติม ให้ขุดคลองจากตรงนี้ลากยาวมาถึงจุดนี้ แล้วประกาศให้เกษตรกรขุดบ่อน้ำเพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ยามแห้งแล้ว”องค์ชายทรงชี้คลองที่มักมีน้ำเอ่อขึ้นมาและคลองที่น้ำไหลปกติ

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”เจ้ากรมโยธาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนำแผนที่ที่กางเอาไว้มาขีดๆเขียนๆ “กระหม่อมทูลลาพะยะค่ะ”
เจ้ากรมโยธาหายออกจากท้องพระโรงไปทันที

“แล้วอาคารบ้านเรื่องที่เสียหายล่ะพะยะค่ะ เราสมควรจะทำอย่างไรดีพะยะค่ะ”เจ้ากรมการพาณิชย์กล่าวถามขึ้นบ้าง

“ให้เงินชดเชยชาวบ้านเท่าที่สมควร ลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง ถ้าให้ขุนนางพื้นที่ลงไปดูแล พวกเขาอาจจะฉ้อโกง เอาเงินรัฐเข้าตนเองได้”

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”

ราชกิจมากมายโถมเข้าใส่องค์ชายคาเซีย แม้พระพักตร์ของพระองค์จะทรงยิ้มแย้มไม่ต่างจากปกติ แต่ในพระทัยนั้นทรงเคร่งเครียดอย่างยิ่ง

สำหรับพระองค์แล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งเล่นๆ พระองค์ทรงต้องแบกรับความหวังของผู้คนจำนวนมาก และชีวิตของประชาชนทั้งแผ่นดิน ถ้าทรงทำอะไรผิดพลาดไปแล้วล่ะก็ ทุกสิ่งทุกอย่างคงพังทลายลง ซึ่งพระองค์ยอมไม่ได้

“แล้วเรื่องงานฉลองครบ 5000 ปีของอาณาจักรล่ะพะยะค่ะ จะทรงจัดอย่างไร”

+++++++++++++++++++++++++++++

งานเข้าคาเซียแล้วววววว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 12-03-2012 22:44:09
อ๊าก น่าสงสาร งานรุมเร้า ฝ่าบาทหายไวๆนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 12-03-2012 23:53:19
“วางระบบชลประทานเพิ่มเติม ให้ขุดคลองจากตรงนี้ลากยาวมาถึงจุดนี้ แล้วประกาศให้เกษตรกรขุดบ่อน้ำเพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ยามแห้งแล้ว”

เอาไปใช้กับน้ำท่วมได้ไหมนะ

 คิคิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: orientation ที่ 13-03-2012 00:20:41
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

คาเซียระวังป่วยนะ

ปล.เมื่อไรจะมีลูกน้าาา
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 13-03-2012 00:46:10


    ทั้งองครักษ์และนางกำนัลของคาเซียนี่ร้ายจริงๆเลยนะ
    ขู่กันซะขุนนางใหญ่โตหงอไปเลย
    แต่ฝ่าบาทให้คาเซียไปทำงานเนี่ยจะไม่หายช้าลงเหรอ เพราะต้องทนคิดถึงคนดูแลอะ อิอิ



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 13-03-2012 06:35:42
หายป่วยเร็วๆน่ะฝ่าบาท :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 13-03-2012 17:16:11
โอ้วปัญหาเริ่มจะเยอะ  :really2: :really2:

มาต่อไวๆนะค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่15 P.3 R.86]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2012 19:07:28
บทที่ 16
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ความลับ ความในใจ

ระหว่างที่องค์ชายคาเซียทรงอ่านฎีการ้องเรียนขุนนางพื้นที่ห่างไกลจากเมืองหลวงอยู่นั้น เรลที่นั่งอยู่กับพระองค์มานานก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

“องค์ชายเพคะ”นางกำนัลสาวเอ่ยเรียกผู้เป็นนายเบาๆ

“หืม... มีอะไรหรือ เรล”องค์ชายทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมาตามเสียงเรียกของนางกำนัลส่วนพระองค์

“หม่อมฉันขอถามอะไรพระองค์หน่อยได้ไหมเพคะ”

“ถามมาสิ ถ้าเราตอบได้ก็จะตอบให้”พระองค์ยิ้มบางเบา

“คือ... องค์ชายโซเทเรียทรงตั้งพระครรภ์แล้ว ทั้งๆที่พระองค์ทรงร่วมหลับนอนกับองค์ชายไม่กี่ครั้ง...”สีหน้าของนางกำนัลน้อยแดงระเรื่อเล็กๆ “แล้วเหตุใดพระองค์ ที่ร่วมบรรทมกับฝ่าบาทแทบทุกราตรีถึงไม่ตั้งพระครรภ์บ้างล่ะเพคะ”

“ฮะๆ”เสียงหัวเราะแผ่วๆดังออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์ชาย นัยน์ตาของพระองค์พราวระยับอย่างถูกพระทัย “เจ้าอยากรู้จริงเหรอ เรล”

“เพคะ”เรลตอบรับเสียงดังฟังชัด

“เพราะเรายังไม่อยากตั้งครรภ์ไงล่ะ”พระองค์ตรัสตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ “เราเลยเอาเมล็ดพันธุ์ของฝ่าบาทออกทุกครั้ง หลังจากที่พระองค์ทรงบรรทมไปแล้ว”

“เอ๋... ทำไมล่ะเพคะ”เรลถามกลับอย่างงุนงง “เมื่อพระองค์ทรงตั้งพระครรภ์ ถ้าได้พระโอรส พระองค์ก็จะได้ขึ้นเป็นพระมารดาของรัชทายาทเลยนะเพคะ ดีไม่ดี ฝ่าบาทก็จะทรงตั้งพระองค์เป็นราชินีด้วยซ้ำนะเพคะ”

“แล้วถ้าเราตั้งครรภ์ตอนนี้ ใครจะดูแลโซเทเรียให้ข้าล่ะ หืม...”พระองค์ตรัสถามขณะที่ยังทรงร่างแผนพัฒนาการการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล “แต่ตอนนี้เราคงจะปล่อยแล้วล่ะ... ถ้าจะมีทายาท เราก็จะปล่อยให้มี ตามที่ฝ่าบาทประสงค์ ถึงยังไงโซลก็กำลังจะพ้นช่วงที่จะแท้งลูกได้ง่ายไปแล้ว เราก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก”

“หม่อมฉันไม่เชื่อหรอกเพคะ ว่าพระองค์จะทรงมีเหตุผลเพียงเท่านั้น”นางกำนัลน้อยหรี่ตามององค์ชายของนางอย่างจับผิด “พระองค์ทรงมีเหตุผลอื่นๆอยู่ด้วยใช่ไหมเพคะ”

“ข้าปิดเจ้าไม่ได้จริงๆสินะ”พระองค์ตรัสยิ้มๆ

“องค์ชายเพคะ”นางค้อนองค์ชายอย่างเคืองๆ “ทรงบอกไม่ได้หรือเพคะ เหตุผลสำคัญที่องค์ชายมิยอมมีทายาทให้แก่ฝ่าบาท...”
“ไม่ใช่ข้าไม่ยอมมีสักหน่อย... แค่ข้ายังไม่มีให้เท่านั้นเอง”องค์คาเซียตรัสแย้งเบาๆ “เพราะข้ายังไม่มั่นใจพอ... ว่าฝ่าบาทต้องการข้าจริงๆไหม”

พระเนตรหวานฉายแววเศร้าหมอง พระพักตร์ก้มลงเล็กๆ

“เราไม่รู้หรอกว่าฝ่าบาทโปรดเรา... หรือพระองค์เพียงแค่ต้องการร่างกายของเรา แต่พระองค์ประสงค์ที่จะมีรัชทายาท อีกทั้งเร่งเร้าเราทุกราตรี แม้กระทั่งยามที่พระองค์ประชวรเช่นนี้ เราคงต้องปล่อยความไม่แน่ใจนั้นทิ้งไป แล้วมีทายาทให้แก่พระองค์”
ความในพระทัยที่เก็บมาตลอดถูกถ่ายทอดออกมาให้นางกำนัลทั้งสองฟังเบาๆ เนลที่นั่งนิ่ง และเงียบมาตลอดหลุบตาลงด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย...

“ไม่เป็นไรหรอกน่า... ตอนนี้ฝ่าบาทยังสนใจเรา ยังดูแลและทะนุถนอมเรา เท่านี้ก็ดีแล้ว จริงไหม”รอยยิ้มอ่อนโยนคลี่ส่งให้กับนางกำนัลทั้งสอง พระองค์มิโปรดให้เนลและเรลมีสีหน้าที่เศร้าหมองนัก สำหรับพระองค์แล้ว มันไม่เหมาะกับพวกนางอย่างยิ่ง “เมื่อถึงเวลาที่ฝ่าบาทมิทรงโปรดข้าแล้ว อย่างน้อยข้าก็ยังมีลูกของข้าอยู่เคียงข้างข้า จริงไหม”

“เพคะ... องค์ชาย”

“พวกเจ้าอย่าลืมสิ ว่าข้ายังมีโซเทเรียอยู่ด้วย ข้าไม่เศร้าหรอกน่า...”ท่อนท้ายที่ทรงตรัสนั้นแผ่วเบายิ่งนัก
แล้วห้องทั้งห้องก็เงียบลง ต่างคนต่างตกอยู่ในความคิดของตนเอง

ถ้าข้ามีโอรสให้กับฝ่าบาทแล้ว... พระองค์จะทอดทิ้งข้าไปไหม พระองค์จะทรงหลงลืมข้าแล้วไปหาเหล่าสนมที่แสนงามทั้งหลายที่เฝ้ารอฝ่าบาทไหมนะ... ถ้าฝ่าบาทเมินเฉยกับข้า ทอดทิ้งข้า ข้าคงเหงา และเศร้าโศกมากแน่ๆ เฮ้อ... พระองค์สร้างความเคยชินอันไม่สมควรให้ข้าซะแล้ว...

องค์ชายที่น่าสงสารของเนล ข้ารู้อนาคตขององค์ชายดี แต่ก็มิอาจฝืนลิขิตสวรรค์พูดออกมาได้ แม้บางเวลาพระองค์จะต้องทรงเจ็บปวด แต่ฝ่าบาทจะอยู่เคียงข้างพระองค์อย่างแน่นอน...

โถ่... องค์ชาย เรลไม่น่าเอ่ยถามออกมาเลย เพราะข้าแท้ๆ องค์ชายถึงต้องเศร้าพระทัย ข้ามันโง่นัก โง่ๆๆ โง่ไม่พอ ยังเลวอีก ข้าทำให้พระองค์ต้องเสียพระทัยครั้งแล้วครั้งเล่า ข้ามันโง่ ช้ามันเลวจริงๆ


องค์ชายคาเซียทรงสะบัดความคิดเหล่านั้นออกจากสมองของพระองค์ แล้วทรงตั้งหน้าตั้งตาร่างแบบแผนที่จะทรงเสนอกับเหล่าขุนนางในการประชุมครั้งหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ

+++++++++++++++++++++++++++

ในขณะเดียวกัน นางกำนัลขององค์ชายโซเทเรียก็เอ่ยถามความในพระทัยขององค์ชายเช่นกัน

“องค์ชายเพคะ...”เสียงหวานๆเอ่ยดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“อะไรเหรอ เฟรุย”องค์ชายโซเทเรียทรงหันมาตรัสถามเสียงใส ในพระหัตถ์ของพระองค์ถือผ้าผืนนุ่มที่ทางห้องตัดเย็บส่งมาให้พระองค์เลือกตัดฉลองพระองค์ที่จะร่วมงานฉลองครบรอบ 5000 ปีของเฟรนเซียของพระองค์เอง

“หม่อมฉันขอบังอาจถามคำถามพระองค์หน่อยนะเพคะ”

“ว่ามาสิ”

“พระองค์ทรงมีความสุขหรือเปล่าเพคะ ที่อภิเษกกับองค์ชายคาเซียเช่นนี้”เฟรุยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย นางดูแลองค์ชายมาตั้งแต่เล็ก รู้ดีว่าองค์ชายโปรดหรือไม่โปรดอะไร แต่นางคิดไม่ถึงจริงๆว่าองค์ชายของนางจะหลงรักองค์ชายคาเซียมากมายขนาดนี้

“ข้ามีความสุขที่ได้อภิเษกกับคาเซีย มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา”รอยยิ้มบนพระพักตร์อ่อนหวานขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทรงตรัสถึงพระสวามีอันเป็นที่รักของพระองค์ “สำหรับข้า ความใฝ่ฝันที่ข้าอยากทำมากที่สุด หลังจากได้รู้ว่าตนเองต้องมาอยู่ที่เฟรนเซียนี้คือการได้บอกความในใจให้กับคาเซียได้รู้ แต่ในตอนนี้ ข้ากลับได้อยู่กับเขา ได้ยิ้มให้เขา ข้าดีใจและมีความสุขมาก”

“องค์ชาย...”

“ถึงแม้ว่าข้าจะได้ไม่เป็นเจ้าของคาเซียทั้งกายและหัวใจของเขา แต่ข้าก็ได้ความรักของเขามาอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง ได้มอบร่างกายนี้ให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว”น้ำเสียงทรงตรัสออกมานั้นเปี่ยมไปด้วยความรักที่พระชายามีให้แก่องค์ชาย จนเฟรุยรับรู้ได้ “และข้าก็ดีใจ ที่คาเซียเป็นพระสวามีเพียงหนึ่งเดียวของข้า”

“ถ้าองค์ชายคาเซียไม่ได้ดีอย่างที่พระองค์คิดล่ะเพคะ”เฟรุยเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

“ข้าไม่เคยบอกว่าคาเซียเป็นคนดี... เฟรุย ข้ารักเขา เพราะว่าเขาเป็นเขา ไม่มีใครในโลกนี้ดีไปซะหมดหรอก ข้ารักความอบอุ่น ความอ่อนโยนที่เขามีให้อย่างบริสุทธิ์ใจ”องค์ชายโซเทเรียทรงตรัสบอกนางกำนัลของพระองค์ “ต่อให้คาเซียไม่ได้รักข้า อย่างที่ข้ารักเขา ข้าก็มีความสุข เพราะอย่างน้อย ข้าก็อยู่ในสายตาของเขา อยู่ในความทรงจำของเขา ข้ารู้ดี ว่าคาเซียมองข้าเป็นน้องชายที่น่ารัก แม้ตอนนี้เขาก็ยังมองข้าเช่นนั้นอยู่ แต่ข้าก็ไม่เคยเสียใจ ที่ได้มอบร่างกายและหัวใจดวงนี้เอาไว้ในกำมือของเขา... เจ้ารู้ไหมสิ่งที่ข้าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตคืออะไร”

“อะไรหรือเพคะ องค์ชาย”

“คือการที่ข้าได้อุ้มท้องลูกของข้ากับคาเซียคนนี้ไงล่ะ...”พระหัตถ์เรียวลูบไล้พระอุทรของพระองค์เองเบาๆ “ข้าตั้งชื่อให้เขาแล้วนะ... ถ้าเป็นผู้หญิง ข้าจะให้เขาชื่อซาเนเซีย ถ้าเป็นผู้ชายชื่อคาเซเรียล่ะ คาเซียก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรกับชื่อที่ข้าคิดเอาไว้ด้วย”

องค์ชายเพคะ... แม้องค์ชายคาเซียจะมิได้สนพระทัยพระองค์เท่าที่สมควรจะเป็น จะมิได้อยู่เคียงข้างพระองค์ตลอดเวลา หม่อมฉันจะขอทำหน้าที่ในส่วนขององค์ชายคาเซีย จะขอปกป้องและดูแลพระองค์ จนกว่าชีวิตต่ำต้อยของเฟรุยคนนี้จะหาไม่

++++++++++++++++++++++++++

ตกเย็นองค์ชายคาเซียก็ทรงเสด็จมาหาพระชายาของพระองค์ ด้วยสีพระพักตร์สดใส

“โซล”พระองค์ทรงโอบกอดพระชายาร่างเล็กเอาไว้ในอ้อมพระกรอย่างอ่อนโยน “เป็นอย่างไรบ้าง หืม...”

“โซลไม่เป็นอะไร อาการแพ้ท้องก็ลดลงแล้วด้วยนะ”พระชายาตอบกลับอย่างร่าเริง “เรี่ยวแรงก็กลับมาแล้ว ตอนนี้โซลวิ่งได้แล้วนะ”

“ไม่ต้องวิ่งเลยโซล โซลอยู่นิ่งๆน่ะดีแล้ว”องค์ชายทรงตรัสกับร่างในอ้อมกอดเสียงเข้ม “เดี๋ยวเกิดล้ม หรือเป็นอะไรขึ้นมาจะทำไงหึ”

“ง่า... คาเซียอ่า...”พระเนตรกลมโตจ้องพระองค์อย่างออดอ้อน หมายจะให้พระองค์ใจอ่อนเช่นนั้นหรือ ฝันไปซะเถอะ

“ไม่ต้องมาอ้อนเลย โซล”พระองค์ทรงบีบจมูกรั้นๆของพระชายาเบาๆ “เฟรุย ดูเอาไว้เลยนะ ถ้าไปวิ่งเล่นที่ไหนให้มาบอกข้า เดี๋ยวข้าจะจับมับเอาไว้บนเตียง ไม่ให้ลุกไปไหนเลยคอยดู”

“เพคะ หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ”เฟรุยตอบรับคำขององค์ชาย ใบหน้าหวานของนางอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นพระชายายู่พระพักตร์ด้วยความไม่พอพระทัย

ทั้งสองพระองค์ทรงเสวยอาหารเย็นร่วมกัน ทรงถกเถียงกันบ้างเพราะองค์ชายโซเทเรียมิยอมเสวยผักบางชินที่มีประโยชน์ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแก่องค์ชายคาเซีย

“นอนได้แล้วนะ โซล”องค์ชายทรงพาพระชายาเข้าบรรทมดังเช่นทุกๆวัน แม้จะทรงงานยุ่งแค่ไหน แต่พระองค์ไม่เคยละเลยพระชายาแม้แต่น้อย

“โซลรักคาเซียนะ”เสียงหวานเอ่ยเบาๆ ในขณะที่พระเนตรทั้งสองปรือลง

“คาเซียก็รักโซลเช่นกัน”จุมพิตอุ่นๆแตะเบาๆที่พระนลาฏขององค์ชายโซเทเรีย “ฝันดีนะ ชายาของข้า ฝันดีนะ ลูกพ่อ”
พระองค์เสด็จออกจากตำหนักฟรีเซียกลับมาตำหนักโพรเทีย ตำหนักที่ประทับของพระองค์

“ฝ่าบาททรงเสวยโอสถหรือยัง”องค์ชายทรงตรัสถามเรลเบาๆ

“เสวยแล้วเพคะ เหล่านางกำนัลห้องสรงก็มาชำระพระวรกายของฝ่าบาทแล้วด้วยเพคะ”

“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว”

องค์ชายทรงชำระวรกายก่อนที่จะเสด็จไปหาองค์ราชาที่ยังบรรทมพักผ่อนในห้องบรรทม เพื่อรักษาอาการประชวร

“คาเซียหรือ...”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”

องค์ชายทรงเสด็จไปยังพระแท่นที่องค์เหนือหัวประทับอยู่อย่างรวดเร็ว

“ทรงเป็นอย่างไรบ้างพะยะค่ะ”พระองค์ตรัสถามพระอาการด้วยความเป็นห่วง พระหัตถ์เรียวกอบกุมพระหัตถ์หนาหลวมๆ

“ดีขึ้นแล้วล่ะ ปวดหัวน้อยลงหน่อยแล้ว”องค์ทริสเซย์ตรัสตอบตามความจริง “เจ้าล่ะ เหนื่อยมากไหม ช่วงนี้ราชกิจคงมากมายยิ่งนัก”

“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกพะยะค่ะ”องค์ชายทรงส่งรอยยิ้มอ่อนหวานมาให้พระองค์บางๆ “แม้จะเครียดไปบ้าง แต่ก็สนุกดีเหมือนกันพะยะค่ะ”

“อีกพักใหญ่กว่าข้าจะหายเป็นปกติ... ฝากเจ้าด้วยนะ”

“พะยะค่ะ”พระองค์ตรัสรับด้วยความเต็มพระทัยเป็นอย่างยิ่ง

“คาเซีย...”องค์ราชาทรงตรัสเรียกชื่อพระองค์อีกครั้ง “เมื่อไหร่เจ้าจะมีลูกให้ข้าสักทีล่ะ”

“จนกว่าฝ่าบาทจะทรงประทานความเมตตาให้กับกระหม่อมได้ยังไงล่ะพะยะค่ะ”

“นั่นสินะ... ช่วงนี้ข้าไม่ได้สัมผัสเจ้าเลย... ข้าคิดถึงร่างกายของเจ้าเหลือเกิน ชายาข้า”พระหัตถ์แกร่งลูบไล้พระพักตร์งามแผ่วเบา

“กระหม่อมก็คิดถึงสัมผัสของพระองค์พะยะค่ะฝ่าบาท...”องค์ชายคาเซียทรงเอนพระวรกายลงเคียงข้างพระองค์อย่างเชื่องช้า “รอฝ่าบาทดีขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย.. กระหม่อมจะให้พระองค์สัมผัสให้เต็มอิ่มเลยพะยะค่ะ”

“ข้าหวังอย่างยิ่งว่าวันนั้นจะมาถึงโดยไว”องค์ราชาทรงเปรยขึ้นมาแผ่วเบา “คาเซีย... เมื่อเจ้ามีลูกกับข้า เจ้าอยากตั้งชื่อลูกว่าอะไรเช่นนั้นหรือ”

“กระหม่อมยังมิได้คิดชื่อของลูกคนแรกหรอกพะยะค่ะ ฝ่าบาท... แต่ถ้าคนที่สองเป็นพระโอรส กระหม่อมอยากให้เขาชื่อเฮเซีย”

“ชื่อของรัชทายาทแห่งเซเรียล พระเชษฐาของเจ้าน่ะหรือ”

“พะยะค่ะ กระหม่อมอยากให้เขาเป็นที่รักของทุกคน เป็นคนที่เสียสละและไม่ลืมพี่น้องของตนพะยะค่ะ”

องค์ชายคาเซียยื่นพระพักตร์เข้าใกล้องค์ทริสเซย์ แล้วทั้งสองพระองค์ก็มอบจุมพิตให้แก่กันและกันอย่างเนิ่นนาน

“ฝันดี... ยอดดวงใจของข้า”

+++++++++++++++++++++++++++++

บทที่สิบหกมาแล้วค้า~ โซลน้อยน่าสงสาร :o12:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-03-2012 19:21:04
อ๊า รักแบบนี้มันเป็นอะไรที่บอกไม่ถูกเลยจริงๆนะเนี่ย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รอติดตามอยู่ค่า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 13-03-2012 19:34:54
 พูดถึงพี่ชสยก็นึกถึงคนที่อยู่ในเซเรียลเลย

ดูท่าทางว่าจะรักน้องชายมาก

จะตามมาหาองค์ชายเราป่าวน่ะ

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-03-2012 20:12:56
อยากให้คาเซียท้องเร็วๆจัง กลัวคาเซียต้องเจออุปสรรคในอนาคตจัง น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 13-03-2012 20:38:24
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 13-03-2012 20:41:58
ตามมาอ่านแล้วจ้าาาาา ยังคงนั่งอ่านไปยิ้มไปกับความรักแบบแปลกๆ ของครอบครัวคาเซีย 555+

เวลาอยู่กับโซลบอกตรงๆ จิ้นบุคลิกคาเซียเป็นสามีไม่ออกจริงๆ เวลาคาเซียถูกเรียกว่าพระสวามีเลยขำๆ ทุกทีอะ :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: piride ที่ 13-03-2012 20:42:32
ที่คาเซียไม่ยอมมีน้องก็เพราะเหตุนี้เอง   
ดูท่าฝ่าบาทก็รักคาเซียเหมือนกันนะ
แต่เราไม่ชอบที่ไปทำอะไรกับสนมเลยอ่ะ  :z10:

 (เราไม่มีความรู้เรื่องคำราชาศัพท์เลย   :pigha2:)
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 13-03-2012 21:15:55
เฮ้อออ  :sad11:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 14-03-2012 00:38:29
มาต่อไวๆนะค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 14-03-2012 00:42:56
อยากให้คาเซียท้องไวๆอ่ะค่ะ!!  :o8:

สู้นะคะ!!  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 14-03-2012 07:58:58
คาเซียท้อง โซลจะทำงัยอะจะไม่คิดมากเหรอเนี้ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 14-03-2012 11:38:38
แอบไม่ชอบโซลเล็กๆ

แต่ก้เข้าใจว่าเขารักคาเซีย  ออกแนวสงสารนะนี่

คาเซียรีบมีลูกนะ ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 15-03-2012 06:13:51



   ยังไงองค์ชายคาเซียก็ยังไม่ยอมเชื่อในรักของฝ่าบาทสักทีนะ
   ไม่เหมือนองค์ชายโซลเลย รักหมดใจแถมเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่16 P.4 R.93]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2012 09:34:07
บทที่ 17
ตำนานรักสองราชวงศ์
ความจริงของทริสเซย์ ความจริงของพระชายาโซล

นางกำนัลเนลที่คอยดูแลฝ่าบาทตามรับสั่งขององค์ชายคาเซีย นั่งมองร่างที่หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาของหมอหลวงด้วยความสงสัย

เหตุใดกันนะ... ทั้งๆที่องค์ราชาทริสเซย์ทรงประชวรมาตั้งนานแล้ว เสวยโอสถมาหลายต่อหลายถ้วย แต่พระองค์ก็ไม่หายสนิทเสียที ทั้งที่พระองค์ไม่ได้ทรงเป็นอะไรมากแท้ๆ ท่านหมอหลวงก็บอกเพียงแค่ว่าทรงประชวรเป็นไข้หวัดเพราะโดนละอองฝนธรรมดา...

เนลยู่ปากน้อยๆ นิ้วเรียวเคาะเบาๆที่โต๊ะไม้...

ฮืม... แล้ว... ทำไมพระชายาโซเทเรียถึงทรงตั้งพระครรภ์ได้ล่ะ องค์ชายคาเซียมิได้ให้พระองค์เสวยยาของพระสนมนี่น่า... เอ... ทำไมกันนะ หรือองค์ชายให้เสวยตอนที่ข้าไม่เห็น... แต่ไม่น่าเป็นไปได้ ก็ข้าอยู่กับองค์ชายแทบจะตลอดเวลาเลยนี่น่า...

นางกำนัลสาวเกาหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดใจ

ไม่ได้การ มันค้างคาใจจริงๆเลยเชียว ข้าต้องไปถามหมอหลวงกับเฟรุยให้รู้เรื่อง!!

“เรลๆ เจ้ามาดูแลฝ่าบาทแทนข้าหน่อย”เนลเรียกเรลให้มาดูแลองค์ราชาแทนตนเอง “ข้าจะไปทำธุระสักเดี๋ยว”

“นี่... เนล พี่จะไปไหนกันน่ะ”เรลเอ่ยถามอย่างงงๆ ก็ปกติพี่สาวของเธอจะไม่เคยละทิ้งหน้าที่ ที่องค์ชายรับสั่งเอาไว้เป็นอันขาด ไม่ว่าจะมีธุระด่วนมากแค่ไหนก็ตามที

“เอาไว้ข้าไปทำธุระเสร็จแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ น้องรักของพี่”เนลหันมาตอบผู้เป็นน้อง ขณะที่นางกำนัลสวมเสื้อคลุม

“พี่อย่าลืมมาเล่าล่ะ”

“แน่นนอน”นางพูดกับเรลแลกออกนอกห้องบรรทมไป

“อ้าเนล จะไปไหนน่ะ”เรฟหันมาถามผู้ที่เดินออกมาอย่างสงสัย นานๆครั้งที่จะเห็นเนลออกมาจากห้องบรรทมของฝ่าบาท โดยที่องค์ชายไม่ทรงอยู่ที่ตำหนักเช่นนี้

“ข้าจะออกไปทำธุระนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”เนลตอบเรฟด้วยรอยยิ้ม “เจ้าก็นอนตักเซทให้สบายนะ แล้วอย่าเผลอทำอนาจารนอกห้องนอนของพวกเจ้าอีกล่ะ ข้าไม่อยากให้ใครมาเห็นแล้วเก็บเอาไปฝันเหมือนนางกำนัลที่เผอิญผ่านมาเห็นคราวก่อน ทุกคนไม่เหมือนขึ้นกับเรลหรอก ที่เห็นการร่วมสังวาสระหว่างเพศเดียวกันจนชินตาแล้ว”

“เนล เดี๋ยวนี้เจ้าปากร้ายขึ้นนะ”เซทพูดขึ้นบ้างหลังจากที่ฟังมาสักพักหนึ่ง หน้าของเขาแดงระเรื่อจากคำพูดแต่ละคำของเพื่อนสาว

“ติดมาจากสามีของเจ้านั่นแหละเซท”ยังไม่วาย นางขอแขวะองครักษ์หน้าหวานก่อนที่จะไปตามหาหมอหลวงที่ดูแลอาการประชวรของฝ่าบาทอย่างรวดเร็ว

นางวิ่งไปเรื่อยๆ ถามทางจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทีละคนๆ ว่าสำนักหมอหลวงนั้นไปทางไหน

โอ้ยยย แค่สำนักหมอหลวง ทำไมมันหายากหาเย็นอย่างนี้นะ เวลาข้าไม่ได้มีทั้งวันสักหน่อย วันไหนว่างๆข้าคงต้องสำรวจพระราชวังแห่งนี้ให้ทั่วเสียหน่อยแล้ว

เนลเริ่มปล่อยรังสีแห่งความหงุดหงิดออกมาจากนางกำนัลหลายคนไม่กล้าเข้ามาทัก

นางวิ่งวนอยู่พักใหญ่จนกระทั่งพบสำนักหมอหลวงที่อยู่ลึกเข้าไปข้างในของพระราชวังอันใหญ่โตแห่งนี้

“ท่านหมอเจ้าคะ ท่านหมอ”นางเอ่ยเรียกหมอหลวงที่เดินตรวจสมุนไพรที่ตากเอาไว้อยู่กับลูกศิษย์ “ท่านหมอเข้าคะ”

“อ้าว เจ้าเป็นนางกำนัลของพระชายาคาเซียใช่ไหม...”หมอหลวงหันมามองนางตามเสียงเรียก “เอ... ใช่นางกำนัลเนลหรือเปล่า”

“เจ้าค่ะ ท่านหมอ”เนลพยักหน้าตอบรับ “ท่านหมอพอมีเวลาสักหน่อยไหมเจ้าคะ ข้าน้อยมีเรื่องอยากทราบน่ะเจ้าค่ะ”

“เอ... ได้สิ”หมอหลวงวัยกลางคนตอบรับ “พวกเจ้าดูสมุนไพรพวกนี้ให้ดีล่ะ ถ้าตัวไหนขึ้นรารีบกำจัดด้วย อย่าลืม...”

“ขอรับ อาจารย์”เหล่าลูกศิษย์แยกย้ายกันไปตรวจดูสมุนไพรตามคำสั่งจองผู้เป็นอาจารย์

เนลและหมอหลวงเดินไปนั่งที่สวนสมุนไพรแถวนั้น

“เจ้ามีอะไรที่อยากรู้จากขึ้นหรือ เนล”

“ข้าน้อยอยากทราบว่า ทำไมฝ่าบาททรงประชวรมานานครึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่หายเช่นนี้ล่ะเจ้าคะ”เนลถามสิ่งที่อยากจะรู้ไปตามตรง “ทั้งที่เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา พักรักษาไม่น่าเกินสิบวันก็น่าจะหายแล้วนิเจ้าคะ”

“อ่อ... ฝ่าบาททรงมีโรคประจำตัวน่ะ”หมอหลวงตอบยิ้มๆ “ฝ่าบาททรงเป็นโรคหอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว อาการของพระองค์ทรงดีขึ้น พระวรกายทรงแข็งแรงขึ้นก็ตอนที่เจริญวัย เดี๋ยวนี้เลยไม่ค่อยทรงประชวร แต่ประชวรที่ก็ทรงเป็นหนักอย่างที่เจ้าเห็น”

“โรคหอบหรือเจ้าคะ พระชายาทรงทราบเรื่องนี้หรือเปล่าเจ้าคะ”

“ทราบสิ พระชายาทรงถามข้า ตั้งแต่วันแรกที่พระองค์ทรงรับหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน คำถามของพระองค์ก็คล้ายๆเข้านั่นแหละ ทำไมฝ่าบาทถึงต้องพักรักษาอาการถึงหนึ่งเดือน แต่สีพระพักตร์ตอนที่พระองค์ทรงถามเหมือนอยากจะเชือดข้ายังไงพิกลๆ ฮ่าๆ”ท่านหมอพูดไปหัวเราะไป

“นั่นแหละเจ้าค่ะ พระชายา ไม่ผิดหรอก”เนลยิ้มอย่างอ่อนโยน “พระองค์จะทรงกริ้วเป็นอย่างยิ่งที่ทรงไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุในเรื่องที่พระองค์อยากทราบ”

“เช่นนั้นหรือ..”เสียงทุ้มแหบตอบรับเบาๆ “แล้ว... ข้าถามอะไรเจ้าสักหน่อย จะได้ไหม”

“เจ้าค่ะ”เนลพยักหน้ารับอย่างยินดี “ท่านอยากถามอะไรก็มาได้เลยเจ้าค่ะ ท่านหมอหลวง”

“พระชายา... ทรงโปรดการ... ร่วมหลับนอนแบบ... ที่พระองค์ทรงเจ็บวรกายเช่นนั้นหรือ”หมอหลวงถามอ้ำๆอึ้งๆ พูดผิดพูดถูก “คือ... ฝ่าบาททรงเคยถามข้าว่าจะทำอย่างไรมิให้พระโลหิตของพระชายาออกเวลาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างแรงๆ... เพราะเพลาที่พระองค์ทำปกติ เหมือนจะไม่ถึงพระทัยของพระองค์กับพระชายานัก...”

“ก็นิดหน่อยนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้น สองข้าหลวงที่พูดคุยกันอยู่สะดุ้งเฮือก ก่อนที่จะหันไปมองผู้พูดพร้อมส่งรอยยิ้มจืดจาง

“ถวายบังคมพระชายาพะยะค่ะ/เพคะ”นางกำนัลและหมอหลวงน้อมกายถวายบังคมร่างบอบบางตรงหน้าอย่างให้เกียรติ

“หืม... ข้าแอบชอบเวลาทำแรงๆอยู่เหมือนกันนะ ท่านหมอหลวง”องค์ชายคาเซียตรัสกับหมอหลวง พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆให้ “มันรู้สึกดีไปอีกแบบ แต่ข้าไม่ชอบนักหรอก เวลาฝ่าบาททรงเล่นของเล่นพวกนั้นน่ะ”

“พะยะค่ะ พะชายา”หมอหลวงตรงตอบรับเบาๆ “แล้วที่พระองค์ทรงเสด็จมาที่นี่...”

“ข้าแค่มาดูสวนสมุนไพร เดี๋ยวก็ไปแล้ว”

“เพคะ/พะยะค่ะ”

พระองค์ทรงเสด็จไปตรวจสมุนไพรในสวนทันทีที่ตรัสจบ พระหัตถ์เรียวหยิบจับสมุนไพรเหล่านั้นเบาๆ แล้ววางกลับลงที่เดิมอย่างรวดเร็ว

“ท่านหมอ เหตุใดกัน เหล่าประชาชนถึงมิแปลกใจอันใดเลยที่ฝ่าบาททรงตั้งองค์ชายเป็นพระชายา และสามารถตั้งพระครรภ์ได้”

“ในประวัติศาสตร์ 5000 ปีแห่งเฟรนเซียนั้น มีหลายรัชสมัยที่มีพระสนมเป็นบุรุษและสามารถให้กำเนิดทารกได้”

“อ่า... เช่นนี้ ข้าน้อยขอลาท่านหมอก่อนนะเจ้าคะ”

“แล้วพบกันใหม่นะ”

ทั้งคู่ต่างแยกย้ายไปตามทางของตน

ต่างคนต่างมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำทั้งนั้น..

เนลมุ่งตรงไปยังตำหนักฟรีเซียอย่างว่องไว นางได้รับคำตอบสิ่งที่ค้างคาใจแล้วหนึ่งเรื่อง เหลืออีกหนึ่งเรื่องที่นางอยากจะรู้ และนางกำลังจะไปพบผู้ที่สามารถจะตอบคำถามของนางได้

“เฟรุย...”เนลส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวเบาๆ “เจ้าว่างหรือเปล่า...”

“อ้าว เนล เข้ามาก่อนสิ”เฟรุยหันมาตามเสียงเรียก เมื่อเห็นนางก็ยิ้มกว้างแล้วโบกมือให้น้อยๆ “มาสิ”

“เจ้าว่างหรือเปล่า”

“พระชายาโซเทเรียทรงบรรทมแล้ว ตอนนี้ข้าว่าง”

“เฟรุย... ข้ามีสิ่งที่อยากรู้ ข้าถามเจ้าได้ไหม”เนลเอ่ยถามเบาๆ นางค่อยข้างเกรงใจเพื่อนคนนี้อยู่ไม่น้อย แม้จะเป็นนางกำนัลเหมือนกัน แต่เฟรุยดู... นิ่งเฉยจนนางอ่านใจของเขาไม่ออก

“ถามมาสิ ถ้าข้าตอบได้ ข้าจะตอบให้เจ้า”เฟรุยยิ้มให้นางอย่างเป็นกันเอง

“เช่นนั้นข้าไม่อ้อมค้อมนะ ทำไม... พระชายาโซเทเรียถึงตั้งครรภ์ได้ ทั้งๆที่พระองค์มิได้เสวยโอสถขององค์ชายคาเซียแม้เพียงอึกเดียว”

“เรื่องนี้น่ะเหรอ ที่เจ้าอยากรู้”เฟรุยเลิกคิ้วน้อยๆ

“อื้ม องค์ชายทรงตั้งพระครรภ์ได้เพราะโอสถของพระมารดาของพระองค์”

“เมืองของเจ้ามีโอสถของพระมารดาแห่งองค์ชายคาเซีย เมืองของข้าก็มีโอสถของราชวังที่สามารถทำให้บุรุษเพศตั้งครรภ์ได้เช่นกัน”เฟรุยชี้แจงให้นางฟัง

“เหรอ...”เนลพึมพำเบาๆ “แล้วพระอาการของพระชายาทรงเป็นอย่างไร เมื่อทรงเสวยโอสถนั้นเข้าไป”

“พระองค์ก็ทรงปวดพระอุทรเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานก็ทรงหายเป็นปกติดังเดิมน่ะ”

“เช่นนั้นหรือ...”

“แล้วองค์ชายคาเซียล่ะ ทรงมีพระอาการเป็นอย่างไรตอนที่ทรงเสวยโอสถ เพื่อให้มีบุตรได้”

“พระองค์ทรงเจ็บปวดมากยามที่โอสถนั้นออกฤทธิ์ แต่ข้าก็ไม่รู้ถึงพระอาการของพระองค์มากนัก เพราะว่าองค์ชายทรงรับสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน”เนลตอบเสียงอ่อน

“เช่นนั้นหรือ... โอสถของวินเซน่ามีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง”เฟรุยพูดขึ้นเบาๆ

“อะไรหรือ”

“เสวยโอสถครั้งหนึ่ง จะสามารถมีบุตรได้เพียงคนเดียว... ถ้าอยากมีบุตรคนต่อไป จะต้องเสวยยาอีกครั้ง ถึงจะมีได้”เฟรุยถอนหายใจน้อยๆ “ถ้าจะให้พระชายามีบุตร ก็ต้องปรุงโอสถนั้นอีกครั้ง ซึ่งมันปรุงได้ยากเป็นอย่างยิ่ง”

“โอสถของพระสนมเซฟีน่า เมื่อเสวยเข้าไปแล้ว จะปรับสภาพพระวรกายให้สามารถมีบุตรได้ตลอด แต่ก็ต้องทนความเจ็บปวดอย่างมากเป็นการตอบแทน”

“นั่นสินะ...คงไม่มีอะไรที่เราสามารถได้มาโดยไม่มีกายแลกเปลี่ยนใดๆ”

“นั่นเป็นสัจธรรมของชีวิตที่เราทุกคนจะต้องเผชิญ ไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงมันได้หรอก...”เนลยิ้มบางเบา มือเรียวยื่นไปจับมือของเพื่อนนางกำนัลแล้วกุมไว้หลวมๆ

“ข้าหวังอย่างยิ่งว่า... พระชายาของข้าจะมีความสุข ข้าไม่อยากที่จะเห็นพระองค์เศร้าหมองเลย เนล”เฟรุยจ้องเข้าไปในดวงตาของผู้ที่จับมือนางเอาไว้

“พระองค์ต้องมีความสุข”

เฟรุยยิ้มบางเบา นางโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เนลช้าๆ

“ขอบใจนะ... เนล”

ริมฝีปากเรียวมอบจุมพิตอ่อนหวานให้กับคนตรงหน้า มือเรียวโอบร่างบอบบางให้เข้ามาใกล้ชิดยิ่งขึ้น

“ขอบใจนะ”

+++++++++++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 16-03-2012 09:51:58
เอ่อ...เรื่องนี้....ความรัก หลายรูปแบบจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-03-2012 10:14:50
เรื่องราวมันลึกลับซับซ้อนยิ่งนัก 555
แต่ก็สนุกดีค่า ตามต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 16-03-2012 10:38:34
ก็สงสัยอยู่ดี
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 16-03-2012 17:53:47
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 16-03-2012 18:09:05
รักแบบทุกเพศเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 16-03-2012 23:36:09
ความรักมีหลายรูปแบบจริงๆ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่17 P.4 R.106]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-03-2012 19:14:12
บทที่ 18
ตำนานรักสองราชวงศ์ : องค์ชายใหญ่แห่งเซเรียล

ณ ท้องพระโรงแห่งอาณาจักรเซเรียล ราชนิกุลและเหล่าขุนนางต่างมารวมตัวกันในที่แห่งนี้ เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 5000 ปี แห่งอาณาจักรเฟรนเซีย

องค์ชายเฮเซียตรัสกับทุกคนในท้องพระโรงว่าพระองค์จะขอเป็นผู้เดินทางไปร่วมในงานครั้งนี้เอง... สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้คนในที่แห่งนี้ยิ่งนัก

ในเวลานี้ องค์ชายผู้เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเซเรียลได้เสด็จไปประทับอยู่ที่เฟรนเซียแล้วหนึ่งพระองค์ แล้วนี่ องค์รัชทายาทจะทรงเสด็จไปยังอาณาจักรแห่งนั้นอีกพระองค์... โอ้ สวรรค์โปรด

“เฮเซีย ลูกจะเป็นตัวแทนไปร่วมงานฉลองครบรอบ 5000 ปี อาณาจักรเฟรนเซียจริงๆเหรอ ลูก”องค์ราชินีตรัสถามพระโอรสของพระนางอย่างเป็นห่วงเป็นใย ด้วยความที่พระนางทรงทราบดีแล้วว่า โอรสของพระนางคิดอย่างไรกับองค์ชายคาเซีย องค์ชายผู้เสียสละแห่งเซเรียล

“พะยะค่ะ เสด็จแม่ ลูกจะไปเองพะยะค่ะ”องค์รัชทายาทเฮเซียตอบพระมารดาเสียหนักแน่น “ลูกอยากไปดูให้เห็นกับตาของลูกเองว่า น้องยังสบายดี ยังมีความสุข”

“เฮเซีย... ลูกยังไม่ตัดใจจากคาเซียใช่ไหม”องค์ราชินีตรัสถามเบาๆ

“คาเซียคือรักแรกของลูก... แม้ลูกจะไม่ได้เขามาอยู่เคียงข้างกายลูก แต่ลูกก็อยากเห็นเขามีความสุข ขอแค่ให้เขามีความสุข ลูกก็พอใจแล้วพะยะค่ะ”องค์ชายเฮเซียตรัสด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เพราะฉะนั้นให้ลูกไปร่วมงานฉลองของทางเฟรนเซียเถอะพะยะค่ะ เสด็จแม่”

“ตามใจเจ้าแล้วกัน...”สุรเสียงนุ่มทุ้มขององค์ราชาแห่งเซเรียสตรัสดังขึ้น ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบทันทีเมื่อได้รับฟัง “พ่อฝากให้เจ้าดูแลน้องด้วย... แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ช่วยทดแทนให้น้อง ในสิ่งที่พ่อไม่ได้มอบให้แก่เขา สิ่งที่พ่อทำผิดพลาดไปด้วยนะลูก”

“พะยะค่ะ เสด็จพ่อ”

“แล้วเจ้าจะไปเมื่อไร เฮเซีย”องค์ราชินีตรัสถามอีกครั้ง

“สัปดาห์หน้าพะยะค่ะ เสด็จแม่”

“แต่งานมันอีกตั้งเดือนเศษนะ... เจ้าจะรีบไปทำไมกัน”

“ลูกอยากไปดูแลคาเซียให้นานขึ้น ได้เห็นความเป็นอยู่ของเขา เผื่อมีอะไรที่เขาไม่สะดวกหรือถูกรังแก ลูกจะได้ช่วยเขาก่อนที่จะลายเกินไปน่ะพะยะค่ะ”องค์ชายทรงตอบด้วยรอยยิ้ม

ไม่มีใครสามารถที่จะคัดค้านองค์ชายได้ ไม่ใช่เพราะเกรงกลัว แต่ด้วยความเป็นจริง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่เฟรนเซีย องค์ชายรัชทายาทสมควรที่จะเป็นผู้เสด็จไปจริงๆ

เอ... แล้วทำไมองค์ราชินีถึงมิอยากให้องค์ชายเฮเซียไปล่ะ?

เพราะข้าอยากจะไปเองนี่น่า ถ้าเฮเซียไปเช่นนี้ ข้าก็ไม่ได้เห็นหน้าของลูกชายของคนที่ข้ารักน่ะสิ โถ่....

++++++++++++++++++++++++++++++++

องค์ชายเฮเซียทรงเสด็จไปยังอาณาจักรเฟรนเซียตามกำหนดการที่ได้กำหนดไว้ พระราชสารส่งไปแจ้งกับทางเฟรนเซียล่วงหน้าแล้ว

การเสด็จไปเยือนอาณาจักรเฟรนเซียขององค์ชายรัชทายาทเป็นไปอย่างราบรื่น แม้จะเป็นเวลาฟ้าสางแต่เหล่าราษฎรพร้อมใจกันมาส่งเสด็จกันตั้งแต่หน้าประตูวังถึงหน้าประตูเมือง สร้างความประทับให้กับองค์ชายและผู้ตามเสด็จเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยความที่องค์ชายเฮเซียเสด็จออกจากเมืองตั้งแต่รุ่งเช้า อีกทั้งเดินทางอย่างไม่หยุดพัก ทำให้พระองค์เสด็จมาถึงอาณาจักเฟรนเซียก่อนเวลาที่คำนวนเอาไว้

“ยินดีต้อนรับองค์ชายทายาทเฮเซียสู่อาณาจักรเฟรนเซียพะยะค่ะ”มหาเสนาบดีทั้งสองออกมาต้อนรับพระองค์ทันที่เมื่อรถม้าพระที่นั่งมาถึงหน้าท้องพระโรง “กระหม่อมคริส ดำรงตำแหน่งมาเสนาบดีฝ่ายซ้าย และผู้นี้คือเพนซ์ ดำรงตำแหน่งมหาเสนาบดีฝ่ายขวา พวกเรายินดีที่ได้พบพระองค์เป็นอย่างยิ่งพะยะค่ะ

“ยินดีที่ได้พบพวกท่านเช่นกัน ท่านมหาเสนาบดีทั้งสอง”องค์ชายทรงตรัสเสียงเรียบ

“เพลานี้พระชายาทรงออกไปนอกวัง กระหม่อมจะให้นางกำนัลนำเสด็จพระองค์ไปยังตำหนักที่ประทับก่อนนะพะยะค่ะ”มหาเสนาบดีฝ่าขวาส่งสัญญาณให้นางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างหลังตนมานำเสด็จองค์ชายและคณะไปสู่ตำหนักรับรอง

เมื่อทรงเสด็จมาถึงพระตำหนัก องค์ชายเฮเซียก็ทรงตรัสถามนางกำนัลสาวในเรื่องที่ทรงค้างคาพระทัยอยู่

“เมื่อครู่ ท่านมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายบอกเราว่าพระชายาไปนอกวัง... แล้วองค์ราชาล่ะ”

“ฝ่าบาททรงประชวรอยู่เพคะ พระชายาจึงเสด็จว่าราชการแทนพระองค์ในช่วงนี้”นางกำนัลผู้นำเสด็จทูลตอบพระองค์ตามตรง

“ถ้าเราจะขอเข้าเฝ้าองค์ราชา... จะได้ไหม”องค์ชายทรงตรัสถามอย่างลังเลพระทัยเล็กๆ

“พระชายารับสั่งไว้ว่าให้เข้าเฝ้าได้ แต่ไม่เกินครึ่งชั่วยามนะเพคะ”นางกำนัลน้อยทูลตามที่พระชายาทรงรับสั่งเอาไว้ก่อนจะเสด็จออกไปในเมือง

“เท่านั้นก็พอแล้ว”พระองค์ตรัสรับ “รบกวนเจ้านำทางไปยังตำหนักที่ประทับขององค์ราชาหน่อยได้ไหม”

“เชิญทางนี้เพคะ”

นางกำนัลสาวนำเสด็จพระองค์ไปยังตำหนักใหญ่ อันเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองแผ่นดินเฟรนเซีย

สองข้างทางในราชวังแห่งนี้เป็นไปด้วยบุปผาที่งดงาม หลากสีสัน ปลูกเรียงรายเป็นจำนวนมากตลอดทางที่เสด็จผ่าน

“เซร่า...”เสียงใสของนางกำนัลเมร่าดังขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนของตนเดินมาใกล้ “ท่านนั้นคือ...”

“องค์ชายเฮเซีย องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรเซเรียลน่ะ พระองค์มาขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท”เซร่าตอบเพื่อนนางกำนัลเสียงใส “เจ้าไปทูลฝ่าบาทให้หน่อยสิ”

“ช่วงนี้ฝ่าบาทประชวร พระอารมณ์แปรปรวนนัก ยิ่งตอนนี้พระชายามิได้ประทับอยู่ด้วย ขืนเข้าไปตอนนี้ข้าก็โดนพระองค์ไล่ออกมาน่ะสิ”นางกำนัลคนงามทำหน้างอน้อยๆ “แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าให้คนอื่นเข้าไปแทน เชิญองค์ชายเข้ามาประทับในตำหนักก่อนนะเพคะ”

เมร่าหันกายกลับเข้าไปในตำหนัก แล้วลากสององครักษ์ประกำกายขององค์ชายคาเซียไปผจญกับพระอารมณ์ขององค์เหนือหัวทันที

“ฝากด้วยนะ ถ้าฝ่าบาททรงอนุญาต รีบออกมาบอกข้าล่ะ”

เรฟกับเซทมายืนอยู่หน้าห้องบรรทมอย่างงงๆ ทั้งคู่สบสายตากันก่อนจะเปิดห้องบรรทมเข้าไป

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ”เซทเอ่ยเรียกผู้สูงศักดิ์เบาๆ

“มีอะไร”เสียงทุ้มตรัสกลับมาอย่างเย็นชา

“องค์ชายเฮเซียขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”เซททูลต่อพระองค์เสียงเรียบ

“ข้าไม่อยากพบใครทั้งนั้น”

“แต่...”

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”พระองค์ขัดขึ้นทันที

“ฝ่าบาท... องค์ชายเฮเซียเป็นพระเชษฐาของพระชายานะพะยะค่ะ”เรฟทูลต่อองค์ราชารวดเดียวจบ ไม่เว้นจังหวะให้ทรงตรัสแทรกแม้แต่วินาทีเดียว

“จะทรงให้เข้าเฝ้าไหมพะยะค่ะ”เซททูลถามอีกครั้ง

“หืม... องค์ชายเฮเซียแห่งเซเรียลเช่นนั้นหรือ”พระองค์ตรัสทวนอีกครั้ง เมื่อทรงได้ยินชื่อของผู้ที่ขอเข้าเฝ้าอย่างชัดเจน

“พะยะค่ะ”

“ให้เขาเข้ามาได้”สุรเสียงที่ทรงตรัสเปลี่ยนไปทันที จากที่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย

“พะยะค่ะ”เซทหายตัวออกไปบอกกับนางกำนัลเมร่าที่ยืนรออยู่หน้าห้องบรรทม ก่อนจะกลับเข้ามาอีกครั้ง

เรลทูลลาองค์ราชาไปชงน้ำชาและเตรียมเครื่องหวานมาถวายแด่พระองค์และองค์รัชทายาท เนลเช้ามาพยุงพระองค์ให้ประทับนั่ง เรฟหันไปส่งสัญญาณให้คนของพระชายาที่แอบเข้ามาในวังให้รีบไปทูลเชิญพระชายากลับวังหลวง

“ฝ่าบาททรงเชิญให้ไปเข้าเฝ้าที่ห้องบรรทมเพคะ”นางกำนัลสาวออกมาทูลแก่องค์ชายที่ประทับรออยู่ ก่อนจะผายมือออก “ห้องบรรทมอยู่ทางนี้เพคะ”

นางนำเสด็จองค์ชายเฮเซียไปสู่ห้องบรรทมขององค์ทริสเซย์อย่างรวดเร็ว

เมื่อพระองค์ก้าวเข้ามาภายในห้องบรรทม พระองค์ก็ทรงรู้สึกตกพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่เห็นคนสนิททั้งสี่ของอนุชาแห่งตนองค์ในห้องนี้อย่างพร้อมหน้า

“ถวายบังคมองค์ชายเฮเซียเพคะ/พะยะค่ะ”ทั้งสี่ถวายบังคมอย่างนอบน้อม

“เชิญท่านนั่งก่อน”องค์ชายประทับนั่งลงบนโซฟานุ่มตามคำเชิญขององค์ราชา “ท่านอยากพบเรา มีเรื่องอันใดเช่นนั้นหรือ”

“กระหม่อมอยากสนทนากับพระองค์... เรื่องคาเซีย พระอนุชาของกระหม่อม”

+++++++++++++++++++++

“สวนกลางเมืองนี้ ถ้านำดอกไอริสมาปลูกรอบๆคงดีไม่น้อยนะ”องค์ชายคาเซียตรัสกับเจ้ากรมพิธีการ เจ้ากรมโยธา เจ้ากรมกลาโหมและเจ้ากรมเกษตรที่ตามเสด็จมาเบาๆ “ภายในสวนนี้ปลูกดอกไม้ที่แสดงถึงความรักเอาไว้หลายชนิด เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมีความรักจริงๆ”

“พะยะค่ะ พระชายา เดี๋ยวกระหม่อมจะให้คนมาจัดการปลูกแล้วกันพะยะค่ะ”

“อืม... ที่ประชุมกันก่อนหน้านี้ ร้านค้าต่างๆที่จะให้มาขายในงาน คือจัดรอบๆนี้ใช่ไหม”

“พะยะค่ะ”

“ถ้าเราเสนอให้เปลี่ยนเป็นว่า ออกร้านกันตามถนนทุกเส้นที่มุ่งเข้าสู่สวนกลางเมืองนี้ แล้วจัดงานประกวดแทนล่ะ เจ้าว่าดีไหม”

“เป็นความคิดที่ดีนะพะยะค่ะ พวกท่านว่าเช่นนั้นไหม”เจ้ากรมกลาโหมหันไปถามเพื่อนขุนนางของตน

“ดี...เดี๋ยวประชุมครั้งหน้าเราลองเสนอความคิดนี่ของพระชายาดู”

เจ้ากรมทั้งสี่ต่างหารือกันเรื่องการประกวด ในขณะที่องค์ชายคาเซียทรงถือแผนที่เอาไว้ แล้วทรงขีดๆเขียนๆลงไปในนั้นอย่างตั้งใจ

ยังไม่ทันที่พระองค์จะได้ตรัสอะไรออกมาหลังจากที่ทรงร่างรูปแบบงานเสร็จ ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งมาหาพระองค์เสียก่อน...

“เครท มีอะไรงั้นหรือ”องค์ชายตรัสถามขึ้นเมื่อร่างนั้นมาหยุดตรงหน้าพระองค์ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนมาหาเราเช่นนี้”

“องค์ชายเฮเซียทรงประทับอยู่กับพระราชาพะยะค่ะ”เครททูลต่อองค์ชายสั้นๆ แต่สร้างความตกพระทัยให้กับพระองค์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

“องค์รัชทายาทอยู่กับฝ่าบาท... สวรรค์โปรด”เสียงหวานพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะหันไปหาสี่เจ้ากรม “เราขอตัวก่อนนะท่านเจ้ากรม... ถ้ามีเรื่องอันใดให้คนไปตามเราที่ตำหนักโพรเทียแล้วกัน”

วรกายบอบบางตัวกายขึ้นหลังอาชาแล้วทรงควบกลับพระราชวังอย่างรวดเร็ว

ให้ตายสิ องค์ชายเฮเซียคิดจะทำอะไรกันแน่นะ พระองค์คิดว่าจะสามารถต่อกรกับฝ่าบาทได้หรืออย่างไร ถึงพระองค์จะทรงเฉียบแหลมแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่มีทางที่จะสู้กับพระปรีชาของฝ่าบาทได้แน่

ระหว่างทางที่องค์ชายคาเซียทรงควบม้าผ่าน มีเหล่าขุนนาง ทหาร นางกำนัล ทำความเคารพระองค์ตลอดทาง แต่พระองค์ก็มิได้ใส่พระทัยเลยแม้แต่น้อย

เมื่อทรงเสด็จกลับมาถึงพระตำหนัก องค์ชายคาเซียก็ทรงรีบเสด็จไปยังห้องบรรทมขององค์ราชาทันที แต่ยังไม่ทันที่พระองค์จะได้เปิดบานทวารเข้าไป ก็ทรงได้รับฟังบทสนทนาของผู้สูงศักดิ์ทั้งสองที่ดังลอดออกมาเสียก่อน

“พระองค์มั่นใจได้อย่างไรว่าคาเซียจะมีความสุขเมื่ออยู่กับพระองค์”

“เราทุกอย่างให้แก่คาเซียได้ ไม่ว่าคาเซียจะต้องการอันใดก็ตาม”

“พระองค์ย่อมตรัสเช่นนั้นได้ ถ้าวันใดพระองค์ไม่ใยดีอนุชาของข้าแล้ว เขาจะทำอย่างไร”

“เหตุการณ์แบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะคาเซียคือคนสำคัญในชีวิตของข้า”

“ฝ่าบาททรงมีพระสนมมากมาย พระองค์มั่นใจหรือ ว่าคาเซียจะเป็นคนสำคัญของพระองค์จริงๆ มิใช่ชั่วคราว”

“ข้าย่อมมั่นใจในสิ่งที่ข้าบอกท่านออกไป”

“ด้วยเหตุใด”

“ข้ารักคาเซีย”

บทสนทนาเงียบไปหลังจากที่คำบอกรักถูกตรัสออกมาจากองค์ราชาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด

องค์ชายผู้เป็นหัวข้อสนทนาทรงประทับนิ่งอยู่หน้าห้องบรรทม พระหัตถ์เรียวประสานกันที่พระอุระ พระหฤทัยของพระองค์เต้นระรัวด้วยความยินดี แต่พระองค์มิสามารถหลั่งน้ำอัสสุชลแห่งความปลื้มปิติออกมาได้ในเพลานี้

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ”พระองค์เปิดบานทวารเข้าไปหลังจากที่ทรงตั้งสติได้ องค์ชายทรงทำเป็นไม่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่

“คาเซีย”สุรเสียงอบอุ่นเอ่ยนามของคนตรงหน้า “ไม่มีงานอะไรแล้วหรือ”

“ยังมีอยู่พะยะค่ะ แต่ไม่เร่งด่วนนัก”วรกายบอบบางเข้ามาใกล้เจ้าชีวิตอย่างรวดเร็ว “ทรงได้พักผ่อนบ้างไหมพะยะค่ะ”

“เรานอนทั้งวันนั่นแหละ...”พระองค์ตรัสตอบพระชายาเสียงนุ่ม “จนองค์ชายเฮเซียขอเข้าเฝ้าเราถึงลุกขึ้นมาต้อยรับ”

“จริงหรือพะยะค่ะ”พระชายาทรงถามซ้ำอีกครั้ง

“จริงสิ”

“จริงหรือเนล”องค์ชายเซียทรงหันไปถามนางกำนัลที่พระองค์รับสั่งไว้ว่าให้ดูแลฝ่าบาท

“ไม่จริงเพคะ”เนลทูลตามตรงอย่างมิกลัวสายพระเนตรขององค์ราชาแม้แต่น้อย “ฝ่าบาททรงมิบรรทมเลยตลอดชั่วงเช้าจนถึงบ่ายเพคะ เดี๋ยวทรงลุก เดี๋ยวทรงนั่ง จนเวียรพระเศียร ฝ่าบาทจึงทรงบรรทมไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ทรงตื่นขึ้นมาแล้ว”

ทำไมนางถึงทูลกับองค์ชายตามตรงเช่นนั้นหรือ... แน่สิ องค์ราชาถ้าทรงกริ้วแค่ไหนคงไม่สั่งให้เอานางไปประหารหรอก แต่กับองค์ชาย... ถ้าทรงกริ้วนางยอมถูกประหารจะดีกว่า

แต่... ความคิดของเนลจะถูกอย่างนั้นหรือ... ถ้านางรู้ถึงนิสัยขององค์ทริสเซย์ดี... นางอาจจะขอลาจากเองโดยไม่ต้องมีใครมาคาดโทษนางเป็นแน่

“ฝ่าบาท...”องค์ชายทรงหันไปหาองค์เหนือหัวพร้อมตรัสเสียงเย็น

“คาเซีย... น้องเป็นอย่างไรบ้าง”องค์ชายเฮเซียตรัสถามขึ้นหลังจากที่ทรงรู้สึกว่าอนุชาของพระองค์มิสนพระองค์แม้เพียงน้อย

“กระหม่อมสบายดีพะยะค่ะ”เสียงหวานตรัสตอบอย่างนุ่มนวล

ทั้งสองพระองค์สนทนากันพักใหญ่ ทั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่ขององค์ชายคาเซียและความเป็นไปของอาณาจักรเซเรียลทั้งสิ้น

“วันนี้พี่คงต้องกลับตำหนักก่อน แล้วเจอกันนะ คาเซีย”องค์รัชทายาทเอ่ยลาอนุชาของพระองค์เบาๆ “ทูลลาฝ่าบาท... คาเซีย ความรู้สึกพี่ที่มีกับน้องยังคงเหมือนเดิม มิเคยแปรเปลี่ยน... พี่อยากให้ร้องรู้เอาไว้”

“พระองค์ควรตัดกระหม่อมออกจากพระหฤทัยตั้งแต่วันที่กระหม่อมตัดสินใจมายังเฟรนเซียแล้วพะยะค่ะ องค์ชายเฮเซีย”องค์ชายคาเซียตรัสแผ่วเบา

องค์เฮเซียยิ้มให้กับพระองค์อย่างอ่อนโยน ก่อนจะทรงเสด็จกลับตำหนักรับรอง

“คาเซีย เจ้าคิดอย่างไรกับองค์ชายเฮเซีย”องค์ราชาตรัสถามเสียงเย็น ภายในพระทัยของพระองค์เริ่มหวั่นวิตกกับสิ่งที่ทรงคิด

“องค์ชายเฮเซียเป็นพระเชษฐาที่แสนดีของกระหม่อมพะยะค่ะ”องค์ชายทูลตอบด้วยความสัตย์จริง “และเขาก็จะเป็นพระเชษฐาของกระหม่อมตลอดไป”

“แล้วข้าล่ะ...”พระองค์ตรัสถามอีกครั้งอย่างแผ่วเบา...

“ฝ่าบาท... ก็จะทรงเป็นพระสวามีของกระหม่อม ตลอดไปพะยะค่ะ”

องค์ทริสเซย์ทรงมอบจุมพิตหวานล้ำให้กับพระชายาของพระองค์... ด้วยความรัก

+++++++++++++++++++++++

บทที่ 18 มาแล้วค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 18-03-2012 19:23:18
 :z13:

ตอนท้ายนี่หวานดีจัง!!  :o8:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 18-03-2012 19:28:38
จะเกิดอะไรขึ้นมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 18-03-2012 20:20:14
โอ เฮเซีย อุตส่าห์มาถึงที่

ทำไมคาเซียไม่สนใจเลยอ่ะ

องค์ราชาหายไวๆเถอะ คาเซียนี้วิ่งวุ่นอยู่คนเดียวเลย

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 18-03-2012 20:35:01
 น่าร๊อคอ่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-03-2012 21:11:06
น่าเหนื่อยใจแทนคาเซียจริงๆ
ทำงานหนักขนาดนี้แล้วยังต้องมาดูแลฝ่าบาทอีก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: CatLessLonely ที่ 18-03-2012 21:24:40
อยากให้หวานอีกหลายๆตอน อิอิ
ติดตามจ้า เพิ่งเข้ามาอ่าน 
สนุกดีค่ะ  o13

 :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 18-03-2012 22:44:16
หวานซะ :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 19-03-2012 01:07:01




   เหอะๆๆ มีแต่คนมารุมรักก็ลำบากอย่างนี้ละน้าาาา
   นี่แค่รู้ว่าได้เป็นชายายังตามมาตรวจสอบซะขนาดนี้
   แล้วถ้ารู้ว่าน้องที่รักมีชายาเป็นของตัวเองด้วย แถมกะลังจะมีหลายจะตกใจขนาดไหนเนี่ย



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-03-2012 01:54:27
เป็นความรักที่ซับซ้อนมากๆ ทุกคู่เลยตั้งแต่องค์ราชินีมาจนถึงพวกองค์ชาย  :o7:



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-03-2012 13:00:27
อิจฉาคาเซีย มีแต่คนหลงรัก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: อนันตกาล ที่ 19-03-2012 18:27:04
เนื่อเรื่องสนุกนะ อ่านเพลินดี
แต่อยากให้เช็คพวกคำราชาศัพท์อะไรพวกนี้ดี หน่อย บางตอนอ่านแล้วรู้สึกว่า มันขัดๆ
กับลำดับเหตุการณ์ที่น่าจะใส่รายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านี้ เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่านี่คือนิยายแฟนตาซี น่าจะมีบทบรรยายเยอะๆ
ให้เห็นภาพชัดเจน เพราะเท่าที่เห็นจะเน้นบทพูดเสียเป็นส่วนใหญ่
แอบขัดใจบางส่วนนิดหน่อย แต่ถือว่าเป็นแนวคิดและโครงเรื่องของคนเขียน
แต่โดยรวมแล้วน่าติดตามคะ
(นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวคะ อย่าโกรธกันนะ)
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: gngane ที่ 19-03-2012 19:35:42
สนุกมากเลยค่ะ อ่านหนังสือสอบเครียดๆอ่านเรื่องนี้เเล้วหายเลย หื่นแทน :pighaun:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 20-03-2012 02:37:19
สนุกมากค่ะ

ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยชอบอ่านแนวนี้ ทั้งที่เป็นคนอ่านได้ทุกประเภท

เพราะรู้สึกว่าเบื่อการบรรยายที่ค่อนข้างเยอะ จนไม่อยากอ่าน

แต่ว่าเรื่องนี้กำลังดี อ่านสบาย แล้วก็สนุกมากด้วย

รออ่านนะคะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 20-03-2012 09:44:22
บางทีก็หวานไปอะไร
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 20-03-2012 18:18:43
เข้ามาเป็นสาวกของเรื่องนี้อีกคน ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่18 P.4 R.113]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-03-2012 23:04:22
บทที่ 19
ตำนานรักสองราชวงศ์ : งานฉลอง 5000 ปี อาณาจักรเฟรนเซีย

หลังจากที่องค์ทริสเซย์หายจากอาการประชวรไม่นาน งานฉลองอันยิ่งใหญ่ก็เริ่มขึ้น งานครั้งนี้ผู้คนต่างตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบงานที่แปลกตาไปจากเดิม

องค์ทริสเซย์ องค์ชายคาเซียและองค์ชายโซเทเรียเสด็จมาเปิดงานที่สวนกลางเมือง อันเป็นที่จัดประกวดเทวีแห่งบุปผาชาติ

“ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานฉลองอันยิ่งใหญ่ประจำปีนี้ จะสร้างความสุข ขจัดความหวาดกลัวให้กับประชาชนทุกคนได้”

เมื่อองค์ราชาทรงตรัสสุนทรพจน์เปิดงานจบ การแสดงก็เริ่มขึ้น

พระองค์และสององค์ชายเที่ยวชมงานอย่างสนุกสนาน

“อะ อ้ำ~”องค์ชายคาเซียทรงหันไปป้อนขนมให้แก่พระชายาของพระองค์ ก่อนจะทรงหันมาป้อนให้แก่พระสวามีบ้าง “อ้ามมมมม”

“อื้ม รสดีจังเลย”องค์ชายโซเทเรียทรงเคี้ยวขนมด้วยสีพระพักตร์ที่มีความสุข

“อีกชิ้นให้โซลไปเถอะ กำลังท้องกำลังไส้ ทานเยอะๆน่ะดีแล้ว”องค์ทริสเซย์ตรัสเบาๆเมื่อเห็นองค์ชายคาเซียมองขนมชิ้นสุดท้ายอย่างลังเลว่าควรจะทำอย่างไรกับมัน

“มามะ โซล อ้ำ~”และแล้ว... ขนมชิ้นสุดท้ายก็กลายเป็นของพระชายาตัวน้อยที่กำลังอุ้มครรภ์สามเดือนอยู่นั่นเอง...

“คนที่กำลังท้องสามเดือนนี้ตัวอวบขึ้นแบบนี้ทุกคนเลยหรือ”องค์ราชาทรงตรัสถามองค์ชายคาเซีย “ข้าว่าตอนที่โซลมาถึงเฟรนเซียใหม่ๆตัวนิดเดียวเองนะ”

“โถ่ ฝ่าบาท อย่าทรงล้อโซลเล่นสิพะยะค่ะ ดูสิพะยะค่ะ เขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว”องค์ชายทรงตอบกลับพระองค์ด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “แต่ก็อวบขึ้นมากจริงๆแหละ”

“ฝ่าบาท คาเซีย... อย่าล้อสิ”องค์ชายโซเทเรียทำพระพักตร์ยู่น้อยๆ แต่เรียกรอยยิ้มจากทั้งสองพระองค์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

“โอ๋ๆ ไม่ล้อแล้วๆ”องค์ทริสเซย์ยกพระหัตถ์ยอมแพ้ “เดี๋ยวลูกออกมาหน้ายู่เหมือนที่เจ้าทำอยู่นะ โซล”

พระชายาโซเทเรียปรับสีพระพักตร์กลับมายิ้มแย้มทันที เมื่อทรงได้ยินดังนั้น เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนข้างวรกายได้อย่างดี

ก็...พระองค์ไม่อยากให้ลูกหน้ายู่นี่น่า...

ภาพที่ทั้งสามพระองค์หัวเราะยิ้มแย้มกันอย่างร่าเริง โดยเฉพาะองค์ราชา สร้างความปลื้มปิติให้กับประชาชนผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

นานมากแล้วที่พวกเขามิได้เห็นองค์เหนือหัวของพวกเขายิ้ม และหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้พระองค์จะทรงเสด็จออกมานอกวังบ่อยแค่ไหน รอยยิ้มที่ทรงยิ้มนั้นเป็นเพียงรอยยิ้มที่ฝืนพระทัย เพื่อให้ประชาชนอย่างพวกเขาสบายใจเพียงเท่านั้น

ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งองค์ชายคาเซียและพระชายาโซเทเทียให้มายังอาณาจักรเฟรนเซียของพวกเขา มาทำให้เจ้าชีวิตของพวกเขามีความสุข มีรอยยิ้มได้เหมือนในวันนี้


เหล่าสนมทั้งหลายก็ได้เสด็จออกมาเที่ยวเช่นกัน พวกนางบ้างก็เกาะกลุ่มกันเดินเที่ยว บ้างก็เดินไปกับนางกำนัล บ้างก็เดินไปเพียงคนเดียว และ... ไม่มีใครได้ตามเสด็จองค์ราชาแม้เพียงสักคน

พวกนางเป็นที่จับตามองของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความงามอันเปล่งประกาย อีกทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ที่พวกนางมี ยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดคนรอบข้างให้เหลียวหลังมองตลอดทาง
การกระทำเช่นนั้นทำให้พวกนางรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง พระสนมบางองค์เชิดพระพักตร์อย่างถือองค์

เอ... พวกนางจะรู้กันบ้างไหนนะว่าผู้คนที่มองพวกนางอยู่จะคิดอย่างไรกับพวกนาง... ชื่นชม? สรรเสริญ? ไม่ใช่หรอก...

งดงาม เปี่ยมไปด้วยรัศมีแห่งความสูงศักดิ์ แต่... ไร้ซึ่งความสง่า และความมีอำนาจ
เห็นข้าเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนระหว่างพระชายาและพระสนม ทั้งๆที่อยู่ในวัยเดียวกัน มีสายเลือดขัตติยะเหมือนกัน อยู่ในพระราชวังอันหรูหราเช่นเดียวกัน...

แต่ความทรงอำนาจและความสง่างามในการทุกการกระทำนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างยิ่ง
พระชายานั้นแสดงทุกอย่างออกมาด้วยความเป็นธรรมชาติ มิจำเป็นต้องเสริมหรือเติมแต่งอันใด... ต่างจากพระสนมหลายๆพระนาง ที่ต้องแสดงออกให้เห็นด้วยตัวขององค์เอง

ถึงเป็นเช่นนั้น... ถ้าเหล่าสนมทั้งหลายก็เพิ่งมีพระชนมายุเพียง 15-16 ชันษา เมื่อพวกนางเติมใหญ่ อาจจะมีความสง่างามมากกว่านี้ก็ได้... ล่ะมั้ง

++++++++++++++++++++++++++++++

“อีกไม่นาน คาเซียคงจะตั้งท้อง ข้าควรจะทำอย่างไรดี เสด็จพี่”เสียงหวานดังขึ้นถามชายผู้หนึ่งที่ประทับอยู่ใกล้พระนาง “แค่ทุกวันนี้ฝ่าบาทก็ทรงสนพระทัยมันเพียงคนเดียว ถ้ามันให้กำเนิดพระโอรส ตำแหน่งราชินีคงตกเป็นของมันแน่”

“เจ้ามีแผนอะไรอยู่ในใจแล้วมิใช่หรืออย่างไร น้องข้า”เสียงทุ้มตอบกลับมาอย่างสบายๆ

“ข้าคิดเอาไว้บ้างแล้วก็จริง... แต่ถ้ามันไม่สำเร็จขึ้นมา ข้าควรจะทำเช่นไรล่ะ เสด็จพี่”พระนางค้อนผู้เป็นเชษฐาน้อยๆ

“เอานี่ไปสิ”พระหัตถ์หนาลงห่อสีน้ำตาลเล็กๆไปให้สาวน้อยตรงหน้า “ใช้ยามจำเป็นเท่านั้นนะ ถ้าไม่ถึงที่สุดแล้ว เจ้าห้ามใช้มันเด็ดขาด”

“มันคืออะไรหรือ เสด็จพี่”

“ยา...”

พระหัตถ์เรียวถือห่อยาเอาไว้ พระเนตรหวานจ้องมองมันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย...

“ยา...หรือคะ”

“ใช่... มีผลถึงตาย ถ้ารักษาไม่ทัน เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เจ้าห้ามออกมาใช้เป็นอันขาด เข้าใจใช่ไหม”

“ค่ะ”นางตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถ้าพลาดขึ้นมา...”

“ถ้าพลาดขึ้นมา หมายถึงอาณาจักรทั้งอาณาจักรของเรา ต้องล่มสลาย ผู้คนจำนวนมากต้องสิ้นชีพลง รวมถึงพี่น้องของเจ้าด้วย จำเอาไว้ให้ดี”

“ค่ะ เสด็จพี่ น้องจะระวังเอาไว้”

พระนางเก็บยาห่อนั้นเข้าไปในอกเสื้อ และซุกซ่อนมันอย่างดี

สองพี่น้องนั่งสนทนากันไปเรื่อยๆ เรื่องราวมากมายถูกถ่ายทอดออกมาให้แก่กันและกันรับรู้

“น้องขอตัวกลับก่อนนะคะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปนาน “ได้เวลาต้องกลับแล้ว โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะคะ”

“อืม...”

++++++++++++++++++++++++

ระหว่างนั้น องค์ราชา องค์ชายทริสเซย์และองค์ชายโซเทเรีย ก็เสด็จมาดูการแสดงที่สวนกลาง...

“พวงนางร่ายรำได้อ่อนช้อย งดงามไม่นางรำในวังเลยพะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายคาเซียทรงตรัสขึ้น “โซล ว่าอย่างนั้นไหม”

“อื้ม”โซลตอบรับขณะที่ยังทรงเสวยขนมที่ไปซื้อมาเมื่อครู่

“นั่นสินะ...”

ทั้งสามพระองค์ทรงทอดพระเนตรดูการแสดงอยู่พักใหญ่ จะกระทั่ง...

“พระชายาเพคะ”เนลกระซิบกับนายของนางเบาๆ “มืดมากแล้วนะเพคะ ทรงพาพระชายาโซเทเรียไปพักผ่อนเถอะเพคะ”

“จริงด้วยสิ... โซล กลับตำหนักกันเถอะ”องค์ชายทรงหันไปตรัสกับร่างที่นั่งตาแป๋วอยู่ข้างๆพระองค์

“โซลยังไม่ง่วงเลยอ่า”พระชายาทรงหันมาช้อนพระเนตรมองพระองค์อย่างอ้อนๆ “ขอดูอีกหน่อยนะ นะ”

“ไม่เอาน่า... อย่าทำให้คาเซียลำบากใจสิ”องค์ทริสเซย์ทรงหันมาช่วยองค์ชาย หลังจากที่พระองค์ทรงเห็นองค์ชายทำสีพระพักตร์ยุ่งๆ

“ง่า... กลับก็ได้”องค์โซเทเรียตรัสเสียงอ่อยๆ ก่อนจะทรงยอมกลับพระตำหนักโดยดี
องค์ชายคาเซียเสด็จมาส่งพระชายาเข้าบรรทมเหมือนดังปกติ ก่อนที่จะทรงกลับไปยังตำหนักของพระองค์

เมื่อชำระกายเสร็จก็เข้าบรรทมกับฝ่าบาทเหมือนทุกครั้ง...

โดยที่พระองค์ไม่รู้เลยว่า ในวันนี้... มีสิ่งที่ไม่เหมือนทุกวัน

หลังจากที่เสด็จกลับมายังพระตำหนักแล้ว องค์ทริสเซย์ทรงสรงน้ำชำระวรกายเพื่อขจัดคราบเหงื่อไคลต่างๆดังเช่นทุกวัน

องค์ชายเฮเซียทรงให้คนส่งพระราชสารขอเข้าเฝ้ามาให้กับพระองค์ในยามคำคืนเช่นนี้ ซึ่งพระองค์ก็ตอบรับไปง่ายๆ

ทหารองครักษ์ที่รับพระราชสารมานั้น รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ยามวิกาลเช่นนี้ องค์เหนือหัวจะทรงให้เข้าเฝ้า ทั้งที่ปกติ เวลาเช่นนี้จะมิทรงให้ผู้ใดเข้าพบเป็นอันขาด... เพราะพระองค์จะทรงใช้เวลาอยู่ร่วมกับพระชายาของพระองค์

หึ มาขอเข้าเฝ้าในเวลานี้ คิดจะมาขัดขวางไม่ให้ข้าใช้เวลาอยู่กับคาเซียล่ะสิ ในเมื่ออยากขัดขวางข้านัก ก็เชิญตามสบาย คิดว่าข้าจะสนใจหรืออย่างไรกัน

องค์ชายคาเซียทรงเสด็จเข้ามาหาพระองค์ตรงเวลาทุกราตรี ทุกๆคนในพระราชวังล้วนทราบกันดีกว่า เวลานี้พระราชาของพวกเขาจะไม่อนุญาตให้ใครมารบกวนเป็นอันขาด... เพราะเป็นเวลาผลิตทายาทของพระองค์

“เจ้าดูเพลียๆนะ คาเซีย”พระหัตถ์หน้าลูบไล้พระพักตร์งามเบาๆ “ตัวรุมๆ เจ้าไม่สบายหรือเปล่า”

“กระหม่อมสบายดีพะยะค่ะ... ช่วงนี้ทำงานหนักไปหน่อย พักสักนิดเดี๋ยวก็หายพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียตรัสตอบเบาๆ

พระหัตถ์เรียวเปลื้องอาภรณ์จากวรกายของพระองค์เองและพระสวามีออกอย่างเชื่องช้า สร้างความแปลกพระทัยให้กับองค์ทริสเซย์ยิ่งนัก

“คาเซีย...”

“ฝ่าบาท... มอบพระโอรสให้กระหม่อมสักองค์ได้ไหม... พะยะค่ะ”เสียงหวานเอ่ยถามแผ่วเบา พระพักตร์ขององค์ชายแดงระเรื่ออย่างน่ารัก

“ไม่...”พระตรัสตรัสตอบแผ่วเบา ก่อนจะทรงพลิกกายขึ้นคร่อมเรือนร่างขวาเนียน “ไม่ใช่แค่คนเดียวที่เจ้าต้องมีให้ข้า คาเซีย อย่างน้อยเจ้าต้องมีองค์ชายให้ข้าสักห้าองค์ องค์หญิงสักสามองค์ กำลังใช้ได้ ถ้ามากกว่านั้นยิ่งดีใหญ่เลย”

นาสิกโด่งสูดความหอมจากปรางใส ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซร้ที่ซอกพระศอขาวผ่อง ประทับตีตราเอาไว้ให้ทุกคนรู้ว่าร่างนี้เป็นของพระองค์...

“สุดแต่ฝ่าบาทจะทรงประทานให้กระหม่อมพะยะค่ะ”พระชายาตรัสเสียงแผ่วเบาๆ วรกายบางบิดไปมาด้วยแรงอารมณ์ที่โถมใส่ “ฝ่าบาท...”

“หืม... อะไรหรือ คาเซีย”

“ไม่ว่ากระหม่อมจะเจ็บแค่ไหน จะเหมือนขาดใจเพียงใด ขอได้โปรด เข้ามาในร่างของกระหม่อมจนสุดด้วยเถิดพะยะค่ะ...”

“เจ้ายังรับข้าไม่ไหวหรอก... คาเซีย”

“ขอได้โปรด... เมตตากระหม่อมด้วยพะยะค่ะ”

“ตามใจเจ้า...”

ทุกการเคลื่อนไหวในห้องบรรทมนี้ ล้วนอยู่ในสายพระเนตรขององค์ชายเฮเซีย พระองค์ทรงทอดพระเนตรการร่วมสังวาสของพระอนุชากับพระสวามีด้วยพระหฤทัยที่เจ็บปวดยิ่งนัก
ทุกการกระทำ ทุกกสัมผัสที่องค์ราชามอบให้กับคาเซียเปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาจากพระทัยของพระองค์ แม้ยามที่คาเซียดูเจ็บปวด แต่ก็แฝงไปด้วยความสุขสมหวัง...

ได้เห็นเพียงเท่านี้ พระองค์ก็ทรงวางพระทัยได้แล้วว่า อนุชาของพระองค์นั้น มีความสุข ได้รับความรักจากองค์ราชา ได้มองความรักให้แก่พระชายา ได้ใช้ชีวิต... อย่างมีรอยยิ้มที่ออกมาจากเบื้องลึกของพระทัยจริงๆ

แค่ได้เห็นเท่านี้ พระองค์ก็สุขใจมากแล้ว...

แม้พี่... จะไม่มีโอกาสได้ครอบครองน้อง จะไม่มีโอกาสได้บอกรักน้องทุกๆวัน แต่ถ้าน้องมีความสุข... เพียงเท่านี้ พี่ก็พอใจ และมีความสุขมากแล้ว

++++++++++++++++++++

บทที่ 19 ค่ะ//ช่วงนี้ยังหวานอยู่... เดี๋ยวก็หายแล้ว= ="

ในเด็กดี... มีคนบอกว่าหวานเกิน... อ่า~ ดราม่าจะเริ่มมา  o22
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 21-03-2012 23:13:57
อี2ตัวนั้นมันเป็นใคร  :angry2:


น่าสงสารเฮเซียย  :o12:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-03-2012 23:17:27
ม่ายยย ตอนต่อไปเริ่มมาม่า่าแล้วเหรอเนี่ย
เฮเซีย  น่าสงสารที่สุด แงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 21-03-2012 23:32:53
องค์ชายเฮเซีย :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 21-03-2012 23:43:07
บทที่ 19 ค่ะ//ช่วงนี้ยังหวานอยู่... เดี๋ยวก็หายแล้ว= ="


หมายความวา่าไง จะเกิดมาม่าหรือนี่
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 22-03-2012 00:27:45


บทที่ 19 ค่ะ//ช่วงนี้ยังหวานอยู่... เดี๋ยวก็หายแล้ว= ="

กรี๊ดดดด ประโยคที่น่ากลัว เตรียมต้มน้ำรอเส้นT^T
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 22-03-2012 05:46:51



   เอิ่ม. . . มีคนแอบดูอ๊ะ!! ถึงเป็นพี่ชายก็เถอะ




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 22-03-2012 07:28:58
มาม่าชามโตไหมอะ ???  :serius2:

ชามน้อยๆพออิ่ม,,,กินหมด แล้วหายไป กลับมาหวานเหมือนเดิมได้ไหม   :laugh:

 :3123:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-03-2012 11:28:53
อ๊ากกก ไม่อยากได้มาม่า
ขอหวานๆไม่ได้เหรอ อิอิ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ เดี๋ยวมาลงตอนหม่ห้นค+ตอนพิศษ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 22-03-2012 11:56:23
ต๊ยนงมรผล่
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 22-03-2012 12:45:26
มาม่าจะมาแล้ว...ขอน้อยๆนะคะ!!  :กอด1:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 22-03-2012 12:52:57
คุณคนเขียนฮะ ช่วยหาคู่ให้เฮเซียทีสิฮะ
ปลอบใจเฮเซียหน่อย เป็นพี่ชายที่น่าสงสารมาก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 22-03-2012 15:47:04
*[]* มาม่า กำลังมา!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 22-03-2012 17:33:03
หึหึ

หวานไปแล้ว

ขมล่ะ   กำลังจะตามมาชิมิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: pangBoo ที่ 22-03-2012 18:54:12
อยากอ่านต่อจังเลย มาดันๆคะ :impress2: :man1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-03-2012 22:25:15
หวานต่อไปน่ะแหละดีแล้ว อย่าดร่าม่าเลยยย  :dont2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-03-2012 01:42:24
สงสารเจ้าชายคาเซียอะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 23-03-2012 18:20:09
เหอๆ  ในที่สุดก็มาถึงจุดเปลี่ยน  เล่นกันถึงตายเลยสินะ  แต่ก็ปกติของพวกราชวงค์
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: tantanlize ที่ 23-03-2012 20:58:30
ลุ้นๆๆๆๆมารอจ้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 24-03-2012 01:49:02
ใครคิดจะทำอะไรคาเซียอีกเนี่ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่19 P.5 R.129]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-03-2012 15:57:09
บทที่ 20
ตำนานรักสองราชวงศ์ : สิ่งที่ก่อกำเนิด

หลังจากที่งานฉลอง 5000 ปี ของเฟรนเซียผ่านพ้นไป ความสงบก็กลับคืนมาสู่วังหลวงอีกครั้ง ไม่มีใครเดินไปเดินมา เดินเข้าเดินออกให้ปวดหัวเล่น

งานราชกิจทั้งหลายองค์ทริสเซย์และองค์ชายคาเซียก็ช่วยกันสะสางอยู่ทุกๆวัน แต่ก็มิได้ลดลงเท่าไหร่นักเพราะฎีการ้องเรียนช่างมากมายเหลือเกิน

ทั้งเรื่องการเกษตร การวางผังเมือง จนถึงการที่สัตว์เลี้ยงมีอาการท้องเสียก็ยังถูกเขียนลงมาในฎีการ้องทุกข์ให้ทั้งสองพระองค์หน่ายพระทัยเล่นๆ

ทางด้านองค์ชายโซเทเรียที่ทรงตั้งพระครรภ์ได้สี่เดือนครึ่ง ยังทรงมาช่วยงานราชกิจขององค์ราชาด้วยอีกพระองค์หนึ่งในบางครั้ง เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สูงศักดิ์ทั้งสอง

เช่นในวันนี้ องค์ชายโซเทเรียทรงพาตัวพระองค์เองมายังห้องทรงอักษร เพื่อช่วยองค์เหนือหัวและพระสวามีสะสางฎีกาที่มากเกินกว่าจะวางบนโต๊ะได้หมด...

“งานพวกนี้มันเพิ่มขึ้นทุกวัน อีกทั้งนับวันยิ่งมีการร้องทุกข์ที่ไร้สาระขึ้นทุกทีแล้วนะ”องค์โซเทเรียทรงตรัสพึมพำอย่างหน่ายพระทัย

“นั่นสินะ มันดูไม่มีสาระขึ้นเรื่อยๆ จะเขียนมาให้เปลืองทรัพยากรทำไมก็ไม่รู้”องค์ชายคาเซียทรงตรัสบ่นขึ้นมาบ้าง หลังจากที่พระองค์ทรงต้องโยนฎีกาทิ้งเป็นฉบับที่ห้าสิบ “ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องร้องทุกข์มาเลยด้วยซ้ำ”

“พวกเจ้าเจอฎีกาแบบไหนกันบ้างล่ะ หืม... ถึงดูอารมณเสียเช่นนี้”องค์ทริสเซย์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมาหาทั้งสองพระองค์ “ข้ามีแต่เรื่องน่าปวดหัว ฟ้องกันไป ฟ้องกันมาเช่นนี้ ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานเอาผิดเลยสักคน”

ฎีกาที่พระองค์ทรงนำมาสะสางนั้นเป็นฎีกาที่เหล่าขุนนางทูลเกล้าถวาย จึงมีแต่เรื่องฟ้องร้องและเรื่องทางการเมืองเป็นเสียส่วนใหญ่

“สุนัขกัดขา หาเมียไม่เจอ เผลอหลับกลางครัน ฝันไม่เป็นจริง กิ้งก่าแลบลิ้น กินข้าวไม่ลง อะไรก็ไม่รู้อ่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายโซเทเรียนตรัสตอบขึ้นมาก่อน พระองค์ทรงวางฎีกาลงอย่างเบื่อหน่าย

“ฮ่าๆ แล้วของเจ้าล่ะ คาเซีย”

“พ่อตากีดกัน แม่ยายไม่ชอบหน้า ภรรยานอกใจ น้องสาวร้องไห้ พี่สาวท้องไม่มีพ่อ แฟนไม่ให้หลั่งใน มันดู... ไม่น่าร้องทุกข์มาได้เลยนะ”องค์คาเซียตรัสทรงส่ายพระพักตร์ “แรกๆก็คลายเครียดได้ดีอยู่หรอก หลังๆเริ่มไม่น่าชมนักแล้วนะ...”

“พวกเจ้าคงต้องทำใจกันไปก่อนล่ะนะ”

ทั้งสามพระองค์ทรงแก้ปัญหาต่างๆที่ประชาชนร้องทุกข์มาอย่างเคร่งเครียด ทรงเขียนร่างแบบแผนที่จะให้ขุนนางพื้นที่นำไปแก้ปัญหาให้กับเหล่าพสกนิกร

ตกเย็น นางกำนัลก็ทูลเชิญทั้งสามพระองค์ไปยังห้องเสวยเพื่อเสวยพระกระยาหารค่ำตามเวลาที่ได้กำหนดเอาไว้กับสนมบางพระองค์

“ฝ่าบาทเพคะ ทรงเหนื่อยมากไหมเพคะ”เสียงหวานๆของพระสนมเฟรีเนียทรงถามขึ้น “มีอะไรที่หม่อมฉันสามารถช่วยพระองค์ได้บ้างไหมเพคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ข้ามีผู้ช่วยฝีมือดีอยู่แล้ว”องค์ราชาทรงตรัสตอบด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ทรงตักเครื่องเสวยให้กับร่างบางที่ประทับอยู่เคียงข้าง “ทานเยอะๆนะ คาเซีย”

“พะยะค่ะ”องค์ชายตอบรับเสียงแผ่วเบา และทรงตักอาหารทานอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันก็ทรงตักเครื่องเสวยให้พระชายาและพระสวามีของพระองค์ไปด้วย

“ช่วงนี้เจ้าดูทานอาหารน้อยลงนะ คาเซีย”องค์ราชาทรงตรัสกับพระชายาของพระองค์อย่างเป็นห่วงเป็นใย

“คงเหนื่อยล่ะพะยะค่ะ กระหม่อมมิค่อยอยากอาหารสักเท่าไหร่นัก”พระองค์ทรงตอบอย่างนุ่มนวล “พระองค์ก็ทรงเสวยให้มากๆนะพะยะค่ะ”

“อืม”

องค์ชายคาเซียทรงหันไปดูแลองค์ชายโซเทเรียอยู่สักพัก ก่อนที่จะทรงขอตัวกลับตำหนักก่อน

“กระหม่อมรู้สึกเพลีย ขอตัวกลับตำหนักไปพักผ่อนก่อนนะพะยะค่ะ”องค์ชายทูลลา ก่อนที่จะทรงเสด็จออกจากห้องเสวยไป “เฟรุย... พาพระชายาเข้าบรรทมด้วยล่ะ ขอโทษนะ โซล พรุ่งนี้เช้าข้าจะรีบไปหาเจ้านะ”

“ไม่เป็นไรหรอก คาเซีย ไปพักเถอะ”องค์คาเซียทรงหอมพระปรางของพระชายา ก่อนจะทรงหันไปประกบจูบกับองค์ทริสเซย์เบาๆ

วรกายบอบบางเสด็จออกจากห้องเสวยไปพร้อมกับนางกำนัลส่วนพระองค์ทั้งสองและองครักษ์ประจำองค์อย่างรวดเร็ว

“เรฟ... เจ้าไปตามเฮลมา...”องค์ชายหันไปตรัสกับองครักษ์ของพระองค์ระหว่างทางเสด็จ

“องค์ชายทรงประชวรหรือพะยะค่ะ”เรฟถามกลับอย่างตกใจ “ทรงเป็นอะไรหรือพะยะค่ะ”

“ข้ารู้สึกแปลกๆ แล้วก็ไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนปกติ... เจ้าไปตามเฮลมาเถอะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรฟก็รีบวิ่งหายไปตามหมอประจำกองกำลังส่วนพระองค์ขององค์ชายคาเซียมาทันที

หลังจากที่องค์ชาย นางกำนัลทั้งสอง และหนึ่งองครักษ์ส่วนพระองค์กลับมาถึงตำหนักโพรเทียได้สักพัก องค์ราชาก็ทรงเสด็จกลับมายังตำหนักเช่นกัน

“วันนี้ข้าจะไปตำหนักโรสแมรี่ เจ้าพักให้พอนะชายาของข้า พรุ่งนี้เจอกัน”พระองค์จุมพิตพระนลาฏมนเบาๆ “แข็งแรงไวๆนะ คาเซีย”

“พบกันพรุ่งนี้เช้านะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

องค์ราชาทรงเสด็จกลับมาที่พระตำหนักเพื่อมาหาพระชายาก่อนที่จะทรงเสด็จไปยังตำหนักของพระสนม สร้างความอบอุ่นในพระหฤทัยของพระชายาเป็นอย่างยิ่ง

“เฮลมาแล้วพะยะค่ะ องค์ชาย”เรฟพาเฮลเข้ามาในตำหนักหลังจากที่องค์ราชาทริสเซย์ทรงเสด็จออกไปสักพักใหญ่

“ถวายบังคมองค์ชายพะยะค่ะ”เฮลน้อมกายถวายบังคมองค์ชายของเขาอย่างนอบน้อม “ทรงประชวรหรือพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“เรารู้สึกแปลกๆ บางทีได้กลิ่นเหม็น ทั้งๆที่ในรอบตัวก็มิได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง คลื่นไส้เล็กๆบางครั้ง อีกทั้งเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมีเหมือนแต่ก่อน... เจ้าตรวจให้เราหน่อยได้ไหม”องค์ชายทรงตรัสบอกอาการของพระองค์ไปตามตรง เพื่อสะดวกแก่การรักษา

“พะยะค่ะ”

เฮลเข้ามาตรวจองค์ชายอย่างถี่ถ้วน ดวงหน้าคมดูเคร่งเครียดในตอนแรก ก่อนที่จะเผยยิ้มน้อยๆในคราที่จับชีพจรขององค์ชาย

“องค์ชายทรงรู้สึกคลื่นไส้เมื่ออยู่ใกล้อาการ หรือเครื่องหอมใช่ไหมพะยะค่ะ”เฮลทูลถามขึ้นหลังจากตรวจพระอาการ

“อื้ม”

“หลังจากนี้พระองค์ต้องทรงดูแลพระวรกายให้ดีพะยะค่ะ อย่าทรงงานหนัก ระวังอย่างให้กระทบกระเทือนอันใดนะพะยะค่ะ”เฮลเริ่มร่ายยาว

“ทำไมล่ะ เฮล”พระองค์ถามอย่างงุนงง “ข้าป่วยเป็นอันใดเช่นนั้นหรือ”

“พระองค์มิได้ทรงประชวรพะยะค่ะ”หมอหนุ่มทูลต่อองค์ชายด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วยพะยะค่ะ องค์ชาย พระองค์ทรงตั้งพระครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้วพะยะค่ะ”

“ห๊ะ...”ทั้งองค์ชายทั้งข้ารับใช้ต่างอุทานลั่น “ตั้งครรภ์”

“ใช่พะยะค่ะ พระองค์ทรงกำลังมีทายาทให้กับองค์ราชาแล้วพะยะค่ะ”เฮลกล่าวย้ำอีกครั้ง

“เอ่อ... ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฝ่าบาททรงมีพระอาการดีขึ้น... แล้วเริ่มกลับมามอบความรักให้กับพระชายาเหมือนเดิม... ใช่ไหมเพคะ”เรลเอ่ยถามขึ้นมาแผ่วเบา

“ใช้แล้วล่ะ... ช่วงนั้นฝ่าบาททรงร่วมสังวาสกับเรา... เกือบทุกราตรี”องค์ชายตรัสรับ “ช่วงเวลานี้ราชกิจมากมาย... ข้ายังต้องช่วยฝ่าบาทสะสางอีกมาก จะให้พักผ่อนตลอดคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ เฮล”

“กระหม่อมจะจัดโอสถบำรุงมาถวายแล้วกันพะยะค่ะ”เฮลพยักหน้ารับคำของเจ้าชีวิตน้อยๆ “ถึงกระนั้นพระองค์ก็ต้องพักผ่อนบ้างนะพะยะค่ะ ถ้ามิอยากสูญเสียทายาทของพระองค์ไป”

“ข้าทราบแล้ว”พระองค์ตรัสรับคำหนักแน่น

“เป็นเช่นนั้นกระหม่อมก็วางใจ ถ้ามีเหตุอันใดทรงเรียกกระหม่อมได้ตลอดเวลานะพะยะค่ะ องค์ชาย”หมอประจำกองทัพเอ่ยกับผู้เป็นนายอย่างเป็นห่วง “กระหม่อมจะรีบมาหาพระองค์ทันทีพะยะค่ะ”

“ขอบใจเจ้ามาก เฮล”

“ราตรีนี้กระหม่อมขอทูลลาพะยะค่ะ แล้วกระหม่อมจะนำโอสถมาถวายพระองค์”

“เดี๋ยว... เจ้าตรวจเซทหน่อยสิ ช่วงนี้เขาดูซึมๆไปนะ”องค์ชายทรงรั้งตัวหมอคนเก่งเอาไว้ก่อน

เฮลตรวจอาการของเซทสักพัก ก่อนจะหันมาทูลพระองค์

“เฮ้อ... ช่วงนี้คนตั้งท้องเยอะนะพะยะค่ะ องค์ชาย เซทท้องได้สามเดือนแล้วพะยะค่ะ”หมอเฮลทูลเบาๆ “ข้าคงต้องจัดยาเพิ่มอีก... งั้นกระหม่อมไปก่อนนะพะยะค่ะ”

โดยที่ไม่ต้องมีใครไปส่ง เฮลก็หายตัวไปกับเงามืดทันที

“เอ่อ...”เซ็นยังคงงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย “ท้องอย่างนั้นเหรอ”

“เชื้อเจ้าแรงไม่ใช่น้อยนะ เรฟ ไม่ทันไรเซทก็ตั้งท้องเสียแล้ว ไล่เลี่ยกับโซลเลยด้วยนะ”องค์ชายเอ่ยแซวว่าที่คุณพ่อ คุณแม่

“ฝ่าบาทก็มิได้น้อยหน้าไปกว่าเลยนะหม่อมเลยนะพะยะค่ะ”เรฟไม่ยอมง่ายๆ สวนกลับองค์ชายทันที

“พอเถอะ ข้าควรจะไปนอนได้แล้ว... พอเซทไปพักผ่อนด้วยล่ะ เดี๋ยวลูกไม่แข็งแรงเอานะ”

“พะยะค่ะ”

เรฟพาเซทไปพักผ่อน ระหว่างทางนั้นทั้งสองก็คุยกันไปด้วย เพราะเซทยังคงมึนๆกับการตั้งท้องของตัวเขาเองอยู่

องค์ชายคาเซียก็ทรงเสด็จเข้าบรรทมเช่นกัน...

ข้าควรจะทำเช่นไรดีนะ... ควรจะบอกกับฝ่าบาทตอนนี้เลยดีไหม แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ทุกคนต้องก็รับรู้ในเรื่องนี้... ถ้ามีคนปองร้าย จะทำเช่นไรดี...

+++++++++++++++++++

มาแบบมึนๆ...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 26-03-2012 16:04:12
5555+ ตั้งท้องกันเยอะจัง สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: piride ที่ 26-03-2012 16:19:23
ไม่ชอบที่ฝ่าบาทไปหาพวกนางสนมเลยอ่ะ   :m16:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-03-2012 16:25:04
อั๊ยยะ ท้องแล้วเย้
อยากให้ฝ่าบาทรู้เร็วๆจัง
ฮืออ ไม่อยากมาม่าเลยนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 26-03-2012 16:29:05
ท้องแล้ว ดีใจจัง!!

อย่าให้มีคนปองร้ายเลย!!

ไม่เอามาม่านะ!!  :impress3:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 26-03-2012 16:29:46
ท้องแล้ววววว

ดูแลกันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 26-03-2012 17:24:06
๕๕๕๕๕

แอบขำนิดๆที่เซทท้อง

ตอนนี้กลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายคาเซียเนี๊ยเเหละ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 27-03-2012 10:05:48



   อิอิ ในที่สุดคาเซียก็ตั้งท้องแล้ว
   แล้วอย่างนี้ใครจะช่วยราชาสะสางงานละเนี่ย



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 27-03-2012 10:29:57
ได้ลูกจากภรรยา,,,ตั้งครรภ์ให้สามี 

 :laugh: :laugh: :laugh:

งานหนัก,,,เป็นทั้งพ่อและแม่เลยทีเดียวว   :m20:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 27-03-2012 11:25:56
ก็บอกแต่ฝ่าบาทเซ่ แล้วห้ามไม่ให้บอกใครอีกไง 555555
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-03-2012 18:33:24
ท้องกันเยอะเลยแฮะ แต่ก้อดีนะ จะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 27-03-2012 19:10:42
ท้องกันเยอะเลยแฮะ แต่ก้อดีนะ จะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน


เออเนอะ จะได้ไม่เหงา
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-03-2012 03:11:48
เย้ๆๆ คาเซียท้องแล้ว เซทก็ท้องด้วยอ่า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-03-2012 06:31:55
บอกฝ่าบาทไปเถอะนะ  :oni2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 30-03-2012 22:56:26
ท้องแล้วว :o8: :o8: :o8:

มาต่อไวๆนะค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ เดี๋ยวมาลงตอนหม่ห้นค+ตอนพิศษ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 31-03-2012 21:32:05
เซ็ทท้องด้งหว่
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-04-2012 02:11:29
ท้องแล้วเย้ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่20 P.5 R.149]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 02-04-2012 16:54:36
บทที่ 21
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ความจริงที่ต้องปกปิด

รุ่งเช้าองค์ชายคาเซียก็ทรงเสด็จไปหาพระชายาโซเทเรียตามที่พระองค์ได้ให้สัญญาเอาไว้ แม้พระองค์จะทรงรู้สึกวิงเวียนอยู่ไม่น้อย...

“เป็นไงบ้าง โซล เมื่อวานนอนหลับไหม”พระองค์ตรัสถามองค์ชายร่างเล็กอย่างเป็นห่วงเป็นใย “ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้มาส่งโซลเข้านอนนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก คาเซีย เมื่อวานโซลก็นอนหลับเหมือนปกติแหละ”รอยยิ้มสดใสถูกส่งมาให้พระองค์ “โซลเถอะ เป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไข้ใช่ไหม”

“ไม่เป็นไร แค่พักผ่อนไม่พอเฉยๆ โซลไม่ต้องห่วงหรอก”มือเรียวโอบประคองร่างอวบไว้หลวมๆ “ไม่คลื่นไส้ ไม่อาเจียนแล้วใช่ไหม”

“อื้ม ไม่มีอาการพวกนั้นแล้วล่ะ”องค์ชายโซเทเรียตรัสตอบด้วยรอยยิ้ม “แล้วคาเซียล่ะ เป็นยังไงบ้าง”

“ยังเพลียๆอยู่นิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”พระองค์ทรงตอบกลับอย่างอ่อนโยน

รอยยิ้มบางเบาถูกคลี่ออกมา... พระองค์ทรงรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่พระองค์บอกพระชายาของพระองค์ไปนั้นเป็นสิ่งโป้ปดทั้งสิ้น ร่างกายของพระองค์นั้นสมควรได้รับการพักผ่อนที่มากกว่านี้... แต่มันคงเป็นไปไม่ได้

หลังจากที่ทั้งสองพระองค์เสวยพระกระยาหารเช้าจนเสร็จ องค์ชายคาเซียก็ทรงเสด็จไปช่วยราชกิจขององค์ทริสเซย์เหมือนทุกๆวัน

ข้าควรจะบอกเรื่องลูกแก่ฝ่าบาทดีไหม... หรือรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้...

องค์ชายทรงหันไปหาร่างที่ทำงานอยู่อย่างเคร่งเครียด พระหัตถ์เรียววางแนบพระอุทร

“จริงสิ... คาเซีย”องค์ราชาทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมาจากกองแผนที่และเอกสารมากมาย “เดือนหน้าข้าต้องไปหาเสด็จพ่อและเสด็จแม่ที่นอกเมือง... เพื่อรับพวกท่านไปเยี่ยมเสด็จพี่ที่วินเซเร”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”ข้าคงต้องเก็บเรื่องลูกในท้องเอาไว้ก่อน... คงจะดีกว่าสินะ “แล้วจะทรงเสด็จกลับมาเมื่อไหร่หรือพะยะค่ะ”

“ข้าไปประมาณ 4-5 เดือน ระหว่างนั้น ข้าคงต้องวานให้เจ้าดูแลเฟรนเซียแทนข้าเสียหน่อยล่ะนะ คาเซีย”พระองค์ทรงตรัสตอบ

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

อ่า... 5 เดือน... ฝ่าบาทจะเสด็จไปเดือนหน้า... ถ้าเช่นนั้น เมื่อพระองค์ทรงเสด็จกลับมา ข้าก็คงอุ้มท้องได้เจ็ดเดือนเกือบแปดเดือน ส่วนโซลก็คงคลอดแล้วสินะ...

ไม่เป็นไรนะ ลูกจ๋า... ถึงพระราชบิดาของลูกจะมิได้ดูแลลูก แต่มารดาจะดูแลเจ้าเองนะ ลูกรัก


“เจ้ามีเรื่องอะไรจะบอกข้าหรือเปล่า คาเซีย”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสถามขึ้น หลังจากที่ทรงสังเกตเห็นพระพักตร์ของพระชายาคลี่ยิ้มหมองๆ

“เอาไว้ทรงเสด็จกลับจากการไปนอกวังก่อน แล้วกระหม่อมจะทูลบอกพระองค์นะพะยะค่ะ”พระองค์ตอบกลับฝ่าบาทด้วยรอยยิ้ม “ถึงเวลานั้นกระหม่อมค่อยทูลพระองค์ก็ยังมิสายหรอกพะยะค่ะ”

“อีกราวๆ 6 เดือนเนี่ยนะ”องค์ราชาทรงทวนคำ

“พะยะค่ะ”

“ตามใจเจ้าแล้วกัน”

แล้วกิจวัตรที่เหมือนกับทุกๆวันก็ดำเนินต่อไป...

+++++++++++++++

“เหตุใดองค์ชายถึงไม่ทูลบอกเรื่องสายพระสกุลในพระครรภ์ของพระองค์แก่ฝ่าบาทล่ะเพคะ”เรลถามขึ้นทันที เมื่อองค์ชายของนางเสด็จกลับมาถึงห้องบรรทมในเวลาค่ำ

“เราจะบอกแก่ฝ่าบาทได้อย่างไร ในเมื่อพระองค์มีหมายกำหนดการณ์จะเสด็จไปต่างเมืองในเดือนหน้านี้แล้ว”องค์ชายตรัสกลับแผ่วเบา “ถ้าเราทูลบอกพระองค์ไป เจ้าคิดหรือว่าพระองค์จะยอมเสด็จออกจากวังตามหมายกำหนดการณ์”

“เลื่อนกำหนดการณ์พวกนั้นออกไปก็ได้นิเพคะ”เรลไม่ยอมแก่พระองค์ง่ายๆ ดวงตาของนางสื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พระองค์ทำ

“ฝ่าบาทจะทรงเสด็จไปหาพระบิดาและพระมารดา ก่อนจะพากันเสด็จไปเยี่ยมพระพี่นาง เจ้าจะให้เราขัดขวางการพบหน้ากันของคนในครอบครัวเช่นนั้นหรือ เรล”องค์คาเซียทรงใช้เหตุผลอธิบายให้กับนางกำนัลน้อยฟังอย่างช้าๆ “นานครั้งครอบครัวถึงจะได้พบกัน เราไม่อาจจะขัดขวางพวกเขาได้หรอกนะ”

“แต่... องค์ชายเพคะ ถ้ามีเหตุอันใดเกิดขึ้นระหว่างที่ฝ่าบาทไม่อยู่จะทำเช่นไรล่ะเพคะ”เสียงใสยังคงสวนกลับอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยความเป็นห่วงนายของตน “พระองค์สมควรได้รับการพักผ่อนมากๆดังเช่นพระชายาโซเทเรีย มิใช่ทรงงานหนักอย่างทุกวันนี้นะเพคะ”

“เรล เราไม่เป็นอะไรไปง่ายๆหรอก...”เสียงหวานตรัสเบาๆ พระเนตรหวานทอดมองนางกำนัลอย่างอ่อนโยน “เราจะต้องไม่เป็นอะไร”

“องค์ชาย... ไม่ทรงตามเสด็จฝ่าบาทไปล่ะเพคะ อย่างน้อย เสด็จไปกับฝ่าบาทก็ปลอดภัยกว่าอยู่ในวังหลวงแห่งนี้นะเพคะ”เรลอ่อนข้อลงเล็กน้อย แต่ก็ยังดื้อดึงให้องค์ชายของนางอยู่ข้างกายเจ้าชีวิตอยู่ดังเดิม

“ถ้าเราตามเสด็จฝ่าบาท แล้วใครจะว่าราชกิจแทนพระองค์ล่ะ”องค์ชายตรัสถามกลับ

“เหล่าขุนนางไงเพคะ สมัยก่อนพวกเขาก็ทำกันได้ไม่ใช่หรือเพคะ”

“มันก็ใช่ แต่เพลานี้ ยังมีกิจมากมายที่จะต้องมีผู้นำในการกันงานให้สำเร็จ เราไม่อาจจะปล่อยมันทิ้งไปได้หรอกนะ”

“ท่านมหาเสนาทั้งสองเป็นผู้นำในการบริหารราชกิจของบ้านเมืองอยู่แล้วไม่ใช่เพคะ”

“ถึงกระนั้นเราก็ยังวางใจไม่ได้หรอกนะเรล”องค์ชายทรงยื่นพระหัตถ์มาลูบไล้เรือนผมนิ่มของนางกำนัลส่วนพระองค์ “แล้วโซเทเรียอีกล่ะ ถ้าเราไม่อยู่ ใครจะดูแลเขาแทนเรากัน”

“เอ่อ...”

“ถึงเฟรุยจะคอยดูแลโซลอยู่ แต่ข้าก็อยากดูแลเขา ให้สมกับที่เขามอบความรักและความไว้ใจให้กับข้า”

“แล้วตัวองค์ชายเองล่ะเพคะ พระองค์ก็สมควรได้รับการดูแลเช่นกัน ยิ่งในเพลานี้ พระองค์ตั้งครรภ์อ่อนๆ ถ้าเกิดการกระทบกระเทือนขึ้นมา อาจจะสูญเสียทารกในพระครรภ์ไปได้นะเพคะ”เรลแย้งขึ้นมาทันที

“เรล ชายาของเราตั้งครรภ์ได้สี่เดือนครึ่งแล้ว ถ้าข้าตามเสด็จฝ่าบาทไป โซลก็อุ้มครรภ์ได้ประมาณห้าเดือนครึ่ง กว่าจะกลับก็คงมีประสูติกาลแล้ว”องค์คาเซียผินพระพักตร์ไปมองดวงดาราบนท้องนภาแล้วคลี่รอยยิ้มบางเบา “ข้ามีพวกเจ้าดูแลอยู่ไม่ใช่เหรอ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าไม่มีทางที่จะปล่อยให้ข้าตกอยู่ในอันตรายหรอก”

“แน่นอนเพคะ หม่อมฉันจะปกป้องพระองค์ด้วยชีวิต แต่... องค์ชายเพคะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะทำอย่างไรเพคะ”เรลเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ข้าจะดูแลตัวเองให้ เรล... แม้จะไม่มีใครคอยปกป้องข้าอยู่ข้างๆตลอดเวลา ข้าก็ต้องทำให้ได้”

“แล้วพระองค์จะสามารถดูแลสายพระสกุลในขณะที่ทรงงานเช่นนี้ได้หรือเพคะ”

“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน เรล”พระองค์ตรัสตอบ พระหัตถ์เรียวลูบไล้พระอุทรแผ่วเบา “แม้ตัวข้าอาจจะเป็นมารดาที่ไม่ดีนัก แต่ข้าจะเป็นบิดาที่เป็นตัวอย่างให้กับลูกของข้าได้”

“องค์ชาย... พระองค์จะต้องเป็นทั้งพระบิดาและพระมารดาที่ดีของราชบุตรของพระองค์ได้แน่นอนเพคะ”เรลกอบกุมพระหัตถ์บางหลวม ๆ

“ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน...”

“องค์ชายพะยะค่ะ”เซทเปิดบานทวารออกแล้วเดินพรวดพราดเข้ามาอย่างรวดเร็ว “เรฟบอกกระหม่อมว่าเดือนหน้า ฝ่าบาทจะทรงเสด็จไปนอกอาณาจักรหรือพะยะค่ะ”

“ใช่แล้วล่ะ เซท”เสียงหวานตอบรับอย่างไม่ปิดบัง

“องค์ชาย... เช่นนี้จะดีหรือพะยะค่ะ”เซทเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่สบายใจนัก “พระองค์จะทรงมีเวลาพักผ่อนน้อยลงนะพะยะค่ะ”

“ห่วงเราเหรอ...”รอยยิ้มหวาน ๆ ถูกส่งให้ นัยน์พระเนตรขององค์คาเซียฉายแววเจ้าเล่ห์ชั่ววินาที ก่อนจะเลือนหายไป

“แน่นอนอยู่แล้วล่ะพะยะค่ะ กระหม่อมย่อมเป็นห่วงพระองค์”เซทตอบกลับทันควัน ก่อนที่จะสังเกตเห็นแววเนตรของนายเหนือหัว “องค์ชาย... อย่าบอกนะว่า...”

“ถ้าห่วงเราก็มาช่วยเราทำสิ เซทที่รัก”

“โถ่... ฝ่าบาท”ใบหน้าที่เรียบเฉยบึ้งตึงขึ้นมาเล็ก ๆ “พระองค์ก็ทรงทราบว่ากระหม่อมไม่ถนัดงานเอกสารนี่พะยะค่ะ”

“ไม่ถนัดไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้มิใช่หรือ เซท”พระองค์เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ พระเนตรกลมโตฉายแววสนุกสนาน “ไม่ถนัดของเจ้านี่สามารถทำให้เหล่าขุนนางหน้าหงายได้กี่ครั้งแล้วล่ะ เซท”

“ฝ่าบาท นั่นมัน...”

“พอแล้ว ถ้าเจ้าห่วงเราก็มาช่วยเราทำ ถ้าไม่... เราทำเองผู้เดียวก็ได้ แม้จะต้องเหนื่อยยากแค่ไหนก็ตามที”องค์ชายทรงตัดบท แล้วเอนกายลงบรรทมทันที “ข้าจะพักผ่อนแล้ว เจ้าก็ไปพักเถอะ เซท เดี๋ยวลูกของเจ้าไม่แข็งแรงข้าไม่รู้ด้วยนะ”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท...”องครักษ์คนเก่งตอบกลับเสียงอ่อย แล้วเขาก็กลับไปยังที่พักของตนอย่างเงียบ ๆ “ข้าต้องมาทำงานเอกสารจริง ๆ หรือนี่... ลูกครับ ถ้าลูกเกิดมาแล้วต้องเก่งงานเอกสารนะลูก...”

รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่มุมโอษฐ์เรียว... อา... องค์ชายช่างดูพระเกษมสำราญยิ่งนัก

แน่สิ... การแกล้งเซทเป็นหนึ่งในความสำราญเล็ก ๆ ของพระองค์นี่... แม้จะแกล้งไม่ได้ทุก ๆ วัน แต่นาน ๆ ครั้งก็สนุกดีนะ

++++++++++++++++++++

สายชาร์ตโน้ตบุ๊คส์เสียTT(ได้มาใหม่แล้ววว)
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-04-2012 19:35:55
คาเซียเริ่มลำบากแล้ว... หึหึ o18
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 03-04-2012 20:55:54
แปะก่อนอ่าน!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 03-04-2012 21:00:45
คาเซียสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-04-2012 21:04:25
ฮือ อยากให้ฝ่าบาทรู้อะ
อยากให้รู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 03-04-2012 21:06:16
คาเซียสู้ๆ!!

ต้องผ่านไปได้ด้วยดีสิ!!

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 03-04-2012 21:26:12
เซ็งพระราชาาา
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ เดี๋ยวมาลงตอนหม่ห้นค+ตอนพิศษ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 03-04-2012 21:59:29
หนื่อยทน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-04-2012 00:52:24
ทำไมไม่เห็นแก่ความสุขของตัวเองบ้างนะ คาเซีย

กลัวว่าจะมีเรื่องก่อนฝ่าบาทกลับมาน่ะสิ

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: |ψ|PEAT_ZA|ψ|℠ ที่ 04-04-2012 04:15:19
เรื่องนี้สนุกมากก อ่านรวดเดียวเลย อิอิ
พลอตเรื่องแหวกแนว แต่อ่านไปอ่านมา
ดันรู้สึกชอบนายเอกแบบนี้มากกว่านายเอกทั่วๆไปซ่ะอีก 55
แต่แอบหวังนะว่า คงไม่มาม่าชามโตเกินไปนะ แฮะๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 04-04-2012 10:13:57



    อะอ้าว งานช้างเข้าแล้วสิ
    ฝ่าบาทนะฝ่าบาท เห็นคาเซียเป็นผู้ใช้แรงงานไปแล้วเหรอ
    อะไรๆก็เรียกใช้คาเซีย ทั้งๆที่ต้องห่างกันเกือบครึ่งปีไม่ได้กลัวเรื่องจะไม่ได้เจอหน้าคาเซียเลย. . . เฮ้อ. . .



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 04-04-2012 20:27:33
คาเซียสู้ๆ :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 04-04-2012 21:05:26
เป็นห่วงคาเซียจัง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-04-2012 21:50:06
คาเซียสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่21 P.5 R.166]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-04-2012 22:26:18
บทที่ 22
ตำนานรักสองราชวงศ์ : แผน... ของพระสนม

ระหว่างที่องค์ชายคาเซียนั้นสนทนากับเหล่าข้ารับใช้ของพระองค์อยู่อย่างสบายพระหฤทัย... ไม่มีผู้ใดในตำหนักโพรเทียแห่งนี้ล่วงรู้เลยว่า... การสนทนานั้นไม่เป็นความลับอีกต่อไป

นางกำนัลสาวคนหนึ่งแอบฟังการพูดคุยขององค์ชายองค์ริมทวารบานใหญ่ จนกระทั่งถึงเวลาที่พระองค์บรรทมหลับไป
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดบนริมฝีปากเรียวสีชาด ดวงตาของนางทอดมองอย่างมาดร้าย

ข้าได้รู้เรื่องสำคัญเสียแล้ว หึ หึ นายของข้าจะต้องขึ้นเป็นใหญ่ นายของข้าสมควรที่จะได้อยู่เคียงข้างฝ่าบาทเพียงผู้เดียว เพียงผู้เดียวเท่านั้น... และเพื่อการนั้น นายของข้าและข้า จะต้องกำจัดเจ้า คาเซีย!!

นางกำนัลร่างเพรียวรีบวิ่งจากตำหนักโพรเทียกลับไปยังตำหนักที่นายของนางอยู่อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครพบเห็นนาง... แม้เพียงสักคน

“พระสนมเพคะ พระสนม”นางส่งเสียงเรียกพระสนมของนางที่บรรทมอยู่เบาๆ “พระสนมเพคะ ตื่นเถอะ หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ”

“อื้อ... เจ้ามีเรื่องอันใดกันน่ะ โอเรีย ถึงมาปลุกข้ากลางดึกเช่นนี้”เสียงแหลมสูงเอ่ยถามนางอย่างหงุดหงิด “เจ้ากำลังรบกวนการพักผ่อนของข้าอยู่นะ”

“หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ พระสนม”โอเรียทูลต่อพระนางอย่างใจเย็น

“แล้วเรื่องอันใดล่ะ ที่เจ้าจะบอกแก่ข้า”เสียงที่พระนางใช้นั้นมิใช่เบาเลย... นางตวาดนางกำนัลส่วนตัวด้วยความโกรธา “จะพูดอะไรก็รีบ ๆ พูดมา ข้าจะได้พักผ่อนเสียที”

“เฟรีเนีย เกิดเรื่องอะไรหรือ”ร่างบอบบางของเพื่อนร่วมตำหนักของพระนางก้าวเดินเข้ามาในห้องบรรทม “เหตุใดเจ้าจึงส่งเสียงดังยามวิกาลเช่นนี้ หรือว่าเจ้าฝันร้าย หืม เฟรีเซีย”

“ข้าแค่หงุดหงิดนิดหน่อยน่ะ เมริน่า”พระสนมเฟรีเซียหันไปตอบเพื่อนสาวด้วยเสียงที่อ่อนลง “ข้าทำให้เจ้าตื่นเช่นนั้นหรือ”

“อืม... แต่ไม่เป็นไรหรอก ทุกราตรีข้าก็นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้วล่ะ... แล้วเจ้าหงุดหงิดอันใดมาหรือ เฟรีเนีย”พระสนมเมริน่าเอ่ยถามเสียงหวาน พระนางทรงเดินเข้ามาประทับที่พระแท่นนุ่มๆ

“โอเรีย เจ้ามีเรื่องจะกราบทูลมิใช่หรือ รีบพูดมาสิ”พระสนมทั้งสองหันพระพักตร์มามองนางกำนัลสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างพระแท่น

“คือ... เมื่อครู่ หม่อมฉันไปแอบฟังบทสนทนาของพระชายาคาเซียกับพวกข้ารับใช้มาเพคะ พระสนม”โอเรียเริ่มกราบทูลแก่พระสนมเบาๆ

“แล้วได้ความว่าอย่างไร”พระนางรีบถามนางกำนัลทันที

“คือ... พระชายาคาเซียตั้งพระครรภ์แล้วเพคะ พระสนม”นางกำนัลสาวทูลกับนายของนางตามตรง ไม่มีเกริ่นนำเลยแม้แต่น้อย

“ว่าอย่างไรนะ... ตั้งครรภ์แล้วเช่นนั้นหรือ...”เสียงหวานครางออกมาแผ่วเบา

“เพคะ หม่อมฉันได้ยินมาเช่นนั้น”โอเรียรับคำของพระสนมหนักแน่น

“ไม่จริง... เป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทจะต้องสนพระทัยมัน ดูแลมันยิ่งกว่าในเวลานี้... ไม่นะ ไม่...”พระสนมเฟรีเซียเริ่มไร้สติ

“ตั้งสติเอาไว้ก่อนสิ เฟรีเซีย”พระสนมเมริน่าหันมาตรัสกับคนข้างกายอย่างใจเย็น “แล้วฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้หรือยัง โอเรีย”

“ยังเพคะ พระสนม พระชายาคาเซียมิได้กราบทูลเรื่องที่ทรงตั้งพระครรภ์แก่องค์ราชาเพคะ”นางเอ่ยตอบทันที

เมื่อได้ยินดังนั้นพระสนมเฟรีเซียก็ทรงรวบรวมสติกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนพระสนมเมริน่าทรงเลิกพระขนงน้อยๆอย่างสงสัย

“แล้วเจ้าพอจะรู้ไหม เพราะเหตุใดพระชายาถึงไม่กราบทูลเรื่องสำคัญเช่นนี้กับฝ่าบาทน่ะ”พระนางเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

“เพราะฝ่าบาทมีกำหนดจะเสด็จไปต่างอาณาจักรในเดือนหน้านี้เพคะ”

“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใดนิ ถึงฝ่าบาทจะทรงเสด็จออกนอกพระราชวัง พระชายาก็สามารถตามเสด็จไปได้ อีกทั้งถ้าฝ่าบาททรงทราบ พระองค์จะต้องเลื่อนการเสด็จออกนอกพระราชวังไปอย่างแน่นอน”พระสนมเฟรีเนียทรงพึมพำแผ่วเบา

“เห็นว่าการเสด็จครั้งนี้ของฝ่าบาท พระองค์จะทรงไปรับพระราชบิดาและพระราชมารดา ก่อนจะทรงเสด็จไปเยี่ยมพระพี่นางที่อาณาจักรวินเซเรเพคะ”

“ถึงกระนั้นก็ไม่น่าเกิน 5 เดือนก็ต้องทรงเสด็จกลับมาแล้ว ยังไม่น่าถึงกำหนดคลอดของพระชายามิใช่หรือ”

“เพคะ พระสนม พระชายาทรงกังวลว่าจะมิมีใครดูแลราชกิจบ้านเมืองระหว่างที่ฝ่าบาทเสด็จออกนอกวังน่ะเพคะ”

“ถึงกระนั้นก็ยังมีท่านมหาเสนาบดีทั้งสองคอยดูแลบริหารบ้านเมืองอยู่ ไม่เห็นมีเรื่องอันใดน่าเป็นห่วง สองท่านนั้นไม่มีทางปล่อยให้เฟรนเซียเป็นอันใดไปเป็นแน่

“เพคะ”

“มีเพียงเหตุผลเดียวเช่นนั้นหรือ ที่พระชายาไม่ตามเสด็จฝ่าบาทไปน่ะ”

“ไม่ใช่เพคะ”โอเรียปฏิเสธขึ้นทันที “เห็นว่าพระชายาทรงเป็นห่วงพระชายาโซเทเรียด้วยน่ะเพคะ”

“ห่วงโซเทเรียเช่นนั้นหรือ...”

“เพคะ พระสนม พระชายาโซเทเรียทรงตั้งพระครรภ์ได้สี่เดือนครึ่ง ถ้าตามเสด็จไปกว่าจะทรงกลับมา พระชายาโซเทเรียก็คงทรงมีพระประสูติกาลแล้วน่ะเพคะ”

“ถ้าเช่นนั้นก็พาโซเทเรียไปด้วยก็ได้นิ”

“พระชายาทรงเกรงว่าพระชายาโซเทเรียจะทรงมีประสูติกาลระหว่างการเดินทางแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้นน่ะเพคะ”

“นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...”พระสนมเฟรีเนียรับคำเบาๆ “เราจะทำอย่างไรต่อไปดี เมริน่า ถ้าปล่อยไว้เป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทก็จะทรงโปรดมันมากกว่าที่เป้นอยู่นี้ อีกทั้งถ้ามันได้พระโอรสอำนาจของคาเซียจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มันขึ้นเป็นราชินีก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลานั้น มันจะไม่มาข่มเหงพวกเราเช่นนั้นหรือ”

“ใจเย็นก่อน เฟรีเนีย... เพลานี้จะทำการใดๆเราต้องวางแผนให้รัดกุมเสียก่อน”พระสนมเมริน่าตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คาเซียมีลูกเป็นตัวประกันอยู่ ถ้าเกิดอะไรกันกับเขา ฝ่าบาทจะต้องสืบสาวราวเรื่องอย่างไม่มีวันจบจนกว่าจะพบผู้ที่มาทำร้ายคาเซียเป็นแน่”

“แล้วเราควรจะทำอย่างไรดี เมริน่า ข้ามืดแปดด้านไปหมดแล้วนะ”

“เฟรีเนีย... เจ้าอย่าลืมสิว่าคาเซียยังไม่ได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาท...”

“มันก็ใช่อยู่...”

พระสนมทั้งสองสบพระเนตรกัน ก่อนที่จะเหยียดยิ้มประสงค์ร้ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ในเมื่อมันเกิดมาแล้ว... ก็ทำให้มันหายไปจากโลกนี้ซะก็สิ้นเรื่อง”

“นั่นสินะ... ขอเพียงแค่มันไม่เกิดมา คาเซียก็ไม่มีทางก้าวขึ้นสู่ความเป็นใหญ่ได้ จริงไหมล่ะ เฟรีเซีย”

“แต่... ถ้าฝ่าบาทยังทรงโปรดปรานมันเช่นนี้ ถึงจะจัดการเด็กในท้องมันไปได้แล้ว มันก็มีใหม่ได้อีกครั้งอยู่ดีนะ เมริน่า”

“เรา... ก็ทำให้มันไม่สามารถมีได้อีกสิ เพียงเท่านี้มันก็ขาดคุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นราชินีได้โดยสิ้นเชิง”แววเนตรของพระสนมเมริน่าฉายแววชิงชัง “หรือไม่ก็กำจัดมันให้หายไปจากโลกใบนี้เสียเลย...”

“แต่ถ้าฝ่าบาททรงสืบสาวราวเรื่อง... แล้วมาเรื่องมาถึงตัวเรา อาณาจักรของพวกเราจะพลอยลำบากไปด้วยนะ เมริน่า”พระสนมเฟรีเซียแย้งขึ้นมา

“เราไม่จะเป็นจะต้องให้มือของเราเปื้อนโลหิตเองก็ได้มีใช่หรือ...”

“หรือว่าเจ้าคิดจะ...”

“แน่นอน สนมหน้าโง่อีกหลายคนที่หน้ามืดตามัว อิจฉาริษยา ขอแค่เพียงเปิดโอกาสให้พวกมัน พวกมันก็จัดการเรื่องนี้ให้กับเราเอง โดยที่เราไม่ต้องทำอันใดเลยแม้แต่น้อย...”

“เจ้าจะบอกเรื่องนี้ให้พวกสนมคนอื่นๆรู้เช่นนั้นหรือ...”

“ข้าจะไม่เป็นผู้บอกข่าวนี้แก่ทุกคน เฟรีเซีย... แต่เป็นพวกนางกำนัลต่างหาก ที่จะเป็นคนแพร่กระจายข่าวนี้ออกไป...”

“แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ฝ่าบาทก็จะทรงทราบ”

“ไม่... ฝ่าบาทจะไม่ทรงทราบ จนกว่าเราจะจัดการคาเซียและลูกไปให้พ้นทางของเราได้”

“เจ้าจะแพร่กระจายหลังจากที่ฝ่าบาททรงเสด็จออกนอกพระราชวังไปเช่นนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว... เราจะต้องรอให้ฝ่าบาทเสด็จไปได้ระยะหนึ่งก่อน... หลังจากนั้น เราถึงจะเริ่มแผนการกัน”

สองพระสนมและหนึ่งนางกำนัลวางแผนกันอย่างรัดกุม พวกเขาพยายามปิดช่องโหล่ทั้งหมดที่จะสามารถสาวมาถึงตัวพวกเขาได้...

เหอะ คาเซีย เจ้าอย่าหวังจะได้มีความสุขในวังหลวงแห่งนี้เลย ข้าจะไม่มีวันยกฝ่าบาทให้กับเจ้า ไม่มีวันยกตำแหน่งราชินี... มารดาแห่งแผ่นดินเฟรนเซียให้กับเจ้า จำไว้!!!

++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า... หายหัวไปเพ้อดงบังมา :-[
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-04-2012 22:40:45
อิพวกชะนีขี้อิจฉา
คาเซียสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 09-04-2012 22:58:57
ชะนีนิ -3- ตกเขาตายซะ คนเขียนสู้ๆ คาเซียสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 09-04-2012 23:05:31
มาม่าจะมาไหมหว่า!!

เบื่อไอ่พวกก่อเรื่องยุ่งๆจริงๆเลย!!

หวังว่าคาเซียกับลูกจะไม่เป็นอะไรนะ!!  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 09-04-2012 23:09:09
เง่อ ซวยแล้วอะดันมีตัวอิจฉารู้จนได้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-04-2012 00:21:19
คาเซียจะรอดมั๊ยเนี่ย?

ทั้งลูกในท้องตัวเอง ทั้งลูกอีกท้องนึง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 10-04-2012 01:02:49
อิชะนี๊ กี๊ดดดๆๆ  :fire:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 10-04-2012 02:28:12
ึคาเซียน่าจะไปกับเฟรเซียนะ คิดอะไรอยู่กัน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-04-2012 10:15:00
เซ็งโคตร เบื่อนางพวกนี้จริงๆ
รีบๆบอกฝ่าบาทไปเหอะ เกลียดจริงๆพวกนางสนมขี้อิจฉา
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 10-04-2012 11:15:23
ตายแล้ว.. คาเซียกำลังตกอยู่ในอันตราย  ทำไงดี :serius2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-04-2012 20:56:11
อย่ากลัวดราม่า... เพราะมันกำลังเดินทางมา

แต่ตอนนี้... ขอเดินทางไปหาพาราก่อนนะคะT^T หนักหัวมากมาย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-04-2012 06:09:59
 :sad5:

ไม่เอาดราม่าไม่ได้หรอออออออ



คนเขียนสู้ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 11-04-2012 10:39:30




    ลางร้ายเริ่มปรากฏแล้วสิ




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-04-2012 11:35:35
เลววมากกก ทำอย่างงี้กับคาเซียไม่ได้นะเว้ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: Animee ที่ 11-04-2012 14:00:04
เลวววววววววววว นังสนมหน้าโง่ อ๊ากกกกกก พ่นไฟ!!
ขอให้ผ่านไปด้วยดีเถอะนะ คาเซีย ㅠㅠㅍ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: pangBoo ที่ 11-04-2012 15:41:38
อยากอ่านต่อเร็วๆจัง :sad4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่22 P.7 R.180]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-04-2012 21:11:38
บทที่ 23
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ปะทะคารม

วันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็ถึงวันที่องค์ราชาจะเสด็จออกนอกพระราชวัง...

“ขอฝ่าบาทเดินทางปลอดภัยนะพะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียเสด็จมาส่งองค์ทริสเซย์ที่หน้าประตูพระราชวัง หลังจากที่ร่วมเหล่าสนมน้อมส่งเสด็จไปแล้วก่อนหน้านี่ ณ ท้องพระโรง

“เจ้าก็ดูแลตัวเองด้วยนะ คาเซีย”สุรเสียงของพระองค์บ่งบอกถึงความห่วงใยที่มีต่อพระชายาผู้เป็นที่รักยิ่งนัก พระหัตถ์แกร่งลูบไล้พระพักตร์งามของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ถ้ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้น เจ้าต้องรีบส่งข่าวให้ข้ารู้นะ รู้ไหม”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”รอยยิ้มอ่อนหวานคลี่ส่งให้พระองค์พร้อมกับคำมั่นสัญญา

“ข้าจะรีบไปรีบกลับนะ คาเซีย”พระกรแกร่งโอบรั้งร่างบอบบางเข้ามาแนบชิดกับพระวรกาย นาสิกโด่งรั้นสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนเกศานุ่ม

“รักษาพระวรกายด้วยนะพะยะค่ะ”องค์ชายตรัสเสียงเบา “เมื่อเสด็จกลับมาแล้ว กระหม่อมมีเรื่องจะทูลต่อพระองค์ ตามสัญญา”

“ข้าจะรีบกลับมาฟังคำของเจ้า คาเซีย”

องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จขึ้นรถม้าที่ประทับก่อนที่ขบวนเสด็จจะออกนอกพระราชวังไป

พระเนตรหวานทอดมองขบวนเสด็จที่เดินทางไปจนสุดสายตา แล้วจึงเสด็จกลับไปยังห้องทรงอักษร เพื่อสะสางราชกิจ... ตามหน้าที่ ที่ได้รับมา

“ฝ่าบาท... เช่นนี้จะดีแล้วหรือพะยะค่ะ”เซทเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารที่ตนไม่ชอบ “ทรงแน่พระทัยแล้วหรือว่าการปิดบังไว้เช่นนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”

“มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เซท”พระหัตถ์เรียวลูบไล้พระอุทรแบนราบแผ่วๆ “เราทิ้งโซเทเรียไปไหนไม่ได้หรอก ในเวลานี้น่ะ... เขาตั้งครรภ์ลูกของเราห้าเดือนครึ่งแล้วนะ”

“องค์ชาย...”เซทอยากจะหาคำมาเอ่ยค้าน แต่เขาพูดไม่เก่งเหมือนคนอื่นๆ จึงได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ “ความจริงแล้วถ้าบอกองค์ราชาไป อย่างน้อยพระองค์ก็น่าจะส่งทหารมาคุ้มกันองค์ชายเอาไว้บ้างนี่พะยะค่ะ”

“ทหารพวกนั้นจะมีความสามารถเท่าพวกเราเช่นนั้นหรือไง หืม...”แม้จะแผ่วเบาเพียงใด แต่สำหรับผู้ที่ถูกฝึกมาอย่างดีดังเช่นองค์ชายย่อมได้ยินเป็นธรรมดา

“ถึงจะไม่ได้มีความสามารถเทียบเท่า แต่ก็ยังดีกว่าที่เป็นอยู่นี้นะพะยะค่ะ”เซทแย้งขึ้นทันที “ยิ่งในเพลานี้กระหม่อมไม่สามารถปกป้องพระองค์ได้อย่างเต็มที่เช่นนี้ด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่พวกเรา... ก็พอแล้ว... พอแล้วจริงๆ”องค์คาเซียตรัสเสียงแผ่วเบา พระเนตรพอแสงหม่นหมอง “ทุกอย่างไม่แน่นอน... เราต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้สิ เซท”

“...พะยะค่ะ องค์ชาย”เซทไม่อาจจะหาคำมาโต้เถียงกับองค์ชายของเขาได้อีก
ทั้งสองนั่งทำงานกันอย่างขะมักเขม้น มือเรียวเขียนตัวอักษรอยู่แทบจะตลอดเวลา ดวงตาทั้งสองคู่ไม่ละสายตาจากเอกสารตรงหน้าเลยแม้เพียงวินาที

ผ่านมาหนึ่งเดือน... ในทุกๆวันขององค์ชายและเซทช่วยกันสะสางงานมากมายที่ถูกส่งมาทุกๆวัน เวลาพักผ่านของพวกเขาน้อยลงเรื่อยๆ จนคนรอบข้างเริ่มเห็นถึงความผิดปกติของทั้งสอง

สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์นั้นสมควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอต่อร่างกาย แต่องค์คาเซียและเซทนั้นแทบจะไม่มีเวลาผ่อนคลายตนเอง...

โดยเฉพาะองค์ชายที่นอกจากจะต้องสะสางฎีกาจำนวนมากแล้วยังต้องเข้าร่วมประชุมแทบทุกเช้าและเย็นของแต่ละวัน

“พระชายาพะยะค่ะ”มหาเสนาธิการฝ่ายขวาก้าวเดินเข้ามาในห้องทรงอักษร “ช่วงนี้พระองค์ทรงงานหนักไปหรือเปล่าพะยะค่ะ”

“เราก็ทำงานปกติ... ไม่ได้หนักกว่าวันก่อนๆนิ ท่านมหาเสนาฝ่ายซ้าย”พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมาจากกองเอกสาร “ทำไมหรือ...”

“พระองค์ทรงดู... เหนื่อยล้า”จริงๆมหาเสนาอยากจะบอกว่าพระชายาดูซูบซีด ไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเหมือนอย่างที่เคย...

“งั้นหรือ...”ไม่ใช่ว่าพระองค์จะไม่รู้องค์เอง ว่าในเวลานี้พระองค์ดูอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรง... แม้พระองค์จะทรงต้องการพักผ่อนให้มากกว่านี้เมื่อสายพระโลหิตในพระครรภ์ แต่ก็มิอาจเป็นไปได้ ด้วยงานที่ทรงติดพันอยู่

“กระหม่อมว่าพระชายาน่าจะพักผ่อนหน่อยนะพะยะค่ะ”มหาเสนาเอ่ยอย่างเป็นห่วง “ถึงราชกิจจะมากมาย แต่พระวรกายของพระองค์ก็เป็นสิ่งสำคัญนะพะยะค่ะ”

“ถ้าเราไม่จัดการ มันก็จะเพิ่มพูนมากขึ้น”

“กระหม่อมและเหล่าเสนาขอจัดการบางส่วนเองพะยะค่ะ ขอได้โปรด พระชายาทรงพักบ้างเถิด”เสียงทุ้มพูดอย่างเฉียบขาด แม้คำที่เอ่ยนั้นดูเหมือนจะเป็นคำขอร้อง แต่น้ำเสียง... บ่งบอกได้ว่าเป็นคำสั่งที่ต้องปฏิบัติ “องค์เหนือหัวคงมิทรงโปรดนักที่พระชายาจะทรงทรมานพระวรกายเฉกเช่นนี้...”

“เรา...”องค์ชายจะเอ่ยค้าน แต่โดนสายตากดดันของคงตรงหน้าจ้องมองอย่างกริ้วโกรธ “เราฝากด้วยแล้วกันนะ... ท่านเสนา”

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”

หลังจากวันนั้น... องค์ชายคาเซียก็ทรงได้พักผ่อนในพระตำหนัก เช่นเดียวกับเซท สร้างความสบายอกสบายใจให้กับสองนางกำนัลและหนึ่งองครักษ์ที่อยู่ประจำตำหนักเป็นอย่างยิ่ง

องค์ชายทรงนักเล่นหมากรุกกับเรฟ โดยมีพระชายาของพระองค์ประทับอยู่เคียงข้าง เหล่านางกำนัลนั่งดูอยู่ใกล้ๆ

“มั่นใจเหรอที่จะเดินมาช่องนั้นน่ะ เรฟ”รอยยิ้มแห่งชัยชนะฉาบขึ้นบนพระพักตร์งาม “รุก!”

“โอ๊ะ... องค์ชาย... มิทรงยั้งมือเลยนะพะยะค่ะ”เรฟยู่ปากน้อยๆ สีหน้าของเขาครุ่นคิดอย่างหนัก

“คิดให้ดีก่อนเดินสิ”สันหนังสือเล่มหนาประทับเบาๆที่ไหล่แกร่งโดยฝีมือของคนรัก “หัดสังเกตซะบ้างนะ เรฟ แบบนี้ แพ้แน่ๆ ไม่ต้องสงสัย”

“เซทอ่า... ข้าไม่ได้ถนัดด้านการคิดเหมือนเจ้าสักหน่อย”

“อย่ามาแก้ตัวน้ำขุ่นๆนะ”

ทั้งสองถกเถียงกันเบาๆ ตั้งแต่ที่เซทตั้งครรภ์นั้น เขาก็เริ่มพูดจามากขึ้นกว่าเดิม... และถกเถียงกับผู้ที่ได้ชื่อว่าสามีของเขาบ่อยครั้ง

“ไม่เอาน่า... ไม่ต้องเถียงกันหรอก”องค์ชายตรัสห้าม “มันไม่ดีนะ... จริงไหม โซเทเรีย”

“อื้ม การทะเลาะกันไม่ดีหรอก”องค์ชายโซเทเรียรับคำของพระสวามีเสียงใส

องครักษ์ทั้งสองกำลังจะหันมาขานรับ... แต่ก็มีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในวันที่แสนสุขนี้เข้ามาเยือนเสียก่อน...

“พระชายาคาเซีย”เสียงของนางสนมแห่งองค์ทริสเซย์ดังขึ้น “พวกเรามีเรื่องจะสนทนากับพระองค์... จะทรงมีเวลาให้พวกหม่อมฉันไหมเพคะ”

“ว่ามาสิ...”องค์ชายทรงตรัสแผ่วเบา ในขณะที่พระเนตรยังคงจับจ้องตัวหมากในกระดานอยู่ “ว่ามาสิ ข้ารอฟังพวกเจ้าอยู่...”

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงพูดแล้วไม่มองหน้าพวกข้า”พระสนมนางหนึ่งกระชากเสียงถามร่างเล็ก

พระพักตร์งามเงยขึ้นช้า ๆ พระเนตรหวานหรี่ลงเล็ก ๆ องค์ชายทรงจ้องมองพระสนมนางนั้นด้วยสายพระเนตรเย็นชา

“พระองค์มีสิทธิ์อันใดมาขึ้นเสียงใส่พระชายา”เนลเอ่ยถามเสียงนิ่ง

“ข้าเป็นพระสนมของฝ่าบาท อีกทั้งยังเป็นเจ้าหญิงแห่งโครเซเนีย”นางเชิดพักตร์อย่างทระนงตน

“เป็นถึงองค์หญิง... ไม่เคยศึกษาเรื่องมารยาทหรืออย่างไรเพคะ”

“เจ้า!!”

“อย่านำมารยาทต่ำทรามมาใช้ในราชวังสิเพคะ”

“แก...”พระสนมทอดมองนางกำนัลอย่างกริ้วโกรธ “เป็นแค่นางกำนัลชั้นต่ำ มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้า!”

“ถึงหม่อมฉันเป็นนางกำนัล หม่อมฉันก็ได้รับการอบรมให้เรียนรู้เรื่องภายในราชวังมาแต่เล็กนะเพคะ”ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มบาง “อย่างน้อยหม่อมฉันก็ทราบว่าอะไรควร ไม่ควร และยังทราบอีกว่าตำแหน่งของผู้สำเร็จราชการแผ่นดินนั้นเหนือกว่าพระสนมปลายแถวยิ่งนัก”

“เจ้า!!!”ครานี้มิใช่เพียงแค่เสียงเดียว แต่พระสนมทุกพระองค์ดังขึ้นพร้อม ๆ กัน

“พระชายาคาเซีย... พระองค์สมควรจะดูแลนางกำนัลในปกครองของพระองค์บ้างนะ ให้รู้บ้างว่าใครสูง และใครต่ำ”

“เนล...”เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา “เจ้าอย่าเพิ่งบีบให้พวกนางจนตรอกสิ... เรายังไม่ได้เอ่ยอะไรเลยนะ”

“เพคะ พระชายา...”เนลเอ่ยรับก่อนจะถอยกายกลับเข้าที่ของนางเพื่อเปิดทางให้แก่ผู้เป็นนายได้ลงมือเอง...

“เอาล่ะ”วรกายที่เอนพิงพระเขนยอิง ค่อย ๆ ขยับขึ้นมาพระทับตรง “นางกำนัลของข้าเอ่ยอันใดผิดเช่นนั้นหรือ... พระสนม”

“นางดูหมิ่นพวกข้าเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นการเสียมารยาทเช่นนั้นหรือเพคะ”พระสนมเมเรป กล่าวด้วยความใจเย็น

“ตรงไหนที่นางดูหมิ่นพวกเจ้าเช่นนั้นหรือ...”องค์ชายทรงเลิกพระขนงน้อยๆ “นางบอกว่าผู้สำเร็จราชการเป็นตำแหน่งสูง ก็ถูก นางได้รับการอบรมมาแต่เล็ก ก็ถูกอีก และนางก็มิได้อ้างอิงถึงผู้ใดแม้เพียงสักคน หรือเจ้าว่าไม่จริงล่ะ... หืม”

“แต่มันเป็นการเสียมารยาท นางกำนัลมาเอ่ยขัดการสนทนาของพระชายากับพระสนมเช่นนี้ มีอย่างที่ไหนกัน”นางโต้เถียงกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้

“การที่นางปกป้องเราเป็นเรื่องที่ผิดเช่นนั้นหรือ”องค์คาเซียตรัสเสียงนุ่มๆ พระเนตรหวานประกายแววกรุ่นโกรธชั่ววินาที “กับการที่พวกเจ้ายกพวกกันมาในตำหนักแห่งนี้ พูดจากระชากเสียงใช่เรา นี่หรือคือมารยาทที่เจ้าหญิงพึงมี”

“เอ่อ...”เหล่าสนมอับจนคำพูด ด้วยความที่ทุกสิ่งที่พระชายาตรัสออกมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด

“พวกเจ้ามีอะไรก็ว่ามา”

“หม่อมฉันขอทูลถามพระชายาตรงๆนะเพคะ”พระสนมเมเรปผู้กล้าหาญเป็นตัวแทนของสนมทั้งมวลเอ่ยขึ้นมา “เหตุใดพระชายาจึงรั้งฝ่าบาทให้อยู่เคียงข้างพระองค์เพียงผู้เดียว...”

“เจ้าควรจะไปถามฝ่าบาทเองมากกว่ามาถามเรา... ว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงมิเสด็จไปหาพวกเจ้าเช่นนี้”พระองค์ตอบกลับด้วยสุรเสียงนิ่งๆ “และเรามิเคยฉุดรั้งฝ่าบาทเอาไว้ข้างกายแม้เพียงเสี้ยววินาที”

“เจ้าร่ายมนต์อะไรใส่ฝ่าบาท พระองค์ถึงคำนึงหาแต่เจ้า ให้เจ้าอยู่ข้างพระวรกายไม่ห่าง”พระสนมอีกคนเอ่ยถามขึ้นบ้าง ดวงตาของนางฉายแววริษยาอย่างมิปิดบัง

“มนต์อย่างนั้นหรือ...”เสียงหวานทวนคำเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มบางเบา “จำเป็นต้องมีเวทมนต์เช่นนั้นหรือ ฝ่าบาทถึงจะมาสนใจในตัวใครสักคน”

“...”ไร้ซึ่งเสียงโต้ตอบจากพระสนม

“กลับไปมองตัวเองให้ดี พิจารณาให้ถี่ถ้วน ว่ามันเป็นเพราะเหตุใด ฝ่าบาทจึงไม่เสด็จไปหาพวกเจ้า”องค์ชายตรัสเสียงเย็นชาก่อนที่จะทรงเอนกายพิงพนักเก้าอี้ดังเดิม “พวกเจ้าตั้งใจมาหาเรา เพราะเรื่องนี้โดยเฉพาะเช่นนั้นหรือ”

“เพคะ พระชายา”

“แน่ใจ”พระองค์หรี่พระเนตรจับจ้องพระสนมอย่างจับผิด

“แน่ใจเพคะ พระชายา”พระสนมเมเรปรับคำอีกรอบ “เช่นนั้นพวกหม่อมฉันทูลลาเพคะ”

“เชิญ”

เหล่าพระสนมพากันออกจากพระตำหนัก ท่ามกลางความสงสัยของคนภายในตำหนักแห่งนี้

ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

พระสนมทั้งหลายพากันไปตำหนักบัตเตอร์คัพหลังจากเสด็จออกมาจากตำหนักใหญ่แล้ว

“เรื่องที่นางกำนัลพวกนั้นพูดมันจะเป็นจริงเช่นนั้นหรือ”

“จากที่ข้าเห็น พระชายามิเห็นมีอาการผิดแปลกไปจากปกติเท่าไหร่นักเลย แค่อ่อนเพลียกว่าปกติก็เท่านั้นเอง”

“เราคงต้องรอดูต่อไปก่อนล่ะ”

พระสนมหลายพระองค์สนทนากันอย่างเคร่งเครียด แต่ก็ไม่อาจหาข้อสรุปในปัญหาที่ว่า...

‘พระชายาคาเซียในองค์ราชาทริสเซย์... ตั้งพระครรภ์ใช่หรือไม่’

++++++++++++++++++++

เอ... มีใครคิดถึง 'เสด็จพี่เฮเซีย' ผู้แสนดีบ้างไหมคะ?

เขากำลังจะกลับมาแล้ว... ในอีกไม่ช้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-04-2012 19:31:56
สุขสันต์วันสงการนต์นะคะ อย่าลืมไปทำบุญกันด้วยน้า~
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 13-04-2012 19:41:50
 :z13:

พวกพระสนมเริ่มสงสสัยแล้ว!!

คาเซียสู้ๆ!!  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-04-2012 19:57:53
ไม่เอามาม่าาาาา
อย่านะคะได้โปรดดดด
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 13-04-2012 23:10:47
เสด็จพี่เฮเซียจะมาแล้วววว :mc4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 14-04-2012 00:47:59
สนมพวกนั้นจะทำอะไรคาเซียนะถ้ารู้ว่าคาเซียท้อง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 14-04-2012 01:33:05
=w=
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-04-2012 01:52:07
นี่แค่เดือนเดียวเองนะ.... :เฮ้อ:

คาเซียสู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 14-04-2012 02:14:54
คาเซียสู้ๆนะ!!

รอติดตามตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 14-04-2012 11:52:01
อัยย๊ะ มาหาเรื่องถึงตำหนักเลยแฮะ คาเซียสู้สู้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 15-04-2012 00:24:00
น่าสงสารคาเซียพิลึก

สาธุเจ้าพวกสนมแพ้ภัยตัวเองไปซะ!! :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 15-04-2012 07:39:03
คาเซียสู้ๆ :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 15-04-2012 14:49:28



  ฝ่าบาทเดินทางไปไม่เท่าไหร่ก็เริ่มมีมารมาผจญแล้วววว




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่23 P.7 R.196]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2012 16:30:04
บทที่ 24
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ลอบสังหาร

หลังจากวันที่เหล่าสนมบุกเข้ามาหาเรื่ององค์ชายคาเซียเมื่อเดือนก่อน ความสงบสุขก็กลับคืนมาสู่ตำหนักโพรเทียเรื่อยมา

ราชกิจที่ถูกสั่งห้ามแตะต้องอย่างเด็ดขาดในช่วงอาทิตย์แรกโดยมหาเสนาบดี ได้กลับมาสู่อ้อมแขนของผู้สำเร็จราชการแล้ว แต่เพียงแค่ส่วนหนึ่ง... ด้วยเหตุที่ว่า

‘ถ้าพระชายานำราชกิจทั้งหมดไปสะสางดังเดิม สภาพของพระองค์ก็จะมิแตกต่างอะไรจาก 7 วันก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น ทรงทำเพียงส่วนเดียวก็พอแล้ว ในส่วนที่เหลือ พวกข้าจะจัดการเอง’

ถึงแม้จะได้งานราชกิจกลับมาเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ก็สามารถทำให้พระองค์หายเบื่อไปได้บ้าง ด้วยความเคยชินของพระองค์ที่จะมีอะไรทำสักอย่าง...

“เอ... สองเดือนที่ผ่านมาไม่ทรงรู้สึกแพ้ท้องเหรอพะยะค่ะ”เฮลเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่ผ่านมาสามเดือนเศษ... แต่ดูท่าทางขององค์ชายยังทรงปกติ ไม่มีอาการใดๆเหมือนดั่งที่ผู้ตั้งครรภ์สี่เดือนครึ่งควรจะเป็น

“ไม่นิ เราไม่รู้สึกคลื่นไส้ หรือรู้สึกแปลกๆแม้แต่น้อย”องค์ชายคาเซียทรงหันมาตอบหมอประจำกายด้วยรอยยิ้ม เฮลหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่พระพักตร์ของพระองค์ดูสดใสจริงๆ มิได้ฝืนเลยแม้แต่น้อย

“มันดูผิดปกติไปหน่อยนะพะยะค่ะ...”นิ้วเรียวของหมอหนุ่มเคาะโต๊ะเบาๆ “ถ้าเป็นเช่นนี้... เป็นไปได้ว่าฝ่าบาทจะทรงแพ้ท้องแทนพระองค์”

“เอ... คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอก เฮล”พระองค์ตรัสเบาๆ “จะมีเหตุผลอันใดที่ฝ่าบาทจะทรงมาแพ้ท้องแทนเรา... เราเป็นแค่เพียงข้ารับใช้ของพระองค์คนนึงเท่านั้นนะ”

พระหัตถ์เรียวเขียนแผนงานแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืชให้กับประชาชนไปด้วย ตรัสไปด้วย พระเนตรหวานหลุบลง ไม่สบกับผู้ใด... เป็นสัญญาณพระองค์ทรงรู้สึกหมองเศร้า

“องค์ทริสเซย์ทรงรักพระองค์ไม่น้อยไปกว่าที่พระองค์ทรงมอบดวงหฤทัยให้กับฝ่าบาทนะเพคะ”เรลเอ่ยแย้งขึ้น นางทราบดีแล้วว่าองค์ราชานั้นทรงรักองค์ชายของนางมากเพียงไร ถึงแม้จะมิได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง แต่พระองค์ก็ทรงส่งจดหมายมาถามข่าวคราวขององค์ชายจากนางเสมอ แต่ถึงกระนั้น... นางก็มิเคยหลุดบอกพระองค์ไปว่าองค์ชายทรงตั้งพระครรภ์หรอกนะ...

ให้พระองค์รู้จากองค์ชายเอง... น่าดูกว่าเป็นไหนๆ

“ช่างเถอะ... แล้วเซทล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง หกเดือนแล้วนะ”พระองค์หันไปถามองรักษ์ประจำพระองค์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก

“กระหม่อมแข็งแรงดีพะยะค่ะ”เซทตอบรับกลับมาเบาๆ ในขณะที่ยังเพ่งแผนที่ในมืออยู่อย่างเคร่งเครียด จนเรฟต้องมาดึงเอาแผนที่นั้นออกจากมือ

“แข็งแรงงั้นเหรอ... กลางคืนก็ไม่ยอมนอน กลางวันก็ไม่ยอมพักผ่อน แบบนี้จะเรียกยังไงว่าแข็งแรง”เรฟกัดฟันพูดอย่างกริ้วโกรธ “ไปพักเดี๋ยวนี้ เซท”

“ข้ายังต้องทำงาน...”

“มานอนซะ เซท”องค์ชายคาเซียทรงตรัสเสียงนิ่ง พระดัชนีเรียวชี้ไปที่พระแท่นของพระองค์เอง “ไปนอนซะ นอนที่นี่แหละ เราจะได้เห็นกับตาว่าเจ้าพักผ่อนจริงๆ”

“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”เซทขานรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่างอวบๆเดินอุ้ยอ้ายปีนขึ้นเตียงไปนอนโดยดี

“หกเดือนแล้ว... ดูแลตัวเองดีๆหน่อยเถอะ เซท”เรฟทำหน้าบึ้งใส่คนรักขณะที่ห่มผ้าให้ “หลับตาลง แล้วนอนซะนะ...”

เซทหลับตาลงอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะผล็อยหลับไป

“คาเซีย...”เสียงใสๆขององค์ชายโซเทเรียดังขึ้นหลังจากที่เฮลกลับออกไปได้พักหนึ่ง “ได้พักผ่อนบ้างไหมเนี่ย...”

“ได้สิ... เนลกับเรลคอยเคี่ยวเข็ญให้เรานอนอยู่ตลอดนั่นแหละ โซล”พระกรเรียวโอบรัดร่างของพระชายาแห่งตนเอาไว้ในอ้อมพระกรหลวมๆ ร่างของพระชายานั่นประทับอยู่บนพระเพลาของพระองค์ ตามที่พระองค์ประสงค์ “โซลเถอะ เป็นไงบ้างหืม ได้พักผ่อนบ้างไหน”

“โซลก็นอนทั้งวันแหละ ไม่ได้มีงานอะไรสักหน่อย”องค์ชายโซเทเรียตอบกลับเบาๆ

“น่า... โซล เจ็ดเดือนครึ่งแล้วนะ... อีกไม่ถึงสองเดือนเราก็จะได้เห็นหน้าของลูกแล้ว”

ทั้งสองพระองค์สนทนากันไปเรื่อยๆ องค์ชายคาเซียทรงวางพระหัตถ์จากราชกิจทั้งหมดมาทุ่มเทเวลาที่พอมีให้กับพระชายา

จนถึงเวลานี้... พระหฤทัยของพระองค์มิเคยมีสักวินาทีที่จะบอกว่ารักร่างตรงหน้า แต่ทุกอย่างมันสั่งการให้พระองค์ต้องดูแลให้ดีที่สุด... เท่าที่พี่ชายคนหนึ่งจะทำให้กับน้องได้

ในเบื้องลึกของดวงหทัยขององค์ชายโซเทเรียเริ่มร่ำร้องออกมา ว่าแท้จริงแล้ว พระองค์นั้นมิได้รักองค์ชายคาเซียในฐานะของคนรัก... แต่พระองค์รักองค์ชายในฐานะของพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง... แต่พระองค์ยังขอหลอกตัวองค์เองว่ายังรัก... พระสวามีหมดดวงหฤทัย

ในเวลานี้ทุกๆอย่างมันพันธนาการคนทั้งคู่ไว้อย่างแน่นหนา... ยากที่จะพรากจาก แม้จะมิได้มีความรักให้แก่กัน แต่ก็จะต้องคู่เคียงคู่กัน... ต่อไป

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปจนฟ้ามืด... และจะมีต่อไปเรื่อยๆถ้ามิใช่ว่ามีเสียงแปลกปลอมเล็ดลอดเข้ามาให้พระกรรณขององค์ชายนักปราชญ์ผู้นี้

“ชู่ว์...”องค์ชายคาเซียส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียงลง “ไปอยู่ที่เตียงก่อนนะ.. โซล”
องค์ชายโซเทเรียพาร่างอันอ้วนท้วมของพระองค์มาประทับบนพระแท่นโดยดี พระเนตรหวานมองพระสวามีอย่างเป็นกังวลพระทัย

องค์ชายคาเซียทรงคว้าพระแสงดาบประจำพระองค์เข้าสู่พระหัตถ์ ก่อนที่จะทรงชักออกมาในท่าเตรียมพร้อมต่อสู้
สองนางกำนัลน้อยต่างคว้าดาบของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อม เรฟก็เช่นกัน

เซทลืมตาตื่นขึ้นจากนิทรา เขาพยุงร่างของตนพิงหัวเตียง แล้วหยิบดาบของตนมาไว้ในมือ ก่อนจะพยักหน้ารับสารที่สื่อมาจากสายตาของคนรัก

‘ถ้าไม่ถึงที่สุด... อย่าลุกขึ้นมาต่อสู้เป็นอันขาด’

“เรฟ... ปกป้องโซเทเรียและเซท เนล เรล เตรียมพร้อม”องค์ชายตรัสแผ่วเบา

“เพคะ/พะยะค่ะ”สองนางกำนัล หนึ่งองครักษ์เข้าประจำที่ของตน

ดวงตาของคนทั้งหมดในห้องบรรทมแห่งนี้จับจ้องไปที่บานทวาร ในเวลานี้พวกเขาทุกคนพร้อมแล้วที่จะจัดการกับผู้บุกรุกที่ไม่อยากจะต้อนรับ

ชายในชุดคลุมสีดำปิดหน้ากรูกันเข้ามาในห้องบรรทมจำนวนไม่น้อย...

“พวกเจ้าเป็นใคร!!”องค์ชายทรงตรัสถามน้ำเสียงเรียบเฉย พระเนตรของพระองค์วาวโรจน์ไปด้วยความกริ้วโกรธอย่างที่มิเคยมาก่อน

“พวกข้าเป็นใครไม่สำคัญ... รู้แค่ว่าพวกข้าจะมาเก็บพวกเจ้าก็พอ”

สิ้นเสียงพูดของชายชุดดำที่คาดว่าเป็นหัวหน้าทีม เปรียบดั่งระฆังแห่งการเริ่มต้น

สำหรับคนที่มีฝีมือพอตัวเพียงแค่สิบคน ถ้าเป็นเวลาปกติ นางกำนัลทั้งสองและเรฟก็เอาอยู่ แต่ในเวลานี้พวกของพระองค์เสียเปรียบไม่น้อย เมื่อต้องคอยปกป้องผู้มีครรภ์ถึงสองคนในเวลาเดียวกัน...

ยังไม่นับสายพระโสหิตในพระครรภ์ของพระองค์เองด้วย

องค์ชาย เนล และเรลพุ่งเข้าโรมรันกับร่างตรงหน้า ส่วนเรฟคอยเป็นทัพหลังที่รับมือกับคนที่หลุดรอดมาจากทั้งสาม ดาบเรียวเปื้อนโลหิตที่สาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง แต่ก็ยังมิมีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร

ถ้ายอมตอนนี้... หมายถึงชีวิตของทุกคน

องค์ชายคาเซียทรงรับศึกหนักเมื่อต้องรับมือกับผู้ลอบสังหารถึงสามคนในเวลาเดียวกัน คมดาบฟาดฟันเข้าที่ร่างของบุรุษตรงหน้าอย่างไร้ซึ่งปรานี พระองค์ทรงสังหารคนตรงหน้าอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

สองสาวในที่นี้ก็รับศึกหนักไม่แพ้กับ เมื่อพวกนางต้องรับมือกับชายร่างสูงใหญ่ถึงหกคน แต่ถึงกระนั้น แทนที่พวกนางจะเกรงกลัว แต่กลับรู้สึกสนุกสนานเสียมากกว่า

“เอาแบบไหนดีค่ะ พี่”

“เจ้าสาม พี่สาม ไม่ได้ลุยมานาน ขอสักทีก็ไม่เลวหรอกนะ”

ใครที่ปรามาสไว้ว่าสตรีนั้นอ่อนแอ จงลบความคิดนั้นทิ้งไปซะ... สตรีนั้นมีพลังอันลึกลับซ่อนอยู่ภายในตัว ดังเช่นสองพี่น้องคู่นี้... ยามใดที่พวกนางรู้สึกกระหาย ยามนั้น... พวกนางจะไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น ผู้ที่จะสามารถห้ามพวกนางได้มีเพียงองค์ชายผู้เป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น

พวกนางทั้งสองเหวี่ยงดาบเข้าฟาดฟันกับศัตรูตรงหน้า เลือดสีสดไหลรินจากบาดแผลที่ถูกพวกนางฟัน แทง เรียกความกระหายเลือดของนางทั้งสองได้เป็นอย่างดี

“อ่า... มันเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน”เรลครางเบาๆ ขณะที่ตวัดดาบเฉือนเนื้อของผู้บุกรุกทีละแผลๆ เรียกเลือดให้หลั่งไหลอกกมา “ช่างน่าเสียดายที่ไม่มีเวลาให้มานั่งเล่นมากนัก”

ผู้ลอบสังหารคนสุดท้ายประจันหน้ากับเรฟ พวกเขาจ้องตากันสักพักก่อนที่จะโถมร่างเข้าหากัน

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งไปทั่ว ผู้บุกรุกบาดเจ็บสาหัสแล้วเริ่มหลบหนีการโจมตี ในขณะที่ฝ่ายขององค์ชายได้รับบาดแผลกันคนละนิด คนละหน่อย

“ถ้าพวกเจ้ายอมบอกข้ามาดีๆว่าใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามา ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า... ทั้งยังให้ที่อยู่และหมอมารักษาพวกเจ้าด้วย”องค์คาเซียตรัสอย่างเย็นชา

เหล่าผู้บุกรุกหันไปมองหน้ากันและกัน เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของเพื่อนพ้องที่มาด้วยกันแล้ว... ทุกคนต่างตัดสินใจที่จะทิ้งดาบในมือลง ยอมศิโรราบโดยดี

“เราได้รับการว่าจ้างจากขุนนางคนหนึ่งในอาณาจักรเตทาเนียให้มาจัดการเก็บพวกท่านซะ... เพียงเท่านั้น”ผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มลอบสังหารนี้ตอบองค์ชายอย่างสัจจริง

“แน่ใจว่ามีเพียงเท่านี้”พระองค์หรี่พระเนตรลงอย่างจับผิด ขณะที่เนลกับเรลพากันไปตรวจค้นอาวุธของกลุ่มคนตรงหน้า

“พะยะค่ะ มีเพียงเท่านี้จริงๆ”ชายทั้งสิบขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง

องค์ชายคาเซียทรงเม้มพระโอษฐ์เล็กน้อยอย่างครุ่นคิด

“เฮล... เรารู้ว่าเจ้ายังอยู่แถวนี้ เจ้าพาพวกเขาออกไปจากที่นี่ เอาพวกเขาไปรักษา แล้วให้ที่พักพิงแก่พวกเขาและครอบครัวด้วย”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”เฮลโผล่หน้าเข้ามาในพระตำหนักอีกครั้ง พร้อมกับนายทหารในกองทัพส่วนพระองค์อีกสิบนาย “เก็บกวาดให้เรียบร้อยล่ะ”

นายทหารทั้งสิบคนนั้นเก็บกวาดห้องบรรทมให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งร่อยรอยอันใดเอาไว้เลยแม้เพียงน้อย ก่อนที่พวกเขาจะพากันหลบออกจากพระราชวังไป

ระหว่างนั้นองค์ชายและทุกๆคนต่างพากันไปชำระร่างกายเสียใหม่ เพื่อล้างกลิ่นคาวเลือดที่ติดกายออกไป

“มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป...”เสียงหวานพึมพำแผ่วเบา พระเนตรกลมโตเหล่มองพระชายาที่ประทับบนพระแท่นนิ่ง “โซล... เจ้ากำลังกลัวใช่ไหม”

“อืม... คาเซีย... ข้ากลัว”องค์ชายโซเทเรียตอบรับอย่างไม่ปิดบัง

องค์ชายคาเซียโอบกอดต่างที่สั่นเทาเอาไว้ในอ้อมพระกรอย่างอ่อนโยน

“ซัค”นามของคนผู้หนึ่งถูกขานออกมาจากพระโอษฐ์งาม “ไปบอกองค์ชายรัชทายาทเฮเซีย... ให้เสด็จมารับพระชายาแห่งเราไปพำนักยังเซเรียล”

“พะยะค่ะ”เสียงทุ้มตอบรับแผ่วเบา

“คาเซีย...”องค์ชายโซเทเรียช้อนพระเนตรขึ้นมองพระองค์อย่างตื่นตระหนก

“ไปอยู่ที่เซเรียลก่อนนะ... โซล จนกว่าที่นี่จะปลอดภัย”เสียงหวานกระซิบเบาๆ “วันนี้เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว... นอนเสียเถอะ คนดี”

หลังจากที่พระชายาของพระองค์บรรทมไป องค์ชายก็ทรงหันวรกายไปที่พระบัญชรใหญ่

“ถ้าประสงค์ดีก็โปรดจงออกมาพบกับเรา... แต่ถ้าประสงค์ร้าย ขอจงรีบไปจากที่นี่ซะ ก่อนที่เราจะจับท่านได้”พระองค์ตรัสเสียงเย็น

“ข้ามาดี...”เสียงทุ้มหวานของบุรุษดังขึ้น ขณะที่ร่างสูงโปร่งค่อยๆเดินออกมา

“ท่านคือ...”

“เราเป็นเชษฐาของทริสเซย์ นาม เคเซย์”

“ถวายบังคมองค์ชายเคเซย์พะยะค่ะ”องค์ชายคาเซียทรงน้อมพระวรกายลงอย่างสง่างาม

“เรามาที่นี่ เพียงแค่อยากเห็นหน้าของ... ว่าที่น้องสะใภ้เราเสียหน่อย”พระหัตถ์เรียวเชยพระพักตร์หวานขึ้น “อืม... งดงามไม่น้อย ทั้งองอาจ กล้าหาญ สมแล้วที่จะขึ้นเป็นพระแม่แห่งเฟรนเซีย”

“พระองค์ทรงตรัสเรื่องอะไรน่ะพะยะค่ะ”องค์ชายตรัสถามเสียงสั่น

“เรารู้เรื่องของเจ้าแล้ว... คาเซีย เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องของเจ้าสมควรที่จะได้รับการพักผ่อนแล้วนะ...”

“แต่...”

“ไม่มีแต่... ข้ามีศักดิ์เป็นพี่เขยเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าต้องฟังคำของข้า”องค์ชายเคเซย์ตรัสเสียงอบอุ่น “ไปนอนได้แล้ว ที่รัก”

“กระหม่อมยัง...”

“ไม่ต้องห่วง... ข้าจะดูแลทุกอย่างให้เจ้าเอง.... เมื่อองค์รัชทายาทแห่งเซเรียลเสด็จมารับพระชายาของเจ้า... ข้าจะตามไปดูแลเขาให้ ข้าสัญญา”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”

องค์ชายคาเซียทรงยอมเสด็จเข้าบรรทมโดยดีและมิขัดขืนอะไรอีก เรียกรอยยิ้มให้กับองค์เคเซย์ได้เป็นอย่างดี

“เป็นเด็กดีแบบนี้สิ สมเป็นน้องสะใภ้ของข้า”

+++++++++++++++

ยามสายของวันถัดมา องค์ชายเฮเซียก็ทรงเสด็จมาถึงเซเรียล พร้อมด้วยทหารองครักษ์ฝีมือดีจำนวนสองร้อยนาย

ที่คาดไม่ถึงในการเสด็จมาขององค์รัชทายาทแห่งเซเรียลครั้งนี้คือ... พระองค์พาองค์ชายโซเนล์เสด็จมาด้วย

“เสด็จพี่... คาเซีย”พระเนตรกลมโตช้อนขึ้นมองพระเชษฐาผู้เสียสละของพระองค์

พระเชษฐา... ที่พระองค์มิเคยรู้เลยว่าคอยปกป้อง คุ้มครองพระองค์อยู่เสมอมา ตั้งแต่พระองค์ยังเล็ก จนเติบใหญ่...

“โซเนล์...”องค์คาเซียครางเสียงแผ่วเบา พระเนตรจับจ้องร่างตรงหน้าด้วยความรัก ความเอ็นดู

“คาเซีย น้องจะให้พี่พาพระชายาโซเทเรียไปเซเรียลจริงหรือ”องค์ชายเฮเซียตรัสขัดขึ้น ก่อนที่บนสนทนาของทั้งสองจะเริ่มต้น

“พะยะค่ะ องค์ชาย...”องค์ชายคาเซียกอบกุมพระหัตถ์ของพระชายาแห่งพระองค์เอาไว้หลวมๆ “กระหม่อมขอฝากชายาของกระหม่อมเอาไว้ในการดูแลของเซเรียลด้วยนะพะยะค่ะ”

“น้องจะดูแลพระชายาเป็นอย่างดีพะยะค่ะ เสด็จพี่”องค์ชายโซเนล์เอ่ยรับคำ ก่อนที่องค์ชายรัชทายาทจะทรงตรัสอะไร
องค์ชายคาเซียทรงส่งพระชายาโซเทเรียให้กับพระอนุชา ก่อนที่จะหันมาคุยกับพระเชษฐาด้วยความเบาพระหฤทัย

ครั้นเมื่อพระหัตถ์ขององค์ชายโซเนล์แตะกับองค์โซเนล์ ทั้งสองพระองค์ก็เงยพระพักตร์ สบพระเนตรกัน

ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าในดวงหฤทัย ความรู้สึกที่ไม่สมควรก่อกำเนิดในหทัยส่วนลึกของทั้งสองพระองค์...

องค์ชายคาเซียทรงเหล่พระเนตรมามองอนุชาและชายา ก่อนที่จะทรงลอบยิ้มบางๆ

คงจะได้พบกับคู่ของชีวิตแล้วสินะ... น้องน้อยที่น่ารักของเราทั้งสอง

“ยังไงกระหม่อมก็ขอฝากโซเทเรียเอาไว้ด้วยนะพะยะค่ะ เสด็จพี่”องค์ชายคาเซียตรัสเบาๆ “แล้วก็... ขอฝากพระเชษฐาขององค์ทริสเซย์ด้วยนะพะยะค่ะ”

“อืม... ถ้ามีอะไรที่ทำให้น้องอึดอัด หรือมีอันตราย ขอเพียงน้องแจ้งมา พี่จะมาช่วยน้องทันที คาเซีย...”

“พะยะค่ะ”พระองค์ขานรับเบาๆ “เฟรุย... ฝากพระชายาด้วยนะ”

“เพคะ”

องค์ชายคาเซียทรงโอบกอดร่างของพระชายาหลวมๆ ก่อนที่จะส่งองค์โซเทเรียขึ้นรถม้าพระที่นั่งไป

“ถ้า... เจ้ามีใครในดวงใจ แล้วรักกับเขาคนนั้นไป... จงทำตามที่หัวใจของเจ้าเรียกร้อง โดยไม่ต้องคิดถึงข้า... จำไว้นะ โซเทเรีย”
เสียงกระซิบที่แผ่วเบา แต่ดังก้องในดวงหฤทัยของพระองค์ยิ่งนัก...

องค์ชายผู้สำเร็จราชการทรงยืนส่งรถม้าพระที่นั่งแห่งเซเรียลอยู่ ณ ที่ตรงนั้น จนรถม้าลับสายพระเนตรไป...

“นับจากวันนี้... เราคงจะมิได้เห็นองค์ชายโซเทเรียในพระราชวังแห่งนี้แล้วนะเพคะ องค์ชาย”เนลเปรยขึ้นน้อยๆ

“นั่นสินะ... นับจากวันนี้ โซเทเรีย คงจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป... ข้าหวังว่าพวกเขา... จะยอมรับสายโลหิตของข้าในพระครรภ์ของโซเทเรียเป็นพระราชนัดดาด้วยเถอะ...”

“แน่นอนเพคะ องค์ราชาและองค์ราชินีจะต้องยินดีกับการกำเนิดของสายพระโลหิตของพระองค์”
โซเทเรีย... หวังว่าเจ้าจะมีความสุขนะ... น้องชายที่น่ารักของเรา...

++++++++++++++++

... ไม่มีคำบรรยายใดๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 17-04-2012 16:43:24
อ่าว...หย่ากันแล้ว ?? =A= งะ อย่าบอกนะว่าลูกของคาเซีย ม่อง(ไม่แพ้ท้องงะ)
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2012 16:44:30
อ่าว...หย่ากันแล้ว ?? =A= งะ อย่าบอกนะว่าลูกของคาเซีย ม่อง(ไม่แพ้ท้องงะ)

ณ ตอนนี้ไม่ได้หย่านะ...

ไม่ม่องด้วยยยT^T
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 17-04-2012 16:55:18
>w< เค้าไม่รู้ (งงเนื้อเรื่องไปหน่อย) เปงกำลังใจให้(ลืมให้)
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2012 17:05:35
>w< เค้าไม่รู้ (งงเนื้อเรื่องไปหน่อย) เปงกำลังใจให้(ลืมให้)

รอบทต่อไป... แล้วจะหายมือค่ะว่าทำไมคาเซียไม่แพ้ท้อง

//แน่ะ เชื่อว่ามีคนเดาได้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 17-04-2012 17:30:45
 o13 :mc4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 17-04-2012 17:33:12
โดนยาที่สนมกรอก -0-!!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-04-2012 17:35:20
อ่า โซลจะได้คู่แล้ว อิอิ
ดีใจด้วย เมื่อไหร่ฝ่าบาทจะกลับมาเสียทีเนี่ย
อยากให้มาเร็วๆ เอ๊ะ หรือว่าไปแพ้ท้องแทนคาเซียอยู่แถวไหนแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-04-2012 17:35:36
อ่า  คิดถึงฝ่าบาทจังเลย กลับมาเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: eXcelencia ที่ 17-04-2012 17:42:49
O_O จบไปอีกคู่ หวังว่าจะมีความสุขนะ ><

มาลุ้นคู่เอกเรา มีท่าทีจะเจอเรื่องมิดีมิร้ายเข้าอย่างหนัก ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-04-2012 17:55:51
ดีจัง เหลือแต่จะทำงัยฝ่าบาทถึงจะรู้ว่าคาเซียท้องล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-04-2012 18:09:43
หนูโซลจะมีคู่แล้วชิมิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-04-2012 18:42:07
แล้วเมื่อไหร่ฝ่าบาทจะกลับมานะ

เดี๋ยวคาเซียจะโดนใครแกล้งอีก

 :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 17-04-2012 19:00:52
ฝ่าบาทแพ้ท้องแทนรึป่าวเนี่ย
แล้วเมื่อไหร่จะกลับหว่า??!!  :laugh:

โซล คิดกับคาเซียแค่พี่สินะ
ตอนหลังคงคู่กับคนอื่น(ใช่มั๊ยคะ)

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 17-04-2012 19:07:22
เข้ามาอ่าน2ตอนรวดเลย><!!!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 17-04-2012 19:35:55
ใครเป็นคนสั่งให้ลอบสังหารหนิ :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2012 19:43:51
อ๊า~ เดากันระนาว...

รอเฉลยตอนต่อไปค่ะ... อีกไม่นาน//มั้ง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: wasawath ที่ 17-04-2012 22:50:38
เข้ามารอ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 18-04-2012 15:20:45



    อ่า. . . องค์เคเซย์ เรียกคาเซียว่าที่รักด้วยละ ><"
    แต่ทำไมทั้งๆที่เป็นเชษฐาแต่องค์เคเซย์ไม่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ล่ะ




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-04-2012 22:16:10


    อ่า. . . องค์เคเซย์ เรียกคาเซียว่าที่รักด้วยละ ><"
    แต่ทำไมทั้งๆที่เป็นเชษฐาแต่องค์เคเซย์ไม่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ล่ะ

เกิดจาก... ความขี้เกียจของท่านพี่ค่ะ เอ่อ... คงไม่ใช่ เคเซย์ชอบท่องเที่ยวค่ะ เลยไม่รับตำแหน่ง^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่24 P.7 R.209]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-04-2012 16:59:16
บทที่ 25
ตำนานรักสองราชวงศ์ : องค์ทริสเซย์

องค์ทริสเซย์ที่เสด็จพร้อมด้วยพระราชบิดาและพระราชมารดามาประทับยังวินเซเร ทรงประชวร จำต้องนอนพักผ่อนไปนับเดือน... ด้วยเหตุใดมิอาจทราบ

หมอหลวงมิอาจจะหาสาเหตุที่องค์อนุชาแห่งพระสนมเอกทรงพระอาเจียนได้ แม้จะตรวจพระวรกายอย่างละเอียดแล้วก็ตาม
เข้าสู่เดือนที่สองของการมาประทับ ณ อาณาจักรวินเซเร พระอาการประชวรขององค์ราชาทริสเซย์ก็ทรงทุเลาลงมากจนน่าแปลกใจ

“หายดีแล้วใช่ไหม ทริสเซย์”พระมารดาตรัสถามราชโอรสของพระนางอย่างเป็นห่วง พระหัตถ์เรียวแตะที่พระนลาฎแผ่วเบา

“พะยะค่ะ เสด็จแม่ ลูกหายดีแล้วพะยะค่ะ”องค์ทริสเซย์ทรงส่งยิ้มให้กับสตรีตรงหน้าบางๆ

แม้พระองค์จะหายดีเป็นปกติแล้ว... แต่ในพระหฤทัยของพระองค์กลับรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ

เพราะเหตุใดกันนะ พระทัยของพระองค์จึงไม่เป็นสุขเช่นนี้... มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่เฟรนเซียหรือเปล่า... แต่ก็ไม่น่ามีเรื่องอันใด เพราะที่นั่น ยังมีคาเซียคอยดูแลอยู่ อีกทั้งมหาเสนาบดีทั้งสองคงไม่มีทางปล่อยให้บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้นเป็นแน่

“สีหน้าของลูกดูหมองๆนะ ทริสเซย์”พระขนงเรียวขมวดน้อยๆ

“ลูกมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยน่ะพะยะค่ะ เสด็จแม่”พระองค์ทูลต่อพระมารดาเบาๆ “ขอบพระทัยที่ทรงเป็นห่วง แต่ลูกไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆพะยะค่ะ”

“ดูแลตัวเองด้วยนะ ลูกแม่”

“พะยะค่ะ เสด็จแม่”

พระราชชนนีแห่งเฟรนเซียเสด็จออกนอกห้องบรรทมขององค์ทริสเซย์ไป เพื่อให้พระองค์ได้พักผ่อน

“เฮ้อ... จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะ”เสียงทุ้มเปรยเบาๆ

แม้พระองค์จะเชื่อว่าพระชายาของพระองค์นั้นสามารถที่จะดูแลบ้านเมืองได้ และแน่นอนว่ามหาเสนาบดีทั้งสองจะไม่มีทางปล่อยให้องค์คาเซียเป็นอะไรไปเป็นแน่... แต่พระองค์ก็ยังทรงห่วงอยู่ลึกๆในทุกวินาที

“แล้วคาเซีย... อยากจะบอกอะไรกันนะ”

นกน้อยตัวหนึ่งบินเข้ามาในห้องบรรทม มันยื่นขาที่มีจดหมายผูกเอาไว้ให้กับองค์ราชา

“ขอบใจมาก เจ้าตัวเล็ก”

นกน้อยตัวนั้นร้องจิ๊บๆ ก่อนจะบินออกไปจากห้องอย่างมีความสุข เมื่อมันได้ทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมาสำเร็จ

ถึง องค์ราชา

พระชายาคาเซียยังทรงสบายดีเพคะ ฝ่าบาทมิต้องทรงเป็นห่วง การบริหารบ้านเมืองยังเป็นไปอย่างราบรื่นดี ในเพลานี้ท่านมหาเสนาบดีมอบราชกิจคืนมาให้พระชายาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยเพคะ

ภายในพระราชวังโดยรวมแล้วยังสงบสุข มีเรื่องเกิดขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มิได้ร้ายแรงอันใด

                        ด้วยความเคารพต่อองค์ราชันย์

                                 เนล


“ก็มิได้มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น... แต่ด้วยเหตุใดกัน เราจึงรู้สึกไม่เป็นสุขเช่นนี้...”

ในคราแรก พระองค์ทรงคิดว่าการที่พระองค์นั้นทรงรู้สึกวูบโหวงในพระหฤทัย อาจจะเกิดจากการที่พระองค์เพิ่งหายจากอาการประชวร...

ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์ ความรู้สึกของพระองค์ก็ยังทรงเหมือนเดิม อีกทั้งยังรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน

แรกเริ่ม องค์ราชาทรงรู้สึกเพียงแค่เหมือนมีเรื่องอันใดจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป พระองค์เริ่มรู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นเป็นแน่

แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ

นี่ยังเป็นปริศนาที่พระองค์มิอาจจะแก้ไขได้ในเวลานี้

นับวันองค์ทริสเซย์ก็ทรงเหม่อลอย เสวยพระกระยาหารน้อยลงจะสังเกตได้ อีกทั้งยังทรงพึมพำองค์กับองค์เองเป็นระยะ
สร้างความกังวลให้แด่พระราชบิดา พระราชมารดา และพระขนิษฐาเป็นอย่างมาก

ในวันนี้เป็นวันที่สิบสี่ ที่องค์ราชันย์แห่งเฟรนเซียแปลกไปจากปกติ พระองค์ทรงประทับอยู่ริมบ่อน้ำแล้วทรงเหม่อลอย

สายพระเนตรทอดมองไปยังทิศทางที่อาณาจักรเฟรนเซียตั้งอยู่ พระหัตถ์หนากุมพระอุระในตำแต่งดวงหทัยเอาไว้

“คาเซีย... เจ้าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ทำไม ข้าถึงรู้สึกเป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน ชายาของข้า”พระองค์ตรัสกับองค์เองแผ่วเบา

“ทริสเซย์ น้องพี่”พระสนมเอกแห่งวินเซเรเสด็จเข้ามาใกล้ร่างหนา “น้องดูไม่มีความสุขเลย มีอะไรกังวลอยู่ในใขเช่นนั้นหรือ”

“เสด็จพี่...”องค์ทรัสเซย์เบนสายพระเนตรมาสบกับพระพี่นางของพระองค์”น้อง...”

“ทริสเซย์... แม้น้องจะปิดบังความรู้สึกของน้องกับใครต่อใครได้แม้แต่เสด็จพ่อและเสด็จแม่... แต่น้องรู้อยู่แก่ใจว่าน้องไม่มีทางปิดบังความคิดของน้องกับพี่คนนี้ได้”องค์คีเซย์ตรัสดักคำแก้ตัวของพระองค์เอาไว้เสียก่อนอย่างทรงรู้ทัน “พี่เห็นน้องดูทุกข์ใจเช่นนี้ ไม่สบายใจเลยรู้ไหม”

“เสด็จพี่... น้องรู้สึกเป็นกังวลน่ะพะยะค่ะ”องค์ทริสเซย์ทรงตรัสออกมาตามตรง “ใจของน้องไม่สงบเลย นับตั้งแต่วันที่หายป่วย”

“เจ้ารู้สึกเป็นกังวล เช่นนั้นหรือ”พระสนมเลิกพระขนงน้อยๆ “ถ้าเป็นเรื่องบ้านเมือง ก็มิน่าเป็นกังวล... เคเซย์ตอนนี้อยู่ที่เมืองหลวง เขาไม่มีทางปล่อยให้บ้านเมืองมีภัยเป็นแน่”

“น้องก็คิดเช่นนั้นพะยะค่ะ เสด็จพี่”รอยยิ้มบางๆถูกคลี่ออกมา “ถึงเสด็จพี่เคเซย์จะไม่ทรงประทับอยู่ที่เฟรนเซีย แต่มหาเสนาทั้งสองย่อมไม่มีทางปล่อยให้เกิดอันใดขึ้นเป็นแน่ อีกทั้งที่เฟรนเซียยังมีคาเซียอยู่ด้วย”

“ชายาของเจ้าน่ะหรือ...”พระองค์พยักหน้ารับคำของพระเชษฐภคินี “แล้วเจ้ากังวลเรื่องอันใดเล่า น้องพี่ ในเมื่อบ้านเมืองมีผู้ดูแลอยู่มากมายเช่นนี้”

“น้องก็ไม่ทราบพะยะค่ะ เสด็จพี่...”พระเนตรคมหลุมลงมองผืนน้ำที่สงบนิ่ง “น้องไม่ทราบจริงๆว่าเหตุใด จิตใจของน้องจึงไม่สงบเช่นนี้... น้องรู้สึกราวกับว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น...”

“เรื่องร้าย...”พระเนตรหวานเบิกกว้างอย่างตกพระทัย

“พะยะค่ะ... น้องรู้สึกเช่นนั้น”พระองค์ตรัสรับเบาๆ “น้องรู้สึกว่ามีอะไรจะมาทำร้าย... ดวงใจของน้องที่อยู่ห่างไกล”

“ดวงใจของเจ้า...”องค์คีเซย์หรี่พระเนตรลงน้อยๆ “ใครกันหรือ”

“มีอยู่เพียงคนเดียวนั่นละพะยะค่ะ เสด็จพี่”รอยยิ้มอบอุ่นฉายชัดบนพระพักตร์ เมื่อพระองค์ทรงคิดถึงผู้เป็นเจ้าของพระทัยของพระองค์ “ชายาเพียงคนเดียวของน้อง... คาเซีย”

“ถ้าเจ้าเป็นห่วงน้องสะใภ้ เจ้าก็กลับไปหาเขาสิ”พระสนมยิ้มให้กับพระอนุชาอย่างอ่อนโยน “ไปให้เห็นกับตาว่าเขาเป็นอย่างไร เป็นสุขหรือมีทุกข์กัน”

“แต่...”องค์ทริสเซย์จะตรัสค้าน แต่พระองค์ทรงยกพระหัตถ์ห้ามเอาไว้เสยก่อนที่พระอนุชาจะได้เอ่ยอันใดออกมามากมาย

“ทริสเซย์ น้องอยู่ที่นี่ไปน้องก็ไร้ซึ่งความสุข ทุกวินาทีหัวใจของน้องอยู่กับคาเซีย เมื่อเป็นเช่นนั้น น้องจะอยู่ที่นี่ไปทำไม”พระนางทรงยิ้มให้กับร่างสูงอย่างอ่อนโยน “น้องจะมาหาพี่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าคนที่น้องรักเกิดเป็นอะไรไป... น้องจะหามาใหม่ได้เช่นนั้นหรือ น้องจะไม่รู้สึกผิดไปตราบสิ้นลมหายใจของน้องเช่นนั้นหรือ”

“น้องเพิ่งมาที่นี่ได้เพียงสองเดือนเศษๆเองนะพะยะค่ะ เสด็จพี่...”องค์ทริสเซย์เหลือบมองพระพี่นางน้อย ๆ “กำหนดกลับนั้นอีกยาวนานนัก”

“กลับไปเถอะ น้องพี่ กลับไปอยู่กับดวงใจของน้อง”พระสนมคีเซย์ทรงลูบไล้พระเกศานิ่มของพระอนุชาเบา ๆ “แล้วคราหน้า น้องก็พาดวงใจดวงนั้นของน้องมาแนะนำให้พี่รู้จักด้วยนะ”

“พะยะค่ะ เสด็จพี่”พระองค์ตรัสรับเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม

องค์ทริสเซย์ทรงเสด็จไปลาเสด็จพ่อ เสด็จแม่ของพระองค์ ก่อนที่จะทรงเสด็จไปทูลลาพระเทวัน

“แล้วคราหน้ามาเยือนวินเซเรใหม่นะ ทริสเซย์”

“พะยะค่ะ แล้วกระหม่อมจะมาใหม่”

องค์ราชาพร้อมด้วยทหารองครักษ์คู่กายควบอาชาฝีเท้าดีกลับสู่พระนครอย่างรวดเร็ว โดยที่ขบวนเสด็จที่เหลือจะตามกลับไปที่หลัง

แต่ถึงกระนั้น... แม้จะเดินทางอย่างไม่หยุดพัก เปลี่ยนม้าทรงตลอดทุกครึ่งวันตามเมืองต่าง ๆ ที่เสด็จผ่าน แต่ระยะทางจากวินเซเรไปถึงเฟรนเซียนั้นช่างห่างไกล เดินทางไวที่สุกก็จำต้องใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์เลยทีเดียว

คาเซีย... ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เป็นไรนะ

++++++++++++++++++

มีใครคิดถึงองค์ราชา พระเอกของเรื่องบ้างไหม... แนะ เดาได้ไหมเอ่ยว่าคีเซย์กับเคเซย์ เป็นอะไรกัน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 20-04-2012 17:04:17
 :z13:

กำลังกลับแล้ว!!  :กอด1:

เราคิดไปเองป่าวว่ามันดูสั้นๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 20-04-2012 17:21:25
-____- พระเอกอ้วกป่วยแทน =w='' ตอนหน้าจะหวานมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 20-04-2012 17:31:43
พี่สาว(?)

ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นเล๊ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-04-2012 17:34:04
กลับเสียทีนะฝ่าบาท
คนอ่านลุ้นใจจะขาดแล้วเนี่ย 555
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด แพ้ท้องแทนเมีย กร๊ากกก
รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อค่ะ


ป.ล.หวังอย่างยิ่งว่ามันจะไม่มาม่า ...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 20-04-2012 17:40:35
ทรมานน่าดูแพ้ท้องแทนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-04-2012 17:54:40
สงสารฝ่าบาทแพ้ทองแทน  :laugh3:

แต่กลับมาน่ะดีแล้ว   :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 20-04-2012 18:29:52
เฮ้อในที่สุดก้อกลับแล้ว อย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-04-2012 20:55:56
-____- พระเอกอ้วกป่วยแทน =w='' ตอนหน้าจะหวานมั้ยนะ

หวานเหรอ... //หันไปมองที่เขียนไว้... คงไม่มั้งคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-04-2012 22:08:11
หวานเหรอ... //หันไปมองที่เขียนไว้... คงไม่มั้งคะ


 :a5:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: kids-me ที่ 20-04-2012 23:18:38
อ่านแต่ในเล้าแล้วอ่ะ ไม่ค่อยได้ตามในเด็กดี o18

ตอนนี้ไม่อยากินมาม่านะ

ยังต้องการความหวานเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่  :o8:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-04-2012 23:52:11
อ่านแต่ในเล้าแล้วอ่ะ ไม่ค่อยได้ตามในเด็กดี o18

ตอนนี้ไม่อยากินมาม่านะ

ยังต้องการความหวานเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่  :o8:

อ่า... หวานไหมไม่รู้... แต่ถ้าตอนถัดจากตอนหน้าหวานแน่จ้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-04-2012 23:56:14
สปอยล์เล็กๆของตอนหน้า...(สองท่อน ฮ่าๆ)

ทั้งห้องบรรทมเงียบสนิท... หนึ่งราชนิกุล สองนางกำนัล นั่งนิ่งมองหน้ากันและกัน แต่ก็มิมีใครเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาเลยแม้แต่น้อย

ตึก

เสียงแปลกปลอมที่ดังแว่วมาจากทางหน้าห้องบรรทมเรียกความสนใจของทั้งสามได้เป็นอย่างดี พวกเขาต่างขยับกายอย่างเงียบเชียบไปหยิบอาวุธคู่กายของตนออกมา

ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา คมดาบที่เมื่อก่อนแค่จะได้ออกมาโดนอากาศยังน้อยครั้งนั้น ถูกชักออกมาดื่มโลหิตเกือบทุกราตรีคืน

+++++++++++++++++++++++

พระวรกายบางทรุดลงกับพื้น พระโลหิตไหลรินลงมาช้าๆ พระพักตร์หวานซีดเผือด

ดาบเรียวเงื้อมขึ้นหมายจะฟาดฟันที่ร่างตรงหน้าเพื่อเอาชีวิต ในขณะที่ดาบนั้นถูกเหวี่ยงลงมากลับมาดาบอีกเล่มมาขวางเอาไว้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229]
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 20-04-2012 23:57:54
กลับมาเร็วๆนะ
มาดูแลคาเซีย ^^ :L1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.421
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 21-04-2012 00:14:14
สปอยล์ได้เล็กจริงๆ :z10:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-04-2012 03:53:37
สปอยล์น่ากลัวมาก

 o22
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-04-2012 04:21:47
น้อยไปไหม TT
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 21-04-2012 08:18:56
อยากอ่านตอนหน้าเร็วๆๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: kids-me ที่ 21-04-2012 10:16:20
ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยย สปอยจนอยากอ่าน :serius2:(อยากอ่านแต่นิยาย แต่หนังสือไม่อ่ะ)

 :laugh:มีสอบวันจันทร์นี้ยังไม่อ่านหนังสือเลย

 :bye2:

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-04-2012 10:45:03
แอ๊กกก สปอยซ้าโหดร้ายยยย
ฝ่าบาทขึ้นเครื่องลงสุวรรณภูมิด่วน!!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-04-2012 11:40:00
ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยย สปอยจนอยากอ่าน :serius2:(อยากอ่านแต่นิยาย แต่หนังสือไม่อ่ะ)

 :laugh:มีสอบวันจันทร์นี้ยังไม่อ่านหนังสือเลย

 :bye2:

ตั้งใจสอบนะคะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-04-2012 13:11:49
น่ากลัวอ่ะ ฝ่าบาทไปไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 21-04-2012 16:56:30



   คาเซียอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปน้าาาา
   ฝ่าบาทกลับมาช่วยแล้ว



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: piride ที่ 21-04-2012 17:55:13
หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นนะ

 :กอด1: คนเขียน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 21-04-2012 22:20:47
โหดร้ายอะ
หวังว่าคงไม่มีใครเป็นอะไร
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่25 P.8 R.229] สปอยล์เล็กๆ P.9 R.241
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-04-2012 17:28:57
บทที่ 26
ตำนานรักสองราชวงศ์ : หวนคืนสู่นครา... ดวงใจอันบอบช้ำ

ระหว่างที่องค์ราชาทริสเซย์เสด็จกลับสู่เฟรนเซีย ก็มีเรื่องเกิดขึ้นภายในพระตำหนักมากมายไม่เว้นแต่ละวัน นับตั้งแต่วันที่เกิดการลอบสังหารขึ้นเป็นครั้งแรก

เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ในการส่งองค์ชายโซเทเรียไปยังอาณาจักรเซเรียล พระองค์ได้รับการต้อนรับและการดูแลเป็นอย่างดีจากคนในราชวงศ์ องค์ชายเคเซย์ทรงส่งข่าวคราวมาให้กับองค์ชายคาเซียเป็นระยะ ๆ เพื่อให้องค์ชายสบายพระทัย

องค์ชายคาเซียต้องรับศึกหนักในทุกๆวัน ยามเช้า พระองค์จะต้องเข้าร่วมการประชุมขุนนาง ยามสายทรงจัดการกับฎีกาต่างๆที่มหาเสนานำมามอบให้ ยามบ่ายบางครั้งจำต้องเสด็จไปทอดพระเนตรก็ฝึกทหาร บางครั้งก็เสด็จลงพื้นที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ยามเย็นก็กลับมาจับการกับราชกิจที่คั่งค้าง ยามมืดพระองค์ต้องรับมือกับนักฆ่าที่ถูกส่งเข้ามาท้าทายพระองค์อย่างไม่ขาดระยะ ทรงได้พักผ่อนจริงๆก็คือหลังจากที่ทรงประมือกับนักฆ่าพวกนั้นไปแล้ว

พระวรกายที่เคยผอมบาง บัดนี้ดูอวบขึ้นเล็กๆจากการที่พระองค์อุ้มพระครรภ์ได้ห้าเดือน สนม นางกำนัล และเหล่าขุนนางเริ่มผิดสังเกตกับรูปร่างของพระองค์ขึ้นทุกวันๆ แต่ก็ยังมิมีใครกล้าที่จะเข้ามาถามพระองค์

แน่สิ จากการที่ถูกรบกวนอย่างหนักในแต่ละวันคืนที่พ้นผ่าน ทำให้พระอารมณ์ของพระชายานั้นไม่คงที่นัก ถ้าทำให้พระองค์ทรงกริ้วแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ต่างอะไรจากการจุดระเบิดกลางเมือง เป็นอันต้องกระอักเลือดจากคำตรัสกันไปตามระเบียบ

แต่ในช่วงสอง สามวันที่ผ่านมานี้ ทุกอย่างกลับเงียบสงบ... เงียบอย่างน่าประหลาด สงบเสียจนน่าหวั่นเกรงกับพายุที่อาจจะก่อกำเนิด

องค์ชายคาเซียทรงเอนพระวรกายพิงพระเขนยนุ่น พระหัตถ์ถือแผ่นที่เอาไว้

ในระยะนี้พระองค์มิค่อยจะเสด็จไปยังท้องพระโรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เหตุด้วยเหล่าขุนนางต่างตกลงกันว่า มาเข้าเฝ้าที่ห้องทรงอักษรจะเป็นการดีที่สุด เนื่องจากพระวรกายของพระชายามิสู้ดีนัก ที่ผ่านมาก็ทรงประชวรเล็กๆมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

จึงทำให้ในเวลานี้ ภายในห้องทรงอักษรเต็มไปด้วยเหล่าขุนนาง ข้าราชการน้อยใหญ่มากมายนั่งอยู่จนเต็มพื้นที่

“เราว่า... ถ้ามีโอกาสเราจะไปที่พื้นที่แถบภูเขาเฟเรเนียสักหน่อย...”อยู่ๆพระองค์ก็ทรงตรัสขึ้น สร้างความตกใจให้กับข้าราชบริพารยิ่งนัก

“พระชายาจะทรงเสด็จไปพื้นที่แถบนั้นด้วยเหตุอันใดหรือพะยะค่ะ”เจ้ากรมกลาโหมทูลถามขึ้นทันที เมื่อเขาตั้งสติได้

“เราได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนในแถบนั้นมาหลายต่อหลายครั้ง ส่งคนไปดูแลก็แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ไม่ขาด”พระหัตถ์เรียววางแผนที่ลงช้าๆ “เมื่อเป็นเช่นนี้ เราสมควรจะต้องไปด้วยตัวเองแล้วล่ะ ท่านเจ้ากรม”

“แต่พระวรกายของพระองค์ยังมิสู้ดีนักเลยนะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”มหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายแย้งขึ้นทันที “อีกทั้งพระองค์ยังมิยอมให้หมอหลวงทำการตรวจพระวรกายอีกด้วย เช่นนี้ พวกกระหม่อมจะวางใจ ให้พระองค์เสด็จไปเผชิญกับความลำบากได้อย่างไร”

“เราแข็งแรงดี มิได้เป็นอะไรร้ายแรงเสียหน่อย ท่านมหาเสนาบดี”องค์ชายทรงคลี่ยิ้มบางเบา “พวกท่านไม่ต้องกังวลไป... เรายังไปออกไปในเวลานี้หรอก”

“พะยะค่ะ พระชายา”เหล่าขุนนางรู้สึกหายใจคล่องคอขึ้นมาหน่อย ขอแค่องค์ราชากลับมา พระชายาก็คงเปลี่ยนพระทัยไปได้

ทั้งองค์ชายและเหล่าขุนนางต่างทุ่มเทกำลังกายและกำลังสมองเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาราษฎร์ที่กำลังเดือดร้อนอย่างเต็มที่

เซทหันมาถามความเห็นขององค์คาเซียเป็นระยะ ในเรื่องการวางกำลังทหารตามชายป่าเพื่อป้องกันเหล่าโจรป่าที่เข้ามาฆ่าชิงทรัพย์สินของชาวบ้านในละแวกนั้น

“อืม... เราเห็นด้วยกับการวางกำลังคนเช่นนี้นะ ใช้คนไม่มาก แต่คุ้มค่าและปลอดภัย”พระองค์ทรงตรัสหลังจากที่ทรงอ่านแผนงานนั้นเสร็จ “ท่านผู้บัญชาการ คงต้องรบกวนท่านแล้ว”

“มิได้พะยะค่ะ พระชายา เป็นหน้าที่ของกระหม่อมอยู่แล้ว”ผู้บัญชาการทหารสูงสุดก้าวเข้ามารับแผนงานที่ต้องนำไปปฏิบัติอย่างสง่างาม

เขาอ่านเนื้อความในเอกสารที่ได้รับมา ก่อนที่เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองผู้ที่เขียนขึ้นมาด้วยแววตาชื่นชม คนของพระชายานั้นช่างมีความสามารถยิ่งนัก

งานต่างๆลุล่วงไปได้ด้วยดีจากการร่วมมือกันของทุกฝ่าย ผลที่ได้รับนั้นทำให้ทุก ๆ คนต่างมีรอยยิ้มปลื้มปิติที่ออกมาจากใจ ความเหนื่อยยากที่ได้รับนั้นหายไป มาจะเหนื่อยกาย แต่เมื่อนึกถึงรอยยิ้มของเหล่าราษฎรแล้ว ทำให้พวกเขามีแรงใจที่สู้ต่อไป

ตกเย็น เหล่าขุนนางทั้งหลายก็ขอตัวกลับไปยังที่พักของตน ทุกคนรามือจากงานที่รับผิดชอบกลับไปหาลูกเมียอย่างมีความสุข

องค์ชายคาเซียก็ทรงวางงานทั้งหมดลง ก่อนที่จะไปชำระพระวรกายแล้วมาเสวยอาหารร่วมกับราชองครักษ์และนางกำนัล

“เซท...”เสียงหวานเอ่ยเรียกองรักษ์ของตนเบาๆ “ไปพักเถอะ คงไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในเวลานี้หรอก”

“แต่... องค์ชาย”เซทเอ่ยปากหมายจะโต้แย้ง แต่ก็ถูกสายพระเนตรของพระองค์ห้ามปราบเอาไว้

“เซท ถ้าเจ้าไม่เห็นแก่เรา ก็เห็นแก่ลูกในท้องเถอะ... ไปพักผ่อนได้แล้ว”นานครั้งที่พระองค์จะตรัสด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเช่นนี้ แล้วมีหรือที่เซทจะไม่ปฏิบัติตามรับสั่งของพระองค์ “เรฟ พาเซทไปพักผ่อน ดูแลเขาด้วย”

“พะยะค่ะ องค์ชาย”เรฟรับคำอย่างยินดี

เรฟพาคนรักออกจากห้องบรรทมไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่องค์ชายจะเปลี่ยนพระทัยไม่ให้เซทไปพักผ่อน

ทั้งห้องบรรทมเงียบสนิท... หนึ่งราชนิกุล สองนางกำนัล นั่งนิ่งมองหน้ากันและกัน แต่ก็มิมีใครเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาเลยแม้แต่น้อย

ตึก

เสียงแปลกปลอมที่ดังแว่วมาจากทางหน้าห้องบรรทมเรียกความสนใจของทั้งสามได้เป็นอย่างดี พวกเขาต่างขยับกายอย่างเงียบเชียบไปหยิบอาวุธคู่กายของตนออกมา

ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา คมดาบที่เมื่อก่อนแค่จะได้ออกมาโดนอากาศยังน้อยครั้งนั้น ถูกชักออกมาดื่มโลหิตเกือบทุกราตรีคืน

ผู้อาศัยทั้งสามแยกย้ายกันไปประจำจุดของตน... องค์ชายทรงทอดพระเนตรมองบานทวารนิ่ง ในขณะที่พระหฤทัยเกิดข้อสงสัยบางอย่าง...

ด้วยเหตุอันใดกัน ทำไมการป้องกันพระราชวังแห่งนี้ช่างหละหลวมนัก ปล่อยให้นักฆ่าลอบเข้ามาในพระราชวังได้ไม่เว้นแต่ละราตรีเช่นนี้

พระองค์มิทราบเลยแม้แต่น้อยกว่ากองทหารราชองครักษ์และหน่อยลาดตระเวรภายในวังหลวงนั้น บ้างถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ บางก็ถูกวางยาสลบ ในทุกครั้งที่มีผู้ไม่ปรารถนาดีมาเยือน แม้แต่ทหารองครักษ์ฝีมือดีที่สุดก็ยังโดนวางยาไปด้วย

องค์คาเซีย เนลและเรล กระชับอาวุธแน่น เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับผู้มาเยือนยามวิกาล สำหรับเนลกับเรลนั้น การได้มาประมือกับกลุ่มคนพวกนี้สร้างความสำราญให้กับพวกนางไม่น้อย แต่สำหรับองค์ชาย นี่เป็นการรบกวนการพักผ่อนที่หาได้น้อยนิดในแต่ละวันของพระองค์ยิ่งนัก ในระยะนี้พระวรกายของพระองค์มิสู้ดี เจ็บออด ๆ แอด ๆ เรี่ยวแรงก็มีน้อยลงกว่าแต่ก่อนจนเห็นได้ชัด จึงทำให้ตามเรือนกายของพระองค์มีแผลจากคมดาบที่เฉี่ยวโดนในบางครั้ง และแผลฟกช้ำจากการชนผนัง ชนขอบตู้ ขอบโต๊ะและโดนตีด้วยของแข็งๆไม่น้อยเลยทีเดียว

พระองค์หันพระพักตร์ไปหานางกำนัลทั้งสอง ส่งพระเนตรสื่อความนัยน์ให้กับเนลและเรล พวกนางพยักหน้ารับน้อยๆ เป็นการสื่อว่ารับรู้

ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น... ให้เอาตัวเองให้รอดเอาไว้ก่อน

ประตูที่ปิดสนิทถูกเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับร่างในชุดสีดำวิ่งกรูกันเข้ามาภายในห้องเหมือนทุกๆครั้ง... แต่ที่ต่างออกไปคือ...
ในการมาครั้งนี้ของผู้ลอบสังหารไร้ซึ่งการพูดพร่ำทำเพลง คมดาบถูกชักออกมาฟาดฟันกับทั้งสามที่รอตั้งรับอยู่อย่างรวดเร็วและรุนแรง

ในการสู้ครั้งนี้องค์ชายคาเซียได้แต่ตั้งรับ ไม่มีโอกาสได้บุกเข้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามเลยแม้เพียงสักครั้ง

สองสาวนางกำนัลผลัดกันรุกผลัดกันรับกับศัตรู แม้พวกนางอยากจะปลีกตัวไปช่วยองค์ชายของนางรับมือ แต่ก็ไม่อาจที่จะก้าวไปได้แม้แต่น้อย

คมดาบของชายชุดดำเฉี่ยวสีข้างไปเล็กน้อย ถ้าองค์คาเซียไม่สะบัดกายหลบดาบนั้นอาจจะแทงเข้าไปในร่างแล้วก็เป็นได้ ถึงกระนั้นความคมของดาบนั้นก็ทำให้ฉลองพระองค์ขาดไป อีกทั้งยังสามารถเรียกพระโลหิตออกจากพระวรกายได้เล็กน้อย

พระเนตรหวานทอดมองชายร่างสูงตรงหน้าอย่างกริ้วโกรธ พระองค์ตวัดดาบฟาดฟันกับชายตรงหน้าอย่างรุนแรง

ชายคนหนึ่งในกลุ่มของผู้ลอบสังหารเข้ามาทางข้างหลังขององค์ชาย เขาเหวี่ยงดาบเข้าหาพระองค์โดยที่พระองค์ไม่รู้ตัว

“องค์ชายเพคะ!!!!”เสียงของเรลตะโกนดังขึ้น “ระวังด้านหลังเพคะ”

พระองค์เบี่ยงกายหลบคมดาบที่เข้ามาหมายเอาชีวิต แต่ก็หลบไม่พ้นทั้งหมด ปลายดาบนั้นเฉือนเข้าที่แผ่นหลังบางเป็นทางยาว

“องค์ชายยยยยยยยยยยยยย”สองนางกำนัลหวีดร้องลั่นอย่างตกใจ พวกนางจัดการสังหารผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างโหดเหี้ยมด้วยความแค้นเคือง

พระวรกายบางทรุดลงกับพื้น พระโลหิตไหลรินลงมาช้าๆ พระพักตร์หวานซีดเผือด

ดาบเรียวเงื้อมขึ้นหมายจะฟาดฟันที่ร่างตรงหน้าเพื่อเอาชีวิต ในขณะที่ดาบนั้นถูกเหวี่ยงลงมากลับมาดาบอีกเล่มมาขวางเอาไว้

“มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ในราชวังของข้า”เสียงเย็นดังขึ้น พระเนตรขององค์ราชากวาดมองรอบๆอย่างกราดเกรี้ยว “บังอาจมาแตะต้องชายาของข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วสินะ”

องค์ทริสเซย์และทหารราชองครักษ์ที่ตามเสด็จจัดการเก็บผู้บุกรุกทั้งหลายอย่างไร้ความปรานี เลือดสีสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

หลังจากที่เหตุการณ์สงบลง สติสัมปชัญญะของพระองค์ก็กลับมา ร่างสูงโอบประคองร่างเล็กเอาไว้ในอ้อมพระกรหลวมๆ

“ตามหมอหลวงมา ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้!”องค์ราชาทรงตะโกนก้อง ทหารนายหนึ่งวิ่งไปตามตัวหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว

พระองค์พาพระชายาไปยังห้องบรรทมของพระองค์ ในขณะที่นางกำนัลทั้งสองนำฉลองพระองค์พร้อมด้วยอ่างที่บรรจุน้ำอุ่นๆเอาไว้มาให้กับองค์ราชันย์ ก่อนจะกลับไปจัดการกับห้องที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดงฉาน

“คาเซีย เจ้าอย่าเป็นอะไรไปนะ”องค์ทรัสเซย์ตรัสกับผู้เป็นดวงใจของพระองค์ด้วยเสียงสั่นเครือ “เจ้าอย่าเป็นอะไรไปนะ คาเซีย”

“ฝ่าบาท...”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างอ่อนแรง

“ท่านหมอมาแล้วพะยะค่ะ”นายทหารที่ไปตามถึงกับแบกหมอหลวงขึ้นหลังวิ่งกลับมาเพื่อประหยัดเวลา

“ท่านหมอ ช่วยชายาของเราด้วย”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”

หมอหลวงเข้ามาทำแผลให้กับพระชายาอย่างคล่องแคล่ว เพียงไม่นานบาดแผลทั้งหมดก็ได้รับการรักษา เขาจับชีพจรของพระชายา ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองพระพักตร์อย่างตกตะลึง...

“พระชายา...”

++++++++++++++++++++++++

อา... อย่างน้อยพระราชาก็กลับมาแล้วนะ o18
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 23-04-2012 17:47:42
“พระชายา...” ท้องป่องแล้ว >[]<
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: kids-me ที่ 23-04-2012 17:52:55
โอ้ย นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว  :เฮ้อ: พ่อพระเอก

แล้วอาการจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย เค้าเป็นห่วง

ตอนหน้าก็จะรู้ว่าท้องซินะ :laugh:


หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-04-2012 18:07:00
อ๊ากกก ตัดกันแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ
อยากอ่านตอนต่อไปใจจะขาด
ดีนะที่ตอนนี้ฝ่าบาทกลับมาทัน ไม่งั้นก็ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ
มาต่อไวๆนะคะ รออ่านอยู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-04-2012 18:10:25
โชคดีที่ฝ่าบาทมาช่วยทัน

คนจ้างวานน่าจะเป็นพระสนมพวกนั้นแน่ :angry2:

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 23-04-2012 18:16:51
 :z3:
ทำไมถึงตัดตอนให้ค้างเยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-04-2012 18:22:47
หนอย ยัยพวกสนมพวกนั้นแน่ๆ เลวมากก  :angry2:
เย้ๆๆ ฝ่าบาทกลับมาแล้ว หุหุ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 23-04-2012 18:33:49
ฝ่าบาทจะได้รู้ความจริงแล้ว เย่ๆ :mc4:

แต่ค้างน่ะเฟ้ยยย :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: piride ที่ 23-04-2012 18:42:24
พวกนางสนม   :beat:
แค้นนี่มันต้องชำระ มาลอบทำร้ายพระชายาแบบนี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 23-04-2012 19:06:31
พระชายา....ท้องโย้พะย่ะค่ะ  :z1:


งานนี้ฝีมือเหล่าสนมแน่เสียยิ่งกว่าแช่แป้ง น่าจะจับมาตื๊บเรียงตัว ฮ่าๆๆๆๆ


แต่อย่างน้อยๆพระราชาก็กลับมาแล้วล่ะนะ เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-04-2012 19:32:26
เอ่อ... มุ่งไปทางสนมกันหมดเลยนะคะ^^" ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 23-04-2012 19:44:30
เอ่อ... มุ่งไปทางสนมกันหมดเลยนะคะ^^" ฮ่าๆ


แบบนี้มีแววเป็นคนอื่นนะเนี่ย อิอิ

จะเป็นใครก็จะรอลุ้นต่อไป 555+
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 23-04-2012 21:08:04
ตัดฉับเลยอ่า
ค้างงงงงง

หวังว่าคงไม่เป็นไรนะคาเซีย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-04-2012 21:24:56
ดีจังที่มาทัน แต่ฝ่าบาทอาจจะโกรธก้อได้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: nona159 ที่ 23-04-2012 23:46:21
อย่ามาม่านะขอร้อง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-04-2012 00:42:15
ค้างงงงง :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 24-04-2012 04:02:32
ทริสเซียจะได้รู้แล้วใช่ไหมว่าคาเซียท้อง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 25-04-2012 03:02:19



    หุหุ เรื่องกำลังจะแดงออกมาอย่างนี้ จะมีคนโดนหางเลขจากอารมณ์ขององค์ราชากี่รายละเนี่ย




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่26 P.9 R.254]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-04-2012 17:42:24
บทที่ 27
ตำนานรักสองราชวงศ์ : ความจริงถูกเปิดเผย

“พระชายาพะยะค่ะ...”หมอหลวงสบสายตากับพระชายาที่ทรงประทับพิงพระอุระขององค์ราชาอยู่อย่างตื่นตระหนก

“ทำไมหรือท่านหมอหลวง คาเซียเป็นอะไร”องค์ทริสเซย์ตรัสถามอย่างทรงเป็นกังวล “มีอะไรร้ายแรงเช่นนั้นหรือ”

“เปล่าพะยะค่ะ”หมอหลวงทูลตอบอย่างใจเย็น “พระชายาทรงตั้งพระครรภ์ได้ห้าเดือนแล้วพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“ตั้งครรภ์...”พระองค์ครางออกมาเบา ๆ ก่อนจะก้มพระพักตร์ไปมององค์ชายด้วยพระเนตรสับสน “ห้าเดือนเช่นนั้นหรือ...”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”ท่านหมอตอบรับ “กระหม่อมจะไปจัดยาก่อนนะพะยะค่ะ”

องค์เหนือหัวพยักพระพักตร์รับน้อย ๆ หมอหลวงจึงหายตัวออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

“นี่คือสิ่งที่เจ้าจะบอกกับข้า เมื่อข้ากลับจากการไปเยี่ยมเสด็จพี่เช่นนั้นหรือ คาเซีย”พระองค์ตรัสถามร่างในอ้อมพระกรเบา ๆ

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท...”องค์ชายก็ตรัสรับด้วยเสียงแผ่วเบา ๆ ไม่แพ้กัน

“คาเซีย... เจ้าทำให้ข้าเสียใจยิ่งนัก”พระพักตร์คมซบเข้ากับเกศานุ่ม “เจ้าทำให้ข้ารู้สึกผิดยิ่งนัก ที่ปล่อยให้คนมาทำร้ายเจ้า ปล่อยให้เจ้าต้องทำงานมากมาย ทั้ง ๆ ที่เจ้าต้องการพักผ่อน เพื่อลูกในท้องของเจ้าและข้าเช่นนี้”

“ฝ่าบาท...”

“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่คนเดียวอีกแล้ว คาเซีย ต่อไปนี้เจ้าจะต้องอยู่ข้างกายข้า เราจะไม่ห่างกันอีกแล้ว...”พระองค์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกเล็กน้อย “จริงสิ องครักษ์ของเจ้าล่ะ หายไปไหนกันหมด เหตุใดจึงปล่อยให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้”

“กระหม่อมสั่งให้เรฟพาเซทไปพักผ่อนน่ะพะยะค่ะ เซทตั้งท้องได้หกเดือนครึ่งแล้ว เขาสมควรได้รับการพักผ่อนน่ะพะยะค่ะ”องค์ชายทูลตอบเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่ในเวลานี้พระองค์ต้องการที่พระพักผ่อน... แต่ก็อยากเห็นพระพักตร์ของผู้เป็นที่รักอีกสักนิด... ให้สมกับการที่พระองค์รอคอย “ส่วนโซเทเรีย กระหม่อมส่งเขาไปพำนักที่เซเรียลตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนเพื่อความปลอดภัยของเขาและลูกน่ะพะยะค่ะ”

“ถึงว่าสิ”เสียงทุ้มเอ่ยรับเบา ๆ

“กระหม่อมคิดว่า... โซเทเรียคงมิอยากกลับมาแล้วล่ะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“เขารักเจ้ามากมิใช่หรือ เป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะไม่กลับมาหาคนที่รัก”

“โซเทเรียรักในความอบอุ่นของกระหม่อมก็จริง... แต่ในฐานะของพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้นพะยะค่ะ”รอยยิ้มบางคลี่ออกน้อย ๆ “เขาได้เจอกับคนที่เขารักแล้วล่ะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

“เจ้าต้องการให้ข้าปล่อยเขาไป”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท กระหม่อมอยากให้พระองค์เห็นชอบกับความคิดของกระหม่อมด้วย...”

“ข้ายินดีที่จะปล่อยเขาไป โดยที่ไม่เรียกร้องบรรณาการอื่น ๆ จากอาณาจักรของเขามาทดแทนเลยล่ะ คาเซีย... ที่นี้เจ้าก็จะเป็นของข้าเพียงคนเดียวแล้วสินะ”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท”

โอษฐ์หยักประทับจุมพิตดูดดื่มกับโอษฐ์บาง สักพักองค์ราชาก็ทรงถามพระพักตร์ออก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เนลยกโอสถที่หมอหลวงสั่งมาให้นายของนาง

องค์ชายคาเซียทรงดื่มโอสถนั้นจนหมด ก่อนที่จะทรงบรรทมไปในอ้อมกรขององค์ทริสเซย์ด้วยความรู้สึกที่เป็นสุขยิ่งนัก

“ไปสืบมาสิ... ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กัน”องค์ทริสเซย์ทรงเปรยกับความมืดเบา ๆ ก่อนที่จะทรงบรรทมไปด้วยความอ่อนเพลีย

++++++++++++++++++++

รุ่งเช้า องค์ราชาทรงตื่นบรรทมขึ้นมาก่อนพระชายา พระองค์ทอดพระเนตรมองดวงพักตร์หวานด้วยแววพระเนตรที่เต็มไปด้วยความรัก พระหัตถ์หนาลูบเบา ๆ บนพระอุทรที่นูนออกมาเล็ก ๆ

“เอ๊ะ...”พระองค์ทรงรับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น พระหัตถ์แกร่งเลื่อนขึ้นมาทาบทับตามพระพักตร์และพระศอขาวซีด

อุณหภูมิในร่างของพระชายาขึ้นสูงจนน่าเป็นกังวล องค์ราชาทรงเรียกหมอหลวงมาทันที

“คาเซีย คาเซีย ตื่นขึ้นมาก่อนนะคนดี”พระองค์ตรัสเรียกร่างบางเบาๆ

แพขนตาหน้าขยับน้อยๆก่อนจะลืมขึ้นมาให้เห็นพระเนตรที่อยู่ภายใน พระขนงเรียวมุ่นเข้าหากันด้วยความทรมาน

“รอหมอหลวงก่อนนะ คาเซีย ข้าให้คนไปตามแล้ว”

“ฝ่า... บาท”เสียงแหบเอื้อนเอ่ยอย่างอ่อนแรง

องค์คาเซียทรงฝืนวรกายไม่ให้บรรทมลงไปอีกครั้งเพื่อรอหมอหลวงตามคำขององค์เหนือหัว

หมอหลวงเข้ามาในห้องบรรทมขององค์ราชาอย่างรวดเร็ว เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ ลงมือตรวจพระชายาทันที แล้วหายตัวไปต้มยาอย่างรวดเร็ว... เร็วเสียจนคนรอบข้างมึนงง

“พระวรกายของพระชายาอ่อนแอมาก ทั้งเมื่อราตรีวานยังเสียพระโลหิตไปไม่น้อย ถ้าเกิดเหตุอันใดกับพระชายาอีกในช่วงนี้... เกรงว่า... เราอาจจะต้องสูญเสียสายพระโลหิตไปก็ได้พะยะค่ะ”หมอหลวงทูลต่อองค์ทริสเซย์ หลังจากที่พระชายาทรงเสวยโอสถแล้วบรรทมไปแล้ว

“เช่นนั้นหรือ...”พระเนตรคมฉายแววกราดเกรี้ยว “ข้าจะต้องเอาตัวไอ้พวกที่ส่งคนมาทำร้ายชายาของข้ามาถลกหนังให้ได้!!”

“กระหม่อมมีเรื่องแปลกใจอยู่เล็กน้อยนะพะยะค่ะ ฝ่าบาท”หมอหลวงขัดความพิโรธของพระราชาเอาไว้เลยก่อน “เมื่อก่อนพระชายามีพระวรกายที่แข็งแรง ขนาดโดนฝนยังมิทรงประชวรแม้แต่น้อย ในระยะหลังมานี้ ตั้งแต่พระองค์ตั้งพระครรภ์มาก็ทรงประชวรออด ๆ แอด ๆ มาตลอด ทั้ง ๆ ที่มิน่าจะเป็นเช่นนี้ได้เลย”

“เนล... เจ้ารู้เหตุผลใช่ไหม”องค์ราชาทรงหันไปตรัสถามกับนางกำนัลที่นั่งก้มหน้ามองพื้นอยู่ไม่ไกล

“เพคะ... ฝ่าบาท”มิอาจที่จะพูดปด ด้วยเหตุที่องค์ชายของนางมิโปรดการมดเท็จเป็นอย่างมาก นางจึงจำใจต้องตอบออกมา

“เพราะเหตุใดกัน...”

“พระสนมเซฟีน่า... ทรงผูกสายใยชีวิตของพระชายาเอาไว้กับหม่อมฉัน เพคะ แต่บัดนี้ สายใยนั้นได้ขาดลงไปแล้ว เพราะการกำเนิดของสายพระโลหิตในพระครรภ์ของพระชายาและฝ่าบาทเพคะ”เนลทูลตอบเบา ๆ “หลังจากนี้คงต้องรบกวนฝ่าบาททรงดูแลพระชายาคาเซียให้มากกว่าแต่ก่อนด้วยนะเพคะ หม่อมฉันมิอาจที่จะปกป้องพระองค์ได้รวดเร็วเหมือนแต่ก่อนแล้ว”

“ความลับเกี่ยวกับพระสนมเซฟีน่ามีมากกว่านี้ ใช่ไหม”พระเนตรคมหรี่ลงน้อย ๆ พระองค์จับจ้องร่างบอบบางอย่างจับผิด “บอกข้ามาได้หรือไม่...”

“พระสนมเซฟีน่าเป็นนักพยากรณ์เพคะ พระนางล่วงรู้อยู่แล้วว่าต้องสิ้นพระชนม์ในวันไหน พระนางจึงผูกสายใยชีวิตของพระชายากับหม่อมฉัน เพื่อให้พระชายามีพระชนม์ชีพต่อไป อีกทั้งพระนางยังทรงทาบว่าพระชายาคาเซียจะต้องเป็นเครื่องบรรณาการเช่นนี้ จึงทรงให้สูตรพระโอสถสำหรับเปลี่ยนสภาพพระวรกายให้สามารถตั้งพระครรภ์ได้เหมือนอย่างที่ฝ่าบาททรงเห็น”

“พระนางได้บอกอะไรไว้มากกว่านี้ไหม”

“เพคะ พระนางตรัสไว้ว่า พระชายาจะทรงเป็นพระมารดาของรัชทายาทของราชาผู้ยิ่งใหญ่ แต่ก็จะต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไปเพคะ”

“ขอบใจเจ้ามา... เนล”

แล้วบทสนทนาทั้งหมดก็เงียบลง หมอหลวงและเนลขอตัวออกจากห้องบรรทมไปอย่างเงียบๆ ทิ้งให้องค์ราชันย์และองค์ชายอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

มหาเสนาบดีทั้งสองที่เพิ่งรู้ข่าวการลอบปลงพระชนม์นั้นเรียกขุนนางเข้าประชุม และสั่งให้ทหารองครักษ์มากฝีมือให้เฝ้าประจำรอบพระตำหนักและพระราชวังอย่างแน่นหนา

องค์ทริสเซย์ทรงทอดพระเนตรมองไปด้วยรอยยิ้มบางเบา

“ยังไม่หลับใช่ไหม คาเซีย”สุรเสียงทุ้มตรัสออกมาแผ่วเบา

“มิใช่พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”เสียงหวานตอบกลับด้วยเสียงอันเบาไม่แพ้กัน “กระหม่อมหลับลงไปแล้วพักหนึ่ง.. แต่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของคนนอกตำหนักดังขึ้นต่อเนื่องเลยตื่นขึ้นมาน่ะพะยะค่ะ”

“เจ้ากำลังกลัว”องค์คาเซียทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมองเจ้าชีวิต พระองค์หมายจะตรัสอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกขัดเสียก่อน “ภายในใจของเจ้ามีความกังวลมากมาย...”

“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”อยากจะปฏิเสธ แต่พระองค์ก็ทราบดีกว่าบุคคลตรงหน้าพระองค์คงมิยอมเชื่อโดยง่ายเป็นแน่ “กระหม่อมกลัว... ที่จะสูญเสียอีกครั้ง”

องค์ราชาทรงโอบกอดร่างของพระชายาแน่น พระหัตถ์หน้ากุมพระหัตถ์เรียว ก่อนที่จะทรงขยับขึ้นมาแนบพระปรางขององค์เอง

“ข้าจะปกป้องเจ้ากับลูกเอง... คาเซีย”รอยยิ้มอบอุ่นที่ทรงมอบให้พาดวงหฤทัยของชายาเปรมปรีดิ์ “ข้ารักเจ้านะ คาเซียที่รัก”

อัลสุชลไหลซึมออกมาจากพระเนตรหวาน รอยยิ้มแห่งความสุขฉาบทับบนพระพักตร์งาม

“ร้องไห้ทำไม หืม...”องค์ทริสเซย์ตรัสถามเบาๆ “เจ้าเสียใจเช่นนั้นหรือ”

“เปล่าพะยะค่ะ... กระหม่อมกำลังดีใจ”พระองค์ตอบกลับเบาๆ พระพักตร์ในขึ้นสีแดงระเรื่อ “กระหม่อม... ก็รักฝ่าบาทนะพะยะค่ะ”

สายสัมพันธ์ที่ไม่อาจมองเห็นเชื่อมต่อเข้าหากัน สองดวงใจผูกพันกันด้วยความรักที่ก่อกำเนิด...

รัก... คำที่ทั้งสองต่างรอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็ได้รับมา จากหัวใจ

+++++++++++++++++

หวานไหม... ลางร้ายเริ่มมาแล้วนะ ฮ่าๆ

แปะลิงค์ฝั่งเด็กดีไว้หน่อย... ส่วนมากมีข่าวอะไรจะไปแปะในนั้นน่ะค่ะ^^

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=788628
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-04-2012 17:52:46
 :เฮ้อ:
 
ลางร้ายมาแล้ว จะต้องสูญเสียอะไรกันอีกนะ
ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยจริงๆ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: kids-me ที่ 25-04-2012 18:08:03
อยากได้แบบนี้อีกจัง

ชอบจังเลย

 o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 25-04-2012 18:43:54
หวานขนาดนี้ยังจะมีลางร้ายอีกแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-04-2012 18:47:04
หวานขนาดนี้ยังจะมีลางร้ายอีกแล้วเหรอ

มาเพราะคนเขียนเองค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-04-2012 19:22:12
อะไรคือสิ่งที่ต้องสูญเสียกัน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 25-04-2012 19:40:43
เสียลูก T^T สิท่า....
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-04-2012 19:47:28
หวานมาได้ตอนเดียว มาม่าจะมาอีกแล้วหรอออออ

 :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: zakimi ที่ 25-04-2012 20:00:29
เห็นลางมาม่ามาแต่ไกล้   ท่าทางช่วงนี้คนเขียน ต้มมาม่ากินทุกวันแน่เลย :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 25-04-2012 21:39:41
มีเค้าดราม่าตลอดอ่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 26-04-2012 11:44:51



    อ้ากกกกก หวานกันเชียว
    ว่าแต่ฝ่าบาทเนี่ยขับไล่ไสส่งโซเทเรียเต็มที่เชียวนะ



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-04-2012 17:16:29
ประกาศ...

ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(27 เมษา) ถึง วันที่ศุกร์หน้า(4 พฤษภา) คนเขียนหายตัวนะคะ...

ไปตะลอนทัวร์ที่ต่างประเทศค่ะ...

พบกันใหม่ตอนหน้า... เส้นมาม่าเริ่มอืดนะคะ

ขอบคุณค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 26-04-2012 17:24:21
T[]T ไปดีมาดีนะค่ะ/ครับ รออัพ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 27-04-2012 01:22:43
จะสูญเสียอะไรอีกเนี้ย

แต่ตอนนี้รักกันๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-04-2012 08:14:09
ง่ะ นานไปไหม
คิดถึงแย่เลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 27-04-2012 09:24:16
 จับมันมาประหารด่วน!!

เกือบทำให้คาเซียตายแล้วมั้ยพวกบ้า!!

T^T ฮือ ๆ อย่าเป็นอะไรไปน้าคาเซีย

ยังไม่ได้เห็นองค์ชายประสูติเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: anakin-lolyboy ที่ 27-04-2012 14:47:49
 :z3: :z3:ไม่ไม่ม่ายยยยยยยยยยยยยอย่ามาทำแบบนี้นะ หนูรินจะอ่านตอนต่อไปมาทำให้หนูรินติดแล้วจะทิ้งกันไปแบบนี้ไม่ได้นะ  อัพเถอะอัพๆๆๆๆๆๆๆ

นุกอะชอบมากๆเลยเนื้อเรื่องแบบโอวโดนใจเป็นที่สุด พระชายาจ๊ารินไปเป็นนางกำนัลให้ม๊าจะขนอาก้าไปยืนเฝ้าหน้าห้องเลย อ๊ายยยยยยยรักเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 27-04-2012 16:58:28
ทริสเซียดูแลคาเซียดี ๆ นะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 27-04-2012 17:03:33
ไปนานจัง :m15:

เที่ยวให้สนุกน่ะค้าา :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 29-04-2012 15:36:56
มาม่าไม่ต้องชามใหญ่นักนะค่ะ นู๋ชอบกินแต่พอดี ๆ   :m15:

 :pig4: ค่ะ  รอลุ้น ^ ^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: OJSG7 ที่ 03-05-2012 15:09:55
ดราม่า T..T ถึงเรื่องนี้จะซับซ้อนนิดหน่อยแต่ก็สนุกมากค่ะ
สูญเสีย....สูญเสียอะไรเรอะค่ะ  อย่าไห้มีไคตายก็พอ
โดยเฉพาะ"คาเซียและทริสเซย์" อิอิ คนแต่งรีบๆ กลับมาเน้อ
คนอ่านรออยู่เด้อ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] แจ้งข่าว R.283
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-05-2012 01:52:31
กลับถึงบ้านแล้วค้า~

มึนเครื่องบินมาก... เดี๋ยวมาลงตอนต่อไปให้นะคะ

^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่27 P.10 R.272] กลับมาแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-05-2012 09:53:46
บทที่ 28
ตำนานรักสองราชวงศ์ : วางยา

หลังจากวันที่องค์ราชาแห่งเฟรนเซียเสด็จกลับมายังอาณาจักรของพระองค์ และได้ทรงรับรู้ถึงทายาทที่ก่อกำเนิดนั้น ความวุ่นวายในราชสำนักก็เริ่มขึ้น

การวางกำลังทหารรักษาพระองค์โดยรอบพระตำหนักโพรเทียและพระราชวังแน่นหนามากขึ้น เครื่องเสวยที่ยกมาถวายแต่ละครั้งต้องได้รับการตรวจสอบโดยรอบคอบจากหมอหลวง และการเข้าเฝ้าองค์ทริสเซย์และพระชายาแต่ละครั้งจะต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้กุมอำนาจสูงสุดเสียก่อน

นับวันองค์ชายคาเซียยิ่งรู้สึกว่าพระองค์มีเวลาว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ งานที่ทรงเคยทำก็ถูกดึงออกไปทีละอย่าง สองอย่าง ผ่านมาครึ่งเดือนงานทั้งหมดก็หายจากพระหัตถ์ของพระองค์ไปจนหมดสิ้น

เหล่าขุนนาง เมื่อรู้ว่าพระชายากำลังจะมีรัชทายาท จากเดิมที่เกี่ยงกันทำงาน แต่ในตอนนี้ต่างแย่งงานที่เคยส่งให้พระองค์ทำกลับมาทำเองกันหมดด้วยสีหน้าชื่นบาน ทั้งยังมีการมาบอกพระองค์ด้วยว่า ‘งานแค่นี้สบายมากพะยะค่ะ พระชายา มิจำเป็นต้องถึงพระหัตถ์ของพระชายาหรอก’ แล้ว... ทำไมก่อนหน้านี้ถึงมากองอยู่กับพระองค์ทั้งหมดกันล่ะ

องค์ทริสเซย์ ในเวลานี้มิยอมห่างจากกายของพระชายาเลยแม้แต่น้อย พระองค์ทรงงานในห้องรับรองของตำหนักโพรเทีย โดยมีพระชายาเอนพระวรกายอยู่บนโซฟามิไกลจากพระองค์นักทุก ๆ วัน ไม่ว่าองค์คาเซียจะทรงขยับไปทางไหน พระองค์ก็จะทรงละพระหัตถ์จากงานที่ทรงทำอยู่มาช่วยประคองร่างเล็กเสมอ

สองนางกำนัลคู่ซี้ ก็นั่งอยู่ไม่ไกลจากนายของพวกนาง ทั้งสองช่วยกันเย็บฉลองพระองค์สำหรับสายพระโลหิตที่จะถือกำเนิดมาในอีกไม่ช้า โดยที่ไม่ลืมเย็บให้กับหลานของพวกนางที่เกิดจากเซทด้วย

เรฟและเซทได้รับพระบรมราชานุญาต (แกมพระบัญชา)จากองค์ราชาโดยตรงว่าให้พวกเขาหยุดงานทั้งหมดไปจนกว่าเซทที่ตั้งท้องเจ็ดเดือนจะคลอดทายาท และฟื้นฟูร่างกายจนแข็งแรงดีแล้ว ค่อยกลับมาทำงานใหม่ ถ้ายังต้องการที่จะเป็นองครักษ์ให้กับพระชายาต่อไป

องค์ชายเคเซย์ทรงส่งข่าวมาบอกกับองค์ชายคาเซียว่า องค์ชายโซเทเรียยังแข็งแรงดี พระครรภ์แก่ ใกล้จะประสูติกาลเต็มทีแล้ว ซึ่งจากการคำนวณของพระองค์ก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะองค์โซเทเรียก็ตั้งพระครรภ์มาได้แปดเดือนครึ่งแล้ว อีกไม่นานคงจะได้รู้กันว่าสายโลหิตคนแรกของพระองค์จะเป็นโอรสหรือธิดา

เหล่าสนมทั้งหลายถูกกันออกให้ห่างจากพระชายามากที่สุดเท่าที่เหล่าทหารจะทำได้ พวกนางไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าองค์ทริสเซย์ขณะที่ทรงประทับอยู่กับองค์คาเซียเลยแม้สักครั้ง... สร้างความขัดเคืองพระทัยให้กับพวกพระนางเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็มิสามารถทำอะไรได้ ด้วยเกรงพระราชอำนาจแห่งเจ้าเหนือหัว

เวลาผ่านไปเดือนเศษ งานที่องค์ชายเคยทำอยู่ก็ถูกลิดรอนไปจนหมด ไม่เว้นแม้แต่การเย็บผ้าธรรมดา ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ เจ้าผู้ครองเฟรนเซียทรงโปรดให้องค์คาเซียประทับอยู่นิ่ง ๆ เสียมากกว่า

ด้วยเหตุนี้.... เมื่อผ่านไประยะหนึ่งพระชายาทรงรู้สึกเบื่อในการประทับนิ่ง ๆ บางครั้งพระองค์จึงแอบขยับกายไป มองฎีกาที่องค์ราชาทรงอ่านอยู่ แต่ทุกครั้งที่พระองค์ก็อดที่จะเสนอความคิดเห็นมิได้ จึงทำให้ได้รับสายพระเนตรดุ ๆ จากองค์ทริสเซย์หลายต่อหลายครั้ง

เหตุการณ์ที่องค์ราชันย์และเหล่าขุนนางตื่นตระหนกรองการเหตุการณ์ลอบสังหารเมื่อเดือนก่อนคือตอนที่พระชายาทรงเผลอพลิกพระวรกายที่เอนพิงพระเขนยอยู่จนเกือบร่วงลงมาจากที่ประทับ ทำเอาขวัญของทุกคนในห้องทรงอักษรร่วงไปตาม ๆ กัน

หลังจากเหตุการณ์นั้นองค์ทริสเซย์จึงทรงย้ายตัวพระองค์เองมาประทับที่โซฟาเพื่อให้พระชายาบรรทมหนุนพระเพลา ในขณะที่ทรงงานไปด้วย

เนลเดินถือพระราชสารจากเซเรียลเข้ามาในห้องรับรอง นางมองสารในมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะมอบให้กับนายของนางที่ประทับนอนอยู่

องค์ราชาทรงประคองวรกายของว่าที่เสด็จแม่ขึ้นมาช้า ๆ องค์ชายคาเซียทรงเปิดพระราชสารออกดู ก่อนที่จะทรงยิ้มขึ้นมาอย่างดีพระทัย

ถึง พระชายาคาเซีย

คาเซีย เราส่งสารฉบับนี้มาให้เจ้าเพื่อแจ้งให้เจ้าได้ทราบว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพระชายาโซเทเรียทรงมีพระประสูติกาลแล้ว
บุตรของเจ้าคนแรกเป็นพระโอรส หน้าตาน่าเกลียดน่าชังยิ่งนัก เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเจ้านั้นเห่อหลานคนแรกเป็นอย่างยิ่ง
นามของโอรสเจ้า พระชายาโซเทเรียตั้งให้ว่า คาเซเรีย เห็นว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เจ้าเห็นพ้องด้วยแล้ว

พระชายาและเจ้าชายโซเนล์ฝากเราบอกท่านว่า เมื่อร่างกายของพระชายาแข็งแรงดีแล้วจะเสด็จไปหาเข้าที่เฟรนเซียอย่างแน่นอน

   เอาไว้เราจะส่งมาหาเจ้าใหม่นะ น้องสะใภ้

                 เคเซย์

ปล. พระเชษฐาของเจ้ามองเราได้ทั้งวัน... บอกเขาทีว่าถ้ายังมองอีกเราจะควักลูกตาเขาให้ดู!!

ปล.2 ทริสเซย์ ดูแลชายาน้องดี ๆ ล่ะ น้องสะใภ้พี่เหนื่อยกับน้องมามากแล้ว


“ลูกคนแรกของเจ้าเป็นบุรุษ ดีใจด้วยนะ คาเซีย”องค์ทริสเซย์ตรัสเบาๆด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “แล้วลูกของเราคนแรกจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันนะ”

“อีกสองเดือนครึ่งคงจะทราบแล้วล่ะพะยะค่ะ”พระชายาทรงลูบพระครรภ์ที่นูนโตเบาๆ “ตอนนี้น่าลุ้นเซทเสียมากกว่า อีกไม่เกินหนึ่งเดือนก็จะคลอดแล้วนะพะยะค่ะ”

“นั่นสินะ น่าลุ้นจริงๆ”พระหัตถ์หนาทรงวางบนพระอุทรขององค์คาเซียเบาๆ

องค์คาเซียทรงเอนพระวรกายลงนอนอีกครั้ง พระองค์ทรงรู้สึกมีความสุขไม่น้อยกับการได้รับรู้ถึงการกำเนิดของโอรสองค์แรกของพระองค์

องค์ทริสเซย์ทรงยิ้มบาง ๆ ให้กับชายาของพระองค์ พระหัตถ์ลูบไล้พระครรภ์ของพระชายาเบา ๆ ด้วยความรัก

“ง่วงหรือเปล่าหืม... คาเซีย ไปนอนพักผ่อนในห้องไหม”พระองค์ตรัสถามผู้เป็นดวงหฤทัยของพระองค์อย่างเป็นห่วงเป็นใย

“ไม่พะยะค่ะ กระหม่อมไม่ง่วง...”เสียงหวานตอบกลับ ขัดกับท่าทางที่แสดงออกยิ่งนัก

พระเนตรหวานปรือปรอยใกล้ปิดลงเต็มที่ ก่อนที่จะบรรทมไปในเวลาถัดมา

“ไหนว่าไม่ง่วงไง”องค์ราชาทรงพึมพำเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มเอ็นดู พระองค์ทรงเอื้อมไปหยิบผ้าแพรผืนบางที่อยู่ไม่ไกลมาคลี่ออก ก่อนที่จะทรงห่มคลุมร่างอวบ “หลับให้สบายนะ ที่รัก”

พระองค์ทรงงานต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยพระทัยที่เปี่ยมสุข พระองค์ทรงหลุบพระเนตรลงมาทอดมองร่างที่ซุกอยู่บนพระเพลาของพระองค์อย่างอ่อนโยน

เหล่าขุนนางต่างแอบมองภาพตรงหน้าด้วยความปลาบปลื้มใจ แม้พระชายาคาเซียจะทรงเป็นบุรุษเพศ แต่ก็มิใช่ปัญหาใหญ่อะไรในการที่พวกเขาจะช่วยกันผลักดันพระองค์ให้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด ด้วยสติปัญญา ยศถาบรรดาศักดิ์ พระเมตตา ความทุ่มเท และทุก ๆ อย่างที่พระชายามีให้กับราษฎรนั้น ไม่อาจที่จะมีใครมาโต้แย้งได้ว่า พระชายามิเหมาะสมกับตำแหน่งพระแม่ของแผ่นดิน

แต่ถึงกระนั้น ขุนนางบางคนที่ส่งบุตรสาวเข้ามาเป็นพระสนมก็รู้สึกไม่ชอบใจกับพระชายาคาเซียนัก ด้วยความที่พวกเขาวาดหวังบรรดาศักดิ์ที่จะได้รับหลังจากที่บุตรีของตนนั้นขึ้นสู่ตำแหน่งอันสูงส่งเอาไว้มาก แต่ความหวังนั้นก็ต้องพังทลายลง เพราะพระองค์
เรลก้าวเข้ามาในห้องรับรองอย่างช้า ๆ นางมองพระพักตร์ขององค์ชายน้อย ๆ ก่อนจะหันไปหาพี่สาวของนาง

“เซทเป็นไงบ้างเรล”เนลเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา... แต่ถึงจะเบาสักเพียงใด ในเมื่อในห้องแห่งนี้นั้นไร้ซึ่งเสียงพูดคุย จึงทำให้ได้ยินกันทั่วหน้า

“เฮลบอกว่าคงจะคลอดก่อนกำหนดล่ะ พี่”เรลตอบกลับด้วยเสียงเบาไม่แพ้กัน “ร่างกายของเซทอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรงดี แต่ได้รับการกระทบกระเทือนจากการปะทะกับผู้ลอบสังหารมาหลายครั้ง แล้วยังมีภาวะความเครียดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งหมดล้วนส่งผลให้มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดทั้งนั้น”

“เหรอ... แต่ก็คงไม่น่าห่วงเท่าไหร่นัก เพราะถึงอย่างไร เซทก็ตั้งท้องได้แปดเดือนแล้ว เหลือเพียงเดือนเดียว เด็กในท้องคงไม่เป็นอันตราย ถ้าเขาจะออกมาลืมตาดูโลกก่อนกำหนด”

“เฮลก็บอกเช่นนั้นเหมือนกัน”เรลพยักหน้ารับ นางเหลือมองนายของนางน้อย ๆ ก่อนจะพูดต่อ “เฮลเขากำลังห่วงพระชายามากกว่า... พระวรกายของพระองค์มิแข็งแรง บาดแผลที่ทรงได้รับ แม้จะหายสนิทดีแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังทรงน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย...”

“เฮลคงไม่มีสิ่งที่ทำให้เป็นกังวลแค่นั้นใช่ไหม”เนลเอ่ยถามเบา ๆ ใบหน้าของนางซีดลงนิด ๆ “อย่าบอกนะว่า...”

“เป็นตามที่พี่คิดนั่นแหละ”เรลเม้มปากแน่นอย่างอดกลั้น

“คนของคาเซียยังมีกังวลใจอะไรอีก... เจ้าบอกข้ามาซิ”องค์ทริสเซย์ที่ทรงฟังมานานตรัสถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา พระองค์ทรงคาดเดาคำตอบที่จะทรงได้รับเอาไว้แล้ว...

“เฮลเกรงว่าถ้าพระชายาทรงได้รับการกระทบกระเทือนอันใดอีกแม้เพียงครั้ง... อาจจะเกิดการสูญเสียได้เพคะ”เรลทูลต่อพระองค์ด้วยเสียงอันเบา แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนในที่นี้ก็ได้ยินกันทั่ว

ผู้คนภายในห้องทรงอักษรต่างพากันนิ่ง ไม่มีใครขยับตัวทำอะไรเลยแม้เพียงสักคน พวกเขาต่างรู้สึกผิดที่ไม่เคยรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยจนกระทั่งพระราชาเสด็จกลับมายังอาณาจักร...

ถ้าในวันนั้นองค์ทริสเซย์มิทรงเสด็จกลับมา... มันจะเป็นอย่างไรกันนะ จะต้องสูญเสียสักเพียงไร ทุกคนคงต้องจมอยู่กับความผิดบาปไปชั่วชีวิตเป็นแน่

“ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดหรืออะไรกันเลยมิใช่หรือ เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขได้”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา

องค์คาเซียที่ทรงบรรทมไปได้พักหนึ่งลืมพระเนตรขึ้นช้า ๆ รอยยิ้มอ่อนโยนถูกคลี่ส่งให้กับทุก ๆ คน

พระหัตถ์เรียวเอื้อมไปแตะพระพักตร์หล่อเหลาแผ่วเบา พระเนตรของทั้งสองพระองค์สบประสานกัน ส่งถ้อยคำหวานอย่างลึกซึ้ง

“ข้าจะปกป้องเจ้าเองนะ คาเซีย...”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พาให้หัวใจดวงน้อยรับรู้ถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนาน “ข้าสัญญะ...”

พระหัตถ์เรียวเลื่อนมาปิดพระโอษฐ์ของนายเหนือหัว องค์ชายคาเซียทรงส่ายพระพักตร์น้อยๆเป็นการปฏิเสธ

“ฝ่าบาททรงเป็นกษัตริย์ คำมั่นสัญญาที่ทรงตรัสนั้นต้องถือครองตราบสิ้นชีวัน และฝ่าบาทก็ทรงเป็นมนุษย์ ทรงมีกิเลสและตัณหาเหมือนทุก ๆ คน”พระชายาทรงตรัสออกมา ขณะที่พระเนตรยังคงจับจ้องพระพักตร์ของเจ้าแผ่นดิน “ฝ่าบาทอย่าทรงสัญญาอะไรกับกระหม่อมจะเป็นการดีเสียกว่า... มิเช่นนั้น ในอนาคต ฝ่าบาทอาจจะทรงมานึกเสียพระทัยที่หลัง ก็จะสายไปเสียแล้วนะพะยะค่ะ”

“ถ้าเจ้าจะโลภขึ้นสักนิด เราจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง คาเซีย”

++++++++++++++++

หลังจากนั้นมาไม่ถึงสามอาทิตย์ เซทก็คลอดบุตรชายคนแรกของเขาออกมา ทารกตัวน้อยเหมือนบิดาราวกับถอดพิมพ์กันออกมา ซึ่งทำให้เซทน้อยใจเล็ก ๆ แต่ก็มิได้เป็นอะไร

บุตรชายคนแรกของเรฟกับเซทนั้น มีนามว่า เซเรล ซึ่งเป็นชื่อที่องค์ราชาทรงพระราชทานให้

หลังจากที่เซเรลเกิดมาได้หนึ่งเดือน องค์คาเซียก็ทรงจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ภายในตำหนักขึ้น เพื่อรับขวัญหลานชายคนแรกของพระองค์

อาหารในงานนี้ องค์ชายและนางกำนัลอีกสี่คนช่วยกันทำ แม้จะทำออกมาได้ไม่หรูหราเทียบเท่ากับที่คนของห้องเครื่องทำ แต่รสชาตินั้นมิได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย

เมื่อถึงเวลาเย็น องค์ทริสเซย์ องค์คาเซีย เซท เรฟ ก็นั่งรวมกันอยู่ในศาลากลางสวนข้างพระตำหนัก

เรฟกับเซทรู้สึกเกร็งไม่น้อยที่มานั่งกับนายเหนือหัวเช่นนี้ แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ ทั้งสองแก้อาการประหม่าด้วยการหันมาเล่นกับเซเนลไปเรื่อย ๆ

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น เรล เนล เมร่าและเอลน่าช่วยกันยกเครื่องเสวยออกมากันอย่างไม่ขาดสาย

“ดีใจด้วยอีกครั้งนะ เรฟ เซท”พระชายาทรงยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นเสวยแสดงความยินดี

“ขอให้พวกเจ้ามีความสุขล่ะ”องค์ทริสเซย์ทรงยกแก้วขึ้นเสวยบ้าง

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”ทั้งสองขายรับพร้อมกัน

นางกำนัลร่างเล็กคนหนึ่งถือเครื่องเสวยมาวางบนโต๊ะ ขณะที่ทั้งสี่กำลังสนทนาพูดคุยกันอยู่ องค์คาเซียทรงหันมาเห็นน้ำแกง จึงทรงตักขึ้น เพื่อเสยวเหมือนดังปกติของพระองค์

“องค์ชายเพคะ อย่าเสวยนะเพคะ”เนลร้องห้ามเสียงดังลั่น...

แต่ก็มิทันเสียแล้ว พระองค์ทรงเสวยน้ำแกงนั้นเข้าไป ก่อนที่จะทรงปล่อยถ้วยลง...

พระหัตถ์เรียวกุมพระครรภ์นูนโต สีพระพักตร์ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำอุ่นๆไหลรินลงมาระหว่างขา

“คาเซีย!!!”

++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วค้า หายไปนานอยู่เหมือนกัน ฮ่า ๆ

ไปเที่ยวมา... ซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากด้วย... เล่นเกมกันหน่อยนะคะ

http://writer.dek-d.com/sea-son/writer/viewlongc.php?id=788628&chapter=36

ตอนต่อไป... ยังแต่งไม่จบ...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 05-05-2012 10:37:47
T[]T คาเซียยยยยยย!!!!!!!! ม้อยยยยน้าาาาาาาาาาา
แงงง อยากดูต่อ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-05-2012 10:57:12
น่ะ...
อย่าบอกนะว่าจะแท้งน่ะ ไม่ยอมจริงๆด้วย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: OJSG7 ที่ 05-05-2012 13:02:28
คาเซีย ไม่น่ะ  ไม่เอาๆๆ  อย่าแท้งๆๆ  T...T
คนแต่งกลับมาสักทีรอตั้งหลายวัน ดีน่ะ มาม่าไม่ทันอืดยังพอกินได้ อิอิ
.................................................................
[ฝากแก้ด้วยน่ะค่ะ] รู้่สึกจะเปน เซเนล ??
ทั้งสองแก้อาการประหม่าด้วยการหันมาเล่นกับเรเนลไปเรื่อย ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-05-2012 13:08:36
คาเซีย ไม่น่ะ  ไม่เอาๆๆ  อย่าแท้งๆๆ  T...T
คนแต่งกลับมาสักทีรอตั้งหลายวัน ดีน่ะ มาม่าไม่ทันอืดยังพอกินได้ อิอิ
.................................................................
[ฝากแก้ด้วยน่ะค่ะ] รู้่สึกจะเปน เซเนล ??
ทั้งสองแก้อาการประหม่าด้วยการหันมาเล่นกับเรเนลไปเรื่อย ๆ

ขอบคุณค่ะ^^

ความเบลอเริ่มทำพิษTT
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 05-05-2012 14:09:53



   อะอ้าว โดนอะไรไปแล้วอ่าเนี่ย แล้วจะเป็นอะไรมากป่าวอ๊ะ
   คนเอามาเสริฟนี่ก็แอบเอาน้ำแกงมาวางได้เนียนๆ เลยนะ
   ต่อหน้าพระพักต์แท้ๆ



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 05-05-2012 14:15:07
 o22 o22 o22 o22

แว๊กกกกกกกกกกก

อย่างเป็นอะไรไปน้าาาาาาาาาา

ไม่ยอมมมมมมมมม

 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 05-05-2012 15:52:50
เฮ้ยย ใครทำว่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 05-05-2012 16:01:12
ีคาเซียยยย   :sad4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-05-2012 16:42:23
แกงนั่น กินแล้วน้ำเดินหรอ?

 :really2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 05-05-2012 17:28:53
แกงนั่น กินแล้วน้ำเดินหรอ?

 :really2:

ใส่ยาขับ... ค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 05-05-2012 18:09:19
คาเซียอย่าเป็นอะไรน๊า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 05-05-2012 19:53:15
 :serius2:
เป็นอย่างนี้ได้เยี่ยงไร
ตัดฉับ  รอให้ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 05-05-2012 21:43:42
คาเซียยยยย
ไม่เอานะ อย่าเป็นอะไรไป
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 05-05-2012 23:09:26
กำลังสนุกเลยอะ่


ขอให้อย่าเปนรัยเลยนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 06-05-2012 08:10:04
คาเซียจะเป็นยังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 06-05-2012 20:57:41
ไม่จริงใช่ไหม?  :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 06-05-2012 21:05:21
 :a5: ขอให้ปลอดภัยทั้งแม่(?)และลูก  :call: 
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 06-05-2012 21:19:31
อย่าน้า :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 07-05-2012 09:01:27
ใครทำเอ่ยยยย(ยิ้มยั่ว)
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่28 P.10 R.294] กลับมาต่อแล้วค่ะ...
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-05-2012 19:07:10
บทที่ 29

ตำนานรักสองราชวงศ์ : ประสูติกาล

หมอหลวงตรงปรี่เข้ามาตรวจอาการของพระชายาทันทีที่มาถึงพระตำหนักโพรเทีย เขามุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเฉียบขาด

“เตรียมห้องให้พร้อม พระชายาต้องมีพระประสูติกาลเดี๋ยวนี้”

ทั้งตำหนักโพรเทียเกิดความโกลาหลขึ้นทันที เหล่านางกำนัลวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อเตรียมการสำหรับการกำเนิดของสายพระโลหิตแห่งองค์ราชันย์

องค์ทริสเซย์ทรงโอบกอดวรกายบางเอาไว้หลวม ๆ พระองค์ทรงกอบกุมพระหัตถ์ของพระชายาเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อให้พระชายาทรงรับรู้ได้ว่าพระองค์อยู่ข้าง ๆ พระชายาเสมอ

ร่างอวบบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด องค์คาเซียทรงกำพระหัตถ์หนาแน่นเพื่อระบายความรู้สึกทรมานที่พระองค์ทรงได้รับ
ห้องประสูติถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่กำลังของมนุษย์จะทำได้ เนบ เรล เมร่า เอลน่า นั่งอยู่ใกล้ๆหมอหลวง เพื่อที่ว่าถ้าท่านหมอเรียกใช้เมื่อใด พวกนางจะได้เข้ามาทำได้ในทันที

องค์ทริสเซย์ทรงเลื่อนพระหัตถ์ของพระชายาไปจับผ้า ที่ห้อยลงมา ก่อนที่จะทรงรับผ้าสะอาดมาให้พระชายาทรงกัดเอาไว้

“ข้าจะอยู่ตรงนี้นะคาเซีย... จะอยู่ข้างหลังเจ้าตลอดเวลา”พระองค์กระซิบเบา ๆ ที่ข้างพระกรรณเล็กอย่างอ่อนโยน
หมอหลวงพยักหน้าให้เป็นสัญญาณเริ่มการประสูติกาล

“เอาล่ะ... เบ่งนะคนดี”

“อื้ออออออออออ”พระหัตถ์เล็กกำผ้าแน่นจนเห็นข้อขาว พระบาทจิกลงกับพระยี่ภู่ (ฟูกนอน)

หัวใจของทุกคนในที่นั้นเต้นระรัวกับการกำเนิดของสายพระโลหิตพระองค์แรกแห่งเฟรนเซีย

เวลาผ่านไปสักพักความกังวลเริ่มครอบงำจิตใจของทุกคน เมื่อจนถึงตอนนี้พระชายายังไม่ทรงมีพระประสูติกาลเสียที

เรี่ยวแรงขององค์คาเซียเริ่มหดหาย แต่พระองค์ก็ยังทรงออกแรงเบ่งอยู่อย่างต่อเนื่อง พระเสโทไหลซึมออกมาตามพระวรกายของพระองค์

พระโลหิตเริ่มไหลซึมออกมาจากช่องทางเล็ก เนื่องจากการเปิดกว้างเกินกว่าที่ช่องทางนั้นจะขยายได้ สร้างความเจ็บปวดให้พระองค์มิใช่น้อย

องค์ราชาทรงคอยซับพระเสโทให้กับพระชายามิขาด พระเนตรทอดมองด้วยความเป็นห่วงยิ่งนัก

“เบ่งพะยะค่ะ พระชายา ใกล้แล้วพะยะค่ะ”หมอหลวงพูดขึ้นเสียงไม่เบา

“อื้อออออออ”

องค์คาเซียทรงออกแรงเบ่งคลอดอีกครั้ง และอีกครั้ง

“อดทนหน่อยนะ ที่รัก”เสียงทุ้มกระซิบเบา ๆ ข้างพระกรรณของพระองค์ที่กำลังอ่อนแรง

เวลาผ่านไปอีกพักหนึ่ง ในที่สุดพระชายาก็ทรงมีพระประสูติกาลสายโลหิตองค์แรกแห่งองค์ราชันย์ ท่ามกลางความโล่งใจของทุกคนโดยรอบ

“แอ๊~”

“เป็นพระโอรสนะพะยะค่ะ”ท่านหมอเอ่ยบอกทั้งสองพระองค์อย่างยินดี “กระหม่อมยินดีด้วยพะยะค่ะ...”

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำเรื่องอันใดต่อไป พระชายาคาเซียก็ทรงออกแรงเบ่งอีกครั้งหนึ่ง หมอหลวงส่งพระโอรสในอ้อมแขนให้กับนางกำนัลเนลทันที

ทุกคนในห้องบรรทมขององค์ชายหันไปมองหน้ากันอย่างวิตกกังวล... กับการมีสายพระโลหิตแฝดเช่นนี้ มันจะเป็นการดีแน่หรือ...

สายพระโลหิตองค์ที่สองนั้นมิได้คลอดยากเหมือนกับพระองค์แรก... หมอหลวงอุ้มทายกน้อยขึ้นมา เขาทอดมองด้วยสายตายากจะคาดเดา

เสียงแรกแห่งบุตรคนที่สองมิดังขึ้น พระหฤทัยของผู้เป็นพระบิดาและพระมารดาที่เฝ้ารอคอยนั้นราวกับหล่นหายไป

หมอหลวงส่งสายพระโลหิตองค์น้อยให้กับผู้เป็นพระมารดาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง... ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด ๆ ทั้งสองพระองค์ก็ทรงรับรู้ได้ในทันที...

พระชายาทอดพระเนตรพระธิดาของพระองค์อย่างเจ็บปวด พระหัตถ์เรียวลูบไล้ดวงหน้าของเด็กตัวน้อยเบา ๆ เช่นเดี๋ยวกับองค์ทริสเซย์ที่ทรงโอบประคองวรกายบางเอาไว้ พระองค์ทรงทอดมองธิดาตัวน้อยด้วยความอาลัย

น้ำอัลสุชลไหลซึมที่หางพระเนตรขององค์คาเซีย ก่อนที่พระองค์จะทรงสลบไปด้วยความเหนื่อยอ่อนในอ้อมพระกรของพระราชา

องค์ทริสเซย์ทรงนำพระธิดาที่สิ้นพระชนม์แต่แรกกำเนิดออกมาจากอ้อมกรของพระชายา พระองค์ประทับจุมพิตที่พระนลาฏเล็กแผ่วเบา ก่อนจะทรงลุกขึ้นแล้วส่งธิดาให้กับหมอหลวง

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ...”หมอหลวงเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์ของนายเหนือหัว

“พอลูกสาวข้าไปทำพิธี... พาเขาไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษในสุสานหลวง อย่างเงียบๆ”มิใช่ว่าพระองค์มิอยากจะจัดงานให้กับพระราชธิดาอย่างสมเกียรติ... แต่เพื่อรักษาชีวิตของพระชายาและพระราชโอรสเอาไว้... เพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง พระองค์จำต้องทำเช่นนี้

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ”หมอหลวงหายตัวออกไปจากห้องบรรทมทันที เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมา

นางกำนัลทั้งสี่ช่วยกันชำระพระวรกายของพระชายาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง พวกนางรู้สึกสงสารและเจ็บปวดแทนพระชายากับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้

ถึงแม้ว่าพระโอรสและพระธิดาจะทรงกำเนิดมาเป็นฝาแฝดกัน ในภายภาคหน้าอาจจะมีข้อครหาให้เจ็บปวดบ้างในบางครั้ง แต่ก็ยังดีเสียกว่าการสูญเสียคนใดคนหนึ่งไปดังเช่นในเวลานี้

“ไปค้นหาตัวต้นเหตุมา”สุรเสียงเยียบเย็นเอ่ยขึ้นกับเงามืด พระเนตรคมโชนแสงแรงกล้า “เอาพวกมันมาทั้งหมด ตั้งแต่ตัวการของเรื่องนี้ จนไปถึงผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมด ส่วนคนที่พวกมันว่าจ้างมาไม่ต้อง ข้ารู้ว่าคนพวกนั้นไม่มีทางเลือกให้กระทำได้มากนัก”

“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”เสียงเข้มตอบรับอย่างหนักแน่น แฝงไปด้วยความโกรธเล็ก ๆ “กระหม่อมจะลากคอพวกมันออกมาทั้งหมดให้จงได้พะยะค่ะ”

เขากำลังโกรธ... ใช่ เขาโกรธมากเสียด้วย การทำร้ายกันอย่างโสมมเช่นนี้ ชีวิตของเด็กบริสุทธิ์ต้องถูกทำลายลงด้วยความริษยาอันน่ารังเกียจ...

องค์ทริสเซย์ทรงกำพระหัตถ์ระงับพระอารมณ์กริ้ว พระพักตร์นิ่งเฉย... จนน่ากลัว แม้จะไม่ทรงตรัสอันใดออกมา แต่เหล่านางกำนัลก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของพระองค์...

ชั่วชีวิตของพระองค์นั้นมิเคยกริ้วโกรธเรื่องใดนัก แต่ครั้งนี้... พระองค์ทรงรู้สึกมากกว่าคำว่าโกรธเสียอีก ความรู้สึกของพระองค์กำลังตีกันไปหมด โกรธ เสียใจ เจ็บปวด และแค้นเคือง... เชื่อว่าถ้าคนที่ทำเช่นนี้กับคนรักและลูกของพระองค์มาอยู่ตรงหน้า พระองค์คงจะฉีกเนื้อพวกมันเป็นชิ้น ๆ โยนให้เดรัจฉานกินได้อย่างไม่ใยดีเป็นแน่แท้

“ฝ่าบาทเพคะ...”เนลชันเข่าเข้ามาให้องค์ทริสเซย์ที่ทรงประทับยืนนิ่ง “พระโอรสเพคะ... ฝ่าบาท”

ความกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวขององค์ทริสเซย์นั้นหายไปทันที เมื่อพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระโอรสองค์น้อย
พระหัตถ์แกร่งยื่นไปรับร่างของสายพระโลหิตมาโอบอุ้มไว้ในอ้อมพระกร พระเนตรคมทอดมองทารกน้อยด้วยความรัก

“เซเซีย...”เสียงทุ้มตรัสออกมาเบา ๆ “ข้าให้ชื่อเจ้าว่า เซเซีย”

ทารกน้อยยิ้มรับชื่อของตนราวกับรู้ความ เรียกความสุขใจให้กับพระองค์มิใช่น้อย...

++++++++

“เสด็จแม่เพคะ...”เสียงหวานใสดังขึ้นก้อง เรียกให้ร่างบางที่นั่งเหม่อลอยหันมาสนใจต้นเสียงนั้น “เสด็จแม่เพคะ เสด็จแม่”
เด็กสาวตัวเล็กในชุดกระโปรงแสนงามก้าวเดินเข้ามาหาองค์คาเซีย ก่อนที่จะกอดขาข้างหนึ่งของพระองค์เอาไว้

“เสด็จแม่อย่าเสียพระทัยไปเลยนะเพคะ”เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์หวาน แล้วส่งรอยยิ้มสดใสให้กับพระองค์ “แม้ในวันนี้ ลูกจะไม่ได้อยู่กับเสด็จแม่... แต่อีกไม่นาน ลูกจะมาอยู่กับเสด็จแม่แน่นอนเพคะ”

“เจ้าคือธิดาของข้า... ใช่ไหม”พระองค์แกะมือเล็ก ๆ ออก แล้วทรงนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น “เจ้าคือธิดาของข้า... ใช่ไหม”

“เพคะ เสด็จแม่”พระกรเรียวโอบรัดร่างเล็กทันที เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้น องค์คาเซียทรงลูบไล้ร่างตรงหน้าอย่างอาวรณ์นัก

“แม่ขอโทษนะลูก... ที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าเอาไว้ไม่ได้”น้ำพระเนตรไหลซึมน้อย ๆ สุรเสียงที่ทรงตรัสช่างขมขื่นยิ่งนัก “แม่ขอโทษจริง ๆ ลูกรัก”

“ไม่ต้องหรอกเพคะ เสด็จแม่...”เสียงใสตอบกลับทันที เธอกอดตอบพระมารดาเอาไว้หลวม ๆ “ลูกดีใจนะเพคะ ที่ลูกสามารถช่วยน้อง กับเสด็จแม่เอาไว้ได้”

“ลูกแม่...”

“เสด็จแม่เพคะ สวรรค์จะต้องส่งลูกมาเป็นลูกของเสด็จพ่อกับเสด็จแม่แน่นอนเพคะ”เด็กหญิงพูดด้วยรอยยิ้มหวาน “รอลูกหน่อยนะเพคะ เสด็จแม่”

“แม่จะรอลูก... แม่รอลูกแน่นอน”พระชายาตอบรับทันที “แม่จะรอวันที่ลูกจะมาอยู่กับแม่นะ ลูกสาวของแม่”

“เพคะ เสด็จแม่... ถ้าลูกกำเนิดขึ้นเมื่อไร... โปรดให้ชื่อลูกว่า เอเธเซียนะเพคะ”

“เอเธเซีย...”

“แล้วเจอกันนะเพคะ เสด็จแม่”

เอเธเซียหอมพระปรางของเสด็จแม่เบา ๆ ก่อนที่ร่างของเธอจะหายไป พร้อม ๆ กับการตื่นบรรทมของพระชายา

“ตื่นแล้วหรือ คาเซีย”องค์ราชาทรงตรัสขึ้น เมื่อเห็นพระเนตรของคนที่อยู่บนพระแท่นลืมขึ้นมา “เป็นอย่างไรบ้าง หืม... รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

“ไม่พะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์คาเซียตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “กระหม่อมฝันถึงพระราชธิดาด้วยนะพะยะค่ะ”

“เจ้าฝันถึง... ธิดาที่เสียไปน่ะหรือ”

“พะยะค่ะ... เขาบอกกับกระหม่อมว่าเขาจะกลับมาเกิดเป็นพระราชธิดาของกระหม่อมแน่นอนน่ะ พะยะค่ะ”พระองค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปลื้มปิติ “กระหม่อมหวังว่าเขาจะกลับมาอยู่กับกระหม่อมโดยไว”

“ข้าก็หวังเช่นนั้น”องค์ทริสเซย์ทรงทอดพระเนตรพระชายาด้วยนัยน์เนตรประกาย... พระองค์คาดว่าพระชายาคงลืมนึกไปกระมังว่าการที่จะกำเนิดสายพระโลหิตมาได้จะต้องทำเรื่องอันใด...

“องค์ชายเพคะ... พระชายา”เนลอุ้มองค์ชายตัวน้อยเข้ามาใกล้ผู้เป็นพระมารดา เพื่อที่จะให้พระองค์ได้สบพักตร์กับสายพระโลหิตองค์น้อย...

องค์ทริสเซย์ทรงยื่นพระกรไปรับพระโอรสมาอุ้ม ก่อนจะทรงเอนไปให้องค์คาเซียทอดพระเนตรอย่างนุ่มนวล

“ข้าให้ชื่อเขา... เซเซีย”

“เซเซียหรือพะยะค่ะ”นิ้วเรียวลูบไล้ใบหน้าเล็ก ๆ ของโอรสแผ่วเบา “เซเซีย”

“แอ๊”ทารกน้อยยิ้มกว้างให้กับพระบิดาและพระมารดาอย่างสดใส พระหัตถ์เล็กพยายามเอื้อมมาจับฉลองพระองค์ของพระมารดา

“องค์ชายน้อยคงหิวแล้วกระมังเพคะ พระชายา”เรลทูลด้วยรอยยิ้ม

องค์คาเซียทรงรับพระโอรสมาในอ้อมพระกร พระหัตถ์เล็ก ๆ ของทายาทตัวน้อยปัดป่ายที่ฉลองพระองค์จนช่วงบนหลุดลุ่ย

พระองค์ทรงเก้ ๆ กัง ๆ ไม่น้อยกับการให้พระกษีระ (น้ำนม) กับพระโอรสเป็นครั้งแรก... แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีจากกาช่วยเหลือของนางกำนัลเนล

แม้จะต้องสูญเสียพระราชธิดาไปพระองค์หนึ่ง แต่ก็ยังมีพระโอรสมาช่วยชโลมพระหฤทัยอันบอบช้ำนี้ได้บ้าง...

มันยังมีชีวิตอยู่... ไม่ได้การแล้วสิ... ถ้าเป็นเช่นนี้ ชีวิตของข้างคงจะหาไม่เป็นแน่... ฝ่าบาทจะต้องเอาเรื่องถึงที่สุด แล้วข้า... จะต้องสูญเสีย

ไม่! ข้าไม่มีวันยอมให้มันแย่งชิงทุกอย่างไปจากข้า ไม่มีวัน!! คาเซีย ข้าจะจัดการเจ้าให้จงได้!


+++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า~

มาเล่นเกมกันนะคะ~ http://writer.dek-d.com/sea-son/writer/viewlongc.php?id=788628&chapter=36

http://writer.dek-d.com/sea-son/writer/view.php?id=788628
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 08-05-2012 19:17:11
TwT อ้ากกกก คาเซีย มีโหลกแล้ว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-05-2012 19:46:59
ยังไม่เลิกคิดร้ายกับคาเซียอีกนะ....

 :beat:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-05-2012 19:50:01
คลอดลูกแล้ววว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: gngane ที่ 08-05-2012 21:27:46
อาาจจะเเสดงความคิดเห็นไมม่บ่อยเหมือรชนใครอื่น
เเต่นักเขียนอย่าน้อยใจเค้าน่ะ นะๆ นะ นะ นร้าาาาาาาา

เค้ามารายงานตัวว่าเค้าเป็นเเฟนคลับของนักเขียนนะค่ะ


คุณเขียนสนุกมากๆๆ น่าติดตามสุดๆ 

เราเป็นคนอินเเรง


เเค่ตอนนี้อยากจะจับคนทำมาทึ่งๆๆๆหัว  ละก็ โยนให้หนูเเทะจนตายเลย  :fire: :fire:



รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 08-05-2012 21:56:36
แว๊กกก  คนชั่ว ฝ่าบาทต้องแก้แค้นให้คาเซียเลยนะ หนอย ยังไม่สำนึกอีกนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 08-05-2012 22:00:06
ใครทำพระธิดาของช๊านนนนนนนน !!!! :m31:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-05-2012 22:15:34
Casear fighting!!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 08-05-2012 23:09:01
ยังไม่เลิกคิดร้ายกับคาเซียอีกเรอะ :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 09-05-2012 00:20:27
ใครทำเรื่องแบบนั้น
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 09-05-2012 01:07:02
ใครทำคาเซีย !!!!  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 09-05-2012 07:14:37
ใครว่ะ ช่างชั่วช้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: np ที่ 09-05-2012 07:33:44
 :z6: :z6: นางมารร้าย
จะชั่วไปถึงไหนเนี่ย :m16:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-05-2012 11:04:38
อ่านรวดเดียวถึงตอนนี้
สนุกมากครับ  พล็อตเรื่องดีมาก
คนเขียนเขียนดีมาก
ติดตามๆค้าบ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: OJSG7 ที่ 09-05-2012 20:24:57
คลอดลูก *0*
น่าสงสารคาเซีย T^T
รอต่อค่ะ รีบๆมาต่อน่า อิอิ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 10-05-2012 09:46:37



   ทั้งโอรสทั้งธิดา ดูท่านะฉลาดน่ารักไม่เบา
   แต่ฝ่าบาทโกรธน่าดูเลยนะ




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 10-05-2012 14:28:37
สงสารคาเซีย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 10-05-2012 16:13:17
 :m31:ใครบังอาจทำร้ายเคเชียได้ :m16:


ปล.เพิ่งได้อ่านอะชอบมากเลยนะแล้วจะรอตอนต่อไปเน้อ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่29 P.11 R.314]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-05-2012 18:58:46
บทที่ 30

ตำนานรักสองราชวงศ์ : สิ้นสุด...
 
ระหว่างที่พระชายาคาเซียทรงพักฟื้นพระวรกายตามรับสั่งขององค์ทริสเซย์อยู่นั้น ทางองค์ชายโซเทเรียและองค์ชายโซเนล์ก็เตรียมการที่จะเสด็จมายังเฟรนเซีย

องค์ทริสเซย์ทรงสั่งปูพรม ให้เหล่าทหาร นางข้าหลวงที่ไว้ใจได้ตรวจค้นทุกพื้นที่ในพระราชวังและภายในที่พักของเหล่าขุนนาง เพื่อค้นหาผู้ที่ปองร้ายพระชายา

การตามจับผู้ประสงค์ร้ายครั้งนี้ พระองค์ไม่อะลุ้มอล่วยเลยแม้แต่น้อย แม้เป็นแค่ผู้สมรู้ร่วมคิดปลายแถว พระองค์ก็ทรงรับสั่งให้จับมาขังทั้งหมด เตรียมรอรับโทษ

แต่ถึงกระนั้นก็ยังจับตัวการใหญ่ที่สุดยังมิได้ พระองค์ทรงรับสั่งให้เรลตามหาตัวการใหญ่ให้เร็วที่สุด และเงียบที่สุด เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ไม่ไหวตัวหนีหายไปเสียก่อน

และแน่นอนว่าเรลยินดีที่จะรับหน้าที่นี้อย่างเต็มใจ นางควานหาตัวของผู้บงการใหญ่อย่างเต็มความสามารถที่มีอยู่...

ระหว่างที่ความวุ่นวายครั้งใหญ่ในวังหลวงกำลังดำเนินไปนั้น เซทและเซเรลคอยอยู่กับพระชายาภายในห้องบรรทมเพื่อดึงความสนพระทัยของพระองค์ให้อยู่กับเด็กทารกสองคน เพื่อให้บุคคลข้างนอกทำงานได้อย่างสะดวก...

การลงโทษผู้ปองร้ายพระชายาคาเซียนั้น พระราชาทรงพระราชทานโทษสถานหนักให้กับทุกคนที่ร่วมกันกระทำ และโทษสถานเบาให้กับผู้ที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ทั้งทีรับรู้แผนชั่วมาตลอด แต่ไม่ปริปากบอกกับพระองค์

ผู้ต้องอาญาในครานี้มีไม่มากนัก แต่ก็มีเสนาที่ทรงไว้วางใจรวมอยู่ด้วย...

“เสนาคลัง เราผิดหวังในตัวของเจ้าจริง ๆ”พระเนตรคมฉายแววกราดเกรี้ยว “เจ้ารู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจดีว่าทำเช่นนี้แล้วต้องโทษสถานหนัก ยังกล้าจะกระทำอีก”

“ฝะ. ฝ่าบาท”ใบหน้าอวบอูมซีดขาว เสนาบดีการคลังก้มหน้าลงไม่กล้าสบสายตากับองค์ราชา “กระหม่อม...”

“พาสนมไลเยลมา ขับนางออกจากอาณาจักร ประหารเสนาคลังในวันพรุ่ง”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”

การตัดสินโทษเป็นไปอย่างรวดเร็วและหนักหนายิ่งนัก ไม่มีการลดหย่อนโทษลงเลยแม้แต่เพียงน้อยนิด การตัดสินโทษทัณฑ์ครั้งนี้หนักหนายิ่งกว่าครั้งไหน ๆ สำหรับทุก ๆ คน

แต่สำหรับองค์ทริสเซย์และผู้ที่รับรู้เรื่องราวทั้งหมดนั้น การลงโทษเพียงเท่านี้ถือว่าเบาเป็นอย่างยิ่ง... เมื่อเทียบกับการที่ต้องสูญเสียพระราชธิดาองค์แรกไป...

“ข้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่รับรู้เลยแม้แต่น้อย...”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ เรียกให้คนที่หันหลังให้อยู่ต้องหันหน้ามาหาตัวเขา “ข้าไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง”

“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรเช่นนั้นหรือ”เสียงใสเอ่ยกลับอย่างงุนงง “เจ้าไม่อยากจะเชื่อเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ”

“เจ้าน่าจะรู้ตัวเองดีอยู่แล้ว... สิ่งที่เจ้ากระทำลงไป สิ่งที่เจ้าทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวด”

“เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน”

“ไม่ต้องมีเสแสร้งกับข้า... เจ้าสามารถหลอกคนอื่นได้ แต่เจ้าไม่สามารถที่จะหลอกข้าไปอีกต่อไป...”เรลตวาดลั่น “ข้าต้องนับถือในการเล่นละครของเจ้าจริง ๆ เก่งยิ่งนักที่ทำให้ทุกคนหลงเชื่อเจ้าได้เช่นนี้”

“ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูดนะ เรล”

“เจ้ารู้อยู่แก่ใจดีมิใช่หรือ”

“เรล เจ้าพูดอะไรน่ะ”

“พูดความจริงไงล่ะ ทำไม รับความจริงไม่ได้หรืออย่างไร”

“ข้าไปทำอะไรให้เจ้า เจ้าถึงพูดกับข้าเช่นนี้”

“เจ้าทำให้นายของข้าต้องเจ็บปวด ทำให้พระองค์ต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไป เจ้ากล้าดีอย่างไร”

“เจ้าเอาอะไรมาพูดกัน เรล ข้ามิได้กระทำอันใดเลยแม้เพียงน้อยนะ”

“ใช่ เจ้ามิได้ทำอันใดด้วยมือของเจ้าเอง แต่เจ้าหลอกใช้พวกพระสนมที่โง่งมและขุนนางละโมบทำแทนทั้งหมด คิดว่าจะปัดความผิดทั้งหมดนั่นพ้นตัวเช่นนั้นหรือ ไม่มีทาง”

“เจ้ามาหลักฐานอะไรมากล่าวหาข้าน่ะ เรล”

“นี่ไงหลักฐาน”กระดาษจำนวนไม่น้อยและห่อยาถูกโยนไปให้หญิงสาวตรงหน้า “ข้ารวบรวมมาให้หมดแล้วนี่ไง”

“จะ. เจ้า”

“ไม่มีอันใดจะแก้ตัวแล้วล่ะสิ... เอลน่า!!!!”

“เหอะ แล้วยังไงล่ะ”เอลน่าแสยะยิ้มออกมา “มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ กับสิ่งที่มันกระทำเอาไว้”

“พระชายาไปทำอันใดให้กับเจ้า เอลน่า พระองค์ทรงดีกับเจ้าทุกอย่าง มิเคยล่วงเกินเจ้าแม้เพียงสักครั้ง ทั้งยังคอยปกป้องเจ้าอยู่ตลอด เพราะเหตุใดกัน”เรลเอ่ยถามเสียงดังลั่น “เพราะเหตุใดกันเจ้าถึงทรยศต่อความไว้ใจของพระชายาเช่นนี้”

“เจ้าไม่รู้อะไร เรล”เอลน่าตวาดกลับเสียงสูง “เจ้าไม่เคยรู้อะไร... ข้าน่ะ อยู่เคียงข้างฝ่าบาทมาตั้งแต่ก่อนที่พระองค์จะทรงได้รับตำแหน่งรัชทายาท คอยดูแลพระองค์มาตลอด อีกทั้งตัวข้า... ยังเป็นเมียคนแรกของพระองค์ พระชายาคาเซียกับพวกพระสนมมีสิทธิ์อะไรมาแย่งฝ่าบาทไปจากข้า ทั้ง ๆ ที่ข้าได้พบกับพระองค์ก่อนใคร ได้ร่วมหลับนอนกับพระองค์ตั้งแต่พระองค์เพิ่งย่างเข้าวัยกำดัด ทำไม!”

เอลน่ากำมือแน่นด้วยความโกรธที่ปะทุขึ้นมา นางมองเรลด้วยแววตามุ่งร้ายอย่างไม่ปิดบัง

“เจ้าไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของข้าหรอก ทั้ง ๆ ที่ข้า สมควรจะได้เป็นพระมารดาของลายพระโลหิตองค์แรกของฝ่าบาท ทั้ง ๆ ที่ตำแหน่งผู้เป็นที่รักของพระองค์สมควรเป็นข้าแท้ ๆ แต่มันก็แย่งทุกอย่างไปจากข้า พวกสนมอีก พวกมันแย่งฝ่าบาทไปจากข้า พรากทุกอย่างไปจากข้า พวกมันทำให้ข้าต้องแท้งลูก ทำให้ข้าหมดสิ้นหนทางขึ้นสู่ตำแหน่งดวงหฤทัยของฝ่าบาท”

น้ำตาแห่งความแค้นและความเจ็บปวดไหลรินออกมาจากดวงตาของเอลน่า นางกรีดร้องความในใจออกมาอย่างสุดจะกลั้น

“เอลน่า... เจ้าไม่น่าทำเช่นนี้เลย”เสียงหวานใสดังขึ้นในเงามืด ก่อนที่ร่างของเมร่าจะก้าวเดินออกมา “เจ้าไม่น่าคิดเช่นนั้นเลย เอลน่า...”

“เมร่า... เจ้าก็รู้เรื่องนี้ไม่ใช่หรือ เจ้าก็รู้ว่าข้ารักฝ่าบาทมากแค่ไหน...”เอลน่าหันไม่หาเพื่อนสนิทของนาง “เจ้าก็รู้... ว่าจ้าต้องสูญเสียลูกไปเพราะใคร”

“นั่นมันใช่ความผิดของพระชายาเช่นนั้นหรือ เอลน่า”เมร่าส่ายหน้าน้อย ๆ “เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าพระชายามิได้ทำอะไร เจ้าเอาความแค้นที่เจ้ามีหลอกใช้พระสนม... มาทำร้ายพระองค์ ทั้ง ๆ ที่พระองค์ไม่เคยรู้เห็นเรื่องอันใดเลย เจ้าคิดว่ามันถูกแล้วเช่นนั้นหรือ”

“เมร่า...”

เอลน่าทรุดตัวลงไปกองอยู่กับพื้น... ใช่ พระชายาไม่เคยทำร้ายนาง ไม่เคยเลย แต่ที่นางทำร้ายพระองค์ไปนั้น เพราะตัวนางทนไม่ได้ ที่จะเห็นพระชายามีความสุขกับองค์ราชา... นางทนไม่ได้กับการถูกทิ้งโดยมิใยดี แม้การร่วมหลับนอนกับองค์ราชาในครานั้นก็เพราะพระองค์ทรงร่ำน้ำจัณฑ์จนเมามาย พระองค์ทรงมิเคยรู้ด้วยซ้ำว่าได้ตัวนางไปแล้ว... ถึงเป็นเช่นนั้น นางก็รักพระองค์เหลือเกิน รัก... จะมิอยากที่จะยกให้ใครไป

“เจ้าทำเช่นนี้มันสามารถสลายความแค้นของเจ้าได้ไหม”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พร้อมกับที่วรกายสูงใหญ่จะเสด็จออกมาจากมุมหนึ่งของห้อง “เจ้าคิดว่าข้าจะมาสนใจเจ้า เมื่อไม่มีคาเซีย ไม่มีเหล่าสนมเช่นนั้นหรือ เอลน่า”

“ฝ่าบาท...”

“เจ้าไม่ได้เจอข้าก่อนใครคนอื่น เอลน่า”พระโอษฐ์หนายกยิ้มขึ้นน้อย ๆ “ตัวข้าเองต่างหากที่ได้พบกับคาเซียก่อน... และข้าก็รักเขามาตั้งแต่ตอนนั้น”

“หมายความว่าอย่างไรเพคะ... ฝ่าบาท หม่อมฉันรับใช้พระองค์มาตั้งแต่มีพระชนมายุ 14 ชันษา หม่อมฉันเป็นนางกำนัลสาวคนแรกของพระองค์...”

“ใช่ เจ้าเป็นนางกำนัลวันสาวคนแรกของข้า แต่ข้า ได้พบกับคาเซียก่อนที่เจ้าจะเข้ามารับใช้ข้า... ข้าได้พบเขาตั้งแต่เขายังมีอายุเพียงแค่สามขวบ ตอนนั้นข้ายังอุ้มเขาอยู่เลย...”

พระองค์อดที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยนมิได้เมื่อได้คิดถึงเรื่องนี้... เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง เดินเตาะแตะเข้ามาหาพระองค์ มือน้อย ๆ ดึงชายฉลองพระองค์เบาๆ แล้วยิ้มกว้างส่งให้อย่างน่ารัก

นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้พบกัน... พระองค์ประทับใจในความสดใส ร่าเริงขององค์ชายน้อยยิ่งนัก แม้ในเวลานี้ เด็กน้อยน่ารักคนนั้นจะหายไปด้วยกาลเวลาแล้วก็ตาม... แต่ความขี้อ้อนและรอยยิ้มอันน่าหลงใหลก็ยังคงอยู่คู่กับคนที่พระองค์รักเสมอมา

“ฝ่าบาท...”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างแหบแห้ง เอลน่าหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจออกมาแอบแก้มเนียน “พระองค์เคยมีหม่อมฉันอยู่ในพระหฤทัยบ้างไหมเพคะ...”

องค์ทริสเซย์ทอดพระเนตรนางกำนัลที่รับใช้พระองค์มานานด้วยแววพระเนตรเฉยเมย

“ใจของข้ามีเพียงคาเซียคนเดียวมานานแล้ว”พระองค์ตรัสตอบตามที่นางกำนัลต้องการ “ไม่มีใครมาแทนที่รักแรก และรักเดียวของข้าได้”

เอลน่าลงไปนอนหมอบกองอยู่กับพื้น... ร่างของนางสั่นสะท้าน เสียงสะอื้นไห้ราวกับจะขาดใจดังก้องห้องอักษรแห่งนี้


ระหว่างการสนทนาในห้องทรงอักษรที่ทุกคนคิดว่าเป็นส่วนตัวที่สุดนั้น... มีใครหลายคนยืนนิ่ง ฟังบทสนทนานั้นอยู่หน้าห้อง

องค์คาเซียทรงอุ้มพระโอรสเอาไว้ ประทับยืนฟังบทสนทนามาตั้งแต่ต้น... ในเวลานี้พระอารมณ์ของพระองค์นั้นตีกันไปหมด ทั้งเจ็บปวด ดีพระทัย เสียพระทัย ตกพระทัย ตีกันมั่วอยู่ในพระอุระ

เนลทอดมองร่างของผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง นางมิอยากให้พระองค์ได้รับรู้เรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย นางมิอยากให้พระองค์ต้องคิดมาก ต้องเสียพระทัย อีกต่อไปแล้ว เมื่อใดกันนะ ความสุขจะมาหาคนดี ๆ อย่างนายเหนือหัวของนางเสียที

เรฟยืนโอบเซทที่อุ้มลูกอยู่นิ่ง พวกเขาต่างรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อยกับการดีรับรู้เรื่องนี้... พวกเขาต่างเห็นเอลน่าเป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้... ในวันนี้ ทุกอย่างกับไม่เหมือนอย่างที่คิด

ความรู้สึกของผู้เป็นแม่สื่อถึงลูกน้อยในอ้อมแขน เซเซียช้อนตาขึ้นมองพระมารดาน้อย ๆ พระองค์เบ้พระโอษฐ์ ก่อนที่จะส่งเสียงร้องออกมาดังลั่น

“แง๊ ๆ ๆ ๆ ๆ อุแว๊ ๆ ๆ ๆ ๆ”

เสียงร้องขององค์ชายดังไปทั่วบริเวณ เรียกความสนใจของคนภายในห้องได้ชะงัก

“อ๊ะ... โอ๋ ๆ เซเซีย ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง เจ้าชายน้อยของแม่”องค์คาเซียทรงปลอบโอรสตัวน้อยอย่างอ่อนโยน แม้ในดวงหฤทัยยังคงว้าวุ่นมากแค่ไหนก็ตาม

“อึก ๆ แง๊ ~ ”องค์เซเซียยังคงร้องไห้ไม่หยุด ไม่ว่าพระชายาจะทรงปลอบโยนพระองค์เพียงไร เสียงร้องก็ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

องค์เซเซียน้อยคงมิหยุดร้องเป็นแน่แท้... ถ้าพระองค์ยังคงสัมผัสได้ถึงความเศร้าหมองในพระทัยของพระมารดาเฉกเช่นนี้

องค์ทริสเซย์ทรงเปิดบานทวารออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงของโอรสที่รัก... พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพระชายาทรงปลอบโยนองค์เซเซียอยู่ด้วยพระเนตรที่ฉายแววสับสน นางกำนัลเนลที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกล และสององครักษ์ที่เบนสายตา ไม่สบกับพระองค์

พระหัตถ์แกร่งยื่นมาโอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ เมื่อองค์ชายน้อยเข้าสู้อ้อมกอดของพระบิดา เสียงร้องไห้ก็ค่อย ๆ สงบลงก่อนจะเงียบหายไป

“แอ๊ ~ ”องค์เซเซียยิ้มกว่างให้พระราชบิดา แล้วปิดพระเนตรลง ก่อนที่จะบรรทมไป...

องค์ทริสเซย์ส่งองค์ชายไปให้เนลอุ้มกลับห้องบรรทมขององค์คาเซีย ก่อนที่พระองค์จะทรงพาพระชายาไปยังห้องบรรทมของพระองค์เอง

“เจ้าได้ยินหมดแล้วใช่ไหม... คาเซีย”พระองค์ตรัสถามแผ่วเบา... ทั้ง ๆ ที่ทรงคาดเดาไว้แล้วว่าพระชายาของพระองค์นั้นจะต้องได้รับฟังบทสนทนาที่น่าสะเทือนใจนั้นเป็นแน่

“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”เสียงที่ตอบกลับพระองค์นั้นช่างเลื่อนลอยยิ่งนัก

“ไม่เป็นไรใช่ไหม...”พระองค์ทรงทรายดีว่าคนรักของพระองค์นั้น ไว้ใจนางกำนัลของพระองค์มาแค่ไหน เชื่อใจมากเพียงไร... แต่เมื่อโดนทรยศหักหลังเช่นนี้ คงเจ็บปวดมิน้อย

“ขออยู่อย่างนี้สักพักนะ ทริสเซย์”ร่างบางโถมเข้ากอดวรกายหนา พระพักตร์งามซุกเข้ากับพระอุระแกร่ง “ขออยู่อย่างนี้สักพักนะ...”

“เข้มแข็งนะ คาเซีย ยอดดวงใจของข้า”องค์ทริสเซย์ทรงยิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อได้ยินพระนามของพระองค์หลุดออกมาจะพระโอษฐ์ของพระชายา

ร่างขององค์คาเซียสั่นเทา พระองค์ทรงเจ็บปวดพระหฤทัยยิ่งนัก กับการโดนคนที่ทรงไว้พระทัยทรยศเช่นนี้ น้ำพระเนตรหลั่งรินด้วยความเสียพระทัยอย่างหนัก

ทำไม... ทำไมกัน... ทำไมถึงทำเช่นนี้กับเรา ทำไม...

+++++++++++++++

มาแล้วค่ะ... มีใครเดาตัวร้ายของเรื่องนี้ถูกไหมนะ...

ใกล้จบแล้วนะคะ^^V ดีใจ~

ขอบคุณค่ะ

// :z10: กลับหลืบ...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-05-2012 19:03:30
 เหลือบขึ้นไปมอง... อ่า... จะจบแล้ววว

 :กอด1:

ดราม่าอีกสักหน่อยดีไหม :z6:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 10-05-2012 19:10:32
=w=''' จะจบแย้ววว หยอ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 10-05-2012 19:28:42
แล้วเอลน่าจะโดนอะไรบ้างนะนั่น สงสารคาเซีย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-05-2012 19:38:03
คาเซียน่าสงสาร
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 10-05-2012 20:14:44
รุ้อย่างนี้แล้วจะเลิกทำตัวร้ายกาจได้ยังเนี่ย

กลับตัวซะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-05-2012 20:24:48
เฮ้อ น่าสงสารคาเซีย คนที่ไว้ใจกลับมาทำร้ายตัวเองซะงั้น
แต่แหม ทริสเซย์ แอบกินเด็กนะ รักพระชายาตั้งแต่ยังเด็กเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 10-05-2012 20:57:25
โอย  แทงข้างทะลุถึงหัวใจ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 10-05-2012 22:20:56
จะจบแล้วหรอ :z3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 10-05-2012 22:40:44
คาเซีย :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-05-2012 22:44:56
บางทีความรักก็ทำให้คนเห็นแก่ตัว  :เฮ้อ:


ปล ทำไมจบไวจัง  :a5:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-05-2012 22:53:50
อีกประมาณ 3 ตอน... คงจะจบแล้วล่ะค่ะ ไม่รู้จะยืดยังไงแล้ว ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 10-05-2012 22:57:44
 :เฮ้อ:  ปลงเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-05-2012 23:05:11
ง่ะ  ใกล้จบแล้วอ่อ
ยังแอบมาม่าอยู่เลย
อยากได้หวานๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 11-05-2012 05:29:07



    ง่า. . . ความหลังของแต่ละคนช่างท้าวความไปนานนัก
    แต่ฝ่าบาทเนี่ยหลงคาเซียน้อยตั้งแต่ตอนคาเซียอายุ 3 ขวบเลยเหรอ O_O"




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-05-2012 11:45:51


    ง่า. . . ความหลังของแต่ละคนช่างท้าวความไปนานนัก
    แต่ฝ่าบาทเนี่ยหลงคาเซียน้อยตั้งแต่ตอนคาเซียอายุ 3 ขวบเลยเหรอ O_O"

คาดว่าจะเป็นอย่างนั้น... มั้งค่ะ o22
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่30 P.12 R.332]
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 11-05-2012 21:51:20
ใกล้จบแล้วหรอเนี่ย ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
สงสารพระชายาคาเซีย ทรงเสียสละอะไรต่อมิอะไรมามากมายยิ่งนัก เฮ้อ
ความริษยาเนี่ย น่ากลัวจริงๆเน้อ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-05-2012 15:46:15
บทที่ 31
ตำนานรักสองราชวงศ์ : เริ่มต้น

เรื่องร้าย ๆ ในพระราชวังได้ผ่านพ้นไป ความสุขก็กลับเข้ามาสู่ทุก ๆ คนอีกครั้ง

เอลน่าถูกรับสั่งประหารเก้าชั่วโคตร ตระกูลของนางคร่ำครวญอ้อนวอนขอชีวิตกันระงม แต่ทางฝ่ายสืบสวนนั้นเอาหลักฐานที่แสดงถึงการกระทำผิดมาแสดง จึงทำให้การลดหย่อนโทษนั้น ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย

การประหารครั้งนี้เป็นที่น่าหวาดหวั่นของผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย เพราะเป็นการนำหินทุ่มใส่จนสิ้นใจ แต่ถึงกระนั้น ประชาชนบางคนก็ร่วมทุ่มหินใส่ด้วยความกราดเกรี้ยวที่มาทำร้ายพระชายาและสายพระโลหิตขององค์ราชันย์

องค์คาเซียทรงเศร้าพระหฤทัยได้ไม่นาน ก็ทรงกลับมามอบความรักให้กับทุก ๆ คนได้ดังเดิม ทั้งนี้ต้องยกความชอบให้กับองค์ทริสเซย์และองค์เซเซียที่อยู่เคียงข้างพระองค์ รวมทั้งเนล เรล เซท และเรฟ ที่คอยให้กำลังใจพระองค์อยู่ตลอด

อีกทั้งองค์ชายโซเนล์ พระชายาโซเทเรีย และองค์ชายน้อยคาเซเรียก็ทรงเสด็จมาหาพระองค์ยังเฟรนเซียอีกด้วย

องค์คาเซียทรงโอบอุ้มสายพระโลหิตองค์แรกของพระองค์ที่กำเนิดจากองค์ชายโซเทเรียเอาไว้ รอยยิ้มอ่อนโยนถูกคลี่ส่งให้พระโอรสบาง ๆ

“คาเซเรีย”เสียงหวานเอ่ยชื่อองค์ชายน้อยเบา ๆ “หน้าตาของลูกเหมือนพระมารดาของเจ้าไม่มีผิดเลยนะ”

“แอ๊ อิ อิ”ทารกน้อยหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง พระหัตถ์น้อย ๆ โบกไปมาอย่างน่ารัก

พระองค์เล่นกับองค์ชายคาเซเรียสักพัก ก่อนที่จะส่งองค์ชายน้อยให้เนลพาไปพักผ่อนกับองค์ชายเซเซียในห้องบรรทมของพระองค์

“คาเซีย...”องค์โซเทเรียทรงตรัสชื่อของคนตรงหน้าแผ่วเบา พระเนตรเหลือบมองร่างบางน้อย ๆ อย่างเกร็ง ๆ

“มีอะไรหืม... โซเทเรีย”องค์คาเซียทรงยิ้มให้กับพระชายาของตน พระเนตรพระองค์ฉายแววรู้ทันร่างเล็กออกมาชั่ววินาที

“ข้า... คือ... ข้า”พระชายาร่างน้อยหลุบสายพระเนตรลงมองพื้นอย่างประหม่า พระองค์จะกล้าเอ่ยคำขอเพื่อปลดพันธนาการที่มัดตัวพระองค์กับองค์ชายเอาไว้ได้อย่างไร ในเมื่อพระองค์เป็นคนขอพันธนาการนั้นเอง...

“ข้า... ข้าอะไรหรือ โซเทเรีย”องค์คาเซียยังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบเรื่องที่คนต้องหน้าอยากจะบอกพระองค์

“คือว่า...”ความรู้สึกขององค์โซเทเรียตอนนี้นั้น... พระองค์มิอาจจะบอกออกมาได้ว่าเป็นอย่างไร

ใจหนึ่ง... พระองค์ก็ทรงรักพระสวามีของพระองค์อยู่... เพียงแต่พระองค์เพิ่งรู้ ว่าทรงรักแบบพระเชษฐาที่แสนดี

ใจหนึ่ง... ก็ห่วงความรู้สึกของพระโอรสของพระองค์ ทีจะต้องมารับรู้ว่าตนนั้น เกิดมาเพราะความรักอันเข้าใจผิดของพระองค์เอง

ใจหนึ่ง... ก็ห่วงความรู้สึกขององค์ชายโซเนล์... ซึ่งเป็นผู้ที่พระองค์รักอย่างคนรักจริง ๆ และมิอยากให้ต้องผิดพระทัยกับผู้เป็นพระเชษฐา

องค์คาเซียทรงทอดพระเนตรอาการกล้า ๆ กลัว ๆ เกร็ง ๆ ของชายาของพระองค์แล้วทรงแอบถอนหายใจ ถ้าเป็นเช่นนี้ จนถึงปีถัดไปคงไม่มีทางเอ่ยสิ่งที่อยากบอกพระองค์ออกมาเป็นแน่

“โซเทเรีย มานี่สิ”พระองค์ตบพระเพลาเบา ๆ เชิงให้องค์ชายมานั่ง

องค์ชายโซเทเรียเสด็จมาประทับนั่งบนพระเพลาของพระองค์โดยดี พระองค์ทรงรั้งให้วรกายบางซบกับกายพระองค์แล้วทรงกอดเอาไว้แน่น

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการที่จะบอกอะไรกับข้า โซเทเรีย”พระองค์ตรัสกระซิบเบา ๆ “ข้าเดาเอาไว้ตั้งแต่วันที่เจ้าไปพบกับโซเนล์ครั้งแรกแล้ว... เด็กดี”

“คาเซีย...”พระเนตรกลมโตช้อนมององค์คาเซียน้อย ๆ

“ทำตามใจเจ้าเถอะ โซเทเรีย ถ้าเจ้าต้องการที่จะไปอยู่กับโซเนล์ ก็ไปเถอะ”พระองค์ยิ้มบาง ๆ ให้กับร่างเล็ก “ข้าเชื่อว่าโซเนล์ดูแลเจ้าได้... บางทีอาจจะดูแลเจ้าได้มากกว่าที่ข้าทำเสียด้วยซ้ำไป...

โซเนล์ถูกเลี้ยงมาด้วยความรัก เขาเป็นน้องที่รักของเสด็จพี่เกือบทุกคน เป็นที่โปรดปรานของพระราชาและพระสนม เขาย่อมให้ความรักกับคนรอบข้างได้ เหมือนกับที่เขาเคยได้รับ โซเทเรีย”

“แต่... ฝ่าบาท...”

“ข้าคุยกับฝ่าบาทแล้ว... พระองค์ยินยอมที่จะปล่อยโซลไป โดยที่พระองค์จะไม่เรียกร้องสิ่งของอันใดจากอาณาจักรของโซลเลยแม้แต่น้อย”องค์ชายตรัสบอก เพื่อให้ชายาของพระองค์คลายกังวล

“แล้ว... คาเซเรีย”นัยน์พระเนตรสั่นระริก... องค์โซเทเรียคงมิอาจยอมรับได้ ถ้าต้องแยกจากกับพระโอรอองค์น้อยที่พระองค์ให้กำเนิดมา

“พระบิดาขององค์ชายคาเซเรีย เป็นองค์ชายแห่งอาณาจักรเซเรียล องค์ชายน้อยก็ย่อมเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรเซเรียลเช่นกัน”

แม้องค์ชายคาเซียอยากจะฉุดรั้งโอรสองพระองค์เอาไว้ไม่ให้ห่างพระวรกาย... แต่ถึงอย่างไร ลูก ย่อมเป็นสมบัติของแม่ อีกทั้ง ถ้าองค์ชายคาเซเรียประทับอยู่ที่อาณาจักรเซเรียล องค์ชายจะได้รับเกียรติอย่างที่สมควรได้รับ ได้รับความรัก ความอบอุ่น และทุก ๆ อย่างมากกว่าอยู่ในอาณาจักร์เฟรนเซียเป็นแน่

“ขอบคุณนะ... คาเซีย”

ทั้งสองพระองค์จุมพิตกันแผ่วเบา แต่เนิ่นนาน และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีให้แก่กัน

จุมพิตสุดท้าย... แห่งการเป็นของกันและกัน

จุมพิตสุดท้าย... ก่อนลาจาก

++++++++++++++++++++++++

สองวันถัดมา ประกาศปลดตำแหน่งพระชายาโซเทเรีย ให้กลับเป็นองค์ชายดังเดิมก็ถูกติดไปทั่วเมือง ประชาชนหลายคนพากันตกใจ และสงสัยกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก

แต่ความสงสัยนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อห้าวันถัดจากการถอดถอนตำแหน่งขององค์ชายโซเทเรีย ก็มีประกาศใหม่ถูกติดไปทั่วเมื่ออีกครั้ง

องค์ชายโซเทเรียจะถูกส่งไปยังอาณาจักรเซเรียล เพื่อเป็นพระชายาแห่งองค์ชายโซเนล์ แลกกับการที่พระชายาคาเซีย จะต้องประทับอยู่ที่อาณาจักรเฟรนเซีย ไปจนสิ้นชีวัน

ประกาศฉบับนี้เรียกความยินดีให้กับชาวเมื่อไม่น้อย นี่สัญญาณแห่งการแต่งตั้งองค์ราชินีที่ทุกคนรอคอยกำลังจะมาถึง

ไม่มีใครคัดค้านกับความคิดนี้... เมื่อองค์คาเซียทรงเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติแห่งการเป็นพระแม่ของแผ่นดินมากกว่าใคร...

พระองค์ทรงมีพระเมตตา ทรงทุ่มเทเพื่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ฐานันดรของพระองค์ก็เหมาะสมกับองค์ราชา อีกทั้ง... ยังทรงเป็นพระมารดาขององค์ชายน้อยอีกด้วย

เป็นบุรุษแล้วอย่างไร? เป็นบุรุษแล้วจะเป็นราชินีที่ดีมิได้เช่นนั้นหรือ? ในเมื่อพระชายาทรงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในความรู้สึกของทุกคน... แม้การแต่งตั้งราชินีเป็นชายนั้น อาจจะดูแปลกประหลาด แต่สำหรับทุก ๆ คนแล้ว...

พระชายาคาเซีย... คือสิ่งที่ดีที่สุด คือสิ่งที่สวรรค์บันดาลมาให้กับพวกเขาทุก ๆ คน

เป็นไปดังที่ทุกคนหวัง... หนึ่งเดือนถัดมา ประกาศการแต่งตั้งองค์ราชินีและการอภิเษกขององค์ทริสเซย์และองค์คาเซียก็ถูกประกาศไปทั่วทั้งราชอาณาจักร

เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองเริ่มต้นขึ้น เหล่าราษฎรพากันตกแต่งบ้านเรือนและพื้นที่โดยรอบอย่างงดงาม

ช่างทอผ้าร่วมกันทอผ้าสีขาวสะอาดอย่างประณีตผืนยาวและผ้าอื่น ๆ แล้วส่งมอบต่อให้กับช่างตัดเย็บ เพื่อเย็บฉลองพระองค์ชุดอภิเษกให้กับองค์ราชาและพระชานา

เหล่าช่างฝีมือต่างมารวมตัวกันแล้วจัดทำเครื่องประดับสำหรับว่าที่องค์ราชินีของพวกเขากันอย่างตั้งอกตั้งใจ ของทุกชิ้นที่ใช้ทำนั้นถูกคัดสรรมาอย่างดีจากช่างมากฝีมือหลายท่าน เพชรพลอยแต่ละเม็ดถูกเจียระไนด้วยช่างเฉพาะ เพื่อที่จะให้ได้เครื่องประดับที่ทรงคุณค่ามาในแต่ละชิ้น

เหล่าคนครัวพร้อมใจกันมาประชุมเพื่อสร้างสรรค์อาหารเลิศรสในงานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาช่วยกันคัดเลือกรายการอาหารที่มีชื่อมงคล รสชาติเป็นเลิศมาใช้เลี้ยงรับรองแขกที่มาในงาน และทำอาหารพวกนั้นออกมากันอย่างสุดฝีมือของตนเอง

ทุกคนพยายามกันอย่างสุดความสามารถ เพื่อองค์ราชาและองค์ราชินีของพวกเขา ทุกคนต่างปฏิญาณกันตนเองว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในงานเป็นอันขาด เพื่อพระเกียรติขององค์ราชา องค์ราชินี และแผ่นดินบ้านเกิดของพวกเขาเอง

งานอภิเษกถูกจัดขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่... ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหน ๆ ในประวัติศาสตร์ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ต่างพากันเดินทางมาร่วมงานอภิเษกนี้

เนล เรล และเมร่า ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อพาองค์คาเซียไปแต่งพระวรกายให้งดงาม...

ชุดวิวาห์สีขาวปักเลื่อมงดงามถูกสวมให้กับว่าที่องค์ราชินี ฉลองพระองค์เปิดไหล่ขาวเนียน ขับผิวอมชมพูให้เด่นขึ้นกว่าปกติ

พระองค์ทรงทอดพระเนตรมององค์เองที่พระฉาย พระขนงเรียวมุ่นเข้ามากันน้อย ๆ

ทำไมพระองค์จะต้องสวมใส่ชุดกระโปรงเช่นนี้...

“งดงามมากเพคะ พระชายา... ไม่สิ องค์ราชินี”เมร่ามององค์คาเซียด้วยแววตาเปล่งประกาย “งดงามมากจริง ๆ นะเพคะ”

“ทรงรู้สึกอย่างไรบ้างเพคะ... องค์ราชินี”เนลเอ่ยถามนายเหนือหัวด้วยความเป็นห่วง “อึดอัดตรงไหนไหมเพคะ”

“เราไม่อึดอัดหรอกเนล...”พระหัตถ์เรียวจับเข้าที่กระโปรงยาวน้อย ๆ “แต่ชุดนี่มันหนักเหลือเกิน... โดยเฉพาะกระโปรงนี่... ยิ่งมากชั้น ยิ่งหนัก”

ทรงอดไม่ได้ต้องบ่นออกมาเล็กน้อย จริง ๆ แล้วชุดนี้ อาจจะไม่ได้หนักอะไรสำหรับเหล่าสตรีชั้นสูง แต่สำหรับพระองค์ที่เป็นบุรุษ ไม่เคยสวมใส่ชุดเช่นนี้มาก่อนนั้น ชุดนี้เป็นชุดที่หนักยิ่งนัก

“อดทนหน่อยแล้วกันนะเพคะ...”

ผ้าคลุมพระพักตร์และเครื่องประดับมากมายถูกนำมาติด นำมาสวมให้กับองค์คาเซียจำนวนมาก... จากที่ทรงรู้สึกหนักที่กระโปรงนั้น ตอนนี้พระองค์ทรงรู้สึกหนักไปทั้งวรกายแล้ว...

เมื่อถึงเวลาฤกษ์ที่ถูกกำหนด นางกำนัลทั้งสามก็ช่วยกันประคองร่างของว่าที่ราชินีไปยังปะรำพิธี เพื่อเข้าพิธีอภิเษก

พิธีอภิเษกดำเนินไปอย่างราบรื่น องค์ทริสเซย์และองค์คาเซียให้สัตย์สาบานต่อกัน ต่อหน้าบาทหลวงผู้ทำพิธี

ผ้าคลุมพระพักตร์ถูกปลดออกไป เพื่อเตรียมพร้อมจะเข้าสู่พิธีอันยิ่งใหญ่ต่อจากนี้

ต่อมาพิธีแต่งตั้งองค์ราชินี มงกุฎแห่งราชินีที่สืบทอดต่อ ๆ กันมา ถูกอัญเชิญขึ้นมาบนปะรำพิธีด้วยมหาเสนาบดีทั้งสอง

“องค์คาเซีย ขอพระองค์จงสาบานต่อองค์ราชันย์ ต่อหน้ามงกุฎศักดิ์สิทธิ์นี้ เพื่อปฏิญาณตน อุทิศร่างกายและวิญญาณให้แก่องค์ราชันย์ และแผ่นดินแห่งเฟรนเซีย”บาทหลวงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน

องค์คาเซียทรงย่อพระวรกายลงนั่งคุกเข่ากับพื้น พระหัตถ์เรียวชักชายผ้าคลุมขององค์ราชามาจรดกับริบพระโอษฐ์

“กระหม่อม คาเซีย เซเรเนีย ขอสาบานต่อปฐพี ท้องนภา ชโลทร และสายวายุ ว่าจะขอภัคดี และซื่อสัตย์ต่อองค์ราชันย์ จะขอรักและมอบความเมตตาให้แก่ราษฎรทุกชนชั้น และพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ตราบจนชีวิตของข้าจะหาไม่”

เสียงที่ตรัสออกมานั้น เปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น มั่นคง แต่ก็แฝงเอาไว้ซึ่งความอ่อนโยน อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวขององค์คาเซีย

พระหัตถ์แกร่งแตะที่พระนลาฏขององค์ชายแห่งเซเรียลน้อย ๆ ก่อนที่จะทรงสวมมงกุฎแห่งราชินีคู่บัลลังก์เฟรนเซียให้กับคนตรงหน้า

“นับแต่นี้เป็นต้นไป... ข้าขอแต่งตั้งให้ องค์ชายคาเซีย แห่งเซเรียล เป็นราชินีคู่กายข้า ตลอดไป”

+++++++++++++++++++++

ถ้วน ๆ ไปหน่อย... ขอโทษนะคะ ไม่ถนัดฉากที่เป็นพิธีแบบนี้TT

อีกสองตอนนนน

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 12-05-2012 16:04:53
ใกล้จบแล้วว :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: จีเวลจ้า ที่ 12-05-2012 16:18:38
อ่อย...น่ารักชิบโหง

คาเซียน่ารัก...ขอให้มีความสุขตลอดไปนะ ^ ^

คนเขียนมีแพลนเรื่องใหม่ปะ จะได้ติดตาม  :z2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-05-2012 16:35:55
อ่า น่ารักจัง
เหตุการณ์ร้ายๆผ่านไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 12-05-2012 16:59:59
T[]T  -/// ซึ้ง ช็อค ลั้นลา
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 12-05-2012 17:00:48
 :-[  น่ารักกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 12-05-2012 17:49:03
ในที่สุดเรื่องราวต่างๆก็เคลียร์ได้ซักที
อ๊ายย ทรงอภิเษกแล้วว ยินดีด้วยนะเจ้าคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-05-2012 18:00:34
ถึงเวลามีความสุขกันซักทีนะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 12-05-2012 21:08:55
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-05-2012 21:33:42
 :o8:จบแบนี้มีความสุขที่สุดอะ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-05-2012 00:07:51
ความสุขมาเยือนซะที
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 13-05-2012 01:35:24
เอาเป็นว่ามีความสุขแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: ammlovey ที่ 15-05-2012 10:27:23
อ้ากกกกกกก อีกสองตอนเองอ่ะ  :z3:

เพิ่งมาตามอ่านจร้าา หนุกม้วก

 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 15-05-2012 14:24:20



   ในที่สุดก็ได้สมหวังกันซะทีนะ
   ทั้งสองคู่เลย ^ ^



หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-05-2012 16:36:18
เย้ๆๆๆ ในที่้สุดคาเซียก็มีความสุขซะทีนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 18:05:07
ชอบแนวนี้เคอะ มาต่อนะเคอะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-05-2012 19:05:43
ดีจัยด้วยจ้า ได้อภิเษกแล้ว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 19:07:17
กรี๊ดดด >O<
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 20:39:20
คาเซียเป็นทั้งสามีและภรรยา = _____ = เจิสมาก
แถมคาเซียกับฝ่าบาทก้ชอบ sm อีก = . . = เหมือนเป็นความลับของสองคนนี้เลยไหม ถามคาเซียยังเป็นคนถามก่อนอีกด้วย
คิดไม่ออกเรื่องจะจบยังไงเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 22:14:40
รับมั่นใจแล้วก้มีลูกกันไ้ด้แล้วเคอะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 22:23:38
อิป้านั้นมันคิดจะวางยาคาเซียของชั้นหรอ - - +
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 22:39:56
หมายถึงอะไร จะให้สองคนนั้นรักกันหรอ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 22:49:42
ได้เวลาพระเอกออกโรงแล้ว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 23:01:18
อ้ากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 23:04:25
อิป้านั่น!
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2012 23:15:17
สุขสักทีนะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่31 P.12 R.349]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-05-2012 21:56:11
บทที่ 32
ตำนานรักสองราชวงศ์ : รัก...

นับตั้งแต่งานอภิเษกเป็นต้นมา องค์ทริสเซย์และองค์คาเซียก็ทรงอยู่เคียงข้างกันตลอดเวลา... ทั้งกลางวันและกลางคืน
นับวันทั้งสองพระองค์ยิ่งแสดงออกถึงความรักที่มีให้แก่กันและกัน สร้างรอยยิ้มให้แก่คนในพระราชวัง และความความหวังให้กับประชาชน

ความหวัง... ที่จะได้เห็นสายพระโลหิตองค์น้อยกำเนิดขึ้นมาอีกหลาย ๆ พระองค์

“เหมือนทุกคนจะรอคอยการตั้งพระครรภ์ขององค์ราชินีอยู่นะเพคะ”เนลเอ่ยขึ้น หลังจากที่พระองค์ทรงเสวยน้ำนมของพระมารดาเสร็จ “หม่อมฉันก็แอบหวังอยู่เหมือนกันนะเพคะ องค์ราชินี”

“หม่อมฉันก็อยากเห็นพระโอรสกับพระธิดาอีกหลาย ๆ พระองค์นะเพคะ”เรลหันมาพูดกับนายเหนือหัวของนางบ้าง

“นั่นสิเพคะ จะได้ไม่เหงาด้วยนะเพคะ”เมร่าสนับสนุนคำพูดของสองพี่น้อยร้วยรอยยิ้ม

“พูดอะไรน่ะ...”พระพักตร์ขาวเนียนแดงระเรื่อน้อย ๆ พระเนตรหลุบลงมองพระเพลา

“อีกไม่นานหรอก... ราชินีของข้าคงมีลูกน้อยออกมาให้พวกเจ้าเลี้ยงอีกสักคน สองคน”องค์ทริสเซย์ทรงยิ้มอ่อน ๆออกมา

“ฝ่าบาท...”พระเนตรกลมโตมองค้อนร่างสูง ก่อนจะก้มพระพักตร์ลงมาหาลูกน้อย “อยากมีน้องไหม เซเซียน้อยของแม่”

“แอ๊ ๆ ๆ”องค์ชายเซเซียส่งเสียงร้องตอบรับทันที เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากผู้เป็นบิดาได้เป็นอย่างดี

“เซเซีย ก็อยากมีน้องเนอะ ลูก”องค์ราชาตรัสกับลูกน้อย

“แอ๊ ~”

มือเล็ก ๆ แกว่งไปมา เด็กน้อยตัวจ้ำม่ำอายุห้าเดือน ติดพระบิดายิ่งกว่าใคร

“มามะ ลูกพ่อ มารดาของเจ้าคงหนักแล้ว”วงแขนแกร่งโอบอุ้มลูกน้อยไว้หลวม ๆ

พระบิดาและพระโอรสเล่นกันอยู่สักพัก ทารกน้อยก็เข้าบรรทม เนลอุ้มองค์ชายกลับไปยังห้องบรรทมอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการบรรทมขององค์ชายที่รัก

“ฝากด้วยนะ แม่นม”

เรลกับเมร่าหายตัวออกจากห้องทรงอักษรไปในเวลาที่ใกล้ ๆ กัน เพื่อให้คู่รักได้อยู่ร่วมกันสองต่อสอง...

และ... เป็นที่แน่นอนว่าพวกนางทั้งสามย่อมพากันแอบดูนายเหนือหัวมอบความรักให้แก่กันและกัน เหมือนทุก ๆ ครั้ง...

“คาเซีย...”เสียงทุ้มเอ่ยชื่อของราชินีคู่กายเบา ๆ “มานี่สิ...”

องค์คาเซียทรงเสด็จไปประทับบนพระเพลาขององค์ราชาอย่างว่าง่าย พระเศียรทุยซบกับพระอุระแกร่งน้อย ๆ

“พะยะค่ะ... ฝ่าบาท”

“ไม่เอาสิ... ตอนนี้มีเพียงเราสองคนนะ คาเซีย”องค์ราชาตรัสอย่างเอาแต่พระทัย ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าด้านนอกมีนางกำนัลและพระสนมบางส่วนแอบมองอยู่... “เรียกชื่อข้าสิ”

“ทริสเซย์...”องค์ราชินีตรัสออกมาอย่างเขินอาย เหตุด้วยตัวพระองค์ยังมิชินกับการที่ต้องเรียกชื่อของพระสวามีโดยตรง

“น่ารักจริง ๆ ที่รัก”

ทั้งสองพระองค์มอบจุมพิตให้แก่กัน...

พระหัตถ์หนาขององค์ทริสเซย์ปลดฉลองพระองค์ของร่างบางออกทีละชิ้น ๆ อย่างเชื่องช้า

ของทั้งหมดที่วางอยู่บนโต๊ะทรงอักษรถูกกวาดลงไปกองอยู่กับพื้นด้วยฝีมือของผู้เป็นเจ้าของ ก่อนที่ร่างของผู้เป็นที่รักจะถูกพระองค์ยกขึ้นไปประทับบนนั้นแทน

การร่วมสังวาสที่ห่างหายไปนับสองเดือนนับตั้งแต่พิธีอภิเษกถูกบรรเลงขึ้นอย่างเร่าร้อน และยาวนาน...

น้ำกามจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่พระวรกายขององค์ราชินีแห่งเฟรนเซียอย่างต่อเนื่อง

อีกไม่นาน... เราคงได้พบกับองค์ชายและองค์หญิงตัวน้อยเป็นแน่...

+++++++++++++++

ทางด้านอาณาจักรเซเรียล หลังจากที่งานฉลองกับรับตำแหน่งองค์ราชินีขององค์ชายคาเซียจบไปหนึ่งเดือน พวกเขาก็จัดงานอภิเษกให้กับองค์ชายโซเนล์และองค์ชายโซเทเรีย

งานอภิเษกนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้จะมีคนบางกลุ่มไม่พอใจนักกับการที่พระอนุชาโซเนล์เข้าพิธีอภิเษกกับอดีตพระชายาของพระเชษฐาคาเซีย แต่ก็มิอาจจะออกมาคัดค้านได้

งานอภิเษกครั้งนี้องค์ราชินีคาเซียทรงเสด็จมาร่วมด้วย และพระองค์ก็รับอาสาคอยดูแลพระโอรสคาเซเรียตลอดพิธีการ

ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี องค์ชายโซเนล์และพระชายาโซเทเรียก็ได้อยู่ครองคู่ เป็นของกันและกันอย่างที่หวังเอาไว้

พิธีการสุดท้ายของวันมงคล... พิธีเข้าเรือนหอ ปัญหาเล็ก ๆ ก็เกิดขึ้น แต่ก็แก้ไขได้โดยไว แม้จะแอบวุ่นวายน้อย ๆ ก็ตาม

“แล้วใครจะดูแลคาเซเรีย ระหว่างที่ทั้งคู่เข้าห้องหอกันหรือ”องค์ราชินีแห่งเซเรียลตรัสขึ้น “ให้ข้าดูแลให้เอาไหม...”

สายตาทุกคู่ในที่นั้นหันมาจับจ้องพระนางเป็นตาเดียว อีกทั้งความนัยน์ที่แฝงมากับแววตานั้น ก็ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย

‘พระองค์ทรงอยู่เฉย ๆ จะดีเสียกว่า’

ไม่มีผู้ใดเห็นด้วยกับการให้พระองค์เป็นผู้ดูแลสายพระโลหิตองค์น้อยเลยแม้เพียงสักคน

พระนางอยากจะเอ่ยคัดค้าน... แต่เสียงเดียวมีหรือจะสู่กับคนนับสิบ นับร้อยเช่นนี้ได้...

ความหวังที่จะได้เล่นกับพระราชนัดดาทั้งราตรีจึงเป็นอันตกไปอย่างเสียมิได้

“กระหม่อมดูแลเองก็ได้พะยะค่ะ”องค์คาเซียทรงตรัสขึ้น “ถึงอย่างไรคาเซเรียก็เป็นโอรสของกระหม่อม ลูกคนเดียว กระหม่อมดูแลได้ มิต้องทรงเป็นกังวล”

ทุก ๆ คนเชื่อ ว่าองค์ราชินีแห่งเฟรนเซียสามารถดูแลพระราชโอรสได้... แต่ที่เป็นกังวลนั้น คือทางองค์ทริสเซย์จะยอมให้พระองค์ประทับอยู่ที่เซเรียลได้เช่นนั้นหรือ

พระราชสารขออนุญาตประทับค้างคืนถูกส่งไปให้กับองค์ราชาแห่งเฟรนเซียอย่างเร็วที่สุด โดยม้าเร็ว

หลังจากที่องค์ทริสเซย์ได้รับพระราชสารนั้น พระองค์พร้อมด้วยองค์ชายเซเรียและเหล่าองครักษ์ นางกำนัล พากันเดินทางมายังอาณาจักรเซเรียลทันที

สรุปแล้ว ในราตรีนั้น องค์ราชาและองค์ราชินีแห่งเฟรนเซียก็มาประทับยังวังหลวงแห่งเซเรียล องค์ชายทั้งสองก็บรรทมร่วมกันในเปลเดียว...

ทารกทั้งสองนอนเอาศีรษะชิดกัน เรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี...

แน่สิ... บิดาก็หล่อเหลา มารดาก็งดงาม

ทายาทออกมาจะมีหน้าตาที่ไม่ดีได้อย่างไร

++++++++++++++++++++++++

“เซท... เมื่อไหร่เจ้าจะมีลูกให้กับข้าอีกสักคน สองคนล่ะ”เรฟสะกิดร่างข้าง ๆ เบา ๆ “ถ้าลูกโตขึ้นจะเหงาน้า เป็นลูกคนเดียว”

“เจ้าก็มาคลอดลูกเองบ้างสิ เรฟ”เซทไม่ละสายตาจากหนังสือที่อ่านอยู่เลยแม้แต่น้อย “จะได้รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน เวลาคลอดเด็กคนหนึ่ง”

“โถ่... เซท มีให้ข้าเถอะ นะ นะ”

“ไม่!!!”

“น่า... เซท ลูกเราจะได้คอยปกป้ององค์ชายน้อย เหมือนที่เราทำยังไงล่ะ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดีเลย เรฟ”

“น่า... นะ เซท นะ”

“เฮ้อ... อีกแค่สองคนเท่านั้นนะ”

สุดท้าย เซทก็ยอมให้กับเรฟอีกจนได้... ก็นะ ถึงจะถกกัน เถียงกันแค่ไหน

เซทก็รักเรฟอยู่ดี

++++++++++++++++++++++

เหลือบทส่งท้าย...

จะถึงความจริงแล้วววววว

ก่อนหายกลับหลืบ

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-05-2012 22:01:41
จะจบแล้วววววววววววว กรี๊ดกร๊าดนิดนึง>w<
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 16-05-2012 22:06:21
คริๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-05-2012 22:10:04
อ่าาา ตอนนี้มันหวานซะ 55555
น่ารักกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 16-05-2012 22:13:48
รักกันมาก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: piride ที่ 16-05-2012 22:19:42
 :mc4:  มีความสุขกันทั้งเมืองเลยสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-05-2012 02:29:51
ฮ่าๆๆ เรฟอยากได้ลูกเพิ่มอีก
งานนี้เซทเจ็บตัวอีกแน่ๆ ว้าใกล้จบแล้ว ใจหายแหะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-05-2012 04:37:27
ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 17-05-2012 06:40:32
ห้ะ จะจบแล้วนี่!?
ไม่อยากให้จบเลยอะ..
อ่านแล้วอบอุ่นดีนะเรื่องนี้ :)
ปล.ปกติติดตามจากเด็กดีนะ
แต่เผอิญขลุกอยู่ที่เล้าเลยมาเม้นนี่เลยละกัน :D
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-05-2012 12:10:55
ทุกคู่มีแต่ความหวานชื่น   :m11:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 17-05-2012 13:59:07



   องค์ชายน้อยนี่ช่างเข้าข้างพระบิดาซะจริงๆ





หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: The_Beggar ที่ 17-05-2012 15:52:24
เรื่องนี้ตอนจบน่ารักมากๆเลย~ :-[ :-[ อยากอ่านตอนพิเศษตอนอื่นๆอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่32 P.13 R.375]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-05-2012 18:40:01
เรื่องนี้ตอนจบน่ารักมากๆเลย~ :-[ :-[ อยากอ่านตอนพิเศษตอนอื่นๆอีกอ่ะ

เหลืออีกตอนนึงค่ะ... บทส่งท้าย :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-05-2012 14:04:50
บทส่งท้าย

ตำนานรักสองราชวงศ์ : ตำนานบทใหม่

เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ความรักที่องค์ทริสเซย์มีให้กับองค์ราชินีก็มิได้น้อยลงเลยแม้แต่น้อย นับวันมีแต่ยิ่งมากขึ้น มากขึ้น

หลักฐานก็คือพระโอรสและพระธิดาที่ถือกำเนิดมาไงล่ะ หัวปี... ท้ายปี...

และเป็นตามที่ทรงตั้งใจ โอรสพระองค์ที่สองของทั้งสองพระองค์ ได้รับพระนามว่า เฮเซีย

องค์ชายเซเซียเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นพระเชษฐาที่ดี เป็นเจ้าชายที่สง่างามยิ่งนัก สร้างความภูมิใจให้กับผู้เลี้ยงดูเป็นอย่างมาก

สององครักษ์ เรฟและเซท ก็ยังเป็นคู่รัก คู่จิกกัดเหมือนเดิม แม้เซทจะพูดไว้ว่ามีลูกให้แค่สามคน แต่ถึงเวลาจริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่นั้น ก็ตอนนี้เขากำลังตั้งท้องลูกคนที่สี่แล้วนี่น่า...

จะโทษใครก็ไม่ได้นอกจากตัวเองที่ยอมให้กับคนตรงหน้าตลอด

เซเรลเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่เข้มแข็ง เก่งทั้งด้านบุ๋นและบู๊ สร้างความภาคภูมิใจให้กับบิดาและมารดาเป็นอย่างมาก และเขาก็รับตำแหน่งเป็นองครักษ์ประจำตัวองค์ชายเซเซียเป็นที่เรียบร้อย ดังที่คาดเอาไว้

องค์ชายโซเนล์ส่งข่าวมาเป็นระยะ ๆ ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือตอนที่พระองค์ส่งข่าวมาว่าพระชายาโซเทเรียทรงตั้งพระครรภ์ ข่าวนั้นสร้างความดีใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก และข้า ก็เป็นตัวแทนไปแสดงความยินดีต่อทั้งสองพระองค์

ในที่สุด... ความรักที่แท้จริงขององค์โซเทเรียก็เห็นผล

ดีแล้วที่ก่อนพิธีอภิเษกของทั้งสองพระองค์ ข้าได้นำยาของพระสนมเซฟีน่าให้พระชายาโซเทเรียเสวย ดีจริง ๆ ที่ข้าตัดสินใจถูก

องค์ชายรัชทายาทเฮเซีย ข้าดีใจจริง ๆ ที่พระองค์ทรงมีความรักเป็นของพระองค์เองได้เสียที ในที่สุดพระองค์ก็ทรงตัดพระทัยจากองค์ราชินีได้ ช่างน่ายินดี

หลักฐานความรักของพระองค์ก็ถือกำเนิดเป็นองค์ชายผู้สง่างาม...

วันที่ข้าเฝ้ารออีกวันในที่สุดก็มีจริง เรล น้องสาวของข้ามีความรักเสียที นางรักกับนายพลทหารหนุ่มแห่งกองทหารรักษาพระองค์ นาม เอเคีย

อืม... เขาใช้ได้เลยล่ะ เข้มแข็ง สามารถปกป้องน้องสาวของข้าได้ อีกทั้งยังอบอุ่น และอ่อนโยนกับน้องสาวข้ายิ่งนัก

องค์ราชินีจัดงานแต่งงานให้กับเรล แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยความตั้งใจที่พระองค์มี สร้างความปลื้มปิติให้กับน้องสาวและน้องเขยข้าเป็นอย่างดี

ส่วนตัวข้านั้นหรือ...

องค์คาเซียทรงรับสั่งกับข้าเสมอว่า เมื่อใดที่ข้ามีความรักกับใคร ให้สานต่อไป อย่าทิ้งมันเพื่อพระองค์

เรื่องของข้ากับเฟรุยนั้น มันไม่ได้ดำเนินไปตั้งแต่แรกแล้ว นางก็ต้องอยู่กับพระชายาโซเทเรียของนาง

ส่วนข้า...

ข้าไม่มีวันที่จะทิ้งองค์ราชินีผู้เป็นยิ่งกว่าทุกอย่างของข้าไปไหนหรอก ข้าจะขออยู่เคียงข้างพระองค์ ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่

และ... ข้าจะขอติดตามพระองค์ไป ทุกภพ ทุกชาติ

ต่อไปนี้คงมีเรื่องราวใหม่ ๆ ให้ข้าได้บันทึกอีกมากมายกระมัง...

เนล

+++++++++++++++++

จบแล้วค้า^^ เขียนจบจนได้...

ชื่อตอน... ไม่อยากตั้งว่าบทสุดท้าย เลยตั้งแบบนี้ ฮ่า ๆ ชีวิตยังดำเนินต่อไป~

ขอบคุณทุก ๆ คน ที่มาอ่านและติชมกันนะคะ มีข้อผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ขอบคุณจริง ๆ

// เดี๋ยวเอาตอนพิเศษมาลงให้เท่าเด็กดี... ก็จะจบอย่างจริงจังแล้ว~
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 19-05-2012 14:18:47
ฮ่าาาาาา จบแล้ววว
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 19-05-2012 14:24:08
 :L2:   ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีและสนุกค้าบ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-05-2012 14:43:03
มีความสุขด้วยจัง รออ่านตอนพิเศษต่อ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-05-2012 14:58:32
ฮ่าา
จบแล้ว
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ +เป็ด +1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 19-05-2012 15:34:55
+เป็ด +1 จ้าา :กอด1:
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 19-05-2012 15:37:58
ขอบคุณสหรับรื่องดีๆ ลขอทษด้วยที่ม่ด้ข้มซนน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 19-05-2012 16:27:40
สนุกมากจริงๆเคอะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 19-05-2012 17:47:43
สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-05-2012 17:50:34
หัวปีท้ายปีเลยหรอ เยี่ยมมากฝ่าบาท  o13


เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับที่ชี้แจงนะครับ ^^ 
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 19-05-2012 18:25:50
หัวปีท้ายปีเลยหรอ เยี่ยมมากฝ่าบาท  o13



ปล แอบงง ตรง 'องค์ชายรัชทายาทเฮเซีย ข้าดีใจจริง ๆ ที่พระองค์ทรงมีความรักเป็นของพระองค์เองได้เสียที ในที่สุดพระองค์ก็ทรงตัดพระทัยจากองค์ราชินีได้ ช่างน่ายินดี' <<<< น่าจะเป็นโซเทเรียหรือเปล่าครับ เพราะเฮเซียเป็นลูกคนที่สองของคาเซียนี่นา

แอบงงเหมือนกัน ก็ว่าอยู่สงสัยคนเขียนเขาอาจะเขียนผิดก็ได้



จบแล้วอ่ะ เฮ้อ... เราชักชอบแนวนี้ซะละ พวกฝ่าบาท องค์ราชินี ทหาร ฯ
ชอเรื่องนี้มาก  :o8: อ๊ะแต่ยังยังไม่เช็คข่าวหนังสือเลย เตรียมเงินโอนดีกว่า  :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-05-2012 18:43:39
หัวปีท้ายปีเลยหรอ เยี่ยมมากฝ่าบาท  o13



ปล แอบงง ตรง 'องค์ชายรัชทายาทเฮเซีย ข้าดีใจจริง ๆ ที่พระองค์ทรงมีความรักเป็นของพระองค์เองได้เสียที ในที่สุดพระองค์ก็ทรงตัดพระทัยจากองค์ราชินีได้ ช่างน่ายินดี' <<<< น่าจะเป็นโซเทเรียหรือเปล่าครับ เพราะเฮเซียเป็นลูกคนที่สองของคาเซียนี่นา

เขียนไม่ผิดนะคะ... ลูกคนที่สองของคาเซีย คาเซียตั้งชื่อให้เป็นชื่อเดียวกับพี่ชายต่างมารดาของตัวเองค่ะ

องค์รัชทายาทแห่งเซเรียล ชื่อ เฮเซียค่ะ ^^ พี่ชายที่แสนดี
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-05-2012 18:56:18
สนุกมากจริงๆเรื่องนี้
รอตอนพิเศษครับ
ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้าเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-05-2012 20:56:55
 :-[ชอบจังอะจบแบบนีมีความสุขกันทุกคนเลยอะ :กอด1: :กอด1:


ปล.แล้วแต่งเรื่องอื่นมาให้อ่านอีกนะ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-05-2012 23:18:13
:-[ชอบจังอะจบแบบนีมีความสุขกันทุกคนเลยอะ :กอด1: :กอด1:


ปล.แล้วแต่งเรื่องอื่นมาให้อ่านอีกนะ :bye2: :bye2:


อย่าเพิ่งลากันน้า~ มาอ่านตอนพิเศษแบบจินตนาการต่อเองก่อนนนน

ปล. เอาแนวไหนดีคะ? ^^"v จีน ๆ ดี หรือ วัยรุ่นดี...

เนื้อเรื่องตีกันยุ่งในหัวไปกับวิชาเรียนTT//บ่น ๆ ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: kingkakingka ที่ 20-05-2012 00:08:29
จบแล้ววว

จะรออ่านเรื่องใหม่นะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 20-05-2012 00:46:02



   อ่า. . . จบซะแล้ว
   ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ ^ ^




หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 20-05-2012 01:31:49
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-05-2012 18:14:43
มาพูดคุยกันหน่อยนะคะ ^^ (เดี๋ยวจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย ฮ่า ๆ ตอนพิเศษอีกตอนก็จะบริบูรณ์แล้ว)

ก่อนอื่น ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่หลงเข้ามาอ่านตำนานรักนะคะ

ตอนเอามาลงแรก ๆ ยังหวั่น ๆ ใจอยู่เลย จะมีใครอ่านไหมนะ... สุดท้ายก็มีคนอ่าน ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ

เดี๋ยวเอาไว้พล่ามทีเดียวหลังจบตอนพิเศษ ฮ่าๆ

เอ่อ... เฮเซีย นอกจากจะเป็นชื่อของลูกคนที่ 2 ของคาเซียแล้ว

ยังเป็นชื่อของพี่ชายของคาเซียด้วยนะคะ(คนเขียนไม่ได้พิมพ์ผิดนะ...) องค์ชายรัชทายาท เฮเซีย แห่ง เซเรียล

+++++++++++

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14 พูดคุย R.408]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-05-2012 19:02:26
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทส่งท้าย P.14 พูดคุย R.408]
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-05-2012 20:53:58
ตำนานรักสองราชวงศ์ : หลังตำนานแห่งรัก : บันทึกขององค์ชาย

เสด็จพี่... หันมามองข้าหน่อยสิพะยะค่ะ...

เสด็จพี่... ได้โปรด หันมามองน้องบ้างเถอะพะยะค่ะ...

เสด็จพี่... เสด็จพี่...

แสงอาทิตย์ของรุ่งอรุณแห่งวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้องบรรทมของข้า แสงที่เหมือนๆกับทุกๆ เช่นเดียวกับชีวิตที่เหมือนเดิมทุกๆวัน...

“ตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ องค์ชายโซเนล์”เสียงของนางกำนัลพี่เลี้ยงรินทาเน่ดังขึ้นเรียกข้าเหมือนวันวาน “อีกเพียงสองวันก็ถึงวันคล้ายวันประสูติแล้วนะเพคะ องค์ชาย ปีนี้องค์ชายจะทรงมีพระชนมายุครบ 10 ชันษาแล้วนะเพคะ”

“นั่นสินะ...”อีกสองวันก็จะถึงวันเกิดของข้าแล้ว... ปีนี้พี่เฮเซีย จะหันมามองและสนใจข้าบ้างไหมนะ

รินทาเน่พาข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวเหมือนปกติ ก่อนที่จะไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อและเสด็จแม่

“โซเนล์”เสียงหวานๆและอ่อนโยนนี่... เสียงของเสด็จแม่ “มาให้แม่กอดหน่อยเร็ว”

“เสด็จแม่”ข้าวิ่งเข้าไปกอดร่างบอบบางของเสด็จแม่เอาไว้แน่น กายของเสด็จแม่ยังคงนุ่มและหอมเหมือนกับปกติ อ้อมกอดของเสด็จแม่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่มอบให้กับข้าและทุกๆคนเสมอมา

“ถวายพระพรองค์คาเซียเพค่ะ”

“สวัสดี รินทาเน่”เสด็จแม่ทรงหันไปยิ้มให้กับนางกำนัลพี่เลี้ยงก่อนจะหันกลับมาหาข้า “จะถึงวันเกิดของลูกแล้วนะ โซเนล์ ปีนี้ลูกอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม หืม”

“ไม่พะยะค่ะ เสด็จแม่”ข้าตอบพระองค์เสียงอ่อย... ของที่ข้าอยากจะได้... ยังไงเสด็จแม่ก็มอบให้ข้าไปได้อยู่แล้ว ถ้าจะเอา ข้าคงต้องพยายามด้วยตัวเอง

“แน่ใจนะลูก”เสด็จแม่ถามข้าอีกครั้ง ข้าก็พยักหน้ารับคำของพระองค์เป็นการยืนยัน... “เอาเถอะ... ถ้าลูกอยากได้อะไรรีบมาบอกแม่นะ ถ้าแม่ทำให้ได้ แม่ก็จะทำนะลูกรัก”

“พะยะค่ะ”

เสด็จแม่หอมแก้มของข้าก่อนที่พระองค์จะทรงเสด็จกลับตำหนัก... คงไปอยู่กับเสด็จพ่อไม่ก็พระชายาเหมือนเคยกระมัง...

ถึงแม้ว่าจะใกล้วันเกิด แต่ข้าก็ต้องทำกิจวัตรเดิมๆ เหมือนทุกๆวัน น่าเบื่อจังเลยแหะ... เฮ้อ...

++++++++++++++++++

ตอนนี้เป็นคืนก่อนวันเกิดของข้า พรุ่งนี้ข้าก็จะมีอายุเพิ่มขึ้นอีกปีแล้วสินะ... อ่า... ข้าอยากเจอเสด็จพี่เฮเซียจัง

“เอ... รินทาเน่หลับไปแล้วสินะ”

เมื่อข้าเห็นนางกำนัลพี่เลี้ยงคนเก่งของข้าหลับสนิท ข้าจึงแอบหนีออกจากห้องบรรทมออกมาเงียบๆแล้วมุ่งหน้าไปยังตำหนักแดฟโฟดิล

“อ้าว องค์ชาย”ทหารผู้เฝ้าหน้าตำหนักเอ่ยทักข้า... พวกเขารู้จักข้าดีพอๆกับที่ข้ารู้จักเขา ก็ข้าแอบมาที่นี่บ่อยๆนี่น่า “ดึกมากแล้วนะพะยะค่ะ ทรงเสด็จมานี่ เดี๋ยวพระพี่เลี้ยงก็เป็นห่วงหรอกพะยะค่ะ”

“นางหลับไปแล้ว... พวกเจ้าเงียบๆไว้ อย่าบอกใครล่ะ”

ข้าเดินเข้าตำหนักมายังหน้าห้องบรรทมของเสด็จพี่เฮเซีย... ดึกป่านนี้แล้วเสด็จพี่ยังไม่นอนอีกหรือ... เหตุใดถึงมีเสียงออกมาจากห้องกันนะ...

ข้าเปิดแง้มบานประตูเล็กๆเพื่อให้เห็นภาพข้างใน... ภาพที่ข้าเห็นนั้นทำให้ใจของข้าบีบรัดจนเจ็บไปหมด ขอบตาของข้าร้อนผะผ่าว น้ำตาพร้อมจะไหลรินลงมาตลอดเวลา

เสด็จพี่เฮเซียทรงร่วมสังวาสกับนางบำเรอนางหนึ่งอย่างรุนแรง กลิ่นคาวของน้ำกามคละคลุ้งไปทั่ว เสียงครวญครางของนางบาดลึกเข้าไปในจิตใจของข้า...

แม้ข้าจะรู้ว่าเสด็จพี่จะไม่ได้รักนาง ข้ารู้ว่าเสด็จพี่ทำเพื่อปลดปล่อยอารมณ์... แต่ข้าก็อดเสียใจมิได้ ข้าเฝ้ามองท่านพี่มา 3 ปี... ตั้งแต่ท่านพี่อายุ 12 จนตอนนี้ ข้าอยากบอกพระองค์ถึงความรู้สึกของข้า... แต่ข้าจะพูดได้อย่างไร...

ข้ากลับตำหนักของตัวเองด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เมื่อเข้าไปถึงในห้อง เสด็จแม่ก็ทรงประทับอยู่ข้างในพร้อมด้วยเสด็จพ่อ...

“โซเนล์ ลูกไปไหนมา”เสด็จแม่ทรงเรียกข้าด้วยความเป็นห่วง “แม่เป็นห่วงลูกมากนะ”

ข้าวิ่งเข้าไปโถมกอดเสด็จแม่ทันที แล้วเสด็จพ่อก็ทรงโอบกอดข้ากับเสด็จแม่เอาไว้ในอ้อมแขนอีกชั้นหนึ่ง...

น้ำตาของข้าหลั่งรินลงมาไม่หยุด เสด็จพ่อและเสด็จแม่ตกพระทัยอย่างมากเมื่อเห็นน้ำตาของข้า แต่ทั้งสองพระองค์ก็ไม่ได้ถามอะไร ทรงกอดข้าเอาไว้ให้ข้ารับรู้ว่าไม่ว่าเมื่อใด ข้าก็จะยังมีพวกท่านอยู่เคียงข้างเสมอ

ข้าหลับไปในอ้อมอกของเสด็จแม่ และค่ำคืนนั้นทั้งสองพระองค์ก็บรรทมอยู่เคียงข้างข้าตลอดคืน...

รุ่งเช้า เสด็จแม่ทรงพาข้าไปอาบน้ำ ชำระร่างกาย ก่อนที่พระองค์และเสด็จพ่อจะทรงทำกิจวัตรของพระองค์เอง

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า เสด็จพ่อ เสด็จแม่และพระชายาของเสด็จแม่จึงพาข้าออกเยี่ยมประชาชน เสด็จพี่บางพระองค์ก็ออกมากับข้าด้วย... แต่หนึ่งในนั้นก็ไม่มีเสด็จพี่เฮเซีย...

ตกเย็นงานเลี้ยงฉลองก็ถูกจัดขึ้น เหล่าราชนิกุล นางกำนัล ขุนนาง ข้าราชบริพารทั้งหลายต่างเข้าร่วมงานเลี้ยงกันอย่างคับคั่ง แต่ละคนแต่งตัวกันมาอย่างเต็มที่ ดูระรานตา แต่ข้ากลับไม่รู้สึกชอบการแต่งกายพวกนี้เท่าไหร่ ข้ารู้สึกว่าอะไรที่มันมากเกินไปก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นสักนิด...

เหล่าขุนนาง ข้าราชบริพารทั้งหลายต่างพากันมาอวยพรวันเกิดข้า พร้อมกับให้ของขวัญมามากมาย... แต่ข้าว่าน่าจะเอาของเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้ประชาชนเสียมากกว่าเอามาทิ้งไว้ในวังหลวง...

กว่าเสด็จพี่เฮเซียจะทรงเสด็จมาร่วมงานเลี้ยง เวลาก็ล่วงเลยไปครู่ใหญ่แล้ว... นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เสด็จพี่ไม่สนพระทัยข้า

“สุขสันต์วันเกิดนะ น้องข้า ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของเจ้า”เสด็จพี่ทรงตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พร้อมกับส่งของขวัญมาให้ข้าเหมือนทุกๆปี...

ท่านจะรู้บ้างไหมนะ... เสด็จพี่ ว่าข้าเจ็บปวดมากแค่ไหน ที่ท่านเมินเฉยกับข้า เย็นชากับข้าเช่นนี้...

ข้ารู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง... ไม่ใช่สิ่งที่สมควรเลยแม้แต่น้อย... แต่ข้าก็... รักท่านไปเสียแล้ว... ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ที่ข้าจ้องมองแต่ท่าน มองหาแต่ท่านเสมอมา...

หรือว่าข้า... ควรจะลองเสียงดูสักครั้ง...

หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา... ข้าก็ตัดสินใจไปยังตำหนักแดฟโฟดิล สิ่งที่ข้าตั้งใจเอาไว้... มันคงเปลี่ยนอนาคตของข้าต่อจากนี้ไปตลอดกาล แม้มันอาจจะไม่สำเร็จ แต่ข้า... จะขอเดินพันดูสักครั้ง

ข้าก้าวเข้าไปในตำหนักของเสด็จพี่อย่างเงียบเชียบเช่นทุกครั้ง จนกระทั่งถึงหน้าห้องบรรทมของท่าน

“เสด็จพี่ยังไม่บรรทมสินะ”ข้าแอบมองเข้าไปในห้องนั้น เห็นเสด็จพี่เฮเซียทรงนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟานุ่ม “เอาล่ะ...”

ข้าเปิดห้องของเสด็จพี่แล้วเดินเข้าไปข้างใน เสด็จพี่ทรงเงยหน้ามามองข้าอย่างตกใจเล็กๆ ก่อนที่จะปิดหนังสือลงวางไว้ที่ข้างกาย

“โซเนล์ เจ้ามีธุระอะไรกับข้างั้นหรือ”ยังไม่ทันที่เสด็จพี่จะทรงทำอะไร ข้าก็โถมกายเข้ากอดทับร่างของท่านที่อยู่บนโซฟาเสียก่อน ข้ารวบมือสองข้างของท่านเอาไว้แน่น “โซเนล์ เจ้าจะทำอะไรน่ะ”

“เสด็จพี่อย่าทรงฝืนจะดีกว่า... แม้กายของท่านจะใหญ่กว่าน้อง... แต่ท่านเป็นนักปราชญ์ แรงที่มีมิอาจสู้ทหารอย่างข้าได้หรอก...”ข้าเอ่ยกับเสด็จพี่เสียงแผ่ว เมื่อท่านเริ่มขัดขืนข้า

ข้าพันธนาการมือทั้งสองของเสด็จพี่เอาไว้ด้วยกัน ก่อนที่เริ่มปลุกเร้าแก่นกายของท่านให้พร้อม...

“โซเนล์ เจ้าจะทำอะไรน่ะ”เสด็จพี่ร้องถามข้าอย่างตื่นตระหนก

ข้าปลดเครื่องแต่งกายที่บางเบาออกเหลือเพียงกายอันเปล่าเปลือย ข้ายกตัวขึ้นคร่อมร่างของเสด็จพี่ก่อนที่จะกดร่างลงทับส่วนแข็งขืนของท่านให้เข้าไปในช่องทางเล็กน้อย

“นี่เป็นการเดินพันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของน้อง น้องขอเดินพันด้วยร่างกายของตัวน้องเอง เสด็จพี่เฮเซีย... ถ้าท่านพอจะมีเยื่อใยให้ข้าแม้เพียงน้อย ขอได้โปรดรับกายบริสุทธิ์นี้เอาไว้ด้วย แต่ถ้าท่านรังเกียจน้อง ก็ขอให้ท่านผลักไสน้องออกไป... แล้วน้องจะตัดใจจากท่าน แม้มันจะทำให้น้องเจ็บเจียนตายมากเพียงไรก็ตาม...”ข้ากลั้นใจพูดออกมาในขณะที่ปลดพันธนาการจากมือของเสด็จพี่...

+++++++++++++++++++++++++++++++

ข้าไม่เคยคาดคิดสักครั้ง ว่าน้องชายที่น่ารักคนนี้ของข้าจะกล้าเสี่ยงเอาร่างกายตัวเองมาเดินพันกับพี่ชายคนนี้ ที่ไม่เคยจะใส่ใจกับน้องสักครั้ง

กลิ่นกายหอมอ่อนๆที่ข้าแอบสูดดม ร่างกายที่ข้าแอบเมียงมองมาตลอด บัดนี้มาอยู่เบื้องหน้าข้าแล้ว...

ข้าไม่เคยคิดว่าน้อยชายของข้าจะสนใจข้า ในเมื่อรอบกายของเขามีพี่ๆที่รักเขามากล้อมรอบแทบจะตลอดเวลา แล้วยังน้องๆอีก

ข้ามองเข้าไปในดวงตากลมโตที่สบกับข้า... ข้าอยากจะครอบครองร่างของน้องคนนี้ซะเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ... แต่มันคงยังไม่สมควร...

ข้าดันร่างเล็กออกจากกาย น้ำตาของน้องข้าไหลรินอาบแก้มใส ดวงตาของน้องฉายแววเจ็บปวดและผิดหวังอย่างมาก

“โซเนล์”ข้าเรียกชื่อของน้องอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงน้องเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขน “เจ็บนึดนึงนะ น้องพี่”

ข้าส่งนิ้วเข้าไปเบิกช่องทางเล็กๆของน้อง อืม... น้องจะพร้อมรับข้าได้อย่างนั้นหรือ...

“เสด็จพี่... ข้าเจ็บ”เพียงแค่นิ้วเดียว น้องก็เจ็บขนาดนี้แล้ว... เฮ้อ... เอายังไงดีนะ...

“ให้พี่หยุดไหม โซเนล์”น้องส่ายหน้าทันทีที่ข้าพูดจบ

“ไม่พะยะค่ะ เสด็จพี่”น้องยิ้มให้ข้าเล็กๆอย่างน่ารัก “ข้าทนได้”

ข้าเพิ่มนิ้วเข้าไปทีละนิ้วจนครบสามนิ้ว แล้วขยับเพื่อเบิกทางของน้องอยู่พักใหญ่ เมื่อรู้สึกได้ว่าร่างกายของโซเนล์เริ่มผ่อนคลาย ข้าก็ถอนนิ้วทั้งสามออก

ข้ากดร่างของน้องให้กลืนกินกายข้าเข้าไปทีละนิด ร่างของโซเนล์สั่นระริกด้วยความเจ็บปวดจนข้ารู้สึกได้ แต่เขาก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา

ใช้เวลาพักใหญ่กว่าที่ข้าจะเข้าไปในกายของโซเนล์ได้หมด... น้องของข้าช่างมีความอกทนนัก

“เจ็บมากไหมหืม น้องพี่”

“ฮึก... พะยะค่ะ”

เลือดสีสดไหลซึมลงมายังเบาะนั่ง ข้าตัดสินใจอุ้มน้องไปยังเตียงทั้งๆที่กายของเรายังติดกันอยู่เช่นนี้... น้องร้องออกมาอย่างสุดจะกลั้น เมื่อขึ้นลุกเดิน

“อ๊ะ อ๊า เจ็บ ฮึก.”แก่นกายของข้าขยับเข้าออกเล็กๆระหว่างเดิน แต่ก็เพียงครู่เดียว

“อดทนหน่อยนะ โซเนล์”ข้าขยับกายเข้าออกช้าๆ เมื่อน้องเริ่มผ่อนคลายจึงเร่งความเร็วขึ้น

เสียงครวญครางของน้องกับข้าประสานกับเสียงเนื้อกระทบกัน จนกระทั่งสานธารแห่งรักจองเราทั้งคู่ถูกปล่อยออกมา...

ข้าถอนกายออกจากร่างของน้อง น้ำรักสีขาวขุ่นไหลอาบลงมาหน้ากับโลหิตสีแดงเข้ม... ยังไม่ทันที่ข้าจะพูดอะไรก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

“เฮเซีย พาโซเนล์ไปอาบน้ำ แล้วมาคุยกับแม่”เสียงเย็นๆของเสด็จแม่ดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง ข้ากับโซเนล์หันไปมองท่านเป็นตาเดียวกัน

ข้ารีบพาโซเนล์มาชำระกายตามรับสั่งของเสด็จแม่ทันที ก่อนที่พระองค์จะทรงกริ้วไปมากกว่าที่เป็นอยู่...

“เสด็จพี่... จะทำอย่างไรดีพะยะค่ะ”

“ไม่เป็นไร... พี่จะอยู่ข้างน้องเอง..."

ทั้งสองเดินกลับไปหาพระมารดาของพวกเขา

“ไหนบอกแม่มาหน่อยสิ... ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้”องค์คาเซียทรงตรัสถาม พระองค์สงบพระทัยขององค์เองไว้ให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เสด็จแม่... ลูกรักโซเนล์ ลูกรักน้อง...”องค์ชายเฮเซียตรัสบอกกับพระองค์ พระเนตรของโอรสของพระองค์นั้นฉายแววจริงจัง

“ลูก... แน่ใจใช่ไหมว่าเป็นความรัก มิใช่ความหลงใหล”องค์ราชินีตรัสถามอีกครั้ง

“พะยะค่ะ เสด็จแม่”องค์ชายตอบรับอย่างหนักแน่น

“แล้วลูกล่ะ โซเนล์ คิดอย่างไรกับพี่เขา”พระองค์หันไปถามโอรสอีกคนที่อยู่ในอ้อมแขนของพระเชษฐา

“ลูก... รักเสด็จพี่เฮเซียพะยะค่ะ เสด็จแม่”องค์ชายน้องตรัสกับพระมารดาอย่างเขินอาย

“เฮ้อ... ลูกซื่อตรงกับตัวเอง... เหมือนกับเสด็จลุงและเสด็จอา ที่เป็นที่มาของชื่อของลูกจริง ๆ”องค์ราชินีตรัสด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “แม่จะไปคุยกับเสด็จพ่อของพวกเจ้าให้แล้วกัน”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ เสด็จแม่”ทั้งสองขานรับพร้อมกัน

การทุ่มเถียงขององค์ราชาและองค์ราชินีเป็นที่กล่าวขานของคนในพระราชวังไประยะหนึ่ง แต่สุดท้ายการถกเถียงครั้งนี้ก็สิ้นสุดด้วยการที่องค์ราชินีเอาพระวรกายเข้าแลกกับการยอมรับขององค์ราชา เพื่อให้โอรสทั้งสองได้อยู่เคียงคู่กันอย่างที่ต้องการ

ประชาชนต่างฮือฮาในการประกาศพิธีหมั้นขององค์ชายทั้งสอง บางคนต่อต้านกับการรักร่วมสายเลือดเช่นนี้ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ด้วยความรักที่องค์ชายเฮเซียมีต่อองค์ชายโซเนล์

สุดท้ายแล้ว ข้ากับเสด็จพี่เฮเซีย ก็ได้อยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่า


+++++++++++++++

ตอนแรกจะลงจบแบบในเด็กดี... กลัวโดนซัด ฮ่า ๆ ลงให้แบบจบจริง ๆ แล้วกันค่ะ

จบจริง ๆ แล้วนะคะ สำหรับเรื่อง ตำนานรักสองราชวงศ์

ขอบคุณทุก ๆ คนที่หลงเข้ามาอ่าน และได้ติดตามกันมา

ขอโทษในความผิดพลาดหลาย ๆ อย่างที่ได้เกิดขึ้นในการเขียนนิยายเรื่องนี้

คิดว่าคงมึนคำราชาศัพท์ไปหลายตลบ... ตอนแรกก็จะไม่ใช้เยอะขนาดนี้หรอกค่ะ...

แต่มานั่งคิด ๆ ดู ก็ใช้ไปเยอะหน่อยดีกว่า... แม้ว่าจะขัด ๆ ไปหน่อยก็ตาม

เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงได้ความรู้จากตรงนี้มากขึ้นด้วย

ภาษาดอกไม้ เป็นอีกอย่างที่เลือกใช้ แม้ดอกไม้ที่เลือกมาใช้จะเป็นดอกง่าย ๆ

แต่ก็เชื่ออีกว่า คงมีคนที่ไม่รู้ความหมายของมันบ้างล่ะ

ตัวละครในเรื่องตำนานรักนั้น แต่ละคนมีมุมที่แตกต่างกันไป และมีความหลังที่แตกต่าง

มีความคิดที่ถูก ก็ต้องมีความคิดที่ผิดพลาด มีความเห็นแก่ตัว ก็มีการเสียสละ

อาจจะไม่มีใครโชคดีที่โซเทเรีย ที่ผิดพลาดในตอนแรก แต่ก็ยังสามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ได้

อาจจะมีคนคิดว่าตัวเองเสียสละมากมาย แต่ใครจะยอมสละได้เท่ากับคาเซีย

ใครหลายคนที่กล้ารัก แต่ไม่กล้าเริ่มต้น ไม่กล้าไขว่คว้าให้ได้จนต้องเสียไปมาอย่างที่เฮเซียทำ

ใครหลายคนที่กล้าไขว่คว้าคนในความทรงจำ และพยายามที่จะเอามาเป็นของตน อย่างทริสเซย์

แง่คิดที่วางเอาไว้ก่อนจะกำเนิดมาเป็นตัวละครเหล่านี้...

ขอบคุณสำหรับข้อติชม และติเตียน นะคะ จะขอนับคำเหล่านั้นไปปรับปรุงในการเขียนเรื่องหน้าค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่มีให้กันเสมอมา ตั้งแต่แรกมาถึงปัจจุบัน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 22-05-2012 21:46:39
ขอบคุณสหรับตอนพิศษ จรออ่นรื่องหม่น
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410 พูดคุย R.408] END
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-05-2012 22:18:14
จบแล้วๆ อิอิ
น่ารักมากเลย ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410 พูดคุย R.408] END
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 22-05-2012 23:32:18
เฮเซียชอบโซเนียร์แล้วทำเย็นชากับโซเนียร์แบบนั้น รู้่ไหมโซเนียร์คิดมากนะนั่น
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410 พูดคุย R.408] END
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-05-2012 00:00:47
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีให้อ่านน๊า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-05-2012 18:12:27
จบแล้ว... ลืมแจ้งย้าย ^^// ย้ายได้เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: railay ที่ 24-05-2012 00:03:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 24-05-2012 21:18:11
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะ นิยายายเรื่องนี้มีหลายรสชาติมากเลย  :L1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-06-2012 23:36:03
^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ammlovey ที่ 05-06-2012 18:25:31
ขอบคุณสำหรับนิยายหนุกๆค่ะ  o13
ตอนสุดท้ายนี้........ :-[
 :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 05-06-2012 21:26:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 06-06-2012 00:19:43
อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุกมากกกกกกกกกกกกกก

คาเซียทั้งสวย ทั้งเก่ง แบบนี้
พระราชา ทริสเซย์  หลังรักตั้งแต่ 3 ขวบ ก็ไม่แปลก
คิดแล้วเขิล

พระราชา ทริสเซย์  วางแผนมาอย่างดีป่ะเนี่ย
ไม่งั้นไม่บอกว่าต้องการเชลยอายุ 15 หรอก เพราะมีคาเซียคนเดียว
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: chin-ruyze ที่ 07-06-2012 17:40:52
 :z3: :z2: o22 :a5: o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 27-06-2012 01:40:38
จบแล้วๆๆ สนุกมากเลย  o13

สุดท้ายนี้  :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 27-06-2012 06:21:48
^-^ อ่านเรื่องนี้แล้วได้ครบทุกรสชาติจริงๆเลย สนุกมากๆ
ชอบคาเซียมากๆ สมแล้วกับตำแหน่งแม่ของแผ่นดิน สวย เด็ดเดียว เฉียบขาด ฉลาด เก่ง
ไม่แปลกใจเลยพระราชาทริสเซย์ถึงหลงรักตั้งแต่คาเซียอายุ 3 ขวบ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 27-06-2012 11:07:54
 :a5:
ซ๊อกนิดๆๆ กะรุ่นลูก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 29-06-2012 22:38:29
ขอบคุณค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NuPpEr ที่ 01-07-2012 23:01:18
อ๊ากกกกกกกกกกกก... จบ แล้วววววว T^T
ไม่ อยาก ให้ จบ เลย อ่าาาาาา
 ไง ก้อขอบ คุย สำ หรับ นิ ยาย สนุกๆ นะ คับบบ ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kissing ที่ 06-07-2012 11:54:36

ชอบอ่ะ เป็นปลื้มมมมมมมมม 

 :pig4:





หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] END ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-07-2012 23:29:10
^^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-07-2012 18:36:05
(http://image.ohozaa.com/t/g68/kT1fI7.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/weiz6w79c0t4Mauu)

หนังสือตำนานรักมาแล้วค้า~ เหลืออีกนิดหน่อยทุกอย่างก็จะเสร็จแล้ววว

ของแถมทุกชินแฮนด์เมดค่ะ ทำมือหมดเลย... ช้าหน่อย แหะๆ(เกิดขยันอะไรขึ้นมา...= = ทำเองซะหมดเลย...)

พิมพ์เกินมานิดหน่อยด้วยแหะเรา...(นับเลขผิด ฮ่าๆ)... หมดแล้วค่ะ... หมดแบบ ไม่มีเก็บเองสักเล่ม... งึมงำ

ถ้าใครสนใจสามารถPMมาได้นะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 31-07-2012 22:33:30
 :pig4: สนุกมากๆเลย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 05-08-2012 09:06:56
ขอบคุณครับสำหรับนิยายดีๆ สนุกมาก :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 06-08-2012 02:10:48
ขอบคุณครับ สนุกมาก...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 07-08-2012 23:38:42
สนุกมากเลยค่ะ
ชอบเนลกับเรลมากอ่ะ
ยิ่งตอนที่สู้กับนักฆ่านี่ยิ่งชอบอ่ะค่ะ
จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 08-08-2012 15:04:45
สนุกดีค่ะ ชอบมากๆเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 12-08-2012 03:08:26
สนุกมากๆเลยค่ะ
อยากให้มีเรื่องใหม่มาอีกเรื่อยๆนะค่ะ
แล้วจะรอติดตามผลงาน^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 12-08-2012 11:41:16
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: junsoolovely ที่ 12-08-2012 17:00:45
อร๊างงงงงงงง น่ารักซุง
>< ชอบพล็อตเรื่องแนวนี้
คนเขียนมีน้อย เจอปุ๊บต้องอ่านให้จบรวดในวันเดียว ><
คาเซียน่าร๊ากก แต่ชอบพระราชามาก มีการแพ้ท้องแทนเมีย 55555555  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: vutloor ที่ 12-08-2012 17:48:26
สนุกมากๆครับ อยากให้แต่งเรื่องแบบนี้อีกจัง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: netsu ที่ 15-08-2012 11:54:11
สนุกมากเลยค่า
 o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 15-08-2012 17:34:11
สนุกมาก ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 16-08-2012 00:09:59
รุ่นลูกนี่ ร้อนแรงน่าดู >\\\\<
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 16-08-2012 01:53:45
ปกติไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวนี้เท่าไหร่นัก
แต่เรื่องนี้ทุกตัวละครน่ารักค่ะ
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆค่ะ :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 16-08-2012 12:27:39
ฮาาา อ่านตอนจบแล้ว น่ารักอะ

ชอบบ ขอบคุณน้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: topperha ที่ 17-08-2012 22:20:35
สนุกมากเลยครับ
 o13
ขอบคุณมากที่เขียนมาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 18-08-2012 01:46:05
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 18-08-2012 14:16:04
ประทับใจเรื่องนี้
ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Jele_like ที่ 19-08-2012 18:43:04
ชอบ เรื่อง นี้ มากมาย อยากให้มีภาค 2  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-08-2012 00:18:03
จบได้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 20-08-2012 14:34:27
 :z1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 23-08-2012 23:18:00
สนุก แปลกแหวกแนวดีค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: archaeoloable ที่ 29-08-2012 02:01:44
หนุกสุดยอดดด >.,<
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 17-09-2012 20:09:17
 :m20มันคือฟิค........ที่น่ารักอ่ะ.... :L1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 26-09-2012 01:50:15
ตอนพิเศษ เหมือนคนล่ะเรื่องกับเนื้อเรื่องหลักเลย






มาต่อเรื่องใหม่เร็ว ๆ น้าาาาาาาาาาาาาาาา จะรอติดตาม
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 18-12-2012 12:35:02
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 18-12-2012 17:35:08


ชอบเรื่องนี้มากเลย

สนุกมาก ๆ  :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-02-2013 22:38:18
ตามมาอ่านจากเรื่อง หนิงกวาง

น่ารักทุกคู่เลย

ขอบคุณคนเขียนมากค้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 27-03-2013 22:09:10
สนุก น่ารัก คาเซียเนี่ยตอนแรกอึ้งเล็กน้อย ตรงที่เป็นเคะในฝันที่รับได้แและรุกเป็น?? แต่น่ารักอ่า^^
:pig4: :pig4: :pig4:

(เลยนึกถึง 1006927 ประมาณนั้น ยิ่ง 10069 เป็นSM ด้วยน่ะ  :z1: )
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 05-05-2013 23:23:15
หลงรักราชินี ชอบมากกกกก ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 09-05-2013 17:53:13
สนุกมากๆเลย

ขอยกนิ้วให้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 24-05-2013 17:50:34
ชอบเรื่องนี้มากๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 19-07-2013 12:22:37
ชอบเรื่องนี้มากคัฟ  แต่ขัดตรงรักร่วมสายเลือดนี่แหละ  รอเรื่องต่อไปนะคัฟ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: preaw-sm ที่ 28-07-2013 14:39:13
น่ารักมากเลยค่า
ขอบคุณมากน้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Niinuii ที่ 01-11-2013 23:35:47
เราเพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ อยากบอกว่า ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แอบชอบเรื่องที่นายเอกท้องได้555 จริงๆนะ
เนื้อเรื่องน่ารักด้วย ต่อภาค2เถอะ555
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: KuMaY ที่ 10-11-2013 21:45:00
 o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-03-2014 00:34:22
เราเพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ อยากบอกว่า ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แอบชอบเรื่องที่นายเอกท้องได้555 จริงๆนะ
เนื้อเรื่องน่ารักด้วย ต่อภาค2เถอะ555

ภาค 2 ถ้ามีโอกาสคงได้ผุดค่ะ 555 ดองเรื่องอื่นไว้ด้วย... // ยังไม่ได้ลง ปั่นไม่ออก TT"

// ลืมมาต่อเรื่องจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิจนโดนลบ 5555 ให้ตายสิมิดไนท์ Y^Y"
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 09-03-2014 02:59:05
 o22 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 10-03-2014 19:58:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-03-2014 23:46:40
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 15-03-2014 14:22:07
หนุกดีค่ะ

เป็นเรื่องที่ให้แง่คิดหลายแง่ดี

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 15-03-2014 15:29:39
:haun4:

รุ่นพ่อ ยังมีเหนียมอายบ้าง
แต่รุ่นลูก เล่น ข่มขื่นพี่ชายเลย อ่ะ

สุดยอด จริงๆ

ขอบคุณมากมายนะคับ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 04-04-2014 18:55:37
สนุกมากเลยแหละ แต่พี่น้องเนี่ยนะ มันไงๆไม่รู้
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 29-05-2014 21:00:22
ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านนะคะ คาเซียเสียสละมาก ส่วนเอลน่านี่ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ อึ้งมาก
ว่าแต่ นางสนมที่เหลือเป็นยังไงบ้างคะ? น่าจะโดนกันหมดแบบมิใช่น้อย ฮึ่ม!  :m31:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 27-07-2014 12:52:18
สุดยอดขอชื่นชมอ่ะ
ชอบจังนิยายเเนวนี้ ประทับใจมาก
จะรอผลงานใหม่ๆน้ะ ท่านผู้เเต่ง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: dreeanm ที่ 02-08-2014 01:53:13
อ่านจบเเล้วว เย่เย่ สนุกมากเลยค่า แปลกแหวกแนวดีอะ แต่มีแอบงงกับชื่อตัวละครบาง ชื่อมันคล้ายกันมากอ่ะ กับที่พิมพ์ผิดๆถูก บางทีพิมพ์ชื่อสลับกัน เเอบงงนิดๆ 555 แต่สนุกมากจริงๆน้า
ปล.ตอนจบโซลกับมาอยู่กับคาเซียหรอคะ เราเห็นมีประโยคที่พระโอรสเรียกอ่า ว่าเสด็จพ่อ เสด็จเเม่ เเล้วก็พระชายาของเสด็จแม่ด้วยอ่า สรุปมันคือยังไงอ่า TT
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 03-08-2014 16:45:48
สนุกมาก มีหลายอารมณ์มาก
แต่ตอนพิเศษน้อยไปน้า
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 03-08-2014 21:18:51
ถือเป็นนิยายที่เหนือความคาดหมายเอามากๆ
อ่านตอนแรกๆแล้วคิดว่าจะเดินเรื่องไปเหมือนเรื่องอื่นๆ
ที่ไหนได้พลิกตั้งเเต่คาเซียมีเมียแล้ว  แล้วก็พลิกอีกหลายๆรอบ :a5:
ฮ่าๆ  เรียกว่าคาดเดาทางเรื่องไม่ถูกเลยจริงๆ o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: winmania ที่ 04-08-2014 18:47:40
จบแล้ว อ่านรวดเดียวเลย
ขอบคุณนะคะ เรื่องน่ารักและแหวกแนวดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 23-08-2014 00:01:23
 :heaven :heaven :heaven :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 04-10-2014 11:46:53
สะใจตอนประหารคนที่ทำร้ายคาเซียอ่ะ   ชื่อไรนะลืมแล้ว  555
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 05-11-2014 08:16:43
กรี๊ด น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-12-2014 16:06:15
เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน  :katai1: :hao7:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 12-12-2014 20:46:14
จบแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ  :ling1: :ling1: สนุกๆๆ ถึงตอนแรก ชื่ออ่านจะงง กว่าจะจำได้ :katai5:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 29-12-2014 11:07:35
จะมีตอนพิเศษมาให้ได้เชยชมกันอีกมั้ยยยย
อยากรุ้เรื่องของเฮเซียกับคาเซย์มว้ากกกก

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-01-2015 18:22:16
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:     สนุกคับ อ่านเพลินเลย      o13 o13 o13 
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 20-01-2015 02:00:32
อ่านรวดเดียวจบ 4 ชม. อยากบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุข ถึงจะงงๆบ้างเพราะคนเขียนพิมชื่อผิด 5555 แต่ก้รุ้สึกรักเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 20-01-2015 22:57:14
หลากหลายอารมณ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Storm_Dragon ที่ 03-04-2015 16:23:52
ตามได้โอกาสมาอ่าน จบภายใน2วันค่ะ

เป็นแนวเรื่องที่แปลกดี ดำเนินเรื่องง่ายๆแต่สนุก อ่านติด

เสียดายที่จบเร็วไปหน่อย อาจจะเพราะมีการดำเนินคู่หลักอย่างเดียว อิอิ
จริงๆอยากรู้รายละเอียดตื้นลึกหนาบางมากกว่านี้สำหรับความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องน่ะค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรเนอะ เขียนจบตั้งนานแล้ว OTL

ส่วนตัวรู้สึกชอบอะไรที่มาม่ามากกว่า แต่คาเซียเข้มแข็งแบบนี้ก็ดีค่ะ เราไม่ค่อยปลื้มกับผู้ชายสำออย ;//q//;

แอออ ขอบคุณที่แต่งจนจบนะคะ สนุกมากเลยค่ะ ><!

 :-[
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Mayniemo ที่ 17-04-2015 10:22:24
 ขอบคุณมากๆนะค่ะ สนุกมากจริงๆ ตอนจบเดาคนร้ายผิดเสยยย ง่าาา อืม
สุดท้ายพี่น้องก็รักกันอ่าไม่ค่อยเห็นแนวนี้เท่าไหร่เลย
แต่ก็สนุกอ่า อยากให้เพิ่ม nc ไมาค่อยจุใจเลย ขอเรื่องหน้าก็ได้ เย่ๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-06-2015 20:01:35
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก ตัดสินใจอยู่นานว่าจะอ่านเรื่องนี้ดีไหม
แล้วก็ไม่ผิดหวัง อ่าน2วันจบเลย อ่านไปทำงานไป 555
มีอะไรให้ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง ชวนติดตามค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 04-07-2015 13:23:00
เป็นนิยายที่แปลกมากๆ


สปอยค่ะ  






น่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "ตำนานรักสามราชวงศ์" นะ ฮ่าๆๆ

คือคาเซียเป็นตัวเด่นจริงๆ

พระเอกไม่ค่อยมีบทบาท แต่น่าสงสารมาก แอบรักคาเซียมาตั้งแต่คาเซียอายุ 3 ขวบ พอจะได้มาเป็นชายาทั้งที ชายาดันไปมีเมียซึ่งเป็นสนมของตัวเองอีก !!

จะว่า 3P  ก็ไม่ใช่นะ  กึ่งๆจะมีชู้ก็ไม่เชิงอีก   พระเอกก็รู้แต่ต้องทำใจ เข้าทำนอง  กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ   

นายเอกนี่สับรางจนมึนเลยค่ะ  ต้องไปดูพระเอกที่เป็นสวามีของตัวเอง  ต้องไปดู โซลที่เป็นเมียของตัวเอง

พล็อตแปลกมากๆ

 แต่เวลาอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ  ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่  ชายามีหน้าที่ต้องดูแล ปรนนิบัติพระราชา แต่นี่ต้องแบ่งเวลาไปดูเมียตัวเองอีก 

ถึงโซลจะเป็นคนขอแต่งงานเอง  ก็น่าจะพูดได้ว่า รักแบบน้องนะ แต่งก็ได้แค่แต่งเฉยๆ   ตัวเองมีหน้าที่เป็นชายา ต้องดูแลพระเอก  แต่นี่ไม่เลย  ไปมีอะไรกันจนมีลูก

กลายเป็นว่าคาเซียจับปลา 2 มือ จนทำอะไรไม่ได้ดีสักอย่าง คือจะเอาทั้ง 2 ทาง จะเป็นทั้งชายาและแม่ของลูกของพระเอก   เป็นทั้งสวามีและเป็นพ่อของลูกโซล

อ่านจบมาแบบมึนๆ 

ภาษามีงงๆนิดนึง บางประโยคใช้คำดูซ้ำซ้อน

สุดท้ายนี้ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Rani_the_yaoi ที่ 02-08-2015 19:30:30
สนุกมากกกกกกก ปลาบปลื้ม อ่านติดกันรวดเดียวเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-08-2015 20:51:23
 :pig4: มีแถมท้ายตอนลูกให้อ่านด้วย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 11-12-2015 13:29:25
3p? 2p mpreg incest ครบทุกรูปแบบจริงๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 23-05-2016 14:43:11
เป็นพลอตเรื่องที่แปลกจริง ๆ แต่ก็สนุกมาก ๆ ครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 18-01-2017 23:46:54
น่ารักและสนุกมากๆๆๆเลยค่าาาา  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 19-01-2017 23:15:47
ชอบบบ  :กอด1: อ่านกี่ทีก็สนุก
ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 07-06-2017 06:23:35
 :z1:    :กอด1:     o13      :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 07-06-2017 22:29:30
อ่านจบแล้วค่าาาาาา สนุกม้ากกกก
ชอบบ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 18-06-2017 13:23:29
 :m25:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 20-06-2017 15:08:50
ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่
แค้ก็สนุกเหมือนเดิม

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 21-06-2017 22:44:55
อ่านไม่จบง่ะ เพราะรับไม่ได้อ่านไปต่อไม่ไหว
ตอนแรกเนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลย เพราะชอบอะไรแนวนี้มากๆ
แต่มาผิดหวังตอนมาเจอนายเอกเป็นทั้งรับให้พระเอก แล้วดันไปเป็นรุกให้คนอื่นอีก เลยขอเลิกอ่านดีกว่า แหะๆ
สำหรับเรารับไม่ได้ เนื้อเรื่องหมดความสนุกไปเลย
ขอโทษนะคะที่อ่านไม่จบ เสียดายนิยายแนวนี้จังเลย
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon2006 ที่ 01-10-2017 13:26:31
ชอบมากกกกกกกก แต่พึ่งมาอ่านเลยเก็บแบบเล่มไม่ทัน
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 02-10-2017 12:33:16
สนุกมาก อ่านเพลินเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 06-10-2017 17:50:43
นิยายแนวนี้หายากมาก เราก็ชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซี พีเรียต ลึกลับ ที่สุด
แต่อ่านไปถึงตอน 10  บทเหมือนจะ 3P เลยต้องไปดูหน้าสุดท้าย
จะ 3 P ก็ไม่เชิง แต่นายเอกเป็นทั้งชายา ทั้งสวามี  เฟลเลยทีนี้
เนื้อเรื่องดำเนินมาสนุกมาก แต่เราอ่าน 3p ไม่ได้จริงๆ เลยต้องหยุดอ่าน เสียใจอ่า

ไม่ใช่นิยายไม่ดีน๊า นิยายสนุก แต่เราเป็นคนประเภทอ่าน 3p ไม่ได้แค่นั้นเอง
อยากให้แต่งแนวพีเรียตออกมาอีกจัง
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 07-02-2018 14:04:27
หักมุมมากกก หักไปหักมาจนระแวงไปหมด :hao5:
สงสารน้องพระจะนทร์กว่าจะมีความสุขจริงๆก็เกือบจบเรื่อง โอยยยย เกือบอ่านไม่จบแล้วค่า :hao4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 08-06-2018 23:49:49
เรื่องนี้หลากรสมาก
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-11-2018 06:23:22
สงสารองค์ชาย :mew6:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทที่2 R.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-11-2018 06:29:22
น้ำตาซึมตามเลยค่ะ  :monkeysad:

--------------------
นิยายแนวนี้หายากมาก เราก็ชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซี พีเรียต ลึกลับ ที่สุด
แต่อ่านไปถึงตอน 10  บทเหมือนจะ 3P เลยต้องไปดูหน้าสุดท้าย
จะ 3 P ก็ไม่เชิง แต่นายเอกเป็นทั้งชายา ทั้งสวามี  เฟลเลยทีนี้
เนื้อเรื่องดำเนินมาสนุกมาก แต่เราอ่าน 3p ไม่ได้จริงๆ เลยต้องหยุดอ่าน เสียใจอ่า

ไม่ใช่นิยายไม่ดีน๊า นิยายสนุก แต่เราเป็นคนประเภทอ่าน 3p ไม่ได้แค่นั้นเอง
อยากให้แต่งแนวพีเรียตออกมาอีกจัง

อ้าว เรื่องนี้เป็น 3P หรอกเหรอ...
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-11-2018 08:25:19
มันก็จะพีคๆ ไปหมด รักในรักในรัก  :katai1: แต่สุดท้ายทุกคนก็แฮปปี้ ขอบคุณนะคะ สนุกดีค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Sevenny ที่ 13-04-2019 23:21:01
แปลก เราอ่านเเล้วงงตั้งเเต่ต้นจนจบเลย แง งงทั้งชื่อตัวละคร งงเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร ตอนพิเศษนี่ตะลึงสุด รักร่วมสายเลือดเเท้ๆ เเล้วยังโซเนล์อายุแค่10ขวบเเต่เป็นทหาร เเล้วยังมีอะไรกับพี่ชายตัวเองอีก เรางงค่ะ งงงงงงงงงงงง เรางงงงงงงงงงงงง  :katai1: :hao7:  :ling1:  :ling3:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 02-06-2019 11:36:24
งง กับชื่อตัวละครนิดหน่อย
แต่ก็สนุกดีค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 03-07-2019 22:16:12
หลงเข้ามาอ่านก็คือดี แบบอ่านเพลินมากแปปเดียวจบซะแล้วว  o13

 :L2: :L2: :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 06-07-2019 10:11:23
 o13
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 11-07-2019 18:22:54
 :pig4: :pig4:สนุกมากคะ
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 17-09-2022 22:18:01
  :pig4:
หัวข้อ: Re: Royal Of Love ตำนานรักสองราชวงศ์[บทพิเศษP.14 R 410] จบแล้วค่ะ (แจ้งข่าวเล็กๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 20-10-2022 22:26:56
น่ารัก ผมชอบมากเลยครับ