VAMPIRE PROBLEM ;w; #14
“พี่ครูซ”
กี้! กี้!
ผมในร่างค้างคาวที่กำลังนอนแปะอยู่บนไหล่ดิออนเหลือบมองน้องเซ็งๆ เพราะพอผมกับดิออนอาบน้ำเสร็จก็มาเคาะประตูห้องเฉยเลย อะไรกัน พอเห็นผมมีแฟนหน่อยก็หมั่นไส้เรอะ
ทีเมื่อก่อนนะ ผมกลิ้งเล่นในห้องจนไม่รู้จะทำอะไรก็ไม่มีใครมาเคาะสักคน!
อยู่สมาคมเฉยๆ น่าเบื่อจะตายไป ไม่มีอะไรน่าสนุกเลยสักนิด จะชวนเล่นเหมือนตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้ เพราะทุกคนก็กดดันให้ผมทำตัวเหมือนพี่คนโตซึ่งผมก็ไม่อยากทำ ก็ผมยังไม่อยากแก่อ่ะ
แต่ที่แน่ๆ เลยคือตอนนี้ผมอยากจู๋จี๋กับดิออน! ตอนอาบน้ำจูบไปรอบเดียวเอง ยังไม่หนำใจเลยอ่ะ
แม็กซ์ขมวดคิ้วมองผมก่อนที่จะมองดิออนตาขวาง
“พี่ยังไม่โตเลย แล้ววาติกันนี่มันก็ดูไว้ใจไม่ได้ด้วย”
กี้!!
ผมที่ขี้เกียจเกินกว่าจะคืนร่างมนุษย์ เลยเท้าเอวบ่นน้องบนไหล่ดิออนมองน้องตาขวางกลับบ้าง
“ผมรู้น่าว่าพ่อบอกว่ามันไม่ทำร้ายพี่แน่ๆ แต่ผมกับพ่อก็ไม่ชอบหน้ามันอยู่ดี ทำไมพี่ต้องเอามันกลับบ้านด้วย ผมไม่เห็นชอบหน้ามันเลย!”
นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้อง ผมจะคิดว่าแม็กซ์จะมาแย่งผมจากดิออนละ
กี้ๆๆๆ
ผมร่ายยาวพยายามหาเหตุผลในการไล่น้องไปไกลๆ ซึ่งไกลของผมก็คือห้องของน้องผมที่อยู่ตรงข้ามกันเนี่ยแหละ ดีหน่อยที่กำแพงที่นี่ค่อนข้างหนามาก เวลาผมทำอะไรก็ไม่มีใครได้ยิน
“พี่ยังไม่เคยมีแฟนเลย! พี่จะไปรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นคนดี! ตอนนี้มันอาจจะดีแต่ปีหน้ามันอาจจะทิ้งพี่ก็ได้!”
กี้!!!
โอ๊ย ผมเริ่มคิดถึงน้องแม็กซ์ผู้เคร่งขรึมของผมละ น้องคนเก่าผมหายไปไหนเนี่ย ดีหน่อยที่เซนเป็นพวกนอนไว ตอนนี้คงหลับตายไปแล้ว ส่วนผมก็มีวิบากกรรมต้องตีกับน้องชายตัวเองต่อ
“พี่ครูซ!! ผมเป็นห่วงพี่นะ ผมถึงมาทะเลาะกับพี่เนี่ย”
กี้!
ผมถลาไปซบต้นคอดิออนแล้วแลบลิ้นใส่น้อง เพราะดูยังไงก็คุยไม่รู้เรื่อง
“พี่ครูซ! พี่เลือกมันเหรอ!!! ผมเป็นน้องพี่มาสามสี่ร้อยปีเลยนะ แต่ไอ้วาติกันบ้านี้พี่เพิ่งรู้จักมันไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ!”
พูดไปก็จริงแฮะ แต่ก็พูดเกินไปไหมอ่ะ พูดเหมือนผมเป็นใจแตกเลยอ่ะ แต่ผมก็ใจแตกอยู่แล้วนี่นา ผมเลยพยักหน้ายอมรับไป น้องเลยเดือดกว่าเดิม
“พี่ครูซ!”
ผมถอนหายใจเซ็งๆ แล้วยอมคืนร่างมนุษย์แต่โดยดี และแน่นอนว่าผมก็ซบแขนดิออนเหมือนเดิมเพราะมันค่อนข้างอุ่น ซึ่งก็น่าจะเป็นผลมาจากที่มันยังไม่ได้เป็นแวมไพร์เต็มตัว
“พี่เคยมีแฟน” ผมตัดสินใจพูดออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากพูดถึงเท่าไหร่ พอเห็นสีหน้าอึ้งๆ ของน้องก็หลุดขำออกมาไม่ได้ “เห็นพี่แบบนี้พี่ก็ต้องเคยมีแฟนมั้งไหมอ่ะ พี่อายุจะสี่ร้อยแล้วนะ แม็กซ์ ตอนที่พี่หนีออกไปเล่นข้างนอก คิดว่าพี่เที่ยวเล่นเฉยๆ เหรอ พี่ก็ลองทำหมดนั่นแหละ”
พูดเหมือนมีแฟนเยอะแต่จริงๆ ก็มีแค่คนสองคน ตั้งแต่สมัยผมอายุร้อยต้นๆ นู่น หลังจากโดนหลอกจนเป็นค้างคาวมีเขาสองรอบ ผมก็เลิกมีความสัมพันธ์กับมนุษย์แบบจริงจังมาหลายร้อยปี จนกระทั่งมาเจอดิออนเนี่ยแหละ ผมถึงได้ลืมหลักการทุกอย่างของตัวเองหมดเลย
“ไม่ต้องหวงพี่นักหรอก พี่ก็รักแม็กซ์เหมือนเดิมนั่นแหละ”
ผมยิ้มจนตาหยีให้น้อง พอเห็นน้องเบือนหน้าหนีแบบเขินๆ ถึงพูดต่อ
“แต่ช่วงนี้ก็อาจจะน้อยกว่าดิออนนิดนึง”
“…”
“ฉะนั้นเลิกงอนพี่แล้วปล่อยพี่ไปสักที ให้พี่มีเวลาอยู่กับคู่มั้งเหอะ รู้ไหมกว่าพี่จะหาคู่ที่ถูกใจมันยากขนาดไหน! ของดีแบบนี้หายากมากเลยนะ”
ผมหัวเราะคิกคักตอนที่ดิออนมันถอนหายใจเหมือนระอาผมนิดๆ อะไรกัน ผมอุตส่าห์ชมมันตั้งเยอะตั้งเยอะ มันไม่สนใจเลยเหรอ จริงสิ ดิออนฟังภาษาค้างคาวไม่ออกนี่นา น่าเสียดายชะมัด
“..พรุ่งนี้ถ้าพี่ตื่นตอนไหนก็ไปหาผมที่โรงอาหารแล้วกัน ผมมีของให้พี่”
“ให้ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”
ผมพูดไปหาวไปเพราะเริ่มง่วงขึ้นมาจริงๆ อาจจะเพราะช่วงนี้ผมใช้พลังเยอะเกินไปด้วยมั้ง ถึงผมการนอนกับดิออนจะทำให้ผมอิ่ม แต่ยังไงผมก็ยังต้องการเวลานอนอยู่ดี
พอเห็นว่าตัวผมเริ่มย้วยกว่าเดิม ดิออนมันก็ช่วยประคองและโอบเอวผมไว้หลวมๆ มือที่ไม่รู้ว่ามันตั้งใจวางหรือเปล่าตรงอยู่ที่สะโพกของผมพอดี
ผมหน้าแดงตอนที่มืออุ่นร้อนของมันแตะโดนก้นผม
ให้ตายเหอะ..
“เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน!” แน่นอนว่าน้องผมก็ตาไวเห็นผมหน้าแดงเลยมองดิออนตาขวาง “แวมไพร์ก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมายุ่งกับพี่ผมด้วยวะ ให้ตายสิ ผมน่าจะฆ่าคุณตั้งแต่วันนั้นเลย!”
“…”
ผมเหลือบมองดิออนก็เห็นว่ามันยิ้มนิดๆ ไม่พูดอะไร ดึงตัวผมไปกอดแน่นกว่าเดิมแล้วจูบหน้าผากผมต่อหน้าน้อง
“พี่คุณเลือกผมเอง”
“…”
ผมหน้าแดงเถือกรู้สึกเขินจนแทบจะคืนร่างค้างคาวให้รู้แล้วรู้รอด
มันหล่ออ่ะ ทำไมหล่อขนาดนี้วะ แล้วทำไมต้องมาจูบผมตอนนี้ด้วย!
ผมเขินมากจนต้องก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาน้อง
ให้ตายสิ ใจผมเต้นแรงกว่าตอนมีแฟนคนแรกอีกอ่ะ แงงงง
“เจอกันพรุ่งนี้!!!”
น้องผมคำรามใส่เหมือนรับไม่ได้ แล้วเดินกระแทกเท้ากลับเข้าห้องไปอย่างหงุดหงิด พอได้ยินเสียงปิดประตูแล้วผมถึงเงยหน้าขึ้นมองดิออนอีกรอบก็ถึงเห็นมันยิ้มให้อีก
“ไปนอนสิ ง่วงไม่ใช่เหรอ”
มันถามผมด้วยน้ำเสียงนุ่มแล้วลูบผม แต่หน้าผมก็ยังร้อนผ่าวอยู่ดีเพราะมืออีกข้างของมันก็ยังวนเวียนอยู่แถวเอวผมไม่เลิก อาจจะเพราะเมื่อกี้ตอนที่น้องผมเคาะประตูกำลังขัดช่วงเวลาสำคัญด้วย
“ถ้ามีคนบอกว่านายเป็นปีศาจผมก็เชื่อนะ”
ผมสบกับนัยน์ตาสีเทาของมันที่จ้องผมนิ่ง จนผมตัวเองสะท้อนในแววตาของมัน
เอาจริงตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วอ่ะว่าใครเป็นเหยื่อใครกันแน่ หรือความจริงแล้วผมเป็นเหยื่อของมันมาตลอดก็ไม่รู้ เพราะผมไม่เคยตามความคิดมันทันสักที
แต่จะเป็นหรือไม่เป็นผมก็ไม่สนใจหรอก
“นายตอนนี้โคตรหล่อเลยอ่ะ ดิออน หล่อกว่าตอนเรียนมหาลัยอีก”
ผมเขย่งเท้าขึ้นจูบปลายคางของมันเพราะสูงไม่ถึง จริงๆ ก็อยากจูบปกติแหละ แต่ถ้ามันไม่โน้มหัวลงมาผมก็สูงไม่ถึงอ่ะ คือเมื่อก่อนผมก็จูบถึงนะ ตอนที่มันเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาอ่ะ
“…”
ดิออนขมวดคิ้วเหมือนอดกลั้นอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะลากผมเข้าห้องและล็อคประตูอย่างแน่นหนา มันจูบผมแบบแรงมากเหมือนมันเขี้ยว มันจูบผมอยู่นานจนผมต้องทุบมัน มันถึงยอมปล่อยผม
ผมหัวเราะในลำคอตอนที่ก้มมองแล้วเห็นอะไรแข็งขืนที่อยู่ใต้กางเกงของมัน และหาวออกมาง่วงๆ
“ผมเหนื่อยแล้วอ่ะ ไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะ”
จริงๆ ก็อยากช่วยนะ แต่ผมก็ง่วงมากจริงๆ มันล้าไปหมดเลยอ่ะ พอถึงเตียงก็เหมือนโดนดูดวิญญาณไปเลย ผมพยายามปรือตามองดิออนกะจะบอกมันว่าฝันดีนะ แต่ก็เผลอสลบไปก่อน
ผมตื่นมาอีกทีก็เห็นตัวเองในร่างแวมไพร์นอนขดอยู่บนตัวดิออนโดยที่ถูกมันกอดเอวไว้หลวมๆ พอผมจะขยับตัวผมก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติของร่างกายตัวเองทันที
“…”
ผมขยับตัวไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะตะคริวกินหรืออะไร แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมยังเหนื่อยอยู่เลยอ่ะ ผมหลุบตามองดิออนก็ถึงเห็นว่าร่างของมันกำลังปรับตัวเข้ากับเลือดแวมไพร์ของผมอย่างช้าๆ ซึ่งก็คงจะต้องใช้เวลาหน่อย เพราะมันเป็นวาติกันสายเลือดบริสุทธิ์เลย ต่อให้ได้เลือดพ่อผมไปก็คงต้องใช้เวลาเหมือนกันอยู่ดี
ผมจ้องหน้ามันแล้วหลุดยิ้มนิดๆ
ให้ตายเหอะ ผมว่าผมเลือกเวลากลับไปหามันได้โคตรดีเลย เพราะพอมันโตแล้วมันโคตรเท่เลย ว่าแต่ ทำไมมันโตแล้วเท่อ่ะ ทำไมผมไม่ถึงเท่บ้างนอกจากเป็นแวมไพร์ที่รักสันติที่สุดแล้ว ผมมีอะไรเปลี่ยนบ้างเนี่ย ขนาดแม็กซ์ยังดูโตขึ้นเลย
ผมขมวดคิ้วนั่งนึกอยู่สักพัก ก่อนที่จะพบว่าผมไม่มีอะไรโตขึ้นเลยสักนิด สูงยังไม่สูงขึ้นเลย! ผมอ่ะหยุดสูงมาตั้งแต่อายุไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่คนอื่นก็สูงเรื่อยๆ ปกติ
คิดไปคิดมาผมก็เริ่มซึม ผมไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจเลยอ่ะ
ผมนอนหงุงอยู่บนตัวมันสักพักก่อนที่จะหัวเราะคิกคักออกมา เพราะรู้แล้วว่าตัวเองมีอะไรน่าภูมิใจตอนโต
ผมมีคู่แล้วไง!
ผมยิ้มแล้วตัดสินใจนอนต่อเหมือนเดิม เนื่องจากผมยังเหนื่อยมาก ให้ตายเหอะ ผมก็นึกว่ากินเลือดแล้วก็เป็นแวมไพร์ได้เลยอ่ะ ทำไมไม่เห็นมีใครบอกผมเลยว่าผมต้องถูกดูดพลังด้วย ซึ่งกว่าดิออนจะเป็นแวมไพร์เต็มตัวผมก็ไม่รู้ว่าตอนไหนอ่ะ ถึงพลังผมจะไม่กากแล้วก็เหอะ แต่เลือดของดิออนมันก็อาจจะบริสุทธิ์มากก็ได้
“ฝันดีนะ”
ผมกระซิบบอกมันเสียงแผ่ว จริงๆ อยากจุ๊บมันอีกแต่ไม่มีแรงแล้วเลยต้องสลบเหมือดไปอีกรอบ
กี้!
ตื่นมาคราวนี้ผมคงร่างแวมไพร์ไม่ได้ด้วยซ้ำตอนนี้เหลือแต่ร่างค้างคาวที่ใช้พลังแวมไพร์ค่อนข้างน้อย ซึ่งถ้าผมยังคงร่างค้างคาวไม่ได้อีกก็เกินไปละ
ผมนอนแปะอยู่บนไหล่ดิออนง่วงๆ ปรือตามองมันแต่งตัวในกระจกแล้วหวาดหวอด ก่อนที่จะรีบขยี้ตาแล้วมองใหม่
กี้ๆๆ
ผมที่ยังอยู่ในท่านอนค้างคาวดาวโวยวายไม่หยุดตอนที่เห็นดิออนที่ดูเหมือนแวมไพร์มากขึ้น เขี้ยวของมันยาวขึ้นจนแทบจะชัดเจนเหมือนแวมไพร์ปกติแล้ว แต่สิ่งที่ชัดเจนกว่านั้นคือนัยน์ตาสีเทาของมันถึงเริ่มมีสีเข้มขึ้นจนเกือบดำ ไม่ใช่สีนัยน์ตาธรรมชาติแบบที่มันมีอีกต่อไป
“ขอร่างมนุษย์ได้ไหม”
กี้!
ผมส่ายหัว พอหายตื่นเต้นผมก็นอนแปะไร้เรี่ยวแรงเหมือนเดิม
“ยังไม่หายเหนื่อยอีกเหรอ”
มันขมวดคิ้วมองผมด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
กี้..
ผมตอบมันเสียงอ่อย จริงๆ ก็อยากคุยกับมันมากกว่านี้นะ แต่กว่าดิออนจะฟังภาษาค้างคาวของผมออกก็คงใช้เวลาอีกเป็นร้อยปีอ่ะ เพราะขนาดแวมไพร์ด้วยกันเองบางทียังคุยไม่รู้เรื่องเลย
“จะไปหาน้องนายไหม”
พอเห็นว่าผมพยักหน้า ดิออนมันก็พาผมออกจากห้องแล้วเดินไปโรงอาหารของคฤหาสน์โดยอาศัยผมบอกทางด้วยน้ำเสียงกี้ๆ ที่เบาจนผมยังสงสารตัวเอง
นี่ผมลืมขั้นตอนไหนไปรึเปล่านะ…
ผมคิดอย่างหดหู่และก็คิดไม่ออกว่าตัวเองลืมอะไร คือมันก็นานแล้วอ่ะ เรียนเป็นชาติแล้ว สมองน้อยๆ ของผมจะไปจำอะไรได้ ลำพังแค่ทางกลับบ้านได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ผมว่าผมต้องลืมไปขั้นตอนหนึ่งแน่ๆ เลย
ผมในร่างค้างคาวเอามือกุมหัวเพราะรู้ดีว่าถ้าน้องผมรู้เรื่องนี้ ผมได้โดนเฉ่งแน่ แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อีกสักวันสองวัน ผมว่าผมได้เหลือซากกระดูกค้างคาว
“..พี่ครูซมารึยัง?”
ทั้งๆ ที่ปกติแล้วน้องจะสัมผัสกลิ่นอายผมได้ แต่วันนี้น้องผมกลับสัมผัสไม่ได้สักนิด ทักดิออนด้วยน้ำเสียงที่น่าโดนผมบ่นมาก
อย่างน้อยๆ ดิออนก็เป็นพี่เขยนะ!!!
กี้…
ไม่รอให้ดิออนตอบน้อง ผมก็เป็นฝ่ายทักน้องเองขณะที่นอนแห้งกรอบเหมือนค้างคาวแดดเดียวบนตัวดิออนพร้อมๆ กับความรู้สึกที่วูบโหวงโดนดูดพลังออกไปเรื่อยๆ ไม่หยุด
“…”
น้องผมนิ่งอยู่สักพักก่อนที่จะสะดุ้งสุดตัว จนเผลอทำกล่องอะไรสักอย่างที่เหมือนจะเอามาให้ผมตกลงพื้นจนทุกอย่างเทกระจาดออกมาจากกล่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นตุ๊กตากับขนมหวานที่ผมชอบทั้งนั้น
ผมมองของพวกนั้นตาวาวก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาแตกแทน ตอนที่ถูกน้องวิ่งมาเอาตัวผมบนไหล่ดิออนไปดูอย่างใกล้ชิดด้วยสีหน้าเหมือนโลกจะแตก
“พี่ครูซนี่พี่ลืมขั้นตอนสุดท้ายเหรอ!!” น้องผมคำรามใส่ผมเสียงดังลั่นตาแดงก่ำ “ให้ตายเหอะ ผมน่าจะเอะใจตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าพี่ดูแปลกๆ ผมไม่น่าคิดไปเองเลยว่าไอ้วาติกันบ้านี้ทำพี่หมดแรง!”
แม็กซ์บ่นไปพร้อมกับถ่ายโอนพลังแวมไพร์ของตัวเองให้กับผม ทำให้ผมเริ่มกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง
“อาจารย์ก็ย้ำตั้งหลายรอบนะว่าห้ามลืมขั้นตอนนี้นะ พี่ครูซ ทำไมพี่ถึงยังลืมอีก ถ้าเกิดพี่ไม่กลับสมาคมพี่ตายได้ง่ายๆ เลยนะ!!!”
ผมเอามือค้างคาวปิดหน้าไม่กล้ามองหน้าน้องเพราะรอบนี้ผมผิดจริง ผมหูลู่ลงอย่างสำนึกผิดและพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเพื่อที่จะทำให้น้องรำคาญตาน้อยที่สุด
กี้ๆๆ..
ผมพึมพำบอกน้องเสียงเบาว่าผมจำไม่ได้ ก็ใครจะไปรู้อ่ะว่าวันนึงผมจะได้แฟนเป็นวาติกันอ่ะ ผมตอนนั้นคือหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่มีวันเอาวาติกันเป็นคู่แน่นอน แทบจะสาบานกับเพื่อนแล้วด้วยซ้ำเพราะมั่นใจมากว่าพวกวาติกันจะเป็นพวกสุดท้ายที่ผมเลือกเป็นแฟนด้วยแน่
ซึ่งพอตัดภาพมาสองสามร้อยปีต่อมา ผมรู้สึกอยากกลับไปดีดตัวเองตอนนั้นมากที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนตั้งแต่แรก
“พี่ต้องใช้อาคมด้วย เข้าใจไหม พี่ต้องใช้อาคม xxx ของตระกูลเราในการจำกัดพลัง ซึ่งตอนนี้ผมก็ว่าไอ้วาติกันบ้านี้ก็น่าจะได้พลังพี่มากเกินพอแล้ว พี่ไม่ต้องให้มันได้พลังถึงขั้นแปลงร่างเป็นค้างคาวหรอก เพราะยังไงมันก็ไม่มีทางน่ารักเท่าพี่แน่”
กี้!
ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยในประโยคสุดท้าย ก่อนที่จะคืนร่างเป็นแวมไพร์ ซึ่งผมก็ยืนได้ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่จนต้องเกาะน้องเอาไว้ และยิ้มให้ดิออนที่สบตากับผมด้วยนัยน์ตาสีเข้มของมัน
“..นายอยู่นิ่งๆ นะ”
ผมกัดปลายนิ้วตัวเองจนเลือดออกแล้วดึงแขนดิออนมาวาดสัญลักษณ์ประจำตระกูลผมพร้อมกับท่องคาถาไปด้วย ดีหน่อยที่ผมยังพอจำอะไรพวกนี้ได้บ้าง ไม่อย่างนั้นรอบนี้น้องคงได้ฆ่าผมจริงๆ แน่
บรรยากาศรอบห้องเริ่มเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด สีหน้าของดิออนเปลี่ยนไปนิดหน่อยตอนที่ต้นแขนของมันเริ่มปรากฎตราประทับสีดำขึ้นมาอย่างชัดเจนพร้อมๆ กับเลือดของผมที่ระเหิดหายไป
ผมท่องอยู่สักพักจนมาถึงคำสุดท้ายของคาถาทุกอย่างก็เหมือนจะสั่นจนถึงขีดสุดและหยุดลงแบบเงียบๆ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
แน่นอนว่าพอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็อดไม่ได้ที่จะจูบเบาๆ บนตราประทับของมัน
“นายเป็นของผมแล้ว”
ผมยิ้มจนตาหยีพอจะกระโดดกอดมันก็โดนน้องรั้งคอเสื้อออกแยกออกมา
“แม็กซ์!!!!”
ผมโวยวายใส่น้องพยายามตะเกียกตะกายกลับไปหาดิออน
ทำไมอ่ะ ทำไมทุกคนต้องขัดขวางผมกับดิออนตลอดเลย!
“พี่ก็อยู่กับมันทั้งวันแล้วไหม! อยู่กับน้องบ้างจะตายรึไง” แม็กซ์บ่นผมเสียงขรม คือถ้าบอกว่าเป็นพ่อปลอมตัวมาผมก็เชื่อนะเพราะเหมือนมาก แต่ดีหน่อยที่มันเป็นน้องผม ผมเลยโวยวายมันได้
“พี่ก็อยู่สมาคมแบบเหี่ยวๆ มาสามสี่ร้อยปีแล้วไหมอ่ะ พี่ยังอยู่กับดิออนได้ไม่ถึงปีเลย!”
ผมหน้าบูดหันไปมองน้องด้วยสีหน้างอนที่สุดในโลก
“แล้วพี่ก็พี่นายนะ! เชื่อฟังพี่มั้งสิ”
“ผมก็น้องพี่นะ พี่สนใจผมบ้างสิว่าผมซื้ออะไรมาให้พี่บ้าง” น้องผมที่หน้าบูดพอกันดีดนิ้ว แล้วพลังแวมไพร์ของน้องผมก็จัดการกวาดไอ้ที่เทกระจาดบนพื้นกลับมาใส่กล่องอีกครั้งให้มันลอยกลับมาหาผม
“!!!”
ผมเบิกตากว้าง ตกใจอีกรอบเพราะมีแต่ของที่ผมชอบไปหมดเลย แถมเป็นของที่ผมอยากกินแต่ไม่ได้กินอีก ช่วยไม่ได้วันฮาโลวีนทีไร ผมหลอกใครไม่เคยสำเร็จเลยอ่ะ คือก็ไม่เข้าใจนะว่าเขี้ยวผมมันเหมือนเขี้ยวปลอมตรงไหน ทำไมไม่เห็นมีใครกลัวบ้างเลย! พวกเด็กเวลาเห็นผมไปแย่งขนมก็ชอบไล่อ่ะ บอกว่าผมโตแล้วไม่ต้องกินขนมหรอก
แน่นอนว่าผมก็ค่อนข้างเจ็บใจแหละ คือถ้าออกจากสมาคมแบบปกติก็จะได้เงินมาซื้อขนมกินเอง แต่นี้แอบหนีออกมาไง เลยต้องใช้ชีวิตเร่รอนแบบแวมไพร์ยาจก น่าสงสารมาก เอาจริงๆ ผมก็งงนะว่าตัวเองอยู่มาถึงอายุขนาดนี้ได้ไงวะ แต่เอาเหอะ รอดมาได้ก็ดีละ
“..ให้พี่เหรอ”
จากสีหน้างอนที่สุดในโลกตอนนี้เปลี่ยนเป็นรักน้องที่สุดในโลกทันที
ผมยิ้มหวานให้น้อง แต่น้องก็ยังหน้าบูดอยู่ดี
“ถ้าไอ้วาติกินบ้านี่เลี้ยงพี่ได้ ผมก็เลี้ยงพี่ได้เหมือนกัน พี่ไม่ต้องไปรักมันมากหรอก”
“น้องกับแฟนมันก็ไม่เหมือนกันไหมอ่ะ”
ผมหยิบลูกอมในกล่องมาแกะกินซึ่งมันก็หวานมาก ผมเลยหยิบช็อกโกแลตที่น่าจะดูไม่หวานมากออกมาแกะแล้วสบตากับดิออนให้มันรับรู้ว่าผมจะโยนให้มันนะแล้วถึงโยนให้มัน
“พี่ครูซ!”
ผมหัวเราะเพราะรู้อยู่แล้วว่าน้องจะโวยวายที่ผมให้ดิออนกินก่อน คือจริงๆ จะป้อนให้น้องก่อนแหละ แต่อยากแกล้งไง หวงผมเหลือเกิน
ผมป้อนขนมสักอย่างใส่ปากน้องให้เลิกบ่น แล้วก็มาดื่มด่ำกับตุ๊กตาหมีที่น้องซื้อให้ผมแทน คือมันนุ่มมากจนผมอยากคืนร่างค้างคาวแล้วกอดตุ๊กตานี้ทั้งวันให้รู้แล้วรู้รอด
“ทำไมซื้อให้พี่อ่ะ”
ผมกอดตุ๊กตาแล้วถามน้อง รู้สึกดีใจสุดๆ เพราะไม่ได้อะไรแบบนี้มานานมากแล้ว
“..ก็วันเกิดพี่ไง ถึงจะเลยมานานแล้วก็เหอะ”
น้องผมพูดด้วยสีหน้าเขินๆ พยายามไม่สบตาผม
“…ขอบคุณนะ”
ผมเงียบไปสักพัก เพราะผมก็แทบจะลืมความสำคัญของวันเกิดไปแล้ว ทำไงได้ แวมไพร์อายุยืนเกิน จัดทุกปีก็เปลืองเงิน แล้วมันก็ซ้ำๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมโคตรมีความสุขเลย ถึงผมจะจำไม่ได้ก็เหอะว่าตัวเองอายุเท่าไหร่แล้ว
“!!”
น้องผมสะดุ้งตอนที่ผมหันไปกอดน้องแทน ซึ่งน้องก็ไม่รู้ว่าตกใจอะไรนักหนาเพราะยืนตัวแข็งเลย
ให้ตายเหอะ ผมไม่ได้กอดน้องมานานแค่ไหนแล้วนะ
ผมกอดน้องอยู่สักพักพอน้องเผลอ ผมก็รีบไปหาดิออนเลย แน่นอนว่าผมคว้าลังที่เต็มไปด้วยขนมติดมือมาด้วย ผมให้ดิออนถือลังให้ ส่วนผมก็กอดตุ๊กตากับแขนมันอีกที
“…”
น้องผมขมวดคิ้วมองผมแล้วถอนหายใจเซ็งๆ
“พ่อบอกว่าหลังจากนี้ให้ไอ้วาติกันนี่ไปเรียนด้วย สอบให้ได้ใบก่อน พ่อถึงอนุญาตให้พี่กับมันออกไปข้างนอกได้”
ผมพยักหน้าหงึกๆ ทำหน้าเหมือนตั้งใจฟัง แต่จริงๆ คือในใจผมวางแผนหนีเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ขนาดเมื่อก่อนผมไม่มีใบยังหนีได้เลย นับประสาอะไรกับตอนนี้อ่ะ แถมดิออนยังเคยเป็นผู้นำตระกูลวาติกันอีก ใครหน้าจะมารังแกผมกับดิออนได้
“พ่อบอกว่าถ้าพี่หนีออกไปอีก จะจับไอ้วาติกันบ้านี้ส่งคืนวาติกัน”
“พี่ก็ไม่ได้จะหนีสักหน่อย”
ผมเถียงแบบเหี่ยวๆ เพราะถ้าพูดขู่มาแบบนี้ก็คงทำจริงอ่ะ
“มันยากมากเลยเหรอ”
ดิออนถามและก้มมองผม
“จริงๆ ก็ไม่ยากหรอก แต่เมื่อก่อนผมกากไงก็เลยไม่ผ่านสักที แต่ไม่ต้องห่วงนะ ดิออน เดี๋ยวผมจะไปเรียนเป็นเพื่อนนายเอง!”
แน่นอนว่าเรียนเป็นเพื่อนของผมก็คือการอยู่ในร่างค้างคาวแล้วหลับซบมันเฉยๆ ผมหลับได้ตลอดแหละ ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเรียน สมองน้อยๆ ของผมชอบจำอะไรสนุกๆ มากกว่า
“คิดรอแล้วกันว่าอยากไปไหน”
“อื้อ”
ผมยิ้มจนตาหยีแล้วซบแขนมัน
ถึงผมจะเคยเที่ยวไปทั่วแล้วก็เหอะ แต่การได้ไปเที่ยวกับดิออนสองต่อสองน่าจะเป็นอะไรที่สนุกมากแน่ๆ
แค่คิดผมก็มีความสุขแล้วอ่ะ การใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ของผมจะมีสีสันขึ้นแล้วสินะ
“..เดือนหน้า จะมีการประลองหาหัวหน้าสมาคมคนใหม่”
น้องผมพูดเหมือนพูดลอยๆ เพราะไม่ได้มองผม แต่ผมก็รู้แหละว่าน้องจงใจพูดให้ผมได้ยิน
“พ่อบอกว่าเพื่อไม่ให้เป็นที่คลางแคลงใจในความสามารถของหัวหน้าสมาคมคนใหม่ ทุกคนสามารถร่วมเข้าแข่งขันได้ ใครที่ชนะจนถึงคนสุดท้ายก็จะได้เป็นหัวหน้าสมาคมแต่ก็ต้องผ่านการยอมรับจากกรรมการสมาคมจากประเทศอื่นๆ อย่างน้อยสามประเทศถึงจะครองตำแหน่งนั้นได้”
“พี่ไม่ลงนะ”
ผมออกตัวก่อนเลย ถึงตอนนี้พลังผมจะตื่นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองกากอยู่ดีและผมก็ไม่อยากโชว์กากให้ใครดูด้วย
“แต่ผมลง”
น้องผมพูดเสียงเข้มมองผมนิ่ง ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่น้องลง คือน้องผมก็มีแววมาตั้งแต่เด็กแล้วอ่ะ ไม่กาก ส่วนผมกากตั้งแต่เด็กเลยไม่มีอะไรพวกนี้อยู่ในสมองสักนิด
ผมรู้อยู่ละว่าตำแหน่งหัวหน้าสมาคมมันมีอะไรมากกว่าที่ต้องมีพลังเยอะอ่ะ ขนาดพ่อผมที่เก่งๆ ยังยุ่งจนหัวปั่น ตอนเด็กๆ ผมแทบไม่ได้เจอพ่อ ซึ่งตอนนั้นแม่ผมก็ยุ่งเหมือนกันเพราะอยู่ในช่วงสงครามกับพวกวาติกัน
วันๆ ผมเลยไม่รู้จะทำอะไร ก็นั่งเล่นไปเรื่อยอ่ะ เพื่อนที่อายุใกล้กันก็ชอบมาแกล้งผมอีก เพราะผมกากไม่สมกับเป็นลูกหัวหน้าสมาคม ผมตอนนั้นก็ไม่อยากเพิ่มภาระให้แม่ก็เลยชอบแปลงร่างเป็นค้างคาวแล้วหามุมมืดๆ มุดร้องไห้คนเดียว
แต่เรื่องนี้พวกนี้มันก็เป็นแค่อดีตแหละ ผ่านมาตั้งนานจนผมเกือบลืมไปหมดแล้ว แต่มันก็ยังเป็นแผลหนึ่งของผมอยู่ดี
“อือ พี่จะอยู่เชียร์แล้วกัน”
ผมยิ้มให้น้อง
“พี่พูดแล้วนะ!”
น้องผมดูดีใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนผมอดยิ้มมากกว่าเดิมไม่ได้
“เอาตำแหน่งมาให้ได้นะ แม็กซ์”
---------------
ใครแกล้งน้อน
#ห้ามปิ้งค้างคาว