บทที่ 106 Spore
กึ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
“เฟี๊ยตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต”
เสียงทั้ง 3 แผดขึ้นแทบจะเป็นเวลาเดียวกัน พวกมันเหลื่อมล้ำกันอยู่ในหลักเสี้ยววินาทีเท่านั้น เริ่มแรกจากเสียงดังกังวานของการปะทะกันระหว่างเจ้ามังกรน้ำนั่นที่กำลังจู่โจมเข้ามากับมวลอากาศปริมาณมหาศาล แทบจะไม่ต้องเดาเลยว่ากำแพงโปร่งใสนั่นเกิดจากมนต์ the sky walker ของธันซึ่งกำลังเกร็งจิตเพื่อต่อต้านเวทย์ปริมาณเกินคณานับนั่นไม่ให้ประทุษร้ายพวกเขาทั้งสองได้สำเร็จ
ตามด้วยเสียงที่สองที่ลั่นออกมาโดยห่างจากช่วงเวลาแรกเพียงชั่วครู่ เห็นได้ชัดว่าปริมาณจิตของเด็กหญิงนั่นรุนแรงเกินกว่าที่ธันจะต้านทานได้ เสียงระเบิดของมวลอากาศปรากฏชัดถึงความพ่ายแพ้ของฝ่ายเด็กหนุ่มผู้ใช้อากาศ มังกรยักษ์นั่นทลายปราการและเคลื่อนที่ต่อเนื่องเข้ามาจนเขี้ยวแทบจะขบลงบนหัวเภสัชกรหนุ่มที่กำลังตะลึงพรึงเพริดอยู่ในขณะนี้แล้ว
และเสียงสุดท้ายเป็นเสียงตะโกนเรียกดังจากเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งถึงเพื่อนร่วมทีมอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนสติจะบินไปไกลแสนไกลเสียแล้ว ในตอนนั้นราวกับว่าหัวใจของชายหนุ่มถูกแช่ไปด้วยน้ำแข็งที่ติดลบในองศาเซลเซียส มันเยียบเย็นไปหมดจนเขาแทบจะหยุดหายใจไปเสียเดี๋ยวนี้ เขารู้ตัวเป็นอย่างดีว่าเขาต้องหลบจากคมเขี้ยวที่จู่โจมเข้ามานี่ให้เร็วที่สุด แต่อนิจจา เหมือนขาของเขามันไม่ใช่ของของเขาอีกต่อไปเสียแล้ว มันไม่ยอมฟังคำสั่งเขาเลย ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว!
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เด็กหนุ่มสายฟ้าในเวลานี้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาเปลี่ยนทิศทางอย่างเฉียบพลัน จากที่ตั้งใจว่าจะโดดหลบฉากไปอีกมุมหนึ่งของสนามตามที่เคยตกลงกันไว้ว่าเมื่ออันตรายมาถึง เขาทั้งสองจะแยกกันหลบหลีกอย่างเป็นอิสระ แต่เหมือนวินาทีดับจิตนั้น เขาไม่อาจทิ้งเพื่อนร่วมทีมตามแผนการได้เสียแล้ว ธันตัดสินใจกระโดดเทคตัวอย่างแรงเพื่อดันตัวเพื่อนร่วมทีมออกไปให้พ้นทางจากการจู่โจมนั่น หลังจากมั่นใจแล้วว่าเฟี๊ยตในขณะนี้ขาดความสามารถในการดูแลตัวเองอย่างสิ้นเชิง เสียงร่างกายของชายหนุ่มทั้งสองกระแทกพื้นดังลั่น เพียงเสี้ยวยาแดงผ่าแปดเท่านั้นที่ปลายคมเขี้ยวของมัจจุราชวารีนั่นเฉียดแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไปอย่างหวุดหวิด เด็กหนุ่มสายฟ้าถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อค้นพบว่าตัวเองรอดจากการตายมาอย่างน่าเสียวไส้เหลือเกิน
“ขะ ขะ ขะ ขอบคุณ”
เสียงของเฟี๊ยตตะกุกตะกักออกมาอย่างเพิ่งตั้งสติได้ เขาทดลองขยับแขนขาน้อยๆ อย่างต้องการพิสูจน์สมมติฐาน และเขาก็พบว่าร่างกายของเขากลับมาเป็นตัวเขาเองก็ในช่วงจังหวะที่เห็นว่าเพื่อนร่วมทีมเสี่ยงเอาชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อรักษาชีวิตเขาไว้นั่นเอง ดวงตาของเขาเบิกโพลงกว้างขึ้นยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์วิกฤตนี่ ก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆ ของเขาจะถูกคลี่ขึ้นอย่างรู้สึกดี
‘เป็นคนดีกว่าที่คิดแฮะ’
“ไม่เป็นไร เอาไงต่อ”
ธันเอ่ยออกมาอย่างร้อนรนปนกับเสียงหอบเหนื่อยที่แทรกเข้ามาในประโยคอย่างควบคุมไม่ได้ หลังจากที่เจ้ามังกรนั่นเฉียดจะคร่าชีวิตเขาไปเพียงนิดเดียว มันก็กลับมาตั้งลำใหม่เพื่อเตรียมตัวจะจู่โจมพวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง ธันกำลังเพ่งกระแสจิตสร้างกำแพงเวทย์อีกครั้งเพื่อประวิงเวลาสำหรับแผนการต่อไป ณ ขณะอารมณ์นี้ เขาอยากให้เฟี๊ยตช่วยกันตัดสินใจดำเนินการต่อไปมากกว่า เขามั่นใจว่าคนตรงหน้านี่ต้องมีความคิดดีๆ แน่นอน ติดอยู่เพียงแต่อย่างเดียวว่า คนตรงหน้านี่เรียกสติกลับคืนมาครบบริบูรณ์แล้วหรือยัง
“กำจัดเจ้ามังกรนี่ให้ได้ก่อน เสร็จแล้วจัดการตามแผนเดิม!”
อาจจะเป็นเพราะแรงกระแทกลงเข้ากับพื้นอย่างจังนั่นที่ทำให้สมองของเฟี๊ยตกลับมาแล่นอย่างฉับไวอีกครั้ง ความจริง เขาคาดเดามาก่อนล่วงหน้าตั้งแต่เห็นการประลองครั้งที่แล้วนั่นว่าคู่ต่อสู้จะใช้ไพ่เกี่ยวกับน้ำในการต่อสู้ เฟี๊ยตจึงเลือกที่จะไม่ใช้โกเลมทรายคู่ใจของตนตั้งแต่ต้น เพราะธาตุทรายแพ้ทางธาตุน้ำโดยตรงตามที่เคยได้บทเรียนจากการปะทะกับเจ้ายูนิคอร์นสามสหายนั่นพร้อมกับปันและแทนแล้ว ชายหนุ่มเตรียมแผนเพื่อรับมือกับธาตุน้ำมาไว้เรียบร้อย เพียงแต่ความขลาดกลัวในชั่วจังหวะจิตก่อนหน้านี้บดบังความคิดไว้เสียหมดสิ้น แต่ตอนนี้ความรู้สึกของเขากลับมาปลอดโปร่งอย่างประหลาด บางที การได้ผ่านจุดต่ำสุดของกราฟเส้นโค้งมาได้แล้วนั้นอาจจะทำให้การเดินทางส่วนที่เหลือดูจะไม่ยากเย็นอีกต่อไปเลย
“ขอแผนหน่อย”
ธันเอ่ยขึ้นอย่างรีบร้อน เขารู้ตัวดีว่ากำแพงอากาศของทนป้องกันสัตว์ที่ประกอบจากเวทย์ที่แสนจะแข็งแกร่งได้อีกไม่นานแน่ ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามรวมจิตสร้างให้มันหนามากขึ้นก็ตาม มันคงจะต้องพังทลายลงในเวลาอันใกล้นี้แน่ เพียงแค่ว่ามันจะใกล้แค่ไหนมากกว่า
“จังหวะที่เรียกใช้การ์ดใหม่ ธันเปลี่ยนพลังเวทย์เตรียมตัวเข้าแผนถัดไป ถ้าไม่ไหว ซ้ำด้วยแผนบี”
“โอเค!”
“The Spore Blower RELEASE!”
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เสียงคำสั่งของเฟี๊ยตดังขึ้น พร้อมกับจังหวะเดียวกันที่ธันปล่อยจิตให้เจ้ามังกรนั่นทำลายเข้ามาได้ตามที่ตกลงกันไว้ ในมือของเฟี๊ยตปรากฎอาวุธชิ้นใหม่ที่เขาเพิ่งได้จากการซื้อการ์ดในเมืองกุมภาพันธ์นี้เอง มันมีลักษณะคล้ายปืนผสมที่เป่าผม นิ้วของเขาเสียบอยู่ที่ไกนั่น เขาเคยลองเรียกใช้การ์ดนี้มาบ้างขณะที่ซักซ้อมการต่อสู้ แต่นี่เรียกได้ว่าเป็นการใช้ในการประลองจริงเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ แถมยังเป็นครั้งแรกที่เรียกได้ว่าสถานการณ์เข้าใกล้คำว่าวิกฤตเต็มทน ชายหนุ่มได้แต่หวังว่ามันจะเป็นไปตามอย่างที่เขาคาดคิดไว้
“เทียนเกล็ดหอย RELEASE!”
เฟี๊ยตกดปลดปล่อยสปอร์ออกไปผ่านทางลำกล้องขนาดใหญ่นั่นอย่างรวดเร็ว ควันสีขาวที่บรรจุเมล็ดพันธุ์ขนาดเล็กแพร่กระจายพุ่งเข้าสู่เจ้าอสูรกายนั่นโดยไม่ปล่อยจังหวะให้เจ้าเขาโง้งนั้นมีโอกาสไหวตัวได้แม้แต่น้อย ควันสีขาวพุ่งเข้าห้อมล้อมเจ้ามังกรน้ำนั่นตามบัญชาของผู้เป็นนายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน!
เจ้าควันที่บรรจุเมล็ดพันธุ์เล็กๆ นั่นแตกออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเมล็ดพันธุ์สีน้ำตาลอ่อนทรงรีปริมาณมากมายนับไม่ถ้วน ทันทีที่เมล็ดที่มีรูปทรงเว้าลงตรงกลางนั่นสัมผัสกับเจ้ามังกรน้ำนั่นอย่างถนัดถนี่ ก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมล็ดพันธุ์พืชชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหล่านั้นดูดน้ำจากเจ้ามังกรอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะพองตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเกือบ 50 เท่าได้ อวัยวะต่างๆ ของเจ้าสัตว์ในตำนานนั่นค่อยๆ ถูกกลืนหายไปทีละน้อย เทียนเกล็ดหอยแสดงอิทธิฤทธิ์เหนืออุทกธาตุอย่างชะงัดนัก เจ้ามังกรนั่นค่อยๆ สูญเสียรูปทรงไปจนเห็นได้ชัด ร่างกายของมันกลายสภาพถูกดูดซับไปอยู่ในเมล็ดพันธ์เหล่านั้น ก่อนจะตกลงเกลื่อนกลาดลงบนพื้นสนามนั่น เจ้ามังกรน้ำที่บัดนี้ร่างกายถูกดูดซับหายไปจนแทบหมดสิ้น หากจะยังพอมีของเหลวเหลืออยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มากพอที่คงรูปร่างสัตว์ยักษ์นั่นไว้ได้ แตกสลายกลายเป็นหยดน้ำเล็กไปทั่วบริเวณ เจ้าสัตว์ที่แสนจะแข็งแกร่งนั่นพ่ายแพ้ศิโรราบเพราะเมล็ดพันธุ์เล็กๆ ไปอย่างราบคาบ เขาเพิ่งสำนึกรักวิชาพฤกษศาสตร์ก็วินาทีนี้เอง!
“Arena!”
เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ทันทีที่เจ้ามังกรนั่นถูกจัดการได้อย่างเรียบร้อย ขั้นตอนแผนการเผด็จศึกก็ดำเนินการต่อทันที
เสียงพื้นดังลั่นสนั่นราวกับจะระเบิดแยกเป็นเสี่ยงๆ ฉะนั้น สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ผุดตัวขึ้นจากพื้นดินด้วยอำนาจของไพ่นักสร้างเมืองของธัน มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับสนามกีฬาขนาดยักษ์ พื้นที่ตรงกลางเป็นที่ว่างที่เจ้าคู่ต่อสู้ร่างยักษ์นั่นยืนอยู่ ขณะที่รายล้อมไปด้วยอาคารที่โอบล้อมคล้ายกับอัฒจันทร์คนดู หากแต่ไม่ได้เปิดโล่งเหมือนสนามกีฬาทั่วไป แต่มีลักษณะเหมือนกับห้องขนาดเล็กจำนวนมาก คล้ายกับอาคารชุดที่สร้างติดกันอย่างทึบแน่นอย่างใดอย่างนั้น
เฟี๊ยตอาศัยจังหวะที่มันกำลังขยายขนาดผุดขึ้นจากพื้นดินนั่น โหนตัว ก่อนจะพาตัวเองเข้าไปในห้องหนึ่งในอาคารที่เรียงอยู่อย่างมากมายนั่นตามแผนที่วางกันเอาไว้ บัดนี้ ทีมดับเบิ้ลบลายน์ได้หายออกไปจากสายตาของคู่ต่อสู้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาแฝงกายอยู่ในสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่นั่นอย่างเตรียมพร้อม แผนการของพวกเขาไม่เคยผิดพลาด และจะต้องรวมไปถึงครั้งนี้ด้วยแน่นอน!
จากผู้แต่ง : นี่ คุณผู้อ่าน คนแต่งอยากแต่งนิยายรักจัง แบบหวานๆ เพ้อฟันๆ ฮ่าฮ่า อารมณ์ชีวิตรักตอนนี้มันแย่ๆ เทาๆ คิดไปว่าการแต่งนิยายรักอาจจะทำให้ชีวิตสดใสขึ้นนิดหน่อย เกี่ยวปะ ถ้าผมแต่งสองเรื่องผมจะแต่งทันไหมเนี่ย ห้าห้า ไม่ทันแน่เลย ห้าห้า ไม่ควรเนอะ ห้าห้า