รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน  (อ่าน 241590 ครั้ง)

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #120 เมื่อ27-03-2009 08:31:41 »


อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงเพลงเ่ก่าที่นำมาคัฟเวอร์ใหม่ ตามชื่อเรื่อง "รักเอย"
ต้นเพลงตรงตามความรู้สึกคนอ่านหลังจากอ่านตอนนี้มากทีเดียว

ไม่ได้ลงเพลง เดี๋ยวเสียบรรยากาศ





  เหอะ ๆ ๆ ๆ มีคนแก่เท่าเพลงนี้ด้วย  แม้จะเวอรชั่นล่าสุดก็เหอะครับ


เกือบสิบปีหนอ . . . รักเอย  นิ้ง กับปิ้บ รวิชญ์  หนังซึ้งมากดูหลายรอบเหมือนกันเป็นหนังรักในดวงใจอ่ะคร๊าบบบบบบ


แอบเอาชื่อเรื่องมาจากหนังและเพลงเวอร์ชั่นนี้แหละครับ

แอบเคือง  ไม่ยอมแปะเพลง  แปะแค่ลิ้งค  อิอิ


namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #121 เมื่อ27-03-2009 08:35:07 »

อิอิ  :m1:

กลัวเคือง เลยมาแปะเพลงให้จ้าคุณราชบุตรสุดที่ร้าก




เพราะเปล่าจ๊ะ

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #122 เมื่อ27-03-2009 11:01:19 »

ความรักที่ไม่มีการอภัย . . .

   . . .  จะยังเรียกว่าความรักได้หรือ


อืมนั่นสิ  ความรักที่ไม่มีการอภัย  จะเรียกว่าความรักได้หรือ

           แล้วความรักที่มีแต่เจ็บปวด นั่นก็เรียกว่าความรักเหมือนกันซินะ

 :L2: :L2: :L2:

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #123 เมื่อ27-03-2009 15:57:53 »

ยังไม่อ่านเรยยยย

 :impress3:

คิดถึงพี่ต้นนนน ^0^

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #124 เมื่อ27-03-2009 16:50:07 »

 :sad4: อ่านเรื่องเดียวได้สองเรื่อง แงๆๆ

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #125 เมื่อ27-03-2009 17:00:09 »



ตอนที่ ๖

   เสียงไก่ขันรับกันมาเป็นทอด ๆ  ดังลอยมาแต่ไกล  ผมนอนลืมตาในความมืดของก่อนรุ่งอรุณยามเช้า  ที่ตอนนี้ร่างกายทั้งร่างโดนพันธนาการจากอ้อมกอดของพี่โน้ต  ไออุ่นจากอ้อมกอดไล่ความหนาวจากร่างที่ปราศจากอาภรณ์ปกปิด    ม่านหน้าต่างพลิ้วตาแรงลมไหว  อ่อนระรวย  เหมือนหัวใจของผมกระมังมันอ่อนยวบเพราะหัวใจของอีกคนมาพัดให้หัวใจหวิว


   “ยังไม่เช้าเลย  กอดหน่อย”  เสียงเอ่ยรดมาที่ต้นคอเมื่อผมพยายามขยับกาย

   “กอดมาทั้งคืน  โอห์มเมื่อย”  ผมพยายามดิ้นเบา ๆ ขยับร่างกายให้เบียดไปกับตัวพี่โน้ต  เพื่อแบ่งปันไออุ่นจากอีกร่าง

   ผมรับรู้ได้สิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้คอความสุข  เป็นความสุขที่เกิดจากความรัก  ความเต็มใจ  ผมไม่รู้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรกับชีวิตของคนเรา  แต่วันนี้  เวลานี้ ผมจะเก็บเกี่ยวความสุขนั้นเอาไว้ห้มากที่สุดเท่าที่จะมากไว้

   วันหน้าร้าวราญ . . .

   . . .  ผมยังมีสุขในวันวานประโลมใจ

   “โอห์มนอนต่อเหอะ”  ดวงตาปิด  หากแต่ดึงร่างผมมากอดเอาไว้  คราวนี้กลายเป็นว่า  ผมนอนตะแคงหันไปทางพี่โน้ต  ที่เจ้าตัวพยายามจะสอดขามาเกี่ยวกับขาของผมเอาไว้

   “หื่นว่ะ”

   “อะไรหื่น”

   “ก็พี่โน้ตนะสิ  หื่น”  ผมบอก  หากแต่เบียดกายไปแนบชิดกว่าเดิม

   “ยังไง”  เจ้าตัวลืมตา  ก่อนเอาจมูกแตะที่หน้าผากผมเบา ๆ

   “ก็ไอ้นั่นไง  แข็งอีกแล้ว”

   “อะไร  ไอ้นั่นอะไร . . .”   พี่โน้ตจับมือผม  เอามาวางไว้ที่ตรงนั่น   มันคล้ายอะไรสักอย่างที่มีชีวิต  มันกระดุกกระดิกอยู่ในมือของผม

   “. . .ไอ้นี่เหรอ  จับดี ๆ  ล่ะ  เดี๋ยวมันหาย” 

   “ไม่เอา อย่าเล่นดิ”  ผมหดมือกลับ

   “ใครเล่น  เอาจริง ๆ” 

   “อย่ามาลามกแต่เช้า  เมื่อคืนก็สามรอบ  ตายอดตายอยากมาจากไหน”  ผมกล้าที่จะพูดเล่นเรื่องแบบนี้มากขึ้น  เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว  คนที่เจ็บตัวก็คอผมอีก

   “นึกว่าชอบ”  พี่โน้ตหัวเราะเบา ๆ

   “อย่ามาลามก  โอห์มไม่ใช่คนแบบนั้น”  ผมดิ้นหันหลังให้พี่แทน

   พี่โน้ตสวมกอดผมเอาไว้จากด้านหลังแทน  เอาแก้มมาแนบไว้กับไหล่ของผม  ผมขนลุกเพราะแกเอาใบหน้าเกลี่ยไปมาตามเผ่นหลังของผมเบา ๆ

   “จั๊กจี้”

   “ไม่เคยมีใครบอกโอห์มหรือว่า  การนอนแก้ผ้า  แล้วหันหลังให้ผู้ชายแบบนี้มันอันตรายขนาดไหน”  ไอ้พี่ชั่วมันบอกก่อนที่จะเบียดกายมาชิดกับผม  กว่าผมจะรู้ตัว  มีอะไรบางอย่างร้อน ๆ  มาแนบชิดสนิทที่ก้นกบตรงบั้นเอว

   “อย่าน่ะ  ไม่เอาแล้ว”

   “นะ  อีกครั้ง”

   “ไม่มีทาง  เจ็บจะตาย” 

   “คราวนี้จะทำเบา ๆ นะครับ”  พี่โน้ต  จูบที่ต้นคอผมเบา ๆ

   “อีกหน่อยก็เบื่อ  พอเบื่อก็ทิ้งกูอีก. . .”   

   “. . . โอ้ย”  ผมร้องเบา ๆ

   “บอกว่าพูดเพราะ  ใครสั่งสอนให้พูดจาหยาบคายกับผัวเหอะ”    ไอ้เลว  มันตบที่ปากผมเบา ๆ 

   “พี่โน้ตนะหยาบ  เรียกไร  ผง ผัว  ใครมาได้ยิน   เขาจะคิดยังไงกับโอห์ม” 

   “พี่ขอโทษ”  มันคงรู้สึกผิด  เพราะมันกอดผมเอาไว้แน่น   

   ในเวลานั้นผมเองก็กลัวนะ  แต่ไม่ใช่กลัวว่าจะโดนทิ้งหรอก  ที่ผมกลัว  กลัวเพื่อน ๆ รู้  กลัวคนอื่น ๆ  รู้แล้วมาล้อผม เพราะผมคงรับไม่ได้หากคราเรียกผมว่า . . .กะเทย

   ผมแค่รู้สึกแบบนี้กับพี่โน้ต . . .

   . . . ผมไม่ได้ตุ้งติ้ง  ขนาดเขียนคิ้วเรียนหนังสือ

   และที่สำคัญ . . .

   . . . ผมยังวิ่งแตะบอลพลาสติกที่สนามบาสได้เหมือนเพื่อน ๆ  คนอื่น ๆ

   มากมายร้อยแปดที่ผมกลัว . . . 

   การที่ผมมีอะไรกับพี่โน้ต  ผมจะกลายเป็นกะเทยใหม? 

   คำถามที่ผมถามตัวเอง  แล้วหากเพื่อน ๆ  ในกลุ่มรู้  มันจะยังให้ผมเล่นกับพวกมันอีกหรือเปล่า  มันจะไล่ผมไปรวมกลุ่มกับพวกเพื่อนผู้หญิง  เหมือนกับไอ้แบงค์  ที่มันแสดงออกชัดเจนว่ามันมีความสุขกับการเขียนคิ้ว  แต่งหน้าบาง ๆ  มาโรงเรียน

   “เงียบทำไมล่ะโอห์ม”

   “โอห์มกลัว”

   “กลัวอะไร  พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”  พี่โน้ตค่อย ๆ  ขยับตัวนั่งพิงเตียง ก่อนเอาผมมากอดเอาไว้ ในท่าที่ผมนั่งพิงอกของพี่โน้ต

   “โอห์มจะเป็นกะเทยไหมพี่โน้ต”

   “เป็น”

   “ไรว่ะ  งั้นโอห์ม  ไม่ยอมพี่โน้ตแล้วล่ะ  ไม่อยากเป็นกะเทย” 

   “ไอ้เด็กเอ้ย . . .”    พี่โน้ต  เอาคางาวางไว้บนไหล่ของผม 

   “. . . ถ้ามันไม่ใช่  ก็ไม่ใช่หรอก  ถึงจะมีอะไรกัน ก็ไม่ได้แปลว่า  จะมีใครต้องไปเป็นอีกแบบนี่ครับ  เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม  ใช้ชีวิตเหมือน ๆ เดิม  การมีอะไรกันไม่ได้แปลว่า  เราจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปเลยนี่ครับ”

   “จริงเหรอพี่”

   “จริง ๆ  โอห์มก็เหมือนเดิม  พี่ก็เหมือนเดิม  เพียงแต่เรารู้ว่า  เราสองคนเหมือนเดิม”

   “ยังไงนี่  โอห์มงง”

   “ก็โอห์มกับพี่ไง  ตอนนี้เราเป็นมากกว่าพี่  มากกว่าน้องกันแล้วนะครับ  เราใช้หัวใจเดียวกัน  เราใช้ความรู้สึกร่วมกันแล้วนะครับ  พี่รักเรา  เพราะเราคือเรา  คือ โอห์ม  อะไรก็ตามที่จะทำให้โอห์มเสื่อมเสียชื่อ  พี่ไม่ทำหรอก”

   “สาบาน”

   “พี่ไม่มีคำสาบาน  พี่มีแต่คำมั่นสัญญา”

   “พอ ๆ  พอเหอะพี่  โอห์มจะอ้วก  เมื่อคืนก็ใช้สำนวนอย่าลืมฉัน  หลอกล่อจนโอห์มใจอ่อนยอมพี่ทุกเรื่อง  เช้าจะเล่นสำนวนคำมั่นสัญญาอีกหรือ  แบบนี้โอห์มคงตายเพราะน้ำตาลในเลือดมากกว่าพิกัดแน่ ๆ”

   “แหม  ขอเล่นนิดก็ไม่ได้”

   “อย่ามาเน่า”

   “โอเค ไม่เน่าก็ไม่เน่า  เขยิบไปที่หน้าต่างได้ไหม  แล้วมองไปบนฟ้า” 

   ผมทำตามอย่างว่าง่าย  เพราะเตียงนอนวางชิดกับฝาบ้าน   ผมนั่งเอามือสอดประสานกันไว้  ทาบทับไว้ที่ขอบหน้าต่าง  ผมมองไปบนฟ้า  สีน้ำเงินเข้มของคืนเดือนแรม  ระยิบระยับวับวาวของแสงดาว 

   “อะไรเหรอพี่โน้ต”  ผมถาม  หากแต่สายตายังไม่ละจากฟากฟ้า

   พี่โน้ตมานั่งคร่อมผมเอาไว้จากด้านหลัง  เนื้อแนบเนื้อสนิทชิดกันราวกับจะหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน  ผมรับไออุ่นจากแผ่นอกของพี่โน้ตจากด้านหลัง  ก่อนที่พี่โน้ตจะคลี่ผ้าห่มคลุมร่างเราทั้งสองคนเอาไว้

   “ดาวสวยไหม”  คนถามเอาคางเกยไหล่ผมเอาไว้

   “สวย”

   “คืนนี้เป็นคืนที่พี่มีความสุขที่สุดในชีวิต  พี่ชอบมองดาว  เพราะมันสวยไม่เหมือนกัน  บางดวงเล็ก ๆ  แต่กระพริบ ๆ  บางดวงใหญ่  แต่มีแค่แสงเฉย ๆ”  มือที่สอดมาจากด้านหลัง  บีบมือผมเอาไว้

   นิ้วมือเรากระชับกันไว้หลวม ๆ

   “จะมาเน่าอะไรอีก”

   “ไม่มี”

   “อย่างพี่นี่นะไม่มี  โอห์มไม่อยากเชื่อ”

   “ไม่มีหรอก  ไม่มีมุขเน่า ๆ  อีกแล้ว  ตอนนี้มีแค่ความสุข  ความสุขที่ได้นั่งกอดโอห์มอยู่แบบนี้  บางทีอยากกอดโอห์มเอาไว้เฉย ๆ  ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไร  เพราะทุกอย่างมันอยู่ตรงนี้”  พี่โน้ต  เลื่อนมือขวาที่กุมมือผมอยู่มาแนบที่หน้าอกข้างซ้ายของผม

   หัวใจผมเต้นแรงจัง . . .

   “ที่อยู่ข้างใน  หัวใจดวงนึง  ตอนนี้มือสองมือแตะที่หัวใจดวงนั้น  หัวใจที่พี่รัก  และอยากถนอมเอาไว้ชั่วชีวิต”  เสียงพี่โน้ตเบา  ที่ข้าง ๆ  แก้มผม

   “และ . . .”  พี่โน้ตขยับร่างเบียดผมอีกครั้ง

   “. . . หัวใจอีกดวง  จากอีกหนึ่งร่างกายกำลังจะเดินทางไปหาหัวใจอีกดวง  โอห์มรู้สึกไหม  ว่าตอนนี้หัวใจของโอห์มกับหัวใจของพี่แนบสนิทกันแล้ว  หัวใจพี่อยู่ในระนาบเดียวกับหัวใจของโอห์มโดยที่เรามีร่างกายขวางกั้นเอาไว้  แต่เราก็สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เราทั้งสองคนเรียกว่าหัวใจ”

   ร่างที่พันธนาการผมเอาไว้  ทำให้ผมรู้ว่า  สิ่งที่พี่โน้ตพูดถึง   มันเป็นไปตามทฤษฎีที่พี่โน้ตตั้งขึ้นมาเอง  เพราะตอนนี้นอกจากความเงียบกับเสียงหายใจของเราสองคน  มีอีกสิ่งที่ผมได้ยิน  คือเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นสอดรับกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ

   ผมไม่มีคำพูดใด ๆ  อีกเพราะตอนนี้พี่โน้ตกำลังใช้ภาษากายพูดจากับผมอยู่

   “ผมรักพี่โน้ต”

   “พี่รักมากกว่า”

   “โอห์มากกว่า”  ผมเถียง  มีหรือที่ผมจะยอม

   “พี่รักโอห์มมากที่สุด”

   “โอห์มมากกว่ามากที่สุด”

   “ไม่มีอะ  ไม่มีอะไรมากกว่ามากที่สุดหรอก  มากที่สุดนะ  คือไม่มีอะไรมากกว่านี้อีกแล้วไม่รุ้หรือไง  ไอ้ตัวเล็ก”  พี่โน้ตหอมที่แก้มผมแรง ๆ

   “โกงว่ะ”

   “โกงที่ไหน  มีอะไรมากกว่ามากที่สุดอีกล่ะ”

   “โห . . . แล้วมารักโอห์มตั้งแต่ตอนไหน”  ผมยิ้ม  มีความสุขในอ้อมกอดของคนที่ผมรัก  แม้วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร  ผมไม่กลัวอีกแล้ว

   “โอห์มล่ะรักพี่ตอนไหน”

   “อย่ามากวน  โอห์มถามก่อน”

   “พี่ถามก็ตอบสิ  โอห์มรักพี่ตอนไหน”

   “คนบ้าไรว่ะ  กวนชิบ  โอห์มถามก่อน  ก็ตอบโอห์มมาก่อนสิ  อย่าแซงคิวไม่ดีนะครับคุณพี่” 

   “ไม่รู้หรอกว่ารักตอนไหน  ไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่มารู้อีกทีก็รักไปหมดใจ  อยากอยู่ใกล้ ๆ   อยากกอดแบบตอนนี้ . . .”

   “ก็กอดอยู่นี่ไง”

   “ไม่ใช่  หมายถึง  ก่อนหน้านี้อยากกอดแบบนี้ แต่  ไม่กล้ากอด  แน่ใจตัวเองก็ตอนที่เราหลงป่า”

   “ใครทำให้หลงเล่า” 

   “แน่ะ  อย่ามาทำเสียงแบบนี้นะ  ใครล่ะ  โอห์มเข้าไปเองนะ”

   “ก็พี่จะทิ้งโอห์ม”

   “อ้าว  พี่ผิดเหรอนี่”

   “ผิด”

   “ถ้าจะผิดก็คงผิดที่พี่รักโอห์ม  รักมากไป  ก่อนหน้านั้นพี่เหมือนคนไม่รู้หัวใจตัวเอง  ตอนที่โอห์มวิ่งลงไป  พี่ยังคิดว่าเดี๋ยวโอห์มคงจะกลับมาง้อพี่  จนใกล้มืด  อาแป้งแกบอก  โอห์มยังไม่กลับมา  เอาจักรยานออกไป  พี่ขี่รถตามหา  จนมาเจอจักรยานที่ตีนเขา  เลยมาบอกลุงอาท  แล้วพี่ก็ออกมาตามโอห์ม”

   “ครับ”

   ผมรับรู้  เพราะเรื่องหลงป่า  ไม่มีใครพูดถึงอีกเลย

   “โอห์มรู้ไหม  ตอนนั้นพี่เหอนคนบ้า  หัวใจมันระรัวไปหมด  คิดไปมากมายสารพัด  ห่วงโอห์ม เพราะพี่รู้ว่าโอห์มดีแต่ตาม  โอห์มไม่รู้จักทางหรอก  ถ้าหลง  จะหายังไง  จะตามยังไง  ในเมื่อมันมืดลงทุกที  พี่เดินตามหา  พี่เดินร้องไห้ไปตลอดทาง  พี่กลัว  กลัวว่าจะไม่เจอโอห์มอีก”

   พี่โน้ต  จูบที่ต้นคอผมเบา ๆ  ผมเอนตัวอิงแนบไหล่  นอนฟังวีรกรรมที่ผมก่อเอาไว้  สายตาทอดยาวมองไปบนฟากฟ้ากว้าง

   “รักโอห์มอะดิ๊”

   “รัก  พี่รู้ในเวลานั้นเลย  ว่าพี่รักโอห์ม  พี่ขอแค่ได้เจอโอห์มเท่านั้น  แล้วพี่จะถามโอห์ม  ถ้าโอห์มไม่ให้พี่ไป  พี่ก็ไม่ไป พี่จะไม่ไปไหน  ถ้าโอห์มไม่ให้พี่ไป”

   “ขอบคุณครับ   โอห์มขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า”

   “ไม่หรอก  ถ้าวันนั้นโอห์มไม่หนีออกจากบ้านไปหลงป่า  พี่คงไม่ได้กอดโอห์ม  แบบที่พี่อยากกอด  พี่คงไม่รู้หัวใจตัวเอง . . .”   พี่โน้ตเอามือผมไปแนบแก้มของพี่โน้ตเอาไว้

   ผมมีความสุขจะตายอยู่แล้ว . .

   “. . . และพี่ก็คงเป็นคนที่ไม่กล้าพูด เพราะพี่กลัว  กลัวมากที่สุด  กลัวว่าพูดออกไปแล้วจะเสียโอห์มไป   ตั้งใจเอาไว้จะบอกตอนวันเกิดโอห์ม  แต่ยังกล้า ๆ  กลัว ๆ  มาแน่ใจเอาตอนที่โอห์มหึงพี่ที่ร้านไอติม”

   “ไม่หึง  ไม่มี”

   “เมื่อคืนใครบอก  แอบไม่พอใจที่มีคนป้อนไอติม”

   “แค่หงุดหงิดเอง”

   “นั่นแหละหึง”

   “แบบนี้โอห์มตายเลยเด่ะ  มาหักคอกันเรื่อย”

   “ไม่หรอก  เฉพาะบางเรื่องเท่านั้น  แล้วโอห์มรักพี่ตอนไหน”

   “ไม่รู้”  ผมพยายามนึก  แต่นึกไม่ออก 

   จะรักตอนไหนผมจะรู้ได้อย่างไร  ในเมื่อทุก ๆ  ห้วงเวลาดี ๆ  ที่ผมมี  จะมีหน้าพี่โน้ตลอยมาเสมอ  แล้วผมจะรู้หัวใจตัวเองได้อย่างไร ว่าผมไปรักพี่โน้ตตั้งแต่เมื่อไหร่  อาจจะตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน  หรือ  อาจจะตอนที่พี่โน้ตช่วยผมจากการจมน้ำ

   “โกงมากกว่าเราอีก  ไอ้ตัวเล็ก”

   “โกงอะไร”

   “ไม่ยอมบอกว่ารักพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”

   “งั้นโอห์มชนะพี่”

   “ชนะเรื่อง”

   “พี่รู้ว่ารักโอห์มตอนที่โอห์มหลงป่า  แต่โอห์มนะรู้ตัวว่ารักพี่  ตอนที่พี่บอกว่าจะไปเยอรมัน  โอห์มรู้แล้ว  ว่าพี่จะทิ้งโอห์มไป  โอห์มเลยไปหลงป่า  เห็นมะ  โอห์มรู้ก่อนพี่   โอห์มรู้จักหัวใจตัวเองก่อนพี่โน้ตอีก”

   ผมหันไปหอมที่แก้มพี่โน้ตเบา ๆ   

   “คนชนะต้องได้รางวัล” 

   “ถูกต้องครับ  คนชนะย่อมได้รางวัล” 

   “เดี๋ยวพี่จะมอบรางวัลให้คนชนะเอง”  พี่โน้ตจับผมนอนหงาย  ก่อนเอาใบหน้ามาซุกที่ซอกคอของผม

   กว่าผมจะรู้ตัว . . .

   . . . แผนของไอ้พี่มัน   มันจะหลอกล้างหน้าไก่ตั้งแต่เช้าเลยอ่ะครับ










ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #126 เมื่อ27-03-2009 17:26:51 »

 :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

แอบหวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #127 เมื่อ27-03-2009 17:28:50 »

หวานจนมดขึ้นเป็นแถว  อยากมีคนดูดาวด้วยแบบนี้จัง :-[


V
V
Vอยู่กะเธอ มีหวังไม่ได้ดูดาว มัวแต่เมาท์นะซิ คุณน้อง :jul3:
แล้วพี่จะโรแมนติคได้ไงหึ :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2009 22:38:08 โดย M@nfaNG »

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #128 เมื่อ27-03-2009 17:47:21 »

^
^
^
เดี๋ยวไปนั่งดูด้วย
 :-[

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #129 เมื่อ27-03-2009 18:36:45 »

หวานจนมดขึ้นเป็นแถว  อยากมีคนดูดาวด้วยแบบนี้จัง :-[






ดูกับผมป่ะ . . .

หวานมากเท่าไหร่  เดี๋ยวเหอะ ๆ  ตอนเศร้ามันจะเอาคืนหนักกว่าหวานหลายร้อยเท่าอ่ะดิ๊

แมร่ง  คนเขียนโรคจิต


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] รักเอย
« ตอบ #129 เมื่อ: 27-03-2009 18:36:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #130 เมื่อ27-03-2009 20:47:00 »

หวานได้อีก คนแต่งกินน้ำตาลแทนข้าวป่าวเนี่ย หุหุ

peemakarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #131 เมื่อ27-03-2009 21:41:34 »

พี่โน้ต น้องโอห์ม น่ารักจัง ตอนนี้ต้องเก็บเกี่ยวความหวานไว้ก่อนคร้า
เอาไว้เป็นเสบียงเวลาต้องอ่านตอนเศร้าๆๆๆ อิอิ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #132 เมื่อ27-03-2009 22:31:38 »

หวานจนมดขึ้นเป็นแถว  อยากมีคนดูดาวด้วยแบบนี้จัง :-[






ดูกับผมป่ะ . . .

หวานมากเท่าไหร่  เดี๋ยวเหอะ ๆ  ตอนเศร้ามันจะเอาคืนหนักกว่าหวานหลายร้อยเท่าอ่ะดิ๊

แมร่ง  คนเขียนโรคจิต


จริงป่าว :-[ 


ไม่ดีกว่า....กลัวดูดาวเสร็จต้องมานั่งซับน้ำตาเพราะคนแต่งใจร้าย ชอบเอาคืนเศร้าๆ :sad4:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #133 เมื่อ28-03-2009 00:26:52 »

พี่โน๊ตหวานจัง ทั้งภาษาใจและภาษากาย
บรรยากาศเป็นใจ ยิ่งถามแข่งกันว่าใครรักใครมากกว่าเนี่ย
คนน้องไม่ยอมคนพี่เลยนะ รักแบบบริสทุธิ์ ปราศจากเงื่อนไขและกฏเกณฑ์ใดจากสังคม
มีแค่คนสองคนเท่านั้น

"หัวใจพี่อยู่ในระนาบเดียวกับหัวใจของโอห์มโดยที่เรามีร่างกายขวางกั้นเอาไว้  แต่เราก็สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เราทั้งสองคนเรียกว่าหัวใจ”
> เขินวุ้ยยยย พี่โน๊ตโคตรจะโรแมนติก พูดในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ด้วยมือ
แต่สัมผัสได้ด้วยใจ

ขอบคุณคะ คุณราชบุตร  :L2:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #134 เมื่อ28-03-2009 00:30:29 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


พีต้น ...... 

ได้โปรด  ให้โอห์มกับโน๊ตกับมาเจอกันเเล้วรักกันอีกครั้งเถอะะะะะะน่ะครับบบ


ได้โปรดดดดดด




 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:


ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #135 เมื่อ28-03-2009 01:06:39 »

..ว้าย สงสารไก่..

ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร


imageriz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #136 เมื่อ28-03-2009 02:48:54 »

หวานจริง ๆ เลยพี่โน๊ต  ตัวเล็กก็น่ารัก  :-[ :-[ :-[

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #137 เมื่อ28-03-2009 07:10:19 »

ตอนนี้หวานจังเลย หวานมาก แม้ว่าโอห์มจะหวานปนซ่าก้อเถอะ
ว่าแต่ความหวานแบบนี้มันจะตามมาด้วยความขมขื่นอย่างที่สุดด้วยหรือเปล่าเนี่ย
คนเขียนชอบขู่เป็นระยะ คงต้องทำใจเตรียมไว้ด้วย

ปล มีคำคมและภาษาสวยๆทุกตอน ชอบจริงๆจ้า

บวก 1 เช่นเคยนะจ๊ะ  :กอด1:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #138 เมื่อ28-03-2009 08:36:23 »

:m1:
"Collect your bright Hours and keep them for your dark Times."

อ่านแล้วคิดถึงประโยคนี้...เก็บเกี่ยวชั่วโมงแห่งความสุขและเก็บไว้ใช้ในวันที่หมองหม่น



ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #139 เมื่อ28-03-2009 09:13:44 »

ช่วยด้วยค้าบ....... :serius2:
มดเต็มห้องเลย   มันหวานนนนนนนนนนน......ซะ :-[
คุณราชบุตรตอนนี้ตุนความหวานไว้เยอะๆ
เดี๋ยวเวลาเศร้าจาได้ไม่เศร้ามาก....ใช่ป่ะ :m26:
ขอบคุณค้าบ   จาติดขอบจอรออ่านค้าบ
:m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] รักเอย
« ตอบ #139 เมื่อ: 28-03-2009 09:13:44 »





RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #140 เมื่อ28-03-2009 17:07:49 »








ตอนที่ ๗

   คนส่วนใหญ่บนโลกคือเพศปกติ  แล้วผมล่ะ?

   คำถามที่ผมเองไม่กล้าตอบ   เพราะผมคิดเสมอว่าชีวิตผมก็ปกติ   เหมือนมนุษย์คนอื่น ๆ  ทั่ว ๆ  ไป    ที่สามารถทำอะไรก็ได้บนโลกเบี้ยว ๆ  ใบนี้  โดยที่ผมเองก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร   แต่ทำไมคนอื่นมองผมไม่ปกติก็ไม่รู้


   อาจจะเป็นเพราะว่า  ทุก ๆ  สิ่ง  ทุก ๆ  อย่างบนโลกใบนี้มีอะไรที่เป็นคู่เสมอ พระเจ้า  หรืออะไรก็แล้วแต่  สร้างความสมดุลมาสู่โลกสีน้ำเงินใบนี้ให้งดงามอย่างยิ่ง

   โลกมีกลางวัน . . .

   เคียงคู่มากับ . . . กลางคืน

   . . . มีหัว

   มีก้อย . . .

   ผู้ชาย . . .

   . . . คู่ . . . ผู้หญิง

   แต่ . . .

   . . . ผม

   . . . ส่วนเกินของโลกกระมัง  เพราะผมไม่ใช่ทั้งชายและหญิง  อย่างผมคนอื่น ๆ  เขาเรียกอย่างสุภาพว่าเพศที่สาม  หากแต่บางคนเรียกเกย์  อาจมีที่เรียกแบบเย้ยหยันหน่อย . . . อีกะเทย  อีตุ๊ด  ไอ้วิปริตผิดเพศ

   เหรอ . . .

   . . . ผมเป็นกะเทยหรือ?

   คำถามที่ตามติดตัวผมมาตั้งแต่ผมเริ่มรู้ตัวเองว่ารักพี่โน้ต   มันรักมาก มากกว่าสิ่งใด ๆ  ทั้งหมด  ผมไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรู้ว่าผมเกิดมาเพื่อรักคนๆ  นึง 

   ผมพยายามมองผู้หญิง   แต่หัวใจผมบอก  ผมไม่ชอบผู้หญิง  เพราะไม่ชอบความวุ่นวายจู้จี้ขี้บ่น  เอาแต่อกแต่ใจ  อยากได้โน่นอยากได้นี่  แต่งหน้า  ทาปาก  อวดกันมีสิ่งของเล็ก ๆ  น้อย ๆ  ผมเป็นแบบนั้นหรือ  ไม่เลยสักนิด  แม้แค่ครีมทาหน้าผมยังไม่เคยใช้  เครื่องสำอางสำหรับผมก็แค่  โฟมล้างหน้าเท่านั้นที่มีผมยอมควักกระเป๋าซื้อ

   แล้วผมชอบผู้ชายหรือ?

   ไม่รู้สินะ  นอกจากพี่โน้ต  ผมไม่เคยมองใคราอีกเลย  ผมไม่เคยรับสัมผัสแบบนั้นจากผู้ชายคนอื่น  อย่างผมกับพี่โน้ต  จะเรียกมันว่า  ความรัก  หรือความผูกพันอันนานแสนนาน  ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี 

   สุดท้ายผมเลยสรุปเอาว่า . . .  ผมชอบผู้ชาย   

   ผมมันก็แค่ . . .

   . . . พวกผิดเพศ

   คำตอบที่มันย้ำในหัวใจของผมตลอดมา  ผมไม่ได้ปฏิเสธตัวเอง  แต่ผมเกลียดตัวเอง  เกลียดที่ทำไมผมต้องเป็นแบบนี้   ผมพาตัวเองมาหยุดที่หน้าตู้ขายตั๋วของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน . . . สถานีลาดพร้าว

   เพราะผมเอาโอ๊ตไปปล่อยไว้ที่บางนา  เมื่อตอนห้ามโมงเย็น  ก่อนที่ผมจะทิ้งเงินเอาไว้ให้แค่หนึ่งร้อยบาท  กับแผนที่กรุงเทพฯ   ผมไม่รู้ว่าโอ้ตจะคุ้นเคยกับกรุงเทพฯ  มากน้อยขนาดไหน    ผมมีเหตุผลรองรับเสมอในการทำอะไรลงไป  เงินหนึ่งร้อยจะสามารถพาให้โอ๊ตกลับมายังที่นัดเจอกับผมได้  ผมเชื่อ  เพราะค่ารถเมล์  จากเซ็นทรัลบางนา  มาสถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว  มันไม่ถึงห้าสิบบาทเสียด้วยซ้ำ

   ทุกอย่างคือการเรียนรู้ . . .

   เริ่มจากเมืองที่เราคุ้นเคย  จากคนที่ใช้ภาษาเดียวกัน  เพราะเมื่อถึงเวลา ๆ หนึ่ง  เมื่อเราต้องจำเป็นที่จะเดินทางไปยังสถานที่แปลกใหม่  เราจะสามารถใช้ชีวิตกับสถานที่เหล่านั้นได้  โดยที่เราไม่กลัวอะไรอีก

   และดูเหมือนทุกอย่างมันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า . . .

   . . . เหมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อย

   ปลายทาง . . .

   มันช่างไกลจากความรู้สึกของผม  ในเวลานี้  ผมไม่รู้ว่าโอ๊ตจะมาถึงตอนไหน  และจะเจออะไรบ้างระหว่างทาง  แต่ผมรู้หากสามทุ่มเจ้าตัวแสบยังไม่โทรหาผม ผมคงต้องโทรหามัน  เพราะมันคงใช้เวลาในการเดินทางมากเกินไปเสีย

   “ยายตัวแสบ  กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”  ผมกรอกเสียง  เมื่อเห็นเบอร์คนที่โทรเข้ามา

   “แก  หลานชั้นอยู่ไหน  แกเอาหลานชั้นไปปล่อยไว้ไหน”  เสียงมันโวยวสายมาตามสาย  ผมยิ้ม  เพราะคาดว่า  ไอ้ตัวแสบคงหลงทาง  แต่ไม่กล้าโทรหาผม

   “ทำไม  ถามทำไม”

   “แกนะแก  โอ๊ตมันไม่รู้จักกรุงเทพฯ  แกปล่อยหลานไปไหนมาไหนคนเดียวได้ไง”

   “เหรอ  งั้นก็เลิกให้ชั้นเลิกสอนภาษาเยอรมันไอ้โอ๊ตได้เลย  เพราะขนาดแค่การใช้ชีวิตในบ้านเมืองตัวเองยังเอาตัวไม่รอด  อย่าหวังไปเยอรมันเลย  แค่ฮ่องกง  กัวลาลัมเปอร์มันก็คงเอาตัวไม่รอดหรอก  ลืมความคิดที่จะไปเรียนเยอรมันเลยแก”  ผมบอกมันไปตามสาย

   “ก็ถูกของแก  แกอยู่ไหนนี่”

   “ลาดพร้าว”

   “แกชั้นอยากเจอแก  มาหาชั้นหน่อยสิ  ชั้นเพิ่งเล่นฟิสเนสเสร็จ จะรอแกสตาร์บัคที่เอสพละนาดนะ”  มิลล์มันพูดยาวรัว  ก่อนตัดสายทิ้งไปทันที

   ผมส่ายหน้ากับเพื่อนสาวที่น่ารักของผม . . .   

   ผมยืนมองแผนที่เดินรถสลับกับดูผู้คนที่ค่อนข้างบางตา  เพราะมันค่ำมากพอสมควรแล้ว  หลายคนต่างเร่งรีบกับจุดปลายปลายทางของตัวเองเพราะอยากพักผ่อนกระมัง   เวลาที่เท่ากันแท้ ๆ  แต่ทำไม ความเร่งของคนเราไม่เท่ากันก็ไม่รู้  แล้วผมก็ตัดสินใจ  ก่อนสอดธนบัตรให้เพียงพอกับจำนวนค่าโดยสาร

   เหรียญพลาสติกสีดำกลม ๆ  หล่อนลงมาพร้อมเหรียญที่เป็นเงินทอน  ผมหยิบมัน  ก่อนเดินก้าวผ่านไปยังอีกชั้นของสถานีเพื่อรอขบวนรถ . . .

   การรอคอย . . .

   . . . ทรมานเสมอ

   ภาพของผมในวันเก่า ๆ    มันยังตามมาหลอกหลอน   ในวันที่มีทั้งความสุขล้นเต็มหัวใจ  กับวันที่รักร้างห่างหาย  โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่า  แท้จริงแล้วันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผมกันแน่  แววตาผมแห้งกระด้าง  ส่วนหัวใจผมนะหรือ  แห้งกระด้างกว่าแววตาเสียอีก  รถเข้าจอดเทียบสถานี  เวลาค่อนไปทางดึกเช่นนี้  แทบไม่มีผู้คน  ผมเลือกที่จะเดินเข้าไปที่ขบวนรถตู้สุดท้าย

   ให้ตายเหอะ !

   รถขบวนนี้  มีมาเพื่อผมกระนั้นหรือ?

   มีแค่ผมคนเดียวในตู้  มันเท่ากับว่าสะท้อนอารมณ์เหงาจับใจของผมให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก  ผมมองไปยังตู้ถัดไป  ผู้คนก็ไม่มากเท่ากับตู้แรก  แล้วผมก็ดึงสายตากลับมาที่ท้ายขบวน  ผมปล่อยน้ำตารินไหล คิดถึงคนบางคนจับหัวใจ

   ทั้ง ๆ  ที่ผมรู้แล้ว  ว่าคน ๆ  นั้นอยู่ไม่ไกล  แต่ทำไมผมไม่กล้าที่จะเดินไปหา  หรืออาจเพราะว่าผมมันอ่อนแอ  และกลัวอะไรมากเกินไป

   อีกราวสิบห้านาทีต่อมา  รถก็มาจอดยังสถานีจุดหมาย . . .

   “ไหนบอกกลับอาทิตย์หน้าไง  แสบมากนะแก  เล่นหักคอกันแบบนี้เลย”

   ผมนั่งลงตรงกันข้ามกับเพื่อนรัก    เปิดฉากเคลียร์บัญชีกับเจ้าหล่อนเสียก่อน   หรือจะเรียกว่ามาขอบคุณที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแบบคนอื่น ๆ  ขึ้นอีกครั้ง

   “แก  งานด่วนจริง”

   “ไม่เชื่อหรอก  แกมาอย่าตีหน้าซื่อ”  ผมมองหน้าเจ้าหล่อน  พยายามหาทางจับผิด  ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันจะใช่เรื่องบังเอิญ  หรือเป็นเรื่องที่มันรู้มาก่อนกันแน่

   “จะบ้าเหรอแก  พูดจริง ๆ”

   “เร่อะ   เชื่อก็เชื่อ”

   “แก โอ๊ตมันจะหลงมั้ย”  น้ำเสียงมันห่วงหาเหลือเกิน

   “มันโตแล้วแก  อย่าห่วงไปเลย  ตอนชั้นไปเยอรมัน  ก็น่าจะรุ่น ๆ  โอ๊ต ชั้นยังไม่กลัวเลยแก  ที่ไหน ๆ  บนโลกนี้น่ากลัวหรอก   เชื่อชั้น”

   “ย่ะ  คนหนีรักทำยังไงก็ได้เสมอแหละ  แต่หลานชั้นมันไม่ได้หนีรักแบบแกนี่หว่า  ชั้นห่วงของชั้น มันผิดหรือ”

   ผมมองหน้าเพื่อนสาว . . .

   “ขอโทษที  พ่อคนอารมณ์อ่อนไหว”

   “มิสี่จี”  ผมยิ้ม

   “ต๊าย  วันนี้มาแปลก  ปกติพูดเรื่องแบบนี้ทีไร  หน้าหงอยเชียว  แต่คราวนี้ยิ้มระรื่นเชียว  แกอย่างบอกนะว่าหัวใจแกสีชมพู”

   “คงงั้น”

   “ใครเหรอแก  ใครกันน๊า”  เจ้าหล่อนกระดี๊กระด๊า  เขยิบเข้ามาใกล้

   “ชั้นว่าชั้นรักเด็กว่ะ”  ผมแกล้งก้มหน้าทำเขินอาย

   “อูย  อย่าเชียวนะแก  ชั้นเอาแกตายเลยนะ  หลานชั้นทั้งคน”  มันสวมวิญญาณแม่เสือทันที 

   แบบนี้เข้าทางผมเลยสิครับ  จะยั่วมันให้สนุกไปเลย

   “แกไม่ให้โอ้ตมันตัดสินใจเองล่ะ  มาตัดสินใจแทนได้ไง  เรื่องของหัวใจนะแก”

   “โอ้ย  อยากจะบ้า  แกอย่ามารุ่มร่าม”

   “ชั้นพูดจริง ๆ  นะแก  เรื่องของหัวใจ  เราควรให้เจ้าของหัวใจเขาตัดสินใจเอง  เพราะเขาเท่านั้นที่จะเรียนรู้ถูกผิด  ไม่มีใครไปรู้หัวใจคนอื่นได้หรอกนะแก”

   “ขอล่ะแก เป็นคนอื่นไม่ได้เหรอ  พ่อมันคนนึงล่ะ  อย่าให้ลามมาถึงลูกเลย”

   “พ่อมัน  บ้าดิแก  ชั้นไปทำอะไรพ่อมัน”  ผมมองหน้ามิลล์  เพราะไม่แน่ใจ  ว่ามิลล์มันมีอะไรที่มันยังไม่บอกผมอยู่อีกหรือเปล่า

   “ชั้นไม่ได้หมายถึงแกว่ะ  ชั้นหมายถึงพี่โน้ต  พ่อของโอ๊ตมัน”

   “เกี่ยวกับชั้นมั้ยนี่”  ผมเริ่มระแวง

   “ไม่เกี่ยวหรอก”

   “แล้วไป”  ผมลอบถอนหายใจด้วยความโล่งใจ  อย่างน้อยที่สุด  ตอนนี้ผมไม่ต้องนั่งคุยกับเพื่อนรักด้วยสีหน้าที่หวาดระแวง  ว่ามันจะรู้เรื่องราวอะไรของผมอีก

   “แกเคยรักใครมาก ๆ  มั้ยว่ะโอห์ม”

   “เคยสิ”

   “มากขนาดไหนว่ะ”

   “ทุกสิ่งในชีวิต  แม้แต่ลมหายใจ”

   “โหย   ตายไปเลยชั้น  ทำไมว๊า  ไม่มีผู้ชายแบบแกหลงบนโลกนี้บ้างเหรอ  ที่เหลืออยู่ก็พวก เก้ง  กวาง  ทั้งนั้นที่ยึดความรักเป็นสรณะแบบนี้” 

   “แหม  จะแต่งงานกับชั้นก็ได้นะแก”

   “ไม่มีทางย่ะ  ชั้นไม่ยอมเป็นแบบแม่ไอ้โอ๊ตเด็ดขาด” 

   “ทำไมเหรอ  พ่อโอ๊ตเขาไม่ดีเหรอ”  ผมมองหน้าเจ้าตัว  เพราะรู้ดีว่า  การที่อยากจะรู้อะไรสักอย่าง  เราควรตั้งคำถามอย่างไรที่ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่ากำลังเสียท่าเราอยู่

   ทุก ๆ  อย่างมันอยู่ที่สถานการณ์ . . .

   “ดีมากเลยแก  แต่พี่ชั้นดิ๊  มันไม่รักดี  หลงรักเกย์”

   “ต๊าย  พ่อโอ๊ตเป็นเกย์เหรอ”  ผมทำท่าตกใจ

   “ย่ะ  แถมเป็นเกย์ประเภทรักฝังแน่น  ไม่ยอมลืมคนรักเก่าเสียด้วย  พี่ชั้นก็นะ  รู้ทั้งรู้เขาไม่ได้รักได้ชอบ  ยังทำตัวแย่ ๆ  ไปแอบฟันพ่อโอ๊ตอีก”

   “อีนี่  ว่าพี่สาวตัวเองแบบนี้ได้ไง”  ผมอดขำไม่ได้

   “จริงนี่หว่า แม่งพี่เรามันรักเขามาก    รู้ทั้งรู้เขารักคนอื่น  แต่ยังเสือกหวังลม ๆ  แล้ง ๆ  ว่า  ความเป็นผู้หญิงจะเปลี่ยนใจผู้ชายแบบพี่โน้ตได้  ยอมเอาตัวไปพัวพัน  แม่งเอ้ยสวรรค์ก็เสือกเล่นตลก  ครั้งเดียวท้องซะได้  แกนึกดูสิ  แกลองนึกไอ้โอห์มอะไรมันจะตลกขนาดนั้น” 

   “เขาเรียก  กรรมทำร่วมกันมา”

   “พี่ชั้นต่างหาก  แกว่งตีนหากรรม    เดี๋ยว  ขอนึกแปบ”  อีเพื่อนสาวมันดันไม่บอกหมดมันทำท่านึก

   ผมนั่งเฉย ๆ  รอฟังเพื่อนเล่าต่ออย่างเดียว  เพราะผมชาชินกับการรอคอย  ผมอยากรู้เรื่องนี้มาสิบแปดปี  แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา  เวลาที่ผมอยากรู้ผมไม่เคยรู้  ตอนนี้มันคงถึงกำหนดระยะเวลานั้นแล้วก็ได้

   “ชั้นว่า  หากชั้นจำไม่ผิด  ตอนนั้นชั้นกำลังจะจบ ม.๕  ว่ะแก  พี่แจงมันเรียนอยู่ปีสอง  อีนี่มันแอบปลื้มพี่โน้ตมาตั้งแต่  ม.๑  แล้วล่ะ  ตั้งแต่สมัยเรียนที่หาดใหญ่  วันนั้น . . .”

   ผมนึกภาพตามที่มิลล์เล่า



   เกือบสามทุ่ม  ประตูห้องที่ชั้นสี่โดนเคาะถี่ ๆ  หญิงสาวสองคนที่นอนดูรายการละครเรื่องโปรดหยุด  แล้วหันมามองหน้ากัน  ก่อนที่มิลล์จะเป็นคนเดินไปเปิดประตูห้อง 

   “พี่โน้ตหวัดดี  เข้ามาก่อนพี่”

   “อ้าว  โน้ตไหนบอกจะลงหาดใหญ่ไง . . .”  แจงหันมายิ้มกับเพื่อน

   “. . . แก  มีอะไรป่ะ  ท่าทางแกไม่ดีเลย  เข้ามาก่อน”  แจงมองเพื่อนคนเดียวที่ตัวเองรู้จักมาตั้งแต่เรียนที่หาดใหญ่

   “ชั้นว่าชั้นจะชิ่วว่ะ”

   “บ้าน่ะแก  เรียนอยู่ปีสองจะขึ้นปีสาม  แกจะชิ่วหาหอกอะไรว่ะ”

   “กินเหล้ากันมั้ย”   คนพูดก้มหน้านิ่ง

   “แก  ใจเย็น ๆ  กินเหล้านะเมื่อไหร่ก็ได้  แต่แกบอกว่าแกจะไปหาดใหญ่  แล้วทำไมโผล่มานี่  ทะเลาะกับน้องแกเหรอ”

   พี่โน้ตไม่ตอบ  ส่งกระดาษให้แจง . . .

   “ตกรถหรอืไงแก”  แจงมองตั๋วในมือ

   “ป่าว  ชั้นลงที่บาบำหรุว่ะ”

   “ไอ้บ้า   ติสท์แตกอีกหรือไง   มิน่าหอบกระเป๋ามาด้วย  ทำอย่างกะหนีออกจากบ้าน”

   “เออ  ขอค้างสักพักก่อนได้ไหม”

   “เอาดิ  ห้องก็กว้างนี่หว่า ไอ้มิลล์มันไม่ค่อยอยู่หรอก  มันทำงานพิเศษ  บางครั้งมันนอนที่ห้องเพื่อน  สี่ห้าวันกว่าจะกลับห้องสักที” 

   “ตามสบายนะพี่โน้ต  ไม่ต้องเกรงใจ” 

   “ขอบใจนะมิลล์  ขอบใจนะแจง . . .”  พี่โน้ตยิ้ม  หากแววตารวดร้าวอย่างที่สุด

   “. . . ตกลงไปกินเหล้ากันได้ยัง  มิลล์ไปด้วยกันนะ”

   “แต่มิลล์เข้ากะตอนเที่ยงคืนนะพี่โน้ต”

   “ไปกันก่อน  ยังไม่สี่ทุ่มเลย  มีเวลาอีกมาก”  พี่โน้ตหันไปยิ้มให้มิลล์

   ลมแม่น้ำพัดมาเบา ๆ  แสงสว่างจากฝั่งโรงพยาบาลศิริราชทำให้อีกฝั่งดูคล้ายกลางวัน  โน้ตเหมือนคนเก็บอะไรเอาไว้ในหัวใจ  น้ำสีอำพันถูกเทลงใส่แก้ว  ก่อนที่พี่โน้ตจะกระดกมันผ่านลำคอ  โดยที่ไม่มีส่วนผสมของอย่างอื่นอีกเลย

   “เบา ๆ หน่อยแก  เดี๋ยวจะตายเสียก่อน”

   “ช่างมัน  ตายเสียได้ก็คงดี”  เจ้าตัวปล่อยตัวไหลตามเก้าอี้ ปลายนิ้วเกลี่ยปากแก้วไปมา  สายตาทอดมองไปกลางแม่น้ำ

   “พ่ออารมณ์ศิลปิน  แกมีอะไรกลุ้มใจหนักหนาว่ะ”

   “ชั้นจะชิ่วจริง ๆ  นะโว้ยแจง”

   “จะบ้าเหรอแก  แกจะทำอะไร  คิดดีแล้วเหรอ”

   “ดีที่สุดแล้ว”

   “อยากบ้า  แมร่งคนเขาสอบแข่งแทบตายอยากมีที่เรียน  ไอ้นี่มีที่เรียน  ดันอยากซิ่ว  แกมีอะไรหนักอกหนักใจของแกหนักหนาว่ะ”

   “แกเพื่อนชั้นมั้ยว่ะ”    พี่โน้ต  หันมาจ้องหน้าแจง  ก่อนยกแก้วเหล้ากระดกอีกรอบ

   “เออซิ  ไม่ใช่ชั้นจะออกมาตะรอน ๆ  หาพระแสงหอกอะไรไม่ทราบ”

   “แกเคยรักใครมั้ยแจง  แกเคยรักคนอื่นมั้ย”  พี่โน้ตจ้องหน้าเพื่อนรัก

   “เคยสิแก  รักคนอื่น  รักคนที่เขาไม่เคยมองเราด้วยซ้ำ  แถมตอนนี้ก็ยังเลิกรักไม่ได้    ยังบ้าที่จะรัก  แม้จะรู้ว่าคน ๆ  นั้นเขาไม่เคยรักเราเลยก็ตาม”  แจงมองหน้าโน้ต

   “มิลล์  อย่าถือนะ  พี่เมาว่ะ”  พี่โน้ตหันไปยิ้มอ่อนโยน

   “ตามสบายค่ะพี่  เชิญตามสบายเลยค่ะ”

   “แกมีอะไรไอ้โน้ต  แกอย่าบอกนะว่าจะบอกรักชั้นน่ะ”

   “ป่าว    ชั้นอยากจะบอกแกว่ะแจง   ในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุดนะโว้ย  ชั้นนะชอบผู้ชาย  ชั้นรักผู้ชายนะโว้ย”

   “ไอ้ทะลึ่ง  นึกบ้าไรขึ้นมา”  ดูเหมือนแจงจะตกใจไม่น้อย

   “จริง ๆ  นะแก  ชั้นชอบ  ไม่ใช่สิ  ชั้นรักผู้ชาย  รักมานานแล้วด้วย  ตัวเล็กไง  แกจำตัวเล็กได้ใช่มั้ย  นั่นแหละแก  คนที่ชั้นรัก”  พี่โน้ตยิ้ม  เมื่อเอ่ยถึงคนที่ตัวเองรัก

   “ไอ้บ้า น้องนะแก”

   “แล้วันน้องจริง ๆ  ที่ไหนล่ะแก  ชั้นไม่รู้ว่ะว่ารักตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่ชั้นรู้ตัวก็รักไปหมดหัวใจแล้วว่ะ”

   “แล้วมันไม่ได้รักแกงั้นดิ  เลยอกหัก”

   “มันรัก  มันรักเรา”

   “ก็ดีแล้วนี่  แล้วแกจะมาโวยวายหาหอกอะไรอีก  คนรักกันอยู่ด้วยกันก็ดีที่สุดแล้ว  มันจะมีอะไรดีไปกว่าการที่คนสองคนรักกันอีกว่ะ”  คราวนี้เป็นแจงที่ยกแก้วเพียว ๆ  เข้าปาก

   “แต่มันจะไม่ยอมไปเยอรมัน”

   “อ้าวเหรอ”

   “มันได้ทุนแลกเปลี่ยน  มันจะไม่ยอมไป  ชั้นรู้มันไม่ไปแน่ ๆ  มันไม่ยอมไป”

   “ทำไมมั่นใจขนาดนั้น”

   “แกจำตอนที่เราเรียน ม.๕  ได้ไหมแจง  ตอนที่เรียนที่หาดใหญ่  ตอนที่ชั้นได้ทุนไปเยอรมัน  แล้วชั้นไม่ไป  ทุกคนแปลกใจกันทั้งห้องที่ชั้นไม่ไป”

   “อืม  เกี่ยวไรกัน”

   “ตัวเล็กมันไม่อยากให้ชั้นไป  ชั้นเลยไม่ไป”

   “ไอ้บ้า  เอาอนาคตตัวเองไปผูกไว้กับคน ๆ  นึงเกินไป    แกนะแก  อนาคตข้างหน้าเรายังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น    แกคิดอะไรว่ะไอ้โน้ต”

   “ช่างเหอะ  แต่ตัวเล็กต้องไป  ยังไงตัวเล็กก็ต้องไปเรียนเยอรมัน  เพราะมันจะมีชีวิตที่ดีกว่าอยู่ที่นี่”  พี่โน้ตมองเรือที่ข้ามฟากไปอย่างช้า ๆ

   “หูย  ถามมันสักคำเหอะ  มันอยากไปมั้ย”

   “ถามแล้ว มันบอกไม่อยากไป  ที่สอบเพราะอยากรู้จะทำแบบที่ชั้นทำได้มั้ย  มันบอกว่า   มันต้องทำได้เหมือนที่ชั้นทำ”

   “ก็ดี  แล้วแกมากะเกณฑ์อะไรมัน  มันไม่อยากไป  ก็ไม่ต้องไปบังคับ  เรื่องแบบนี้ให้เจ้าตัวตัดสินใจเอง  หรือมีอะไรมากกว่านั้น  แกบอกมาสิโน้ต”  เพื่อนรักมองหน้าอีกฝ่าย

   “พูดไม่ได้ว่ะ  บางเรื่องไม่รู้จะพูดยังไง  ถ้าพูดได้ชั้นจะมากลุ้มเหรอแก”

   “ไอ้นี่”

   “ชั้นไม่รู้  รู้แค่ว่าทำยังไงก็ได้  ที่จะให้มันไปเรียนต่อ  จะด้วยวิธีไหนก็ต้องทำ  แม้ว่าสิ่งที่ชั้นทำไปแล้ว มันจะโกรธหรือเกลียดชั้นตลอดชีวิต  ชั้นก็จะทำ”  เสียงพี่โน้ตสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดกับการตัดสินใจ

   “แกจะทำอะไร”

   “หายไปจากชีวิตมันก็คงดี”

   “ไอ้บ้า  แล้วหัวใจของมันล่ะ  แกเคยคิดถึงหัวใจของมันบ้างไหม  แกจะหายไปได้อย่างไร มีเหตุผลอะไร”

   “ไม่รู้ว่ะ  รู้แค่ว่าจากวันนี้ต่อไปจนวันข้างหน้า  เมื่อมีใครกำหนดให้ชั้นไม่ได้เจอตัวเล็กอีก  ชั้นก็จะไม่เอาตัวไปให้ตัวเล็กมันเจออีก    แต่จะให้ชั้นเลิกรักตัวเล็ก  ชั้นทำไม่ได้หรอก เพราะชั้นเกิดมาเพื่อตัวเล็กมัน  อะไรก็ตามที่ทำให้ตัวเล็กไปไกลที่สุด  ดีที่สุดชั้นก็จะทำ”

   “โน้ต”

   “จริง ๆ  นะแจง  ชั้นจะชิ่ว  แล้วชั้นจะหายไปจากชีวิตของตัวเล็กมัน  จะหายไปตามที่คนเบื้องบนกำหนดมา  ในเมื่อเขาขีดชะตาชั้นมาแบบนี้ชั้นก็จะยอม”

   “รักตัวเองบ้างก็ดีนะแก  โลกนี้ใช่มีแต่ตัวเล็กของแกที่รักแก  คนอื่น ๆ  เขาก็รักแก  มันอยู่ที่ว่าแกจะมองเห็นหนือเปล่า”

   “ช่างเหอะแก  บางทีห่างกันวันนี้  อาจจะทำให้ลืมกันเร็วขึ้น  ชั้นหายไปมันอาจจะเจ็บปวด  มันอาจจะโกรธชั้นแทบตาย  แต่ชั้นเจ็บปวดยิ่งกว่ามันร้อยเท่าพันเท่า    เอ้าชน”  พี่โน้ต  คล้ายละทิ้งทุกอย่าง  ก่อนยกแก้วมาค้างเอาไว้กลางอากาศ

   “แกลองคิดดูอีกทีไหม”

   “มันไม่มีเวลาแล้วว่ะแจง  เวลาสำหรับชั้นมันหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปจนวันข้างหน้ามันไม่มีเวลาที่ชั้นมีความสุขอีกแล้ว  มันไม่มีแล้วจริง ๆ  ว่ะ”  พี่โน้ตปล่อยน้ำตาไหลเป็นทาง




   ผมหลับตานิ่ง  ฟังเรื่องราวที่มิลล์เล่ามา  มิน่าวันนั้นพี่โน้ตถึงได้เงียบตลอดทั้งวัน  ได้แต่นอนกอดผมเอาไว้นิ่ง ๆ    ผมแปลกใจอยากจะถาม  แต่ไม่กล้าถาม  แค่เหตุผลข้อเดียวนี่นะ  ที่จะทำให้เราสองคนไม่อยากเจอกันเลยตลอดชีวิต

   “อิจฉาว่ะ”

   “ใช่  อิพี่แจงมันบ้า  ไปหลงรักคนที่ไม่รักตัวเองเลย  พูดแล้งยังเคือง  หากคืนนั้น  ชั้นไม่ไปทำงาน  อิพี่ชั้นมันจะปล้ำพี่โน้ตได้หรือเปล่าชั้นยังอยากรู้นะแก  พูดแล้วชั้นยังอิจฉาตัวเล็กของพี่โน้ตเลย  ได้ทั้งตัวทั้งหัวใจ  แม้กระทั่งทุกวันนี้”

   “อูยอยากเจอพี่โน้ตของแกจริง ๆ เลย  แต่พี่แกนี่นะไปปล้ำผู้ชาย”  ผมแววตาเป็นประกาย

   “จริง ๆ  มันบอกชั้นเอง  มันขอมีไรกับพี่โน้ตเองเลย  ไอ้พี่โน้ตนะแดกยังกะน้ำเปล่า  รู้ตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้"

"แม๊น  แมน  อยากเจอจริง ๆ ผู้ชายแบบนี้"

"เป็นไรไปย่ะ  ต่อมตุ๊ดสาว ๆ  เพิ่งมาออกฤทธิ์หรือไง  อยู่มาร้อยวันพันชาติไม่เคยมีอาการกับใคร  มาเจอหลานชายชั้นห้าวันระริกระรี้เชียว”

   “ว่าได้หรือแก  ลูกชายว่าน่ารักแล้ว  พอมาฟังประวัติพ่อ  โอ้ยชายในฝัน  อยากรักคน ๆ  นี้ไปจนตายเลยล่ะแก”

   ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ 

   “ฝันไปเหอะย่ะ  ยังไงชาตินี้คนอย่างไอ้พี่โน้ตรักใครไม่ได้หรอก  หัวใจแกอยู่กับแกเสียที่ไหน  โน่น  อยู่ที่คุณตัวเล็กโน่น”

   ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม . . .

   . . . มันคือความสุข  ความรู้สึกที่อิ่มเอมที่สุดในหัวใจ  ผมคงไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้  ความรักที่ผมเคลือบแคลงมาตลอดสิบแปดปีเต็ม  มันมลายหายไปหมด  ต่อจากนี้ผมคงไม่ต้องพะวงว่า . . . ทำไม

   . . .ทำไม

   เพราะตอนนี้  เวลานี้  ผมรู้แล้ว  ผมรับทราบแล้วซึ่งทุก ๆ  สิ่งทุก ๆ  อย่าง  ผมควรจะขอบคุณกับการตัดสินใจในวันนั้นของพี่โน้ต  ที่ทำให้ผมมีวันนี้

   ความรัก . . .

   . . . มีแบบตายตัวเสียที่ไหนกัน




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2009 19:09:50 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #141 เมื่อ28-03-2009 18:08:02 »

 :z13: :z13: :z13:

จิ้มๆๆๆๆ

 ความรัก . . .

   . . . มีแบบตายตัวเสียที่ไหนกัน

 ชอบประโยคนี้จัง

nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #142 เมื่อ28-03-2009 19:07:48 »

จะมัวรอช้าอยู่ใยรีบไปหาพี่โน้ตได้แล้ว ^^

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #143 เมื่อ28-03-2009 19:18:25 »

น่าอิจฉาตัวเล็ก ที่พี่โน๊ตรักได้มากกว่าที่จะยอมเห็นแก่ตัวรั้งเอาไว้อีก
แต่รักแบบนี้มันก็เจ็บปวด ทรมานนะ
 
ความรัก . . .

   . . . มีแบบตายตัวเสียที่ไหนกัน


มันออกแบบไม่ได้ ไม่มีรูปแบบตายตัว เฮ้อ แต่ถ้าตัวเล็กไม่รู้เรื่องนี้เลยว่าพี่โน๊ต
ทำอะไรให้ตัวเองบ้างเนี่ย โอห์มก็คงต้องอยู่อย่างเหงา ทรมานและเจ็บต่อไปสินะเพราะยังไม่รู้
คำตอบของคำถามที่ตัวเองยังสงสัย แต่พอรู้แบบนี้แล้ว ถ้าได้รักพี่โน๊ตแบบที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน
ก็คงเป็นคำตอบของโอห์มเหมือนกันนะ ว่าต่อไปนี้คงไม่เสียใจเหมือนที่แล้วๆมาอีกแล้ว
โอห์มรักคนไม่ผิดจริงๆ  ซึ้งจัง
อืมแต่ว่า แจงนี่แรงน่าดู เหอะๆ

ขอบคุณคะคุณราชบุตร  o13 เพลงเพราะจริงๆอ่ะ ซึ้งมากๆด้วย

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #144 เมื่อ28-03-2009 20:01:47 »

ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีนะที่ต้องแยกกันเพราะแบบนี้
แต่มันยังไม่สายไม่ใช่เหรอที่จะตอบแทนการเสียสละของพี่โน้ต
ไปชดเชยเวลาที่เสียไปตอนนั้น
กลับไปหาพี่โน้ตซิตัวเล็ก :impress2:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #145 เมื่อ28-03-2009 20:23:39 »

 :กอด1:
ซึ้งกับความรักของเค้าจริงๆ นะ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #146 เมื่อ28-03-2009 22:33:32 »

yes.......

รอมานานเลย กับเรื่องใหม่ของคุณราชบุตร

ว่าแต่ อยากได้รวมเล่ม รักฤาผูกพันจัง

ต้องทำไงหว่า

ไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ จะรออ่านต่อไป......

plus 1

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #147 เมื่อ28-03-2009 23:14:50 »

เฮ้อ.....อ่านแล้ว :-[
ต้องรีบโทรหาแฟน.....คิดถึง
:impress2:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #148 เมื่อ29-03-2009 01:14:28 »

ซึ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


..................................

ภาวนาอย่าให้เศร้าเลยน่ะ.................


  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:



พีต้น  เเล้วมาต่อเร้วๆ  น่ะ

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #149 เมื่อ29-03-2009 02:10:45 »



^

^

^

พอใจยัง  คนข้างบน


***************


เมาแรกในรอบปี . . . .

แถมใจกล้าหน้าด้าน  ขอกอดคนที่อยากกอดอีก

ให้กอดด้วย . .. . โอ้  พระเจ้า

แค่กอดกันก็พอ   แค่นี้ที่ต้องการ  คืนนนี้หลับฝันดีแหง  แมร่ง  เรื่องนี้ไม่เศร้าแร่ะ  สัญญา


อิอิอิ  กรูเขียนหวาน ๆ  เป็นแร่ะ  สงสัยกำลังมีความรัก . . .

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2009 20:06:29 โดย ราชบุตร »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด