มาต่อ สั้นๆ
งานเยอะ ต้องดูเด็กรับน้อง
จะต้องไปฝึกงานอีก เซงงงงงง
ตอนที่ 38 ที่พึ่ง
ผมออกรถมาตามไอ้ธัณมัน แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววเลย โทรหาก็ไม่รับ สุดท้ายก็นั่นแหละ ต้องกลับหอไปอย่างช่วยไม่ได้
พอกลับไป ก็ยังคงเห็นสาวเจ้าอยู่ในห้องเหมือนเดิม
"เพื่อนเหรอคนเมื่อกี้"
"ไม่ใช่เรื่องของคุณ ออกไปได้แล้ว" ผมพูดเสียงเย็น
"ยัง จนกว่าเราจะคุยธุระให้เสร็จก่อน"
"เหอะๆ ผมหูฝาดรึเปล่า ผมได้ยินว่า"เรา" แต่ขอโทษ ผมไม่ได้มีธุระอะไรกับคุณซักหน่อย แม้แต่ชื่อ ผมยังไม่รู้จักเลย"
"อ่อ เดี๋ยวคุณต้องรู้แน่ ชั้นชื่อฮันนา เครก แต่ชื่อเก่าชั้น ฮันนา ลอว์เรน อินทกุล"
ผมตกใจกับนามสกุลเก่าของเธอ มันของไอ้...หัวขี้นี่หว่าถ้าจำไม่ผิด
"เธอเป็นน้องไอ้หัวขี้นั่นเรอะ มิน่าแม่งนิสัย"
"นี่ อย่ามาเรียกพี่ชายชั้นอย่างงั้นนะ ดีแค่ไหนที่ชั้นไม่ฟ้องคุณโทษฐานบุกรุกและทำลายทรัพย์สินในบ้านน่ะ"
"เห้ย ผมยอมรับว่าไปบ้านมันจริง แต่ผมไม่ได้พังของอะไรในบ้านซักหน่อยนี่หว่า คุณมั่วแล้ว"
"ไม่รู้ แต่ยังไงคุณก็ผิดอยู่ดี กล้าดียังไงมาเสียมารยาทในบ้านคนอื่นแบบนั้น แถมยังทำร้ายเพื่อนของพี่ชายชั้นอีก"
"เพื่อนพีชายเธอ? หมายถึงไอ้ธัณอะดิ มันทะเลาะกับผม เลยหนีไปบ้านไอ้หัวขี้นั้น"
"ทำไมคุณมันปากเสียอย่างงี้ได้เนี่ยหา เรียกคนอื่นว่าหัวขี้เนี่ย"
"อ๋อ ทำไม เข้าหูคุณหนูอย่างเธอไม่ได้ละสิ หูอันแสนจะบอบบางของคุณหนูจอมเสือกเนี่ย"
ยัยคุณหนูปากมากถึงกับชะงักด้วยความโกรธ ใบหน้าเธอแดงก่ำ
"กล้าดียังไง..."
"เธอนั่นแหละ กล้าดียังไงทำทุกอย่างพังหมด รู้ตัวมั้ยเนี่ยหา"
เธอชี้หน้าผมอย่างโกรธเคือง
"เรื่องมันกำลังจะจบด้วยดีแท้ๆ กะว่าวันนี้จะพูดเคลียร์กันให้รู้เรื่อง แต่เธอก็มาทำให้ทุกอย่างล้มไม่เป็นท่าเลย แล้วเนี่ยตอนนี้เพื่อนผมมัน
หายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าจะไปตายห่าที่ไหนรึเปล่า มันยิ่งไม่แข็งแรงอยู่ด้วย"
เธอยังคงทำหน้าโกรธเคืองผม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
"ถ้าจะให้ดี เชิญสาวเท้าใส่ส้นสูงแหลมๆของเธอออกไปจากหอผมจะดีกว่า ก่อนที่ผมจะมีน้ำโห"
เธอเม้มปาก แล้วก็เดินไปที่ประตูหน้าหอ
"จำไว้เลยนะ ไม่จบแค่นี้หรอก คอยดู"
แล้วเธอก็กระแทกประตูออกไป
ผมล้มตัวลงบนโซฟา
แม่งยุ่งเหมือนกันหมดทั้งพี่ทั้งน้อง ให้ตายดิ
พังหมดแล้ว แล้วจะทำยังไงดีเนี่ย ไอ้ธัณ มึงหายไปไหนวะ
ผมหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์มนโทรหา แต่มันก็ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อยู่ดี
รับหน่อยได้มั้ย มึงไม่ต้องหายโกรธกูทันทีก็ได้
แต่อย่างน้อยก็ขอให้กูรู้หน่อยว่าไม่เป็นไร
ผมกดโทรออกอีกหลายครั้ง แต่มันก็ไม่รับสาย
จนครั้งสุดท้าย
"ขอโทษค่ะ หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง..."
ผมกดวาง แล้วขว้างมือถือลงกับพื้นห้อง มันแตกพังเป็นชิ้นกระจายบนพื้น
ผมกุมหัวอย่างปลงตก
ธัณ มึงจะหนีกูอีกนานมั้ยเนี่ย
แล้วผมก็ลงไปที่ะออกรถไปจากหอ...
"เป็นเรื่องอีกแล้วสิเนี่ย..."
เกอแลงพูดหลังจากที่ผมถูลู่ถูกังพาไอธัณมันมาที่บ้าน
"แล้วอย่างงี้จะทำยังไงล่ะ เราว่าก็น่าจะไปคุยกันดีๆก่อนนะ อาจจะเป็นแค่การเข้าใจผิดก็ได้"
"ไม่หรอก ตอนนั้นมันก็ชัดอยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร"
ผมส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย
"มึงก็รีบตัดสินไป ถึงไอพามันจะคาสโนว่าแต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะมั่วอะไรขนาดนั้น..."
"มึงไม่รู้หรอกแม่ง"
ผมมองหน้าไอธัณ ตอนนี้มันดื้อยิ่งกว่าเด็กประถมเสียอีก
ผมหันไปมองหน้าเกอแลง มันก็ทำหน้าเหนื่อยใจเหมือนกัน สงสารก็สงสารนะ แต่เหมือนมันจะด่วนสรุปไปหน่อยอะ
"เออแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเค้าหน้าตาเป็นยังไงวะ"
ผมถาม
"..."ไอธัณไม่ตอบ มัวแต่นั่งขมวดคิ้ว น้ำตาคลอเบ้าหันออกไปนอนหน้าต่าง
"เหย กูถามอะมึงตอบกุ..." แต่อยู่ดีๆก็มีมือมาปิดปากผมเบาๆ ผมหันไปมองก็เห็นสายตาปรามๆจากไอเกอแลงมัน ผมจึงต้องเงียบลง
ไอธัณมันก็ยังจิตตกอยู่อย่างงั้น ผมมองหน้าเกอแลงเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ มันก็มองทำหน้าลำบากใจ แล้วก็
"ธัณครับ เออ ลองตอบวิทเขาหน่อยน่ะ เผื่อว่าจะช่ววยอะไรได้บ้าง"
ไอธัณมันก็ยังเงียบ ผมรู้สึกขึ้นนิดๆ กำลังจะเดินไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง แต่ก็โดนดึงแขนออกห้องไปก่อน
"ปล่อยธัณเขาอยู่เงียบๆไปก่อน รอให้ใจเย็นแล้วเราค่อยไปคุย"
ผมมองหน้าเกอแลง มันยิ้มให้เป็นเชิงปลอบใจ
แต่ผมก็ยังเครียดกับไอ้ธัณมันอยู่ดีแหละ
ผมตกลงกับเกอแลงว่าจะไม่บอกพาเรื่องที่ธัณมันอยู่ที่นี่ เพราะว่าเดี๋ยวเรื่องมันจะบานปลาย
เราว่าจะหาทางแก้กันเอง เพราะไอ้พามันเป็นคนเบรกแตกง่ายๆอยู่ ยิ่งถ้ารู้ว่าอยู่ที่นี่เดี๋ยวจะยิ่งไปกันใหญ่
แต่ผมอยากรู้จริงๆ ว่าไอคนที่ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้มันใคร
"เกอแลง พอจะคิดออกมั้ยว่าไอพามันอยู่กับใครอะ"ผมเงยหน้าไปถามมัน
"ไม่รู้สิครับ เราอยู่กับพาเขาน้อยกว่าวิทอีกนะ"
"เออจริง ลืมไป"ผมพูดแล้วยิ้มเจื่อนๆ
"ก้อคงต้องรอไปแหละ แล้วนี่ กินอะไรมารึยัง"
"เจอไอธัณนั่งเน่าอยู่ข้างสะพานก็หมดอารมณ์จะหาข้าวกินละ"ผมตอบเซงๆ
"วิทนี่เป็นห่วงเพื่อนจังนะ"มันพูดแล้วยิ้ม
"ไมหรอ?"
"ป่าว น่ารักดี"
"เออนะ"ผมหัวเราะแห้งๆ
ไอเกอแลงบางทีก็พูดแปลกๆแฮะ
"เราก็ยังไม่ได้กิน เดวหาอะไรให้กินนะ ธัณก็คงยังไม่ได้กินเหมือนกัน"
"ให้ช่วยปะ"ผมถาม
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวทำเอง"
ผมก็นั่งที่โซฟา มันเดินเข้าครัว สักพักผมก็เดินไปดูไอธัณมัน ก็ยังนั่งแกร่วเหมือนเดิม
ผมเลยเดินไปหา
"เป็นไงมั่งมึง"
ไอธัณหันมามองผม ตามันแดงมาก เพราะร้องไห้นาน
"กูเหนื่อยว่ะวิท กูเหนื่อยกับตัวเองมากเลยตอนนี้"มันพูดเสียงสั่น
"มึงก็อย่าไปคิดมาก บางทีมันอาจจะแค่เรื่องเข้าใจผิด"
"เข้าใจอะไรผิดล่ะ มึง ไอพาอยู่ในห้อง มีสาวเกาะอยู่ มันจะเข้าใจอะไรผิดล่ะ"
ไอธัณพูดแค่นเสียง ผมรู้ว่าไอนี่มันคิดมากอยู่แล้ว
แต่ถ้าจากรูปการณ์เป็นผมก็คงทำอะไรไม่ถูก
ผมจับหัวมันให้เอนมาซบผม แล้วลูบหัวเบาๆ
ผมทำแบบนี้กับทุกคนเวลาอยากปลอบใคร
ไอธัณก็สะอื้นเป็นพักๆ
"กูเป็นเกย์จริงๆแล้วสิเนี่ย" มันพยายามพูดตลก
"ไม่รู้ดิ"ผมตอบไป
"มึง กูถามอะไรหน่อย"
ผมมองหน้ามันเป็นเชิงอนุญาติ
"เวลามึงเห็นคนๆนึง มีคนที่เขารักแล้วเอาใจใส่มากกว่ามึง แล้วมึงรู้สึกเจ็บปวด แปลว่ามึงรักเขารึเปล่า?"
"กูไม่รู้ว่ะ"ผมตอบไป
"เพราะกูไม่เคยเป็น"
มันเงยหน้ามามองผม แล้วยิ้มแห้งๆ
"เออ กูก็เพิ่งเคยเป็น จริงจังครั้งนี้ครั้งแรก..."
มันว่า ผมรู้สึกเหมือนหยดน้ำอุ่นๆหยดใส่ขาผม
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ขอให้สิ่งที่ไอธัณเห็น มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดเหอะ
กูไม่อยากเห็นเพื่อนกันต้องมาเข้าใจผิดแล้วเจ็บด้วยกันทั้งคู่แบบนี้
กูเอือม และเบื่อการเข้าใจผิดมามากแล้ว มันไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นหรอก
แค่กูคนเดียวก็พอแล้ว ขออย่าให้เกิดกับพวกมึงเลย...
แต่ถ้ามึงจงใจ มึงก็โหดร้ายที่สุดแล้ว ไอพา...
to be continue
ใช่แล้ว มึงมันโหดร้ายไอพา
มึงทำให้วันแรกของการฝึกงานกูสาย
กรูเซง

ชดใช้ซะดีๆ
