ตอนที่34 เจ็บตับ
"เชี่ยเกิดไรขึ้นกะมึงเนี่ย?"ไอ้วิทพูดขึ้น
หลังจากที่เห็นผมเดินโขยกเขยกอีกครั้ง
"กูตกบันได" ผมแถ
"บันได? เดี๋ยวนี้แม่งมึงเดินขึ้นบันไดด้วยหรอวะ เห็นทุกทีแม่งขึ้นลิฟ"
"เรื่องของกู"
แล้วผมสองคนก็เดินมาเจอไอ้พากับไอ้อู้ดตรงทางเดิน...
ผมมองหน้าไอ้พา แล้วก็เบือนหน้าหลบมันเดินลิ่วๆมา ไอ้วิทก็เรียกชื่อผมแล้ววิ่งตามมา
ผมไม่ได้โกรธมันแล้วไอ้พาอ่ะ ผมหายโกรธตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
แต่ตอนนี้โกรธตัวเอง ที่ทำให้เกิดเหตุทุเรศอาเพศกับตัวเองอีกแล้ว
โอ๊ย ทำไมกูซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้วะ แม่งงง
ผมเหลือบหันไปมอง เห็นไอ้พามันทำหน้าเศร้าใส่
กูไม่ได้โกรธเมิ๊งงงงงง แต่กูไม่กล้าสู้หน้าเมิงตะหากกกก
แต่ก็เคืองนิดๆนะ แม่งยาพรรค์นั้นเอาไปเก็บที่อื่นไม่ได้หรอวะ...
"ไอ้พา มึงจะมองไอ้ธัณมันอีกนานมั้ยวะ ช่วงนี้มึงสองตัวเป็นไรเนี่ย กูโคดงงเลยห่า"ไอ้อู้ดบ่น
ผมไม่ได้สนใจมัน แต่มองคนที่เดินลิ่วๆไปแล้วโดยไม่สนใจแม้แต่จะทักผม
ผมถอนหายใจเบาๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าเช้ามาผลจะเป็นไง
แต่ก็ยังทำใจรับไม่ค่อยได้อยู่ดี
สุดท้ายก็ไม่ได้ตามไอ้ธัณมันไป ก็เดินไปอีกทางแทน
"ไอ้ธัณ มึงจะไปไล่ควายที่ไหนวะเนี่ย รอกูด้วยสิวะ"
ผมเดินมาจนหยุด แล้วก็หันไปมองหน้าไอ้วิท กำลังจะพูดไอ้วิทก็ทำหน้าเหวอ
"อะไร?"
"มึง หน้ามึงแดงมากเลยว่ะ"
"หา?"
ไอ้วิทเดินมาแล้วจับหน้าผาก
"ไอ้เหี้ย มึงตัวร้อนมากเลย ไปห้องพยาบาลปะ"
"หา ไม่ต้องกูไม่ได้เป็นไร"
แม้จริงๆจะปวดหัวตุบๆก็ตามทีเหอะ
"เดวกูลาจานให้ก็ได้ เขารู้แหละน่า มาไปกันเหอะ"มันว่าแล้วจับข้อมือผมลากไป
ผมเข้าไปในห้องเลคเชอร์มองหาไอ้ธัณ ที่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่อยากเจอหน้า
แต่ผมก็อดห่วงไม่ได้ว่ามันจะเป็นไงบ้าง
แต่ก็ไม่มีวี่แววของมันในห้องเลย ตอนนี้ก็เริ่มเรียนไปราว30นาทีแล้ว มันไม่เคยพลาดเรียนแบบนี้(ยกเว้นมันจะมาเรียนไม่ไหวด้วยโรคประจำตัวมัน)
ผมลองโทรเข้ามือถือมัน มันก็ไม่รับ...นั่นดิก็มันไม่อยากเจอหน้าผมอยู่นี่นา จะไปรับได้ยังไงล่ะ
แล้วไอ้วิทก็เดินเข้ามาในห้อง มันหอบนิดๆ สงสัยจะวิ่งมาเข้าห้องเรียนล่ะมั้ง...ผมมองต่อหลังมันว่ามีใครตามมามั้ย แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย...
แล้วไอ้ธัณอยู่ไหน?
ไอ้วิทมันมองเห็นผม เลยเดินตรงมานั่งกับผม แล้วหยิบสมุดจดออกมา
"ไอธัณอยู่ไหนวะ"ผมถามมัน
"กลับหอไปแล้ว"
"อ่าว มันเป็นไรวะกลับหอ"
"กูไม่รู้เหมือนกัน มันตัวร้อนๆ สงสัยมันเป็นไข้มั้ง?" มันตอบไป
"เดี๋ยวตอนเที่ยงกูว่าจะกลับไปดูมันอีกที"
ผมเงียบ ไอ้วิทหันมามองหน้าผม
"มึงเป็นไรวะ?"
"หา? ป่าว ไม่มีไร" ผมว่าแล้วก็หันไปมองอาจารย์ที่กำลังเลคเชอร์ต่อ...
ก็ไม่ได้อะไรหรอกแค่รู้สึกแปลกๆ เพราะทุกทีผมจะเป็นคนที่รู้ก่อนเสมอเวลาไอ้ธัณมันเป็นอะไร
แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ผมจะโผล่หน้าไปหามันก็คงไม่ดีมั้ง?
ก็ทำไปตั้งขนาดนั้น มันคงไม่อยากจะเห็นหน้าผมอีกแล้วแหละ...
แย่จริงๆ เพราะความไม่ยับยั้งชั่งใจแท้ๆ แต่ตอนนั้นจะให้แก้ยังไงล่ะ ปล่อยให้มันอยู่ในห้องน้ำนิ่งๆไปก็ดีแล้ว ไม่น่าเรียกมันออกมาเลย...
ผมเอามือกุมหัว รู้สึกปวดขมับยังไงชอบกล
ไอ้วิทมันก็เหลือบมามองผมเป็นระยะๆ
หลายๆครั้งเข้าจนกระทั่ง
"เห้ย ไอ้พา มึงเป็นเหี้ยไรเนี่ย"มันว่าแล้วเอามือมาตบหลังผม ผมหันไปมองหน้ามัน มันมองผมอย่างเป็นห่วงเป็นใย คงจะงงไม่น้อยสินะที่อยู่ดีๆเพื่อนมึงสองคนกลายเป็นเหี้ยอะไรไม่รู้พร้อมๆกันเนี่ย
"กูปวดหัวนิดหน่อยแม่งเมื่อวานไม่ได้นอน" ผมตอบไปตามตรง แต่เลือกที่จะไม่พูดถึงสาเหตุ
"อะไรของมึงสองตัวเนี่ย ไอ้ธัณก็ไม่สบาย มึงก็ปวดหัว แม่งไปทำอะไรกันมาวะ วิ่งแจกของตากน้ำข้างกลางคืนกันมารึไง"มันพูดติดตลก แต่แววตามันไม่ตลกด้วย
"ว่าไปไอห่า กูยังไม่อยากโดนพักการเรียนหรอก"
"กูก็ไม่อยากเหมือนกัน...เห้ย กูจริงจังนะ แม่งมึงสองตัวเป็นเหี้ยไรกัน กูไม่ชอบเลยว่ะมึงเป็นงี้อะ"
"มึงหมายความว่าไง"
"มึง คิดว่ากูดูไม่ออกหรอ ว่ามึงสองตัวมีอะไรแปลกๆอ่ะ ถึงกูจะยังไม่รู้แน่ว่ามันคืออะไรแต่ว่า กูไม่อยากให้มึงสองตัวผิดกันนะเว้ย"
ผมเงียบ มันหมายความอย่างที่พูด หรือพูดเพื่อให้ผมคายความจริงออกมานะ
"เพื่อนกันทั้งคู่แหละ"
มันว่าแล้วหันกลับไปเรียนต่อ
ผมหันกลับไปอีกรอบ รู้สึกว่าอยากจะกลับหอมากกว่านั่งในห้องเลคเชอร์ซะแล้ว...
ผมนอนซมอยู่ในห้องนอน ที่ตอนนี้อย่างน้อยๆก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้ว หลังผ่านศึกอะไรบางอย่างมาเมื่อคืน
ดูเหมือนไข้จะขึ้นสูงมากพอสมควร ผมขยับตัวไม่ค่อยได้ ตาก็พร่ามองอะไรไม่ค่อยชัด ที่สำคัญรู้สึกหนาวมาก
เหมือนกับเมื่อคืนโดนดูดความร้อนออกจากตัวไปหมดยังไงอย่างงั้นแหละ
ผมพลิกตัวอีกรอบ ผ้านวมไม่ได้ช่วยให้อุ่นขึ้นเท่าไหร่เลยในความรู้สึกผมตอนนี้
ผมมองไปที่นาฬิกา เดี๋ยวไอ้วิทมันคงจะมาหาผมแล้ว ตามที่มันบอกไว้
ผมหลับตาลงก่อนจะม่อยหลับไปอีกรอบโดยไม่รู้ตัว
ผมเปิดประตูหอพัก แล้วให้ไอ้วิทมันเดินเข้าไปก่อน จึงปิดประตูตาม
มันก็เดินไปวางถุงข้าวในห้องครัว แล้วก็เดินไปดูไอ้ธัณในห้อง ผมเดินตามไป แต่มันก็ออกมาก่อน
"เชี่ยธัณมันยังหลับอยู่เลย สงสัยกูจะได้อยู่เฝ้าไข้ละ"
"มึงไปเหอะ เดวกูอยู่เอง"
"ได้ไงวะไอบ้า มึงขาดเรียนมารอบที่ล้านเก้าละ เดวก็ไม่ต้องสอบพอดี มึงแหละต้องไปเรียน กลับไปเหอะ ทางนี้เดวกูจัดการเอง"
ผมจะเถียง แต่มันทำตาดุใส่ บวกกับที่มันพูดก็เรื่องจริงทั้งนั้น ช่วยไม่ได้เลยต้องกลับไปเรียนต่อ
ผมตื่นมาเห็นภาพเบลอๆของใครบางคน
"พา?"
มันไม่ตอบ
"ไอ้แมวห่า นั่นมึงหรอ" ผมงัวเงีย แล้วหลับตาลงต่อ
"แมวเห้อะไร กูเองวิท"
ผมลืมตาดูอีกครั้ง พอตาปรับกับแสงได้แล้วก็พบว่าใบหน้าที่ควรจะคมเข้ม กลับจิ้มลิ้มแทน
"กูเบลอว่ะ มึงเล่นทำผมซะทรงเดียวกันไอห่า"
"เบลอถึงขั้นเพ้อหาที่รักเลยเรอะ"ไอ้วิทแซว
"ห่า พ่อมึงดิ"
มันหัวเราะเบาๆ
"หิวแล้วใช่ปะ มึงยังไม่ได้แดกไรตั้งกะเที่ยงละ ตอนนี้แม่งจะเย็นแล้ว"
มันว่าแล้วก็เดินออกไปนอกห้อง
ผมนั่งพิงหัวเตียง ตัวยังร้อนๆอยู่ แต่ก็ดีกว่าตอนที่กลับหอมาแรกๆ
ไอวิทเดินเข้ามาแล้วก็ตรงมาที่เตียงพร้อมกับถาดข้าว
ผมทำหน้างงๆ
"หอกูไม่มีถาดข้าวนี่?"
"นั่นแหละกูเลยไปซื้อมาไง"ไอ้วิทตอบง่ายๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเตียง
มันวางถาดตรงที่ตักผม
"กูไม่อยากกิน"
"ให้กูป้อนแมะ"มันว่า แล้วทำหน้าจิกใส่
ผมเลยต้องกิน แม่ง มึงนี่เหมือนแม่กูชิบหาย รู้ปะ
"มึง กูถามไรหน่อยดิ"มันพูดขึ้น
"อะไออะ"ผมคาบช้อนไว้ในปากแล้วถามมัน
"มึงกะไอพาเป็นแควนกันแล้วหรอวะ"
ช้อนตกจากปากผม...
"เอาส้นตีนคิดปะเนี่ย"
"เอาสมองกูเนี่ยแหละคิด ว่าไง คำตอบ?"
ไอ้วิทยังจี้ต่อ
ผมเงียบไม่ยอมตอบอะไร แต่ก้มลงกินข้าวต่อ
ไอ้วิทมันก็มองผม แล้วก็พูดยิ้มๆว่า
"เสร็จกันไปแล้วสินะ"
ผมสะอึก เกือบพ่นข้าวออกมาเลยทีเดียว
ผมไอค่อกแค่กก่อนจะหันไปมองหน้ามัน
แววตาไอ้วิทฉายประกายประหลาดๆ มันมองผมยิ้มๆ แล้วเลิกคิ้วซ้ายขึ้น
หรือว่ามันจะรู้จริงๆวะ?....
ชิหายแล่ว
"บ้าเหรอมึง จินตนาการบรรเจิดสุดๆ"ผมตอบไม่สบตามันแล้วหัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อน แต่มันก็ยังมองผมไม่เลิก...
"เอ่อ...แหะๆ ทำไมวะมึง"ผมตอบมันเสียงสั่นนิดๆ ผมยังรู้สึกเลย แล้วยิ่งมาเจอสายตากรีดแทงของไอ้วิทมันเข้าไปอีก...
พระจ้าววววววววว
"ป่าว กูถามเล่นๆ" ไอ้วิทพูดแล้วหัวเราะ
ผมเห็นมันหัวเราะ เลยถอนหายใจอย่างโล่งอก
"มึงถอนหายใจแปลว่าจิงดิ"
"เอ้ย ป่าว กูเหนื่อยใจตะหากว่ามึงคิดได้ไง"
"อ่อง้านหรอ"
จี้ กู จัง ไอ้ ห่าาาาาาา
ผมเลยตัดปัญหาด้วยการส่งถาดข้าวให้มันแล้วก็พลิกตัวนอนต่อเลย
"เอย ไอธัณ ยายังไม่ได้แดก"
ผมลุกขึ้นมาอีกรอบ คว้ายาในมือกับแก้วน้ำ แล้วก็แดกลงไปอย่างรวดเร็ว
แล้วก็คลุมโปงไม่รับรู้อะไรอีก
ซวยแล้ว มีคนจี้โดนจุดซะแล้วสิ...
to be continue
ไม่ได้ปลุกพา เพราะลืม...
