อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ  (อ่าน 17102 ครั้ง)

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เมธานินท์ ผมกับตั้นจองตั๋วเครื่องบินแล้วว่าจะบินไปวันที่ 20 ธันวาคมและจะไปอยู่ที่นั่นจนถึงปีใหม่เลยแล้วค่อยกลับมาฉลองปีใหม่ที่บ้านไร่ของพี่ตั้นกัน ผมตื่นมาก็ทำอาหารเช้าไว้ให้พี่ตั้น วันนี้พี่ตั้นมีไปลงโปรแกรมให้กับสถานเสริมความงามที่หนึ่ง แถมวันนี้มีหลายที่ซะด้วย พี่ตั้นเลยต้องไปเอง ส่วนผมน้องสาวจะมาหาผม ผมจะพาน้องสาวไปดูบ้านเช่าหลังใหม่ เพื่อว่าไอ้รงค์ออกมาก็ให้มันอยู่หลังนั้นไปและให้มันเลิกยุ่งกับแม่ปิ่นของผม พี่ตั้นบอกว่าจะจ่ายค่าเช่าให้ และผมก็รอให้พ่อของพี่ตั้นดำเนินการเรื่องบ้านให้ผมอยู่ด้วย ผมเองก็เกรงใจเพราะว่าเงินที่ต้องซื้อบ้านผมคืนมันเยอะมาก



“หมับ” ผมสะดุ้งสุดตัวทันที ขณะที่ผมกำลังรดน้ำต้นแคคตัสให้พี่ตั้นอยู่ที่ระเบียง



“พี่ตั้นนี่มันที่ตรงระเบียงและมันก็โล่งขนาดนี้ อายสายตาคนอื่นบ้างเถอะ” ผมพูดและพยายามแกะมือพี่ตั้นออก



“อายทำไมมีเมียน่ารักก็ต้องอยากกอดให้โลกรู้พี่รักเมย์มากแค่ไหน ฟ้อด!!!” พี่ตั้นพูด ไม่พูดเปล่าหอมแก้มผมเสียงดังมาก และระหว่างนั้นประห้องพักข้างๆ ถูกเลื่อนเปิด คนที่เปิดออกมาก็คือเพื่อนบ้านของผม เขาออกมาเห็นพี่ตั้นที่กอดผมอยู่ก็ตกใจ ยกมือทักทายผมแต่ไม่กล้ายกมือทักทายพี่ตั้น ที่ยืนกอดผมทำหน้าโหด เป็นผู้ปกครองมากกว่าจะเป็นแฟนซะอีก ผมหันมาชำเลืองตามอง



“พี่ตั้นไปอาบน้ำจะได้ไปทำงาน “ผมรีบปลดมือที่เหมือนปลาหมึกของพี่ตั้นออกและดันพี่ตั้นให้เข้าไปด้านใน เขาจะได้ไปอาบน้ำ ผมเองก็จะได้เตรียมจัดโต๊ะเสิร์ฟอาหารเช้าวันนี้ผมทำข้าวโอ๊ตต้มหมูสับ เพราะผมทานอาหารทะเลไม่ได้ เลยต้องกินแบบเน้นหมู ไก่ แต่เนื้อไม่ค่อยชอบทานอาจจะเป็นเพราะว่าแม่บุญธรรมผมไม่ทานเนื้อด้วย



“พี่ตั้น ทำไมช่วงนี้เมย์ไม่เห็นพี่ภาคินเข้ามาเลยอ่ะครับ” ผมถามพี่ตั้น



“พี่ภาคินเขาไม่ต้องเข้าแล้ว พี่เขาจะถอนตัวแล้วอ่ะเมย์ เพราะว่า” ผมหันไปมอง เพราะผมอีกหรือเปล่า



“พี่เขาไปเป็นอาซ้อใหญ่ให้พี่ปฐวีย์ไปแล้วเมย์” พี่ตั้นพูด ผมก็ลืมไป



“แล้วนี่เขาก็ไปพากันไปเที่ยวยุโรปด้วยกัน “พี่ตั้นพูด ผมพยักหน้า



“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเราก็ตามไปเมย์ “พี่ตั้นพูด ผมหันไปหยิบวิตามินรวมและใส่ถ้วนมาให้พี่ตั้น พี่ตั้นเงยหน้ามองผม



“พี่ไม่ได้ป่วยอ่ะเมย์” พี่ตั้นพูด



“ผมไม่ได้ว่าพี่ป่วยแต่นี้มันคือวิตามินรวม ผมเห็นพี่พักผ่อนน้อยช่วงนื้ ทานเอาไว้หน่อยน่ะครับ “ผมพูดพี่ตั้นยิ้มก่อนจะรับไปและทานทันที



“เมย์ตกลงงานแต่งเราเอาไงดี “พี่ตั้น หันมาถามผม



“ผมว่าเอาไว้เรามาคุยกันตอนไปเที่ยวปีใหม่ เพราะว่าเราจะไปบ้านพี่กันและผมก็คิดว่าเราควรไปคุยพร้อมๆ กันนะครับ” ผมพูด พี่ตั้นทำท่าคิด



“ก็ได้ครับ” พี่ตั้นพูด ผมก็หันไปเก็บล้างทุกอย่างพี่ตั้นก็ทำงานของเขาในไอแพตเหมือนปกติ ดูซิ บางที่ก็ต้องทานไปทำงานไปแล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมเป็นห่วงได้ยังไง



“วันนี้พี่ไปที่ไหนน่ะครับพี่ตั้น” ผมถามพี่ตั้นอีกที



“วันนี้พี่ไปที่ศูนย์ความงามอยู่ตรง พหลโยธินนะครับ” พี่ตั้นหันมาบอกผม



“เพื่อว่าผมจะไปหาพี่อ่ะ” ผมพูดก่อนจะเดินมาทำหน้าออดอ้อนพี่ตั้น พี่เขาก็เลื่อนเก้าอี้ออกมาผมก็ขึ้นไปนั่งคร่อมพี่ตั้น



“เอาอย่างนี้ไหม พี่ตั้งค่า fine iphone ให้ พี่ไปไหน เราจะได้หาพี่ถูก”



“จะดีเหรอเพื่อแอบไป”



“ก็นี่ไงจะไปดึงหูพี่กลับมาถูก” พี่ตั้นพูดปนหัวเราะกับผม ผมรู้ว่าเขาหยุดแล้วนั้นคือหยุด และพี่ตั้นก็เอาโทรศัพท์ผมไปตั้งค่าให้ก่อนจะส่งกลับมาให้ผม ผมเหลือบไปมองเวลา ผมว่าวิวน่าจะใกล้ถึงแล้ว



“แต่ตอนนี้พี่ว่าพี่หลงไปไหนไม่ได้แล้วเพราะว่าพี่หลงเมย์หัวปักหัวปำไปแล้ว “พี่ตั้นพูดพร้อมกับเข้ามากอดผมจากด้านหลัง แถมยังซุกไซ้ที่ซอกคอผมด้วย



“ผมต้องลงไปรอวิวแล้วพี่ตั้น” ผมหันไปบอกพี่ตั้น



“ไปเลยครับ พี่ก็จะลงไปด้วยครับ พี่ว่าจะไปคุยงานกันก่อนแล้วค่อยแยกย้ายและสั่งงานน้องๆ ด้วย “พี่ตั้นบอกผม ผมหันมามองพี่ตั้น ก่อนจะจัดแต่งเสื้อผ้าให้พี่ตั้น วันทำงานพี่ตั้นจะไม่ใส่ต่างหูแต่ถ้าไปไหนด้วยกันพี่ตั้นจะใส่ต่างหูและผมก็ชอบผู้ชายใส่ต่างหูเช่นกัน ผมยืนมองพี่ตั้นเอาทุกอย่างใส่กระเป๋า พี่ตั้นเงยหน้าขึ้นมามองเห็นว่าผมมองเขาอยู่ ก็เลย



“ฟ๊อด!” หอมแก้มผมโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็ทำหน้าเขินไปตามระเบียบ ผมเดินลงมาที่ออฟฟิศกัน พี่ตั้นเปิดประตูเข้าไปน้องๆ ก็มานั่งทำงานกันแล้ว แต่ล่ะคนหันมายกมือไหว้ผมกับพี่ตั้นเหมือนเช่นทุกวัน ผมเห็นพี่ๆ เขานั่งจับกลุ่มดูคลิปวิดีโอกัน ก่อนจะหันมาเห็นผมสองคนเดินลงมา



“ทำอะไรกันว่ะพวกมึงดูคลิปโป้กันเหรอว่ะ” พี่ตั้นถาม  แต่ล่ะคนก็หันมามองหน้าผมและหันไปมองที่หน้าจอ



“มีคนเอาคลิปเมย์ไปลงในเว็บดังว่ะ” พี่เปรมด์หันมาบอกพี่ตั้น พี่ตั้น วางของและรีบเดินไปดู



“กูเคยเห็นแล้วว่ะ มันเป็นคลิปที่มีคนเอาไปปล่อยในเว็บมหา’ลัยที่เมย์จบมาและนี้แหละที่ทำให้เมย์ไม่ได้ เกียรตินิยมอันดับสอง “พี่ตั้นพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม



“พี่ว่างานนี้ต้องคุยกับพี่ปฐวีย์ให้เขาออกมาพูดบ้างน่ะเมย์ ว่าเรื่องคืนนั้นมันยังไง เขาควรจะออกมาแก้ให้เมย์ได้แล้ว ไม่ใช่แต่เงียบแบบนี้ ถ้าเขากลัวชื่อเสียงเขาฝ่ายเดียวพี่ก็ไม่เห็นด้วยน่ะเมย์” พี่ตั้นพูด ก่อนจะเดินมาหาผม



“กูก็เชื่อว่าเมย์ไม่ได้ทำอย่างที่มันโพสต์ลงไว้หรอกว่ะ “พี่อาร์มหันมาพูด ผมยิ้มให้เป็นการขอบคุณ



“ตกลงมึงไปที่ใหม่ใช่ไหมว่ะ กูว่าไอ้เจ้าของนี้แม่งหน้าตาคุ้นๆ ว่ะ” พี่ธีมหันมาบอกพี่ตั้น



“เขาบอกว่าเขารู้จักพี่ปฐวีย์และพี่เขาก็แนะนำมาว่ะ “พี่ตั้นบอกพี่ๆ และจังหวะนั้นผมหันไปเห็นพี่ทีนเดินเข้ามาพอดี



“ไอ้ทีน มาแล้วเหรอมึง แล้วหน้ามึงไปโดนตีนใครมาว่ะ” พี่ธีมหันไปแซวพี่ทีน พี่ทีนนั่งลงก่อนจะมองหน้าพวกผม



“ก็มีคนแนะนำเมนูลดน้ำหนักให้เมียกูไป หัวไช้เท้าพันกุ้ง” ผมได้ยินว่ามัดหมี่อยากลดน้ำหนัก วันนั้นเลยนั่งดุเมนูลดน้ำหนักกัน สงสัยมัดหมี่ลองทำอันนี้แน่ๆ เลย



“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรอยบนหน้ามึงมาว่ะ “พี่เปรมดิ์ถาม ผมก็ว่างั้นแหละ



“รอยบนหน้ามึงนี้มันคล้ายๆ กับเท้าว่ะ” พี่ตั้นพูดพร้อมกับชี้ไปที่หน้าพี่ทีน พี่ทีนหันมองค้อนขวับเลย



“ก็ระหว่างที่เมียกูน่ะ กำลังใช้หัวไช้เท้าพันกุ้งอย่างที่ยูทูปเขาบอกน่ะ โทรศัพท์กูดังขึ้น และมันช่วงที่กูช่วยเมียรักอยู่ มือกูเลอะครับ เมียเลยกดรับแทนไป”



“เชี้ย! เด็กเก่า ไม่อยากเล่าซ้ำ ดันโทรมาหากู โทรมาถึง มันไม่ถามก่อนเลยใครรับ มันอ้อนจัดหนัก พอเมียกูวางสายเท่านั้นแหละ มันไม่ใช้หัวไช้เท้า คราวนี้มันใช้เท้า” พี่ทีนพูด



“พันกุ้งเหรอ!!!” พี่เปรมดิ์



“รูดหน้ากูนี่ไงครับ เป็นรอยมาขนาดนี้” พี่ทีนพูด ผมหันมามองหน้าพี่ตั้น พี่ตั้นทำทีหันไปมองทางอื่นกลบเกลื่อนแทน แม้แก๊งนี้ ผมมองว่าพี่เขาจะมีแบบนี้มาไหมเนี๊ยะ   "ตกลงมัดหมี่มึงนี้เมียหรือเแม่  " พี่อาร์มถามพี่ทีน  "กูว่ามันสมัครผิดตำแหน่งว่ะ กูว่ามันมาเป็นแม่กูมากกว่าดุฉิบหาย" พี่ทีนบ่นมัดหมี่ผมหันไปมองตั้น หลับหลังเพื่อนทำซ่าตลอด



“Rrrrr” โทรศัพท์มือถือผมดัง สายเรียกเข้าจากน้องสาวคนสวยของผม น้องวิว



“วิว อยู่ไหนแล้ว”



“วิวอยู่หน้าห้องทำงานพี่ตั้นแล้วพี่เมย์” วิวบอกผม ผมก็ลุกและเดินไปที่ประตู ผมก็เปิดประตูให้วิวเข้ามา



“อ้าววิว” พี่ตั้นทักวิว “พี่ตั้นสวัสดีค่ะวิวยกมือไหว้พี่ตั้น และทั้งห้องเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ทุกคนเงียบกันหมดและมองไปที่วิวคนเดียวเลย พี่ๆ นี้พากันตาค้างทันที พี่ธีมนี้สะกิดพี่ตั้นทันที



“วิว นี้น้องๆ ที่มาทำงานกับพี่ตั้นน่ะ” ผมบอกวิว “น้องๆ ครับนี้วิว น้องสาวพี่ครับ” ผมแนะนำทุกคนผงกหัวเหมือนเขินๆ และผมก็มองพี่ที่ลุกขึ้นยืนตกแต่งเสื้อตัวเองกันหมด พี่ตั้นหันไปชำเลืองตามองเพื่อนเขาแต่ล่ะคน ก่อนจะส่ายหัวไปมา ผมก็เลิกคิ้วสูง



“พี่พร้อมมากครับ ให้พี่แนะนำโปรไฟว์พี่ก่อนไหมครับเมย์” พี่ทีนรีบคนแรกเลยน่ะ ผมหันไปมอง



“รอบนี้มึงอาจจะไม่ได้โดนแค่เมียใช้เท้า แต่กูว่ามีดเคียงที่เมียมึงใช้ประกอบอาหารนะครับ มันจะมาด้วยไอ้ทีน ครับ” พี่เปรมดิ์รีบเบรกพี่ทีนนทันที



“มึงเล่นเมียกูมาขุ่กูเหรอครับไอ้เปรมดิ์ครับ” พี่ทีน



“กลัวไหมล่ะ” พี่เปรมดิ์ถามพี่ทีน



“กลัวดิ “พี่ทีนนั่งลงทันที



“พี่ๆ ครับ นี่น้องสาวผมครับ น้องวิว” ผมพูด



“นั้นพี่เปรมดิ์ พี่ทีน พี่อาร์ม และ” ผมกำลังจะหันไปแนะนำพี่ธีมแต่พี่แก หันมาอยางกับฉากพระเอกหันมามองนางเอง



“วิวดี วิวสวย วิวร้อยล้าน ก็วิวคนนี้แหละครับ “พี่ธีมพู



“พี่ชื่อธีมครับ ธีมก็คือภาพพื้นหลัง วิวก็คล้ายๆ กับธีม พี่ว่าเรา น่าจะไปกันได้ดี” พี่ธีมพูด พี่ๆ ทุกคนหันไปมองพี่ธีมกันหมด



“และแม่พี่นี่ตั้งชื่อพี่ว่าธีม นี้เพื่อมาคู่กับน้องวิวแน่ๆ ครับ” พี่ธีม ผมหันไปเหล่ตามองพี่ตั้น เพื่อนพี่อ่ะ



“ไม่ด้าน!” พี่เปรมดิ์พูด “ยังไม่ด้านอีเหรอมันออกตัวขนาดนี้” พี่อาร์มหันไปถามพี่เปรมดิ์



“ไม่ด้านทำไม่ได้ไงมึง ช่างกล้าพูดว่าน้องเขาเกิดมาเพื่อมึงน่ะครับ “พี่เปรมดิ์พูด ก่อนจะหันมามองน้องวิว



“เขาเกิดมาเพื่อผู้ชายทุกคนครับ วิวดี วิวนี้พี่ชอบมาก ชอบมองครับ” พี่เปรมดิ์ ส่วนพี่ตั้นน่ะเหลือกตาขึ้นบน วิวก็หันมามองหน้าผม "แม้วิวดูลองหันไปมองหน้าประตูเปรมดิ์ เมียมึงมา" พี่ทีนพูด พี่เปรมดิ์รีบลุกพรวดมองไปที่ประตูทันที  "ไอ้เชี้ยอย่าเอ๊ยถึง เดี๋ยวมา" พี่เปรดมิ์พูด



“มีแฟนแล้วทั้งนั้นแหละ” ผมกระซิบกับวิวก็ยิ้มๆ



“จะไปกันเลยหรือเปล่าล่ะเมย์ วิว” พี่ตั้นถามผมกับเมย์



“ไปไหนกันเหรอครับ” พี่ธีมรีบถามทันทีเลย



“มึงจะไปด้วยหรือไงครับ งานครับมึง ไอ้ภาคินมันไม่มาแล้ว คนขาดอยู่ มึงต้องไปทำที่ค้างไว้ให้ไอ้กอล์ฟมันจำไม่ได้หรือไง” พี่ตั้นหันไปเบรกพี่ธีมทันที



“แม้จะจีบน้องวิวเขา แล้วน้องคนเมื่อเช้าล่ะครับ “พี่อาร์มถามพี่ธีม



“น้องคนเมื่อเช้า เขาทิ้งกูไปแล้วครับ” พี่ธีมรีบหันไปบอกพี่อาร์มทันที “ตอนนี้พี่เป็นคนอกหัก อยากได้วิวดีดีมาช่วยปลอบใจ” พี่ธีมหันมาตีหน้าเศร้าทันที



“ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จนะมึงน่ะ แถมด้วยโหมดชายอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน ไหนมึง บอกว่าความรักมึงกับเขากำลังค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปไง” พี่ทีนหันไปถามพี่ธีม



“ก็ใช่ไง ตอนนี้กูก็ค่อยๆ “พี่ธีมพูด ผมหันมาพยักพเยิดกับพี่ตั้น ผมก็เห็นบ่อยน่ะเวลาลงไปซื้อของน่ะ มาแต่ล่ะคนไม่ซ้ำหน้าเลย บางวันมาสามเวลา สามคนเลยก็ว่าได้ แต่เขาจัดการเวลาดีน่ะ ไม่มีมาเจอกันสักที



“ค่อยๆ หายไปจากชีวิตเขาไง ” พี่ตั้นพูด พี่ธีมหันมาเหล่ตามองค้อนพี่ตั้นทันที ผมหันไปแปะมือด้วยเห็นด้วย



“มันเป็นอดีตครับน้องวิว ตอนนี้ คนที่ใช่สำหรับพี่ พี่ว่าน้องวิวร้อยล้านของพี่นี่แหละครับ ใช่เลย โดนใจพี่เลย “พี่ธีมพูด ผมหันมามองวิว



“มันควงเขามาเมื่อวาน วันนี้เรียกอดีตแล้วเหรอว่ะ แล้วคนเดือนที่แล้ว เรียกอะไรวะ” พี่อาร์ม



“นั้นชาติที่แล้ว” พี่เปรมดิ์พูด “เคยเป็นคู่กันเมื่อชาติที่แล้ว” พี่เปรมดิ์พูด



“เมย์ เอาบัตรพี่ไปเลยเพื่อว่าถ้าเมย์ชอบจะได้ทำการมัดจำเลย “พี่ตั้นเรียกผมให้ตามเข้าไปในห้องทำงาน ผมก็แตะแขนวิวและเดินตามพี่ตั้นเข้าไปในออฟฟิศ



“ปึก” ผมได้ยินเสียง วิวเขาเดินถอยหลังไปชนกับ ใบเฟิร์นที่นั่งอยู่ เฟิร์นหันมามองวิว และวิวก็ขอโทษ ผมเห็นสายตาเขามองกัน ผมว่าสงสัยงานนี้วิวจะเจอคนที่วิวชอบแล้วแหละแต่เฟิร์นน่ะผมไม่แน่ใจว่ามีแฟนหรือยัง



“พี่ตั้น “ผมเรียกพี่ต้น พี่ตั้นหันมามองหน้าผม



“มีอะไรครับตัวเล็ก” พี่ตั้นมองผมก่อนจะส่งบัตรเครดิตมาให้ผม



“ผม”



“เอาไปเถอะ อันนี้เงินส่วนตัวพี่”



“พี่ไม่ไปดูกับผมก่อนเหรอว่าจะเลือกดีไหม เกิดผมเลือกมาแล้ว ”



“เมียพี่ชอบแบบไหนพี่ก็ชอบแบบนั้น และพี่เคารพในการติดใจของเมียครับ” พี่ตั้นพูด ผมก็รับบัตรมาถือไว้



“พี่ตั้นกลับเร็วๆ น่ะ วันนี้ผมจะ ceasar salad ให้ทาน ผมปลูกผักสลัดเอาไว้ ออแกนิกส์ด้วย” ผมบอกพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าผมก็หันหลังทำท่าจะเดินออก



“หมับ” พี่ตั้นคว้าข้อมือผมเอาไว้ ผมหันมามองพี่ตั้น



“ยังไม่ได้หอมแก้มพี่เลยน่ะ “พี่ตั้นพูดทวงผม ผมก็มองและก็ “ฟ๊อด!!” ผมหอมแก้มพี่ตั้น



“อีกข้างด้วยซิครับ หอมข้างเดียว เดี๋ยวพี่เดินเอียง” มีแบบนี้ด้วยเหรอผมแอบคิดในใจแต่ก็



“ฟ๊อด!!” ผมหอมแก้มพี่ต้นอีกข้าง



“พอยังคับ” ผมถามพี่ตั้น “หึ!!” พี่ตั้นสั่นหัวว่าไม่พอ



“เก็บไว้ให้ผมหอมตอนเย็นบ้างนะครับ เฮีย” ผมพูดก่อนจะเดินออกไปออกไป พี่ตั้น กำลังเตรียมตัวจะไป ผมเดินออกมาก็เห็นวิวนั่งอยู่ ผมพยักหน้า เห็นวิวนั่งตัวลีบเชียวแสดงว่าโดนพวกพี่ๆ เขาแจกขนมจีบอยู่แน่ ๆ โดยเฉพาะพี่ธีม ผมรู้ว่าพี่แกโสด แต่ผมรู้อีกอย่างว่าพี่ธีมน่ะไม่ใช่สเปคของน้องสาวผมหรอก



“ไปกันเลยไหมวิว” ผมถามผม



“ค่ะพี่เมย์” วิวตอบผม ก่อนจะหันไปยิ้มให้ใบเฟิร์น



“น้องวิว แวะมาอีกไหมครับ พี่จะได้รอ”



“รอทำไมอ่ะมึง ปกติเลิกงานปุ๊บมึงก็ชิ้งกลับไม่ใช่เหรอ ไม่เค้ย ไม่เคยจะแวะมาออฟฟิศ ก่อนกลับนะครับ ไอ้คุณธีม” พี่อาร์มพูด ผมก็ขมวดคิ้วนั้นซิ



“ก็วันนี้อยากมาทำไมว่ะ มารอวิว วิวร้อยล้านของพี่ วันนี้พี่ว่างครับ ทานข้าวหรือว่าจะดูหนังดี พี่ธีมจัดให้ได้หมด เพราะว่าพี่”



“ได้หมด ถ้าสดซิง!!” อันนี้พี่เปรมดิ์ผมกับวิวสะบัดหน้าไปมองพร้อมพี่ธีมอีกคน



“ถ้าสดชื่น!! ไอ้เชี้ยเปรมดิ์!! หยาบคายครับเปรมดิ์ครับ “พี่ธีมหันไปว่าพี่เปรมดิ์ทันที



“เดี๋ยวนี้ผมพูดความจริงพี่ธีมเรียกหยาบคายเลยเหรอครับ” พี่เปรมดิ์ ผมแอบหันไปพยักพยิดกับวิวว่าไปกันดีกว่าไหม



“อย่าไปนานนะครับ พี่เป็นห่วงและก็หวง เดินระวังด้วยก็ดีน่ะครับ อาจจะสะดุดหัวใจพี่ “พี่ธีมไม่พูดเปล่าทำนิ้ว ไอเลฟยู ส่งมาให้วิวด้วย



“พี่นี้เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อนน้องวิวคนเดียวเลยน่ะครับ” พี่ธีมยังไม่หยุดอีก



“แต่เบอร์มันนะแจกไปหมดแล้วทั่วประเทศครับ เหนือใต้ออกตก ไม่เว้นแม้ตะวันออกเฉียงเหนือเฉียงใต้ ตอนนี้กำลังข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งลาว “พี่เปรมดิ์พูด พี่ธีมหันไปมอง



“เปรมดิ์ครับ เพื่อนธีมขอครับ”



“มึงจะขออะไรกูเหรอครับ”



“หุบปากครับมึงครับ”



“อย่าไปเชื่อมัน ไอ้นี้มันอิจฉาพี่ มันทำไมได้ มันมีเมีย” พี่ธีมพูด และชี้ไปที่พี่เปรมดิ์



“ไม่หยาบ”



“ดี” พี่ธีม



“หยาบคายมาก “พี่เปรมดิ์พูดผมก็ดันวิวออกขืนอยู่นานคงอีกยาวเลย ผมพาเมย์เดินลงมาชั้นล่าง เมย์หันมามองหน้าผม



“พี่เมย์นี่โชคดีจังนะคะ วิวนี้อิจฉาเลย”



“อิจฉาพี่เรื่องอะไรล่ะวิว” ผมถามวิว ก่อนจะโบกรถแท็กซี่ ผมหันมามองวิว



“พี่มีคนที่รักพี่มากขนาดนี้ พี่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วน่ะ พี่รู้ตัวไหม” วิวพูด ผมก็มองวิว



“พี่ก็รักวิว ถึงวิวจะไม่ใช่น้องแท้ๆ ของพี่ แต่พี่ก็รักวิวมาก “ผมพูด จังหวะนั้นรถแท็กซี่เข้ามาจอดพอดี ผมหันไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์ ขับออกมาจากจอดรถพวกพี่ๆ เขา เขาสวมผ้าปิดหน้าก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว



“พี่เมย์มีอะไรหรือเปล่า “วิวถามผม ผมก็รู้สึกว่ามันคุ้นๆ เหมือนผมเคยเห็นคืนนั้นที่มาอยู่ที่ด้านหน้า



“ขึ้นรถเถอะวิว” ผมบอกวิว และผมสองคนก็ก้าวเท้าเข้าไปในรถ วิว บอกคนขับว่าเราจะไปที่ไหนกันแต่ผมหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพี่ตั้นก่อน



//ว่าไงตัวเล็ก//



// พี่จะออกหรือยังครับพี่ตั้น//



//กำลังจะออกแล้วครับ มีอะไรครับตัวเล็ก//



// พี่ตั้นผมเห็นคนที่ผมบอกว่ามาจอดรถมอเตอร์ไซค์คืนก่อนอ่ะ มันมาอีกแล้วครับและเพิ่งจะขับออกมาจากที่พวกพี่ๆ เขาจอดรถกันด้วย//



//จริงดิเมย์ พวกพี่กำลังจะลงไปครับ //



// เมย์อยู่ไหนครับ//



// ผมออกมาแล้วครับ ผมนั่งแท็กซี่กันแล้วพี่ตั้น //



//โอเค อย่ากลับมืดหนักน่ะครับเมย์ พี่เป็นห่วง//



//ครับเฮีย ผมก็เป็นห่วงเฮียยังไงก็ไม่รู้วันนี้น่ะ// ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูกังวล



//ไม่มีอะไรครับ พี่ไปทำงานก็รีบกลับ จะมาทานอาหารเพื่อสุขภาพกับเมีย//



// กลับมาเร็วๆ ช่วยผมทำด้วยก็ดีน่ะ //



//ถ้าให้พี่ช่วย เมย์ต้องมีรางวัลให้พี่น่ะครับ สักสองดอก..///



(ไม่หื่น) เสียงพี่ๆ เขาแซวข้าง พี่เปรมดิ์แน่ๆ เลย เฮียตั้นน่ะเฮียตั้น)



(ยังอีกเหรอ) ยังหันไปถามเพื่อนอีก ผมว่าหื่นแล้ว



//พี่เปรมดิ์ฝากบอกว่า ยังไม่พอให้พี่ขอสักสามแล้วกัน// พี่ตั้นบอกกับผม



// งั้นผมทำเองดีกว่าพี่นั่งเฉยๆ ไปเลย// ผมพูด แม้ทำอาหารให้ทานแล้วต้องมาเหนื่อยเรื่องบนเตียงอีกนี้ขอมาตั้งสาม



(เมียบอกว่าคืนนี้ให้นอนเฉยๆ ว่ะ เมียทำให้เอง) ผมตาโตเลย ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นเลยน่ะ



//เฮีย!! // ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์



//ไม่คุยด้วยแล้ว ไปทำงานได้แล้วและรีบกลับด้วยน่ะ ผมรักเฮีย//



//เฮียรักตัวเล็กน่ะ รักมาด้วย// พูดแบบนี้ผมก็ต้องก้มหน้าลง เขินมาก และกดวางสายไป วิวมองผม ยิ้มๆ




“วิวไม่เห็นพี่เมย์ยิ้มมีความสุขแบบนี้นานแล้วน่ะ” วิวแซวผม



“วิว พี่ตั้นเขาจะชวนไป เที่ยวบ้านพี่ตั้นน่ะ ปีใหม่ ไปกันน่ะ”



“ที่ไหนเหรอพี่เมย์” วิวถามผม



“เขาใหญ่น่ะ พี่ไปมาแล้ว น่าอยู่มาก และพ่อของพี่ตั้นก็ใจดีมาก” ผมพูดกับวิว



“แสดงว่าพี่ตั้นเขาจริงจังกับพี่มากน่ะ ถึงได้พาพี่ไปหาพ่อเขาแล้วเขาพาพี่ไปในฐานะ” วิวพูดและถามผม



“พี่ตั้นเขาบอกทุกว่าพี่เป็นแฟนเขา” ผมบอกวิว



“วิวดีใจด้วยจริงๆ น่ะพี่เมย์ พี่เมย์รู้ไหมความรักแบบนี้มันยากน่ะ น้อยคนที่จะยอมเปิดเผยน่ะ และพี่ตั้นเขาให้พี่ได้แบบนี้ รักษาไว้ให้ดีดีเลยน่ะพี่เมย์ และไม่ว่าจะมีอะไรมาทำให้ความรักของพี่กับพี่ตั้นให้สั่นคอน พี่ก็ต้องแกร่งน่ะ ปกป้องมันไว้กับพี่ให้ดี” วิวบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมจะไม่อ่อนแอ ไม่ยอมใครเหมือนที่ผ่านมาอีก

*******

            คนแต่งต้องขอโทษจริงๆ ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆ เพราะตอนนี้คนแต่งกำลังอ่านหนังสือสอบ Cityzenship ของออสเตรเลีย และยังต้องเตรียมตัวทำใบขับขี่ของออสเตรเลียอีก แง้ๆ

            ถ้าทุกอย่างผ่านแล้วจะมาอัพให้รัวๆ นะคะ มาแค่นี้ก่อนคงไม่ค้างนะคะ รักคนอ่าน อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะคะ

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
รชานนท์ ผมเดินลงมากับพวกเพื่อนผม พากันเดินไปที่จอดรถ ที่ตรงนี้จะมีแต่พวกผมเท่านั้นที่จะเข้ามาจอดได้แต่เมื่อสักพัก เมย์โทรหาผม เมย์บอกผมว่ามีคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป ผมเลยรีบบอกพวกเพื่อนๆ ผมให้ลงมาดู พวกเพื่อนๆ ผมก็เช็กทุกอย่างแต่ก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติแต่อย่างใด ผมหันมามองหน้ากัน



“มันคงจะเข้ามาแต่มันคงทำอะไรไม่ได้ว่ะ “ไอ้เปรมดิ์พูด ผมพยักหน้า แต่ว่าตรงนี้ก็มีกล้องวงจรปิดอยู่น่ะ



“กูกลับมาแล้วจะไปเปิดดูกล้องวงจรปิดว่ะ” ผมพูด



“มึงแน่ใจเหรอว่าจะไปคนเดียว” ไอ้ทีนมันถามผม



“เออ ไปได้ไม่มีอะไรหรอกน่ะ พวกมึงจะได้เคลียร์งานที่ค้างกัน นี่จะได้หยุดยาวกันไง พาแฟนไปเที่ยวกันบ้าง” ผมบอกพวกเพื่อนๆ ผม พวกมันก็พยักหน้า



“มีอะไรโทรหาพวกกูเลยน่ะตั้น” ไอ้ธีมมันบอกผม เห็นมันกะล่อนแบบนี้มันห่วงผมเหมือนกันน่ะ ปกติมันจะไปกับผมตลอดแต่ว่าวันนี้มันต้องไปดูให้คุณหมอสัตวแพทย์ อดีตแฟนเก่ามัน คนนี้แฟนเก่ามันจริงๆ แต่ดันมาเลิกกันเพราะความเจ้าชู้ของมันนี่แหละ ผมพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นรถไป



// ตั้น พ่อพี่ปริมเขายังไม่ยอมเซนต์บ้านเมย์ให้เลย เขาตุกติกอะไรก็ไม่รู้// พี่อิศเรศส่งข้อความมาหาผม ผมกำมัดแน่น ทุบที่พวงมาลัย

//เขาต้องการเงินเพิ่มหรือเปล่าพี่เรศ//

// ไม่ใช่น่ะ เหมือนกับว่าลูกสาวเขาไม่ยอมให้ขายน่ะตั้น//

[พี่ปริม!!] ผมสบถชื่อนี้ขึ้นมาทันที ผมควรจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีน่ะ อย่าบอกน่ะว่าจะเอาบ้านมาต่อรองกับผมเรื่องให้ผมกลับไปหาเขาน่ะ ผมรีบกดเบอร์โทรแต่ไม่โทรออก เพราะว่าผมไม่อยากฟังน้ำเสียงผู้หญิงคนนี้อีก



// ถ้าพี่ปริมไม่ยอมให้พ่อพี่ขายบ้านของเมย์ให้พ่อผม ผมไม่ว่าน่ะ ขอผมกับเมย์เข้าไปขอของที่อยู่ในบ้านนั้นคืนนะครับพี่ปริม เอาแค่รูปพ่อกับแม่ของเมย์เขา และผมจะไปซื้อบ้านที่สวยกว่าหลังนั้นให้เมย์ // ผมส่งข้อความไปหาพี่ปริม ผมลบแล้วแต่เบอร์ผมจำได้ดี



//ทำไมตั้นรักมันมากเหรอ//



// ใช่ผมรักเมย์มาก พี่ไม่เข้าใจหรอก พี่ไม่เคยรักใครพี่มีแต่ความใคร่//ผมส่งข้อความกลับไปหาพี่ปริม



//ที่ผ่านมาตั้นไม่รู้เลยใช่ไหมว่าพี่รักตั้น///



//แล้วคนรักเขาทำกันแบบนี้เหรอพี่ปริม ผมว่าไม่ใช่หรอกพี่ปริม เพราะว่าคนรักกันเขาไม่ทำให้อีกคนดิ่งลงเหวอย่างที่พี่ทำกับผมที่ผ่านมา คนรักเขาชวนกันไปอัพยาเหรอ พี่ก็มีความสุขเพราะพี่อัพยาไปวัน วัน และผมขอล่ะผมมีคนที่ผมรักจริงๆ แล้ว ผมยอมรับว่าผมไม่เคยรู้สึกรักพี่ตั้งแต่แรก //ผมส่งข้อความหาพี่ปริมอีกครั้ง วางมือถือผมลง ผมกำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ผมเหลือบมองเวลา



//เมย์ ถ้าเมย์เจอบ้านหลังไหนที่เมย์ชอบ เมย์เลือกเลยน่ะ ขอรายละเอียดเขามาเลย พรุ่งนี้เฮียจะไปวางมัดจำให้ เพราะพี่คิดว่าเราซื้อบ้านหลังใหม่ดีกว่าครับแม่// ผมส่งข้อความหาเมย์



Rrrrr เมย์โทรกลับมาหาผมทันที ที่ข้อความผมถูกส่งออกไป ผมก็รีบกดรับสายเมย์ก่อน

“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ตั้น” เมย์ถามผมทันที ที่ผมกดรับสาย

“เมย์ พี่ขอโทษ พี่ปริมเขาไม่ยอมขายบ้านหลังนั้น พี่กลัวว่า”

“งั้นเมย์ไม่เอาน่ะพี่ตั้น เพราะว่าเมย์กลัวมากเช่นกัน กลัวพี่ปริมจะมาต่อรองเหมือนที่พี่ปริมทำกับพี่ปฐวีย์ ผมไม่อยากเสียเฮียไป ผมรักเฮีย “เมย์พูด ผมมองไปนอกรถ

“พี่ก็ไม่อยากเสียเมย์ไปครับ”

“จะว่าไปบ้านที่เมย์มาดู มันก็โอเคดีน่ะ ราคาถูกกว่าบ้านพ่อแม่เมย์อีก และบ้านหลังนั้นก็จะเป็นความทรงจำที่ดีของเมย์ตลอดไป เมย์ว่าเมย์พอแล้วพี่ตั้น “เมย์พูด ผมหลุบตาลงมองพื้น ผมเจ็บใจที่ผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้

“แค่นี้ก่อนนะครับเฮีย พี่คนที่เขาดูแลโครงการ เขาเดินมาแล้วครับ ผมจะคุยกับเขาดูน่ะครับและผมจะโทรหาเฮียอีกที “เมย์บอกผม

“ครับที่รัก ได้เรื่องยังไงโทรหาพี่น่ะ ถ้าจะให้ไปช่วยดูให้ พี่จะได้รีบทำงานของพี่และไปหาเมย์ที่นั่น” ผมบอกเมย์

“ครับพี่ตั้น พี่ตั้น ผมรักพี่ตั้นน่ะ ผมไม่อยากได้บ้านหลังใหญ่โต ผมอยากได้บ้านที่มีพี่อยู่ด้วย อันที่จริงผมชอบคอนโดพี่น่ะ ผมว่าเราอยู่แบบนั้นก็ดีแล้ว แต่ผมอยากให้แม่ปิ่นกับน้องๆ อยู่แบบสบายบ้างแค่นั้นเอง” เมย์พูด

“ก็ซื้อซิเลยซิครับไม่ต้องรอแล้ว ดูและเลือกเลย ว่าเมย์ชอบหลังไหน ส่วนเรื่องของในบ้านเก่า พี่จะพยายามไปคุยกับพ่อของพี่ปริมเอง พี่ปริมน่ะพี่ว่าเราคุยกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก เขาแค่อยากเอาชนะเมย์ “ผมบอกเมย์

“ผมรู้ครับพี่ตั้นว่าเขาอยากเอาชนะผม”

“ดังนั้นครั้งนี้ผมจะไม่ยอมเขาอีกแล้ว ผมจะสู้ เพราะว่าผมรักเฮีย ผมไม่ยอมให้เขามาแย้งเฮียไปได้อีก” ผมยิ้ม

“พี่ก็จะไม่ยอมให้เขาเข้ามาแทรกกลางระหว่างพี่กับเมย์ได้อีก พี่สัญญา” ผมพูด

“ไปทำงานได้แล้วและถ้าเสร็จเร็ว ผมจะชวนพี่ไปทานอาหารร้านไอ้มีนมันอีก “เมย์บอกผม

“ได้ครับ แค่นี้ก่อนน่ะที่รัก “ผมพูดก่อนจะวางสาย



ผมกดปุ่มสตาร์ทพร้อมกับดึงเบรกมือลง ผมก็รีบขับรถออกไปทันที อย่างรวดเร็ว ผมตั้งจีพีอาร์เอสว่าผมจะไปที่ไหน ผมก็ขับรถออกมา ผมกดโทรออกหาเปรมดิ์ เพื่อนผม ผมเปิดสปีกเกอร์ ผมกดรับสายโทรออกจากหน้าจอมอนิเตอร์ในรถกระบะของผมได้เลย



//ว่าไงครับบอส กูมาทำงานกันแล้ว โทรเช็กเหรอครับมึง//

//กูจะบอกว่า ทำงานเสร็จเร็วกูจะพาไปกินสเต๊ก//

// แม้บอสชวนกินหรู ปกติหมูกระทะ เฮียตั้ม//

//ก็เฮียแกปิดไปแล้วนี่หว่า อย่าลืมน่ะ โทรบอกคนอื่นๆ ด้วย เลิกแล้วมาเจอกันที่ออฟฟิศ และบอกแฟนมึงมาด้วย //

//เลี้ยงเนื่องจากอะไรวะ//

// เลี้ยงก่อนที่กูกับเมย์จะไป//ผมพูด

//อย่าพูดแบบนี้ดิว่ะ ใจไม่ดีว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันพูด

//อะไร ไปเที่ยวแล้วก็กลับไอ้บ้า//ผมพูด

//ม้ากูไม่ให้พูดเลยน่ะแบบนี้เหมือนสั่งลาไอ้เชี้ย!” ไอ้เปรมดิ์มันพูด ผมก็เป็นคนหัวสมัยใหม่อยู่แล้ว

//นี้มึงอยู่ไหนแล้วว่ะ//

//ถึงสี่แยกข้างหน้ากูก็จะขึ้นสะพานลอยและข้ามไปอีกสามซอยก็ถึงแล้วว่ะ// ผมบอกไอ้เปรมดิ์//

//งั้นแค่นี้น่ะมึง อย่าลืมโทรบอกทุกคนน่ะให้มาด้วย บายว่ะ// ผมพูดพร้อมกับวางสาย



ผมเหลือบเวลา ผมมาก่อนเวลาสิบนาที จะว่าไปเจ้าของก็หน้าคุ้นๆ น่ะ ผมเคยเห็นเขาที่ไหนไม่รู้ น่าจะเป็นที่ผับ ผมเปิดลิ้นชักเล็กๆ มีนามบัตรและแผนที่คลินิกที่ผมเคยไปรับพี่ปริม วันนั้นพี่ปริมบอกว่าพ่อเธอจะใช้รถเธอเลยกลับไม่ได้ เธอใช่บริการความงามที่นั่นแต่ว่านานแล้ว ผมหยิบมาดู ผมเห็นชื่อ ชื่อเดียวกันเลย ฉิบหายแล้วผม!! เอาไงดีว่ะ จะไม่ไปดีไหม ผมไม่รู้ว่าพี่ปริมเขาวางแผนอะไรไว้หรือเปล่านะซิ ผมลังเลผมว่าผมควรจะหาที่จอดรถก่อน ผมคิดว่าเลยแยกไฟแดงไปดีกว่า ระหว่างที่ผมกำลังจะถึงแยกไฟแดง มันเป็นไฟเหลืองพอดี ผมต้องเตรียมตัวเบรกแยกนี้รถเยอะด้วย ผมคิดว่ารอนาน ผมจะใช้เวลานี้โทรเช็กที่ผมจะไปก่อน



ผมก็ต้องตกใจเพราะว่าผมเหยียบเบรกแล้วแต่ว่ามันไม่หยุด ผมก็เหยียบซ้ำไปอีก ก็ไม่ได้ผล ยิ่งเยียบก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเครื่องก็เหมือนจะยิ่งเร่งขึ้น ผมเริ่มตกใจเพราะว่ารถกำลังจะถึงแยกไฟแดง แถมยังมีรถมอเตอร์จอดอยู่ด้วย ผมเริ่มปรับเกียร์จากดีลงมาเพื่อให้ความเร็วลดลงเองแต่ว่าถ้าผมดึงเบรกมือรถอาจจะหมุนติ้ว ผมเห็นรถมอเตอร์ไซค์ทั้งเลยที่จอดรอไฟแดง บางคันก็มีเด็กอยู่ และมีรถเหมือนนักเรียนอีก ผมก็ไม่รู้ว่ามีนักเรียนไหม ผมเลยเลือกที่จะ ใช่ฝ่ามือกระแทกแตร๋ดังๆ ยาวๆ



“ปี้นนนน!!!!!!!!!! ” ผมบีบแตรดังลั่น เพื่อให้เขาหลบและรถผมก็พุ่งฝ่าไฟแดงออกไป สิ่งที่ผมกำลังปะทะคือรถกระบะที่ออกมาพอดี



“โคล้มมมมม!!!!” เสียงดังสนั่น พร้อมกับแอร์แบกที่และรถผมก็ลอยขึ้น ผมรู้ได้ว่ารถผมตีลังกาข้ามอะไรบางอย่าง



“โคล้มมม!!!!” อีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าผมกระแทกไปแรงแค่ไหน มันไม่เจ็บแต่ว่ามันมึน ผมค่อยลืมตาขึ้นเลือดไหลผ่านลงมา ผมรู้สึกชา จนเกือบไร้ความรู้สึก รู้สึกหายใจติดขัด ผมสะลึมสะลือ ไม่รู้นานแค่ไหน แต่ในหัวผมมีแต่ภาพเมื่อสักครู่ ภาพมันย้อนเข้ามาตลอด จนผมเองก็สับสนว่าผมกำลังฝันอยู่หรือว่านี้คือเรื่องจริง



//เฮียครับรับสายผมด้วย// เสียงเรียกเข้า ตัวเล็กโทรหาผม ผมอยากรับแต่ผมขยับไม่ได้เลย



//เฮียครับรับสายผมด้วย//



“เมย์ เฮียรักเมย์น่ะ // ผมรู้ว่าโลกของผมกำลังมืดลงไปทุกที ผมเริ่มควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ผมพยายามฝืน ผมรู้ว่ามีคนกำลังพยายามเปิดประตูรถของผม [ต้องใช้ที่ตัดเหล็กปิดไม่ได้เลย คนเจ็บอยู่ด้านในฝั่งคนขับ] ผมได้ยินเสียงพูดคุยกันแต่ผมลืมตาไม่ขึ้น ตอนนี้ร่างกายเริ่มเจ็บปวดจากการกระแทก เพราะว่ารถผมหมุนอยู่กางอาการหลายรอบก่อนจะลงมาสู่พื้น พร้อมแรงกระแทกที่ทำให้ผมเกือบน๊อกเอาท์

“เมย์ พี่รักเมย์น่ะ เมย์ รอพี่กลับบ้านน่ะ “เสียงเหมือนผมบ่นพึมพำกับตัวเอง เลือดสีแดงฉานเริ่มไหล่มากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่าผมได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างเพราะว่ากระจกก็แตกละเอียด เลือดไหล่ทะลักมาขนาดนี้ แถมผมเป็นคนที่กรุปเลือดที่หายาก Rh-Negative แต่ผมก็ยังเคยช่วยชีวิตเพื่อนคนหนึ่งตอนแรกก็ไม่สนิทกัน แต่พอผมเดินเข้าไปบริจาคเลือดให้เพื่อนคนนั้น เพราะว่าเขาประสบอุบัติเหตุต้องการเลือดด่วนและพอผมก็ได้มาเป็นเพื่อนกันจนกระทั่งแม่ผมป่วย และนั้นผมเริ่มห่างๆ เพื่อน พอมารู้อีกที เพื่อนผมคนนี้ ย้ายตามพ่อแม่ไปซะแล้ว เพื่อนคนนั้นของผมเขาอยู่ที่อเมริกา ผมรู้สึกมีคนนำร่างผมออกมาด้วยความทุลักทุเล และร่างผมก็ถูกวางลง พร้อมกับมีบางสิ่งมาล๊อกผมไว้หมดทั้งตัวไปถึงศีรษะ



“คุณรชานนท์ คุณรชานนท์ คุณได้ยินไหมคะ คุณรชานนท์” ผมเดาได้ว่าเขาเห็นข้อมุลผมจากใบขับขี่



“กดดูเบอร์โทรล่าสุดและโทรแจ้ง” ผมได้ยินแต่ผมลืมตาไม่ขึ้น ความเจ็บปวดเริ่มเข้ามา ผมพยายามยามขยับเท้าแล้วแต่ไม่สามารถขยับได้



*******



เมธานินท์ ผมพยายายามโทรหาพี่ตั้น ว่าจะวิดีโอคอล เพื่อนว่าพี่ตั้นจะเห็นบ้านที่ผมมาดู บ้านน่ารักกำลังดี มีสี่ห้องนอน ห้องน้ำในตัวทุกห้อง แบบบ้านสองชั้น ผมเองก็ลังเลจะตัดสินใจแทนก็ไม่ดีกว่าเลยขอเอกสารเขามาดูและจะชวนพี่ตั้นมาดูอีกที ผมเลือกที่จะทิ้งบ้านพ่อแม่ เพราะว่าผมไม่อยากให้พ่อพี่ตั้นจ่ายเงินในราคาสามสิบล้านเพื่อบ้านหลังนั้น มันทั้งเก่าและอาจจะซ่อมแซมเยอะแต่สิ่งที่แพงเป็นเพราะที่ดินตรงนั้น ทำเลที่ดีในอนาคต ที่ผมต้องการได้คืนมากที่สุดมันอยู่ในห้องใต้ดินนั้น รูปภาพของสะสมของผมเวลาที่พ่อแม่ไปต่างประเทศ ผมมักจะได้มาเสมอ แค่คิดน้ำตามันก็พานจะไหลออกมา



“กลับกันเถอะวิว “ผมบอกวิว ขณะที่ผมกำลังยืนรอ ผมกำลังจะเช็กว่าพี่ตั้นอยู่ไหน จู่ๆ ก็มีสายเรียกเข้าดังเข้ามา เป็นเบอร์ของโบว์แฟนพี่เปรมดิ์



“ว่าไงโบว์” ผมถามโบว์



“พี่เมย์ “น้ำเสียงที่ฟังดูไม่ดีเลย



“โบว์เป็นอะไรไปครับ “ผมถามโบว์



“พี่เมย์ ตั้งใจฟังดีดีน่ะและอย่าเพิ่งตกใจ “โบว์พูด ผมก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ นี้อย่าบอกน่ะว่าพี่ตั้นงานเข้าตอนไปทำงานอีกแล้วเหรอ



“มีอะไรครับโบว์ บอกพี่มาเถอะ” ผมถามโบว์ น้ำเสียงโบว์น่ะตกใจมากกว่าผมตอนนี้ซะอีก



“เฮียตั้น รถคว่ำอ่ะพี่เมย์ ฮือๆ” ผมแทบล้มทั้งยืน พี่ตั้นรถคว่ำ พี่ตั้นรถคว่ำ



“ปึก” มือถือผมร่วงหลุดมือแต่คนที่มารับมือถือผมไว้ได้คือวิว วิวรีบยกมือถือขึ้นไปแนบหู



“นี้วิวค่ะ พี่โบว์เหรอคะ ที่ไหนคะ ได้ค่ะ วิวจะพาพี่เมย์ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ หนักไหม ได้ค่ะ ค่ะ เจอกันค่ะ” วิวเป็นคนคุยโทรศัพท์แทนผม ผมหันไปมองวิว น้ำตาผมไหลพรูออกมาทันที วิวโผเข้ามากอดผม



“วิวเชื่อว่าพี่ตั้นไม่เป็นอะไรพี่เมญ์ พี่เมย์เชื่อวิวน่ะ “วิวพูด ก่อนจะรีบลงไปโบกรถแท็กซี่ และเพื่อสอบถามก่อนจะหันมาพยักหน้ากับผมและเราสองคนก็เข้าไปนั่งที่เบาะหลัง ผมใจคอไม่ดีเลย ผมกำมือแน่นมาก จนเล็บจิกที่อุ้งมือแต่ผมก็ยังไม่หยุด น้ำตาเริ่มไหลมาคลอๆ



“พี่เมย์ “วิวเรียกผม



Rrrrr เบอร์มือถือของผมดังขึ้น เบอร์พี่อิศเรศ ผมรีบกดรับสายบทันที



“พี่เรศ พี่เรศ พี่ตั้นเขา ฮือๆ “ผมปล่อยโฮไม่อายคนขับแท็กซี่เลย



“เมย์ พี่กับคุณท่านทราบเรื่องแล้วครับ คุณท่านตกใจมากครับเมย์ นี่พี่กับคุณท่านกำลังจะไปหาคุณตั้นตอนนี้เลย น้องเมย์อยู่กับตั้นหรือยัง” พี่อิศเรศถามผม



“ผมออกมาดูบ้าน พี่ตั้นให้มาดูบ้านให้แม่อยู่ก่อน ฮือๆ ผมกำลังจะไปพี่เรศ ฮือๆ”



“โอเค เจอกันน่ะเมย์ พี่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคุณตั้นครับ “พี่อิศเรศพูด ตอนนี้รถกำลังแล่นไปตามทาง ผมรู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก ไฟแดงก็มากมาย ใจผมนี้อยากจะให้ถึงโรงพยาบาลที่เขาเอาพี่ตั้นไปส่งเร็วๆ เร็วที่สุดเลยได้ยิ่งดี ทำไมคนที่ผมรักต้องมาประสบกับอุบัติเหตุแบบนี้ พ่อกับแม่ผมก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พี่ตั้น พี่อย่างทิ้งผมไปน่ะพี่ตั้น ผมขอร้อง พี่ตั้นอยู่กับผมก่อนน่ะ ถ้าผมเสียพี่ไปอีกคน ผมคงอยู่ไม่ได้ ผมอยู่ไม่ได้ ฮือๆ ผมไม่ไหวแล้วพี่ตั้น



“พี่เมย” " วิวสะกิดผม ผมก็รีบก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ วิวหันไปจ่ายค่ารถ ส่วนผมก็มองหาทางเข้าและผมก็เห็นพี่กอล์ฟ กับเฟย์ กำลังจะเดินเข้าไป ผมหันมาดึงแขนวิว และวิ่งตามเข้าไปเพื่อให้ทัน



“พี่กอล์ฟ เฟย์” ผมเรียกเขาทั้งคู่เอาไว้ สีหน้าพี่กอล์ฟ ไม่ดีเลย



“พี่กอล์ฟ” ผมมองหน้าพี่กอล์ฟ



“ไอ้ทีนมันโทรบอกพี่ และตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นี้กันหมดแล้ว เมย์” พี่กอล์ฟพูด น้ำตาผมยิ่งไหล



“หมับ” เฟย์เข้ามากอดผม



“เฟย์เชื่อว่า เฮียไม่เป็นอะไรพี่เมย์” เฟย์พูดและเอามือลูบหลังผมเบาๆ



“เข้าไปกันเถอะครับเมย์ พี่ยังไม่รู้อะไรมาก อย่าพึ่งคิดมากไปน่ะเมย์” พี่กอล์ฟแตะไหล่ผม ผมพยักหน้าและหันมาจับมือน้องสาวผม ผมเดินรีบเดินไป ผมเห็นกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ ไม่ใช่ใคร พี่เปรมดิ์ พี่ทีน พี่อาณ์มและบรรดาสาวๆ ที่ยืนจับมือกัน ผมเดินไปหาทุกคน ผมมองแต่ล่ะคน สีหน้าแต่ล่ะไม่ดีเลย



“เฮียเป็นยังไงครับ บอกผมซิ” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ



“หมับ” สามสาวเข้ามากอดผม ผมรับรู้ได้ว่าแต่ล่ะคนร้องไห้



“เฮียหนักมากเลยพี่เมย์ ฮือๆ “มัดหมี่พูดกับผม พอผมได้ยินเช่นนั้นขาผมแทบจะไม่มีแรง ผมทรุดลง



“พี่เมย์!!” ทุกคนร้องเรียกผม และพยุงผมไปนั่ง มือไม้ผมสั่นไป สั่นจนควบคุมมันไม่ได้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้



“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ แล้วเฮียไปถูกชนที่ไหนพี่เปรมดิ์” ผมหันไปถามพี่เปรมดิ์



“มีคนเห็นเหตุการณ์เขาบอกเจ้าหน้าที่มาอีกทีน่ะว่า ตั้นน่ะวิ่งมาไม่เร็วมากจนถึงแยกไฟแดง ซึ่งมันต้องแตะเบรกแล้วแต่ว่า มันกลับบีบแตรดังสนั่นทำให้ทุกคนหันมาและคงรู้ว่ามีเรื่องแน่ๆ เพราะตอนนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดรออยู่ เขาก็รีบหลบทันที”



“และรถไอ้ตั้นมันก็ออกไปที่แยกไฟแดง ช่องที่ไฟเขียวก็ขับออกมาชนกับรถตั้นเต็มๆ “พี่เปรมดิ์เล่าด้วยความลำบาก



“และรถไอ้ตั้นมันก็พลิกหงายลอย พี่เดาว่ามันหน้าจะดึงเบรกมือก่อน” พี่เปรมดิ์พูดก่อนจะหันมามองหน้า



“และรถไอ้ตั้นก็ร่วงลงมาคว่ำอยู่ “พี่เปรมดิ์พูด พร้อมกับหันมามองผม “พี่มาทราบเรื่องก็ตอนที่มีคนโทรหาพี่ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ เพราะว่าสายพี่คือสายสุดท้ายที่คุยกับตั้น “พี่เปรมดิ์พูด น้ำตาพี่เปรมดิ์ไหล่แต่พี่เขาก็ปาดมันทิ้ง



“อีกอย่างน่ะ ตลอดทางที่เขาพามันมาส่งโรงพยาบาล มันเรียกหาแต่เมย์น่ะ มันบอกว่ามันรักเมย์ มันพูดว่าให้เมย์รอมันกลับบ้าน “พี่เปรมดิ์หันมาบอกผม เท่านั้นแหละ ผมก็



“ฮือๆ ฮือๆ พี่ตั้น ฮือๆ พี่ให้ผมรอพี่กลับบ้านแล้วทำไมพี่มาเจ็บแบบนี้ ฮือๆ พี่ตั้น ฮือๆ “ผมร้องไห้ปล่อยโฮออกมาดังๆ อย่างไม่อายสายตาใคร พี่เปรมดิ์หันมาเอามือลูบหัวผม



“ธีม” ผมหันไปมองพี่ธีมและเด็กที่ทำงานให้กับเฮีย รวมทั้งใบเฟิร์นด้วย แต่ละคนหน้าตาตื่นมาด้วยกันทั้งนั้น



“ตั้นล่ะว่ะ มันเป็นไงบ้างว่ะ นี่กูก็โทรบอกไอ้ภาคิน มันก็จะบินกลับมาคืนนี้เลย” พี่ธีมพูด พี่ธีมมองหน้าแต่ล่ะคน แต่ไม่มีใครให้คำตอบพี่ธีมสักคน



“กูถามไอ้ตั้นล่ะไอ้เชี้ย!!” พี่ธีมตะคอกเสียงดังถามพี่ๆ ทุกคน แต่ล่ะคนก้มหน้าลงกันหมด พี่ธีมเดินไปชะเง้อมองที่กระจก ผมก็เดินตามไป ผมเห็นเหมือนด้านในกำลังวุ่นวายกันมาก ผมยืนกอดอกมองน้ำตาก็ยิ่งไหลริน



“พี่ควรจะไปกับมันเหมือนทุกที “พี่ธีมพูด เหมือนรู้สึกผิด



“พี่ควรจะติดรถไปกับมัน เหมือนทุกที โว๊ย!!” ผมไม่เคยเห็นพี่ธีมที่ปกติทำตัวเฮฮา เหมือนเป็นผู้ชายกะล่อนไปวัน วัน แต่ว่าวันนี้พี่ธีมดูจริงจังจนผมแอบกลัว และมันทำให้ผมรู้ว่าพี่ธีมรักพี่ตั้นมากจริงๆ



“พี่ธีม พี่อย่าโทษตัวเองเลย “ผมหันมาจับแขนพี่ธีม



“กูว่าไม่ใช่อุบัติเหตุว่ะ” พี่อาร์มเดินมาพูดกับผมสองคน



“มึงหมายความว่ายังไงวะ ไอ้อาร์ม” พี่ธีมหันไปถามพี่อาร์ม



“ถ้าเป็นอุบัติเหตุ ตั้นมันคงไม่บีบแตรให้รถที่ขวางรอไฟแดงหลบหรอกว่ะ กูว่าต้องมีอะไรสักอย่าง รถมันมีปัญหาอะไรสักอย่าง ตอนนี้รอตำรวจตรวจสอบอยู่ว่ะ และคันที่มันพุ่งออกไปชนกก็หนักแถมยังมีเด็กอีก แต่เด็กน่ะ ไม่น่าจะหนัก” พี่อาร์มพูด ผมหันไปมองพี่อาร์มจริงเหรอ มันทำให้ผมคิดทบทวนเมื่อเช้า แต่ว่าผมเห็นผมแค่เดาเอา ผมคิดว่าให้ตำรวจมาให้ข้อมูลก่อนจะดีกว่า



“ปึก” เสียงประตูเปิดออกมาโดยพยาบาล



“พี่ครับ แฟนผมเป็นยังไงบ้างครับ” ผมถามพี่พยาบาล



“คนที่รถคว่ำมาใช่ไหมคะ ที่ชื่อรชานนท์ “พี่เขาถามผม ผมพยักหน้า ทุกคนเดินมารอฟังข่าวกันหมด



“เออ เขาต้องได้รับการผ่าตัดด่วนค่ะ แต่ติดปัญหาที่ว่า เลือดของคนไข้เป็นกรุปพิเศษ Rh-Negative คนไข้เสียเลือดมากจริงๆ ค่ะ ตอนนี้รอหมอลงมาว่าจะทำยังไงก่อน ถ้าคนไข้ไม่มีเลือด พี่คิดว่า เขาอาจจะเสียชีวิตค่ะ” ผมแทบทรุดอีกครั้ง



“เราขอไปที่สภากาชาดแล้วนะคะ เขากำลังให้ดีเจ คลื่นวิทยุเพื่อประชาชน ช่วยประกาศขอความช่วยเหลือ คนที่มีกรุปเลือดนี้ให้แล้วค่ะ “พี่พยาบาลพูด



“แต่มีน้อยมากค่ะ หนึ่งพันคนจะมีสักสามคน ที่มีเลือดกรุปนี้” พี่พยาบาลพูด ผมกุมหน้าอกตัวเอง มันปวดใจที่สุด ทำไมผมไม่มีเลือดกรุปนี้ผมจะรีบให้พี่ทันทีพี่ต้น ทำไม ฮือๆ ผมร้องไห้



“อ้อ! คุณหมอมาแล้วค่ะ พี่ขอเข้าไปก่อนนะคะ “พี่พยาบาลพูด ผมหันมามองคนที่พยุงผมไว้



“น้องค่ะ พี่ขอเอกสารเกี่ยวกับคนไข้ได้ไหมคะ ประกันชีวิต หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องว่าเขาใช้สิทธิ์อะไรยังไงได้ นะคะ “พี่พยาบาลพูด ผมหันมามองหน้าพี่ๆ



“ผมต้องไปเอาที่ห้องนะครับพี่” ผมพูด



“พี่ขับพาไปเมย์” พี่กอล์ฟพูด ผมหันมามองวิว



“พี่อยากให้วิวกลับบ้าน ไปอยู่กับแม่น่ะวิว “ผมหันไปบอกน้องสาวผม วิวทำท่าจะค้าน แต่ผมจับแขนวิว



“บ้านพี่วิวอยู่ตรงไหนคะพี่เมย์ “ใบเฟิร์นถามผม



“อยู่แถว สำโรงครับ”



“บ้านใบเฟิร์นอยู่แยกบางนาค่ะ ใบเฟิร์นไปส่งได้ค่ะ “ใบเฟิร์นพูด ผมพยักหน้า และพาพี่กอล์ฟเดินออกไปทันที เฟย์ก็ตามไปด้วยอีกคน เฟย์กุมมือผมไว้แน่นมาก ภาพความหวานของผมกับพี่ตั้นมันผุดขึ้นมาตลอด ผมเดินมาจนถึงรถพี่กอล์ฟ ผมเห็นคุณตำรวจกำลังเดินเข้าไป แต่ว่าผมต้องรีบไปเอาเอกสาร เดี๋ยวค่อยมาฟังพี่เล่าให้ฟังแล้วกัน

TBC......

มาแค่นี้ก่อนนะคะ คนแต่งก็ยุ่งมากช่วงนี้ พยายามมาลงให้น่ะ อย่าเพิ่งหนีหายคนแต่งไปไหนนะคะ อยู่เป็นกำลังใจกันก่อนค่ะ

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เมธานินท์ ผม พี่กอล์ฟและเฟย์ พากันเดินออกไปทันทีเพื่อจะไปเอาเอกสารของพี่ตั้นมาให้เจ้าหน้าที่ตามที่เขาขอ เฟย์กุมมือผมไว้แน่นมาก ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนาขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นผมเคยขอตอนพ่อแม่ผม ผมอยากให้เขากลับมาแต่นั้นมันเป็นคำขอของเด็กห้าขวบและมันไม่มีวันเป็นจริง เพราะว่าพ่อกับแม่ผมเสียชีวิตไปแล้ว แต่ครั้งนี้ผมอยากจะขออีกครั้งผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักสุดหัวใจไป ระหว่างที่พวกผมผมกำลังจะเดินที่พี่กอล์ฟจอดรถเอาไว้ ผมหันมาเห็น ผมเห็นคุณตำรวจสองนายกำลังเดินสวนข้าไป แต่ตอนนี้ผมต้องผมต้องรีบไปเอาเอกสารก่อน เดี๋ยวผมค่อยมาฟังพี่ๆ เขาเล่าให้ฟังที่หลังแล้วกัน

“พี่กอล์ฟ เมื่อเช้าผมเห็น มีคนขับรถมอเตอร์ออกมาจากที่จอดรถด้วยครับ” ผมบอกพี่กอล์ฟ ขณะที่พี่กอล์ฟกำลังสตาร์ตรถ พี่กลับปรับกระจกมองหลังมามองผม

“ใครเหรอเมย์” พี่กอล์ฟถามผม “ผมไม่รู้ครับพี่กอล์ฟ แต่ผมเคยเห็นเขาขับรถมาจอดมองที่ด้านหน้าก่อนหน้านี้สองสามวันครับ” ผมพูด พี่กอล์ฟมองผมจากกระจกมองหลัง

“การที่ไอ้ตั้นมันดึงเบรกมือกะทันหัน นั้นแปลว่ารถมันเบรกไม่ได้ พี่คิดอย่างนั้นน่ะ” พี่กอล์ฟพูด ก่อนจะออกรถทันทีเช่นกัน

“พี่กอล์ฟ พี่กำลังจะบอกว่าไอ้คนนั้นมันคือต้นเหตุของอุบัติเหตุใช่ไหมครับ” เฟย์หันไปมองพี่กอล์ฟทันที

“ยังครับเราไม่มีหลักฐาน เพราะว่ามันอาจจะสุดวิสัยเบรกแตกเอง เราต้องรอตำรวจตรวจสอบก่อนจะดีกว่าครับ” พี่กอล์ฟพูด ขณะที่กำลังขับรถไปที่คอนโดของผมกับพี่ตั้น ผมนั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าคอนโด ผมก็รีบลงจากรถทันที ตามมาด้วยพี่กอล์ฟและเฟย์

“เมย์ พี่จะไปให้พี่ที่ดูแลกล้องวงจรปิด เขาเปิดดูย้อนหลังน่ะ ว่าแต่กี่โมงครับจำได้ไหมเมย์” พี่กอล์ฟถามผม ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาเพราะว่าหลังจากที่ผมคุยกับเฮีย ก็น่าจะ แปดโมงเช้า

“ประมาณเก้าโมงครึ้งแล้วครับ” ผมบอกพี่กอล์ฟ พี่กอล์ฟพยักหน้าก่อนจะหันไปเรียกเฟย์พี่เขาเดินแยกไปทางห้องควบคุม ผมก็รีบวิ่งไปกดลิฟต์ ผมรีบไปยังชั้นที่พัก ผมกดรหัสห้องพัก รีบเข้าไปหยิบเอกสารทุกอย่าง พี่ตั้นมีประกันอุบัติเหตุมากมาย และผมก็เห็นบัตรประจำตัวที่บอกว่าพี่เขามีกรุ๊ปเลือดพิเศษ ผมได้ยินพี่พยาบาลพูดแล้วผมก็น้ำตาไหล เขาบอกว่าเลือดกรุ๊ปนี้หนึ่งพันคนมีสามคนเองและถ้าไม่ได้ผมคงเสียเฮียไปแน่ๆ ก่อนจะออกจากห้อง ผมหันไปเห็นรูปถ่ายคู่ที่พี่ตั้นใส่กรอบเอาไว้ น้ำตาผมไหลริน ผมเห็นรูปเล็ก รูปแม่ของพี่ตั้น

“แม่ครับ ผมขอให้มีปาฏิหาริย์ได้ไหมครับ ขอให้มีคนบริจาคเลือดให้พี่ตั้นได้ไหมครับ ผมไม่อยากเสียพี่ตั้นไป “ผมหยิบรูปนั้นขึ้นมากอดไว้ ผมร้องไห้ก่อนจะวางรูปนั้นลง และหันหลังเดินออก

“ปึก” กรอบรูปนั้นร่วงลงมาบนพื้นที่ปูพรมไว้ ผมหันไปมอง หรือว่า แม่เขาก็อยากไปดูลูกเขากันด้วย ผมจึงเลือกเดินกลับมาหยิบกรอบรูปนั้นขึ้นมา

“แม่ลลิลภัทร์ครับ แม่ต้องช่วยพี่ตั้นด้วยนะครับ” ผมพูดพร้อมกับรีบเดินออกจากห้องทันที ผมปาดน้ำตาไปด้วย ผมเดินมายืนรอลิฟต์ จังหวะนั้น สตีเฟ่นเพื่อนบ้านของผมเขาเดินลากกระเป๋าออกมาพอดีพร้อมกับเพื่อนซี้ของเขาด้วย ผมหันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้ง

“ไฮ…” สตีเฟ่น กำลังจะทักผม แต่พอเขาเห็นว่าผมร้องไห้อยู่ เขาเลยได้แต่ยกมือค้าง หันไปมองหน้าเพื่อนของเขา จังหวะที่ลิฟต์มาถึงพอดีผมก็พยักหน้าก่อนจะรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ สตีเฟ่นและเพื่อนเขาก็ตามเข้าไปเงียบ

“อาร์ยูโอเค เมย์” สตีเฟ่น ถามผม ผมหันไปมองหน้าเขา

“ไม่ครับ แฟนผมประสบอุบัติเหตุหนัก เขากำลังจะตาย ฮือๆ “ผมยืนปาดน้ำตาร้องไห้

“เขาเป็นหนักเหรอเมย์ ใช่คนที่ทำหน้าดุ ดุ นั้นหรือเปล่า” สตีเฟ่นถามผม ผมพยักหน้า

“ใช่ ตอนนี้เขาต้องเลือดด่วน เขาเสียเลือดมาก ฮือๆ ผมไม่อยากเสียเขาไป” ผมพูดไปร้องไห้ไปด้วย

“ปึก” ผมทำรูปพี่ตั้นกับแม่ของพี่ตั้นหล่น และคนที่เก็บให้ก็คือเพื่อนของสตีเฟ่น

“เฮ้!! นี่มันไทตั้น นิ ที่เราเคยเรียนด้วยกันมัธยมปลายไง สตีเฟ่น “เพื่อนของสตีเฟ่น หันมาบอกเขา ผมก็หันไปมอง สตีเฟ่น รีบหันไปหยิบรูปมาดู

“ใช่จริงๆ ด้วย เขาเป็นเพื่อนผม ผมมาไทยเพื่อมาตามหาเขา “สตีเฟ่น พูดก่อนจะเงยหน้ามองหน้าผม ผมก็มองหน้าเขา

“ผมเคยเรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกับเขาก่อนที่จะย้าย ตอนนั้นแม่เขาป่วย ผมก็เลยไม่มีเวลาบอกเขา และพอผมกลับมาเที่ยวบ้านปู่ย่า ก็ไม่เจอเขาแล้ว”

“อย่าบอกน่ะเขาคือคนเดียวกัน ไทตั้นกับแฟนของเมย์ ถ้าใช่นี้เขาเปลี่ยนไปมากเลยน่ะครับ” สตีเฟ่นถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ แปลกตอนนี้ผมกลับไม่มีอารมณ์ตกใจกับเรื่องนี่สักนิด

“เขาก็คือคนเดียวกันสตีเฟ่น” ผมพูด สติเฟ่นหันไปมองหน้าเพื่อนเขา

“ที่คุณบอกว่าเขาต้องการเลือดด่วนเพราะว่า” สติเว่นถามผม

“เพราะว่าเลือดเขาหายากใช่ไหมครับ”

“ใช่ครับ” ผมหันไปมองสตีเฟ่น

“กรุปเลือกของเขา RH Negative “ผมมองหน้าเขารู้ได้อย่างไร ผมยังไม่ได้บอกเขาเลย

“ผมนี่แหละ เลือดกรุ๊ปเดียวกับเขา และเขาเคยช่วยผมเอาไว้ เขาเดินเข้าไปบริจาคเลือดเขาให้ผมก่อนที่เราจะมาเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นผมประสบอุบัติเหตุค่อนข้างหนัก เลือดกรุ๊ปนี้ที่โน่นไม่ค่อยหายากแต่ว่าต้องรอนาน ไทตั้นเขาเดินไปบริจาคให้ผม ผมถึงได้มีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ “สตีเฟ่น พูดพร้อมกับชี้ เขาติดสัญญาลักษณ์ไว้ที่เสื้อของเขาด้วย เป็นสัญญาลักษณ์ RH- /NEG

“จริงเหรอครับ สตีเฟ่น คุณไม่ได้ล้อผมเล่นน่ะครับ “ผมหันมาคว้ามือสตีเฟ่น แววตาที่บ่งบอกว่าผมเจอปาฏิหาริย์

“เฮ้ย! แต่เราจะบินกลับแล้วนี่” เพื่อนของสตีเฟ่น สะกิดสตีเฟ่น

“โทรยกเลิกก่อนโจเซฟ ไอต้องช่วยเขา เพราะว่าเขาเคยช่วยไอเอาไว้ครั้ง “สตีเฟ่น หันไปบบอกเพื่อนของเขา

“เขาอยู่ที่ไหนครับตอนนี้” สตีเฟ่นถามผม

“โรงพยาบาลครับ” ตอนนี้ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว ผมเห็นพี่กอล์ฟเดินออกมาพร้อมกับเฟย์พอดี พี่กอล์ฟถือกระดาษ A4 มาหนึ่งใบ พี่กอล์ฟหันมามองคนที่มากับผมด้วย

“พี่กอล์ฟเราต้องรีบไปที่โรงพยาบาลตอนนี้ นี้เพื่อนพี่ตั้นเขา “ผมพูด พี่กอล์ฟสะบัดหน้ามามองแสตีเฟ่นละโจเซฟ

“เพื่อนที่เรียนที่อเมริกานะครับแต่เขาจำพี่ตั้นไม่ได้ จนได้เห็นรูปนี้” ผมพูดและส่งรูปที่พี่ต้นถ่ายกับแม่เขา

“พี่ไม่เคยเห็นรูปนี้มาก่อนเลยเมย์” พี่กอล์ฟพูด

“เขามีเลือดกร๊ปเดียวกับพี่ตั้นพี่กอล์ฟ เรามีความหวังแล้ว” ผมรีบบอก พี่กอล์ฟ หันมามองและพยักหน้า พวกผมก็ไม่รอช้ารีบไปที่รถพี่กอล์ฟทันที พี่กอล์ฟ ยกกระเป๋าเดินทางของสตีเฟ่น และเพื่อนของเขาใส่ไว้ท้ายรถ พี่กอล์ฟเข้าไปขับเฟย์มานั่งกับผม เพื่อนของสตีเฟ่น ไปนั่งพี่กอล์ฟ

“ฮัลโหล พี่ธีม” ผมกดโทรหาพี่ธีมทันที

“ว่าไงเมย์ตอน ตอนนี้ตั้นกำลังแย่ เขาบอกต้องผ่าตัดด่วน” พี่ธีมพูด

“เมย์เจอคนที่มีกรุ๊ปเลือดเดียวกับพี่ตั้นแล้วพี่ธีมและผมกำลังจะพาเขาไปพี่ธีม” ผมพูดไปผมก็กลั้นน้ำตาไปด้วย อันนี้ผมดีใจ เฟย์กุมมือผมเอาไว้ ไม่นานรถก็มาถึงโรงพยาบาล ผมรีบพาสตีเฟ่น กับเพื่อนของเขาเข้าไปด้านในก่อน ผมวิ่งไปที่หน้าห้องฉุกเฉิน ผมเห็นหมอพยาบาลกำลังออกมาคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“พี่ครับ คนนี้เขามีเลือดกรุ๊ปเดียวกับคนไข้ครับ และคนไข้เคยบริจาคเลือดให้เขามาก่อนนะครับ” ผมบอกพี่พยาบาล และสตีเฟ่นก็ยื่นเอกสารประจำตัวให้หมอดู

“งั้นเชิญเลยครับและผมจะได้เตรียมห้องผ่าตัดเลย น่าจะเพียงพอกับการผ่าตัดก่อน ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้โทรไปกลุ่มคนที่มีเลือดกรุปนี้โดยตรง มีคนเข้ามาบริจาคแล้วหนึ่งคนและกำลังตามมาอีกสองคน ผมจะขอดูการผ่าตัดคนไข้คืนนี้ก่อน ถ้าคนใครไม่มีเลือดออกภายใน คิดว่าน่าจะเพียงพอ “คุณหมอพูด ผมหันมามองสตีเฟ่น ผมโผไปกอดเขา

“ขอบคุณ ขอบคุณ คุณรู้ไหมว่ามันมีค่ามากแค่ไหน “

“He’ s mean a lot to me!! ” ผมพูดกับสตีเฟ่น

“I quite understand how you feel, May. “สตีเฟ่น พูดก่อนจะตามพยาบาลไปทันที โจเซฟเพื่อนของสตีเฟ่น เขาหันมองผม ผมยิ้มให้เขา ผมหันมาเห็นพี่ๆ กำลังคุยกัน ผมผายมือให้โจเซฟนั่งลงก่อน

“ใครวะ แม่งไม่เห็นหน้าว่ะ แสดงว่ามันรู้มุมกล้อง “พี่ทีนพูด ผมเดินมาดู พี่กอล์ฟปริ้นรูปมาดูกัน

“นี้แหละ ที่ผมเห็นเมื่อเช้าพี่” ผมรีบพูด

“เฟย์บอกว่า นี้หัวเข็มขัด เหมือนสถาบันที่ มันทำร้ายเฟย์กับเมย์อ่ะ” พี่กอล์ฟพูด ทุกคนหันมามองหน้ากันหมด และพี่อาร์มก็ส่งถุงพาสสติกซิบล็อกมาให้ผมดู

“สายเบรก ถูกตัด” พี่อาร์มพูด ผมนี้กำหมัดแน่น ทำไมต้องทำกันขนาดนี้เลยอ่ะนี่มันฆ่ากันชัดๆ เลยอ่ะ เด็กๆ ที่เคยทำงานกับเฮียก็มากันอีกชุด พวกของปอม ทุกคนยกมือไหว้พี่ๆ และผมด้วย

“เฮียล่ะพี่ เฮียเป็นไงบ้าง “ปอมถามหาพี่ตั้นทันที

“หนักว่ะ เออ ไอ้ปอม มึงดูรูปที่ไอ้กอล์ฟ ไอ้นี่มันขับรถเข้ามาตอนเช้า มันเข้ามาที่พวกพี่จอดรถเอาไว้ว่ะ “พี่เปรมดิ์บอกปอม และปอมก็เอาไปดู ดูทุกรูปที่พี่กอล์ฟปริ้นมา ดูไปเรื่อยๆ

“หัวเข็มขัดนี้มันพวกที่มีเรื่องกับผมก่อนจะไปทำร้ายไอ้เฟย์นี้พี่ แต่ว่าพวกนั้นมันคุยกับพวกผมดีแล้วน่ะ พี่ที่ดูแลมันอ่ะที่ชื่อพี่โก้ เขารู้จักพวกพี่ดี พี่เขาให้พวกมันมาคุยกับพวกผม และก็เข้าใจกันดีแล้วแต่ ..” ปอมพูดก่อนจะหยุดที่ภาพหนึ่ง ภาพที่คนขับหันไปเหลียวหลังมองอะไรก็ไม่รู้และมันก็เห็นต้นคอของเขา

“เฮ้ยย พี่นี่มันไอ้เจนี่พี่”

“ไอ้เจไหนวะ” พี่อาร์มถามปอม

“ไอ้เจคนที่ตบหน้าพี่เมย์อ่ะ ผมจำมันได้ มันมีรอยสักที่คอพี่ “

“ไอ้นี่มันเด็กพี่โก้ด้วยใช่ไหมวะ” พี่ธีมถาม ปอมพยักหน้า

“งั้นไปหาพี่โก้กันว่ะ” พี่ธีมพูดด้วยสีหน้าซีเรียส พวกพี่เขาลุกขึ้น

“พี่ผมได้ยินมาว่ามันแตกหักกับพี่โก้ไปแล้วพี่ มันโกรธพี่โก้ต่อว่ามันและยังสั่งห้ามมันเข้าไปที่บ้านเขาอีก “ปอมพูด

“ก็วันนั้นที่เราไปฟาดรถพวกมันอ่ะแต่ไอ้เวรนี้มันอยู่ และพี่โก้บอกจะจัดการให้ “พี่อาร์มพูด

“บ้านมันอยู่สะพานควายพี่ เพื่อนมันบอกผมอีกน่ะพี่ ว่าตอนนี้มันติดยาอยู่ “

“งั้นไปหาตัวมันว่ะ กูอยากรู้มันทำไม หาตัวแม่งก่อนค่อยส่งตำรวจ” พี่เปรมดิ์พูด

“โบว์ มัดหมี่ เบนซ์ และเฟย์ อยู่กับพี่เมย์ที่นี้น่ะ “พี่ทีนหันไปบอกแฟนสาวพวกพี่ๆ เขา

“พวกผมไปด้วยพี่ ผมไปตามตัวมันด้วย” ปอมพูด

“มึงพึ่งมีเรื่องกับมันมาไม่ใช่เหรอว่ะ เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก” พี่ทีนหันไปพูดกับปอม ปอมโดนภาคทัณฑ์เลยไม่ได้มาทำงานกับพี่ตั้นช่วงนี้ ผมเลยไม่ได้เห็นพวกปอมในออฟฟิศมาพักหนึ่ง

“โดนก็โดนดิพี่ เพราะว่ามันทำพี่ที่พวกผมเคารพเจ็บแบบนี้ ผมไม่อยู่เฉยๆ แน่” ปอมพูด ผมที่ดีใจแทนพี่ตั้นที่สุด และพวกพี่ๆ เขาก็กำลังจะหันหลังออก ผมหันไปเห็นพี่ปริม เธอเดินมากับผู้ชาย ที่ดูก็รู้ว่าไม่แท้ ออกไปทางเพื่อนสาวมากกว่า

“เร็วๆ ซิ กูจะไปดูผัวกู “พี่ปริมเรียกพี่ตั้แบบนั้น

“นี้มาทำไมกันน่ะ “เบนซ์หันไปถามพี่ปริม

“ตั้นของฉันอยู่ไหน” พี่ปริมถามขึ้นและมองหน้าพวกผมทุกคน

“ใครโทรบอกชะนีปีศาจนี้มาว่ะ” เฟย์ถามขึ้น

“ก็วันนี้ตั้นจะไปลงโปรแกรมให้เพื่อนฉัน แต่ดันไปไม่ถึง พวกแกนี้ก็ไม่โทรบอกฉันเลยน่ะว่า ผัวฉันรถคว่ำ” พี่ปริมพูด ทุกคนหันมามองหน้ากัน

“โทรบอกไปบ้างแล้วน่ะ” พี่ธีมพูด ผมหันมามองพี่ธีมเป็นคนโทรบอกพี่ปริมเหรอ

“โทรบ้าอะไรกูไม่เห็นได้รับสายอะไรเลย “พี่ปริมพูด

“แต่บังเอิญเจ้เป็นเมียไอ้ตั้นคนที่ร้อยไง วงเงินเต็มพอดีเลยโทรออกไม่ได้ “พี่ธีมหันไปตอบเจ้ปริม

“ปากดีนะมึงน่ะไอ้ธีม “เจ้ปริมพูดและยืนเท้าเอว

“อย่าเล่นกับผมวันนี้เจ้ เพราะว่ามันไม่เหมือนทุกวัน ผมเตือน” สีหน้าพี่ธีมดูจริงจัง เหมือนจะเข้าไปเล่นพี่ปริมจริงๆ และพี่ทีนก็รีบดึงแขนพี่ธีมออก

“อย่าไปกัดกับอีเจ้มัน เดี๋ยวมึงก็ต้องฉีดยาพิษสุนัขบ้าเพิ่มหรอกมึง” พี่เปรมดิ์กระซิบ ส่วนพี่ปริมน่ะสะบัดหน้ามามองก่อนจะหันมาเบ้ปากใส่ผม และพยักพเยิดบอกคนที่มาด้วย เขาก็เบ้ปากใส่ผมทันที

“และที่ไม่โทรเพราะว่าใครก็รู้ว่าตอนนี้ใครยืนหนึ่งสำหรับพี่ตั้น พี่เมย์ต่างหาก” เบนซ์พูดพร้อมกับกอดอกมองพี่ปริม

“พวกกูไปแล้วกัน มึงอยู่นี้ไอ้กอล์ฟ เพื่อว่า มีคนอยากโดนกระทีบ มึงจะได้จัดการได้ เพราะถ้าให้สาวๆ อาจจะเจ็บมือซะเปล่า”

“กระเบื้องลอนคู่ที่ว่าหนาจนได้มาตรฐานมอก. ยังต้องชิดซ้าย หนาไม่เท่ากับหน้าสวยๆ ของเจ้เขา อันนี้รุ่น มอก บังคับ เพราะว่าหน้าเจ้นี่น่าจะผ่านการรับรองมาแล้วว่าหนาและด้านจริง” พี่เปรมดิ์พูด สองหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเจ้เริ่มจะคอยๆ ถอยหลังออกทีล่ะก้าว ส่วนเจ้ปริมก็รีบยกมือจับหน้าตัวเอง ก่อนจะหันมามองพี่เปรมดิ์ เจ้ปริมชี้ตัวเอง

“มึงด่ากูเหรอ ไอ้เปรมดิ์!! ” เจ้ปริมถามพี่เปรมดิ์

“ผมชมครับ ว่าเจ้หน้าหนา ก็เจ้เล่นพอกหน้ามาซะหนาขนาดนี้ ดูท่าทางแล้วเจ้นี้น่าจะ รุ่นสีทนได้ เปลี่ยนชื่อเถอะเจ้ เปลี่ยนเป็นสมสี”

“ไอ้เชี้ยเปรมดิ์!! หน้ากูไม่ใช่วัสดุก่อสร้างที่ต้องไปผ่าน มอก. หน้ากูนี้พอกมาด้วยเครื่องสำอาง ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ย๊ะ!! ” พี่ปริมพูด

“เจ้ อย. แปลว่าอะไรอ่ะ “เพื่อนเจ้สะกิดเจ้ปริม

“กูรู้แต่อย. แค่นี้” เจ้ปริมหันไปกระซิบกับเพื่อน

“อ่ะ งงอีก ไม่รู้จักซิท่า มึงคงซื้อแต่ของตามตลาดนัดที่ไม่มีอย..ให้เมียมึงใช้ล่ะซิท่า เลยไม่รู้จัก” พี่ปริมยืนกอดอก

“อุ้ยตายแล้ว! ไม่ทันได้มอง มายืนเสลอกับเขาด้วยเหรอ มาประกาศให้โลกรู้เหรอว่าแกน่ะเมีย เมียเขาใช้กับผู้หญิง ไม่ใช่ใช่กับผู้ชายอย่างมึง “อันนี้พี่ปริมหันมามองผมเต็มๆนั่นแหละว่าเขาว่าผม

“อีเจ้ มึงด่ากูสองคนด้วยป่ะเนี๊ยะ” สองคนด้านหลังเจ้ เจ้หันไปมอง สะดิ้งนิดนึง “กูยกเว้นมึงสองคน” เจ้ปริมกระซิบ ผมนี้ยืนเหลือกตามองบน แค่เรื่องพี่ตั้นก็หนักหนาพอแล้วสำหรับผม นี่ยังมาเจอสงครามประสาทกับเจ้ปริมอีก

“อีเจ้ มึงกลับไปเถอะไป พี่ตั้นเขาเลิกกับเจ้ ไม่ซิ เขาไม่เอาเจ้ เขาเลือกพี่เมย์ หันเคารพการตัดสินใจคนเลือกบ้างดิ หรือเรียกง่าย ว่าช่วยยอมรับความจริงจะดีกว่า” โบว์พูด

“เลือกอะไรด้วย ไปคุมผัวมึงโน้น ไม่ต้องมายุ่งเรื่องผัวเมียเขา” เจ้ปริมพูด ทำเอาโบว์ง้างมือทำท่าจะเข้าไปตบ ผมเลยจับแขนโบว์เอาไว้เพราะว่านี้มันในโรงพยาบาล

“อย่าโบว์ อย่าไปกางมือตบเขาแบบนั้น” พี่เปรมดิ์หันมาห้ามโบว์

“รองเท้าดีกว่า มือน่ะสู้หน้าเจ้แกไม่ได้ “พี่เปรมดิ์พูด “วันนี้ใส่คู่ใหม่มาไม่ใช่เหรอ เห็นว่ามันกัด รองเท้าไม่รักดี ใช้ตบอีเจ้ได้ มันเข้ากันดี” พี่เปรมดิไม่ได้ห้ามเลยสักนิด เจ้ปริมถึงกับถอยหลังทันที โบว์ก็ทำท่าจะถอดรองเท้ามาถือ

“อย่าน่ะมึงน่ะ กูเรียกตำรวจน่ะ” เจ้ปริมพูด

“อย่าซ่ากับพวกผมอีก วันนี้ไม่มีอารมณ์แต่ถ้าเจ้ไม่ฟังน่ะ ผมว่าเตียงข้างๆ ไอ้ตั้นน่ะ ของเจ้แน่ๆ ทางที่ดีกลับไปเถอะเจ้” พี่ธีมหันมาพูดกับเจ้ปริมพี่เปรมดิ์เลยผงกหัวว่าให้ทุกคนไปดีกว่า เพื่อนเจ้ปริมก็มาดึงแขนพี่ปริมให้ถอยออกจากพวกผม

“ไปกันเถอะว่ะ เดี๋ยวไอ้เวรนั้นมันหนี ข่าวไอ้ตั้นมันเริ่มออกแล้ว กูเห็นช่องน้อยสีน่ะ “พี่อาร์มหันมาบอกพวกพื่ๆ ผมพยักหน้าว่าพวกผมอยู่ได้ ผมพยักหน้ากับพี่ธีมว่าพวกผมโอเค เจ้ปริมคงไม่กล้าทำอะไรในโรงพยาบาลหรอก ทุกคนหันหลังจะเดินออก

“เดี๋ยวน่ะ ผมจำได้ว่าไอ้เจน่ะ มันเคย เป็นเด็กที่อยู่ที่บ้านเจ้ปริมนิ ผมเห็นอยู่” จู่ๆ ปอมก็พูดขึ้น

“ไอ้เจบ้าบอที่ไหน “เจ้ปริมหันขวับมาทันที

“ไอ้เด็กคนมันอาจจะเป็นคนทำให้ไอ้ตั้นมันเจ็บหนักขนาดนี้ไง กูว่ามีคนจ้างมันมาแล้วแหละ “พี่ธีมพูด

“กูไม่รู้จักเจเจอบ้าอะไร ไม่มี! ” พี่ปริมพูดอ้ำๆ อึ้งๆ พร้อมกับสีหน้าที่เหมือนตกใจด้วย

“ไปตามมันมาก่อน แล้วค่อยหาความจริง ถ้ามันทำงานให้ใครก็จะได้สาวถึงคนบงการเลย “พี่ธีมพูดก่อนจะพากันออกไปจริงๆ คราวนี้

“ไอ้เจไหนอีกล่ะอีเจ้”

“มีอยู่คนหนึ่ง มันมาคลุกกับการ์ดพ่อกูไง และมันก็มาอัพยา” พี่ปริมแอบกระซิบ

“เจ้จ้างมันเหรอ “พวกนั้นกระซิบกันกับเจ้ปริม “กูไม่ได้จ้างมัน กูจ้างแต่พวกมึงนี่แหละ แม่งเอ่ยเลยไม่ได้ผัวคืนเลย อุตส่าห์จัดห้องไว้รอแล้วเชียว” เจ้ปริมพูดกับพวกที่มาด้วย นั้นแสดงว่าถ้าพี่ตั้นไม่เกิดอุบัติเหตุ เจ้ปริมคงวางแผนทำอะไรพี่ตั้นแน่ๆ เจ้ปริมหันปรายตามองผมก่อนจะถอยออกไปยืนกับเพื่อน (สาวในร่างผู้ชายของเจ้แก) ส่วนสาวๆแฟนของพี่ๆก็ยืนประกบผม คงกลัวอีเจ้ปริมนี้จะมาทำอะไรผมซิน่ะ แต่ถ้าเจ้แกกล้า วันนี้เมย์ไม่ยอมยืนนิ่งๆแน่
TBC......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เจ้ปริมแกแรงดีไม่มีตกเว้ย 555 :serius2: :angry2:

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Part's เมธานินท์ ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเจ้ปริม พวกผมพยักหน้าและพากันไปหาที่นั่ง เพื่อนของสตีเฟ่น ก็มองผมก่อนจะยิ้มให้เจ้ปริม และเพื่อนๆ ของเจ้ปริมที่โบกไม้โบกมือให้ โจเซฟ และแน่นอนเจ้ปริมน่ะเป็นสาวสวยใครก็แอบหลงเสน่ห์กันทั้งนัน ไม่แปลกถ้าพี่ตั้นจะเคยจีบพี่ปริม พวกผมนั่งรอกันเกือบสี่ชั่วโมงได้ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้วด้วย

“โอ๊ยเจ้ มึงจะนั่งรออะไรเนี๊ยะ! นานอ่ะเจ้ ฉันว่าเราพากันกลับบ้านก่อนเถอะแล้วพรุ่งนี้เจ้ก็ค่อยมาใหม่แต่งหน้าสวยมาดู อยู่รอดึกขนาดนี้หน้าโทรม” เพื่อนเจ้ปริมพูด ผมหันชำเลืองตามอง

“กูต้องอยู่ เพราะถ้าตั้นตื่นมาจะได้เห็นหน้าฉันคนแรก” พี่ปริมพูด

“ถามไอ้ตั้นมันยังเจ้ มันอยากเห็นหน้าใครก่อน “พี่กอล์ฟพูดลอยโดยไม่ได้ระบุ เฟย์หันมาแบมือผมก็นึกว่าจะตีแขนพี่กอล์ฟ แต่กับแปะมือกัน

“สวัสดีค่ะ รบกวนญาติคุณรชานนท์ค่ะ “พี่พยาบาลเดินมาทางพวกผม ผมก็รีบก้าวเท้าออกไปแต่มีคน ก้าวเท้ามาประกบกับผม จนทำให้พยาบาลมองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา

“คนไหนคะ” พยาบาลถามพร้อมกับมองหน้าผมกับเจ้ปริมสลับกันไปมา “ผมครับ” “ฉันค่ะ …” ผมกับคุณปริมตอบพร้อมกัน ผมหันมามองหน้าเธอ

“ฉันเป็นเมียค่ะ” พี่ปริมพูด และยิ้มให้ผม

“เขาเป็นเมียแล้วคุณล่ะคะ เป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ผมเป็น…” ผมทำท่าจะพูด แต่ผมควรจะบอกไหมว่าผมก็เป็นเมียพี่ตั้นเหมือนกัน

“ผมตัดสินให้เองครับ เพราะว่าผมเป็นพ่อของคนไข้” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังของผม และทุกคนก็หันไปยกมือไหว้กันหมด พ่อของพี่ตั้นนั้นเอง ผมก็ยกมือไหว้ ส่วนพี่ปริมน่ะยกมือไหว้พร้อมกับย่อตัวลง “สวัสดีค่ะคุณพ่อ” พี่ปริมพูดจาเพราะจนภาพเมื่อสักครู่หายไปหมดสิ้น พ่อพี่ตั้นแค่หันชำเลืองตามอง ผมหันไปยกมือไหว้พี่อิสเรศอีกคน

“ตั้งแต่รู้จักสันดานอีเจ้มา กูไม่เคย!!! เห็นอีเจ้ปริมแกไหว้ใครได้งดงามขนาดนี้มาก่อนเลย” ขนาดเพื่อนพี่เขายังแอบนินทา

“ลูกชายผมเขายังไม่ได้แต่งงาน นั้นแปลว่ายังไม่มีเมียที่ถูกต้องนะครับคุณพยาบาล “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะปรายตาไปมองพี่ปริม

“แต่มีเมียอุปโลกน์ อยู่นะคะคุณพ่อ” มัดหมี่พูด พี่ปริมหันขวับมาแต่ว่าพ่อพี่ตั้นเขาอยู่ตรงนี้ไงเลยไม่กล้าแสดงกิริยาอาการอะไรมาก

“แต่ว่าลูกผมมีคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกัน เท่าที่ผมทราบและรับรู้มาตลอด คนนั้นก็คือ”

“เมธานินท์” พ่อพี่ตั้นพูด พี่ปริมสะบัดหน้ามามองพ่อพี่ตั้น

“แต่” พี่ปริมทำท่าจะค้าน

“เขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะทำธุรกรรมแทนผมหรือตั้นได้ “พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศ เอาหนังสือที่ตั้นเขียนเอาไว้ เรื่องขอวีซ่าให้เมย์ไปอเมริกากับเขา ในจดหมายนั้นระบุชัดเจนว่าเมย์เป็นคู่หมั้นของเขา” พ่อพี่ตั้นหันไปขอเอกสารกับพี่อิศเรศ และพ่อของพี่ตั้นก็ส่งให้พยาบาลดู

“ดิฉันก็ได้ยินคนไข้เพ้อหาแต่คนที่ชื่อเมย์ตลอดเลยค่ะ น้องใช่ไหมคะ” พี่พยาบาลถามผม ผมพยักหน้าพี่ปริมมองผมเขากำหมัดทั้งสองข้าง

“ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้องไอซียูนะคะ ทางเราจะให้คนที่ใกล้ชิดก่อนเข้าไปดูนะคะ คนอื่น รบกวนรอก่อนแล้วกันนะคะ คนไข้อาการยังทรงๆ อยู่นะคะ เลือดที่น้องมาบริจาคให้อาจจะไม่พอเพราะคนไข้เสียเลือดมากค่ะ” พี่พยาบาลพูด ผมเห็นสตีเฟ่นลงมาแล้ว

“พ่อครับ นี้เพื่อนพี่ตั้นครับ เขาเป็นคนให้เลือดกับตั้นครับ เพราะว่าเขากรุ๊ปเลือดเดียวกันและเขามากจากอเมริกาด้วยครับ” ผมหันไปบอกพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นหันไป เช็กแฮนด์ ทักทาย

“ขอบใจมากน่ะ” พ่อพี่ตั้นพูดขอบคุณสตีเฟ่น สตีเฟ่นก็หันมายิ้มให้ผมและพ่อพี่ตั้น

“เจ้ ฉันว่าเรากลับกันก่อนเถอะ ดูเจ้น่ะ”

“ทำไม” เจ้ปริม

“เหมือนเป็นส่วนเกินเลยว่ะ” เพื่อนของเจ้ปริม

“อีนี่นิ กูจะอยู่ กูก็เมียเหมือนกัน เอากันมานานกว่าไอ้ตุ๊ดนั้นอีก” พี่ปริมพูด พ่อพี่ตั้นแค่ปรายตาไปมอง ก่อนจะเดินมาจับแขนผม

“เมย์ขึ้นไปกับพ่อ” พ่อพี่ตั้นพูดกับผม ชวนผมขึ้นไป คงไปดูพี่ตั้น

“คนอื่นๆ ก็รออยู่ที่นี้ก่อนแล้วกัน เรศด้วย” พ่อพี่ตั้นพูด

“ทำไมปริมไม่ได้ขึ้นไปด้วยละคะ ไม่ยุติธรรมนี่ค่ะ” พี่ปริมรีบทักท้วงทันที

“เอาตรงๆ น่ะ ผมไม่เคยรับรู้ความสัมผัสของคุณและลูกผม แต่ผมมารับรู้ทุกอย่างของเมย์และตั้น และตั้นเขาพาเมย์ไปเปิดตัวที่บ้านไร่ของผมแล้ว ทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าตั้นมีแฟนชื่อเมย์ แต่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อคุณ” พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศเขามีเรื่องจะคุยกับคุณเกี่ยวกับโฉนดบ้านของเมย์” พ่อพี่ตั้นพูดโดยไม่หันไปมองพี่ปริมสักนิด

“จัดการคุยให้เรียบร้อยน่ะเรศ” พ่อหันกระซิบบอกพี่อิศเรศ “ครับคุณท่าน” พี่อิศเรศรับคำ ก่อนจะหันไปผายมือให้พี่ปริมเดินไปหาที่คุยกัน และเดินตามพยาบาลขึ้นไป เขาพาผมกับพ่อพี่ตั้นไปยังชั้นที่พักของคนไข้ไอซียู

“รบกวนเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อคลุมปลอดเชื้อและสวมหน้ากากด้วยนะคะ “คุณพยาบาลบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเอื้อมไปหยิบมาให้พ่อพี่ต้นก่อน ผมสังเกตเห็นอาการถอนหายใจของพ่อพี่ตั้น แสดงว่าท่านกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเห็น ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะทนเห็นลูกตัวเองต้องเจ็บปวด ผมเองเป็นแฟนยังทนไม่ได้เลย ผมเดินตามพ่อของพี่ตั้นเข้าไป เดินไปจนถึงห้องที่พี่ตั้นเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมา ผมเห็นมีหมอยืนอยู่กับพยาบาล คุณหมอหันมาเจอพ่อพี่ตั้น คุณหมอก็ยกมือไหว้ เหมือนรู้จักกันมาก่อน

“น้องเป็นไงบ้าง หมอโอม” พ่อพี่ตั้นถามคุณหมอตรงหน้า

“ผมขอคุยด้านนอกแล้วกันน่ะครับ ผมรอท่านกับน้องเขาด้านนอกดีกว่าครับ” หมอที่ดูแลพี่ตั้นพูดก่อนจะเดินออกไปกับพยาบาล ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นเดินมามองพี่ตั้น พี่ตั้นมีท่อช่วยหายใจ มีการผ่าตัดที่ช่องอกแสดงว่าพี่ตั้นบาดเจ็บที่ช่องอกด้วยและมีผ้าพันรอบเอว เหมือนจะที่หลังด้วย ผมยิ่งเห็นแบบนี้ผมใจหาย ผมมองพ่อพี่ตั้น เขาเดินไปก่อนใช้ฝ่ามือลูบที่หัวพี่ตั้น

“ลลิลภัทร์ ฉันขอโทษที่ดูแลลูกไม่ดีพอ” พ่อของพี่ตั้นพูด ผมเข้ามายืนใกล้ๆ สีหน้าและแววตาที่บ่งบอกว่าพ่อพี่ตั้นเสียใจมากแค่ไหน

“ผมอยากให้พี่ตั้นเห็นภาพนี้จัง ภาพที่พ่อแสดงว่าพ่อรักเขามากขนาดไหน “ผมพูด

“แต่ผมว่าพี่ตั้นเขาแค่อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงได้ไม่รักแม่ของเขา “ผมพูด ก่อนจะกุมมือพี่ตั้นเอาไว้ พี่ตั้นยังคงหลับสนิท น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา

“พี่ตั้นแค่อยากรู้ว่าแม่ของพี่ตั้น เขาทำอะไรผิดนะครับ “ผมพูด

“ฟู่!!”

“ลลิลภัทร์ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแต่เธอแค่เข้า มาผิดและที่ผิดเวลา ก็เท่านั้น” พ่อพี่ตั้นพูด ขณะที่เขาใช้มือลูบผมหนาๆ นั้น

“ลลิลภัทร์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านฉันในฐานะคนรักของฉัน แต่ลลิลภันทร์เธอเข้ามาอยู่ในฐานะ..”

“แม่เลี้ยงฉัน” ผมต้องหันไปมองพ่อของพี่ตั้น สายตาเขามองพี่ตั้น ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นเกย์ ตั้งแต่ขึ้นมัธยมแล้ว ส่วนพ่อฉันก็เจ้าชู้ มักมาก มีผู้หญิงไปทั่ว พ่อฉันทำให้แม่ฉันเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน”

“พ่อฉันได้สร้างบ้านเพิ่มอีกหนึ่งหลัง หลังที่เป็นของคุณลลิลภันทร์ และนั้นพ่อฉันเริ่มเอ่ยปากบอกแม่ฉันว่าเขาจะพาผู้หญิงเข้ามาอีกหนึ่งคน มาอยู่ในฐานะภรรยาของพ่อฉัน แม่ฉันรู้เข้า ท่านไม่ยอม”

“ท่านให้พ่อผมหาเศษหาเลยได้แต่ห้ามพาเข้าบ้าน แต่กับลลิลภันทร์ พ่อฉันพานางไปไหนต่อไหน และสุดท้ายพ่อฉันยืนยันจะพาลลิลภัทร์เข้าบ้านให้ได้ ในฐานะภรรยาคนหนึ่ง แม่ฉันยืนยันไม่ขออยู่ร่วมกับภรรยาน้อยเด็ดขาด”

“และนั้นพ่อฉันจึงขอให้แม้ฉันออกไปแทน แม่ฉันเสียใจมาก ส่วนฉัน ได้ถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนประจำ พ่อให้แม่ฉันออกไปแต่ตัว ห้ามพาฉันไปด้วย “พ่อของพี่ตั้นพูด ก่อนจะหันมามองหน้า

“และวันที่ฉันสอบติดมหาวิทยาลัย ฉันกำลังจะไปหาแม่ฉันและมันก็เป็นวันเดียวกับที่ลลิลภัทร์เธอย้ายเขาไปอยู่ที่นั่นเช่นกัน”
“และยังเป็นวันที่ สะเทือนใจฉันมากที่สุด”

“เป็นวันที่แม่ฉันตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังบ้านเรือนใหญ่ แม่ฉันผูกคอตายที่นั้นและคนที่ไปพบคนแรกคือฉัน มันติดตาฉันอยู่จนถึงทุกวันนี้ “ผมหันมามองหน้าพ่อของพี่ตั้น

“ฉันโกรธและเกลียดเธอมาก “พ่อพี่ต้นพูด

“แล้วพี่ตั้นเขา” ผมถามขึ้น

“ลูกฉัน เพราะว่าฉัน ข่มขืนเขา ในคืนที่พ่อฉันไม่อยู่”

“พอเธอตั้งครรภ์ มันกลับทำให้ฉันรู้ว่าพ่อฉันเคยประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้อีก เขาจึงมีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นลูกชายของเขา และดังนั้น เด็กที่เกิดกับลลิลภัทร์ก็คือลูกฉัน นั้นคือตั้น “พ่อของพี่ตั้นหันมามองหน้าผม

“พ่อฉันเลยยกลลิลภัทร์ให้ฉันทันที “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันกลับไป เขาเอามือลูบหัวพี่ตั้นเบาๆ

“ฉันต้องทนเห็นหน้าเธอ อยู่ในบ้านหลังเดียวหลังคาเดียวกัน จนกระทั่ง ตั้นเกิด และลลิลภัทร์ก็ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า พ่อฉันเลยส่งเธอไปรักษา ตอนนั้นพ่อฉันก็ต้องการตั้น เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นแบบนี้ ไม่มีวันมีทายาทแน่นอน”

“ถามว่าฉันรักตั้นไหม ฉันรัก ถึงเขาจะเกิดมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจแต่ฉันรัก แต่วันที่เขาร้องไห้ตามลลิลภัทร์ไป ฉันก็ต้องยอมให้เขาไป ฉันรู้ว่าเด็กต้องการแม่ ฉันจึงจำยอมส่งลลิลภัทร์ไปอยู่ที่อเมริกาตามที่เธอต้องการพร้อมกับตั้น “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ทำไมพ่อไม่บอกความจริงกับพี่ตั้นล่ะครับ “ผมถามพ่อพี่ตั้น

“ฉันก็ไม่อยากให้ตั้นมองว่าลลิลภัทร์ไม่ดี”

“แต่มันทำให้เขามองพ่อไม่ดีแทน “ผมพูด

“สักวันเขาก็จะเข้าใจฉันเองน่ะเมย์ “พ่อของพี่ตั้นพูด

“ขอออกไปคุยกับหมอโอมน่ะ อยู่กับต้นก่อนก็ได้น่ะ เพื่อว่าตอนนี้เขาต้องการเรา เมย์” พ่อของพี่ตั้นบอกผม ก่อนจะเดินออกไป ผมยืนมองร่างที่นอนโดยมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ พี่ตั้นเจ็บหนัก ปอดฉีก มีแผลตามเนื้อตามตัว ศีรษะกระทบกระเทือน และที่หนักที่สุดเป็นที่หลัง ผมนั่งลงข้างๆ ผมใช้มือผมสอดเข้าไปที่มือพี่ตั้น

“เฮีย อย่าทิ้งผมไปน่ะเฮีย ผมไม่เคยรักใครเท่านี้เลยจริงๆ เฮีย เฮียทำให้ผมรักแล้วอย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ฮือๆ ผมทนไม่ได้ ผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักอีก ผมไม่อยาก ฮือๆ “ผมร้องไห้ กับคนที่นอนไม่รู้สึกอะไร เหมือนเขาไม่รับรู้ ผมซบหน้าลงที่ตรงข้างๆ เตียงพี่ตั้น น้ำตาผมไหล ผมร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง ครั้งแรกคือพ่อแม่ผมเสียและครั้งคือพี่ตั้นคนที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน

“หงึก” ผมรู้สึกนิ้วพี่ตั้นขยับ ผมรีบเงยหน้าขึ้น ผมเพ้งมองอีกทีแต่ทุกอย่างก็นิ่งสงบ พี่ตั้นก็ยังนอนเหมือนคนไม่รับรู้เหมือนเดิม เครื่องช่วยหายใจก็ยังทำงานเหมือนเดิม ผมเห็นแบบนี้แล้วสงสารพี่ตั้นมาก

“เมย์ เขาต้องการให้ตั้นพักผ่อน เราออกไปก่อนเถอะ” พ่อของพี่ตั้นเดินเข้ามาเรียกผม ผมพยักหน้า ผมหันไปมองพี่ตั้นอีกครั้ง

“ผมรักพี่ตั้นนะครับ พี่ขอผมแต่งงานแล้ว กลับมาเป็นเจ้าบ่าวผมน่ะ “ผมหันไปพูด ผมรีบเดินออกมา ผมเห็นหมอที่กำลังคุยพยาบาลอยู่ ก่อนจะเดินตามพ่อของพี่ตั้นออกมาคุยด้านนอกด้วยกัน

“หมอโอม ฉันฝากดูน้องด้วยนะครับ”

“ผมยินดีครับ คุณท่าน ผมยินดีที่จะดูแลน้องให้ถึงที่สุดครับ “คุณหมอพูด

“หมอโอมเขาเป็นลูกคนงานในไร่ฉันและเป็นเพื่อนกับอิศเรศ และฉันก็ได้ส่งให้เขาเรียนจนจบหมอและตอนนี้เขาก็แต่งงานกับหมอที่เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลนี้ และตอนนี้ก็ขึ้นแทนเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลเต็มตัวแล้ว แถมอายุยังน้อยและเก่งซะด้วย “พ่อของพี่ตั้นพูด ผมหันมามองพี่หมอตรงหน้า

“คุณท่านก็ชมผมเกินไปครับ และทุกอย่างที่เกิดในชีวิตผมก็มาจากพระคุณท่านทั้งนั้น” พี่หมอโอมพูด

“และไม่ต้องห่วงน่ะครับ คุณท่าน ผมจะดูแลน้องตันอย่างดี “พี่หมอโอมพูด

“หมอโอม นี้เมย์น่ะ คู่หมั้นของตั้นเขา” พ่อของพี่ตั้นบอกพี่หมอโอม

“ยินดีที่รู้จักนะครับน้องเมย์”

“ผมขอเฝ้าพี่ตั้นได้ไหมครับ ผมขอนั่งอยู่ที่นี้ได้ไหมครับ ผมไม่อยากกลับไปบ้านด้วยความกังวลแบบนี้ กลัว เพราะว่าผมคงคิดไปต่างๆ นานา แต่ถ้าผมอยู่ตรงนี้ ผมยังเห็นว่าพี่ตั้น ไม่เป็นอะไร น่ะครับ” ผมพูดกับพี่หมอโอม

“เรามีห้องรับรองอยู่ตรงโน้นน่ะครับ ญาติคนไข้นั่งรอที่นั่นได้ครับ เดี๋ยวพี่จะให้เขากันไว้ให้เราเลย จะได้นอนพักผ่อนได้นะครับ” พี่หมอโอมบอกผม ผมพยักหน้า ผมหันมามองพ่อพี่ตั้น

“ดูแลตัวเองด้วยน่ะเมย์ อย่าล้มไปอีกคน เข้าใจไหมและถ้าเมย์มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอด ฉันกับอิศเรศจะพักโรงแรมแถวๆ นี้” พ่อพี่ตั้นพูด ก่อนจะเดินออกไป ผมเดินตามพี่โอมไป ห้องสำหรับนั่งรอ ผมอยากอยู่ตรงนี้เหมือนผมได้อยู่ใกล้ๆ กับพี่ตั้น จะให้ผมกลับไปห้อง ผมก็นอนไม่หลับอยู่ดีผมเลือกที่จะอยู่ที่นี้
TBC.....


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
           

                       ธรรพ์ณธร เดินลงมาจากชั้นผู้ป่วยวิกฤติ คือชั้นผู้ป่วยไอซียู และเป็นชั้นเดียวกับห้องผ่าตัด เพราะว่าตั้นประสบอุบัติเหตุ รถคว่ำที่กลางแยกไฟแดง คนเห็นเหตุการณ์บอกว่าตั้นขับมาและเหมือนกับว่าเขาเบรกไม่ได้ ผมเองก็ยังไม่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างดี ผมได้คุยกับหมอโอม เป็นเด็กที่โตมาในไร่ของผม ครอบครัวเขาทำงานให้ผมมานานและยังเป็นเพื่อนกับอิศเรศ พ่อแม่ของหมอโอมเสียไปนานแล้วก่อนจะเข้าเรียนแพทย์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และผมก็ได้ส่งเสียให้เขาได้เรียนแพทย์ เพราะผมเห็นว่าเขาเรียนเก่ง ผมส่งจนหมอโอมเรียนจบแพทย์สาขาที่ต่างประเทศและเขาก็ได้แต่งงานมีครอบครัวกับหมอด้วยกันแถมเป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลที่นำตั้นมาหมอโอมเขาเป็นหมอหมอผ่าตัด เขาเองก็รู้จักตั้นเพราะเขาเข้ามาอยู่ก่อนตั้นเกิดไม่นาน ตอนนี้ผมคงต้องฝากความหวังไว้ที่หมอโอม ผมเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เดินไปหาอิศเรศก่อน



“ทำไมฉันต้องยอมด้วย ในเมื่อฉันก็เป็นเมียตั้น ฉันเชื่อว่าตั้นก็มีใจให้ฉัน ทำไมฉันต้องยอมถอยให้เด็กเมย์นั้น “ผมเดินลงมาถึงก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ผมเห็นกอล์ฟเพื่อนของตั้นและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น พากันยืนมองคนที่โวยวายอยู่ ด้วยความเอือมระอา ผมเดาว่าอิศเรศคงคุยกับนางไม่รู้เรื่องเป็นแน่ ผมจึงต้องเดินเข้าไป



“เธอต้องการอะไร ปริม” ผมถามผู้หญิงคนนั้น เธอหันขวับมามองผม 



“ตั้นค่ะ ปริมต้องการตั้น “ปริมพูด มันทำให้รอยยิ้มผมกระตุกขั้นเป็นรอยยิ้ม ผมรู้สึกสมเพชเธอเหลือเกิน ผมหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ยืนมองหน้ากัน



“เธอยังไม่รู้อีเหรอว่าตั้นเขาเลือกใคร”



“ตั้นอาจจะเสียใจที่ตอนนั้นปริมต้องเลือกพี่ปฐวีย์ค่ะ แต่ตอนนี้ปริมพร้อมจะกลับมามาหาตั้นค่ะ” ปริมพูด



“ถ้าตั้นเขารักเธอ เขาเลือกเธอไปนานแล้วปริม ตั้งแต่ปฐวีย์ถอนมันเธอแล้วแต่นี่เขา “ผมพูด ก่อนจะหันมามองหน้าอิศเรศ



“ก็นางเมย์มันไม่ยอมปล่อยตั้นนี่ค่ะ และวันนั้นตั้นก็โทรให้ปริมไปหาแต่ จู่ๆ เมย์มันก็โผ่ไป “ปริมพูด



“เออ คุณพ่อครับ ผมได้ยินเจ้ปริมแกโทรไปอ้อนไอ้ตั้นน่ะครับ ไม่ใช่ไอ้ตั้นมันโทรไปหาและตั้นมันก็บอกเจ้ว่า ให้กลับมาได้แต่เหมือนเดิมน่ะ” เพื่อนของตั้นพูด



“นั้นไงค่ะ เห็นค่ะว่าตั้นน่ะให้ปริมกลับไปหาเขาและ”



“เซ็กส์โซน เหมือนเดิม แต่มันได้สติ มันเลยเลือก เลิฟโซน นั้นคือเมย์” ผมหันมาชำเลืองมองปริม ผมสั่นหัวอย่างเอือมระอาเหมือนกับอิศเรศ



“ไอ้กอล์ฟ!! มึง” ปริมทำท่าจะชี้หน้าด่าเพื่อนของตั้น แต่ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองเธออยู่ เธอเลยหันมายิ้มแหยๆ



“กอล์ฟ พูดไม่เพราะค่ะ” ปริม



“เอาล่ะ ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเรื่องพวกนี้กับเธอน่ะ เพราะว่านี้ไม่ใช่ประเด็นที่ฉันอิศเรศคุย แต่ฉันอยากจะให้เธอ เซนต์ขายบ้านนั้นซะ พ่อเธอบอกว่าบ้านนี้เขายกให้เธอ เพราะว่าตอนนั้นเขาต้องการใช้เธอมาเป็นข้อต่อรองกับคุณปฐวีย์” ผมพูด ปริมแค่หันมาปรายตามองผม



“แต่มันจบไปแล้วนี่ค่ะ คุณพ่อ เรื่องคุณปฐวีย์อะไรนี่นะคะ” ปริมพูด



“เธอไม่จำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้ แค่เธอขายบ้านคืนเมย์เขาไปซะฉันพร้อมจะซื้อคืน ตามราคาที่พ่อเธอต้องการ” ผมพูด



“ปริมจะขายหรือไม่ขาย ปริมจะคุยกับตั้นก่อน แล้วปริมจะบอกนะคะว่าขายหรือไม่ขาย ขึ้นอยู่กับความพอใจค่ะ” ปริมพูด ผมก็ต้องถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหันไปมองเธอ



“นี้เธอต้องการเขามากขนาดนี้เลยเหรอปริม โดยไม่สนใจว่า สถานะตอนนี้ของเขาเป็นยังไง เขามีคู่หมั้นแล้วปริม” ผมพูด เธอหันมามองหน้าผม



“ “ปริมมาก่อนมัน ถึงจะเป็นปริมเองที่เอาตั้นไปประเคนให้มันก็ตามแต่ว่าความเป็นจริงปริมมาก่อน ดังนั้นตั้นคือของปริมไม่ใช่ของเมย์มัน”



“ตั้นเขารักเมย์ ไปแล้วปริม เธอควรจะยอมรับความจริง”



“เธอจะทนอยู่กับคนที่เขาไม่รักได้เหรอ” ผมพูดและปริมก็หันมามองหน้าผม



“เธอไม่เห็นแม่ของเธอเหรอ แม่เธอต้องทนอยู่กับพ่อเธอ ต้องข่มขืน แถมพ่อเธอไม่เคยให้เกียรติแม่เธอเลยสักนิด “ผมพูด เธอถึงกับมองหน้าผมนิ่ง



“เธอไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมแม่เธอถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ผมถามปริมกลับเธอทำหน้าตาเลิกลัก



“ฉันรู้ทุกอย่างภายในบ้านเธอ แม้กระทั่งพ่อเธอเอง ตอนนี้ถูกตรวจสอบอยู่ เพราะว่าเขาเป็นคนให้การสนับสนุนพ่อค้ายาเสพติดอยู่”



“บ้านนั้นน่ะ ถ้าฉันจะไม่ซื้อก็ได้น่ะ เพราะว่าตั้นเขาก็บอกกับฉันแล้วว่า เขาจะไม่เอาแล้ว เขาไม่อยากเสียเมย์ไป” ผมพูดปริมหันมามองหน้าผม เธอกำมือแน่น



“แต่ที่ฉันอยากจะซื้อ ฉันจะให้เธอสามสิบล้านและพาแม่เธอไปตั้งตัวทำตัวเองให้มีค่ามากกว่านี้ “ผมพูด



“ก่อนที่เธอจะไม่เหลืออะไรเลย เหลือแต่ตัว เพราะว่าพ่อเธอคงโดนหนัก หลายข้อหา ฉ่อโกง ใช้งบหลวง และไม่ต่างอะไรกับคนค้ายาเสพติดซะเอง เพราะเขารู้และให้การสนับสนุน คนค้ายาเสพติด “ผมพูด ปริมมองผม ส่วนเพื่อนสองคนของเธอก็เริ่มถอยห่าง



“แถมลูกน้องก็เอายามาเสพ ลูกสาวยังเสพเลย และฉันรู้อีกว่าเธอใช้ยากับตั้น เพราะเธอรู้ว่าตั้นเคยใช้ยาเสพติดมาก่อน นี้หรือคนรักกันเขาทำกันน่ะปริม!!!” ผมพูด เธอดึงกลับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก



“เธออย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยน่ะปริม ที่ตัดสินแบบนี้ เธอไม่คู่ควรกับตั้นเขา และฉันเข้าใจความรู้สึกดีที่ต้องทนอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองไม่รัก มันเป็นยังไง”



“ฉันให้เธอเลือกว่าเธอในขณะที่เธอยังมีตัวเลือก ว่าจะเอายังไง”



“เงินหรือว่าอยากอยู่อย่างตกนรกทั้งเป็น” ผมพูด เธอมองหน้าผม กลืนน้ำลายลงคอ



“ถ้าเธอคิดว่าเธอไม่มีหนทางไป เธอยังจะฝืน ฉันก็เลี้ยงเธอได้น่ะ เลี้ยงผู้หญิงอย่างเธออีกสักคนจะเป็นไรไปเพราะว่า ฉันยังเลี้ยงสองแม่ลูกที่พ่อฉันยกให้ฉันดูแลต่อได้เลยทั้งที่ฉันก็ไม่อยากได้ เพราะว่านางก็ไม่มีปัญญาไปไหนเช่นเธอ จะไปอยู่ด้วยกันก็กับเขาก็ได้น่ะ จะได้ตั้งสมาคมเดียวกัน” ผมพูด ก่อนจะหันหลังมาหาอิศเรศ อิศเรศมองหน้าผม ใช่ผมพูดแรง แต่ผมต้องพูด



“เลือกเอาน่ะ” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ผมเดินไปหาเพื่อนๆ ของตั้นผ



“วันนี้กลับไปนอนก่อนเถอะน่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่รอดูว่าตั้นฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไงเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ค่อนข้างหนักและอาจจะ ไร้ความรู้สึกไปเลย รอดูพรุ่งนี้” ผมพูด ปริมยืนนิ่ง เขาได้ยินที่ผมบอกทุกคน แต่ล่ะคนสีหน้าตกใจ



“แล้วพวกที่เหลือหายไปไหนกัน” ผมถาม



“เมย์เขาเห็นคนขับรถเข้าไปและพวกผมคิดว่ามันคือต้นเหตุที่ทำให้ตั้นประสบอุบัติเหตุครับพ่อ” กอล์ฟตอบผม



“ตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครเลยไปตามตัวน่ะครับ”



“ได้เรื่องยังไงบอกพ่อน่ะ พ่อจัดการเอง” ผมพูดก่อนจะหันมามองอิศเรศ



“เรากลับกันเถอะ “ผมพูด



“แล้วนางเมย์มันอยู่ไหน ถ้ามันเฝ้าตั้นได้ ฉันก็ได้สิทธิ์นั้น” ปริมพูด



“ไม่ใช่เรื่องของเธอ ส่วนเธอก็กลับไปคิดสิ่งที่ฉันบอกกับเธอ แล้วค่อยมาให้คำตอบฉัน “ผมพูดก่อนจะหันหลังเดินออก



“อย่าให้ฉันต้องพูดหลายรอบ ฉันไม่ใช่คนชอบพูดอะไรซ้ำซาก” ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบเดินออกไปพร้อมกับอิศเรศ อิศเรศโทรบอกคนขับรถว่าผมจะกลับแล้ว ส่วนคนอื่นก็เดินตามออกมา เพื่อนของปริมก็ดึงลากปริมออกมาโดยที่ที่เธอไม่เต็มใจหนัก



“แม้ผมนี้ยืนพูดอยู่กับเธอตั้งนาน นางหัวชนฝ่าไม่ยอมท่าเดียว เถียงผมฉอดๆ เลย แต่พ่อท่านมานี้ ยืนอึ้งพูดไม่ออกเลย แต่จะว่าไปคุณท่านนี้ผู้ชายปากร้ายเหมือนกันน่ะ” อิศเรศพูดพร้อมกับแอบค้อนผม ผมก็แค่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น ผมยอมรับว่าผมเกลียดผู้หญิงประเภทนี้ที่สุด เพราะว่าพ่อผมทำกับแม่ผมไว้และผมก็เห็นมาจนวันที่พ่อผมจากไปด้วยอุบัติเหตุ และพ่อผมยังไปขอผู้หญิง ที่ไม่มีสมองคนนั้นมาเป็นภรรยาให้ผมแทนลลิลภัทร์ แต่ว่าผมก็รับมาน่ะแต่ไม่เคยแม่แต่อยากจะแตะต้องเธอสักนิด



“พ่อครับสวัสดีครับ” “พ่อค่ะสวัสดีค่ะ” ผมหันมายกมือรับไหว้กอล์ฟและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น รถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ก็ขับมาจอด คนขับรถลงมาเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งก่อน



“ถ้าไปไม่หมดให้รถพี่อีกคันไปส่งน่ะ รถพวกพี่มากันสามคันครับ” อิศเรศหันไปบอก ก่อนจะโทรบอกคนขับรถอีกคันให้ไปส่งแต่ล่ะคนกลับบ้าน นั่งนิ่งเงียบจนกระทั่ง ที่นั่งด้านข้างผมมีคนตามเข้ามานั่ง ผมหันไปมองอิศเรศ



“คุณตั้นอาการหนักเหรอครับ คุณท่าน” อิศเรศถามผม ผมหันไปมองสายตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใย ผมรู้ว่าเขาก็มีใจให้ตั้นเหมือนกันแต่ว่า เขายืนยันว่าเขาเลือกผมและนี่ก็คือประเด็นรองที่ทำให้ตั้นยิ่งสร้างกำแพงใส่ผมสูงขึ้น



“เรายังพอมีหวังน่ะ เพราะว่าพรุ่งนี้เขาจะให้หมอที่เก่งเรื่องระบบประสาทและเป็นอาจารย์หมอของหมอโอมเขามาดูให้น่ะเรศอาจจะผ่าตัดอีกรอบ หมอโอมบอกมา “ผมหันไปบอกอิศเรศ



“แล้วเรื่องที่คุณท่านพูดว่า”



“ยังไม่รู้ รอดูพรุ่งนี้น่ะเรศ” ผมบอกกับอิศเรศ อิศเรศกุมมือผมเอาไว้



“ผมว่าตอนนี้คุณท่านควรจะปล่อยวางเรื่องคุณลลิลภัทร์ได้แล้วนะครับ “อิศเรศบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมคงต้องปล่อยวาง เลิกอาฆาตแค้นเธอได้แล้ว ผมนั่งนิ่งเงียบไปตลอดทาง จนถึงโรงแรมที่อิศเรศจองเอาไว้ให้ผมเข้าพักกับเขา อิศเรศเขาก็จองห้องพักไว้ให้คนขับรถเช่นกัน



****



ปริม เธอก้าวเท้าลงจากรถเก๋ง ที่เพื่อนสาวในร่างหนุ่มมาส่งเธอ เธอเจ็บใจหนักที่มีคนมาทำให้แผนที่เธอจะได้ตั้นคืนต้องพังลง แต่ว่าตั้นต้องมาเจ็บหนัก หากเป็นจริงอย่างที่พวกนั้นว่าเธอคงเล่นไอ้เด็กที่มาคลุกอยู่บ้านเธอหนักแน่ๆ เธอหันมามองหน้าเพื่อนเธอ



“อดได้ผัวคืนเลยเนอะเจ้”



“กูยังไม่อด กูต้องได้เขาคืน”



“เจ้ ฉันถามจริงๆ เถอะน่ะ เจ้ไปหลงอะไรหนักหนา ดูเจ้ซิ สวยขนาดนี้ หาได้เยอะแยะ เอาสามสิบล้านดีกว่าไหม” เพื่อนหนุ่มของเธอที่เพิ่งจะเปิดศูนย์ความงามสาขาใหม่บอกเธอ



“มึงกำลังจะขาดทุนกันใช่ไหม” ปริมหันมาถามสองคนที่มาเกาะเงินเพื่อนำไปลงทุนเปิดคลินิกความ ย้ายมาไม่รู้กี่ที่ก็ยังขาดทุนเหมือนเดิม



“แม้ของแบบนี้มันยากน่ะเจ้น่ะ และเราต้องหาเครืองมือใหม่ๆ ทันสมัยมาลงนี้เจ้ “เพราะเหตุนี้ไงสองคนนี้ถึงได้ร่วมมือกับเธอ โดยการขอให้บริษัทของตั้นมาติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ให้แต่เธอวางแผนการมากกว่านั้น



“แกต้องการเท่าไหร่ ฉันจะขอพ่อเอง เพราะว่าฉันจะเก็บบ้านไว้ต่อรองกับตั้น เขาต้องยอมฉันแน่ๆ “ปริมพูด ก่อนจะสะบัดก้นเดินเข้าบ้านไป เธอเห็นรถของพ่อเธอจอดอยู่ เธอไม่ได้เจอพ่อเธอมาเกือบอาทิตย์ ได้แล้ว วันนี้กลับบ้านได้ แต่ก็ดีเธอว่าจะให้พ่อเธอโอนเงินให้เธอเพิ่มสักสิบล้าน



“แล้วนี่ลูกสาวเธอมันไปไหน” ปริมยังไม่ทันได้ก้าวผ่านประตูบ้าน เธอก็ได้ยินเสียงพ่อของเธอตะคอกถามผู้เป็นแม่ แม่เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ในบ้านนี้แต่ไม่มีสิทธิ์มีปากมีเสียงอะไรทั้งนั้น มันทำให้เธอนึกถึงคำพูดของธรรพ์ณธร



“ฉันรู้ เขารีบออกไปแต่เช้า” แม่ของเธอตอบพ่อของเธอ



“เธออยู่บ้านภาษาอะไร เคยรู้อะไรบ้างไหม ห๊ะ!”



“ฉันจะไปรู้อะไรฉันก็อยู่แต่บ้าน ดูแลบ้าน ทำอาหารให้คุณ”



“ก็ใช้ไง เธอมันมีสมองเอาไว้ทำได้แค่นี้ ดูซิ นี้กูต้องหาเงินมาปรนเปรอมึงสองคนแม่ลูก และกูดันซวย มีคนตรวจสอบกูขึ้นมาอีก กูอยากรู้หนักว่าถ้าไม่มีกูมึงสองคนจะแดกอะไรกัน แถมมีลูกสาวก็เหมือนมีสวมอยู่หน้าบ้าน วัน วัน มันก็ตลอนไปหาแต่ผัว แต่ถ้ามันหาผัวดีๆ รวยๆ ได้กูจะไม่ว่าเลย “และนั้นทำให้เธอต้องชะงักเท้า นั้นแปลว่าพ่อของตั้นรู้เรื่องภายในบ้านมากกว่าเธอซะอีก ที่อยู่ที่นี้ใช้ชีวิตไปวันวัน



“พ่อ เกิดอะไรขึ้น” เธอก้าวเท้าเข้ามาก็ถามผู้เป็นพ่อของเธอทันที



“ไปไหนมา” ดิลกหันมาถามบุตรสาวทันที



“ไปเยี่ยมแฟนหนูมาค่ะ เขาประสบอุบัติเหตุรถชนค่ะพ่อ”



“ไอ้ตั้นเหรอ มันคนเดียวหรือว่ากับไอ้เด็กนั้นด้วย แล้วเป็นไง ตายไหม” พ่อเธอถามเธอ



“พ่ออย่าบอกน่ะว่านี่เป็นฝีมือของพ่อน่ะ “ปริมถามพ่อของเธอทันที



“ถ้าใช่มึงจะทำไม กูบอกแล้วว่ากูจะหาผู้ชายดีดีให้มึง และที่กูทำเพราะว่าพ่อมัน ทำให้ดูถูกตรวจสอบ แม้กระทั่งบ้านเด็กนั้น มันก็อาจจะทำให้กูโดนฟ้องกลับ และทั้งหมดนี้มันมาจากความโง่ของมึง”



“พ่ออย่ามาพาพาลว่าปริมน่ะ”



“ก็ถ้ามึงแต่งงานกับปฐวีย์ และไม่ปล่อยให้เขามาถอนหมั้นมึงได้น่ะ ทุกอย่างมันก็จะไปตามที่กูวางไว้ แต่กูพังไม่เป็นท่า เพราะว่ามึงสองแม่ลูก”



“พ่อ!!” ปริม เธอมองหน้าพ่อเธอ “นี้พ่อเห็นแกเงินมากกว่าความสุขของปริมเหรอ ให้ปริมไปทนอยู่กับคนที่ปริมไม่รักได้ยังไง และที่สำคัญ คุณปฐวีย์อะไรนี้ เขาก็ ไม่ได้ชอบผู้หญิงอย่างปริม”



“แล้วความสุขของมึงน่ะ มันแดกเข้าไปได้ไหม แถมไอ้คนที่มึงไปเกาะแกะด้วยน่ะ พ่อมันดันสนิทกับคนใหญ่คนโต ตอนนี้กูโดนตรวจสอบแล้ว สมใจมึงไหมปริม!!” พ่อของเธอหันมาพูด



“ถ้ามันรวยจริง สามสิบล้านมันคงจ่ายให้กูแล้วแต่นี้มันดันหาคนมาขุดเรื่องบ้านไอ้เด็กนั้น แถมมันขุดไปถึงคนที่กูอุดเงินเขาไว้ให้พลิกคดีให้กู และนี่มึงยังมี่หน้าไปเอามันอีกเหรอ อีลูกไม่รักดี "



“พ่อจะไปโทษใครได้ ทั้งหมดนี้พ่อทำเองน่ะ”



“นี้มึงโทษกูเหรอปริม เดี๋ยวบัด!!” พ่อเธอทำท่าจะตบหน้าเธอแต่ว่าแม่ของเธอรีบเข้ามากอดปริมเอาไว้เพื่อห้ามปรามไม่ให้พ่อเธอทำร้ายเธอ พ่อเธอมองหน้าแม่ของเธอ



“ถ้าคืนนั้นกูไม่ทำแม่มึงท้องและกูต้องมาติดกับผู้หญิงโง่ๆ อย่างแม่มึงป่านนี้กูคงไปถึงไหนแล้วอีปริม แถมมีลูกก็ไม่ได้อย่างใจ!!”



“และมึงนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่มึงสักนิด ถ้ากูไม่หาผัวรวยๆ ให้มึง มึงจะอยู่ได้ไหม ไม่ได้หรอก “พ่อของเธอพูดก่อนจะเดินสับเท้าออกไปทันที พ่อของเธอกระซิบกับคนที่ติดตามพ่อเธอก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว นั้นก็แปลว่าพอมีเรื่องแน่ๆ  ส่วนปริมได้แต่ยืนนิ่ง นึกถึงคำพูดของ ธรรพ์ณธรพ่อของผู้ชายที่เธอรักหรือว่าหลงกันแน่ ถามเธอว่าเธอไม่แปลกใจกับสถานะที่แม่เธอเป็นอยู่บ้างหรือ  ใช่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอเกิดมาเพราะว่าความผิดพลาดของคนสองคนอย่างนั้นหรือ น้ำตารินไหลแม่ของเธอกอดเธอไว้ เอามือลูบหัวเธอ



“ปริม ฮึก ถ้าไม่ติดแก แม่คงไม่มาทนอยู่แบบนี้หรอก เพราะแม่ทิ้งแกไม่ได้ปริม ฮือๆ”



“คอยดูน่ะ คอยดูน่ะ หนูต้องได้ผัวหนูคืน ผัวหนูครอบครัวเขาก็รวย ดูแลเราได้อยู่แล้วแม่”



“แล้วเขารักเราหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบเรา อย่าเลย แม่รู้ว่า มันมีแต่นรก ไม่มีหรอกน่ะวันแห่งความรักน่ะ ถ้าคนเขาไม่ได้รักเรา คิดว่าทนอยู่กับเขาแล้วสักวันเขาจะรักน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่ะปริม”



“แกไม่เห็นแม่เหรอปริม” แม่ของเธอ ถามเธอ



“ปริมเชื่อว่าปริมทำให้เขารักปริมได้ เพราะว่าปริมไม่ใช่แม่” ปริมพูดก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเองไป ทันที ถึงเธอจะรู้ความจริงว่าตั้นไม่ได้รักเธออย่างคนรัก เธอรู้ว่าเขามีคนที่เขารักอยู่แล้วแต่ในตอนนั้นมันไม่ใช่เมย์ และเธอก็คิดว่าเธอจะทำให้เขาลืมคนนั้น แต่ทำไมสุดท้าย เมย์ที่มาทีหลัง กลับได้หัวใจเขาไป ทำไม ทำไม ฮือๆ

******



"color:#4472c4;">Part’ s "color:#4472c4;">เมธานินท์"color:#4472c4;"> ผมนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีแต่ก็ดูไม่รู้เรื่อง ผมเลยเดินออกมา ผมเดินผ่านมาที่ห้องที่พี่ตั้นนอนอยู่ในนั้น ขณะที่ผมกำลังเดินหันหลังออก ผมเห็นพยาบาลดูวุ่นวาย วิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องไอซียู และสักพักก็มีหมอวิ่งตามเข้าไป ผมนี้ยืนมองใจคอไม่ดีเลย ไอ้ครั้นผมจะเดินเข้าไปถามก็ไม่กล้าเพราะดูแล้วถ้าจะยุ่งจริงๆ ผมชะเง้ออยู่หน้าห้อง ผมภาวนาขออย่าให้เป็นพี่ตั้นเลยน่ะ เฮียอย่าเพิ่งทิ้งไป ผมยืนชะเง้อมองอยู่แต่ที่หน้าประตู



“ปึก” ผมชนกับอะไรบางอย่าง “ตุ๊บ” สิ่งที่ผมชนก็หล่นลงไปที่พื้น ผมก้มลงมอง เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก นั่งกะพริบตามองผม ทำตาปริบๆ ผมเห็นมีผ้าปิดแผลที่หน้าผาก ผมก็รีบย่อตัวลง ประคองเด็กน้อยให้ลุกขึ้นทันที



“พี่ขอโทษนะครับ” ผมบอกเด็กน้อย ก่อนจะมองซ้ายมองขวา ว่าพ่อแม่เด็กอยู่ไหน ทำไมปล่อยน้องมาอยู่แบบนี้ คนเดียวล่ะ



“หนูมากับใครครับ” ผมถาม ดูแล้วน่ะจะสองขวบเกือบสามขวบได้



“มัม “เด็กน้อยบอกผมว่ามากับแม่



“แล้วแม่อยู่ไหนครับ” ผมถามเด็กน้อย



“อึ” เด็กน้อยชี้ไปในห้องนั้น ผมก็มองตาม แล้วทิ้งลูกไว้ตรงนี้ทำไมกันน่ะ



“มั้มมี้ แด้ดดี้” เด็กน้อยบอกผมว่าแม่กับพ่อเขาอยู่ในนั้น เด็กน้อยเอียงคอมองผม ผมก็พยายามมองหาว่าใครพอจะคุยกับผมได้ ผมจะได้บอกเขาว่าแม่เด็กอาจจะลืมน้องไว้ตรงนี้



“แม่หนูชื่ออะไรครับ” ผมถามเด็ก



“มัม!” เด็กน้อยตอบผม ผมเกาหัวเล็กน้อย ผมนึกถึงตอนที่ผมทำงานอยู่ที่โรงแรมของพี่ปฐวีย์ มีเด็กฝรั่งเดินหลงอยู่ในโรงแรม ผมก็ถามชื่อพ่อแม่ เขาก็บอกผม ว่ามัมแอนแด้ด ผมนี้ก็ไม่รู้จะพาไปหาที่ไหน จนกระทั่งพ่อแม่เด็กเดินมาโวยวายลูกหายนั่นแหละแต่นี่



“พี่จะช่วยหนูยังไงล่ะ “ผมถามเด็กน้อย



“มัม มัม มัม” เด็กน้อยชี้ไปที่ประตู ผมก็รีบเดินไปส่องกระจกมอง แต่ก็ไม่มีใครน่ะ



“มัม มัม มัม” เด็กน้อยกางมือจะให้เขาออกมาอุ้มแต่ว่าในนี้ไม่มีใครเลย ผมเริ่มขนลุกผมมองซ้ายมองขวาจนกระทั่งมีพยาบาลเดินออกมา



“พี่ครับ ผมว่าแม่น้องเขาคงลืมน้องไว้ข้างนอกน่ะครับ” ผมบอกพยาบาล แต่พอพยาบาลหันไปมองตามมือผมที่ชี้ พยาบาลถึงกับตกใจ ยกมือทาบอก



“ตายแล้วมาได้ยังไงงเนี๊ยะ!! “พยาบาลพูดขึ้น



“น้องเขาบอกว่ามากับแม่เขานะครับ” ผมพูด



“เป็นไปไม่ได้ค่ะ” พยาบาลพูดกับผม “คุณใช้ญาติคนไข้ที่รถชนสี่แยกไฟแดงไหมคะ และเขานอนอยู่ในห้องไอซียู คนไข้หมอโอมนะคะ” ผมรีบพยักหน้า



“เด็กนี้เป็นลูกของคู่กรณีที่ออกมาชนนะคะแต่เด็กแค่หัวแตก และนี่พ่อแม่น้องเสียค่ะ เมื่อสักสิบนาทีนี้เองค่ะ” ผมก็ต้องผงะ





“แล้วน้องเขามายังไงล่ะครับ”



“นั้นซิ ห้องเด็กน่ะอยู่ชั้นบนค่ะ” พยาบาลพูด



“หนูมายังไงคะลูก”



“มัม” เด็กตอบแต่นี้ ผมก็พยักหน้าว่าน้องก็บอกผมแบบนี้



“เดี๋ยวพี่พาไปส่งห้องเด็กเองค่ะ ไม่แน่พรุ่งนี้ กรมประชาสงเคราะห์คงมารับค่ะ เพราะว่าเราติดต่อญาติพ่อแม่น้องไม่ได้เลย พ่อเขาไม่ใช่คนไทยค่ะ แต่เป็นลูกครึ้งค่ะไทยออสเตรเลีย และเราก็หาเบอร์ติดต่อเบอร์ติดต่อทานโน่นไม่ได้เลยค่ะ ต้องรอให้ตำรวจประสานงานกับทางสถานทูตค่ะ “ผมก้มลงมองเด็กน้อยที่ทำท่าจะร้องไห้



“แหง๋ๆๆๆ” อยู่ดีดีก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังมาก มันทำให้ผมนึกถึงตอนนั้น ตอนที่ผมเพิ่งจะเสียพ่อแม่และผมก็เพิ่งจะห้าขวบ ผมก็ร้องไห้อย่างหนักเพราะว่าไม่อยากไปอยู่กับคนอื่น ผมย่อตัวลง



“ไปกับพี่เขานะครับ พี่เสียใจด้วยน่ะ และพี่ตั้นก็คงเสียใจมากถ้าเขารู้ น่ะครับคนดี” ผมพูดก่อนจะถอยหลังออกให้พี่พยาบาลพาไปแต่เด็กน้อย เดินมาเกาะขาผม ไม่ยอมไป



“ไปค่ะลูก ได้เวลานอนแล้วน่ะ ว่าแต่พยาบาลไม่รู้หรือไงว่าเด็กหายลงมาน่าจริงๆ”



“ไม่!!” เด็กน้อยตะคอกใส่พยาบาล



“ไปครับ พี่พากลับห้องนะคะ ไม่ดื้อน่ะ”



“ไม่ ไม่ ไม่ ฮือๆ “เด็กสะบัดมือนางพยาบาลออกตลอดและชี้ไปที่ในห้องนั้น



“เอาอย่างนี้ไหมครับ ให้เขาอยู่กับผมก่อน พอเขาหลับแล้วค่อยพาเขาไปห้องของเขานะครับ” ผมบอกพยาบาล



“ก็ได้ค่ะ พี่จะบอกพยาบาลห้องเด็กเอาไว้นะคะ ตอนนี้พี่ต้องลงไปทำเรื่องก่อน ต้องเอาศพพ่อแม่เด็กไปไว้ห้องเก็บศพก่อนนะคะ “พยาบาลพูด



“น่าส่งสารเนอะ แต่มันคืออุบัติเหตุไม่มีใครรู้ล่วงหน้า” พี่พยาบาลพูด ผมก้มลงมองเด็กน้อยที่ยืนเกาะขาผมแน่น ผมเองก็ค่อยโล่งอกไปหน่อย คนที่เขาวุ่นวายไม่ใช่พี่ตั้น มันก็ปวดหัวใจผมน่ะที่ต้องมาเป็นพ่อแม่เด็กน้อยคนนี้แทน ผมเองเคยไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โรงแรมของพี่ปฐวีย์มาบ้าง ผมเองก็ชอบเด็กแต่ผมไม่กล้าไปเป็นครู ผมกลัวเวลาที่ผมต้องเห็นพ่อแม่มารับลูกแล้วผมนึกถึงพ่อแม่เหมือนกันแต่นี่ เด็กคนนี้ต้องมาเสียพ่อแม่ไปกะทันหันยังเด็กน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ผมพาเด็กน้อยมานั่งในห้องรับรองแทน



“เราชื่ออะไรน่ะ” อุ้มน้องนั่งบนโซฟา ผมย่อตัวลงถามเด็กน้อย



“แอนดรูว์” น้องเขาบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเอามือลูบหัวเบาๆ ในห้องรับรองสามารถมองเห็นเงาคนเดินผ่านไปมากได้ พอแอนดรูว์หันไปมองก็โผเข้ามากอดผมตัวสั่น พร้อมกับหลับตาปรี๋



“แอนดรูว์ ไม่มีอะไรครับ”



“กลัว” แอนดรูว์พูดและยังกอดผมแน่นไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยต้องขึ้นไปนั่งและแอนดรูว์ก็ขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของผมและยังเอาหน้าซุกที่อกผม เขาใช้นิ้วโป้งดูด แอนดรูว์ช้อนตาขึ้นมามองผมเป็นระยะๆ ผมก้มลงมองแอนดรูว์ด้วยสายตาที่แฝงความเจ็บปวด เขายังเด็กเกินไปที่จะมาเจอการสูญเสียแบบนี้



ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีคนเดินมาเคาะประตูห้อง พร้อมกับเปิดเข้ามา เป็นพยาบาลและผู้ช่วย ดูจากชุดผู้ชายลายน่ารักนั้นแปลว่าเขามาจากแผนกเด็ก คงจะมารับแอนดรูว์กลับไป



“ขอโทษนะคะ มารับน้องค่ะ น้องน่าจะง่วงแล้วนะคะ” พี่พยาบาลพูดและพากันเดินเข้ามา แอนดรูว์หันไปเห็นก็ลุกขั้นและกอดคอผมแน่นมาก ผมรู้สึกแปลกใจทั้งที่ผมเพิ่งเจอเขาแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงเลยแต่นี่เขากับไม่อยากไปจากผม



“แอนดรูว์ค่ะ”



“ไม่ โน ไม่ ไม่ ไป อยู่ พี่” แอนดรูว์ไม่ยอมไปจากผมท่าเดียวเลย แถมพูดไทยป่นอังกฤษตีกันยุ่งไปหมด ผมก็เงยหน้าขึ้นมองพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาลว่าเอายังไงดี



“ไม่ อือ ไม่ ฮือ “ยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่เลย



“น้องจะโอเคไหมครับ ถ้าให้น้องนอนในห้องนี้กับผม หรือว่าน้องต้อง…”



“น้องไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนะคะ รอแค่กรมประชาสงเคราะห์มารับตัวน้องไปค่ะ “พี่พยาบาลพูด ผมก็ก้มลงมองแอนดรูว์ มันช่างเหมือนตอนผมร้องและเกาะขาแม่ปิ่นเอาไว้แน่น ผมไม่อยากไปอยู่ที่นั่น และตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแอนดรูว์แล้ว



“งั้นให้เขาอยู่กับผมก่อนแล้วกันน่ะครับ เพราะว่าผมอยู่รอแฟนผมน่ะครับและนี่พี่หมอโอมเขาให้ผมมารอเฝ้าแฟนผมที่นี้ได้นะครับ” ผมพูดกับพยาบาล เขาก็พยักหน้าเบาๆ พยาบาลมองน้องแอนดรูว์ ตอนนี้กอดคอผมไม่ยอมปล่อยเลย และดูท่าจะไม่ยอมด้วย



“ก็ได้ค่ะ ตอนเช้าพี่มารับแล้วกันนะคะ หรือถ้าน้องจะให้พี่ลงมารับก่อน ฝากบอกพยาบาลห้องไอซียูโทรตามพี่ได้ตลอดนะคะ พี่ชื่อพี่อ้อยค่ะ “พี่พยาบาลพูดก่อนจะหันหลังออกไป พอประตูปิด หนุ่มน้อยเงยหน้ามองผม ก่อนจะซบหน้าลงใหม่อีกครั้ง ผมเริ่มเห็นว่าเขาหลับแล้วผมเลยวางลงที่โซฟายาวอีกครั้ง และผมเองที่เป็นคนกั้นไม่ให้แอนดรูว์ตก นี้ผมรู้สึกผิดแทนพี่ตั้นหรือว่าผมรู้สึกเข้าใจเด็กคนนี้ที่ต้องเสียพ่อแม่ไป เหมือนเช่นผมกันแน่ ผมไม่รู้ว่าผมผล่อยหลับไปตอนไหน



“หงึก หงึก “มีคนมาสะกิดผม ผมหันไปสะลึมสะลือเป็นผู้หญิงผมยาว แต่งตัวด้วยเดรสสีขาว เธอมายืนมองผมแอนดรูว์ ผมหันไปมอง และจู่ๆ เธอก็ร้องไห้



“คุณเป็นแม่เขาหรือเปล่าครับ”



“อืมม” เขาแค่พยักหน้าแต่ก็ยังร้องไห้



“แอนดรูว์” ผมกำลังจะเรียกเด็กน้อยให้ตื่นแต่คนที่ยืนมองผมส่ายหน้า



“ฝาก ลูก ฉัน ด้วย” ผมไม่ได้ยินเสียงแต่ผมอ่านปากเธอ และจู่ๆ เธอก็เดินหันหลังออก ผมก็รีบหันตามและทำท่าจะยื่นมือไปเรียกเขาเอาไว้



“เฮือก!!” ผมสะดุ้งเฮือกใหญ่ ผมหันซ้ายหันขวาและมองเด็กน้อยที่หลับใหล อยู่ด้านใน ผมหันไปมองด้านที่ผมเห็นผู้หญิงคนนั้น แต่ว่าไม่มีแล้ว เหงื่อผมแตกผลักๆ เลย นี้ผมฝันไปใช่ไหม ผมค่อยทิ้งตัวลงนอนข้างแอนดรูว์อีกครั้ง หรือว่าเขามาบอกผมให้ผมดูแลลูกเขา เขาไม่อยากให้เขาส่งเด็กคนนี้ไปที่บ้านเด็กกำพร้า แล้วผมจะดูแลเด็กคนนี้ยังไง ผมหวนไปนึกถึงแม่ปิ่น แม่ปิ่นยังดูแลผมมาได้ แล้วทำไมผมจะดูแลเขาไม่ได้ พี่ตั้นก็คงเห็นด้วยถ้าผมจะขอดูแลเขาต่อจากนี้ ผมจะทำเรื่องได้เหรอ ตอนผมนั้นแม่ปิ่นยังโดนเข้ามาตรวจสอบหลายรอบเลย เขากลัวว่าแม่ปิ่นจะเลี้ยงผมไม่ดี แต่ระหว่างผมอยู่กับแม่ปิ่นที่มอบความรักให้ผมไม่ต่างจากพ่อแม่แท้ๆ กับผมต้องไปอยู่กรมประชาสงเคราะห์ ที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง คือให้ความรักความอบอุ่นไม่เท่ากับแม่ปิ่น ผมเลือกที่จะอยู่อย่างลำบากดีกว่า



“พี่จะลองดูน่ะ ถ้าพี่ทำให้เขาเห็นว่าพี่ดูแลเราได้ แอนดรูว์”

TBC .......

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งแรก)

      เมธานินท์ ผมตื่นขึ้นมาก็รีบอุ้มน้องแอนดรูว์ไปคืนที่ห้องเด็กทันที ก่อนจะรีบกลับมาดูพี่ตั้น แต่พยาบาลบอกกับผมว่าคุณหมอเฉพาะทางที่เป็นอาจารย์แพทย์ของพี่โอม และเขาก็เป็นหมอเกี่ยวกับระบบประสาทโดยตรง เขาได้เดินทางมาเพื่อทำการผ่าตัดให้พี่ตั้นอีกครั้งตั้งแต่ตอนเช้ามืดแล้วเขาว่าจะเข้าไปเรียกผมแต่เห็นว่าผมนอนหลับอยู่เลยไม่ได้เรียก คาดว่าอีกสักประมาณสิบเอ็ดโมง ก็น่าจะเข้าเยียมได้ ผมก็รีบกลับไปยังคอนโด เพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว ผมนั่งรถแทกซี่กลับไปที่คอนโดเอง และระหว่างที่ผมกำลังจะออกจากห้อง

“เมย์” ผมหันไปมองสตีเฟ่น นี่เขายังอยู่ที่ไทยหรือนี่

“ครับ ผมยังอยู่ พอดีว่า เมื่อวานเพื่อนของไทตั้น เขาไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เรื่องที่ผมคืนห้องแต่เขาแต่ว่ายังไม่ครบกำหนด และเขาบอกสาเหตุว่าทำไมผมต้องกลับมาพักที่นี้ เขาเก็เลยให้ผมอยู่ต่ออีกจนถึงสิ้นเดือนนะครับ” สตีเฟ่นบอกผม

“คุณจะอยู่นานแค่ไหนครับ” ผมถามสตีเฟ่น

“ผมจะอยู่เจอเพื่อนผมก่อน ว่าแต่เขาเป็นยังไงบ้างครับ”

“เมื่อคืนผมเข้าไปดูเขาแค่แป๊บเดียวครับสตีเฟ่น ตอนเช้าพยาบาลก็บอกกับผมว่าพี่ตั้นเข้าห้องผ่าตัดแต่ตอนเช้ามืดเลยกับอาจารย์หมอนะครับ เป็นแพทย์เฉพาะทาง” ผมบอกสตีเฟ่น

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปก่อนน่ะครับ “ผมบอกสตีเฟ่น

“ผมจะโทรบอกคุณสตีเฟ่นดีไหมครับ ว่าเขาให้เข้าเยี่ยมได้หรือยัง “ผมหันมาบอกสตรีเฟ่น สตีเฟ่นก็พยักหน้าก่อนจะส่งมือถือของเขามาให้ผมกดเบอร์โทรผมลงไป ผมก็โบกมือลาพร้อมกับรีบเดินลงไปชั้นล่างสุด ผมยังไม่ได้คุยกับวิวเลย ผมไม่อยากให้แม่เป็นกังวลแทนผม จังหวะที่ผมลงมาก็เจอพี่กอล์ฟ พี่กอล์ฟมายืนรอผมแล้ว

“พี่กอล์ฟ “ผมเรียกพี่กอล์ฟ

“พี่ว่าจะขึ้นไปเรียกเราแต่พี่คิดว่าเมย์น่าจะใกล้ลงมาแล้ว” พี่กอล์ฟบอกผม

“เฟย์เขาต้องไปเรียนน่ะครับ ขาดมาหลายวันแล้ว” พี่กอล์ฟบอกผม ผมพยักหน้า อันที่จริงผมว่าจะไปก่อนเวลาด้วยซ้ำ เพราะว่าผมจะแวะไปหาแอนดรูว์ก่อน เมื่อคืนนอนกอดกันกลมเลย ผมก็เดินตามพี่กอล์ฟไป ระหว่างที่เดินไปที่รถพี่กอล์ฟก็กดรับสาย ผมเองก็เหลือบมองมือถือผม เงียบไปน่ะ เฮีย

“เมย์ พี่จะไปส่งเมย์ก่อนน่ะ เฟย์เขาลืมชีทเอาไว้น่ะเขาต้องใช้ วันนี้น่ะครับ” พี่กอล์ฟบอกผม ผมพยักหน้าว่าได้

“แล้วพี่จะรีบกลับมาน่ะครับ “พี่กอล์ฟบอกผม ผมนั่งนิ่งคิดถึงผู้หญิงที่มาหาผมเมื่อคืน เขาบอกว่าฝากลูกเขากับผม ผมคิดเรื่องตัวเองมากไปหรือเปล่าเลยทำให้ผมถึงกับเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะไป จนกระทั่งรถแล่นมาถึงโรงพยาบาล ผมก็ลงจากรถก่อน ผมเหลือบมองเวลา เพิ่งจะสิบโมงเอง ผมก็รีบเดินขึ้นไปที่แผนกเด็กทันที ระหว่างที่ผมเข้าไปในลิฟต์ ระหว่างที่ลิฟต์กำลังจะปิด ผมเห็นคนที่มากับเจ้ปริมเดินอยู่ แต่ว่าลิฟต์ปิดพอดีเลย ผมเองก็ไม่อยากสนใจไม่อยากเอามาคิดมาก แค่เรื่องพี่ตั้นก็มากพอแล้วสำหรับผม ผมมาถึงแผนกเด็กและผมก็เดินไปที่เคาเตอร์พยาบาลทันที

“สวัสดีค่ะ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ”

“สวัสดีครับ ผมเป็น เออ ผม เป็นแฟนพี่คนที่ขับรถชนครอบครัวที่กลางสีแยกน่ะครับ และน้องที่ได้รับบาดเจ็บน่ะครับ เขาอยู่ที่นี้ น้องชื่อแอนดรูว์นะครับ” ผมบอกพยาบาล พบาบาลทำหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะ

“แอนดรูว์ อ้อค่ะ แล้วคุณจะมาเยี่ยมน้องเหรอคะ” พยาบาลถามผม ผมพยักหน้า

“มีเจ้าหน้าที่จากกรมประชาสงเคราะห์มารับตัวน้องไปแล้วค่ะ เพราะว่าทางเราไม่สามารถติดต่อญาติพ่อแม่เด็กได้เลยค่ะ “ผมตกใจมาก

“อ้าว!! น้องนั้นเอง พึ่งจะมาเหรอคะ นี้แอนดรูว์เขาไปแล้วค่ะ น่าจะคลาดกันไม่กี่สิบนาทีเองค่ะ “ผมทำหน้าเศร้าลงทันที ผมไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

“คือว่าพวกมีคนไข้เด็กเยอะค่ะ เลยจะมาดูแลตลอดก็ไม่ได้ และ” ผมหันไปเห็นพี่พยาบาลที่เดินลงตามแต่แอนดรูว์ไม่ยอมกลับขึ้นมา ผมจำได้ดี

“แอนดรูว์ร้องไห้หนักมา ร้องหาเรานะคะ “ผมก็ใจแป้วเลย ผมรู้สึกปวดใจ ภาพวันวานที่ผมร้องไห้และกอดขาแม่ปิ่นเอาไว้

“พี่ครับ ผมขอเบอร์ติดต่อคนที่พาน้องไปได้ไหมครับ “ผมถามพี่พยาบาล เขาก็มองหน้ากัน

“นะครับผมขอร้อง ผมคิดว่าผม จะขอรับน้องมาดูแลนะครับ “ผมบอกพี่พยาบาล พี่เขาก็ หันไปหยิบเอกสารในแฟ้มมาให้ผม เป็นเบอร์กรมประชาสงเคราะห์ มีชื่อและเบอร์โทรเจ้าหน้าที่ ผมก็รับมาถือไว้

“ดู่ท่าทางน้องจะชอบเราน่ะ” พี่พยาบาลพูด จังหวะนั้น โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมกลัวว่าจะรบกวนคนไข้คนอื่น ผมเลยรีบเดินออกมา ผมเห็นว่าเป็นเบอร์พี่อาร์ม แต่ว่าลิฟต์เปิดพอดีและเขาก็รอผมอยู่ด้วย ผมเลยรีบเดินเข้าไปก่อน ไอ้ผมจะรับสายในลิฟต์ก็เกรงใจ คนอยู่หลายคน เลยรอให้ลงมาถึงชั้นล่างก่อน

“ฮัลโหล พี่อาร์ม” ผมโทรกลับหาพี่อาร์ม

“เมย์อยู่ไหนแล้ว” พี่อาร์มถามผมทันที

“ผมอยู่ในโรงพยาบาลครับ พี่อาร์ม ผมเพิ่งจะไปดูเด็กที่พ่อแม่เขาขับรถออกมาชนกับพี่ตั้นน่ะครับ พี่อาร์ม” ผมบอกพี่อาร์ม

“ตั้น ฟื้นแล้วน่ะเมย์” พี่อาร์มบอกผมว่าพี่ตั้นฟื้นแล้ว

“ตอนนี้กำลังจะเข็นขึ้นไปที่ห้องพักพิเศษ นี้ตื่นมาอย่างสะลึมสะลือก็ถามหาเราเลยน่ะเมย์”

“ผมจะรีบขึ้นไปตอนนี้เลยนะครับ” ผมบอกพี่อาร์ม

“พี่ตั้นย้ายไปอยู่ห้องหมายเลขอะไรครับ พี่อาร์ม” ผมดีใจที่สุด

“ห้องเบอร์ 8709 นะครับ”

“เดี๋ยวผมรีบขึ้นไปเลยนะครับ” ผมรีบบอกพี่อาร์ม พี่ตั้นเขาชอบดื่มน้ำแร่ ผมก็เลยเดินไปหาซื้อน้ำแร่ดีกว่า ระหว่างที่ผมกำลังเดินผ่านจะไปทางเชื่อมที่จะออกไปซูเปอร์มาเก็ตด้านข้างๆ ได้

“ปึก” จู่ๆ ก็มีคนเอาถุงผ้ามาครอบหัวผม พร้อมกับมีผ้ามาปิดปากผมไว้ ผมถูกรวบขาไว้ด้วยกัน

“อืมมมม อืมมมม อืมม “ผมร้องแต่ก็ร้องไม่ออก

“ตุบ” ร่างผมถูกโยนเข้าไปในไหนก็ไม่รู้ ทั้งเจ็บและจุก ก็ก้นผมกระแทกพื้นขนาดนั้นและเสียงประตูก็ถูกปิดลง ผมดดึงถุงที่ครอบหัวผมออก ผมนั่งอยู่ในห้องเล็กๆ แคบๆ มีแต่ไม้กวาด ไม้ถูก ผมก็รีบลุกขึ้นพยายามดันประตูแต่ว่าดันไม่ออก

“เรียบร้อยแล้วไปหาผัวเธอได้” ผมได้ยินเสียงดังคนคุยกันดังมาจากด้านนอก

“ปึก ปึก ปึก “ผมรีบดันตัวเองขึ้นและใช้กำปั้นทุบประตู “เปิดน่ะ คุณเป็นใคร ทำกับผมแบบนี้ทำไม เปิดน่ะ บอกให้เปิดไง” ผมพูด และพยายามเขย่าประตู ผมก็หยิบมือถือมาจะกดโทรออกแต่ว่าไม่มีสัญญาณเลย ผมก็ยืนชะเง้อ ผมมาอยู่ในจุดอับสัญญาณเหรอ ผมก็พยายามส่องหาสัญญาณ ผมยืนมืออยู่พักหนึ่ง ผมเห็นมีขีดหนึ่ง ผมก็เลยกดโทรออกแต่ว่าความไวของมือผมกดเลยไปถึงเบอร์พี่ภาคิน แต่ว่าฝากข้อความเสียง

“พี่ภาคิน ช่วยผมด้วย ผมถูกขังอยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดอ่ะพี่ภาคิน ตรูด ๆ” และสัญญาณก็ถูกตัดไป แถมแบทเตอรี่ก็อ่อนอีก ผมทรุดตัวลงนั่ง ผมได้แต่ภาวนาขอให้มีคนเดินมาเปิดประตู

****

รชานนท์ ผมค่อยลืมตาขึ้น หนังตาที่หนักอึ้ง จนแทบจะลืมไม่ไหว แต่ผมก็ต้องฝืน ผมจำอะไรไม่ได้เลย ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมหลับไปได้ยังไงก็ยังไม่รู้ แต่ในความฝันของผม มันเป็นภาพวัยเด็กที่หายไปของผม ผมเห็นเขาคนนั้น พ่อผมเอง ผมร้องไห้ร้องตามพ่อผม ผมรูกสึกเจ็บที่คอผมมาก กลืนน้ำลายลำบากมาก รู้สึกเหมือนชาๆ แต่ก็พยายามจะกลืนน้ำลายลงคอ

“ตั้น” เสียงที่เรียกชื่อผมคนแรก คือ ไอ้ทีน เพื่อนผม

“ตั้น!! “และอีกเสียงที่ดังมาพร้อมกับประตูเปิดออก ผมไม่ได้ยินเสียงเขามานานมากแล้วน่ะ ผมจำได้ดีพี่ปริม พร้อมกับผู้ชายที่ไม่เต็มร้อยอีกสองคน ผมเองยังนอนนิ่งอยู่ เจ็บระบบไปหมด ผมหันไปมองไอ้ทีน ไอ้ทีนมันอ่านสายตาผมออก ผมอยากถามหาคนที่ผมอยากเจอมากที่สุด

“กูไปโทรหาให้เมย์ให้น่ะ” ทีนพูดก่อนจะชำเลืองมองเจ้ปริมที่เดินมายืนที่ข้างเตียงผม ระหว่างที่ไอ้ทีนเปิดประตูไอ้เปรมดิ์ ไอ้อาร์มมันก็มาพอดี มันเข้ามาถึงก็มองคนที่มาเยี่ยมผมก่อน

“นี้เจ้เอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเยี่ยมไอ้ตั้นมันด้วยเหรอครับ” ไอ้เปรมดิ์มันถาม ผมขยับไม่ได้เลยหันไปมองหน้ามันด้วยสายตา

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรของมึงเปรมดิ์” เจ้ปริมถามไอ้เปรมดิ์

“ก็นี้ไง มีผ้าสามสีผูกติดมาด้วย สงสัยว่าจะเป็นกล้วยตานี ปลายหวีเหี่ยวซะด้วย “ไอ้เปรมดิ์มันชี้ไปที่คนที่มากับพี่ปริม พอพูดประโยคนี้ทั้งคู่ถึงกับหนีบส่วนน้ั้นทันทีและจับผ้าที่พันคอมาด้วย

“นี้ อันนี้มันผ้าพันคอ ฟูลคัลเลอร์ ผ้าสามสีบ้านแกซิ ฉันสองคนไม่ใช่เสาร์เอกเสาร์โทน่ะ”

“นี่ก็กำลังจะมองหา” ไอ้อาร์ม

“หาอะไรว่ะ” ไอ้เปรมดิ์

“หาธูปมาจุดไหว้พอดีเลย แม้แถมยืนอยู่กลางห้องอีกต่างหาก” ไอ้อาร์ม ผมหันไปมองมันสองคน อยากจะร้องห้ามแต่ก็เจ็บคอ

“เดี๋ยวก็สั่งหัวหมามาเซ่นซะเลยนี่” ไอ้เปรมดิ์

“หัวหมู!!!”

“เจ้!!!”

“ออกไปก่อน” เจ้ปริมพูด ไอ้เปรมดิ์กับไอ้อาร์มหันมามองหน้ากัน

“ออกไปซิ! ยืนเซออยู่ได้ นายหญิงเขาสั่งน่ะ นี่คนขับรถใช่ไหมเจ้” ไอ้เปรมดิ์ถึงกับชี้หน้าตัวเอง

“มึงสองตัวนั่นแหละออกไปก่อน” เจ้ปริมหันไปบอกสองคนที่มากับเจ้ปริม ทั้งคู่ถึงกับสะบัดหน้ามามองเจ้ปริมทันที

“อ้าวเจ้!!”

“ออกไปก่อน ฉันจะอยู่ดูแล ผัวที่รักของฉัน” เจ้ปริมก็เดินมามองผม ส่วนสองคนนั้นก็หันมามองหน้าไอ้เปรมดิ์ และอาร์ม

“มองหน้าเดี๋ยวปัดเต๊ะไข่แตกเลย” ไอ้อาร์ม

“อ้าย!!”

“กูว่าไข่มันฝ่อไปตั้งนานแล้วเตะไปก็เสียตีนเปล่า” ไอ้เปรมดิ์พูด ก่อนจะเดินมาหาผมเช่นกัน

“ตั้น เจ้รู้ข่าวเจ้รีบมา มานั่งเฝ้าตั้งแต่เมื่อวาน อดหลับอดนอน ขอบตาคล้ำดำปรี่เลย ตั้น” เจ้ปริมพูด

“เอาดินหม้อทางมาเองหรือเปล่า แม้ทำซะเหมือนจริงเชียว”

“ของจริง เพราะว่ากูนี่เป็นห่วงตั้นมาก และอีกอย่างน่ะ “เจ้ปริมพูด

“บ้านกูใช้เตาแก๊ส ไม่ได้ใช้เต่าถ่าน “พี่ปริมพูด ผมหันไปมองเปรมดิ์ กำลังจะอ้าปาก อย่างน้อยให้มันอ่านปากก็ยังดี

“ตั้น มองหน้าเจ้ซิ” เจ้ปริมก็ใช้มือประคองหน้าผมไปมองหน้าเขา

“ตั้น มึงจะพูดกับกูใช่ไหม มึงมองหน้ากูดิ” ไอ้เปรมดิ์มันก็จับหน้าผมพลิกไปมองหน้ามัน ผมก็อ้าปาก

“ตั้น มองเจ้ดีกว่า เจ้เห็นตั้นเจ็บแบบนี้เจ้เจ็บกว่าอีก” เจ้ปริมก็พลิกหน้าผมไปหาเขา

“ไอ้ตั้น มึงมองหน้ากู ตกลงมึงจะถามหา “ไอ้เปรมดิ์

“เอ๊ะ!! ไอ้เปรมดิ์ กูเป็นเมียตั้น เขาต้องมองหน้ากูซิ มองหน้ามึงทำเชี้ยอะไร เอาหน้าด้านๆ มึงออกไป”

“ก็ตั้นมันจะคุยกับผมอ่ะเจ้ ผมเพื่อนรักมันเหมือนกัน มองกูเถอะ” ไอ้เปรมดิ์

“พอ.... เถอะ... คอ.. เคล็ดแล้ว ...หลังก็เจ็บ ...จะให้ปวดคออีกเหรอ “ผมเลยต้องกลั้นใจส่งเสียงห้ามก่อน

“ถ้าไม่หยุดนี่จะกดเรียกพยาบาลมาลากออกไปแล้วน่ะ” ไอ้อาร์มไม่พูดเปล่า มันทำท่าจะกดปุ่มเรียกด้วย

“เจ้มาทำไมอ่ะครับ “ผมถามเจ้ปริม

“มาดูแลตั้นไง ในฐานะ…”

“พี่ปริม ผมมีเมย์แล้ว และผมก็รักเมย์ พี่ปริมพอเถอะนะครับ ผมกับเมย์เหนื่อยแล้วพี่ปริม “ผมพูด พี่ปริมมองหน้าผม

“พี่ก็รักตั้นน่ะ รักไม่แพ้ไปกว่าเมย์ด้วย ทำไมตั้นไม่ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวบ้าง พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่เป็นแฟนที่ไม่ดี”

“ผมกับพี่เราไม่ได้คบกันในฐานะแฟนไม่ใช่เหรอครับ “ผมพูด

“ปึก!!!” เสียงประตูถูกดันเข้ามา และคนที่ผมไม่ได้เจอเขามาหลายอาทิตย์ ก็เข้ามาพร้อมกับ กวาดสายตาไปมองรอบห้องจนมาหยุดที่พี่ปริม และคนนั้นก็คือภาคิน

TBC.....

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งหลัง)

“ปึก!!!” เสียงประตูถูกดันเข้ามา และคนที่ผมไม่ได้เจอเขามาหลายอาทิตย์ ก็เข้ามาพร้อมกับ กวาดสายตาไปมองรอบห้องจนมาหยุดที่พี่ปริม และคนนั้นก็คือภาคิน

“ไอ้ภาคิน มึงมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ” ไอ้เปรมดิ์มันถาม

“มาถึงเมื่อวานแต่ว่ากูว่ามันดึกไป “ภาคินพูด

“อีเจ้! มึงนี้มันเชี้ยมากจริงๆ น่ะ “ภาคินมันเดินเข้ามาและชี้หน้าด่าเจ้ปริม

“มึงเป็นบ้าอะไรเนี๊ยะ มาถึงก็มาด่ากูเลย ไอ้ภาคิน”

“มึงทำอะไรเมย์ “ภาคินถาม ผมค่อยๆ หันไปมองเจ้ปริม เธอหันซ้ายหันขวา

“ทำอะไร กูไม่ได้ทำนิ “เจ้ปริมพูด

“มึงขังเมย์มันเอาไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์ความสะอาดไง” ไอ้ภาคินพูด ผมค่อยๆ หันไปมองเจ้ปริม

“กูไม่ได้ทำ”

“ไอ้สองตัวหน้าห้องมันสารภาพแล้วว่ามันทำ”

“อ้าวก็ไปตบมันดิ” เจ้ปริมพูด

“กูตบไปแล้วก่อนที่มันจะพูดว่ามึงสั่งไง และมันก็บอกว่าให้กูมาตบคนสั่งต่อได้เลย” ไอ้ภาคินพูดและทำท่าจะเดินเข้ามาหาเจ้ปริม

“ตั้น ช่วยเมียด้วย เมียไม่รู้เรื่อง สองคนนั้นคง เห็นว่าเจ้น่าเสียเปรียบ เลยแค่ อาจจะแค่หยอกเล่นๆ”

“มึงใส่กุญแจขังเมย์มันไว้ในนั้นเลยน่ะอีเจ้!! นี่เขาเรียกว่าหยอกเล่นเหรออีเจ้!”

“ตั้น!!” สายตาที่อ้อนวอนผม

“พี่ปริม ผมขอล่ะ พี่กลับไปเถอะนะครับ และถ้าเป็นไปได้ พี่อย่ามาหาผมอีก ผมไม่อยากให้พี่ปริมมาทำร้ายคู่หมั้นผมอีก ผมขอล่ะ “ผมพูด โดยไม่ได้หันไปมองหน้าพี่ปริม

“ผมเลือกเมย์ เพราะหัวใจผมพี่ปริม “ผมพูด พี่ปริมถอยหลังออกไปยืน ห่างจากผมนิดหนึ่ง

“เมย์ล่ะ “ผมหันไปถามหาเมย์

“ปึก “เสียงไอ้ทีนมันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเมย์ เมย์หันมามองเจ้ปริมที่มายืนข้างๆ ผม ผมหันไปยิ้มให้เมย์

“จะยืนอยู่ทำไมล่ะ ออกไปซิ หรือต้องให้ไปตามคนทำพิธีล้างป่าช้ามาเชิญมึงออกไป เจ้ปริม “เจ้ปริมสะบัดหน้าไปมองภาคิน ส่วนเมย์น่ะเดินมาเขาก็มองผม เมย์จับมือผมบีบเบาๆ

“ตั้น พี่น่ะรักตั้น ไม่แพ้มัน แต่ทำไมตั้นเลือกมัน ฮือๆ ทั้งที่เวลาที่ตั้นแย่ พี่ก็อยู่ข้างตั้น ทั้งที่พ่อพี่ห้ามไม่ให้เลือกตั้น พี่ก็ฝืนคำสั่งพ่อตลอด ทำไมล่ะตั้น และอย่างนี่มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับพี่ พี่ก็เมียตั้นน่ะ ”

“ผม ขอโทษครับพี่ปริม ผมไม่ควรจะปล่อยให้เจ้มาไกลขนาดนี้ ผมไม่เคยรักเจ้แบบคนรัก”

“ได้ เจ้จะไป “เจ้ปริมพูดก่อนจะเดินหันหลังออกไป

“บอกพ่อตั้นได้เลยน่ะว่า เจ้ไม่ขายบ้านหลังนั้นคืนให้เด็ดขาด “พี่ปริมพูดก่อนจะหันมามองหน้าเมย์

“และฉันยังมีคลิปเด็ด คลิปที่แกเต้นเพราะว่าแกอัพยาเข้าไปด้วยน่ะ เมย์ “พี่ปริมพูด

“อันที่มีคนเอาไปปล่อยน่ะมันเด็กๆ และเพื่อนแกนั่นแหละที่เป็นคนมาขอซื้อและเอาไปปล่อยเมย์ แถมวันก่อนมันก็มาหาฉันอีกน่ะ มันขอเอาตัวเด็ด นี่แกคงไปทำอะไรให้เพื่อนแกแค้นมากซิท่าและฉันก็ ตัดสินแล้วว่าจะให้มัน”

“เตรียมฉลองยอดวิวได้เลย” พี่ปริมพูด ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมได้แต่มองเมย์ ผมทำอะไรไม่ได้อีก ผมเป็นแบบนีั้ผมจะปกป้องเมย์ได้ยังไง

“อ้อ! ตอนแรกฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้น่ะหรอกน่ะเมย์ ถ้าฉันอยากทำลายแกจริงๆ ฉันคงขายให้เพื่อนแกไปนานแล้ว”

“แต่นี้แกทำให้ฉันเสียคนรัก ก็โทษตัวเองแล้วกัน”

“และแกคงได้มีแต่คนมองหน้าแกตอนขึ้นไปรับปริญญาแน่ๆ “พี่ปริมพูดก่อนจะเดินออกไป

“อีเจ้!!”

“อย่าไอ้ภาคิน กูว่ามึงยิ่งไปทำให้อิเจ้มันโกรธคนที่โดนหนักน่ะเมย์ว่ะ” ไอ้ทีนมันพูด และดึงแขนภาคินเอาไว้ เมย์ยืนก้มหน้าลง ผมมองเมย์ ทุกคนหันมามองหน้ากันและพากันออกไป เหลือแค่ผมกับเมย์

“ฮึก ฮึก เมย์ขอโทษ ที่เมย์บอกความจริงกับพี่ไม่หมด ฮือๆ”

“นี้ใช่ไหม คือสาเหตุที่ทำให้พี่ปฐวีย์ เขาเลือกที่จะเงียบ ไม่ออกมาโต้แย้งอะไรเลย เพราะว่าเมย์”

“ผมไม่รู้ว่าวันนั้นผมทำอะไรลงไปบ้าง ผมไม่รู้ตัวอ่ะพี่ตั้น ฮือๆ” เมย์ก้มลงกอดผมที่แผ่นอก ผมค่อยยกแขนขึ้น ลูบหัวเมย์เบาๆ

“และนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้พี่ปฐวีย์ต้องยอมหมั้นกับพี่ปริมใช่ไหมเมย์”

“ใช่ พ่อของพี่ปริมเขาอยากได้พี่ปฐวีย์ เขาเลยใช้เมย์เป็นตัวล่อ ให้พี่ปฐวีย์เข้าไป เมย์ไม่รู้ ว่ามันจะทำให้พี่ปฐวีย์เดือดร้อนขนาดนั้น ฮือๆ”

“และตอนนี้ผมกำลังทำให้พี่เดือดร้อน”

“พี่ต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงเมย์ พี่ขอโทษ” ผมพูดกับเมย์ น้ำตาผมไหล แผ่นอกผมก็เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของเมย์

“ปึก “เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้เป็นคุณหมอ ผมเพ้งมองทำไมเขาหน้าตาคุ้นๆ และพ่อผมเอง มากับพี่อิศเรศ ผมสะกิดเรียกเมย์ เมย์ค่อยกระดกหัวขึ้นและปาดน้ำทิ้งซะก่อน เมย์ยืดตัวขึ้นพร้อมกับหันไปยกมือไหว้ทุกคนที่เข้ามา

“ไงเมย์ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง เห็นพยาบาลบอกว่ามีเด็กร้องลงมาอยู่กับเรา” คุณหมอถามเมย์ ผมหันไปมองเมย์

“เมื่อคืนเมย์ อยู่ที่ห้องรับรอง ให้ญาติคนไข้รอนะครับ เพราะว่าเขาไม่อนุญาตให้มีคนเฝ้าพี่ในห้องคนไข้ไอซียู” เมย์พูด และนี้ถึงได้ทำให้ผมรู้ว่าเจ้ปริมเขาโกหกผม

“เป็นไงตั้น”

“ผม” ผมทำท่าจะพูดแต่ว่าผมรู้สึกเจ็บในลำคอ

“อย่าเพิ่งใช้เสียงมากน่ะ เพราะว่า ทางเราได้ใส่ท่อช่วยหายใจให้ตัั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดและดูอาการสักพักใหญ่ พอเห็นว่าหายใจได้เองก็เลยถอดออก มันก็จะเจ็บระบบในลำคอหน่อย สักสองสามวันก็จะดีขึ้น”

“ตั้น นี้พี่หมอโอม เขาเป็นลูกคนงานในไร่เราน่ะ เราน่าจะเคยเจอเขาบ้างน่ะ ตอนที่มาเที่ยวไทยน่ะ” พ่อผมพูด ผมก็หันไปมองพี่หมอ พี่เขาหยิบแว่นตาสวม


“และเขาก็เป็นเพื่อนกับอิศเรศด้วย เขารุ่นเดียวกัน” พ่อผมพูด

“เออ ผมก็ว่าหน้าคุ้นๆ ครับ” ที่ผมคุ้นๆ ไม่ใช้ผมเจอเขาที่ไร่ แต่ผมเจอเขาที่กรุงเทพนี้แหละ ตอนนั้นผมกับพี่อิศเรศ ตอนนั้นผมกับพี่อิศเรศ เริ่มมีความสัมพันธุเกือบข้ามขั้นไปถึงการเป็นคนรักแต่ผมน่ะรักพี่อิศเรศไปแล้วในตอนนั้น แต่ช่างมันเถอะมันจบไปแล้ว และพี่หมอโอมนี้ก็ทำให้ผมต่อยหน้าเขาไป เพราะว่าผมหึงหวงพี่อิศเรศ

“พี่ไปทำเลซิกมาน่ะครับ เลยไม่ต้องใส่แว่นตลอดเวลาแล้ว “พี่หมอโอมพูด

“แล้วพี่…”

“พี่เป็นหมอที่นี้ครับ พี่แต่งงานกับแฟนพี่ที่เป็นหมอเหมือนกัน และพ่อของแฟนพี่เขาก็เป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้ “พี่โอมพูด

“ตอนที่ตั้นเกิดเหตุน่ะ พี่กำลังนั่งรถมาทำงานกับแฟนพี่ และพี่ได้ยินว่ามีอุบัติเหตุค่อนข้างหนักที่ตรงสี่แยก พี่เลยลงจากรถไป และรีบเข้าไปประถมพยาบาล แต่พี่ยังไม่เห็นเราน่ะ เพราะว่าเรายังติดอยู่ในรถ ต้องรอให้เขาเอาเครื่องมาตัด รถพังยับเยินมาก พี่ก็ช่วยปฐมพยาบาลคู่กรณีของเราน่ะ เขาก็แย่และหนักพอพอกับเราเพราะว่าเขามาประสานกับเราด้านหน้าเลย “พี่หมอโอมพูด ผมไม่ทันได้เห็น เพราะผมดึงเบรกมือซะก่อนรถผมเลยหมุนติ้วและผมก็รู้ว่าชนและหลังจากนั้นรถผมก็ตีลังกาผมจำได้แค่นั้น

“และพอเขาเอาตั้นออกมา พี่ถึงได้รู้ว่า คือเรา พี่เลยบอกให้เจ้าหน้าที่ พาเรามาโรงพยาบาลของพี่ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงไปส่งรัฐบาลก่อน” พี่หมอโอมพูด

“พี่หมอโอมเขาก็เป็นคนโทรบอกพี่ครับตั้น” พี่อิศเรศพูด พี่อิศเรศหันไปยิ้มให้พี่หมอโอม

“พี่โอม ผมขอบคุณน่ะครับ” ผมพยายามยกมือไหว้

“ไม่เป็นไรตั้น ยิ่งตั้นเป็นลูกชายผู้มีพระคุณของพี่ขนาดนี้ พี่เต็มใจ แม้ว่าพี่เองก็ไม่อยากเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเป็นหมอผ่าตัดให้คนในครอบครัวตัวเอง และนายก็เล่นเอาพี่เครียดมากเลยรู้ไหม เพราะว่านี้คือการผ่าตัดใหญ่ที่สุดและกดดันพี่ที่สุด “พี่หมอโอมพูด ผมก็รู้สึกผิดไปทันที

“แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีน่ะ เพราะว่าเพื่อนเราที่มีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเราน่ะเขาอยู่ที่นี้ เขามาบริจาคเลือดให้เรา” พี่หมอโอมพูด ผมหันไปมองเมย์

“เดี๋ยวเมย์บอกทีหลังน่ะ “เมย์กระซิบกับผม ผมพยักหน้า

“และวันนี้อย่าฟื้นทำอะไรมากน่ะตั้น เพราะว่าเราเพิ่งจะออกมาจากห้องผ่าตัดรอบสอง อาจารย์หมอของพี่เขามาผ่าตัดให้เรา เราได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังน่ะ” พี่หมอโอมพูด ผมก็ต้องตกใจ มิน่าล่ะผมรู้สึกแข็งๆ ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย

“ผม …”

“อย่าเพิ่งคิดมาก รอดูสักวันสองวันก่อนน่ะ เพราะว่าวันนี้อาจจะยังไม่เข้าที่เลยยังไม่รู้สึก “พี่หมอโอมพูด ผมก็พยักหน้าเบาๆ

“พี่อาจจะให้ยาที่ทำให้เราง่วงนอนหน่อยน่ะ พี่อยากให้เราพักผ่อนเยอะๆ ก่อนสักสองสามวัน “พี่หมอโอมพูด ก่อนจะหันไปคุยกับพ่อผมต่อ พี่อิศเรศเดินมาข้างๆ ผม

“เมย์ พี่ได้ยินมาว่าเด็กคู่กรณีตั้น เขามาหาเมย์เหรอ”

“ครับพี่เรศ ผมสงสารน้องมากเลย”

“น้องไปไหนแล้ว”

“น้องถูกส่งตัวไปที่บ้านเด็กกำพร้าแล้วน่ะครับ เพราะว่าทางนี้ไม่สามารถติดต่อญาติพ่อแม่น้องได้เลย ส่วนพ่อของน้องเขาไม่ใช่คนไทยแต่เป็นลูกครึ้ง ไทยออสเตรเลียน่ะครับ เขาไม่ได้ถือสัญชาติไทยด้วย” เมย์พูด

“โอเค “พี่อิศเรศพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินไปหาพ่อผม

“พักผ่อนน่ะตั้น พี่จะให้พยาบาลเอายามาให้ ทุกหกชั่วโมงน่ะ มันเป็นยากแก้ปวดอย่างแรงน่ะ “พี่หมอโอมพูดก่อนจะโบกมือให้ผม และเดินออกไปกับพ่อผมและพี่อิศเรศ ผมหันมามองหน้าเมย์ เมย์ ใช้ฝ่ามือลูบใบหน้าผมเบาๆ

“พี่จำ เพื่อนบ้านเราได้ไหมครับ สตีเฟ่นน่ะครับ เขาเป็นคนบริจาคเลือดให้พี่ “ผมก็ต้องตกใจไอ้คนนั้นนั่นน่ะ

“เขาบอกว่าเขาเคยเป็นเพื่อนพี่มาก่อน”

“ไม่จริงมั้ง”

“จริงครับ วันนั้นผมรีบไปเอาเอกสารทุกอย่างของพี่ที่ห้อง และพอผมเจอเขา ผมน่ะหยิบเอารูปทีพี่ถ่ายกับแม่ลลิลภัทร์มาด้วย” เมย์พูด ก่อนจะส่งรูปที่ผมสแกนและปริ้นมาจากรูปในกระเป๋าสตางค์ของผม ผมใส่กรอบเอาไว้ข้างๆ รูปผมกับเมย์

“พอสตีเฟ่นเห็นรูปนี้ เขาก็บอกว่าพี่คือเพื่อนเขาและพี่ยังเคย บริจาคเลือดให้เขาด้วย ก่อนจะมาเป็นเพื่อนกัน เพราะว่าพี่มีกรุ๊ปเลือดเดียวกับเขา” ผมก็พยายามนึก แต่ผมนึกใบหน้าคนนั้นไม่ได้แล้ว

“จริงดิ พี่จำหน้าคนนั้นไม่ได้ แต่พี่จำเรื่องราวของพี่กับเพื่อนพี่คนนั้นได้น่ะเมย์”

“เอาไว้ให้พี่แข็งแรงก่อน เขาจะมาเยี่ยมพี่ เพราะว่าเขามาเมืองไทยเพื่อมาหาพี่ และนี่เขาจะกลับแล้วอ่ะครับ เขามาเป็นครูสอนแค่หกเดือน เขาบอกว่าจะกลับไปและทำวีซ่าเพื่อจะมาเป็นครูประจำที่นี้เลย เขาชอบประเทศไทย และยิ่งเขารู้ว่าเพื่อนที่เขาอยากเจออยู่ที่นี้ด้วยแล้ว เขาก็อยากมาเจอพี่มากน่ะพี่ตั้น” เมย์พูดให้ผมฟัง

“ขอโทษนะคะ ขอขัดความหวานนิดนึงน่ะ เอายามาให้ค่ะ ทานยาก่อนนะคะ “พี่พยาบาลพูด

“ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเลยนะครับ ผมขอไปอาบน้ำได้ไหมครับ” ผมถามพยาบาล

“จะไปอาบยังไงคะคนไข้ คุณเพิ่งจะผ่าตัดหลังมานะคะ เช็ดตัวเอาดีกว่าไหมคะ” พี่พยาบาลพูดก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผม ผมก็ลืมไปเลย

“ให้คุณคู่หมั้นเช็ดให้แล้วกันนะคะ พี่ไปเตรียมกะละมังและผ้ามาให้ค่ะ” พี่พยาบาลพูด ผมหันมามองเมย์ เมย์หันไปพยักหน้ากับพยาบาล

“ยิ้มแบบนี้อยากดูของพี่ล่ะซิ” ผมพูดแซว

“พี่ตั้นอ่ะ ก็ดูทุกทีอยู่แล้วนิ “เมย์พูดพร้อมกับแก้มที่แดงระเรื่อขึ้นมาทันที ไม่นานพยาบาลก็เอากะละมังและผ้ามาให้เมย์ เมย์เข้าไปจัดการเตรียมน้ำและผ้ากับพี่พยาบาล ผมนอนนิ่ง

“ผมต้องไปเรียนรู้ทำอีกหลายอย่างเลยใช่ไหมครับพี่”

“ใช่ค่ะ คุณหมอโอมบอกพี่เอาไว้แล้วค่ะ เพราะว่า ช่วงนี้คงต้องดูแลกันแบบนี้ไปก่อน งานหนักหน่อยน่ะเราน่ะ”

“ผมไม่คิดว่าการดูแลคนที่ผมรักมันจะหนักหรอกครับพี่”


“รู้ไหมว่า คนรักกันน่ะแตกหักเพราะว่าเรื่องแบบนี้มาหลายคนแล้ว ดังนั้น เราต้องเข้มแข็งน่ะรู้ไหม และการดูแลแบบนี้ อาจจะต้องทำไปตลอดทั้งชีวิตก็ได้น่ะ”

“ผมเลือกแล้วครับ ผมให้พี่เขาไปแล้วทั้งชีวิตของผม ผมยินดีและเต็มใจที่อยู่ดูแลคนรักของผมแบบนี้ไปตลอดจนกว่าผมจะหมดลมหายใจ” ผมได้แอบได้ยินพยาบาลคุยกับเมย์ นั้นแปลว่า ผมอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วใช่ไหม และคนที่ต้องมาติดอยู่กับผมคือเมย์ อย่างนั้นเหรอ สักพักเมย์ก็ออกมาพร้อมกับกะละมังและผ้าขนหนู พี่พยาบาลก็รูปปิดผ้าม่านให้ผม

“น้องเมย์ก็เช็ดตามใบหน้านะคะ แขนตรงอกนี้ก็อย่าให้โดนผ้าพันแผลนะคะ” พยาบาลหันไปบอกเมย์ก่อนจะเดินออกไป เมย์ก็ค่อยๆ ดึงทีคลุมผมเอาไว้ตั้งแต่เอวลงไป เมย์ยืนนิ่งอึ้งผมก็มองหน้าเมย์แต่ก็ไม่กล้ากระดกหัวผมมองดู

“เออน้องเมย์ค่ะ พี่ลืมบอกไปว่าคนไข้ยังไม่ได้ใส่กางเกงนะคะ น้องเมย์เปิดมาอาจจะตกใจนิดนึงนะคะ เดี๋ยวพี่จะไปเอากางเกงมาวางไว้ด้านนอกให้นะคะ” พี่พยาบาลกระซิบกับเมย์ผ่านผ้าม่านสีฟ้าๆ นั้น ขนาดเขาไม่ได้ใส่กางเกงให้ผม ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย ผมหันมามองเมย์ ที่บิดผ้ามาหมาดๆ ก่อนจะบรรจงเช็ดทำความสะอาดให้ผม ตามที่พยาบาลบอกเมย์

“เมย์ เลือกบ้านไว้หรือยังครับ” ผมถามเมย์ขณะที่เมย์กำลังค่อยๆ เช็ดทำความสะอาด

“เมย์ยกเลิกไปแล้วครับ เมื่อเช้านี้ และมีคนรอซื้อต่อจากเมย์แล้ว เขาคงขายไปแล้วน่ะครับ “เมย์พูด

“ผมคุยกับแม่ปิ่นแล้ว บ้านหลังนั้นเรายังอยู่ได้ และยิ่งพี่ตั้นเป็นแบบนี้ ผมยิ่งไม่อยากได้บ้านใหม่ตอนนี้แน่นอน ผมรอได้ครับ” เมย์พูด ผมก็มองหน้าเมย์ แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ในเมื่อพยาบาลก็พูดว่าอาจจะต้องดูแลกันแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิต พอเมย์เช็ดตัวให้ผมเรียบร้อยแล้วเมย์ก็เดินออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกางเกง เมย์ค่อยๆ สวมกางเกงให้ผม ค่อนข้างลำบาก เพราะว่าผมขยับตัวช่วยเขาไม่ได้เลย และตอนนี้หนังตาผมเริ่มจะปิดเพราะฤทธิ์ เมย์กำลังจัดให้ผมนอนหลับ

“น้องเมย์ค่ะ”

“พี่อ้อย มีอะไรครับ”

“น้องเมย์ ไปที่บ้านเด็กกำพร้าที่เราส่งน้องแอนดรูว์ไปให้พี่หน่อยได้ไหมคะ”

“มีอะไรครับ”

“น้องแอนดรูว์ร้องไห้ ไม่ยอมทานอะไรเลยค่ะ พี่ว่าต้องให้น้องเมย์ไปดูเขาหน่อยแล้วค่ะ นะคะ สงสารน้อง”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกให้พี่ๆ ที่อยู่หน้าห้อง เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนแฟนผมก่อนนะครับพี่อ้อย”

“ขอบคุณนะคะ “ หนังตาของผมก็หนักมากเหมือนมีใครเอาก้อนหินมาถ่วงเอาไว้ ทำให้ผมไม่อาจจะฝืนลืมตาได้ ถึงตาผมจะปิดแต่หูผมได้ยินทุกรอบตัวของผม มีคนเข้ามาคุยกับเมย์ มันทำให้ผมคิดว่า แล้วใครกันน่ะแอนดรูว์ แล้วทำไมเมย์ต้องไปดูเขาด้วยว่ะ มันเป็นใคร ชื่อก็บอกว่าฝรั่งไม่ใช่คนไทย

TBC.....

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Part's เมธานินท์ ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเจ้ปริม พวกผมพยักหน้าและพากันไปหาที่นั่ง เพื่อนของสตีเฟ่น ก็มองผมก่อนจะยิ้มให้เจ้ปริม และเพื่อนๆ ของเจ้ปริมที่โบกไม้โบกมือให้ โจเซฟ และแน่นอนเจ้ปริมน่ะเป็นสาวสวยใครก็แอบหลงเสน่ห์กันทั้งนัน ไม่แปลกถ้าพี่ตั้นจะเคยจีบพี่ปริม พวกผมนั่งรอกันเกือบสี่ชั่วโมงได้ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้วด้วย

“โอ๊ยเจ้ มึงจะนั่งรออะไรเนี๊ยะ! นานอ่ะเจ้ ฉันว่าเราพากันกลับบ้านก่อนเถอะแล้วพรุ่งนี้เจ้ก็ค่อยมาใหม่แต่งหน้าสวยมาดู อยู่รอดึกขนาดนี้หน้าโทรม” เพื่อนเจ้ปริมพูด ผมหันชำเลืองตามอง

“กูต้องอยู่ เพราะถ้าตั้นตื่นมาจะได้เห็นหน้าฉันคนแรก” พี่ปริมพูด

“ถามไอ้ตั้นมันยังเจ้ มันอยากเห็นหน้าใครก่อน “พี่กอล์ฟพูดลอยโดยไม่ได้ระบุ เฟย์หันมาแบมือผมก็นึกว่าจะตีแขนพี่กอล์ฟ แต่กับแปะมือกัน

“สวัสดีค่ะ รบกวนญาติคุณรชานนท์ค่ะ “พี่พยาบาลเดินมาทางพวกผม ผมก็รีบก้าวเท้าออกไปแต่มีคน ก้าวเท้ามาประกบกับผม จนทำให้พยาบาลมองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา

“คนไหนคะ” พยาบาลถามพร้อมกับมองหน้าผมกับเจ้ปริมสลับกันไปมา “ผมครับ” “ฉันค่ะ …” ผมกับคุณปริมตอบพร้อมกัน ผมหันมามองหน้าเธอ

“ฉันเป็นเมียค่ะ” พี่ปริมพูด และยิ้มให้ผม

“เขาเป็นเมียแล้วคุณล่ะค่ะ เป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ผมเป็น…” ผมทำท่าจะพูด แต่ผมควรจะบอกไหมว่าผมก็เป็นเมียพี่ตั้นเหมือนกัน

“ผมตัดสินให้เองครับ เพราะว่าผมเป็นพ่อของคนไข้” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังของผม และทุกคนก็หันไปยกมือไหว้กันหมด พ่อของพี่ตั้นนั้นเอง ผมก็ยกมือไหว้ ส่วนพี่ปริมน่ะยกมือไหว้พร้อมกับย่อตัวลง “สวัสดีค่ะคุณพ่อ” พี่ปริมพูดจาเพราะจนภาพเมื่อสักครู่หายไปหมดสิ้น พ่อพี่ตั้นแค่หันชำเลืองตามอง ผมหันไปยกมือไหว้พี่อิสเรศอีกคน

“ตั้งแต่รู้จักสันดานอีเจ้มา กูไม่เคย!!! เห็นอีเจ้ปริมแกไหว้ใครได้งดงามขนาดนี้มาก่อนเลย” ขนาดเพื่อนพี่เขายังแอบนินทา

“ลูกชายผมเขายังไม่ได้แต่งงาน นั้นแปลว่ายังไม่มีเมียที่ถูกต้องนะครับคุณพยาบาล “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะปรายตาไปมองพี่ปริม

“แต่มีเมียอุปโลกน์ อยู่นะคะคุณพ่อ” มัดหมี่พูด พี่ปริมหันขวับมาแต่ว่าพ่อพี่ตั้นเขาอยู่ตรงนี้ไงเลยไม่กล้าแสดงกิริยาอาการอะไรมาก

“แต่ว่าลูกผมมีคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกัน เท่าที่ผมทราบและรับรู้มาตลอด คนนั้นก็คือ”

“เมธานินท์” พ่อพี่ตั้นพูด พี่ปริมสะบัดหน้ามามองพ่อพี่ตั้น

“แต่” พี่ปริมทำท่าจะค้าน

“เขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะทำธุรกรรมแทนผมหรือตั้นได้ “พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศ เอาหนังสือที่ตั้นเขียนเอาไว้ เรื่องขอวีซ่าให้เมย์ไปอเมริกากับเขา ในจดหมายนั้นระบุชัดเจนว่าเมย์เป็นคู่หมั้นของเขา” พ่อพี่ตั้นหันไปขอเอกสารกับพี่อิศเรศ และพ่อของพี่ตั้นก็ส่งให้พยาบาลดู

“ดิฉันก็ได้ยินคนไข้เพ้อหาแต่คนที่ชื่อเมย์ตลอดเลยค่ะ น้องใช่ไหมคะ” พี่พยาบาลถามผม ผมพยักหน้าพี่ปริมมองผมเขากำหมัดทั้งสองข้าง

“ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้องไอซียูนะคะ ทางเราจะให้คนที่ใกล้ชิดก่อนเข้าไปดูนะคะ คนอื่น รบกวนรอก่อนแล้วกันนะคะ คนไข้อาการยังทรงๆ อยู่นะคะ เลือดที่น้องมาบริจาคให้อาจจะไม่พอเพราะคนไข้เสียเลือดมากค่ะ” พี่พยาบาลพูด ผมเห็นสตีเฟ่นลงมาแล้ว

“พ่อครับ นี้เพื่อนพี่ตั้นครับ เขาเป็นคนให้เลือดกับตั้นครับ เพราะว่าเขากรุ๊ปเลือดเดียวกันและเขามากจากอเมริกาด้วยครับ” ผมหันไปบอกพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นหันไป เช็กแฮนด์ ทักทาย

“ขอบใจมากน่ะ” พ่อพี่ตั้นพูดขอบคุณสตีเฟ่น สตีเฟ่นก็หันมายิ้มให้ผมและพ่อพี่ตั้น

“เจ้ ฉันว่าเรากลับกันก่อนเถอะ ดูเจ้น่ะ”

“ทำไม” เจ้ปริม

“เหมือนเป็นส่วนเกินเลยว่ะ” เพื่อนของเจ้ปริม

“อีนี่นิ กูจะอยู่ กูก็เมียเหมือนกัน เอากันมานานกว่าไอ้ตุ๊ดนั้นอีก” พี่ปริมพูด พ่อพี่ตั้นแค่ปรายตาไปมอง ก่อนจะเดินมาจับแขนผม

“เมย์ขึ้นไปกับพ่อ” พ่อพี่ตั้นพูดกับผม ชวนผมขึ้นไป คงไปดูพี่ตั้น

“คนอื่นๆ ก็รออยู่ที่นี้ก่อนแล้วกัน เรศด้วย” พ่อพี่ตั้นพูด

“ทำไมปริมไม่ได้ขึ้นไปด้วยละคะ ไม่ยุติธรรมนี่ค่ะ” พี่ปริมรีบทักท้วงทันที

“เอาตรงๆ น่ะ ผมไม่เคยรับรู้ความสัมผัสของคุณและลูกผม แต่ผมมารับรู้ทุกอย่างของเมย์และตั้น และตั้นเขาพาเมย์ไปเปิดตัวที่บ้านไร่ของผมแล้ว ทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าตั้นมีแฟนชื่อเมย์ แต่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อคุณ” พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศเขามีเรื่องจะคุยกับคุณเกี่ยวกับโฉนดบ้านของเมย์” พ่อพี่ตั้นพูดโดยไม่หันไปมองพี่ปริมสักนิด

“จัดการคุยให้เรียบร้อยน่ะเรศ” พ่อหันกระซิบบอกพี่อิศเรศ “ครับคุณท่าน” พี่อิศเรศรับคำ ก่อนจะหันไปผายมือให้พี่ปริมเดินไปหาที่คุยกัน และเดินตามพยาบาลขึ้นไป เขาพาผมกับพ่อพี่ตั้นไปยังชั้นที่พักของคนไข้ไอซียู

“รบกวนเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อคลุมปลอดเชื้อและสวมหน้ากากด้วยนะคะ “คุณพยาบาลบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเอื้อมไปหยิบมาให้พ่อพี่ต้นก่อน ผมสังเกตเห็นอาการถอนหายใจของพ่อพี่ตั้น แสดงว่าท่านกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเห็น ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะทนเห็นลูกตัวเองต้องเจ็บปวด ผมเองเป็นแฟนยังทนไม่ได้เลย ผมเดินตามพ่อของพี่ตั้นเข้าไป เดินไปจนถึงห้องที่พี่ตั้นเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมา ผมเห็นมีหมอยืนอยู่กับพยาบาล คุณหมอหันมาเจอพ่อพี่ตั้น คุณหมอก็ยกมือไหว้ เหมือนรู้จักกันมาก่อน

“น้องเป็นไงบ้าง หมอโอม” พ่อพี่ตั้นถามคุณหมอตรงหน้า

“ผมขอคุยด้านนอกแล้วกันน่ะครับ ผมรอท่านกับน้องเขาด้านนอกดีกว่าครับ” หมอที่ดูแลพี่ตั้นพูดก่อนจะเดินออกไปกับพยาบาล ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นเดินมามองพี่ตั้น พี่ตั้นมีท่อช่วยหายใจ มีการผ่าตัดที่ช่องอกแสดงว่าพี่ตั้นบาดเจ็บที่ช่องอกด้วยและมีผ้าพันรอบเอว เหมือนจะที่หลังด้วย ผมยิ่งเห็นแบบนี้ผมใจหาย ผมมองพ่อพี่ตั้น เขาเดินไปก่อนใช้ฝ่ามือลูบที่หัวพี่ตั้น

“ลลิลภัทร์ ฉันขอโทษที่ดูแลลูกไม่ดีพอ” พ่อของพี่ตั้นพูด ผมเข้ามายืนใกล้ๆ สีหน้าและแววตาที่บ่งบอกว่าพ่อพี่ตั้นเสียใจมากแค่ไหน

“ผมอยากให้พี่ตั้นเห็นภาพนี้จัง ภาพที่พ่อแสดงว่าพ่อรักเขามากขนาดไหน “ผมพูด

“แต่ผมว่าพี่ตั้นเขาแค่อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงได้ไม่รักแม่ของเขา “ผมพูด ก่อนจะกุมมือพี่ตั้นเอาไว้ พี่ตั้นยังคงหลับสนิท น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา

“พี่ตั้นแค่อยากรู้ว่าแม่ของพี่ตั้น เขาทำอะไรผิดนะครับ “ผมพูด

“ฟู่!!”

“ลลิลภัทร์ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแต่เธอแค่เข้า มาผิดและที่ผิดเวลา ก็เท่านั้น” พ่อพี่ตั้นพูด ขณะที่เขาใช้มือลูบผมหนาๆ นั้น

“ลลิลภัทร์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านฉันในฐานะคนรักของฉัน แต่ลลิลภันทร์เธอเข้ามาอยู่ในฐานะ..”

“แม่เลี้ยงฉัน” ผมต้องหันไปมองพ่อของพี่ตั้น สายตาเขามองพี่ตั้น ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นเกย์ ตั้งแต่ขึ้นมัธยมแล้ว ส่วนพ่อฉันก็เจ้าชู้ มักมาก มีผู้หญิงไปทั่ว พ่อฉันทำให้แม่ฉันเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน”

“พ่อฉันได้สร้างบ้านเพิ่มอีกหนึ่งหลัง หลังที่เป็นของคุณลลิลภันทร์ และนั้นพ่อฉันเริ่มเอ่ยปากบอกแม่ฉันว่าเขาจะพาผู้หญิงเข้ามาอีกหนึ่งคน มาอยู่ในฐานะภรรยาของพ่อฉัน แม่ฉันรู้เข้า ท่านไม่ยอม”

“ท่านให้พ่อผมหาเศษหาเลยได้แต่ห้ามพาเข้าบ้าน แต่กับลลิลภันทร์ พ่อฉันพานางไปไหนต่อไหน และสุดท้ายพ่อฉันยืนยันจะพาลลิลภัทร์เข้าบ้านให้ได้ ในฐานะภรรยาคนหนึ่ง แม่ฉันยืนยันไม่ขออยู่ร่วมกับภรรยาน้อยเด็ดขาด”

“และนั้นพ่อฉันจึงขอให้แม้ฉันออกไปแทน แม่ฉันเสียใจมาก ส่วนฉัน ได้ถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนประจำ พ่อให้แม่ฉันออกไปแต่ตัว ห้ามพาฉันไปด้วย “พ่อของพี่ตั้นพูด ก่อนจะหันมามองหน้า

“และวันที่ฉันสอบติดมหาวิทยาลัย ฉันกำลังจะไปหาแม่ฉันและมันก็เป็นวันเดียวกับที่ลลิลภัทร์เธอย้ายเขาไปอยู่ที่นั่นเช่นกัน”
“และยังเป็นวันที่ สะเทือนใจฉันมากที่สุด”

“เป็นวันที่แม่ฉันตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังบ้านเรือนใหญ่ แม่ฉันผูกคอตายที่นั้นและคนที่ไปพบคนแรกคือฉัน มันติดตาฉันอยู่จนถึงทุกวันนี้ “ผมหันมามองหน้าพ่อของพี่ตั้น

“ฉันโกรธและเกลียดเธอมาก “พ่อพี่ต้นพูด

“แล้วพี่ตั้นเขา” ผมถามขึ้น

“ลูกฉัน เพราะว่าฉัน ข่มขืนเขา ในคืนที่พ่อฉันไม่อยู่”

“พอเธอตั้งครรภ์ มันกลับทำให้ฉันรู้ว่าพ่อฉันเคยประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้อีก เขาจึงมีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นลูกชายของเขา และดังนั้น เด็กที่เกิดกับลลิลภัทร์ก็คือลูกฉัน นั้นคือตั้น “พ่อของพี่ตั้นหันมามองหน้าผม

“พ่อฉันเลยยกลลิลภัทร์ให้ฉันทันที “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันกลับไป เขาเอามือลูบหัวพี่ตั้นเบาๆ

“ฉันต้องทนเห็นหน้าเธอ อยู่ในบ้านหลังเดียวหลังคาเดียวกัน จนกระทั่ง ตั้นเกิด และลลิลภัทร์ก็ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า พ่อฉันเลยส่งเธอไปรักษา ตอนนั้นพ่อฉันก็ต้องการตั้น เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นแบบนี้ ไม่มีวันมีทายาทแน่นอน”

“ถามว่าฉันรักตั้นไหม ฉันรัก ถึงเขาจะเกิดมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจแต่ฉันรัก แต่วันที่เขาร้องไห้ตาม ลลิลภัทร์ไป ฉันก็ต้องยอมให้เขาไป ฉันรู้ว่าเด็กต้องการแม่ ฉันจึงจำยอมส่งลลิลภัทร์ไปอยู่ที่อเมริกาตามที่เธอต้องการพร้อมกับตั้น “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ทำไมพ่อไม่บอกความจริงกับพี่ตั้นล่ะครับ “ผมถามพ่อพี่ตั้น

“ฉันก็ไม่อยากให้ตั้นมองว่าลลิลภัทร์ไม่ดี”

“แต่มันทำให้เขามองพ่อไม่ดีแทน “ผมพูด

“สักวันเขาก็จะเข้าใจฉันเองน่ะเมย์ “พ่อของพี่ตั้นพูด

“ขอออกไปคุยกับหมอโอมน่ะ อยู่กับต้นก่อนก็ได้น่ะ เพื่อว่าตอนนี้เขาต้องการเรา เมย์” พ่อของพี่ตั้นบอกผม ก่อนจะเดินออกไป ผมยืนมองร่างที่นอนโดยมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ พี่ตั้นเจ็บหนัก ปอดฉีก มีแผลตามเนื้อตามตัว ศีรษะกระทบกระเทือน และที่หนักที่สุดเป็นที่หลัง ผมนั่งลงข้างๆ ผมใช้มือผมสอดเข้าไปที่มือพี่ตั้น

“เฮีย อย่าทิ้งผมไปน่ะเฮีย ผมไม่เคยรักใครเท่านี้เลยจริงๆ เฮีย เฮียทำให้ผมรักแล้วอย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ฮือๆ ผมทนไม่ได้ ผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักอีก ผมไม่อยาก ฮือๆ “ผมร้องไห้ กับคนที่นอนไม่รู้สึกอะไร เหมือนเขาไม่รับรู้ ผมซบหน้าลงที่ตรงข้างๆ เตียงพี่ตั้น น้ำตาผมไหล ผมร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง ครั้งแรกคือพ่อแม่ผมเสียและครั้งนี้คือพี่ตั้นคนที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน

“หงึก” ผมรู้สึกนิ้วพี่ตั้นขยับ ผมรีบเงยหน้าขึ้น เมื่อผมพยายามเพ้งมองอีกทีแต่ทุกอย่างก็นิ่งสงบ พี่ตั้นก็ยังนอนเหมือนคนไม่รับรู้เหมือนเดิม เครื่องช่วยหายใจก็ยังทำงานเหมือนเดิม ผมเห็นแบบนี้แล้วสงสารพี่ตั้นมาก

“เมย์ เขาต้องการให้ตั้นพักผ่อน เราออกไปก่อนเถอะ” พ่อของพี่ตั้นเดินเข้ามาเรียกผม ผมพยักหน้า ผมหันไปมองพี่ตั้นอีกครั้ง

“ผมรักพี่ตั้นนะครับ พี่ขอผมแต่งงานแล้ว กลับมาเป็นเจ้าบ่าวผมน่ะ “ผมหันไปพูด ผมรีบเดินออกมา ผมเห็นหมอที่กำลังคุยพยาบาลอยู่ ก่อนจะเดินตามพ่อของพี่ตั้นออกมาคุยด้านนอกด้วยกัน

“หมอโอม ฉันฝากดูน้องด้วยนะครับ”

“ผมยินดีครับ คุณท่าน ผมยินดีที่จะดูแลน้องให้ถึงที่สุดครับ “คุณหมอพูด

“หมอโอมเขาเป็นลูกคนงานในไร่ฉันและเป็นเพื่อนกับอิศเรศ และฉันก็ได้ส่งให้เขาเรียนจนจบหมอและตอนนี้เขาก็แต่งงานกับหมอที่เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลนี้ เป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่อายุยังน้อยและเก่ง “พ่อของพี่ตั้นพูด ผมหันมามองพี่หมอตรงหน้า

“คุณท่านก็ชมผมเกินไปครับ และทุกอย่างที่เกิดในชีวิตผมก็มาจากพระคุณท่านทั้งนั้น” พี่หมอโอมพูด

“และไม่ต้องห่วงน่ะครับ คุณท่าน ผมจะดูแลน้องตันอย่างดี “พี่หมอโอมพูด

“หมอโอม นี้เมย์น่ะ คู่หมั้นของตั้นเขา” พ่อของพี่ตั้นบอกพี่หมอโอม

“ยินดีที่รู้จักนะครับน้องเมย์”

“ผมขอเฝ้าพี่ตั้นได้ไหมครับ ผมขอนั่งอยู่ที่นี้ได้ไหมครับ ผมไม่อยากกลับไปบ้านด้วยความกังวลแบบนี้ กลัว เพราะว่าผมคงคิดไปต่างๆ นานา แต่ถ้าผมอยู่ตรงนี้ ผมยังเห็นว่าพี่ตั้น ไม่เป็นอะไร น่ะครับ” ผมพูดกับพี่หมอโอม

“เรามีห้องรับรองอยู่ตรงโน้นน่ะครับ ญาติคนไข้นั่งรอที่นั่นได้ครับ เดี๋ยวพี่จะให้เขากันไว้ให้เราเลย จะได้นอนพักผ่อนได้นะครับ” พี่หมอโอมบอกผม ผมพยักหน้า ผมหันมามองพ่อพี่ตั้น

“ดูแลตัวเองด้วยน่ะเมย์ อย่าล้มไปอีกคน เข้าใจไหมและถ้าเมย์มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอด ฉันกับอิศเรศจะพักโรงแรมแถวๆ นี้” พ่อพี่ตั้นพูด ก่อนจะเดินออกไป ผมเดินตามพี่โอมไป ห้องสำหรับนั่งรอ ผมอยากอยู่ตรงนี้เหมือนผมได้อยู่ใกล้ๆ กับพี่ตั้น จะให้ผมกลับไปห้อง ผมก็นอนไม่หลับอยู่ดีผมเลือกที่จะอยู่ที่นี้

TBC.....


ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.34 ยื่นขอเสนอให้ปริม

    Part's ธรรพ์ณธร เดินลงมาจากชั้นผู้ป่วยวิกฤติ คือชั้นผู้ป่วยไอซียู และเป็นชั้นเดียวกับห้องผ่าตัด ผมรู้ว่าตั้นประสบอุบัติเหตุ รถคว่ำที่กลางแยกไฟแดง คนเห็นเหตุการณ์บอกว่าตั้นขับมาและเหมือนกับว่าเขาเบรกไม่ได้ ผมเองก็ยังไม่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างดี ผมได้คุยกับหมอโอม เป็นเด็กที่โตมาในไร่ของผม ครอบครัวเขาทำงานให้ผมมานานและยังเป็นเพื่อนกับอิศเรศ พ่อแม่ของหมอโอมเสียไปนานแล้วก่อนจะเข้าเรียนแพทย์ พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และผมก็ได้ส่งเสียให้เขาได้เรียนแพทย์จนจบ เพราะผมเห็นว่าเขาเรียนเก่งและตั้งใจอยากจะเป็นหมอ ผมส่งเขาไปเรียนที่ต่างประเทศและพอเขากลับมาเขาก็ได้แต่งงานมีครอบครัว กับหมอด้วยกันแถมเป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลที่นำตั้นรักษา หมอโอมเขาเป็นหมอหมอผ่าตัด เขาเองก็รู้จักตั้นเพราะเขาเข้ามาอยู่ก่อนตั้นเกิดไม่นาน ตอนนี้ผมคงต้องฝากความหวังไว้ที่หมอโอม ผมเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เดินไปหาอิศเรศก่อน

“ทำไมฉันต้องยอมด้วย ในเมื่อฉันก็เป็นเมียตั้น ฉันเชื่อว่าตั้นก็มีใจให้ฉัน ทำไมฉันต้องยอมถอยให้เด็กเมย์นั้น “ผมเดินลงมาถึงก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ผมเห็นกอล์ฟเพื่อนของตั้นและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น พากันยืนมองคนที่โวยวายอยู่ ด้วยความเอือมระอา ผมเดาว่าอิศเรศคงคุยกับนางไม่รู้เรื่องเป็นแน่ ผมจึงต้องเดินเข้าไป

“เธอต้องการอะไร ปริม” ผมถามผู้หญิงคนนั้น เธอหันขวับมามองผม

“ตั้นค่ะ ปริมต้องการตั้นเท่านั้น “ปริมพูด มันทำให้รอยยิ้มผมกระตุกขั้นเป็นรอยยิ้ม ผมรู้สึกสมเพชเธอเหลือเกิน ผมหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ยืนมองหน้ากัน

“เธอนี่มันดึงดันน่าดูน่ะปริม นี่ดูไม่ออกหรือกว่าแกล้งกันแน่ ที่จะไม่รู้ว่าตั้นเขาเขาเลือกใคร” ผมถามผู้หญิงตรงหน้า

“ตั้นอาจจะเสียใจที่ตอนนั้นปริมต้องเลือกพี่ปฐวีย์ค่ะ แต่ตอนนี้ปริมพร้อมจะกลับมามาหาตั้นค่ะ” ปริมหันมาพูดกับผม

“ถ้าตั้นเขารักเธอจริง เขาเลือกเธอกลับมาหาเขานานแล้วปริม ตั้งแต่ปฐวีย์ถอนมันเธอแล้วแต่นี่เขาไม่ เพราะว่าเขารู้แล้วว่าใจเขาต้องการอะไร “ผมพูด ก่อนจะหันมามองหน้าอิศเรศ

“ก็นางเมย์มันไม่ยอมปล่อยตั้นนี่ค่ะ และวันนั้นตั้นก็โทรให้ปริมไปหาแต่ จู่ๆ เมย์มันก็โผ่หัวไป ตั้นก็แค่สับสนหรืออาจจะโดนยาเสน่ห์ก็เป็นได้นะคะ “ปริมพูด มันทำให้มุมปากผมกระตุกเป็นรอยยิ้ม ยิ้มในเชิงสมเพชเธอ สมเพชในความสิ้นคิดของเธอ

“เออ คุณพ่อครับ ผมได้ยินเจ้ปริมแกโทรไปอ้อนไอ้ตั้นน่ะครับ ไม่ใช่ไอ้ตั้นมันโทรไปหาและตั้นมันก็บอกเจ้ว่า ให้กลับมาได้แต่เหมือนเดิมนะครับ” เพื่อนของตั้นพูด

“นั้นไงคะ เห็นไหมค่ะ ว่าตั้นน่ะให้ปริมกลับไปหาเขาและ...” ปริมพูด ผมหันมามองหน้าเธอ ผมรู้เรื่องของเธอกับตั้นละเอียดผมมีนักสืบตามติดอยู่ ว่าเธอกับตั้นแค่คู่นอนกัน

“เซ็กส์โซน เหมือนเดิม แต่มันได้สติ มันเลยเลือก เลิฟโซน นั้นคือน้องเมย์ครับคุณพ่อ” เพื่อนของตั้นพูด ผมหันมาชำเลืองมองปริม ส่วนปริมเธอก็สะบัดหน้าไปมองหน้าคนพูด ผมสั่นหัวอย่างเอือมระอาเหมือนกับอิศเรศ

“ไอ้กอล์ฟ!! มึง” ปริมทำท่าจะชี้หน้าด่าเพื่อนของตั้น แต่ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองเธออยู่ เธอเลยหันมายิ้มแหยๆ

“กอล์ฟ พูดไม่เพราะค่ะ ไม่ใช่เซ็กส์โซนค่ะ แฟนค่ะน้องกอล์ฟ!!” ปริม

“เอาล่ะ ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเรื่องพวกนี้กับเธอน่ะ เพราะว่านี้ไม่ใช่ประเด็นที่ฉันกับอิศเรศจะมาเสียเวลาคุย แต่ฉันอยากจะให้เธอ เซนต์ขายบ้านนั้นซะ พ่อเธอบอกว่าบ้านนี้เขายกให้เธอ เพราะว่าในตอนนั้นเขาต้องการใช้เธอมาเป็นข้อต่อรองกับคุณปฐวีย์” ผมพูด ปริมแค่หันมาปรายตามองผม

“แต่มันจบไปแล้วนี่ค่ะ คุณพ่อ เรื่องคุณปฐวีย์อะไรนี่นะคะ” ปริมพูด

“เธอไม่จำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้ แค่เธอขายบ้านคืนเมย์เขาไปซะฉันพร้อมจะซื้อคืน ตามราคาที่พ่อเธอต้องการ” ผมพูดก่อนจะปรายตามามองหน้าเธอ ปริมไม่ใช่ผู้หญิงเก่งในการหาเงินแต่ใช่เงินเก่ง พอได้ยินจำนวนเงินเธอก็ตาวาวแต่เธอก็ยังเสียดายตั้นผมรู้ดี

“ปริมจะขายหรือไม่ขาย ปริมจะคุยกับตั้นก่อน แล้วปริมจะบอกนะคะว่าขายหรือไม่ขาย ขึ้นอยู่กับความพอใจค่ะ” ปริมพูด ผมก็ต้องถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหันไปมองเธอ

“นี้เธอต้องการเขามากขนาดนี้เลยเหรอปริม โดยไม่สนใจว่า สถานะตอนนี้ของเขาเป็นยังไง เขามีคู่หมั้นแล้วปริม” ผมพูด เธอหันมามองหน้าผม

“ปริมมาก่อนมัน ถึงจะเป็นปริมเองที่เอาตั้นไปประเคนให้มันก็ตามแต่ว่าความเป็นจริงปริมมาก่อน ดังนั้นตั้นคือของปริมไม่ใช่ของเมย์มัน”

“ตั้นเขารักเมย์ ไปแล้วปริม เธอควรจะยอมรับความจริง” ผมยืนเอามือล่วงกระเป๋ากางเกงโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเธอ ผมพยายามสูดลมหายใจเข้า ผมไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้เอาซะเลยจริงๆ

“เธอจะทนอยู่กับคนที่เขาไม่รักได้เหรอ” ผมพูดและปริม เธอก็หันมามองหน้าผม

“เธอไม่เห็นแม่ของเธอเหรอ แม่เธอต้องทนอยู่กับพ่อเธอ ต้องทนข่มขื่นแค่ไหน ต้องกินน้ำใต้ศอกไม่รู้เท่าไหร่ แถมพ่อเธอไม่เคยให้เกียรติแม่เธอเลยสักนิด “ผมพูด เธอถึงกับมองหน้าผมนิ่ง

“เธอไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมแม่เธอถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ผมถามปริมกลับเธอทำหน้าตาเลิกลัก

“ฉันรู้ทุกอย่างภายในบ้านเธอ แม้กระทั่งพ่อเธอเอง ตอนนี้ถูกตรวจสอบอยู่ เพราะว่าเขาเป็นคนให้การสนับสนุนพ่อค้ายาเสพติดอยู่” ผมพูด

“บ้านนั้นน่ะ ถ้าฉันจะไม่ซื้อก็ได้น่ะ เพราะว่าตั้นเขาก็บอกกับฉันแล้วว่า เขาจะไม่เอาแล้ว เขาไม่อยากเสียเมย์ไป” ผมพูดปริมหันมามองหน้าผม เธอกำมือแน่น

“แต่ที่ฉันอยากจะซื้อ ฉันจะให้เธอสามสิบล้านและพาแม่เธอไปตั้งตัวทำตัวเองให้มีค่ามากกว่านี้ “ผมพูด

“ก่อนที่เธอจะไม่เหลืออะไรเลย เหลือแต่ตัว เพราะว่าพ่อเธอคงโดนหนัก หลายข้อหา ฉ้อโกง ใช้งบหลวง และไม่ต่างอะไรกับคนค้ายาเสพติดซะเอง เพราะเขารู้และให้การสนับสนุน คนค้ายาเสพติด “ผมพูด ปริมมองหน่าผม ส่วนเพื่อนสองคนของเธอก็เริ่มถอยห่างออกไปเรื่อยๆ

“แถมลูกน้องก็เอายามาเสพ ลูกสาวยังเสพเลย และฉันรู้อีกว่าเธอใช้ยากับตั้น เพราะเธอรู้ว่าตั้นเคยใช้ยาเสพติดมาก่อน นี้หรือคนรักกันเขาทำกันน่ะปริม!!!” ผมพูด เธอดึงกลับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก เธอก้าวเท้าถอยหลังออกไป สายตาของผมมันบอกให้เธอรู้ว่าผมรู้สึกยังไงที่มีคนมาทำแบบนี้กับลูกผม

“เธออย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยน่ะปริม ที่ตัดสินให้เธอแบบนี้ เธอไม่คู่ควรกับตั้นเขา และฉันเข้าใจความรู้สึกดีที่ต้องทนอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองไม่รัก มันเป็นยังไง”

“ฉันให้เธอได้เลือกในขณะที่เธอยังมีตัวเลือก ว่าจะเอายังไง” ผมมองหน้าเธอ

“เงินหรือว่าอยากอยู่อย่างตกนรกทั้งเป็น” ผมพูด เธอมองหน้าผม กลืนน้ำลายลงคอ

“ถ้าเธอคิดว่าเธอไม่มีหนทางไป เธอยังจะฝืน ฉันก็เลี้ยงเธอได้น่ะ เลี้ยงผู้หญิงอย่างเธออีกสักคนจะเป็นไรไปเพราะว่า ฉันยังเลี้ยงสองแม่ลูกที่พ่อฉันยกให้ฉันดูแลต่อได้ ทั้งที่ฉันก็ไม่อยากได้ เพราะว่านางก็ไม่มีปัญญาไปไหนเช่นเธอ จะไปอยู่ด้วยกันก็กับเขาก็ได้น่ะ จะได้ตั้งสมาคมเดียวกัน ” ผมพูด ก่อนจะหันหลังมาหาอิศเรศ อิศเรศมองหน้าผม ใช่ผมพูดแรง แต่ผมต้องพูด

“เลือกเอาน่ะ ว่าจะเอายังไง ปริม!” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ผมเดินไปหาเพื่อนๆ ของตั้นผ

“วันนี้กลับไปนอนก่อนเถอะน่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่รอดูว่าตั้นฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไงเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ค่อนข้างหนักและอาจจะ ไร้ความรู้สึกไปเลย รอดูพรุ่งนี้” ผมพูด ปริมยืนนิ่ง เขาได้ยินที่ผมบอกทุกคน แต่ล่ะคนสีหน้าตกใจ

“แล้วพวกที่เหลือหายไปไหนกัน” ผมถาม

“เมย์เขาเห็นคนขับรถเข้าไปและพวกผมคิดว่ามันคือต้นเหตุที่ทำให้ตั้นประสบอุบัติเหตุครับพ่อ” กอล์ฟตอบผม

“ตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครเลยไปตามตัวน่ะครับ”

“ได้เรื่องยังไงบอกพ่อน่ะ พ่อจัดการเอง” ผมพูดก่อนจะหันมามองอิศเรศ

“เรากลับกันเถอะ “ผมพูด

“แล้วนางเมย์มันอยู่ไหน ถ้ามันเฝ้าตั้นได้ ฉันก็ได้สิทธิ์นั้น” ปริมพูด

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ ส่วนเธอก็กลับไปคิดสิ่งที่ฉันบอกกับเธอ แล้วค่อยมาให้คำตอบฉัน “ผมพูดก่อนจะหันหลังเดินออก

“อย่าให้ฉันต้องพูดหลายรอบ ฉันไม่ใช่คนชอบพูดอะไรซ้ำซาก” ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบเดินออกไปพร้อมกับอิศเรศ อิศเรศโทรบอกคนขับรถว่าผมจะกลับแล้ว ส่วนคนอื่นก็เดินตามออกมา เพื่อนของปริมก็ดึงลากปริมออกมาโดยที่ที่เธอไม่เต็มใจหนัก

“ผมนี่ยืนพูดอยู่กับเธอตั้งนาน นางหัวชนฝ่าไม่ยอมท่าเดียว เถียงผมฉอดๆ เลย แต่พ่อท่านมานี้ ยืนอึ้งพูดไม่ออกเลย แต่จะว่าไปคุณท่านนี้ผู้ชายปากร้ายเหมือนกันนะครับ” อิศเรศพูดพร้อมกับแอบค้อนผม ผมก็แค่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น ผมยอมรับว่าผมเกลียดผู้หญิงประเภทนี้ที่สุด เพราะว่าพ่อผมทำกับแม่ผมไว้และผมก็เห็นมาจนวันที่พ่อผมจากไปด้วยอุบัติเหตุ และพ่อผมยังไปขอผู้หญิง ที่ไม่มีสมองคนนั้นมาเป็นภรรยาให้ผมแทนลลิลภัทร์ เพราะเขารู้ว่าผมเป็นเกย์   แต่ว่าผมก็รับมาน่ะแต่ไม่เคยแม่แต่อยากจะแตะต้องเธอสักนิด

“พ่อครับสวัสดีครับ” “พ่อค่ะสวัสดีค่ะ” ผมหันมายกมือรับไหว้กอล์ฟและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น รถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ก็ขับมาจอด คนขับรถลงมาเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งก่อน

“ถ้าไปไม่หมดให้รถพี่อีกคันไปส่งน่ะ รถพวกพี่มากันสามคันนะครับ” อิศเรศหันไปบอกเพื่อนๆของตั้น ก่อนจะโทรบอกคนขับรถอีกคันให้ไปส่งแต่ล่ะคนกลับบ้าน นั่งนิ่งเงียบจนกระทั่ง ที่นั่งด้านข้างผมมีคนตามเข้ามานั่ง ผมหันไปมองอิศเรศ

“คุณตั้นอาการหนักเหรอครับ คุณท่าน” อิศเรศถามผม ผมหันไปมองสายตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใย ผมรู้ว่าเขาก็มีใจให้ตั้นเหมือนกันแต่ว่า เขายืนยันว่าเขาเลือกผมและนี่ก็คือประเด็นรองที่ทำให้ตั้นยิ่งสร้างกำแพงใส่ผมสูงขึ้น

“เรายังพอมีหวังน่ะ เพราะว่าพรุ่งนี้เขาจะให้หมอที่เก่งเรื่องระบบประสาทและเป็นอาจารย์หมอของหมอโอมเขามาดูให้น่ะเรศอาจจะผ่าตัดอีกรอบ หมอโอมบอกมา “ผมหันไปบอกอิศเรศ

“แล้วเรื่องที่คุณท่านพูดว่า”

“ยังไม่รู้ รอดูพรุ่งนี้น่ะเรศ” ผมบอกกับอิศเรศ อิศเรศกุมมือผมเอาไว้

“ผมว่าตอนนี้คุณท่านควรจะปล่อยวางเรื่องคุณลลิลภัทร์ได้แล้วนะครับ “อิศเรศบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมคงต้องปล่อยวาง เลิกอาฆาตแค้นเธอได้แล้ว ผมนั่งนิ่งเงียบไปตลอดทาง จนถึงโรงแรมที่อิศเรศจองเอาไว้ให้ผมเข้าพักกับเขา อิศเรศเขาก็จองห้องพักไว้ให้คนขับรถเช่นกัน

TBC...

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
คนแต่งขอรีไรท์ตั้งแต่ต้นเลยนะคะ (แอบหวังว่าจะมีคนอ่านเพิ่มขึ้นอีกค่ะ)  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด