###ท่านรองจอมโหด VS เด็กฝึกงานจอมเฮี้ยว### ตอนที่ 29 14/12/2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ###ท่านรองจอมโหด VS เด็กฝึกงานจอมเฮี้ยว### ตอนที่ 29 14/12/2020  (อ่าน 16382 ครั้ง)

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

###ผลงานในเล้าเป็ด###





 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

### ท่านรองจอมโหด VS เด็กฝึกงานจอมเฮี้ยว ###



Introduction

        ผมเป็นแค่เด็กฝึกงานเองน้า พี่เป็นถึงรองผู้จัดการแผนกจะมากินหัวผมแบบนี้ไม่ได้ มันไม่ได้เข้ากับหน้าหล่อๆของพี่เล๊ยย เข้ากะดึก แล้วอารมณ์เสียเหรอ หรือเมนไม่มา หรือหมาที่บ้านไม่ให้กอด อย่ามาลงที่ผ๊ม
   ชีวิตเด็กฝึกงานของผมจะเป็นยังไง เกือบจะโดนท่านรองแผนกโปรดักชั่นกินหัวอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผมไม่ใช่ลูกน้องพี่เค้าซักหน่อย แต่พี่เขาหล่อเนอะ เท่ด้วยอ่ะ แต่ปากพี่มันนะ ไม่น่าให้อภัยจริงๆ



 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18









Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2020 12:24:05 โดย MJTogether »

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18



ตอนที่ 1


“ช่วยด้วยค่า! ช่วยด้วย คนวิ่งราวกระเป๋า”
“หืม อะไรนะ คนวิ่งราว”
ผมหันไปมองตามเสียงผู้หญิงที่ร้องขอให้ช่วย
“เฮ้ย ! หยุดก่อนมึง…”
แล้วผมก็วิ่งตามไอ้โจรห้าร้อยที่กระชากกระเป๋าป้าคนนั้นไป
“หยุดนะมึง”
มันวิ่งนำผมอยู่ซัก 10 เมตรได้
‘โครม’
ไอ้โจรห้าร้อยสะดุดเท้าใครคนหนึ่งล้มลง แต่มันรีบลุกขึ้นทำท่าจะวิ่งต่อ เจ้าของขาเรียวยาวคนนั้นเตะปาบเข้าไปที่สีข้างไอ้โจรคนนั้นทันที มันล้มกลิ้งเลยครับ โหท่าโคตรเท่อ่ะ หล่อเลยสัด ผมวิ่งเข้าไปใกล้แล้วช่วยจับไอ้โจรใจทรามนั่นกดลงที่พื้นทันที
“ขอบใจมากนะจ๊ะพ่อรูปหล่อ”
ป้าเจ้าของกระเป๋าหันไปขอบคุณพี่ขายาวคนนั้น เออ หล่อจริงว่ะ แต่หน้าดุชิบหาย
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวสิจ๊ะ ไปกินน้ำกินท่าที่บ้านป้าก่อนสิ ป้าอยากขอบคุณที่ช่วยเหลือ”
“ผมรีบ”
แล้วพี่แกก็เดินจ้ำอ้าวไปเลย อ้าวปล่อยกูนั่งกดหัวไอ้นี่อยู่คนเดียว
“ขอบใจเหมือนกันนะจ๊ะพ่อหนุ่ม”
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ”
พอดีมีตำรวจวิ่งมาพอดี หลังจากที่มีพลเมืองดีจับโจรได้  ไม่เคยทันซักทีพี่ตำรวจเนี่ย แล้วพี่ตำรวจก็เดินมาคุยกับคุณป้า หลังจากจับโอ้โจรกระชากกะเป๋าไว้
“เดี๋ยวน้องไปให้การที่โรงพักหน่อยนะ ยังหนุ่มยังแน่น เก่งนะเรา จับโจรได้”
“เอ่อ จริงๆแล้ว มีผู้ชายอีกคนที่ช่วยนะพี่ตำรวจ”
“แล้วเขาไปไหนแล้วล่ะ”
“ไม่รู้ เห็นเดินไปแล้ว”
กูก็ยังงๆ เลยทำดีไม่เอาหน้า เท่ชิบหาย
หลังจากนั้นผมก็ไปโรงพัก ตำรวจไม่ได้ซักถามอะไรมาก เพราะพยานรู้เห็นเยอะ ซักพักผมก็กลับหอ พรุ่งนี้ต้องเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อยื่นเรื่องขอฝึกงานครับ
อ้อลืมแนะนำตัว สวัสดีครับ ผมชื่อหมอก ชื่อจริง ปฐพี นักศึกษาปีสี่ มหาวิทยาลัย xxx คณะรัฐศาสตร์ครับ กำลังหาที่ฝึกงานอยู่ ที่เล็งๆไว้ก็โรงงานผลิตผลไม้ระป๋องแถวใกล้มอผมนี่แหละ ไม่ต้องหาไกล แต่ก็ไม่รู้นะว่าเขาจะรับผมรึเปล่า
“เออ ไอ้หมอกมึงจะเลือกที่ฝึกงานที่ไหนวะ”
ไอ้บาส หรือไอ้บวรเพื่อนผมเอง เพื่อนข้างหอในหอพัก มันก็อยู่ปีสี่ แค่คนละคณะกับผม มันเรียนวิทยาศาสตร์ สาขาโทคโนโลยีอาหาร
“กูก็เล็งไว้อยู่ พรุ่งนี้กูจะไปคุยกับอาจารย์ให้ทำหนังสือขอเข้าฝึกงานให้”
“เหรอ กูได้ที่โรงงาน xxx ฝึกในไลน์ผลิต”
“เฮ้ยจริงดิ กูก็เล็งโรงงานนี้อยู่ แต่คนน่าจะเลือกเยอะเพราะอยู่ใกล้มอเรา”
“เออจริง นี่กูต้องตบตีแย่งชิงกับพวกผู้หญิงในสาขากู กว่าจะได้มา”
ห่า ไปตบตีแย่งชิงที่ฝึกงานกับพวกผู้หญิง กูล่ะสมเพชมึงจริงๆ
“ไม่ต้องทำหน้าสมเพชเวทนากู กูไม่ได้ไปตบจริงๆ”
อ้าวเหรอ กูนึกว่าจริงๆ ก็เห็นมึงบอกว่ารำคาญพวกผู้หญิง คิดว่าจะไปตบเขาจริงๆ
“เออ กูรู้หรอกน่า”
“มึงไม่รู้จริงๆเถอะ ยิ่งบื้อๆอยู่”
“สัด ด่ากูอีก”
   เป็นอันว่าจบบทสนทนา ไอ้บาสมันชอบว่าผมบื้อๆ เซ่อๆ ประจำ เห็นกูหน้าตาดีหน่อย อิจฉากูสิ กูหล่ออ่ะ จะบื้อจะโง่หน่อย ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่เนอะ
   หลังจากที่ผมยื่นเรื่องฝึกงาน ผลที่ได้ก็คือ ผมได้ไปฝึกงานที่โรงงานที่หวังไว้จริงๆ ฝึกในแผนกบุคคล ซึ่งค่อนข้างตรงกับที่เรียน
“ตกลงมึงได้ที่ฝึกงานรึยังเนี่ย”
“เออ ไก้ที่เดียวกะมึงแหละ”
“เฮ้ยจริงดิ ดีๆ จะได้มีเพื่อน”
   ผมกับไอ้บาสคุยกันอยู่ที่โรงอาหารขณะกำลังนั่งกินข้าวกัน โรงอาหารมหาวิทยาลัยผม กับข้าวอร่อยนะ ให้เยอะด้วย
“แต่กูไปฝึกพร้อมผู้หญิงในสาขาอีกคน”
“เหรอ สวยมั้ยวะ”
 “สวย แต่…”
จริงดิ จะได้ไปฝึกงานกับสาวยสวย แต่ ? แต่คืออะไร
“แต่อะไรวะ?”
“สวยแต่แรด”
“ห่า ไปว่าเขาแรด เดี๋ยวเขาได้ยินก็ตบฟันหักหรอก”
“เหอะ ผู้หญิงสมัยนี้ ไม่มีแบบเรียบร้อยๆมั่งเหรอวะ นุ่งกระโปรงนี่ผ่าไปถึงตูดแล้ว”
“ห่า พูดซะกูเห็นภาพเลย สัด”
   ไอ้นี่มันชอบบ่น เบื่อพวกผู้หญิง รำคาญมั่งแหละ มันหน้าตาดี ก็เลยมีผู้หญิงมาขายขนมจีบอยู่บ้าง แต่มันไม่ค่อยสน ไอ้นี่มันชอบสาวเรียบร้อย
“สมัยนี้แล้ว ไม่มีหรอกมันสเปคมึงอ่ะ ไปบวชง่ายกว่า”
“แล้วเขาชื่ออะไรอ่ะ เผื่อกูรู้จัก”
“ชื่อส้ม”
“อ๋อ ส้มจี๊ด ที่สวยๆ หุ่นดีๆใช่ป่ะ”
“เออ นั่นแหละ”
โห จะได้ไปฝึกงานกับสาวสวยหุ่นดี นมโต ดีใจชิบหาย ชีวิตมหาวิทยาลัยสี่ปีของผมที่เคยแห้งเหี่ยว อาจจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาก็ได้ใครจะรู้
“หน้าตามึงนี้ตอนนี้ดูตอแหลมาก ไอ้หมอก”
เชี่ย กูออกจะหล่อ มาหาว่าหน้าตากูดูตอแหล
“สัด เดี๋ยวกูโบกหัวแตก”
   ชีวิตประจำวันของผม ช่วงนี้นอกจากไม่เรียนรอแต่ฝึกงาน ก็ต้องมานั่งเถียงแข่งกับไอ้บาสนี่แหละครับ สนุกดี บางทีก็อยากถีบมันเหมือนกัน
“เดี๋ยววันนี้กูไปหน้ามอ มึงจะเอาอะไรมั้ย”
ผมว่าจะออกไปซื้อของใช้ซักหน่อย พวกยาสีฝัน ผงซักฟอกหมดแล้ว
“เออ ผัดไทยที่อยู้ข้างเซเว่นให้กูห่อหนึ่ง”
“เออๆ”
   แล้วผมก็ขับน้องฟ้าสกูปี้คู่ใจ ออกไปหน้ามอ ผมจอดรถข้างเซเว่น แวะไปสั่งผัดไทยให้ไอ้บาสมันก่อน
“เฮ้ย นี่คุณหาคนให้ผมไม่ทันเหรอ”
“แล้วเมื่อไรผมจะได้คน”
“เห็นพูดอย่างนี้มาตั้งแต่เดือนที่แล้ว”
“เออๆ ไม่ได้เรื่องเลย แค่นี้แหละ”
   ไอ้พี่คนนี้มันน่าคุ้นๆนะ แต่ดูอารมณ์เสียชิบหาย หน้าตาแม่งโหดสัด แต่ช่างมันเถอะ ผมเดินเข้าไปซื้อของในเซเว่นแล้วออกมาเอาผัดไทยที่สั่งไว้
“ป้าผัดไทย ผมเท่าไรอ่ะ”
“30 บาทจ๊ะ”
ผมยื่นแบ็งค์ 20 บาทให้ป้าไป 2 ใบ แล้วยื่นมือไปรับถุงผัดไทย
‘หมับ’
หืม ใครหยิบของกูไป เฮ้ยไอ้หน้าหล่อหยิบถุงผัดไทยผมไป
“เฮ้ย นั่นมันของผมนะ”
 “ของผม ผมจ่ายแล้ว”
ยังมีหน้าหันมาเสียงเข้มใส่ผมอีก
“แต่ผมก็จ่ายแล้ว”
เอาเด่ะ ผมก็ไม่ยอมอ่ะ
“ผมจ่ายก่อน”
เฮ้ย มันเป็นเด็กรึไงมายืนเถียงกับผมอ่ะ
“เดี๋ยวจ๊ะพ่อหนุ่ม ของพ่อหนุ่มน้อย ถุงนี้จ๊ะ”
อ้าวป้า พูดช้าอีก ผมหน้าแตกแล้วเนี่ย
“อ่อ เหรอะครับ แหะๆ”
แล้วผมก็รับผมผัดไทยมาจากป้า อายครับ หน้าชาเลย
“หน้าคุ้นๆนะเรา”
ไอ้พี่คนนี้มันมองหน้าผม แล้วทำท่านึก อืมผมก็ว่ามันหน้าตาคุ้นๆ
“พี่ใช่คนที่เตะก้านคอไอ้โจรกระชากกระเป๋ารึเปล่า”
พี่มันพยักหน้ารับ
“เฮ้ยย จริงดิ เท่สัดเลยพี่”
ผมยังจำท่าเตะของพี่มันได้ หล่อสัดเลย พี่มันหลี่ตามองผมแล้วมันก็เดินหนีไป อ้าว กูชมแล้วทำไมเดินหนีวะ
แล้วผมก็แว้นน้องฟ้าของผมกลับหอทันที เหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ที่จะต้องไปฝึกงาน เอิ่ม เริ่มตื่นเต้นล่ะ หลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ ผมกับไอ้บาสได้มายืนยังหน้าโรงงานแห่งนี้ โรงงานที่รับพวกผมเข้าฝึกงาน
“แม่งโคตรใหญ่ว่ะ”
“เออ รั้วยาวชิบหาย มีพนักงานเยอะมั้ยวะ”
“นี่มึงไม่หาข้อมูลโรงงานเขามั่งรึไง มีพนักงานหลายพันคนอยู่นะเว้ย”
“เฮ้ยจริงดิ กูคิดว่าไม่น่าจะเยอะขนาดนั้นนะ”
“มึงนี่เคยสนใจอะไรกับเค้ามั่งวะนอกจากแดก”
“นอกจากแดกแล้วผมก็ไม่สนใจอะไรเลยครับ คุณบาส”
   เราก็คุยกันมาจนถึงหน้าประตูรั้วโรงงาน บอกพี่ รปภ. ว่าจะมาฝึกงาน แกก็ให้แลกบัตรแล้วชี้ไปทางห้องฝ่ายบุคคล ผมกับไอ้บาสเปิดประตูเข้าไป โอ้โห ห้องสมัครงานเหรอวะ วุ่นวายชิบหาย มีพนักงานอยู่ประมาณ 20 คนได้ เดินไปเดินมา คุยกันจ้อกแจ้กจอแจ เอิ่มที่นี่ ยูนิฟอร์มเป็นเสื้อโปโลสีดำแฮะ บรรยากาศเป็นแบบโรงงานจริงๆ
“เอ่อ สวัสดีครับ ผมชื่อ ปฐพี มาฝึกงานวันแรกครับ”
“สวัสดีครับผมชื่อบวร มาฝึกงานเหมือนกันครับ”
“อ่อ น้อง เดี๋ยวน้องไปติดต่อพี่น้ำฝนนะ พี่เขาดูแลน้องฝึกงาน”
พี่คนตัวอวบๆระยะสุดท้าย ชี้ไปทางพี่ผมยาวตัวผอมๆที่นั่งด้านใน
“อ่อ ครับๆ ขอบคุณครับ”
คงจะเห็นว่าผมมีมารยาทกันล่ะสิ อืมๆ วันแรกก็ต้องทำตัวดีหน่อยครับ เดี๋ยวเสียภาพพจน์ที่มีอยู่น้อยๆนี้หมด
“พี่น้ำฝนใช่มั้ยครับ สวัสดีครับผมชื่อปฐพี่ มาฝึกงานวันแรกครับ”
ผมไหว้พี่เขา จะว่าไปสาวโรงงานนี่ก็สวยดีเหมือนกันนะครับ
“สวัสดีครับ ผมชื่อบวรครับ”
“อ๋อ น้องสองคน มาๆเดี๋ยวพี่ให้กรอกใบสมัคก่อนนะ เดี๋ยวไปเข้าห้องอบรม มีน้องส้มจี๊ดรออยู่ในห้องแล้ว รู้จักกันมั้ย เห็นว่าเรียนที่เดียวกัน”
“รู้จักครับ”
ผมตอบไปเข้าไปแทน ส่วนไอ้บาสแอบทำหน้าเบะใส่ผม
“ดีๆ จะได้ไม่ต้องแนะนำมาก”
แล้วพี่แกก็ยื่นใบสมัครมาให้ผมกับไอ้บาสกรอก อธิบายขั้นตอนการฝึก แล้วก็ให้ไปอบรมปฐมนิเทศ ผมก็ไปเจอกับส้มจี๊ดคนสวย ทักทายกันนิดหน่อย แล้วก็อบรมยาวครึ่งวันเลย หลังจากอบรมเสร็จ พี่น้ำฝนก็ให้ไปกินข้าวที่โรงอาหาร มีหลายร้านอยู่ ราคาแค่ 20 บาทเองอ่ะ ถูกกว่าที่มหาวิทยาลัยผมอีก แถมให้เยอะด้วย พวกผมก็มานั่งหน้าเจ๋ออยู่ในห้องประชุมเล็กๆในแผนกบุคคล
“เอ่อ เดี๋ยวพี่แนะนำตัวก่อนนะ พี่ชื่อน้ำฝนเป็น **HR Officer ดูแลน้องๆฝึกงาน เอาหล่ะที่นี้น้องๆและนำตัวเลยค่ะ”
“หนูชื่อส้มจี๊ดค่ะ อยู่ Food Science ค่ะ”
“ผมชื่อหมอกครับ เรียนรัฐศาสตร์ครับ”
“ผมชื่อบาสครับ Food Scienceครับ”
“ค่ะ น้องบาส น้องส้มจี๊ด ต้องฝึกที่ แผนกผลิต ส่วนน้องหมอกเนอะ อืม น้องหมอกต้องฝึกที่ แผนกบุคคลค่ะ”
“ครับ”
อันนี้ผมก็ทราบอยู่แล้วแล่ะครับพี่คนสวย ก็ผมเรียนรัฐศาสตร์จะให้ไปฝึกที่ แผนกผลิตได้ไงล่ะครับ แอบบ่นในใจครับ กลัวโดนโบกหัว แล้วพี่น้ำฝนก็พาไปถ่ายรูปทำบัตรนักศึกษาฝึกงาน อย่างเท่อะครับ ไม่ให้กูเก็กหล่อทันเลย กดแชะเดียว หน้าเหวอรึเปล่าก็ไม่รู้ แล้วก็พาไปสแกนนิ้วครับ ที่นี่ต้องสแกนนิ้วเข้า – ออกงาน จริงๆแล้วฝึกงานผมได้ตังนะ วันละตั้ง 100 บาท พอซื้อข้าวกินเลยนะ ดีจริงๆ
“เวลาเข้างานหรือเลิกงานต้องสแกนนิ้วนะคะ น้องๆจะเข้างาน 8 โมง เลิก 5 โมง”
พี่น้ำฝนก็อธิบายไปเรื่อยๆ ถึงระเบียบต่างๆของโรงงาน
“ตกลงพวกคุณยังหาคนให้ผมไม่ได้เหรอ”
“ยังได้ไม่ครบค่ะ ตอนนี้พอจะมีเข้าอาทิตย์หน้า 20 คน”
“ผมก็บอกอยู่นี่ว่าคนไม่พอ แล้วทำไมยังหาไม่ได้”
“พอดีตอนนี้มีห้างเปิดใหม่ที่ในเมือง เลยไม่ค่อยมีคนอยากมาทำงานโรงงานน่ะค่ะ”
“ผมไม่ฟังข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ยังไงพวกคุณก็ต้องหาคนให้ผมให้ทันภายในอาทิตย์หน้า”
นั่นมันไอ้พี่ฮีโร่ที่กระโดดเตะไอ้โจรห้าร้อยนี่หว่า หน้าดุยังไม่พอ เสียงดังชิบหาย เปิดประตูออกไปที ประตูแทบหลุด ขนาดกูยืนฟังห่างๆ ยังเกือบช๊อค ชิบหายแล้ว บรรยากาศการทำงานมันไม่สวยหรูเลยเว้ย
“เอ่อ ไม่ต้องตกใจนะคะ คุณเมฆาน่ะค่ะ รองผู้จัดการแผนกผลิตค่ะ”
ไอ้บาสตาเหลือกเลย ว้ายๆ สมน้ำหน้า ว่าที่หัวหน้ามึง หน้าตาก็ดีแต่ดุอย่างกะหมา ผมเลยยักคิ้วให้มัน มันเลยถองผมมาทีนึง
“เดี๋ยวเหอะมึง”
ผมหันไปค้อนให้มันเดี๋ยวกูก็โบกให้
 “น้องหมอก พี่จะพาไปแนะนำให้รู้จัก Sup พี่นะ แล้วก็หลังจากนั้นพี่จะพา น้องส้มจี๊ดกับน้องบาสไปที่แผนกผลิต”
เอ่อ พี่ ไอ้ซุป นี่มันอะไร ซุไปไก่เหรอ มันเอาไว้กินมั้ย แนะนำได้ด้วยเหรอ ผมยังไม่ทันได้อ้าปากถามพี่แกก็เดินนำไปแล้ว
“Sup คะ นี่น้องหมอก น้องฝึกงานจะมาฝึกในแผนกเรา”
“ส่วนนี่ Sup หัวหน้าพี่ค่ะ”
“สวัสดีครับพี่ซุป”
“ฮ่าๆ เออน้องตลกดีว่ะ พี่ชื่อมายด์ ตำแหน่ง Supervisor ที่แปลว่าหัวหน้างานอ่ะ ไม่ได้ชื่อซุป”
‘เพล้ง’ เสียงหน้าผมแตกครับ ไอ้บาสกับส้มจี๊ดคนสวยแอบขำจนท้องแข็ง จะว่าไปทั้งสองคนอ่ะ รู้เหรอว่าซุปคืออะไร ทำมาหัวเราะกู
“อ่อครับ พี่มายด์ ผมก็นึกว่าพี่ชื่อซุป”
“Sup เดี๋ยวพี่จะพาน้องอีกสองคนไปที่แผนกผลิต นะคะ”
“ได้พี่ ส่วนไอ้น้อง ชื่ออะไรนะ ขออีกที”
“ชื่อหมอกครับ”
“เออๆ ไอ้น้องหมอก พี่มีงานให้ทำ เดี๋ยวสอน มาๆ”
ดูๆไปพี่แกก็สวยนะครับ ไม่สิ ดูน่ารักๆ กวนตีนๆดี ครับ เหมือนทอมเลย
“เดี๋ยวจะสอนถ่ายเอกสารนะ งานหลักของเด็กฝึกงานน่ะ”
“ได้ครับพี่ พี่มีอะไรให้ผมช่วย บอกได้เลยครับ”
“เหรอ ไปซื้อข้าวให้ได้มั้ยอ่ะ”
“… ดะ ได้ครับ”
“ฮ่าๆ ล้อเล่น เดี๋ยวให้ไปล้างจานแทนแม่บ้าน”
ผมหน้าเหวอเลย เฮ้ยจริงดิ เด็กฝึกงานต้องล้างจานเหรอ
“เออ ตลกจริงๆนะเอ็งเนี่ย”
สรรพนามการเรียกชื่อเปลี่ยนไปแล้วครับ ดูท่าพี่แกเป็นทอมแหงๆ
หลังจากนั้น Sup มายด์ ก็สอนผมถ่ายเอกสาร แล้วก็ยกเอกสารมาให้ผมถ่ายกองโตเลยทีเดียว วันนี้ทั้งบ่ายผมก็ได้งานแค่ถ่ายเอกสาร 1 งานครับ พอห้าโมงเย็นพี่น้ำฝนก็บอกให้ผมกลับได้ ผมเลยนั่งรอไอ้บาสที่หน้าห้องบุคคล
ซักพักผมก็เห็นมันกับส้มจี๊ดคนสวยเดินออกมาจาไลน์ผลิต โอ้โหหน้าเยินมากครับ บอกเลย
“โหมึง ไปรบที่ไหนมาวะ หน้าเยินมาก”
“เออ ในไลน์ไง ร้อนชิบหาย ต้องใส่หมวกอีก เหม็นเหงื่อโคตร”
จ้า พ่อคนสะอาด อาบน้ำเป็นชั่วโมง เหงื่อออกนิดออกหน่อยทำมาบ่น
“เป็นไงบ้างส้มจี๊ด เหนื่อยมั้ย”
ผมหันไปถามส้มจี๊ดคนสวยที่หน้าเยิน แต่ก็ยังสวยอยู่
“อืม ร้อนมากเลย แล้วก็ปวดขาด้วย”
คนสวยบ่น หน้างอหน่อยๆ แต่ก็ยังสวย
“เหรอ งั้นกลับเถอะ แล้วส้มจี๊ดกลับไงอ่ะ”
“เดี๋ยวที่บ้านมารับค่ะ”
ผมพยักหน้าหงึกๆ ว่าจะให้เป็นสก๊อยซ้อนน้องฟ้าของผมซักหน่อย แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับ ผมกับไอ้บาสเดินไปเอารถที่แอบจอดหน้าโรงงาน พี่น้ำฝนบอกว่าพรุ่งนี้ให้เอาไปจอดในโรงรถของโรงงานได้ ก็ดีน้องฟ้าจะได้ไม่ต้องตากแดด
“เป็นไงมึงฝึกงานวันแรก”
ไอ้บาสถามผมหลังจากที่มันอาบน้ำแล้วมานอนเล่นที่ห้องผม
“ก็ดี วันนี้ Sup กูสอนถ่ายเอกสารอย่างเดียวเลย แต่พี่แกก็ดีนะฮาๆดี แต่เหมือนจะเป็นทอมว่ะ”
“เหรอ แต่หน้าตาก็น่ารักดีนะ”
“หืม มึงชมผู้หญิงเหรอวะ”
“ถ้าน่ารักกูก็ชม แต่ถ้าแรดกูไม่ชอบ”
“อ่อ พ่อมหา ชาตินี้มึงจะได้เมียมั้ยเนี่ย เออ แล้วมึงอ่ะงานเป็นไง”
“เออ ในแผนกวันนี้งานเข้า ท่านรองตะโกนด่าอยู่ในไลน์เป็นชั่วโมง”
“หืม ใครวะ ท่านรอง”
“ก็รองผู้จัดการที่เจอในห้องบุคคลไง ดุชิบหาย”
“อ๋อ ไอ้พี่คนนั้น”
“มึงพูดเหมือนรู้จักเขาเลย”
“เออๆ ที่กูเคยเล่าให้มึงฟัง พี่ที่กระโดดเตะก้านคอไอ้โจรวิ่งราวไง”
“เฮ้ย จริงดิ ที่มึงเคยเล่าว่าพี่เขาเตะก้านคอแล้วไอ้โจรนั่นแล้วมันล้มกลิ้งอ่ะนะ”
“เออดิ แม่งท่าเท่สัด กูล่ะอยากทำมั่งจริงๆ แต่ระวังนะมึงอ่ะ ไปฝึกงาน ก็อย่าไปกวนตีน ระวังจะโดนเตะก้านคอมั่ง”
“โห ไม่มีใครกล้ากวนตีนท่านรองหรอก พี่ Sup หัวหน้ากูบอกกว่าอย่าได้หือ แม่งโหดสัด”
“เหรอๆ งั้นมึงก็ทำตัวดีๆนะ”
   โหโหดสัด ดีนะไม่อยู่แผนกกู ไม่งั้นกูได้อยู่ไม่ครบ 3 เดือนแน่
ฝึกงานวันที่ 2 ก็ยังไม่มีอะไรมาก ถ่ายเอกสารอย่างเดียวเลยครับ ยืนเบียดเครื่องถ่ายจนจะได้เป็นเมียแล้ว เฮ้อ พอพักกลางวันก็ไปเข้าแถวซื้อข้าวที่โรงอาหาร มานั่งกินกับไอ้บาสและส้มจี๊ดคนสวย
“เป็นไงมั่งส้มจี๊ด ฝึกงานเหนื่อยมั้ย”
ผมถามคนสวยนมโตที่นั่งกินข้าวด้วยสภาพหน้าโทรมหน่อยๆ
“อืม เหนื่อยนะ แต่ก็สนุกดี ได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย”
ดีจัง ผมดิ ได้แต่ยืนถ่ายเอกสาร จนน่องจะโป่งอยู่แล้ว
“เหรอ น่าสนุกนะ ส่วนเราได้แต่ยืนถ่ายเอกสาร”
   หลังจากมื้อกลางวันผมก็ออกไปซื้อไอติมกะทิหน้าโรงงานกินซักหน่อย อากาศมันร้อน พอซื้อเสร็จก็เดินเข้าโรงงานผ่านที่จอดรถ เห็นท่านรองกำลังปิดประตูรถ มือถือเอกสารอยู่เต็มทั้ง 2 ข้าง ผมเห็นเอกสารตกอยู่ใบหนึ่ง หลังจากที่ท่านรองเดินไปแล้ว
“เดี๋ยวครับ!”
ผมตะโกนเรียก แต่แกไม่ได้ยิน
“เดี๋ยวครับท่านรอง เอกสารหล่น”
“…”
แกหันควับมามอง คอเคล็ดรึเปล่านั่น หมุนซะแรงขนาดนั้น
“ท่ารองทำเอกสารหล่นครับ”
“คุณเรียกผมว่าอะไรนะ”
“ก็…ท่านรอง”
“…อย่าเรียกแบบนั้น ผมไม่ชอบ”
“ครับท่านรอง”
“…ยังจะเรียกอีก”
หน้าหล่อๆขมวดคิ้วแน่น ผมเหมือนจะได้ยินเสียงแกกัดฟันกรอดๆเลย จะกระโดดกัดคอผมแล้วเว้ย
“เอ่อ ขอโทษครับท่านรอง คือผมไม่รู้ชื่ออ่ะ”
“คุณนี่มัน…”
“อะไรเหรอครับท่านรอง”
แกรับเอกสารที่ผมยื่นให้แบบกระชากเลยนะครับ ดีที่ไม่ขาด แล้วรีบก้าวขายาวๆเดินไป เอ้าเดินหนีไปซะแล้ว ไม่บอกชื่อ ผมก็จะเรียกท่านรองนี่แหละ

   
**  HR Officer คือพนักงานฝ่ายบุคคล
      HR Supervisor คือหัวหน้าแผนกบุคคล
      Assistant Manager คือ รองผู้จัดการแผนก
      Manager คือผู้จัดการแผนก

จบตอนที่ 1

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-07-2020 17:34:31 โดย MJTogether »

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18


ตอนที่ 2


   เหลืออีก 2 วันผมก็จะได้หยุด อาทิตย์นึงผมฝึกงาน 5 วันครับ หยุดเสาร์อาทิตย์ นี่ก็ฝึกมาได้ 3 วันแล้ว แต่ผมต้องฝึกที่นี่ 3 เดือน หวังว่าจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆนอกจากถ่ายเอกสารนะครับ
“ไอ้น้องหมอกวันนี้มีพี่เอกสารให้เอ็งช่วยกรอกนะ แล้วก็เดี๋ยวเอาเอกสารไปให้ท่านรองเซ็นหน่อย”
   พอพูดถึงท่านรองไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใคร มีอยู่คนเดียวครับ ท่านรองผู้จัดการแผนกผลิต หน้าดุ เสียงดัง แต่ไม่มีใครกล้าเรียกว่าทานรองต่อหน้า
“เอ่อ… ครับ”
   ดูเหมือนว่าดวงจะซวยแต่เช้านะ เมื่อเช้าผมก้าวขาไหนออกมาจากห้องก่อนวะ ลืมสนิทเลย
 “สวัสดีครับท่านรอง Sup ฝากเอกสารมาให้เซ็นครับ”
พี่แกเงยหน้ามามองขณะที่ง่วนอยู่กับเอกสารบนโต๊ะ จมูกโด่งชิบหาย จะทิ่มหน้าจอคอมอยู่แล้ว ฮ่าๆ กูก็พูดเวอร์
“ผมบอกแล้วนะว่าไม่ให้เรียกอย่างนั้น”
อุ้ย พี่แกจำกูได้ คิ้วขมวดขนาดนั้น เสียงนี่เข้มเชียว
“ก็ท่านรอง ไม่บอกชื่อผม ผมก็ต้องเรียกอย่างนี้แหละ”
“…”
“นี่เอกสารครับ เซ็นตรงที่เอากระดาษแปะไว้ครับ”
“เราชื่ออะไร”
“อ่อ ผมชื่อหมอกครับ ฝึกงานอยู่แผนกบุคคล”
“เป็นลูกน้องใคร”
“Sup มายด์ครับ”
“ผมจะไม่เซ็นจนกว่าแผนกบุคคล จะหาคนงานให้ผมครบ”
“เอ่อ…เดี๋ยวนะครับ เห็นอันนี้ Sup บอกว่ารีบ”
“ก็ตามที่ผมบอก”
โหยๆ เอาไงล่ะทีนี้ พี่แกไม่ยอมเซ็น ผมต้องทำไง
“เอ่อ…ท่านรองก็ช่วยผมเซ็นหน่อย เดี๋ยวผมจะรีบหาคนให้เลย”
“…”
“นะครับ ช่วยผมหน่อย”
ผมยิ้มแบบที่คิดว่าดูดีที่สุดในสามโลกไปให้ ขณะท่านรองยังที่ทำหน้ามุ่ยใส่
“…งั้นเอาเอกสารมา แล้วถ้าคุณหาคนให้ไม่ได้คุณจะให้ผมทำยังไง”
“เอ่อ…ก็ไม่ต้องให้ผมผ่านฝึกงานก็ได้ครับ”
หึๆ พี่แกไม่ใช่หัวหน้าผม คงไม่มีสิทธิจะให้ผมไม่ผ่าน กูนี่ฉลาดจริงๆ
“ก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับผู้จัดการแผนกบุคคลเรื่องนี่”
เฮ้ย ชิบหาย แบบนี้ก็ได้เหรอ ซวยแล้วกู
“เอ่อ ทะ ท่านรองครับ ผม… คือว่า”
“เอาตามนั้น คุณกลับไปหาคนให้ผมได้แล้ว”
   อ๋อย กูตายแน่ แล้วกูจะโดน Sup ด่าพ่วงด้วยมั้ยเนื่ย เสือกปากไว ไปรับปากเขา ผมเดินทำหน้าเหมือนหมาหงอยออกมา
“เฮ้ย ไอ้น้องเก่งว่ะเอ็ง ต่อปากต่อคำกับท่านรองได้”
หืม ใครฟะ กูอารมณ์ยิ่งไม่ค่อยดีเหมือนหน้าตาอยู่
“มาฝึกงานเหรอ เจ๋งๆ ชื่อไรอ่ะ”
พี่คนนี้ใครอ่ะ หน้าตาหล่อใช้ได้ แต่หล่อน้อยกว่าผมหน่อยนึง อืม กูก็ว่าไป
“เอ่อ ผมเหรอ ? ผมเป็นเด็กฝึกงานชื่อหมอกครับ”
“พี่ชื่อพล อยู่คลังสินค้า”
“อ่อครับ”
“เอ็งเจ๋งมาก ไม่มีใครกล้ากับท่านรองเลยนะ”
“เอ่อครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังจะตาย”
“เฮ้ย เป็นอะไร ไปห้องพยาบาลมั้ย”
ดูพี่แกจะเป็นห่วงผมจริงจังเลยนะ
“ผมไม่ได้ป่วยหรอก แต่ดันไปรับปากเรื่องหาคนงานให้ท่านรองครับ”
“อ่อ ปัญหาคนงานขาด ก็เป็นอย่างนี้ประจำอยู่แล้ว เอ็งไม่ต้องซีเรียส”
พี่แกยิ้มๆ แต่ผมซีเรียสครับ เดี๋ยวฝึกงานไม่ผ่านพอดี
“เออพี่ไปก่อน มีประชุม โชคดีเว้ย”
“ครับ”
แล้วหมาหงอยก็ต้องเดินกลับแผนกบุคคล
“เฮ้ย ทำไมท่านรองเซ็นให้เอ็งง่ายจริงวะ พี่ไปตั้ง 3 รอบแล้วยังไม่เซ็นให้เลย”
“Sup คือว่าผม เอ่อ…ผมไปรับปากท่านรองว่าจะหาคนงานให้ เขาเลยยอมเซ็น ผมขอโทษ”
Sup อ้าปากตาค้างเลย ชิบหายแล้วกู ฝึกครบ 3 วันแล้วนี่เนอะ ออกได้เลยมั้ยเนี่ย ฮ่วย ซวยแท้
“เฮ้ย จริงดิ เอ็งกล้าไปต่อปากต่อคำกับท่านรองเหรอ”
อ้าว แกตกใจเรื่องนี้เหรอะ ไม่ได้ตกใจที่ผมไปรับปากท่านรองเขาเรอะ
“…”
“เจ๋งว่ะ ไม่มีใครกล้าเลยนะ กลัวหัวขาดกันหมด”
พี่แกเป็นท่านเปารึไง เครื่องประหารหัวสุนัขอะไรงี้เหรอ
“แล้วก็ถ้าผมหาคนให้ไม่ได้ แกจะไม่ให้ผมผ่านการฝึกงาน”
“อ๋อ เอ็งก็เลยทำหน้าเป็นหมาหงอยกลับมา?”
ใช่คร๊าบ หลอกด่ากูหน้าเหมือนหมาอีก
“… ผมขอโทษ”
“เออ ช่างมันเหอะ ยังไงก็ต้องหาอยู่แล้ว แต่เรื่องการที่ท่านรองจะให้เอ็งไม่ผ่านการฝึกงาน ก็ยากอยู่ เพราะหัวหน้าพี่จะเป็นคนพิจารณาเอง”
อ่อ พี่ผู้จัดการที่อ้วนๆ ใส่แว่นท่าทางใจดี คงไม่ใจร้ายกับผมหรอกนะ
“แต่ผู้จัดการก็สนิทกับท่านรอง…”
ชิบหาย ความซวยเพิ่มขึ้น 10 ระดับ
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า อย่าคิดมาก เอาเอกสารนี้ไปกรอกให้หน่อย”
ตลกเนอะพี่แก หน้าตาน่ารักแต่กวนตีนชิบหาย
“เอ่อ แล้วพี่พล คลังสินค้านี่ใครอ่ะ Sup”
“หืม ถามทำไม”
“ผมเจอพี่แกที่หน้าแผนกผลิต”
“อ่อ พี่พล รองผู้จัดการแผนกคลังสินค้าน่ะ ไปทำงานได้แล้ว”
“ครับๆ”
   นี่กูจะดีใจดีมั้ยที่หัวหน้าพูดอย่างนั้น แล้วกูต้องช่วยหาคนงานมั้ย ต้องทำยังไงมั่ง โหยกินข้าวไม่อร่อยเลย
“เป็นอะไรทำหหน้าเหมือนหมาหงอย”
เอาอีกล่ะ หน้ากูเหมือนมาตรงไหน ออกจะหล่อ
“เชี่ยบาส หน้ากูเหมือนหมาตรงไหน ออกจะหล่อ”
“เราว่าน่ารักนะ น่ารักเหมือนน้องหมาพันธุ์ปั๊กอ่ะ”
อ้าว ส้มจี๊ดคนสวย นี่ถ้าเธอไม่สวยผมกระโดดถีบเลยนะ
“ก็ว่าไป เราออกจะหล่อดูดี จะไปเหมือนหมาได้ไง”
   แล้วเด็กฝึกงานที่แสนน่าสงสารอย่างผมก็ต้องกินข้าวเคล้าน้ำตาไป เฮ้อ 3 เดือน กูจะรอดมั้ยน้อ
“Sup เรื่องหาคนงาน ให้ผมช่วยอะไรบ้างมั้ย”
“อ๋อ ได้สิ เดี๋ยวเองเอาเอกสาร Leaflet นี่ไปแจกที่ตลาดหรือแถวๆที่มีคนเยอะๆ ให้หน่อยได้มั้ยล่ะ”
พี่แกยื่นเอกสารใบปลิวรับสมัครงานมาให้ผมปึกนึง
“ได้ครับ เดี๋ยวเลิกงานผมจะไปแจก”
“เฮ้ย ไม่ต้องขนาดนั้น รอว่างๆ วันหยุดหรือตอนเอ็งไปตลาดก็ได้”
“ไม่เป็นไรครับ Sup รับปากเขาไปแล้ว ก็ต้องทำ”
พี่แกไม่ได้ว่าอะไร แกดูชิลล์ๆนะ กูนี่ดิกลัวชิบหาย ฝึกงานไม่ผ่าน เรียนไม่จบ หางานทำไม่ได้ กลายเป็นคนไร้บ้าน เฮ่ยๆ คิดไปไกลล่ะ   
เย็นนี้ต้องไปปฏิบัติการลับ แจกใบปลิวเพื่อรับสมัครงานที่ตลาดซักหน่อย แต่ตอนนี้ต้องกรอกเอกสารที่หัวหน้าให้มาก่อน
“ไอ้น้องหมอก กลับบ้านได้แล้ว 5 โมงแล้ว”
ผมเงยหน้ามอง Sup ที่เดินมาเตือน พี่แกคอยเตือนผมทุกวันครับ ดูเหมือนผมจะลืมเวลากลับบ้านตลอดเลย
“ครับๆ อีก 2 หน้าพี่”
“ขยันนะเองอ่ะ ไม่เข้ากับหน้าเลย”
อ้าว Sup หน้าตาผมดูเป็นยังไงเหรอ ดูเป็นคนขี้เกียจเหรอ
“หน้าตาผมดูขี้เกียจเหรอ ผมว่าดูหล่อมากกว่านะ”
“ฮ่าๆ ตลกๆ หน้าเอ็งดูง่วงๆ มึนๆ อึนๆดีไง”
ดูเหมือนจะไม่ใช่คำชมเลยซักอย่าง
“แต่ก็น่ารักนะ เหมือนหมาพันธุ์อะไรซักอย่างที่ตาโตๆอ่ะ”
“ปั๊กครับ พันธุ์ปั๊ก”
“เออนั่นแหละ น่ารักดี”
หืม ปั๊กอ่ะนะ น่ารัก ตาปูดๆ หน้าย่นๆอ่ะเหรอน่ารัก
“ครับ ผมจะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกัน”
ผมกรอกเอกสารเสร็จ เก็บสมบัติเตรียมกลับบ้านแล้วครับ
“เออ ไอ้บาสเดี๋ยวกูแวะตลาดนะ จะเอาไบปลิวไปแจก”
“เลิกงานแล้วยังทำอีกเหรอวะ หัวหน้ามึงใช้งานคุ้มจริงๆ”
“เปล่า กูจะเอาไปแจกเอง”
ผมยังไม่ได้เล่าสาเหตุที่ต้องทำให้มันรู้ เดี๋ยวมันหัวเราะเยาะเอา
“อืมๆ เจอกัน”
   แล้วเราก็แยกย้ายกันไป ผมแว้นน้องฟ้าคันเดิมตรงไปที่ตลาดทันที Mission Impossible แต่มันต้อง possible ให้ได้
“รับสมัครงานครับ สวัสดิการดี มีหอพักให้อยู่ฟรีครับ”
“รายได้ดี โอทีเพียบครับพี่ ไปสมัครได้เลย”
ผมก็ประชาสัมพันธ์รับสมัครงานไป คนในตลาดมีเป็นร้อย มันต้องได้ซักคนล่ะวะ แล้วผมก็แจกไปเรื่อยๆ มีเท้าใครมาหยุดยืนตรงหน้าผม ผมก็เลยยื่นใบปลิวให้ไป
“รับสมัครงานครับ โรงงาน xxx”
“…”
เงียบ ไม่รับ ผมเลยเงยหน้ามอง
“เฮ้ยท่านรอง !”
อุ้ย ท่านมาได้ไง ไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียง ผมก็ไม่ได้ดู ประกาศรับสมัครงานพนักงานไลน์ผลิต ท่านรองผู้ยิ่งหญ่าย จะไปสมัครได้ไง
“เรียกผมแบบนี้อีกแล้วนะ”
แกยืนกอดอกมองหน้าผม หน้าโหดจนจะงับหัวผมอยู่แล้ว
“ก็ท่านรอง ไม่บอกชื่อผมนี่”
“… ผมชื่อเมฆา”
“อ่อครับ ท่านรอง”
“เรียกผมว่าเมฆก็ได้”
“ได้ครับ ท่านรอง”
“นี่คุณ…”
“ครับ? ท่านรอง”
“…ช่างเหอะ แล้วคุณชื่ออะไรนะ”
“อ่อ ผมชื่อ หมอก ชื่อจริง ปฐพี เรียนอยู่ มอ xxx ปีสี่ สาขารัฐศาสตร์ แล้วก็…”
“พอๆ นี่มายืนแจกใบปลิว?”
“ครับ รับสมัครงาน ผมจะหาคนงานให้ท่านรองไงครับ”
“มันจะได้ผลเหรอ ผมก็เห็นคนที่แผนกคุณก็ทำกัน”
“มันก็ต้องลองครับ ผมรับปากท่านรองไปแล้วนี่”
“คุณรู้อะไรมั้ย”
“ครับ? ท่านรอง”
“คนอื่นๆ เค้าไม่เรียกผมอย่างนี้ต่อหน้าหรอก”
“อ๋อ ใช่ครับ ได้ยินมาเหมือนกัน”
“…แล้วคุณทำไมเรียกต่อหน้า”
“ก็ตอนแรกผมไม่รู้ว่าท่านรองชื่ออะไรนี่ครับ”
“แต่ตอนนี้คุณรู้แล้ว”
“ผมว่าเรียกท่านรองก็เท่ดี เหมือนรองนายก อบต. รองผบ.ตร.อะไรงี้อ่ะครับ”
“…”
พี่แกถอนหายใจแรงๆ ใส่หน้าผมทีนึง คนหล่อทำหน้าเบะ ก็ยังหล่ออ่ะคิดดู แล้วท่านรองสูงชิบหาย หัวผมน่าพอๆกับหัวพี่แกล่ะมั้ง อืมๆ แต่เป็นหัวนมนะ
“อ้าว ท่ารองจะไปแล้วเหรอครับ”
“…”
ท่านรองแกเดินไปแล้วครับ ทำหน้าเหม็นขี้หน้าผมซะขนาดนั้น
ผมก็แจกไบปลิวต่อไป เดี๋ยวว่าจะแวะ ไปซื้อผัดไทยบ้างซักหน่อยวันนี้อยากกิน
วันรุ่งขึ้น ผมก็ตื่นไปฝึกงานอย่างสดใส ลืมเรื่องเครียดไปเลยครับ ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ เครียดได้วันเดียว ไอ้บาสมันว่าผมไม่มีอะไรในสมอง นอกจากเรื่องกินครับ ดูมันชมครับ รอยหยักในสมองผมออกจะเยอะ เพราะกินมาม่าทุกวัน เกี่ยวกันมั้ย?
“เป็นไงวันนี้หน้าไม่เหมือนหมาหงอยแล้ว”
Sup ทักเพื่อเป็นศิริมงคลแต่เช้าเลย ขอบคุณครับ
“โห Sup ใครจะหน้าเหมือนหมาได้ทุกวัน มันก็ต้องเหมือนพระเอกหนังกันบ้างแหลหะ”
“อืม เหมือนนะเรื่องจอห์นวิคอ่ะ”
“โห หน้าผมเหมือน คีอานู รีฟส์เลยเหรอพี่”
ภูมิใจอ่ะ หมาข้าใครอย่าแตะ
“หึ เหมือนบีเกิลหมาของจอห์นวิค ภาคแรกอ่ะ”
อืม ก็ยังดีนะ บีเกิลน่ารักกว่าปั๊กหน่อยนึง
“ไม่พ้นหมาเลยอะ หน้าผมเหมือนขนาดนั้นเลยเหรอ เห็นพูดหลายคนแล้ว”
กูชักไม่มั่นใจแล้วว่าพ่อแม่กูเป็นใคร เป็นหมารึเปล่าวะ
“ไม่ใช่หน้าเหมือน ตาเหมือนต่างหาก แบ๊วๆดี”
   คำชมหรือด่ากู? ช่างเหอะ คิดซะว่าผมหน้าตาดีแล้วกัน อย่าคิดมาก
“แล้ววันนี้ให้ผมทำอะไรครับ”
“มีเรียงสัญญาจ้าง เดี๋ยวสอน แล้วก็เอาเอกสารไปให้รองผู้จัดการแผนกคลังสินค้าเซ็นหน่อย”
“ที่ชื่อพี่พลอ่ะเหรอครับ”
“ช่าย”
 “ได้ครับ”
   แล้วผมก็เดินไปที่แผนกคลังสินค้า ผมเริ่มจับทิศทางที่ตั้งของแต่ละแผนกได้แล้ว รู้สึกว่าแผนกบุคคลจะตั้งอยู่ศูนย์กลางของโรงงานเลย
   ผมเห็นพี่พลคนหล่อน้อยกว่าผมยืนคุยอยู่กับท่านรองที่หล่อมากกว่าผมหน่อยนึง อันนี้ผมยอมรับ ท่าทางเคร่งเครียดเลย ถ้าผมทะเล่อทะล่าเข้าไปจะโดนกินหัวรึเปล่าเนี่ย
“ดีกันแล้วเว้ย เดี๋ยววันนี้ไปฉลองกับชั้นหน่อย”
“ไม่ว่าง ต้องพาปั๊กไปหาหมอ”
“อะไรวะเห็นหมาดีกว่าเพื่อน”
หืม ไม่ใช่เรื่องงานมั้ยนั่น คุยกันหน้าตาเหมือนถูกตัดเงินเดือนกันอ่ะ กูพูดแทรกได้มั้ยวะ
“เอ่อ พี่พลครับ Sup ให้เอาเอกสารมาให้เซ็นครับ”
“อ่อ ไอ้น้องหมอก ได้สิๆ วันนี้พี่อารมณ์ดี”
แล้วพี่แกก็ยื่นมือมารับ แต่ดูเหมือนเพื่อนพี่จะอารมณ์เสียตลอดเวลานะ
“แล้ววันนี้มีใครมาสมัครงานรึเปล่าหล่ะ”
คนอารมณ์บูดหันมาถามผม
“ยังครับ คิดว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้น่าจะมีมาสมัครครับ”
“มั่นใจเหลือเกินนะ”
ไม่เลยครับ ไม่มั่นใจเลย แต่กลัวเสียหน้าครับ
“ครับ ผมต้องหาคนให้ได้แน่นอนครับ”
“อืม ผมจะคอยดู”
แล้วเราก็จ้องตากัน ไม่ใช้เหมือนในนิยายที่จะตกหลุมรักกันอย่างนั้นนะครับ แต่มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าช็อตดังเปรี๊ยะๆเลยครับ แฮ่ๆ เดี๋ยวบีเกิลหมาจอห์นวิคกระโดดกัดเลย
“ขอบคุณนะครับพี่พล ผมไปแล้วนะท่านรอง”
   แล้วผมก็เดินออกมาจากแผนกคลังสินค้า
“เฮ้ยเจ๋ง ไอ้น้องหมอกมันเรียกแกว่าท่านรองต่อหน้าเลย”
“…เด็กมันกวนไง เถียงคำไม่ตกฟาก”
“ฮ่าๆ ดูสมน้ำสมเนื้อ แต่ไอ้น้องคนนี้มันน่ารักดีนะ”   
“…”
หน้าเหมือนเจ้าปั๊กต่างหาก หมาที่บ้านผม น่ารักตรงไหน ปั๊กน้อยเอ้ย
“หมาแกป่วยเหรอ”
“เออดิ ไม่ยอมกินข้าว”
หมาผมชื่อปั๊ก พันธุ์ปั๊ก ตาโตๆ แบ๊วๆ เหมือนไอ้เด็กฝึกงาน ผู้ชายอะไร ตัวเล็กๆ ขาวๆ ปากแดงๆ แต่กวนตีนโคตร

จบตอนที่ 2




 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ตอนที่ 3


   และแล้ววันนี้ก็มาถึง มีคนที่ผมไปแจกใบปลิวที่ตลาด ตามมาสมัครงานตั้ง 2 คนแน่ะครับ เกินคาด ทางแผนกผลิต ขอมา 200 คน มีมาสมัคร 2 คน พอตายห่าแหละ ผมอยากจะบ้าตาย
“Sup มา สมัคร 2 คนเองเหรอครับ แล้วท่านรองจะไม่งับหัวเราตายเหรอ”
“ฮ่าๆ เดี๋ยวท่านรองมาได้ยิน เองโดนงับจริงๆแน่ ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวทีมน้ำฝนกับพี่ต้น จะไปรับสมัครทางภาคอีสาน เราน่าจะได้หลายคนอยู่”
พี่ต้นเป็นลูกน้องพี่น้ำฝนอีกทีครับ หน่วยก้านดี หน้าตาเหมือนเด็กช่างอ่ะครับ
“จริงเหรอครับ แล้วมีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ”
“งั้นเอาใบปลิวไปถ่ายเอกสารเพิ่ม”
“งั้นเดี๋ยววันนี้ผมจะไปยืนแจกที่ตลาดอีก เผื่อจะได้มาซักคนสองคน”
“ดูเอ็งจริงจังมากเลยนะ แต่ก็ดีเป็นเด็กฝึกงานเรียนรู้อะไรไว้เยอะๆก็ดี”
อ่าครับ จริงๆแล้วกลัวไม่ผ่านงานแล้วก็กลัวเสียหน้าด้วย โม้ไว้เยอะ
   หลังจากนั้นมหกรรมถ่ายเอกสารก็เริ่มขึ้น วันๆผมไม่ได้คุยกับใครหรอกครับ จะสนิทก็กับเครื่องถ่ายเอกสารนี่แหละครับ   
“ไอ้น้องหมอก ไปกินข้าวหน้าโรงงานกัน พี่เลี้ยง”
Sup เดินมาชวนเนื่องจากเวลาใกล้เที่ยงแล้ว
“ได้คร๊าบ เหลืออีกนิดเดียวพี่”
   แล้วพี่แก็พาผมไปที่ร้านข้าวหน้าโรงงาน บรรยากาศก็ร้านอาหารตามสั่งดีๆนี่เองครับ Sup พาผมมานั่งโต๊ะที่พี่พลนั่งอยู่คนเดียว อืม ผมเห็นโต๊ะอื่นก็ว่างอยู่นะ
“นี่พี่พล พี่ไม่ต้องแนะนำแล้วมั้ง”
“ครับ สวัสดีครับ”
ทักทายแกซะหน่อย เจอกันรอบที่ 2 แล้ว
“ครับ พี่เป็นแฟนของมายด์ครับ”
ยิ้มหน้าบานเท่าจานดาวเทียมแล้วพี่ แต่ Sup แกไม่ได้เป็นทอมเหรอ Sup มายด์น่ารักๆ กับพี่พลคนที่หล่อน้อยกว่าผมหน่อยนึง ก็เหมาะสมกันดี
“ยังไม่ใช่ซักหน่อย”
 “เดี๋ยวก็ใช่ เอ้าว่าไงไอ้น้องหมอก กินอะไรดี”
 “เอ่อ…ครับ ไข่เจียวหมูสับก็ได้ครับ”
จะไม่ใช่แฟนได้ไง บรรยากาศสีชมพูขนาดนี้ กูมาเป็น กขค. รึเปล่าวะ ผมก็นั่งกินข้าวไป คู่รักมือใหม่ก็นั่งจ้องกันไป ถ้าเป็นปลากัด ผมว่าท้องไปแล้วนะนั่น
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็กินไอติมกะทิต่อ เจริญอาหารครับ หลังจากนั้น พวกผมก็กลับเข้าทำงานต่อ การฝึกงานได้พักกลางวัน 1 ชั่วโมง ไม่เหมือนตอนเรียน เพราะบางทีคาบว่างยาว นอนเล่นสะบาย จะว่าไปผมก็เหมือนกับผู้ใหญ่วัยทำงานแล้วนะครับเนี่ย
“Sup ครับ วันศุกร์หน้าผมขอลานะ ผมต้องเข้ามหาวิทยาลัย”
“อ่อ เอาดิ ไปบอกพี่น้ำฝนขอใบลามาเขียน”
   การเข้างาน ขาด ลา มาสายที่นี่ต้องทำเหมือนพนักงานทุกอย่างเลยครับ ส่วนของพนักงานเป็นแบบออนไลน์ ส่วนเด็กฝึกงานก็ต้องแมนนวลไปก่อน
“ครับ ได้ครับ”
   ผมต้องเข้ามหาวิทยาลัยเดือนละครั้งเพื่อไปรายงานผลการฝึกงาน ผมต้องบันทึกการฝึกงานตามตารางทุกๆวัน นี่ก็ฝึกมาได้ 1 สัปดาห์แล้ว ถ่ายเอกสารอย่างเก่งเลย ไปแข่งโอลิมปิกได้แล้ย ถ้ามีแข่งอ่ะนะ แต่ผมก็ได้ทำงานอย่างอื่นนะ เช่นกรอกเอกสารแรงงานต่างด้าว คีย์ข้อมูลบัตรจอดรถพนักงาน ก็ถือว่าได้งานอยู่บ้าง แต่ที่เก่งสุดคือถ่ายเอกสาร
   พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดแรกของการฝึกงาน นอนตื่นสายได้ แล้วค่อยไปเดินตากแอร์ที่ห้างหาของกินดีกว่า แต่ว่าเย็นนี้ต้องไปแจกใบปลิวต่อ
“เออ พรุ่งนี้กูว่าจะไปเดินตากแอร์ที่ห้าง มึงจะไปด้วยมั้ย”
“ไปดิ เอารถกูไป”
“เออ ดีๆ กูจะได้ซื้อหมอนข้างใหม่ด้วย”
พอดีหมอนข้างใบเก่งของผมมันขาดแล้ว เลยต้องซื้อใหม่
ไอ้บาสมันมีรถครับ รูปหล่อพ่อรวย ส่วนผมรูปหล่อมาก แต่ไม่ค่อยรวยเท่าไร เห็นผมอย่างนี้พ่อผมเป็นกำนันนะครับ กำนันหมานหนวดเฟิ้มแห่งบ้านดอน ขับรถอีแต๋นไปสวน พร้อมด้วยลูกสมุนน้องหมา 5 ตัว พ่อผมไปที่ไหน พวกมันตามไปที่นั่น พ่อผมรักหมายิ่งกว่าผมอีกครับ มันน่าน้อยใจ ผมนี่หมาหัวเน่าที่แท้จริง
“แล้วมึงไม่กลับบ้านเหรอ”
“กูเพิ่งกลับเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง กูกลับอาทิตย์เว้นอาทิตย์”
“บ้านมึงก็ใกล้แค่นี้ เป็นกูนะกลับทุกอาทิตย์เลย”
“อืม ขี้เกียจ กูอยากนอนชิลล์ๆบ้างไรบ้าง”
กลับไปบ้าน ก็นอนตื่นสายไม่ได้ พ่อกูเสียงดังชิบหาย คุยกะหมากระหนุงกระหนิง ทำให้ผมนอนต่อไม่หลับเลย
   เช้าวันต่อมาผมกับไอ้บาสก็มุ่งหน้าไปยังห้างใกล้มอ จุดมุ่งหมายก็คือ เดินตากแอร์ครับ อากาศร้อนมาก เลยต้องหาวิธีประหยัดแอร์ที่ห้อง
“กูอยากกินเนื้อย่างว่ะ มึงว่าไง”
ไม่ได้กินนาน วันนี้ต้องจัดซักหน่อย
“เออ กูเคยขัดมึงได้รึไง”
“เออ ดีมาก เดี๋ยวกูให้ลูกอมเม็ดนึง”
“ปัญญาอ่อน”
ดูมันว่าผม คนหล่อที่ไหนเขาปัญญาอ่อนกัน
แล้วเราก็เดินเข้าร้านเนื้อย่าง ผู้ชายวัยกำลังกินกำลังนอนสองคนนั่งสวาปามเนื้อย่าง ร้านไม่เจ๊งให้มันรู้ไปครับ
“อิ่มจนพุงกูจะแตกแล้ว”
“อืม ก็นะ เล่นแดกซะขนาดนั้น ไม่อิ่มก็ไม่ใช่คนแล้วมึง”
อ่อ ก็ยังดี นึกว่าจะด่ากูว่าเหมือนหมาอีก
“เดี๋ยวกูเดินไปดูหมอนข้างก่อน แล้วเอาไงเจอกันที่รถเลยมั้ย”
“กูไปด้วย เผื่อเจอของที่อยากได้”
   ผมกับไอ้บาสเดินไปโซนชุดเครื่องนอน ผมอยากได้หมอนข้างลายน้องหมาน่ารักซักใบเอาไปนอนกอดเล่น เดินไปเจอ นี่เลยลายหมาปั๊ก น่ารักชิบหาย เอาอันนี้เลย ไม่ต้องเลือกถูกใจตั้งแต่แรกเจอ
“อืม หน้าเหมือนคุณเลยเนอะ”
ผมเงยหน้าไปมอง ขณะที่ลูบๆคลำๆหมอนข้างน้องหมาปั๊กอยู่
“อ้าว ท่านรอง สวัสดีครับ ผมออกจะหล่อกว่าน้องปั๊กตั้งเยอะ”
 “อืม…เมื่อเทียบกับหมาอ่ะนะ”
เอ๋ ชมกู ? หรือด่ากูหน้าเหมือนหมา
ผมเห็นไอ้บาสมันมองมาทางนี้หน้าซีดเลยครับ สงสัยกลัวท่านรอง มันไม่กล้าเดินมาทักเลย หัวหน้ามึงนะเนี่ย
“ขอบคุณครับ ผมจะถือซะว่ามันเป็นคำชมครับ”
“…คุณนี่ตลกนะ”
บอกว่าผมตลก แต่หน้าท่านรองนี่ไม่ยิ้มเลยครับ
“ครับ หลายๆคนก็พูดอย่างนี้”
 “…”
 ดูแกทำหน้าเข้า คนหล่อเบะหน้าใส่ผมอีกแล้ว คิดว่าดูดีเหรอนั่น
“แล้วท่านรองมาซื้ออะไรครับ”
“ผมมาซื้อหนังสือ”
“อ่อ ครับผมว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็สนุกนะครับ ผมอ่านครบ 7 เล่มแล้วด้วย”
 “…”
อุ้ย ลืมไป ไปชวนท่านรองหน้าโหดคุยเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ท่านรองน่าจะอ่านแนวฆาตกรรมสยองขวัญอะไรทำนองนั้นมากกว่า
“เอ่อ…ขอโทษครับ ผมลืมตัว ผมไปจ่ายตังก่อน ลาล่ะครับท่านรอง”
“อืม”
ผมพยักหน้ารับ ดูเหมือนจะกลัวผมนะ แต่ความเกรียน กวนบาทามีมากกว่า คนอื่นเห็นผมนี่มีแต่หลบ อย่างเช่นเพื่อนฝึกงานขงเขานั่น แอบอยู่ในซอกหมอนข้าง คงกลัวผมมาก แต่ผมก็ยังไม่รู้จักชื่อเลย
 “ไอ้หมอก ความกล้าหาญของมึงนี่ ไม่มีใครเกินจริงๆ”
“อะไรของมึง”
หลังจากที่ได้หมอนข้างน้องหมาปั๊กมาไว้ในครอบครอง ผมก็มานั่งหน้าเจ๋อบนรถของไอ้บาสมัน
“ก็มึงกล้าไปคุยกับท่านรองได้ไงวะ”
“อะไรจะขนาดนั้น เขาก็คนป่ะวะ”
ถึงแม้จะตัวใหญ่ไปหน่อย ถึงแม้ว่าจะหน้าดุไปหน่อย ถึงแม้ว่าเสียงดังไปหน่อย แต่ก็คนป่ะวะ
“เออ มึงยังไม่เจออิทธิฤทธิ์ท่าน ด่าลูกน้องจนน้ำตาเล็ดกันเลย กูเห็นมากับตา”
“เออ กูก็ได้ยินสรรพคุณท่านมาเหมือนกัน เอาไว้วันไหนกูโดนด่าก็ค่อยกลัวแล้วกัน”
แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่น่นหรอก ฮ่าๆ ใจดีสู้เสือไว้ก่อน วันไหนโดนด่าค่อยเป็นหมาหงอย
“เออดี มึงไม่ค่อยคิดอะไรมากอยู่แล้วนี่”
ใช่ครับ คิดไปทำไม เดี๋ยวหน้าแก่ไม่หล่อ อันนี้น่าเครียดกว่า
ผมก็กลับห้องมานอนตีพุงสบายใจ เดี๋ยววันศุกร์ต้องเข้ามอไปหาอาจารย์ แล้ววันเสาร์ก็กลับบ้านไปหากำนันหมานซักหน่อย เดี๋ยวหาว่าเป็นลูกอกตัญญู ว่าแล้วก็โทรหาแกซักหน่อย
“โหลๆ กำนัน”
[เออ ไอ้ลูกหมา กว่าจะโทรมาได้นะเอ็ง]
เออ จริงๆแล้ว กูไม่ใช่ลูกกำนันแล้ว เป็นลูกหมาจริงๆด้วย
“โห กำนันลูกหมาที่ไหนจะหล่อขนาดนี้”
[เออไอ้หล่อ อาทิตย์นี้ไม่กลับสิเอ็ง]
“เดี๋ยวกลับอาทิตย์หน้า”
[จะให้พ่อไปรับมั้ย]
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวผมแว้นกลับเอง”
[ขี่ให้มันช้าๆ ใส่หมวกกันน็อกด้วย เห็นไม่ค่อยอยากจะใส่]
“คร๊าบ ลุงกำหนันหมานแห้งบ้านดอนนน”
[เออ เป็นกำนันที่หล่อที่สุดในตำบลด้วย]
“ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะ”
ผมว่าผมได้นิสัยหลงตัวเองมาจากพ่อผมนี่เอง แล้วไอ้ที่หล่อที่สุดในตำบลนี่ก็นะ ทั้งตำบลก็มีกำนันคนเดียวป่ะวะ
เช้าวันจันทร์ผมก็แว้นน้องฟ้ามาฝึกงานตามปกติ วันนี้อากาศดีนะ หวังว่าจะเป็นวันที่สดใส เข้าไปในออฟฟิศก็ทักทายทุกคนตามปกติ
‘ปัง’
เสียงประตูเปิดเข้ามาดังชิบหาย มันจะหลุดกระเด็นเข้ามาโดนหน้าผมอยู่แล้ว คนที่เปิดเข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ท่านรองคนเดิม เพิ่มเติมคือหน้าบูดระดับ 10 แกเดินปรี่เข้าไปหา Sup ทันที
“คนที่ยังขาด จะได้วันไหน”
“เอ่อ… น่าจะวันจันทร์หน้าค่ะ เพราะตอนนี้ทีมสรรหาไปรับบสมัครอยู่ที่ต่างจังหวัด”
“ให้มันจริงเถอะ เห็นรับปากแล้วแต่ก็ยังไม่ได้คน”
“…”
“แล้วที่คุณรับปากไว้ คงจะทำได้ตามที่พูดนะ”
หวายๆ แกหันหน้ามาถามผม ตางี้ดุชิบหาย ผมเห็นเขี้ยวแกยื่นออกมาจากปากแล้ว
“ครับ ผมรับปากแล้วก็ต้องทำได้”
เออ ปากกูนี่หยุดไม่ได้จริงๆ
“หึ !”
แกยิ้มที่มุมปาก ออกแนวเยาะเย้ยเล็กน้อยถ้าผมคิดไม่ผิดอ่ะนะ ดูถูกกูจัง หน้าตากูไม่น่าเชื่อถือเหรอ
“แล้วมีอะไรจะให้ผมรับใช้อีกรึเปล่าครับท่านรอง”
ผมยิ้มทะเล้นให้ เอาดิวะ กูไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
“…”
หน้าโหดขึ้นระดับ 15
“งั้นไปช่วยผมเรียงเอกสารหน่อย ผมขอยืมตัวเด็กฝึกงานซักครึ่งวันสิ Sup”
“เอ่อ…ได้ค่ะ”
หัวหน้าผมก็ใจง่ายจริ๊ง ปล่อยผมไปได้ไง ดูหน้าพี่แกจะงับหัวผมอยู่แล้วอ่ะ
“ครับ ยินดีรับใช้ครับท่านรอง”
กูประชด
แล้วผมก็เดินตามท่านรองไป ตามทางเดิน ผมเห็นพนักงานเดินหลบตัวลีบเลยครับ พยายามแอบตามมุมเสาบ้าง ข้างต้นไม้บ้าง เดี๋ยวผมต้องไปฉีดยากกันไว้ซะแล้ว กลัวโดนไซบีเรียนฮัสกี้กัด
แต่ก็อยากจะถามแกเหลือเกินว่าเด็กฝึกงานแผนกแก 2 คน ทำไมไม่ใช้มัน มาใช้อะไรผ๊ม แต่ก็อย่างที่บอก ต้องไปฉีดยาก่อนเดี๋ยววัคซีนช่วยชีวิตผมไม่ทัน

“อันนี้เป็นเอกสารรีพอร์ตการผลิต แยกเป็นเดือนแล้วก็แยกปีให้ผมหน่อย”
เอกสาร 3 กล่องใหญ่ ไม่ได้เรียงมากี่ปีแล้วเนี่ย
“ครับๆ ได้ครับท่านรอง”
“…”
   แล้วผมก็นั่งเรียงเอกสารในห้องประชุมของแผนกผลิต ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องประชุมแผนกผมอีก
“เรียงให้ถูกเดือนถูกปีด้วยล่ะ ไม่ใช่ว่าผมต้องให้คนมานั่งเรียงใหม่นะ”
“…ครับท่านรอง ผมจะไม่ให้ผิดแม้แต่เดือนเดียวเลย”
“…”
“ทำไมคุณถึงชอบต่อปากต่อคำนักนะ”
เส้นเลือดที่หน้าผากหล่อๆของแก ปูดขึ้นมาแล้ว เอีกเดี๋ยวคงเส้นเลือดในสมองแตกตาย
“เปล่าครับท่านรอง ผมก็ตอบตามมารยาท เพราะถ้าไม่พูดอะไรก็จะหาว่าไม่มีมารยาท”
“…”
ใช่มั้ย ผมเป็นคนมีมารยาทนะ เพราะถ้าเงียบเดี๋ยวก็หาว่าเป็นเด็กไม่มีมารยาทอีก
ลูกกะตาท่านรองดูเหมือนมีแสงสะท้อนออกมาเลย เป็นอุลตร้าแมนเหรอ
“มีใครเคยบอกมั้ยว่าคุณกวนประสาทมาก”
“ก็ไม่มีนะครับ มีแต่คนชมว่าน่ารัก”
“…แต่ก็จริงนะ น่ารัก…”
อุ้ยแกชมผมครับ ดีใจอ่ะ หรือว่าแกประชด
“น่ารักเหมือนเจ้าหมาปั๊ก”
ยังมีหน้ามายิ้มมุมปากอีก หล่อตายห่าเลย ผมเลิกดีใจกระทันหัน ชมว่าน่ารักเหมือนหมาอีกล่ะ
“…”
“เงียบได้ซะที แยกเอกสารไปปั๊กน้อย”
“ห๊ะ ท่านรองเรียกผมว่าอะไรนะ”
“ปั๊กน้อยไง ปั๊กน้อยน่ารัก”
“…”
ผมเบะปากใส่หน้าท่านรองไป เดี๋ยวจะโดนปี๊กน้อยงับหู อดทนไว้ไอ้หมอก เดี๋ยวยังไม่ทันฝึกงานจบก็จะโดนไล่ออกซะก่อน
แล้วผมก็นั่งแยกเอกสารเงียบๆไป แกก็ไม่กลับไปนั่งโต๊ะแกนะ นั่งอยู่ในห้องประชุม เอาโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงาน นั่งเฝ้าผมเหรอ กลัวผมแยกเอกสารผิดมากนักรึไง
ดูๆไปแกก็หล่อนะ แต่ชอบทำหน้าดุตลอด คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตาคมดุ ผมเลยยอมให้หล่อมากกว่าผมหน่อยนึง ส่วนพี่พลคลังสินค้าก็หล่อน้อยกว่าผมหน่อยนึง
เที่ยงแล้วผมยังแยกเอกสารไม่เสร็จเลย ช่วงบ่ายน่าจะต้องมาทำต่อ
“เที่ยงแล้วคุณไปกินข้าวก่อน ช่วงบ่ายค่อยมาทำต่อ”
“ครับท่านรอง”
   แล้วผมก็เดินออกมากินข้าว เจอไอ้บาสกับส้มจี๊ดที่เดินออกมาจากไลน์ผลิต เลยเดินไปโรงอาหารพร้อมกัน
“มึงมาทำอะไรที่แผนกผลิตวะ”
“หัวหน้ามึงไงใช้งานกู ใช้ข้ามแผนกเลย”
“หืมจริงดิ แล้วเขาด่ามึงมั้ย”
“ก็จิกกัดกูธรรมดา”
“เหรอ ท่ารองเขาดุจิงๆนะ ในไลน์นี่กลัวกันจนหัวหด”
“อืม ก็ก็ว่างั้น ตอนกูเดินตามท่านรองมา มีแต่คนวิ่งแอบซอกเสามั่ง หลังพุ่มไม้มั่ง ดูแล้วก็ขำๆดีว่ะ”
“แล้วมึงไม่กลัวเขาเหรอ”
“ก็เฉยๆนะ กูอาจจะยังไม่โดนด่าก็ได้ไง”
   แต่ก็ไม่แน่ เดี๋ยวซักวันคงจะโดน ยิ่งวันนี้ต้องไปช่วยงานแกด้วย จะว่าไปผมมาฝึกงานแผนกบุคคล ทำไมต้องมาช่วยงานแกด้วยนะ หัวหน้ากูก็ดีเกี๊นรีบยกกูใส่พานถวายมาให้เลย
   หลังจากที่กินข้าวกลางวันเสร็จผมก็รีบมานั่งเจ๋อแยกเอกสารต่อทันที กลัวเสร็จไม่ทันห้าโมงเย็น
“คุณไม่พักกลางวันเหรอ”
ผมหันไปมองที่มาของเสียง ก็พบกับท่านรองหน้าดุคนเดิม
“ผมกินข้าวแล้ว ผมก็เลยมาทำต่อ เดี๋ยววันนี้ไม่เสร็จครับท่านรอง”
“เวลาพักก็ควรพัก ไม่เสร็จพรุ่งนี้ก็ค่อยมาทำใหม่”
ก็พรุ่งนี้ผมไม่อยากมาไง
“ไม่เป็นไรครับผมทำได้”
“ดื้อจริงๆ”
เสียงเริ่มเข้มขึ้น มองหน้าผมเหมือนจะกระโดดงับหัวผมอยู่แล้ว
การแยกเอกสารไม่ได้วุ่นวายอย่างที่คิด ก่อนอื่นผมแยกปีก่อน มีทั้งหมด 3 ปี แล้วค่อยแยกเป็นเดือน แล้วผมก็นั่งแยกไปเรื่อยๆ ท่ารองก็เดินเข้าๆออกๆ ห้องประชุม ทำไมแกไม่ไปนั่งที่ตัวเองวะ
“ท่านรองไม่ต้องกลัวผมจะแยกผิดหรอกครับ ไม่ต้องเฝ้าก็ได้”
“ใครว่าผมนั่งเฝ้าคุณ ผมก็ทำงานของผมต่างหาก”
หันมามองผมตาขวางเลย ทำสีหน้าอย่างอื่นไม่เป็นรึไง
“รับทราบครับท่านรอง”
ประชดแม่ง
“กำลังประชดผมอยู่ใช่มั้ย”
รู้อีก ฉลาดจริงๆ
“ผมไม่บังอาจขนาดนั้นหรอกครับท่านรอง”
“…”
   ผมแยกเอกสารเสร็จก็เกือบๆห้าโมงเย็น ต้องบอกท่านรองก่อน เดี๋ยวหาว่าทิ้งงาน
“ท่านรอง ผมแยกเอกสารเสร็จแล้วนะ ขอกลับก่อนนะครับ”
“ขอบคุณที่มาช่วย”
โห เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านรองขอบคุณผม ผมประชดครับ
“ยินดีรับใช้ครับท่านรอง”
ผมทำหน้าตาที่คิดว่าตอแหลที่สุดไปให้ดอกหนึ่ง อยากให้รู้ว่าผมประชด
“…”
แกถอนหายใจหนักๆใส่หน้าผมเลย คงเอือมระอาผมเต็มทีแล้ว แต่ผมสะใจดีครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปรายงานตัวกับหัวหน้างานผม
“ไอ้น้องหมอก เอ็งรู้อะไรมั้ย ท่านรองเขาไม่เคยเรียกใช้งานเด็กฝึกงานเลยนะ”
ห๊ะ แล้วผมต้องดีใจเหรอ ที่ถูกใช้งาน
“เอ่อ…ครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยครับ”
“ฮ่าๆตลกตลอดเอ็งเนี่ย เอ้ากลับบ้านได้แล้ว”
“ครับๆ สวัสดีครับ”
แล้วผมก็ลากลับหอ ไอ้บาสรออยู่ที่โรงรถแล้ว
“เป็นไงมึง โดนท่านรองด่าบ้างรึเปล่า”
“เป็นห่วงกูเหรอ”
“เปล่า แค่อยากรอสมน้ำหน้า”
“อ้าว แล้วมึงไม่เคยโดนเหรอ”
“ไม่เคย ท่านรองเขาไม่ยุ่งกับเด็กฝึกงานหรอก เขายังไม่เคยพูดกับกูเลย”
เหรอ ทีกับกูล่ะด่ากูจัง แถมใช้งานกูอีก ทำงานแผนกบุคคลยังไม่พอ ยังต้องไปช่วยงานแผนกผลิตอีก


จบตอนที่ 3


 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18



ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ตอนที่ 4


   ผมฝึกงานมาได้ 2 อาทิตย์แล้ว ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เช่นวันนี้มีพนักงานมาสมัคร 100 คนครับ วุ่นวายฉิบหาย มานั่งรอสัมภาษณ์เต็มโรงอาหารเลย น้ำตาแทบไหลผมจะไม่ถูกท่านรองกดขี่ข่มเหงอีกต่อไป สู้โว้ย
“ไอ้น้องหมอก เอ็งเอาเอกสารตรวจสุขภาพไปให้ผู้สมัครงานกรอกหน่อยดิ”
Sup ยื่นเอกสารมาให้ผมปึกใหญ่ พี่น้ำฝนกับพี่ต้นนั่งสัมภาษณ์ผู้สมัครงานอยู่ ผมเลยกลายเป็นทีมสรรหาไปโดยอัตโนมัติ ผมก็ยินดีนะ เพราะดันไปรับปากท่านรองว่าจะหาคนให้แล้วไง วันนี้ทั้งวันวุ่นวายอยู่กับการรับสมัครงานจนถึงเย็น เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกดี อีก 2 วันก็จะมีคนไปให้แผนกผลิตแล้ว
“ไอ้น้องหมอก พรุ่งนี้เอ็งไปช่วยพี่ฝนอบรมพนักงานหน่อยนะ”
Sup สั่งงานผมข้ามวันเลยครับ แต่ผมก็ชอบนะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มากขึ้น
“ได้ครับ Sup”
   หลังจากกลับหอผมก็อาบน้ำมานอนเล่น เหนื่อยฉิบหาย ซักพักไอ้บาสมันก็ซื้อข้าวเย็นมาเผื่อ ผมฝากมันซื้อเพราะวันนี้เหนื่อยมากเลย
“เป็นไงมึง นอนขึ้นอืดเลย”
“เออ เหนื่อยฉิบหาย วันนี้กูทำงานเกินค่าฝึกงาน 100 บาทเลยว่ะ แต่ก็ดีกว่ายืนถ่ายเอกสารเฉยๆ”
“เออ วันนี้กูก็ช่วยงานหัวหน้าในออฟฟิศ ไม่ได้เข้าไลน์เลย เหมือนได้พัก ความจริงงานก็ไม่หนักหรอก แต่ยืน เดินเยอะ เมื่อยขาว่ะ”
“เออ กูก็เมื่อยยืนถ่ายเอกสารทุกวัน”
“ขามึงสั้น ยังเมื่อยอีกเหรอ”
“สัด เดี๋ยวกูโบกหัวทิ่มเลย”
   อาทิตย์นี้ผมว่าจะกลับบ้าน เพราะถ้าไม่กลับเดี๋ยวกำนันหมานบ่นตายห่าเลย แต่ผมก็ไม่เคยกลัวเลยนะ ออกจะขำๆแกมากกว่า
“เดี๋ยววันศุกร์เย็นกูกลับบ้านนะ”
“เออ แล้วบ้านมึงตอนนี้มีอะไรกินมั่งวะ”
ปกติที่บ้านผมจะปลูกสารพัดผลไม้ไว้ เคยเอาละมุดกับมังคุดมาฝากไอ้บาสมัน
“ช่วงนี้มะม่วงบ้านกูเยอะ เดี๋ยวกูเอามาฝาก”
“เออดีๆ กูก็อยากกิน”
   ผมว่าจะเอาไปฝากพี่ๆที่ออฟฟิศด้วย ผมเห็นในตลาดโลหนึ่งก็หลายตังอยู่ บ้านผมแทบจะไม่ต้องซื้อผลไม้กินเลย
เช้าวันนี้ผมต้องไปช่วยพี่น้ำฝนพาพนักงานใหม่เข้าอบรม วันนี้เราสามารถส่งพนักงานใหม่เข้างานได้ 50 คนและวันศุกร์อีก 50 คน ท่านรองน่าจะพอใจอยู่บ้าง
   หลังจากพนักงานอบรมเสร็จ ผมก็พามารอที่หน้าห้องสมัครงาน ปกติพี่น้ำฝนจะพาพนักงานไปส่งที่แผนกผลิตต่อ
“น้องหมอก พอดีพี่มีติดสัมภาษณ์งานต่อ ช่วยพาพนักงานไปส่งที่แผนกแทนได้มั้ยคะ”
“อ่อ ได้ครับพี่ แล้วผมต้องพาไปหาใครอ่ะ”
“อ๋อ พี่บอก Sup แผนกผลิตไว้แล้วน้องหมอกแค่พาไปส่งหน้าไลน์ผลิตก็พอค่ะ”
“ได้ครับ”
   แล้วผมก็พาพนักงานใหม่ทั้งหมดเดินไปที่แผนกผลิตที่ยิ่งใหญ่คับโรงงาน
“สวัสดีครับ ผมพาพนักงานใหม่มาส่งครับ”
ผมเห็นพี่คนหนึ่งท่าทางจะอายุ 40 กว่าๆ ใสชุดยูนิฟอร์ม น่าจะเป็นหัวหน้างานยืนรอที่หน้าไลน์ผลิต
“อ่อ ได้ๆ ไอ้หนุ่มเป็นเด็กฝึกงานเหรอ พี่ชื่อ Supไก่นะ กำลังรออยู่พอดี”
อิอิ ซุปไก่สกัดเหรอครับ ชื่อตลกว่ะ เอ้ย ไม่ใช่เวลาเล่น
“ครับ ฝึกอยู่แผนกบุคคลครับ”
“วันนี้หาคนงานมาได้เท่าไร”
เชร็ด เสียงท่านรองตกใจหมด อยู่ดีๆก็โผล่มาจากข้างหลัง เกือบจะงับคอผมอยู่แล้ว
“อ๋อวันนี้มีมาส่ง 50 คนครับท่านรอง”
ผมเหลือบไปเห็นพี่ Sup ไก่สกัด ทำหน้าเหวอเลยครับ แค่ผมเรียกท่านรองแค่นี้เอง
“แล้วที่ผมขอไป 200 คนล่ะ ได้แค่นี้แล้วไลน์ผลิตจะเดินยังไง”
“พรุ่งนี้มีเข้าอีก 50 คนครับท่านรอง ยังไงๆ ทีมสรรหาก็หาให้ได้ครบอยู่แล้วล่ะครับ ท่านรองไม่ต้องเป็นห่วง”
ขนาดพี่น้ำฝนกับพี่ต้นไปหาคนแค่ไม่กี่วันยังได้มาเป็นร้อย กะอีแค่ 200 คน เรื่องจิ๊บๆ
“ดูท่าทางคุณมั่นใจมากเลยนะ”
“แน่นอนครับท่านรอง”
ผมส่งรอยยิ้มอย่างผู้ชนะไปให้ ท่านรองทำหน้าไม่ค่อยเชื่อถือผมซักเท่าไร
“ผมขอตัวก่อนนะครับท่านรอง”
แล้วผมก็เดินแยกออกมา ยังไม่ลืมเหลือบไปมองพี่ Sup ไก่สกัดคนนั้นครับ แกตาค้างอ้าปากหวอเลย คงไม่เคยเห็นใครกล้าพูดแบบนี้กับท่ารองล่ะเซ่ หลังจากเดินพ้นแผนกผลิตมา ผมก็แทบจะเป็นลม อุตส่าห์เก็กใจดีสู้เสืออยู่ตั้งนาน จริงๆแล้วผมตื่นเต้นมาก กลัวท่านรองอยู่เหมือนกัน แต่ก็อยากเอาชนะครับ
“เป็นไงเอ็ง เจอท่านรองมั้ย เขาว่าไงบ้าง”
พอมาถึงแผนก Sup ก็ยิงคำถามใส่ทันที
“เจอดิ Sup เกือบจะโดนไซบีเรียนงับหัวอยู่แล้ว”
“หืม ไซบีเรียน ? ท่านรองอ่ะนะ เออ เหมือนๆ ฮ่า ช่างกล้านะเอง”
อุ้ย ผมลืมตัวเผลอเรียกท่านรองว่าไซบีเรียน ขอโทษน้องหมานะครับที่เอาท่านรองไปเปรียบเทียบ
“เอ่อ ผมขอโทษ มันหลุดปากอ่ะครับ”
“ฮ่าๆ พี่ไซบีเรียนกับน้องปั๊ก เข้ากั๊นเข้ากัน”
เดี๋ยว Sup อย่าเอาผมไปจัดประเภทเดียวกับท่านรอง สงสารผมบ้าง
“โธ่ Sup เอาผมไปเปรียบกับน้องปั๊กได้ไง ผมออกจะหล่อขนาดนี้”
“เออเองน่ารัก ไปกรอกเอกสารต่างด้าวต่อได้แล้ว”
เห็นผมเก่งหน่อยใช้ใหญ่เลย แล้วผมก็นั่งกรอกเอกสารไปเรื่อยๆ วันนี้ไอ้บาสกับส้มจี๊ดไม่ได้เข้ามาฝึกงาน สองคนลาไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา ผมเลยต้องกินข้าวคนเดียว ว่าจะออกไปกินราดหน้าหน้าโรงงานซักหน่อย เรื่องกินไม่ต้องมีเพื่อนผมก็สามารถกินคนเดียวได้ครับ ขนาดชาบูยังกินคนเดียวเลย ก็คนมันโสดและหล่อมากอ่ะครับ
“ป้าราดหน้าจานนึงครับ”
แล้วผมก็ไปหาที่นั่ง ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะครับ ป้าแกทำอร่อย เจอโต๊ะว่างพอดี เหลืออยู่โต๊ะเดียวซะด้วย
ผมเห็นท่านรองหันซ้ายหันขวาหลังจากยืนสั่งอาหารป้าเสร็จ สงสัยหาโต๊ะนั่ง อืม ไม่มีที่ว่างเลย นอกจากโต๊ะผม
“นั่งโต๊ะนี้ครับท่านรอง”
ผมถามโดยยิ้มอย่างมิตรภาพที่สุดไปให้ จริงๆแล้วผมตอแหล เห็นคนหล่อยืนทำหน้าเบะแล้วขำดี แต่ก็สงสารกลัวแกอายที่ไม่มีโต๊ะนั่ง
“…”
ยังเงียบอีก แต่ก็เดินมานั่งนะ ท่าเยอะจริงๆ
“ท่านรองกินอะไรอ่ะครับ”
“ถามทำไม”
“เอ๊า เผื่อคราวหน้าผมจะได้สั่งมั่ง”
“ข้าวผัด”
“อ่อครับ อาหารเด็กน้อย”
“…คุณนี่กวนประสาทจริงๆ”
“ขอบคุณท่านรองที่ชมครับ”
“…”
แกถอนหายใจแรงๆออกมา ทำหน้าเหม็นเบื่อผมฉิบหาย ฮ่าๆ ตลกดีครับ พอดีป้าแกยกอาหารมาเสริฟ เฮ้ย ข้าวผัดเด็กน้อยจริงๆไม่ใส่ผักเลย มีแต่ไข่กับหมู่
“ฮ่าๆท่านรอง ไม่กินผักเหรอครับ”
ผมขำเอาเป็นเอาตาย
“ตลกมากเหรอคุณ”
อุ้ย เสียงเขียวเชียว ไอ้ผมก็ลืมตัว หัวเราะหน้าดำหน้าแดง
“ตลกครับ ผมคิดว่าหน้าตาอย่างท่านรองน่าจะกินได้ทุกอย่างนะ”
“เห็นผมเป็นอะไร”
“ก็เป็นท่านรอง”
“… กินของคุณไป”
หุบปากก็ได้วะ แล้วผมก็กินของผมไป ท่านรองกินเร็วฉิบหาย เสร็จก่อนผมอีก แล้วก็ลุกเดินหนีผมไปเลย สงสัยจะอาย น่ารักไปอีกแบบ
“ป้าราดหน้าเท่าไรครับ”
“อ๋อ พ่อหนุ่มรูปหล่อเขาจ่ายให้แล้วจ๊ะ”
“หืม คนที่นั่งโต๊ะเดียวกับผมอ่ะเหรอป้า”
“ใช่ๆ เขาจ่ายให้แล้ว”
จะมาไม้ไหนเนี่ยท่านรอง
“แล้วกี่บาทอ่ะครับ ผมจะได้ไปคืนเงินเขา”
“อ่อ 30 บาทจ๊ะ”
ผมพยักหน้ารับ ต้องวุ่นวายเดินไปแผนกผลิต เพื่อคืนเงินท่านรองนะท่านรองทำให้วุ่ยวายอีก
“เอ่อ Sup ไก่ (สกัด) ครับ ท่านรองไปไหนเหรอครับ”
ผมถาม Sup ไก่สกัด ที่เจอกันตอนส่งคนงานเข้าไลน์ เห็นแกนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพอดี แต่ไม่เห็นท่านรอง
“ประชุมกับแผนกคลังสินค้า มีอะไรเหรอไอ้หนุ่ม”
“ผมฝากเงินคืนให้ท่านรองหน่อยครับ”
“เฮ้ย เอ็งไปคืนเองดิ”
ทำไม พี่กลัวเขาขนาดนั้นเลยเรอะ
“งั้นผมวางที่โต๊ะท่านรองได้มั้ย Sup”
“เออๆ โต๊ะนั้น วางไว้นั่นแหละ”
คงไม่มีใครขโมย เพราะไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับโต๊ะท่านรองแน่นอน แล้วผมก็เดินกับฝ่ายบุคคล ต้องไปกรอกเอกสารที่ค้างต่อ ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลยนะ เกือบ 3 อาทิตย์มานี้ การทำงานก็สนุกดีครับ ไม่ได้เคร่งเครียดกันทุกวัน
ห้าโมงเย็นผมก็เตรียมตัวกลับบ้าน ยังมีเอกสารที่ต้องกรอกอยู่อีกนิดหน่อย พรุ่งนี้หลังจากอบรมพนักงานเสร็จค่อยมาทำต่อให้เสร็จ ผมไม่ชอบให้งานค้างคานาน
“เป็นไงมึงวันนี้อาจารย์ว่าไงบ้าง”
ผมถามไอ้บาสหลังจากที่มานอนเล่นที่ห้องมันได้ซักพัก
“ก็ไม่มีอะไร กูเอารายงานที่กูเขียนไปส่งแกแค่นั้น”
“อ้อ วันนี้กูไปกินข้าวหน้าโรงงาน เจอท่านรองแกจ่ายตังให้กูด้วย”
“เฮ้ยจริงดิ ท่านรองกูใจดีเหมือนกันนี่หว่า”
“แต่กูเอาไปคืนที่โต๊ะแก”
“อ้าวแล้วเขาไม่ว่าอะไรเหรอ เขาจ่ายให้แล้วมึงยังจะเอาไปคืน”
“กูไม่เจอท่านรอง เลยวางไว้ที่โต๊ะเขา”
“เรื่องเยอะอีกนะมึง”
“…”
   เช้าวันนี้ผมเตรียมกระเป๋ามาฝึกงานด้วยกะว่าเลิกงานแล้วจะแว้นกลับบ้านเลย ขี้เกียจกลับไปที่หออีก
“Sup เดี๋ยวผมไปช่วยพี่น้ำฝนอบรมพนักงานแล้วนะ”
“เออดีๆ รู้งานนะเอ็ง ฝึกงานเสร็จน่าจะรับเข้างานได้เลยนะเนี่ย”
“ให้จริงเหอะ Sup ผมจะได้ไม่ต้องเดินหางาน”
“อืมๆ จะรับไว้พิจารณา”
ทำงานที่นี่ก็ดีนะ หยุดเสาร์อาทิตย์ พักร้อนก็เยอะสวัสดิการดี ใกล้บ้านอีก
“พี่น้ำฝนเดี๋ยวผมพาคนงานไปส่งที่แผนกผลิตเองครับ”
เห็นพี่แกยุ่งๆเลยเสนอตัวทำให้แล้วกัน
“ดีค่ะ เดี๋ยวพี่ต้องเตรียมทำบัตรพนักงานต่อเลยเนี่ย”
“เดี๋ยวผมกลับมาช่วยนะ”
   แล้วผมก็พาคนงานไปส่งขึ้นเขียง เอ้ยส่งเข้าไลน์ผลิต โรงงานที่ผมฝึกงานเป็นโรงงานผลิตผลไม้กระป๋อง จำพวกเงาะ สับปะรด ส่งออกต่างประเทศเลยต้องการคนงานจำนวนมากครับ คนแถวๆนี้ก็กวาดมาอยู่โรงงานกันหมด เลยต้องไปสรรหาตามต่างจังหวัดบ้าง
“สวัสดีครับ Sup ไก่ (สกัด) ผมพาคนงานมาส่งครับ”
ผมทักทาย Sup ไก่สกัด คนเดียวกับเมื่อวานที่ผมมาส่ง แอบหันหลังไปมองเผื่อท่านรองโผล่มาอีกจะได้ไม่ตกใจ
“ไอ้หนุ่มเดี๋ยวเองไปหาคุณเมฆาหน่อยนะ เขาสั่งให้ไปหา”
หืม คุณเมฆาใครวะ ชื่อคุ้นๆ อ๋อท่านรองนี่หว่า ท่านรองชื่อเมฆาผมนึกออกแล้ว
“ได้ครับ แต่มีอะไรรึเปล่าอ่ะ Sup”
 “พี่ก็ไม่รู้แต่เขาสั่งไว้”
จริงๆดูไปแล้วท่านรองดูจะอายุน้อยกว่า Sup ไก่สกัด หลายปีนะ แต่มาเป็นหัวหน้าเขา ก็เลยต้องทำเป็นดุ ? เพื่อให้ลูกน้องเคารพ เอ่อ จริงๆแล้วผมมั่ว ผมไม่รู้หรอก
“ท่านรองมีอะไรจะให้ผมรับใช้เหรอครับ”
ผมก็มายืนทำหน้าแป้นแล้นที่โต๊ะท่านรองที่กำลังทำหน้าบูดกับเอกสารตรงหน้า
“เอาเงินมาคืนทำไม”
เสียงเข้มระดับ 10 โกรธใครมาวะ
“ก็ท่านรองจ่ายให้ ผมก็ต้องเอามาคืน”
“ก็ผมจ่ายให้แล้ว จะเอามาคืนทำไม”
“ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ท่านรองจะมาจ่ายให้ผม”
“…ดื้อจริงๆ เอาเงินคืนไป”
โอ้เสียงเข้มขึ้นระดับ 15
“ผมไม่เอาครับท่านรอง”
“อย่าดื้อผมบอกให้เอาคืนไป”
ฉิบหายเสียงเข้มระดับ 50 โต๊ะอื่นๆหันมามองผม ส่งกำลังใจมาให้ผมระดับแม็กซิมั่ม
“ก็ได้ครับท่านรอง”
ผมทำหน้าเป็นหมาปั๊กหงอย ส่งสายตาแบ๊วๆไปให้เผื่อแกสงสาร
“ทีหลังผมเลี้ยงหรือให้อะไรไม่ต้องเอามาคืน”
“คร๊าบบบท่านรอง”
ลากเสียงประชดแม่ง ผมเหลือบไปเห็นโต๊ะอื่นทำหน้าสยองกันเป็นแถว อะไรขนาดนั้นท่านรองคงไม่ฆ่าปาดคอผมหรอกมั้ง แต่ถ้ากระโดดเตะอาจจะไม่แน่ เพราะผมเคยเห็นมาแล้ว
“แล้วผมกลับได้ยังครับท่านรอง”
“ยัง เอาตัวเลขนี่กรอกในตารางให้ผมหน่อย”
แล้วแกก็หยิบเอกสารมาให้ผมปึกนึง ให้นับตัวเลขแล้วกรอกในตารางที่แกปริ๊นให้
“ผมต้องบอก Sup ก่อนว่าท่านรองใช้งาน เดี๋ยวแกหาว่าผมอู้”
“มายด์…เอ่อ Sup คงไม่ว่าหรอก แต่โทรไปบอกก็ดี”
ท่านรองก็กดเบอร์โต๊ะ Sup ให้ จำแม่นเชียว สงสัยโทรตามเรื่องหาคนงานบ่อย
“Sup ผมขอช่วยงานท่านรองแป๊ปนึง เดี๋ยวผมกลับไปกรอกเอกสารให้ต่อ”
แล้วผมก็วางสายไป
“ให้ผมนั่งตรงไหนครับท่านรอง”
หวังว่าจะไม่ให้ผมยืนนับเลขหรอกนะ
“ไปเอาเก้าอี้ตัวนั้นมานั้งที่โต๊ะผมนี่”
หืม ให้นั้งจ้องหน้าท่านรองรึไง อืม แต่โต๊ะทำงานท่านรองก็ตัวใหญ่อยู่นะ ใหญ่กว่าคนอื่นอีก รองผู้จัดการยังไม่มีห้องเป็นของตัวเองเหมือนกับผู้จัดการครับ
ผมก็ไปลากโต๊ะมานั่งแล้วก็นั่งนับเลขไป จดลงในตารางไป ท่านรองก็ขมาดคิ้วกับเอกสารในมือไป ยังคงหน้าดุระดับ 10 ผมกรอกตัวเลขลงตารางเสร็จแล้วเหลือบดูเวลา หนึ่งชั่วโมงพอดี ค่าฝึกงาน 100 บาท คิดจากแผนกผลิต 20 บาทได้มั้ยเนี่ย
“เสร็จแล้วครับท่านรอง มีอะไรให้ผมทำอีกมั้ย”
“ไม่มีแล้ว ขอบใจมาก”
“งั้นผมกลับแล้วนะท่านรอง”
“คุณจะไม่เรียกผมว่าท่านรองซักประโยคจะได้มั้ย”
“ไม่ได้ครับ…ท่านรอง”
แล้วผมก็ยิ้มแบบที่คิดว่ากวนตีนที่สุดไปให้ เฮ้ย! แกยิ้มกลับมาให้ด้วยแต่แป๊บเดียวนะ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ท่านรองหน้าดุก็ยิ้มเป็น ผมหันไปมองโต๊ะอื่นๆ แต่ละคนนี่ยืนตะลึงกันเลยทีเดียว สงสัยวันนี้น้ำจะท่วมโรงงาน เพราะผมก็เคยได้ยินมาว่าท่านรองยิ้มยากมาก
เลิกงานแล้วผมแว้นน้องฟ้ากลับบ้าน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง บ้านผมห่างจากตัวเมืองอยู่เหมือนกันเพราะเป็นบ้านสวน สวนโกโก้ที่พ่อผมปลูกมีประมาณ 100 ไร่ ที่เหลือเป็นที่บริเวณบ้านประมาณ 10 ไร่ ปลูกผักผลไม้ไว้กิน เหลือมากก็แจกจ่ายลูกน้องคนงาน เพื่อนบ้าน พ่อผมขึ้นชื่อว่าเป็นกำนันผู้โปรดสัตย์ มีผักแจกผัก มีผลไม้แจกผลไม้ ยังดีไม่ยกผมให้คนอื่น เพราะจะเป็นหมาหัวเน่าอยู่แล้ว กำนันหมานผู้ขึ้นชื่ออีกเรื่องคือรักหมายิ่งชีพ ลูกอดไม่เป็นไร หมาต้องอิ่ม อันนี้ล้อเล่นครับ พ่อผมรักผมจะตาย ตอนผมอยากได้น้องฟ้า รีบไปถอยให้เลย จ่ายสดงดเชื่ออีกต่างหาก
“กำนัน ผมกลับมาแล้ว”
ผมตะโกนลั่นลานบ้าน น้องหมาพันธุ์ (ข้าง) ทาง 5 ตัว ที่พ่อผมเก็บมาเลี้ยง รีบวิ่งมารุมทึ้งผมกันใหญ่
“เป๊ปซี่ อย่าเลียดิวะ ไอ้สไปรท์อย่าดมเป้ากู ไอ้น้ำส้มอย่า…”
เหนื่อยฉิบหาย พวกมึงจะรุมอะไรกู๊ ไม่มีอะไรมาให้กินหรอก ไอ้พวกลูกรักกำนันหมานแห่งบ้านดอน พ่อผมชื่อสมานครับ ชาวบ้านแถวนี้เรียกกำนันหมานผู้เลี้ยงหมา 5 ตัว เป็ปซี่ สไปรท์ น้ำส้ม น้ำแดง น้ำเขียว ชื่อยังกะน้ำขวดไหว้เจ้า
“มาแล้วเรอะ ไอ้ลูกหมา”
“หวัดดีกำนัน เรียกไอ้พวกนี้ไปดิ เลียผมเปียกหมดแล้วเนี่ย”
“ก็นานๆเอ็งกลับมาก็ให้มันเลียบ้างซิ”
“ตลกนะกำนัน นี่ลูกนะครับ”
“ข้าว่าจะยกสมบัติให้พวกมัน 5 ตัวแทนเอ็งอยู่แล้ว”
ฉิบหาย ศึกชิงมรดกระหว่างน้องหมาพันธุ์ (ข้าง) ทางกับหมาหัวเน่าอย่างผมกำลังจะเกิด
“กำนันก็ว่าไป ลูกชายหล่อขนาดนี้จะไม่ยกสมบัติให้ได้ไง เดี๋ยวจะไม่เหมือนคำที่เขาว่า รูปหล่อพ่อรวยเอานา”
“เออ เอ็งก็หล่อเหมือนข้าไง อันนี้พอรับได้ เดี๋ยวยกสมบัติให้หมดเลย”
   นี่แหละครับพ่อผม กำนันหมานแห่งบ้านดอน ตลกแดกตลอด รักหมาที่หนึ่ง รักลูกตัวเองที่สอง รักกูน้อยกว่าหมาอีก
ผมก็นั่งๆนอนอยู่บ้าน 2 วัน ตอนเย็นวันอาทิตย์ก็แว้นกลับหอ
“เอ้า มะม่วงมันของฝาก กูว่าเดี๋ยวจะเอาไปฝากพวกที่โรงงานด้วย เดี๋ยวกูฝากไปให้ท่านรองซัก 2-3 ลูกดิ”
“เฮ้ย ไม่เอา มึงเอาไปให้เองดิ กูยังไม่เคยคุยกับเขาเลย”
“อะไรวะ ไปฝึกงานแผนกเขา ทำไมไม่ได้พูดกับเขารึไง”
“ไม่เคยพูด มีแต่ Sup ที่หางานให้ทำ ท่านรองเขาไม่เคยมาสั่งงานพวกกูเลย”
“แล้วทำไมทีกู ใช้งานจังวะ”
วันจันทร์ผมก็หอบมะม่วงมีทั้งมันและเปรี้ยวมาฝากพี่ๆที่โรงงาน แล้วก็ไม่ลืมแบ่งไว้ให้ท่านรอง 3 ลูก ไม่รู้ท่านเขาจะกินรึเปล่านะ
“Sup วันนี้ผมเอามะม่วงมาฝากนะ อยู่ในครัวครับ”
“เออ ดีๆเดี๋ยวให้ไปแจกกันกิน ขอบใจนะไอ้น้องหมอกสุดน่ารัก”
เปลี่ยนเป็นสุดหล่อได้มั้ยครับ คำว่าน่ารักมันหน่อมแน้มไปหน่อย
“เปลี่ยนเป็นชมผมว่าหล่อจะดีกว่าครับ อันนี้ผมไม่ปลื้ม”
“…มันพูดยากไง เพราะความจริงมันไม่ใช่”
Sup อ่ะ เดี๋ยวผมงอนเลย
“… เดี๋ยวผมขอไปแผนกผลิตหน่อยนะครับ จะเอามะม่วงไปฝากท่านรอง”
“…พี่ไม่เคยเห็นใครกล้าหาญเท่าเอ็งมาก่อนเลย ไอ้น้องหมอก”
“ครับ ผมจะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกัน”
“…”
   ผมก็เดินถือมะม่วงไปที่แผนกผลิต เดินตรงดิ่งไปที่โต๊ะท่านรองเลยครับ
“สวัสดีครับท่านรอง”
แกเงยหน้ามามองผม ยังคงขมวดคิ้วแบบปกติ
“สวัสดี”
“ผมเอามะม่วงมาฝากท่านรอง”
“…ให้ผมทำใม”
“…ก็ตอบแทนที่ท่านรองเลี้ยงข้าวผมวันนั้นไง”
“…ก็แค่ไม่กี่บาท”
“ก็ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร”
“ผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ”
เริ่มเสียงแข็งอีกแล้ว พูดดีๆไม่เป็นรึไง
“ตกลงว่าท่านรองจะรับมั้ยครับมะม่วงเนี่ย”
ถือจนเมื่อยแล้วนะ
“…ขอบคุณครับ”


จบตอนที่ 4


 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
แต่งได้สนุกดีครับ
ผมรอตอนต่อไปครับ


               :amen:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18


ตอนที่ 5



   วันนี้ผมว่าจะไปซื้อโซ่คล้องคอให้น้องหมาน้ำอัดลมไหว้เจ้าของกำนันหมานซัก 5 เส้น ของเดิมเก่าเยินหมดแล้ว แถวบ้านผมไม่มีขายซะด้วย ผมเห็นคลีนิครักษาสัตว์อยู่แถวๆทางไปโรงงาน ผมว่าจะแวะไปดูซักหน่อย
“สวัสดีครับผมต้องการสายคล้องคอน้องหมาซัก 5 เส้นอ่ะครับ”
ผมเห็นเจ้าหน้าที่คนสวยยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ เลยเสนอหน้าหล่อๆเข้าไปถาม
“ได้ค่ะคุณน้อง จะเอาแบบไหนดีคะ”
แกยิ้มหวานมาให้เห็นผมหล่อล่ะสิ
แล้วพี่คนสวยก็พาผมไปเลือก ผมเลือกตามสีน้ำเลยครับ สีดำของไอ้เป๊ปซี่ สีส้มของไอ้น้ำส้ม สีแดงของไอ้น้ำแดง สีเขียวของไอ้น้ำเขียว เสียดายไม่มีแบบใสๆเลยต้องเลือกสีขาวให้ไอ้สไปรท์ ผมจ่ายตังเรียบร้อยพี่คนสวยส่งถุงใส่สายคล้องคอให้
 ‘หงิงๆ’
น้องหมาปั๊ก น่ารักเหมือนกันกันนี่หว่า ตาปูดๆแบ๊วๆดี ผมเงยหน้าไปมองเจ้าของที่ถือสายจูงอยู่ ฉิบหาย! ท่านรอง จูงน้องปั๊ก แกเลี้ยงเอง ? ไม่เข้ากลับหน้าเลยอ่ะ น่าจะเลี้ยงร็อตไวเลอร์นะผมว่า
“สวัสดีครับท่านรอง”
ขำอ่ะ ดูหน้าท่านรองดิ เลี้ยงน้องปั๊ก เห็นแล้วก็ขำฉิบหาย
“ว่าไงปั๊กน้อย”
ผมหันซ้ายหันขวาก็ไม่มีใครแล้วนอกจากผม เอาอีกล่ะ ว่ากูหน้าเหมือนน้องปั๊กอีกแล้ว
“…ผมไม่ใช่น้องหมานะท่านรอง”
“หืม ออกจะเหมือน เนอะปั๊กเนอะ”
แกหันไปพยักหน้ากับน้องหมาปั๊กของแก
“…ผมไม่คิดว่าท่านรองจะเลี้ยงน้องปั๊ก”
“ทำไมผมจะเลี้ยงไม่ได้”
“ท่านรองน่าจะเลี้ยงร็อตไวเลอร์มากกว่า”
“…คุณจะพูดอะไร”
“เปล๊า ผมไม่กล้าว่าท่านรองเหมือนร็อตไวเลอร์หรอกครับ”
เหมือนไซบีเรียนมากกว่าครับ ดูไฮโซหน่อยๆ
ท่านรองสูดลมหายใจแรงๆ คงทำใจที่จะต้องคุยกับผมต่อ
“…แล้วคุณมาทำอะไร”
“อ๋อผมมาซื้อสายคล้องคอน้องหมาครับ”
“คุณก็เลี้ยงหมาเหรอ”
“ครับท่านรอง พันธุ์ทาง 5 ตัว”
“แล้วเป็นพันธุ์อะไรผสมอะไรล่ะ”
“อ๋อพ่อผมเก็บมาจากข้างทางน่ะครับท่านรอง”
“…”
“คุยกับคุณนี่ปวดหัวจริงๆเลย”
“เอายามั้ยครับท่านรอง เดี๋ยวผมถามพี่คนสวยที่เคาน์เตอร์ให้”
“…ผมไม่ใช่หมานะจะได้กินยาที่นี่ได้”
“โห ท่านรองอ่ะผมก็ล้อเล่นหรอก ใครจะกล้าว่าท่านรอง”
เส้นเลือดที่คอแกดูปูดๆนะครับ
“คุณกินข้าวรึยัง”
แกเปลี่ยนเรื่องเร็วจริงๆครับ
“อ่า…ยังครับ”
ผมก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน
“ไปกินข้าวกับผมหน่อย”
หืม ท่านรองชวนไปกินข้าว เหงาเหรอ  ไม่มีใครคบเหรอครับ
“…ก็ได้ครับ เอ่อแล้วน้องปั๊กล่ะครับ”
เอาก็เอาวะ ดูหน้าตาแกแล้วไม่ใช่เป็นการชวนหรือขอร้อง เป็นการบังคับมากกว่าครับ
“ต้องนอนให้น้ำเกลือที่นี่ เดี๋ยวรอผมแป๊บ”
แล้วแกก็พาน้องหมาไปฝากเจ้าหน้าที่คลีนิก
 “แล้วน้องปั๊กเป็นอะไรอ่ะครับท่านรองถึงต้องให้น้ำเกลือ”
ผมถามท่านรองขณะนั่งอยู่ในรถ ดีนะผมนั่งรถเมล์มา ไม่งั้นต้องจอดรถไว้ที่นี่อ่ะดิ
“เป็นโรคไต ผมต้องพามาหาหมอบ่อยๆ”
“อ่อครับ หมาที่บ้านผมก็เห็นแข็งแรงทุกตัว ผมกลับบ้านทีนี่รุมทึ้งผมเหมือนเห็นอาหารหมา”
“คุณกลับบ้านบ่อยเหรอ”
“ก็บ่อยครับท่ารอง บ้านผมอยู่ไม่ไกลเท่าไร”
“อืม”
แกพยักหน้าหงึกๆ แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก จนมาถึงร้านอาหาร คนเยอะน่าดูครับ หลังจากได้ที่นั่ง เราก็สั่งอาหารมากินกัน
“ท่านรองไม่กินผักจริงๆเหรอครับ”
“…ผมกินได้บางชนิด”
“ฮ่าๆ ท่านรองเหมือนเด็กน้อยเลย”
ขำอ่ะ ดูแกทำหน้า คนหล่อมากกว่าผมหน่อยทำหน้าน่าตลกครับ
“ดูคุณมีความสุขเนอะ เวลาได้ว่าผม”
“เปล่าเลยท่านรองผมมิบังอาจหรอก”
   หลังจากนั้นท่านรองแกก็ทำหน้าบูดต่อไปขณะกินข้าว หลังจากนั้นท่านรองก็จ่ายเงินแล้วพาผมกลับ
“ค่าอาหารเท่าไรครับท่านรอง”
“ถามทำไม”
“เอ้า ก็จะได้หารกันไงครับท่านรอง”
“ไม่ต้อง ผมเคยบอกแล้วนะว่าผู้ใหญ่จ่ายให้ไม่ต้องคืน”
“ท่านรองอายุเท่าไรครับ”
“หืมผม ? 30”
“อายุ 30 ยังไม่น่าจะเป็นผู้ใหญ่ได้ พ่อผมอายุตั้ง 45 ถึงจะได้เป็นกำนัน”
ผู้ใหญ่อาจจะต้อง 35 ปีขึ้นไป ส่วนพ่อผมเป็นกำนันมา 3 ปีแล้วครับ เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้านทุกคน
ผมล้อเล่นครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมปัญญาอ่อน
“…”
“พูดจริงนะ คุยกับคุณนี่ปวดหัวจริงๆ แล้วหอพักอยู่ที่ไหนผมจะได้ไปส่ง”
“อ้าว แล้วเรื่องค่าอาหารล่ะครับท่านรอง”
“คราวหน้าก็เลี้ยงผมบ้างแล้วกัน หอไปทางไหน”
ท่านรองชักจะหมดความอดทนกับผมแล้วครับ แล้วผมก็ต้องจำใจบอกทางไปหอพัก
“ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวและมาส่งนะครับท่านรอง”
“อืม”
ท่านรองแกไม่ได้พูดอะไรต่อ คงรำคาญผมเต็มทน แต่ผมรู้สึกสนุกดีครับ ฮ่าๆ
“มึงไปไหนมาวะ”
ไอ้บาสเปิดประตูโผล่หน้ามาดูผมที่กำลังจะเข้าห้อง
“ไปซื้อสายคล้องคอหมา เจอท่านรองเขาเลยเลี้ยงข้าว”
กูต้องรายมึงขนาดนี้เลยเหรอ มึงเป็นเมียกูรึไง
“เฮ้ย จริงดิ เขาไม่มีเพื่อนเลยเหรอต้องมาคบกับมึงอ่ะ”
“คบห่าอะไร เหมือนจะชวนกูนะ แต่หน้าตานี่บังคับกูฉิบหาย”
“อืม จริง หน้าตาแกดูบูดๆทุกวัน ในแผนกไม่มีใครกล้าคุยกับแกเลย”
“แต่แกก็สนิทกับพี่พล คลังสินค้านะ”
“อืม กูก็เห็นเขาคุยกันบ่อยๆ ท่านรองคุยกับท่านรอง”
“แต่พี่พลแกก็ตลกนา เคยคุยกับกูด้วย”
“มึงนี่ก็ช่างกล้านะ ขนาดรองผู้จัดการยังกล้าคุย”
“บ้า ไม่ต้องชมกูขนาดนั้นก็ได้ กูเขิน”
“เฮ้อ คุยกับมึงแล้วประสาทจะแดกตาย”
หลายคนก็พูดอย่างนี้นะ แม้แต่กำนันหมานก็ด้วย กูออกจะพูดดีมีศีลธรรม ?
“เออเดี๋ยวอาทิตย์หน้ากูต้องไปช่วยแผนกกูงาน Outing”
“เฮ้ย จริงดิที่ไหนวะ”
งาน Outing เรียกเท่ๆก็คืองานสัมนาของโรงงาน หรือที่เราๆเรียกกันว่างานหาเรื่องไปเที่ยวโดยใช้งบโรงงานนั่นเอง
“รีสอร์ทที่แก่งกระจาน”
“กูอยากไปบ้างว่ะ”
“เดี๋ยวกูลองถาม Sup ก่อนว่าต้องการคนช่วยงานเพิ่มรึเปล่า เพราะเห็นแกว่ามีงานต้องทำเยอะฉิบหาย”
“ไปๆกูอยากไป”
“สัด ให้ไปช่วยงาน ไม่ได้ให้ไปที่ยว”
“เอๆ เหมือนกันแหละน่า”
   วันนี้ผมต้องเตรียมอุปกรณ์ไปงาน Outing จริงๆแล้วก็ไม่ได้ให้ไปเที่ยวเฉยๆหรอกครับ มีกิจกรรมฐาน แต่ตอนเย็นๆก็ให้พักผ่อนตามอัธยาศัยได้ เป็นการผลาญงบประมาณที่ไม่เหนื่อยซักเท่าไร
“Sup อยากได้คนไปช่วยเพิ่มมั้ย ไอ้บาสมันอยากไปด้วยอ่ะครับ”
“เหรอ ดีๆ คนประจำฐานยังขาดอยู่เลยว่าจะไปขอให้แผนกการเงินมาช่วยพอดี ให้น้องผู้หญิงไปด้วยดิ ชื่ออะไรนะ”
“ชื่อส้มจี๊ดครับ”
“เออ นั่นแหละๆ ให้ไปช่วยกัน อยู่ฟรีกินฟรี”
อันนี้ผมชอบมากครับ
“ได้ๆ แต่ผมต้องไปถามก่อน”
เผื่อส้มจี๊ดคนสวยอาจจะไม่ว่าง
“เออ เอ็งไปบอกท่านรองให้หน่อยสิ เดี๋ยวแกไม่รู้ว่าเอาเด็กฝึกงานแผนกแกไปช่วย เดี๋ยวมาด่ากันอีก”
อ้าว Sup แล้วไม่กลัวเขาด่าผมเหรอ ไม่รักกันจริงนี่หว่า
“ให้ผมไปขอแล้วเขาจะให้เหรอ”
“เอ็งสนิทกับเขาไม่ใช่เหรอ”
สนิทที่ไหน เห็นทำหน้าอยากจะกินหัวผมอยู่
“ก็ได้เดี๋ยวผมลองดู”
ผมนี่เดินเข้าเดินออกแผนกผลิตจนชินแล้วนะ เดินผ่านพี่ๆ Sup ก็โดนแซวบ่อยขึ้น รู้จักเกือบทั้งโรงงานแล้วผม
“ว่าไงไอ้น้องมาหาท่านรองเหรอ”
“น้องหมอกคนน่ารัก เดี๋ยวมาแวะเอาขนมที่พี่หน่อยนะคะ”
พี่คนนี้แผนกการเงินครับ อายุน่าจะรุ่นแม่ผมแล้ว แกมักให้ขนมผมกินบ่อยๆ ก็งี้แหละครับคนน่าตาดีมักมีคนเมตตาเสมอ
“ท่านรองประชุม แต่คงใกล้ออกมาแล้วแหละ เองนั่งรอที่โต๊ะเขาก่อนแล้วกัน”
Sup ไก่สกัด แผนกผลิตที่ผมพาคนงานมาส่งแล้วเจอบ่อยๆ แกคุยดีนะครับ แต่ดูจะกลัวท่านรองไปหน่อย
ผมนั่งรอไม่ถึง 5 นาที ท่านรองก็ออกมาจากห้องประชุม
“คุณมีอะไรรึเปล่า”
ท่านรองถามผมขณะที่หย่อนตูดลงที่เก้าอี้
“เอ่อท่านรองครับ อาทิตย์หน้ามี Outing แผนกบุคคลเลยจะขอตัว ไอ้บาสเอ้ยไม่ใช่ นายบวรกับส้มจี๊ดให้ไปช่วยงานหน่อยอ่ะครับ”
“…”
“ไม่ได้เหรอครับท่านรอง”
“ผมพูดย่างนั้นเหรอ”
หน้านิ่งขนาดนี้ กูก็คิดว่าไม่ให้ไปอ่ะดิ
“แล้วตกลงท่านรองจะให้มันไปมั้ยล่ะครับ”
แค่พูดว่าให้หรือไม่ให้ไปนี่มันยากรึไง พูดออกมาแล้วจะทำให้หล่อน้อยลงรึไง
“…แอบด่าผมในใจอีกแล้วล่ะสิ”
“…”
ผมเบะปากใส่แม่งเลย เออดิ ผมแอบด่าในใจยังเสือกรู้อีก
“จัดวันเสาร์ อาทิตย์ไม่ใช่เหรอ ก็แล้วแต่พวกคุณสิ”
“ขอบคุณครับท่านรอง”
แล้วผมก็รีบชิ่งให้ไว ก่อนที่ท่านเขาจะพิโรธ
“Sup ท่านรองแกอนุญาตนะ ผมไปขอมาแล้ว”
ผมนั่งคุยกับ Sup ขณะที่นั่งกินข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน
“ใช้เอ็งไปนี่ ได้ผลจริงๆ”
“ไม่หรอกครับ แกก็ต้องให้อยู่แล้ว จัดเสาร์อาทิตย์นี่นา”
“ใครจะไปรู้ พี่ยิ่งก่อคดีไว้อยู่”
“…”
สงสัยเรื่องหาคนงานล่ะมั้ง ผมก็ไม่ได้ถามต่อ
 “เออ ไอ้น้องหมอก เองมีพี่น้องมั้ย”
Sup ก็ชวนผมคุยไป ขอณะที่ทำงานไปด้วย มือไม่ว่างแต่ปากว่างครับ
 “ผมลูกชายคนเดียวที่หล่อที่สุดในบ้าน”
“เอิ่ม…ไม่ค่อยเลยนะเอง”
ก็จริงอ่ะ Sup ไม่เชื่อได้ไง ก็ผมเป็นลูกชายคนเดียวก็ต้องหล่อที่สุดดิ
“แล้ว Sup อ่ะครับ”
“อ๋อ พี่มีน้องสาว 1 กับพี่ชายลูกลุงอีก 1 คน”
“ก็ดีนะครับไม่เหงา พ่อผมนี่ไปหาหมา 5 ตัวมาเลี้ยงเป็นน้อง ผมนี่หมาหัวเน่ามาก”
“ฮ่าๆ เองนี่เลิกฝึกงาน ไปเล่นตลกท่าจะรุ่งนะ”
รุ่งริ่งอ่ะดิ
“กับน้องสาวก็ดีนะถึงอายุห่างกันเยอะแต่ก็คุยกันได้ดี แต่กับพี่ชายนี่ดิ จะโดนกินหัวอยู่ทุกวัน”
ผมนี่นึกถึงท่านรองเลย หน้าก็หล่อแต่ดุฉิบหาย
   ว่าแล้วก็เห็นรังสีอำมหิตแผ่มาแต่ไกล แกเดินมาที่โต๊ะที่ผมกับ Sup นั่งคุยกันอยู่ครับ
“ช่วงบ่ายผมขอตัวลูกน้องคุณไปช่วยงานหน่อยได้มั้ย”
แกพูดกับ Sup ผมด้วยสีหน้าราบเรียบมากครับ นี่มาขอให้ช่วยหรือมาสั่งครับ ถามจริง
“อ๋อ ได้ค่ะ ตามสบายพ…เอ้ยค่ะ”
หืม Sup ไม่คิดจะปฏิเสธเลยเหรอ นี่ลูกน้องนะ
“เอ่อ ครับ ยินดีรับใช้เสมอครับท่านรอง”
ผมก็เลยต้องทำหน้าใสซื่อรับปากแกไป
“…ดูไม่ค่อยเต็มใจเลยนี่”
ดูออกอีก
“ใครจะกล้าปฏิเสธท่านรองล่ะครับ”
   แล้วผมก็ต้องเดินต้อยๆตามท่านรองไปให้เขาโขลกสับอีกตามเคย
“เฮ้ย นี่คุณรวมตัวเลขผิดหมดเลย”
อุ้ย เสียงดังใส่อีก กูรวมผิดตรงไหน
“ไม่ผิดนะครับ ผมก็เอาแถว C รวมกับแถว E”
“มันใช่ที่ไหน ผมให้เอา แถว C รวมกับแถว F ต่างหาก”
หวายๆ แกตะคอกใส่ผมเลยอ่ะ
“แต่ท่านรองบอกผมเอง”
“...แก้ให้ผมด่วนที่สุด ผมต้องใช้ประชุมพรุ่งนี้เช้า”
อ๋อย นี่มันจะ 5 โมงเย็นแล้วนะ
“…ก็ได้ครับท่านรอง”
ถ้าผมเสร็จมืดจะทำไงอ่ะ มีผีรึเปล่าก็ไม่รู้ ก่อนหน้านี้ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จ ผมก็นั่งทำงานไปมีเหลือบไปมองท่านรองบ้าง แกยังคงหน้าดุตลอด เหมือนเกลือรักษาความเค็ม…เกี่ยวมั้ยวะ?
“ใกล้เสร็จรึยัง”
“เหลืออีกนิดหน่อยครับ”
ผมเหลือบมองเวลา เกือบทุ่มแล้ว ข้างนอกหน้าต่างมืดแล้วอ่ะ
“เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ผมเอาน้องฟ้า… เอ่อรถผมมา เดี๋ยวผมกลับเองครับท่านรอง”
“ผมบอกว่าจะปส่งก็ไปส่ง อย่าเรื่องมาก”
เอ๊า!ว่ากูเรื่องมากอีก
“แล้วรถผมอ่ะ”
“ก็จอดไว้ที่นี่แหละ”
“อ้าว แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาไงอ่ะ”
ขี้เกียจรอไอ้บาส มันอาบน้ำนาน
“พรุ่งนี้เช้าผมไปรับ”
ใครกันแน่ที่เรื่องมาก ท่านรองแหละผมว่า
“ไม่เป็นไรหรอกครับท่านรอง ผมกลับเองได้”
“ก็บอกว่าอย่าเรื่องมาก กลับดึกๆมันอันตราย”
แค่นี้ก็ต้องขึ้นเสียงด้วย อะไรวะ
“ก็ได้ครับท่านรอง”
ผมพูดลอดไรฟัน ปั๊กน้อยอยากจะกระโดดกัดคอท่านไซบีเรียนเหลือเกิน
“ก็แค่นั้น ปั๊กน้อยเอ้ย แอบด่าผมในใจล่ะสิ”
แง่งๆ เดี๋ยวเหอะท่านรอง เดี๋ยวผมกระโดดงับหูจริงๆหรอก

จบตอนที่ 5


 :pig4: ขอบคุณนักอ่านทุกท่าน เป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ  :pig4:

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2020 17:16:33 โดย MJTogether »

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
สนุกดีครับ
รอตอนต่อไป


          :-[

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ตอนที่ 6

   หนึ่งเดือนผ่านไปกับการฝึกงาน ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้รู้จักใครๆหลายคน ได้รู้จักว่าใครเป็นยังไง ผมรู้สึกดีนะ มีหัวหน้างานเป็นพี่ที่ใจดี สอนงาน ให้คำปรึกษาทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียน Sup อายุ 27 เองนะ ทำงานมาได้ 5 ปี อืมๆ แต่ท่านรองดิ อายุ 30 เอง ก็ได้เป็นรองผู้จัดการแล้วอ่ะ สงสัยจะเก่งมากๆ
“ไอ้น้องหมอกเอ็งเอาป้ายชื่อไปเจาะรูแล้วเอาเชือกร้อยหน่อยดิ”
แกยื่นการ์ด สี่เหลี่ยมใบเล็กมาให้ปึกนึงพร้อมเชือก ทำป้ายชื่อเหมือนรับน้องเลยครับ
“Sup ไม่ใช่ว่ารู้จักกันทั้งโรงงานแล้วเหรอ ต้องมีป้ายชื่อด้วยเหรอครับ”
“มีดิ ปีนี้คนใหม่ๆเข้ามาหลายคนอยู่ เดี๋ยวจะไม่รู้ชื่อกัน มีของเอ็งด้วยนะ”
แล้ว Sup ก็ยื่นป้ายชื่อที่เจาะรูร้อยเชือกแล้วมาให้ สงสัยให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่มันเป็นรูปน้องหมาปั๊กเต็มการ์ดเลยครับ
“โห Sup อ่ะ แล้วผมจะเขียนชื่อใส่ตรงไหนล่ะ รูปหมาเต็มหน้าขนาดนี้”
“ไม่ต้องเขียน คนอื่นดูก็รู้แล้วว่าเอ็งชื่ออะไรไง”
“จะรู้ได้ไงว่าผมชื่อหมอก”
“เขาก็รู้ว่าเอ็งชื่อปั๊กไง ปั๊กน้อยอ่ะ”
“หืม Sup เรียกผมว่าอะไรนะ”
มีคนเดียวนะที่เรียกผมอย่างนี้ Sup รู้ได้ไงอ่ะ
“เปล่าๆ เอาไปทำได้แล้ว”
แล้วผมก็นั่งเจาะรูป้ายชื่อ ผมเพิ่งรู้นะว่าไอ้อุปกรณ์เจาะรูนี่เขาเรียกกันว่าตาไก่ ตอนแรกพี่ๆใช้ให้ไปหยิบ ผมยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร
Outing แบ่งเป็น 2 กรุ๊ปครับ เพราะคนเยอะ แต่ละกรุ๊ปก็ร้อยกว่าคนแล้ว สถานที่ไม่เพียงพอเท่าไร ผมเห็นรายชื่อแล้วครับ ท่านรองกับพี่พลไปกรุ๊ปที่ 2 ผมนึกภาพท่านรองเข้าฐานเล่นเกมไม่ออกเท่าไร
“Sup เวลาท่านรองเข้าฐานเล่นเกมนี่เป็นยังไงอ่ะครับ”
ผมเห็นว่ามีเกมทาแป้งด้วยถ้าเล่นแพ้ ไม่รู้ว่ามีใครกล้าทาให้ท่านรองรึเปล่า
“อืม ไม่รู้นะ ท่านรองไม่ค่อยได้ไป แต่ถึงไปก็คงไม่เล่นหรอก แกไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไร”
อืม ผมน่าจะเดาได้ตั้งแต่แรกนะ
“ถ้าท่านรองโนทาแป้งนี่คงขำน่าดูเลยนะ Sup”
ฮ่าๆ นึกแล้วก็ขำ
“…”
“อ้าว Sup ทำไมเงียบอ่ะครับ Sup ไม่คิดว่ามันตลกมากเหรอครับ”
ผมละจากงานเจาะรูเงยหน้าไปมอง ฉิบหายแล้ว ท่านรองมาตอนไหนวะ
“ตลกมากเหรอ”
ตาเขียวเลยครับ ไซบีเรียนทรงพิโรธโกรธา
“เอ่อ ครับ ก็ไม่มากเท่าไรครับท่านรอง”
“หึ!”
แกยิ้มที่มุมปาก อย่าคิดว่าหล่อนะครับ สยองครับ เสียวสันหลังฉิบหาย
“คุณวีระอยู่รึเปล่า”
แกถามหาผู้จัดการแผนกบุคคล เคยได้ยินว่าเขาสนิทกัน
“อยู่ในห้องครับท่านรอง”
ผมชี้ไปทางห้องผู้จัดการ
“แล้วคุณกำลังทำอะไร”
“ทำป้ายชื่อไงครับ”
“อันนี้ของคุณเหรอ”
แกหยิบอันที่มีรูปน้องปั๊กไปดู แล้วท่านรองรู้ได้ไงว่าเป็นของผมอ่ะ
“…”
“เหมือนดีนะ เข้าใจทำ”
แกยิ้มครับ อันนี้ไม่สยองเท่าไร แต่น่าหมั่นใส้มากกว่า
“ไม่เหมือนหรอก ผมหล่อกว่าเยอะ”
“อืม ก็จริง”
แกพยักหน้า แต่ยังคงยิ้มอยู่ สงสัยวันนี้อารมดี ผมชอบที่ท่านรองยิ้มมากกว่าทำหน้าดุนะ
แล้วแกก็วางป้ายชื่อไว้ที่เดิม แล้วเดินเข้าห้องผู้จัดการไป
“เฮ้ย ไอ้น้องมีน ท่านรองแกยิ้มเหรอ”
พี่ต้นทีมสรรหาแกหันถามผม พี่เห็นได้ไงหรือแอบเสือกอยู่
“ครับ ไมอ่ะพี่ แปลกเหรอ”
“แปลกสิคะ พี่ยังไม่เคยเห็นเลย”
พี่น้ำฝนแกทำหน้าแปลกใจมาก เกินไปม้าง คนเรามันก็ต้องยิ้มบ้างแหละ ผมก็เคยเห็นหลายครั้งแล้วนะ
“เหรอพี่ แต่ผมก็เห็นหลายครั้งแล้วนะ”
ตอนไปช่วยงาน ตอนไปกินข้าวก็เห็น
“มีบุญนะเอ็งอ่ะ ขนาดพี่ยังไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆเลย”
อืม Sup รู้จักท่านรองมาก่อนก็คงเคยเห็นบ้าง
   ผมทำงานต่อดีกว่าเดี๋ยวไม่เสร็จ วันเสาร์นี้แล้วที่ต้องใช้งานป้ายชื่อ  สองเสาร์เลยนะต้องเข้าโรงงานตั้งแต่ตี 5 กรุ๊ปแรกเสาร์นี้ ส่วนกรุ๊ปที่ 2 เสาร์ถัดไป คงต้องมากับไอ้บาสเพราะมันมีรถยนต์ แล้วผมต้องตื่นกี่โมงวะเนี่ย แค่คิดก็ไม่อยากตื่นแล้ว
 “ไอ้น้องหมอกพรุ่งนี้เข้ามาช่วยทีมขนของที่ออฟฟิศก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกรุ๊ปใหญ่ รถออก 7 โมงนะ”
“ได้ครับ Sup”
   ผมต้องช่วยขนของใส่รถก่อนแล้วค่อยไปพร้อมคนอื่นๆ เพราะผม ไอ้บาส แล้วก็ส้มจี๊ดต้องแจกป้ายชื่อตอนลงรถ ซึ่งเป็นงานที่ง่ายที่สุดแล้วครับ ส่วน Sup และคนอื่นๆต้องไปเตรียมสถานที่ก่อน แต่จริงๆแล้วพี่ๆทีมงานก็ไปเตรียมกันล่วงหน้ามาบ้างแล้วครับ
   รถเป็นรถบัสสองชั้น 3 คันครับ พอดีกับจำนวนเด็กฝึกงานที่แจกป้ายชื่อเลย เราใช้เวลานั่งรถไม่นานครับชั่วโมงกว่าๆก็ถึง ผมนี่นั่งเป็นกระเป๋ารถเมลล์เลย คอยนั่งข้างหน้าเวลาลงรถก็จะได้รีบลงไปแจกป้ายชื่อทันที
   หลังจากที่แจกป้ายชื่อเสร็จพวกผมก็ต้องรีบไปเป็นผู้ช่วยประจำที่ฐานเล่นเกม
“มึงได้อยู่ฐานไหนวะ”
ไอ้บาสมันถามผม
“ฐานจับคู่เหยียบลูกโป่ง แล้วมึงอ่ะ”
เป็นเกมเลเวลเด็กน้อยจริงๆครับ ไม่คิดว่าวัยทำงานจะเล่นอะไรแบบนี้เลย แต่คงจะได้ปลดปล่อยความเครียดกันบ้างแหล่ะครับผมว่า
“เกมตักน้ำใส่ถัง”
“แล้วส้มจี๊ดอ่ะครับ”
พูดเพราะหน่อยครับกับสาวๆเนี่ยไม่ได้เลย ไอ้บาสมันทำหน้าหมั่นใส้ผมอีกแล้ว
“เราอยู่ฐานรองเท้าสามัคคี แค่เห็นก็สนุกแล้วอ่ะ”
ส้มจี๊ดคนสวยยิ้มนหน้าบาน วันนี้เธอแต่งหน้าด้วยครับ เพราะปกติฝึกงานไม่ค่อยได้แต่ง เลยทำให้ดูสวยเข้าไปใหญ่
“น้ำลายยืดแล้วมึง เช็ดหน่อย”
แหม แซะกูจังเลยนะ กูไม่ใช่น้องปั๊กนะ
“ป้ายชื่อมึงโคตรเจ๋งอ่ะ”
“อืม น่ารัก ใครทำให้เหรอ”
จ้าส้มจี๊ด ผมน่ารักเหมือนหมาจ๊ะ
“Sup ดิ ปริ๊นรูปหมาเต็มแผ่นเลย เราไม่รู้จะเขียนชื่อตรงไหนเลย”
“ไม่ต้องเขียนหรอก แบบนี้น่ารักดีออก อิอิ”
ส้มจี๊ดเธอยิ้มได้น่ารักมากครับ เอาใจผมไปเลย
มาพูดถึงเกมดีกว่าครับ เกมเราแบ่งเห็น 5 ฐานครับ
ฐานแรกเล่นในห้องสัมมนา ฐานเก้าอี้ดนตรีครับ หลายๆคนรู้กติกาแล้ว อันนี้ไม่ค่อยพิศดารเท่าไร
ฐานที่ 2 ย้ายออกมานอกห้องเป็นเกมตักน้ำใส่ถัง แต่อุปกรณ์ที่ตักนี้สิ ช้อนไอติมครับ เป็นพลาสติกสีๆอันเล็กๆนี่แหละ แล้วถังก็มีรู ตักไปชาตินี้คงเต็มหรอกครับ ฐานนี้ไอ้บาสอยู่กับพี่น้ำฝนครับ
ฐานที่ 3 รองเท้าสามัคคีที่ส้มจี๊ดเป็นผู้ช่วยพี่ต้น รองเท้ายักษ์ที่ต้องมีคนใส่ 6 คน แล้วพากันเดินไปให้ถึงเส้นชัย ถ้าไม่หกล้มปากแตกก่อนอ่ะนะ
ฐานที่ 4 ฐานตามล่าหาสมบัติ ทุกคนต้องใช้เชือกมัดข้อมือกันเป็นวงกลม กลุ่มละสิบกว่าคน แล้วไปเดินหาสมบัติ คงเดินได้ง่ายๆหรอกนะ กว่าจะหาครบ ไม่รู้สภาพจะออกมาแบบไหนนะครับ
ฐานสุดท้ายที่ผมเป็นผู้ช่วย Sup ฐานจับคู่เหยียบลูกโป่ง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องจับคู่แข่งกันเหยียบลูกโป่ง แต่เป็นลูกโป่งที่ใส่น้ำด้วยนะ แต่จริงๆก็ไม่ใช่แค่เหยียบ ผมแอบเพิ่มกติกาให้เอาลูกโป่งมัดที่มือข้างละลูกด้วยครับ ทำยังไงก็ได้ให้แตกหมดทั้ง 4 ลูก ใครแพ้ โดนปะแป้ง อันนี้เป็นความสะใจส่วนตัวครับ
   เราจะสลับวนเล่นกันไปครับ เพราะมีหลายทีม แต่ก็อาจจะมีคนตัวเปียกไปนั่งเล่นฐานเก้าอี้ดนตรีก็ได้ใครจะรู้
“ไอ้น้องหมอกเอ็งนี่ช่างคิดนะให้เอาลูกโป่งมัดที่มือด้วย”
“ครับ ถ้าแค่เหยียบมันก็ไม่เปียกไง Sup งานนี้มันต้องมีคนเปียกนะครับ”
“…”
ลูกโป่งที่มือเหยียบไม่ได้ ก็ต้องบีบอ่ะครับ แล้วใครมันจะยอมง่ายๆ ต้องมีหลบหลีกกันบ้าง ทีนี่แหละครับ ต้องบีบใส่หัวกันบ้างแหละ วะฮ่าๆ แค่คิดก็ขำแล้วครับ
Sup หน้าเหวอเลยครับ แหมเห็นผมแบบนี้ ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะผมเป็นเรื่องที่สุดแล้วครับ งงมั้ยครับ ผมยังไม่งงเลย
แต่ละฐานผ่านไปด้วยดี ไม่มีใครหกล้มหน้าแหกกันเลย เสียดายจริงๆ แต่มีคนหน้าขาวโพลนเยอะครับ แป้งผมเกือบหมดกระป๋องเลย
“เอ็งก็ไปปะแป้งพี่ๆเขาซะขาวโพลนขนาดนั้น”
ไอ้บาสมันชื่นชมผมหลังจบกิจกรรม แล้วมานั่งกินข้าวกัน
“เพื่อนเอ็งนี่เหมือนเก็บกดนะ”
Sup กว่าว่าไป ผมแค่เคยโดนมาแบบไหน ก็เอามาเล่นมั่งก็เท่านั้นเอง
“ครับ ตอนรับน้องมันก็เล่นแบบนี้แหละครับ น้องๆเห็นหน้ามันนี่สยองกันทุกคน”
“เหรอคะ เห็นน่ารักๆ หมอกไม่น่าโหดเลยนะ”
“มันแค่จิ๊บๆครับส้มจี๊ด เราไม่ได้โหดเลย ออกจะใจดี”
และที่สำคัญผมไม่ได้น่ารักครับ ผมหล่อมากครับ
“มึงทำหน้าโรคจิตมากอ่ะ”
บ๊ะไอ้บาสเดี๋ยวกูโบกเลย
“เออๆ ขอบใจพวกเอ็งมากนะ ปีนี้สนุกมากเลย อาทิตย์หน้าขอแรงอีกรอบแล้วกัน”
“ได้ครับ/ค่ะ”
   Outing หรือเรียกเพราะๆว่าสัมมนา แต่จริงๆแล้วมันก็คือการมาเที่ยวพักผ่อนนั่นเอง เพราะตอนนี้ผมก็ได้มานั่งเรือชมวิวครับ จริงๆบ้านผมก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่มาก แต่ไม่มีโอกาสได้มา การฝึกงานนอกจากจะได้เรียนรู้งานในโรงงานแล้วยังได้ออกมาหาประสบการณ์ข้างนอกอีกครับ
“เอ้า วันนี้ขอบคุณทุกคนมากครับ พักผ่อนให้มากๆ เพราะพรุ่งนี้เราต้องลุยงานต่อ เดี๋ยวหยิบข้าวกล่องไปด้วยครับ คนละกล่อง มายด์ ช่วยดูด้วยครับ”
“ได้พี่ ขอบคุณค่ะ”
   ผู้จัดการแผนกบุคคล พี่วีระ หัวหน้าตัวอ้วนใส่แว่นใจดี กล่าวขอบคุณทีมงานหลังจบงาน Outing กรุ๊ปที่ 1 ยังไม่ลืมสั่งข้าวมาเลี้ยงทีมงานก่อนกลับบ้านอีกด้วย
“ขอบคุณน้องๆฝึกงานด้วยนะ ช่วยพี่ๆได้เยอะเลย”
แกหันมาพูดกับพวกผม 3 คน หากมีโอกาส ผมอยากทำงานกับหัวหน้าแบบพี่เขาครับ
“ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ”
   หลังจากรับข้าวกล่อง พวกผมก็ลากันกลับ ไอ้บาสแวะส่งส้มจี๊ดที่บ้านก่อน ผมเพิ่งเคยเห็นบ้านเธอนะ แต่ก็เป็นบ้านจัดสรรธรรมดานี่แหละ พ่อกับแม่เธอเป็นข้าราชการ
“ขอบคุณที่มาส่งนะ”
“อืม”
ไอ้บาสยังคงคอนเซ็ปพูดน้อยกับสาวๆ ทีกะกูแทบจะพ่นไฟใส่
“มึงก็พูดกับเขาดีๆไม่ได้รึไง”
“พูดดีแล้ว”
เหรอ แบบนี้ดีเหรอ อืม คำเดียว
“เออ เรื่องของมึงเถอะ”
“…”
หืม มันเงียบครับ ไม่ยอกย้อนเหมือนเดิม
“มึงเป็นอะไรปะเนี่ย”
“เปล่า เข้าห้องมึงไป กูเหนื่อยจะแย่ ขี้เกียจเถียง”
“อ่อ เออๆ บาย”
   แล้วก็แยกย้ายเข้าห้องใครห้องมัน ผมก็เหนื่อยนะ แต่ก็สนุกดี เหอะๆ ยังเหลืออาทิตย์หน้าอีกกรุ๊ปนึง เป็นกรุ๊ปของท่านรองซะด้วย ได้ยินว่าท่านรองไม่ค่อยร่วมกิจกรรม ผมต้องหาวิธีให้ท่านรองมาร่วมให้ได้ หึๆ
   อาทิตย์นี้การฝึกงานของผมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ส่วนมากเป็นการเตรียมงาน Outing กรุ๊ปที่ 2 ซะส่วนมาก ต้องเตรียมอุปกรณ์ใหม่เกือบหมด ตั้งแต่ ป้ายชื่อ แป้ง อันนี้ขาดไม่ได้ผมขอ Sup ให้ซื้อกระป๋องใหญ่กว่าเดิม เพราะคราวที่แล้วเกือบไม่พอ ผมจะต้องได้ปะแป้งหน้าท่านรองให้ได้ แล้วก็ทำอุปกรณ์เล่นเกมต่างๆเพิ่มครับ
“พรุ่งนี้เหมือนเดิมนะคะ เจอกันตี 5 ช่วยกันขนของขึ้นรถ แล้วค่อยแยกย้ายกัน”
Sup แจ้งทีมงานเรื่องการเตรียมความพร้อมพรุ่งนี้ครับ ผม ไอ้บาสและส้มจี๊ดก็ต้องไปประจำที่รถบัสเหมือนเดิม เพื่อรอแจกป้ายชื่อ อดทนไว้พรุ่งนี้อีกวันเดียวที่ต้องตื่นตีสี่
“น้องหมอกเดี๋ยวช่วยยกกล่องนี้ไปใส่รถหน่อยค่ะ แล้วก็ไปรอประจำที่รถบัสได้เลยนะ”
พี่น้ำฝน ชี้กล่องที่บรรจุลูกโป่ง อุปกรณ์เป่าลมแล้วก็กระป๋องแป้งแคร์สีฟ้าที่ผมชอบ
“ได้พี่ งั้นผมไปนะครับ”
   ผมยกกล่องไปที่รถ หลังจากนั้นก็ไปรอที่รถบัส เกือบ 7 โมงแล้วเดี๋ยวรถก็คงจะออก ผมเดินขึ้นไปบนรถนั่งประจำที่ครับ ที่เดิมนั่งเป็นกระเป๋ารถเมลล์นี่แหละ แต่ที่ด้านหลังก็เกือบเต็มแล้วนะ
“ที่ว่างรึเปล่า”
พอเงยหน้าไปมองก็เห็นท่ารองมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
“…”
ผมหันซ้ายหันขวา ก็ยังพอมีที่นั่งเหลือนี่หว่า ทำไม่ท่านไม่ไปนั่งหล่ะครับ
“ผมนั่งได้รึเปล่า”
อืม เสียงเริ่มแข็งขึ้นเล็กน้อย
 “เชิญครับท่านรอง”
ผมปฏิเสธท่านได้เหรอ อยากนั่งก็เชิญเลยครับ วันนี้ท่านรองมาในชุดเสื้อยืดสีดำคลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กับกางเกงสามส่วน คิดว่าไปทะเลหรือไงครับ แต่ออร่าแรงมากครับ วิ้งๆเลย คนอะไรแค่ใส่ชุดไปทะเลยังดูเท่ขนาดนี้
“เป็นอะไรรึเปล่าดูหน้าซีดๆ”
ท่านรองแกถามผม แถมมีเอามือมาอังหน้าผากวัดไข้ผม ตกใจหมด จะหลบก็ไม่ได้ติดหน้าต่างรถอีก
“ป..เปล่าครับ ผมแค่ง่วง”
“อืม ตัวไม่ร้อน”
รู้สึกใจสั่นแปลกๆ หรือว่าอดนอนหว่า
“…”
นั่งไปซักพัก ไม่มีอะไรทำ
“ท่านรองกินขนมมั้ยครับ”
ผมยื่นขนมปังร้านสะดวกซื้อให้แกอันนึง ผมซื้อมาก่อนมาถึงโรงงานเอาไว้เป็นสะเบียง นั่งรถชั่วโมงกว่าต้องมีหิวกันบ้างแหละ
“ไม่เป็นไร คุณกินเถอะ”
ผมก็เลยแกะกินไป ดูดนมกล่องดังจ๊วบๆ แกหันมามอง คงจะรำคาญ ผมกินไม่นานหรอกน่า
‘ห๊าว’
อ้าว ดันมาหาวซะอีก
 “นอนก่อนมั้ย เดี๋ยวไกล้ถึงแล้วผมปลุก”
มาแนวไหนล่ะท่าน ใจดีแปลกๆนะ
ผมพยักหน้า ง่วงจริงๆแหละ หลับซักงีบดีกว่า
‘Zzzzz’
   ปั๊กน้อย หลับไปแล้ว ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปผลักหัวทุยของเจ้าตัวมาซบที่ไหล่ของผม กลัวหัวจะไปโขลกกับหน้าต่างรถ
เวลาหลับก็ดูไม่มีวี่แววกวนประสาท จมูกรั้นๆ คงดื้อน่าดู ขนตายาวจนแทบจะเอาไม้ขีดไปวางได้เลย ถึงหน้าจะซีด แต่ปากก็ยังแดงเหมือนปกติ คงง่วงน่าดู เห็นมายด์บอกว่า เด็กฝึกงานต้องมาโรงงานตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาช่วยขนของ คงนอนไม่พอ
   ผมกับมายด์เป็นญาติกัน พ่อผมเป็นลุงของมายด์ ดูเหมือนผมไม่สนิทกันใช่มั้ยล่ะ ผมแค่แยกแยะเวลางานกับเรื่องส่วนตัวต่างหาก คนที่รู้ว่าเราเป็นญาติกันก็ไม่กี่คนหรอก เวลาผมทำงานต้องคีพลุค เพราะลูกน้องผมส่วนใหญ่อายุมากกว่าผมหลายคน ตอนมาเป็น Sup ใหม่ๆ ลูกน้องไม่ค่อยเคารพ เพราะอายุน้อยกว่า คีพจนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว เดินไปทางไหนก็มีแต่คนหลบ เห็นผมเป็นสัตว์ประหลาดกันรึไง
“นี่คุณ ตื่นได้แล้ว”
ผมตบแก้มขาวเบาๆเรียกให้เจ้าปั๊กน้อยตื่นเมื่อใกล้ถึงที่หมาย
“อืม…อีกแป๊บนึง”
‘แปะๆ’
 “ตื่นเร็ว น้ำลายคุณไหลมาโดนเสื้อผมหมดแล้ว”
“ห๊ะ…”
“ตื่น น้ำลายคุณไหลเต็มเสื้อผมแล้ว”
“โอ้ย ตบจังหน้าผมยุบรึเปล่าเนี่ย”
ลองคลำหน้าตัวเองดู จริงๆแล้วแอบลูบๆดูว่าน้ำลายไหลจริงรึเปล่าหรอก อายครับ
“ผมไม่ได้ตบแรงขนาดนั้น”
“เหอะ น้ำลายผมไม่ไหลซักหน่อย”
“แล้วเมื่อกี๊ผมเห็นคุณเอามือเช็ดหน้าทำไม”
“ไม่ใช่ซักหน่อย ผมกลัวท่านรองตบหน้ายุบต่างหาก”
“กวนประสาทไม่เลิกนะ ต้องไปแจกป้ายชื่อไม่ใช่เหรอ”
“เออ จริงด้วยครับ ผมไปก่อนนะ อ๊ะ ส่วนอันนี้ของท่ารองครับ”
“…”
ผมแปะรูปไซบีเรียนหน้าหล่อที่ป้ายชื่อท่านรอง แล้วก็เขียนคำว่าท่านรองให้ไปด้วย คนอื่นๆจะได้เรียกถูก
“ชอบมั้ยครับ”
“ผมล่ะอยากจะตีก้นคุณจริงๆ”
ว้ายๆ ตีก้น ผมไม่ใช่เด็ก ป.3 นะครับท่านรอง
แล้วผมก็ยิ้มทะเล้นไปให้ก่อนจะรีบลงไปแจกป้ายชื่อที่ด้านล่างรถ
ผมเห็นท่านรองแอบยิ้มด้วยนะ
“อารมณ์ดีอะไรวะ ยิ้มหน้าบานมาเชียว”
ไอ้พล มันเห็นผมแอบยิ้ม ก็เดินเข้ามาแซว มันเอารถมาเองครับ ส่วนผมต้องนั่งรถบัส เพราะเอารถเข้าอู่
“ดูสิ”
ผมยื่นป้ายชื่อที่เจ้าปั๊กน้อยแสนรู้ทำมาให้
“ฮ่าๆ ต้องเป็นฝีมือไอ้น้องหมอกแน่ๆ ไม่มีใครกล้ากว่ามันแล้ว”
“กวนประสาท…แต่น่ารัก”
“เฮ้ย แกชมน้องมัน หรือว่า…”
“เฮ้ย ยังหรอกน่า”
“ว้าวๆ ท่านรองกำลังจะความความรัก”
“หุบปากไปเลย”
แล้วผมก็หุบยิ้มไม่ลงเลย ไม่ได้ยิ้มกว้างขนาดนี้มากี่ปีแล้วนะ

จบตอนที่ 6

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่ะ    ท่านรองกำลังมีความรัก    :ling1:

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
หนุกจังเลยครับ


            :ling1:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ท่านรองค่อย ๆ จีบปั๊กน้อย

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
ชอบนะเรื่องนี้  :hao3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ตอนที่ : 7

   วันนี้ผมจะต้องปะแป้งท่านรองให้ได้ครับ นี่ก็จะได้เวลาที่ทีมท่านรองจะมาถึงฐานที่ผมประจำอยู่แล้ว ผมแอบไปดูรายชื่อที่ Sup มา มีพี่พลอยู่ทีมเดียวกับท่านรองด้วย เราอาจจะได้เห็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็ได้ แค่คิดก็สนุกแล้วครับ ฮ่าๆ
“Sup เราให้จับคู่พี่พลกับท่านรองได้มั้ยครับ”
“หืม ท่านรองเขาไม่มาเล่นอะไรแบบนี้หรอก”
“ทำไมล่ะครับ”
“ทุกๆที เขาก็ไม่เคยเล่นนะ ส่วนมากไปนั่งคุยอยู่กับผู้จัดการบ้าง หรือทำงานบ้าง”
โห Sup ปล่อยให้ทำอย่างนั้นได้ไงอ่ะ ไม่ยุติธรรมเลย
“Sup เดี๋ยวผมขอตัวแป๊บนะ”
“เออๆรีบๆมานะ เดี๋ยวอีกทีมจะเข้ามาแล้ว”
ผมจะไปตามล่าหาท่านรองครับ ต้องลากท่านรองมาเล่นเกมให้ได้
ผมแอบชะโงกหน้าเข้าไปในห้องสัมมนา อ้อ อยู่ที่นี่เองไม่เข้าไปร่วมกิจกรรม จะมาทำไม อยู่ทำงานที่บ้านก็ได้มั้งครับท่าน
“สวัสดีครับท่านรอง”
“ครับ มีอะไรรึเปล่า”
อุ๊ย คนหล่อพูดเพราะ ธรรมดาเสียงเหมือนจะกินหัวชาวบ้านเขา
ผมไปไม่เป็นเลย ไม่ชินอ่ะ
“เอ่อ คือ ผมจะมาเชิญไปเล่นเกม”
“ผมไม่ไปหรอก พวกคุณเล่นไปเหอะ”
“คนอื่นเขาก็เล่นกันหมดนี่ครับ”
“…”
“หรือว่าท่านรองกลัวแพ้ครับ”
ร้อยทั้งร้อยหากโดนท้า ต้องไม่ยอมกันทั้งนั้น
“…”
เอ๊ะ เงียบ หรือว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล
“ผมว่าท่านรองอาจจะแพ้ คงสู่พี่พลไม่ได้”
“แล้วถ้าผมชนะ ผมจะได้อะไร”
ยังจะหวังผลตอบแทน ไอ้คนนิสัยไม่ดี
“แล้วท่านรองอยากได้อะไรอ่ะครับ”
“อืม…เลี้ยงข้าวผมมื้อนึง”
“…ก็ได้ครับท่านรอง”
แต่อย่าเลือกร้านแพงนะ ค่าขนมผมไม่เยอะ
แล้วทำไมผมต้องลงทุนขนาดนี้วะ รู้สึกแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แข่งเลย
“คุณนำไปสิ”
แกเก็บโน๊ตบุ๊คและเอกสารใส่กระเป๋า
อืม ผมคิดถูกหรือคิดผิดวะเนี่ย
“เฮ้ย ไอ้น้องหมอก เอ็งไปลากท่านรองมาได้ไงเนี่ย”
Sup ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น ผมอาจจะต้องแลกด้วยอิสรภาพของตัวเองเชียวนะ
“เอาน่า Sup ให้แกจับคู่กับพี่พลเลยครับ”
ผมกับ Sup แอบกระซิบกระซาบกันแล้ว Sup ก็ไปกระซิบกับพี่พลต่อ พี่พลแกเลยส่งยิ้มชั่วร้ายมาให้
“ทางนี้เลยครับท่านรอง เดี๋ยวผมผูกลูกโป่งให้”
ผมลงทุนก้มผูกลูกโป่งที่ข้อเท้าให้เลยนะ เพราะคนอื่นผมแจกให้ไปผูกกันเองนะครับ ผมแถมให้ที่เท้าของท่านรองเป็น 3 ลูกครับ รักมากเลยให้มาก อ่ะ ไม่ใช่แหละ ล้อเล่นหรอกครับ
“ทำไมผมได้มากกว่าคนอื่นลูกนึง?”
“ไม่เป็นครับท่านรอง อันนี้ผมแถมให้”
“…”
ผมส่งยิ้มหวานให้ ท่านรองก็ส่งยิ้มตอบนะ แต่เป็นยิ้มแบบเหี้ยมๆยังไงไม่รู้
“พี่พลพร้อมมั้ยครับ”
คู่นี้ผมใส่ใจเป็นพิเศษครับ อยากเห็นความพินาจ เอ้ย ไม่ใช่! ความสามัคคีต่างหากครับ
“พร้อมสิไอ้น้อง อยากขยี้มานานแล้ว แกเสร็จชั้นแน่ ไอ้เมฆ”
“ฝันไปเหอะไอ้พล”
เริ่มแล้วครับความแตกแยก และความที่ไม่อยากโดนทาแป้งหน้าขาว
หลังจากเสียงนกหวีดจาก Sup ดัง ผู้เล่นเกมก็เริ่มชุลมุน ด้วยความที่ไม่อยากแพ้ เพราะคนแพ้จะเปียกและโดนทาแป้งหน้าขาว ทำให้แต่ละคน แย่งกันทำให้ลูกโป่งของฝ่ายตรงข้ามแตกและป้องกันของตัวเองไม่ให้แตกด้วย ขำครับ ฮ่าๆสะใจ โดยเฉพาะคู่ของท่านรองและพี่พล อันนี้เด็ดสุด สุดท้ายท่านรองแพ้ครับ เป็นอย่างที่ผมหวังไว้จริงๆ คุ้มค่ากับที่ผมแอบสวดมนต์อยู่ในใจจริงๆ
“ฮ่าๆ ท่านรองแพ้นะครับงานนี้ ต้องโดนปะแป้ง”
ผมเตรียมหยิบกระป๋องแป้งแล้วอ่ะ ขอกระป๋องใหญ่เลยครับ
“…”
แกทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไรครับ
“ฮ่าๆ ชั้นล่ะอยากเห็นมานานแล้ว ไอ้เมฆสมน้ำหน้าแกว่ะ”
พี่พลดูเหมือนจะสะใจมากเลยนะครับ
“หุบปากไปเลยไอ้พล”
“ผมจะปะล่ะนะครับท่านรอง”
หน้าตาท่านรองไม่เปียกเลยอ่ะ ผมต้องเอาน้ำผสมซักหน่อย
“เฮ้ย แล้วคุณจะใส่น้ำเพิ่มทำไม มันก็ล้างยากสิ”
ก็ผมต้องการให้ล้างยากๆไงครับ
“เฮ่ย ถ้าล้างง่าย มันก็ไม่สนุกอ่ะดิ ไอ้น้องหมอกเอ็งนี่ช่างคิดจริงๆ”
ขอบคุณที่ชมครับ
“ใช่ครับ มันต้องล้างยากๆสิครับ มันถึงจะสนุก”
แล้วผมก็วิ่งไล่จับท่านรองปะแป้ง แกหนีครับ ผมนี่วิ่งไล่กันไปกันมา เหนื่อยครับ
“ท่านรอง อย่าวิ่งสิครับ”
ผมเหนื่อย หอบแฮ่กๆเลย
“…นี่คุณจะทำจริงๆเหรอ”
โห คนหล่อ หน้าหดครับ สงสารก็สงสาร แต่อยากสะใจมากกว่าครับ
“จริงสิครับ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าได้นะ ท่านรองแพ้ก็ต้องโดนปะแป้ง”
มาเลย ผมแบมือรอเลย แล้วแกก็ยืนนิ่งๆให้ปะ
“…”
“ก้มลงมาหน่อยครับ”
ท่านรองสูงอ่ะ ผมปะไม่ค่อยถนัดเลย แต่แกก็ก้มลงมาให้ปะดีๆ น่ารักจริงๆ
“คอยดูเหอะ ระวังผมจะเอาคืน”
อุ่ย มีข่มขู่แต่ผมนี่ละเลงหน้าหล่อๆอย่างสะใจอ่ะครับ
“เสร็จแล้วครับ”
จริงๆผมก็ไม่ได้ปะให้เยอะอะไร แค่ปาดที่หน้าผากทีนึง แก้มสองข้างเยอะหน่อยแค่นั้นเอง แต่ดูรวมๆแล้ว ขำครับ
“…คุณทาเยอะไปรึเปล่า”
ท่านรองอยากจะลูบหน้าดูแต่ก็คงกลัวเลอะเทอะกว่าเดิม
“ไม่หรอกครับท่านรอง นิดหน่อยเอง”
ผมกลั่นหัวเราะจนหน้าดำหน้าเดง ขำฉิบหาย
“นี่คุณแอบขำเหรอ”
“เปล่าครับ ฮ่าๆๆๆ”
โอ้ยกลั้นไม่อยู่แล้ว หัวเราะออกมาดีกว่าครับ
“นี่คุณมานี่เลย”
แล้วแกก็กระชากมือลากผมไปที่ห้องน้ำครับ
“ท่านรองจะให้ผมไปไหน ผมต้องรอทีมต่อไปมาเล่นเกมต่อนะ”
“คุณก่อเรื่อง ก็ต้องมาช่วยผมล้างหน้า”
หน้าตัวเองก็ล้างเองสิครับ
ในห้องน้ำไม่มีคนเลย วังเวงสัด ผมจะโดนฆ่าหมกส้วมมั้ยครับ
“ช่วยผมล้างเร็วๆ”
แล้วท่านรองก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง สีเทาครับ เพราะถ้าเป็นสีชมพูนี่ผมหัวเราะตายเลย
แกยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผมถือ
“ก็ได้ๆ ครับ”
เดี๋ยวต้องไปช่วย Sup อีก ไม่อยากชักช้า ท่านรองค่อยๆล้างหน้าครับ ผมก็ยืนดูคนหล่อล้างหน้า แค่ล้างหน้าก็ยังดูเท่
แกล้างเสร็จก็หันมาหาผม
“ผมล้างสะอาดรึเปล่า”
“ครับๆ สะอาดแล้วครับท่านรอง มาผมเช็ดหน้าให้”
แล้วแกก็ก้มลงมา ความเตี้ยกว่าของผมนี่ก็เป็นอุปสรรคจริงๆ ผมก็รีบๆเช็ดหน้าให้แก
“ท่านรองจับมือผมทำไม ผมเช็ดไม่ได้อ่ะ”
ท่านรองจับมือผมที่กำลังเช็ดหน้าให้ท่านเขาอยู่ แล้วมองสบตาผม ตาคมจ้องมองผม ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
“อ๊ะ”
ผมอุทาน มือขวาของท่านรองรวบเอวผมเข้าไประชิดตัวเขา
หน้าของท่านรองค่อยโน้มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“ท…ท่านรอง จะทำอะ…”
ผมถามได้แค่นั้น เรียวปากของท่านรองบดบี้อยู่ที่ริมฝีปากผม ไม่ได้รุนแรง แต่เนิ่นนานจนผมเกือบลืมหายใจ
ท่านรองถอนเรียวปากออก แต่ยังจ้องมองผม สายตาท่านรองมองผมเหมือนกำลังสื่ออะไรบางอย่างให้ผม แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ
 “ผ…ผมต้องไปแล้ว”
แล้วผมก็ใส่เกียร์หมารีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำทันที ว้ายๆ ท่านรองจูบผม ผมควรจะทำยังไงดี
   เจ้าปั๊กน้อยรีบวิ่งจู๊ดออกไปจากห้องน้ำทันที ผมเผลอจูบเด็กฝึกงานจอมเฮี้ยวในห้องน้ำ โรแมนติกฉิบหาย หมอกคงตกใจมาก จริงๆแล้วผมไม่ได้ตั้งใจหรือผมตั้งใจวะ จะบอกว่าบรรยากาศมันให้ก็คงไม่ใช่เพราะเราอยู่ในห้องส้วม เพียงแค่อยากรู้ว่าปากแดงๆนั่น ถ้าลองจูบแล้วมันให้ความรู้สึกยังไง ก็แค่นั้นเอง…
“ไอ้น้องหมอกทำไมหอบขนาดนั้น แล้วหน้าแดงๆ เป็นอะไรรึเปล่า”
“ป…เปล่าครับ Sup”
หลังจากที่ผมลืมหายใจไปห้าวิ ตอนนี้ผมรีบโกยอากาศเข้าเต็มปอด ตกใจอ่ะ อายด้วย ท่านรองจูบผม แต่ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยนี่สิ อยากจะตีปากตัวเองฉิบหาย
“เอ้า พร้อมนะ ทีมต่อไปกำลังมาแล้ว”
“ครับๆ”
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกลึกๆเว้ย ไอ้หมอก อย่าเพิ่งตายตอนนี้ แค่จูบไม่ทำให้ตายหรอก แต่ใจเต้นแรงโคตรๆ
แล้วผมก็ผ่านวิบากกรรมเสียจูบแรกไปโดยที่ไม่รู่อีโหน่อีเหน่ คิดแล้วก็แค้น เดี๋ยววันหลังผมต้องแก้แค้นจูบกลับท่านรองแม่งมั่ง
“ไอ้น้องมีนเก็บของเสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน”
“ครับๆแป๊บครับ Sup”
ตอนนี้ผมเริ่มทำใจได้แล้ว คิดซะว่าโดนน้องไซ (บีเรียน) ยักษ์กัด เรื่องกินสำคัญกว่าเห็นๆ นี่ผมก็หิวใส้จะขาดอยู่แล้ว ช่วงบ่ายไม่มีกิจกรรมอะไรต่อ ปล่อยตามสบาย พรุ่งนี้เช้ามีล่องเรือชมเกาะ ตอนกลางวันก็กลับโรงงานครับ กิจกรรม 2 กรุ๊ปเหมือนเดิมเป๊ะ ผมซึ่งเป็น staff รู้สักเหมือนเกิดเดจาวูเลย
ตอนนี้เรากำลังกินอาหารกลางวันที่รีสอร์ทจัดไว้ให้ครับ เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารไทยเรานี่แหละ มีข้าวผัด อาหารปรเภทยำ ไก่ทอด ลาบ ส้มตำ อาหารทะเลผมนี่กระดี๊กระด๊ามากอ่ะ
“ไอ้น้องมีน เช็ดน้ำลายมึงหน่อย รักษาภาพจน์เอ็งบ้าง”
แหม Sup ก็คนมันหิวอ่ะ
“พวกเอ็งจะไปนั่งโต๊ะไหน ไปโต๊ะพี่มั้ย”
พี่พลถามพวกผม 3 คนที่ยังไม่ได้จองโต๊ะนั่ง
“ก็ดีครับ ผมยังไม่โต๊ะนั่งเลย”
ไอ้บาสผู้ที่ไม่ค่อยรู้จักใครนอกจากฝ่ายผลิตยิ้มหน้าบาน สงสัยไม่กล้าไปนั่งกับคนอื่น
“ดีค่ะ หนูก็ยังไม่มีโต๊ะนั่งเลย”
ส้มจี๊ดยิ้มหวานหยดย้อย ผมเผลอมองตามจนน้ำลายจะไหลอีกรอบแล้วครับ
“เหอะ!”
มึงเป็นอะไรไอ้บาส ก้างปลาโลมาติดคอเหรอ
“พี่พลถือจานนี้ให้หน่อย”
“ได้ครับๆ ได้เสมอสำหรับน้องมายด์ครับ”
สองคนนี่ก็จู๋จี๋กันจังเห็นแล้วอิจฉาริษยามากบอกเลย
เรา 3 คนเลยเดินตามพี่ๆเขาไป เป็นไปตามคาด โต๊ะพี่พลที่ว่ามีท่านรองประทับอยู่คนเดียว ไม่มีใครกล้านั่งด้วยเลยครับ สงสารเขานะครับไม่มีใครเอา ผมเลยนั่งแหมะข้างๆท่านรองซะเลย แอบเหลือบมองเขานิดหน่อย ผมยังเคืองไม่หาย จูบผมแล้วอ่ะ ต้องรับผิดชอบด้วย ท่านรองหันมาสบตาผมแต่ไม่ได้พูดอะไร
“สองคนกินได้แล้ว จ้องกันอยู่ได้ อย่ากัดกันล่ะ”
แหมๆ ไอ้พี่พล ผมไม่ใช่น้องหมานะครับจะได้กัดกัน ส่วนท่านรองล่ะก็ไม่แน่
“ตลกนะแก หลบหน่อยจะไปเข้าห้องน้ำ”
ท่านรองทำท่าจะลุกขึ้น ผมก็ต้องตามไปสิครับ เผื่อหาทางแก้แค้นได้
“ผมไปด้วย”
“…ก็ตามมาสิ”
“เฮ่ย ทั้งสองคนอย่าไปตีกันในห้องน้ำล่ะ เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเขาจะตกใจเอา หึหึ”
“…”
เอิ่ม เห็นพวกผมเป็นอะไรกัน แต่หน้าพี่พลดูตอแหลๆนะครับเวลาพูด
“ท่านรองไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอครับ”
ขอโทษที่ทำหรือบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุผมยังพอให้อภัยได้นะ
“…จะให้ผมพูดอะไร ก็คุณเล่นวิ่งหน้าตั้งออกไปอย่างนั้น”
วิ่งหน้าตั้ง? ยังดีนะถ้าพูดว่าวิ่งหูตั้งหางตก ผมจะคิดว่าท่านรองด่าผมว่าเป็นหมาแน่ๆ
“…”
ผมผิดเหรอ เอาใหม่
“ผมหมายถึง…เอ่อ…คือท่านรองจ…”
ติดอ่างอีกกู จะถามว่าท่านรองจูบผมทำไมมันยากนักเหรอ
“ที่ผมจูบคุณผม…ไม่รู้สิ ก็แค่อยากจูบ แล้วผมก็จะไม่ขอโทษด้วย”
รู้อีกว่าผมจะถามอะไร แต่ดูคำตอบท่านเขาน่าตบมากครับขอบอก
“…”
ผมเริ่มจะโกรธแล้วนะ จะทำยังไงดีวะ จูบกลับแม่งเลยดีมั้ย น่าจะสะใจดี
“ผมให้คุณจูบคืนก็ได้”
แล้วท่านเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
ห๊ะ! ได้เหรอ แต่เดี๋ยวก่อน มันเหมือนผมเสียเปรียบยังไงไม่รู้อ่ะ
“บ้าเหรอ แบบนั้นผมก็เสียเปรียบแย่ดิ”
เออ ผมก็ยังมีความฉลาดอยู่บ้างหรอกนะ
“แล้วคุณจะเอายังไง”
โหย ไม่เอาไง ไปดีกว่า ท่านรองตอนนี้ทำหน้าตาได้ตอแหลเหมือนพี่พลเลย
“เฮ้ย ปล่อยผมนะ ท่านรองมาจับแขนผมไว้ทำไม๊”
หรือกูจะโดนจูบอีกรอบ มีรอบสองผมให้พ่อท่านรองมาขอผมกับกำหนันหมานเลยนะ
“คุยกันก่อนสิ”
“ไม่เอา ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย”
ร้อมผมร้องจ๊อกๆแล้วเนี่ย
“งั้นไปกินข้าวกัน”
“ก…ก็ได้ครับ”
เปลี่ยนเรื่องเร็วจริง แล้วถามผมว่าปฏิเสธท่านเขาได้บ้างมั้ย ตอบได้เลยว่า…ไม่
ทั้งผมและท่ารองก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ เอ ผมลืมอะไรไปนะ เออใช่ ท่านรองยังไม่ได้เข้าส้วมเลย
“แล้วท่านรอง ไม่เข้าห้องน้ำเหรอครับ”
“…ตอนนี้หายแล้ว”
หายได้ด้วย ? ทำไงอ่ะ อยากรู้วิธีเผื่อรถติดนานเวลาปวดฉี่จะได้ทำมั่ง…ไม่ถามดีกว่า
ท่านรองกลับมาอยู่ในโหมดหน้าบูดคนเดิมอีกแล้ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ประจำเดือนไม่มาเหรอ
“แล้วเดี๋ยวจะไปไหนกันดี ช่วงบ่ายฟรีสไตล์”
พี่พลถามพวกเราที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะ
“ไปเที่ยวสะพานแขวนกันมั้ยคะ มายด์อยากไป”
 “ได้สิครับน้องมายด์”
จ้า เอาเลยจ้า Sup พี่พลยิ้มหน้าบานกว่าจานดาวเทียมแล้ว
“อืม ไปสิ มายด์กล้องพี่อยู่ไหน”
หืม ท่านรองสนิทกับ Sup เหรอ ผมไม่ยักกะรู้ แต่ก็ไม่แน่เพราะท่านรองเป็นเพื่อนกับพี่พล
“อยู่ในรถพี่พลค่ะ”
Sup หันไปตอบท่านรอง บรรยากาศแปลกๆนะผมว่า แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไร ไม่อยากรู้เรื่องของท่านเขาหรอก ไม่อยากรู้เล้ยยย
“เราสามคนจะไปด้วยมั้ย”
Sup หันมาถามพวกผม
“ไปด้วยกันสิ”
ว้าวๆ ท่านรองชวน ฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย
“ครับ/ค่ะ”
รีบตอบรับไปสิครับรออะไร ขึนชักช้าท่านอาจจะของขึ้นได้
“ไปรถพี่แล้วกัน”
ก็คงต้องอย่างนั้นแหละครับ ก็มีรถพี่พลคนเดียว คนอื่นเอารถมาที่ไหนกันล่ะ
แล้วเรา 6 คนกันเดินทางไปยังสะพานแขวนที่ว่า สวยดีนะครับ สะพานยาวฉิบหาย ผมกล้าๆกลัวๆค่อยๆเดินเตาะแตะไปทีละก้าว เสียวตูดเลย ร่วงลงไปนี่กูตายแน่ ว่ายน้ำก็ไม่เป็น
“เป็นอะไรคุณ กลัวเหรอ”
เออสิครับท่านรอง เสียววาบๆ
“เปล๊า ผมไม่กลัวเล๊ย”
เสียงผมสั่นแล้วเนี่ย ไอ้บาสห่าก็เดินไปกับส้มจี๊ดโน่นแล้ว แต่เอ๊ะ ทำไปเดินไปด้วยกัน เออ ช่างมันก่อนเอาตัวเองให้รอดก่อน
“หึหึ”
ท่านรองยิ้มหัวเราะเยาะครับ น่าโบกจริงๆ หันไปมองคู่รักหวานชื่น อ้าวหายไปไหนแล้ววะ
“จับมือผมเร็วๆ”
ท่านรองแกยื่นมือมาให้ จะเชื่อท่านเขาดีมั้ย เข้าห้องน้ำล้างมือมารึยังก็ไม่รู้ แล้วถ้าท่านจูงผมไปปล่อยกลางสะพานทำไงอ่ะ 
“…”
ผมยังไม่ตัดสินใจเชื่อ กลัวแกลากไปปล่อยกลางสะพานจริงๆ
“ผมไม่แกล้งหรอก เร็วๆสิ”
เชื่อก็ได้วะ อืม วิวดีฉิบหาย ลมเย็นมาก
“ยิ้มหน้าบานเลย ที่บ้านไม่ปล่อยให้ออกเที่ยวรึไง”
เอ๊ะ คำพูดแปลกๆ
“เปล่าครับ บ้านผมก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอก แต่ผมไม่เคยมา”
“อืม…ยืนเฉยๆนะ มองไปข้างหน้า”
อะไรของท่านเขาล่ะทีนี้ จะให้ผมทำอะไร
“…ท่านรองให้ผมทำอะไรครับ”
“คุณก็ยืนเฉยๆสิ มันยากรึไง ผมจะถ่ายรูป”
แล้วก็ซูมกล้องตัวละล้านแปดมาทางผม ผมมั่วครับ ไม่รู้ราคากล้องหรอกแต่ดูดีมีสไตล์เหมือนคนถ่ายด็คิดว่าคงจะแพงมาก
“ครับๆ”
ทำเสียงดุอีก ยังไม่ได้ขออนุญาตผมถ่ายเลย
แล้วท่านรองก็กดชัตเตอร์ 2-3 แชะ แล้วก็ยื่นมือมาให้ผมจับต่อ
“ไปตรงกลางสะพานกัน”
“ท่านรองคงไม่พาผมไปปล่อยแล้วหนีกลับหรอกนะ”
“…เห็นผมเป็นคนยังไง”
ไม่รู้เหรอ หลอกจูบผมแล้วทิ้งมั้ง เออ จริงด้วยผมยังไม่ได้แก้แค้นเลย อยากจะหยิกให้เนื้อเขียวจริงๆ
“…เหอะ”
“เวลาคุณเบะปากนี่มันเหมือนเจ้าปั๊กจริงๆ”
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันครับ”
“อืม ถ้าคุณคิดว่าดีก็คิดไปแล้วกัน”
อืม ผมจะได้ทำบ่อยๆ ยิ่งมีแต่คนว่าหน้าเหมือนหมาอยู่ เป็นซะให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“ไปเร็วๆ”
หืม มือท่านเขาเปลี่ยนมาโอบที่เอวแทน จั๊กจี้เลย
“ด…เดี๋ยวผมเดินเอง”
แล้วผมก็ใช้นิ้วหนีบมือท่านรองออกให้พ้นเอว แอบหยิกไปทีนึง
“หยิกผมเหรอ”
“เปล๊า ผมไม่กล้าหรอกครับท่านรอง”
“หึหึ คุณนี่มันกวนประสาทจริงๆ”
แล้วผมก็ค่อยๆเดินไปตรงกลางสะพาน ท่านเขาก็บอกให้ผมยืนโพสท่านั้นท่านี้แล้วถ่ายรูปของท่านเขาไป แล้วก็ลากผมกลับมาที่ฝั่ง รอดตายแล้วผม
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเที่ยวสวนน้ำเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ยกเว้นแต่พี่พลกับท่านรองที่นอนเก๊กอยู่ริมสระ
“ท่านรองไม่เล่นน้ำเหรอ”
ผมเดินตัวเปียกมะล่อกมะแล่กเข้าไปชวนท่านเขาตามมารยาท
“พวกคุณเล่นไปเถอะ”
“เอ็งเล่นไปเลย พี่ไม่ไหวว่ะ ขอนอนรอดีกว่า”
“ครับๆ เชิญท่านทั้งสองตามสะบายครับ”
แล้วผมก็กระโดดน้ำตูม ตั้งใจให้น้ำมันกระเด็นไปถูกท่านรอง แต่ดันไปไม่ถึง เสียดายฉิบหาย
“กวนประสาทได้ตลอดสิน่าไอ้น้องหมอกเนี่ย”
“หึหึ”
“ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้ว ไอ้เมฆ”
“หุบปากไปเลยไอ้พล”
   แล้วใครมันจะไม่ยิ้มล่ะ กวนตีนเก่ง น่ารักก็เก่ง…

จบตอนที่ 7

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: o18 o18 o18 o18

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด