[END] [Mpreg] ☆YOUniverse☆ .. #พี่ภูของผม (2020-09-28 : Universe - Special Ch)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] [Mpreg] ☆YOUniverse☆ .. #พี่ภูของผม (2020-09-28 : Universe - Special Ch)  (อ่าน 51687 ครั้ง)

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ภูบทจะฉลาดก็ฉลาดล้ำ บทจะโง่ก็โง่ล้น คือเอาตรงๆๆๆขัดใจ พร้อมรำคาญ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Ritawongishere

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยยยย น่ารำคาญมากกก เมื่อไหร่จะหมดยุคที่นายเอกจะต้องคู่กับพระเอกที่มีนิสัยแบบนี้สักที เห้อออออออ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไปตุ้ย

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คนงี่เง่าแบบพี่ภูควรปล่อยๆ ให้แห้งตายไปนะคด น้องไนล์ไม่ควรมาทุ่มเทด้วย

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ถ้าลงโทษเขาแล้ว ภายหลังรู้ความจริงว่าเขาไม่ได้ทำ มันเป็นการแสดงยอมเจ็บของนางแบบเนียนๆ คุณต้องรับผิดชอบให้สาสมกับสิ่งที่ลงโทษไปในวันนี้ให้ถึงที่สุดคืน x10 เท่านะไอ้คุณผีภู หึหึ ไนล์อ่ะอย่ายอมง่ายๆละถึงตอนนั้น การปลักปลำคนอื่นมันร้ายแรง ต้องสั่งสอน จำใส่ใจไว้ 5555555 ว่าแต่แกจะลงโทษเขายังไงอ่ะ แกไม่เห็นหรอแขนเขาแดงๆนั่นอ่ะ เบิกตาดู จะได้รู้ว่าเขาก็เจ็บเหมือนกัน เป็นไนล์นี่ต้องทน ถึกจริงๆนะ 555555 สนุกกกกกกก ไอ้ผีภูยังคงผี ผีบ้า รอเอาข้าวสารเสก คงหมดเป็นกระสอบมั้งผีถึงจะออกจากตัว 555555555 รอตอนต่อไปเลยค่า  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TanyaWikit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :fire: :angry2:
อันนี้ พี่ภูหนักไปหน่อยนะ เป็นไอ้พี่ภูโง่เง่าแล้ว วันนี้ยังให้คุณรันตามมาเข้าพื้นที่ส่วนตัวอย่างกะเชิญชวนเชียว แถมยังปล่อยให้นางมาออกฤทธิ์ออกเดชกับน้องไนล์ของคนอ่านอีกด้วย หึหึ  :beat:
ฝากคนเขียนรีบมานะคะ เดี๋ยวไปทำระเบิดปิงปองมาไว้ปาพี่ภูก่อนนะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อิพี่มันโง่ก็ปล่อยให้โง่ไป แต่ถ้าฉลาดขึ้นมาอย่ามายุ่งกับน้องนะ เราจะไม่ยอมเด็ดขาด

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ยยยยยยยยแม่ :mew2:

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
** Warning : เนื้อหาบางฉากบางตอนในแช็ปเตอร์นี้ อาจมีความไม่เหมาะสมทางด้านการใช้ภาษา และความรุนแรงทางเพศ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านและทำความเข้าใจด้วยนะคะ **


Universe 17th : ความเข้าใจผิด


ผมนั่งร้องไห้อยู่เงียบๆ อยู่บนพื้นตรงข้างๆ โซฟา ตั้งแต่พี่ภูออกจากห้องไปผมก็ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหนเลย เจ็บไปหมด เจ็บทั้งที่หัวใจ และเจ็บทั้งแผลที่มือ

ผมค่อยๆ คลายมือที่กุมอีกมืออีกข้างไว้ออก ก่อนจะพบว่ามันแดงมาก และผมก็ปวดแสบปวดร้อนไปหมด เดาว่าน่าจะเป็นเพราะมันไปลวกโดนกับแผลเก่าที่ถูกรถเข็นชนเมื่อเย็น ตอนนี้สภาพมือผมเลยโคตรแย่

ผมเจ็บจนน้ำตาซึม จะบอกพี่ภูก็ไม่กล้าบอก เพราะในสายตาของพี่ภูตอนนี้ผมคือคนผิด แถมยังเป็นคนน่ารังเกียจที่รังแกและทำให้คุณรันต้องเจ็บตัวเพราะความอิจฉาที่คุณรันได้มีโอกาสใกล้ชิดพี่ภูมากกว่าผม

ผมรู้.. ผมรับรู้ได้ด้วยสายตาทั้งหมดที่พี่ภูมองผมมานั่นแหละว่าเขาจงเกลียดจงชังกันขนาดไหน สำหรับเขาผมมันก็แค่เด็กหิวเงิน เด็กเจ้ามารยาที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ทั้งที่ความจริงแล้วผมไม่ได้อยากได้อะไรเลยนอกจากแค่หวังจะให้เขาดีขึ้นและมีความสุข กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนที่เคยเป็นอีกครั้ง

ตอนแรกผมก็แอบดีใจนะ ผมแอบคิดว่าพี่ภูอาจจะคลับคล้ายคลับคลาจำผมได้ขึ้นมาบ้าง ถ้าเราได้ใกล้ชิดกันอีกนิด พี่ภูอาจจะฉุกคิดและจำผมได้ในที่สุด แต่จากที่เห็นวันนี้ เขายังไม่เปิดใจให้ผมเลยด้วยซ้ำ เขาฟังแต่สิ่งที่คุณรันบอก ทั้งที่มันไม่เฉียดใกล้ความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

ความจริงที่ว่า.. คุณรันเองต่างหากที่เป็นคนปัดถ้วยชาที่อยู่ในมือผมให้หก แล้วก็หกมาในทิศทางที่ลวกลงบนมือผมเต็มๆ ผมมั่นใจว่าไม่มีแม้แต่ละอองน้ำหรือไอน้ำร้อนใดๆ อังโดนมือคุณรันเลยสักนิด เพราะมันหกมาทางผมทั้งแก้ว และมันก็ลวกมือผมแค่คนเดียว แต่เธอกลับร้องไห้และบอกกับพี่ภูว่าผมทำร้ายเธอ ในขณะที่แม้แต่คิดผมยังไม่กล้า ผมกลัวพี่ภูมาก แล้วผมน่ะเหรอจะกล้าทำร้ายแขกคนสำคัญของพี่ภูแบบนี้

หรืออาจจะเพราะคุณรันเป็นคนสำคัญ พี่ภูเลยโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จนไม่ยอมฟังที่ผมอธิบาย

เป็นคนสำคัญที่ทำให้พี่ภูเปิดใจ และเป็นคนสำคัญที่ทำให้พี่ภูกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง

ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดถ้าพี่ภูจะหวั่นไหวกับผู้หญิงอย่างคุณรัน เธอทั้งสวย ทั้งเก่ง ทั้งมั่นใจในตัวเอง แถมยังดูเหมือนว่าเธอกับพี่ภูพูดคุยกันเข้าใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนแม้แต่เรื่องงาน

ผมได้แต่มองมือตัวเองที่ทั้งแสบทั้งร้อน ในใจคิดว่าควรต้องไปหาหมอ แต่ตอนนี้ผมไม่มีแม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำ เลยได้แต่นั่งอยู่แบบนั้นโดยไร้วี่แววที่พี่ภูจะกลับมา

ผมหัวเราะเบาๆ อย่างนึกสมเพชตัวเองในใจ ผมน่าจะเดาออกตั้งแต่บนรถแล้วว่าพี่ภูยกให้คุณรันเป็นคนสำคัญแค่ไหน เพราะตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่พี่ภูก็ไม่เคยชวนใครมาทานข้าวที่คอนโดเลยยกเว้นคุณแพ็ตที่เป็นเพื่อนสนิท

และสิ่งที่ยิ่งตอกย้ำว่าคุณรันสำคัญแค่ไหนนั้นก็คงจะเป็นตอนที่ผมเกรงใจไม่อยากร่วมโต๊ะอาหารด้วยเพราะกลัวคุณรันจะไม่ชอบใจ พี่ภูกลับต่อว่าผมจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นอีกต่างหาก


‘อย่าตัดสินคนอื่นไนล์...คุณรันเธอยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรแบบนั้นเลย อย่าคิดไปเองแล้วกล่าวหาคนอื่นแบบนั้น มันดูนิสัยไม่ดี’


คุณรันคงเป็นคนที่พี่ภูแคร์มากจริงๆ

ผมได้แต่นั่งบีบมือที่แดงเถือกของตัวเองด้วยความเจ็บปวด จนรู้สึกว่ามันทนไม่ไหวถึงได้คิดจะลุกขึ้นไปหากล่องยาสามัญที่น่าจะอยู่แถวหน้าห้องน้ำมาใช้เบื้องต้น อย่างน้อยก็คงพอให้ทุเลาความเจ็บเพื่อรอเวลาให้ผมไปโรงพยาบาลไหวก็ยังดี


ออดดด~


แต่ในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นจากพื้นนั้น ออดหน้าประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน ผมรีบถลาไปที่ประตู และแอบคาดหวังว่าจะเป็นพี่ภูที่ผมรออยู่ เขาอาจจะรีบกลับมา หรืออาจจะเป็นห่วงผมบ้างสักนิดก็ได้

แต่พอผมเปิดประตูออกไปกลับเจอคนที่ทำให้ผมอยากจะร้องไห้ยิ่งกว่าเดิมแทน

“พี่เทมส์...”

ผมโผเข้ากอดพี่ชายตัวเองแน่น พี่เทมส์ดูงงๆ ในตอนแรก แต่พอได้สติเขาก็กอดผมตอบ ผมร้องไห้อยู่กับอกพี่ชายที่แสนจะปลอดภัย พี่เทมส์ลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจผมยกใหญ่ เขาไม่ถามอะไรผมสักคำ และรอจนผมสงบ เขาจึงได้เอ่ยปากขึ้น

“เข้าห้องก่อนเถอะไนล์ มีอะไรไปคุยกันข้างในนะ”

ผมพยักหน้าและปล่อยให้พี่ชายประคองกลับเข้ามาในห้อง โดยที่ผมเองก็ยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ ดูเหมือนว่าพอได้เห็นพี่เทมส์ผมยิ่งอยากจะร้องไห้หนักกว่าเดิม

พี่เทมส์พาผมมานั่งที่โซฟา เขานั่งลงก่อนและฉุดผมที่กำลังยืนอยู่ให้นั่งตาม แต่มันไปบังเอิญโดนเข้ากับแผลที่ข้อมือผมพอดี ทำให้ผมเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“โอ๊ย!”

“ไนล์เป็นอะไร?”

ผมกระตุกข้อมือข้างที่เจ็บออกจากการเกาะกุมของพี่ชายทันที ทำเอาพี่เทมส์ตกใจเป็นอย่างมาก เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเอื้อมมือมาจับข้อมือข้างที่ผมพยายามซ่อนไว้ข้างหลัง เพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องมาเห็นหรือเป็นกังวลกับเรื่องของผม และผมก็ไม่อยากให้พี่เทมส์กับพี่ภูมีปัญหากันเพราะเรื่องของผมด้วย

ในเมื่อผมเป็นคนเลือกที่จะทำแบบนี้เอง ผมก็ต้องรับผิดชอบกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยตัวของผมเองเช่นกัน

“เปล่าครับ ไนล์.. ฮึก ไนล์ไม่ได้เป็นอะไร” ผมตอบพร้อมกับพยายามซ่อนมือข้างที่เจ็บไว้ข้างหลัง

“อย่าโกหกพี่ ยื่นมือที่ซ่อนไว้มาให้พี่ดูเดี๋ยวนี้ครับไนล์”

แต่ผมก็ลืมคิดไปว่านี่คือพี่เทมส์ พี่ชายที่อยู่กับผมมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงดูทะนุถนอมผมมาโดยตลอด ผมไม่มีทางโกหกเขาได้เลย เพราะเขาคือคนที่รู้จักผมดีที่สุด รู้จักผมดีกว่าที่ผมรู้จักตัวเองด้วยซ้ำ แค่ผมผิดปกตินิดเดียวพี่เทมส์ก็จับสังเกตได้แล้ว

“ไนล์ครับ พี่จะไม่พูดซ้ำนะ” พี่เทมส์ย้ำด้วยน้ำเสียงเอาจริง หน้าตาหล่อเหลาของเขาเริ่มมีร่องรอยของความไม่พอใจเกิดขึ้นบ้างแล้ว ผมถอนหายใจก่อนจะยื่นมือข้างที่เจ็บออกไปให้พี่เทมส์ดู

และทันทีที่พี่ชายของผมเห็นรอยแดงขนาดใหญ่ปรากฎที่ข้อมือ สีหน้าของพี่เทมส์ก็เปลี่ยนไปเป็นโกรธขึ้งทันที

“ใครทำ? ใครเป็นคนทำ?”

ผมเม้มปากแน่น แต่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ไม่รู้จะตอบคำถามพี่เทมส์ยังไง ให้อธิบายอะไรตอนนี้ก็แทบไม่มีแรงเลย

พี่เทมส์มองผมที่ไม่ยอมปริปากใดๆ ก่อนจะเผลอบีบข้อมือผมอย่างลืมตัวเพราะความโกรธ

“โอ๊ย พี่เทมส์ครับ ไนล์เจ็บ”

พอผมร้องบอกพี่เทมส์ก็เหมือนได้สติ ยิ่งพอเขาเห็นผมน้ำตาไหลไม่เลิก เขาเลยต้องเลิกล้มความตั้งใจที่จะเค้นเอาคำตอบจากผมแล้วเปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่นแทน

“ช่างเรื่องนั้นก่อน ตอนนี้ไนล์ต้องไปหาหมอ พี่จะพาไนล์ไปหาหมอเดี๋ยวนี้”

ผมทำท่าจะปฏิเสธ แต่พอเห็นตาคมของพี่ชายจ้องมาดุๆ ผมก็หุบปากฉับ ประกอบกับความเจ็บที่ข้อมือ ทำให้ผมต้องเปลี่ยนใจรับคำแทน

“ครับ ไปหาหมอครับ”

พี่เทมส์พาผมออกจากห้องตรงดิ่งไปที่รถโดยไม่พูดอะไรอีก พี่เทมส์เองก็ดูโกรธมากจนผมไม่กล้าพูดอะไร จนกระทั่งพี่เทมส์ขับรถมาถึงโรงพยาบาลใกล้ๆ กับคอนโดของพี่ภู

ผมถูกพาตัวมาที่ห้องฉุกเฉินก่อนที่คุณหมอจะเข้ามาสอบถามอาการและให้พยาบาลเข้ามาทำแผลตามลำดับ และพอทำแผลเสร็จ คุณหมอก็เชิญผมเข้าไปคุยในห้องตรวจ โดยมีพี่เทมส์ตามเข้าไปติดๆ

“สวัสดีครับคุณหมอ น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ?”

พี่เทมส์เอ่ยถามทันทีที่นั่งลงตรงข้ามกับคุณหมอสูงวัยท่าทางใจดี โดยมีผมนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ คุณหมอมองผมสลับกับพี่ชายยิ้มๆ ก่อนที่จะเริ่มพูด

“ข้อมืออักเสบครับ ช่วงสองสามวันนี้พยายามอย่าใช้ข้อมือหนัก ส่วนแผลน้ำร้อนลวกไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ทายาสักสองสามวันก็น่าจะดีขึ้นครับ”

“ครับคุณหมอ” ผมพยักหน้ารับหลังฟังคุณหมอบอกจบ ในขณะที่พี่เทมส์ยังดูไม่สบายใจเท่าไหร่นัก

“เค้าไม่ได้เป็นอะไรมากแน่ใช่ไหมครับหมอ?” พี่เทมส์ถามย้ำ ให้คุณหมอต้องยิ้มกว้างก่ออธิบายอีกรอบ

“ไม่มากเท่าไหร่ครับ อย่างที่หมอแจ้งไปข้อมือที่อักเสบน่าจะเพราะถูกรถเข็นกระแทกมาไม่ได้แรงเท่าไหร่ แต่เพราะมันจะระบมช่วงวันแรกๆ เลยอาจจะเจ็บอยู่บ้าง ประกอบกับมาถูกน้ำร้อนลวกอีกเลยไปกันใหญ่ แต่ถ้าหมั่นทายา และทานยาหมอให้ไป ไม่กี่วันก็ดีขึ้นครับ ไม่ต้องกังวลนะ”

“แล้วนอกจากระวังเรื่องไม่ให้ใช้ข้อมือหนักแล้ว มีอะไรที่ต้องระวังเพิ่มไหมครับ” พี่เทมส์ถามคุณหมออีกครั้ง

“หลักๆ ก็เรื่องการใช้งานแหละครับ แล้วก็พยายามอย่ากด ทับ หรือบีบข้อมือแรงเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้ระบมเพิ่มได้”

“โอเคครับ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ”

พี่เทมส์ยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอให้ผมยกมือขึ้นไหว้ตาม ก่อนที่เราสองคนจะพากันออกมาจากห้องตรวจ แล้วไปจ่ายเงินพร้อมกับรับยา

ผมเดินตามพี่เทมส์ไปห่างๆ มือข้างที่ไม่เจ็บกุมข้อมือข้างที่พันผ้าพันแผลไว้เบาๆ พี่เทมส์ดูหงุดหงิดและอารมณ์ไม่ดีมากๆ ผมเคยเห็นพี่เทมส์เป็นแบบนี้ครั้งล่าสุดก็ตอนที่ผมถูกลูกค้าพูดจาลวนลามใส่ จำได้ว่าพี่เทมส์ด่าลูกค้าเปิง ทำท่าจะวางมวยกันเลยด้วยซ้ำ เขาด่าลั่นว่าต่อให้จ้างด้วยเงินสูงเท่าไหร่เขาก็ไม่เอา ถ้ามาดูถูกคนที่เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจเขาอย่างผม

เราสองคนขึ้นมานั่งบนรถ โดยที่ผมได้แต่เงียบ ก้มหน้างุดแถมยังเม้มปากแน่น พี่เทมส์ตอนนิ่งแบบนี้น่ากลัวยิ่งกว่าตอนดุผมเป็นร้อยเป็นพันเท่า

“เกิดอะไรขึ้นไนล์? เล่ามา อย่าให้พี่ต้องถามซ้ำ”

ผมเหลือบมองหน้าพี่ชายที่ตอนนี้แทบจะไม่มองผมเลยด้วยซ้ำ ผมรู้ว่าเขากำลังโกรธ แต่ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน ในเมื่อตอนนี้ที่พึ่งเดียวที่ผมมีคือเขา .. พี่ชายของผม

“พี่เทมส์ ไนล์จะเล่า แต่.. ฮึก แต่พี่เทมส์มองกันหน่อย อึก.. ได้ไหมครับ”

ผมพูดไปสะอื้นไปและยิ่งมาร้องไห้หนักตอนที่พี่เทมส์หันมาหาแล้ววาดแขนโอบผมไว้ทั้งตัวให้เข้าไปซุกในอกอุ่นๆ ที่แสนจะปลอดภัยของเขา

“ชู่ว ไม่ร้องครับ พี่อยู่นี่แล้ว”

พี่เทมส์กอดผมแน่น พลางลูบหลังลูบไหล่ปลอบผมไม่หยุด จนผมสงบขึ้น ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่เทมส์ฟัง แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหลักๆ เลยผมไม่อยากเป็นสาเหตุให้พี่ภูกับพี่เทมส์ทะเลาะกัน แล้วยิ่งตอนนี้เขาทั้งคู่ยังต้องทำงานร่วมกัน งานที่เป็นโปรเจคใหญ่ของทั้งครอบครัวผมและครอบครัวของพี่ภู ผมจะเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้งานใหญ่พังไม่ได้

“วันนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ ไนล์คงโชคไม่ดีเอง” ผมเริ่มเล่าในขณะที่พี่ชายผมนิ่งตั้งใจฟัง “ตอนกลางวันไนล์ไปซุปเปอร์ฯ กับพี่ภูแล้วถูกเด็กเข็นรถเข็นมาชนข้อมือ พี่ภูจะพาไนล์ไปหาหมออยู่แต่ไนล์คิดว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“แล้วน้ำร้อนลวกล่ะ เกิดอะไรขึ้น?”

“อย่างที่ไนล์บอกแหละครับว่าไนล์โชคไม่ดี ตอนยกชาร้อนออกมาให้แขกพี่ภู ไนล์เผลอทำหกมันเลยลวกมือตัวเอง”

พี่ชายผมขมวดคิ้วฟังดูก็รู้ว่ามันโคตรไม่สมเหตุสมผลแต่ผมก็ทำตาใสยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูด

แหงล่ะ มันจะสมเหตุสมผลได้ยังไง ในมื่อผมถือถาดสองมือ มือหนึ่งถือจานรองที่มีถ้วยชาวางอยู่ด้านบน อีกมือก็ต้องกำลังถือถาดอยู่ มือผมยังไม่สัมผัสถูกถ้วยชาสักนิดแล้วผมจะทำถ้วยหกได้ยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหกรดมือตัวเอง

ผมไม่อยากจะโทษว่าคุณรันตั้งใจผลักถ้วยชาให้หกรดลงมาบนมือผม แต่จากการที่เธอกรีดร้องโวยวายทั้งที่น้ำร้อนจากถ้วยชาไม่ได้โดนมือเธอสักนิดนั้น ก็พอจะทำให้ผมเดาออก แต่การเจ็บตัวของผมนั้นยังไม่เท่ากับใจที่เหวอะหวะเพราะถูกพี่ภูตวาดและต่อว่า พี่ภูทำให้ผมไม่กล้าร้องสักแอะและบอกเขาว่าผมเจ็บแค่ไหน

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้พอผมเจอพี่เทมส์แล้วปล่อยโฮขนาดนั้น

“แล้วไอ้ภูมันไปไหน ถึงต่อให้ไนล์จะเป็นแค่คนดูแล แต่ถ้าไนล์เจ็บขนาดนี้มันก็ควรจะใส่ใจพาไปหาหมอหรือหายาให้หน่อยไหม” พี่ชายผมพูดอย่างไม่พอใจ ผมเลยต้องรีบอธิบาย

“พี่ภูไปส่งคุณรันครับ คุณรันเธอไม่ได้เอารถมา พี่ภูเลยต้องไปส่งเพราะมันดึกแล้ว”

พี่เทมส์ขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย ก่อนจะเอ่ยถาม “คุณรัน วิรัลพัชร น่ะเหรอ?”

“ใช่ครับ ท่าทางสนิทสนมกับพี่ภูพอตัว เห็นบอกว่าทำงานร่วมกัน”

“อ๋อ พี่ก็รู้จัก ไม่น่าเชื่อว่าจะไปเจอกันได้”

“บังเอิญเจอที่ห้างน่ะครับ พี่ภูเลยชวนไปทานข้าวเย็นที่บ้าน” ผมพูดเสียงอ่อย “แล้วไนล์ก็ก่อเรื่อง”

พี่ชายผมโบกปัดมือไปมาเป็นเชิงว่าไม่ให้ใส่ใจ “ช่างเถอะ ไนล์อย่าคิดมาก” พี่เทมส์ยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ “ว่าแต่ที่ไนล์ร้องไห้ล่ะ มันยังไง?”

“อะ เอ่อ .. คือ คือไนล์เจ็บน่ะครับ พอเห็นพี่เทมส์ก็เลยร้องไห้ ดีใจไม่คิดว่าพี่เทมส์จะมา” พี่เทมส์ยิ้มบางให้ผม ก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอด

“โชคดีที่พี่มีธุระจะคุยกับไอ้ภูพอดีเลยไปหา ... เลยได้เจอว่าเจ้าตัวเล็กของพี่กำลังงอแง” พี่เทมส์กดจูบที่ขมับผมเบาๆ “โอ๋นะครับคนเก่ง ไม่ร้องไห้นะ”

ผมซุกหน้าเข้ากับอกพี่ชายที่ยังคงอบอุ่นและปลอดภัยเสมอ โดยพยายามกลั้นก้อนสะอื้นไม่ให้หลุดร้องไห้ออกมาอีกรอบ เพราะไม่อยากให้พี่ชายเป็นห่วง

“ไนล์คิดถึงพี่เทมส์ คิดถึงมากๆ เลย”

ผมกระชับอ้อมแขนของตัวเองให้กอดพี่เทมส์แน่นขึ้น ผมคิดทบทวนอยู่หลายรอบว่าควรยอมแพ้เรื่องพี่ภูดีไหม ผมเหนื่อยกับสิ่งที่เป็นอยู่เหลือเกิน แต่คิดอีกทีว่าถ้าพี่เทมส์ถามว่าทำไมผมอยากจะหยุด อยากจะพอ ผมจะตอบพี่เทมส์ว่ายังไง ผมโกหกเขาไม่ได้หรอก แต่ถ้าขืนพูดความจริง พี่เทมส์กับพี่ภูมีหวังทะเลาะกันแน่ ไหนจะโปรเจคของครอบครัวผมกับพี่ภูอีก ผมจะปล่อยให้มันมีปัญหาเพราะความเอาแต่ใจของผมเหรอ แล้วผมจะพูดมันออกไปได้ยังไง สุดท้ายการเดินหน้าต่อจึงกลายเป็นทางออกที่ผมเลือก

เราสองคนพี่น้องกอดกันอยู่แบบนั้นพักใหญ่จนผมสงบลง พี่เทมส์เลยเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผม ก่อนจะเอ่ยบอกอย่างใจดี

“ป่ะ กลับกันดีกว่า ดึกแล้ว เดี๋ยวไอ้ภูกลับมาไม่เจอเราก็โวยวายอีก”

“ครับ”

ผมยิ้มรับบางๆ ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักสายตา แต่กลับผล็อยหลับไป จนกระทั่งรถพี่เทมส์จอดสนิทที่หน้าคอนโดพี่ภู

“ไนล์ครับ ถึงแล้วครับ”

พี่เทมส์ปลุกผมที่งัวเงียให้ตื่นขึ้นมา พอเห็นคอนโดคุ้นตาผมก็ตื่นและพาตัวเองลงจากรถอย่างอ่อนเพลียโดยมีพี่เทมส์ตามลงจากรถมาด้วย

“ให้พี่ไปส่งข้างบนไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ ไนล์เดินเข้าไปได้ พี่เทมส์กลับเถอะครับ ดึกแล้ว”

พี่เทมส์ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามากอดผมให้ผมเองกอดตอบอีกฝ่ายแน่น เราสองคนถ่ายทอดความรักและความคิดถึงให้กันก่อนจะผละออก พี่เทมส์ลูบศีรษะผม ก่อนจะกดจูบมาที่หน้าผากผมเบาๆ ผมซึมซับเอาความรู้สึกดีๆ เอาไว้ จนถึงเวลาที่ผมคิดว่าพี่เทมส์ควรจะกลับได้แล้วจริงๆ

“ไปได้แล้วครับ ขับรถกลางคืนอันตราย”

ผมจับพี่ชายตัวเองให้หันหลังก่อนจะดันคนตัวโตกว่าไปที่รถ พี่เทมส์หัวเราะก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถไป

“พี่ไปนะครับ แล้วไว้เจอกัน”

“ครับ ไว้เจอกัน”

ผมมองไฟท้ายรถพี่เทมส์ไปจนลับตา ก่อนจะหันหลังเดินเข้าคอนโด โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่ามีสายตาอีกคู่กำลังมองตามหลังผมไปอย่างไม่พอใจจนถึงขีดสุด

.

.

.

ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก็พบว่าไฟยังคงมืดสนิท แสดงว่าพี่ภูยังไม่กลับ ผมไม่แน่ใจว่าบ้านคุณรันอยู่ไกลแค่ไหน แต่นี่ก็จะห้าทุ่มแล้ว และในขณะที่คิดอะไรเพลินๆ และกำลังจะงับประตูห้องปิด ผมก็โดนมือใหญ่ผลักจนถลาเข้ามากลางห้อง ก่อนที่เสียงปิดประตูดังลั่นจะตามมาจนผมตกใจ พร้อมๆ กับที่ไฟสว่างขึ้นมา

“…พี่ภู”

ผมยืนงงอยู่กลางห้องนั่งเล่น โดยมีพี่ภูค่อยๆ สืบเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมเองที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก จู่ๆ ก็ถูกพี่ภูกระชากแขนข้างที่ไม่เจ็บเข้าหาเต็มแรง แล้วลากผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องนอนของพี่ภู

“พี่ภูครับ เดี๋ยวครับ นี่มันอะไรกันครับ?”

ผมขืนเท้าตัวเองเอาไว้ไม่ให้เดินไปตามแรงลาก เพราะรับรู้ได้ถึงสัญญาณอันตรายแบบที่ตัวเองเคยได้เจอไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ไม่นึกว่าการทำแบบนั้นของผมจะยิ่งทำให้พี่ภูโมโห เขาหันกลับมาแล้วช้อนตัวผมขึ้นอุ้มแนบอก จากนั้นก็เดินสาวเท้ายาวๆ เดินไปที่ห้องตัวเอง และพี่ภูในตอนนี้ก็ทำผมนึกกลัว และยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาโยนผมลงบนเตียงนอน ก่อนจะตามมาคร่อมไว้อย่างรวดเร็ว

“พี่ภู.. ฮึก พี่ภูครับ ไนล์กลัว ไนล์ทำอะไรผิดอีกหรอครับ .. ฮึก ไนล์ขอโทษ”

ผมเริ่มร้องไห้เมื่อรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น ผมตื่นกลัวไปหมด ร่างกายเริ่มดิ้นรนต่อสู้ แต่ผมสู้แรงคนที่คร่อมผมไว้ไม่ได้เลย

“กลัวงั้นเหรอ? หึ!” พี่ภูยื่นมือมาบีบคางผมแน่น สายตาที่จ้องมาทั้งโกรธและโมโหอย่างเห็นได้ชัด “กลัวแต่ปาก! อย่าคิดว่านายจะหลอกฉันได้ซ้ำสอง ฉันไม่มีวันโง่ให้นายเอาน้ำตามาขอความเห็นใจได้อีก!”

“ไนล์ขอโทษครับ .. ฮึก ไนล์ไม่รู้ว่าทำอะไรให้พี่ภูไม่พอใจ ฮืออ ไนล์ขอโทษครับ”

พี่ภูไม่ฟังที่ผมพูดเลยสักนิด เขาก้มลงมาซุกจมูกเข้าที่ซอกคอผม พร้อมกับลากริมฝีปากทั้งจูบ ทั้งกัด ทั้งขบเม้มจนผมเจ็บไปหมด โดยที่ผมทำได้แค่ขอร้องให้เขาหยุดทั้งน้ำตา

ได้แต่หวังลมๆ แล้งๆ ว่า พี่ภูจะได้สติและปล่อยผมไปเหมือนวันนั้น

“ฮึก.. พี่ภูปล่อยไนล์ไป ฮืออ ไปเถอะนะครับ” ผมพยายามใช้มือทั้งสองข้างดันตัวใหญ่โตของเขาออก และถึงแม้จะเจ็บมือข้างที่เพิ่งทำแผลมาแค่ไหน ผมก็ฝืนใช้มันดันไหล่พี่ภู “อึก.. ถ้าพี่ภูโกรธเรื่องคุณรัน นะ..ไนล์ ฮืออ ไนล์ขอโทษนะครับพี่ภู ฮึก พี่ พี่ภูปล่อยไนล์ไปเถอะนะ”

“อยู่เฉยๆ เป็นไหม ห๊ะ? อยู่ให้เฉยเหมือนตอนที่ยั่วให้ไอ้เทมส์กอด ไอ้เทมส์จูบน่ะ! ทำแบบนั้นบ้างสิ!”

ผมตกใจจนเผลอละมือที่กำลังดันไหล่พี่ภูออก เลยเหมือนเปิดโอกาสให้เขาจับล็อกมือทั้งสองข้างตรึงไว้กับเตียงนอน พี่ภูกำข้อมือจนผมเจ็บไปหมด แต่ตอนนี้ความกลัวมีมากกว่าทำให้ผมไม่กล้าร้องบอกอะไรออกไปอีก เพราะกลัวว่าจะทำใก้พี่ภูโกรธมากกว่าดิม

“พี่ภู..ฮึก พี่ภูกำลังเข้าใจผิดนะครับ” ผมพยายามอธิบายในขณะที่พี่ภูยังคงง่วนดับการลากริมฝีากไปทั่วไปหน้าและซอกคอ

เขาไม่ฟังผมเลย ไม่แม้สักนิด

พี่ภูรวบข้อมือผมทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเขามือเดียว และถึงแม้จะเป็นมือเดียวแต่เขาก็แรงเยอะกว่าผมมากด้วยขนาดร่างกายที่ต่างกัน ผมโดนบีบข้อมือจนเจ็บไปหมด โดยเฉพาะข้างที่อักเสบมันปวดตุบจนผมน้ำตาไหล ผมพยายามดิ้นรนแต่ก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้พี่ภูกำลังใช้มือข้างที่ว่างแกะกระดุมเสื้อผม แต่พอไม่ทันใจเขาก็กระชากเสื้อผมจนขาดมันบาดผิวเนื้อจนผมลนลานทำอะไรไม่ถูก

พี่ภูกวาดตามองร่างกายส่วนบนที่โผล่พ้นเสื้อที่ขาดกระจุยของผมด้วยสายตาในแบบที่ผมกลัว เขาไม่เหมือนพี่ภูที่ผมรู้จักเลยสักนิด และเขาก็ทำให้ผมกลัวกว่าเดิม โดยการก้มลงมาจูบและขบเม้มไปทั่วอก ไม่เว้นแม้ยอดถันสีอ่อนเล็กๆ เขาก็กัดลงมาจนผมสะดุ้ง และร้องออกมาด้วยความตกใจ

“โอ๊ย!”

ผมขยับตัวดิ้น ให้คนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายผมออกอาการหงุดหงิด เขายืดตัวขึ้นมามองผมดุๆ ก่อนจะพูดแต่ในสิ่งที่ผมไม่อยากฟังออกมา

“หึ! ตอนนี้ก็ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ทำไม? จะเล่นบทอะไรอีก? ทำเป็นตัวสั่น ทำเป็นไม่เคยงี้หรอ? เหอะ! ไปหลอกไอ้เทมส์โน่น ฉันไม่โง่ให้นายปั่นหัวอีกแน่”

“พี่ภูครับ ฮึก.. ไนล์กลัวแล้ว ปล่อยไนล์ไปเถอะนะครับ ฮือออ”

ผมพยายามขอร้องอีกครั้ง แต่คนที่กำลังรังแกผมแค่ยิ้มเหยียด “พูดมาก! น่ารำคาญ!”

พี่ภูก้มลงมาประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากผมอย่างแรงจนเจ็บ เขาดูดดึง ขบเม้มอย่างจาบจ้วง แล้วพอผมไม่ยอมเปิดริมฝีปากให้ เขาก็กัดที่ริมฝีปากล่างผมซ้ำๆ จนผมเผลอเผยอปากออกเพราะความเจ็บ เขาแทรกลิ้นตัวเองเข้ามาทันที พร้อมกับกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากผม ลิ้นเล็กๆ ของผมขยับหนีเขาอย่างจนตรอกแต่พี่ภูก็ไม่ยอมให้ผมหนีไปไหนได้ เขาตรงเข้าเกี่ยวกระหวัดและขยับริมฝีปากอย่างชำนาญ ผมพยายามดิ้นแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว ในหูได้ยินแต่เสียงเฉอะแฉะของน้ำลาย มันเป็นจูบที่ผมไม่มีความสุขเลยสักนิด ในขณะที่ผมหนีพี่ภูก็เอาแต่ตักตวง แม้ผมจะเริ่มหายใจไม่ทันเขาก็ไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายพอลมหายใจผมถี่กระชั้น เขาก็ยอมละริมฝีปากออก แต่ไม่ถึงเสี้ยวนาทีเขาก็ก้มลงมาจูบใหม่ จูบจนริมฝีปากผมเจ็บไปหมด


(อ่านต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2020 20:39:27 โดย Gade_ka »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(อ่านต่อจากด้านบน)


พี่ภูยอมละริมฝีปากออกจากปากผมในที่สุด ก่อนจะก้มลงครอบริมฝีปากตัวเองลงบนยอดอกสีอ่อนของผมแทน เขากัดสลับกับเลียเบาๆ จนผมเสียววูบในช่องท้อง แม้ผมจะดิ้นรนและไม่ยอมแต่ผมกลับปฎิเสธการตอบสนองของร่างกายตัวเองไม่ได้ และก็นั่นทำให้พี่ภูได้โอกาสดูถูกผมอีกรอบ

“หึ! เริ่มเผยธาตุแท้แล้วสินะ!” เขาลากนิ้วจากกลางอกลงไปที่สะดือแล้วผ่านท้องน้อยลงต่ำ จนไปถึงขอบกางเกงยีนส์ และก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมตกใจและเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วง รับรองฉันจะสนองให้นายแบบถึงอกถึงใจแน่ๆ”

เขาวางมือลงบนกลางตัวผม ผมตกใจและหวาดกลัวจนตัวสั่นไปหมด และเป็นอีกครั้งที่ผมตัดสินใจเทหมดหน้าตัก พูดขอร้องเขาอีกครั้ง

“พี่ ฮึก พี่ภู.. ไนล์ขอโทษครับ พี่ภู อึก พี่ภูอย่าทำอะไรไนล์เลยนะครับ ไนล์กลัวแล้ว ฮึก.. กลัวแล้วจริงๆ ฮือออ”

เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ที่พี่ภูชะงักไป เขามองผมที่ร้องไห้ตัวสั่น และขอร้องเขาอย่างจนตรอกด้วยแววตาที่อ่อนลง เขาลูบหน้าตัวเองแรงๆ อย่างสับสน ก่อนที่เขาจะมองผมอีกรอบ กวาดตามองไปทั่วใบหน้าและผิวเนื้อที่โผล่พ้นเสื้อผ้าผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก

และในช่วงเวลานั้น พี่ภูก้มลงประกบริมฝีปากตัวเองลงมาบนริมใปากผมอีกครั้ง ผมสะดุ้ง แต่ก็สัมผัสได้ว่าจูบครั้งนี้ต่างออกไป มันอ่อนโยนลง และไม่จาบจ้วงเหมือนจูบที่ผ่านมา

พี่ภูละเลียดเล็มฝีปากผมช้าๆ แล้วผละออก ก่อนจะกระซิบชิดริมฝีปากผม

“อย่าดื้อ อย่าเกร็ง .. ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำนายเจ็บ” ผมยังคงตื่นกลัว เมื่อพี่ภูก้มลงมาจูบอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป

เขาละเลียดเลาะเล็มริมฝีปากผมช้าๆ ทุกจังหวะที่เขาขบเม้มหรือดูดดึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่จาบจ้วง ไม่บังคับ เขาพร่ำจูบผมอยู่แบบนั้น ใช้ลิ้นเลียตามร่องปากที่ปิดสนิทผมเบาๆ ไม่นานผมก็หลับตาพริ้ม และเผยอริมฝีปากออกช้าๆ

พี่ภูค่อยๆ สอดลิ้นเข้ามา ราวกับกลัวว่าถ้าเขารีบร้อนแล้วผมจะตกใจ เรียวลิ้นร้อนของเขากวาดต้อนไปทั่วโพรงปากผมอย่างค่อยเป็นค่อยไป และค่อยๆ เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กของผมที่ยังคงกล้าๆ กลัว แต่ด้วยความอ่อนโยนที่พี่ภูมีให้ ทำให้ผมเผลอไผล และจูบตอบอีกฝ่ายไปอย่างไร้เดียงสา

ในหูของผมได้ยินแต่เสียงจูบของเรา เสียงเฉอะแฉะของน้ำลาย แต่ผมไม่ได้หวาดกลัวเท่าในตอนแรก เพราะตอนนี้พี่ภูไม่ได้บีบและตรึงข้อมือผมไว้อีกแล้ว เขาปล่อยมือทั้งสองข้างของผมให้เป็นอิสระ ในขณะที่ริมฝีปากเขาก็ยังคงวุ่นวายกับการบดจูบผมไม่หยุด เขายังคงกวาดต้อนและเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากผมเหมือนคนไม่รู้จักพอ จนลมหายใจผมเหมือนจะขาดห้วง ผมถึงได้ยกมือขึ้นบีบไหล่เขาเบาๆ

พี่ภูยอมละริมฝีปากออกในที่สุด เขามองผมหน้าผมที่ตอนนี้กำลังหอบหายใจ ริมฝีปากบวมเจ่อเผยอออกเล็กน้อย นัยน์ตากลมคลอหน่วยไปด้วยน้ำใส ก่อนที่พี่ภูจะก้มลงมาแตะจูบเบาๆ ที่แก้มผม พลางกระซิบบอกด้วยโทนเสียงที่ผมชอบ … โทนเสียงของพี่ภูคนที่นั่งอยู่ในร้านไอศครีมในตอนเด็ก

“ยกแขนของนายคล้องคอฉันไว้ แล้วไม่ต้องกลัว”

ผมทำตามอย่างว่าง่าย ด้วยการค่อยๆ ยกแขนของตัวเองคล้องคอพี่ภู ก่อนที่เขาจะก้มลงมาหาผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป้าหมายของพี่ภูเปลี่ยนไปเป็นที่ซอกคอแทน เขาพรมจูบไปทั่วซอกคอของผม ความรู้สึกแปลกประหลาดวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายผม … แต่เป็นความแปลกประหลาดในทิศทางที่ดี

พี่ภูแตะจูบ ลากเลื้อยริมฝีปากไปทั่ว บางทีเขาก็ขบเม้มดูดดึงเบาๆ ผมไม่รู้ว่าพี่ภูทำอะไร มันเจ็บจี๊ดแต่ก็ปนรู้สึกดีแปลกๆ พี่ภูทำให้ผมรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เค้าลากลิ้นไปที่ติ่งหูของผมก่อนจะเลียเบาๆ ผมสะดุ้งโหย่งพร้อมกลับหลุดเสียงน่าอายออกมา

“อื้อออ”

พี่ภูหัวเราะเบาๆ ที่ข้างหูของผมก่อนจะกระซิบถาม “ชอบหรอ? ไนล์ชอบรึเปล่า?” เขาไม่ถามเปล่าแต่กลับใช้ลิ้นเลียติ่งหูผมอีกครั้ง ก่อนจะจบด้วยการจูบลงมาเบาๆ

“นะ.. ไนล์ไม่รู้ครับ อื้ออ”

ผมเสียววูบวาบในช่องท้อง ไม่รู้ว่าความรู้สึกพวกนี้มันคืออะไรแต่มันก็รู้สึกดีเกินกว่าจะบอกให้พี่ภูหยุดได้ และถ้าหากผมคิดว่าเมื่อกี้มันมากจนท่วมท้นในความรู้สึกผมแล้ว พี่ภูก็สามารถทำให้มันมากมากขึ้นกว่าเดิมอีกได้ ด้วยการลากริมฝีปากลงมาตามแนวไหปลาร้าและกลางอกของผม

เขาทำแบบเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือเขาครอบริมฝีปากลงบนยอดอกสีอ่อนของผมก่อนจะออกแรงดูดเบาๆ ในขณะที่ยอดอกอีกข้างพี่ภูก็ค่อยๆ ใช้นิ้วสะกิดไปมา ผมสะดุ้งเฮือก เสียงที่หลุดออกมาราวกับไม่ใช่เสียงตัวเอง

“อ๊ะ อื้ออ”

และเหมือนพี่ภูจะยิ่งได้ใจเมื่อได้ยินเสียงครางของผม เพราะนอกจากเขาจะไม่หยุด เขายังเปลี่ยนมาดูยอดอกผมอีกข้างสลับกับการเลียเบาๆ ผมเสียวสะท้านไปทั้งตัว ทั่วร่างกายเหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน จนไม่รู้จะหาทางระบายยังไง นอกจากสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมของคนบนร่างแล้วขยุ้มเบาๆ

แต่เขาก็ยังคงไม่หยุดทรมานผม พี่ภูยังคงดูดย้ำๆ อยู่ที่ปลายถัน ผมเสียวจนแผ่นอกลอยคว้างไม่ติดที่นอน และทำได้แค่ส่งเสียงครางออกมาอย่างน่าอายแทน

“ชอบใช่มั้ย หื้ม?”

เขาหยัดตัวขึ้นมาถามผมหน้าซื่อแต่นัยน์ตากลับเป็นประกายราวกับรู้คำตอบดีอยู่แล้วแม้ผมจะไม่ได้ตอบอะไร และสภาพของผมตอนนี้คงน่าอายน่าดู ผมรู้เลยว่าผิวขาวๆ ของผมตอนนี้คงแดงเถือก เพราะผมรู้สึกร้อนไปร่าง ริมฝีปากบวมเจ่อ นัยน์ตาคลอไปด้วยน้ำใสเพราะแรงอารมณ์ ยอดอกทั้งสองข้างแข็งตึงขึ้นสีเข้มเล็กน้อยและเฉอะแฉะไปด้วยน้ำลายของพี่ภู

รวมไปถึงอวัยวะกลางร่างกายภายใต้กางเกงที่เริ่มปวดหนึบ


ถึงผมจะไร้เดียงสาไม่เคยกับเรื่องพวกนี้ แต่ผมก็รู้ดีว่าผมเป็นอะไร และสถานการณ์ต่อจากนี้จะเป็นยังไง


“อยากให้ฉันหยุดรึป่าว? ถ้านายไม่เต็มใจ ฉันจะหยุด ฉันจะไม่ฝืนใจนาย”

พี่ภูถามผมก่อนจะลูบแก้มผมเบาๆ ผมสับสนไปหมด ผมยอมรับผมว่าผมกลัว ผมไม่เคย แล้วไหนจะเรื่องตั้งท้องอีก ผมกังวลและมันคงแสดงออกทางสีหน้าทั้งหมด

“คือไนล์...” ผมอึกอักและไม่กล้าที่ตอบ จนพี่ภูเป็นคนเอ่ยปากขึ้นมาเอง

“ช่างเถอะ” พี่ภูผละออกจากตัวผม เขาฝืนยิ้ม ก่อนที่ทำท่าจะก้าวลงเตียง “คืนนี้ไม่กลับนะ ไม่ต้องรอ”

ผมถลาลุกขึ้นพรวดทันที พร้อมกับยึดข้อมือของพี่ภูไว้แน่น ภาพตอนหัวค่ำที่พี่ภูหันหลังเดินออกไปผุดขึ้นมาในหัว และผมก็อ่อนแอเกินกว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกครั้ง

“พี่ภูจะไปไหนครับ?”

“ฉันอยาก แต่ฉันจะไม่บังคับนาย นายไม่ให้ ฉันก็แค่ต้องไปหาเอาจากข้างนอก แค่นั้น”

ใจผมวูบโหวงพอได้ยินพี่ภูบอกแบบนั้น และพอพี่ภูทำท่าจะเดินออกไป แรงที่รั้งข้อมือเขาไว้ก็มากขึ้นโดยที่ผมแทบจะไม่รู้ตัวเอง

สุดท้ายผมก็พูดมันออกไปจนได้ … พูดออกไปโดยที่ลืมคิดถึงผลที่จะตามมา

ผมอาจจะเหมือนคนโง่เง่าที่ยอมพี่ภูซ้ำซาก แต่ผมก็แค่รักเขาเท่านั้น ผมไม่มีเหตุผลอื่นใดมากไปกว่านี้เลย

“ตะ แต่ถ้าไนล์ยอม พะ.. พี่ภูจะอยู่กับไนล์ใช่ไหมครับ”

เขาหันมายิ้มอ่อนโยนให้ผม ก่อนที่จะดันผมนอนราบและกลับมาทาบทับบนตัวผมอีกครั้ง

“ใช่ ฉันจะอยู่กับนาย .. ทั้งคืน”

ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่เลือกที่จะวางมือทั้งสองไว้ที่ไหล่พี่ภูแทน

พี่ภูดึงเสื้อที่จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ของผมโยนลงไปกองข้างเตียง ผมห่อไหล่และพยายามคู้ตัวทันทีเมื่อเห็นสายตาของพี่ภูมองมาราวกับถูกใจ เขาจ้องผมตาเป็นประกาย ในขณะที่ผมได้แต่เขินอายหลบสายตาและจ้องมองไปที่ไหล่พี่ภูแทน

“ไหน มองหน้าฉันหน่อย”

“ไม่เอาครับ นะ.. ไนล์อาย”

“อายอะไร หื้ม?” พี่ภูถาม แต่ไม่รอฟังคำตอบ เขาก้มลงซุกจมูกที่ซอกคอผมแทน

“พะ พี่ภู…”

เขาไม่ตอบ เพราะกำลังง่วนกับการขบเม้ม และลากริมฝีปากสลับกับกดจูบเบาๆ ไปตามแนวไหปลาร้าของผม ในขณะที่ผมได้แต่หลับตาแน่นเพราะความรู้สึกวูบวาบที่แล่นพล่านไปทั่วร่างทำให้ผมทำตัวไม่ถูก

พี่ภูหยัดตัวขึ้นอีกครั้ง เขาจัดการถอดเสื้อของตัวเองออกและนั่นก็ทำให้ผมต้องร้อนไปทั้งหน้า… พี่ภูหุ่นดีมาก และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นร่างกายของเขาเต็มๆ ตา กล้ามเนื้อหน้าท้องเรียงตัวสวย หัวไหล่กับช่วงแขนยาวเข้ากันได้ดีอย่างไม่มีที่ติ แล้วไหนจะผิวขาวๆ ของเขาอีก .. ให้ตาย พี่ภูมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบมากจริงๆ

และคนตัวโตกว่าก็ไม่ปล่อยให้ผมคิดฟุ้งซ่านนาน เขาก้มลงมาประกบจูบอีกครั้ง มันเป็นจูบที่อ่อนหวานในคราวแรกแล้วก็ค่อยทวีความเร่าร้อนขึ้น ริมฝีปากที่เผยอออกของผมถูกเรียวลิ้นร้อนของพี่ภูสอดเข้ามากวาดต้อนสำรวจไปทั่ว ผมจูบตอบเขาอย่างเงอะงะ แต่พี่ภูก็ใจเย็นพอที่จะค่อยๆ จูบนำ ลิ้นของเราเกี่ยวพันกันจนแนบสนิท เสียงจูบและเสียงหอบหายใจดังไปทั่วทั้งห้อง ในขณะที่จูบของพี่ภูก็ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ พอๆ กับมือใหญ่ที่ฟอนเฟ้น ลากเลื้อยไปทั่วตัวผม

เป็นอีกครั้งที่พี่ภูผละออก เขาก้มลงจูบแผ่นอกผมแวะสลับดูดดึงยอดอกสีอ่อนของผมทั้งสองข้างจนมันชูชันขึ้นมาอย่างน่าอาย ผมห้ามเสียงครางร้องของตัวเองไม่ได้เลย หนำซ้ำยังเผลอแอ่นอกเข้าหาริมฝีปากพี่ภูยามเขาผละออกอีกด้วย

“อ๊ะ..”

พี่ภูลากริมฝีปากกดจูบไปเรื่อยๆ ผ่านกลางอก ไล่ลงไปที่หน้าท้องผ่านแอ่งสะดือลงไปถึงท้องน้อย ก่อนจะจบลงที่ขอบกางเกงยีนส์

“ยกสะโพกหน่อยเด็กดี”

ผมทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะรู้สึกว่าตอนนี้กางเกงกับกางเกงชั้นในของตัวเองหลุดออกไปจากเรียวขาแล้ว ผมหนีบขาเข้าหากันทันทีด้วยความเขินอาย ผมไม่กล้ามองพี่ภูด้วยซ้ำ เลยไม่ทันได้เห็นว่าจังหวะที่ผมหันหน้าหนีนั้นร่างกายของพี่ภูเองก็เปลือยเปล่าไม่ต่างจากผม

พี่ภูแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างขาผม เขาจับแยกขาผมออก และสัมผัสที่ดุนดันอยู่ตรงสะโพกก็ทำให้ผมตาโต และยิ่งเหลือบตาลงไปมองยิ่งตกใจ ในขณะที่ภูมองไล่ไปทั่วตัวของผมโดยไม่มีเขินอายอะไรสักนิด ซึ่งพี่ภูคงรู้ว่าผมทำตัวไม่ถูก เขาถึงก้มลงมาจูบผมซ้ำๆ โดยที่ผมไม่ได้รู้เลยว่าเขากำลังเอื้อมมือค้นอะไรกุกกักที่ลิ้นชักข้างหัวเตียง

พี่ภูยังคงหลอกล่อผมด้วยจูบแสนหวาน พร้อมกับการรูดรั้งเป็นจังหวะที่แก่นกายของผม ตัวผมบิดเร้า ความรู้สึกทุกอย่างถาโถม ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยช่วยตัวเอง แต่ผมไม่คิดว่าการมีคนทำให้มันจะรู้สึกดีมากกว่าขนาดนี้ โดยเฉพาะคนที่ผมรัก

“อึก.. อ๊ะ พี่ภู”

คนที่คร่อมร่างผมละริมฝีปากออกจากริมฝีปากผม ทำให้ผมเผลอปล่อยเสียงครางออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนี้พี่ภูวุ่นวายอยู่กับอวัยวะกลางร่างกายของผม ในขณะที่เขามองผมด้วยสายตาเป็นประกายราวกับชอบใจที่เห็นผมเป็นแบบนี้

เขายังคงขยับมือเป็นจังหวะอย่างเชี่ยวชาญ ในขณะที่สมองผมขาวโพลน ผมทำอะไรไม่ถูกสักอย่างได้แต่กำผ้าปูที่นอนแน่นราวกับต้องการระบายอารมณ์ ผมกัดริมฝีปากบวมเจ่อของตัวเองแน่น น้ำใสไหลคลอกลบอยู่ในหน่วยตาเต็มไปหมด

แต่แล้วมือใหญ่ของพี่ภูก็หยุดขยับ ผมมองคนที่กำลังมองผมอยู่เหมือนกันด้วยสายตาไม่เข้าใจ แต่แล้วสัมผัสเย็นๆ ตรงช่องทางด้านหลังก็ทำให้ผมต้องสะดุ้ง

“ไนล์.. ฉันไม่ไหวแล้ว”

พี่ภูพูดแค่นั้นก่อนจะจับผมอ้าขากว้างกว่าเดิม แล้วหยิบเจลที่ไม่รู้ว่าเอามาจากไหนละเลงใส่นิ้วตัวเอง และปาดลงบนช่องทางด้านหลังของผม

“พะ พี่ภู”

“ผ่อนคลาย อย่าเกร็ง”

พอจบคำพี่ภูก็ค่อยๆ ดันนิ้วที่ชุ่มไปด้วยเจลเข้ามาในช่องทางของผม ผมเจ็บจนสะดุ้ง และพยายามถดตัวหนีตามปฏิกริยาตอบสนองของร่างกายเมื่อมีอะไรแปลกปลอมเข้ามา แต่พี่ภูไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้น เขากดสะโพกผมไว้แน่น โดยที่พยายามเล้าโลมดึงความสนใจผมด้วยการก้มลงมาดูดเลียยอดอกทั้งสองข้างของผมให้อย่างเอาใจ ในขณะที่แทรกนิ้วเข้ามาในตัวผมเรื่อยๆ จากหนึ่งเป็นสอง และจากสองเป็นสามในที่สุด

ผมที่กำลังหลงละเมอไปกับการปรนเปรอจากริมฝีปากของพี่ภูก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อนิ้วที่อยู่ในช่องทางเริ่มขยับ พี่ภูขยับนิ้วเข้าออก จากที่เจ็บในครั้งแรกก็เริ่มชินเมื่อพี่ภูยังคงเล้าโลมผมด้วยริมฝีปากไม่หยุด เขาขยับนิ้วอยู่อย่างนั้นจนความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นอีกความรู้สึกที่ผมบรรยายออกมาไม่ถูก แต่มันรู้สึกดีจนผนังอุ่นด้านในตอดรัดไม่หยุด

“โคตรแน่น แม่งเอ๊ย! นี่ขนาดแค่นิ้ว”

พี่ภูบ่นพึมพำอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่เข้าใจ ตอนนี้ผมสนใจแค่นิ้วที่ขยับเข้าออกอยู่ในช่องทางกับความปวดหนึบของแก่นกายของตัวเอง มันปวดจนผมต้องเอื้อมมือลงไปช่วยตัวเองรูดรั้ง แต่พี่ภูกลับปล่อยมือที่กดสะโพกผมออกแล้วใช้มือข้างนั้นรูดรั้งแก่ยกายให้ผมแทน

เมื่อถูกปรนเปรอจากมือใหญ่จากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หัวสมองผมก็ขาวโพลน ได้แต่บิดตัวและส่งเสียงครางน่าอายเพราะแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆ นิ้วที่ขยับเข้าออกอยู่ในช่องทางด้านหลังก็ถูกถอนออก ความวูบโหวงเข้ามาแทนที่ แต่พี่ภูก็ยังคงขยับมือรูดรั้งให้ผมไม่หยุด ในขณะที่พี่ภูที่อยู่ตรงกลางหว่างขาที่อ้ากว้างของผมจะขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่เขาจะก้มลงมาจูบผม พร้อมทั้งกระซิบย้ำไปย้ำมา

“ฉันไม่ไหวแล้ว ขอฉันเข้าไปนะ”

จบคำพี่ภูแก่นกายใหญ่โตของพี่ภูที่ชะโลมชุ่มด้วยเจลก็ค่อยๆ ดันเข้ามา แม้มันจะเข้ามาแค่ส่วนหัว แต่ผมก็เจ็บมากจนเหมือนตรงนั้นจะฉีกขาด ผมพยายามดันหน้าท้องพี่ภูให้เขาขยับออก แต่พี่ภูก็ไม่ให้ควมร่วมมือสักนิด เขายังคงดันมันเข้ามาช้าๆ ผมเจ็บจนน้ำตาไหล ปากที่เพิ่งเป็นอิสระจากการถูกพี่ภูจูบก็พร่ำขอไม่เลิก

“พี่ภู..อึก ไนล์เจ็บ เอาออกไปเถอะนะ อึก.. นะครับ”

“ชู่วว อย่าเกร็ง ไนล์ ผ่อนคลายหน่อย .. อย่าเกร็ง”

พี่ภูก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง ในขณะที่มือใหญ่ก็รูดรั้งแก่นกายเล็กของผมไม่หยุด เขาพยายามเบนความสนใจและก็ทำได้ดีจนสามารถดันท่อนเนื้อของตัวเองเข้ามาได้จนสุดลำ

“แม่ง!”

พี่ภูสบถออกมาทันทีที่เข้ามาในตัวผมได้ ในขณะที่ตัวผมเองเจ็บจนน้ำตาริน โชคดีที่พี่ภูยอมแช่ตัวไว้อยู่แบบนั้นไม่ได้ขยับในทันที จนผ่านไปสักพักเขาก็จูบผมอีกครั้งก่อนจะถามเบาๆ

“หายเจ็บหรือยัง? ถ้านายไม่ให้ฉันขยับทั้งๆ ที่ทั้งตอดทั้งแน่นขนาดนี้ ... อีกไม่นานฉันต้องเสร็จแน่ๆ”

คนตัวโตถามผมด้วยสีหน้าทรมาน ในขณะที่ผมเองก็ไม่ได้เจ็บเท่าตอนแรกเลยพยักหน้าช้าๆ ซึ่งนั่นก็เหมือนทำให้ความอดทนของพี่ภูสิ้นสุดลง เขาโถมกายเข้าหาผมอย่างบ้าคลั่ง จับขาผมแยกออกกว้างกว่าเดิมและกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่หยุด

ผมที่เจ็บในทีแรก จู่ๆ ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เมื่อแก่นกายของพี่ภูกระแทกโดนจุดๆ หนึ่งที่ทำให้ผมเสียวสะท้านจนเผลอหลุดคราง

“อ๊ะ อ๊า”

“ตรงนี้หรอ หื้ม?”

ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ดูเหมือนพี่ภูจะรู้ดี เขากระแทกเข้ามาไม่หยุด กระแทกจนตัวผมที่ทอดกายอยู่ใต้ร่างเขาสั่นคลอนไปทั้งตัว ในขณะที่มือใหญ่ก็ช่วยปลุกเร้าแก่นกายของผมที่สงบไปตอนที่ผมเจ็บมากๆ ให้กลับมาแข็งขืนอีกครั้ง ซึ่งมันก็ใช้เวลาไม่นานเลยสักนิด พี่ภูก้มลงมาจูบที่ปากสลับดูดยอดอกที่แข็งตึงของผมไม่หยุด ผมที่ถูกปรนเปรอจากทุกทางเสียวสะท้านไปทั้งตัว ในหูได้ยินแต่เสียงหยาบโลนของผิวเนื้อที่กระทบกัน และถึงแม้อุณภูมิของเครื่องปรับอากาศจะเย็นแค่ไหนก็สามารถบรรเทาความร้อนของเพลิงอารมณ์ระหว่างผมกับพี่ภูในตอนนี้ได้ มันราวกับผมจะมอดไหม้ได้ทุกเมื่อเมื่อพี่ภูขยับกายสอดใส่เข้ามา

พี่ภูกระแทกซ้ำๆ เข้ามาที่จุดเดิม จนแก่นกายที่แข็งชันของผมปริ่มน้ำใส ภายในช่องท้องกระตุกเกร็ง และรู้สึกเหมือนปลายทางจะอยู่ไม่ไกล

“ไนล์ อึก.. ไนล์จะเสร็จครับ”

ผมร้องบอกพี่ภูและหลังจากพี่ภูโถมกายเข้ามาอีกไม่กี่ครั้ง ผมก็ปลดปล่อยตัวตนออกมาจนหมดสิ้น หัวสมองขาวโพลน รู้สึกเหมือนตัวเองลอยขึ้นสูงและร่วงหล่นลงมาอย่างมีความสุขพร้อมๆ กับเสียงครางที่หลุดออกมาจากลำคอ

“อีกนิดนะไนล์ อึก.. อีกนิด”

พี่ภูจับขาผมพาดไหล่ และกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงจนตัวผมสั่นคลอน ผมที่เพิ่งหมดแรงจากการปลดปล่อยเลยได้แต่นอนนิ่งๆ ให้พี่ภูโถมกายเข้ามาไม่หยุด เขาดึงแก่นกายของตัวเองออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกแรงๆ สวนกลับไปใหม่ ทำแบบนี้อยู่สองสามรอบแล้วผมก็สัมผัสได้ว่าพี่ภูตัวกระตุก จากนั้นความอุ่นร้อนก็ฉีดเข้ามาในช่องทางพร้อมๆ กับเสียงครางต่ำอย่างสุขสมของพี่ภู

“อาาาาาาห์”

และมันเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ผมเพิ่งตระหนักได้ถึงตัวตนของพี่ภูที่ไหลย้อยออกมาจากช่องทางของผมช้าๆ

พี่ภูไม่ได้สวมถุงยางอนามัย เขาไม่ได้ป้องกันอะไรตอนร่วมรักกับผม

.

.

.

To Be Continue

------------------------------------------------

//ยืนเหม่ออยู่หน้าบ้านพี่เทมส์

คอมเม้นท์ตอนที่แล้วพุ่งทะยานมาก ด่าอิพี่ภูซะส่วนใหญ่ 5555555555 จัดมาได้ค่ะ จัดมาอีก (แต่อย่าด่านุ ใจนุบาง นุมั่ยสู้คน 55555) คราวนี้ขออีกคนละเม้นท์เหมือนเดิมน้า ครั้งที่แล้วกำลังใจมาเต็ม ปั่นตอนต่อไปสามวันจบ ถ้าเที่ยวนี้ได้กำลังใจดีๆ วันจันทร์หน้าเราจะมาลงตอนต่อไปให้ค่ะ

เพื่อแทนคำขอบคุณและตอบแทนกำลังใจที่ดีจากพวกคุณ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้าคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2020 20:56:18 โดย Gade_ka »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าา เสร็จอีพี่ภูซะแล้ววว

ออฟไลน์ PsapBBBB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไนล์ลูกกกกก ฉันกดโกรธอิพี่ภูมากๆ ไม่ถามไม่ไถ่มาถึงใส่เอาๆ ต้องโดนไม้หน้าสาม ถ้าตอนหน้ายังร้ายแม่ยึดไนล์คืน ไม่ต้องรักคนแบบอิพี่ภูแล้ว พี่เทมส์มาช่วยนัองเร็วๆ อยากเห็นหร้าตอนรู้ความจริงว่าเขาเป็นพี่น้องกัน และน้องยอมถอยกลับไม่อยู่ข้างๆจริงๆ อิพี่ภู :m31:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาด่าว่าน้องอีกจะโทรเรียก
พี่เทมส์มาเอาน้องกลับบ้านอิตาพี่ภู

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เอ้าเสร็จเลย เรียบร้อยโรงเรียนไอ้พี่ภูซะแล้ว ว๊า! งานนี้จะด่าไอ้พี่ภูก็ด่าได้ไม่เต็มปาก เพราะครั้งนี้ไนล์ยอมเขาเอง หากหลังจากนี้เขาด่าว่าง่ายก็ก้มหน้ายอมรับเถอะนะ หึ มีครั้งนี้ มันก็ต้องมีต่อไป ถึงพี่เทมส์จะถามย้ำกับหมอว่าต้องระวังเรื่องมือยัง แต่ถ้าคนเจ็บเองหรือคนที่อยู่ด้วยไม่คิดจะระวังมันก็เท่านั้น เหอะๆ งานนี้จะยังไงต่อ รู้แต่ว่าหลังจากนี้คือจะกลับไปหาลมไม่ได้แล้ว ก็ดีเพราะยังไงไนล์ก็ไม่มีวันกลับไป ตัดใจตอนนี้ดีกว่ารู้ว่าเขาท้องด้วยกันนะจ๊ะลม 55555 หลังจากนี้จะเป็นไงรอดูต่อไป สนุกกค่า ชอบบบ ขอบคุณที่มาต่อยาวเลย  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จนได้สินะ เดะก้อจะหมดเวลา อาจจะมีน้องอีก

แระอีพี่ภูก้อโง่อีก

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เมื่อไหร่พี่ภูจะฉลาดค่ะ  :mew2: เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เกลียดอิพี่ภูว่ะ แล้วนี่รู้ไหมว่านี่คือครั้งแรกของน้อง ประสบการณ์โชกโชนก็น่าจะรู้นะ
ถ้าไม่รู้ก็ควายแล้วล่ะนะพี่ภู

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
Universe 18th : ความสัมพันธ์ที่ก่อตัว


Kirin’s Part

ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า ควานมือไปข้างๆ หวังจะดึงเด็กที่ใช้เวลาด้วยกันเมื่อคืนมากอด แต่ก็พบกับความว่างเปล่า

ไนล์ลุกออกไปแล้ว

ผมลุกขึ้นนั่งหลังจากตั้งสติได้ คิดทบทวนทุกการกระทำของตัวเอง แล้วก็นึกหงุดหงิด มันเป็นเพราะความขาดสติของผมแท้ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างมันลุกลามขนาดนี้ แต่จะพูดว่าขาดสติก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะหลังจากที่ไนล์ร้องไห้ใหญ่โตขอให้ผมปล่อย ผมก็พอยั้งตัวเองขึ้นมาได้บ้าง แต่การกระทำต่อจากนั้นของผมก็ไม่ได้ดีเด่จากเดิมขึ้นมาสักเท่าไหร่

เพราะสุดท้าย ผมก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้ไนล์เต็มใจนอนกับผมอยู่ดี

เรื่องราวเมื่อคืนมันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมกลับมาจากไปส่งคุณรัน ตอนที่ผมกำลังจะเลี้ยวเข้าคอนโด ผมเห็นไนล์ยืนกอดกับไอ้เทมส์ ท่าทางอาลัยอาวรณ์จนน่าหงุดหงิด ดูเหมือนไนล์กับไอ้เทมส์จะนัดเจอกันลับหลังผมทุกครั้ง แล้วจะให้ผมเชื่อได้ไงว่าสองคนนั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลย และที่ยิ่งกระพือความโมโหของผมให้มากขึ้นก็เห็นจะเป็นการที่ไนล์ไม่ได้สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปสักนิด ยังคงตีหน้าซื่อใส่ผม ราวกับผมเป็นคนโง่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสักอย่าง

และเพราะความโกรธเลยผลักดันให้ผมทำเรื่องแย่ๆ ใส่อีกฝ่าย ผมปล้ำจูบไนล์โดยที่ไม่คิดจะฟังความอะไรทั้งนั้น ตอนนั้นผมขาดสติจนคิดแค่ว่าในเมื่อไอ้เทมส์ยังมีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ แล้วทำไมผมจะทำบ้างไม่ได้ ในเมื่อผมเองก็มีสิทธิ์ขาดในตัวเด็กคนนี้ แถมยังมีมากกว่าไอ้เทมส์ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะในฐานะนายจ้างหรือในฐานะคนที่ไนล์ให้ความสำคัญ


ผมไม่ได้หลงหรือเข้าข้างตัวเอง เพราะถ้าผมไม่ใช่คนสำคัญของไนล์เขาจะหาทางเข้ามาอยู่ใกล้ชิดผมทำไม


และพอยิ่งผมได้กอด ได้จูบ ได้ครอบครองความหอมหวานที่เคยจินตนาการถึงมาแล้วหลายครั้งต่อหลายครั้ง ยิ่งทำให้ผมขาดสติ ผิวกายของเด็กตรงหน้าทำให้หยุดไม่ได้ ยิ่งได้ครอบครองยิ่งรู้สึกไม่พอ ยิ่งได้กอดได้จูบ ผมยิ่งโลภมาก อยากได้มากกว่าเดิม จนกระทั่งไนล์ร้องไห้และขอให้ผมหยุด

แต่ตอนนั้น ผมถลำลึกมากเกินกว่าจะห้ามตัวเองได้อีกต่อไป

ผมรู้ว่าที่ผมทำอาจจะเลว การที่ผมยอมหยุดไม่ขืนใจไนล์ไม่ได้ทำให้ผมเป็คนดีขึ้นมา เพราะสุดท้ายผมก็ชั่วยิ่งกว่า ด้วยการหลอกเด็กตรงหน้าให้ตายใจ ผมหลอกให้เขายอมเป็นของผม เพียงเพราะผมอยากได้เขาโดยที่ไม่ดิ้นรนหรือเอาแต่กรีดร้องผลักไส

และก็อย่างที่ผมบอกว่าบางครั้งผมก็ไม่เข้าใจว่าตกลงไนล์เป็นเด็กยังไงกันแน่ เขาดูเหมือนจะเจนจัดชอบล่อหลอกผู้ชายอย่างผม อย่างไอ้เทมส์ให้หัวปั่น แต่เรื่องบนเตียงเมื่อคืนผมการันตรีได้เลยว่าไนล์แทบจะไม่ประสีประสา เขาแทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าต้องวางมือตรงไหน หรือแสดงออกยังไงเวลามีความสุข ทุกอย่างมันดูเก้กังและไร้เดียงสาไปหมด และไอ้ความเก้กังไร้เดียงสาที่ว่าก็ทำให้ผมแทบคลั่ง ผมฟัดไนล์จนแทบจะจมเตียง และผมก็ยอมรับได้อย่างเต็มปากว่าเซ็กส์กับไนล์เมื่อคืนเป็นเซ็กส์ที่ดีมากที่สุดนับตั้งแต่เลิกกับจีน ผมสุขจนล้นอก

และนั่นทำให้ผมรู้ว่ามันก็คงจะหยุดไม่ได้แค่เพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวสำหรับผมคงไม่พอ มีแต่จะทำให้ผมต้องการเขามากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ...

ผมหยุดคิดฟุ้งซ่าน และเหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าสายมากแล้ว เลยตัดสินใจพาร่างกายตัวเองเข้าไปอาบน้ำ คิดว่าไนล์คงตื่นไปเตรียมกับข้าวเรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็ต้องคิดผิดถนัด เมื่อเปิดประตูห้องออกไปแล้วพบแต่ความว่างเปล่า

ผมนึกร้อนใจ เพราะอยู่กันมาเป็นเดือนกว่าแล้วไนล์ไม่เคยเหลวไหลกับหน้าที่ของตัวเอง ต่อให้จะถูกผมดุหรือต่อว่าแค่ไหน เขาจะเตรียมข้าวเช้าไว้รอผมเสมอ แต่ในวันนี้มันต่างออกไปและกว่าผมจะรู้ตัวอีกที สองเท้าของตัวเองก็พาผมมาหยุดยืนอยู่หน้าหน้าห้องของเด็กที่ผมเพิ่งจะมีความสัมพันธ์ไปด้วยเมื่อคืน ผมบิดลูกบิดเต็มแรงแล้วก็ต้องหงุดหงิดเมื่อพบว่ามันล็อค

ผมพาตัวเองที่งุ่นง่านกลับไปที่ห้องอีกครั้ง ก่อนจะหยิบกุญแจสำรองติดมือมาและเดินกลับไปที่ห้องไนล์อีกครั้ง และเมื่อไขประตูห้องเข้าไป ผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นไนล์นอนพึมพำไม่ได้สติอยู่บนพื้นข้างเตียงนอน ใบหน้าและลำคอแดงก่ำ แถมยังเพ้อไม่ได้ศัพท์อีกต่างหาก

ผมจัดการโอบประคองคนตัวเล็กกว่าขึ้นอุ้ม แล้วก็ต้องขมวคิ้วแน่นด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าอุณหภูมิของร่างกายเด็กในอ้อมกอดสูงผิดปกติ แถมยังมีอาการตัวสั่นเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างด้วย

ผมจัดการวางคนตัวเล็กกว่านอนบนเตียงให้อยู่ในท่าทางที่สบายที่สุด ในขณะที่ไนล์เอาแต่นอนคู้ตัวเข้าหากัน โดยที่ปากเล็กที่ตอนนี้ทั้งบวมทั้งช้ำทั้งแดงก่ำเพราะฤทธิ์ไข้พึมพำว่าหนาวไม่หยุด

ผมโกยผ้าห่มที่อยู่ข้างตัวไนล์ขึ้นมาห่มเอาไว้ ก่อนจะลูบศีรษะทุยแล้วก้มกระซิบถ้อยคำปลอบโยน โดยไม่รู้เลยว่าไนล์จะได้ยินมันหรือเปล่า

“ชู่ว เด็กดี ทนหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะเช็ดตัวให้… ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร”

ไนล์ยังคงพึมพำไม่ได้สติและดิ้นไปดิ้นมาจนน่าสงสาร ผมจึงรีบออกไปนอกห้องอีกครั้ง และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำอะไรไม่ถูกจริงจัง ไม่ใช่ผมไม่รู้วิธีดูแลคนป่วย ตรงกันข้าม ผมรู้ดีเลยแหละ เพราะเมื่อก่อนจีนเป็นคนป่วยง่ายผมเลยมักจะต้องทำหน้าที่ดูแลคนป่วยอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะคนที่ทำให้ไนล์ป่วยคือผมเอง


ผมเป็นคนที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ และนั่นทำให้ลึกๆ แล้ว ผมรู้สึกผิดไม่น้อย


ผมจัดการเตรียมน้ำในอุณหภูมิปกติใส่กะละมัง จากนั้นก็คว้าผ้าขนหนูผืนเล็กจากในตู้ห้องแต่งตัวมา ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปที่ห้องของไนล์ ตั้งใจแล้วว่าจะหมั่นเช็ดตัวให้คนที่กำลังเป็นไข้เพื่อไล่ความร้อนจากร่างกายไนล์ให้เบาลง เพื่ออย่างน้อยไนล์จะได้สบายตัวขึ้น จากนั้นค่อยหาข้าวหายาเพื่อลดไข้ให้เด็กตรงหน้าไปทีละอย่าง

และพอผมเลิกผ้าห่มที่ห่มไนล์ออกเพราะตั้งใจจะเช็ดตัวให้ แต่กลับกลายเป็นทำให้ไนล์หนาวสั่นกว่าเดิม ผมเลยต้องดึงคนตัวเล็กกว่ามาพิงอกตัวเองไว้พร้อมกับกอดเขาไว้หลวมๆ แล้วใช้มืออีกข้างถือผ้าเช็ดไปตามซอกคอ ข้อพับแขน ตั้งใจว่าจะให้ไนล์ปรับอุณหภูมิร่างกายให้ได้ก่อน ค่อยถอดเสื้อออกแล้วค่อยเช็ดไล่ความร้อนอีกที

ผมมองไปที่ซอกคอและตามผิวบริเวณที่โผล่พ้นเสื้อของไนล์ มันเต็มไปด้วยรอยจูบสีแดงๆ ที่ผมเป็นคนทำกระจายไปทั่ว ลึกๆ ในใจแล้วผมรู้สึกผิดไม่น้อย แต่แล้วก็มีบางอย่างที่ทำให้ผมสะดุดตา จนต้องเลื่อนสายตากลับไปมองอีกครั้ง

ข้อมือของไนล์แดงก่ำแถมยังบวมช้ำ ผมค่อยๆ จับข้อมือไนล์ขึ้นมาดูแต่แค่นั้นก็ทำให้เด็กในอ้อมกอดสะดุ้งเฮือก

“เจ็บ.. ฮึก ไนล์เจ็บ”

คนตัวเล็กกว่าพึมพำว่าเจ็บซ้ำไปซ้ำมา แถมยังร้องไห้น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ทำเอาผมรู้สึกผิดจนต้องเบือนหน้าหนี

เมื่อตั้งสติได้ ผมก็ค่อยๆ แกะผ้าพันแผลที่ข้อมือไนล์ออก ตอนแรกเข้าใจว่าไนล์พันไว้เพราะปวดจากที่โดนรถเข็นกระแทกเมื่อวาน และที่อักเสบมากขึ้นก็เพราะเมื่อคืนผมเผลอรุนแรงกับเขาอยู่ไม่น้อย แต่พอผ้าพันแผลหลุดออกจากข้อมือเล็ก ผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่ามันมีแผลพุพองและบวมแดง แม้จะไม่ใช่แผลใหญ่โตอะไรแต่ก็มองออกทันทีว่าเกิดจากน้ำร้อนลวก

ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นถุงยาตกอยู่ข้างเตียง เลยก้มลงไปเก็บมันขึ้นมา พอแกะดูก็เห็นยาทาแก้น้ำร้อนลวก ยากินแก้อักเสบ เลยจัดการแกะเอายาทามามาให้ไนล์ก่อน จากนั้นก็ตัดสินใจออกไปต้มข้าวต้มอ่อนให้ไนล์กิน เผื่อพอกินยาแก้อักเสบเข้าไปแล้วจะได้ไม่แสบท้อง

ผมทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพราะอยากจะกลับเข้าไปดูแลเด็กที่นอนไม่สบายอยู่ในห้องใจจะขาด ไนล์แทบไม่ได้สติเลยตอนผมกลับเข้าไปอีกครั้ง จะกินยายังยาก เรื่องกินข้าวคือลืมไปได้เลย สุดท้ายผมเลยต้องใช้ทางเลือกสุดท้าย ตัดสินใจเอายาเข้าปากตัวเอง ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากจิ้มลิ้มของคนที่กำลังไข้ขึ้น ไนล์ดิ้นนิดหน่อย แต่ผมก็ส่งยาเข้าไปในปากของอีกฝ่ายจนได้ ทุลักทุเลพอสมควร แต่ก็ผ่านไปด้วยดี

และพอเห็นไนล์ปรับอุณหภูมิตัวเองได้ ผมก็ตัดสินใจถอดเสื้อของไนล์ออก คนไม่สบายห่อตัวเล็กน้อยเพราะความเย็น แม้ผมจะปิดเครื่องปรับอากาศไปแล้ว แต่สำหรับคนป่วยคงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่ ผมเลยรีบเช็ดตัวไนล์อย่างว่องไว พยายามไม่สนใจผิวกายขาวเนียนที่ตอนนี้มีร่องรอยสีแดงแต่งแต้มอยู่ประปราย ยิ่งกลับทำให้น่ามองและเร้าอารมณ์ผมยิ่งกว่าเดิม

ผมต้องหักห้ามความรู้สึกของตัวเองอย่างมาก ซึ่งมันก็ทำได้ไม่ยากเท่าไหร่ เมื่อสายตาผมเลื่อนมาเจอกับแผลที่ข้อมือของไนล์

ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาในอกจนผมนึกตกใจ ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ข้อมือไนล์บวมช้ำมากขึ้นนั้นมาจากผม ผมที่ทำรุนแรงกับเขา ผมที่ขาดสติจนไม่ได้รับรู้และมองเห็นเลยว่าไนล์ในตอนนั้นเจ็บปวดมากแค่ไหน และถ้านึกย้อนไป เขาจะตัวกระตุกและร้องขอให้ผมปล่อยทุกครั้ง ยามที่ผมบีบและกำข้อมือเขาไว้แน่น แต่ผมไม่ได้สนใจเลย ผมเอาแต่หลงระเริงเพลิดเพลินกับร่างกายขาวนวลไร้ตำหนิตรงหน้า ความหอมหวานที่ผมอดใจรอมานาน ทำให้ผมขาดสติ และถึงแม้ตอนหลังสติผมจะกลับมาเต็มร้อย แต่ผมก็ยังคงทำตัวเลวทรามด้วยการหลอกล่อให้ไนล์ยอมเป็นของผมอย่างเต็มใจ

และอีกเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกผิดกี่ยวกับข้อมือไนล์ แม้จะไม่อยากยอมรับความจริง

ผมโดนคุณวิรัลพัชรต้มจนเปื่อย คนที่โดนน้ำร้อนลวกมือไม่ใช่เธอ แต่เป็นไนล์ต่างหากที่ถูกน้ำร้อนหกใส่เต็มๆ

ที่จริงหลักฐานมันก็มีให้เห็นอยู่ตรงหน้า แต่เพราะความอคติและเพราะความงี่เง่าของผมทำให้ผมเลือกที่จะมองข้ามข้อเท็จจริง และความสมเหตุสมผลหลายอย่าง เพิ่งจะมาเข้าใจถ่องแท้ตอนที่เห็นแผลจากข้อมือไนล์

ในขณะเดียวกันคุณวิรัลพัชรที่ผมพาไปหาหมอกลับไม่เป็นอะไรเลย ทีเพียงรอยแดงน้อยๆ ที่ปลายนิ้วด้านบนเท่านั้น ตอนแรกผมก็แปลกใจว่าทำไมเธอถึงไม่มีร่องรอยของการโดนน้ำร้อนลวกเลยแม้แต่นิด ซึ่งถ้ามันเป็นเพราะว่าเธอโชคดีที่ไม่ถูกน้ำร้อนกระเด็นใส่ แต่ทำไมตอนนั้นเธอถึงร้องไห้มากมายเสียจนผมตกใจ เพราะคิดว่าน้ำร้อนๆ คงลวกมือเธอเต็มๆ

แต่กลายเป็นว่าคนที่โดนคือไนล์

ไนล์ที่ผมเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจไยดี ไนล์ที่นั่งกุมมือน้ำตาคลออยู่ที่พื้นพรหม ใบหน้าหวานทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกเจ็บ แต่ผมกลับไม่คิดจะถามไถ่หรือเป็นห่วงเป็นใยเด็กในความดูแลของตัวเองสักนิด เอาแต่คิดว่าคนที่อาการหนักคือคุณรัน ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นอะไรเลย

คนที่เป็นและเจ็บหนักคือไนล์ต่างหาก

ผมมองใบหน้าแดงก่ำด้วยพิษไข้ของไนล์ด้วยสายตารู้สึกผิด ผมนึกรู้และนึกสงสัยในทันทีว่าเผลอๆ คนที่ปักดแก้วน้ำชาอาจจะเป็นคุณรันเองด้วยซ้ำ ผมน่าจะมองออกตั้งแต่แรกว่าคุณรันไม่ชอบไนล์ และถ้าระแวงสักนิดเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด

ผมจะโทษว่าเป็นความผิดของไนล์ฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ผมเองก็ผิดไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังหนีไม่พ้นความไม่พอใจอยู่ดี

ทำไมต้องเป็นไอ้เทมส์ ทำไมต้องขอความช่วยเหลือจากมัน ทำไมไนล์ถึงรอผมไม่ได้ แล้วไหนจะไอ้ท่าทางอาลัยอาวรณ์ตอนจะลากันนั่นอีก จะให้ผมคิดเป็นอื่นได้ยังไง

แต่ก็เอาเถอะ ยังไงซะตอนนี้ไนล์ก็เป็นของผมแล้ว ผมถือว่าผมมีสิทธิ์ในตัวของไนล์เต็มที่ ต่อจากนี้ไม่ว่าใครหน้าไหน หรือแม้แต่ไอ้เทมส์ก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับไนล์ทั้งนั้น

ผมลูบแก้มเด็กตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย พยายามรวบรวมความคิดที่วุ่นวาย และหันมาสนใจว่าไข้ไนล์ลดลงหรือยัง พอลองจับลองแตะตามหน้าผากและซอกคอก็เห็นว่าอุณหภูมิไม่ร้อนเท่าตอนแรกแล้ว แถมตอนนี้ไนล์ยังเหงื่อออกเรื่อยๆ ด้วย ผมเลยต้องหมั่นเช็ดตัว และเปลี่ยนเสื้อที่เปียกชุ่มของไนล์ออก

ผมคอยดูแลไนล์ไม่ห่าง โดยไม่พยายามหาเหตุผลว่าทำไมตัวเองถึงทำแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรู้สึกผิด หรือไม่ว่าจะเป็นเพราะผมทำเพราะอยากทำ ผมก็พยายามไม่ไปคิดถึง ขอแค่ตอนนี้ ขอให้ไนล์ได้อาการดีขึ้นสักนิดก็ยังดี

สารภาพตามตรงว่าตอนนี้ผมแทบจะหลงลืมจุดประสงค์ของตัวเองไปแล้วด้วยซ้ำว่าพยายามดึงไนล์มาอยู่ด้วยเพราะอะไร พยายามกันไนล์ออกจากไอ้เทมส์เพื่อนสนิทเพราะอะไร ดูเหมือนผมจะจำแทบไม่ได้แล้วถึงเหตุผลที่เคยลั่นไว้ของตัวเอง

ผมรับรู้แค่ว่าตอนนี้ไนล์เป็นของผมคนเดียว ของผมแค่คนเดียวเท่านั้น

.

.

.


(อ่านต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(ต่อจากด้านบน)


Nateetouch’s Part


ผมตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัว และปวดไปทั้งตัว โดยเฉพาะช่วงล่าง มันระบมจนเหมือนผมจะขาดใจให้ได้ ผมแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าผมกลับมาห้องตัวเองได้ยังไง จำได้แค่ว่าหลังจากที่พี่ภูผล็อยหลับไปผมก็พยายามจะพาตัวเองออกมาจากห้องพี่ภู

พอตรงเข้ามาถึงห้องนอนตัวเองได้ ผมก็ตรงดิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า แม้ทุกย่างก้าวที่ออกเดินจะเจ็บแสนเจ็บแต่ผมก็พยายามทน ผมรื้อค้นหากระเป๋าเป้ของตัวเองเพื่อจะหยิบ ‘ยา’ ที่อาหมอให้ไว้ออกมากิน แต่จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็พร่าไปหมด แล้วผมก็ล้มลงหมดสติไปโดยที่ยาเม็ดที่ว่าร่วงหล่นออกจากมือโดยที่ยังไม่ได้เอาเข้าปากตามความตั้งใจ

ผมหลับยาวไม่ได้สติจวบจนเกือบเที่ยงของอีกวัน ตอนที่สะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงพร้อมด้วยอาการร้าวระบมไปทั้งตัวโดยเฉพาะช่วงล่าง ผมพยายามจะพลิกตัวเพื่อพาตัวเองลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำแต่ก็พบว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิด ช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงไปเจ็บตึงไปหมด และเพราะความเจ็บนั้นก็ทำให้ผมระลึกได้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อคืน


ผมกับพี่ภู.. เรามีอะไรเกินเลยกัน

มี.. โดยที่ผมเต็มใจ



กว่าจะรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำอยู่มันพลาดเกินอภัยก็ตอนที่เขาถอนตัวออกจากร่างกายผม ตอนที่ผมเพิ่งตระหนักรู้ว่า ทั้งผมและเขาเราไม่ได้ป้องกันอะไรเลย พี่ภูไม่แม้แต่จะสวมถุงยางอนามัย และตัวผมเองแม้รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองตั้งท้องได้ก็ไม่คิดจะห้ามปราม หนำซ้ำยังปล่อยตัวปล่อยใจทอดกายให้เขาอย่างเต็มอกเต็มใจอีกต่างหาก

ผมจะไม่โทษว่าเป็นความผิดของพี่ภู เพราว่าผมก็สมยอมเองทั้งนั้น ใครหลายคนอาจจะมองว่าผมโง่ ผมไม่ฉลาด ไม่รู้เท่าทันคำหวานและคำหลอกลวงของพี่ภูที่แค่อาจจะอยากมีความสัมพันธ์กับผม

เขาไม่ได้รัก เขาไม่เคยรัก แต่พอเขาทำท่าจะจากไปและทิ้งผมไว้คนเดียว ไอ้คนที่รักเขาหมดใจแบบผมจะทำอะไรได้ นอกจากอ้อนวอนและยอมให้ในสิ่งที่เขาต้องการทุกอย่าง แม้สิ่งเหล่านั้นจะไม่ได้การันตรีเลยว่าเขาจะรัก หรือจะทำให้เขามองเห็นผมเหมือนที่ผมเห็นเขาตลอดในสายตา ยอมแม้จะรู้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ผมก็ยังคงยอม

ผมนั่งน้ำตาร่วง รู้สึกผิดทั้งกับตัวเอง ผิดกับพี่เทมส์ ผิดกับพ่อกับแม่ที่ผมยอมปล่อยตัวปล่อยใจมากขนาดนี้ พวกเขาจะผิดหวังแค่ไหนถ้าได้รู้ว่าผมที่พวกเขาเฝ้าฟูมฟักมาตั้งแต่เด็ก ปกป้องจากอันตรายต่างๆ กลับยอมทอดกายให้ผู้ชายที่อยู่ด้วยกันได้แค่เกือบสองเดือน ไม่ใช่ผมไม่รู้ ไม่ใช่ผมไม่กังวลว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดในสักวัน แต่พอถึงเวลาแม้ร่างกายผมจะปฏิเสธ แต่หัวใจผมไม่ฟังเลย ผมรักเขา ถึงจะเป็นเหตุผลโง่ๆ แต่มันก็คือความรักที่ทำให้ผมยอมเขาทุกอย่าง

ผมสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อเลิกคิดฟุ้งซ่าน เสียดายไป เสียใจไป ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ที่ผมต้องทำตอนนี้ก็คือทบทวนว่าเมื่อคืนกินยาที่อาหมอให้มาแล้วรึยังต่างหาก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก จนผมเห็นเม็ดยาตกอยู่หน้าตู้นั่นแหละ ถึงได้นึกรู้ว่ายังไม่ได้กิน

ผมตะกายลงจากเตียง แล้วค่อยๆ เดินไปหยิบยาที่ตกไว้เข้าปาก ก่อนจะเดินโขยกเขยกกลับที่เตียงเพื่อหยิบขวดน้ำที่หัวเตียงมาดื่ม โดยไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าขวดน้ำรวมถึงกะละมังเล็กๆ มาวางอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ในใจมีแต่คำของอาหมอวิ่งวนไปทั่ว


‘น้องไนล์ ยาที่อาให้มีแค่สามเม็ด เอาไว้ใช้เวลาที่ฉุกเฉินจริงๆ มันกินติดๆ กันไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นน้องไนล์ต้องดูแลตัวเอง พยายามไม่ต้องกินยาพวกนี้เลยจะดีที่สุด’


ผมยกมือขึ้นลูบท้องตัวเองเบาๆ พร้อมกับคิดทบทวนว่าเท่ากับตอนนี้มียาเหลือแค่สองเม็ด และผมไม่ควรจะกินมันอีกถ้าไม่จำเป็น นั่นหมายความว่าหลังจากนี้ไป ผมจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้ ต่อไปนี้ผมต้องห้ามใจอ่อนกับพี่ภู ผมต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้

แต่แล้วทุกความคิดก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อผมได้ยินเสียงเปิดประตู

“ตื่นแล้วหรอ?”

เป็นพี่ภูที่เดินเข้ามาพร้อมกับชามข้าวต้มกลิ่นหอมฉุยในมือ ทำเอาผมพูดไม่ออกชั่วขณะ ภาพที่ผมเห็นมันเกินจินตนาการไว้มาก

ไม่สิ .. นี่ไม่ใช่ที่ผมคิดไว้เลยด้วยซ้ำ ที่ผมคิดมีแค่ว่าพี่ภูคงไม่คุยเรื่องนี้อีก แล้วกันแล้วก็คือแล้วไป เขาไม่ได้ขืนใจผม เป็นผมเองที่ยินยอม เป็นผมเองที่ไม่ปฏิเสธ เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องสนใจผมด้วยซ้ำ แต่พี่ภูกลับถือชามข้าวต้มเข้ามาหาผมถึงในห้อง

แล้วแบบนี้จะให้ผมทำใจแข็งกับเขาได้ยังไงกัน

“ลุกขึ้นมาทำไม? เดี๋ยวก็ล้มลงไปอีกหรอก”

พี่ภูวางชามข้าวต้มไว้ที่หัวเตียง ก่อนที่จะตรงเข้ามาประคองผมแล้วพาไปนั่งที่เตียง โดยที่ผมได้แต่ทำตัวงกๆ เงิ่นๆ วางตัวไม่ถูก อีกใจก็ไม่ชิน ส่วนอีกใจก็ดีใจเหลือเกินที่ได้เจอกับพี่ภูคนในร้านไอศครีมอีกครั้ง

“ขะ ขอบคุณครับ”

ผมเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายเสียงเบา พอเหลือบตามองก็เห็นพี่ทำหน้าเก้อๆ ดูทำตัวไม่ถูกพอๆ กับผม แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้ผมแปลกใจ เมื่อเป็นคนเริ่มพูดก่อนอีกครั้ง

“แล้วนี่ดีขึ้นรึยัง? ยังปวดหัวอยู่ไหม?” พี่ภูยื่นมือมาแตะหน้าผากผม จากนั้นก็เอามืออังที่ซอกคอต่อ “แต่ไข้ลดแล้ว น่าจะดีขึ้นบ้าง”

“นะ ไนล์.. ไนล์ไม่เป็นอะไรแล้วครับ” ผมเหลือบมองกะละมังที่หัวเตียงก็เข้าใจ เลยยกมือขึ้นไหว้คนอายุมากกว่า “ขอบคุณพี่ภูมากนะครับที่ช่วยดูแลไนล์”

ผมได้ยินเสียงพี่ภูถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่มือใหญ่ที่ถูกยื่นมาวัดอุณหภูมิจะเปลี่ยนมาลูบเบาๆ ที่ศีรษะผมแทน

“ก็.. ฉันเป็นต้นเหตุ” เขาพูดเสียงเบา ก่อนจะทำให้ผมประหลาดใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน “ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เจ็บ ฉันไม่รู้ว่านาย.. ไม่เคย”

ผมแก้มร้อนทันทีที่ได้ยินพี่ภูพูดจบ ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรรู้สึกอะไรก่อน ควรจะต้องดีใจ หรือควรจะต้องเขินกับเหตุการณ์นี้กันแน่

และในขณะที่ผมทำตัวไม่ถูกพี่ภูก็ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง ให้ผมได้นึกขอบคุณเขาไม่น้อย

“ช่างเถอะ กินข้าวก่อนดีกว่า นี่เที่ยงแล้ว เดี๋ยวนายจะได้กินยาด้วย” เขาพูดแต่กลับมองลงไปที่สะโพกของผม “ว่าแต่… โอเคดีใช่ไหม?”

ตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าพี่ภูหมายถึงเรื่องอะไร แต่พอมองตามสายตาเขาแล้ว หน้าผมก็ต้องร้อนฉ่าอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ยอมข่มความอายตอบพี่ภูกลับไป

“ยังตึงๆ เจ็บๆ นิดหน่อยครับ แต่ไม่เป็นอะไรมากแล้ว” ผมอ้อมแอ้มตอบ แต่พี่ภูทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ ผมเลยต้องย้ำ “ไนล์ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ แล้วนะครับ ได้นอนพักสักวันคงดีขึ้น”

ผมพูดจริงๆ ไม่ได้โกหกให้พี่ภูสบายใจ เมื่อคืนมันอาจจะเจ็บมากก็จริง แต่เมื่อกี้พอได้ลองลงเดินผมก็พบว่ามันไม่ได้เจ็บหนักเท่าตอนแรก แต่ก็ยอมรับแหละว่าอาจจะต้องพักเลยตัดสินใจบอกพี่ภูไปตามตรง

“งั้นวันนี้ก็พักเถอะ ไม่ต้องทำอะไรหรอก เดี๋ยวฉันจะเรียกป้ามลให้เข้ามาทำความสะอาดบ้านแล้วก็ทำกับข้าวไว้ นายจะได้ไม่ต้องลุกไปทำ”

“ครับพี่ภู… แล้วข้าวต้มนี่” ผมถามด้วยความแปลกใจ ถ้าป้ามลยังไม่มาแล้วใครเป็นคนทำข้าวต้ม หรือพี่ภูจะซื้อมา

“ฉันทำเอง” เขาเกาคอแก้เก้อ จนผมหลุดยิ้ม “กินได้น่า สมัยอยู่อเมริกาฉันก็ทำอาหารกินเองบ่อยๆ”

ผมรีบหยิบชามข้าวต้มขึ้นมาวางบนตักทันทีพร้อมกับเริ่มกิน ในขณะที่พี่ภูยังคงอธิบายเรื่อยๆ ให้ผมได้ยิ้มออก และคิดว่าข้าวต้มชามนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน

“แต่ข้าวมันอาจจะอืดไปหน่อย พอดีฉันทำไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่นายตื่นมากินไม่ไหว เมื่อกี้ฉันเลยออกไปอุ่นมาให้มันร้อนๆ”

แม้มันจะเป็นประโยคเรียบเรื่อย แต่กลับทำให้น้ำใสๆ ไหลกลิ้งออกมาจากดวงตา ให้ความรู้สึกว่าข้าวต้มชามนี้ช่างอร่อยและพิเศษสำหรับผมเหลือเกิน

เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าตัวเองได้กลับไปที่ร้านไอศครีมร้านเดิมอีกครั้ง และคนที่นั่งตรงหน้าผมก็คือพี่ภู เด็กผู้ชายใส่ชุดนักเรียนคนที่มักจะยิ้มกว้างพร้อมกับมีขนมมาฝากผมเสมอ

“ฮึก…”

พี่ภูเดินเข้ามานั่งข้างผมทันทีที่ผมหลุดเสียงสะอื้น และเอ่ยถามผมอย่างกังวลใจ

“เป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม? รู้สึกไม่สบายอีกแล้วหรอ?”

"ปะ เปล่าครับ.. ฮึก” ผมพยายามห้ามน้ำตา และหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผลเพื่อบอกกับพี่ภู “ไนล์แค่.. แค่เกรงใจที่ทำให้พี่ภูต้องเดือดร้อนมาทำอาหารให้ครับ”

คนที่นั่งข้างผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่นที่จะขยี้ผมผมแรงๆ

“คิดเยอะ รีบๆ กินเข้าไปเร็ว เดี๋ยวจะได้กินยาแล้วนอนต่อ”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะตักข้าวต้มเข้าปากจนเกือบหมดชาม แต่แล้วก็กินต่อไม่ไหว ซึ่งพี่ภูเองก็คงเห็น เขาเลยยื่นยากับแก้วน้ำมาให้

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้แล้วรับทั้งสองอย่างมาจากพี่ภู ก่อนจะกินยาและน้ำตามเข้าไป พอทุกอย่างเรียบร้อยทั้งห้องก็กลับมายู่ในความเงียบอีกครั้ง

“พักผ่อนเถอะ”

พี่ภูว่าก่อนจะจับผมให้นอนราบลง ผมเองที่ตกใจในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ขยับตัวนอนดีๆ ใจจริงผมมีคำถามมากมายอยากถามพี่ภู แต่พอเห็นเขาเฉยและเลือกที่จะไม่พูดอะไร ผมเลยเดาว่าเขาคงไม่ยากพูดถึงมันอีก ผมรู้ดีและผมเข้าใจว่าเรื่องระหว่างเราเมื่อคืนมันคงเกิดจากความผิดพลาดบางอย่างที่พี่ภูเองก็คงไม่ได้ตั้งใจ ถ้าผมไม่รั้งเขาไว้ เขาก็คงจะออกไปหาผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ที่อื่นได้ไม่ยาก แต่เป็นเพราะผมร้องขอ เป็นเพราะผมไม่อยากอยู่คนเดียว และเป็นเพราะผมไม่อยากเห็นเขาเดินออกไปและทิ้งผมไว้ลำพังเป็นรอบที่สอง เหตุการณ์ทุกอย่างมันถึงได้เกิดขึ้น

แล้วแบบนี้จะไปโทษว่าเป็นความผิดของพี่ภูได้ยังไง ในเมื่อเป็นเพราะผมทั้งนั้นที่ทำให้เรื่องของเรามันเลยเถิด

สุดท้ายผมเลยตัดสินใจปิดเปลือกตาลงเงียบๆ และปล่อยให้เรื่องนี้มันพ้นผ่านไป … ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ผมยังมีความสุขมากอยู่แท้ๆ แต่ทำไมตอนนี้มันกลับเจ็บในอก

และถึงแม้พี่ภูจะนั่งดูแลรอให้ผมหลับอยู่ข้างๆ อาจจะด้วยความรู้สึกผิดในส่วนลึกจิตใจ แต่กลับทำให้ผมรู้สึกอยู่ห่างไกลกับเขาเหลือเกิน

.

.

.

“ไนล์ ลุกไหวไหม ตื่นมากินยาอีกรอบไหวรึเปล่า? หรืออยากให้ฉันพาไปหาหมอ”

ผมเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากได้ยินเสียงพี่ภูเรียกอยู่ข้างหู อาการปวดหัวดีขึ้นมาก แต่ยังคงครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ตื่นขึ้นมารอบแรกเหมือนสติผมยังกลับมาไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ไข้ผมลดแล้ว อาการปวดหัวก็แทบไม่เหลือ ผมเลยรู้สึกอายขึ้นมาแปลกๆ

“ไม่เป็นไรครับพี่ภู ไนล์ดีขึ้นแล้ว”

พี่ภูยกมือใหญ่ขึ้นมาทาบหน้าผากผมหลังจากที่ผมพูดจบ ในขณะที่ผมได้แต่ก้มหน้างุด เพราะพอสติกลับมาแล้ว เหตุการณ์เมื่อคืนก็ไหลเข้ามาเป็นฉากๆ

“อืม.. ตัวไม่ค่อยร้อนแล้ว” เขาถอนหายใจเบาๆ “แล้วอาการอื่นล่ะ ดีขึ้นไหม?”

“ไม่ปวดหัวแล้วครับ แต่ยังปวดตัวนิดหน่อย” ผมยิ้มบางๆ ส่งให้คนตัวสูงกว่า พร้อมกับพุ่มมือยกขึ้นไหว้ “ขอบคุณ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่เดือดร้อนต้องให้พี่ภูมาดูแล”

คนอายุมากกว่าจ้องผมนิ่ง ผมอ่านสายตาเขาไม่ออก มันทำตัวไม่ถูก ได้แต่กำมือแน่นวางอยู่บนหน้าตัก จนพี่ภูเอื้อมมือมาแกะมือที่กำแน่นของผมออก แล้วดึงมือข้างที่เจ็บไปวางบนหน้าตักตัวเองก่อนจะลูบเบาๆ พลางถามผมอย่างอ่อนโยน

“ยังเจ็บอยู่ไหม?”

และแค่คำถามสั้นๆ จากพี่ภูก็ทำเอาน้ำตาผมไหลเป็นทาง

“ฮึก… มะ ไม่ ไม่เจ็บแล้วครับ”

“คือ.. ฉัน เอ่อ ฉัน…”

พี่ภูอึกอัก ผมเลยส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา เพราะรู้ดีว่าเขาจะพูดอะไร และมันคงไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยชินเท่าไหร่ แต่ผมก็ดีใจนะที่อย่างน้อยเขาก็พยายามที่จะพูดมันออกมา

“ไม่เป็นไรครับพี่ภู ไนล์เข้าใจ ด้วยอะไรต่างๆ ตอนนั้น พี่ภูจะคิดว่าไนล์ผิดก็คงไม่แปลก”

“แต่ฉันงี่เง่าที่ไม่ฟังเหตุผล หรือไม่พยายามฟังสิ่งที่นายอธิบายเลย” พี่ภูพูดด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ ให้ผมต้องยิ้มแล้วย้ำกับเขาอีกครั้งว่าผมไม่ได้เก็บมาคิดมากอะไรแล้ว

แค่เขาดูแลผม ดีกับผม อย่าว่าแต่เรื่องที่มือผมเจ็บเลย แม้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนผมก็ไม่ถือโทษเขาสักนิด สุดท้ายมันก็หนีไม่พ้นความโง่งมงายในความรักของตัวเองที่ผมมีต่อพี่ภูอยู่ดี

“ก็ตอนนั้นพี่ภูคิดว่าคุณรันเจ็บจริงๆ นี่ครับ จะโมโหจนไม่อยากฟังผมแก้ตัวก็ไม่แปลก”

คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมถอนใจพลางส่ายศีรษะอย่างปลงตกเมื่อเห็นผมอ้างนั่นอ้างนี่แทนเขาไม่เลิก

“นายนี่มัน.. เฮ้อ” แวบหนึ่งที่ผมเห็นสายตาของพี่ภูทอแสงอ่อนโยนลง “ช่างเถอะ อาบน้ำไหวมั้ย หรืออยากให้ฉันเช็ดตัวให้”

ผมก้มหน้างุดเพราะความเขินแต่ก็ตัดสินใจตอบออกไป “อาบไหวครับ ไนล์เอ่อ.. อยากทำความสะอาด”

พอผมพูดออกไปแบบนั้นก็เห็นพี่ภูแอบยิ้ม ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ผมเขินหนักเข้าไปใหญ่ แต่โชคดีที่พี่ภูไม่ได้แกล้งอะไรผมมาก เขายอมปล่อยให้ผมไปอาบน้ำเองโดยที่ไม่ได้เซ้าซี้อะไร นอกจากพูดให้หัวใจผมพองโตเล่น

“งั้นก็รีบไปอาบ เดี๋ยวออกมาจะได้กินข้าวกินยาอีกรอบ แล้วฉันจะได้ทำแผลที่ข้อมือให้ใหม่ด้วย”

ผมเตรียมอ้าปากจะแย้งว่าทำเองได้ เพราะเกรงใจพี่ภู แต่เขาก็พูดสวนออกมาก่อนราวกับรู้ว่าผมจะพูดอะไร

“คือ..”

“ไปอาบน้ำไนล์ อย่าดื้อ และก็อย่าให้ฉันพูดซ้ำ… ไม่งั้นฉันนี่แหละจะเข้าไปอาบให้นายเอง” พี่ภูพูดเสียงดุและจ้องผมอย่างคาดโทษ ทำเอาผมต้องกลืนทุกคำพูดลงคอแล้วเดินเร็วๆ ไปที่ห้องน้ำแทน

เลยไม่ทันได้เห็นว่าพี่ภูมองตามผมด้วยสายตาอ่อนโยนแค่ไหน

แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ไม่เห็น เพราะถ้าเห็นผมคงต้องสำลักความสุขตายแน่ๆ ขนาดแค่นี้ผมก็สุขจนไม่รู้จะสุขยังไงแล้ว แค่พี่ภูทำดีกับผมนิดเดียว ใจผมก็พร้อมจะยอมเขาทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้เลยสักนิด

.

.

.

ผมแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาห้องนั่งเล่นด้านนอก เห็นป้ามลกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ส่วนพี่ภูก็ยืนโทรศัพท์ไม่ไกลออกไป ผมเลยตัดสินใจจะเดินเลี่ยงเข้าไปหาป้ามลในครัวแทน แต่หูก็ไม่วายได้ยินพี่ภูคุยโทรศัพท์อยู่ดี

“ครับ ครับคุณรัน ได้ครับ เดี๋ยวผมไปหานะครับ”

ใจผมร่วงเหมือนตกลงไปในหุบเหวลึก เพราะไม่ว่าพี่ภูจะรู้สึกผิดกับผมแค่ไหน แต่สุดท้ายคนที่เขาเลือกก็ยังคงเป็นคุณรันอยู่ดี

ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ส่วนป้ามลเองพอแกหันมาเห็นผมก็ถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“อ้าว คุณไนล์ ป้าเห็นคุณภูบอกคุณไนล์ไม่สบาย คุณไนล์ดีขึ้นแล้วหรอคะ?”

“ไนล์ดีขึ้นแล้วครับป้า ไม่เป็นอะไรมากแล้ว” ผมยิ้มบางพร้อมตอบ แม้จะยังไม่ค่อยมีแรง แต่โดยรวมผมก็ดีขึ้นกว่าเมื่อเช้ามาก

“คุณภูสั่งให้อาหารเย็นเป็นข้าวต้มอ่อนๆ เดี๋ยวป้าเคี่ยวตรงนี้เสร็จแล้วจะยกออกไปให้ คุณไนล์ไปนั่งรอที่โต๊ะกับคุณภูดีไหมคะ ตรงนี้ร้อน”

ผมอึกอัก เพราะเห็นพี่ภูคุยโทรศัพท์กับคุณรันที่เป็นปลายสายอยู่ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปฏิเสธอะไรกับป้ามล พี่ภูก็เดินเข้ามาสมทบพอดี สีหน้าเขาดูลำบากใจเล็กน้อยตอนที่จะพูดกับผม ทำเอาผมนึกรู้ว่าเขาจะพูดอะไร ก็ได้ยินมาบ้างแล้ว

“เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอก นายกินข้าวกินยาเลยไม่ต้องรอ”

“ครับ” ผมตอบรับ ไม่ได้มองหน้าพี่ภู เพราะกลัวจะทำหน้างี่เง่าใส่เขา มันเหมือนเป็นนิสัยเสียที่แก้ไม่หาย เวลาไม่สบายผมจะงอแงมากกว่าปกติ เมื่อก่อนอยู่ที่บ้านกับพ่อกับแม่กับพี่เทมส์ ด้วยความเป็นลูกคนเล็ก เป็นคุณหนูของบ้าน ใครก็ตามใจ ตามโอ๋ผมทั้งนั้น เลยทำให้ผมติดนิสัย

แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้าน และพี่ภูก็ไม่ได้พิศวาสผมขนาดนั้นด้วย แค่วันนี้เขาดูแล เขาดีกับผม เท่านี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว

“ไนล์” เจ้าของเสียงทุ้มเรียกผมอย่างอ่อนใจ “เวลาตอบรับใครน่ะ มองหน้าเขาด้วย”

ผมรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะเหลือบมองพี่ภู “ครับ ไนล์เข้าใจแล้ว”

พี่ภูยังคงมีสีหน้าที่ลำบากใจ ผมเลยตัดสินใจเบนสายตาหนี จึงไม่รู้ว่าเขาทำหน้าแบบไหนตอนที่เอ่ยสั่งป้ามล

“ป้ามลครับ วันนี้ไม่ต้องรีบกลับนะครับ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนไนล์ก่อน ดูแลให้เขาทานข้าวทานยาให้เรียบร้อย แล้วเดี๋ยวผมจะรีบกลับมา”

“ได้ค่ะคุณภู”

ผมมองนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้มันเย็นมากแล้ว คำนวณเวลาว่าถ้าพี่ภูออกไปตอนนี้ กว่าจะกลับก็คงไม่หนีฟ้ามืด แล้วถ้าจะให้ป้ามลกลับดึกๆ ผมก็ไม่สบายใจเท่าไหร่

“ผมอยู่ได้…”

“นี่ไม่ใช่ประโยคคำถามไนล์ นี่เป็นประโยคคำสั่ง” พี่ภูพูดเสียงเรียบกับผม ก่อนจะหันไปหาป้ามลอีกรอบ “ผมฝากด้วยนะครับป้ามล แล้วเดี๋ยวยังไงผมจะรีบกลับ”

“ได้ค่ะ คุณภูไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวป้าอยู่กับคุณไนล์เอง คุณภูไปเถอะค่ะ”

“ขอบคุณครับป้า”

พี่ภูพูดแค่นั้นแล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอน เพื่อหยิบกระเป๋สาสตางค์และกุญแจรถ ก่อนที่จะเดินวกกลับมาหาผมอีกครั้ง พร้อมกับยื่นแบงค์พันจำนวนมากกว่าสิบใบมาให้ ผมเลยเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ

“เก็บไว้ใช้ ส่วนเรื่องค่าแรงกับค่าล่วงเวลาป้ามลเดี๋ยวฉันจัดการเอง เงินนี่ฉันให้นาย”

ผมเจ็บร้าวในอกทันทีที่ได้ยินแบบนั้น น้ำตาพาลจะไหลให้ได้ นี่เขาคิดว่าที่ผมยอมนอนกับเขาเมื่อคืนเพียงเพราะอยากได้เงินก้อนนี้งั้นหรอ?

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับดันมือพี่ภูออก “ไม่เป็นไรครับ เงินที่พี่ภูให้ครั้งที่แล้วยังเหลือ”

“ฉันบอกให้เอาไว้ก็เอาไปเถอะน่า อย่าเรื่องมาก” เขาเริ่มหงุดหงิดใส่ผม พลางเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือตลอด ทำให้ผมนึกรู้ว่าเขากำลังจะรีบออกไปเลย เลยต้องยื่นมือไปเงินจากพี่ภูมาอย่างจำยอม เพราะไม่อยากให้เขาอารมณ์เสียใส่ผมตอนนี้

“ขอบคุณครับ”

ผมก้มหน้าซ่อนน้ำตา ซึ่งพี่ภูเองก็คงไม่เห็น เขายื่นมือมาลูบศีรษะผมลวกๆ พร้อมกับเอ่ยเบาๆ “เดี๋ยวฉันรีบกลับมา”

“ครับ” ผมแค่พยักหน้ารับ ไม่ได้เงยมองเขา เพราะกลัวว่าตัวเองจะอ่อนแอและร้องไห้ออกมาอีก จึงได้ยินแต่เสียงพี่ภูเดินออกจากห้องไป

และพอพ้นเสียงประตูปิด ผมก็กำเงินหลักหมื่นในมือแน่น หัวใจวูบโหวงจนเจ็บในอกไปหมด เมื่อคืนผมมีอะไรกับเขาด้วยความเต็มใจ ผมให้เขาทั้งหมดด้วยความรักที่ตัวเองมี แม้ผมจะรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักผมสักนิด ที่ทำลงไปก็เพราะอารมณ์และสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ควบคุมไม่ได้ และแม้จะรู้ผมก็เลือกที่หลับหูหลับตาและมองผ่านไป

แต่พอพี่ภูยื่นเงินมาให้ผม ไอ้สิ่งที่ผมพยายามมองผ่าน ก็เหมือนตอกย้ำว่าความรักที่ผมฝันถึงยังไงก็ไม่มีวันเป็นจริง

เขามองผมเป็นแค่ที่ระบาย แค่ยื่นเงินให้ทุกอย่างก็จบ เขาจะได้สามารถไปหาคนที่เขาแคร์ได้ โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร แล้วแบบนี้ผมจะต่างอะไรจากคนที่ขายบริการกัน

น้ำตาเม็ดเล็กร่วงหล่นกระทบลงบนธนบัตรสูงมูลค่าที่ใช้ตีราคาผม ผมยิ้มให้ตัวเองอย่างสมเพช สุดท้ายก็มีแต่ผมที่ยังคงโง่งมงายเพราะรักเขาไม่มีเปลี่ยน แม้เขาจะกับผมถึงขนาดนี้ก็ตาม

.

.

To Be Continue

---------------------------------------------------------

เข้าใจค่ะว่าทุกคนรู้สึกยังไง แต่ใจเย็นๆ นะคะ ใจเย็นๆ ตอนหน้าจะรีบมาลงให้ ใจเย็นก๊อนนนเนาะ 555555555

ขอโทษนะคะที่เมื่อวานไม่ได้มาลง พอดีวันนี้ต้องเข้ามาเคลียร์งานที่ออฟฟิศเลยวุ่นๆ นิดโหน่ย ถ้าเป็นไปได้จะมาลงตอนต่อไปให้ไม่ศุกร์ก็เสาร์เนาะ จะได้ไม่ค้างคา ^^

ฝากติดแท็ก #พี่ภูของผม ในทวิตเตอร์ด้วยน๊าาา แล้วก็ขอบคุณทุกคนมากๆ สำหรับทุกคอมเม้นท์และกำลังใจ ขอบคุณทุกคลิกทุกวิวที่เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณมากๆ ค่ะ แม้พี่ภูนางนะน่ารำคาญไปสักนิดแต่เดี๋ยวนางจะดีขึ้นค่ะ เราสัญญาขอเพียงทุกคนอย่าเพิ่งทิ้งกันไปเท่านั้นเองงงงง

แล้วยังไงไว้เจอกันตอนหน้าน้าา ขอเพียงคนละหนึ่งเม้นท์ถ้าไม่มากเกินไป จะได้เอาไว้เป็นแรงใจ และเอาไปปรับปรุงพัฒนาคับบบ ... รักที่สุดจ้าา ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
คอยดูแลด้วยความจริงใจห่วงใยและคอยให้ความรัก เป็นกังวลว่าเขาจะไม่สบายเฝ้าคอยเอาใจทุกอย่าง แต่สุดท้ายไนล์ผู้ชายใจดีด้วยความที่เขาไว้ใจ ยอมเสียตัวให้กลับต้องกลายเป็นชายขายบริการ มันน่าอาย น่าอาย 555555 พอๆไนล์ คิดไปถึงไหนเนี้ย รู้สึกว่าอิผีภูให้เงินใช้โดยไม่คิดว่าจะเป็นการซื้อขายนะ ไนล์ไปพักก่อนอะ หรืออิผีภูมันจะคิดงั้นจริง 55555 ถึงจริงอย่างที่ไนล์คิดแต่แล้วไงก็คนมันรักนี่ เขาจะทำไรก็ยอมแหละ เขารู้สึกผิดสำนึกโทษ ดูแลตอนป่วยก็ไม่โกรธแล้ว ให้อภัยได้ อย่าคิดที่จะไปดัดนิสัยหรือต่อต้าน ใจแข็งกับเขาเลยนะไนล์ ทุกข์ใจตัวเองเปล่าๆ ยอมๆไปแหละดีแล้ว 55555 ทนต่อไปนะไนล์ เอาใจช่วยให้รอดครบ32ดีทุกประการ 55555 ขอบคุณนะคะที่มาต่อค่า สนุกๆ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PsapBBBB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไนล์ลูกกกกกอดปลอบ รู้ว่าต้องเจ็บก็ยังเต็มใจรักเขาเนาะลูกเนาะ แต่ก็อย่างว่าความอดทนของคนมีไม่เหมือนกันตอนนี้หนูทนได้แม่ไม่ว่าแต่ถ้าไม่ไหวกลับบ้านเรานะคะคนเก่ง ส่วนแกนะอิพี่ภูจะใส่เดี่ยวกับฉันไหมห๊าแม่จะฟาดดดดดทั้งแกทั้งอิคุณรัน รู้แล้วนิว่าน้องไม่ผิดจะทำยังไงต่อ ตอนน้องเจ็บบอกทำไมไม่รอแค่เคยอยู่ดูน้องไหมเอาแต่ด่าว่าน้องไม่ถามหาความจริง แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าทำไมไม่รอแกกลับมา รอให้แผลอักเสบหรอ กดเบอร์เรียกพี่เทมส์มาเสริมกำลังด่วนค่าาาาาแม่จะทนไม่ไหวแล้ว :fire:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อิตาพี่ภูจะไปหาแม่นั่นทำไมอีกนะ
อยากรู้จริงๆว่าพี่ภูจะรู้ว่าน้องเป็นใครเมื่อไรสักที
ดูน้องสิน่าสงสารจะแย่
รักเขาขนาดยอมทุกอย่างขนาดนี้

ยังไงก็รอตอนต่อไปอยู่ๆน้าา

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดตามต่อไปค้าาาา :mew2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อย่าไปหลงนังรันอีกรอบละ

ออฟไลน์ Ritawongishere

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อออ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไนล์อย่าเพิ่งคิดไปไกล พี่ภูให้ไว้ใช้ไม่ได้เป็นค่าตัวน้อง น้องอย่าเพิ่งคิดมาก

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อยากตบพี่ภูสักทีสองที :beat: :beat: :beat: :beat:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด