[END] [Mpreg] ☆YOUniverse☆ .. #พี่ภูของผม (2020-09-28 : Universe - Special Ch)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] [Mpreg] ☆YOUniverse☆ .. #พี่ภูของผม (2020-09-28 : Universe - Special Ch)  (อ่าน 51724 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
555555555 เออๆเอาเข้าไป กู่ไม่กลับแล้ว ไนล์ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรให้เหยียบย้ำค้ำคอเลยมั้ง meคิดเห็นแต่หน้าพ่อแม่ไนล์ ลูกที่เลี้ยงมาอย่างดีให้ความรักความอบอุ่น ต้องมาให้เขาหยามเหยียดได้ซ้ำๆเป็นตัวตลกในสายตาเขา จากที่คิดว่าจะมาทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น นี่ก็เชื่อด้วยนะว่าจะทำได้ ถึงตอนนี้ "......" เบิดคำสิเว้า ใจไนล์พังพอยังจ๊ะ 555555 จีนจะร้ายก็ร้ายไปนะ เราจะไม่ด่าผู้หญิงแต่ละคนก็ร้ายไปตามวิถีของตัวเอง แต่คนที่ได้รับผลแล้วจะทำยังไงก็อีกเรื่องนึง ต่อไปคือจะไม่พูดถึงอีพี่ภูมันแล้ว เพราะเบิดคำสิเว้าอีหลี 555 จะรอดูแต่ไนล์ว่าจะทำยังไง แหมเพราะรักงั้นสิ เขามาขอโทษพูดหวานๆบอกรักไป มาง้อ10วัน อะคืนดีก็ดะ แบบนี้ไหม นี่พูดดักแล้วนะ 555555 อยากรู้จริงไนล์จะทำยังไงต่อไป ถ้าให้อภัยกันง่ายๆก็ อ่าาา สมควรคู่กันแล้วละ คนนึงก็เออ อีกคนก็อืม จ๊ะ 55555555 แต่ขอบอกไว้อย่างนะไนล์ ทำตัวเองแล้ว แล้วจะไปซบอกลมนี่ไม่ไหวนะ ถึงลมจะอยากรับก็ปฎิเสธเสียงแข็งไป อย่าดึงเขามาเกี่ยว เคนะ 555  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ritawongishere

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะน้ำเน่าไปไหนเนี่ยยยยย น่ารำคาญ

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
** Warning: เนื้อหาในบางฉากบางตอนของแช็ปเตอร์นี้มีการใช้ภาษาไม่เหมาะสม และมีความรุนแรงทางเพศและการใช้อารมณ์ ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ **


Universe 28th : ความหวังที่ไม่เคยมีอยู่จริง


Kirin’s Part

ผมกระชากไนล์เดินมาตรงหน้าฟร้อนท์ พร้อมกับแจ้งพนักงานว่าอยากเปิดห้อง ไนล์พยายามดิ้นรนและขอให้ผมปล่อย แต่ผมก็ขู่และพาเข้าขึ้นมาชั้นบนจนได้ พอถึงห้องพักตามที่พนักงานแจ้ง ผมก็เปิดประตูก่อนที่จะผลักไนล์เข้าไป ผมตามเช้าไปฟัดจูบเขา และผลักเขาไปที่เตียงที่อยู่กลางห้อง ก่อนจะตามไปคร่อมร่างเล็กไว้ จับตรึงข้อมือของคนใต้ร่างไว้กับเตียงแน่น ในใจของผมเต็มไปด้วยโทสะและความมืดบอด ผมไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น แม้ไนล์จะร้องไห้ก็ตาม

“ชอบไม่ใช่รึไง ห๊ะ? ตอนนี้ทำมาร้องไห้ทำไม ลงทุนมานัดเจอไอ้เทมส์ถึงที่นี่! คงคิดว่าฉันโง่มากน่ะสินะถึงได้ทำแบบนี้” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ทั้งเจ็บทั้งเสียใจ ไม่คิดว่าไนล์ที่เคยบอกว่ารักผม จะทำกับผมแบบนี้

“ฮึก.. พี่ภูครับ ฮืออ ไนล์ขอร้อง ฟะ ฟัง ฮึก ฟังไนล์หน่อยเถอะนะครับ พี่ภูกำลังเข้าใจผิด มันไม่ใช่อย่างที่พี่ภูคิดนะครับ” ไนล์ร้องไห้อ้อนวอน พยายามขอร้องให้ผมเชื่อ

แต่ผมจะเชื่อลงได้ยังไง ในเมื่อสิ่งที่ผมเห็นมันตำตาขนาดนั้น

“ฉันเข้าใจผิดงั้นหรอ? หึ!” ผมปล่อยมือข้างนึงออก ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของคนตัวเล็กกว่า พอหยิบสิ่งที่ว่าขึ้นมาได้ ผมก็ชูมันตรงหน้าไนล์อย่างผิดหวัง “แล้วเช็คนี่มันอะไร มันอะไรห๊ะไนล์?”

ผมขยำเช็คที่ว่า ก่อนจะปาลงบนเตียงข้างตัวไนล์ ผมมองคนใต้ร่างด้วยสายตาผิดหวัง ในขณะที่ไนล์เอาแต่ส่ายหน้าร้องไห้ และพึมพำว่าไม่ใช่อย่างที่ผมคิด

“ฮึก.. พี่ภูครับ พี่ภูเข้าใจไนล์ผิด ฮืออ เช็คนี่ไม่ใช่ของไนล์ คุณจีนสั่งให้ไนล์ ฮึก.. ให้ไนล์มารับให้ ไม่ใช่ของไนล์จริงๆ นะครับ”

ผมกัดฟันกรอดด้วยความโกรธจัด เพราะนอกจากไนล์จะโกหก เขายังใส่ร้ายจีนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอีก เขาคงคิดว่าผมเป็นไอ้โง่ ให้เขาหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถ้าเงินนั่นเป็นของจีนจริง จีนจะมาบอกผมทำไม และอีกอย่างถ้าเช็คนั่นเป็นของจีนทำไมไอ้เทมส์ถึงทั้งกอดทั้งหอมไนล์ขนาดนั้น แถมยังลงมาจากด้านบนไม่ใช่จากในเลาจน์อย่างที่จีนบอกผมมาอีก

ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้ ยังจะให้ผมเชื่อคำหลอกลวงของเด็กคนนี้อีกหรอ?

“หึ! นายมันจอมโกหก! โกหกไม่พอนายยังหักหลังฉันอย่างเลือดเย็นอีก ทำไมห๊ะ? ที่ฉันให้นายกินนายใช้ทุกวันนี้มันไม่พอหรอ? หรือนายแค่โลภ กระหายเงินจนทำได้ถึงขนาดนี้ ใส่ร้ายจีนนายก็ยังทำ! นายนี่มันร้ายกว่าที่ฉันคิดจริงๆ!!”

ผมพูดอย่างเจ็บปวดและมองไนล์ด้วยความโมโห ในขณะที่ดวงตากลมโตจ้องกลับมามองผมด้วยสายตาโศกเศร้า เขาเอ่ยถามผมเสียงเบา และผมก็ไม่ลังเลเลยที่จะโต้ตอบกลับไปอย่างเจ็บแสบ

ผมหวังจะให้เขาเจ็บเหมือนที่ผมกำลังเจ็บจนแทบจะขาดใจบ้าง

“พี่ภู ฮึก.. พี่ภูคิดว่าไนล์ใส่ร้ายคุณจีนหรอครับ?”

“ใช่! เพราะถ้าให้เลือกเชื่อระหว่างนายกับจีน ฉันเชื่อจีน เพราะอย่างน้อยจีนก็ไม่โกหกฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนที่นายทำ!”

และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งใจเหมือนจะขาด ไนล์มองผมอย่างผิดหวัง สายตาแบบที่ผมไม่เคยได้รับเลยตลอดสามเดือนที่อยู่ด้วยกัน กำลังปรากฎให้ผมเห็น แต่ผมที่กำลังโกรธมากเกินไปกลับเลือกที่จะไม่สนใจใยดีสายตาตัดพ้อนั่นสักนิด

“และในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้เรื่อง ฉันก็จะทำให้นายรู้และจำว่านายเป็นของใคร และอย่าคิดจะสวมเขาให้ฉันอีก!”

พอจบคำผมก็ไม่สนใจไนล์ที่ดิ้นรน ขัดขืนและขอร้องให้ผมปล่อย น้ำตาของไนล์ไม่สามารถทำให้ผมใจอ่อนเลยสักนิด เพราะความหึงหวงกำลังผลักดันให้ผมทำเรื่องที่โง่ที่สุด ผมดึงทึ้งเสื้อผ้าไนล์จนขาดกระจุย

ผมไม่คิดจะควบคุมอารมณ์ตัวเองสักนิด ผมตะโบมจูบลงไปบนริมฝีปากไนล์อย่างหยาบคายและจาบจ้วง บังคับให้เขาเผยอปากและสอดลิ้นเข้าไปตักตวงเกี่ยวกระหวัด ใช้ฟันขบริมฝีปากเขาย้ำๆ ในขณะที่ไนล์ได้แต่ครางอื้ออึงอยู่ในลำคอ หรือแม้แต่ตอนเขาดิ้นรนขอให้ผมปล่อยเพราะตัวเองกำลังหายใจไม่ทัน ผมก็ผละออกจากเขาแค่เสี้ยววินาทีเดียว แล้วก็บดปากลงไปใหม่ ราวกับอยากจะลงโทษให้เขาจำ ให้เขารับรู้ว่าผมนี่แหละที่เป็นเจ้าของเขา เขาเป็นของผม และผมจะไม่ยกเขาให้ใคร แม้แต่ไอ้เทมส์ที่เป็นเพื่อนสนิทก็ตาม

และในขณะที่ผมกำลังลงโทษให้ไนล์ได้รับในที่สิ่งที่สาสม แต่ผมกลับเจ็บไปทั้งใจ .. ผมนึกถึงแต่ช่วงเวลาที่เราร่วมรักกันและไนล์ยกแขนโอบกอดผมไว้ ไม่ใช่ดิ้นรนและผลักไสแบบนี้ แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ผมก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป ไม่คิดเลยสักนิด

“ฮึก .. พี่ภู ปะ ปล่อยไนล์นะครับ ปล่อยยย!” ไนล์ร้องขอตอนที่ผมยอมละริมฝีปากออก ซึ่งผมเองก็ตอบกลับไปอย่างดุดันเช่นกัน

“ไม่! ฉันไม่มีวันปล่อยนายไป ไม่มีทางเด็ดขาด จำเอาไว้ไนล์ ไม่มีวัน!!!”


ใช่! ไม่มีวัน ผมไม่มีวันปล่อยเขา เพราะนั่นอาจจะหมายถึงการที่ผมเสียเขาไปตลอดกาล


เสื้อของไนล์ถูกผมกระชากจนขาดและเหวี่ยงไปกองบนพื้น ผมก้มลงจูบบนแผ่นอกขาวและขบเม้มไปทั่วจนขึ้นรอยรักสีแดงกระจายไปทั่วอก ไนล์ยังคงดิ้นรนและขอร้องให้ผมปล่อย ผมเลยจัดการครอบปากลงไปบนตุ่มไตสีอ่อน ทั้งออกแรงดูด ทั้งเลีย ทั้งกัด จนไนล์ตัวกระตุกและแผ่นอกเริ่มลอยไม่ติดที่นอน และเพราะผมรู้จักร่างกายไนล์ดีที่สุด ผมถึงดูดยอดอกสีอ่อนสลับไปมาทั้งสองข้าง จนรับรู้ได้ว่าไนล์กำลังเริ่มมีอารมณ์ร่วม

ต่อให้สมองเขาจะพยายามปฏิเสธผมแค่ไหน แต่ร่างกายเขากลับซื่อตรงกับสัมผัสของผมเสมอ

ไนล์เริ่มหายใจหอบถี่ หน้าท้องหดเกร็ง และพยายามกัดปากห้ามเสียงครางของตัวเอง ผมเลยดูดย้ำๆ จนตุ่มไตบนแผ่นอกแข็งตึง และในที่สุดไนล์ก็ห้ามสัญชาตญาณและความต้องการของตัวเองไม่ได้ เลยเผลอหลุดเสียงครางหวานออกมา

“อ๊ะ…”

ผมผละออกเมื่อรู้สึกว่าร่างเล็กใต้อาณัติเริ่มอ่อนระทวยและหมดแรงต่อต้าน ผมผละออกถอดเสื้อและกางเกงตัวเองออกจากร่างเหลือเพียงแต่ชั้นในติดตัว ก่อนจะหันไปจัดการถอดกางเกงและกางเกงชั้นในของไนล์ออก ร่างกายของเด็กตรงหน้าเปลือยเปล่า แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็น แต่มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกหวงแหน ในใจเอาแต่ร่ำร้องว่าจะไม่ยอมให้เขาเป็นของใครทั้งนั้น นอกจากผมคนนี้คนเดียว

ผมตามไปคร่อมร่างเล็กไว้อีกตรั้ง แต่ครั้งนี้ผมจับเรียวขาไนล์แยกออกกว้าง แล้วแทรกตัวเองเข้าไปตรงกลาง เป็นอีกครั้งที่ไนล์เริ่มผลักไสผม เขาดิ้นเพราะสติเริ่มกลับมา ผมเลยจัดการอ้าขาเขาออกให้กว้างกว่าเดิม และใช้มือทั้งสองข้างยึดสะโพกเล็กไว้แน่น และครอบปากลงไปบนแก่นกายน่ารักที่เริ่มขยับขยายและแข็งขืน ผมขยับริมฝีปากขึ้นลงตามความยาวจากโคนสุดปลายไม่กี่ครั้งมันก็ตั้งชัน แต่ผมก็ยังคงไม่หยุดปรนเปรอให้อีกฝ่าย ผมอยากให้ไนล์รู้ว่าเขาไม่มีวันหนีผมพ้น

“อ๊ะ.. อื้อ ปะ ปล่อย พี่ภู ป ปล่อย อ๊า..”

ไนล์ร้องขอให้ผมปล่อย แต่เขากลับขยับสะโพกสวนรับทุกครั้งที่ผมขยับปาก ผมเหลือบสายตาขึ้นไปมองใบหวานที่ตอนนี้เหยเก น้ำใสไหลเป็นทางจากหางตา ผมรู้ว่าสำนึกในใจของเขากำลังตีกันวุ่น ใจเขาร้องขอให้ผมหยุด แต่ร่างกายของเขากลับตอบสนองตามสัญชาตญาณ

และผมก็มัวเมาสนใจในสัญชาตญาณทางร่างกายของเขามากกว่าที่จะเห็นใจ เพราะความขาดสติของตัวเอง

ผมละริมฝีปากออก เมื่อเห็นว่าปลุกปั่นจนไนล์ถอยต่อไปไม่ได้ แก่นกายเล็กขยับขยายตั้งชัน ส่วนปลายปริ่มน้ำใสและสีหน้าของไนล์ก็ดูทรมานมาก ผมขยับมือสาวรั้งให้เขาเบาๆ แต่ไม่ยอมให้เขาเสร็จ ไนล์ขยับตัวบิดเร้าหน้าท้องเกร็งกระตุก ปลายเท้าจิกแน่น ผมขยับตัวทาบทับจนท่อนเนื้อที่อยู่ภายใต้กางเกงชั้นในของตัวเองที่แข็งตึงไม่ต่างมันเสียดสีกับแก่นกายเล็กที่เปลือยเปล่าของไนล์ คนตัวเล็กกรีดร้องไม่เป็นภาษาแต่ผมก็ยังคงไม่หยุดรังแกเขา

“อ๊ะ .. อื้อ พี่ ..อึก พี่ภู”

“นายอยากให้ฉันปล่อยไม่ใช่หรอ? นี่ไงฉันก็ปล่อยนายแล้วไง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า แถมยังส่งก้านนิ้วไปสะกิดยอดอกข้างหนึ่ง และยังใช้มือข้างที่ว่างยึดข้อมือเล็กที่พยายามยื่นออกไปเพื่อช่วยเหลือให้ตัวเองได้รับการปลดปล่อยไว้ ไม่ให้ทำอย่างที่ต้องการ

“พี่ภู…” ไนล์มีสีหน้าทรมาน แต่ผมก็อดทนรอให้เขาพูด ให้เขารู้และยอมรับว่ามีแค่ผมเท่านั้นที่ช่วยเขาได้ และเป็นเจ้าของเขาจริงๆ แม้ตัวเองก็แทบจะไม่ไหวเหมือนกันแล้วก็ตาม

ผมอยากได้เขา ผมอยากเข้าไปในตัวเขา ให้เขารับรู้ว่าและจดจำว่าเขาเป็นของผม ของผมแค่คนเดียว

“.. ช่วยไนล์หน่อยครับ ไนล์ ..อึก ไนล์…”

ผมไม่รอให้ไนล์พูดต่อ ผมจับไนล์พลิกหันหลังโก้งโค้งและเพราะไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น ผมจึงก้มลงส่งลิ้นแทรกเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่ปิดสนิท ไล้เลียไปตามรอยจีบสีชมพู แทรกเข้าไปลึกจนด้านในแฉะ ในขณะที่ไนล์ส่งเสียงครางไม่หยุด ก่อนที่ผมจะผละออกและถ่มน้ำลายรดลงบนก้านนิ้วยาวของตัวเองจนเปียกชุ่ม

“อื้อ..”

ไนล์ขยัยตัวเล็กน้อยตอนที่ผมสอดนิ้วแรกเข้าไปในช่องทาง ผมแทรกเข้าไปจนสุดความยาวนิ้วก่อนจะงอนิ้วเล็กน้อยให้ครูดกับผนังอุ่นที่กำลังขมิบตอดรัด ไนล์ทำเอาผมแทบคลั่ง แค่นิ้วผมยังรู้สึกขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นสอดท่อนเนื้อของผมเข้าไป ผมไม่อยากจะจินตนาการเลยว่ามันจะรู้สึกดีขนาดไหน และก็อย่างที่บอกว่าครั้งนี้ไม่มีอุปกรณ์ช่วยหรือป้องกันอะไรทั้งนั้น


แน่นอนว่าผมหมายรวมถึงถุงยางอนามัยด้วย


ผมแทบรอให้ถึงตอนที่ผมได้เข้าไปอยู่ในตัวไนล์แทบไม่ไหว เพราะหลังจากครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน ไนล์ก็ขอให้ผมใส่ถุงยางเสมอ ผมเองก็ไม่เคยขัด ทั้งที่ลึกแล้วในใจผมรู้ตัวดีว่าผมคิดถึงการสอดใส่แบบเนื้อถึงเนื้อมากแค่ไหน และครั้งนี้ผมจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ได้เคยสัมผัสไปแล้วอีกครั้ง

ผมขยับกระแทกนิ้วเข้าออกในช่องทางด้านหลังของไนล์เป็นจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างก็เอื้อมไปด้านหน้าและสาวรั้งแก่นกายเล็กในจังหวะเดียวกัน ไนล์กรีดร้องแทบไม่เป็นภาษาเพราะความสุขสม ผมขยับกระแทกนิ้วในช่องทางด้านหลังรัวเร็วขึ้น ในขณะที่ผนังอุ่นตอดรัดนิ้วผมจนผมต้องกัดฟันกรอด ผมขยับมือด้านหน้าอีกไม่กี่ครั้งตัวไนล์ก็เริ่มกระตุก ปลายเท้าหงิกเกร็งและไนล์ก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะมือผมเต็มไปหมด

“อ๊าาาาา”

ผมขยับตัวและดึงนิ้วที่สอดใส่ออกจากช่องทางด้านหลัง ตอนที่ไนล์ทรุดลงไปกองนอนคว่ำกับเตียงเพราะหมดแรง ผมจัดการถอดชั้นในของตัวเองออกแล้วเหวี่ยงไปข้างเตียง ผมแทบไม่ต้องปลุกเร้าอะไรตัวเองเลยด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้ท่อนเนื้อผมแข็งชันพร้อมที่จะสอดใส่มาก ผมใช้น้ำรักของไนล์ทีเลอะอยู่บนมือปาดลงบนแก่นกายของตัวเองจนชุ่ม ก่นที่จะตรงเข้าประชิดตัวไนล์จากด้านหลังอีกครั้ง

ผมจับสะโพกเล็กให้โก้งโค้งขึ้น และขยับเข่าของไนล์ที่คุกอยู่บนเตียงให้ขยับออก เลยทำให้เห็นช่องทางสีชมพูที่ตอนนี้ติดจะแดงเล็กน้อยเพราะแรงกระแทกจากก้านนิ้วเมื่อก่อนหน้า ไนล์ที่แนบหน้าไปกับที่นอนผงกหัวขึ้นมามองผมเล็กน้อย พอเขาเห็นท่อนเนื้อที่ตั้งชันของผมเขาก็ตาโตและเริ่มที่จะขยับหนี แต่ผมก็ไวกว่าที่ยึดสะโพกเขาไว้ได้แน่น ไนล์พยายามโวยวายร้องขอแต่ผมไม่ฟัง

“พี่ภู.. ไนล์ ฮึก ไนล์ไม่เอาครับ..”

“ไม่เอาอะไร?” ผมเริ่มหงุดหงิด ที่เห็นไนล์เอาแต่ผลักไสทั้งที่รู้ว่าผมต้องการเขา “นายมีสิทธิ์ปฎิเสธฉันตั้งแต่เมื่อไหร่? หึ! ได้เวลาทำหน้าที่สนองให้ฉันเวลาฉันอยากแล้ว ลืมไปแล้วรึไงว่านายมีหน้าที่อะไรบนเตียง!”

ผมได้ยินไนล์พึมพำคำว่า ‘ถุงยาง’ ไม่หยุด แต่ตอนนั้นผมไม่สนอะไรทั้งนั้น ผมจับท่อนเนื้อที่ตั้งชันของตัวเองฟาดเบาๆ ลงบนแก้มก้นนิ่มๆ ของไนล์ ก่อนจะจับจ่อไปที่ช่องทางด้านหลังแล้วค่อยกดสอดมันเข้าไป

ไนล์กรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บเมื่อมันเข้าไปแค่ส่วนหัวเพราะไม่มีเจลคอยช่วยมันเลยค่อนข้างจะฝืด แต่ผมก็พยายามดันเข้าไปช้าๆ ไม่อยากหยุดเพราะมันจะเป็นการดึงเวลาให้ไนล์เจ็บนานเกินไป

“พี่ภูครับ ไนล์เจ็บ.. ฮึก เจ็บ”

แต่ไนล์ก็ยังคงร้องว่าเจ็บไม่หยุด ผมพยายามเบนความสนใจด้วยการกดจูบลงไปบนแผ่นหลังเนียน และส่งนิ้วไปสะกิดยอดอกทั้งสองข้างเพื่อให้ไนล์เสียวมากขึ้นและรู้สึกเจ็บน้อยลง

และผมก็ดันมันเข้าไปได้จนสุดลำ มันเป็นความรู้สึกที่โคตรสุดยอด ทั้งคับ ทั้งแน่น ทั้งรู้สึกถึงกันและกันโดยที่ไม่มีถุงยางอนามัยมาขวาง

“อึ่ก.. เจ็บ! ไนล์เจ็บ!”

ไนล์ยังคงร้องประท้วง ในขณะที่ผมกัดฟันกรอดเมื่อผนังอุ่นของไนล์ตอดรัดท่อนเนื้อผมไม่หยุด ไม่กล้าขยับเพราะเหมือนไนล์จะยังปรับตัวไม่ได้เลยต้องรอสักพัก จนผมทนไม่ไหว คิดว่าถ้าผมไม่ได้ขยัยและไนล์ยังรัดแน่นขนาดนี้ผมต้องเสร็จก่อนถึงเวลาแน่ๆ

ผมก้มลงไปจูบริมปากไนล์บาๆ ก่อนจะถามอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน เพราะผมรู้ว่าตัวเอกำลังทำเขาเจ็บ

“หายเจ็บรึยัง? ให้ฉันขยับได้ไหม?” ไนล์ไม่ตอบอะไรแต่มองผมตาปรือปรอย ผมเลยเดาว่าเขาน่าจะปรับตัวได้แล้วเลยลองขยับสะโพกกระแทกเข้าไปในช่องทางเบาๆ

“อ๊ะ..” ไนล์หลับตาแน่น ขมวดคิ้วนิดหน่อยแต่ดูสุขสมมากกว่าจะเจ็บปวด ผมเลยรู้ว่าเขาพร้อมแล้ว

พอคิดได้แบบนั้น ความอดทนผมก็จบสิ้นทันที ผมใช้มือทั้งสองข้างยึดสะโพกเล็กไว้แน่น ก่อนจะขยับสะโพกกระแทกเข้าออกเป็นจังหวะจากเนิบนาบเชื่องช้าเป็นเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ผมสูดปากด้วยความเสียงซ่าน เพราะท่านี้ทำให้ผมเข้าไปได้ลึกมากกว่าที่เคย มันทั้งคับ ทั้งแน่น ทั้งรู้สึกดีเพราะผมได้รู้สึกถึงไนล์โดยไม่มีอะไรมาขวาง ผมกระแทกสะโพกจนสุดแรงถี่ จนกระทั่งโดนเข้ากับจุดหนึ่งที่ทำให้ผนังอุ่นที่โอบรัดท่อนเนื้อของผมตอดรัดผมไม่หยุด

“อ๊ะ... อ๊า อ๊า”

ผมรู้ในทันทีและกระแทกถี่เร็วเข้าไปเรื่อยๆ ไม่หยุด และในขณะที่ผมกำลังจะเอื้อมมือไปสาวรั้งแก่นกายด้านหน้าให้ไนล์ แต่จู่ๆ ผมก็สัมผัสได้ว่าไนล์ตัวสั่นและบิดเกร็งคล้ายคนกำลังจะเสร็จ ผมเลยต้องยั้งจังหวะให้ช้าลง นึกรู้ว่าท่านี้คงทำให้ไนล์รู้สึกได้มากกว่าถึงได้จะเสร็จโดยที่ผมยังไม่ได้แตะต้องเขาเลยด้วยซ้ำ

“จะเสร็จแล้วหรอ หื้ม?” ผมก้มลงไปกระซิบถาม และแกล้งกระแทกเบาๆ ไนล์ครางหงิงท่าทางจะอยากปลดปล่อยเต็มที่

“ครับ.. พี่ภู นะ ไนล์ ไนล์ไม่ไหวแล้ว”

เขาคว้ามือผมไว้แล้วเอานิ้วมือผมเข้าไปในปากตัวเอง ไนล์ออกแรงดูดเบาๆ ทำเอาผมที่เห็นภาพตรงหน้าถึงกับกลืนน้ำลาย และกว่าจะรู้ตัวอีกทีผมก็โถมกระแทกเข้ากับช่องทางด้านหลังของคนใต้ร่างจนสุดแรง และเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จนไนล์หัวสั่นหัวคลอน

ผมก็กระแทกแรงขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนไนล์กระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาในที่สุด.. ปล่อยโดยที่ผมไม่ได้ใช้มือช่วยเขาเลยสักนิด

“อ๊าาาา”

ไนล์แทบจะทรุดลงไปกองอีกรอบหลังจากที่ตัวเองปลดปล่อยเสร็จ ดีที่ผมรั้งช้อนร่างเล็กไว้ได้ เพราะตัวเองยังไม่เสร็จ ผมขยับถอนแก่นกายออกมาจากช่องทางจนเกือบสุด แล้วกระแทกกลับเข้าไปเน้นๆ แรงๆ ผมทำแบบนี้อยู่สองสามรอบ และเพราะมันลึกกว่าที่เคยเลยทำให้ผมเสียวจนต้องสูดปาก และแม้แต่ไนล์ที่สร็จไปแล้วยังร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ผมทำแบบนี้อยู่จนหน้าท้องผมเริ่มหดเกร็งและรู้ดีว่าตัวเองกำลังจะเสร็จ เลยกระแทกเร่งจังหวะถี่เร็วขึ้น จนลมหายใจตัวเองกระชั้น ก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาจนล้นช่องทางของไนล์

“อาาาาาาห์”

ผมทรุดลงกอดรัดไนล์จากด้านหลัง พอผมถอนตัวเองออกมาจากช่องทางของไนล์ โดยมีน้ำรักไหลย้อยออกมาด้วยก็ทำให้ผมพบว่าตัวเองรู้สึกดีไม่น้อย มันเหมือนกับว่าผมได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของเด็กคนนี้เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งนั่นทำให้ความปรารถนาที่ผมมีต่อไนล์ไม่ได้ลดลงเลย ตรงข้ามมันกลับมากขึ้นด้วยซ้ำ

ผมจับไนล์ที่กำลังหมดแรงขึ้นมานั่งตัก ในขณะที่ผมเองนั่งเอาหลังพิงกับหัวเตียงไว้ ผมจับเขานั่งหันหน้าทับลงมาตักผมและตอนที่แก่นกายเราเสียดสีกันท่อนเนื้อของผมก็เกิดแข็งชันขึ้นมาอีกรอบ

ผมบอกแล้ว ว่าผมหยุดความต้องการที่มีต่อไนล์ไม่ได้จริงๆ

“พี่ภู ไนล์ ไนล์.. ไม่ไหวแล้วครับ” มือเล็กยึดอยู่บนบ่าผมแน่น แม้ใจไนล์จะบอกไม่ไหว แต่ร่างกายไนล์กลับไม่ฟัง เพราะผมขยับมือสาวรั้งแก่นกายเล็กไม่กี่ทีมันก็ขยายสู้มือผมแล้ว

ผมยื่นหน้าไปจูบใบหูนิ่มพลางกระซิบเบาๆ “แต่ฉันยังต้องการนายอยู่นะ ช่วยฉันทีสิ” และผมก็รู้ดีว่าจะทำยังไงให้ไนล์ยอม

ผมเอื้อมมือไปจับมือไนล์มาวางบนท่อนเนื้อของตัวเอง ก่อนจะพรมจูบไปริมฝีปากบางอย่างหลอกล่อ ผมขยับปากลากลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะครอบลงบนยอดอกที่เริ่มแข็งตึง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ไนล์ขยับมือสาวรั้งท่อนเนื้อให้ผม

เราสองคนต่างขยับมือปรนเปรอให้กันและกัน และพอไนล์ขยับมือได้ไม่กี่ครั้ง ผมก็ยกตัวเขาขึ้นให้สะโพกกระดกขึ้นเล็กน้อย แล้วจับท่อนเนื้อที่แข็งชันแล้วจ่อไปที่ช่องทางด้านหลังของไนล์ ให้ไนล์ค่อยๆ กดสะโพลง จนในที่สุดผมก็เข้าไปอยู่ในตัวไนล์อีกครั้ง

“อ๊ะ.. อื้อ”

ผมค่อยๆ ช่วยไนล์ประคองสะโพกให้ขยับขึ้นลงในช่วงแรก โดยที่ตัวเองก็คอยสวนสะโพกกลับไปเบาๆ ช้าๆ ให้ไนล์จับจังหวะได้ และพอไนล์จับจังหวะเองได้เขาก็ขยับสะโพกขึ้นลงด้วยตัวเอง โดยเท้ามือไว้ที่ต้นขาด้านหลังของผม แผ่นอกขาวแอ่นเล็กน้อย จนผมอดไม่ได้ที่จะต้องส่งลิ้นไปตวัดเลียยอดอกที่แข็งตึงเพราะแรงอารมณ์

ไนล์ครางเสียงหลงตอนผมสวนสะโพกกระแทกกลับ ในขณะที่มือผมก็ปรนเปรอด้านหน้าเขาไปด้วย ไนล์เร่งจังหวะเร็วขึ้นเมื่อถูกปรนเปรอจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ใบหน้าหวานสะบัดและเต็มไปด้วยอารมณ์เพราะเขาได้ควบคุมทุกอย่างเอง ไม่นานคนตัวเล็กกว่าก็เกร็งกระตุกและปลดปล่อยออกมา

“อ๊าาาาา”

ไนล์แทบจะหมดแรงทิ้งตัวมาซบผม ในขณะที่ผมเองยังไม่เสร็จเลยต้องจับไนล์นอนลงหงายราบไปกับเตียง พร้อมกับแยกขาอีกฝ่ายออกกว้าง ผมโถมกระแทกเข้าไปไม่หยุด จากช้าและค่อยเร่งจังหวะขึ้นเรื่อย สลับกับถอนเข้ากระแทกกลับแรงๆ และในที่สุดหัวสมองผมก็ขาวโพลน และปลดปล่อยตามไนล์ที่นอนระทวยอ้าขากว้างออกมาติดๆ

“อาาาาาาห์”

ผมถอนตัวออกจากช่องทางของไนล์ช้าๆ น้ำสีขาวขุ่นของผมไหลย้อยออกมาตามช่องทางของไนล์และไหลลงมาตามเรียวขาขวางเต็มไปหมด ผมเห็นไนล์เหลือบมองและน้ำตาไหลออกมาช้าๆ .. และนั่นทำให้ผมนึกโมโห

ยิ่งพอเห็นไนล์ที่แทบไม่มีแรงพยายามจะตระกายลงจากเตียงไปหาเสื้อผ้าขาดวิ่นที่ผมโยนทิ้งไว้ยิ่งทำให้ผมโมโหมากขึ้น ผมเลยตามไปกระชาก ให้เขาล้มลงมานอนบนเตียงโดยมีผมคร่อมไว้อีกครั้ง

“ทำไม? จะไปไหน? เมื่อกี้เห็นครางไม่หยุด ตอนนี้มาทำเป็นไม่อยาก เลยร้องไห้คร่ำครวญงี้หรอ? มีอะไรกับฉันมันลำบากใจนายนักหรือไง ห๊ะ?”

ผมพูดพร้อมกับบีบข้อมือเล็กแน่น ยิ่งไนล์ร้องไห้ ผมยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

“ฮึก.. พี่ภูปล่อย ไนล์ ฮืออ ไนล์จะกลับบ้าน”

“กลับบ้าน? ฉันยอมให้นายกลับหรอ นายถึงจะกลับน่ะ หึ! ทีตอนนี้ร้องจะกลับ เมื่อกี้อยู่กับไอ้เทมส์ไม่ร้องกลับแบบนี้บ้างล่ะ? ทำไมหรือลีลาฉันยังถึงใจนายไม่พอ ห๊ะ?” ผมตวาดลั่น และทำตัวไม่มีเหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ

“พี่ภู ปล่อย! พอได้แล้ว พอสักที!”

ผมทั้งโกรธทั้งตกใจที่ไนล์ดิ้นรนและไม่ยอม เลยตรึงข้อมือร่างเล็กไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวแน่นขึ้น ในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่ไนล์ทำท่าไม่ยอมใส่ผม ในขณะที่ภาพที่ไอ้เทมส์จูบหน้าผากไนล์ย้อนกลับเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง

ผมโมโหจนขาดสติเลยจับขาไนล์แยกออกอีกครั้ง โดยที่แทบจะไม่สนใจเลยว่าร่างเล็กตรงหน้าแทบไม่เหลือแรงให้ผมเอาเปรียบแล้ว

“จำไว้ถ้าฉันไม่ปล่อยให้นายกลับ นายจะไม่มีทางได้กลับ! นายต้องอยู่บนเตียงนี้กับฉัน จนกว่าฉันจะพอใจ จำไว้ให้ดีไนล์!”

และผมก็ทำให้คืนนั้นเป็นฝันร้ายที่ไนล์ไม่เคยลืม

.

.

.

(อ่านต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(อ่านต่อจากด้านบน)


Nateetouch’s Part


ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการเจ็บร้าวจะขาดใจไปทั้งร่าง สะโพกยันปลายเท้าแทบยกไม่ขึ้น คราบน้ำรักเกรอะกรังอยู่ตรงต้นขาด้านใน ลามไปถึงช่องทางด้านหลังจนแทบจะหาช่องว่างของผิวเนื้อไม่เจอ ในขณะที่คนที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพแบบนี้กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ปลายเตียงด้วยท่าทางเคร่งเครียด ผมเลยเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาก็พบว่านี่คือเวลาเกือบบ่ายสามของอีกวัน มันไม่ใช่ตีสามเพราะผมเห็นแสงสว่างที่ลอดมาจากหน้าต่าง

ผมหลับตาลงช้าๆ อย่างเจ็บปวด ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวาน จนนี่มันบ่ายของอีกวัน ต่อให้รีบกลับบ้านยังไง ด้วยสภาพร่างกายอย่างนี้ก็คือไม่ทันแน่ๆ

ผมกลับไปกินยาคุมที่อาหมอให้ไว้ไม่ทัน ยาที่ต้องกินภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีการป้องกัน ผมกลับไปไม่ทันและคงต้องยอมรับผลที่อาจจะตามมา

ผมอยากจะปลอบตัวเองและภาวนาว่าผมอาจจะไม่โชคร้ายขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมาผมกับพี่ภูก็มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันมาโดยตลอด แต่พอผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เรามีอะไรกันไม่ต่ำกว่าห้ารอบแน่ๆ ทั้งที่ผมรู้สึกตัวและไม่รู้สึกตัว ผมเลยไม่กล้าที่จะปลอบใจตัวเองหรือหวังให้ตัวเองโชคดีขนาดนั้น

“อืมได้ โทษทีพอดีมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวยังไงผมจะเข้าไปให้ทันก่อนห้าโมงเย็นแล้วกัน .. ครับ ครับ .. ขอบคุณมากครับ”

พี่ภูคุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากสภาพเขาน่าจะตื่นก่อนผมไม่นาน หนำซ้ำเขาอาจจะตื่นตอนที่มีสายเรียกเข้านี่ก็ได้ ผมเบือนสายตาหนีเมื่อพี่ภูหันมาสบตา

“ตื่นแล้วหรอ” เขาขยับเข้ามาใกล้ พร้อมกับเตรียมจะวางมือบนหน้าผาก เพื่อวัดไข้ แต่ผมขยับหนี และนั่นก็ทำให้เขาหงุดหงิด

“…” ผมไม่ตอบอะไร และไม่ยอมมองหน้าเขาสักนิด

พี่ภูถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะลงจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อกางเกงที่วางกองอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ ท่าทางเขาดูหงุดหงิดกับปฏิกริยาของผมไม่น้อย

“ตามใจ อยากจะเป็นใบเป็นเบื้อก็ตามใจ” เขาสวมกางเกงเสร็จแล้วจึงหันมาทางผม พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันให้โรงแรมหาเสื้อผ้าใหม่มาให้นายแล้ว ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับบ้านซะ ฉันจะกลับเข้าไปออฟฟิศ เสร็จงานแล้วจะตามกลับไป”

“…” ผมยังคงไม่ตอบ และประโยคต่อมาก็ทำให้ผมต้องน้ำตาไหล และเข้าใจทุกอย่างทั้งหมด

“กลับไปแล้วก็อย่าไปหาเรื่องทะเลาะกับจีน เขาหวังดีกับฉันเขาถึงได้มาบอกเรื่องนาย ไม่งั้นฉันก็คงเป็นไอ้โง่ โดนนายหลอก โดนนายสวมเขาให้ไม่รู้เรื่องรู้ราว”

“สรุปว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะคุณจีน .. ที่พี่ภูทำขนาดนี้กับไนล์เพราะคุณจีนบอกพี่ภูหรอครับ” ผมถามเสียงเบา หัวใจเหมือนถูกบิดจนขาดวิ่น และสิ่งที่พี่ภูพูดก็ตอกย้ำให้ผมคิดได้ในนาทีนั้น

“ใช่! เพราะจีนบอก ฉันต้องขอบคุณจีนด้วยซ้ำ ไม่งั้นฉันก็คงเอาแต่ทำงานงกๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวสักอย่าง ไม่รู้ว่านายทำกับฉันขนาดนี้”

พี่ภูพูดกับผมอย่างเย็นขา เขาเชื่อคุณจีนหมดใจโดยไม่คิดจะถามผมสักคำ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังจะถามออกไปเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้ตัวเองได้ตัดสินใจได้สักที


“ละ ฮึก.. แล้วพี่ภูคิดจะถามไนล์สักนิดไหมครับ ว่าไนล์ ฮึก.. ไนล์ทำอย่างที่คุณจีนบอกรึป่าว”


ผมบีบมือตัวเองแน่น รอคอยคำตอบอย่างคาดหวัง ถ้าแค่เพียงเขาคิดจะถามผมสักนิด.. แค่เพียงสักนิด ผมอาจจะยอมเป็นคนโง่เพื่อถ่วงเวลาของเราให้นานออกไป แต่ถ้าไม่...

“หึ!” พี่ภูปรายตามองผม ก่อนที่จะพูดคำตอบที่เฉือนใจผมเหวอะหวะ ไม่เหลือชิ้นดี “จะถามทำไม ในเมื่อฉันเห็นคาตาขนาดนี้”

... ทุกอย่างก็ควรจบลงเสียที

ผมหลับตา ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด .. ไม่เหลือความหวังอะไรแล้วทั้งนั้น พี่ภูไม่คิดจะถามผมด้วยซ้ำว่าเรื่องที่คุณจีนพูดนั้นจริงหรือไม่จริง เขาเชื่อคุณจีนทุกคำพูด คุณจีนที่เคยหักหลังและทรยศความรักของเขา ในขณะที่ผมรักและภักดีกับเขามาตลอดเกือบสามเดือนที่อยู่ด้วยกัน .. ไม่สิ สิบปีต่างหากที่ผมมั่นคงกับเขามาโดยตลอด

และแม้แต่ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ผมก็พยายามพิสูจน์ให้พี่ภูเห็นหลายต่อหลายครั้งว่าผมรักเขามากแค่ไหน แต่เพราะมันไม่เคยสำคัญกับเขาเลย มันไม่เคยมีค่ากับพี่ภูเลย เขาถึงได้ทำร้ายจิตใจผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยการเอาแต่เชื่อคำพูดของคนอื่น

และในเมื่อความรักที่ผมให้เขาไปมันไม่มีค่าและสำคัญมากพอสำหรับเขา … ผมก็ควรหยุดกับการยื้อความรักที่ยาวมานานถึงสิบปีเสียที

ผมรักพี่ภูมากเกินไป จนหลงลืมไปว่าที่จริงแล้วผมก็ควรรักตัวเองด้วยเช่นกัน

“ไปอาบน้ำสิ รอเสื้อผ้าใหม่มาส่ง เดี๋ยวฉันจะสั่งให้พนักงานโรงแรมเรียกแท็กซี่มาให้ แล้วกลับไปบ้านซะ” พี่ภูบอกก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งผมไว้กับหัวใจที่เหวอะหวะของตัวเอง

ใช่... ได้เวลาที่ผมจะกลับบ้านเสียที

.

.

.

“คุณไนล์ ป้าเป็นห่วงแทบแย่ หายไปไหนมาคะ? เกิดอะไรขึ้นรึป่าวคะ?”

ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในคอนโด ป้ามลที่น่าจะผุดลุกผุดนั่งอยู่นานก็ลุกขึ้นยืนแล้วโผเข้ามากอด พร้อมกับลูบหน้าลูบตาถามผมอย่างเป็นห่วงเป็นใย

ในขณะที่คุณจีน มองผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เธอยิ้มเยาะที่เห็นผมอยู่ในสภาพอิดโรยและดูอ่อนเพลีย แต่ผมในตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้นว่าเธอจะคิดหรืออยากทำอะไรอีก ผมพอแล้ว ผมเหนื่อยกับเรื่องทั้งหมดนี่เหลือเกิน และที่ผมกลับมา เพราะอยากสะสางทุกอย่างก่อนไป

รวมถึงความรู้สึกของผมเอง

“ไม่มีอะไรครับป้ามล ไนล์ไม่เป็นอะไร” ผมหันมายิ้มบางๆ ให้ป้ามลและตอบให้แกคลายกังวล ก่อนที่จะหันไปหาคุณจีนและพูดกับเธออย่างชัดเจน “คุณทำสำเร็จแล้ว ผมยอมแพ้ ต่อจากนี้ไปขอให้เลิกยุ่งกับผมสักที”

เป็นอีกครั้งที่คุณจีนยิ้มเยาะใส่ผม เธอลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินตรงมาหาผม โดยไม่ได้มีทีท่าว่าจะเจ็บข้อเท้าหรืออะไรแม้แต่น้อย

“รู้ตัวก็ดี หึ! ภูไม่มีทางทิ้งฉันไปหาเด็กผู้ชายที่เป็นแค่คนรับใช้อย่างแกอยู่แล้ว เจียมตัวไว้ซะบ้าง” เธอเหยียดยิ้มมุมปาก “แกคิดถูกแล้วแหละที่ยอมถอยเอง เพราะยังไงอีกไม่นานภูก็ต้องเขี่ยแกทิ้งแล้วเลือกฉัน… เพราะขนาดฉันแค่สร้างเรื่องนิดๆ หน่อยๆ เขายังเชื่อที่ฉันบอกจนหมดใจ ทีนี้รู้ยังว่าระหว่างฉันกับแก ใครสำคัญกับเขามากกว่ากัน!”

ผมกำมือแน่น ทุกถ้อยคำบาดลึกไปถึงหัวใจ ผมพยายามนิ่งและอดทน แต่คนที่ทนไม่ไหวกลับเป็นป้ามลแทน

“นี่คุณ! คุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกคุณไนล์แบบนี้นะ คุณไนล์ไม่ใช่…”

“ช่างเถอะครับป้ามล ไม่ต้องพูดอะไรหรอก มันจบแล้ว ไนล์พอแล้วครับป้า ไนล์พอแล้วจริงๆ” ผมหันไปยึดมือป้ามลไว้แน่นเพื่อเป็นการห้าม แกดูตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น

“คุณไนล์.. คุณไนล์หมายความว่ายังไงคะ?” ป้ามลถามผมอย่างตกใจ เหมือนพอจะเดาได้ว่าผมคิดจะทำอะไร

“ป้าครับ ไนล์มีเรื่องจะรบกวนป้า เราเข้าไปคุยกันในห้องไนล์ได้ไหมครับ” ป้ามลยังคงดูสับสนแต่ก็พยักหน้ารับ

“ได้สิคะคุณไนล์”

ผมกับป้ามลพากันเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น เพื่อจะตรงไปยังห้องนอนผมที่อยู่ถัดไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าเพราะคำพูดเย้ยหยันของคุณจีน

“ส่วนเงินห้าแสนที่ฉันให้แกเอามาจากเทมส์น่ะฉันยกให้ ถือว่าทำทานให้แกเอาไปใช้ตั้งตัวเพราะตอนนี้คงไม่มีที่ซุกหัวนอน”

พอคุณจีนพูดจบป้ามลก็ดูโกรธมากถึงแม้ว่าป้าจะไม่รู้ว่าที่คุณจีนพูดหมายความว่ายังไง แต่ฟังยังไงก็ไม่พ้นถ้อยคำดูถูกผม ผมเลยต้องรั้งป้าไว้อีกครั้งและส่ายหน้าบอกไม่ให้ป้าสนใจในสิ่งที่คุณจีนพูด ก่อนที่ผมจะเดินเร็วๆ แล้วพาป้าเข้ามาในห้องนอน ผมมีเวลาไม่มาก ก่อนที่พี่ภูจะกลับมา และทันทีที่เข้ามาในห้องได้ ผมก็ล็อคประตู และบอกให้ป้ามลนั่งรอที่เตียง ก่อนที่จะไปค้นกุกกักในตู้เสื้อผ้าและหยิบของที่ต้องการออกมา

“ป้ามลครับ ไนล์มีทั้งเรื่องรบกวนและขอร้องให้ป้ามลช่วย ป้ามลช่วยไนล์หน่อยนะครับ” ผมนั่งลงข้างๆ ป้ามลและจับมือที่เคยช่วยเหลือผมหลายต่อหลายครั้งไว้ และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผมต้องรบกวนให้แกช่วย

“ได้สิคะ คุณไนล์อยากให้ป้าทำอะไร คุณไนล์บอกป้าได้เลย ป้ายินดีช่วย”

ผมจัดการหยิบสมุดบัญชีเงินฝากออกมา ก่อนจะเปิดเช็คดูความถูกต้องแล้วยื่นให้ป้ามล ซึ่งป้าแกก็รับไว้แม้จะไม่ค่อยเข้าใจก็ตาม

“สมุดธนาคารหรอคะคุณไนล์”

“ใช่ครับป้า เป็นสมุดธนาคารที่เป็นชื่อพี่ภู ไนล์ไปเปิดเอาไว้มาสักพักแล้ว แล้วไนล์ก็เอาเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พี่ภูเคยให้ใส่ไว้ในบัญชีนี้ ตั้งใจว่าวันที่ไนล์บอกความจริงกับพี่ภูแล้วไนล์จะคืนให้ แต่ตอนนี้ไนล์คงรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว” ผมยิ้มบาง พร้อมกับจับมือป้ามลที่ถือสมุดบัญชีไว้แน่น “ยังไงไนล์ฝากป้ามลคืนพี่ภูทีนะครับ ไนล์ไม่อยากให้เขาฝังใจว่าไนล์ทำกับเขาไม่ต่างจากที่คนอื่นเคยทำให้เขาเสียใจมา”

“โถ คุณไนล์ของป้า” เสียงป้ามลสั่นเครือ แกน่าจะพอเดาเหตุการณ์ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง “เหนื่อยไหมคะ? คุณไนล์สู้ไม่ไหวแล้วหรอ?”

ผมน้ำตาไหลทันทีที่ได้ยินป้ามลถามแบบนั้น ก่อนจะตอบออกไปทั้งที่เสียงสั่นแม้ริมฝีปากผมจะยิ้มก็ตาม

“ไนล์ทำเต็มที่แล้วครับป้ามล ไนล์ทำเต็มที่แล้ว.. ฮึก ตอนนี้คนที่พี่ภูต้องการอาจไม่ใช่ไนล์ แต่อาจจะเป็นคุณจีนคนที่พี่ภูไม่เคยลืมก็ได้นะครับ”

“แต่คุณไนล์คะ…” ผมส่ายหน้าช้าๆ เพราะรู้ว่าป้ามลพยายามจะแย้ง แต่ตอนนี้ผมฝืนตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้วไหนจะปัญหาในอนาคตอีก

ผมมีสิทธิ์ตั้งท้อง ตั้งท้องโดยที่ไม่ได้มีวี่แววเลยว่าพี่ภูจะรับได้ ทุกอย่างมันผิดที่ผิดทาง ผิดจังหวะไปหมด เพราะฉะนั้นผมควรถอยออกมาน่ะถูกต้องที่สุดแล้ว

“เชื่อไนล์เถอะครับป้ามล แบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว ดีทั้งกับพี่ภู และดีทั้งกับไนล์เอง”

ป้ามลนิ่งไปคล้ายกับยอมรับการตัดสินใจของผม ให้ผมต้องหยิบกล่องขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือออกมาอีกหนึ่งใบ กล่องที่ผมตั้งใจจะมอบให้พี่ภูหลังจากที่ผมบอกความจริง

“ส่วนกล่องนี้ไนล์ฝากป้ามลคืนให้พี่ภูครับ ป้ามลบอกพี่ภูแค่ว่าไนล์ฝากคืนให้ ที่จริงมันมีจดหมายอยู่ในนี้ด้วย ถ้าพี่ภูเปิดอ่านและเห็นของในกล่องพี่ภูจะเข้าใจได้เอง”

ผมมองป้ามลรับกล่องไปไว้ในมือพลางน้ำตาไหลช้าๆ ที่จริงผมเอามันมาด้วยเพราะตั้งใจว่าถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี หลังจากที่ผมบอกความจริงกับพี่ภู ผมจะให้กล่องนี้ด้วยมือของตัวเองและจะขยำจดหมายที่เขียนเผื่อไว้ทิ้ง มันเป็นจดหมายที่เขียนเผื่อไว้ในกรณีแบบนี้ และนั่นทำให้จดหมายฉบับนั้นไม่ถูกขยำทิ้งและพี่ภูคงจะได้อ่านมัน

“คุณไนล์… คุณไนล์แน่ใจแล้วใช่ไหมคะว่าจะไปทั้งแบบนี้ คุณไนล์ลองโทรหาคุณท่านก่อนไหมคะ เผื่อว่า…”

“ไนล์ตัดสินใจแล้วครับป้ามล อย่ารบกวนคุณแม่เลย ท่านจะไม่สบายใจเปล่าๆ” ผมพูดสวนออกไปเป็นการตัดบททั้งที่น้ำตาไหล ในขณะที่ป้ามลเองก็ร้องไห้ไปกับผมด้วย

“ก็ได้ค่ะคุณไนล์ แล้วป้าจะจัดการให้นะคะ คุณไนล์ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ขอบคุณนะครับป้ามล ไนล์ขอบคุณมากๆ” ผมจับมือป้ามลแน่นพร้อมกับเอ่ยลา เมื่อมองเวลาและเห็นว่ามันผ่านมานานพอสมควรแล้ว “ป้ามลครับ เดี๋ยวไนล์ต้องไปแล้ว ป้ามลดูแลตัวเองดีๆ นะครับ แล้วยังไงไนล์จะโทรหา เผื่อว่าป้ามลอยากให้ไนล์ช่วยอะไร จะได้มีช่องทางติดต่อกัน… ส่วนของทุกอย่างที่จริงไนล์ตั้งใจจะเอาให้พี่ภูด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้..”

ผมพูดไม่ออก เหมือนทุกอย่างมันจุกอยู่ที่ลำคอ ที่ทำได้มีแค่ร้องไห้ออกมาเงียบๆ เท่านั้น

“ไม่เป็นไรค่ะคุณไนล์ ไม่เป็นไร… คุณไนล์ก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันนะคะ” ป้ามลยกมือผมขึ้นมากอด “ส่วนของทุกอย่างป้าจะส่งให้กับมือคุณภูด้วยตัวเอง ป้าสัญญา”

“ขอบคุณครับป้ามล”

ผมโผเข้ากอดป้ามลที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ เราร่ำลากันอยู่อีกพัก แล้วผมก็ลุกไปเก็บเสื้อผ้าข้าวของที่มีอยู่ไม่มากลงกระเป๋า ตอนมาผมมีมาแค่ไหน ตอนจะกลับผมก็เอาไปแค่นั้น… อาจจะมีของหนึ่งชิ้นที่เพิ่มเข้ามา และของอีกหนึ่งชิ้นที่ผมทิ้งไว้

กรอบรูปที่พี่ภูซื้อให้ที่หัวหิน เป็นสิ่งที่ผมเก็บกลับไปด้วย มันเป็นความทรงจำดีๆ สุดท้ายที่เรามีร่วมกัน และผมก็อยากจะรักษามันไว้ แทนที่กล่องใบนั้นที่ผมทิ้งไว้ให้พี่ภู กล่องที่ผมอยากจะให้เขาด้วยตัวของผมเอง

… แต่ตอนนี้ผมคงทำได้แค่ฝากป้ามลไปคืน

.

.

.

ผมเก็บข้าวของเรียบร้อย และกำลังจะเดินออกจากห้องนอนไปพร้อมป้ามล.. ผมกำลังจะไปจากที่นี่ก่อนที่พี่ภูจะกลับมา แต่เสียงเรียกเข้ามือถือทำให้ผมต้องชะงักเท้าเสียก่อน


‘ลม’


ผมรับสายด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าลมโทรมาทำไม และยังไงถึงได้โทรมาตอนนี้ และทันทีที่รับสาย มือถือก็แทบร่วงหล่นจากมือ

“ลม ว่า…”

(ไนล์! ลมต้องการคำอธิบาย ว่าทำไมผู้จัดการโรงแรมที่ลมส่งไปดูงานที่ออสเตรเลียถึงบอกมาว่า เขาไม่เคยเจอไนล์ไปคุยงานอะไรกับลูกค้าที่นั่นเลย! ที่เห็นมีแค่คุณฤดี หนำซ้ำคุณฤดีก็ดีลโปรเจ็คเสร็จตั้งหลายวันแล้วแต่ยังไม่กลับ มันหมายความว่ายังไงไนล์? หมายความว่ายังไงบอกเรามา?! นี่ไนล์กำลังเล่นอะไรอยู่ เกือบสามเดือนที่ผ่านมานี่ไนล์ไปอยู่ที่ไหนกัน??)

ลมดูโกรธมาก เขาพูดแทบไม่หายใจ ในขณะที่ผมทำอะไรแทบไม่ถูก แต่พอตั้งสติได้ ผมก็คิดว่ามันเปล่าประโยชน์อะไรที่จะโกหก ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว .. วันที่ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป

“ใจเย็นๆ นะลม เราสัญญาว่าเราจะเล่าทุกอย่างให้ลมฟัง .. ถ้าไม่รบกวนเกินไปลมมารับเราที่ซอยxxx ได้ไหม คอนโด W เดี๋ยวเราจะรออยู่หน้าคอนโด แล้วจากนั้นลมอยากรู้อะไร เราจะเล่าให้ลมฟังทั้งหมด”

(ได้! ลมอยู่แถวนี้พอดี อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงลมจะไปถึง) เสียงถอนหายใจฮึดฮัดดังมาตามสายทำให้ผมรู้ว่าลมกำลังหงุดหงิดไม่น้อย (ลมต้องการคำอธิบายที่ไม่โกหกหรือหลอกอะไรลมอีกนะไนล์ ไม่งั้นลมคงต้องบอกคุณพ่อกับคุณแม่ของไนล์ถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น)

“อืม เราไม่โหกอะไรแล้วล่ะ ลมมาเถอะ เราสัญญาแล้วไงจะเล่าให้ฟัง”

ผมกดวางสายพร้อมกับถอนหายใจ … บทปัญหาจะประดังประเดเข้ามา มันก็ไม่รอให้ผมตั้งตัวสักนิด แต่เอาเถอะ ในเมื่อผมตัดสินใจเดินหน้าเข้าพุ่งชนทุกอย่างแล้ว ก็ทำให้มันจบๆ ไปแล้วกัน

ผมลาป้ามลอีกครั้งพร้อมกับเดินออกมาที่ประตูคอนโด ตอนนี้คุณจีนไม่ได้อยู่แถวนั้นแล้วแต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะผมก็ไม่ได้อยากเจอเธออีก

ผมกวาสายตาไปรอบๆ เพื่อบันทึกทุกความทรงจำที่ดีและร้ายใส่สมองและหัวใจ ผมอยู่ที่นี่เกือบสามเดือน สามเดือนที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เหตุการณ์ที่ทั้งสุขและทุกข์ เหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งยิ้มและร้องไห้ได้

ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะเขา.. พี่ภู คนที่เป็นรักแรกและรักเดียวของผมมาตลอดสิบปี

ถึงแม้วันนี้ผมจะต้องจากไปทั้งที่อะไรไม่เป็นอย่างที่คิด แต่ผมก็ไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจมาที่นี่ มาอยู่กับพี่ภู เพราะอย่างน้อยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ผมก็ได้สัมผัสกับความสุข ถึงจะไม่สมหวังแต่ผมก็ได้พยายามเต็มที่เท่าที่จะทำได้แล้ว

ผมยิ้มบางๆ หลังจากซึมซับทุกอย่างไว้ในความทรงจำ ก่อนจะหันหลังแล้วตัดสินใจเปิดประตูห้องแล้วเดินออกมา

จบสิ้นแล้วกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ของผม .. ได้เวลาบอกลากันเสียที

ผมที่ตัดใจได้แล้วเดินลงมาที่ล็อบบี้ก่อนจะไปยืนรอลมที่หน้าคอนโด ใช้เวลาไม่นานรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันคุ้นตาก็จอดมาเทียบข้าง ผมก้าวขึ้นรถ โดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่ามีรถยนต์อีกคันแล่นสวนเข้ามา ในจังหวะที่ลมวนรถออกไปพอดี

… มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด จังหวะของเราไม่เคยจะตรงกันสักครั้ง แม้แค่จะมองเพื่อบอกลา ผมยังไม่สามารถที่จะทำได้เลย

ผมหันกลับมองไปที่คอนโดอีกครั้ง ในจังหวะที่ท้ายรถพี่ภูหายเข้าไปในคอนโดแล้ว และนั่นก็ถือเป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายของผม

ลาก่อนครับพี่ภู .. ลาก่อนครับความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของไนล์

.

.

.

To Be Continue

---------------------------------------------------

ขึ้นอย่างหงส์มาตลอด ทีนี้เตรียมลงเหมือนหมาได้เลยนะพี่ภู

ไม่ต้องห่วงทุกคนจะคอย... สมน้ำหน้าพี่เองจ้า ^^

ฝากคอมเม้นท์และ ติดแท็ก #พี่ภูของผมในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ หวังว่าแช็ปเตอร์นี้จะทำให้ทุกคนสะใจ เอ๊ย โล่งใจไม่น้อย เดี๋ยวมีให้โล่งใจในตอนถัดๆ ไปได้อีกค่ะ อย่าห่วงๆ 555555555

ขอบคุณหลายๆ คนนะคะ ที่ทนรำคาญ และทนอึดอัดกับความน้ำเน่ามาได้จนถึงตอนนี้ อย่างที่เราเคยบอกไปในบทนำเนาะ ว่าเรื่องนี้มันน้ำเน่ามากจริงๆ พล็อตละครหลังข่าวอ่ะค่ะ แต่เราก็อยากเขียนเหลือเกิน ซึ่งมันอาจจะขัดใจบางคนไปหน่อย เราก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยย

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และกำลังใจที่ผ่านมานะคะ แชปเตอร์นี้มีทริกเกอร์วอร์นนิ่งด้วยย รบกวนทุกคนใช้วิจารณญาณในการอ่านน้า.. ขอบคุณมากๆ ค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้า อาจช้าหน่อย วันพฤหัสไม่ก็ศุกร์เลยเนาะ ... รักค้าบ <3

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ลาก่อนได้กี่วันละจ๊ะ อุแหม!! ถ้ามีลูกขึ้นมา อะเขาไปง้อ สำนึกผิดแล้ว ขอโทษ บอกรัก ด้วยความรักที่มีมากมาย อะโอเค ให้อภัยก็ดะ พูดดักรัวๆละเนี้ย 5555555 ความสมเหตุสมผลที่พี่ภูจะกลับมาได้ ริบหรี่มาก แทบจะไม่มีเลยส่วนตัวเรานะ ไม่ ไม่เลย ถึงลูกมีลูกก็ตาม และอย่าไปหาเอาเหตุผลขับรถชนต้นไม้แล้วเจ็บหนักมาง้อละ ง่อยมากจ้าอิพี่ภู 5555 โนวๆไม่ว่าจะเหตุผลไร ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้นแหละ ที่ทำลงไป ได้รับผลทั้งคำพูดและการกระทำมันมากเกินจะให้กลับมาเป็นแบบเดิมได้  o18 จะรอดูไนล์ จะได้หัวเราะเยาะเร็วไหม 555555

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
โอ้ยยยยยย
หลีงจากนี้ประเด็นเยอะมาก
1พี่ภูรู้ความจริง
2ลมรู้ความจริง
3ที่บ้านรู้ความจริง
4พี่เทมส์จะโกธมากขนาดไหน
โอ้ยยยยยยย
อยากอ่านต่อใจจะขาดมาวันพฤหัสเลยหนอนานจุง

รออ่านนนน

ออฟไลน์ PsapBBBB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไนล์ลูกกกกกลับบ้านเรากันลูก แม่ถือไม้หน้าสามปกป้องเอง ซักไม้ไหมอิพี่ภูห๊าาาาาาาาา หลังจากนี้เชียร์ให้พี่เทมส์เอาน้องไปซ่อนไกลๆเลนะคะที่รัก น้องควรหายไปให้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้ออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โง่ซ้ำซากแบบพี่ภู ควรไปให้หนอนไชตายไปค่ะ

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
คือจากที่อ่าน ขอแบบจบให้ภูแค่รู้ความจริง แต่เราไม่ต้องการให้กลับมาคู่กัน ขอจบแบบนี้ซักเรื่องเถอะ
ปล.อยากได้พี่เทมส์เป็นพระเอกซักเรื่องอะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เดี๋ยวมีลูก พี่ภูรู้ความจริงตามง้อ เดี๋ยวก็ดีกันเชื่อเถอะ แต่ถ้าจะดีกันก็ขอให้ลูกของไนล์โตซักอายุ 18-19 ก่อนแล้วค่อยดีกันได้ยิ่งดี

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
บอกตามตรงว่ารถสมน้ำหน้าอิพี่ภูมันจ้าาา :beat: :beat:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อืออวันนี้ไม่มาอ่าาาาา​ อยากอ่าน

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
Universe 29th : สายเกินไป


ผมนั่งรถออกมากับลมสักพัก เราสองคนนิ่งเงียบมาตลอดทาง ผมเหลือบมองลมก่อนจะพบว่าเขาผอมลงนิดหน่อยจากเมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นลมก็ยังคงดูดีมากอยู่ดี แม้ว่าตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาจะเคร่งเครียด คิ้วขมวดมุ่นก็ตาม

“ลม.. คือเรา…”

“พี่เทมส์รู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?” ผมนิ่งอึ้งไปเพราะยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยค ลมก็ถามสวนออกมาเสียก่อน เขาไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ เอาแต่จ้องถนนตาไม่กะพริบ “ไนล์สัญญาแล้วนะว่าจะตอบลมทุกเรื่อง”

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นั่นเพราะผมรู้ว่าตอนนี้ลมโกรธมาก เวลาโกรธจัดๆ เขามักจะไม่มองหน้าผม เขาเคยบอกผมว่าเวลามองหน้าผมแล้วเขาชอบใจอ่อน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ลมโกรธมากเขาจะตัดใจไม่มองหน้าผมเลย เพรานั่นจะเป็นการทำให้ผมรู้ว่าลมจะไม่ยอมใจอ่อนให้แน่ๆ

“อือ พี่เทมส์รู้.. พี่เทมส์รู้ทุกเรื่องแหละ” ผมเห็นแววตาของเพื่อนสนิท เจ็บปวดอยู่ชั่วแวบหนึ่งซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกผิดไม่น้อย

“งั้นไนล์โทรหาพี่เทมส์ แล้วบอกพี่เทมส์ไปว่าลมรู้เรื่องที่ไนล์ไม่ได้ไปออสเตรเลียแล้ว” ลมพูดเสียงนิ่ง “ลมอยากรู้ทุกเรื่องแบบไม่มีการโกหกกันอีก เพราะฉะนั้นไนล์กับพี่เทมส์ต้องมาคุยกันต่อหน้ากับลม”

“ลม...” ผมพูดไม่ออก

“ไนล์กับพี่เทมส์เป็นคนดึงลมเข้าไปเกี่ยวในเรื่องนี้นะ เพราะฉะนั้นลมมีสิทธิ์รู้... มีสิทธิ์รู้ว่าไนล์กับพี่เทมส์กำลังทำอะไรกัน”

“….” ผมเงียบ เพราะเถียงในสิ่งที่ลมพูดไม่ได้

“แล้วลมก็ไม่ได้ขู่ด้วยเรื่องที่จะบอกคุณพ่อคุณแม่ ถ้าไนล์กับพี่เทมส์ยังคิดจะปิดบัง ลมจะบอกเรื่องทั้งหมดให้พวกท่านรู้”

ผมหน้าซีดทันทีพอได้ยินลมบอกแบบนั้น เพราะถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อกับแม่ของผม ผมไม่มีทางหลบเลี่ยงอะไรได้เลย ไอ้เรื่องที่ท่านจะโกรธน่ะผมไม่วิตกเท่าไหร่ แต่ถ้าทำให้ท่านเสียใจขึ้นมา ผมกับพี่เทมส์ต้องรู้สึกผิดไปทั้งชีวิตแน่ๆ

“ก็ได้ งั้นเดี๋ยวเราโทรหาพี่เทมส์”

พอพูดจบผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่ชายทันที ซึ่งพี่เทมส์ก็ไม่ปล่อยให้ผมรอสายนาน

“พี่เทมส์” ผมกรอกเสียงเรียกพี่ชาย ที่ยังดูงงๆ ว่าผมโทรหาทำไม เพราะนี่ไม่ใช่เวลาปกติที่ผมจะโทรหาพี่เทมส์

(ว่าไงไนล์ มีอะไรรึป่าว? ทำไมถึงโทรหาพี่เวลานี้ล่ะ) พี่เทมส์ถามเป็นชุดและผมก็ยังไม่สามารถตอบคำถามของพี่เทมส์ได้เลยเบี่ยงมาเข้าประเด็นนี้แทน

“พี่เทมส์ครับ ลมรู้เรื่องทุกอย่างแล้วนะครับ” ผมพูดเสียงเบา “ลมอยากคุยกับเราสองคนครับพี่เทมส์ พี่เทมส์พอจะสะดวกาเจอกับเราไหมครับ”

ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากปลายสาย ก่อนที่เขาจะตอบผมกลับมาเหนื่อยๆ

(ความแตกจนได้สินะ.. ว่าแต่ไนล์ออกมาแบบนี้ไอ้ภูมันจะไม่สงสัยเอาหรอ? มันเพิ่งออกไปจากออฟฟิศเมื่อสักพักนี่เอง ไนล์จะกลับไปทันมันกลับมาคอนโดได้หรอครับ?)

พี่เทมส์ถามผมกลับอย่างสงสัย ให้ผมต้องบอกปัดเพราะต้องการแก้ทีละปัญหา

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะครับพี่เทมส์ ไนล์อยากให้เราคุยกับลมก่อน” ผมตัดสินใจไม่บอกพี่เทมส์เรื่องที่ลมเอาพ่อแม่มาขู่ เพราะไม่อยากหาเรื่องให้พี่เทมส์หงุดหงิดเพิ่ม

(งั้นก็ให้ลมขับรถไปเจอที่บ้าน พ่อกับแม่ไม่อยู่พอดี มีอะไรไปคุยที่บ้านแล้วกัน จะได้เป็นส่วนตัวด้วย)

“ครับ”

ผมครางรับพร้อมกับกดวางสาย เมื่อได้ยินว่าพี่เทมส์จะรีบออกมาจากออฟฟิศ และหลังจากเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ผมก็หันไปบอกเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนว่าจะคร่ำเคร่งกับการขับรถเสียเหลือเกิน

“ลม พี่เทมส์บอกให้ไปหาที่บ้าน มีอะไรให้ไปคุยกันที่นั่น เดี๋ยวพี่เทมส์จะรีบกลับมาเจอ”

ลมพยักหน้าและไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะเหยียบคันเร่งตรงไปที่บ้านผม ในขณะที่ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกออย่างจะพ้นไปด้วยดี

.

.

.

ผมมาถึงบ้านในเวลาต่อมา บรรดาคนงานในบ้านก็เข้ามาดูแลห้อมล้อมเต็มที่ ทั้งยังไถ่ถามอย่างสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่โทรมาบอกก่อนว่าจะกลับ อีกทั้งคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่อยู่ เลยยิ่งทำให้ทุกคนแตกตื่นไปกันหมด ผมต้องใช้เวลาปลอบและอธิบายกันอยู่นานว่าไม่ต้องตกใจกันไป ที่ผมรีบกลับมาเร็วก็เพราะมีงานด่วน พี่เทมส์เลยเรียกให้กลับมา เท่านั้นแหละถึงจะยอมสบายใจและแยกย้ายกันไปทำงานได้ แต่ก็ไม่วายหอบน้ำ หอบขนม หอบของว่างมาวางเสิร์ฟให้ผมกับลมจนล้นโต๊ะ โดยเฉพาะป้าบัวที่ดูแลผมกับพี่เทมส์มาตั้งแต่เด็กเข้ามาทั้งกอด ทั้งหอม บอกว่าคิดถึงมากเพราะไม่ได้เจอกันเกือบสามเดือน

“ชื่นใจของบัว บัวดีใจจังค่ะที่คุณหนูไนล์กลับมา บัวคิดถึง”

“โอ๋นะครับ” ผมกอดป้าบัวกลับพร้อมกับโยกตัวแกไปมาเบาๆ “ไนล์ก็คิดถึงป้าบัว สัญญาครับว่าต่อไปนี้จะไม่ไปไหนนานๆ อีกแล้ว”


ใช่... ไม่ไปไหนอีกแล้ว


“ดีค่ะ” ป้าบัวยิ้มกว้างตอนได้ยินผมบอกแบบนั้น “ถ้าอย่างนั้นคุณหนูไนล์คุยกับคุณลมตามสบายนะคะ อยากได้อะไรบอกป้า เดี๋ยวป้าเอามาให้เพิ่ม”

“ขอบคุณครับป้าบัว” พอผมตอบรับไปแบบนั้นป้าบัวก็เลยเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป เดาว่าคงไปเข้าครัวตามประสา และอาหารเย็นบนโต๊ะวันนี้คงไม่พ้นของโปรดผมจนล้นแน่ๆ


ผมยิ้มน้อยๆ พลางซึมซับเอาความรู้สึกแบบนี้เข้ามา .. ความรู้สึกของการเป็นคนสำคัญและการถูกดูแล


แต่ซึมซับยังไง ถมเท่าไหร่ มันก็เหมือนไม่เต็มสักที ไม่เหมือนตอนที่ได้รับจากพี่ภู แม้เพียงแค่น้อยนิดที่เขาแสดงออกแต่กลับมากมายเหลือเกินเมื่อผมได้รับ …

... ผมคิดถึงพี่ภูอีกแล้ว นี่เพิ่งจะจากเขามาไม่เท่าไหร่เอง

และสุดท้ายผมก็ต้องหลุดออกจากภวังค์ที่ตัวเองสร้างเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนสนิท

“ไนล์.. ไนล์ ไนล์!” ผมสะดุ้งเพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอีกทั้งยังใจลอย ลมเลยเดินมาจับข้อมือผมแล้วจูงไปนั่งที่โซฟา

และนี่คือนิสัยของลมที่ผมชอบ .. ไม่ว่าเขาจะโกรธผมแค่ไหน แต่เขาก็จะยังคงดูแลผมเสมอ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

“มานั่งพักก่อน กว่าพี่เทมส์จะมา”

ลมพูดขึ้นให้ผมต้องถอนหายใจ ผมนึกรู้ในทันทีว่าลมจะต้องไม่เริ่มพูดอะไรจนกว่าพี่เทมส์จะมาแน่ๆ และผมก็ทนให้เราสองคนนั่งเงียบๆ อึดอัดๆ แบบนี้ไม่ไหวหรอก

“ลม.. ถ้าลมอยากจะถามอะไรเราก่อน ถามได้เลยนะ ไม่ต้องรอให้พี่เทมส์มาก็ได้” ผมตัดสินใจเปิดประเด็นขึ้น เพราะถ่วงเวลาไปก็เปล่าประโยชน์

ลมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขามองผมนิ่งแววตาเต็มไปด้วยความสับสน มันเหมือนกับว่าเขาทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ … คงอยากถามเพื่อให้หายข้องใจ แต่ก็กลัวคำตอบที่จะได้ยิน แต่สุดท้ายเขาก็ตัดใจถามผมออกมาในที่สุด

“เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวกับพี่ภูใช่ไหม?”

ผมหลับตา กำมือตัวเองที่วางไว้บนตักแน่น นึกรู้อยู่แล้วว่าคำถามของลมต้องออกมาเป็นแบบนี้แต่ก็อดทำใจไม่ได้ที่จะตอบออกไป เพราะผมรู้ดีว่าคำตอบของผมจะทำร้ายจิตใจเขามากแค่ไหน

และในขณะที่ผมกำลังตัดสินใจจะอ้าปากตอบ เสียงพี่เทมส์ก็ดังสวนขึ้นมาเสียก่อน พร้อมๆ กับการปรากฎของพี่ชายผม

“ใช่! ทั้งหมดนี่เกี่ยวกับไอ้ภูนั่นแหละ นายเข้าใจถูกแล้วลม”

ผมน้ำตารื้นทันทีที่เห็นพี่ชายอยู่ตรงหน้า แม้ผมจะเพิ่งเจอเขาไปเมื่อวานแต่มันก็ไม่เพียงพอและไม่สามารถลบล้างเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผมเจอวันนี้ได้เลย ทั้งเรื่องที่พี่ภูทำกับผม ทั้งเรื่องที่ลมจับได้ ..


... ผมแทบจะรับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว


“พี่เทมส์…ฮึก”

ผมลุกขึ้นแล้วโผเข้ากอดพี่ชายตัวเองแน่น พี่เทมส์เองก็คงรู้ถึงสภาพจิตใจที่ไม่ปกติของผม หรือเขาอาจจะคิดว่าผมแค่กังวลเรื่องที่ลมรู้ก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเพราะเหตุไหนก็แล้วแต่ พี่เทมส์ก็อ้าแขนกว้างให้ผมเข้าไปกอด ก่อนที่เขาจะกอดตอบผมแน่นไม่ต่าง

“ว่าไงครับ ตัวเล็กของพี่” และยิ่งได้ยินพี่เทมส์เรียกผมด้วยสรรพนามที่เขามักใช้เรียกผมตอนเด็กๆ น้ำตาผมยิ่งไหล

“ไนล์.. ฮึก ฮือออ ไนล์ขอโทษ” ผมพึมพำคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่ถามผมเลยว่าเรื่องอะไร เอาแต่กอดผมไว้แน่นอยู่แบบนั้นจนผมสงบลง

“หยุดร้องไห้แล้วใช่ไหม?” พี่เทมส์ดันตัวผมออก เพื่อดูว่าผมหยุดร้องแล้วจริงๆ และพอเห็นว่าผมพยักหน้ารับ เขาก็เดินพาผมมานั่งที่โซฟาออีกครั้ง พร้อมกับทรุดลงนั่งข้างๆ

“ว่าไงลม เราอยากรู้อะไรก็ถามพี่มา อันไหนพี่ไม่รู้หรือตอบแทนไนล์ไม่ได้พี่จะให้ไนล์ตอบ แต่พี่มีข้อแม้ว่าลมต้องไม่คาดคั้น ถ้าเรื่องไหนที่พี่ตอบว่าบอกไม่ได้ นั่นก็คือบอกไม่ได้ ตกลงตามนี้ไหม?” พี่เทมส์ตั้งเงื่อนไข

“ตกลงครับ” และลมเองก็ตอบรับ เพราะคำถามของเขาครอบคลุมมากพอที่จะรู้ได้ทุกอย่างโดยไม่กระทบกับเงื่อนไขที่พี่เทมส์ตั้ง “ผมอยากรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นครับ เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ในเมื่อพี่ดึงผมเข้าไปเอี่ยวเรื่องนี้ด้วย ผมก็ว่าผมมีสิทธิ์ที่จะได้รู้นะ”

พี่เทมส์ถอนหายใจ ก่อนจะเหลือบมองผมนิดหน่อยราวกับจะขอคำปรึกษา ซึ่งผมเองก็พยักหน้าให้พี่เทมส์เล่า เพราะผมรู้ดีมันเปล่าประโยชน์ที่จะปิดบัง เขาเป็นเพื่อนสนิทผม และอีกอย่างเขาก็ถูกดึงมาเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วย ดังนั้นที่เขากล่าวอ้างว่าตัวเองมีสิทธิ์ได้รับรู้เรื่องนี้ ผมก็คิดว่ามันเป็นจริงตามนั้นและเราก็ปฏิเสธไม่ได้

“ได้.. เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่ไอ้ภูกลับมาจากอเมริกาเพราะถูกผู้หญิงที่มันคิดจะแต่งงานด้วยหักหลัง มันกลับมาด้วยสภาพที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าปกติ ทั้งเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า ทั้งเที่ยว ทั้งทำตัวเสเพล ไนล์เองพอเห็นมันเป็นแบบนั้นก็สงสารมันและรู้สึกว่าอยากช่วย…”

พี่เทมส์หยุดพักเพื่อรอดูปฏิกริยาของลม ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างไปจากที่ผมคาดเดาสักเท่าไหร่นัก

“ไปช่วยเขาทำไม ในเมื่อเขาทำตัวเองทั้งนั้น แค่เลิกกับแฟนที่คบมามันต้องเสียผู้เสียคนขนาดนั้นเลยหรือไง”

ผมหลับตานิ่ง เมื่อได้ยินลมพูดแบบนั้น ไม่แปลกที่ลมจะไม่เข้าใจว่าผมจะพาตัวเองเข้าไปช่วยพี่ภูทำไม ความรู้สึกของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ดังนั้นผมเลยพยายามไม่คิดที่จะอธิบายอะไร แต่พี่เทมส์กลับไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น

“เผื่อนายจะลืมนะลม ว่าไนล์รักไอ้ภูมาสิบปี พี่คิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอตอบได้แล้วมั้งว่าไนล์ช่วยไอ้ภูทำไม”

ลมดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน “แล้วยังไงต่อครับ ผมรอฟังอยู่”

“ไนล์มาบอกกับพี่ว่าอยากช่วยภู ภายใต้เงื่อนไขที่พี่ตั้งนั่นก็คือพี่ให้เวลาสามเดือนในการช่วยไอ้ภู ไม่ว่ามันจะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้นไนล์ก็ต้องยอมรับ และถ้าระหว่างนั้นไอ้ภูมันเกิดรักไนล์ขึ้นมาก็ถือว่าให้เป็นโชคดีของไนล์ไป แต่ถ้ามันไม่รัก หรือมันไม่รู้สึกอะไรด้วย ไนล์ก็ต้องเปิดโอกาสให้ลม และไนล์ก็ต้องหยุดยื้อความรักที่มีต่อไอ้ภูไว้สักที”

ผมน้ำตาไหล เพราะเป็นคนเดียวที่รู้ดีที่สุดว่าผลสรุปสุดท้ายระหว่างผมกับพี่ภูเป็นยังไง … ถ้าเขาไม่รัก ไม่คิดจะรัก ผมก็ต้องหยุด พอ และไม่ฝืนต่อไป


ซึ่งตอนนี้คำตอบที่ได้มันเป็นแบบนั้น


ในขณะที่ลมเองก็นิ่งไปหลังจากฟังเรื่องคร่าวๆ ทั้งหมด ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “งั้นก็หมายความว่าช่วงสองเดือนกว่าที่ผ่านมา ที่บอกว่าไนล์ไปออสเตรเลียนั่นก็คือไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นงั้นหรอครับ? แล้วพี่เทมส์ก็ส่งไนล์ให้ไปอยู่กับหมอนั่น? พี่มั่นใจได้ยังไงว่ามันจะดีกับไนล์ ไม่รังแกไนล์ หรือทำให้ไนล์เสียใจ”

“พี่ไม่รู้หรอก ไม่มีอะไรรับประกันนอกจากคำพูดของไนล์ที่ว่าจะดูแลตัวเอง และพี่ก็มีแค่นั้นเพราะยังไงสุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่การตัดสินใจของไนล์อยู่ดี”

ผมก้มหน้านิ่ง และยังคงร้องไห้เงียบๆ ไม่หยุด ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาเต็มอก ทั้งที่พี่เทมส์ไว้ใจแต่ผมกลับทำลายความไว้ใจนั้นด้วยมือของตัวเอง

“แล้วจากนี้มันจะยังไงต่อครับ พี่เทมส์จะให้ไนล์กลับไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นให้ครบสามเดือนงั้นหรอ? ทั้งที่ผมรู้เต็มอกขนาดนี้ ผมทนให้ไนล์กลับไปไม่ได้หรอกนะครับ” ลมเริ่มเสียงแข็งและดูไม่ยอมอย่างที่ว่า ซึ่งพี่เทมส์เองก็ใช่ว่าจะยอม

“มันยังอยู่ในเงื่อนไขสามเดือนนะลม อีกอย่างไนล์เองก็ใกล้จะบอกความจริงกับไอ้ภูมันแล้ว นายจะรออีกนิดนึงไม่ได้หรือไงกัน มันแค่อีกไม่กี่อาทิตย์ อย่างน้อยก็หลังเปิดโปรเจคมิกซ์ยูส”

“แต่พี่เทมส์ ผมว่า…”

ผมนั่งฟังสองคนเถียงกันและคิดว่ามันควรจะจบและพอเสียที ผมเลยตัดสินใจพูดสวนลมออกไป ก่อนที่เขาจะได้ตั้งหน้าเถียงกับพี่เทมส์ต่อ

“ไนล์พอแล้วครับ ไนล์จะไม่กลับไปอยู่กับพี่ภูแล้ว เรื่องระหว่างไนล์กับพี่ภูจบลงแค่นี้แล้วครับ ไนล์จะไม่พยายามทำอะไรที่เป็นการดึงและรั้งความรักครั้งนี้ไว้อีก.. มันจบแล้วครับ จบแล้วจริงๆ”

ผมพูดเสียงสั่น อีกทั้งน้ำตายังไงไหลเป็นทาง แม้จะฝืนยิ้มบางๆ ให้กับพี่ชายและเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดในใจของผมลดน้อยลงสักนิด

และพอผมรู้ตัวอีกที พี่เทมส์ที่นั่งอยู่ข้างกันก็ดึงผมเข้าไปกอด พร้อมกับถามคำถามที่ผมเลี่ยงจะตอบมาจนตอนนี้ให้ได้ยิน

“ไนล์ เกิดอะไรขึ้น? ไนล์บอกพี่ มีปัญหากับไอ้ภูมาใช่ไหม? เรื่องจีนหรือเปล่า?”

และทันทีที่คำถามของพี่เทมส์จบลง ผมก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนจะรู้สึกอ่อนล้าไปทั้งร่าง เพราะไหนเมื่อคืนจะไม่ได้นอน ไหนจะถูกพี่ภูรังแกมา ไหนจะเรื่องของลม และไหนจะความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่เทมส์ ทุกอย่างตีวนกันมั่ว จนจู่ๆ ภาพในหัวผมก็ขาวโพลน และทุกอย่างก็ดับวูบเหมือนปิดสวิตช์ไฟ สุดท้ายผมก็ล้มพับไปในอ้อมกอดของพี่ชายตัวเอง

.

.

.

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีผู้ชายสองคนก็ยังคงอยู่ตรงหน้าผม เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่จากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนของผมเอง ผู้ชายตัวโตสองคนที่นั่งขนาบข้างอยู่บนเตียงของผมดูตื่นตระหนกมากพอสมควร อาจเป็นเพราะจู่ๆ ผมก็ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา เลยทำให้พวกเขาตกใจและตั้งรับไม่ทันก็เป็นได้

แต่ไม่รู้สิ จะว่าผมจับสังเกตได้ก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่าพี่เทมส์ดูผิดปกติ เขาดูไม่ค่อยสบายใจและเหมือนมีอะไรอยากจะถามผม

“เป็นยังไงบ้าง? ยังเวียนหัวหรือหน้ามืดอยู่ไหม?” พี่ชายผมถาม พร้อมทั้งเอามือมาแตะตามหน้าตามซอกคออย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ เมื่อกี้ที่วูบไปคงน่าจะเครียด แล้วก็พักผ่อนน้อย..พักนี้ไนล์นอนไม่ค่อยหลับน่ะครับ” ผมบอกปัด พลางยิ้มบางๆ ส่งให้พี่ชาย แต่แล้วด้วยความสงสัยก็ทำให้ผมทนไม่ไหว พี่เทมส์ทำหน้าเหมือนมีอะไรในใจมาตั้งแต่ผมตื่นแล้ว

“ไนล์…”

“พี่เทมส์มีอะไรจะถามก็ถามเถอะครับ อย่าอ้ำอึ้งเลย” ผมพูดสวนโดยไม่รอให้พี่ชายได้พูดจบประโยค เพราะรู้ว่าเขาจะต้องพูดอ้อมไปอ้อมมาแน่ๆ

พี่เทมส์มองหน้าผมพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะถามออกมาตรงๆ “เมื่อกี้พี่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไนล์ พี่เห็น.. แม่งเอ๊ย! พี่เห็นรอยบนตัวไนล์…” เขาขยับมาจับไหล่ผม พร้อมกับถามคำถามที่ผมรู้ดีว่าต้องตอบในสักวัน “ไนล์บอกพี่มาตามตรง ไนล์กับไอ้ภู…”

“ครับ” ผมหลับตาเพื่อรวบรวมรวมความกล้าก่อนจะตอบออกไป เพราะรู้ดีว่าพี่เทมส์จะถามอะไร แม้เขาจะยังพูดไม่จบประโยคก็ตาม

.. ผมรู้ดีว่าสำหรับคนที่ทั้งรักและหวงผมมากอย่างพี่เทมส์ มันคงทำใจยากมากน่าดูที่เขาจะถามออกมาได้ตรงๆ

“แม่งเอ๊ย! สัสภู!” พี่เทมส์สบถด่ายาวเหยียด ในขณะที่ลมที่นั่งอยู่อีกข้างผมกำมือแน่น ปฏิกริยาของคนทั้งคู่ที่ถูกส่งออกมาทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปกุมมือของทั้งสองคนเอาไว้ คล้ายกับอยากจะปลอบให้ใจเย็น

“อย่าโกรธพี่ภูกันเลยนะครับ” ผมกลั้นก้อนสะอื้น และมวลความรู้สึกผิดที่ไหลวนในใจก่อนจะสารภาพออกไป “เพราะไนล์เองก็เต็มใจ พี่ภูเขาไม่ได้บังคับอะไร ไนล์ยอมเพราะไนล์รักพี่ภู.. ฮึก”

ผมหลุดสะอื้นเพราะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ผมรู้สึกผิดกับคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทมากที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่รู้จักห้ามใจ และสุดท้ายก็ต้องซมซานกลับมาซบอกทุกคนที่ว่า เพราะคนที่ผมให้เขาไปทุกอย่าง เขาไม่ได้ต้องการผมอีกแล้ว

“ช่างมันครับ ไม่เป็นไร… ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้นะ”

และน้ำตาผมก็ไหลเป็นทำนบแตกอีกครั้ง เมื่อพี่เทมส์ดึงผมไปกอดและปลอบใจไม่หยุด ผมยอมให้พี่เทมส์ดุด่ายังจะดีเสียกว่า บางทีถ้าโดนพี่เทมส์ตีสักทีผมอาจจะรู้สึกผิดน้อยกว่านี้ก็ได้

“ไนล์.. ฮึก ไนล์ขอโทษ ไนล์ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ไนล์ขอโทษที่ทำให้พี่เทมส์ต้องผิดหวัง ฮืออ ไนล์ทำตามที่รับปากไว้กับพี่เทมส์ไม่ได้เลย ฮืออ” ผมร้องไห้โฮ พร้อมกับยึดกอดพี่ชายเอาไว้แน่น แม้จะรู้ว่าตัวเองทำผิดและทำไม่ดีไว้

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากให้เขาโกรธหรือผิดหวังในตัวผม พี่เทมส์เป็นพี่ชายคนเดียวของผม และผมก็ไม่อยากให้เขาทิ้งผมไป

“พี่บอกแล้วไงครับว่าไม่เป็นไร.. ไหนเด็กดี” พี่เทมส์ดันตัวผมออก พร้อมกับยื่นริมฝีปากมาจูบที่หน้าผากผมเบาๆ “เด็กดีของพี่บอกพี่มาตามตรงได้ไหมครับ”

“ฮึก.. ครับ” ผมพยักหน้ารับ แม้จะรู้ว่าคำถามน่าจะหนักแต่ผมคงเลี่ยงไม่ตอบลำบาก

“ไนล์ได้ให้ไอ้ภูป้องกันไหม? เรื่องนี้สำคัญมากและพี่จำเป็นต้องรู้” ผมหันไปมองลมนิดหน่อยหลังจากพี่เทมส์ถามจบ เขาส่งยิ้มให้กำลังใจผมเหมือนทุกครั้ง เขาไม่เคยถอดใจหรือตัดใจจากผมเลย

แต่ผมเห็นแก่ตัวยึดเขาไว้แต่กับตัวเองไม่ได้ ผมต้องพูดความจริง

“ตอนแรกๆ พี่ภูป้องกันครับ แต่ครั้งล่าสุด…” ผมเงียบไปแต่คาดว่าทุกคนน่าจะเดาคำตอบได้ และเพราะอย่างนั้นผมเลยตัดสินใจหันไปหาลม “ลม..ตัดใจจากเราแล้วไปหาคนดีๆ ที่เหมาะสมกับลมเถอะนะ .. เราเองยังไม่รู้อนาคตของตัวเองเลยว่าจะเป็นยังไง เราไม่อยากให้ลมมาเสียเวลากับเราอีกแล้ว”

“ลมไม่ไปไหนทั้งนั้น! ต่อให้ไนล์ตั้งท้องขึ้นมาจริงๆ ลมก็ไม่ไป” ผมมองหน้าลมทันทีเมื่อได้ยินลมตอบมาแบบนั้น “ทำไมไนล์ชอบคิดแทนลม ไนล์คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้ลมเลิกรักไนล์ได้หรอ? ทั้งที่ลมรักไนล์มากขนาดนี้ รักมาเป็นสิบปีแล้วด้วยซ้ำ”

“แต่ว่า…” ผมเตรียมจะแย้งแต่ลมพูดสวนขึ้นมาเสียก่อน

“ให้ลมได้ดูแลไนล์เถอะนะ” เขาเอื้อมมือมาจับมือผม “ให้โอกาสลมบ้างได้ไหมไนล์ ในเมื่อกับผู้ชายคนนั้นมันไม่เวิร์ค … มันจะพอเป็นลมได้บ้างไหมไนล์ ขอร้องล่ะ แค่เปิดใจให้ลมสักนิดก็ยังดี ไม่ถึงขั้นต้องคบกันก็ได้”

ผมอ้าปากจะค้านปฏิเสธ เพราะรู้ดีว่าตัวเองคงรักลมไม่ได้ ยิ่งไปอยู่กับพี่ภูมาผมยิ่งรู้ว่าผมคงไม่มีวันเปลี่ยนใจ แต่พี่เทมส์กลับยึดมือผมไว้ไม่ให้พูด เขาส่ายหน้าช้าๆ และแววตาที่เขามองมาก็ทำให้ผมนึกรู้ว่ากำลังถูกทวงถามให้ทำตามเงื่อนไขที่พี่เทมส์ขอไว้ก่อนที่ผมจะไปอยู่กับพี่ภู … ผมรู้ เขาแค่อยากให้ผมมีคนดูแล และตอนนี้ก็เหมือนจะได้เวลาทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว

ผมระบายลมหายใจก่อนตอบ “ก็ได้ ลองดูก็ได้ แต่เราไม่รับปากนะว่ามันจะเวิร์ค”

“อื้อ! แค่ไนล์คิดจะลองลมก็ดีใจแล้ว” เขายิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำตอบผม พร้อมกับขยับเข้ามาจับมือผมไว้แน่น “ขอบคุณนะไนล์ที่ให้โอกาสลม ลมสัญญาว่าจะดูแลไนล์ให้ดีที่สุด”

ผมได้แต่ถอนหายใจ เพราะรู้ดีว่ามันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมรักลมแบบเพื่อนซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด ผมมองไม่เห็นเลยว่าจะรักลมในฐานะอื่นได้ยังไง ในเมื่อเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม

.

.

.

(อ่านต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(อ่านต่อจากด้านบน)


Kirin’s Part


ผมรีบเคลียร์งานและกลับมาที่คอนโด เพราะนึกสังหรณ์ใจแปลกๆ หลังจากแยกกับไนล์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็กินเวลาจนเกือบฟ้าจะมืดแล้ว ผมตรงดิ่งขึ้นห้อง และทันทีที่ประตูเปิด ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าก็เข้ามาเกาะแขนทันที

“ภูหายไปไหนมาคะ จีนเป็นห่วงแทบแย่”

“จีน ไนล์อยู่ไหน?” ผมไม่ตอบคำถามของเธอ แต่กลับถามคำถามกลับไปแทน เพราะหลังจากผมกวาดตามองรอบๆ ก็ไม่เห็นร่างเล็กคุ้นตา ทั้งที่ความจริงไนล์มักจะนั่งรอผมอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว และส่งยิ้มมาให้ผมทุกครั้งหลังจากที่ผมเปิดประตูเข้ามา

แต่วันนี้มันมีอะไรต่างออกไป และผมก็สัมผัสได้ด้วยลางสังหรณ์ของตัวเอง ผมยังมองไม่เห็นไนล์แม้แต่เงา แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่าไนล์อาจจะอยู่ในห้อง แต่มันมีอะไรผิดปกติและผมก็รู้สึกไม่ดีเลยสักนิด

“เด็กนั่นน่ะหรอคะ? ...” จีนกำลังจะตอบ แต่ผมได้ยินเสียงคนเดินมาจากทางห้องไนล์เสียก่อน ผมเลยแกะแขนตัวเองที่ถูกจีนเอาแต่ยึดไว้ออก ก่อนจะหันไปหาต้นเสียงที่ว่าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

แต่แล้วรอยยิ้มก็ต้องเลือนหายไป เพราะคนที่ปรากฎตัวตรงหน้าผมกลับเป็นป้ามล ไม่ใช่ไนล์อย่างที่ผมคิดไว้

“ป้ามลครับ ไนล์อยู่ไหนครับ?” ผมถาม ในขณะที่ป้ามลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “เขาอยู่ไหนครับ ผมให้เขากลับมาก่อนพักใหญ่แล้วนะ เขายังไม่ถึงบ้านหรอ?” ผมเดาไปทั่ว ยอมรับว่าใจเริ่มไม่ดี

“คุณไนล์กลับมาแล้ว .. แล้วก็ออกไปแล้วค่ะ” คำตอบของป้ามลทำให้ใจผมวูบโหวงอย่างไม่เคยเป็น

“หมายความว่าไงครับป้า? มาแล้ว แล้วก็ออกไปแล้วเนี่ย?”

ป้ามลไม่ตอบ แต่กลับยื่นสมุดบัญชีเงินฝากมาให้ผม พอผมเปิดดูก็ต้องประหลาดใจ เพราะนอกจากมันจะเป็นสมุดบัญชีที่เป็นชื่อผม ซึ่งผมมั่นใจว่าผมไม่ได้เป็นคนเปิดเองแน่ๆ แล้ว ยังมีเงินจำนวนหลักแสนอยู่ในนั้นอีก ผมเลยต้องส่งสายตาเป็นคำถามให้ป้ามลว่าสมุดบัญชีเล่มนี้มันหมายความว่ายังไง และป้ามลให้ผมมาทำไม

“คุณไนล์ฝากป้ามาให้คืนคุณภูค่ะ” ป้ามลจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน “คุณไนล์ฝากให้ป้าบอกคุณภูว่า เงินที่อยู่ในสมุดบัญชีเล่มนี้คือเงินทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ที่คุณภูเคยให้คุณไนล์ไว้ และคุณไนล์ก็ไม่เคยใช้มันเลย ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าจ้างของคุณไนล์ เงินค่าจ้างของป้า หรือแม้แต่เงินที่ใช้จ่ายรายวันรวมถึงที่ต้องซื้อของเข้าบ้าน คุณไนล์ใช้เงินตัวเองทั้งหมด ไม่เคยเอาเงินของคุณภูมาใช้สักสตางค์เดียว”

“ผะ ผมไม่เข้าใจ ทำไม? ...” ผมถามป้ามลซ้ำ ทั้งๆ ที่รู้คำตอบดีอยู่แก่ใจ แต่ผมขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง


เพราะนั่นหมายถึงผมต้องยอมรับความจริงที่ว่าไนล์ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ซึ่งผมยอมไม่ได้ที่จะให้มันเป็นแบบนั้น


“คุณไนล์บอกป้าว่า คุณไนล์ไม่อยากให้คุณภูเสียใจเพราะคิดว่าคุณไนล์เข้ามาปอกลอก เข้ามาเพื่อใช้เงินของคุณภู แล้วก็จากคุณภูไปเหมือนอย่างที่คนอื่นเคยทำ คุณไนล์อยากให้คุณภูได้รู้ว่าที่คุณไนล์เข้ามาเพราะหวังจะดูแลคุณภูจริงๆ คุณไนล์เลยเก็บเงินทั้งหมดที่คุณภูให้ไว้ และตั้งใจจะคืนให้ในเวลาที่เหมาะสม”

“ไนล์” ผมพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาเต็มอก “แล้วไนล์เอางินที่ไหนมาใช้ ทั้งให้ป้า ทั้งใช้จ่าย..”

“ป้าตอบแทนไม่ได้หรอกค่ะเรื่องนี้ คุณภูอาจจะต้องลองไปถามคุณท่านดู แต่ที่ป้าตอบคุณภูได้แน่ๆ เลยก็คือคุณไนล์ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน ไม่ได้คิดจะมาปอกลอกหรือหาประโยชน์อะไรจากคุณภูและคนใกล้ตัวคุณภูทั้งนั้น คุณไนล์มาที่นี่มีเพียงความตั้งใจเดียวเท่านั้น นั่นก็คือดูแลให้คุณภูดีขึ้น”

“ผะ ..ผม..” ผมพูดไม่ออก ทุกอย่างที่ผมได้รู้ทำให้ผมตั้งรับไม่ทัน เพราะถ้าสิ่งที่ป้ามลพูดมาเป็นความจริง ก็เท่ากับว่าทุกอย่างที่ผมคิดและระแวงไนล์ก็คือผิดทั้งหมด แต่จะให้ผมปฎิเสธว่าสิ่งที่ป้ามลพูดไม่เป็นความจริงก็ไม่ได้ ในเมื่อหลักฐานที่เป็นสมุดบัญชีที่มีเงินอยู่หลายแสนที่ไนล์เปิดทิ้งไว้ให้ผมนั้น สามารถเป็นคำตอบให้ทุกอย่าง

แล้วที่ผมเข้าใจผิดที่ผ่านมา ที่ผมดุด่าต่อว่าและทำใจร้ายกับเขาสารพัด ที่ผมหาว่าเขาเห็นแก่เงินและจะเข้ามาปอกลอกผมและไอ้เทมส์นั่นก็… ไม่มีความจริงเลยสักนิด เป็นผมที่ทึกทักและเป็นบ้าไปคนเดียว โดยที่ไนล์ไม่เคยตอบโต้ ไม่เคยแก้ต่างให้ตัวเอง ที่เขาทำมีแค่ตั้งหน้าตั้งตาทำดีกับผม ยิ้มให้ผม เข้าใจผม ไม่ถือโทษโกรธผม... และรักผม


ทั้งที่ผมไม่ได้ทำดีกับเขาเลยสักนิด


และฟางเส้นสุดท้ายที่ตอกย้ำความระยำต่ำช้าที่ผมได้ทำกับเขาก็ถูกเปิดเผยโดยป้ามลอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ป้ามลก็ชี้ไปที่ผู้หญิงด้านหลัง ผู้หญิงที่เป็นคนรักเก่า ผู้หญิงที่เคยโกหกผมและผมก็ยังโง่เชื่อซ้ำๆ โดยไม่เปิดใจและคิดจะถามไถ่ไนล์

“และอย่างที่ป้าบอกคุณภูว่าคุณไนล์ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน เพราะฉะนั้นเรื่องที่คุณไนล์ไปรับเช็คที่คุณเทมส์ก็ไม่ใช่อย่างที่คุณภูคิดเช่นกัน”

“ป้าว่าไงนะครับ ป้ารู้เรื่องเช็คได้ยังไง” ผมตกใจมาก และจากท่าทางของป้ามลและสีหน้ามีพิรุธของจีนทำให้ผมนึกรู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเธอแน่ๆ

“ป้าไม่รู้หรอกนะคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อกี้ตอนที่คุณไนล์กลับมา ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า ‘เงินห้าแสนที่ฉันให้แกเอามาจากเทมส์น่ะ ฉันยกให้ ถือว่าทำทานให้แกเอาไปใช้ตั้งตัว เพราะตอนนี้คงไม่มีที่ซุกหัวนอน’ แค่นี้ป้าก็รู้แล้ววว่าผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นต้องวางแผนทำอะไรให้คุณภูกับคุณไนล์ผิดใจกันแน่ๆ และตอนนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้ว

ผมอึ้ง ใจเจ็บร้าวไปหมดเมื่อรู้ความจริง ผมไม่กล้าแม้แต่จะตีความหมายของคำว่าจีนทำมันสำเร็จแล้วด้วยซ้ำ เพราะผมกลัว.. กลัวว่าสิ่งที่คิดไว้จะเป็นจริง

“ป้ามลครับ ป้ามลหมายความว่ายังไง”

“คุณไนล์เธอไปแล้วค่ะ เธอไปจากที่นี่แล้ว และก็คงจะไม่กลับมาอีก”

ผมทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ทันทีที่ได้ยินป้ามลบอกแบบนั้น ในใจมันวูบโหวงไปหมด ผมคิดอะไรไม่ออกจนกระทั่งรู้สึกถึงสัมผัสของกล่องที่วางอยู่บนมือ

ผมเหลือบมองกล่องที่ว่า และมองหน้าป้ามลอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ

“คุณไนล์ฝากไว้ให้คุณค่ะ คุณไนล์ไม่ได้บอกหรอกว่าของข้างในคืออะไร เธอบอกแค่ว่าถ้าคุณภูเปิดดูคุณภูจะรู้และเข้าใจเอง”

ผมยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ป้ามลก็ลุกขึ้นยืนและสะพายกระเป๋าเตรียมจะกลับ ผมเลยต้องตามไปยึดข้อมือแกไว้ เพราะสำหรับผมตอนนี้ป้ามลเป็นเพียงคนเดียวที่มีเบาะแสเกี่ยวกับไนล์มากที่สุด

“เดี๋ยวก่อนสิครับป้า ป้าจะไปไหนครับ” ผมมองแกอย่างอ้อนวอน ก่อนจะถามเหมือนคนจนตรอก “ป้ามลรู้ใช่ไหมครับว่าไนล์อยู่ที่ไหน ป้าบอกผมเถอะนะครับ”

และป้ามลก็ทำลายความหวังของผมอย่างราบคาบ “ป้าไม่ทราบค่ะ ว่าคุณไนล์อยู่ที่ไหน คุณไนล์ไม่ได้บอกป้าไว้ และอย่างที่ป้าบอกคุณภูไปนั่นแหละค่ะว่าลองให้ไปถามคุณหญิงท่านดู ถ้าคุณภูอยากรู้คำตอบของทุกอย่าง”

“ป้าครับ..”

“ส่วนป้า คงต้องขอลาคุณภูไปจริงๆ ป้าบอกตามตรงค่ะว่าทำงานทั้งที่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วยไม่ได้ เธอแกล้งคุณไนล์สารพัดตอนคุณภูไม่อยู่ ซึ่งคุณไนล์ก็อดทนไม่ปริปากบ่นหรือฟ้อง เพราะไม่อยากให้คุณภูเหนื่อยหรือไม่สบายใจ” ป้ามลปาดน้ำตาพร้อมกับพูดต่อ “เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณไนล์ไม่อยู่แล้ว ป้าก็คงไม่ต้องทนอะไรอีก เอาเป็นว่าถ้าเมื่อไหร่คุณภูอยากให้ป้ากลับมา ก็ขอให้เป็นตอนที่หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแล้วกันนะคะ ป้าบอกตามตรงค่ะว่าป้าทำใจไม่ได้ที่จะมองหน้าเธอ.. เธอที่ใจร้ายกับคุณไนล์มากเหลือเกิน”

ป้ามลทิ้งคำพูดทั้งหมดไว้แค่นั้นแล้วก็เดินออกไป ทิ้งผมไว้กับความทุกข์ใจแสนสาหัส เพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำลงไปทั้งหมดคือการทำร้ายไนล์ ผมทำผิดซ้ำๆ ซากๆ อย่างไม่น่าให้อภัย และผมก็เพิ่งเข้าใจตอนที่ไนล์ถามผมว่า


‘พี่ภูคิดจะถามไนล์สักนิดไหมครับว่าไนล์.. ไนล์ทำอย่างที่คุณจีนบอกรึป่าว’


ในตอนนั้นมันคงเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับไนล์ที่ขาดลง เพราะผมไม่ถาม ไม่คิดแม้แต่นิดว่าจะถาม ผมเชื่อคำพูดของจีนจนหมดใจ เชื่อคำพูดของคนที่เคยหักหลังหลอกลวงผม เชื่อคำพูดของเธอจนเผลอทำร้ายไนล์ ทำร้ายคนที่ดีกับผมทุกอย่าง ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะไม่หวังดีกับผม ตรงกันข้าม มีแต่ผมนี่แหละที่ทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็น

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้ ตอนคุณรันผมก็เชื่อคำพูดเธอ ถึงแม้ว่าคำพูดของทั้งคุณรันและจีนจะไม่ใช่เหตุผลหลัก แต่ความหูเบาขี้ระแวงของผมก็ผลักดันให้เกิดเรื่องทุกอย่างขึ้น

ผมเหนื่อยที่จะปฏิเสธหัวใจและความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไป .. ผมรู้ว่าสาเหตุหลักๆ ที่ผมเอาแต่เป็นบ้าและทำไม่ดีกับไนล์นั่นก็เพราะความหึงหวง ความไม่พอใจ ผมไม่อยากให้ใครใกล้ไนล์ ผมอิจฉาแม้แต่เพื่อนสนิทของตัวเอง ผมอยากเป็นคนสำคัญที่สุดของเขา และไม่อยากให้ใครสำคัญกับเทียบเท่ากับผม

และมันคือความงี่เง่าที่ทำให้ผมทำไม่ดีกับไนล์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะฉะนั้นคนผิดไม่ใช่คุณรันหรือจีนหรอก มันเป็นที่ผมเอง

ถ้าผมเชื่อใจและมั่นใจในความรักที่ไนล์มีให้ผมสักนิด เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้

ผมหลับตาข่มความเจ็บปวดและพยายามตั้งสติว่าจะทำยังไงต่อไป จะไปตามหาไนล์ที่ไหน เท่าที่นึกออกและจากคำพูดของป้ามล เบาะแสเดียวที่ผมมีก็มีแค่แม่กับไอ้เทมส์เท่านั้นที่ช่วยได้ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับตัวหรือทำอะไร จีนที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ขยับเข้ามาหาและเกาะแจนผมแน่น

“ภูคะ ภูอย่าไปเชื่อยัยป้าแม่บ้านนั่นนะคะ จีนไม่ได้ทำแบบนั้น มันใส่ร้ายจีน มันอยากให้ภูกับจีนผิดใจกัน จีนไม่ได้สั่งอะไรไอ้เด็กนั่น..”

ผมสะบัดแขนออกจากกการเกาะกุมของจีนทันที ก่อนจะหันไปพูดไปกับเธออย่างเย็นชา “ผมเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ให้เรียกไนล์ว่าไอ้เด็กนั่น จีนไม่มีสิทธิ์เรียกเขาแบบนั้น!”

คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของผมผงะไป เธอดูตกใจกับท่าทางของผมมาก “ภะ ภู”

“ไปจากที่นี่เถอะจีน พอได้แล้ว” ผมพูดเสียงเรียบ ไม่ได้ตวาด ไม่ได้โมโห ลำพังที่สร้างเรื่องให้ผมกับไนล์เข้าใจผิดกัน ผมว่ามันไม่เท่าไหร่หรอก เพราะผมเองก็มีส่วนผิด แต่การที่จีนแกล้งไนล์ รังแกไนล์เพราะเห็นไนล์ยอมและไม่ตอบโต้โดยอาศัยผมเป็นเครื่องมือนั้น นั่นแหละเป็นเรื่องที่ผมทนไม่ได้

“ภูหมายความว่ายังไงคะ?” เธอถามเสียงสั่น หน้าซีดเผือด เพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้

“ผมหมายความตามที่พูดเลยจีน เราเลิกกันแล้ว และผมก็ไม่ได้รักจีนแล้ว จีนไปจากที่นี่เถอะ ถ้าขาดเหลือเรื่อเงินผมยินดีให้ ผมบอกตรงๆ นะว่าผมทนเห็นหน้าจีนแบบนี้ไม่ไหวแล้ว” ผมพูดโดยไม่หันไปมองหน้าเธอด้วยซ้ำ

“ฮึก.. ภู จีนไม่ไป จีนไม่ไปไหนทั้งนั้น” จีนร้องไห้คร่ำครวญ แต่ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสงสารหรืออะไรทั้งนั้น เพราะในใจผมตอนนี้มีแต่ใบหน้าตอนไนล์ร้องไห้และถามผมด้วยคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมา จนผมเจ็บหัวใจไปหมด


‘พี่ภูคิดจะถามไนล์สักคำไหมครับ’


ผมหลับตา ก่อนจะพูดตัดบท ผมไม่อยากต่อความยาวอะไรทั้งนั้น ผมพอแล้วกับเรื่องของจีน ผมควรทำอะไรให้มันเด็ดขาดสักที .. ซึ่งมันก็ตลกดีเหมือนกันที่ผมมาคิดทำอะไรจริงจัง ตอนที่ทุกอย่างมันสายเกินไปแบบนี้

“ถ้าจีนไม่ไป ผมจะไปเอง และถ้าจีนยังดึงดันจะอยู่ต่อผมคงต้องให้คนเข้ามาจัดการ” ผมพูดอย่างเย็นชา ไม่มีความสงสารอะไรทั้งนั้น จะว่าไปในเวลานี้แม้แต่ความเป็นเพื่อนผมก็คงมีให้จีนไม่ได้ “เพราะจีนทั้งนั้นนะที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ผมยอมรับว่าก่อนหน้านี้เราอาจจะยังพอเป็นเพื่อนกันได้ แต่ตอนนี้ความเป็นเพื่อนผมคงไม่เหลือที่จะมีให้ … พอเถอะจีน เลิกยื้อเถอะ”

จีนร้องไห้โฮ แต่ผมไม่สนใจเธออีก ใจผมตอนนี้เจ็บจนชา สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่อยู่ในมือถูกกำจนยับยู่ยี่ไปหมด ก่อนที่ผมจะทิ้งจีนไว้ข้างหลังแล้วเดินไปที่ห้องของไนล์.. ห้องที่ไนล์เคยอยู่ ห้องที่ผมกับไนล์มีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน

ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ทุกอย่างที่เคยมียังคงตั้งอยู่ที่เดิมไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน กลิ่นหอมๆ ของไนล์ยังคงลอยอบอวลอยู่ในห้อง แต่พอผมเปิดตู้เสื้อผ้า ใจผมก็ต้องวูบโหวงเมื่อมันเหลือแค่ตู้เปล่าๆ กับชุดนอนของผมที่แขวนเอาไว้ไม่กี่ชุด.. หลักฐานที่บ่งบอกว่าไนล์ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว

ผมทรุดลงนั่งบนเตียงนอนของเรา ก่อนจะเปิดกล่องที่ถือติดมือมา… กล่องของไนล์ที่ฝากป้ามลไว้ให้ผม

และทันทีที่กล่องถูกเปิดออก ลิ้นชักความทรงจำของผมก็เหมือนถูกกระชาก ทุกอย่างที่อยู่ในกล่องนั้นทำให้ผมนึกทุกเรื่องราวที่เคยเกิดชึ้นในช่วงนั้นออก เรื่องราว ‘ของเรา’ ที่ผมเคยทำตกหล่นระหว่างทาง

ผมยื่นมือที่สั่นเทาไปหยิบกระดาษโน๊ตขนาดต่างๆ ขึ้นมา แม้กระดาษจะดูเก่าและสีปากกาจะซีดจางไปตามกาลเวลา แต่เพราะการเก็บรักษาที่ดีเลยทำให้ข้อความที่อยู่บนนั้นยังปรากฎชัดเจน

ข้อความที่เขียนขึ้นด้วยลายมือของผม ข้อความที่เขียนถึงเด็กผู้ชายในร้านไอศครึมคนนั้น คนที่เป็นความผูกพันและความทรงจำที่ดีก่อนไปอเมริกา

แล้วไหนจะพวงกุญแจเด็กผู้ชายยิ้มแฉ่งและร้องไห้ พวงกุญแจที่ผมจำได้ว่าซื้อทันทีที่เห็นเพราะนึกถึงเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนั้น แล้วไหนจะสร้อยข้อมือถักที่ผมภูมิใจนักภูมิใจหนาว่ามันมีเส้นเดียวในโลก .. แต่ผมกลับจำมันไม่ได้เลยสักนิด

ผมจำไม่ได้และไม่เอะใจเลยด้วยซ้ำว่าทำไมไนล์ถึงเข้ามาในชีวิตของผม ผมเอาแต่อคติและมองเขาไม่ดี ทั้งที่เจตนาเขาดีกว่าใคร ทั้งที่เขาคือคนที่รักและหวังดีกับผมจริงๆ … รักและไม่ต้องการอะไรตอบแทนจากผมเลยมาเป็นสิบปี

น้ำตาที่ผมกลั้นไว้เริ่มไหลออกมาช้าๆ เมื่อพอจะประกอบชิ้นส่วนของเรื่องราวทั้งหมดได้ ผมเพิ่งเข้าใจว่าทำไมไนล์เข้ามาดูแล เข้ามาเอาใจใส่ เข้ามาพยายามทำให้ผมดีขึ้น และผมเพิ่งนึกรู้กับท่าทางที่แปลกไปของไนล์หลังจากที่ผมพาน้องกลับมาจากร้านไอศครีม ...

เขาพูดเบาๆ จนผมแทบไม่ได้ยินว่า เขาคือเด็กคนนั้น... เด็กที่ยังคงรอคอยผมแม้จะผ่านไปเป็นสิบปี ไนล์พยายามจะบอกแล้ว แต่ผมก็ยังคงโง่งมและไม่ได้รับรู้

เขาเป็นคนที่พยายามทำตามสัญญาแม้จะผ่านมาเป็นสิบๆ ปี เขายังคงรอคอยแม้ว่าผมจะหลงลืมและทิ้งเขาไว้แต่เขาก็อดทนและอยู่ด้วยความหวังว่าผมจะกลับมา ในขณะที่ผมหลงระเริงและมีความสุขอยู่กับคนอื่น... โดยที่ไม่ได้คิดถึงเขาสักนิด

ที่จริงผมควรจะโกรธที่ไนล์เข้ามาด้วยวิธีการหลอกหลวงและไม่พูดความจริง แต่แล้วผมก็ต้องตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่าผมมีสิทธิ์อะไรไปโกรธไนล์ เพราะสิ่งที่ไนล์ทำมันคือความหวังดีทั้งนั้น และเขาก็พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วกับการกระทำที่ผ่านมา

เป็นผมเองต่างหากที่สมควรจะถูกไนล์โกรธ เพราะจนแล้วจนเล่าผมก็ไม่ได้ทำตามสัญญาที่ไห้ไนล์ไว้เลยสักครั้ง

แม้แต่ชื่อที่ผมบอกว่าจะเป็นคนมาถามและเรียกเขาด้วยตัวเองต่อหน้าผมก็ไม่ได้ทำ สิ่งที่ผมทำหลังจากไม่ได้เจอเขามาเป็นสิบปี ก็คือการดูถูกเขาและหาว่าเขาเป็นผู้ชายขายบริการ


นี่ผมแม่งเป็นสัตว์นรกประเภทไหนกัน ผม..โคตรเกลียดตัวเองเลย


และในขณะที่ผมหยิบของแต่ละชิ้นออกมาด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ผมก็พบว่ามันสามารถเจ็บมากกว่านั้นได้อีก เมื่อผมหยิบจดหมายที่เป็นของชิ้นสุดท้ายในกล่องขึ้นมา … เป็นจดหมายฉบับเดียวที่ไม่ได้เขียนด้วยลายมือของผม

แต่เป็นลายมือของไนล์ ลายมือเดียวกับที่ผมเคยเห็นจนชินตา แต่จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยเห็นลายมือเหล่านั้นมาก่อนหน้านี้แล้ว

ผมคลี่จดหมายออกมาด้วยมือสั่นเทา และได้แต่คาดหวังอย่างลางเลือนว่าในจดหมายฉบับนี้จะมีอะไรบ่งบอกสักอย่างว่าไนล์อยู่ที่ไหน แล้วผมจะหาเขาเจอได้ยังไง ผมขอแค่นั้น... แค่เบาะแสสักเล็กน้อยก็ยังดี

.. แต่พอผมอ่านจบ ความหวังก็พังทลาย เพราะนอกจากจะไม่มีเบาะแสอะไรแล้ว มันยังเป็นจดหมายที่มีเนื้อความไม่กี่ประโยคแต่กลับเฉือนหัวใจผมให้เหวอะหวะไม่มีชิ้นดี


‘ถึงพี่ภู… ไนล์ไม่แน่ใจหรอกครับว่าพี่ภูจะจำเรื่องของเราได้มากน้อยแค่ไหน แต่ไนล์อยากให้พี่ภูรู้ว่าไนล์พยายามแล้ว ไนล์พยายามมาตลอดกับเรื่องของเรา จนถึงวันนี้วันที่ไนล์พยายามไม่ไหว ไนล์คงต้องขอพอสักที…

สิบปีที่ผ่านมาไนล์มีความสุขมากกับการได้แอบรัก ได้รับรู้ความเป็นไป และมันก็ยิ่งกว่าที่ไนล์เคยหวังเมื่อได้มาใช้เวลาอยู่ร่วมกับพี่ภู .. สามเดือนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย สามเดือนที่ไนล์บอกกับตัวเองว่าจะใช้มันไปกับพี่ภูให้คุ้มค่าที่สุด แต่แล้วไนล์ก็ได้รู้ว่ามันเป็นสามเดือนที่มีค่าแค่กับไนล์คนเดียว

และนั่นก็ทำให้ไนล์ได้รู้ว่าไนล์คงยื้อต่อไปไม่ไหว ไนล์คงต้องพอแค่นี้ … ไนล์รักพี่แต่ไนล์ก็คงต้องรักตัวเองด้วย และในเมื่อพี่ภูไม่ได้รักและไม่คิดจะรัก ไนล์ก็คงต้องขอหัวใจตัวเองคืนกลับมาเพื่อดูแล ไนล์ไม่อยากปล่อยมันไว้ในมือใครอีก เผื่อว่าสักวันไนล์อาจจะได้เริ่มต้นใหม่กับใครที่อยากดูแลมันจริงๆ จังๆ สักที

ลาก่อนนะครับพี่ภู ลาก่อนกับความรักสิบปีของไนล์ … ไนล์’


“ไนล์.. ฮึก.. ไนล์ พี่ พี่ขอโทษ” ผมปล่อยโฮออกมาอยากสุดกลั้นและพึมพำซ้ำไปซ้ำมาว่าขอโทษหลังจากอ่านจดหมายฉบับสุดท้ายที่ไนล์ทิ้งไว้ให้จบ มันเป็นจดหมายบอกลาที่ย้ำจริงจังและชัดเจนว่าเขาพร้อมจะปล่อยมือและออกไปจากชีวิตผมโดยไม่คิดจะหันหลังมาอีก

และนั่นทำให้ผมรู้ใจตัวเองว่าผมเสียไนล์ไปไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ผมลุกพรวดทันทีเมื่อคิดได้แบบนั้น ก่อนจะทบทวนคำพูดของป้ามล และรู้ว่าตัวเองควรจะไปหาคำตอบว่าไนล์อยู่ที่ไหนจากใคร ถ้าไม่ใช่คนที่พาไนล์เข้ามาในชีวิตของผม…

...แม่

.

.

.

To Be Continue

---------------------------------------------------------

บอกได้คำเดียวว่า เหมียนหมา หมาล้วนไม่มีแมวผสม 555555555555555555

ฝากติดแท็ก #พี่ภูของผม ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ และในส่วนคอมเม้นท์ที่จะสาดใส่มาน้านนน เต็มที่ค่ะ อย่ายั้ง ถ้าคอมเม้นท์มาเยอะตอนต่อไปอาจจะพอมาไวได้ เดี๋ยวรีบปั่นสต็อคไว้ให้ ตอนถัดไปจะได้มาลงเร็วๆ อิอิ

ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกไลค์ ทุกวิว ทุกการโดเนท ทุกคอมเม้นท์นะคะ เรารู้สึกขอบคุณมากๆ มากกกกกกๆๆๆๆ ขอบคุณที่อยู่มาด้วยกันจนตอนนี้ และก็หวังว่าจะอยู่ไปด้วยกันจนกว่าจะจบน้าาา ... ขอบคุณทุกคนมากๆ ค้าบบบ

แล้วไว้เจอกันตอนหน้าจ้า มีเวลาให้ภูเหมียนหมาอีกเย้อะะะะ อิอิ ... รักค้าบบ <3

ออฟไลน์ PsapBBBB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เหมียนหมาจริงๆ จะบอกว่าสะใจก็พูดได้ไม่เต็มที่เพราะลูกเรายังมีใจรักเขาอยู่แต่ก็ถือว่าตอนนี้สมน้ำสมเนื้อมากๆ คนเราโง่แล้วโง่เล่ามันต้องเจอแบบนี้แหละ ชอบนะคะ มาอีกค่ะรอสมค้ำหน้าคนอยู่หึหึ

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
กลัวหนูไนล์จะไม่ใจเด็ดเอาอะซี่ จบแบบแยกตัวใครตัวมัน ปล.อยากได้พี่เทมส์วุ้ย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
โอ้ยยยยยยอยากอ่สนต่อแล้วอ่าาา

แม่จะบอกพี่ภูว่ายังไงบ้างนะ

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอาใจช่วยค้าาาาา :mew2:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ไม่รู้สึกสงสารและเห็นใจสักนิดเลย รู้สึกรำคาญมากกว่า คงพร่ำเพ้อขอโทษ รู้สึกผิดแบบนี้อยู่สินะ พาร์ทของอิพี่ภูนี่อ่านลวกๆข้ามๆเพราะรำคาญไม่ไหว 5555 มาคิดได้อะไรตอนนี้อ่ะ จะบอกว่าคิดได้ก็ยังดีกว่าคิดไม่ได้หรอ โหหหเจอเข้าไปปานนั้น  :fire: ความรู้สึกที่มีต่ออิพี่ภูทำไมมันโคตรว่างเปล่าเลยวะ ไม่แยแส ไม่ยี่ระต่อการกระทำของพี่มันเลย โคตรเย็นชาอ่ะ มาถึงจุดนี้ละคิดดูอิพี่ภู 555 แต่คงไม่ใช่กับไนล์ อิตาพี่ภูโง่บัดซบแล้วนะ นี่กำลังนั่งมองว่าไนล์จะโง่กว่าไหม 555555 คือไม่ใช่ว่าโง่หรอก(มั้ง)แต่เป็นพวกบูชาความรักอ่ะ ก็เลยให้เขาได้ทุกสิ่งอย่างรวมถึงการกลับมาง้อขอคืนดีในภายภาคหน้าด้วย ไม่ค่อยเข้าใขความรักประเภทนี้เท่าไหร่เรามันรักตัวเองและครอบครัวมากไป 555 คือบับโดนทำร้ายร่างกายและจิตใจขนาดนั้นเพราะคนอื่นเนี้ย มันไม่ใช่ไง พ่อแม่พี่น้องยังไม่ทำร้ายฉันเลย ละเขาเป็นใครอ่ะ เนี้ยไม่ยอมมมม 5555 ตอนแรกก็ไม่อยากให้ไปซบอกลม แต่ดูแล้วเป็นลมเองที่ติดอยู่ในโลกจินตการ ก็เลยคิดว่าเออออ ก็อยู่เป็นพาร์ทเนอร์ชีวิตไปเลยก็อาจจะดีกว่ากลับไปเหมือนเดิม เพราะต่างก็ไม่ได้เกลียดกัน แค่รักกันคนละรูปแบบเท่านั้น ก็โอเคดีนะ เข้าท่าอยู่ แต่มันไม่ใช่ไง ใช่ป่ะ มันต้องมีพระเอกสินะ อืมๆ งืมมมม 5555555 อีกอย่างคือขำพี่เทมส์ ไม่ได้รู้ว่าน้องโดนทำอะไรเล้ยยย ก็นะ ไม่มีใครบอก แต่การที่น้องบอกจะไม่ทนแล้วเนี้ยแปลว่ามันถึงขีดสุดแล้ว เหมือนจะรู้ใจน้องนะ แต่ก็ไม่ ปกป้องน้องก่อนเพื่อนก่อนงานไหม ถถถ รายต่อไปที่จะเฝ้ามอง(ด่า)คือแม่พี่ภู จะดีหรือเห็นแก่ตัวแก่ลูกของตัวเอง มันคืออยู่กับการกระทำในตอนต่อไป 55555555 สนุกมากจ้า ขอบคุณนะคะที่มาต่อ แต่งเก่งแล้วค่ะ อ่านแล้วอิน นั่งด่าตัวละครเป็นว่าเล่น 5555  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แม่ก้อไม่ต้องช่วยยยยย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เหมียนหมาจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้ไม่เห็นใจใครเท่าลมเลยค่ะ สงสารที่รักคนไม่รักเราแบบนี้จริง ๆ เฮ้อออออ ลมเราสงสารนายนะแต่นายก็ควรทำใจและตัดใจให้ได้นะเพราะไนล์มันแม่งไม่คิดเปิดใจให้อย่างที่พูดเลยว่าจะเปิดใจรับลมในฐานะอื่นน่ะ

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
อ่านมาก็สนุกดีนะแต่มันก็แบบเดิมๆที่พระเอกโง่
นายเอกเปนดาวพระศุกร์มีพระเสาร์แทรก5555

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
รออ่านอยู่น้าา

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
Universe 30th : ความจริง


ผมรีบขับรถกลับมาที่บ้าน แต่กว่าจะออกมาได้ก็เสียเวลาอยู่พักใหญ่ในการยื้อยุดกับจีน จีนเอาแต่รั้งและขอร้องไม่ให้ผมไป ในขณะที่ผมที่รู้ใจตัวเองแล้วว่าตอนนี้รักใคร และที่ผ่านมาผมก็ทำตัวไม่ชัดเจนจนต้องเสียไนล์ไป เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมควรทำทุกอย่างให้เด็ดขาดได้แล้ว และเพราะแบบนั้นผมเลยถึงต้องย้ำคำเดิมกับจีน


‘ไปจากที่นี่เถอะจีน ผมยังยืนยันเหมือนเดิมนะว่าให้จีนไปซะ เพราะถ้าจีนยังอยู่ผมก็คงไม่กลับมาที่นี่อีก และต่อให้จีนฝืนอยู่ที่นี่ต่อไปสุดท้ายผมก็ต้องให้คนมาจัดการอยู่ดี'

‘แต่.. ฮึก ภูคะ’

‘ระหว่างเราไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วจีน ตอนนี้ผมรักคนอื่น.. คนอื่นที่ไม่ใช่คุณ’



ตอนออกมาผมได้ยินเสียงจีนร้องไห้แทบขาดใจ ถามว่าผมสงสารเธอไหม .. ใช่ ก็มีบ้าง เพราะยังไงเราก็เคยรักกันมาตั้งเกือบเจ็ดปี แต่สุดท้ายมันก็มีแค่ความสงสารและเห็นใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น และผมก็มีเรื่องเร่งด่วนมากกว่าที่ต้องทำ

นั่นก็คือการตามหาไนล์ ตามหาหัวใจที่หายไปของผม

ผมเหมือนคนโง่ที่เพิ่งรู้หัวใจตัวเองในวันที่สาย ผมมีไนล์อยู่ข้างกายตลอดแต่ไม่เคยเห็นค่า เห็นความดี เอาแต่ใช้อคติที่มืดบอดปิดบังความรู้สึกตัวเอง และจนถึงตอนที่เราปรับความเข้าใจกันได้ ผมก็เอาแต่คิดว่าไม่เป็นไร ชะล่าใจ เพราะรู้ดีว่าเขาจะอยู่ตรงนี้กับผมตลอดไม่ไปไหนเพราะเขารักผม ผมเลยยังวางใจไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองให้ไนล์รับรู้ และมันก็อาจจะเป็นอย่างที่ผมคิด ถ้าผมไม่โง่งมหลงเชื่อคำพูดของจีนมากกว่าการกระทำที่ผ่านมาของไนล์

สุดท้ายก็ต้องถูกลงโทษให้ไนล์หันหลังจากผมไป โดยไม่มีสัญญาณใดๆ เตือน

แล้วยิ่งผมมาได้รู้ว่าไนล์คือเด็กผู้ชายในร้านไอศครีมเมื่อสิบปีก่อน เด็กผู้ชายที่ยังรอคอยผมมาโดยตลอด ผมฝังเขาไว้ในความทรงจำ ในขณะที่เขาให้ผมเป็นทั้งอดีตและปัจจุบันโดยที่ไม่เคยลืมเลือน เห็นได้จากการที่เขายอมพาตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผม เพียงเพราะอยากดูแล อยากทำให้ผมที่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ได้กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง เขาอดทนทำดีกับผมทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ผมดูถูกดูแคลน หาว่าเขาตั้งใจจะเข้ามาปอกลอกสารพัด และวันนี้ทุกอย่างก็กระจ่างไนล์ไม่เคยใช้เงินของผมแม้แต่สตางค์เดียว เขาเก็บมันไว้และคืนให้ผมทั้งหมด ประกอบกับความจริงที่ผมได้รู้ว่าไนล์คือเด็กผู้ชายคนเดียวกับที่อยู่ในร้านไอศครีมนั้น เท่านี้ก็ยืนยันฐานะความเป็นอยู่ของไนล์ได้อย่างดี

แต่ถึงแม้ไนล์จะมีทุกอย่างพร้อม แต่เขาก็ยังเลือกที่จะรักผม .. ผู้ชายสารเลวคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรดีเลยสักอย่าง

ผมรู้ตัวดีว่าอาจจะไม่คู่ควรกับความรักของไนล์ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังจะขอเห็นแก่ตัวอีกสักครั้ง ผมเสียเขาไปไม่ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นยังไงผมก็จะตามหาเขาจนกว่าจะเจอ และถ้าผมเจอเขา ผมจะกอดเขาไว้แน่นๆ

และครั้งนี้ผมสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเขาเอง มันจะเป็นสัญญาแรกระหว่างเราที่ผมมั่นใจและตั้งใจว่าผมจะทำให้ได้

.

.

.

ผมมาถึงบ้านหลังจากนั้นไม่นาน และพอลงจากรถได้ผมก็พุ่งตัวเข้าไปหาป้าวรรณาที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพอดี ดูเหมือนป้าวรรณาจะตกใจไม่น้อยที่เห็นผมมาในเวลาแบบนี้ และคงจะตกใจมากยิ่งขึ้นที่จู่ๆ ผมก็พุ่งไปจับข้อมือป้าไว้ทันทีแบบที่ไม่มีใครทันได้ตั้งตัว

“ป้าวรรณาครับ!”

“ตายแล้วคุณภู นี่มันอะไรกันคะ? ป้าตกใจหมด!” ป้าวรรณาตีมือผมที่จับข้อมือแกเบาๆ เหมือนกับจะปรามไม่ให้ผมทำแบบนี้อีก แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องถาม เลยไม่ได้สนใจเรื่องอื่นมากนัก

“ไนล์ไม่ใช่หลานป้าใช่ไหมครับ?” ผมถามเข้าประเด็นทันที ก่อนจะรีบพูดดักคอเพราะรู้ว่าป้าวรรณาจะตอบอะไร คงไม่พ้นยืนยันกระต่ายขาเดียวแน่ๆ “ป้าห้ามโกหกผมนะครับ ผมรู้ความจริงหมดแล้ว”

“คะ ความจริงอะไรคะคุณภู? ถ้าไนล์ไม่ใช่หลานป้าแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะคะ?” ป้าวรรณาพูดกับผมแต่ไม่ยอมสบตาผมสักนิด แถมอาการมีพิรุธพูดตะกุกตะกัก ก็ดูออกจนไม่รู้จะดูออกยังไง

“ก็เป็นเด็กคนเดียวกับที่ผมเจอในร้านไอศครีมเมื่อสิบปีที่แล้วไงครับป้า ผมพูดถูกไหม?” และอาการอ้าปากค้างตาเบิกกว้างก็เป็นคำตอบให้ผมได้เป็นอย่างดี แม้ป้าจะยังไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ

“อะ เอ่อ คือ.. คือป้า”

“ป้าครับ อย่าโกหกผมอีกเลยนะครับ ผมรู้ความจริงหมดแล้ว” ผมย้ำก่อนจะยอมบอกสถานการณ์ตอนนี้ให้ป้าวรรณารับรู้ “และที่ผมรู้ความจริงก็เพราะตอนนี้ไนล์ทิ้งผมไปแล้ว เขาจากไปแล้วทิ้งไว้แค่กล่องใส่ของพร้อมกับจดหมายที่ทำให้ผมรู้ทุกอย่าง”

ผมพูดพร้อมกับประคองเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น มันน่าตลกที่ผมในเวลานี้ดูอ่อนแอเหลือเกิน อ่อนแอและไร้ค่าพอๆ กับตอนเลิกกับจีน ผมยอมแพ้กับทุกอย่างและใช้ชีวิตไปวันๆ เพราะคิดว่าชีวิตที่ไม่มีจีนนั้นมันโคตรจะไม่มีความหมาย

แต่กับไนล์มันต่างออกไป เพราะถึงแม้ผมจะอ่อนแอแค่ไหน เปราะบางยังไง แต่ผมกลับไม่คิดจะยอมแพ้ ผมจะตามหาจนกว่าจะได้ไนล์คืนมา ผมจะไม่มีวันกลับไปใช้ชีวิตไร้ค่าแบบนั้น ผมจะต้องทำตัวเองให้ดีและคู่ควรกับความรักที่ไนล์มีให้

“โถ่.. คุณภูของป้า” ป้าวรรณาเข้ามากอดผมไว้เมื่อเห็นว่าผมกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลจนตาแดงก่ำ ผมเองก็กอดตอบป้าวรรณาที่เปรียบเสมือนผู้ใหญ่ของบ้านไว้ราวกับคนที่ต้องการหาที่พึ่ง

“ป้าครับ ผมขอร้อง ถ้าป้ารู้อะไรเกี่ยวกับไนล์ ป้าบอกผมเถอะนะครับ ให้ผมได้ไปหาเขา ผมปล่อยให้เขาจากไปแบบนี้ไม่ได้” ผมอ้อนวอนป้าด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงและคำตอบที่ผมได้รับจากป้าก็ดูจะตอกย้ำความสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม

“คุณภูคะ ป้าไม่ทราบจริงๆ เรื่องคุณไนล์ คุณหญิงท่านบอกให้ป้ารับสมอ้างว่าคุณไนล์เป็นหลานป้า ป้าก็ทำให้เพราะเห็นว่าคุณไนล์มีความตั้งใจดีที่จะเข้ามาดูแลคุณภู แต่ภูมิหลังเรื่องคุณไนล์เป็นใครมาจากไหนนี่ป้าไม่ทราบจริงๆ ค่ะ”

“…”

“ป้าว่าทางที่ดีคุณภูรอถามจากคุณผู้หญิงดีกว่านะคะ ท่านน่าจะทราบทุกอย่างดีที่สุด”

คำพูดของป้าวรรณาทำให้ผมนึกได้ว่าจุดประสงค์ที่ผมกลับมาที่บ้านเพื่อหาแม่ .. แม่ที่น่าจะรู้ดีที่สุดว่าไนล์เป็นใคร และอยู่ที่ไหน … แม่ที่เป็นคนพาไนล์เข้ามาในชีวิตผม

“จริงสิ! แม่! ใช่ป้าวรรณา ผมต้องคุยเรื่องนี้กับแม่” ผมลิงโลดขึ้นมาทันทีเมื่อนึกได้ “ว่าแต่แม่อยู่ไหนครับป้า” ผมถามพลางสาวเท้าเดินเข้าบ้านด้วยขายาวๆ ของตัวเอง

“เอ่อ.. คุณหญิงท่านไม่อยู่ค่ะคุณภู” ผมชะงักเท้านิดหน่อยแต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าแม่คงมีนัดคุยงานกับคู่ค้าหรือหุ้นส่วนเหมือนที่เคย ใครจะไปคาดคิดว่าฟ้าจะเล่นตลกกับผมขนาดนี้

“แม่ไปไหนครับ เดี๋ยวคงกลับใช่ไหม?”

“คุณหญิงท่านไปประชุมงานที่ต่างประเทศค่ะ เห็นบอกไว้ว่าจะไปกับทางบ้านคุณเทมส์ ป้าเองก็ไม่ทราบรายละเอียดมาก แต่เห็นว่าเป็นงานสำคัญ ถ้าไม่มีอะไรจำเป็นก็ไม่ให้ติดต่อไปค่ะ คุณหญิงท่านสั่งไว้แบบนั้น”

ป้าวรรณาพูดทั้งที่มีสีหน้าลำบากใจและเห็นใจผม ในขณะที่ผมเองถึงกับทรุดนั่งลงบนเก้าอี้รับแขกแถวนั้น เพราะถ้าแม่พูดแบบนี้น่าจะหมายความว่าติดต่อไม่ได้แน่ๆ คงสลับไปใช้มือถืออีกเครื่องที่คนที่บ้านไม่รู้เพราะเอาไว้ใช้ทำงานโดยเฉพาะ ซึ่งท่านเป็นแบบนี้ไม่บ่อยนอกเสียจากว่าจะเป็นงานสำคัญจริงๆ

“หึ!” ผมหัวเราะเยาะตัวเองเบาๆ “คงเป็นกรรมตามทันผมน่ะครับป้า ผมทำกับไนล์ไว้เยอะมากจริงๆ สมควรแล้วแหละที่โดนแบบนี้”

“โถ่ คุณภู...” ป้าวรรณาเข้ามากอดผมอีกครั้ง ผมเลยต้องย้ำกับแกไปว่าผมไม่เป็นอะไร เพราะไม่อยากให้แกคิดมากและกังวลจนเกินไป เลยเลี่ยงไปถามอย่างอื่นแทน เผื่อจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง

“ว่าแต่แม่บอกหรือเปล่าครับว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”

“บอกค่ะ เห็นคุณหญิงท่านว่าจะกลับมาตอนเปิดตัวโครงการของคุณภูกับคุณเทมส์ น่าจะกลับมาพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณเทมส์แหละค่ะ”

ผมถอนหายใจ นั่นหมายความว่าผมต้องทนเกือบอาทิตย์กว่าแม่จะกลับมา นี่ผมยังไม่รู้เลยจะทนให้ถึงได้ยังไง ไหนจะงานเปิดตัวโครงการฯ ที่ช่วงนี้ยุ่งเหยิงมากอีก หรือบางทีผมอาจจะต้องขอให้ไอ้เทมส์ช่วย

เดี๋ยวนะ.. ไอ้เทมส์งั้นหรอ?

ผมพยายามคิดทบทวนเรื่องไนล์ช้าๆ อีกครั้ง แล้วก็พบว่าทุกครั้งที่เป็นเรื่องของไนล์จะมีไอ้เทมส์เข้ามาเกี่ยวด้วยทุกครั้ง จะว่าไปก็ตั้งแต่วันแรกที่แม่พยายามจะพาไนล์เข้ามาในชีวิตผมเลยด้วยมั้ง วันนั้นไอ้เทมส์ก็อยู่ มันสนับสนุนแม่น่าดู แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เอะใจเท่าไหร่ แล้วไหนจะความสนิทสนมแปลกๆ ระหว่างไนล์กับไอ้เทมส์ด้วย

ผมว่าสองคนนั้นต้องรู้จักกันแน่ๆ แต่ผมแค่ไม่รู้ว่าทั้งคู่รู้จักกันในแง่ไหนเท่านั้น

พอพูดขึ้นมาแล้วหัวใจผมก็คันยุบยิบแปลกๆ ใช่ ผมหึงไนล์กับไอ้เทมส์อีกแล้ว แต่ครั้งนี้ผมกลับมีสติมากพอที่จะไม่หุนหันทำอะไรบ้าๆ แบบเมื่อก่อนอีก ผมจะไม่ปักใจเชื่ออะไรที่ไม่ได้ออกจากปากไนล์ทั้งนั้น

ในเมื่อผมคิดที่จะเริ่มต้นใหม่ ผมก็ควรเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย ผมจะได้ไม่เผลอทำร้ายไนล์และไม่ทำให้ไนล์เสียใจอีก

ซึ่งถ้าผมอยากจะทำตามที่ตัวเองตั้งใจ ผมก็ควรต้องตามหาไนล์ให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก และในเมื่อแม่ไม่อยู่ ผมก็คิดว่าคนที่รู้เห็นและมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าตัวเล็กของผมต้องไม่พ้นเพื่อสนิทตัวเองแน่ๆ


และผมก็จะตามหาไนล์จากมันนี่แหละ.. ไอ้เทมส์


“ขอบคุณครับป้าวรรณา ผมว่าผมพอจะหาทางออกเรื่องนี้ได้แล้ว ป้าไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะครับ” ผมบอกป้าวรรณาเพื่อไม่ให้แกคิดมากไปด้วย เพราะตอนนี้สีหน้าป้าวรรณาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“จริงเหรอคะคุณภู” ป้าวรรณาถามอย่างดีใจ

“จริงครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยไปลองถามไอ้เทมส์เอา เผื่อมันพอจะรู้บ้าง” ป้าวรรณาดูผ่อนคลายขึ้น ผมก็เลยเบาใจ และตัดสินใจกวนแกอีกเรื่องก่อนที่จะดึกมากไปกว่านี้ “เอ้อ ป้าครับ ผมรบกวนอีกเรื่อง”

“ว่าไงคะคุณภู”

“หลังจากนี้จนกว่าจะถึงวันเปิดตัวโครงการใหม่ของผมกับไอ้เทมส์ ผมจะกลับมานอนที่นี่นะครับป้า ยังไงรบกวนป้าให้คนไปทำความสะอาดห้องให้ผมทีนะครับ ผมจะนอนตั้งแต่คืนนี้เลย”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้ คุณภูรอสักครู่แล้วกันนะคะ เสร็จแล้วป้าจะให้เด็กมาตาม คุณภูจะได้ขึ้นไปพักผ่อน”

“ครับ ขอบคุณนะครับป้า” ป้าวรรณายิ้มให้ผมก่อนจะออกไปจัดการตามที่ผมขอ ทิ้งให้ผมนั่งถอนหายใจลำพัง

ผมมองตามป้าวรรณาที่เดินออกไปจัดห้องให้ผม พร้อมกับคิดสะท้อนในใจว่าคืนนี้ผมจะจัดการความคิดถึงและอารมณ์ตัวองยังไงให้นอนหลับได้ลง .. เมื่อไม่มีไนล์ให้นอนกอดเหมือนคืนที่ผ่านๆ มา

.

.

.

เช้าวันถัดมา ผมตื่นมาด้วยสภาพที่ไม่โอเคนัก เพราะเมื่อคืนนอนแทบไม่หลับทั้งคืน .. การไม่มีไนล์ในอ้อมกอดทรมานมากกว่าที่ผมคิด ทั้งสัมผัส ทั้งกลิ่นกายหอมๆ ทั้งความรู้สึกของการได้อยู่ใกล้ชิด ทำให้ผมนอนคิดถึงไนล์ทั้งคืน แทบข่มตานอนไม่ลงเลย ดังนั้นเข้านี้ผมเลยมาถึงออฟฟิศเร็วกว่าปกติ จะว่าตั้งใจรีบมาดักรอเจอไอ้เทมส์ก็คงไม่เกินจริงเท่าไหร่นัก

แต่แล้วสิ่งที่ผมได้ยินจากเลขาของไอ้เทมส์ ก็ทำเอาผมแทบล้มทั้งยืน …

“ว่าไงนะครับ”

“คุณนทีบดีให้ดิฉันแจ้งคุณคีรินค่ะ ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะถึงวันเปิดตัวโครงการคุณนทีบดีจะไม่เข้ามาที่นี่แต่จะส่งตัวแทนที่สามารถตัดสินใจและมีอำนาจเทียบเท่าคุณนทีบดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ให้คุณคีรินประสานงานกับตัวแทนได้เลย หากมีปัญหาอะไรดิฉันจะเป็นคนแจ้งคุณนทีบดีให้ค่ะ”

ผมทั้งหงุดหงิดทั้งหัวเสีย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมทั้งแม่ทั้งไอ้เทมส์ถึงได้พร้อมใจหายกันไปแบบนี้ มันเวรกรรมอะไรของผมกันนะ

“แล้วคุณเทมส์ได้แจ้งเหตุผลไว้รึป่าวว่าทำไมถึงจะส่งตัวแทนมาทำหน้าที่แทน ทั้งที่โครงการใกล้จะเปิดตัวไม่กี่วันนี้แล้วเนี่ย” ผมถามเลขาฯ ไอ้เทมส์ที่ทำหน้าที่ได้ดีอย่างประหลาด เธอทั้งนิ่งทั้งสงบ ไม่ได้ดูหวั่นไหวไปกับความน่ากลัวของผมสักนิด ทั้งที่ตอนนี้ทั้งหน้าและน้ำเสียงของผมดูประสาทเสียและหงุดหงิดพอตัว

“คุณนทีบดีแจ้งแค่ว่าเป็นเหตุผลส่วนตัวค่ะ” เธอยิ้ม แม้ว่าผมจะตีหน้ายักษ์ใส่เธอก็ตาม “แต่คุณคีรินไม่ต้องห่วงนะคะ ตัวแทนที่คุณนทีบดีส่งมาจะทำหน้าที่แทนได้อย่างเต็มที่ ทั้งในแง่ของการประสานงานและการตัดสินใจ รับรองว่างานทุกอย่างจะไม่มีอะไรติดขัดแน่นอนค่ะ”

ผมเดินออกมาจากหน้าห้องทำงานของไอ้เทมส์อย่างหัวเสีย สิ่งที่หวังไว้ไม่เป็นอย่างหวังสักอย่าง เบาะแสหรือข้อมูลที่ผมอยากรู้เกี่ยวกับไนล์มืดแปดด้าน คลำหาทางออกตรงไหนก็ตันไปหมด ทั้งแม่ทั้งไอ้เทมส์มีธุระติดพันอย่างกับนัดกันไว้ สุดท้ายผมเลยทำได้แค่ก้มหน้าก้มตารอจนกว่าจะถึงวันเปิดตัวโครงการ

ถามว่านานไหม มันก็ไม่ได้นานอะไรขนาดนั้นหรอกอีกแค่ห้าวันก็จะถึงวันงานแล้ว แต่ผมแค่คิดว่าห้าวันที่แสนจะสาหัสกับงานที่ทั้งเครียดทั้งกดดันอาจจะทำให้ผมได้ตายก่อนที่จะรู้เรื่องของไนล์ ทั้งที่ความจริงแล้วมันควรเป็นห้าวันที่ได้รับกำลังใจดีๆ จากเจ้าตัวเล็กที่รออยู่ที่บ้าน แทนที่ทันจะผ่านไปด้วยดี และหลังจากงานเปิดตัวผมจะได้พาไนล์ไปเที่ยวอีกสักทริป

แต่ทุกอย่างก็ต้องพังทลายทั้งหมดเพราะความหูเบาของผมเอง จนตอนนี้ไนล์หนีหายไปอยู่ที่ไหน ผมก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้รู้เลย

.

.

.


(อ่านต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(อ่านต่อจากด้านบน)


ตัวแทนที่ไอ้เทมส์ส่งมาทำงานได้ดีจนน่าใจหาย ผมที่ตั้งใจว่าถ้าตัวแทนของมันทำเสียเรื่องสักนิด ผมจะได้หาเหตุให้ไปเฉ่งมันถึงออฟฟิศ แต่นี่มันเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะตัวแทนที่มันส่งมาทั้งประสานงาน แก้ปัญหาและตัดสินใจได้ดีเกินคาด … ก็จะไม่ดีได้ยังไง ในเมื่อมันส่งผู้ช่วยที่ทำงานนี้กับมันตั้งแต่ต้นมา ดังนั้น เขาจึงรู้ทุกอย่างดีอยู่แล้ว และทำหน้าที่แทนไอ้เทมส์ได้อย่างไม่มีที่ติ

ตอนแรกผมก็ตั้งใจแหละว่าจะโทรหาไอ้เทมส์หรือหาเวลาไปคุยกับมันที่บ้านไม่ก็ออฟฟิศ แต่งานก็ติดพันมากจนผมแทบกระดิกไปไหนไม่ได้เลย แค่มีเวลากินข้าวพอในแต่ละวันก็ถือว่ามหัศจรรย์แล้ว อย่าหาเวลาจะทำอย่างอื่นเลยมันไม่เหลือพอหรอก พอเสร็จงานเหลือบมองเวลาแล้วก็ล่วงเข้าวันใหม่แล้วทุกที

ผมใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่สี่ห้าวันก่อนถึงวันเปิดตัว นอนหลับบ้างไม่หลับบ้างแล้วแต่สภาพความเหนื่อยอ่อนในแต่ละวัน ไม่อยากจะยอมรับแต่ผมโหมทำงานเยอะมากในช่วงกลางวันเพียงเพื่อมันจะได้เหนื่อยและน็อคหลับไปในช่วงกลางคืน เพราะส่วนใหญ่ผมจะคิดถึงไนล์ตอนนั้น นี่ยังดีที่ผมย้ายมานอนบ้าน ถ้าขืนยังนอนอยู่คอนโด ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนผมก็นอนไม่หลับหรอก .. เพราะมันมีความทรงจำของเราอยู่เต็มไปหมด ผมเลยต้องอาศัยการทำแบบนี้เพื่อให้ตัวเองผ่านทุกคืนไปได้ด้วยดี

ส่วนเรื่องจีน ผมก็ให้คนไปจัดการเชิญเธอออกจากคอนโดเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกเธอก็ดึงดันไม่ยอมอยู่พักใหญ่ จนคนของผมต้องพูดตามตรงว่าจะดำเนินการตามกฎหมายหากไม่ย้ายออก เท่านั้นเธอถึงยอมได้ และเพราะเห็นแก่ว่าผมกับเธอเคยคบกันอยู่ช่วงหนึ่ง และเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา ผมเลยฝากเงินให้เธอไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็มากพอให้เธอหาห้องเช่า เริ่มต้นงานใหม่ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

สุดท้ายจีนก็ย้ายออกไป และผมก็โทรไปแจ้งป้ามลในวันนั้นเลยว่าจีนยอมย้ายออกแล้ว เพื่อให้ป้าเข้าไปทำความสะอาดได้ในทันทีที่สะดวก ซึ่งป้ามลเองก็ดีใจมากรีบเข้าไปทำความสะอาดให้ผมในเย็นวันนั้นเลย ทั้งที่ผมก็บอกแล้วว่าให้ไปวันถัดไปก็ได้ แต่ป้ามลก็ไม่ฟัง ซ้ำยังพูดกับผมด้วยน้ำเสียงยินดี


‘ไม่เป็นไรค่ะ ป้าจะเข้าไปวันนี้เลย ป้าจะไปจัดการอะไรให้เรียบร้อย ไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง เผื่อคุณภูอยากกลับมาคอนโดจะได้เข้ามาได้เลย’


ผมค่อนข้างดีใจที่ป้ามลยินดีกลับมาทำงานให้ผมด้วยความเต็มใจอย่างที่ป้าเคยบอกไว้ แต่แล้วใจผมก็ต้องเหี่ยวอีกครั้งเมื่อผมถามป้ามลถึงไนล์ แต่กลับไม่มีอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาเลยสักนิด


‘แล้วป้ามลได้ข่าวไนล์บ้างรึยังครับ น้องติดต่อมาบ้างไหม?’

‘น้องหรอคะ?’ เสียงป้ามลดูอึ้งๆ คงเพราะไม่คิดว่าผมจะเรียกแทนไนล์แบบนั้น แต่ผมก็ทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้ เอาแต่เงียบรอให้ป้าตอบ ‘ไม่ได้ข่าวอะไรจากคุณไนล์เลยค่ะคุณภู คุณไนล์บอกป้าไว้ว่าจะติดต่อมาแต่ก็ยังไม่เห็นติดต่อมาเลย'

‘หรอครับ’ ผมรับคำเสียงเฉา ป้ามลเลยต้องให้กำลังใจ

‘คุณภูรอสักหน่อยนะคะ ป้ามั่นใจว่ายังไงคุณไนล์ก็ต้องติดต่อมา .. เอาไว้ถ้าคุณไนล์ติดต่อมาเมื่อไหร่ ป้าจะแจ้งให้คุณภูทราบทันทีนะคะ’

‘ขอบคุณมากครับป้ามล’


และนั่นก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันที่แล้ว และตอนนี้ทุกอย่างก็ยังนิ่งเงียบ ซึ่งนี่ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับการเตรียมงานเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส ผมกับทีมงานเลยต้องมาควบคุมและดูแลทุกขั้นตอนในสถานที่จริง เพราะคนที่รู้กระบวนการและคิวการจัดงานในวันพรุ่งนี้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นผมกับผู้ช่วยของไอ้เทมส์ เราเริ่มงานกันตั้งแต่เช้ายันบ่ายๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า พอเห็นว่าเป็นเบอร์ที่บ้านโทรมาเลยรีบกดรับ


Rrrrr


“สวัสดีครับ ภูครับ”

(คุณภูคะ ป้าวรรณาเองนะคะ) ผมยิ้มเมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงใจดีคือใคร ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกมาคุยบริเวณโถงด้านนอกของสถานที่จัดงาน

“ครับป้าวรรณา ว่าไงครับ ที่บ้านมีอะไรด่วนรึป่าวครับ?” ผมถามเพราะปกติป้าวรรณาไม่ค่อยได้โทรหาผมเท่าไหร่นอกจากจะมีธุระสำคัญ

(ไม่มีอะไรด่วนหรอกค่ะคุณภู ป้าแค่จะโทรมาบอกว่าเมื่อสักครู่คุณผู้หญิงท่านโทรมาบอกว่ากำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับ น่าจะถึงประมาณพรุ่งนี้สายๆ ป้าเลยคิดว่าควรจะโทรมาแจ้งคุณภูไว้)

“อ๋อ งั้นหรอครับ” ผมครางรับ “แต่พรุ่งนี้ผมคงยุ่งๆ น่าดู คงไม่ได้เจอแม่แน่ อาจะเจออีกทีก็ที่งานเลย”

(จริงหรอคะ โถ่เสียดายแย่ ป้าคิดว่าคุณภูอาจจะว่างไปรับคุณหญิงท่าน เผื่อจะได้มีโอกาสได้คุยกัน และก็ได้ถามในเรื่องที่คุณภูอยากทราบด้วย)

ผมยิ้มบาง อยากทำแบบนั้นใจจะขาด แต่งานพรุ่งนี้ก็สำคัญ และผมจะทิ้งให้ผู้ช่วยไอ้เทมส์ทำคนเดียวไม่ได้

“ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ไหนๆ ก็รอได้ถึงวันนี้แล้วจะรออีกสักไม่กี่ชั่วโมงจะเป็นไร” ใช่ จะรออีกสักหน่อยจะเป็นอะไร ผมพยายามปลอบใจตัวเองแบบนั้น แม้ลึกๆ จะรู้ดีว่าถ้าไม่มีงานค้ำคออยู่แบบนี้ ผมไม่รอช้าที่จะไปตามหาไนล์แน่

“ป้าไม่ต้องห่วง…” คำพูดผมเลือนหาย เมื่อเห็นแผ่นหลังเล็กของร่างคุ้นตาเดินห่างออกไปไกลๆ “ไนล์!”

ผมครางเรียกชื่ออีกฝ่ายเสี่ยงสั่น ก่อนที่สองเท้าจะออกเดิน จนกลายเป็นวิ่งก่อนที่ผมจะรู้ตัวด้วยซ้ำ

“ไนล์!” ผมยังคงส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายอยู่แบบนั้น ทั้งที่กำลังวิ่งไปด้วย “ป้าวรรณา เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะครับ”

ผมกดวางสายมือถือก่อนจะวิ่งตามร่างเล็กที่เห็นออกมาทางด้านหน้าสถานที่จัดงานแต่กลับกลายเป็นว่าตรงนั้นไม่มีใครเลย นอกจากผมที่เพิ่งวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาคนเดียว ผมพยายามกวาดสายตามองโดยรอบเพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ

ผมเห็นไนล์ ผมจำไนล์ได้ แม้จะเป็นเพียงข้างหลังแต่ผมก็จำเขาได้ และนั่นก็ทำให้ประกายความหวังในใจของผมสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง

.. บางทีผมกับเขาอาจจะอยู่ใกล้กันมากกว่าที่คิดก็ได้

.

.

.

‘พี่ภู แม่ถึงบ้านแล้วนะครับ เห็นป้าวรรณาบอกว่าพี่ภูอยากเจอแม่ แต่ตอนนี้พี่ภูน่าจะยุ่ง เอาไว้เราไปเจอกันที่งานเลยแล้วกันนะลูก’


ผมหยิบมือถือขึ้นมาอ่านก่อนจะเก็บลงกระเป๋า เพราะตอนนี้มีเรื่องให้ทำเยอะมาก ใจก็อยากจะด่าไอ้เทมส์ที่ไม่ได้มาอยู่ช่วยผมตรงนี้เวลานี้ แต่จะทำแบบนั้นก็ไม่ได้ เพราะผู้ช่วยที่มันส่งมาก็ทำงานได้ดีเหลือเกิน บอกตามตรงว่าแบ่งเบาภาระผมได้เยอะมาก เยอะจนบางทีถ้าไอ้เทมส์อยู่ตรงนี้อาจจะไม่ราบรื่นขนาดนี้ก็ได้ เพราะทั้งผมทั้งมันอารมณ์ร้อนทั้งคู่ แต่ผู้ช่วยของมันคนนี้ใจเย็นและละเอียดรอบคอบมาก ขั้นตอนงานถูกทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผมมั่นใจว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด

“คุณภูไปเตรียมตัวเถอะครับ ทางนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว เดี๋ยวยังไงผมจัดการที่เหลือต่อให้” ผมกวาดตามองรอบๆ ก็พบว่าทุกอย่างถูกเซ็ทไว้แล้วเรียบร้อย เหลือแค่การวางคิวเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมสามารถส่งต่อให้ผู้ช่วยของไอ้เทมส์ดูแลได้

“โอเค งั้นผมฝากด้วยนะครับ” ผมตบไหล่อีกฝ่าย ก่อนจะเตรียมออกเดินแต่ชะงักไว้ก่อนเมื่อนึกขึ้นได้ “ว่าแต่ไอ้เทมส์ เอ่อ คุณเทมส์น่ะ จะมากี่โมง เขาได้บอกไว้ไหม?”

“น่าจะมาช่วงใกล้ๆ เริ่มงานครับ เพราะเห็นว่าคุณท่านทั้งสองเพิ่งกลับจากต่างประเทศวันนี้ เลยอาจจะต้องรอคุณท่านด้วย เพื่อที่จะได้มาพร้อมกันทั้งหมด”

“อืม น่าจะเพิ่งกลับมาพร้อมแม่ผม” ผมพยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจ “ว่าแต่ทั้งหมดนี่รวมน้องชายมันด้วยรึป่าว?”

ผมถามถึงน้องชายไอ้เทมส์ที่เกือบจะลืมไปแล้วว่ามี คบกันมาเป็นสิบกว่าปีผมไม่เคยเจอมน้องมันสักครั้ง อาจจะเป็นเพราะผมไปอยู่อเมริกามานานด้วยแหละเลยไม่มีโอกาสได้เจอ ในขณะที่คุณพ่อกับคุณแม่ยังมีไปทำงานที่อเมริกาบ้างผมเลยยังพอได้เจอ แต่น้องชายไอ้เทมส์ไม่เคยได้เจอสักครั้ง เหตุผลก็คงเพราะไอ้เทมส์มันทั้งหวงทั้งห่วงน้องมันมากนั่นแหละ นี่ก็เลยเป็นสาเหตุให้ผมไม่เคยได้เจอตัวจริงของน้องชายมันสักที

“ครับ คุณนทีธัชช์ก็มาด้วย มาทั้งครอบครัวเลยครับวันนี้”

ผมพยักหน้ารับรู้อีกครั้ง “โอเค งั้นเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพักข้างบนก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรคุณโทรตามผมได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“ครับ ตามสบายครับคุณคีริน”

เมื่อฝากฝังทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เดินออกมาจากสถานที่จัดงาน เพื่อขึ้นไปยังห้องพักด้านบนที่จองไว้ เพราะผมต้องมาทำงานแต่เช้า เลยต้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่ ผมเลยเปิดห้องไว้เพื่อความสะดวกจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างที่บ้านกับที่นี่

ผมขึ้นไปพักสายตาสักงีบเนื่องจากเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่างานจะเริ่มเพราะนอนไม่พอมาหลายคืน ทั้งทำงานหนักและทั้งนอนไม่หลับเพราะไม่คุ้นชินกับการไม่มีไนล์อยู่ข้างๆ ใช้เวลาไม่นานผมก็เผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน พร้อมกับความหวังที่ว่า หลังจบงานนี้แล้วผมจะได้เบาะแสและข้อมูลของไนล์จากแม่และไอ้เทมส์สักที ผมจะได้ไปตามหาหัวใจของผมคืนหลังจากอดทนรอมานานหลายวัน

แต่กลับดูเหมือนว่าผมจะได้มากกว่าที่หวังไว้มาก มากจนเกินที่จะตั้งรับได้ทัน

.

.

.

ผมแต่งตัวด้วยสูททางการสีดำสนิท สูทตัวนี้เป็นสูทมที่มาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีดำที่ไนล์เป็นคนเลือกให้เพราะเขาบอกว่าเหมาะกับผม ดังนั้นผมจึงไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะหยิบมันมาใส่ในวันสำคัญแบบนี้

วันที่ผมกำลังจะประสบความสำเร็จและได้พัฒนาตัวเองไปอีกก้าว แม้มันจะเป็นแค่การเปิดตัวโครงการฯ แต่นั่นก็หมายถึงการเริ่มต้นในฐานะทายาทของทูเค คอนสตรัคชั่นเต็มตัว

ผมอยากให้ไนล์อยู่กับผมในวันนี้มาก เพราะจะว่าไปแล้วแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผมเริ่มต้นและมายืนตรงนี้ได้ก็ไนล์ทั้งนั้น ถ้าไม่มีเขาผมก็อาจจะยังเป็นไอ้ภูที่สำมะเลเทเมาและทำตัวไร้ประโยชน์อยู่ในผับในบาร์ ไม่เป็นผู้เป็นคนอย่างวันนี้ก็ได้


ต้องขอบคุณไนล์ ขอบคุณไนล์ทั้งนั้น แต่เขากลับไม่อยู่ตรงนี้ให้ผมแม้แต่จะได้กอดด้วยซ้ำ … ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน


ผมสลัดศรีษะขับไล่ความฟุ้งซ่านและพยายามตั้งสติก่อนจะออกจากห้องและลงไปยังสถานที่จัดงานที่เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแสงสีเสียงหรือทุกสิ่งทุกอย่าง มันค่อนข้างสมบูรณ์แบบและเป็นไปตามที่ผมต้องการ ที่เหลือก็แค่รอให้แขกมาให้พร้อมและเปิดงานเท่านั้น

ตอนนี้แขกเริ่มทยอยเข้างานมาเรื่อยๆ และแล้วแขกคนสำคัญก็มาถึง มาถึงพร้อมๆ กับแสงแฟลชจากกล้องของนักข่าวสาดกระทบทั่วทั้งทางเดิน

ผมยิ้มเมื่อเห็นแม่เดินเข้ามาอย่างสดใส มีนักข่าวรุมถามนั่นนี่บ้าง แต่แม่ก็ขอตัวเดินออกมาได้อย่างเนียนๆ จนกระทั่งแม่เดินมาถึงผม แม่ส่งยิ้มกว้างอย่างมีความสุขมาให้ผม ก่อนจะอ้าแขนออกแล้วโผเข้ากอดผมแน่น

“พี่ภูของแม่” ผมยิ้มกว้างกอดตอบแม่แน่น ผมรู้ว่าแม่มีความสุขและภูมิใจในตัวผมมากแค่ไหน แม้แม่จะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม

“เหนื่อยไหมครับ เพิ่งลงเครื่องมาก็ต้องมางานต่อเลย” แม่ดันตัวผมออกตอนที่ผมถาม ท่านยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า

“ไม่เหนื่อยเลยครับ เห็นพี่ภูในตอนนี้แล้วแม่ไม่เหนื่อยอะไรเลย” แม่โผเข้ากอดผมอีกครั้ง ให้ผมได้หัวเราะนิดหน่อยตอนถูกแม่กอด

“ขอโทษนะครับแม่ ที่ที่ผ่านมาภูทำให้แม่กังวลใจมาตลอด” ผมยิ้ม ก่อนจะพูดเต็มเสียงเพื่อให้แม่ได้สบายใจ “ต่อไปนี้ภูจะพยายามให้มากขึ้น เพื่อที่แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไปนะครับ”

“พี่ภู.. ลูก” แม่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ได้ทัน “ไม่ได้ๆ จะมาทำซึ้งตอนนี้ไม่ได้… ว่าแต่พี่ภูเตรียมตัวพร้อมแล้วใช่ไหมครับ อย่าลืมนะพี่ภูว่าวันนี้พี่ภูต้องเปิดตัวในฐานะทายาทของอคิระไพบูลย์ด้วย พี่ภูพร้อมใช่ไหมลูก?

ผมพยักหน้า พร้อมกับสบตาแม่เพื่อให้ท่านได้มั่นใจ “พร้อมครับแม่ ภูพร้อมทุกอย่างแล้ว”

แม่ผมยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ก่อนจะชะงักนิดหน่อยเมื่อนึกขึ้นได้ “เอ้อ แม่เห็นเห็นป้าวรรณาบอกแม่ว่าพี่ภูมีเรื่องจะคุยกับแม่ เรื่องอะไรหรือลูก? สำคัญไหม? พี่ภูอยากคุยตอนนี้เลยรึป่าว ยังพอมีเวลาก่อนที่แขกจะมามากกว่านี้”

แม่สลับมาเปลี่ยนเรื่องจนผมตั้งตัวแทบไม่ทัน และพอแม่ถามขึ้น ผมก็เห็นได้ว่ายังพอมีเวลาเหลืออยู่ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่แขกกำลังทยอยมา แล้วเดี๋ยวถ้ามามากกว่านี้คงมีคนเข้ามาทักทายไม่ขาดสาย และเราแม่ลูกคงไม่มีเวลาคุยกันแน่ๆ

“ก็ค่อนข้างสำคัญครับแม่ คือภูจะถามแม่ว่า…”

แล้วคำพูดของผมก็ดูเหมือนจะถูกกลืนหายไปกับเสียงของบรรดานักข่าวที่ดูเหมือนจะฮือฮากับคนที่มาใหม่พอสมควร แม่และผมเลยหยุดบทสนทนาและมองตามสายตาของทุกคนไป ผมก็เลยได้เห็นรูปร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทที่อยู่ในชุดสูทสีดำแบบเดียวกับผมต่างกันตรงที่ไอ้เทมส์ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ยิ่งขับให้มันดูคุณชายมากขึ้น ไหนจะรอยยิ้มสุภาพที่ทำให้มันดูน่าจับตามองมากกว่าใคร

ไอ้เทมส์เดินเข้ามาพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ที่ริมฝีปากประดับด้วยรอยยิ้มใจดีทั้งคู่ ในขณะที่นักข่าวก็ยังคงสาดแสงแฟลชใส่อย่างไม่หยุดยั้ง ผมกับแม่เลยเดินออกไปเพื่อต้อนรับครอบครัวของอีกฝ่าย และเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นคนทั้งสามหยุดยืนเหมือนรอใครสักคน โดยมีไอ้เทมส์หันไปกวักมือเรียกเจ้าของชุดสูทสีเทาที่กำลังซอยเท้าเดินเข้ามาเร็วๆ อย่างน่าเอ็นดู

และถ้าผมเดา จากที่ได้ยินผู้ช่วยมันบอกมา อีกคนที่มันรออยู่ผมคิดว่าก็คงเป็นน้องชายของไอ้เทมส์มันนั่นแหละ และด้วยความที่อีกฝ่ายตัวเล็กกว่าพี่ชายเกือบครึ่งเลยทำให้ผมมองเห็นไม่ถนัด จนกระทั่งไอ้เทมส์โอบเอวและดึงน้องชายให้มายืนตรงกลาง

นาทีนั้นโลกของผมแทบหยุดหมุน ทุกอย่างแทบจะไม่อยู่ในโฟกัสสายตา เมื่อคนตรงหน้าที่ผมเห็นคือคนที่ผมตามหา คนที่ผมคิดถึง และคนที่ผมอยากเจอมาตลอดห้าวันเต็มๆ


เจ้าของใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตสดใส แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเศร้าบางอย่าง ริมฝีปากบางสวยที่มักจะมีรอยยื้มกว้างอยู่ตลอดเวลา .. ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนผมก็ไม่มีทางลืมได้


“ไนล์” ผมครางเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาอย่างประหลาดใจปนดีใจ ผมไม่คิดว่าจะเจอไนล์ที่นี่ เจอไนล์ได้ง่ายดายแบบนี้

แต่อีกความจริงที่กำลังตีแกสกหน้าผมนั่นก็คือ … ไนล์คือน้องชายของไอ้เทมส์


นี่มันอะไรกัน? … และสุดท้ายเหมือนจิ๊กซอว์ที่อยู่ในหัวผม ก็ค่อยๆ ต่อเข้าหากันทีละชิ้น ทีละชิ้น


ที่ไอ้เทมส์กับไนล์สนิทสนมกัน ที่ไอ้เทมส์มันดูหวงไนล์นักทุกครั้งที่ไนล์กับผมอยู่ใกล้กัน ที่ไอ้เทมส์เคยกอดเคยหอม นั่นเป็นเพราะไนล์คือน้องชายของมัน และที่ทำให้ทุกอย่างลงล็อคก็คือเรื่องเด็กผู้ชายในร้านไอศครีมเมื่อสิบปีที่แล้ว


‘ผมมานั่งรอพี่ชายครับ พี่ชายผมมาติวกับเพื่อน อีกสักพักถึงจะเลิกครับ'


และพี่ชายที่เด็กคนนั้นพูดหมายถึงไอ้เทมส์ ไอ้เทมส์ที่เป็นเพื่อนสนิทผม เราใกล้กันแค่นี้แท้ๆ แต่ทำไมผมไม่เฉลียวใจเลยสักนิด ผมไม่เคยนึกถึงความเป็นจริงในข้อนี้เลย ซึ่งถ้าผมสงสัยสักนิดเรื่องมันอาจจะไม่เลยเถิดขนาดนี้ก็ได้


‘ไนล์อยู่กับพ่อกับแม่กับพี่ชายครับ ไนล์ทำงานเพราะอยากช่วยพี่ชายแบ่งเบา’


แล้วไหนจะความเก่งภาษาอังกฤษของไนล์อีก หมือนที่ผมสงสัยไว้ไม่มีผิด ไนล์ไม่ใช่แค่อ่านออกเขียนได้ แต่ไนล์ใช้มันได้ดีด้วยซ้ำ ทั้งตอนที่อ่านเอกสารเหล่านั้นที่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าน่าจะเป็นเอกสารเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดิน และทั้งตอนที่ไนล์บอกทางให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเมื่อคราวที่ไปหัวหิน

ทุกเหตุการณ์ได้รับคำตอบ .. ไนล์ไม่ใช่เด็กที่มาจากต่างจังหวัด ไม่ใช่เด็กที่มาจากครอบครัวยากจน ไม่ใช่เด็กที่ปากกัดตีนถีบและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินขนาดนั้น จะว่าไปมันแทบตรงกันข้ามทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ เพราะที่จริงแล้วไนล์มาจากครอบครัวที่มีฐานะดีจัดได้ว่าเป็นลูกคุณหนูเลยด้วยซ้ำ หน้าที่การงานก็คงหนีไม่พ้นทำกับไอ้เทมส์นั่นแหละ

ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดจนผมสับสน และในความเป็นจริงแล้วผมควรจะโกรธที่ถูกไนล์จัดฉากหลอกลวงเบอร์ใหญ่ขนาดนี้ แต่ลึกๆ แล้วผมรู้ตัวเองดีว่าไม่ได้โกรธน้องขนาดนั้น ถ้าถามว่าตกใจไหม ก็ยอมรับว่ามีบ้าง แต่กับเรื่องโกรธนั้น พูดตรงๆ เลยว่าผมโกรธไม่ลง ทำไมน่ะหรอ?

ทั้งๆ ที่ไนล์มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี อยู่บ้านมีคนห้อมล้อมคอยดูแลอาจจะเพราะเป็นคุณหนูคนเล็กของบ้าน แต่เขากลับยอมพาตัวเองมาอยู่กับผม มาลำบาก มาทำงานบ้าน ทำกับข้าวให้ผมกิน ยอมถูกผมต่อว่าและดูถูกนับครั้งไม่ถ้วน แล้วไหนจะยอมถูกผมรังแก เพราะเขามีเพียงเหตุผลเดียว เหตุผลที่บริสุทธิ์มากๆ เหตุผลที่คนอย่างผมไม่ควรจะได้รับมันด้วยซ้ำ


.. ไนล์ทำทุกอย่างลงไปเพราะรักผม เขาแทบไม่เคยร้องขอให้ผมรักตอบ อย่างเดียวที่เขาอยากได้คือเห็นผมหายดีและกลับไปเป็นพี่ภูคนเดิม


แล้วไหนจะที่ไนล์เสียสละขอมาอยู่กับผม ทั้งที่ผมน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าคนขี้หวงน้องอย่างไอ้เทมส์ต้องไม่ยอมปล่อยน้องมาง่ายๆ แน่ๆ แต่มันยอมปล่อยไนล์มาก็คงเพราะไนล์จะมาให้ได้ และมันก็คงห้ามไม่ไหว เวลาไนล์ดื้อตาใสน่ะไม่ใช่ผมไม่เคยเห็น นั่นยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าไนล์ยอมแลกหลายอย่างจริงๆ กับเวลาสั้นๆ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน

แต่สิ่งที่ผมตอบแทนน้องกลับเป็น ถ้อยคำดูถูก การบังคับขืนใจ และการทำให้น้องคิดว่าทุกอย่างที่ทำมาสูญเปล่า เพราะความหูเบาและขาดสติของผม

ความผิดที่น้องทำยังไม่ถึงครึ่งกับความผิดที่ผมก่อเลย แล้วแบบนี้ผมจะโกรธน้องลงได้ยังไงกัน

ตรงกันข้าม ยิ่งเห็นแบบนี้ผมยิ่งอยากได้น้องกลับคืนมา เพื่อที่อย่างน้อยให้ผมได้ทำอะไรดีๆ กลับไปให้น้องบ้าง หรือให้ผมได้รักน้องคืนบ้างก็ยังดี เพื่อทดแทนช่วงเวลาที่เสียไปสิบปีของเรา

“ทำไมน้องไนล์ถึง…” แม่พึมพำเบาๆ ก่อนจะหันมามองหน้าผม ผมเดาว่าตอนนี้แม่คงรู้แล้วว่าผมอยากจะพูดเรื่องอะไรกับท่าน

“น้องทิ้งภูไปแล้วครับแม่.. ภูทำตัวแย่ๆ ใส่น้องจนน้องทนไม่ได้เลยทิ้งภูไป” ผมพูดเสียงสั่น ตายังคงจับจ้องที่ร่างเล็กที่กำลังยิ้มแย้ม ยิ้มแย้มแม้แววตาจะเศร้าเหลือเกิน

“พี่ภูรู้ความจริงหมดแล้วใช่ไหมลูก?” แม่ถามด้วนน้ำเสียงไม่สบายใจ ให้ผมได้พยักหน้ารับ “แล้วพี่ภูโกรธน้องรึป่าว?"

ผมยิ้มหยัน ก่อนจะตอบแม่ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “ภูมีสิทธิ์อะไรไปโกรธน้องล่ะครับแม่ ที่ภูทำกับน้องมันแย่ยิ่งกว่าเยอะ น้องต่างหากที่สมควรจะโกรธภู” มวลความเศร้าตีตื้นขึ้นมาจบคับอก ผมพยายามกลั้นน้ำใสไม่ให้ไหลออกมาจากตา “แม่ครับ น้องจะให้อภัยภูไหม ภูไม่อยากเสียน้องไปเลย ไม่อยากเลย”

แม่ดึงผมเข้าหาตัวก่อนจะกอดผมไว้พร้อมกับปลอบประโลม “โถ่ พี่ภู”

“แม่ แม่ต้องช่วยภูนะครับ ภูอยากได้น้องคืนมา ภูเสียน้องไปไม่ได้.. ภูรักน้องครับแม่”

ผมตัดสินใจสารภาพ แต่แปลกที่แม่กลับแค่ยิ้มท่านไม่พูดอะไร ไม่ดูแปลกใจด้วยซ้ำ ราวกับรู้อยู่แล้วว่าวันนึงผมจะตกหลุมรักไนล์เข้าเต็มเปา

“งั้นเราไปเอาน้องคืนมากัน แม่จะช่วยพี่ภูเอง…” แม่ลูบศีรษะผมเบาๆ ก่อนจะพูดอย่างอ่อนโยน “แม่ปล่อยให้พี่ภูเสียน้องไนล์ไปไม่ได้หรอก จะมีใครในโลกดีกับพี่ภู รักพี่ภูของแม่เท่าน้องไนล์ เพราะตั้งแต่มีน้องไนล์เข้ามา พี่ภูก็ดีขึ้นมาก น้องไนล์ทำเพื่อพี่ภูทุกอย่าง แม่จะปล่อยให้ลูกทำคนดีๆ แบบนี้หลุดมือไปได้ยังไงกัน”

“…” ผมพูดไม่ออก ทุกอย่างมันจุกอยู่ที่ลำคอ เมื่อพบว่าสิ่งที่แม่พูดเป็นจริงทุกอย่าง

“ต่อจากนี้ถึงเวลาที่พี่ภูต้องทำเพื่อน้องไนล์บ้างแล้วนะลูก ทำ.. เพื่อให้ได้หัวใจของตัวเองคืนมา ตกลงไหมครับ”

แม่ส่งยิ้มให้กำลังใจให้ผมต้องยิ้มตอบ ก่อนจะมองเลยไปยังร่างเล็กที่ผมเคยกอด เคยมีเขาเคียงข้างอยู่ตลอดเกือบสามเดือนที่ผ่านมา

.. ใช่ ถึงเวลาที่ผมต้องทำเพื่อน้องบ้างสักที ถึงเวลาที่ผมจะต้องเอาหัวใจของตัวเองกลับคืนมาเสียที

.

.

.

To Be Continue

-------------------------------------------

ทำได้แค่ยืนมองอะเนาะ ทำได้แค่นั้นแหละ มองวนไป วนไปเรื่อยๆ 5555555555555

ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีเขียนไม่ออกนิดหน่อย มันมีอะไรให้คิดนิดนึงเลยพาลให้ตื้อๆ ไปวันสองวัน แฮร่ๆ

ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ยังติดตามและไม่หายไปไหน นิยายเรื่องนี้มันอาจจะน้ำเน่าไปสักหน่อย แต่ก็อย่างที่เราเคยจั่วหัวไว้ที่บทนำ นั่นเป็นเพราะเราอยากจะลองฉีกมาเขียนอะไรแบบนี้จริงๆ เนื่องจากไม่เคยลองเขียนเลย ถ้ามันยังดูน่าเบื่อและไม่ถูกใจใครเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ และก็ขอบคุณหลายๆ คนที่ยอมเปิดใจให้กับนิยายเรื่องนี้ของเรา ขอบคุณมากๆ ค่ะ ขอบคุณจริงๆ ^^

สุดท้ายยขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ ทุกคลิก ทุกไลค์ ทุกวิว ทุกการโดเนท ขอบคุณมากๆ และหวังว่าจะอยู่ไปด้วยกันจนจบน้าาาา

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ สักวันจันทร์อังคารเนาะ ถ้าเขียนสต็อคเสร็จเร็วกว่านั้นจะรีบมาค่าา ... รักทุกคนนะค้าบบบ <3

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
แม่่่่่่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ต้องช่วยเลย ปล่อยอีพี่ภูทรมานต่อไปให้สาสม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด