[END] [Mpreg] ☆YOUniverse☆ .. #พี่ภูของผม (2020-09-28 : Universe - Special Ch)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] [Mpreg] ☆YOUniverse☆ .. #พี่ภูของผม (2020-09-28 : Universe - Special Ch)  (อ่าน 51693 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แพ้ท้องแน่นะ 555 ยัยจีนเป็นบ้าไปแล้ว

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ด้ายยยจ

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
Epilogue ☆ US ☆


Kirin's Part


“ไม่จริง! ภูไม่ได้รักมัน! ภูหลอกจีน! ภูกำลังหลอกตัวเอง! จีนรู้.. รู้ว่าภูแค่กำลังโกรธจีนอยู่ ภูเลยพูดแบบนั้นออกมา ฮืออ ภูรักจีน คนที่ภูรักคือจีน จีน...”

“พอ! จีนพอ! หยุดได้แล้ว!! คนที่กำลังหลอกตัวเองคือจีนต่างหาก!” ผมตวาดลั่นเมื่อเห็นจีนเอาแต่โวยวายและไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น จีนในเวลานี้ช่างดู.. น่าสงสารมากกว่าน่าโกรธเคือง


แต่ผมก็ได้แค่สงสาร วันนี้ทุกอย่างมันควรจบลงเสียที.. ผมอยากเริ่มต้นใหม่กับไนล์ กับลูก กับครอบครัวของเรา


“พอเถอะนะจีน พอเถอะ... จีนก็รู้ว่าผมไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมไม่เหมือนเดิมนานแล้วนะจีน ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ได้รู้จักกับไนล์ เรื่องของเรามันจบแล้วจริงๆ จีน .. พอเถอะนะ เลิกยื้อเถอะนะ ผมขอร้อง”

“ภู... จีน ฮึกก จีน..”


“ปล่อยผมไปเถอะจีน ผมไม่ได้รักจีนแล้ว ตอนนี้คนที่ผมรักคือไนล์ ผมรักเขา อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขา ... จีนเลิกยื้อผมไว้เถอะนะ ระหว่างเราสองคนมันไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วจริงๆ”


ผมพูดกับจีนแต่สายตามองตรงไปยังไนล์ที่ยืนยิ้มบางๆ น้ำตาคลออยู่ตรงกำแพงด้านหลังของจีนอีกที โดยที่ผมไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ผิดมหันต์ ผมกำลังทำให้จีนที่กำลังโกรธ ผิดหวัง เสียใจ ทวีความรุนแรงของอารมณ์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อเธอเห็นว่าผมวางสายตาไว้ที่ใคร

“ฮึก.. ฮืออ เพราะมัน! เพราะมันที่ทำให้ภูทิ้งจีนไป เพราะมันคนเดียว!!”

จีนถลาเข้าไปหาไนล์ด้วยความโกรธแค้น เธอเงื้อมือขึ้นสูงก่อนที่จะจับลงบนไหล่ไนล์พร้อมกับบีบอย่างแรงจนไนล์หลุดร้อง และที่ทำให้ผมใจหายก็คือจีนผลักไนล์เต็มแรง ในขณะที่ผมก็พุ่งตัวสุดฝีเท้าก่อนที่หลังไนล์และทั้งตัวด้านข้างของไนล์จะกระแทกเข้ากับกำแพง

ตุบ!!

ผมพาตัวเองไปซ้อนหลังไนล์ไว้ได้ทัน แต่ถึงอย่างนั้นแรงกระแทกที่ไนล์กระแทกเข้ามาหาตัวผมก็แรงมากพอที่จะทำให้ผมปะทะเข้ากับกำแพงเต็มๆ ซึ่งผมเองที่มัวแต่ระวังไนล์ก็รีบเอาแขนโอบน้องไว้แน่นทำให้แขนและศรีษะของผมต้องรับกระแทกไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

“พี่ภู!!!!”

ไนล์ร้องเรียกผมเสียงหลงหลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ผมสะบัดศรีษะเบาๆ รู้สึกมึนงงในคราวแรก แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าตื่นตระหนกของคนในอ้อมกอด สติของผมก็กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

ผมรีบสัมผัสตามตัวน้องพร้อมกับละล่ำละลักถามอย่างห่วงใย “นะ ไนล์... ไนล์เจ็บตรงไหนบ้างรึป่าว”

“มะ.. ไม่เจ็บครับ แต่.. ฮึก แต่..” น้องเริ่มร้องไห้ และนั่นทำให้ผมใจเสียมากขึ้น

“แต่อะไรไนล์? บอกพี่ เจ็บตรงไหน ร้องไห้ทำไม? เจ็บท้องหรอ? หรือตอน...” ผมถามเสียงสั่น มือยังคงลูบและแตะตามตัวน้องไม่หยุด เพื่อที่ว่าจะหารอยบาดแผลหรืออะไรเจอ

“ไนล์.. ฮึก ไนล์ไม่เป็นไร แต่พี่ภูเลือดออก เลือดออกที่หัวเต็มเลย ฮือออ” ไนล์ปล่อยโฮพร้อมกับเอามือลูบตรงศีรษะผมเบาๆ และเป็นตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกเจ็บซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ รปภ. วิ่งมาถึงทันที

“คุณนทีธัชช์ครับ เกิดอะไรขึ้นครับ?” รปภ. ถามหน้าตาตื่นก่อนจะหันไปมองจีนที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น เธอดูช็อคและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก


ผมรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมให้อภัยกับการกระทำของเธอไม่ได้จริงๆ


“เรียกรถพยาบาล.. ฮึก เรียกรถพยาบาลให้ทีครับ พี่ภูหัวแตก แล้วก็ๆ ฮือออ.. เรียกพี่เทมส์ เรียกพี่เทมส์ให้ไนล์ด้วย” น้องร้องไห้ไปสั่งร รปภ. ไปด้วยเสียงสั่นเทา ซึ่งรปภ.คนหนึ่งก็รีบวิ่งออกไปทำตามที่ไนล์สั่งเต็มที่ ส่วนรปภ.อีกคนก็ยืนประกบจีนที่กำลังนั่งร้องไห้ไว้ไม่ห่าง

ผมรู้ว่าน้องทั้งตกใจทั้งกลัว แต่น้องก็พยายามจะคุมสติตัวเองให้ได้เพราะเห็นผมบาดเจ็บ และเพราะอย่างนั้นผมเลยต้องดึงไนล์เข้ามากอด เพราะน้องในตอนนี้แทบจะสั่นไปแล้วทั้งตัว

“ชู่วว เด็กดี” ผมกระชับอ้อมกอดของตัวเอง กอดน้องแน่นเพราะน้องเริ่มร้องไห้หนักกว่าเดิม “พี่ไม่เป็นอะไรนะ ไม่ต้องร้องครับไม่ต้องร้อง”

“แต่พี่ภูเลือดออก ฮึก.. หัวแตกด้วย ไนล์ไม่ชอบแบบนี้ไนล์กลัว” น้องกอดตอบผม และผมก็ต้องสารภาพตรงนี้ตอนนี้เลยว่าต่อให้เลือดต้องไหลออกมาหมดตัว ผมก็ว่าโคตรคุ้ม

“นิดหน่อยครับ นิดเดียวเอง แปปเดียวเดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว ไนล์ไม่ร้องไห้นะครับ เพราะถ้ายิ่งไนล์ร้องไห้ พี่จะยิ่งเจ็บแผลนะ .. พี่เป็นห่วงไนล์กับลูกมาก ไนล์ก็รู้นี่ครับ”

“แต่ไนล์กลัว” น้องยังคงสะอื้น แต่ก็ดูเหมือนว่าพยายามจะหยุดร้องไห้ด้วย ซึ่งก็ทำให้ผมต้องยิ้มออกมาบางๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าไนล์กำลังขยับซุกอกผมทั้งที่กำลังร้องไห้

“ไม่ต้องกลัวนะครับเด็กดี เพราะถ้าไนล์ตกใจเจ้าตัวเล็กก็จะตกใจตาม ลูกไม่รู้ว่าหม่าม้าเป็นอะไร ลูกจะเป็นห่วงหม่าม้าเหมือนที่พี่เป็นห่วงไนล์นะ” ผมพยายามพูดปลอบและนั่นก็ทำให้เสียงสะอื้นของไนล์ค่อยๆ เงียบลง

“พี่ภูเจ็บไหมครับ พี่ภูอดทนอีกนิดนะ รถพยาบาลจะมาแล้ว” น้องดันตัวออกจากอ้อมกอดผม ใบหน้าน่ารักดูซีดเซียวและไม่สบายใจ ในขณะที่เมือเล็กๆ ของน้องก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาอุดแผลที่กำลังเลือดออกของผมไว้อย่างเบามือ

“พี่ไม่เจ็บครับ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” ผมโยกตัวน้องเบาๆ เพื่อปลอบใจ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้เทมส์วิ่งหน้าตื่นมาถึงพอดี

“ไอ้ภู!!! ไนล์!!” มันทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าผมด้วยใบหน้าเคร่งเครียด พอเห็นแผลที่แตกตรงหางคิ้วข้างที่กระแทกกับกำแพง มันก็รีบหันไปหาน้องมันพร้อมกับลูบเนื้อลูบตัวสำรวจทันที

ก็เข้าใจอยู่นะว่ามันต้องเป็นห่วงไนล์มากกว่าอยู่แล้ว แต่ผมหัวแตกเลือดอาบเลยนะ ใจคอมันไม่คิดจะถามผมสักนิดจริงๆ หรอ

“ไนล์ ไนล์เจ็บตรงไหนหรือเปล่า? ท้องล่ะ กระแทกไหม? หรือว่า...”

“พี่เทมส์ ไนล์ไม่เป็นอะไรครับ แต่พี่ภู.. ฮึก พี่ภูหัวแตก พี่เทมส์ช่วยพี่ภูหน่อย” ไนล์พูดตัดบทสวนก่อนที่เทมส์จะพูดจบประโยค ไอ้เทมส์เลยต้องประคองผมลุกขึ้นยืน โดยมีไนล์เข้ามาช่วยพยุงอีกข้าง

“มึงไหวไหมภู?” มันถามผมหน้าเครียด ก่อนจะหันไปทางจีนเหมือนอยากจะสื่อให้ผมเข้าใจว่ามันจะทำอะไร

“กูไหว มึงไปเหอะ.. ฝากจัดการด้วย จะจัดการยังไงก็แล้วแต่ กูถือว่ากูพูดและให้โอกาสจีนมามากพอแล้ว”

ผมตอบเพื่อนสนิท และผมก็หมายความตามนั้นจริงๆ เพราะผมเชื่อใจว่าเทมส์จะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม มันไม่ใช่คนใจร้าย แต่มันเป็นคนเด็ดขาดและเอาจริงเอาจัง

“ท่านรองประธานครับ รถพยาบาลมาถึงแล้วครับ” และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ รปภ.คนเดิมวิ่งกลับมาพอดี

“ผมฝากเพื่อนผมด้วย” เทมส์หันไปบอกรปภ. ก่อนจะหันมาหาน้องชายตัวเอง “ไนล์จะ...”

“ไนล์จะไปกับพี่ภูครับ ไนล์ไม่ได้เป็นอะไร พี่เทมส์ให้ไนล์ไปกับพี่ภูนะ” น้องบอกไอ้เทมส์เสียงสั่นซึ่งมันก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากถอนหายใจเบาๆ

“ครับๆ พี่ให้ไป แต่พี่จะให้ผู้ช่วยพี่ขับรถตามไปด้วย” เทมส์หันไปมองตรงประตูทางออก “น่ะ รออยู่ตรงนั้นแล้ว.. เสร็จธุระจากตรงนี้แล้วพี่จะรีบตามไป แต่ไนล์ต้องสัญญากับพี่มาก่อนว่าจะไม่ร้องไห้อีก ถ้าไนล์ทำไม่ได้พี่ไม่ให้ไปนะ”

เทมส์พูดเสียงเรียบ แววตาจริงจังมองที่หน้าท้องของน้องนิ่ง แม้มันจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เพราะตรงนี้มีทั้งจีนและ รปภ. แต่เราทั้งคู่ก็เข้าใจดีในสิ่งที่เทมส์จะสื่อ

“ครับ ไนล์ไม่ร้องไห้แล้ว พี่เทมส์ไม่ต้องเป็นห่วง” น้องรับคำจริงจัง แม้ดวงตาจะแดงก่ำเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ ก็ตาม

“โอเคครับ งั้นให้รถโรงพยาบาลพาไปโรงพยาบาลที่อาหมออยู่ เพราะใกล้ที่สุดแล้ว... เดี๋ยวพี่ตามไปครับ”

เทมส์ว่าก่อนจะหันไปส่งสัญญาณให้ รปภ. เข้ามาประคองผมแล้วพาออกเดินไปยังหน้าประตูที่รถพยาบาลรออยู่ โดยมีไนล์จูงมือผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ภูคะ.. ภู!!” ผมได้ยินเสียงจีนแว่วมา ดูเหมือนว่าเธอจะเพิ่งได้สติและหายตกใจเลยพยายามจะวิ่งเข้ามาหาผม แต่น่าจะมีไอ้เทมส์ขวางไว้ เธอเลยทำในสิ่งที่ต้องการไม่ได้

“จีน!! คุณกับผม มีเรื่องต้องคุยกัน”

ผมได้ยินเสียงเทมส์พูดประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินออกมา ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจด้วยว่าเทมส์จะจัดการกับจีนยังไง เพราะผมถือว่าผมเตือนและให้โอกาสจีนจนถึงที่สุดแล้ว

อีกอย่างผมเองก็ไม่มีแก่ใจจะสนใจใครอีกแล้ว นอกจากคนข้างกายที่กุมมือผมแน่น พร้อมกับมองมาที่ผมอย่างเป็นห่วง... คนที่รักผมมากที่สุดและผมเองก็รักเขาไม่แพ้ที่เขารักผมเลย

...ไนล์

.

.

.

“พี่ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ไม่ร้องไห้นะครับคนดี”

ผมที่นอนพักฟื้นอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลเพื่อรอฟังผลเอ็กซ์เรย์หลังทำแผลที่หางคิ้วเสร็จ มองเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนที่ยังไงก็งอแงจะขอขึ้นมานอนข้างๆ ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม.. ไนล์เกาะแขนและขยับใบหน้ามาเบียดซุกอยู่กับไหล่ผมแน่น ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เป็นอะไรมากแท้ๆ แค่หางคิ้วแตกเพราะแรงกระแทกนิดหน่อย แต่ไนล์ก็ยังห่วงผมไม่เลิก

“พี่ภูรู้ได้ยังไง ผลเอ็กซ์เรย์ยังไม่ออกสักหน่อย.. ฮึก พี่ภูไม่ใช่หมอนะ” น้องต่อว่าเสียงกระเง้ากระงอด แต่ถึงอย่างนั้นประโยคและสรรพนามที่ใช้เรียกผมที่น้องกล่าวออกมานั้นทำยิ้มได้มากกว่าที่จะโกรธเคือง

“พี่ภูไม่รู้หรอกครับ แต่แค่ไนล์เป็นห่วง พี่ภูก็หายดีแล้ว ไม่เป็นอะไรมากหรอก”

ไนล์ส่งเสียง “ชิ” ออกมาเบาๆ หลังจากได้ยินผมพูดแบบนั้น แต่ถึงแม้จะหมั่นไส้ผมแค่ไหน ไนล์ก็ไม่ยอมปล่อยแขนผมอยู่ดี สุดท้ายผมเลยต้องปล่อยให้ไนล์กอดแขนอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไป ความเงียบที่โอบล้อมเราสองคนอยู่ไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามบรรยากาศแบบนี้มันดีมากจนผมไม่อยากให้ผ่านไปด้วยซ้ำ

แต่ถึงยังไงเสียผมก็คิดว่าช่วงเวลาตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ผมจะได้ปรับความเข้าใจกับไนล์ เลยตัดสินใจเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น

“ไนล์ครับ พี่...”


“ที่พี่ภูอยากคืนดีกับไนล์ เป็นเพราะพี่ภูรักไนล์หรือเป็นเพราะไนล์ท้องลูกของพี่ภูครับ?”


ผมตกใจที่จู่ๆ ไนล์ก็ถามขึ้นไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ดูเหมือนว่าน้องเองก็ชั่งใจอยู่นานพอควร เขาคงจะเดาได้ว่าผมจะพูดอะไร เลยตัดสินใจชิงถามขึ้นมาเสียก่อน


“พี่ไม่เลือกครับ” ผมตอบออกไปในที่สุด และแน่นอนว่าสร้างความตกใจให้ไนล์ไม่น้อย เจ้าตัวดันตัวออกจากอกของผม ก่อนจะมองหน้าผมอย่างสับสนและไม่เข้าใจ ซึ่งผมก็ไม่ปล่อยให้ช่วงเวลาแบบนั้นเกิดขึ้นนาน ผมเลยรีบพูดต่อ “พี่ไม่เลือก เพราะพี่เลือกไม่ได้.. พี่รักไนล์ พี่รักลูกของเรา พี่ไม่ได้อยากได้แค่เขาหรือไนล์มา แต่พี่อยากได้ครอบครัวของเรากลับคืนมาเหมือนเมื่อก่อน เมื่อตอนที่เราอยู่ด้วยกัน"


“พี่ภู...” ไนล์น้ำตาไหล แต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่ใช่ความเศร้าสร้อย เป็นน้ำตาแห่งความยินดี ไม่ใช่ความเสียใจ

“พี่ทำผิดมามาก ที่ผ่านมาพี่ทำให้ไนล์เสียใจมาตลอด พอพี่คิดได้ ทุกอย่างก็เกือบสายไปหมด” ผมกระชับคนในอ้อมกอดแน่นขึ้นเพื่อทดแทนกับช่วงเวลาที่ผ่านมา “พี่สาบานกับตัวเองว่าพี่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไนล์คืนมา พี่ย้ำกับตัวเองแบบนั้นก่อนที่จะรู้ว่าไนล์ตั้งท้องด้วยซ้ำ.. พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้ไนล์คิดมากว่าพี่จะมาพรากเจ้าตัวเล็กไป”

“ไนล์.. ไนล์ยอมรับว่าไนล์สับสน ไนล์สับสนมาก พี่ภูชอบย้ำว่าทำเพื่อลูก ย้ำจนไนล์น้อยใจว่าที่พี่ภูกำลังทำอยู่ ที่กำลังดูแล ที่กำลังเอาใจใส่ ก็เป็นเพราะลูกไม่ใช่เพราะไนล์.. ไนล์เลยไม่รู้ว่าตกลงแล้วพี่ภูกลับมาหาไนล์เพราะอะไรกันแน่... พี่ภูไม่เคยบอกเลยสักครั้งว่ารักไนล์”

ผมสบถด่าตัวเองด้วยความรู้สึกผิดที่เผลอทำร้ายน้องไปโดยไม่ตั้งใจอีกแล้ว ผมแค่อยากจะให้การกระทำของตัวเองเป็นเสียงที่ดังที่สุดที่จะบอกรักไนล์ แต่ผมกลับลืมไปว่า การกระทำที่ถึงแม้จะดีและทุ่มเทขนาดไหน แต่ถ้าไม่พูดออกไปตรงๆ น้องก็คงไม่ไม่มีทางรู้ได้อยู่ดี

“โถ่.. ไนล์ พี่ขอโทษ พี่ไม่คิดว่าพี่จะทำให้ไนล์คิดมากแบบนี้” ผมจูขมับน้องย้ำๆ “พี่ขอโทษที่คิดไปเองว่าถ้าพี่พิสูจน์ตัวเองให้ไนล์เห็น ทำทุกอย่างให้ไนล์เชื่อว่าพี่พร้อมจะดูแลไนล์กับลูก และทำทุกอย่างเพื่อไนล์ ไนล์ก็จะรับรู้ได้เองว่าพี่รักไนล์”

“....” ไนล์เงยหน้ามองผมนิ่งราวกับกำลังรอฟังทุกอย่าง

“พี่บอกตามตรงว่าพี่ละอายใจ พี่ไม่กล้าแม้แต่จะบอกว่ารักไนล์ด้วยซ้ำ พี่คิดว่าความรักของพี่มันน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับทุกอย่างที่ไนล์ทำให้พี่ พี่เลยคิดโง่ๆ ว่าการพิสูจน์ตัวเองจะทำให้ไนล์เห็นและรับรู้ได้ในที่สุด แต่พี่คิดน้อยไปเพราะถึงยังไงคำพูดก็สำคัญไม่แพ้การกระทำอยู่ดี”

“พี่ภู...” ผมยิ้มพร้อมกับยื่นนิ้วไปเกลี่ยน้ำตาที่กำลังไหลช้าๆ ให้น้อง

และผมก็คิดว่ามันควรถึงเวลาสักทีที่เราสองคนจะเปิดใจคุยกันตรงๆ เพราะเราปล่อยให้เวลามันผ่านล่วงเลยมานเกินไปแล้ว


“เพราะฉะนั้น ไนล์ฟังพี่ให้ดีนะครับ.. พี่รักไนล์นะครับ รักมากๆ รักและอยากจะดูแลไนล์กับลูกให้ดีที่สุด” ผมก้มลงไปจูบริมฝีปากสีระเรื่อของน้องเบาๆ ในขณะที่ไนล์เองก็หลับตาพริ้ม ไม่ได้มีท่าทางขัดขืนหรือไม่ต้องการเหมือนที่ผ่านมา “ไนล์ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งได้ไหม? เรากลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิมนะครับ .. สัญญาเมื่อสิบปีที่แล้วพี่ขอสานต่อและทำมันไปตลอดชีวิตของเราสองคนเลยได้ไหมครับ?”


ผมถามอย่างคาดหวัง ในขณะที่น้องเองก็มองผมนิ่งและน้ำตาก็ไหลไม่หยุด ก่อนที่ร่างเล็กจะกางแขนออกแล้วโผเข้ากอดผมแน่น.. ไนล์ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนผมแทบจะขาดใจตาม

“ฮึก.. ไนล์ ไนล์รอมานานมาก ฮืออ.. ไนล์ฝันมาตลอดว่าจะได้ยินพี่บอกรักไนล์สักครั้ง สำหรับคนที่แอบรักพี่มาสิบปีอย่างไนล์ ไนล์ไม่ได้ต้องการอะไรเลย .. ฮึก ขอแค่ให้พี่.. ให้พี่ภูหันมองไนล์บ้าง ให้ไนล์ได้อยู่ในสายตาพี่บ้าง.. ฮืออ”

“ไนล์..” ผมน้ำตาไหลเงียบๆ ไม่เคยนึกรู้เลยว่าน้องต้องทุกข์ทรมานใจแค่ไหนกับสิบปีที่ผ่านมา สิบปีที่มองเห็นผมรักคนอื่น สิบปีที่รอคอยอย่างไม่มีหวัง

“แต่พอได้ไปอยู่ด้วยกัน.. ฮึก ไนล์ก็เหมือนคนโลภ ไนล์ต้องการนั่นนี่ไม่สิ้นสุด ไนล์อยากให้พี่ภูรัก ยิ่งพี่ภูดีกับไนล์.. ไนล์ก็ยิ่งอยากได้ความรักจากพี่.. ฮืออ แต่พอถูกพี่ทำร้ายเพียงเพราะเชื่อคำพูดของคนอื่น โลกของไนล์ก็...”

“ชู่วว พี่ขอโทษครับ พี่ผิดเอง ไม่คิดถึงเรื่องนั้นแล้ว.. ไม่คิดแล้ว” ผมจูบหน้าผากน้องราวกับต้องการปลอบประโลม “เราเริ่มกันใหม่นะไนล์ พี่สัญญาว่าต่อไปนี้มีอะไรเราจะคุยกัน เคลียร์กันให้เข้าใจ จะไม่มีการเข้าใจผิดและคิดไปเองอีกแล้ว โอเคไหมครับ?”

“ฮึกกก.. ครับ” น้องรับคำตาแดงก่ำจนน่าสงสาร ผมเลยต้องก้มลงไปจูบเปลือกตาน้องเบาๆ ในขณะที่ตัวไนล์เองก็หลับตาพริ้มให้ผมจูบ

“พี่จะชื่อใจไนล์ให้มากๆ ไว้ใจและให้เกียรติไนล์ให้มากๆ มีอะไรที่เป็นปัญหาหรือมีอะไรที่เราสงสัยเราจะเปิดใจคุยกัน.. แบบนี้ ตกลงไหมครับ”

“ครับ .. ตก ฮึก ตกลงครับ”

“งั้นคนเก่งของพี่ไม่ร้องไห้แล้วเนาะ” ผมลูบเบาๆ ที่หน้าท้องน้อง “วันนี้เจ้าตัวจิ๋วตกใจแย่แล้ว หม่าม้าเป็นอะไรไม่รู้ร้องไห้ทั้งวันเลย” ผมแกล้งเย้าจนในที่สุดไนล์ก็ยิ้มออก

“ก็ไนล์เป็นห่วงพี่ภูนี่ ตกใจก็ตกใจ” ผมหัวเราะก่อนจะตาเบิกโต ในขณะที่น้องเองกลับหัวเราะชอบใจ “รู้สึกใช่ไหมครับ?” ไนล์ถามผมด้วยรอยยิ้มกว้าง

“เจ้าตัวเล็กเตะมือพี่ใช่ไหมนี่” ผมพูดเคล้าเสียงหัวเราะ ในใจนึกตื้นตันขึ้นเป็นเท่าตัว มันเหมือนกับว่าเจ้าตัวน้อยในท้องรับรู้ว่าผมคือพ่อของเขา “ตัวแค่นี้ก็เข้าข้างแม่แล้วหรอเนี่ย เรานี่มันนกรู้จริงๆ เลยนะ”

“ลูกไนล์ก็งี้แหละ” ผมแกล้งพูดแหย่เป็นผลให้เจ้าตัวจิ๋วรัวเท้าทักทายผมใหญ่ เล่นเอาไนล์ทั้งหัวเราะทั้งบ่นโอดโอยว่าเจ็บไม่หยุด

“ไม่เอาแล้วครับตัวเล็ก เดี๋ยวหม่าม้าเจ็บนะลูก” และก็เหมือนจะได้ผลทันตา เพราะพอผมบอกแค่นั้นเจ้าจิ๋วก็หยุดถีบท้องไนล์ทันที แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าตัวแสบแล้วจะเรียกว่าอะไร

ไนล์กับผมหัวเราะและพูดคุยเรื่อยเปื่อยกับลูกอยู่พักใหญ่ จนดูเหมือนว่าไนล์จะเริ่มเหนื่อยและเริ่มอยากจะนอน แต่ใจก็ยังคงพะวงอยู่กับผลเอ็กซ์เรย์ที่ยังไม่ออกของผม

“เหนื่อยก็พักก่อนครับ ไม่ต้องห่วงพี่ เดี๋ยวพอผลมาพี่สัญญาว่าจะปลุก หนูเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ” ผมพยายามพูดกล่อมแต่ไนล์ก็ยังคงดึงดันไม่ยอม

“ไม่เอา ไนล์จะรอ พี่ภูห้ามห้าม ไนล์เป็นห่วงนี่” น้องเถียงแต่ตากลับจะปิด ก่อนจะออกคำสั่งกับผมอย่างน่ารัก “ชวนไนล์คุยหน่อย ไนล์ไม่อยากหลับ”

ผมยิ้มก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าอยากคุยอะไรกับน้อง และเวลานี้ก็เหมาะที่สุดแล้วที่จะทำให้เรื่องระหว่างเราชัดเจนเสียที

“ไนล์ครับ.. กลับไปอยู่กับพี่นะ กลับไปอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก ให้พี่ได้ทำหน้าที่ของพ่อของสามี ให้พี่ภูได้ดูแลไนล์ ได้เลี้ยงลูกของเราไปด้วยกัน... พี่ภูรักไนล์นะครับ”

ไนล์ยิ้มทั้งที่ตาโรยใกล้จะปิดเต็มที แต่ถึงอย่างนั้นคนในอ้อมเขนผมก็มีสติมากพอจะตอบ และคำตอบนั้นก็ทำเอาผมยิ้มกว้างจนแทบจะหุบไม่ได้

“ครับ กลับไปอยู่ด้วยกันเราสามคน.. พ่อ แม่ ลูก” น้องขยับซุกอกผมกอนจะปิดเปลือกตาลงพร้อมขยับร้อยยิ้มบาง “ไนล์ก็รักพี่ภูครับ”

ตอนนี้ผมว่าไม่ต้องรอผลเอ็กซ์เรย์แล้วล่ะ ดูเหมือนผมจะหายป่วยได้เพียงเพราะคำๆ เดียวจากน้องที่ผมได้ยิน


ไนล์ก็รักพี่ภูครับ

.

.

.

(อ่านต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(อ่านต่อจากด้านบน)

.

.

.

“กูไม่คิดว่ามึงจะเตรียมทุกอย่างไว้ ไม่คิดว่ามึงจะจัดการจีนได้ถ้ากูไม่ลงไปช่วย”

ไอ้เทมส์พูดขึ้นในขณะที่เราสองคนยืนคุยกันอยู่หน้าบ้านไนล์ วันนี้เราสองครอบครัวนัดกันกินข้าวเย็นร่วมกัน ที่จริงก็เหมือนกับการสู่ขอไนล์อย่างไม่เป็นทางการนั่นแหละ .. ผมตั้งใจอยากจะขอน้องกับคุณพ่อและคุณแม่อย่างจริงๆ จังๆ สักที เลยให้ไอ้เทมส์ช่วยจัดดินเนอร์ให้เราสองครอบครัวบังหน้า

“กูก็กะจะให้คนของกูเข้าไปคุยอยู่ แต่จีนดันเข้ามาหาเรื่องไนล์ก่อน” ผมพูดพร้อมกับถอนหายใจ “นี่ขนาดเตรียมไว้แล้วก็แทบจะไม่ทัน โชคดีที่ไนล์ไม่เป็นอะไร นึกแล้วยังโมโหตัวเองไม่หายเลยแม่ง”

“แต่ก็เอาเหอะ ทุกอย่างเรียบร้อยก็ดีแล้ว” ไอ้เทมส์ว่า ก่อนจะพูดติดตลก “แต่จะว่าไปทนายมึงก็เก่งนะ ไล่ดักจีนทุกทางเลย จากที่ไม่ยอมก็เลยยอมจนได้”

“กูได้ยินมาว่าจีนโคตรตื๊อ ตอนแรกทำท่าจะไม่ยอมด้วยซ้ำ” ผมถอนหายใจ ลึกๆ อดรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ถ้าไม่เอาจริง จีนก็ไม่เลิกยุ่งกับลูกกับเมียผมสักที

“มึงเลยใช้ไม้ตาย แจ้งความเลยว่างั้น” ไอ้เทมส์แซวขำๆ “ข้อหาทำร้ายร่างกาย เอาเรื่องว่ะ ฮ่าๆ”

“มึงยังจะขำ” ผมหันไปด่ามันแบบไม่มีเสียง ก่อนจะแซวกลับบ้าง “มึงก็ใช่ย่อยนิ เพราะตอนแรกเห็นทนายกูบอกว่าจีนเหมือนจะไม่ค่อยเกรงกูเท่าไหร่ เพราะคิดว่ากูจะไม่ทำจริง แต่พอมึงเข้าไปพูดอะไรไม่รู้ จู่ๆ จีนก็ยอมทำตามข้อตกลงเฉย.. มึงไปพูดอะไรวะ ทำไมจีนถึงยอมกลับอเมริกาแต่โดยดี”

“มึงจะอยากรู้ทำไม กูจัดการให้แล้วก็คือจัดการให้แล้วดิ” มันหันมามองหน้าผมอย่างกวนประสาท “จะตามไปง้อกลับมาหรือไง หรือคิดถึง? ทำไมถามบ่อยจังวะ?”

“ง้อหน้ามึงสิ!” ผมทำหน้าเข็ดขยาด “แค่นี้กูก็เข็ดจะตายห่า ไปตามกลับมาทำบ้าอะไรล่ะ กว่าไนล์จะยอมยกโทษให้ กูไม่กล้าหาเหาใส่หัวอีกหรอก” ผมส่ายศีรษะเป็นตุ๊กตาเสียกบาล ยอมรับเลยว่าไม่อยากให้วนลูปกลับไปเป็นแบบเดิมอีก

“พ่อบ้านใจกล้าเลยดิ” ไอ้เทมส์พูดเคล้าเสียงหัวเราะจนงอหาย “ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งกลัว ทั้งอยู่ในโอวาทน้องกูเลยว่างั้น.. มึงแม่งเปลี่ยนจากหลังตีนเป็นหน้ามือเลยว่ะไอ้ภู”

ผมยักไหล่ ทำท่าไม่ยี่หระใส่มัน ก่อนจะยืดอกแล้วตอบเพื่อนที่มีศักดิ์เป็นพี่เขยอย่างเต็มภาคภูมิ

“เออ กูรักน้องมึงชิบหาย ทั้งรักทั้งหลงทั้งเกรงใจ น้องมึงสั่งให้กูทำอะไร กูยอมทำตามทั้งนั้นอะ”

ไอ้เทมส์ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นเมื่อเห็นผมยอมรับว่าทั้งหงอทั้งกลัวเมียอย่างที่มันล้อ ซึ่งผมเองก็ไม่ไดติดใจจะโกรธเคืองมันหรืออะไร เพราะผมก็เป็นจริงอย่างที่มันว่านั่นแหละ

ผมยอมให้ไอ้เทมส์ล้อว่ากลัวเมียจนตาย ดีกว่ายอมให้ไนล์กลับไปโกรธอีกครั้ง

และหลังจากมันหัวเราะจนหนำใจ เราสองคนก็นั่งลงตรงเก้าอี้ในสวนใกล้ๆ ก่อนจะเริ่มคุยกันอย่างจริงจังอีกครั้ง

“กูถามอย่างนึง ถ้าสมมติจีนไม่ยอมทำตามที่ตกลง มึงจะทำอย่างที่ขู่จริงไหมวะ เรื่องแจ้งความน่ะ” ไอ้เทมส์ถามเสียงเรียบ บ่งบอกถึงความจริงจัง

“ใครบอกมึงว่ากูขู่ กูไม่ได้ขู่ เอาจริงคือกูให้คนไปลงบันทึกประจำวันแล้ว ตั้งใจว่าถ้าจีนไม่ทำตามที่ขอดีๆ กูก็จะแจ้งความเอาเรื่อง ..มันอาจจะดูใจร้าย แต่ถ้ากูไม่เอาจริง ชีวิตครอบครัวกูก็ไม่สงบสุขสักที”

ไอ้เทมส์ยิ้มขำ ก่อนจะกันมามองหน้าผม แล้ววกกลับมาตอบคำถามที่ผมถามไว้ก่อนหน้า

“กูก็เหมือนกัน.. กูก็ทำแบบมึง ทำให้แน่ใจว่าจีนจะกลับอเมริกาไปแล้วไม่กลับมาอีก” ผมตั้งใจฟังไอ้เทมส์เล่าอย่างสงบนิ่ง ยอมรับว่าไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะถ้าสนิทกับมันจะรู้นิสัยมันดี.. อย่างที่ผมบอก เทมส์ไม่ใช่คนใจร้าย แต่มันเป็นนักธุรกิจ มันเป็นคนเด็ดขาดและรู้จักการต่อรองและการต่อรองของมันจะต้องจบลงที่มันคือฝ่ายได้ประโยชน์ไม่ใช่เสียประโยชน์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าฝั่งตรงข้ามคือคนที่ทำร้ายน้องชายที่เป็นเหมือนยอดดวงใจของมัน

“มึงพูดยังไงจีนถึงยอม” ผมตัดสินใจเอ่ยถาม เพราะอยากรู้เหตุผลที่ทำให้จีนยอมไปว่ามันหนักแน่นและผูกมัดมากพอที่จะทำให้จีนไม่กล้ากลับมาไหม

“กูไม่ได้พูดอะไรมาก กูแค่บอกไปว่า ‘ถ้าภายในวันพรุ่งนี้จีนไม่กลับไปอเมริกา ผมจะแจ้งตำรวจจับจีนด้วยข้อเดียวกับที่ไอ้ภูแจ้ง.. นั่นก็คือข้อหาทำร้ายน้องชายผมให้บาดเจ็บ’ .. กูก็บอกไปแค่นี้”

ผมทำหน้าประหลาดใจก่อนจะถามมันให้หายข้องใจ “จีนไม่ตกใจต่ายห่าเลยวะที่รู้ว่าไนล์เป็นน้องมึง เพราะก่อนหน้านี้จีนต่อว่าไนล์ให้มึงฟังอยู่ไม่ใช่หรอ?”

“ตกใจดิ” ไอ้เทมส์เฉลยก่อนจะยักไหล่ “และเพราะตกใจนั่นแหละ มันเลยยิ่งง่าย เพราะเท่ากับว่าจีนจะรู้ตัวแล้วว่าเรื่องที่โกหกกูไว้นั้น กูรู้ทันทั้งหมด เพราะฉะนั้นทางเลือกของจีนเลยจะเหลือไม่มากนักนอกจากยอมตกลง”

“มิน่า จีนถึงยอมรับเงิน รับข้อเสนอ รับทุกอย่างที่กูยื่นให้ ไม่ต่อรองอะไรสักนิด” ผมเปรยเบาๆ นึกแปลกใจว่าผมคบจีนมาเป็นสิบปีได้ยังไง ทำไมผมถึงไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของเธอเลยสักนิด

“จีนเป็นคนฉลาด แล้วข้อต่อรองของมึงก็ไม่แย่ ขอแค่จีนไม่กลับมา เงินก้อนที่มึงให้จีนใช้ได้สบายๆ ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่ถ้าจีนโง่กลับมาก็มีแต่ต้องติดคุกกับต้องใช้หนี้ ... มึงจับเซ็นสัญญาไว้แล้วนี่”

ไอ้เทมส์ร่ายยาว เพราะมันรู้ข้อตกลงที่ผมให้ทนายไปทำไว้กับจีนเป็นอย่างดี… เงินหนึ่งก้อน แลกกับการไม่กลับมาที่นี่อีก เพราะถ้ากลับมาที่นี่เมื่อไหร่ จีนจะต้องชดใช้หนี้เป็นเงินก้อนนั้นคูณสิบเท่า และข้อหาทำร้ายร่างกายก็จะยังคงอยู่ ซึ่งทุกอย่างผมจับจีนเซ็นเป็นสัญญาไว้หมดแล้ว นั่นเท่ากับว่าถ้าจีนกลับมา จีนจะหมดอนาคตทันที

ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ใจร้าย ผมแค่ป้องกันและทำให้ครอบครัวผมได้อยู่อย่างมีความสุขก็แค่นั้น

“กูรู้ว่าจีนจะเลือกอะไร.. จีนไม่กลับมาหรอก เพราะถ้าจะให้กูพูดตรงๆ กูคิดว่าจีนน่าจะรักเงินมากกว่ามึง” ไอ้เทมส์สรุปติดตลกให้ผมต้องหัวเราะดังลั่น

“แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ต้องขอบคุณมึงมากอยู่ดี” ผมตบไหล่เพื่อนสนิทเบาๆ “ขอบคุณและขอโทษสำหรับทุกอย่างนะเทมส์”

ไอ้เทมส์มองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม “กูไม่ขออะไรมึงมากหรอกนะภู ขอแค่ให้มึงดูแลน้องกับหลานกูให้ดี รักทั้งสองคนให้มากๆ ให้สมกับที่มึงกับไนล์ต้องผ่านอะไรกันมาตั้งหลายอย่าง อย่าให้ความรักของทั้งมึงและไนล์ต้องสูญเปล่า.. มึงทำให้กูได้ไหมวะ”

“ได้ดิเทมส์ กูทำได้... กูไม่ขอสัญญา แต่กูจะทำให้มึงดู มึงรอดูได้เลย” ผมยิ้มให้มัน พร้อมกับมองหน้ามันด้วยสายตามั่นคง “กูจะทำให้น้องมึงเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก และกูจะทำให้มึงภูมิใจที่มึงเลือกไว้ใจคนไม่ผิด”

“เออ กูจะรอดู” ไอ้เทมส์พูดยิ้มๆ ด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ ก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ “ขอบใจมากภู ถึงมึงจะกลับมาช้าไปหน่อย แต่ก็ขอบใจมากที่มึงกลับมา”

ผมยิ้ม พร้อมกับคิดในว่า .. ผมเองก็ดีใจที่ได้กลับมา

.

.

.

Nateetouch’ s Part


การกินข้าวเย็นในครอบครัวเต็มไปด้วยความเรียบง่ายเพราะรายล้อมไปด้วยคนที่ผมรักและรักผม รวมไปถึงลม เพื่อนสนิทคนเดียวที่ผมมี

“ลมไม่เป็นลุงนะ ลมจะเป็นอา” ผมกับลมนั่งเถียงกันเรื่องสรรพนามที่จะให้ลูกชายผมเรียก ผมยืนยันว่าจะให้ลมเป็นลุงเพราะลมอายุมากกว่าผม แต่ลมก็ดึงดันจะเป็นอาเพราะไม่อยากแก่

“แต่ลมอายุมากกว่าเรา ลมจะเป็นอาได้ยังไง ลุงนั่นแหละถูกแล้ว” ผมเถียงหน้าดำหน้าแดง และยิ่งพอหันไปเห็นทุกคนหัวเราะมากกว่าที่จะเข้าข้าง ผมก็เลยหันไปหาพี่ภูที่นั่งอยู่ข้างกัน “พี่ภูครับ...”

ผมกดเสียงต่ำ จ้องหน้าคนเป็นสามีอย่างเอาจริงเอาจัง ยังไงผมก็จะไม่ยอมแพ้ลมแน่

“ครับๆ เดี๋ยวพี่จัดการให้นะ” พี่ภูพูดพร้อมกับยิ้มให้ผมอย่างเอาใจ ก่อนที่จะหันไปหาลม “นายก็เป็นลุงไปนั่นแหละ หน้าแก่ขนาดนี้จะมาเป็นอาได้ยังไง”

ผมหลุดยิ้มตอนที่ได้ยินพี่ภูพูดอย่างนั้น ก่อนที่จะได้ยินลมเถียงอย่างไม่ยอม “ถ้าผมสอนให้หลานเรียกอา ยังไงหลานก็เรียก พี่ไม่ต้องมาบังคับ”

“เอาน่าๆ เป็นลุงไปแหละ” พี่ภูเหลือบมองผม ก่อนจะหันไปขยิบตาให้ลมแล้วลดเสียงลง พยายามไม่ให้ผมได้ยินแต่ผมก็ได้ยินอยู่ดี “เดี๋ยวเลี้ยงเหล้า ยอมไนล์ไปเถอะ”

ลมยิ้มพร้อมกับต่อรอง “ร้านที่ผมเลือก ถ้าพี่ยอมผมก็ดีล”

“เออๆ ยอมๆ” พี่ภูพยักหน้ารับ ในขณะที่ผมเงื้อมือฟาดแขนคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีดังเพี๊ยะ

“พี่ภู!! ให้ไปเถียงสู้ ไม่ใช่ให้ไปเลี้ยงเหล้าติดสินบน พี่นี่!!” พี่ภูยิ้มแห้ง ในขณะที่คนทั้งโต๊ะอาหารหัวเราะกันยกใหญ่

“หนู.. แต่พี่ก็ทำให้ลมยอมเป็นลุงให้หนูได้แล้วไง ไม่ตีพี่นะครับ” พี่ภูพยายามต่อรอง ทำหน้าตาน่าสงสารเสียโอเวอร์ ทำเอาผมที่พยายามเก็กหน้าขรึม ถึงกับหลุดขำ “นี่ไง หนูหัวเราะแล้ว.. ไม่อารมณ์เสียนะครับ เดี๋ยวคืนนี้ฝันร้าย”

ผมหัวเราะ ในขณะที่พี่เทมส์ทำหน้าเหม็นเบื่อก่อนจะขัด “เอามาจากไหนวะไอ้ภู มึงกลัวน้องกูอารมณ์เสียแล้วไม่ยอมให้มึงเข้าห้องมากกว่า”

พี่ภูหันมาถลึงตาใส่พี่เทมส์ทันทีหลังจากพูดจบก่อนจะซุบซิบเสียงเบา “มึงนี่.. ปากไม่ดี เดี๋ยวกูด่า” ก่อนจะหันมาหาผม “อย่าไปฟังคนอื่นนะครับ ฟังพี่คนเดียวพอ”

ผมที่อยากจะดึงหน้าโกรธอีกสักหน่อยแต่ก็กลั้นไม่ไหว พี่ภูในวันนี้ต่างจากพี่ภูที่เจอกันหลังกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ มาก เพราะตอนนี้เขาเหมือนลูกหมาตัวโตๆ ที่ชอบอ้อน ชอบทำตัวน่ารักใส่ให้ผมได้หลุดยิ้มตอลด

“พี่ภูพอเลย.. เลิกอ้อนไนล์สักที” ผมทำเป็นบ่น แต่ก็ยิ้ม “ถอยไปหน่อยครับ ขยับเก้าอี้มาทำไมเนี่ย”

ผมมองเก้าอี้ที่ขยับมาจนชิดแล้วหลุดยิ้ม.. และใช่ เดี๋ยวนี้เขาชอบเข้ามาคลอเคลียผมด้วย ถ้าไม่ได้ไปไหนทำอะไร เขาจะชอบมาวนๆ เวียนๆ อยู่ใกล้ๆ ผม ซึ่งตัวผมเองก็ชอบให้เขาอยู่ใกล้ๆ เหมือนกัน

“ทำไมล่ะครับ ไนล์ไม่ชอบหรอ? แต่พี่ชอบ พี่ชอบอยู่ใกล้ๆ ไนล์กับลูก” พี่ภูว่าก่อนจะเอื้อมมือมาลูบท้องผมเบาๆ เล่นเอาได้ยินคำด่าทอปนหมั่นไส้จากพี่เทมส์มาเป็นชุด ในขณะที่ทั้งพ่อแม่ผมและแม่พี่ภูหัวเราะไม่หยุด

และภาพที่เห็นนั้นทำเอาผมอดระบายยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้

ผมมองทุกคนที่พูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะพลางเอามือลูบหน้าท้องตัวเองที่ยื่นออกมาเบาๆ และเจ้าตัวจิ๋วในท้องผมก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย .. เด็กน้อยของผมกำลังขยับตัวไปมา ราวกับรับรู้ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหน


และใช่ ผมกำลังมีความสุขมากเหลือเกิน


ผมมีความสุขที่ทุกคนมีความสุข และผมก็มีความสุขที่ผมกับพี่ภูเข้าใจกันด้วยดี แม้เราจะต้องผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกันมามากมาย แต่มันก็ทำให้ผมมั่นใจได้ว่า ต่อจากนี้ไปเราสองคนจะเข้มแข็งขึ้น เชื่อใจกันมากขึ้น และประคับประคองชีวิตคู่ให้ดีขึ้นได้โดยมีลูกน้อยของเราเป็นสื่อกลาง

และที่ทำให้ผมมีความสุขมากยิ่งขึ้นไปอีกก็คือเมื่อผมมองไปยังเพื่อนสนิทของผม เพื่อนที่ผมยกให้เป็นอีกคนสำคัญของชีวิตนอกเหนือจากครอบครัว เพื่อนที่ก่อนหน้านี้ผมกังวลเหลือเกินว่าความสัมพันธ์ของเราคงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก หรือมันอาจจะต้องใช้เวลาแต่ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขาจะทำใจได้

แต่ลมกลับทำได้ดีกว่านั้น

ลมที่ตอนนี้กำลังนั่งหัวเราะกับมุกตลกที่เทมส์เล่น ลมที่ตอนนี้พูดคุยกับพี่ภูได้อย่างสนิทใจ และมีบางวันสองคนก็นั่งดื่มกันเงียบๆ โดยที่ไม่ได้ทะเลาะหรือมีเรื่องให้เขม่นอะไรกันเหมือนแต่ก่อน ลมที่ยอมรับเรื่องผมกับพี่ภูได้มากขึ้น เขาถึงขั้นกับบอกว่าเขายินดีที่จะเป็นพ่อทูนหัวให้ลูกชายของผม พ่อทูนหัวที่จะยินดีรักลูกของผมเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง ลม.. ที่บอกว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของผมตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

ลม.. ที่กำลังส่งยิ้มให้ผม โดยที่นัยน์ตาของเขาไม่ได้เศร้าศร้อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาทำให้ผมเชื่อได้จริงๆ ว่าเขาตัดใจจากผมได้ เขาพร้อมที่จะเริ่มใหม่ในฐานะเพื่อน ซึ่งแรกๆ ผมเองก็กังวล เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดใจจากการรักข้างเดียวมาเป็นสิบปี ผมเองก็เคยแอบรัก ผมเลยรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ลมก็พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่าเขาทำได้

ผมเองก็ถามลมนะว่าทำไมลมถึงตัดใจได้ และยินดีกลับไปเป็นเพื่อนกับผมตามเดิม ซึ่งคำตอบที่ลมตอบผมมาก็ทำให้ผมยิ้มออก ... คำตอบของลมทำให้ผมรู้ว่าความรักของเขานั้นยิ่งใหญ่แค่ไหนต่อให้ความสัมพันธ์ของเราเหลือแค่เพื่อน มันก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย


‘ลมตัดใจได้เพราะลมเห็นและเชื่อแล้ววว่าพี่ภูจะดูแลไนล์และลูกได้ ลมวางใจว่าลมจะสามารถฝากเขาให้ดูแลไนล์กับลูกได้ และที่สำคัญลมชื่อว่าเขารักไนล์ไม่แพ้ที่ลมรัก ลมเลยยินดีที่จะปล่อยมือจากไนล์โดยที่ไม่ต้องห่วงอะไรอีก'


และในขณะที่ผมคิดว่าผมมีความสุขมากๆ จนล้นอกแล้วนั้น ผมก็มีความสุขมากยิ่งขึ้นไปได้อีก เมื่อจู่ๆ พี่ภูก็กระแอม แล้วพูดขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร หลังจากที่เราจัดการทุกอย่างจนอิ่มท้องแล้ว

“อะแฮ่มๆ เอ่อ.. ในเมื่อวันนี้เราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ผมเลยอยากจะขออนุญาตทุกคน ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อคุณแม่ของไนล์ ไอ้.. เอ่อ เทมส์ในฐานะพี่ชาย และลมในฐานะเพื่อนสนิทของไนล์”

“...” ทุกคนเงียบ เพราะกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่ภูจะพูดในขณะที่ผมใจเต้นรัวเร็วจนเจ็บอก เพราะพอจะเดาได้ว่าพี่ภูจะพูดอะไร

และถึงแม้ผมจะรู้แต่ผมก็อดตื่นเต้นและตื้นตันไม่ได้ ผมไม่เคยคิดเคยฝันจริงๆ ว่าจะมีวันนี้... จากวันที่เป็นคนแอบรัก จนพี่ภูรักกลับ และตอนนี้เขาก็กำลังจะพูดในสิ่งที่ผมอยากได้ยินมาตลอด แต่ไม่เคยกล้าหวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริง


“ผมอยากจะขอน้องจากทุกคน.. ทุกคนที่ไนล์ให้ความสำคัญ” พี่ภูสูดลมหายใจเข้าลึก แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและจริงใจ “ผมขออนุญาตดูแลน้องกับลูกตลอดไปนะครับ ดูแลน้องในฐานะสามีของน้องและพ่อของลูกที่กำลังจะเกิด ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องให้ดีที่สุดเท่าที่คนอย่างผมจะทำได้.. ให้อนุญาตผมได้ไหมครับทุกคน”


ผมยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นว่าทุกคนพยักหน้า โดยมีพ่อกับแม่เป็นตัวแทนของทุกคนเอ่ยขึ้น

“พ่อกับแม่อนุญาต .. ฝากน้องกับหลานด้วยนะพี่ภู” พ่อผมกับพี่เทมส์ยิ้ม ในขณะที่แม่เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความยินดีไม่ใช่ความเสียใจ

ส่วนลม.. เขาหันมาพยักหน้าให้ผม พร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

แค่นั้นหัวใจผมก็เต็มตื้นด้วยความยินดี และมันก็ยินดีมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพี่ภูหันมาทางผม เขาคุกเข่าลง ดึงมือผมไปกุมไว้ สบตาผมอย่างอบอุ่นอ่อนโยน เป็นสายตาเดียวกับพี่ภูเด็กชายในร้านไอศครีมเคยใช้มองผม แววตาแบบเดียวกับที่ทำให้ผมตกหลุมรักมายาวนานถึงสิบปี


“สุดท้ายพี่อยากจะขอไนล์... ขอให้พี่ได้ดูแลไนล์กับลูกไปตลอดชีวิต ขอเราได้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ใช้ชีวิตที่เหลือไปด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน เฝ้าดูลูกของเราเติบโตไปด้วยกัน... ไนล์แต่งงานกับพี่นะครับ”


“ฮึก...” ผมพยักหน้าทั้งน้ำตา ก่อนจะตอบรับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเพราะกำลังร้องไห้ แต่ก็ชัดเจนมากพอที่จะทำให้พี่ยิ้มกว้างก่อนจะจูบเบาๆ ที่หน้าท้องผมอย่างยินดีและเต็มไปด้วยความขอบคุณ “แต่งครับ ไนล์..จะฮึก ไนล์จะแต่งงานกับพี่ภู”

“ขอบคุณนะครับคนดีของพี่.. ขอบคุณครับ”

พี่ภูลุกขึ้นยืนก่อนจะสวมกอดผมอย่างแนบแน่น กอดผมด้วยอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความรักจนผมสัมผัสได้ กอดผมโดยที่มีลูกน้อยของผมและเขาอยู่ระหว่างกลางความรักความอบอุ่นที่ผมและเขาส่งผ่านให้กันและกันอย่างเต็มที่ กอดผมเพื่อแทนคำสัญญาว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยผมไปหรือทำให้ผมเสียใจอีก

“ขอบคุณที่รอพี่ ... พี่รักไนล์นะครับ” คำกระซิบแผ่วเบาแต่หนักแน่นในความรู้สึกทำให้ผมต้องตอบกลับไปด้วยประโยคเดียวกัน

“ไนล์ก็รักพี่ภู... ขอบคุณนะครับที่กลับมานะ”

และสิบปีที่ยาวนานของผมสิ้นสุดลงเสียที... พี่ภูของไนล์

.

.

.

THE END

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Last Talk

ก่อนอื่นเลย ถ้านักอ่านท่านไหน อ่านจนมาถึงตรงนี้ สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ... ขอบคุณมากๆ ขอบคุณมากนะคะ ที่อยู่กับเรามาจนถึงตอนสุดท้าย เดินทางด้วยกันมายาวนานถึง 7 เดือน เรารู้สึกซาบซึ้งใจมากที่พวกคุณเปิดใจให้นินยายเรื่องนี้จนถึงตอนจบ .. ขอบคุณมากจริงๆ นะคะ

กับเรื่อง YOUniverse #พี่ภูของผม เป็นเรื่องที่เขียนยาวมาก ยาวที่สุดเลยนับตั้งแต่เขียนมา 5-6 เรื่อง ด้วยความที่รายละเอียดมันเยอะ ละมีจั๊มไทม์ตั้งแต่พระเอกนายเอกเป็นนักเรียนจนเรียนจบมีงานทำ มันเลยอาจจะดูน่าเบื่อไปบ้าง ยืดเยื้อไปนิด ออกทะเลไปหน่อย 555555555 แต่ยังไงเราก็ดีใจมากๆ ที่ปั้นนิยายเรื่องนี้จนจบได้

ซึ่งมันก็มีบ้างที่ท้อ เหนื่อย เสียใจหรือหมดหวัง แต่เราก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้งเพราะจากกำลังใจและจากคอมเม้นท์ของทุกคน พวกคุณเปรียบเสมือนโอเอซิสหรือแหล่งน้ำเล็กๆ ให้เราได้หยุดพักหายใจเพื่อให้เดินต่อไปได้ เพราะฉะนั้นที่นิยายเรื่องนี้จบลงอย่างสมบูรณ์ได้ เรายกเครดิตให้พวกคุณหมดเลย เป็นเพราะพวกคุณทั้งนั้น เราถึงผ่านมันมาได้ และเขียนนิยายเรื่องนี้ให้จบลงด้วยดี

ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณอีกครั้ง ถ้ามีคำไหนที่ยิ่งใหญ่มากกว่าคำว่าขอบคุณเราก็อยากจะยกให้ พวกคุณเป็นทั้งแรงผลักดันและแรงใจ การที่ยูนิเวิร์สขึ้นคำว่า "The END" ได้ ก็มาจากพวกคุณทั้งนั้น ไม่ใช่ใครเลย

ก็.. สำหรับเราในวันนี้ตอนนี้ นิยายเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่เราก็หวังว่าจะทำให้คนที่เข้ามาอ่านทุกคนได้มีความสุขบ้างไม่มากก็น้อย เราตั้งใจและจริงใจมากในการคิดเขียนและพิมพ์ออกมาในทุกๆ ตัวอักษร และหวังใจว่าเราจะได้รับการสนับสนุนจากพวกคุณอีกในนิยายเรื่องถัดๆ ไปนะคะ

รักพวกคุณมากๆ .. ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ป.ล.ตอนพิเศษลงให้วันจันทร์นะคะ แล้วเรามาเจอกับแขกรับเชิญพิเศษวัยสี่ขวบกันค่าาา เจอกันค้าบบ <3

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
 :katai2-1: จบลงอย่างสวยงาม

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ตื้นตันในที่สุดก้อขอน้องแต่งงาน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแล้ว ขอบคุณคนเขียนนะคะ :mew2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งุ้ยยย อยากอ่านตอนพิเศษแล้วววว เด็กน้อยจะโตไปมีเรื่องของเค้ามั้ย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขอแต่งซักทีนะพี่ภู ดีใจกับน้องด้วย

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ตื้นตัน​ อบอุ่น
เหนือสิ่งอื่นใดคือยินดีกับไนล์จริิงๆ
การรอคอยของไนล์สิ้นสุดลงสักที
อ่านมาตั้งแต่เเรกเลย​ จนวันนี้​ยอมรับว่า
ผูกพัน

รออ่าานพาร์ทเจ้าตัวน้อยอยู่นะคะ

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
Special Chapter : ไม้เบื่อไม้เมา


Kirin's Part


น้องสกาย หรือ เด็กชายนคินทร์ อคิระไพบูลย์ เกิดมาพร้อมกับความรักที่ได้รับท่วมท้นจากทั้งพ่อแม่ คุณตาคุณยาย คุณย่า และคุณลุง หรือแม้กระทั่งจากคนต่างสายเลือดอย่างน้าลม ก็หลงเด็กคนนี้จนแทบจะประเคนทุกอย่างให้ ซึ่งเจ้าตัวน้อยเองก็เผื่อแผ่ความรักมากมายกลับไปให้แก่ทุกคน ยกเว้นก็แต่...

“หม่ะม้าๆๆ แง้!!” เด็กน้อยร้องไห้จ้าเมื่อคนเป็นแม่ส่งให้คนเป็นพ่ออุ้ม

ส่วนคนที่ถูกลูกเมินอย่างผมก็ถึงกับถอนหอยใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะพูดตัดพ้อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างจนใจ

“ทำไมล่ะครับสกาย หนูโกรธอะไรพ่อล่ะลูก ร้องไห้ทุกครั้งเลยเวลาพ่ออุ้มเนี่ย”

“ฮึก.. หม่ะม้า ฮึกกกก แงงงง้”

ลูกชายวัยสิบเดือนของผมไม่ตอบ แต่กลับร้องไห้จ้ายิ่งกว่าเดิม ตากลมที่กลมไปด้วยน้ำใสเอาแต่มองหาคนที่ตัวเองร้องเรียกว่า 'หม่ะม้า' ตาไม่กะพริบ ให้คนที่ถูกเรียกแทบจะวิ่งแจ้นออกมาจากครัวเมื่อได้ยินเสียงลูกร้อง

“โอ๋.. มาหาหม่าม้ามาครับ ไม่ร้องนะเด็กดี คุณท้องฟ้าคนดีของหม่าม้า.. ไม่ร้องนะครับ โอ๋ๆ”

และเสียงร้องก็เหมือนถูกปิดสวิชต์ เจ้าลูกชายตัวแสบของผมซุกหน้าลงบนบ่าเล็กๆ ของไนล์อย่างออดอ้อน ริมฝีปากเล็กแย้มยิ้มกว้างที่เห็นแต่เหงือก เหมือนการร้องไห้เมื่อกี้เป็นเพียงละครฉากใหญ่ที่เรียกให้แม่กลับมาอุ้มก็เท่านั้น

และนั่นก็ทำให้ผมต้องส่ายหัวอย่างปลงตก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สกายทำแบบนี้...

ตอนแรกผมก็คิดว่าสกายแค่ติดไนล์ตามปกติของเด็กอ่อนที่มักจะชอบอยู่กับแม่ แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่ใช่ เพราะต่อให้ไม่ว่าจะเป็นใครอุ้ม หรือแม้แต่ลม สกายก็ไม่ร้องไห้สักแอะ หนำซ้ำยังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจเวลาที่ลมเล่นด้วย


แต่พอเป็นผม ลูกกลับร้องไห้ มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ถูกสกายเมิน!!


นี่ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยซ้ำที่ผมถูกเจ้าลูกชายตัวแสบเมินขนาดนี้ สกายไม่เอาผมตั้งแต่เด็กแล้ว และเพราะเหตุนี้แหละ ไอ้เทมส์มันเลยล้อผมบ่อยๆ ว่าลูกไม่รัก


เคยแกล้งแม่เขาไว้ สุดท้ายเขาเลยมาเอาคืน


จากที่คิดว่าไร้สาระ พอบ่อยครั้งเข้า ผมก็ชักจะเชื่อแล้วนะ...

จะไม่ให้ผมเชื่อได้ยังไง เพราะตั้งแต่ตอนท้องแล้วที่ไนล์เหม็นผมอยู่เป็นเดือนๆ แล้วไหนจะตอนที่เจ้าตัวแสบแกล้งไม่ดิ้นตอนได้ยินเสียงผมอยู่ใกล้ๆ อีก และที่สุดของที่สุดคือพอเกิดมาได้สองเดือนสกายจะร้องไห้จ้าทุกครั้งเวลาที่ไนล์เปลี่ยนมือให้ผมอุ้ม ยกเว้นตอนที่ไนล์บ่นออกเสียงว่าอุ้มไม่ไหวแล้วหรือเหนื่อยอยากพักผ่อน ตอนนั้นสกายจะอยู่นิ่ง ไม่ต่อต้าน เชื่อฟังและไม่ร้องไห้เลยสักนิด แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่กลับสู่สภาวะปกติ เมื่อนั้นแหละ สกายจะไม่ค่อยยอมให้ผมแตะตัวง่ายๆ นอกจากจะได้อะไรจากผม สกายถึงจะทำตัวเป็นลูกที่น่ารัก เจ้าเล่ห์จนผมหลงหัวปัก ยอมตามใจทุกอย่าง

ผ่านไปนานนับปีจนสกายสามขวบกว่าย่างเข้าสี่ขวบ ลูกก็ยังเป็นแบบเดิม แม้จะยังพูดไม่ชัดก็ตาม

“สกาย มาหาพ่อมาลูกมา ให้หม่าม้าทำงานก่อน” ผมร้องเรียกลูกที่กำลังเดินพันแข้งพันขาอยู่ข้างๆ ไนล์ ที่ตอนนี้กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมเอกสารเพื่อไปคุยกับลูกค้าคนสำคัญวันพรุ่งนี้

“...” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผมยังคงเงียบ และยังพัวพันพันพัวกับไนล์ไม่ยอมห่าง จนไนล์กลัวลูกจะล้มนั่นล่ะ ถึงได้ยอมหยุดเดินไปเดินมา แล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆ ให้เสมอกับลูกแล้วพูดกับลูกอย่างอ่อนโยน

“คุณท้องฟ้าครับ หนูไปหาปะป๊าก่อนนะ ขอหม่าม้าเตรียมเอกสารแปปเดียว เดี๋ยวหม่าม้าไปเล่นด้วยนะครับเด็กดี” ตากลมที่ถอดมาจากไนล์กะพริบปริบๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ไนล์ต้องอมยิ้ม ในขณะที่ผมหน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม

“ฉกายจะอยู่กับหม่าม้า ฉกายจานั่งยอตงนี้ อยู่กับหม่าม้า ไม่เอาปะป๊าหยอก”

“ทำไมหื้ม? อยู่กับพ่อแล้วมันยังไงสกาย?” ผมแกล้งร้องถาม ไม่ได้โกรธอะไรจริงจังหรอก ผมรู้ดีว่าสกายเป็นเด็กยังไง เขาค่อนข้างที่จะติดแม่มาก และไม่ค่อยจะถูกกับผมเท่าไหร่ ไม่รู้จำฝังใจมาจากในท้องหรือเปล่า


นิสัยเหมือนผมไม่มีผิด


“ไม่เอาปะป๊า พูดฉองยอบแย้ว” เจ้าเด็กหน้ามึนหันมาตอบผมนิ่งๆ ติดจะรำคาญหน่อยๆ ด้วยที่ต้องพูดซ้ำสองรอบ ดูเอาก็แล้วกันว่ากวนประสาทได้ใคร

ก็ได้ผมอีกนั่นแหละ... โขลกผมมาอย่างกับแกะ แล้วผมจะไปโกรธลงได้ยังไง

“ก็หม่าม้าเขาจะทำงาน ลูกไปขวางแล้วเมื่อไหร่หม่าม้าจะทำเสร็จ” ผมแกล้งเปรย “แล้วเดี๋ยวถ้าเสร็จช้า หม่าม้าก็อดมาเล่นกับสกาย พ่อไม่รู้ด้วยแล้วนะ”

เจ้าตัวแสบของผมเม้มปากแน่นตอนได้ยินแบบนั้น ท่าทางครุ่นคิดที่เห็นนั่นน่าหยิกไม่น้อย ทำเอาไนล์กับผมต้องแอบมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม และการตัดสินใจอันยาวนานของเด็กวัยสามขวบกว่าก็สิ้นสุดลง เมื่อสกายยอมลุกขึ้นแล้วเดินเตาะแตะปีนขึ้นมานั่งบนโซฟาข้างผม พร้อมกับกอดอกแน่น

“ฉกายรอหม่าม้า ปะป๊าห้ามพูด” ผมยิ้ม ไนล์ก็แอบยิ้ม แล้วปฏิบัติการแหย่ลูกก็เริ่มขึ้น

“อ้าว สกายไม่ให้พ่อพูด แล้วสกายจะให้พ่อทำอะไรครับ?”

ผมแกล้งถาม พร้อมกับอุ้มลูกขึ้นมานั่งตัก แล้วก็ตามคาดที่เจ้าตัวเล็กทำขัดขืนนิดหน่อย แต่พอได้นั่งแล้วสบายแถมยังมีที่พิง เจ้าตัวแสบของผมก็เลิกทำเป็นฮึดฮัด ก่อนจะนั่งพิงผมอย่างสบายอารมณ์ แต่ความไม้เบื่อไม้เบายังคงอยู่

“นั่งเฉยๆ คับ ปะป๊านั่งเฉยๆ ไม่พูดอะไยเยย”

ผมหลุดหัวเราะ ในขณะที่ไนล์ก็เตรียมเอกสารเสร็จพอดีเลยเดินมานั่งข้างๆ ผม เจ้าตัวเล็กเองพอเห็นหม่าม้าก็ยิ้มกว้าง พร้อมกับตะกายลงจากตักผมแล้วโผเข้าหาให้ไนล์อุ้มทันที ทำเอาผมอดหมั่นไส้ไม่ได้

ดังนั้นเมื่อไนล์นั่งได้เรียบร้อยพอดี ผมก็เลยแกล้งแหย่ ด้วยการยกแขนโอบไหล่ภรรยาแน่น พร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มนิ่มๆ ของน้องฟอดใหญ่ พร้อมกับกดจมูกแช่ไว้แบบนั้น จนกระทั่ง...

“ปะป๊า!!!” เสียงลูกชายผมแหวลั่น พร้อมกับใช้มือเล็กๆ ดันหน้าผมออกจ้าละหวั่น “อย่าหอม อย่าหอม ไม่หอมมม”

ผมยอมผละออกในขณะที่ไนล์กลั้นขำแทบไม่อยู่ เพราะนี่ก็เหมือนจะเป็นนิสัยอีกอย่างที่สกายเหมือนผมอย่างกับแกะ

สกายหวงแม่ สกายหวงไนล์มาก ยิ่งกับผมสกายยิ่งหวง วันไหนเห็นผมกับไนล์หวานใส่กันพิเศษเมื่อไหร่ เจ้าตัวเล็กจะตามติดไนล์เป็นเงาทันที คล้ายกับว่าผมเป็นศัตรูหัวใจอันดับหนึ่งก็ไม่ปาน

“ทำไมล่ะ ปะป๊ารักหม่าม้า ปะป๊าก็หอมหม่าม้าไง สกายไม่ให้ปะป๊าหอมหม่าม้าแล้วสกายจะให้ปะป๊าหอมใครครับ” ผมถามไปกลั้นขำไป เพราะเจ้าลูกชายตัวดีของผมโกรธจนแก้มแดง

หวงแม่ไม่มีใครเกิน

“หอมคุณย่า ปะป๊าไปหอมคุณย่า หม่าม้าให้ฉกายหอมคนเดียว” เจ้าตัวแสบว่าพลางปีนขึ้นเอาแขนป้อมๆ คล้องคอไนล์แน่น พร้อมกับใช้ปากกับจมูกเล็กๆ ระดมหอมคนเป็นแม่ จนไนล์หัวเราะคิกคักไม่หยุด


เมียผมก็ชอบให้ลูกอ้อน ลูกหวง .. พอกันทั้งแม่ทั้งลูกนั่นล่ะ


“แล้วหม่าม้าหอมสกายบ้างได้ไหมครับ.. ไหนจุ๊บๆ หน่อย”

ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผมยิ้มปากบาน พร้อมกับทำปากจู๋ใส่เมียผมทันที ไนล์เองก็ชอบใจ จูบย้ำๆ รัวๆ ลงไปบนปากเล็กๆ ของลูกชาย ให้เจ้าตัวแสบหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ

“หม่าม๊ายักฉกาย ฉกายก็ยักหม่าม๊า” ผมแอบกลอกตาตอนได้ยินสกายออ้อนไนล์ เพราะกับผมน่ะไม่มีหรอกมีแต่...


‘ปะป๊าห้ามหอม’

‘ปะป๊าไป ไม่อุ้ม’


‘ปะป๊าอย่ากอดหม่าม๊า’

‘ปะป๊าอย่ามาจุ๊บ’



ห้ามผมทุกอย่าง กว่าจะจู๋จี๋กันได้แต่ละทีต้องรอสกายนอน แถมบางวันสกายยังมานอนกั้นกลางผมกับไนล์อีก เล่นเอาผมนี่คิดมากไปอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ลูกถึงไม่รักขนาดนี้

ผมเคยคิดมากจนถึงขั้นที่ว่าล้มป่วยเพราะความเครียด ปวดท้องกินอะไรไม่ได้อยู่หลายวัน เป็นหลายวันที่ผมสงสารไนล์มาก เพราะไนล์ต้องคอยดูแลทั้งผมและก็ลูก แต่ถึงอย่างนั้นไนล์ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีจนทุกอย่างผ่านพ้นมาได้ และก็เพราะผมไม่สบายตอนนั้นแหละผมถึงได้รู้ทุกอย่าง

.

.

.

มันน่าจะเป็นช่วงปลายปีที่แล้วตอนสกายอายุครบสามขวบเต็ม เป็นเด็กชายแข็งแรงน่ารัก สกายรูปร่างและหน้าตาแทบจะถอดผมทั้งด้าม เว้นก็แต่ดวงตาที่กลมโตเหมือนไนล์ แต่ถึงอย่างนั้นคนที่สกายติดมากกว่ามักจะเป็นไนล์ ลูกจะชอบงอแงเวลาอยู่กับผม หรือบางครั้งเราสองคนพ่อลูกก็ชอบแย่งกันที่อยู่ใกล้ไนล์ ทำไปทำมาก็โดนดุทั้งพ่อทั้งลูกแต่ก็ไม่เข็ด

ตอนแรกก็ขำๆ ดี แต่ทำไปทำมาก็เริ่มจะขำไม่ออก เพราะผมเกิดกลัวขึ้นมาจริงๆ ว่าลูกจะไม่รัก ส่วนหนึ่งอาจมาจากเจอทั้งไอ้เทมส์และลมล้ออยู่บ่อยๆ จากที่ไม่คิดก็เริ่มคิด จากที่ไม่สังเกตก็เริ่มสังเกต และมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความวิตกตั้งแต่ตอนไหนผมก็แทบจะจำไม่ได้เหมือนกัน

“สกาย อยู่กับปะป๊านะลูกวันนี้หม่าม้าต้องไปทำงาน”

ผมพยายามพูดบอกลูกที่กอดไนล์แน่นไม่ยอมปล่อย เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดที่เราสามคนพ่อแม่ลูกพักผ่อนอยู่บ้าน แต่จู่ๆ เลขาฯ ของเทมส์กลับโทรมาแจ้งว่าให้ไนล์ไปพบลูกค้าด่วนแทนเทมส์เพราะเทมส์ติดประชุมอยู่กับลูกค้าอีกคน ไนล์เลยต้องรีบแต่งตัวและกระวีกระวาดเตรียมออกจากบ้าน แต่ลูกชายตัวดีกลับเห็นเสียก่อน เลยกระจองงอแงไม่ยอมให้ไนล์ไป

“ไม่เอา ฉกายจะอยู่กะหม่าม้า ไม่อยู่กะปะป๊า ไม่อยู่ๆๆๆ” ทำเด็กน้อยหน้ายู่ งอแงแต่ไม่ร้องไห้ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยไนล์ด้วยเช่นกัน

“ไม่ได้ครับสกาย ปะป๊าบอกแล้วไงว่าหม่าม๊าต้องไปทำงาน ไม่ดื้อสิลูก” ผมพูดเสียงเข้มให้สกายรู้ว่าผมกำลังดุ ในขณะที่ไนล์เองก็เงียบ เพราะเราเคยตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่โอ๋ลูกถ้าหากใครคนใดคนนึงกำลังดุลูกอยู่

“ฮะ.. ฮึก ฉกายไม่ให้ไป หม่าม้าคับ” จากที่แค่งอแง ตอนนี้น้ำตาร่วงแผละ และสุดท้ายไนล์ก็ใจอ่อน

“ไม่เป็นไรครับพี่ภู ยังพอมีเวลา .. ไนล์อยู่กับลูกก่อนอีกสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ค่อยไป วันนี้รถไม่น่าจะติด” น้องหน้าเสีย พร้อมกับทำท่าจะก้มลงไปอุ้มลูกขึ้นมาโอ๋ แต่ผมไวกว่าเพราะคว้าตัวสกายขึ้นมาอุ้มก่อนได้

“ไม่ได้ครับ ถ้าไนล์ออกสายไนล์ก็จะรีบและต้องขับรถเร็ว พี่ไม่อยากให้ไนล์ขับรถเร็ว ไนล์ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ดูแลลูกเอง”

“หม่าม้า ฮึกกก หมะ.. หม่าม้า แงงง้” สกายร้องไห้เสียงดังและทำท่าจะโผหาแต่แม่ แต่ผมขืนตัวลูกไว้เพราะไม่อยากตามใจไปเสียทุกเรื่อง และยิ่งพอเป็นแบบนั้นยิ่งทำให้ไนล์ละล้าละลัง ผมเลยต้องย้ำ

“ไปเถอะไนล์ อย่าให้ลูกค้าต้องรอ เดี๋ยวพี่ดูแลสกายเองไม่ต้องห่วง”

ไนล์เดินออกไปด้วยความไม่สบายใจ ส่วนผมเองก็อุ้มลูกและกอดสกายไว้แน่นแม้สกายพยายามจะดื้นรนและผลักไสผมก็ตาม ลูกทั้งเตะทั้งดิ้นใส่ตัวผมโดยที่ไม่ตั้งใจ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เจ็บเท่าประโยคเดียวที่ลูกพูดออกมาและผมก็ได้ยินเต็มสองหู

“ฉกายไม่ยักปะป๊า ไม่ยักแล้ว!! ฮือออ ฉกายจะหาหม่าม้า จะหาหม่าม้า แงงง้”

ผมไม่โต้ตอบอะไรลูกและเอาแต่กอดแกเอาไว้แนบอก ผมปล่อยให้สกายร้องไห้จนเหนื่อย ให้ลูกได้รู้ว่าผมจะไม่มีวันตามใจลูกเด็ดขาดถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็จะโอบกอดเขาไว้ด้วย ไม่ให้เขาคิดว่าผมทอดทิ้งหรือไม่ใส่ใจแม้เขาจะไม่ต้องการผมก็ตาม

สกายร้องไห้จนหลับคาไหล่ผม ผมก็กล่อมลูกจนลูกหลับสนิท แม้จะเสียใจกับสิ่งที่ลูกพูดแค่ไหน แต่ผมก็พยายามจะทำหน้าที่ของพ่อให้ดีที่สุด ตอนที่ได้ยินลูกโพล่งออกมาแบบนั้นผมเสียใจมาก ผมรู้ว่าแกอาจจะพูดออกมาเพราะโกรธที่ผมขัดใจ


แต่.. ไม่รู้สิ การที่ลูกบอกว่าลูกไม่รักเรา มันเป็นอะไรที่ผมไม่เคยคาดคิดเลยว่าผมจะได้ยิน


และหลังจากวันนั้นผมก็ล้มป่วย ผมเครียดและวิตกกังวลจนปวดท้อง กินอะไรเข้าไปก็อาเจียนจนน็อค สุดท้ายไนล์เลยต้องจับส่งโรงพยาบาล

“พี่ภูครับ เป็นยังไงบ้างครับ ไหวไหม” ไนล์ที่นั่งเฝ้าผมอยู่ที่โรงพยาบาลถามผมขึ้นหลังจากที่ผมลืมตาตื่นขึ้นมา บนตักของน้องมีสกายนั่งมองผมตาแป๋วมองอยู่ แต่ด้วยความมึนๆ เบลอๆ เพราะเพิ่งฟื้นผมเลยไม่ได้สังเกตเห็นว่า..

ในแววตากลมโตของลูกชายผมแดงช้ำ เหมือนกับเพิ่งผ่านการร้องไห้มา

“พะ.. พี่ไหว พี่ไม่เป็นอะไร ที่จริงไนล์ไม่ต้องพาพี่มาโรงพยาบาลก็ได้” ผมว่าแม้ร่างกายจะไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากให้ไนล์เป็นห่วง

“พี่จะไหวได้ยังไงครับ พี่ภูรู้ไหมตอนที่ ฮึก.. ตอนที่พี่ล้มลงไปไนล์ตกใจแค่ไหน” น้องพยายามกลั้นน้ำตา และรีบปาดออกเร็วๆ เพราะไม่อยากให้ลูกเห็นว่าตัวเองร้องไห้ “ทำไมพี่เป็นอะไรแล้วพี่ไม่บอกไนล์ครับ พี่ทรมานตัวเองทำไม”

น้องถามเสียงสั่น ทำเอาผมรู้สึกผิดไปทั้งใจ... แต่จะให้ผมบอกน้องได้ยังไงว่าผมป่วย เพราะผมคิดมาก คิดกังวลว่าลูกจะไม่รัก

ผมไม่ได้อาย แต่ผมแค่ไม่อยากให้น้องมองว่าผมจุกจิกกับลูกทั้งที่แกยังเด็ก .. ผมไม่อยากให้ใครมองว่ามันงี่เง่าเลย แต่มันก็งี่เง่าจริงๆ นั่นแหละ ผมห้ามความคิดตัวเองไม่ได้เลย ผมกลัวและกังวลว่าลูกจะไม่รักจริงๆ

“คือพี่..” ผมอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

“พี่ภู.. เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ” ไนล์เลื่อนมือมาจับมือผมไว้ พร้อมกับบีบเบาๆ “ไนล์รักพี่ สกายก็รักพี่.. อาหมอบอกว่าพี่เครียดจนลงกระเพาะ พี่มีอะไรไม่สบายใจ พี่ภูบอกไนล์ได้ไหมครับ?”

น้องถามผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำเอาผมพูดไม่ออก ยิ่งเห็นลูกมองผมตาแป๋วทั้งที่ตาแดงก่ำผมยิ่งพูดไม่ออก และทำนบของความเข้มแข็งของผมก็ทลายลง เมื่อสกายตะกายจากตักไนล์แล้วปีนขึ้นมาบนเตียงโรงพยาบาลที่ผมนอนอยู่ ลูกนั่งลงบนเตียงข้างตัวผมก่อนจะทิ้งศีรษะหนุนบนอกผม ก่อนจะใช้แขนเล็กๆ ของตัวเองกอดผมไว้แน่น

“ปะป๊าไม่ฉะบาย หายไวๆ ฮึก.. หายๆ เพี้ยง” ลูกเงยหน้าขึ้นมาจากอกผม พร้อมกับมองผมนิ่ง น้ำใสไหลกลบในดวงตา แต่เจ้าตัวน้อยก็พยายามฮึบไว้ไม่ให้ไหลออกมา “ฉะกายรักปะป๊า ไม่ป่วยนะคับ ไม่ป่วย”

ผมน้ำตาไหลทันทีตอนได้ยินลูกบอกแบบนั้น พร้อมกับดึงลูกมากอดแนบอก สกายเองก็กอดผมแน่นและตอนนั้นผมก็นึกโกรธตัวเองที่งี่เง่าและคิดมากเกินไป ลูกยังเด็ก อาจจะดื้อดึงและติดแม่มากกว่าพ่อตามประสา อะไรดลใจให้ผมคิดไปแบบนั้นจนเก็บเอามาเครียดได้กัน

และสุดท้ายผมก็ตัดสินใจได้ว่าควรบอกไนล์ ผมควรให้น้องได้รับรู้และบางทีถ้าได้ระบายออกไป ผมอาจจะสบายใจขึ้นบ้างก็ได้

“คือพี่.. พี่คิดว่าลูกไม่รัก” ไนล์เลิกคิ้ว ดูงงๆ และแปลกใจกับคำบอกเล่าของผมไม่น้อย “พี่คิดว่าสกายไม่รักพี่ ลูกชอบร้องไห้เวลาพี่เข้าไปใกล้ๆ หรือบางทีลูกก็ดูไม่อยากจะอยู่กับพี่เท่าไหร่ แถมวันนั้น...”

“วันนั้น...?”

“วันนั้นที่ไนล์ไปหาลูกค้า แล้วพี่ขืนไว้ไม่ให้ลูกร้องตามไนล์ ลูกก็พูดออกมาว่าไม่รักพี่ พี่ก็เลย..” ผมอึกอัก นึกอายขึ้นมานิดหน่อยที่คิดเป็นตุเป็นตะไปเอง

“พี่เลย..?”

“พี่ก็เลยเครียด คิดมาก แล้วสุดท้ายพี่ก็ป่วยอย่างที่ไนล์เห็นนี่ล่ะ” ผมยิ้มแห้งๆ ส่งให้น้อง พลางก้มลงมองดูสกายที่ตอนนี้หลับคาอกผมไปแล้ว

ไนล์ถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ให้ผมต้องนึกโล่งอก เพราะคิดไว้ว่าน้องน่าจะต้องหัวเราะเยาะผมแน่ๆ แต่ไนล์ก็ไม่ได้ทำแบบนั้น

“โถ่พี่ภู..” ไนล์คราง ก่อนจะบีบมือผมแน่นขึ้น แล้วขยับเข้ามาใกล้ “วันหลังพี่มีอะไรพี่ต้องบอกไนล์นะครับ พี่จะได้ไม่เก็บเอาไปคิดมากแบบนี้”

“คือ.. พี่คิว่ามันค่อนข้างที่จะงี่เง่า พี่ก็เลยไม่ได้บอก” ผมอึกอัก รู้สึกผิดน้อยๆ ที่ทำให้น้องเป็นห่วง

“แล้วพี่ก็เก็บเอาไปเครียดจนปวดท้องแบบนี้น่ะหรอ?” น้องดุผมนิดหน่อย ก่อนจะลดเสียงให้อ่อนโยนลง “ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะครับ เราครอบครัวเดียวกันมีอะไรต้องคุยกันสิ .. ไหนเราสัญญากันแล้วไงครับว่ามีอะไรเราจะคุยกันทุกเรื่อง”

“พี่ขอโทษครับ” ผมบอกน้องเสียงจ๋อย นึกรู้สึกผิดเต็มๆ

“ช่างเถอะครับ” ไนล์บอกปัดพร้อมกับยิ้มกว้าง น้องเหลือบมองลูกที่หลับไปแล้วนิดหน่อย ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าพี่ถามไนล์ ไนล์ก็จะได้ย้ำและบอกกับพี่ได้ว่าเรื่องที่พี่เป็นกังวลไม่จริงเลยสักนิด”

“...” ผมเงียบพลางมองไนล์ที่ยื่นมือไปลูบศีรษะกลมของลูกชาย สายตาที่มองไปยังเจ้าตัวน้อยเต็มไปด้วยความรักจนเก็บไม่มิด

“ไนล์จะบอกให้พี่มั่นใจได้เลยว่าสกายรักพี่ สกายรักเราสองคนมาก ลูกอาจจะติดไนล์มากกว่าพี่เพราะสกายติดสกินชิพแล้วก็ชอบให้กอด แต่กับเรื่องอื่นไนล์กล้าบอกได้เต็มปากเลยว่าสกายรักพี่ไม่แพ้ไนล์เลยสักนิด... ไนล์เป็นแม่ ไนล์รู้ดี”

“...” เป็นอีกครั้งที่ผมเงียบ และก็เป็นอีกครั้งที่ผมรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ไนล์พูดไม่ผิดจากความจริงเลยแม้แต่น้อย

“วันนั้นสกายคงจะโมโหที่ถูกขัดใจเลยพูดไปแบบนั้น แต่สกายไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ พี่รู้ใช่ไหมครับ”

ผมยิ้มบางส่งให้น้องพร้อมกับพยักหน้า “รู้ครับ พี่รู้แล้ว”

“สกายร้องไห้จ้าเลยนะตอนที่เห็นพี่ล้มลงไปน่ะ คงจะทั้งตกใจด้วย ทั้งกลัวด้วย” ผมกระชับแขนกอดลูกให้แน่นขึ้นเมื่อได้ยิน “นี่ก็คงง่วงนานแล้วแต่ไม่ยอมหลับ ลูกรอให้พี่ตื่น ลูกรอให้มั่นใจก่อนว่าพี่ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ถึงหลับได้... ไม่คิดแล้วนะครับว่าลูกไม่รัก โอเคไหม?”

“ครับ.. ไม่คิดแล้ว พี่ขอโทษนะไนล์ พี่ขอโทษที่ทำให้ไนล์กับลูกต้องเป็นห่วง” ผมพูดอย่างรู้สึกผิด ในขณะที่ไนล์ส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้ผม

“ไม่ต้องขอโทษแล้วครับ” น้องก้มลงมาจูบแก้มผมเบาๆ “ขอแค่ให้พี่หายป่วยแล้วก็แข็งแรงเร็วๆ ก็พอ.. ไนล์กับลูกขอแค่นี้แหละ”

ผมยกมือน้องขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากแล้วจูบ “ครับ.. พี่จะหายเร็วๆ แล้วก็จะไม่ป่วยอีกแล้ว”

“ไนล์รักพี่ภูนะครับ”

“พี่ก็รักไนล์ครับ”

ไนล์ก้มลงมานอนทับแขนผมพร้อมยกแขนโอบสกายที่นอนอยู่บนอกผมอีกที เราสามคนกอดกันแน่น.. กอดกันด้วยความรักและความเข้าใจ

.

.

.


(อ่านต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Gade_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-4
(อ่านต่อจากด้านบน)


Nateetouch’ s Part


ผมมองดูสองคนพ่อลูกเถียงกันด้วยรอยยิ้ม พี่ภูชอบแหย่ลูก ในขณะที่สกายก็ชอบเอาชนะพ่อ นอกจากจะหน้าตาจะเหมือนกันแล้ว นิสัยยังโขลกกันมาอย่างกับแกะ... เหมือนกันขนาดนี้จะมาบอกว่าลูกไม่รักได้ยังไงกันพี่ภู

จะว่าไปก็นึกถึงเมื่อช่วงปีที่แล้วที่ภูเครียดหนักเรื่องลูกจนล้มป่วย ตอนนั้นผมตกใจมากเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เพราะปกติพี่ภูเป็นคนแข็งแรง พอจู่ๆ มาล้มลงผมก็ตื่นตระหนกไปกันใหญ่ จำได้ว่าสกายร้องไห้จ้าที่เห็นพี่ภูน็อคไปต่อหน้า หลังจากที่เขาฟื้นก็ต้องคุยต้องเคลียร์กันยกใหญ่ แต่ก็เพราะพี่ภูป่วยนี่แหละเลยได้เข้าใจและรู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่ลูกไม่รักพี่ภูเลย เพียงแต่สกายยังเด็กและก็เป็นเด็กที่นิสัยเหมือนพ่อค่อนข้างจะมาก


โดยเฉพาะเรื่องติดผมและหวงผม .. สกายถอดพี่ภูมาไม่มีผิดเพี้ยน


ดังนั้นเรื่องที่จะไม่ค่อยกินเส้นกับพี่ภูนั้นเลยไม่น่าแปลกใจสักนิด

“ปะป๊า ให้ฉกายเย่นอันนิ ฉกายจะเย่นให้ปะป๊าดู”

“ไหน หนูสอนปะป๊าเล่นหน่อยลูก ปะป๊าเล่นไม่เป็นเลย”

ผมหลุดขำเมื่อเห็นสองพ่อลูกนอนคว่ำกันอยู่กลางพื้นบ้านในห้องนั่งเล่น เมื่อกี้ยังเถียงกันฉอดๆ แต่เผลอแป๊ปเดียวไปนั่งเล่นของเล่นด้วยกันแล้ว ซึ่งก็เป็นอย่างนี้ประจำ

และก็มีอีกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน เป็นเหตุการณ์ที่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าพี่ภูสังเกตหรือรับรู้รึป่าว แต่ผมในฐานะที่เป็นทั้งแม่และภรรยา เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ผมสังเกตเห็นได้เป็นเรื่องแรกๆ มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ และเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าสกายรักพี่ภู แม้จะไม่มีเหตุการณ์ตอนป่วยของพี่ภูเกิดขึ้นก็ตาม

“ปะป๊าเย่นอันนิ ต่อแบบนิ ฉกายจะทำแย้วเอาไปให้หม่าม๊า” สกายพูดไป ต่อเลโก้ไป ยิ้มปากบานด้วยความมั่นใจและตั้งใจว่าจะเอามาให้ผม

“ให้ปะป๊าให้หม่าม้าบ้างไม่ได้หรอ? แบ่งกันสิ เราพ่อลูกกันนะ” ในขณะที่พี่ภูเองก็แหย่ลูก พูดไปกลั้นหัวเราะไป เชื่อได้เลยว่าเดี๋ยวสกายต้องโวยวายไปไม่ยอมแน่

“ม่ายด้ายยย หม่าม้ารักฉกายมากกว่า รักปะป๊าน้อย จิ๊ดเดียว”

ตามคาด สกายไม่ยอมพี่ภูอย่างที่ผมคิดและหนำซ้ำเจ้าเด็กแสบยังกวนคนเป็นพ่อด้วยการหาว่าผมรักพี่ภูน้อยกว่า แถมยังทำมือเป็นสัญลักษณ์ให้เห็นว่าผมรักพี่ภูน้อยแค่ไหน

“จิ๊ดเดียวหรอตัวแสบ หื้ม เรานี่มันน่ามันเขี้ยวจริงๆ”

พี่ภูว่าพลางหัวเราะก่อนจะจับลูกมาฟัดจนเสียงเอิ๊กอ๊ากของลูกดังไปทั่วห้องนั่งเล่น สองคนพ่อลูกเล่นแบบนี้กันตลอด เถียงๆ กัน ดีๆ กันแล้วเดี๋ยวแป๊ปเดียวพี่ภูจับลูกฟัดจนลูกหัวเราะปากบาน

และเสียงหัวเราะของสองพ่อลูกที่ดังกังวานก็เรียกแขกคนที่เพิ่งกลับมาจากทำงานให้ต้องโผล่หน้าเข้ามาดู

“อ่าว พี่เทมส์ กลับมาแล้วหรอครับ” ผมร้องทักพี่ชายที่ยืนพิงทางเข้าห้องนั่งเล่นแล้วมองเพื่อนสนิทตัวเองเล่นกับหลานชายด้วยสายตาติดจะปลงๆ ปนเอ็นดู

“กลับมาแล้ว ได้ยินเสียงหัวเราะของสกายเลยเดินมาดู.. ว่าแล้วว่าต้องเล่นกับไอ้ภูอยู่แน่ๆ”

ผมเดินไปหาพี่ชายที่ยังคงยิ้ม ก่อนจะเข้าไปช่วยถือเอกสารที่พี่เทมส์หิ้วกลับมาทำที่บ้าน “มาครับไนล์ช่วยถือ”

พี่เทมส์ส่ายหน้าพลางพยักเพยิดไปที่พี่ภูกับสกายที่ตอนนี้เริ่มเถียงกันอีกแล้ว “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ถือขึ้นไปเอง เราไปดูพ่อลูกนั่นเถอะ จะทะเลาะกันอีกแล้วมั้งนั่น เฮ้ออ.. บางทีพี่ก็สงสัยนะว่าสกายกับไอ้ภูน่ะมันยังไง ไนล์อยู่ด้วยกับสองคนตลอด ไม่คิดหรอว่าปล่อยให้เถียงกันแบบนี้อีกหน่อยจะมีปัญหาเอา”

พี่เทมส์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังให้ผมได้รับรู้ว่าเขาเป็นห่วงจริงๆ แต่ผมเลือกที่จไม่ตอบอะไร แต่กลับยิ้มบางๆ แล้วบอกกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงสบายๆ แทน

“งั้นคืนนี้พี่เทมส์ว่างไหมครับ.. สักสองทุ่ม” ผมหันไปมองสองคนพ่อลูกที่ยังเถียงกันเรื่องเลโก้อยู่ “ไนล์อยากให้พี่เทมส์ไปหาไนล์ที่ห้องสกายสักหน่อย ไนล์มีอะไรให้พี่เทมส์ดู”

พี่เทมส์มองหน้าผมด้วยสายตาสงสัยน้อยๆ แต่ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไรแต่ส่งยิ้มกลับไปให้พี่ชายแทน

.

.

.

อีกครึ่งชั่วโมงก็จะได้เวลาเข้านอนของสกายแล้ว เจ้าตัวแสบอาบน้ำอาบท่าหยิบนิทานเรื่องโปรดมาให้ผมที่นอนอยู่เคียงข้างอ่าน และหลังจากล้มตัวนอนเสร็จสรรพ ผมก็เริ่มอ่านนิทานให้ลูกชายฟัง สกายนอนตะแคงข้างหันมากอดผม ดวงตาเริ่มปรือปรอยลงเรื่อยๆ ผมเลยลดเสียงการอ่านลง พร้อมกับที่พี่ภูเดินเข้ามาเงียบๆ เหมือนรู้เวลา

ผมหันมองสามีที่ทอดสายตามองลูกชายที่กำลังจะหลับอย่างอบอุ่น และก่อนที่จะได้ทันพูดอะไรกับพี่ภู สกายที่กำลังจะหลับก็สะลึมสะลือพูดขึ้น

“ปะป๊า ปะป๊า.. กอดหน่อยคับ”

ผมยิ้มก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วสละที่ของตัวเองให้สามีลงไปนอนแทน ผมถอยมายืนพิงกรอบประตูมองสองคนพ่อลูก และพอพี่ภูล้มลงนอนตะแคงแทนที่ผม สกายที่พอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่คุ้นเคยก็โผตัวเข้าซุกทันที ก่อนจะกอดพี่ภูไว้แน่น

“ปะป๊า...กอด”

“ครับ พ่อเอง สกายนอนนะครับ .. พ่อกอดแน่นๆ เลย”

พี่ภูกอดลูกไว้แนบอก ไม่ได้แน่นหรือหลวมจนเกินไป พี่ภูรู้ดีว่าต้องกอดลูกประมาณไหน ลูกถึงจะนอนสบายเพราะตั้งแต่สกายเกิดจนถึงตอนนี้ หน้าที่พาสกายเข้านอนเป็นของพี่ภู ถ้าหากคืนไหนไม่มีพี่ภูคอยนอนกอดสกาย สกายจะนอนไม่หลับและร้องไห้งอแงทั้งคืน

นั่นคือเหตุผลที่ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าสกายรักพี่ภู .. ช่วงกลางวันลูกอาจจะติดผม แต่ช่วงกลางคืนสกายไม่แลผมเลยสักนิด มีแค่พี่ภูเท่านั้นที่ลูกจะร้องหา

ก็บอกแล้วว่าสองคนนี้น่ะรักกัน แต่ไม่ค่อยจะรู้ตัวว่ารักกัน โดยเฉพาะพี่ภู.. ถ้าเขาสังเกตสักนิดเขาจะรู้ได้ไม่ยากเลยว่าสกายรักเขามากแค่ไหน

“อื้ออ” สกายขยับตัวเข้าหาพี่ภูจนแทบจะนอนเกยขึ้นไปบนอก ในขณะที่ภูก็ทั้งกอดทั้งลูบหัวลูกเบาๆ จนลูกเคลิ้มและหลับไปในที่สุด

พี่ภูมองสกายที่เริ่มหายใจเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเด็กน้อยของเราทั้งคู่หลับไปเรียบร้อยแล้ว

“ฝันดีนะครับตัวแสบของพ่อ” พี่ภูพูดพลางก้มลงจูบขมับเล็กๆ ของลูกชายอย่างรักใคร่ ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับตัวออกแล้วจัดท่าทางให้สกายนอนดีๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมได้ยินเสียงของพี่เทมส์ที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่หลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ดังขึ้น

“อ๋อ แบบนี้นี่เอง... หึ” พี่เทมส์ยิ้มขำตอนมองพี่ภูลูบหัวลูบหลังลูกที่กำลังหลับอย่างรักใคร่ เขาแทบจะไม่รู้สึกถึงการมาของพี่เทมส์เลยด้วยซำ เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับลูก “ทุกวันเลยหรอ?”

ผมยิ้มก่อนจะตอบบพี่ชายเสียงเบา เพราะไม่อยากรบกวนช่วงเวลาของสองพ่อลูก “ครับ ทุกวันเลย ตั้งแต่สกายแบเบาะแล้ว.. ตอนกลางวันสกายอาจจะติดไนล์ แต่กลางคืนนี่ลูกไม่เอาใครเลยนอกจากพี่ภู”

“หึๆ นิสัยเหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก พี่ไม่แปลกใจเลยสักนิด” ผมหันไปมองพี่เทมส์ก่อนะจเห็นว่าพี่ชายส่งยิ้มอ่อนโยนให้ “ไปๆ ไปอยู่กับครอบครัวไป พี่ไม่กวนแล้ว”

ผมพยักหน้า พี่เทมส์เลยเดินออกไปจากห้องสกายเมื่อได้รับคำตอบของคำถามเมื่อเย็น ในขณะที่ผมเองก็เดินไปกอดพี่ภูไว้หลวมๆ จากด้านหลัง

“หืม? ว่าไงครับ” พี่ภูยิ้มก่อนจะหันกลับมาหาผม แล้วกอดผมตอบ

“คืนนี้นอนห้องลูกกันดีไหมครับ ไนล์อยากให้เรานอนด้วยกันกับลูก” ผมชวนอ้อนๆ และแน่นอนว่าพี่ภูที่ไม่เคยขัดใจผมเลยตั้งแต่เราแต่งงานกันย่อมไม่ปฏิเสธ

“เอาสิ.. แต่ก่อนอื่นเราต้องไปอาบน้ำกันก่อนที่จะมานอนกับลูก” พี่ภูกอดผมแน่นขึ้น ก่อนจะส่งสายตาวิบวับเป็นประกายมาให้ผม เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาต้องการอะไร “อาบน้ำพร้อมพี่ไหมครับ พี่ไม่ได้อาบกับหนูนานแล้วนะ”

ผมเม้มปากแน่น เขินจนใจเต้นแรง แต่ก็ไม่ยอมหลบตาคนป็นสามี และพอยิ่งเห็นว่าเขาจ้องผมด้วยสายตาแบบไหน ใจผมยิ่งสั่นแรงกว่าเดิม

“กะ.. ก็ได้ครับ แต่แค่อาบน้ำอย่างเดียวนะ” ผมต่อรองทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าไม่ได้ผลหรอก ลองพี่ภูบอกแบบนี้ไม่มีทางแค่อาบน้ำกับผมเฉยๆ แน่

“ไนล์ก็รู้ว่ามันไม่มีทางแค่อาบเฉยๆ หรอก” พี่ภูกระซิบก่อนจะกดปากลงมาแรงๆ บนปากผมแล้วผละออก จากนั้นเขาก็ตวัดตัวผมขึ้นอุ้มแนบอกทันที โชคดีที่ผมยกแขนคล้องคว้าคอเขาไว้ได้ทัน

“พี่ภู!!” ผมดุเขาเสียงเขียวที่จู่โจมผมไม่ให้โอกาสผมตั้งตัว แต่เสียงดุแค่นี้ก็ทำอะไรพี่ภูไม่ได้หรอก เจ้าเล่ห์จะตายไปคนๆ นี้

“ชู่... เดี๋ยวลูกตื่นนะ” เขามองผมตาเป็นประกาย ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่า “ป่ะ.. ไปอาบน้ำกัน”

พี่ภูอุ้มผมจากห้องในขณะที่ผมได้แต่ส่งเสียงห้ามเบาๆ ไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวลูกตื่น และแน่นอนเขาเคยฟังอะไรผมที่ไหนล่ะกับเรื่องแบบนี้ ผมสาบายเลยว่าครั้งหน้าจะไม่ชวนเขานอนห้องลูกอีกแล้ว.. สาบาน!!

.

.

.

THE END

------------------------------------------------------------------------------------

จบแน้ววววว จบแน้วจริงๆ จ้าาาาาาาาา จริงๆ เราชอบเขียนนิยายที่มีเด็กๆ ในเรื่องมากเลยนะ มันน่ารักดี 555555555 ถือโอกาสขายนิยายอีกเรื่องด้วยแล้วกันนะคะ เรื่อง เกิดเป็นรักข้ามรั้ว เขียนจบไปแล้วก่อนหน้าเรื่องนี้ เรื่องนั้นจะเป็นฟีลกู๊ดน่ารักๆ มีเด็กๆ ในเรื่องด้วย

ซึ่งสาเหตุที่ขายเรื่องโน้นก็ไม่ใช่อะไร คือแอบมีแพลนเล็กๆ (เล็กมาก และไม่รู้ว่าจะเขียนเสร็จเมื่อไหร่ด้วย 5555555) แอบมีแพลนค่ะว่าจะเขียนภาคต่อของเรื่องโน้น โดยมีเด็กน้อยของเรื่องนี้ไปเป็นตัวละครหลักร่วม เอาไว้ถ้าลงมือเขียนเมื่อไหร่ อาจจะมาลงตอนพิเศษในเรื่องนี้อีกสักตอน แล้วแจ้งอัพเดทให้ทุกคนทราบบบ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลย หากทุกคนจะสนับสนุน 55555555

เอาล่ะค่ะ จบแล้วล่ะ จบจริงๆ แต่ถ้าไม่ติดอะไร อาจจะมีตอนพิเศษของเรื่องนี้มาฝากอีกสักตอนสองตอน แต่ยังไงเสีย ตอนนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนก่อน ขอขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนพิเศษสุดท้ายนี้ มันยาวนานมากๆ เลย 7 เดือนกับ 42 ตอน (ที่เขียนไปได้ยังไงไม่รู้ 5555555) แต่ก็ต้องขอขบคุณมากๆ ที่เดินทางมากับเราจนจบ ขอบคุณทุกคลิก ทุกวิว ทุกไลค์ ทุกคอมเม้นท์ และทุกยอดโดเนท ที่คอยเป็นแรงผลักดันให้นิยายเรื่องนี้เดินทางมากจนสุดทาง... ขอบคุณมากๆ นะคะ

เราก็คงไม่มีอะไรจะให้มากกว่าคำว่าขอบคุณ แล้วยังไงถ้ามีโอกาส เราหวังใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกคนอีกครั้ง หากเราเขียนนิยายในเรื่องถัดๆ ไป ขอแค่มีคนอ่าน ขอแค่มีคนให้การสนับสนุน เราสัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อให้สมกับที่ทุกคนคอยให้กำลังใจและติดตามผลงานของเรา

ขอบคุณมากๆ นะคะ แล้วไว้พบกันใหม่เมื่อถึงเวลาที่สมควร.. รักพวกคุณม๊าก มาก ^^

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักที่สุดๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cutelady

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

น่ารัก น่ารัก มากๆๆๆๆ เลย

ฟิวกู๊ด ดีต่อใจ แอบหลงรัก พี่ภู และน้องไนล์คนดี แถมตอนท้าย รักน้องสกาย เพิ่มอีกคน

พี่เทมส์ ที่แสนดีก็มา พระเอกในดวงใจเลยคนนี้ พี่ชายแสนดีที่หนึ่ง

หมั่นไส้ นางจีน รู้สึกจะไม่ได้รับเวรกรรม ตามทันอะไรเลย  (วัยรุ่นเซ็ง)

โดยรวมเนื่้อเรื่อง มีครบทุกรส สุข เศร้า น้ำตา หวานชื่น โรแมนติก นักเขียนเก่ง

ขอขอบคุณในเรื่องราวดีๆ ขอส่งแรงใจให้นักเขียน ต่อไป

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแล้ววววววว
ตอนพิเศษน่ารักมากกกก
ครอบครัวอบอุ่น

ออฟไลน์ Freezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พระเอกก็บื้อ  นายเอกขี้งอนคิดมาก
แต่สุดท้าย คือโคตรน่ารักเลยครับ

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อ่านไปแล้วช่วงกลางๆสงสารน้องไนล์จับใจบีบหัวใจเหลือเกิน กว่าพี่ภูจะตาสว่างเห็นถึงความจริงใจของน้อง กว่าจะลงเอยกันได้ก็ได้น้ำตากันไป สรุปจบที่ได้ครอบครัวที่น่ารักกลับมา สนุกมากค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายดีๆ :pig4: :mew1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักกกก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
พ่อลูกน่าร้ากกกกกก เป็นครอบครัวที่มีสีสรร  :mew1:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น้องไนล์คือเมียคือแม่แห่งชาติ..พี่ภูเกือบปล่อยน้องหลุดมือไปแล้วนะเนี่ย คนดีที่รักเราขนาดนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ ดีที่ตาสว่างแม้เกือบช้าไปเพียงเสี้ยว..นังจีนน่าจะโดน ๆ ๆ มากกว่านี้ไม่สะใจเลยทำเรื่องไว้มันน่านัก  นิยายดีสนึกมาก :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :pig4: :pig4: :pig4: น่ารักมาก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด