(ต่อ)
โหรถอยกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ปรางค์ครองมาทั้งวัน ขายกขึ้นไขว้กันสบายๆ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยมออกมาจากกระเป๋ากางเกง เลื่อนนิ้วคล่องแคล่วต่างจากเมื่อวาน แล้วยื่นให้คนบนเตียงดู “ไม่ใช่รูปเดียว เยอะจนแทบจะสร้างเป็นอัลบั้มได้เลยล่ะ”
กุมภ์ถลึงตาใส่ ดึงโทรศัพท์จากมือ เลื่อนนิ้วดูรูปตัวเองในโทรศัพท์คนอื่น “รูปในเฟสบุ๊คผมนี่!”
โหรไม่ปฏิเสธหรอกว่าเขาแอบเซฟรูปของกุมภ์มาจากเฟสบุ๊คไม่ใช่แค่รูปสองรูป แต่ร่วมยี่สิบรูปเลยล่ะ ทั้งจากเฟสบุ๊คส่วนตัว และที่เพื่อนๆ แท็กมาให้ ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้น่ารักถูกใจเขากันล่ะ
น่ารัก...นี่เขาใช้คำนี้กับกุมภ์มากี่ครั้งกันแล้ว
“โรคจิต” กุมภ์พึมพำตอนที่ส่งโทรศัพท์คืนให้
“เอารูปไปสิ จะได้หายกัน”
“ไม่เอาหรอก หน้าโหดขนาดนี้ เดี๋ยวเขาจะหาผมเซฟรูปโจร”
โหรหัวเราะหึในคอ เรื่องหน้าดุนี่ไม่ปฏิเสธ เพราะมันคือพันธุกรรม ถึงจะได้เชื้อสายของแม่มาช่วยบ้างแต่เขาก็เหมือนปู่อยู่ดี นั่นเล่นเกมซ่อนตากันอยู่สักประเดี๋ยวพันนาก็โทรเข้ามา บอกว่ากำลังจะไปส่งไอ้แสบ แล้วพรุ่งนี้จะรีบมาก่อนเจ็ดโมง เขาตอบกลับไปสั้นๆ ก่อนจะวางสาย
คนบนเตียงทำท่าอึกอัก คล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง โหรเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เจ้าตัวถึงได้ยอมเอ่ยปาก
“เอ่อ พัน...รู้เรื่องของเราไหม”
“ไม่รู้เหมือนกัน...เขาไม่เคยบอกผม” โหรไม่ได้ปด พันนาไม่เคยเล่าหรือพูดอะไร มีเพียงแค่การกระทำเท่านั้นที่แสดงออกกลายๆ ว่ากำลังช่วยเขาอยู่? พันนาไม่ใช่พวกพูดมากเหมือนจ้าวจอมเสียด้วย แต่รายหลังก็สงบปากสงบได้ดีเกินคาดทั้งที่คงสงสัยว่าระหว่างเขากับกุมภ์มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่
“แล้วเขารู้ไหมว่า...เป็นเกย์”
“ผมไม่ได้บอกใคร...แล้วผมก็มั่นใจว่า เพื่อนของคุณรวมทั้งครอบครัวจะไม่มีวันรังเกียจคุณ”
มันไม่ใช่คำปลอบ หากแต่คือความจริง ที่กุมภ์เลือกจะปิดบังเพราะกลัวว่าจะถูกรังเกียจ ทว่ากุมภ์คงลืมไปว่ารอบตัวล้วนแต่มีที่รักและหวังดีกับกุมภ์ทั้งนั้น รวมทั้งครอบครัวที่อบอุ่น เขาเชื่อว่าหากกุมภ์ยอมเปิดใจ ไม่มีใครผลักไสกุมภ์ เพียงแต่บางคนคงใช้เวลาเสียหน่อย โดยเฉพาะกับปรางค์
พอคิดถึงปรางค์ บางอย่างก็สะกิดขึ้นมาในใจอย่างอดไม่ได้ คนทั้งโลกดูออกว่าปรางค์มีใจให้กับกุมภ์ และเขาก็มั่นใจว่ากุมภ์ก็รู้ ถึงกุมภ์จะเป็นเกย์ แต่มันช่วยไม่ได้เลยที่เขาจะรู้สึกว่าปรางค์คือคู่แข่ง...ตัวเบ้งเสียด้วย
“คุณกับปรางค์...”
กุมภ์เลิกคิ้ว “กับปรางค์...ทำไมหรือครับ”
“พวกคุณ”
“เราเป็นเพื่อนกัน” กุมภ์ชิงตอบก่อนที่เขาจะถามจบด้วยซ้ำ “แต่ปรางค์ไม่รู้ว่าผมเป็นเกย์...ผมไม่กล้าบอกเธอ พอๆ กับไม่กล้าบอกกับคนอื่นนั่นแหล่ะ”
โหรยิ้มบาง เอื้อมมือบีบที่หัวไหล่เล็กกว่าเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ “ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ผมเชื่อว่าคุณทำได้ อีกอย่าง ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกกับปรางค์เกินกว่าคำว่าเพื่อน คุณก็ควรจะรีบบอกเธอตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้เธอคิดไปไกล ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียเพื่อนดีๆ ไป”
กุมภ์ถอนหายใจดวงตาที่ทั้งคมทั้งสวยมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด “กลับไปผมจะบอกกับแม่ก่อน มันน่าจะง่ายกว่าคุยกับพ่อ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้” โหรเห็นด้วย “ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของเรา”
“เรื่องของเรา?”
“ใช่” โหรพยักหน้า เลื่อนมือลงมากุมหลังมือขาวหลวมๆ “นอกจากผมจะขอโทษคุณแล้ว ผมยังอยากจะรู้จักคุณมากกว่านี้ อยากรู้ว่าคุณชอบอะไร เกลียดอะไร หรือกลัวอะไร ผมอยากให้เราเรียนรู้กันและกันไปพร้อมๆ กัน”
กุมภ์กระพริบตารัว รู้สึกถึงไอร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วผิวหน้าลามไปถึงใบหู เขาแทบจะไม่ได้ยินคำพูดของโหรด้วยซ้ำ ได้ยินแต่เสียงอื้ออึงที่คล้ายกับจะดังมาจากในอก ตาก็พร่ามองเห็นอะไรไม่ชัด ทุกอย่างมันเร็วไปหมด เมื่อเดือนก่อนเขายังน้ำตาตกในเพราะคิดว่าโหรจะรังเกียจ แล้วสองวันมานี้มันเกิดอะไรขึ้น นอกจากโหรจะขอโทษแล้ว ยังทำเหมือนจะ ‘จีบ’ เขาอีกด้วย
ทุกอย่างมันเร็วเกินไป เขาไม่เคยถูกใครจีบ หรือแม้แต่จะจีบใคร เพราะรสนิยมเลยจำเป็นต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้
ถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรถึงได้สนใจโหรมากกว่า ผู้ชายหน้าตาที่มีเกลื่อนกลาดในมหาวิทยาลัย อาจจะหล่อน้อยกว่ารุ่นพี่ที่เคยแอบชอบด้วยซ้ำ แต่อะไรบางอย่างในตัวโหรมันดึงดูดให้เขาเข้าหา นอกเหนือจากความสามารถในด้านที่น้อยคนนักจะทำได้
คงเพราะ...ความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในดวงตาดุๆ นั่นล่ะมั้ง
กุมภ์หายใจยาวกว่าปกติ เพื่อระงับอาการ ‘ใจเต้นแรง’ เพิ่งรู้ว่าการถูกคนที่ชอบจีบ มันรู้สึกแบบนี้นี่เอง จั๊กจี้หน่อยๆ แต่ก็ห้ามปากไม่ให้ยกยิ้มไม่ได้
ทว่า...ยังมีอีกสิ่งที่คิดค้าง
“ทำ...ทำไมคุณถึง ทำเหมือน...ชอบผมล่ะ”
โหรเลิกคิ้วพลางเอียงคอมอง มือที่กุมอยู่บีบแน่นขึ้นกว่าเดิม “ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน มันสบายใจมั้งที่ได้ทำแบบนี้ พอได้เลิกคิดว่าคุณเป็นเพศอะไร อะไรๆ มันก็ง่ายขึ้น ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนตอนที่จีบ แพร...เอ่อ แฟนเก่าผมน่ะ ตอนนั้นผมเพิ่งจะ 18-19 ไม่เคยมีแฟน มันตื่นเต้นเชียวล่ะ ผมอยากจะเห็นหน้าเขาทุกวัน อารมณ์แบบแค่เป็นปลายผมก็ยังดี รักวัยรุ่นมันร้อนแรงเสมอ แต่กับคุณมันต่างออกไป...คุณไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้น แต่แค่คุณยิ้มได้ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ผมก็สบายใจ มันไม่หวือหวาแต่อบอุ่น...ในนี้”
โหรจับมือไปทาบที่หน้าอกข้างซ้าย แผ่นอกกว้างสะท้อนตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ริมฝีปากหยักสีเข้มคลี่ยิ้มบางเบา ดวงตาคมดุมีแววอ่อนโยนอย่างที่น้อยครั้งจะได้เห็น
“ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าชอบได้หรือเปล่า แต่คุณพิเศษกว่าคนอื่น”
ถึงตอนนี้จะยังไม่ชัดเจน...แต่ก็ดีกว่าไม่มีโอกาส
กุมภ์บอกกับตัวเองแบบนั้น…
ไม่มีที่ไหนปลอดภัยมากกว่าบ้านของตัวเอง นั่นคือเรื่องจริง อ้อมกอดของพ่อและแม่อบอุ่นเสียยิ่งกว่าผ้าห่มร้อยผืนเสียอีก กุมภ์ซุกหน้าลงกับอกอุ่นของมารดา เพิ่งรู้ว่าคิดถึงท่านมากแค่ไหนก็ตอนนี้นี่เอง มืออ่อนนุ่มของท่านลูบแผ่วเบาที่ศีรษะ โดยมีบิดายืนอยู่ไม่ห่าง ไม่มีคำต่อว่าต่อขานเรื่องที่เขาไม่ดูแลตัวเองจนป่วยนอนหยอดน้ำเกลือเสียสองวัน
ต้องขอบคุณความละเอียดอ่อนของปรางค์ เธอโทรมาถามเขาก่อนจะออกจากโรงพยาบาลว่าอยากจะได้อะไรมาฝากพ่อกับแม่ไหม เขาเลือกไม่เป็น เลยยกหน้าที่นี้ให้ปรางค์ เธอเก่งในเรื่องนี้อย่างที่คิดไว้ ทั้งขนมขึ้นชื่อ อัญมณี และสมุนไพรอีกหลายอย่าง
“ไหนซื้ออะไรมาฝากแม่ เยอะแยะเลย” แม่ถาม พลางฉุดมือให้ลงไปนั่งด้วยกันบนโซฟานุ่มตัวใหญ่
“ผมไม่ได้ซื้อเองหรอกครับ ปรางค์จัดการให้” เขายกความดีความชอบนี้ให้ปรางค์แต่เพียงผู้เดียว
“หนูปรางค์นี่น่ารักจริง ตอนที่กุมภ์นอนโรงพยาบาล ปรางค์โทรมาหาแม่ทุกวัน เล่าให้ฟังว่าอาการของกุมภ์เป็นยังไง”
“ครับ” กุมภ์ยิ้มรับ ปรางค์ก็เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังเหมือนกันระหว่างเดินทางกลับ แต่เขาไม่เหลือสติไม่มากพอที่จะฟังทุกเรื่องที่เธอเล่า ส่วนใหญ่เขาจะหลับและแอบตอบไลน์ใครบางคนมากกว่า
หลังจากปลอบขวัญกันอยู่พักใหญ่ พ่อกับแม่ก็ปล่อยให้เขาได้พักผ่อน กระเป๋าเป้ถูกเด็กในบ้านยกขึ้นมาวางบนห้องพักเรียบร้อยแล้ว กุมภ์ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอบอุ่นที่หายห่างจากมันเสียหลายคืน ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดไว้คอยท่าช่วยทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น ถึงจะสู้ลมจากธรรมชาติไม่ได้ก็ตามที
สามชั่วโมง...ไม่ขาดไม่เกินจากนี้ที่เขาไม่ได้ติดต่อกับคนทางไกล แค่คิดถึงหน้าดุๆ โหดๆ ริมฝีปากก็ยกยิ้มอย่างห้ามไม่ได้เสียแล้ว
แม้จะคิดถึง แต่เขาไม่อยากรบกวนอีกคน ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว คนๆ นั้นกำลังสวดมนต์อยู่หน้าหิ้งพระ พักใหญ่นั่นแหล่ะกว่าจะเสร็จสิ้นธุระ
ข้อความสุดท้ายที่โหรพิมพ์ไว้คืออวยพรให้เขาผ่านพ้นเรื่องต่างๆ ไปด้วยดี
กุมภ์ถอนหายใจ ปล่อยมือจากโทรศัพท์ เรื่องต่างๆ ที่โหรว่าคือ การยอมรับตัวตนและเปิดเผยให้คนที่รักรู้ มันไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ ขอเพียงแค่กล้าพอเท่านั้น เปลือกตาเหนื่อยล้าปิดลงภาพเหตุการณ์เมื่อคืนไหลย้อนอยู่ในความคิด
เตียงนอนผู้ป่วยคับแคบเกินไปสำหรับผู้ชายสองคน ดังนั้นโหรเลยเลือกที่นอนพื้นข้างๆ แทนโซฟา โหรใช้แค่ผ้าห่มผืนบางปูนอนกับหมอนอีกใบ โดยมีแค่ปลายนิ้วที่เกาะเกี่ยวกันไว้แทบจะทั้งคืน แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่ เรื่องของโหรสนุกและน่าสนใจกว่าเขานัก แต่โหรก็ตั้งใจฟัง ถามแทรกเป็นระยะ จนสุดท้ายก็มีคำถามที่เขารู้ตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่เมื่อไร เขาตอบไปตามความเป็นจริงแถมยังเล่าเรื่องที่เขาเคยแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งด้วย แต่สุดท้ายก็อกหักเพราะอีกฝ่ายมีแฟนเป็นผู้หญิงแถมยังท้องก่อนแต่งอีก
โหรนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะถามถึงรูปร่างของรุ่นพี่คนนั้น เขาไมโกหกหรอกว่ารักแรกของเขาหล่อเหลาเอาการไม่หยอกแบบหนุ่มในเมือง เขาได้ยินเสียงโหรหัวเราะในคอเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดแทรกอะไร และกลายเป็นฝ่ายเขาที่ถามถึงรักครั้งแรกของโหรบ้าง
แฟนคนแรกของโหรชื่อ ‘แพร’ เธอเป็นผู้หญิงสวย หน้าตาคมคาย ผิวพรรณขาวสะอาด เป็นผู้หญิงที่ผู้ชายเกือบทั้งมหาวิทยาลัยปรารถนาจะได้ครอบครอง แล้วเธอก็เลือกโหร โหรจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพราะไม่เคยรักใครมาก่อน ถึงกับวางแผนแต่งงานสร้างครอบครัว แต่ก็ไม่รอดเพราะรักแท้แพ้ความสุขสบาย โหรเล่าว่าประวัติศาสตร์ความรักของตนกับพ่อเหมือนกันไม่มีผิด คือถูกทิ้ง
‘ผมได้ข่าวว่าเธอแต่งงานกับนักธุรกิจต่างชาติไปแล้วเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้คงสุขสบายอยู่กองเงินกองทอง’
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่โหรพูดถึงแพร
แวบแรกที่ได้ยินโหรเล่าเรื่องคนรัก เขาแอบอิจฉาเธอ น้อยคนนักจะรู้ว่าโหรเป็นผู้ชายอบอุ่นและอ่อนโยน แม้ว่าภายนอกจะดูกระด้างกระเดื่อง ซ้ำยังหน้ายังโหด ตาดุเหมือนเสือ คิดไม่ออกเลยว่าตอนมีแฟนโหรปฏิบัติตัวต่อเธออย่างไร
ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ยังห่างไกลคำว่า ‘คนรัก’ หรือ ‘แฟน’ แต่เขานิยามมันว่า ‘ความรู้สึกดีที่มีให้กัน’ เขาอบอุ่นหัวใจและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้โหร ขณะที่โหรก็พูดคุยอย่างเป็นกันเองมากกว่าเดิมหลายเท่า เขาได้เห็นหลายมุมที่ไม่เคยได้เห็น แม้จะเพียงแค่ข้ามคืนก็เถอะ พวกเขานอนแตะปลายนิ้วกันแล้วก็หลับไป ทุกอย่างเหมือนความฝัน แต่สิ่งที่อิ่มเอมอยู่ในใจมันยืนยันว่าคือเรื่องจริง
แต่ยังมีสิ่งที่เขาจะต้องทำ และจำเป็นมาก
*พอมันหวานก็จะแปลกๆ เนาะ มี nc ด้วยนะ แต่ต้องรอนิดนุง*
**รักษาสุขภาพกันด้วยเด้อ**
***เจอกันวันศุกร์หรือไม่ก็เสาร์นะจ๊ะ***