(ต่อ)
หลังจากปรับความเข้าใจกันเขาก็ชวนกุมภ์กลับบ้าน ตอนที่มาถึงจ้าวจอมก็ยิ้มเผล่พร้อมกับต้มยำไก่บ้านถุงใหญ่พอดี ไม่รู้ว่ามีญาณทิพย์มาจากไหนถึงได้รู้ว่ากุมภ์จะมา แต่พอเห็นแผลก็ตกใจตาโต ถามไถ่ที่มาที่ไปทุกซอกทุกมุมเสียยิ่งกว่าเจ้าพนักงานสอบสวน เขาตัดรำคาญไล่มันไปเจียวไข่เพิ่ม และให้กุมภ์ไปอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็จัดการหุงข้าวหุงปลา เพราะเย็นมากจนแทบจะหมดแสงสุดท้ายของวันแล้ว
“ได้ยินมาว่าตรงนั้นมีอุบัติเหตุบ่อยด้วยล่ะ”
หนุ่มต่างถิ่นเงยหน้ามองคนพูด มือที่กำลังตักต้มยำกุ้งชะงัก ต้องถามต่อทันทีด้วยความสงสัย “ยังไงเหรอ”
“ผมเคยได้ยินว่าตรงนั้นมีตัวตายตัวแทน” เด็กหัวเกรียนว่า “คนตายหลายรายแล้ว เพื่อนผมมันเคยเล่า ตอนกลางคืนมีคนออกมายืนโบกรถ วิ่งตัดหน้ารถบ้าง หรือไม่ก็กระโดดขึ้นรถมาด้วยก็มี”
“มึงมันขี้โม้” ผู้อาวุโสสุดขัดขึ้น ตัดไข่เจียวใส่จานคนรัก “อย่าไปฟังมันมาก ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรที่ไหน โรงเรียนผมอยู่แถวนั้น จะไม่เคยได้ยินได้ยังไง” เด็กจอมกวนย่นจมูกใส่ ก่อนจะตัดไข่เจียวไปทีเดียวครึ่งจาน ข้อหาหมั่นไส้
“น่ากลัว” กุมภ์ลูบขนที่แขน หากที่จ้าวจอมเล่าเป็นเรื่องจริง เขาโชคดีมากจริงๆ ที่ไม่ได้ไปเป็นตัวตายตัวแทนของใคร
“ดีแล้วที่พี่ไม่เป็นอะไร ว่ากันว่าปีหนึ่งจะต้องหาคนไปบูชาเจ้าป่า 19 ศพ ด้วยล่ะ”
“ไอ้เพ้อเจ้อ! ขืนพูดอะไรให้แฟนกูกลัวอีก กูจะสั่งให้ไอ้ลายตะปบมึง”
“เชอะ! พวกบ้าอำนาจ แค่ฆ่าไอ้บอดได้ก็ทำมาเป็นเบ่ง ไอ้ลายพี่อ่ะ ผมเอาหนังสติ๊กยิงสองทีก็วิ่งหางจุกตูดแล้ว” จ้าวจอมแลบลิ้นใส่ ไม่มีทีท่าจะกลัวคำขู่สักนิด
โหรส่ายหน้าด้วยระอาใจความกวนบาทาของไอ้เด็กหัวเกรียน มันดื้อตาใส ใช้หน้าตาที่กระเดียดไปทางจิ้มลิ้มมากกว่าจะหล่อเหลาหลอกให้คนเชื่อว่ามันเป็นเด็กนิสัยน่ารัก แท้จริงแล้ว ทั้งกวน ทั้งพูดมากอย่าบอกใคร
“เออ แล้วนี่พี่จะมาอยู่กี่วันแล้ว....ทำไมไม่ชวนเพื่อน เอ่อ เพื่อนๆ พี่มาด้วยล่ะ” จ้าวจอมเปลี่ยนเรื่อง ชั่วจังหวะหนึ่งที่แก้มใสซับสีเลือด แต่แค่พริบตาเดียวก็กลับมาเป็นปกติ
“ไม่มีใครว่างน่ะสิ ชาร์ลกับคะนิ้งไปทำบุญแถวภาคเหนือ ส่วนรชตเห็นว่าต้องช่วยปรางค์ดูเรื่องร้าน ปรางค์กำลังจะเปิดร้านเค้กน่ะ แล้วก็ไอ้พัน” กุมภ์จงใจเว้นระยะ เพราะอยากจะแกล้งเด็กแถวนี้เล่น “มันติดไปช่วยรุ่นพี่ถ่ายรูปที่นครนายกน่ะ เข้าป่าอีกแล้ว แต่ได้ข่าวว่าได้ของดีไปจากเราแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีอะไรเลย แค่คาถาบทสองบท เผื่อเจอไอ้ลาย”
ไอ้ลายที่ว่าคือเสือ พันนาไม่ได้กลัวหรอก แต่จ้าวจอมไม่ไว้ใจ ขึ้นชื่อว่าป่าไม่ว่าที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น เลยมาขอคาถาป้องกันตัวจากโหรไปให้ใช้คุ้มครองตัว เมื่อตอนเย็นก็เพิ่งจะไลน์มาบอกว่าขึ้นมาอยู่บนห้างแล้ว ดีที่คราวนี้มีเจ้าหน้าที่ไปด้วย เลยไม่ต้องกลัวมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังจะออดอ้อนขอกำลังใจอยู่ดี
ใครใช้ให้ไปกัน ทำเป็นหน้าใหญ่อาสาไปทั่ว!
“อิ่มแล้ว กลับดีกว่า เดี๋ยวแม่เป็นห่วง” จ้าวจอมลุกขึ้นหลังจากจัดการข้าวหมดจาน แล้วเผ่นลงเรือนไปทันที ราวกับจะกลัวเรียกให้กลับมาล้างจาน
โหรส่ายหน้าอีกรอบ ถึงมันจะกวนไปสักหน่อย แต่เพราะจ้าวจอมนี่แหล่ะที่ทำให้ชีวิตไม่เงียบเหงาเกินไป
“กินเยอะๆ เดี๋ยวกินยา”
เจ้าของบ้านบอกคนเจ็บ ถึงจะเป็นแผลไม่เยอะ แต่คืนนี้ต้องอักเสบแน่นอน กุมภ์พยักหน้าหงึก รู้สึกเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ ถึงแม้จะมีแค่ต้มยำกับไข่เจียวก็ตาม เรือนหลังเก่าที่ได้รับการรีโนเวทเสียจนใหญ่โตกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แข็งแรงขึ้นเป็นสิบเท่า ดูน่าอยู่น่านอนกว่าเดิมเป็นไหนๆ ตำหนักครูบาอาจารย์ถูกจัดให้อยู่ในห้องหับเรียบร้อย ตัวบ้านไม่ใช่แค่ไม้เก่าคร่ำคร่าอีกต่อไปแล้ว กลายเป็นครึ่งไม้ครึ่งปูน มีที่จอดรถ มีระเบียงยื่นออกไปรับลม มีสวนสำหรับปลูกสมุนไพร แต่ถ้าจะถามหาดอกไม้ก็คงจะผิดหวัง เพราะเจ้าของบ้านไม่นิยมของสวยๆ งามๆ จะมีก็แค่ดอกของต้นสมุนไพรต่างๆ ที่ปลูกไว้
ถึงตอนนี้จะรับราชการมีหน้าที่การงานมั่นคงแล้ว แต่โหรก็ยังชอบปลูกสมุนไพร ใช้หัวใช้ใบบดเป็นยาเอาไว้แจกชาวบ้านยามที่มีคนเจ็บป่วย โหรยังคงเป็นหมอไร้ปริญญารับรองของชาวบ้านอยู่เหมือนเดิม
“อ้วนขึ้นหรือเปล่าอ่ะ” กุมภ์ทัก รู้สึกว่าหมอโหรจะตัวใหญ่กว่าเดิม ถึงจะไม่มีพุงยื่นออกมาให้เห็นก็ตาม
“ไหน ใครอ้วน ตัวเองหรือเปล่าเถอะ แก้มจะแตกอยู่แล้ว”
กุมภ์ยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองทันทีที่โดนทักกลับ จริงด้วยสิ เพราะปรางค์กำลังจะเปิดร้านเค้ก เขาเลยได้กลายเป็นลูกค้าวีไอพีก่อนร้านจะเปิดอย่างเป็นทางการ ไหนจะคุกกี้ ขนมปังไส้ต่างๆ นี่ยังไม่นับรวมชา กาแฟ อีกหลายแก้ว
อ้วนแล้วไงล่ะ!
เชอะ!
กุมภ์เชิดหน้าไม่สนใจ ตักข้าวกินต่อ เคี้ยวหยับๆ แม้จะขุ่นเคืองใจไม่หายที่โดนทักว่าอ้วนกลับมาบ้าง
โหรไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางแบบนั้น เขากินข้าวต่อจนอิ่ม เรียกว่าข้าวที่หุงไว้หมดเกลี้ยงไม่เหลือสักเม็ด น้ำต้มยำแห้งขอด ไข่เจียวก็ไม่เหลือซาก ตบท้ายด้วยเงาะและมังคุดที่ซื้อติดมือมา กุมภ์อาสาล้างจานแต่เขาห้ามและกำชับให้กินยา จากนั้นก็ยกสำรับทั้งหมดไปล้างในครัว
ระเบียงหน้าบ้านเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับกุมภ์ในยามนี้ แสงไฟจากหลอดนีออนสว่างไสวไปทั่วบริเวณ โหรให้คนรู้จักช่วยรีโนเวทบ้านเสียจนแทบไม่เหลือเค้ากระท่อมเก่าๆ อย่างที่เคยเห็น ลมอ่อนๆ พัดเอากลิ่นหอมของดอกอะไรสักอย่างที่โหรปลุกไว้ชวนให้ชื่นใจ ดาวดวงน้อยค่อยๆ เปล่งแสงเมื่อฟ้ามืดลง กุมภ์นั่งลงบนโต๊ะไม้ตัวอย่างที่ตอกติดกับระเบียง ห้อยข้าลงไปด้านล่าง ปล่อยเท้าแกว่งไปมาเหมือนนั่งชิงช้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเวลาไม่ถึงปี หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปมาก แม้แต่กับตัวเขาเอง
เมื่อหลายเดือนก่อน เขายังเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาที่เอาแต่เก็บความลับเรื่องที่เป็นเกย์เอาไว้ ชีวิตไร้สีสัน กระทั่งได้มาเที่ยวบ้านของพันนาที่จังหวัดนี้ เขาก็ได้พบเจอเรื่องราวอัศจรรย์พันลึกมากมาย ทั้งภูตผี ปิศาจ อมุษย์ หรือแม้แต่เสือสมิง มันน่าเหลือเชื่อเกินไป หากไม่ประสบด้วยตัวเองเขาก็จะไม่มีวันเชื่อโดยเด็ดขาด
เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง นอกจากพ่อแม่ กลัวจะถูกกล่าวหาว่าเพี้ยน เจ้าหน้าที่ที่เช้ามาช่วยเหลือหลังจากออกมาจากป่าได้แล้วก็ยังไม่มีใครกล่าวถึง ราวกับทุกคนรู้ดีว่าแท้จริงแล้วลึกลงไปในป่ามีอะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
กุมภ์คิดย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน ที่เล่าให้โหรฟังว่ารถเสียหลักตกข้างทางนั้น ที่จริงแล้วเขาเห็นเงาดำไร้รูปร่างวิ่งผ่านหน้ารถ เลยหักพวงมาลัยหลบ แต่กลับกลายเป็นว่ารถเขาตกไล่ทางพุ่งเข้าชนกับต้นไม้ โชคยังดีที่อะไรบางอย่างกระชากเขาออกมาจากรถได้ทัน ดังนั้นเขาเลยค่อนข้างตกใจและหวาดกลัวไม่น้อยตอนที่ได้ยินจ้าวจอมเล่าเรื่องถนนเส้นนั้นให้ฟัง ส่วนรถอยู่ในอู่เรียบร้อยแล้ว เมื่อกี้ก่อนจะกินมื้อเย็นลองโทรไปถามช่างแล้ว อีกสองอาทิตย์กว่าจะเสร็จ ประเมินค่าใช้จ่ายก็ร่วมแสนบาท ดีหน่อยที่ทำประกันชั้นหนึ่งเอาไว้
พ่อกับแม่ไม่ได้โทรถามอะไรอีกหลังจากบ่นยาวเหยียด แค่สั่งไม่ให้เขาขับรถกลับบ้าน คิดๆ แล้วตัวเองโชคดีหลายชั้นเหลือเกิน เจออะไรมากมาย เสี่ยงต่อชีวิตหลายครั้งแต่ก็รอดได้ทุกครั้ง ใครจะว่าเขางมงายก็ได้ แต่พรุ่งนี้เขาจะชวนโหรไปทำบุญให้พิกุล
“คิดอะไรอยู่” เสียงห้าวดังขึ้นข้างๆ เขาหันหน้าไปทางคนถาม ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าหมู่นี้โหรดูดีขึ้น กล้ามเนื้อแน่นกว่าเดิมที่บอกว่าอ้วนคงเพราะเป็นมัดกล้ามที่ใหญ่และแข็งขึ้น
ส่วนเขาไขมันล้วนๆ!
“พรุ่งนี้ไปทำบุญให้พิกุลกัน” เขาชวน “วัดที่พันเคยบวชน่ะ”
“เช้าคงไม่ทัน เดี๋ยวค่อยไปถวายข้าวเพลหลวงตาก็แล้วกัน”
กุมภ์พยักหน้าเห็นด้วย กะทันหันเกินไปหน่อยเลยไม่ได้เตรียมอะไร แถมแถวนี้ก็ไม่มีตลาดเสียด้วยต้องขับรถเข้าเมืองไปหลายกิโลกว่าจะมีร้านขายของ
“บ้านใหม่สวยดี” เขาชม ยื่นหน้ารับลมเย็นๆ มันสบายยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศในห้องนอนเสียอีก
“ค่าจ้างช่างโคตรแพง ลองออกมาไม่ดีสิ พ่อจะให้ไอ้นิลไปเล่นงานให้บ้านพัง”
นิลคือควายธนูที่เคยช่วยชีวิตพวกเขาเมื่อคราวที่ต้องปะทะกับตาเวก เขาไม่ได้ติดใจเรื่องนิลหากแต่เป็นค่าจ้างที่ว่าแพงต่างหาก “เสียเงินไปเท่าไรเหรอ ถ้ารู้สึกว่ามันเกินไป ผมหาทางฟ้องร้องให้ได้นะ”
“หึ ไม่ขนาดนั้นร๊อกครับคุณทนาย” โหรแซว ว่าที่ทนายเลยหันมาค้อนใส่ “แค่ต้มยาแก้ล่มปากอ่าวให้มันไปเท่านั้นเอง”
“ทะลึ่งว่ะ” กุมภ์ว่าขณะที่หน้าร้อนผ่าว เพิ่งรู้ว่าหมอโหรมีตำรายาแบบนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน
“อยากจะลองดูไหมล่ะ แต่อย่างเราสองคนอ่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยหรอก” โหรยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ชวนเสียวสันหลังชอบกล...
รายงานความคืบหน้า "ไพรพิศวง 2 รักเธอจนตาย"
เป็นคู่ของจ้าวจอมกับพันนาเดินเรื่องนะคะ วางพล็อตแล้ว เรื่องย่อก็จัดการเรียบร้อย และกำลังแต่งบทนำค่ะ
รอสักหน่อยเด้อ เพราะงานประจำพรากเอาพลังงานไปเยอะเหลือเกิน
รักทุกคนนะคะ