Hunter of the sea พรานทะเล l อัพ! ตอนพิเศษ PARTY CHRISMAS l 26/12/62 P.7
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Hunter of the sea พรานทะเล l อัพ! ตอนพิเศษ PARTY CHRISMAS l 26/12/62 P.7  (อ่าน 35411 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 :pig4:สำหรับนิยายดีๆค่ะ :L2:

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
สนุกมากค่าา
อ่านแล้วอยากไปเที่ยวใต้เลย 5555
อยากไปเล่นน้ำทะเลอีก
ขอบคุณมากๆค่าาา
 o13 o13

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เป็นเรื่องราวที่น่ารักมากค่ะ
น้องรุ่งน่ารักมาเลย ชอบตังเกด้วย
อ่านเพลินมากได้ ำด้ความรู้เกี่ยวกับการมำประมงด้วย

ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ

ออฟไลน์ แสงเหนือ/Aurora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ตอนพิเศษ

แจ็ค แดเนียล



หนุ่มร่างสูงถอดแว่นสีชาออกหลังจากเรือรับส่งจอดให้ลงตรงจุดเทียบท่า แววตาทะเล้นทอดมองพุ่มไม้เลื้อยของต้นเฟื่องฟ้าลัดเลาะกิ่งก้านไปตามแนวสะพานด้วยสายตาชื่นชม ช่อดอกสีชมพูสดกำลังบานสะพรั่งตัดกับสีเทอร์ควอยซ์ของน้ำทะเล เขาอมยิ้มด้วยความพึงพอใจขณะก้าวเดินไปยังกระท่อมรีเซฟชั่นเบื้องหน้า เสื้อฮาวายที่หยิบฉวยมาใส่แบบลวกๆ ถูกลมทะเลพัดโกรกจนเห็นมัดกล้ามอยู่รำไร อากาศดีมากจนได้กลิ่นสะอาดของสายลม แม้ดวงอาทิตย์จะแผดจ้าอยู่กลางศีรษะแต่ไม่อาจลดทอนความสวยงามจากธรรมชาติลงไปได้เลย

“วงเดือนรีสอร์ทสวัสดีค่ะ”

“ผมต้องการพบเจ้าของรีสอร์ทครับ” เขาแจ้งความประสงค์ รีเซฟชั่นนิสสาวยิ้มค้างก่อนจะถามกลับด้วยความไม่แน่ใจ

“คุณลูกค้าอยากให้ทางเราช่วยอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ? หากยังไม่ได้จองห้องพักสามารถลงทะเบียนตรงนี้ได้เลยค่ะ เรายังมีห้องว่างให้บริการ” เธอยิ้มและพยายามถามความต้องการจากลูกค้า ถ้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่เธอก็ควรจะจัดการเอง ไม่ใช่โทรเรียกเจ้าของรีสอร์ททุกครั้งที่แขกเรียกหา “ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการบ้านพักแบบไหนคะ ถ้าเป็นโอเชียนวิวจะเห็นทะเลด้านหน้า ถ้าเป็นเมาท์เทนวิวจะเห็นป่าและภูเขาอยู่ด้านหลังค่ะ”

หนุ่มร่างสูงเคาะนิ้วบนเคาน์เตอร์ต้อนรับ พอหันมองไปรอบตัวก็เห็นลูกค้าของรีสอร์ทกำลังรอเช็คอินต่อจากเขาอีกหลายคน “เอาโอเชียนวิวก็ได้ครับ”

เธอยิ้มกว้างเมื่อเขาไม่ดื้อดึง “รบกวนขอพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวอย่างใดอย่างหนึ่งนะคะ”

ชายหนุ่มยื่นบัตรประชาชนให้เธอและกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนจนเสร็จ เธอยื่นกุญแจให้และเรียกพนักงานอีกคนมาช่วยนำทาง

รู้งี้โทรมาก่อนก็ดี

บ้านพักแบบโอเชียนวิวอยู่ทางฝั่งขวาของรีสอร์ท มีสะพานไม้ทอดยาวเป็นเส้นโค้งเชื่อมต่อบ้านพักแต่ละหลังเข้าหากัน เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นกระท่อมจำนวนยี่สิบหลังโอบล้อมแอ่งน้ำเป็นรูปใบพัดโดยมีกระท่อมของรีเซฟชั่นเป็นจุดศูนย์กลาง

หนุ่มร่างสูงวางกระเป๋าใส่กล้องเอาไว้บนเตียงหลังจากเดินเข้ามาในบ้านพัก เขาผลักบานหน้าต่างออกเพื่อชื่นชมวิวทะเลสีฟ้าใส เวิ้งอ่าวภายใต้หุบเขาเขียวขจีเหมือนเมืองลับแลที่ไม่มีใครพบเห็น นอกจากเรือใบของรีสอร์ทที่จอดลอยอยู่กลางอ่าวก็ไม่เห็นเรือลำไหนแล่นผ่านอีกเลย

สงบดีเหมือนกัน ได้ยินแต่เสียงคลื่นสาดกระทบบนชายหาดแทรกสลับกับเสียงนกร้องอยู่เป็นระยะ

เขาปิดบ้านพักแล้วเดินย้อนกลับมายังจุดรีเซฟชั่นอีกครั้งเพื่อผ่านไปยังห้องอาหารอีกฟากหนึ่งของชายหาด บริเวณนี้เป็นจุดสันทนาการสำหรับลูกค้าที่มาเข้ามาพัก มีทั้งห้องอาหาร ฟลอร์เต้นรำ ร้านขายของที่ระลึกและแปลงผักอินทรีย์ที่ปลูกเอาไว้สำหรับกินเอง

ถัดจากแปลงผักเป็นทางดินกว้างสองเมตร บริเวณโดยรอบถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ต่างจากอีกฟากที่เป็นสวนมะพร้าวเก่าแก่ ถูกขุดรอกจนกลายเป็นท้องร่องเพื่อรองรับกิจกรรมผจญภัย

เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดแล้วเดินลัดเลาะพุ่มมันปูเข้าสู่ทางดิน นอกจากแปลงผักแล้วยังมีแปลงดอกไม้หลากสีสันขึ้นเบียดกันแน่นขนัดจนกลายเป็นพุ่มดกหนา ถัดจากค้างไม้เลื้อยสำหรับบังสายตาเป็นอาคารโล่งๆ หลังหนึ่ง มุงด้วยใบจากสองชั้น ด้านในมีลำไม้ไผ่และอุปกรณ์สำหรับงานช่างวางเกลื่อน ใกล้ๆ กันมีเก้าอี้ไม้ไผ่ที่ยังต่อไม่เสร็จดีอยู่หลายตัว นึกแปลกใจที่อาคารไม้หลังนี้ไม่มีใครอยู่ ดูจากข้าวของที่ทิ้งไว้เกะกะน่าจะมีคนอยู่ไม่ต่ำกว่า 3-4 คน

จนกระทั่งได้ยินเสียงทุ่มเถียงกันดังแว่วมาจากด้านหลัง พอเดินไปดูก็เห็นกลุ่มคนที่เขาคาดไว้

“มึงบุบถั่วฝักยาวอีกนิดนึงสิวะไอ้ห่า ขนาดกระเทียมยังตำไม่แตกเลย มึงมีแรงไหมเนี่ย?”

“ตำแรงก็บน ตำค่อยก็บ่น เอาใจยากจริ๊ง” คนตำบ่นออดแอด ไม่ได้เกรงกลัวคนสั่งเลยสักนิด

“เดี๋ยวกูถีบตกแคร่ มึงไปแกะปูม้าเลย เดี๋ยวกูตำเอง” แย่งครกมาตำเองตามที่พูด พอได้ดั่งใจก็ปรุงรสและคลุกเคล้าจนได้กลิ่นเครื่องปรุงหอมฟุ้ง ปิดท้ายด้วยมะนาวฝานบางๆ ชวนให้น้ำลายสอ

“ช้อนๆ” เรียกหาช้อนแล้วชิมรส ทำปากจ๊อบแจ๊บสีหน้าปะแล่ม

“เป็นไงวะพี่”

“มันหรอยหนัด”

“โธ่ นึกว่าแดกไม่ได้ซะแล้ว”

“แดกไม่ได้ก็ไม่ต้องแดก”

“ดุอย่างกับหมาเลยเว้ย เมื่อคืนผัวไม่ทำการบ้านเหรอจ๊ะ” พูดยังไม่ทันขาดคำก็โดนถีบเข้ายอดอกจนหงายหลังฝุ่นตลบ ไม่มีใครเข้าไปช่วยแถมยังรอสมน้ำหน้า บ้างก็ถีบซ้ำด้วยสีหน้าสะใจ

“ไอ้ฟาย เดี๋ยวมึงก็โดนผัวเขาหักเบี้ยเลี้ยงหรอก”

“เรื่องอื่นแซวได้แต่เรื่องผัวห้ามแซวเว้ย..ใช่ไหมพี่”

“ไอ้พวกเหี้ย!”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

เสียงหัวเราะครึกครื้นดังลั่นสะท้านป่า คนถูกแซวกระตุกยิ้มร้าย ลับมีดกับปากครกด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

เด็กวัยรุ่นห้าคนพร้อมใจกันหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงคมมีดเสียดแทงในหู สีหน้าเจี๋ยมเจี้ยมผิดกับเมื่อครู่นี้ลิบลับ พวกเด็กๆ พากันส่งซิกขยิบตาให้ช่วยกันหั่นข้าวโพดและขูดแครอทอย่างเร่งรีบ กว่าจะใส่ปูม้าลงไปตำในขั้นตอนสุดท้ายก็เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่กกันเป็นทิวแถว

“ไม่เจอกันตั้งนาน ดูเป็นแม่บ้านแม่เรือนขึ้นนะมึง”

“หือ?” ทุกคนหันขวับมามองเขาด้วยสีหน้าสงสัย ชายหนุ่มจับจ้องคนตำเป็นพิเศษ พอเห็นอีกฝ่ายทำตาโตเท่าไข่ห่านเขาก็ยักคิ้วให้พร้อมกับหลุดยิ้มขำ

“คุณสิปา!” รุ่งภพรีบลุกมาหาด้วยความตื่นเต้น ลอบสำรวจร่างกายเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนสแกนหาความผิดปกติ “แม่บ้านแม่เรือนอะไรกันครับ คุณก็พูดไปเรื่อย”

“กูก็พูดตามที่เห็น ไม่นึกว่ามึงจะทำอาหารคล่องขนาดนี้” ท่าควงสากลับมีดไม่ธรรมดาเลย นึกสงสารเพื่อนตัวเองขึ้นมาตะหงิด “แล้วทำอะไรกินอ่ะ? กูกินด้วยได้ไหม”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ?” พาไปนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ พวกเด็กๆ พากันลุกพรึ่บแล้วยกมือไหว้เขาแบบงงๆ “คุณมาได้จังหวะพอดีเลย เมื่อเช้าคนที่แพเพิ่งเอาปูม้ามาส่ง ผมอุตส่าห์บากหน้าไปขอแบ่งมาจากคุณเชฟเลยนะ ตั้งใจจะตำปูม้าให้ไอ้ลิงพวกนี้กินกัน”

“มึงใช้คำว่าบากหน้าเนี่ยนะ? ระดับแฟนเจ้าของเกาะเลยนะเว้ย” พวกเด็กๆ พากันพยักหน้ากันหงึกหงักแต่ก็รู้ฤทธิ์ของเชฟประจำเกาะดี

“เขาต้องควบคุมวัตถุดิบนี่ครับ ยิ่งไม่ใช่หน้าปูด้วย เขาก็ต้องกันไว้ให้ลูกค้าก่อนสิ” รุ่งภพช่วยแก้ต่างให้ ความจริงแล้วเชฟไม่ใช่คนใจร้ายอะไรหรอก เขามีนิสัยนิ่งๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นเรื่องของอาหารจะจริงจังมาก ถึงขั้นคำนวณปริมาณต่อจานกันเลยทีเดียว “แล้วคุณล่ะครับ หายไปไหนมา ไม่ติดต่อมาบ้างเลย”

“ไปใช้ชีวิตมา”

“เอาดีๆ สิครับ คุณตรัยเป็นห่วงคุณมากนะ” พอส่งมอบรีสอร์ทให้ตรัยเสร็จก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย งานเปิดตัวก็ไม่มา โทรไปก็ไม่ติด

“กูไปอยู่ไซต์ที่เบตงมา มันไม่ค่อยมีสัญญาณอ่ะ อยู่ในหุบเขา”

รุ่งภพอ้าปากค้าง ไล่สายตาสำรวจคนตรงหน้าอีกครั้งเพราะรู้ดีถึงสถานการณ์ตึงเครียดที่ชายแดนใต้ “คุณไม่กลัวเหรอ?”

“มันไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอก เบตงน่ะปลอดภัยสุดแล้วเพราะมันเป็นเมืองปิด ด่านตรวจเยอะจะตาย พวกก่อเหตุมันมีเป้าหมายไม่ค่อยยิงใครมั่วซั่วหรอก ถ้าจะเดินทางก็อย่าออกหลังบ่ายสาม ยิ่งเป็นวันศุกร์ยิ่งห้ามเลย ชาวบ้านเขาไปละหมาดกัน พอถนนว่าง ทางก็เปลี่ยว เราจะตกเป็นเป้าได้ง่าย”

“หูย..เกิดวันดีคืนดีเปรี้ยงปร้างขึ้นมา คงได้นอนยาวอ่ะครับ..เนอะ”

“มึงเนอะกับใคร” รุ่งภพดึงหน้าถาม ไอ้เด็กพวกนี้ นับวันยิ่งปีนเกรียว

“ขอโต้ดก๊าบ”

“แล้วต้องกลับไปอีกไหมครับ”

“คงไม่ได้กลับแล้วล่ะ งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวกลับไปประจำไซต์ที่ระยองต่อ”

รุ่งภพถอนหายใจโล่งอก ตักตำปูม้าใส่ถาดแล้วแล้วยื่นช้อนให้กับเขา “เจอคุณตรัยหรือยังครับ”

“มันอยู่ไหนอ่ะ ไม่เห็นเลย” สิปาส่ายหน้า เขายิ้มเมื่อเห็นเด็กๆ จ้องตำปูม้าตาละห้อย พอเขายังไม่กินก็ไม่มีใครกล้าตัก ถึงจะดูห่ามดูกวนไปบ้างแต่ก็รู้จักมารยาท ไม่ข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่อย่างเขา

“ถ้าไม่อยู่ที่รีเซฟชั่นก็น่าจะอยู่ที่ศูนย์ดำน้ำครับ”

“มีศูนย์ดำน้ำด้วย?” เขาถามขณะเคี้ยวก้ามปูเนื้อหนึบ พอรุ่งภพพยักหน้าอนุญาตพวกเด็กๆ ก็จ้วงช้อนแย่งปูกันอย่างเมามัน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือแต่ข้าวโพดกับแครอทเอาไว้ให้ดูต่างหน้า คนเก็บกินก็ไม่ใช่ใคร ลูกพี่ของพวกมันนั่นแหละ “อยู่ตรงไหนวะ”

“อยู่ข้างล็อบบี้ครับ มันจะมีศาลายื่นออกมานอกสะพานอ่ะ เอาไว้เป็นจุดรวมพล ออกเรือ แล้วก็ดูตารางเวลาดำน้ำ”

“อยู่ในทะเลเลยเหรอ นึกว่ามีสระว่ายน้ำแยกให้ต่างหาก”

“เราไม่ได้สอนดำน้ำครับ เป็นแค่ศูนย์จัดเตรียมอุปกรณ์เฉยๆ” รุ่งภพส่งถาดและครกให้เด็กๆ เอาไปเก็บล้างหลังจากกินกันจนอิ่มไม่เหลืออะไรเลย “คุณจองห้องพักเอาไว้หรือเปล่าครับ?”

 “จองแล้ว อยู่ฝั่งขวา”

“เดี๋ยวผมให้คนไปย้ายของให้นะครับ คุณตรัยเขาสร้างบ้านพักแยกเอาไว้ต่างหากตรงเชิงเขาน่ะครับ จะได้ไม่ปะปนกับลูกค้า”

“ตรงไหนวะ? อยู่ลึกไหม”

“ลึกอะไรล่ะครับ อยู่ติดทะเลเลย สงสัยต้นไม้จะบังอ่ะ บางหลังก็สร้างอยู่บนต้นไม้โน่น”

“มันคิดว่าตัวเองเป็นทาร์ซานหรือไง ไม่ต้องเดินเข้าบ้านแต่โหนเข้าไปไรงี้” รุ่งภพหัวเราะจนตาปิดเมื่อเขาเปิดปากแซะเพื่อน ส่วนเด็กๆ พากันยิ้มแห้งไม่กล้าลามปามเจ้าของเกาะ “แล้วเด็กพวกนี้ใครวะ ไม่ไปเรียนกันเหรอ?”

“เด็กในรีสอร์ทนี่แหละครับ มีเรียนแค่ครึ่งเช้า เรียนเสร็จก็กลับมาช่วยผมทำเฟอร์นิเจอร์ต่อ”

“เรียนช่างเหรอ?” เขาถามเพราะเด็กบางคนยังใส่เสื้อช็อปอยู่

“เรียนช่างสามคน เรียนคอมฯ สองคนครับ”

“อ่อ พอว่างก็มาเป็นลูกมือช่วยมึงว่างั้น” รุ่งภพพยักหน้าแต่พวกเด็กๆ สั่นหัวกันด็อกแด็ก

“พี่รุ่งบังคับครับ” ไอ้อ้นเป็นคนเริ่ม

“หลอกให้มาศึกษาดูงานแต่ความจริงใช้ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ” ไอ้บาสสุมไฟ

“ช่าย จิกหัวใช้อย่างทาสในเรือนเบี้ย” ไอ้แม็กสาดเชื้อเพลิง

“พอไม่ได้ดั่งใจก็ทุบตี” ไอ้ป๊อกระบายความเจ็บช้ำ ส่วนไอ้ต้น..

“บังคับขืนใจจนต้องยอมพลีกาย” คนเล่านั่งพับเพียบบนพื้น ป้ายน้ำลายใต้ตาเป็นเอฟเฟ็กต์ ร้องไห้กระซิกเหมือนคนบ้า

“เดี๋ยวก่อนไอ้ต้น มึงมาพลีกายให้กูตอนไหน” รุ่งภพถึงกับกุมขมับ อยากจะยกเท้าถีบไอ้พวกนี้เรียงตัว เรื่องกดขี่เขายอมรับแต่เรื่องบังคับขืนใจเขาปฎิเสธ

“พี่จำไม่ได้เหรอ วันก่อนยังให้พวกผมครางให้ฟังอยู่เลย อุ๊ย อุ๊ยๆ อุ๊ยๆ”

“โอ๊ะ โอะโอะ โอะโอ๊ะ”

“อิ๊ อิอิ อิอิ๊”

“อ๊าย อายๆ อ่ายอ๊าย อ่ายๆ อ้ายจ๋า”

สิปาหัวเราะจนกรามค้างเพราะไอ้เด็กพวกนี้ดัดเสียงซะจนแหลมปรี๊ด แถมไอ้คนต้นเรื่องยังจับเพื่อนมาแทงข้างหลังแสดงภาพประกอบอีก เลียนแบบได้เกือบเหมือน ยกเว้นอารมณ์บนใบหน้า

“ไอ้พวกเวรตะไล กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าพวกมึงแล้วโว้ย” รุ่งภพเหมือนคนปรอทแตก ไม่อยากจะคิดเลยว่าโดนไอ้เด็กพวกนี้ปู้ยี่ปู้ยำทางสายตามากี่รอบ

“ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะ เสียงดังไปถึงข้างหน้า”

“คุณตรัย ฮือ~” พอเจ้าของมาก็เบะปากเตรียมฟ้อง พวกเด็กๆ สะดุ้งเฮือกกันเป็นแถว ยืนกุมเป้า ก้มหน้าคอตก รอรับชะตากรรมจากเจ้านาย “ไอ้เด็กพวกนี้มันแกล้งผม”

“เปล่านะ!”

ปฏิเสธเสียงแข็งแต่ท่าทางร้อนตัว ตรัยส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ พอกันนั่นแหละทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ “ไงมึง โผล่หัวมาได้แล้วเหรอ” เขาเอ่ยทักเพื่อน แอบเห็นพวกเด็กๆ ถอนหายใจโล่งอก พากันยิ้มรื่นเมื่อเขาไม่เอาความ

“คิดถึงเลยมาหา”

“ขนลุกไอ้สัด มึงมาก็ดีแล้ว มาช่วยกูทำสระว่ายน้ำหน่อย”

“สระว่ายน้ำอะไรวะ ไหนบอกไม่ทำไง”

“ตอนแรกก็กะจะไม่ทำนั่นแหละ แต่ลูกค้าดำน้ำไม่เป็นกันเยอะ กูเลยเปิดเป็นคอร์สสั้นๆ สอนแค่ดำน้ำตื้นพอ” เขาเดินไปหาคนรัก ดูเหมือนรุ่งภพจะลืมเรื่องฟ้องไปชั่วขณะ นั่งฟังตาแป๋วเชียว ถ้าไม่บอกอายุคงนึกว่ารุ่นราวคราวเดียวกับเด็กพวกนี้

“แล้วมึงจะทำตรงไหน”

“ใกล้ชายหาดนี่แหละ กูขุดสระเอาไว้แล้ว เหลือแค่ปูไม้ไผ่กับปูอิฐตัวหนอนเท่านั้นเอง”

สิปาเลิกคิ้ว สระว่ายน้ำในแบบของเพื่อนคงไม่เหมือนสระว่ายน้ำที่พบเห็นได้ทั่วไป “เออ ไปดิ..แต่กูคิดค่าแรงนะเว้ย”

“แจ๊ค แดเนียล พอไหม”

“สองขวด ไหวป่ะล่ะ”

“ไม่คุ้มเลยไอ้สัด กูไปจ้างคนอื่นดีกว่าไหม” ตรัยบ่นอุบ เฉพาะมันคนเดียวก็หมดไปหลายพันแล้ว

“ผมครับ ผมว่าง!”

“ผมก็ว่าง!”

“ผมด้วย!”

พอลูกพี่นำ ลูกน้องก็ส่งเสียงตามกันเป็นทิวแถว ตรัยส่ายหัว ไม่น่าพูดให้ได้ยินเลย “ร้องจะไปกันเนี่ย งานตัวเองเสร็จแล้วเหรอ”

“เอาไว้ทำพรุ่งนี้ก็ได้ ไม่รีบเนอะ”

“มึงเนอะกับใคร”

“เนอะกับพี่รุ่งนั่นแหละ วันนี้ไม่ทำหรอก ไม่มีสมาธิ..ไปทำสระว่ายกันดีกว่า เนอะๆ” หันไปพยักหน้าเออออกับเพื่อน มันจะไปมีสมาธิได้ยังไง เอาของดีมาล่อกันแบบนี้

“เอ้า จะไปก็ไป” ตรัยออกปากอนุญาตอย่างจนใจ พร้อมใจกันขนาดนี้ไม่ได้อยากช่วยอะไรหรอก อยากเหล้ากันมากว่า

สระว่ายน้ำประจำรีสอร์ทแวดล้อมไปด้วยแมกไม้สีเขียวขจี แม้จะอยู่ไม่ไกลจากชายหาดแต่ก็เข้ามาลึกพอสมควรจนมองไม่เห็นวิวทะเล ตอนพวกเราไปถึงคนงานกำลังผสมปูนซีเมนต์กันอยู่ บริเวณก้นสระปูไม้ไผ่เสร็จแล้ว เหลือแต่ผนังสี่ด้านและอิฐตัวหนอนบริเวณขอบสระ

“ฮื่อ..อย่ายุ่งน่า” ป๊อกผลักหมาอ้วนให้พ้นทาง มันสะบัดตูดแล้วเดินนวยนาดไปก่อกวนคนอื่นต่อ

“อีอ้วน กูเพิ่งฉาบปูนไปแหมบๆ มึงย่ำอีกแล้วเหรอ!” อ้นร้องโวยวายเสียงแหลม เหยาะปูนทับรอยเท้าแล้วฉาบใหม่อีกครั้ง เด็กหนุ่มกางแขนทั้งสองข้างออก ปกป้องผลงานของตัวเอง “ไปหาพ่อมึงเลย ชิ่วๆ”

ฟึ่ดดดดดดด

มันส่งเสียงฟึดฟัดแล้วสะบัดหน้าไปหาคนคุ้มกะลาหัว หลังจากเดินป่วนชาวบ้านเขาไปทั่วก็เดินไปนอนตากพุงอยู่แทบเท้าเจ้าของเกาะ สร้างความแค้นเคืองให้กับคนมองยิ่งนัก จะแกล้งก็ไม่กล้าเพราะเป็นหมาตัวโปรดของเจ้านาย

ตรัยลูบหัวมันแล้วยิ้มขำ เขาเห็นมันโดนไล่ตั้งแต่เข้าไปป่วนรุ่งภพแล้ว ปกติมันไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่นัก คงจะเหงาเพราะบนเกาะไม่มีเพื่อนตัวอื่นเลย

เอามาเลี้ยงเพิ่มอีกสักตัวดีไหมนะ?

สระน้ำรูปทรงแปลกตาเสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเป็นร่างในตอนเย็นย่ำ เราทำความสะอาดและชะล้างคราบปูนออกจนเห็นผิวไม้ไผ่สีเขียวสด หลังจากนั้นก็ทิ้งให้แห้งสัก 2-3 วัน แล้วค่อยทำกาลักน้ำถ่ายเทน้ำจากลำธารมาลงสระในภายหลัง

“น้องแจ๊คจ๋า พี่มาล้าววววว” เสียงลั้นลาจากเด็กๆ ดังขึ้นทันทีที่เสร็จงาน พอล้างเนื้อล้างตัวกันเสร็จก็วิ่งตามผู้ใหญ่กันเป็นพรวน

“ใครอายุไม่ถึง 18 ห้ามกิน”

คนอายุไม่ถึงโดนเบรคจนหัวทิ่ม อ้าปากเหวอหลังจากโดนหลอกใช้ แง้~ อายุไม่ถึงกี่คนวะ “มึง 18 ยัง?” หันไปถามกันจ้าละหวั่น สรุปมีกินได้อยู่สองคน นอกนั้นต่ำกว่าเกณฑ์ “ขอกินอึกนึงได้ไหมครับ”

“ไม่ได้ ห้ามลักไก่นะ ฉันจะดูบัตรประชาชน”

คนอายุถึงเกณฑ์ทำหน้าเลิ่กลั่ก พอเห็นเพื่อนสลดหดหู่ ความอยากก็ลดลงไปจนเหลือศูนย์ “เอ่อ..พวกผมไม่อยากกินแล้วครับ รอกินพร้อมเพื่อนดีกว่า”

“แน่ใจนะ?”

พยักหน้ารับด้วยแววตาเสียดาย รุ่งภพเลยปลอบใจด้วยตบไหล่ปั้กๆ “ไม่เป็นไรเว้ย เดี๋ยวพวกมึงครบ 18 กันเมื่อไหร่ กูพาไปเลี้ยงเอง”

“อ้าว พวกผมไม่กิน พี่ก็ต้องไม่กินดิ เราทีมเดียวกันนะ”

“เฮ้ย! ไม่เกี่ยว ทีมเทอมอะไร? ไม่รู้จักชั่วคราวเว้ย” รุ่งภพปฏิเสธ สลัดเด็กๆ ออกแล้ววิ่งไปเกาะอยู่หลังตรัย

“โห่ รีบตีตัวออกห่างเชียว”

“คนใจร้าย”

“พอได้เขาแล้วก็ทิ้ง”

“พอๆ เดี๋ยวคราวหลังฉันเลี้ยงเอง อยากกินอะไรก็ไปนึกมา โอเคไหม” ตรัยรีบห้ามเมื่อคนข้างหลังเต้นโหยงเหยงท้าตีท้าต่อยกับเด็กห้าคน

“ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้พวกบ้า”

“พอได้แล้วน่า คนเดียวสู้ไหวเหรอ? ฉันไม่ช่วยนะ พูดเลย”

“ใจร้าย”

“วันนี้กูจะได้แดกไหม เหล้าเนี่ย?” สิปาเท้าสะเอวถาม เรื่องเท่าขี้ผงก็เอามาทะเลาะกันได้ ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องนั่นแหละ พอกัน

กว่าจะแยกย้ายกันได้ก็มืดค่ำ เราตั้งโต๊ะดื่มกันบริเวณบ้านพักส่วนตัวซึ่งอยู่ในโซนโขดหิน แถวนี้ไม่มีหาดทรายเหมือนหน้าเกาะ ใกล้ทะเลก็จริงแต่เล่นน้ำไม่ได้เพราะคลื่นแรง ถัดไปบนเชิงเขาขนาดย่อมมีบ้านพักสร้างกระจายอยู่สามหลัง ค่อนข้างห่างกันพอสมควรและถูกบดบังได้แมกไม้แผ่กว้าง

“นึกไงไปอยู่เบตงวะ”

สิปาไม่ได้ตอบเพื่อนในทันที เขารินอเมริกันวิสกี้ลงแก้วแล้วละเลียดจิบทีละนิดไม่ได้ซัดเอาๆ เหมือนแต่ก่อน “ไม่มีใครไปไง กูก็เลยอาสาแม่ง”

“เหรอ..แล้วสาวเบตงน่ารักไหม”

รุ่งภพเขม้นมองคนถาม พยายามดับอาการว้าวุ่นด้วยการกรอกเหล้าเพียวๆ ลงคอ “ถามทำไมครับ จะจีบสาวเบตงเหรอ?”

“ใช่ที่ไหนเล่า ถามไปงั้นเอง”

“ถ้าไม่คิดจะถามเหรอ?”

“เออ จริง..ถ้าไม่สนใจจะถามเหรอ” สิปาสุมไฟ ความร้าวฉานคืองานของเขา

ตรัยเตะขาเพื่อน ถลึงตาใส่แล้วหันมาพูดเสียงอ่อนกับอีกคน “ฉันแค่อยากรู้ว่ามันเปิดใจให้ใครบ้างหรือยังเท่านั้นเอง ไปอยู่เบตงตั้งนาน ต้องสนใจใครบ้างแหละ”

“งั้นก็ถามไปตรงๆ เลยสิครับ ทำไมต้องถามว่าสาวเบตงน่ารักไหมด้วยล่ะ”

สิปาหัวเราะลั่น ตบโต๊ะด้วยความถูกใจ เด็กเพื่อนแม่งตรงจนทะลุเพดาน ตรัยถึงกับกุมขมับ ไปไม่เป็นเลยทีนี้

“ก็ถามแบบอ้อมๆ ก่อนไง เดี๋ยวมันไม่ตอบ”

ทำหน้าคิดหนัก เทเหล้าเป็นว่าเล่น “เชื่อก็ได้”

ถึงกับถอนหายใจโล่งอก กลายเป็นเสือสิ้นลายไปแล้วเพื่อนเขา “เทเอาๆ เดี๋ยวก็เมาหรอกมึง”

“คนอย่างผมไม่รู้จักคำว่าเมา”

“อ๋อเหรอ” กูยังจำวันที่มึงรัดคอกูได้อยู่นะไอ้เด็กเวร

“แล้วสาวเบตงน่ารักไหม”

“อะแฮ่ม” ตรัยกระแอมไอเสียงแข็ง ตวัดตามองอย่างเคืองขุ่น ไม่ให้เขาถามแต่ดันถามซะเองเนี่ยนะ

“ผมถามแทนคุณไงครับ ถ้าถามตรงๆ เดี๋ยวคุณสิปาไม่ตอบ”

“ไม่ทันแล้วไหม มันรู้แล้วว่าเราจะหลอกถาม”

สิปากลั้วเสียงหัวเราะ ทอดมองแสงไฟประดับในรีสอร์ทด้วยสายตาผ่อนคลาย “สาวเบตงก็น่ารักดี แต่กูไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษหรอก วันๆ อยู่แต่ในไซต์ เจอแต่ผู้ชาย จะเอาเวลาที่ไหนไปจีบสาว”

“งั้นก็จีบผู้ชายสิครับ”

“ตลกละไอ้รุ่ง ผู้ชายไม่อยู่ในไทป์ที่กูชอบเว่ย” เขายังชอบผู้หญิงอยู่ ตอนนี้ไม่มีสเปคที่ตายตัวแล้ว ขอแค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจเป็นพอ

“ไม่ลองหน่อยเหรอ”

“เผื่อจะติดใจ”

“พวกมึงนี่นะ บทจะเข้ากันก็เข้ากันได้ดีฉิบหายเลย” สิปาส่ายหน้า ละเลียดเหล้าในแก้วดื่มทีละนิด ได้กลิ่นหอมของไม้โอ๊คและถ่านเมเปิ้ลแทรกอยู่ในรสเหล้าสมราคา

พระจันทร์กลมโตเคลื่อนจากฟากฟ้าอีกด้านมาอยู่ตรงกลางศีรษะเมื่อผ่านไปเกือบครึ่งคืน ชายสองคนเริ่มพบอุปสรรคในการดื่มเหล้าเมื่อใครคนหนึ่งเริ่มเมาแล้วอาละวาดด้วยการปัดขวดเหล้าจนหกเรี่ยราด

“อ่อนสัด เพิ่งจะสองขวดเอง”

ตรัยยกยิ้มขณะมองคนเมาพยายามกระดกหัวขึ้นด้วยสายตาเอ็นดู ความจริงแล้วรุ่งภพก็คอแข็งพอตัวถ้าไม่ซัดเอาๆ แบบนี้ ในขณะที่พวกเขานั่งจิบกันเรื่อยๆ กินกับแกล้มบ้าง พูดคุยกันบ้าง สติเลยยังครบถ้วนสมบูรณ์ดี

“ทำใจได้แล้วสิมึง”

“ก็ยังเจ็บอยู่บ้างเวลานึกถึง..แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่จุดศูนย์กลางของกูอีกต่อไปแล้ว”

“สักวันมึงจะเจอคนที่ใช่”

“ถ้าไม่แก่ตายไปซะก่อน”

ตรัยยิ้มขำกับคำประชดประชันของเพื่อน พยายามดึงแก้วเหล้าออกจากมือของรุ่งภพ “ง่วงยังหืม?”

คนเมาส่ายหน้า พอไม่มีแก้วเหล้าก็คว้าช้อนคว้าส้อมมาเล่นแทน ตรัยไม่ได้ห้ามอะไรเพราะเห็นจิ้มแต่กับแกล้มในจาน ไม่ได้เล่นอะไรจนเลอะเทอะ

“เมียหรือลูกวะนั่น”

จึก!!

"อ๊ากกกกกกกก!”

เสียงร้องโหยหวนดังลั่น สิปารีบชักมือออก มองดูรอยจิ้มสี่จุดบนหลังมือของตัวเอง “เจ็บเหี้ยๆ!!”

“ลึกไหม? เลือดออกเปล่า” ตรัยรีบดึงช้อนส้อมในมือของคนรักออก พยายามจับให้นั่งนิ่งๆ เมื่อชายหนุ่มร้องงอแง

“ซี้ด..เลือดซิบเลยไอ้ห่า มึงโกรธอะไรกูเนี่ยฮะ!”

“น้องมันเมาไอ้สัด”

“มันจะฆาตกรรมกูสองรอบแล้วนะ นี่เป็นจิตใต้สำนึกของมึงใช่ไหม บอกกูมานะไอ้รุ่ง”

“มึงก็บ้าบอ พอเลย..แยกย้าย” ตรัยรวบตัวคนรักขึ้นอุ้ม สิปาผงะหงายหลบปลายเท้าของคนเมาที่ถูกยกอุ้มจนตัวลอย

“หน้ากูไอ้เหี้ย!”

“โทษๆ ไม่ทันมอง มึงไปทำแผลที่ล็อบบี้เถอะไป รุ่งให้คนขนกระเป๋ามึงมาไว้ที่นี่แล้ว บ้านพักหลังแรกเลย ตามสบายเว่ย”

พอพูดจบก็รีบอุ้มคนเมาเข้าบ้าน หนุ่มใต้ทำตาหวานเยิ้มไม่ร้องโวยวายแต่นัวเนียแทน หลังยังไม่ทันแตะฟูกก็ตะเกียกตะกายขึ้นมานอนคล่อมบนตัวของเขาแล้ว ไล่จูบสะเปะสะปะทั้งยังดึงทึ้งเสื้อผ้าจนหลุดรุ่ย

“ไม่เอาน่า เดี๋ยวเช็ดตัวก่อน กลิ่นเหล้าทั้งนั้นเลยเนี่ย”

“อื้อ..จะเอา”

ตรัยกัดฟันข่มกลั้นอารมณ์ พยายามอดทนกับฝ่ามือซุกซนที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ตรงหัวเข็มขัด หนุ่มใต้คำรามด้วยความขัดใจเมื่อแกะไม่ออก พยายามล้วงมือผ่านซิปกางเกงและนวดคลึงด้านนอกจนมันตื่นตัว

“จะมาร้องทีหลังไม่ได้นะเด็กบ้า”

คนเมาถูกผลักให้นอนราบเพื่อรองรับอารมณ์ที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เสื้อผ้าถูกเปลื้องออกอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นผิวกายสม่ำเสมอหลังจากไม่ได้ออกเรือมาเป็นเวลาหลายเดือน ตรัยจับชายหนุ่มพลิกตัวนอนคว่ำ ทาบฝ่ามือลงบนแผ่นหลังแล้วลากไล้ลงมาตรงตามสันกระดูก คนใต้ร่างบิดเร่าด้วยความพึงพอใจ ส่งเสียงครางแผ่วเมื่อเขาดูดดึงผิวเนื้อบริเวณหลังคอ

กลิ่นเหล้าจากเนื้อตัวของชายหนุ่มมอมเมาเขาจนร่างกายเครียดขึง รุ่งภพเหยียดแผ่นหลังตรงแล้วหันมาอ้อนวอนเขาด้วยดวงตาปรือปรอย ผิวเนื้อตึงแน่นน่าขบกัดยั่วเย้าอยู่ตรงหน้า สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ฝังเขี้ยวลงไปจนเกิดรอย

“ฮึก..”

“เจ็บเหรอ?”

สั่นหัวแล้วซุกหน้าลงกับหมอน ไม่พูดไม่จาแต่ยกสะโพกเชิญชวน ตรัยยกยิ้มแล้วบีบเคล้นบั้นท้ายกลมกลึง สอดปลายนิ้วถูไถแล้วล่วงล้ำเข้าไปในจีบพับ รุ่งภพครางแผ่ว กอบกุมท่อนเนื้อของตัวเองแล้วรูดรั้งตามอารมณ์

ตรัยปัดมือของชายหนุ่มออก รั้งตัวของคนใต้ร่างขึ้นแล้วกอดกระชับหน้าท้องแบนเรียบ เขาลูบไล้ผิวเนื้อตั้งแต่ใต้อกลงไปจนถึงเนินเนื้อด้านล่าง เกี่ยวพันปลายนิ้วตรงไรขนอ่อนแล้วเลื่อนระดับลงต่ำเพื่อกอบกุมส่วนที่แข็งชันไว้ในอุ้งมือ

“เร็วอีก”

“อย่าใจร้อนสิ”

“อื้อ..” ครางประท้วงด้วยความขัดใจแล้วส่ายสะโพกถูไถกับท่อนเนื้อของเขา ตรัยกัดฟันแล้วสาวมือเร่งจังหวะ จนกระทั่งรีดเค้นหยาดหยดออกมาจนเต็มมือ

เขารูดรั้งเบาๆ เมื่อคนใต้ร่างกระตุกกายถี่ รุ่งภพทิ้งตัวลงไปบนหมอนอีกครั้ง หายใจหอบจนแผ่นหลังสะท้านไหว ตรัยไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มเนียนหลับ รีบป้ายของเหลวเหนียวลื่นลงไปบนช่องทางด้านหลังแล้วสอดใส่ตัวตนของเขาเข้าไปอย่างเชื่องช้า รุ่งภพครางเสียงต่ำเมื่อเขาประคองกอดจากทางด้านหลังแล้วกระทุ้งกายเข้าไปอย่างหนักหน่วงไม่ออมแรง

“อะ..อ๊า..อือ ไม่เอาแล้ว..จะนอน”

“อย่าเอาแต่ใจสิครับ อ่า..เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว..ไม่งอแงนะ” ตรัยชะโงกตัวข้ามไหล่แล้วกดจูบลงไปบนแก้มอิ่ม รั้งแขนของคนใต้ร่างขึ้นจนแผ่นหลังเหยียดโค้ง ได้ยินเสียงของบั้นท้ายกระทบกับหน้าขาฟังดูหยาบโลน พอเขาเร่งจังหวะขับเคลื่อนกาย ชายหนุ่มก็ครางสะท้านเสียงดังลั่น ตรัยฝังกายลึกเป็นครั้งสุดท้าย กล้ามเนื้อภายในบีบรัดเร่งให้ปลดปล่อยจนหน้าท้องบิดเกร็ง

ความสุขระเบิดพร่างราวกับพลุที่ถูกจุด ตรัยถอนตัวออกแล้วแนบใบหน้าลงบนแผ่นหลังที่ฉ่ำชื้น เปลือกตาพับปิดลงซึมซับไออุ่นจากคนใต้ร่าง






   

รุ่งภพตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดตามเนื้อตัว เขาขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณสะบักหลัง พอเข้าไปส่องกระจกในห้องน้ำก็เห็นรอยฟันเขียวจ้ำและจุดแดงๆ กระจายอยู่บนเนื้อตัว

อะไรกันเนี่ย..แอบลักหลักคนเมาเหรอ?

เขาบ่นคนทำแล้วตีหน้ายุ่ง ยังดีที่เช็ดตัวให้เลยไม่ต้องเสียเวลาอาบน้ำนาน พอแต่งตัวเสร็จก็ออกไปโรงเรือนไม้ไผ่ตามปกติ ยังไม่ทันจะก้าวพ้นจากเขตบ้านก็เห็นเพื่อนของคนรักเดินเล่นอยู่แถวโขดหิน หนุ่มใต้ยิ้มกว้างเตรียมอ้าปากจะเอ่ยทัก แต่สายตาดันไปสะดุดที่ผ้าพันแผลบนหลังมือเข้าซะก่อน จากคำทักเลยเปลี่ยนเป็นคำถามแทน

“อ้าว มือไปโดนอะไรมาครับ?”

“หมากัด”

“หมา? ไอ้ตังน่ะเหรอ? แต่มันไม่เคยกัดใครเลยนะ คุณไปแหย่อะไรมันหรือเปล่า”

คนโดนกัดตอบเสียงแค้น “ไม่ใช่ตังเกหรอก..เจ้าของมันต่างหาก”

รุ่งภพอ้าปากเหวอ เกาหัวตัวเองอย่างงุนงง..

เจ้าของหมาก็เขาน่ะสิ..แต่เขาไม่ใช่หมานะ จะไปกัดสิปาทำไมกัน?



END



สวัสดีวันหยุดค่า จบจริงๆ แล้วน้า อาจจะมีตอนพิเศษมาอีกเรื่อยๆ แต่คงไม่ได้อัพถี่เหมือนตอนลงเรื่องหลักนะคะ ขอบคุณนักอ่านทุกคนเลยที่กดเข้ามาอ่านและคอยให้กำลังใจ คอมเมนต์ให้ตลอด อาจจะดูขัดใจไปบ้าง ไม่สมเหตุสมผลบ้าง แสงจะรับฟังและนำไปปรับปรุงในเรื่องหน้านะคะ ถ้ามีเวลาแต่ง 55555


ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
น่ารักกันเหมือนเดิมเลยค่าา

ขอบคุณคนเขียนที่มาลงตอนพิเศษให้อ่านกันนะคะ

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องรุ่งน่ารักกก  :z1: อยากให้คุณสิปามีคู่จัง  :katai2-1: :katai2-1: 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีจายยยยย​ แอบหวังตลอดนะคะว่าจะมีตอนพิเศษ​ให้อ่าน​ แล้วก็มีจริงๆด้วย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
กว่าจะได้กิน ..

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
รุ่งเมาแล้ว :jul1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BM_CBC

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ แสงเหนือ/Aurora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ตอนพิเศษ PARTY CHRISTMAS



               “มันจะดีเหรอวะไอ้รุ่ง”


               “ทำไมอ่ะ มันก็ได้อยู่นะ”


               “เออ ทรงน่ะคล้ายแต่แม่งไม่ได้จริงๆ ว่ะ” มิ่งขวัญเหล่มองกองสะตอเกลื่อนกลาดและผลกาหยีแดงก่ำที่อยู่ในมือเพื่อน “มึงจะปาร์ตี้คริสต์มาสหรือมึงจะปาร์ตี้น้ำพริกสะตอ”

               “พูดมาก มือไม่พายยังเอาตีนมาราอีก มาช่วยกูตกแต่งต้นคริสต์มาสนี่ อย่าทำตัวไร้ประโยชน์” รุ่งภพเขวี้ยงผลกาหยีใส่เพื่อน มิ่งขวัญกางมือคว้ารับแล้วโยนเล่นเหมือนเดาะบอล

               “มึงเรียกไอ้พวงสะตอนี่ว่าต้นคริสต์มาสเหรอ”

               “มึงก็มองให้มันเป็นต้นคริสต์มาสสิ”

               มิ่งขวัญส่ายหน้า เหนื่อยใจจะเถียงกับเพื่อน อุตส่าห์ถ่อจากแพปลาเอาสะตอมาให้เป็นเข่ง หลงคิดว่าเชฟในรีสอร์ทจะทำเมนูน้ำพริกสะตอ ที่ไหนได้...เอามาให้เมียเจ้าของรีสอร์ทเล่นแท้ๆ

               “เถียงอะไรกันเด็กๆ ได้ยินไปถึงท่าเรือ”

               “วิน ดูไอ้รุ่งมันทำดิ” เด็กโข่งรีบฟ้องทันที ธาวินเลิกคิ้วมองไปยังต้นคริสต์มาสสายพันธุ์ปักษ์ใต้

               “ทำไมอ่ะ เก๋ๆ”

               “เนอะ” รุ่งภพรีบเออออ กวักมือเรียกคนพี่มาช่วยทำ “คุณตรัยบอกยังครับว่าเย็นนี้มีจับของขวัญ”

               “บอกแล้ว แต่พี่หาไม่ทันอ่ะ เอามิ่งไปแทนของขวัญได้ไหม”

               “จะมีคนเอาเหรอครับ”

               “ให้มันน้อยๆ หน่อยไอ้รุ่ง หน้าตาไฮโซอย่างกู มีแต่คนอยากจะแย่งชิงโว้ย”

               “ไฮโซข้าวเปลือกน่ะสิ รวยแต่เขืออ่ะมึงน่ะ”

               ธาวินหัวเราะจนกรามโยก จะมีก็แต่รุ่งภพนี่แหละที่มิ่งขวัญเถียงไม่สู้ “เอาสายรุ้งมา เดี๋ยวพี่ช่วยแต่ง”

               ทำไป ทะเลาะไปจนฟ้ามืด ทั่วทั้งรีสอร์ทในเวลานี้เปิดไฟสว่างไสวเป็นแสงสีเหลืองนวล ต้นคริสต์มาสสายพันธุ์ปักษ์ใต้ถูกยกมาไว้กลางห้องโถงสำหรับจัดเลี้ยง กล่องของขวัญหลากสีสันถูกวางซ้อนกันอยู่ใต้ต้น เสียงเพลงจิงกาเบลที่เจ้าของงานเปิดเอาไว้ในตอนแรกถูกเปลี่ยนเป็นเพลงแดนซ์ตามใจพนักงาน กลายเป็นคริสต์มาสที่ไม่เหมือนคริสต์มาสเข้าไปทุกที

               “มันพังตั้งแต่มึงเอาสะตอมาทำต้นคริสต์มาสแล้วแหละ”

               “เออน่ะ อย่างน้อยก็มีซานต้าล่ะวะ”

               มิ่งขวัญเลิกคิ้ว “ใครเป็นซานต้าวะ?”

               รุ่งภพยิ้มกริ่ม เอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วจิบคอกเทลเรียกน้ำย่อย “นั่นไง ซานตาครอสของเรา”

               มิ่งขวัญมองตามสายตาเพื่อน ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเฝื่อนแต่คงไม่เท่าชายที่อยู่ในชุดซานตาครอส “อะไรดลใจให้เขาทำแบบนั้นวะ”

               “ก็...มีข้อแลกเปลี่ยนกันนิดหน่อย”

               “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรวะ” มิ่งขวัญกระซิบถาม

               “อย่ารู้เลย เดี๋ยวใจแตก”

               “โอ้โห มึงปูมาขนาดนี้แล้ว กูเดาไม่ถูกเลยมั้ง”

               “เออ อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ”

               “อ้าว แล้วปกติมึงกับ...” หนุ่มใต้ตัวโตชี้ไปยังซานต้ารูปหล่อที่เดินแจกซองโบนัสให้กับพนักงาน “ไม่...” ทำท่ากำมือแล้วชักกะเย่อเข้าหาตัว “เหรอวะ ทำไมไม่ตกลงกันเรื่องอื่น”

               “มันก็ต้องมีอะไรพิเศษบ้าง ชีวิตจะได้มีรสชาติไง”

               “อ๋อเหรอออ รสชาติคาวๆ ป่ะ”

               “อยากลองไหมล่ะ”

               “ไม่ต้องเผื่อแผ่หรอก กูมีของกูแล้ว”

               รุ่งภพส่ายหน้ายิ้มๆ แววตาเป็นประกายเมื่อซานต้าหมวกแดงเดินเข้ามาหา กล่องของขวัญใบใหญ่ถูกให้ เป็นกล่องแบนๆ น้ำหนักเบา อาจจะเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆ เหมือนที่เคยให้เกือบทุกปี

               “เดี๋ยวมีจับฉลากของขวัญกันนะครับ ทำแบบนี้มันผิดกติกานะ”

               ตรัยส่ายหน้า แม้ห้องจัดเลี้ยงจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่ชุดที่สวมทำให้รู้สึกอบอ้าวมากกว่าปกติถึงสองเท่า “อันนี้ให้ส่วนตัว ของคนพิเศษก็ต้องพิเศษอยู่แล้วป่ะ”

               “อะไรอ่ะครับ” รุ่งภพเขย่าของในกล่อง ได้ยินเสียงก๊องแก๊งคล้ายกระดิ่งห้อยปลอกคอของตังเก

               “ไม่บอก เอาไว้ไปแกะที่ห้องก็แล้วกัน” ตรัยหยิบพัดลมมือถือในกระเป๋าเสื้อสีแดงส่งให้มิ่งขวัญ สั่งงานผ่านสายตา ไม่นานลมเย็นๆ ก็พัดโกรกระบายร้อน “ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย รู้สึกแปลก...แต่ก็สนุกดี”

               “หลังจากนี้พวกพี่ๆ คงหายเกร็งเวลาคุยกับคุณสักที ต่อไปนี้เขาจะนึกถึงแต่ซานต้าใจดีเดินแจกของขวัญ ถึงซานต้าจะหน้าบูดไปหน่อยก็เถอะ”

               “ชุดนี้มันร้อนนะ มาใส่เองไหมล่ะ”

               “ผมใส่ต่อจากคุณก็ได้...แต่สัญญาเป็นอันยกเลิก”

               “ไม่มีทาง” ตรัยกัดฟันพูด อดทนต่อความร้อนจนเหงื่อเปียกซ่ก ทำตัวเป็นมาสคอสเดินให้พนักงานถ่ายรูปไปทั่วงาน ยิ่งดึกเพลงก็ยิ่งแอดวานซ์ตามสติของคนดื่ม งานเลี้ยงปีใหม่ที่จัดขึ้นก่อนวันหยุดยาวราวกับงานปล่อยผี ทุกคนปล่อยตัวปล่อยใจกันเต็มที่ เสียงหัวเราะครื้นเครงและเสียงพูดคุยเฮฮาลอยเข้าหูไม่มีขาด กว่างานเลี้ยงจะเลิกราก็ดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว

               “สนุกจัง ปีหน้าจัดแบบนี้อีกนะครับ”

               “ตามใจเธอ แต่ปีหน้าไม่เป็นซานต้าแล้วนะ” ตรัยนั่งลงขอบเตียงข้างคนรัก เขายังอยู่ในชุดซานตาครอสสีแดงเพราะเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง “เอาของขวัญมาแกะสิ”

               รุ่งภพเลิกคิ้ว ไม่เคยเห็นตรัยเซ้าซี้เช่นนี้มาก่อน “แปลก ไม่ทวงสัญญาเหรอครับ”

               “ทวงสิ แต่แกะของขวัญก่อน”

               หนุ่มใต้รู้สึกไม่ชอบมาพากล ระหว่างแกะกล่องของขวัญก็เหลือบมองคนให้เป็นระยะ

               กิ๊ง!

               ลูกกระดิ่งสีขาวแวววาวคือสิ่งแรกที่เห็นเมื่อเปิดกล่อง มันถูกร้อยกับปลอกคอสีขาวและวางทับอยู่บน...อะไรสักอย่างที่นุ่มฟู

               รุ่งภพคีบมันออกมาจากกล่อง พอเห็นเต็มตาเท่านั้นล่ะ...เกือบจะปาทิ้งแทบไม่ทัน

               นี่มันหางหมากับปลอกคอ!

 

               ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตรัยคิดอะไรอยู่





Merry Christmas ย้อนหลังจ้า ลืมกันหรือยางงงค้า คิดถึงน้า เดี๋ยวจะมีข่าวดีนะคะ ไว้จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคะ เลิฟ เลิฟ ^^



ออฟไลน์ แสงเหนือ/Aurora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ตอนพิเศษ PARTY CHRISTMAS




               “มันจะดีเหรอวะไอ้รุ่ง”

               “ทำไมอ่ะ มันก็ได้อยู่นะ”

               “เออ ทรงน่ะคล้ายแต่แม่งไม่ได้จริงๆ ว่ะ” มิ่งขวัญเหล่มองกองสะตอเกลื่อนกลาดและผลกาหยีแดงก่ำที่อยู่ในมือเพื่อน “มึงจะปาร์ตี้คริสต์มาสหรือมึงจะปาร์ตี้น้ำพริกสะตอ”

               “พูดมาก มือไม่พายยังเอาตีนมาราอีก มาช่วยกูตกแต่งต้นคริสต์มาสนี่ อย่าทำตัวไร้ประโยชน์” รุ่งภพเขวี้ยงผลกาหยีใส่เพื่อน มิ่งขวัญกางมือคว้ารับแล้วโยนเล่นเหมือนเดาะบอล

               “มึงเรียกไอ้พวงสะตอนี่ว่าต้นคริสต์มาสเหรอ”

               “มึงก็มองให้มันเป็นต้นคริสต์มาสสิ”

               มิ่งขวัญส่ายหน้า เหนื่อยใจจะเถียงกับเพื่อน อุตส่าห์ถ่อจากแพปลาเอาสะตอมาให้เป็นเข่ง หลงคิดว่าเชฟในรีสอร์ทจะทำเมนูน้ำพริกสะตอ ที่ไหนได้...เอามาให้เมียเจ้าของรีสอร์ทเล่นแท้ๆ

               “เถียงอะไรกันเด็กๆ ได้ยินไปถึงท่าเรือ”

               “วิน ดูไอ้รุ่งมันทำดิ” เด็กโข่งรีบฟ้องทันที ธาวินเลิกคิ้วมองไปยังต้นคริสต์มาสสายพันธุ์ปักษ์ใต้

               “ทำไมอ่ะ เก๋ๆ”

               “เนอะ” รุ่งภพรีบเออออ กวักมือเรียกคนพี่มาช่วยทำ “คุณตรัยบอกยังครับว่าเย็นนี้มีจับของขวัญ”

               “บอกแล้ว แต่พี่หาไม่ทันอ่ะ เอามิ่งไปแทนของขวัญได้ไหม”

               “จะมีคนเอาเหรอครับ”

               “ให้มันน้อยๆ หน่อยไอ้รุ่ง หน้าตาไฮโซอย่างกู มีแต่คนอยากจะแย่งชิงโว้ย”

               “ไฮโซข้าวเปลือกน่ะสิ รวยแต่เขืออ่ะมึงน่ะ”

               ธาวินหัวเราะจนกรามโยก จะมีก็แต่รุ่งภพนี่แหละที่มิ่งขวัญเถียงไม่สู้ “เอาสายรุ้งมา เดี๋ยวพี่ช่วยแต่ง”

               ทำไป ทะเลาะไปจนฟ้ามืด ทั่วทั้งรีสอร์ทในเวลานี้เปิดไฟสว่างไสวเป็นแสงสีเหลืองนวล ต้นคริสต์มาสสายพันธุ์ปักษ์ใต้ถูกยกมาไว้กลางห้องโถงสำหรับจัดเลี้ยง กล่องของขวัญหลากสีสันถูกวางซ้อนกันอยู่ใต้ต้น เสียงเพลงจิงกาเบลที่เจ้าของงานเปิดเอาไว้ในตอนแรกถูกเปลี่ยนเป็นเพลงแดนซ์ตามใจพนักงาน กลายเป็นคริสต์มาสที่ไม่เหมือนคริสต์มาสเข้าไปทุกที

               “มันพังตั้งแต่มึงเอาสะตอมาทำต้นคริสต์มาสแล้วแหละ”

               “เออน่ะ อย่างน้อยก็มีซานต้าล่ะวะ”

               มิ่งขวัญเลิกคิ้ว “ใครเป็นซานต้าวะ?”

               รุ่งภพยิ้มกริ่ม เอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วจิบคอกเทลเรียกน้ำย่อย “นั่นไง ซานตาครอสของเรา”

               มิ่งขวัญมองตามสายตาเพื่อน ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเฝื่อนแต่คงไม่เท่าชายที่อยู่ในชุดซานตาครอส “อะไรดลใจให้เขาทำแบบนั้นวะ”

               “ก็...มีข้อแลกเปลี่ยนกันนิดหน่อย”

               “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรวะ” มิ่งขวัญกระซิบถาม

               “อย่ารู้เลย เดี๋ยวใจแตก”

               “โอ้โห มึงปูมาขนาดนี้แล้ว กูเดาไม่ถูกเลยมั้ง”

               “เออ อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ”

               “อ้าว แล้วปกติมึงกับ...” หนุ่มใต้ตัวโตชี้ไปยังซานต้ารูปหล่อที่เดินแจกซองโบนัสให้กับพนักงาน “ไม่...” ทำท่ากำมือแล้วชักกะเย่อเข้าหาตัว “เหรอวะ ทำไมไม่ตกลงกันเรื่องอื่น”

               “มันก็ต้องมีอะไรพิเศษบ้าง ชีวิตจะได้มีรสชาติไง”

               “อ๋อเหรอออ รสชาติคาวๆ ป่ะ”

               “อยากลองไหมล่ะ”

               “ไม่ต้องเผื่อแผ่หรอก กูมีของกูแล้ว”

               รุ่งภพส่ายหน้ายิ้มๆ แววตาเป็นประกายเมื่อซานต้าหมวกแดงเดินเข้ามาหา กล่องของขวัญใบใหญ่ถูกให้ เป็นกล่องแบนๆ น้ำหนักเบา อาจจะเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆ เหมือนที่เคยให้เกือบทุกปี

               “เดี๋ยวมีจับฉลากของขวัญกันนะครับ ทำแบบนี้มันผิดกติกานะ”

               ตรัยส่ายหน้า แม้ห้องจัดเลี้ยงจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่ชุดที่สวมทำให้รู้สึกอบอ้าวมากกว่าปกติถึงสองเท่า “อันนี้ให้ส่วนตัว ของคนพิเศษก็ต้องพิเศษอยู่แล้วป่ะ”

               “อะไรอ่ะครับ” รุ่งภพเขย่าของในกล่อง ได้ยินเสียงก๊องแก๊งคล้ายกระดิ่งห้อยปลอกคอของตังเก

               “ไม่บอก เอาไว้ไปแกะที่ห้องก็แล้วกัน” ตรัยหยิบพัดลมมือถือในกระเป๋าเสื้อสีแดงส่งให้มิ่งขวัญ สั่งงานผ่านสายตา ไม่นานลมเย็นๆ ก็พัดโกรกระบายร้อน “ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย รู้สึกแปลก...แต่ก็สนุกดี”

               “หลังจากนี้พวกพี่ๆ คงหายเกร็งเวลาคุยกับคุณสักที ต่อไปนี้เขาจะนึกถึงแต่ซานต้าใจดีเดินแจกของขวัญ ถึงซานต้าจะหน้าบูดไปหน่อยก็เถอะ”

               “ชุดนี้มันร้อนนะ มาใส่เองไหมล่ะ”

               “ผมใส่ต่อจากคุณก็ได้...แต่สัญญาเป็นอันยกเลิก”

               “ไม่มีทาง” ตรัยกัดฟันพูด อดทนต่อความร้อนจนเหงื่อเปียกซ่ก ทำตัวเป็นมาสคอสเดินให้พนักงานถ่ายรูปไปทั่วงาน ยิ่งดึกเพลงก็ยิ่งแอดวานซ์ตามสติของคนดื่ม งานเลี้ยงปีใหม่ที่จัดขึ้นก่อนวันหยุดยาวราวกับงานปล่อยผี ทุกคนปล่อยตัวปล่อยใจกันเต็มที่ เสียงหัวเราะครื้นเครงและเสียงพูดคุยเฮฮาลอยเข้าหูไม่มีขาด กว่างานเลี้ยงจะเลิกราก็ดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว

               “สนุกจัง ปีหน้าจัดแบบนี้อีกนะครับ”

               “ตามใจเธอ แต่ปีหน้าไม่เป็นซานต้าแล้วนะ” ตรัยนั่งลงขอบเตียงข้างคนรัก เขายังอยู่ในชุดซานตาครอสสีแดงเพราะเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง “เอาของขวัญมาแกะสิ”

               รุ่งภพเลิกคิ้ว ไม่เคยเห็นตรัยเซ้าซี้เช่นนี้มาก่อน “แปลก ไม่ทวงสัญญาเหรอครับ”

               “ทวงสิ แต่แกะของขวัญก่อน”

               หนุ่มใต้รู้สึกไม่ชอบมาพากล ระหว่างแกะกล่องของขวัญก็เหลือบมองคนให้เป็นระยะ

               กิ๊ง!

               ลูกกระดิ่งสีขาวแวววาวคือสิ่งแรกที่เห็นเมื่อเปิดกล่อง มันถูกร้อยกับปลอกคอสีขาวและวางทับอยู่บน...อะไรสักอย่างที่นุ่มฟู

               รุ่งภพคีบมันออกมาจากกล่อง พอเห็นเต็มตาเท่านั้นล่ะ...เกือบจะปาทิ้งแทบไม่ทัน

               นี่มันหางหมากับปลอกคอ!

 

               ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตรัยคิดอะไรอยู่






Merry Christmas ย้อนหลังจ้า ลืมกันหรือยางงงค้า คิดถึงน้า เดี๋ยวจะมีข่าวดีนะคะ ไว้จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคะ เลิฟ เลิฟ ^^




ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อัยย่ะ​ มีตอนพิเศษ​ๆแบบนี้ด้วย​  :hao7:

ออฟไลน์ tangtey59

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
นิยายเรื่องนี้ดีมากเลยค่ะ ทั้งสรุกและได้ความรู้

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4
สนุกค่า
กำลังใจ

ออฟไลน์ samsung009

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ FeRnChOi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากๆเลยค่ะ ได้ความรู้เรื่องการทำประมงเยอะมากเลย
เป็นกำลังใจให้อต่งเรื่องสนุกๆเเบบนี้ต่อไปนะคะ

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุก น่ารักดีค่ะ
ชอบรุ่ง น่ารักดี
ขอบคุณนิยายน่ารักๆๆๆค่ะ

ออฟไลน์ numildkub

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เนื้อเรื่องดีมากเลย สอดแทรกความรู้เยอะมากทำให้รู้หลายเรื่องเลย
แต่ว่าเบตงไม่ได้น่ากลัวน้า เราอยู่เบตง เที่ยงคืน-ตี2เรายังซิ่งไปเซเว่นอยู่เลย 5555
ชอบนิสัยนายเอก แต่พระเอกคล้ายๆไพโบล่านิดหน่อย55555
ขอบคุณมากนะเขียนมากนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ brapair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
แงงง น่ารักกก สนุกมากเลยค่าาา  :mew1:

ออฟไลน์ Nobodylove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :z13: จิ้มไว้

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ bnmshhhhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นเรื่องที่อบอุ่นหัวใจมากก :3123:

ออฟไลน์ samsung009

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ pogpax

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ pogpax

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ sakura_sung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีอะ พูดถึงการประมงด้วย

ออฟไลน์ pedgampong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด