Hunter of the sea พรานทะเล l อัพ! ตอนพิเศษ PARTY CHRISMAS l 26/12/62 P.7
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Hunter of the sea พรานทะเล l อัพ! ตอนพิเศษ PARTY CHRISMAS l 26/12/62 P.7  (อ่าน 35450 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยากฟัดตังเก​ รักนะอย่างห่างๆ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คุณตรัยกลับมาก๊อนนน คู่นู้นยังไม่เข้าใจกันเลย ส่วนคู่นี้ก็หวานจะมดขึ้นทะเลหมดแล้ว

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไหนว่าจะมาดับเพลิงที่วางไว้

มันยังไม่ดับอ่ะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
มิ่งกับวินเป็นคู่ที่น่ารักดี :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ night-nnc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อีพี่ยังไม่มาเคลียร์
 :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
งงกับตรัยอะ ผีเข้าเหรออ

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คู่มิ่งวินน่ารักมาก ดีใจที่เปลี่ยนมาเพจ6แล้ว เปิดเพจ5ทีไร เจอซีนจะฟัดน้องแล้วอยากตบอิคุณตรัย  ให้กระตือรือร้นเหมือนตอนจะฟัดเค้ามั่ง อินนนนน

ออฟไลน์ แสงเหนือ/Aurora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
บทที่ 38

 



ถ้วยกาแฟควันกรุ่นส่งไอร้อนพวยพุ่งระเหยไปกับสายลมเย็น แว่วเสียงดนตรีแจ๊สในคาเฟ่เปิดคลออยู่เป็นระยะสลับกับเสียงพูดคุยของนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา ตรัยควานช้อนคนกาแฟจนเย็นชืด เหม่อมองสีสันยามเย็นในย่านเก่ากลางเมืองภูเก็ตด้วยอาการใจลอย

“ตรัย กูชวนมึงมาเที่ยวนะเว้ย ช่วยทำหน้าให้มันเอ็นจอยหน่อยได้ไหมวะ เห็นหน้ามึงทีไรแล้วความอยากเที่ยวของกูหดฟีบลงไปเลย”

“กูบอกแล้วว่าไม่อยากมา มึงก็คะยั้นคะยออยู่ได้”

“ก็กูอยากเจอมึงอ่ะ อยากเจอน้องด้วยแต่ดันแห้วซะงั้น” ฐานิดาบ่นอุบ ตักไอศกรีมในถ้วยอย่างกระแทกกระทั้นเพราะไม่ได้ดั่งใจ

“ก็แห้วไม่ต่างกันหรอก ขนาดกูดักรอมาเป็นเดือนยังไม่เจอเลย”

“สมน้ำหน้า เสือกไปใจดีกับอีนั่นพร่ำเพรื่อดีนัก โดนทิ้งเลยเป็นไง”

“ทำไมมึงไปเรียกจิกเขาอย่างนั้น ถ้ามีคนอื่นมาเรียกมึงอย่างนี้บ้าง มึงจะชอบเหรอ?”

“มึงก็เป็นอย่างเงี้ย เข้าใจนะเว้ยว่าที่บ้านมึงสั่งสอนมาให้เป็นเจนเทิลแมน แต่การที่มึงไปชื่นชมหรือเอาใจผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าแฟนมันก็ไม่ใช่ป่ะ เป็นกูกูก็ปรี๊ดเหมือนกันแหละเว้ย”

ตรัยถอนหายใจหนัก เขารู้แล้วว่าตัวเองทำไม่ถูก อยากจะขอโทษอยากจะปรับความเข้าใจแต่ก็สายไปซะแล้ว “กูสำนึกแล้วไง กับปัดก็ไม่ได้อะไรแล้ว”

“อ๋อเหรอ? แล้วอี..” ฐานิดาหยุดชะงักเมื่อเพื่อนส่งสายตาดุ “แล้วเขารู้ด้วยหรือเปล่าล่ะ มึงไม่ได้อะไรแล้วแต่เขาอาจจะมาอะไรกับมึงก็ได้ ถ้าคนมันไม่ชอบจะหาเรื่องมาวอแวมึงทำไม”

“กูคุยกับเขาแล้ว เข้าใจกันดีแล้ว เดี๋ยวเสร็จงานเขาก็กลับ เคลียร์นะ” ตรัยไม่คิดว่าการที่เขาเทคแคร์ผู้หญิงจะสร้างเรื่องยุ่งยากใจให้ถึงเพียงนี้ หลังจากทะเลาะกันวันนั้นเขาก็ไม่เห็นรุ่งภพอีกเลย แม้จะไปดักรอตอนเรือเข้าแล้วแต่ก็คลาดกันตลอด พอนานวันเข้าเขาก็เริ่มร้อนรน ไม่เป็นอันทำงานจนต้องหันหน้าไปปรึกษากับเพื่อนสนิท

ปัญหาที่เขาไม่เคยคาดคิดถูกฐานิดาร่ายให้ฟังจนยาวเหยียด พอมาคิดดูแล้วมองในมุมของรุ่งภพ เขาก็พบว่าตัวเองก็ทนไม่ไหวเช่นเดียวกันหากคนที่รักไปใจดีกับคนอื่น

“สงสัยกูต้องปิดแพปลาสักอาทิตย์นึงแล้วมั้ง ถ้าไม่มีเรือออกจะโดดไปลำไหนได้อีก”

“ใจเย็นเพื่อน เดี๋ยวก็โดนพ่อมึงตัดออกจากกองมรดกหรอก”

“แล้วจะให้กูทำไง พอหยุดงานไปเฝ้าเขาก็ไม่มา พอรู้ว่าเขาเข้าฝั่งก็ไปหาไม่ทันอีก เขาไม่อยากเจอกูขนาดนั้นเลยเหรอ?” ต่างจากเขาที่คิดถึงตลอดเวลา

“ไม่ใช่ว่าน้องมันไม่อยากเจอมึงหรอก เขาคงไม่อยากเห็นมึงอยู่กับอี..ยัยนั่นมากกว่า”

ตรัยระบายความเครียดผ่านการถอนหายใจครั้งที่ร้อย เขาจ่ายเงินค่าอาหารแล้วพาเพื่อนเดินลัดเลาะตรอกเก่าๆ ไปขึ้นรถที่จอดอยู่แถวหอนาฬิกา “กลับเลยไหม ป่านนี้แฟนมึงหนีไปลงอ่างแล้วมั้ง ออกมานานขนาดนี้”

“ปากเหรอนั่น” ฐานิดาตวาดแว้ด “มันไม่กล้าหรอกเพราะกระเป๋าเงินมันอยู่ที่กู”

“แน่นอนจริงๆ”

“อยู่แล้ว” เธอยักไหล่ วันนี้ปล่อยให้สามีนอนพักสบายๆ ไปก่อน ยังเหลือเวลาเที่ยวอีกตั้งหลายวัน เธอจึงเลือกไปกับเพื่อนก่อนเพราะตรัยมาหาแค่วันเดียว “เดี๋ยวมึงแวะฟาร์มไข่มุกให้กูก่อนนะ กูจะเอาแหวนไปซ่อม”

“ฟาร์มไข่มุกรับซ่อมแหวนด้วยเหรอ” ไม่ได้ขายแต่ไข่มุกอย่างเดียวเหรอไง?

“เขาทำร้านเครื่องประดับด้วยย่ะ ไม่ได้ขายแค่ไข่มุกอย่างเดียวนะแต่ขายพวกเพชรพลอยแล้วก็หินสีด้วย ร้านเขามีแต่ช่างทำเครื่องประดับเก่งๆ แถมหน้าร้านยังจำลองเป็นแฟคเตอรีให้เข้าชมด้วยนะ มีประวัติมีนิทรรศการเกี่ยวกับไข่มุกเต็มเลย”

ตรัยนึกถึงสร้อยข้อมือหินปะการังแดงที่เก็บอยู่ในกระเป๋าสตางค์เขา เพราะเจ้าของไม่เอ่ยปากทวงเขาเลยลืมไปซะสนิท ตอนนั้นรุ่งภพเองก็ไม่ค่อยจะมีสติเท่าไหร่นัก อาจจะคิดว่าทำตกทะเลไปแล้วเลยไม่เอ่ยถามถึง

“ถึงแล้วมึง”

The Sun’s Pearl

ร้านเครื่องประดับมุกที่ฐานิดาแนะนำมาเป็นฟาร์มหอยมุกใหญ่ขนาดใหญ่ที่มีกระชังอยู่หลังร้าน ดูจากจำนวนคนที่เข้ามาเที่ยวชมคงเป็นฟาร์มอันดับต้นๆ ของจังหวัดนี้ ตรัยกวาดสายตาสำรวจสินค้าและการตกแต่งภายในร้านขณะเดินตามเพื่อนเข้าไปด้านใน ดูเหมือนฟาร์มแห่งนี้จะเป็นศูนย์ผลิตและจัดจำหน่ายแบบครบวงจร ไม่เหมือนร้านขายเครื่องประดับทั่วไปเพราะมีการจัดแสดงสินค้าแยกเป็นหมวดหมู่ตามคอลเล็คชันด้วย แถมยังให้ความรู้เกี่ยวกับไข่มุกด้วยการจำลองสถานที่เป็นแบบแฟคเตอรีโชว์รูม ทั้งสายพันธุ์ การเพาะเลี้ยงและการผลิต สร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์และสร้างจุดแข็งไปในตัว

ตรัยหยิบสร้อยข้อมือเก่าขาดออกมาจากกระเป๋าสตางค์แล้วส่งให้กับพนักงานหน้าร้านเพื่อซ่อมแซม เธอถามถึงการเจียระไนหินและตัวเรือนที่เขาต้องการใช้แทนเชือกที่ขาดรุ่ย ตรัยยืนคิดนิ่งนานขณะจ้องมองเครื่องประดับในตู้โชว์ เขาบอกความต้องการของตัวเองแล้วนั่งรออย่างอดทน

งานสั่งทำต้องใช้เวลาขึ้นรูปและเจียระไนหลายชั่วโมง ฐานิดาถึงกับบ่นอุบเพราะของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตรัยเลยตัดความรำคาญด้วยการซื้อต่างหูไข่มุกให้เธอไปอีกคู่หนึ่ง คราวนี้ฐานิดาเงียบกริบ นั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆ ไม่กวนใจเขาอีกต่อไป

ตรัยนั่งมองรูปในหน้าจอมือถือของตัวเองอย่างใจลอย ภาพแหวนดอกไม้ทำให้เขานึกถึงรอยยิ้มของคนให้ เขายังอยากเห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง รอยยิ้มที่มีความสุขไม่ใช่รอยยิ้มเศร้าเหมือนครั้งสุดท้ายที่เจอกัน

เขาผิดไปแล้ว ยกโทษให้เขาได้หรือเปล่าคนดี..

“น้องณัฐจะไปไหนคะ! คุณซันยังประชุมไม่เสร็จเลย”

“จะกลับแล้วครับ ขี้เกียจรอ”

“แต่คุณซันบอกให้รอ..”

“รอมาเป็นชั่วโมงแล้วครับ เขาเป็นเด็กหรือไงทำไมต้องให้ผมมานั่งเฝ้าด้วย เสียเวลาชะมัด”

“แต่..”

ตรัยเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วเพ่งมองไปยังต้นตอที่ทุ่มเถียงกันอยู่หน้าห้องส่วนตัวของประธานกรรมการ

“ณัฐ?”

เจ้าของชื่อหันขวับไปตามเสียงเรียก อดีตช่างเครื่องเรืออ้าปากค้างเมื่อเห็นเจ้านายเก่า รีบเดินลิ่วๆ เข้ามาหาทันทีพร้อมกับพนักงานหญิงคนนั้นที่ตามติดเหมือนเงาตามตัว

“มาไงครับเนี่ย?”

“ขับรถมา” ณัฐทำหน้าบูดเมื่อโดนกวน “ณัฐเถอะ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ดูเหมือนจะรู้จักกับผู้บริหารของที่นี่ด้วย

“เอ่อ..ผม..ผมรู้จักกับเจ้าของร้านน่ะครับ”

“แค่คนรู้จักเองเหรอ?” ถึงขนาดให้เข้าไปรอในห้องส่วนตัวคงไม่ใช่คนรู้จักกันธรรมดา

“ตอนนี้เป็นแค่คนรู้จักแล้วครับ”

ตรัยไม่ถามต่อเพราะดูเหมือนชายหนุ่มลำบากใจที่จะตอบคำถามเขา “แผลเป็นไงบ้าง หายดีแล้วใช่ไหม”

“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ เหลือแต่รอยแผลเป็น”

“โทษทีนะ ไม่ได้มาเยี่ยมเลย”

“ผมเข้าใจครับ ทางโน้นก็คงยุ่งมากเพราะขาดคนกะทันหัน ความจริงผมก็อยากกลับไปทำต่อ..”

“ไม่ให้ไป!”

น้ำเสียงดุดันมาพร้อมกับท่อนแขนที่โอบรัดรอบเอวสอบ พนักงานหญิงที่ตามติดรีบถอยห่างออกไปทันทีเมื่อถูกชายร่างหนาส่งสายตาเป็นเชิงไล่

“จะไปไหนก็เรื่องของกู” อดีตช่างเรือหนุ่มสะบัดตัวออกจากวงแขนกำยำด้วยสีหน้ารำคาญใจ หากแต่คนที่โอบกอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ทั้งยังบีบแน่นจนได้ยินเสียงโอดครวญเบาๆ จากปากของชายหนุ่ม

“พูดให้มันดีๆ ถ้าไม่อยากอายก็อย่าทำให้กูโมโห กูเตือนแล้วนะ”

ตรัยขมวดคิ้วกับท่าทางของคนทั้งสอง ขยับตัวจะเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยให้แต่โดนฐานิดาดึงไว้ก่อน

“ไม่ได้จะไปไหน พอดีเจอเจ้านายเก่า เลยคุยกันเฉยๆ” ณัฐตอบเสียงห้วน

เจ้าของอ้อมแขนที่กักกันณัฐเอาไว้จ้องตรัยตาแข็ง ส่วนสูงของเราไม่ต่างกันมาก แต่อีกฝ่ายรูปร่างกำยำกว่าจนเห็นกล้ามเนื้อเด่นชัดไปทั้งตัว “สวัสดีครับ ผมชื่อตรัย” ตรัยแนะนำตัวเองก่อน “คุณเป็นพี่ชายของเขาใช่ไหม?”

“มันบอกว่าผมเป็นพี่ชายเหรอ?”

“เปล่า แต่ตอนเขาโดนยิง คนของผมบอกว่าเขากลับไปกับพี่ชาย”

“อ่อ..ครับ พี่ชายก็พี่ชาย” ถึงปากจะยอมรับแต่แววตาไม่ยินดี “ผมซัน เป็น ‘เจ้าของ’ ที่นี่” เจ้าของฟาร์มไข่มุกโอบกระเอวของคนในอ้อมแขนเข้ามาประชิดตัว “แล้วก็เป็นเจ้าของมันด้วย”

“พูดบ้าอะไรของมึง กูไม่ใช่หมานะ ถึงเป็นหมากูก็ไม่ต้องการเจ้าของประสาทแดกอย่างมึงหรอก”

คนประสาทแดกตาลุกวาว กระตุกยิ้มเหี้ยมแล้วกระซิบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ปากดีให้ได้ตลอดแล้วกัน กลับถึงบ้านเมื่อไหร่มึงได้ร้องเหมือนหมาแน่”

“ตกลงพวกคุณเป็นพี่น้องกันจริงใช่ไหม?” ตรัยถามอย่างอดไม่ได้เพราะดูแล้วไม่น่าจะใช่พี่น้องกันจริงๆ

“แล้วแต่จะคิด” เจ้าของฟาร์มตอบปัด ปล่อยอดีตช่างเรือหนุ่มแล้วเปลี่ยนมากุมมือแทน “เชิญตามสบายนะครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวสิ กูยังไม่คุยไม่เสร็จเลย” ณัฐขืนตัวเอาไว้ ไม่ยอมโดนลากไปตามแรงดึง

“เป็นแค่เจ้านายเก่าไม่ใช่เหรอ? แค่ทักทายกันก็พอแล้วน่า คนที่มึงต้องคุยคือกูต่างหาก”

“คุยอะไร? กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึง”

“แต่กูมี รับรองได้คุยกันยาวแน่”

ณัฐเม้มริมฝีปากไม่กล้าอาละวาดเพราะคนเยอะ ชายหนุ่มตะโกนบอกลาตรัยขณะโดนลากไปอีกทางหนึ่งด้วยสีหน้าของคนไม่เต็มใจ

“เหมือนผัวเมียทะเลาะกันเลยว่ะ” ฐานิดาออกความเห็น พี่น้องก็บ้าแล้ว

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง” คนอย่างณัฐคงไม่ยอมให้ใครมาบังคับได้ง่ายๆ ถึงจะทำเหมือนไม่เต็มใจแต่ก็ไม่เคยขัดความต้องการของอีกฝ่ายเลย

“แหวนที่คุณลูกค้าสั่งทำได้แล้วค่ะ”

ตรัยละสายตาจากมุมอาคารที่คนทั้งสองเดินออกไป เขาหยิบแหวนคู่ขึ้นมาจากถาดกำมะหยี่ที่พนักงานส่งให้ ตอนนี้หินปะการังของรุ่งภพถูกเจียระไนจนกลมสวย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะโกรธหรือเปล่าที่เขาถือวิสาสะแบ่งหินออกเป็นสองส่วนโดยพละการเพื่อทำแหวนคู่ให้กับเรา

แหวนคู่ที่มาจากหินก้อนเดียวกัน

แหวนคู่ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ







TBC



ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
รีบกลับไปง้อรุ่งเดี๋ยวนี้เลยค่ะคุณตรัยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จ้ะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอ  ตอนต่อไป

ด้วยใจจดจ่อ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไอเลิฟพี่ฐานิดา มาโปรดจริงๆ  ส่วนอิพี่ลดความเป็นสุภาพบุรุษลงบ้าง เจนเทิลแมนแบบแคร์คนข้างตัวด้วยที่รัก จัมวรั้ยยยยย   ทีนี้ไปง้อน้องเลยยย น้องรุ่งก็เล่นตัวเยอะๆนะ หมั่นไส้คน    ดับไฟแค้นจริงๆค่ะ  ไฟหมั่นไส้ลุกพรึ่บพรับแทน

ออฟไลน์ night-nnc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นไงละพี่ ตอนทำไม่คิดพอเขาหนีก็อยู่ไม่ได้ สมน้ำหน้า
อยากอ่านเรื่องของณัฐเลยยย
 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ แสงเหนือ/Aurora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
บทที่ 39



ลีลาวดีกลีบสุดท้ายถูกสีขาวนวลแต่งแต้มจนกลายเป็นดอกที่สมบูรณ์ในที่สุด รุ่งภพวางไม้จิ้มลงแล้วมองภาพบนกระจกด้วยรอยยิ้มหม่น เขาใช้เวลาทั้งวันทำทิชชู่อาร์ตแผ่นสุดท้ายจนสำเร็จ พรุ่งนี้คงได้รวบรวมไปให้กับผู้ว่าจ้าง เขาจะไม่คิดเงินอย่างที่ตั้งใจไว้ไม่ว่าตรัยจะยินดีหรือไม่ก็ตาม

หากอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกกับเขาเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว อย่างน้อย..นี่ก็จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำให้ได้เพื่อตอบแทนความทรงจำดีๆ ที่มีให้กัน     

หนุ่มใต้ลูบรอยนูนของกลีบดอกและใบไม้สีเขียวที่แซมสลับอยู่ในภาพ นึกใจลอยไปถึงลายผ้าบาติกที่อีกฝ่ายเคยชมว่าน่ามองยามอยู่บนร่างเขา

ในสายตาตรัย คงไม่ใช่เขาคนเดียวที่น่ามอง หากเป็นผู้หญิงใส่ ยังไงก็ต้องน่ามองกว่าอยู่แล้ว

เสียงเคาะประตูบ้านทำให้เขาหลุดจากภวังค์ รุ่งภพหันไปมองคนเคาะโดยไม่ได้ขยับลุกไปไหน เขายังไม่ได้ปิดประตูบ้านแม้จะมืดมากแล้วก็ตาม

“ขอเข้าไปได้ไหม”

คนในความคิดยืนอยู่หน้าประตูบ้านแล้วเอ่ยปากขออนุญาตเขา รุ่งภพแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง หากตังเกไม่กระโจนเข้าไปหาเขาคงนึกว่าอีกฝ่ายคือภาพลวง

“ถ้ากัดจะไม่ให้กินขนม” ตรัยชูถุงขนมล่อ มันนั่งจ๋องทันทีแล้วยกขาหวัดดีอย่างรู้งาน “ถ้าหลีกทางให้จะยกให้ทั้งถุงเลย”

เขาเดินอ้อมตัวมันเข้าไปในบ้าน เจ้าหมาตะกละนั่งนิ่งจ้องถุงขนมน้ำลายยืด เขาหัวเราะเบาๆ แล้วหยิบกระดูกอัดแท่งให้มันไปแทะเล่น พอได้ขนมก็วิ่งตัวปลิวออกไปนอกบ้าน ตรัยระบายลมหายใจยาวกับความใจง่ายของมัน ถ้าโจรเข้าบ้านคงโดนยกเค้าไปหมดไม่เหลือแม้แต่ตอ

“เธอผอมลงอีกแล้วนะ”

รุ่งภพหลุบตาลงมองข้อต่อของกระดูกที่เห็นชัดบนหลังมือของตัวเอง ความคิดถึงหลั่งไหลจนท่วมท้นเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย อยากจะเอ่ยขอโทษแต่ดันพูดไม่ออกเพราะก้อนแข็งๆ มันจุกอยู่ที่ลำคอ

“ขอโทษนะ”

“...?” รุ่งภพเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสายตาตั้งคำถาม คนที่ควรจะขอโทษคือเขาไม่ใช่เหรอที่ทำตัวงี่เง่าใส่อีกฝ่าย ทำไมถึงกลับกลายเป็นตรัยที่เอ่ยปากขอโทษแทน

“ขอโทษที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดี ขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ”

“มะ..ไม่ ผมต้องหากที่ต้องขอโทษ ผมทำตัวงี่เง่า ทำให้คุณหงุดหงิด”

ตรัยกอบกุมมือของชายหนุ่ม รู้สึกใจหายกับความผ่ายผอมในชั่วระยะเวลาไม่ถึงเดือน “ฉันต่างหากที่ไม่เข้าใจเธอ..เธอไม่พอใจที่เห็นฉันสนิทกับปัดใช่ไหม?”

“ผมคิดว่าคุณชอบเธอ”

“เผื่อเธอยังไม่รู้ ฉันเป็นคนรักเดียวใจเดียวนะ” ตรัยจูบอุ้งมือของชายหนุ่ม “ถ้าฉันจะชอบปัด คงชอบตั้งแต่รู้จักกันตอนอยู่มหา’ ลัยแล้ว”

“รู้จักกันมาก่อนเหรอครับ ผมนึกว่าเพิ่งรู้จักกันตอนทำงาน”

“เขาเป็นรุ่นน้องของเพื่อนฉัน เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน” ตรัยรั้งตัวของชายหนุ่มมากอดไว้ให้คลายความคิดถึง “พวกเธอต่างหากที่รู้จักกันมาก่อน รู้จักกันก่อนฉันอีก”

“คุณโกรธผมเรื่องแม่หรือเปล่าครับ?”

ตรัยโยกตัวของชายหนุ่มแล้วกดจูบลงบนไหล่แคบ “ไม่ได้โกรธที่เธอทำกับแม่แบบนั้น แต่โกรธที่เธอไม่เคยเล่าให้ฟังมากกว่า”

“ผมไม่กล้าเล่า..กลัวคุณจะเกลียดผม เพราะผมทำไม่ดีกับแม่”

“ฉันเชื่อว่าสิ่งที่เธอทำลงไปมันมีเหตุผล รุ่งภพที่ฉันรู้จักไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น”

ขอบตาของชายหนุ่มร้อนผ่าว อ้อมกอดที่ได้รับอบอุ่นจนใจละลาย “พ่อกับแม่ผมเลิกกันเพราะพ่อไม่มีเวลาให้ อย่างที่ผมเคยบอก..สมัยก่อนพ่อต้องออกเรือไปไกลมากเพราะบริษัทที่จ้างงานเขาทำประมงนอกน่านน้ำ บางทีก็ไปไต้หวัน บางทีก็ไปอินโด ไปทีก็ไปกันหลายเดือน นานๆ ถึงจะกลับมาสักครั้ง ตอนนั้นผมเองก็ติดเกมส์ ติดเพื่อน..” ชายหนุ่มหยุดเล่าไปครู่หนึ่งเพื่อเช็ดน้ำตาที่ไหลหยด “แม่คงเหงา..สุดท้ายก็เลิกกันแล้วย้ายไปอยู่กับ..แฟนใหม่”

ตรัยกอดกระชับชายหนุ่ม ครอบครัวของเขาก็แตกแยกไม่ต่างกันแต่จบสวยด้วยเหตุผลที่เข้ากันไม่ได้ ซึ่งยังมีความรู้สึกดีๆ หลงเหลือให้กันอยู่

“พอเลิกกันพ่อก็ลาออกจากงาน เอาเงินเก็บมาซื้อเรือแล้วออกไปวางอวนใกล้ๆ บ้าน..เป็นครั้งแรกที่ผมได้อยู่กับพ่อทุกวัน เรากินข้าวพร้อมกันทุกมื้อ พอกลับจากวิท’ลัย ผมก็ไปช่วยพ่อวางอวนตอนใกล้มืด ตอนเช้าก็ไปกู้อวนก่อนไปเรียน ถ้าแม่ยังอยู่เราก็คงได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างที่แม่หวังเอาไว้..แต่มันสายไปแล้วเพราะแม่ไม่เคยกลับมา”

“ไม่ต้องเล่าแล้วล่ะ ฉันไม่อยากรู้แล้ว” ตรัยเช็ดน้ำตาให้ชายหนุ่ม พอเห็นรุ่งภพสะอื้นหนักเขาก็ไม่อยากฟังอีกต่อไปแล้ว

รุ่งภพส่ายหน้า เขาไม่อยากมีความลับกับตรัยจึงเล่าต่อด้วยน้ำเสียงติดสะอื้น “พอพ่อเสีย..แม่บอกว่าจะพาผมไปอยู่ด้วย ตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้เจอแม่..แต่ครอบครัวใหม่ของแม่เขาไม่ต้องการผม แม่เองก็ดูเหมือนจะลำบากใจ ผม..ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เลยบอกว่าไม่อยากไปอยู่กับแม่..ไม่มีใครเลี้ยงก็ช่าง ต่อให้ต้องอดตายผมก็จะอยู่ที่นี่..ดีกว่าไปเป็นส่วนเกินในครอบครัวของคนอื่น ส่วนเกินที่ไม่มีใครอยากได้”

“ชู่ว พอแล้ว ไม่ร้องนะ” ตรัยกดจูบลงบนเส้นผมของชายหนุ่ม ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่สงสัยเรื่องในอดีตของชายหนุ่มเลย

“ผมพูดไม่ดีกับแม่”

“เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าเก็บมาคิดมากอีกเลยนะ” ตรัยหมุนตัวของชายหนุ่มให้หันมาสบตา “ต่อไปนี้ก็คุยกับแม่ดีๆ ถ้าไม่อยากไปหาเขาที่สุราษฎ์ก็นัดมาเจอกันที่อื่นก็ได้นี่ จริงไหม?”

“ผมกลัวแม่ไม่มา”

“ยังไม่ทันจะนัดเลย รู้ได้ไงว่าไม่มา”

“คุณไปกับผมนะ”

“ฉันต้องไปกับเธออยู่แล้ว ไปเจอแม่ยายไง” รุ่งภพหยุดร้องแล้วหลุดยิ้มออกมา “ฉันจะเป็นครอบครัวให้เธอเอง ไม่โดดเดี่ยวอีกแล้วนะ”

“ขอบคุณนะครับ..ขอบคุณ” รุ่งภพโอบกอดชายหนุ่ม แนบจูบลงไปกลางอกตรงตำแหน่งของหัวใจ “ผมรักคุณนะ”

“ฉันก็รักเธอ”

ตรัยดึงชายหนุ่มขึ้นมาจูบตอบ สัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

แค่จูบผะแผ่ว ไม่ได้ล่วงเกินไปมากกว่านั้น

เราสบตากันนิ่งนานหลังจากถอนจูบออก ตรัยดันตัวของชายหนุ่มลงจากตักหากแต่อีกฝ่ายไม่ยินยอม ตวัดแขนคล้องคอเขาเอาไว้แน่นแล้วแนบจูบลงมาอีกครั้ง

ตรัยครางแผ่วเมื่อริมฝีปากอิ่มขบย้ำเพื่อหาทางแทรกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปากเขา มือผอมปัดป่ายไปทั่วไหล่กว้าง พยายามแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วถอดออกไปให้พ้นตัว

“รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เขายึดข้อมือซุกซน รุ่งภพพยักหน้าช้าๆ ริมฝีปากอิ่มฉ่ำวาวจากรสจูบเมื่อครู่นี้ “หยุดตอนนี้ยังทันนะ”

หนุ่มใต้บิดข้อมือออกแล้วโถมตัวเข้ามาในอกเขา “คืนนี้คุณอยู่กับผมนะ”

ตรัยโอบกอดชายหนุ่ม ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเรื่อยไปจนถึงสะโพกเล็ก คนบนตักขมวดเกร็งเล็กน้อยตอนเขาบีบขย้ำเนินเนื้อกลมทั้งสองข้าง หนุ่มใต้กดสะโพกหนีฝ่ามือเขา เบียดลงตรงเป้ากางเกงที่แข็งขืนเต็มที

“อือ..”

ตรัยสบถออกมาไม่เป็นคำเมื่อเห็นใบหน้าแดงเรื่อ ดวงตาหลับพริ้มของคนบนตัก เขาช้อนก้นของชายหนุ่มขึ้นแล้วกระเตงเข้าห้องไปทั้งอย่างนั้น พอวางชายหนุ่มลงบนฟูกนอนก็จัดการลอกคราบออกไปจนหมด ไล่จูบตั้งแต่กรอบหน้าเรื่อยไปจนถึงทรวงอก สัมผัสทุกตารางนิ้วให้สมกับที่เฝ้าอดทนมานาน สูดดมกลิ่นกายของชายหนุ่มเหมือนคนบ้า อยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว

“อ๊ะ..คุณ!”

สุ้มเสียงน่ารักเปล่งออกมาเมื่อถูกกัดตรงยอดอก มันรู้สึกเจ็บแปลบในตอนแรกแล้วเปลี่ยนเป็นเสียววาบเมื่อถูกครอบครองด้วยการดูดดุน

รุ่งภพระบายอารมณ์ด้วยการขยุ้มกลุ่มผมที่ระอยู่ตรงแผ่นอก ตรัยปลดตะขอแล้วรูดซิปกางเกงลง ดันขอบเข็มขัดลงไปจนพ้นท่อนขาเผยให้เห็นชั้นในสีดำเข้มห่อหุ้มส่วนกลางกายที่แข็งชันจนเป็นรูปร่าง

หนุ่มใต้เบือนสายตาหนีช่วงล่างที่ตึงแน่นของอีกฝ่าย ตรัยหัวเราะเบาๆ กับอาการเขินอายนั้น เขาลดตัวลงก้มจูบชายหนุ่ม ขบย้ำบนต้นคอและแผงอกขณะถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกาย

“อื้ม..”

รุ่งภพเปล่งเสียงครางหน้าเชิด โคนขาถูกอ้ากว้างเพื่อต้อนรับส่วนหนึ่งของอีกคน

“คุณตรัย..”

“หยุดไม่ได้แล้วนะ” ซองถุงยางถูกกัดฉีกแล้วสวมใส่เพื่อป้องกัน ตรัยค้นหาซองเจลหล่อลื่นในกระเป๋าสตางค์แล้วบีบราดลงบนปลายนิ้ว รุ่งภพเกร็งตัวต่อต้านเมื่อถูกป้ายวนช่องทางคับแคบของตัวเอง ชายหนุ่มกลั้นหายใจรับปลายนิ้วอุ่น ลมหายใจแปรปรวนกับความอึดอัดที่สอดแทรกเข้ามา

“เจ็บหรือเปล่า”

หนุ่มใต้ส่ายหน้า พยายามผ่อนลมหายใจช้าๆ เพื่อดูดกลืนปลายนิ้วเข้าไปจนสุดโคน

“อื้ม..อะ..”

ชายหนุ่มเปล่งเสียงครางเมื่อปลายนิ้วถูกดึงออก มันกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งแล้วสอดเข้าสอดออกจนรู้สึกเสียดเสียว รุ่งภพหุบขาแล้วบิดตัวเร่า หน้าท้องเกร็งกระตุกเมื่อนิ้วที่สองสอดเข้ามา

ตรัยแตะจูบลงบนสะดือเล็ก ถอนปลายนิ้วออกแล้วถูไถแก่นกายอวบใหญ่เสียดสีกับร่องสะโพกเหนียวเหนอะ เสียงทุ้มคำรามต่ำเมื่อคนใต้ร่างอ้าขากว้าง ริมฝีปากอิ่มเผยออ้าขณะที่เขาดันกายเข้าไปเสาะหาความอบอุ่น

“อะ..มันแน่น ยะ..อย่าเพิ่ง”

ตรัยกดจูบลงบนหัวเข่าของชายหนุ่มแล้วดันสะโพกเข้าไปจนสุดโดยไม่ฟังห้าม รุ่งภพกรีดร้องเสียงแหลม ลมหายใจหอบถี่ หยดเหงื่อผุดพราย

“ฮึก จะ..เจ็บ”

“ขอโทษนะครับคนดี”

คนดีของตรัยกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้อง ใบหูแดงก่ำกับคำเรียกขานละลายใจ “เราเป็นคนๆ เดียวกันแล้วนะ”

“อื้ม..”

ตรัยกระชับบั้นท้ายเล็กแล้วขยับสะโพกเข้าหาเบาๆ อย่างลองเชิง คนใต้ร่างเปล่งเสียงครางเหมือนอึดอัด พยายามเกี่ยวขารั้งสะโพกเขาให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม

“คุณตรัย”

“ครับ”

“ระ เร็วอีก..”

ตรัยหลุดยิ้มกับเสียงสั่งบางเบาจนแทบไม่ได้ยิน อดใจกับความน่ารักไม่ไหวจนต้องโน้มตัวลงไปจูบอีกหลายครั้ง รุ่งภพครางอย่างสุขสมเมื่อเขาหยัดสะโพกฝังกายเข้าไปจนลึก ฝ่ามือทั้งสองข้างกุมกระชับรอบเอวผอม กระทั้นกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่งไม่ต่างจากคลื่นที่สาดกระทบบนหาดทราย

“อื้ม..ผะ ผมรักคุณ ระ..รัก”

“พูดอีกสิ”

“ผมรักคุณ รักคุณ ระ..รักคุณ”

คำสารภาพที่ได้ยินไม่บ่อยนักทำหัวใจของคนฟังเต้นแรงจนเจ็บอก ตรัยถอนสะโพกแล้วกดลึกเข้าไปจนสุด ฝากฝังตัวตนเอาไว้ในช่องทางอุ่นแคบที่บีบรัดถี่รัวเพราะความสุขสม

“อ่า..” ตรัยคำรามในลำคอขณะเหยียดกายขึ้นแล้วเกร็งกระตุกเหนือร่างเล็ก “ฉันก็รักเธอ..เด็กดี”

รุ่งภพปิดเปลือกตาลงเมื่อถูกประทับจูบ ไม่นานก็สัมผัสได้ถึงโลหะบางอย่างที่สวมใส่ลงมาบนนิ้วนางข้างซ้าย “อื้อ..อะไร?”

“แหวนของเรา”

“หัวแหวนมัน..”

“มันเป็นหินปะการังจากสร้อยข้อมือเธอ..โกรธหรือเปล่าที่ฉันเอามาเป็นแหวนคู่”

รุ่งภพส่ายหน้า กดจูบลงไปบนเรือนแหวน “ผมนึกว่าทำหายไปในทะเลแล้ว พ่อผมรักหินก้อนนี้มาก ไม่เคยให้ห่างตัวเลย”

“ตอนนั้นเธอกำมันแน่นมาก ฉันแงะตั้งนานกว่าจะออก” ตรัยส่งแหวนอีกวงให้กับชายหนุ่ม “สวมให้ฉันบ้างสิ”

เจ้าของหินสวมแหวนให้คนสั่งอย่างว่าง่าย ปิดท้ายด้วยการจุมพิตเนิ่นนานบนหลังมือ

“อ๊ะ..คุณ!”

“ครับ?”

“อื้อ..”

รุ่งภพร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระแทกโดยไม่ทันตั้งตัว ขาของเขาถูกจับแยกเพื่อรองรับความต้องการที่คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งเหมือนคนไม่รู้จักพอของชายหนุ่ม ริมฝีปากเห่อช้ำถูกดูดดุนเพื่อหยุดเสียงห้าม คนโดนเอาเปรียบอย่างเขาจึงทำได้เพียงทุบกำปั้นลงบนไหล่เปลือยของอีกฝ่าย แม้จะหยุดไม่ได้แต่ก็ขอให้ได้ประท้วงก็ยังดี

ตรัยกระซิบข้างหูของคนโดนรังแกแล้วเอ่ยคำรักซ้ำๆ จนชายหนุ่มใจอ่อน ตอกย้ำตัวตนเข้าไปจนลึกเพื่อย้ำเตือนคนใต้ร่างว่าเป็นของเขาโดยสมบูรณ์

รุ่งภพคือคนรัก..

คือคู่ชีวิต..

คือคนที่เขาอยากจะอยู่ด้วยจนวันตาย






TBC

ตอนหน้าจบแล้วน้าาาาาาา


ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คุณตรัยมาเคลียร์แล้ว :katai2-1: พอบอกว่าจะจบก็ใจหายเลยค่ะ5555555555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นึกว่าจะไม่มีวันนี้ซะแล้ว

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดีกันง่ายไปมั้ยอ่ะ ดีปุ๊บปล้ำปั๊บ ไวไฟกันจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่นะ......

จะรีบจบไปไหนอ่ะ

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เคลียร์แล้วววว โล่งใจ :hao5:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
อ่านได้เรื่อยๆ ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกด้วย

ออฟไลน์ แสงเหนือ/Aurora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
บทที่ 40

   

ฤดูร้อนเวียนมาบรรจบอีกครั้ง หอบเอาความสดใสและแสงแดดจ้าคืนสู่ทะเลงาม เกาะบูลันในวันนี้ไม่เงียบเหงาเหมือนก่อนแล้ว วันแรกของการเปิดตัวเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เริ่มจากเตรียมสถานที่และจัดคิวการแสดงประจำรีสอร์ท พนักงานในชุดผ้าถุงปาเต๊ะเดินสวนกันให้วุ่น ทั้งส่วนต้อนรับ เสิร์ฟอาหารและรักษาความปลอดภัย

วงเดือนรีสอร์ท

รุ่งภพอมยิ้มเมื่อแหงนหน้าขึ้นมองแผ่นป้ายบอกทางบนสะพานเทียบเรือ มันทำให้เขานึกถึงตอนมาเกาะแห่งนี้ครั้งแรกแล้วถกเถียงกันเรื่องชื่อและความหมายของเกาะกับผู้เป็นเจ้าของ ไม่คิดว่าตรัยจะเอาชื่อที่เขาแปลเป็นภาษาไทยไปตั้งเป็นชื่อของรีสอร์ท รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ที่ชายหนุ่มยังจำได้และใส่ใจถึงเพียงนี้

แผ่นป้ายบอกทางแบบสองทิศปักอยู่บนสะพานไม้สำหรับเทียบท่า ด้านขวาไปรีเซฟชั่นและห้องพัก ส่วนด้านซ้ายไปห้องอาหารและศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว ถัดจากป้ายบอกทางเป็นป้ายเขตปลอดพลาดสติก มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษกำกับไว้ แขกที่มาเข้าพักสามารถเลือกใช้กระเป๋าเตยปาหนันที่ทางรีสอร์ทแจกให้ใช้ระหว่างพักอยู่ที่นี่ ถัดลงมาอีกเป็นป้ายเตือนสองภาษาเช่นเดียวกัน กำกับเอาไว้ว่าห้ามให้อาหารปลา

เสียงไวโอลินแว่วหวานผ่านลำโพงขยายเสียง รุ่งภพหันไปมองทางห้องอาหารริมชายหาด ตอนนี้แขกส่วนใหญ่ปาร์ตี้กันอยู่ที่นั่น เนื่องจากเรือนไม้ไผ่หลังนั้นเป็นทั้งห้องจัดเลี้ยงและฟลอร์เต้นรำไปในตัว

งานเปิดตัวของรีสอร์ทเริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ

รุ่งภพพยุงเถ้าแก่ชัยเข้าไปในงานพร้อมกับเพื่อน วันนี้มิ่งขวัญแต่งกายเรียบร้อยด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหม่และกางเกงผ้าเนื้อดี ผมถูกตัดและหวีเสยจนเรียบแปล้ หนวดเคราถูกเล็มออกเพื่อให้เกียรติเจ้าของงาน

“ยังสวยเหมือนเดิมเลย ไม่สิ..สวยกว่าเดิมอีก” เถ้าแก่ชัยบอกกับคนพยุงขณะเดินชมทิวทัศน์รอบนอก ต้นไม้และพงหญ้าถูกปรับทัศนียภาพจนดูสะอาดตา นอกจากต้นไม้เขียวขจีแล้วยังมีดอกไม้ป่านานาชนิดขึ้นแซมสลับแลดูสดใส

“เถ้าแก่เคยมาด้วยเหรอครับ”

“เคยมาดูแลอยู่ช่วงหนึ่ง เจ้าของที่เขาไหว้วานเราก็ต้องมา”

เสียงไวโอลินเงียบไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงกลองรำมะนาผสานกับเสียงของกีตาร์โปร่ง พอเพลงบรรเลงเริ่มเปลี่ยนเป็นจังหวะสนุกสนาน เจ้าของรีสอร์ทก็โค้งคำนับเพื่อขอแขกกิตติมศักดิ์เต้นรำแทนการเปิดฟลอร์

เด็กหญิงในชุดบานงและเด็กชายในชุดตะโล๊ะบลางอจากโรงเรียนท้องถิ่นจับคู่เข้าไปสมทบ เริ่มจากการย่ำเท้าแบบง่ายๆ และหมุนตัวให้เข้ากับจังหวะของเพลงรองเง็ง แขกในงานเริ่มจับคู่กันออกไปเต้นรำบ้าง พยายามเลียนแบบท่าเต้นจากเด็กๆ ด้วยการหันหน้าเข้าหาคู่ของตัวเองและซอยเท้าตาม

รุ่งภพนั่งลงด้านหลังเก้าอี้นั่งของเถ้าแก่ พอเพลงลาฆูดูวอบรรเลงจบตรัยก็จับจูงคู่เต้นรำของตัวเองเข้ามานั่งพัก เธอเป็นหญิงชรารูปร่างปราดเปรียว แววตาเชิดรั้นเย่อหยิ่งและแข็งแรงเกินอายุ

คุณยายของตรัย

รุ่งภพก้มหน้าลงเมื่อเธอปรายตามองมา เรื่องระหว่างเขากับตรัยถูกเปิดเผยไปนานแล้ว แม้จะไม่ได้ถูกพาไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแต่ก็ได้มีการพูดคุยกันบ้างผ่านโทรศัพท์และวิดีโอคอล

“มากับเขาด้วยเรอะ” หญิงชราเอ่ยถามเมื่อเห็นเขา แววตาเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใด

“ครับ”

“พูดเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วง ถามคำตอบคำ ไม่น่ารักเอาซะเลย”

“คุณยายครับ..ก็คุณยายถามแค่นั้น จะให้น้องตอบว่ายังไงล่ะครับ” ตรัยเอ่ยขัดคอผู้เป็นยาย เธอค้อนขวักแล้วเอ่ยเสียงเครือ

“แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้ โอ๋กันเข้าไปสิ!”

เถ้าแก่ชัยกระแอมไอ ส่งสายตาให้ลูกชายถอยไปแล้วออกปากชวนคุยไปเรื่องอื่น “คุณแม่เอายาดมไหมครับ?”

“เป็นลูกฉันเหรอถึงมาเรียกฉันว่าแม่”

“อ่อ..ครับๆ คุณหญิงแม่”

หญิงชราเม้มริมฝีปากจนบางเฉียบแล้วส่งเสียงขัดใจในลำคอ “แล้วเอายาดมมาให้ฉันทำไม?” มองเมินยาดมหลอดเล็กที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ “ไม่เอา! เอาคืนไป ฉันไม่ใช้ของร่วมกับแก”

“โธ่..ก็ผมเห็นคุณหญิงแม่เต้นซะลืมแก่ขนาดนั้น ก็เลยกลัวจะเป็นลมเป็นแล้งไปไงครับ”

“ฉันยังแข็งแรงมีไฟอยู่ย่ะ ไม่ต้องพึ่งยาดมยาหอมเหมือนแกหรอก”

ตรัยส่ายหน้าให้กับไม่ลงรอยของคนแก่ ปล่อยให้พ่อกับยายคุยกันไป? ส่วนตัวเองเดินเข้าไปหาคนรักแล้วฉุดรั้งให้เข้ามายืนอยู่กลางฟลอร์

“คุณ! ผมไม่อยากเต้น”

“กังวลอะไรหืม? คนอื่นเขาเต้นกันเยอะแยะ ไม่มีใครสนใจพวกเราหรอก” ตรัยกุมมือชายหนุ่มแล้วจับบังคับให้ก้าวเท้าตาม

“ผมไม่อยากให้คนอื่นมองคุณไม่ดี แขกตั้งเยอะแยะ คุณไม่อายเหรอครับ”

ตรัยส่ายหน้าแล้วหมุนตัวของชายหนุ่มเข้ามากักขังในอ้อมแขน “ฉันไม่สนใจคนอื่นหรอก ฉันสนแค่เธอ” นัยน์ตาคมหลุบต่ำ ปิดบังความเขินด้วยการโขกหน้าผากกับไหล่เขา “เรียนเป็นไงบ้าง”

“อืม..พอไหวครับ ตอนนี้ยังเรียนหมวดวิชาทั่วไปอยู่ แล้วก็พื้นฐานการออกแบบ ปีหน้าถึงจะเรียนวิชาบังคับแล้วก็เอกเลือก”

“ไหวแน่นะ พักงานในแพก่อนไหมจะได้เรียนให้เต็มที่” ตรัยหว่านล้อม ตอนรุ่งภพบอกจะเรียนต่อเขาดีใจมาก ไม่แปลกใจเลยที่ชายหนุ่มเลือกเรียนสาขานวัตกรรมการออกแบบ รุ่งภพถนัดงาน DIY เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สามารถต่อยอดได้หลากหลายสาขา ทั้งงานออกแบบ งานผลิตและงานตกแต่ง

“เรียนแค่เสาร์-อาทิตย์เอง ไม่เหนื่อยหรอกครับ”

“ตามใจแค่ตอนนี้เท่านั้นนะ เดี๋ยวถ้าคุณฝนหาชิ้วเรือมาแทนเธอได้เมื่อไหร่ ฉันจะให้เธองดออกเรือทันที” ตรัยดึงชายหนุ่มออกจากวงเต้นรำเมื่อนักดนตรีบรรเลงเพลงท่อนสุดท้าย เขาพารุ่งภพเดินย้อนกลับมายังสะพานยาวหน้ารีสอร์ท เรือยอร์ชส่วนตัวจอดคอยอยู่ก่อนแล้ว โดยมีผู้จัดการรีสอร์ทถือกุญแจยืนคอยเขา

“อ้าว? ตรัย จะพาน้องไปไหนน่ะลูก”

“สวัสดีครับ คุณตรี”

รอยยิ้มใจดีประดับอยู่บนใบหน้าของตรีทิพย์ เธอมองเด็กหนุ่มข้างกายลูกด้วยแววตายินดีหลังจากไม่ได้เจอกันนานมากเพราะต่างคนต่างยุ่งจนไม่มีเวลา “จะเอาเรือออกไปไหนกันจ๊ะ”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”

ตรีทิพย์หันไปเลิกคิ้วถามลูก นึกเป็นห่วงเพราะเย็นมากแล้ว

“ไปใกล้ๆ นี่เองครับ ไม่ได้ออกไปไหนไกลหรอก”

“ไม่บอกก็ตามใจ เดี๋ยวแม่จะกลับแล้วนะลูก เป็นห่วงน้องขวัญ เขาใกล้จะคลอดแล้ว” ตรีทิพย์เอ่ยถึงลูกสะใภ้คนเล็ก ตอนนี้ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว อีกไม่นานคงได้รับขวัญหลาน

“ฝากรับขวัญหลานด้วยนะครับ”

“ไม่รับฝากจ้ะ ถ้าคลอดแล้วแม่จะโทรมาบอก ยังไม่รู้เลยว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“ไม่ได้ซาวด์เหรอครับ?” ตรัยถามด้วยความแปลกใจ น้องชายของเขาไม่น่าจะอดทนรอลุ้นได้จนถึงวันคลอด

“ซาวด์จ้ะ แต่ไม่เห็น สงสัยจะขี้อาย ซาวด์ทีไรหนีบเอาไว้ตลอดเลย” เธอหัวเราะอารมณ์ดี รู้สึกตื่นเต้นกับหลานคนแรก

“งั้นผมขอรับขวัญคนสุดท้ายแล้วกันนะครับ เดี๋ยวรอให้รุ่งสอบเสร็จก่อนแล้วค่อยไป”

“เดี๋ยวแม่บอกตาวให้แล้วกันนะ ตรัยจะพาน้องไปไหนก็รีบไปเถอะลูก เดี๋ยวมืดค่ำแล้วมันอันตราย”

ตรัยรับคำแล้วกอดลาแม่ก่อนจาก เขาฝากรีสอร์ทให้ผู้จัดการดูแลก่อนจะพารุ่งภพลงเรือแล้วขับอ้อมไปทางหลังเกาะ ทิวทัศน์แถบนี้เป็นไหล่เขาและผาเตี้ย หาดทรายไม่สวยเหมือนด้านหน้าเพราะเต็มไปด้วยก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ เขาพาชายหนุ่มไต่ความชันขึ้นไปบนเชิงเขา รุ่งภพอ้าปากค้างเมื่อเห็นดอกหญ้าในความทรงจำขึ้นเบียดกับกองหินจนกลายเป็นทุ่งกว้าง ตรัยตวัดแขนกอดรัดชายหนุ่ม กดจูบลงบนแก้มอิ่มแล้วเอ่ยกระซิบข้างใบหู

“ชอบไหม? มันเพิ่งขึ้นเมื่อเดือนก่อนแต่ขยายพันธุ์ได้ช้ามาก ฉันเลยให้คนงานขึ้นมาริดหญ้าต้นอื่นออก กลัวมันโดนกลืน”

“เหมือนทุ่งดอกไม้เลย” ก้านดอกโอนเอนตามแรงลม เหมือนระบำดอกไม้กลางทุ่งกว้าง

“เอาไว้ดูวิวพระอาทิตย์ตกกับเธอสองคน”

รุ่งภพเอนหลังพิงอกคนกอด ทอดถอนใจอย่างเป็นสุขกับชีวิตที่มีเขา “ขอบคุณนะครับ”

“เรียนจบแล้วมาอยู่ด้วยกันนะ”

หนุ่มใต้พยักหน้าตอบรับคำชวน เขาคิดเอาไว้นานแล้วว่าจะเข้ามาช่วยงานตรัยหลังเรียนจบ แม้จะผูกพันกับงานในแพปลามาหลายปีแต่เขารักศิลปะการออกแบบมากกว่า ถึงอาชีพการงานจะเปลี่ยนไปแต่สายเลือดพรานทะเลยังคงอยู่ ความรู้ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กยังคงไหลเวียนอยู่ในตัวเขา แม้ภายภาคหน้าจะไม่มีโอกาสได้ใช้แต่เขาก็ยังสามารถถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังได้สืบสานต่อถึงวิถีชีวิตชาวประมงที่ยั่งยืน

สายลมฤดูร้อนพัดพาความอบอุ่นเข้ามาห่มใจ รุ่งภพกระซิบรักเสียงแผ่ว หัวใจเป็นสุขเมื่อได้รับอ้อมกอดกระชับแน่นกลับคืนมา



END



ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ผ่านไปด้วยดี ขอบคุณมากนะคะที่แต่งนิยาย น่ารักๆมาให้อ่าน ได้ความรู้ด้วยค่ะ  จบแล้วคงคิดถึงน้องรุ่งแย่  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไอ้เราก็มองหา​ นึกว่าถูกดันไปอยู่อีกหน้า​

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ใกล้จะอ่านจบละ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Happyกันไปในตอนจบ นึกว่าตรัยจะโดนชะนีจิกนานกว่านี้ ดีที่ตรัยคิดได้ทัน ไม่งั้นสงสารน้องรุ่งแย่เลย สนุกค่ะ :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด