------- นทีต้นน้ำ ------- ตอนที่ 30 ------ [17/12/2020]---P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ------- นทีต้นน้ำ ------- ตอนที่ 30 ------ [17/12/2020]---P.9  (อ่าน 23311 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :pig4:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 o18  o18

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ฉันรักพวกเขาจังเลยค่ะคุณ

ทำไมฉันเอ็นดูวววว เจ้าต้นปาล์มจัง

น้องเป็นคนจานใช่ใหมลูก(จานรัย)5555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พอมารวมกันแล้วแบบ โหวกเหวกมากแต่ละคน โอ๊ยยยยย
555555555555555555
นทีนี่ยังไงอาการออกใหญ่เลยน้า

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
นทีชอบสกินชิพ
ต้นน้ำก็ชอบตามแล้ว
 :mew3:
ส่วนโจลี่กะแบรดพิตต์น่ะ ของเค้าๆๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบบบบ  สนุกมากกกกกกกก   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

“ของเขาดี  เทคนิคเขาเด็ด  ทำให้ผู้หญิงเสร็จได้เลยนะมึ๊ง” .......นที้   :o8: :impress2:  :-[
“ใครเคยเสียตัวแล้ว?”.........อูยยยยย.......   :z3: :z3: :z3:
นที  ต้นน้ำ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Smile A

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
นทีต้นน้ำ  ตอนที่ 7

‘เหมือน’ เป็นแฟนกันจริงๆ เลย






สรุปว่าแข่งนัดต่อมา...วิศวะตกรอบ  นทีเล่นสบายๆ  ไม่คึกเหมือนรอบแรก  สบายๆ กันทั้งทีม  ขึ้นสวรรค์กันยกทีม  แพ้สถาปัตย์อย่างองอาจไปหนึ่งประตูต่อศูนย์     

คนแพ้ทุกคนมากองรวมกันที่บ้านของนที  ทุกคนสรุปว่าจะปาร์ตี้บาร์บีคิวริมสระน้ำกัน  น่าจะประหยัดกว่าไปกินที่ร้านอาหาร  คนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเองฉันใด...คนแพ้พนันยิ่งต้องดูแลตัวเองยิ่งกว่าฉันนั้น 

“เงินหนอ...เงินกู  นี่ก็เงินกู”  ขิงพลิกกุ้งบนตะแกรงไปมาพลางปลงอนิจจังกับเงินที่ปลิวออกจากกระเป๋าไป

“เงินกูด้วย”  เอื้องฟ้ากระแทกเสียงบอก

“ไม่รู้สิ  ไม่ใช่เงินกูอ่ะ  แต่แหมมม...กุ้งมันหวานดีจริงๆ”  เม่นหยิบกุ้งไปดูดหน้าตาพริ้ม  เม่นคนเดิม  เพิ่มเติมคือความกวนตีน  หลังจากที่ได้พบปะสมาคมกันหลายครั้งเข้า  เม่นก็ทวีความกวนตีนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

พวกต้นน้ำทั้งสี่คนหัวเราะ   พวกเขาตกลงกันแล้วว่า...ไหนๆ  ตังค์ก็เสียไปแล้ว  เสียตังค์ได้...แต่เสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด  ไม่ว่าฝั่งวิศวะจะมาไม้ไหน  จะจิกจะกัดสักเท่าไร...ฝั่งศิลปกรรมก็จะไม่หัวร้อนเด็ดขาด

ความสนุกของการกวนตีนคือการที่ได้เห็นอีกฝ่ายหัวฟัดหัวเหวี่ยงนี่แหละ  เมื่อความสนุกลดลง  ฝั่งวิศวะก็เลิกพูดจาเกทับฝั่งศิลปกรรม  หันไปกวนตีนเรื่องอื่นแทน

“สร้อยอะไรวะริว?  กูเห็นมึงใส่ตลอดเลย”  ต้นน้ำถามเมื่อเห็นสร้อยที่ร่วงพ้นออกเสื้อออกมาตอนที่ริวก้มวางลังน้ำแข็ง  เป็นสร้อยทองคำขาวที่ร้อยแหวนเอาไว้หนึ่งวง

“ก็ไม่มีอะไรหรอก  มึงอยากรู้เหรอ?”

ต้นน้ำพยักหน้า  ก็ไม่อยากรู้เท่าไรหรอก  เรื่องชาวบ้านน่ะ  แต่ถ้าบอก  ก็จะฟังก็ได้   

ไม่เพียงแค่ต้นน้ำ  คนอื่นๆ  ก็พลอยเงี่ยหูฟังไปด้วย  เนียนมาก...จากที่พูดคุยเล่นกันอยู่ดีๆ  พากันหุบปากเงียบไปหมด

“เอียงหูมาสิ  กูบอกมึงแค่คนเดียวเลยนะ  ไม่บอกคนอื่น  มึงรู้แล้ว...ต้องเหยียบไปที่มึงคนเดียวเลย”

ต้นน้ำพยักหน้ารับคำพร้อมกับเอียงหูเข้าไปใกล้

“เสือก!!!”  ริวกระซิบเสียงดังจนได้ยินกันครบทุกคน  กระซิบแบบนี้ไม่ตะโกนใส่หูไปเลยล่ะ

นทีหัวเราะตาหยี  แววตาวาววับ  พลางมองดูต้นน้ำวิ่งไล่ถีบริว

“ถ้าไม่รู้ว่ามึงชอบผู้หญิง  กูคงคิดว่ามึงชอบไอ้น้ำไปแล้วนะเนี่ย” เม่นบอกนทียิ้มๆ 

นทีหัวเราะกลับเบาๆ   

ต้นน้ำ  นที  แยกเอาอาหารมาให้น้องรักทั้งสองตัว  ต้นปาล์มผู้รักสัตว์ก็ตามมาด้วย  “โจลี่มากินไส้กรอกเร็ว  กินร้อนๆ เนอะ  จะได้ไม่ปวดท้อง” ต้นปาล์มลูบหัวลูบหางแบรดพิตต์  อัธยาศัยดีแม้แต่กับหมา  คาดว่าเหี้ย...ปาล์มก็รัก

“ตัวนั้นชื่อแบรดพิตต์ ”  นทีบอกเสียงอ่อย

“เออ  ลืมถามเลย  แล้วหมาเม่นเป็นไงมั่ง?  หายดีแล้วเหรอ?”  ต้นน้ำถาม

นทีเลิกคิ้ว “..........”

“ก็ที่นายรีบกลับมาจากพัทยามาดูหมากันไง?”

“อ่อ...หายแล้ว”

บ้านไอ้เม่นเลี้ยงหมา?  รีบกลับมาดูหมา?...ไม่นะ  ตอนที่กลับจากพัทยา  นทีเป็นคนชวนกลับ  เพราะเป็นห่วงหมา  หมาที่บ้านไม่สบาย  ป๊าไม่อยู่  ไม่มีคนคอยดูแลไม่ใช่เหรอ?
ต้นปาล์มคาใจ... ไอ้เม่นนะไอ้เม่น  เป็นเพื่อนกันแท้ๆ  แอบเลี้ยงหมาไม่บอกเขา  คอยดูนะ  ต้องแอบไปเล่นให้ได้เลย

“เฮลโหล!!”  เนมโผล่หน้าเข้ามา  วันนี้เนมไม่หาย  แต่แว้บไปรับแฟนมาด้วยเลยมาช้า

“นี่แป้งสุดที่รักของกูเอง”  หญิงสาวหน้าหมวยเดินตามหลังเนมเข้ามา  แป้งยิ้มจนตาหยี  ท่าทางดูเขินๆ 

“หวัดดีแป้ง”  เอื้องฟ้าทักทาย  คนอื่นก็โบกไม้โบกมือกันไป

“นั่นน็อต  เม่น  ปาล์ม  แล้วก็นที”  เนมแนะนำคนที่แป้งยังไม่รู้จักทีละคน 

แป้งอมยิ้ม  ท่าทางเขินกว่าเดิมอีก  มือไม้อยู่ไม่สุข  ตัวบิดไปบิดมา

“เบาๆ จ้ะทูนหัว  หนูมีผัวแล้วนะคะ”  เนมหันไปลูบหัวแป้ง  แป้งยิ่งอายเข้าไปใหญ่...มือบางฟาดผัวะเข้าที่แขนเนมเสียงดัง

  “เฮ้ย...เขินแรงไปป่ะเนี่ย?”  เนมลูบแขนตัวเองป้อยๆ

เอื้องฟ้าตะโกนทันที “ถ้าผัวมันชั่ว  เปลี่ยนผัวไหมหนู?”  พูดจบก็เดินเข้าไปกอดแป้ง  “โอ๋ๆ  ไม่ต้องเขิน  เราเข้าใจ  เราก็เคยเป็นมาก่อน”

“เฮ้ย...อย่ามายุให้ผัวเมียเขาตีกัน  ใครจะดีกว่ากูไม่มีอีกแล้ว  นั่งรถมาพูดถึงแต่นทีตลอดทาง  เอาสิ...เจอตัวแล้วนี่  ลูบได้  จับได้  คลำได้  แต่อย่าเอาไม้แหย่รู   ใจกว้างขนาดนี้  จะไปหาที่ไหนได้อีก”

“เนมอ่า  หยุดแซวได้แล้ว”  แป้งยังเขินไม่หยุด  “เพื่อนเราเขาฝากมาถ่ายรูปนทีอ่ะ”  แป้งเดินมาบอกต้นน้ำ

ต้นน้ำงง  ทำไมถามเขาล่ะ?

“หรือว่า...แป้งก็...เป็นแฟนเพจนั้นเหรอ?” 

แป้งพยักหน้า 

“เพจอะไรวะ?”  ปาล์มถาม 

“ก็เพจนทีต้นน้ำไง  มึงไม่รู้เหรอ?”  เอื้องฟ้าบอก  พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดให้ดู

ปาล์มรับมาดูก่อนคืนให้เอื้องฟ้า  แล้วล้วงโทรศัพท์มือถือตนเองออกมาจากกระเป๋าบ้าง “กูกดไลค์แระ”  เต้นดุ๊กดิ๊กไป  มือก็โบกโทรศัพท์โชว์ 

“ว้าว  มีเพจแบบนี้ด้วย”  น็อตชะโงกหน้าเข้ามาดู  พลางเอาโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากด

คนอื่นๆ ก็ทำตาม  ทุกคนล้วงโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วกดไลค์เพจ

ต้นน้ำหันไปทางนทีที่ล้วงโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน

“นายทำอะไรน่ะ?”

นทีเงยหน้าขึ้นมามอง  “หืม...ก็กดไลค์เพจไง”





“พวกเรามาเล่นเกมส์กันเถอะ”  ปาล์มเสนอ  ทุกคนส่งเสียงเฮ

“เกมส์นี้ชื่อว่าเกมส์คนกล้าหรือคนกาก   ยกตัวอย่างเช่น  ถ้าเราพูดว่า  ใครเคยตกต้นไม้   ถ้าใครเคย...ให้กินหนึ่งแก้ว  ถือว่าเป็นคนกล้านะ   แต่คนที่ไม่เคยตกต้นไม้  ให้กินสองแก้ว  จัดอยู่ในพวกคนกากนะ  โอเคไหม?  มีใครไม่เข้าใจกติกาบ้าง?”

ทุกคนมีแก้วเหล้าเต็มสองแก้วอยู่ตรงหน้า  คนกล้า...จะได้กินหนึ่งแก้ว  คนกาก...จะได้กินสองแก้ว

หึ...ถ้าคิดว่าเกมส์จะเบาๆ  อย่างที่ตั้งคำถามล่ะก็  คิดผิด  คิดอะไรที่มันปกติธรรมดาเหมือนคนอื่นเขา...ก็ไม่ใช่ต้นปาล์มแล้ว  ปาล์มหยิบฉลากใบแรกขึ้นมา “เอาล่ะนะ  ห้ามโกหก  ใครโกหกขอให้เป็นหมัน  ทำพันธุ์ไม่ได้อีกเลย”

“ใครเคยเสียตัวแล้ว?!?”

พรวดดดดดด!!!   ต้นน้ำสำลัก  นึกว่าเกมส์จะเบาๆ เปิดมาก็เล่นแรงเลย  เสร็จแล้วก็หยิบขึ้นมากินหนึ่งแก้ว  มีเอื้องฟ้าคนเดียวที่กินสองแก้ว

“ยังบริสุทธิ์อยู่สินะ  กากว่ะ”  เนมแดกดันเอื้องฟ้า  แล้วหันไปจุ๊บขมับแฟนตัวเองที่นั่งหน้าแดงอยู่ 

“ไอ้น้ำ  มึงโกหกป่าวเนี่ย?”  เม่นถามขึ้นเมื่อเห็นต้นน้ำกินเข้าไปแค่แก้วเดียว

“โกหกอะไรวะ?” 

“ไอ้ริว  ไหนมึงบอกว่าไอ้น้ำมันไม่เคยไง?”

“เอ้า...กูก็คิดแบบนั้น  ตั้งแต่คบกันมา  กูก็ไม่เคยเห็นมันไปกับใคร” แปลว่า...ต้องก่อนที่จะมาสนิทกันสินะ  เขาต้องแอบไปถามพวกเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกับต้นน้ำตอนโรงเรียนเก่าซะแล้ว

“พวกมึงแอบคุยเหี้ยอะไรกันลับหลังกูเนี่ย?  ถ้าพวกมึงไม่สบายใจ  กูกินอีกแก้วก็ได้นะ”

“เอาจริงดิ  มึงเคยแล้วจริงเหรอ?”  ขิงถาม

“ทำไมวะ?  กูต้องโกหกพวกมึงเพื่อ...?”  เขาอุตส่าห์ไม่โกหก  กลัวเป็นหมันอย่างที่ปาล์มแช่งไว้

ต้นปาล์มกอดต้นน้ำหมับ  “โธ่...ม่ายนะ  ต้นน้ำคนดีของปาล์มมี่  เสียคนไปซะแล้ว”

“พวกมึงก็กินแก้วเดียวกันทุกคนอ่ะ  ทำไมมาสงสัยแต่กูล่ะ?”

“ก็หน้ามึงมันไม่ให้ไง  เฮ้ยพอแล้วไอ้ที...ของมึงน่ะเสียไปตั้งนานแล้ว  กินแก้วเดียวก็พอแล้ว”  น็อตหันไปปรามนทีที่ยกแก้วที่สองของตัวเองขึ้นดื่ม

“มาๆ ข้อต่อไป”  ต้นปาล์มหยิบสลากใบที่สอง  ทุกคนทำสีหน้าหวาดๆ...กลัวคำถามมันเหลือเกิน “ใครเคยได้เสียบนรถ!?!”

ต้นน้ำกุมขมับ  โกหกดีไหมวะ?  ไอ้ปาล์มมันแช่งแม่นไหมนะ?  แต่เมื่อกี้ตอนที่มันแช่ง...หน้ามันก็ดูจริงจังอยู่  ต้นน้ำตัดสินใจ...หยิบขึ้นมากินหนึ่งแก้ว

“เฮ้ย...ไอ้น้ำ!!!”  เพื่อนทั้งกลุ่มทำสีหน้าตกใจ  ต้นน้ำไม่ใช่คนดีอย่างที่คิดซะแล้ว!  ใสๆ ที่เห็น...ความจริงอาจจะเป็นเหล้าขาวก็ได้

“มึงมันร้ายยยย” เม่นยกแก้วขึ้นชี้หน้าเขา 

ส่วนริวนั่งมองเงียบๆ...แต่ในใจไม่เงียบ  เขาต้องกลับไปสืบข่าวให้ได้

เอื้องฟ้ากินสองแก้วอีกแล้ว  “ไอ้เหี้ยปาล์ม  ถ้ามึงจะมีแต่คำถามเสื่อมๆแบบนี้  คืนนี้กูเมาคนแรกอ่ะ”  คนซิงคนเดียวในกลุ่มโวยวาย

“แล้วมึงจะให้ถามยังไง?  ใครเคยฉี่ใส่ที่นอน...งี้เหรอ?  ไม่เร้าใจเลย”

“มา  งั้นกูเขียนให้”  เอื้องฟ้าคว้ากระดาษเปล่าที่วางไว้มาช่วยเขียน 

“ต่อเลยนะ  ไม่รอเอื้องนะ”  ปาล์มหยิบสลากแผ่นต่อไป “ใคร...เคยมีอะไรกับคนเพศเดียวกัน”  ข้อนี้ง่ายมาก  มีขิงเป็นคนกล้าแค่คนเดียว  นอกนั้นกากหมด

“เดี๋ยวนะ...ไอ้ริว” ขิงที่ทำหน้าภาคภูมิใจขมวดคิ้ว  “ทำไมมึงกินแค่แก้วเดียว?”

ริวยิ้มกริ่มพลางยักคิ้วแทนคำตอบ  มือเรียวลูบแหวนที่อยู่บนสร้อยคอตัวเองเล่น

“บราโว  ริว...ชายเหนือชาย”  เสียงโห่ฮาดังขึ้น  “ริวคนจริง”   “ริวสุดยอด” 

ขิงปาเม็ดถั่วใส่ริว  “ไอ้เหี้ย  แค่เรื่องนี้  มึงยอมให้กูสักเรื่องไม่ได้เหรอวะ?”

“โห  กูจัดข้อนี้ให้ไอ้ขิงโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย” 

“นี่ๆ ขอถ่ายรูปได้ไหม?”  แป้งบอก 

ทุกคนขยับมารวมตัวกัน  แป้งก็ถ่ายไปเรื่อยแล้วกดส่งให้เพื่อนดู 

“เสร็จแล้ว”  เอื้องฟ้าตะโกน  “เก็บของเสื่อมๆ ของมึงลงไปเลยไอ้ปาล์ม”

“ไรว้า...มีของมึงด้วยนะเอื้อง  ใครยังซิงอยู่?....ฮ่าฮ่าฮ่า”  ปาล์มหัวเราะลั่น

“ไลฟ์สดได้ไหมอ่ะ  เพื่อนเราอยากดูด้วย”

ทุกคนมองหน้ากัน  พยักหน้ากันหงึกหงัก  ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายนี่

“เอาสิ  เอาสลากเสื่อมๆ ของไอ้ปาล์มทิ้งแล้วนี่”  เอื้องฟ้าบอก

“มาๆ ต่อ  กดไลฟ์แล้วใช่ไหม?” ปาล์มถามแป้ง 

“กดแล้ว”

“เอาล่ะนะครับ  กระผมนายต้นปาล์ม....”  ปาล์มอธิบายกติกาเกมส์  พร้อมกับรับหน้าที่เป็นพิธีกรเสียเลย  แป้งหัวเราะชอบใจใหญ่ 

“ต่อนะ...ใครเคยหนีเที่ยว?”  ยกหนึ่งแก้วทั้งกลุ่ม  หัวเราะเฮฮากันไป

“ใครเคย...โกหกพ่อแม่” เคยยกแก๊งอีกแล้ว  อะไรดีๆ นี่ ‘กล้า’กันหมด

“มาๆ ต่อๆ  โหย...ข้อนี่แหววสัดอ่ะอีเอื้อง  ใครมีคนที่แอบชอบอยู่?  อันนี้ทีละคนๆ” ปาล์มกำกับรายการ

กล้องแพนไปทีละคน  น็อต...กินสองแก้ว 

เม่น...กินสองแก้ว 

ริว...หนึ่งแก้ว 

“อ๊ากกกก...ไอ้เหี้ยริว  สงสารคนที่มึงแอบชอบว่ะ  ใครที่พ่อหนุ่มคนนี้แอบชอบ  รายงานตัวกับผมด้วย  ผมจะแถมข้าวสารให้ครับ” ปาล์มแซวผ่านสื่อ

ขิง...สองแก้ว

เอื้อง...กินหนึ่งแก้ว

เนมพูดกับกล้อง “ผมไม่ได้แอบชอบครับ  ผมมีคนที่ผมรักอยู่”  แล้วก็กินแก้วเดียวพร้อมกับเสียงโห่จากเพื่อนๆ โดยมีแป้งที่ยิ้มเขิน  หน้าแดงอยู่หลังกล้อง


“ผมชอบทุกคนเลย  แล้วผมต้องกินกี่แก้ว?”  ปาล์มกินไปสองแก้ว

ต้นน้ำ...กินหนึ่งแก้ว

นทีที่มองต้นน้ำอยู่ก็กินหนึ่งแก้ว

ต้นน้ไม่ได้มองหน้านทีเลย  ปลายตาเห็นแต่เพียงมือขาวของคนข้างๆ ที่วางแก้วลงเท่านั้น

เม่นกับริวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของทั้งสองคน  มองดูคนสองคนที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ  แต่ไม่ค่อยมองหน้ากัน  ไม่ค่อยพูดอะไรกันเหมือนเคยเงียบๆ

“เอาล่ะครับ  สนุกสนานกันไปพอหอมปากหอมคอกันแล้ว  จบการรายงานเพียงเท่านี้  พวกผมขอตัวไปกินต่อนะครับ  ต้นปาล์มรายงาน”





“แล้วพวกมึงคบกันได้ไงอ่ะ?”  เม่นถามคู่รักที่มีอยู่คู่เดียว

“ก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน  แล้วค่อยมาเป็นแฟนกัน”  เนมตอบ

“แล้วมันมีอะไรเปลี่ยนไปไหม?  จากเพื่อนกลายเป็นแฟน” ลองเอื้องฟ้าเป็นคนถามแล้วล่ะก็...รอได้เลย  ถามอะไรแต่ละอย่าง  ถามละเอียด  ถามลึกทุกซอกทุกมุม  ชอนไชยิ่งกว่าฝุ่นตามซอกหน้าต่างเสียอีก 

“ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย  ดูหนังด้วยกันเหมือนเดิม  กินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม  คุยกันเหมือนเดิม  อ้อ...เปลี่ยนสรรพนามไง  จากที่พูด...กูมึง  มาเป็น...ฉันเธอ  ตอนแรกใครเผลอพูดกูมึงนี่เก็บตังครั้งละสิบบาท  แป้งซื้อกระเป๋าได้ใบหนึ่งเลยอ่ะ”

“แล้วอย่างนี้จะเป็นแฟนกันไปทำไมวะ?  เป็นเพื่อนก็เหมือนกัน” 

เนมเริ่มทำสีหน้าลำบากใจ  “มัน...ก็ไม่เหมือนกันไปซะทุกอย่างหรอก  ฮึ๊ย...มึงเก็บไว้ถามตอนแป้งไม่อยู่ได้ไหม?”

“ตอบเลยนะ  เธอมีความลับกับฉันเหรอเนม?” แป้งหยิกเนมเบาๆ

“เป็นเพื่อนกัน  มัน...ก็...จูบกันไม่ได้ไง?”

“อ๋อ...มึงเป็นแฟนกับแป้งเพราะหวังฟันแป้ง?”

“มึงหยุดเลยอีเคี้ยวเอื้อง  พูดให้กูหมาตลอด  รักเพราะรักนะจ้ะดาร์ลิง”  ประโยคหลังเนมหันไปพูดกับแป้งพร้อมทั้งเอาหัวไถ

“อ๋อ...มึงไม่ได้หวังฟันแป้ง?

“โฮ้ย...อันนั้นมันก็แน่อยู่แล้วป่ะว่าหวังอ่ะ  กูจะอธิบายให้พวกคนไม่มีแฟนฟังยังไงดีวะ?”  คนไม่มีแฟนทุกคนนั่งฟังหูผึ่ง  แม้แต่ต้นปาล์มยังนั่งสงบเสงี่ยมได้   ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า...ผู้ชายที่ดู ‘เชื่องๆ’ อย่างเนมกลับเป็นคนที่ต้องมานั่งสาธยายเรื่อง ‘การมีแฟน’ ให้เหล่า ‘หนุ่มหล่อสุดฮอต’ ผู้เชี่ยวชาญ  ช่ำชองและโชกโชนทั้งหลายฟัง “ คือแบบ...อย่างเพื่อนเนี่ย  เราไปกินข้าวด้วยกัน  ดูหนังด้วยกัน  แต่เราจะไม่อยากจับมือ  ไม่อยากกอด  ไม่อยากเข้าไปใกล้กว่าเดิมอ่ะ  แต่กูอยากกับแป้งไง  กูเลยต้องจับแป้งทำแฟน”

“งี้ก็หาผู้หญิงมานอนด้วยสักคนก็จบป่ะ?  ได้มากกว่ากอดอีก”  ตอบคำถามเอื้องฟ้าว่าลงลึกแค่ไหน?...เอื้องฟ้าก็เข้าใจได้  แต่ตอบคำถามต้นปาล์ม  ถ้าไม่อัจฉริยะด้านการอธิบายมากๆ...ต้นปาล์มก็จะงงๆ  อยู่อย่างนั้น

“มันไม่เหมือนกัน  คู่นอนมันเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกาย  มันไม่มีเรื่องของความรู้สึก  อธิบายยังไง...มึงก็ไม่เข้าใจหรอกปาล์ม  ถ้ามึงไม่เห็นผี...มึงก็ไม่เชื่อว่าผีมีจริง”

อธิบายขนาดนี้  คนอื่นเข้าใจหมดแล้ว  แต่ปาล์มก็ยัง... “เหี้ย  งงว่ะ”

“แล้วถ้าวันหนึ่งมึงต้องเลิกกันล่ะ?”  เอื้องฟ้าถามบ้าง  ต้นปาล์มงงจนหาคำถามมาถามต่อไม่ได้แล้ว

“กูก็เคยคิดเรื่องนี้นะ  แต่เป็นเพื่อนกันไป...สักวันก็อาจจะทะเลาะกัน  หรือไม่ก็แยกย้ายกันทำงาน  ห่างๆ กันไปได้เหมือนกัน  แล้วกูก็ไม่รู้ว่าจะกังวลกับความสัมพันธ์ที่ไม่รู้จะเป็นยังไงในอนาคต  แล้วต้องทิ้งความสุขที่จับต้องได้ในตอนนี้ไปทำไม?”

“อืม  กูว่ามึงคิดถูกแล้วเนม”  เอื้องฟ้าบอก  ไม่มีใครเห็นมือขิงที่บีบมือเอื้องฟ้าเบาๆ  อยู่ใต้โต๊ะ





 “เฮ้ย!!”  ขิงตกใจ  เมื่อเห็นรูปในเพจนทีต้นน้ำ  เป็นรูปข้อความที่ขิงเขียนสนทนากับเอื้องฟ้าลงในชีทตอนที่เอื้องฟ้าสงสัยเรื่องนทีกับต้นน้ำ

“ไหนดูซิ  นี่ขนาดไม่ได้พูดชื่อเลยนะ  พวกนั้นรู้ได้ไงว่าหมายถึงนทีกับไอ้น้ำ?”

“มโนเอาเองไง”  มโนกันถูกเสียด้วย “แล้วมันหลุดไปได้ไงวะ?”

เอื้องฟ้านั่งคิด  “น่าจะอิ๊งอ่ะ  ยืมชีทกูไปลอก  กูว่าน่าจะหลุดจากทางนั้น”

“อิ๊งอาจจะไม่ได้ตั้งใจ  แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้งมึง  นทียังมากดไลค์เลย” 

“เออว่ะ  พวกวิศวะก็กดกันทั้งกลุ่ม  กูกดมั่งดีกว่า”




“นี่เด็กๆ  วันนี้ว่างไปกินข้าวกับแม่ไหม?”

“กินอะไรครับแม่?” ต้นน้ำถาม

“กินร้านบาร์บีกอนน่ะ  แม่ไม่ได้กินมาตั้งนานแล้ว” 

“โอเค  ผมว่าง  นายอ่ะ?” ต้นน้ำหันไปถามนที

“บอลแพ้ไปแล้ว  ว่างแล้ว  งั้นนายไปรถคันเดียวกับเราเลยสิ  ไหนๆ ก็ต้องไปด้วยกัน  ไปเจอกันที่ห้างเลยนะครับแม่”  นทีชวนให้ต้นน้ำไฟมหา’ลัยพร้อมกันเลย  เช้าวันนี้มีเรียนด้วยกันอยู่แล้ว  ใช้รถคันเดียวกันก็ต้องประหยัดกว่าสิ

“จ้าลูก  ตั้งใจเรียนนะเด็กๆ”

“เอารถนายไปนะ  เราขี้เกียจขับ”  ต้นน้ำบอก

“อืม  ได้  แต่ตอนเย็นนายเป็นคนขับนะ”

“งั้นเราขับตอนนี้ดีกว่า  ตอนเย็นนายค่อยขับ”

“ได้”

ขับรถออกจากหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านไม่มันไร  ต้นน้ำก็นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์   ต้องวนรถกลับไปบ้าน  ทำให้เสียเวลาขึ้นอีก   พวกเพื่อนนั่งรออยู่ในห้องเรียนกันหมดแล้ว  จนอาจารย์เดินเข้าห้องมาแล้ว  นทีกับต้นน้ำก็ยังมาไม่ถึง

“ทำไมสองคนนั้นยังไม่มาอีก?”

“แป๊บนะ”  เอื้องฟ้าบอกเพื่อนคนอื่น  เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ  “อยู่ที่จอดรถแล้ว  กำลังขึ้นมา”

“พวกมันมันลำเอียงนี่  ทีกูไลน์หา  มันไม่เห็นอ่าน  แล้วทำไมมันตอบมึงวะ?”  ปาล์มน้อยใจที่เพื่อนทั้งสองไม่อ่านไลน์ตัวเอง  แต่กลับตอบเอื้องฟ้า

“กูไม่ได้ไลน์ถามมันนี่” 

“แล้วมึงรู้ได้ไง?”

“ทวิตเตอร์!!!  แฮชแท็กนทีต้นน้ำ”  ยอมใจชาวทวีต  เรื่องราวข่าวสารนี่เร็วจริง  แทบจะนาทีต่อนาที  สองคนนี้อยู่ไหน?  ทำอะไร?  กินข้าวกับอะไร?  กินกี่คำ?  รู้หมด   ชนิดที่ว่า...กลุ่มเพื่อนสนิทยังไม่รู้ขนาดนั้นเลย

ปาล์มเลื่อนทวิตเตอร์ดูบ้าง  วันนี้มีรูปนทีกับต้นน้ำเดินลงรถมาด้วยกัน  ตอกย้ำความอยู่บ้านเดียวกันเข้าไปอีก  ปกตินทีเป็นคนหวงรถมาก...แต่กลับยอมให้ต้นน้ำขับ  แปลกจัง! 

นทีกับต้นน้ำเดินเข้ามาพร้อมกัน  มองมาทางกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหลังเกือบสุด  ถ้าเดินไปถึงจุดนั้นก็เกรงใจอาจารย์ที่เริ่มสอนไปแล้ว  เลยส่งสัญญาณว่าจะนั่งที่ว่างข้างหน้ากัน  ต้นน้ำเดินนำไปก่อน  นทีเลยคว้าข้อมือเอาไว้ให้นั่งข้างหน้าด้วยกัน

ต้นปาล์มมองแล้วก็อดคิดไม่ได้  ถ้าพวกขี้ชิปเห็นต้องจินตนาการไปไกลแน่...สองคนนั่นก็ทำตัว ‘เหมือน’ รักกันไปไหมวะ?

นทีเอามือพาดไปที่เก้าอี้ต้นน้ำ  ดูแล้วเหมือนโอบกลายๆ  แถมยังเอียงหน้าเข้าไปกระซิบอะไรกันอีก   ต้นน้ำก็หัวเราะให้นที 

เหมือน!  เหมือนมาก!  เหมือนจริงมาก! เหมือนสองคนนั้นเป็นแฟนกันจริงๆ เลย   ต้นปาล์มไม่แปลกใจเลย...ที่สาวๆ จะชิปคู่นี้




 
ต้นน้ำกับนทีมาถึงห้างแล้ว  แต่ธนกรกับน้ำฝนยังไม่มา  ทั้งสองคนเลยไปเดินเล่นกันก่อน  เดินมาถึงชั้นเสื้อผ้าผู้ชายก็อึ้งกันไปอึ้งกันมา

แบ็คดรอปขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานเด่นหราอยู่หน้าร้านเสื้อผ้าของอรุณี

“ป้าอ้อยเล่นใหญ่ไปไหมวะ?”  ต้นน้ำที่ยังตะลึงอยู่แสดงความคิดเห็นที่อยู่ในใจออกมา

“เราว่าเป็นฝีมือยัยน้ำตาล  นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานของร้านนะ  เราว่ายัยนั่นเอาแต่รูปนายไว้  แล้วเอารูปเราออกแน่”

ต้นน้ำทำหน้าไม่ถูก  ยิ้มไม่ได้  หัวเราะไม่ถูก 

“ป่านนี้...ห้องยัยนั่น  น่าจะมีแต่รูปนายเต็มไปหมด?  ทำเป็นผ้าปูที่นอน  ปลอกหมอนไปหมดแล้วมั้ง”

“นายอย่าพูดอย่างนั้นสิ  เหมือนน้ำตาลเป็นโรคจิตเลย”

“ก็เป็นโรคจิตจริงๆ อ่ะ  แต่ก็...พอเข้าใจได้”  นทีมองไปที่รูปของต้นน้ำภาพที่กำลังกัดปาก  หิวข้าวมันไก่

ส่วนต้นน้ำก็มองไปที่รูปนทีที่ถอดเสื้อ  ใส่วันพีซแค่กางเกงตัวเดียว

“พี่คะ”  น้องมัธยมกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทัก   นทีกับต้นน้ำหันไปพร้อมกัน “อุ้ย...ใช่จริงๆ ด้วย  ขอถ่ายรูปได้ไหมคะ?”  น้องๆ อุทานอย่างตื่นเต้นที่ได้เจอคนในแบ็คดรอปตัวจริง

พอมีกลุ่มหนึ่งก็มีกลุ่มสอง  กว่าจะหมด  นทีกับต้นน้ำก็ยิ้มจนเหงือกแห้ง

“แม่กับป๊าอยู่ไหนแล้วนี่?”  ต้นน้ำรีบกดโทรศัพท์แล้วหันมาบอกนที  “อยู่ที่ร้านแล้ว  ไปเถอะ  หิวโคตรๆ”

ป๊ากับแม่อยู่ที่ร้านแล้วจริงๆ  อาหารวางเต็มโต๊ะพร้อมปิ้งย่างได้เลย  ต้นน้ำเล่าให้ฝนทิพย์ฟังถึงสาเหตุที่มาช้า  ย่างกันไป คุยกันไปจนอิ่ม  มื้อนี้นทีกับต้นน้ำหารเงินกันเลี้ยงแม่กับป๊าเอง

พอออกมาหน้าร้าน  ป๊าก็ไปรับรถเข็นที่ฝากไว้  ในรถเข็น...เต็มไปด้วยนิตยสารปกที่นทีและต้นน้ำเป็นแบบ 

“ฮิฮิ  นัดวางแผงพร้อมกันกับแบ็คดรอป  แม่ไปเหมามาหมดเลย  เดี๋ยวเราไปถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอปกันด้วยนะ” 

หา...ถ่ายรูปอีกแล้วเหรอ? “ถ่ายอีกแล้วเหรอแม่?”

“ต้องถ่ายนะ  นี่แฟนคลับอันดับหนึ่งเลยนะ”

นทีกับต้นน้ำพากันถอนหายใจยาว  เดินตามไปแบบเนือยๆ

“ทำหน้าดีๆ กันหน่อย  แม่เราเขาตื่นเต้นมากเลยนะ  ตอนขับรถมา  ผ่านป้ายหน้าห้าง  บอกอยากได้กลับบ้าน  แต่ป๊าห้ามไว้ก่อน  ป้ายใหญ่ขนาดนั้น...บ้านเราต้องใหญ่ขนาดไหน  ถึงจะเก็บได้”  ธนกรเดินเข็นรถช้าๆ ตามหลัง  พลางนินทาภรรยาอย่างรักใคร่ให้ลูกทั้งสองฟัง




“กินอะไรดีวะ?” เนมถามขึ้น 

“ข้าวมันไก่”

“อีกแล้วไอ้น้ำ  กูจะเลิกคบมึงเพราะข้าวมันไก่เนี่ยแหละ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า  กูจะไปกินที่โรงอาหารวิศวะ  นทีบอกข้าวมันไก่ที่นั่นอร่อย  ไปไหม?”

แน่นอนว่าไป  เอื้องฟ้าขอเข้าห้องน้ำแป๊บนึง  กลับออกมาในสภาพหน้า ‘เต็ม’   แน่นอนสิ...นี่ไปโรงอาหารวิศวะนะ   โรงอาหารที่เต็มไปด้วยนักศึกษาวิศวะน่ะ  แล้วนักศึกษาวิศวะส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้นเลยนะ 

ต้นน้ำแยกไปเซเว่น  แล้วจะตามไปเจอกันที่ตึกวิศวะ  พอไปถึงก็เจอพวกเม่นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว  ส่วนนทีแยกไปซื้อน้ำ

 “กินอะไรดีวะ? เอาก๋วยเตี๋ยวต้มยำดีกว่า”  ริวยื่นเงินให้เอื้อง

“เฮ้ย  ทำไมให้เอื้องไปซื้ออ่ะ  ผู้ชายทั้งนั้นเลยนะเว้ย”  น็อตผู้จริงจังตำหนิริว

“ก็เพราะอย่างนี้แหละ  ถึงให้มันไปซื้อ  มันจะได้โชว์ความสวยที่เพิ่งอัพมาให้โลกได้ประจักษ์ไง” ริวหัวเราะให้น็อต  “ เป็นห่วงก็เดินตามไปไป๊  ห่างๆ นะ  เดี๋ยวไม่มีใครแซวมัน”

คนอื่นลุกไปซื้อข้าวกันเหลือแต่ริวกับเม่น  ริวเหลือบมอง  เห็นข้าวมันไก่วางไว้จานนึง “ของไอ้น้ำเหรอ?”

เม่นนั่งเท้าคางพลางยักคิ้วตอบเนือยๆ “จะของใครได้อีก”

ริวเบ้ปาก

นทีเอาน้ำมาวาง  พลางถาม “น้ำล่ะ?”

“ก็มึงซื้อมานั่นไง”

“อย่ากวนตีน  กูถามถึงต้นน้ำ”

“ไปเซเว่น  เดี๋ยวก็มา  นั่นไง...เดินมาแล้ว” 

นทีมองตามสายตาของริวไป  เจอต้นน้ำที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง  ท่าทางคุยกันถูกคอ  ก่อนเดินแยกกันไป

“สงสัยหมาจะคาบไปแดกซะแล้ว”  ริวบอกเบาๆ พลางเท้าแขนลงกับบ่าของนที 

นทีตวัดสายตามองริว  เหมือนมีเข็มพันเล่มตรงเข้าจู่โจม  ริวรีบบอก “ไอ้เม่นน่ะ  มันชอบน้องคนที่เดินมากับไอ้น้ำเมื่อกี้”

“ใช่ๆ  กูชอบ” 

นทีตวัดสายตากลับ  พลางเดินไปหาต้นน้ำที่กำลังมองหาพวกเขา

“มึงไปแกล้งมันทำไมวะ?”  เม่นถามริว

“หรือมึงไม่แกล้ง?”

“แกล้งสิ  หึหึ”  เม่นยิ้มกว้างด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ

ต้นน้ำยื่นยาจิบแก้ไอกับยาแก้เจ็บคอให้นที

“รู้ได้ไงว่าเราเจ็บคอ?”  นทีรับยามาแบบงงๆ  เขามีอาการเจ็บคอ  แต่เป็นแค่เริ่มๆ เบื้องต้นเท่านั้น

“ก็เหมือนเสียงนายเปลี่ยนๆ ไปนิดนึง”

เม่นกับริวเผลอสบตากัน  กระพริบตาให้กันสางสามปริบ  ไม่มีความหมายใดๆ ในดวงตาทั้งคู่  แต่ทั้งสองคนกลับเข้าใจความหมายกันเอง

“กินน้ำไหม?”  เม่นเลื่อนแก้วน้ำมาให้ริว   

“ก็ดี”




------------tbc------------

เราสร้างแฟนเพจแล้ว
ไปคุยกันได้น๊า
https://www.facebook.com/a.athenasmile/?ref=bookmarks
อยากมีคนคุยด้วย

คุยคนเดียวมันเหงา  อิอิ
เม้าท์ๆ กัน
รับรองได้ว่าเราไม่ใช่คนขี้เสือก  5555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2019 13:12:45 โดย Smile A »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ต้นปาล์มลูก นู๋เป็นคนไสย์ๆนะ

ริวกับเม่นเซ้นต์แรงมากแม่

นทีกับต้นน้ำกรุบกริบ กรุบกริบ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เด๋วๆ ขอเผือกเจ้าของแหวนที่ห้อยคอริวด่วนๆๆๆ
 :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ------- นทีต้นน้ำ ------- ตอนที่ 7 ------ [22/8/2019]
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-08-2019 15:57:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ดูแลกันดีขนาดนี้ รู้ใจตัวเองกันไม่เนี่ย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะเก็บไม่อยู่แล้วนที 5555555555

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เกมนี้สอน ให้รู้ว่าอย่าตัดสินต้นน้ำที่หน้าตา
สนุกมาก เราลุ้น ชอบความค่อยๆเป็นไป ชอบบริบท
 :L2: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2019 17:44:38 โดย Billie »

ออฟไลน์ lcortsess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
ฝากเนื่อฝากตัวด้วยจร้าาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เกมนี้ ต้นน้ำคายความลับหมด   o22
เพราะกลัวคำแช่งเนี่ย.....นะ     :m20:  :laugh:
ให้แอบสงสัยคำถาม ใครเคยได้เสียบนรถ   :katai1:
ไม่ใช่ว่าต้นน้ำคิดว่าได้เงินเสียเงิน เพราะเล่นไพ่บนรถนะ  :z3: :z3: :z3:
แล้วที่ต่างก็มีคนที่แอบชอบเนี่ย  :hao4:
แล้วไม่มองหน้ากัน แอบปรายตามองแค่ที่มือ   :a5:  กล้วเปิดเผยอ๋อ  :-[
นที ก็ชัดเจนจนเพื่อนดูออก เรื่องให้ต้นน้ำขับรถหรูที่สุดหวง  :o8:
ส่วนต้นน้ำก็จับเรื่องเสียงเปลี่ยนไปของนทีได้  :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Smile A

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
นทีต้นน้ำ  ตอนที่ 8
ในวันที่อากาศร้อน






“เมื่อกี้ใครน่ะ?”  นทีถามต้นน้ำ

“อ่อ  ไม่รู้จักอ่ะ  น้องเขาเดินมาทัก”

“ทักว่าไง?”  คิ้วเรียวขมวดลงเล็กน้อย

“ก็ทักว่า...แบบ...เอ่อ...”

“ว่า...?”  เรียกทุ้มเข้มขึ้น

“ว่า...ก็เหมือนตามมาจากเพจน่ะ  ประมาณอยากให้คบกันนานๆ นะ  อะไรอย่างนั้นน่ะ”  ต้นน้ำพยายามพูดให้ดูซอฟท์ลง  ความจริงแล้วน้องเขาพูดเยอะกว่านี้...ขอให้พี่สองคนรักกันนานๆ นะคะ...พวกพี่น่ารักมากเลยค่ะ...ประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นแฟนกันแล้ว

หน้ามุ่ยเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง  “น้องเขาก็น่ารักดีนะ”

เม่นกับริวพรูลมหายใจพร้อมกับทำหน้าเบื่อหน่าย   นทีคนเท่ห์...ไม่มีอีกแล้ว  เหลือแค่ลูกไก่ในกำมือเท่านั้นแหละ

“อะไรเอ่ย...จะบีบก็ตาย  จะคลายก็ไปไหนไม่รอด?”  เม่นถามริว

“ควายไง  โดนขังไว้ก็ไม่รอด  เปิดกรงให้แล้วก็เสือกโง่ออกมาไม่เป็นอีก”





นทีเดินแยกไปซื้อน้ำเปล่ามาเพิ่ม  ส่วนต้นน้ำนั่งกินข้าวมันไก่ที่นทีซื้อไว้ให้

“อื้ม...ข้าวมันไก่ที่นี่อร่อยจริงๆ ด้วย”  เนื้อไก่ไม่มันมาก  ข้าวมันเรียงเม็ดสวยไม่แฉะ  น้ำจิ้มก็อร่อย  เสียแต่ให้น้อยไปหน่อย

เม่นกระแซะเข้ามาใกล้  “มึงว่าดิวมันชอบนทีไหม?”

ต้นน้ำทำหน้างง   เม่นพยักเพยิดทางนทีที่ยืนคุยกับดิวอยู่  ไม่รู้ว่าคุยอะไร  แต่ทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน

“นทีเป็นเกย์?”  ต้นน้ำหันไปถามเม่น

“เปล่า  แต่มันก็ชอบผู้ชายได้”  เสียงเม่นใกล้หูเขามากและก็ชัดมาก

ต้นน้ำมองไปที่นทีที่ยังคงคุยกับดิวไม่เสร็จ  พลางลุกขึ้น

“จะไปไหน?”

“ไปซื้อข้าวมันไก่อีกจาน  อร่อยดี”

ต้นน้ำเดินออกไปแล้ว  ริวปาน้ำแข็งใส่เม่น

“อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ  มึงไปแกล้งมันทำไมเนี่ย?”

“ทีมึงยังแกล้งเพื่อนกูเลย  แต่ไอ้น้ำมันแข็งกว่าที่คิดนะเนี่ย” 

“อะไรแข็ง? K?” 

เม่น “.....”





สิ่งที่แน่นอนที่สุดบนโลกนี้คือความไม่แน่นอน  โลกใบนี้เป็นน่าจะเป็นโลกที่ไม่มีความแน่นอนอาศัยอยู่จริง
 
คนที่เหมือนควรจะป่วยอย่างนทีกลับแข็งแรง  ในขณะที่คนซื้อยาให้กลับนอนป่วยแทน 
 
เมื่อวานตอนเย็น  แป้งมาที่คณะ  เนมเลยชวนเพื่อนทั้งหมดไปกินขนม  ช่วงก่อนจะเช็คบิล  ฝนก็ตกลงมาหนักมากทั้งที่ไม่มีวี่แววมาก่อน  และมันก็ไม่ใช่หน้าฝนด้วย  รถจอดอยู่ไกลพอสมควรถ้าต้องวิ่งไปท่ามกลางสายฝน  จะให้ผู้หญิงที่ใส่ชุดนักศึกษาวิ่งเปียกฝนก็ดูใจร้ายเกินไป  ต้นน้ำเลยอาสาเป็นคนไปขับรถมารับเพื่อนทั้งหมดที่หน้าร้านเอง  เมื่อรถมาจอดเทียบหน้าร้าน  พนักงานที่คอยบริการอยู่อาสากางร่มมาส่งที่รถ
 
ดังนั้นคนที่เปียกก็จะมีแค่...ต้นน้ำผู้เสียสละเพียงคนเดียว
 
 
แค่กๆๆ... ต้นน้ำรู้สึกระคายคอจนนอนหลับต่อไม่ได้  
 
"กินน้ำหน่อย"  ต้นน้ำรู้สึกได้ถึงแรงยวบที่เตียง 
 
แพขนตาหนาช้อนขึ้น  กระพริบตาเพื่อปรับแสงสว่างเล็กน้อย  เมื่อปรับโฟกัสได้จึงเห็นว่าคนที่อยู่ข้างๆ คือนที
 
"นายไม่ได้ไปเรียนเหรอ?"  น้ำเสียงที่เปล่งออกมาค่อนข้างแหบ  อาจเป็นเพราะว่านอนมานานเกินไป 
 
"ก็นายไม่สบาย  เราจะทิ้งนายไปเรียนได้ยังไง  ไปก็เป็นห่วงเปล่าๆ" มือใหญ่ทาบลงตรงหน้าผากมน  เย็นสบายจนเขาต้องหลับตาลง "ตัวร้อนจัง"  นทีละมือออก  เดินกลับออกไปข้างนอก 
 
ต้นน้ำมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินพ้นประตูออกไปก่อนย้ายมาโฟกัสที่แสงสว่างเพียงจุดเดียวที่โต๊ะหนังสือ  มีหนังสือนิทานวางอยู่หลายเล่ม  เป็นนิทานที่เขาวาดรูปประกอบทั้งหมด  ทุกเล่มที่เป็นผลงานของเขา...ป้าเล็ก  เจ้าของสำนักพิมพ์จะส่งมาให้เขาสองเล่มเสมอ  เล่มหนึ่ง...เขาเอาไปบริจาค  เล่มหนึ่ง...เก็บไว้เป็นที่ระลึก 

นทีอยู่ในห้องตลอดเวลาที่เขาหลับเลยเหรอ?
 
ต้นน้ำคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู  พลางแอดลงไลน์กลุ่ม

Friend with No benefit
_____________________________________
 
กูไม่สบาย  เพิ่งตื่น  ลาเรียนให้ด้วยนะ

เอื้องฟ้า
รู้แล้ว  ลาให้แล้ว

รู้ได้ไงอ่ะ?

เอื้องฟ้า
ไอจี!

______________________________________
 
รู้จากทางไอจี?  ไอจีเนี่ยนะ!!  มือเรียวเปิดแอพพลิเคชันรูปกล้องทันที  มีรูปหนึ่งที่คนไลค์กันเยอะมาก  ต้นน้ำรีบกดเข้าไปดู  รูปเขาหลับ!... เป็นรูปที่นทีแท็กมา  โดยเขียนแคปชันว่า 'GG ไม่สบาย  นอนหลับฝันดี  แล้วช่วยบอกที หวยออกอะไร?'

GG มันเกิดมาจากรูปที่ตัดต่อตอนถ่ายแบบรูปหนึ่ง  เป็นรูปที่นทีใส่สูทสีดำและเขาใส่สูทสีขาว  ถูกถ่ายไว้จากคนละรูป  แต่ไม่รู้ใครเอามาตัดต่อให้รวมเป็นรูปเดียวกัน  แล้วเขียนเป็นแคปชั่นว่า  dewa and satan, good guy or badboy?  หลังจากนั้นก็มีแฮชแท็ก #GGBB เกิดขึ้นในรูปของเขาบ่อยๆ
 
realriw : งื้อ เป็นอะไร? เมื่อคืนหนัก? 
 
สองแง่สามง่ามตลอดดด
 
mynameisname : แงงง  เดี๋ยวเค้าเอายาไปเซ่นนะคนดี

คงจะรู้สึกผิดที่ให้เขาเปียกฝนเมื่อวานนี้สินะ

Supermen : เป็นไข้ต้องไปหาหมอ แต่ต้องเป็นอะไรหนอ  ถึงได้ไปหาเธอ

คอมเม้นท์ของเม่นกับริวกวนก็จริง  แต่ก็ยังมีคนทำให้เขาหมดคำพูดมากกว่า

Palmtree : เขาว่าคืนแรกจะทำให้คนป่วยได้ 

จากนั้นเป็นคอมเม้นท์ยาวที่รีพลายถามเกี่ยวกับ ‘คืนแรก’ 
...คืนแรกอะไรอ่ะปาล์มมี่?
...ปาล์มมี่รู้อะไรมา?
...ต้นปาล์มมีความลับ?
ซึ่งต้นปาล์มยังไม่ได้มาตอบอะไร


ต้นน้ำเข่นเขี้ยว เคี้ยวฟัน  มึงไม่ตอบ  กูตอบเอง... ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ  เมื่อวานผมเปียกฝนตอนเย็น  เลยมีไข้นิดหน่อย  @palmtree @supermen @realriw  พวกมึงก็ลากไก่ไปกินในน้ำบ่อยๆ ทำไมไม่ป่วยกันบ้างวะ?

นทีกลับเข้ามาพร้อมพร้อมกับถ้วยข้าวต้มควันกรุ่น  หอมมาก

“กินข้าวก่อน  แล้วค่อยกินยา”

“อืม  แต่เราไม่ได้ฝันถึงหวยนะ”

นทีหัวเราะพลางเอาถ้วยข้าวต้มมาวางไว้ที่ข้างเตียง “เห็นแล้วเหรอ?”

“เห็นแล้ว  พวกเหี้ยนั่นกวนตีน” พูดพลางก็บิดเนื้อตัวไปพลาง...รู้สึกปวดตัว  ครั่นเนื้อคั่นตัวไปหมด 

“ให้ป้อนไหม?”  นทีที่เดินไปเปิดม่านหันกลับมาถาม  จากนั้นก็มานั่งริมเตียงข้างๆ ต้นน้ำ 

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก”  ต้นน้ำคว้าชามข้าวต้มมาชิม “อร่อยว่ะ” คุยโน่นคุยนี่กันไปจนข้าวต้มหมดชามก็กินยาต่อ 

พยาบาลจำเป็นมองคนป่วยกินยา  กินน้ำไม่ละสายตา  พอต้นน้ำทำทุกอย่างเสร็จ  พยาบาลจำเป็นก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเดินเข้าห้องน้ำก่อนกลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆ “เช็ดตัวหน่อย”

ต้นน้ำจะรับผ้าขนหนูมา  แต่นทีกลับคว้ามือไว้  “เดี๋ยวเช็ดให้”

ตาคมปลาบมองมาที่ตากลมใส  ต้นน้ำหลุบสายตาลงก่อน

คนเราก็ไม่ได้เก่งในทุกสถานการณ์  ไม่ได้รู้ว่าควรทำตัวแบบไหนในทุกสถานการณ์   ต้นน้ำปล่อยให้มือใหญ่ไล้ผ้าผืนเล็กไปตามหน้าผาก  ดวงตา แก้ม  จรดปลายคาง   

ในความเงียบ  ตาคู่สวยมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าที่บรรจงเช็ดตัวให้เขา  ตาคมก็มองสบมาเหมือนกันก่อนมองไล่ลงไปยังลำคอขาว  ผ้าขนหนูชื้นน้ำที่เช็ดแผ่วเบาตรงลำคอให้ความรู้สึกร้อนอย่างประหลาด ความเย็นของผ้าขนหนูไล่ลงมาถึงช่วงอกที่โผล่พ้นเสื้อนอน   

นทีปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนของต้นน้ำออก  ไม่ทันที่จะปลดกระดุมเม็ดที่สอง  มือเรียวอีกคู่ก็คว้ามือเขาไว้

“เรา...ร้อน...อยากอาบน้ำ”  เขารู้สึกร้อนจริงๆ  ร้อนไปหมด  แม้กระทั่งมือก็ยังชื้นเหงื่อ

“แต่...”

“ไม่เป็นไรหรอก  แค่ล้างตัวเฉยๆ เหนียวตัว”

“อืม”  ตาคมทอแววหวานละมุน 

นทีพาต้นน้ำไปส่งที่หน้าห้องน้ำ  “เราคงเป็นคนดูแลที่แย่ที่สุดที่ปล่อยให้คนป่วยอาบน้ำ”

“คนป่วยดื้อไง”

“งั้นก็อย่าดื้อสิ”

“อืม  ไว้วันหลังแล้วกัน”





ต้นน้ำแปรงฟัน  ล้างหน้า  ใบหน้าขาวใสเป็นสีแดงระเรื่อ  ไล่ไปตั้งแต่พวงแก้มถึงใบหู   เขาสบตาตัวเองในกระจกก่อนรีบไปล้างตัวไล่ความร้อนออกจากร่างกาย

ร่างขาวพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา  หยดน้ำบางหยดยังเกาะอยูที่ร่องอกและแผ่นหลัง

นทีที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือหันมา  ร่างสูงโปร่งสาวเท้ายาวไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกมุมห้องผ่านหน้าเขาไป  นทีก้าวตาม 

ต้นน้ำรีบคว้าเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้น  หยิบตัวไหนได้ก็เอาตัวนั้นแหละ  ก่อนจะหันตัวกลับไปในห้องน้ำ  แต่ร่างสูงกลับยืนขวางไว้  ด้วยความสูงที่ต่างกันไม่มากทำให้ช่วงหน้าของคนสองคนห่างกันแค่คืบ 

“ตัวยังไม่แห้งเลย” นทีขยับตัวเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมที่ใช้เป็นประจำรวมกันกลิ่นเฉพาะตัวของคนตรงข้ามลอยอวลเข้าจมูก  มือหนึ่งของนทีจับแขนเขาไว้  อีกมือเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ในตู้ก่อนโอบเขาไว้หลวมๆ  จับปลายผ้าเช็ดตัวจากด้านหลังของเขาโอบมาพันทบไว้ด้านหน้า “เช็ดตัวให้แห้งสิ    เดี๋ยวไข้ก็กลับหรอก”

“อืม”  ต้นน้ำเบี่ยงตัวหลบ  เดินเลี่ยงไปทางด้านข้าง  สงสัยไข้จะกลับแน่แล้ว  ตัวเขาร้อนผ่าวไปหมด





ต้นน้ำกลับขึ้นเตียงในสภาพที่ดีขึ้น  ตัวไม่ค่อยร้อน  หน้าไม่ค่อยแดงแเล้ว  แต่เพลียมากกก  เหมือนร่างกายไม่ค่อยมีแรง  ร่างโปร่งเดินขึ้นเตียงแล้วห่มผ้านอนหลับตาทันที  
 
เขารู้สึกได้ว่าเตียงด้านข้างยวบลง  คนตัวสูงคงลงมานอนด้วย
 
"ระวังติดไข้"
 
"ถ้าติด  ติดไปนานแล้ว  ก็นอนตรงนี้ตลอด"
 
ตลอดเลยเหรอ?  นึกว่านั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะหนังสือซะอีก
 
"สบู่นายกลิ่นหอมจัง"
 
"ไม่ได้ถูสบู่สักหน่อย  แค่ล้างตัวเฉยๆ"
 
"งั้นก็กลิ่นตัวนายหอม"
 
รู้สึกร้อนอีกแล้ว  ไข้กลับอีกแล้วมั้ง
 
"จะนอนไหม?  จะไปปิดม่านให้"  นทีเห็นถามเมื่อเห็นต้นนำไม่ยอมลืมตาสักที
 
" ไม่แน่  นอนมาตั้งนานแล้ว  แต่ก็เพลียๆ อาจจะหลับอีกก็ได้" 
 
"อ่านนิทานไหม? "
 
ต้นน้ำลืมตาขึ้นพลางมองคนข้างๆ  นทีนอนเท้าแขนข้างเดียวมองเขาอยู่แล้ว
 
" นิทานของเราน่ะเหรอ?  อ่านหมดแล้ว"
 
" ก็เรายังอ่านไม่หมด  นายอ่านให้ฟังหน่อยสิ" 
 
"ได้ข่าวว่าเราไม่สบาย" 
 
"งั้นเราอ่านให้ฟังเอง"
 
หืม... อย่างนี้ก็ได้เหรอ?  
 
"เอาเรื่องไหนดี?  เรื่องนี้ดีกว่า...คุณหมีไม่สบาย!”

ต้นน้ำตะแคงข้างหันไปทางนที  รอฟัง

นทีนอนคว่ำตั้งใจอ่าน... 

“คุณหมีไม่สบาย” จบไปแล้วหนึ่งหน้า

“คุณหมีตัวร้อน” หน้าที่สองมีรูปหมีหน้าแดง  หน้าตาเพลีย

“คุณหมีไอ  แค่ก แค่ก” หน้าที่สามมีรูปคุณหมีไอ  ท่าทางเจ็บคอ

“คุณหมีต้องนอนพักผ่อน”  คุณหมีขึ้นเตียงแล้ว

“คุณหมีต้องทานยา”  รูปคุณหมีทานยา

“คุณหมีเช็ดตัว” รูปคุณหมีเช็ดตัว  โดยมีหมีแก่ตัวเมียใส่แว่นเช็ดตัวให้

“คุณหมีหายแล้ว”  หมีน้อยท่าทางสดชื่นเชียว

“คุณยายดีใจที่คุณหมีหายแล้ว”  รูปหมียายหลานกอดกัน 

“จบ!... เอาจริงสิ  นิทานมันสั้นๆ ห้วนๆ แบบนี้น่ะเหรอ?”  บางหน้ามีรูปเดียวแต่ใช้สองหน้า  ข้อความก็สั้นๆ เท่าที่อ่าน

ต้นน้ำหัวเราะกว้าง  “ก็นี่มันนิทานเด็กเล็กนี่  เขาก็แค่เอาไว้สอนเด็กเล็กให้รู้จักว่าไม่สบายคืออะไร?  ต้องปฏิบัติตัวยังไง?...เท่านั้นแหละ  อ่านเล่มนั้นสิ”  ต้นน้ำชี้ไปที่หนังสือเล่มเล็กที่อยู่บนสุด

“คนเก่งฉี่ใส่กระโถนเนี่ยนะ”

“อื้อ” ต้นน้ำยิ้ม

นทีโคลงศรีษะก่อนเปิดอ่านหน้าแรก “เราทุกคนฉี่ใส่กระโถน...ไม่ใช่แล้ว  ชักโครกไหม?”

“เด็กเว้ย...เด็ก” ต้นน้ำเตือน

นทีพลิกหน้าที่สอง  เป็นรูปหมาทำหน้าตาแปลกๆ อยู่ด้านซ้าย  ด้านขวามีข้อความว่า “คุณหมาปวดฉี่ๆ แล้ว”

หน้าที่สาม  เป็นรูปคุณหมาฉี่ใส่กระโถน “คุณหมาเก่งจัง  คุณหมาฉี่ใส่กระโถน”

ต้นน้ำหัวเราะ  หน้าตานทีตลกมาก  ตอนที่อ่านว่า ‘คุณหมาเก่งจัง’  หน้าตานี่ไม่ได้ชมคุณหมาเล๊ย  ติดจะเหยียดหยามคุณหมาด้วยซ้ำไป  ด่าคุณหมาได้...คงด่าไปแล้ว 

หน้าที่สี่...รูปคุณหมีทำหน้าตาแปลกๆ เหมือนคุณหมา “คุณหมีปวดฉี่ๆ แล้ว” 


“คุณหมีเก่งจัง  คุณหมีฉี่ใส่กระโถน”

จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นคุณแมว  คุณวัว  คุณแกะ  คุณกระต่าย  แล้วก็จบด้วย... “ทุกคนเก่งจัง  ทุกคนฉี่ใส่กระโถน  อย่างนี้เราก็เก่งมากอ่ะ”

“อย่าดูถูกไป  ทุกเรื่องเขาผ่านการคิดมาแล้ว  สมองเด็ก...ความจำยังสั้น  ใช้คำน้อยๆ เข้าใจง่ายๆ ดีที่สุด”

“นายรู้ดีจังนะ”

“รู้สิ  คนแต่งบอก  ป้าเล็ก...คนที่เล่าเรื่องลูกคนที่สามให้เราฟังไงล่ะ”

“หืม...ใครนะ?”  นทีทำหน้าสนใจขึ้นมาทันที 

“ป้าเล็ก  เป็นคนแต่งนิทานเด็ก” ต้นน้ำพลิกตัวจากนอนตะแคงเป็นนอนหงาย  “เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์หลายสำนักพิมพ์เลยล่ะ  ทั้งนิทาน  นิยาย  พวกฮาวทูก็อีกสำนักพิมพ์หนึ่ง  เป็นเพื่อนกับแม่ไง  ป๊าก็น่าจะรู้จัก  ป้าเล็กเก่งมากนะ  นายสังเกตดูสิ   อย่างเรื่อง ‘คุณหมีไม่สบาย’...ป้าเล็กก็บอกว่า...ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากแต่งให้มีพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวข้องมาก  เพราะสงสารพวกเด็กกำพร้าที่ได้อ่าน   ‘คุณหมีฉี่ๆ’ ก็ไม่มีเรื่องของพ่อแม่เลย   ที่สำนักพิมพ์ไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้าบ่อย  ไปทีก็หอบหนังสือไปบริจาค เพราะป้าเล็กเองก็ไม่มีพ่อเหมือนกัน   แล้วป้าเล็กกำลังรณรงค์ให้ทางโรงเรียนงดกิจกรรมวันพ่อวันแม่ด้วยนะ  เจ๋งใช่ไหมล่ะ”  ต้นน้ำเล่าไปดวงตาก็วาววับ

นทีที่นอนตะแคงมือใหญ่เท้าแขนไว้กับเตียงข้างหนึ่ง  จับตาดูดวงตาวาววับคู่นั้น  และริมฝีปากเล็กๆ ที่เล่าไม่หยุดอยู่ตลอด  เผลอเอามือใหญ่ข้างที่ว่างอยู่วางพาดไปบนเอวต้นน้ำ  ใบหน้าคมฝังลงที่ไหล่  “อืม  เจ๋งมาก  อยากเจอซะแล้วสิ”

ต้นน้ำชะงัก  ปล่อยให้คนตัวใหญ่ซบหน้าลงกับไหล่นิ่งๆ  “อืม  แล้วจะพาไปเจอ”  บางทีนี่อาจจะเป็นความอ่อนไหวของคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน  “แม่นายเคยไปงานวันแม่ไหม?”

นทีส่ายหน้าทั้งที่ใบหน้ายังฝังอยู่ที่ไหล่เขา 

ต้นน้ำตบไหล่นทีเบาๆ  โดยที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองโดนสูดกลิ่นที่นทีบอกว่าหอมเข้าไปเต็มปอด 
 
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร   ต้นน้ำปล่อยให้นทีกอดไว้อย่างนั้น  แม้ว่าเขาจะรู้สึก ‘ร้อน’    รู้แต่เพียงว่า...แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า  ได้ยินเสียงนกร้องขับขานเตรียมกลับรัง  ลมเบาๆ พัดใบไม้ร่วง  บรรยากาศดีจนความ ‘ร้อน’ เปลี่ยนเป็นความอุ่น
 
แอ๊ด.... เสียงเปิดประตู
 
คนที่กำลัง ‘คุย’ กันเพลินหันไปมอง
 
เม่นกับริวเดินนำมาก่อน  พลางชะงักอยู่หน้าห้อง
 
"อุ้ย"
 
"อุ๊ย โทษที  ต่อเลยๆ" ทั้งสองคนทำท่าจะปิดประตู  แต่ไม่ทัน  ต้นปาล์มถลาเข้ามาก่อนด้วยความเร็วสูง  เข้ามาได้ก็โผเข้ามาจะกอดต้นน้ำ  ดีที่ริวกับเม่นเดินเข้ามาดึงคอเสื้อเอาไว้
 
"ทำไมพวกมึงต้องรุนแรงกับกูด้วยล่ะ? ไม่รักกูเลย" 
 
"นี่พวกกูปราณีมึงมากเลยนะ" เม่นตอบ
 
"ช่าย  ไม่งั้นมึงอาจจะเจอความรุนแรงมากกว่านี้"  ริวบอกพลางเหลือบตามองนทีที่เริ่มย่นหน้า  คิ้วขมวดมุ่น
 
ต้นปาล์มฮึดฮัดขัดใจ   
 
นทีกุมขมับ  จบแล้ว!
 
คนที่เดินตามหลังมาพากันกระจายตัวหาที่นั่งรอบห้อง
 
"เป็นไงบ้างมึง?" เอื้องฟ้าถาม
 
"โห  พวกมึงมาเยี่ยมกูกันเหรอเนี่ย?"
 
"เปล่า จะไปกินหมูกระทะ  บ้านมึงแค่ทางผ่าน  เลยแวะดูใจ" น็อตตอบ
 
"จริงใจว่ะ  ของเยี่ยมก็ไม่มี”

“อืม  ไม่มีของมึงหรอก  แต่ไอ้ปาล์มแวะซื้อไส้กรอกมาฝากโจลี่กับแบรดพิตต์นะ”  ขิงรายงาน

ไม่มีใครสนใจเม่นกับริวที่ยืนกระซิบกระซาบกันอยู่มุมห้องไกลผู้ไกลคน

“เสื้อผ้ายังอยู่ครบว่ะ”  ริวกระซิบบอกเม่นที่ยืนกอดอกพิงตู้เสื้อผ้าอยู่ 

“ไม่แน่นะมึง  อาจจะเมื่อคืน  เขาว่าถ้ารุนแรงจะไข้ขึ้นได้ไม่ใช่เลยหรอ?  แล้วไอ้น้ำก็...”

“ไม่ใช่แน่นอน  กูดูสีหน้าไอ้น้ำออก  ถ้าเมื่อคืนมีอะไรเกิดขึ้น  หน้ามันไม่ปกติแบบนี้แน่”

ทั้งสองคนมองไปยังนทีที่นั่งชันขาข้างหนึ่ง  เอาศอกเท้าไว้กับเข่า  ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเตียง...สีหน้าแววตาสงสารแกมสมเพชเพื่อนเป็นที่สุด





น็อตโกหก  ที่จริง...เพื่อนๆ ซื้อของมาเยี่ยมกันเยอะมาก...แต่เป็นของที่พวกมันอยากกินทั้งนั้นเลย   ต้นน้ำกินได้แค่ข้าวต้มที่ป้าแม่บ้านทำไว้ให้  กินกันเสร็จคุยกันสักพักก็แยกย้ายกลับบ้าน   ป๊ากับแม่เข้ามานั่งเล่นในห้องเขาพักใหญ่ก่อนกลับห้องนอน  ต้นน้ำถือโอกาสนี้ล้างตัวอีกครั้ง   

เสียงเคาะประตูดังขึ้น  นทีก้าวเข้ามาพร้อมผ้าห่มหนึ่งผืน “นอนด้วย” ไม่รอฟังคำตอบ  ร่างสูงโถมลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

ต้นน้ำ “.........”  จะให้เขาทำยังไงล่ะ?  ปฏิเสธ?...จะดูรังเกียจอีกฝ่ายไปหรือเปล่า? “เอ่อ...เรานอนคนเดียวได้นะ”

“แต่เราปล่อยให้นายนอนคนเดียวไม่ได้  มานอนเถอะ”

ต้นน้ำเดินไปปิดไฟ  ไฟในห้องดับหมดแล้ว  มีเพียงแสงสว่างจากด้านนอกทะลุผ่านผ้าม่านโปร่งชั้นนอกเข้ามาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ในความเลือนราง...เขาเห็นนทีลุกขึ้นมาถอดเสื้อ  นทีเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง...ที่ชอบนอนถอดเสื้อ  ภายในห้องมืดมาก  แต่เหมือนเขาจะเห็นมัดกล้ามทุกมัดบนร่างของนที   ดีนะที่พรุ่งนี้วันหยุด  ตัวเขาต้องกลับมาร้อนอีกแน่





“ไม่ต้องเอาหมอนไปหรอก  ห้องลูกมีตั้งหลายใบ  คุณจะไปนอนกับลูกจริงๆ เหรอ?”

“จริงสิ  คนไม่สบายต้องการกำลังใจที่สุด”  ธนกรตอบพลางลากฝนทิพย์ออกมาจากห้องนอน  เดินตรงไปที่ห้องต้นน้ำ  “รู้ไหม?  ตอนนทีเด็กๆ  ไม่สบายทีไร  ต้องขอนอนกับป๊าทุกที  บอกว่านอนกับป๊าแล้วหายเร็ว”

“แล้วตอนนี้ล่ะ?”

“ตั้งแต่โตมา  ยังไม่เคยเห็นป่วยสักที”

"ประตูล็อค"  ฝนทิพย์บอกเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องต้นน้ำแล้วพบว่าประตูห้องถูกล็อคไว้
 
"กุญแจอยูในห้องนอน  เดี๋ยวผมไปเอาก่อนนะ  คุณรออยู่นี่แหละ" 
 
"ลูกคงหลับแล้วมั้งคุณ" 
 
"อาจจะเพลีย  เราถึงต้องยิ่งดูแลอย่างใกล้ชิดไง"   
 
ธนกรกลับไปเอากุญแจมาไข  ค่อยๆ แง้มประตูเบามือ  "อ้าว  มีคนมานอนแทนซะแล้ว" 
 
ฝนทิพย์มองตาม  เห็นต้นน้ำนอนหลับสบาย  ส่วนนทีนอนตะแคงไปอีกข้าง  ท่าทางเหมือนหลับสบายเหมือนกัน
 
"กลับไปนอนห้องเรากันเถอะน่า"  ฝนทิพย์รีบสรุปเมื่อเห็นสามีทำหน้าเสียดาย
 
ฝนทิพย์พาธนกรที่กำลังผิดหวังจากการไม่ได้นอนให้กำลังใจลูกชายคนโตกลับห้อง  โดยที่ไม่รู้เลยว่า...ลูกชายคนเล็กได้ทำหน้าที่แทนเป็นอย่างดี  ทันทีที่ประตูปิด  นทีก็ลืมตา  เปลี่ยนท่าหันไปนอนซบกลิ่นต้นน้ำเหมือนเดิม
 
 
 
 
 
ต้นน้ำตื่นมา  นทีก็หายตัวไปแล้ว  ต้นน้ำเดินลงมาข้างล่าง
 
"นทีกับป๊าไปไหนล่ะแม่?"  ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นฝนทิพย์นั่งดูทีวีลำพัง
 
"ไปบริษัทกับป๊า"
 
"แล้วแม่ไม่ไปร้านเหรอ?"  ต้นน้ำยกถ้วยข้าวต้มมานั่งกินหน้าทีวีกับฝนทิพย์  วันๆ กินแต่ข้าวต้ม  เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเพื่อนถึงบ่นเขาเรื่องที่กินแต่ข้าวมันไก่กันนัก
 
"ไม่ไปอ่ะ  ลูกชายสุดที่รักป่วยอยู่แบบนี้  แม่จะทิ้งไปได้ไงล่ะ?" ฝนทิพย์ตอบพลางเข้ามาหอมหัวหอมหูลูกชายสุดที่รัก
 
ปกติก็ทิ้งประจำเถอะ... ต้นน้ำแค่คิดในใจ
 
"เออนี่... ลูกค้าหนุ่มสาวร้านเราเพิ่มขึ้นเยอะมากเลยนะ  ตั้งแต่ลูกกับนทีถ่ายแบบให้ป้าอ้อยน่ะ  แม่ว่าจะจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปลูกๆ เป็นแบบให้ร้านเราบ้าง... ดีไหม? "
 
"ผมยังไงก็ได้ " กิจการในครอบครัว  ควรช่วยกันทำมาหากินสิ  "แต่นทีไม่รู้นะ"
 
"เดี๋ยวแม่ลองถามอีกที  แล้ววันเกิดป้าเล็ก...อีกสองอาทิตย์ลูกจะไปไหม?"
 
" ไปสิครับ  ไม่ได้เจอป้าเล็กนานแล้ว  จัดที่เดิมหรือเปล่า"
 
" ที่เดิมนั่นแหละ"
 
 
 
 
 
เมื่อไม่มี 'พยาบาลจำเป็น' ต้นน้ำก็อาการดีขึ้น  ยังคงเหลืออาการไออยู่เพียงเล็กน้อย  ไม่มีอาการ ‘ร้อน’ จน 'ไข้กลับ' อีกต่อไป
 
แต่นทีที่เพิ่งกลับมาบ้าน  อาการแย่อย่างเห็นได้ชัด  หน้าแดง ตาแดง จมูกแดง  จามฟุดฟิดตลอดเวลา  ต้นน้ำเลยมีคนช่วยกินข้าวต้มแล้ว
 
" น้ำเอายาไปให้ทีหน่อยลูก" ฝนทิพย์สั่งขณะที่กำลังจะเก็บจานไปล้าง
 
ต้นน้ำเคาะประตูห้อง  รอสักพักก็ไม่ได้ยินเสียงตอบเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไป  ภายในห้องมืดสนิท  ไม่มีไฟเปิดสักดวง  เอื้อมไปคลำหาสวิตช์ตรงตำแหน่งที่คิดว่าน่าจะมี  สักพักก็เจอ
 
พอไฟสว่างขึ้น  สายตาก็จับภาพได้  ร่างสูงนอนอยู่บนเตียงโดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า   
 
ต้นน้ำรีบเข้าไปดู  มือเรียวแตะที่หน้าผากก่อนเรียก "นที  นที" 
 
ตาคมปรือขึ้น  มีแววอ่อนล้าในดวงตา "อือออ" 
 
"กินยาก่อนเถอะ  ลุกไหวไหม?" 
 
"ไหว" นทีลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง   
 
ต้นน้ำยัดเม็ดยาใส่มือขาว  ตามด้วยน้ำ  พอกินยาเสร็จ  ร่างสูงก็หงายศรีษะพิงเข้ากับหัวเตียง 
 
"ปวดหัวจัง" 
 
"นอนพักเถอะ" 
 
"อยากอาบน้ำ" 
 
"เช็ดตัวก็พอมั้ง" 
 
"แล้วทีเมื่อวาน  ใครขออาบน้ำ"
 
" ก็เราอาบไหว  นายอาบไหวไหมล่ะ?" 
 
" ไม่ไหว  เช็ดตัวให้หน่อยสิ"  ไม่พูดเปล่า  เอื้อมมือมาสะกิดขาพยาบาลคนใหม่พลางเอียงใบหน้ามองเขาด้วยสายตากึ่งอ้อนวอน กึ่งขอร้อง 

 


---------------ต่อด้านล่างนะจ๊ะ-------------







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2019 14:05:36 โดย Smile A »

ออฟไลน์ Smile A

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
---------------ต่อจากด้านบนนะจ๊ะ--------------


การเช็ดตัวให้  ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการอบน้ำให้จริงๆ "งั้นเราไปเอาผ้าก่อน" ต้นน้ำเดินไปเลือกเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นมาด้วย   
 
"ห้องนายไม่มีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเหรอ? ขนาดผ้าเช็ดหน้าน่ะ"   
 
"มีอยู่ตรงในลิ้นชักชั้นบนมั้ง" 
 
ต้นน้ำหอบของทั้งหมดเดินเข้าห้องน้ำไป  ห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กหลายผืน
 
" เอามาทำไมตั้งหลายผืน?" 
 
"เดี๋ยวก็รู้" 
 
มือเรียวใช้ผ้าเช็ดไปตามขอบหน้าของคนป่วย  ลำคอ  ในขณะที่คนป่วยนั่งเอนหลังยิ้มกริ่ม  สายตาไม่ละไปจากใบหน้าของพยาบาลเลย   
 
"ถอดเสื้อออกหน่อยสิ" 
 
นทีเริ่มต้นปลดกระดุมเสื้อ   ช้ามาก... กว่าจะปลดหมด  กว่าจะถอด   
 
"มัน... ปวดตัวอ่ะ"
 
"ไม่สบายก็แบบนี้แหละ"  ต้นน้ำเริ่มเช็ดที่แขน  แล้วเอาผ้าขนหนูผืนเล็กม้วนเป็นกลมๆ เหน็บไว้ที่ซอกรักแร้  "ลดอุณหภูมิ" 
 
จากนั้นก็เช็ดที่อก  แขนอีกข้าง  แล้วก็เหน็บผ้าไว้เหมือนกันอีกข้าง "นั่งตรงๆ ได้ไหม? จะเช็ดหลัง" 
 
นทีพยายามนั่งตรงๆ  ต้นน้ำยืนด้านข้าง  มือหนึ่งประคองไหล่นทีไว้  อีกมือหนึ่งก็ใช้ผ้าอีกผืนเช็ดตัวด้านหลังให้
 
"เช็ดอย่างกับล้างรถ  ทำไมไม่ทนุถนอมกันบ้าง? "
 
"ก็เช็ดตัวลดอุณหภูมิอ่ะ  ก็ต้องเช็ดแรงหน่อย  รูขุมขนจะได้เปิด" ว่าพลางเอาผ้าเช็ดตัวผืนแห้งมาซับหลังให้  ก่อนประคองให้พิงหมอนอีกครั้ง
 
"ทฤษฎีไหนเนี่ย?" 
 
"เคยเห็นน้าทำให้น้องตอนเด็กๆ  ข้างล่างจะเช็ดไหม?" ต้นน้ำเก็บผ้าเช็ดตัวทั้งหมดกลับ
 
"เช็ด  ถอดกางเกงให้ด้วยนะ  ก้มไม่ไหว  มันปวดหลัง"
 
.......... 
.......... 
.......... 
 
ต้นน้ำใช้มือตั้งสองข้างดึงเข็มขัด  ปลดตะขอ รูดซิบ  ไว้ก่อน  จากนั้นก็เอาผ้าเช็ดตัวผืนแห้งมาคลุมส่วนสงวนไว้  ก่อนดึงเอากางเกงออกมา
 
"ยังเหลืออีกชิ้น  เอาออกไปด้วยสิ"
 
.......... 
........... 
 
มือขาวสอดเข้าไปใต้ผ้าเช็ดตัวอีกครั้ง   
 
นิ้วเรียวเกี่ยวเอาชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายภายใต้ผ้าขนหนูออก  "เราไปเปลี่ยนผ้าให้ใหม่" ต้นน้ำรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดที่เขาเป็นคนถอดออกมาไปทิ้งไว้ในตะกร้าซัก  ก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
 
คนบนเตียงนอนยิ้มนิดๆ  ตาพราวระยิบระยับ
 
ต้นน้ำกับออกมาอีกครั้ง  นทีก็เอาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้แล้ว 
 
"ไหนว่าจะให้เช็ดข้างล่างด้วย?"
 
"ก็เช็ดไปสิ  มันหนาวนี่"
 
" แล้วทำไมไม่เอาเสื้อมาใส่  เสื้อก็วางอยู่ตรงนี้"
 
"ก็ บอก แล้ว ว่า ใส่ เอง ไม่ ไหว"  นทีเน้นทุกคำ ไม่ไหว  ไม่ไหว  ไม่ไหว  เข้าใจไหมว่า...ไม่ ไหว
 
.......... 
.......... 
 
อยากตีคนป่วย  แต่มือก็คว้าเสื้อมาสวมให้  ก่อนตวัดผ้าห่มออกแค่ช่วงขา  แล้วไล่เช็ดมาตั้งแต่ต้นขา  ไล่มาถึงข้อเท้า   
 
" ทีเมื่อวานทำไมไม่ให้เช็ดแบบนี้บ้าง? "
 
"หะ?"
 
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร?"
 
ต้นน้ำสวมกางเกงให้เป็นอย่างสุดท้ายก่อนเก็บผ้า   
 
"อยากแปรงฟันด้วย" 
 
"จะเอาทุกอย่างเลยใช่ไหม?" 
 
"ไม่  นี่ยังไม่ครบทุกอย่าง"...ที่อยากได้เลย
 
ต้นน้ำกรอกตา  "นายเป็นง่อยไปแล้วใช่ไหม?" 
 
"ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก  แค่ไม่สบาย  เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด  เหนื่อยมาก เพลียง่าย แค่นั้นเอง" 
 
ต้นน้ำสะบัดหน้าเข้าห้องน้ำ  ก่อนออกมาพร้อมแปรงสีฟัน  กับแก้วน้ำ   
 
"นายบ้วนปากลงถังขยะแล้วกัน" 
 
นทีอ้าปากรอ
 
 "พรุ่งนี้นายต้องเป็นง่อยจริงๆ แน่"  ต้นน้ำแปรงฟันให้นที  ตรงไหนเลอะก็เอากระดาษทิชชูเช็ด  แปรงๆ เช็ดๆ บ้วนๆ สะอาดพร้อมนอน   
 
ร่างสูงโปร่งขยับจะลุก  แต่มือใหญ่กลับคว้าข้อมือเอาไว้ "นายไม่สบาย เป็นยังไงบ้าง?" 
 
ใช้มาขนาดนี้แล้ว  เพิ่งจะมาถาม "แปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว"
 
"หายเร็วจัง  ได้กำลังดีล่ะสิ  คืนนี้นอนนี่นะ? 
 
ต้นน้ำ ".........." ปฏิเสธ? 
 
ปฏิเสธ! 
 
ปฏิเสธ!!
 
ปฏิเสธ!!! 
 
"นะ!" 
 
ต้นน้ำ ".........." อย่าพูด  อย่าพูดออกมาแม้แต่คำเดียวนะ
 
"ก็อยากหายเร็วๆ บ้าง"   
 
ประตูเปิดออกผัวะ
 
"นที๊... ลูกรัก  ปะป๊ามาแล้ว"  ธนกรโผเข้ามา
 
"ป๊ามาทำไมอ่ะ?"
 
"มานอนเป็นเพื่อนลูกไง  คนป่วยต้องการกำลังใจนะ  ปะป๊าจะดูแลลูกเอ๊ง" 
 
"งั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ"  ต้นน้ำรีบไปตัดบท " กู๊ดไนท์ครับป๊า
 
นที "ม่ายยยยยย" 
 
ต้นน้ำกลับมาที่ห้องนอน   พลางสูดหายใจเข้าเต็มปอด  เมื่อกี้เหมือนหายใจไม่อิ่ม  มันคอยจะขัดๆ อยู่ตลอดเวลา  คืนนี้กินยากันไว้หน่อย  เผื่อไข้จะกลับ





----------------โปรดติดตามต่อนต่อไป----------------

เค้ารักทุกคนเลย  ขอบคุณนะที่ติดตาม
ทั้งคนที่คอยให้กำลังใจตั้งแต่แรก  และคนที่เพิ่งอ่านนะคะ

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์  :กอด1:

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคะ?

จะรู้สึกเหมือนเรากันไหม?   :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2019 02:40:19 โดย Smile A »

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โถ่ นทีอีกนิดเดียว 5555555555555555
แต่ป่วยอยู่เนาะ  :hao3:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :laugh: ป๊า มาผิดเวลา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ป๊าน่ารัก แต่แอบสงสารนทีนะ ชวดเลย 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ------- นทีต้นน้ำ ------- ตอนที่ 8 ------ [25/8/2019]
« ตอบ #49 เมื่อ: 25-08-2019 06:47:47 »





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ป๊าน่ารัก เอากำลังใจมาให้ลูก :L2: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
่นทีกรีดร้อง


ป๊าาาาาาา


มาทำม๊ายยยย


555555555555

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
โถ่นที :laugh: :m20: :pigha2:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณป๊า ลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ต้องมานอนเป็นเพื่อนแล้วก็ได้ม้างงงงง 55555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :laugh: น่าสงสารคนป่วย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ป่วยน่ะป่วยจริงๆนะ......แต่ 30%  เท่าน้านนนน   :z3: :z3: :z3:
อีก 70%  มารยา สำออยล้วนๆ   :m20: :laugh: :pigha2:
กำไรล้วนๆ   :o8: :-[ :impress2:
นที  ต้นน้ำ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
น่ารักมากๆ อ่านรวดเดียวเลยจ้า น่าติดตามสุดอ่ะ เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป พัฒนาไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ป๊าน่าร้ากกกกกกก  555

ออฟไลน์ Smile A

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
นทีต้นน้ำ ตอนที่ 9

เรากลัวผี...จริงๆ นะ!!!





นทีกับต้นน้ำมาเรียนด้วยกันในสภาพที่มีผ้าปิดปากทั้งคู่  นั่งเด่นแต่ไม่ค่อยเป็นสง่าเท่าไรนัก  ค่อนข้างเป็นที่รังเกียจของเพื่อนฝูงมากกว่า  เพราะทุกคนกลัวติดหวัด  ทั้งที่พวกเขาก็ยืนยันแล้วว่าอาการหวัดหายไปหมดแล้ว  เหลือแค่ไอเล็กน้อยเท่านั้น  แม้แต่อาจารย์ท้องแก่ก็ยังทำหน้ากึ่งๆ หวาดกลัว  กึ่งๆ ขยะแขยง
 
หลังเลิกคลาส  ฝั่งศิลปกรรมนั่งกินข้าวที่โรงอาหารรวม  ในขณะที่ฝั่งวิศวะแยกไปกินที่โรงอาหารคณะตัวเอง  เพราะมีควิซวิชาคณะในคลาสต่อไป  
 
เนื่องมาจากโพล 'สาวหล่อสุดฮอต' ทำให้ขิงขยายตลาดได้กว้างขึ้น  ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็มักจะมีเสียงเรียก 'พี่ขิง' 'น้องขิง' ตลอดเวลา แต่วันนี้ 'สาวหล่อสุดฮอต' มีเหตุให้ต้องเสียอารมณ์ๆ  เพราะโพลใหม่ประจำเดือนออกแล้ว... 'คู่จิ้นที่อยากให้เป็นคู่จริงมากที่สุด' 
 
เปิดโพลมาก็เฮฮากันเลยเพราะในกลุ่มจับจิ้นกันเองถึงสองอันดับ  ซึ่งก็คือขิงกับเอื้องฟ้า... อันดับเจ็ด  ริวกับต้นน้ำ... อันดับสอง  
 
ส่วนอันดับหนึ่งได้แก่ต้นน้ำและนที   นทีเองก็มีชื่ออยู่ในโพลสองอันดับเหมือนกันกับต้นน้ำ  คืออันดับที่สาม... นทีกับดิว  
 
"มึงดูดิ  มันใช่เรื่องไหมวะ? น้องจิ๊บไลน์มาด่ากู  ว่ากูมีมึงอยู่แล้ว  ยังไปยุ่งกับน้องเขาทำไม? "
 
"กรรมตามสนองมึงไง  กูก็เลยซวยไปด้วย  คนอื่นต้องคิดว่ากูเป็นดี้หมดแน่" 
 
"กรรมตามสนองอะไรวะ?" ขิงถามงงๆ  เขาเคยไปทำอะไรให้ใครเมื่อไร? 
 
เอื้องฟ้าเอียงตัวเข้าหาขิง  ก้มกระซิบให้ได้ยินเพียงแค่สองคน "ก็เพจคิวท์บอยอ่ะ ส่งข้อความมาหากู  ว่าสงสารกูที่แอบชอบมึงเลยลงคู่จิ้นให้  เป็นการขัดขาผู้หญิงคนอื่น"
 
" เหี้ย  กูไปแอบชอบมึงตอนไหนวะ? "
 
"ก็มึงใช้เฟสกูไปขอให้เขาจัดโพลสาวหล่อให้มึงไง  จำไม่ได้เหรอ?  เรื่องเหี้ยๆ นี่ไม่เคยจำเลยนะมึง  มึงเป็นต้นเหตุของคู่ไอ้น้ำกับไอ้ทีเลยนะ"
 
"จริงด้วยว่ะ" ขิงที่เพิ่งระลึกชาติได้  หันไปมองหน้าต้นน้ำหงอยๆ... น้ำ กูขอโทษนะ
 
ต้นน้ำที่กำลังดูดชานมไข่มุกไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนขอโทษอยู่ใกล้ๆ  มือหนึ่งกินชาไข่มุก  มือหนึ่งเลื่อนโทรศัพท์ดูโพล
 
"ถ้าเป็นจริงก็ 3p เลยนะ  กูได้เมียสองคนเลยเหรอนี่?" 
 
"ถรุย  พูดอะไรไม่ดูหนังหน้าตัวเอง  ไหน... มึงว่าหน้ากูเหมาะจะเป็นเมียมึงเหรอ?"  คู่จิ้นอันดับสองของเขาโวยวาย
 
ต้นน้ำ ".......... "
 
"ไม่เหมาะใช่ไหมละ? ทีนี้มึงรู้แล้วใช่ไหมว่าใครที่ต้องเป็นเมีย?" 
 
"นี่พวกมึงเถียงกันว่าใครผัวใครเมียเนี่ยนะ?  พวกมึงจะเอากันจริงๆ หรือไง?"  เนมที่นั่งฟังอยู่ถามขึ้น
 
"ไม่" ทั้้งสองคนตอบพร้อมกัน  ก่อนมองหน้าแบบรังเกียจ
 
"ไร้สาระว่ะ  หาอะไรกินดีกว่า" เนมลุกขึ้นไป  ริวก็ตามไปด้วย
 
"น้ำ  มึงเฝ้าโต๊ะนี่แหละ  เดี๋ยวกูไปซื้อให้  เอาอะไร?"  ขิงถาม
 
"มึงกินอะไร  กูก็กินอันนั้นแหละ" ต้นน้ำบอกผ่านๆ  ก่อนเลื่อนดูรูปนทีกับดิวที่เดินกอดคอกัน
 
มือขาวปิดเฟสบุค  เลื่อนไปเปิดไอจีแทน  พิมพ์แฮชแท็ก 'นทีดิว'ลงไปในช่องค้นหา  สักพักเดียวก็มีรูปนทีคู่กับดิวขึ้นมาเต็มหน้าจอ  
 
เรือ 'นทีดิว' ก็ทำงานหนักไม่แพ้ เรือ 'นทีต้นน้ำ' เหมือนกัน  มีทั้งรูปนทีกับดิวลงรถมาด้วยกัน  นั่งเรียนด้วยกัน  กินข้าวด้วยกัน  ทุกกิจกรรมที่เขาเคยทำกับนที  นทีก็ทำกับดิวเหมือนกัน
 
ต้นน้ำปิดโทรศัพท์ลง  หัวใจเต้นรัวเร็วจนรู้สึกได้  แต่กลับไม่อาจควบคุมได้  เขาหงุดหงิด  เขาโกรธ  โกรธ... ในสิ่งที่ไม่ควรโกรธ  ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะโกรธด้วยซ้ำ
 
 
 
 
 
อีกฝั่งหนึ่งของคณะวิศวะกรรมศาสตร์   มือขาวเรียวลูบไปที่รูปของนทีและต้นน้ำบนหน้าจอมือถือ ปากแดงบนใบหน้าขาวสวยไม่ต่างจากผู้หญิงเม้มแน่น... ทั้งๆ ที่เขาเจอนทีก่อน  ทั้งๆ ที่เขาชอบนทีมาก่อน  แต่เพราะคิดว่า
นทีที่ไม่ชอบผู้ชาย! 
นทีที่ไม่ได้เป็นเกย์! 
แค่ที่สนิทสนมเป็นเพื่อนกันได้  แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว  แต่เขาคิดผิด  แม้ว่าการกระทำหลายๆ อย่างที่นทีแสดงออกต่อเขาดูไม่แตกต่างจากต้นน้ำ  แต่มีอย่างหนึ่งที่ต่างออกไป... สายตา!  แววตาที่นทีมองต้นน้ำ... ไม่ต่างจากเขาที่มองนทีเลย!
 
ถ้าเขาแสดงความรู้สึกของตัวเองออกไปตั้งแต่แรก... นทีจะมองเขาด้วยสายตาแบบนี้แทนต้นน้ำหรือเปล่า?  ถ้านทีรับรู้ความรู้สึกของเขาบ้าง... เขายังจะมีสิทธิ์อยู่ไหม?  ไม่มีใครอยากเป็นคนที่แอบรักข้างเดียวไปตลอด  ไม่มีใครอยากเป็นคนที่ผิดหวัง   ไม่ผิดใช่ไหม?... ถ้า 'ผู้ชายหน้าสวยอันดับหนึ่ง' จะลงสนามแข่งกับ 'ผู้ชายหน้าสวยอันดับสี่' สักครั้ง  
 
 
 
 
 
นทีเคาะประตูห้องต้นน้ำ  แต่ไม่มีเสียงตอบรับ  มือใหญ่หมุนประตูลูกบิดออก  ภายในมืดและเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่
  
เขาเอื้อมไปเปิดไฟ  เจ้าของห้องไม่อยู่จริงๆ  ร่างสูงเดินไปนั่งบนเตียงที่แม้จะทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว  แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของเจ้าของห้องอยู่  ตาคมกวาดมองไปรอบห้อง  ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม  เหมือนเมื่อครั้งแรกที่เขาเคยเข้ามาในห้องนี้  รวมทั้ง... กลิ่นที่หอมหวาน  อุ่นละมุนลอยอวลอยู่ในอากาศ  กลิ่นที่ตอนแรกไม่คุ้นชิน  แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นกลิ่นที่ยิ่งกว่าคุ้นเคย  เหมือนยาเสพติดที่ยิ่งดมก็ยิ่งติด  กลิ่นเดียวกับคนที่ไม่อยู่ 
 
อาทิตย์นี้ต้นน้ำยุ่งมาก  ตอนเช้าก็ออกไปแต่เช้า  ตอนเย็นกลับเข้ามาก็ขลุกอยู่แต่ในห้องตลอด  เห็นว่ารับงานวาดรูปมาจากป้าเล็กหลายงาน  ส่งท้ายก่อนสอบกลางภาค  เจอกันแต่ละทีช่างยากเย็น  ถึงเจอก็ได้เจอแค่แป๊บเดียว   แค่นี้... เขาก็เหมือนหายใจลำบากขึ้นทุกที
 
มือขาวลูบไปที่เตียงนอนช้าๆ  ราวกับต้องการซึมซับไออุ่นจากคนที่ไม่อยู่
 
 
 
 
 
"นที นที"  เสียงเรียกเบาๆ ทำให้นทีรู้สึกตัวตื่น  ตาคมปรือลอยคล้ายตื่นไม่เต็มตา  แต่มือใหญ่กลับตวัดรั้งร่างคนที่ปลุกให้ล้มลงในอ้อมแขนได้พอดี  
 
"เฮ้ย  ทำไมนายมานอนที่นี่?"  ต้นน้ำขยับตัวซึ่งนทีก็คลายอ้อมแขนให้อย่างง่ายดาย
 
"ง่วง"  นทีพลิกร่างตามต้นน้ำ
 
"ง่วงแล้วทำไมไม่นอนห้องตัวเอง" 
 
"อย่าพูดมากสิ  ขออีกแป๊บนึง"  ท่าเดิมเลย  ต้นน้ำนอนหงายโดยมีนทีซุกอยู่ตรงไหล่  แขนพาดตัว  เขาได้กลิ่นยาสระผมอ่อนๆ ของนทีลอยมา  
จบแล้ว... ที่ทำเป็นยุ่งอยู่ทั้งอาทิตย์  หมดกันวันนี้  
 
ต้นน้ำนอนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนบอก" ง่วงแล้วเหมือนกัน  ปล่อยสิ  จะไปอาบน้ำ" 
 
"อาบทำไม?  ก็หอมดีออก" 
 
ก่อนหน้านี้นทีก็ไม่ได้เป็นคนอย่างนี้  ทำไมเดี๋ยวนี้ชอบพูดให้คิดไปไกลอยู่เรื่อย
 
"แล้วแต่นายเถอะ  เราเหนียวตัว  ไม่อาบแล้วนอนไม่หลับ  นายอาบแล้วเหรอ?" 
 
"อาบแล้วสิ  อาบแล้วก็มานอนรอนายอยู่เนี่ยแหละ"
 
นอนรอ?... โอ้ย!... ทำไมคำพูดแต่ละคำมันชวนให้จั๊กจี้หัวใจอย่างนี้ล่ะ
 
"รอทำไม?  มีอะไรหรือเปล่า?" 
 
"ไม่มี  ไม่มีแล้วมาหาไม่ได้เหรอ?"
 
ได้!  แต่ในใจกลับรู้สึกขัดแย้ง  มันไม่ควรเป็น 'ได้' สิ  ยิ่งคิดต้นน้ำก็ยิ่งงง  หรือเขาคิดอะไรให้มันมากไปเอง  นทีก็เป็นของนทีแบบนี้  อยากจะทำอะไรก็ทำอยู่แล้ว
 
"ไม่มีอะไรก็ดี  ไปอาบน้ำก่อนนะ" 
 
ต้นน้ำเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว  เรื่องเก่ายังงงๆ ไม่หาย  มีเรื่องใหม่มาให้คิดอีกแล้ว... เอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วยเลยดีไหม? 
 
สมองซีกซ้ายบอกว่า... ไม่ควร  ปกติก็ไม่เอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำอยู่แล้ว  
สมองซีกขวาเถียง...ควร  ถ้ารู้สึกเขินๆ  ก็ต้องเอาเข้าไปด้วยสิ
ซีกซ้าย... เดี๋ยวนทีจะรู้สึกผิดปกตินะ  ถ้าเขาถามจะตอบยังไงล่ะ? 
ซีกขวา... ถ้าใส่ผ้าเช็ดตัวออกมาแล้วอายเหมือนคราวที่แล้วล่ะ
ว้ากกกกกกก! ต้นน้ำคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป  
ซีกซ้ายชนะ!!!  เขาจะทำตัวผิดปกติไม่ได้เด็ดขาด
 
อาบน้ำเสร็จแล้ว  คราวนี้เช็ดตัวแห้งมาก..ก  เดินออกมาปุ๊บ... คว้าเสื้อนอนมาใส่ได้เลยทันที  ต้นน้ำรู้สึกได้ว่ามีสายตาจาบจ้วงไล่ตามหลังอยู่ตลอดเวลา  แต่ไม่แน่... เขาอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้   ตาคู่สวยเหลียวกลับไปดู
 
มองอยู่จริงๆ ด้วย... 
 
"นึกว่าหลับ  ไหนว่าง่วงไง?" 
 
"ก็นายชวนคุยเลยตื่น" นทีนอนยิ้มกริ่ม  สายตาไล่ไปตามมือขาวที่ติดกระดุมเสื้อ  เม็ดที่หนึ่ง... เม็ดที่สอง... สาม... สี่.... ห้า  ระเรื่อยไปยังผ้าเช็ดตัวที่พันเอวอยู่  มือขาวหยิบกางเกงมาสวม  นทีก็ยังคงมองอยู่  "แล้วนายไปไหนมา?" 
 
"ไปคุยธุระกับพี่ บ.ก.มาแล้วก็เลยส่งงานด้วย"  ต้นน้ำนั่งลงที่ปลายเตียง  มือก็เช็ดผมที่ยังไม่แห้งดี  
 
"ส่งเมลก็ได้ไม่ใช่เหรอ?" 
 
"ก็ใช่  แต่ก็มีบ้างที่พี่ บ.ก. เขานัดเจอกัน  กินข้าวกันบ้าง  นานๆ ที" 
 
นทีเขยิบเข้ามาใกล้  มือขาวเอื้อมมาหยิบผ้าขนหนู "มา เช็ดให้" 
 
"เราเช็ดเอง"
 
" เช็ดเองถนัดเหรอ?  วนแต่ที่เดิมเมื่อไรจะแห้ง?"  
 
ต้นน้ำปล่อยมือให้นทีเช็ดไป  แต่... เดี๋ยววว  ส่วนใหญ่คนเช็ดมักจะอยู่ด้านหลังไม่ใช่เหรอ?  แล้วนทีทำไมมานั่งจ้องหน้าเขาอย่างนี้ล่ะ  
 
"พี่ชาย!" นทีเรียกต้นน้ำเสียงอ้อน "คืนนี้ให้น้องนอนด้วยนะ" 
 
"แล้วทำไมนายไม่นอนห้องตัวเองล่ะ?"
 
"ห้องเรามีผี"
 
ต้นน้ำ ".........."  
 
"เมื่อกี้ตอนนายไม่อยู่  เราดูหนังผีมา  มันน่ากลัวมากๆ เลย  ทีวีจอก็ใหญ่  ผีก็ตัวใหญ่  น๊าาา..." 
 
สมองซีกซ้าย... ให้นอนไปสิ  เรื่องปกติน่า
สมองซีกขวา...ไม่! ให้นอนไม่ได้!! อยาก 'ร้อน'จนตัวแตกตายหรือไง
แก้ม... โบ้มมมม!!! 
 
 
 
 
 
"นี่ พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันไหม?"  นทีถาม  ตาเป็นประกายในความมืด
 
" ไม่!" ต้นน้ำที่นอนหันหลังให้บอก
 
" ทำไมล่ะ?"
 
"มีนัดแล้ว" 
 
"ฮือ... พี่ชายยยยยยยย" นทีโผเข้าซุกหลังของต้นน้ำ "พี่ชายไม่มีเวลาให้น้องเลย" 
 
"พรุ่งนี้จะเก็บของไปบริจาค  อาทิตย์หน้าป้าเล็กจะไปเลี้ยงเด็กกำพร้า  น้องชาย... นายก็ควรจะเก็บของๆ นายที่ไม่ได้ใช้ด้วยนะ"
 
"จริงเหรอ?  ที่บริษัทของเล่นที่ค้างสต็อคโคตรเยอะเลย  เอามาทำซีเอสอาร์ด้วยก็ดีนะ" 
 
"แล้วแต่นายเลย  มีเด็กอยู่ประมาณ 80 คนได้"
 
นทีเงียบไปสักพักก่อนเรียกต้นน้ำอีกครั้ง "นี่" 
 
"อะไร?"
 
"นายชอบนอนหันหลังคุยกับคนอื่นอย่างนี้เรื่อยเลยเหรอ? "
 
ไม่ ได้ ชอบ เว้ย  !!!
 
 
 
 
 
งานใหญ่เลยทีนี้  นทีถึงขั้นเจรจากับป๊าเรื่องทำซีเอสอาร์ที่บ้านเด็กกำพร้า  ป๊าก็เห็นด้วย  พากันเข้าไปวางแผนงานที่บริษัทแต่เช้า  
 
บริษัทของป๊าเป็นบริษัทนำเข้าของเล่นจากจีน  เอามาแพ็คขายส่งทั่วประเทศ  ไอ้ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาที่ขายเป็นแผงๆ นั่นก็ใช่   ของเล่นเก่าๆ ของนทีที่วางโชว์อยู่ในตู้เลยมีเยอะมาก   ระยะหลังถึงมีของเล่นที่ผลิตเองด้วย   
 
ส่วนนทีเป็นเจ้าของบริษัทของเล่นอีกบริษัทหนึ่ง  เน้นของเล่นที่นทีคิดขึ้นมาเองโดยเฉพาะ  ป๊าลงทุนแรกเริ่มให้  โดยใช้พนักงานเดียวกันทั้งหมด  ต่างกันแค่แยกบัญชีเป็นคนละบริษัท  แต่ขนาดคนทำบัญชี...ก็ยังใช้คนเดียวกันเลย

ของเล่นชิ้นแรกของนทีคือ 'เกมส์วัดดวง' วางขายตามผับและร้านอาหารเท่านั้น   ขายดีพอสมควร  ตัวเกมส์ออกแบบมาให้เป็นกล่อง  มีรูเล็กๆ บนปากกล่องไว้สำหรับเขย่าให้กระดาษที่ม้วนไว้ภายในไหลออกมาได้  คล้ายๆ กับการจับสลาก  แต่ข้อความภายในเป็นคำสั่งที่น่ากลัวมาก  และก็แทบไม่เคยซ้ำกัน  หากไม่ทำก็ต้องดื่มตามจำนวนแก้วที่กำหนดไว้  เขาเคยเล่นครั้งหนึ่งจับได้ว่า... ให้แสดงท่าทางใบ้คำที่กำหนด  โดยห้ามใช้คำพูด  ถ้าเพื่อนตอบได้ให้ดื่ม 2 แก้วตามถนัด  ถ้าเพื่อนตอบไม่ได้ให้ดื่ม 2 แก้วออนเดอะร็อค  คำใบ้ที่กำหนดคือคำว่า 'นวัตกรรม'  วินาทีนั้น... ความรู้สึกแรกก็คือ... พ่อง!  ใครคิดคำนี้ขึ้นมาวะเนี่ย?  แล้วเขาต้องทำท่าทางยังไงให้เพื่อนทายถูกเล่า  และคืนนั้นเขาก็เมาตามระเบียบ
 
เขาเคยถามนทีว่าใครเป็นคนต้นคิดให้ใช้คำนี้  นทีตอบว่า... 'จำไม่ได้  ช่วยกันคิดหลายๆ คน  มีคำยากกว่านี้อีก  ก็ต้องยากสิ  ออกแบบมาเพื่อเมาโดยเฉพาะ'  
 
ต้นน้ำเก็บหนังสือต่างๆ ลงลังกระดาษแยกไว้หลายลัง  เสื้อผ้ามีไม่มาก  ส่วนใหญ่ยังอยู่บ้านเก่า  คิดได้แล้วก็พาลคิดถึงบ้านขึ้นมา  มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด
 
Tonnam : วันนี้ผมกลับไปนอนบ้านรัตนานะครับ
 
บ้านเก่าของเขาอยู่ในหมู่บ้านรัตนารมย์  เขาจึงเรียกสั้นๆ ว่าบ้านรัตนา
 
มีไลน์กรุ๊ป  แต่ไม่มีใครตอบ  ต้นน้ำหันไปเก็บของต่อ  สักพักไลน์ก็เด้ง  เป็นฝนทิพย์ที่ตอบก่อนคนอื่น
 
RainyMorning : นอนคนเดียวได้เหรอ
RainyMorning : ให้แม่ไปนอนเป็นเพื่อนไหม? 
Tonnam : นอนได้ครับ  สบายมาก  แม่ไม่ต้องเป็นห่วง  พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว

 
แล้วแม่ก็ไลน์มาอีกครั้ง  คราวนี้เป็นไลน์ส่วนตัว
 
RainyMorning : ฝากเอาของให้แม่ด้วยนะ...
 
แล้วก็เป็นรายการของยาวววววว  รวมทั้งของที่จะเอาไปบริจาคบ้านเด็กกำพร้าด้วย  งานใหญ่อีกแล้ว
 
RainyMorning : แล้วก็... ฝากสวัสดีพ่อให้แม่ด้วยนะ
 
แแแแแม่...ม่...ม่!!! 
 
 
 
 
 
นทีกับป๊าหายเงียบไปเลย  ตกเย็นต้นน้ำถึงได้ขับรถออกจากบ้าน
 
ต้นน้ำแวะซื้อข้าวมันไก่เจ้าประจำที่ไม่ได้ถึงกับอร่อยมากนัก  แต่เป็นรสชาติที่คุ้นเคย  กินมาตั้งแต่เด็ก  ก็ไอ้เจ้านี้ล่ะ... ที่แม่เขาชอบซื้อมาให้กิน  แล้วบอกว่าน้ำจิ้มมันเผ็ด! 
 
บ้านของเขาเป็นบ้านสองชั้นขนาดสองห้องนอน  สามห้องน้ำขนาดกลางๆ  อยู่สบายๆ สำหรับสองคนแม่ลูก  ร่างโปร่งกวาดสายตามองรอบบ้านช้าๆ สูดกลิ่นที่คุ้นเคยเต็มปอดก่อนเดินขึ้นไปยังห้องของตนเอง  ตั้งแต่ย้ายออกไป  นอกจากกลับมาเอาของไปเพิ่มแล้ว  ก็ไม่เคยกลับมาค้างเลยสักครั้ง  ห้องของเขายังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง  เหมือนตอนที่ย้ายออกไป  แค่ข้าวของบางตาลงไปมาก
 
มือขาวเรียววางกระเป๋าเป้ลงก่อนเริ่มรื้อกองหนังสือเก่าเป็นอย่างแรก   รื้อไปรื้อมาจนเพลิน  ทั้งของฝนทิพย์และของเขาเอง  รู้ตัวอีกทีก็ค่ำแล้ว  ภายในบ้านค่อนข้างเงียบ  เขาอยู่ที่บ้านหลังนี้มานาน  อยู่คนเดียวก็บ่อย  แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้สักที  ภายนอกสงัดราวกับไม่มีแม้แต่เสียงลมพัด  ต้นน้ำรีบเดินไปปิดหน้าต่าง  แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่  ร่างสูงรีบเดินไปเปิดไฟภายในห้อง  แต่ไฟกลับไม่ติด  หรือเป็นเพราะว่า... 'ฝากสวัสดีพ่อให้แม่ด้วยนะ'
 
 
 
 
นทีไขประตูบ้านเข้ามา  รถต้นน้ำจอดอยู่หน้าบ้าน  แต่ทั้งบ้านกลับเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่  แม้แต่ไฟสักดวงก็ไม่เปิด  ฝนทิพย์เป็นห่วงต้นน้ำที่ต้องนอนที่นี่ตามลำพังเลยส่งเขามาดู  
 
ร่างสูงค่อยๆ ย่องเข้ามา  วูบหนึ่งที่นทีเห็นเงาคนในความมืดเดินหนีหายไปทางด้านหลังบ้าน
 
'ขโมย?' นทีสาวเท้ายาวตามไป  เงาร่างของคนๆ หนึ่งกำลังค้นของกุกกักอยู่ในมุมที่เป็นตู้เก็บของในครัว  นทีเดินเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว... กระโดดถีบเต็มแรง
 
"เฮ้ยยย!" 
 
"ว้ากกก!" 
 
ร่างสูงของหัวขโมยเซถลาไปชนเคาน์เตอร์ก่อนร้องตะโกน "ขโมยๆๆๆๆ" 
 
นทีชะงัก   ขโมยจะเรียกเขาว่าขโมยไม่ได้  ไอ้บ้านี่  ถ้าน้ำเสียงที่ร้องตะโกนไม่ใช่น้ำเสียงของต้นน้ำแล้วล่ะก็... โดนซ้ำไปแล้ว
 
ไฟสว่างพรึ่บ!! 
 
นทีมองคนที่ยืนตัวงออยู่ข้างเคาน์เตอร์  ต้นน้ำที่มีผ้าโพกหัว  มีหน้ากากสำหรับใช้กันฝุ่นปิดหน้าอยู่ในสภาพทุลักทุเล  มือกุมหน้าท้องมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ!! 
 
"เหี้ย" จบแล้วนที!





---------------- มีต่อด้านล่างนะคะ---------------

ออฟไลน์ Smile A

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
---------------ต่อจากด้านบนค่ะ--------------





"ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ?" นทีพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร  มือขาวใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดประคบหน้าท้องที่แดงเป็นปื้นให้ต้นน้ำ
 
ต้นน้ำที่นอนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาหน้าบ้านไม่ตอบ  เมินหน้าไปทางอื่น  เจ็บจนน้ำตาคลอ  ทั้งเจ็บทั้งจุกทั้งน้อยใจปนเปกันไปหมด
 
"ขอโทษ  เราไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นนาย  เราคิดว่าเป็นขโมย  ก็นายสวมแมสค์ปิดหน้าด้วย" 
 
ต้นน้ำยังคงเงียบ
 
" ก็เจ๊ากันไง  กับตอนที่นายคิดว่าเราเป็นขโมยแล้วเข้ามาชาร์จเราอ่ะ" 
 
ต้นน้ำเหลือบมองนทีด้วยสายตา 'เจ๊ากันยังไงวะ?'
 
"โอเคๆ ไม่เจ๊าๆ  เราผิดมากกว่า  เราขอโทษ  ขอโทษจริงๆ ทำยังไงนายถึงจะหายโกรธ? "
 
"ทำให้เราหายเจ็บสิ  เดี๋ยวนี้!  ตอนนี้!  มัน เจ็บ  มัน เจ็บ  ได้ยินไหม?" ต้นน้ำอยากตะโกนให้ดังกว่านี้   แต่ก็เจ็บท้อง "อุตส่าห์ไม่เคยมีเรื่องกับใคร  มาพลาดท่าเพราะตีนนายเนี่ยนะ"
 
"ยกโทษให้เราเถอะนะ  เราผิดไปแล้ว  ไหนใครๆ ก็เรียกนายว่าคนดีไง"
 
"ชิ  นายก็เชื่อเหรอ?  บอกเลยว่า.. ไม่..ใช่" ต้นน้ำเน้นเสียงท้ายประโยค 
 
ก็รู้แล้วล่ะ... ว่าไม่ใช่!  นทียิ้มประจบ
 
"ทีนาย  ชื่อเสียงสับปะรังเคจะตาย  เรายังไม่เชื่อเลย?"
 
"ทำไมไม่เชื่อล่ะ?  เขาพูดความจริง" นทีบอกหน้าซื่อ
 
"ตอนนี้เชื่อแล้ว" ต้นน้ำประชด  มองหน้านทีด้วยแววตาหมั่นไส้สุดขีด 
 
"ก็เหมือนที่เราเชื่อไงว่าต้นน้ำเป็นคนดี"  นทียิ้มประจบ "เราว่าเราไปซื้อน้ำแข็งมาประคบดีกว่า  ในตู้ไม่มีน้ำแข็งเลย"
 
"ไปไหนก็ไปเลย  กลับบ้านไปเลย" 
 
โกรธจริงๆ ด้วยแฮะ "ไม่เอา  เราจะกลับมา  กลับมาให้นายลงโทษไง  เราเป็นห่วงนายนะ  โทรศัพท์นายอยู่ไหน?" 
 
"อยู่ข้างบน  แบตหมด" 
 
"งั้นเอาของเราไว้  เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน  นายก็ยังโทรเรียกคนอื่นได้  นายจะเอาอะไรไหม? "
 
"เอาทุกอย่างที่กินได้"
 
"เยอะไปไหม?"
 
ต้นน้ำเหลือบตามองด้วยสีหน้า 'แล้วจะเอาไง?'
 
"ได้ๆ ได้หมด  อยากได้อะไร  เดี๋ยวจะหามาให้นะจ๊ะ" คนผิดยกมือยอมแพ้
 
หึ... นทีเดินออกไปแล้ว  ต้นน้ำจับสะโพกโอดโอย  สะโพกด้านหลังที่เบี่ยงหลบฝ่าเท้านทีไปชนเคาน์เตอร์ก็เจ็บ  แค้นนี้ต้องชำระ! 
 
ต้นน้ำหยิบโทรศัพท์นทีขึ้นมาดู  ในไลน์มีสาวๆ ทักมาบ้างประปราย  ไม่เยอะเท่าที่คิด  นทีก็ไม่ค่อยได้ตอบสักเท่าไร  แต่เป้าหมายไม่ใช่ไลน์  ต้นน้ำกดแอพพลิเคชั่นเฟสบุค  แล้วพิมพ์...วันนี้ผมมีอะไรจะสารภาพ  เป็นเรืาองที่ผมปิดบังทุกคนมานาน  ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  ผมไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดผมอีก  เรืาองที่ทุกคนลือกัน  มันไม่ใช่เรื่องจริง  ความจริงแล้ว...ผมเจี๊ยวเล็กครับ! ...กดโพสต์  
 
ติ๊ง! 
ติ๊ง! 
ติ๊ง! 
ติ๊ง! 
ติ๊ง! 
เสียงเตือนจากเฟสบุคดังต่อเนื่อง  หมั่นไส้ว่ะ!  ปิดเสียงเลยดีกว่า  ไอ้เฟสบุค... แกจะไม่ได้มีโอกาสมาเสนอเสียงอีกต่อไป ฮ่าๆๆๆ
 
ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย... ต้นน้ำนอนรอขนมอยู่บนโซฟา  ได้กลิ่นดอกราตรีโชยมาตามสายลมชวนให้เคลิ้มหลับไป  ในความฝันเลือนลาง  เขารับรู้ได้ถึงฝ่ามืออบอุ่นที่คอยลูบหัวให้แผ่วเบา    
 
"น้ำ  หลับเหรอ?" นทีสะกิดต้นน้ำ  "ตื่นมากินยาหน่อยเถอะ" 
 
"นายกลับมานานหรือยัง?" 
 
"เพิ่งกลับมา" นทียื่นยาแก้ฟกช้ำและแก้อักเสบให้ต้นน้ำ  มือก็เอื้อมไปหยิบน้ำแข็งใส่ผ้าขนหนูมาประคบที่ท้องให้อย่างแข็งขัน  
 
"นั่นอะไร?"  ต้นน้ำมองไปที่ถุงจากร้านสะดวกซื้อสามถุงใหญ่ๆ  
 
"ก็... ทุกอย่างที่กินได้" 
 
"เอามาให้ดูหน่อย" 
 
นทีเอี้ยวตัวไปหยิบมากองข้างโซฟาให้คนเจ็บ  ต้นน้ำรื้อดูอย่างตื่นเต้นพลางตาโต
 
"โหย... นี่เหมามาหรือเนี่ย?"  พูดจบก็แกะเลย  เยลลี่เหนียวหนึบของโปรด
 
"ไม่หมดหรอกน่า  เลือกมาแต่ของที่เห็นนายเคยซื้อ" 
 
"สุโค่ย... สุดยอด... สวรรค์" ต้นน้ำอุทาน  ตาโตใสเป็นประกาย
 
"หายโกรธแล้วใช่ไหม? "
 
"อืม" หายง่ายไปนิด  แต่จะโกรธนานไปทำไมเล่า?... เสียเวลาแห่งความสุขในชีวิตหมด 
 
"แล้วอาการดีขึ้นหรือยัง?" 
 
"อื้ม.. ดีขึ้นแล้ว  ตอนแรกมันจุกๆ  ได้พักสักแป๊บก็เริ่มหายแล้ว"  หายแล้ววววว...พร้อมกินให้จุกอีกรอบ
 
"แล้วเรื่องนี้ล่ะ... จะว่าไง?"  นทีโบกโทรศัพท์มือที่โชว์หน้าจอเฟสบุคหรา
 
ต้นน้ำ ".........." มือเรียวกรอกเยลลี่ทั้งถุงเข้าปากๆ  
 
นทีเปลี่ยนเป็นโหมดกล้องถ่ายรูป  แล้วกดถ่ายตอนที่ต้นน้ำหน้าบวมเพราะเยลลี่เต็มปาก  แล้วอัพโหลดทันที   เป็นรูปต้นน้ำแล้วเขียนแคปชั่นว่า... โพสต์เมื่อกี้มีคนขี้งอนแกล้ง  
 
"อำอะไอ?" ทำอะไร? ต้นน้ำพูดอู้อี้ถาม  พยายามจะกลืนเยลลี่ลงคอพลางยื่นมือจะแย่งโทรศัพท์  "ไอ๋... เอาอาอูอิ๊"  ไหน.. เอามาดูซิ 
 
นทีเบี่ยงโทรศัพท์หลบ  ต้นน้ำที่ยังคงเจ็บแผลร้องโอดโอย  "อูย" ปากก็เคี้ยวเยลลี่หนุบหนับ  ที่คงจะกินเข้าไปเยอะเกิน  มันเลยหนุบหนับเต็มปากเลย  
 
"เป็นไงมั่ง?" 
 
"เอ็บ เอ็บอ่ะ" 
 
"เป็นกบเหรอ? ร้องเอ็บ เอ็บ" 
 
ต้นน้ำคว้าน้ำมาดื่ม  เยลลี่หนึบหนับลื่นลงท้องหมดแล้ว  มือก็ตบหน้าอกตัวเองคลายความแน่นจากการรีบกลืน
 
"นายอย่าโพสต์อะไรแปลกๆ นะ" 
 
"โพสต์ไปแล้ว" 
 
"โพสต์ว่าอะไร?" 
 
"บอกว่า... โพสต์เมื่อกี้มีคนเจี๊ยวเล็กกว่าแกล้ง"  
 
ฆ่าได้... แต่หยามไม่ได้  อาการจุกหายเป็นปลิดทิ้ง  เหลือแต่อาการเคล็ด ขัด ยอก ช่วงสะโพกหลัง  ต้นน้ำลุกขึ้นจะไล่เตะนที  แต่ไม่ไหวจริงๆ  กลับนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง  เวลาปกติเขาก็จับนทีไม่ได้  ไล่ไม่ค่อยจะทันอยู่แล้ว  ยิ่งเวลาเจ็บ... ยิ่งไม่ต้องหวัง
 
 
 
 
 
นทีคอยประคองแขนต้นน้ำขึ้นไปบันได 
 
"ทำไมเดินขัดๆ เจ็บตรงไหนอีก?"  นทีถามเมื่อเห็นต้นน้ำเดินแปลกๆ  ไม่ทิ้งน้ำหนักตัวลงที่ด้านขวา
 
"อืม  เจ็บตรงสะโพกน่ะ  เมื่อกี้หลบไปกระแทกเคาน์เตอร์"
 
"แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก?"
 
"มันก็แปล๊บๆ นิดหน่อยเอง"
 
"นิดเดียวก็ต้องดู" ต้นน้ำพานทีเข้ามาในห้องนอน  ที่รกไปด้วยข้าวของที่ยังเก็บไม่เสร็จเป็นหย่อมๆ 
 
"นายรออยู่นี่นะ  เราไปเอาน้ำแข็งแป๊บ"
 
ต้นน้ำหยิบโทรศัพท์มาชาร์ตแบต  ระหว่างรอก็แอบหยิบโทรศัพท์นทีมาเปิดเฟสบุค  สมบัติผู้ดีรู้จักไหม?  ก็รู้จักอยู่นะ  แต่ความอยากรู้ว่า... ฟีดแบ็คเจี๊ยวเล็กของตนเองเป็นไงบ้าง...มีมากกว่า
 
ต้นน้ำหน้าแดงเมื่อเห็นรูปและแคปชั่นพร้อมแท็กถึงเขา... รูปเขาแก้มป่องเหมือนคนขี้งอนจริงๆ ด้วย... ถึงความจริงแล้วจะขี้งอนจริงๆ ก็เถอะ  แต่ที่แก้มป่องนี่เป็นเพราะเยลลี่ต่างหากเล่า  ไม่ได้เป็นเพราะงอนสักหน่อย
 
แต่คอมเม้นท์แต่ละคอมเม้นท์นี่สิ
 
... งอนที่นทีเล็กเหรอจ๊ะต้นน้ำ?
 
มันมาต่อเนื่องจากโพสต์ที่แล้วได้ยังไง?  เขารีบกดตอบ  
 
... ผมไม่ได้งอนนะครับ  แค่กินขนมเต็มปากไปหน่อ
 
ว้ากกกกกกก!  เขาใช้แอคเคาน์นทีตอบคอมเม้นท์  ทำยังไงดี?  กดลบอยู่ตรงไหนนะ?  
 
หา หา หา 
ไม่ทัน!  คอมเม้นท์อีกฝ่ายเด้งขึ้นมาก่อน 
 
... ขนมนทีอร่อยไหมคะต้นน้ำ?  นี่ใช้เฟสเดียวกันเหรอ? 
 
ว้ากกกกกกก! 
 
"นายทำอะไร?"  
 
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!  นทีมาแล้ว  "ดูเฟสบุค"  ใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวไว้ก่อน
 
"แล้วทำไมทำหน้าอย่างงั้นอ่ะ? "  
 
"ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี" 
 
"ก็... แหะๆ...เราเอาโทรศัพท์นายมาเล่น  โทรศัพท์เรามันยังไม่ติดเลย" 
 
"นึกว่าอะไร  แค่นี้เอง... เมื่อกี้นายเพิ่งโพสต์เฟสบุคเราไปไม่ใช่เหรอไง?  เจ็บตรงไหนอีกนะ?" 
 
"สะโพก  ด้านหลัง  งั้นยืมต่อนะ" ต้นน้ำขอยืมโทรศัพท์ต่อ  ขอเข้าไปแก้ไขความเข้าใจผิดคอมเม้นท์เมื่อกี้ก่อน  รอบนี้ต้องคิดให้ดีก่อนตอบ
 
"ตามใจ นอนคว่ำซิ  จะประคบให้" 
 
ต้นน้ำนอนคว่ำ  เขาใส่กางเกงอยู่บ้านตัวหลวมอยู่แล้ว เลยเลื่อนขอบกางเกงลงเกาะสะโพกหมิ่นๆ  พอให้เห็นรอยฟกช้ำด้านบนที่อยู่เหนือสะโพก
 
แม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน  แต่ต้นน้ำกลับไม่รู้เลยว่า  แบบนี้... มันยิ่งกว่าเปิดให้เห็นทั้งหมดเสียอีก!
 
ต้นน้ำเข้าไปสานต่อคอมเม้นท์ที่เข้าใจผิดเมื่อกี้นี้
 
...ไม่ได้ใช้เฟสเดียวกันครับ  นี่นทีครับ
 
นึกว่าจะไม่ตอบ  แต่รอสักสักพักคอมเม้นท์ก็เด้งขึ้น
 
...อย่ามาโกหกหน่อยเลย  นทีไม่เคยตอบเฟสคนอื่นหรอก
 
ต้นน้ำฟุบหน้าลงกับหมอน  ก่อนยื่นโทรศัพท์ให้นที  "ช่วยที" 
 
นทีรับโทรศัพท์ไปอ่าน  เรียบเรียงและประมวลผลสักครู่ก่อนตอบ
 
... ใช่ครับ  เมื่อกี้ไม่ใช่ผม  ขนมเราอร่อยไหมต้นน้ำ? 
 
ต้นน้ำยื่นโทรศัพท์คืนให้ต้นน้ำ... ไม่ใช่แล้ว  ให้ช่วยนะ  ไม่ใช่ให้ขยาย
 
...ไม่อร่อย!!!  ใช่ครับ  เป็นผมเองครับ
 
พิมพ์แล้วให้จบแค่นี้พอ  เขาไม่ยื่นโทรศัพท์ให้นทีแล้ว  หวังว่าคนอ่านคงจะงงๆ กันบ้าง "พอยัง? ไปอาบน้ำเถอะ  ง่วงแล้ว" ต้นน้ำหันไปถามนที
 
โดยที่ต้นน้ำไม่ทันสังเกตุ  นทีหน้าแดง  ลมหายใจขัดแปลกๆ  มีอาการคล้ายลมปราณใกล้จะแตกซ่าน  
 
"อืม  พอแล้ว  เราอาบก่อนนะ"  นทีคว้าของในกระเป๋าได้ก็รีบรุดไปยังห้องน้ำ
 
ต้นน้ำไม่ได้ใส่ใจ  โทรศัพท์เขาติดแล้ว  เลยหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาดู  ตัวเลขแจ้งเตือนในเฟสบุคมีเป็นหลักร้อย  ต้นน้ำเข้าไปส่องเฟสนทีต่อเป็นอันดับแรก  โอ๊ย... ทำไมแต่ละคอมเม้นท์มันจักกะจี้แบบนี้
 
... ต้นน้ำรู้ได้ไงว่านทีเจี๊ยวเล็ก? แปลว่าเคยเห็น? 
 
... ง้อให้หนักๆ เลยนะนที  เอาให้เดินไม่ได้เลย
 
... เรือเราแล่นฉิว  กัปตันพายเอง  
 
... อิพวกเรือผีดูไว้ซะ  ว่าลำไหนของจริง

 
อะไรคือเรือ? อะไรคือกัปตันวะ?  ยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งงง  อ่านเพลินจนลืมดูเวลา  จนกระทั่งได้กลิ่นหอมของสบู่ใกล้ๆ  
 
"ตานายแล้ว ไปอาบสิ  อาบเองได้ไหม? " 
 
"ได้ สบายมาก  ยอกนิดหน่อยเอง" 
 
 
 
 
 
ต้นน้ำเดินออกมาจากห้องน้ำสบายตัว  นทีเหมือนรอจังหวะอยู่แล้ว...พุ่งเข้ามากอดแน่น  หน้าหล่อคมคายซุกอยู่กับบ่าเขา  กอดแบบที่เรียกว่ากอดเลย  ตัวติดเลย  แนบแน่นแทบจะเป็นเนื้อเดียว  แน่นมากด้วย  แน่นจนตัวจะแตกแล้ว "เป็นอะไร?" ต้นน้ำถามอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
 
"ผู้ชายในรูปคนนั้นเป็นใคร?" 
 
"คนไหน? รูปบนชั้นน่ะเหรอ?  พ่อเราไง"  
 
นทีรัดอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก  ตอนแรกว่าแน่นแล้วนะ... แต่ยังแน่นได้อีก  
 
"ทำไมเหรอ?"  ต้นน้ำถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นนทีเอาแต่กอด  ไม่ยอมอธิบายอะไร 
 
"เมื่อกี้เราเจอ  คนที่แต่งตัวแบบนั้น  เดินเข้าไปหลังบ้านนาย  เราถึงคิดว่านายเป็นโจรไง"





-----------------to be continue---------------

โอ๊ย  ตอนที่แล้วป๊าขโมยซีน

ตอนนี้พ่อก็ยังมาขโมยซีนอีก

นที  ต้นน้ำ  พวกหนูยังไม่ได้เกิดกันนะลูกนะ

facebook page
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2019 08:54:09 โดย Smile A »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด