生死爱你一人 แซซี้อ้ายลื่อเจ็กนั้ง
"ชาตินี้รักเธอคนเดียว"
ย้งจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่บ้านวุ่นวายที่สุดก็คือตอนที่จัดงานศพของอาม่า หลังจากปาป๊าและอากงเสียงานขาวดำครั้งสุดท้ายก็เกิดขึ้น ตอนนั้นหม่าม้าวิ่งวุ่นจับจ่ายซื้อข้าวของทำพิธีจนหัวหมุนโดยมีแปะไช้กับจิวยี่คอยช่วย
ปีนี้ความวุ่นวายกลับมาอีกหนแต่เป็นความวุ่นวายที่แสนจะมีความสุขและชื่นมื่นเพราะหลังจากย้งยี้เรียนจบจิวยี่ก็ให้พรรณีไปสู่ขอณอร
"หม่าม้าเดี๋ยวพวกเครื่องขันหมากย้งกับพี่เล้งจะออกไปเอาเองนะ"ย้งร้องบอกกับพรรณีหลังจากออกไปดูสถานที่จัดเลี้ยงที่เช่าห้องของโรงแรมไว้
"ส่วนพวกงานแบบไทยเดี๋ยวไปดูที่ร้านว่าเขาทำไปถึงไหนแล้ว"ย้งยี้ยกกระดาษที่จดรายการสิ่งของที่จะต้องเตรียมระหว่างรอเล้งมารับเพื่อไปซื้อของทำพิธีที่ตลาด
เพราะณอรอยู่กรุงเทพทั้งหมดจึงมาเช่าห้องสำหรับญาติๆและแขกที่สนิทกันเพื่อช่วยกันเตรียมงาน และสถานที่เตรียมงานก็หนีไม่พ้นคอนโดของย้ง เล้งจึงไปนอนบ้านเจ๊ลี่เช้าก็ขับรถมาช่วยงานที่คอนโดวันนี้มันมาถึงในตอนเกือบบ่ายเพราะต้องไปลองชุดที่แก้ใหม่อีกรอบ
"จริงๆให้ออแกไนซ์ทำทั้งหมดก็สิ้นเรื่อง"เล้งบอกหลังจากหักพวงมาลัยอกสู่ถนนใหญ่ย้งยี้หัวเราะเบาๆเมื่อพี่เล้งทำท่าเหมือนจะบ่น
ไอ้ประเภทไม่ชอบความวุ่นวายก็ต้องยกให้เขาล่ะ
"ก็พวกกู๋พวกกิ๋มเขาตื่นเต้นหลานชายแต่งงานทั้งทีก็อยากจะจัดใหญ่จัดเต็ม"
"เห็นแล้วสงสารนั่งทำกันหลังขดหลังแข็ง"
"แกมีความสุขกันก็ปล่อยแกเถอะพี่ แล้วสถานที่ทางบ้านพร้อมยังมีพี่เล้งโทรเช็คกับป๊าแล้วหรือยัง"ย้งยี้เอ่ยถามถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงที่จะกลับไปจัดที่บ้านด้วย
"เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยววันงานเขามาตั้งบ่ายๆ"
"แล้ว..."
"ย้งอย่ากังวลงานทุกอย่างมันเสร็จหมดแล้ว"เล้งปรามย้งที่กังวลใจไปซะทุกอย่างอีตัวดีพอโดนดุกลายๆก็เบ้ปากกดหน้าทำเหนียงยานใส่เล้งทันทีเล้งหัวเราะก๊ากเหมือนปลาโลมาได้อาหารถูกปาก อีตัวดีมันเพิ่งรู้ว่าพี่เล้งเส้นตื้นกับอะไรแบบนี้เมื่อเดือนก่อนพอจะโดนดุมันก็ทำใส่เล้งเสียทีหนึ่ง
ทั้งคู่มาถึงตลาดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งก็เริ่มจับจ่ายซื้อของตามลิสต์
"เดี๋ยวไปร้านที่สั่งขนมกันก่อนนะพี่เล้ง"มันเดินนำเล้งไปยังร้านขายพวกขนมมงคล จันอับและเครื่องไหว้แบบจีนๆย้งเช็คของที่สั่งไว้มีจันอับ ขนมเหนียวเคลือบ ขนมเปี๊ยะโรยงา ถั่วตัด ข้าวพองทึบ ขนมโก๋อ่อน ซาลาเปา และพกท้อ เล้งจัดการรวบถุงของทั้งหมดมาถือ
“เดี๋ยวเวลาเตรียมของจัดเป็นคู่ๆนะอีหนูเอาซังฮี่แปะลงไปให้ครบ”อาม่าที่เป็นเจ้าของร้านบอกวิธีการจัดของหมั้นของไหว้กับย้ง เมื่อเข้าใจครบถ้วนแล้วเล้งกับย้งก็เอาของกลับไปไว้ที่รถก่อนรอบหนึ่งจากนั้นไปซื้อพวกผลไม้ที่ขาดไม่ได้เลยคือส้มเช้งผลสีเขียวและกล้วยทั้งเครือ รวมทั้งต้นกล้วยต้นอ้อยอย่างละคู่คราวนี้เล้งต้องให้คนของร้านแบกไปส่งเพราะของเยอะและมีน้ำหนักมาก เล้งขับรถออกจากตัวตลาดเพื่อกลับเอาของไปให้ที่คอนโดมันอดบ่นไม่ได้เพราะหลายวันมานี้ต่างวิ่งวุ่นจนหัวหมุน
“ขั้นตอนเยอะจนปวดหัว”
“เอาน่าพี่เล้งทางเราเตรียมแค่นี้ทางเจ้าสาวสิเตรียมเยอะกว่าเราอีก”
“แต่ทางนู้นน่าจะสบายกว่าเรา ลูกน้องเต็มโรงงาน จริงๆแค่ยกน้ำชาก็พอที่เหลือทำพิธีไทยง่ายกว่า”
“ทางเราก็เชื้อสายจีนทางเขาก็เชื้อสายจีน ก็อยากคงพิธีไว้แหละ ไม่ได้แต่งกันทุกวันอดทนหน่อยเนอะ”
“กูไม่ได้นอนกับมึงมากี่คืนแล้วนอนบ้านเจ๊ลี่คนเดียวเหงานอนไม่หลับเลย”มันหันมาหยอดใส่อีตัวดีที่พอได้ยินก็อมยิ้มจนแก้มตุ่ยพอรถติดไฟแดงเล้งก็ถือโอกาสขยับตัวมากดจมูกลงบนแก้มนุ่มอย่างถือสิทธิ์
“พี่เล้งอ่ะ”มันร้องท้วงเมื่อเล้งฟัดมันจนแก้มช้ำ ตอหนวดแข็งๆพาเอาจั๊กจี้ปนเจ็บนิดๆ
“พรุ่งนี้อย่าลืมโกนหนวดให้เรียบร้อยนะ เดี๋ยวไม่หล่อ”มันใช้ปลายนิ้วเกลี่ยตอหนวดบนริมฝีปากของเล้งเบาๆแต่ไอ้คนพี่ก็ไวทายาดอ้าปากงับปลายนิ้วนั้นแล้วดูดจนเกิดเสียงส่งสายตาหยาบโลนสื่อความหมายในเชิงอกุศลใส่คนน้องอย่างไม่ปิดบัง
“เพิ่งเกาตีนมาตะกี๊”อีตัวดีแกล้งพูดด้วยใบหน้าทะเล้น หัวเราะคิกคักอย่างชอบอกชอบใจ
“อีย้ง อีเวร สกปรก”เล้งทำสีหน้าเหยเกทำให้อีตัวดีอดหมั่นไส้ไม่ได้มันเอานิ้วข้างเดิมปาดปากเล้งแล้วหัวเราะก้ากอย่างชอบอกชอบใจที่แกล้งเล้งได้ รู้ทั้งรู้ว่าพี่เล้งแกล้งทำและมันก็ไม่ได้เกาตีนมาจริงๆซักหน่อยแต่ก็ยังขำ ทั้งคู่จัดการซื้อของตามที่ได้รับมอบหมายเสร็จก็กลับมาที่คอนโดบรรดาญาติพี่น้องต่างช่วยกันเตรียมของเหมือนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย เล้งกับย้งรวมทั้งจิวยี่วิ่งวุ่นหยิบจับของตามแต่อากู๋อาอี๊จะใช้ ตัวอักษรซังฮี่ถูกแปะลงบนส้มทุกผล ตกดึกหลังจากตระเตรียมของเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอน บรรดาญาติจิวยี่กับเล้งพาไปส่งที่โรงแรมใกล้ๆพรุ่งนี้เช้ามืดบรรดาแขกในตลาดจะจับรถทัวร์มากันแต่เช้านัดแนะสถานที่กันเสร็จสรรพ จิวยี่ พรรณี และย้งยี้นอนด้วยกัน จิวยี่เดินเป็นหนูติดจั่นเพราะอยู่ๆก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ความกังวลฉายชัดบนใบหน้าหล่อนั้นจนพรรณีและย้งยี้ต้องจับมือของจิวยี่ไว้
“ยี่ลูก เป็นอะไร? ตื่นเต้นเหรอ”
“ครับ”จิวยี่ตอบรับตามตรง อยู่ๆมันก็กังวลขึ้นมากับอนาคตที่มีณอรให้ดูแลอีกคน มันกลัวว่ามันจะทำได้ไม่ดีดูแลได้ไม่ทั่วถึง จิวยี่อยากเก่งเหมือนปาป๊าที่ดูแลคนในครอบครัวได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หลายปีมานี้เขาพยายามที่จะดูแลทั้งแม่ละน้องรวมทั้งแฟนโดนจัดเวลาไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกน้อยใจว่าเขาให้ความรักได้ไม่เท่ากัน
แต่พรุ่งนี้เขากำลังจะสร้างครอบครัวของตัวเอง แล้วหากวันใดเขาพลั้งเผลอให้ความสำคัญไม่เท่ากันจะมีใครต้องเจ็บปวดมั้ย
"เฮียยี่ มีอะไรบอกกันอย่าเก็บไว้คนเดียว เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ"ย้งยี้เอนหัวซบไหล่พี่ชายไว้น้ำเสียงที่พูดงุ้งงิ้งจนจิวยี่อดหัวเราะไม่ได้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีอีตัวดีก็ยังเป็นน้องน้อยสำหรับเขาแม้ตอนนี้จะมีลูกชายวัย 6 ขวบให้ส่งเสียอย่างน้องภีมแต่พออยู่กับพี่กับแม่ก็คือน้องน้อยๆเช่นเดิม
"ยี่แค่กลัวน่ะม้า กลัวว่าวันหนึ่งถ้ายี่เผลอให้ความสำคัญกับใครไปอีกฝ่ายจะรู้สึกน้อยใจ"
"จิวยี่ฟังม้านะ มันไม่มีใครสามารถให้ความสำคัญใครเท่าๆกันได้ตลอดหรอก เหมือนตอนยี่รถล้ม แม้ว่าหม่าม้าจะรักและห่วงย้งแต่หม่าม้าก็ห่วงยี่มากกว่า ความสำคัญน่ะอยู่ที่ว่าเราจะให้ถูกที่ถูกเวลาหรือเปล่า ตอนนี้หม่าม้ายังดูแลตัวเองได้ยังไม่ได้ต้องการความสำคัญขนาดนั้น ยี่กำลังสร้างครอบครัวไปสร้างครอบครัวของตัวเองให้แข็งแรงก่อน ถึงวันที่ม้าแก่จนทำงานไม่ได้ เป็นยายแก่จอมงอแงเอาแต่ใจหรือขี้เหวี่ยงขี้วีนยี่ค่อยมาให้ความสำคัญกับม้านะ ไม่ว่าจะยังไง ม้าจะเข้าใจยี่ โอเคมั้ยลูก"
"ย้งโตแล้วไม่ใช่เด็ก 17-18 แบบตอนเฮียยี่พาพี่ออนเข้าบ้านครั้งแรกนะ ย้งก็จะเข้าใจเฮียยี่เหมือนกัน ที่ผ่านมาเฮียยี่ดูแลพวกเราดีมาก ตอนนี้ย้งดีใจที่เฮียยี่จะได้เป็นฝั่งเป็นฝากับผู้หญิงดีๆที่มีครอบครัวดีๆต้อนรับเฮียยี่ ไม่ต้องกลัวอะไรเลย ย้งมั่นใจว่าเฮียยี่จะทำมันได้ดี อย่าเรียกว่าดูแลทั้งสองบ้าน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน อีกอย่างย้งก็มั่นใจว่าถ้าเฮียยี่มาให้ความสำคัญกับทางนี้พี่ออนเองก็จะเข้าใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเฮียสบายใจเถอะแล้วนอนซะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาแต่งหน้าเดี๋ยวขอบตาคล้ำจะบอกว่าย้งแต่งให้ไม่หล่อไม่ได้นะ"
"แต่งกูออกมาไม่หล่อแฟนคลับของมึงด่ามึงแน่"จิวยี่ยีหัวน้องสาวด้วยความมีนเขี้ยว ย้งยี้ฟาดมือลงบนอกพี่ชายเสียงดังตั่บ
"ไปนอนเลยไป"
รุ่งเช้าบรรยากาศเป็นไปด้วยความราบรื่นย้งปลุกจิวยี่ขึ้นมาแต่งหน้าตอนตีห้าหลังจากแต่งหน้าทำผมให้หม่าม้าและตัวเองเสร็จ พรรณีวันนี้ดูสวยหวานไม่ต่างจากลูกสาวที่วันนี้ย้งยี้เลือกที่จะแต่งหน้าบางๆ
คนที่จะสวยที่สุดในวันนี้ต้องเป็นณอร
เล้งมาตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเลยโดนจับแต่งหน้าเป็นรายต่อมา พอได้เวลาก็ขับรถไปสมทบกันที่บ้านของจิวยี่ เจงกับอินรวมทั้งแปะหลิวพ่อของเล้งพาบรรดาชาวตลาดมารออยู่ก่อนแล้วทั้งหมดตีรถออกจากเมืองกาญจน์ตั้งแต่ตีสาม อันดามันกับโจ้คอยช่วยดูแลความเรียบร้อย ออแกไนซ์ที่จ้างมาตรวจตราอีกครั้งแล้วจึงเรียกจัดขบวนเพื่อเคลื่อนไปยังบ้านเจ้าสาว เล้ง เจง อิน อันดามัน โจ้ และย้งช่วยถือพานขันหมากของหมั้นตามจิวยี่ที่เดินคู่แปะหลิวผู้ทำหน้าที่เถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว ความครึกครื้นเกิดจากบรรดาเพื่อนๆของจิวยี่ที่มาโห่พร้อมแตรวง ช่างเป็นการแต่งงานแบบจีนที่มีกลิ่นอายบ้านทุ่ง บริเวณบ้านของณอรแต่งแต่งด้วยสีแดงและสีทองเพื่อความเป็นสิริมงคล ญาติๆของหญิงสาวรีบมากั้นประตูดักเจ้าบ่าวจนซองแดงในมือปลิวหายไปทีละใบ คำพูดเล่นหัวเอ่ยแซวและให้เจ้าบ่าวทำอะไรแปลกๆเรียกเสียงหัวเราะเป็นระยะ ย้งยี้หัวเราะขำพี่ชายที่ไม่ค่อยเห็นทำอะไรแบบนี้ตั้งแต่บอกรายละเอียดการเจอกันครั้งแรก ยอมวิดพื้น ยอมร้องเพลงแม้เสียงจะเพี้ยน มันกระซิบกับเล้งเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่สองคน
"พี่เล้งย้งอยากกั้นประตู"
"มึงเป็นญาติฝั่งเจ้าบ่าวกั้นได้ที่ไหนล่ะ"เล้งเอ็ดมันเบาๆมองตามสายตาอีตัวดีที่จ้องซองในมือแปะหลิวตาไม่กระพริบ เกิดมางกอะไรเอาตอนนี้วะ
"ก็ย้งอยากได้ซองนี่"ไม่วายงอแงเมื่อเห็นซองปึกสุดท้ายมอบให้ประตูทองไปเป็นที่เรียบร้อย เล้งกระตุกยิ้มที่มุมปากยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูของย้งพอให้ได้ยินกันเบาๆแค่สองคน
"อยากได้ก็มา'เอา'กับกู"ย้งยี้รู้สึกเหมือนหน้าของตัวเองกำลังไหม้สองแก้มแดงปลั่งร้อนจนแทบจะระเบิด เสียงเฮดังลั่นหลังจากแปะหลิวยื่นซองใบสุดท้ายให้ญาติของณอร อีตัวดีใช้ศอกถองหน้าท้องเล้งจนชายหนุ่มจุกด้วยความขวยเขิน
"งั้นไม่อยากได้แล้ว!!”มันกระทืบเท้าเบาๆเดินตามขบวนเข้าไปไม่หันมามองเล้งอีก
คนผีทะเลพูดออกมาได้ คนเยอะแยะ อยากให้เอาเวลาอยู่กันลำพังก็สะกิดสิ!
หลังพิธีในช่วงเช้าจบลงแม่ของณอรหอบสินสอดทองหมั้นซึ่งจริงๆพ่อแม่ของณอรไม่ได้เรียกเงินหรือทองซักบาทเดียวหากแต่พรรณีก็เอาเงินที่ตนเก็บหอมรอมริบเพื่อลูกชายรวมทั้งทองหมั้นที่เคยได้จากสมัยตนเองแต่งงานกับพ่อของจิวยี่มามอบให้ ย้งยี้เองก็บอกให้แม่เอาส่วนของตนเองยกให้พี่ชายสินสอดของณอรบนพานจึงไม่ขี้เหร่แหวนแต่งงานทับทิมฝังเพชรวงกำลังดีที่พรรณีเก็บไว้อย่างดีถูกนำมามอบให้ลูกสะใภ้ เงินสดสองล้านและทองยี่สิบบาทถูกจัดอย่างสวยงาม พ่อแม่ของณอรมอบคืนให้ลูกสาวและลูกเขยไว้ทำทุนอีกทั้งยังสมทบให้เท่าๆกับจำนวนที่พรรณีมอบให้ พิธีแบบจีนจบลงไปด้วยดีทั้งหมดรวมถึงการกินเลี้ยงโต๊ะจีนในตอนเที่ยง พอเลยบ่ายสองที่เสร็จสิ้นพิธีการจึงได้พักหายใจหายคอกันบ้าง บรรดาญาติๆเคลื่อนขบวนกลับมาที่บ้านของจิวยี่ ก่อนจะทยอยเดินทางกลับเมืองกาญจน์เพื่อเตรียมพิธีแบบไทยในเช้าวันพรุ่งนี้ แปะหลิว เจง อิน อันดามัน โจ้ และพรรณีล่วงหน้าไปก่อนเพื่อเตรียมงานในตอนเย็น ย้งยี้ถือโอกาสขึ้นไปพักบนห้องที่จิวยี่จัดไว้ให้เวลามันมาพักกับพี่ชายโดยมีเล้งตามมาติดๆ ย้งยี้ยกเท้าขึ้นมานวดคลายความปวดเมื่อยเพราะมันรับหน้าที่พิธีกรของงานร่วมกับอันดามันจึงใส่ส้นสูงมา เดินไปเดินมาต้อนรับแขกของทั้งสองฝ่ายวิ่งวุ่นไม่ได้หยุดมาตอนนี้กลับรู้สึกปวดขึ้นมานิดๆ เล้งเห็นดังนั้นจึงดึงเท้าของย้งมาวางบนตักแล้วนวดให้ด้วยความเบามือ
“ปวดมากมั้ย?”มันถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มากหรอกย้งแค่เมื่อยน่ะ พี่เล้งนอนซักงีบมั้ยตอนขับรถไปกาญจน์จะได้ไม่ง่วง”
“ซักพักค่อยนอนนวดเมียก่อน”ย้งยี้หัวเราะให้กับคำพูดน่ารักของเล้ง
“แฟนใครเนี่ยน่ารักจังเลย”มันจับหน้าเล้งหันไปมาอย่างมันเขี้ยว
“ย้ง..”
“จ๋า”
“เผื่อมึงลืม มือที่มึงจับหน้ากูอยู่เมื่อกี๊มึงเพิ่งนวดตีน”
“อุ๊ยต๊ายตาย ย้งลืม”
.....................................................
เอาสเปมาเสิร์ฟก่อนแบบเบาๆ 50% นะคะ เดี๋ยวจะรีบมาอัพต่อให้จบขอเวลาเคลียร์ต้นฉบับแป๊บนึงนะคะ