[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267977 ครั้ง)

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
โถ บู้บี้เอ้ยยยย แสบจริงๆเลย แต่ก็สงสารน้อง น้องกลัวเสียคุณพิษไปจริงๆอ่ะ ครั้งนี้รอดมาได้นับว่าดีแล้วว  แอบน้ำตาซึมเลย บีบจิตใจมากก นายพิษแทนตัวเองว่า ฌาน ด้วย เขิลได้ไหม5555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เจ้าบู้บี้คนเก่ง

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เจ้าบู้บี้มันร้ายยยยยยย o13 o13

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เจ้าบู้บี้เก่งมาก ซ้อนแผนจนนายพิษยอมออกมาหาจนได้

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ rawi62442

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ใจหายใจคว่ำหมดลูกเอ้ยยย คิดไว้แล้วแหละว่าคนที่มองอยู่คือพิชญ์ฌาน
แล้วแทงท้องอะแผนยัยบู้บี้แน่ๆแต่อ่านแล้วนึกว่าแทงจริงๆ ใจหายเลยนะตอนนั้น
แล้วๆๆๆ ตอนที่คุณเขาแทนตัวเองว่า ฌาน คือแบบ อ๋อยยย ยกโทษให้กะดั้ยยย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao7: คุณพิษกลับมาแล้วค้าบบบบ ดีใจกับบู้บี้ด้วยน้า กำลังเจ้มจ้นเลย :katai2-1:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ไม่คิดว่าจะยอมแทงตัวเองหรอก แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะมีแผน

เก่งมากเจ้าบู้บี้ นายพิษฌาณกลับจากความตายแล้ว
ต่อไปก็ต้องเดินหน้าต่อ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NormalVee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ความร้ายกาจมันออสโมซิสหากันได้ใช่มั้ยยยยย ตกอกตกใจหมดแหน่ะ ได้กลับมาเจอกันซักที

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ในความทรมานมันก็มีความหวานซ่อนอยู่

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
บู้บี้เอ๊ยยย 

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขู่ธรรมดาไม่ชอบนะคุณพิษ ทำไมต้องให้น้องเหนื่อยลงมือด้วย ใจหายใจคว่ำหมด :m15:
รอคอยตอนต่อไปค่าาาา

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :hao5: :hao5:
รอตอนต่อไปนะคะ..ไรท์..

ออฟไลน์ Amethyst.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งตามมาอ่านจนชนตอนเี่ยแหละค่าา อยากรู้ความสัมพันธ์ของน้องกับคุณแม่อีก ของขวัญที่แม่ให้คืออะไร รู้สึกหน่วงกับความสัมพันธ์ของแม่ลูก  :o12:

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 35

 

 

 

 

          “แล้วคุณจะทำยังไงต่อ  บอกผมบ้างได้มั้ย”  อาคิราห์พึมพำขณะที่นั่งพิงอกกว้างเล่นอย่างสบาย  รู้สึกถึงริมฝีปากอุ่นจัดคลอเคลียอยู่แถวริมหูและซอกคอ  “อย่างน้อยผมก็ควรจะต้องรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่”

          “ฉันกำลังจะล่อตัวการของเรื่องนี้ออกมา”  พิชช์ฌานพูด  ไล้ปลายนิ้วลงบนหลังมือของเจ้าโอเมก้าเบาๆ  “อีกไม่นานหรอก อาคิราห์  ทุกอย่างจะถูกเปิดเผย”

          “แล้วคุณจะแกล้งตายไปอีกนานแค่ไหน  ผมเบื่อที่จะต้องคอยตีหน้าเศร้าแล้วนะ”  อาคิราห์ย่นจมูก  “ผมไม่อยากโกหกเลย”

          “แหม  แล้วเมื่อกี้ใครนะเล่นละครเสียใหญ่โต  เอามีดแทงท้องแถมล้มลงไปกองกับพื้นอีก  ยังดีนะไม่ชักแด่วๆแถมด้วย”  ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  พอมานึกย้อนถึงภาพเหตุการณ์คนเล่นใหญ่เมื่อครู่แล้วก็อดขำไม่ได้

          “ก็คุณหลอกผมก่อน”  อาคิราห์ว่า  “ตอนแรกผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าควรจะดิ้นไปรอบๆห้องหน่อยมั้ย  แต่ไม่เอาดีกว่า  หมดแรงแล้ว...เหนื่อย”

          “อย่าบอกว่าหิวอีกแล้วนะ”  พิชช์ฌานรีบดักคอ  อีกคนยิ้มแหยๆ

          “ผมใช้พลังงานไปเยอะนะเมื่อกี้  อดกินน้ำด้วยเพราะต้องเก็บมาราดพุง”  อาคิราห์พูด  ชี้ไปที่เสื้อของตัวเองที่เปื้อนคราบสีแดงเป็นวงกว้าง  “อุตส่าห์บอกป้านิ่มว่าอยากกิน”

          “นี่ถ้าป้านิ่มรู้ว่าเอามาเททิ้งได้โกรธตายเลย”  พิชช์ฌานพูดเสียงเข้ม  คนฟังคิดตามแล้วก็หน้าจ๋อยเพราะไม่เคยทิ้งขว้างของกินมาก่อน  “ป้านิ่มคงไม่ทำให้กินแล้วแน่ๆ”  ชายหนุ่มแกล้งพูดต่อ  กลั้นหัวเราะอยู่ในใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าเครียดขึ้นทันที

          “ป้านิ่มต้องไม่รู้เรื่องนี้”  อาคิราห์พูด  ดึงตัวลุกขึ้นอย่างแข็งขัน

          “จะไปไหนน่ะ”

          “ทำลายหลักฐาน”  เจ้าโอเมก้าบอก  คว้าทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดพื้นที่เปียกแฉะ  จากนั้นก็ถอดเสื้อที่เปื้อนออก

          ผิวสีน้ำผึ้งสว่างเนียนปรากฏแก่สายตาจนคนแอบมองตาพร่าไปชั่วขณะ   หน้าท้องที่นูนเล็กน้อยกับเนื้อตัวอิ่มเอิบดูเต็มไม้เต็มมือขึ้นนั้นทำให้พิชช์ฌานกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ  จับจ้องมองตามร่างของโอเมก้าตาไม่กะพริบ

          เจ้าของร่างก็ดูจะไม่รู้ตัวเอาเสียเลยว่าถูกจ้องมองอยู่  อาคิราห์ถือเสื้อเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ  พยายามซักเอาคราบสีแดงเข้มออกจากเนื้อผ้าสีขาวพลางนึกบ่นอยู่ในใจว่าไม่น่าเลือกเสื้อขาวเลย

          ใครบางคนเดินมาพิงประตูห้องน้ำเอาไว้  เอียงคอมองเสี้ยวหน้าเรียวหวานรับกับเส้นผมสลวยสีน้ำตาลเข้มนั้น  ลำคอระหงกับรอยบุ๋มที่ไหปลาร้าทั้งสองข้างเรื่อยลงมายังแผ่นอกเรียบเนียนดึงดูดสายตาอย่างประหลาด  โดยเฉพาะกับจุดสีเข้มสองจุดนั้น 

          “จะมาช่วยผมซักเหรอ”  อาคิราห์เงยหน้าขึ้นถาม  มือก็ขยี้เสื้อไปด้วย  “เสื้อคุณก็เปื้อนนะ  ถอดมาซักสิ”  เขาพยักพเยิดไปทางเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายที่มีคราบสีแดงติดอยู่ด้วย

          คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง  ก่อนที่พิชช์ฌานจะถอดเสื้อตัวนั้นออกจากตัวอย่างรวดเร็วตามด้วยกางเกงขายาวที่สวมอยู่  ร่างสูงใหญ่สมบูรณ์ด้วยมัดกล้ามสวยงามมีเพียงกางเกงชั้นในปกปิดกลางลำตัวเอาไว้  อาคิราห์เงยหน้าขึ้นมองอ้าปากค้างอย่างตกใจ

          “เห้ย  คุณถอดทำไม”

          “ก็บอกจะซักไม่ใช่เหรอ”  อัลฟ่าหนุ่มตอบหน้าตาย  ส่งเสื้อกับกางเกงของตนเองไปให้  เจ้าโอเมก้าเหลือบมองหน้าท้องที่มีไรขนอ่อนบางๆเรียงตัวหายไปในขอบชั้นในสีขาวนั้นแล้วก็หน้าร้อนผ่าว  พูดโดยไม่มองหน้า

          “คุณออกไปรอข้างนอกก่อน  ผมจะจัดการให้”

          “กางเกงของเธอก็เปื้อนนะ”  พิชช์ฌานไม่ขยับตัวแถมยังพูดต่อลอยๆ  เลิกคิ้วมองกางเกงที่อาคิราห์สวมอยู่แล้วยิ้มมุมปาก  “ถอดมาซักเลยสิ”

          “เดี๋ยวผมค่อยซักทีหลัง”  อัยย์พูดอุบอิบ  หันไปคว้าผ้าเช็ดผมผืนเล็กมาพาดคอเอาไว้เพราะเริ่มรู้สึกแปลกๆกับสายตาคมวาวที่คอยแวะเวียนมองมาทางเขาผิดปกติ  “คุณออกไปรอข้างนอกก่อน  อยู่ในนี้เกะกะ”

          “เดี๋ยวนี้ไล่ฉันออกจากห้องหรอเจ้าบู้บี้”  เจ้าของบ้านตัวจริงพูดเสียงสูง  นัยน์ตาคมกริบเป็นประกายระยิบระยับ  “นี่มันบ้านของฉันนะ”

          “งั้นคุณมาซักผ้า  ผมจะไปรอข้างนอกเอง”  อาคิราห์พูดหน้าตาย  ส่งผ้าในมือให้อีกฝ่ายรับเอาไว้  พิชช์ฌานรับผ้ากองนั้นมาเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่สนใจแล้วคว้าข้อมือของคนที่จะหลบออกจากห้องน้ำเข้าหาตัว

          อาคิราห์อุทาน  เซเข้ามาปะทะแผ่นอกที่รอรับอยู่

          “ปล่อยผม  ผมไม่เล่นด้วย”

          “ใครเขาเล่นกันเล่า  เขาเอาจริง”  พิชช์ฌานพึมพำ  ก้มลงแตะริมฝีปากและจมูกไปตามผิวเนื้อนวลเนียนนั้น   กลิ่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังทิ้งคราบอยู่บนเนื้อตัวของอีกฝ่ายผสมกับกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวของโอเมก้าทำให้อารมณ์บางอย่างของอัลฟ่าตื่นตัวขึ้นทันควัน

          “ไม่เอา..”  อาคิราห์โวยวาย  พยายามดิ้นหนีแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงเต็มที  สัมผัสของฝ่ายนั้นกระตุ้นให้ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วเหมือนเปลวไฟกับน้ำมัน  ปลายลิ้นอุ่นจัดไล้วนรอบสะดือบุ๋มและหน้าท้องราวกับจะลิ้มชิมรสชาติของน้ำหวานที่ยังเหลืออยู่บนผิว   พิชช์ฌานดันตัวเขาไปจนถึงอ่างอาบน้ำแล้วเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำเอาไว้

          “อาบน้ำกันนะ”  ชายหนุ่มพูดเสียงพร่า  เผลอนิดเดียวกางเกงที่อาคิราห์สวมอยู่ก็ถูกปลดออกจากตัวพร้อมกับชั้นใน  พิชช์ฌานพาเขาเข้ามานั่งในอ่างอาบน้ำด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ  มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวและสะโพกเต็มตึงจนอาคิราห์รู้สึกเจ็บไปหมด  จะไม่แปลกใจเลยถ้าพรุ่งนี้มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆเพราะแรงบีบเค้นเข้า

          โดยเฉพาะยอดอกทั้งสองข้างที่ถูกสัมผัสดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเป็นของหวานถูกปาก  บางครั้งฟันคมๆนั้นก็จะขบเม้มทำให้เขาสะดุ้งปนกับความวาบหวามจนต้องแอ่นตัวออก  อยากหนีให้พ้นแต่ก็โหยหาอยู่ในที  ไม่สามารถแยกแยะอารมณ์ได้ถูก

          “เมื่อกี้เธอแทงตรงนี้มิดด้ามเลยใช่มั้ย”  พิชช์ฌานกระซิบ  ก้มลงงับหน้าท้องนิ่มๆนั้นเล่นอย่างมันเขี้ยว

          “อัยย์เปล่าแทงนะ”  อาคิราห์พึมพำแทนชื่อตัวเองอย่างเผลอตัว  ท่อนขาเรียวยาวพาดคาอยู่ที่เอวของอัลฟ่าราวกับไม่ตั้งใจ  ทว่าอาการขยับตัวจนแนบชิดนั้นก็ทำให้พิชช์ฌานยิ้มกว้าง  มองหน้าคนที่กำลังบิดตัวเร้ามองเขาตาปรอยด้วยแววตาเว้าวอนกันอยู่ในทีอย่างเอ็นดู  ก่อนจะก้มลงไปหาตัวตนของโอเมก้าที่กำลังเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ลุกโชน

          ความร้อนจัดและปลายลิ้นที่เต็มไปด้วยทักษะของอีกฝ่ายทำให้อาคิราห์หวีดร้องเสียงหลง  ขยับตัวเข้าหาโดยไม่รู้ตัว  มือจิกบนขอบอ่างอาบน้ำแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว

          พิชช์ฌานเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าเรียวหวานที่เบะปากออกเหยเกเพราะความเสียวซ่านนั้น  ผิวผ่องกลายเป็นสีแดงระเรื่อทั้งตัว  อาคิราห์ร้องออกมาสุดเสียงแล้วโผเข้ากอดคอเขาเอาไว้แน่น  ตัวสั่นสะท้านด้วยแรงอารมณ์ที่เพิ่งปลดปล่อยออกมา

          อัลฟ่าหนุ่มเช็ดของเหลวออกจากริมฝีปากช้าๆ  ก้มลงจุมพิตอีกฝ่ายยาวนานและดูดดื่ม  ตักตวงเอาความหอมหวานที่เขาคิดถึงทุกครั้งยามที่หลับตาลง  ดันร่างโปร่งบางให้เอนลงกับอ่างอาบน้ำอีกครั้ง  เขาจับท่อนขาเรียวแยกออกจากกันเพื่อสำรวจดูบางสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า 

          อาคิราห์ตัวสั่นเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่ลูบไล้อยู่รอบช่วงล่าง  เจ้าโอเมก้าพยายามหนีบขาเข้าหากันแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จเอาเสียเลยเพราะร่างสูงใหญ่แทรกอยู่ระหว่างกลาง  พิชช์ฌานสอดนิ้วเข้ามาในตัวของเขาช้าๆ  น้ำอุ่นๆที่รองรับรอบตัวช่วยให้ผ่อนคลายลงบ้างแต่ก็เพียงบางส่วนเท่านั้น  พอถึงจุดหนึ่งเขาก็ต้องกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นด้วยความเจ็บปวดอยู่ดี

          “ฉันขอมิดด้ามบ้างได้มั้ย”  คำพูดของพิชช์ฌานทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนมีอะไรระเบิดตู้มอยู่ในหัว อาคิราห์อ้าปากค้าง  ไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธด้วยซ้ำตอนที่อีกฝ่ายทำโดยไม่รอให้เขาอนุญาตก่อน  อาคิราห์ทุบแผ่นหลังกว้างแรงๆข้อหาที่ทำให้เขาจุกจนพูดไม่ออก  ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้เลย  ร่างสูงใหญ่ขยับเข้ามาในตัวของเขาจนสุดตามที่พูดเอาไว้และเริ่มเคลื่อนไหวตามจังหวะที่รู้กันสองคน

          ...ไม่ยุติธรรมเลย... อาคิราห์คิดอยู่ในใจอย่างเลื่อนลอยขณะที่เนื้อตัวสั่นคลอนจนสายน้ำรอบตัวกระฉอกออก  เขาโอบลำคอของพิชช์ฌานเข้ามาจูบบ้าง  ยกสะโพกขึ้นรับความหนักแน่นนั้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นทุกที  ...ให้ตายเถอะ  นี่มันแผนการเอาคืนพิชช์ฌานของเขานะ  ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ...

          .....................................................................................

          ร่างโปร่งบางผล็อยหลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อน  พิชช์ฌานใช้ผ้าขนหนูบรรจงเช็ดเนื้อตัวที่เปียกปอนให้กับเจ้าโอเมก้าหลังจากทำความสะอาดให้จนเสร็จเรียบร้อย  เขาก้มลงอุ้มอาคิราห์ออกมาจากห้องน้ำไปวางบนเตียงนอน  ดึงผ้าห่มคลุมให้ถึงอก

          ริมฝีปากอิ่มเต็มบวมช้ำเพราะสัมผัสอย่างลืมตัวของเขา  พิชช์ฌานก้มลงจูบอีกครั้งแผ่วเบา  อดนึกถึงสีหน้าของอีกฝ่ายยามลืมตาตื่นขึ้นมาไม่ได้ ...คงจะทำหน้าบู้บี้โวยวายด้วยความโกรธที่ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวแน่ๆ

          ก็ใครใช้ให้ทำท่าแบบนั้นกันล่ะ  ภาพบั้นท้ายกลมกลึงที่ยกลอยเด่นยังติดตา ไหนจะนัยน์ตากลมโตเยิ้มด้วยน้ำตาและแววแห่งความปรารถนานั่นด้วยอีก  เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ  จะได้ทนต่อความยั่วยวนโดยธรรมชาตินั้นได้

          ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะที่ข้างแก้มของคนหลับเล่นแล้วเปลี่ยนเป็นบีบแก้มทั้งสองข้างไปมาอย่างมันเขี้ยว  เจ้าโอเมก้าย่นจมูก ยกมือขึ้นปัดมือเขาออกแล้วหลับต่อ  ดูท่าคงจะเพลียเต็มแก่

          “ถ่านหมดแล้วเหรอ”  พิชช์ฌานกระซิบ  แนบมือเข้ากับหน้าท้องนิ่มๆของโอเมก้าครู่หนึ่ง  เขาไม่รู้สึกถึงการสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ข้างในนั้นแต่กลับสัมผัสได้ว่ามีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ใต้ฝ่ามือของเขา  ช่างเป็นความรู้สึกที่แสนแปลก...

          เหลือบมองดูนาฬิกาบอกเวลา  ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปแล้ว  ยังมีภารกิจที่เขาจะต้องสะสางให้เสร็จก่อนที่จะกลับมาอย่างเต็มภาคภูมิ

          อยากเขย่าตัวปลุกอีกฝ่ายขึ้นมาแต่ก็เปลี่ยนใจ  คงดีกว่าถ้าให้อาคิราห์นอนหลับไปก่อน  ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะไม่สามารถเดินออกจากห้องนี้ได้อีก

          แค่เฝ้ามองเจ้าตัวผ่านกล้องวงจรปิดที่ซ่อนเอาไว้ทั่วบ้านก็คงเพียงพอแล้วในตอนนี้  คิดมาถึงตรงนี้ก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้เมื่อนึกถึงภาพคนแทงพุงตัวเอง  เขาเอื้อมมือไปบีบจมูกรั้นๆแล้วก้มลงจูบตามหลัง  ...แสบขนาดนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงมากแล้วมั้ง...

          พิชช์ฌานกลับออกมาจากห้องนอนของอาคิราห์  ชายหนุ่มก้มศีรษะให้นิ่มนวลที่อ้าปากค้างมองหน้าเขาเหมือนเห็นผีก่อนจะกรากเข้ามากอดแน่น  ส่วนนิลลาโอเมก้าเพียงแต่ก้มหัวให้เขานิดๆเท่านั้น  ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

          “ผมฝากอัยย์ด้วยนะป้านิ่ม  แล้วก็....อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับคุณแม่  ผมขอร้อง”

          “โธ่  คุณฌาน  ทำไมล่ะคะ  คุณแม่ของคุณเสียใจมากเลยนะคะที่คุณเสียชีวิต” แม่บ้านอาวุโสท้วง  ลูบแขนเจ้านายที่เลี้ยงมากับมือด้วยความยินดี   “คุณส่งข่าวบอกคุณแม่เสียหน่อยเถอะค่ะ”

          “ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ”  ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ  “ถือว่าผมขอป้านิ่ม  ตั้งแต่เด็กจนโตผมไม่เคยขออะไรป้านิ่มเลยนะ  ผมขอแค่คราวนี้เอง”

          “ก็ได้ค่ะ  ป้าจะไม่บอกใคร”  นิ่มนวลรับคำ  “คุณฌานไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ  ป้ากับนิลลาจะดูแลคุณอัยย์เป็นอย่างดีแน่นอน”

          “เขาหลับอยู่  ตื่นมาคงหิว  ผมฝากดูหน่อยนะครับ”  พิชช์ฌานพูดเป็นประโยคสุดท้าย  เงยหน้าขึ้นมองไปทางบันไดชั้นบนอีกครั้ง  ร่ำลาคนที่นอนหลับอยู่ในใจก่อนจะตัดใจเดินกลับออกไปจากบ้านพัก

          คนของเขาจอดรถรออยู่ก่อนแล้ว  พิชช์ฌานนั่งคิดมาตลอดทางถึงแผนการต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น  ชายหนุ่มยกหูโทรศัพท์ขึ้นติดต่อกับใครบางคนที่รอสัญญาณอยู่  นัดหมายให้ไปเจอกันยังสถานที่นัดพบ

          โกดังร้างที่เพิ่งถูกระเบิดไปเมื่ออาทิตย์ก่อนว่างเปล่าไร้ผู้คน  ร่างสูงใหญ่ก้าวผ่านเชือกที่กั้นเอาไว้เป็นเขตห้ามเข้าอย่างไม่สนใจ  ร่องรอยความเสียหายของแรงระเบิดยังเห็นได้ชัดแม้แต่คราบเลือดแห้งกรังที่กระจายอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงและคราบเขม่า

          เสียงฝีเท้าของเขาดังเป็นจังหวะในความเงียบของบรรยากาศ  พิชช์ฌานก้าวเข้าไปในโกดังที่เคยมีหลังคาบังอยู่  ตรงที่เดิมที่เขาเคยให้เอาตู้เซฟมาเปิดออกมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่แทนที่  เขาคนนั้นกำลังก้มหน้าลงเพ่งพิศอะไรสักอย่างที่พื้นอย่างครุ่นคิด

          “รอนานหรือเปล่า”  พิชช์ฌานพูดขึ้น  ฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาแล้วก็เบือนหลบไปทางอื่น  “นึกว่านายจะไม่ยอมมาเจอฉันอีกแล้ว”

          “คุณอยากได้ของในตู้เซฟนั่นใช่ไหม”

          “ไม่ใช่”  ชายหนุ่มตอบสั้นๆ  “ฉันมาเพราะอยากเจอหน้าน้องชาย”

          คนฟังเงียบไปครู่ก่อนจะหัวเราะออกมาแค่นๆ

          “คุณโกรธพ่อของคุณจะเป็นจะตายไม่ใช่หรือที่มีลูกนอกสมรสเอาไว้  มันเป็นความน่าอับอายของตระกูลอัศวลักษณ์ที่คุณภาคภูมิใจ”  ชายหนุ่มผู้นั้นตอบกลับมา  “ผมอยู่กับคุณมานานคุณพิชช์ฌาน นานจนรู้ว่าคุณจะรู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่”

          “งั้นเธอก็เป็นมือขวาที่ดีเจนภพ”  พิชช์ฌานพูดเรียบๆ  “ฉันโกรธพ่อของฉันก็จริง  แต่ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกรธเธอเลย  มันไม่ใช่ความผิดของเธอ”

          “คุณอย่าเอาวาทะนักการเมืองมาใช้กับผม  ผมรู้ว่าคุณแค่ต้องการผลประโยชน์  หลังจากนั้นก็จะกำจัดผมทิ้งซะโทษฐานที่เป็นรอยด่างพร้อยของตระกูลคุณ”   ชายหนุ่มรุ่นน้องพูดด้วยเสียงเจ็บปวด  “เหมือนที่พ่อของคุณส่งแม่ของผมออกไปนอกประเทศ”

          “พ่อฉันตัดสินใจผิด”  พิชช์ฌานว่า  “การที่ฉันเป็นลูกของพ่อ  ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องเห็นด้วยกับพ่อ  เธอทำงานกับฉันมานานย่อมรู้ว่าฉันคิดอย่างไร  เธอก็พูดเองว่าเธอรู้  แล้วทำไมคราวนี้ถึงไม่รู้ไปได้  เจนภพ...วันนั้นเธอหนีออกมาจากบ้านของพ่อฉันโดยที่เรายังไม่ทันได้เคลียร์กันเลย”

          “คุณอยากได้ของในเซฟใช่มั้ยครับ”  เจนภพพูดประโยคเดิม  มองหน้าพี่ชายต่างมารดาอย่างเจ็บปวด  “นั่นแหละคือสิ่งที่คุณอยากจะพูด  คุณพูดมาตรงๆก็ได้  ไม่ต้องอ้อมค้อมหรอก  ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไรคุณพิชช์ฌาน”

          พิชช์ฌานนิ่งไปครู่ใหญ่  ทอดสายตามองใบหน้าซูบของอดีตมือขวาคนสนิทเงียบๆ

          “ก็ได้ ... ของในเซฟอยู่ที่ไหน”

          เจนภพยิ้มมุมปาก

          “คุณมีอะไรมาแลกกับผมล่ะ”

          “เธออยากได้อะไรไม่ทราบ”

          “ผมอยาก...เป็นอัศวลักษณ์อย่างถูกต้องตามกฎหมายและทุกคนได้รับรู้”

          พิชช์ฌานอึ้งไป  คนฟังยิ้มทว่าแววตายอกแสยง

          “คุณไม่กล้าใช่ไหมล่ะ  เพราะมันจะกระทบชื่อเสียงของคุณกับคุณพ่อของคุณ  พวกคุณคงไม่กล้ายอมรับความผิดพลาดที่น่าอับอายนี้”  เจนภพพูด ไม่สามารถเก็บความสะเทือนใจเอาไว้ภายในสีหน้าได้  “จู่ ๆ นักการเมืองรุ่นใหญ่ที่มีแต่คนนับหน้าถือตาก็มีลูกนอกสมรสขึ้นมา  แถมยังเป็นเสี้ยวเบต้าไม่ใช่สายเลือดอัลฟ่าบริสุทธิ์อย่างที่ภาคภูมิใจอีกด้วย”

          “ถึงตอนนี้  ฉันไม่สนใจเรื่องสายเลือดบริสุทธิ์อะไรนั่นแล้ว  เธอเองก็ควรจะเปลี่ยนความคิดเสียใหม่เช่นกัน  สายเลือดและชนชั้นไม่มีความสำคัญอีกต่อไป  การกระทำต่างหากล่ะที่เป็นตัวบ่งบอกถึงศักดิ์ศรีและคุณค่าของเธอ  ฉันนึกว่าเธอจะคิดได้แล้วเสียอีกตั้งแต่ได้เจอโอเมก้าอย่างอาคิราห์”

          “เพราะคุณหลงโอเมก้าหน้ามืดตามัวหรือเปล่าคุณพิชช์ฌาน”  อดีตมือขวาพูด  “ถึงอย่างไรคุณก็ต้องยอมรับว่าคนค่อนประเทศนี้ยังมีความคิดฝังหัวอยู่กับเรื่องชนชั้น  โดยเฉพาะลูกเสี้ยวทั้งหลายที่มีสภาพไม่ต่างจากพวกโอเมก้าด้วยซ้ำ  คุณรู้อยู่แล้วอย่าแกล้งพูดให้มันสวยหรูเลย”  ชายหนุ่มพูดจบก็หันไปมองทางอื่น

          “ฉันยอมรับว่าความรักทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไปมาก”  พิชช์ฌานว่า  “แต่ฉันก็เชื่อว่าความคิดของทุกคนจะเปลี่ยนแปลงได้  แม้แต่พ่อของฉันก็ยังพูดความจริงเรื่องนี้ออกมาทั้งที่เก็บมาเป็นสิบยี่สิบปี”

          “เขาพูดเพราะไม่มีทางเลือกมากกว่า”  เจนภพพูดเสียงห้วน  “ผมรู้ว่าเขาไม่เคยยอมรับผมหรือแม้แต่มองผมเป็นลูกเท่ากับคุณ  ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้วเพราะผมมันก็แค่ไอ้เจนภพ ลูกเสี้ยวเบต้าที่มีแม่เป็นเสมียนหน้าห้อง  ไม่ใช่คุณนายอัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์  ผมก็เป็นได้แค่มือขวาของคุณจนวันตาย”

          “เธออยากให้ฉันทำอย่างไรเจนภพ”  พิชช์ฌานพูดขึ้นช้าๆ  “ฉันคิดว่าคนที่เหยียดสายเลือดของเธอมากที่สุดตอนนี้ก็คือตัวเธอเอง  ไม่ใช่ใครอื่น  จริงอยู่ที่พ่อของฉันเก็บเรื่องของเธอเป็นความลับ  เรื่องนี้ฉันไม่เห็นด้วย  ฉันโกรธพ่อของฉัน  ฉันเสียใจที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนสนิทที่ฉันไว้ใจที่สุดคือน้องชายของฉันเอง  ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้  มันก็คงจะดีกว่านี้  แต่จะทำยังไงได้เจนภพ  ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว  เราย้อนไปแก้ไขอดีตไม่ได้  เหลือแค่ปัจจุบันกับอนาคตที่ขึ้นกับการตัดสินใจของเรา ซึ่งฉันในตอนนี้ได้ตายไปแล้วในสายตาทุกคนก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก”

          “คุณโกหก”  เจนภพสวน  “คุณในตอนนี้สามารถทำอะไรก็ได้ทุกอย่างต่างหาก  นี่คือเหตุผลที่คุณแกล้งทำเป็นตาย  แต่นั่นไม่สำคัญหรอก  ที่สำคัญก็คือ...  ผมอยากเปิดเผยให้ทุกคนรู้ถึงความเหลวแหลกของตระกูลคุณ”

          “เธอไม่ได้อยากทำอย่างนั้น”  พิชช์ฌานพูดอย่างสงบ  “เพราะถ้าเธออยากให้เป็นอย่างนั้นจริง   แค่กระซิบบอกนักข่าวสักคนก็พอแล้ว   แต่นี่เธอเลือกที่จะเก็บเงียบจนกระทั่งยอมมาพบฉัน  เธอต้องการอะไรกันแน่เจนภพ  ลองบอกมาสิ”

          คนฟังผิวปาก

          “ผมชอบการวิเคราะห์ของคุณนะคุณพิชช์ฌาน  อืม  อยากได้อะไรงั้นหรือ  ยกตำแหน่งนายกฯสมัยหน้าให้ผมเป็นไง”  ชายหนุ่มตอบกลับมาเยาะๆ  “แลกกับของในเซฟ  ตกลงหรือเปล่าล่ะ”

          “แสดงว่าเธอมั่นใจมากว่าฉันจะชนะการเลือกตั้ง”  พิชช์ฌานยิ้มมุมปาก  “ของในเซฟคงทำให้เธอคิดอย่างนั้น”

          รอยยิ้มของคนอ่อนวัยกว่าจางลง  เจนภพหุบยิ้ม

          “ฉันตกลงเจนภพ  เธอเอาตำแหน่งนายกฯไป  แลกกับของในเซฟ”

          “ผมขอคิดดูก่อน”

          “เมื่อกี้เธอเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้เองนะ  จะมาเปลี่ยนใจได้ยังไง  ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าก่อนจะเสนออะไรต้องคิดให้รอบคอบก่อน  เพราะคำพูดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทวงคืนได้”  พิชช์ฌานพูดเนิบๆ  “ว่ายังไง”

          “คุณคงวางแผนจะเก็บผมหลังเลือกตั้งใช่มั้ยล่ะ”

          “ไม่เอาน่า  เห็นฉันเป็นคนยังไง  ฉันไม่ใช่คนเหี้ยมโหดเสียหน่อย”

          “ผมทำงานให้คุณมากี่ปี  ผมรู้ดีว่าคุณทำอะไรบ้าง  ถ้าผมออกมาแฉกับนักข่าว อนาคตทางการเมืองของคุณก็คงจบสิ้น”

          “ก็เอาซิ  ...แต่อย่าลืมนะว่าตอนนี้ฉันตายไปแล้ว”  พิชช์ฌานพูดยิ้ม ๆ  “แล้วเธอที่เป็นมือขวาของฉันและเป็นคนลงมือทำทุกอย่างจะไม่กระทบเลยงั้นหรือ  คิดดี ๆ นะ  เอาคนตายมาแลกคนเป็นไม่คุ้มหรอก”

          เจนภพนิ่งอั้น  หันไปมองรอบ ๆ ตัวที่ถูกแรงระเบิดจนเละเทะ

          “วันนั้นหลังจากเกิดเหตุ  คุณไม่ติดต่อผมเลยเป็นเพราะคุณไม่ไว้ใจผมตั้งแต่ตอนนั้นงั้นหรือ”

          “จริงๆแล้วก็ก่อนหน้านั้น”  พิชช์ฌานพูดตามจริง  “นายทำงานกับฉันมานาน  ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าคนของฉันมีอะไรแปลกไป  ฉันคงไม่ต้องลงรายละเอียดว่าฉันรู้มาได้อย่างไรแต่ว่า...ฉันก็รู้มากพอที่จะครุ่นคิดถึงแผนการนี้”

          “เพื่อตบตาผม?  ผมมีค่าถึงขั้นคุณพิชช์ฌานต้องลงทุนแกล้งตายเลยงั้นหรือ”

          “สำหรับคนที่เป็นเหมือนอวัยวะที่สามสิบสามของฉัน   แผนการแค่นี้ถือว่าน้อยมาก”  พิชช์ฌานพูด  “ฉันพร้อมทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความจริงว่าใครจงรักภักดีกับฉันอย่างแท้จริง  แต่สิ่งที่ฉันไม่เคยคิดเลยก็คือว่า  อวัยวะที่สามสิบสามของฉันจะถูกหล่อเลี้ยงด้วยสายเลือดเดียวกันครึ่งหนึ่ง...”  คนพูดถอนหายใจ  “ที่เธอขอตำแหน่งนายกฯ  มันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับน้องชายของพิชช์ฌาน  อัศวลักษณ์”

          “คุณอย่าเล่นบทพี่ชายที่แสนดีเลย  มันไม่เนียน”

          “ฉันว่ามันเนียนอยู่นะ  ไม่อย่างนั้นน้องชายของฉันคงเดินหนีออกไปนานแล้ว  ไม่ยืนจ้องเฉยอยู่แบบนี้หรอก”  พิชช์ฌานพูดหน้าตาย  “เลิกวางท่าเสียทีเถอะเจนภพ  ฉันเหนื่อยเต็มที  เอาของในเซฟออกมาได้แล้ว”

          “คุณคิดผิด  ผมไม่ใช่เจนภพคนเดิมอีกแล้วคุณพิชช์ฌาน”  อดีตมือขวาคนสนิทของเขาพูดเสียงเย็น

          พิชช์ฌานกะพริบตา  แวบเดียวรอบตัวก็ปรากฏร่างของชายฉกรรจ์เกือบสิบคนล้อมรอบเขา  ในมือของทุกคนมีอาวุธสีดำเมื่อมอยู่  ท่าทางและสายตาที่มองมาทำให้พิชช์ฌานเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง  กวาดตามองหาทางหนีทีไล่

          “ข้อเสนอใหม่ของคุณพิชช์ฌานก็คือ ...ของในเซฟแลกกับ...ความตายครับ”

          ...............................................................................

          “คุณอัยย์หิวหรือยังคะ”

          “ผมไม่หิว”

          “ลุกขึ้นมาทานอะไรสักนิดก่อนนะ”

          “ไม่”

          “ไม่งั้นป้าจะโทรบอกคุณฌานนะคะ”

          “ฮึ  ไม่ต้องเอามาขู่  ไม่กลัว”  คราวนี้คนที่นอนซุกอยู่บนเตียงมาครึ่งวันหันกลับมาย่นจมูกใส่แม่บ้านอาวุโสที่เข้ามาปะเหลาะ   “ป่านนี้กลับไปที่ซ่อนแล้วมั้ง  ความลับเยอะนัก”  อาคิราห์พูดเสียงขึ้นจมูก  นึกถึงสามีที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากเหตุการณ์ในห้องน้ำ  เขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนคนเดียวราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความฝัน

          แต่ร่องรอยแดงช้ำเป็นปื้นตามเนื้อตัวก็บอกชัดว่าไม่ใช่เรื่องฝันไป  ผู้ชายคนนั้นกลับมาหาเขาเพื่อจะจากไปอีกครั้ง

          “คอยดูนะ  ผมจะ...”

          “อดข้าวหรอคุณอาคิราห์”  นิลลาก้าวเข้ามาในห้อง  พูดดักคอนิ่มๆ  “คุณทำไม่สำเร็จหรอก  อย่าทรมานตัวเองเลย”

          “เฮอะ”  อาคิราห์พ่นลมออกจากจมูกแรงๆ  พลิกตัวหนีไปอีกทางหนึ่ง  ความปวดเมื่อยเนื้อตัวโดยเฉพาะบริเวณช่วงล่างทำให้ไม่อยากลุกไปไหน  “ผมขออยู่เงียบๆคนเดียวก่อนสักพักนะครับ”

          “ก็ได้ค่ะ  ถ้าคุณอัยย์หิวเมื่อไหร่ก็บอกป้านะคะ  ป้าจะเอาถาดวางไว้ให้ข้างหน้าห้อง”

          “ขอบคุณครับ”

          นิ่มนวลถอยกลับออกมาจากห้องนอนพร้อมกับนิลลา  พอลงบันไดมาถึงชั้นล่างก็ได้ยินเสียงประตูห้องนอนชั้นบนเปิดปิดอีกครั้ง  ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงมีคนพ่ายแพ้ต่อความหิวโหยอีกตามเคย  นิลลาหัวเราะออกมาเบาๆ

          “เตรียมคิดเมนูมื้อเย็นต่อเลยนะป้านิ่ม”

          “ไม่เอาเมนูที่มีสีแดงๆแล้วนะ  แหม  คุณอัยย์นี่ร้ายจริงๆ ป้าไม่นึกเลยว่าจะใช้แผนนี้ล่อคุณฌานออกมาจนได้  ไม่ต้องมายิ้มเลย  เธอรู้เห็นเป็นใจกับเจ้านายด้วยล่ะสิ”  นิ่มนวลจุ๊ปาก  มองหน้าโอเมก้า

          “ไม่รู้เสียหน่อย”  นิลลาพูดด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้แล้วยิ้มออกมานิดหนึ่ง  “ขอไปทำงานต่อก่อนนะ”



ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk





         เจ้าโอเมก้าเดินแยกออกมาจากนิ่มนวลแล้วเดินออกไปทางด้านหลังที่แวดล้อมด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์  ดอกกุหลาบสีแดงสดโดดเด่นสะดุดตาจนอดก้าวเข้าไปก้มลงสำรวจใกล้ๆไม่ได้  นึกถึงคำพูดสั่งเสียของคนๆนั้นขึ้นมา

          ‘ฉันอยากให้เธอช่วยฉัน  นิลลา  มีแค่เธอเท่านั้นที่จะช่วยฉันได้’  คำพูดของนักการเมืองคนนั้นยังติดอยู่ในหูนับตั้งแต่วันก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น  ‘ฉันอยากให้เธออยู่กับอาคิราห์’

          ‘แล้วคุณจะไปที่ไหนไม่ทราบ’

          ‘ถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ  ฉันอาจจะต้องหายตัวไปสักพัก’  ชายหนุ่มคนนั้นตอบกลับมาพร้อมกับส่งเสื้อสีดำสนิทหนักอึ้งมาให้เจ้าโอเมก้าสวมเอาไว้  เหลือบมองออกไปข้างนอกรถที่ติดฟิล์มดำมืด  มันเป็นโกดังร้างไร้ผู้คน  ‘เธอช่วยฉันได้ไหม’

          ‘ทำไมจะต้องช่วยคนอย่างคุณด้วย’  นิลลาจำได้ว่าตัวเองถามออกไปแบบนั้น

          ‘เพราะ...ความหวังของโอเมก้าขึ้นอยู่กับเธอ’  ชายหนุ่มตอบสั้นๆ

          ‘คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าฉันจะไม่หักหลัง’

          ‘ฉันมั่นใจ’  พิชช์ฌานตอบ  ความมั่นใจในน้ำเสียงของชายหนุ่มทำให้คนฟังเม้มปาก  ‘ฉันคิดว่าตัวเองดูคนไม่ผิด’

          ‘คุณเป็นคนมั่นใจในตัวเองมากเกินไปคุณพิชช์ฌาน  บางครั้งก็มากเสียจนอาจเป็นภัยต่อตัวเองได้’  นิลลาพูดเนิบๆ  ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอของอีกฝ่าย  นักการเมืองหนุ่มยิ้มนิดๆ พูดต่อลอยๆว่า

          ‘อาคิราห์...เขาชอบสีแดง  กุหลาบสีแดง’  อาจเป็นแววตาอย่างหนึ่งในดวงตาคมเข้มคู่นั้นยามพูดถึงภรรยาที่ทำให้คนฟังชะงักไป   วูบหนึ่งที่เขารู้สึกอิจฉาโอเมก้าอย่างอาคิราห์ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

          จะมีอะไรดีไปกว่าการที่รัก และได้ความรักตอบกลับมา...ความรักที่ไม่มีคำว่าชนชั้นหรืออะไรมาขวางกั้นทั้งนั้น

          แล้วพิชช์ฌานก็ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

          นิลลามาได้สติอีกทีที่โรงพยาบาล  อาการบาดเจ็บของพิชช์ฌานตามด้วยข่าวของความสูญเสียทำให้เขาตั้งตัวไม่ติด   จนกระทั่งได้เห็นดอกกุหลาบสีแดงสดที่วางเอาไว้หน้าประตูบ้าน  เขาก็นึกรู้ทันทีว่าสิ่งที่พิชช์ฌานพูดถึงนั้นคืออะไร

          หน้าที่ของเขา  ก็คือนำดอกกุหลาบหน้าประตูนั้นไปให้เจ้าของของมันที่กำลังตรอมใจอย่างหนัก  ดอกกุหลาบไร้ที่มาจะปรากฏอยู่ที่หน้าประตูบ้านทุกเช้าราวกับเพิ่งถูกตัดออกมาจากต้นสดๆร้อนๆ  มันช่วยเพิ่มรอยยิ้มและความหวังให้แก่คนรับอย่างมากมายมหาศาล  เขาดีใจที่อาคิราห์ไม่ต้องตกอยู่ในบ่วงแห่งความทุกข์ไม่สิ้นสุดเหมือนกับตัวเขาเอง

          อาคิราห์คือพระอาทิตย์ที่กำลังโคจรสูงขึ้นทุกที  ปลดปล่อยแสงสว่างและความอบอุ่นให้กับโอเมก้าที่อยู่ในความมืดมิดมานานอย่างเขาและคนอื่นๆให้มองเห็นทางเดินข้างหน้า  อนาคตของโอเมก้าจะสว่างไสว  เขาเชื่ออย่างนั้น

          ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่เชื่อ  อาคิราห์ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีผลต่อโลกของโอเมก้าแค่ไหน

          “มาแล้วเหรอ”  เขาพึมพำ  หันไปมองคนมาใหม่ที่มีผ้าคลุมหัวเอาไว้มิดชิด  “เป็นยังไงบ้าง”

          “ทุกคนอยากเจอคุณอาคิราห์”

          “ไม่ได้หรอก  ยังเสี่ยงเกินไปที่จะปรากฏตัว”  นิลลาพูดเสียงเบา  “เขาติดต่อมาอีกบ้างหรือเปล่า  แทมมี่”

          “ไม่เลย  แต่เขาให้คนติดต่อมาเรื่อย ๆ  ...เราจะเชื่อคำพูดของนักการเมืองอัลฟ่าได้จริงๆเหรอ”

          “เราไม่มีทางเลือกอื่น” นิลลาตอบเนิบๆ

          “คำพูดของอัลฟ่า”  เสียงของแทมมี่ขึ้นจมูกเล็กน้อย  “ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เชื่อเขาหรอกนะ  แต่เขามีพรสวรรค์ด้านการโน้มน้าวใจ”

          “แล้วพวกทางใต้เป็นอย่างไรบ้าง”  นิลลาเปลี่ยนเรื่อง

          “ยังจุดกระแสไม่ติด”  แทมมี่พูด  “พวกทางใต้ถูกกดมานานเกินไปจนหงอกันไปหมด  ไม่มีใครอยากหาปัญหาใส่ตัว”

          “เหมือนพวกเราแต่ก่อนไงล่ะ”  นิลลาหัวเราะหึๆ  “ไม่เป็นไร  คงต้องใช้เวลา”

          “เราจะทำมันจริงๆใช่มั้ย”  แทมมี่พูดเบาๆ  พออีกฝ่ายตวัดมองก็ถอนหายใจเฮือก  “ฉันแค่คิดขึ้นมาแวบหนึ่งน่ะ  ว่าเรากำลังหาเรื่องใส่ตัวเกินไปหรือเปล่า  สู้อยู่เฉยๆ หางานทำต่อไม่ดีกว่าหรือ”

          “ไม่มีใครช่วยพวกเราได้ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง  แทมมี่  และถ้าไม่ใช่เราแล้วจะเป็นใครอีก  รอความหวังลมๆแล้งๆไปวันๆน่ะเหรอ  หรือว่าขึ้นเรือไปขายตัวที่เกาะ  ฉันไม่เอาหรอกนะ  ฉันไม่อยากทนอยู่กับชีวิตโสมมแบบนั้นอีกแล้ว  ถ้าเธอถอดใจล่ะก็  ถอนตัวออกไปก่อนได้เลย”

          “โธ่  ฉันก็แค่นึกขึ้นมาแวบๆเท่านั้น  ว่าแต่ว่า...ผู้นำของเรา  ไปถึงไหนแล้ว”  แทมมี่เหลือบตามองไปทางบ้านพักตากอากาศหลังงามที่ซ่อนอยู่ในแมกไม้  “คุณอาคิราห์เป็นอย่างไรบ้าง”

          “ยังต้องใช้เวลา”  นิลลาตอบอย่างสงบ  “แต่คงไม่นานเกินรอ”

          “บางครั้งฉันก็แปลกใจกับท่าทางของเธอ  นิลลา  ฉันชักไม่อยากเชื่อแล้วสิว่าเธอเป็นโอเมก้าก้นครัวที่หนีออกมาจากบ่อนใต้ดิน”

          อีกฝ่ายไม่ตอบเหมือนทุกครั้ง  แทมมี่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก  ทั้งคู่แยกจากกันเพียงแค่นั้น

          .........................................................................................

          อาคิราห์กลับไปที่บ้านของพิชช์ฌานในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อเตรียมตัวไปงานประชุมพรรคต่อในตอนบ่าย  มีการลงคะแนนเสียงเลือกหัวหน้าพรรคเป็นการภายในก่อนการประกาศเลือกตั้ง  หมายความว่าหัวหน้าพรรคในวันนี้จะต้องเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยหน้าที่จะมาถึง

          ความตึงเครียดแทรกซึมอยู่ในบรรยากาศเมื่ออาคิราห์เดินทางไปถึงที่ทำการของอดีตพรรคฝ่ายค้าน  นายจรัญเป็นคนเดินมารับเขาจากรถด้วยตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม  ท่าทางระมัดระวังทำให้อาคิราห์พลอยเกร็งไปด้วยอีกคน

          “ได้ข่าวว่าคุณไม่ค่อยสบายเลยไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด  อาการเป็นอย่างไรบ้างครับ”  นายจรัญถาม  กวาดตามองทั่วตัวของโอเมก้าอย่างจาบจ้วง  อาคิราห์สะกดความไม่ชอบใจเอาไว้ในสีหน้า  ตอบสั้นๆ

          “ดีขึ้นแล้วครับ  ขอบคุณมาก”

          “เชิญทางนี้ครับ  ทุกคนกำลังรออยู่ในห้องประชุมพรรค”

          อาคิราห์เดินตามหลังรักษาการณ์หัวหน้าพรรคเข้าไปด้านในที่ทำการของพรรคที่เขาเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์เท่านั้น  มันใหญ่โตหรูหรามากทีเดียว  ภาพของพิชช์ฌานติดอยู่ที่โถงทางเข้าเรียงต่อจากหัวหน้าพรรคคนก่อน  อาคิราห์หยุดพิจารณานิดหนึ่ง

          “รูปนี้คุณพิชช์ฌานดูดีมาก”  นายจรัญพูดพลางเหลือบมองทางอื่นล่อกแล่กเหมือนคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว  “คุณอัยย์ครับ  ผมขออย่างหนึ่งได้ไหมครับ”  ประโยคหลังอีกฝ่ายกระซิบเสียงเบา

          “อะไรครับ”  อาคิราห์เลิกคิ้ว

          “รบกวนคุณอัยย์พูดได้ไหมครับว่าสนับสนุนผมขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคต่อ”

          “ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะครับ”  โอเมก้าตอบเรียบๆ  อีกฝ่ายมีท่าทางโล่งอกขึ้น

          “ขอบคุณมากครับ”

          คนในพรรคมากันพร้อมหน้าจนเกือบครบแล้ว  อาคิราห์เห็นเจนภพเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าซีดเซียวเหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ  คนที่เดินตามหลังชายหนุ่มอดีตมือขวาของพิชช์ฌานมานั้นก็คือนายเกรียงไกร  อดีตรองหัวหน้าพรรคที่มีพรรคพวกไม่น้อย

          “ทุกคนมาประชุมพร้อมหน้ากันแล้วนะครับ  ผมจะขอเรียนเชิญท่านนิมมานที่ให้เกียรติมาเป็นประธานของงานเลือกตั้งภายในของพรรคครับ”  เจนภพพูดกลางห้องประชุม  เกิดเสียงฮือฮาขึ้นเมื่อนักการเมืองอาวุโสที่ออกจากวงการไปแล้วนั้นก้าวขึ้นมาบนเวที  “เชิญครับท่าน”

          ร่างสูงผอมของบิดาพิชช์ฌานหยุดยืนอยู่กลางเวทีพร้อมกับกวาดตามองรอบๆแล้วมาหยุดที่ใบหน้าของโอเมก้าสองคนในห้องนิดหนึ่งก่อนจะเบือนไปทางอื่น   รอยยิ้มนิดๆปรากฏขึ้นที่มุมปากแทบมองไม่เห็น

          นายจรัญดูเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  เขาเห็นความพ่ายแพ้อยู่ลางๆ  ถึงแม้ว่านิมมานออกจากวงการเมืองไปแล้วแต่ว่าความอาวุโสและชื่อเสียงยังคงอยู่  ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในพรรคต่างนับหน้าถือตาและยังให้เกียรติอยู่มาก  ถ้านิมมานถือข้างไหนก็คงจะเทคะแนนเสียงไปทางข้างนั้นเป็นแน่

          “ผมขออนุญาตแนะนำชื่อผู้สมัครหัวหน้าพรรคเสียก่อน  มีทั้งสิ้นสามคน  ดังนี้”  เจนภพพูดเรียบๆ  เอ่ยชื่อจรัญตามด้วยประวัติการทำงานยาวเหยียดต่อด้วยนายเกรียงไกรที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว  “และคนสมัครคนสุดท้าย  ก็คือ....ผมเองครับ”  คำพูดของชายหนุ่มทำให้คนฟังอ้าปากค้าง  เหลียวมองหน้ากันอย่างมึนงง  “ผม  นายเจนภพ  เป็นผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคคราวนี้ครับ”  เขาพูดประวัติของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว

          “ไอ้เจนภพมันลงด้วยงั้นเหรอ”  นายจรัญอุทานเสียงดัง  “มิน่าล่ะ  ถึงได้พองขนนัก  มีคนหนุนหลังนี่เอง”

          “คุณเจนภพก็ดูเหมาะสมกับตำแหน่งดีนะครับ”  อาคิราห์พูดขึ้นบ้าง  มองหน้าชายหนุ่มที่กำลังพูดนโยบายของพรรคยิ้มๆ “เคยทำงานกับคุณพิชช์ฌานมาก่อนก็มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถพาพรรคก้าวไปได้ไกลอย่างแน่นอน”

          “โธ่  คุณอัยย์ครับ”  นายจรัญร้อง

          คนในพรรคเริ่มเอนเอียงและเสียงแตกออกจากกัน  บ้างก็สนับสนุนนายจรัญเพราะเป็นลูกพรรคกันมาแต่เก่าเดิมและขึ้นมาตามตำแหน่งอย่างถูกต้อง  บ้างก็สนับสนุนนายเกรียงไกรที่คุมฐานเสียงใหญ่ทางภาคใต้เอาไว้  ส่วนเจนภพเองก็ทำให้เกิดความไขว้เขวได้อย่างมากเพราะชายหนุ่มมีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอก  อดีตมือขวาคนสนิทของพิชช์ฌาน  พ่วงด้วยแรงสนับสนุนของนิมมานที่พูดเองว่าสนใจคนรุ่นใหม่ขึ้นมาบริหารพรรค  ถ้าชายหนุ่มได้เป็นหัวหน้าพรรคก็จะกลายเป็นหัวหน้าที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ล้มสถิติที่พิชช์ฌานเคยทำไว้

          “ตอนผมลงเล่นการเมือง  นายเจนภพยังไม่เกิดด้วยซ้ำ”  จรัญพูดอย่างโมโห  “เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเขาจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคได้ยังไง  ผมไม่เข้าใจ”

          “ผมอยากให้พรรคก้าวไปข้างหน้าครับ”  เจนภพพูด   กวาดตามองรอบ ๆ “ผมอาจจะประสบการณ์สู้อีกสองท่านไม่ได้ แต่ว่าสิ่งที่ผมมีนั้น  อีกสองท่านไม่มีและมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ”

          “ครึ่งอัลฟ่าอย่างเธอจะมาสู้กันไหวหรือ”  นายเกรียงไกรโพล่งขึ้น  ทุกคนเงียบกริบจนน่าตกใจ  “ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าอัลฟ่าเบต้าลูกผสมไม่มีทางเก่งไปกว่าอัลฟ่าแท้ได้  ถ้าข่าวนี้ล่วงรู้ถึงหูนักข่าวล่ะก็  คงถูกพูดถึงมาก”  เกิดเสียงซุบซิบดังขึ้นทั่ว  อาคิราห์เองก็ตกใจไม่น้อยกับข่าวใหม่ที่เพิ่งได้รับรู้

          “ถูกพูดถึงก็ดีสิครับ  ดีกว่าต้องไปซื้อตัวนักข่าวให้ลงข่าวให้”  เจนภพพูด  พยายามบังคับเสียงที่สั่นให้ราบเรียบเหมือนเดิม  “ผมคิดว่าการที่ผมเป็นลูกครึ่งจะทำให้นโยบายสนับสนุนความเท่าเทียมของพรรคเราได้ผลยิ่งขึ้น”

          “คงไม่คิดจะชูนโยบายสนับสนุนโอเมก้าให้มาชูคอต่อหรอกนะ”  นายเกรียงไกรพูดเสียงเยาะ  “อ้อ  ขอโทษที  ผมไม่ทันเห็นว่ามีโอเมก้านั่งอยู่ในที่นี้ด้วย”

          อาคิราห์หน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธ  ขยับจะสวนแต่ว่านิลลารีบจับแขนเอาไว้เป็นเชิงเตือน

          “คุณคิดตรงข้ามกับผม  นโยบายนี้แหละที่จะทำให้เราแตกต่างจากพรรคอื่น”  เจนภพพูด  “จนถึงปีนี้แล้วยังมีคนคิดแบ่งแยกชนชั้นอยู่อีกเหรอ  คุณลองดูประเทศอื่นสิ  เขาไปถึงไหนกันแล้ว  ประเทศเราล้าหลังขนาดไหนคุณรู้หรือเปล่า  คุณเองก็ทำธุรกิจน่าจะรู้นะว่าบ้านเราย่ำอยู่กับที่เรื่องสิทธิ์เสรีภาพต่างชนชั้นมานานแค่ไหน”

          “เหอะ  ขนาดครึ่งเบต้ายังมาเป็นหัวหน้าพรรคได้  อีกหน่อยไม่เอาโอเมก้ามาเป็นนายกฯเลยล่ะ  จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป” เกรียงไกรลงเสียงหนัก  เหลือบมองไปทางโอเมก้าแวบหนึ่ง

          “เป็นข้อเสนอที่ดีมาก”  จู่ๆประธานที่นั่งฟังเงียบๆก็พูดขึ้น  “คุณว่าอย่างไรบ้างคุณอาคิราห์  สนใจไหม”

          “ผมไม่มีวุฒิตามคุณสมบัติผู้สมัครครับจึงสมัครไม่ได้”  อาคิราห์ตอบเรียบๆ  “แต่ว่าผมพร้อมที่จะสนับสนุนพรรคในด้านอื่น ๆ  ที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์เพื่อโอเมก้า”

          “ถ้าอย่างนั้น  ตำแหน่งเลขาฯของพรรคที่ยังว่างอยู่  คุณสนใจไหมล่ะ”  เจนภพถามยิ้มๆ

          “ถ้าคุณให้ผมลาคลอดได้สามเดือน  ผมก็พร้อมจะช่วยคุณครับ คุณเจนภพ”  อาคิราห์ตอบ

          จนถึงเวลาพักครึ่งเพื่อเตรียมตัวลงคะแนนลับในช่วงบ่าย  เจนภพกำลังนั่งประจันหน้าอยู่กับรองหัวหน้าพรรคคนเดิมที่กำลังอยู่ในตำแหน่งรักษาการณ์หัวหน้าพรรคเป็นวันสุดท้าย  นายจรัญจ้องหน้าเขาเขม็งด้วยความไม่พอใจ

          “ทำแบบนี้ทำไมเจนภพ  คิดจะเป็นตัวตายตัวแทนของพิชช์ฌานกับท่านนิมมานงั้นหรือ”

          “ผมคิดว่าตัวเองเหมาะสมและมีความสามารถพอที่จะเป็นหัวหน้าพรรคได้ครับ  ถึงได้ลงชื่อ”  ชายหนุ่มตอบอย่างสงบ  “คุณจรัญเองก็ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย เพราะผมเป็นเพียงนักการเมืองมือใหม่  ไม่ใช่มือฉมังอย่างคุณ”

          “เกมนี้ไม่ใช่เกมของเด็กเมื่อวานซืน”  อีกฝ่ายพูดเสียงห้วนจัด  “ตำแหน่งหัวหน้าพรรคมีเอาไว้เพื่ออัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์”

          “อัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์ที่มีหลักฐานว่ายัดเงินใต้โต๊ะกับปกปิดรายได้จากสรรพากรก็คงไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรอกครับ  หรือคุณจรัญคิดว่าอย่างไร”

          คนฟังนิ่งอึ้งไปทันที

          “แกพูดเรื่องอะไร”

          ชายหนุ่มยักไหล่

          “บังเอิญว่ามีผู้หวังดีส่งบัญชีของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งมาให้ผม  ผมเห็นชื่อคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็เลยว่าจะเอามาถามคุณจรัญดูเสียหน่อย  หรือว่าผมควรเอาไปให้สรรพากรดูเลยดีครับ”

          “คิดว่ามือของแกสะอาดนักเหรอไอ้เจนภพ”  คนแก่กว่าพูดเสียงต่ำ  เหลือบมองนอกกระจกใสก็เห็นคนในพรรคต่างลอบมองมาอย่างสนใจ  “อยากให้ฉันขุดผลงานเก่าๆของแกขึ้นมาบ้างไหมล่ะ”

          “ก็ลองดูครับ  จะได้รู้ว่าผลงานของใครจะเด็ดกว่ากัน”  เจนภพว่า  มองหน้าอีกฝ่ายอย่างท้าทาย  “ถ้าเป็นผมนะ  ..ผมจะถอนตัวออกจากผู้สมัครหัวหน้าพรรคเงียบๆ แล้วก็ใช่เงินหลายร้อยล้านที่เลี่ยงภาษีสำเร็จนั้นไปอย่างมีความสุข  น่าจะดีกว่าโดนตรวจสอบย้อนหลังแถมติดคุกอีกนะครับ”

          “......”  นายจรัญโกรธจัดจนหน้าแดงก่ำ  เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ  ชายหนุ่มรุ่นน้องยิ้มมุมปากแล้วลุกขึ้นเดินกลับออกมาจากห้องประชุมเล็กเพื่อกลับไปที่ห้องประชุมใหญ่ของพรรคที่กำลังจะลงคะแนนเสียงลับกัน

          อาคิราห์แปลกใจมากที่จู่ ๆ นายจรัญก็ขอถอนตัวออกจากการลงสมัคร  เหลือเพียงแค่นายเจนภพอดีตมือขวาของหัวหน้าพรรคคนเดิมกับนายเกรียงไกรสมาชิกอาวุโสของพรรคเพียงสองคน  ผลการลงคะแนนออกมาสูสีทีเดียว  แต่สุดท้ายแล้วคนที่ได้ตำแหน่งไปก็คือเจนภพที่เฉือนเอาชนะไปได้อย่างฉิวเฉียด  สร้างความไม่พอใจให้แก่นายเกรียงไกรและพวกเป็นอย่างมาก  นักการเมืองวัยกลางคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและกลับออกไปก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้น

          “ยินดีด้วยนะครับ  คุณหัวหน้าพรรค”  อาคิราห์พูดยิ้มๆ  มองหน้าเจนภพอย่างจับสังเกต  “ไม่นึกว่าคุณจะมาลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค”

          “ผู้ใหญ่ให้โอกาสผมน่ะครับ  แล้วคุณอัยย์ล่ะพร้อมจะเป็นเลขาฯของพรรคผมหรือยัง”  เจนภพถามเหมือนเย้า

          “ผมก็แค่พูดบลัฟเขาเล่นแค่นั้นเอง”  อาคิราห์หัวเราะ 

          “แต่ผมพูดจริงๆนะ  ผมอยากให้คุณอัยย์มาทำงานด้วยกันจริงๆ”  เจนภพว่า

          อาคิราห์กลับมาออกจากที่ทำการพรรคอย่างครุ่นคิด  เขารู้สึกได้ว่าเจนภพไม่เหมือนเจนภพคนเดิม  แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรที่เปลี่ยนไปกันแน่  ชายหนุ่มก็ยังยิ้มแย้ม  พูดคุยกับเขาด้วยดีเหมือนก่อน

          “เธอว่าคุณเจนภพดูแปลกไปหรือเปล่านิลลา”  เขาถามเพื่อนโอเมก้าที่นั่งมองวิวข้างนอกหน้าต่างเงียบๆ

          “ทุกคนเปลี่ยนไปอยู่แล้วตามวันเวลาที่เปลี่ยนแปลง”

          “ช่วยตอบแบบที่เข้าใจง่ายๆหน่อยได้มั้ย”  อาคิราห์โคลงหัว  “เธอก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนฉลาดนัก”

          “ฉันรู้ว่าคุณรู้คำตอบอยู่แล้ว  เลยไม่อยากอธิบายอีกให้เสียเวลา”

          “ฉันควรจะต้องถามใครในเวลานี้  ...ไม่มีดอกกุหลาบหรอวันนี้”

          “ยังไม่มีใครเอามาส่ง”  นิลลาตอบตามจริง

          “เขาคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหม”

          “หมายถึงคุณพิชช์ฌานหรอ”

          “จะหมายถึงใครได้ล่ะ  ไม่ต้องมาทำไก๋เลยนะนิล  ฉันรู้หรอกว่าเธอร่วมมือกับนายพิชช์ฌานหลอกฉัน   ไม่สำเร็จหรอกนะ”  อาคิราห์ยกมือขึ้นตบหน้าอกตัวเองปุๆ  “ฉันมองออกน่ะว่าใครเป็นยังไง”

          “แล้วมองนิลลาออกไหมว่าเป็นยังไง”

          “นิลก็จะเป็นคนช่วยฉันทุกเรื่องน่ะสิ” อาคิราห์ตอบแกมหัวเราะ

          “บางเรื่องก็ไม่มีใครช่วยคุณได้  คุณอาคิราห์”  นิลลาพูดด้วยน้ำเสียงแหบลึกสะดุดหูคนฟัง

          “เรื่องอะไรล่ะ”

          “เรากลับกันดีกว่า”  นิลลาเปลี่ยนเรื่อง  หันออกไปมองข้างนอกรถที่เริ่มเข้าไปในตัวเมือง  “คุณอาคิราห์อยากแวะที่ไหนก่อนหรือเปล่า หรือว่าจะตรงกลับบ้านเลย”

          “ฉันมีที่นึงที่อยากไป”  อาคิราห์ตอบสั้นๆ

          ..............................................................................................

          มาอัพแล้วจร้า

          กำลังสนุกเลยค่ะ  เอนจอยกับการเขียนเรื่องนี้มาก555555

          ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และโหวตนะคะ  ดีใจมากกกกก

          เจอกันตอนหน้าเด้อ

          #ขอรักแค่คุณ


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
มันซับซ้อนซ่อนหลายเงื่อนมาก  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Mitra

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
คุณพิชช์เป็นไงบ้างล่ะเนี้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ตอนนี้มีเพิ่มมาอีก2ปมแล้ว ปมเก่าก้ยังคลายไม่หมดด
1. แม่คุณพิษ ทำไมถึงไม่ให้บอก เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้รึป่าว
2. เจนภพ ทำไมอยู่ดีๆถึงยอมลงการเมือง
นี่คิดว่าพิชช์ณานไม่น่าจะเป็นอะไรมากนะ เจนภพไม่น่าจะทำร้ายกันหนักขนาดนั้นอะ
ไม่งั้นคุณนิมมานไม่ปล่อยไว้หรอก แถมสนับสนุนอีก
ความจงรักภักดีในฐานะมือขวาแบบบริสุทธิ์ใจมาหลายปี
บวกความจริงที่พึ่งรู้ว่าเป็นน้องชายร่วมสายเลือด
ถ้าหักลบกับความแค้น ความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเอง คิดว่าผลน่าจะยังเป็นบวกอยู่นะ
ปัญหาตอนนี้อยู่ที่ พิชช์ฌานไปไหน? นี่ยังอยู่ในแผนเดิมที่วางไว้หรอ?คิดว่าไม่แล้วนะ
ถ้าไม่ใช่แผนเดิมจริงๆทำไมถึงยอมเปลี่ยนแผน แถมพ่อก้สนับสนุนแบบออกหน้าขนาดนี้

ส่วนประเด็นแม่นี่น่าคิดเลย
ความเกลียดโอเมก้าของเค้า คำทำนายนั่น ความรักลูก อารมณ์รุนแรงของเจ้าตัว
ทุกอย่างทำให้รู้สึกว่า อาจจะใช่ อาจจะเกี่ยวข้อง

รอออค่าาา

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยยยยยยยยยย
นายพิชช์ฌานเป็นยังไงล่ะคราวนี้
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 แผนซ้อนแผนแล้วก็ซ้อนอีกทีหรือเปล่า

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao7: ชอบตอนเจ้าบู้บี้

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :ling1: เจนภพ ตกลงนายยังไงเนี้ยยย แถมนิล ยังมาพูดกำกวมอีกกก

ออฟไลน์ rawi62442

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หวานได้ไม่นาน เครียดอีกแล้ว นี่ว่าเจณภพไม่ได้ทำอะไรคุณมากอะไม่น่าถึงตาย
แต่นิลลาดูแปลกๆ แงงง อะไรอีกเนี่ยยย

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เป็นไปได้คืออยากอ่านเรืีองนี้ทุกวันเลย นายพิษจะเป็นยังไงบ้างน้ออ

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คนอานก็เอนจอยคะ  อยากอ่านต่อเลยลุ้นๆ

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5


แอบฮาบู้บี้

ทั้งฮาทั้งสงสาร

อยากให้คลอดไวๆ

หน้าตาบู้บี้น้อย
 
..จะเป็นเช่นใดหนอ

คุณเจนเปลี่ยนไป..

ดูโหดจัง ..เป็นตาย่านนน

 :mew1:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เพิ่งลุ้นกับนายพิษว่าจะตายหรือเปล่า นี่ต้องมาลุ้นอีกแล้วเหรอเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด