[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 285803 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ว่าแล้วว่าเป็นแผนของพิษที่จะหลอกใช้อัยย์ทำร้ายนายก เอาเถอะหลอกอัยย์ให้มาก ๆ เข้า เอาให้อัยย์ไม่อยากอยู่ด้วยยิ่งดี
เพราะตอนเอาคืนคงสนุกพิลึก ได้แต่หวังว่าอัยย์จะไม่หวั่นไหวและใจอ่อนง่าย ๆ ให้อภัยตอนมาขอคืนดีล่ะกัน

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รีบมานะคะ.. มารอทุกวันนนน..  :hao5:

ออฟไลน์ ciaiw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ร้ายกาจอย่าทำร้ายไอ

ออฟไลน์ Jimin39

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้อนนนนนนนนนอัยยยยยยน่ารักจังค๊าบบบบบง :impress2:

ออฟไลน์ Koduck

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องมีความน่ารัก

พึ่งเคยอ่านแนวนี้ครั้งแรก ชอบมากครับ  :z13:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
โถลูก เอ็นดูน้องง

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อยากให้น้องได้เที่ยวจังค่ะ น้องอย่าเพิ่งท้องเลย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
นั่นไง หยิบติดมือมาเนาะอัยย์ คืนนี้ก็คงไปมุดในตู้อีกแน่
แล้วฌาณก็จะงมหาหมอนผ้าห่มต่อไป 5555

สงสารอัยย์นะ ทำไมต้องมาเป็นตัวหลอกให้ฌาณทำแบบนี้
อัยย์ฉลาด แต่บางครั้งคนเราก็ต้องมีพลาดได้บ้าง

ฌาณร้ายเกินไปละนะ แล้วถ้าอัยย์หนีไปได้ แย่แน่ตอนนั้น

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 12



 

 

 

 

 

            “อ้าว  หายอีกแล้วเรอะ”  พิชช์ฌานอุทานอย่างหัวเสีย  หมุนตัวไปมาอยู่กลางห้องนอนของตัวเอง  ยกมือขึ้นขยี้ผมที่ยังเปียกชุ่มเพราะเพิ่งสระเสร็จหมาดๆไปมา  ขมวดคิ้วหรี่ตามองเตียงโล่งๆว่างเปล่าอีกรอบ  “ป้านิ่มนี่ยังไง” ร่างสูงใหญ่รวบชายเสื้อคลุมอาบน้ำเข้าหากัน  ก้าวยาวๆไปที่เปิดประตูออก

            สายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาข้างผนังบอกเวลาเกือบตีสอง  ความคิดที่จะไปปลุกแม่บ้านอาวุโสก็หายไป  ชายหนุ่มถอยกลับมานั่งเช็ดผมที่เตียง  กวาดสายตามองหาอะไรสักอย่างมาใช้หนุนนอนแทนหมอนคืนนี้

            ผ้าพันคอสีน้ำเงินเข้มตกอยู่ที่พื้นห้องหน้าประตูเชื่อมระหว่างเขากับเจ้าโอเมก้า  พิชช์ฌานลุกขึ้นยืน  ก้าวเข้าไปเก็บขึ้นมาดู  เป็นผ้าพันคอของเขาจริงๆ  มันควรจะอยู่ในตู้เสื้อผ้าไม่ใช่หรือไง?

          เดินกลับไปเปิดตู้เสื้อผ้าดูอีกครั้ง กวาดสายตามองเสื้อผ้าที่แน่นขนัดเรียงรายไล่สี  ...มีอะไรบางอย่างผิดปกติไปจริงๆ  เสื้อโค้ทสีครีมของเขาหายไป  เสื้อผ้าที่แขวนก็มีความสลับสีไม่เหมือนเดิมอีกด้วย  ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนมารื้อตู้เสื้อผ้าของเขาเสียแล้ว

            ใจหายวาบ  ชายหนุ่มรีบก้มลงเปิดลิ้นชักล่างสุด  แหวกกองผ้าพันคอสีสวยเข้าไปข้างในสุดที่มีกล่องโลหะวางแอบอยู่  ปืนพกด้านในยังอยู่ที่เดิม  เขารีบย้ายที่กล่องปืนไปไว้ในตู้เซฟหัวเตียงแทน

            สำรวจตู้เสื้อผ้าอีกรอบ  นึกไม่ออกว่าอะไรหายไปอีกบ้างนอกจากเสื้อโค้ทตัวโปรด  พิชช์ฌานปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเดินไปเคาะที่ประตูเชื่อมระหว่างห้องแรงๆหลายครั้ง  ไม่สนใจว่ามันจะดึกดื่นค่อนคืนแค่ไหน  ถ้าเจ้าโอเมก้าคิดจะแกล้งให้เขานอนบนฟูกเปล่าๆล่ะก็  เราจะต้องได้เห็นดีกัน

            อีกฟากของประตูเงียบกริบ  ไม่มีเสียงตอบรับ

            พิชช์ฌานเปลี่ยนใจเลิกเคาะประตูแต่ว่าเดินไปค้นหากุญแจมาเปิดประตูห้องแทน

            “อาคิราห์  ถ้าไม่ยอมเปิดเอง  ฉันจะเปิดประตูเข้าไปแล้วนะ”  เขาพูดเสียงดัง

            ยังไม่มีเสียงตอบรับจากด้านในห้อง  พิชช์ฌานเปิดประตูออกกว้าง

            เตียงนอนว่างเปล่ากระทบสายตาเป็นอย่างแรก  ชายหนุ่มตกใจก้าวเข้าไปในห้องนอนของอาคิราห์อย่างตระหนก  ทว่าพอหันกลับมาเจอตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ที่เปิดประตูตู้ทิ้งเอาไว้ฟากนึงแล้ว  เขาก็ถอนหายใจยาว  ทั้งแปลกใจทั้งขบขัน

            ท่อนขาเรียวยาวข้างหนึ่งยื่นออกมาจากตู้  ถุงเท้าถอดคาเอาไว้ครึ่งๆยังไม่พ้นเท้าดีนัก  คล้ายกับว่าเจ้าตัวเผลอหลับไปเสียก่อนที่จะจัดการจนเสร็จ

            เจ้าของบ้านย่อตัวลง  ค่อยๆชะโงกมองเข้าไปดูในตู้  ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มเกือบหัวเราะออกมา  เจ้าโอเมก้านอนขดตัวอยู่ในตู้  ในมือกอดหมอนอิงที่เขาเพิ่งใช้หนุนนอนเมื่อคืนเอาไว้  ใบหน้าเรียวซุกอยู่กับกองผ้าห่มยับยู่แถมบนศีรษะกลมๆยังมีผ้าขนหนูคลุมเอาไว้อีกที

            “เล่นอะไรเนี่ย”

            เจ้าตัวยังอยู่ในชุดราตรีสโมสรเหมือนเดิม  แสดงว่าพอกลับมาปุ๊บก็มาฟุบหลับในตู้นี้เลย

            หรือว่าจะเป็นนิสัยแปลกๆของโอเมก้าที่ถูกขังอยู่บ้านมาตลอดชีวิตกัน  พิชช์ฌานส่ายหน้า  เตียงนอนดีๆมีไม่ชอบ  ดันชอบนอนในตู้  พิลึกคนล่ะ

            ก็ดีเหมือนกัน  อยากนอนในตู้ก็เชิญ  ชายหนุ่มคิด  แล้วที่เอาเครื่องนอนเขามาเนี่ยจงใจแกล้งกันใช่มั้ย  เขาค่อยๆเอื้อมมือไปดึงหมอนของตัวเองคืน  ทว่าอีกฝ่ายกลับกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  พิชช์ฌานเลยเปลี่ยนมาหยิบผ้าห่มแทน

            “โอ้โห  นี่ไงเสื้อฉัน  ตัวนี้ก็ใช่  เอามาขายหรือไงฮึบู้บี้”  แอบเอามือบีบจมูกมู่ทู่ของคนหลับไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยว  เจ้าโอเมก้าครางอืออา ขยับตัวด้วยท่าทางไม่สบายตัว  “นอนไม่สบายก็ตื่นสิ  ฉันจะไม่อุ้มเธอขึ้นไปนอนบนเตียงหรอกนะ”

            อาคิราห์ไม่ตอบ  พิชช์ฌานเลยเขย่าตัวแรงๆ

            “อัยย์  ตื่น  ขึ้นไปนอนบนเตียงสิ”

            “อือ”

            “อือก็ตื่นสิ  อย่าเอาแต่อือ”  ชายหนุ่มบอก  จิ้มหน้าผากเนียนไปหลายทีกว่านัยน์ตากลมใสจะปรือตาขึ้นมองหน้าเขางงๆ  “ยังมามองอีก  ลุกไปนอนบนเตียงนู่น  นอนขดในนี้ก็ปวดหลังตาย  มาลุกสิ”  มือใหญ่จับที่ต้นแขนทั้งสองข้างแล้วดึงให้ลุกขึ้นนั่ง  อาคิราห์สูดน้ำมูกฟึดฟัดแล้วหันไปฟุบหน้ากับหมอนใบใหญ่อีก

            นักการเมืองหนุ่มถอนหายใจเฮือก  ตีสองแล้วทำไมเขาถึงต้องมานั่งยองๆปลุกเด็กขี้เซาด้วย  ไม่ใช่เรื่องเลย...ชายหนุ่มดึงแขนอีกฝ่ายเข้าหาตัวแล้วอุ้มลอยพาไปนอนแผ่บนเตียง  เพิ่งสังเกตว่าเจ้าโอเมก้าหยิบหมอนอิงติดมือมาด้วย

            “นี่หมอนฉัน  หมอนเธออันนี้ไง”  พิชช์ฌานจะดึงหมอนตัวเองคืนแล้วส่งหมอนใบใหม่บนเตียงของอาคิราห์ไปให้  มือเล็กกำปลอกหมอนอิงเอาไว้แน่นจนชายหนุ่มแปลกใจ  “เออ  เอาไปเลย  ทำไมฉันต้องมาแย่งหมอนกับเด็กด้วยวะ  เดี๋ยวก็เอาผ้าขนหนูอุดจมูกเสียเลยนี่”  เขายีผ้าขนหนูที่คลุมหัวอีกฝ่ายอยู่อย่างแรง  “นอนไปนะ  น้ำท่าไม่อาบ  นอกจากหน้าตาไม่ได้เรื่องแล้วยังซกมกอีก”

            ถุงเท้าที่คาอยู่ครึ่งกลางๆ จะถอดก็ไม่ถอด จะสวมก็ไม่สวมช่างขัดตาจริงๆ  พิชช์ฌานดึงถุงเท้าทั้งสองข้างออกจากปลายเท้าของคนหลับแล้วก็คว้าหมอนใบใหญ่ที่ควรจะเป็นของอาคิราห์กลับไปที่ห้องอย่างงุ่นง่าน

            เอาไว้พรุ่งนี้ต้องเคลียร์กันหน่อยแล้ว

            ................................................................       

            อาคิราห์หยุดยืนตรงบันได  แอบชะโงกออกไปมองทางห้องอาหารว่ามีเงาของร่างสูงใหญ่อยู่หรือเปล่า  เขาจงใจลงมาจากห้องสายๆกะให้อีกฝ่ายไปทำงานเสียก่อน  จะได้ไม่ต้องเจอหน้าเช้านี้

            ด้อมๆมองๆจนมั่นใจว่าไม่มีนายพิษฌานอยู่ที่โต๊ะอาหาร  อัยย์เดินเข้าไปนั่งประจำที่ของตัวเอง  ยิ้มทักทายป้านิ่มเหมือนปกติ

            “คุณอัยย์มาแล้ว  วันนี้มีข้าวต้มกุ้งค่ะ”  เธอตักข้าวต้มให้เขา

            “คุณพิษฌานไปทำงานแล้วเหรอครับ”

            “ยังค่ะ  ดื่มกาแฟอยู่ในห้องทำงาน”

            “อ้อ”  อาคิราห์พยักหน้าเนิบๆ  จัดการอาหารเช้าตรงหน้าอย่างรวดเร็ว 

            “คุณฌานบอกว่าถ้าทานอาหารเสร็จแล้วให้ตามไปที่ห้องทำงานค่ะ  คุณฌานมีอะไรจะคุยด้วย”  นิ่มนวลพูดขึ้นเบาๆ  หลังจากที่โอเมก้าหนุ่มกินอาหารเสร็จ  อาคิราห์เลิกคิ้ว

            “เรื่องอะไรครับ  หรือว่าเป็นเรื่องที่จะพาผมไปสนามบิน”

            “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”  แม่บ้านบอก  “คุณอัยย์อิ่มแล้วใช่ไหมคะ  ป้าจะได้ไปบอกคุณฌาน”

            “ครับ”  อาคิราห์ลุกขึ้นยืน  เดินตามหลังป้าแม่บ้านไปอีกด้านฟากหนึ่งของบ้าน  หยุดยืนที่หน้าห้องทำงานของพิชช์ฌานที่ปิดประตูเงียบ  นิ่มนวลยกมือขึ้นเคาะเป็นสัญญาณที่ประตูห้อง  เสียงตอบรับข้างในให้ก้าวเข้าไป

            อาคิราห์เดินเข้าไปในห้องทำงานของอีกฝ่าย  เป็นห้องทำงานที่ดูเคร่งขรึมเป็นงานเป็นการมากทีเดียว  เฟอร์นิเจอร์สีไม้เข้มรับกับของที่ตกแต่งเอาไว้รอบห้องดูสวยเรียบแต่ก็น่าเกรงขามอยู่ในที  ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่ไม่เข้าพวกเห็นจะเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ที่มุมห้องมากที่สุด

            “นั่นมันปลาบู่ตัวนั้นใช่มั้ยครับ  ผมนึกว่ามันตายแล้วเสียอีก”  อาคิราห์จำปลาที่หน้าเหมือนพิษฌานได้ทันที  เขาซื้อมาจากร้านอาหาร

            “ใช่”  เจ้าของห้องนั่งไขว่ห้างอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่  มองตามสายตาของอีกฝ่ายไป

            “มันตัวใหญ่ขึ้นแฮะ”

            “เพราะวันๆมันเอาแต่กินกับนอนไงล่ะ”  พิษฌานตอบแกมหัวเราะ  “อ้อ  แล้วก็ทำหน้าบู้บี้ไปวันๆด้วย”

            “คุณว่าใคร”  คนฟังหันขวับมามอง  คนพูดยักไหล่

            “ก็ว่าไอ้ตัวบู้บี้ไง”  พิชช์ฌานชี้นิ้วไปที่ปลาบู่ตัวนั้นทว่าตามองหน้าเจ้าโอเมก้าเขม็ง  “แต่ก็ยังดีที่มันไม่ถึงขั้นขโมยที่นอนหมอนมุ้งของฉันไป  ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องแย่งเอาที่นอนของมันคืนมาบ้าง”

            “ขโมยอะไร”  ดวงตากลมโตเหลือบมองซ้ายขวาเลิ่กลั่ก  “มีขโมยเหรอ”  อัยย์ครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง  จริงอยู่ว่าเมื่อคืนเขาง่วงมากเสียจนหัวถึงหมอนก็หลับไปทันที  มาตื่นอีกทีตอนเช้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่ยังไม่ได้อาบน้ำ  แต่ว่าข้าวของของนายพิษฌานก็ยังอยู่ในตู้เสื้อผ้านี่  หรือว่าเค้าจะเปิดเจอแล้ว

            ไม่มีทาง ...ถ้าพิษฌานเข้ามาในห้อง  เขาก็ต้องรู้สึกตัวสิ

            “ฉันก็กำลังหาตัวอยู่  โจรขโมยผ้าห่มกับหมอน  เจอตัวเมื่อไหร่จะจัดการให้เข็ด”  พิชช์ฌานพูดเสียงเข้ม  “เรื่องลักเล็กขโมยน้อยพวกนี้ฉันไม่ชอบ”  คนฟังหน้าเสียจนเริ่มใจอ่อน  พิชช์ฌานเลยพูดเสียงอ่อนลง  “แต่ว่าคราวนี้ฉันจะละเว้นโทษให้ก่อน  เผื่อว่าโจรจะกลับใจ  เอาของไปคืนฉันเมื่อไหร่ฉันก็จะยกโทษให้”

            “คุณก็ลองประกาศบอกโจรแล้วกัน”

            โจรพูดเนิบๆ พยายามเก็บอาการจ๋อยเอาไว้ในสีหน้า  ทำท่าจะหมุนตัวออกจากห้อง  พิชช์ฌานซ่อนยิ้ม  ถามขึ้นเบาๆ

            “แล้ว...ไม่ไปเที่ยวแล้วหรือไง”

            อีกฝ่ายเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้  เบิกตากว้าง

            “ไปสิครับ  ไปกันเลยไหม”

            “เก็บของพร้อมแล้วเหรอ”

            “พร้อมตั้งนานแล้ว”

            “งั้นก็ไปกัน  ฉันไม่ได้มีเวลาทั้งวันหรอกนะ”  พิชช์ฌานลุกขึ้นยืน  เดินตามหลังร่างโปร่งบางออกมาจากห้องทำงานขึ้นบันไดมายังชั้นบน  อาคิราห์เหลือบมองอย่างระแวง  รีบถามเสียงดัง

            “คุณจะไปไหน  คิดจะเข้าห้องผมเหรอ”

            “ฉันจะเข้าไปช่วยเธอเก็บของไง”

            “ไม่ต้อง  ผมเก็บเองได้ครับ” พูดจบเจ้าตัวก็รีบหลบแวบเข้าไปในห้อง  ไม่ยอมให้เจ้าของบ้านได้มองผ่านเข้าไปในห้องนอนด้วยซ้ำ

            พิชช์ฌานหัวเราะเบาๆ  ...กลัวว่าเขาจะเจอหลักฐานคาหนังคาเขาหรือไง  เจ้าโจรขโมยผ้าห่ม  หนอยแน่ะแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  ไม่ยอมรับผิดเสียนี่

            เขากลับลงมาข้างล่าง  เจอป้าแม่บ้านที่รออยู่ก่อนแล้ว  เธอรีบปรี่เข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

            “เป็นยังไงบ้างคะคุณ  คุณอัยย์ว่ายังไงบ้าง”

            “ไม่ยอมรับอยู่แล้ว  คุณอัยย์ของป้าน่ะดื้อตาใสจะตายไป”  ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก  “ป่านนี้หอบของไปคืนห้องผมอยู่แน่ๆ”

            “คุณฌานว่ามันไม่แปลกหรอคะที่คุณอัยย์เอาเครื่องนอนของคุณมา  แถมเอาเสื้อผ้ามาด้วย”

            “ก็แปลกดีนะ  ผมไม่รู้ว่ามันเป็นความผิดปกติอะไรของโอเมก้าหรือเปล่า  เออ  ผมลืมเล่าว่าเขานอนในตู้ด้วยนะ  ตู้เสื้อผ้า”

            “ว่าแล้วเชียวค่ะ  ตอนป้าไปทำความสะอาดห้อง  เตียงคุณอัยย์เรียบกริบไม่มีรอยนอนเลย  ...ตอนแรกป้ายังนึกว่าคุณอัยย์ไปนอนห้องคุณฌาน”

            “ห้องผม?”  ชายหนุ่มทำหน้าประหลาดใจ  “ไม่มีทาง  ต่างคนต่างนอนถูกแล้ว”

            แม่บ้านวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่ง  มองหน้าเจ้านายด้วยความครุ่นคิด

            “คุณฌานเคยได้ยินเรื่องโอเมก้าทำรังไหมคะ”

            “อะไรนะ  ทำรัง?  รังอะไร  เหมือนรังนกงี้เหรอ”  คนฟังงง  “ผมไม่เคยได้ยินเลย”

            “ป้าเคยได้ยินเขาเล่ากันสมัยเด็กๆน่ะค่ะ  แต่ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองหรอกนะคะ”  นิ่มนวลพูดเนิบๆ  “เขาว่าโอเมก้าจะทำรังต่อเมื่อกลุ้มใจ  ไม่สบายใจ อะไรทำนองนี้  ป้าก็จำไม่ค่อยได้เสียแล้ว”

            “รังที่ว่านี่คือเอาของผมไปยัดในตู้น่ะหรอครับ”

            “เขาว่าโอเมก้าจะใช้ของที่มีกลิ่นของคู่ตัวเองค่ะ  เพราะมันจะทำให้สบายใจขึ้นหรือไงนี่แหละ”

            “ฮ่าๆ”  พิชช์ฌานหัวเราะ  “ไม่น่าใช่แล้วนะป้า  ผมว่าเขาน่าจะอยากแกล้งผมมากกว่า  ทำรังอะไรกันไม่เคยได้ยิน  รังฟักไข่หรอ”  ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ  “ไว้ผมจะลองถามอาคิราห์เขาดูนะว่าเขาทำรังหรือเปล่า”

            “คุณฌานก็...แล้วนี่คุณจะให้คุณอัยย์ไปเที่ยวจริงๆหรอคะ”

            “จริงสิ  เที่ยวรอบเมืองไง”  เจ้าของบ้านตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

            อาคิราห์ลากประเป๋าลงมาพอดี  นิ่มนวลเข้าไปช่วยถือกระเป๋าออกไปใส่ที่ท้ายรถด้านนอก  เจ้าตัวอยู่ในชุดพร้อมเที่ยวเต็มที่จนคนพาไปชักกลัวว่าจะโดนอาละวาดหนักแน่ๆถ้ารู้ว่าไม่ได้ไป

            ....เอาน่ะ  เล่นให้เนียนเข้าไว้พิชช์ฌาน

            รถขับออกมาจากบ้าน  อาคิราห์นั่งเกาะกระจกมองวิวด้านนอกอย่างตื่นเต้น  พาสปอร์ตและข้าวของอื่นๆเตรียมมาแล้วพร้อมอยู่ในกระเป๋าสะพาย  ตั๋วเครื่องบินนายพิษฌานก็จัดการให้แล้วชั่วข้ามคืน  เหลือแค่พาตัวเองไปขึ้นเครื่องแค่นี้  เขาก็จะได้บินออกไปใช้ชีวิตของตัวเองสมใจ

            เหล่มองคนข้างๆก็เห็นนั่งนิ่งๆไม่ได้พูดอะไรสักคำ  เอาเถอะ...อย่างน้อยเจ้าตัวก็ยังรักษาสัญญาที่ให้เขาไปต่างประเทศหลังจากไปออกงานเลี้ยง

            “ขอบคุณนะครับ”  อัยย์พูดขึ้น  มองเสี้ยวหน้าคมเข้มที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

            “ไม่ต้องขอบคุณหรอก”  พิชช์ฌานว่า

            “ผมไม่นึกเลยว่าคุณจะทำตามสัญญา”

            “ใจคอเห็นฉันเป็นคนยังไงไม่ทราบ”

            “ก็...” อาคิราห์ยักไหล่  ไม่พูดอะไรมากกว่านั้น

            “ถ้าไปถึงสวิสฯแล้วก็รออยู่ที่สนามบินนะ  ฉันจะให้คนไปรับไปพักที่บ้านฉัน”  พิชช์ฌานส่งกระดาษเล็กๆที่มีชื่อและตัวเลขมาให้  “อย่าไปเองคนเดียวล่ะ  โดนจับไปขายฉันไม่รับผิดชอบ”

            “ผมโตแล้วนะคุณพิษฌาน”  อาคิราห์พูดอย่างไม่จริงจังนัก  “แต่ก็ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือผมเต็มที่ ....ตามสัญญา”  เขาเน้นคำว่าสัญญาที่ได้เซ็นเอาไว้ก่อนแต่งงาน

            รถมาถึงสนามบิน  อาคิราห์เดินลากกระเป๋ามาด้วยความรู้สึกใกล้เคียงกับคำว่าดี๊ด๊า  คนในสนามบินพลุกพล่านพอสมควร  พิชช์ฌานให้เจนภพไปจัดการเดินเรื่องให้ทว่ามือขวาคนสนิทกลับมาด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ

            “เกิดอะไรขึ้น”

            “วีซ่ามีปัญหาครับ”  เจนภพตอบเสียงเครียด  “ผมกำลังให้คนช่วยเช็คให้อยู่  ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

            “อ้าว”  อาคิราห์อ้าปากค้าง  ร่ำๆจะลุกไปจัดการเองแต่ว่าคนข้างๆดึงแขนเอาไว้  พิชช์ฌานพูดเสียงเรียบ

            “จัดการให้เรียบร้อย  เขาอยากได้เท่าไหร่ก็ให้ไป  ถ้ามีปัญหาให้มาคุยกับฉัน”

            “ครับคุณฌาน”

            เจนภพหายไปพักใหญ่จนคนรอร้อนใจ  อาคิราห์เริ่มลุกขึ้นเดินกลับไปกลับมา  ส่วนพิชช์ฌานก็นั่งอ่านหนังสือรอฆ่าเวลาจนกระทั่งในที่สุดมือขวาคนสนิทก็กลับมา

            “เป็นไงบ้าง”

            “ไม่ได้ครับคุณอัยย์  เหมือนจะมีคำสั่งลงมาจากข้างบนให้ระงับวีซ่าของโอเมก้าทุกคนเอาไว้ก่อน  รู้สึกจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์”

            “อะไรนะ”  อาคิราห์ร้องอย่างตกใจ  “ค้ามนุษย์อะไรล่ะ  อย่ามาหลอกกันนะ  พวกคุณรวมหัวกันหลอกผมใช่ไหม  ไม่อยากให้ผมไปใช่หรือเปล่า”

            “อะไรกันอาคิราห์  ฉันก็เพิ่งรู้พร้อมเธอเนี่ยล่ะ”  พิชช์ฌานพูด  แล้วลุกขึ้นยืน  “เดี๋ยวฉันจะไปคุยเอง  เธอก็มาด้วยกันสิ”

            อาคิราห์เม้มปากแน่น  ก้าวยาวๆตามหลังร่างสูงใหญ่ตรงไปยังสำนักงานที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้  อาคิราห์หูอื้อตาลายฟังเหตุผลด้วยความผิดหวัง  อยากจะทิ้งตัวลงนั่งร้องไห้ที่พื้นมันเสียเลยแต่ก็ทำไม่ได้  สุดท้ายเลยได้แต่ยืนกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น น้ำตาคลอ

            “ผมไม่ได้จะไปค้ามนุษย์อะไรเลย  ผมจะไปเที่ยว  นี่ผมมีแผนการเดินทางเรียบร้อย  จองที่พักพร้อมวันกลับเอาไว้แล้วด้วย  ทำไมคุณไม่ยอมให้ผมไป”

            “วีซ่าโดนระงับค่ะคุณลูกค้า  ทางเราเช็คกับที่นู่นแล้ว  ไม่ได้จริงๆค่ะ  ต้องยื่นเรื่องใหม่”

            “แล้วทำไมไม่แจ้งผมก่อน  เพิ่งมาบอกตอนนี้คืออะไรผมไม่เข้าใจ”

            “เค้าน่าจะติดต่อไปตามที่อยู่และอีเมล์ของคุณแล้วนะคะ”  เจ้าหน้าที่สาวว่า

            พิชช์ฌานเข้ามาช่วยพูดให้อีกทีหนึ่ง  บารมีของชายหนุ่มทำให้ทุกคนยำเกรงก็จริง  แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้วีซ่าผ่านได้

            อาคิราห์เดินกลับมาที่รถด้วยความรู้สึกตรงข้ามกับขามา  หัวใจห่อเหี่ยวเสียจนอยากร้องไห้ออกมาดังๆ  เดินขึ้นไปนั่งบนรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ  เจนภพมองหน้าเจ้านาย  พิชช์ฌานลอบถอนหายใจเฮือก

            “อาคิราห์” เขาเรียก  เจ้าโอเมก้าไม่ได้หันมามอง  ยังคงนั่งเท้ากระจกมองภาพข้างนอกอยู่อย่างนั้น  “อัยย์...หันมาคุยกันก่อน  วันนี้ไม่ผ่าน วันหน้าก็ผ่านได้นี่นะ”  พิชช์ฌานพูดเสียงอ่อน  “อย่าเพิ่งเสียใจเลย”

            “จะไม่เสียใจได้ไง  ผมดีใจไปแล้ว  ใจผมไปอยู่นู่นแล้ว  ผมนึกว่าจะได้ไปจริงๆ”  อาคิราห์หันขวับมาพูดทั้งน้ำตา  “คุณไม่เข้าใจผมหรอก  ผมอยากไปให้พ้นๆที่นี่”

            “ฉันเข้าใจ  ฉันถึงได้พาเธอมานี่ไง”  พิชช์ฌานพึมพำ  “เช็ดน้ำตาเสียก่อน  อดไปวันนี้ไม่ใช่จะอดตลอดไปเสียหน่อย”

            “แล้วคราวหน้าผมจะได้มีโอกาสไปอีกมั้ย”  คนพูดเบะปากออกตามด้วยเสียงฮือที่กลั้นเอาไว้ไม่ไหว

            “ได้ไปสิอัยย์  ฉันรับรองว่าจะพาเธอไปทันทีที่วีซ่าผ่าน”  นักการเมืองหนุ่มพูดเสียงหนักแน่น  “เธอเชื่อฉันนะ”

            “จริงหรือเปล่า”

            “จริงสิ  ฉันจะหลอกเธอทำไม”  นายพิษฌานหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาส่งให้เขา  “เช็ดหน้าซะนะ”

            “คุณมีล้านเหตุผลที่จะหลอกผม”

            “งั้นเธอก็มีเหตุผลเดียวที่จะเชื่อฉัน”  พิชช์ฌานพูดนิ่มๆ  “เพราะฉันหวังดีต่อเธอ  จากใจจริง”

            “เหอะ”  อาคิราห์เชิดใบหน้าขึ้น  “ผมไม่ใช่เด็กสามขวบนะครับ  อย่ามาหลอกผมด้วยคำพูดเพราะๆเลย  มันไม่ได้ผลหรอก”  เจ้าตัวยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ  “ผมจะเช็คทุกวันจนกว่าวีซ่าจะผ่าน  แล้วผมก็จะไปทันที”

            “ฉันไม่ได้ห้ามอะไรเธออยู่แล้ว”  อีกฝ่ายตอบ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk






            ขากลับพิชช์ฌานไม่ได้พาเขากลับบ้านแต่ว่าพาไปแวะที่ศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อไม่นานมานี้  อาคิราห์เห็นข้าวของแปลกใหม่กับผู้คนเยอะแยะพักเดียวก็เริ่มลืมความเสียใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่  พิชช์ฌานเลยได้ทีพาเข้าร้านขนมหวานเสียเลย

            ...หลอกง่ายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  ชายหนุ่มคิดขณะที่ตักเกล็ดน้ำแข็งใสหวานเย็นเข้าปาก  อาคิราห์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ  เขาเลยให้เจนภพไปเป็นเพื่อน

            เจ้าโอเมก้าบ่นว่าปวดท้องแล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำที่มีชักโครก  เจนภพรายงานเจ้านายทันที  อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ

            “ไม่เป็นไร  ปล่อยตามสบาย  คงกำลังเช็ควีซ่าของตัวเองนั่นแหละ  ให้เช็คไปเถอะ ยังไงก็ไม่ผ่านอยู่ดี”

            “สงสารคุณอัยย์นะครับ  คงผิดหวังมาก”

            “ไว้หลังเลือกตั้งเสร็จฉันจะพาเขาไปเอง  ไม่ต้องห่วง”  พิชช์ฌานตอบ  ละเลียดไอศกรีมเข้าปากอย่างสบายอารมณ์

            อาคิราห์กลับออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าท่าทางหงอยกว่าเดิม 

            “อยากกินอะไรอีก”  คนแก่กว่าถามอย่างเอาใจ  “อยากกินอะไรก็บอก  ได้หมดทุกอย่างเลย”

            “ไม่อยากกินแล้ว”  อีกฝ่ายตอบ

            “เห็นว่าเจนภพจองร้านมิชลินสตาร์เอาไว้นี่ เย็นนี้  ไม่กินเหรอ”  พิชช์ฌานเลิกคิ้ว  “งั้นฉันไปคนเดียวแล้วกัน”

            “จองไว้แล้วเหรอครับ”  อาคิราห์หันไปถามเจนภพ  อีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มๆ  “งั้นผมไปด้วยก็ได้  ...จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก”

            “ครับคุณอัยย์”  เจนภพสบตาเจ้านายที่พยักหน้าอย่างพอใจ

            “แวะซื้อของก่อนได้ไหมครับ”  จู่ๆอาคิราห์ก็พูดขึ้น  “ผมอยากซื้อของหน่อย”

            “ได้สิ  อยากซื้ออะไรล่ะ”

            พิชช์ฌานเดินตามหลังร่างโปร่งบางเข้ามาในโซนเครื่องนอนอย่างงงๆ  แล้วก็มานึกเหตุผลออกตอนหลัง  ชายหนุ่มยืนมองอีกฝ่ายเลือกหมอนอย่างขันๆ

            “โจรกลับใจแล้วหรือไง”

            “โจรอะไร”  อีกฝ่ายยังไม่ยอมรับ  “หมอนผมมันสูงไปหน่อยนอนไม่สบายเลยอยากซื้อใหม่”

            “อ้อ”  คนฟังแกล้งลากเสียงยาว  “ก็ยังดีที่คิดได้ว่าควรซื้อใหม่”

            “มีผ้าห่มขายด้วยไหมครับ  แบบผ้านวมนุ่มๆ ผืนประมาณนี้”  อาคิราห์ทำเป็นหูทวนลม  หันไปถามพนักงานขายแทน  โอเมก้าหนุ่มเลือกซื้อของอย่างระมัดระวัง  อ่านป้ายจนแน่ใจว่ายี่ห้อเดียวกับของพิษฌานแน่ๆ ก็ตกลงซื้อ

            ได้ทั้งหมอนใบโตและผ้าห่มนุ่มๆถูกใจกลับบ้าน  จะได้เอาไปใช้แทนของเดิมที่เอาไปคืนที่ห้องพิษฌานแล้วอย่างจำใจ   ขี้เกียจโดนตราหน้าว่าเป็นโจรขโมยผ้าห่ม  เหอะ...ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานซึ่งๆหน้า  เขาจะไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด

            “จะเอาไปทำรังเหรอ”  จู่ๆคนที่เดินข้างๆก็พูดขึ้น  อาคิราห์หันหน้าไปมองงงๆ

            “ทำรังอะไรครับ”

            “ก็...พวกที่นอนนี่ไง”

            “หมายความว่ายังไงครับ”  หน้าตามึนงงของโอเมก้าทำให้อัลฟ่าเอะใจ

            “รู้จักโอเมก้าทำรังไหม”

            “คืออะไรครับ”  อาคิราห์งงไปพักหนึ่ง

            “เธอเป็นโอเมก้าจริงหรือเปล่าเนี่ย ทำไมไม่รู้จัก”  คิ้วเรียวขมวดมุ่น

 “รู้แล้ว  คุณหมายถึงทำรังใช่ไหม”

            “ใช่ๆ  ทำทำไมเหรอ”

            “ผมไม่รู้เหมือนกัน  ผมไม่เคยทำ”  อัยย์ส่ายหน้า  “คุณพูดถึงรังแบบ...เอาต้นไม้ใบหญ้ามาสาน  อะไรแบบนี้หรือเปล่าครับ  คุณถามทำไมน่ะ”

            “ฉัน...ก็สงสัย  บังเอิญได้ยินมาเหมือนกัน”  พิชช์ฌานอึกอัก  จะถามตรงๆว่าเอาของๆเขาเข้าไปนอนในตู้ทำไมก็กลัวจะโดนด่าว่าบุกรุกห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก   “เราไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า”  ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่อง

            อาคิราห์ลืมเรื่องที่คุยกันไปเสียสนิท  เขาเพลิดเพลินกับมิชลินสตาร์จนพลอยลืมๆเรื่องที่อดไปเที่ยวได้  ตอนหลังพิชช์ฌานพาเขาเข้าไปดูเชฟทำอาหารในครัวด้วย

            “สุดยอด”  อัยย์ยกนิ้วโป้งให้สองข้าง

            “เห็นมั้ย  ฉันบอกแล้วว่าเด็ดจริงร้านนี้”  พิชช์ฌานยิ้มกว้าง  ยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเอง  “อิ่มจนแน่นเลย  อยากกลับบ้านหรือยัง”

            “ถ้ายังล่ะครับ”

            “ไปเดินย่อยอาหารกัน”

            พิชช์ฌานพาเขาเดินออกมาจากร้านอาหารนั้นไปตามทางที่ร้านรวงเปิดอยู่สองข้างทาง  ลมเย็นสบายพัดมาจนผมปลิว  พิชช์ฌานพาเขาแวะซื้อขนมริมทาง  หยุดนั่งเล่นในสวนสาธารณะ  พาไปดูตลาดคนเดินตอนกลางคืนที่แสนคึกคัก...แบบที่อาคิราห์เคยได้แต่นึกฝันเอาไว้เวลาดูโทรทัศน์ที่บ้าน

            “ชอบไหม”  นักการเมืองหนุ่มหันมาถาม  ตอนนี้เจ้าตัวสวมหมวกแก๊ปกับหน้ากากปิดบังหน้าตา ส่วนอาคิราห์มีหมอกกับแว่นตาแฟชั่นกรอบใหญ่สวมอยู่ป้องกันไม่ให้คนกรูกันเข้ามาทักทาย  “ลองกินน้ำปั่นดูไหม”

            “ไหนคุณว่าอิ่มจนแน่นไง  พากินทุกร้านเลย”  อัยย์บ่นอุบอิบ แต่ก็รับน้ำปั่นสีสวยมาดูด  “ทำไมมันออกขมๆด้วยล่ะ  ผสมเหล้าเหรอ”

            “ไม่หรอก  น่าจะขมเสาวรสมั้ง”  พิชช์ฌานพูดหน้าตาย

            “เสาวรสบ้านคุณสิขม”  อัยย์ย่นหน้าใส่ 

            “ก็นึกว่าเชื่อ”

            “ไม่ได้เชื่อคนง่ายขนาดนั้น”  คนพูดหน้าหงิก  “มาหลอกผมพาเดินเล่นเพราะอยากหาเสียงก็บอก”

            “ถ้าอยากหาเสียง ฉันจะใส่เจ้าพวกนี้ทำไม” พิชช์โบกมือใส่หน้ากากอนามัยและหมวก

            “แหม  อย่างกับว่าคนจะจำคุณไม่ได้งั้นแหละ  ตัวใหญ่เป็นยักษ์ขนาดนี้”  อาคิราห์ค่อน  เหลือบมองรอบตัวที่เห็นคนเดินตลาดบางคนแอบยกทาศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเขากับพิษฌาน

            “ไม่ติดใจหน้าหนึ่งบ้างเหรอ  เท่ดีออกนะ”  พิชช์ฌานพูดยิ้มๆ  ถึงข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเช้าวันนี้ที่มีรูปเขากับอาคิราห์ยืนจับมือกัน   “แต่ลงหน้าข้างในก็ดีนะ  เธอได้ดูหรือเปล่า  มีรูปเราสองคนเต้นรำด้วย  รูปที่หน้าร้านมาม่าก็โอเค เสียแต่มืดไปหน่อย”

            “งั้นคุณก็ถอดหน้ากากเสียเลยสิ  แล้วก็เปิดปราศรัยมันตรงนี้”  อาคิราห์ประชด

            “ไม่ต้องหรอก  วันนี้ฉันมาหาเสียงกับคนๆเดียวเท่านั้น”  พิชช์ฌานอมยิ้ม

            “ใคร?”  คนฟังขมวดคิ้ว  อีกฝ่ายไม่ตอบ  พาเขาเดินลัดเลาะเข้าไปในด้านในแทน  ผู้คนขวักไขว่จนอาคิราห์ต้องเดินตัวลีบติดร่างสูงใหญ่เอาไว้เพราะกลัวโดนชน  สุดท้ายพิษฌานเลยคว้ามือเขาไปจูงเดินเสียเลย

            “ไม่ต้องจูงหรอกน่า  แถวนี้ไม่มีกล้องนักข่าวหรอก”

            “รู้ได้ยังไง  กล้องอยู่โน่น”  พิษฌานกระซิบตอบ

             อัยย์หันไปมองก็ไม่รู้ว่าโน่นที่ว่าคือตรงไหน  ซื้อของกระจุกกระจิกติดมือมาได้นิดหน่อย  อีกฝ่ายก็พาเดินกลับออกมา  เจนภพรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับรถยนต์ที่จอดรออยู่

            “กลับบ้านนะ”

            “ครับ”  อัยย์รับคำไม่อิดออด

            เจ้าของรถซ่อนยิ้มในความมืด  มองคนนั่งข้างๆที่นั่งกอดหมอนใบใหม่เอาไว้แน่น  อย่างน้อยวันนี้เขาก็ทำให้อีกฝ่ายอยู่ที่บ้านได้ต่อสำเร็จ  ทีนี้ก็เหลือแค่หาทางเกลี้ยกล่อมให้เจ้าตัวทำตามที่เขาต้องการเท่านั้น

            ...ท่านนายกฯคิดจะใช้ลูกชายของตัวเองจัดการเขา  เขาก็จะใช้ไม้เดียวกันจัดการกลับไป  เรียกว่าสมน้ำสมเนื้อได้ไหม...

            “นอนได้แล้ว  ฉันจะไปทำงานต่อ” พิชช์ฌานพูดขรึมๆ  เจ้าโอเมก้าพยักหน้า  โบกมือให้เขานิดหน่อยพอเป็นพิธีแล้วก็เดินกลับขึ้นบันไดไป

            พิชช์ฌานกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง  คืนนี้เขายังมีงานต้องสะสางต่ออีกยาว  ส่วนคนที่ขึ้นไปบนห้องนอนได้แล้วนั้นก็แกะหมอนใบใหม่ออกมาจากห่อด้วยความเห่อจัด

            “นุ่มมาก”  ฝังใบหน้าลงกับหมอนเรียบร้อย  กลิ่นที่อัยย์เรียกว่าเป็นกลิ่นของใหม่ปะทะเต็มจมูกจนต้องเด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง  “สงสัยยังไม่ชิน  ต้องเอาไปซักก่อนมั้ง”  แกะผ้าห่มออกมาดมๆดูด้วย  เห็นทีคงต้องส่งไปซักก่อนจริงๆแฮะ

            โอเมก้าลุกขึ้นเดินวนรอบห้องด้วยความรู้สึกกระวนกระวายอย่างประหลาด  สุดท้ายก็ไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้ว่างเปล่าออกดู  อัยย์ถอนหายใจเฮือก  ลุกขึ้นเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าออก  คว้าเสื้อโค้ทตัวใหญ่ที่พับไว้บนสุดขึ้นมาสูดกลิ่นหอมๆเต็มปอด

            อาคิราห์วางเสื้อตัวนั้นลง  เหลือบมองไปทางประตูห้องที่เชื่อมกันอย่างระแวง  กลัวว่าจะมีใครโผล่พรวดพราดเข้ามาเจอหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่เขาแอบเก็บเอาไว้

            จะเรียกว่าแอบก็ไม่ถูก  เขาไม่ได้ตั้งใจเลยนะ  รู้ตัวอีกทีก็พับใส่กระเป๋าติดไปสวิสฯด้วยเสียแล้ว

            แหม  เสื้อตัวเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

            เสื้อของพิษฌาน....คิดมาถึงตรงนี้ อาคิราห์ก็ชะงัก  หันไปมองที่ตู้เสื้อผ้า  ตามด้วยหมอนกับผ้าห่มผืนใหม่  และจบลงที่เสื้อโค้ทอีกที 

            จริงสิ  ...นี่เขาทำอะไรอยู่เนี่ย  นั่งสูดกลิ่นของนายพิษฌานเหมือนคนบ้าเลย  อัยย์ผุดลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ  มองเสื้อโค้ทในมือของตัวเองอย่างงุนงง  เขาไม่ทันคิดเรื่องนี้มาก่อน  เกิดอะไรขึ้นกัน...

            อาคิราห์คิดอย่างหมกมุ่นแกมตื่นตระหนก  เขายกเสื้อโค้ทขึ้นมาปิดที่จมูกของตัวเองแล้วเดินกลับไปกลับมารอบห้อง  บางที...นายพิษฌานอาจจะเล่นตลกกับเขา  หรือว่ามันแผนสูงกว่านั้น

            เคยได้ยินเหมือนกันว่ามสารเสพติดบางประเภทที่ใช้สูดดมแล้วทำให้ติด  ทำให้รู้สึกดี ....หรือว่านายพิษฌานจะเล่นเกมเหนือเมฆกับเขา

            ใจเย็นก่อนอัยย์  เขาอาจจะดูหนังมากเกินไป นี่มันชีวิตจริงนะ  ไม่น่าใช่

            แล้วทำไมเขาถึงรู้สึก ‘ติด’ กลิ่นนี้ล่ะ

            อาคิราห์กลั้นใจเข้าไปอาบน้ำแล้วก็กลับมานอนเบิกตาโพลงอยู่บนเตียง  หัวใจเต้นตุบๆถี่เร็วด้วยความตื่นกลัว  กลิ่นของใหม่รอบตัวก็ไม่สามารถช่วยให้เขาสงบจิตสงบใจนอนหลับได้

            สุดท้ายก็ลุกขึ้นมานั่งจ้องเสื้อโค้ทที่วางพาดเอาไว้ที่เก้าอี้เขม็ง

            นายพิษฌานต้องเล่นสกปรกกับเขาแน่ๆ

            คิดได้ดังนั้น  อาคิราห์ก็คว้าเสื้อโค้ทมาดมนิดนึงแล้วถือพามาเคาะประตูที่เชื่อมติดกันแรงๆ  ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน  โอเมก้าหนุ่มเปลี่ยนใจถือเสื้อโค้ทตัวนั้นเดินลงบันไดมายังชั้นล่างของบ้าน  ตรงไปยังห้องทำงานของพิษฌาน

            ชายหนุ่มเจ้าของห้องลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูให้ด้วยความงุนงง  มองใบหน้าเรียวเล็กที่ขึ้นสีแดงก่ำสองข้างแก้มอย่างงงงัน  ริมฝีปากอิ่มเต็มเม้มแน่น  มือหนึ่งกำแน่น ส่วนอีกมือถือเสื้อของเขามาด้วย

            “มีอะไรทำไมไม่นอน”

            “คุณวางยาผม!!”   

            ...................................................................................................

           

             

            มาอัพกันต่อนาจา  มีใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ

            #ขอรักแค่คุณ

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
โอ๊ยตาหนู ชอบกลิ่นนี้ไปแล้วนะซิ  :hao7:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อัยย์ไม่ได้หลอก แต่อัยย์ไม่เคยรู้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้อนนนนน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โถ่น้องอัยย์ หนูแค่ติดกลิ่นทำรัง ไม่ได้โดนพี่เค้าวางยาจ้า

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
น่ารักอ้ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารน้องจังโดนหลอกแล้วหลอกอีกแบบนี้ แถมยังโดนหลอกล่อเปลี่ยนเรื่องหรือลืมง่ายอีกแบบนี้จะตามนายพิษทันได้ไงกัน

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
พระเอกใจร้ายจัง หลอกใช้น้องตลอดเลย น้องน่าสงสาร เห็นแววดราม่าในอนาคตเลย :mew6:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่ว่าทางไหนก็หลอกใช้ประโยชน์จากน้อง น่าสงสาร อึดอัดแทนเลย

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เอ็นดูแล้วก็สงสารไปพร้อมๆกัน
เมื่อไหร่น้องจะไม่โดนหลอกเนี่ยย  :ling1: :ling1:
ตัวเองทำรังแล้วยังไม่รู้ตัวเลย ฮื่อออ  :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
พระเอกอย่าใจร้ายกับน้องมาก ดูสิ น่าเอ็นดูไปหมด

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารอัยย์ถูกใช้เป็นเครืองมือทางการเมือง มีใครนึงถึงจิตใจของอัยย์บ้างเนี้ย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยไปกันใหญ่แล้วลูก 55555555
แต่จะไม่มีใครคิดถึงใจอัยย์จริงๆน่ะเหรอ TT

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เป็นโอเมก้าที่น่ารักที่สุดที่เคยอ่านมาเลยค่ะ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
น่าร้ากกกก อยากหยิกแก้มบู้บี้ คุณพิษก็ร้าย วางยาน้องเหรอที่ขมๆอ่ะ แต่ไม่ใช่ที่ต้องดมเสื้อ ดมหมอนพี่เขานะน้อลลล  :-[

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
โอ้ยย ลูกกกก..
หนูอัยย์..
:katai5: :katai5:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โถ๋อัยย์ลูกกกก

หนูโดนทุกคนหลอกกก

ออฟไลน์ Jimin39

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถึงทีอัยเอาคืนทุกคนให้เจ็บแสบเลยนะคะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สงสารน้อง ใจไปอยุ่สวิสแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไป งือออ แล้วติดกลิ่นเค้าไปแล้วอีก หนูจะทำยังไงลูก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด