[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267744 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ถ้าแท้ง ก็เอาซิถ้าตัวนายพิษเองจะใจร้าย ใจดำและกล้าพอ ก็เอาเลยทำเลย

แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน(รู้ว่าไม่กล้าหรอกแต่มันก็ไม่แน่เสมอไปไง)

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รอจ้าา

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ว้ายย ตาพิษ ตกบ่วงน้องอัยย์และลูกเข้าแล้ววว
 :hao7: :hao7: :hao7:
มาต่อเร็วๆนะคะ อยากเห็นอาการคนเป็นบ้าเพราะเมียท้อง

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ทำไมดื้อเก่ง

เจ้าบู้บี้เด็กดื้อ


นายพิษเขาห้ามทำไมไม่ฟัง

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หายนะบังเกิดแน่ถ้าปล่อยให้น้องแท้ง ที่ปากบอกว่ารำคาญๆนี่เป็นเพราะว่าห่วงน้องมากล่ะสิ และถ้าน้องท้องจริงๆ ท่าทางจะมีคนแพ้ท้องแทนเมีย

ออฟไลน์ Bambooyamy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai2-1: นุ้งอัยย์น่าเอ็นดู

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ตบตีกับตัวเองเก่งมากนายพิษฌาน
เข้าใจว่าเครียด ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คุนพิษ คิดจะให้น้องแท้งโดยที่น้องไม่รู้ว่าท้องเลยหรอ


น้องท้องจริงไหมลูกกก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ CRP_N

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามทันแล้ววววววว สนุกมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ เอ็นดูตอนที่น้องทำรังมาก ชอบมากเลย น้องแบบหนูรู้กกกกกกกก น่ารักอะ ฮือ อยากโอ๋ อยากหอมหัวน้องสุด ;_______; รอติดตามนะคะ สนุกมากจริงๆ เป็นกำลังใจให้น้าา♡♡♡♡♡

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พิษฌาณเหมือนวัยทองอ่ะ อารมณ์แปรปรวนเกิน5555

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ถ้านายพิษมีลูก ก็จะเท่ากับ มีลูก 2 คน ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Bambooyamy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นุ้ง ทำไมน่าเอ็นดูแบบนี้

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เราก็ติดหนักมากไม่แพ้คนเขียนนะบอกเลยยยยย   “ผมก็รำคาญ  ชอบเอาหมอนผมไปกอด“  แหมมมมม อิคุณพิษษ หงุดหงิดแต่ทำไมหน้าบานเท่าจานดาวเทียมไทยคมขนาดนั้นคะท่านนน เกลียดความขิงของนางมากอ่ะบอกเลย  o18 555555

ในที่สุดลูกอัยย์ของแม่ก็ท้องงงง คุณพิษน้ำยาดีจริงๆ  ตอนนี้รอนะ...รอเห็นซีนคุณพิษแพ้ท้องแทนเมียอย่างหนัก ฉันอยากเห็นนนน

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ห่วงขนาดนี้ ไม่ได้คิดอะไรเล้ยยยยยยยยยย เน๊าะคุณชานเน๊าะ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
………


โอ้ยยยย เราก็ติดนิยายเรื่องนี้เหมือนกันนะ. 

น้องอัยย์น่ารัก ซื่อๆ สดใส จะมีน้องแล้วหรือนี่

พิษฌานจะแพ้ท้องแทนน้องอัยย์ไหมนะ


 :katai4:  :katai5:  :katai4:  :katai5:  :katai4: :katai5: :katai4:  :katai5:



………

ออฟไลน์ Jimin39

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ย ไม่แท้งนะคะบู้บี้ของแม่  :hao7:

ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
บู้บี้น้อยคงออกมาดื้อไม้แพ้แม่แน่ๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำไมน้องอัยย์น่ารักอย่างนี้ คุณพิษมีใจให้น้องแล้วอย่ามาปากแข็งใจแข็งอะโด่ รอบู้บี้น้อยนะ

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 16

 



 

 

 

 

            “ปวดท้องไหมครับ”  คุณหมอถามเนิบๆ  คนบนเตียงส่ายหน้าไปมา

            “ไม่ปวดครับ  แต่ปวดหลังนิดหน่อย”  อัยย์พลิกตัวชี้นิ้วตรงช่วงบั้นเอวให้คุณหมอดู

            พิชช์ฌานยืนกอดอกจับตามองนายแพทย์ฉัตรินตรวจร่างกายของอีกฝ่ายอย่างละเอียด  จากนั้นชายหนุ่มก็ส่งสัญญาณบอกหมอให้ออกไปคุยข้างนอกแทน

            “ตาคุณเป็นอะไรน่ะ  ทำไมต้องทำตาขยิบยิกๆด้วย”  อาคิราห์ทัก

            “เมื่อกี้ตอนช่วยเธอคงแมลงเข้าตาน่ะสิ  คันมากเลย”  พิชช์ฌานตอบหน้าตาย  “หมอตรวจเขาเสร็จแล้วก็ช่วยมาตรวจตาผมต่อด้วยนะ”  ชายหนุ่มยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆเพื่อความสมจริง

            “คุณอัยย์นอนพักก่อนนะครับ  เดี๋ยวผมจะไปจัดพวกยาแก้ปวดอะไรมาให้”

            “ขอบคุณครับ  ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก  แค่เคล็ดขัดยอกนิดหน่อยเอายานวดๆเดี๋ยวก็หายแล้ว  ความจริงไม่เห็นจะต้องตามหมอให้เป็นเรื่องใหญ่เลย”  อาคิราห์ว่า  ปรายตามองเจ้าของห้องที่ยืนหน้าเคร่งอยู่ไม่ห่าง

            “เอ้า...ฉันเห็นเธอตกต้นไม้ลงมานั่งหน้าเขียวก็ตกใจน่ะซิ  ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว  หมอบอกให้นอนพักก็นอนลงไปซะ  อย่าลุกขึ้นมา”

            “ผมปวดฉี่”  อาคิราห์พูด  ดันตัวลุกขึ้นยืน

            “พอดีเลย...หมอจะให้อาคิราห์เก็บปัสสาวะใช่ไหมครับ”  พิชช์ฌานได้ทีรีบพูดขึ้น  หันขวับไปจ้องหน้าหมออย่างกดดันกันในที  “ที่หมอบอกว่าจะเอาไปเพาะเชื้ออะไรนั่นไง  ใช่ไหมครับ”

            “ผมเก็บให้แล้วเมื่อเช้านี่ครับ”  อาคิราห์ท้วง

            “มันไม่พอ  ปนเปื้อนด้วยเลยต้องเก็บใหม่...ใช่ไหมหมอ”

            “ใช่ครับคุณอัยย์  รบกวนช่วยเก็บปัสสาวะให้ผมหน่อยนะครับ”  ฉัตรินพูดออกมาในที่สุดด้วยน้ำเสียงจริงจังน่าเชื่อถือ  เจ้าโอเมก้าพยักหน้าเชื่อตามที่หมอพูด  ได้กระป๋องใบเล็กก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

            “คิดจะทำอะไรนายฌาน...จะตรวจว่าคุณอัยย์ท้องงั้นเหรอ”  นายแพทย์หนุ่มเปรยขึ้นเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน  “ทำไมถึงไม่บอกคุณอัยย์ตามตรงล่ะ”

            “ถ้าบอกแล้วเขาจะยอมตรวจดีๆหรอครับ”  พิชช์ฌานตอบกลับมา  จับตาดูประตูห้องน้ำเขม็ง  “ผมขี้เกียจอธิบายแล้ว  รำคาญคนงอแง”

            “แล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง  จะไม่บอกเจ้าตัวหรือ”

            “ผมยังคิดไม่ออก”  นักการเมืองหนุ่มยอมรับตามตรง  “จริงๆแล้ว...เมื่อเช้าผมลองตรวจดูแล้ว  เขาตั้งท้อง”  พิชช์ฌานพึมพำ  ทอดสายตาลงมองพรมเช็ดเท้าที่หน้าห้องน้ำแทน   “แต่ผมก็ยังไม่อยากเชื่อ”

            คนฟังตกใจปนโกรธ

            “แล้วนายก็ยังไม่ได้บอกคุณอัยย์เนี่ยนะ”

            “ก็ผมไม่มั่นใจ  เลยอยากตรวจซ้ำอีกทีก่อน”  พิชช์ฌานยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองเบาๆ  “ผมยังไม่พร้อมจะให้ใครรู้ตอนนี้  แต่ผมบอกพี่เพราะพี่เป็นหมอ”

            “แม้แต่คุณอัยย์ก็จะไม่ให้รู้น่ะเรอะ  จะบ้าหรือเปล่า  ...เขาเป็นคนอุ้มท้องนะฌาน  จะไม่ให้เขารู้ได้ยังไง”

            “ผมก็ไม่ได้จะปิดตลอดไปนี่  ผมจะบอกเค้า..แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้  ตอนที่มันยัง...”  เสียงของคนพูดขาดหายไปเพราะประตูห้องน้ำเปิดออกมาเสียก่อน  ร่างโปร่งบางเดินกลับมานอนที่เตียงตามเดิม  อาคิราห์เหลียวไปมองผู้ชายสองคนในห้องที่ยืนเงียบไปอย่างผิดสังเกต

            “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

            “ไม่มีอะไร  ฉันจะให้หมอตรวจตาให้เฉยๆ  เธอนอนพักในห้องนี้ไปก่อนนะ  เดี๋ยวฉันจะกลับมา”  พิชช์ฌานบอกเนิบๆ  เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วหยิบกระป๋องบรรจุปัสสาวะของอีกฝ่ายมาด้วยโดยไม่รังเกียจ   ฉัตรินหันไปบอกคนเจ็บให้พักผ่อนก่อนจะกลับออกมาจากห้องนอน

            พิชช์ฌานตามออกมาพร้อมกับเรียกหาชุดตรวจครรภ์ที่ซื้อมาครบทุกยี่ห้อเป็นอันดับแรก  ชายหนุ่มถืออุปกรณ์ทั้งหมดหายเข้าไปในห้องน้ำพักใหญ่  นานจนนายแพทย์หนุ่มต้องเดินไปเคาะประตูเรียก

            “นายฌาน  เป็นยังไงบ้าง  ทำไมเงียบไปเลย”

            คนข้างในห้องน้ำเปิดประตูออก  ใบหน้าคมเข้มแดงก่ำลงมาถึงลำคอ  พิชช์ฌานผายมือไปที่ชุดตรวจครรภ์หลายอันวางเรียงอยู่บนเคาท์เตอร์หินอ่อน   ทุกอันขึ้นสองขีดตรงกันหมดไม่มีผิด

            “ท้อง...เค้าท้องจริงๆด้วย”  ชายหนุ่มพูดในลำคอ  เอื้อมมือมาจับแขนของนายแพทย์เอาไว้แน่น  “ท้องจริงๆ”

            “ฉันรู้แล้ว  เลิกบีบแขนสักทีมันเจ็บ”  ฉัตรินดึงแขนออก  “ยินดีด้วยนะ  จะเป็นพ่อคนแล้วนี่”

            คนฟังเงยหน้าขึ้น  ดวงตาคมเต็มไปด้วยความสับสน

            “ผม...ไม่อยากเป็น”  พิชช์ฌานพูด  “มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย  หรือว่าชุดตรวจพวกนี้หมดอายุหรือเปล่า  แต่ก็คงไม่...อาคิราห์ท้องจริงๆ  ถ้าอย่างนั้น...ความหายนะจะมาสู่ตระกูลของผม  หมอ...ผมควรทำอย่างไรดี  เอาออกดีมั้ย”

            “เห้ย  พูดอะไรออกมาน่ะฌาน  ใจเย็นๆตั้งสติก่อน”  ฉัตรินเตือน  จับแขนของรุ่นน้องลากออกมาจากห้องน้ำ พาเดินตรงไปที่ห้องทำงาน  “นายดูสติแตกมากนะ  ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อน  นั่งลงก่อนเถอะ”

            “ผมคิดไม่ออก”  พิชช์ฌานพึมพำ  ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้องทำงาน  “ข้างในหัวผมมันตีกันไปหมดแล้ว  ให้ตายเหอะทำไมต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับผมด้วย”

            “เสียเวลาที่นายจะมานั่งคร่ำครวญแบบนี้นะ  ในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว  คุณอัยย์ก็ท้องไปแล้ว”

            “ทางเดียวที่จะจัดการให้เรื่องทุกอย่างเข้าที่ก็คือ...เอาเด็กออกซะ”

            “ถ้านายคิดอย่างนั้นล่ะก็  ฉันอยากขอให้นายค่อยๆคิดดูใหม่อีกที”  ฉัตรินพูดเสียงเข้มขึ้น  ยกมือขึ้นกอดอก  “ถ้านายอยากเอาออกเพราะแค่คำทำนายนั่นล่ะก็  ฉันไม่เห็นด้วย”

            “ถ้าไม่ใช่แค่คำทำนายล่ะ”  เสียงห้าวๆพูดแย้งทันควัน  “ผมกับเค้า...เราไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก  เค้าแต่งกับผมเพราะจำยอม  ผมก็แต่งกับเค้าเพราะเกมการเมือง  เพราะอยากเอาชนะพ่อของเค้าก็แค่นั้น  การตั้งท้องนี่มันเป็นความผิดพลาด  ก็เหมือนกับคืนนั้นที่ผมดันพลาดกัดคอเค้านั่นแหละ”

            เกิดความเงียบขึ้นในห้อง

            ฉัตรินทอดสายตามองผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งกุมศีรษะตัวเองด้วยความเคร่งเครียดนั้นอย่างกังวลใจ  เขารู้ดีว่าพิชช์ฌานเป็นคนแบบไหน  ชายหนุ่ม ‘เหี้ยม’ พอที่จะทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย  ลงถ้าเจ้าตัวคิดจะกำจัดเด็กในท้องของอาคิราห์ล่ะก็  ...มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น

            “...ถ้าผมปล่อยให้ท้อง  คนที่ทุกข์มากที่สุดก็น่าจะเป็นเค้านะครับ  คิดดูว่าจะต้องมานั่งอุ้มท้องลูกคนที่ไม่ได้รักกัน  แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว  ไหนยังจะความฝันของเค้าที่อยากไปเที่ยวรอบโลกอะไรนั่นอีก  ขืนมีลูกขึ้นมาก็คงไม่ได้ไปเที่ยวเร็วๆนี้แน่  ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าการปล่อยให้เค้าตั้งท้องต่อไปมันจะมีข้อดีตรงไหน”  พิชช์ฌานพูดต่อยืดยาว

            “มันก็จริงของนาย  ถ้าฟังอย่างนี้  คุณอัยย์เค้าก็คงไม่อยากเก็บเด็กเอาไว้หรอก”  ฉัตรินพยักหน้าเนิบๆ

            “ใช่ไหมล่ะ  เค้าก็จะต้องเห็นด้วยกับผมถ้าเราจะเอาเด็กออก  ส่วนผมก็จะได้ไม่ต้องมาผูกมัดอะไรกับเค้าด้วย  ตอนหย่าจะได้ต่างคนต่างไปได้ง่ายๆ”  ประโยคหลังคนพูดลดเสียงลงเหมือนพูดกับตัวเอง

            “งั้นนายก็ไปบอกคุณอัยย์เขาสิ”  คุณหมอเสนอ  “รีบไปบอกเลย”

            อีกฝ่ายชะงัก

            “เขาไม่อยากเก็บเด็กเอาไว้หรอก  ผมรู้...เค้าเองก็อยากไปจากบ้านนี้จะตายไป”   พิชช์ฌานพึมพำ  เหลือบมองเจ้าปลาบู่ที่ว่ายน้ำไปมาอยู่ในตู้มุมห้อง  “เค้าจะต้องเป็นคนแรกที่อยากเอาเด็กออกแน่ๆ”

            “ก็ยิ่งดีไง  นายก็ไปบอกเค้าสิ  จะได้ตกลงกันให้เรียบร้อย”

            “ทำไมหมอไม่ห้ามผมแล้วล่ะ  เมื่อกี้หมอยังห้ามไม่ให้ผมเอาเด็กออกอยู่เลยไม่ใช่หรือไง”  นักการเมืองหนุ่มเงยหน้าขึ้นท้วง  คิ้วเข้มขมวดมุ่น  “ทำไมกลับคำเสียล่ะ”

            “อ้าว  ก็ฉันฟังเหตุผลของนายแล้วมันก็จริงตามที่นายพูด  พวกนายไม่ได้รักกัน  ถ้าปล่อยให้ท้องต่อไปก็เท่ากับทรมานกันเปล่าๆ”

            “พูดไม่สมเป็นหมอเลยนะ  หมอที่ไหนทำไมถึงเชียร์ให้แท้ง”  ชายหนุ่มจุ๊ปาก

            “ไอ้นี่นี่ยังไง  พอบอกให้คิดดูใหม่ก็ไม่ชอบ  บอกให้ทำเลยก็โกรธอีก  จะเอายังไงกันแน่  ฉันงงไปหมดแล้วนะนายฌาน”  ฉัตรินถอนหายใจเฮือก  “ก็พูดเองว่าอยากเอาออกไม่ใช่หรอ  ในฐานะที่ฉันเป็นหมอฉันก็ต้องเคารพสิทธิของคนไข้  ถ้านายกับคุณอัยย์เห็นตรงกัน..ฉันจะไปทำอะไรได้”

            “แล้วไม่กลัวว่าเค้าจะเป็นอันตรายหรือไงถ้าเอาเด็กออก”  พิชช์ฌานถามเสียงเข้ม  “ทำแท้งมันอันตรายไม่ใช่หรือ”

            “ก็ใช่...แต่จะทำไงได้”  คุณหมอยักไหล่  “รีบไปบอกคุณอัยย์สิ  จะได้ตัดสินใจร่วมกัน  จะทำอะไรก็ต้องรีบทำนะ  ตอนนี้ตัวอ่อนน่าจะยังเล็กอยู่  ยิ่งเล็กก็ยิ่งเอาออกง่าย”

            “นี่พี่เป็นหมอภาษาอะไรเนี่ย”  เจ้าของห้องลุกขึ้นยืนอย่างโกรธจัด  “พูดออกมาได้ไง ยิ่งเล็กยิ่งเอาออกง่าย  ยังมีจรรยาบรรณอยู่หรือเปล่า”

            “แล้วนายโกรธอะไรเนี่ยนายฌาน  นายควรจะดีใจไม่ใช่หรือไงที่รู้ว่ามันยังเอาออกได้  จะมาโกรธทำไมฉันไม่เข้าใจ”

            คนฟังอึ้ง   คุณหมอเลยพูดต่อ

            “นายจะเอายังไงกันแน่  จะเก็บไว้ก็ไม่เอา  กลัวคำทำนายบ้าๆบอๆอะไรนั่นบ้างล่ะ  บอกว่าไม่รักกันบ้างล่ะ  ฉันก็โอเคงั้นเอาออกสิ  ยังเอาออกทัน  นายก็มาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟว่าทำไมจะให้เอาออก  ฉันบอกให้ไปคุยกับคุณอัยย์นายก็ยังไม่ยอมไปเลย  ตกลงนายต้องการอะไรกันแน่นายฌาน”

            พิชช์ฌานทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตามเดิมอย่างหมดแรง  เงยหน้าขึ้นมองโคมไฟบนเพดานนิ่ง

            “ผมก็ไม่รู้”  ชายหนุ่มพึมพำออกมาเสียงเบา  “ทุกอย่างมันผิดแผนไปหมด  ผมตั้งตัวไม่ทัน...มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้เลย”

            “ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อนนะฌาน  นายคนเดิมที่พร้อมจะเปลี่ยนแผนไปได้ตลอดทุกสถานการณ์หายไปไหนแล้ว  ทำไมฉันเห็นแต่นายคนที่เอาแต่นั่งบื้อคิดวนกลับไปกลับมาเรื่องเดิมอยู่นั่นแหละ  เกิดอะไรขึ้นกับนาย”

            “ผมรู้สึก..เหมือนคนวิ่งชนกำแพง”  พิชช์ฌานพูด  “มันมึนๆตื้อไปหมดทุกอย่างตั้งแต่เจอเขาเข้า  ผมไม่เคยได้ทำตามแผนของตัวเองเลยสักวัน”

            “แล้วมันดีหรือไม่ดีล่ะ”

            “ก็ไม่ดีน่ะสิ  ผมไม่ชอบแบบนี้เลย  เหมือนผมเสียศูนย์...จะทำอะไรก็ต้องมานั่งเผื่อว่าเค้าจะเป็นยังไง  ผมเบื่อมากกับการที่ต้องเปลี่ยนแผนนู่นนี่นั่นทุกวันเพราะเขา”

            “ฟังดูแล้ว...เหมือนคุณอัยย์จะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของนายมากพอดูนะ”  คุณหมอทักขึ้น  อีกฝ่ายขยับตัวทันที

            “ไม่ใช่แบบที่พี่คิดแน่”  พิชช์ฌานรีบพูด  “แต่ถ้าจะหมายถึงความรู้สึกรำคาญ  โมโหหงุดหงิดตลอดเวลาล่ะก็ใช่...เขาทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดตลอดเวลาได้”

            ฉัตรินลอบถอนหายใจยาว  มองหน้านักการเมืองหนุ่มอนาคตไกลที่นั่งหน้าเคร่งอยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนใจ  เขาพอจะจับความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้ลางๆแล้ว   นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมผู้ชายที่ฉลาดเฉลียวและเต็มไปด้วยไหวพริบเล่ห์กลอย่างพิชช์ฌานถึงได้มาตกม้าตายเอาง่ายๆกับเรื่องแค่นี้

            หึ...บอกไม่ดีใจที่กำลังจะเป็นพ่อคน  แต่หน้าตากลับเป็นตรงกันข้าม  บางทีเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจ้าตัวถึงคิดเรื่องนี้ไม่ออก

            หรือเป็นเพราะวิ่งชนกำแพงมาจริงๆ ถึงได้มึนตึ้บขนาดนี้...

            “เอาอย่างนี้นะ  ตอนนี้นายกำลังสับสนอยู่ ค่อยๆไปนั่งคิดเรียบเรียงดีๆก่อน  หรือถ้าคิดไม่ออกก็บอกคุณอัยย์เขา  จะได้ช่วยกันคิด  ยังไงสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว”

            “บอกไม่ได้  ขืนบอกก็คงเผ่นออกจากบ้านแน่ๆรายนั้น  ไม่ฟังกันหรอก”

            “ขนาดนั้นเลยเหรอ  ฉันว่าคุณอัยย์เขาน่าจะมีเหตุผลมากกว่านั้นนะ”

            “ผมไม่ไว้ใจ”  ชายหนุ่มตอบทันที  “เขาชอบคิดอะไรแปลกๆ  ไม่เป็นไปตามตระกะ  แถมลูกบ้าเยอะด้วย  ดีไม่ดีหาวิธีเองอีก”

            “ฉันว่าคุณอัยย์ก็คงคิดเหมือนนายนั่นแหละ....อยากเอาออก”  ฉัตรินแกล้งพูด  “เก็บไว้ก็เป็นภาระ  ยังไงก็ไม่ได้รักกันอยู่แล้ว”

            “ถ้าเกิดว่าผมจะเอาออกโดยที่ไม่ให้เจ้าตัวรู้  จะเป็นไปได้ไหมครับ”  พิชช์ฌานถาม

            “นายกำลังละเมิดสิทธิพื้นฐานของบุคคลอยู่นะ”  คุณหมอพูดเรียบๆ   “ตอบตามจรรยาบรรณก็คือ...เป็นไปไม่ได้”

            “แต่ก็เพื่อตัวของเขาเองนะครับ”

            “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายถึงไม่บอกคุณอัยย์เสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว  ..ฉันจะไม่คุยกับนายแล้ว  นายไปคิดดูให้ดีก็แล้วกัน  อย่าทำอะไรที่จะต้องเสียใจทีหลัง  อย่าให้อะไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นคำทำนายอะไรไม่รู้หรือทิฐิของนายมาทำให้นายต้องเสียใจไปตลอดชีวิต  โอกาสของคนเราไม่ได้มาบ่อยๆหรอกนายฌาน  บางครั้งมันก็มีแค่ครั้งเดียว”  ฉัตรินก้มศีรษะให้นิดหนึ่งแทนคำอำลาแล้วก็หมุนตัวเดินกลับออกมาจากห้องทำงาน

            ทิ้งให้เจ้าของห้องนั่งมองเพดานอยู่คนเดียวอย่างนั้น

            ............................................................................



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk












           “คุณฌานครับ”  มือขวาคนสนิทเรียกขึ้นเบาๆอย่างเกรงใจหลังจากที่เข้ามาในห้องทำงานเพื่อสรุปรายงานเหมือนทุกวันทว่าเจ้านายกลับเอาแต่นั่งนิ่งมองตู้ปลาเฉยเสียอย่างนั้น

            “..............”

            “คุณฌานครับ  ดึกแล้วนะครับ  ถ้าคุณฌานเหนื่อย...”  เจนภพเกริ่น  อีกฝ่ายกระพริบตาแล้วขยับตัว

            “อ้อ  เจนภพ  มาแล้วเหรอ  ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย... เข้ามานั่งตรงนี้สิ  เรื่องที่ฉันให้ไปสืบมาเป็นอย่างไรบ้าง  กลุ่มทุนที่หนุนหลังพวกอนุรักษ์ฯใช่กลุ่มเดียวกับที่หนุนรัฐบาลไหม”  นักการเมืองหนุ่มเข้าเรื่องทันทีไม่เสียเวลา  มือขวาส่งแฟ้มหนาปึกมาให้เขารับเอาไว้

            ข้างในมีรายชื่อบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเรียงรายเป็นพรืด  บางแห่งก็มีปากกาขีดเน้นข้อความเอาไว้ให้

            “ที่ขีดเส้นคือมีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องจริงครับ  ส่วนที่วงกลมคือสงสัยแต่ยังหาหลักฐานไม่ได้”

            พิชช์ฌานนั่งไล่อ่านดูอย่างละเอียดจนกระทั่งมาถึงชื่อของนายชาติชาย บิดาของรินลดา  ชายหนุ่มก็ชะงัก  ตวัดสายตาขึ้นมองเลขาฯที่รออยู่ก่อนแล้ว

            “ผมยังไม่แน่ใจครับ  แต่มีวงในบอกมาว่าคุณชาติชายลอบไปพบปะกับคนในกลุ่มรัฐบาลจริง”

            “คิดจะจับปลาสองมืองั้นหรือ  สมเป็นนักธุรกิจหัวหมอจริงๆแฮะ”  พิชช์ฌานพึมพำ  “แสดงว่าเค้าคงไม่มั่นใจว่าฉันจะชนะการเลือกตั้งสมัยหน้าสินะ”

            “มีความเป็นไปได้สูงว่าคุณชิตชายอาจจะแปรพักตร์ครับ  ซึ่งนั่นจะกระทบกับเงินทุนของพรรคมากทีเดียว  ผมแนบบัญชีเอาไว้ข้างหลังครับ”  เจนภพพูดอย่างรู้ใจ

            พิชช์ฌานใช้เวลาอ่านข้อมูลที่ลูกน้องหามาให้อย่างละเอียดครู่ใหญ่

            “ดูเหมือนตัวแปรสำคัญอาจจะเป็นรินลดาก็ได้นะ”  ชายหนุ่มพูดเนิบๆ  เหลือบตามองคนสนิทที่ยืนสงบนิ่งอยู่  “นายคิดแบบนั้นถึงได้รีบมาบอกฉันล่ะสิ”

            “ผมไม่อยากให้คุณคิดแบบนั้นต่างหากล่ะครับ”  เจนภพพูดขึ้นบ้าง  “มันคงไม่ดีต่อจิตใจคนท้องแน่ๆ”

            คิ้วเข้มเลิกสูง  เจนภพรีบก้มหน้าลง

            “ขอโทษครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจจะก้าวก่าย  แต่ว่าผมสงสารคุณอัยย์  เธอไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องเครียดๆอะไรแบบนี้เลย”

            “รู้สึกนายจะเป็นห่วงอาคิราห์จังนะ”  เจ้านายเคาะ

            “คุณอัยย์ก็เท่ากับเป็นเจ้านายของผมด้วยอีกคน  ลูกน้องเป็นห่วงเจ้านายก็ไม่แปลกนี่ครับ”  เจนภพพูดเนิบๆ  มองคนฟังด้วยสายตารู้ทัน  “แต่ก็เป็นห่วงในฐานะเจ้านาย-ลูกน้องแค่นั้น”

            พิชช์ฌานเม้มปาก

            “ช่างเถอะ  เรื่องนายชาติชายฉันจะจัดการเอง   ส่วนอาคิราห์...ขอบใจมากที่เป็นห่วงภรรยาของฉัน  จะเป็นไปตามหน้าที่หรืออะไรก็แล้วแต่ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว”

            “คุณจะบอกคุณอัยย์ไหมครับ”

            “เจนภพ”  พิชช์ฌานพูดเสียงเรียบ  “ฉันจะจัดการเองเรื่องนั้น”

            “ครับคุณฌาน”  อีกฝ่ายรับคำ

            “คืนนี้พอแค่นี้ก่อน  ฉันขอเวลาคิดสักนิด”

            “คุณฌานครับ”  เจนภพอึกอัก  “มีอีกเรื่องหนึ่ง  ผมไม่รู้ว่ามันเกี่ยวอะไรหรือเปล่าแต่ว่า  วีซ่าของคุณอัยย์ที่ถูกระงับไปไม่ใช่ฝีมือคนของเราครับ”

            “ว่าไงนะ”  คิ้วเข้มขมวดฉับ  “แล้วใครเป็นคนทำ”

            “เป็นคำสั่งจากกระทรวงครับ  แล้วก็ไม่ได้ระงับแค่ของคุณอัยย์ด้วย  แต่ว่าระงับของโอเมก้าทุกคนด้วยเหตุผลว่ามีคนลักลอบพาโอเมก้าไปขายจริงๆครับ”

            “จับตัวได้งั้นเหรอ”

            “เห็นว่ากำลังสอบสวนครับ  แต่ว่ายังสาวถึงใครไม่ได้เลย”

            “แล้ววีซ่าจะใช้ได้เมื่อไหร่”

            “ยังไม่มีกำหนดครับ”

            “แปลกนะ  น่าแปลก...ยิ่งออกคำสั่งห้ามออกมาแบบนี้ไม่ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงเหรอ  คนจะออกยังไงก็ต้องหาทางออกไปจนได้”  ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด  “ไปห้ามไม่ให้ออกไปอย่างถูกกฎหมาย  ก็เท่ากับสนับสนุนให้ออกไปแบบผิดกฎหมายไม่ใช่หรือไง”

            “ผมก็รู้สึกว่าแปลกมากครับ  แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำแบบนี้ทำไม”

            “มันจะเกี่ยวพันอะไรกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มอนุรักษ์ฯหรือเปล่า”  พิชช์ฌานเคาะปลายนิ้วกับโต๊ะเบาๆ  “ทำไมรู้สึกแหม่งๆยังไงชอบกล  ลองไปตามเรื่องนี้หน่อยนะ  พรุ่งนี้ฉันต้องเข้าไปคุยกับพวกโรงงานใช่ไหม  นายไม่ต้องไป...อยู่เฝ้าบ้านแล้วกัน”

            “อ้าว”  ลูกน้องอ้าปากค้าง  “ทำไมล่ะครับ”

            “เลือกเอาว่าจะไปประชุมแทนฉันหรือว่าจะเฝ้าบ้าน”  พิชช์ฌานพูดหน้าตาเฉย

            “โธ่  ผมจะไปประชุมแทนคุณฌานยังไงล่ะครับ”  เจนภพว่า  “แต่ผมก็อยากไปกับคุณด้วย  หรือเราจะพาคุณอัยย์ไปด้วยกันดีไหมครับ”

            “ไม่ได้”  เจ้านายปฏิเสธเสียงแข็ง  “แถวนั้นมีแต่โรงงาน  คนงาน   ให้เขาไปก็วุ่นวาย  ให้อยู่ที่บ้านนี่ล่ะดีแล้ว”

            “คุณฌานจะค้างสองคืนเหมือนเดิมไหมครับ”

            “ก็ตามนั้น  เหมือนทุกทีนั่นล่ะ”  ชายหนุ่มตอบ  โบกมือให้คนสนิทกลับออกไปจากห้องได้

            นั่งทำงานต่ออยู่อีกพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานดังขึ้น  พิชช์ฌานวางปากกาลง  ลุกขึ้นเดินไปส่องตาแมวก็เห็นร่างโปร่งบางในชุดนอนตัวโคร่งยืนขยี้ตาอยู่หน้าประตู  ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก  ดึงประตูเปิดออก

            “ดึกแล้วลงมาทำไม”  เขาถามเป็นประโยคแรก

            อีกฝ่ายมองหน้าเขาแล้วอ้ำอึ้ง

            “ว่ายังไง  ทำไมไม่นอนอีก  ปวดหลังไม่ใช่หรือไง”

            “คือ...” อัยย์อึกอัก  อันที่จริงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เดินลงมาถึงหน้าห้องทำงานของนายพิชช์ฌานได้  แค่นอนพลิกตัวกลับไปกลับมาอยู่นานแล้วไม่หลับเสียทีก็เลยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรอยู่ก็แค่นั้น  “ผม...ลืมให้อาหารปลา”  นัยน์ตากลมโตเหลือบมองเข้าไปเห็นเจ้าปลาบู่ตัวโตที่ว่ายน้ำอยู่ในตู้เข้าเลยรีบพูด  “เดี๋ยวมันหิวแย่”

            พิชช์ฌานมองหน้าคนพูดอย่างไม่อยากเชื่อ  แต่ก็สุดท้ายก็ยอมเบี่ยงตัวหลบให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้องทำงาน

            อาคิราห์เดินโหย่งตัวบนพรมหนานุ่มตรงไปที่ตู้ปลาแล้วก็ก้มลงหยิบกระปุกอาหารปลามาเปิดออก  หางตาเห็นเจ้าของห้องเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารและหนังสือ  แสงจากจอคอมพิวเตอร์ส่องให้เห็นแววเคร่งเครียดในดวงตาคมกริบคู่นั้น

            “ใจคอจะขุนมันให้อ้วนจะได้จับมาทอดกินอิ่มๆทีหลังใช่มั้ย”  จู่ๆคนที่นั่งจ้องคอมพิวเตอร์ก็พูดขึ้นราวกับมีตาทิพย์  อัยย์สะดุ้งหันกลับมาดูตู้ปลาก็พบว่าเผลอโรยอาหารเม็ดลงไปกำใหญ่  “ขืนมันกินหมดนั่นคงท้องแตกตายคืนนี้แน่”  พิชช์ฌานพูด

            อัยย์เม้มปาก  หันไปหยิบสวิงอันเล็กๆขึ้นมาช้อนอาหารเม็ดส่วนเกินออกจากตู้  เจ้าปลาบู่ก็กินเร็วใช่เล่น  สงสัยจะหิวอยู่เหมือนกันถึงได้อ้าปากฮุบเอาๆ

            พิชช์ฌานเงยหน้าขึ้นมองอีกทีก็พบว่าคนที่ไล่ตักอาหารเม็ดอย่างขะมักเขม้นอยู่เมื่อครู่นี้เปลี่ยนมานั่งกอดเข่ามองปลาในตู้ตาแป๋วเสียอย่างนั้น   นั่งไปได้สักพักร่างโปร่งบางก็เริ่มโงนเงน

            “ง่วงก็ขึ้นไปนอนสิ  จะมานั่งตรงนี้ทำไม”  พิชช์ฌานพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายสัปหงกเป็นรอบที่สาม  อาคิราห์สะดุ้งตื่นนั่งตัวตรง

            “ผมกลัวมันท้องแตกตายคืนนี้”  อาคิราห์ตอบกลับมาเรียบๆ  “เลยต้องเฝ้าเอาไว้ก่อน”

            “มันกินจุจะตาย  ไม่ท้องแตกตายง่ายๆหรอกน่า  กินเก่งอย่างกับชูชก”  พิชช์ฌานกระแทกเสียง  มองหน้าอีกฝ่าย

            “คุณหมายถึงปลาใช่มั้ย”

            “ก็ใช่น่ะสิ  จะหมายถึงอะไรได้ล่ะ”  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว  “ถ้ายังไม่ง่วงก็มานี่  มาทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อย”  พิชช์ฌานชี้ไปที่เก้าอี้ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานที่มีกองเอกสารตั้งใหญ่วางเอียงกระเท่เร่อยู่

            “ใช่สิ  ผมมันตัวไม่มีประโยชน์ใช่มั้ยล่ะ”  จู่ๆคนที่นั่งกอดเข่าก็ผุดลุกขึ้นยืน  น้ำตาคลอเบ้า  “ดีแต่กินกับนอนไปวันๆ”

            “เดี๋ยวสิเธอ  เป็นอะไรของเธอเนี่ย”  คนฟังถึงกับงงกับอารมณ์ที่เปลี่ยนฉับพลันของอีกฝ่าย  “ร้องไห้ทำไม”

            “ไม่ได้ร้อง  ผมมันไม่มีประโยชน์  เหมือนที่คุณบอกว่าดีแต่บู้บี้ไปวันๆ  ใช่สิ  ก็ผมมีดีแค่นี้  อยู่บ้านก็ไม่มีประโยชน์  อยู่นี่ก็ไม่มีประโยชน์”  อาคิราห์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกอย่างโกรธๆแกมมึนงงกับอารมณ์พุ่งพล่านที่อยู่ดีๆก็ผุดขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเข้า

            “อาคิราห์   มานั่งตรงนี้”

            “ไม่ไป  ผมจะนั่งอย่างไร้ประโยชน์อยู่ตรงนี้”  พูดจบเจ้าตัวก็ทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าอยู่ที่เดิม

            พิชช์ฌานปวดหัวจี้ดขึ้นมากะทันหัน

            “นี่อย่าทิ้งตัวนั่งแรงๆได้มั้ย  ทำอะไรให้มันค่อยๆบ้าง  เอาแต่กระโชกโฮกฮาก  พูดอะไรไม่เคยฟัง  เมื่อตอนบ่ายที่โดดลงมาจากต้นไม้ฉันยังไม่ได้เคลียร์เลยนะ  โดดลงมาได้ไงต้นไม้ออกสูง  ดีนะไม่เป็นอะไรมาก”  คนพูดลุกขึ้นยืน  ก้าวยาวๆเข้าไปยืนข้างหลังคนที่นั่งกอดเข่าอยู่  “อัยย์  หันหน้ามาคุยกันซิ  ทำตัวให้เหมือนคนที่โตแล้วหน่อย”

            “............”  เจ้าตัวไม่ขยับ

            “ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง  พ่อเธอก็คงเบื่อกับความดื้อรั้นไม่เข้าท่าของเธอเต็มที  เขาอาจจะดีใจก็ได้มั้งที่เธอออกจากบ้านมาได้น่ะ”  พิชช์ฌานหลุดปากพูดออกไปด้วยความปากไว  แผ่นหลังบอบบางนั้นเริ่มสั่นให้เห็น  “อัยย์  ฉันไม่ได้ตั้งใจ  หันกลับมาคุยกันก่อน”  เขาพูดเสียงอ่อนลง

            คราวนี้เจ้าโอเมก้ายอมหันกลับมา  คิ้วเรียวขมวดมุ่นริมฝีปากอิ่มเบะออกแต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้เต็มที่จนใบหน้ายู่ยี่ดูน่าขันแต่ก็น่าสมเพชในคราวเดียวกัน   น้ำตาคลอในหน่วยตากว้างกลมโตปลายจมูกแดงก่ำสูดน้ำมูกฟืดฟาด

...นี่น่ะเหรอ  คนที่จะอุ้มท้องลูกของเขา  ...เหอะ  ไม่มีทาง...  พิชช์ฌานคิดในใจ

“จะคุยอะไรอีก  คุณก็พูดถูกแล้วนี่”  อาคิราห์พูดด้วยเสียงอู้อี้  “ขนาดไอ้บู้บี้ที่สองยังมีประโยชน์มากกว่าผมเลย  อย่างน้อยมันก็กินได้”

พิชช์ฌานถอนหายใจเฮือกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่ทราบได้

เขาเอื้อมมือไปประคองใบหน้าเรียวเอาไว้แล้วใช้ปลายนิ้วปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มเนียนแรงๆ

“เป็นอะไรน่ะเรา  อยู่ดีๆก็น้อยอกน้อยใจอะไร  โกรธที่ฉันพูดเหรอ...จะมาถือสาอะไรคนอย่างฉัน  ฉันปากเสียเธอก็รู้อยู่แล้วนี่”  พิชช์ฌานพูดเนิบๆ  สบตากลมใสคลอด้วยหยาดน้ำตาคู่นั้น  “ฉันก็พูดไปอย่างนั้นเอง  ต่อให้เทียบระหว่างเธอกับปลาบู่  ยังไงฉันก็ต้องเลือก...ปลาบู่อยู่แล้ว”  เขายิ้มใส่ตาของคนฟังที่เบิกโตขึ้นอย่างรอคอยโดยไม่รู้ตัว

อัยย์ทุบบึ้กเข้าที่ไหล่กว้างอย่างแรง  น้ำตาร่วงแหมะลงต้องผิวแก้ม  พิชช์ฌานแทบไม่ได้หยุดคิดเลยด้วยซ้ำตอนที่ชะโงกเข้าไปแตะริมฝีปาก ‘ชิม’ รสชาติของน้ำตาหยดนั้น  มันขมปร่าแต่ก็ติดหวานนิดๆที่ปลายลิ้น

อาคิราห์นั่งนิ่งขึงเหมือนถูกสาป  มองหน้าอีกฝ่ายอย่างตกใจ

นักการเมืองหนุ่มชะงัก  ปล่อยมือออกจากดวงหน้าเรียวหวาน

“ดึกมากแล้ว  เธอควรไปนอน”  เขาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่คล้ายจะได้ยินเสียงหัวใจของใครสักคนเต้นรัวแรง  “เลิกน้อยใจปลาบู่ด้วย  มัน..เทียบกัน ..ไม่ได้หรอก”  ประโยคหลังเขาพูดติดขัดเพราะอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจ  ลอบพิศดูผิวแก้มนวลเนียนสีน้ำผึ้งที่ตอนนี้อมชมพูด้วยเลือดฝาดนั้นอีกครั้ง  คราบน้ำตายังทิ้งอยู่เป็นทาง

“แล้วเมื่อไหร่...คุณจะขึ้นไปนอน”  คำพูดประโยคนั้นหลุดออกมาจากริมฝีปากแดงจัดด้วยเสียงเบาที่สุดแทบไม่ได้ยิน

คนพูดก้มหน้าลงต่ำจนเห็นแค่แพขนตายาวบดบังแววตา

พิชช์ฌานรู้สึกลมหายใจขาดไปห้วงหนึ่ง  เหมือนเขาลืมหายใจไปชั่วขณะ  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะที่ปลายคางของอาคิราห์

“เธอนอนไม่หลับเหรอ”

อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้าไปมาเมื่อนึกขึ้นได้

“เปล่า  ผมหิว”  อัยย์โกหก  เขาไม่ได้รู้สึกหิวเลยสักนิด  แต่ว่าเขารู้สึกไม่ปลอดภัยเลยที่จะตอบตามตรงเหมือนทุกที  ดวงตาคมกริบที่มองมานิ่งนั้นทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆเหมือนจะจับไข้  ยิ่งพอเขาตอบปัดๆส่งๆออกไป  แววยิ้มหัวก็ดูจะเพิ่มมากขึ้นจนเขาไม่กล้าสบตาคู่นั้นอีก

มันเหมือนกับ..กำลังโดนสัมผัสด้วยสายตาหรืออะไรทำนองนั้น

“เข้าใจล่ะ  วางแผนจะจับปลาของฉันมาทอดกินนี่เอง”  พิชช์ฌานพูดเสียงนุ่มกว่าปกติ  “ทำเป็นมาให้อาหาร  มิน่า...ก็ว่าพูดถึงปลาบ่อยจัง”

“ไม่ใช่เสียหน่อย”  อัยย์ตอบงึมงำ  รีบลุกขึ้นยืน  “ใครจะไปอยากกินปลากัน”

“จะไปไหนน่ะ”

“ก็จะไปนอนไง”

“รอเดี๋ยว  ..ฉันไปด้วย”  พิชช์ฌานบอก  ลุกขึ้นเดินไปปิดคอมพิวเตอร์แล้วไฟกลางห้องจนเรียบร้อย  อาคิราห์ยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานจนกระทั่งร่างสูงใหญ่ตามออกมา   “ไป...ขึ้นนอนได้แล้ว”  คนแก่กว่าพูดเนิบๆ  เอื้อมมือมาวางพาดเอาไว้บนไหล่บางอย่างถือวิสาสะ  อัยย์จุ๊ปากดันตัวออกไม่ยอมให้วางแขน

“นิ่งๆเหอะน่า  ตกบันไดลงไปทำไง”

“แขนคุณมันหนักเหมือนท่อนซุงเลย  ไม่รู้เหรอ”

“ขาเธอก็หนักพอกันนั่นแหละ  ชอบพาดเอวฉันตอนนอน”  พิชช์ฌานว่า  วาดแขนโอบรอบไหล่ของอีกฝ่ายเข้าหาตัวอีก  “ฉันไม่ใช่หมอนข้างนะ”

“ผมหลับอยู่”   อัยย์พูด  พยายามดันแขนอีกฝ่ายออกอีกรอบ  พิชช์ฌานเลยแกล้งล็อคคอเอาไว้เสียเลย  “โอ๊ย  ปล่อยผม”

“เล่นมุขหลับตลอด  คืนก่อนเอาศอกมากระทุ้งที่ท้องฉันด้วย”

“ก็คุณน่ะ....”  คนพูดร้องได้แค่นั้นแล้วก็เงียบไปเพราะไม่กล้าพูดต่อ  พิชช์ฌานอมยิ้มในความมืด  ยื่นหน้าเข้าไปถามจนชิด

“ฉันทำไม”

“คุณ...”  อาคิราห์หน้าร้อนผ่าวแล้วก็ตัดสินใจว่าจะไม่รื้อฟื้นเหตุการณ์ขึ้นมาอีก  เขารีบเปลี่ยนเรื่อง  “หมอเอาฉี่ผมไปตรวจแล้วได้ผลว่ายังไงบ้าง  ยังต้องกินยาอีกไหม”

คนตัวสูงเงียบไปครู่ใหญ่

“ยังต้องกินยาอยู่  เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอายามาให้”  พิชช์ฌานพูดเสียงเรียบ

“ติดเชื้อเยอะเลยเหรอ”  อัยย์ถามต่อ  คนถูกถามนิ่งไปนิด

“อืม...เยอะเลย”

พิชช์ฌานเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง  มองตามหลังร่างโปร่งบางที่เดินต้วมเตี้ยมขึ้นไปนอนบนเตียงเรียบร้อย  พอหัวถึงหมอน  เปลือกตาของเจ้าโอเมก้าก็ชักจะหรี่ปรือ

“ไม่อยากกินยาแล้ว”  คนใกล้หลับพึมพำ

“มันจำเป็น”  พิชช์ฌานตอบกลับ

อัลฟ่าหนุ่มช่วยดึงผ้าห่มมาคลุมร่างให้จนถึงคอ  อาคิราห์ขยับตัวจนได้ที่สบายแล้วก็ผล็อยหลับไปอย่างง่ายๆ  เจ้าของห้องลุกขึ้นเดินวนเวียนอยู่นาน  สุดท้ายก็ไปยืนจ้องหน้าตัวเองในกระจกห้องน้ำ

ครุ่นคิดกลับไปกลับมาถึงอนาคตที่ยังไม่มาถึง

........................................................................................

 

 

            มาอัพแล้วค่า

            ใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ

            เรื่องนี้เราจะดำเนินเรื่องอย่างช้ามากเว่อ  แบบว่าไม่รีบ (แค่ท้องแล้วแค่นั้นเอ๊ง)5555555

            เจอกันตอนหน้านะคะ

            #ขอรักแค่คุณ

           

           

           

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
...


เอาไง เอาไง. พิชช์ฌานจะเอาไง

ถ้าอัยย์รู้แล้วจากไป พิษฌานจะทำอย่างไร

.………


 o22  o22  o22  o22  o22  o22  o22  o22



ออฟไลน์ Koduck

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้ามารอทุกวันครับ


เมื่อไหร่พระเอกของเรื่องจะออกมาครับ


 ทำไมยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบคุณญาน (ขอโทษนะครับ) แต่อ่านแล้วมันแบบ............... :angry2:
ยิ่งน้องน่าสงสารเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่ชอบคุณญานมากขึ้นไปอีก

แต่ก็รอตอนต่อไปนะครับ  :sad4:

ออฟไลน์ Yui_Panitakarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารอัยย์ เมื่อไหร่คุณญานจะบอกน้อง

ออฟไลน์ fdcjsy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pig4: :pig4: :pig4:
รออออออออทุกวันเลยยย

ออฟไลน์ pearlluv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอตอนต่อไปเลยฮะ สงสารน้องมากแงงง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารน้องมากๆเลย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณพิษคิดดี ๆ นะจะทำอะไรน่ะ ชีวิตแม่และเด็กเลยนะ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ม่าย  :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด