ภุชงค์เล่นแสง [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๔ (จบ) ๐๗.๐๗.๖๓ หน้า ๙
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภุชงค์เล่นแสง [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๔ (จบ) ๐๗.๐๗.๖๓ หน้า ๙  (อ่าน 48143 ครั้ง)

ออฟไลน์ yoyothaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณนักเขียนนะคะ ที่มาต่อให้ได้อ่านกันสมใจอย่างรวดเร็ว...ชอบมากค่ะ

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


ภุชงค์เล่นแสง ๐๘




"ลูกพระองค์กี่คนๆ ก็ไปผิดผีกันที่น้ำตกท้ายวังหลวง มันน่าปิดทิ้งเสียนี่กระไร ถึงขนาดให้คนไปสร้างกระท่อม หม่อมฉันว่ามิใช่เพียงแค่หลบฝนกระมังพระเจ้าค่ะ"เจ้าชมนาดตรัส พลางสะบัดพัดเร็วๆ คลายความร้อนอกร้อนใจ

"โถ่ เจ้าชมนาด ใจเย็นก่อนหนาน้อง"

"จักเย็นได้อย่างไรพระเจ้าค่ะ เจ้าภุชงค์ล่วงเกินเจ้าแสงทั้งๆ ที่ยังมิได้ตบแต่งเช่นนี้ จักให้น้องเย็นได้อย่างไร"

"เจ้าแสงจักได้ปลงใจตบแต่งกับลูกเราเร็วๆ อย่างไรเล่าเจ้า"

"เสด็จพี่ ทรงว่าเช่นนั้นได้อย่างไรพระเจ้าค่ะ"ค้อนพระภัสดาตาเขียว

"ใจเย็นๆ ก่อนหนาคนดี...อุ่นๆ"โอบร่างน้อยแนบอุระ เอาอกเอาใจ

"เพคะ ฝ่าบาท"

"ไปห้องเครื่องนำพระกายาหารว่างถวายพระชายาทีเถิด"

"เพคะ ฝ่าบาท"

"ใจเย็นก่อนหนาเจ้า"

"..."



.

.

.




วันรุ่งขึ้น เมื่อฟ้าสว่างดีแล้ว ขบวนเสด็จของเจ้านายจากภุมริกาก็เคลื่อนออกจากวังหลวงภุมริกา มีปลายทางที่วังหลวงศศิมณฑล องค์ภุมริน แลพระชายาชมนาดทรงประทับบนเกี้ยวตัวใหญ่ ถัดมาจึงเป็นเกี้ยวขององค์รัชทายาทภุชงค์ ปิดท้ายขบวนด้วยเกี้ยวของเจ้าน้อยแสงแรก บ่าวคนสนิททั้งสองของเจ้าแสงก็อยู่ในเกี้ยวกับคนเป็นนาย ยี่สุ่น แลชงโคนั่งปรนนิบัติคนเป็นนายแทบพระบาทขาว เจ้าน้อยทรงจับไข้ตั้งแต่กลับมาจากประพาสน้ำตกกับองค์รัชทายาท เพลาจักนั่ง จักยืนก็ขัดยอกไปหมด หากแต่ทรงตรัสว่าเพียงแค่ครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะพิษไข้

"ทรงใคร่อยากได้กระไรหรือไม่พระเจ้าค่ะเจ้าน้อย"ชงโคเอ่ยถามคนเป็นนายที่ประทับอิงหมอนขิด พลางบีบนวดปลีน่องเล็กคลายความเมื่อยขบให้ นัยน์เนตรงามหลับพริ้ม หัตถ์ข้างหนึ่งวางเท้าบนหมอนขิดสามเหลี่ยม อีกข้างยกยาหอมจ่อพระนาสิกพระองค์เอง

"หากมิสบายพระวรกาย ทรงรีบพวกหม่อมฉันเลยหนาพระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นว่าพลางสะบัดพัดจีนคลายร้อนให้คนเป็นนาย

"มิต้องกังวลไปดอก ข้ามิเป็นกระไร ขอบใจพวกเจ้ามากหนา"

"มิได้พระเจ้าค่ะ"

"มิได้พระเจ้าค่ะ"

"..."เจ้าแสงสรวลบางๆ ให้บ่าวคนสนิททั้งสอง ก่อนจักหลับเนตร แลเคลิ้มหลับไป



.

.

.




ขบวนเสด็จค่อยๆ หยุดลงก่อนที่พระวิสูตรในเกี้ยวของเจ้าแสงจักถูกเปิดออกด้วยพระหัตถ์ขององค์ภุชงค์ ทรงทอดพระเนตรน้องน้อยที่หลับซบพระเขนยแล้วสรวลบางๆ

"เจ้าบ่าวรัก ยม เจ้าสองคนไปพักเถิด ประเดี๋ยวข้าจักพาเจ้าแสงเข้ากระโจมเอง"ทรงตรัส ยี่สุ่น แลชงโคหน้างอเหตุใดไฉนเลยใครๆ ก็เรียกข้าสองคนว่ารัก ยม พวกข้าหาใช่รัก ยมไม่!!

"หากแต่..."

"ข้ามิใคร่ปลุกเจ้าแสง แลพวกเจ้าสองคนก็คงอุ้มเจ้าแสงไปที่กระโจมมิไหวดอกกระมัง"

"...พระเจ้าค่ะ"ตอบเสียงอ่อย

"พระเจ้าค่ะ"หมอบกราบองค์รัชทายาท แลหมอบคลานออกจากเกี้ยวไป





เมื่อบ่าวคนสนิททั้งสองของน้องน้อยออกไปจากเกี้ยวแล้ว องค์ภุชงค์ก็ผินพักตร์กลับไปให้ความสนพระทัยกับคู่หมายที่หลับพริ้มมิรู้เรื่อง รู้ราว องคุลียาวไล้แผ่วเบาไปตามปรางเนียนผ่อง ทรงช้อนร่างบางของเจ้าแสงขึ้นแนบพระอุระ ทรงอุ้มน้องน้อยไปส่งที่กระโจมที่พัก

"เจ้าสองคนไปเตรียมขนม น้ำชามาให้เจ้าแสงไป ประเดี๋ยวนายเจ้าตื่นขึ้นมาจักได้มีกระไรรองท้อง"

"เยี่ยงนั้นหม่อมฉันจักอยู่เฝ้าเจ้าน้อย แลให้ยี่สุ่นไปเตรียมพระกายาหารว่างให้เจ้าน้อยพระเจ้าค่ะ"

"พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันจักไปเตรียมสำรับ แลให้ยี่สุ่นอย..."

"ไปทั้งคู่นั่นแล ข้าจักอยู่กับเจ้าแสงเอง"

"..."

"..."

"จักให้ข้าบอกเจ้าแสงหรือไม่ว่าเจ้าสองคนขัดคำสั่งข้า"

"ไปแล้วพระเจ้าค่ะ"

"พระเจ้าค่ะ"





ลับหลังบ่าวทั้งสององค์ภุชงค์ก็วางน้องลงบนพระยี่ภู่บนแคร่ที่ใช้แทนพระแท่นบรรทม คลี่ผ้าคลุมพระองค์ห่มให้ หากแต่เจ้าแสงกลับขยับกาย แลลืมเนตรขึ้น

"พี่ทำเจ้าตื่นหรือเจ้าแสง"ตรัสพระสุรเสียงอ่อน

"ฝ่าบาท ที่นี่..."

"ที่นี่กระโจมที่พัก พี่อุ้มเจ้าลงมาจากเกี้ยว"

"ตายจริง เหตุใดจึงมิปลุกหม่อมฉันเล่าพระเจ้าค่ะ"

"หึหึหึ มิเป็นไรดอก แลเป็นเยี่ยงไรบ้าง หืม ยังเจ็บยังปวดที่ใดอยู่อีกหรือไม่ บอกพี่เถิด"

"มิเจ็บ มิปวดแล้วพระเจ้าค่ะ มีเพียงอาการเคล็ดขัดยอกเล็กน้อยเท่านั้น"เจ้าแสงตรัสแล้วขยับเศียรจากพระเขนย ไปซบลงบนพระเพลาองค์ภุชงค์

"หึหึหึ อ้อนเยี่ยงนี้จักเอากระไรเจ้า"ทรงลูบเกศาเจ้าแสงอย่างเอ็นดู หลังจากที่มีกระไรกันที่น้ำตกคืนก่อนเจ้าแสงก็ดูเปิดพระทัยให้องค์ภุชงค์ แลออดอ้อนราวคนละคน หากแต่ก็เป็นเพียงแค่ตอนอยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น ต่อหน้าคนอื่นเจ้าแสงก็วางตัวราวเช่นแต่ก่อน

"หามิได้พระเจ้าค่ะ"

"..."ทรงแย้มสรวล แลโน้มพักตร์ลงแตะพระนาสิกกับปรางเจ้าแสงแรก ทรงตกหลุมรักเจ้าแสงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถอนพระองค์มิขึ้นแล้ว



.

.

.



เมื่อบ่าวทั้งสองกลับมาที่กระโจม องค์ภุชงค์จึงได้เสด็จไปทรงพักผ่อนที่กระโจมของพระองค์ เจ้าแสงเสวยพระกายาหารว่างที่บ่าวทั้งสองนำมาถวาย นั่งคุยเล่นกับบ่าวคนสนิทได้ครู่ใหญ่ บ่าวทั้งสองจึงได้ทูลขอให้ไปสรงน้ำก่อนที่จักมืดค่ำเสียก่อน

"เจ้าน้อย พระเจ้าค่ะ"

"หืม"

"ทรงไปสรงน้ำกันก่อนดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักค่ำมืดเสียก่อน"ยี่สุ่นว่า

"ก็ได้เจ้า"เจ้าแสงพยักพักตร์เห็นด้วย





หนึ่งนาย สองบ่าวผลัดผ้านุ่งเอาผ้าคลุมไหล่พันกายมิดชิด ก่อนจักพากันไปที่ลำธารด้านหลังกระโจม ยี่สุ่น แลชงโคถือตะเกียงคนละดวงขนาบข้างเจ้าแสงไปตามทาง บ่าวทั้งสองคนช่วยกันขึงผ้ากับต้นไม้บดบังนายตนจากสายตาผู้อื่นเช่นที่เคยทำ

“...”เจ้าแสงปลดผ้าคลุมไหล่ออกเผยให้เห็นลาดไหล่เนียน บ่าวทั้งสองก็เช่นกัน ทั้งสามพากันลงน้ำ ยี่สุ่น แลชงโคช่วยกันถูล้างคราบไคลตามพระวรกายขาว อีกทั้งยังใช้ผลมะกรูดสางพระเกศาให้สะอาดหมดจด ปรนนิบัติคนเป็นนายก่อนจึงจักค่อยจัดการตนเอง





ป๊อก 





เปลือกลูกไม้ถูกปามาโดนอังสาบางของเจ้าน้อยการเวก ในตอนที่บ่าวทั้งสองละสายตาจากผู้เป็นนาย ผู้ใดกันช่างบังอาจ เจ้าแสงกวาดเนตรมอง ก่อนจักเห็น​พระวรกายสูงใหญ่คุ้นตาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่มิไกลจากริมลำธาร จึงได้ผินพักตร์กลับมาแสร้งทำมิรู้มิชี้

“ข้าอาบแล้วแล้ว จักขึ้นไปรอตรงโขดหินตรงนั้น พวกเจ้าก็รีบอาบเถิด ประเดี๋ยวจักป่วยไข้เอา”เจ้าแสงตรัสพลางกระชับผ้านุ่งมัดปมให้แน่น พระวรกายบางขึ้นจากน้ำ

“เจ้าน้อยจักขึ้นแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”

“อื้ม”

“พระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่น แลชงโครับคำ แลรีบจัดการกับตนเอง เจ้าแสงเห็นดังนั้นก็รีบสาวเท้าไปที่หลังต้นไม้ใหญ่ที่ว่า เมื่อเข้าไปใกล้​​ก็ถูกพระกรแกร่งรวบกายเข้าไปกอด

​"ฝ่าบาท"เจ้าแสงพลิกกายไปประจันหน้ากับผู้บุกรุก องค์ภุชงค์เปลือยท่อนบนเผยพระอุระกว้าง ทรงนุ่งเพียงผ้าโจงสีดำเขม่า

"อาบน้ำแล้วหรือเจ้า หอมนัก"

"..."เจ้าแสงก้มพักตร์เอียงอาย

"ขอพี่จูบ ขอพี่หอมให้ชื่นใจหน่อยได้หรือไม่เจ้า"ตรัส หากแต่มิรอฟังคำตอบ ทรงกดพระโอษฐ์อุ่นลงบนลาดอังสะเย็น แตะไล้ไปจนถึงซอกศอขาว

"อื้อ ฝ่าบาท"เจ้าแสงผวาเกาะพระอุระแน่น นชาเล็กจิกลงบนฉวีขาวจนเกิดรอยนชาเล็กๆ พักตร์งามเงยเชิดให้อีกคนพรมจูบได้ถนัดถนี่ขึ้น

"อื้ม"พระโอษฐ์อุ่นเบียดแนบกับกลีบโอษฐ์นิ่ม เคล้าคลึงหยอกเย้าปลายชิวหา หัตถ์ใหญ่ประคองพักตร์งามให้เอียงรับจูบหวานๆ จากพระองค์

"อึก อื้อ"เจ้าแสงยกกรโอฐรอบพระศอองค์ภุชงค์ ในขณะที่องค์ภุชงค์กกกอดรอบกฤษฎีบางผ่านผ้านุ่งเปียกชื้น หากแต่ก็ชื่นใจกันได้มินานเจ้าบ่าวรัก ยมก็อาบน้ำแล้วแล้ว

"เจ้าน้อย"

"เจ้าน้อย อยู่ที่ใดพระเจ้าค่ะ"

"เจ้าน้อย ทรงอยู่แถวนี้หรือไม่พระเจ้าค่ะ"

"เจ้าน้อยแสงแรก"





เสียงเรียกของบ่าวทั้งสองทำเอาเจ้านายทั้งสองผละออกจากกันราวกับต้องไฟ เจ้าแสงรีบผลักอุระกว้างออก หัตถ์เล็กสางเกศาตนให้เรียบร้อย ขยับผ้านุ่งให้เข้าที่เข้าทาง

"ฝ ฝ่าบาท หม่อมฉันต้องไปแล้วหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัส

"จ้ะ ฟอดดด"มิวายโน้มพักตร์ไปหอมปรางนิ่มฟอดใหญ่

"อื้อ ฝ่าบาท"เจ้าแสงรีบผลักองค์ภุชงค์ให้หลบหลังต้นไม้ใหญ่ ก่อนจักออกไปหาบ่าวทั้งสอง

"ข ข้าอยู่นี่"

"ทรงไปทำกระไรตรงนั้นหรือพระเจ้าค่ะ"

"ข ข้า...ข้าก็เดินมาเรื่อยๆ มิมีกระไร"

"เยี่ยงนั้นกลับกระโจมกันเถิดพระเจา้ค่ะ ประเดี๋ยวไข้จักกลับ"

"จ้ะ รีบไปเถิด ข้าก็เริ่มหนาวแล้ว"เจ้าแสงตรัส แลเหลือบมองหลังต้นไม้ใหญ่ที่มีใครอีกคนหลบอยู่

"พระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นว่าก่อนจักเอาผ้าคลุมอังสะ คลุมอังสาให้คนเป็นนาย



.

.

.





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2019 22:02:53 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เจอฝนลูกใหญ่เลยเพคะ555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยังไม่ได้แต่งกันเลยนะ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ขำเจ้ารัก-เจ้ายมประจำตัวเจ้าน้อย ต้องจัดหาคู่ให้ทั้งสองนางเลยจะได้ไม่มาขัดจังหวะอีก  :m20:  :pig4:

ออฟไลน์ ข้าวสวย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แหมจ้า
เชื่อแล้วว่าถอนตัวไม่ขึ้น :hao3:

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


ภุชงค์เล่นแสง ตอนที่ ๐๘  ครึ่งหลัง


.

.

.





“เจ้าภุชงค์”พระชายาชมนาดตรัสเรียกโอรสองค์โต เพลานี้เจ้านายทั้งสี่กำลังรับพระกายาหารค่ำอยู่ที่ลานกว้างหน้ากระโจมที่ประทับ ใกล้กับกองไฟ เจ้าภุชงค์ของเจ้าชมนาดประทับรับสำรับข้างเจ้าน้อยแสงแรก หากแต่ทรงประทับแนบชิดเบียดเจ้าแสงแรกจนแทบจักกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่”

“ไยจึงไปนั่งเบียดน้องเช่นนั้นเล่าลูก ขยับออกมาหน่อยเถิด ประเดี๋ยวน้องจักอึดอัดเอา”

“พ่ะย่ะค่ะ”ยอมขยับออกมา หากแต่ก็ยังแนบชิดเนื้อแนบเนื้อ

“...”เจ้าชมนาดเหลือบเนตรสบกับพระเนตรองค์ภุมริน ยามพระองค์เลื่อนพระหัตถ์มาแตะที่หลังกฤษฎีบางแผ่วเบา อาการของโอรสพระองค์ทรงออกชัดเจนตั้งแต่กลับมาจากกระท่อมที่น้ำตกท้ายวังหลวง มีพิรุธเช่นนี้ยังจักคิดโป้ปดมารดาเจ้าอีกหรือ เจ้านาคน้อย!!!

“ใจเย็นก่อนเถิดหนาเจ้าชมนาด ประเดี๋ยวกลับจากเยี่ยมหลานแล้ว ค่อยจัดการก็ยังมิสายดอก”องค์ภุมรินทรงตรัสกระซิบริมกรรณขาวของเมีย

“...พระเจ้าค่ะ”ก็ขอให้มิสายไปดังที่พระองค์ตรัสก็แล้วกันหนาพระเจ้าค่ะ

“เจ้าแสง”

“พระเจ้าค่ะ ฝ่าบาท”ผินพักตร์ไปหาพระสวามีที่ตรัสเรียกพระสุรเสียงเบา

“ประเดี๋ยวกินแล้วแล้ว ไปเดินเล่นแถวนี้หน่อยดีหรือไม่เจ้า” “...พระเจ้าค่ะ”

แลเมื่อเจ้านายทั้งสี่รับสำรับพระกายาหารค่ำแล้วแล้ว องค์ภุมริน แลพระชายาชมนาดก็เข้าพักผ่อนในกระโจมที่พัก ส่วนองค์ภุชงค์ แลเจ้าน้อยแสงแรกก็ทรงดำเนินเล่นรอบๆ โดยมีองรักษ์คนสนิทอย่างเจ้าขันธ์ตามห่างๆ บ่าวยี่สุ่น แลชงโคถูกองค์ภุชงค์สั่งให้เตรียมที่หลับที่นอนรอเจ้าแสงอยู่ที่กระโจมที่พัก หาได้ตามมาด้วยไม่

“ฝ่าบาท”เจ้าแสงร้องค้าน หัตถ์เล็กยกดันอุระกว้างไว้ เมื่อถูกดันกายแนบกับต้นไม้ใหญ่

“จ๋า เมื่อเย็นพี่ยังชื่นใจเจ้าได้มิเต็มปอดเลยหนา”

“อย่าพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักมีใครมาเห็นเข้า”

“มิมีใครมาดอก พี่ให้เจ้าขันธ์มันเฝ้าไว้แล้ว”ตรัส แลรวบกฤษฎีบางมากอดเต็มวงพระกร พระพักตรซุกไซ้ซอกศอขาว หอมกรุ่นของเจ้าแสง ทิ้งรอยสัมผัสร้อนผ่าวบนฉวีนุ่มหยุ่น พระกรข้างหนึ่งกอดรัดกฤษฎีบาง อีกข้างวางทาบเคล้นคลึงอกแบนราบ องคุลีบีบบี้ยอดอกที่ชูชันดันเนื้อผ้าจนนูนขึ้นมา

“อื้อ ฝ่าบาท”เจ้าแสงไล่ตะครุบหัตถ์ใหญ่ที่ขย้ำขยี้อกตน เมื่อจับข้างที่บีบเคล้นอกตนออก อีกข้างก็ขย้ำคลึงโสณีอิ่ม เมื่อปัดหัตถ์ที่คลึงโสณีตนออก อีกข้างก็วกกลับมาที่อกแบนจนเจ้าแสงอ่อนใจ

“ฝ ฝ่าบาท พ พอแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงร้องปราม หากแต่ก็เผลอครางเครือกระเส่า

“คืนนี้พี่จักไปหาหนาเจ้า”ตรัสทั้งๆ ที่ยังซุกพักตร์กับซอกศอขาวของน้อง

“ฝ ฝ่าบาท จักมาไอย่างไรพระเจ้าค่ะ ในกระโจมหม่อมฉันมีทั้งยี่สุ่น ทั้งชงโค”เจ้าแสงตรัสอย่างตื่นตระหนก มิเพียงแค่ตรัส จักต้องทรงทำจริงเป็นแน่

“เยี่ยงนั้น พี่จักไปรับเจ้ามาที่กระโจมพี่แทน”

“มิได้พระเจ้าค่ะ หากทำเช่นนั้นจักต้องมีผู้พบเห็นเป็นแน่”

“มิต้องกังวลไปดอกเจ้า”

“...”

จุ๊บ

“รอพี่หนาคนดี คืนนี้พี่จักไปหา”แตะโอษฐ์จุมพิตน้อง แลตรัสให้คำมั่นว่าคืนนี้จักต้องได้อยู่ด้วยกัน

“ฝ ฝ่าบาท”

ฟอด

หาได้ฟังไม่กอดหอมดอมดมฉวีนิ่มมิห่าง เวียนจูบเสียจนผิวน้องช้ำระเรื่อ เจ้าแสงคล้องกรตนกับพระศอแกร่ง ยินยอมให้องค์รัชทายาทเชยชมกายตน

“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงระทดระทวยอยู่ในอ้อมพระกร

“หืม”ดอมดมปรางนุ่ม

“พ พอก่อนพระเจ้าค่ะ หายมานานแล้ว ประเดี๋ยวจักมีคนสงสัยเอาได้”

“จ้ะ”กดจูบผิวนิ่มซ้ำๆ ก่อนจักผละออก หากเป็นไปได้ทรงใคร่อยากกอดหอมเจ้าแสงตลอดเพลา จักมิปล่อยเนื้อนวลให้ห่างกายเลยเทียว

“ก กลับกระโจมกัยเถิดพระเจ้าค่ะ”

ทั้งสองพระองค์จับจูงกันกลับมาที่กระโจมที่พัก องค์ภุชงค์ทรงมาส่งเจ้าน้อยแสงแรกที่กระโจมที่พัก บ่าวยี่สุ่น แลชงโครีบมารับนายตนกลับเข้ากระโจม เจ้าแสงเมื่อกลับเข้ามาในกระโจมที่พักก็ให้บ่าวคนสนิท ล้างหัตถ์ แลบาทให้ ก่อนจักพากันสวดมนต์ก่อนนอน เมื่อสวดมนต์แล้วแล้วบ่าวทั้งสองก็พาคนเป็นนายนอนลงบนพระยี่ภู่ที่ตระเตรียมไว้ ห่มผ้าคลุมพระองคให้ถึงอุระบาง

“นอนเถิดยี่สุ่น ชงโค”

“พระเจ้าค่ะ”

“พระเจ้าค่ะ”

หนึ่งนาย สองบ่าวเข้าสู่ห้วงนิทรา ผ่านไปค่อนคืน ผู้บุกรุกสูงศักดิ์ก็พาพระวรกายสูงใหญ่เข้ามาในกระโจมที่พักของเจ้าน้อยการเวก ทรงก้าวข้ามบ่าวทั้งสองที่นอนอยู่ข้างพระแท่นบรรทมของน้องน้อย

“อื้อ ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงลืมเนตรตื่นมาด้วยความตกพระทัย เมื่อรู้สึกได้ว่าถูกช้อนกายขึ้นแนบพระอุระกว้าง

“ชู่ววว พี่บอกแล้วอย่างไรว่าคืนนี้พี่จักมารับเจ้าไปนอนด้วย”

“...”เจ้าแสงแรกตรัสมิออก ทำได้เพียงยกกรขึ้นคล้องพระศอแกร่ง

“...”องค์ภุชงค์แตะพระนาสิกลงบนนลาฏขาว แลออกแรงอุ้มเจ้าแสงออกจากกระโจมที่พัก ไปยังกระโจมที่ประทับของตน

ลับหลังเจ้านายทั้งสอง บ่าวยี่สุ่น แลชงโคที่หลับตาพริ้มอยู่ในห้วงนิทราก็ลืมตาโพลง นิ้วเล็กสะกิดกันไปมา องค์ภุชงค์ทรงลักพาเจ้าน้อยแสงแรกออกจากกระโจมที่พักไปอย่างอุกอาจกลางค่ำกลางคืน

“จักทำอย่างไรดีชงโค”

“เราทำกระไรได้ด้วยหรือยี่สุ่น”

“หากแต่ทรงลักพาตัวเจ้าน้อยไปกลางค่ำกลางคืน เช่นนี้...“

“...ข ข้าก็มิอยากจักคิดเช่นนี้”

“...” “หากแต่ เจ้ามิเห็นอาการของเจ้าน้อยหรือ”

“...” “...จ เจ้าคิดว่า คืนนั้นทรงหลบฝนเพียงอย่างเดียวหรือยี่สุ่น”

“...”

“...”

“ฮือออ เจ้าน้อย”

“ฮึก เจ้าน้อย”



.

.

.




องค์ภุชงค์ทรงอุ้มเจ้าน้อยแสงแรกกลับมาที่กระโจมที่พักของพระองค์เอง เจ้าแสงเหลือบเนตรมองรอบๆ ระหว่างที่ทรงอุ้มตนไปที่กระโจมที่ประทับ องครักษ์ แลทหารยามที่ประทับตามจุดต่างๆ รอบที่ประทับต่างคุกเข่าก้มหน้าชิดอก มิมีผู้ใดกล้าเงยหน้าขึ้นมองสักคน

“มิต้องกังวล พี่มิให้พวกมันได้ยลโฉมเจ้าดอก”ก้มพักตร์ลงมาตรัสกับน้องน้อยในอ้อมพระกร

“...”เจ้าแสงซบพักตร์กับอุระกว้าง หลบสายพระเนตรที่มองมา ทรงดำเนินเข้ามาในกระโจมที่ประทับ โดยมีองครักษ์คนสนิทเปิด แลปิดกระโจมให้ แต่กระนั้นพ่อขันธ์ก็หาได้เงยหน้ามองเจ้านายทั้งคู่ไม่

องค์ภุชงค์ทรงวางเจ้าน้อยแสงแรกลงบนพระยี่ภู่ แลทาบทับพระวรกายตามลงไป พระกรแกร่งกกกอดน้องน้อไว้ในอ้อมอุระ พระนาสิกแตะหอมพักตร์งามตั้งแต่ขมับขาว ลงมาที่ปรางนุ่ม แลโอษฐ์นิ่ม ขบเม้มกลีบโอษฐ์น้องดูดดึงจนโอษฐ์บางบวมช้ำ หัตถ์ใหญ่คลี่ปมผ้าแถบสีขาวให้คลายออก เผยฉวีขาวราวมะพร้าวกะทิ แลจุกนมสีทับทิมล่อให้องค์ภุชงค์ก้มพักตร์ลงไปฉกชิวหาตวัดเลีย

“ฝ ฝ่าบาท อื้อ”เจ้าแสงกลั้นสุรเสียงหวาน มิกล้าเสียงดังกลัวว่าผู้คนนอกกระโจมจักรู้ว่าทรงทำกระไรกัน

“หือ...”ทรงปลดเปลื้องผ้าโจงของเจ้าแสง คลี่ออกเป็นซิ่น จับเรียวขาเล็กแยกออกชันตั้งฉากกับพระยี่ภู่ เลิกผ้าโจงให้ไปกองอยู่ที่กฤษฎีบาง ทรงขยับพระวรกายแทรกตรงกลางขาเรียว โน้มพระวรกายคร่อมร่างบอบบางไว้

“อ่ะ อือ”เจ้าแสงยกหัตถ์ขึ้นปิดโอษฐ์กลั้นเสียงร้อง

“ปลดผ้าโจงให้พี่ทีเจ้า”กระซิบ พลางเลียขอบกรรณขาว ดูดดุนผิวอ่อนจนแดงระเรื่อ เจ้าแสงเลื่อนหัตถ์ไปคลายปมผ้าโจงขององค์ภุชงค์ เผยให้เห็นนาคยักษ์ชูคอข่มกลีบแก้วของเจ้าแสง หัตถ์บางแตะลงบนส่วนร้อนผ่าวลูบไล้ไปมาราวกับจักปลอบให้มันสงบ หากแต่นั่นยิ่งทำให้มันโกรธเกรี้ยวผงกคอพร้อมจักพ่นพิษรินรดใส่กลีบแก้วของเจ้าแสง  ปลายองคุลีลูบไล้โจนจ้วงใส่กลีบแก้วสีระเรื่อให้พร้อมรองรับนาคยักษ์เกเร

“อ๊าาา”เจ้าแสงรีบตะครุบโอษฐ์ตน ยามที่องค์ภุชงค์ดันกายเข้มาในกลีบแก้วของตนจนสะท้านเฮือก ทรงคว้าเรียวขาของเจ้าแสงแรกไปเกาะเกี่ยวพระโสณีสอบ ขยับไสพระวรกายเข้าหาร่างนุ่มนิ่มจนสั่นโยน เงาสองร่างกอดรัดสาดส่องอยู่บนผ้ากระโจมไหวโยกล้อเปลียวเทียน ทั่วทั้งกายเจ้าแสงมิมีตรงไหนที่มิถูกชิวหาร้อนปาดเลีย จุกนมถูกดูดดึงจนแดงช้ำ บวมเป่ง พอๆ กับโอษฐ์นิ่มที่ถูกบดจูบคลึงเคล้ามิว่างเว้น เจ้าแสงโอบรอบพระศอแน่น เชิดพักตร์ครางเครือเสียงแผ่ว พักตร์งามเหยเกทรมานปนรัญจวน ยามถูกนาคายักษ์กระทุ้งรังแก ใคร่อยากกรีดร้องครางเครือให้สุดเสียง หากแต่ทำได้เพียงครางเครือเสียงกระเส่าในลำพระศอเท่านั้น กลีบแก้วถูกนาคายักษ์รังแกจนชอกช้ำ มินานนาคาเกเรก็พ่นพิษสาดรดใส่กลีบดอกแก้วช้ำ

“อืม”องค์ภุชงค์กัดพระทนต์แน่น หัตถ์ดึงกฤษฎีบางของคนที่อยู่ใต้พระวรกายเข้าหาตัว สาดพิษร้อนใส่น้องน้อยจนเจ้าแสงสะท้านสั่นไปทั้งตัว ผ้าโจงที่นุ่งกองยับยู่อยู่บนอุทรขาว

“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงตรัส แลประคองปรางขององค์ภุชงค์ไว้

“หือ”เอียงพักตร์จูบลงบนหัตถ์เล็ก

“ค ครั้งเดียวหนาพระเจ้าค่ะ หม หม่อมฉันมิไหวแล้ว”ตรัสสุรเสียงสั่น

“...”มิตรัสตอบ นัยน์เนตรยังคงทอประกายไฟรักให้เจ้าแสงผวา

“ห หนาพระเจ้าค่ะ”ออดอ้อน ซบพักตร์กับอุระชื้นเสโท

“...”

“...”

“...จ้ะ”ยอมให้แต่โดยดี สะกดกลั้นกามารมณ์ที่คุกรุ่น ถอนนาคายักษ์ออกจากกลีบแก้ว พิษนาคไหลย้อนเปรอะพระยี่ภู่จนเจ้าแสงพักตร์ม้าน

















ออฟไลน์ ข้าวสวย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กลับมาอัพถี่ๆแบบนี่น่ารักจังค่ะ
ตามมาตั้งแต่เรื่องเจ้าชมนาดจ๋าแล้ววววว

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ภุชงงงงงงงงงค์ กลางป่ากลางเขา พ่อแม่ก็มาด้วย ใจเย็นก๊อนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขุ่นแม่ทำยังไงดีคะ  :hao3:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตลกบ่าวรักยมมม หวงเจ้าแสงมาก น่าหาคู่ให้จริงๆ น่ารักดี อิอิ
เจ้าแสงยอมแล้วเอาใหญ่เลยนะท่านภุชงค์  :hao7: จักตบแต่งได้แล้วหนา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เดี๋ยวก็ท้องก่อนแต่งหรอก

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ภุชงค์เล่นแสง ๐๙


เมื่อรุ่งสางยามฟ้าสว่าง ควันสีขาวขุ่นจากกองไฟที่จุดเมื่อราตรีที่ผ่านมา ดวงสุริยาลอยต่ำอยู่ที่เชิงเขา องค์ภุชงค์ก็อุ้มน้องน้อยกลับมาส่งที่กระโจม บ่าวคนสนิททั้งสองของเจ้าแสงนอนกอดกันแน่นมรู้เรื่องรู้ราว เจ้าแสงถูกวางลงบนพระยี่ภู่แผ่วเบา หัตถ์เล้กคว้าผ้าคลุมพระองค์ขึ้นห่มถึงอุระตน

“พี่ไปก่อนหนาเจ้า”ตรัส แลแตะพระนาสิกกับบลาฎขาว

“พระเจ้าค่ะ”



เมื่อองค์รัชทายาทเสด็จออกจากกระโจมไป เจ้าแสงก็หลับเนตรลงเข้าสู่ห้วงนิทรา ราตรีที่ผ่านมาแม้นจักถูกรังแกเพียงครั้งเดียว หากแต่การนอนให้องค์รัชทายาทหนุ่มกกกอดเวียนจูบก็หาทำให้เจ้าแสงหลับลงไม่ เมื่อได้กลับมาที่รกะโจมตนจึงบรรทมไปด้วยความอ่อนเพลีย จวบจนตะวันสาดแสงสีทอง บ่าวทั้งสองตื่นขึ้น หากแต่ลังเลอยู่ว่าจักปลุกคนเป็นนายเช่นไรดี

“ปลุกเจ้น้อยเถิดชงโค ประเดี๋ยวจักสายเอา นี่ก็ใกล้จักได้เพลารับพระกายาหารเช้าแล้ว”

“อ อืม”ชงพยักหน้ารับ แลคลานเข่าเข้าไปปลุกคนเป้นนาย

“เจ้าน้อย”

“...”

“เจ้าน้อยพระเจ้าค่ะ”

“อ อือ”

“ตื่นได้แล้วพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยจักไปรับพระกายาหารเช้ามิทันหนาพระเจ้าค่ะ”

“อ อืม”เจ้าแสงค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นโดยมีบ่าวทั้งสองช่วยประคอง

“ทรงล้างพักตร์ก่อนหนาพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นยกอ่างน้ำลอยดอกแก้วมาถวายคนเป้นนาย

“ข้าใคร่อยากอาบน้ำ”

“เช้าๆ เยี่ยงนี้อากาศหนาวเย็น จักดีหรือพระเจ้าค่ะ”

“อ อืม ข้าเหนียวตัว ใคร่อยากล้างคราบไคล พวกเจ้าไปเตรียมข้าว เตรียมของเถิด”

“พระเจ้าค่ะ”



เมื่อเตรียมข้าวของแล้วแล้ว นายบ่าวทั้งสามก็พากันไปที่ลำธาร ยี่สุ่น แลชงโคขึงผ้ากั้นให้คนเป็นนาย เตรียมจักลงน้ำไปปรนนิบัติเช่นเคยหากแต่ก็ถูกปฏิเสธ

“พวกเจ้ามิต้องลงดอก ข้าจักลงไปคนเดียว”

“หากแต่...”

“อยู่บนฝั่งรอนี่แล”

“พระเจ้าค่ะ”

“พระเจ้าค่ะ”




เมื่อขัดคนเป้นนายมิได้ ก็จำต้องรออยู่บนฝั่ง เจ้าแสงก้าวลงน้ำเย็นเฉียบอย่างพระทัยเย็น กวาดเนตรซ้าย แลขวาเมื่อมิมีผู้ใดก็สอดหัตถ์เข้าใต้ผ้านุ่ง แตะองคุลีล้วงเข้าไปในกลีบแก้วของตน

“อึก อือ”ล้วงควานเอาพิษนาคที่หลงเหลืออยู่ออก ครางเครือเสียงแผ่วเมื่อความแสบสันมาเยือน เมื่อล้วงออกจนสะอาดหมดจดแล้ว จึงได้ขึ้นจากน้ำ


.
.
.


เจ้าแสง แลบ่าวคนสนิททั้งสองรีบเร่งดำเนินมาที่ลานกลาง เมื่อเจ้านายอีกสามพระองค์ทรงประทับรอเพื่อรับพระกายาหารเช้า เมื่อมาถึงก็หมอบกราบขอประทานอภัย

“กราบขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันชักช้านัก”

“มิเป็นไรดอก มาแล้วก็มากินข้าว กินปลาเถิดเจ้า”องค์ภุมรินตรัสอย่างมิถือสา หาความ

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”



เจ้านายทั้งสี่เมื่อรับพระกายาหารเช้าแล้วแล้ว ขบวนเสด็จก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่วังหลวงศศิมณฑลต่อทันที ขบวนเสด็จเคลื่อนไปตามแนวป่าจวบจนเย็นย่ำก็มาถึงหน้าวังหลวงศศิมณฑล

“ถวายพระพรพระเจ้าค่ะองค์ภุมริน เจ้าชมนาด”พระมารดาศศิธรตรัสพลางแย้มสรวลอย่างยินดีที่เจ้านายจากภุมริกามาเยือน

“ถวายพระพรพระเจ้าค่ะ เสด็จพี่ศศิธร”

“มาเหนื่อยๆ ทรงเสด็จไปพักผ่อนที่ตำหนักรับรองก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ...เอ๊ะ แลนั่นผู้ใดกันหรือพระเจ้าค่ะ”ตรัสถามเมื่อทอดพระเนตรเห็นเจ้าแสงแรกที่อยู่หลังองค์ภุชงค์

“อ่อ นี่เจ้าน้อยแสงแรก เจ้าน้อยแคว้นการเวก คู่หมายเจ้าภุชงค์”

“เอ๊ะ”พระมารดาศศิธรมีสีพระพักตร์เคลือบแคลงพระทัย การเวกหรือจักผูกมิตรเป็นทองแผ่นเดียวกับภุมริกา

“หึหึหึ ประเดี๋ยว หม่อมฉันจักเล่าให้ฟังหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดกระซิบบอก

“อ๊ะ..พระเจ้าค่ะ”

“ข้าใคร่เห็นหน้าเจ้าบัว แลหลานเสียแล้วสิ”องค์ภุมรินตรัส

“เจ้าบัวงาม เพลานี้กำลังให้นมลูกอยู่ที่ตำหนักหลวงพ่ะย่ะค่ะ หากแล้วแล้วหม่อมฉันจักพาลูก แลเมียไปเข้าเฝ้าที่ตำหนักหลวงพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ”องค์จันทร์กราบทูลพระสัสสุระ

“อืม”



.
.
.



ทางด้านเจ้าบัวงาม เมื่อให้นมลูกแล้วแล้วก็รีบเสด็จไปที่ตำหนักรับรองทันที โดยมีองค์จันทร์กระเตงลูกตามมามิห่าง เจ้าบัวงามยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ ดีพระทัยที่บิดา มารดา แลเชษฐาเสด็จมาเยี่ยมเยือน

“ค่อยๆ เถิดเจ้าบัวงาม เพิ่งจักคลอดลูกหนาน้อง”องค์จันทร์ตรัสกับเมียที่แทบจักวิ่งไปที่ตำหนักรับรองอยู่แล้ว

“หม่อมฉันดีใจพระเจ้าค่ะ ใคร่อยากเจอเสด็พ่อ เสด็จแม่ไวๆ”

“กระนั้นก็เถิด ค่อยๆ เดิน”ตรัสพลางกระชับเจ้าพเยียในอ้อมกอดให้ซบอุระอุ่น

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามตรัสพลางดำเนินมาเกาะพระกรแกร่งของพระภัสดา

“หึหึหึ”

“เสด็จพ่อ”เจ้าบัวงามโผเข้ากอดบิดาด้วยความคิดถึง

“เจ้าบัวงามลูกพ่อ”องค์ภุมรินกอดหอมลูกอย่างรักใคร่

“เสด็จแม่”ผละออกจากอ้อมอุระบิดา แลโผเข้ากอดมารดา

“เจ้าบัวงาม เป็นเยี่ยงไรบ้างลูก”เจ้าชมนาดกอดโอรสองค์เล็ก แลลูเกศานุ่มไปมา

“ลูกคิดถึงเสด็จแม่เหลือเกินพระเจ้าค่ะ...แลยิ่งตอนให้กำเนิดเจ้าพเยียลูกยิ่งคิดถึงเสด็จแม่”

“โถ ลูกแม่...ไหน หลานยาย มาให้ยายอุ้มหน่อยเถิด”ผละกอดจากลูก แลถามหาหลานน้อย

“เจ้าพเยียพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่ชมนาด”องค์จันทร์ส่งลูกน้อยในอ้อมอุระให้พระมารดาของเมียรัก

“หลานยาย น่าชังนัก”เจ้าชมนาดรับร่างน้อยของหลานมาโอบอุ้ม พระนาสิกโด่งรั้นแตะลงบนปรางย่นของหลาน

“แอ๊ะ แอ้”เจ้าพเยียอ้าโอษฐ์หาว ส่งเสียงอ้อแอ้ให้คนเป็นยาย

“เจ้าชมนาดขอพี่อุ้มหลานบ้างเถิดเจ้า”องค์ภุมรินตรัส ใคร่อยากอุ้มหลานพระทัยจักขาดแล้ว

“ประเดี๋ยวเถิดพระเจ้าค่ะ น้องเพิ่งจักได้อุ้มหลานครู่เดียวเอง”เจ้าชมนาดมิยอม

“โธ่ เจ้าชมนาด”

“เห็นเสด็จพ่อ เสด็จแม่ท่านแย่งกันอุ้มหลานเช่นนี้ เห็นทีเราคงจักต้องรีบมีหลานให้ท่านเสียแล้วกระมังเจ้าแสง”องค์ภุชงค์กระซิบตรัสกับเจ้าแสง

“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงหน้าแดงม้าน ก้มพักตร์หลบสายพระเนตร


.
.
.



วันถัดมา ณ วังหลวงศศิมณฑล ได้มีพิธีรับขวัญเจ้าน้อยพเยียโอรสองค์แรกของเจ้าหลวงจันทร์ แลพระชายาบัวงาม เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี พิธีรับขวัญเจ้าน้อยศศิมณฑลก็เริ่มขึ้น บายศรีปากชามหนึ่งคู่ เครื่องเซ่นไหว้ถูกจัดเตรียมอย่างดี ผู้ทำพิธีในพิธีวันนี้ก็เป็นศิษย์ของแม่เฒ่าจากภุมริกาที่องค์ภุมรินมีพระบัญชาให้มาอยู่ที่ศศิมณฑล ตลอดพิธีรับขวัญ เจ้าพเยียน้อยมิร้องงอแงให้เสียงานสักแอะ เป็นที่เอ็นดูแก่พระอัยกะ พระอัยกี แลพระอัยยิกาอย่างพระมารดาศศิธร

"เลี้ยงง่ายจนน่าเอ็นดูนักหลานย่า"พระมารดาศศิมณฑลตรัสกับหลานในอ้อมพระกร

"นั่นสิพระเจ้าค่ะ หลานของเราช่างน่าเกลียดน่าชังนัก"เจ้าชมนาดตรัส หัตถ์เล็กประคองมือน้อยของหลานขึ้นจูบหอม


แลเมื่อหมอทำพิธีป้อนน้ำให้เจ้าน้อยเสวย ๕ ช้อนแล้ว เจ้าพเยียก็เผยรอยสรวลน่ารักน่าชัง กลิ่นดอกไม้หอมฟุ้งไปทั่วท้องพระโรง ตอกย้ำเรื่องที่เจ้าน้อยประสูติพร้อมกลิ่นหอมของดอกไม้ให้เหล่าอาคันตุกะที่มาร่วมพิธีประจักษ์ว่าเป็นเรื่องจริง


.



.



.






เมื่อเสร็จสิ้นพิธีรับขวัญเจ้าพเยีย เจ้าบัวงามก็ถูกพระมารดาศศิธร แลมารดาอย่างเจ้าชมนาดพาเข้ากระโจมอยู่ไฟ กลิ่นสมุนไพรคลุ้งไปทั้งตำหนักหลวง เจ้าบัวงามประทับอยู่ในกระโจมอยู่ไฟ มีข้าหลวงสาวสองนางค่อยบีบนวดให้ ส่วนพระมารดาทั้งสองแคว้นก็ประทับสนทนากันอยู่ที่ตั่งหลังใหญ่ใกล้กระโจม ในเพลานี้เจ้าพเยียกำลังนอนอยู่ในห้องบรรทมหลังเจ้าบัวงามให้นม มีพระอัยกะอย่างองค์ภุมริน แลพระบิดาอย่างองค์จันทร์ประทับเฝ้ามิห่างด้วยความหลงลูก หลงหลาน

"อื้อ แอะ"ร่างน้อยขยับกายบิดเล็กน้อยส่งเสียงอ้อแอ้

"เจ้าพเยีย"องค์จันทร์ปรี่เข้ามาดูลูก หากแต่ก็ถูกขัดด้วยพระสัสสุระ

"หลบไปเสีย ข้าจักอุ้มหลานเอง เจ้าเพิ่งจักเคยมีลูกคงทำมิเป็นดอก ดูข้าไว้ แลจำไปทำตามเสีย"องค์ภุมรินตรัสพลางช้อนร่างน้อยของหลานรักขึ้นพาดพระอังสะ พระหัตถ์ตบก้นกลมเบาๆ ปลอบประโลม แลเหมือนจักเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอย เจ้าพเยียหลานรักสะลึมสะลือเงยพักตร์ขึ้นมา แต่คอที่ยังมิแข็งทำให้พักตร์จิ้มลิ้มฟุบกระแทกกับพระอังสะของพระอัยกะ

"อึก แงงงง~"เสียงเล็กแผดลั่น

"เสด็จพ่อ เจ้าพเยียเป็นกระไรพ่ะย่ะค่ะ"องค์จันทร์ถลาเข้าลูบแผ่นหลังเล็กของลูกน้อยปลอบให้หยุด หากแต่เจ้าพเยียน้อยกลับร้องจ้าเสียจนหน้าดำหน้าแดง

"....."องค์ภุมรินตรัสมิออก เมื่อเหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง พยายามเขย่าโยกปลอบหลานน้อยให้หยุดร้อง

"แงงงงงงง~ อึก แงงงงงงง~"

"ขอหม่อมฉันอุ้มลูกหน่อยหนาพ่ะย่ะค่ะ"องค์จันทร์รับลูกมาจากพระสัสสุระ โอบประคองลูกไว้แนบอก

"แงงงงงงง~ อึก ฮึก"โอษฐ์เป็นกระจับเบะสะอื้นฮักๆ

"เสด็จพี่ องค์จันทร์ เกิดกระไรขึ้นพระเจ้าค่ะ"เจ้าชมนาดก้าวบาทเข้ามาในห้องบรรทม ปราดเข้าไปดูหลาน

"เจ้าชมนาด...อีกแล้วเจ้า"

"อีกแล้วกระไรพระเจ้าค่ะ...เอ๊ะ!"เจ้าชมนาดกวาดเนตรสำรวจหลานที่สะอื้นฮักๆ อยู่กับพระอุระบิดา ก่อนจะพบรอยแดงระเรื่อบนหน้าผากเล็ก

"แหะๆๆ"องค์ภุมรินทรงสรวลแห้งๆ เมื่อเมียรักตวัดนัยน์ตากวางใส่

"เสด็จพี่!"

"จ๋าาาา~"


องค์ภุมรินประทับข้างเจ้าชมนาด พระกรแกร่งกกกอดกฤษฎีบาง เอาอกเอาใจให้เมียหายจากอาการโกรธเคืองที่ทำหลานเจ้บตัว โธ่ ตาหาได้ตั้งใจทำเจ้าเจ็บตัวไม่ เจ้าพเยียน้อย


.
.
.


วันนี้เจ้าบัวงามต้องเข้ากระโจมสมุนไพรเพื่ออยู่ไฟดังเช่นวันที่ผ่านๆ มา องค์ภุมริน องค์ภุชงค์ แลองค์จันทร์ก็ประทับที่ตำหนักทรงงานหารือเกี่ยวการบ้านการเมือง หน้าที่เลี้ยงดูเจ้าพเยียจึงตกเป็นของพระมารดาศศิธร พระชายาชมนาด แลเจ้าน้อยแสงแรกที่เจ้าชมนาดหอบหิ้วมาด้วย

"ใคร่อยากอุ้มหลานหรือไม่เจ้าแสง"พระชายาชมนาดตรัสถามว่าที่สุณิสา

"ได้หรือพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันเกรงว่าจักทำเจ้าน้อยระคายเอาได้"เจ้าแสงว่า หากแต่นัยน์ตาหวานกลับจ้องร่างเล็กของทารกน้อยมิวางตา



"มิเป็นไรดอก มาเถิด หัดเอาไว้ประเดี๋ยวมีลูกมีเต้าเป็นของตัวเองจักได้คุ้นมือ"

"...พะ พระเจ้าค่ะ"คลานเข่าเข้าไปหาพระมารดาชมนาดที่ประทับอยู่บนตั่งข้างพระมารดาศศิธร

"ขึ้นมานั่งข้างข้านี่"

"..."เจ้าแสงช้อนเนตรมองพระมารดาชมนาด จักให้ขึ้นนั่งบนตั่งตีตนเสมอพระองค์หนาหรือ

"ขึ้นมาเถิด มิเป็นไรดอก ข้ามิถือ"

"...เช่นนั้น หม่อมฉันขอประทานนุญาตหนาพระเจ้าค่ะ"ตรัสแลกราบลงบนพระเพลาเจ้าชมนาด ก่อนจักลุกขึ้นประทับข้างพระวรกายเล็กอย่างสำรวม

"แอ๊ะ แอะ"เจ้าพเยียส่งเสียงอ้อแอ้ นัยน์ตาคมเฉี่ยวที่ถอดแบบองค์จันทร์มากระพริบปริบๆ เจ้าแสงประคองร่างเล็กนุ่มนิ่มของเจ้าพเยียอย่างทะนุถนอมแนบอกตัว เจ้าพเยียน้อยเนตรปรือปรอย โอษฐ์เล็กอ้าหาววอดใหญ่จนผู้ใหญ่เอ็นดู เจ้าแสงแรกอดมิได้ก้มพักตร์แตะปลายพระนาสิกบนนลาฎเล็กแผ่วเบา ครั้นเมื่อปลายนาสิกสัมผัสฉวีบอบบางของทารกน้อย กลิ่นมวลดอกไม้หอมหวานจากเจ้าพเยียก็คลุ้งไปทั้งห้องบรรทม

“ดูท่าเจ้าพเยียจักโปรดเจ้าน้อยแสงแรกหนาพระเจ้าค่ะเจ้าชมนาด"พระมารดาศศิธรตรัสเมื่อหลานตัวน้อยปล่อยกลิ่นดอกไม้หอมหวานคลุ้ง

"นั่นหนาสิพระเจ้าค่ะ เสด็จพี่ศศิ"

"..."เจ้าแสงแรกเงยพักตร์แย้มสรวลให้พระมารดาทั้งสองแคว้น ก่อนจักหันไปแย้มสรวลให้คนสนิททั้งสองที่หมอบอยู่มิไกล ชงโค แลยี่สุ่นยิ้มกว้างตอบนายตน

"เจ้าน้อยพเยียน่าเกลียดน่าชังนักพระเจ้าค่ะพระมารดา"เจ้าแสงตรัส หัตถ์เรียวตบก้นเล็กเบาๆ ขับกล่อมทารกน้อยให้หลับใหล

"...เจ้าน้อยแสงแรกช่างน่าเอ็นดูนักพระเจ้าค่ะ...ผิดกับเชษฐานัก"พระมารดาศศิธรเอนพระวรกายตรัสกระซิบที่ริมกรรณเจ้าชมนาด

"นั่นสิพระเจ้าค่ะ..."

"เสด็จแม่"

"อ้าว เจ้าภุชงค์ หารือแล้วแล้วหรือลูก"เจ้าชมนาดตรัสเมื่อโอรสองค์โตก้าวบาทเข้ามาในห้องบรรทม

"องค์จันทร์ แลเสด็จพ่อท่านยังหารือกันอยู่พ่ะย่ะค่ะ ลูกจึงปลีกตัวออกมาก่อน"

“เช่นนั้นดอกหรือ...เยี่ยงนั้นลูกอยู่เลี้ยงหลานเป็นเพื่อนเจ้าแสงทีหนา ประเดี๋ยวแม่ แลพระมารดาศศิธรจักไปยืดเส้นยืดสายที่สวนพฤกษาสักหน่อย"เจ้าชมนาดตรัส

"พ่ะย่ะค่ะ"

"ไปเดินให้คลายเมื่อยขบกันสักหน่อยเถิดพระเจ้าค่ะ เสด็จพี่ศศิ"

"จ้ะ"พระมารดาทั้งสองเสด็จออกจากห้องบรรทมพร้อมคนสนิท เหลือเพียงเจ้าภุชงค์ เจ้าแสง แลบ่าวคนสนิท

"เจ้าพเยียหลับอยู่หรือเจ้าแสง"

"พระเจ้าค่ะ เจ้าน้อยเพิ่งจักบรรทมไปเมื่อครู่เองพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัสตอบ หากแต่ก็มิยอมสบเนตรของเจ้าภุชงค์ นัยน์ตาหวานจับจ้องเพียงดวงพักตร์ของทารกน้อยในอ้อมกอด

"พี่ใคร่อยากอุ้มหลานเสียจริง"

"เจ้าน้อยเพิ่งจักบรรทม หม่อมฉันเกรงว่าหากเปลี่ยนมือจักสะดุ้งตื่นเอาได้พระเจ้าค่ะ"

"เยี่งนั้นหรือ..."

"พระเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้น"เจ้าภุชงค์ขยับพระวรกายไปอยู่ด้านหลังเจ้าแสง พระกรแกร่งโอบร่างน้องน้อยไว้แนบพระอุระ หัตถ์อุ่นประคองซ้อนทับมือบางที่โอบอุ้มร่างเล็กของหลานเอาไว้

"...ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงสะดุ้งจนเจ้าพเยียสะดุ้งตาม หากแต่มิได้ตื่นจากฝันหวาน

"เช่นนี้พี่ก็จักได้อุ้มหลาน หลานก็มิต้องตืนขึ้นมาไห้งอแง"...แลยังได้กอดเจ้าอีกด้วย

"....."เจ้าแสงเกร็งมิกล้าขยับวรกาย ไอร้อนจากพระอุระกว้าง แลกลิ่นอายบุรุษเพศทำเอาพักตร์งามแดงระเรื่อ

"เจ้าพเยียน่าเอ็นดูนัก"ตรัสชมหลาน หากแต่เนตรมิได้จับจ้องไปที่หลานเลยแม้แต่น้อย พระเนตรทอดมองดวงพักตร์งามของเจ้าน้อยการเวก

"..."

"งามนัก"ขยับพักตร์กระซิบที่ริมกรรณเล็ก สูดกลิ่นแก้วเข้าเต็มพระปับผาสะ

"จะ เจ้าน้อยพเยียงามได้เสด็จพี่บัวเป็นแน่พระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัสตอบ

"มิใช่..."

"..."

"...เจ้าต่างหาก...งามจับใจนัก"มิตรัสเปล่า ไล้ปลายพระนาสิกกับขอบกรรณเจ้าแสง

"...ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงก้มพักตร์ พระทัยสั่นระรัวคล้ายจักเป็นลม ประคองสติตนโอบอุ้มทารกน้อยไว้มั่น ความร้อนจากพระกรของคนที่โอบกอดตนทางด้านหลังทำเอาแขนเรียวสั่นน้อยๆ

"หึหึหึ"สรวลน้อยๆ ในพระศอ ทรงวางพระหนุบนลาดอังสะเล็กสูดกลิ่นแก้ว พลางทอดพระเนตรหลาน แลเนินอุระเนียนขาวผ่องที่โผล่พ้นขอบผ้าแถบมาให้ยล
ชงโค แลยี่สุ่นที่หมอบอยู่ริมห้องบรรทมลอบมองหน้ากันเลิกลั่ก องค์รัชทายาทภุชงค์ทรงกกกอดเจ้าน้อยของตน โดยใช้เจ้าน้อยพเยียเป็นข้ออ้าง...



.

.

.



"ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงตรัสขึ้นเมื่อถูกองค์รัชทายาทกกกอดมาหลายชั่วครู่

"หืม..."

"หม่อมฉันว่าทรงเอาเจ้าน้อยพเยียลงเปลเถิดพระเจ้าค่ะ อุ้มไว้เยี่ยงนี้จักบรรทมได้มินาน"

"ก็ได้เจ้า"จำพระทัยปล่อยร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น แม้จักเสียดายเหลือแสน ประคองเจ้าแสงที่โอบอุ้มหลานไปส่งที่เปล เจ้าแสงค่อยๆ วางทารกน้อยลงในเปล ก่อนจักไกวเบาๆ ขับกล่อมเจ้าพเยียให้หลับใหลต่อเนื่อง

"..."เจ้าแสงส่งให้ข้าหลวงไกวเปลต่อ แลดำเนินมายังตั่งที่ตนประทับตอนแรก

"อุ้มเจ้าพเยียไว้นานเช่นนี้ แขนเจ้าคงจักเมื่อยขบ"ดำเนินมาประทับข้างกายแนบชิดเจ้าแสง จนคนน้องต้องกระถดกายออกห่าง

"มิได้พระเจ้าค่ะ"

"ส่งแขนมาเถิด พี่จักนวดให้"

"มิได้พระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวหม่อมฉันให้ชงโค แลยี่สุ่นนวดให้พระเจ้าค่ะ"

"มาเถิดเจ้าแสง ให้พี่ทำเถิดหนา"มิตรัสเปล่า คว้าแขนเรียวขึ้นวางบนพระเพลา พระหัตถ์แนบลงบนผิวนุ่มขาวผ่องออกแรงลูบไล้ บีบนวดเบาๆ จนเจ้าแสงหน้าม้าน

"ฝ ฝ่าบาท พ พอแล้วพระเจ้าค่ะ"

"ชู่ว นิ่งเสีย...เจ้าสองคน"ตรัสปรามน้องน้อยพระสุรเสียงอ่อนโยน ก่อนจักหันไปสั่งงานชงโค แลยี่สุ่น

"พระเจ้าค่ะ"

"พระเจ้าค่ะ"หมอบกราบรับพระบัญชา

"ไปห้องเครื่องนำของว่าง แลน้ำชาถวายนายเจ้าทีเถิด"

"พระเจ้าค่ะ เยี่ยงนั้นชงโคจักไปห้องเครื่องนำพระกายาหารว่างถวาย"

"ประเดี๋ยวยี่สุ่นจักอยู่รับใช้เจ้าน้อ..."

"มิต้องดอก...ไปทั้งคู่นั่นแล"เจ้าภุชงค์ตรัสพลางทอดพระเนตรจดจ้องบ่าวสองคนเขม็ง

"เอ่อ พระเจ้าค่ะ"หมอบกราบก่อนจักคลานเข่าออกไป ภายในห้องบรรทมเหลือเพียงเจ้านายทั้งสอง เจ้าพเยียที่กำลังหลับใหล แลข้าหลวงสาวที่ก้มหน้าไกวเปลเจ้าน้อยอยู่คนละฝากห้อง

"เจ้าแสง"

"พระเจ้าค่ะ"

"ฝ ฝ่าบาท"เจ้าแสงช้อนตามองพระพักตร์งามคมคล้ามขององค์รัชทายาท เจ้าภุชงค์เชยหนุมนของน้องขึ้น โน้มพักตร์เข้าใกล้ เจ้าแสงหลุบเนตรหลบ กลั้นหายใจเมื่อพระโอษฐ์อุ่นแนบคลึงลงบนกลีบโอษฐ์นุ่มหยุ่นของตน เจ้าภุชงค์ทำเพียงคลึงเคล้าโอษฐ์น้องมิลุกล้ำ ก่อนจักถอนออก กดจูบที่นลาฎขาว เจ้าแสงรีบผละออกจากพระวรกายเจ้าภุชงค์ราวกับต้องของร้อน

"คิดถึง ตั้งแต่มาศศิมณฑล พี่ก็หาได้จูบหอมเจ้าได้ไม่"

"หมะ หม่อมฉัน...หม่อมฉัน..."เจ้าแสงก้มพักตร์หนุชิดอก ตรัสอึกๆ อักๆ

"ทูลฝ่าบาทพระกายาหารว่างมาแล้วพระเจ้าค่ะ"

"...กินขนมสักหน่อยหนาเจ้าแสง"

"พ พระเจ้าค่ะ"







ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
นิด ๆ หน่อย ๆ ก็เอาเนอะเจ้าภุชงค์

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นิดหน่อยก็เอาเนาะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อะไรจะหื่นขนาดนั้น เก็บทุกช็อตเอาทุกเม็ด รีบแต่งเลย

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
องค์ภุชงค์ แอบตอดเล็กติดร้อยตลอดเลย หวานเชียวค่ะ  รอตอนหน้านะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เอาใหญ่เลยนะเพคะเสด็จพี่  :impress2:
เจ้าพเยียชอบเจ้าแสงมากแน่ๆ น่ารักกกก

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


ภุชงค์เล่นแสง ๑๐




องค์ภุมริน แลลูก เมียทรงประทับที่ศศิมณฑลอยู่หลายวัน จึงได้ฤกษ์กลับภุมริกาเสียที โดยวันนี้หลังจากรับพระกายาหารเช้าแล้วแล้ว จักทรงเสด็จกลับภุมริกา

"เอาไว้พาหลานไปหาพ่อ แลแม่ที่ภุมริกาบ้างหนาเจ้าบัวงาม องค์จันทร์"องค์ภุมรินตรัส แลก้มพักตร์ลงหอมหลานที่นอนอยู่ในวงพระกร

"แอ๊ะ แอ้"เจ้าพเยียยกหัตถ์ขยี้กรรณ ขยี้เนตรตนเองไปมา โอษฐ์เล็กหาววอดอย่างน่าเอ็นดู ข้อพระบาทเล็กทั้งถูกสวมด้วยกำไลทองที่คนเป็นตานำมาให้

"ฮะๆๆ ใคร่อยากไปภุมริกาใช่หรือไม่ เจ้าพเยีย"ตรัเย้าเจ้าตัวน้อย

"เสด็จพี่หลานเพิ่งจักได้สิบวันเองหนาพระเจ้าค่ะ จักไปรู้เรื่องกระไร...แลขอน้องอุ้มหลานบ้างเถิดพระเจ้าค่ะ พระองค์ทรงอุ้มหลานพระองค์ตั้งแต่เช้าแล้วหนาพระเ้จาค่ะ"เจ้าชมนาดว่า

"จ้ะๆ...เจ้าพเยีย ให้ยายเจ้าอุ้มหน่อยหนา หืม"

"แอ๊ะ"

"มาๆๆ ใคร่อยากให้ยายอุ้มใช่หรือไม่เจ้า"เจ้าชมนาดรับเจ้าตัวน้อยมาจากพระภัสดา ประคองหลานให้ซบอุระบางของตน

"แอะ แอะ"

"โถ หลานยายน่าชังเสียนี่กระไร"เจ้าชมนาดตรัส แลหอมปรางนุ่มของหลานแผ่วเบา ระมัดระวังมิให้เจ้าตัวน้อยระคายเคือง

"หากลูกเราเป็นแมวป่านนี้คงจักเฉามือตายแล้วเป็นแน่"องค์จันทร์กระซิบตรัสกับเมียรัก

"คิกๆ ฝ่าบาท"เจ้าบัวสรวลคิกคัก ตั้งแต่มาจวนจักกลับอยู่แล้ว บิดา แลมารดาตนแย่งกันอุ้มหลานเสียจน ลูกน้อยของเจ้าบัวงามติดมือเสียแล้ว





หลังจากรับพระกายาหารเช้าแล้วแล้ว เจ้านายจากภุมริกา แลเจ้าน้อยการเวกก็เดินทางกลับภุมริกา ตั้งแต่ประทับอยู่ที่ภุมริกา องค์ภุชงค์ก็หาได้มีโอกาสเข้าหาเจ้าน้อยแสงแรกไม่ แลในขากลับนี้ พระชายาชมนาดก็เรียกหาเจ้าแสง แลทรงจับตามองมิให้คลาดสายตาแม้แต่น้อย ทำเอาองค์ภุชงค์มิมีแม้แต่โอกาสจักจับหัตถ์เจ้าแสง กระทั่งกลับมถึงวังหลวง งานราฎษร์ งานหลวงที่ทิ้งไปตอนเสด็จไปหาเจ้าบัวงามที่ศศิมณฑลก็ล้นหลามจนเจ้าหลวง แลองค์รัชทายาทเวียนเศียร ฎีกามากมายถูกกองเต็มตำหนักทรงงาน แลเมื่อองค์รัชทายาททรงงานหนักจนมิมีเพลาว่างเยี่ยงนี้ เจ้าแสงจึงยังคงมิได้เปิดโอษฐ์บอกพระชายาชมนาดท่านถึงเรื่องตบแต่งกับองค์ภุชงค์ องค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยทรงพบพักตร์กันเพียงเพลารับพระกายาหารค่ำที่ ตำหนักหลวง

"ยี่สุ่น"

"พระเจ้าค่ะ เจ้าน้อย"

"เติมข้าวให้ข้าที"เจ้าแสงตรัสเมื่อข้าวที่ข้าหลวงห้องเครื่องใส่มาในสำรับน้อยจนมิอิ่มท้อง

"กระไรหนาพระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นถามคนเป็นนายอีกครั้ง ปกติหรือทรงเสวยเยี่ยงแมวดม ข้าวในสำรับที่ข้าหลวงใส่มาให้ทรงเสวยเหลือเสียด้วยซ้ำ ไยวันนี้จึงได้รับสั่งให้เติมข้าว

"เติมข้าวให้ข้าที ข้ามิอิ่ม...วันนี้ข้าหลวงห้องเครื่องให้ข้าวข้าน้อยนัก"ทรงตรัส

"...พระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นรับพระบัญชา แลเติมข้าวให้เจ้าน้อยตามรับสั่ง

"เอาอีก"เจ้าแสงตรัสเมื่อยี่สุ่นตักข้าวให้พระองค์เพียงทัพพีเดียว แลทำท่าจักปิดฝาหม้อ

"..."ยี่สุ่น แลชงโคลอบมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

"เอาอีกยี่สุ่น"

"พระเจ้าค่ะ"คดข้าวให้คนเป็นนายไปอีกเต็มทัพพี







เจ้านายทั้งสามจากภุมริกาทรงเสวยแล้วแล้ว หากแต่เพลานี้กำลังประทับจ้องเจ้าน้อยต่างแคว้นที่ยังเสวยมิแล้ว ทั้งๆ ที่เพลาปกติจักเสวยแล้วเป็นคนแรก

"เจ้าแสง"

"พระเจ้าค่ะ พระชายา"เจ้าแสงหยุดมือที่กำลังเสวย แลหมอบรับพระบัญชา

"...กินมากเช่นนี้ ประเดี๋ยวจักรับผลหมากรากไม้มิไหวเอาหนา"

"หม่อมฉันยังมิอิ่มพระเจ้าค่ะ ยังรับผลหมากรากไม้ได้อยู่พระเจ้าค่ะ"เมื่อได้ฟังเจ้าแสงตรัส เจ้าชมนาดก็เหลือบเนตรสบกับพระภัสดา

"เช่นนั้นก็กินมากๆ หนา"

"ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ"



.

.

.



เจ้าน้อยแสงแรกทรงเสวยกายาหารมากขึ้นจนผิดสังเกต ทำให้มีข้าหลวงปากพล่อยเอาไปลือเสียๆ หายๆ ว่าเจ้าน้อยคู่หมายขององค์รัชทายาททรงถูกผีปอบ ผีป่าสิงสู่ครั้งที่เดินทางไปศศิมณฑล

“เจ้ามิเห็นดอกหรือ ก่อนจักเสด็จไปศศิมณฑลทรงเสวยราวกับแมวดม”

“...”

 “หากแต่เมื่อกลับมาจากศศิมณฑลก็ทรงเสวยมากเสียจนผิดวิสัย”

“...หากแต่จักทรงถูกผีปอบ ผีป่าสิงจริงหรือ”

“เชื่อข้าเถิด ทรงถูกผีสิงเป็นแน่”

“ตายจริง”



.

.

.



ข้าหลวงปากพล่อยลือกันสนุกปาก มินานก็แพร่ไปทั้งวังหลวง แลลือกันจนเข้ากรรณเจ้าน้อยแสงแรก เจ้าแสงเมื่อได้ยินเสียงลือว่าตนเป็นผีปอบ ผีป่าก็เสียใจจนร่ำไห้สะอึกสะอื้น ขังตัวเองอยู่ในตำหนักมิยอมออกมาพบปะผู้คน แลมิยอมให้ใครเข้าพบ จักมีเพียงบ่าวคนสนิททั้งสองเท่านั้นที่เข้าหน้าคนเป็นนายติด เจ้าน้อยแสงแรกนอกจากจักกินมากจนผิดวิสัยแล้ว อารมณ์ก็ยังมิคงที่อีกด้วย ประเดี๋ยวก็ไห้ ประเดี๋ยวก็โกรธเกรี้ยว จนแม้แต่บ่าวคนสนิททั้งสองยังมิเข้าพระทัย นั่นยิ่งทำให้มีคนเชื่อข่าวลือที่เจ้าแสงถูกผีสิงมากขึ้น



ทางด้านองค์ภุชงค์ เมื่อน้องน้อยคู่หมายมิได้เข้าร่วมเสวยพระกายาหารค่ำด้วยมาหลายวันแล้ว เจ้าแสงเพียงส่งข้าหลวงมากราบทูลเพียงว่าประชวรจึงมิได้มาร่วมเสวยพระกายาหารค่ำด้วยที่ตำหนักหลวงเท่านั้น แลเมื่อนานวันเข้าองคภุชงค์จึงได้มาหาเจ้าแสงถึงตำหนัก แต่กระนั้นเจ้าแสงก็ยังมิยอมออกมาพบ แลมิยอมให้พระองค์เข้าพบ

“เจ้าแสง ออกมาหาพี่หน่อยเถิด หากเจ้ามิออกมาก็ให้พี่เข้าไปหาแทนเถิด”ทรงตรัสอยู่หน้าบานทวารห้องบรรทมน้องน้อย

“ฮึก ทรงกลับไปเถิดพระเจ้าค่ะ หม หม่อมฉันมิใคร่อยากพบใคร”เจ้าแสงตรัสสุรเสียงหวานปนสะอื้น

“เจ้าแสง หากน้องมิเปิดพี่จักพังเข้าไปแล้วหนา”เสียงหวานปนสะอื้นของน้อง ยิ่งทำให้คนเป็นพี่ร้อนพระทัย

“ฮึก หม่อมฉันมิอยากพบใคร ฮือ”

“เจ้าแสง เปิดประตูให้พี่หนา”ตรัสพลางทุบบานพระทวารห้องบรรทมของเจ้าน้อยแสงแรก



ปังๆๆๆ



“เจ้าภุชงค์”

“เสด็จแม่”

มิใช่เพียงองค์ภุชงค์ที่เสด็จมาถึงตำหนักรับรองของเจ้าน้อยแสงแรก หากเพลานี้พระชายาชมนาด แลเจ้าหลวงภุมรินก็เส็จมาที่ตำหนักของว่าที่สุณิสา เอาลูกเขามาแล้ว แลยังรับปากพ่อเขาเสียดิบดีว่าจักดูแลให้ดี ก็ต้องทำให้ได้ดังที่ลั่นวาจาไว้ กษัตริย์ตรัสแล้วมิคืนคำ

“น้องเป็นกระไรไปลูก”เจ้าชมนาดตรัสถามโอรสองค์โต กังวลมิน้อย ทรงเอ็นดูเจ้าแสงเหมือนลูก เหมือนหลาน เมื่อเจ้าแสงเจ็บไข้มิยอมออกจากตำหนักเช่นนี้จึงอดเป็นกังวลมิได้

“เจ้าแสงมิยอมออกจากห้องบรรทมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่”

“เจ้าแสง เปิดประตูให้พวกข้าหน่อยเถิด เป็นกระไรไปเจ้า ไยจึงขังตัวเองไว้ในตำหนักเช่นนี้”พระชายาชมนาดตรัสสุรเสียงอ่อน

“ฮือออ พระชายา ฮึกๆๆ”

“เจ้าแสงเปิดประตูออกมาเถิดหนาเจ้า”

“ฮึกๆๆ”เจ้าแสงมิตรัสตอบหากแต่สะอื้นฮักๆ หากแต่ชั่วครู่บานพระทวารก็เปิดออก บ่าวชงโคโผล่หน้ามาหมอบกราบเจ้านายทั้งสาม ดวงหน้าจิ้มลิ้มเปรอะน้ำหูน้ำตา

“เจ้าแสง”เจ้านายทั้งสามพระองค์รีบรุดเข้าไปในห้องบรรทมของเจ้าน้อยแสงแรก แลสภาพของเจ้าน้อยที่ทอดพระเนตรเห็นก็ทำเอานิ่งงันทั้งพ่อ แม่ แลลูก เจ้าน้อยแสงเสวยข้าวทั้งน้ำตา สะอื้นไห้หน้าซีดหน้าเซียวทั้งๆ ที่ข้าวเต็มปาก โอษฐ์เล็กเคี้ยวหยับๆ นัยน์เนตรงามแดงระเรื่อบวมช้ำ น่าสงสาร

“ฮึก”

“เจ้าแสงแรก”องค์ภุชงค์ดำเนินเข้าประทับข้างน้องน้อย ทรงรั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอดปลอบ พระหัตถ์ลูบเกศายาวไปมา

“ไยจึงมีสภาพเช่นนี้เล่าเจ้าแสงแรก”เจ้าชมนาดตรัส

“ฮึก หม หม่อมฉันเป็นผีปอบ ผ ผีป่า ฮือออ”

“พูดกระไรออกมาเจ้าแสง เหลวไหลใหญ่แล้วเจ้า”

“ฮึกๆๆ เขาว่ากันว่า หม หม่อมฉัน เป็นผี ฮึกๆๆ ฮือออ”

“ใคร...ผู้ใดมันกล้าพูดเหลวไหลเช่นนี้ มิกลัวหัวหลุดออกจากบ่าหรือกระไร”

“ฮึก บ่าวไพร่มันลือกันทั้งวังหลวงเลยพระเจ้าค่ะ พระชายา”ยี่สุ่นตอบแทนคนเป็นนายที่ตอนนี้สะอื้นฮักๆ อยู่กับพระอุระองค์รัชทายาท

“อึก พวกมันลือกันว่าเจ้าน้อยแสงแรกถูกผีปอบ ผีป่าสิง ฮือออ”ชงโคเสริม

“บังอาจนัก ใครมันช่างกล้าปากพล่อยกุเรื่องชั่วๆ เช่นนี้ในวังหลวง”เจ้าชมนาดกริ้วจนพักตร์แดง

“พระชายาทรงช่วยเจ้าน้อยของหม่อมฉันด้วยหนาพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่น แลชงโคหมอบกราบแทบพระบาทพระชายาชมนาด

“มิต้องกังวลไปดอก ข้ามิปล่อยไอ้อีปากพล่อยพวกนั้นไว้แน่”เจ้าชมนาดวางหัตถ์ลงบนศีรษะบ่าวทั้งสองก่อนจักตรัสสุรเสียงเรียบ บังอาจนัก กล้าดีอย่างไรจึงได้มาใส่ร้ายสุณิสาข้า

“ฮึก ฮือ”เสียงไห้ของหนึ่งนาย สองบ่าวดังระงมทั้งห้องบรรทม แลนั่นก็ทำให้เกิดข่าวลือใหม่ขึ้นอีกว่าเจ้าหลวง แลพระชายาชมนาดทรงทราบแล้วว่าเจ้าน้อยแสงแรกถูกผีปอบ ผีป่าสิงสู่จึงได้ขับไล่เจ้าน้อย แลบ่าวคนสนิททั้งสองให้กลับการเวก

“หยุดไห้ก่อนหนาเจ้าแสง ประเดี๋ยวจักประชวรเอาได้”องค์ภุชงค์ตรัส แลแตะโอษฐ์กับนลาฎขาว

“ฮึก ฝ ฝ่าบาท หม หม่อมฉัน ฮึก จัก อึก อ้วกกก”เจ้าแสงอาเจียนออกมา เปรอะทั้งตัวเอง แลองค์รัชทายาท

“เจ้าแสง”องค์รัชทายาทหาได้รังเกียจน้องไม่ ประคองเจ้าแสงไว้มิปล่อย

“พวกเจ้าสองคนผลัดผ้าผ่อนให้เจ้าแสงก่อนเถิด หากแล้วแล้วพานายเจ้าไปหาข้าที่ตำหนักหลวง”เจ้าชมนาดตรัส

“พระเจ้าค่ะ”

“พระเจ้าค่ะ”

“เจ้าภุชงค์ กลับไปรอน้องที่ตำหนักกับแม่”

“หากแต่...”ใคร่อยากจักอยู่กับน้อง

“กลับกับแม่ ไปผลัดผ้าใหม่เสียก่อนเถิดลูก”ตรัสสุรเสียงนิ่ง

“เชื่อแม่เจ้าเถิดเจ้าภุชงค์”องค์ภุมรินตรัส

“พ่ะย่ะค่ะ”ตรัสอย่างจำยอม



.

.

.



หลังจากเจ้านายภุมริกาทั้งสาม กลับตำหนักหลวงไปแล้วยี่สุ่น แลชงโคก็พาร่างอ่อนปวกเปียกของเจ้าแสงแรกไปสรงน้ำ ล้างคราบไคลอาเจียนที่เปรอะพระวรกาย เจ้าแสงแรกเมื่อได้สรงน้ำก็มีอาการดีขึ้น อาการเวียนเศียรใคร่อาเจียนเมื่อครู่ทุเลาลงจนพักตร์ซีดเซียวเริ่มมีเลือดฟาด

“จักทรงใส่ผ้าแถบสีกระไรดีพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นถามพลางเลือกผ้าแถบในหีบให้คนเป็นนายอย่างเอาอกเอาใจ

“สีเมฆคราม”เจ้าแสงตรัส ขณะประทับให้ชงโคแต้มน้ำปรุงตามแอ่งชีพจรให้

“สีเมฆครามหรือพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นถามอย่างสงสัย ปกติเจ้าน้อยจักโปรดผ้าแถบสีอ่อน ไยวันนี้จึงเลือกสีเมฆคราม

“อืม”

“พระเจ้าค่ะ”



เจ้าน้อยแสงแรกเสด็จตำหนักหลวงพร้อมบ่าวคนสนิททั้งสองหลังจากที่มิได้ออกจากตำหนักมาหลายวัน บรรดาข้าหลวงต่างก็มองเจ้าน้อยต่างแคว้น วันนี้ทรงดูผิดหูผิดตานัก ด้วยผ้าแถบสีเมฆคราม แลผ้าโจงสีดินแดงตัดกับพระฉวีขาว พักตร์งามเรียบนิ่งผิดกับเพลาปกติที่มักจักมีรอยสรวลบางๆ แต้มอยู่บนพระโอษฐ์ เจ้าแสงแรกเมินสายตาของเหล่าข้าหลวง แลก้าวบาทไปยังตำหนักหลวง

“ทูลเจ้าหลวง แลพระชายา เจ้าน้อยแสงแรกขอเข้าเฝ้าเพคะ”ข้าหลวงหน้าบานทวารกราบทูลนายเหนือหัว

“ให้เจ้าแสงเข้ามา”

“เพคะ”



ยามที่เจ้าแสงก้าวบาทเข้ามาในท้องพระโรงตำหนักหลวง องค์ภุชงค์ก็ปรี่เข้ามาประคองร่างน้อยของคู่หมายทันที มีรับสั่งให้ข้าหลวงออกไปให้หมด จักเหลือก็เพียงองครักษ์คนสนิทของเจ้าหลวง แลองค์รัชทายาท คนสนิทของพระชายาชมนาด แลบ่าวทั้งสองของเจ้าน้อยแสงแรก

“ถวายพระพรเจ้าหลวง แลพระชายาพระเจ้าค่ะ”หมอบกราบ

"เล่าล่ะ ไหนเล่าให้ข้าฟังทีว่ามันเกิดกระไรขึ้น เหตุใดจึงได้มีข่าวลือบ้าๆ นั่นในวังหลวง"องค์ภุมรินตรัสอย่างพระทัยดี เจ้าแสงจึงได้เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อผัว แลแม่ผัวฟังด้วยสุรเสียงสั่นเครือ องค์ภุชงค์เมื่อได้ฟังก็ขบพระทนต์แน่น กอดน้องประคองพักตร์งามให้ซบอุระอุ่น พระหัตถ์ลูบเกศายาวปลอบประโลม

"ฮึก หมะ หม่อมฉัน ฮึก"

"ชู่ว นิ่งเสียหนาคนดี มิต้องไห้แล้ว"องค์ภุชงค์ตรัสปลอบน้องน้อยในอ้อมพระกร

"อุ่น"

"เพคะ พระชายา"

"ไปสืบหามาว่าไอ้อีผู้ใดมันปากพล่อย กุเรื่องชั่ว ใส่ร้ายสุณิสาของข้า"

"เพคะ"คนสนิทพระชายาชมนาดหมอบกราบเจ้านาย แลคลานออกจากห้องโถงในตำหนัหหลวงทำตามรับสั่ง

"นิ่งเสียเจ้าแสงแรก ข้าจักมิปล่อยให้ผู้ใดมารังแกเจ้าดอก"พระชายาชมนาดตรัส

"ขะ ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ หมะ หม่อมฉันอ่อนแอนัก กราบขอประทานอภัยพระชายาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงผละออกจากอ้อมพระอุระองค์รัชทายาท แลคลานเข้าหมอบกราบพระบาทพระมารดาของคู่หมาย

"นิ่งเสียลูก"ทรงวางพระหัตถ์ลงบนเศียรเจ้าแสงแรก แลลูกแผ่วเบา

"ฮึก ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ"



.

.

.



"นี่ๆๆ เจ้ารู้เรื่องหรือไม่"ข้าหลวงสาววิ่งเข้ามากระซิบกับเพื่อนข้าหลวงด้วยกัน

"กระไรกัน"

"ก็เจ้าน้อยแสงแรกหนาสิ"

"เจ้าน้อยหรือ"

"ก็เรื่องที่พระองค์ถูกผีปอบ ผีป่าเข้าสิง"

"ตายล่ะ สรุปแล้วเป็นเรื่องบจริงดอกหรือ"

"ก็จริงหนาสิ แลเพลานี้เจ้าหลวง พระชายาชมนด แลองค์รัชทายาททรงรู้เรื่องแล้วว่าเจ้าน้อยทรงถูกผีเข้าสิง"

"หา จริงหรือ"

"จริง เมื่อคืนวานทั้งสามพระองค์ทรงเสด็จไปที่ตำหนักรับรองของเจ้าน้อย บ่าวรับใช้ที่ตำหนักรับรองลือกันให้ทั่ว ว่าเจ้าน้อยทรงถูกขับไล่ให้กลับการเวก"

"หา กระนั้นเลยหรือ ไหนว่าทรงเป็นคู่หมายองค์ภุชงค์"

"โธ่ ใครเล่าจักอยากได้สะใภ้ที่เป็นผีปอบ ผีป่า นังบ่าวรับใช้มันว่าเจ้าน้อย แลบ่าวคนสนิทร่ำไห้กันแสงเสียดังลั่นตำหนักรับรอง"

"...น่าสงสารเจ้าน้อยเสียจริง"

"หากแต่ข้านึกแล้วขนลุก ดีมิดี หากทรงอยู่ที่ภุมริกาต่อ มิทรงลุกขึ้นมาไล่ควักไส้พวกเราเสวยดอกหรือ"

"..."

"เอ้า เป็นกระไรไปเล่า ไยจึงเงียบเป็นเป่าสากเช่นนี้"ว่าเพื่อนข้าหลวงที่นั่งหน้าซีด ตาเบิกกว้างจ้องเขม็งไปทางด้านหลังของตน

"..."

"กระไรของเอ็ง"หันกลับไปมองข้างหลังตนจึงได้แจ้งใจว่าเพื่อนข้าหลวงนั้นสะพรึงกลัวกระไร

"..."

"เฮือก พ พระชายาชมนาด"

"อุ่น ลากมันสองนไปที่ตำหนักหลวง"

"เพคะพระชายา"










CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เจ้าแสงท้องแล้วใช่มั้ยยยย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อาการแปลกๆ

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เจ้าแสง หนูจะท้องก่อนแต่ง มิได้ลูกกกกก

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะมีน้องแล้ววแน่ๆเลยย น่ารักๆๆ รออ่านๆนะคะ ชอบมากเลยค่ะ  :o8: :-[

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ท้องแล้วแน่ๆ

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เขาท้องไม่ได้เป็นผี!!!!!
ปากคนพวกนี้  :m16:

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


 

 

ภุชงค์เล่นแสง ๑๑

 

อุ่น แลข้าหลวงรับใช้พระชายาชมนาดช่วยกันลากบ่าวปากพล่อยทั้งสองไปยังตำหนักหลวง พระชายาชมนาดท่านทรงดำเนินนำด้วยพระพักตร์นิ่งเรียบยากจักคาดเดาอารมณ์ ข้อพระหัตถ์เล็กขยับสะบัดพัดจีนเบาๆ

“ฮึก พ พระชายาเพคะ”

“หุบปากพล่อยๆ เหม็นกลิ่นมูลสัตว์ของเจ้าเสีย”เจ้าชมนาดตรัสสุรเสียงนิ่ง

“ฮึก ฮือ”

“หากข้าได้ยินเสียงของเจ้า ข้าจักให้ข้าหลวงเอามูลม้ายัดปากเจ้า”

“...”นางข้าหลวงทั้งสองรีบมืออุดปากตน น้ำตาไหลนองหน้า



เมื่อมาถึงตำหนักหลวงเจ้าชมนาดก็ดำเนินเข้าไปประทับข้างเจ้าหลวงภุมรินที่ประทับรออยู่ก่อนแล้ว มิใช่เพียงแค่เจ้าหลวง แลพระชายาเท่านั้น ภายในท้องพระโรงตำหนักหลวงยังมีองค์รัชทายาทภุชงค์ แลเจ้าน้อยแสงแรกประทับอยู่ด้วย

“พวกเจ้าหนาหรือที่เป็นต้นตอกุเรื่องชั่วใส่ร้ายแสงแรกสุณิสาของข้า”องค์ภุมรินตรัสขึ้น เมื่อนางข้าหลวงทั้งสองถูกโยนลงต่อหน้าพระพักตร์

“ม มิใช่หนาเพคะ เจ้าหลวง หม หม่อมฉันมิใช่ผู้กุเรื่องใส่ร้ายเจ้าน้อยแสงแรก”

“หากมิใช่เจ้าทั้งสองเป็นผู้กุเรื่องชั่วขึ้น แลผู้ใดมันทำ”

“ฮึก หมะ หม่อมฉันฟังมาจากนางข้าหลวงในตำหนักรับรองของเจ้าน้อยแสงแรกอีกทอดหนึ่งเพคะ”

“...”

“ฮึก น นางเป็นผู้เอาเรื่องที่เจ้าน้อยถูกผีป่า ผีปอบ ม มาเล่าให้พวกข้าหลวงห้องเครื่องฟัง แล พ พวกมันก็เอาไปพูดต่อจนเรื่องเจ้าน้อยแสงแรกเป็นผีปอบ แลถูกขับไล่กลับการเวกแพร่ไปทั้งวังหลวงเพคะ”ก้มหน้าสะอึกสะอื้นกราบทูล

“แม้นจักมิใช่ผู้กุเรื่องชั่วขึ้นมา หากแต่ก็เอาไปพูดนินทาเจ้านายเช่นนี้ก็จักต้องอาญาเช่นกัน”เจ้าชมนาดตรัส

“ฮึก พ พระชายา หม หม่อมฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”

“อุ่น”

“เพคะ”

“ไปเอาตัวอีคนกุเรื่องมาที่นี่”

“เพคะพระชายา”

“ฮึกๆ ฮือ”

“เงียบเสีย ข้ารำคาญเต็มทน”เจ้าชมนาดตรัส

“ใจเย็นก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ เสด็จแม่”เจ้าภุชงค์กราบทูลมารดา

“แม่เย็นมิไหวดอกหนาเจ้าภุชงค์”เจ้าชมนาดตรัสกับโอรสองค์โต พลางสะบัดพัดจีนในหัตถ์ให้คลายความร้อนพระทัย



รอมินานข้าหลวงรับใช้ในตำหนักรับรองของเจ้าแสงแรกก็ถูกลากตัวมาที่ท้องพระโรงตำหนักหลวง ข้าหลวงสาวหมอบกราบเจ้านายเหนือหัว

“ถวายพระพรเพคะ ทรงเรียกหาหม่อมฉัน มีกระไรหรือเพคะ”

“เจ้าหนาหรือ”

“เพคะ?”

“เจ้าหนาหรือที่เป็นคนกุเรื่องใส่ร้ายสุณิสาข้า”

“ห หา มิใช่หนาเพคะ หามิได้”

“จักมิใช่เจ้าได้อย่างไร ก็นางข้าหลวงสองคนนี้บอกข้าว่าเจ้าเป็นผู้กุเรื่องเจ้าแสงแรกเป็นผีปอบ ผีป่า แลพูดไปทั่ววังหลวง”

 “มิได้เพคะ หม หม่อมฉัน...อีจวง ม มึง”หันไปเอาเรื่องเพื่อนข้าหลวงด้วยกัน

“หยุดประเดี๋ยวนี้หนา ต่อหน้าพระพักตร์เจ้าหลวง แลเจ้านายเหนือหัวไยจึงมีกิริยาต่ำทรามเช่นนี้”อุ่นตวาด

“ฮึก ป ประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ ฮึก”

“เช่นนี้ก็เท่ากับว่าเจ้ายอมรับแล้วใช่หรือไม่ว่าเจ้าเป็นผู้กุข่าวใส่ร้ายเจ้าแสงแรก”องค์ภุมรินตรัสถาม แม้จักมีพระพักตร์ แลพระสุรเสียงเรียบนิ่ง หากแต่เจ้าชมนาดคู่ชีวิตย่อมรู้ดีว่าเพลานี้ทรงกริ้วมากเพียงใด

“ฮึก หม่อมฉันสิ้นคิด ปากพล่อย หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ อภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”

“หากได้รับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย แลปากรั่วเช่นนี้ก็ไปไกลหูไกลตาข้าเถิด”

“ฮึก พระชายา”

“อุ่น เอายาพิษกรอกปากมันทั้งสาม แลขับไล่ให้ไปทำงานที่คอกม้า เก็บมูลม้าคงจักเหมาะกับมันกว่าการรับใช้ใกล้ชิดสุณิสาข้า”

“โฮ พระชายา เมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ”

“จ เจ้าหลวง เมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ”มิพูดอย่างเดียว คลานเข้ามาหมายจักกอดพระบาทเจ้าหลวงขอความเมตตา



พรึ่บ



“อ๊ะ อ โอ๊ย ฮึก พระชายาเพคะ ฮึก ฮือ”หากแต่ยังมิทันที่มือสกปรกของนางข้าหลวงรับใช้จักได้สัมผัสพระฉวีที่หลังพระบาทของเจ้าหลวงภุมริน พระบาทบางของเจ้าชมนาดก็เหยียบลงบนมือของนางข้าหลวงรับใช้เต็มแรง

“อย่าได้คิดจักแตะต้องภัสดาข้า”ทรงตรัสรอดไรพระทนต์พลางกดพระบาทลงบนหลังมือข้าหลวงสาวที่สั่นระริกด้วยความเจ็บปวด

“ฮึก พระชายา ฮือ”

“ยาพิษนี้มิทำให้เจ้าถึงตายดอก หากแต่มันจักกัดกินเสียงของเจ้า ปากพล่อยเช่นนี้ก็มิควรพูดอีกตลอดชีวิต!”

“ฮึก ฮือออ พระชายา พระชายาเพคะ”

“ฮึก ฮือออ”

“ฮึก เจ้าน้อยแสงแรก เจ้าน้อยเมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ”คลานเข้าหาเจ้าน้อยต่างเมืองหมายขอความเมตตา หากแต่ก็ถูกยี่สุ่น แลชงโคขวางไว้มิให้เข้าใกล้นายตน

“...”เจ้าแสงแรกสงสารนางข้าหลวงทั้งสามจับใจ ผินพักตร์ไปจักตรัสกับพระชายาชมนาด

“เจ้าภุชงค์”หากแต่พระชายาท่านก็ทรงตรัสขึ้นมาก่อน

“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่”

“พาเจ้าแสงกลับตำหนักไปก่อนเถิดลูก น้องคงเหนื่อยแย่แล้ว หน้าหรือซีดเซียวจนไร้สีเลือดแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“...”เจ้าแสงถึงกลับกลืนคำพูดที่จักตรัสลงพระศอไปทั้งหมด แลขยับพระวรกายลูกตามแรงประคับประคองขององค์รัชทายาทคู่หมาย

“ฮึ”ยี่สุ่น แลชงโคทำเสียงขึ้นจมูกใส่นางข้าหลวงที่ร้องไห้ฟูมฟาย ก่อนจักตามคนเป็นนายออกไปจากท้องพระโรงตำหนักหลวง



หลังจากที่องค์ภุชงค์พาเจ้าน้อยแสงแรกออกจากท้องพระโรงตำหนักหลวงไปแล้ว พระชายาชมนาดก็พยักพักตร์ให้ข้าหลวงคนสนิทนำยาพิษกรอกปากนางข้าหลวงปากพล่อยทั้งสามที่กลัวจนตาเหลือกตาลาน แต่ละคนพยายามมิกลืนยาหากแต่ก็ต้องมีบ้างที่ไหลลงคอไปจนสำลักหน้าดำหน้าแดง



เคร้ง



“ถ้วยยาถูกทิ้งลงพื้นพร้อมกับร่างของนางข้าหลวงทั้งสามที่ดิ้นพล่าน สองมือกอบกุมลำคอตน รสขมปร่าที่ติดปลายลิ้น แลกลิ่นฉุนยิ่งทำให้นางข้าหลวงทั้งสามกลัวจนชักดิ้นชักงอ เจ้าชมนาดทอดพระเนตรสภาพนางข้าหลวงปากพล่อย แลยกมุมโอษฐ์ขึ้น พระกรเล็กกอดคล้องพระกรแกร่งของพระภัสดาทอดพระเนตรอาญาที่นางข้าหลวงได้รับอย่างอารมณ์ดี ยาพิษที่ว่าหาได้มีจริงไม่ ก็แค่ยาต้มที่ผสมพิษชวนชมอ่อนๆ เท่านั้นหาได้ถึงตาย หรือ ร้ายแรงไม่ หึ!










ออฟไลน์ yoyothaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณนักเขียน มาต่อให้อ่านอย่างรวดเร็ว...เอาใจช่วยเจ้าแสงนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด