ภุชงค์เล่นแสง [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๔ (จบ) ๐๗.๐๗.๖๓ หน้า ๙
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภุชงค์เล่นแสง [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๔ (จบ) ๐๗.๐๗.๖๓ หน้า ๙  (อ่าน 48165 ครั้ง)

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เจ้าชมนาดตอนเป็นแม่ยายดูเข้มงวดมาก
องค์ภุงชงค์อ้อนเจ้าแสงน่ารักก

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ใช่เลยมันต้องมีร้ายบ้างหากมีใครมาระราน o13

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
สนุกอ่า ต้องไปตามอ่านเรื่องเจ้าบัวบ้างละ

ออฟไลน์ palm_rawinda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


ภุชงค์เล่นแสง ๑๓



พิธีอภิเษกขององค์รัชทายาทภุมริกา แลเจ้าน้อยการเวกจักมีขึ้นในวันขึ้นสามค่ำเดือนเก้า หรือ ก็คือวันพรุ่ง แลเพลานี้เจ้าหลวงศศิมณฑล แลพระชายาบัวงามก็เสด็จมาประทับที่ภุมริกา เพื่อเข้าร่วมพิธีพร้อมเจ้าพเยียน้อยหลานรักของตา แลยาย

“เจ้าพเยีย ขี้เซาจริงหลานตา เหมือนแม่เจ้าตอนเกิดมิมีผิด”องค์ภุมรินตรัสกับนัดดาตัวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมพระกร

“หึหึหึ ตอนเจ้าบัวงามเกิดขี้เซามากหรือพ่ะย่ะค่ะ”องค์จันทร์สรวล แลตรัสถามพระสัสสุระ

“มากมิมากก็ให้ดูเจ้าพเยียเอาเองเถิด ถอดแบบแม่มาทุกกระเบียดนิ้วเชียว หึหึหึ”ตรัส แลบีบปรางกลมของเจ้าตัวน้อยเบาๆ จนโอษฐ์เล็กยู่

“หึหึหึ...เห็นเช่นนี้แล้ว ใคร่อยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างหรือไม่เจ้าภุชงค์”องค์จันทร์ตรัสถาม

“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ หากแต่มินานดอกลูกหม่อมฉันคงจักโตไล่ทันเจ้าพเยียเป็นแน่”

“หึหึหึ”

 



แม้เพลานี้เจ้าแสงจักตั้งท้องแล้ว หากแต่ก็หาได้มีใครรู้ไม่ นอกเสียจากบ่าวคนสนิท แลเจ้านายภุมริกาทั้งสามพระองค์ แม้แต่องค์จันทร์ แลเจ้าบัวงามยังมิทราบเสียด้วยซ้ำ เพื่อมิให้เจ้าแสงแรกเสื่อมเกียรติ

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าแสง สบายดีใช่หรือไม่”เจ้าบัวงามตรัสถามคนเป็นน้อง

“สบายดีพระเจ้าค่ะ แลพี่บัวเล่า สบายดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสถามกลับ

“สบายดี หากแต่เลี้ยงลูกเล็กมันเหนื่อย แม้เจ้าพเยียจักไม่ได้เลี้ยงยากเลี้ยงเย็นกระไร หากแต่ก็เหนื่อยอยู่ดีนั่นแล ไหนจักต้องให้นม ไหนจักต้องตื่นมาดูลูกตอนกลางค่ำ กลางคืนอีก ให้พวกนางข้าหลวงดูให้มันก็ได้อยู่ดอก หากแต่ข้าใคร่อยากดูลูกเองเสียมากกว่า”

“...”

“เหนื่อย แต่ก็มีความสุขหนา”

“...”เจ้าแสงมิตรัส หากแต่แย้มสรวลตามคนเป็นพี่

“ไว้เจ้ามีลูกบ้าง เจ้าจักเข้าใจข้า”

“...พระเจ้าค่ะ”ก้มพักตร์ซ่อนปรางแดงระเรื่อ หัตถ์เล็กแอบยกขึ้นลูบครรภ์ตน หากลูกเกิดคงจักเหนื่อยเช่นพี่บัวเป็นแน่ ดำริองค์เดียว แลแย้มสรวลบางๆ

 

.

.

.

 

 

รุ่งอรุณวันงานพิธี เจ้าน้อยแสงแรกตื่นบรรทมตั้งแต่ฟ้ายังมิสาง นั้นก็เพราะวันนี้เจ้าน้อยการเวกจักต้องเข้าพิธีศาสน์กับองค์รัชทายาทแห่งภุมริกา เจ้าน้อยการเวกประทับอยู่หน้าคันฉ่อง มีบ่าวคนสนิททั้งสองช่วยแต่งองค์ให้ หัตถ์บางวางลงบนอุทรแบนราบของตน ตั้งแต่ได้ทราบว่ามีลูกน้อยอยู่ในครรภ์ หัตถ์ของเจ้าแสงก็มักจักวางทาบอยู่ที่อุทรตนเสมอ

“ทรงงามเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นทูล ยิ่งมีองค์รัชทายาทตัวน้อยอยู่ในพระครรภ์ เจ้าน้อยก็ยิ่งงามผุดผาด น่ามอง

“...ขอบใจหนายี่สุ่น”เจ้าน้อยตรัสตอบบ่าวคนสนิท แลแย้มกลีบโอษฐ์ให้น้อยๆ

“องค์รัชทายาทจักต้องพระเนตรค้างกับความงามของเจ้าน้อยเป็นแน่พระเจ้าค่ะ”ชงโคว่าสำทับ

“ก็ว่าไปนั่น ชงโค”ตรัสเบาๆ

“หม่อมฉันพูดจริง มิปดหนาพระเจ้าค่ะ ทรงงามราวกับนางอัปสรก็มิปาน”ว่าพลางสางเกศาให้คนเป็นนาย

“หึหึหึ”เจ้าแสงก้มพักตร์สรวลเบาๆ หัตถ์ลูบอุทรตนไปมา

“ทูลเจ้าน้อย พระชายาชมนาดเสด็จเพคะ”ข้าหลวงหน้าบานทวารส่งเสียงกราบทูลความแก่เจ้าน้อยแสงแรก

“ให้ท่านเข้ามาเถิด...ถวายพระพรพระเจ้าค่ะเสด็จแม่”เจ้าแสง แลบ่าวทั้งสองขยับกายให้สำรวม แลหมอบกราบเมื่อพระสัสสุก้าวบาทเข้ามาในห้องบรรทม

“ไหว้พระเถิดเจ้า เป็นเยี่ยงไรบ้าง”

“ใกล้แล้วแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสทูล

“ไยปากซีดเช่นนี้เล่า...เติมชาดอีก”เจ้าชมนาดตรัส แลสั่งให้ยี่สุ่นลงชาดให้สุณิสาเพิ่ม

“พระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นรับพระบัญชา แลแตะน้ำลงบนกลีบโอษฐ์ของเจ้าน้อย แลเอาชาดแตะลงบนโอษฐ์บาง เจ้าแสงเม้มโอษฐ์เบาๆ ซับสีชาด

“ดี เช่นนี้ถึงจักดูมีสีสันน่ามองหน่อย”ตรัสอย่างพึงพระทัย

“...”

“งามนัก เช่นนี้เจ้าภุชงค์คงจักไปไหนมิรอดแล้ว”

“...”เจ้าแสงปรางแดงซ่านด้วยความเขินอาย

“หึหึหึ ไปเถิด ประเดี๋ยวก็จักได้เพลาแล้ว”สรวลอย่างเอ็นดู

“พระเจ้าค่ะ”

 

.

.

.

 

“เป็นกระไรไปเจ้าภุชงค์”เจ้าหลวงภุมรินตรัสกับโอรสองค์โตที่มีทีท่ากระสับกระส่ายอยู่มิสุข

“ลูกกังวลใจพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ”องค์ภุชงค์ตรัสกับบิดา วันนี้ทรงสวมใส่ฉลองพระองค์สีงาช้างรูปรามราวกับรุกขเทวดา

“กังวลเรื่องอันใดกันเล่า”

“ลูกดูงามหรือยังพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ เจ้าแสงจักพึงใจหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“โธ่ วันนี้ลูกพ่องามนัก อย่าได้กังวลใจไป หากเจ้าแสงได้พบเข้าคงจักเขินอายจนหน้าม้าน”

“กระนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“แน่ละ ก็เจ้าลูกพ่อนี่ เช่นนั้นก็ต้องงามเช่นพ่อ ฮะฮ่าๆๆๆ”

“หึหึหึ พ่ะย่ะค่ะ”

“ตรัสกระไรกันอยู่หรือพระเจ้าค่ะ สุรเสียงสรวลดังออกไปถึงนอกตำหนักเทียว”เจ้าบัวงามที่อุ้มลูกน้อยเข้ามาตรัสถามพระบิดา แลพระเชษฐา

“เจ้าบัวงาม...เจ้าพเยียหลานตา มา ให้ตาอุ้มหน่อยเถิด”องค์ภุมรินยื่นหัตถ์ไปรับหลานจากโอรสองค์เล็ก

“ยินดีด้วยหนาพระเจ้าค่ะภุชงค์”เจ้าบัวงามตรัส แลสวมกอดพระเชษฐา

“ขอบใจหนาน้อง”กอดร่างแน่งน้อยตอบ

“ลูกพ่อทั้งสองคนเติบใหญ่จนออกเหย้า ออกเรือน มีหลานให้พออุ้มกันหมดแล้วน่าภูมิใจแท้ๆ”องค์ภุมรินตรัสอย่างยินดี แต่เจ้าบัวงามที่ได้ฟังกลับขมวดขนงบางจนเป็นปม

“มีหลานให้เสด็จพ่ออุ้มหมดแล้วหรือพระเจ้าค่ะ ลูกมีเจ้าพเยีย แลภุชงค์...”เจ้าบัวงามผละออกจากอ้อมอุระของพระเชษฐา

“...”

“...”มีพิรุธทั้งพ่อ แลพี่ชาย
“เสด็จพ่อตรัสราวกับว่าภุชงค์มีลูกให้เสด็จพ่ออุ้มแล้วอย่างนั้นแลพระเจ้าค่ะ”

“...”

“...”

“...นี่ คงจักมิใช่ว่า...เจ้าแสงแรก”

“...”องค์ภุมรินหลบเนตรโอรสองค์เล็ก แสร้งทำเป็นหยอกเย้านัดดาตัวน้อยในอ้อมพระกร

“...”ส่วนเจ้าบ่าวของวันนี้ก็กวาดพระเนตรไปมาไม่สบเนตรน้อง

“ภุชงค์...เจ้าแสงแรกตั้งครรภ์หรือพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวกระซิบถาม

“...”

“...”

“ภุชงค์”

“จ้ะ เจ้าแสงแรกตั้งครรภ์แล้ว”

“ท้องก่อนแต่งหรือพระเจ้าค่ะ ภุชงค์ไยจึงทำเช่นนี้พระเจ้าค่ะ”นัยน์ตากวางเบิกกว้าง โอษฐ์บางอ้าเผยอ

“พี่ขอโทษเจ้า อย่าดุนักเลยเสด็จแม่ท่านก็ลงหวายพี่จนสำนึกแล้วเจ้า”ตรัสกับน้อง

“สมควรให้เสด็จแม่ท่านตีแล้วพระเจ้าค่ะ”ค้อนพระเชษฐาไปหนึ่งที

“จ้ะๆๆ พี่สมควรโดนแม่ตีแล้ว มาเจ้าพเยียขอลุงอุ้มหน่อยหนาเจ้า...เสด็จพ่อ ขอลูกอุ้มหลานหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ลูบหัว ลูบไหล่น้อง ก่อนจักกรับเจ้าตัวน้อยจากพระบิดามาอุ้มแนบพระอุระ พระนาสิกแตะลงบนปรางกลม โยกพระวรกายแผ่วเบา หากลูกข้า แลเจ้าแสงเกิดมาจักได้อุ้มลูกคล่อง ดำริองค์เดียว แลแย้มสรวลเต็มพักตร์

“เจ้าภุชงค์”

“เสด็จแม่”องค์ภุชงค์เงยพักตร์ขึ้นเมื่อมารดาเรียกหา

“ใกล้จักได้เพลาพิธีศาสน์แล้ว ไปเถิดลูก ประเดี๋ยวจักเลยฤกษ์เอาได้”พระชายาชมนาดตรัสกับโอรสองค์โต

“พ่ะย่ะค่ะ”แย้มสรวลให้มารดา แลส่งนัดดาตัวน้อยคืนให้คนเป็นแม่ เจ้าบัวงามรับลูกน้อยมาอุ้มแนบอุระตนก่อนจักดำเนินตามบิดา มารดา แลเชษฐาออกจากตำหนักหลวง ป่านนี้องค์จันทร์คงจักรออยู่ที่ท้องพระโรงแล้วเป็นแน่

 

.

.

.

 

เจ้านายภุมริกา เจ้านายศศิมณฑล เหล่าอาคันตุกะที่ให้เกียรติมาร่วมพิธีในวันนี้ หรือแม้แต่เจ้าหลวงการเวกบิดาของเจ้าแสงแรกประทับอยู่ที่ท้องพระโรง จวบจนใกล้ถึงฤกษ์เจ้าน้อยแสงแรกจึงได้เสด็จมาที่ท้องพระโรงพร้อมบ่าวคนสนิททั้งสอง องค์ภุชงค์เมื่อได้ทอดพระเนตรน้องน้อยก็ยกมุมโอษฐ์อย่างพึงพระทัย เจ้าแสงแรกงดงามนัก แม้จักมิได้งามสะดุดเนตรเยี่ยงบุตรีขุนนางที่เคยพบเห็น หากแต่กลับงดงาม อ่อนหวานอย่างที่มองได้มิรู้เบื่อ เจ้าแสงแรกเมื่อเข้ามาในท้องพระโรงแล้วก็หมอบคลานกราบเจ้าหลวงภุมริน พระชายาชมนาด เจ้าหลวงสิงห์ผู้เป็นบิดา องค์จันทร์ แลเจ้าบัวงาม ก่อนจักกราบองค์ภุชงค์เป็นคนสุดท้าย เจ้าน้อยการเวกก้มพักตร์ซ่อนปรางแดงระเรื่อ วันนี้องค์ภุชงค์งามจับตานัก เมื่อถึงฤกษ์ยามที่พระชายาชมนาดท่านหามา พิธีศาสน์จึงเริ่มขึ้นบ่าวสาวตักข้าวปลาอาหารใส่บาตรให้พระคุณเจ้าที่นิมนต์มาจากวัดใหญ่ใกล้วังหลวง

“ฝ่าบาท...”เจ้าแสงแรกช้อนเนตรมองพระพักตร์องค์รัชทายาทที่แย้มสรวลมาให้ เมื่อองค์ภุชงค์จับหัตถ์เจ้าน้อยให้จับที่คอทัพพี

“โบราณท่านว่าเพลาตักบาตรหากผู้ใดจับที่คอทัพพี ผู้นั้นจักเป็นใหญ่ในบ้าน...”ก้มพักตร์กระซิบข้างกรรณขาว

“...”เจ้าแสงปรางแดงระเรื่อ

“พี่ยอมให้เจ้าเป็นใหญ่เหนือพี่หนา แค่เจ้า...คนเดียวเท่านั้น”กดพระโอษฐ์ที่ขมับน้องก่อนจักประคับประคองทัพพีตักข้าวใส่บาตรให้พระคุณเจ้าท่าน ก่อนจักให้พระท่านมัดสายสิญจน์ ผูกดวง เจิมนลาฏ พร้อมพรมน้ำมนต์ แลสวดให้ศีลให้พร พิธีศาสน์จึงเป็นอันเสร็จสิ้น

“บัดนี้พิธีศาสน์ก็เสร็จสิ้นไปแล้ว เยี่ยงนั้นข้ากระหม่อมเจ้าหลวงภุมรินแห่งภุมริกาจักขอแต่งตั้งเจ้าน้อยแสงแรกแห่งแคว้นการเวกเป็นชายาของเจ้าภุชงค์ รัชทายาทสืบบัลลังก์ของข้ากระหม่อมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”องค์ภุมรินตรัส แลเปิดกรวยบายศรีสู่ขวัญ เป็นอันว่าบัดนี้เจ้าแสงแรกเป็นชายาขององค์รัชทายาทอย่างเต็มตัวแล้ว เจ้าแสงแรกช้อนเนตรมองพักตร์งามขององค์ภุชงค์ก่อนจักหมอบกราบแนบพระเพลา องค์ภุชงค์วางหัตถ์ลูบเศียรชายาตนแผ่วเบาก่อนจักโน้มพักตร์กดนาสิกกับกระหม่อมเจ้าแสงแรก






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เค้าแต่งกันแล้ว อีกไม่นานก็จะมีตัวเล็กออกมาให้ชื่นชมแล้ว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไม่น่ามีดราม่าแล้วเนอะ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แต่งงานกันแล้ววว รอชมเจ้าตัวเล็กกก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รอดมือน้องไปอีกคน :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สมกับที่รอมานาน
และจะรอต่อไป

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ภุชงค์เล่นแสง ๑๓ ๑๐๐%



เมื่อแล้วสิ้นพิธีศาสน์ในช่วงเช้า เจ้านาย แลอาคันตุกะที่มาร่วมพิธีก็กลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยที่ตำหนักรับรองที่ทางภุมริกาจัดเตรียมไว้ให้

“เสด็จพ่อ”เจ้าแสงแรกโผเข้ากอดบิดาตนด้วยความคิดถึง องค์สิงห์เสด็จเยือนภุมริกาแต่เพียงองค์เดียว หาได้มีพระชายาติดตามมาด้วยไม่

“เจ้าแสง เป็นเยี่ยงไรบ้างลูก สุขกายสบายใจหรือไม่คนดีของพ่อ”กอดลูกแนบอุระ พรมโอษฐ์จูบหอมขมับขาว
“ลูกสบายดีพระเจ้าค่ะ แลเสด็จพ่อเป็นเช่นไรบ้างพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสสุรเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเนตร

“พ่อสบายดี มิไห้หนาลูก”หากแต่ยิ่งปลอบก็คล้ายยิ่งยุ เจ้าแสงร้องไห้กอดบิดาราวกับเด็กตัวน้อยๆ

“ฮึก...ฮือ”

“ชู่วว นิ่งเสียคนดี”ผละอ้อมกอดออก แลประคองพักตร์งามของลูกด้วยสองหัตถ์ ดรรชนีเกลี่ยคราบน้ำตาบนปรางขาวให้แผ่วเบา

“ฮึก...”เจ้าแสงเอียงพักตร์ซบกับฝ่าพระหัตถ์คนเป็นพ่ออย่างออดอ้อน

“หึหึหึ นิ่งเสีย น้ำตานองหน้าหมดแล้ว ประเดี๋ยวจักมิงามเอาหนา”

“ฮึก พระเจ้าค่ะ”

“...รับพระกายาหารกันก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันให้ข้าหลวงตระเตรียมไว้แล้ว ประเดี๋ยวจักชืดเสียก่อน”เจ้าชมนาดตรัสขึ้น ทำให้สองพ่อลูกการเวกผละออกจากกัน



.
.
.



สำรับกายาหารคาวหวานหน้าตางามเลิศถูกยกถวายเจ้านายภายในท้องพระโรงตำหนักหลวง หากแต่เมื่อข้าหลวงเปิดฝาแกงในสำรับ องค์รัชทายาทเจ้าบ่าวของวันนี้ก็มีสีพระพักตร์ผะอืดผะอม ก่อนจักสำรอกออกมาให้ตกพระทัย เจ้าแสงถลาเข้าประคองภัสดา

“ฝ่าบาท...เป็นกระไรไปพระเจ้าค่ะ”หัตถ์เล็กลูบขนองกว้างไปมา

“พี่เหม็นแกงเจ้า”ตรัส แลคว้าฝามาปิดถ้วยแกง

“เหม็นหรือพระเจ้าค่ะ...ยี่สุ่นข้าขอยาหอมทีเถิด”เจ้าแสงโน้มพักตร์ดมที่สำรับ แต่หาได้กลิ่นเหม็นดังที่พระภัสดาว่าไม่ มีเพียงกลิ่นหอมของเครื่องแกง แลกะทิเสียมากกว่า

“อึก”องค์ภุชงค์ทุบอุระตนพลางสูดยาหอมในหัตถ์เมียเสียเฮือกใหญ่

“ฝ่าบาท หาได้มีกลิ่นเหม็นไม่พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสพลางลูบพักตร์งาม

“...”

“...”ในขณะที่เจ้าแสง แลเจ้าหลวงการเวกตกพระทัยกับอาการของเจ้าภุชงค์ หากแต่สามพ่อ แม่ แลลูกภุมริกากลับประทับนิ่ง นัดดาในครรภ์เจ้าแสงแรกจักฆ่าบิดาทางอ้อมแล้วอย่างไรเล่า อาการเช่นนี้มันช่างคุ้นเคยยิ่งนัก

“องค์ภุชงค์เป็นเช่นไรบ้าง ตามหมอหลวงดีหรือไม่”เจ้าการเวกตรัส

“มิต้องดอกพระเจ้าค่ะ เจ้าภุชงค์มิได้เป็นกระไรมากดอก เป็นเพียงอาการปกติเท่านั้น”เจ้าชมนาดตรัส อย่างไรเสียก็ต้องทูลเจ้าหลวงการเวกว่ารัชทายาทของพระองค์ทำโอรสองค์เล็กของเจ้าหลวงการเวกตั้งครรภ์ก่อนตบแต่ง หากจักให้ปิดพระเนตร พระกรรณพระองค์ หรือ จักให้พระองค์รู้เองภายหลังก็คงมิงาม

“ปกติหรือพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสถาม หากแต่มือก็ยังคงปรนนิบัติพระภัสดา

“...เจ้าภุชงค์แค่เพียงแต่แพ้ท้องแทนเจ้าแสงแรกก็เท่านั้นพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดตรัส แลก้มพักตร์ลง

“...”เจ้าแสงแรกปรางแดงก่ำอย่างเขินอาย ผิดกับผู้เป็นบิดาที่นิ่งงันราวรูปสลัก

“...องค์รัชทายาทแพ้ท้องแทนเจ้าแสงแรกหรือพ่ะย่ะค่ะ”ตรัสถามเจ้านายภุมริกา

“พระเจ้าค่ะ...หม่อมฉันในฐานะแม่องเจ้าภุชงค์จักต้องกราบขอขมาเจ้าหลวงสิงห์ด้วยที่โอรสหม่อมฉันมิรู้จักยับยั้งชั่งใจ ทำเรื่องงามหน้าหมิ่นเกียรติโอรสของพระองค์”เจ้าชมนาดตรัส แลพนมหัตถ์ไหว้เจ้าหลวงต่างแคว้น

“...”

“เสด็จพ่อ”เจ้าแสงตรัสสุรเสียงอ่อย อับอายเหลือเกินที่จักต้องให้บิดามารับรู้ว่าตนชิงสุกก่อนห่าม ท้องก่อนแต่ง

“...”

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันขอกราบประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะที่ทำให้เจ้าแสงแรกเสื่อมเกียรติ ทั้งๆ ที่ให้สัญญาเป็นหมั่นเป็นเหมาะกับพระองค์แล้วว่าจักรัก แลให้เกียรติน้อง...”องค์ภุชงค์ประคองพระวรกายตนหมอบกราบแทบพระบาทพระสัสสุระ

“...”

“หม่อมฉันมิมีกระไรจักแก้ต่าง...”

“เสด็จพ่อ...ลูกก็ผิดพระเจ้าค่ะ ที่มิห้ามปราม แลเห็นดีคล้อยตามองค์ภุชงค์”เจ้าแสงกราบแนบพระบาทบิดา

“...เอาเถิด อย่างไรเสียตอนนี้ก็ตบแต่งกันแล้ว แลหลานพ่อก็มาเกิดแล้วก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย”องค์สิงห์ตรัสพลางประคองบุตรเขย แลโอรสตนให้เงยพักตร์ขึ้น



แม้ว่าองค์สิงห์จักมิได้โกรธเคืองกระไรที่องค์ภุชงค์ทำเจ้าแสงแรกท้องก่อนตบก่อนแต่งตามประเพณี หากแต่เจ้าชมนาด แลองค์ภุมรินก็รับสั่งให้ข้าหลวงตระเตรียมมาลัยพวงงาม พร้อมน้ำล้างพระบาทให้องค์รัชทายาทภุมริกา แลเจ้าน้อยการเวกได้กราบขอขมา แลล้างพระบาทให้เจ้าหลวงการเวก เสร็จจากนี้เจ้าบัวงาม แลองค์จันทร์จึงขอพาลูกกลับตำหนักในก่อน เนื่องจาก เจ้าพเยียน้อยร้องงอแงหิวนม เจ้านายที่เหลือจึงแยกย้ายกันพักผ่อน เพื่อรอร่วมงานพิธีฉลองในค่ำนี้

“ไปพักก่อนเถิดลูก เจ้าภุชงค์พาน้องไปพักก่อนเถิดกำลังท้องกำลังไส้”เจ้าชมนาดตรัส

“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่...เช่นนั้นหม่อมฉันขอพาเจ้าแสงแรกไปพักก่อน ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”หมอบกราบ แลประคองเมียออกจากโถงตำหนัหลวงกลับตำหนักพร้อมด้วยบ่าวคนสนิททั้งสองของเจ้าแสง

“เชิญพักผ่อนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ค่ำนี้ยังจักต้องร่วมงานพิธีฉลองอีก”องค์ภุมรินตรัสกับเจ้าหลวงการเวก

“พ่ะย่ะค่ะ”



.
.
.



“เหนื่อยหรือไม่เจ้าแสง”ตรัสถามพลางไล้ปรางนวลแผ่วเบา

“มิได้พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันมิเหนื่อยดอก”แสงตรัส แลแย้มสรวลให้พระภัสดา

“...แลเจ้าเล่าลูกพ่อ เหนื่อยหรือไม่คนดี”ย่อพระวรกายลงไปตรัสกับอุทรแบนราบของเจ้าแสง

“...ฝ่าบาท”ปรางขาวแดงระเรื่ออย่างเขินอาย

“นอนพักก่อนหนาคนดี ประเดี๋ยวค่ำนี้ก็ต้องเข้าร่วมงานฉลองอีกจักได้มิเหนื่อยมาก”

“พระเจ้าค่ะ”



องค์ภุชงค์ช่วยชายาหมาดๆ ของพระองค์ปลดสร้อยพระศอ เครื่องเงิน เครื่องทองออกอย่างเต็มพระทัย พระหัตถ์ปลดเสื้อแขนกระบอกคอตั้งของเจ้าแสงแรก ยามสาบเสื้อทิ้งตัวแยกออกจากกัน ปลายพระองคุลีก็ถือโอกาสลูบไล้ผิวเนื้อนุ่มหยุ่นของเจ้าแสง

“ฝ่าบาท...”เจ้าแสงแรกตะครุบหัตถ์พระภัสดาไว้ พลางหลบเนตร ดวงพักตร์งามแดงระเรื่อ

“...”โอบกายบางแนบพระอุระแผ่วเบา มิให้น้องน้อยระคายเคือง พระหัตถ์ถอดปราการที่ปกปิดฉวีขาวออก เจ้าแสงแรกเปลือยท่อนบนอยู่ในอ้อมพระกรพระภัสดา ถูกตระกองกอด แลจูบซับลาดไหล่เนียนแผ่วเบา

“ฝ่าบาท...ปล่อยหม่อมฉันก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัส เขินอายมิน้อยที่จักต้องมาเปลือยให้พระภัสดากกกอดเยี่ยงนี้

“...ประเดี๋ยวพี่เลือกผ้าแถบให้หนาเจ้า”ยอมปล่อยร่างแน่งน้อยแต่โดยดี พระหัตถ์ลูบปรางขาว แลตรัสสุรเสียงอ่อน องค์ภุชงค์ผละออกจากร่างหอมกรุ่น แลดำเนินไปเปิดหีบผ้าของเมีย บุหงารำไปกลิ่นดอกแก้วที่ใช้อบผ้าลอยขึ้นแตะพระนาสิกให้สูดดม ปลายพระองคุลีไล้เนื้อผ้านิ่มในหีบแผ่วเบา ก่อนจักเลือกผ้าแถบสีขาวขาบปักลายดอกแก้วเล็กๆ ทั่วผืนขึ้นมา

“...”เจ้าแสงแรกประทับยืน สองกรเรียวเสลากอดอุระเปลือยของตนไว้แน่น ปกปิดเต้ากระเปราะให้พ้นสายพระเนตรคม

“ใส่ผ้าแถบผืนนี้หนาเจ้า”

“พระเจ้าค่ะ”

“มา พี่ใส่ให้”ตรัส แลคลี่ผ้าแถบสีหวานออก

“หม่อมฉันทำเองได้พระเจ้าค่ะ”ก้าวบาทถอยหลังหนีคนพี่

“ให้พี่ช่วยเถิดหนาคนดี”มิฟังคำปฏิเสธจับกรเรียวที่กอดอุระบางออกเผยให้เห็นยอดอกสีหวานตั้งชัน องค์ภุชงค์ประทับลงบนพระแท่นบรรทม จับน้องน้อยให้ยืนอยู่ระหว่างพระเพลาหันพักตร์เข้าหาพระองค์ ทำให้พรักตร์งามขององค์รัชทายาทอยู่เสมอแผ่นอกขาวประทับยอดปทุมสีหวานของชายาคนงาม นั่นยิ่งทำให้เจ้าแสงแรกเขินอายหน้าม้านจนใคร่อยากจักกลั้นใจตาย

“...ฝ่าบาท”ประท้วงสุรเสียงสั่นเครือเมื่อปลายพระนาสิกของพระภัสดาแตะเย้าวนรอบฐานบัวสีอ่อน กดพระโอษฐ์ที่แผ่นอกบาง ก่อนจักซบพักตร์กับอกเมียนิ่ง

“มาคนดี พี่ใส่ผ้าแถบให้หนา”ตัดพระทัยผละออกจากกายหอมหวาน แลพันผ้าแถบให้เมียอย่างที่ควรจะเป็นเสียตั้งแต่แรก เมื่อเหน็บปมผ้าแถบแล้วแล้ว พระหัตถ์ใหญ่ก็เลื่อนลงที่ผ้าโจงผืนงาม

“ฝ่าบาท...หม่อมฉันผลัดผ้าโจงเองพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกคว้าหัตถ์พระภัสดาไว้แน่น

“...”ช้อนเนตรสบนัยน์ตาหวานเว้าวอนของเจ้าแสง

“หนาพระเจ้าค่ะ...ฝ่าบาท...เมตตาหม่อมฉันเถิดพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสปรางแดงก่ำราวลูกตำลึงสุก

“ก็ได้ๆ พี่จักยอมให้เจ้าผลัดผ้าเอง”ยอมให้เมื่อทอดพระเนตรนัยน์ตาหวานคลอน้ำ

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”ประนมมือไหว้ผัวที่ยังมีเมตตาอยู่บ้าง เจ้าแสงผละออกจากพระวรกายสูงใหญ่ ดำเนินหลบเข้าหลังฉากกั้นปลดผ้าโจงที่ใช้ในพิธีศาสน์ออก แลสวมใส่ผ้าโจงผืนใหม่เนื้อนิ่มแทน เมื่อเจ้าน้อยการเวกดำเนินออกจากหลังฉากกกั้นก็ถึงกับผงะหน้าม้าน พระภัสดาที่เมื่อครู่อยู่ในฉลองพระองค์ในพิธีศาสน์ บัดนี้ทรงเปลือยล่อนจ้อนไร้อาภรณ์บนพระวรกายกำยำ

“หึ”เหลือบเนตรเห็นอาการชายาตนแล้วก็สรวลในลำศอ พระหัตถ์คว้าผ้าโจงมาพันรอบกฤษฎีสอบ ก่อนจักดำเนินไปช้อนอุ้มร่างบางของเมียขึ้นแนบอุระ

“อ๊ะ ฝ่าบาท”เจ้าแสงแรกผวาคว้าพระศอกอดแน่น

“พี่อุ้มหนาเจ้า หน้าแดงหน้าดำเยี่ยงนี้ พี่กลัวว่าเจ้าจักเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน”ตรัสหยอกเย้า เจ้าแสงใคร่อยากจักเป็นลมไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดตามที่พระภัสดาตรัสจักได้มิต้องมาทนเขินอายจนหน้ามืดเยี่ยงนี้

“...”เมื่อองค์ภุชงค์ท่านวางตนลงบนพระยี่ภู่ เจ้าแสงแรกก็คว้าผ้าแพรคลุมพระองค์ขึ้นคลุมเศียรตน

“ฮะฮ่าๆๆ ทำกระไรนั่นเจ้าแสง ประเดี๋ยวก็ขาดใจตายดอก พี่มิใคร่อยากเป็นม่ายดอกหนา”ตรัสเย้า แลดึงผ้าแพรออกจากเศียรเจ้าแสง

“...”เจ้าแสงแสร้งหลับเนตรมิรับรู้กระไรแล้ว หากแต่ปรางเนียนยังมีริ้วแดงก่ำพาดประทับ

“หึหึหึ พี่มิแกล้งแลวเจ้า พักเถิดหนาคนดี”กอดน้องจากด้านหลัง ซุกนาสิกกับเกศายาว แลหลับเนตรลงพร้อมรอยยิ้มสรวล



.
.
.



งานพิธีฉลองในตอนค่ำมีอาคันตุกะหลากหลายแคว้นเข้าร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง พระภัสดา แลเหล่าเจ้าหลวงต่างแยกออกไปพบปะสนทนาการบ้านการเมืองกัน ส่วนชายาก็ประทับพูดคุยกันอีกทาง เจ้าแสงแรกประทับทอดพระเนตรนางรำที่ทำการรำถวายพระเนตรมิกระพริบ หัตถ์ก็คว้าผลหมากรากไม้แช่อิ่มเข้าพระโอษฐ์เคี้ยวกรวมๆ สลับกับยกจอกน้ำขิงขึ้นจิบ อาการแพ้ท้องของเจ้าแสงเห็นทีจักมีเพียงบรรทมบ่อยขึ้น เสวยมากขึ้นส่วนอาการวิงเวียนเศียร อาเจียนนั้นไปตกอยู่ที่องค์ภุชงค์เสียหมด

“ชงโค ยี่สุ่น”

“พระเจ้าค่ะเจ้าน้อย”

“ข้าใคร่เข้าเวจ”ตรัส แลเช็ดหัตถ์กับผ้าขาวที่บ่าวคนสนิทนำถวายให้

“ประเดี๋ยวยี่สุ่น แลชงโคพาไปหนาพระเจ้าค่ะ”สองบ่าวประคองพระกรคนเป็นนายให้ลุกขึ้น

“เสด็จแม่ หม่อมฉันขอตัวสักประเดี๋ยวหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกกราบทูลพระสัสสุ

“จ้ะ...ยี่สุ่น ชงโคดูแลสุณิสาข้าให้ดีหนา”เจ้าชมนาดแย้มสรวลให้สุณิสา ก่อนจักรับสั่งกับบ่าวคนสนิททั้งสองของเจ้าแสงแรก

“พระเจ้าค่ะพระชายาชมนาด”



.
.
.



เมื่อคนเป็นนายเข้าเวจเรียบร้อยแล้ว บ่าวทั้งสองก็ประกบขนาบข้างประคองคนเป็นนายกลับเข้าท้องพระโรง หากแต่ถูกขัดขวางเสียก่อน

“...”เจ้าแสงแรกทอดพระเนตรเจ้าน้อยแคว้นชลาศัยที่ก้าวมาดักหน้าพร้อมบ่าวคนสนิทที่ก้มหน้าก้มตามิกล้ามองพักตร์เจ้าน้อยการเวก หรือ ชายาของรัชทายาทภุมริกา

“...นี่หนาหรือ คนที่องค์ภุชงค์ท่านเอาเป็นชายา”กวาดเนตรมองเจ้าแสงตั้งแต่เศียรจรดบาท จนยี่สุ่น แลชงโคชักสีหน้าโกรธเคืองแทนคนเป็นนาย หากแต่เจ้าแสงแรกยังคงนิ่ง

“...”

“เจ้าดีกว่าข้าที่ตรงใดกัน ไยองค์ภุชงค์จึงได้เลือกเจ้าเป็นชายา!!”พักตร์จิ้มลิ้มของเจ้าน้อยชลาศัยบูดบึ้ง หากเป็นน้องนุ่งคงจักนึกเอ็นดูพักตร์รั้นๆ นั้นมิน้อย หากแต่กิริยาก็คงต้องอบรมกันเสียใหม่

“...แลข้ามิมีตรงที่ใดหรือเจ้าน้อยสลิล ไยองค์ภุชงค์ท่านจักเลือกข้ามิได้”เจ้าแสงตรัสกลับไปเรียบนิ่ง สุรเสียงยังคงความอ่อนหวานหาได้มีอารมณ์โกรธเคืองเจืออยู่ไม่

“มิดี! มิดีๆๆๆ!!!”ตรัสอย่างเอาแต่พระทัย เนตรงามคลอน้ำ โอษฐ์จิ้มลิ้มเบะออก

“พระทัยเย็นก่อนเถิด”เจ้าแสงแรกปลอบ

“ฮึก...เพราะเจ้า!!”ตวาดใส่เจ้าแสง

“...ข้าทำกระไรให้ท่านโกรธเคืองหรือ”เจ้าแสงตรัสถามอย่างฉงน

“เพราะเจ้า ฮึก เจ้าแย่งองค์ภุชงค์ไปจากข้า...ทำให้ข้าต้องตบแต่งกับเจ้าหลวงพาฬ ฮึก”

“...”เจ้าหลวงพาฬ ผู้ครองแคว้นศารทูล

“ฮึกๆๆ...เพราะเจ้า”สะอื้นไห้ราวกับเด็กตัวน้อยๆ

“หยุดไห้ก่อนเถิด”เจ้าแสงขยับพระวรกายเข้าใกล้เจ้าน้อยสลิล วางหัตถ์ลูบอังสะบางปลอบ

“หึหึหึ อย่าไปสนพระทัยเด็กดื้อ เอาแต่ใจไปเลยพระชายาแสงแรก”สุรเสียงทุ้มต่ำของผู้มาใหม่ทำเอาเจ้าน้อยสลิลกัดโอษฐ์ตัว
เองกลั้นสะอื้นทันควันทั้งๆ ที่น้ำตายังไหลนองพักตร์ขาว

“เจ้าหลวงพาฬ ถวายพระพรพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงหมอบกราบผู้มาใหม่ ดวงพักตร์งาม หากแต่พระเนตรดุคมกริบก็ทำเอาเจ้าแสงแรกมิกล้าสบเนตรด้วย

“มิต้องมากพิธีดอก”ตรัสก่อนจักผินพักตร์ไปหาเจ้าน้อยสลิลคู่หมาย พระเนตรคมดุราวเหยี่ยวป่าจดจ้องจนคนตัวเล็กสั่นสะท้านด้วยความกลัว

“...อึก ฮึก อ๊ะ”เจ้าน้อยสลิลหลุดสุรเสียงร้องเมื่อพระหัตถ์ร้อนกอบกุมพาหุเล็กแน่น

“เด็กดื้อจักต้องถูกลงทัณฑ์!! เป็นคู่หมายข้า แต่กลับร้องร่ำหาชายอื่น!!”ตรัสพระสุรเสียงลอดไรพระทนต์ ก่อนจักฉุดกระชากร่างแน่งน้อยให้ปลิวตามพระองค์ไป

“ไม่...ปล่อยข้า ฮึก”เจ้าน้อยตัวขาวขืนพระวรกายออกจากหัตถ์ของเจ้าหลวงคู่หมาย หากแต่ก็มิเป็นผล

“เจ้าน้อยสลิ...”เจ้าแสงหุบโอษฐ์ฉับเมื่อเจ้าหลวงพาฬแห่งศารทูลผินพักตร์มาจ้องตนด้วยสายพระเนตรว่างเปล่า จักสงสารก็แต่เจ้าน้อยสลิล








ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แกล้งเก่งเหลือเกิน
วันต่อมาแพ้หนักกว่านี้จะขำให้ 555555555555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ดีมากค่ะแพ้ท้องแทนเมีย

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แพ้ท้องแทนเมียยย  :hao6: รักเมียมากแน่ๆ สามีดีเด่น
อยากอ่านอีกคู่เลยย เคะดูเด็กน้อยน่ารัก เมะก็ดูโหดมาก จะเขียนมั้ยค้าาาา อิอิ

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มีโมเมนท์นี้ด้วยเหรอ

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มีโมเมนท์นี้ด้วยเหรอ
 

:mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มีคู่ใหม่โผล่มา~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ได้อีกคู่ อีกเรื่องแล้วซินะ เจ้าน้อยสลิลกับเจ้าหลวงแห่งศารทูล
เหมือนจะมาแบบจำเลยรักหรือเปล่านะ น่าสนอ่ะคู่นี้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
สองคนนั้นว่ารักเมียหลงเมียแล้ว
เจอแพ้ท้องแทนเมียไปทีต้องรักและหลงขั้นสุดแล้วล่ะ  :m1: :m1:

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
มาแล้ว ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีเรา Rewrite ชมนาดอยู่เลยไม่ได้มาอัพเลย ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ

Thichadad <3
[/b]
[/color]





   ภุชงค์เล่นแสง ๑๔





   หลังจากที่เจ้าหลวงพาฬฉุดกระชากเจ้าน้อยสลิลออกไปแล้ว ยี่สุ่น แลชงโคก็ประคองคนเป็นนายกลับที่ประทับ

   "ไปไหนมาหรือเจ้าแสงแรก"พระภัสดาท่านประทับรออยู่แล้ว

   "หารือกับเจ้าหลวงท่านแล้วแล้วหรือพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงแรกตรัสถาม

   "แล้วแล้วเจ้า แต่ถึงมิแล้วก็ต้องแล้ว"ตรัสพร้อมรยสรวล

   "..."เจ้าแสงเลิกขนง เอียงศออย่างฉงน

   "วันนี้พี่เป็นเจ้าบ่าวหนา จักทิ้งเมียให้เหงาได้อย่างไรกัน"

   "หม่อมฉันหาได้เหงาไม่พระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงหลบเนตรตรัสตอบพระภัสดา

   "น้องมิเหงา แต่พี่เหงาหนา"ตรัส แลรวบกฤษฎีบางเข้าแนบพระวรกาย

   "หึหึหึ"กดพระนาสิกที่ขมับขาว





   .

   .

   .





   หลังจากวันพิธีศาสน์ แลวันสถาปนาเจ้าแสงแรกเป็นชายาขององค์รัชทายาท สามวันถัดมาจึงถึงฤกษ์งามยามดีที่จักมีพิธีร่วมหอขององค์รัชทายาท แลพระชายาองค์ใหม่ เมื่อถึงฤกษ์องค์ภุชงค์จึงได้เข้าประทับรอเจ้าแสงแรกอยู่ในห้องหอ เพียงมินานขบวนเกี้ยวเจ้าแสงแรกก็มาเทียบที่หน้าตำหนัก

   "ทูลองค์รัชทาาท พระชายาแสงแรกเสด็จแล้วเพคะ"ข้าหลวงหน้าบานพระทวารกราบทูล

   "..."องค์ภุชงค์แย้มสรวล พระทัยเต้นตึกตัก ทอดพระเนตรบานพระทวารมิวางเนตร เมื่อบานทวารเปิดออกก็ปรากฎร่างบางของเมียรัก คืนนี้เจ้าแสงแรกสวมผ้าแถบผืนบางสีขาวปลอด แลผ้าโจงกระเบนสีมอครามขับฉวีขาวให้ผ่องน่าจับต้อง

   "ถวายพระพรพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาท"หมอบกราบพระภัสดาอ่อนช้อย

   "ไหว้พระเถิดเจ้า"เข้าประคองเจ้าแสงให้ลุกขึ้น โอบร่างบางให้ประทับลงบนพระแท่นบรรทม

   "..."เจ้าแสงแรกขัดเขิน พักตร์แดงระเรื่อ

   "คืนนี้ เราจักทำกระไรกันดีเจ้า"องค์ภุชงค์ตรัสถาม

   "ท ทำกระไรพระเจ้าค่ะ"

   "พี่รู้ๆ เจ้ากำลังท้องลูกของเรา คืนนี้เราคงมิได้เข้าหอกันเช่นคนอื่น"องค์ภุชงค์ตรัส ฝ่าพระหัตถ์แนบปรางนุ่มเกลี่ยไล้แผ่วเบา กดจูบที่อังสะหอมกรุ่น กอดเจ้าแสงแรกแนบพระอุระ พักตร์งามซุกไซร้ซอกศอขาว แต้มโอษฐ์พรมจูบฉวีนุ่ม

   "ฝ่าบาท"สงสารพระภัสดามิน้อย หากแต่ท้องเช่นนี้คงจักถวายงานรับใช้พระองค์มิได้





   "จำเอาไว้หนาว่าเพลาที่เจ้าตั้งครรภ์นั้น จักเป็นเพลาที่เจ้ามิสามารถถวายงานรับใช้ภัสดาบนพระแท่นบรรทมได้ แลกว่าจักให้กำเนิดลูก แลกว่าจักอยู่ไฟแล้ว กินเวลานานเป็นปี ผู้ชายห่างหายเรื่องแบบนี้ได้มินานดอก หากมีไอ้อีคนใดมิรักตัวกลัวตายยั่วยวนเข้า มิยากเลยที่พระองค์จักโอนอ่อนตามมันผู้นั้น แต่หาก​มิโอนอ่อนตาม ก็ย่อมน่าสงสารที่จักต้องอดทนอดกลั้นเป็นปีเช่นนั้น"

   "..."

   "ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้ที่จักปรนนิบัติผัว แม้นจักให้จนสุดทางมิได้ หากแต่ก็ต้องทำให้พระองค์อยู่ในกำมือเรา ไปไหนมิรอด"





   "เจ้าแสง"องค์ภุชงค์รีบผละออกจากร่างหอมกรุ่น เมื่อหัตถ์เล็กของเจ้าแสงแรกวางลงบนกึ่งกลางความเป็นชายของพระองค์ผ่านพระภูษา

   "แม้นจักให้พระองค์ร่วมรักด้วยมิได้ หากแต่ให้หม่อมฉันปรนนิบัติหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัส พลางเอนกายแนบพระอุระกว้าง พักตร์งามแนบซบพระอังสะกว้าง หัตถ์ก็ปลดแก้ผ้าโจงของพระภัสดา

   "เจ้าแสงแรก"องค์ภุชงค์ขบพระทนต์แน่น ยามหัตถ์นุ่มโอบอุ้มส่วนร้อนผ่าวของพระองค์ เจ้าแสงนวดคลึงตามที่พระสัสสุได้สอนทุกกระเบียดนิ้ว

   "ฝ่าบาท"จูบซับตามกรอบพักตร์ของพระภัสดา แทะเล็มด้วยชิวหาชื้น จนมาหยุดอยู่ที่พระโอษฐ์ขององค์ภุชงค์แนบโอษฐ์ตนเคล้าคลึง ฝ่าพระหัตถ์ประคองพักตร์งามของชายาตนบดพระโอษฐ์ป้อนจุมพิตร้อนให้ ดูดดึงกลีบโอษฐ์เจ้าแสงแรกจนช้ำระเรื่อ ชิวหาร้อนสอดเคล้าพลิกพริ้วราวมัจฉา

   "พ พอก่อนพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงผละจุมพิตออก ตรัสพลางเบี่ยงพักตร์หนีโอษฐ์ร้อนที่ตามมา องค์ภุชงค์จึงได้แนบพระโอษฐ์ที่ลาดอังสาเล็กแทน สูดกลิ่นแก้วหอมหวาน พระหัตถ์ปลดผ้าแถบผืนบางออกให้พ้นเรือนร่างขาวของเมีย ลูบไล้ฉวีนุ่มอย่างหลงใหล

   "เมียข้าไยจึงงามเช่นนี้หนา"ตรัสพึมพำ ทำเอาเจ้าแสงแรกพักตร์ม้านด้วยความเขินอาย หากแต่ก็ต้องข่มความอายไว้ในอุระตน ผลักพระภัสดาออกเบาๆ จนองค์ภุชงค์เลิกพระขนงอย่างสงสัย

   "ให้หม่อมฉันปรนนิบัติพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ"ตรัส แลลงไปนั่งคุกพระชงค์ตรงหน้าพระพักตร์ หัตถ์เล็กกำส่วนร้อนผ่าวที่แสนจักภาคภูมิพระทัยขององค์ภุชงค์ ลูบขึ้น แลลงแผ่วเบา ก่อนจักจรดโอษฐ์ลงที่ส่วนปลาย เนตรงามหลับลงพลางนึกถึงบทเรียนที่พระสัสสุเคยสอนสั่ง เคยทำกับกล้วยเช่นไร คืนนี้จึงจำมาใช้ปรนนิบัติพระภัสดาทุกกระบวนท่า





   .

   .

   .





   รุ่งอรุณมาเยือน แสงแห่งวันใหม่สาดส่องไปทั่วทั้งวังหลวง เจ้าแสงแรกลืมเนตรขึ้น เมื่อหลุดออกจากห้วงนิทรา ขยับกายเตรียมจักลุกจากพระแท่นบรรทม หากแต่ท่อนพระกรหนักที่พาดยู่ที่กฤษฎีบางทำให้เจ้าแสงแรกมิสามารถลุกได้ เมื่อเป็นดังนั้นภาพราตรีเร่าร้อนที่ผ่านมาก็ผุดเข้ามาในห้วงดำริ ปรางเนียนแดงระเรื่อ



   "เจ้าแสง อ่า น้อง อ อืม"องค์ภุชงค์ครางเครืออย่างสุขสม พระหัตถ์ใหญ่เกร็งสางเกศานุ่มแผ่วเบา แม้แรงอารมณ์จักพุ่งทะยานขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วก็ตาม

   "ด ดี หรือ ม ไม่พระเจ้าค่ะ"ตรัสถามพลางช้อนเนตรมองพระพักตร์งามของพระภัสดาที่แดงก่ำ หยาดพระเสโทไหลตามกรอบพักตตร์หยดลงบนพระอุระ

   "ดี ดีมากจ้า อื้ม"หลับเนตร เงยพักตร์คำรามสุรเสียงต่ำ





   เจ้าแสงอับอายจนแทบอยากจักแทรกแผ่นดินหนี หากแต่เมื่อนึกถึงพระพักตร์ของพระภัสดาที่เจือความสุขสม โอษฐ์เล็กก็แย้มน้อยๆ อย่างพึงพระทัย เจ้าแสงแรกค่อยๆ จับพระกรของพระภัสดาออกจากกฤษฎีตน เรียวขาเล็กวาดลงวางบนพื้นก่อนจักลุกขึ้น หัตถ์เล็กประคองครรภ์ตนไปที่พระทวาร ผลักออกแผ่วเบา

   "เจ้าน้อ เอ้ย พระชายา ตื่นบรรทมแล้วหรือพระเจ้าค่ะ"ยี่สุ่นที่ตื่นแต่เช้ามาเฝ้าบานพระทวารห้องหอของคนเป็นนายรีบถลาเข้ามาพร้อมชงโค

   "เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ"ชงโคถามพลางประคองหัตถ์คนเป็นนาย

   "มิเป็นไร ยี่สุ่นเตรียมอ่างสรงให้ข้าทีเถิด ส่วนชงโคไปห้องเครื่องเตรียมสำรับให้ข้า แลองค์ภุชงค์ทีหนา"เจ้าแสงแรกแย้มโอษฐ์สรวลให้คนสนิททั้งสอง ก่อนจักสั่งงาน

   "พระเจ้าค่ะ"

   "ใคร่อยากเสวยกระไรเป้นพิเศษหรือไม่พระเจ้าค่ะ"ชงโคทูลถามคนเป็นนนาย

   "ข้าใคร่อยากได้มะดันสดกับเกลือ"เจ้าแสงแรกว่า มิใช่ว่าใคร่อยากเอง หากแต่เอามาถวายพระภัสดาต่างหาก องค์ภุชงค์แพ้ท้องแทนเจ้าแสงมาหลายวันแล้ว หากได้เสวยผลมะดันวันนี้คงจักช่วยให้มิใคร่อาเจียนมากนัก

   "พระเจ้าค่ะ"



   อ่อก อ้วก



   ยังมิทันไรเสียงอาเจียนขององค์ภุชงค์ก็ดังออกมาจากห้องหอ

   "ประเดี๋ยวข้าจักเข้าไปดูองค์ภุชงค์ก่อน"เจ้าแสงตรัส

   "พระเจ้าค่ะ"



   อ่อก อ้วก



   องค์ภุชงค์ประทับอยู่บนพระแท่นบรรทม ในหัตถ์ถือบ้วนพระโอษฐ์รองใต้หนุ

   "ฝ่าบาท เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงประทับลงข้างพระภัสดา หัตถ์ข้างหนึ่งประคองครรภ์ตน อีกข้างลูบขนองกว้างไปมา

   "อึก อ่อก"องค์ภุชงค์สำรอกจนพระศอเกร็ง สูดพระปัสสาสะเข้าลึกๆ

   "บ้วนพระโอษฐ์ก่อนหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงแรกรินพระสุธารสในคันโทให้พระภัสดาบ้วนพระโอษฐ์ องค์ภุชงค์บ้วนโอษฐ์แล้วแล้วก็เอนพระวรกายลงนอนหนุนตักเมีย ซุกพักตร์กับอุทรเจ้าแสง

   "..."จับหัตถ์เจ้าแสงมากุมแนบพระอุระ

   "เป็นเยี่ยงไรบ้างพรเจ้าค่ะ"หัตถ์ข้างที่มิได้ถูกพระภัสดากอด ยกสางพระเกศาดกหนาให้

   "ลูกช่างใจร้ายนัก รังแกพ่อเช่นได้เยี่ยงไร"ตรัสทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมเนตร แม้จักตัดพ้อลูกน้อยในครรภ์เจ้าแสงแรก หากแต่พระโอษฐ์กลับแนบจูบที่ครรภ์เจ้าแสงแผ่วเบา

“อย่าว่าลูกเลยหนาพระเจ้าค่ะ ลูกคงมิตั้งใจดอก”เจ้าแสงตรัส แลแย้มรวลน้อยๆ

“มิทันไรรักลูกมากกว่าพี่แล้วหรือเจ้า”องค์ภุชงค์ลืมเนตรขึ้นสบกับนัยน์ตาหวานของเมียรัก

“ตรัสกระไรเช่นนั้นพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสอย่างเป็นกังวล

"แลจริงหรือไม่"องค์ภุชงค์ตรัสถาม

"หม่อมฉันรักลูก แลก็รักพระองค์พระเจ้าค่ะ หากจักให้เลือกว่ารักใครมากกว่ากัน หม่อมฉันคงเลือกมิได้ ฝ่าบาทดปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วยพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงแรกขมวดขนงอย่างเปนกังวล

"ชู่ว เจ้าแสงแรก พี่พูดเล่นดอกเจ้า มิได้จริงจังกระไร อย่ากังวลไปเลยหนา"องค์ภุชงค์ลุกขึ้นจากตักของเมีย แลดึงร่างแน่งน้อยเข้ากอดปลอบ พระหัตถ์ลูบเกศานุ่มแผ่วเบา

"หม่อมฉันรักลูก แลก็รักพระองค์ด้วยหนาพระเจ้าค่ะ หาใช่มิรัก"เจ้าแสงแรกยกกรเรียวของตนกอดรอบพระกฤษฎีสอบของภัสดา

"พี่รู้แล้วๆ เจ้า"ตรัส แลกดจูบที่นลาฏเนียน



สองผัวเมียข้าวใหม่ปลามันนั่งกอดกันบนพระแท่นบรรทม พูดคุยเรื่องลูกในครรภ์ แลเรื่องจิปาถะ องค์ภุชงค์หยอกเย้าให้คนเป็นเมียสรวลสุรเสียงใสน่าเอ็นดู อยู่ได้ครู่หนึ่งยี่สุ่นก็เตรียมอ่างสรงแล้ว

“สรงน้ำก่อนหนาพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวสรงแล้วแล้วสำรับคงแล้วพอดี”เจ้าแสงแรกทูลพระภัสดา

“จ้ะ เจ้าก็สรงพร้อมพี่เลยหนา”องค์ภุชงค์ท่านตรัส

“ห หากแต่”เจ้าแสงแรกพักตร์ม้าน จักให้ลงสรงกับพระภัสดาหนาหรือ

“ไปเถิด ประเดี๋ยวจักได้กินข้าวกัน ลูกหิวแย่แล้วกระมัง”มิยอมให้เจ้าแสงปฏิเสธ

“...”เมื่อพระภัสดาเอาแต่พระทัยเยี่ยงนี้ แลคนเป็นเมียจักมีปากมีเสียงอย่างไรได้

“ยี่สุ่นเจ้าออกไปก่อนเถิด”องค์ภุชงค์ตรัส

“พระเจ้าค่ะ”หมอบกราบ แลคลานออกไปแต่โดยดี

“เจ้าแสงไปเถิดเจ้า”องค์ภุชงค์ประคองร่างแน่งน้อยให้ลุกจากพระแท่นบรรทม



.

.

.



องค์ภุชงค์ประทับซ้อนหลังคนเป็นเมีย พระหัตถ์ข้างหนึ่งวักน้ำรดลงบนลาดอังสาเนียน อีกข้างลูบไล้ครรภ์แบนไปมา เจ้าแสงแรกประทับนิ่งให้พระภัสดาลูบคลำกายตน

“เจ้าแสง”องค์ภุชงค์ตรัสกระซิบที่หลังกรรณเล็ก

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกขานรับสุรเสียงแผ่ว

“เรามาตั้งชื่อลูกกันดีหรือไม่”พระภัสดาตรัสถาม

“ชื่อลูกหรือพระเจ้าค่ะ หากแต่หม่อมฉันเพิ่งจักท้องได้มิถึงสองเดือนดีเลยหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกผินพักตร์ไปตอบพระภัสดา

“มิเห็นจักเป็นกระไรเลยนี่เจ้า ตั้งไว้รอลูกก็ได้”องค์ภุชงค์ประคองอังสะบางของเจ้าแสงให้หันมาหาพระองค์

“แลพระองค์ดำริไว้หรือไม่พระเจ้าค่ะว่าใคร่อยากตั้งชื่อลูกว่ากระไร”เจ้าแสงตรัสถามพระภัสดา เนตรงามเป็นประกายน่าเอ็นดูเสียจนองค์ภุชงค์ท่านอดมิได้ที่จักโน้มพักตร์เข้าหอมปรางชื้นฟอดใหญ่

“หึหึหึ ให้ลูกชื่อว่า...”ตรัสค้างไว้

“...”

“เจ้ารพิดีหรือไม่ ดวงตะวันที่ให้แสงแรกของวัน”นามนี้พระองค์ได้มาจากชื่อแสงแรกของเมีย

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกแย้มสรวลหวาน โปรดนามที่พระภัสดาตั้งให้ลูกมิน้อยเลย

“น้องตั้งให้ลูกอีกชื่อหนึ่งสิเจ้า ใคร่อยากตั้งชื่อลูกว่ากระไรหรือ”องค์ภุชงค์ตรัสถาม

“อืม”เจ้าแสงแรกเอียงศอคิดนามของลูก เปิดโอกาสให้องค์ภุชงค์ซุกพระพักตร์ดอมดมกลิ่นแก้วหอมจากซอกศอขาว

“...”พระภัสดาประทับโอษฐ์อุ่นจุมพิตที่ฉวีขาว

“เจ้ารวิพระเจ้าค่ะ จักได้คล้องกับเจ้ารพิ”เจ้าแสงแรกตรัส

“ดี เช่นนั้นก็ต้องมีคนที่สองให้พี่แล้วหนา”เมื่อพระภัสดาตรัสจบเจ้าแสงแรกจึงได้นึกขึ้นได้

“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงแรกยกมือดันพระโอษฐ์ที่แตะแต้มฉวีขาวของตนออกอย่างเขอะเขิน

“หึหึหึ”สรวลในพระศอ แลโน้มพักตร์ไปขบติ่งหูนิ่มของคนเป็นเมียเบาๆ หยอกเย้า

“อ๊ะ ฝ ฝ่าบาท รีบขึ้นจากน้ำเถิดพระเจ้าค่ะ ม หม่อมฉัน แลลูกหิวแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงยกหัตถ์ดันพระอุระของพระภัสดา แลเอียงพักตร์แดงระเรื่อของตนหลบ

“จ้ะๆ”ยอมปล่อยน้องน้อยแต่โดยดี องค์ภุชงค์ขึ้นจากอ่างสรง แลคว้าพระภูษามาพันพระกฤษฎีสอบขงพระองค์กันอุจาดตา ก่อนจักช้อนอุ้มร่างผอมบางของเจ้าแสงแรกขึ้นจากอ่างสรง วางเจ้าแสงลงแผ่วเบามิให้กระเทือนแม้แต่ปลายนชา เจ้าแสงแรกยกกรกอดตนแน่นระหว่างรอพระภัสดาคลี่พระภูษาคลุมพระวรกายให้

“หนาวหรือเจ้าแสง”พระภัสดาตรัสถามพลางใช้พระภูษาซับน้ำตามฉวีนุ่มให้คนเป็นเมีย

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสตอบ

“...”ได้ยินดังนั้นจึงเร่งพระหัตถ์เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เมีย

“ฝ ฝ่าบาท”เจ้าแสงตรัสเรียกพระภัสดาที่ปรนนิบัติตนอยู่ ทั้งที่ตนควรจักเป็นฝ่ายปรนนิบัติพระองค์เสียมากกว่า

“หืม”

“ให้ยี่สุ่นเข้ามาทำให้หม่อมฉันเถิดพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัส

“ให้พี่ทำให้ก็ได้ มิเป็นกระไรดอก”องค์ภุชงค์ตรัสพลางนุ่งผ้าแถบให้คนเป็นเมีย หากแต่พยายามอยู่ครู่ใหญ่แก้แล้วแก้อีกก็ยังดูมิงาม

“ฝ ฝ่าบาท”

“พี่ยอมแพ้ เรียกยี่สุ่นมานุ่งให้เถิด”องค์ภุชงค์ยอมละพระหัตถ์ออกจากผ้าแถบสีหวานของเจ้าแสง นุ่งมันก็นุ่งได้อยู่ หากแต่ดูมิงาม พันซ้ายก็บูด พันขวาก็เบี้ยว

“พระเจ้าค่ะ ยี่สุ่น”เจ้าแสงสรวลน้อยๆ แลตรัสเรียกคนสนิทของตน

“พระเจ้าค่ะ พระชายา”ยี่สุ่นขานรับ

“เข้ามาหาข้าหน่อยเจ้า”เจ้าแสงแรกตรัส

“พระเจ้าค่ะ”ขานรับ แลหมอบคลานเข้ามาในห้องบรรทม

“นุ่งผ้าให้ข้าทีหนา”

“พระเจ้าค่ะ”คลานเข้าไปนุ่งผ้าให้คนเป็นนาย เพียงครู่เดียวยี่สุ่นก็นุ่งผ้าให้เจ้าแสงแล้ว อีกทั้งยังดูประณีต แลงามกว่าที่องค์ภุชงค์นุ่งให้เมียโข

“ขอบใจหนา”เจ้าแสงแรกตรัส แลแย้มสรวลให้คนสนิท

“มิได้พระเจ้าค่ะ”

“ฝ่าบาท ให้หม่อมฉันแต่งองค์ให้หนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสบอก ยี่สุ่นเมื่อได้ยินคนเป็นนายตรัสก็หมอบคลานออกจากห้องบรรทม

“เอาสิเจ้า”องค์ภุชงค์ตรัส

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกลงมือแต่งองค์ให้พระภัสดาอย่างตั้งพระทัย



.

.

.



เมื่อเจ้านายทั้งสองพระองค์สรงน้ำ แลแต่งองค์แล้วแล้วชงโค แลยี่สุ่นก็ยกสำรับพระกายาหารเช้าถวาย องค์ภุชงค์ทอดพระเนตรสำรับ แลเมื่อเห็นว่ามีมะดัน แลเกลือนป่นอยู่บนสำรับก็ยื่นพระหัตถ์ไปคว้าทันที หากแต่เจ้าแสงแรกกลับไวกว่า หัตถ์เล็กเอื้อมไปจับพระหัตถ์ของพระภัสดาไว้ แลดึงกลับมากุมไว้บนตักตน องค์ภุชงค์ทอดพระเนตรพักตร์งามของเมียอย่างฉงน

“เสวยข้าวก่อนหนาพระเจ้าค่ะ ค่อยเสวยมะดัน ประเดี๋ยวจักปวดพระอุทร”เจ้าแสงทูลพลางลูบพระหัตถ์ปลอบพระทัย

“...”องค์ภุชงค์เงียบนิ่งมอตรัสตอบ เพียงแค่เห็นผลมะดันพระเขฬะของพระองค์ก็สอแล้ว

“หนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสสุรเสียงออดอ้อน

“จ้ะ”ยอมพระทัยอ่อนให้เมีย

“เช่นนั้นหม่อมฉันป้อนหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสเอาพระทัย

“จ้ะ”

เจ้าแสงแรกป้อนข้าวพระภัสดา สลับกับตักข้าวใส่ปากตน สองผัวเมียเสวยข้าวถ้วยเดียวกันจนหมด เจ้าแสงแรกจึงอนุญาตให้องค์ภุชงค์เสวยมะดันจิ้มเกลือได้

“เป็นอย่างไรพะรเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสถาม แลใช้ซับพระพักตร์ซับพระโอษฐ์ให้พระภัสดา

“ผลมะดันนี่ช่วยพี่ได้มากทีเดียว”องค์ภุชงค์ตรัส แลเคี้ยวเนื้อมะดันกรวมๆ จนเจ้าแสงแรกยกโอษฐ์แย้มสรรวลให้พระภัสดา

“แต่กระนั้นก็อย่าเสวยมากจนเกินไปหนาพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักเสาะท้องเอาได้”เจ้าแสงตรัสอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“จ้ะ”



.

.

.



หลังจากผ่านพ้นคืนเข้าหอไปแล้ว พระชายาแสงแรก แลบ่าวคนสนิททั้งสองก็ย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ในตำหนักขององค์รัชทายาทผู้เป็นพระภัสดา ทุกเช้าเจ้าแสงแรกจักตื่นขึ้นมาปรนนิบัติองค์ภุชงค์ด้วยตนเองทุกอย่าง

“วันนี้พี่จักรีบกลับมารับสำรับกลางวันกับน้องหาเจ้าแสง”องค์ภุชงค์ตรัสบอกเมียที่กำลังจัดปกฉลองพระองค์ของพระองค์ให้

“พระเจ้าค่ะ หม่อมฉัน แลลูกจักรอพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาทใคร่อยากเสวยกระไรเป็นพิเศษหรือไม่พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกตรัสตอบ

“พี่ใคร่อยากกินกระไรเปรี้ยวๆ น้องเลือกให้พี่ทีหนา”องค์ภุชงค์ท่านว่า

“พระเจ้าค่ะ เช่นนั้นหม่อมฉันจักลงห้องเครื่อง แลทำสำรับถวายพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ”

“หากจักลงห้องเครื่องก็ดูแลตนเองดีๆ หนา ไปนั่งกำกับอย่างเดียวก็พอกระมัง ปล่อยให้บ่าวไพร่ทำจักดีกว่า”พระภัสดาท่านตรัสอย่างเป็นห่วง

“หม่อมฉันทำได้พระเจ้าค่ะ ใคร่อยากทำให้ฝ่าบาทเสวยด้วยตนเอง”เจ้าแสงแรกทูล

“เช่นนั้นก็ตามใจเถิดเจ้า”พระภัสดาแย้มสรวล แลดึงร่างแน่งน้อยเข้ามากอด

“เสด็จไปที่ท้องพระโรงได้แล้วพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักสายเอาได้”เจ้าแสงแรกตรัสพลางดันพระภัสดาออกเบาๆ

“จ้ะ เช่นนั้นพี่ไปก่อนหนาคนดี”ตรัส แลหอมกลุ่มเกศานุ่ม

“พระเจ้าค่ะ”

“ไอ้ขันธ์ยกพานมะดันของข้ามาด้วย”องค์รัชทายาทรับสั่งองครักษ์คนสนิทของพระองค์ แลก้าวพระบาทออกจากตำหนักของตน

“พ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์คนสนิทรับพระบัญชา แลยกพานทองที่เต็มไปด้วยผลมะดันสีเขียวดูแล้วก็น่าจักเปรี้ยวเสียจนเข็ดฟันตามคนเป็นนายไป

“ยี่สุ่น ชงโค”เจ้าแสงแรกตรัสเรียกคนสนิททั้งสอง เมื่อพระภัสดาท่านเสด็จไปจนลับสายตาแล้ว

“พระเจ้าค่ะพระชายา”

“ไปห้องเครื่องกันเถิด”

“พระเจ้าค่ะ”

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เจ้าแสงใช้เคล็ดลับจากแม่ผัวได้ดีมากเพคะ :hao6:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ท้องแฝดป่าวเนี่ย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เหมือนจะช้าเดินเรื่องน่ะครับภาคนี้
แต่ก็ขอบคุณมากครับที่มาต่อใ้้ห้

 :mew1: :mew1: :mew1:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด