หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30  (อ่าน 239913 ครั้ง)

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รักมากเลยยยยย แง้ ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

พพพก็คือธรรมดาโลกไม่จำจริงๆ คงเป็นหมันสักวันอะค่ะ คิดว่า

รอพสฟกับน้องฟรองซ์อยู่นะ  พี่ดารัญเหงามั้ยคะ เดี๋ยวเราดูแลเองนะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เพื่งเข้าใจที่มาของชื่อแอคพี่ พพ 555 ใจหาย...ยยยยย จบซะแล้ว รอตอนพิเศษน๊า เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หวังว่าคงเป็นหนึ่งกำลังใจให้ @JackXy Wu ได้นะจ๊ะ  :give2: :give2: :give2:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ตลกยันตอนจบ 55555555555
ชอบความงุงิของคู่นี้มากเลยอ่ะ น่ารักมากมากกกกกก
ขอบคุณที่แต่งนิยายน่ารักๆคิ้วๆให้อ่านกันนะคะ รักแหละ :pig4:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เรื่องนี้น่ารักจริมๆ..
ตลกด้วยอ่ะ..
ผมอินนะ เผื่อคุณไม่รู้..

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่ารัก อ่านแล้วอารมณ์ดี มีความสุขมากค่ะที่ได้อ่านเรื่องนี้ ขอบคุณมากนะคะ :L1:

ออฟไลน์ o_ishi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากเลยยยยยยย จบแล้วอะ อยากจิร้องไห้ให้ความกากต่ำตมของอีพี่พะพาย ขอให้รีโมททำให้อาวุธพิเศษทำงานไม่ได้ไปสามเดือน เพี้ยงงงง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
นิยายจบแล้ว ยังไม่ประกาศผลเลือกตั้งเลย เป็นท้อแท้ไปกับพี่สายฟ้าพระเอกของเรื่องด้วยคนค่ะ 5555555555 ขอบคุณคุณหนูดีสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ วันไหนท้อแท้ เจอนิยายอัพ กดเข้ามาอ่านก็ได้รอยยิ้มกลับไป อย่าท้อกับความเห็นแย่ๆนะคะ นังพี่พพ.นังก็ให้ความสนุก ให้พลัง ให้กำลังใจกับหลายคนเลย เช่นเราเป็นต้น ขอบคุณนะคะ จะติดตามเสมอค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สนุกมากครับ ขอบคุณสำหรับเรื่แงราวสนุกๆแบบนี้,,,

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องดุมาก!!!!! :a5:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แงงงงงงงง :serius2: จบแล้วอ่ะ
หื่นคงเส้นคงวาจริงพี่พระพาย5555
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ เรื่องนี้ค่ะ :pig4: :pig4: /จะรอเล่มนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จบได้น่ารักมาก

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

ออฟไลน์ Bernini

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

จเสงสารหรือสมน้ำหน้าดี โดนน้องฟาดเข้าให้ 55555555555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ยัยหนูน่าจะฟาดให้ช้ำ 5555555555

ออฟไลน์ NaunaeZaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จบแล้วอ่าาา เรื่องนี้สนุกมากอ่ะ คุณรักเขียนสุดยอดมากเลยค่ะ เลิฟๆ :L1: :pig4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จบสไตล์พี่พพจริงๆ สนุกมากๆค่ะเรื่องนี้

ออฟไลน์ เลยร์มุจา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านมาได้ 2 ตอนเรียบเรียง เนื้อเรื่อง   ดีแต่งสนุกค่ะ o13

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกมากกกกค่ะ ตามอ่านรวดเดียวจนจบเลยยยย :katai2-1: :katai2-1: เราชอบพาร์ทจอกกัดการเมืองด้วยค่ะ 5555555 บันเทิงมากกก

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
 :L1:

รักเรื่องนี้มาก สนุกมากค่ะ

พพ ก็ยังเสื่อมเสมอต้นเสมอปลาย 555

ออฟไลน์ Wanwann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากเลย   หนูเฟนน่ารักมากเลยลูกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
ตอนพิเศษ 1.1

เพื่อนนอนคุก

(สายฟ้า X ฟรองซ์)






[สายฟ้า]

ว่าด้วยเรื่องแอคเห็บ แอคเห็บคืออะไร? ผมก็ไม่แน่ใจความหมายของมันเท่าไหร่ แต่ขอนิยามแอคเห็บว่าคือแอคฉอด ฉอดสิ่งที่ในชีวิตจริงมึงไม่กล้าฉอดเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ ใจป๊อด กลัวคุกหรืออะไรก็ตามแต่

เห็บมีหลายระดับ ผมเห็นตั้งแต่เห็บฉอดธรรมดายันฉอดพ่น Hate Speech และ Cyberbullying คนอื่นหาเรื่องไปทั่วไม่เลือก ถ้าถามผมว่าผมเป็นเห็บแบบไหน ผมคงจัดให้ตัวเองเป็นเห็บที่มีอุดมการณ์

ไม่ปฏิเสธว่าไม่เคย Hate Speech หรือ Cyberbullying ใครเพราะผมทำจริง

ส่วนทำใคร…

นู่น ลุงๆ กลุ่มนั้นไงที่ผมด่าเช้าเย็นไม่เว้นวัน

เมื่อก่อนผมไม่ได้สนใจการเมืองเข้าขั้นขนาดนี้ ผมเป็นแค่วัยรุ่นที่คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของผู้ใหญ่กับพวกผู้นำ ผู้บริหารประเทศ จนกระทั่งผมได้เปิดหูเปิดตา เห็นปัญหาอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยคิดสนใจและพบว่ามันแย่และส่งผลกระทบกว่าที่คิด

ตอนนั้นที่ผมตัดสินใจเปิดแอคทวิตเตอร์ในชื่อ ‘เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป’ ไว้ฉอดระบายอารมณ์ แต่คนฟอลดันมาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด ผมกลายเป็นแอคเห็บฉอดการเมืองอย่างงงๆ ครับ เห็บก็เห็บวะ

เศรษฐกิจดีงั้นเหรอ?

เหอะ!

เศรษฐกิจดีพ่อง ธุรกิจบ้านกูซบเซาจะตายห่า!



ชีวิตแอคเห็บผมเป็นไปด้วยดี เล่นมาหลายปียังไม่ถูกลากคอไปปรับทัศนคติ แต่ช่วงหลังๆ ผมสังเกตเห็นแอค ‘เอฟซีเทพท้อ’ มารีพลายกวนตีนผมอยู่บ่อยๆ บางทีก็กวนประสาทจนอดเขม่นไม่ได้ พอส่องทวิตเห็นว่าสายเดียวกันผมเลยปล่อยผ่าน แต่เห็บเด็กนั่นก็วอแวผมซะเหลือเกิน บางทียั้งไม่อยู่ก็พิมพ์ด่าบ้าง แต่เหมือนฝั่งนั้นจะชอบใจที่ผมยอมคุย(ด่า)ด้วยสักทีเลยยิ่งมากวนผมใต้ทวิตบ่อยกว่าเดิม

อย่าให้กูรู้เรียลนะมึง จะดีดกะโหลกสั่งสอนให้

ผมเคย DM ไปขู่เขาเล่นๆ แต่ใครจะรู้ว่าโลกมันกลมกว่าที่คิด วันนึงผมดันรู้ ‘เรียล’ ของแอคเอฟซีเทพท้อเข้าโดยบังเอิญ



“รบกวนพี่แล้ว ขอบคุณที่เอามาคืนครับ”

เสียงของฟรองซ์ ฝาแฝดของเฟนดังขึ้นเมื่อผมลงจากรถหยิบโทรศัพท์มือถือที่เขาทำตกมาคืนให้ที่หน้าบ้าน ฟรองซ์ยื่นมือข้ามรั้วมารับ แต่ผมแกล้งยกมือขึ้นสูงจนอีกฝ่ายหยิบไม่ถึง ฟรองซ์มองโทรศัพท์ตัวเองในมือผมแล้วตวัดสายตามาสบกัน แววตาฉายประกายไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่คืนให้ดีๆ

“แสบนักนะเรา” ผมว่ายิ้มๆ

“ฮะ?”

“กวนตลอด ป่วนพี่ทุกทวิต”

“นี่พี่พูดอะไรของพี่เนี่ย?” ฟรองซ์ขมวดคิ้วแน่น เขาพยายามกระโดดแย่งโทรศัพท์มือถือคืน แต่ผมชูขึ้นสูงกว่าเดิม “คืนโทรศัพท์ผมมานะ ขอโทษที่ไม่ระวังทำตกไว้จนต้องเสียเวลาเอามาคืน จะแกล้งกันทำไม”

“แล้ว ‘เอฟซีเทพท้อ’ แกล้งป่วนเทพท้อทำไมครับ?”

ฟรองซ์เบิกตากว้าง ผมกระตุกยิ้มมองคนที่อ้าปากหวออยู่ครู่หนึ่ง เขามองหน้าผมสลับกับโทรศัพท์ตัวเองก่อนใบหน้าจะฉายแววไม่พอใจ

“นี่พี่แอบดูโทรศัพท์คนอื่นเหรอ เสียมารยาท!”

“ไม่ได้ตั้งใจแอบดู แค่มือไปโดนแล้วเราเปิดหน้าทวิตค้างไว้พอดีต่างหาก” ผมยักไหล่ ลดมือลงเพื่อส่งโทรศัพท์คืนให้ฟรองซ์ เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผม “อะ คืนให้ครับ แล้วก็เลิกป่วนเทพท้อบ่อยๆ ได้แล้ว”

“แล้วพี่มายุ่งอะไรด้วยถ้าผมจะป่วนเขา”

“จะไม่ยุ่งได้ไง” ผมสบตาเขา คลี่ยิ้มโน้มตัวเท้าแขนกับรั้วบ้านอีกฝ่าย ยื่นใบหน้าไปใกล้จนฟรองซ์ถอยหลังหนีไปหนึ่งก้าว “ผมเป็นผู้เสียหายที่โดนคุณป่วนนะครับฟรองซ์”

“เดี๋ยว ยังไงนะ?”

“ไม่ยังไงหรอกครับ...เห็บเด็ก” เป็นประโยคสั้นๆ ที่เขาน่าจะคุ้นเพราะ ‘เทพท้อ’ เรียกเขาด้วยคำนี้บ่อยๆ ฟรองซ์เบิกตาโตกว่าเดิม เขาอ้าปากพะงาบๆ เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่พูดไม่ออก ผมโคลงศีรษะตัวเอง ฉวยโอกาสที่ฟรองซ์ยังช็อกอยู่ดีดนิ้วเข้าที่หน้าผากอีกฝ่ายดังป๊อก

“โอ๊ย!”

“เคยบอกแล้วไงว่าถ้าเจอตัวจะดีดให้สักที” ผมหัวเราะ “ทำตามสัญญาแล้วนะ”

“นี่ เดี๋ยวก่อนสิ!”

เขาตะโกนไล่หลัง แต่ผมไม่หันกลับ พอขึ้นรถได้ก็ขับออกมาและฮัมเพลงตลอดทาง

นี่มัน...น่าสนใจมากๆ เลยไม่ใช่หรือไง : )



Ignore me senpai! @fcpeetepthor

人の携帯を内緒で覗いて、失礼だとまだわからないのか。笑ってるのはどう言う意味?!!!

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

กำลังตอบกลับถึง @fcpeetepthor

Thai language please : )



ผมหัวเราะหึๆ กับตัวเองหลังส่องทวิตและพบว่าอีกฝ่ายไม่ยอมตอบเหมือนเคย ผมไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นที่เขาทวิตว่าแปลว่าอะไร แต่ขอบคุณระบบแปลภาษา ถึงพอกดแปลแล้วมันจะแปร่งๆ ไปนิดแต่พอจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจผม เพราะแบบนั้นผมถึงขอไลน์เขาจากเฟนและเริ่มทำการง้อเด็กดื้อ

Thunder : ไง

Thunder : ได้ข่าวว่างอนผม?

F : นี่เอาไลน์ผมมาจากไหน

F : ไปหลอกถามจากเฟนใช่มั้ย

F : แย่มาก คนไม่อยากคุยด้วยยังไม่รู้

F : อีกอย่างไม่ได้งอน โมโหต่างหาก โมโห!

Thunder : ใจเย็นหน่อยคุณ

Thunder : รัวมาซะตอบไม่ทัน

Thunder : รู้ว่าโมโห เลยทักมาขอโทษ คุณไม่อ่านเดมผมนี่

F : ทีอย่างนี้ทำเป็นพูดดี ในทวิตขึ้นไอ้ขึ้นอี

Thunder : ก็เด็กแถวนี้กวนประสาทเก่ง ยั่วโมโหเก่ง

F : นี่ไง ไม่กวนแล้ว เลิกยุ่งเลย

Thunder : ไม่ครับ

F : พี่นี่ยังไง พูดไม่รู้เรื่องเหมือนเพื่อนพี่เลย

F : แล้วก็เลิกแทนตัวแบบนี้ได้แล้ว ไม่ชิน คุณๆ ผมๆ อะไรก็ไม่รู้

Thunder : อ๋อ อยากให้เรียกอีเห็บเด็กเหมือนเดิม?

F : ผมก็มีชื่อนะ เรียกฟรองซ์สิ แล้วก็แทนตัวเองว่าพี่เหมือนวันนั้นยากตรงไหน

Thunder : โอเค

Thunder : สรุปฟรองซ์หายโมโหพี่แล้วใช่มั้ย

F : ใช่ที่ไหน

Thunder : ก็เห็นคุยด้วย

F : ไม่ได้อยากคุยด้วยสักหน่อย

F : ยังโมโหอยู่

Thunder : โอเค งั้นก็จะง้อไปเรื่อยๆ แล้วกัน ตอบไลน์พี่บ่อยๆ ล่ะฟรองซ์ : )

F : ไม่คุยด้วยแล้ว ง่วง จะนอน

โอเค วันนี้หนีได้ วันอื่นจะหนีได้เหมือนวันนี้มั้ย ผมหัวเราะหึๆ ส่งสติ๊กเกอร์ปิดบทสนทนา อีกฝ่ายขึ้นว่าอ่านแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับ

เด็กมันดื้อ ดื้อจนน่าปราบให้หายพยศ



“นี่ฟรองซ์ หารต่างหูกันมั้ย ซื้อทีไรใส่ได้แค่ข้างเดียวทุกที ไม่คุ้มเลย” ผมพูดขึ้นกลางวงหมูกระทะ ในขณะที่เฟน พี่ต่ง น้องตั้มกำลังปรึกษาหารือยุให้เฟนเจาะหูเพื่อใส่ต่างหูคู่รักคู่กับพระพายเพื่อนผม ฟรองซ์หันมา เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“แล้วทำไมผมต้องหารต่างหูกับพี่ด้วยไม่ทราบครับ”

“ไม่อยากให้ข้างที่เหลือมันเหงา เลยจะหาเจ้าของให้” ผมยักไหล่ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์ ถึงจะรู้สึกว่าสายตาของฟรองซ์กำลังประเมินผมอยู่ก็ตาม

“พี่เจาะเพิ่มอีกข้างก็สิ้นเรื่อง”

“ก็อยากให้” ผมยิ้ม จ้องหน้าฟรองซ์ด้วยสายตาที่ทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย “เครื่องรางสุ่มแจกไปแล้ว เอาต่างหูไปง้อแทนแล้วกัน จะได้ดีกันสักที”

“ก็ไม่ได้โมโหแล้วมั้ยล่ะ”

เขาพึมพำ เฉไฉหยิบแก้วโค้กขึ้นดื่ม ผมหัวเราะหึๆ จ้องมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอีกฝ่าย รู้หรอกว่าฟรองซ์ไม่ได้โมโหผมเรื่องแอบดูโทรศัพท์จนรู้เรียลเขาแล้ว เพราะหลังจากผมทักไลน์เขาไปวันนั้น ผมก็ขยันทักไปอีกเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าฟรองซ์อ่อนลงและคุยกับผมมากขึ้น

เรื่องง้อเด็กผมถนัดจะตาย ไม่อยากจะคุยหรอก แต่ผมคิดว่าตัวเองมีศิลปะในการเข้าหาคนอื่นน่าดู อย่างฟรองซ์ที่ท่าทางหัวแข็งดื้อดึงแบบนี้ ยิ่งแข็งใส่เขายิ่งไม่ยอม แต่ถ้าอ่อนให้ พูดดีๆ สุภาพหน่อยอีกฝ่ายก็ใจอ่อนเองนั่นแหละ

ยิ่งคุยก็ยิ่งสนใจ

“พี่จะมองหน้าผมอีกนานมั้ย” ฟรองซ์หันกลับมาถาม เขาขมวดคิ้วแน่น “เวลาคนโดนจ้องมันรู้ตัวนะ เผื่อพี่ไม่รู้ เลิกมองได้แล้ว”

“ถ้าไม่เลิกล่ะ?”

ฟรองซ์ถลึงตาใส่ผม เขาไม่ตอบคำถามแต่หันไปปิ้งหมูกินต่อ ผมหัวเราะและกลับเข้าร่วมวงสนทนาตรงหน้า เฟนกับพี่ต่งเมาไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนตั้มกำลังกุมขมับตัวเองอยู่

จากนั้นไม่นานไอ้พระพายเพื่อนตัวดีก็ขับรถโฉบมารับเฟนกลับหอ พอเจอแฟนมันเมาแล้วเห็นผมอยู่ด้วยแต่ไม่ช่วยดูให้ก็ตั้งท่าจะสวดชุดใหญ่ ผมเลยหนีโดยอ้างไปส่งฟรองซ์ แล้วลากเด็กดื้อที่โวยวายไม่หยุดเพราะเป็นห่วงเฟน ไม่กล้าปล่อยไว้กับพระพายสองคนให้มากับตัวเอง

“พี่ปล่อยผมเลยนะ!”

“จะไปส่งที่บ้าน มันมืดแล้ว”

“คืนนี้จะนอนกับเฟน เฟนเมาพี่ก็เห็น” ฟรองซ์สีหน้ากังวลใจ “ถ้าเพื่อนพี่ทำอะไรเฟนล่ะ”

“ยังไงก็แฟนกัน” พระพายมันยืนยันดิบดีว่ารอดคุกแล้ว ไม่โดนคดีอาญาแน่ๆ ถ้าจะโดนก็โดนทางแพ่ง แต่ถ้าน้องสมยอมก็รอดตัว อีกอย่างผมคิดว่ามันน่าจะยับยั้งใจตัวเองได้ ก่อนหน้านั้นยังทำได้เลย และเพื่อนผมไม่ใช่พวกชอบฉวยโอกาสกับคนเมา ผมเลยค่อนข้างวางใจ

“ไม่ได้สิ!”

“คาดเข็มขัดดีๆ” ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยืดตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้ฟรองซ์ รู้สึกว่าอีกฝ่ายเกร็งตัวทันทีที่ผมขยับเข้าใกล้ ผมแกล้งอ้อยอิ่งอย่างนั้นสักพักจนเห็นอีกฝ่ายก้มหน้างุดถึงได้ผละออก กลั้นหัวเราะไว้แต่ไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มที่มุมปากได้

น่ารักก็เป็นนี่ นึกว่าจะเป็นเด็กแสบได้อย่างเดียว

“ถ้าเพื่อนพี่ฉวยโอกาสกับเฟนตอนเมา เพื่อนพี่โดนตัดแน่!”

“ตัดอะไร” ผมแกล้งถามในขณะขับรถจากที่จอด

“ตัดจู๋!”

“ตรงไปตรงมาจังเลยคุณ”

“พี่พูดมากจัง เงียบๆ เลย ผมปวดหัว จะนอนแล้ว” ว่าจบฟรองซ์ก็หลับตาไม่พูดไม่จาอะไรอีก ผมเหล่มองเขา อีกฝ่ายตัวสั่นเล็กน้อย ผมอาศัยช่วงรถติดไฟแดงเอี้ยวตัวคว้าเสื้อคลุมจากเบาะหลังโยนใส่เขา ฟรองซ์ลืมตามองอย่างงงๆ

“ห่มไว้ แอร์มันเย็น พี่ขี้ร้อน ไม่เบาแอร์ให้หรอกนะ”

“ขอบคุณ”

ฟรองซ์พึมพำ เขากระชับเสื้อคลุมผมไว้ไม่มีท่าทีจะโยนทิ้งหรือขัดขืน ผมยิ้ม ขับรถฮัมเพลงไปตลอดทาง



“ถึงแล้ว” ผมเขย่าปลุกคนข้างตัวที่หลับคอพับคออ่อนให้ตื่น ฟรองซ์งัวเงียลืมตา พอเห็นผมยื่นหน้ามองเขาในระยะประชิดก็สะดุ้งถอยหลังจนหัวโขกกระจกรถ “เฮ้ ระวังหน่อย”

“พี่จะเอาหน้าเข้ามาทำไม ผมตกใจ!”

“จะดูว่าเด็กแถวนี้น้ำลายยืดใส่เสื้อของพี่หรือเปล่า” ผมตอบหน้าตาย

“ไร้สาระ ผมไม่เคยนอนน้ำลายไหล!”

“แน่ใจ?” ผมเลิกคิ้ว ยื่นหน้าไปใกล้กว่าเดิม ทำทีเป็นหลุบตามองริมฝีปากเขา ยื่นนิ้วแตะเบาๆ ที่มุมปากอีกฝ่าย “ให้พี่ดูชัดๆ ก่อน”

“อะ ออกไปเลย” ฟรองซ์เสียงสั่น เขาเบี่ยงหน้าหนีสัมผัสผม “ปลดล็อกประตูให้หน่อย”

“ยังไม่ปลดได้มั้ย?”

“ผมจะเข้าบ้าน” ฟรองซ์กลั้นใจเงยหน้าขึ้นสบตา ผมยิ้ม ปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองเพื่อขยับเข้าใกล้เขามากกว่าเดิม ผมวางมือลงบนเบาะที่ฟรองซ์นั่ง กักเขาไว้จนอีกฝ่ายต้องขยับหนีจนหลังชิดประตูรถ ฟรองซ์ตวัดสายตามองผม เขาขู่เสียงแข็ง “ขยับออกไปนะพี่สายฟ้า”

“ไม่ครับ”

“นี่!”

“ก็ยังอยากอยู่ด้วยนานๆ” ผมยิ้ม วางมืออีกข้างลงบนไหล่ ฟรองซ์สะดุ้ง เกร็งตัวเล็กน้อยแต่ยังเขม็งตาจ้องสู้ผมไม่ยอมแพ้ เขาเหมือนกระต่ายป่าที่ยังไม่เชื่อง ดูน่ารักไม่อันตรายแต่ดุชิบหาย

“นานขนาดไหน ห้าปีเลยมั้ย?” เขาประชด

“ถ้าฟรองซ์เต็มใจให้อยู่นานขนาดนั้นก็จะอยู่” ผมตอบหน้าตาย “แต่ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่อยู่ พอดีไม่ได้หน้าด้านขนาดนั้น คนเขาไม่อยากให้อยู่ต่อยังจะดื้อดึง”

“พูดถึงผมกับพี่ถูกมั้ย?”

“แล้วจะให้พูดถึงใคร ตรงนี้ก็มีแค่พี่กับฟรองซ์” ผมยักคิ้ว กระตุกยิ้มแกล้งเขา “แต่ถ้าให้อยู่ถึงห้าปีจริงอย่ามาไล่นะ เพราะพี่ไม่ออก จะอยู่ต่อไปอีกหลายๆ ปี”

“แล้วทำไมต้องอยากอยู่ด้วย”

“ฟรองซ์รู้ว่าพี่หมายความว่ายังไง” พอตอบแบบนั้นฟรองซ์ก็ชะงัก ถ้าผมมองไม่ผิด จากแสงสว่างอันน้อยนิดของเสาไฟข้างทางที่ส่องเข้ามาด้านใน ผมคิดว่าฟรองซ์หน้าแดง

“จะจีบผมเหรอ”

เข้าเรื่องตรงประเด็นมาก ผมชอบ

“สนใจ” ผมตอบ เลื่อนมือขึ้นเกลี่ยติ่งหูเขาเบาๆ สัมผัสรอยบุ๋มเล็กๆ จากการเจาะบนนั้น ลมหายใจฟรองซ์สะดุด เขายังคงสบตาผมแม้สายตาจะสั่นไหวเล็กน้อย “อยากจีบ อนุญาตให้จีบมั้ยล่ะครับ?”

“คิดบ้าอะไรของพี่ เร็วเกินไป”

“ก็ไม่เร็วนะ ผมก็คุยกับคุณมาหลายวันแล้ว” ผมเปลี่ยนสรรพนามแทนตัว รู้ดีว่าพูดสุภาพแบบนี้ทำให้คู่สนทนาใจเต้นกว่าเดิม ผมยิ้มใส่ฟรองซ์ มือยังเกลี่ยติ่งหูนิ่มเล่น “ยิ่งคุยก็ยิ่งชอบ เราคุยกันถูกคอจะตาย คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอฟรองซ์?”

“ผมจะเข้าบ้านแล้ว”

“เปลี่ยนเรื่องเก่ง”

“ปลดล็อก ผมจะลง ดึกแล้วแม่เป็นห่วง”

“รีบทำไม ยังไม่สี่ทุ่มเลย ไหนตอนกินหมูกระทะบอกคุณแม่ไว้ว่ากลับสี่ทุ่มครึ่ง” ผมยกคำที่เขาพูดขึ้นมาขัด ฟรองซ์ชะงัก คิ้วขมวดแน่น ผมแกล้งยกข้อมือตัวเองให้เขาดูนาฬิกา “ไม่เชื่อเหรอ อะ ให้ยืมนาฬิกาดูก่อนก็ได้ แต่ดูเสร็จแล้วคืนด้วยนะ พวกที่ยืมนาฬิกาคนอื่นไปแล้วไม่คืนแถมยังบอกว่าคนให้ยืมตายหมดแล้วแม่งโคตรแย่ ผมไม่อยากให้คุณติดนิสัยแบบนั้นมา เยาวชนรุ่นใหม่ควรมีคุณภาพมากกว่านั้น”

“พี่เชื่อเถอะถึงผมจะอายุแค่นี้แต่ก็มีหัวคิด ท่องโตไปไม่โกงทุกวัน”

“จริง คุณน่ารักจะตาย เราเข้ากันได้ดีขนาดนี้อยู่คุยกับผมนานๆ แล้วค่อยเข้าบ้านดีกว่าน่า”

“ที่แท้ก็เป็นแผนของพี่” ฟรองซ์หรี่ตา “ชวนผมนอกเรื่องตลอด ปลดล็อกเลย จะไปแล้ว”

“เฮ้อ ทางนี้เอะอะก็จะลง จะไปให้ได้ ส่วนอีกทางคนเขาไล่แทบตายแต่ไม่ไปซะอย่างใครจะทำไม”

“ไม่ต้องมาทำผมเขว พี่สายฟ้าถอยออกไป”

ฟรองซ์ทำใจกล้ายกมือขึ้นดันอกผม แต่แรงแค่นั้นไม่พอให้ผมขยับออกได้หรอก ผมคว้าข้อมือเขาไว้ ดึงมาจูบเบาๆ ที่ข้อนิ้วเรียว สายตาไม่ละจากใบหน้าอีกฝ่าย ฟรองซ์ตัวแข็งทื่อ ตอนนี้เองที่เกมจ้องตาของเราได้ผู้ชนะเมื่อฟรองซ์ดึงมือออก เขาก้มหน้าหลบสายตา ผมหัวเราะ ลูบหัวกระต่ายป่าตัวน้อยเบาๆ

“ผมชอบคุณครับ อยากจีบ”

“ทำไมมาชอบกันง่ายๆ ไม่เชื่อหรอก พี่จะมาชอบผมได้ไง ผมไม่ได้นิสัยน่ารักเหมือนเฟน พูดจาก็ห้วนแถมยังดื้อ”

“รู้ตัวนี่นา?”

“พี่สายฟ้า!” ฟรองซ์ผลักไหล่ผมแรงๆ ทีนึง เขาหน้าบึ้ง “ไม่ต้องย้ำก็ได้ รู้ตัวอยู่แล้ว ถึงบอกว่าพี่จะมาชอบผมได้ยังไง”

“สเป็คคนเราต่างกันนะฟรองซ์” ผมตอบเขา แกล้งดีดหน้าผากอีกฝ่ายทีนึงจนฟรองซ์ร้องโอ๊ย ยกมือลูบหน้าผากป้อยๆ “สำหรับผม ชอบที่เราคุยการเมืองกันรู้เรื่อง ทัศนคติแนวคิดเราไปด้วยกันได้ ผมเลยสบายใจว่าถ้าเราติดคุก เราคงติดไปด้วยกัน...”

“ไม่เอาแบบนั้นสิ” ฟรองซ์หน้ามุ่ย “พี่จะจีบผมเพราะแค่อยากหาเพื่อนนอนคุกด้วยเนี่ยนะ”

“อ้าว งั้นผมติดคุกคนเดียวก็ได้ คุณมาช่วยประกันตัวผมแล้วกัน” ผมหัวเราะ ลูบแก้มฟรองซ์เบาๆ หรี่ตาลง อมยิ้มมุมปาก “หรือให้ผมประกันตัวคุณก็ได้นะ ถือเป็นสินสอดเลย”

“นี่ ผมยังไม่ให้พี่จีบนะ จะข้ามไปสู่ขอเลยหรือไง”

“อืม ได้มั้ยล่ะ?”

“พี่บ้าพอๆ กับเพื่อนพี่เลย” ฟรองซ์ส่ายหน้า

“บ้าได้มากกว่านี้อีก” ผมยักไหล่ ยื่นหน้าเข้าใกล้เขากว่าเดิมจนจมูกเราเกือบชนกัน “ว่าไงครับ ให้จีบได้หรือยัง คุณเองก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญที่คุยกับผมนี่ใช่มั้ย?”

“ผมดื้อนะ นิสัยไม่น่ารัก วันนึงพี่ทนไม่ได้ทิ้งผมใครจะรับผิดชอบ”

“อ้อ…” ผมพยักหน้า กระตุกยิ้มมุมปากก่อนเอียงหน้ากระซิบเบาๆ ข้างใบหูอีกฝ่าย “ลืมบอกไปว่าผมชอบเด็กดื้อ...มันน่าปราบให้หายพยศคุณว่างั้นมั้ยฟรองซ์? : )”

“พี่สายฟ้าขยับออกไป อึดอัด!”

ฟรองซ์ดันอกผมแรงกว่าเดิม แต่ผมขืนตัวไว้ รวบข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียว ฟรองซ์เงยหน้ามอง สีหน้าแววตาดื้อดึงระคนเขินอาย แก้มเขาแดงเถือกไปหมด ผมมันเขี้ยวจนอดบีบจมูกเจ้าตัวไม่ได้ ก่อนเลื่อนปลายนิ้วไปแตะติ่งหูฟรองซ์เบาๆ แล้วลากสายตามาสบเขา

“อยากให้มาใส่ต่างหูคู่กันจริงๆ นะ”

“ปล่อยผมพี่สายฟ้า” ฟรองซ์ขู่ “ไม่งั้นผมทำพี่เจ็บขึ้นมาอย่าหาว่าไม่เตือน”

“เหมือนที่คุณทำกับพระพาย?”

“ใช่!” กระต่ายป่าขู่แฟ่ น่ารักมากกว่าน่ากลัว

“งั้นผมบอกอะไรให้ฟังอย่างนึง” ผมสบตาฟรองซ์ “พระพายยอมคุณเพราะเกรงใจเฟน ส่วนผมไม่ใช่พระพาย ไม่ใจดีแบบมันคุณน่าจะเดาออก”

“...”

“ผม ‘ร้าย’ แบบที่คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ : )”

“พี่สายฟ้าผมจะเข้าบ้าน” ฟรองซ์ดันตัวผมออกอีกครั้ง เขาเงยหน้าสบตาผมเขม็ง “พี่จะกักตัวผมไว้แบบนี้ไม่ได้ พี่กำลังจำกัดสิทธิและเสรีภาพของผม”

ผมหัวเราะ คราวนี้ยอมถอยแต่โดยดี กดปลดล็อกรถให้เขา

“ตอบไลน์ผมด้วยนะ”

“ทำไมต้องตอบ”

“อ๋อ คุณเขินที่ผมบอกจะจีบจนไม่กล้าตอบ เข้าใจแล้ว”

“ไร้สาระ” ฟรองซ์เปิดประตูรถ เขาชะโงกหน้าเข้ามาข้างในอีกครั้งก่อนไป หน้าบึ้งแต่แก้มแดงก่ำ “อยากไลน์ก็ไลน์มา ไม่ได้กลัวสักนิด ผมไม่ใช่พวกที่โดนจี้นิดหน่อยก็โวยวายเปลี่ยนเรื่องสักหน่อยเพื่อพี่จะเข้าใจผิด”

“ครับผม”

เสียงปิดประตูรถดังปัง ถ้าเป็นไอ้พระพายหรือคนอื่นปิดแรงขนาดนี้ผมคงเปิดประตูลงไปด่าพ่อแล้ว แต่นี่ฟรองซ์ เว้นไว้ให้เขาคนนึงแล้วกัน

ผมหรี่ตา มองแผ่นหลังคนที่รีบสาวเท้าเดินเร็วๆ จนเกือบกลายเป็นวิ่งเข้าบ้านไปโดยไม่หันหลังกลับมาสักนิดแล้วหลุดขำ ฟรองซ์ภายนอกดูแข็งๆ ห้าวๆ แบบนั้นแต่ความจริงแล้วก็ขี้อายน่าดู

ไม่ไหวบอกไหวที่แท้

กระต่ายดื้อมันน่ารักจังวะ : )


------------------------

พี่สายฟ้ามาแย้วววว บทนี้ยาวมากเลยแบ่งอัปสองพาร์ทนะคะ วันนี้อัปครึ่งแรกก่อน พรุ่งนี้จะมาอัปครึ่งหลังให้ค่ะ

ไทม์ไลน์ของคู่นี้จะคล้ายๆ เก็บตกรายละเอียดในเนื้อเรื่องหลักที่ไม่ได้พูดถึงค่ะ หวังว่าจะชอบพี่สายฟ้ากับน้องฟรองซ์กันเยอะๆ นะคะ

ปล.พี่สายฟ้า 'ร้าย' จริงมั้ย มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันค่ะ : )

#เพื่อนกล่อมนอน #เพื่อนนอนคุก


ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
ชอบบบบบบบบ แงงงงงงงง น่ารักทั้งคู่เลยยยยยยยย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ร้ายๆเจอกับแสบๆมีแต่จะมันส์นะจ๊ะเนี่ย

ออฟไลน์ nnoii2538

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :m3: งืออออ พี่สายฟ้า พระเอกของหนู หนูดื้อพี่ชอบหนูมั้ยคะ

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พสฟมาน้อย แต่มาทีออร่าพระเอกพุ่งมากกกกกกกก ฮื้อออออ ทำไมดีขนาดนี้คะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คู่สายฟร็องซ์มาแล้วๆๆ

ออฟไลน์ Wanwann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คู่นี้ท่าจะมัน o13

ออฟไลน์ MaidenQueen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตลกในความหื่นของพระพรายอ่ะ  น้องเฟนก็น่ารักกกกกก สายฟ้าฟรองซ์ก็รอลุ้นว่าจะจบยังไง  ขอบคุณคุณไรท์ที่แต่งนิยายสนุกๆคลายเครียดดีๆมานะคะ

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
ตอนพิเศษ

เพื่อนนอนคุก 1.2 

(สายฟ้า X ฟรองซ์)






รู้ทันภัยสังคม พพ. (3)

Fennn : พี่ๆ @Thunder @Daran

Fennn : ก่อนหน้านี้พี่พระพายโดนนักข่าวแอบเข้ามอมารุม

Fennn : เราฝากพี่ๆ ช่วยคอยอยู่กับพี่พระพายหน่อยได้มั้ยช่วงนี้ เราเป็นห่วง

Daran : รุมในมอนี่เหรอ ตอนไหน?

Thunder : ถามจริง นี่กล้าขนาดเข้ามาในมอเลยเหรอวะ

Fennn : จริงพี่ ตอนพี่พระพายนั่งรอเราที่หน้าคณะ เราเห็นพี่เขาโดนรุมพอดีเลยเข้าไปช่วยทัน

Thunder : โอเค ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวตามประกบให้

Daran : เหมือนช่วงนี้มันดวงไม่ค่อยดี พาไปทำบุญหน่อยนะน้องเฟน

Thunder : ว่าแต่ตอนนี้อยู่ไหนกัน โอเคแล้วใช่มั้ย

Fennn : โอเคแล้วพี่ ตอนนี้อยู่บ้านเรา เราพาพี่เขามาไหว้แม่ แม่เลยชวนอยู่กินข้าวเย็นด้วย

Thunder : จะไม่ตีกับฟรองซ์ก่อนได้กินข้าวเหรอ?

Fennn : ฟรองซ์ไม่อยู่บ้านอะ แม่บอกฟรองซ์ออกไปซื้อของฝากกลับญี่ปุ่นให้เพื่อนๆ

Fennn : กลับเย็นๆ เลย น่าจะซื้อเยอะ เรายังห่วงอยู่ว่าจะขนกลับมายังไง

Thunder : โอเค ขอบใจมาก



“กูรู้นะสายฟ้า”

“อะไร” ผมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมองหน้าเพื่อนตัวเอง ดารัญหรี่ตาจ้องผม มันยิ้มอย่างรู้ทัน “เกลียดรอยยิ้มมึงว่ะ มีอะไรก็พูดมาเลย”

“ก็ไม่มีอะไร แต่คิดว่ามึงคงไม่อยากไปร้านบุพเฟ่ต์เปิดใหม่กับกูแล้วมั้ง”

“พูดซะเสียหาย เห็นกูเป็นคนชอบเทนัดเพื่อนขนาดนั้นหรือไง”

“เหรอ นึกว่าจะไปช่วยใครถือของซะอีก” ดารัญสบตาผม มันโคลงหัวเล็กน้อย “กูรู้ว่ามึงสนใจฝาแฝดของเฟน”

“ดื้อดี กูชอบ”

“ความคิดเสี่ยงคุกเหมือนมึงด้วยเท่าที่มึงเล่าให้ฟัง” ดารัญยักไหล่ “ก็นะ เอฟซีเทพท้อก็ต้องคิดเหมือนเทพท้ออยู่แล้ว มึงถูกใจเขาเพราะเรื่องนี้ด้วยใช่มั้ยล่ะ”

ผมยิ้ม ไม่ตอบอะไร แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์หาคนที่อยู่ในบทสนทนาแทน

Thunder : อยู่ไหนครับ

รอไม่นานเขาก็ตอบ

F : พี่มีอะไร

F : ผมซื้อของอยู่ ไม่ว่างคุย

Thunder : แล้วมีคนช่วยถือของหรือยัง

F : อะไรของพี่อีก?

Thunder : คุณซื้อของอยู่ไหน ผมจะไปหา

F : ไม่ต้องมา มาทำไม

Thunder : ไปช่วยถือของ

Thunder : อันนี้ข้ออ้าง

Thunder : จริงๆ อยากเจอหน้าคุณ

F : อยู่ดีๆ ไม่ชอบ อยากมาถือของให้เหนื่อย อะไรของพี่วะ

Thunder : ทำไมชอบแกล้งมองข้ามข้อความสำคัญอยู่เรื่อยเลย

F : อยู่ห้าง A อยากใช้แรงงานนักก็รีบมา

Thunder : ได้ อยากเจอ เดี๋ยวจะรีบไป : )



[ฟรองซ์]

ผมมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า พอเจอกันพี่สายฟ้าก็แย่งรถเข็นไปเข็นเอง ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ผมไม่ชินกับอะไรอย่างนี้สักนิด เลยได้แต่เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดตามหลัง

“เอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย?” พี่สายฟ้าหันมาถาม ผมชะโงกมองของในรถเข็น นึกทบทวนอยู่ในใจว่ายังขาดอะไรอีก จนแน่ใจว่าครบแล้วเลยส่ายหน้า

“ไม่เอาแล้ว ครบแล้ว”

“โอเค งั้นไปจ่ายเงิน”

“ผมจ่ายเองนะ พี่ห้ามจ่าย” ผมรีบดักคอไว้ก่อน พี่สายฟ้ามองหน้าผม เขาเลิกคิ้วแล้วหัวเราะ

“นี่ ผมไม่ได้สายเปย์ขนาดนั้นนะคุณ”

“จะ จะไปรู้มั้ยเล่า!”

หน้าแตก แตกแบบละเอียดยิบ ผมคว้ารถเข็นจากมือเขาได้ก็เข็นลิ่วไปแคชเชียร์ ได้ยินเสียงพี่สายฟ้าหัวเราะตามหลัง รู้สึกหน้าร้อนวาบ ได้แต่บอกกับตัวเองในใจว่าต่อไปจะไม่คิดเองเออเองแบบนี้อีกแล้ว ก็เห็นเพื่อนๆ ที่มีคนมาจีบชอบออกค่านู่นค่านี่ให้บ่อยๆ นี่นา อย่างพี่พระพายนั่นก็เหมือนกัน ออกเงินซื้อของให้เฟนบ่อยๆ จนเฟนเกรงใจต้องทักมาปรึกษาผม ผมก็นึกว่าพี่สายฟ้าจะเป็นแบบนั้นด้วย

“นี่คุณ”

“อะไร”

“จ่ายเงินเสร็จแล้วไปหาอะไรกินกัน”

“ผมอยากรีบกลับบ้าน” ผมปฏิเสธอ้อมๆ ไม่ได้หันหน้ากลับไป ก่อนรู้สึกว่ามีใครขยับมาชิด พร้อมสองมือที่เอื้อมมาจับราวรถเข็นโดยที่ตัวผมอยู่ตรงกลาง ผมหันกลับไป เงยหน้าขึ้นสบตาพี่สายฟ้าที่กักผมไว้ในอ้อมกอดกลายๆ แต่กลับทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ “ขยับออกไปนะพี่สายฟ้า”

“ไม่ขยับได้มั้ย? อยากอยู่ใกล้ๆ เพื่อเด็กแถวนี้หวั่นไหว”

“พูดจาอะไรของพี่” ผมหันหน้ากลับ เม้มปากแน่น ลอบสูดหายใจลึกๆ เมื่อเผลอใจเต้นผิดจังหวะไปกับคำพูดนั้นของเขา

“เขินล่ะสิ”

“ไร้สาระ!”

“แต่หูแดงมากเลยนะ” เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู สัมผัสถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดราวกับจะแกล้งกัน ผมรีบยกมือขึ้นปิดหูตัวเอง พอดีกับคิวก่อนหน้าคิดเงินเรียบร้อยแล้ว ผมเลยมุดหนีลอดใต้แขนพี่สายฟ้าออกจากอ้อมกอดนั้น หยิบของที่ซื้อฝากเพื่อนขึ้นเรียงบนสายพานแคชเชียร์โดยไม่พูดอะไรกับพี่สายฟ้าอีก

ผู้ชายคนนี้อันตราย ผมต้องระวังตัวให้มากกว่านี้



“สั่งสิ คราวนี้ผมเลี้ยง”

พี่สายฟ้าดันเมนูมาตรงหน้า ตอนนี้เราอยู่ในร้านคาเฟ่ต์เบเกอรี่ในห้าง ทั้งที่ตอนแรกผมยืนยันจะกลับบ้านแท้ๆ แต่สุดท้ายก็โดนน้ำเสียงนุ่มๆ กับใบหน้าหล่อๆ ล่อลวงมาจนได้

ผมแพ้คนพูดเพราะ เขาต้องรู้แน่ๆ เลยขยันพูดเพราะใส่ผม ไม่กลับไปแทนตัวเองว่าพี่แล้ว ผมหยิบใบเมนูขึ้นเปิด กวาดสายตามองรายการขนมและเครื่องดื่มต่างๆ ก่อนเหลือบสายตาขึ้นมองพี่สายฟ้าที่นั่งอยู่ตรงข้าม เขาก้มหน้ามองใบเมนูอยู่ พอมองเขาแบบนี้ผมก็นึกแปลกใจว่าอีกฝ่ายคือ ‘เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป’ จริงๆ หรือเปล่า

พี่สายฟ้าตรงหน้าผมหล่อเนี้ยบใบหน้าเกลี้ยงเกลาให้อารมณ์เหมือนพวกคุณชาย โครงหน้าเขาคมชัด ดวงตาเรียวแต่ไม่ตี่ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากสวยแถมยังพูดเพราะ ดูมีเสน่ห์มากๆ ส่วนพี่สายฟ้าในร่างเทพท้อด่าเก่ง แซะเก่ง หยาบคายเป็นเกรียนคีย์บอร์ด เกรี้ยวกราดจนน่าแกล้งกวนประสาทให้สติแตก เพราะแบบนี้ผมถึงชอบจนสร้างแอคเอฟซีเทพท้อขึ้นมาติดตามเขาและหาเรื่องกวนจนโดนด่าอีเห็บเด็กอยู่บ่อยๆ

ความสัมพันธ์ระหว่างเทพท้อกับเอฟซีเทพท้อโคตรต่างจากผมกับพี่สายฟ้าตอนนี้เลย

ไม่ชิน ยังไงก็ไม่ชิน

“ถ้าแอบมองกันนานกว่านี้ผมจะคิดว่าคุณมีใจนะฟรองซ์”

“อะ อะไร!?” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ พี่สายฟ้าก็เงยหน้าขึ้นจากเมนูมาสบตา เขายกยิ้มมุมปาก สายตาเป็นประกายรู้ทัน ผมเลิ่กลั่ก ก้มหน้าจิ้มมั่วๆ ไปในใบเมนู “เอาอันนี้กับอันนี้ พี่รีบสั่งสิไม่ใช่มามัวแต่ยิ้มใส่ผม”

“ร้อนรนมาก กลัวผมไม่เห็นพิรุธหรือไง?”

“พี่สายฟ้า!”

“โอเคครับ ไม่แกล้งก็ได้” พี่สายฟ้ายกสองมือยอมแพ้ เขากวักมือเรียกพนักงานมารับออเดอร์ พอเสร็จเรียบร้อยก็วางศอกกับโต๊ะเท้าคางมองหน้าผมยิ้มๆ

“เมื่อกี้คิดอะไรอยู่ตอนมองผม”

“ไม่ได้คิด”

“ว้าว ไม่ปฏิเสธแล้วแฮะว่าไม่ได้มอง”

“ไม่ได้มอง!”

“ไม่ทันแล้วครับ” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “มองก็มองสิ ผมอนุญาต ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“ไม่มองแล้ว”

“งั้นผมมองคุณแทน?”

“ห้ามพี่มองผมด้วย มองคนอื่นไปเลยไป”

“ห้ามกันได้เหรอ” เขาเลิกคิ้ว อมยิ้มเล็กน้อย ดวงตาเรียวหรี่ลงฉายประกายเจ้าเล่ห์ “คนที่ชอบนั่งอยู่ตรงหน้า ยังไงก็ดึงดูดให้น่ามองกว่าคนอื่นรอบตัวไม่ใช่หรือไง”

อันตราย

พี่สายฟ้าอันตรายเหมือนชื่อจริงๆ นั่นแหละ

ผมก้มหน้าลง นึกหงุดหงิดตัวเองที่ใจเต้นไปกับคำหวานนั้น แถมยังหน้าร้อนผ่าว ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่ามันแดงแปร๊ดแน่ๆ ทำไมผมถึงเป็นได้ขนาดนี้ นี่มันไม่ใช่ตัวผมสักนิด

“ฟรองซ์”

“พอ พอก่อน” ผมยกมือขึ้นห้ามพี่สายฟ้าทั้งที่ยังก้มหน้าไม่ยอมสบตาเขา “ขอผมตั้งตัวนิดนึง แบบนี้ไม่ไหว จะตายแล้ว พี่บ้านี่!”

“ทำไมครับ เขิน?”

“...”

“ฟรองซ์ครับ” ผมได้ยินเสียงหัวเราะของพี่สายฟ้า พร้อมมือที่ยื่นมาเชยคางให้เงยหน้าขึ้น เราสบตากัน แววตาพี่สายฟ้าวิบวับเป็นประกาย “เขินก็บอกว่าเขิน”

“เออ เขิน! พอใจหรือยังพี่สายฟ้า!” ผมหลับหูหลับตาพูดออกไป พอกันที แกล้งกันอยู่นั่นแหละ ฮึ่ย!

“คุณน่ารัก : )”

“บอกว่าพอไง!” หน้าผมร้อนไปหมด ส่วนพี่สายฟ้าก็เอาแต่ยิ้มมองผมอยู่ได้ และก่อนผมจะเขินจนทำตัวไม่ถูกไปมากกว่านี้พนักงานก็ยกเค้กและเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟพอดี ผมรีบเบนความสนใจตัวเองไปหาของกิน ไม่พูดไม่จา ไม่เงยหน้าสบตาใครทั้งนั้น

“กินเลอะ”

“หยุดเลยพี่สายฟ้า” ผมรีบชี้นิ้วห้ามคนที่ทำท่าจะเอื้อมมือมาหา เขาชะงัก เลิกคิ้วเล็กน้อย “รู้ว่าจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ผมเช็ดเองได้”

“ว้า โดนรู้ทัน”

ผมค้อนใส่ หยิบทิชชู่เช็ดปากแล้วกินต่อเงียบๆ ความจริงก็ไม่อยากให้มันเงียบแบบนี้หรอก น่าอึดอัดจะตาย แต่ถ้าพูดกับพี่สายฟ้า เขาคงหยอดจนผมต้องบ้าตายแน่ๆ เพราะงั้นป้องกันไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

“จะกลับญี่ปุ่นวันไหน” แต่กลายเป็นพี่สายฟ้าเปิดบทสนทนาขึ้นแทน ผมเงยหน้า ตอบกลับไป

“กลับอาทิตย์นี้แล้ว”

“ผมไปส่งด้วยได้มั้ย?”

“ถ้าห้ามแล้วจะฟังมั้ยล่ะ” ผมถาม พี่สายฟ้ายักไหล่ ผมเลยกลอกตาใส่ “นั่นไง ห้ามไปพี่ก็ไม่ฟัง แล้วจะมาขอทำไม”

“ก็ถามความสมัครใจก่อน พี่ไม่เหมือนลุงคนนั้นนะที่นึกจะทำอะไรก็ทำ ไม่ถงไม่ถามความเห็นประชาชนสักคำ”

“ถ้าถามแล้วโดนต่อต้าน ใครจะถาม ในเมื่อมีอำนาจมากพอจะยึดอยู่แล้ว” ผมเบะปาก

“เนี่ย ผมชอบคุณเพราะอย่างนี้นี่แหละ” พี่สายฟ้ายิ้มให้อีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่ใจผมเต้นผิดจังหวะ ผมเฉไฉโดยการหันไปดูดน้ำจากแก้ว กระแอมเบาๆ มองหน้าเขา

“พี่สายฟ้า”

“อ่าฮะ?”

“จริงจังเหรอ”

“หมายถึงเรื่องของคุณ?”

“มีเรื่องไหนอีกล่ะ” ผมย้อนกลับ สูดหายใจลึก กลั้นใจถามไปตรงๆ อีกครั้ง “นี่พี่สายฟ้า ตอบผมมาตรงๆ พี่จริงจังกับผมเหรอ เราเพิ่งเจอเพิ่งรู้จักกันไม่นาน บางทีพี่อาจไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ก็ได้”

“ฟรองซ์ฟังผมนะ” แววตาพี่สายฟ้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง ผมเงียบไป แทบไม่กล้าหายใจ “ถ้าผมไม่แน่ใจ ผมจะไม่บอกใครเด็ดขาดว่าชอบ ผมไม่ชอบให้ความหวัง แต่ถ้าผมแน่ใจ ถึงระยะเวลามันจะสั้นจนคุณไม่มั่นใจ ผมก็จะบอก เหมือนที่ผมบอกคุณไงฟรองซ์ว่าสนใจคุณ”

“...”

“อีกอย่าง…” คราวนี้พี่สายฟ้ากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาเท้าแขนกับโต๊ะ โน้มตัวเข้ามาจนใบหน้าหล่อๆ ห่างจากผมไม่เท่าไหร่ “จริงที่คุณบอกเราเพิ่งเจอกัน แต่เรื่องเพิ่งรู้จักกันไม่นานผมขอค้าน”

“...”

“เพราะสำหรับผม รู้จักคุณตั้งแต่คุณเริ่มมาป่วนทวิตผมแล้วฟรองซ์ : )”

ขี้โกง…

มาทำให้คนอื่นใจเต้นแรงจนเหนื่อยแบบนี้มันขี้โกงชัดๆ เลย : (



“นั่นรถเพื่อนพี่ไม่ใช่หรือไง?”

ผมขมวดคิ้วมองรถยนต์ที่จอดขวางอยู่หน้าบ้านตัวเอง ผมเคยขึ้นรถพี่พระพายตอนไปขัดขวางเขาเดตกับเฟน ถึงจะแค่ครั้งเดียวแต่ก็จำแม่น

“อืม เห็นเฟนบอกว่าพามันมาไหว้แม่แล้วคุณแม่ชวนอยู่ทานมื้อเย็นด้วย”

“ชิ” ผมส่งเสียงจิ๊ปากไม่พอใจ “ช่างเถอะ ขอบคุณที่มาส่ง พี่ไม่ต้องช่วยขนของนะ แค่เปิดหลังรถให้ผมก็พอ”

“เดี๋ยวสิ”

“อะไรอีกพี่” ผมมองหน้าเขา เราสบตากัน พี่สายฟ้าถอนหายใจเบาๆ

“เรื่องพระพายน่ะ ให้โอกาสมันหน่อย”

“ผมไม่ให้โอกาสเขาตรงไหน” ผมย้อนถาม “โอเค วันนั้นผมอาจลงไม้ลงมือจนดูนิสัยไม่ดีไปบ้าง แต่เรื่องที่เพื่อนพี่หัวแตกก็เพราะเขาสะดุดล้มเองนะ ผมก็ไม่ได้จะซ้ำ…”

“ถามจริง?”

“ก็ได้ๆ” ผมยกมือยอมแพ้ต่อสายตารู้ทัน “ก็แค่จะฟาดเบาๆ ส่งท้ายทีนึง ไม่ได้จะเอาให้หัวแบะสักหน่อย ผมก็โกรธของผมมั้ยล่ะ ดูเพื่อนพี่ทำกับเฟนสิ แฝดผมเลี้ยงมากับมือ ดูแลดีขนาดไหน สุดท้าย…”

“เอาน่า เขาแฟนกัน”

“รู้ เพราะรู้เลยไม่อะไรแล้วไง” ผมถอนหายใจ “อีกอย่างพี่เขาก็โดนข่าวเล่นงานขนาดนั้น ก็ไม่ค่อยชอบหน้าอยู่นิดๆ แต่ก็ไม่ใจร้ายพอจะซ้ำเติมสักหน่อย”

“ปากร้ายแต่ใจดีนะคุณน่ะ”

“จะด่าหรือชมกันแน่”

“ชมดีกว่า” พี่สายฟ้าโคลงหัว เขาปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วหันมาทางผม แขนยกพาดพวงมาลัยรถเอาไว้ เราสบตากันอีกครั้ง “พระพายเห็นมันเป็นแบบนั้นแต่โคตรรักเฟนเลย เรื่องนี้ผมรับประกันได้ ลองเปิดใจคุยกับมันดู คุณติดขัดไม่พอใจตรงไหนบอกมันตรงๆ หาทางปรับแก้ ยิ่งคุณตั้งท่าไม่ชอบหน้ามันคนที่ลำบากใจที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน คุณรู้ใช่มั้ยผมหมายถึงใคร”

“หมายถึงเฟน รู้น่า” ผมก้มหน้ามองมือตัวเอง “ไม่ได้อยากให้เฟนไม่สบายใจ…”

“งั้นก็คุยกับมัน พระพายมันคุยด้วยง่าย บ้าๆ บอๆ ไปบ้างแต่ก็เข้าใจภาษาคน”

“เหมือนพี่รักเพื่อน แต่ก็เกลียดเพื่อนด้วย”

“เพื่อนรักเพื่อนร้ายไง” เขายิ้ม

“อืม ขอบคุณ เดี๋ยวจะลองคุยดู ผมไปล่ะ”

“เดี๋ยว” คราวนี้พี่สายฟ้าคว้าต้นแขนผมไว้ ผมขมวดคิ้ว มองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ “มีอีกเรื่อง อันนี้เรื่องของเรา”

“ผมกับพี่มี ‘เรื่องของเรา’ ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย?”

“ตั้งแต่ผมจะจีบคุณ”

“โอเค พี่มีอะไร” ผมรีบเข้าเรื่อง ไม่ปล่อยให้เขาหยอดไปมากกว่านี้ พี่สายฟ้าหัวเราะหึๆ มองผมด้วยสายตารู้ทันก่อนเปิดลิ้นชักหน้ารถหยิบอะไรบางอย่างออกมา มันเล็กมากจนผมต้องเขม่นตามอง “อะไรน่ะ?”

“ที่เคยบอกไว้” พี่สายฟ้าเปิดไฟในรถ ผมถึงเห็นสิ่งที่อยู่ในมือเขาชัดเจนกว่าเดิม

“ต่างหู?”

ผมมองต่างหูที่มีลักษณะกลมแบนสีดำอันเล็กๆ มันมีลายสายฟ้าสีเงินสลักอยู่ตรงกลาง

“ใส่คู่กับผมไง” พอพี่สายฟ้าพูดอย่างนั้นผมถึงเบนสายตามองหูเขา อีกฝ่ายใส่ต่างหูหน้าตาเหมือนกับอันนี้เปี๊ยบ

“ไม่ได้หรอกพี่สายฟ้า” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้ไม่กล้ารับสิ่งที่เขาให้ ทั้งสิ่งของหรือความรู้สึกทุกอย่างดูเร็วไปหมด

“แค่อยากให้ ใส่เล่นๆ อย่าคิดว่ามันผูกมัดคุณ”

“พี่ก็พูดง่ายสิ”

“งั้นคิดซะว่าผมฝากคุณไว้ เดี๋ยวมาเอาคืนวันที่ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้วกัน”

“แบบนั้นก็...อีกนานสิ?”

“แปลกดี คราวนี้ผมชอบที่มันนาน”

พี่สายฟ้ายิ้ม เขาสบตาผม ดึงแป้นออกจากขาต่างหู ขยับเข้ามาใกล้จนผมสัมผัสถึงไออุ่นจากตัวเขา กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆ และลมหายใจร้อนเป่ารดผิวแก้มตอนเขายื่นหน้ามาใกล้เพื่อใส่ต่างหูให้

ผมควรขยับตัวหนีถ้าไม่ต้องการ แต่สุดท้ายกลับนั่งนิ่ง ติ่งหูถูกปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆ พี่สายฟ้าค่อยๆ ใส่ต่างหูให้ผมและติดแป้นล็อกด้านหลังไว้เรียบร้อย

“สะ เสร็จแล้วก็ขยับออกไปสิ”

“ฟรองซ์”

“หะ หือ?”

“ตัวคุณหอม” น้ำเสียงนุ่มกระซิบข้างใบหู หัวใจผมเต้นตึกตัก ตัวแข็งทื่อเมื่อพี่สายฟ้ากดจมูกลงบนแก้มผมเบาๆ “ส่วนแก้มคุณก็หอมอย่างที่ผมคิดไว้เหมือนกัน…”

ผมนั่งนิ่ง ในหูอื้ออึงไปหมด สัมผัสข้างแก้มติดแน่นทั้งที่พี่สายฟ้าผละใบหน้าออกไปแล้ว ผมได้แต่จ้องตาเขา พูดอะไรไม่ออก หน้าร้อนผ่าว

“สรุปวันกลับญี่ปุ่นให้ผมไปส่งด้วยได้มั้ย?”

ผมเม้มริมฝีปากแน่น เบนหน้าหลบสายตาเขา พยักหน้าและส่งเสียงตอบรับเบาๆ

“อืม”

“เด็กดี ขอบคุณครับ”

ฝ่ามือใหญ่วางลงบนหัว พี่สายฟ้าลูบหัวผมเบาๆ ก่อนผมจะพึมพำขอตัว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมก้าวออกมา คว้าข้าวของจากท้ายรถพี่สายฟ้าเรียบร้อยก็เดินลิ่วๆ เข้าบ้านไม่หันหลังกลับไปสักนิด สติเหมือนยังไม่กลับเข้าร่าง จนกระทั่ง...

“อ้าวน้องฟรองซ์” พี่พระพายส่งเสียงทักทาย เขานั่งกดมือถือยิกๆ อยู่บนโซฟาห้องรับแขก ท่าทางสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง “กลับมาแล้วเหรอ แล้วนั่นเป็นอะไร หน้าแด๊งแดง เป็นลมพิษเหรอ”

“ลมพิษบ้านพี่สิ!”

พี่พระพายผงะไปเล็กน้อย ก่อนเขาจะตัดพ้อใส่ผมแล้วสะบัดร่างใหญ่ๆ เดินหายไปหลังบ้าน

“อะจ้ะ สนามอารมณ์ของทุกคนคือพี่ เอาเลย เอาให้สาแก่ใจเธอ ไปหาหนูจ๋าของพี่ช่วยคุณแม่ทำกับข้าวดีกว่า”

ผมถลึงตามองตามหลังเขาไป อยากตะโกนให้ลั่นบ้านว่าเพราะเพื่อนพี่นั่นแหละที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ฮึ่ย!

v
v
v

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
- ต่อ -



[สายฟ้า]

“ทำไมวันนี้เงียบจัง” ผมถามเด็กที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ได้ยินเขาแค่นเสียงเหอะกลับมาทีนึง

“ก็ไม่มีอะไรจะพูด”

“อย่างน้อยก็ด่าหน่อย”

“ที่จู่ๆ พี่ก็บุกบ้านแล้วบอกแม่ว่านัดผมไว้น่ะเหรอ?” ฟรองซ์ถามกลับ ผมเหล่มองเขาเล็กน้อยแล้วกลับไปมองถนนตรงหน้าต่อ แต่แค่นั้นก็พอทำให้เห็นกระต่ายบางตัวกำลังหน้าบึ้ง จมูกย่นยุกยิกไม่พอใจ “ก็ด่าตั้งแต่เจอหน้าพี่จนเหนื่อยจะด่าแล้วเนี่ย จะนัดก็บอกกันล่วงหน้าสิ ผมตั้งตัวไม่ทันนะ โดนแม่ดุว่าตื่นสายเลยทั้งที่ผมก็ไม่รู้ว่าพี่จะมา!”

“ตอนโดนดุหน้าเป็นกระต่ายหงอยเลย” ผมหัวเราะ “ผมชอบว่ะ มันเขี้ยว อยากบีบแก้มคุณ”

“ไม่ให้บีบ!”

“หอมยังหอมมาแล้ว แค่บีบเองจะหวงทำไม”

“พี่สายฟ้า!”

“ถึงแล้ว” ผมแกล้งทำเมินเสียงตะโกนของฟรองซ์ เลี้ยวรถหาที่จอดใกล้ร้าน 3rd Cat Cafe ที่ดารัญรีวิวว่าดีนักหนาเรียบร้อยก็ดับเครื่อง หันไปสบตาฟรองซ์ที่เหมือนจะยังงอนผมอยู่ “ขอโทษที่จู่ๆ ก็ไปรับคุณออกมา แต่วันมะรืนคุณก็กลับญี่ปุ่นแล้ว วันสุดท้ายก่อนกลับผมคิดว่าคุณน่าจะอยากอยู่กับครอบครัว วันนี้ผมเลยขอขโมยตัวคุณสักวัน...ได้มั้ยครับ?”

“ถะ ถามอะไรอย่างนั้น” ฟรองซ์เม้มริมฝีปาก ท่าทางเงอะงะแต่ไม่ยอมละสายตาหนี ผมชอบที่เขาเป็นคนไม่ยอมแพ้ทั้งที่เขินแทบตายแบบนี้แหละ “รับก็รับมาแล้ว มาขอตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว”

“ก็จริง” ผมพยักหน้า หรี่ตาอมยิ้ม “ขโมยตัวมาได้แล้ว เหลือขโมยใจ เมื่อไหร่จะได้ก็ไม่รู้”

“ระ ไร้สาระ” ฟรองซ์แก้มแดงจัด เขาปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูรถจากรถ ผมเดาะลิ้นมองตามแผ่นหลังฟรองซ์ เขาเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในร้านโดยไม่รอกันสักนิด

คราวหลังไม่รีบปลดล็อกรถดีกว่า กระต่ายได้ทีหนีเลย

ผมตามเขาเข้ามาในร้าน ล้างไม้ล้างมือทำความสะอาดถอดรองเท้าเรียบร้อย เห็นฟรองซ์นั่งอยู่ที่โต๊ะเตี้ยริมในสุดใกล้กับเคาน์เตอร์ร้าน ผมเดินไปหาเขา นั่งลงบนเบาะฝั่งตรงข้าม มองกระต่ายป่าจอมเซี้ยวเล่นกับแมวเหมียวขนฟูสีขาวสะอาด

“น่ารัก” ผมชม ฟรองซ์พยักหน้ารับโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาเพราะมัวแต่สนใจแมวบนตักตัวเอง

“อื้ม แมวน่ารักมากๆ เลย”

“เปล่า”

“ฮะ?” คราวนี้เขาเงยหน้ามองเมื่อผมปฏิเสธ ผมอมยิ้มตอนเห็นใบหน้าอีกฝ่ายเหรอหรา

“หมายถึงคุณที่น่ารัก”

พอบอกไปแบบนั้นหน้าดื้อๆ ของฟรองซ์ก็แดงก่ำ เขาถลึงตาใส่ผม พึมพำตอบกลับ

“ไร้สาระ”

“สั่งอะไรหรือยัง” ผมเปลี่ยนเรื่องเมื่อเด็กตรงหน้าแทบจะมุดหนีสายตาผมเข้าใต้พุงแมว พยักพเยิดไปทางสมุดเมนูที่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะ ฟรองซ์เหลือบตาขึ้นมอง เขาส่ายหน้า

“รอพี่”

“รอผม?”

“ก็ไม่รู้ว่าพี่ชอบอะไร จะสั่งเผื่อได้ไง”

“อ๋อ ผมชอบฟรองซ์” ผมยักคิ้วใส่เขา “ขอฟรองซ์ที่นึงครับ”

แล้วกระต่ายป่าก็แก้มแดงใส่ผมอีกครั้ง…

เข้าใจพระพายมันแล้วว่าทำไมชอบทำให้เฟนเขินบ่อยๆ เวลาเด็กพวกนี้เขินโคตรน่ามันเขี้ยว

“ไร้…”

“ไร้สาระ” ผมต่อประโยคให้เขา ฟรองซ์เลยทำจมูกย่นใส่ เขาเหมือนกระต่ายจริงๆ นั่นแหละ

หลังจากนั้นพวกเราก็หยิบสมุดเมนูมาสั่งขนมและเครื่องดื่ม พอสั่งเสร็จเรียบร้อยฟรองซ์ก็หันไปเล่นกับแมวต่อ ไม่สนใจผมเลยสักนิด แต่ผมไม่ว่าเขาหรอก เด็กมันเขิน ดูออก ปล่อยให้พักตัวพักใจแป๊บนึงค่อยหยอดต่อ

“เมี้ยวววว” เสียงแมวอีกตัวร้องในขณะเดินเข้ามาคลอเคลียผม มันก้าวขึ้นนอนบนตัก ส่งเสียงครืดคราดในลำคออย่างสบายใจ ผมก้มหน้า ลูบหัวมันเบาๆ

แชะ!

“อ๊ะ…”

“หืม...แอบถ่ายรูปผมเหรอคุณ?” ผมหรี่ตามองฟรองซ์ เขาดูตื่นตระหนกแต่พยายามเก็บอาการ เชิดหน้าขึ้น เถียงกลับอย่างไม่ยอมจำนน

“ถ่ายแมวต่างหาก”

“แต่คุณยกกล้องมาทางผม”

“ก็ถ่ายแมวที่อยู่บนตักพี่ไง” เขาว่า “จะส่งรูปให้เฟน เฟนชอบแมว”

“อ๋อ...ไหนขอดูรูปหน่อย”

“ไม่เอา!”

“เนี่ย คุณมีพิรุธ ดูออก”

“ไม่ใช่นะ ผมน่ะ ไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ นะ!” เจ้าเด็กเถียงคอเป็นเอ็นก่อนอุ้มแมวขึ้นมากอดแล้วเอาหน้าซุก ผมได้ยินเสียงพึมพำเบาๆ ของฟรองซ์แต่จับใจความไม่ได้ เด็กแสบมันน่าเอ็นดูจังวะ

“โอเคๆ เชื่อแล้วก็ได้” ผมยอมให้เขา ก่อนฟรองซ์จะมุดหน้ากับพุงแมวจนขาดอากาศไปก่อน พอน้องได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา มองผมด้วยแววตากังขา “เชื่อจริงๆ ว่าแต่ถ่ายรูปให้ผมหน่อยสิคุณ ถ่ายคู่กับแมวตัวนี้ น่ารักดี”

ฟรองซ์หรี่ตาเล็กน้อย คล้ายเขากำลังประเมินว่าผมจะมาไม้ไหน พอเห็นว่าผมไม่ได้มีพิรุธอะไรก็เลยพยักหน้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปให้ตามที่ขอ

“เดี๋ยวผมส่งให้ในไลน์” เขาบอก

“ส่งรูปก่อนหน้านั้นมาด้วยก็ดีนะ”

“พี่สายฟ้า!”

ผมหัวเราะ ส่วนฟรองซ์กลับไปหน้าแดงอีกครั้ง ไม่รู้เพราะเขินหรือโกรธกันแน่ ไม่ก็ทั้งสองอย่างรวมกัน แต่ก่อนที่กระต่ายป่าจะกระโดดข้ามโต๊ะมาตะกุยหน้าผม ขนมกับเครื่องดื่มก็ยกมาเสิร์ฟพอดี เราสองคนเลยละความสนใจจากน้องแมวชั่วคราว

“เออนี่” ผมเปิดบทสนทนาเมื่อเห็นว่าเงียบเกินไป ฟรองซ์เหลือบตามอง เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ที่ญี่ปุ่นมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง?”

“ก็เยอะ” เขาตอบ “พี่เสิร์ชกูเกิลสิ”

“อยากฟังคำแนะนำจากเจ้าถิ่นมากกว่า หลังฝึกงานเสร็จมีช่วงวันหยุดยาวก่อนขึ้นปีสี่ ผมว่าจะไปหาคุณ”

“พี่จะไม่ติดคุกก่อนมาหาผมใช่มั้ย?” เขาแกล้งถาม ผมหัวเราะหึๆ

“ไม่เป็นไร”

“...”

“เพื่อนผมรวย ถ้าติดเดี๋ยวให้มันมาประกันตัวให้” ผมหัวเราะ สบตาฟรองซ์ไม่ละไปไหน “แต่จริงๆ ติดคุกก็ไม่เลวนะถ้าคุณอยู่ห้องข้างๆ เราเดตกันในคุกก็ได้ แหวกแนวไม่เหมือนใคร”

“เราจะไม่เดตกันในคุกพี่สายฟ้า” ฟรองซ์กุมขมับ “คิดได้ไงเนี่ย”

“ก็…”

ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่เสียงโวยวายจากพนักงานหลังร้านดังขึ้นมาก่อน ผมได้ยินชัดเพราะโต๊ะพวกเราอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์มาก

“คุณติคะ เปียกปูนแอบหนีออกไปนอกร้านอีกแล้วค่ะ!”

“งั้นผมรบกวนพี่เอื้อยเฝ้าแคชเชียร์แทนทีนะครับ” ผู้ชายที่ประจำอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ถอนหายใจ เขาถอดผ้ากันเปื้อนออกวางพาดกับเก้าอี้ก่อนเดินหายไปทางหลังร้าน ถ้าให้ผมเดา เปียกปูนที่ว่านี่คงเป็นหนึ่งในแมวของคาเฟ่ต์นี้แน่ๆ

ผมหันกลับมาที่โต๊ะตัวเองหลังไม่มีอะไรให้น่าเสือก...หมายถึงไม่มีอะไรให้น่าสนใจแล้ว ฟรองซ์กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรสักอย่าง เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สักพักก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังออกจากโทรศัพท์เขา ผมฟังไม่ออกเพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ฟรองซ์หัวเราะคิก ผมเห็นเขากดส่งข้อความเสียงตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกัน

“ฟรองซ์”

“หือ?” เขาเงยหน้าเมื่อผมเรียก

“มากับผมแต่คุยกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนะ” ผมแกล้งดุ ฟรองซ์เลยหน้ามุ่ยใส่

“แค่คุยกับเพื่อน”

“เพื่อนเดี๋ยวก็ได้กลับไปหา” ผมสบตาเขา “ส่วนผมเหลือเวลากับคุณแค่วันนี้นะฟรองซ์”

“ไหนพี่บอกจะไปส่งผมวันกลับด้วยไง”

“โอเค” ผมยกสองมือยอมแพ้ มองหน้าเขาตรงๆ “ผมหึง”

“ฮะ?”

“คุณคุยกับผู้ชายคนอื่น ผมหึง”

“มะ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยมาหึงได้…”

“ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ผมชอบคุณไง หรือผมไม่มีสิทธิ์หึง?” ผมตอบไปตามตรง ฟรองซ์อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออก “อยากข้ามไปตอนจีบติดเป็นแฟนคุณแล้วเนี่ย จะได้มีสิทธิ์”

“เร็วไป!”

“แต่ตอนนี้คุณก็ดูหวั่นไหวกับผมนะ”

“พี่สายฟ้า!”

“เรียกบ่อยขนาดนี้ต้องเป็นแฟนกันแล้วมั้ย?”

“พี่…” ฟรองซ์เม้มปาก ท่าทางเหลืออด ก่อนจะยืดตัวข้ามโต๊ะมาตีปากผมเบาๆ ทีนึง ไม่สิ เรียกตีไม่ได้ด้วยซ้ำ เหมือนมาแปะๆ มากกว่า “พูดมาก เงียบไปเลย”

“แต๊ะอั๋งผมล่ะสิ”

“นี่!”

“เอาดีๆ หวั่นไหวกับผมบ้างหรือยัง”

“ยังไม่บอกพี่ตอนนี้หรอก”

“แล้วจะให้คำตอบผมเมื่อไหร่?”

“จนกว่าจะรู้ผลเลือกตั้งมั้ง”

“นานไป”

“งั้นจนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่”

“ฟรองซ์ คุณอยากให้ผมโสดไปจนแก่ตายหรือไง?” ผมมันเขี้ยวเด็กแสบจนอยากจับมาบี้แก้มบี้จมูกซะให้เข็ด ฟรองซ์หัวเราะ เขาแลบลิ้นใส่ผม

“ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องจีบ”

“ใครบอกผมทนไม่ได้” ผมเลิกคิ้ว “ถ้าผมทนรัฐบาลชุดนี้มาห้าปีได้ ผมก็ทนทุกอย่างบนโลกนี้ได้”

“จริงหรือเปล่…”

“แต่ทนความน่ารักของคุณไม่ได้ แย่จัง”

หยอดหนึ่งดอกไปแบบไม่ให้ฟรองซ์ตั้งตัว เจ้ากระต่ายป่าของผมอ้าปากค้าง แล้วแก้มก็แดงขึ้นอีกครั้งลามยันใบหู ขี้เขินเก่งพอๆ กับเฟนเลย สมแล้วที่เป็นฝาแฝดกัน

หลังจากนั้นฟรองซ์ก็ก้มหน้างุดกินเค้กเล่นกับแมวไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากันอีกเลย

มันเขี้ยวว่ะ อยากหอมหัว



[ฟรองซ์]

“แม่ต้องคิดถึงฟรองซ์มากแน่ๆ เลยลูก”

“ฟรองซ์ก็คิดถึงแม่” ผมกอดแม่แน่น ตอนนี้พวกเราอยู่ที่สนามบิน ผมกำลังจะบินกลับญี่ปุ่น “ไว้ปิดเทอมแล้วฟรองซ์จะมาเยี่ยมแม่นะ”

“หนูไปๆ มาๆ เหนื่อยแย่ เอางี้” แม่ยิ้ม ลูบหัวผมเบาๆ “ไว้แม่ไปเยี่ยมฟรองซ์ที่ญี่ปุ่นมั่งดีกว่า แม่สะสมวันพักร้อนไว้ไม่ค่อยได้ใช้ เอามาใช้บินไปหาลูกคุ้มกว่าเนอะ”

“แม่รอเฟนปิดเทอมก่อนสิ จะได้ไปด้วยกัน” เฟนเดินมากอดผมแน่น “ฟรองซ์มารอบนี้อยู่ยาวจนเราไม่อยากให้กลับแล้วเนี่ย ขโมยตัวจากพ่อมาอยู่ไทยเลยได้มั้ย”

“เฟนครับ” ผมหัวเราะกับความคิดเขา ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ “ฟรองซ์ยังต้องเรียนหนังสือนะ”

“มาเรียนกับเราสิฟรองซ์”

“ต้องสอบใหม่หมดเลยนะสิ”

“อยากอยู่กับฟรองซ์ คิดถึง ถ้าฟรองซ์เรียนที่เดียวกับเราจะได้นอนด้วยกันไง”

“หนูจ๋า พี่ว่าไม่ดีมั้งงงง” พี่พระพายแทรกขึ้นมา เขารีบเดินมาหาเฟนที่กอดเอวผมไว้แน่น “ถ้าหนูนอนกับฟรองซ์แล้วพี่จะนอนกับใคร พี่นอนคนเดียวไม่ได้ ติดหนูแล้วเนี่ยหนูก็รู้”

“พี่ ผมขอร้อง” ผมกลอกตา “จะอ้วก!”

“มึงก็กลับมานอนกับกูเหมือนเดิม” คราวนี้เป็นเสียงพี่สายฟ้า ผมเหลือบตามองเขาเล็กน้อยก่อนแกล้งทำเป็นมองอย่างอื่น

“สายฟ้าเพื่อนรัก คิดดูให้ดีๆ จะเอากูไปทำไมครับเพื่อน” พี่พระพายกัดฟันแน่น เขากระซิบเบาๆ แต่ผมดันได้ยิน “ถ้าฟรองซ์ย้ายมาเรียนที่นี่ มึงก็ให้ฟรองซ์ไปนอนกับมึง กูนอนกับเฟน วินๆ ไอ้สัส อย่าโง่”

“อะแฮ่มๆ” คราวนี้คุณแม่กระแอม เธอหันมองพี่พระพายกับพี่สายฟ้า หัวเราะน้อยๆ “เบาหน่อยลูก วัยรุ่นสมัยนี้ไฟแรงกันจัง แม่ตั้งตัวไม่ทัน ว่าแต่ฟรองซ์คบกับพี่สายฟ้าเหรอลูก?”

“ไม่ใช่สักหน่อยแม่!” ผมสะดุ้ง ร้องเสียงหลง แม่ทำหน้าแปลกใจ

“อ้าว แม่นึกว่าคบกัน เห็นใส่ต่างหูเหมือนกัน วันก่อนเขาก็มารับฟรองซ์ไปเที่ยว วันนี้ก็มาส่ง”

“ไม่มีอะไรในกอหญ้าเลยแม่!”

“กอไผ่ลูก กอไผ่”

“นั่นแหละแม่ เหมือนกัน” ผมบอกปัด รีบเปลี่ยนเรื่อง “ถึงญี่ปุ่นแล้วเดี๋ยวฟรองซ์ไลน์มาบอกนะ แม่อยู่คนเดียวก็ดูแลตัวเองดีๆ เฟนก็เหมือนกันนะครับ อย่าให้ใครเอาเปรียบได้นะ”

“ถ้าจะมองกันด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อขนาดนั้น น้องฟรองซ์ระบุชื่อพี่เลยก็ได้ครับ” พี่พระพายเหล่มอง ผมเลยถือโอกาสนี้ขู่เขาก่อนกลับ

“พี่รู้ตัวก็ดีแล้ว ถ้าผมรู้ว่าพี่เอาเปรียบหรือทำเฟนเสียใจนะ” ผมทำท่ายกนิ้วปาดคอตัวเอง “ถึงติดเรียนอยู่ผมก็จะบินกลับมาไทยเพื่อจัดการพี่ให้สาสม!”

“สายฟ้ามึงจัดการดิ้ ขู่กูเก่งจังแต่กับมึงนี่แสนจะเรียบร้อย”

“ถ้าเราทำตัวให้น่าเคารพ น้องเขาก็จะเคารพมึง”

“พี่สายฟ้ากำลังจะบอกว่าพี่พระพายไม่น่าเคารพเหรอ” เฟนถามตาใส เขาไม่มีเจตนาจะซ้ำเติมหรอกผมรู้ดี แต่ฟังแล้วอดหัวเราะไม่ได้ ยิ่งเห็นพี่พระพายหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้ผมยิ่งชอบใจ

“เอาล่ะเด็กๆ ลากันพอหอมปากหอมคอนะ เดี๋ยวจะตกเครื่องเอา” คุณแม่เตือน ผมเลยก้มดูนาฬิกา

“ฟรองซ์รักแม่นะ” ผมกอดแม่อีกครั้ง

“รักฟรองซ์เหมือนกันลูก”

“บายนะเฟน” ผมโบกมือให้ฝาแฝดตัวเองที่ยิ้มรับจนตาหยีแล้วโบกมือตอบ แล้วหันไปทางพี่อีกสองคน “บายพี่ๆ แล้วเจอกัน”

พี่พระพายพยักหน้ารับ แววตาเขาเป็นประกายจนน่าหมั่นไส้ ถ้าเกิดแม่ไม่อยู่ตรงนี้เขาคงตะโกนร้องเยสที่ก้างขวางคออย่างผมจะกลับไปสักที ระริกระรี้นัก ดูออก

“เดี๋ยวฟรองซ์” พี่สายฟ้าจับมือรั้งผมเอาไว้ เขาสบตาผม ดวงตาเรียวฉายประกายบางอย่างที่ผมอ่านไม่ออก “ขอคุยด้วยแป๊บนึง”

“เร็วๆ นะ” ผมบอก พี่สายฟ้าพยักหน้ารับ เขาหันไปขออนุญาตคุณแม่ก่อนจูงมือผมเดินห่างออกไปประมาณนึง “พี่มีอะไรรีบเข้าประเด็นเลย ผมไม่อยากตกเครื่อง”

“โอเค” พี่สายฟ้าไหวไหล่ เขามองหน้าผม สายตาหยุดอยู่ที่หู ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามองอะไร ผมเห็นพี่สายฟ้ายิ้ม แววตาฉายประกายพอใจที่ผมยังใส่ต่างหูเอาไว้ไม่ถอดทิ้ง ก่อนสายตาคมจะตวัดกลับมาสบตาผมเหมือนเดิม “ผมแค่อยากจะย้ำให้คุณมั่นใจว่าที่ผมสนใจคุณนั่นจริงจัง ที่จะจีบก็จริงจังเหมือนกัน ผมไม่สนเรื่องระยะทาง มันทำอะไรไม่ได้ถ้าผมคิดจะจีบใครสักคน บอกไว้เผื่อคุณกังวล”

“รู้แล้วน่า” ผมก้มหน้าตอบรับอุบอิบ

“เรื่องต่างหู ผมเคยบอกว่าฝากไว้ใช่มั้ย”

“ทำไม พี่จะเอาคืนเหรอ” ผมถาม รู้สึกใจหายขึ้นมาวูบหนึ่ง

“เปล่า คุณใส่ไว้นั่นแหละ ถือว่าเป็นตัวแทนผมตอนคุณอยู่ญี่ปุ่นแล้วกัน ระหว่างนั้นก็ให้ผมจีบไปเรื่อยๆ แล้วผมจะไปหาคุณเพื่อเอาคำตอบเอง”

“ไม่ลงทุนไปหน่อยหรือไง”

“อ๋อ พอดีช่วงนั้นน่าจะต้องลี้คดีด้วย”

“...”

“ล้อเล่น”

“พี่นี่มัน...”

“จนกว่าจะถึงตอนนั้น ตอนที่ผมยืนอยู่ต่อหน้าคุณเพื่อขอคำตอบ” พี่สายฟ้าสบตาผมนิ่ง บรรยากาศเปลี่ยนเป็นจริงจัง แววตาเขาอ่อนโยนรับกับรอยยิ้มบางบนริมฝีปาก “ถ้าคุณตกลง คุณเก็บต่างหูนั้นไว้ แต่ถ้าไม่…” พี่สายฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง เขาเกลี่ยเส้นผมผมทัดหู ลากปลายนิ้วผ่านต่างหูที่ผมใส่อยู่เบาๆ “อย่าปฏิเสธผม แค่ถอดต่างหูคืนก็พอ โอเคมั้ย?”

“พี่เตรียมใจไว้เท่าไหร่”

“ถ้าบอกจะหาว่ามั่นหน้าเกินไปมั้ย” เขาถามหน้าตาย ผมหลุดหัวเราะ

“งั้นไม่ต้องบอก”

“อ่าฮะ เดินทางปลอดภัยฟรองซ์” พี่สายฟ้าอวยพร เขายื่นหน้ากระซิบข้างใบหูผม “ถ้าแม่คุณไม่อยู่ตรงนี้ ถ้าเราไม่อยู่ในที่สาธารณะ ผมคงจูบลาคุณสักทีนึง”

“ไร้สาระ!”

ผมผลักอกเขาออก หมุนตัวคว้ากระเป๋าเดินจ้ำหนีเข้าเกต ได้ยินเสียงหัวเราะจากคนขี้แกล้งไล่หลัง แต่ถึงผมจะโดนแกล้งขนาดนั้น แต่ทำไมปากมันยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขนาดนี้กันนะ?

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมา กดดูรูปที่ถ่ายตอนไปคาเฟ่ต์แมว เลื่อนผ่านรูปที่พี่สายฟ้ายิ้มให้กล้องไปรูปที่เขาก้มหน้าลูบหัวแมวลายบนตักด้วยสีหน้าและรอยยิ้มอ่อนโยนจนผมอดแอบถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้

ให้ตายเถอะ!

ชักอยากกลับมาเรียนที่ไทยซะแล้วสิ…



[สายฟ้า]

ผมมองตามแผ่นหลังฟรองซ์ที่เดินหายเข้าไปในเกต หลุดยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงสีหน้าของเขาเมื่อสักครู่ตอนผมแกล้งบอกว่าจะจูบ

ไม่สิ…

ไม่ได้แกล้ง อยากจะจูบจริงๆ นั่นแหละแต่มันคงเร็วไป ผมยังไม่อยากให้กระต่ายป่าตัวนี้ตกใจจนกระโดดหายไปจากผม การรอคอยมักให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอ ผมเชื่ออย่างนั้น

เจอคนถูกใจตรงสเป็คขนาดนี้ จะเสี่ยงปล่อยให้หลุดมือไปได้ไงจริงมั้ยครับ? : )



เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

อะไรจะเกิดก่อนกันระหว่างผมจีบเขาติดกับประเทศได้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากเสียงของประชาชนจริงๆ

หนูจ๋ามาสร้างหนุมานกันเถอะจ้ะ @Mylovelyfen

กำลังตอบกลับถึง @LostDemocracy44

แล้วมาว่ากูเพ้อ มึงก็ไม่ต่างกัน

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

กำลังตอบกลับถึง @Mylovelyfen

สั้นๆ นะ เสือก!


-----------------------------

อัปพาร์ทสุดท้ายตอนพิเศษฟ้าฟรองซ์แล้วนะคะ หวังว่าจะชอบกันค่ะ เฉลยเบื้องหลังที่ฟรองซ์คุยเปิดใจกับพี่พระพายเพราะได้พี่สายฟ้าช่วยพูดให้นี่เอง พี่สายฟ้าเวลาอยู่กับเพื่อนคือเกรียนมาก(แต่ก็ห่วงเพื่อนนะ) แต่เวลาจีบคนที่ชอบคือแสนสุภาพแต่ก็แอบกวน+ขี้แกล้งหน่อยๆ แล้วแบบนี้น้องกระต่ายป่าอย่างฟรองซ์จะใจแข็งได้แค่ไหนกัน 55555

บทพิเศษตอนต่อไปกลับไปที่พี่ พพ.กับน้องเฟนนะคะ พี่ พพ จะพาน้องไปเปิดตัวกับครอบครัว ผลจะเป็นยังไงมาลุ้นกันค่ะ

#เพื่อนกล่อมนอน #เพื่อนนอนคุก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด