★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END  (อ่าน 16895 ครั้ง)

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 16 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #60 เมื่อ14-02-2019 10:41:49 »

“พี่ธัช!” เขาหัวเราะ ปวดหัวกับทั้งคู่! “อย่าไปทะเลาะกับแมวสิครับ”

“ดูมันสิ มันไม่อยากให้พี่เข้าใกล้ใบบุญชัดๆ” ชายหนุ่มมองตัวเล็กด้วยสายตาคาดโทษ รอใบบุญเผลอก่อน เขาจะเอามันไปปล่อยให้เข็ด!

“กับแมวก็หึงด้วยหรือครับ”

“หึงหมด พี่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับแฟนพี่”

“อยู่ข้างนอกอย่าไปพูดแบบนี้เลยนะครับ” เขาบอก รีบดันแฟนตัวเองให้ลงไปด้านล่าง
“ทำไมพี่จะพูดไม่ได้”
“ก็พี่ธัชเริ่มมีชื่อเสียงมีแฟนคลับ มันคงจะไม่ดีถ้าเขารู้ว่าพี่มีแฟนแล้ว”
“พี่เข้าใจ พี่คุยกับเฮียแล้ว” ชายหนุ่มถอนหายใจ เขารู้ว่าเข้ามาในวงการพอเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างจะทำอะไรก็มีแต่คนจับตามอง “ถ้ามีปัญหามากก็ไม่ต้องร้องไม่ต้องออกงาน ทำงานเบื้องหลังก็ได้”
“แต่ว่า”
“ไม่ต้องมากังวลแทนพี่ พี่สิต้องไม่ทำให้เราเป็นกังวล ทำไมพี่ต้องคบกับใบบุญแบบหลบๆซ่อนๆด้วยวะ” เขาเผลอสบถ จนอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ
“แต่มันเป็นโอกาสที่พี่ได้ ผมไม่อยากให้พี่เสียโอกาสไป”
“ใช่ พี่เคยอยากมายืนตรงจุดนี้” เขาบอก “แต่พี่ก็เสียโอกาสที่จะอยู่กับใบบุญมานานแล้ว ถ้าเขาชอบผลงานของพี่เขาจะต้องยอมรับพี่ต้องนี้ให้ได้”
“เรื่องนี้.. เราค่อยคุยกันดีกว่าครับ” เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ชายหนุ่มถอนหายใจ
“เฮ้อ พี่ไม่อยากให้เรากังวล เข้าใจพี่เถอะนะ”
“โอเคไปกินข้าวกันก่อนนะครับ” เขาจับจูงมือหนาเดินลงไปชั้นล่าง ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเพียงแต่ประชับมือให้แน่นขึ้น นั่นถือว่าเป็นคำตอบที่ดีสำหรับเขาแล้ว
เขาทำผัดกระเพราทะเลราดไข่ดาวอย่างที่เจ้าตัวชอบ ธัชธรรม์ชอบกินอาหารทะเลมาก โดยเฉพาะปลาหมึก สมัยก่อนที่พ่อยังอยู่บ้านเดียวกันพวกเขาชอบไปทะเล และธัชธรรม์ก็มักจะชวนเขาไปดูพ่อตกหมึกด้วยกันเสมอ จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับธัชธรรม์นานแล้วเหมือนกัน
“มองพี่กินก็อิ่มหรือไง กินเยอะๆเลยนะ”
“แค่มองพี่กิน ผมก็อิ่มแล้ว” เขาตอบก่อนจะยิ้มหวานใส่
“ไม่ได้ ต้องกินให้เยอะกว่านี้นะ”
“จะขุนให้ผมอ้วนหรือครับ”
“ดี.. เต็มไม้เต็มมือดี พี่ชอบนะ”
“คนทะลึ่ง!” เขาพูดเสียงดัง เมื่อไหร่ธัชธรรม์จะเลิกรุ่มร่ามกับเขาสักที “ไม่บ้ากามสักวันจะตายไหม”
“พี่คงขาดใจตายแน่ๆเลย”
“ผมไม่คุยกับพี่แล้ว” เขาเมินหน้าหนี
“โถ่ อย่าใจร้ายสิครับ” ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นถือจานไปล้างแล้วตามมาช่วยเขาเช็ดโต๊ะ เขาไม่ได้พูดอะไรอุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นห้องทันที อีกฝ่ายเดินตามเขามาต้อยๆ “ใบบุญ พี่ไม่แกล้งแล้วววว”
“คนทะลึ่งเราไม่ให้เข้าห้องหรอกเนอะตัวเล็ก”
“เมี๊ยวววววววววว” ยิ่งได้ยินเสียงร้องเหมือนดีใจนักหนาของเจ้าแมวตัวแสบ ชายหนุ่มก็อยากจะจับมันใส่กรงขังเอาไว้จริงๆ หรือว่าเขาจะเอาไปฝากไว้กับหิรัญดี
“ถ้าไม่อาบน้ำไม่ให้ขึ้นเตียงนะครับ”
“เรามีนัดดูหนังกันก่อนนอนนะ ใบบุญลืมพี่แล้วหรือครับ”
“จริงด้วยครับ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะไปรอข้างล่างนะ” เด็กหนุ่มนึกขึ้นได้จึงขอตัวเข้าห้องไปก่อน เขามองตามหลังไปก่อนจะเดินคอตกเข้าห้องตัวเอง แทนที่จะได้เนียนไปห้องของคนรัก แต่ข้าวของดันกลับมาอยู่ที่เดิมทั้งหมดซะอย่างนั้น
ไม่เป็นไร เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกน่า!
โซฟายาวสีเทาตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์แอลซีดีเครื่องใหญ่เขากับธัชธรรม์นั่งอยู่คนละฝั่งโดยมีไอ้ตัวเล็กนอนคั่นอยู่ตรงกลาง หนังสตาร์วอร์ฉายจบไปอีกภาคเขาหันไปมองคนตัวเล็กที่ผล็อยหลับไปแล้ว ค่อยๆสะกิดคนที่หลับคอพับคออ่อนให้ตื่น
“ใบบุญ”
“จบแล้วหรือครับ”
“จบแล้วครับ ไปนอนกันได้แล้วเนอะ” เขาบอกคนรัก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรก็รู้สึกเอ็นดูเหลือเกิน
“ฮื่อ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ใช่ไหม”
“ใช่” เขาตอบ “ไม่ต้องห่วงหรอกยังมีเวลานอนอีกเยอะน่า” เด็กหนุ่มซุกเข้าแผงอกหนาหาความอบอุ่น เขาสอดมือเข้าที่รองคอและข้อพับขาก่อนจะอุ้มขึ้น พาคนรักขึ้นไปนอนข้างบนปล่อยไอ้ตัวเล็กนอนเฝ้าบ้านอยู่ข้างล่างไปก็แล้วกัน!
“ฝันดีนะครับ” เขาจุมพิตที่หน้าผากขาวนวลเหมือนอย่างเคย ที่แน่ๆเด็กหนุ่มติดสัมผัสจากเขาแล้ว
“พี่ธัช” เด็กหนุ่มตาปรือปรอย มองคนรักที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง “จะไม่นอนกับหนูหรือ”
“พี่กลับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า หมอนผ้าห่มอะไรเราก็เอาไปเก็บให้พี่หมดแล้วนี่” ใบบุญได้ยินก็ทำหน้ายู่ รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังตัดพ้อน้อยใจเขาขนาดไหน
“พี่ธัช งอนหรือครับ”
“พี่มีสิทธิ์งอนด้วยหรือครับ”
“ทำไมจะงอนไม่ได้ก็พี่เป็นแฟนของหนูนี่” เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายชอบให้แทนตัวแบบไหน ก็รีบอ้อนทำคะแนนไม่อยากให้ธัชธรรม์งอนนาน เพราะลำบากตอนง้อ
“ไม่เป็นไร พี่ไปนอนห้องพี่ดีกว่าครับ”
“พี่ธัช” เขาพูดเสียงเบา อีกฝ่ายหันมามอง “นอนกับใบบุญนะ”
“อย่ามาอ้อนให้มากนัก เดี๋ยวจะเจอดี”
“นะนะ”
“ใบบุญ.. คืนนี้พี่ว่าอย่าดีกว่า”
“ทุกทีก็ยังนอนได้เลย”
“วันนี้ไม่ได้” ธัชธรรม์ลูบหัวคนรัก เจ้าตัวจับมือเขาไปคลอเคลียกับแก้มขาว
“ใจร้าย โกรธอะไรหนูก็บอกสิ”
“ไม่ได้โกรธ” ธัชธรรม์อยากจะบอก แต่เขาก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มมองเขาไม่ดี คิดว่าเขาอยากจะนอนกอดอีกฝ่ายเฉยๆหรือยังไงกัน “นอนได้แล้วนะครับ คนดี”
“…” เจ้าตัวทำแก้มพองลมไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด “วันนี้หนูดูLIVEที่พี่ธัชร้องเพลงด้วย”
“เป็นไง ชอบไหม”
“เท่มาก” ชูนิ้วโป้งให้ชายหนุ่มก่อนจะยิ้มหวานให้ ไม่อยากบอกธัชธรรม์ว่าเขาดูไปเขินไป แทบจิกหมอนขาดอยู่แล้ว
“ดีจัง”
“แต่หนูหวง ทำไมพี่ต้องน่ารักกับคนอื่นด้วย”
“ที่พี่ร้องเพลง พี่ยิ้ม พี่ถ่ายรูปกับแฟนคลับเพราะมันเป็นงาน” เขาเกลี่ยแก้มขาวของคนรัก มองคนตัวเล็กที่อยู่ๆก็งอแง “หนูก็รู้”
“อือ รู้แต่มันอดไม่..อื้อ”
“แต่พี่ทำแบบนี้กับใบบุญคนเดียว..” ชายหนุ่มค่อยๆบดจูบร้อนลงทาบทับริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มที่ชอบพูดเจื้อยแจ้ว อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาเงอะงะจนเขาต้องนำทาง กระหวัดเกี่ยวเรียกร้องให้ความต้องการภายในใจลุกโชน
“อ๊ะ.. อื๊อ” มือขาวสอดขึ้นคล้องรอบลำคอชายหนุ่มที่อยู่ด้านบน โดนปล้นจูบจนตาลายไปหมดแล้ว “พะพี่”
“ครับ?” ธัชธรรม์ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในความมืด เขาสอดมือหนาเข้าไปในชุดนอนลายหมีพูห์ของอีกฝ่าย ยอดอกสีหวานถูกเขาฉกชิมดูดดึงจนอีกฝ่ายกลั้นเสียงครางไม่ไหว บิดเร่าอยู่ในอ้อมกอดเขา ดวงตาคมเข้มฉายแววไปด้วยความต้องการเขามองเหยื่อตัวน้อยที่กำลังถูกล่อลวง
“ไม่ไหวแล้ว” เสื้อชุดนอนถูกเลิกขึ้นไปกองรอบคอ เขาขบเม้มอกขาวจนขึ้นสี ใบบุญส่ายหัวใหญ่จนเขาต้องขึ้นไปจูบปลอบ “มันรู้สึกแปลกๆ”
“พี่จะทำเบาๆ” เขาบอกก่อนจะก้มลงหยอกล้อกับยอดอกสีหวานอีกครั้ง เด็กหนุ่มครางเครือเริ่มบดเบียดเข้าหาเขามากขึ้น “ใบบุญ.. ไหวนะ?”
“ถ้าทำเบาๆ หนูก็ไหว..”
“ฮึ่ม!” เขาขบอารมณ์พลุ่งพล่าน อยากจะทะนุถนอมคนรักให้มากกว่านี้ “พี่สัญญา”
“อื้อ!” กางเกงนอนขายาวของใบบุญถูกรูดรั้งลงไปกรอมข้อเท้าขาว ชายหนุ่มยกเรียวขาขาวจัดพาดที่ไหล่หนา เขามองภาพต้องหน้าก่อนจะกดข่มอารมณ์รวดร้าว ส่งนิ้วพร้อมเจลหล่อลื่นเข้าไปเบิกทางไว้ก่อน เด็กหนุ่มกระตุกเฮือกผวากอดเขาแน่น
“ไม่ต้องกลัวนะครับ”
“อื้อ” ใบบุญพยักหน้าก่อนจะเอนตัวลงนอนราบไปกับเตียง ชายหนุ่มค่อยๆส่งนิ้วหนาเข้าไปเชื่องช้า พรมจูบไปตามใบหน้าขาวที่มีเหงื่อชื้น สูดกลิ่นสบู่หอมอ่อนๆที่เขาชอบได้กลิ่นเวลาเจ้าตัวเดินผ่านอยู่ในบ้าน “หนู.. เสียว”
“ตรงนี้ใช่ไหม”
“อ๊า!” อกขาวแอ่นขึ้นสูงเมื่อถูกสัมผัสจุดอ่อนไหว น้ำตาคลอหน่วยรื้นขึ้นมาทันทีเมื่อชายหนุ่มสัมผัสจนเกือบถึงจุดฝั่งฝันแต่กลับหยุดมือเสียก่อน “อะ เอาอีก”
“ได้ครับที่รัก” เขายิ้มรับก่อนจะยกตัวเด็กหนุ่มขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหาเขา ใบบุญเขินอายหน้าแดงก่ำไม่กล้าสบตาจนเขาต้องปล้นจูบอีกรอบ หลังจากดูดกลืนลมหายใจจนขาดห้วง เขาใช้มือรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของเด็กหนุ่มไปด้วย “พร้อมนะ”
“อื้อ!” ใบบุญมองมาที่เขาด้วยดวงตาหวานฉ่ำ เต็มตื้นไปด้วยความรักแม้ไม่มีคำพูดใดๆเอ่ยออกมา ธัชธรรม์เอนร่างคนรักให้นอนอยู่ในท่าที่สบาย ค่อยๆดุนดันส่วนใหญ่โตเข้าสู่ช่องทางคับแคบที่โอบล้อมเขาทุกทาง ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เขาพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ตัวเองเผลอทำรุนแรง ค่อยๆขยับสะโพกเชื่องช้าให้คนรักได้ปรับตัว เสียงหอบครางสลับเสียงเตียงกระทบชวนให้อารมณ์ลุกโชน ชายหนุ่มจับสะโพกขาวจัดของคนรักเอาไว้ก่อนจะส่งหยาดเชื้อเข้าไปจนสุดทาง
“ดีไหม?” เขาถามก่อนจะรั้งคนตัวเล็กให้นั่งบนตัวเขาแทน สองมือดันอกเข้าเอาไว้ก่อนจะมองเขาอย่างงุนงง ใบบุญหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของเขา แต่มีหรือคนอย่างธัชธรรม์จะยอม
“อื้อ”
“ไม่พูด.. พี่ก็ไม่รู้นะ” เขาค่อยๆดุนดันแก่นกายที่พร้อมรบอีกรอบ แม้เด็กหนุ่มจะมีท่าทางเงอะงะแต่ก็ทาบทับลงมาเชื่องช้า กลืนกินของเขาเข้าไปจนหมด ใบบุญสั่นระริกไปทั้งตัวไม่กล้าขยับเขยื้อนเพราะรู้สึกแน่น เขากัดฟันมองคนที่นอนเอามือรองต้นคอสายตาร้ายกาจที่สุด!
“ใครเขาพูดกันล่ะ หนูเขินนะ”
“ฮ่าๆ” เขาเห็นคนแบะปากก็เอื้อมมาฟัดแก้มขาวด้วยความเอ็นดู “สงสัยวันนี้คงต้องทำให้เขินหลายๆรอบ” ไม่พูดเปล่าก่อนจะกระทุ้งสะโพกจนเด็กหนุ่มครางเครือ กำปั้นเล็กๆทุบเข้าที่อกอย่างไม่แรงนัก
“พี่ธัชบ้าที่สุดเลยยย!” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันก่อนที่เพลงรักจะเริ่มบรรเลงเพลงต่อไป..
ท่ามกลางบรรยากาสที่อบอวลไปด้วยความรัก ด้านนอกฝนกำลังตกอย่างหนักจนกระทั่งเสียงก็ไม่อาจจะทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหลุดออกจากภวังค์ได้ เสียงวิบวับกระพริบถี่อยู่ในความมืด โทรศัพท์มือถือที่ใบบุญวางลืมเอาไว้ในห้องรับแขกสั่นครือคราดอยู่บนโต๊ะก่อนหน้าจอจะดับลงพร้อมข้อความที่เด้งขึ้นมา
‘พรุ่งนี้ว่างไหมครับ.. พี่อยากเจอ-พี่โชกุน’


ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 16 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #61 เมื่อ14-02-2019 10:51:16 »

ต่อด้านบน



       “พี่ธัช!” เขาหัวเราะ ปวดหัวกับทั้งคู่! “อย่าไปทะเลาะกับแมวสิครับ”

       “ดูมันสิ มันไม่อยากให้พี่เข้าใกล้ใบบุญชัดๆ” ชายหนุ่มมองตัวเล็กด้วยสายตาคาดโทษ รอใบบุญเผลอก่อน เขาจะเอามันไปปล่อยให้เข็ด!

      “กับแมวก็หึงด้วยหรือครับ”

       “หึงหมด พี่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับแฟนพี่”

       “อยู่ข้างนอกอย่าไปพูดแบบนี้เลยนะครับ” เขาบอก รีบดันแฟนตัวเองให้ลงไปด้านล่าง

       “ทำไมพี่จะพูดไม่ได้”

       “ก็พี่ธัชเริ่มมีชื่อเสียงมีแฟนคลับ มันคงจะไม่ดีถ้าเขารู้ว่าพี่มีแฟนแล้ว”

      “พี่เข้าใจ พี่คุยกับเฮียแล้ว” ชายหนุ่มถอนหายใจ เขารู้ว่าเข้ามาในวงการพอเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างจะทำอะไรก็มีแต่คนจับตามอง “ถ้ามีปัญหามากก็ไม่ต้องร้องไม่ต้องออกงาน ทำงานเบื้องหลังก็ได้”

      “แต่ว่า”

       “ไม่ต้องมากังวลแทนพี่ พี่สิต้องไม่ทำให้เราเป็นกังวล ทำไมพี่ต้องคบกับใบบุญแบบหลบๆซ่อนๆด้วยวะ” เขาเผลอสบถ จนอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ

      “แต่มันเป็นโอกาสที่พี่ได้ ผมไม่อยากให้พี่เสียโอกาสไป”

      “ใช่ พี่เคยอยากมายืนตรงจุดนี้” เขาบอก “แต่พี่ก็เสียโอกาสที่จะอยู่กับใบบุญมานานแล้ว ถ้าเขาชอบผลงานของพี่เขาจะต้องยอมรับพี่ต้องนี้ให้ได้”

      “เรื่องนี้.. เราค่อยคุยกันดีกว่าครับ” เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ชายหนุ่มถอนหายใจ

       “เฮ้อ พี่ไม่อยากให้เรากังวล เข้าใจพี่เถอะนะ”

       “โอเคไปกินข้าวกันก่อนนะครับ” เขาจับจูงมือหนาเดินลงไปชั้นล่าง ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเพียงแต่ประชับมือให้แน่นขึ้น นั่นถือว่าเป็นคำตอบที่ดีสำหรับเขาแล้ว

        เขาทำผัดกระเพราทะเลราดไข่ดาวอย่างที่เจ้าตัวชอบ ธัชธรรม์ชอบกินอาหารทะเลมาก โดยเฉพาะปลาหมึก สมัยก่อนที่พ่อยังอยู่บ้านเดียวกันพวกเขาชอบไปทะเล และธัชธรรม์ก็มักจะชวนเขาไปดูพ่อตกหมึกด้วยกันเสมอ จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับธัชธรรม์นานแล้วเหมือนกัน

       “มองพี่กินก็อิ่มหรือไง กินเยอะๆเลยนะ”

       “แค่มองพี่กิน ผมก็อิ่มแล้ว” เขาตอบก่อนจะยิ้มหวานใส่

       “ไม่ได้ ต้องกินให้เยอะกว่านี้นะ”

       “จะขุนให้ผมอ้วนหรือครับ”

       “ดี.. เต็มไม้เต็มมือดี พี่ชอบนะ”

        “คนทะลึ่ง!” เขาพูดเสียงดัง เมื่อไหร่ธัชธรรม์จะเลิกรุ่มร่ามกับเขาสักที “ไม่บ้ากามสักวันจะตายไหม”

        “พี่คงขาดใจตายแน่ๆเลย”

        “ผมไม่คุยกับพี่แล้ว” เขาเมินหน้าหนี

        “โถ่ อย่าใจร้ายสิครับ” ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นถือจานไปล้างแล้วตามมาช่วยเขาเช็ดโต๊ะ เขาไม่ได้พูดอะไรอุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นห้องทันที อีกฝ่ายเดินตามเขามาต้อยๆ “ใบบุญ พี่ไม่แกล้งแล้วววว”

       “คนทะลึ่งเราไม่ให้เข้าห้องหรอกเนอะตัวเล็ก”

       “เมี๊ยวววววววววว” ยิ่งได้ยินเสียงร้องเหมือนดีใจนักหนาของเจ้าแมวตัวแสบ ชายหนุ่มก็อยากจะจับมันใส่กรงขังเอาไว้จริงๆ หรือว่าเขาจะเอาไปฝากไว้กับหิรัญดี

       “ถ้าไม่อาบน้ำไม่ให้ขึ้นเตียงนะครับ”

       “เรามีนัดดูหนังกันก่อนนอนนะ ใบบุญลืมพี่แล้วหรือครับ”

       “จริงด้วยครับ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะไปรอข้างล่างนะ” เด็กหนุ่มนึกขึ้นได้จึงขอตัวเข้าห้องไปก่อน เขามองตามหลังไปก่อนจะเดินคอตกเข้าห้องตัวเอง แทนที่จะได้เนียนไปห้องของคนรัก แต่ข้าวของดันกลับมาอยู่ที่เดิมทั้งหมดซะอย่างนั้น

       ไม่เป็นไร เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกน่า!

       โซฟายาวสีเทาตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์แอลซีดีเครื่องใหญ่เขากับธัชธรรม์นั่งอยู่คนละฝั่งโดยมีไอ้ตัวเล็กนอนคั่นอยู่ตรงกลาง หนังสตาร์วอร์ฉายจบไปอีกภาคเขาหันไปมองคนตัวเล็กที่ผล็อยหลับไปแล้ว ค่อยๆสะกิดคนที่หลับคอพับคออ่อนให้ตื่น

       “ใบบุญ”

       “จบแล้วหรือครับ”

       “จบแล้วครับ ไปนอนกันได้แล้วเนอะ” เขาบอกคนรัก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรก็รู้สึกเอ็นดูเหลือเกิน

       “ฮื่อ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ใช่ไหม”

       “ใช่” เขาตอบ “ไม่ต้องห่วงหรอกยังมีเวลานอนอีกเยอะน่า” เด็กหนุ่มซุกเข้าแผงอกหนาหาความอบอุ่น เขาสอดมือเข้าที่รองคอและข้อพับขาก่อนจะอุ้มขึ้น พาคนรักขึ้นไปนอนข้างบนปล่อยไอ้ตัวเล็กนอนเฝ้าบ้านอยู่ข้างล่างไปก็แล้วกัน!

       “ฝันดีนะครับ” เขาจุมพิตที่หน้าผากขาวนวลเหมือนอย่างเคย ที่แน่ๆเด็กหนุ่มติดสัมผัสจากเขาแล้ว

       “พี่ธัช” เด็กหนุ่มตาปรือปรอย มองคนรักที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง “จะไม่นอนกับหนูหรือ”

       “พี่กลับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า หมอนผ้าห่มอะไรเราก็เอาไปเก็บให้พี่หมดแล้วนี่” ใบบุญได้ยินก็ทำหน้ายู่ รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังตัดพ้อน้อยใจเขาขนาดไหน

       “พี่ธัช งอนหรือครับ”

       “พี่มีสิทธิ์งอนด้วยหรือครับ”

       “ทำไมจะงอนไม่ได้ก็พี่เป็นแฟนของหนูนี่” เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายชอบให้แทนตัวแบบไหน ก็รีบอ้อนทำคะแนนไม่อยากให้ธัชธรรม์งอนนาน เพราะลำบากตอนง้อ

       “ไม่เป็นไร พี่ไปนอนห้องพี่ดีกว่าครับ”

       “พี่ธัช” เขาพูดเสียงเบา อีกฝ่ายหันมามอง “นอนกับใบบุญนะ”

       “อย่ามาอ้อนให้มากนัก เดี๋ยวจะเจอดี”

       “นะนะ”

       “ใบบุญ.. คืนนี้พี่ว่าอย่าดีกว่า”

       “ทุกทีก็ยังนอนได้เลย”

       “วันนี้ไม่ได้” ธัชธรรม์ลูบหัวคนรัก เจ้าตัวจับมือเขาไปคลอเคลียกับแก้มขาว

       “ใจร้าย โกรธอะไรหนูก็บอกสิ”

       “ไม่ได้โกรธ” ธัชธรรม์อยากจะบอก แต่เขาก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มมองเขาไม่ดี คิดว่าเขาอยากจะนอนกอดอีกฝ่ายเฉยๆหรือยังไงกัน “นอนได้แล้วนะครับ คนดี”

       “…” เจ้าตัวทำแก้มพองลมไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด “วันนี้หนูดูLIVEที่พี่ธัชร้องเพลงด้วย”

       “เป็นไง ชอบไหม”

       “เท่มาก” ชูนิ้วโป้งให้ชายหนุ่มก่อนจะยิ้มหวานให้ ไม่อยากบอกธัชธรรม์ว่าเขาดูไปเขินไป แทบจิกหมอนขาดอยู่แล้ว

       “ดีจัง”

       “แต่หนูหวง ทำไมพี่ต้องน่ารักกับคนอื่นด้วย”

       “ที่พี่ร้องเพลง พี่ยิ้ม พี่ถ่ายรูปกับแฟนคลับเพราะมันเป็นงาน” เขาเกลี่ยแก้มขาวของคนรัก มองคนตัวเล็กที่อยู่ๆก็งอแง “หนูก็รู้”
 
       “อือ รู้แต่มันอดไม่..อื้อ”

       “แต่พี่ทำแบบนี้กับใบบุญคนเดียว..” ชายหนุ่มค่อยๆบดจูบร้อนลงทาบทับริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มที่ชอบพูดเจื้อยแจ้ว อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาเงอะงะจนเขาต้องนำทาง กระหวัดเกี่ยวเรียกร้องให้ความต้องการภายในใจลุกโชน

       “อ๊ะ.. อื๊อ” มือขาวสอดขึ้นคล้องรอบลำคอชายหนุ่มที่อยู่ด้านบน โดนปล้นจูบจนตาลายไปหมดแล้ว “พะพี่”

       “ครับ?” ธัชธรรม์ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในความมืด เขาสอดมือหนาเข้าไปในชุดนอนลายหมีพูห์ของอีกฝ่าย ยอดอกสีหวานถูกเขาฉกชิมดูดดึงจนอีกฝ่ายกลั้นเสียงครางไม่ไหว บิดเร่าอยู่ในอ้อมกอดเขา ดวงตาคมเข้มฉายแววไปด้วยความต้องการเขามองเหยื่อตัวน้อยที่กำลังถูกล่อลวง

       “ไม่ไหวแล้ว” เสื้อชุดนอนถูกเลิกขึ้นไปกองรอบคอ เขาขบเม้มอกขาวจนขึ้นสี ใบบุญส่ายหัวใหญ่จนเขาต้องขึ้นไปจูบปลอบ “มันรู้สึกแปลกๆ”

       “พี่จะทำเบาๆ” เขาบอกก่อนจะก้มลงหยอกล้อกับยอดอกสีหวานอีกครั้ง เด็กหนุ่มครางเครือเริ่มบดเบียดเข้าหาเขามากขึ้น “ใบบุญ.. ไหวนะ?”

       “ถ้าทำเบาๆ หนูก็ไหว..”

       “ฮึ่ม!” เขาขบอารมณ์พลุ่งพล่าน อยากจะทะนุถนอมคนรักให้มากกว่านี้ “พี่สัญญา”

       “อื้อ!” กางเกงนอนขายาวของใบบุญถูกรูดรั้งลงไปกรอมข้อเท้าขาว ชายหนุ่มยกเรียวขาขาวจัดพาดที่ไหล่หนา เขามองภาพต้องหน้าก่อนจะกดข่มอารมณ์รวดร้าว ส่งนิ้วพร้อมเจลหล่อลื่นเข้าไปเบิกทางไว้ก่อน เด็กหนุ่มกระตุกเฮือกผวากอดเขาแน่น

       “ไม่ต้องกลัวนะครับ”

       “อื้อ” ใบบุญพยักหน้าก่อนจะเอนตัวลงนอนราบไปกับเตียง ชายหนุ่มค่อยๆส่งนิ้วหนาเข้าไปเชื่องช้า พรมจูบไปตามใบหน้าขาวที่มีเหงื่อชื้น สูดกลิ่นสบู่หอมอ่อนๆที่เขาชอบได้กลิ่นเวลาเจ้าตัวเดินผ่านอยู่ในบ้าน “หนู.. เสียว”

        “ตรงนี้ใช่ไหม”

        “อ๊า!” อกขาวแอ่นขึ้นสูงเมื่อถูกสัมผัสจุดอ่อนไหว น้ำตาคลอหน่วยรื้นขึ้นมาทันทีเมื่อชายหนุ่มสัมผัสจนเกือบถึงจุดฝั่งฝันแต่กลับหยุดมือเสียก่อน “อะ เอาอีก”

        “ได้ครับที่รัก” เขายิ้มรับก่อนจะยกตัวเด็กหนุ่มขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหาเขา ใบบุญเขินอายหน้าแดงก่ำไม่กล้าสบตาจนเขาต้องปล้นจูบอีกรอบ หลังจากดูดกลืนลมหายใจจนขาดห้วง เขาใช้มือรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของเด็กหนุ่มไปด้วย “พร้อมนะ”

       “อื้อ!” ใบบุญมองมาที่เขาด้วยดวงตาหวานฉ่ำ เต็มตื้นไปด้วยความรักแม้ไม่มีคำพูดใดๆเอ่ยออกมา ธัชธรรม์เอนร่างคนรักให้นอนอยู่ในท่าที่สบาย ค่อยๆดุนดันส่วนใหญ่โตเข้าสู่ช่องทางคับแคบที่โอบล้อมเขาทุกทาง ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เขาพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ตัวเองเผลอทำรุนแรง ค่อยๆขยับสะโพกเชื่องช้าให้คนรักได้ปรับตัว เสียงหอบครางสลับเสียงเตียงกระทบชวนให้อารมณ์ลุกโชน ชายหนุ่มจับสะโพกขาวจัดของคนรักเอาไว้ก่อนจะส่งหยาดเชื้อเข้าไปจนสุดทาง

       “ดีไหม?” เขาถามก่อนจะรั้งคนตัวเล็กให้นั่งบนตัวเขาแทน สองมือดันอกเข้าเอาไว้ก่อนจะมองเขาอย่างงุนงง ใบบุญหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของเขา แต่มีหรือคนอย่างธัชธรรม์จะยอม

       “อื้อ”

      “ไม่พูด.. พี่ก็ไม่รู้นะ” เขาค่อยๆดุนดันแก่นกายที่พร้อมรบอีกรอบ แม้เด็กหนุ่มจะมีท่าทางเงอะงะแต่ก็ทาบทับลงมาเชื่องช้า กลืนกินของเขาเข้าไปจนหมด ใบบุญสั่นระริกไปทั้งตัวไม่กล้าขยับเขยื้อนเพราะรู้สึกแน่น เขากัดฟันมองคนที่นอนเอามือรองต้นคอสายตาร้ายกาจที่สุด!

       “ใครเขาพูดกันล่ะ หนูเขินนะ”

       “ฮ่าๆ” เขาเห็นคนแบะปากก็เอื้อมมาฟัดแก้มขาวด้วยความเอ็นดู “สงสัยวันนี้คงต้องทำให้เขินหลายๆรอบ” ไม่พูดเปล่าก่อนจะกระทุ้งสะโพกจนเด็กหนุ่มครางเครือ กำปั้นเล็กๆทุบเข้าที่อกอย่างไม่แรงนัก

       “พี่ธัชบ้าที่สุดเลยยย!” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันก่อนที่เพลงรักจะเริ่มบรรเลงเพลงต่อไป..

        ท่ามกลางบรรยากาสที่อบอวลไปด้วยความรัก ด้านนอกฝนกำลังตกอย่างหนักจนกระทั่งเสียงก็ไม่อาจจะทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหลุดออกจากภวังค์ได้ เสียงวิบวับกระพริบถี่อยู่ในความมืด โทรศัพท์มือถือที่ใบบุญวางลืมเอาไว้ในห้องรับแขกสั่นครือคราดอยู่บนโต๊ะก่อนหน้าจอจะดับลงพร้อมข้อความที่เด้งขึ้นมา

        ‘พรุ่งนี้ว่างไหมครับ.. พี่อยากเจอ-พี่โชกุน’



            TBC.


ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 17 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #62 เมื่อ26-03-2019 20:33:48 »

Rhyme 17
   

        อากาศหลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืนเย็นชื้นกว่าปกติทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นเล็กน้อย รีบซุกเข้าหาไออุ่นของชายหนุ่มที่นอนกกกอดอยู่เคียงข้าง อ้อมแขนหนากระชับเข้าที่เอวก่อนจะรั้งเขาเข้าไปใกล้กว่าเดิม ใบบุญได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกดังขึ้นสม่ำเสมอจึงลืมตามองอีกฝ่าย ยกมือบางลูบไล้ปลายคางเกลี้ยงเกลาที่เขาเป็นคนโกนให้ ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่ใบบุญติดนิสัยตื่นเช้ามาดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน เขาโน้มหน้าขึ้นไปจูบแก้มสากแผ่วเบา ธัชธรรม์ลืมตามองเขาข้างนึงก่อนจะซุกเข้าหาเขาแน่น

        “ปล่อยก่อนนะครับ”

        “ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ” เสียงแหบพร่าพร้อมกับแรงกอดที่มากขึ้น ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นทุบเบาๆอย่างไม่แรงนัก เห้อ.. ต้องเป็นแบบนี้ทุกเช้าเลย ไม่ยอมให้เขาลุกไปไหนก่อน

        “ฮื่อ ไม่ได้แล้วครับ”

        “เมื่อคืนก็เหนื่อยไม่ใช่หรือ” คนเจ้าเล่ห์พูดทั้งที่ไม่ลืมตา ก็ใครล่ะที่ไม่ยอมหยุดสักที “ไหนๆวันนี้ก็ได้หยุดแล้วนะ”

        “พี่ธัชนอนไปก่อนแล้วกันครับ” เขาบอกก่อนจะปลดท่อนแขนหนาออกจากตัว ค่อยๆพาร่างอ่อนแรงของตัวเองลงไปข้างล่าง แค่ลงบันไดช่วงสะโพกเขาก็ปวดร้าวไปหมด ทั้งเขินทั้งอยากจะทุบคนที่นอนอยู่ในห้องให้เข็ด!

        “วางโทรศัพท์ไว้ไหนนะ” ใบบุญเดินหาก่อนจะเจอมันวางไว้ในห้องรับแขกพอดี เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าเป็นใครก่อนจะพิมข้อความตอบกลับไป ชวดลไม่ได้ติดต่อกับเขามาสักพักแล้วเพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องเรียนที่จะต้องเตรียมตัวไปฝึกงาน ไม่รู้อีกฝ่ายมีธุระอะไรกันแน่

   จะมีอะไรหรือเปล่านะ?

   ตอบกลับไปได้ไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขากดรับอย่างรวดเร็วก่อนจะกรอกน้ำเสียงสุภาพลงไป ชายหนุ่มได้ฟังก็ส่งเสียงหัวเราะมาตามสาย

   “เราไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วนะ พี่ก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดาสิ”

        “แค่อาทิตย์กว่าๆเองครับพี่โช” เขาตอบ

        “เราต้องหาเวลามาเจอพี่บ้างนะ”

        “ช่วงนี้ก็พอจะเจอได้อยู่ครับ” เขากำลังนึกว่าช่วงนี้มีงานด่วนอะไรไหม เขาก็อาจจะปลีกเวลาไปได้เป็นบางวัน “พี่โชจะให้ไปเจอที่ไหนดีครับ”

        “เดี๋ยวพี่ไปรับเราที่คณะเหมือนเดิมก็ได้ครับ”

        “เอ่อ ผมว่าเราไปเจอกันข้างนอกก็ได้ครับ พี่โชนัดมาเลยดีกว่า” ใบบุญลืมนึกไปเลยว่าธัชธรรม์อยู่ด้วยแทบจะตลอดเวลา ถ้าหากคนรักรู้ว่าเขายังติดต่อกับชวดลจะต้องมีปัญหาแน่ๆ

        “กลัวใครเห็นหรือครับ”

        “ไม่มีสักหน่อยครับ!” เขายืนยันเสียงแข็งจนอีกฝ่ายหลุดขำ

        “ฮ่าๆ พรุ่งนี้พี่จะบอกอีกทีแล้วกันว่าจะเจอที่ไหน”

        “ครับ แล้วเจอกันนะครับ” เขาวางสายก่อนจะถอนหายใจ ไม่อยากจะคิดสภาพถ้าหากชวดลมารับเขาที่คณะจะเกิดอะไรขึ้น ธัชธรรม์คงไม่ยอมเด็ดขาด เขาไม่อยากทะเลาะกับแฟน!

        “ตัวเล็กหิวหรือยัง”

        “เมี๊ยวววววววววว” อุ้มเจ้าแมวที่เมื่อคืนโดนไล่ออกมานอนนอกห้อง มันประท้วงด้วยการขบเขาเบาๆก่อนจะร้องเรียกเสียงดัง เขาหัวเราะแกมสงสารก่อนจะลูบปลายคางจนมันเคลิ้มหลับตาพริ้มคลอเคลียไปมา

        นึกถึงชายหนุ่มที่โทรเข้ามาหาเมื่อครู่ เขารู้ว่าชวดลยังมีความหวังเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนแต่เขาไม่อาจบอกความจริงได้ว่าตัวเองเป็นใคร ทั้งคำพูดและการแสดงออกทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดีกับชายหนุ่มขึ้นมา บางทีเขาอาจจะคิดมากไปก็ได้..

        ‘คนในรูปนี้เขาเป็นใครหรือครับ..’ เขาถามชวดลก่อนที่อีกฝ่ายจะหันไปมองที่รูปถ่าย ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนมาจับข้อมือเขาเอาไว้แน่น ไม่ได้ตอบคำถามในทันที เขาจับได้ในน้ำเสียงที่กระตุกไปครู่หนึ่งและแววตาสั่นไหว

        ‘คุณอาเอกเป็นน้องชายของคุณพ่อพี่เองครับ’

        ‘แล้วตอนนี้..คุณอาเอก’ เขาถามซ้ำ

        ‘เขาเสียชีวิตไปหมดแล้วล่ะ.. ทั้งบ้านเลย’

        ‘ผมเสียใจด้วยนะครับ ยังอายุน้อยๆแท้ๆ’

        ‘น่าสงสารจริงๆนะ ทั้งพ่อแม่ลูกไม่มีใครรอดเลย’

        ‘มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ’

        ‘มีโจรบุกปล้นแล้วก็ฆ่าปิดปากยกครัว เป็นคดีที่ดังมากเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน คุณพ่อพี่เสียใจมาก ใครจะไปคิดล่ะว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของน้องชายตัวเอง’ เขาสังเกตเห็นชายหนุ่มหลุบตามองไปทางอื่น

        ‘ไม่มีใครรอดเลยหรือครับ’

        ‘ไม่มี’

        ‘ละแล้ว..’ เขากำลังถามถึงน้องชายของคุณลุงอีกคนที่อยู่ในรูป แต่กลับได้สายตาเย็นเยียบของชวดลกลับมา เขาเม้มปากแน่นไม่คิดจะถามมากไปกว่านี้.. ถ้าเขาคือคนที่รอดชีวิตจากคดีนั้นจริงๆ ทายาทที่มีสายเลือดเดียวกันเช่นกันอย่างเขาทำไมถึงถูกทำให้หายไป ถ้าไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวแล้วมันจะเป็นเรื่องอะไรไปได้ เขาไม่อยากจะคิดไปเองเลย เขารู้อยู่เต็มอก.. เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครต่อให้เป็นพี่น้องกันก็ตาม แต่ลึกๆแล้วเขาไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

        อาจจะมีอะไรมากกว่านี้ก็ได้.. เขาไม่อยากฝังใจเชื่อกับสมมติฐานของตัวเอง แต่คำของมารดาที่ย้ำเตือนไม่ให้เขาเข้ามายุ่งที่บ้านหลังนี้ยิ่งทำให้เขาอยากรู้ความจริง เขาจำเป็นจะต้องเข้าใกล้ขวดลให้มากกว่านี้..

        “ทำอะไรอยู่น่ะ” เสียงเรียกของคนรักทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเจอชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบน ส่วนช่วงล่างมีแค่กางเกงบ้อคเซอร์ตัวเดียวสวมอยู่

        “พี่ธัช”

        “มานั่งเล่นกับไอ้ตัวเล็กอยู่ตรงนี้เอง มาเล่นกับพี่ดีกว่า” เขาเดินเข้าไปสวมกอดคนรักที่กำลังหน้าซีด นิ้วโป้งหนาลูบแก้มใสเบาๆ หรือว่าเมื่อคืนเขาจะทำมากไปกันนะ

        “พอเลย เล่นอะไรกันครับ” ดันคนตัวโตที่ชอบเข้ามาคลอเคลียให้ถอยออกไป ดูเสื้อผ้าที่ใส่สิ แบบนี้แล้วเขาจะมองตรงไหนได้ “ไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ เดี๋ยวทำอะไรให้กินนะ”

        “เดี๋ยวไอ้ฮันกับกรจะมาหา พี่จะให้พวกนั้นซื้ออะไรเข้ามาเลยแล้วกัน เราไม่ต้องทำหรอกพี่กลัวเราเหนื่อย” ธัชธรรม์เรียกคะแนนด้วยการเอาอกเอาใจคนรักเป็นพิเศษ เด็กหนุ่มถลึงตามอง

        “ผมก็ทำของผมมาตั้งนานแล้ว เพิ่งจะมากลัวเหนื่อยหรือครับ”

        “ไม่ได้ ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นนี่ครับ”

        “ฮื่อ ตามใจ” หลบจูบเป็นพัลวันเพราะอีกฝ่ายรวบเขาได้เมื่อไหร่ก็จะชอบฟัดทุกที ไม่รู้เป็นอะไรของเขา!

        “เมี๊ยวววววววว!”

        “ลืมไอ้ตัวเล็กเลยไปสนิทเลย เดี๋ยวผมมานะครับ”

        “ไอ้แมวผี” ชายหนุ่มมองคนรักที่ผละออกไปดูเจ้าตัวแสบที่ร้องเรียกหิวข้าว เขาขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอยู่ในใจ อยากทำแมวย่างจริงว้อย!

        กว่ากรวีร์และหิรัญจะมาถึงที่บ้านก็ล่วงเลยไปช่วงบ่าย ใบบุญปวดหัวเพราะธัชธรรม์บ่นเป็นหมีกินผึ้ง เรื่องที่เขาใส่ใจไอ้ตัวเล็กมากกว่าแฟนตัวเอง และของที่ได้มาจากหิรัญคือของเจ้าแมวตัวแสบล้วนๆ ชายหนุ่มสองคนที่มาใหม่มองบรรยากาศที่เปลี่ยนไปจากที่เจอครั้งสุดท้ายแล้วมองหน้ากันด้วยความสงสัย ตั้งแต่วันเกิดของใบบุญที่กินเลี้ยงกันที่สตูดิโอพวกเขาก็ไม่เจอทั้งสองคนอีกเลยจนกระทั่งธัชธรรม์โทรชวนหิรัญมาที่บ้านเนี่ยแหละพวกเขาถึงได้รีบแจ้นมา

        นี่เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า?

        “สงสัยวันนี้จะได้กินแมวย่าง” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองไปที่เจ้าตัวดีที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักแฟนตัวเอง ที่ตรงนั้นมันของข้า! “กูไปหาเตาก่อน”

        “เห้ย กับแมวก็ยังหึงหรือวะ”

        “ไม่ได้ มันเกินหน้าเกินตากูไปละ”

        “เอามาฝากไว้กับกูไหมล่ะ” หิรัญก็เลี้ยงแมวเปอร์เซียสีขาวตัวกลมเอาไว้เหมือนกัน เขารู้ว่าธัชธรรม์ไม่ค่อยชอบสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่ ไอ้คนกลัวโดนแย่งความรักเอ๊ย หลงใบบุญจนหน้ามืดตามัวยังไม่รู้ตัวอีก “ฝากแค่ชั่วคราวเวลาไม่มีคนอยู่บ้านก็ได้”

        “กูยกให้เลย”

        “พี่ธัช!” ใบบุญมองคนรักด้วยสายตาดุ จนคนตัวโตต้องยอมลดเสียงลง “หนูอยากเลี้ยง”

        “ถ้ามันลำบากก็ไม่ต้องเลี้ยงหรอก” เขาเบนไปมองกระบะทราย ถ้วยชาม หมอนนอนและอุปกรณ์อีกมากมายที่หิรัญเอามาฝาก เขารู้สึกว่าไอ้ตัวเล็กมันจะเลื่อนตำแหน่งมาเท่าเทียมกับเขาแล้วนะ

        “เดี๋ยวนะ” กรวีร์มองเขาสลับกับธัชธรรม์ ชี้นิ้วไปมา “ไอ้บรรยากาศข้าวใหม่ปลามันนี่มันอะไรวะ”

        “ตกใจอะไรกร กูกับใบบุญก็เหมือนมึงกับไอ้ฮันนั่นแหละ”

        “จริงดิ!” เขาหันไปมองเพื่อนหน้าตาตื่นตกใจ “ไม่เห็นบอกกันเลย”

        “มึงก็ไม่บอกกูเรื่องพี่ฮันเหมือนกัน” ใบบุญยู่ปากใส่ ลึกๆก็อดน้อยใจเพื่อนไม่ได้ ถ้าธัชธรรม์ไม่บอกเขาก็ไม่รู้อีกฝ่ายจะปิดบังเขาไปอีกนานแค่ไหน ทั้งๆที่เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ

        “….” กรวีร์พูดไม่ออก ทำหน้ากระอักกระอ่วน ก่อนจะเกาหัวแกรก “ขอโทษนะมึง”

        “รวมหัวกันปิดบังทั้งคู่เลยใช่ไหมครับ”

        “ใบบุญพี่อธิบายได้นะ” หิรัญเห็นอย่างนั้นก็อยากจะช่วยอธิบาย

        “ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนเลยนะครับพี่ฮัน”
       
        “คือกูไม่อยากให้มึงไม่สบายใจ กลัวคิดว่ากูจะอยู่ข้างพี่ธัช” กรวีร์ตอบเสียงเบา จะไม่ให้กังวลได้ยังไง ลองใบบุญได้โกรธอะไรก็เอาไม่อยู่!

        “ไม่ว่าเรื่องอะไรกูก็อยากให้บอก มึงเป็นเพื่อนกูนะกร”

        “ขอโทษ” ชายหนุ่มโผเข้ากอดเพื่อนสนิทก่อนจะกอดแน่น “กูขอโทษ”

        “อื้อ เลิกขี้แยได้แล้ว ไปกอดแฟนมึงโน่น!” ใบบุญหัวเราะ เขาไม่ได้โกรธจริงจังอะไรอย่างนั้น อย่างน้อยคนที่เข้ามาช่วยดูแลมันอีกคนก็คือหิรัญ เขาสิจะต้องดีใจ “พี่ฮันมองตาเขียวปั๊ดแล้ว”

        “มากอดพี่ก็ได้จ้ะ”

        “ไม่!”

        “ง่ะ” หิรัญอยากจะเข้าไปกอดแฟนตัวเองบ้าง แต่เห็นสายตาของกรวีร์แล้วเขานั่งรอเฉยๆก็ได้ “พี่ก็อยากกอดบ้างนี่” โถ่.. ดุกว่านี้ก็ร็อตไวเลอร์แล้วนะที่รัก

        “ไปหาพี่ฮันได้แล้ว”

        “นี่กูต้องยกมึงให้พี่ธัชจริงๆใช่ไหม” กรวีร์หรี่สายตามองชายหนุ่มที่นั่งทำเป็นไม่สนใจแต่แอบฟังอยู่ทุกประโยค

        “ทำไมหรือ?” ใบบุญหันไปมองหน้าคนรักที่นั่งข้างเขา
       
        “ช่วยถนอมๆเพื่อนผมหน่อยนะครับพี่ธัช” ชายหนุ่มชี้เข้าที่ซอกคอ ใบบุญตกใจรีบยกโทรศัพท์ขึ้นส่องคอตัวเอง ก่อนจะเห็นผลงานที่ธัชธรรม์ทำเอาไว้ มันเป็นรอยแต้มสีชมพูจางๆ ถึงมันจะไม่ชัดมากแต่คนอื่นเขาก็ดูออกว่าเป็นรอยอะไร

        “พี่ธัช เอาอีกแล้วนะ!”

        “นิดหน่อยเองน่า” ธัชธรรม์รั้งคนตัวขาวเข้ามาใกล้ก่อนจะซุกซอกคอ ใบบุญตัวแข็งเกร็งนี่ชายหนุ่มลืมไปหรือเปล่าว่าเราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ แอบเห็นสายตาล้อเลียนของคนที่นั่งตรงข้ามทำเขาหน้าร้อนไปหมด

        พี่ธัชนะพี่ธัช!

        เขาและกรวีร์ช่วยกันเอาอาหารสดไปใส่ตู้เย็นและเตรียมอุกรณ์ย่างบาร์บีคิวกินกัน กรวีร์วิดีโอคอลหาเฮียกิตอวดว่าพวกเขาแอบเฮียมาจัดปาร์ตี้ก่อนจะได้เสียงบ่นมาแทน เสียงหัวเราะดังร่วนอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านเพราะพวกเขากำลังเตรียมอุปกรณ์ทำอาหาร เขามองธัชธรรม์สวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูแล้วหลุดขำ มองๆไปแล้วก็น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน เด็กหนุ่มแอบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแอบถ่ายคนรัก

        แชะ!

        “ทำอะไรครับ” ธัชธรรม์หันมามองคนรักที่ยืนอยู่ไม่ไกล สองมือรวบไปไว้ด้านหลังเหมือนซ่อนอะไรไว้

        “เปล่าสักหน่อย เดี๋ยวไปหมักหมูดีกว่า”

        “ใบบุญ.. แอบถ่ายพี่หรือครับ”

        “ฮื่อ รู้แล้วจะถามทำไมละครับ” เขาย่นคิ้ว เมื่ออีกฝ่ายมาขวางไม่ให้เขาเข้าครัว รู้ว่าเขาแอบถ่ายแล้วก็ยังจะถามอีก

   “ถ่ายอีกเยอะๆเลยสิ พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

        “จริงนะ”

         “อื้อ ถ้าจะให้ดีก็ลงอิสตราแกรมไปเลย” จู่ๆชายหนุ่มก็กดเสียงเข้ม 

        “สงสัยอาการคนขี้หึงกำเริบ” กรวีร์พูดก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วช่วยหิรัญจุดไฟลงเตาถ่าน “ก็ไอจีมึงไม่มีรูปพี่เขาเลยมีแต่รูปพี่โช”

        “พูดตรงๆก็ดีจะได้รู้ตัว ลบรูปมันออกให้หมดเลยนะ” ธัชธรรม์แบมือจะขอโทรศัพท์มาดู แต่คนตัวเล็กส่ายหัวรัว ยิ่งทำให้คนตัวโตไม่พอใจหนักเข้าไปอีก เขาไม่อยากจะทำรุนแรงอุ้มเข้าไปทำโทษในห้องนะ

        “ทุกรูปเลยหรือครับ”

        “ใช่ ห้ามเหลือไว้แม้แต่รูปเดียว”

        “ก็ได้ๆ” เขายู่ปาก มองคนขี้หึงที่อยู่ในชุดสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูยืนทำหน้าทะมึนอยู่ตรงหน้า เขากดลบไม่นานก็ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ธัชธรรม์ดู “ลบหมดแล้วนะครับ”

        “น่ารักที่สุด”

        “พี่ก็ด้วย ถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงเยอะไปแล้วนะครับ” ใบบุญได้ทีเอาคืนบ้าง ทีธัชธรรม์ยังทำได้แต่กับเขาดันมาห้าม แบบนี้มันขี้โกงชัดๆ “เดี๋ยวเจอคนขี้หึงกว่าแล้วจะรู้สึก”

        “ถ้าเป็นใบบุญหึง.. พี่ยอมทั้งนั้น” ชายหนุ่มจุดยิ้ม มองคนตัวเล็กที่เริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมาบ้าง ยิ่งเห็นใบบุญทำท่าไม่พอใจเขาก็ยิ่งชอบ ใครจะไม่อยากให้แฟนทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของบ้างล่ะ

        “ไม่ต้องมาพูดดี”

        “อิจฉาโว๊ยยยย!” หิรัญที่กำลังนั่งจุดไฟโวยวายขึ้นมา มือขาวเขาเต็มไปด้วยรอยเปื้อนเปรอะจากเตาถ่าน ใครใช้ให้คุณชายอย่างเขามาทำงานอย่างนี้เล่า เละเทะแล้วอย่ามาว่ากันนะ!

        “เลิกแหกปาก แล้วไปอ้อนเมียมึงนู่น”

        “อ้อนแข้งแทนน่ะสิวะ เมียกูไม่อ่อนโยนเลย” หิรัญบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะถอนหายใจ เห็นเพื่อนมันสวีทกับแฟนทีไรเขาต้องตาร้อนผ่าวทุกที

        “พี่ฮัน พูดแบบนี้ระวังจะโดนดี!”

        “ฮ่าๆ” ใบบุญและธัชธรรม์หลุดขำออกมาพร้อมกัน เห็นสองคนนั้นทะเลาะกันแล้วเขาก็อดอมยิ้มไม่ได้ ถึงจะตีกันบ่อยแค่ไหนแต่ตัวก็ไม่เคยห่างกันได้นานสักที พวกเขาช่วยกันทำอาหารง่ายๆก่อนจะย่างบาร์บีคิวกินด้วยกัน หิรัญจะสั่งเบียร์มาดื่มแต่เจอเขาเบรกไปก่อนเพราะไม่อยากเมาเหมือนคราวที่แล้ว คนรักที่นั่งอยู่เคียงข้างไม่ได้พูดอะไรเอาแต่ตักกับข้าวให้เขาจนพูนจาน สงสัยจะอยากให้เขาอ้วนขึ้นจริงๆ

        “กินเองด้วยสิครับพี่ธัช”

        “พี่อยากป้อนเรามากกว่า”

        “ผมกินเองได้”

        “อ้าปากเร็ว” ชายหนุ่มตักหมูชิ้นโตป้อนให้คนรัก อีกฝ่ายค่อยๆอ้าปากงับช้อน มือหนาของชายหนุ่มเกลี่ยริมฝีปากให้ใบบุญ เช็ดรอยเลอะและถือโอกาสจับแก้มนุ่มๆนั่นด้วย

        “เนี่ยแหละนะ แรกๆน้ำต้มผักเขายังว่าหวาน” หิรัญเบะปากก่อนหันไปมองแฟนตัวเองที่กำลังยื่นไก่ย่างให้

        “จะกินไหมครับ?” กรวีร์ยื่นให้คนรัก อีกฝ่ายทำหน้าตกใจสุดขีดเหมือนถูกหวยอย่างนั้น เขาก็แค่ทำเหมือนธัชธรรม์ก็เท่านั้น ลองป้อนเผื่อจะได้กินเยอะๆ มัวแต่มาคอยดูเขากินแล้วเมื่อไหร่ตัวเองจะอิ่ม
       
        “กินจ้ะ ยิ่งป้อนพี่ยิ่งกิน” ชายหนุ่มยิ้มหวานให้คนรัก นานๆทีกรวีร์จะทำสวีทกับเขาบ้าง “กินให้ท้องแตกก็ยังได้”

        “เว่อจริงๆ”

        “ได้บอกคนอื่นแล้วโล่งไหมล่ะ” เขาบอก ปากก็ยังเคี้ยวไก่ย่างไปด้วย กรวีร์หลุบตามองพื้นก่อนจะตอบเสียงเบา

        “อื้อ ดีกว่าเก็บไว้จริงๆนั่นแหละ”

        “ต่อไปจะได้บอกคนอื่น มีพี่เป็นแฟนไม่ต้องอาย” เขาเลื่อนไปกุมมืออีกฝ่าย เขาก็อยากบอกให้คนอื่นรู้เหมือนกันว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว ไม่ได้อยากคบแล้วต้องหลบซ่อน ไม่มีใครอยากจะอยู่ในความลับหรอก

        “กรแค่ไม่อยากให้เรื่องงานมีปัญหา หรือว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ยังดูไม่ออกหรือครับว่ารัก” กรวีร์ตอบ ไม่หันกลับไปมองว่าชายหนุ่มมีท่าทีอย่างไร เขารู้ตัวเองดีว่าไม่ชอบแสดงออกและบังคับอีกฝ่ายให้เก็บเป็นความลับ ในใจก็นึกกลัวถ้าหากหิรัญอึดอัดกับสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ แล้วขอเลิกราไปตัวเขาจะเป็นยังไง จะกลับมาหัวเราะได้เหมือนเดิมไหม?

        “พี่รู้แล้วล่ะ แต่ว่าพูดอีกทีได้ไหม?” เขาสะกิดกรวีร์ จริงๆก็ได้ยินชัดแต่ก็อยากฟังอีกรอบ

        “พี่ฮัน!” หันไปมองชายหนุ่มที่จ้องมาอย่างจริงจัง “รักพี่ฮัน ได้ยินหรือยังครับ”

        “ได้ยินแล้วครับ”

        “เลิกน้อยใจได้แล้วนะ” เขากระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้น เป็นสัญญษที่ไม่ว่าเมื่อไหร่เราจะจับมือแบบนี้ต่อไปด้วยกัน

        “รู้ได้ไงพี่น้อยใจ” หิรัญทำหน้าตางุนงง เขาก็มีน้อยใจบ้างแต่ก็เข้าใจกรวีร์ดี “พี่ก็แค่..”

        “ผมรู้ พี่อดทนกับผมมามากเท่าไหร่ ทำไมจะไม่รู้” เขาพูดเสียงแผ่วก่อนจะกระพุ่มมือไหว้คนรัก “ขอโทษที่เอาแต่ใจนะครับ”

        “วะ.. วันนี้กรมอุตุฯบอกว่าพายุจะเข้าหรือเปล่านะ” หิรัญแข็งค้าง ไม่อยากจะเชื่อสายตากับภาพตรงหน้าเท่าไหร่ หรือว่าเร็วๆนี้น้ำจะท่วมกรุงเทพฯจริงๆ

        “พี่ฮัน! ทำเป็นเล่นทุกทีเลย”

        “ช่วยตีพี่แรงๆได้ไหมพี่อยากรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป” หิรัญตื่นตกใจจริงๆ เขาเกิดอาการอึ้งไปชั่วขณะ

        “ได้!” กรวีร์บอกก่อนรั้งคนรักเข้ามาใกล้ ประทับจูบลงบนแก้มขาวเบาๆ

        “…”

        “พอใจหรือยังครับ”

        “อะ..อืม ไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย” หิรัญมองคนรักอึ้งๆก่อนจะจับแก้มตัวเองไว้แน่น “แฟนพี่น่ารักที่สุดเลย” รั้งเอวกรวีร์เข้ามาใกล้ สบตาหวานมองอย่างลึกซึ้ง ต่อให้แฟนเขาจะดุแค่ไหนก็ยังน่ารักอยู่ดีนั่นแหละ!

        กว่าจะกินกันเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบห้าทุ่ม เขาและกรวีร์อาสาล้างจานส่วนหนุ่มๆที่เหลืออีกสองคนต้องเคลียร์บริเวณสนามหญ้าให้เรียบร้อยก่อนคุณแม่จะกลับมาพรุ่งนี้ เขาชวนให้หิรัญนอนค้างที่นี่เพราะมันดึกมากแล้ว แต่ธัชธรรม์กลับห้ามเอาไว้แล้วรีบไล่ให้สองคนนั้นกลับไป ไอ้ตัวเล็กร้องตะแง้วอยู่ที่ปลายเท้า เขาอุ้มขึ้นมาลูบหัวจนมันหยุดร้อง

        “ไปนอนกัน”

        “วันนี้ดูขี้เกียจจังเลยนะครับ เดี๋ยวกินเดี๋ยวนอน” เขาพูดแกมติดตลก เอะอะก็ชวนเขานอนอยู่นั่นแหละ

        “ไม่ได้ พรุ่งนี้ก็เรียนแต่เช้า พี่ได้นอนกอดใบบุญแปบเดียวเอง”

        “โอ้โห กอดทั้งวันยังไม่เบื่ออีก”
       
        “ไม่เบื่ออะ”

        “แต่อยู่ที่มอห้ามกอดนะ” เขามองชายหนุ่มเขม็ง

        “ทำไมอะ ทำไมไม่ได้” ชายหนุ่มทำท่าโอดครวญ “ใครหน้าไหนมันมาแกล้งแฟนพี่อีก พี่จะจับหักคอให้หมด”



        50%
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2019 20:49:30 โดย Banoffypie.novel »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 16 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #63 เมื่อ27-03-2019 17:58:06 »

 :กอด1:
 :pig4:

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 16 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #64 เมื่อ27-03-2019 20:28:41 »

       “ไม่ใช่เพื่อนในรุ่นหรอกครับ” ใบบุญบอก “แต่เป็นแฟนคลับพี่ต่างหาก”

       “ถ้าจะให้พี่ทำเป็นไม่รู้จักล่ะก็ ไม่เอาด้วยนะ” เขาส่ายหัวรัวๆ ใบบุญชอบคิดมากอยู่เรื่อย แตกต่างกับเขาที่อยากทำอะไรตรงไปตรงมามากกว่า

       “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะครับ”

       “พี่ไม่อยากต้องกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว” เขาพูดทำนองน้อยใจ ถ้าจะต้องกลับไปเฉยชาใส่กันเขาไม่เอาด้วยหรอก

       “โอเคๆก็ได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามทำรุ่มร่ามเด็ดขาด!” เด็กหนุ่มถอนหายใจ ดูท่ายังไงธัชธรรม์ก็คงไม่ยอม “ว่าไงครับ”

       “ก็ได้..” ชายหนุ่มเดินคอตกหันหลังกลับไปบนห้อง เห้อ.. ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ใจอ่อนเรื่องนี้เด็ดขาด เขาอุ้มเจ้าตัวเล็กตามขึ้นไปบนบ้านต้องง้อกันอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะหาย เขาต้องยอมแลกกับการนอนกอดด้วยกันทุกคืนแทน เขาอยากจะบ้า!
ทับทิมกลับมาถึงบ้านช่วงเก้าโมงเช้าเธอเห็นลูกชายสองคนกำลังขึ้นรถยนต์ไปเรียนก็มองอย่างแปลกใจ ธัชธรรม์ช่วงนี้ก็ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษแถมกลับมาอยู่บ้านมากขึ้น ส่วนใบบุญก็ไม่ซึมเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ หรือว่าพี่น้องสองคนนี้จะกลับมาคืนนี้กันแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี เธอจะได้สบายใจมากขึ้น อย่างน้อยใบบุญก็มีคนดูแลที่ไว้ใจได้

       หวังว่าจะดูแลกันดีๆนะ..

       “พี่ธัชขับรถเร็วเกินไปแล้ว” เขาบ่นคนรักที่เร่งเหยียบจนมิด มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้อยู่ไกลขนาดนั้นไม่เห็นต้องรีบเลย

       “พี่ก็ขับปกติ เรานั่งไม่เห็นจะบ่นเลย”

       “ปกติผมบ่นพี่ได้ที่ไหนล่ะ โดนด่าพอดี” เขาบ่นอุบ จนอีกฝ่ายหน้าเสียยอมลดความเร็วลงจนได้ เขาขอให้ธัชธรรม์ขับรถช้ากว่านี้ อย่างน้อยเขาก็ไม่เป็นห่วงว่าจะไปเกิดอุบัติเหตุที่ไหน

       “โอ๋ๆ พี่ไม่ขับเร็วแล้วครับ ไม่อยากให้เป็นห่วง”

       “รู้ตัวก็ดี คนที่ดื้อนั่นแหละพี่”

       “จ้ะ พี่จะเป็นเด็กดี โอเคไหมครับ” ชายหนุ่มทำท่าตะเบ๊ะก่อนจะแจกยิ้มหวานให้

       “แล้วอย่าลืมที่สัญญากันไว้นะครับ” เขาพูดย้ำ ลองอีกฝ่ายทำรุ่มร่ามกับเขาข้างนอก เขาจะตีไม่ยั้งแถมไม่ให้มานอนที่ห้องอีกด้วย

       “จ้ะที่รัก”

       “ดีมาก”

       “แต่ก่อนลงรถขอหอมแก้มหน่อยเถอะ” ชายหนุ่มโถมตัวจุ๊บแก้มเขาอย่างรวดเร็ว ใบบุญไม่ทันตั้งตัวก็โดนไปตามระเบียบ ธัชธรรม์หัวเราะดีใจที่เห็นคนรักตกตะลึง

       “นิสัย!”

       หลังจากเรียนคาบเช้าเสร็จหิรัญก็ออกตัวขอพาไปเดินตลาดนัดที่เพิ่งเปิดใหม่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย พวกเขาที่กำลังปวดหัวเพราะสอบย่อยจึงพาเห็นดีเห็นงามไปด้วย ธัชธรรม์ไม่อยากให้เขาไปเพราะอยากพาไปที่อื่นมากกว่า สืบเนื่องมาจากร้านขนมที่เขาบ่นกับกรวีร์ว่าอยากจะไปกินนั่นแหละ เจ้าตัวก็ทำหน้าที่แฟนที่ดีอยากจะพาเขาไปกินให้ได้ ทุกคนก็เลยยังคิดไม่ตกว่าจะไปเดินตลาดติดแอร์สุดหรูหรือจะไปนั่งร้านขนมแอร์เย็นฉ่ำดี ส่วนเขาที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นเพราะว่าเขาหิวแล้ว! ใบบุญคว้าโทรศัพท์ออกมาเช็คตามปกติ เขาเห็นข้อความจากชวดลก็รีบหลบไปคุยทางอื่น

       ‘ลืมนัดพี่หรือเปล่าเอ่ย?’

       ‘วันนี้ผมมีธุระด่วนพอดี ขอเป็นวันหลังได้ไหมครับพี่โช’

       ‘เสียใจจังเลย น้องใบบุญลืมพี่ซะแล้ว’

       ‘ไม่ได้ลืมสักหน่อยครับ คราวหน้าจะไม่พลาดแน่ๆ’ เขาส่งสติ๊กเกอร์ขอโทษส่งกลับไป หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่โกรธเขานะ ยังไงเขาก็ต้องหาทางไปเจอให้ได้

       “คุยกับใคร?”

       “อ๊ะ เปล่าครับ” เขารีบเก็บโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มแผล่ให้คนรัก

       “อย่าคิดจะมีกิ๊กนะ เวลาพี่โมโหพี่ไม่ค่อยยั้งด้วย”

       “กิ๊กกั๊กอะไรกัน พี่ธัชคิดมากอยู่เรื่อยเลยนะครับ” เดินเข้าไปจับมือชายหนุ่ม ทำอ้อนให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นหน่อย

       “งี้แหละใบบุญ หมาหวงก้าง”

       “พอเลยมึงอะ เกาะแกะเมียกูจริงๆ” ธัชธรรม์ไล่เพื่อนตัวเองที่เข้ามาคุยกับเขา

       “เอ้า เมียมึงก็เพื่อนเมียกู ทำไมกูจะคุยเล่นไม่ได้”
       
       “เลิกเรียกเมียๆอะไรแบบนี้เถอะครับ คนอื่นได้ยินจะคิดยังไง” ใบบุญมองชายหนุ่มคุยกันเขาก็อดไม่ไหวต้องขอพูดสักหน่อย

       “ใช่ พี่ฮันไม่พูดนะครับ ไม่น่ารักเลย” กรวีร์ช่วยเขาสมทบด้วย สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรชอบพ่นคำหยาบคายตลอด
       
       “งั้นเรียกที่รักก็ได้” หิรัญหันไปออเซาะคนรักตามระเบียบ

       สุดท้ายพวกเขาก็ยกโขยงกันมาร้านขนมจนได้ ร้านขนมบิงซูร้านนี้ถูกรีวิวลงทวิตเตอร์จนขึ้นเป็นร้านแนะนำ จนเขาร่ำร้องอยากจะมาให้ได้ บรรยากาศในร้านตกแต่งด้วยตุ๊กตาหมีโทนสีฟ้าอ่อนสบายตา มองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนเมนูขนมหวานก็มีให้เลือกเต็มไปหมด เขาเห็นธัชธรรม์นั่งมองเมนูแต่ไม่ยอมเลือกสักที หรือว่าจะไม่ชอบกินกันนะ..

       “ไม่ชอบหรือครับ”

       “เปล่า ไม่เคยมาร้านแบบนี้อะ พี่สั่งไม่เป็น”

       “ไอ้ธัชมันเคยเข้าที่ไหน อย่างมันต้องร้านเหล้า พื้นที่อโคจรขอให้บอกเจอมันทุกครั้งเลยครับน้องใบบุญ” หิรัญได้ทีใส่ไฟใหญ่ เขามองคนรักที่ไม่ได้โต้แย้งอะไร

       เพราะมันคือเรื่องจริง

       “โอ้โห เพื่อนรัก กะเล่นให้กูตายเลยใช่ไหม”

       “เบาๆน่า คนกันเอง กูก็พูดความจริงให้น้องฟังแค่นั้น” หิรัญหัวเราะขำ นานๆทีจะเล่นเพื่อนคนนี้เขาก็ต้องจัดสักหน่อย เขาโดนมันเล่นมาหลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้เขาจะไม่ทน!

       “ว่าแต่พี่ธัชแล้วพี่ฮันล่ะครับ”

       “พี่เป็นเด็กดีจ้ะ จริงๆ สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญเลย” กรวีร์มองแฟนตัวเองแล้วอยากจะบิดให้เนื้อเขียว ตัวเองก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันคิดว่าเขาไม่รู้หรือยังไง

       “รับอะไรดีคะ”

       “ขอบิงซูสตรอเบอรรี่ แล้วก็ลิ้นจี่โซดาครับ” ใบบุญสั่งก่อนจะให้กรวีร์เป็นคนจัดการต่อ

       “ของผมเอาแพนเค้กเพิ่มไอศครีมวานิลลา” ชายหนุ่มสั่งอีกจาน ก่อนจะคืนเมนูกลับไป

       “ช่วงนี้ไอ้ธัชโดนแอบถ่ายรูปโคตรบ่อยลงเพจคิ้วบอยของมหา’ลัยด้วย” หิรัญเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์เจอรูปเพื่อน จึงเอามาให้เขาดู มันเป็นเพจรวบรวมหนุ่มหล่อของมหาวิทยาลัยก็ไม่แปลกที่จะมีธัชธรรม์ติดโผหนึ่งในนั้น “น่าจะเปลี่ยนชื่อเพจจริงๆ คนอย่างมันไม่น่าใช่คิ้วบอย”

       “เปลี่ยนเป็นอะไรหรือครับ” เขาถาม

       “แบดบอยหรือแดนเจอร์รัสบอยน่าจะเข้าท่ากว่า”

       “ฮ่าๆ”

       “แฟนมึงยังหัวเราะเห็นด้วยกับกู” หิรัญหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้ธัชธรรม์ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ

       “ไอ้สัด!” ธัชธรรม์กัดกรามก่อนจะพ่นคำหยาบใส่เพื่อนสนิท พวกเขาหัวเราะเสียงดังสนุกสนาน พอได้มาอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ อยู่กับคนที่สบายใจเขาก็รู้สึกดีกว่าเดิมขึ้นเยอะเลย จริงๆแล้วทั้งหิรัญและธัชธรรม์ก็เป็นคนที่ชอบพูดคุยอยู่แล้วทำให้คนที่พูดคุยไม่เก่งอย่างเขาสามารถคุยผสมโรงและปล่อยมุขได้อย่างไม่เคอะเขินนัก

       เขาและธัชธรรม์ถึงบ้านตอนสองทุ่มพอดี ไฟที่บ้านยังปิดสนิทเพราะคุณแม่ยังกลับมาไม่ถึง ช่วงหลังๆมานี่เขาไม่ค่อยได้อยู่บ้านกับคุณแม่เท่าไหร่เพราะมีงานด่วนที่ต้องเดินทางอยู่เสมอ จากที่กังวลว่าจะต้องอยู่คนเดียว พอธัชธรรม์กลับมาอยู่ด้วยเขาก็อุ่นใจมากขึ้น อย่างน้อยมีอะไรก็จะได้ช่วยกันได้

       “เมี๊ยววววววว” เจ้าแมวลายด่างกระโดดพรวดเข้ามาหาทันทีที่เขาเข้าไปในบ้าน เดี๋ยวนี้เขาหัดให้ไอ้ตัวเล็กใช้กะบะทรายและกินอาหารเม็ด ดูเหมือนว่าขนจะสวยขึ้นอย่างที่หิรัญบอกเขาจริงๆ

       “คิดถึงป่าป๊าหรือครับ”

       “เมี๊ยวววว”

       “ใครเป็นเป็นป๊า พี่ต่างหากเป็นป๊า” ธัชธรรม์เสนอตัวเต็มที่

       “ผมเป็นหม่าม๊าหรือครับ” เขาทำหน้างง “ไหนบอกจะเอาตัวเล็กไปปล่อยไงครับ พี่ไม่ชอบไม่ใช่หรือ”

       “ถ้าใบบุญเลี้ยงมันแก้เหงา พี่ก็จะบอกว่ามีพี่อยู่แล้วทั้งคนไม่ต้องกลัวเหงา แต่ถ้าใบบุญอยากเลี้ยงเพราะอยากมีเพื่อนเวลาพี่ไม่อยู่ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร.. เลี้ยงเป็นลูกก็ได้”

       “ทำไมวันนี้ใจดีจัง กินของหวานแล้วอารมณ์ดีหรือครับ” เขามองคนรักที่ดูจะเขินอายอยู่บ้าง ถ้าไม่ตีกับไอ้ตัวเล็กเขาก็ไม่เป็นห่วง
       
       “พี่ใจดีอยู่แล้ว ทำไมชอบว่าพี่เหมือนพี่เป็นซาตานอย่างนั้น”

       “ก็มันจริง..อื้อ!” เขาถูกชายหนุ่มปล้นจูบอีกแล้ว คราวนี้นานจนเขาหายใจแทบไม่ทัน “เอาอีกแล้วนะพี่ธัช”

       “อยู่บ้านแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ”

       “ถ้าจะจูบก็ต้องอยู่ในห้องเท่านั้น” เขาบอกเสียงเข้ม ถ้าไม่ทำแบบนี้คงได้รุ่มร่ามตลอดเวลาแน่

       “โหย ทำไมใจร้ายแบบนี้อะ”

       “ไม่ได้! เพราะพี่ธัชดื้อ”

       “เสียใจอะ” ชายหนุ่มทำหน้ามุ่ย ก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วเดินหายขึ้นไปชั้นสองทันที เขามองตามจนลับสายตา งอนได้ก็งอนไปเดี๋ยวค่อยไปง้อก็แล้วกัน

       เพลงใหม่ของหิรัญถูกปล่อยลงยูทูปเมื่อช่วงเย็น ยอดวิวกำลังขึ้นเรื่อยๆแถมยังถูกพูดถึงในทวิตเตอร์ รูปต่างๆของชายหนุ่มถูกแท็กมาในอินสตราแกรมเต็มไปหมด เขาเองก็แอบดีใจที่เห็นเรตติ้งของหิรัญดีขนาดนี้ ต่อไปถ้าหากมีผลงานยอดนิยมมากๆเข้าจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแน่ๆ

       ใบบุญอาบน้ำสระผมแล้วก็เตรียมตัวเข้านอน คุณแม่โทรมาบอกเขาแล้วว่าจะกลับดึกไม่ต้องรอทานข้าว เขาเป่าผมจนแห้งไอ้ตัวเล็กก็ร้องแง้วๆจะขอขึ้นมานอนด้วย เขาเดินไปหยิบเบาะนิ่มมาวางไว้ข้างเตียง เจ้าตัวแสบก็เดินไปนอนเงียบๆ ดวงตากลมมองเขาก่อนจะผล็อยหลับไป

       “สงสัยจะงอนจริงๆ” เขาพึมพำเมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายโผล่หน้าเข้ามาขอนอนด้วยเหมือนทุกที กำลังจะไปปิดไฟแต่ก็มีคนตัวโตโผล่พรวดเข้ามาในห้องเสียก่อน เขาสะดุ้งเกือบจะเงื้อมมือทุบธัชธรรม์อยู่แล้วเชียว

       “พี่นอนด้วยสิครับ”

       “นึกว่าจะงอนจนไม่มาแล้ว”

       “รอพี่อยู่หรือครับ” กอดคนรักเอาไว้แน่น ก้มลงหอมแก้มเบาๆ “ชื่นใจจัง”

       “หอมจนแก้มช้ำหมดแล้วนะครับ”

       “ไหน ช้ำตรงไหนพี่จะได้ทายาให้” ชายหนุ่มตระกรองกอดพาคนตัวเล็กไปนั่งที่เตียง “เจ็บก็บอก.. พี่มันคนใช้แต่กำลังไม่คุ้นเคยกับอะไรแบบนี้หรอก” เขามองคนรักที่กำลังอายหน้าแดง ทำไมถึงได้น่ารักแบบนี้ก็ไม่รู้

       “ก็แค่ยั้งมือ.. ผ่อนแรง”

       “แบบนี้ใช่ไหม” เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อนอนก่อนจะลูบไล้ไปตามผิวนุ่ม ครีมอาบน้ำก็ใช้เหมือนกัน ยาสระผมก็ยี่ห้อเดียวกันแต่ทำไมใบบุญถึงได้นุ่มนิ่มน่าฟัดไปทั้งตัวแบบนี้

       “พี่จับตรงไหนน่ะ ไม่เอานะ!”

       “นิ่มไปทั้งตัวเลย แถมยังขาวด้วย” เขามองคนตัวขาวจัดก่อนจะยกแขนตัวเองขึ้นเทียบ “ตัดกับสีผิวพี่ชะมัด”

       “อยากขาวมั่งหรือครับ แบบนี้เซ็กซี่ดีนะครับ”

       “ถ้าแฟนพี่ชอบ พี่อะไรก็ได้” เขายิ้มก่อนจะพรมจูบซอกคอขาว จุดไหนที่ใบบุญอ่อนไหวเป็นพิเศษเขารู้หมด..

       “อ๊ะ อื้อ!” ใบบุญดันคนรักให้ออกห่างไปก่อน “พี่ธัช.. พรุ่งนี้เราต้องไปเรียนแต่เช้า”

       “ตื่นสายหน่อยก็ได้ครับ”

       “แต่ว่า มันจะปวดสะโพกนะ” เขาประท้วง ทำไมไม่เข้าใจเขาบ้างเลยนะ!

       “พี่จะทำเบาๆ”

       “พี่พูดแบบนี้แต่ใส่แรงไม่ยั้งเลยสักครั้ง หนูไม่เชื่อแล้ว”

       “โอ๋ๆ” เขาก้มลงจูบหน้าผากขาวนวล กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆอบอวลไปทั่วร่างกายของคนตรงหน้า เขาอยากจะฝังจมูกลงซอกคอ รั้งมากอดแนบอกเอาไว้ทั้งคืน ยิ่งแก้มขาวผ่องนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อเขาก็อยากจะหยอกล้อให้คนตรงหน้าเขินอาย เอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อนอน แผงอกขาวจัดตัดกับยอดอกสีสวย และหน้าท้องแบนราบขาวเนียน เขาบดจูบลงเนื้ออ่อนจนคนตัวเล็กส่งเสียงครางเครือ ลิ้นแฉะชื้นลากไล้ไปตามผิวขาวสลับดูดเม้มจนขึ้นสีชมพูระเรื่อไปทั่ว ทั้งนุ่มนิ่มทั้งหอมละมุนจนเขาไม่อยากจะถอนกายไปไหน เด็กหนุ่มกลั้นเสียงร้องที่เริ่มจะทนไม่ไหว แรงอารมณ์เริ่มโหมกระพรือเมื่อจุดอ่อนไหวถูกลิ้นอุ่นร้อนของคนรักปนเปรอให้ไม่ขาด ทั้งช้าสลับเร็วจนเขาแทบจะขาดใจตาย สองมือขาวได้แต่ขยุ้มที่ศีรษะของชายหนุ่มไม่ให้กลืนกินมากไปกว่านี้

       “ชอบไหม?”

       “ฮื่อ” ดวงตาหวาฉ่ำปรือมองคนรักที่แลบลิ้นเลียริมฝีปาก ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกวูบไหวที่ช่วงท้องน้อย ธัชธรรม์ถอดเสื้อยืดโยนทิ้งออกไป โชว์เรือนร่างบึกบึนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจนเขาแทบลืมหายใจ ปิดตาด้วยความเขินอาย เขาอาจจะตายเพราะความเร่าร้อนของคนตรงหน้าก็ได้

       “ไม่ตอบแสดงว่าชอบ พี่จะทำต่อนะ” ก่อนเขาจะระเบิดตัวตายมากไปกว่านี้ อีกฝ่ายก็ส่งลิ้นอุ่นร้อนเข้ามากวัดเกี่ยวจนเขาตาพร่า ลืมว่าจะต้องห้ามไม่ให้คนรักทำเกินขั้นตอนมากไปกว่านี้

       เขาไม่อยากไปเรียนแบบไม่มีแรงนะ!

       สองมือที่กำลังจะดันแผงอกหนาให้ออกไปกลับถูกชายหนุ่มรวบเอาไว้เหนือหัว ตอนนี้เหมือนเขากำลังถูกกินอย่างไรไม่รู้ สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองเขาอย่างโลมเลียมันทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว อยากจะดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่อาจหลุดพันจากรสสัมผัสหอมหวานอันนี้ได้ เขากำลังถูกล่อลวงให้ตกไปในหลุมพรางของสัตว์ร้ายชัดๆ

       ประตูห้องถูกเปิดขึ้นพร้อมบุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ ทับทิมปล่อยกระเป๋าในมือร่วงจนกระแทกพื้นเสียงดัง พวกเขาตาโตก่อนจะลุกขึ้น ธัชธรรม์รีบห่อตัวเขาด้วยผ้าห่มก่อนจะโอบกอดเอาไว้แน่น เขามองคุณแม่ที่กำลังตกใจ

       “แม่ คือผมอธิบายได้นะครับ”

       “ธัช ลูกทำอะไรน้อง!”



         TBC.

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 18] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #65 เมื่อ27-03-2019 20:47:00 »

                                                     Rhyme 18
   

   “แม่ใจเย็นๆก่อนนะครับ” ธัชธรรม์บอกมารดาที่ดูเหมือนจะอยู่ในอาการช็อคไปแล้ว เขาเองก็ตกใจไม่ต่างกัน เรื่องของเขาสองคน เขายังไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะบอกกับทับทิมอย่างไรดี ดูจากสถานการณ์แล้วมันอาจจะยุ่งยากกว่าที่คิด แม่อาจจะไม่ยอมให้เขาคบกับใบบุญ และในขั้นเลวร้ายที่สุดก็คือบังคับให้เลิกกัน แต่เขาจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นแน่

   ยังไงก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง!

   “บอกแม่มา.. ว่าพี่ธัชทำอะไรหนู”   

   “คือ..” เด็กหนุ่มหลุบตามองพื้น มือประสานกันแน่นไม่กล้าสบตากับคุณแม่ที่จ้องมา เขาไม่อยากให้คุณแม่โกรธเลย “คือแม่ครับ”

   “แม่.. ผมกับน้อง” ธัชธรรม์รั้งคนตัวเล็กให้ถอยห่าง แทรกตัวขึ้นไปอยู่ตรงหน้าคุณแม่แทน เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เขาควรจะแสดงความรับผิดชอบและบอกความจริงให้ผู้ใหญ่ในบ้านในรู้ เขาเห็นมารดาเม้มปากแน่น แววตามีร่องรอยแห่งความเสียใจพาดผ่าน

   เพี้ยะ!

   ฝ่ามือฟาดเข้าที่แก้มจนเขาชาหนึบ แม่เงื้อมมือตีเขาทั้งๆที่น้ำตาไหลไม่หยุด เขาทำให้แม่ผิดหวังซ้ำซากอีกแล้ว ทำให้มารดาบังเกิดเกล้าต้องเสียใจจนร้องไห้ เขามันเป็นลูกที่แย่จริงๆ

    “แม่ไม่เคยสอนให้ธัชรังแกน้องอย่างนี้”

   “ผม..ขอโทษ” เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัว ทุกอย่างที่เขาได้ทำกับใบบุญเป็นสิ่งที่ควรจะถูกก่นด่าด้วยซ้ำ ใบบุญดึงเสื้อเขาไปกำแน่น ร้องไห้เสียงสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารจนเขาต้องกอดปลอบ

   “พี่ธัช.. พี่ธัชไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย” เขาอยากจะอธิบายความจริงทุกอย่างให้แม่ฟัง แต่ไม่รู้ว่าแม่จะเชื่อไหม “พี่ธัชไม่ได้ทำอะไรผิดนะ”

   “แล้วที่แม่เห็นคืออะไร”

   “เราสองคนรักกันครับ” เขาตอบเสียงดังฟังชัด ดวงตากลมมองสบอย่างไม่มีลังเล เขาเห็นมารดานิ่งอึ้งไปครู่ก่อนจะกัดกรามแน่น เสียงพูดเริ่มดังกว่าเดิม เด็กหนุ่มตกใจเขาไม่เคยเห็นแม่โกรธขนาดนี้มาก่อนเลย

   “อะไรนะใบบุญ?”

   “เราสองคนรักกันมาตั้งนานแล้ว แม่ครับอย่าโกรธพวกเราสองคนเลยนะครับแม่” เขายกมือกระพุ่มไหว้ทั้งน้ำตา อยากจะอ้อนวอนขอให้เห็นใจ

   “ทำไมลูก.. ทำไม” ทับทิมเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลรินจนเปรอะใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวลงกลางใจอย่างแสนสาหัส ลูกชายที่เธอรักทั้งสองคนกลายเป็นแบบนี้ เธอทำได้แต่เพียงโทษตัวเองเท่านั้น “แม่เลี้ยงลูกไม่ดีตรงไหน.. บอกแม่สิ”

   “แม่ไม่ผิดหรอกครับ แม่ไม่ต้องร้องไห้นะครับ”

   “ฮึก แม่เลี้ยงไม่ดีตรงไหน บอกแม่มาสิ”

   “แม่ไม่ผิดครับ ฮึก แม่ไม่ผิดเลย”

   “ธัช แม่ขอเถอะนะ” หญิงสาวหันไปมองลูกชายคนโต ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เธอไม่เชื่อหรอกว่าความรักครั้งนี้มันจะคงอยู่ตลอดไปและเธอไม่อยากเห็นลูกชายที่เธอรักต้องเสียน้ำตาอีก “อยู่ห่างกับน้องเถอะนะ.. ถือว่าแม่ขอ”

   “แม่ ไม่เอา ไม่เอานะแม่ ฮึก” เด็กหนุ่มตกใจ เขาบอกละล่ำบอกกับมารดาที่กำลังโมโห ถ้าหากอธิบายให้แม่ฟังแม่อาจจะใจอ่อนก็ได้ “จะให้หนูทำอะไรก็ได้.. อย่าให้พี่ธัชไป”

   “แม่ขอโทษนะใบบุญ”   

   “หนูขอร้องนะ.. นะครับแม่”

   “ก็ได้ ผมจะไปก็ได้” ธัชธรรม์ตัดสินใจเด็ดขาด ในเมื่อมารดาไม่รับฟังเหตุผลและขอร้องให้เขาไปจากใบบุญ เขาก็จะทำให้ “แม่ห้ามผมไม่ให้เข้าใกล้น้องได้ แต่แม่ห้ามให้ผมเลิกรักใบบุญไม่ได้หรอก”

   “ธัช!” ทับทิมโกรธจนตัวสั่น ลูกชายคนโตของเธอเหมือนพ่อเขามากเกินไป ทั้งนิสัยและความไม่ยอมใคร มันทำให้เธอนึกถึงสามีที่เลิกร้างกันไปเมื่อเกือบสิบปีก่อนจริงๆ

   “พี่ธัช ฮึก อย่าไป” เด็กหนุ่มร้องเรียกทั้งน้ำตา “ฮึก.. ฮือ” ใบบุญทรุดลงกับพื้นมองธัชธรรม์ที่หายเข้าไปในห้องก่อนจะออมาพร้อมกระเป๋าสะพาย “พี่ธัช!” ชายหนุ่มมองคนรักที่กำลังร้องไห้แทบขาดใจ เขาอยากจะกอดปลอบแค่ไหนก็ต้องแข็งใจเอาไว้ เขาเดินเข้าไปใบบุญ อีกฝ่ายกอดเขาเอาไว้แน่น

   “ไว้รอแม่ใจเย็นลงกว่านี้แล้วเราค่อยไปคุยกับแม่อีกที”   

   “แล้วถ้าแม่ไม่ยอม..ล่ะฮึก”

   “ถ้าแม่ไม่ยอมเราก็ค่อยๆคุยกับแม่ อธิบายให้แม่ฟัง” กระซิบบอกเด็กหนุ่มที่กำลังร้องไห้ เขาลูบกลุ่มผมยุ่งด้วยความเอ็นดู จากนี้คงจะต้องฝากใบบุญเอาไว้กับไอ้ตัวเล็กไปก่อน แล้วเขาจะกลับมาทวงที่ของเขาคืน “ฟังพี่นะ เราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ไม่ต้องร้องนะครับ”

   “หนูกลัว ถ้าแม่ไม่ยอมรับจะทำยังไง”

   “เชื่อพี่เถอะ ตอนนี้ให้แม่ใจเย็นก่อน อย่าร้องสิพี่ไม่ชอบเห็นเราเป็นอย่างนี้เลย”

   “ฮึก พี่ต้องกลับมาหาหนูไวๆนะ”

   “อื้ม” เขาลูบแก้มขาวของเด็กหนุ่มเกลี่ยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ดูสิร้องไห้จนตาช้ำไปหมด เขาเห็นคนรักเป็นอย่างนี้ต่อให้สงสารแค่ไหน อยากจะดึงเข้ามากอดจูบมากแค่ไหนก็ไม่มีทางทำได้ ชายหนุ่มกระพุ่มมือไหว้มารดาก่อนจะหันหลังเดินออกจากบ้านไป เสียงสะอึกสะอื้นปริ่มจะขาดใจของคนรักยังติดอยู่ในหูเขา

   คืนนั้นใบบุญนอนไม่หลับได้แต่พลิกไปมาอยู่บนเตียงคิดถึงคนที่คอยโอบกอดเขาทุกคืน หยดน้ำตาไหลรินเปียกแก้มทั้งสองข้าง รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตาแค่ไหนแต่มันก็ไม่อาจจะหยุดความเสียใจที่กำลังถาโถมเข้ามาในหัวใจได้ เขารู้ว่าแม่รักเขาและพี่มากแค่ไหน ความคาดหวังของแม่ทำให้ไม่สามารถจะยอมรับความจริงตรงหน้าได้ เด็กหนุ่มฝังใบหน้าลงกับหมอนก่อนจะร้องไห้ ระบายความเสียใจออกมาไม่รู้จักหมดสิ้น ตื่นเช้าด้วยความอ่อนเพลีย ดวงตากลมโตเขาบมปูดเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักจนต้องกลับมาใส่แว่นแล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรกับแม่ระหว่างกินข้าวตอนเช้า บ้านกลับมาเงียบสงบเหมือนเคยมีเพียงไอ้ตัวเล็กที่ร้องตะแง้วเหมือนเดิม เขามองปลอกคอสีแดงสดที่ธัชธรรม์เป็นคนสวมให้ก็อดคิดถึงคนรักไม่ได้

   ป่านนี้จะทำอะไรอยู่ จะกินข้าวหรือยังนะ

   “กินเยอะๆนะใบบุญ”

   “ครับแม่”

   “แม่.. รักลูกทั้งคู่มากนะ” ทับทิมเอ่ยเสียงเบา เธอเสียใจเหลือเกินแต่ก็ไม่อาจจะปล่อยให้ลูกทำตามใจได้ เธออยากให้ลูกเข้าใจเธอบ้าง

   “หนูรู้” เขาหลุบตามองจานข้าว รู้สึกพะอืดพะอมจนกินอะไรไม่ลงเลย “หนูรู้จ้ะ..ว่าแม่หวังดีมากแค่ไหน”

   “อีกไม่นานลูกก็จะลืมได้เอง”

   “ครับ” เขาไม่ตอบอะไรมากไปกว่านั้น ลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวขอตัวออกจากบ้านไปเรียนก่อน ใบบุญรู้สึกเจ็บตาเขาส่องกระจกและเห็นว่ามันบวมมากจนน่ากลัว กรวีร์เห็นคงจะตกใจมาก เขาน่าจะหาอะไรประคบมันก่อนไปเรียน แต่มองนาฬิกาแล้วไม่มีเวลาจึงพาตัวเองไปเรียนทั้งอย่างนั้น เขาไม่มีอารมณ์อยากจะทำอะไรเลย..

   “ใครทำอะไรมึงเนี่ย ทำไมสภาพเป็นงี้วะ” อย่างที่เขาคิดเอาไว้เลยว่าเพื่อนสนิทจะต้องตกใจ แค่เขาเห็นหน้ามันอารมณ์เสียใจที่เขากักเอาไว้ก็เหมือนจะล้นทะลักอีกรอบ เขาไม่ไหวแล้วจริงๆ

   “ฮึก.. กร”

   “ไม่เอาไม่ร้อง” กรวีร์พาเพื่อนมานั่งโต๊ะ คอยดูตามร่างกายว่ามันโดนใครทำอะไรมาหรือเปล่า “ไหนบอกกูมาดิ” กรวีร์กอดเพื่อนสนิทตัวเองที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด เขาไม่รู้จะปลอบยังไงได้แต่พามันมานั่งที่ลับตาคน ส่งผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่ให้แทนอันเก่าที่เปียกชุ่มไปหมด ร้องขนาดนี้เขากลัวมันจะไม่สบายไปเสียก่อน ค่อยๆลูบหลังปลอบใบบุญแผ่วเบา เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้เขาก็ไม่สบายใจเอาเสียเลย

   “ฮึก.. ฮือ”

   “ไหนมึงเล่ามาสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขามองใบหน้าเศร้าหมองของใบบุญ อีกฝ่ายเม้มปากแน่นผ่อนลมหายใจก่อนจะค่อยๆพูดออกมา..

                        +++

   ธัชธรรม์ยกมือขึ้นป้องแสงแดดก่อนจะใช้มือที่ว่างคว้ากระเป๋าเป้ที่หยิบติดตัวมาจากบ้านสะพายขึ้นบ่า ข้างในไม่มีอะไรมากนอกจากของใช้จำเป็น เมื่อคืนเขาตัดสินใจไปพักสงบจิตใจที่สตูดิโอก่อนจะซื้อตั๋วเครื่องบินลงใต้มาที่ภูเก็ต เพื่อมาหาหัวหน้าวงLA-Days มือกีตาร์ผู้โด่งดังและเป็นคนแรกที่สอนเขาให้จับเครื่องดนตรีเป็นครั้งแรก บิดาบังเกิดเกล้าที่ผันตัวจากนักดนตรีย้ายที่อยู่หลบลี้หนีหายมาเปิดร้านอาหารกึ่งผับอยู่ภาคใต้ จังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของประเทศไทย เขาไม่ได้ติดต่อกับนิรัชมาเกือบสิบปี จนเมื่อหลายเดือนก่อนเขาได้พบกับบิดาโดยบังเอิญ

   “พ่อ” เขาลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นนิรัชเดินเข้ามาใกล้ เขายืนรอรถอยู่ที่สนามบินก็เจอลูกน้องที่ร้านของพ่อมาพอดี อีกฝ่ายจำเขาได้จึงให้เขาติดรถมาด้วย

   “มาเองได้แล้วทำไมต้องให้ไปรับ โตเป็นควายละ”

   “ไม่ได้ให้ใครไปรับสักหน่อย ลูกน้องพ่อไปเจอก็เลยพามาด้วย” เขาตอบ ก่อนจะวางกระเป๋าไว้บนโซฟา บ้านเดี่ยวขนาดพอดีบนเกาะภูเก็ตราคาแพงลิบลิ่ว ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นอดีตนักร้องชื่อดังคงไม่มีเงินเก็บมาซื้อบ้านได้ขนาดนี้ มาเปิดร้านอาหารก็ดูจะมีรายได้ดี เขาไม่เห็นนิรัชจะมีครอบครัวใหม่อย่างที่มารดาบอก

   ดื้อทั้งคู่..

   “แล้วมาทำไมอีก เพิ่งมาไม่ใช่หรือไงวะ”

   “พ่อ” เขามองหน้านิรัช สีหน้าจริงจังกว่าทุกครั้ง

   “อะไร”

   “ผมกับใบบุญคบกัน”

   “หา มึงว่าไงนะ” นิรัชแทบสำลักน้ำเปล่าที่กำลังยกดื่ม ถึงใบบุญจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่เขาก็เลี้ยงมาตั้งเล็ก รักมันไม่ต่างจากธัชธรรม์ด้วยซ้ำ พอเขาได้ยินอย่างนั้นสงสัยว่าเขาจะแก่จนหูฝาดไปแล้วแน่ๆ

   “แม่เห็นตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี ก็เลยโดนเฉดหัวออกมา”

   “เป็นกูเอาปืนยิงมึงไส้แตกแล้ว” นิรัชแทบจะปาด้วยแก้วน้ำ ทั้งตกใจทั้งอึ้ง เขาไม่ได้รังเกียจรสนิยมลูกชาย ต่อให้มันจะลุกขึ้นมาแต่งหญิงมันก็ยังเป็นลูกชายที่เขารักที่สุดในโลกอยู่ดี สำหรับเขามันอาจจะเป็นเรื่องที่พอทำใจได้ เพราะเลี้ยงด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก ความผูกพันมากกว่าคนทั่วไป แต่ทับทิมคงไม่คิดเหมือนอย่างเขาแน่ เธอจะต้องกีดกันทั้งสองคนสุดชีวิตแน่

   “อย่าโมโหสิพ่อ นี่ผมมาให้พ่อช่วยคุยกับแม่ให้นะ”

   “กูไม่เอาปังตอสับมึงก็บุญแล้ว มันเป็นน้องมึงนะ”

   “น้องที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดอะนะ” ธัชธรรม์พูด ก่อนจะหรี่ตามองชายหนุ่มสูงวัยที่ยังมีเค้าโครงความหล่อเหลา เขาเหมือนเห็นตัวเองในอีกยี่สิบปีข้างหน้า “พ่อคิดว่าผมไม่รู้หรือไง ช่วยกันปิดมานานแค่ไหนแล้ว ทำไมต้องให้ผมมารู้ทีหลังด้วย”

   “มึงนี่มันขี้โมโหได้ใครวะ”

   “ได้พ่อมาเต็มๆ” เขาบอกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสีแดงสด รูปร่างหน้าตานิสัยเรียกได้ว่าถอดแบบออกมาเหมือนแท่นปั๊มเลยทีเดียว เพราะอย่างนี้เขาถึงได้แบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์พ่อผู้แยกตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว มีแค่พ่อเท่านั้นที่จะช่วยคุยกับแม่ให้เขาได้

   “ไอ้ลูกเวร รอบที่แล้วมาล่อซะร้านกูพัง รอบนี้มึงจะทำอะไรพังอีกไหม”

   “พ่อคุยกับแม่ให้ผมก่อน ผมกลับแน่” เขาบอกเสียงแข็ง รอบนี้เขาจะไม่ยอมกลับไปมือเปล่า พ่อจะต้องกลับไปพร้อมกับเขา!
   
   “งานยากว่ะ” นิรัชกุมขมับ เขารู้จักนิสัยอดีตภรรยาของตัวเองดี “กูควรจะหาสินสอดไปสู่ขอกับแม่มึงจะง่ายกว่า”

   “พ่อ ผมจริงจังนะเนี่ย” ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น “ยังไงผมก็ไม่เลิกกับใบบุญแน่”

   “ใจเย็นไอ้หนุ่ม” นิรัชขอเวลาตั้งสติก่อน “กูเป็นพ่อมึงยังตกใจไม่หาย ใบบุญก็ลูกกูนะ เลี้ยงมาตั้งเล็กๆ”

   “เลี้ยงมาด้วยกันแล้วยังไง ผมกับน้องได้กันแล้ว โอเคนะ”

   “ไอ้ห่าเอ๊ย” เขาอยากจะยกเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก มีลูกอย่างมันอายุเขาสั้นลงไปสิบปี “ผีป่าซาตานส่งมาเกิดจริงๆ มึงได้ใครวะเนี่ย”

   “ได้พ่อไง”

   “ดีมาก ถุ้ย!” นิรัชมองลูกชายตัวโตแล้วต้องแอบทอดถอนใจ ไอ้เรื่องนิสัยมุทะลุดุดันไม่ยอมใคร ยอมหักไม่ยอมงอเนี่ยมันได้มาจากเขามากเกินไปแล้ว เขากลัวมันจะไม่ได้แก่ตายเหลือเกิน “ได้ กูจะขึ้นกรุงเทพฯไปกับมึงแต่มีข้อแม้..”

   “ข้อแม้อะไรพ่อ?” ธัชธรรม์ดีดตัวขึ้นมาฟัง เขาหวังว่าข้อเสนอจะไม่โหดร้ายกับเขาจนเกินไปนัก อย่างน้อยเขาก็เป็นลูกชายนะ

   “เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตามกูมา..”

   “ไปไหน?”

   “คิดว่ากูจะไปเจอหน้าคุณทับทิมทั้งที มึงมีอะไรมาแลกล่ะ”

   “พ่อ!”

   “ร้องเพลงซะ” นิรัชยกยิ้ม หวังว่าที่เขาฝากฝังไอ้กิตไปคงทำให้มันพัฒนาความสามารถตัวเองได้มากกว่าที่เขาเห็น “ถ้าลูกค้าในร้านทะลุหนึ่งพันคนเมื่อไหร่.. กูอาจจะยอมไปก็ได้”

   “พ่อบ้าไปแล้ว!”

   เขาไม่มีเวลามากมายขนาดนั้นหรอกนะ!

                        +++

   ใบบุญติดต่อธัชธรรม์ไม่ได้ตลอดทั้งวัน ลองถามหิรัญหรือเฮียกิตก็ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าตัวหายไปไหน เขาเริ่มร้อนรนอยากจะคุยกับคนรักแต่ก็หาตัวไม่เจอ กรวีร์คอยอยู่เป็นเพื่อนในระหว่างที่ใบบุญกำลังซึมเศร้า เขาไม่อยากให้ใบบุญเครียดจนล้มป่วยอีก ไหนจะหาตัวธัชธรรม์ไม่เจอไหนจะเรื่องคุณแม่ที่ห้ามไม่ให้เจอกัน กรวีร์เองก็ปวดหัวแทนใบบุญเหลือเกิน ไม่รู้จะช่วยเพื่อนอย่างไรดี เด็กหนุ่มนั่งซึมในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น ยังเฝ้ารอให้คนรักติดต่อเข้ามา

   “มึงโอเคนะ?”   

   “อืม กูไหว เดี๋ยวกลับบ้านแล้วล่ะ” เขาหันไปตอบกรวีร์ วันนี้ชายหนุ่มก็อยู่เป็นเพื่อนเขาทั้งวัน เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว

   “ให้ไปส่งไหมมึง กลับไหวนะ”

   “กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย มึงอย่าเว่อน่ะ”

   “มีอะไรก็บอกกูได้ตลอดนะ อย่าเก็บไปเครียดคนเดียว” กรวีร์ลูบหลังเพื่อน เขาเป็นห่วงมันจนไม่อยากให้ห่างสายตา “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูจะอยู่ข้างมึงเสมอ” เหมือนที่เขาเคยให้คำสัญญาเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

   “ขอบคุณนะกร” เขาจับมือกรวีร์ ส่งผ่านความห่วงใยไปให้ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะเป็นกำลังใจ เป็นทุกอย่างให้อย่างที่มันต้องการ เขาจะไม่ยอมทิ้งมันไว้เด็ดขาด “แต่กูไม่เป็นไรจริงๆ ถึงบ้านแล้วกูจะโทรหานะ”

   “ก็ได้ ถ้ากูติดต่อพี่ธัชได้จะรีบโทรหานะ”

   “อื้ม” เขาโบกมือให้กรวีร์ที่วิ่งฝ่าฝนขึ้นรถยนต์คันหรูของหิรัญออกไป ถ้าไม่ติดว่าวันนี้หิรัญจะต้องไปโปรโมทเพลงที่งานอีเว้นท์ กรวีร์คงจะไม่ยอมห่างจากเขาแน่ๆ ใบบุญนั่งรออยู่ใต้คณะรอฝนหยุดตก วันนี้เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาเรียนและไม่อยากขับออกไปให้เป็นอันตราย ระหว่างนั่งถอนหายใจ จู่ๆก็มีถุงขนมยื่นมาตรงหน้าเขา เด็กหนุ่มมองไล่ขึ้นไปจึงเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาคุ้นเคยกำลังยิ้มให้ ชวดลนั่งลงข้างเขา ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นมีเพียงเสียงฝนตกลงกระทบพื้น

   “ไม่สบายหรือครับใบบุญ”

   “เป็นหวัดนิดหน่อยครับพี่โช” เขาไม่รู้จะคุยอะไรกับชวดลเหมือนกัน ได้แต่พงกหัวขอบคุณ “ขอบคุณสำหรับขนมนะครับ”

   “อื้อ พี่ตั้งใจเอามาฝากหลายวันแล้ว เพิ่งจะได้เจอเนี่ยแหละ”

   “วันนี้ก็ได้เจอแล้วนี่ครับ”

   “ถ้าวันนี้ฝนไม่ตกพี่ก็คงไม่เจอหรอก ช่วงนี้เรียนเยอะไม่ใช่หรือครับ” ชายหนุ่มถามพลางกระเถิบเข้ามานั่งใกล้

   “ครับ เรียนหนักด้วย พี่โชเป็นยังไงบ้าง”

   “เรียนก็เยอะทำงานก็หนัก เหนื่อยมากๆเลยครับ”

   “พี่โชต้องพักผ่อนเยอะๆด้วยนะครับ” เขาตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม ถึงมันจะเป็นรอยยิ้มที่ฝืนก็ตามที “ช่วงนี้อากาศแปรปรวนระวังจะไม่สบายเอานะ”

   “รับทราบครับ” ชวดลมองเด็กหนุ่มที่มีท่าทีเซื่องซึมผิดปกติ เห็นดวงตากลมบอบช้ำถึงจะอยากถามแต่อีกฝ่ายคงไม่ตอบเขาแน่ “วันนี้น่าจะว่างไปกินขนมกับพี่นะครับ”

   “เกือบลืมนัดพี่โชซะสนิทเลย”

   “มันน่าน้อยใจไหมเนี่ย ลืมพี่ได้ลงคอ”


   50%

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 16 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #66 เมื่อ27-03-2019 20:52:51 »


          “แหะๆ ทีหลังจะไม่ลืมแล้วครับ” เขาเกาหัวแกรก พอมีเพื่อนคุยด้วยก้รู้สึกไม่ฟุ้งซ่าน ดีกว่าอยู่คนเดียวเยอะเลย เขาลุกขึ้นเดินตามชวดลไปที่รถยนต์ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ก็ฝากคุณป้าที่ร้านขายของเอาไว้ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเรียนเขาจะได้ขี่กลับบ้านได้สะดวกหน่อย อากาศเย็นชื้นในช่วงฝนตกเป็นอะไรที่เขาไม่ชอบเอาซะเลย มันแฉะและรู้สึกเหนอะหนะไปหมด เขาคู้ตัวอยู่ในรถรถยนต์คันหรูของชวดล มันหนาวจนต้องกอดตัวเองเอาไว้


          “หนาวหรือครับ พี่เบาแอร์ให้เอาไหม?”


          “ก็ดีครับ สงสัยจะไม่สบายอีกแล้ว” เด็กหนุ่มหันไปพยักหน้า เขารู้สึกหนาวๆร้อนๆบอกไม่ถูก ครั่นเนื้อครั่นตัวแบบนี้สงสัยจะกลับมาป่วยอีกแล้ว


          “นั่นไง ป่วยอีกแล้ว” ชายหนุ่มลอบมองใบหน้าหวานที่เริ่มซีด “ตาสวยๆช้ำหมดเลย”


          “ให้พี่โชเห็นตอนแย่ๆจนได้”


          “ไม่เป็นไร พี่ไม่ถืออยู่แล้ว” ชวดลยิ้มก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าร้านอาหาร “เดี๋ยวกินข้าวแล้วจะได้กินยานะครับ”


          “ดีเลยครับ” เขายิ้มตอบ สายตาก็หลุบมองโทรศัพท์เป็นระยะ จะผ่านไปครบวันแล้วแต่ธัชธรรม์ก็ยังไม่ติดต่อมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า หรือว่าจะยอมรับสิ่งที่แม่บอกและจะยอมกลับไปเป็นพี่น้องกับเขาเหมือนเดิม ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านพยายามเก็บกดอารมณ์กังวลใจเอาไว้ ชวดลลอบมองเป็นระยะนึกสงสัยว่าเด็กหนุ่มมีปัญหาอะไรในใจกันแน่


          “เอาล่ะ เด็กดีต้องทานเยอะๆนะครับ”


          “โถ่ แค่นี้ก็กินจะไม่ไหวแล้วครับ” เขาโอดครวญ รู้สึกกินอะไรไม่ลงเลย แค่เห็นก็อิ่มแล้ว “พี่โชช่วยกินเลย สั่งมาเยอะขนาดนี้ต้องเอามังกรมาด้วยแล้วล่ะครับ”


          “ฮ่าๆ เห็นว่าจะออกเพลงใหม่นี่?”


          “ใช่ครับ น่าจะสิ้นเดือนนี้ แต่เพลงก็อัดเสร็จหมดแล้ว”   


          “แย่จังเลย พี่ก็หานักร้องฝีมือดีอยู่” เหลือบมองเด็กหนุ่มที่นิ่งไป “ใบบุญไม่สนใจจะมาร้องให้พี่มั่งหรือครับ”


          “ยังไม่มีช่วงว่างเลยครับพี่โช ถ้ามีโปรเจ็คพิเศษอะไรที่ผมสามารถจะไปร้องด้วยได้ก็ติดต่อมาได้เลยนะครับ” เงยหน้าขึ้นตอบก่อนจะส่งยิ้มให้ ที่ผ่านมาชวดลก็คอยดูแลเทคแคร์ดีตลอด เป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งด้วยซ้ำ ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้เขาก็อยากจะช่วย


          “พี่อยากได้เรามาอยู่เต็มตัวเลย ต้องรอสัญญาหมดสินะ”

         

          “คงจะต้องอย่างนั้นนะครับ” เขายิ้ม ไม่ได้คุยอะไรมากไปกว่านี้ ชวดลกำลังเปิดค่ายเพลงขึ้นมาใหม่โดยมีนักร้องที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานหลายคนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะขาดแคลนนักร้องตรงไหน ค่ายที่มีเงินสนับสนุนไม่ว่าจะออกเพลงอะไรก็มีกำลังโปรโมทมาก ไม่เห็นจะต้องกังวลเลยด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มกินจนอิ่มก็เอายาที่เตรียมเอาไว้มากิน เป็นยาลดไข้ที่เขาชอบพกเอาไว้เผื่อเวลาไม่สบาย


          “พี่จะไปส่งที่บ้านนะ”


          “ครับพี่โช” โดนฤทธิ์ยาเข้าไปเขาก็เริ่มมึนหัวอยากจะนอนพักผ่อนแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาอาจจะดีขึ้น เด็กหนุ่มสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นบ่าก่อนจะขึ้นรถยนต์คันหรูของชวดลขับออกไป.. บรรยากาศในรถเงียบสนิท มีเสียงเพลงคลอเคลียแผ่วเบา ด้วยความง่วงถึงขีดสุดเขาจึงขอชวดลพักสายตาจนผล็อยหลับไป


          ชายหนุ่มมองคนที่หลับสนิทก่อนจะยิ้มกริ่ม เขาหรี่ตามองโทรศัพท์มือถือบนตักที่มีแสงวูบวาบก่อนจะกดปิดเครื่องแล้วโยนเอาไว้หลังรถ รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าคอนโดสูงตระหง่านท่ามกลางฝนตกหนักและบรรยากาศมืดครึ้ม..


          “โทรไม่ติด” ธัชธรรม์ไม่ได้ติดต่อใบบุญมาหนึ่งวันเต็มๆ เปิดดูไลน์แล้วก็ตอบกลับไปแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยักตอบเขาสักที พอโทรไปก็ไม่รับสายไม่รู้ไปทำอะไรของเขาอยู่นะ เพราะมัววุ่นวายกับพ่อจนไม่เป็นอันทำอะไร กระทั่งโทรศัพท์ก็ยังไม่ได้จับ


          คิดถึงจนจะบ้าตายแล้วโว้ย


          “อะไรของมึงอีก อย่าลีลาลูกค้ามารอเต็มร้านแล้ว”


          “เพราะผมออกไปช่วยเรียกลูกค้าให้เป็นชั่วโมง ไม่งั้นคนจะเยอะขนาดนี้ไหมพ่อ” เพื่อที่จะให้ร้านของนิรัชมีลูกค้าเข้าได้มากที่สุด เขาเลยต้องลงทุนลงแรงออกไปเรียกลูกค้าอยู่ตั้งนาน บางคนที่จำเขาได้ก็เข้ามาทักทายและขอถ่ายรูป เขาก็จะเชิญชวนให้ไปที่ร้าน


          “เร็วๆ เวลาเป็นเงินเป็นทอง จะทำอะไรก็รีบทำ”


          “ผมรู้แล้วน่า เพราะผมจะทำให้มันเรียบร้อยภายในคืนนี้!”


          “จะเชื่อได้ไหมนะ”


          “ก็คอยดู!” ชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อกล้ามสีขาวพอดีตัวและกางเกงยีนส์สีซีดขาดวิ่นเข้ากับรองเท้าผ้าใบคู่ใจ นิรัชมองลูกชายของตัวเองแล้วก็ส่ายหัวมันยังหล่อได้ไม่ถึงครึ่งของเขาเมื่อสมัยก่อนเลยด้วยซ้ำ รวมๆแล้วก็ดูเหมือนเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไป แต่สายตาคมคู่นั้นมันมีพลังดึงดูดกว่าที่คิดจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าธัชธรรม์จะเรียกลูกค้ามาได้จนร้านเขาแทบแตกอย่างนี้


          ไม่ธรรมดา..


          ถึงจะชื่นชมลูกชายอยู่ในใจแต่เขาก็ไม่พูดออกไปให้มันเหลิงหรอก นี่เป็นเพียงก้าวแรกที่จะต้องผ่านไปสู่การเป็นนักร้องอาชีพ ต่อให้ต้องล้มลุกคลุกคลานหนักกว่านี้อีกสักกี่ครั้งก็จะต้องผ่านไปให้ได้ และนี่คือบทเรียนอีกอย่างหนึ่งที่คนเป็นพ่ออย่างเขาจะสอนให้มันได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จมันไม่ได้มาโดยง่าย! ชื่อเสียงอันหอมหวานมันเป็นเพียงมายาที่เพียงลืมตาก็ปลิดปลิวหายไปแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถที่จะอยู่ติดตัวเราไปตลอดต่างหาก!


          “วันนี้ผมจะมาร้องเพลงที่ผมอยากจะร้องให้คนที่ผมรักฟังที่สุด ต่อให้เขาจะไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ ณ ที่แห่งนี้แต่ผมก็เชื่อว่าพวกคุณทุกคนก็มีคนที่คุณรักสุดหัวใจกันใช่ไหมล่ะครับ งั้นเรามาช่วยกันร้องเพลงให้คนที่รักของกันดีกว่า!!”


          “เฮ!!!!”


          “ฉันก็มีทางของฉัน เธอก็มีทางของเธอตอนนั้น รักเรามันขนานกัน เราเลยไม่ได้คู่กันซักที ครั้งนี้ฉันขออีกทีสิ โอกาสที่พอจะมีสิทธิ์ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอีกแล้วว Baby” ชายหนุ่มจับไมค์ก่อนจะเริ่มร้องเพลง น้ำเสียงแหบพร่าทรงพลังเข้ากับดนตรีในจังหวะมันส์ ทุกคนในร้านเริ่มโยกพร้อมทั้งร้องตาม เสียงเฮดังลั่นพร้อมกับแสงสีสปอร์ตไลท์ที่สาดไปทั่วเวที


          เขาอยากจะร้องเพลงนี้ให้ใบบุญฟังเหลือเกิน..


          “เราต้องหลงทางกันอีกกี่หน เราสองคนต้องคลาดอีกกี่ครั้ง ครั้งนี้ฉันขอให้เธออยู่ฉันก็จะไม่ไปไหน ให้ฉันดูแลเธอได้ไหมฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปอีกแล้ว”


          “เอาอีกกกก”


          “พี่ธัช ล่ำมากเลยค่า”


          “กรี๊ดดดดดดด”   

                   

          เสียงเชียร์ตอบรับเสียงดังลั่นจนเขาเองยังตกใจตัวเอง ใช้มือลูบหน้าเช็ดเหงื่อที่ไหลเข้าตา เขามองผู้คนที่ทยอยเข้ามาไม่หยุด พ่อคงไม่รู้หรอกมั้งว่าเขาใช้หิรัญช่วยโปรโมทอีกทางคนถึงได้เยอะขนาดนี้
เล่นกับซาตานก็ต้องเจอกับปีศาจร้ายอย่างเขานี่แหละ!


          “พ่อ” เขาเรียกชายหนุ่มทีกำลังพูดคุยกับลูกค้า ยอมรับว่าร้านเล็กแต่จุคนได้เยอะเพราะลานกว้างสนามหญ้าตรงหน้าร้านมีที่เพียงพอให้คนได้เข้ามาดูเขาร้องเพลง “ยกนี้ผมชนะนะ”


          “เออ” นิรัชจุดยิ้ม มองลูกชายที่โตเป็นผู้ใหญ่สักที หลังจากนี้เขาคงจะหมดห่วงไปอีกหนึ่งอย่าง “พรุ่งนี้มึงเก็บกระเป๋าจองตั๋วเครื่องบินได้เลย!”


          “หึ” เขายิ้มเจ้าเหล่ห์ มองบรรยากาศที่เขารักเหลือเกิน เขารักเวที เขารักเสียงดนตรีและผู้คนที่พร้อมจะร้องเพลงไปพร้อมกับเขา ถ้าใบบุญมาอยู่ด้วยกันมันจะดีแค่ไหนนะ..


          คิดถึง..

                                          +++


          เสียงกุกกักทำให้เขาค่อยๆลืมตาตื่นรู้สึกตกใจเพราะทุกอย่างรอบตัวมันมืดไปหมด ร่างกายเขาขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้เลยสักนิด รู้สึกปวดแปลบที่ข้อมือและข้อเท้าราวกับมีเหล็กแหลมมาทิ่มแทง ลองขยับตัวก็รู้สึกเจ็บไปหมด จู่ๆแสงจากหลอดไฟก็เปิดสว่างจนเขาต้องหรี่ตามองคนที่กำลังเดินเข้ามาหา ชายหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยย่อตัวลงลงนั่งเพื่อให้มองเห็นเขาในระยะใกล้ แววตาที่เคยมองเขาอย่างอ่อนโยนตอนนี้มันกลับแปลกไป ทั้งแข็งกร้าวและดุดัน


          “พะ พี่โช” เสียงที่ออกจากลำคอแห้งผากมันแหบพร่า ใบหน้าของเด็กหนุ่มเงยเชิ่ดขึ้นเมื่อถูกรึ้งกลุ่มผม อีกฝ่ายใช้มือจิกผมเขาให้เงยหน้าขึ้นไปสบตา เขามองชวดลด้วยสายตาสับสน


          นี่มันเรื่องอะไรกันแน่...     


          “กูเอง”


          “นี่มันอะไรกันครับ”


          “ยังมีหน้ามาถามหรือไงว่าอะไร” ชายหนุ่มสะบัดข้อมือนิดเดียว หน้าเขาก็หันไปอีกทางจนกระแทกพื้น ความรู้สึกชาหนึบก็ยังไม่เท่าความรู้สึกชาที่จู่โจมเข้ามาในหัวใจ “สนุกมากไหมที่ต้องคอยโกหกกูมาตลอด”


          “แค่กๆ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”


          “ทำไม? อยากจะได้สมบัติจนตัวสั่นถึงต้องทำแบบนี้หรือไง” ชวดลตะคอกเขาเสียงดัง เขาถึงได้รู้ว่าชายหนุ่มรู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว แต่เขาไม่ได้คิดอย่างที่ชวดลพูดเลยสักนิด เขาแค่อยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใคร


          “พี่โช ผมไม่ได้อยากได้สักนิด”   


          “กูไม่เชื่อ!” ชวดลตะคอกเสียงดังก่อนจะก่อนถ่มน้ำลายใส่จนเขาต้องเบือนหน้าหนี นี่มันเรื่องอะไรกัน.. ชวดลจับเขามาไว้ที่นี่ทำไม “อยากจะได้สมบัติจนตัวสั่น อยากจะมาแทนที่กูใช่ไหม”


          “โอ๊ย พี่โช พูดบ้าอะไรของพี่เนี่ย ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ” เขายืนยันย้ำคำเดิมว่าไม่เคยต้องการอะไรจากบ้านนั้นเลยสักนิด


          “อย่ามาตอแหล ถ้าป้ามึงไม่บอกกูก็คงไม่รู้”


          “..อะไร?” พลอยไพลินมาเกี่ยวอะไรด้วย!


          “ลูกชายคนเดียวของทายาทกวินทร์ธาดานนท์ยังมีชีวิตอยู่” ชวดลตะคอกแล้วกระชากคอเสื้อเขาเอาไว้แน่น แววตาเกลียดชังที่ส่งมา มันทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารุ่นพี่ที่สุภาพอ่อนโยนคนนั้นจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้  “มึงรอดมาทำไม!”


          “พี่โช หยุดนะผมเจ็บ”


          “กูจะทำมึงให้ตายเลยคอยดู” สองมือหนากดเข้าไปที่ลำคอเล็ก เด็กหนุ่มตะเกียดตะกายเพื่อหลบหนีแต่ก็ไม่พ้น ชวดลออกแรงกดเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เด็กหนุ่มดิ้นพล่าน เขาจะฆ่ามันตอนนี้ก็ยังได้แต่มันง่ายเกินไป..


          “ฮึก ฮือ ปล่อยผมไปเถอะ”


          “ปล่อยให้มึงกลับมาแว้งกัดกูหรือไง” ชลดลพูดเสียเหี้ยม ถ้าพลอยไพลินไม่บอกเขาคงโดนมันหลอกไปอีกนาน ต่อไปมันก็คงมาหลอกเอาทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเขาไป “กูเสียเงินไปเยอะกว่าจะรู้ว่าไอ้ทายาทคนนั้นมันเป็นใคร แล้วก็เหมาะเจาะพอดีที่มันเป็นมึง นังพลอยไพลินมันร้อนเงินจนต้องยอมขายมึง เป็นไงล่ะซึ้งใจน้ำตาจะไหลหรือเปล่า”


          “ปล่อยผมไปเดี๋ยวนี้นะ!” เขาร้องตะโกนจนแสบคอ แต่ก็ไม่มีใคร.. ไม่มีใครได้ยินเลยสักนิด น้ำตาไหลรินหยดเป็นสายเขาคิดเอาไว้แล้ว ตอนนี้เขาถึงได้รู้มารดากำชับเอาไว้เพราะไม่อยากให้เขาต้องมาอยู่ในอันตราย นังพลอยไพลิน นังงูพิษ รู้เรื่องทุกอย่างจงใจเกลียดชังเขาเพราะตัวเองไม่ได้สมบัติ ปลูกฝังตอกย้ำเสี้ยมสอนทำให้พี่ชายเกลียดเขา เขาจะได้ไม่มีที่ไปและกลับมาที่แห่งนี้ ผลักให้เขากลับมาช่วงชิงทุกอย่างที่เป็นของตัวเอง แลกเปลี่ยนทั้งหมดด้วยชีวิต และสุดท้ายหากเรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผย เงินและมรดกบางส่วนจะต้องถูกแบ่งสรรให้ทับทิมในฐานะผู้ดูแลเขาแน่


          แต่เขาไม่ยอมหรอก!


          “หึ! ร้องเข้าไป ร้องเข้าไปอีก ต่อให้มึงร้องให้ตายก็ไม่มีใครได้ยินมึงหรอก”


          “พี่ทำแบบนี้ทำไม ผมไม่เคยอยากได้ของๆพี่เลยนะ” เขามองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่เข้าใจ “พี่ก็เป็นทายาทกวินทร์ธาดานนท์ไม่ใช่หรือไงแล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้กับผมด้วย”


          “หึ กูจะบอกให้เอาบุญก่อนที่มึงจะได้ไปปรโลก” มันเชิ่ดคางเขาเงยขึ้น กลิ่นบุหรี่ของอีกฝ่ายมันตีรวนเข้ามาจนเขาหายใจไม่ออก “กูเป็นแค่ลูกติดของแม่.. ไม่มีเชื้อสายกวินทร์ธาดานนท์อย่างที่มึงพูดไง!” เขาบีบแก้มเด็กหนุ่มจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้ออ่อนจนเลือดซิบ

         

          “ฮึก ฮือ ปล่อยผมไปเถอะ”


          “กูจะไม่ยอมให้มึงกลับมาเป็นหอกหนามในชีวิตกูแน่”


          “อย่านะพี่โช!”


          “อย่ากลัวไปเลยใบบุญ ก่อนมึงจะไปสบายกูจะให้แฟนมึงเจ็บปวดเจียนตายซะก่อน”


          “พี่โชจะทำอะไร ไม่นะ!”


          “อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขาตะคอกเสียงดัง “รับรองว่านอกจากจะไม่เจ็บแล้วมึงจะได้ไปอยู่กับพ่อแม่อย่างหมดห่วง”


          “ฮึก ฮือ พี่ธัช ช่วยหนูด้วย” ชวดลฉีกเสื้อนักศึกษาเขาทิ้ง ก่อนจะขบเม้มไปทั่วร่างกาย ใช้ฟันแข็งแรงกัดไปตามผิวขาวจัดจนขึ้นรอยช้ำ เขาดิ้นไปมาไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้ทำโดยง่าย รู้สึกคลื่นเหียนอยากจะอ้วกเมื่อมีใครคนอื่นแตะต้องร่างกาย


          “กูบอกให้อยู่เฉยๆ”


          ผลัวะ
       

          “โอ๊ย!” ชายหนุ่มเงื้อมมือตบจนเขาหน้าชาไปทั้งแถบ รู้สึกแสบที่มุมปากขึ้น ชวดลมองภาพตรงหน้าด้วยความพอใจก่อนจะแสยะยิ้ม หยิบโทรศัพท์ไอโฟนเขาขึ้นมาเปิด และกดถ่ายรูป


          “กูอยากเห็นไอ้ธัชมากราบแทบเท้าขอร้องจริงๆ”


          “พี่โชอย่าทำอะไรพี่ธัชเลย” เขาละล่ำละลัก อีกฝ่ายคงไม่ทำอะไรเขาง่ายๆ แต่ถ้าธัชธรรม์รู้มันอาจจะมีข้อต่อรองมากขึ้น และเขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น


          “กูไม่ต้องทำอะไรมากมันก็เหมือนตายทั้งเป็น ลองให้เห็นคนที่มันรักตายไปต่อหน้า มันยังจะซ่าได้อีกไหม” ชวดลกดส่งรูปภาพทั้งหมดก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอีกทาง ธัชธรรม์มันร้ายกว่าที่เขาคิดนอกจากจะปฏิเสธข้อเสนอเขาอย่างไยดี มันยังจงใจแคนเซิลงานในเครือที่บริษัทเขาเป็นเจ้าของ คิดจะหนีเขาให้พ้นมันก็คงยากสักหน่อย เพราะเขาจะเป็นคนลากมันมาที่นี่เอง!


          เขาบีบแก้มของเด็กหนุ่มอย่างแรงจนได้กลิ่นเลือดไหลคละคลุ้ง เด็กหนุ่มรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาอีกรอบ เลือดสีแดงเข้มหยดแหมะตามร่างกายเขาถึงได้รู้ว่าเลือดกำเดาไหลออกมา แรงกระชากทำให้เขาต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด เสียงมัจจุราชในคราบชายหนุ่มกเสียงเข้ม “มานี่.. แค่นี้กูไม่จบง่ายๆหรอกนะ”


          “ปล่อยผมนะ!”




         
          TBC.

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 18 ] 27-03-62 ★ P.3
«ตอบ #67 เมื่อ27-03-2019 21:03:38 »


                                Rhyme 19

   Biboon_ sent a photo

   เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นอยู่หลายครั้ง ชายหนุ่มกำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีไม่ได้สนใจอะไรนอกจากแฟนคลับที่กำลังมารอเขาร้องเพลง ส่งเสียงเชียร์และขอให้เขาร้องเพลงอื่นๆด้วย เขาร้องเพลงที่ตัวเองแต่งขึ้นเอง เพลงที่ทำทุกอย่างทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง เป็นเพลงที่เขียนถึงใครคนหนึ่งที่เขารักหมดหัวใจ..

   การแสดงจบลงในเวลาเกือบเที่ยงคืน ลูกน้องและเพื่อนพ่อเข้ามาชวนคุยและชนแก้วไม่หยุด ชายหนุ่มจึงต้องต้อนรับแขกแทนนิรัชที่กำลังวุ่นวายอยู่ภายในร้าน เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างไม่ใส่ใจจนกระทั่งเห็นว่าเป็นใครที่ส่งข้อความมา เขาอยากจะคุยกับใบบุญเหลือเกิน เขาอยากจะบอกว่าเขาจะไม่ยอมให้ใบบุญต้องอยู่คนเดียว ไม่ยอมแยกจากกันอีกแล้ว ถ้าหากเขาพานิรัชไปเชื่อว่ามารดาจะต้องยอมใจอ่อนแน่    

   ภาพที่เขาเห็นตรงหน้ามันทำให้เขาลืมหายใจไปชั่วขณะ ฝ่ามือหลั่งเหงื่อเย็นเยียบและออกแรงบีบโทรศัพท์อย่างไม่รู้ตัว ภาพเด็กหนุ่มที่กำลังเปลือยท่อนบนถูกมัดมือมัดเท้าไว้แน่น ใบหน้าขาวซีดเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา แก้มกลมนุ่มที่เขาชอบหยอกเอินด้วยการกดจูบกลับบวมช้ำ ริมฝีปากคู่สวยที่ชอบเรียกเขาเสียงเจื้อยแจ้วมีคราบเลือดติดอยู่ที่มุมปาก ร่างกายผอมบางมีร่องรอยที่เขาเห็นแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วินาทีนั้นมือเขาสั่นไปหมด หัวใจเต้นระรัวจนมันแทบจะหลุดออกมาจากอก

   “ใบบุญ..” นิรัชเห็นลูกชายยืนนิ่งค้างอยู่นานจึงเดินเข้าไปหา เขามองก่อนจะส่งเสียงเรียก มันอ่อนแรงจนแทบไม่ได้ยิน “พ่อ..”

   “นี่มันอะไรกัน?” นิรัชตกใจไม่แพ้ลูกชาย เขาถามธัชธรรม์   

   “ผม ผมก็ไม่รู้” ธัชธรรม์ลนไปหมด รีบกดสายโทรกลับเข้าไปที่เบอร์ของเด็กหนุ่มแต่ก็ไม่มีใครรับสาย รีบกดเบอร์หาหิรัญแต่ก็ไม่มีใครรับสายอีก วันนี้เป็นวันโปรโมทเพลงใหม่คงจะยุ่งหรือคงจะติดธุระอยู่

   ไม่ไหว.. เขารู้สึกจุกอก หายใจแทบไม่ออก น้ำตาที่คิดว่าไม่มีทางไหลออกมามันคลอหน่วยจนมองได้พร่ามัวเหลือเกิน นิรัชตบบ่าลูกชาย เขารีบต่อสายหาเพื่อนที่เป็นตำรวจอยู่กรุงเทพฯ ชายหนุ่มกระวนกระวายเขาไม่อยากทำอะไรแล้ว เขาจะไปใบบุญ!
   
   “ผมจะไปกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้”

   “ใจเย็นก่อนธัช”

   “พ่อ! ผมไม่รอแล้ว”

   “ตั้งสติก่อน!” นิรัชกระชากลูกชายให้หันมาฟังเขา “ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มึงไปตอนนี้จะรู้หรือว่าน้องอยู่ไหน”

   “ผม.. ผมไม่รู้” เขาหมดเรี่ยวแรง ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น “ผมจะทำยังไงดี..พ่อ”

   “ธัช.. ใจเย็นก่อน” รีบคุยกับลูกชายให้ตั้งสติ เวลาคนเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าเป็นใครก็สติแตกกันทั้งนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นโชว์หน้าจอเป็นเบอร์ของหิรัญ เขารีบกดรับ อย่างน้องเพื่อนที่อยู่ทางนั้นน่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง

   “ฮัน มึงอยู่ที่ไหน กูมีเรื่องให้ช่วยที ด่วน!”

   “ใจเย็นๆ มึงเป็นอะไรเนี่ย โวยวายใส่กูทำไม” หิรัญเพิ่งออกมาจากสตูดิโอที่ไปถ่ายรายการ ส่วนข้างๆก็มีกรวีร์ที่ตามไปด้วย

   “มึงช่วยแฟนกูที”

   “อะไรนะ” หิรัญทำเสียงตกใจก่อนทีอีกฝ่ายจะเล่าให้เขาฟัง รูปถูกส่งต่อมาให้เขานั่นทำให้กรวีร์ที่อยู่ใกล้ๆกันรับรู้เรื่องราวทั้งหมด ใบหน้าหวานงอง้ำและเดือดดาล เขาแยกกับใบบุญไปเมื่อช่วงเย็นนี่เองแล้วจะเป็นไปได้ยังไง?

   หิรัญวางสายจากเพื่อนสนิท เขารับปากว่าจะติตตามให้ก่อนที่ชายหนุ่จะเดินทางขึ้นกรุงเทพฯมาพรุ่งนี้เช้า กรวีร์กำหมัดแน่นนึกเสียใจที่ตนเองไม่ดูแลเพื่อนให้ดี ถ้ามันเป็นอะไรไปเขาคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต.. ทำไมต้องเป็นเพื่อนเขาด้วย

   “ไม่เอาไม่ร้อง ใบบุญจะไม่เป็นอะไร”

   “ผมปล่อยมันไว้คนเดียวอีกแล้ว”

   “ไม่ใช่ความผิดของกรหรอกนะ ไม่เอาอย่าร้องสิครับ”

   “กรจะไม่ยอมให้เพื่อนเป็นอะไรแน่” เขาปาดน้ำตาที่รื้นอยู่ขอบตา ก่อนจะกระชากแฟนขึ้นรถยนต์ หิรัญถูกยัดเข้าไปในรถแทนที่จะเป็นฝ่ายขับเองเหมือนทุกที เขามองคนรักด้วยความงุนงง รถยนต์ถูกเหยียบด้วยความเร็วก่อนจะมาจอดที่หน้าคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง หิรัญยิ่งงงหนักเข้าไปอีกเมื่อเห็นคนรักสะกิดให้เขาออกไปด้วยกัน

   “จะไปไหนครับเนี่ย” เวลานี้เราควรจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจสิ?

   “ตามกรมาก็แล้วกัน” ชายหนุ่มขึ้นไปลิฟต์ชั้นสูง กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางเดิน ก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง เด็กหนุ่มรัวมือทั้งทุบทั้งตะโกน แหกปากจนห้องข้างๆต้องโผล่หน้าออกมาดู หิรัญตกใจรีบจับคนรักเอาไว้

   “ทำอะไรเนี่ย?”

   “พี่วัตร! พี่วัตรอยู่ไหม พี่วัตรออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” เขาตะโกนโหวกแหวกโวยวายจนประตูห้องเปิดจริงๆ หิรัญมองชายหนุ่มร่างสูงผิวขาวจัดที่กำลังไม่สบอารมณ์ ริมฝีปากกำลังคาบบุหรี่ควันพวยพุ่ง เจ้าตัวอยู่ในชุดผ้าขนหนูหม่นเหม่ปกปิดสะโพกสอบ กล้ามเนื้อสวยงามตามฉบับผู้ชายที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

   “พี่บอกแล้วใช่ไหมถ้าจะมาให้ไลน์มาบอกก่อน”

   “พี่ไม่อ่านไลน์กรมาสองอาทิตย์แล้ว สองอาทิตย์!”

   “ทำงานยุ่งนี่หว่า ไม่ได้ว่างเป็นตำรวจที่กินเงินเดือนไปวันๆนะ” ชัยวัตรมองญาติที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องตรงหน้า มันห่างกับเขาตั้งสิบกว่าปี ถ้าไม่ติดว่าคุณน้าชอบพากรวีร์มาเล่นกับเขาที่บ้านบ่อยๆ เจ้าตัวคงไม่สนิทกับเขาขนาดนี้

   “ทำงานยุ่งหรือติดแฟนเด็ก” กรวีร์ทำตาถลึงให้ชายหนุ่มที่เดินตามออกมา อยู่ในชุดผ้าขนหนูแบบนี้คงไม่ต้องบอกว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ชัยวัตรมีแฟนเด็กกว่าที่คบกันได้หลายปีแล้ว แถมยังพาไปเที่ยวที่บ้านแล้วด้วย ดูเข้ากับคนที่บ้านเขาได้ดีมีแต่เขานี่แหละอดจะหมั่นไส้ไม่ได้!

   “กร” ชัยวัตรมองน้องชายที่กำลังงอแง เขาเหลือบไปมองชายหนุ่มอีกคนที่เดินตามหลังมา ไล่ดูตั้งแต่หัวจรดเท้าของอีกฝ่าย “พาแฟนมาด้วยหรือ”

   “อือ” กรวีร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขาจูงมือหิรัญเข้าไปในห้องรับแขกก่อนจะนั่งลง รอให้พี่ชายแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วค่อยคุยกัน ชัยวัตรเดินไปโอบคนรักที่กำลังเตรียมทำของว่างให้แขก

   “ไม่ต้องยุ่งยากน่าวี” ปฐวีหันไปมองคนรักแล้วก็ต้องส่ายหัว เขาไม่อยากให้กรวีร์มองเขาเป็นคนที่มาแย่งความรักจากชัยวัตรไป ถึงคนรักจะอธิบายเอาไว้แล้วว่าเป็นอาการปกติของน้องที่หวงพี่ชายแต่เขาก็อดจะคิดมากไม่ได้

   “แต่ผม..”

   “พี่จะไปคุยกับกรให้รู้เรื่อง มาดึกดื่นป่านนี้ต้องมีธุระด่วนบ้างแหละ เราก็ไปนอนได้แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ทำงานสายนะครับ” กระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาก่อนจะจับจูงคนรักเข้าประตูห้องนอน เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายตัว ก่อนจะมาประจัญหน้ากับกรวีร์
   
   “มีอะไรไหนบอกมาสิ” กรวีร์ยื่นรูปให้ดู เขาจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้แม่น เพราะสมัยเรียนโรงเรียนมัธยมปลายเขาเคยเห็นกรวีร์พาเด็กคนนี้มาเที่ยวเล่นที่บ้านบ่อย เขาเงยหน้ามองน้องชายที่กำลังอยู่ในอาการเครียด “ตั้งแต่เมื่อไหร่.. เราเจอเพื่อนครั้งล่าสุดที่ไหน” เขาไล่เรียงเหตุการณ์กับกรวีร์ ก่อนจะให้โทรไปหามารดาของใบบุญ เขาลุกขึ้นยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ เดินเข้าไปจุมพิตคนรักที่ผล็อยไปบนเตียง

   “เดี๋ยวพี่มานะครับวี” ปฐวีไม่ได้ลืมตามองมองเขาเหมือนทุกทีกลับซุกตัวเข้ากับผ้าห่ม เขาออกจากห้องพยักเพยิดให้อีกสองคนตามเขามา ชัยวัตรขอข้อมูลของคนที่น่าจะอยู่ใกล้ตัวของใบบุญมากที่สุดเพื่อหาพยานหลักฐาน และเหตุจูงใจที่ทำให้คนร้ายลงมือ

   “นอกจากพวกเราแล้วใบบุญก็ไม่ได้สนิทกับใครเลยนะ” กรวีร์พยายามนึก เขารู้ว่าเด็กหนุ่มไม่ได้สุงสิงกับใครเป็นพิเศษนอกจาก.. “มีอยู่คนหนึ่งที่ใบบุญชอบไปไหนมาไหนด้วย”

   “ใคร” หิรัญถามคนรัก

   “พี่โช..” เขาบอก ก่อนจะอธิบายเรื่องราวทุกอย่าง “จริงๆแล้วใบบุญเคยถามเรื่องพี่โชเหมือนกันว่าเป็นใครมาจากไหน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สนิทสนมกัน พี่โชชอบใบบุญก็จริงแต่ก็ไม่ได้รุกจีบมากเพราะรู้ว่าใบบุญมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”

   “หรือว่าเพราะใบบุญไม่รับรักก็เลย..”

   “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลมาก พี่วัตรจะทำอะไรต้องระวังหน่อยนะครับ”

   “เรายังปักใจเชื่อไม่ได้ว่าเขาคือคนร้าย มีแค่ข้อมูลเท่านี้จะไปออกหมายจับคงไม่ได้” กรวีร์หน้าซีดไปถนัดตา เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว “แต่เราน่าจะหาที่อยู่ของเขาเจอได้” หิรัญเงยหน้าสบตากับผู้กำกับหนุ่ม

   “ผมจะให้นักสืบจัดการหาที่อยู่ของเขาให้เร็วที่สุด”

   “แล้วเราจะไปหาทุกที่เลยหรือครับ”

   “มันต้องมีสักที่แหละกร ตอนนี้ขอภาวนาอย่าเพิ่งให้ใบบุญเป็นอะไร” ชัยวัตรบอกเสียงเครียด ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอคดีทำร้ายร่างกายแบบนี้ หวังว่าฝ่ายนั้นจะไม่เล่นถึงชีวิต..

   “พี่วัตรต้องช่วยเพื่อนผมนะ” ชัยวัตรหน้าเครียด เขาประสานงานกับตำรวจในพื้นที่ แจ้งทะเบียนรถยนต์ของชายหนุ่มต้องสงสัย ส่วนหิรัญรีบจัดการหาที่อยู่ของชวดลให้เร็วที่สุด

   โน๊ตบุ๊คถูกเปิดขึ้นพร้อมกับเสียงรัวคีย์บอร์ด หิรัญใช้นักสืบประจำตระกูลที่มีความเชี่ยวชาญดีในการค้นหาข้อมูล เขาต้องการได้ที่อยู่ของชวดลทุกที่! ภาพคอนโดและเพนเฮ้าส์สุดหรูถูกส่งผ่านอีเมลล์มาทันที ชายหนุ่มเลื่อนดูแล้วมีประมาณเกือบแปดแห่งที่เจ้าตัววนเวียนไปใช้อยู่เสมอ ยังไม่รวมอาคารพาณิชย์ของเจ้าตัวที่มีเกือบสิบแห่ง เขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น..
   
   “ปกติไปที่ไหนกัน”

   “ไปกินข้าว แล้วก็กินขนมครับพี่วัตร” กรวีร์ตอบเสียงเครียด “ไม่ได้ไปไหนไกลเลย”

   “งั้นลองดูคอนโดที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยก็แล้วกัน”
   
   “สี่ที่ แม่งเอ๊ย จะรวยไปไหนวะ!” หิรัญสบถ เขารู้ว่าชวดลร่ำรวยจากธุรกิจครอบครัว แต่ไม่คิดว่ามันจะมีทรัพย์สินในครอบครองมากมายขนาดนี้ “คงต้องไปหาที่แรกก่อน”

   ชัยวัตรประสานกับตำรวจในพื้นที่โดยใช้ตำรวจนอกเครื่องแบบตามหา เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ทำอะไรใบบุญเสียก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่ขอให้เราเจอตัวเขาโดยเร็วที่สุด

   ธัชธรรม์กับนิรัชนั่งเครื่องมาถึงกรุงเทพฯตั้งแต่เช้า เขารีบไปหาหิรัญทันทีโดยปล่อยให้นิรัชกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อน เขาโทรศัพท์คุยกับมารดาและถามถึงใบบุญ จนได้ความว่ามารดาเข้าใจว่าน้องมาหาเขา เพราะเธอเองก็ติดต่อกับลูกชายคนเล็กไม่ได้เหมือนกัน เขาตัดสินใจบอกแม่กับความจริงทั้งหมด

   “ผมจะไม่อยู่ห่างจากน้องอีกแล้ว” เขาบอกมารดาที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ถ้าพ่อไปอยู่ด้วยคงจะไม่เป็นไร เขามาถึงก็เจอกรวีร์อยู่หน้าคอม เพราะหิรัญขอติดตามชัยวัตรไปตามหาด้วยตอนนี้เขาเลยต้องอยู่คนเดียว “ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน พี่จะไปด้วย”

   “อยู่ที่คอนโด..” กรวีร์บอกพิกัดล่าสุด ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนผ้าแล้วขับรถตามไปทันที กรวีร์ขอตามไปด้วย แต่พอลุกขึ้นยืนเขาก็เวียนหัวขึ้นมา เมื่อคืนไม่มีใครได้นอนสักคน ดูเหมือนร่างกายจะแบกรับภาระหนักมากไปแล้ว

   “กรอยู่นี่เถอะ”

   “แต่ว่าผมก็เป็นห่วงใบบุญเหมือนกัน”

   “ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่า ไม่อยากเห็นมึงเป็นอะไรไปอีกคน เดี๋ยวไอ้ฮันจะบ้าตายเอา”

   “ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนผมอ่อนแอด้วย!” กรวีร์บ่นอุบ แต่ก็ยอมพักผ่อนแต่โดยดีก่อนที่ร่างกายจะรับไม่ไหวแล้วเป็นอะไรไปเสียก่อน “พี่ธัชต้องพาใบบุญกลับมาให้ได้นะ”

   “อืม กูรู้แล้ว” ธัชธรรม์พยักหน้า เขาไปตามแผนที่ที่กรวีร์บอก จนกระทั่งเห็นหิรัญกำลังยืนคุยกับยามที่ไม่ยอมให้เข้าไปข้างใน เขาเดินสับขาไปหาอย่างรวดเร็ว หิรัญหันมามองเขาก่อนจะตบบ่า หน้าตาแต่ละคนตอนนี้แทบดูไม่ได้ ทั้งโทรทั้งดำคล้ำไปหมด
   
   “เจอไหม”

   “มีที่นี่แหละ ที่ยังเข้าไปไม่ได้” หิรัญมองตามไปก็เห็นชัยวัตรกำลังเดินเข้ามาพร้อมตำรวจนอกเครื่องแบบอีกสองคน “ดูแล้ว มั่นใจว่าจะเป็นที่นี่” ธัชธรรม์กัดฟันกรอด เขาไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากเฝ้ารอให้อีกฝ่ายออกมาหรือยังไง คนรักเขาทั้งคนยังหาตัวไม่เจอจะให้เขานิ่งนอนใจได้ยังไง เขาไม่ยอมอยู่เฉยแน่

   “ธัช นี่พี่วัตร.. พี่ชายของมังกร พี่เขาเป็นคนช่วยทำคดีนี้ให้”

   “ขอบคุณพี่มากเลยนะครับ”

   “อย่าเพิ่งขอบคุณเลย ขอให้ช่วยใบบุญได้ก่อนเถอะ”

   “ผมอยากเข้าไป”

   “เรายังเข้าไปไม่ได้” ชัยวัตรขมวดคิ้ว “แต่มันยังพอมีวิธีอยู่บ้าง”

   “แต่เรารอให้เวลาผ่านไปมากกว่านี้ไมได้แล้วนะครับ” ธัชธรรม์ร้อนรน เขาไม่อยากรออีกแล้ว ผ่านไปหนึ่งคืนมันก็มากพอแล้ว..
   
   “ถ้าเข้าแบบธรรมดาไม่ได้ ก็บุกแม่งเข้าไปเลย” ผู้กำกับหนุ่มตอบ ก่อนจะไหวไหล่ ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจลงมือ
   
   เด็กหนุ่มสัปหงกก่อนที่ศีรษะจะโขกกับผนังห้องน้ำ เขาลืมตาตื่นขึ้นมองลำตัวของตัวเองตั้งแต่หน้าอกลงไปถูกแช่อยู่ในน้ำเย็นไม่รู้กี่ชั่วโมงแล้ว แผลบริเวณรอบข้อมือและข้อเท้าที่ถูกเชือกมัดโดนน้ำจนแสบไปหมด เขาหนาวเหลือเกิน.. ทรมาน.. ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกตามด้วยร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้ แรงขยุ้มจากหนังศีรษะทำให้เขาเงยหน้าขึ้นไปแต่ลืมเปลือกตาไม่ขึ้น

   “ตายยากดีจริงๆ” ชวดลมองเด็กหนุ่มที่กำลังอ่อนแรง ถูกมัดอยู่ในอ่างน้ำ เขาปล่อยให้น้ำออกจนหมดแล้วผลักให้เด็กหนุ่มนอนราบลงในอ่างก่อนจะเปิดน้ำก๊อกให้ค่อยๆไหลเชื่องช้า เขาไม่อยากใช้ของมีคมให้มันเลอะเทอะ หลังจากนี้ถ้ามันตายจริงๆก็คงเอาไปโยนทิ้งในแม่น้ำเป็นอันเรียบร้อย แล้วใบบุญก็จะหายไปตลอดกาล หมดเสี้ยนหนามที่รบกวนหัวใจเขามาตลอด

   “เสียดายที่อัดคลิปไม่ได้ อยากส่งไปให้ไอ้ธัชมันดูจริงๆ”

   “ปล่อยผมเถอะนะ”

   “อยากพูดอะไรก่อนตายไหม”

   “ผม.. หนาว” เขาพึมพำไม่ได้ศัพท์ ลมปะทะกับร่างกายที่เปียกจนสั่นระริกไปหมด “อยากเจอพี่ธัช”

   “คงต้องรอเจอกันในนรกนะ” เสียงน้ำไหลรินจากก็อกไม่หยุด ค่อยๆท่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ชวดลจิบน้ำผลไม้ในมือก่อนเทลงในอ่างน้ำ “ช่วยเร่งเวลาให้มันเร็วอีกนิดนึงก็แล้วกัน” เขาพูดเสร็จก็หมุนตัวออกไปจากห้องก่อนจะล็อคประตู เสียงเคาะประตูห้องทำให้ชวดลส่องทางตาแมวประตู เห็นคุณป้าที่เข้ามาทำความสะอาดในห้องบ่อยๆเขาก็ตะโกนออกไป

   “วันนี้ไม่ต้องเข้ามา” อีกฝ่ายหายไปจากหน้าประตูแล้ว เขาเดินเข้าไปเปิดโทรทัศน์ให้เสียงดังจนกระทั่งประตูห้องถูกยิงลูกบิดพัง ชวดลตกใจถอยหนีเขาวิ่งไปคว้าปืนจากตู้มาถือเอาไว้ ชัยวัตรเปิดประตูเข้าไปยกปืนขึ้นจ่อ เห็นอีกฝ่ายกำปืนไว้แน่นก็คงไม่ต้องถามให้มากความ เขาพยักเพยิดให้ลูกน้องเข้าไปค้นในห้องอื่นๆ ธัชธรรม์จ้องชวดลด้วยสายตาแข็งกร้าว เขาวิ่งไปทุกห้องแต่ก็ไม่เจอ

   หรือว่าไม่ได้อยู่ที่นี่?

   “คุณตำรวจ? บุกรุกห้องคนอื่นแบบนี้ผิดกฏหมายนะครับ”

   “วางปืนลง”

   “ทำไมผมจะต้องวางด้วย!” เขาขบฟันแน่น ไม่รู้ทำไมมันถึงหาเขาได้เจอง่ายนัก “คุณนั่นแหละควรจะออกไปจากห้องผมได้แล้ว อย่าให้ผมต้องป้องกันตัวนะ” ชัยวัตรไม่อยากใช้ความรุนแรงกับอีกฝ่าย เขาไม่อยากต้องมานั่งแก้ปัญหาทีหลัง แต่ท่าทางวางกล้ามและอวดเก่งมันน่าจะจับมาสั่งสอนสักที!

   “ห้องนี้เปิดไมได้” หิรัญเขย่าลูกบิดยังไงก็เปิดไม่ออก

   “มึงถอยไป” ธัชธรรม์กระแทกตัวเข้าไปอย่างแรงก็ไม่มีทีท่าว่าจะพัง เขาคว้าปืนจากมือตำรวจ ปลดรังเพลิงก่อนจะยิงเข้าไปที่ลูกบิดจนมันพังออก เขาเปิดเข้าไปเจอสภาพของเด็กหนุ่มที่กำลังจมอยู่ใต้น้ำ ใช้มือหนาดึงรั้งร่างผอมบางอุ้มขึ้นมาวางที่พื้นก่อนจะปั๊มหัวใจ หัวใจเขาแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆเมื่อเห็นคนรักสลบไสล

   “ใบบุญ.. ใบบุญได้ยินพี่ไหม” เขาตีแก้มคนตัวเล็กเบาๆอีกฝ่ายสำลักน้ำออกมาอึกใหญ่ค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง

   “แค่กๆ พี่ธัช..”

   “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่ต้อง” ในที่สุดเขาก็ได้หัวใจเขาคืนกลับมา

   “หนูหนาวจังเลย”

   “พี่อยู่นี่แล้ว”

   “หนู.. ขอโทษ”

   “ขอโทษอะไรอีก ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น แค่ใบบุญกลับมาหาพี่มันก็พอแล้ว พอแล้ว..” เขากอดคนตัวเล็กเข้าไว้แนบอก ใบบุญตัวเย็นชื้นต้องได้รับความอบอุ่น เขาห่อตัวด้วยผ้าขนหนูผืนหนาก่อนจะอุ้มคนรักออกไปข้างนอก เขามองหน้าชวดลด้วยความรู้สึกโกรธแค้นอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือ

   “พี่ธัช..” เด็กหนุ่มอ่อนเพลียเหลือเกิน เขาลืมตาแทบไม่ขึ้นอยู่แล้ว แต่ก็พยายามออกแรงรั้งเสื้อของชายหนุ่มเอาไว้ เขาไม่อยากให้ธัชธรรม์ผูกใจเจ็บอาฆาตแค้นอีกฝ่าย “กลับบ้านเรานะ”

   “อื้อ กลับบ้าน” เขาพูดได้แค่นั้นก็กดจูบลงหน้าผากขาวนวลของคนที่เพิ่งหลับไป “พี่จะไม่ยอมให้เราอยู่ห่างจากพี่อีกแล้ว.. พี่สัญญา”

   ชัยวัตรจัดการรวบตัวชวดลไปโรงพักและแจ้งข้อหาหลายกระทงด้วยกัน อีกฝ่ายไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาและเตรียมทนายเอาไว้สู้คดีเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะจัดการคนผิดเอามาลงโทษให้หนัก เขาได้แต่หวังว่าเรื่อง



50%

ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 18 ] 27-03-62 ★ P.3
«ตอบ #68 เมื่อ27-03-2019 21:10:49 »


          มันจะจบแค่นั้น แต่ไม่.. ธัชธรรม์ปรึกษากับนิรัชและได้ทนายฝีมือดีในการสู้คดี และต้องการจะรื้อคดีฆ่ายกครัวเมื่อยี่สิบปีก่อนขึ้นมาอีกครั้ง และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิด เขาเชื่อว่าผู้บงการที่แท้จริงก็เป็นคนใกล้ตัวนั่นเอง

          ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าชวดลไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันและเป็นเพียงลูกติดของอนันต์พี่ชายแท้ๆของเอกภพซึ่งเป็นคุณพ่อทางสายเลือดของใบบุญ เพียงเพราะว่าอยากให้อนันต์ได้เป็นผู้สืบทอด ภรรยาของอนันต์จึงจัดการครอบครัวของเอกภพให้สิ้นซาก แต่โชคไม่ได้เข้าข้างคนผิดเสมอไป ทับทิมซึ่งเป็นอดีตคนรักของเอกภพรู้ถึงปัญหาตรงนี้มานานและขอรับใบบุญมาเป็นลูกบุญธรรมเพื่อให้ฝ่ายนั้นเข้าใจว่าใบบุญตายไปแล้วทั้งครอบครัวและเลิกราไปในที่สุด

          ใบบุญถูกเลี้ยงขึ้นมาด้วยความรักความเอาใจใส่ไม่ต่างจากลูกแท้ๆอย่างธัชธรรม์ ทั้งๆที่เป็นเช่นนั้นแต่เมื่อทับทิมรู้ความจริงของลูกชายทั้งสองก็อดที่จะเสียใจไม่ได้

          “ลูกจะต้องไม่เป็นอะไร” นิรัชกอดปลอบอดีตภรรยาที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องไอซียู ใบบุญปอดติดเชื้อและต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด “คุณต้องเชื่อมั่นว่าลูกจะหายดี”

          “ชั้นสงสารลูกเหลือเกิน”

          “ผมก็สงสารลูกไม่แพ้กัน”

          “ชั้นจะทำยังไงดี” หญิงสาวปาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตา นึกในใจว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้มานั่งคุยกับนิรัชแบบนี้

          “เรื่องของลูกทั้งสองคน” ตั้งแต่เลิกรากันไปเพราะเหตุผลของความไม่เข้าใจ ทับทิมก็ไม่คิดจะติดต่อไปหาอีกฝ่ายเลย ยอมเลี้ยงลูกเพียงลำพังโดยไม่เคยสนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร เพราะทิฐิแรงกล้าทำให้เธอและอดีตสามีเมินเฉยกันมาตลอด ถ้าหากได้คุยได้ปรับความเข้าใจกันตั้งแต่แรก เธอก็เชื่อว่าครอบครัวจะมีความสุขมากกว่านี้

          กว่าจะคิดได้ก็ช้าเกินไป...

          “ผมรักลูก” นิรัชเอ่ย เขาแอบเขินอยู่เหมือนกันที่ต้องมาพูดอะไรอย่างนี้ “ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรผมก็รัก ต่อให้คนทั้งโลกจะเกลียดเขา ผมก็ยังรัก”

          “ที่ผ่านมาชั้นไม่เคยถามความรู้สึกลูกเลยสักครั้ง” เธอบอกเสียงแผ่ว “ชั้นทำตามใจตัวเองตลอดและคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีแล้วสำหรับลูก แต่ชั้นก็คิดผิดมาตลอด..”

          “แต่ตอนนี้คุณคิดได้แล้ว อะไรที่ผ่านก็ลืมมันไปเถอะ คุณไม่อยากเห็นลูกมีความสุขหรือไง” เขาบอกหญิงสาวตรงหน้า กาลเวลาไม่ได้ทำให้ความสวยงามของเธอลดน้อยลง ผู้หญิงทุกคนมีความสวยงามในตัวเองเสมอ ความรักของแม่..
“ยังไงธัชกับใบบุญก็เป็นลูกของเราทั้งคู่”

          “....”

          “ผมอยากให้คุณมีความสุขนะ บางเรื่องปล่อยวางมันลงแล้วคุณจะค้นพบความสุข” นิรัชพูดก่อนจะจุดยิ้ม เขาส่งผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองอ่อนให้อดีตภรรยา ทับทิมมองผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแล้วต้องปล่อยโฮ เพราะมันเป็นผืนเดียวกับที่เธอเป็นคนปักเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนที่เรายังอ่อนเยาว์และสื่อสารกันด้วยความเข้าใจ มันเป็นความทรงจำที่แสนจะมีค่าที่ถูกทำให้เลือนหายไปเพราะความกรุ่นโกรธในใจทั้งนั้น

          และวันนี้เธอค้นพบความสุขที่ได้ทำหล่นหายไปสักที..

                                                                            +++
         
          “แม่ไม่เห็นมาเยี่ยมหนูเลย.. พ่อด้วย” เด็กหนุ่มนอนแบ็บอยู่บนเตียง มองชายหนุ่มที่กำลังปอกแอปเปิ้ลให้ เขาไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะโกรธหรือเปล่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันใหญ่โตถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเสียด้วย

          “เดี๋ยวหายเมื่อไหร่ก็จะได้กลับบ้านแล้วน่า ได้เจอแน่ไม่ต้องห่วง” ธัชธรรม์ตอบคนรัก พ่อกับแม่ยุ่งเรื่องคดีนิดหน่อยเลยยังหาเวลามาเยี่ยมไม่ได้ ส่วนเขาอาสามาเองทุกวัน จนใบบุญบ่นว่าอยากเจอคนอื่นบ้างแล้ว

          “แม่จะโกรธหรือเปล่า จะยังห้ามเราเหมือนเดิมไหม”

          “ไว้เราไปคุยกับแม่กัน ดีไหม?” เขาตอบยิ้มๆ

          “หนูไม่ให้พี่ธัชไปไหนแล้วนะ”

          “ถึงไล่ก็ไม่ไปไหนเด็ดขาด” เขาก้มลงจูบแก้มขาวที่เริ่มมีเลือดฝาดเหมือนเดิม หลังจากนอนพักอยู่เกือบสามวัน ไข้ที่มีก็ลดลงสามารถกินอาหารได้ปกติ เจ้าตัวบ่นอุบว่าขาดเรียนบ่อยแล้วไม่อยากหยุดมากไปกว่านี้ เดือดร้อนคนรักที่ต้องไปติดต่อทำเรื่องลาเรียนที่คณะให้ ใบบุญถึงจะยอมหยุดพักร่างกาย

          “หนูไม่อยากทะเลาะกับแม่”

          “พี่ก็ไม่อยาก”

          “เห้อ” เจ้าตัวถอนหายใจออกมาเสียงดัง ส่วนเขาก็ส่งแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นเรียบร้อยป้อนเข้าปากคนป่วย “หนูไม่สบายใจเลย”

          “ไม่ต้องเครียด ให้พี่เครียดคนเดียวก็พอ”

          “ก็ต้องเครียดด้วยกันสิ มันเป็นเรื่องของเราสองคนนะ”

          “เครียดมากๆแล้วจะหายไหม ฮึ!” ธัชธรรม์มองสายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระยาง เขาเห็นใบบุญป่วยทีไรเขาก็ยิ่งปวดใจ “ไม่อยากให้เราอยู่โรงพยาบาลนานๆแล้ว”

          “คุณหมอบอกใกล้จะได้กลับแล้ว”

          “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี กลับไปคราวนี้พี่จะย้ายแล้วนะ”

          “ย้ายไปไหน” คนป่วยกระเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง ดวงตากลมโตเบิกกว้างจนเขาอดหัวเราะไม่ได้ “พี่ธัชจะย้ายไปไหนหรือครับ”

          “ย้ายไปอยู่กับใบบุญไง” เขาบอก ก่อนจะลงมือแกะส้มลูกใหม่ “อยู่สองห้องมันเปลืองแอร์ พี่จะเสียสละย้ายไปอยู่ด้วยก็แล้วกัน”

          “โดนแม่บ่นแน่ แม่ไม่ยอมหรอกครับ”

          “แล้วถ้าพี่ขอแม่ได้ล่ะ ใบบุญจะว่ายังไง”

          “ก็.. ไม่ว่าอะไร” ใบบุญทำท่าครุ่นคิด ทุกวันนี้ก้เหมือนอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะขนของมาอยู่กับเขามันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่หรอก

          “จริงๆนะ”

          “อื้อ หนูไม่อยากอยู่ห่างจากพี่ธัชแล้วอะ”

          “ไอ้ดื้อ อย่ามาปากหวานแถวนี้” เขายิ้ม ยื่นมือไปบีบจมูกคนป่วยเบาๆ

          “ทำไม?”

          “มันฟัดไม่ได้!”

          “ทะลึ่ง” เขาตีชายหนุ่มอย่างไม่แรงนัก อีกฝ่ายจับข้อมือเขาเอาไว้แผ่วเบา สอดประสานฝ่ามือเข้าด้วยกัน ธัชธรรม์ มองเห็นรอยแดงที่ข้อมือของคนรัก เขาก็อดจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ตั้งแต่วินาทีนั้นเขาเหมือนถูกควักหัวใจออกไป ทรมานเจียนตายเพราะอีกฝ่ายมากแค่ไหน วันนี้เขาก็ได้รู้สักที..

          “พี่รักใบบุญนะ” เขาบอกรัก และมองสบสายตาหวานของอีกฝ่ายที่ส่งตอบมา มันดีแค่ไหนที่ยังมีกันและกันอยู่อย่างนี้ เวลาที่มันเสียไปแล้วแม้จะเอากลับคืนมาไม่ได้ แต่เขาก็ได้บทเรียนจากมันมามากมายเหลือเกิน

          “….”

          “ไม่ตอบพี่หน่อยหรือครับ”

          “อื้อ หนูก็รักพี่ธัชเหมือนกัน” เขาหลุบตามองไปทางอื่นไม่อาจสู้สายตาร้อนแรงที่ชายหนุ่มส่งมาได้เลย มันมีพลังทำลายล้างเกินกว่าที่จะจ้องตรงๆได้ ธัชธรรม์เอื้อมมือไปแตะแก้มขาวก่อนจะเอียงให้หันมาสบกับเขาตรงๆ

          “หลบตาพี่ทำไมล่ะ”

          “ก็.. มัน” เพราะเขาไม่กล้ามองตรงๆยังไงล่ะ!

          ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาก่อนที่ชายหนุ่มจะได้แอบเต๊าะแฟนมากกว่านี้ กรวีร์ถือกระเช้าอันเบ้อเริ่มที่มีแต่ของกินที่เขาชอบทั้งนั้น ธัชธรรม์รับจากมือแล้วก็หันไปขอบใจ หิรัญก็ถือถุงผลไม้มาเยอะแยะ ไอ้พวกนี้มันคิดจะให้แฟนเขาอยู่โรงพยาบาลอีกเป็นเดือนหรือยังไง

          “มาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย”

          “มะ ไม่ขัดสักหน่อย” คนป่วยยกตัวเอนหลังเป็นกึ่งนั่ง เขายิ้มแย้มต้อนรับเพื่อนและรุ่นพี่ที่แวะมาเยี่ยมทุกวัน ส่วนธัชธรรม์แอบโดดเรียนมาเฝ้าเขาได้สองวันแล้ว ไล่ไปเรียนยังไงก็ไม่ไป ไม่รู้ทำไมถึงดื้ออย่างนี้

          “เฮียล่ะ เห็นบอกว่าจะมา”

          “เดี๋ยวก็ตามมาแล้ว ไปหาของมาเฝ้าไข้อยู่”

          “จะหายอยู่แล้วไม่ต้องเอาอะไรมาฝากหรอก”

          “ใช่ๆ เดี๋ยวก็ได้กลับไปทำงานแล้ว” เขาตอบเสียงใส เรื่องเรียนก็มีกรวีร์กับหิรัญคอยช่วย ยังไงก็ตามกลับไปเรียนทันอยู่แล้ว

          “ขอให้หายไวๆนะมึง กูเหงามากเลยไม่มีมึงไปเรียนด้วย”

          “เออน่า เดี๋ยวก็ได้กลับไปแล้วจะงอแงทำไม”

          “ก็คิดถึงอะ” กรวีร์ยู่ปาก จะโผเข้าก่อนแต่ก็โดนขัดจังหวะอีกตามเคย

          “ไปไกลๆจากแฟนกูเลยไอ้กร” ธัชธรรม์ดันหน้าผากของกรวีร์ให้ออกห่าง เสียงหัวเราะดังลั่นสลับเสียงบ่นยืดยาวของใบบุญ ธัชธรรม์ห้ามไม่ให้เพื่อนโดนตัวเขา นี่มันออกจะเว่อเกินไปหน่อยแล้ว

          “พี่ธัชแม่ง โคตรขี้หวง”

          “พี่ก็หวงจ้ะ” หิรัญเสนอหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะโดนสายตาพิฆาตของกรวีร์เข้าไป เขาหลุดหัวเราะเมื่อเห็นคู่นี้หยอกล้อกันแล้ว อยากจะรู้จริงๆว่าไปรักกันตอนไหน..

          “ถ้าง่วงก็นอนพักนะ”

          “หนูยังอยากคุยเล่นอยู่เลย ไม่เป็นไรหรอกครับ”

          “ครับ” เขาดึงผ้าห่มให้ขึ้นมาปิดแนบอก ลูบกลุ่มผมนิ่มเบาๆ ชายหนุ่มอยากให้คนรักได้พักผ่อนเยอะๆ แต่คนป่วยยังทำตาใสแจ๋วไม่ยอมนอนง่ายๆ

          ใบบุญนอนพักอยู่โรงพยาบาลอีกสองวันถึงจะได้กลับบ้าน ทับทิมและนิรัชเป็นคนไปรับกลับ เด็กหนุ่มกระพุ่มมือไหว้พ่อกับแม่ที่เลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากสายตาที่เต็มตื้นไปด้วยความรัก เขาอยากจะบอกพ่อกับแม่ทั้งสองเขาเหลือเกินว่าเขาก็รักพวกท่านไม่แพ้กัน

          ธัชธรรม์กลับมาจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่ช่วงบ่าย ช่วงนี้เขาไม่รับงานอะไรทั้งนั้นเพราะต้องการอยู่ดูแลใบบุญอย่างเต็มที่ เขาเห็นพ่อกับแม่กำลังง่วนอยู่ในครัว นึกสงสัยว่ามีงานอะไรถึงได้ทำอาหารเยอะแยะขนาดนี้ เดินเอากระเป๋าไปเก็บในห้อง ก็เจอเด็กหนุ่มกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงเขา เปิดดูสมุดภาพตั้งแต่เด็กๆที่เขาจำไม่ได้แล้วว่าเก็บเอาไว้ที่ไหน ทิ้งตัวลงทาบทับจนใบบุญร้องด้วยความตกใจ
         
          “พี่ธัช หนูหนักนะ ออกไปเลย”

          “ทำอะไรให้พี่ทำด้วยคนสิ”

          “ดูรูปเฉยๆครับ”

          “ไหน นี่มันรูปพี่กับใบบุญนี่ครับ” เขามองเห็นเด็กชายตัวกลมหน้าขาวกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน สมัยก่อนเขาฮิตถ่ายรูปกันแบบนี้หรือไง จะชูสองนิ้วก็ไม่มีสักนิด “ตอนเด็กๆน่ารักเนอะ”

          “ใช่ น่ารักมากๆ”

          “พี่หมายถึงใบบุญนะ”

          “หนูก็หมายถึงพี่ธัชไง เท่มากๆ”

          “เท่มากๆก็ต้องรักมากๆนะครับ”

          “มันเกี่ยวกันได้หรือครับ” เด็กหนุ่มถามตาใส ก่อนจะถูกริมฝีปากอุ่นร้อนของชายหนุ่มส่งผ่านความรัก ฉกชิมความหวานหอมที่ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าแค่จูบจะทำให้เขาตัวลอยจนจะแตะก้อนเมฆอยู่แล้ว..

          “จะเกี่ยวกันได้หรือยัง” ชายหนุ่มยิ้มกริ่มส่งมือหนาไปเช็ดคราบที่ริมฝีปาก ใบบุญหน้าแดงก่ำไม่ยอมสบตาเขาสักที เจ้าตัวพยักหน้าก่อนจะฟุบลงกับหมอน ช่างดูน่ารักเหลือในสายตาเขา เราหัวเราะก่อนจะมองตากัน ส่งผ่านความรักผ่านริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่า...

          บรรยากาศในครอบครัววันนี้ดูสดชื่นกว่าทุกวัน เป็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกครั้ง ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและมีแต่เสียงหัวเราะให้กัน คุณพ่อเล่นกีต้าร์ส่วนธัชธรรม์เป็นคนร้องเพลง เขาและคุณแม่นั่งปรบมือให้จังหวะก่อนจะร้องเพลงตาม บ้านที่เคยเงียบเหงากลับมีเสียงหัวเราะให้กันอีกครั้ง..

          บ้านที่เรียกว่าบ้าน..

          “วันนี้ทุกคนดูมีความสุขจังเลยนะครับ” ใบบุญยิ้มแผล่ ก่อนจะใช้ช้อนส้อมจิ้มไส้กรอกแล้วงับเข้าปาก ชายหนุ่มมองคนรักที่เคี้ยวตุ้ย ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารักไม่เบื่อเลย

          “เมี๊ยวววววววววววว”

          “ตัวเล็ก หิวเหมือนกันใช่ไหม” เขาก้มลงมองลูกแมวที่ตัวโตกว่าเดิมนิดหน่อย เจ้าตัวแสบเอาหัวมาถูกไถกับขา อ้อนได้ถูกคนจริงๆ “สงสัยอาหารเม็ดจะหมด”

          “ไม่ต้องเดี๋ยวพี่ทำเอง” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คว้าไอ้ตัวเล็กแล้วเดินออกไปอีกทาง ทั้งๆที่ปกติก็ไม่ค่อยถูกกัน แต่วันนี้ธัชธรรม์ก็เล่นกับแมวจนเขาเห็นแล้วเหนื่อยแทน เขามองแผ่นกว้างก่อนจะหันมาตักอาหารต่อ สายตาของพ่อกับแม่ที่มองเขายิ้มๆแบบนี้มันหมายความยังไงกัน

          “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

          “หนูคิดยังไงกับเรื่องพี่ธัช”

          “หนู.. รักพี่ธัช” เขาหลุบมองจานข้าว “แบบคนรัก” ช้อนตาขึ้นมองพ่อกับแม่ที่ยังมองอยู่เขาก็อดเขินไม่ได้ ต่อให้ทั้งสองจะพูดอย่างไรเขาก็ยืนยันคำตอบเดิม

          เขาจะไม่ยอมเลิก..

          “แม่กับพ่อคุยกันแล้ว.. ถ้าลูกรักกันแม่ก็คงไม่ห้าม” ทับทิมบอก ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ ใบบุญนิ่งอึ้งเขามองทั้งพ่อและแม่สลับไปมาก่อนจะยกมือขอบคุณ ขอบคุณจริงๆครับ..

          “แต่ถ้าพี่ธัชเขาดื้อ ก็จัดการได้เลยอันนี้พ่ออนุญาต” นิรัชพูดติดตลก “นิสัยแบบนี้ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน อย่าไปยอมนะลูก”

          “สอนอะไรกันครับเนี่ย” ชายหนุ่มรีบเข้ามานั่งที่โต๊ะทันที เขามองพ่อกับแม่ด้วยสายตาแปลกๆ “คุยอะไรกันอยู่หรือครับ”

          “คุยว่าจะยกใบบุญให้แกดีไหม”

          “พ่อ! เอาจริงดิ” ธัชธรรม์เบิกตาโพลง เขาหันไปกุมมือคนรักก่อนจะยกขึ้นมาจุมพิต ท่ามกลางสายตาของคนอื่น “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ”

          “พี่ธัช ปล่อยก่อน!” เขาตีมือชายหนุ่มที่หัวเราะดีใจ เขาก็อายเป็นเหมือนกันนะ!

          “ถ้าธัชดูแลน้องได้ แม่ก็ไม่ขัด” ทับทิมมองลูกชายสองคนที่เลี้ยงมากับมือ “ทำให้พ่อกับแม่เห็นว่าเราจะดูแลน้องได้ อย่างที่พ่อเอกและแม่ปรางฝากใบบุญเอาไว้กับเรา”

          “ผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุด ผมสัญญา”

          “พี่เขาพูดแบบนั้นแล้ว ใบบุญล่ะจะว่ายังไง?”

          “หนูจะคอยกำราบพี่ธัชให้ได้ หนูสัญญา”

          “อ้าว ทำไมพูดงี้ละครับที่รัก”

          “ก็พี่ธัชชอบดื้ออะ”

          “สงสัยไม่ต้องเป็นห่วงแล้วล่ะคุณ ไอ้ธัชมันขัดน้องได้ที่ไหน” นิรัชมองแล้วส่ายหัว “ดูทรงแล้ว น่าจะได้พ่อบ้านใจกล้ามาอีกคน” เสียงหัวเราะดังผสมผสานกับเสียงร้องเพลง ธัชธรรม์เลื่อนมือไปโอบเอวเด็กหนุ่ม เขามองเจ้าของหัวใจที่นั่งอยู่เคียงข้างด้วยความรัก สบตาหวานซึ้งส่งผ่านความอบอุ่นไปตามฝ่ามือที่สอดประสาน ไม่มีอะไรจะมีความสุขมากไปกว่านี้จริงๆ

          วันที่หัวใจเราได้อยู่ข้างกัน..

         



                    TBC.
 
 




ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 20] 27-03-62 ★ P.2
«ตอบ #69 เมื่อ27-03-2019 21:20:31 »

                                   Rhyme 20

   เรื่องราวของใบบุญถูกเปิดเผยจนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ในที่สุดอนันต์ก็ต้องออกมาแถลงข่าวจนได้ เขายินดีให้ข้อมูลทุกอย่างที่เป็นประโยชน์แก่ตำรวจและแสดงความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และความลับก็ไม่มีในโลก ต่อให้ไม่สามารถจะเอาผิดเพราะหลักฐานไม่เพียงพอแต่กฏแห่งกรรมย่อมไม่มีใครหลีกหนีได้พ้น วิมลศิลาหัวใจวายเฉียบพลันเพราะช็อคกับเรื่องลูกชายจนกระทั่งต้องพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล  มารดาของเขาตัดการติดต่อทุกอย่างจากพลอยไพลินและไม่ให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตครอบครัวได้อีก เขาก็ได้แต่หวังว่าขอให้เธอเอาตัวรอดจากข้อหาสมรู้ร่วมคิดที่ชวดลซัดทอดเธอแล้วกัน!

   ใบบุญกลับไปเรียนปกติ เขาลองมาคิดดูแล้วชีวิตในช่วงนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้นหลายอย่าง ทั้งเรื่องเรียน ทั้งเรื่องงานเพลงที่กำลังจะปล่อยเพลงแรกของตัวเองออกไป และเรื่องความรักที่เขาจะต้องเรียนรู้กับธัชธรรม์อีกมากมาย ตั้งแต่มารดาอนุญาตให้พวกเขาสองคนคบหาดูใจกันได้ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะดีใจออกหน้าออกตาจนเขาแอบหมั่นไส้ ธัชธรรม์ขนข้าวขนของเข้ามาไว้ในห้องเขาจนแน่นไปหมด ห้องที่มีผู้ชายสองคนและแมวหนึ่งตัวมันก็อบอุ่นดีเหมือนกัน..

   “ใกล้จะถึงคณะแล้วก่อนเข้าเรียนเราไปกินข้าวกันไหม”

   “ไม่อะ” เขานั่งกอดอก มองริมทางฟุตบาทที่รถยนต์ขับเคลื่อนผ่านไป ไม่มีอารมณ์จะเสวนากับชายหนุ่มที่นั่งข้างๆสักนิด เพราะรูปถ่ายของคนรักที่ใกล้ชิดกับหญิงสาวคนหนึ่งมันทำให้เขาอารมณ์เสีย!

   “งั้นพี่จะไปซื้อนมมาเผื่อเอาไว้ เผื่อเราหิว”

   “แล้วแต่เลยครับ”

   “ใบบุญเป็นอะไร ไม่ค่อยสบายหรือครับ”

   “ฮื่อ ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ” เขาตอบก่อนจะเบือนสายตาไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ทุกเช้าชายหนุ่มจะเป็นคนขับรถพาเขาไปเรียนด้วยกัน เขารู้ว่าธัชธรรม์พยายามปรับตัวมากขึ้นตั้งแต่เรื่องลดความเร็วเวลาขับรถ ไม่พูดคำหยาบคาย และฝึกความอดทนที่จะไม่ทำรุ่มร่ามกับเขาข้างนอก

   แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ..

   ใบบุญลงจากรถโบกมือทักทายเพื่อนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ตึกคณะ กรีวีร์ปรี่เข้ามาหาเขาก่อนจะพากันขึ้นห้องเรียน ไม่ชายตามองคนรักที่กำลังเดินตามเลยสักนิด ชายหนุ่มมองแผ่นหลังบอบบางที่เพิ่งเดินออกไปด้วยความไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าใบบุญเป็นอะไรกันแน่..

   “พี่ธัช” ชายหนุ่มถอนหายใจ ถึงพวกเขาจะคบกันแต่ไม่ได้ประกาศให้ใครรับรู้ พวกเขาเป็นศิลปินที่มีผลงานทั้งคู่ ใบบุญก็เป็นคนห้ามเขาเองไม่ให้เปิดเผยเรื่องที่คบกันอยู่ มันก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนเข้ามาเกาะแกะบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยนอกลู่นอกทางเลยนะ!
   
   “มีอะไร”

   “เดี๋ยวจีนขอไปนั่งด้วยนะคะ” หญิงสาวสอดมือเข้าที่ท่อนแขนหนาของชายหนุ่ม ช่วงนี้กระแสของธัชธรรม์กำลังมาแรงถ้าเธอได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆกับชายหนุ่ม เธอก็จะได้มีกระแสกับเขาบ้าง คนอื่นจะได้เข้าใจว่าเธอเป็นอะไรกับนักร้องหนุ่มคนนี้

   “จะไปนั่งที่ไหนก็ไปเถอะ พี่ขอตัวนะ” เขาสะบัดทิ้งอย่างไม่ใยดี ที่ผ่านมาเขาอาจจะเคยทำให้หญิงสาวคาดหวังอยู่บ้าง แต่เขาก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น

   “พี่ธัช รอจีนด้วย!”

   ชายหนุ่มเข้ามาในห้องเรียนกวาดสายตามองหาคนรักก่อนจะเดินเข้าไปนั่งด้วย กรวีร์เห็นแต่ก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าก้มตาจดเนื้อหาลงในสมุดบันทึก แต่ก็แอบลอบมองปฏิกิริยาของเพื่อนที่ยังนิ่งเฉยอยู่ ถึงจะมีข่าวเม้ากันให้แซ่ดว่าธัชธรรม์มีเจ้าของหัวใจแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครฟันธงว่าเป็นใคร ประกอบกับมีภาพหลุดของจีนออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเขามั่นใจว่าเป็นยัยนั่นปล่อยข่าวเองนั่นแหละ คราวนี้จะแก้ปัญหายังไงก็เป็นเรื่องที่ธัชธรรม์จะต้องจัดการแล้วล่ะนะ

   “เอ่อ..” เขาหันหน้าไปหาใบบุญ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจเขาสักนิด

   “ตรงนี้จีนไม่ค่อยเข้าใจเลยอะคะ”

   “จีน อย่าเพิ่งยุ่งกับพี่ได้ไหม” เขาหันไปบอกหญิงสาวเสียงเบา ไม่รู้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ตามติดเขานัก!

   “พี่ธัชก็คุยกับจีนก่อนสิคะ”

   “ถ้ายังเสียงดังอยู่ ช่วยกรุณาออกไปนั่งตรงอื่นนะครับ” เด็กหนุ่มปรายตามอง พูดเสียงเย็นก่อนจะกลับไปตั้งใจฟังอาจารย์สอน ธัชธรรม์หน้าซีดเผือด เขาหันไปทางหญิงสาวที่กำลังกระฟัดกระเฟียด จะรู้บ้างไหมว่าทำคนอื่นเขาเข้าใจผิดหมดแล้ว!

   “จีน พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

   “เรื่องอะไรหรือคะ”
   
   “ออกมาด้วยกันหน่อย” เขาลุกเดินออกจากห้องเรียนโดยมีหญิงสาวลุกตามออกไปด้วย หิรัญเดินสวนเข้ามาก็ทำหน้าไม่เข้าใจ เขาแวะเอาขนมมาให้คนรักแต่ไม่คิดว่าจะเห็นเพื่อนเดินไปกับผู้หญิงคนอื่น

   มีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะ?

   “อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น มานั่งนี่”

   “จ้ะ” หิรัญนั่งลงข้างๆคนรัก ส่งเสบียงเหมือนทุกที กรวีร์ไม่เคยขอให้เขาทำสักนิด เป็นเขาเองที่อยากจะดูแล “มีอะไรก็ไลน์มานะ พี่ไปเรียนก่อน”

   “อื้อ ขอบคุณนะครับพี่ฮัน”

   “เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นหอมแก้มพี่สักทีก็ดีนะ”

   “พอเลย” เขามองชายหนุ่ม “ไปไกลๆเลย” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พวงแก้มขาวจัดก็ขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย น่าเอ็นดูเหลือในสายตาของหิรัญ สงสัยเขาจะต้องพาลูกสะใภ้คนใหม่ไปให้ป๊ากับม๊าดูตัวไวๆเสียแล้ว

   “เลิกเรียนพี่จะมาหาใหม่นะครับ” เขาขอตัวกลับไปเรียน แค่แวะมาเห็นหน้าหิรัญก็ชื่นใจแล้ว เขาเตรียมตัวกำลังจะกลับออกไปก็เจอธัชธรรม์กำลังเข้ามาพอดี ตบไหล่ทักทายกันเล็กน้อย เขาเห็นเสี้ยวสายตาลำบากใจจากเพื่อนสนิท ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็ตาม..

   “พี่มีแฟนแล้ว และพี่ก็ไม่อยากให้ทำแบบนี้ เข้าใจไหมจีน?”

   “ทำแบบนี้คืออะไร พี่ธัชมีแฟนแล้วจริงหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าโกหกจีนนะ”

   “พี่มีแฟนแล้วจริงๆ แล้วก็ไม่อยากให้ทำให้เขาลำบากใจด้วย”

   “ถ้ามีพี่แฟนพี่ก็เปิดตัวมาสิ หรือว่าคิดจะแทงกั๊กกับคนอื่นไปทั่ว” หญิงสาวกอดอกมองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่พอใจ “อยากจะสะบัดจีนทิ้งแล้วก็ไปหาคนใหม่ใช่ไหมคะ? ทำไมพี่ธัชใจร้ายแบบนี้”

   “พี่ไม่ได้คิดอะไรกับจีนเลยสักนิด” เขาถอนหายใจ ดันเจอกับผู้หญิงเรื่องมากน่ารำคาญที่เอาแต่เรียกร้องความสัมพันธ์ “พี่ขอโทษ ถ้าทำให้จีนคิดไปไกล แต่หลังจากนี้ถือว่ามันจบแล้วนะ” เขาตอบ ทำอารมณ์ให้เย็นเข้าไว้

   “ก็ได้ค่ะ มันจบก็ได้” จีนหลุบตาทำหน้าเศร้า เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าแฟนที่ว่าของธัชธรรม์คือใครกันแน่! คิดว่าเธอจะยอมแพ้แค่นี้หรือไง ไม่มีทางหรอก!

    ธัชธรรม์คิดว่าเรื่องทุกอย่างมันจบด้วยดีแล้ว.. แต่มันแค่เริ่มต้น รูปที่เขายืนคุยกับจีนถูกถ่ายและนำไปโพสในเว็บไซค์ข่าว และเขียนว่าเขามีความสัมพันธ์ลับๆกับเพื่อนสาวคนสนิท เฮียกิตรีบโทรมาหาเขาทันที ถึงจะเป็นข่าวเล็กน้อยแต่มันก็กระทบต่องานที่เขาทำมากพอสมควร นอกจากเรื่องงานแล้วเรื่องแฟนก็ด้วย..

   “ใบบุญครับ เรากลับบ้านกันเถอะ”

   “ผมจะกลับเอง”

   “โกรธพี่เรื่องข่าวหรือครับ มันไม่มีอะไรจริงๆ” เขาพยายามอธิบายแต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะงอแงไปแล้ว ฉิบหายจริงๆความซวยมาเยือน เด็กหนุ่มโบกรถแท็กซี่ออกไปต่อหน้าต่อตาเขาเลย.. ซวยแล้วกู

   เขาจะขับรถตามไปแต่ถูกเรียกตัวเข้าไปที่สตูดิโอเสียก่อน กลับไปเขาจะต้องไปคุยกับคนรักให้รู้เรื่องไม่งั้นคืนนี้ได้ขนของมานอนนอกห้องแน่.. เวลาใบบุญโกรธขึ้นมาห้ามได้เสียที่ไหน

   “ไง หน้าเหมือนคนขี้ไม่สุดเลยนะมึง”

   “ทักแบบนี้ผมหมดหล่อนะเนี่ย”

   “เออ หน้าบูดเป็นตูดกูก็ทักแบบนี้แหละ” เฮียแซวเล่นแต่เขาไม่ขำเลยสักนิด “เห็นข่าวแล้วใบบุญไม่แหกอกมึงหรือไง”

   “เฮียรู้?”

   “พ่อมึงบอกกูเอง” กิตติพูดพลางยกกาแฟขึ้นจิบ เขาและนิรัชเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตั้งแต่สมัยเรียนมอปลาย เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่เขายังเป็นนักดนตรีสมัครเล่น ทุกวันนี้ยังติดต่อกันอยู่เสมอ และอีกฝ่ายก็ฝากฝังลูกชายมาให้เขาช่วยดูแล

   “พ่อนะพ่อ” เขาบ่นอุบ กลัวว่าถ้าเฮียรู้ขึ้นมา เขาจะต้องยิ่งปกปิดมากกว่าเดิม

   “เขารักมึงจะตายไป ไม่งั้นคงไม่ยอมให้คบกันหรอก”

   “ผมรู้” ชายหนุ่มกุมขมับ “กว่าจะมาถึงวันนี้มันไม่ง่ายเลยจริงๆนะเฮียผมไม่อยากจะต้องมาทะเลาะกับเขาอีกแล้ว ผมอยากให้เวลาแต่ละวินาทีมีค่าที่สุด.. การที่ต้องห่างกันมัน..ทรมานเกินไป”

   “ความรักมันก็เหมือนลิ้นกับฟันกระทบกระทั่งเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่เรื่องที่ง่ายที่สุดยังทะเลาะกันแล้วนับประสาอะไรกับปัญหายอดฮิตแบบนี้วะ”

   “เมื่อก่อนผมอาจจะเหี้ย ทำอะไรไม่ดีไว้เยอะ แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่อย่างนั้นแล้วนะเฮีย”

   “มาบอกกูทำไม ไปบอกแฟนมึงโน่น”

   “เขาไม่ฟังผมเลย”

   “มึงทำเลวกับเขาไว้เยอะ มาถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาที่มึงต้องรับผล” เขาบอกชายหนุ่ม “จริงไหมล่ะ? กูถึงได้บอกไงใครรักก่อนคนนั้นแพ้ มันเคยแพ้มาตลอด”

   “….”

   “แต่ตอนนี้มึงดันรักมันมากกว่า มึงนั่นแหละแพ้”

   “ผมขอยอมแพ้.. ทุกเรื่องเลย” เขาหลุบตามองพื้น “ถ้าจะมีใครสักคนเจ็บก็อยากให้เป็นผมมากกว่า”

   “เอาไปเขียนเพลงได้เลยนะ”

   “โถ่ เฮีย ผมเครียดนะเนี่ย”

   “คนอย่างมึง โผงผาง ตรงไปตรงมา ด้านได้อายอด ยังมีอะไรต้องเสียอีก” ชายหนุ่มมองคนตรงหน้า “กูรู้ว่ามึงมีวิธีแต่มึงแค่ลังเล มึงไม่ต้องมาถามกูหรอก มึงอยากทำอะไรก็ทำเถอะ.. ชีวิตมันเป็นของมึง”

   “เฮียรู้?”

   “ถ้าคนเขารักมึงที่ผลงาน เขาก็จะรักมึงต่อไป แต่ถ้าเขารักมึงเพราะว่ามึงหน้าตาดี สักวันพอมึงแก่เหมือนกู เขาก็คงจะเลิกชอบมึงไป.. เพราะมันมีเด็กรุ่นใหม่มาแทนที่เสมอ ถ้ามึงอยากจะทำให้ผู้คนจดจำ มึงต้องฝึกตัวเองให้เก่งกว่านี้ สร้างผลงานให้ทุกคนเขาได้เห็นว่ามึงมีศักยภาพแค่ไหน”

   “ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากครับเฮีย” เขายกมือไหว้โปรดิวเซอร์ที่เคารพรักเหมือนพี่ชายเหมือนพ่ออีกคนหนึ่ง คนที่ผลักดันและสนับสนุนให้เขาทำในสิ่งที่รัก หลังจากนี้เขาจะไม่ลังเลอีกต่อไป ถ้าหากเขาจะต้องทิ้งความรักเพื่อเลือกความฝัน ทำไมเขาไม่เลือกมันทั้งคู่ล่ะ..

   ใบบุญไม่ได้เจอคนรักมาสองวันเต็มแล้ว ชายหนุ่มไลน์มาบอกว่ากำลังเตรียมซ้อมเพื่อที่จะขึ้นเวทีร่วมกับศิลปินคนอื่นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าชิ้นใหม่ โดยมีหิรัญเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย เขาไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งสติ๊กเกอร์กลับไป อยากจะถามว่ากินข้าวบ้างหรือยัง หรือเหนื่อยไหมแต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกไป..

   เขาคิดเอาเองว่าช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างอารมณ์ขุ่นมัวแยกกันไปจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้เรียบร้อยแล้วกลับมาคุยด้วยเหตุผลแบบนั้นน่าจะดีกว่า เขาไม่อยากจะทะเลาะกับธัชธรรม์สักหน่อย ในระหว่างที่ใคร่ครวญอยู่ในใจไอ้ตัวเล็กก็เดินนวยนาดขึ้นมานอนบนตัก ปกติถ้าชายหนุ่มเห็นจะต้องแย่งตักหนุนนอน ทะเลาะกับไอ้ตัวเล็กได้ทุกวัน..

   “เมี๊ยววววววววววววว”

   “คิดถึงป่าป๊าหรือไง” เขาเกาคางจนตัวแสบหลับตาพริ้มคลอเคลียไม่ห่าง อย่าว่าแต่ไอ้ตัวเล็กเลย เขาก็เริ่มคิดถึงคนรักแล้วเหมือนกัน ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง.. ใบบุญยอมรับว่าไม่พอใจเรื่องที่ชายหนุ่มมีหญิงสาวมาติดพัน จนเขาทำเมินไม่ยอมคุยด้วย ไม่รู้ว่าเขาทำมากไปหรือเปล่า..

   คิดถึงจัง..

   เสียงโทรศัพท์เป็นเพลงที่ชายหนุ่มแต่งให้เขา มันดังจนไอ้ตัวเล็กกระโดดจากตักลงไปที่พื้น เมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรมาเขาก็กดรับทันที “ว่าไงมึง”

   “อยู่ไหนออกมาเจอหน่อย”

   “ขี้เกียจออกแล้ว เหนื่อย การบ้านยังไม่เสร็จเลย” เขาบ่น

   “ระวังเฮียน้อยใจหรอก ไม่โผล่หน้ามาหลายวันแล้วนะ”

   “จะให้กูไปให้ได้ใช่ไหม พูดมาเลย” กรวีร์เร่งเขายิกๆเหมือนมีธุระสำคัญอะไรสักอย่าง

   “เออ มึงต้องมาด่วนนนนนน แค่นี้นะ!” มันกดวางสายอย่างรวดเร็วทำเอาเขามึนงง เดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วแวะไปหาที่สตูดิโอ.. หรือว่าจะกินเลี้ยงกันอีกแล้ว?

   เขาเปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นมีใครอยู่สักคนกระทั่งเจอกรวีร์กำลังเปิดโทรทัศน์อยู่ เขาก็เดินเข้าไปนั่งด้วย อยากจะรู้ว่ามันมีอะไรถึงได้ตามเขามาที่นี่ “ไหนเฮียล่ะ”

   “ไปดูแลพี่ฮันกับพี่ธัชที่งาน”
   
   “งาน?”

   “งานที่ซ้อมกันอยู่หลายวันไง” เขาบอกก่อนจะเปิดโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดสด

   “รอดูย้อนหลังก็ได้มั้ง”

   “ไม่ได้” กรวีร์ทำหน้าเลิ่กลั่ก “ต้องดูวันนี้สิ!”

   “เออ ดูวันนี้ก็ดูวันนี้พอใจหรือยัง” เขาเอนตัวพิงโซฟาก่อนจะดูรายการโฆษณา กรวีร์ลุกออกไปห้องครัวหยิบขนมกับผลไม้ขึ้นมาชุดใหญ่ เขามองนาฬิกาเกือบสองทุ่มแล้ว ถ้าดึกกว่านี้เขาจะกลับไปทำการบ้านไม่ทันนะ “มาหรือยัง?”

   “มาแล้วๆ” กรวีร์กดรีโมทเปิดเสียง ช่วงแรกมีพิธีกรมาอธิบายสินค้าพูดถึงที่มาที่ไปและคอนเซ็ปของผลิตภัณฑ์ก่อนจะเชิญพรีเซ็นเตอร์ออกมาสัมภาษณ์ เขาเห็นธัชธรรม์และกรวีร์นั่งข้างกัน ส่วนอีกด้านเป็นนักแสดงผู้หญิงที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร เขาตะลึงไปเล็กน้อย อดยินดีกับความสำเร็จของธัชธรรม์ไม่ได้ เขาบอกแล้วว่าชายหนุ่มจะต้องไปได้ไกลกว่านี้.. เป็นทั้ง นักร้อง นักแสดง นายแบบ นักดนตรี..

   “พี่ฮันนนนน”

   “เชียร์ขนาดนี้ไม่ไปที่งานเลยอะ” หันไปมองเพื่อนที่ออกอาการอย่างกับเชียร์บอล

   “คนมันเยอะ เขาเลยไม่อยากให้ไป”

   “จริง คนเยอะมากๆอะ”
   



      50%
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2019 21:31:04 โดย Banoffypie.novel »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 20] 27-03-62 ★ P.2
« ตอบ #69 เมื่อ: 27-03-2019 21:20:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 20 ] 27-03-62 ★ P.3
«ตอบ #70 เมื่อ27-03-2019 21:26:44 »



        “ไปก็วุ่นวายเปล่า รออยู่ที่นี่แหละ” กรวีร์บอกก่อนจะส่งขนมให้เขา เรื่องแค่นี้จะต้องลากเขามาดูถ่ายทอดสดหรือไง เขามองชายหนุ่มในโทรทัศน์แล้วก็อมยิ้ม วันนี้ธัชธรรม์อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวเปลือยอกเล็กน้อยและกางเกงสแล็คสีดำที่ดูเข้ากันพอดิบพอดี เขามองจนเพลิน มองจนเขินเอง..

        อาการหนักแล้วเรา..

        “เรามาสัมภาษณ์นักร้องหนุ่มสุดฮอตที่กำลังมาแรงแซงโค้งกันดีกว่า คุณฮันและคุณธัชค่า” พิธีกรสาวสายในชุดราตรีสีขาวตามธีมของสินค้าส่งไมค์ให้ขายหนุ่มทั้งคนถือเอาไว้ “เสียงกรี๊ดดังมากๆ เป็นอย่างไรบ้างคะกับซิงเกิลแรงแรกที่ได้รับการตอบรับดีแบบนี้”

        “ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ชื่นชอบและเป็นกำลังใจให้พวกเรานะครับ ผมและฮันยังคงมีเพลงที่ทำร่วมกันอยู่อีกหลายเพลง และหวังว่าทุกคนจะคอยสนับสนุนผลงานของเราต่อไปนะครับ” พิธีกรหันไปทางหิรัญที่นั่งส่งยิ้มให้แฟนคลับ

        “ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคำติชมนะครับ เราจะทำผลงานเพลงออกมาให้ดีกว่านี้ ฝากติดตามผลงานต่อๆไปของพวกเราด้วยนะครับ”

        หลังจากสัมภาษณ์กันไปหอมปากหอมคอ พิธีกรก็ให้หนุ่มๆได้ร้องเพลงพร้อมทั้งถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์ เขามองชายหนุ่มที่เฉิดฉายอยู่บนเวทีก็รู้อิ่มเอมใจและยินดีกับธัชธรรม์มากจริงๆ ภาพตัดมาที่นักข่าวกำลังสัมภาษณ์ชายหนุ่มทั้งคู่ โดยเฉพาะเรื่องภาพหลุดของธัชธรรม์ที่มีข่าวเม้าว่าแอบคั่วเด็กในมหาวิทยาลัย

        “จริงครับ” ชายหนุ่มตอบก่อนจะยิ้มหวาน สายตามองตรงมาทางกล้อง “ผมมีแฟนแล้วจริงครับ เรียนอยู่คณะเดียวกัน”

        “อันนี้คุณธัชจะออกมายอมรับว่าภาพหลุดกับหญิงคนนั้นคือแฟนตัวจริงใช่ไหมคะ”

        “ไม่ใช่ครับ คนนั้นเป็นเพียงเพื่อนผมเฉยๆ ไมได้มีอะไรลึกซึ้งไปมากกว่านั้นครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขัดกับภาพลักษณ์ผู้ชายหล่อร้าย เพลย์บอยที่นักข่าวตั้งสมญานามให้จริงๆ

        “แล้วเมื่อไหร่จะเปิดตัวแฟนละคะ” ไมค์จ่อเข้าใกล้อีกเรื่อยๆ เห็นอย่างนั้นเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “คิดว่าเปิดตัวแฟนจะทำให้แฟนคลับลดน้อยลงไหมคะ”

        “สำหรับคำถามนั้น ผมคิดไตร่ตรองมาดีแล้วครับ และก็คิดว่าควรจะออกมาพูดให้เกียรติคนที่ผมรัก ว่าผมไม่ได้ปกปิดเรื่องคบหาดูใจกับใคร เพียงแต่ว่าไม่ใช่คนที่เป็นข่าวด้วยครับ”

        “แล้วเป็นใครคะ หรือว่ารอเปิดตัว”   

        “เป็น..เอ่อ” ชายหนุ่มจุดยิ้ม “เป็นนักร้องในค่ายเดียวกันนี่แหละครับ” ชายหนุ่มพูดก่อนจะยกมือเกาคอแก้เก้อ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับที่รออยู่ด้านนอกได้เป็นอย่างดี ส่วนหิรัญไม่ได้พูดอะไรมากเขาแค่ตอบคำถามบางอย่างแทนเฮียกิตและพูดถึงผลงานที่กำลังทำอยู่ เรื่องแฟนของธัชธรรม์ก็เป็นที่พูดถึงอย่างมากและเดากันไปต่างๆนาๆว่าเป็นใคร มีบางคนที่จิ้นหิรัญกับธัชธรรม์ซะด้วย

        เด็กหนุ่มนั่งดูผ่านโทรทัศน์ตกใจนึกว่าชายหนุ่มจะหลุดปากพูดออกไปจริงๆ หรือจะเอาคืนเรื่องที่เขาไม่ยอมฟังคำอธิบายเลยจะประกาศต่อหน้าสื่อแบบนั้น ถ้าพูดจริงกลับมาเขาจะบิดให้เนื้อเขียวเลยคอยดู..

        “จะกลับแล้วหรือวะ?”

        “อืม ไม่มีอะไรก็จะกลับแล้ว”

        “ไม่รอเฮียก่อนล่ะ”

        “เดี๋ยวมาคุยกับเฮียพรุ่งนี้ก็ได้ คงไม่มีเรื่องด่วนอะไรใช่ไหม?” เขาตอบก่อนจะลุกขึ้นเดินลงไปสวมรองเท้า “ฝากบอกพี่ธัชที ว่าให้กลับไปคุยกันที่บ้าน ถ้ากลับมาช้านอนนอกห้อง” กรวีร์พยักหน้า ดูเหมือนว่าแผนการง้อออกสื่อจะไม่ได้ผล

        ตัวใครตัวมันนะ..

                                                                        +++

   ธัชธรรม์กลับถึงบ้านเกือบห้าทุ่ม เขาขอปลีกตัวกลับมาก่อนเพราะอยากมาหาคนรักใจจะขาด เขาได้รับข้อความที่กรวีร์ฝากมาบอกแทนก็อดจะเสียวสันหลังวูบวาบไม่ได้ ไม่ใช่ว่าใบบุญโกรธมากกว่าเดิมที่เขาบอกไปแบบนั้น เขารีบเข้าไปในบ้านค่อยๆเคาะห้องก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เขาเห็นใบบุญกำลังนอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง ข้างล่างมีไอ้ตัวเล็กนอนอยู่ที่เบาะอย่างสบายอารมณ์ทั้งๆที่เขาไม่ได้คุยกับแฟนมาตั้งหลายวันแต่มันก็ยังนอนสบายใจเฉิบ คนตัวขาวลืมตาขึ้นมามองก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียง

          “ไปอาบน้ำสิครับ”

        “งั้นพี่ขอเวลาแปบนึงนะจ๊ะ” ธัชธรรม์รับจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว พุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำขัดเนื้อตัวร่างกายให้สะอาด ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว เขานั่งลงข้างคนรักที่กำลังอ่านหนังสืออยู่

        “จะนอนได้หรือยังครับ”

        “นอนจ้ะ นอนกันได้แล้ว มันดึกแล้วเนอะ” เขาสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างคุ้นเคย เอื้อมมือกอดเอวของคนรักที่นอนอยู่เคียงข้าง อ้อมกอดอุ่นที่เขาไม่ได้สัมผัสมาหลายวัน คิดถึงที่สุด..

        ตอนนี้ชายหนุ่มจำได้ขึ้นใจอย่าทำให้คนรักโกรธเป็นอันขาด การโดนเมินเป็นอะไรที่ปวดใจจริงๆ กลับกันเด็กหนุ่มที่ถูกเขาเมินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกเขาพูดจาทำร้ายมาตั้งกี่หนยังอดทนกับเขาได้เลย.. เขาสัญญากับพ่อกับแม่ไว้แล้วจะไม่ทำให้ใบบุญผิดหวังแน่

        “ทำไมพี่ต้องพูดออกไปอย่างนั้นด้วย” ใบบุญพลิกตัวกลับมาประจัญหน้า ต่อให้จะอยู่ในความมืดแต่เขาก็รู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังมองเขาอยู่

        “พี่อยากจะบอกด้วยซ้ำว่าใครคือเจ้าของหัวใจพี่.. แต่พี่กลัวเราลำบากใจ” ชายหนุ่มบอกเสียงแผ่ว ใบบุญกำลังปล่อยเพลงใหม่ในเร็วๆนี้เขาไม่อยากให้เรื่องของเขามันส่งผลต่องานของคนรัก

        “....”

        “เพลงใกล้จะออกแล้วด้วย”

        “แต่พี่ก็บอกว่าเป็นนักร้องค่ายเดียวกันนี่ครับ”

        “ก็... ตอนนั้นเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ถ้าบอกไปแล้วโกรธพี่หนักกว่าเดิมจะทำยังไง” เขาบอก แถมยังยกธงยอมแพ้แล้ว ขอแค่ใบบุญไม่โกรธเขาไม่ว่าอะไรเขาก็จะยอมปรับปรุงตัว

        “หนูบอกแล้วไง.. ว่าหนูอยากให้พี่ไปได้ไกลกว่านี้” มือบางยกขึ้นลูบแก้มสากของคนรัก “สำหรับหนูไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงโด่งดังแค่ได้ทำงานที่รักก็พอใจแล้ว”

        “แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรถ้าหากพี่ประสบความสำเร็จอยู่คนเดียว”

        “ไม่หรอก หนูคิดดีแล้ว” เขาเกลี่ยแก้มคนรักเชื่องช้า “ถ้าหนูเกิดดังเหมือนพี่ธัชขึ้นมาอีกคน คงไม่ต้องได้เจอกันแน่ๆ อย่างน้อยหนูก็มีเวลาว่างอยู่กับพี่ธัชไง”

        “ไม่เอาอะ ถ้าต้องทำแต่งานไม่ได้อยู่กับใบบุญเลย พี่ต้องขาดใจตายแน่” เขาก้มลงหอมแก้มนิ่มของคนรัก “งั้นเราอย่าเพิ่งไปพูดถึงอนาคตมันได้ไหม แค่ตอนนี้พี่มีเราอยู่ด้วยกัน พี่ก็มีความสุขมากพอแล้ว ส่วนเรื่องที่ผ่านมา.. พี่ขอโทษ”

        “เรื่องผู้หญิงของพี่ธัชน่ะหรือ หนูไม่ใส่ใจหรอก” เขาพูดเสียงเย็น “ถ้าพี่ธัชจัดการเองไม่ได้ หนูจะจัดการเอง”

        “เดี๋ยวนี้โหดขนาดนี้แล้วหรือ เจ้าลูกแมว”

        “ฮื่อ ไม่อยากเหวี่ยงวีนนี่ครับ อยากพูดด้วยเหตุผล แต่ตอนนั้นมันโมโหอยู่จะให้ทำยังไง” อยากจะแปลงร่างเป็นนางมารร้ายแต่มันคงไม่เหมาะ ยังมีวิธีแก้ไขปัญหามากกว่าที่จะใช้อารมณ์ เขาเป็นคนขอให้ธัชธรรม์หัดควบคุมอารมณ์ร้อนแล้วเขาก็ต้องทำเป็นตัวอย่างด้วย

        “โอ๋ๆ พี่เข้าใจ”

        “หนูหวง พี่ธัชได้ยินไหม!”

        “ได้ยินแล้วจ้ะ พี่ได้ยินเต็มสองรูหูเลย” รั้งเอวบางของคนรักให้เข้ามาใกล้ กดจูบลงซอกคอหอมกลิ่นสบู่เจือจาง “แล้วพี่ก็อยากได้ยินอย่างอื่นมากกว่า”
       
        “ได้ยินอะไรครับ”

        “พี่รักใบบุญนะครับ”

        “ฮื่อ ขี้โกงแล้วแบบนี้จะโกรธลงได้ยังไง” เขาเอามือแตะปากคนรักเอาไว้ไม่ให้พูดมากไปกว่านี้ “พอเลย นอนได้แล้วนะครับ”
       
        “พี่ก็อยากจะนอนแต่ลูกชายพี่ไม่ยอมนอน”
       
        “พี่ธัช! คนบ้า” เด็กหนุ่มตกใจพยายามจะดิ้นหนีก็ดิ้นไม่หลุด ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดซอกคอก่อนจะถูกพรมจูบอย่างเชื่องช้า ชายหนุ่มค่อยๆลากลิ้นเปียกชื้นไปตามแอ่งชีพจร มือขาวคนตัวเล็กกอดรั้งบ่าของคนรัก

        “ดีไหม?”
       
        “ฮื่อ.. ” เขาผ่อนลมหายใจเข้าออกระหว่างถูกถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างขาวจัด ปลุกเป่าอารมณ์รักให้ลุกโชน ใบบุญส่งเสียงครางเครือรู้สึกเหมือนถูกหลอมละลาย เรี่ยวแรงที่มีถูกสูบหายไปตั้งแต่ชายหนุ่มกดจูบที่ริมฝีปากอ่อนนุ่ม กวัดกวาดละเลียดชิมความหอมหวานที่เขาเป็นผู้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

        “ไม่ต้องกลั้นหายใจสิ”

        “ก็มัน..” เด็กหนุ่มหอบครางใต้เงาแสงจันทร์ที่ส่องลงมาเป็นพยานรัก รอยสีชมพูช้ำประปรายไปตามเนื้อกายขาวผ่อง เด็กหนุ่มไร้แรงจะห้ามปรามราวกับถูกดึงดูดด้วยแรงโน้มถ่วง อิงแอบชิดรับสัมผัสอุ่นร้อนที่ชายหนุ่มปรนเปรอให้ไม่ขาด

        “อย่าเกร็งสิครับ”

        “ไม่ได้ทำ..นานแล้ว” เขาบ่นอุบอิบ ไม่กล้ามองคนรักที่กำลังซุกไซร้อยู่ช่วงขาอ่อน ลิ้นชื้นลากไล้ก่อนจะเม้มแน่นจนเขาครางเสียงเบา ความรู้สึกเสียวซ่านแพร่กระจายไปทั่วร่างกายทุกที่ที่ถูกมือหนาลากผ่าน หน้าท้องแบนราบขาวนวลถูกชายหนุ่มหยอกล้อจนหดเกร็ง เหมือนมีมวลแปลกประหลาดอยู่ที่ท้องน้อย เขารู้สึกอึดอัดเหลือเกิน

        “พี่จะค่อยๆทำ”

        “อื้อ..อ๊ะ” ถูกจับปลายคางเชิดหน้าขึ้นไปรับจูบ สองมือดันแผงอกหนาเอาไว้ รู้สึกเหมือนจะไม่มีแรงเอาซะเลย “นะ.. เหนื่อยแล้ว”
       
        “เพิ่งทำเองยังไม่ถึงไหน”

        “ก็เหงื่อออกอีกแล้ว” เขาเถียง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งถอดเสื้อยืดออกจากตัว เห็นผิวขาวจัดทั้งตัวของเด็กหนุ่ม แรงอารมณ์เขาก็ลุกโชน แก่นกายแข็งแกร่งจนต้องขบกรามอดทนให้คนรักเตรียมพร้อมให้ดีเสียก่อน นิ้วหนาค่อยๆถูกชโลมด้วยเจลหล่อลื่นที่เขาแอบซ่อนไว้ใต้เตียงโดยที่ใบบุญเองก็ไม่รู้ ผลุบผ่านช่องทางคับแน่นอย่างเชื่องช้า เขาพรมจูบไปทั่วให้เด็กหนุ่มได้ผ่อนคลาย

        “เป็นยังไงบ้าง?”

        “มันก็แปลกๆ” เขาตอบได้แค่นั้นก็ยกมือปิดหน้า ใครเขาให้มาถามความรู้สึกอะไรกันตอนเข้าด้ายเข้าเข็มก็ไม่รู้ “แต่ว่ามันก็รู้สึกดี..”

        “จริงหรือ”

        “อ๊า!” เขารู้สึกว่ามันขยายตอดรัดมากกว่าเดิมเมื่อเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้น เด็กหนุ่มดิ้นพล่านกะเถิบถดถอยออกไป เขากระเถิบตามก่อนจะโน้มัตวเข้าไปกอดปลอบจูบอยู่สักพักถึงจะเริ่มขยับ เสียงขยับเข้าออกโดยที่น้ำหล่อลื่นช่วยทำให้มีเสียงแปลกๆจนเด็กหนุ่มเบือนหน้าหนี เขากลั้นเสียงครางเมื่อปลายนิ้วถูกแตะสัมผัสจุดอ่อนไหว “ตรงนั้นมัน..แปลกๆ”

        “หื้ม? ตรงนี้ใช่ไหมครับ”

        “พี่ธัชอย่าสิ!”

        “ฮ่าๆ”

        “อย่าแกล้งกันนะครับ” เขาเงื่อมมือขึ้นทุบคนรักอย่างไม่แรงนัก อีกฝ่ายฟัดแก้มเขาไม่ยอมหยุด ส่วนนิ้วมือยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดีจนใบบุญเองเริ่มจะไม่ไหว “ฮื่อ..”

        “ไปที่อื่นดีกว่า”

        “ฮื่อ เดี๋ยวก่อน ปล่อยหนูลงนะ” ธัชธรรม์รวบคนรักขึ้นอุ้ม ร่างกายอ่อนปวกเปียกที่ต่อต้านเขาไม่ได้ช่างน่ารักและทำเขาเกิดอารมณ์จริงๆ เจ้าตัวไม่มีแรงจะดิ้นหนีเขาได้อีก ได้แค่พิงซบอกเงียบๆ เดินมาหยุดตรงระเบียงปล่อยให้ใบบุญยืนดันประตูกระจกเอาไว้
       
        “ไหวนะ?”

        “ฮื่อ” คนตัวเล็กส่ายหัวไปมา เขาจิกผ้าม่านผืนบางเอาไว้แน่น รู้สึกอุ่นร้อนจากบางอย่างแทรกเข้ามาในร่างกาย ชายหนุ่มค่อยๆขยับเขยื้อนเชื่องช้าให้เขาได้ปรับตัว มันทั้งแน่นคับและร้อนผ่าวจนเขาจะละลาย

        “หอมจัง”

        “อย่าดม มันมีแต่เหงื่อ”

        “มีแต่เหงื่อพี่ก็จะดม”

        “พี่ธัชบ้า!” ร่างบางสั่นไหวโยกเอนไปตามจังหวะเร่งเร้า เสียงกระทบของผิวเนื้อดังเป็นจังหวะสลับเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความสุข ชายหนุ่มกำสะโพกขาวเอาไว้แน่นดีดควบเข้าออก เร่งเร้าจนใบบุญเริ่มจะไม่ไหวกระตุกเฮือกจนเขาต้องรวบเอวเอาไว้ “ไม่ไหวแล้ว..”
       
        “ไปพร้อมกันนะครับ” หอบร่างอ่อนแรงนอนแผ่ลงกลางเตียง เรียวขาขาวจัดขึ้นเป็นรอยนิ้วมือยามเขากดลงไปเพียงน้อยนิด เขาพาดขายาวลงลาดไหล่เสือกไสตัวตนของเองอีกครั้งจนสุดความยาว ใบบุญดันหน้าท้องเขาเอาไว้เจ้าตัวร้องครางจนแทบจะกรีดร้อง ก่อนจะกระตุกไปทั้งตัว เขาหยัดตัวตนจนสุดก่อนจะถึงจุดหมายฝั่งฝันไปพร้อมกัน “ฮึ่ม!”
เขาเกลี่ยเส้นผมของคนรักมองเครื่องหน้าที่สมบูรณ์เหมาะเจาะ ชายหนุ่มไล้ไปตามหน้าผากสวย สันจมูกโด่งและริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ชอบยิ้มให้เขา ใบบุญลืมตามองคนรักในความมืด รู้สึกเหนื่อยล้าแค่ไหนก็หายเป็นปลิดทิ้ง ธัชธรรม์จัดการดูแลเขาจนเรียบร้อย ทั้งเช็ดตัวและทำความสะอาด เอ่อ.. ตรงนั้น ให้อย่างไม่ปริปากบ่น เขามองการกระทำอย่างทะนุถนอมของคนตรงหน้า หยัดยิ้มกว้างจนมันระบายเต็มหน้า นึกว่ามันคือความฝันหรือเปล่า..
       
        “ยิ้มอะไร เหนื่อยแล้วก็นอนสิครับ” เขาถามคนรักที่ยังนอนเขาตาใสแป๋วมองนาฬิกาที่บอกเวลาตีสอง แต่เจ้าตัวกลับยังไม่ยอมนอนเสียที “แน่ะ.. ดื้อหรือครับ”

        “ยังไม่อยากนอน กลัวตื่นมาแล้วจะไม่เจอพี่”

        “พี่ก็อยู่ตรงนี้จะไปไหนได้ นอกจากเราจะไม่ต้องการพี่แล้ว วันนั้นพี่ถึงจะไป”

        “หนูนึกว่ากำลังฝัน เป็นฝันที่ดีจนไม่อยากตื่นเลย”

        “โถ คนดี” เขาจูบหน้าผากขาวนวลอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ “ไม่ว่าจะตื่นขึ้นมาอีกกี่ครั้งพี่ก็จะอยู่ตรงนี้เสมอไป”

        “กอดหน่อย”

        “มากอดกัน” รั้งคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ไม่รู้เกิดคึกอะไรถึงได้อ้อนขึ้นมาเสียเฉยๆ เขาก็เลยต้องเอาใจคนรักเสียหน่อย เห็นใบหน้ามุดเข้าที่อกเขาแน่น นึกกลัวจะหายใจไม่ออก “นอนดีๆสิครับ”

        “หนูรักพี่ธัชจังเลย”

        “พี่ก็รักหนูเหมือนกัน” สอดแขนเข้าที่ใต้คอกดจูบลงกลุ่มผมนุ่มนิ่ม อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาใช้ริมฝีปากรับจูบแทน โอ้โห ร้ายจริงๆ “ขอบคุณนะครับ.. ที่ให้โอกาสพี่”

        “ฮื่อ.. ขอบคุณที่รักกันนะครับ” ชายหนุ่มเกลี่ยน้ำตาที่ปริ่มจะไหล ไม่รู้ทำไมแฟนเขาถึงได้ขี้แยขนาดนี้.. เขาค่อยๆจุมพิตลงที่เปลือกตาเบาๆ กอดก่ายแนบชิดด้วยอ้อมกอดอบอุ่น ปัดเป่าฝันร้ายไม่ให้กล้ำกราย สัญญาจะกล่อมให้คนรักหลับฝันดีทุกคืนจากนี้ไป..

       
               TBC



ออฟไลน์ Banoffypie.novel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
Re: ★ You are my Galaxy ★ [Rhyme : 16 ] 14-02-62 ★ P.2
«ตอบ #71 เมื่อ27-03-2019 21:30:05 »


                                                                บทส่งท้าย

        เวทีใหญ่โตตั้งตระหง่านกำลังถูกจัดวางอุปกรณ์ ทีมงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกำลังเร่งมือเพื่อให้งานเสร็จทันเวลาขึ้นแสดงของนักร้องชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ป้ายไวนิลขึ้นใบหน้าและชื่อเป็นตัวอักษรใหญ่โต แฟนคลับที่มาต่อแถวรอเข้าคิวตั้งแต่ช่วงบ่ายรอเข้าชมการแสดงอย่างใจจดจ่อ บรรยากาศร้อนอบอ้าวก็ไม่เป็นอุปสรรคในงานแสดงดนตรีแห่งปี ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาคับคั่ง หญิงสาวในชุดเดรสสีดำยืนโวยวายอยู่หน้าประตูทางเข้า เธอต้องการที่จะเข้าไปด้านในระดับวีไอพีเธอเป็นคนรู้จักของธัชธรรม์ทำไมจะเข้าไปไม่ได้!

        “ไม่ได้จริงๆนะครับคุณ”

        “ไปบอกพี่ธัชว่าชั้นมาหา.. บอกให้ไปบอกไง” ทีมงานทำหน้าเลิ่กลั่กมองหน้ากันก่อนจะเดินไปแจ้งผู้จัดการที่กำลังวุ่นอยู่กับการซ้อมบล้อกกิ้งให้กับนักร้องตัวเอง กิตติขมวดคิ้วแน่นหันไปถามนักร้องหนุ่มด้วยความงุนงง

        “เด็กมึงอีกแล้ว?”

        “เฮ้ยพี่ ไม่ใช่!” เขามองไปทางคนรักที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกทางสีหน้าอะไร “คือพี่..”

        “ก็แค่แมลงวันผมไม่สนใจหรอกครับ”

        “ใบบุญ”

        “ผมไม่ได้ชื่อใบบุญ ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านจะมาพูดอะไรก็ได้นะครับคุณธัช” เด็กหนุ่มตรงหน้ามองเขาด้วยหางตา ธัชธรรม์กลืนน้ำลายดังอึก “ให้เขาเข้ามาเลยครับ” หันไปบอกทีมงานพร้อมกับยิ้มหวาน ทำเอาทีมงานที่อยู่ตรงนั้นมองกันไม่วางตา.. เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ แต่ทำไมดูเซ็กซี่อย่างนี้ ธัชธรรม์หันไปขมวดคิ้วใส่ใครก็ตามที่บังอาจจ้องแฟนเขาตาเขม็ง ไม่เข้าใจแค่ซ้อมเต้นทำไมต้องใส่กล้ามด้วย!

        “เชิญทางนี้เลยครับ” ทีมงานพาหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นคนรู้จักเดินเข้ามา เด็กหนุ่มมองตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาเดินเข้าไปใกล้ ยืนกอดอกมอง

        “ชั้นจะคุยกับพี่ธัช ไม่ใช่แก” เธอหันไปถลึงตาใส่เด็กหนุ่ม รู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นนักร้องค่ายเดียวกับธัชธรรม์ เห็นหน้าตาใสซื่อที่แท้ก็ร้ายไม่เบา! “ตามพี่ธัชมาสิ” เด็กหนุ่มหันไปกวักมือเรียก

        “มีคนอยากจะคุยกับคุณ”

        “พี่ไม่อยากคุย”

        “แต่เขาดูอยากจะคุยกับคุณมากเลยนะ เอาไงล่ะ เผื่อจะมีธุระสำคัญ” ธัชธรรม์มองใบหน้าหญิงสาวอย่างหมดอารมณ์ โมโหแค่ไหนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

        “จีนกลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ”

        “จีนจะกลับได้ยังไง จีนอยากจะมาดูหน้าแฟนพี่ธัช!” เด็กหนุ่มที่ยืนฟังบทสนทนาเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะหัวเราะ

        “ก็นึกว่าเรื่องอะไร ดูนี่ให้ดีนะ” เขาดึงคอเสื้อชายหนุ่มให้เข้ามาใกล้เขย่งเท้าขึ้นนิดหน่อยจะฉกชิมริมฝีปากคู่สวยดูดกลืนจนหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นอ้าปากค้าง

        “กรี๊ดดดด! ไอ้ใบบุญ!”

        “จุ๊ๆ ผมชื่อไบร์ทนะครับ” เขาใช้นิ้วโป้งเช็ดริมฝีปากของคนรัก ธัชธรรม์กำลังตกตะลึง “ที่นี้คุณน่าจะรู้ว่าเขาเป็นของใคร He’s mine!”

        “แก ไอ้..!”

        “หยุดพูดจาต่อว่าแฟนผมได้แล้ว เราควรจะหยุดตรงนี้กันดีๆก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว” ธัชธรรม์ขวางไม่ให้หญิงสาวพุ่งเข้ามาเข้ามาใกล้คนรักได้

        “กรี๊ดดดดด!”

        “ผมบอกคุณดีๆแล้วนะ แต่คุณไม่ฟังเอง ถ้าได้เห็นด้วยตาแบบนี้ก็ช่วยเข้าใจหน่อยนะ” เขาโอบเอวชายหนุ่มก่อนจะหมุนตัวกลับไปห้องพักด้านใน ปล่อยให้หญิงสาวร้องแรกแหกกระเชิงด้วยความโมโหอยู่ด้านนอก ทันทีที่เข้าไปในห้องพักก็ถูกอุ้ม ชายหนุ่มระดมจูบจนเข้าต้องทุบเตือนสติ ที่นี่มันที่ทำงานนะคุณ!

        “เผ็ดกว่านี้พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ”

        “ทำงานครับ!” เขาหยุดคนรักด้วยสายตา ตั้งแต่เขาออกเพลงใหม่ก็ได้ออกงานคู่กับธัชธรรม์ตลอดจนตัวแทบจะติดกันอยู่แล้ว ขืนเป็นอย่างนี้คงได้ทำผิดกฏเข้าสักวัน “เราจะแตะเนื้อต้องตัวกันเฉพาะอยู่ในบ้านเท่านั้น”

        “โถ่ ที่รัก”

        “ไม่มีข้อแม้นะครับ” เขากระพริบตาก่อนจะรีบหายออกไปจากห้อง แม้จะรู้ว่าผลที่ตามมามันจะทำให้เขาปวดสะโพกไปอีกหลายวันก็เถอะ..

        แฟนคลับเข้ามาชมการแสดงดนตรีมากมายเหลือเกิน เขาเคยใฝ่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตจะต้องมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองให้ได้ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีสิ่งมากมายที่รอให้เขาไปเผชิญหน้าอยู่...

        “คิวต่อไปคุณไบร์ทกับคุณธัชนะครับ” ทีมงานเรียกแล้ว.. เขาหันไปมองหน้าชายหนุ่มที่กำลังยิ้มกริ่ม หมายความว่ายังไงเพลงคู่? เดี๋ยวนะที่มันผิดจากสคริปต์ที่ซ้อมกันเอาไว้นี่!

        ทำนองเพลงที่คุ้นเคยดึงขึ้นราวกับถูกเซ็ตเอาไว้อยู่แล้ว ธัชธรรม์จับจูงเขาออกไปข้างนอกเวทีค่อยๆร้องเพลงที่เขียนให้เขาช้าๆ เด็กหนุ่มทำหน้างุนงงและเดินออกไปด้วยแต่โดยดี

        “วันนี้ผมมีความสุขมากครับ ที่มีโอกาสได้ร้องเพลงให้คนที่เป็นแรงบันดาลใจได้ฟังเสียที เพลงนี้จะบอกความรู้สึกของผมทุกอย่าง อยากให้เขาได้รู้ว่าเขาคือทุกอย่างของผม You are my galaxy ครับ”

        “...”

        “พี่อยากจะบอกใบบุญมาตลอด.. เป็นคำพูดที่พี่พูดบ่อย อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ เพราะคงจะต้องฟังไปอีกนาน เพราะพี่จะพูดมันทุกวันจนกว่าเราจะจำได้ขึ้นใจ..” เขาเกลี่ยแก้มขาวของคนรัก เห็นดวงตาแดงก่ำก็ไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะแฟนเขาน่ะขี้แยเหลือเกิน “อยู่กับพี่ตลอดไปเลยได้ไหม..” แหวนเงินถูกสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายเป็นการตีตราจองอย่างเป็นทางการ ในเมื่อขอพ่อกับแม่แล้วเขาก็ขอไม่เกรงใจแล้วกันนะ ใบบุญน้ำตาร่วงเผาะเป็นสายเมื่อสิ้นประโยค ธัชธรรม์รวบเด็กหนุ่มเข้ากอด เสียงอู้อี้ดังออกมาจากอ้อมกอด

        “จะอยู่กับพี่ธัชตลอดไป..” เขาเผลอหอมแก้มลงไปจนได้ ไม่คิดว่าจะถูกถ่ายทอดสดไหม เขาเคยบอกเฮียกิตแล้ว ต่อให้เกิดอะไรเขาก็ไม่เสียใจหรอกนะ เขาสบตาอยู่เนิ่นนานก่อนจะร้องเพลงขึ้น.. แด่ความรักที่เป็นทั้งความสุขสมหวังและเป็นพลังชีวิตให้กับเขา แด่คนรักที่ฟ้าประทานมาให้คนนี้..

        เขาสัญญาจะดูแลให้ดีที่สุด.. ใบบุญผู้เป็นทุกอย่างของเขา


                                                                             


                                                                        THE END


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #72 เมื่อ28-03-2019 10:23:39 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #73 เมื่อ01-04-2019 11:25:02 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #74 เมื่อ02-04-2019 08:10:00 »

 :pig4:

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #75 เมื่อ02-04-2019 11:37:40 »

 :mew4: :กอด1: :L2: :L1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #76 เมื่อ10-04-2019 00:00:47 »

ทุกคนแฮปปี้  :katai2-1:
 :pig4:

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #77 เมื่อ12-07-2019 17:01:22 »

 o13

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #78 เมื่อ09-08-2019 07:49:56 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tonson777

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #79 เมื่อ22-11-2019 08:49:10 »

 :mew1:ดีงามมากอ่านตอนแรกนี่เกบียดอิพี่ธัชเชียวคนไรใจร้ายน้องออกจะน่าสงสารทำไมใจร้ายกับน้องจัง  พอหลังๆสมหน้ารักน้องแล้วน้องตัดใจไงละรู้สึกละสิ สม!!!

ขอบคุณไรท์สำหรับนิยายสนุกๆจ้า  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
« ตอบ #79 เมื่อ: 22-11-2019 08:49:10 »





ออฟไลน์ w-for-winnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #80 เมื่อ08-12-2019 13:28:59 »

สนุกดีค่ะ แต่งงอยู่หน่อยว่าทำไมธัชจะจำใบบุญตอนเป็นไบรท์ไม่ได้เลยหรอ แบบว่าตอนเด็กๆก็เคยอาบน้ำให้ใบบุญมาก่อน ทำไมไม่รู้ว่าใบบุญมีขี้แมลงวันที่หัวไหล่ แบบว่าจะไม่รู้สึกตงิดใจเลยหรอ

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #81 เมื่อ09-03-2020 18:13:20 »

อ่านจบแล้วจ้า 

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: ★ You are my Galaxy ★ [บทส่งท้าย ]27-03-62 ★ P.3 THE END
«ตอบ #82 เมื่อ15-04-2020 09:45:53 »

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด