...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)  (อ่าน 305163 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คิดถึงตอนที่คุณบัวจะคืนกำไรให้ทั้งคู่แล้วจักจี้หัวใจรอเลยค่ะ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
น้าภาใจเย็นเด้ออออออ :z2:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ปลัดจะตอบยังไงเนี่ยลุ้นลุ้นลุ้น

ออฟไลน์ haramoonlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากบอกปลัดจิณว่า "บ่นเป็นเมียเลยนะ"

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
คุณปลัดเก่งทุกอย่างเวลาที่พี่ทิศป่วยไม่มีแรงสู้  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่ทิศหายป่วยเร็วๆนะ

ไอ้บ้าไพศาล

มันสังเก็บน้องจิณณ์แล้ว

เมื่อไรจะมีหลักฐานเอา

ไอ้ไพศาลเข้าคุก

แต่คงไม่ได้เข้าคุกอ่ะ

คาดว่าน่าจะโดนตัดตอน

เหมือนที่มันยิงนายทองสุข

ตายคาจานข้าวนั่นแหละ

รอดูวันผลกรรมตามทันมัน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หลากหลายอารมณ์เลยตอนนี้ ไพศาลก็สั่งเก็บจิณอีก แถมน้าภาก็จับได้ ขอให้พี่ทิศหายป่วยไวๆนะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
จิณจะรุ้ไหมความเมียหนูสูงมาก

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ปลัดตัวดี พี่เขาป่วยไม่มีแรงดุ ได้ทีบ่นกลับใหญ่ แต่ดันเหมือนเมียขี้บ่น  :hao7:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ขอบฟ้าสีจาง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ใจหายแว๊บแทนจิณเลย น้าภาโปรดเปิดใจกว้างๆด้วยนะคะ ฮืออออออ  :mew2:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
แม่ศรีเรือน!!!!

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
บทนี้น่ารัก

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อะไรกันคะ มาตกม้าตายตอนท้ายได้ไงจิณ
เอ็นดูจิณ ทำแน่ ทำข่มพี่ ก็นะต้องอาศัยเวลานี้แหละ
แล้วมีความอยากดูแล เค้าชมหน่อย ก็ยิ้มแก้มแตกเลย

แต่คิดว่าน้าภาพอรู้มาบ้างนะ ต้องมีมาให้ได้ยินบ้างแหละ
ลุ้นคำตอบของจิณ จะบวกจะลบ

รอพี่ทิศอาการดีขึ้น แล้วจะจัดการลูกแมวยังไงดี 5555

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
คุณน้าสุดยอดดูของในตู้ก็รู้ว่าจิณอยู่กับพี่ทิศ สุดยอด

ไพศาลลงมือแล้วใครจะเจ็บตัวบ้างเนี่ย

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้าภาเก่งงงงงงงง

ออฟไลน์ Chakaimook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำเอาใจหายใจคว่ำซะทุกตอนเลย  :katai1: :serius2:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อุปสรรคเยอะมากเลยคู่นี้

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จิณน่ารัก น่าเอ็นดูนะ แต่เรื่องยุ่งๆ ยังรออยู่อีกเพียบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 13


จิณณะรู้สึกเหมือนตนเองกำลังจมน้ำ อึกอักพูดไม่ออก หายใจก็ไม่ออก เขาได้แต่กลืนน้ำลายซ้ำๆ คิดหาคำพูดที่ฟังแล้วดีที่สุด แต่...สำหรับคำถามของจิดาภา


‘จิณ...ย้ายมาอยู่ที่นี่หรือ’


ทำให้คำตอบมีอยู่แค่สองอย่าง


‘เปล่าครับ’


กับ


‘ใช่ครับ’


ตอบอย่างแรกคือโกหก และมีสิทธิ์สูงมากที่จะถูกจับได้ไล่ต้อนในอีกห้านาทีหลังจากนี้ ส่วนอย่างที่สอง...ตอบความจริง แต่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกห้านาทีหลังจากนี้จะออกหัวหรือก้อย


จิดาภาอาจจะยอมรับได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้...จิณณะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกเลี้ยงที่หล่อนเลี้ยงมาเองกับมือเลย


“จิณ...” เสียงแหบดังขึ้นข้างหลัง ดึงความสนใจจากทั้งจิดาภาและจิณณะให้หันไปมอง


เจ้าของเสียงคือคนป่วยที่ยืนเกาะกำแพงอยู่ ไม่รู้ว่าตื่นเมื่อไรและลงมาทำไม แต่ก็กลายเป็นตัวช่วยเบี่ยงประเด็นจากความอิหลักอิเหลื่อเมื่อครู่นี้ได้อย่างดี


“ทิศ ลงมาทำไมน่ะ” จิดาภากุลีกุจอเดินเข้าไปหาคนป่วยที่ลงจากห้องมายังชั้นล่าง พิทักษ์เพิ่งเห็นมารดาเลี้ยง เขาเหลือบไปมองจิณณะเล็กน้อย ทว่าการมองของเขาอยู่ในสายตาของหล่อนพอดี


“แม่รู้จากจิณว่าทิศไม่สบาย เมื่อกี้ขึ้นไปดูเห็นยังหลับเลยไม่อยากกวน แล้วนี่ทิศลงมาทำไม”


“ผมหิวน้ำ...”


“โธ่ แล้วทำไมไม่เรียก”


“ผมเรียกแล้ว...” พิทักษ์เรียกหาคนที่บอกว่าจะอยู่ห้องข้างๆ แต่เรียกเท่าไรก็ไม่ตอบ อารามเป็นห่วงจึงรีบลงมายังชั้นล่าง ถึงได้พบว่าจิดาภามาด้วย


“แม่กดน้ำให้” จิดาภาพูดแล้วเดินไปยังกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า กดใส่ครึ่งหนึ่งแล้วผสมน้ำอุณหภูมิห้องไม่ให้ร้อนเกินไป พอหันกลับมาก็พบว่าจิณณะกำลังช่วยประคองพิทักษ์ให้นั่งลงบนสตูลบาร์ ปากเขาก็บ่นไปด้วย


“ไปนั่งสบายๆที่โซฟาไม่ดีกว่าหรือ”


“นั่งนี่ก็ได้”


“พี่หิวอะไรไหม เอานมร้อนสักแก้วไหม ผมอุ่นให้”


“ไม่เป็นไร แค่น้ำก็พอ” ระหว่างชายหนุ่มสองคนคือบรรยากาศของความห่วงใย บทสนทนาถามไถ่อ่อนโยนจนจิดาภาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงเพราะกลัวว่าหล่อนจะเข้าไปทำลายโลกของพวกเขา


‘โลกของพวกเขา’ อย่างนั้นหรือ   


ชั่วขณะหนึ่ง จิดาภารู้สึกเหมือนกำลังยืนมองคนคู่หนึ่งที่...เอื้ออาทรต่อกัน คนคู่นั้นมีโลกของพวกเขาที่หล่อนเข้าไม่ถึง เป็นโลกของคนสองคนที่...อบอุ่นและสวยงาม


แต่...คนสองคนที่ว่านั่น หนึ่งคือลูกเลี้ยงของหล่อน และสองคือหลานชายของหล่อน


พวกเขาเป็นชายทั้งคู่...


จิดาภากะพริบตาถี่ๆ สัญชาตญาณบางอย่างทำให้หล่อนก้าวเท้าไวๆเข้าไปหา


“ทิศ น้ำร้อนได้แล้ว” หล่อนเอ่ยแล้ววางแก้วลงบนโต๊ะตรงหน้าคนป่วย


“ขอบคุณครับ”


เมื่อทั้งลูกเลี้ยงและหลานชายอยู่กันพร้อมหน้า แขกผู้มาเยือนจึงถามซ้ำ




“แม่เห็นจานชามแก้วน้ำเยอะเชียว จิณย้ายมาอยู่กับทิศหรือ”


นอกจากจานชามจะเยอะแล้ว ของสดของแห้งในตู้ก็มากเกินกว่าจะอยู่คนเดียว หล่อนแวะเวียนมาที่นี่อยู่เสมอ แต่ไม่เคยมาครั้งไหนแล้วพบว่ามีของมากขึ้นอย่างนี้ ที่สำคัญ...เมื่อเช้า จิณณะโทรหาหล่อนแต่เช้าเพราะพิทักษ์ป่วย เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าพิทักษ์ไม่สบาย หรือถ้าบอกว่าบังเอิญแวะมาหาในวันหยุด มันก็เช้าเกินกว่าที่คนเราจะแวะเวียนไปหากัน


ทางเดียวที่เป็นไปได้คือจิณณะอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ข้าวของในครัวบอกให้รู้ว่าที่นี่ไม่น่าจะมีคนมาอยู่เพิ่มแค่เมื่อคืนเพียงคืนเดียว แต่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้พักหนึ่งแล้ว


“ใช่ครับ ผมย้ายมาอยู่ที่นี่” จิณณะไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นภาระในใจคนป่วย เขาจึงเอ่ยปากขึ้นมาเสียเอง


ในเมื่อเขาเป็นคนย้าย เขาก็ควรเป็นคนรับผิดชอบการกระทำของตนเอง


แต่...ใครบางคนแม้จะป่วย ก็ไม่เคยปล่อยให้เขาต้องออกหน้าเพียงลำพัง


“ดีแล้วล่ะครับที่จิณอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีคนรู้ว่าผมป่วย” พิทักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและเชื่องช้า


ปลัดหนุ่มหันมองคนที่ยังหายใจติดขัดเพราะไข้หวัด แม้กระทั่งนั่งยังต้องเอนตัวพิงกับเคาท์เตอร์บาร์เพื่อช่วยพยุงตัว แต่แม้จะป่วยและอ่อนเพลีย ก็ยังช่วยเขา


“เมื่อเช้า จิณทำข้าวต้มใส่ผักกาดแบบแม่ภาด้วย แม่ภาบอกเขาหรือว่าผมชอบทานผักกาด” พิทักษ์ผู้มักมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ยามพูดคุยกับมารดาเลี้ยง กลับมีท่าทีอ่อนโยน


“จิณโทรมาบอกว่าทิศไม่สบาย แม่ก็เลยบอกให้เขาทำข้าวต้มใส่ผักกาดด้วย” พูดแล้วก็เหลือบมองหลานชาย จิณณะไม่สบตาหล่อน เอาแต่มองเมินไปทางอื่น


“ทิศไปนอนเถอะไป จะได้หายไวๆ” หล่อนหันมาบอกคนป่วย แต่เวลานี้ ใครก็ดูออกว่าประเด็นที่จิดาภาต้องการถามถึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเขาสองคน พิทักษ์ไม่แน่ใจว่าก่อนเขาจะลงมา มารดาเลี้ยงพูดคุยอะไรกับจิณณะบ้างแล้ว หล่อนล่วงรู้ความสัมพันธ์ของเขาและจิณณะมากเพียงใด อาจจะรู้ อาจจะไม่รู้ อาจจะระแคะระคาย แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าเขาไม่รู้ว่าหากหล่อนรู้ หล่อนจะยอมรับเรื่องนี้ได้มากเพียงใด


จิดาภาสำคัญสำหรับเขา จิณณะเองก็เช่นกัน


“ผมนอนมาแล้ว”


“แต่ก็ยังไม่หายอยู่ดี พี่ไปนอนเถอะ” ปลัดหนุ่มเอ่ยปาก สีหน้าของเขาแน่วแน่จริงจัง “...ไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก” จิณณะย้ำ แม้จะกังวลกับคำพูดของน้าสาว แต่เขาไม่อยากให้พิทักษ์ที่กำลังป่วยต้องมากังวลไปกับเรื่องนี้ด้วย ถึงเวลาที่เขาต้องปกป้องอีกฝ่ายบ้างแล้ว


สายตาของจิณณะบอกให้รู้ว่าขอให้เชื่อใจ แม้พิทักษ์จะเป็นห่วง แต่เขาก็รู้ว่าจิณณะไม่ใช่คนอ่อนแอ นิสัยอย่างผู้ชายย่อมมีความอยากเป็นผู้นำ ยิ่งเขาไม่สบาย เจ้าตัวคงยิ่งรู้สึกอยากเป็นที่พึ่ง


พิทักษ์ยอมพยักหน้า พอเขาขยับตัวลุกขึ้น จิณณะก็เข้าช่วยพยุงอย่างรวดเร็วก่อนจะพาออกจากห้องครัว จิดาภาได้แต่ยืนมอง ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันเล็กน้อย แต่เมื่อเดินตามไปดู ก็พบว่าจิณณะพาคนป่วยไปนอนที่โซฟาหน้าโทรทัศน์แล้ว


“ผมขึ้นไปเอาผ้าห่มให้ พี่นอนข้างล่างนี่ล่ะ จะได้ไม่อุดอู้” แล้วร่างสูงๆของปลัดหนุ่มก็เดินหายขึ้นไปยังชั้นบน จิดาภายังคงยืนมองเงียบๆ อึดใจเดียว จิณณะก็กลับลงมาพร้อมกับผ้าห่มผืนหนา แต่พอพิทักษ์จะลุกขึ้น กลับถูกคนสุขภาพดีดุ


“ไม่ต้องลุกขึ้นมาเลย ผมทำให้” แล้วปลัดก็สะบัดผ้าห่มออกคลุมร่างคนป่วย แม้จะอ่อนล้า แต่พิทักษ์ก็ยังมีรอยยิ้มจาง จิดาภารู้สึกราวกับเป็นคนนอกอีกครั้ง  หล่อนเข้าไม่ถึงโลกของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นกลับเห็นสายสัมพันธ์บางอย่างระหว่างคนสองคน


เป็นสายสัมพันธ์ที่เบาบาง ทว่าแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยความช่วยเหลือเกื้อกูลและพึ่งพากัน


พี่น้อง?


เพื่อน?


หรือว่า...


ความสัมพันธ์บางอย่างปรากฏขึ้นในใจของจิดาภา ทว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้หล่อนสะท้าน ยิ่งหลานชายหันมาสบตา สายตาของเขาก็ยิ่งทำให้หล่อนนิ่งงัน


จิณณะปล่อยให้คนป่วยได้พักผ่อนที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ก่อนจะเดินมาหาน้าสาว


“น้าภาจะทำอาหารให้พี่ทิศใช่ไหม” เขาพูดเพื่อดึงจิดาภาไปยังห้องครัว ไม่อยากให้อะไรก็ตามที่หล่อนจะพูดจะถาม ต้องเข้าหูคนป่วยให้ไม่สบายใจ ผู้อาวุโสกว่าพยักหน้า ยอมเดินตาม พอพ้นรัศมีการได้ยินของคนที่นอนออยู่บนโซฟาแล้ว จิณณะจึงเอ่ยปากเรียบๆ


“ผมมีปัญหากับคุณย่า เรื่องนี้น้าภาคงได้ยินมาบ้าง พี่ทิศเป็นห่วง เลยให้ผมมาอยู่ที่นี่” จิดาภาชะงักไปเล็กน้อยที่เขาพูดเรื่องที่บ้านขึ้นมา เรื่องที่จิณณะขอออกจากตระกูล หล่อนได้ยินจากพี่สาว พอตระหนักถึงปัญหาที่หลานชายประสบ ก็รู้สึกผิดที่คิดตั้งคำถามกับการที่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่


จิณณะหนีร้อนมาพึ่งเย็น การที่เขาจะมาอยู่ที่นี่ก็ไม่แปลก แต่...ทำไมหล่อนกลับรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา


“ผมเป็นพี่ มีแต่น้อง ถึงจะมีลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่า แต่ก็ไม่เคยต้องดูแล” จิณณะพูดแล้วหัวเราะเบา เขาพยายามทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด อยู่กับพิทักษ์บ่อยๆ ก็ชักจะรู้จักดูสถานการณ์บ้างแล้ว เวลานี้จิดาภากำลังเคลือบแคลงสงสัยความสัมพันธ์ของพวกเขา หากจะเปิดเผยทุกอย่าง ก็คงไม่ต่างจากสร้างปัญหาเพิ่มในเวลาที่ปัญหาอื่นยังคาราคาซัง


ผลักปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นไปก่อน เอาไว้ให้มีเรี่ยวแรงและเคลียร์ปัญหาที่มีอยู่เดิมให้จบเสียก่อน แล้วจะสร้างปัญหาใหม่ก็...ค่อยว่ากันอีกที


คำพูดของเขาราวกับบอกว่า จะดูแลพิทักษ์ในฐานะพี่ชายน้องชาย แม้คนฟังจะสงสัย แต่เพราะใจหวังให้พวกเขามีสถานภาพอย่างนี้ พอหลานชายออกปาก ใจจึงคว้าหมับกับคำพูดของเขาทันที


“จริงด้วย จิณไม่มีพี่นี่นะ”


“ครับ พี่ทิศเหมือนพี่” ชายหนุ่มย้ำ เพียงแต่เขาไม่บอกอะไรมากกว่านั้นว่าคำว่า ‘พี่’ ย่อมมีความหมายลึกซึ้งกว่าความเป็นพี่น้องธรรมดา


ทว่าสำหรับจิดาภา การย้ำของหลานชายยิ่งทำให้หล่อนยึดมั่น เสี้ยวหนึ่งรู้สึกเหมือนกำลังหลอกตัวเอง แต่ส่วนอื่นๆกลับบอกว่าให้ปักใจกับสถานะ ‘น้อง’ ตามปากของจิณณะ


ความสบายใจ


ย่อมเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนไขว่คว้า หากแม้เป็นการหลอกลวงก็ตาม


“ถ้าอย่างนั้นน้องจิณมาช่วยน้าภาทำโจ๊กให้พี่ทิศนะครับ” หล่อนหยอกเอิน จิณณะหัวเราะเบาๆ


“น้าภาพูดซะผมขนลุก ให้เกียรติอาชีพการงานตำแหน่งปลัดของผมด้วย น้องจิณอะไรกัน”


บรรยากาศระหว่างสองน้าหลานดีขึ้นผิดหูผิดตา ชั่ววูบหนึ่ง สายตาของคนเป็นหลานที่มองจิดาภานั้นวูบไหวด้วยความรู้สึกผิด ได้แต่สัญญาในใจว่าหากสะสางปัญหาที่พ่วงขาเขาอยู่ในเวลานี้ออกไปได้ เขาจะสารภาพกับจิดาภาด้วยตัวเอง

…………………..

ก่อนเที่ยง ทศพรกลับมารับภรรยาจากบ้านของลูกชาย พอดีพิทักษ์ตื่นขึ้นมาอีกรอบ จึงได้พูดคุยกับบิดาเล็กน้อย แต่เมื่อสองสามีภรรยาจะกลับ จิณณะเป็นคนเดินออกไปส่งเพียงลำพัง โดยกำชับให้คนป่วยอยู่แต่ในบ้าน อย่าออกไปเจอแดดลมตอนเที่ยง เพราะเกรงว่าไข้จะกลับ


“ฝากทิศด้วยนะ จิณ” ทศพรหันมาบอก จิณณะรับคำ ท่าทางของเขาดูจริงจังรับคำมั่น จนแม้แต่จิดาภาที่เลือกความสบายใจของตนเองด้วยการเชื่อคำว่า ‘พี่น้อง’ จากปากของเขายังอดใจวูบโหวงไม่ได้


บิดาของพิทักษ์ขึ้นเบาะหลังไปแล้ว น้าสาวแท้ๆจึงหันมาทางชายหนุ่มที่ออกมาส่งแทนเจ้าของบ้าน


“ถ้ามีอะไรก็โทร.ไปบอกนะ”


“ได้ครับ”


“น้าต้มโจ๊กเอาไว้เผื่อจิณด้วย ทิศกินคนเดียวไม่หมดหรอก”


“ขอบคุณครับ”


“จิณ...น้าฝากดูแลทิศด้วยนะ”


จิณณะทำหน้าไม่ถูก คำพูดของทศพรและจิดาภานั้นความหมายไม่ต่างกัน ทว่าความลึกซึ้งนั้นต่างกันอย่างชัดเจน เขาสูดหายใจลึกเพื่อตั้งสติก่อนจะเสยิ้มกลับไป ท่องไว้ในใจว่าอย่างไรก็ต้องไม่สร้างปัญหาเพิ่มให้ตนเองและพิทักษ์ในเวลานี้


“ไม่ต้องห่วงครับน้าภา ผมไม่ทำให้พี่ทิศป่วยหนักกว่าเดิมแน่นอน” จิดาภาหัวเราะเบาๆ พยายามเก็บซ่อนความกังวลในใจแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปรากฏร่องรอยในดวงตา


หล่อนไม่พูดอะไรอีก ก้าวเท้าขึ้นนั่งในรถ แต่ก่อนจะปิดประตู ก็ตัดสินใจเอ่ยปากอีกครั้ง


“จิณจำที่สัญญากับน้าได้ใช่ไหม”


ปลัดหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าน้าสาวทวงถามถึงสัญญาเรื่องใด


“ถ้าเรื่องจบ จิณจะคืนชีวิตเดิมให้ทิศ จิณยังจำได้ใช่ไหม”


น้ำลายในคอเหนียวหนืดจนกลืนไม่ลง จิณณะรู้สึกเหมือนหัวใจเย็นวาบ เขาเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งยิ้ม


“จำได้ครับ” เสียงของเขาแหบแห้งลง สบตากับจิดาภาได้แค่วูบเดียวแล้วก็ต้องเบือนสายตาหนีไปทางอื่น


“น้าจะรอ...วันที่จิณและทิศ กลับไปเป็นเหมือนเดิม” ประโยคสุดท้ายของน้าสาวควรจะเหมือนแค่สายลมพัดผ่าน แต่แม้กระทั่งรถยนต์ของทศพรและจิดาภาเคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านไปแล้ว คำพูดประโยคนี้ก็ยังคงดังก้องอยู่ในสมองของจิณณะ


‘กลับไปเป็นเหมือนเดิม’


ดวงตาของปลัดหนุ่มมองบ้านที่ตั้งตระหง่านซึ่งกลายเป็นแหล่งพักพิงเดียวของเขาในเวลานี้


เหมือนเดิม...ที่เขาไม่เคยรู้จักที่นี่


เหมือนเดิม...ที่เขาไม่เคยมาที่นี่


เหมือนเดิม...ที่เขาและเจ้าของบ้านหลังนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน


จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อย่างไร ในเมื่อ ‘ใจ’ ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

…………………….

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2019 22:09:18 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
อาการของพิทักษ์ดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังไม่หายสนิท ไข้ไม่มีแล้วก็จริงแต่ยังไอและหายใจไม่สะดวก จิณณะเสนอให้อยู่บ้านเพื่อพักอีกวันหนึ่ง แต่ติดที่เป็นวันทำงานและพิทักษ์มีประชุมกับพนักงาน คนป่วยที่แม้จะยังไม่หายดีนักแต่เรี่ยวแรงกำลังวังชาก็กลับมาแล้ว จึงเริ่มมีสุ้มเสียงโต้แย้งขึ้นมาบ้าง


“พี่มีประชุม หยุดไม่ได้”


แน่นอนว่าบุรุษพยาบาลจำเป็นผู้ชี้ซ้ายชี้ขวามาตลอดเมื่อวานนี้ พอถูกริบอำนาจคืนก็ชักหน้าบูด


“แต่ก็ยังไม่หาย”


“แค่มีไข้นิดหน่อย วันนี้มีประชุมด้วย”


“ไม่มีสำนึกต่อสาธารณะ ประชุมทั้งๆที่เป็นหวัด เกิดคนอื่นติดหวัดขึ้นมาทำไง” คนบ่นคือคนที่ไม่ได้มีส่วนในการประชุมแต่อย่างใด พิทักษ์รู้สึกเหมือนถูกด่า แต่เอาเป็นว่าวันนี้จะยอมอีกสักวันก็แล้วกัน


“พี่จะใส่แมสก์ครับ” คนป่วยออกตัว ดูท่าแล้วต่อให้จิณณะจะกล่าวหาอะไรมากกว่านี้ ก็คงยืนกรานจะไปประชุมวันนี้อยู่ดี สุดท้ายปลัดเลยยื่นมือออกไปตรงหน้าแทน


“งั้นเอากุญแจรถมา ผมขับให้เอง” คราวนี้คนป่วยไม่คัดค้าน เพราะหากยังอยากไปประชุมทั้งๆที่ป่วย เขาก็ควรจะลงให้กับจิณณะสักเรื่องหนึ่ง


“ผมจะขับไปส่งพี่ที่สนามกอล์ฟก่อน แล้วตอนกลางวันจะแวะไปหา วันนี้ห้ามกินน้ำเย็น ห้ามดื่มกาแฟ เย็นนี้พี่ต้องกลับมาพักผ่อน” จิณณะที่ดูอิรุ่ยฉุยแฉะ กลับเป็นคนเคร่งครัดในพริบตา หน้าตาของเขาดูจะวุ่นวายใจอยู่มากที่คนป่วยทำตัวไม่สมป่วย ลุกจากเตียงอยากไปประชุมวันนี้


“ครับๆ” พิทักษ์อยากจะยิ้มกว้างๆ ทั้งๆที่ควรจะรำคาญกับการจู้จี้จุกจิกของคนข้างกาย แต่จิณณะที่เป็นแบบนี้พบเห็นได้ไม่มากนัก ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมีมุมดูแลคนอื่นอย่างเจ้ากี้เจ้าการอย่างนี้ด้วย


“พี่ยิ้มอะไร ขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปประชุมสายหรอก” พิทักษ์ไม่ตอบโต้ เดินยิ้มขึ้นนั่งตำแหน่งข้างคนขับ แต่ไม่วายได้ยินเสียงบ่นตามมาอีกชุด


“ประชุมวันนี้ถ้าได้กำไรสักสามร้อยล้าน ช่วยแบ่งผมสักร้อยล้านนะ ขยันประชุมกว่าข้าราชการอีก!”


พิทักษ์สัญญา ถ้าประชุมแล้วได้เงินมากขนาดนั้น ประชุมเสร็จแล้วจะพาจิณณะไปเที่ยวรอบโลกสักสามเที่ยวเลยทีเดียว!

………………….

ถนนยามเช้าวันจันทร์ค่อนข้างเนืองแน่น แต่เมื่อหลุดเข้าสู่ถนนใหญ่ขนาดแปดเลน รถของพิทักษ์ก็เริ่มทำความเร็วได้ในระดับที่ค่อนข้างดี ทุกอย่างดูปกติเหมือนเคย แต่ในสายตาของคนติดตามที่คุณเทียมส่งมาดูแลย่อมรู้ดีว่าไม่ปกติ


ชายฉกรรจ์สองคนในรถตู้สังเกตเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาตั้งแต่ออกจากหมู่บ้าน คำสั่งแรกที่ได้รับมาจากเจ้านายคือตามดูแลความปลอดภัยพิทักษ์และจิณณะอย่างใกล้ชิด และ...คำสั่งที่สองคือเอาตัว ‘คนตาม’ กลับมาเป็นๆ


รถมอเตอร์ไซค์เร่งความเร็วเพื่อตามรถของพิทักษ์ ดูท่าไม่ดีจนคนของคุณเทียมต้องหันมองหน้ากันเพื่อตัดสินใจดำเนินการขั้นเด็ดขาด


ดูแลความปลอดภัย


และ


จับเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น!


รถตู้เพิ่มความเร็วจนขึ้นมาขนาบข้างรถมอเตอร์ไซค์เป้าหมายแล้วเบียดเข้าหา ครั้งแรกรถมอเตอร์ไซค์อาศัยความคล่องตัวเบี่ยงหลบ แล้วเร่งความเร็วเพื่อแซง แต่รถตู้เร่งตามแล้วเบียดอีกครั้ง เสียงตะโกนด่าทอจากคนขับรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้น แต่คนในรถตู้ไม่มีใครสนใจ หักพวงมาลัยเบียดรถมอเตอร์ไซค์อีกเป็นครั้งที่สาม ถนนเข้าสู่ช่วงทางโค้ง เปิดโอกาสให้รถตู้หักพวงมาลัยพุ่งขวางสุดตัว รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาด้วยความเร็วเบรคเอี๊ยด เสียงล้อสีไปกับถนนแต่ก็หยุดไม่ทัน ทั้งรถทั้งคนกระแทกเข้ากับตัวรถตู้แล้วกระเด็นตกขอบถนนไป


ทุกอย่างจบลง รถหลายคันบนท้องถนนเห็นเหตุการณ์ แต่เพราะเป็นถนนเส้นใหญ่ การจอดกะทันหันย่อมเป็นอันตราย นอกจากชะลอดูและขับผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีใครลงมาช่วยเหลือ แต่คาดว่าอีกไม่นานเกินรอคงมีเจ้าหน้าที่และกู้ภัยมาถึง คนในรถตู้รีบเปิดประตูลงมาคว้าแขนชายสองคนที่ตกถนนไปพร้อมกับมอเตอร์ไซค์


“นายไพศาลส่งพวกมึงมาใช่ไหม?!”


“ใครคือไพศาลวะ?!!” ชายคนหนึ่งตะคอกกลับ ร้องโอดโอย แขนถลอกปอกเปิกเต็มไปด้วยแผลสด ดีว่าสวมหมวกกันน็อกแน่นหนา ไม่อย่างนั้นคงโหม่งพื้นไปแล้ว


ไม่มีใครทันให้ความกระจ่าง รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็เร่งความเร็วผ่านพวกเขาไปประกบรถของพิทักษ์ คนที่นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์คันนั้นชักปืนออกมาแล้วจ่อยิงที่ตำแหน่งข้างคนขับ


ปัง!


เสียงปืนดังสนั่น รถของพิทักษ์เบรกกะทันหันเป็นคันแรก ตามมาด้วยเสียงเบรกและเสียงแตรของรถยนต์หลายสิบคันที่อยู่บนถนน ก่อนที่มอเตอร์ไซค์คันนั้นจะเร่งความเร็วหนีหายไป


ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คนที่ลงมาจากรถตู้ยืนตกตะลึงแทบลืมหายใจ ปล่อยมือที่ฉุดกระชากคนที่ตนเข้าใจว่าเป็นคนของไพศาลจนอีกฝ่ายร่วงลงกับพื้น แต่ไม่มีใครส่งเสียงครวญทั้งนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าสะเทือนขวัญว่าอะไรทั้งหมด!


รถของพิทักษ์ถูกยิง!


ประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออก ชายหนุ่มในชุดข้าราชการสีกากีลงจากรถพร้อมด้วยมือชุ่มเลือด สีหน้าของเขาตื่นตระหนกและซีดขาว เสียงของเขาดังลั่น


“เรียกรถพยาบาลที! มีคนถูกยิง!!! กด 1669 มีคนถูกยิง!!!”


คนของคุณเทียมได้สติในวินาทีนั้น ผละจากมอเตอร์ไซค์ที่พวกตนเบียดจนตกถนนแล้วพุ่งตัวไปที่เบาะข้างคนขับของรถคันที่ถูกจ่อยิง


ชายหนุ่มที่ถูกยิงมีเลือดชุ่มไหล่ขวา นั่งหายใจรวยรินอยู่บนเบาะข้างคนขับ


ทุกครั้ง...เบาะนี้เป็นที่นั่งของจิณณะ เพราะคนขับคือพิทักษ์


แต่วันนี้...คนขับคือจิณณะ เพราะฉะนั้น...คนที่นั่งข้างคนขับจึงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก...พิทักษ์


“คุณทิศ!!!”


พิทักษ์ถูกยิง!

……………………..

………………….


   เมื่อเช้า อากาศสดใส แดดแรงเหมือนเคย


   ถนนขนาด 8 เลนมีรถยนต์ไม่ต่างไปจากเช้าวันอื่นๆ จิณณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัย เหยียบคันเร่งทำความเร็วปกติ ตอนที่มีอุบัติเหตุรถตู้เฉี่ยวชนกับรถมอเตอร์ไซค์ เขายังเงยหน้าขึ้นมองกระจกส่องหลังเลย ตอนที่กำลังแบ่งความสนใจเป็นสองส่วนคือมองถนนช้างหน้า และมองเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหลังผ่านทางกระจก รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ขับแซงขึ้นมาประกบข้าง ปลัดหนุ่มหันมองฝั่งที่นั่งข้างคนขับตามสัญชาตญาณ วินาทีนั้นเห็นวัตถุสีดำเมื่อมจ่อมาที่กระจกฝั่งที่พิทักษ์นั่งอยู่ จิณณะเบิกตาโพลง แล้วร้องลั่น


   “พี่ทิศ!”


   ชั่วเสี้ยววินาทีที่พิทักษ์หันไปเห็น คนที่ยังไม่หายไข้กลับตัดสินใจอย่างไวด้วยการขยับตัวบังจิณณะเอาไว้


   ‘ปัง!’


   เสียงแรกที่แหวกอากาศดังก้อง ตามมาด้วยเสียงกระจกแตก เสียงเบรก เสียงรถข้างหลังเบรกตามๆกันและเสียงบีบแตร


   ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าผลของมันยาวนานสำหรับจิณณะเหลือเกิน...


ปลัดหนุ่มยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ดวงตาเลื่อนลอยราวกับไม่รับรู้อะไร ข้างกายมีมารดาคอยลูบไหล่ปลอบประโลม พร่ำบอกแต่คำว่า ‘ทิศต้องไม่เป็นอะไร’


เขาก็หวังอย่างนั้น หวังให้พิทักษ์ไม่เป็นอะไร แต่...ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชั่ววินาทีที่เห็นปืน ชั่ววินาทีที่เขาสบตากับมือปืน ชั่ววินาทีที่ปืนเบี่ยงเป้าหมายจากตำแหน่งที่นั่งฝั่งข้างคนขับมายังเขา และชั่ววินาทีที่พิทักษ์ขยับตัวบัง


‘ปัง!’


เสียงนั้นยังก้องอยู่ในสมอง เลือดจำนวนมากที่ไหลออกมาจากบาดแผล พิทักษ์ที่หายใจรวยรินก่อนจะมาถึงห้องฉุกเฉินแบบไร้สติ ทำให้หัวใจของจิณณะหวาดหวั่นจนแทบหายใจไม่ออก


ทำไมต้องเป็นพี่ทิศ ทำไม...


คนที่ต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินตอนนี้ควรเป็นเขาไม่ใช่หรือ กระสุนนัดนั้นมันสำหรับเขา ไม่ใช่สำหรับพิทักษ์


เสียงฝีเท้าดังก้องมาตามทางเดิน เรียกความสนใจจากโกศลและจรรยา สองสามีภรรยาหันมองแล้วถึงกับเบิกตาโตเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นคือชายหญิงวัยปลาย


ชาย...คือคุณเทียม


หญิง...คือคุณกอบกุล


“คุณแม่!” โกศลร้องอย่างคาดไม่ถึง ตอนที่จิณณะโทรศัพท์ไปบอก สองสามีภรรยารีบออกจากบ้านตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาลโดยไม่บอกใคร แต่เวลานี้ต่อให้ไม่บอก คุณกอบกุลก็มาถึงหน้าห้องฉุกเฉินแล้ว


“เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอกันรึไง ไม่บอกฉันสักคำ!” คุณกอบกุลขึ้นเสียงหน้าตึง ก่อนจะเหลือบตาไปมองหลานชายนอกคอก


“แล้ว...นั่นเป็นอะไรรึเปล่า” คำถามไม่ระบุชื่อคนถูกถาม แต่จรรยารีบเขย่าไหล่ลูกชายให้หันมอง


ดวงตาของจิณณะยังคงเลื่อนลอย แต่เมื่อหันมาสบตากับผู้เป็นย่าก็เหมือนจะมีสติรับรู้ขึ้นมาเล็กน้อย เขายกมือไหว้ก่อนจะตอบ


“ไม่เป็นไรครับ แล้ว...คุณย่ามาได้ยังไง” ต่อให้จะเคยเอ่ยปากว่าขอออกจากตระกูลของคุณกอบกุล แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาถือทิฐิอีกแล้ว ในเมื่อใครอีกคนกำลังครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่ในห้องผ่าตัด


หญิงชราเงียบไปอึดใจหนึ่ง คุณเทียมจึงเป็นฝ่ายพูด


“คนของผมเข้าใจว่าคนที่ตามปลัดกับทิศเป็นคนร้าย ก็เลยจับไว้ แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่คุณกอบส่งมาดูแลปลัด”


โกศล จรรยาและจิณณะพากันชะงัก ดวงตาของหลานชายเบี่ยงไปมองญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด คุณกอบกุลพูดไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเชิดหน้าคอแข็ง


“คุณเทียมอย่าหาว่าฉันใช้เงินแก้ปัญหาเลย แต่ค่ารักษาของคุณพิทักษ์ครั้งนี้ ฉันจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง เพราะฉัน...ทำให้เรื่องมันไปกันใหญ่”


หลังจากส่งนักสืบออกตามหาข่าวและคาดเดาได้ว่าจิณณะอาจจะได้รับอันตราย หล่อนจึงว่าจ้างคนตามดูแลหลานชายโดยไม่บอกใคร และมันทำให้คนของคุณเทียมสับสน ความเข้าใจผิดใหญ่หลวงนี้ ทำให้มือปืนตัวจริงมีโอกาสลงมือ


ไม่มีใครคาดถึงว่าหญิงชราผู้นี้จะสนอกสนใจความปลอดภัยของหลานชายนอกคอกถึงเพียงนี้ ทุกคนได้แต่เงียบ โดยเฉพาะจิณณะ...เขาลูบหน้าตัวเองไปมา รู้สึกอื้ออึงไปหมดทั้งใจ วันนี้ที่รับรู้ความห่วงใยจากคนในครอบครัวที่เขาไม่เคยคาดหวัง ได้รับรู้ความรักของญาติผู้ใหญ่ที่ไม่เคยญาติดีกัน แต่กลายเป็นความห่วงใยนั้นกลับส่งผลให้พิทักษ์ต้องอยู่ในห้องฉุกเฉิน


จิณณะพูดไม่ออก หากจะกล่าวโทษว่าเป็นเพราะความห่วงใยของคุณกอบกุล เขาก็ทำไม่ลง เพราะแท้จริงแล้ว เรื่องนี้มันผิดที่เขา...ผิดที่จิณณะไม่เคยคุย ไม่เคยบอกเล่าอะไรให้คุณกอบกุลฟังเลย เมื่อวันหนึ่งหล่อนระแคะระคายและหล่อนลงมือทำอะไรบางอย่าง หล่อนก็ไม่บอกเขาเช่นกัน


แล้วคนรับเคราะห์ก็เลยกลายเป็นพิทักษ์


ปลัดหนุ่มที่เสื้อผ้าเปื้อนด้วยเลือดแห้งกรังได้แต่หันกลับไปมองบานประตูห้องฉุกเฉิน แม้มันจะทึบ มองไม่เห็นอะไรเลย แต่สายตาของเขายังจับจ้องราวกับมองเห็นภายใน ราวกับอยากสื่อสารถึงคนที่อยู่ในนั้น


อยากให้พิทักษ์ฟื้นขึ้นมารับรู้ความห่วงใยที่คุณกอบกุลมีให้เขา จิณณะสัญญาว่าจะเล่าอย่างไม่เคอะเขิน หากพิทักษ์แนะนำให้เขาเตรียมพานพุ่มธูปเทียนไปขอขมาเรื่องที่แล้วๆมา เขาก็จะทำโดยไม่เถียง


ขอแค่พิทักษ์กลับมา


อย่าเป็นอะไรไปโดยทิ้งให้เขาต้องอยู่กับความผิดบาปและความกระอักกระอวลต่อความห่วงใยของคุณกอบกุลเลย


เขาไม่อยาก...ไม่อยากเสียคนสำคัญคนใดคนหนึ่งไปอีกแล้ว


คล้อยหลังคุณเทียมและคุณกอบกุลไม่นาน ทศพรและจิดาภาก็มาถึง สีหน้าของแม่เลี้ยงของพิทักษ์นั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!” เสียงร้องถามดังขึ้นอย่างร้อนรน จิณณะหันกลับไปมอง เห็นมารดาของตนกำลังอธิบายเรื่องราวให้น้าสาวฟัง แต่สายตาของจิดาภากลับพุ่งตรงมาที่เขา ก่อนจะลดลงมองเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดบนร่างของจิณณะแล้วเบิกตาโต ชะงักงันไม่มีแม้แต่เสียง


“ตอนนี้ทิศอยู่กับหมอแล้ว...” จรรยาปลอบ แต่จิดาภาไม่ได้ฟังพี่สาวเลยสักนิด หล่อนก้าวตรงไปหาหลานชาย


“นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง?! จิณ! บอกน้า!”


“พี่ทิศ...ถูกยิง...” เขาพูดซ้ำประโยคเดิมกับที่โทรไปบอกมารดาตนเอง ราวกับสมองมีเพียงแค่ประโยคนี้ที่ไหลวนอยู่ในหัว แววตาที่หม่นหมองของจิณณะเหมือนมีประกายวูบหนึ่ง เป็นประกายของสติและการรับรู้ ทว่าการรับรู้ของเขาในเวลานี้มีเพียงเรื่องเดียว คือการที่พิทักษ์ถูกยิงเพราะเอาร่างตนเองบังเขาเอาไว้


“...เพราะผม...”


จิดาภาแทบทรุดทั้งยืน มองหลานชายด้วยความตกตะลึง จิณณะไม่กล้าสบตาผู้เป็นน้า ได้แต่หันกลับไปมองที่ประตูห้องฉุกเฉิน แต่วินาทีต่อมาแผ่นหลังของเขาก็ถูกทุบดังอั่ก


“ไหนจิณว่าจะไม่มีอะไร! ไหนจิณว่าถ้าเรื่องจบ จะให้ทิศเป็นอิสระ! แล้วมันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!” จิณณะได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้แผ่นหลังของเขาถูกทุบครั้งแล้วครั้งเล่า มันเจ็บหรือไม่ เขาไม่รู้ เพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่หัวใจรู้คือด้านชาไปหมดแล้ว


พิทักษ์ถูกยิงเพราะเขา


ถ้าพิทักษ์เป็นอะไรขึ้นมา


เขาจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย


“พอแล้วภา พอเถอะ” ทศพรดึงร่างภรรยาไปสงบสติอารมณ์ที่มุมหนึ่ง จรรยาไม่กล้าตามไปปลอบน้องสาว ได้แต่ยืนเคียงข้างบุตรชาย หล่อนเองก็ไม่รู้ว่าจะปลอบฝั่งไหน หรือกล่าวโทษใคร จิณณะผิดหรือที่ตกเป็นเป้าหมาย พิทักษ์ผิดหรือที่เอาตนเองเข้าบังแทน


ไม่มีใครผิดเลย ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว และเวลานี้ทำได้แค่รอ...


รอว่าพิทักษ์จะปลอดภัยหรือไม่


เสียงสะอึกสะอื้นของจิดาภายังดังแผ่ว ในขณะที่จิณณะยืนเงียบอยู่ที่ประตู สองชั่วโมงผ่านไป จนชั่วโมงที่สาม ทิวากร น้องชายของพิทักษ์ซึ่งเป็นหมออยู่ต่างจังหวัดก็มาถึงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล พวกเขาทักทายคุณกอบกุล คุณเทียม จิดาภาและทศพร จรรยาและโกศล แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูและเห็นจิณณะ คนมาใหม่ก็เลิกคิ้วเล็กน้อย พลางมองเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรัง


ทิวากรไม่พูดอะไร แต่ตบไหล่ปลัดหนุ่มไปที ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในห้องฉุกเฉินพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล จิณณะอยากตามเข้าไปด้วย แต่ก็เกรงว่าตนเองจะก่อความวุ่นวายมากกว่าที่เป็นอยู่ จึงทำได้เพียงยืนอยู่กับที่


เข้าสู่ชั่วโมงที่สี่ หมอและทิวากรก็ผลักประตูออกมา จิณณะมีคำถามเต็มหัว แต่คนที่พุ่งตัวมาถึงก่อนกลับเป็นจิดาภาและทศพร จนเขาต้องขยับถอยออกไป


“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่ต้องดูอาการเพราะเสียเลือดไปมาก”


ทิวากรหันมาทางบิดาและมารดาเลี้ยง “ผมติดต่อทางกรุงเทพฯแล้ว ถ้าพรุ่งนี้พี่ทิศไปได้ ผมจะเอาเข้าเลย จะให้อาจารย์ช่วยดูให้ด้วย”


จิณณะได้แต่รับฟังเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าทิวากรจะให้พิทักษ์เข้าโรงพยาบาลที่ไหนในกรุงเทพฯ และไม่รู้ว่าจะให้ใครช่วยดูแลต่อ แต่เวลานี้แค่ได้รับรู้ว่าพิทักษ์ปลอดภัยก็ดีแล้ว


ดีแล้ว...ที่ไม่เป็นอะไร


“ทิศไม่เป็นอะไรแล้วนะจิณ” เสียงของจรรยาดังขึ้นเบาๆราวกับอยากปลอบประโลมลูกชาย จิณณะหันมองแล้วยกมุมปากเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้


“ไปเถอะครับ”


เมื่อรู้แล้วว่าพิทักษ์จะไม่เป็นอะไร ก็ไม่กล้าเสนอหน้าอยู่ต่อ ทว่าพอชายหนุ่มจะเดินจากไปอย่างเงียบๆพร้อมโกศลและจรรยา เสียงของจิดาภาก็ดังขึ้น


“จำสัญญาที่ให้ไว้กับน้าได้ไหม ที่จะคืนชีวิตเดิมให้ทิศทันทีที่จบเรื่อง น้าขอชีวิตเดิมของทิศตอนนี้เลย!”


“...อย่ามายุ่งกับทิศอีก!”


ปลัดหนุ่มรู้สึกร้อนวาบไปทั้งอก จิดาภาเป็นคนใจดีแต่หล่อนก็เป็นคนจริงจัง และเมื่อหล่อนเอ่ยปากอย่างจริงจังเช่นนี้ เขาก็ไม่มีหน้าปฏิเสธ


ชายหนุ่มหันกลับไปมองน้าสาว ดวงหน้าของเขาทุกข์เศร้าทำเอาจิดาภาชะงักไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อคิดถึงลูกเลี้ยงที่ตนเองเลี้ยงดูมาแต่เล็กเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา แม้ตอนนี้จะปลอดภัยแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเหมือนเดิมมากน้อยเพียงใด หล่อนก็บอกตนเองว่าจะใจอ่อนไม่ได้อีกแล้ว


จิณณะไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้พิทักษ์อีกแล้ว


พิทักษ์ควรจะได้กลับไปมีชีวิตเงียบสงบของเขาตามเดิมเสียที


“ผมจะไม่ทำให้พี่ทิศลำบากอีก ผมสัญญา”


เป็นคำสัญญาที่ไม่รู้ว่าออกจากปากได้อย่างไรทั้งๆที่หัวใจอยากเคียงข้างอีกฝ่ายไปจนลมหายใจสุดท้าย


แต่...ลมหายใจสุดท้ายเกือบมาเยือนพิทักษ์แล้ว เพราะการมีเขาอยู่เคียงข้าง


เพราะฉะนั้น...อย่าทำให้พิทักษ์ลำบากอีกเลย


จิณณะยกมือไหว้จิดาภาและทศพร คุณเทียมและคุณกอบกุล ก่อนที่สายตาจะมองผ่านผู้ใหญ่ทุกคนไปยังบานประตูห้องฉุกเฉินด้านหลังอีกครั้งเหมือนเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย


คนเราไม่จากเป็นก็จากตาย แต่ถ้าเลือกได้ ก็ยินดีจะจากเป็น เพื่อให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่ต่อไป


ชายหนุ่มละสายตาจากบานประตูราวกับตัดใจ ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปพร้อมบุพการี


แล้วจากนั้น...เขาก็ไม่มาเยี่ยมพิทักษ์อีกเลย


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


เอ่อ...เรื่องยังไม่จบ ใจเย็นๆกันก่อนนะคะ พี่ทิศจำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อให้เหมาะสมกับชื่ออันแสนมงคลของพี่ค่ะ ฮ่าฮ่า

ตอนที่เขียนตอนนี้ขึ้นมาน่ะ อยากจะสื่อถึงจุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เกิดหายนะใหญ่ ความเข้าใจผิด ความประมาท บางทีมันแค่จุดเล็กนิดเดียวที่คาดไม่ถึง แต่สุดท้ายก็ทำให้เกิดเรื่อง

และสุดท้ายแล้ว น้าภาเลยกลายเป็นตัวแปรในความสัมพันธ์ระหว่างพี่ทิศและจิณไปซะเลย (อย่าโกรธน้าภาแกเลยนะคะ แกเลี้ยงของแกมา อยู่ดีๆหลานมาชุบมือเปิบ อยู่กินกับลูกแก ไม่บอกแกสักคำ ฮ่าฮ่า)

ส่วนแผนผังที่แปะมาในตอนนี้ เป็นผังฝั่งครอบครัว สรุปว่าตระกูลคุณกอบกุลเป็นญาติกับตั้งกาญจนพาณิชย์นะคะ (ความใช้ตัวละครคุ้มนี้ ฮ่าฮ่า) สำหรับใครยังไม่เคยอ่านอีกสองเรื่อง จิ้มโล้ด “วาระซ่อนเร้น” และ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” (ซึ่งเนื้อหาคนละทางกับเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิงค่ะ สองเรื่องนั้น รักใสๆในรั้วมหา’ลัย ส่วนเรื่องนี้ รักแต่ไม่พูดแถมวิบากกรรมอีกเป็นโหล วะฮ่าฮ่า)

ขอบคุณคนอ่าน คนคอมเม้นท์ คนติดตาม พื้นที่บอร์ด และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2019 19:06:35 โดย Dezair »

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
อ่านแล้วจุกในอกเลยอะ

ออฟไลน์ @rnon

  • ร่มเย็นเป็นสุข
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :katai1:

สะดูปลัดแท้น้อ

 :ling3:

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยยย ปวดหัวใจเหลือเกิน

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เศร้าจัง

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
แผนผัง รูปหัวใจสีชมพู พี่ทิศ กับ จิณ หว๊านหวาน
..
...
น้าภาแกห่วงของแก เพราะแกเลี้ยงมา ก็เข้าใจแกนะคะ
และก็สงสารจิณตอนนี้มาก แทนที่จะได้อยู่ดูแลพี่ทิศตอนฟื้น  :ling3:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
แค่นี้ก็สะท้อนใจมากๆ แล้ว
ยังจะมีวิบากกรรมอีกเป็นโหล ...

จิณณะต้องอยู่รอด เอาใจช่วย
พี่ทิศ ยังก็ต้องกลับมาพิทักษ์จิณณะแน่นอน

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
 :a6: :a6: :a6:  สงสารปลัดจิณ งืออออ   :o12:  ปลัดมีแค่พี่ทิศที่คอยเข้าใจและอยู่ข้างๆคอยดูแลกัน อย่ามาพรากเขาจากกันแบบนี้ พลีสสสส

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
โอย...น้ำตาจิไหล~~~
สงสารปลัดแท้...เป็นห่วงก็เป็นห่วง น้ายังหวงลูกชายอีก เฮ้อ~~~

รอดูพี่ทิศฟื้นเลยค่ะ ท่าทางจะไฟต์รอบทิศ โดยเฉพาะคุณแม่...อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด