ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 12
นับจากวันนั้น พิทักษ์ค่อนข้างวุ่นวาย ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องรับส่งจิณณะ อีกทั้งยังต้องหาทางเข้าไปพบผู้ใหญ่ที่เขาคิดว่าพอจะช่วยเหลือได้ หากไม่ได้เส้นสายของคุณเทียมส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือธุรกิจสนามกอล์ฟที่เขาทำช่วยปูทางให้พอรู้จักคนใหญ่คนโตอยู่บ้าง คงเข้าหาไม่ได้ถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตาม การเข้าหาได้กับการได้รับความช่วยเหลือย่อมเป็นคนละเรื่องกัน
ท่านนพพร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใหญ่แห่งหนึ่ง ครั้งหนึ่งพิทักษ์และจิณณะเคยถูกส่งไปเป็นตัวแทนร่วมงานวันแต่งงานของลูกชายของท่าน ยามนั้นเจ้าภาพจำหน้าไม่ได้ ในเมื่อมีคนนับร้อยนับพันผ่านสายตา แต่เมื่อพิทักษ์ขอพบเป็นการส่วนตัว ผ่านทางเส้นสายของคุณเทียมอีกครั้ง นอกจากจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว ยังต้องจดจำใบหน้า ‘หลานชายคุณเทียม’ ให้ได้อีกด้วย
“เชิญๆ” เส้นสายของคุณเทียมทำให้ท่านนพพรรับรองพิทักษ์ถึงในคฤหาสน์ส่วนตัว ชายหนุ่มไม่ได้มามือเปล่าแต่หิ้วของมาด้วยอีกถุงหนึ่ง
“คุณลุงฝากของมาเยี่ยมท่านด้วยครับ”
ใครก็ดูออกว่าของฝากของคุณเทียมที่ฝากหลานชายหิ้วมาให้นั้นเป็นเพียงใบเบิกทาง เจ้าของบ้านหัวเราะแล้วยื่นมือมารับ แม้จะเป็นคนใหญ่คนโตแต่ชายวัยปลายคนนี้ดูเข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง
“ฝากขอบคุณด้วย คุณเทียมสบายดีไหม ไม่ได้เจอกันพักใหญ่แล้ว ได้ยินว่าทางนั้นค่อนข้างวุ่นวาย ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวก่อน” เรื่องคราวก่อนที่ว่าย่อมเป็นเรื่องไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ทองสุกถูกฆ่าตายจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ
“คุณลุงสบายดีครับ เรื่องนั้นกระทบหลายอย่างก็เลยยุ่งอยู่บ้าง แต่ทางตำรวจกับฝ่ายปกครองเองก็กำลังเร่งตามคดีนี้กันอยู่” ท่านนพพรพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“เรื่องถึงสื่อด้วยแบบนี้ จะอยู่เฉยก็ไม่ได้ด้วยสินะ”
“ครับ แต่อีกไม่นาน คงได้เป็นข่าวใหญ่อีกรอบ ว่าใครเป็นคนทำและทำไปเพื่ออะไร” พิทักษ์เปรย
“แล้วสนามกอล์ฟของคุณพิทักษ์เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ได้รับผลกระทบบ้างไหม”
“ไม่เท่าไรครับ ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม”
ท่านนพพรหัวเราะร่วนกำลังจะเอ่ย แต่พิทักษ์ที่ดูสุขุมกลับพูดต่อไวกว่า
“หรือต่อให้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมว่า...ก็คงตัดทิ้งก่อนจะสาวมาถึงตัวตั้งนานแล้ว”
เจ้าบ้านพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่น่าแปลก...ผมได้ยินมาว่า คนที่บงการยังไม่หยุด...” คราวนี้คนที่มีท่าทีเออออกลับชะงัก
“ไม่หยุด? มีใครโง่อย่างนั้นด้วยหรือ เป็นข่าวดังขนาดนี้ แถมคุณเทียมก็ลงมาดูเองอย่างนี้” พิทักษ์เพียงยิ้มจางไม่พูดอะไรเพิ่ม ท่านนพพรเอนหลังลงพิงพนัก สีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วตัดบท
“จริงสิ ผมมีนัดออกรอบกับเพื่อนๆช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก๊วนคนแก่นะคุณพิทักษ์ ออกรอบแต่เช้าตรู่ ตีไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไป สนามของคุณพิทักษ์พอจะว่างไหม”
“ผมจะจัดการให้ครับ”
เจ้าของบ้านพยักหน้าอย่างพึงใจ “ดีๆ เผื่อผมจะได้แวะเข้าไปพบคุณเทียมเสียหน่อย”
“ผมจะแจ้งคุณลุงเอาไว้ว่าท่านจะไปที่นั่น...”
พิทักษ์ชวนคุยเรื่องบ้านเมืองและเศรษฐกิจอีกเล็กน้อย ก่อนขอตัวจากมา พ้นหลังของชายหนุ่มอายุคราวลูก เจ้าของคฤหาสน์ก็ติดต่อหาสมาชิกทันที
“วันเสาร์นี้ไปตีกอล์ฟที่สนามของหลานชายของคุณเทียมกันไหม ใช่...หลานชายคุณเทียมคนนี้สนิทกับหลานชายของคุณกอบกุล...” เขาหัวเราะในคอ เมื่อคิดถึงผลลัพธ์มหาศาลที่จะได้ ไม่ใช่แค่อิทธิพลในท้องที่แต่ยังรวมไปถึงเส้นสายของคุณกอบกุลที่ผ่านมาทางหลานชายของหล่อน
“คนเก่า? อ้อ...ไพศาลน่ะรึ? มันชอบพูดไปเรื่อยว่าสนิทกับผม ก่อนหน้านี้ต้องใช้งานก็พอจะปล่อยให้พูดได้อยู่หรอก แต่ตอนนี้สิ...ใครๆก็รู้ว่ามันกำลังรนหาที่...”
“ท่านเสรีคงเยาะเย้ยผมนิดหน่อยที่สนิทกับคนก่อปัญหา แต่ช่างเถอะ รายนั้นก็ชวดลูกเขยที่เป็นหลานคุณกอบเหมือนกันล่ะหน่า” ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ต่างคนต่างเห็นสิ่งที่ซุกซ่อนไว้ของกันและกัน แต่ในเมื่อรวมตัวเป็นกลุ่มทุน ความเชื่อใจต้องมี ความเชื่อใจในที่นี่หมายถึง ‘กูจะปิด ถ้ามึงปิด แต่ถ้ามึงเปิด กูก็เปิด’
“เอาเป็นว่าวันเสาร์นี้ไปตีกอล์ฟก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ...ถ้าต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน ผมไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว”
……………………..
แม้จะเป็นเวลาเช้าตรู่ที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นจากขอบฟ้า แต่จิณณะและพิทักษ์ก็มารอที่สนามกอล์ฟแล้ว ปลัดหนุ่มออกจะตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงจะเคยพบหน้าท่านนพพรคนนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นเขายังไม่รู้ว่าชายผู้นี้จะมีความเกี่ยวข้องใดกับชีวิต จึงไม่ได้รู้สึกอะไรนัก ทว่าวันนี้...ที่รู้แล้วว่าทำไมครั้งนั้น คุณเทียมถึงส่งเขาและพิทักษ์ไปร่วมงานมงคลสมรสของลูกชายท่านนพพร ก็ทำเอาจิณณะอดสะท้านไม่ได้
คุณเทียมคงกะเกณฑ์ไว้บ้างแล้ว ว่าท้ายที่สุด พวกเขาอาจจะต้องใช้ทางลัด ไม่ต้องจัดการไพศาลด้วยวิธีอุกอาจ แต่วิ่งเต้นล็อบบี้ผู้ใหญ่และกลุ่มทุนของไพศาลแทน
ไม่ใช่เรื่องความสามารถและพรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของการรู้จักใคร และเป็นคนของใคร
ก่อนหกโมงเช้าเล็กน้อย ขบวนรถหรูก็มาถึงสนามกอล์ฟของพิทักษ์ นอกจากท่านนพพรแล้ว มีคนในแวดวงข้าราชการและการเมืองอีกสามคน จิณณะรู้จักชื่อและหน้าทุกคนจากข่าวสังคม แต่ไม่เคยพบปะตัวตน
“คุณพิทักษ์ เป็นเจ้าของสนามและเป็นหลานของคุณเทียม” ท่านนพพรเป็นคนแนะนำให้เพื่อนร่วมก๊วนได้รู้จัก พิทักษ์ยกมือไหว้แล้วยิ้มอย่างสุภาพ เห็นสายตาของท่านนพพรมองไปยังคนข้างกายของเขา จึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“นี่จิณณะ หุ้นส่วนของผม”
“จิณณะ วงศ์กีรติครับ”
นามสกุลของคุณกอบกุลที่ห้อยท้ายนั้น ทำเอาสี่ผู้อาวุโสที่มาเยือนพากันเลิกคิ้ว ทั้งๆที่รู้แต่แรกว่าพิทักษ์สนิทสนมกับหลานชายของกอบกุล วงศ์กีรติ แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าหลานชายคนที่ว่าจะมายืนอยู่ตรงหน้าในเวลานี้
และที่สำคัญ มีฐานะเป็น ‘หุ้นส่วน’
ไม่แน่ใจว่าหุ้นส่วนจริงหรือไม่ หรือจะเป็นอย่างที่ลือกัน แต่...อะไรก็ไม่น่าสนใจเท่านามสกุล
“วงศ์กีรติ? นามสกุลนี้...”
“จิณเป็นหลานคุณกอบกุลครับ” พิทักษ์เป็นคนเอ่ย เพราะจิณณะคงจะกระอักกระอวลพอดูที่ต้องออกปากว่าตนเองเป็นหลานของหญิงชราคนที่สนับสนุนให้เขา ‘ไปแล้วอย่ากลับมา’
“จำได้ว่าคุณจิณณะก็ไปงานแต่งลูกของผม” ท่านนพพรทัก จิณณะยิ้มรับ
“ผมสนิทกับพี่ทิศ ลุงเทียมก็เลยให้ผมไปเป็นเพื่อนครับ”
นอกจากจะมีนามสกุลของคุณกอบกุลห้อยท้ายแล้ว ยังพูดถึงคุณเทียมผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนี้ได้อย่างสนิทสนม หนำซ้ำคราวงานแต่งงานของลูกของท่านนพพร เขาก็ไปกับพิทักษ์ในฐานะตัวแทนของคุณเทียม
ทั้งฐานะทางการเงิน ทั้งสายสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ต่อให้ท่านนพพรจะไม่ได้ลงทุนใดๆในจังหวัดนี้ แต่ก็ต้องตระหนักถึง แล้วยิ่ง...เมื่อเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนเบื้องหลังกิจการของไพศาล เขาก็ยิ่งควรตระหนักเรื่องนี้ให้มาก
พิทักษ์เชิญขบวนของท่านนพพรไปที่สนาม แล้วปล่อยให้เรื่องหลังจากนี้ เป็นหน้าที่ของ ‘ผลประโยชน์’
หากยังสนับสนุนคนที่คิดร้ายกับจิณณะซึ่งเป็นทั้งหลานเศรษฐินีใหญ่และเป็นทั้งคนที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น คงไม่ต้องคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา!
............................
เรื่องที่ท่านนพพรพาพรรคพวกมาออกรอบที่สนามกอล์ฟของพิทักษ์มาถึงหูไพศาลในตอนสายวันนั้นเอง หากพิทักษ์เป็นเพียงเจ้าของคลับกอล์ฟหรูหราติดอันดับภูมิภาค ไม่ได้มีเส้นสนกลใดในท้องที่ เขาก็คงไม่เป็นฟืนเป็นไฟอย่างนี้ แต่เพราะพิทักษ์เป็นหลานชายของคุณเทียม และเวลานี้คุณเทียมกำลังล้ำเส้นผลประโยชน์ของเขา!
แต่...คุณเทียมเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ ต่อให้โกรธแค้นอยากจะฆ่าให้ตายเพียงใด เขาคนเดียวย่อมทำไม่ได้ หนำซ้ำ...เวลานี้จะไปหาพวกพ้องจากไหนมาร่วมมือด้วย ในเมื่อแม้กระทั่งกลุ่มทุนที่เคยหนุนหลังเขา ยังแปรพักตร์ไปใช้บริการของ ‘ไอ้เทียม’ กันจนหมด!
ในเมื่อทำอะไรคนที่หมายหัวไม่ได้ ความแค้นจึงพุ่งตรงลงไปที่ใครอีกคนที่เขาคิดว่าคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางวิบัติฉิบหายนี้
ปลัดจิณณะ!!
“เก็บมัน!! เก็บไอ้ปลัดนั่น!!!” เมื่ออารมณ์มาเหนือเหตุผล แม้ลูกน้องจะอ้อมแอ้มบอกว่าปลัดจิณณะมีคนติดตามดูแล แต่ไพศาลก็ไม่ฟังอีกแล้ว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ไร้สติและความยับยั้งช่างใจ สั่งการเด็ดขาดให้ปลิดลมหายใจของต้นตอปัญหาทั้งหมด
“ถ้าไม่เก็บไอ้ปลัดนั่นภายในสัปดาห์นี้!!! กูจะสั่งเก็บพวกมึง!!!”
ลูกน้องของไพศาลรีบรับคำแล้วพากันออกจากห้อง ใบสั่งตายของปลัดจิณณะถูกกำหนดขึ้นแล้ว ทันทีที่โอกาสอำนวย ลมหายใจสุดท้ายจะต้องมาถึง!
…………………..