...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)  (อ่าน 304985 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คุณเทียมเตือนแล้วนะ ถ้าเจอคนตระกูลนี้ให้หนีไปปปปปปป 55555

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ขำแผนผังตรงคุณย่า 'อย่ายุ่งกับหลานชั้น' 55555 เรื่องนี้นางเอกคือคุณย่าชัดๆ กราบบบบ คุณย่ากอบกุล ยืนหนึ่ง!

ตอนนี้สนุกมาก ชิงไหวชองพริบ เล่นเกมการเมืองผลประโยชน์กันมันส์ ชี้ชัดถึงระยยอุปถัมภ์ที่ฝังลึกได้ดีมาก ตบท้ายซีนรัก ที่ไม่มีคำว่า 'รัก' มีแค่จูบของคุณทิศ แงงงง~

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทำไมพี่ทิศช่างละมุนแท้//คุณย่าคือ o13

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :L2: :L2: :L2: :L2:
ตามอ่านอยู่นะ
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:
ปรบมือรัววววววววว
ให้กับ
คุณย่ากอบกุล
ดีงาม
 :L2:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ฝ่าด่านชีวิตก่อน แล้วค่อยฝ่าด่าน พ่อแม่อีกที

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
รอ
รอ
รอ
รอ
รอ
รอ
รอ
รอ
รอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มารอจ้ะ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :z2:  :z2:  :z2: เต้นอ้อน รอปลัดกับพี่ทิศ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
รอร๊อรอจ้าา :katai5:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 12


นับจากวันนั้น พิทักษ์ค่อนข้างวุ่นวาย ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องรับส่งจิณณะ อีกทั้งยังต้องหาทางเข้าไปพบผู้ใหญ่ที่เขาคิดว่าพอจะช่วยเหลือได้ หากไม่ได้เส้นสายของคุณเทียมส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือธุรกิจสนามกอล์ฟที่เขาทำช่วยปูทางให้พอรู้จักคนใหญ่คนโตอยู่บ้าง คงเข้าหาไม่ได้ถึงเพียงนี้


อย่างไรก็ตาม การเข้าหาได้กับการได้รับความช่วยเหลือย่อมเป็นคนละเรื่องกัน


ท่านนพพร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใหญ่แห่งหนึ่ง ครั้งหนึ่งพิทักษ์และจิณณะเคยถูกส่งไปเป็นตัวแทนร่วมงานวันแต่งงานของลูกชายของท่าน ยามนั้นเจ้าภาพจำหน้าไม่ได้ ในเมื่อมีคนนับร้อยนับพันผ่านสายตา แต่เมื่อพิทักษ์ขอพบเป็นการส่วนตัว ผ่านทางเส้นสายของคุณเทียมอีกครั้ง นอกจากจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว ยังต้องจดจำใบหน้า ‘หลานชายคุณเทียม’ ให้ได้อีกด้วย


“เชิญๆ” เส้นสายของคุณเทียมทำให้ท่านนพพรรับรองพิทักษ์ถึงในคฤหาสน์ส่วนตัว ชายหนุ่มไม่ได้มามือเปล่าแต่หิ้วของมาด้วยอีกถุงหนึ่ง


“คุณลุงฝากของมาเยี่ยมท่านด้วยครับ”


ใครก็ดูออกว่าของฝากของคุณเทียมที่ฝากหลานชายหิ้วมาให้นั้นเป็นเพียงใบเบิกทาง เจ้าของบ้านหัวเราะแล้วยื่นมือมารับ แม้จะเป็นคนใหญ่คนโตแต่ชายวัยปลายคนนี้ดูเข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง


“ฝากขอบคุณด้วย คุณเทียมสบายดีไหม ไม่ได้เจอกันพักใหญ่แล้ว ได้ยินว่าทางนั้นค่อนข้างวุ่นวาย ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวก่อน” เรื่องคราวก่อนที่ว่าย่อมเป็นเรื่องไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ทองสุกถูกฆ่าตายจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ


“คุณลุงสบายดีครับ เรื่องนั้นกระทบหลายอย่างก็เลยยุ่งอยู่บ้าง แต่ทางตำรวจกับฝ่ายปกครองเองก็กำลังเร่งตามคดีนี้กันอยู่” ท่านนพพรพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย


“เรื่องถึงสื่อด้วยแบบนี้ จะอยู่เฉยก็ไม่ได้ด้วยสินะ”


“ครับ แต่อีกไม่นาน คงได้เป็นข่าวใหญ่อีกรอบ ว่าใครเป็นคนทำและทำไปเพื่ออะไร” พิทักษ์เปรย


“แล้วสนามกอล์ฟของคุณพิทักษ์เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ได้รับผลกระทบบ้างไหม”


“ไม่เท่าไรครับ ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม”


ท่านนพพรหัวเราะร่วนกำลังจะเอ่ย แต่พิทักษ์ที่ดูสุขุมกลับพูดต่อไวกว่า


“หรือต่อให้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมว่า...ก็คงตัดทิ้งก่อนจะสาวมาถึงตัวตั้งนานแล้ว”


เจ้าบ้านพยักหน้าเห็นด้วย


“แต่น่าแปลก...ผมได้ยินมาว่า คนที่บงการยังไม่หยุด...” คราวนี้คนที่มีท่าทีเออออกลับชะงัก


“ไม่หยุด? มีใครโง่อย่างนั้นด้วยหรือ เป็นข่าวดังขนาดนี้ แถมคุณเทียมก็ลงมาดูเองอย่างนี้” พิทักษ์เพียงยิ้มจางไม่พูดอะไรเพิ่ม ท่านนพพรเอนหลังลงพิงพนัก สีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วตัดบท


“จริงสิ ผมมีนัดออกรอบกับเพื่อนๆช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก๊วนคนแก่นะคุณพิทักษ์ ออกรอบแต่เช้าตรู่ ตีไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไป สนามของคุณพิทักษ์พอจะว่างไหม”


“ผมจะจัดการให้ครับ”


เจ้าของบ้านพยักหน้าอย่างพึงใจ “ดีๆ เผื่อผมจะได้แวะเข้าไปพบคุณเทียมเสียหน่อย”


“ผมจะแจ้งคุณลุงเอาไว้ว่าท่านจะไปที่นั่น...”


พิทักษ์ชวนคุยเรื่องบ้านเมืองและเศรษฐกิจอีกเล็กน้อย ก่อนขอตัวจากมา พ้นหลังของชายหนุ่มอายุคราวลูก เจ้าของคฤหาสน์ก็ติดต่อหาสมาชิกทันที


“วันเสาร์นี้ไปตีกอล์ฟที่สนามของหลานชายของคุณเทียมกันไหม ใช่...หลานชายคุณเทียมคนนี้สนิทกับหลานชายของคุณกอบกุล...” เขาหัวเราะในคอ เมื่อคิดถึงผลลัพธ์มหาศาลที่จะได้ ไม่ใช่แค่อิทธิพลในท้องที่แต่ยังรวมไปถึงเส้นสายของคุณกอบกุลที่ผ่านมาทางหลานชายของหล่อน


“คนเก่า? อ้อ...ไพศาลน่ะรึ? มันชอบพูดไปเรื่อยว่าสนิทกับผม ก่อนหน้านี้ต้องใช้งานก็พอจะปล่อยให้พูดได้อยู่หรอก แต่ตอนนี้สิ...ใครๆก็รู้ว่ามันกำลังรนหาที่...”


“ท่านเสรีคงเยาะเย้ยผมนิดหน่อยที่สนิทกับคนก่อปัญหา แต่ช่างเถอะ รายนั้นก็ชวดลูกเขยที่เป็นหลานคุณกอบเหมือนกันล่ะหน่า” ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ต่างคนต่างเห็นสิ่งที่ซุกซ่อนไว้ของกันและกัน แต่ในเมื่อรวมตัวเป็นกลุ่มทุน ความเชื่อใจต้องมี ความเชื่อใจในที่นี่หมายถึง ‘กูจะปิด ถ้ามึงปิด แต่ถ้ามึงเปิด กูก็เปิด’


“เอาเป็นว่าวันเสาร์นี้ไปตีกอล์ฟก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ...ถ้าต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน ผมไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว”


……………………..


แม้จะเป็นเวลาเช้าตรู่ที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นจากขอบฟ้า แต่จิณณะและพิทักษ์ก็มารอที่สนามกอล์ฟแล้ว ปลัดหนุ่มออกจะตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงจะเคยพบหน้าท่านนพพรคนนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นเขายังไม่รู้ว่าชายผู้นี้จะมีความเกี่ยวข้องใดกับชีวิต จึงไม่ได้รู้สึกอะไรนัก ทว่าวันนี้...ที่รู้แล้วว่าทำไมครั้งนั้น คุณเทียมถึงส่งเขาและพิทักษ์ไปร่วมงานมงคลสมรสของลูกชายท่านนพพร ก็ทำเอาจิณณะอดสะท้านไม่ได้


คุณเทียมคงกะเกณฑ์ไว้บ้างแล้ว ว่าท้ายที่สุด พวกเขาอาจจะต้องใช้ทางลัด ไม่ต้องจัดการไพศาลด้วยวิธีอุกอาจ แต่วิ่งเต้นล็อบบี้ผู้ใหญ่และกลุ่มทุนของไพศาลแทน


ไม่ใช่เรื่องความสามารถและพรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของการรู้จักใคร และเป็นคนของใคร


ก่อนหกโมงเช้าเล็กน้อย ขบวนรถหรูก็มาถึงสนามกอล์ฟของพิทักษ์ นอกจากท่านนพพรแล้ว มีคนในแวดวงข้าราชการและการเมืองอีกสามคน จิณณะรู้จักชื่อและหน้าทุกคนจากข่าวสังคม แต่ไม่เคยพบปะตัวตน


“คุณพิทักษ์ เป็นเจ้าของสนามและเป็นหลานของคุณเทียม” ท่านนพพรเป็นคนแนะนำให้เพื่อนร่วมก๊วนได้รู้จัก พิทักษ์ยกมือไหว้แล้วยิ้มอย่างสุภาพ เห็นสายตาของท่านนพพรมองไปยังคนข้างกายของเขา จึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาบ้าง


“นี่จิณณะ หุ้นส่วนของผม”


“จิณณะ วงศ์กีรติครับ”


นามสกุลของคุณกอบกุลที่ห้อยท้ายนั้น ทำเอาสี่ผู้อาวุโสที่มาเยือนพากันเลิกคิ้ว ทั้งๆที่รู้แต่แรกว่าพิทักษ์สนิทสนมกับหลานชายของกอบกุล  วงศ์กีรติ แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าหลานชายคนที่ว่าจะมายืนอยู่ตรงหน้าในเวลานี้


และที่สำคัญ มีฐานะเป็น ‘หุ้นส่วน’


ไม่แน่ใจว่าหุ้นส่วนจริงหรือไม่ หรือจะเป็นอย่างที่ลือกัน แต่...อะไรก็ไม่น่าสนใจเท่านามสกุล


“วงศ์กีรติ? นามสกุลนี้...”


“จิณเป็นหลานคุณกอบกุลครับ” พิทักษ์เป็นคนเอ่ย เพราะจิณณะคงจะกระอักกระอวลพอดูที่ต้องออกปากว่าตนเองเป็นหลานของหญิงชราคนที่สนับสนุนให้เขา ‘ไปแล้วอย่ากลับมา’


“จำได้ว่าคุณจิณณะก็ไปงานแต่งลูกของผม” ท่านนพพรทัก จิณณะยิ้มรับ


“ผมสนิทกับพี่ทิศ ลุงเทียมก็เลยให้ผมไปเป็นเพื่อนครับ”


นอกจากจะมีนามสกุลของคุณกอบกุลห้อยท้ายแล้ว ยังพูดถึงคุณเทียมผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนี้ได้อย่างสนิทสนม หนำซ้ำคราวงานแต่งงานของลูกของท่านนพพร เขาก็ไปกับพิทักษ์ในฐานะตัวแทนของคุณเทียม


ทั้งฐานะทางการเงิน ทั้งสายสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ต่อให้ท่านนพพรจะไม่ได้ลงทุนใดๆในจังหวัดนี้ แต่ก็ต้องตระหนักถึง แล้วยิ่ง...เมื่อเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนเบื้องหลังกิจการของไพศาล เขาก็ยิ่งควรตระหนักเรื่องนี้ให้มาก


พิทักษ์เชิญขบวนของท่านนพพรไปที่สนาม แล้วปล่อยให้เรื่องหลังจากนี้ เป็นหน้าที่ของ ‘ผลประโยชน์’


หากยังสนับสนุนคนที่คิดร้ายกับจิณณะซึ่งเป็นทั้งหลานเศรษฐินีใหญ่และเป็นทั้งคนที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น คงไม่ต้องคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา!

............................


   เรื่องที่ท่านนพพรพาพรรคพวกมาออกรอบที่สนามกอล์ฟของพิทักษ์มาถึงหูไพศาลในตอนสายวันนั้นเอง หากพิทักษ์เป็นเพียงเจ้าของคลับกอล์ฟหรูหราติดอันดับภูมิภาค ไม่ได้มีเส้นสนกลใดในท้องที่ เขาก็คงไม่เป็นฟืนเป็นไฟอย่างนี้ แต่เพราะพิทักษ์เป็นหลานชายของคุณเทียม และเวลานี้คุณเทียมกำลังล้ำเส้นผลประโยชน์ของเขา!


   แต่...คุณเทียมเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ ต่อให้โกรธแค้นอยากจะฆ่าให้ตายเพียงใด เขาคนเดียวย่อมทำไม่ได้ หนำซ้ำ...เวลานี้จะไปหาพวกพ้องจากไหนมาร่วมมือด้วย ในเมื่อแม้กระทั่งกลุ่มทุนที่เคยหนุนหลังเขา ยังแปรพักตร์ไปใช้บริการของ ‘ไอ้เทียม’ กันจนหมด!


   ในเมื่อทำอะไรคนที่หมายหัวไม่ได้ ความแค้นจึงพุ่งตรงลงไปที่ใครอีกคนที่เขาคิดว่าคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางวิบัติฉิบหายนี้


   ปลัดจิณณะ!!


   “เก็บมัน!! เก็บไอ้ปลัดนั่น!!!” เมื่ออารมณ์มาเหนือเหตุผล แม้ลูกน้องจะอ้อมแอ้มบอกว่าปลัดจิณณะมีคนติดตามดูแล แต่ไพศาลก็ไม่ฟังอีกแล้ว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ไร้สติและความยับยั้งช่างใจ สั่งการเด็ดขาดให้ปลิดลมหายใจของต้นตอปัญหาทั้งหมด


   “ถ้าไม่เก็บไอ้ปลัดนั่นภายในสัปดาห์นี้!!! กูจะสั่งเก็บพวกมึง!!!”


   ลูกน้องของไพศาลรีบรับคำแล้วพากันออกจากห้อง ใบสั่งตายของปลัดจิณณะถูกกำหนดขึ้นแล้ว ทันทีที่โอกาสอำนวย ลมหายใจสุดท้ายจะต้องมาถึง!

…………………..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2019 19:48:17 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


‘ก๊วนคนแก่’ เอาเข้าจริงแล้วไม่แก่สมกับอายุเลย กลุ่มของท่านนพพรแม้จะประกอบด้วยคนเลยวัยเกษียณมาหลายปี แต่อย่าได้ดูถูกริ้วรอยบนใบหน้า ผมสีเข้มแซมขาว ศีรษะล้านเถิก กับแว่นสายตายาวในกระเป๋าอกเสื้อ เพราะคนเหล่านี้ออกกำลังเป็นกิจวัตร เดินเก่งเดินทนมากกว่าปลัดหนุ่มอายุรุ่นลูกรุ่นหลานที่ขอตัวเข้าไปรอในคลับกอล์ฟตั้งแต่พ้นหลุมแรก


ส่วนเจ้าของสนาม…


พิทักษ์ติดตาม คอยอำนวยความสะดวก เป็นแม้กระทั่งเด็กขับรถกอล์ฟให้ บริการอย่างดีจนท่านนพพรยิ้มกว้างชอบใจ ตอนจะกลับยังไม่วายตบหลังตบไหล่ชายหนุ่มอย่างชื่นชม


“เสียดาย ถ้ามีลูกสาวโสดๆสักคน จะชวนคุณพิทักษ์มาเป็นลูกเขย”


พิทักษ์ชะงัก จิณณะที่ยืนส่งผู้ใหญ่อยู่ด้วยกันก็พลอยชะงัก แต่ต่างคนต่างไม่พูดอะไร มีเพียงพิทักษ์ที่ยกยิ้มเล็กน้อย เป็นฝ่ายคนพูดเสียเองที่เหลือบสายตาไปยังข้าราชการหนุ่มที่ยืนเคียงข้างพิทักษ์


“หรือว่า...คุณพิทักษ์ยังสนุกกับชีวิตหนุ่ม?”


“ผมสนุกกับการทำงาน แล้วก็...การมีเพื่อนที่ดีครับ”


ไม่ระบุชัดเจนว่าเพื่อนที่ดีคือใคร แต่ในเมื่อปลัดจิณณะยังยืนอยู่ข้างๆ ก็ราวกับชี้เป้าไปที่เจ้าตัวเท่านั้น


“เป็นชีวิตที่น่าสนใจ...” ท่านนพพรพยักหน้าเออออ แต่ไม่วายพูดต่อ “แต่ถ้า...อยากแต่งงานกับใครสักคนที่ทำให้ธุรกิจของคุณพิทักษ์ไปไกลกว่านี้ บอกผมได้...”


เป็นอีกครั้งที่พิทักษ์ไม่ตอบแต่เพียงยิ้มเฉย ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อนเห็นความเงียบนั้นก็พอรู้


เงียบ...ไม่ใช่ไม่ตัดสินใจจึงไม่พูด


แต่เงียบ...คือตัดสินใจแล้วที่จะไม่พูด


หนำซ้ำข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของพิทักษ์กับหลานชายคุณกอบกุลก็เคยเข้าหู เพียงแต่สำหรับคนที่ใฝ่ประโยชน์ส่วนตนย่อมไม่เห็นความสำคัญอะไรกับเรื่องทำนองนี้จึงไม่เก็บมาใส่ใจ


แต่เวลานี้ที่ถูกชะตาชายหนุ่มนิ่งสงบอย่างพิทักษ์ ก็ชักเสียดายขึ้นมาตงิด


แต่เอาเถอะ...ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่มีความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ใดยืดยาว


“พวกผมถูกใจสนามของคุณพิทักษ์มากนะ ไว้โอกาสหน้าคงได้มาใช้บริการอีก”


“ยินดีครับ”


ชายหนุ่มสองคนเดินไปส่งขบวนสูงวัยที่รถ แล้วครู่ต่อมา ขบวนรถแวนก็เคลื่อนตัวออกจากหน้าอาคารคลับกอล์ฟ พอรถคันสุดท้ายพ้นประตูออกไปแล้ว ปลัดจิณณะก็หมุนตัวเดินกลับเข้าอาคารไปทันที


พิทักษ์ร้องเรียก แต่อีกฝ่ายหายลับพ้นประตูเข้าไปแล้ว ชายหนุ่มรีบก้าวเท้าตามก่อนจะไปทันตอนที่จิณณะรอลิฟต์


พวกเขารอลิฟต์เงียบๆ เข้าลิฟต์เงียบๆ จิณณะเอาแต่ก้มลงมองพื้นไม่เหมือนปลัดอำเภอคนยียวนที่ชอบทำหน้าเป็น ตาใสแจ๋วเลยแม้แต่น้อย


ตอนที่ท่านนพพรพูดเรื่องนี้ รอยยิ้มของพิทักษ์ถือเป็นการปฏิเสธชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้น จิณณะก็ยังหงุดหงิดชายสูงวัยคนนั้นอยู่ดี


...อยู่ดีไม่ว่าดี...เสนอจะหาเมียให้พี่ทิศ!...


ลิฟต์เดินทางแค่อึดใจเดียวเพราะไม่ใช่อาคารสูง จิณณะก้าวเท้าเงียบๆไปยังห้องของพิทักษ์ ตั้งใจว่าพอได้อยู่กันสองคนในที่ที่ไม่เป็นเป้าสายตาใคร เขาจะ...ให้เวลาพิทักษ์แก้ต่างแทนท่านนพพรสักหน่อย


เรื่องที่พิทักษ์มีคนอีกมากที่เหมาะสมคู่ควรและสามารถสร้างความเจริญให้ได้ ไม่ว่าใครก็รู้ แม้แต่ตัวเขาก็รู้ดีว่านอกจากตนเองจะสร้างความเจริญให้พิทักษ์ไม่ได้แล้ว ยังสามารถทำให้พิทักษ์ตกต่ำด้วยปัญหาที่พ่วงขามาอีก แต่เงื่อนไขแบบนี้ พิทักษ์ที่ไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้ดีแก่ใจเช่นกัน ทว่า...ก็ยังไม่ไปไหน


วันนี้ ในเมื่ออีกฝ่ายยังอยู่ข้างกาย จิณณะก็ไม่รู้จะงี่เง่าเพราะคำพูดของคนอื่นที่เพิ่งจำหน้าจำชื่อได้แล้วเก็บมาสร้างความร้าวฉานทำไม


...เอ่อ...จริงๆแล้วก็เอามาใส่ใจอยู่บ้างนั่นแหละ แต่พอถูกพิทักษ์เรียกชื่อ ถูกเดินตาม แถมสีหน้าและสายตาแสนห่วงใยที่มองมา ก็กลับทำให้ปลัดหนุ่ม...พอใจ...


จะว่าเขาเป็นคนพอเพียงก็ได้ แต่คนไม่ค่อยแสดงสีหน้าอย่างพิทักษ์กลับมองเขาด้วยความเป็นห่วง แถมยังเดินตามไม่ทิ้งก้าวอย่างนี้ มันน่าดีใจมากด้วยซ้ำ


“จิณ...คุยกันก่อน”


“ผมไม่มีอะไรจะคุย” งี่เง่าแล้วก็ต้องทำตัวงอแงบ้าง ตีหน้าเศร้าพูดเสียงเบาเหมือนคนกำลังจมจ่อมกับชีวิตที่แสนตกต่ำ


...ประกาศกร้าวออกจากครอบครัวจะมาอยู่กินกับผู้ชายสักคน ผู้ชายคนนั้นก็ดันมีผู้ใหญ่ที่ไหนไม่รู้หมายตาจะหาผู้หญิงมาให้ น่ารันทดเหมาะแก่การทำหน้าตาอมทุกข์จริงๆ!...


“แต่พี่มี”


ดวงตาของคนที่เอาแต่มองตกกับพื้นเหลือบขึ้นมองคนพูด เพียงเท่านั้นอีกฝ่ายก็ชะงัก สีหน้าของจิณณะเศร้าสร้อยก็จริง แต่ลูกตานี่สิ...หลุกหลิก เจ้าเล่ห์...แต่ก็แค่วูบเดียว เพราะเจ้าตัวหลุบสายตาลงต่ำมองพื้นอีกที พิทักษ์ไม่แน่ใจว่าเขาเหนื่อยเกินไปจนตาฝาดหรือไม่ แต่ก็เริ่มชักเอะใจเพราะรายนี้ขึ้นชื่อเรื่องก่อปัญหาสร้างเรื่อง แถมยังทำอะไรโจ่งแจ้งอีกต่างหาก แม้คราวนี้สีหน้าท่าทางจะไม่โจ่งแจ้ง แต่สายตาทำให้ตะขิดตะขวง


“อย่าไปใส่ใจเรื่องที่ท่านนพพรพูด”


“ผมไม่ได้ใส่ใจ...”


“ไม่ได้ใส่ใจแล้วเดินหนีทำไม”


“ไม่ได้หนี แต่ผมจะ...เอ่อ...กะว่าจะกลับแล้ว...” พูดออกไปแล้วก็งงกับตัวเอง ปากว่าจะกลับแต่ดันขึ้นลิฟต์มาที่ห้องทำงานของพิทักษ์ ก็เพราะตอนนั้นเห็นว่าพิทักษ์เดินตามนั่นแหละ ก็เลย...อยากจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้มีเวลาง้อกันสักหน่อย


 “จะกลับยังไง เอารถมาคันเดียว” ตั้งแต่ย้ายไปอยู่ด้วยกัน รถยนต์ของจิณณะก็จอดทิ้งอยู่ที่บ้าน พิทักษ์เป็นฝ่ายขับรถของตนเองเทียวรับเทียวส่ง


“ผมเรียกรถรับจ้างก็ได้” ปลัดปลาไหล ลื่นไปได้ตลอด


“ไม่กลัวคนตามรึไง” คราวนี้ปลาไหลถูกดักอยู่ในข้องที่ชื่อพิทักษ์ ได้แต่หุบปากเงียบพูดอะไรไม่ออก


“จิณ เรื่องคำพูดของท่านนพพร พี่ไม่เคยคิดจะให้เขาช่วยเรื่องพวกนั้น พี่อยากให้ธุรกิจเจริญก็จริง แต่พี่ทำได้โดยไม่ต้องใช้ทางเลือกที่ท่านนพพรเสนอ”


“แต่พี่จะเจริญมาก เจริญไว ถ้ารับข้อเสนอของท่านพพร”


“ช้าไว มากน้อยขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน เอามาเทียบกันได้ยังไง”


“อ้าว กลายเป็นผมถูกดุ”


“ไม่ได้ดุ แต่พี่ไม่อยากให้จิณเอาตัวเองไปเทียบกับใคร ใครจะสร้างความเจริญให้ใคร จะมากจะน้อย จะช้าจะเร็ว เอามาเทียบกันไม่ได้ วันนี้พี่ตัดสินใจแล้ว ถ้าการตัดสินใจของพี่จะทำให้พี่เป็นยังไงก็ตาม พี่ยอมรับสิ่งที่จะตามมา”


ต้องเป็นคนที่ทำบุญมาด้วยอิฐปูนเสริมใยเหล็ก ชาตินี้ถึงได้เกิดมาหนักแน่นมั่นคงขนาดนี้ อ้อ...อาจจะคาบไม้เรียวออกมาจากท้องแม่ด้วย เพราะแค่พูดเรื่องจริงจัง จิณณะกลับรู้สึกเหมือนถูกดุได้อย่างง่ายดาย


“นี่ขนาดไม่ดุ หน้ายังเครียดอย่างกับจะตัดคะแนนจิตพิสัยผม”


“เราไม่ได้คิดมากแล้วใช่ไหม” แม้จะพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นแล้ว แต่พิทักษ์ก็ยังห่วงเล็กน้อย


ปลัดหนุ่มยกยิ้ม ดวงตากลับมาใสแจ๋วเหมือนเดิมแล้ว


“ผมหายตั้งแต่พี่ตามเข้าลิฟต์มาด้วยกันแล้ว”


พิทักษ์ส่ายศีรษะ เสียรู้คนอย่างจิณณะจริงๆด้วย


“แต่ตอนแรกผมก็ใจเป๋เหมือนกันนะ ท่านนพพรพูดถูก มีคนอีกมากที่ทำให้พี่เจริญ...เอ่อ...ก็ได้ๆ! ผมเองก็ทำให้พี่เจริญได้เหมือนกัน! พอใจยัง?” เพราะอ้างอิงคำพูดของชายสูงวัยคนนั้นขึ้นมาอีก พิทักษ์เลยจ้องดุจนต้องรีบเปลี่ยนคำพูด


“เลิกดุผมได้แล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ผมหิวมากเลยเนี่ย”


“หิวอะไร อยู่แต่ในคลับ”


“อ้าว ผมเป็นปลัดนะ เน้นทำงานบนโต๊ะ จะให้ออกรอบตามท่านๆทั้งหลายแบบพี่ได้ไง พี่เหอะ...หน้าแดงขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าจะป่วยหรือ” พิทักษ์เลิกคิ้วเล็กน้อย อันที่จริงก็รู้สึกว่าร้อนวูบตามใบหน้าและเนื้อตัว แต่คิดเอาว่าเพราะเขาติดตามคณะของท่านนพพรจนถึงหลุมสุดท้าย แม้จะไม่ได้ออกเรี่ยวออกแรงตีสักหลุม แต่กลับรู้สึกว่าวันนี้ร้อนผิดปกติ


“พี่ไม่สบายรึเปล่า” จิณณะถาม ขมวดคิ้วมุ่นอย่างเป็นกังวล


“ไม่น่า...” ยังตอบไม่เต็มคำ หลังมือของอีกฝ่ายก็ทาบลงกับหน้าผากเขา ปลัดหนุ่มแตะหลังมือของตนเองตามหน้าผากและผิวแก้ม


“ตัวร้อนๆนะ ไปหาหมอไหม พี่มองอะไร ผมวัดไข้ ไม่ต้องมองหวังผลอย่างอื่นเลย” หลังจากโดนดุมาหลายที ปลัดหนุ่มได้โอกาสดุกลับบ้าง พิทักษ์หัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวรู้ได้อย่างไรว่าเขาคาดหวังอย่างอื่น แต่ในเมื่ออยู่ใกล้กันอย่างนี้ แถมยังเป็นจิณณะที่เข้าใกล้เขาก่อนด้วย ก็เลยอดไม่ได้ที่จะตาตกลงมอง...ริมฝีปาก


“รู้อีกว่าหวัง...”


“พี่มันเสือหลับโดนปลุกชัดๆ” ปลัดหนุ่มบ่นอุบ


“แล้วคนปลุกจะรับผิดชอบไหม” ถามหาความรับผิดชอบกันดื้อๆ คนที่ถูกโยนภาระให้เลยได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะกลายเป็นเม้มปาก ได้แต่มองเมินไปทางอื่น พิทักษ์ชะงักไปเล็กน้อย รู้ตัวว่าเขาปากไวเกินไปทั้งๆที่เคยตกลงกันแล้วว่าจะรอให้ทุกอย่างจบสิ้นเสียก่อน แล้วเราจึงจะมาพูดเรื่องนี้กันใหม่


“ขอโทษ พี่ไม่ได้คิดจะเร่ง...”


“ผมเข้าใจ” จิณณะเองก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาในเวลานี้เหมือนหยุดอยู่ครึ่งๆกลางๆ จะพัฒนาไปมากกว่านี้ ก็เป็นฝ่ายเขาเองที่รั้งรอ จะถอยหลังก็เป็นฝ่ายเขาอีกเช่นกันที่ไม่อยากปล่อยมืออีกฝ่ายไป


“ผมขอแค่ให้เรื่องนี้จบลง ถ้าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ผม...จะรับผิดชอบพี่ทุกอย่าง”


ทั้งๆที่พูดด้วยความตั้งใจจริง แต่พอพูดออกไปแล้วก็เกิดเป็นความเงียบลอยเคว้งอยู่รอบตัวพวกเขา ฝ่ายคนพูดนั้นประดักประเดิดหนัก ในขณะที่พิทักษ์ถึงกับต้องหันหน้าหนีไปกลั้นหัวเราะ


‘จะรับผิดชอบทุกอย่าง’


พูดอย่างกับพิทักษ์เสียตัวให้แล้วอย่างนั้นล่ะ


“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย! ก็พี่เรียกร้องให้ผมรับผิดชอบเองนะ!” ปลัดหนุ่มโวย พิทักษ์ไม่แย้งแต่หัวเราะเดินนำออกจากห้องทำงาน มีจิณณะเดินบ่นตามหลังไม่หยุด


พิทักษ์ยิ้มกว้าง จิณณะหน้าหงิก


โชคดีเหลือเกินที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ฝ่ายออฟฟิศที่ชั้นบนของสนามกอล์ฟไม่มีใครมาทำงาน ไม่อย่างนั้นภาพหาดูยากราวกับโลกตาลปัตรแบบนี้คงได้เป็นที่เล่าลือปากต่อปากไปอีกหลายวัน!

…………………..

คนป่วยเริ่มอาการไม่ค่อยดีมากขึ้น


เช้าวันอาทิตย์ เจ้าของบ้านยังคงนอนซมอยู่บนเตียง จิณณะที่นอนอีกห้องหนึ่ง พอตื่นแล้วลงมาชั้นล่างของบ้านปรากฏว่ายังปิดเงียบ ทั้งๆที่พิทักษ์ติดนิสัยตื่นเช้า เขาจึงถือวิสาสะขึ้นไปแง้มประตูห้องนอนใหญ่ดู


เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน แต่คนบนเตียงกลับซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม


ปลัดหนุ่มกลายร่างเป็นหมอ ก้าวเท้าดุ่มๆเดินไปแตะหลังมือกับหน้าผากของคนบนเตียงทันที


พิทักษ์ตื่นได้พักหนึ่งแล้ว แต่อาการปวดหัวและเป็นไข้เล่นงานจนไม่อยากลุกไปไหน พอถูกสัมผัสบนหน้าผาก เขาจึงปรือตาขึ้นมอง


“ป่วยทำไมไม่ไปเรียก” คุณหมอจำเป็นบ่นอุบ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พิทักษ์ได้เห็นสีหน้าเป็นห่วงผสมหงุดหงิดใจของอีกฝ่าย ทว่าก็น่าเสียดายที่พิษไข้ทำให้เขาไม่อาจลืมตาได้นาน จำต้องหลับตาลง


“จิณออกไปเถอะ เดี๋ยวติด”


“แล้วทิ้งพี่นอนซมอย่างนี้น่ะหรือ” จิณณะย้อนทันควัน คนป่วยลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง สายตาของพิทักษ์ดูอ่อนล้าและอ่อนเพลีย สมกับที่ต้องการการพักผ่อน แต่ก็แฝงแววซาบซึ้งใจ


ทว่าแม้จะดีใจที่จิณณะจะไม่ทิ้งไปไหน แต่ก็เป็นกังวลว่าจะแพร่เชื้อหวัดให้คนที่ยังสุขภาพแข็งแรง


“นอนพักก็หาย”


“พี่นอนมาตั้งแต่เมื่อคืน แล้วตอนนี้หายยัง?” เวลานี้ปลัดจิณณะจะย้อนอะไร พิทักษ์ก็คิดคำพูดไม่ทันแล้ว กลายเป็นความกระหยิ่มในใจคนสุขภาพแข็งแรง


อย่างแรกคือเมื่อวานออกไปด้วยกัน แต่พิทักษ์ป่วย ส่วนเขายังสบายดี แสดงว่าเขาแข็งแรงกว่า ซึ่งจิณณะข้ามเงื่อนไขที่ว่าพิทักษ์ติดตามก๊วนสูงวัยออกรอบตั้งแต่เช้าตรู่ ดูแลบริการไม่ขาดตกบกพร่อง ในขณะที่คนที่ออกตัวว่าเป็นข้าราชการทำงานในห้องแอร์ นั่งกระดิกเท้ายิกๆรอที่คลับกอล์ฟ


อย่างที่สองคือพิทักษ์ป่วย จิณณะสบายดี เพราะฉะนั้น คนป่วยไม่มีเรี่ยวแรงจะดุ แต่คนไม่ป่วยมีสิทธิ์ดุได้ทุกกรณี!


เพราะฉะนั้น…ไปให้สุด แล้วค่อยหยุดเมื่อพิทักษ์หายป่วย!


“ร่างกายไม่แข็งแรงก็แทนที่จะให้ลูกน้องที่สนามดูแลพวกท่านๆเมื่อวาน ดันหาเรื่องตามออกไปขับรถกอล์ฟให้ กลับมาแล้วแทนที่กินข้าวเสร็จจะพัก ก็ยังหยิบโน้ตบุ้คมาทำงานต่อ เมื่อคืนนอนกี่โมง”


“งานมันต้องทำ”


“ตอบไม่ตรงคำถาม ถามว่าเมื่อคืนนอนกี่โมง” พอได้ลองเป็นฝ่ายดุบ้าง จิณณะก็ชักรู้สึกฮึกเหิม ยิ่งเห็นพิทักษ์มองเขาตาปริบๆ เถียงอะไรไม่ออก ก็ยิ่งรู้สึกถึงอำนาจในกำมือ


จะดุอะไรก็ได้ จะพูดอะไรก็ได้ เพราะคนป่วยลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ ไม่ต้องนึกเลยว่าจะเถียงเขาทัน


“แล้วโหมงานจนป่วย ต้องนอนซมแบบนี้คุ้มไหม”


“ออกไปเถอะ เดี๋ยวติด” พิทักษ์ย้ำประโยคเดิมแล้วอาศัยแรงเฮือกสุดท้ายยกมือขึ้นโบกเป็นเชิงให้คนบ่นออกจากห้องไปเสีย รู้สึกตัวแสบจะเอาใหญ่ เห็นเขานอนซมไม่มีแรงลุก เลยเล่นงานบ่นเขาเป็นชุด


“ผมไปแน่ แต่ไปทำข้าวต้มให้ กลับมาอีกทีพี่ต้องกินข้าวกินยา ไม่ต้องมอง ผมทำข้าวต้มเป็น” คนแข็งแรงพูดอย่างมาดมั่น แต่ไม่มีทางปริปากเด็ดขาดว่า ‘ทำเป็น เพียงแต่ไม่เคยทำ’


ปลัดผู้สุขภาพดีเพราะอยู่แต่ในห้องปรับอากาศเดินอาดๆออกจากห้องไปชนิดที่คนป่วยยังมองตามอย่างหมั่นไส้จนเผลอยิ้ม ตั้งแต่เกิดมา นอกจากมารดาและมารดาเลี้ยง ก็ไม่เคยมีใครมายืนบ่นตอนเขาป่วยอยู่ข้างเตียงอย่างนี้ หลายปีที่ออกมาอยู่เพียงลำพัง พิทักษ์เคยป่วยจนต้องหยุดพักอยู่ที่บ้าน แต่ก็อาศัยดูแลตนเอง หากไม่หนักหนาสากรรจ์ ก็ไม่บอกกล่าวใครเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง แต่วันนี้...ชีวิตที่มีใครอีกคนเข้ามาด้วย ก็เลยได้รู้สึกถึงการมีใครสักคนอยู่เคียงข้างในวันที่เจ็บป่วยอ่อนล้า


...ครอบครัว...


หนวกหูอยู่บ้างตอนถูกบ่น แต่...ก็อุ่นใจที่ได้รับรู้ความห่วงใย


ชายหนุ่มหลับตาลง พิษไข้ทำให้อ่อนล้า แต่ถึงอย่างนั้นที่มุมปากของเขากลับมีรอยยกเล็กน้อย


แม้จะป่วย...แต่ก็อุ่นใจ


……………………


คนที่ออกปากว่า ‘ทำข้าวต้มเป็น’ นั้น ในความเป็นจริงคือไม่เคยทำเลยสักถ้วย รู้แค่ว่าใส่ข้าวใส่น้ำแล้วตั้งไฟ แต่อย่าถามเรื่องชั่งตวงวัด เพราะฉะนั้นเดาได้ล่วงหน้าว่ารสชาติออกมาต้องแย่มากๆ


แล้วคนอย่างจิณณะก็เป็นพวกหน้าใหญ่เสียด้วย ออกตัวแรงว่าทำเป็น แต่จะให้รสชาติออกมาเป็นข้าวที่ต้มกับน้ำเปล่าก็จะหน้าแหกต่อหน้าคนป่วยเข้าล่ะ


วินาทีแรกที่คิดถึงตัวช่วยเรื่องทำอาหาร เขาคิดถึงมารดา แต่พอคิดอีกที วาจาที่ลั่นไปแล้วว่าจะไม่กลับไปอีก และไม่อยากให้การติดต่อกลับไปครั้งนี้กลายเป็นการตั้งความหวังให้แก่จรรยา จิณณะจึงต้องหาตัวเลือกอื่น


หรือจะเปิดหาสูตรตามอินเตอร์เน็ต?


ก็รับประกันไม่ได้อีกเหมือนกันว่าทำตามสูตรแล้วรสชาติจะออกมาถูกปากคนป่วย


...เดี๋ยว! ถ้าจะเอาแบบถูกปากคนป่วยก็ต้องถามจากคนใกล้ชิดของคนป่วย ซึ่งมีอยู่คนเดียวที่นอกจากจะใกล้ชิดแล้วยังทำอาหารเป็นด้วย...


...จิดาภา!...


แม่เลี้ยงของพิทักษ์และน้าสาวของเขา!


พอคิดถึงตัวเลือกนี้ ชายหนุ่มก็กดโทรศัพท์หาทันที


“น้าภา ตอนนี้คุยได้ไหมครับ พอดี...พี่ทิศไม่ค่อยสบาย เป็นไข้ ผมจะทำข้าวต้มให้เขา แต่...เอ่อ...ไม่แน่ใจว่าพี่ทิศชอบกินข้าวต้มรสชาติแบบไหน” เรื่องอะไรจะถามอย่างตรงไปตรงมาว่าทำอย่างไร หากสุดท้ายจิดาภามาเล่าให้พิทักษ์ฟัง ก็รู้กันหมดว่าเขาถามวิธีทำจากน้าสาว


“เอ?...ใส่แค่ซุปก้อนอย่างเดียวก็พอหรือ อ้อ...ใส่น้ำมากๆหน่อย ได้ครับ ใส่ผักกาดด้วยเพราะพี่ทิศชอบกิน ต้องต้มเละมากไหม โอเค ขอบคุณครับน้าภา” จิณณะวางสายทันทีที่ได้ข้อมูล แล้วเบี่ยงปลายเท้าไปเปิดตู้เย็น


ฟังจากปากน้าสาวก็ไม่เห็นจะมีอะไรยาก วัตถุดิบไม่กี่อย่าง แถมยังมีติดตู้เย็นทุกอย่าง ส่วนฝีมือ...ปลัดหนุ่มยักไหล่เหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ


ไม่มีอะไรที่จิณณะคนนี้ทำไม่ได้!


………………….


ข้าวต้มใส่ผักกาดที่ต้มจนเปื่อย รสชาติใช้ได้เพราะใส่ซุปก้อนกึ่งสำเร็จ ถูกตักใส่ถ้วยแล้วยกขึ้นไปยังห้องนอนใหญ่ของบ้าน หน้าตาคนทำนั้นดูโอ่เสียจนพิทักษ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาทานยังต้องเลิกคิ้ว แล้วพอเขาเห็นผักกาดในข้าวต้มก็ต้องเงยหน้ามองคนทำอีกครั้ง


“ใส่ผักกาด?” จิณณะทำหน้าเป็นเชิงว่าใช่แล้ว ก็เห็นอยู่นี่


“รู้ได้ยังไงว่าพี่ชอบกินข้าวต้มใส่ผักกาด” ปลัดหนุ่มชะงัก เริ่มรู้สึกว่าตนเองพลาดมหันต์ที่ใส่ผักกาดลงในข้าวต้ม ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีใครใส่


“โทร.หาแม่ภาใช่ไหม” แม้จะป่วย แต่พิทักษ์ก็ยังรู้ทัน


“ผม...ก็แค่โทร.บอกน้าภาว่าพี่ป่วย น้าภาเลยแนะนำว่าให้ผมใส่ผักกาดในข้าวต้มด้วย” คนป่วยพยักหน้าเออออ ก่อนจะตักข่าวต้มข้าวปาก จิณณะชำเลืองมองเห็นอีกฝ่ายตักทานเรื่อยๆก็ชักยิ้มออก


“อร่อยใช่มะ พี่ทิศมีบุญมากนะ นี่ข้าวต้มถ้วยแรก...” คนขี้โอ่หลุดปากอวดตัวไปแล้วก็แทบจะหุบปากไม่ทัน ซึ่ง...อันที่จริงก็คือไม่ทัน เพราะอีกฝ่ายได้ยินเต็มสองหู


...ข้าวต้มถ้วยแรก...


พิทักษ์หัวเราะเบาๆในคอ แต่ไม่พูดอะไร ตักข้าวต้มทานจนหมดถ้วยแล้วทานยา จากนั้นจึงเอนตัวลงนอน คนพูดเก่งแต่หลุดปากไปคำใหญ่เมื่อครู่นี้สงบปากสงบคำเก็บถ้วยเก็บแก้วเพื่อออกจากห้อง หนึ่งคือเพื่อให้คนป่วยได้พัก สองคือต้องโกยหน้าแตกหมอไม่รับเย็บออกไปด้วย


“เดี๋ยวผมไปอยู่ห้องนู้น ถ้าพี่อยากได้อะไรก็เรียกนะ ผมจะเปิดประตูไว้” จิณณะหมายถึงห้องของตนเองที่อยู่ตรงข้าม ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกจากห้อง ทว่าเสียงคนป่วยกลับเรียกเอาไว้


“จิณ...” เจ้าของชื่อหันมอง พิทักษ์นอนอยู่บนเตียงมองมาที่เขา


“ข้าวต้มอร่อย...” คำชมสั้นๆ มาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆของคนป่วยที่ยังเพลีย เป็นคำชมที่คนป่วยอยากบอก และเป็นคำชมที่พ่อครัวจำเป็นอยากได้ยินที่สุด


แม้ข้าวต้มจะเป็นอาหารง่ายๆ แต่ช่วงเวลาที่อยู่หน้าเตา ความกังวลประเดประดังจนตกประหม่า กังวลว่าพิทักษ์จะทานไม่ได้ กังวลว่าจะไม่ถูกปาก กังวลว่าถ้าพิทักษ์ไม่ทาน แล้วจะทานยาได้อย่างไร จะหายป่วยหรือไม่


แต่ท้ายที่สุดคำชมของพิทักษ์ปลดทุกความกังวลในใจของเขา


จิณณะไม่ได้ออกตัวคุยโวอวดฝีมือกลับไป ทำเพียงแค่ส่งยิ้มจาง


“หายไวๆนะพี่” ร่างของปลัดเดินออกจากห้องไปแล้ว แต่คำพูดของเขายังคงผลิดอกเป็นความอบอุ่นจางๆอยู่ในอกของคนป่วย


พิทักษ์หลับตาลงอีกครั้ง อุ่นท้องเพราะข้าวต้มฝีมือจิณณะ อุ่นใจเพราะคำพูดของจิณณะ


ดีเหลือเกิน ที่จิณณะอยู่กับเขาในวันนี้


…………………..


แม้หลานชายจะบอกว่าพิทักษ์แค่ป่วยเป็นไข้หวัด ไม่เป็นอะไรร้ายแรง แต่จิดาภาเลี้ยงดูลูกเลี้ยงคนนี้มาตั้งแต่เขายังเด็ก พอวันนี้ได้ยินว่าเขาป่วย ก็ย่อมอดไม่ได้ที่จะชวนสามีมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน


ตอนที่หล่อนและทศพรมาถึง พิทักษ์ก็หลับไปอีกรอบแล้ว สองสามีภรรยาไม่อยากรบกวนการพักผ่อน จึงเข้าไปดูอาการเล็กน้อย เห็นมีเจลลดไข้วางอยู่บนหน้าผาก และจิณณะแจ้งว่าคนป่วยทานข้าวทานยาแล้ว พวกเขาจึงลงมายังชั้นล่าง ทศพรแยกไปหาพี่ชายอย่างคุณเทียม และนัดแนะว่าจะกลับมารับภรรยา บ้านทั้งหลังจึงเหลือเพียงคนป่วยที่ยังนอนหลับอยู่ชั้นบน และสองน้าหลานที่ชั้นล่าง


“ดีนะที่จิณอยู่แถวนี้ ทิศป่วยแล้วชอบไม่บอกใคร บางทีก็นอนซมคนเดียว พอหายถึงได้ยอมบอกว่าป่วยจนหายแล้วนั่นแหละ” จิณณะพยักหน้ารัวๆสนับสนุนคำพูดของน้าสาว เพราะถ้าเขาไม่ฉุกใจเข้าไปดูในห้อง ก็คงไม่รู้ว่าคนที่ดูท่าไม่ดีตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้นอนซมเป็นไข้


“แล้วข้าวต้มใส่ผักกาดเป็นยังไงบ้าง ทิศทานได้ไหม”


“ทานได้ครับ หมดถ้วยเลย” ความภาคภูมิใจปิดไม่มิดจนจิดาภายังมองเห็น หล่อนหัวเราะอย่างเอ็นดู


“น้าเพิ่งรู้ว่าจิณทำอาหารเป็นด้วย ตอนเด็กๆเห็นป่วนอย่างเดียว” คนโอ่เมื่อครู่ยิ้มแห้งลงเล็กน้อย


ความจริงแล้ว ก็ยังทำไม่เป็นเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมที่ว่าฉลาด เลยโทรไปถามสูตรเด็ดจากน้าสาวนี่ไง


“แล้วจิณจะต้องไปไหนไหม ถ้าจะไปก็ไปได้นะ เดี๋ยวน้าเรียกป้าไพมาอยู่ที่นี่เอง” คำถามของจิดาภาคราวนี้ทำเอารอยยิ้มของจิณณะแห้งลงหนักกว่าเดิม


หล่อนคงไม่รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ใกล้และบังเอิญมาที่นี่ในวันที่พิทักษ์ป่วย แต่เขาอยู่ที่นี่มาพักหนึ่งแล้ว และ...ตั้งใจจะดูแลคนป่วยในฐานะ...


...คนที่มีความรู้สึกดีๆต่อกัน...


แต่พอมองหน้าน้าสาว คำพูดของเขาในวันที่ไปขอให้พิทักษ์มาช่วยเหลือก็ดังย้อนกลับเข้ามาในสมอง วันนั้นเขาพูดกับจิดาภาโดยไม่ได้ทำนายอนาคตของตนเองล่วงหน้าว่าจะรู้สึกเช่นนี้กับพิทักษ์ ถึงได้เอ่ยออกไปอย่างมาดมั่น


‘...ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ผมยินดีเคลียร์ทุกอย่างเพื่อพี่ทิศจะได้กลับมามีชีวิตแบบเดิม’


แต่เวลานี้...หากทุกอย่างจบลง ชีวิตแบบเดิมของพิทักษ์ที่ไม่มีเขา อิสรภาพแบบเดิมที่พิทักษ์เคยมี ก็ย่อมอยากยึดเอาไว้ เพื่อไม่ให้พิทักษ์ไปไหนอีกแล้ว


“จิณ...” เสียงเรียกของน้าสาวดังขึ้น ทำเอาจิณณะรู้สึกตัว เขาเสยิ้มกว้าง


“ผมไม่มีธุระอะไรหรอกครับ เดี๋ยวช่วยดูพี่ทิศให้ ไม่ต้องให้ป้าไพมาหรอก วันนี้วันอาทิตย์ แกจะได้พักผ่อน”


“แล้วจิณไม่พักผ่อนหรือ” น้าสาวย้อนถาม เห็นหลานชายวัยหนุ่มที่ควรจะใช้ชีวิตเที่ยวเล่นหรือคบหากับใครสักคนที่รู้ใจแต่ต้องขลุกตัวอยู่กับคนป่วยแบบนี้ ก็ชักสงสาร


“ผมก็นั่งๆนอนๆอยู่ที่นี่ไง ผมเป็นผู้ชายด้วย เผื่อพี่ทิศจะให้ช่วยอะไร จะได้สะดวก” พอหลานว่ามาอย่างนั้น จิดาภาก็ไม่คัดค้าน หล่อนเลี้ยวเข้าครัว ออกปากว่าจะต้มโจ๊กให้ลูกเลี้ยง จิณณะแทบอยากจะบอกว่าให้ต้มเผื่อทั้งกลางวันและเย็นไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องโชว์ฝีมือมากนัก


น้าสาวเปิดตู้นั้น ดูตู้นี้เพื่อหาอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำอาหารให้คนป่วย แต่อะไรหลายอย่างที่ปรากฏแก่สายตากลับทำให้หล่อนไล่เปิดทีละตู้ กวาดตาดูทีละชั้น ก่อนจะหันมามองหลานชายที่ยืนให้กำลังใจอยู่ที่ประตูครัว


“จิณ”


“ครับ?”


“จิณ...ย้ายมาอยู่ที่นี่หรือ”


คำถามนั้นของจิดาภา ทำเอาคนเป็นหลานถึงกับลืมหายใจ!


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ตอนหนึ่งๆก็จะมีประมาณแปดล้านอารมณ์นะคะ ฮ่าฮ่า แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ปลัดจิณพยายามกอบกู้ความเป็นพระเอก(?) ด้วยการดูแลคนป่วยแล้วนะ แต่ไม่รู้จะกู้ได้เยอะขนาดไหนนี่สิ

ของแบบนี้บางทีไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ นอนซมๆแบบพี่ทิศก็เป็นพระเอกได้นะ ปลัดเขาจะรู้มั้ยน้ออออ

พี่ทิศกับปลัดจิณเป็นคู่ที่วิบากกกรรมเยอะมากๆเลยค่ะ ไม่รู้ชาติที่แล้วทำบาปกรรมอะไรมา ชาตินี้บอกรักกันสักคำยังบอกกันไม่ได้ (แต่เขาก็มองตารู้ใจนะเออ) แถมอุปสรรคเยอะแยะไปหมด แต่เอาเป็นว่า เมื่อถึงเวลาที่หมดกรรม บัวจะหาทางคืนกำไรให้แล้วกันนะคะ ฮ่าฮ่า
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม ทุกกำลังใจ และพื้นที่บอร์ดค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ปลัดจิณจะทำให้พี่ทิศหลงไปถึงไหน

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อื้อหือ จะมีฉากบู้ไหมเนี่ย นายไพศาลเล่นสั่งเก็บจินขนาดนี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ได้ยินคำถามของคุณน้าแล้วทางนี้ก็เข่าอ่อนไม่แพ้จิณณะเลยค่ะ  :ling3:  แต่ไพศาลนี่ก็คือจะไม่ยอมหยุดจริงๆ เหมือนขาดการยับยั้งชั่งใจไปเลย

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
หวังว่าความมั่นคงของทั้งสองคนจะช่วยให้ในที่สุดจะฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ด้วยดี เพราะช่วงคืนกำไรเท่านั้นที่เราต้องการเป็นสำคัญ 555

ผู้ใหญ่ต่างหวังแยกทั้งสองอยู่แล้ว ก็ไม่รู้ทิศทางจะออกมาแบบไหน พี่ทิศคนดีคงไม่ยอมง่ายๆ นิ่งๆ แบบนี้ ร้ายไม่เบา ส่วนจิณต้องดู จะยอมแค่ไหนเพื่อพี่ทิศ

ส่วนคนที่คิดจะเก็บจิณณะ คงไม่ง่าย แต่ก็คงเป็นเหตุไม่น้อย โอ๊ยยย เป็นห่วง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2019 23:01:58 โดย arjinn »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
....แต่ในเมื่อรวมตัวเป็นกลุ่มทุน ความเชื่อใจต้องมี ความเชื่อใจในที่นี่หมายถึง ‘กูจะปิด ถ้ามึงปิด แต่ถ้ามึงเปิด กูก็เปิด’ ....
  อันนี้ชอบมาก คือใช่เลย
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เอาแล้วจ้าาความแตกจ้าา

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
โถ~~~ ความแตกจนได้เนอะปลัด ^^"

เป็นคู่แห่งความช่วยเหลือ พี่ทิศคือดาวประจำตัวปลัดจริงๆ (นี่แอบคิดถึงพี่โตกับน้องจอม...ไม่ต่างกัน ขยันมีเรื่องเหลือเกิน 555)

หวังว่าผู้ติดตามจะระแวดระวังภัยได้ดี ไม่มีเรื่องร้ายนาจา...กลัวคุณย่าอาละวาดมาก พูดเลย เหอๆ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
พ่อพระเอกจิณ !!!!
วิธีการดุพี่ทิศตอนป่วยนั้น...
มันเหมือนอาการเมียบ่นผัวมากกว่านะ 555

นอนป่วยๆ อย่างพี่ทิศรัศมีพระเอกก็เปล่งได้   :hao3:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อะหือออ ข้าวต้มใส่อะไรลงไปนะพี่ทิศถึงได้ทานหมดถ้วยแบบนั้น อ่อออ ใส่ใจ แอร๊ยยยย  :o8:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
นอกจากความรู้สึกของทั้งสองคนแล้ว ทุกอย่างคือยากไปหมด

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
หลายอารมณ์จริงตอนนี้
แต่คุณแม่จับได้ไวมาก 555555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด