......................
เรื่องต้นคริสต์มาสนี้ถูกอุบเงียบจนกระทั่งวันที่ 24 ธันวาคม
วันนี้พิทักษ์มีประชุม ส่วนจิณณะออกตัวว่าเคลียร์งานหมดทุกอย่างตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว วันนี้เจ้าตัวจะอยู่บ้านสบายๆ พิทักษ์ออกปากว่าพอประชุมเสร็จแล้ว เขาจะรีบกลับมากินข้าวด้วย จิณณะได้แต่รับคำว่าง่ายเป็นเด็กดี
แต่...พอรถยนต์ของพิทักษ์พ้นออกจากเขตหมู่บ้านไปแล้ว ‘เด็กดี’ ก็กดโทรศัพท์เรียกตัวเลขานุการหนุ่มให้มาที่บ้านพร้อมต้นคริสต์มาสทันที!
ต้นคริสต์มาสสูง 3 เมตรแบบแยกส่วนประกอบ ขนย้ายไม่ยาก ประกอบก็ไม่ยาก แถมห้องรับแขกของบ้านพิทักษ์ ยังเพดานสูงพิเศษ พอตั้งต้นคริสต์มาสความสูง 3 เมตรได้แล้ว ก็พบว่าเพอร์เฟ็ค!
“เยี่ยม! โคตรสวย! ผมนี่ตาถึง!” จิณณะไม่รู้จะชมตัวเองว่ายังไงแล้ว ยิ่งมองต้นเขียวๆตั้งตระหง่าน ก็ยิ่งประทับใจความสามารถในการเลือกสรรของตนเอง
แต่ดนัยไม่ได้ชื่นชมไปด้วย เขามองต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่แล้วก็หันไปทางเจ้านาย
“คุณจิณคิดว่าคุณทิศจะรู้ราคามั้ยครับ”
จิณณะชะงัก ตอนนั้นเองถึงได้รู้ตัวว่าถ้าต้นคริสต์มาสใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้จะปกปิดราคา แต่พิทักษ์เดาได้แน่นอน
“ต้นคริสต์มาส 3 เมตรนี่...ผมว่าน่าจะโดนดุไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงนะครับ เตรียมหูไว้ได้เลย รวมเรื่องไข่ไก่คราวก่อน ผมว่าน่าจะครึ่งวัน”
“พี่นัยก็...ให้กำลังใจกันจัง...” หน้าจิณณะเริ่มซีด
“ไม่ได้ให้กำลังใจครับ ให้คุณมองโลกในความเป็นจริง แค่คุณทิศเห็นก็รู้แล้วล่ะครับว่าต้นนี่ราคาเท่าไร” ดนัยพูด พอดีสายตาเหลือบไปเห็นกล่องกำมะหยีสีแดงวางรวมกับอุปกรณ์ตกแต่งต้นคริสต์มาส เขาจำได้ว่าของที่จิณณะฝากไว้กับเขา ไม่มีกล่องนี่
แต่...วันนี้ พอจะตั้งต้นคริสต์มาส กลับมีกล่องไม่น่าไว้ใจเอามารวมกับอุปกรณ์ตกแต่งที่เขาขนมาด้วย
“...แล้วนั่นกล่องอะไรครับ”
จิณณะหันไปหยิบกล่องมาเปิดให้ดู ข้างในคือดาวแปดแฉกสีทองอร่าม 2 อัน ตรงกลางดาวประดับด้วยเพชรระยิบระยับเม็ดใหญ่
“ดาวติดบนยอดต้นคริสต์มาสไง!”
“คุณ...ไม่ได้ซื้อมาพร้อมกับของอย่างอื่นใช่มั้ยครับ” ดนัยถาม พยายามบอกตัวเองว่าดาวแปดแฉกสีทองนี่คงเป็นโลหะอะไรสักอย่างชุบสี ส่วนเพชรที่ประดับบนดาวคงเป็นเพชรเก๊
...ทองชุบและเพชรเก๊เถอะ ขอให้เป็น ‘ทองชุบและเพชรเก๊’ เท่านั้น...
…ขอร้อง...
“ใช่สิ! นี่ผมสั่งทำพิเศษเลยนะ! มี 2 อัน อันนึงจะเอามาติดบนยอดต้นคริสต์มาส อีกอันก็...ไม่บอก! ไม่บอกพี่นัยหรอก! อันนี้จะเซอร์ไพรส์พี่ทิศ!”
เจ้าตัวพูดแล้วยิ้มร่า แต่สำหรับดนัยแล้วยิ้มไม่ออกสักนิด
ได้ยินคำว่าสั่งทำพิเศษแล้ว คำว่า ‘ทองชุบและเพชรเก๊’ ก็กระเด็นออกจากหัวของเขาโดยสิ้นเชิง เพราะคนมือเติบอย่างจิณณะ ไม่มีทางสั่งทำพิเศษด้วยทองปลอมเพชรปลอมแน่นอน แล้วไม่ได้สั่งทำอันเดียวด้วยนะ! เจ้าตัวสั่งทำ 2 อัน!
เลขาฯหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นนวดขมับ
...เหมาไข่ไก่ทั้งจังหวัดยังรอวันเปิดเผยอยู่ ส่วนต้นคริสต์มาส 3 เมตรก็ยังไม่รู้ว่าจะถูกพิทักษ์ดุสักเท่าไร แล้วยังมีดาวประดับยอดต้นคริสต์มาสสั่งทำพิเศษ 2 อันอีก ไม่ว่าอีกอันจะเอาไว้เซอร์ไพรส์อะไร แต่ก็บอกให้รู้เลยว่าราคาไม่ใช่น้อยๆ...
...เจ้านายของเขานี่มัน...
ฝ่ายเจ้านายเห็นลูกน้องกุมขมับ ก็เริ่มใจแป้ว แต่มาขนาดนี้แล้ว คนอย่างจิณณะ วงศ์กีรติถอยไม่ได้ เดินหน้าสถานเดียว!
“เอาหน่า เรื่องนี้ผมจัดการเอง เออ! จริงด้วย ผมมีของจะให้พี่นัยล่ะ!”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นวิ่งขึ้นชั้น 2 หายไปอึดใจ ก็วิ่งกลับลงมา พร้อมด้วยกระดาษใบหนึ่ง แล้วส่งให้ดนัย
“อ่ะ! เมอร์รี่ คริสต์มาส แอนด์ แฮปปี้ นิวเยียร์ นะพี่นัย นี่ของขวัญปีใหม่ ผมคิดว่าพี่น่าจะอยากไปเลือกเองมากกว่า”
ดนัยนิ่งไปเล็กน้อย ถึงจะรู้ว่าจิณณะเป็นคนมีน้ำใจล้นเหลือ แต่เขาก็ไม่เคยคิดหวังอะไรจากอีกฝ่ายนอกจากการทำงานร่วมกันอย่างปกติสุข
ซึ่ง...แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะไม่ปกติสุขนัก เพราะเจ้าตัวชอบทำเรื่องเพี้ยนและเสี่ยงตาย แต่จิณณะก็เป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่งตลอดชีวิตการทำงานของเขาเลยทีเดียว
“ขอบคุณที่ดูแลผมอย่างดีมาตลอดปีนะพี่ ปีหน้าก็อยู่ด้วยกัน อย่าเพิ่งไปไหนนะครับ”
หลานชายคุณกอบกุล เรื่องเจรจาต่อรองอาจจะไม่ทรงอำนาจเทียบบารมีกับผู้เป็นย่า แต่เรื่องเจรจาแบบอาศัยความปากหวานต้องยกให้เป็นที่ 1 ในบรรดาหลานทั้งหมด
“ขอบคุณครับ” ดนัยรับเช็กไป แต่ไม่ทันที่จิณณะจะหันไปสนใจกับต้นคริสต์มาสต่อ เสียงของเลขานุการหนุ่มก็ดังขึ้น
“คุณจิณครับ”
เจ้าของชื่อหันมอง ทำหน้าซื่อ แต่ดวงตาใสระยิบมีประกายแพรวพราวชนิดที่ดนัยจับได้ว่าอีกฝ่ายจงใจทำเรื่องบางเรื่อง
“คุณยังไม่ได้กรอกตัวเลขครับ” ดนัยพูดเสียงเรียบ แล้วส่งเช็คคืน จ้องดุราวกับจะบอกว่าให้จิณณะลงตัวเลขให้เรียบร้อย
ไม่ใช่เพราะดนัยไม่คิดว่าตนเองควรจะได้ของขวัญปีใหม่มูลค่าเท่าไรจากเจ้านายที่แสนดูแลยากรายนี้ แต่...เขาเกรงว่าของขวัญประเภท ‘เช็คไม่กรอกตัวเลข’ จะรู้ถึงหูพิทักษ์ แล้วคราวนี้เขาโดนหนักรับปีใหม่แน่นอน!
“ว้า! พี่นัยตาดีเกินไปแล้ว!”
จิณณะทำเป็นร้องอย่างเสียดาย “นี่ผมกะจะทำตัวรวยๆแบบพระเอกในละครที่ส่งเช็คเปล่าไง”
“กรอกตัวเลขครับ” ดนัยย้ำ
สุดท้ายจิณณะก็ทำหน้าเบื่อ พ่นหายใจเฮือกใหญ่
“ก็ได้ๆ เขียนตัวเลขหลายหลักมันเปลืองหมึกผมนะ...”
“ไม่ต้องเขียนหลายหลักครับ”
“ไม่หลายหลักแล้วจะเรียกว่าของขวัญได้ไง!” เจ้านายสายเปย์ถึงกับเงยหน้ามองแล้วเถียงทันควัน
“ถ้าหลายหลัก รบกวนฝากคุณทิศมาให้ผมแล้วกันนะครับ”
พอดนัยว่ามาอย่างนี้ อย่าว่าแต่จิณณะจะเถียงออกเลย แม้กระทั่งปากยังอ้าไม่ขึ้น
...ขืนฝากพี่ทิศไปให้ พี่ทิศก็รู้น่ะสิว่าเขียนเช็คให้เท่าไร!...
“เออๆ! ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอลูกน้องคนไหนแบบพี่นัยเลยรู้มั้ย ให้ไปกรอกตัวเลขเองก็ไม่เอา ให้เยอะก็ไม่เอา งง”
“ไม่ต้องงงครับ ผมแค่ไม่อยากโดนหางเลขไปด้วย แค่เหมาไข่ไก่ก่อนหน้านี้ก็เรื่องใหญ่แล้ว ไหนจะต้นคริสต์มาสกับดาวสั่งทำพิเศษของคุณ ผมยังไม่รู้เลยว่าชีวิตปีหน้าของผมจะเป็นยังไง”
พอดนัยพูดแล้วเหลือบไปทางต้นคริสต์มาสกับกล่องกำมะหยี จิณณะก็ถึงกับเม้มปาก
เรื่องไข่ไก่น่ะข้ามไปเถอะ เพราะตอนนี้ไม่มีหลักฐานเหลือสักฟองในมือเขาแล้ว ก็ถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ส่วนเรื่องต้นคริสต์มาสกับดาวสั่งทำพิเศษ...
พิทักษ์เดาราคาได้แน่ถ้าฉุกใจ เพราะฉะนั้น...อย่าทำให้พิทักษ์ฉุกใจเท่านั้นก็พอ!
“รีบเขียนเข้าเถอะครับ คุณยังไม่ได้ตกแต่งต้นคริสต์มาสเลย เดี๋ยวก็ไม่ทันคุณทิศกลับมา” ดนัยทำใจยอมรับการโดนหางเลขแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือให้พิทักษ์กลับมาเห็นต้นคริสต์มาสสวยๆ จิตใจจะได้ปลอดโปร่ง จะได้ผ่อนหนักให้เป็นเบามากที่สุด
“รู้แล้วล่ะหน่า! ถ้าโดนพี่ทิศดุจะบอกว่าพี่นัยไม่รู้เรื่อง จะไม่ให้พี่นัยโดนไปด้วย”
“ขอบคุณครับ” ดนัยตอบ แต่เพราะทำงานด้วยกันมานาน ครั้นจะเอาแต่ความปลอดภัยตัวเอง ก็รู้สึกชอบกล จิณณะเป็นคนมีน้ำใจ เขาเองก็อยากมอบน้ำใจกลับเช่นกัน
และน้ำใจของเขา...มาในรูปแบบคำเตือน หลังจากชะโงกหน้าเห็นจำนวนตัวเลขที่เจ้านายตัวแสบเขียนลงบนเช็ค
“...เท่านั้นพอแล้วครับ ถ้าใส่อีกหลัก คุณทิศดุแน่ๆ”
ได้ยินแต่ชื่อคนรัก จิณณะก็เกิดหมั่นไส้ขึ้นมา
“นี่พี่นัย ปีหน้าเราทำชาเล้นจ์กันมั้ย ใครพูดชื่อพี่ทิศมากกว่ากันใน 1 วัน หักเงินวันละ 500”
“ถ้าถูกหักขึ้นมาจริงๆ คุณจิณจะเดือดร้อนนะครับ หัก 500 คุณไม่น่าเหลือเงินพอใช้”
พอกินน่ะพอแน่ แต่คนมือเติบชอบซื้อของฝากคนนั้นคนนี้ แน่นอนว่าไม่พอใช้ แล้วถ้าจิณณะไม่พอใช้ คนเดือดร้อนจะเป็นใคร ไม่ใช่ดนัย แต่เป็นพิทักษ์น่ะสิ
“โอเคๆ ไม่เล่นอะไรทั้งนั้นก็ได้!” จิณณะตัดใจทุกอย่าง ส่งเช็คให้อีกฝ่าย ก่อนจะสั่งให้ดนัยกลับไปได้แล้ว ตัวเขาจะเป็นคนตกแต่งต้นคริสต์มาสนี้ด้วยตัวเอง
เมื่อเจ้านายสั่ง ดนัยก็ไม่ขัด เขาขอตัวออกมา แต่ไม่วายหันกลับไปมองบ้านของพิทักษ์อย่างห่วงใย ก่อนจะถอนหายใจยาว
...หวังว่าปีหน้า ผมจะได้ทำงานกับคุณเหมือนปีที่ผ่านมา อย่าถูกคุณทิศดุจนเป็นลมตายไปเสียก่อนล่ะ คุณจิณ...
........................
พิทักษ์เคยคิดว่า...สวรรค์ค่อนข้างใจดีกับเขามาก...
นอกจากการเสียมารดาแต่เล็ก ชีวิตของเขาก็ไม่มีเรื่องให้ต้องเผชิญกับความลุ่มๆดอนๆมากนัก เรียกได้ว่าเส้นชีวิตราบเรียบ ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ชีวิตเหมือนก้าวเดินไปตามลำดับขั้นตอน
จนกระทั่ง...ได้พบจิณณะ
พบไม่พอ ยังคบหาเป็นคนรักด้วย!
ประเด็นหลังนี่ล่ะ ที่ทำให้พิทักษ์รู้สึกว่าเหมือนโดนสวรรค์เอาคืน!
ถ้าคิดว่าการที่ถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสจะเป็นการเอาคืนของสวรรค์แล้ว พิทักษ์ก็กล้าบอกได้เลยว่าเรื่องนั้น เขายังพอเตรียมใจล่วงหน้าได้ เพราะช่วงนั้นจิณณะตกอยู่ในอันตราย วันใดวันหนึ่งอาจถูกลอบทำร้าย ซึ่งเขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะปกป้องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด
ส่วนตอนนี้สิ...ตอนนี้ทุกอย่างจบลงด้วยดี จิณณะไม่มีเรื่องบาดหมางกับใครอีก คนที่มีเรื่องบาดหมางกับจิณณะก็ตายไปแล้ว ชีวิตจิณณะสงบสุข ชีวิตพิทักษ์ก็ควรจะสงบสุขเช่นกัน
แต่...ชีวิตจิณณะที่สงบสุข ไม่เคยทำให้พิทักษ์สงบสุขไปด้วย!
แทบทุกวันมีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ ถ้าช่วงไหนใกล้เทศกาลก็คือเตรียมใจไว้ได้เลยว่าเซอร์ไพรส์หนักกว่าวันธรรมดาเป็น 2 เท่า!
และนี่คือเทศกาลคริสต์มาส คิดว่าการเซอร์ไพรส์ของจิณณะจะระดับไหนล่ะ
“จิณ...” พิทักษ์ครางเสียงแผ่วทันทีที่เหยียบเท้าเข้าบ้านแล้วพบว่าบ้านของเขาที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น และใช้สีคุมโทนไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด มีบางสิ่งแปลกตาและโดดเด่นออกมาจากเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด
ต้นคริสต์มาสสีเขียว ประดับยอดด้วยดาวสีทองแปดแฉกที่ระยิบระยับ รอบต้นตกแต่งด้วยไฟกะพริบ ลูกตุ้มสีสะท้อนแสงวิบๆ และ...ไม่ได้มีแค่ต้นเดียว
ข้างต้นคริสต์มาส...คือต้นคริสต์มาสอีกต้นที่เป็นจิณณะใส่เสื้อกันหนาวแบบฮู้ดดี้สีเขียว กางเกงสีน้ำตาล สวมหมวกกระดาษแข็งทรงสามเหลี่ยมมีดาวแปดแฉกระยิบระยับอีกอันติดอยู่บนยอดหมวก รอบตัวมีสายรุ้งสีเงินสีทองพันไปมา อุปทานว่าตนเองเป็นต้นคริสต์มาส!
“เซอร์ไพรส์!!” เจ้าตัวชู 2 แขนร้องอย่างร่าเริง
ส่วนพิทักษ์ แม้จะเตรียมใจมาแต่เนิ่นๆว่าวันนี้คนรักต้องมีเรื่องเซอร์ไพรส์เขาแน่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเซอร์ไพรส์ด้วยการแปลงร่างเป็นต้นคริสต์มาส
ชายหนุ่มหัวเราะ ไม่รู้ว่าเขาขำกับจิณณะ หรือขำตนเองที่มีคนรักเป็นจิณณะกันแน่
“หัวเราะอะไรอ่ะ อยากแต่งเป็นต้นคริสต์มาสบ้างมั้ย”
คนอุตส่าห์ลงทุนทั้งซื้อต้นคริสต์มาส ทั้งยอมเป็นต้นคริสต์มาสเองเอ่ยปากเหมือนหาเรื่อง
พิทักษ์ไม่เห็นแก่ความพยายามของเขาเอาซะเลย! ลงทั้งเงิน ลงทั้งแรงขนาดนี้ แทนที่จะประทับใจ ดันหัวเราะซะได้!
ร่างสูงเดินหัวเราะเข้ามาหาคนที่ยืนบ่นหน้าบูด เขาจับหมวกสามเหลี่ยมบนศีรษะคนรักให้เปิดออก แล้วก็ทำเป็นเลิกคิ้ว
“อ้าว นึกว่าในนี้จะมีเซอร์ไพรส์อีก”
จิณณะดึงหมวกกลับมาสวมตามเดิมแล้วทำหน้าหงิก
“นี่ยังเซอร์ไพรส์ไม่พออีกเหรอ ตรงไหนไม่เซอร์ไพรส์ เอาปากกามาวง”
หน้าคนทำเซอร์ไพรส์ชักจะหงิกเข้าไปทุกที จนพิทักษ์ที่ยังหัวเราะต้องรีบโอ๋
“เซอร์ไพรส์ทุกตรง”
“แน่นะ”
“เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกเซอร์ไพรส์หนักขนาดนี้” พิทักษ์พูดต่อ ทำเอาจิณณะหัวเราะร่วน
“พี่ทิศโคตรเว่อ แต่ดีมาก ได้ยินอย่างงี้แล้วใจชื้นเลย ค่อยคุ้มกับที่ลงทุนไปหน่อย” คนพูดเก่งออกปากอย่างภาคภูมิใจ ฝ่ายคนฟัง แม้จะไม่รู้ยอดการลงทุนละเอียดยิบ แต่ฟังแล้วเข้าใจได้ว่าเซอร์ไพรส์นี้ วงเงินลงทุนสูงลิบ
“ลงทุนไปเท่าไร”
คำถามต่อมาของพิทักษ์ทำเอาคนที่เมื่อกี้ยังโอ่อย่างภูมิใจถึงกับชะงัก
“เอ้อ...ก็...ไม่มาก...”
ปากว่าอย่างนั้น แต่คิดหรือว่าจะรอดสายตาพิทักษ์
เขาสูงกว่าจิณณะเล็กน้อย แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะสังเกตเห็นความวิบวับของดาวแปดแฉกที่ประดับอยู่บนหมวกกระดาษแข็ง
...หมวกกระดาษน่ะราคาจะสักเท่าไร แต่ดาวแปดแฉกนี่สิ...
“นี่ราคาเท่าไร” นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของสนามกอล์ฟจับหมวกกระดาษอีกครั้ง แน่นอนว่าจิณณะเองก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ถามถึงราคาหมวกแน่ แต่ถามถึง ‘ยอดหมวก’ ต่างหาก
แต่...เรื่องหน้าหนา ตีเนียน ขอให้ไว้ใจ จิณณะ วงศ์กีรติ
“เห็นผมเป็นร้านสมใจเหรอ ถามราคากระดาษแข็งเนี่ย ฮ่าฮ่า!” ชิ่งอ้อมโลกไปพูดถึงร้านเครื่องเขียนก็ได้อีก บอกแล้วว่าเรื่องเบี่ยงประเด็นของให้ไว้ใจหลานชายคุณกอบกุล
แต่...โปรดอย่าลืมว่าพิทักษ์ก็หลานชายคุณเทียม
“พี่ไม่ได้ถามถึงหมวกกระดาษ พี่ถามถึงดาวที่อยู่บนหมวกกระดาษ”
คราวนี้จิณณะเริ่มกลืนน้ำลายไม่ลง กะพริบตาปริบๆ คิดไม่ออกว่าจะหาทางลงให้ตัวเองยังไง!
“เท่าไร” ร่างสูงถามย้ำ
“ของเก๊พี่! เบาทั้งน้ำหนักทั้งราคา ฮ่าฮ่า!”
แถเอาสีข้างเข้าถูจนเนื้อตัวถลอก แต่ก็ยังมีหน้าหัวเราะสร้างบรรยากาศตลก ทว่า...ตลกออกแค่เสียง ในใจเริ่มร้อนรุ่มจนแม้แต่อากาศเย็นๆช่วงปลายธันวาคมก็ไม่ช่วยอะไร!
...เหงื่อกาฬแตกเต็มหลัง! ไอ้เสื้อกันหนาวที่ใส่นี่ก็กะให้เข้ากับบรรยากาศหน้าหนาว ที่ไหนได้! ใส่แล้วร้อนฉิบเป๋ง!...
“จิณรู้ใช่มั้ยว่าพี่เช็คได้ ของแท้ ของปลอม น้ำหนักเท่าไร ราคาเท่าไร”
อย่าว่าแต่กลืนน้ำลายไม่ลงเลย กระทั่งหายใจ จิณณะก็เริ่มหายใจไม่ออก
“ดาวราคาเท่าไร” พิทักษ์ถามซ้ำ
“คือ...”
ดูท่าแล้วจะตอบยาก แม้ไม่เห็นสายตาหลุกหลิก แต่ร่างสูงก็รู้ว่าจิณณะกำลังหาทางลงสำหรับเรื่องนี้
เห็นแก่เทศกาลคริสต์มาส เขาจะใจดีถามนำให้ก็ได้
“ทองแท้มั้ย” ไม่ต้องถามว่ากี่บาท เอาแค่คำตอบว่าแท้หรือไม่
“เอ่อ...ก็...ก็ซื้อจากร้านทอง...”
“เพชรมีใบเซอร์ฯมั้ย” ไม่ต้องถามว่ากี่กะรัต เอาแค่มีใบ Certificate รึเปล่า
“เอ่อ...ม...มี...”
สองคำตอบทั้งเรื่องทองเรื่องเพชรเป็นอันบอกชัดว่าจิณณะ วงศ์กีรติทุ่มไม่อั้นจริงๆ สำหรับดาวแปดแฉกอันนี้
พิทักษ์ไม่รู้จะพูดยังไงกับความสายเปย์ของคนรัก เขาก็รู้อยู่หรอกว่ากับบางเรื่อง จิณณะก็แทบไม่ใช้เงิน แต่กับบางเรื่องที่...ไม่ค่อยมีประโยชน์ เจ้าตัวกลับใช้ไม่อั้น
“ผม...ช่วยคนรู้จักซื้อ แล้ว...แล้วเขาก็รับขึ้นรูปแบบที่อยากได้ด้วย แต่สร้อย แหวน พวกเราก็ไม่ใส่ ผมก็เลย...ง่า...คือ...คือคริสต์มาสก็มีทุกปีใช่มั้ยล่ะ ถ้าเอามาทำเป็นของตกแต่งก็น่าจะดี...แล้ว! แล้วตอนนอกเทศกาล เราก็เอามาประดับบ้านก็ได้ ผมมองไว้แล้ว เอาไว้ตรงหัวนอนพวกเราไง!” จิณณะสารภาพพร้อมแนวทางในการใช้ดาวประดับสั่งทำพิเศษให้คุ้มราคา
ต่อให้จะรักกันชนิดตายแทนกันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกเรื่องของพวกเขาเหมือนกัน อย่างน้อยๆก็เรื่องใช้เงินที่แตกต่างกันอย่างสุดโต่ง
พิทักษ์จ่ายตามเหตุผล ส่วนจิณณะซื้อตามใจอยาก
“อ่า...ผม...ผมแค่อยากให้มีต้นคริสต์มาสในบ้านพี่ทิศ เอ่อ...แล้ว...แล้วก็อยากจัดทุกปี แล้วดาว...มันก็ใช้ได้ทุกปี เลยคิดว่ามันก็คุ้ม แต่ถ้า...ถ้าพี่ทิศไม่ชอบ...ผม...จะลองหาดู เผื่อมีใครอยากซื้อต่อ...”
ความตั้งใจจริงของจิณณะ ไม่ใช่พิทักษ์ไม่รับรู้ ดาวแปดแฉกนี่นอกจากจะราคาไม่เบาแล้ว ยังต้องสั่งทำ แสดงว่าเจ้าตัวเตรียมการมาพอสมควร พอเห็นแบบนี้แล้ว เขาจะใจร้ายดุต่อไปได้อย่างไร
ร่างสูงถอนหายใจเบา สุดท้ายเขาก็ใจอ่อนกับอีกฝ่ายทุกที
“พี่ไม่เคยจัดต้นคริสต์มาสเลย รู้มั้ย”
จิณณะเงยหน้ามองคนรัก น้ำเสียงของพิทักษ์ไม่ได้เคร่งเหมือนตอนถามเรื่องราคาอีกแล้ว สีหน้าก็เหมือนจะปลงอะไรสักอย่าง ซึ่ง...ไม่รู้หรอกว่าปลงเรื่องอะไร แต่ฟังจากที่อีกฝ่ายชวนคุยเรื่องต้นคริสต์มาสแล้ว เหมือนจะเห็นสัญญานที่ดีแหะ!
“ตอนเด็กๆก็ไม่เคยเหรอ?” จิณณะถาม ทำเป็นไม่พูดถึงเรื่องดาวแปดแฉกและราคาของมันอีก
พิทักษ์ส่ายหน้า
“แล้ววันคริสต์มาสทำไรอ่ะ”
“ก็ไม่ทำอะไร ใช้ชีวิตปกติ”
“ปกติแบบที่ในบ้านไม่มีต้นคริสต์มาสน่ะนะ?!”
พิทักษ์ชักนึกขำคนรัก ดูเจ้าตัวจะชอบเทศกาลนี้เอามากๆ
“จิณมีต้นคริสต์มาสในบ้านทุกปี?”
“แน่นอน!”
“คุณกอบกุลไม่ว่าเหรอ”
คำถามของพิทักษ์นั้นคาดเดาคำตอบได้อยู่แล้ว
หากเป็นต้นคริสต์มาสที่ลูกหลานคนอื่นจัด คุณกอบกุลอาจจะขมวดคิ้ว เคืองๆตาสักหน่อย แต่ถ้าเป็นต้นคริสต์มาสที่จิณณะจัดแล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าเป็นชนวนสงครามแน่นอน!
แต่...อากัปกิริยาที่คุณกอบกุลมีต่อต้นคริสต์มาสซึ่งจัดโดยจิณณะว่าคาดเดาได้แล้ว ท่าทีของจิณณะที่มีต่อการแอนตี้ของคุณกอบกุลก็คาดเดาได้ไม่ต่างกัน
เจ้าตัวยักไหล่ ทำหน้าตาไม่ยี่หระ
“แล้วไง ก็จะจัด ใครจะทำไม พี่ทิศเหอะ ไม่เคยจัดต้นคริสต์มาสจริงดิ!”
พิทักษ์พยักหน้ารับ “ก็ไม่รู้จะจัดทำไม ไม่ได้นับถือศาสนาเขาด้วย”
“เฮ้ย! ของยังงี้ไม่เกี่ยวกับศาสนา! มันเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมกับเทศกาลต่างหาก!” จิณณะแย้ง แล้วก็เกิดไอเดียขึ้นมา
“พี่ทิศรอเดี๋ยว ผมไปเอาบันไดก่อน” แล้วเจ้าตัวก็ผลุบหายไปที่ห้องเก็บของ เอาบันไดอะลูมีเนียมแบบพับได้ออกมาตั้งข้างต้นคริสต์มาส คว้ากล่องกระดาษใบหนึ่ง กำลังจะปีนขึ้นไปปลดลูกตุ้มและของประดับจากต้นมาใส่กล่องแต่ร่างสูงคว้าแขนไว้แล้วถาม
“ทำอะไรน่ะ”
“ก็จะจัดต้นคริสต์มาสใหม่ไง”
“จัดทำไม นี่ก็จัดเสร็จแล้ว”
“จะให้พี่ทิศจัดด้วย” เจ้าตัวว่าอย่างนั้น สายตาและสีหน้าจริงจัง ทำให้คนไม่เคยจัดต้นคริสต์มาสนึกอุ่นไปทั้งหัวใจ
แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันแสดงให้เห็นว่าจิณณะใส่ใจกระทั่งกับเรื่องเล็กๆอย่างนี้
...สวรรค์อาจจะเอาคืนให้เขาได้ใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม เมื่อเขาพบจิณณะ...
แต่ในการเอาคืนของสวรรค์ก็เหมือนมอบรางวัลให้เขา ด้วยการให้จิณณะใส่ใจเขาถึงเพียงนี้
“แกะเฉพาะข้างล่างก็พอ ไม่ต้องปีนแล้ว” พิทักษ์พูดพลางยิ้มจาง
“จะดีเหรอ”
“ดี”
“งั้น...ปีนี้พี่ทิศลองแต่งแค่ข้างล่างก่อนแล้วกันนะ ปีหน้าจะให้แต่งทั้งต้นเลย” ตัวต้นคิดพูดพลางยิ้ม ก่อนจะหันไปเริ่มแกะลูกตุ้ม และสายรุ้งลงจากต้น พิทักษ์จะเข้าไปช่วย แต่เจ้าตัวรีบหันมาบอก
“ไม่ได้ๆ พี่ทิศยังไม่เคยแต่งต้นคริสต์มาส จะมาเก็บต้นคริสต์มาสก่อนไม่ได้สิ ไปรอเฉยๆเลย ผมทำเสร็จแล้วจะเรียก” แล้วก็ดันพิทักษ์ให้ออกไปยืนข้างๆ ร่างสูงยิ้มขันด้วยความเอ็นดู แต่ก็ยอมยืนเฉยมองคนรักก้มๆเงยๆอยู่ตรงต้นคริสต์มาสพักหนึ่ง ก่อนจะหันมาเรียกเขาอีกรอบ
“อ่ะ! มาจัดต้นคริสต์มาสกัน!”
ตัวป่วนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของพิทักษ์ไม่เหมือนเดิม ชวนพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
ไม่รู้เจ้าตัวจะรู้หรือไม่ แต่รอยยิ้มแบบนี้ สว่างไสวยิ่งกว่าดาวแปดแฉกที่อยู่บนหมวกกระดาษแข็งเสียอีก
จิณณะเริ่มตกแต่งต้นคริสต์มาสใหม่อีกหน พิทักษ์มองตามมือของคนรัก เห็นอีกฝ่ายหยิบตุ๊กตาซานต้าคลอสตัวเล็กๆที่ถือกล่องของขวัญมาห้อยบนกิ่งเขียวๆของต้น
สัญลักษณ์ของคริสต์มาส นอกจากต้นคริสต์มาส กวางเรนเดียร์ ก็ต้องไม่ลืมชายชราร่างท้วมมีเคราสีขาวสวมชุดสีแดง ชายชราผู้ใจดีที่มอบของขวัญสร้างความสุขให้กับผู้คน
แต่นั่นมันนิทานปรัมปรา ใครๆก็รู้ว่าซานต้าคลอสไม่มีจริง และเพราะไม่มีจริง พิทักษ์ก็เลยไม่เคยสนใจ
เขาไม่เคยสนใจวันคริสต์มาส เห็นเพียงว่ามันเป็นเทศกาลที่ทำให้ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย เมื่อโลกหมุนด้วยทุนนิยม คริสต์มาสก็กลายเป็นเพียงน้ำมันหล่อลื่นของกงล้อทุนนิยม
เขาไม่ทันได้คิด...คริสต์มาสอาจจะเป็นเพียงเทศกาลหนึ่งในรอบปี อาจเป็นแค่ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงเวลาหนึ่งของปี และซานต้าคลอสก็เป็นเพียงนิทานหลอกเด็กประจำปี
ทั้งซานต้า กวางเรนเดียร์เหาะบนอากาศ หรือของขวัญที่หล่นลงมาทางปล่องไฟล้วนไม่มีจริง
แต่...คริสต์มาสก็เป็นเทศกาลแห่งความสุข และความสุข...มีอยู่จริง
และคนคนหนึ่ง...ที่นำความสุขเข้ามาในชีวิตของพิทักษ์...ก็มีอยู่จริง