#คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์ : Epilogue: อาทิตย์สุดท้าย (08/05/19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์ : Epilogue: อาทิตย์สุดท้าย (08/05/19)  (อ่าน 71584 ครั้ง)

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สงสารพี่โน๊ตต แล้วๆคุณกฤต อะไรยังไงเนี่ยย

ออฟไลน์ FXEXRXN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะเอ็นดูหรือสงสารพี่โน๊ตดีเนี่ย ฮือออออ

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
11th Sunday
#คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์






วันอาทิตย์ควรจะเป็นวันที่เราได้พักอย่างเต็มที่ กลายเป็นว่าต้องเปิดประตูมาเจอนายนรินทร์ยืนยิ้มแป้นแบบนี้





มันใช้ไม่ได้เลย!





กฤติรู้สึกเหมือนตัวเองจะปวดหัวจี๊ดขึ้นมาตอนที่เห็นหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนของนรินทร์ที่ยืนยิ้มอยู่ตรงประตูห้อง เขาคงจะด่าหยาบคายออกไปหากไม่บังเอิญเหลือบตาไปเห็นเด็กหญิงตัวเล็กที่ยืนเกาะขาคุณพ่อของเธออยู่เสียก่อน ใบหน้าที่เมื่อครู่หงุดหงิดก็คลายออกทันที







“อากฤติสวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับน้องนิ้ง”





หัวหน้าแผนกคนเก่งพูดกับเด็กน้อยที่ติดมาด้วย โดยมีนรินทร์ยืนยิ้มแห้งอยู่ใกล้ๆ ไอ้การที่ลูกสาวสนิทกับคนที่เขากำลังจะจีบมันถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกัน การที่ทั้งสองคนคุยกะหนุงกะหนิงแล้วพากันเดินเข้าห้องโดยไม่สนใจยอดชายนายนรินทร์แบบนี้มันก็ออกจะชอกช้ำอยู่เล็กน้อย





หลังกลับจากเอ้าท์ติ้งมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาร่วมเดือนแล้ว คู่เมฆกับแทนใจก็จีบกันจนคบกันไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่นรินทร์ซึ่งตามเต๊าะกฤติมาตั้งแต่วันนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าทางสถานะ





“อากฤติอยากดูฉลามใช่มั้ยคะ?”





ยังไม่ทันที่หัวหน้าหนุ่มจะได้เอาเลือดหัวผู้มาเยือนโดยไม่บอกกล่าว เขากลับต้องถลึงตากับคำพูดซื่อๆ ของเด็กประถมอีกครั้ง





“คุณพ่อบอกว่าอากฤติอยากดูฉลาม หนูเลยมาด้วยเพราะหนูเคยไปแล้วค่ะ จะได้อยู่เป็นเพื่อนอากฤติเวลาที่อากฤติกลัวค่ะ”





กฤติหันไปมองนายนรินทร์ที่กำลังยืนล้วงกระเป๋าทำตัวไม่รู้ไม่ชี้แล้วนึกอยากหยิกอีกคนให้เนื้อเขียว มีอย่างที่ไหนไปหลอกลูกแบบนี้ ต่อให้นิ้งจะฉลาดเฉลียวแค่ไหน แต่ก็ยังคงเป็นเด็กประถม เล่ห์เหลี่ยมยังไม่ทันตัวพ่อที่ใช้ชีวิตมาหลายสิบปีแน่นอน





“ครับ” กฤติรับคำ เขาเห็นแล้วว่าแผนวันนี้ของเขาจะเปลี่ยนแบบหน้ามือไปหลังเท้าขนาดไหน “น้องนิ้งชอบฉลามเหรอคะ?”

“ชอบค่ะ หนูว่าฉลามน่ารัก”





กฤติกะพริบตาเล็กน้อยเมื่อไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังถูกหรือเปล่า





“ฉลามน่ารักเหมือนอากฤติเลยค่ะ”





รอบนี้เขาถลึงตาอย่างไม่ปิดบัง ในขณะที่ตัวพ่อของน้องนิ้งยืนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจากอีกมุม คล้ายกับว่าเจ้าตัวเพิ่งจะได้ฟังเรื่องตลกที่สุดในชีวิตอย่างไรอย่างนั้น





“… ขอบคุณครับ”





กฤติเอ่ยตอบเด็กน้อยในที่สุด ชายหนุ่มเพิ่งสังเกตว่าวันนี้น้องนิ้งแต่งตัวน่ารักกว่าที่เจอครั้งก่อน เด็กตัวเล็กอยู่ในชุดเสื้อสีอ่อนและกางเกงยีนขายาว ผมถูกปล่อยสยายโดยมีกิ๊บติดเอาไว้ด้านบน ข้างหลังสะพายกระเป๋าเป้ลายการ์ตูนใบเล็กที่เหมือนจะไม่สามารถบรรจุอะไรลงไปในนั้นได้เลยสักนิด





ในที่สุด คนที่ตั้งใจว่าจะใช้เวลาวันอาทิตย์ทำงานที่คั่งค้าง พับแผนของตัวเองลงกระเป๋า แล้วหันไปพูดกับเด็กน้อยเป็นคำสุดท้าย ก่อนจะเดินหายตัวเข้าไปในห้องน้ำ





“ขอเวลาอากฤติเตรียมตัวสักสิบนาทีนะครับ แล้วเดี๋ยวเราไปดูฉลามกัน”







------- Sunday In Bed ------

[/b]




“อากฤติเคยไปดูฉลามที่สยามมั้ยคะ?”

“ไม่เคยเลยครับ น้องนิ้งมาบ่อยหรือเปล่าครับ?”

“ไม่บ่อยค่ะ ปกติหนูมาตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ว่างทั้งคู่ แต่ช่วงหลังๆ ทุกพ่อกับคุณแม่งานเยอะมาก หนูเลยนั่งดูคุณฉลามทางทีวีแทนค่ะ”





นรินทร์ที่ตอนนี้กลายเป็นคนขับรถจำเป็นนั่งฟังเสียงลูกสาวคุยงุ้งงิ้งกับเจ้านายตนเองอย่างปลงงตก เดิมทีเวลาอยู่กับน้องนิ้งเขาก็แทบจะยอมให้ลูกสาวทุกอย่างอยู่แล้ว ส่วนอีกคนนี่ไม่ต้องพูดถึง สำหรับคนที่เขากำลังพยายามจีบทุกครั้งที่มีโอกาสอย่างหัวหน้าแผนกนั้น เรียกว่ายิ่งกว่าตามใจเลยดีกว่า





คุณพ่อคนเก่งเหลือบตามองอีกคน ใบหน้าเรียบนิ่งนั้นดูใจดีเมื่อคุยกับน้องนิ้ง ทั้งที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่กฤติกลับมีเสน่ห์บางอย่างที่เขาไม่สามารถละสายตาออกไปได้





ยิ่งมองก็ยิ่งหลง





เมื่อคนที่เขามองหน้าสลับกับมองถนนรู้ตัวว่าตกเป็นเป้าให้จ้อง ชั่วขณะที่กฤติมองมาทางนรินทร์นั้น หัวหน้าหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเขามีอะไร ในขณะที่นรินทร์เพียงแค่ขยิบตาหล่อๆ กลับไปเท่านั้น ซึ่งได้รับการถลึงตากลับมาด้วยความรัก





น้องนิ้งเป็นเด็กที่นอนง่าย ขึ้นรถมาคุยไม่ทันไรก็นอนหลับปุ๋ยไปเสียแล้ว เหลือเพียงนรินทร์ที่กำลังขับรถ และกฤติที่นั่งมองกระจกอยู่ ซึ่งกฤตินั้นนั่งที่ข้างคนขับรถด้วยความจำยอม เมื่อเดินมาถึงรถแล้วน้องนิ้งกระโดดเข้าไปที่เบาะหลังโดยอ้างว่าตนจะนอน หัวหน้าหนุ่มเลยต้องนั่งข้างคนขับรถโรคจิตอย่างช่วยไม่ได้





ถ้าไม่นับการที่นรินทร์คอยแต่จะส่งสายตาเจ้าชู้มาให้ มันก็ไม่แย่เท่าไหร่นัก





ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้เป็นเวลาร่วมเดือน จนแทนใจคบกับเมฆไปเรียบร้อย ทั้งคู่ดูรักกันดีถึงแม้ว่ากฤติจะเสียดายกระต่ายของตัวเองก็ตาม นรินทร์เองก็คงจะรับรู้ได้ว่าเขาเอ็นดูแทนใจอยู่มาก ผู้ชายคนนี้เคยเอ่ยปากถามชายหนุ่มครั้งหนึ่งตอนที่พวกเขาทานข้าวด้วยกัน





‘คุณไม่หึงแทนใจเหรอที่ไปคบกับเมฆ ลองเป็นผมนะ หากคุณไปคบกับคนอื่นผมคงต้องเป็นบ้าแน่ๆ’





กฤติเพียงแค่อธิบายไปว่าเขาไม่ได้ชอบแทนใจเชิงชู้สาว เพียงแค่มองอีกฝ่ายเป็นกระต่ายที่วิ่งไปวิ่งมาในออฟฟิศเท่านั้น แต่ถ้าให้ ‘ขึ้นครู’ น้องแทนใจ เขาก็ไม่ปฏิเสธ





ส่วนประโยคที่พูดถึงเขาของนายนรินทร์ กฤติก็ทำเป็นไม่ได้ยินเหมือนเคย





ใช้เวลานานกว่าที่คิดกว่าจะมาถึงจุดหมาย เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว กฤติที่ยืนอยู่ด้านนนอกมองนรินทร์ที่ก้มลงไปในรถเพื่อปลุกลูกสาวด้วยสายตานิ่งๆ หากแต่ในหัวของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเสียงนุ่มของคุณพ่อ





“น้องนิ้งคะ ถึงแล้วนะคะ”

“...ค่ะ”

“ลงมากับคุณพ่อได้แล้วนะคะคนเก่ง”

“โอเคค่ะ”





เมื่อพูดจบ นรินทร์กดจูบที่กระหม่อมลูกน้อยก่อนที่จะผละออกมาให้เด็กน้อยลุกขึ้นเอง ความอ่อนโยนในมุมที่กฤติไม่ค่อยได้เห็นจากนรินทร์นั้นทำให้เขาหยุดมองไม่ได้





ชั่วขณะ กฤติมีความคิดว่าน้องนิ้งช่างโชคดีที่มีผู้ชายคนนี้เป็นพ่อ





เป้าหมายของพวกเขาในวันนี้คือสยามโอเชียนเวิลด์ (ที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิลด์ ซึ่งกฤติไม่ได้สนใจมากนัก) เขาจูงมือน้องนิ้งเอาไว้ ในขณะที่คนพ่อเดินไปจัดการเรื่องบัตรเข้าชม





การดูฉลามกับคุณพ่อและคุณลูกไม่ได้น่าเบื่อเท่าไหร่นัก กฤติรู้สึกว่าตัวเองสนุกกับการมองสัตว์น้ำในอุโมงค์กระจกมากกว่าที่คิด ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาได้คุ้นเคยกับน้องนิ้งมากขึ้นไปอีก อาจจะเพราะกฤติรู้สึกถูกชะตากับเด็กหญิงอยู่แล้ว ตัวน้องก็เหมือนจะชื่นชอบเขาอยู่ไม่มากก็น้อย





ทริปนี้เลยกลายเป็นเหมือนเด็กหญิงจะอยู่กับเขามากกว่าพ่อของเธออีก





หลังจากการดูสัตว์น้ำจบลลง น้องนิ้งก็เกิดอาการอยากเข้าห้องน้ำ พวกเขาทั้งหมดจึงเข้าห้องน้ำก่อนที่จะคิดกันว่าจะทำอะไรต่อ





“น้อยใจนะ”

“อะไรครับ?”





กฤติถามขึ้นมาเมื่อพวกเขายืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิงกับตัวคุณพ่อเพียงสองคน มันออกจะน่าประหลาดใจไปสักหน่อย แต่เวลาที่อยู่ในโอเชี่ยนเวิลด์นั้น ไหลไปเร็วกว่าที่กฤติคิดไว้มากโข กว่าจะรู้ตัวอีกที พวกเขาก็หิวกันเสียแล้ว

 



ตลอดเวลาที่อยู่ในนั้น น้องนิ้งคว้ามือเขาไปจับแล้วจูงดูนั่นดูนี่ตามแบบเด็กที่ร่าเริงทั่วไป โดยมีนรินทร์คอยเดินตามอยู่ข้างหลัง ซึ่งกฤติเองก็ไม่นึกรำคาญอะไร ชายหนุ่มเองก็เพลิดเพลินกับการเดินดูสัตว์น้ำเช่นเดียวกัน





“คุณอยู่แต่กับลูก ไม่สนใจพ่อเลย น้อยใจมากๆ แล้วเนี่ย”





หัวหน้าแผนกพยายามบังคับตัวเองไม่ให้กลอกตาด้วยความหมั่นไส้ แต่เหมือนนรินทร์จะไม่รับรู้ ชายหนุ่มยังคงดัดเสียงสองพูดกับกฤติต่อ





“จูงมือคุณพ่อมั่งสิครับ”





นรินทร์ยังคงยิ้มหน้าบาน แม้กฤติจะทำหน้าเหมือนกับว่าถูกบังคับให้ยืนเต้นไก่ย่างถูกเผาที่สยามก็ตาม





 “...”

“นะคุณแม่ จูงมือคุณพ่อหน่อย”





คุณแม่กะผี… กฤติด่าในใจ หากแต่เลือกตอบอย่างอื่นออกไป





“ถ้าจูงไปลาออกน่ะ ได้ครับ”

“โหย ใจร้าย”





กฤติเบ้หน้าตอนที่นรินทร์ดัดเสียงเล็กเสียงน้อยอยู่ข้างๆ เขาอยากจะเอาอะไรบางอย่างใส่ปากอีกคนให้เงียบๆ ไป อย่างน้อยไม่ต้องพูดไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่านด้วยเรื่องไร้สาระอีก





คนที่มัวแต่พยายามเอาเรื่องไร้ประโยชน์ออกจากหัว ไม่ได้มองเห็นผู้ชายข้างๆ ที่เลียริมฝีปาก ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับเข้าไปชิดกับหัวหน้าตัวเอง มือที่เคยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอยู่สม่ำเสมอสั่นเล็กน้อยอย่างหวั่นว่าจะโดนอีกฝ่ายฟาดหากรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร





นิ้วก้อยของคุณพ่อลูกหนึ่ง พยายามจะเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของอีกคนเอาไว้เหมือนเด็กมัธยมที่ไม่กล้าจับมือผู้หญิง ซึ่งนี่ก็ไม่ต่างกันนัก เพราะคนที่เขากำลังจะอาจหาญแตะต้องนั้นคือหัวหน้าแผนก





นอนด้วยกันมาแล้ว แต่พอจะจับมือจริงๆ แล้ว มันออกจะยากเล็กน้อย





ยิ่งการที่กฤติเพียงแค่ปรายตามองมาที่มือพวกเขาเฉยๆ ไม่ได้สะบัดหนีแต่อย่างไร ทำให้นรินทร์ย่ามใจ หมายจะคว้ามืออีกคนมาจับ ซึ่งในใจมีภาพตัวเองขยำอีกคนเสียจนมีแต่ร่องรอยของเขาไปหมดทุกซอกทุกมุม นรินทร์สาบานเลยว่าหากกฤติทำตัวน่ารักอีกครั้ง เขาจะ…





“คุณพ่ออย่าทำตัวน่ากลัวใส่อากฤตินะคะ!”





เสียงน้องนิ้งที่ผ่าอากาศขึ้นมาทำให้ผู้ใหญ่สองคนที่กำลังจีบกันสะดุ้ง กฤติรีบปัดมืออีกคนออกจากนิ้วของตัวเองอย่างรวดเร็วคล้ายกับสัมผัสจากนรินทร์คือเชื้อโรค ถึงแม้ว่าตัวเองจะหูแดงและในหัวมีแต่คำว่า ‘นี่มันไร้สาระ!' ก็ตาม





ในส่วนของคุณพ่อคนเก่งที่ยืนชะงักค้าง นัยน์ตาคมมองลูกสาววิ่งไปกอดเอวอีกคนอย่างทำอะไรไม่ได้ ในขณะที่น้องนิ้งเงยหน้ามองอากฤติของเธอ พร้อมฟ้องในสิ่งที่เห็นมา





“เมื่อกี้คุณพ่อมองอากฤติเหมือนจะกินลงไปเลยนะคะ เหมือนเวลาที่มองก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นใหญ่ใส่ถั่วงอกเยอะๆ เลยค่ะ!”





เธอไม่ได้โกหก ตอนที่ออกจากห้องน้ำ พร้อมล้างมือและเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เด็กหญิงเห็นอากฤติยืนหูแดงเหมือนกับคนที่โดนแกล้ง ในขณะที่คุณพ่อมองอากฤติเหมือนเห็นของกินที่อร่อย คุณพ่อกินอากฤติไม่ได้อากฤติไม่ใช่ลูกอมนะ!

 



ทำไมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วถึงไม่รู้ว่าคนอื่นไม่ใช่ของกินล่ะ!





คุณพ่อนี่ใช้ไม่ได้เลย





“อ๋อ… คุณพ่อหิวน่ะค่ะ”

“หิวก็ไปทานอาหารสิคะ ไม่ใช่ทานอากฤติ!”

“แต่คุณพ่ออยากทานอากฤตินี่คะ”

“อากฤติไม่ใช่ของกินนะคะ ถ้าทานแล้วหนูจะเอาอากฤติที่ไหนมาล่ะ หนูชอบอากฤติ คุณพ่อห้ามกินค่ะ!”





กฤติไม่รู้ว่าสองพ่อลูกเถียงกันเรื่องแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่คนที่ตกเป็นประเด็นในการพูดคุยนั้นยืนทำหน้าไม่ถูกแล้ว ชายหนุ่มขยับตัวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรในสถานการณ์นี้ ความคิดประหลาดปรากฏอยู่ในหัว





สองคนนี้สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ




.

.

.






แผนกินข้าวของพวกเขาล่มเพราะใกล้เวลาที่น้องนิ้งจะต้องกลับบ้าน





กฤติเดินนำสองพ่อลูกมาที่รถ บางทีมันก็ตลกเหมือนกันที่น้องนิ้งและนรินทร์เหมือนพ่อลูกมากกว่าที่เขาคิด ทั้งสองคนชอบกินขนมหวานเหมือนกัน ชอบดูสัตว์น้ำเหมือนกัน แล้วก็ตื่นเต้นกับโซนของเล่นเด็กกับกีฬาเหมือนกันทั้งคู่ อีกทั้งยังทำหน้าแหยงเมื่อเห็นกฤติเดินเข้าไปในมุมหนังสืออีก





ถึงแม้ว่าพ่อลูกจะตีกันมาตลอดทางเลยก็ตาม





“คุณ…”





เสียงของคนขับเรียกให้กฤติหันไปมอง มือของนรินทร์กำลังเคาะพวงมาลัยเหมือนกับตกอยู่ในความคิดอะไรบางอย่าง ถนนข้างหน้ายังมีรถหนาแน่นสมกับเป็นการจราจรในกรุงเทพ เพราะคนขับไม่ได้เปิดเพลงอะไร

น้องนิ้งก็หลับปุ๋ยอยู่ด้านหลังตั้งแต่ขึ้นรถ 





 “ครับ?”

“วันนี้เหนื่อยมั้ยครับ?”





กฤติหันมองคนข้างๆ เพื่อพบว่าคุณพ่อของน้องนิ้งกำลังยิ้มให้กระจกอยู่ แน่นอนว่ากฤติทำเป็นไม่เห็นอะไรทั้งนั้น 





“ไม่ครับ สนุกดี” หัวหน้าตอบอย่างง่ายๆ และเขาหมายความอย่างที่พูดออกไปจริงๆ 

“วันนี้เราเหมือนครอบครัวเลยเนอะ”





มาถึงตอนนี้ กฤติเริ่มรู้สึกว่าตัวเขาตอบไม่ถูกแล้ว





“ถ้าครั้งหน้ามากับพวกผมแบบนี้อีกได้มั้ยครับ?”

“...”

“ไม่สิ มาเติมเต็มครอบครัวของผมได้มั้ยครับ?”





มันเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ กฤติไม่กล้ามองไปทางคนข้างๆ เขารู้สึกถึงสายตาของอีกคนที่จ้องมองมาทางนี้ ชายหนุ่มเม้มปาก พยายามไม่สนใจว่าใบหูตัวเองเริ่มร้อนขึ้นมาอีกแล้ว





ชั่วอึดใจที่นานนับปี



จนในที่สุด หัวหน้าหนุ่มก็พูดเสียงเรียบตอบกลับไป





“ถ้าว่าง… จะมาช่วยดูน้องนิ้งด้วยก็ได้ ผมไม่มีปัญหาอะไร”





ทั้งที่กฤติพูดตอบพร้อมกับหันหน้าไปมองกระจกข้างๆ แถมยังพึมพำเสียงเบาราวกับว่าจะให้ตัวเองฟังเท่านั้น แต่นรินทร์กลับได้ยินชัดเจนคล้ายอีกคนมากระซิบข้างริมฝีปาก อีกทั้งใบหูแดงของอีกฝ่าย เป็นหลักฐานชั้นดีที่บ่งบอกว่ากฤติเขินเขาแค่ไหน





น่ารัก



น่ารักจนอยากจะครอบครองเอาไว้คนเดียว





“จะมองมั้ยครับทางน่ะ?”





กฤติเหน็บทั้งที่ไม่ได้ละสายตาออกจากกระจกด้านข้าง เงาสะท้อนของอีกคนมันชัดเจนจนเขานึกอยากจะหาอะไรมาคลุมหน้านรินทร์เอาไว้





“เขินก็ยอมรับเถอะครับคุณ”

“...”

“ยอมรับออกมาเถอะนะ นะนะน่ะน่อว์”





น่อว์ที่หน้า





กฤติได้แต่คิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป เขาไม่น่ารู้สึกว่าอีกคนมีมุมหล่อเลยจริงๆ … สุดท้าย ยังไงนรินทร์ก็คือนรินทร์คนไร้ประโยชน์อยู่ดี ให้ตายเถอะ!






ทั้งที่เป็นแค่นรินทร์คนไร้สาระแท้ๆ



แต่ทำให้เขากลั้นยิ้มจนเมื่อยแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน






------- Sunday In Bed -------







เวลาเกือบชั่วโมงผ่านไป พวกเขาก็มาถึงที่หมาย





บ้านที่พวกเขามาส่งน้องนิ้งนั้นคือบ้านของแฟนใหม่แม่เด็กน้อย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ในพื้นที่ย่านพลุกพล่าน ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับที่อยู่ของกฤติและนรินทร์ พวกเขาขับเข้ามาข้างใน ใช้เวลาไม่นานรถของคุณพ่อคนเก่งก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่เนตรส่งให้ในแอปพลิเคชันแชท





บ้านของเอิร์ธ





‘ครืดดดดดด’





เสียงประตูรั้วอัตโนมัติเปิดออกแทบจะทันทีที่รถพวกเขาจอด ผู้ใหญ่สองคนในรถหันไปมองทางตัวบ้านพร้อมกัน ผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า





นั่นคงเป็นเจ้าของบ้าน





กฤติคิดกับตัวเองตอนที่นรินทร์ลงจากรถไปทักทายอีกคน  ท่าทางดูภูมิฐานทั้งที่อยู่ในชุดสบายๆ หัวหน้าหนุ่มลังเลเล็กน้อยว่าเขาควรจะปลุกเด็กน้อยเลยหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ปล่อยให้น้องนิ้งนอนไปก่อน รอนรินทร์คุยเสร็จแล้วค่อยเรียกน่าจะยังทัน





คุยอะไรกัน นานขนาดนี้



หัวหน้าหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเองเมื่อผ่านไปหลายนาทีแต่นรินทร์ก็ยังไม่ขึ้นมา จนเมื่ออดรนทนไม่ไหว กฤติจึงเปิดประตูลงไปด้วย





“... มากับเพื่อนน่ะครับ”

“… สวัสดีครับ”





ประโยคแรกนรินทร์พูดกับชายหนุ่มแปลกหน้า ส่วนประโยคหลังเป็นของชายแปลกหน้าที่หันมาพูดกับกฤติ โดยพูดพร้อมกับยกมือไหว้กฤติไปด้วย ซึ่งเขาก็รับไหว้ทันทีทั้งที่อีกฝ่ายดูคล้ายกับจะอายุมากกว่า





“คุณคงเป็นคุณกฤติ เพื่อนของคุณโน้ต” ชายแปลกหน้าพูดขึ้นมาก่อน ซึ่งกฤติเพียงแค่ยิ้มมารยาทรับไว้เท่านั้น “ผมกับเนตรกำลังจะทานข้าวเย็นกันพอดี เลยอยากจะเชิญทั้งคุณกฤติและคุณโน้ตมาร่วมโต๊ะด้วยน่ะครับ”



“ครับ”





กฤติรับคำเพียงสั้นๆ เขากำลังสังเกตนรินทร์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ลูกน้องคนอารมณ์ดีตอนนี้มีสีหน้าฝืน คล้ายกับไม่มั่นใจว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงนี้หรือเปล่า





ใจหนึ่งกฤติเองก็ไม่อยากรบกวนเวลาครอบครัวคนอื่น แต่หากตามนิสัยนรินทร์แล้ว เขาคิดว่าเจ้าตัวคงยังไม่ไว้ใจแฟนใหม่ของคุณแม่น้องนิ้งมากขนาดนั้น ตลอดทางที่มาที่นี่ หากไม่หยอดเขา นรินทร์ก็จะเคาะพวงมาลัยรถคล้ายกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา





ซึ่งนั่นเป็นพฤติกรรมปกติเวลาที่เจ้าตัวคิดถึงเรื่องครอบครัว




ระยะเวลาเกือบปีที่ผ่านมานั้นมากพอที่กฤติจะรู้จักนรินทร์ในหลายแง่มุมมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพวกนิสัยสัปดนที่มักจะแสดงออกเวลาอยู่กันตามลำพังแล้วนั้น เมื่อเป็นเรื่องของครอบครัวแล้ว นรินทร์มักจะเกร็งตัวโดยอัตโนมัติ เวลาพูดเสียงจะสูงขึ้นเล็กน้อยคล้ายคนประหม่า แถมยังคิดช้ากว่าปกติ





ตอนนี้ นรินทร์คนนั้น กำลังไม่สบายใจ





ในขณะที่กฤติกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองนั้น คุณพ่อลูกหนึ่งยิ้มแห้งให้แฟนใหม่เนตร พร้อมกับบอกปฏิเสธคำเชื้อเชิญออกไป





“ยังไงถ้าไม่รีบกลับอะไร อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะครับ ผมคิดว่าน้องนิ้งต้องอยากทานข้าวกับพวกคุณด้วยแน่นอน”





เอิร์ธพูดเชิญชวนอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มมารยาทประดับใบหน้า พอมีชื่อลูกปรากฏในประโยคนั้น นรินทร์ก็นิ่งไปเหมือนกำลังคิด





“พอดี… ผมต้องไปส่ง...”

“ถ้าอย่างนั้น รบกวนด้วยนะครับ”

 



กฤติเป็นฝ่ายพูดดักขึ้นมาก่อนที่นรินทร์จะพูดจบ ซึ่งนั่นเรียกสีหน้ายินดีของเจ้าบ้าน และการเลิกคิ้วมองอย่างตกใจของคนด้านข้างในเวลาเดียวกัน





หลังจากนั้นเอิร์ธก็เชื้อเชิญพวกเขาเข้าบ้านโดยที่นรินทร์กับกฤตินั้นกลับเข้ามาในรถเพื่อขับไปจอดในบริเวณด้านใน ความจริงกฤติจะยืนรอโน้ตอยู่ด้านนอกก็ได้ แต่เขาอยากจะมาเช็กว่าอีกฝ่ายโอเคอย่างแท้จริง





“คุณอยากอยู่มั้ย?” นรินทร์เป็นฝ่ายถามเมื่อพวกเขากลับเข้ามาในรถ “ถ้าคุณไม่อยาก เรากลับเลยก็ได้นะ”

“คุณล่ะ อยากมั้ย?”





กฤติถามกลับทันที นัยน์ตาคมมองผ่านแว่นอย่างต้องการคำตอบ โน้ตมีท่าทีอึดอัดในช่วงแรก แต่เมื่อผ่านไปเสี้ยววินาที ชายหนุ่มก็ยอมรับออกมาตามตรง





“ผมเองก็อยากคุยกับเขาเหมือนกัน อยากจะรู้ว่าเวลาน้องนิ้งอยู่กับเขาแล้วจะเป็นยังไง”

“คุณไม่เคยเห็น?”

“ไม่ครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอแฟนใหม่ของเนตร”





กฤติยังคงนิ่งกับข้อมูลที่ตนเพิ่งจะรับรู้มา ถึงแม้นรินทร์จะยิ้มให้เขาเหมือนทุกทีแต่กฤติรู้สึกถึงบรรยากาศที่แปลกไป มือของนรินทร์ที่ค้างอยู่บนพวงมาลัยทั้งที่รถดับไปแล้ว ใบหน้าหล่อมองตรงไปข้างหน้าทั้งที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ 





โน้ตกำลังอึดอัด





ไวกว่าความคิด กฤติเอามือของตัวประสานไปบนมือของอีกคนแล้วส่งแรงบีบเบาๆ เขาปลอบคนไม่เก่ง สิ่งเดียวที่ทำได้คือเผชิญหน้ากับปัญหาไปกับอีกคนด้วยเท่านั้น





เมื่อตัดสินใจได้แล้ว กฤติก็พูดตอบชายหนุ่มออกมา





“ไปสิ ก็ลองเข้าไปดูด้วยกันทั้งคุณทั้งผมนั่นแหละ”





.

.

.


ต่อข้างล่างนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2019 20:38:59 โดย babybaphomet »

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
ต่อจ้า

------- Sunday In Bed -------




“เข้ามาก่อนสิครับ”





เสียงเชื้อเชิญของเจ้าบ้านทำให้พวกเขาก้าวเข้าไปด้านใน บ้านของเอิร์ธเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ที่กินอาณาบริเวณเยอะเกือบที่สุดของหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ นรินทร์ผิวปากเมื่อเดินผ่านรั้วเข้ามา รู้นะว่าแฟนใหม่เนตรรวย แต่เขาไม่คิดว่าจะมีเงินขนาดนี้





บ้านเดี่ยวย่านลาดพร้าวไม่ใช่เรื่องเล่นๆ





ภายในตัวบ้านที่เป็นระเบียบไม่ได้ให้ความรู้สึกต่างจากบ้านเดี่ยวทั่วไป มีเพียงหลายมุมที่ยังคงทำให้นรินทร์รู้สึกว่าที่นี่แข็งกระด้าง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดว่าความเป็นระเบียบทุกกระเบียดนิ้วของที่นี่ช่างเหมาะกับเนตรแล้ว





เนตรเป็นคนที่ต้องการความเพอร์เฟคในทุกด้าน รวมถึงชีวิตคู่ด้วยเช่นกัน เมื่อนรินทร์เป็นสามีตรงตามบรรทัดฐานความ ‘สมบูรณ์แบบ’ ไม่ได้ พวกเขาก็ไปกันไม่รอด





อีกส่วนหนึ่งก็คือตัวนรินทร์เอง





ความรู้สึกรักที่ไม่มากพอจืดจางไปตามเวลา จากที่เคยคิดว่าเราจะขาดเขาไม่ได้ กลายเป็นว่าการนอนเตียงเดียวกับผู้หญิงที่เคยคิดสวยที่สุดในโลก เป็นเรื่องฝืนจิตใจมากเกินไป





เมื่อถึงจุดหนึ่ง ครอบครัวที่เคยร่วมกันสร้าง กลายเป็นเพียงภาพอดีตอันแสนไกล





“ทำตัวตามสบายเลยนะครับ”





เจ้าของบ้านพูดอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินนำพวกเขาทั้งสามไปยังโซฟากลางห้องนั่งเล่น ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ เมื่อเธอเห็นนรินทร์ รอยยิ้มที่มีก็จางลงเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมารยาทอีกครั้งเมื่อเห็นว่านอกจากลูกสาวกับแฟนเก่าแล้ว ยังมีแขกอีกคนมาด้วย





“เชิญนั่งครับ”

“ขอบคุณมากครับ”





เป็นกฤติที่ตอบคำเชื้อเชิญของคุณเอิร์ธแทนนรินทร์ที่ทำเพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้น โดยเด็กหญิงที่เมื่อครู่หลับมาตลอดทางเพราะเหนื่อย เดินกอดตุ๊กตาง่วงๆ แล้วมานั่งแปะอยู่ข้างกายของกฤติ





ตัวของหัวหน้าหนุ่มกับคุณพ่อเหมือนจะไม่ได้ถือสาอะไร ในขณะที่ฝั่งคุณแม่นั้นมีสีหน้ากระอักกระอ่วนปรากฎให้เห็น

 



“ตายแล้ว ทำไมไปนอนตักคนอื่นแบบนั้น ขอโทษแทนน้องนิ้งด้วยนะคะคุณ... “

“กฤติครับ” หัวหน้าหนุ่มพูดเสริม “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ”

“แต่ยังไงก็ไม่ควรค่ะ”





เนตรยืนกราน พลางขยับตัวหมายจะลุกขึ้นมาปลุกเด็กน้อยให้ลุกออกมาจากตักคนแปลกหน้า แต่นรินทร์กลับยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้





“ไม่เป็นไรน่าคุณ น้องนิ้งง่วง ก็ให้ลูกนอนไปก่อน”

“แต่มันรบกวนคนอื่นนะคะ เดี๋ยวติดนิสัยมักง่ายไร้ระเบียบแบบนี้ โตขึ้นไปจะแก้ยากแล้วนะคะ”

“นี่มันคนกันเองหน่าคุณ”

“ทำไมคุณถึงชอบเป็นแบบนี้คะ? ลูกเสียนิสัยหมดแล้วเห็นมั้ย?”





มาถึงตอนนี้ กฤติเริ่มเข้าใจในปัญหาของเนตรและนรินทร์มากขึ้นเล็กน้อย เขาเข้าใจตัวหญิงสาว และรู้จักนรินทร์มากพอที่จะเข้าใจในความคิดของชายหนุ่มเช่นเดียวกัน





มองกันคนละมุม คิดกันคนละแบบ เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้





“ไม่เป็นไรครับ ผมสนิทกับน้องนิ้ง” กฤติพูดออกไปในที่สุด พร้อมกับประคองหัวของเด็กหญิงที่หลับสนิทเอาไว้ “คุณเนตรไม่ต้องคิดมากนะครับ”





หญิงสาวที่ท่าทีไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ยอมนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ โดยมีเอิร์ธนั่งลูบมืออยู่ด้านข้างประหนึ่งจะปลอบโยนให้แฟนสาวคลายกังวล





“ผมว่าทุกคนน่าจะหิวกันแล้ว ผมให้แม่บ้านตั้งโต๊ะเลยแล้วกัน”





ชายหนุ่มเจ้าของบ้านพูดเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่จะหันไปสั่งแม่บ้านให้ช่วยจัดเตรียมอาหารให้เสร็จสรรพ ความตึงเครียดเมื่อครู่ค่อยๆ คลี่คลายลง





บทสนทนาของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นที่ใกล้ตัวมากขึ้นอย่างเรื่องการงานและความสนใจทั่วไป นรินทร์นั้นเข้ากับคนง่าย เอิร์ธเป็นคนที่คุยสนุก รวมถึงเนตรเองก็เป็นผู้หญิงที่วางตัวได้ดี ทำให้กฤติไม่รู้สึกแปลกแยกมากนัก ทั้งที่เมื่อนึกกี่ครั้งเขาก็ไม่ควรที่จะมาอยู่ตรงนี้





กฤติกำลังนั่งอยู่ในบ้านสามีใหม่ ของภรรยาเก่า ของคนที่กำลังจีบเขา





ซับซ้อนดีเหมือนกัน





หลังจากนั้นไม่นานโต๊ะอาหารก็พร้อม กฤติปลุกเด็กน้อยที่นอนหนุนตักเขาเบาๆ โชคดีที่เด็กน้อยไม่ได้ตื่นยาก เพียงแค่เรียกเบาๆ น้องนิ้งก็ลุกจากตักชายหนุ่มขึ้นมานั่งพิงโซฟาแทน ถึงแม้จะยังคงมีความง่วงงุนหลงเหลือให้เห็นก็ตาม เมื่อเห็นว่าลูกสาวทำท่าจะเอามือไปขยี้ตา คุณพ่อทำท่าจะจับมือของลูกออกมา แต่ช้ากว่ากฤติที่นั่งอยู่ด้านข้าง ชายหนุ่มหน้านิ่งจับมือของเด็กหญิงมากุมไว้เบาๆ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำตาตัวเองเจ็บจากแรงขยี้





ซึ่งทั้งหมดนั้น อยู่ในสายตาของอีกสามคนที่เหลือ





“น้องนิ้งคะ หนูหิวหรือยังลูก?”





เป็นเนตรที่ถามทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน ซึ่งเด็กหญิงเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ แต่มือยังคงไม่ปล่อยออกจากอากฤติของเธอ



“หนูมานั่งกับคุณแม่มั้ยคะ? เดี๋ยวคุณแม่อุ้มไปทานข้าว”

“ฮื่อ” เด็กหญิงส่ายหน้าพลางจับมืออากฤติเอาไว้ ตอนนี้เหมือนเด็กน้อยจะตื่นมากกว่าเดิม เพราะเธอลืมตาขึ้นมามองรอบๆ คุณพ่อคนเก่งเห็นว่าเดี๋ยวมันจะกินเวลาเกินไป จึงก้มลงไปพูดกับลูกสาว





“เดี๋ยวน้องนิ้งไปล้างหน้าก่อนนะคะ จะได้ไปทานข้าวกัน”

“ค่ะ” น้องนิ้งรับคำทั้งที่หาวเบาๆ โดยใช้มือข้างที่เป็นอิสระปิดปาก

“น้องนิ้งจะให้คุณพ่อหรืออากฤติไปด้วยมั้ยคะ?”

“นิ้งไปเองได้ค่ะ”





เด็กน้อยพูดแค่นั้นก่อนจะเดินเตาะแตะเข้าห้องน้ำที่อยู่เลยจากห้องนั่งเล่นไปไม่ไกล ท่าทางคุ้นเคยกับสถานที่นั้นทำให้รู้ได้ว่าเธอคงมาที่นี่บ่อยพอสมควร





หลังจากที่น้องนิ้งกลับมานั้น พวกเขาก็เริ่มมื้อเย็นอย่างเรียบง่าย โต๊ะอาหารขนาดกลางที่นั่งห้าคนก็ยังเหลือที่ หัวโต๊ะนั้นเป็นที่ของเจ้าบ้านอย่างเอิร์ธ ทางด้านขวาถัดมาเป็นที่นั่งของเนตร ส่วนฝั่งตรงข้ามเนตรนั้นคือน้องนิ้ง ถัดจากเด็กน้อยคือนรินทร์ และกฤติตามลำดับ





อาหารไทยที่สามารถทานได้ทุกคนถูกยกมาเสิร์ฟจนเกือบเต็มโต๊ะ กฤติกวาดตามองทั่วโต๊ะก่อนจะพยักหน้ากับตัวเองเล็กน้อยเมื่อมีประมาณสองสามจานที่ไม่เผ็ด ส่วนอาหารที่แค่มองก็อยากจะร้องไห้ออกมาด้วยความเผ็ดนั้นกฤติจะไม่ถือว่ามันอยู่บนโต๊ะก็แล้วกัน





“อากฤติๆ” เสียงเด็กหญิงพูดขึ้นเมื่อเริ่มทานกันไปสักพัก “ทอดมันกุ้งอร่อย อากฤติกินนะคะ เดี๋ยวนิ้งตักให้”

“ขอบคุณมากครับ”





ชายหนุ่มยิ้มขอบคุณเด็กหญิงตัวน้อยที่พยายามจะเอื้อมมือไปตักอาหารจานที่อยู่ไกลจากตัว เพียงเพราะอยากให้เขาได้ทานด้วย การกระทำนี้ช่างน่าเอ็นดูจนกฤติต้องส่งยิ้มให้





พฤติกรรมของน้องนิ้งไม่ได้ทำให้กฤติหรือนรินทร์แปลกใจเท่าไหร่นัก แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สำหรับอีกสองคนที่เหลือ





“น้องนิ้งสนิทกับอากฤติมากเลยเหรอคะลูก?”





คุณแม่เป็นคนเริ่มต้นถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ จริงอยู่ที่ลูกสาวเธอเป็นคนเข้ากับคนง่ายเหมือนฝ่ายพ่อ แต่การสนิทสนมจนถึงขั้นตักอาหารให้นี่มันดูค่อนข้างจะประหลาดสักหน่อย

“ใช่ค่ะ” เด็กน้อยรับคำเสียงใส “น้องนิ้งชอบอากฤติค่ะ”

“ชอบแต่อากฤติแบบนี้พ่อเสียใจแย่นะเนี่ย จะร้องไห้แล้วนะ”





นรินทร์พูดทีเล่นทีจริงขึ้นมาบ้าง จานตรงหน้าชายหนุ่มนั้นเหลือกว่าค่อนจานทั้งๆ ที่เป็นคนกินเก่ง หากสมมุติฐานของกฤติถูกต้องล่ะก็ คืนนี้หลังจากที่พวกเขากลับห้องไป นรินทร์ต้องกินมื้อดึกเพิ่มอีกแน่





อีกฝ่ายอาจจะเกร็งเมื่อต้องมานั่งกันอยู่ในบรรยากาศกระอักกระอ่วนแบบนี้ กฤติไม่โทษลูกน้องหรอก เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้เจริญอาหารมื้อนี้นักเช่นเดียวกัน





“ร้องเลยค่ะ นิ้งไม่ปลอบ คุณพ่อโตแล้วนะคะ จบชั้นป.1 แล้วด้วย คุณพ่อต้องดูแลตัวเองนะ นิ้งยังไม่ร้องเลย คุณพ่อห้ามขี้แยสิ”





เด็กหกขวบพูดฉะฉาน ก่อนที่จะทานอาหารตรรงหน้าเธอต่อ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทำให้ผู้ใหญ่สองในสี่คนต้องกระแอมเพื่อไม่ให้หลุดขำออกมา





“น้องนิ้งรักแต่อากฤติเหรอคะ? แล้วคุณแม่กับอาเอิร์ธล่ะลูก”





เนตรถามยิ้มๆ เท่าที่เธอดูเพื่อนของนรินทร์คนนี้ดูจะไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรกับลูกของเธอ เพียงแต่… มันออกจะประหลาดเล็กน้อยเท่านั้นเอง





“หนูรักหมดเลยค่ะ” น้องนิ้งตอบพร้อมยิ้มยิงฟัน “ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ อาเอิร์ธ อากฤติ… นิ้งรักหมดเลย”





ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไร เด็กน้อยก็พูดต่ออีกครั้ง





“คนที่คุณพ่อกับคุณแม่รัก นิ้งรักทั้งหมดเลยค่ะ”







สิ้นเสียงเด็กน้อย บรรยากาศเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนจนกระทั่งทานข้าวเสร็จ ขนาดที่น้องนิ้งเองก็ยังรู้สึกได้ แต่เด็กหญิงไม่แน่ใจถึงสาเหตุของมันเท่าไหร่นัก ในเมื่อมีแต่เรื่องยากๆ แถมยังเหนื่อยจากการใช้พลังงานมาทั้งวัน เด็กน้อยจนผล็อยหลับไปในเวลาไม่นานหลังจากที่ทุกคนทานข้าวกันเรียบร้อย





เมื่อเห็นว่าน้องนิ้งเข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อย ผู้มาเยือนทั้งสองคนจึงขอตัวกลับบ้านเช่นเดียวกัน





“ขอบคุณมากนะคะที่พาน้องนิ้งมาส่ง”





เนตรเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา ใบหน้าสวยส่งยิ้มให้กับแฟนเก่าและเพื่อนของแฟนตามมารยาท ซึ่งกฤติเองก็ยิ้มมารยาทรับเช่นเดียวกัน เนตรเป็นผู้หญิงสวยที่ทุกคนต้องจำได้ด้วยการสบตาเพียงเสี้ยววินาที ในขณะที่ตัวของเอิร์ธแฟนใหม่ของเธอเองก็ดูดีเช่นเดียวกัน ดูเป็นครอบครัวที่ไร้ซึ่งความด่างพร้อยใดๆ มันเป็นเรื่องที่ดูเกินความจริงมากเกินไปหน่อย





ทุกครอบครัวมีปัญหาเป็นของตัวเองอยู่แล้ว 





“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็เอ็นดูน้องนิ้งอยู่เหมือนกัน”





กฤติตอบสบายๆ ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยลาเพื่อขอตัวกลับนั้น หญิงสาวเพียงคนเดียวก็พูดขึ้นมาเสียก่อน





“ยังไงขอคุยกับคุณโน้ตเขาสักครู่นะคะ”





นรินทร์ที่กำลังง่วงๆ เหมือนลูกสาวถึงกับตื่นเต็มตาขึ้นมา เขาชี้มือไปที่ตัวเองแล้วพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินตามหญิงสาวออกไปที่มุมหนึ่งของบ้าน เหลือกฤติ เอิร์ธแฟนใหม่ของเนตร และความเงียบอันวังเวงเท่านั้น





“คุณกฤติพักอยู่ไกลมั้ยครับ?”





เอิร์ธเป็นคนเปิดบทสนทนาขึ้นมา ใบหน้าของอีกคนประดับด้วยรอยยิ้มมารยาท เช่นเดียวกับกฤติเองที่ตอนนี้ก็มีหน้ากากเข้าสังคมสวมไว้เช่นเดียวกัน





“นิดนึงครับ แถวๆ…” เจ้าบ้านพยักหน้ารับรู้ เมื่อกฤติพูดชื่อถนนที่อยู่ห่างจากบริเวณนี้พอสมควร

“อ๋อ ครับ”





บรรยากาศเงียบอัดน่าอึดอัดกลับมาอีกครั้ง กฤติอยากจะไปนั่งรอนรินทร์ในรถเต็มแก่ แต่มันจะดูเสียมารยาทถ้าจะขอตัวออกไปก่อน เมื่อกฤติเหลือบไปมองหน้าเจ้าบ้านอีกครั้ง ชายหนุ่มก็เลิกคิ้ว





“คุณเอิร์ธมีอะไรหรือเปล่าครับ?”





กฤติเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผู้ชายอีกคนมีท่าทีคล้ายกับต้องการจะถามอะไรบางอย่าง เอิร์ธเพียงแค่ส่งยิ้มบางๆ มาให้แต่ไม่ได้เอ่ยปากถามเขาอย่างที่เข้าใจ ชายหนุ่มอีกคนเพียงแค่พูดถึงเรื่องทั่วไปเหมือนเดิมเท่านั้น





“เหนื่อยแย่เลยนะครับ พาเด็กไปเที่ยว”

“ไม่เท่าไหร่หรอกครับ”





กฤติตอบอีกคนตามความจริง น้องนิ้งเป็นเด็กน่ารัก เขาไม่ได้รู้สึกลำบากหรือเหนื่อยใจอะไรตอนที่จะต้องใช้เวลาร่วมกับเด็กหญิง กลับกัน หากมีแค่เขากับนายนรินทร์เพียงแค่สองคน วันนี้คงเป็นวันที่น่าเหนื่อยกว่าเดิมอีกมากโข





คนเอาแต่ใจแบบตัวพ่อน่ะ รับมือยากกว่าเด็กน่าเอ็นดูอย่างคนลูกเสียอีก





“คุณกฤติท่าทางรักเด็กมากเลยนะครับ”





ตรงไหนกัน?





กฤติเพียงแค่คิดกับตัวเองแต่ไม่ได้พูดตอบอะไรคำชมนั้นออกไป อันที่จริงเขาไม่ใช่คนรักเด็กอะไรขนาดนั้น เพียงแค่น้องนิ้งเป็นเด็กน่ารักเลยรู้สึกเอ็นดูมากกว่าปกติ หากเป็นเด็กคนอื่น ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาจะสามารถอยู่ด้วยได้เกินครึ่งชั่วโมงหรือเปล่าด้วยซ้ำ





ถึงอย่างไรเสีย กฤติก็กล่าวออกไปตามมารยาท





“ขอบคุณครับ”





โชคดีตัวเจ้าบ้านเหมือนจะรู้ว่าเขาไม่ได้พอใจกับตรงนี้เท่าไหร่ อีกคนเหมือนจะเป็นคนช่างคุย เลยเปลี่ยนบทสนทนาไปเรื่องงานแทนอย่างลื่นไหล พวกเขาคุยกันอยู่สักพัก ก่อนที่นรินทร์จะเดินกลับมาโดยปราศจากหญิงสาว





“กลับกันคุณ”

“ครับ”





กฤติรับคำสั้นๆ พร้อมกับหันไปกล่าวลาเจ้าของบ้าน





“ขอบคุณสำหรับมื้อเย็นนะครับคุณเอิร์ธ”

“ยินดีครับ” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ “ไว้เจอกันใหม่นะครับ คุณโน้ต คุณกฤติ สวัสดีครับ”





พวกเขาลากันตรงนั้น นรินทร์เดินนำคุณกฤติไปที่รถโดยที่คอยกวนใจให้อีกฝ่ายพูดว่าเหมือนกับที่เคย แม้กระทั่งตอนที่จะกลับบ้าน นรินทร์เองก็ยังตื๊อมานอนห้องของอีกคนพร้อมกับผ้าปูที่นอนสีเหลืองลายไลออนคิง โดยเจ้าตัวอ้างว่าบทรักของพวกเขาจะต้องร้อนแรงดั่งสิงโตคำราม





แปลก





กฤติคิดเมื่อคนที่ตามปกติมักจะทำตัวรุ่มร่ามนั่งนิ่งๆ อยู่ด้านข้าง นรินทร์พยายามจะเล่นตลกกับอะไรบางอย่างที่กฤติไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่นัก นัยน์ตาของอีกคนไม่ได้ดูสนุกเหมือนกับที่พยายามจะเป็น





“มาพนันกันมั้ย?”





ชายหนุ่มคนด้านข้างหยุดเล่นมุกฝืดๆ ของตัวเอง คุณพ่อของน้องนิ้งมองหน้าอีกคน บนรถของพวกเขามีเพียงความเงียบที่ไหลผ่าน การจราจรกรุงเทพฯที่หนาแน่นทำให้พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังเมื่อครู่เท่าที่ควร





“คุณชวนผมก่อน?”

“มาเล่นกันครับ”





กฤติเมินคำถามด้วยเสียงประหลาดใจของอีกคนแล้วพาเข้าประเด็นที่ต้องการจะสื่อ นรินทร์ในขณะนี้ดูไม่ปกติ อันที่จริง ทุกครั้งที่มีเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง นรินทร์มักจะกลายเป็นผู้ชายที่ดูพยายามไปเสียทุกอย่าง พยายามที่จะเฮฮา พยายามที่จะเป็นคุณพ่อที่เพอร์เฟ็คท์





รวมถึงพยายามที่จะเป็นนรินทร์ที่ดีด้วยเช่นกัน





“เล่นอะไรครับ?”

“แข่งจ้องตา”





หัวหน้าคว้าท็อปปิคแรกที่ปรากฏในหัวขึ้นมาพูดทันที เขาเพียงแค่ต้องการตัวช่วยพานรินทร์เดินออกมาจากความไม่สบายใจที่กำลังเป็น





กฤติอยากได้นรินทร์คนเก่าคืนมา





“ฮะ?”

“เรามาแข่งจ้องตากัน ใครกะพริบตาก่อนแพ้”





เป็นอีกครั้งที่กฤติขอบคุณในความหัวไวของตัวเอง กติกาที่เพิ่งจะคิดขึ้นมาถูกพูดออกไปทันที ในขณะที่นรินทร์ยังไม่เป็นตัวของตัวเองนัก ไฟจราจรก็เปลี่ยนสี พวกเขานั่งอยู่ในรถมาเงียบๆ จนกระทั่งถึงคอนโดฯ ของชายหนุ่ม





สถานที่ทำการแข่งขัน





“คนชนะได้อะไรครับ?”

“แล้วแต่คุณ”





กฤติพูดทั้งที่ยังคงนั่งอยู่ในรถ ตอนนี้พวกเขาอยู่กันที่อาคารจอดรถของคอนโดฯ ทั้งสองอยากจะจัดการเรื่องแพ้ชนะให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะก้าวขาออกจากรถ เมื่อขึ้นห้องแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเล่นเกมกันอีก





“กระโปรงนักศึกษา!”





หัวหน้าหนุ่มกลอกตา ในใจมีคำด่าหยาบคายหลายสิบคำ





“จะอะไรก็แล้วแต่ครับ” เจ้าของคอนโดฯตัดบท โดยไม่สนใจสิงโตเหี่ยวๆ ที่กลับมากระดิกหางยินดีอีกครั้งเมื่อมีมโนภาพลามกในหัว “จ้องตากัน ใครกะพริบตาก่อนแพ้”

“คนแพ้ใส่กระโปรงนักศึกษานะ”

“...”

“คนแพ้ต้องใส่กระโปรงนักศึกษา”





นรินทร์ย้ำอีกครั้ง หลังรถชายหนุ่มมีกระโปรงทรงเอตัวเล็กรัดติ้วที่แอบไปซื้อมาเก็บไว้นานแล้ว รวมถึงหูแมว หางกระต่าย และถุงน่องตาข่ายคู่ใหม่ เรียกได้ว่าหลังรถนั้นถือว่าเป็นคลังเก็บอะไหล่เพื่อให้กฤติใส่ขึ้นสังเวียนกับเขาเลยก็ว่าได้





เพียงแค่นึกภาพกฤติที่ใส่กระโปรงทรงเอเข้ารูป หันสะโพกมาทางเขา พร้อมกับทำหน้าตาอ้อนวอนให้เขาลงโทษจนหนำใจแล้วนั้น มันก็ชวนให้อารมณ์ขึ้นได้แบบไม่ต้องพึ่งหนังผู้ใหญ่เลยสักนิด





“... เริ่มกันเลยมั้ยครับ?”

“เอาเลย เอาคุณตอนนี้เลย!...” กฤติกระแอมเสียงดังมาก นรินทร์ถึงได้แก้ตัวใหม่ “คือหมายถึง เริ่มเลยๆ”





กฤติถอนหายใจ ตอนที่พวกเขาเปลี่ยนมาเป็นนั่งจ้องหน้ากันในรถอันคุ้นเคย นัยน์ตาของนรินทร์ที่ฉายภาพแต่เพียงเขาเท่านั้นทำเอาอยากจะเสมองที่อื่น แต่ในเมื่อมันต้องเล่น เขาจำเป็นจะต้องทนมองเงาตัวเองในนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้





“พร้อมนะคุณ”







นรินทร์ถามเป็นครั้งสุดท้าย ในขณะที่กฤติพยักหน้า





เอาเถอะ ถึงแพ้หรืออะไร อย่างน้องสิงโตตัวใหญ่ตรงหน้าก็ไม่ได้ทำหน้าหมาหงอยแล้วล่ะนะ




.

.

.




“... คุณ ไม่เอาหน่า”

“แต่คุณแพ้”





นรินทร์ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาแพ้อีกคนจริงอย่างที่ว่า อยากจะย้อนเวลากลับไปตบหัวตัวเองเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ดันตกปากรับคำท้าว่าหากใครแพ้จ้องตาจะต้องใส่กระโปรงนักศึกษาคลานขึ้นนเตียง





ใครจะไปคิดว่าเขาจะแข่งจ้องตาแพ้หัวหน้าแผนกกันล่ะวะ?





“คุณ…”





นรินทร์ครางอีกครั้ง ตอนนี้เขาอยู่ในกระโปรงนักศึกษารัดติ้วที่ซื้อมาไว้ท้ายรถนานแล้ว กะว่าจะหาจังหวะเหมาะๆ เพื่อให้กฤติใส่ขึ้นมาออนท็อปให้ ไหงกลายเป็นตัวเขาที่แพ้อีกคนอย่างโง่ๆ เพียงเพราะว่ากฤติดันยิ้มมุมปากตอนจ้องตากัน ทำเอาเขาเผลอกะพริบตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ



 

แม่ง… น่าอนาถชะมัด





“นี่ไง คุณชอบนี่ กระโปรงนักศึกษาน่ะ” กฤติพูดพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก นรินทร์เคยพูดกับเขาอยู่หลายครั้งจนแทบจะท่องได้ “เอาไปใส่เองเลยครับ ผมให้”

“คุณ…”







นรินทร์ครางอีกครั้ง ไม่สามารถทนมองสภาพตัวเองในกระจกได้จริงๆ ผู้ชายตัวถึกๆ ขามีกล้ามภายใต้กระโปรงตัวเล็กๆ แบบนี้มันโคตรแย่





“ผมต้องใส่ถึงเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้เช้า”

“โหยคุณ…”





กฤติยักไหล่อย่างไม่สนใจ นัยน์ตามีแววแห่งความขี้เล่นซ่อนอยู่ เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าการเป็นผู้ชนะมันสนุกอย่างไร เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอีกคนไว้อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่นรินทร์จะร้องห้ามไว้ทัน เมื่อได้ภาพที่น่าพอใจ หัวหน้าหนุ่มก็พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ







“โชคดีนะครับ ฝันดี”








------- TBC -------





ชุดนักศึกษามาแล้วนะคะ หวังว่าจะชอบกัน 55555555555555

อ่านแล้วเป็นยังไง อย่าลืมบอกเราได้ที่นี่ และในแท็ก #คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์ นะคะ



สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ <333



ป.ล. ถ้าเจอคำผิดสามารถแจ้งเราได้นะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
นี่มัน........พลิกพล็อตมาก55555555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
ตอนโน้ตหงอยคืออยากลูบหัวมากพอกลับมาเป็นคนสัปดนอยากให้คุณกฤติหนีไปให้พ้น
หวังว่าโน้ตคงจะพอใจกับกระโปรงน้า ฮ่าๆ

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เอิ่มมมมม ต้องไม่ใช่นายนรินทร์ในกระโปรงนักศึกษาไหมคะ  :katai1: :katai1:

แปปนะคะ ขอไปหาหมอสะกดจิตลบภาพในหัวก่อน บรึ๊ยมากกกก :ling3: :z3:

ปล. การที่คุณกฤติอยากขึ้นครูน้องแทนใจ คือทางนี้ก็อยากอยู่ในเหตุการณ์ด้วยจังเลยค่ะ :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ใส่ตะขอกระโปรงได้มั้ยละนั่น 5555

ออฟไลน์ PoPoe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โน๊ตตอนเจอแฟนเก่านี่ไปไม่เป็นจริงๆ อ่านแล้วอึดอัดตามเลยค่ะ

ปล.อยากอ่านนนนชุดนศ

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กระโปรงทรงเอรัดติ้วกับกล้ามขาล่ำๆ มีขนหน้าแข้งเยอะๆ .....นะ หน่านิ?!

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ QueenPlai

  • twitter - @khunhappymoon gmail - JangPlailiiz@gmail.com
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ IamLonelygirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นชุดนักศึกษาที่หักมุมมากค่าาา  :hao3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พลิกล็อกกันน่าดู ถล่มทลาย.........
อั๊ยยะ.....นึกว่ากฤติต้องใส่กระโปรงนักศึกษา
กลายเป็นนรินทร์ซะนี่ อจ๊ากกกกก สยองงงงงง  o22 :serius2: :really2:

เนตร ต้องตักเตือนนรินทร์ เรื่องความรักแน่เลย  :z3:
รักที่ไม่สมควร เป็นแบบอย่างที่ไม่พึงกระทำ
เพราะนรินทร์มีลูกสาว ใช่ไหมคุณนายเพอร์เฝ็กท์
เลิิกกันแล้วยังตามมาหลอกหลอน สั่งสอนอดีตสามีไม่เลิก นางน่าลำไยจริงๆ  :angry2:
นรินทร์ถึงดูไม่มีความสุข  :เฮ้อ:
นรินทร์  กฤติ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไม่รู้ว่าควรสงสารกระโปรงหรือคุณนรินทร์ก่อนดี แต่ที่แน่คือสงสารสายตาคุณกฤตินี่แหละ

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
คุณโน๊ตระวังกระโปรงแตกนะคะ

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไม่อยากจินตนาการภาพคุณโน้ตใส่กระโปรงนักศึกษา ช่วยด้วยค่ะ ขำไม่ไหวแล้ว 555555555555555555555

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
แง ไม่เอาคุณโน๊ตใส่สิคะ 55555555555555555555555

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สายตาพี่โน๊ตที่มองคุณกฤติด้วยความรักนั้นขนาดน้องนิ้งยังรู้เลย / แหมกระโปรงนศ.ได้ใช้แล้วนะพี่โน๊ต5555555555

ออฟไลน์ tixjubz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คุณกฤติอ่อนโยนมากเลย ถึงขนาดยอมเล่นเกมส์ ให้สิงโตชราหายหงอย 5555

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด