❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]  (อ่าน 32369 ครั้ง)

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 574
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #240 เมื่อ27-06-2019 12:51:40 »

สงสารน้องริท
คุณรันต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่าให้บานปลายไปมากกว่านี้นะ

 :pig4:


ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #241 เมื่อ27-06-2019 15:44:11 »

คุณนรันขาาาาาาาาา  :katai1: ตายแน่ๆป้าออมตีตายแน่

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #242 เมื่อ27-06-2019 16:24:31 »

โอยยยยยยยย งานหนัก  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #243 เมื่อ27-06-2019 18:34:21 »

ถ้าคุณนิรันดร์รักน้องต้องรีบเคลียร์กับแม่น้องนะ สู่ขอซะเลย โอกาสมาแล้วรีบคว้าไว้โลด

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #244 เมื่อ27-06-2019 23:26:16 »

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #245 เมื่อ28-06-2019 02:01:45 »

บอกแม่ไปเลยยยยยยว่าคบกันจริงจังงงงงแล้ว :katai1:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #246 เมื่อ28-06-2019 02:29:31 »

ต้องสู้นะคะ คุณแม่ต้องยอมแน่ๆ ตอนนี้สงสารริท  :hao5:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #247 เมื่อ28-06-2019 08:41:22 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #248 เมื่อ28-06-2019 12:23:09 »

สงสารริท แต่ก็เข้าใจแม่ริทนะ งานนี้คุณรันต้องรีบคุยกับแม่ริทให้เข้าใจกันนะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #249 เมื่อ28-06-2019 22:57:25 »

 :mew6: :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
« ตอบ #249 เมื่อ: 28-06-2019 22:57:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
«ตอบ #250 เมื่อ29-06-2019 12:37:00 »

บอกแม่ไปซิว่าเป็นแฟนกัน :m15: ริท

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #251 เมื่อ18-07-2019 15:41:52 »

>….ตอนที่ 21 [100%]….<

นิรันดร์เก็บอาการตกใจเอาไว้ไม่อยู่ มันแสดงออกทางสีหน้าเพราะสิ่งที่หัวหน้าแม่บ้านอย่างป้าออมบอกมานั้นมันกะทันหันเกินไปจริงๆ เขาเพิ่งจะคุยและตกลงคบกับริทไปเมื่อคืนนี้ เช้านี้กลายเป็นว่าริทจะต้องลาออกไปอยู่ที่อื่นเนี่ยนะ เขาจะตั้งรับยังไงทัน!

“ทำไมมันกะทันหันขนาดนี้ล่ะครับป้า น่าจะแจ้งผมล่วงหน้าสักสามสี่วัน ลุงช่วยแกก็แก่แล้ว ผมหาคนใหม่มาทำไม่ทันนะครับ” นิรันดร์ลองต่อลองกับป้าออม

“ป้าก็ไม่คิดว่าจะต้องกะทันหันขนาดนี้หรอกค่ะคุณรัน แต่มันจำเป็นจริงๆ”

“ป้าพูดแบบนี้ผมก็ลำบากใจ ผมยังไม่อยากให้ลาออกตอนนี้ ทางนั้นเดือดร้อนมากไหมล่ะครับ ให้ผมช่วยเหลือทางอื่นแทนจะได้ไหมเอ่ย” เขาค่อนข้างจะเกรงใจป้าออมคนนี้พอสมควร นอกจากเป็นว่าที่แม่เมียแล้ว ป้าออมแกยังเป็นคนหนึ่งที่คอยดูแลนิรันดร์รวมถึงครอบครัวนิรันดร์มาเป็นสิบๆ ปี

“ถ้าจะช่วยก็ช่วยให้เจ้าริทมันกลับต่างจังหวัดเถอะค่ะคุณรัน” ป้าออมไม่ประนีประนอมกับนิรันดร์เลย ไม่มีแม้ท่าทีอ่อนข้อมีแต่ความเด็ดขาด

“แล้วริทรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหมครับ”

”ค่ะ ป้าบอกเจ้าริทเมื่อเช้านี้”

“อ่า...งั้นผมขอคุยกับริทก่อนแล้วกันนะ”

“ไม่ค่ะ ริทไม่สะดวกคุย เจ้านั่นคงเก็บข้าวของอยู่ คุณรันพักผ่อนเถอะค่ะ ป้าขอตัวนะคะ” นิรันดร์รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่การเดือดร้อนของน้องสาวป้าออม แต่มันเหมือนป้าออมไม่ต้องการให้นิรันดร์เจอริท

เขาคงจะคิดมากไปเอง บางที ป้าออมคงเครียดกับเรื่องเดือดร้อนที่เธอกล่าวมา ท่าทางเคร่งขรึมจริงจังแบบนั้นนิรันดร์เพิ่งจะเคยเห็นป้าแกทำด้วยซ้ำไป มันต้องเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ไม่งั้นป้าคงไม่ยอมให้ลูกชายสุดที่รักไปอยู่ห่างขนาดนั้นหรอกมั้ง

นิรันดร์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งที่คิ้วเขากำลังขมวดเป็นปม เขากับริทตกลงคบกัน แล้วจะต้องมาแยกไปอยู่ห่างไกลแบบนั้นน่ะนะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ตั้งรับไม่ทันเลยจริงๆ เขากินข้าวทั้งที่สมองยังตื่นตัวไม่เต็มที่ พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในตอนนี้

หรือว่าแค่ไปชั่วคราวแล้วจะกลับมา แบบนั้นไม่น่าต้องใช้คำว่าลาออกก็ได้ไม่ใช่เหรอ แค่บอกว่าลาชั่วคราว กลับไปอยู่กับน้าสักระยะ แต่นี่เล่นขอลาออกไปเลย นิรันดร์ทวนความทรงจำอันเลือนรางถึงบ้านต่างจังหวัดของริท

อืม...เดินทางไปกลับน่าจะได้อยู่ แต่ได้แค่วันหยุดน่ะสิ

 นิรันดร์ดื้อรั้นลงไปหาริทที่ห้องหลังทำนั่นนี่เสร็จเรียบร้อย ทว่าประตูห้องนอนที่ไม่เคยใส่กลอนเลยนั้น ตอนนี้มันล็อกสนิทมากๆ นิรันดร์ตะโกนเรียกเบาๆ หวังให้ริทออกมาเปิดประตูแล้วคุยกับริทเรื่องนี้

เสียงเรียกของนิรันดร์ถูกตอบแทนด้วยความเงียบ ไม่มีการขานรับกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น ร่างสูงเคาะห้องอีก เรียกอีก ทำซ้ำจนสุดท้ายต้องยกมือถือขึ้นโทรหาริท แต่ว่าเขาก็ยังไม่สามารถติดต่อริทได้เลย

นิรันดร์มองซ้ายมองขวา คิดว่าริทอาจไม่อยู่ในห้องแต่อยู่ที่อื่น เขาตรงไปถามแม่บ้านสักคนแถวบริเวณนั้น ว่าริทไปไหนหรือเปล่า ป้าออมล่ะ นิรันดร์ได้รับคำโกหกโดยไม่รู้ตัวว่าทั้งสองคนนั้นออกไปข้างนอกได้สักพักแล้ว

ได้ยินแบบนั้นนิรันดร์ก็เดินงุ่นหง่านขึ้นห้องนอนของตัวเองไป ความกระวนกระวายทำให้นิรันดร์ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เขาเดินวนไปวนมารอบเตียงนอน ขึ้นไปนอนเล่นก็แล้ว เดินออกไปออกกำลังกายห้องข้างๆ ก็แล้ว เขายังทำใจให้สงบไม่ได้เพราะเขายังไม่ได้คุยกับริทเลย

นิรันดร์เฝ้ารอเวลาที่สองแม่ลูกจะกลับเข้าบ้านมาอีกครั้ง รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นวี่แววมาว่าจะกลับมา ถามแม่บ้านคนไหนก็ตอบเหมือนกันหมดว่ายังไม่เห็นสองแม่ลูกนั่นเลย นิรันดร์เองก็ติดต่อริทไม่ได้ จากตอนแรกโทรไม่รับ ตอนนี้กลายเป็นปิดเครื่องไปแล้ว

ทุกคนในบ้านพยายามปกปิดการมีอยู่ของป้าออมและริท ทั้งสองคนนั้นกำลังเก็บข้าวของแล้วก็จะเดินทางกลับต่างจังหวัดโดยไม่ร่ำลาเจ้านายอย่างนิรันดร์ ป้าออมต้องการให้ลูกชายของเธอขาดการติดต่อกับนิรันดร์ไปเลย ไม่ต้องพูดคุยหรือเจอหน้ากันอีกยิ่งดี อาจเพราะเรื่องมันเพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ เธอจึงยังไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้

เช้ามืดวันอาทิตย์ สองแม่ลูกเดินทางออกจากบ้านหลังโตของนิรันดร์ด้วยรถแท็กซี่ มุ่งตรงไปหัวลำโพงเพื่อส่งริทกลับบ้านต่างจังหวัด ระหว่างแม่ลูกนั้นจับมือกันแน่นตลอดเวลา แต่กลับไม่มีการพูดคุยอะไรเลย

ริทไม่อยากไป ถ้าจับมือแม่ไว้ตลอดแบบนี้ได้ก็จะทำ การที่เขาไม่อยากกลับบ้านมันไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งได้คบกับนิรันดร์ นับตั้งแต่ที่แม่ต่อว่าเขา แม่ร้องไห้ต่อหน้าเขา ในหัวของริทก็มีแต่แม่คนเดียว มีแต่คำขอโทษ มีแต่คำขอขมา

“ริทไม่อยากไป...” ตอนนี้เด็กหนุ่มตัวโตกลายเป็นเด็กน้อยอ้อนขอแม่ทั้งดวงตาแดงก่ำ ริทเอนหัวซบลงที่ไหล่ของแม่ตนเองขณะที่รอรถทัวร์ไปเชียงราย

“กลับไปก็เป็นเด็กดีของน้า อย่าดื้อ อย่าทำตัวแบบนี้อีก” แม่ไม่มองหน้าเขา มองไปแค่ความว่างเปล่าของอากาศ

“ริทขอโทษ” เสียงขอโทษสั่นเครือจนน่าสงสาร คนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะลูบไล้ศรีษะของลูกชายเธอเองเพื่อปลอบโยน

“เดี๋ยวก็ชิน มีอะไรก็โทรมา แม่อยู่นี่ตลอดแหละ ว่างๆ แม่ก็จะกลับไปหา”

“แต่ริทอยากอยู่กับแม่”

“เลิกงอแงแล้วยอมรับความจริงได้แล้วริท” คำนี้มันช่างเด็ดขาด ริทยอมขยับตัวมานั่งตรงๆ แม้ว่าน้ำตาจะไหลรินอยู่เต็มใบหน้าของเขา

ณ เวลานี้เขาไม่อายใครเลย ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะมองเขาด้วยสายตาแบบไหน ข้างในมันเจ็บปวดเกินกว่าจะมาใส่ใจคนรอบข้าง สายลมยามเช้าทำเอาเขาที่ไม่สบายหนาวสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ อยู่กับแม่มาตลอด ตอนนี้กลับต้องห่างกัน เพราะเขาทำตัวเอง...เขามันเป็นลูกที่แย่เอง

ไม่ว่าจะอ้อนวอนแค่ไหน ก็ทำให้แม่ใจอ่อนไม่ได้ สุดท้ายริทก็ต้องขึ้นรถทัวร์กลับเชียงรายทั้งน้ำตา เขามองแม่จากที่นั่งข้างหน้าต่างด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ ต่อไปนี้เขาจะต้องอยู่คนละที่กับแม่ ต้องมาคอยเฝ้าหวังว่าวันไหนแม่จะกลับมาหาเขา

เทคโนโลยีมันก้าวหน้าไปไกล สามารถโทรไลน์โทรเฟซหากันได้แบบเห็นหน้าอันนั้นเขารู้ แต่มันไม่เหมือนกันเลย มันช่วยเยียวยาได้แต่ทดแทนไม่ได้ทั้งหมด เพราอ้อมกอดอุ่นๆ จะได้มาก็ต่อเมื่ออยู่ตรงหน้ากันเท่านั้นเอง

หึ...ตลกชะมัด เขาเพิ่งรู้สึกฝันหวานที่ใจตรงกับนิรันดร์ไปเมื่อวานก่อนเอง แล้วดูวันนี้สิ เขาต้องจากทั้งแม่และคนที่เขารักไปอยู่คนล่ะที่โดยไม่ได้ร่ำลาเลยด้วยซ้ำ นี่มันยิ่งกว่าโดนปลุกให้ตื่นจากฝันอันสวยงาม แต่มันคือความย่ำแย่แสนทรมานในความรู้สึกเขา

ริทร้องไห้จนหลับไป แม้ไม่มีสติ เขาก็ยังคงนั่งกอดตัวเองสะอื้นเบาๆ โชคดีข้างกายเขาว่างเปล่า และไอ้ความว่างเปล่านี้อาจจะกลายเป็นความโชคร้ายระยะยาว เขาต้องคิดถึงแม่มากแน่ๆ ต้องโหยหาแม่เหมือนตอนเป็นเด็กน้อย

เขายังจำสมัยนั้นได้อยู่เลย...ความทรงจำมันชัดเจนและมันกำลังจะหวนกลับมาอีกครั้ง

กว่าริทจะเดินทางไปถึงบ้านที่เชียงรายก็เกือบค่ำมืด น้าสาวทำอาหารเตรียมเอาไว้รอเขาอยู่แล้ว แต่เขาไม่คุ้นชินกับมัน ข้างกายน้ามีน้าแฟนและลูกสาวของน้าอยู่ด้วย ตอนที่ริทจากไป น้าสาวยังอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมด เปลี่ยนแม้กระทั่งบ้านที่อยู่อาศัย

น้าสาวสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ริทก็ตอบแค่คำต่อคำเท่านั้น น้าสาวเห็นอาการไม่ดีก็ถอนหายใจ ปล่อยให้ริทได้อยู่กับตัวเองในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวเล็กๆ หลังนี้ โดยเธอได้เอาเครื่องนอนมาให้ ด้วยความที่บ้านหลังนี้มันมีห้องนอนแค่ห้องเดียว ริทจึงต้องนอนในห้องโถงบ้านตรงโซฟาเก่าๆ ราคาถูก

น้าสาวและน้าชายของริทต่างก็ทำงานโรงงานที่เดียวกัน พวกเขาจะตื่นแต่เช้าไปส่งลูกสาววัยสี่ขวบขึ้นรถโรงเรียน จากนั้นถึงไปรอรถบัสประจำทางของบริษัทมารับไปทำงาน ริทใช้ชีวิตแบบอืดเอื่อยเพราะไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยสักอย่างเดียว แต่การที่เขามาอยู่นี่ เขาก็ต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้เป็นภาระของที่บ้าน

เช้านี้น้าสาวชวนริทไปสมัคงานที่บริษัท เป็นเด็กแพ็กของหรือเด็กรถ แต่ริทไปพร้อมกับน้าทั้งสองไม่ได้ ต้องเดินทางไปเอง รถบัสประจำทางเขาไม่ให้คนนอกขึ้น ริทจำพยักหน้ารับ ขณะที่บ้านไม่เหลือใครแล้วริทก็เตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม ไม่มีกำลังใจยังไงก็ต้องทำงานอยู่ดี

ริทได้รับการเข้าทำงานเพราะน้าเป็นคนขอให้ ทั้งที่จริงทางเขาค่อนข้างจะไม่อยากรับเด็กที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานอย่างริท ต่อให้ริททำงานเป็นคนขับรถให้นิรันดร์มาก่อน แต่เขาไม่มีใบรับรองงาน เล่นออกมาแบบเหมือนหนีหนี้ก็เลยต้องเริ่มต้นใหม่แบบนี้

ก็...ไม่แย่

แค่เหงา!

แม่ขอให้ริทเลิกติดต่อกับนิรันดร์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ริทก็เลยไม่เปิดมือถือหรือเข้าโซเชี่ยลมีเดียเลย ริทพกฟิกเกอร์ตัวน้อยที่นิรันดร์ซื้อให้มาแค่ตัวเดียว นอกนั้นเขาไม่สามารถขนมันมาได้ก็เลยต้องปล่อยทิ้งเอาไว้ แม่บอกว่าแม่จะเอาไปคืนนิรันดร์ให้ แล้วอีกฝ่ายจะเอาไปทำอะไรต่อนั้นก็คงแล้วแต่เขาเลย

ช่างเป็นวันแย่ๆ ที่ต้องดูแลตัวเอง

ด้านนิรันดร์ยังคงเฝ้ารอเจอหัวหน้าแม่บ้านของเขาไม่เลิกรา เช้าวันใหม่ผ่านไปก็แล้ว ไม่เห็นแม้เพียงเงา เขาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อลงมาข้างล่าง ถามใครทุกคนยังตอบคำเดิมจนนิรันดร์รู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่มีทางที่คนพวกนี้จะไม่เห็นหัวหน้าของตนเองและริท

นิรันดร์อดทนรอหัวหน้าแม่บ้านจนเกือบเที่ยงวันเธอก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมเหงื่อท่วมกาย สีหน้าเธอตอนที่มองมายังเขาค่อนข้างกระอักกระอ่วนบอกไม่ถูก นิรันดร์ลุกจากโซฟารับแขกตรงเข้าไปหาเธอโดยไม่รีรอ

“ริทล่ะครับป้า” สีหน้านิรันดร์วันนี้ไม่สดใสเพราะเขาไม่สามารถติดต่อริทได้เลยไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม

“ริทกลับบ้านไปแล้วค่ะ ป้าไปส่งริทมา”

“ผมยังไม่อนุญาตให้ลาออกเลยนะครับ ทำไมป้าทำแบบนี้ล่ะ...” เรียวคิ้วได้รูปขวดเป็นปม ความไม่พอใจแสดงชัดเจนอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของนิรันดร่

“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณรัน ป้าอยากให้ริทรีบกลับไปทำงานที่นั่น น้องสาวป้าบอกว่ามีงานให้ริททำ ถ้าไปไวก็จะได้เข้างานเร็ว ป้าก็เลยรีบส่งริทกลับ”

“ให้ไปทำงานที่นั่น? งานอะไรครับ” หัวหน้าแม่บ้านนิ่งงันไปครู่เหมือนนึกหาคำตอบ

“ทางนั้นเขาเดือดร้อนเรื่องเงินเหรอครับ ทำไมไม่บอกผม ผมจะได้ส่งให้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเอาริทไปทำงานช่วยหาเงินที่นั่นเลย ทำงานกับผมมันไม่ดีเหรอครับป้า” นิรันดร์มีท่าทีดุดัน ป้าออมก็พอจะเดาได้แหละว่าเจ้านายไม่พอใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่นี่คือการตัดสินใจของเธอเอง เธอต้องยอมรับความไม่พอใจของเจ้านายในเวลานี้ นิรันดร์ต่างจากคุณท่านทั้งสอง เพราะคุณท่านจะใจดีกว่านิรันดร์มากคงเพราะความผูกพันธ์ที่มีต่อลูกน้อง

“ป้ามีเหตุผลส่วนตัวค่ะคุณรัน ป้าไม่สามารถบอกคุณรันได้จริงๆ”

“แม้แต่ริทก็บอกผมไม่ได้เหรอครับ ป้าใช่ไหมที่สั่งให้ริทไม่รับสายผม มีปัญหาอะไรพูดกับผมตรงๆ สิ” สายตาของคนในบ้านโฟกัสมาที่ทั้งสองคน บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างตรึงเครียดเมื่อผู้อาวุโสในบ้านกำลังปะทะกับเจ้านายเพียงคนเดียวในที่นี่

ป้าออมเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่ไม่เคยมีประวัติไม่ดี เธอทำงานดีไม่มีขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อยในรุ่นคุณท่าน แต่ดูเหมือนว่ารอบนี้เธอจะสร้างความขัดใจกับรุ่นลูกของบ้านแทน ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้หัวหน้าแม่บ้านผู้มีอารมณ์ดีอยู่เกือบตลอดเวลาเป็นอย่างนี้ได้ และคงไม่มีทางได้รู้หากป้าออมไม่เป็นคนพูดมันออกมาเอง

“ไปคุยกันที่ห้องริทได้ไหมคะ”

“เชิญ” นิรันดร์ผายมือเชิญป้าออมไปยังห้องนอนของริท จะเรียกว่าอดีตห้องนอนริทคงถูกต้องกว่า

ป้าออมเดินนำนิรันดร์ไปยังห้องนอนของลูกชายเธอ ห้องนอนที่เต็มไปด้วยข้าวของต่างๆ ที่ได้มาจากนิรันดร์เป็นส่วนใหญ่ พอมารู้แบบนี้ เธอก็เหมือนจะนึกออกได้หมดเลยว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามันเพราะนิรันดร์ทั้งนั้น ที่ริทใส่เสื้อนิรันดร์ นิรันดร์ไม่ได้ให้แต่ลูกชายเธอไปนอนกับเจ้านายมา ข้าวของต่างที่มาส่งเป็นชื่อนิรันดร์โดยที่ก่อนหน้านี้นิรันดร์ไม่เคยสั่งซื้อของออนไลน์มาก่อน ที่แท้ก็ซื้อมาให้ลูกชายเธอเป็นค่าตัว

ประตูถูกเปิดออก นิรันดร์เข้าไปข้างใน ป้าออมถึงได้ปิดประตูลงให้ทั้งห้องมีแค่ทั้งคู่ นิรันดร์กวาดสายตามองไปยังฟิกเกอร์ต่างๆ ที่เขาเป็นคนซื้อให้เอง มันยังคงอยู่ที่เดิมไม่ได้นำกลับไปด้วย ต่างอะไรกับทิ้งมันกันนะ?

“ป้าอยากจะคืนของทั้งหมดนี้ให้คุณรัน” นิรันดร์หันขวับมามองหน้าผู้พูด

“ริทไม่ต้องการมันแล้วเหรอครับ”

“ริทคงต้องการมันมากค่ะ แต่ป้าไม่ต้องการมัน คุณรันคะ...ป้าขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ ป้ารู้เรื่องคุณรันกับริทแล้ว และป้าก็ทำใจไม่ได้จริงๆ ที่ต้องให้ริทมาขายตัวแบบนี้” แค่พูดถึงประเด็นนี้เสียงของป้าออมก็สั่นเทา

“ใครบอกป้า”

“ป้าไม่ได้หูตาบอดนะคะคุณรัน ปล่อยเจ้าริทมันไปเถอะค่ะ คุณรันหาเด็กที่ดีกว่าริทมานอนด้วยได้อยู่แล้ว”

“ป้า!” นิรันดร์เผลอขึ้นเสียง

“ริทมันก็แค่เด็กบ้านนอก มันคงตามไม่ทันคุณรัน ป้าไม่โทษใครหรอกนอกจากลูกป้าเอง”

“ป้าก็ตามไม่ทันลูกป้าเหมือนกัน ริทไม่เคยขายตัว ไม่เคยนอนกับผมเพราะสิ่งของเหล่านี้ ป้าเข้าใจริทผิด” นิรันดร์ถึงกับหัวเสีย นี่ริทโดนส่งกลับต่างจังหวัดเพราะแม่ตนเองเข้าใจผิด

“ป้าเข้าใจไม่ผิดหรอก ริทเองมันก็ยอมรับ” ป้าออมจ้องตานิรันดร์อย่างแน่วแน่ เพราะเชื่อว่านิรันดร์อยากได้ลูกของเธอมากจนโกหกเธอ

ทว่านิรันดร์เข้าใจในทันทีว่าทำไมริทถึงยอมรับสภาพนั้นไป เพราะก่อนหน้าที่เขาจะขอริทคบ เขาก็ทำเหมือนริทเป็นแค่เด็กขายโดยไม่รู้ตัวมาก่อน เขาทำริทคิดมาก และริทคงฝังหัวไปแล้วว่าตนเองเป็นแค่คู่นอนของนิรันดร์โดยแลกกับฟิกเกอร์ราคาแพงเหล่านี้

“ป้าฟังผมนะ ที่ผมให้สิ่งของเหล่านี้กับริทเพราะผมอยากจะให้ริทมีความสุข  ผมอาจจะผิดเพราะผมใช้เงินซื้อความสุขมากเกินไปก็เลยไม่ได้นึกถึงใจริท แต่ผมไม่ได้มองว่าริทเป็นเด็กขาย ผมไม่ได้คิดแค่จะตักตวงเรื่องแบบนั้นกับริทเลย” นิรันดร์ยกมือเสยผมด้วยความหัวเสียนิดๆ ที่ริทต้องไปนี่ก็เหมือนเป็นความผิดของเขาเองเช่นกัน

ป้าออมมองหน้านิรันดร์ด้วยสายตาไม่เข้าใจ ในเมื่อไม่ได้ต้องการร่างกายลูกชายของเธอแล้วทำเหมือนลูกชายเธอเป็นเด็กขายทำไม สิ่งที่นิรันดร์ได้ทำอยู่นี้มันมีความหมายอะไรกันแน่ ทั้งที่เธอเคยเห็นคนคนนี้มาตั้งแต่เด็ก ทว่าช่วงเวลาที่ห่างหายกันไปนั้นทำให้เธอไม่รู้จักคนคนนี้ดีพอ

“ผมรักริท” นิรันดร์จ้องหน้าแม่ของคนที่เขารัก สายตาคู่นี้แสดงออกถึงความจริงในคำพูด

แต่คนฟังไม่เชื่อ...

“คู่นอนคุณรันได้ยินคำนี้คงใจอ่อนนะคะ” เสียงเธอแข็งกระด้าง

“ผมพูดจริงๆ ผมรักลูกป้า และผมกับเขาเราตกลงคบกันแล้ว ริทไม่ได้ขายตัวให้ผม ผมต่างหากที่พยายามเอาตัวเองเข้าหาริท ผมพยายามทำให้เขามาชอบผม ทำให้เขาเป็นของผม” คำอธิบายทำให้คนฟังแอบลังเล เธอเชื่อนิรันดร์ได้มากขนาดไหนกัน?

รู้ดีว่าลูกของเธอนั้นเป็นผู้ชายคงไม่มีอะไรให้เสียหายมากนัก แต่ในความเป็นแม่ เธอก็ยังเป็นห่วงลูกชายของเธอ กลัวลูกจะเสียใจหากมารักกับนิรันดร์ บางทีนิรันดร์คงหลอกริทและเธอด้วยคำว่ารักนี่แหละ

นิรันดร์เห็นแววตาคนตรงหน้าก็เดาได้ว่าเธอไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของเขาเท่าไหร่นัก มันก็คงไม่แปลก ทำกับลูกเธอไว้ขนาดนั้นแล้วค่อยมาพูดเอาตอนนี้ว่ารักลูกของเธอ แม่ที่ไหนเขาจะยอมรับกันได้ง่ายๆ

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ นิรันดร์รอดูท่าทีส่วนป้าออมเองก็ครุ่นคิดถึงสิ่งที่นิรันดร์ได้บอกกับเธอมา ใช่ว่านิรันดร์ขาดความน่าเชื่อถือหรอก แค่ความรู้สึกเป็นห่วงลูกนั้นมันรุนแรงกว่าจะทำใจให้เชื่อ ตลอดระยะเวลาที่นิรันดร์กลับมาเธอก็รับรู้มาตลอดว่านิรันดร์เอาคู่ขามามีอะไรด้วยบนรถ

หนึ่งปีที่นิรันดร์กลับมาอยู่ไทยยังทำให้เธอเข้าใจและรู้จักคนคนนี้ได้ไม่มากพอ คำพูดจริงเท็จแค่ไหนไม่มีใครบอกเธอได้จริงๆ เธอมองหน้านิรันดร์ สบตาคมกล้าคู่นั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ขอโทษที่ป้าไม่เชื่อคำพูดคุณรันค่ะ” ชัดเจน ไม่ใช่แค่มองหน้าก็รับรู้ แต่ป้าออมยังบอกกับนิรันดร์ไปแบบตรงไปตรงมา

“แล้วผมต้องทำไงป้าถึงจะเชื่อผม”

“ไม่ทราบค่ะ”

“เอาริทมาคุยสิ ให้ผมติดต่อริทให้ได้ เรามาคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตามันจะง่ายขึ้นก็ได้”

“มันอาจเป็นความหลงใหลก็ได้คุณรัน คุณคงไม่ได้รักเด็กกะโปโลแบบนั้นเข้าให้แล้วหรอกค่ะ ความห่างไกลมันจะทำให้ความรู้สึกคุณรันชัดเจนขึ้นนะคะ ส่วนข้าวของพวกนี้ป้าจะให้คนมาขนเข้าไปไว้ห้องคุณรันนะคะ ป้าขอตัวไปทำงานก่อน” ราวกับคำพูดต่างๆ คำอธิบายเรื่องราวมันจะไม่ได้ทำให้ผู้หญิงอย่างป้าออมยอมเข้าใจและอ่อนข้อให้เลยแม้แต่นิด

นี่คำพูดของเขามันไม่มีน้ำหนักเลยใช่ไหม...?

….100%....

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ พอดีไอแพดเราเจ๊ง แงงงง อยากจะร้องไห้ ไฟล์งานเราดันเก็บไว้ในไอแพดทั้งหมดเลย ก็เลยต้องกู้ขึ้นมาใหม่ เดี๋ยวเราจะมาอัปรัวๆ ให้อ่านให้จบเลยนะคะ
ปล.ขออภัยในคำผิดนะคะ พอดีเรายังไม่ได้แก้เลย ไว้เรากลับมาแก้ใหม่อีกทีน้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #252 เมื่อ18-07-2019 16:26:59 »

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #253 เมื่อ18-07-2019 16:36:39 »

เห้อ  :ling2:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #254 เมื่อ18-07-2019 19:41:36 »

สงสารริท ต้องจากคนที่รักถึงสองคน เพิ่งจะปรับความเข้าใจกับคุณรันดร์ได้แท้ๆ แต่ก็เข้าใจหัวอกแม่ที่รักลูกแหละนะ หวังว่าคุณรันดร์จะรีบทำให้แม่ริทเชื่อมั่นในความจริงใจต่อริทให้ได้เร็วๆ นะ

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #255 เมื่อ18-07-2019 21:32:58 »

สงสารริท  :hao5:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #256 เมื่อ18-07-2019 23:49:02 »

สงสารริท ริทไม่อยากห่างจากแม่เหมือนตอนเด็กอีกแล้วแต่แม่ก็ห่วงว่าริทจะโดนหลอกเลยตัดสินใจทำแบบนี้ แต่แม่ไม่คิดจะถามเหตุผลมากกว่านี้เลยหรา ตัดสินใจฉับพลันเลย :impress3:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #257 เมื่อ19-07-2019 00:44:11 »

สงสารริทมี่สุดดเดเ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #258 เมื่อ19-07-2019 00:58:28 »

 :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #259 เมื่อ19-07-2019 01:40:16 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ยัยแม่ออมจอมดื้อ  ชิส์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
« ตอบ #259 เมื่อ: 19-07-2019 01:40:16 »





ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
«ตอบ #260 เมื่อ19-07-2019 13:43:49 »

ป้าออมใจแข็งมาก

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #261 เมื่อ19-07-2019 22:04:05 »

>….ตอนที่ 22 [100%]….<

นิรันดร์ไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะมาหัวเสียเพราะป้าหัวหน้าบ้านแม่ตนเอง มันไม่ใช่ความผิดเธอ ไม่ใช่ความผิดริท แต่เป็นความผิดเขา บางที สิ่งที่ควรรู้สึกมากที่สุดก็คงเป็นการหัวเสียให้กับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปแล้ว

นิรันดร์พยายามไม่คิดในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ให้สำเร็จ ถ้าเขาพูดเองมันไม่ชัดเจนพอ ไม่สามารถทำให้คนเป็นแม่ของคนที่เขารักนั้นใจอ่อนได้ เขาคงต้องพึ่งพาคนอื่น และคนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากพ่อแม่ของเขา

พ่อกับแม่ของนิรันดร์ได้ย้ายไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ในต่างแดน พวกท่านรักธรรมชาติและความสงบสุขของที่นั่นมาก นิรันดร์ส่งข้อความไปหา ก่อนจะได้รับสายตรงจากแม่ของเขาในสายวันจันทร์ ซึ่งระหว่างนี้นิรันดร์ได้ให้คนของเขาไปสืบหาที่ทำงานใหม่ของริทเป็นที่เรียบร้อย โดยมีชื่อจริงของริทเป็นต้นทางในการค้นหา

“ครับแม่ รันพูดสาย” เขารีบทิ้งงานทั้งหมดเพื่อรับสายผู้เป็นมารดา

(รันมีเรื่องสำคัญอะไรลูก แม่อ่านข้อความที่ต้องการให้ติดต่อกลับแล้ว แต่หนูไม่ได้ระบุเลยว่าเรื่องสำคัญนั้นมันสำคัญอย่างไร) คุณหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เธอเองไม่ได้คาดการณ์ว่านิรันดร์จะมีปัญหาที่ตัวเองแก้ไขไม่ได้ เพราะนิรันดร์เป็นคนเก่งในการทำงานมากคนหนึ่ง

“ผม...ผมรักผู้ชายคนหนึ่งครับแม่” พ่อแม่คนอื่นจะตกใจแค่ไหนกับการที่ลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านกลายเป็นรักร่วมเพศนิรันดร์ไม่รู้ แต่ที่นิรันดร์รู้คือพ่อแม่ของเขาไม่เป็นเช่นนั้น อาจด้วยรสนิยมของเขามันชัดเจนมาตั้งแต่วัยรุ่น ช่วงเรียนที่ต่างประเทศพ่อแม่ก็รู้ว่าเขาคบหาดูใจกับเพศเดียวกัน

(หือ คนนี้ถึงกับต้องโทรมาบอกพ่อแม่เลยเหรอ จริงจังขนาดนั้นเลยเหรอลูก) คนเป็นแม่ได้ฟังก็แปลกใจ นิรันดร์ไม่เคยพูดกับแม่หรือพ่อว่าตนเองรักใคร ถ้าพูดนี่หมายถึงจริงจังมากใช่ไหมนะ

“ครับแม่ คนนี้ค่อนข้างจริงจัง ไม่รับปากว่าจะเป็นตัวจริงไหมแต่รันอยากลองคบหาดูใจกับคนคนนี้แบบจริงจังน่ะครับแม่”

(เรื่องแค่นี้ทำให้รันโทรหาแม่เลยเหรอ?) คนเป็นแม่เดาว่าคงใม่ใช่แค่นี้หรอกที่ลูกชายต้องการจะสื่อ

“แต่มันมีปัญหาครับ” ร่างสูงลุกขึ้นยืนล้วงกระเป๋า หันหน้าเข้าทางกำแพงกระจกด้านหลังโต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อทอดสายตาไปให้ไกลแสนไกล

(เข้าเรื่องเลย ปัญหาที่ทำให้ลูกคนเก่งของแม่ต้องให้พ่อกับแม่ช่วยคืออะไร)

“ผมรักลูกชายป้าออม แต่ป้าออมคิดว่าลูกชายตัวเองขายตัวให้กับผมครับ ตอนนี้ป้าแกส่งลูกกลับไปอยู่ต่างจังหวัด และขอให้ผมปล่อยลูกชายเธอไป ผมแค่อยากได้โอกาสที่จะคบกับเขา ให้มันอยู่สายตาของผู้ใหญ่ก็ได้ พูดตรงๆ เลย ผมพูดกับป้าออมแล้ว เธอไม่เชื่อผม ผมเลยต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยพูดให้หน่อย”

(นี่รัน หนูชอบเด็กคนนั้นเหรอเนี่ย อืม ก็นะ...เขาน่ารักดี แต่ไปทำอีท่าไหนออมเขาถึงมองว่าเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะหืม) โดนถามแบบนี้ก็แอบกระดากใจที่จะพูด แต่ถ้าไม่พูดพ่อกับแม่คงไม่ช่วยเขา

มองเผินๆ เรื่องนี้เหมือนเรื่องเด็กน้อยมากๆ แต่ถ้าคิดจะแคร์ใครอย่างจริงจัง สิ่งที่นิรันดร์ต้องทำก็คือทำให้เรื่องระหว่างเขากับริทนั้นเป็นเรื่องทางการ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ และมันจะง่ายหากพวกผู้ใหญ่ยินยอม นิรันดร์โตจริง เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ริทสิ ริทยังเด็กกว่าเขาร่วมสิบปี แม่ก็เป็นห่วงริทสุดๆ

(เท่าที่แม่ฟังนี่รันก็ร้ายนะลูก แต่ถึงขนาดว่ามาขอความช่วยเหลือพ่อกับแม่แบบนี้ รันคงแคร์เขามากจริงๆ เอาเป็นว่าแม่อยากให้รันทนไปก่อน สักสองอาทิตย์นะ ติดต่อน้องเขาให้ได้ ระหว่างนี้พ่อกับแม่จะเดินทางไปหาที่บ้าน เราไปคุยกันที่นั่นน่าจะเวิร์ก) เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว คนเป็นแม่ก็สรุปออกมาอย่างง่ายดาย

เพราะนิรันดร์ไม่ค่อยได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่เท่าไหร่นัก อะไรที่ทำได้เองเขาก็จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยหนึ่งสมองสองมือ แต่บางที นี่อาจเป็นแผนการหนึ่งในความคิดของนิรันดร์ลูกชายเธอก็ได้ ก็จัดว่าโอเคอยู่ ถือเป็นวิธีที่สันติและน่าจะมีโอกาสได้ลองคบกับเด็กหนุ่มคนนั้นชัวร์ๆ

ยังไงเจ้าของบ้านดั้งเดิมก็มีบุญคุณมากพอที่จะขอให้ป้าออมยอมเปิดใจสักนิด อีกอย่าง เท่าที่ฟังป้าออมก็ไม่ได้แอนตี้ที่ลูกชายเป็นแบบนี้ แค่คิดว่าลูกตัวเองขายตัวบวกกับกลัวนิรันดร์จะมาหลอกลวงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอเอง

นิรันดร์เห็นด้วยกับสิ่งที่แม่บอก เขายอมรับข้อเสนอนั้นก่อนจะโดนแม่ซักไซ้เรื่องที่ว่าทำไมถึงไปหลงรักเด็กน้อยคนนั้นได้ บทสนทนาเครียดๆ ช่วงต้นหายไปเหลือเพียงสองแม่ลูกที่คุยกันกระหนุงกระหนิง

ดูเหมือนความตึงเครียดที่เคยมีเริ่มจะผ่อนคลายลงไปบ้าง ถึงจะไม่มากมายอะไรแต่ก็ยังดีกว่าการต้องมานั่งคิดนั่งเครียดตลอดเวลา แล้วไอ้ความเครียดที่ว่ามันก็ไม่ใช่เพราะแม่ริทกีดกันหรอก แค่อยากติดต่อริทได้ อยากคุยกับริท อยากรู้ว่าริทเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ ไม่ใช่เงียบหายไปแล้วเขาไม่รู้อะไรเลย

สองแม่ลูกสนทนากันเป็นชั่วโมง ด้วยไม่ค่อยได้มีเวลาให้กันเท่าไหร่นัก พ่อแม่นิรันดร์น่ะว่าง แต่ตัวนิรันดร์เองต่างหากที่ยุ่งกับงานและเรื่องส่วนตัวจนไม่ค่อยได้โทรหาพ่อกับแม่เท่าไหร่ ก่อนจะวางสายจากแม่ นิรันดร์ก็ได้คุยกับพ่อของตนเองอีกเล็กน้อย

นิรันดร์ได้ข้อมูลของริทในตอนห้าทุ่มกว่า ขณะที่เขากำลังกินเลี้ยงอยู่ในงานสังสรรค์ของคนในวงสังคม แต่พอรู้ว่าริทเปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนเฟซแล้ว เขาก็ไม่มีสมาธิกับงานเลี้ยงจนถึงขั้นขอตัวกลับก่อนเวลา ระหว่างเดินทางกลับบ้านโดยมีลุงช่วยเป็นคนขับรถ นิรันดร์ก็ติดต่อหาริทจากข้อมูลที่ได้มาในทันที

ความคิดถึงอันแรงกล้าทำให้การรอสายนั้นดูเนิ่นนานเหลือเกิน เสียงสัญญาณรอสายเกือบทำให้นิรันดร์หงุดหงิดจนหัวเสียเพราะเขาต้องการให้ริทรับสายของเขาไวๆ เขาได้แต่ภาวนาให้ริทยอมรับสายเขา

แต่น่าเศร้า...ริทตัดสายทิ้ง

นิรันดร์ไม่ยอมแพ้กับการตัดสายทิ้งของคนรักหมาดๆ เขาโทรหาซ้ำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งจนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้าน เขาต้องลงจากรถแล้ว แต่เขาก็ยังมานะในการโทรหาริท

“ผมไม่ทานอาหารค่ำนะ” นิรันดร์บอกกับหัวหน้าแม่บ้านหรือป้าออมเสียงเรียบ เขาเดินผ่านหน้าไปทั้งที่ยังกดโทรออกอยู่แบบนั้น

เขาไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับสิ่งที่ป้าออมทำมากนัก ยอมรับว่าหงุดหงิดอยู่บ้างในตอนแรก แต่เขาโทษแม่ของริทไม่ได้ อย่างที่ว่า เขาเป็นคนสร้างปัญหานี้เอาไว้ ตอนนี้ที่เขานิ่งเงียบเพราะเขาคิดถึงริท ต้องการให้ริทรับสายเขาหรือยอมพูดคุยกับเขาบ้าง

ทว่า...ดูท่าแล้วริทจะเชื่อฟังคำสั่งแม่มากกว่าความรู้สึกของตัวเอง

ในห้องของนิรันดร์ยามนี้เต็มไปด้วยฟิกเกอร์มากมายที่เขาเป็นคนซื้อมาให้ริท ป้าออมสั่งให้คนเอาไว้ที่ห้องของเขาเพื่อเป็นการคืนของ ยอมรับนะว่าเสียความรู้สึกมาก การที่ให้ของใครสักคนไป แล้วอีกฝ่ายไม่ต้องการมันเฟลอย่างที่สุด

โทรหาจนเป็นสิบๆ สายก็ไม่ได้รับการตอบรับ นิรันดร์ตัดสินใจส่งทั้งข้อความจากมือถือและข้อความเข้าเฟซบุ๊กเพื่อขอร้องให้ริทรับสายเขาหน่อย เขาบอกว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วและเขาต้องการจะคุยกับริท เขาเป็นห่วงริทมาก

เวลานี้ คงมีแค่ตัวอักษรเท่านั้นที่พอจะสื่อความรู้สึกของเขาไปถึงเด็กหนุ่มได้ นิรันดร์เฝ้ารอโดยการไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย หวังให้ตัวเองใจเย็นลงอีกหน่อย ออกมาจากห้องน้ำริทคงจะตอบข้อความของเขาแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันไม่มีแม้แต่จะขึ้นว่าได้รับการอ่าน

มันไม่ง่ายที่เขาจะพุ่งทยานไปหาริทในเวลานี้ ทั้งที่หัวใจมันเรียกร้องแค่ไหนก็ตาม พรุ่งนี้เช้านิรันด์จะมีประชุมใหญ่ของผู้บริหาร เขาทิ้งมันไปหาหัวใจตัวเองไม่ได้ ดังนั้นนิรันดร์จำต้องนอนหลับพักผ่อน ทั้งที่ข้างในใจมันแสนกระวนกระวายอย่างยิ่ง

ความห่างเหินไม่ได้ทำให้นิรันดร์บอกกับตัวเองว่าเขาขาดเด็กหนุ่มคนนี้ได้ ความเป็นจริงนั้นมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาเอาแต่โหยหา กระวนกระวายใจอยากได้ยินเสียงริทสักครั้ง ทุกครั้งที่ว่าง นิรันดร์จะส่งข้อความไปหาริท ไม่ก็โทรหาทั้งที่รู้ดีอยู่เต็มอกว่าริทไม่ยอมรับสายเขา เขาก็แค่ต้องการให้ริทรู้ว่าเขาคิดถึงริทมากนะ

ทว่าหลายครั้งเหลือเกินที่เขารู้สึกน้อยใจ ใช่ ผู้ชายตัวโตๆ คนนี้กำลังน้อยใจที่คนรักไม่ยอมรับสายหรือแม้แต่จะตอบกลับข้อความ แค่ขึ้นอ่านแล้วมันยังไม่ขึ้นเลย มันกลายเป็นคำถามว่าทำไมเหรอ ริทตัดเขาได้ง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่คิดถึงเขาบ้างเหรอ หรือว่าที่จริงริทไม่ได้รักเขาอย่างที่เขารักริทเลย

นั่นคือสิ่งที่นิรันรด์คิดในบางเวลา ก็แค่คิด เพราะเขายังคงมีความอดทนในการติดต่อริทอยู่เสมอ สิ่งหนึ่งที่พอจะเยียวยาเขาได้บ้างคือรูปจากนักสืบที่เขาจ้างไป ฝ่ายนั้นส่งรูปที่ริทเดินทางไปทำงานโรงานให้เขา บ้างก็เป็นรูปที่ริทกำลังเดินทางกลับบ้าน แวะซื้อของกิน หรือแม้แต่รูปที่ริทเดินออกจากบ้านไปซื้อของ

การได้เห็นหน้าค่าตาผ่านรูปถ่ายบ้างนี่มันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็รู้ว่าริทเป็นอยู่ยังไง ทำงานอะไร และใช้ชีวิตแบบไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้นิรันดร์รู้สึกดีอยู่บ้างคือไม่มีคือเข้ามายุ่งวุ่นวายกับริท การรู้ว่าคนรักไม่มีใครมาจีบมันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีหวัง

บ้านที่ไม่มีริทนั้นเงียบเหงา กลายเป็นบ้านที่เหมือนไม่มีเจ้าของอยู่เช่นตอนที่นิรันดร์กลับมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ผู้เป็นนายใหญ่ในเวลานี้หมดความสนใจในสิ่งใด เขาคลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอน ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกายเงียบๆ เพียงลำพัง ซึ่งเขายังคงหวังอยู่ทุกวันว่าริทจะตอบข้อความของเขา

อาทิตย์กว่าผ่านไปอย่างทุกข์ทรมานในความรู้สึกของคนรอ นิรันดร์กลายเป็นคนดูการ์ตูนนารูโตะจริงจังเพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าริทอยู่ข้างๆ ได้ อารมณ์เหมือนทำให้เขาหายเหงาไปได้บ้าง ทั้งที่เขาเองออกจะชอบการอยู่คนเดียวแท้ๆ

ไม่รู้สิ ถ้าริทอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ไม่ต้องนั่งนอนอยู่ด้วยกันเขาก็ยังรับรู้ได้ว่าริทอยู่ใกล้ ทว่านี้มันไม่มีริท มันหลอกตัวเองไม่ได้ว่าเขากับริทก็แค่อยู่คนละห้อง ข้างในลึกๆ มันเตือนอยู่เสมอว่าริทไม่อยู่ที่นี่ ไม่ได้อยู่ข้างกายเขาหรือแม้แต่จะใกล้กันก็ยังเป็นไปไม่ได้

ขณะที่นิรันดร์กำลังนอนหลับฝันถึงริทอยู่บนเตียงหนานุ่มในห้องนอนอันมืดทึบ คนในบ้านต่างกระวีกระวาดรีบร้อนเอาลิโม่คันหรูออกไปยังสนามบิน วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้รถราบนท้องถนนว่างโล่ง สะดวกสบายมากกว่าวันธรรมดาสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์สี่ล้อ ส่วนคนที่บ้านก็ตระเตรียมอาหารเอาไว้ต้อนรับนายใหญ่ทั้งสองคนที่กำลังเดินทางมา

“ไหงคุณท่านกลับมาได้ล่ะเนี่ยป้า” แม่บ้านคนหนึ่งถามผู้เป็นหัวหน้าที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”

“ท่านอาจจะแค่กลับมาพักผ่อนก็ได้นา” อีกคนเอ่ยขึ้นสบายๆ

“หรือกลับมาดูใจคุณรัน ช่วงนี้คุณรันแกกลับไปหมกตัวอยู่แต่ในห้องอีกล่ะ ตอนไอ้ริทมันอยู่ ยังออกมากินข้าวข้างนอกบ้าง ออกมาเดินเล่นนั่งเล่นริมสระงี้ พอไอ้ริทไปคุณรันก็กลับมาเป็นงี้อีกแล้ว” คนเดิมที่ตั้งคำถามแรกสันนิฐาน

ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงป้าออมอาจจะต้องโดนเรียกไปคุยเรื่องริทอย่างแน่นอน เธอเองก็คิดเหมือนที่ลูกน้องของเธอพูด แต่มันก็ดูจะเป็นความคิดที่เข้าข้างตัวเองไปสักหน่อย ลูกชายของเธอคงไม่ได้มีค่าขนาดทำให้นิรันดร์เหงาหงอยหรอก ถึงขั้นว่านายท่านกลับมาด้วยแล้วยิ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก

“ริทมันคงเป็นเพื่อนเล่นคุณรันได้ล่ะมั้ง วัยต่างกันไปหน่อยแต่ดูคุยกันถูกคออยู่นาเนอะ”

“ใช่ๆ เวลาคุณรันกับไอ้ริทอยู่ด้วยกันแล้วสดใสดี จะว่าไป ไอ้ริทไม่อยู่ก็เหงาๆ เนอะป้า” ป้าออมโดนถาม เธอพยักหน้ารับแล้วสนใจแต่สิ่งที่ทำอยู่กับมือ

เธอดูนิ่งงันแต่คิดมาก เธอได้โทรคุยกับริทอยู่บ้าง เวลาที่ถามถึงคุณรันริทก็เงียบไป เธอเหมือนจะรู้สึกตงิดเล็กๆ ว่าลูกชายโกหก ลูกชายเธอบอกว่าคุณรันไม่ได้ติดต่อไป แต่เธอก็ไม่อยากกล่าวหาอะไรริทนัก แค่ต้องไล่ลูกกลับไปอยู่กับน้าสาวที่มีครอบครัวใหม่นี่ก็ดูใจร้ายมากพออยู่แล้ว

อาหารมากมายถูกจัดเตรียมขึ้นโต๊ะ ทั้งหมดเป็นอาหารไทยฝีมือป้าออมทั้งหมด เพราะป้าออมคือมือครัวอันดับหนึ่งในบ้านหลังนี้ และนายท่านทั้งสองก็ชื่นชอบการทำอาหารของป้าออมเป็นอย่างมาก

ไม่นานนักลิโม่คันหรูก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เหล่าแม่บ้านและคนใช้อื่นๆ ต่างก็กรูกันมารวมตัวรอรับเจ้านายใหญ่ทั้งสอง โดยป้าออมยืนอยู่ตรงกลาง เมื่อรถจอดสนิท เธอเป็นคนเปิดประตูให้กับนายหญิงและนายท่านก้าวลงมาจากรถ คนอื่นๆ ก็เคลื่อนตัวไปเอาของจากท้ายรถ

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ” ป้าออมโน้มศรีษะทำความเคารพ

“ดีใจที่พวกเธอยังแข็งแรงกันดีนะ” นายหญิงยิ้มหวานแจกจ่ายให้ลูกน้อง

“เจ้ารันมันตื่นหรือยังเนี่ย” นายท่านเดินมาขนาบข้างภรรยา ซึ่งคุณหญิงพลอยใสก็คล้องแขนสามีเธอเดินเข้าสู่บ้านที่คุ้นเคย

“คุณรันน่าจะยังไม่ตื่นค่ะนายท่าน เดี๋ยวดิฉันไปเรียกให้”

“ไม่ต้องหรอก” นิลกาลเอ่ยปฏิเสธ

คุณท่านนิลกาลและคุณหญิงพลอยใสมีอายุอานามเกินหกสิบไปหลายปี แต่ความรักและการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันยังคงชัดเจนแม้แต่คนนอกก็ยังรับรู้ได้ คนใช้เห็นท่านทั้งสองกระหนุงกระหนิงพูดคุยกันเสียงเบาราวกับซิบยามเดินเข้าสู่ห้องครัวเพื่อรับประทานอาหาร

แม่บ้านบางคนต้องเอาของใช้ของนายท่านไปจัดเตรียมไว้ที่ห้อง หน้าที่ดูแลนายใหญ่ทั้งสองจึงเป็นของป้าออมผู้เป็นหัวหน้าแม่บ้าน เธอเดินตามทั้งสองไปยังห้องทานอาหาร เมื่อทั้งคู่นั่งลงก็เป็นคนตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานใบสวยทั้งสองจาน

“เจ้าริทไม่อยู่เหรอจ๊ะออม” ยังไม่ทันได้ตักคำแรกเข้าปาก คุณหญิงพลอยใสก็เอ่ยถามทั้งที่ยังยิ้มหวาน

“ริทกลับไปอยู่บ้านนอกแล้วค่ะคุณหญิง”

“อ่าว ทำไมล่ะจ๊ะ อยู่ที่นี่ไม่ดีเหรอ หรือว่ามีปัญหาอะไร” น้ำเสียงเป็นมิตรยิงคำถามที่ตอบยากให้กับหัวหน้าแม่บ้าน เธอลังเลกับคำตอบ ไม่รู้ว่าควรจะแก้ต่างเรื่องนี้อย่างไร การพูดความจริงมันอาจจะเหมือนกับใส่สีตีไข่ให้กับนิรันดร์

“คือน้องสาวดิฉันเดือดร้อนนิดหน่อย เลยให้เจ้าริทกลับไปอยู่ช่วยที่นั่นน่ะค่ะ”

“เอ เท่าที่ฉันจำได้นี่น้องสาวออมแต่งงานมีครอบครัวแล้วนี่นา เธอเดือดร้อนอะไรหรือจ๊ะ” จี้มาแบบนี้ป้าออมก็จนปัญญา

“มีปัญหาส่วนตัวไม่สะดวกบอกท่านจริงๆ ค่ะ” เธอจำต้องตัดบทไปดื้อๆ อย่างนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ต้องการให้เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับเจ้านายทั้งสอง

“เฮ้อ เธอเนี่ยนะ เอาเถอะ ทานข้าวกันค่ะคุณ” เมื่อหัวหน้าแม่บ้านตัดบท คุณหญิงพลอยใสก็จะไม่ดื้อดึงซักไซ้เอาความในตอนนี้

คุณท่านนิลกาลเปลี่ยนเรื่องไปถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบอย่างอื่นบ้าง โดยคุณหญิงพลอยใสเป็นสายสนทนาอยู่แล้ว เรื่องราวกับพูดคุยตามประสาคนคุ้นเคยจึงเกิดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เต็มแก้มผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้าน

บ้างคุณหญิงก็เล่า บ้างคุณชายก็เล่า เรื่องจากต่างแดน ประสบการณ์การไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้ถูกนำมาท่ายทอดให้คนที่นี่ได้ฟังกันเป็นเรื่องสนุก ก็เหมือนกับเพื่อนเก่าได้กลับมาคุยกันนั่นแหละ อาหารคาวหมดตบด้วยอาหารหวาน

บทสนทนาไม่จบลงง่ายดายนัก ป้าออมเป็นผู้ฟังที่ดี และคุณหญิงพลอยใสก็ช่างเป็นนักเล่าที่ดีเสียเหลือเกิน แม้แต่สามีของเธอก็ยังสนุกสนานร่วมบอกเล่าไปกับภรรยาอย่างออกรสชาติ

“คุณหญิงคะ คุณรันตื่นแล้ว ให้ดิฉันไปตามลงมาพบท่านไหมคะ” ระหว่างสนทนาอยู่ แม่บ้านคนหนึ่งก็เดินมาบอกเพราะเธอโดนเรียกไปเตรียมอาหารเช้าให้นิรันดร์

“ฝากทีนะจ๊ะ” คุณหญิงส่งยิ้มหวานให้

นิรันดร์ไปอาบน้ำอาบท่ารออาหารเช้าที่ค่อนข้างสายอย่างทุกวัน โดยปกติแล้ว เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ อาหารก็จะถูกนำมาวางเอาไว้บนโต๊ะสำหรับทานอาหารบนเตียง ทว่าวันนี้มันกลับว่างเปล่า มีเพียงร่างของแม่บ้านคนหนึ่งยืนอยู่มุมประตู

“คุณรันคะ คุณหญิงกับคุณท่านให้มาตามค่ะ” ได้ฟังอย่างนั้นก็คิ้วขมวด ไหงจะมาถึงแล้วไม่บอกไม่กล่าวเขากันนะ

แต่อีกใจก็โคตรยินดีเลย!

การรอคอยของเขาจะสิ้นสุดแล้วใช่ไหม?

นิรันดร์ใส่เสื้อผ้าอย่างไว ผมเผ้าไม่เช็ดให้แห้ง แค่ใช้มือฟัดมันขึ้นลงสะบัดน้ำออกประมาณหนึ่งเท่านั้น ความยาวของช่วงขาช่างมีประโยชน์ในการเร่งรีบลงไปที่ห้องรับรองแขก นิรันดร์สับเท้าฉับๆ ลืมหิว ลืมง่วงไปเสียสิ้น จิตใจตอนนี้มันจดจ่ออยู่ที่แม่กับพ่อเท่านั้น

“แม่” ร่างสูงโผเข้าหามารดาตน เขาใช้สองแขนแข็งแรงโอบกอดผู้เป็นแม่เอาไว้แนบอกขณะที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า

“ไอหนูขี้เซาตื่นสักที” คุณหญิงพลอยใสลูบหัวเปียกๆ ของลูกชายด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

ต่อให้โตยังไง ในสายตาพ่อกับแม่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ดีล่ะนะ

“นี่ถ้าไม่หิวก็ไม่ตื่นสินะไอ้ลูกชาย” นิรันดร์คลายกอดแม่ไปกอดผู้เป็นพ่อบ้าง

“นิดหน่อยครับพ่อ งานมันเยอะ”

“เยอะหรือช้ำใจ เนี่ย...ป้าออมก็อยู่นี่แล้ว” คนในประเด็นก้มหน้าไม่มองสบตานิรันดร์ ป้าออมรู้ดีพอสมควรว่าสร้างความไม่พอใจให้กับนิรันดร์

“จะว่าช้ำใจมันก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เรียกว่าตรอมใจคงถูกต้องที่สุด” นิรันดร์หันไปมองป้าออมด้วยสายตาตัดพ้อ เพราะคำสั่งเฉียบขาดของคนเป็นแม่ ทำให้ริทไม่ยอมรับการติดต่อของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไหนๆ ก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว เราจะคุยเรื่องสำคัญเลย หรือควรปล่อยให้รันไปกินข้าวกินปลาก่อนดีล่ะหืม” คุณหญิงพลอยใสเอ่ย

“ผมไม่หิวแล้วครับ”

“งั้นหมายความว่าจะคุยเรื่องสำคัญเลยสินะ หนูใจร้อนจัง ดูสิออม...ลูกชายเธอทำพิษลูกชายฉันน้า” คุณหญิงพลอยใสพูดเหมือนเย้าหยอก แต่สำหรับป้าออม เธอกระอักกระอ่วน

นี่มันชัดเจนเลยว่าคุณท่านทั้งสองกลับมาเพราะเรื่องริท!

….100%....

เรื่องของผู้ใหญ่ ก็ต้องให้ผู้ใหญ่จัดการอะเน้อ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #262 เมื่อ19-07-2019 22:13:22 »

>….ตอนที่ 23 [100%]….<

คุณหญิงสั่งให้สาวใช้คนอื่นๆ ออกไปจากบริเวณนี้ให้หมด แล้วให้ป้าออมนั่งที่โซฟาเดี่ยวข้างคุณหญิงพลอยใส พวกท่านต้องการคุยเรื่องส่วนตัวของสองครอบครัว เธอเห็นว่าคนใช้คนสนิทของเธอมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก จากที่ลูกชายตัวดีเล่าให้ฟัง ออมไม่เชื่อคำพูดของลูกชายเธอเลยแม้แต่น้อย การที่เธอและสามีเธอกลับมานี่คงทำให้ออมเห็นแล้วว่าลูกชายเธอเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน

“ฉันไม่เคยเห็นใครทำให้ลูกชายฉันต้องมาขอความช่วยเหลือจากฉันเลย” นิรันดร์ขยับไปนั่งโซฟาเดี่ยวฝั่งผู้เป็นพ่อ

“ค่ะ” ออมขานรับ

“ฉันได้ฟังเรื่องจากตารันแล้ว ฉันอยากถามเธอบ้างน่ะออม เธอไม่อยากให้ลูกชายเธอมาเกี่ยวดองกับตารันใช่ไหม”

“ไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันแค่ผิดหวังในตัวลูกชายของดิฉัน ที่เขา...ทำแบบนั้นกับเจ้านายตัวเอง” คำบอกเล่าของหัวหน้าแม่บ้านทำให้คุณหญิงพลอยใสหันไปส่งสายตาเอ็ดลูกชายเธอ

“มองในมุมคนเป็นแม่ฉันก็เข้าใจนะ ฉันไม่แก้ตัวแทนตารันหรอก ฉันแค่อยากขอโอกาสให้ตารันหน่อยได้ไหม ตารันกับริทเขาตกลงคบกันแล้วนา เธอก็น่าจะลองเปิดใจให้ตารันได้ลองพิสูจน์ตัวเองดู ถือว่าฉันขอได้ไหม” ป้าออมนั่งก้มหน้า ไม่กล้าตอบรับและก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

“นะครับป้าออม เมื่อก่อนผมสร้างความเข้าใจผิดให้ริท มันเป็นความผิดของผม แต่เราสองคนเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วนะครับ” นิรันดร์กล่าวเสริม แต่ดูยังไงป้าออมก็ยังไม่มีท่าทียินยอม

“อย่างน้อยฉันก็อยากให้ริทเป็นคนตัดสินใจ ริทโตแล้วนะออม” คุณหญิงพลอยใสเอาริทขึ้นมาพูดบ้าง ดูจากแววตาแล้ว เธอเดาได้อยู่ว่าออมรู้ดี ลูกชายไม่ได้มีความสุขกับการต้องจากแม่ไปอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเองหรอก

“ออม เธอก็อายุอานามมาขนาดนี้แล้วนะ...” น้ำเสียงราบเรียบของคุณท่านคล้ายจะตำหนิในความบังคับลูกของหัวหน้าแม่บ้าน ท่านไม่ใช่คนประนีประนอมเท่ากับภรรยา ดังนั้นวาจาจึงเสียดแทงไปหน่อย

ทว่าในความราบเรียบนั้นกลับเต็มไปด้วยความกดดันที่ป้าออมรับรู้ได้จากตัวของนายท่าน ปกติแล้ว นายท่านจะไม่ดุ ไม่ต่อว่าต่อขานหากมีใครในบ้านทำผิด ท่านจะแค่ปลายตาไม่พอใจให้เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าท่านไม่พอใจนะ นี่เล่นเอ่ยปาก แสดงว่าท่านไม่ชอบใจอย่างมากที่ป้าออมทำแบบนี้กับลูกชายตนเอง

มันลำบากใจ เธอเชื่อว่าเธอควรเอาริทให้อยู่ห่างจากนิรันดร์เพราะริทนั้นไม่คู่ควรกับนิรันด์เลยแม้แต่นิด เป็นแค่เด็กกะโปโลที่เรียนจบ ปวส. ทำงานเป็นคนขับรถธรรมดามากๆ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตนิรันดร์แล้ว ริทดูต่ำต้อยไปเลย

เธอห่วงลูกชายในหลายๆ แง่ กลัวว่าวันหนึ่งนิรันดร์จะทอดทิ้งริทไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า แล้วริทก็คงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเพราะริทเป็นแค่ลูกแม่บ้านกระจอกๆ อย่างเธอ ไม่มองยังไง ระหว่างริกับนิรันดร์มันก็ดูเป็นไปไม่ได้ในสายตาของเธอ

แต่เธอจะบอกนายท่านทั้งสองและนิรันดร์อย่างไรให้เข้าใจความรู้สึกของเธอกัน ป้าออมได้แต่ก้มหน้า ครุ่นคิดถึงคำตอบ การปฏิเสธน่ะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะพูด ทว่าคำง่ายๆ คำนั้นกลับหนักอึ้งเมื่อยู่ต่อหน้าผู้มีพระคุณทั้งสอง

ถ้ายินยอม...มันเหมือนขายลูกกินไหม เอาลูกใส่พานให้ผู้มีพระคุณเพียงเพราะต้องตอบแทนบุณคุณ แน่ล่ะ สำหรับเธอการตอบแทนบุญคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แต่มันต้องไม่ใช่การเอาลูกชายตัวเองมาสังเวย

“ป้าบอกผมได้ไหมครับว่าป้ากลัวอะไร ป้ากลัวผมจะทิ้งริทใช่ไหม...” เมื่อทั้งหมดเงียบสนิท นิรันดร์ก็เอ่ยคำถามที่เขาสงสัย

“....” ป้าออมยังคงเงียบ เพราะมันก็จริงในส่วนหนึ่งที่นิรันดร์ถาม

“ผมคงพูดไม่ได้ว่าผมจะคบริทได้ทั้งชีวิตนะครับป้า อนาคตมันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ถ้าวันหนึ่งผมกับริทไปด้วยกันต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผมกับริทก็ต้องเลิกรากันไปอยู่ดี ผมว่านั่นเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ที่ต้องลองศึกษาดูใจกันไปก่อน แต่ป้าครับ...ผมกับริทยังไม่ได้เริ่มเลย ป้าจะตัดสินตั้งแต่ต้นแบบนี้เลยเหรอครับ” นิรันดร์เครียดมาก ขนาดพ่อกับแม่เขามานั่งอยู่ตรงนี้ ป้าออมก็ยังมีท่าทีนิ่งสงบและไม่ยอมใจอ่อนได้ง่ายนัก

ผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่พวกที่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดวนลูปอยู่แต่วลีเดิมๆ มันก็ดูไม่สมเป็นผู้หลักผู้ใหญ่นัก เมื่อนิรันดร์กล่าวจบ ความเงียบก็เข้าครอบงำทั้งสี่คนอีกหนหนึ่ง แน่ล่ะ มันสร้างความขัดใจให้นิรันดร์มาก รวมถึงเจ้าบ้านทั้งสองที่มองว่าหัวหน้าแม่บ้านของพวกเขานั้นช่างดื้อเสียเหลือเกิน

“ชีวิตลูกก็คือชีวิตลูกนะออม เราน่ะเลี้ยงเขาได้แต่ตัว ใจของเขา เขาต้องหาทางไปของมันเอง ฉันกับคุณนิลมาเพื่อยืนยันกับเธอว่าฉันสองคนยินดีที่จะให้ตารันได้คบกับริท การที่คนสองคนคบกันโดยให้ผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายรับรู้ นั่นก็จริงจังมากแล้วนะออม แต่ถ้าเธอยังยืนยันคำเดิม ก็ได้จ้ะ” คุณหญิงพลอยใสยิ้มปลงๆ คนเป็นลูกมองหน้าเธอแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

มันแย่..แย่มากๆ ริทไม่มีสิทธิ์ได้แสดงความคิดเห็น ไม่มีสิทธิ์มีเสียงพูดหรือเรียกร้องอะไรให้ตัวเองเลย เมื่อคนเป็นแม่ตัดใจแบบนี้ ตัดสินให้เขาห้ามรักกับคนที่อยู่สูงกว่าอย่างนิรันดร์

คุณหญิงพลอยใสลุกขึ้นเดินไปทางลูกชาย เธอดึงมือของเด็กน้อยที่วันนี้ตัวใหญ่กว่าเธอไปเยอะให้เดินไปด้วยกัน เหลือเพียงป้าออมและท่านนิลกาลที่ยังนั่งอยู่จุดเดิมไม่ไปไหน

เสียงถอนหายใจทุ้มหนักของผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านดังขึ้นเบาๆ ป้าออมไม่กล้าเงยหน้าสบสายตาขอท่าน เพราะรู้ดีอยู่เต็มออกว่ามันจะทิ่มแทงเธอได้มากขนาดไหน ครั้นจะลุกเดินหนีไปก็ไม่สามารถทำได้ มันดูเสียมารยาทมากๆ หากเจ้านายยังไม่ยอมให้เธอไป

ในความกดดันนั้นเธอก็ครุ่นคิดเรื่องของนิรันดร์กับริท ถ้าหาเรื่องราวมันเป็นความผิดพลาดของคนสองคนนั้นจริง เธอก็เหมือนคนที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างเขาทั้งคู่ ซ้ำยังตัดสินเป็นตายให้กับความรักของลูกตัวเองอีก

เธอฟังริทพูดมาหรือยังนะ?

การต้องให้ลูกไปอยู่ห่างกายน่ะมันก็แย่พอสำหรับเธอ ไหนจะความผิดหวัง ความเป็นห่วง ความหวาดกลัวหวาดระแวงตามประสาคนเป็นแม่ มันวุ่นวายในอารมณ์ไม่ใช่น้อย นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะตัดสินใจได้เลย จะล้มเลิกความตั้งใจเพื่อให้เขาทั้งสองได้ลองดูกันสักตั้ง หรือเธอควรจะใจแข็งต่อไปแบบนี้ดี

เธอกำลังพยายามอย่างหนักกับการแก้ปัญหา พยายามทบทวนเรื่องราวต่างๆ นาๆ และคำพูดของทุกคนที่เข้าหู ทั้งลูก ทั้งนิรันดร์ ทั้งคุณหญิงและคุณท่าน แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่ง่ายเอาเสียเลย

“เรื่องของความรักมันควรเป็นเรื่องของคนสองตัดสินใจ ต่อให้เขาเป็นลูก แต่เรื่องนี้เราจัดเป็นคนนอกนะออม” ท่านนิลกาลเอ่ยเสียงนุ่มก่อนจะปล่อยให้ป้าออมเป็นคนตัดสินใจเอาเองว่าจะเอายังไงต่อไป

ถึงแม้ว่านิรันดร์จะถึงขั้นเอ่ยปากขอร้องให้มาช่วยพูด พวกท่านทั้งสองก็พูดแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับป้าออมคนเดียวว่าจะเอายังไงต่อไป การเปลี่ยนแปลงความคิดคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย คิดว่าการเป็นผู้ที่อีกฝ่ายเคารพนั้นเพียงพอต่อการขอโอกาส ทว่าเอาเข้าจริงพวกเขาเจอคนใจแข็งไปเสียหน่อย

สามคนพ่อแม่ลูกมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องรับประทานอาหาร นิรันดร์กำลังทานมื้อเช้าขณะที่พูดคุยกับพ่อแม่ของเขาไปด้วย นิรันดร์เงียบขรึมลงไปมากพอสมควร เขาคิดว่ามันจะไม่ยาก แต่มันไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ดังนั้นเขาอาจจะต้องหาทางอื่น

ทั้งพ่อแม่และแม่ต่างก็ให้กำลังใจ อาจมีทางเลือกอื่นเช่นการตัดใจจากเด็กคนนี้เพื่อไปหาคนอื่นที่เข้ากับนิรันดร์ได้มากกว่าริท แต่นิรันดร์ไม่สนใจข้อเสนอเหล่านั้น เพราะถ้ามันเลิกรักได้ง่าย เขาคงไม่คิดถึงริทมากขนาดนี้หรอก

“ลองไปบนดีไหมลูก?” จู่ๆ คนเป็นแม่ก็เสนออะไรที่แสนจะแปลกประหลาดสำหรับนิรันดร์ เขาชะงักช้อน หันมองหน้าแม่ที่ยิ้มแย้มเหมือนกำลังพูดเรื่องทั่วๆ ไป ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องทั่วไปเลยสำหรับนิรันดร์

“แม่ นี่ยุคไหนแล้ว” คนเป็นพ่อเอ่ยท้วงแทนลูกชาย

“ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้หนิคะ เราไปไหว้พระแล้วก็ขอพรท่านดูก็ไม่เสียหายอะไร แม่เองก็อยากไปไหว้พระไหว้เจ้าเหมือนกัน กลับมาเมืองไทยทั้งที ไม่เข้าวัดเสียหน่อยเหมือนกลับมาไม่ถึงบ้านนะ” นิรันดร์ได้ฟังก็ถอนหายใจเบาๆ

“ก็ดีครับ ผมไม่ได้ไหว้พระนานแล้ว”

นิรันดร์ทานมื้อเช้าของตนเองเสร็จก็ขอไปแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ จากนั้นเขาก็ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้พ่อกับแม่เพื่อเดินทางไปยังวัดประจำของแม่ ระหว่างทางเขายังคิดอยู่ตลอดว่าจะใช้วิธีไหนทำให้ป้าออมใจอ่อนยอมให้เขาได้คบกับลูกชายเธอ กระทั่งเดินทางมาถึงวัดเขาก็ยังไม่เลิกคิด

นิรันดร์เกิดที่เมืองไทย ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยก็สิบกว่าปี วัฒนธรรมต่างๆ ยังคงเข้มข้นในสายเลือด ติดอย่างเดียว เขาไม่เคยบนบานศาลกล่าวมาก่อน อีกทั้งยังมีความคิดว่าทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยก็มาจากตัวเองล้วนๆ ต่างหาก ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

แต่แล้ว...คนไม่เชื่อก็บนบานไปจนได้

อย่างที่แม่ว่าแหละ มันไม่มีอะไรเสียหายหนิถ้าเขาจะพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้างสักครั้งหนึ่ง อย่างน้อยก็เหมือนเติมกำลังใจให้ตัวเองไปในตัว ส่วนถามว่าใจอะเชื่อไหม นิรันดร์ไม่เชื่อแต่ก็หวังว่าจะได้ผลเท่านั้นเอง

พ่อแม่ลูกยังคงเดินทางเที่ยวกันต่อทั้งวัน ไหว้วัดนี้เสร็จก็ไปหาอะไรทานไปตามเรื่องตามราว คนห่างจากเมืองไทยไประยะหนึ่งมันก็จะคิดถึงบรรยากาศบ้าง คิดถึงอาหาร คิดถึงสถานที่ต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

นิรันดร์ไม่ค่อยชอบเที่ยวนัก ตั้งแต่เด็กแล้ว เขาชอบการอยู่แต่ในห้องมากกว่า ที่นอนนุ่มๆ เครื่องวิดีโอเกม หนัง การ์ตูน หรือแม้แต่ดนตรีภายในห้องนี่แหละคือสวรรค์ของเขา ทว่าหลังจากไม่ได้เที่ยวนาน ครั้งนี้เขารู้สึกดีกับการได้เดินเล่นไปบนทางเท้าที่มีผู้คนมากมาย ข้างหน้าเป็นพ่อกับแม่ ข้างทางเป็นร้านรวงต่างๆ มากมาย

บางทันอาจจะเพราะมีพ่อแม่มาเดินเล่นด้วยก็ได้ มันก็เลยไม่รู้สึกแย่กับการต้องเจอผู้คน เจอควันรถ เจออากาศร้อนๆ เขาคิดถึงริทจัง อยากให้ริทได้มาเดินด้วย ริทคงเจือแจ้วไปตลอดทาง ชวนเขาดูนู้น ดูนี่ไปตามประสาเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง

เนี่ย...คิดถึงมากขนาดนี้จะให้ตัดใจยังไง

คิดแล้วก็ขอถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ๆ ให้กับการจากลาแบบไม่ทันตั้งตัว อย่างน้อย ก็น่าจะยอมให้ติดต่อกันบ้าง ถ้ารักนี้จะต้องเป็นรักระยะไกลก็ยังดีกว่าการไม่ให้รักเลยแบบนี้ นิรันดร์ล่ะอยากให้ริทเป็นเด็กดื้อจัง อยากให้ริทขัดคำสั่งแม่เพื่อเขา ทั้งที่รู้ดีอยู่เต็มอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ริทน่ะเป็นเด็กช่างที่นิสัยเนิร์ดมากเลย

“นี่ตารัน หนูไม่ลองส่งเป็นจดหมายไปแทนล่ะลูก ถ้าส่งข้อความทางมือถือกับโทรหาไม่ได้ จดหมายก็น่าสนใจน้า” เดินเล่นอยู่ดีๆ คนเป็นแม่ก็ปิ๊งไอเดียอะไรออกมาแล้วเสนอให้ลูกชาย

“นึกถึงสมัยก่อนเลย” คนเป็นพ่อเปรยขึ้นยิ้มๆ

“ใช่ค่ะ สมัยก่อนนี่ก็ต้องส่งจดหมายเอา หูย แม่นี่มารอจดหมายพ่อทุกอาทิตย์เลยนะ เห็นพี่บุรุษไปษณีย์มาที่บ้านที่ไรเขินไปหมดทุกทีเลย”

“ผมก็รอของคุณทุกอาทิตย์เหมือนกัน แป้งที่คุณใช้สมัยนั้นหอมมาก ผมยังชอบกลิ่นมันอยู่เลยนะ” พ่อกับแม่ยิ้มให้กัน สายตาสื่อความหมายและยืนรำลึกถึงความหวานอันเก่าก่อน

อืม...แต่เป็นวิธีที่น่าสนใจนะ

นิรันดร์กะเลยว่าจะต้องลองส่งจดหมายให้ริทสักหน่อย ระหว่างที่เที่ยวเล่นกับพ่อแม่ เขามองหาโปสการ์ดสวยๆ ไม่ก็ซองจดหมายเพื่อที่กลับบ้านไปเขาจะเขียนแล้วเอามันใส่ซองส่งไปเลย ยุคนี้มีระบบการส่งจดหมายที่ทันสมัยมากขึ้น อีเอมเอสนี่วันเดียวก็น่าจะถึงมือริท เขาจะส่งให้ทั้งทางบริษัทและที่บ้าน ยังไงริทก็ต้องได้รับจดหมายจากเขา

ขอแค่ริทได้รู้ว่าเขาคิดถึงแค่ไหนก็น่าจะเพียงพอ ริทเป็นคนใจอ่อนง่าย ไม่เหมือนแม่ที่ค่อนข้างจะใจแข็งเสียยิ่งกว่าหิน นิรันดร์คิดว่าเขาน่าจะขอให้ริทยอมกลับมาติดต่อกับเขาได้ผ่านตัวหนังสือที่เขาเป็นคนเขียนขึ้นเองกับมือ

ทั้งหมดเที่ยวจดหนำใจ เที่ยวจนเหนื่อยเพลียไปตามๆ กันยกเว้นนิรันดร์ที่ร่างกายยังแข็งแรง เขาส่งให้พ่อกับแม่ลงตรงหน้าบ้าน ส่วนตนเองนั้นก็เอารถเข้าไปเก็บไว้ที่โรงจอดรถตอนสองทุ่มกว่า

เดินกลับมาจะเข้าตัวบ้านเป็นต้องแปลกใจที่ป้าออมยืนเด่นตระหง่านอยู่ตรงประตูใหญ่ สายตาของเธอพุ่งตรงมาที่เขา มันเดาได้ไม่ยากเลยว่าป้าออมมีเรื่องจะคุยกับเขาอย่างแน่นอน ว่าก็ว่าเถอะ...เจอแบบนี้ใครบ้างไม่หวังให้เป็นเรื่องราวดีๆ

“มีอะไรหรือเปล่าครับป้า” นิรันดร์ตรงเข้าไปถาม เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าพ่อกับแม่ของเขาจะไปไหนแล้ว ตอนนี้ใจมันอยู่ที่ป้าออมคนเดียว เพราะเธอเป็นคนที่จะยอมยกริทให้เขาได้

“คุณรันจริงจังกับริทมันจริงๆ เหรอคะ ป้าว่า...ริทไม่ได้เหมาะสมอะไรกับคุณรันเลย”

“ป้าครับ นี่หมดยุคที่จะมาบอกว่าเหมาะสมหรือไม่แล้ว สำหรับผมน่ะ ริทก็คือริท เขาจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ยากดีมีจนแค่ไหน นั่นไม่ได้สำคัญนะครับ ริทเป็นเด็กขยันจะตาย งานก็ทำ หาเลี้ยงตัวเองก็ได้ ผมคิดว่าคุณสมบัติของคนคนหนึ่งมันคงไม่ต้องเหมารวมไปถึงชาติตระกูลหรือเงินรองบัญชีหรอกครับ” นิรันดร์เอ่ยอย่างใจจริง เขารู้ว่า ความจริงใจเท่านั้นที่จะทำลายกำแพงของหัวหน้าแม่บ้านสุดใจแข็งคนนี้ได้

“ริทไม่ได้ขายตัวจริงๆ ใช่ไหมคะ”

“ไม่ครับ ริทไม่เคยขายตัว และเขาก็ไม่เคยต้องการขายตัวแน่ๆ เขารักศักดิ์ศรีตัวเองมาก เหมือนที่รักป้ามากจนไม่อยากทำให้ป้าผิดหวังนั่นแหละครับ” หญิงสูงวันตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ

“ก็ได้ค่ะคุณรัน... ป้ายอมให้คุณรันกับริทคบกันก็ได้ค่ะ” เสียงนั้นไม่ได้แข็งแรงมาก มันออกจะเต็มไปด้วยความลังเล ไม่แน่นอน และอัดแน่นไปด้วยความกังวลมากมาย นิรันดร์รับรู้ถึงมันได้ แล้วเขาก็รู้ดีว่าความรู้สึกเหล่านี้ของป้าออมมันขจัดไม่ได้ง่ายนัก การยอมใจอ่อนนี่ก็ถือว่ามากพอแล้วสำหรับครั้งนี้

“ขอบคุณครับป้า ขอบคุณมากๆ” นิรันดร์พนมมือขึ้น เขายกมือไหว้ผู้อาวุโสตรงหน้า จนคนโดนไหว้ตกอกตกใจไม่คิดว่าเจ้านายจะมาไหว้ตนเอง

“คุณรัน! โอ้ยไม่ต้องขนาดนี้ค่ะ”

“ไม่ได้หรอกครับ แม่ของคนรักก็เหมือนแม่ของผมนั่นแหละ ขอบคุณจริงๆ ครับ ขอบคุณสำหรับโอกาสครั้งนี้” นิรันดร์ไม่ยอมลดมือลง ป้าออมถอนหายใจแผ่วเบา เธอเอื้อมมือไปรองมือของนิรันดร์ที่ไหว้เธอเอาไว้

“ค่ะคุณรัน” เธอขานตอบแค่นั้น เพราะลึกๆ ก็ไม่ได้มั่นใจกับการตัดสินใจนี้เท่าไหร่นัก...

....100%....

เชียร์ให้คุณรันรีบไปรับน้องมาเร็วๆ พาน้องกลับบ้านแล้วดูแลน้องน้า

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #263 เมื่อ19-07-2019 22:14:13 »

>….ตอนที่ 24 [100%]….<

ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขา...ริทรู้สึกอย่างนั้น

ในทุกๆ วันเขาจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงาน ที่โรงงานมีโอทีเยอะมาก ริทเลือกเข้าโอทีเช้าและเลิกดึกตลอดเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับไปอยู่ที่บ้านน้าสาวในช่วงเย็น บ้านที่เขาเกิด แต่กลับไม่คุ้นเคย

เขาไม่ค่อยได้พูดคุยกับน้าเขยเท่าไหร่ ยิ่งกับหลานสาวยิ่งอยู่ห่างกันมากด้วยน้าเขยไม่อยากให้ลูกสาวมายุ่งกับคนแปลกหน้าอย่างเขา ก็ไม่ผิดอะไร เขาจากบ้านหลังนี้ไปก่อนที่น้าสาวจะมีแฟนคนนี้เสียอีก

ยามที่พวกเขานั่งกินข้าวกัน ไม่ว่าจะมื้อไหน ริทรู้สึกเหมือนกินข้าวอยู่คนเดียว พวกเขาพูดคุยกันในเรื่องของครอบครัว เรื่องของลูกสาว เรื่องการทำงาน บางทีก็ทะเลาะกันตอนดึกๆ บ้านมันชั้นเดียว ห้องนอนก็ห้องเดียว ทำให้น้าทั้งคู่ออกมาเถียงกันนอกห้องตอนลูกสาวหลับ ริทจำต้องทำเป็นหลับไม่ก็ออกไปนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านประจำ

มันเป็นความว้าเหว่อย่างที่สุด ถึงได้คุยกับแม่ทางโทรศัพท์มันก็ไม่ช่วยคลายเหงาให้เขาเลย ริทอยากไปอยู่กับแม่ อยากอยู่ใกล้ๆ แม่จะได้ไม่โดดเดี่ยวแบบนี้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี จะมีก็แต่เพื่อนเก่าจากที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมา คุยกันในเฟซประปราย

ริทเปลี่ยนเฟซ เปลี่ยนเบอร์ตามคำขอของแม่เขา แม่ไม่อยากให้เขาติดต่อกับนิรันดร์อีก เป็นไปได้ก็อยากให้ตัดกันให้ขาดไปเลย ตอนแรกริทคิดว่ามันง่าย นิรันดร์คงไม่ติดต่อเขามาแล้วแม้ว่าจะตกลงคบกันก็ตาม

แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น...

เพียงไม่ถึงอาทิตย์นิรันดร์ก็หาเขาจนเจอ คอยโทรมาหา คอยส่งข้อความมาบอกคิดถึงอยู่ตลอด ริทเลือกที่จะเชื่อฟังแม่ เพราะอยากให้แม่ให้อภัยในสิ่งที่เขาได้ทำพลาดลงไปแล้ว เขาจึงต้องใจแข็งให้ถึงที่สุดเพื่อจะตัดขาดกับนิรันดร์

รู้ไหมมันยากแค่ไหน อยากตอบข้อความ อยากรับสาย แต่ก็ทำไม่ได้ ต้องบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเขาไม่คู่ควรกับนิรันดร์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เขากับนิรันดร์ต่างกันเกินไป มันเป็นเหตุผลโง่ๆ เหตุผลของพวกหัวโบราญแต่มันคือสิ่งเดียวที่ริทพอจะคิดได้

ต้องกล่อมตัวเองทุกวัน อย่าอ่านนะ อย่าตอบข้อความนะ อย่ารับสายนะ มันโคตรยากเลยอะ เพราะรัก เลยอยากจะบอกเหมือนกันว่าเขาเองทั้งรักและคิดถึงนิรันดร์แค่ไหน ฝ่ายนั้นไม่เคยย่อท้อที่จะติดต่อหาเขา แม้เขาจะปฏิเสธโดยการเงียบใส่ นิรันดร์ก็ยังมานะจนริทแทบจะใจอ่อนอยู่แล้ว

ช่วงเวลาแห่งความเดียวดายผ่านไปอย่างเชื่องช้า เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วที่ริทเอาแต่เงียบงัน ไม่ค่อยยิ้มหรือไม่มีเรื่องมาทำให้เขามีความสุข บางทีก็ต้องเริงร่าไปกับเพื่อนร่วมงาน แต่มันโคตรฝืนเลย ริทยิ้มแบบขอไปที ยิ้มเป็นเพียงมารยาทที่ต้องยิ้มไม่งั้นคงทำงานลำบาก พอถึงเวลาเลิกงาน ริทก็จะรีบกลับบ้าน ไม่สุงสิงกับใครเลยหลังเวลาเลิกงานแล้ว

บนท้องถนนที่รถรามีไม่มากนัก ประอาทิย์หายลับไปจากท้องฟ้า แทนที่ด้วยดวงจันทร์ที่ทอแสงสีดวลตาอยู่ท่ามกลางดวงดาวนับล้านดวง ริทเหม่อมมองมัน เพราะรถรับส่งยังมาไม่ถึง

“เห็นว่าวันนี้รถรับส่งเสียกลางทาง สงสัยจะต้องได้กลับเองล่ะมั้งเนี่ย” หญิงสาวข้างกายริทเปรยขึ้นมาเบาๆ

“งั้นเหรอครับ” ริทขานตอบตามมารยาท เธอคนนั้นขยับกายเข้ามาใกล้

“อากาศก็เริ่มหนาวแล้วเนอะ เราเหมาแท็กซี่กลับกันดีไหมริท บ้านริทอยู่เลยบ้านเราไปหน่อยเดียวเองนี่นา” เธอชะโงกหน้าเข้ามามองสบตา ริทยิ้มๆ ให้แล้วก็ส่ายหน้า

“ครับ อากาศหนาวแล้ว แต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่ ผมว่าผมกลับรถสองแถวดีกว่า” แค่รู้สึกว่ามันเปลืองเงินไปหน่อย แต่ริทกลับไม่ได้รู้สึกเลยว่ากำลังโดนหญิงสาวจีบอยู่

“ก็ได้ พี่กลับด้วยนะ” ริทพยักหน้าเบาๆ แล้วก็ทอดสายตาเฝ้ามองรถสองแถว

ด้วยความที่บริษัทมีรถรับส่งอยู่ตลอดเวลา รถสองแถวจึงไม่ค่อยวนเวียนมาแถวนี้เท่าไหร่ ยิ่งเป็นต่างจังหวัดแบบนี้ยิ่งหารถได้ยาก ส่วนใหญ่เขามีรถมอเตอร์ไซก์กันหมด มันสะดวกยามเดินทาง

“เออริท พี่ไม่เห็นริทคุยกับผู้หญิงคนไหนเลย แฟนหวงเหรอจ๊ะ” หญิงสาวหลอกถาม

“เปล่าครับ ผมไม่มีแฟนหรอก” พูดแล้วก็แอบเศร้า เขามีแฟนนะ...แล้วก็เลือกที่จะปฏิเสธแฟนอย่างนิรันดร์ไปแล้ว

“โสดจริงอะ”

“ครับ”

“สนใจรับพี่เอาไว้นอนกอดไหมจ๊ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาตรงๆ ริทชะงักไปเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะโดนจีบไม่ทันตั้งตัว

“เอ่อคือ...”

“พี่ชอบริทมานานแล้วนะ แต่ไม่กล้าคุยด้วยอะ คนมันเขินนี่นา” เธอแสดงท่าทีเขินอายน้อยๆ แต่ริทไม่มองมัน

เขาก็แค่คิด...เขาควรเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนหรือเปล่า?

แต่เขาไม่ได้รักเธอนะ เขาจะเริ่มต้นใหม่กับคนที่เขาไม่รักได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลย คนที่เขาคิดถึง คนที่เขาโหยหา มันยังมีแค่คนเดียวนั่นก็คือนิรันดร์ ไม่รู้ป่านนี้นิรันดร์จะเลิกรักเขาหรือยัง อาจจะมีคนใหม่ก็ได้ คิดว่านิรันดร์หาคนใหม่ไม่ยากหรอก

“ริทไม่ต้องรีบให้คำตอบกับพี่ก็ได้นะจ๊ะ พี่รอได้...” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ รถลีมูซีนสุดหรูสีขาวก็เคลื่อนที่เข้ามาที่ป้ายรอรถโดยสาร

สายตาทุกคู่พุ่งตรงไปที่รถคันนั้นยกเว้นริท เขาไม่ได้ตั้งใจจะมองลีมูซีนสีขาวคันนี้ ก็แค่มันจอดบังทัศนียภาพรอบด้านไปหมด แต่จะว่าไป ก็ไม่คิดว่าจะมีลีมูซีนมาแถวนี้ เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงเจ้าลีที่บ้านนั้น

“โห นี่มันรถอะไรทำใหญ่จัง สวยด้วย คงนั่งสบายน่าดูเลยเนอะ” หญิงสาวข้างกายตาเป็นประกายแวววาว

“ครับ มันนั่งสบาย ข้างในกว้างขวาง ห้องโดยสารนั่งสักหกคนพอดี” ริทว่าไปตามเรื่องตามราว

“ริทรู้จักรถรุ่นนี้เหรอ”

“ไม่เชิงครับ” ก็แค่เดาเอาจากภายนอก คันนี้มันคนละรุ่นกับที่บ้านหลังนั้น แถมสีก็ยังคนละสีอีกต่างหาก

“อยากนั่งจัง...” เธอยังเพ้อต่อไป ริทตั้งใจจะลุกขึ้นเพื่อเดินเลี่ยงไปรอรถสองแถว ขืนนั่งตรงนี้ต่อคงไม่มีรถคันไหนยอมจอดเพราะติดลีมูซีนคันนี้

ร่างโปร่งลุกขึ้น กระชับสายสะพายกระเป๋าเป้ของตนเองเดินเลี่ยงออกไปทางท้ายรถ ขณะที่หญิงสาวยังมองลีมูซีนสีขาวสุดหรูไม่ละสายตา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าริทได้เดินเลี่ยงออกไปแล้ว

ทว่ายังไม่ทันได้เดินเลยท้ายรถ ข้อมือเล็กก็โดนคว้าเอาไว้ด้วยมือใหญ่ ริทแอบตกใจ เขาสะดุ้งและหันไปมองคนที่จับข้อมือของเขาหมายจะบอกให้ปล่อย แต่...เสียงมันกลับหายไปเมื่อเห็นว่าคนที่จับเขาไว้นั้นเป็นใคร

“ริทจะรีบไปไหนครับ...” เสียงทุ้มละมุนที่แสนคุ้นหู แววตาโหยหาของนิรันดร์พุ่งตรงมาที่เขาโดยไม่มีปิดบัง

เขาควรวิ่งหนีไปหรือเปล่า? แล้วใจเขาล่ะ...ใจเขาต้องการอะไร

“ผมมารับริทกลับบ้าน ริทครับ...กลับบ้านเรากันนะ” นิรันดร์ออกแรงดึงข้อมืองของริทให้เข้ามาใกล้ อีกมือเอื้อมไปลูบหัวทุยเบาๆ

“ผม...ผมอยู่บ้านแล้วครับ”

“บ้านของเรา ไม่ใช่บ้านของริทหนิ ผมคุยกับแม่ริทแล้วนะ แม่ริทก็ยอมให้ผมมารับริทแล้วด้วย กลับบ้านกับผมนะครับ” สายตานิรันดร์ช่างเว้าวอน

แล้ว...เขาจะหนีพ้นได้ยังไง

ริทพยักหน้าเบาๆ ไม่รู้ว่านิรันดร์หลอกเขาไหม แต่เขาใจแข็งเงียบใส่อีกฝ่ายได้แค่นี้แหละ ทันทีที่เจอหน้า หัวใจก็ร่ำร้องให้เข้าไปหานิรันดร์ แล้วนิรันดร์มาใช้น้ำเสียงอ้อนวอนแบบนี้เขาจะปฏิเสธลงอีกได้ยังไง เขาทำไม่ได้หรอก ใจของเขามันไม่เคยแข็งพอที่จะต่อกรกับนิรันดร์เลย

นิรันดร์คว้าร่างโปร่งเข้าสู่อ้อมกอดท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองมาอย่างสนอกสนใจ เพราะพวกเขาเห็นว่าชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีคนนี้เดินออกมาจากรถหรูสีขาวตรงหน้า ดูยังไงก็เป็นคนรวย แล้วคนรวยคนนั้นมากอดริทที่ทำงานอยู่ที่นี่เนี่ยนะ เป็นใครก็ต้องสนใจเป็นเรื่องธรรมดา

ต่างกับคนสองคนตรงนี้อย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่สนใจอะไรเลย เอาแต่กระชับอ้อมกอดกันไว้แนบแน่น ปล่อยให้หัวใจสองดวงได้อยู่ใกล้กัน ได้แชร์จังหวะที่แสนระรัวให้กันและกันรับรู้

เมื่อได้กลับสู่อ้อมกอดที่แสนคุ้นเคย น้ำตาก็พลันไหลริน อย่างกับเขาขี้แยมากนัก ก็ได้ ขี้แยก็ขี้แย ริทยอมเป็นเด็กขี้แยในยามนี้ เพราะเขารู้สึกว่าเขาจะไม่โดดเดี่ยวอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว

ถ้าช่วงเวลาที่ห่างจากกันมันเป็นเการลงโทษ ริทก็ได้รับบทลงโทษที่โหดร้ายไม่ใช่น้อย ต้องห่างแม่ ต้องห่างคนที่เขารัก มันทรมานเขามากพอแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้รับการให้อภัยเสียที

นิรันดร์ประครองใบหน้าที่แดงซ่านของเด็กหนุ่มในอ้อมกอด รอยยิ้มของนิรันดร์บ่งบอกได้ชัดว่าเจ้าตัวมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้ริทกลับมา เขาค่อยๆ โน้มเข้าหาแล้วประทับจุมพิตอ่อนหวานให้กับริท ส่งผ่านความรัก ส่งผ่านความคิดถึงอันมากมายให้กับริท

ขณะเดียวกันนิรันดร์ก็รับรู้ได้ว่าริทเองรู้สึกไม่ต่างอะไรกับเขาเลย อาจจะแย่กว่าตรงที่ไม่อาจทำตามหัวใจตัวเองได้ ริทต้องอดทนกับการไม่รับสายเขา ไม่อ่านข้อความเขา มันต้องเหงามากแน่ๆ นิรันดร์เชื่อแบบนั้น

“ปะ กลับกัน...พ่อกับแม่ผมรอริทอยู่” รอยยิ้มแสนสดใส ริทเก้อเขินเพราะเขาเพิ่งทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าคนมากมาย ทว่าคำที่นิรันดร์พูดก็ทำให้เขาแปลกใจ

“คุณท่านกลับมาเหรอครับ” นิรันดร์ประครองเอวริทให้ขึ้นไปบนรถสุดหรู คนขับรถในวันนี้ไม่ใช่คนคุ้นเคยเพราะนิรันดร์จ้างรถของโรงแรมมา

“ใช่ ป้าออมใจแข็งมาก ผมก็เลยโทรไปฟ้องพ่อกับแม่เลย” นิรันดร์พูดเหมือนมันเป็นเรื่องตลก แต่ริทคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย มันกลายเป็นเรื่องจริงจังไปแล้ว

“งี้ท่านก็รู้หมดแล้วสิฮะ”

“ใช่ ก็ดีไม่ใช่เหรอ ป้าออมก็จะได้สบายใจที่เราสองคนคบกันภายใต้การรับรู้ของผู้ใหญ่ ป้าออมห่วงริทมากนะ หวงด้วย ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ริทกลับมาสิ”

“คุณรันลงทุนมากไปแล้วครับ” ริทเขินหน้าแดงก่ำ ก็ใครจะไปคิดว่าคนคนนี้จะจริงจังกับเขาได้มากขนาดนี้กัน แค่ใจตรงกันเขาก็พองฟูไปหมด นี่ยิ่งเหมือนคบกันออกนอกหน้านอกตาไปแล้ว

“ให้รางวัลผมสิ” นิรันดร์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ส่งสายตาอ้อนขอของรางวัลเป็นเด็กๆ

คบเด็กก็ต้องทำตัวลดอายุหน่อยสิ!

“อ่า...” ริทเม้มริมฝีปากเก้อๆ หน้าเน่อแดงจนลามไปถึงหูถึงคอ

แต่เขาก็ทำ...เขาจูบปากนิรันดร์เบาๆ เป็นรางวัลให้คนทุ่มเท

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่รักผม”

“ใครไม่รักก็บ้าแล้ว น่ารักขนาดนี้...” นิรันดร์ไม่ยอมให้ริทถอนริมฝีปากออกง่ายๆ เขาบดปากนุ่มนิ่มนั้นกลับอย่างดูดดื่มจนร่างโปร่งล้มลงบนเบาะหลังรถ

ม่านสีทึบค่อยๆ เลื่อนมาปกปิดรอบด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งระหว่างคนขับและห้องโดยสาร ราวกับว่าคนขับรถเขารู้หน้าที่ตัวเองดี ไม่เหมือนริทในตอนทำงาน ไม่สิ นิรันดร์ไม่ให้ริทปิดม่านระหว่างคนขับกับผู้โดยสารเองนี่นา

จากที่เคยเห็นฉากเรตของเจ้าตัวเองกับคู่ขาลีลาศกันบนรถอย่าเมามัน วันนี้มันกลายเป็นเขาแถมมีคนขับรถคนอื่นมาขับให้อีก ริทไม่ได้เจนจัด ดังนั้นเขาเขินเกินกว่าจะมีอารมณ์ไปยั่วยวนเอาใจให้นิรันดร์มีความสุข มือไม้มันเก้งก้าง เข้งขาก็ดูจะเกะกะไปหมด

แต่ไม่ว่าทุกอย่างจะดูสะเปะสะปะยังไง...ทั้งคู่ก็มีความสุขร่วมกันอยู่ดี

ต่อจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่มีใครรู้ว่าจะดำเนินไปทางไหน แม้แต่นิรันดร์เองก็ยังเดาไม่ได้ว่าเขากับริทจะครองรักนี้ไปได้นานเท่าไหร่ แต่นั่นมันไม่สำคัญเลย ความรักมันไม่ใช่การกำหนดวันเวลาครองรัก แต่ความรักคือความเข้าใจและประคับประครองกันไป

นิรันดร์เชื่อมั่นในตัวริท และเขาเชื่อว่าเขาเปิดใจให้ถูกคนแล้ว ริทเป็นเด็กหนุ่มที่แม้จะมีตัวตนอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว ริทให้ความรู้สึกสบายใจเหมือนไม่มีใครอยู่ทั้งที่มีริทอยู่ข้างๆ นั่นแหละ

“ต่อไปสัญญากับผมนะ มีอะไรขอให้คุยกัน อย่าหนีผมแบบนี้...” นิรันดร์คลอเคลียริมปากอยู่ที่ปากของริท

“ผมสัญญาครับ”

“ดีมาก...เด็กดีของผม”

“คร้าบ ผมเป็นเด็กดีของป๋าครับ” คำพูดคำจาช่างน่าหมั่นเขี้ยว และนิรันดร์ก็พร้อมที่จะฝังเขี้ยวที่ไม่คมเข้าในกายของเด็กหนุ่ม

ฝ่ามือทั้งสองกุมกันยามจังหวะดำเนินต่อไปข้างหน้า รู้ไหม...นี่แหละคือสิ่งสำคัญ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอแค่ทั้งสองยังเลือกจะจับมือกันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทุกปัญหาที่เข้ามามันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเสมอ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน...พิศวงหน่อยๆ เริ่มยังไงอาจไม่มีใครรู้ จบยังไงก็ไม่มีใครรู้

แต่ความสำคัญของมันจริงๆ คือการเดินไปด้วยกันจนกว่าจะถึงวันที่แยกจากกันไป…

….100%….

นี่คือตอนจบของเรื่องนี้ เป็นตอนจบที่เราก็ไม่มั่นใจ เอ่อ…เราไม่เคยมั่นใจไรเล้ย แต่ถึงเราจะไม่มั่นใจในผลงานของเรา แต่เราก็ตั้งใจกับมันมากนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณหลสำหรับคอมเมนต์ต่างๆ นะคะ ขอบคุณมากค่า

ปล.เจออีกทีในบทส่งท้ายนะคะ ^^

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #264 เมื่อ19-07-2019 22:44:25 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #265 เมื่อ19-07-2019 23:30:06 »

ในที่สุดแม่ก็ยอม  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Philosophy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #266 เมื่อ19-07-2019 23:33:23 »

Happy ending  o13 o13

 นิรันดร์เหมือนเด็กมีการโทรไปฟ้องพ่อแม่ด้วย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #267 เมื่อ19-07-2019 23:37:52 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #268 เมื่อ20-07-2019 00:40:13 »

ขอบคุณมากๆนะคะเดธ ที่ผลิตนิยายสนุกๆเรื่องนี้ออกมา ชอบมากเลยค่ะ ต่อไปป๋าก็คงต้องเปย์น้องหนักๆแล้วสิ 55555555

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
«ตอบ #269 เมื่อ20-07-2019 02:08:18 »

 :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด