OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018  (อ่าน 43817 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ladyfern161237

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
  :impress2: โห่ย ชอบเจ๊อ่า คนแมนที่แท้จริง

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นแนวที่หายากมากชอบมากเบยค่ะ เจ๊อย่างแมน 5555555
รอตอนต่อไปเบยคร๊าาา  :hao7:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เจ้รุกคืบ

เจ้รุกฆาต

ออฟไลน์ ChocoPop

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออยู่น้าาา มาต่อไวๆ อยากเห็นเจ๊คนสวยรุกอีก 5555

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5


ตอนที่ 7
I do




Pitchy’s part



ปัง!

“ปิดเบาๆก็สนิทแล้วจ้า”

“อย่าเพิ่งกวนตีน”

“อุ่ย”

ไอ้คนที่นั่งตำแหน่งคนขับทำท่าเป็นสะดุ้งแล้วแอบหันหน้าไปขำเบาๆก่อนออกรถ เดี๋ยวมึงจะโดนกูแดกหัวเดี๋ยวก่อน คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่

“ไปบ้านเลยหรือเปล่า”

“แวะคอนโดเปลี่ยนชุดก่อน” มีหวังไปชุดนี้พ่อได้เป็นลมพอดี

“รับทราบครับ”

ผมเปิดคอนโซลหน้ารถหยิบยางมัดผมที่มีติดรถไว้ขึ้นมามัดขมวดเป็นปมไว้กลางศีรษะ ตอนนี้อะไรก็ดูยุ่งเหยิงน่ารำคาญไปเสียหมด แม้แต่ผมยาวสลวยที่ผมรักนักหนาก็ไม่เว้น

“น้องมันขัดใจอะไรอีกล่ะ”

“เสือก”

“มาทีไรก็เกรี้ยวกราดกลับมาทุกที แต่ก็ยังมาหาเค้าได้ทุกวันเนอะ”

“สาระแน ใครให้เสนอความเห็น”

“ก็แค่พูดลอยๆ”

“หุบปาก”

ขอเวลาจัดการกับอารมณ์ตัวเองสักพักนี่ไม่ได้เลย ไอ้ตัวดีข้างตัวนี่ไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด พูดมากพูดอยู่ได้ ที่สำคัญมันพูดแทงใจดำด้วย

“นี่ผมยังงงอยู่เลยนะว่าพีทชอบอะไรเด็กนั่นน่ะ ดูไม่น่าใช่สเป๊กอ่ะ คนที่น้ำลายหกกับผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามแน่น ไปติดใจอะไรกับเด็กปีหนึ่งตัวกระเปี๊ยก แถมหน้าตาโคตรอ้อยเลย”

“อ้อยพ่องอ่ะ”

“วุ้ย แค่นี้ก็หวง กับน้องกับนุ่งเนอะ”

“รุงรังมึงอ่ะ แล้วรถกูเมื่อไหร่จะคืน ไปไหนมาไหนลำบากเนี่ย” ไอ้พอร์ชมันกระโหลกขับรถไปเสยต้นโกงกางหน้ายุบไปครึ่งคัน แล้วก็ทำตัวลำไยมาตื๊อเอารถผมไปใช้ เมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จก็ไม่รู้ ลำไยไหทองคำเป็นที่สุด

“อีกสักอาทิตย์อ่ะ ลำบากตรงไหนผมก็ไปรับไปส่ง”

“ไปไหนทีก็ต้องโทรเรียก บางทีมึงก็ไม่ว่างกูต้องเรียกแท๊กซี่ไปเอง อากาศก็ร้อน มึงรู้มั้ยแสงยูวีมันทำร้ายผิว”

“เอาน่า ให้น้องนุ่งยืมหน่อย ช่วงนี้กำลังจีบดาวพยาบาลอยู่ จะพาเดินพาขึ้นรถสาธารณะก็ไม่ไหวมั้ยอ่ะ น่า เดี๋ยวน้องได้รถเมื่อไหร่จะรีบคืนนะ”

“ย่ะ”

“ทำไม กลัวน้องน่ารักนั่นเข้าใจผิดหรอ บอกน้องไปยังอ่ะว่าผมเป็นใคร”

“ยัง”

“อ้าว ทำไมอ่ะ มางอนกันนี่ผมไม่เกี่ยวนะเว้ย”

“หึ ไม่สนใจสิไม่ว่า” เอาจริงๆถ้าอิกลูต้ามันทำท่าไม่ชอบใจหรือหึงผมคงรู้สึกดีกว่านี้แล้วรีบอธิบายว่าไอ้พอร์ชเป็นน้อง แต่มันนิ่ง มันไม่สนใจ เหมือนไม่แคร์กันเลยอะ

อยู่ๆให้ไปเอ่ยปากเองก็ดูจะเสร่อเกินไป ผมไม่ทำหรอก

ไม่ถึงสิบนาทีรถก็มาถึงคอนโด ผมขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวโตเดินตามมาด้วย เดินก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ยิกๆยิ้มน้อยยิ้มใหญ่น่าหมั่นไส้จริง

“นั่งรอข้างนอกนี่แหละ อย่านั่งทับลูกสาวกูนะ!” ผมตีไหล่มันที่นั่งลงโดยที่ไม่มองเลยว่าอันนานอนอยู่ที่มุมโซฟา ก่อนเดินเข้าห้องนอนมาเปลี่ยนชุด เลือกเป็นกางเกงยีนกับเสื้อเชิร์ตผ้านิ่มสีขาว ผมก็รวบขึ้นมัดเป็นหางม้า

“ป่ะ”

ไอ้คนที่นั่งจิ้มหน้าจออยู่เงยหน้าขึ้นมองก่อนเลิกคิ้วสูง

“ไม่ลบเครื่องสำอางออกหรอ”

“เออ ลืมเลย” ผมเลยเดินกลับเข้าห้องนอนอีกครั้งเพื่อจัดการใบหน้าของตัวเอง เอาจริงๆพ่อก็รู้แหละว่าผมเป็นแบบไหน เคยดราม่าบ้านแตกกันมาแล้ว ทุกวันนี้ก็พอทำใจยอมรับได้บ้าง แม้จะยังไม่เต็มร้อยก็เถอะ แต่ก็ยอมลงมาเยอะ ผมเลยไม่อยากทำอะไรที่มันดูประเจิดประเจ้อมาก เดี๋ยวจะหัวใจวายตายไปซะก่อน

“เสร็จยัง”

“ใครให้เข้ามา ออกไป”

“นิดหน่อยเอง”

“ไม่ได้ ออกไปเลยไป๊”

“ขี้หวงงงง อยากจะรู้จริ๊งใครจะได้เข้ามาบ้างน้อ น้องที่เทียวไปหาเช้าเย็นเคยได้เข้ามามั้ยน้า”

เสียงโหยหวนน่ารำคาญดังไกลออกไปที่ห้องนั่งเล่น ทำไม ผมจะหวงพื้นที่ส่วนตัวไม่ได้หรอ คนสวยที่ไหนก็มักจะมีเขตแดนเป็นของตัวเองทั้งนั้น อย่างในห้องผมนี่ใครจะนั่งจะเดินไปไหนก็ได้ ยกเว้นห้องนอน หวง!

มีคนเดียวเท่านั้นแหละที่เข้ามาได้

แต่ก็ไม่เคยจะรู้ตัวสักทีว่าสำคัญขนาดไหน

ลำไยที่สุด ขัดใจ

“ป่ะ”

“เค เมื่อกี้น้าตุ่นโทรมาตามแล้ว”

“ก็ไปสิ รออะไร”

“รอพีทมั้ยล่ะคร้าบบบ”









คืนนี้ผมกลับมานอนบ้านเพราะพรุ่งนี้เช้าเป็นวันเกิดของเพ้นท์น้องชายคนเล็กของบ้าน แต่ไม่ใช่พ่อแม่เดียวกันนะครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่ ส่วนพอร์ชกับเพ้นเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ลุงทรงไม่ค่อยว่างหรอกต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ เราสามคนเลยถูกเลี้ยงมาด้วยแม่ของผม

เรียกได้ว่าโตด้วยกันมาจากเต้าเดียวกัน

เรียกได้ว่าพอร์ชกับเพ้นท์เล่นหุ่นยนต์เล่น ผมก็เล่นนะ เอาหุ่นยนต์มาเป็นบอดี้การ์ดให้เหล่าเจ้าหญิงน้อยๆของผม

“อุ้ย หลีหล่น!” ตกใจกับเงาตะคุ่มๆที่อยู่ตรงมุมบันไดขั้นบนสุด พอเพ่งมองดีๆถึงเห็นว่าเป็นใคร นึกว่าผีไม่มีหัว “พ่อ”

พ่อพยักหน้าเดินสวนลงมา

“เพิ่งกลับมาถึงหรอ”

“ครับ” นี่พยายามเก๊กเสียงให้ทุ้มสุดชีวิต ก็รู้แหละว่าพ่อจับโป๊ะได้นานแล้ว แต่ก็เกรงใจนิ๊ดนึงอ่ะนะ

“ไปพักผ่อนไป พรุ่งนี้อย่าตื่นสายล่ะ”

“ครับ”

“อืม”

เมื่อพ่อพยักหน้าแบบนั้น ผมเลยเบี่ยงตัวเพื่อเดินขึ้นไปบนบ้าน แต่ในจังหวะที่เดินสวนกันเสียงทุ้มมากด้วยอำนาจก็ดังขึ้นให้ผมเสียวสันหลัง แล้วซอยเท้าก้าวถี่ขึ้น นี่ถ้ากระโดดข้ามทีเดียวสามขั้นได้คงทำไปแล้ว

แต่ไม่ได้ไง มันขัดต่อภาพลักษณ์กุลสตรีที่แสนเรียบร้อย...

“เห็นภาพงานวันนี้ จะแต่งตัวอะไรก็ดูให้เหมาะสมหน่อยนะ”




ปัง

หลังจากสอดตัวเข้ามาในห้องและปิดประตูลง แผ่นหลังพิงประตูแล้วก็พรูลมหายใจออกมา

เชิญคุณลงทัณฑ์บรรชา จนสมอุราจนสาแก่จายยยย

โอเค โศรยาต้องหยุดโศกาก่อน คุณหฤษฎิ์ก็บ่นเราทุกครั้งที่ออกอิเวนท์อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ

แต่ใครหนอใครช่างเอภาพเอาคลิปมาให้พ่อผมดูอยู่นั่น

กะให้หัวใจวายตายหรือยังไงกัน ตายไปก็ไม่ได้สมบัติหรอกนะเพราะผมรอฮุบอยู่ บอกไว้เลย!

ก็หารายได้ส่งเด็ก เลี้ยงผู้ชายเนอะ ค่าเปย์ผู้ชาย ค่าดูแลผิวพรรณมันก็ไม่น้อยนะค๊า

ก็อยากจะขอโทษเจ้าคุณพ่อที่ทำให้ผิดหวังในความเป็นตัวผม

ติ๊ดๆ

ใครทักมาดึกดื่น ก็ว่าลบสติ๊กเกอร์ไลน์ฟรีไปหมดแล้วนะ



‘ถึงบ้านหรือยัง’



หือ อิกลูต้าหน้าหวานของผม ฝนจะตกลงมาเป็นลูกหมาซะมั้ง อยู่ๆทักมาเนี่ย

ผมรีบเข้าโปรแกรมไลน์ตอบกลับทันที



‘ถึงแล้ว’




และยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา ผมก็กดวีดีโอคอลไปหาก่อน รออยู่นานจนสายเกือบตัดอีกฝ่ายถึงจะกดรับ

ลีลาท่ามากได้ตลอดจริงๆ

‘โทรมาทำไม’

มัดจุกหน้าเอ๋อเชียว ทำปากบุยๆน่าจับมาบี้จูบแรงๆ

“ทำไรอยู่”

‘กำลังจะนอน’

“ทำรายงานไปถึงไหนแล้ว”

‘เอ่อ...’

แค่เห็นหน้าอึกอักผ่านจอผมก็กรอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย ยังไม่ได้ทำน่ะสิอีหน้าแบบนี้

“ทำไมขี้เกียจ”

‘เขียนบทนำไปแล้ว ที่เหลือพรุ่งนี้ค่อยทำ ง่วงแล้ว’

“เดี๋ยวก็ทำชุ่ยๆอีก เกิดมาหน้าตาอัปลักษณ์เนื้อสมองน้อยแล้วยังจะสันหลังยาวอีก”

‘บ่นจริง น่ารำคาญอ่ะ’

ริมฝีปากเล็กจุ๋มจิ๋มงึมงำจนแทบจับเป็นประโยคไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าผมถึงฟังรู้เรื่อง

พอๆกับไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงตกหลุมรักอิเด็กน้อยหน้าขาวปากแดงเป็นตูดลิงแสมลพบุรี

มันโคตรจะคนละไทป์กับแบบที่ผมชอบ ไม่สูงไม่ล่ำไม่แม้แต่จะหำใหญ่

รูปร่างหน้าตาออกไปทางหมากระเป๋า แถมยังโง่อีก ขัดใจไปเสียทุกอย่าง

ขัดใจเดี๊ยนเนี่ย ทำไมจากที่คิดว่าจะได้ผัวหน้าพี่เวียร์ ดันได้เมียหน้าหมาปั๊ก เฮ้อ

“รำคาญให้ตลอด ง่วงก็ไปนอน อย่าให้รู้ว่าแอบเล่นเกม”

‘เออน่า’

มาทำเสียงจิ๊จ๊ะน่าจับมาหวดน่องด้วยไม้มะยมสักทีสองที ทำไมดื้อแบบนี้นะ

แล้วผมก็ต้องแปลกใจกับไอ้เด็กกระโปกอีก เมื่อมันไม่ได้ตัดสายไปเหมือนทุกที ซ้ำสายตายังสาดส่องมองอะไรอยู่นั่น

ผมหันไปด้านหลังตัวเองตามสายตาของคนปลายสาย

อะไร อย่าบอกนะพ่อเลี้ยงกุมารแล้วมันมาเพ่นพ่านในห้องผมน่ะ กรี๊ดแตกจริงๆนะ

“มองอะไรยะ”

‘ปะเปล่า...’

“ไม่ได้เห็นเอ่อ...อะไรแปลกๆใช่มั้ย...”

‘แล้วซ่อนอะไรไว้ล่ะ’

“กรี๊ดดด เห็นหรอ!” ไม่ได้แล้ว ผมต้องไปบอกพ่อ ว่าให้ไปสร้างบ้านใหม่ให้กุมารอยู่ จะมาเลี้ยงในบ้านเดียวกันแบบนี้ไม่ได้!

‘นี่กรี๊ดทำไมเนี่ย’

“กก็มึง...เห็น เอ่อ สิ่งลี้ลับ...งือ กูบอกพ่อแล้วนะว่าอย่าเอาเข้ามา ฮือ” ผมมองซ้ายขวาตาหลุกหลิก จับเอาปลายผมมาขบกัดเพื่อระบายความหวาดหวั่นในใจ

‘เจ๊อยู่บ้านหรอ’ มันหยุดทำตายื่นตายาวไปด้านหลังแล้วหันมามองหน้ากัน เอ่อแสดงว่าไปแล้วใช่มั้ย

“อืม พรุ่งนี้วันเกิดน้องชาย บ้านมีกินเลี้ยง มะมึงไม่เห็นแล้วใช่ป่ะ” ผมจะร้องแล้วจริงๆนะเว้ย

แล้วนี่มึงยิ้มทำไม มะไม่ใช่มันมานั่งแกว่งเท้าอยู่บนไหล่ผมนะ ไม่นะ อย่ามองแบบนั้นสิอิกลูต้า เดี๋ยวตบตาหลุดเลย

‘หะๆ งั้นไปนอนแล้วนะ’

ทำไมต้องทำหน้าอารมณ์ดีเกินเบอร์ มึงจะแก้แค้นกูโดยการปล่อยกูไว้กับผีใช่มั้ย!

“ไม่! อยู่เป็นเพื่อนกูก่...”

ติ๊ด

แล้วภาพใบหน้าไอ้เด็กลิงแสมก็หายไปจากหน้าจอ เหลือไว้เพียงตัวเลขที่ปรากฎระยะเวลาที่คุยกัน

อะเด็กบ้า! ทิ้งกันได้ไง! พรุ่งนี้กูจะไปตามทบต้นทบดอกให้หายแค้นเลย งือ คืนนี้ลากหมอนไปนอนห้องพระแล้วกัน สาธุ







Guitar’s part



ฟู่ววว

ทำไมต้องโล่งใจแปลกๆด้วยนะที่รู้ว่าอิเจ๊มันติดธุระกับที่บ้าน ไม่ใช่ เดต...

ฮ้าฮา ตาแจ้งสมองโล่งขึ้นมาแล้วสิ นั่งแก้รายงานสักหน่อยดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ไม่ไฟลนก้นมาก

แค่นี้ก็จี้ตูดจนร้อนไปหมดละ

ผมนั่งทำงานจนเวลาล่วงไปนานแค่ไหนก็ไม่อาจทราบได้ พอรู้ตัวอีกทีแสงแดดสีส้มอ่อนก็ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามา โห อเมซิ่งจิงเกอเบล ผมสามารถนั่งทำงานได้หกชั่วโมงติดกัน พ่อแม่ควรเอาน้ำแดงกับซาลาเปาไส้หวานไปแก้บนที่ยอดปลวกหลังบ้านแล้วล่ะ

จากเด็กขี้ขนหลังยาวกว่าต้นมะพร้าว กลายเป็นหนุ่มหล่อผู้เคร่งขรึมกร๊าวใจ

แหม่ เรานี่เวลาจริงจังกับงานก็ดูหล่อใช่เล่น อิอิ

โครกกก

โอย แต่พอหลุดจากภวังค์ของงานตรงหน้า หนังตาก็โคตรหนัก แถมท้องยังร้องโครกคราก เลยบิดขี้เกียจสามที ซ้าย ขวา ซ้าย ฮึบ แล้วลากสังขารเดินไปยังตู้เย็น มีอะไรกินบ้างว้า เช้าตรู่แบบนี้ใกล้ๆหอก็พอมีของขายบ้างอ่ะนะ โจ๊ก น้ำเต้าหู้ หมูปิ้ง อาหารเช้ายอดฮิต แต่ผมขี้เกียจอ่ะ อยากยัดอะไรก็ได้ลงท้องแล้วนอนเลย

แล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเปิดตู้เย็นที่ทำใจว่าคงมีแค่น้ำเปล่ากับไข่ฟองสองฟองเหมือนอย่างทุกครั้ง กลับพบกับของกินมากมายที่อัดแน่นเต็มตู้เย็น

อาหารแช่แข็งในช่องฟรีซ ไล่ชั้นลงมาเป็นพวกผลไม้สดจำพวกองุ่น แอปเปิ้ล ส้ม ชั้นล่างสุดเป็นขนมขบเคี้ยว อะไรคือห่อโปเต้ก็เอามาแช่เย็นด้วย ไล่ไปยังฝาตู้เย็นข้างขวดน้ำเปล่าจะเป็นบรรดานมรสจืด ช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ แม้แต่นมถั่วเหลืองก็ยังมี

ไม่ต้องเปิดไพ่ให้เสียเวลาก็รู้ว่ามาจากฝีมือใคร

นี่คิดว่าห้องผมน้ำท่วมหรือไง ถึงซื้อของมาตุนให้เยอะขนาดนี้ นี่ถ้ามีข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่าละใช่เลย  ถุงยังชีพชัดๆ

โอ๊ย แล้วพูดไม่ทันขาดคำ เพราะเมื่อผมเปิดกล่องลิ้นชักลายริลัคคุมัคที่สะสมแสตมป์เซเว่นอย่างบ้าคลั่งเพื่อแลกมันมาก็เจอเข้ากับมาม่าหลากหลายรสชาติทั้งไทยและเกาหลี แล้วยังจะปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋องยังมีอ่ะ เอ้า ยอมเค้าเลย

บ้านใครน้ำท่วมมาห้องผมได้นะครับ ดูแล้วเป็นศูนย์หลบภัยไปได้หลายวัน

ผมเลือกเกี๊ยวน้ำออกมาเวฟ ได้กินอะไรร้อนๆหลังจากที่อดนอนมาทั้งคืนแล้วรู้สึกดีเป็นบ้า

หลังจากซัดมื้อเช้าเสร็จ ผมก็เคร้งลงเตียง และหลังจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย เรียกว่าสมองชัตดาวน์เหมือนคอมพิวเตอร์แบตเสื่อมตอนโดนดึงปลั๊กออก





ครืด ครืด

งืมๆ

ใครโทรมาว้า ง่วงโว้ยยยยยย

มือผมควานเปะปะไปยังโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะคว้าวัตถุที่สั่นครืดๆขึ้นมา

“โหล”

ครืดดด

งืออ ทำไมสั่นใส่หูกู!

ดึงขึ้นมาก่อนหยีตาดู

อ่อ ยังไม่ได้กดรับอ่ะ

ติ๊ด

“โหล”

‘ไอ้ตาร์’

“เออ”

‘ยังไม่ตื่นหรอวะ’

“อืม”

‘ตื่นๆ ไปหอสมุดกลางกัน’

“ไม่ไป จะนอน”

ติ๊ดๆ

โอ๊ย มึงเข้าใจคำว่าจะนอนมั้ย มึงต้องวางสาย ไม่ใช่กดขอวิดีโอคอล!

“กูง่วง!” ผมกดรับคำขอ ทันทีที่หน้าไอ้แฟ้มโผล่มาบนหน้าจอ ผมก็ตีหน้าบึ้งทันที

‘ไหนเมื่อวานบอกจะไปหอสมุดกลางอ่ะ กูก็จะไปเนี่ย ลุกเลย ไปด้วยกัน’

“ไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไป” ผมว่างัวเงียพลางบี้หน้าลงบนหมอน

“ไม่ได้ อีกครึ่งชั่วโมงกูไปรับ ตามนี้”

แล้วมันก็วางสายไป ทิ้งให้ผมนอนหลั่งน้ำตาท่วมหมอน ถ้าราขึ้นก็โทษไอ้แฟ้มคนเดียวเลย

เกิดเฮี้ยนห่าไรขึ้นมา ทุกทีกูเห็นมึงขี้เกียจจะตาย!

ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ขออีกสิบนาทีก็แล้วกัน ฮือ











สุดท้ายสิบนาทีก็ลากยาวไปเป็นชั่วโมง ไอ้แฟ้มด่ายาวจนผมต้องกดตัดสายหนี สรุปว่ามันไปก่อน แล้วให้ผมตามไปทีหลัง

ทั้งที่ขี่รถมาถึงหน้าหอผมแล้วนะ บอกให้ขึ้นมารอบนห้องขอแต่งตัวแป๊บเดียวก็ไม่ยอม

รีบไปตายที่ไหนวะ

ผมเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำทั้งที่หัวยังหนักอึ้งและมึนขั้นสุด ฮือ ใครมาแอบเอาขี้เลื่อยกูออกแล้วยัดหินเข้ามาแทนวะ ปวดหัวเว้ยยย

พอได้น้ำเย็นราดหัวก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา เดินขยี้ผมออกมาจากห้องน้ำพลางเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา บ่ายโมงแล้วหรอวะ ตายโหง วันนี้หอสมุดกลางปิดบ่ายสามโมงเย็น

รีบเลยกู รีบเลยกู ดีนะอิเจ๊ลิสต์รายชื่อหนังสือไว้ให้แล้ว

พูดถึงก็หายไปเลยเนี่ย จมเค้กวันเกิดตายไปแล้วมั้ง ปกติต้องทักต้องโทรมากวน นี่แม้แต่สติ๊กเกอร์หน้ามาดามมดที่ส่งมาเป็นประจำก็ไม่มี เฮอะ! ไปวันเกิดน้องชายจริงเปล่าเหอะ

แล้วกูจะมาฟุ้งเรื่องอิเจ๊ทำไมล่ะเนี่ยยยยยยย

ผมรีบแต่งตัว กวาดของลงเป้หนังสีน้ำตาลใบโปรดแล้วลงไปยังลานจอดรถของหอ อืม ให้ตายเถอะ ลืมใส่เสื้อคลุมแขนยาวมา แดดโคตรร้อนเลย กูจะละลายกลายเป็นผุยผงก่อนถึงที่หมายมั้ยวะ

บนงึมงำแต่สุดท้ายเพราะความขี้เกียจก็ตัดสินใจออกมาทั้งอย่างนั้น ระหว่างขี่รถเห็นคนที่ผมติดหนี้บุญคุณเขาไว้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ยืนกระสับกระส่ายหน้าเคร่งอยู่ข้างถนน ผมเลยเปิดไฟเลี้ยวแล้วชะลอรถจอดลงข้างๆพี่เขา

“พี่เต้”

“อ้าว น้องตาร์”

“รถเป็นไรอ่ะครับ” ผมมองไปที่รถยนต์คันสีขาว

“ยางแตกน่ะ เซ็งเลย แต่เรียกช่างแล้วล่ะ” ปัญหาเหมือนได้รับการแก้ไขแล้วแต่หน้าตาเจ้าตัวดูไม่คลายความเครียดลงเลย

“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ” พี่เต้มองหน้าผมอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา

“คือความจริงพี่มีสอบน่ะ โทรให้เพื่อนมารับแล้ว แต่ไม่รู้ว่ากว่ามันจะมา จะไปเข้าสอบกันทันมั้ย”

อืม แพทย์เขาเรียนเขาสอบไม่เหมือนคณะอื่นอ่ะเนอะ

“งั้นผมไปส่งมั้ย แอร์ไม่เย็นเหมือนรถยนต์ แต่ไปสอบทันแน่นอน”

“ได้หรอครับ รบกวนน้องตาร์หรือเปล่า”

“สบายมาก ขึ้นมาเลยครับ” ผมขยับตัวไปด้านหน้านิดหน่อยเพื่อให้พี่เต้ขึ้นมาซ้อน อีกฝ่ายหายเข้าไปในรถแป๊บนึงก่อนออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายข้าง พอขึ้นซ้อนวิญญาณนักบิดฟอมูล่าวันก็เข้าสิง ถึงจะเป็นแค่ฮอนด้าสกูปปี้ แต่พาสารถีไปสอบทันแน่นอนจ้า

ในที่สุดผมก็พาพี่เต้มาสอบทัน แต่กว่าจะถึงก็เล่นเอาเหงื่อตก

พี่เต้อ่ะเหงื่อออกเพราะแดดเผา แต่ตัวเรานี่สิ...เหมือนชาวนากับกูเห่าชัดๆ

อะไรคือผมช่วยพี่ แต่พี่หลอกแต๊ะอั๋งโผ้มมมมมมม

เดี๋ยวเกาะบ่า เดี๋ยวจับเอว แรกๆก็ว่าพี่เค้าคงไม่ชิน คงกลัวตก โอเค ยอมรับได้

แต่หลังๆมีลูบๆไล้ๆนี่ไม่ใช่แล้วโว้ยยยยยยย

นี่ถ้าไม่รีบลงไปมีถีบนะเออ

“ขอบใจน้องตาร์มากนะครับที่มาส่ง”

“ครับ พี่รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน”

“มีห่วงด้วย น่ารักจัง” ไล่ต่างหากโว้ย

“ผมไปก่อนนะ”

“ครับ เอาไว้พี่เลี้ยงข้าวตอบแทนนะ”

“เห้ย ไม่เป็นไร นิดเดียวเอง” ถือว่าหายกัน เพราะผมก็เอาชื่อพี่มาแอบอ้างบ่อยๆ

“ตกลงตามนี้ เดี๋ยวพี่ไปก่อน จุ๊บครับ”

โฮ ไม่ฟังกูเลย แล้วมาทำปากจู๋อีก จุ๊บเจิ๊บอะไรล่ะ ขนลุกเว้ย





กว่าผมจะมาถึงหอสมุดก็ล่อไปบ่ายสองกว่าๆ โทรหาไอ้แฟ้มก็ได้ความว่านั่งอยู่ชั้นสอง ผมขึ้นไปพลางกวาดสายตามองหาก็เจอเจ้าตัวที่ยกรักแร้โบกมือไหวๆอยู่

เออ เห็นแล้ว

“ช้า”

“เออน่า อ้าว หวัดดีครับพี่อ้อนน้อย” ผมขมวดคิ้วงงว่าพี่เขามาอยู่นี่ได้ยังไง หันไปเลิกคิ้วใส่ไอ้แฟ้ม ผมว่าได้กลิ่นตุๆ

“อ้อนขอตามมา”

“ไม่ได้อ้อน แฟ้มต่างหากตามพี่มาเอง!”

ตกลงอ้อนนี่คือคำกิริยาไม่ใช่นาม ถูกม๊ะ

“รู้หรอกว่าอยากให้มาด้วย”

“ไม่เคย”

เอ่อ ผมว่าผมได้กลิ่นผัวเมียแปลกๆ หรี่ตามองอย่างคนขี้เผือก เรื่องเรียนไม่ค่อยขยัน แต่เรื่องมันกูต้องยุ่ง!

แล้วที่จิกกูเป็นไก่นี่ความจริงผีเด็กเรียนไม่ได้เข้าสิงถูกมั้ย ผีขุนแผนนี่เอง

หึ เพื่อนแฟ้ม เราต้องมีหลังไมค์กันแล้วล่ะ

“อ่ะแฮ่ม ตามสบายนะ ไม่ต้องสนใจกูหรอก เฮ้ย กูอยู่ได้จริงๆ ไม่เป็นไรๆ” ผมวางกระเป๋าเป้ ยกมือขึ้นโบก อีกมือทาบอกเป็นเชิงเจ็บปวดมากมาย เลยโดนยางลบปาใส่ เฮ้ย โดนหน้าผากดังแปะเลย เจ็บนะ

“ไหนจะไปยืมหนังสืออ่ะ ไปดิ เดี๋ยวก็หมดเวลายืมหรอก”

“โอเค เพื่อนแฟ้ม กูรู้มึงเป็นห่วง กลัวกูยืมหนังสือไม่ทัน ไม่ได้คิดจะไล่ เข้าใจๆ”

แล้วก่อนที่อะไรๆจะลอยมาอีก ผมก็เผ่นแนบ โหย แซวนิดแซวหน่อยทำเกรี้ยวกราด ได้ทีกูก็ต้องขี่แพะไล่ป่าวอ่ะ ทีมึงยังเล่นกูเป็นเดือนๆ

ผมไปที่คอมพิวเตอร์ของหอสมุดเพื่อดูว่าหนังสือที่ต้องการเลขที่อะไร อยู่ชั้นไหน เพื่อสะดวกต่อการหา ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงผมก็ได้หนังสือทั้งหมดมาไว้ในมือ ไปทำเรื่องยืมกับบรรณารักษ์แล้วหอบหนังสือที่หนาเท่าตึกสามชั้นกลับมาที่โต๊ะ

“โห เดี๋ยวนี้อินเตอร์ อ่านหนังสือภาษาปะกิด” กูอยากอ่านซะที่ไหนล่ะ โง่จะตาย ขนาดอ่านภาษาบ้านเกิดยังไม่ค่อยเข้าใจเลย

แต่เพราะเนื้อหาที่ต้องการไม่มีในหนังสือภาษาไทยไง ฮือ ชีวิต

“แล้วไปไหนต่อ” ผมถาม ใกล้บ่ายสาม หอสมุดจะปิดละ

“อ้อนไปไหน” แฟ้ม จู๋มึงผูกติดกับพี่เค้าหรอ!

“เดี๋ยวจะไปทำงานห้องพิชชี่ต่อ เออแล้วก็...” พี่อ้อนน้อยหันมาสบตากับผม ง่อวววว ทำไมตาพี่เค้าสวยจัง “พิชบอกว่าให้ตาร์ไปด้วย”

“หะหา? เกี่ยวไรกับผมอ่ะ” แล้วเจ๊รู้ได้ไงอ่ะว่าผมอยู่ด้วย

“ไม่รู้อ่ะ พิชบอกที่นัดกันเมื่อวานเปลี่ยนเป็นไปที่ห้องพิชเลยแล้วกัน”

อ่อ สงสัยที่เจ๊บอกเสร็จธุระแล้วจะมาช่วยดูรายงาน ตะแต่! ไปบอกคนอื่นว่านัดกันแบบนี้ก็สงสัยกันหมดสิ! อิเจ๊บ้าเอ้ย

“พะพอดีผมบังเอิญเจอเจ๊ที่มหาลัย เจ๊รู้เรื่องที่รายงานผมโดนตีกลับ เลยเอ่ยปากจะช่วย”

“ยังไม่ได้ถาม”

กูอยากบอกไงไอ้เชี่ยแฟ้ม! อย่าขัดดิ เดี๋ยวมีพิรุธ

“พิชก็แบบนี้แหละ ใจดีกับทุกคน งั้นเราไปกันเลยเนอะ”

“ครับ”

จะทำไงได้ล่ะ ปฎิเสธก็เดี๋ยวจะดูมีพิรุธไปใหญ่ เลยได้แต่เก็บกระเป๋า เดินตามพี่อ้อนน้อยไป

“เดี๋ยวผมแยกไป รถผมอยู่ทางนี้”

“งั้นพี่รอข้างหน้านะ”

“ไม่ต้องรอครับ พี่เอารถยนต์มาใช่มั้ย เจอกันที่คอนโดเจ๊พิชเลย” มาขับรอผม คันหลังบีบแตรไล่พอดี

“อ้าว เรา...”

พี่อ้อนน้อยทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไอ้แฟ้มจับแขนไว้ซะก่อน

“ไปกันเถอะ เฮ้ย กูไปกับอ้อนนะ”

“เออ”

ผู้หญิงกับเพื่อน มึงก็ไม่เลือกกูหรอก ชิ

แต่พี่อ้อนน้อยไม่ใช่ผู้หญิงนี่หว่า เหอๆ

 












#เมียตุ๊ด


















ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
วงวารเจ๊พิช55555555

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ทำไมนะ. ทำไมไม่ปฏิเสธเต้ไปให้ชัดๆ. 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ้าว น้องกลูต้า

ไม่รักนวลสงวนตัวเลย

มีผัวแล้ว ไปให้คนอื่นลวนลามทำไม

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ขออัญเชิญอิพี่เต้ไปไกลๆจ้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อิเจ๊พิช น่ะรู้ตัวว่ารักชอบตาร์แล้ว  :impress2:
ตามมาดูแลทั้งเรื่องทำรายงาน ทั้งเรื่องอาหารการกิน  :mew1:

ตาร์เอง ก็ชอบๆเจ๊แล้ว กลัวเจ๊ไปแอบเดทกับหนุ่ม  :mew2:
พอวิดีโอคอลถึงได้ตายื่นตายาวส่องภายในห้อง
จนเจ๊กลัวว่าจะมีสิ่งลึ้ลับในห้องไปซ้า  :serius2:

พิช ตาร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแแก้ที่ผิดนะ
เชิญคุณลงทัณฑ์บรรชา ------  บัญชา
ผมก็เคร้ง ลงเตียง -----  เคล้ง

ออฟไลน์ yumenari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ฮือ ดีต่อใจจจ

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
รอเจ๊กับน้องกลูต้า

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รอเจ้กับน้องต้านะคะ><

ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ๋า~ เฮียพีท!//โดนตบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yumenari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ฮือเมื่อไหร่จะมา

อ่านทวนไปหลายรอบแล้วววว

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เจ๊พิชชี่น่ารักมาก โดยนิสัยแล้วเจ้ชอบเป็นฝ่ายดูแล เหมาะสมแล้วกับน้องตาร์
รออ่านอยู่นะคะ คิดถึงคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ ชอบมากกกอ่ะค่าาา
น้องต้าร์เอ้ยยยย ชอบเจ๊แล้วอะดิ อิอิ

ออฟไลน์ nooluk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งมาอ่าน ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เมื่อไรจะมาาา รอน้องต้าร์กะเจ้พิชนานแว้ววว

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5


ตอนที่ 8
I can't stand it anymore




“เฮ้ย อิเจ๊ ลากมาทำไมเนี่ย”

โอ๊ย ลากมาทำไมเนี่ย คนอื่นสงสัยกันหมด ภาวนาให้รายงานนรกแตกดูดวิญญาณทุกคนเอาไว้ อย่าให้เงยหน้าขึ้นมาสนใจผมเลย ฮือ

อิเจ๊ลากผมเข้ามาในครัว เปิดตู้เย็น แล้วจับหน้าผมมุดเข้าไปในนั้นทำทีว่ากำลังคุ้ยหาของกินอยู่

โป๊ก

ตู้เย็นมึงแข็งและเย็นได้มาตรฐาน มอก. สปช. หัวกูได้พิสูจน์แล้ว ฮือ

จับหัวตูโขกฝาตู้เย็นตะมายยยยย

“อิโง่”

“อะไรเนี่ยเจ๊” หัวยังเจ็บไม่หาย มันเอานิ้วมาจิ้มๆหน้าผากผมย้ำๆจนศีรษะด้านหลังโขกฝ้าตู้เย็นซ้ำๆ

แล้วพอจะยืดตัวขึ้น มันก็จิกผมของผมลงมามุดไอ้เครื่องทำความเย็นนี่ใหม่ โอ๊ยยยยย นี่ตาร์สุดหล่อ ไม่ใช่ไอติม ไม่ต้องกลัวละลายโว้ย

“โง่เอง แล้วอย่ามางอแงกับกูทีหลังนะ”

“โง่ไร แค่ให้ช่วยทำรายงานนิดหน่อย อย่ามาเบ่งนะเฟ้ยย” ผมเอาฝ่ามือไปบี้หน้าอิเจ๊แล้ววินาทีต่อมาก็ถูกปัดออก สิวขึ้นแน่ หึๆ

“มึงพาใครมาห้องกู”

“เอ๊า ก็พี่อ้อนน้อยไง พี่เค้าบอกว่ามึงให้มา” ผมทำหน้างงใส่

“อีกคนล่ะ”

“กะก็ไอ้แฟ้ม...เอ้ย ขอโทษนะเจ๊ ลืมถามก่อน แต่ผมไม่ได้พามานะ นู่น มันมากับพี่อ้อนน้อย” ขอโทษนะพี่อ้อน... ผมขอโยนขี้ไปให้หน่อย ลืมเลยว่าอิเจ๊มันหวงพื้นที่ส่วนตัว T^T

“ไม่ใช่แบบนั้นเว้ย โอ๊ย นี่ร่างจำแลงของควายมูร่าห์ใช่ป่ะ”

“โอ๊ย” อย่าบิดแก้ม ฮือ “ก็อะไรล่ะ อย่ามายึกยัก”

“ก็เพื่อนมึงคนนี้ไม่ใช่หรือไงที่มาส่งอาหารห้องกูครั้งก่อนหน้านู้นน่ะ”

“ก็ใช่ แล้ว...อ๊ะ!”

ผมนึกออกแล้ว แง้ ผมรู้แล้วว่าทำไมไอ้แฟ้มมันถึงมองผมแปลกๆตั้งแต่เข้ามาในห้อง

ตอนแรกก็โทษความโง่เง่าของตัวเองที่พาสารร่างขึ้นมายังห้องอิเจ๊ด้วยตัวเองคนเดียว แต่ดูเหหมือนคนอื่นก็ไม่ได้สงสัยอะไรที่ผมรู้สถานที่ตั้งคอนโดอิเจ๊

ยกเว้นไอ้แฟ้มที่เหลือบมองผมแปลกๆเป็นระยะ

แต่คิดข้อแก้ตัวเอาไว้แล้วนะว่าถ้ามันถามว่ามาห้องอิเจ๊ถูกได้ไง ก็จะตอบว่าให้อิเจ๊ส่งโลเคชั่นให้ แล้วที่มีไลน์กันเพราะอิเจ๊อาสาช่วยเหลือเรื่องรายงานเลยแอดไลน์กันไว้

แต่นี่เป็นไง จบเลย

“ฮือ ทำไงดีอ่ะเจ๊”

ยังจำสายตาของไอ้แฟ้มวันนั้นได้ดีว่ามันมองทะลุปุโปร่งแค่ไหนว่าผมผ่านอะไรมา

“ทำตัวเฉยๆ”

“ตะแต่”

“บางทีมันอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ เหมือนมึงไง” สายตาดูแคลนนี่คืออะไร โฮ

“มึงว่างั้นหรอ...”

โป๊ก

“พูดไม่เพราะ”

“ใช่เวลามั้ยนิ”

“แล้วไงใครแคร์ โนสนอยู่แล้ว”

“ไม่สนแล้วตีกูทำไม T^T”

“ก็ลำไยมึงจะมางอแงไง ไป ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นสงสัย”

“เอ้ย เดี๋ยวดิเจ๊ แล้วทำไงอ่ะ ถ้าไอ้แฟ้มรู้ ถะถ้ามันสงสัยเรื่องเรา...” ผมคว้าต้นแขนไว้ กระวนกระวายจนเหงื่อตก

“บางเรื่องก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปป่ะ แล้วกูก็คิดว่าตัวเองมีดีพอที่ทำให้มึงไม่อายใคร”

อิเจ๊หันมาตอบด้วยใบหน้านิ่งๆแล้วคว้ากล่ององุ่นเดินออกไป

มันเป็นประโยคที่ฟังเหมือนจะดูดี แต่ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นสักนิด





ผมเดินกลับไปนั่งทำงานในห้องนั่งเล่น นั่งหันหลังให้พวกเจ๊ดอกขจร แบบพวกเจ๊ปีสี่ก็นั่งล้อมโต๊ะกระจกบนพื้นพรมส่วนผมก็นั่งหันหลังชนกับอิเจ๊และใช้โซฟาเป็นโต๊ะเพื่อวางแล็ปท็อปพิมพ์งาน

ส่วนไอ้แฟ้มก็นั่งเล่นเกมในมือถืออยู่ใกล้ๆพี่อ้อนน้อย ดูเหมือนมันจะไม่สนใจอะไรผมอีก

ซึ่งก็ดีแล้ว

“เหม่ออะไร ทำงาน”

“อืม อย่ายุ่งดิ”

ผมกระซิบตอบ อย่ามาจอแจ เดี๋ยวคนอื่นสงสัย

พอผมทำท่าแบบนั้น ไม่รู้มันหมั่นเขี้ยวหรืออะไรสอดแขนเข้ามาที่เอวผมแล้วใช้มือบีบปั้นพุง งือ มาบีบพุงกะทิเค้าทำไม เฮอะ ไม่มีแล้วมาทำเป็นอิจฉา

“ปล่อยเลย”

“สะดีดสะดิ้งนัก เดี๋ยวก็โดนหรอก...” ร่างขาวกว่าเอียงตัวโน้มมาพร้อมกระชับเอวแน่นขึ้น งือออ อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้ซอกคอกูวววว ผมยังไม่กล้าหันหน้าไปมอง ได้แต่จดจ้องหน้าจอเหมือนเดิม นิ้วแทบจะจิกแป้นพิมพ์หลุดติดมือ เกร็งไปทั้งตัวแล้ววววว

อย่ามาเป่าลมหายใจรดต้นคอนะเฟ้ย

“อิเจ๊ ไม่เล่นดิ ไม่เอา”

“แล้วใครเล่น ไหน ทำรายงานถึงไหนแล้ว” โอยยยย อย่าเอาคางมาวางบนไหล่ทำตัวเหมือนโอปป้าในซีรีส์เกาหลีได้มั้ย ลืมแล้วหรอว่าตัวเองเป็นตุ๊ดหน้าขาวผมยาวปากแดง ไม่อินเว้ย

แค่หน้าแดงหน่อยๆ งือ

ไม่มีใครเห็นใช่มั้ยง่า

“ทำเองได้น่า ปล่อย”

“หอมก่อนสิ”

“อิเจ๊....”

“หอมละนะ”

“ถ้าทำนะ จะไม่คุยด้วย” งือ ขอทีเถอะ ปล่อยเห๊อะ จะตายแหล่ววววว

“หึ เดี๋ยวง้างปากเอง”

“พิช ตรงนี้แบบนี้ดีป่ะ”

ขอบคุณเสียงสรรค์ของพี่อ้อนน้อย เอาอินางมารออกไปจากการสิงสู่ร่างผมได้

ฮือ อยากได้น้ำแดงหรือขนมถ้วยฟู เดี๋ยวน้องจัดใส่ถ้วยขึ้นถวาย



“อ้อน...เดี๋ยวแฟ้มจะไปแล้วนะ”

“อือ”

“เดี๋ยวเลิกงานแล้วโทรหานะ”

“อืม ทำงานที่ไหนวันนี้”

“ร้านพี่ต๊อด”

“ให้ไปส่งมั้ย”

“ไม่เป็นไร อ้อนทำงานต่อเลย เดี๋ยวแฟ้มไปมอไซค์วิน”

“อ่อ โอเค”

ทำไมนะ แค่ได้ยินเสียงก็รู้สึกผะอืดผะอมเหมือนแดกของหวานในปริมาณเกินพอดี

“ป่ะ”

หืม สะกิดไหล่กูทำไม

“นั่งหน้าเอ๋ออะไร ป่ะ มอไซค์วินของกู”

ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

มอไซค์วิน? กู?

“เออ ไปเร็ว ไม่มีกูมึงจะเหงานะ”

“เอารถอิกลูต้าไป เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง” อิเจ๊เงยหน้าขึ้นบอก ไอ้แฟ้มหันมามองผมเป็นเชิงว่าเอาไง

“เพิ่งรู้ว่าสนิทกันขนาดนี้ มีรับส่งกันด้วย”

“เฮ้ย สนงสนิทอะไรล่ะ” ผมกระเด้งตัวขึ้นพร้อมพับหน้าจอแล็ปท็อปลง “นั่นสิ ผมอยู่คงรบกวนพี่ๆ เกรงใจเนอะไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น ป่ะๆเดี๋ยวไปส่ง” ผมดันหลังไอ้แฟ้มให้ออกเดิน “พี่ๆไปก่อนนะ หวัดดีครับๆ”

พอหลุดออกมาจากห้องนั้นได้ผมก็ตรงมาที่ลิฟท์ ยืนเขย่าขารอดูเลขชั้นที่ค่อยๆเคลื่อนขึ้นมา ทำไมช้าจังวะ

“ฮ่าๆ”

“อะไรไอ้แฟ้ม”

“ยืนไปเงียบๆจะไม่เข้าตัวมากกว่านะ”

ใครมีเข็มกับด้ายกระสอบส่งมาที ผมจะเย็บปากตัวเอง แม้แต่เสียงการขยับตัวของลิ้นไก่ก็จะไม่ให้มึงได้ยินเลย ฮือ ชีวิต

ผมไม่รู้ว่าไอ้แฟ้มคิดไปถึงไหน เราไม่ควรแก้ตัวออกไปให้ดูมีพิรุธ เอาจริงๆ ตอนนี้รอยหยักในสมองผมมันตีกันรวนไปหมด เหมือนมีคนจับเส้นประสาทที่ปลายทั้งสองด้านแล้วแกว่งมันกระทบกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนผมเบลอไปหมด

งั้นก็ทำเบลอเลยแล้วกัน





ผมมาส่งไอ้แฟ้มที่ร้านกาแฟพี่ต๊อด ถามว่าให้มารับกลับกี่โมงเพราะวันนี้มันไม่ได้เอารถมา ได้คำตอบว่าไม่ต้องมารับเพราะพี่อ้อนน้อยจะแวะมารับเอง

หืออออ ใครเอาหมามุ่ยมาทาบนปาก คันคะเยออยากเสือกเหลือเกินว่าไปเผลอได้กันตอนไหน

แต่กลัวจะโดนโยนปูนกลับมาให้แดกร้อนท้องเล่น เลยหุบปากฉับ พยักหน้ารับทราบแต่โดยดี

“กูกำลังจีบอ้อนอยู่ ไม่ต้องทำหน้าสงสัยขนาดนั้น”

เชร้ดดดด หยั่งรู้ไปอีก

“แค่จีบหรอวะ ยังกับคู่ผัวตัวเมียกัน”

“อ้อนไม่ได้ใจง่ายเหมือนมึง”

“กูก็ไม่ใช่เหอะ”

“อยากจะแหมให้ถึงดาวอังคาร แล้วที่กูเห็นล่ะ สรุปไม่ใช่พี่เต้ แต่เป็น....”

“เห้ย อะไร มั่วแล้วมึงอ่ะ กะกูแค่ให้อิเจ๊ช่วยรายงาน แล้ว...แล้ว...”

“เออ พอๆ อย่ารวนมึง หายใจช้าๆ เดี๋ยวก็ช็อกตายก่อนหรอก เฮ้อ มึงนี่นะ โกหกอะไรไม่เคยเนียน แล้วยังจะทำ”

“อะไอ้แฟ้ม กูกับเจ๊ไม่ได้เป็นอะไรกันนะเว้ย”

“จะบอกว่ามึงเป็นกับพี่เต้?”

“ก็...เปล่า...”

ไอ้แฟ้มมองหน้าผมนิ่งๆ ผมก็ยิ่งหลุบตาลงต่ำคางชิดอก ตาหลุกหลิก สองมือที่กำแฮนด์มอเตอร์ไซด์ไว้สั่น นี่สินะอาการลนลานที่ไอ้แฟ้มว่าถึง

บรื้นนนนนนนน

ไม่ไหวแล้ว

แต่ไอ้บ้าเอ้ย ผมห้ามตัวเองไม่ได้ มือผมบิดคันเร่งแล้วสองล้อกลมๆก็พาผมพุ่งทะยานออกมา รู้ตัวอีกทีหน้าไมค์ก็บิดไปที่แปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ไอลมร้อนตีแสกหน้าจนชาไปหมด ฮือ ตายโหงแน่ๆ

ยิ่งเสียงหัวเราะดังลั่นของไอ้แฟ้มที่ตามหลังมาแว่วๆให้รู้เลยว่าท่าทางของผมมันต้องทั้งแปลกและตลกมาก

โอ๊ยยยย ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดจริงๆโว้ยยยย



ยังไม่ได้อ่านหนึ่งข้อความ



‘เอาน่า มีตุ๊ดเป็นเมียก็เพลียได้นะจ๊ะ’

‘สรุปวันนั้นไม่ได้โดนเอาจนเอวเคลื่อน แต่เอาพี่เค้าจนเอวเคล็ดสินะ555’






ไอ้แฟ้ม ไอ้เควี่ยยยยยยยยยยยยยย

นี่มึงคิดว่ากูได้อิเจ๊เป็นเมียหรอ!







แล้วตั้งแต่วันสยองสองบรรทัด ผมก็หลบหน้าหลบตาไอ้แฟ้มอย่างจริงจัง ไปเรียนเสร็จก็ไม่มีสังสรรค์ต่อ หมดคาบละรีบดีดตัวออกมาเลย กลัวครับ กลัวสายตาที่เหมือนมองมาอย่างรู้ทันปนขำขัน กลัว...คำถามที่ผมอาจไม่มีคำตอบให้

ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งลนลาน ความยิ่งแตก ความลับว่าผมเสียตูดให้ตุ๊ดมันใกล้แตกเข้าไปทุกวัน

ดังนั้น ผมจะมาเรียนแบบเข้าสายห้านาที แล้วออกจากห้องเรียนทันทีที่อาจารย์บรรยายจบ

ขอไปตั้งหลักพักทำใจก่อนนะ

ติ๊ดๆ

‘เป็นบ้าหรอ กูโทรไปไม่รับ ทักไปไม่ตอบ ไปหาที่ห้องไม่เจอ ถ้าวันนี้กูติดต่อมึงไม่ได้อีก กูจะเผาห้อง!’



นี่ก็อีกคน

จิกเป็นไก่ ตามติดชีวิตยิ่งกว่ารายการเรียลลิตี้ นี่สิงได้สิงไปแล้ว

นี่ก็คงไปดักรอผมที่หน้าห้องเรียนแล้วไม่เจอ เสียใจด้วยนะ วันนี้กูทำเป็นมาเข้าห้องน้ำแล้วหนีออกมาเลย!

เพราะมีลางสังหรณ์ว่าถ้าช้าจะโดนแร้งมารุมทึ้งจนตัวตาย

ตอนนี้ผมไม่อยากเจอใครเลย

อยากหดหัวอยู่ในกระดอง อยากให้เวลากับตัวเอง



“น้องตาร์” ผมสะดุ้ง หันขวับกลับไปมองต้นเสียง ก่อนพรูลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเป็นพี่เต้ที่ยืนยิ้มแฉ่งดั่งแสงอาทิตย์ประเทศไทยในตอนเที่ยงวัน

ไม่ได้อบอุ่นนะครับ ร้อนจนขนลุก

“อ้าว พี่เต้”

“มาทำไรตึกแพทย์ครับ” อ้าว นี่กูเดินหลบเลี่ยงตามแนวอาคารจากตึกกลางมาโผล่คณะแพทย์เลยหรอเนี่ย “หรือว่า....”

มาทำเป็นอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ขนลุกง่ะ งือ

“...คิดถึงพี่หรอ”

โอ๊ย อยากจะอ้วกสักที

นี่กูไม่ใช่เต้าขนมครกนะ เมื่อไหร่จะเลิกหยอด

“อ่ะเอ่อ...คือผม...มาหาข้าวกินน่ะครับ”

“ที่นี่หรอครับ”

“ใช่ครับ เห็นเค้าว่าข้าวมันไก่ที่นี่อร่อย” พี่เต้ทำหน้างงๆใส่ผม

“โรงอาหารที่นี่ไม่มีข้าวมันไก่นะครับ”

เพล้ง

เสียงไรแตกอ่ะ

อ๋อ

เศษหน้าผมเอง

เดินมาแถวนี้ก็ระวังนะครับ เดี๋ยวจะบาดเท้าเอา

โฮววววววว T^T

“แฮร่ งั้นผมคงจำผิด ถ้างั้น...ผมขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวสิครับ” พี่เต้ยื่นมาจับข้อมือผมเอาไว้ ผมรีบชักมือกลับ “ไปกินข้าวกันไหม พี่เลี้ยงเอง”

“เอ่อ...”

“ตอบแทนที่ตาร์มาส่งพี่วันนั้นไง”

แค่พี่ไม่แปลงร่างเป็นปลาหมึกมาลวนลามกัน แค่นั้นก็ตอบแทนมากละเว้ยยย

“เรื่องเล็กน้อยเอง ไม่เป็นไรครับ ผม...” นะนั่นอิเจ๊หรือเปล่า มาทำไรที่นี่วะ “ปะไปกินข้าวกันเถอะ”

จากที่ไม่ชอบให้อีกฝ่ายมาสัมผัสตัว กลายเป็นตอนนี้ผมคว้าข้อมือพี่เต้แล้วพาอีกฝ่ายวิ่งไปอีกทาง ฮือ จะพาไปกินลาบก้อย ปิ้งย่าง หรือชาบูตอนนี้ได้หมดอ่ะ ขอแค่หนีอิตุ๊ดหน้าขาวผมยาวที่โดนหนุ่มๆเข้าไปรุมล้อมอยู่ได้เป็นพอ

“นี่หิวขนาดนี้เลยหรอครับเนี่ย เดี๋ยวๆรถพี่อยู่ทางนี้”

“นำไปสิครับ”

พี่เต้พาผมมากินอาหารญี่ปุ่นที่ห้างใกล้มอ พอกินเสร็จก็พาไปดูหนังต่อ พยายามจะขอปลีกตัวกลับตั้งแต่กินข้าวเสร็จแล้ว แต่อีกคนก็หาทางตื้อให้ผมอยู่ต่อ จนตอนนี้ก็มาส่งผมที่หอจนได้

“ขอบคุณนะครับ” ถ้าไม่เนียนจับมือผมตอนดูหนังจะขอบคุณกว่านี้มาก

“วันนี้พี่มีความสุขมาก ยังไงครั้งหน้าไปด้วยกันอีกนะครับ”

“เอ่อ...ครับ” ครั้งหน้านี่หมายถึงชาติหน้าได้หรือเปล่า T^T “ไปนะครับ”

“ฝันดีนะครับ”

“ครับ”

ผมเดินขึ้นบันไดหอมาด้วยความรู้สึกหมดแรง นี่ไปเรียนหรือไปรบ เหมือนหลุดไปในรังโจรแล้วโดนล่าอ่ะ อยากจะม้วนตัวเป็นดักแด้ให้หนอนแดก ฮือ

แล้วดูสิมาถึงห้องตัวเองแล้วก็เดินไปไขประตูห้องชิวๆให้สมกับจ่ายค่าห้องตรงเวลาทุกเดือนก็ไม่ได้ ต้องโผล่หน้าจากมุมบันไดมองไปยังหน้าห้องตัวเองก่อนว่ามีสัมภเวสีผมยาวหน้าขาวมาดักรอหน้าห้องหรือเปล่า ทำตัวลับๆล่อๆเหมือนหนีหนี้นอกระบบ ขอล่ะ ขอพักวันนึง ไม่อยากไปแอบหลบอยู่ดาดฟ้าอีกนะเว้ย ดึกๆมันหนาว

แล้วเหมือนฟ้าจะเป็นใจ วันนี้ไม่มียมทูตมาล่าวิญญาณ

สบายใจละตู

แกร้ก

“เฮ้ย เชี่ยยยยย”

แทบจะสิ้นสติ เข้ามาอยู่ในห้องกูได้ไง ปีนระเบียงเข้ามาเร้อออ หรือหย่อนตัวมาทางหลังคา T^T

“กลับมาแล้วหรอไอ้ตัวดี”

“จะเจ๊...เข้ามาได้ไง...”

“หลบหน้ากูยังพอทน” อย่าคลืบคลานเข้ามาด้วยท่าทางเหมือนจะฉีกกันเป็นชิ้นๆแบบนี้นะเว้ย มันน่ากลัว แง้ “แต่ไปอี๋อ๋อกับผู้ชายกูทนไม่ได้”

“อี๋อ๋ออะไรใช้คำน่าเกลียด เฮ้ย”

ตุบ

“จะเจ๊”

“โดนมันจับตรงไหนหรือเปล่า”

“เปล่า...”

นี่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายกล้ามแน่นหรือไง ถึงจับกูทุ่มลงเตียงแล้วคร่อมทับเนี่ย เผลอทำตัวแมนขัดกับรูปร่างหน้าตาไปหลายครั้งแล้วนะเว้ย

ไหนความอ่อนแอ ไหนความบอบบางที่มึงพยายามสะกดจิตตัวเองตลอดห๊ะอิเจ๊!

“จูบกันมั้ย”

“จะบ้าหรอวะ เห็นกูเป็นคนไงเนี่ย”

“แล้วทำไมต้องไปกินข้าวดูหนังกับมัน”

“รู้ได้ไงอ่ะ”

“แล้วเพราะมันใช่มั้ยมึงถึงหลบหน้ากู”

“โอ๊ยเจ๊ กูเจ็บ อย่าบีบแขน” เห็นตัวนุ่มนิ่มทำไมแรงควายขนาดนี้วะ “เจ็บขาด้วย ปล่อย”

มันโถมตัวมาทับ จับสองมือผมขึ้นเหนือหัว กดลงบนเตียงและบีบข้อมือไว้ ตัวก็นั่งทับขาสองข้างไว้จนขยับไม่ได้

ฮือออ เจ็บ

“ตอบมา อย่าสำออย” จะบีบให้กระดูกข้อมือแตกเลยหรือไง ใจร้ายไปแล้วววว “ทำไม ไหนว่าเป็นรุกไง กับกูทำเป็นรับไม่ได้ สุดท้ายก็ยอมเป็นเมียมันอีกคนหรือไง หรือคิดว่าเสียแล้วเสียเลยจะเสียให้ใครอีกก็ได้”

กึก

“อย่ามาดูถูกกัน” ก็แค่ตุ๊ดปากหมาคนนึงที่เคยตะโกนด่าผมมามากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้อยคำร้ายกาจกับดวงตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ช่างกรีดหัวใจผมเหลือเกิน

ทำไมต้องว่าร้ายกัน

อย่ามาสาดอารมณ์ด้วยถ้อยคำน่ารังเกียจ ทั้งที่ก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดด้วยซ้ำ

“กูไม่ได้ดูถูก มึงทำตัวให้กูคิดแบบนั้น ถ้าไม่ใช่ก็อธิบายมาสิ!”

มันเปลี่ยนมาใช้มือทั้งสองข้างบีบหัวไหล่ผมแล้วเขย่าอย่างแรง ถ้าสิ่งที่รองรับผมอยู่ไม่ใช่เตียงนุ่ม ป่านนี้คงหัวแตกไหล่หักไปแล้ว

“พูดมาสิ!”



พูดจาว่าร้ายกับคนอื่นมีสิทธิ์มาสั่งด้วยหรอ…

“หลบหน้ากูทำไม! ไปกับมันทำไม!”

….

“มึงชอบมันหรอ หรือใช้มันเป็นเครื่องมือเพื่อห่างกู อย่าคิดว่ากูรู้ไม่ทันมึง บอกเลยนะมุกนี้ใช้ไม่ได้ กูไม่มีทางปล่อยมึงไปแน่ มึงเป็นของกูแล้ว มึงเป็นเมียกู!”

ถุย!

หมดแล้ว…

ความอดทนอดกลั้น

ผมพอแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...

“นี่มึงถุยน้ำลายใส่หน้ากูหรอ”

“เออ เอาให้สิวเสี้ยนอุดตันอักเสบขึ้นให้หน้ามึงพังไปเลย” ผมสะบัดตัวสุดแรงจนคนที่อึ้งตะลึงงันอยู่เสียจังหวะให้ผมหลุดจากอีกฝ่ายมาได้ แต่สุดท้ายก็ถูกจับกดลงไปท่าเดิมอีก

โอ๊ย อะไรนักหนาวะ

“อย่านะ ถ้าถุยมาอีกคราวนี้กูปล้ำแน่”

มันขู่ นั่นทำให้ผมทั้งกลัวทั้งแค้นจนรู้สึกแน่นหน้าอกไปหมดจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่รื้นคลอหน่วงจนมองคนตรงหน้าไม่ชัด

“ฮึก ทำไมวะ...เจ๊เลิกยุ่งกับกูไม่ได้หรอ...” ผมลดเสียงเป็นอ้อนวอนพร้อมกับแรงคลายข้อมือที่เบาลงจนผมสามารถสะบัดหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่...เพราะแม้แต่ชักมือออกผมก็ไม่มีแรงมากพอ...

“ไม่ได้...” น้ำเสียงยังคงความแข็งกร้าวแต่เจือไปด้วยความขื่นขมจนทำให้ผมปวดไปทั้งใจ “...กูเลิกยุ่งกับมึงไม่ได้จริงๆ ทำไมหรอตาร์ กูมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ...”

ผมส่ายหน้าทั้งน้ำตา

“พี่ไม่ได้แย่ ฮึก ไม่แย่...

“…”

“แต่กูอาย...”

“…”

 “ฮือ กูอายเจ๊...กูอาย...”





#เมียตุ๊ด














ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ PP0504

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ให้เวลาน้องหน่อยนะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด